แผนการจดั การเรยี นรู้
สมรรถนะอาชพี บรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี พุทธศักราช 2562
รหัสวชิ า ๒๐๑๐๔ – ๒๐๐๒
วชิ า วงจรไฟฟา้ กระแสตรง
จัดทาโดย
นางสาวหัทยา สพี าไชย
ครูพิเศษสอน
แผนกวิชาช่างไฟฟา้ กาลัง
วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ก
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ มุ่งเน้นฐานสมรรถนะและบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วิชา
วงจรไฟฟ้ากระแสตรง รหัสวิชา 20104–2002 เล่มน้ีได้จัดทาขึ้นเพ่ือใช้เป็นคู่มือประกอบการสอน หรือเป็น
แนวทางการสอนในรายวิชาเพ่ือพัฒนาผู้เรียนเป็นสาคัญ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช
2562 สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
การจัดทาได้มีการพัฒนาเพ่ือให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยแบ่งเน้ือหาออกเป็น 14 หน่วย การจัด
กจิ กรรมการเรียนการสอนยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ มีการบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และคุณธรรม
จรยิ ธรรม ไว้ในหนว่ ยการเรียนรตู้ ามความเหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหา มีแบบฝึกหัด แบบทดสอบหลงั เรยี น
ใบงาน และสอ่ื การเรียนการสอนต่าง ๆ เพือ่ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธิผลแกผ่ ู้เรยี นมากย่งิ ข้นึ
ผู้จัดทาหวังว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้คงจะเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ต่อครู -อาจารย์และ
นกั เรยี น หากมีขอ้ เสนอแนะประการใด ผู้จัดทายนิ ดีนอ้ มรบั ไว้เพอ่ื ปรบั ปรุงแกไ้ ขในครัง้ ตอ่ ไป
ลงช่อื
(นางสาวหัทยา สีพาไชย)
สำรบญั ข
เร่อื ง หน้ำ
คานา ก
สารบัญ ข
พส.1 – พส.7 2 – 17
หน่วยที่ 1 แหลง่ กาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง 18 – 39
หนว่ ยที่ 2 ความรเู้ บอื้ งต้นเก่ยี วกับไฟฟา้ กระแสตรง 40 – 53
หน่วยท่ี 3 ตวั ต้านทาน 54 – 66
หน่วยที่ 4 วงจรไฟฟ้าอนกุ รม ขนาน ผสม 67 – 98
หนว่ ยท่ี 5 วงจรแบง่ แรงดนั และวงจรแบง่ กระแส 99 – 125
หน่วยที่ 6 การแปลงค่าความต้านทานจากสตารเ์ ป็นเดลตาและจากเดลตาเป็นสตาร์ 126 – 139
หนว่ ยท่ี 7 กฎของเคอรช์ อฟฟ์ 140 – 157
หน่วยที่ 8 วงจรบรดิ จ์ 158 – 172
หนว่ ยท่ี 9 ทฤษฎีการวางซอ้ น 173 – 192
หน่วยที่ 10 ทฤษฎขี องเทวนิ นิ 193 – 216
หนว่ ยท่ี 11 ทฤษฎีของนอร์ตนั 217 – 239
หน่วยที่ 12 เมชเคอรเ์ รนต์ 240 – 256
หน่วยท่ี 13 โนดโวลเตจ 257 – 273
หนว่ ยท่ี 14 ทฤษฎกี ารส่งถา่ ยกาลังไฟฟา้ สงู สดุ 274 – 291
พส.1
การจดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้
รหสั วชิ า…20104-2002….วชิ า…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………ท-ป-น...1-3-2.....
หลักสูตร......2562........ประเภทวิชา.......ช่างอุตสาหกรรม.....สาขาวิชา.....ชา่ งไฟฟา้ กาลงั ....
จุดประสงค์รายวชิ า
1. เขา้ ใจกฎและทฤษฎีวงจรไฟฟ้ากระแสตรงพ้นื ฐาน
2. มีทักษะในการตอ่ การประลองและการคานวณ หาคา่ ต่างๆ ในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
3. มเี จตคตทิ ด่ี ีต่ออาชพี มีกจิ นิสยั ในการค้นควา้ เพิ่มเติม และการทางานดว้ ยความรอบคอบและปลอดภยั
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกบั การหาค่าตา่ ง ๆ ในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
2. ปฏิบัติการตอ่ วงจรไฟฟา้ กระแสตรง
3. วัดและทดสอบค่าในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั ทฤษฎวี งจรไฟฟ้า ตวั แปรวงจรไฟฟ้า ประจุไฟฟา้ กระแส แรงดนั กาลังไฟฟ้า
นยิ ามโนด ก่งิ ลปู กฎของโอหม์ กฎกระแส กฎแรงดนั ของเคอรช์ อฟฟ์ องคป์ ระกอบพน้ื ฐานวงจรไฟฟ้า ตวั ตา้ นทาน
ตัวเก็บประจุ ตัวเหนีย่ วนา แหลง่ จ่ายไฟ การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า การตอ่ วงจรอนกุ รม ขนาน ผสม ตวั ต้านทาน ตวั เกบ็
ประจุ ตวั เหนี่ยวนา การแปลงวงจรเดลตา-วาย วงจรแบ่งแรงดนั วงจรแบง่ กระแส วงจรบริดจ์ การคานวณกระแส
เมช แรงดนั โนด ทฤษฎีบทการทบั ซอ้ น เทวนิ นิ นอร์ตนั การถ่ายโอนกาลังไฟฟา้ สงู สุด
2
พส.2
การวิเคราะหห์ น่วยการเรยี นรู้และสมรรถนะรายวิชา
รหัสวชิ า….20104-2002…..วชิ า…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………ท-ป-น.....1-3-2.....
หนว่ ย ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจาหนว่ ย
ท่ี (ดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะ และด้านความสามารถใน
1. แหล่งกาเนดิ ไฟฟ้ากระแสตรง การประยุกต์ใชแ้ ละความรบั ผิดชอบ)
2. ความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกับไฟฟ้ากระแสตรง - แสดงความรู้เกี่ยวกบั เซลล์ไฟฟา้
- คานวณหาคา่ แรงดันไฟฟ้าของการต่อเซลล์ไฟฟ้า
3. ตวั ตา้ นทาน แบบต่างๆ
- สามารถต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบตา่ งๆ และวดั หาคา่
4. วงจรอนกุ รม ขนาน และผสม แรงดันไฟฟา้
5. วงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้า และวงจรแบ่ง - แสดงความรู้เร่ืองหนว่ ยวัดระบบนานาชาติ(SI) กฎ
กระแสไฟฟา้ ของโอห์ม
- คานวณหาค่าตา่ งๆ ตามกฎของโอหม์
- สามารถวัดหาคา่ กระแสไฟฟ้า แรงดนั ไฟฟ้า และ
ความต้านทานตามกฎของโอห์ม
- แสดงความรกู้ ารอา่ นคา่ ความตา้ นทานจากรหัสสี
และรหัสตวั เลขตัวอกั ษร
- อ่านค่าความต้านทานจากรหัสสีและรหสั ตัวเลข
ตวั อกั ษร
- วดั ค่าความต้านทานของตัวต้านทาน
- แสดงความร้เู กยี่ วกบั วงจรไฟฟา้ อนกุ รม ขนาน ผสม
- คานวณหาค่าต่างๆ ในวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม
ขนาน ผสมได้
- สามารถตอ่ วงจรและวัดหาค่าต่างๆ ในวงจรไฟฟา้
แบบอนกุ รม ขนาน ผสมได้
- แสดงความร้เู กีย่ วกับวงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟ้า วงจร
แบง่ กระแส
- คานวณหาค่าต่างๆ ในวงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟ้า วงจร
แบ่งกระแส
- สามารถต่อวงจรแบง่ แรงดันไฟฟ้า วงจรแบ่งกระแส
และวัดหาค่าต่างๆ
3
พส.2
การวิเคราะหห์ น่วยการเรยี นรู้และสมรรถนะรายวิชา
รหัสวชิ า….20104-2002…..วิชา…………วงจรไฟฟา้ กระแสตรง……………ท-ป-น.....1-3-2.....
หนว่ ย ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ สมรรถนะประจาหน่วย
ท่ี (ด้านความรู้ ด้านทักษะ และดา้ นความสามารถใน
6. การแปลงค่าความต้านทานจากสตารเ์ ปน็ เดล การประยุกต์ใชแ้ ละความรบั ผิดชอบ)
ตาและจากเดลตาเปน็ สตาร์ - แสดงความรู้เก่ียวกบั ลกั ษณะวงจรสตาร์เปน็ เดลตา
และจากเดลตาเปน็ สตาร์ได้
7. กฎของเคอร์ชอฟฟ์ - เขียนสมการการแปลงและคานวณวงจรสตาร์เป็น
เดลตาและจากเดลตาเปน็ สตาร์และเขยี นสมการการ
8. วงจรบริดจ์ แปลงและคานวณวงจรสตารเ์ ป็นเดลตาและจากเดล
9. ทฤษฎกี ารวางซ้อน ตาเปน็ สตารไ์ ด้
10. ทฤษฎีของเทวนิ ิน - แสดงความร้เู ก่ยี วกับกฎแรงดนั และกฎกระแสของ
11. ทฤษฎีของนอรต์ นั เคอรช์ อฟฟ์
- คานวณหาคา่ ต่างๆในวงจรโดยใชก้ ฎของเคอร์ชอฟฟ์
- สามารถตอ่ วงจรทดลองตามกฎของเคอร์ชอฟฟ์และ
วดั หาคา่ ต่างๆ
- แสดงความรู้เกย่ี วกับวงจรบรดิ จ์
- คานวณหาค่าต่าง ๆ ในวงจรบริดจ์
- สามารถต่อวงจรบริดจ์ทดลองและวดั หาคา่ ต่าง ๆ
- แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ทฤษฎกี ารวางซ้อน
- คานวณหาค่าต่างๆ ในวงจรไฟฟา้ ได้
- สามารถตอ่ วงจรทดลองตามกฎของทฤษฎีการวาง
ซ้อนและวดั หาคา่ ต่างๆ
- แสดงความรู้เกีย่ วกับทฤษฎีของเทวินิน
- คานวณหาค่าต่างๆในวงจรโดยใช้ทฤษฎีของเทวินิน
- สามารถต่อวงจรทดลองตามทฤษฎีของเทวินินและ
วัดหาค่าตา่ งๆ
- แสดงความรเู้ ก่ียวกับทฤษฎีของนอรต์ ัน
- คานวณหาคา่ ตา่ งๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎขี องนอรต์ ัน
- สามารถต่อวงจรทดลองตามทฤษฎีของนอร์ตันและ
วดั หาคา่ ตา่ ง ๆ
4
พส.2
การวเิ คราะหห์ นว่ ยการเรยี นรแู้ ละสมรรถนะรายวชิ า
รหัสวิชา….20104-2002…..วิชา…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………ท-ป-น.....1-3-2.....
หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจาหน่วย
ท่ี (ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และด้านความสามารถใน
12. เมชเคอรเ์ รนต์ การประยุกตใ์ ชแ้ ละความรับผดิ ชอบ)
13. โนดโวลเตจ - แสดงความรู้เกีย่ วกับทฤษฎเี มชเคอร์เรนต์
- คานวณหาคา่ ต่าง ๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎีเมชเคอร์
14. ทฤษฎีการส่งถา่ ยกาลงั ไฟฟ้าสูงสุด เรน
- สามารถต่อวงจรทดลองตามทฤษฎีเมชเคอร์เรน
และวดั หาคา่ ตา่ ง ๆ
- แสดงความรูเ้ กี่ยวกับทฤษฎีโนดโวลเตจ
- คานวณหาค่าต่าง ๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎโี นด
โวลเตจ
- สามารถต่อวงจรทดลองตามทฤษฎีโนดโวลเตจและ
วัดหาค่าตา่ ง ๆ
- แสดงความร้เู กย่ี วกับทฤษฎกี ารส่งถา่ ยกาลังไฟฟ้า
สงู สุด
- คานวณหาคา่ ต่างๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎีการสง่ ถ่าย
กาลงั ไฟฟ้าสงู สุด
- สามารถตอ่ วงจรทดลองตามทฤษฎกี ารส่งถา่ ย
กาลังไฟฟา้ สูงสดุ และวดั หาค่าต่างๆ
5
พส.3
ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สูตรรายวชิ า
รหัสวชิ า…20104-2002….วิชา…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………ท-ป-น...1-3-2.....
หนว่ ย ระดับพฤตกิ รรมท่พี งึ ประสงค์
ที่
ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ พทุ ธิพสิ ยั ทักษะ จิต เวลา
1 2 3 4 5 6 พิสยั พสิ ยั (ชม.)
1. แหลง่ กาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง √√√√ √ -24
2. ความร้เู บอ้ื งต้นเกี่ยวกับไฟฟา้ กระแสตรง √ √ √ √ - 2 4
3. ตัวต้านทาน √√√√ √ √ - 2 4
4. วงจรอนกุ รม ขนาน และผสม √√√√ √ √ - 2 8
5. วงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟา้ และวงจรแบ่ง √√√ √ -28
กระแสไฟฟา้
6. การแปลงค่าความตา้ นทานจากสตาร์เป็นเดล √ √ √ -14
ตาและจากเดลตาเปน็ สตาร์
7. กฎของเคอร์ชอฟฟ์ √√√√ √ √ - 2 8
8. วงจรบริดจ์ √√√√ √ √ - 1 4
9. ทฤษฎกี ารวางซอ้ น √√√√ √ -14
10. ทฤษฎขี องเทวินิน √√√√ √ -14
11. ทฤษฎขี องนอร์ตัน √√√√ -14
12. เมชเคอรเ์ รนต์ √√√√ -14
13. โนดโวลเตจ √√√√ -14
14. ทฤษฎกี ารส่งถา่ ยกาลังไฟฟา้ สงู สุด √√√ √√ - 1 4
15. วัดและประเมินผลปลายภาคเรียน √ √ √ 10 4
รวม 15 15 15 10 10 5 10 20 72
ความสาคญั /สดั ส่วนคะแนน (ร้อยละ) 15 15 15 10 10 5 10 20 72
หมายเหตุ ระดบั พุทธิพสิ ยั 1 = ความจา 2 = ความเขา้ ใจ 3 = การนาไปใช้
4 = วเิ คราะห์ 5 = สังเคราะห์ 6 = ประเมินค่า
6
พส.4
กาหนดการสอน
รหสั วชิ า………20104-2002……วชิ า…………………..วงจรไฟฟา้ กระแสตรง…………………ท-ป-น......1-3-2........
หน่วยการเรียนรู้/ สมรรถนะประจาหนว่ ย เกณฑ์การ ัสปดาห์ท่ี
รายการสอน ปฏบิ ตั ิงาน ่ัชวโมงที่
หน่วยท่ี 1 แสดงความรเู้ กย่ี วกบั เซลล์ไฟฟ้า คานวณหาคา่ ร้อยละ 80 1 1-4
แหล่งกาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง แรงดันไฟฟ้าของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบตา่ งๆ ต่อ รอ้ ยละ 80 2 5-8
รอ้ ยละ 80 3 9-12
เซลล์ไฟฟ้าแบบต่างๆ และวัดหาค่าแรงดนั ไฟฟา้
รอ้ ยละ 80 4-5 13-20
หน่วยท่ี 2 แสดงความรเู้ ร่อื งกฎของโอห์ม คานวณหาคา่ ต่าง ๆ ร้อยละ 80 6-7 21-28
ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกบั ไฟฟา้ ตามกฎของโอห์ม วัดหาค่ากระแสไฟฟา้ ร้อยละ 80 8 29-32
รอ้ ยละ 80 9-10 33-40
กระแสตรง แรงดันไฟฟ้า และความตา้ นทานตามกฎของโอหม์
หน่วยที่ 3 คานวณหาค่าความต้านทานรวมของการตอ่ ตวั
ตัวต้านทาน ตา้ นทานแบบอนกุ รม แบบขนานและแบบผสม ต่อ
ตวั ต้านทานและวดั หาค่าความต้านทานรวมของการ
ตอ่ ตัวต้านทานแบบอนุกรม แบบขนานและแบบ
ผสม
หนว่ ยท่ี 4 แสดงการคานวณหาค่าต่างๆ ในวงจรไฟฟา้ แบบ
วงจรไฟฟา้ อนกุ รม ขนาน ผสม อนกุ รม ขนาน ผสมได้ ต่อวงจรและวดั หาค่าต่างๆ
ในวงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม ขนาน ผสมได้
แสดงความรเู้ กีย่ วกับวงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้า วงจร
หนว่ ยที่ 5 แบง่ กระแสคานวณหาค่าต่างๆ ในวงจรแบง่
วงจรแบ่งแรงดันไฟฟา้ และวงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟา้ วงจรแบ่งกระแส ต่อวงจรแบ่ง
กระแสไฟฟา้
แรงดนั ไฟฟ้า วงจรแบง่ กระแสและวดั หาค่าตา่ งๆ
หน่วยที่ 6 แสดงความรู้เกย่ี วกับลักษณะวงจรเดลตา-สตารไ์ ด้
การแปลงคา่ ความตา้ นทานจากสตาร์ เขียนสมการการแปลงและคานวณวงจรเดลตาเป็น
เป็นเดลตาและจากเดลตาเป็นสตาร์ วงจรสตาร์และเขยี นสมการการแปลงและคานวณ
วงจรสตาร์เปน็ วงจรเดลตาได้
หน่วยที่ 7 แสดงความรเู้ กย่ี วกับกฎแรงดนั และกฎกระแสของ
กฎของเคอร์ชอฟฟ์ เคอร์ชอฟฟ์ คานวณหาคา่ ตา่ งๆ ในวงจรโดยใช้กฎ
ของเคอรช์ อฟฟ์ ตอ่ วงจรทดลองตามกฎของเคอร์
ชอฟฟแ์ ละวัดหาคา่ ต่างๆ
7
พส.4
กาหนดการสอน
รหสั วชิ า………20104-2002……วิชา…………………..วงจรไฟฟา้ กระแสตรง…………………ท-ป-น......1-3-2........
หนว่ ยการเรียนร/ู้ สมรรถนะประจาหน่วย เกณฑก์ าร ัสปดาห์ท่ี
รายการสอน ปฏิบตั งิ าน ่ัชวโมงที่
หน่วยท่ี 8 แสดงความรู้เกย่ี วกบั วงจรบรดิ จ์ คานวณหาค่าต่าง รอ้ ยละ 80 11 41-44
วงจรบริดจ์ ๆ ในวงจรบรดิ จ์ ต่อวงจรบริดจ์ทดลองและวดั หาคา่ 12 45-48
13 49-52
หน่วยที่ 9 ต่าง ๆ 14 53-56
ทฤษฎีการวางซอ้ น 15 57-60
แสดงความรู้เกยี่ วกับทฤษฎีการวางซ้อน คานวณหา รอ้ ยละ 80 16 61-64
หน่วยที่ 10 ค่าต่าง ๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎีการวางซ้อน ต่อ รอ้ ยละ 80 17 65-68
ทฤษฎขี องเทวินิน วงจรทดลองตามทฤษฎีการวางซ้อน และวดั หาค่า 18 69-72
ต่าง ๆ
หน่วยที่ 11
ทฤษฎขี องนอร์ตนั แสดงความรู้เกีย่ วกบั ทฤษฎีของเทวนิ นิ คานวณหา
ค่าต่างๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎขี องเทวินนิ ต่อวงจร
หนว่ ยท่ี 12 ทดลองตามทฤษฎีของเทวนิ ินและวัดหาค่าตา่ งๆ
เมชเคอรเ์ รนต์
แสดงความร้เู กี่ยวกบั ทฤษฎีของนอรต์ ัน คานวณหา รอ้ ยละ 80
หน่วยท่ี 13 คา่ ตา่ งๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎขี องนอรต์ นั ต่อวงจร
โนดโวลเตจ
ทดลองตามทฤษฎขี องนอรต์ นั และวัดหาคา่ ต่างๆ
หน่วยท่ี 14
ทฤษฎกี ารส่งถ่ายกาลังไฟฟา้ สงู สุด แสดงความรู้เกย่ี วกับทฤษฎีเมชเคอรเ์ รนต์ รอ้ ยละ 80
คานวณหาค่าต่าง ๆ ในวงจรโดยใชท้ ฤษฎีเมชเคอร์
เรนต์ ต่อวงจรทดลองตามทฤษฎเี มชเคอรเ์ รนต์ และ
วดั หาค่าต่าง ๆ
แสดงความรเู้ กี่ยวกับทฤษฎโี นดโวลเตจ คานวณหา รอ้ ยละ 80
ค่าตา่ ง ๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎีโนดโวลเตจ ตอ่ วงจร
ทดลองตามทฤษฎีโนดโวลเตจและวัดหาคา่ ต่าง ๆ
แสดงความรู้เก่ียวกบั ทฤษฎีการสง่ ถ่ายกาลังไฟฟา้ รอ้ ยละ 80
สูงสดุ คานวณหาค่าตา่ ง ๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎกี าร
ส่งถา่ ยกาลังไฟฟา้ สูงสุด ต่อวงจรทดลองตามทฤษฎี
การสง่ ถ่ายกาลงั ไฟฟ้าสูงสดุ และวัดหาคา่ ต่าง ๆ
สอบปลายภาค
8
พส.4
กาหนดการสอน
รหสั วิชา.…..20104-2002......วิชา……………วงจรไฟฟา้ กระแสตรง………………ท-ป-น...1-3-2.....
ที่ หนว่ ยการเรยี นรู้ วธิ กี ารจัดการเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การวดั ผล ระยะเวลา หมายเหตุ
สป.1 * ใช้
1 แหล่งกำเนิดไฟฟำ้ สอนออนไลน์ 1. Power Point 1.แบบทดสอบกอ่ น Microsoft
Forms
กระแสตรง (Microsoft Teams) 2. ใบควำมรู้ บทเรียน* สป.2 * ใช้
Microsoft
2.แบบทดสอบท้ำย Forms
สป.๓
บทเรยี น*
สป.๔-๕
3.แบบประเมินจติ พสิ ัย
สป.๖-๗
2 ควำมร้เู บือ้ งต้นเก่ียวกบั สอนออนไลน์ 1. Power Point 1.แบบทดสอบกอ่ น
ไฟฟำ้ กระแสตรง (Microsoft Teams) 2. ใบควำมรู้ บทเรยี น*
2.แบบทดสอบท้ำย
บทเรียน*
3.แบบประเมนิ จิตพสิ ยั
3 ตัวต้ำนทำน Block course 1. ใบสง่ั งำน 1.ใบประเมนิ ผลกำร
(เรียนในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดบั ขั้นตอน ปฏิบัตงิ ำน
กำรปฏิบัติงำน 2.แบบประเมินจติ พสิ ัย
สอนออฟไลน์ 1. วิดโี อ 1.แบบทดสอบก่อน
(เอกสำรประกอบกำรสอน 2. ใบควำมรู้ บทเรยี น*
และวิดโี อ) 2.แบบทดสอบท้ำย
บทเรยี น*
* ใช้ Microsoft Forms
4 วงจรอนุกรม ขนำน และ Block course 1. ใบสั่งงำน 1.ใบประเมินผลกำร
ผสม (เรียนในสถำนศกึ ษำ) 2. ใบลำดับข้ันตอน ปฏบิ ตั ิงำน
กำรปฏบิ ัตงิ ำน 2.แบบประเมนิ จติ พิสัย
สอนออฟไลน์ 1. วิดโี อ 1.แบบทดสอบกอ่ น
(เอกสารประกอบการสอน 2. ใบความรู้ บทเรียน*
และวดิ ีโอ) 2.แบบทดสอบทา้ ย
บทเรียน*
* ใช้ Microsoft Forms
5 วงจรแบง่ แรงดันไฟฟำ้ Block course 1. ใบสง่ั งำน 1.ใบประเมินผลกำร
และวงจรแบง่ (เรียนในสถำนศกึ ษำ) 2. ใบลำดับขั้นตอน ปฏิบัตงิ ำน
กระแสไฟฟำ้ กำรปฏบิ ตั ิงำน 2.แบบประเมินจิตพิสยั
สอนออฟไลน์ 1. วิดโี อ 1.แบบทดสอบกอ่ น
(เอกสารประกอบการสอน 2. ใบความรู้ บทเรยี น*
2.แบบทดสอบท้าย
และวดิ โี อ) บทเรียน*
* ใช้ Microsoft Forms
9
พส.4
กาหนดการสอน
รหัสวิชา.…..20104-2002......วชิ า……………วงจรไฟฟา้ กระแสตรง………………ท-ป-น...1-3-2.....
ที่ หนว่ ยการเรียนรู้ วิธีการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การวดั ผล ระยะเวลา หมายเหตุ
สป.๘
๖ กำรแปลงคำ่ ควำม Block course 1. ใบสั่งงำน 1.ใบประเมนิ ผลกำร
สป.๙-๑๐
ต้ำนทำนจำกสตำรเ์ ป็น (เรยี นในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดบั ข้ันตอน ปฏิบตั ิงำน
สป.๑๑
เดลตำและจำกเดลตำ กำรปฏิบัตงิ ำน 2.แบบประเมนิ จิตพิสยั
สป.๑๒
เปน็ สตำร์ สอนออฟไลน์ 1. วิดโี อ 1.แบบทดสอบก่อน
(เอกสารประกอบการสอน 2. ใบความรู้ บทเรยี น*
และวดิ ีโอ) 2.แบบทดสอบทา้ ย
บทเรยี น*
* ใช้ Microsoft Forms
๗ กฎของเคอร์ชอฟฟ์ Block course 1. ใบสั่งงำน 1.ใบประเมนิ ผลกำร
(เรยี นในสถำนศกึ ษำ) 2. ใบลำดับขั้นตอน ปฏบิ ัตงิ ำน
กำรปฏิบัติงำน 2.แบบประเมินจติ พิสยั
สอนออฟไลน์ 1. วิดีโอ 1.แบบทดสอบก่อน
(เอกสารประกอบการสอน 2. ใบความรู้ บทเรียน*
และวดิ โี อ) 2.แบบทดสอบทา้ ย
บทเรยี น*
* ใช้ Microsoft Forms
๘ วงจรบรดิ จ์ Block course 1. ใบสั่งงำน 1.ใบประเมนิ ผลกำร
(เรยี นในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดับข้ันตอน ปฏิบัตงิ ำน
กำรปฏิบัตงิ ำน 2.แบบประเมนิ จิตพิสัย
สอนออฟไลน์ 1. วิดีโอ 1.แบบทดสอบกอ่ น
(เอกสารประกอบการสอน 2. ใบความรู้ บทเรียน*
และวิดีโอ) 2.แบบทดสอบท้าย
บทเรียน*
* ใช้ Microsoft Forms
๙ ทฤษฎีกำรวำงซ้อน Block course 1. ใบส่งั งำน 1.ใบประเมินผลกำร
(เรยี นในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดบั ขั้นตอน ปฏิบัตงิ ำน
กำรปฏิบตั งิ ำน 2.แบบประเมินจติ พสิ ยั
สอนออฟไลน์ 1. วิดโี อ 1.แบบทดสอบกอ่ น
(เอกสารประกอบการสอน 2. ใบความรู้ บทเรยี น*
และวดิ ีโอ) 2.แบบทดสอบทา้ ย
บทเรียน*
* ใช้ Microsoft Forms
10
พส.4
กาหนดการสอน
รหสั วชิ า.…..20104-2002......วิชา……………วงจรไฟฟา้ กระแสตรง………………ท-ป-น...1-3-2.....
ท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ วธิ ีการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การวัดผล ระยะเวลา หมายเหตุ
๑๐ ทฤษฎขี องเทวนิ ิน สป.๑๓
Block course 1. ใบสัง่ งำน 1.ใบประเมินผลกำร
๑๑ ทฤษฎีของนอร์ตนั (เรยี นในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดบั ขั้นตอน ปฏบิ ัติงำน สป.๑๔
กำรปฏบิ ตั ิงำน 2.แบบประเมินจติ พิสัย
๑๒ เมชเคอรเ์ รนต์ สอนออฟไลน์ สป.๑๕
(เอกสารประกอบการสอน 1. วิดโี อ 1.แบบทดสอบก่อน
๑๓ โนดโวลเตจ และวิดโี อ) 2. ใบความรู้ บทเรียน* สป.๑๖
2.แบบทดสอบทา้ ย
Block course 1. ใบสัง่ งำน บทเรียน*
(เรยี นในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดบั ขั้นตอน * ใช้ Microsoft Forms
กำรปฏบิ ตั ิงำน
สอนออฟไลน์ 1.ใบประเมนิ ผลกำร
(เอกสารประกอบการสอน 1. วดิ ีโอ ปฏิบัติงำน
และวิดีโอ) 2. ใบความรู้ 2.แบบประเมินจติ พสิ ยั
Block course 1. ใบสง่ั งำน 1.แบบทดสอบกอ่ น
(เรียนในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดับข้ันตอน บทเรยี น*
กำรปฏบิ ัติงำน 2.แบบทดสอบทา้ ย
สอนออฟไลน์ บทเรยี น*
(เอกสารประกอบการสอน 1. วดิ โี อ * ใช้ Microsoft Forms
และวดิ ีโอ) 2. ใบความรู้
1.ใบประเมนิ ผลกำร
Block course 1. ใบสั่งงำน ปฏิบตั ิงำน
(เรียนในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดบั ขั้นตอน 2.แบบประเมินจิตพิสยั
กำรปฏิบตั ิงำน
สอนออฟไลน์ 1.แบบทดสอบก่อน
(เอกสารประกอบการสอน 1. วิดีโอ บทเรียน*
และวดิ โี อ) 2. ใบความรู้ 2.แบบทดสอบท้าย
บทเรียน*
* ใช้ Microsoft Forms
1.ใบประเมนิ ผลกำร
ปฏบิ ตั งิ ำน
2.แบบประเมินจติ พสิ ยั
1.แบบทดสอบก่อน
บทเรียน*
2.แบบทดสอบทา้ ย
บทเรยี น*
* ใช้ Microsoft Forms
11
พส.4
กาหนดการสอน
รหสั วิชา.…..20104-2002......วชิ า……………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง………………ท-ป-น...1-3-2.....
ที่ หนว่ ยการเรยี นรู้ วธิ ีการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การวดั ผล ระยะเวลา หมายเหตุ
สป.๑๗
๑๔ ทฤษฎกี ำรส่งถำ่ ย Block course 1. ใบสั่งงำน 1.ใบประเมนิ ผลกำร
กำลงั ไฟฟ้ำสูงสุด (เรยี นในสถำนศึกษำ) 2. ใบลำดับข้ันตอน ปฏบิ ัติงำน สป.18
กำรปฏิบัตงิ ำน 2.แบบประเมนิ จติ พิสัย
สอนออฟไลน์
(เอกสารประกอบการสอน 1. วิดีโอ 1.แบบทดสอบก่อน
และวดิ ีโอ) 2. ใบความรู้ บทเรยี น*
2.แบบทดสอบท้าย
บทเรยี น*
* ใช้ Microsoft Forms
สอบปลายภาค
12
พส.5
ตารางวิเคราะหข์ ้อสอบ
รหสั วชิ า…20104-2002….วชิ า…………วงจรไฟฟา้ กระแสตรง……………ท-ป-น...1-3-2.....
พุทธพิ สิ ัย
หนว่ ยการเรยี น รายการสอน ความจา รวม
(ประเดน็ การประเมิน) ความเ ้ขาใจ (ขอ้ )
นาไปใ ้ช
ิวเคราะห์
ัสงเคราะห์
ประเมิน ่คา
ปรนัย(ข้อ)
อัตนัย( ้ขอ)
1. แหล่งกาเนดิ ไฟฟ้า 1. แบตเตอรแ่ี ละเซลลไ์ ฟฟ้า √√√ -- -
1
กระแสตรง 2. แหล่งจา่ ยไฟฟา้ กระแสตรง
6
3. เซลลไ์ ฟฟา้ และการตอ่ 6
2
เซลล์ไฟฟา้ 1
3
2. ความรเู้ บ้ืองต้นเกี่ยวกบั 1. กระแสไฟฟ้า √√√ 1-
1
ไฟฟา้ กระแสตรง 2. แรงดันไฟฟา้
3. กฎของโอหม์
4. กาลงั ไฟฟ้า
5. พลังงานไฟฟ้า
3. ตัวต้านทาน 1. ตัวตา้ นทานชนิดต่างๆ √√ √ √√ √ 5 1
2. หน่วยของตัวตา้ นทาน
3. การอา่ นคา่ ตัวตา้ นทาน
4. มัลติมิเตอร์
4. วงจรอนกุ รม ขนาน และ 1. วงจรอนกุ รม √√ √ √√ √ 5 1
ผสม 2. วงจรขนาน
3. วงจรผสม
5. วงจรแบ่งแรงดนั ไฟฟา้ 1. วงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟา้ √√√√√√2 -
และวงจรแบง่ กระแสไฟฟ้า 2. วงจรแบ่งกระแสไฟฟ้า
6. การแปลงคา่ ความ 1. การแปลงค่าความตา้ นทาน √ √ √ 1-
ต้านทานจากสตารเ์ ป็นเดล จากสตารเ์ ปน็ เดลตา
ตาและจากเดลตาเป็นสตาร์ 2. การแปลงคา่ ความตา้ นทานเดล
ตาเปน็ สตาร์
7. กฎของเคอรช์ อฟฟ์ 1. กฎของเคอรช์ อฟฟ์ √√ √ √√ √ 2 1
2. กฎกระแสไฟฟ้าของเคอร์
ชอฟฟ์
3. กฎแรงดนั ไฟฟา้ ของเคอร์
ชอฟฟ์
8. วงจรบริดจ์ 1. วงจรบริดจ์ √√√√√√1 -
2. วงจรบริดจ์แบบสมดุล
3. วงจรบรดิ จ์แบบไม่สมดุล
13
พส.5
ตารางวิเคราะหข์ ้อสอบ
รหัสวชิ า…20104-2002….วชิ า…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………ท-ป-น...1-3-2.....
พทุ ธิพิสัย
หน่วยการเรยี น รายการสอน ความจา รวม
(ประเด็นการประเมนิ ) ความเ ้ขาใจ (ขอ้ )
นาไปใ ้ช
ิวเคราะห์
ัสงเคราะห์
ประเมิน ่คา
ปรนัย(ข้อ)
อัตนัย( ้ขอ)
9. ทฤษฎีการวางซ้อน 1. ทฤษฎกี ารวางซอ้ น √√√ 1- 1
10. ทฤษฎขี องเทวินิน 2. หลักการของทฤษฎกี ารวาง
11. ทฤษฎขี องนอรต์ นั
12. เมชเคอร์เรนต์ ซ้อน
13. โนดโวลเตจ 3. ขั้นตอนการใช้ทฤษฎกี ารวาง
14. ทฤษฎีการส่งถ่าย
กาลังไฟฟา้ สูงสดุ ซอ้ น
1. ทฤษฎีของเทวนิ นิ √√√ -2 2
2. ข้ันตอนการใช้ทฤษฎีของเทวิ
นนิ
1. ทฤษฎีของนอรต์ ัน √√√ 1- 1
2. ขั้นตอนการใช้ทฤษฎีของนอร์
ตนั
1. เมชเคอร์เรนต์ √√√√√√1 - 1
2. การหาจานวนสมการ
แรงดันไฟฟา้
3. การเขยี นสมการโดยใช้วิธีเมช
เคอรเ์ รนต์ หรือลูปเเคอร์เรนต์
1. โนดโวลเตจ √√√√√√ - - -
2. หลกั การท่ัวไปของโนดโวลเตจ
3. การเขยี นสมการโดยใช้วิธขี อง
โนดโวลเตจ
1. ทฤษฎีการส่งถา่ ยกาลงั ไฟฟา้ √ √ √ -- -
สงู สุด
รวม 20 5 25
14
พส.6
กาหนดการประเมนิ ทกั ษะพิสัย
รหัสวชิ า…20104-2002….วิชา…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………ท-ป-น...1-3-2.....
หนว่ ยการเรยี น/รายการสอน สมรรถนะรายหน่วย รูปแบบการประเมิน คะแนน
รวม
1. แหลง่ กาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง แสดงความร้เู กี่ยวกับเซลลไ์ ฟฟา้ 1. พฤตกิ รรมในห้องเรยี นและการ 5
คานวณหาค่าแรงดนั ไฟฟา้ ของการตอ่ ทางาน
เซลล์ไฟฟ้าแบบตา่ งๆ ตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ตั ิงาน 3
แบบต่างๆ และวัดหาค่าแรงดันไฟฟ้า 3. ถาม/ตอบในชน้ั เรียน 2
2. ความรูเ้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกับไฟฟ้า แสดงความรู้เร่ืองกฎของโอหม์ 1. พฤติกรรมในห้องเรียนและการ 10
กระแสตรง คานวณหาค่าต่าง ๆ ตามกฎของโอหม์ ทางาน
วดั หาค่ากระแสไฟฟา้ แรงดนั ไฟฟ้า 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ตั ิงาน 7
และความตา้ นทานตามกฎของโอหม์ 3. ถาม/ตอบในชนั้ เรียน 3
3. ตัวต้านทาน คานวณหาคา่ ความต้านทานรวมของ 1. พฤตกิ รรมในหอ้ งเรยี นและการ 10
การตอ่ ตวั ต้านทานแบบอนุกรม แบบ ทางาน
ขนานและแบบผสม ตอ่ ตัวต้านทาน 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ัตงิ าน 7
และวดั หาค่าความตา้ นทานรวมของ 3. ถาม/ตอบในชั้นเรยี น 3
การต่อตัวต้านทานแบบอนุกรม แบบ
ขนานและแบบผสม
4. วงจรอนกุ รม ขนาน และผสม คานวณหาคา่ ต่างๆ ในวงจรไฟฟา้ แบบ 1. พฤตกิ รรมในหอ้ งเรยี นและการ 10
อนุกรม ขนาน ผสมได้ ตอ่ วงจรและวัด ทางาน
หาค่าต่างๆ ในวงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏิบัติงาน 7
ขนาน ผสมได้ 3. ถาม/ตอบในชน้ั เรยี น 3
5. วงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟา้ และ แสดงความรู้เก่ียวกับวงจรแบ่ง 1. พฤตกิ รรมในหอ้ งเรยี นและการ 5
วงจรแบ่งกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟา้ วงจรแบ่งกระแส ทางาน
คานวณหาคา่ ตา่ งๆ ในวงจรแบ่ง 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ัตงิ าน 3
แรงดนั ไฟฟ้า วงจรแบง่ กระแส ตอ่ วงจร 3. ถาม/ตอบในชน้ั เรยี น 2
แบง่ แรงดนั ไฟฟา้ วงจรแบง่ กระแสและ
วัดหาคา่ ต่างๆ
6. การแปลงค่าความตา้ นทาน แสดงความรู้เกยี่ วกบั ลักษณะวงจรเดล 1. พฤติกรรมในหอ้ งเรยี นและการ 5
จากสตาร์เป็นเดลตาและจากเดล ตา-สตารไ์ ด้ เขียนสมการการแปลงและ ทางาน
ตาเป็นสตาร์ คานวณวงจรเดลตาเปน็ วงจรสตารแ์ ละ 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏิบัตงิ าน 3
เขียนสมการการแปลงและคานวณ 3. ถาม/ตอบในชั้นเรยี น 2
วงจรสตารเ์ ป็นวงจรเดลตาได้
7. กฎของเคอรช์ อฟฟ์ แสดงความร้เู กีย่ วกับกฎแรงดันและกฎ 1. พฤติกรรมในห้องเรยี นและการ 10
กระแสของเคอรช์ อฟฟ์ คานวณหาค่า ทางาน
ตา่ งๆ ในวงจรโดยใช้กฎของเคอรช์ อฟฟ์ 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ตั ิงาน 7
ตอ่ วงจรทดลองตามกฎของเคอรช์ อฟฟ์ 3. ถาม/ตอบในชั้นเรยี น 3
และวดั หาค่าต่างๆ
15
พส.6
กาหนดการประเมินทกั ษะพิสัย
รหสั วชิ า…20104-2002….วชิ า…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………ท-ป-น...1-3-2.....
หนว่ ยการเรียน/รายการ สมรรถนะรายหน่วย รปู แบบการประเมิน คะแนน
สอน รวม
8. วงจรบรดิ จ์ แสดงความรูเ้ กย่ี วกับวงจรบรดิ จ์ 1. พฤติกรรมในหอ้ งเรียนและการ 5
9. ทฤษฎีการวางซอ้ น
10. ทฤษฎขี องเทวนิ ิน คานวณหาค่าต่าง ๆ ในวงจรบรดิ จ์ ต่อ ทางาน
11. ทฤษฎีของนอรต์ ัน
12. เมชเคอรเ์ รนต์ วงจรบรดิ จ์ทดลองและวัดหาคา่ ตา่ ง ๆ 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏิบตั ิงาน 3
13. โนดโวลเตจ
14. ทฤษฎกี ารสง่ ถ่าย 3. ถาม/ตอบในช้ันเรยี น 2
กาลงั ไฟฟา้ สงู สดุ
แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ทฤษฎีการวางซ้อน 1. พฤตกิ รรมในห้องเรยี นและการ 5
คานวณหาค่าตา่ ง ๆ ในวงจรโดยใชท้ ฤษฎี ทางาน
การวางซอ้ น ต่อวงจรทดลองตามทฤษฎี 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏิบัติงาน 3
การวางซอ้ น และวดั หาคา่ ตา่ ง ๆ 3. ถาม/ตอบในชั้นเรียน 2
แสดงความรู้เก่ียวกับทฤษฎีของเทวินิน 1. พฤตกิ รรมในหอ้ งเรียนและการ 10
คานวณหาค่าตา่ งๆ ในวงจรโดยใชท้ ฤษฎี ทางาน
ของเทวินิน ตอ่ วงจรทดลองตามทฤษฎขี อง 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ตั งิ าน 7
เทวินินและวัดหาคา่ ต่างๆ 3. ถาม/ตอบในชน้ั เรยี น 3
แสดงความร้เู กย่ี วกับทฤษฎขี องนอรต์ ัน 1. พฤตกิ รรมในหอ้ งเรยี นและการ 10
คานวณหาคา่ ตา่ งๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎี ทางาน
ของนอร์ตนั ต่อวงจรทดลองตามทฤษฎขี อง 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏิบตั ิงาน 7
นอร์ตันและวัดหาคา่ ตา่ งๆ 3. ถาม/ตอบในชั้นเรยี น 3
แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ทฤษฎเี มชเคอร์เรนต์ 1. พฤตกิ รรมในหอ้ งเรยี นและการ 5
คานวณหาค่าต่าง ๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎี ทางาน
เมชเคอร์เรนต์ ตอ่ วงจรทดลองตามทฤษฎี 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏิบตั งิ าน 3
เมชเคอรเ์ รนต์ และวดั หาคา่ ตา่ ง ๆ 3. ถาม/ตอบในชั้นเรียน 2
แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ทฤษฎีโนดโวลเตจ 1. พฤติกรรมในห้องเรียนและการ 5
คานวณหาค่าต่าง ๆ ในวงจรโดยใช้ทฤษฎี ทางาน
โนดโวลเตจ ต่อวงจรทดลองตามทฤษฎี 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ตั ิงาน 3
โนดโวลเตจและวดั หาคา่ ต่าง ๆ 3. ถาม/ตอบในชั้นเรียน 2
แสดงความรเู้ กย่ี วกับทฤษฎีการส่งถ่าย 1. พฤติกรรมในห้องเรยี นและการ 5
กาลงั ไฟฟ้าสงู สดุ คานวณหาค่าตา่ ง ๆ ใน ทางาน
วงจรโดยใช้ทฤษฎกี ารสง่ ถ่ายกาลังไฟฟ้า 2. ตรวจใบงาน/ใบปฏบิ ัตงิ าน 3
สูงสุด ตอ่ วงจรทดลองตามทฤษฎกี ารส่ง 3. ถาม/ตอบในชน้ั เรยี น 2
ถ่ายกาลังไฟฟ้าสงู สุดและวดั หาคา่ ต่าง ๆ
แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม
16
พส.7
แบบประเมนิ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (จติ พิสัย)
รายการประเมิน หนว่ ยที่ หมายเหตุ
1. ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ท่ีดี 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
2. ความมวี นิ ัย 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
3. ความรับผดิ ชอบ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
4. ความซื่อสัตย์สุจริต 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
5. ความเช่อื มัน่ ในตนเอง
6. การประหยดั 2, 4, 6, 7
7. ความสนใจใฝร่ ู้ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
8. ความสามัคคี 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
9. ความกตญั ญู 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
10. ละเว้นสิง่ เสพตดิ /การพนนั 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
11. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
12. การพ่งึ ตนเอง
13. ความปลอดภยั 1, 2, 4, 6
14. ความอดทนอดกลั้น 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
15. ความมคี ุณธรรม/จริยธรรม 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
16. การตรงต่อเวลา 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
หมายเหตุ ช่องหน่วยที่ ใหร้ ะบุหมายเลขหนว่ ยตามรายการประเมนิ
17
พส.8
กรอบการจัดการเรียนรแู้ บบบรู ณาการเปน็ เรอ่ื ง/ชนิ้ งาน/โครงการ
และบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
สมรรถนะดา้ นความมีเหตผุ ล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมีภมู ิคุ้มกนั
1. ศกึ ษาหาเหตผุ ลวา่ ทาไมต้องศกึ ษา 1. อบรมคุณธรรม จรยิ ธรรม 1. นักเรียนศึกษามกี ารเตรียมความ
เกีย่ วกบั วงจรไฟฟ้ากระแสตรงและทา 2. เลอื กใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ตา่ งๆอยา่ ง พรอ้ มในการเรียนและการปฏบิ ัติงาน
อย่างไรจึงจะเกิดทักษะสามารถทางาน ประหยัดและคุ้มค่า 2. กาหนดระเบยี บและข้อบังคบั ในการ
ได้ตามวตั ถุประสงคท์ ่ีตั้งไวม้ ากทส่ี ดุ 3.รู้จักจดั สรรเวลาในกาปฏิบัติงาน เรยี น
3. สาธติ การปฏิบัติงานการใช้และการ
เง่อื นไขดา้ นความรูแ้ ละทกั ษะ วงจร ใช้เครือ่ งมือ
ไฟฟ้า
1. รู้ เข้าใจกฎและทฤษฎวี งจรไฟฟ้า กระแสตรง เง่อื นไขด้านคุณธรรม จริยธรรม
กระแสตรง ค่านิยม คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์
2. มที กั ษะเก่ยี วกบั การต่อ การวัด
ประลอง และคานวณ หาคา่ ต่าง ๆ ใน แสดงออกด้านความสนใจใฝร่ ู้ การตรง
วงจรไฟฟา้ กระแสตรง ต่อเวลา ความซอ่ื สัตย์ สุจรติ ความมี
3. มีเจตคติและกจิ นิสัยทด่ี ใี นการ นา้ ใจและแบง่ บนั
ปฏบิ ัติงาน มคี วามละเอียดรอบคอบ ความร่วมมือ/ยอมรบั ความคิดเห็นสว่ น
ปลอดภัย เปน็ ระเบยี บ สะอาด ใหญ่
ตรงต่อเวลา มีความซอื่ สตั ย์และมีความ
รับผิดชอบ
ผลกระทบเพื่อความสมดุล พรอ้ มรับการเปล่ียนแปลง
ด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นวัฒนธรรม ดา้ นส่ิงแวดล้อม
- นักเรียนนกั ศกึ ษามีความรู้ - นักเรยี นนักศกึ ษามคี วามรู้ - นักเรยี นนักศึกษามีความรู้คู่ - นักเรียนนกั ศกึ ษารู้จกั นา
และมคี วามภาคภมู ใิ จในตนเอง สามารถทางานประกอบอาชพี
คณุ ธรรม เปน็ คนดขี องสงั คม สงิ่ ของเหลอื ใช้ กลับมาใช้ใหม่ให้
เลี้ยงตนเองและครอบครวั ได้ เกดิ ประโยชน์
หมายเหตุ หากเปน็ การบูรณาการในหนว่ ยการเรียนรู้หน่วยใดหน่วยหนึ่ง ใหน้ าแผนภมู นิ ีไ้ ปนาเสนอในหน่วยการเรยี นรู้นนั้
18
พส.9
แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1
เวลารวม 4 ชม.
รหัสวชิ า 20104-2002 วชิ า วงจรไฟฟา้ กระแสตรง
สัปดาห์ 1/18
ชอื่ หนว่ ย แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง จานวน 4 ชม.
เรอ่ื ง แหลง่ กาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง
1. สาระสาคญั
ไฟฟ้ามี 2 ชนิด คือไฟฟ้าสถิตและไฟฟ้ากระแส ไฟฟ้ากระแสแบ่งได้เป็นไฟฟ้ากระแสตรงและไฟฟ้า
กระแสสลบั ไฟฟา้ ได้มาจากแหล่งกาเนิดหลายแหล่ง มีท้ังท่ีเกิดจากการขัดสหี รอื เสียดสี แรงกดอัด ความร้อน แสง
สว่าง ปฏิกิริยาเคมี สนามแม่เหล็กไฟฟ้า และไฟฟ้าที่กาเนิดจากสิ่งมีชีวิตเซลล์ไฟฟ้า เป็นแหล่งกาเนิดไฟ ฟ้า
กระแสตรงชนิดหนึ่งท่เี กดิ จากปฏกิ ิริยาทางเคมี โดยนาแผ่นโลหะตา่ งชนดิ กนั ทาหนา้ ที่เปน็ ขวั้ ไฟฟา้ ขวั้ บวกและข้วั ลบ
จุ่มในสารละลายท่ีนาไฟฟ้าได้ ทาให้เกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างข้ัวเซลล์ เม่ือต่อเซลล์กับวงจรภายนอกจะมี
กระแสไฟฟ้าไหลจากขั้วบวกไปข้ัวลบ เซลล์ไฟฟ้าแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ชนิด คือเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์
ทตุ ิยภมู ิ โดยเซลล์ปฐมภมู ิเป็นเซลลไ์ ฟฟา้ ทไ่ี ม่สามารถนากลับมาใช้ใหมไ่ ด้ ได้แก่ เซลลไ์ ฟฟา้ ชนิดคาร์บอน-สังกะสี
เซลล์ไฟฟ้าชนิดอัลคาไลน์ เซลลไ์ ฟฟ้าชนิดปรอท เซลล์ไฟฟ้าชนิดเงิน และเซลล์ไฟฟ้าชนิดลิเธียม เป็นต้น เซลล์ทุติย
ภูมิเป็นเซลล์ไฟฟ้าที่สามารถนาไปชาร์จเพื่อนากลับมาใช้ใหม่ได้ ได้แก่ เซลล์ไฟฟ้าชนิดสะสมไฟฟ้าแบบตะกั่ว-กรด
เซลลไ์ ฟฟ้าชนดิ นิเกิลแคดเมียม เซลล์ไฟฟา้ ชนดิ นิเกลิ เมทลั ไฮไดรด์ เซลล์ไฟฟ้าชนดิ ลิเธียมไอออนและเซลล์ไฟฟา้ ชนิด
ลิเธยี มโพลิเมอร์ เปน็ ต้น การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าตอ่ ได้ 3 ลักษณะ คือ การต่อแบบอนุกรม แบบขนานและแบบผสม โดย
การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมจะทาให้แรงดันไฟฟ้ารวมเพ่ิมขึ้น แต่กระแสไฟฟ้ารวมจะเท่ากับความจุของกระแส
เซลล์เดียวที่มีค่าน้อยที่สุด การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบขนานจะทาให้แรงดันไฟฟ้ารวมเท่ากับแรงดันไฟฟ้าของเซลล์ ๆ
เดียว แต่กระแสไฟฟ้ารวมจะเพ่ิมขึ้น หากต้องการให้ทั้งกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต้องต่อเซลล์ไฟฟ้า
แบบผสม
2. สมรรถนะประจาหน่วย
1. แสดงความร้เู กีย่ วกับเซลล์ไฟฟ้า
2. คานวณหาค่าแรงดันไฟฟ้าของการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบต่าง ๆ
3. ตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบต่าง ๆ และวัดหาค่าแรงดนั ไฟฟา้
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายคณุ ลกั ษณะของตวั ต้านทานชนิดต่างๆได้
2. บอกขอ้ ดแี ละข้อเสียของหลอดไฟชนิดต่างๆได้
3. อธบิ ายหลกั การทางานของไดโอดเปลง่ แสงได้
4. บอกหนา้ ทขี่ องอปุ กรณ์ปอ้ งกันวงจรไฟฟา้ ชนดิ ต่างๆได้
5. สามารถใช้มลั ตมิ ิเตอรไ์ ด้อย่างถูกตอ้ ง
19
4. สาระการเรียนรู้
1. ตัวต้านทาน
2. หลอดไฟ
3. ไดโอดเปลง่ แสง
4. ฟิวส์ สวติ ช์ และรีเลย์
5. มลั ติมิเตอร์
5. การออกแบบการจัดการเรียนรู้
Active learning : ให้นกั เรียนจัดทาใบปฏบิ ัติงานตามการทดลองท่ี 1 การใช้มัลติมิเตอร์วัดคา่ ความต้านทาน
ตามลาดบั ขั้นการทดลอง
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
6.1 ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2. ครแู จง้ เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล
6.2 ข้ันสอนทฤษฎี
1. ครูบรรยายเน้อื หาประกอบแผ่นใส / power point
2. ครูซกั ถามนักเรียนเกย่ี วกับเนือ้ หาทเี่ รียน
3. ครใู หน้ ักเรยี นแสดงความคิดเห็นหรอื ซกั ถามในประเด็นท่ีสงสยั หรือไมเ่ ข้าใจ
6.3 ขั้นสอนปฏบิ ัติ
1. นกั เรียนจดั เตรยี มเครอ่ื งมือและอุปกรณ์
2. ครูแบ่งกลุ่มใหน้ กั เรียนปฏบิ ัติการทดลองตามใบงาน
3. ครสู ังเกตการณป์ ฏิบัติงานและคอยให้คาแนะนาอย่างใกลช้ ิด
6.4 ข้ันสรุป
1. ครสู รุปสาระสาคญั ของหนว่ ยการเรยี นรู้และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามหรอื แสดงความคดิ เหน็
2. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหนว่ ยการเรยี นรู้
7. บรรยากาศทส่ี ่งเสริมและพัฒนาผเู้ รียน
ผเู้ รียนมีความสนใจในการเรียน เน่อื งจากการสอนแบบ Active learning ทาให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัตแิ ละ
เกิดการผดิ พลาดและสามารถแกไ้ ขปัญหาดว้ ยตนเอง สง่ ผลให้เกิดผลการเรยี นรู้ทีด่ ี
8. คณุ ธรรม จรยิ ธรรมประจาหนว่ ย
1. ความรบั ผิดชอบ
2. ตรงต่อเวลา
3. ความซ่ือสตั ย์
20
9. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
พาวเวอร์พอ้ ยท์ เรื่อง แหล่งกาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง
ใบความรู้ เร่ือง การใชม้ ลั ติมิเตอรว์ ดั ค่าความต้านทานตามลาดบั ขน้ั การทดลอง
วิดโี อ เรือ่ ง ความรู้พน้ื ฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้ากระแสตรง
10. การวัดผลและประเมนิ ผล
แบบทดสอบท้ายบทเรียน เรอื่ ง แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง แหล่งกาเนิดไฟฟ้า
แบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง แหล่งกาเนิดไฟฟา้
11. หลักฐานการเรียนรู้
แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง แหล่งกาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง
ใบงาน เรอ่ื ง หนว่ ยในระบบ SI
ใบปฏบิ ัติงาน เร่อื ง การใช้มัลติมเิ ตอร์วดั ค่าความตา้ นทานตามลาดบั ขน้ั การทดลอง
12. เอกสารอา้ งองิ
-
21
พส.10
เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน
รหสั วชิ า…………20104-2002……….วิชา…………วงจรไฟฟา้ กระแสตรง………ท-ป-น...1-3-2...........
แบบประเมนิ แบบประมาณคา่ (Ratting scale) เกณฑ์การให้คะแนน
54 321
ประเด็นการประเมนิ
1. อธิบายคณุ ลกั ษณะของตวั ตา้ นทานชนิดตา่ งๆได้
2. บอกขอ้ ดีและข้อเสยี ของหลอดไฟชนิดต่างๆได้
3. อธิบายหลักการทางานของไดโอดเปล่งแสงได้
4. บอกหน้าท่ขี องอปุ กรณป์ อ้ งกนั วงจรไฟฟา้ ชนดิ ต่างๆได้
5. สามารถใชม้ ัลตมิ ิเตอรไ์ ดอ้ ย่างถกู ต้อง
รวม
รวมทง้ั หมด (5 คะแนน+4 คะแนน+3 คะแนน+2 คะแนน+1 คะแนน)
คะแนนรวม (60%)
22
พส.11
บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้
รหัสวชิ า...........................ชอื่ วชิ า.........................................................................................ระดบั ช้ัน ปวช. ปวส.
สาขางาน..............................................................................................สัปดาหท์ ่ี..........วันทสี่ อน..............................................
หน่วยท.่ี ...........ชื่อหน่วย......................................................................................................................จานวน................ชั่วโมง
จานวนผู้เรียน..........................คน มาเรยี น........................คน ขาดเรยี น.........คน ลาปว่ ย.........คน ลากจิ ..........คน
1. ผลการจัดการเรยี นรู้
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. ปัญหาและอปุ สรรค
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
ลงชื่อ.......................................................ครูผสู้ อน
(............................................................)
........../................/............
ความเห็น................................................................................. ความเห็น.................................................................................
................................................................................................ ................................................................................................
ลงชือ่ ...............................................หัวหน้าแผนกวิชา ลงชอื่ ............................................รองผูอ้ านวยการฝ่ายวิชาการ
(............................................................) (นางสาวนิศากร เจรญิ ดี)
............/................../............
............/................../............
ความเหน็ ผอู้ านวยการ.................................................................................
....................................................................................................................
ลงชอ่ื ...........................................
(นางสาวสุมนี า แดงใจ)
ผู้อานวยการวิทยาลัยการอาชีพนครปฐม
............/................../............
23
พส.12
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วชิ า………..20104-2002………….วชิ า………………..วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………………
ชอื่ หน่วย..............................แหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้ากระแสตรง...................................................
เร่อื ง.............................แหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง..................................จานวนชั่วโมงสอน.............4.............
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ รายการเรยี นรู้
- จุดประสงค์ท่วั ไป 1. ตวั ตา้ นทาน
1. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับแหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ 2. หลอดไฟ
กระแสตรง 3. ไดโอดเปล่งแสง
2. มีเจตคตแิ ละกิจนิสยั ที่ดีในการปฏิบตั ิงาน มคี วาม 4. ฟิวส์ สวติ ช์ และรีเลย์
ละเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เปน็ ระเบยี บ สะอาด 5. มลั ติมิเตอร์
ตรงต่อเวลา มคี วามซอื่ สตั ยแ์ ละมีความรับผดิ ชอบ
- จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อธิบายคุณลักษณะของตัวตา้ นทานชนดิ ตา่ งๆได้
2. บอกขอ้ ดแี ละข้อเสยี ของหลอดไฟชนดิ ต่างๆได้
3. อธิบายหลักการทางานของไดโอดเปล่งแสงได้
4. บอกหนา้ ที่ของอุปกรณ์ปอ้ งกนั วงจรไฟฟา้ ชนดิ
ต่างๆได้
5. สามารถใชม้ ัลตมิ เิ ตอร์ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
24
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1
เรอื่ ง แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง
1.1 ตัวต้านทาน
ตวั ตา้ นทาน เปน็ อปุ กรณ์ทีน่ ามาใช้ในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงเป็นอยา่ งมาก หนา้ ที่หลกั คอื ตา้ นทาน
กระแสไฟฟา้ ทไี่ หลผา่ น แบง่ เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ชนิดคา่ คงท่ี กับชนิดปรบั ค่าได้
1.1.1 ตัวตา้ นทานชนิดคา่ คงท่ี เป็นตัวต้านทานที่นยิ มใช้กนั มากในวงจรไฟฟา้ กระแสตรง มหี ลายประเภท เชน่
ตวั ตา้ นทานชนิดคาร์บอนผสม ซ่ึงเปน็ แบบท่ใี ช้กนั มากเพราะมีราคาถูก ดงั รูปที่ 1.1
ตัวตา้ นทานชนิดค่าคงท่แี บบอ่ืนๆ เชน่ ชนิดพนั ด้วยลวด ดงั แสดงในรปู ท่ี 1.2
ตวั ตา้ นทานชนิดฟลิ ม์ โลหะ ดังแสดงในรูปท่ี 1.3 มขี อ้ ดคี ือ ค่าความตา้ นทานไม่คอ่ ยเปล่ียนตาอณุ หภูมิ
และมีความคลาดเคล่ือนตา่
25
1.1.2 ตวั ตา้ นทานชนิดปรบั ค่าได้ ทน่ี ิยมใชม้ ากที่สุดคอื โพเทนชโิ อมิเตอร์ มี 3 ขา และมกี ลไกในการปรบั ค่า
ความต้านทานได้ ภายในโพเทนชิโอมิเตอร์มีส่วนผสมคารบ์ อน หรือลวดท่ีทาหน้าที่เป็นตวั ต้านทานเชอ่ื มต่อเขา้ กับ
ขา 2 ขา สว่ นขาที่เหลือเช่อื มตอ่ กับตัวกวาดท่ีเคล่ือนที่ได้ ดังรูปที่ 1.4
1.2 หลอดไฟ
หลอดไฟทีใ่ ช้ทวั่ ไปแบ่งเปน็ 2 ชนิด คอื หลอดชนิดมไี ส้ และหลอดชนดิ เรืองแสง หลอดมไี สจ้ ะยอมให้
กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นสว่ นทเ่ี ป็นไส้หลอด ทาให้ไส้หลอดเกิดความรอ้ นและเปลง่ แสงออกมา ซง่ึ ไสห้ ลอดมักจะทา
จากทงั สเตนเพราะให้แสงสวา่ งดที ่ีสุด อายกุ ารใชง้ านของหลอดอยูร่ ะหว่าง 750-1,000 ชัว่ โมง และกาลังไฟฟา้ อยู่
ระหว่าง 1-1,500 วัตต์
หลอดเรืองแสงหรอื ท่มี ักเรยี กวา่ หลอดนีออน มักมีลกั ษณะเปน็ รูปทรงกระบอกยาวปลายหลอดจะเป็นข้วั ของ
หลอด และมีไส้หลอดทาจากทังสเตนพร้อมท้งั เคลือบสารเคมีทีช่ ว่ ยใหเ้ กิดอเิ ลก็ ตรอนได้มากๆ ภายในหลอดจะมี
ความดันตา่ ในผนงั ดา้ นในของหลอดมีสารฟอสเฟอร์เคลือบไว้ อายุการใชง้ านยาวนานถงึ 7,500-20,000 ช่วั โมง
1.3 ไดโอดเปลง่ แสง
ไดโอดเปล่งแสง เป็นแหล่งพลงั งานแสงท่เี ปน็ โซลิดสเตต ไดโอดเปล่งแสงมกั ถูกนามาใช้ในวงจรไฟฟา้
กระแสตรงแทนหลอดไส้ เนื่องจากมีข้อดีดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ใช้แรงดนั ไฟฟ้าต่า
2. มีอายกุ ารใชง้ านท่ยี าวนาน (มากกว่า 20 ปี)
3. สวติ ช์เปิดปิดได้เร็ว (เป็น นาโนวนิ าท)ี
สัญลกั ษณ์ที่ใช้แทนไดโอดเปลง่ แสงสามารถแสดงได้ดังรูปที่ 1.5
26
การป้องกันความเสียหายของไดโอดเปลง่ แสงวีธีหนงึ่ คือ ใช้ไดโอดเรียงกระแสแบบท่ัวไปอนั หนึ่งวางขนานกับ
ไดโอดเปล่งแสง ดังแสดงในรูปที่ 1.6
1.4 ฟิวส์ สวิตช์ และรีเลย์
ฟวิ ส์ สวิตช์ และรเี ลย์ จดั เปน็ อปุ กรณป์ ้องกนั วงจรไฟฟ้า เพ่อื ป้องกันความเสียหายท่ีอาจเกิดขนึ้
1.4.1 ฟวิ ส์ จัดเปน็ อุปกรณ์ปอ้ งกันมใิ หก้ ระแสไหลผ่านวงจรมากเกนิ ไป และจะทาหนา้ ทีต่ ัดวงจรเมือ่ มีกระแส
ไหลผ่านตวั มากเกนิ กาหนด รูปของฟวิ ส์และสญั ลกั ษณ์ แสดงในรปู ที่ 1.7
27
1.4.2 สวติ ช์ ทาหน้าทเ่ี ป็นตวั ปดิ เปิดวงจร โดยสวิตชม์ ีส่วนสมั ผสั ท่เี คลอื่ นที่ได้และอยู่กับท่ีสว่ นสัมผสั ทเ่ี คล่ือนท่ี
ได้น้ีมชี อื่ วา่ “ขวั้ (Pole)” ส่วนสมั ผัสท่ีอย่กู บั ท่จี ะมชี อื่ ว่า “โทรว (Throw)” สวิตชแ์ บง่ ได้เป็น 8 ประเภท ดังนี้
1. สวิตช์ขวั้ เดียวทางเดยี ว
2. สวิตชข์ ั้วเดยี วสองทาง
3. สวติ ชส์ องข้ัวทางเดยี ว
4. สวติ ช์สองข้ัวสองทาง
5. สวิตช์กดแบบปกตเิ ปดิ
6. สวิตชแ์ บบปกติปิด
7. สวติ ช์แบบหมนุ
8. สวติ ช์แบบดพิ
1.4.3 รเี ลย์
รเี ลย์ เปน็ สวิตชป์ ระเภทไฟฟ้าเชงิ กลท่ีสามารถเปิดปิดได้โดยใช้ขดลวดไฟฟา้ เชงิ กลภายในตวั เชน่ รเี ลย์แบบ
ลกู สบู เม่ือมกี ระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดจะทาให้สนามแมเ่ หล็กดูดลูกสูบลงมา เม่ือลกู สบู ถกู ดูดลงมาก็จะทาให้
สวติ ชป์ ดิ เม่อื กระแสทไี่ หลผา่ นขดลวดหยุดไหลก็จะมีสปริงตวั หนึ่งท่ีจะดงึ ขดลวดใหก้ ลับส่ตู าแหนง่ เดิม ซ่ึงเป็น
ตาแหนง่ ท่ีสวิตช์เปิด ดังแสดงในรูปท่ี 1.8
1.5 มัลติมเิ ตอร์
มัลตมิ ิเตอร์เป็นเคร่อื งมือวัดทางไฟฟา้ ท่สี ามารถใช้วดั ได้ทัง้ ความตา้ นทาน แรงดนั ไฟฟา้ และกระแสไฟฟ้า
หน้าท่ีและส่วนประกอบของมลั ติมิเตอร์
1. เขม็ เปน็ เขม็ ทช่ี แี้ สดงคา่ ทวี่ ดั ได้
2. สกรปู รบั ศนู ย์ เปน็ สกรทู ี่ใช้ปรับใหเ้ ข็มอยู่ในตาแหนง่ ศนู ย์
3. ปุม่ ปรับศนู ย์โอหม์ เป็นปุ่มปรบั ให้เข็มอยู่ในตาแหน่งศนู ย์โอห์มก่อนทาการวดั คา่ ความตต้านทาน
4. รูเสียบสายลบ
5. รูเสยี บสายบวก
6. สวิตช์เลอื กยา่ นวัด
7. ย่านวดั
8. สเกล
28
รปู มลั ติมเิ ตอร์ แสดงดงั รปู ที่ 1.9
รูปที่ 1.9 มลั ติมิเตอร์
คาถาม
1. ทาไมต้องมีการปรับศนู ยโ์ อหม์ ทกุ ครัง้ กอ่ นการวดั ค่าความต้านทาน
2. แอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงกับแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับมีวิธีการใชง้ านตา่ งกนั อยา่ งไร
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรยี นวชิ าวงจรไฟฟ้ากระแสตรง
29
พส.13
ใบงาน (Job Sheets)
รหสั วิชา………..20104-2002……….วิชา……………………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………………………
ช่อื หนว่ ย............................แหลง่ กาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง.........................................................
เร่อื ง....................แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง.............................................จานวนชว่ั โมงสอน...........4............
จุดประสงค์การเรยี นรู้ รายการเรียนรู้
- จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม เครอ่ื งมือ/วัสดุ-อปุ กรณ์
1. สามารถใช้มัลติมิเตอรเ์ พือ่ วัดคา่ ความต้านทาน 1. ใบปฏบิ ัตงิ าน
แรงดันไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ ได้ 2. ชุดทดลองวชิ าวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 1 ชุด
3. มัลตมิ ิเตอร์
- ลาดับขนั้ การทางาน ข้อควรระวงั
1. ครแู จกใบงานใหก้ บั นักเรยี น พร้อมทั้งช้ีแจง 1. อา่ นโจทย์อย่างละเอยี ด ระมดั ระวงั ในทุกๆ
ข้ันตอน และเตมิ ผลการทดลองทีไ่ ดล้ งใน
และอธิบายคาส่ังของใบงาน ช่องว่างให้ถกู ต้องถา้ เป็นการคานวณควร
2. นักเรยี นอ่านและทาความเขา้ ใจโจทยอ์ ย่าง แสดงวธิ ีทาและใช้สตู รการคานวณให้
ถกู ตอ้ ง
ละเอยี ดว่าโจทย์ต้องการอะไร
3. นกั เรยี นเติมคาตอบทถ่ี ูกต้องลงในช่องว่างท่ี มอบงาน
1. ใบปฏบิ ัติงาน
กาหนดให้
4. นักเรียนอา่ นทบทวนคาตอบ หากพบวา่
คาตอบผดิ พลาดใหแ้ ก้ไขให้ถูกตอ้ ง
วัดผล/ประเมนิ ผล
1. ความถูกต้อง
2. ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย
30
พส.14
ใบปฏิบตั ิงาน (Operation Sheets)
รหัสวิชา………..20104-2002……….วิชา……………………วงจรไฟฟา้ กระแสตรง……………………………
ชือ่ หนว่ ย............................แหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง.........................................................
เรื่อง............................แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง........................จานวนชว่ั โมงสอน...........4............
จุดประสงค์การเรียนรู้
- จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. สามารถใชม้ ัลตมิ เิ ตอร์เพอื่ วัดค่าความต้านทาน แรงดนั ไฟฟ้า กระแสไฟฟา้ ได้
เครอื่ งมอื -อุปกรณ์-วสั ดุ
1. ใบปฏบิ ตั งิ าน
2. ชดุ ทดลองวชิ าวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 1 ชุด
3. มลั ตมิ ิเตอร์
ลาดับข้ันการปฏบิ ตั ิงาน
1. ครแู จกใบงานให้กบั นักเรยี น พรอ้ มท้งั ชีแ้ จงและอธิบายคาส่ังของใบงาน
2. นกั เรยี นอ่านและทาความเขา้ ใจโจทยอ์ ย่างละเอียดวา่ โจทย์ตอ้ งการอะไร
3. นกั เรยี นเติมคาตอบที่ถูกตอ้ งลงในช่องวา่ งที่กาหนดให้
4. นกั เรียนอา่ นทบทวนคาตอบ หากพบว่าคาตอบผิดพลาดใหแ้ ก้ไขให้ถูกตอ้ ง
ข้อควรระวัง
1. อา่ นโจทยอ์ ย่างละเอยี ด ระมดั ระวังในทุกๆข้นั ตอน และเตมิ ผลการทดลองทไ่ี ด้ลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง
ถ้าเปน็ การคานวณควรแสดงวิธที าและใช้สูตรการคานวณใหถ้ กู ต้อง
ขอ้ เสนอแนะ
-
การประเมินผล
1. ความถกู ต้อง
2. ความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย
เอกสารอ้างอิง
1. หนังสอื เรียนวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง
31
พส.15
ใบมอบหมายงาน (Assignment Sheets)
รหัสวิชา………..20104-2002……….วิชา……………………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง……………………………
ชื่อหน่วย............................แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง.........................................................
เรอื่ ง....................แหล่งกาเนิดไฟฟา้ กระแสตรง.............................................จานวนช่วั โมงสอน...........4............
จดุ ประสงคก์ ารมอบงาน
1. สามารถใช้มลั ติมิเตอรเ์ พอ่ื วัดค่าความตา้ นทาน แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟา้ ได้
แนวทางการปฏบิ ัตงิ าน
1. ครูแจกใบงานใหก้ บั นักเรียน พรอ้ มทัง้ ช้ีแจงและอธบิ ายคาส่ังของใบงาน
2. นกั เรียนอา่ นและทาความเขา้ ใจโจทยอ์ ยา่ งละเอียดวา่ โจทย์ต้องการอะไร
3. นักเรยี นเตมิ คาตอบท่ีถกู ต้องลงในช่องว่างทก่ี าหนดให้
4. นักเรยี นอา่ นทบทวนคาตอบ หากพบว่าคาตอบผิดพลาดให้แกไ้ ขให้ถกู ตอ้ ง
แหลง่ คน้ ควา้
1. หนังสอื เรียนวิชาวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
คาถาม/ปัญหา
1. ทาไมตอ้ งมีการปรบั ศนู ย์โอหม์ ทกุ คร้ังกอ่ นการวัดค่าความต้านทาน
2. แอมมเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงกบั แอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับมวี ิธีการใช้งานตา่ งกันอยา่ งไร
กาหนดเวลาทางาน
- ในคาบเรียนวิชาวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
หมายเหตุ ควรมภี าพประกอบแสดงการปฏิบตั ิงานในแต่ละข้ัน
32
พส.16
ใบกจิ กรรมท่ี 1
รหัสวชิ า 20104-2002 วชิ า วงจรไฟฟ้ากระแสตรง ท-ป-น 1-3-2 สอนครง้ั ที่ 1
หนว่ ยท่ี........1..........ชื่อหนว่ ย.........แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง...................เวลา.........4........ชม.
ชื่อกจิ กรรม.................อุปกรณ์ประกอบวงจรไฟฟา้ กระแสตรง.........................เวลา.........4........ชม.
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง
2. มเี จตคตแิ ละกิจนสิ ัยทดี่ ีในการปฏบิ ัติงาน มีความละเอียดรอบคอบ ปลอดภยั เปน็ ระเบยี บ สะอาด
ตรงตอ่ เวลา มคี วามซอ่ื สัตย์และมีความรบั ผิดชอบ
วัสดุ/อปุ กรณ์
1. ใบปฏิบตั งิ าน
2. ชุดทดลองวิชาวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 1 ชุด
3. มลั ตมิ ิเตอร์
คาสง่ั
1. นักเรียนอ่านและทาความเข้าใจโจทย์อย่างละเอยี ดว่าโจทยต์ อ้ งการอะไร
2. นกั เรยี นเติมคาตอบที่ถูกตอ้ งลงในชอ่ งวา่ งทก่ี าหนดให้
3. นกั เรยี นอา่ นทบทวนคาตอบ หากพบวา่ คาตอบผิดพลาดให้แกไ้ ขให้ถกู ต้อง
การประเมินผล
1. ความถูกตอ้ ง
2. ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย
33
ใบปฏบิ ตั ิงาน 1
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง อุปกรณ์ประกอบวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
การทดลองที่ 1 การใชม้ ลั ตมิ เิ ตอรว์ ัดค่าความต้านทาน
ลาดับขน้ั การทดลอง
1.1 ปรบั สวิตชเ์ ลอื กย่านวดั ทย่ี า่ นวัดความตา้ นทาน
1.2 ถ้าไม่สามารถประมาณคา่ ความตา้ นทานได้ ใหต้ ั้งสวติ ช์เลือกย่านวัดไวท้ ี่ R * 1
1.3 ตรวจสอบและปรบั มลั ตมิ ิเตอรใ์ หไ้ ดศ้ นู ย์โอห์ม โดยนาปลายสายท้งั สองมาแตะกนั ดงั รปู ท่ี 1.10
1.4 วดั คา่ ความตา้ นทานทก่ี าหนดในตารางที่ 1.1 โดยนาปลายสายวัดท้งั สองต่อคร่อม หรอื ขนานกบั ตัวต้านทาน
ทตี่ ้องการวัด ดงั รปู ที่ 1.11 อา่ นค่าจากสเกลของโอหม์ มเิ ตอร์ให้สัมพนั ธก์ ับยา่ นวัด
วดั ค่าความต้านทานที่ค่าตา่ งๆ แลว้ บันทกึ ลงในตารางท่ี 1.1
34
การทดลองที่ 2 การใช้มัลตมิ ิเตอรว์ ัดค่าแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง
ลาดบั ขน้ั การทดลอง
2.1 ปรับสวติ ช์เลอื กยา่ นวดั ที่ยา่ น DC.V.
2.2 ถ้าไม่สามารถประมาณคา่ แรงดนั ทจี่ ะวดั ได้ ให้ต้งั ยา่ นวัดสงู ไว้ก่อน ถ้าเข็มเคลอ่ื นท่ีนอ้ ยจงึ ปรบั สวิตชเ์ ลอื กย่าน
วดั ใหต้ ่าลง
2.3 วัดคา่ โดยการนาสายท้งั สองต่อครอ่ มหรอื ขนานกบั จุดท่ีวดั โดยให้ขว้ั บวกของมัลตมิ เิ ตอร์ตอ่ เขา้ กับขว้ั บวก
ของแหลง่ จ่ายไฟฟา้ กระแสตรง และขวั้ ลบของมัลติมเิ ตอร์ตอ่ เข้ากบั ขัว้ ลบของแหลง่ จา่ ยไฟฟ้ากระแสตรง ดงั รูปที่
1.12
2.4 อา่ นค่าสเกล DC.V. ใหส้ ัมพนั ธก์ ับย่านวดั
2.5 ต่อวงจรดังรูปที่ 1.12 แล้วปรบั แรงดนั ไฟฟ้าทแ่ี หล่งจ่ายไฟฟ้าเทา่ กับ 10 V ต่อกบั ตวั ต้านทานขนาด 220Ω
มัลตมิ ิเตอรอ์ ่านค่าได้..................................โวลต์ ทย่ี า่ นวัด...........................................................................................
2.6 จากขอ้ 2.5 เปล่ียนค่าความต้านทานไปท่ี 1K Ω มัลตมิ เิ ตอร์วัดคา่ ได้เท่ากับ..........................................โวลต์
ที่ยา่ นวดั .......................................................................................................................................................................
35
การทดลองที่ 3 การใช้มัลตมิ ิเตอร์วัดค่ากระแสไฟฟา้ กระแสตรง
ลาดับขนั้ การทดลอง
3.1 ปรับสวติ ชเ์ ลือกย่านวดั ที่ย่าน DC.mA.
3.2 ถา้ ไมส่ ามารถประมาณคา่ แรงดันทจ่ี ะวดั ได้ ให้ตัง้ ย่านวัดสูงไว้ก่อน ถา้ เขม็ เคลือ่ นท่ีน้อยจึงปรับสวิตชเ์ ลอื กย่าน
วดั ใหต้ ่าลง
3.3 วัดคา่ กระแสไฟฟา้ โดยผา่ นมัลตมิ ิเตอร์เขา้ กบั วงจร ตอ้ งต่ออนั ดับหรืออนกุ รมกับตวั ต้านทาน ดังรปู ท่ี 1.13
3.4 ตอ่ วงจรดงั รูปที่ 1.13 ปรบั แหล่งจ่ายแรงดันไฟฟา้ ไปท่ี 10 V ความตา้ นทาน 220 Ω มัลตมิ เิ ตอรว์ ัดค่า
กระแสไฟฟา้ ได้เทา่ กับ ......................................... มลิ ลแิ อมแปร์ ท่ียา่ นวัด ..........................................................
3.5 จากข้อ 3.4 เปลย่ี นค่าความต้านทานไปท่ี 1K Ω มลั ติมเิ ตอรว์ ดั คา่ กระแสไฟฟา้ ได้ ................................. มิลลิ
แอมแปร์ ที่ยา่ นวัด .........................................................................................................................................
3.6 ต่อวงจรตามรปู ที่ 1.14 มลั ตมิ เิ ตอร์วัดคา่ กระแสไฟฟา้ ได้เท่ากบั ......................................... มิลลิแอมแปร์
ทย่ี ่านวดั ..................................................................................................................................................................
สรปุ ผลการทดลอง
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
36
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หน่วยท่ี 1 แหลง่ กาเนิดไฟฟ้า
คาส่ัง ให้นกั เรียนเลอื กคาตอบท่ถี กู ตอ้ งท่ีสดุ เพียงขอ้ เดยี ว ทาเครอื่ งหมาย Х ลงในกระดาษคาตอบ
1. ไฟฟ้าท่ีเกิดจากฟา้ ผา่ คอื ไฟฟ้าชนิดใด
ก. ไฟฟา้ สถติ ข. ไฟฟา้ กระแส
ค. ไฟฟา้ กระแสสลบั ง. ไฟฟา้ กระแสตรง
2. แหล่งกาเนิดไฟฟ้าที่เกดิ จากแรงกดคอื ข้อใด
ก. เทอร์โมคปั เปิล ข. ถา่ นไฟฉาย
ค. เซลล์สรุ ยิ ะ ง. ผลึกควอตซ์
3. แหลง่ กาเนิดไฟฟ้าที่เกดิ จากแสงสว่างคอื ข้อใด
ก. เทอรโ์ มคปั เปิล ข. ถ่านไฟฉาย
ค. เซลล์สุริยะ ง. ผลึกควอตซ์
4. อปุ กรณ์ที่ให้กาเนดิ ไฟฟ้าจากความร้อนคอื ขอ้ ใด
ก. เทอร์โมคปั เปลิ ข. ถา่ นไฟฉาย
ค. เซลลส์ ุริยะ ง. ผลึกควอตซ์
5. เซลล์ไฟฟ้าเป็นแหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรงท่ีได้จากอะไร
ก. ความรอ้ น ข. แสงสว่าง
ค. ปฏิกิรยิ าเคมี ง. แรงกดอดั
6. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้า
ก. ซลิ กิ อน ข. สังกะสี
ค. ทองแดง ง. อเิ ลก็ โทรไลต์
7. เซลลไ์ ฟฟา้ ขอ้ ใดเปน็ เซลลป์ ฐมภมู ิ
ก. ลิเธียมไอออน ข. ลเิ ธยี มโพลิเมอร์
ค. คารบ์ อน-สังกะสี ง. แบตเตอร่ีสะสมไฟฟา้ แบบตะก่วั -กรด
8. เซลล์ไฟฟ้าชนดิ ใดที่ให้พลงั งานไฟฟา้ สูงกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้าชนิดคาร์บอน-สังกะสี ประมาณ 4-9 เทา่
ก. อัลคาไลน์ ข. ลเิ ธยี ม
ค. เซลล์เงิน ง. เซลลป์ รอท
9. เซลลไ์ ฟฟา้ ชนิดใดใหพ้ ลงั งานไฟฟา้ สงู ใหแ้ รงดนั เร่มิ ต้น 3.6 โวลต์ นากลบั มาชาร์จใหม่ได้ นา้ หนกั เบา นยิ มใช้ใน
เคร่อื งบินเลก็
ก. ลเิ ธียมโพลเิ มอร์ ข. ลเิ ธยี มไอออน
ค. นเิ กลิ แคดเมยี ม ง. แบตเตอรีส่ ะสมไฟฟ้าแบบตะกว่ั -กรด
10. การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนุกรมมีลกั ษณะสมบัตอิ ย่างไร
ก. แรงดนั ไฟฟ้าเท่าเดมิ ข. แรงดันไฟฟา้ เพม่ิ ขึ้น
ค. กระแสไฟฟา้ ลดลง ง. กระแสไฟฟา้ เพิม่ ขึน้
11. การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบขนานมีลักษณะสมบตั ิอยา่ งไร
ก. แรงดันไฟฟา้ เพ่มิ ขึ้น ข. กระแสไฟฟ้าลดลง
ค. แรงดันไฟฟ้าลดลง ง. กระแสไฟฟา้ เพิ่มขนึ้
37
จากรูปท่ี ก-1.1 ใช้ตอบคาถามในข้อท่ี 12-14
E1 E2 E3
3V 1A 3V 1A 3V 1A
E4 E5 E6
3V 1A 3V 1A 3V 1A
รูปที่ ก-1.1 สาหรบั ตอบคาถามขอ้ ที่ 12-14
12. จากรูปที่ ก-1.1 เปน็ การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบใด
ก. อนกุ รม ข. อนกุ รม-ขนาน
ค. ขนาน ง. ขนาน-อนกุ รม
13. แรงดันไฟฟา้ รวมมีคา่ เทา่ ใด
ก. 18 V ข. 9 V
ค. 6 V ง. 3 V
14. กระแสไฟฟา้ รวมมคี ่าเท่าใด
ก. 6 A ข. 3 A
ค. 2 A ง. 1 A
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หนว่ ยที่ 1 แหลง่ กาเนิดไฟฟา้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. ก
2. ง
3. ค
4. ก
5. ค
6. ก
7. ค
8. ก
9. ก
10. ข
11. ง
12. ข
13. ข
14. ค
38
แบบทดสอบหลังเรยี น
หนว่ ยที่ 1 แหล่งกาเนิดไฟฟา้
คาส่ัง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถกู ตอ้ งท่ีสดุ เพยี งขอ้ เดียว ทาเคร่ืองหมาย Х ลงในกระดาษคาตอบ
1. ไฟฟา้ ท่เี กดิ จากฟ้าผา่ คือไฟฟา้ ชนดิ ใด
ก. ไฟฟา้ กระแสตรง ข. ไฟฟา้ กระแส
ค. ไฟฟา้ สถติ ง. ไฟฟ้ากระแสสลับ
2. แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ ทเ่ี กิดจากแรงกดคือขอ้ ใด
ก. ผลึกควอตซ์ ข. เซลล์สรุ ยิ ะ
ค. ถา่ นไฟฉาย ง. เทอรโ์ มคปั เปลิ
3. แหลง่ กาเนดิ ไฟฟา้ ทเ่ี กิดจากแสงสวา่ งคือขอ้ ใด
ก. ผลึกควอตซ์ ข. เซลล์สรุ ยิ ะ
ค. ถา่ นไฟฉาย ง. เทอรโ์ มคัปเปิล
4. อุปกรณท์ ใี่ หก้ าเนดิ ไฟฟา้ จากความร้อนคือข้อใด
ก. ผลึกควอตซ์ ข. เซลล์สรุ ยิ ะ
ค. ถ่านไฟฉาย ง. เทอร์โมคัปเปิล
5. เซลล์ไฟฟา้ เป็นแหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้ากระแสตรงทไี่ ด้จากอะไร
ก. แสงสว่าง ข. ความรอ้ น
ค. แรงกดอัด ง. ปฏกิ ิริยาเคมี
6. ข้อใดไมใ่ ช่สว่ นประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้า
ก. สงั กะสี ข. ทองแดง
ค. ซิลิกอน ง. อเิ ลก็ โทรไลต์
7. เซลล์ไฟฟ้าขอ้ ใดเปน็ เซลลป์ ฐมภูมิ
ก. คารบ์ อน-สังกะสี ข. ลเิ ธียมไอออน
ค. ลิเธยี มโพลิเมอร์ ง. แบตเตอร่ีสะสมไฟฟ้าแบบตะก่วั -กรด
8. เซลล์ไฟฟ้าชนดิ ใดทใี่ หพ้ ลังงานไฟฟ้าสงู กว่าเซลลไ์ ฟฟ้าชนดิ คารบ์ อน-สังกะสี ประมาณ 4-9 เทา่
ก. เซลล์เงิน ข. เซลล์ปรอท
ค. อัลคาไลน์ ง. ลเิ ธยี ม
9. เซลล์ไฟฟา้ ชนิดใดใหพ้ ลังงานไฟฟา้ สูง ให้แรงดนั เริ่มต้น 3.6 โวลต์ นากลับมาชารจ์ ใหมไ่ ด้ นา้ หนกั เบา นิยมใชใ้ น
เครอ่ื งบนิ เลก็
ก. แบตเตอรี่สะสมไฟฟา้ แบบตะก่ัว-กรด ข. นเิ กิลแคดเมียม
ค. ลิเธยี มไอออน ง. ลเิ ธยี มโพลเิ มอร์
10. การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รมมีลกั ษณะสมบัติอย่างไร
ก. แรงดันไฟฟ้าเพ่ิมขนึ้ ข. แรงดันไฟฟ้าเทา่ เดมิ
ค. กระแสไฟฟา้ เพม่ิ ขน้ึ ง. กระแสไฟฟา้ ลดลง
11. การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบขนานมลี ักษณะสมบตั อิ ยา่ งไร
ก. แรงดันไฟฟ้าเพิ่มขน้ึ ข. แรงดันไฟฟา้ ลดลง
ค. กระแสไฟฟ้าเพิ่มข้นึ ง. กระแสไฟฟา้ ลดลง
39
จากรปู ท่ี ล-1.1 ใช้ตอบคาถามในขอ้ ที่ 12-14
E1 E2 E3
3V 1A 3V 1A 3V 1A
E4 E5 E6
3V 1A 3V 1A 3V 1A
รูปท่ี ล-1.1 สาหรับตอบคาถามขอ้ ท่ี 12-14
12. จากรปู ที่ ล-1.1 เป็นการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบใด
ก. อนกุ รม ข. ขนาน
ค. อนุกรม-ขนาน ง. ขนาน-อนกุ รม
13. แรงดนั ไฟฟา้ รวมมคี ่าเท่าใด
ก. 3 V ข. 6 V
ค. 9 V ง. 18 V
14. กระแสไฟฟา้ รวมมคี า่ เทา่ ใด
ก. 1 A ข. 2 A
ค. 3 A ง. 6 A
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยท่ี 1 แหลง่ กาเนดิ ไฟฟา้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. ค
2. ก
3. ข
4. ง
5. ง
6. ค
7. ก
8. ค
9. ง
10. ก
11. ค
12. ค
13. ค
14. ข
40
พส.9
แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 2
เวลารวม 4 ชม.
รหสั วชิ า 20104-2002 วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสตรง
สัปดาห์ 2/18
ชอื่ หนว่ ย ความรเู้ บือ้ งตน้ เกี่ยวกบั ไฟฟา้ กระแสตรง จานวน 4 ชม.
เร่ือง ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เก่ยี วกับไฟฟ้ากระแสตรง
1. สาระสาคญั
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันช่ือ จอร์จ ซิมมอน โอห์ม ได้ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า (I),
แรงดันไฟฟ้า (E) และความต้านทานไฟฟ้า (R) ที่กล่าวว่า “ในวงจรไฟฟ้าใดๆ กระแสไฟฟ้าจะแปรผันตรงกับ
แรงดันไฟฟ้า และจะแปรผันกลับกับความต้านทานไฟฟ้า” กฎของโอห์มเป็นกฎความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า
แรงเคลื่อนไฟฟา้ และความตา้ นทาน ในวงจรไฟฟ้าใด ๆ กระแสไฟฟา้ จะแปรผนั ตรงกับแรงดนั ไฟฟา้ และแปรผกผันกบั
ความต้านทาน ในวงจรไฟฟ้าจะมีกาลังงานไฟฟ้าเกิดขึ้นเป็นอตั ราการเปลีย่ นแปลงพลังงานจากลักษณะหน่ึงไปสู่อีก
ลกั ษณะหน่งึ อาจจะอยู่ในรูปของความรอ้ น แสง ฯลฯ เมอ่ื กาลงั งานถกู ใชไ้ ปในระยะหนึ่งเราเรียกว่าพลงั งานไฟฟ้า
2. สมรรถนะประจาหน่วย
1. แสดงความรู้เรื่องกฎของโอห์ม และคานวณหาค่าตา่ ง ๆ ตามกฎของโอหม์
2. วดั หาค่ากระแสไฟฟา้ แรงดนั ไฟฟ้า และความตา้ นทานตามกฎของโอหม์
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมาย เขียนสูตร และคานวณหาค่าของกระแสไฟฟา้ , แรงดันไฟฟา้ และความต้านทานไฟฟ้า
จากกฎของโอหม์ ได้
2. อธิบายความหมาย ชื่อหน่วยวัด, เขียนสตู ร การคานวณหากาลงั ไฟฟา้ ได้
3. อธิบายความหมาย ช่ือหนว่ ยวัด, เขียนสูตรการคานวณหาพลงั งานไฟฟ้าและการคดิ คา่ กระแสไฟฟ้าได้
4. สาระการเรยี นรู้
1. กฎของโอหม์
2. กาลงั ไฟฟา้
3. พลังงานไฟฟ้า
5. การออกแบบการจดั การเรียนรู้
Active learning : ใหน้ ักเรยี นจัดทาใบงานที่ 2 หนว่ ยวดั ไฟฟา้ และปริมาณไฟฟา้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
6.1 ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
2. ครแู จ้งเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล
41
6.2 ขั้นสอนทฤษฎี
1. ครูบรรยายเน้อื หาประกอบ power point
2. ครูซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั เนื้อหาทีเ่ รียน
3. ครใู ห้นักเรยี นแสดงความคิดเห็นหรอื ซกั ถามในประเด็นท่ีสงสยั หรือไมเ่ ข้าใจ
6.3 ขน้ั สอนปฏบิ ัติ
1. นักเรยี นจัดเตรยี มเครือ่ งมือและอปุ กรณ์
2. ครแู บง่ กล่มุ ให้นักเรียนปฏบิ ตั กิ ารทดลองตามใบงาน
3. ครูสังเกตการณป์ ฏิบัติงานและคอยให้คาแนะนาอย่างใกลช้ ิด
6.4 ข้ันสรุป
1. ครสู รปุ สาระสาคญั ของหน่วยการเรยี นรู้และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามหรือแสดงความคิดเห็น
2. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหนว่ ยการเรียนรู้
7. บรรยากาศท่สี ง่ เสริมและพัฒนาผูเ้ รยี น
ผเู้ รยี นมคี วามสนใจในการเรียน เนือ่ งจากการสอนแบบ Active learning ทาให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏบิ ัติและ
เกดิ การผิดพลาดและสามารถแกไ้ ขปญั หาดว้ ยตนเอง สง่ ผลให้เกิดผลการเรียนรทู้ ด่ี ี
8. คุณธรรม จรยิ ธรรมประจาหน่วย
1. ความรับผิดชอบ
2. ตรงตอ่ เวลา
3. ความซ่ือสตั ย์
9. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
พาวเวอรพ์ อ้ ยท์ เรอ่ื ง ความรู้เบอ้ื งตน้ เกยี่ วกับไฟฟา้ กระแสตรง
ใบความรู้ เรือ่ ง การใชม้ ัลติมิเตอร์วดั คา่ ความตา้ นทานตามลาดับขัน้ การทดลอง
วดิ โี อ เรือ่ ง ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกับวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
10. การวัดผลและประเมินผล
แบบทดสอบท้ายบทเรยี น เรือ่ ง ความรเู้ บอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั ไฟฟา้ กระแสตรง
แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง หนว่ ยวดั ไฟฟา้ และปริมาณไฟฟา้
แบบทดสอบหลงั เรียน เรือ่ ง หนว่ ยวัดไฟฟา้ และปรมิ าณไฟฟ้า
11. หลกั ฐานการเรียนรู้
แบบฝกึ หดั เร่อื ง ความรู้เบ้อื งต้นเก่ยี วกบั ไฟฟา้ กระแสตรง
ใบงาน เรือ่ ง หนว่ ยวดั ไฟฟ้าและปริมาณไฟฟา้
ใบปฏบิ ตั งิ าน เร่อื ง การใช้มัลติมเิ ตอรว์ ัดค่าความตา้ นทานตามลาดับขั้นการทดลอง
12. เอกสารอา้ งองิ
-
42
พส.10
เคร่ืองมอื ที่ใชใ้ นการประเมิน
รหัสวิชา…………20104-2002……….วชิ า…………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง………ท-ป-น...1-3-2...........
แบบประเมนิ แบบประมาณคา่ (Ratting scale)
ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน
54 321
1. อธบิ ายความหมาย เขยี นสูตร และคานวณหาค่าของกระแสไฟฟา้ ,
แรงดนั ไฟฟ้า และความตา้ นทานไฟฟ้าจากกฎของโอห์มได้
2. อธบิ ายความหมาย ชือ่ หนว่ ยวัด, เขียนสูตร การคานวณหากาลังไฟฟ้าได้
3. อธบิ ายความหมาย ชือ่ หน่วยวัด, เขยี นสูตรการคานวณหาพลังงานไฟฟา้
และการคิดค่ากระแสไฟฟ้าได้
รวม
รวมทงั้ หมด (5 คะแนน+4 คะแนน+3 คะแนน+2 คะแนน+1 คะแนน)
คะแนนรวม (60%)
43
พส.11
บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้
รหัสวชิ า...........................ช่ือวชิ า.........................................................................................ระดบั ชั้น ปวช. ปวส.
สาขางาน..............................................................................................สัปดาห์ที.่ .........วันทีส่ อน..............................................
หน่วยท.่ี ...........ชื่อหนว่ ย......................................................................................................................จานวน................ชั่วโมง
จานวนผู้เรียน..........................คน มาเรยี น........................คน ขาดเรยี น.........คน ลาปว่ ย.........คน ลากิจ..........คน
1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. ปัญหาและอปุ สรรค
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
ลงช่ือ.......................................................ครูผู้สอน
(............................................................)
........../................/............
ความเห็น................................................................................. ความเหน็ .................................................................................
................................................................................................ ................................................................................................
ลงชือ่ ...............................................หัวหน้าแผนกวิชา ลงชือ่ ............................................รองผอู้ านวยการฝ่ายวชิ าการ
(............................................................) (นางสาวนิศากร เจริญดี)
............/................../............
............/................../............
ความเหน็ ผอู้ านวยการ.................................................................................
....................................................................................................................
ลงชอ่ื ...........................................
(นางสาวสุมนี า แดงใจ)
ผู้อานวยการวิทยาลัยการอาชพี นครปฐม
............/................../............
44
พส.12
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วิชา………..20104-2002………….วชิ า………………..วงจรไฟฟา้ กระแสตรง……………………
ช่อื หน่วย..............................ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับไฟฟา้ กระแสตรง...................................................
เรอื่ ง........................ความรู้เบ้ืองตน้ เกยี่ วกับไฟฟา้ กระแสตรง........................จานวนชว่ั โมงสอน.............4..........
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ รายการเรยี นรู้
- จดุ ประสงค์ท่วั ไป 1. กฎของโอห์ม
1. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความรูเ้ บ้อื งต้น 2. กาลงั ไฟฟ้า
เกีย่ วกบั ไฟฟา้ กระแสตรง 3. พลังงานไฟฟา้
2. มเี จตคตแิ ละกจิ นิสยั ทดี่ ีในการปฏบิ ัตงิ าน มคี วาม
ละเอยี ดรอบคอบ ปลอดภยั เปน็ ระเบียบ สะอาด
ตรงตอ่ เวลา มคี วามซือ่ สัตยแ์ ละมีความรบั ผดิ ชอบ
- จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายความหมาย เขียนสูตร และคานวณหาค่า
ของกระแสไฟฟ้า, แรงดนั ไฟฟา้ และความตา้ นทาน
ไฟฟ้าจากกฎของโอห์มได้
2. อธิบายความหมาย ชือ่ หน่วยวดั , เขียนสูตร การ
คานวณหากาลงั ไฟฟ้าได้
3. อธิบายความหมาย ช่ือหน่วยวัด, เขียนสูตรการ
คานวณหาพลงั งานไฟฟา้ และการคิดค่ากระแสไฟฟ้าได้
45
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2
เร่ือง ความร้เู บอื้ งต้นเก่ียวกบั ไฟฟ้ากระแสตรง
2.1 กฎของโอหม์
ในวงจรไฟฟ้ากระแสตรง กฎของโอห์มมกั จะถูกนามาใช้บอ่ ยๆ เพราะกฎจะบอกถงึ ความสมั พันธข์ ัน้ พื้นฐาน
ระหวา่ ง แรงดนั ไฟฟ้า กระแสไฟฟา้ และความตา้ นทาน ความสมั พันธ์น้ีถูกคน้ พบโดยนกั วทิ ยาศาสตร์ชาวเยอรมนั
ช่อื จอรจ์ ซิมมิน โอหม์ จากการนาเอาความตา้ นทาน 1 โอหม์ ตอ่ เข้ากับแหลง่ จ่ายแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง ตามรปู
ที่ 2.1 ทาการวดั คา่ ของกระแสไฟฟา้ โดยเพ่มิ ค่าของแรงดันไฟฟ้าไปเรอื่ ยๆ แลว้ นพคา่ ทไ่ี ดม้ าเขยี นกราฟ ดังรปู ท่ี
2.2
รูปที่ 2.1
รปู ที่ 2.2
เขยี นเป็นสตู รในการคานวณไดด้ งั น้ี
เม่อื I หมายถงึ กระแสไฟฟ้า มีหน่วยเปน็ แอมแปร์ (A)
E หมายถงึ แรงดนั ไฟฟา้ มหี นว่ ยเปน็ โวลต์ (V)
46
R หมายถงึ ความต้านทานไฟฟ้า มีหนว่ ยเป็น โอหม์ (Ω)
2.2 กาลังไฟฟา้
กาลงั ไฟฟ้า (Electrical Power) คอื ผลคณู ของแรงดันไฟฟา้ กับกระแสไฟฟา้ มีหน่วยเป็นวัตต์ (Watt)
สตู รการหาค่ากาลังไฟฟ้า
เม่ือ P คือ กาลังไฟฟา้ มหี นว่ ยเปน็ วัตต์ (W)
E คือ แรงดนั ไฟฟา้ มหี น่วยเป็น โวลต์ (V)
I คือ กระแสไฟฟ้า มีหนว่ ยเปน็ แอมแปร์ (A)
จากสมการ สามารถเขียนความสัมพนั ธใ์ นรปู วงกลมได้ดงั นี้
2.3 พลงั งานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟา้ (Electrical Energy) คือ ผลคูณของกาลงั ไฟฟ้ากับเวลาทใ่ี ช้
สตู รการคานวณหาคา่ พลงั งานไฟฟ้า
เมือ่ W คอื พลงั งานไฟฟา้ มีหน่วยเปน็ วัตต-์ วนิ าที (Ws), กโิ ลวตั ต์-ช่ัวโมง (kWh)
P คือ กาลงั ไฟฟา้ มหี น่วยเป็น วัตต์ (W), กโิ ลวัตต์ (kW)
t คอื เวลา มีหน่วยเปน็ วนิ าที (s), ชัว่ โมง (h)
คาถาม
1. การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ 10 ยนู ติ กบั การใช้พลงั งานไฟฟา้ 10 หน่วย แตกต่าง, เหมือน หรอื เทา่ กันอย่างไร
2. ในการประหยัดพลังงานไฟฟา้ ภายในบา้ นควรทาอย่างไร
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรยี นวิชาวงจรไฟฟา้ กระแสตรง
47
พส.13
ใบงาน (Job Sheets)
รหสั วิชา………..…20104-2002……….วชิ า……………………วงจรไฟฟ้ากระแสตรง…………………………
ชื่อหน่วย...............................หน่วยวัดไฟฟ้าและปรมิ าณไฟฟ้า.............................................
เรื่อง...................................หนว่ ยวดั ไฟฟา้ และปรมิ าณไฟฟ้า.....................จานวนชัว่ โมงสอน..........4.............
จุดประสงค์การเรยี นรู้ รายการเรยี นรู้
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เครอื่ งมือ/วสั ดุ-อปุ กรณ์
1. อธิบายความหมาย เขยี นสูตร และคานวณหาค่าของ 1. ใบงาน
กระแสไฟฟ้า, แรงดนั ไฟฟา้ และความต้านทานไฟฟ้า 2. เครอ่ื งคานวณ
จากกฎของโอห์มได้
2. อธิบายความหมาย ชื่อหนว่ ยวัด, เขียนสตู ร การ
คานวณหากาลังไฟฟา้ ได้
3. อธิบายความหมาย ชอ่ื หนว่ ยวดั , เขียนสูตรการ
คานวณหาพลังงานไฟฟา้ และการคดิ ค่ากระแสไฟฟา้ ได้
ลาดบั ขน้ั การทางาน ข้อควรระวัง
1. ครแู จกใบงานให้กับนกั เรียน พร้อมท้ังชีแ้ จงและ 1. อ่านโจทยอ์ ย่างละเอยี ด และเตมิ คาตอบใหต้ รงกบั ที่
อธิบายคาสั่งของใบงาน โจทยต์ อ้ งการ
2. นกั เรียนอ่านและทาความเข้าใจโจทยอ์ ยา่ งละเอียดวา่ 2. ถา้ เปน็ การคานวณควรแสดงวิธีทาและใชส้ ูตรการ
โจทยต์ ้องการอะไร คานวณใหถ้ กู ตอ้ ง
3. นักเรียนเติมคาตอบที่ถกู ต้องลงในชอ่ งวา่ งทกี่ าหนดให้ มอบงาน
4. นักเรียนอ่านทบทวนคาตอบ หากพบวา่ คาตอบ 1. ตอบคาถามลงในใบงานใหถ้ กู ตอ้ งสมบรู ณ์
ผดิ พลาดให้แกไ้ ขให้ถูกตอ้ ง
วดั ผล/ประเมนิ ผล
1. ความถกู ต้อง
2. ความเป็นระเบยี บเรยี บร้อย