The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by มรดกเชียงใหม่, 2021-07-27 17:48:59

ปูนปั้นล้านนา งานช่างและสล่าศิลป์ ถิ่นศรัทธา

ปูนปนลานนา : งานชางและสลาศิลป ถิ่นศรัทธา











ปูนปนลานนา





งานชางและสลาศิลป ถิ่นศรัทธา







โครงการจัดตั้งสถาบันสลาลานนา เพื่อฟนฟูองคความรูสลาลานนา
ภายใตโครงการขับเคลื่อนเมืองเชียงใหมสูเมืองมรดกโลก



















ฐาปกรณ เครือระยา
ฐาปกรณ เครือระยา

นำล�
นำปู้
ปู้
านำนำา


ปู้นำปู้นำล�านำนำา
ลปู
ถิ
ทธีา
าศิิ
นำศิรั

งานำช่่
งานำช่่างและสล่าศิิลปู ถิ�นำศิรัทธีา
างและสล่

ภายใต�โค์รู้งการู้ข่ับีเค์ลือนเมืองเชุียงใหม่ส้เมืองมรู้ดกโลก
ภายใต� โค์รู้งการู้ข่ั บีเค์ลื อนเมื องเ ชุี ยงใหม่ ส้ ่ ่ เมื องมรู้ดกโลก
















ฐาปักรู้ณ์ เค์รู้ือรู้ะยา






















โค์รู้งการู้จััดตังสถาบีันสล่าล�านนา เพิือฟื้้นฟื้้องค์์ค์วามรู้้สล่าล�านนา

ภายใต�โค์รู้งการู้ข่ับีเค์ลือนเมืองเชุียงใหม่ส้เมืองมรู้ดกโลก



2

ชุุดองค์์ค์วามรู้้งานสถาปััตยกรู้รู้มและศิิลปักรู้รู้มล�านนา





แนวทางการู้อนรู้กษ์์ และทะเบีียนเค์รู้อข่่ายชุาง (สลา)



งานสถาปััตยกรู้รู้มและศิิลปักรู้รู้มในจัังหวดเชุยงใหม ่
ชุือหนงสอ :



ปููนปูนล้้านนา : งานช่่างแล้ะสล้าศิิล้ปู ถิ่นศิรััทธา







พิิมพิค์รู้ังแรู้ก : พฤษภาคม 2564



จัานวนพิิมพิ : 125 เล้ม

©สงวนล้ขสทธิโดย



องคการับรัหารัสวนจัังหวดเช่ยงใหม ่








ผู้้เข่ยน/ภาพิถาย/ภาพิลายเส�น
ฐาปูกรัณ์์ เครัอรัะยา


ออกแบีบีรู้้ปัเลม

ช่ยเช่ษฐ โกฏธ ิ

จััดทาโดย





องคการับรัหารัสวนจัังหวดเช่ยงใหม ่


ทีปัรู้กษ์า




สถิ่าบนวจััยสงคม มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม ่




พิิมพิที �






เจัรัญวฒนการัพมพ เช่ยงใหม ่

4

คำำนำำ













โครังการัขับเคล้อนเมองเช่ยงใหมสเมองมรัดกโล้ก โดยองค์การับรัหารั


















สวนจัังหวดเช่ยงใหม รัวมกบสถิ่าบนวจััยสงคม มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม เพือมงเนนใหเกด
















การัทางานรั่วมกนอย่างบรัณ์าการั กบเครัอขายนกวช่าการั ผู้เช่ยวช่าญจัากสถิ่าบันการั





ศิกษา แล้ะองคกรัต่างๆ ในการัสรัางความรัวมมอรัะหวางหนวยงานภาครัฐ ภาคเอกช่น










ภาคปูรัะช่าสังคม คณ์ะสงฆ์ แล้ะปูรัะช่าช่นท�วไปู เกดเปูนผู้ล้สมฤทธ ต่ามแนวทาง

ขององค์การัการัศิึกษา วิทยาศิาสต่รั์ แล้ะวัฒนธรัรัมแห่งสหปูรัะช่าช่าต่ิ หรัือองค์การั

UNESCO ถิ่งขนต่อนการัย�นเอกสารัข้อเสนอ แล้ะการัขับเคล้อนแผู้นการัจัดการั

















แหล้งมรัดกเช่ยงใหม ต่ามขอเสนอขอขึนทะเบยนเมองเช่ยงใหมเปูนเมองมรัดกโล้ก





ช่ดองค์ความรัภายใต่้โครังการั “การัอนรักษ์สถิ่าปู้ต่ยกรัรัมแล้ะศิล้ปูกรัรัม




ต่ามรัายช่อเอกสารัขอเสนอฯ ทเปูนแหล้งสาคญแล้ะมความจัาเปูนเรังดวน” จััดทาขน






















เพอรัวบรัวมองค์ความรัสล้าล้านนา เปู็นแนวทางสการัจัดต่ง “สถิ่าบันสล้าล้านนา”







ทเปูนสวนหนงในการัขบเคล้อนเมองเช่ยงใหมสเมองมรัดกโล้ก ใหสามารัถิ่เปูนองคกรั



















ทจัะถิ่่ายทอดมรัดกภมปูญญาทางด้านสถิ่าปู้ต่ยกรัรัม แล้ะศิล้ปูกรัรัมล้้านนา สการัยอมรัับ





ในรัะดบสากล้















องคการับรัหารัสวนจังหวดเช่ยงใหม แล้ะสถิ่าบนวจัยสงคม มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม ่














หวงเปูนอย่างย�งวาการัผู้ล้ิต่ช่ดองคความรัครังน จัะเปูนปูรัะโยช่นต่อผู้ทสนใจั








ในสถิ่าปูต่ยกรัรัมแล้ะศิล้ปูกรัรัมล้านนา เพอเปูนการัอนรักษ รักษามรัดกวฒนธรัรัม








งานสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมแล้ะศิิล้ปูกรัรัมล้้านนา ใหคงอย่คูเมองเช่ยงใหมสบไปู









องค์์การู้บีรู้หารู้สวนจัังหวดเชุยงใหม ่


1

คำำนำยม
























เช่ยงใหม อดต่ศินยกล้างอาณ์าจักรัล้านนา เมองปูรัะวต่ศิาสต่รัทมช่วต่



แล้ะเมองแหงการัสบสานสงต่อมรัดกทางวฒนธรัรัมล้านนาผู้าน “แหล้งมรัดกทางวฒนธรัรัม”














ทเปูนหล้กฐานแล้ะปูรัะจักษ์พยานแสดงออกถิ่ึงอจัฉรัยะภาพ แล้ะคณ์ค่าอนโดดเด่น
























ดานวฒนธรัรัมของกล้มช่นช่าต่พนธไต่ ทยงคงเหล้ออย หนงในคณ์คาทสาคญของ








เมองเช่ยงใหม โดยเฉพาะใน Criteria ที 4 ทีกล้าวถิ่งค่ณ์คาดานปูรัะวต่ศิาสต่รั ศิิล้ปูกรัรัม








แล้ะสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมล้กษณ์ะอนเปูนเอกล้กษณ์์ของสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมของเช่ยงใหม ่







ทมการันาเสนอความโดดเดนของสถิ่าปูต่ยกรัรัมเช่ยงใหม ผู้านเรัอง “ล้วดล้าย





















ปูนปูน” ทยงคงหล้งเหล้ืออย ไดนามาสการัสรัางองค์ความรัในเรัอง “ปูนปู้นล้านนา งานช่าง




















แล้ะสล้าศิล้ปู ถิ่นศิรััทธา” ซึ่งนกวช่าการัไดจััดใหเปูนคณ์คาอนโดดเดนของเมองเช่ยงใหม ท ี �




















มล้กษณ์ะเปูนเอกล้กษณ์แล้ะเต่มไปูดวยภมปูญญา ทหนงสอเล้มนไดใหความรัใน 5 เรัอง









สาคญ คอ



เรัืองที 1 ความหมาย แล้ะองคความรัูในภาพรัวมเกียวกบล้วดล้ายปููนปูน






สวนที� 2 พฒนาการัของล้วดล้ายปููนปูน




สวนที� 3 องคปูรัะกอบทางโครังสรัาง แล้ะศิิล้ปูกรัรัมของล้วดล้ายปููนปูน








สวนที� 4 องคความรัูเรัืองสต่รัปููนต่าโบรัาณ์แล้ะเทคนคทีพบในพืนทีเช่ยงใหม ่












สวนที� 5 ทาเนยบช่่างปููนปูนล้้านนา













นอกจัากนนหนงสอเล้มนยงเปูนฐานองคความรัในการัเพมพนทกษะ (Upskill)





ของสล้า แล้ะผู้สนใจัในการัสรัางงาน เพอผู้ล้กดนสการัจัดต่ง “สถิ่าบนสล้าล้านนา”































เพอฟื้นฟื้องคความรัสล้าล้านนา ทจัะเปูนหนวยถิ่ายทอดมรัดกภมปูญญาทางศิล้ปูวฒนธรัรัม







อนมคณ์คาโดดเดนอนเปูนสากล้ (Outstanding Universal Value) รัองรับการัผู้ล้กดน







เมองเช่ยงใหมสูการัยอมรัับในรัะดบนานาช่าต่ขององคการั UNESCO







2











องคความรัน�ไดนามาสอดรับกับการัสรั้างนวต่กรัรัมทางสังคม โดยหวหนาโครังการั















ขบเคล้อนเมองเช่ยงใหมสเมองมรัดกโล้ก ไดสรัางต่นแบบการัพฒนานวต่กรัรัมทางสงคม




โดยเรัิมจัากวดถิ่วาย อาเภอหางดง จัังหวดเช่ยงใหม อนเปูนแหล้งแกะสล้กไมเพือการัสรัาง











งานพ่ทธศิิล้ปูแล้ะศิิล้ปูกรัรัม ซึ่งต่ังช่ื�อในแพล้ต่ฟื้อรัมวา “C-STREAM” Platform ซึ่งเปูน







กรัะบวนการัจััดการัศิิล้ปูะแล้ะวฒนธรัรัมผู้สานการัศิกษา ซึ่งปูรัะกอบดวย







C: Culture วฒนธรัรัม

S: Strengthen Skill ทกษะทีเขมแขง



T: Technology เทคโนโล้ย ี


R: Ritual พธกรัรัม



E: Education, Environment, Economy การัศิกษา สิงแวดล้้อม เศิรัษฐกจั
A: Arts ศิิล้ปูะ
M: Management การัจััดการั




แล้ะนามาผู้สานใหเกดการันาไปูใช่แล้ะพฒนาต่ออยางยงยืน โดยผู้านหนงสอ


























“ล้วดล้ายปูนปูน งานช่างแล้ะสล้่าศิล้ปูล้านนา” ทหล้ายภาคสวนทไดมสวนรัวม ไดแก ่






องคการับรัิหารัสวนจังหวัดเช่ยงใหม่ คณ์ะสงฆ์จังหวัดเช่ยงใหม่ สล้า (ช่าง) มหาวิทยาล้ย








เช่ยงใหม เพอเปูนสวนสาคญในการัรัวมปูกปูกรักษามรัดกภมปูญญาของล้านนา ทม ี
















เมองเช่ยงใหมเปูนศินยกล้างของล้้านนาในอดต่











ส่ดทายนี ขอแสดงความช่ืนช่มที�ผู้เขยน อาจัารัยฐาปูกรัณ์์ เครัอรัะยา ไดพากเพยรั




ศิกษาแล้ะนามาเขยนใหเปูนปูรัะโยช่นสบต่่อไปู










รู้องศิาสตรู้าจัารู้ย ดรู้. วรู้ลญจัก บีณยสรู้ตน ์








หวหน�าโค์รู้งการู้ข่บีเค์ลือนเมองเชุยงใหมส้เมองมรู้ดกโลก


3


คำำนำำผู้้เขีียนำ











ลวดลายปันปัน ทปูรัากฏใหเหนในการัใช่ปูรัะดบอาคารัศิาสนสถิ่านในวัฒนธรัรัม










ล้านนานน เกดจัากการัสงเกต่ การัเล้ียนแบบธรัรัมช่าต่ิ แล้ะเรัยนรัจัากล้วดล้ายวฒนธรัรัม















ต่างถิ่น นามาสการัผูู้กล้วดล้ายในเช่งงานศิล้ปู โดยมพฒนาการัต่ามยคสมย








จันเปูนเอกล้กษณ์ทโดดเดน ผู้านคต่ความเช่อพธกรัรัม อทธพล้ทางวฒนธรัรัม ถิ่อเปูน














หนงในรัปูแบบงานช่างล้านนาทแสดงผู้านการัสรัางล้วดล้าย เพอใช่ปูรัะดบในงาน









พ่ทธศิิล้ปูล้้านนา






หนงสอ “ปููนปูนล้้านนา : งานช่่างแล้ะสล้าศิิล้ปู ถิ่นศิรััทธา” ไดนาเสนอปูรัะวต่ ิ












ความเปูนมา หนาท แล้ะความหมายของงานปูนปูนทเกดขนในแต่ล้ะช่วงยคสมย

















โดยทาการัรัวบรัวมแล้ะเรัยบเรัยงขอมล้จัากเอกสารั หนงสอ ทไดมการัศิกษาไวกอนหนา












นแล้ว ถิ่งแหล้งโบรัาณ์สถิ่านสาคญทปูรัากฏงานปูนปูนปูรัะดบ นอกจัากนผู้เขยน

















ไดนาเสนอแหล้งมรัดกทางวฒนธรัรัม ทมงานปูนปูนปูรัะดบทสามารัถิ่เปูนต่วอยาง































งานปูนปูนทสาคญขนอก ซึ่งขอมล้เหล้านแสดงใหเหนถิ่งรัปูแบบทมการัพฒนาในยคสมย

















ทต่างกน โดยปูรัากฏแหล้งมรัดกทางวฒนธรัรัมล้านนา ซึ่งองคความรัดงกล้าวไดจัากการั




















ศิกษาเอกสารัแล้ะสารัวจัพนท โดยรัวบรัวมขอมล้ปูนปูนล้้านนาจัากแหล้งขอมล้ 50 แหง














ใน 4 จังหวดในเขต่ภาคเหนอ(ล้านนาต่ะวนต่ก) ซึ่งไดแก จังหวดเช่ยงรัาย จังหวดเช่ยงใหม ่






จัังหวดล้าพน จัังหวดล้าปูาง

4












การู้นาเสนอลวดลายปันปันลานนา ทปูรัากฏต่งแต่สมยหรัภญช่ยรัาว











พทธศิต่วรัรัษท 17 - 18 แล้ะถิ่่ายทอดต่อไปูยังสมยเช่ยงแสน จันนามาสความล้งต่ว














ของล้วดล้ายในยคสมยล้านนา รัาวพทธศิต่วรัรัษท 20 - 21 จัากนนนาไปูสยคพมาปูกครัอง



สูล้้านนายคเสือม ในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที� 22 - 24 ซึ่งมรัปูแบบงานปููนปูนใหเหนต่วอยาง























นอยล้ง กอนจัะไปูสูยคฟื้้นฟื้ ในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที 24 - 25 ทีไดเหนรัปูแบบงานปููนปูน












ทีไดรัับอทธพล้ต่่างถิ่น ทังศิิล้ปูะจัากจัน พมา - ไทใหญ สยาม ทังหมดนีแสดงใหเหนถิ่ง




้�




พฒนาการัของล้วดล้ายปูนปูนแต่ล้ะช่วงเวล้า โดยการันาเสนอขอมล้ครังนพอทาใหเหน










ภาพรัวมในพัฒนาการัล้วดล้ายดังกล้่าว นอกจัากน�นยังเสนอข้อมล้งานปููนปู�น









ในย่คปูจัจับนถิ่อเปูนช่วงพทธศิต่วรัรัษท 26 ต่อนต่นต่อปูรัะเดนการัสานต่อองค์ความรั ู้









เทคนคงานปูนปูน แล้ะสต่รัปูนปูนต่างๆ ซึ่งองคความรัเหล้านถิ่อเปูนงานช่างทสาคญ




































ทยงคงเหล้ืออย โดยได้รัวบรัวมกล้่มสล้าปูนปู้นล้านนายคใหม เปูนทาเนยบช่างล้านนา



เพ�อรัวบรัวมเรั�องรัาวภมปูญญาให้คงอย่กับเมืองเช่ียงใหม่ ก่อให้เกิดความภาคภมิใจั





















แล้ะหวงแหนภมปูญญาของต่น ทงยงเปูนการัสงเสรัมในการัอนรักษสบสานภมปูญญา






ทองถิ่น เพอพฒนาทรัพยากรัของช่มช่นใหมคณ์คา สรัางงานสรั้างรัายได้แกช่มช่น





















ซึ่งผู้เขยนมความคาดหวงวาหนงสอเล้มนจัะเปูนปูรัะโยช่นแล้ะสรัางองคความรัใหม ่










วาดวยเรัองงานปูนปู้นล้านนา ทถิ่กนามาใช่ปูรัะดับงานพทธศิล้ปูล้านนา แล้ะสามารัถิ่















นารัปูแบบล้วดล้ายทีไดเกบรัวบรัวมไวนี ไปูพฒนาแล้ะปูรัับใช่ในอนาคต่ต่่อไปู











ฐาปักรู้ณ เค์รู้อรู้ะยา
5


คำำขีอบคำณ












บคคล้ทมสวนสงเสรัิมสนบสนนแล้ะปูรัะสานงาน ในการัเขยน การัถิ่่ายภาพ


















แล้ะการัพมพหนงสอเล้มน ผู้เขยนขอกรัาบขอบพรัะคณ์ต่อคณ์ปูการัอนมความหมาย
ของทานไว ณ์ ทีนี �





องคการับรัหารัสวนจัังหวดเช่ยงใหม










สถิ่าบนวจััยสงคม มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม ่
คณ์ะกรัรัมการั ภายใต่โครังการั CHIANG MAI WORLD HERITAGE INITIATIVE


PROJECT โครังการัต่ามแผู้นการัจัดการัแหล้่งมรัดกโล้กเช่ยงใหม่ โครังการัท� 8 โครังการั















จัดต่งสถิ่าบนสล้าล้านนา เพอฟื้นฟื้องคความรัสล้าล้านนา (วหารัล้านนาแล้ะปูนปูน











ล้้านนา) ภายใต่โครังการัขบเคล้ื�อนเมองเช่ยงใหมสูเมองมรัดกโล้ก ปูรัะจัาปูงบปูรัะมาณ์






2563



คณ์ะทางานขบเคล้ื�อนเมองเช่ยงใหมสูเมองมรัดกโล้ก




เทศิบาล้นครัเช่ยงใหม ่



หอศิิล้ปูวฒนธรัรัมเมองเช่ยงใหม ่




เจัาหนาทีพพธภณ์ฑสถิ่านแหงช่าต่ (พช่.) เช่ยงใหม,
















เจัาหนาทีพพธภณ์ฑสถิ่านแหงช่าต่ (พช่.) เช่ยงแสน,









ทานเจัาอาวาสแล้ะพรัะภกษ่ รัวมถิ่งกรัรัมการัวด จัังหวดเชุยงใหม วดพรัะธาต่่


ศิรัจัอมทองวรัวิหารั วัดเจั็ดยอด วัดเจัดย์หล้วง วัดปูรัาสาท วัดพรัะสิงห์วรัมหาวิหารั









วดทงย วดช่ยพรัะเกียรัต่ วดสาเภา วดดวงดี วดเช่ยงยืน วดโล้กโมฬี วดปูาเปูา







วัดหม�นสารั วัดเจั็ดล้ิน วัดแสนฝาง วัดบพพารัาม วัดปู่าแดงหล้วง วัดสวนดอก






วดปูาจัี� วดอ่โบสถิ่ วดต่นเกวน วดทาวคาวง วดถิ่วาย วดข่นคง วดหางดง วดรัองแหยง























วดบานเปูยง วดทงออหล้วง วดวดยางหล้วง จัังหวดลาพิ้น วดจัามเทว วดพรัะธาต่-







หรัภญช่ย วดเกาะกล้าง วดกปูาล้านอรััญญวาส วดปูาซึ่างงาม จังหวดลาปัาง














วดพรัะธาต่่ล้าปูางหล้วง วดไหล้หนหล้วงแกวช่างยน วดพรัะแกวดอนเต่าส่ช่าดารัาม








สถิ่าบนแล้ะสถิ่านทีอืน







สานกหอสมดมหาวทยาล้ยเช่ยงใหม เทศิบาล้นครัเช่ยงใหม หอภาพถิ่ายล้านนา




















จัังหวดเช่ยงใหม ช่่มช่นวดรัางอ่มโอช่่มช่นวดรัางปูาแดงหล้วง แล้ะผู้มสวนเกียวขออื�นๆ

ทีไมไดเอยนาม




6

สารบญ



หนา

ค า ำ น ำ า 1

ค ำ า น ิ ย ม 2
ค า ำ น า ำ ผู้ เ ้ ู ข ย ี น 4

ค ำ า ข อ บ ค ณ์ ่ 6
ส า รั บ ญ ั 7
บ ท น ำ า 8








ตอนที 1 งานปั้นปััน ทีมาและค์วามหมาย สกลชุาง 11


ตอนที 2 งานปั้นปัันล�านนา ยค์สมยและพิฒนาการู้ 1 6






2.1 ล้วดล้ายปููนปูนพ่ทธศิต่วรัรัษที� 17 - 18 ยคหรัภ่ญช่ย 16





2.2 ล้วดล้ายปููนปูนพ่ทธศิต่วรัรัษที 19 - 20 19

ยคพฒนาการั(รัาว พ.ศิ. 1800 - 1900)

2.3 ล้วดล้ายปููนปูนพ่ทธศิต่วรัรัษที� 20 – 21 34


ยคทองของล้้านนา (พ.ศิ. 1900 - 2000)



2.4 ล้วดล้ายปููนปูนพ่ทธศิต่วรัรัษที� 22 - 24 60





ยคพมาปูกครัองสูล้้านนายคเสือม (พ.ศิ. 2100 - 2300)




2.5 ล้วดล้ายปููนปูนพ่ทธศิต่วรัรัษที 24 - 25 ยคฟื้้นฟื้ 76


2.6 ล้วดล้ายปููนปูนปูล้ายพ่ทธศิต่วรัรัษที 25 114






ยคอทธพล้พมาแล้ะอทธพล้รััต่นโกสนทรั ์










ตอนที 3 วาด�วยเรู้ืองเทค์นค์งานปั้นปัันและส้ตรู้ปั้นตาโบีรู้าณ 132

ทีพิบีในพิืนทีล�านนา





ตอนที 4 ทาเนยบีชุางปั้นปัันล�านนาพิทธศิตวรู้รู้ษ์ที 26 1 5 1




สรู้ปั 1 8 6

บรัรัณ์าน่กรัม 196
7

บทนำำ














ลวดลายปันปันลานนา ถิ่ือเปู็นงานช่่างศิล้ปู์ปูรัะเภทหน�ง








ทใช่ปูรัะดบต่กแต่งอาคารัศิาสนสถิ่าน เช่่น วหารั เจัดย อโบสถิ่




เปูนต่น เพอเพมความงานต่ามฐานานศิกดของสถิ่าปูต่ยกรัรัมนนๆ

















รัวมถิ่งการัปูรัะดบศิาสนสถิ่านเพอยกยอความสาคญอนเปูน












สญล้กษณ์ของพรัะรัต่นต่รัย งานปูนปูนจังเปูนงานช่างทเปูน




เหมอนต่วแทนในการัปูรัะดบใหเกดความงามแล้ะปูรัากฏใหเหน




















ถิ่งความสาคญของสถิ่านทนนๆ ซึ่งงานปูนปูนในวฒนธรัรัมล้านนา






เรั�มข�นต่�งแต่พทธศิต่วรัรัษท� 17 แล้ะมพัฒนาการัมาจันถิ่ึงปู้จัจั่บัน









อาจักล้าวไดวา ล้วดล้ายปูนปูนล้านนา ไดมพฒนาการั






แล้ะความหล้ากหล้ายรัปูแบบอันเกดจัากการัสรั้างสรัรัค์โดยช่าง



ฝมอทไดรับแรังบนดาล้ใจัแล้ะสืบทอดทักษะส่งผู้านกนมาจัาก




















รันสรัน ซึ่งไดมปูจัจัยทางดานต่างๆ เขามาเกยวของในแต่ล้ะ











ยคสมย จันไดมรัปูแบบเฉพาะต่ัวอนเปูนเอกล้กษณ์ทโดดเดน







นับต่�งแต่พทธศิต่วรัรัษท� 17 – 26 นับช่่วงเวล้ายาวนานนับ






800 กวาปู โดยในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที� 19 – 22 ล้วดล้ายปููนปูน






ไดสะทอนแสดงความยงใหญแล้ะเจัรัญรังเรัองทางสงคม









แล้ะวฒนธรัรัม โดยเฉพาะยคทองทแสดงถิ่งความเจัรัญรังเรัอง







สูงสดในช่่วงพทธศิต่วรัรัษท� 20 ถิ่ึงกล้างพทธศิต่วรัรัษท� 21












เจัรัญรังเรัองทางพทธศิาสนา สงผู้ล้ใหรัปูแบบล้วดล้ายปูนปูน













มรัปูแบบทหล้ากหล้ายแล้ะพฒนาไปูไดอยางช่ดเจัน เปูนพนฐาน

ใหกบล้วดล้ายในยคต่่อมา


8










ลวดลายปันปัน มพฒนาการัต่ามล้าดบจัวบจันกรัะทงการั
เขามาปูกครัองของพม่าช่วงต่นพทธศิต่วรัรัษท 23-24 อย่างไรั










กต่ามกล้ับพบว่าสล้าล้านนายังคงได้สรัางงานปูนปู้นสบสาน










งานฝมอกนอยางต่อเนอง แมวาจัะไมยงใหญเหมอนดงยคกอน










กต่ามแต่่กไดมเอกล้กษณ์์เฉพาะยคสมยไดอยางนาสนใจั เกดเปูน



















เอกล้กษณ์ของงานศิล้ปูกรัรัมในแต่ล้ะทองถิ่น ในรัูปูแบบล้วดล้าย

ปูนปูนล้านนา เช่นกล้มเช่ยงใหม กล้มล้าพน กล้มล้าปูาง กล้มแพรั ่






















แล้ะกล้มนาน เปูนต่น ในเวล้าต่อมาล้านนาสามารัถิ่เปู็นอสรัะจัาก










พม่าเขาส่ย่คฟื้นฟื้บ้านเมือง การัเรังสรั้างงานทสืบทอดองคความรั ู ้



ทต่กทอดมาจัากรั่นสรันกมผู้ล้ให้ยงคงรัปูแบบงานช่างยังคงไดรับ


















การัสบสานมาโดยต่ล้อด แต่เมอต่องต่กเปูนฐานะเมองปูรัะเทศิรัาช่




ของสยาม จันกรัะทงกล้างพทธศิต่วรัรัษท 25 ล้านนาจังไดถิ่กผู้นวก








เข้าเปู็นส่วนหน�งของรัาช่อาณ์าจัักรัสยาม เกิดความเปูล้�ยนแปูล้ง



ทางสงคมแล้ะวฒนธรัรัม ล้วดล้ายปูนปูนล้านนากยงสามารัถิ่สรัาง









รัปูแบบทมการัผู้สมผู้สานรัะหว่างศิล้ปูะล้านนายคเกากบศิล้ปูะ














รััต่นโกสนทรั รัวมถิ่งศิิล้ปูะพืนถิ่นไดอยางกล้มกล้นจัวบจันกรัะทัง





ถิ่งปู้จัจั่บน








จัากการัศิกษาเอกสารัแล้ะสารัวจัพนท โดยรัวบรัวมขอมล้







ปููนปูนล้้านนาจัากแหล้งขอมล้ 50 แหง ใน 4 จัังหวดในเขต่ภาค








เหนือ(ล้านนาต่ะวันต่ก) ซึ่ึงไดแก จังหวัดเช่ยงรัาย จังหวัดเช่ยงใหม่






จัังหวดล้าพน จัังหวดล้าปูาง พบขอมล้สาคญในเรัืองของรัปูแบบ






ล้วดล้าย พัฒนาการัล้วดล้ายในแต่ล้ะยคสมัย รัวมไปูถิ่ึงงานปููนปู�น











ยคใหมในปูจัจับน โดยยงคงมกล้มช่างสล้าปูนปูนล้ายล้านนาอยใน

















ท่กพืนที ซึ่งนอกจัากการัคงอยของกล้มช่่างแล้้ว ยงคงปูรัากฏองค ์

ความรัูต่่างๆ อนเกียวเนืองกบสต่รัการัต่าปููนสดเพือเปูนวสด่หล้ก













ของงานช่างปูนปูน ซึ่งมสดสวนในการัผู้สมทแต่กต่างกนไปู โดยได ้




















เกบรัวบรัวมแล้ะบันทกเพอการัเผู้ยแพรั่องคความรังานปูนปูน

ในล้้านนาต่่อไปู
9

10

ตอนำที 1








งานำปูนำปูนำ ทีมาและคำวามหมาย





สกุุลช่่าง ทีมาและคำวามหมาย








งานปููนปู�น หมายถิ่ึง ล้วดล้ายหรัือภาพท�เกิดจัากการัปู�น



ปูนเพอใหเปูนล้วดล้าย รัปูภาพ แล้ะรัูปูทรัง เพ�อใช่ในการัปูรัะดับ








ต่กแต่่ง ต่ล้อดจันทาเปูนสวนปูรัะกอบทางสถิ่าปู้ต่ยกรัรัม ถิ่อเปูน





งานทางศิล้ปูกรัรัมของช่างล้านนาท�สาคญอยางหนง ทปูรัากฏ








มมาต่ั�งแต่่สมยหรัภ่ญช่ยรัาวพ่ทธศิต่วรัรัษที� 17-18 แล้ะถิ่ายทอด















ต่อไปูยงสมยเช่ยงแสน จันนามาสความล้งต่วของล้วดล้ายในยคสมย






ล้านนา รัาวพทธศิต่วรัรัษท 20-21 ซึ่งรัะยะเวล้าช่วงนเอง ทช่าง









ล้านนาไดแกไขแบบ ขนาดต่ัวอาคารัสถิ่าปูต่ยกรัรัมได้อยางล้งต่ว



แล้ะทาใหล้วดล้ายปูนปูนในรัะยะเวล้าดงกล้่าวมีความล้งต่ัวสวยงาม








มความโดดเด่น จันเปูนทยอมรับกนวาช่วงรัะยะเวล้าดังกล้าว







ถิ่อเปูนยคทองของศิล้ปูกรัรัมล้านนา ซึ่งการัปูรัะดบล้วดล้ายปูนปูน

















ในยคนเอง ช่วยสงเสรัมใหอาคารั ศิาสนสถิ่านต่างๆมความโดดเดน






งามสงาดวยรัายล้ะเอยดงานปูรัะดบปูนปูน โดยปูรัากฏในศิาสน













สถิ่านมากมาย ซึ่งมทงทเปูนล้วดล้ายปูรัะต่มากรัรัมรัปูพรัะพทธรัปู






เทวดา แล้ะบคคล้ในบรัิเวณ์เมืองโบรัาณ์สาคัญๆของอาณ์าจัักรั



ล้้านนาเช่่น เมองเช่ยงแสน เมองเช่ยงใหม เมองล้าปูาง แล้ะเมอง





ล้าพน


11




งานปันปัน นน โดยทวไปูในวฒนธรัรัมล้านนามก











เรัียกว่า “สะทายจั�น” ซึ่�งเปู็นล้ักษณ์ะของการัผู้สมปููนปู�น ใหม ี





คณ์สมบต่เหนยวยด เพอเปูนวสดในการัสรัางสรัรัคงานปูนปูน






















โดยมสวนผู้สมท�แต่กต่างกันออกไปู ขนอยกบสต่รัช่างในแต่ล้ะ





พืนที แต่่สวนผู้สมหล้กแล้้วจัะม ปููนขาว ทรัายล้ะเอยด ผู้สมกบ


ำ�









ำ�




นามนล้ะห่งหรัอนามนต่งอว เช่น 8:1:1 นนหมายถิ่ง สวนผู้สม





สต่รันจัะม ปูนขาว 8 สวน ทรัายล้ะเอยด 1 สวน แล้ะนามนล้ะหง ่ ่










หรัอนามนต่ังอิ�ว 1 สวน โดยนามาคล้่กเคล้้าแล้้วต่าใหเขากนโดย















ล้ะเอยดจันเกดปูฏกรัยาความรัอนรัะหวางปูนกบนามน จัะทาให ้


















เนอปูนต่ำาทไดเหนยวล้ะเอียด สามารัถิ่บีบนวด ปูนคล้งขนรัปู





ล้วดล้ายไดโดยทเนอปูนไมแต่ก ซึ่งปูนต่าทใช่ปูนแล้ะปูนต่า


























ทใช่ฉาบ มล้กษณ์ะแล้ะสวนผู้สมทต่างกน ขนอยกบสกล้ช่าง





แต่่ล้ะพืนที �



ศิิลปัะปั้นปััน ไดรับความนยมใช่ในงานปูรัะดบ






ต่กแต่งศิาสนสถิ่าน ในช่วงเวล้าต่อมาเปูนอยางมาก ทงนศิาสน








สถิ่านสวนใหญจัะกอสรัางดวยอฐแล้ะศิล้าแล้ง ซึ่งมกจัะนยมใช่ ้















การัปูนปูนใหเปูนรัายล้ะเอยดปูรัะดับต่กแต่ง เน�องจัากเปู็น













เทคนคทช่างมความคนเคย ใช่วสดทหางายในทองถิ่น มความ






งดงามแล้ะความคงทน ดงนนจังปูรัากฏศิล้ปูะปูนปู้นในงาน







ปูรัะดบโบรัาณ์สถิ่านในสมยต่่างๆ ต่ล้อดมา


12


งานำปูนำปูนำล�านำนำา













งานปันปัน เทคนคงานต่กแต่งมความสาคญอยางหนงในการันามา





ปูรัะดบอาคารัศิาสนสถิ่านในอดต่ ซึ่งแต่ล้ะพนททางวฒนธรัรัมล้วนแล้วแต่นยม

























การันาปูนปูนมาปูรัะดบล้ายซึ่งแสดงใหเหนถิ่งความสมพนธรัะหวางงาน


ศิล้ปูกรัรัมแล้ะงานวรัรัณ์กรัรัม ทถิู่กนามาหล้อมรัวมกันแสดงออกผู้่านงาน





ปูรัะดับ ซึ่�งถิ่ือเปู็นหล้ักฐานทางปูรัะวต่ิศิาสต่รั์ศิล้ปู์ท�แสดงถิ่ึงความเจัรัิญรังเรั�อง






แล้ะความล้ดถิ่อยของวฒนธรัรัมในแต่่ล้ะยคสมย







ล้วดล้ายปูนปูนแต่ล้ะแบบ แต่ล้ะยค แต่ล้ะสกล้ช่างยอมคงไวซึ่ง











อต่ล้กษณ์เฉพาะถิ่น แต่โดยภาพรัวมจัะมีการัสบทอดเปูล้ยนถิ่ายองคความรั ู ้

















ในแต่ล้ะช่วงเวล้ามาโดยต่ล้อด ทงในสวนของเทคนคสต่รัปูนต่า แบบล้าย















แล้ะล้กษณ์ะจัาเพาะ กอใหเกดความสมพนธรัะหวางกล้มช่าง ช่มช่นต่างๆ






เรัอยมา ต่วอยางเช่นงานปูนปูนรัปูเทวดาวดเจัดยอด ศิล้ปูะยคทองทมความงาม











สมบรัณ์แบบ ทในช่วงรัะยะเวล้าต่อมาไดสงอทธพล้ถิ่งรัปูแบบเทวดาปูนปูน























ปูรัะดบเรัอนธาต่เจัดยวดโล้กโมฬี จังหวัดเช่ยงใหม เทวดาปูรัะดับซึ่มปูรัะตู่โขง





วดรัางกากแก้ว(กย่าสต่า) จังหวัดล้าปูาง แล้ะเทวดาปูรัะดับศิาสนาถิ่าน

















วดเกาะกล้าง จังหวดล้าพน เปูนต่น หรัอแมแต่ในยคหล้งทปูรัากฏรัปูปูนเทวดา













ปูรัะดบหอไต่รัวดพรัะสงห ทีสรัางขึ�นในสมยพรัะเจัากาวล้ะ ในรัปูแบบเทวดา


ล้านนา ทถิ่กนามาต่กแต่ง สงนยอมบงบอกถิ่งความสมพนธแล้ะพฒนาการั




















ของกล้มช่่างล้้านนาไดเปูนอยางด ี













งานปูนปู้นในศิล้ปูะล้านนาท�งดงามแล้ะมีช่อเสยงเปู็นทรัจักด ี










คอ งานปูนปูนรัปูเทวดาปูรัะดบวหารัวดเจัดยอด วดมหาโพธารัาม หรัอ









วดเจัดยอด ปูนปูนเจัดยวดโล้กโมฬี เจัดยวดปูนสาท ปูนปู้นปูรัะดบหอไต่รั


















วดพรัะสงห เมองเช่ยงใหม ซึ่่มปูรัะต่โขงวดพรัะธาต่่ล้าปูางหล้วง ซึ่่มปูรัะต่โขง




วดไหล้หนหล้วงแกวช่างยืน ซึ่มปูรัะตู่โขงวดปูาต่นหล้วง เมืองล้าปูาง





















รัวมทงงานปูนปูนปูรัะดบโบรัาณ์สถิ่านล้านนาอกหล้ายแหง อาท เจัดย ์






วดเกาะกล้าง จังหวัดล้าพน ต่ล้อดจันงานปูนปู้�นปูรัะดับหนาบนวหารัล้านนา
















ในจัังหวดเช่ยงใหม เช่่นวดปูรัาสาท วดท่งย วดพรัะสงห เปูนต่น ซึ่งถิ่าดอาย ่






แล้ะปูรัะวัต่ในการัสรั้างสรัรัค์งานในแต่ล้ะแหงทปูรัากฏงานปูนปู้น กจัะสามารัถิ่









ความเช่ือมโยงแล้ะพฒนาการัของงานปููนปูนล้้านนาที�นาสนใจั

13



กุารปูระดัับงานำปูนำปูนำ

ในำศิิลปูกุรรมล�านำนำา







การัปูรัะดับงานปููนปู�นมักจัะมจัด















หรัอต่าแหนงในการันาเทคนคนไปูปูรัะดบ ซึ่งพบ ล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา เปูนล้วดล้ายทมความนยม
ทงภายในอาคารั แล้ะนอกอาคารั ภายในอาคารั มากในการันามาปู้�นปูรัะดับ ซึ่�งรัปูแบบโครังสรั้าง
















เทคนคปูนปูนดงกล้าวมกจัะถิ่กใช่ปูรัะดบบนแทน ล้วดล้ายทวไปูจัะมทงล้ายดอก กาน ใบ ผู้กล้ายเปูน









แกว หรัอรััต่นบล้ล้งก ทีปูรัะดษฐานพรัะปูรัะธาน เครัอ หรัอบางครังกเปูนเพยงดอกล้อยเปูนจัดๆ















ปูรัะดบกพรัะเจัาหรัอซึ่มพรัะเจัาหรัอซึ่มปูรัะต่ ู เช่นล้ายดอกโบต่นปูรัะดบวดเจัดยอด ล้ายเครัอเถิ่า




























ภายในอาคารัต่ล้อดจันปู้นล้ายปูรัะดบเช่งเสา กาบบว ปูรัะดบซึ่มปูรัะต่โขง ปูรัะดบกพรัะเจัา



แล้ะบวหวเสาภายในอาคารัท�งในสวนของวิหารั เปู็นต่้น ซึ่�งการัปู�นล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาจัะมท�ง







แล้ะอ่โบสถิ่ การัปูนแปูะ แล้วการัข�นโกล้นล้ายกอนปูนล้าย







ส่วนภายนอกอาคารัเทคนิคปููนปู�นจัะพบ เพือใหมความนนเพิมมต่ความล้ก









วามการันาไปูปูนปูรัะดบ เช่่น ซึ่่มปูรัะต่โขง เจัดย ์


















หนาบนวหารั แล้ะอ่โบสถิ่ จัะมการัเล้อกปูรัะเภท สาหรับเทคนคปูนปูนภาพเทวดา


ของล้วดล้ายในการันำามาปูนปูรัะดบศิาสนาสถิ่าน แล้ะรัูปูสต่วต่างๆ ปูรัะดับสถิ่าปูต่ยกรัรัมท�มแกนใน









ต่ามแบบแผู้นโครังสรั้างในงานสถิ่าปู้ต่ยกรัรัม กออฐในรัูปูแบบปูรัะต่ิมากรัรัมนูนสงทมดานหล้ัง











โดยคานงถิ่งรัปูแบบล้วดล้าย สญล้กษณ์์แล้ะคต่ ิ ต่ดกบผู้นงเปูนสวนหนงขององคปูรัะกอบ















ความเช่อ ต่ามความเหมาะสม ซึ่งสามารัถิ่แบงออก สถิ่าปูต่ยกรัรัมน�นเปูนเทคนิคเกาแกทพบมาอย่าง







เปูน 3 ปูรัะเภท คอ 1) ภาพบคคล้ (เทวดา) ยาวนานในศิล้ปูะไทย กล้าวเฉพาะในล้านนานน












2) ล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาแล้ะ 3) สต่วปูาหมพานต่์ เปูนเทคนคทพบมากอนแล้วในศิล้ปูะหรัภญไช่ย


















ทงนช่างปูนล้ายต่องออกแบบแล้ะพจัารัณ์า เช่นพรัะวรักายพรัะพทธรัปูนนสงปูรัะดับภายใน








ถิ่งความเหมาะสมในการันาล้ายทง 3 ปูรัะเภท ซึ่มจัรัะนารัต่นเจัดยภายในวดจัามเทวทมอายรัาว














นมาจัดวางรัวมกนต่ามต่าแหนงทเหมาะสม พ่ทธศิต่วรัรัษที 17 (สนต่ 2538, 37)











แล้ะล้งต่ว ปูรัะกอบกบการัคานงถิ่งพนทวางในการั










ปูรัะดบดวย


14










อกทงยงเปูนเทคนคทพบในปูรัะต่มากรัรัมเทวดา







ปูรัะดบฐานเจัดยวดปูาสกทมอายรัาวปูล้ายพทธศิต่วรัรัษ









ที 19 - ต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที 20 (ส่รัสวสดิ� 2541, 57; สนต่ ิ
2549,225; ศิกดช่ย 2551, 57) ซึ่งล้วนเปูนปูรัะต่มากรัรัม









ทีมแกนในกอดวยอฐ แล้้วจังปูนปููนล้งบนแกนอฐต่กแต่่ง


















จันไดรัปูทต่องการัเทคนิคการักออฐเปูนแกนดานในแล้ว












ปูนพอกเปูนรัปูปูรัะต่มากรัรัมเช่นนยงพบต่อมาในศิล้ปูะ





ล้านนาทวไปู แมแต่เทวดาปูนปูนปูรัะดบผู้นงสถิ่ปู






เจัดยอด วดเจัดยอด เมองเช่ยงใหม อายรัาวปูล้ายพ่ทธ










ศิต่วรัรัษที 20 - ต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที 21 (ส่รัสวสดิ� 2541,

57) ซึ่�งแมต่ัวผู้นังสถิ่ปูจัะเปู็นศิล้าแล้ง แต่แกนในของ















องคเทวดากยงคงใช่เทคนคการักออฐ แล้ะใช่ปูนปููนพอก

ขึนรัปูบนผู้วอฐ








ภายหล้งการัข�นรัปูปูรัะต่มากรัรัมในส่วนกายอน






เปูนโครังสรัางหล้กดวยการัปูนพอกปูนจันไดรัปูทรังแล้ว




กจัะเปูนการัปู้นเกบรัายล้ะเอียดในส่วนเครั�องทรัง










แล้ะเครัองปูรัะดบ ซึ่งพบวาเปูนการัปูนปูนพอกเพมเต่ม
้�








ล้งไปูเปูนช่ันๆ บนผู้วปููนโดยต่รัง โดยไมพบการัใช่ยางรััก









หรัอวสดอนใดเปู็นต่วปูรัะสานเน�อปูน ฉะน�นการัปู้นดวย











เทคนคดงกล้าวจังควรัเปูนการัปูนพอกเพิมในขณ์ะทีเนือ
















ปูนในสวนผู้วพนยังไมแหง จังทาใหเนอปูนทปูนพอก






เขาไปูสามารัถิ่ปูรัะสานเขากนไดโดยไมหล้ดรัอน

















ซึ่งเทคนคเช่นนกเปูนเทคนคพนฐานทพบทวไปูในงาน






ปููนปูนล้้านนา
15

ตอนำที 2





งานำปูนำปูนำล�านำนำา





ยคำสมยและพััฒนำากุาร










“ปันปั�นลานนา” จังบอกเล้าเรัองรัาวความเปูน





มา จันต่นาการั คต่ความเช่อในทางพทธศิาสนาแล้ะสกล้







ช่่างไดเปูนอยางด นอกจัากนีเทคนคงานปูนปููนแต่่ล้ะยค






สมยในล้้านนานัน ล้้วนแล้้วมพฒนาการั ความแต่กต่่าง


กันออกไปู ซึ่�งข�นอย่กับอิทธิพล้งานช่่างแล้ะงาน


ศิิล้ปูกรัรัมภายนอกอาณ์าจัักรั ทีเขามามบทบาทต่่องาน







ช่่างปูนปููนในแต่่ล้ะยคสมย ดงรัายล้ะเอยดนี �





2.1 ลวดลายปันปันพิทธศิตวรู้รู้ษ์ท 17-18



ยค์หรู้ภญชุย









อาณ์าจักรัหรัภญช่ยถิ่อเปูนแหล้งอารัยธรัรัม










มอญสมยทวารัวดแหงสดทาย ทถิ่กสบทอดมาถิ่งช่วง







รัะยะพทธศิต่วรัรัษท� 18 ต่ามต่านานกล้่าวถิ่งพรัะนาง



จัามเทวผู้นาเอาอารัยธรัรัมทวารัวดจัากล้พบรัขนมายัง








หรัภญช่ยรัาว พ.ศิ. 1300 แต่จัากหล้ักฐานทางโบรัาณ์คดี












พบวาอาณ์าจักรัหรัภญช่ยมอายไมเกาไปูกวาพทธ










ศิต่วรัรัษท� 18 ซึ่งถิ่อไดวาเปูนยคสมยทเกาทสดของ









ล้านนา ทยงปูรัากฏหล้กฐานล้วดล้ายปูนปูนทเหล้อ










ใหเหน
ภาพที� 1





ล้ายปููนปูนปูรัะดบส่วรัรัณ์เจัดย วดพรัะธาต่่หรัภ่ญช่ย




อาเภอเมอง จัังหวดล้าพน




16






งานำปูนำปูนำหรภุุญช่ย




ในพทธศิต่วรัรัษท 16 หรัภญช่ย พรัะมเหสีในพญาอาทต่ยรัาช่ทรังโปูรัดให้สรัางขน







ถิ่อเปูนแหล้งสงสมวทยาการัสดทายของ ทางดานทศิเหนอของพรัะมหาธาต่ องคเจัดยเปูน


















ช่นช่าต่มอญทางภาคเหนอทมอายสบมาถิ่ง ทรังปูรัามดยอดแหล้มทีนยมกนในยคนัน เช่่นเดยว
























พทธศิต่วรัรัษท� 18 แล้ะในรัะหว่างปู พ.ศิ.1700- กบเจัดยกูก่ด กล้าวคอ มล้กษณ์ะทรังสีเหล้ียมซึ่อน




















1835 เปูนช่วงเวล้าทยครังเรัองของเมองหรัภญช่ย ช่ันกนหาช่ัน แต่่ล้ะช่ันมซึ่่มปูรัะดษฐานพรัะพ่ทธรัปู








ต่ำานานต่่างๆ ไมไดกล้าวถิ่งสงครัามแต่่กล้าวถิ่ง ยนทงสดานๆ ล้ะสามองค สวนบนเหนอขนไปูแสดง













การัทำาบ่ญ สรัางวด การัถิ่วายนา คน แล้ะสต่ว ์ ล้กษณ์ะการัใช่กล้บบวสล้บกบช่นปูล้องไฉนในรัูปู





















เหต่การัณ์สาคญไดแก การัทพญาอาทต่ยรัาช่ สีเหล้ียม ปูล้ยอดเปูนทรังสีเหล้ียมปูล้ายแหล้ม









โปูรัดใหสรัางปูรัาสาทบรัรัจัพรัะบรัมธาต่ ่



หรัภญช่ย เปูนครังแรักในปูพ.ศิ.1700 นอกจัาก งานปูนปูนต่กแต่งทเหล้ออยไดแก สวนของ
















นี ในช่่วงรัะยะเวล้านัน ยงปูรัากฏสิงปูล้กสรัาง ซึ่มจัรัะนาแล้ะพรัะพทธรัปูภายในซึ่ม งานปูนปูน


















แล้ะการัปูรัะดบล้วดล้ายปููนปูนหล้ายแหง ดงนี � ต่กแต่งซึ่มจัรัะนาสวนใหญไดรับการัฉาบพอกอยาง












หยาบๆ แล้้วในช่ั�นหล้ง แต่่ยงมรัองรัอยการัต่กแต่่ง









2.1.1 ลายปันปันปัรู้ะดบีสวรู้รู้ณเจัดย ์ ซึ่่มโค้ง หยักด้วยล้ายเส้นล้วดโค้งมนเรัียบๆ ไมมีเม็ด










วดพิรู้ะธาตหรู้ภญชุย ไขปูล้า หรัอปูรัะจัายาม เหนอซึ่มจัรัะนามรัองรัอย












หล้กฐานงานปููนปูนทีสำาคญช่ิ�นหนึ�งใน ฝกเพกาท�อาจัมการัต่กแต่ง หวเสารับซึ่มบางแห่งยัง








ช่วงรัะยะเวล้านคองานปูนปูนต่กแต่งสวรัรัณ์ คงมีรัองรัอยของการัต่กแต่งด้วยบวกล้บยาวซึ่้อนกน















เจัดย สถิ่ปูสเหล้ยมซึ่อนช่นทพรัะนางปูทมวด ี มเกสรับวเช่่นเดยวกบทีเจัดยกูก่ด




















ภาพที 2 - 3




ล้ายปููนปูนปูรัะดบส่วรัรัณ์เจัดย ์






วดพรัะธาต่่หรัภ่ญช่ย อาเภอเมอง จัังหวดล้าพน



17









ในสมยนนจังเรัยกวา “เจัดยจัามเทว” หรัอ





“เจัดยกูก่ด”




สวรัรัณ์จัังโกฏเจัดย์ มล้ักษณ์ะเจัดยรัปู











ทรังสเหล้ยมกอดวยศิล้าแล้งถิ่อปูนปูรัะดบ







ล้วดล้ายปูนปูนซึ่อนล้ดหล้นกนขนไปู 5 ช่น แต่ล้ะ



















ช่นมซึ่มปูรัะดษฐานพรัะพทธรัปูปูนปูนปูรัะทบยน

ปูางปูรัะทานอภัย ช่�นล้ะ 3 องค์ ท�ง 4 ด้าน



ดานล้ะ 15 องค รัวมทงสน 60 องค แล้ะทมม














ท�งส�ของเจัดย์แต่ล้ะช่�นมีเจัดย์เหล้�ยมขนาดเล้็ก






ปูรัะดบปูรัะจัาทกมม ใหญเล้กล้ดหล้นกนขนไปู











โดยเจัดยองคนมเสาปูรัะดบมมเจัดยในแต่ล้ะช่น












มล้กษณ์ะล้วดล้ายปูนปูนปูรัะดบหวเสาทาเปูนรัปู











กล้บบวซึ่อน 3 แถิ่ว เหนอบวหวเสาทาเปูนหนา





กรัะดานเต่�ยๆ ล้ักษณ์ะเสาจัะเปู็นเสาส�เหล้�ยม


กอออกมาจัากผู้นงเล้กนอย สวนของซึ่ม















ทปูรัะดษฐานพรัะพทธรัปูนน มเสาปูรัะดบซึ่มเปูน














ภาพที 4 สเหล้ยมยนออกมาจัากผู้นัง มล้วดล้ายปูนปูน








ส่วรัรัณ์จัังโกฏเจัดย วดจัามเทว อาเภอเมอง จัังหวดล้าพน ปูรัะดับหัวเสาเปู็นล้ายกล้ีบบัว ผู้นังซึ่มด้านบน




ปูรัะกอบด้วยวงโค้งสามวงต่อกัน บนวงโค้งปูรัะดับ






2.1.2. ลายปันปันปัรู้ะดบีสวรู้รู้ณจังโกฏเจัดย ์ ดวยล้วดล้ายปูนปูนเปูนแบบล้ายพรัรัณ์พฤกษา














หรู้อก้จัามเทว หรู้อก้กด วดจัามเทว ี โดยปูนเปูนล้กษณ์ะใบไมยอดแหล้มยนออกมา










จัากต่านานจัามเทว กล้าววา “พรัะยา









มหนต่ยศิกเล้กทรัาก สงสะการัแมแหงต่นเสยยงปูา จัากวงโค้ง แล้ะบางซึ่มจัะมรัปูสต่ว แล้ะภาพบคคล้











ปูะปูนอยดวย สวนของยอดพรัะเจัดยไดหกหายไปู







ไมยาง แล้วเอากรัะดกช่อนแวนหวไปูรัวมกนกอเปูน ช่าวบานจังเรัยกวา “กูก่ด”
















เจัดย์ไวช่�อว่า สวรัรัณ์จัังโกฏ หนใต่้เวียงหรัภญช่ัย









วนนันแล้…” สวนในต่านานมล้ศิาสนากล้าววา “...






ครันถิ่วายพรัะเพล้งเสรัจักแหพรัะอฐเล้ยบมาหนวน







ออกเวยง แล้้วกอพรัะเจัดยบรัรัจั่พรัะอฐ เครัื�องใช่ ้







เครัองปูรัะดับ ของพรัะนางจัามเทวีไวรัองรับ





พรัะอฐของพรัะนางจัามเทว ใหช่อวา สวรัรัณ์







จังโกฏเจัดย...” นอกจัากน�นในต่ำานานจัามเทวี






หรัภญช่ย เช่ยงใหมกกล้าวพองกนกบต่านาน









มล้ศิาสนา แต่บอกวา สรัางเจัดยไวหนใต่เวยง







หรัภญช่ย ภายหล้งช่างพรัะทนงล้มกเอางาแล้ะ ภาพที� 5


















กรัะดูกไปูบรัรัจัไว้ใต่อฐน�น เจัดย์องคนช่าวบ้าน รัายล้ะเอยดซึ่่มปููนปูนส่วรัรัณ์จัังโกฏเจัดย ์





18

2.2




ลวดลายปั้นปัันพิทธศิตวรู้รู้ษ์ที 19 -20

ยค์พิฒนาการู้(รู้าว พิ.ศิ. 1800 - 1900)















หล้งจัากทเมองหรัภญช่ยสนสดล้งเมอถิ่ก



พญามงรัาย เขายดครัองไดในรัาวปู พ.ศิ.1835


เนองมาจัากความอ่อนแอของพญายีบาแล้ะการัใช่กล้










อบายของพญามังรัายทต่องการันครัหรัิภญช่ยดวย
สาเหต่ทางเศิรัษฐกิจั เพรัาะในขณ์ะน�นหรัภญช่ย












เปูนศินย์กล้างการัคา พรัะองคปูรัะทบทหรัภญช่ย







เพยง 2 ปูกทรังย้ายมาสรัางเวยงกมกาม ปูรัะมาณ์





ปู พ.ศิ. 1837 แล้้วจังย้ายมาต่ังเมองเช่ยงใหมบรัเวณ์





เช่งดอยสเทพใน ปู พ.ศิ.1839 โดยความรั่วมมอ


1

ของพญางาเมองแห่งพะเยา แล้ะพ่อขนรัามคาแหง




แหงกรั่งส่โขทย มารัวมกนพจัารัณ์าถิ่งช่ยภมแล้ะการั









วางผู้งเมอง ถิ่อเปูนการัเรัมต่นยคอาณ์าจักรัล้านนา










ในช่่วงเวล้านี �
สถิ่าปูต่ยกรัรัมในช่วงเวล้านยงคงรักษา















รัปูแบบเดมของศิล้ปูะทวารัวดทหรัภญช่ยอย ู ่








เช่น เจัดยกคา วดเจัดยเหล้ยม อาเภอหนองหอย












จังหวดเช่ยงใหม ซึ่งพญามงรัายโปูรัดใหเล้ยนแบบ


เจัดยกกดมาสรัางไวทเวยงกมกาม (เจัดยองคนกไดรับ






















การัปูฏสังขรัณ์์โดยช่างพม่าแล้วเม�อรัาว 100 ปู ี

ทผู้านมา สงผู้ล้ใหรัปูแบบงานปูนปูนเปูล้ยนไปู












ในยคปูจัจับน) โดยพญามงรัายยงทรังบรัณ์ะ ปูรัาสาท











บรัรัจัพรัะธาต่ ทวดพรัะธาต่หรัภญช่ย ใหมความสง ู













เพมขน แล้ะปูรัะดบเรัอนธาต่ดวยทองจังโก


พรัะมหาธาต่ทสรัางใหมนมเรัอนธาต่ทรังปูรัาสาท










องค์รัะฆ์งทรังกล้มแล้ะคงจัะมีสถิ่ปูขนาดเล้็ก

ทมมทงสอกดวย ซึ่งโดยรัปูทรังแล้วมความสมพนธ ์























กบเจัดยเช่ยงยน วดพรัะธาต่่หรัภ่ญช่ย ภาพที� 6






เจัดยเช่ยงยน วดพรัะธาต่่หรัภ่ญช่ย


19





2.2.1 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีเจัดยเชุยงยน





วดพิรู้ะธาตหรู้ภญชุย





อาเภอเมอง จัังหวดลาพิ้น


นกปูรัะวต่ศิาสต่รัศิิล้ปูะหล้ายทาน











จังกาหนดอายของเจัดยนวาในรัาวพทธศิต่วรัรัษ ภาพที� 7


2

ท 19 สวนปูรัะต่มากรัรัมปูนปูนปูรัะดบองคเจัดย ์ ล้ายปูรัะจัายามรััดอก เจัดยเช่ยงยน














นนสนนฐานวานาจัะเปูนงานซึ่อมในรัาว








พ่ทธศิต่วรัรัษที 20-21 แล้ะนาจัะเกดขึนพรัอม











กบการัปูฏสงขรัณ์องคพรัะธาต่หรัภญช่ย




เพรัาะมรัปูแบบศิล้ปูะสถิ่าปูต่ยกรัรัมอยในช่วง







เวล้าเดยวกน

ภาพที� 8






กล้บบวคล้มสล้บกบล้กแกวห่มทองจัังโก



20

ภาพที� 10


ล้ายปููนปูนกาบบน





















ภาพที� 11

ล้ายปููนปูนปูรัะจัายามอก



ภาพที 9









ล้ายล้ะเอยดงานปููนปูนองครัะฆ์งเจัดยเช่ยงยน


เจัดยองคนเปูนเจัดยทรังปูรัาสาทห้ายอด อยางนาสนใจั สวนยอดสดหกหายไปู ถิ่อเปูน



























ฐานล้างสดเปูนฐานเขยง 3 ฐานรัองรับฐานบวควา เจัดย 5 ยอดทมรัปูแบบคล้ายกนกบเจัดยวดปูาสก



















บวหงายยดทองไมสงคาดล้กแกวอกไก 3 เสน รัองรับ เช่ยงแสน แต่งานปูนปู้นแต่กกรัะเทาะหายไปูมาก




ดวยเรัอนธาต่่ทีมซึ่่มจัรัะนาทัง 4 ดานมการัปูรัะดบ จันไม่สามารัถิ่เปู็นรัายล้ะเอียดของงานปูนปู้นในภาพ















ล้ายปูนปูนทซึ่ม เหนอขนไปูเปูนเจัดยจัาล้อง รัวมไดช่ดเจัน















หรัอ สถิ่ปูกะทมมทง 4 ทกงกล้างเปูนเจัดยทรังรัะฆ์ง ั

















ในผู้งกล้มมการัปูรัะดบงานปูนปูนบรัเวณ์รัดอก


3







ต่อดวยกล้บบวคล้มสล้บกบล้กแกวซึ่อนกนเปูนช่นๆ








21





2.2.2 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีเจัดยวดปัาสก







อาเภอเชุยงแสน จัังหวดเชุยงรู้าย














ในเมองเช่ยงแสน ปูรัากฏงานปูนปูนต่กแต่ง เหนอซึ่มทาเปูนวงโคงมล้ายปูนปูนรัปู










เจัดยวดปูาสก อาเภอเช่ยงแสน จังหวดเช่ยงรัาย มกรัคายนาค ต่นเสาท�รัองรับวงโค้งทาเปูนล้าย























ถิ่อเปูนต่วอยางไดดในยคนอกแหงหนง ซึ่งสรัางขน ปูนปูนเกยรัต่มข หรัอเรัยกอกอย่างวา หนากาล้
























โดยพญาแสนภูเมอเสด็จัมาปูรัะทับทเช่ยงแสน ทหวเสาปูนเปูนล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาปูรัะดบ























ภายหล้งทโปูรัดใหสรัางเมองนขนเมอปูพ.ศิ.1871 4 ล้วดล้ายดงกล้าวนกโบรัาณ์คดเช่อกันวานาจัะ






องคเจัดยมอทธพล้ทางศิล้ปูะพมาแบบพกาม ไดรัับอทธพล้มาจัากศิิล้ปูะแบบจัน เหนอเรัอน























ผู้สมผู้สานกับรัปูแบบในศิล้ปูะหรัภญช่ยมากกวา ธาต่ขนไปูอกเล้กนอยจัะเปูนช่นฐานแวนฟื้า













แหล้งอืน แล้ะทฐานแวนฟื้านจัะเหนองค์เจัดยขนาดเล้็กๆ















ล้กษณ์ะทางสถิ่าปูต่ยกรัรัม เปู็นเจัดยฐานเขยง ต่งอยทง 4 มมอนเปูนวฒนธรัรัมการัสรั้างเจัดย ์




เต่ีย รัับฐานบวควาแล้ะช่ั�นหนากรัะดานเจัาะเปูนช่่อง ทรังปูรัาสาทแบบล้านนา เหนือฐานแวนฟื้า


























ซึ่อนกน 2 ช่น รัองรับฐานซึ่มจัรัะนา ภายในซึ่ม ขนไปูจัะเปูนองครัะฆ์งสล้บกบบวกล้ม







ปูรัะดษฐานพรัะพทธรัปูสล้บกบเทวดา ถิ่ดขนไปูเปู็น จันกรัะทงถิ่งปูล้ยอดทแต่ล้ะช่วงกจัะเหน

















ฐานเขยงล้ดหล้ันกน 4 ช่ัน ล้วดล้ายปููนปูนทียงเหล้ออย ู ่




ภาพที� 12


เจัดยวดปูาสก อาเภอเช่ยงแสน จัังหวดเช่ยงรัาย










สวนเรัอนธาต่ปูรัะกอบดวยฐานหนากรัะดาน ภาพที� 13












ยนเกจัล้ดหล้นกนรับช่ดฐานปูทมล้กแกวอกไกยอเกจั งานปููนปูนรัปูหนากาล้ ปูรัะดบเจัดยวดปูาสก























จัากนนเปูนเรัอนธาต่สเหล้ยมมจัรัะนาซึ่มล้ด








ปูรัะดิษฐานพรัะพทธรัปูปูางเปูดโล้กอยท�งสดาน











ในแต่ล้ะซึ่มมเสาปูรัะดับล้วดล้ายปูนปู้นสวยงาม
22







สวนยอดเปูนช่นล้ดในผู้งแปูดเหล้ยม





มแถิ่วล้กกรังปูรัะดบ มเจัดยบรัวารัปูรัะดบ












ทมมทงสเหนอเรัอนธาต่ ยอดปูรัะธานเปู็น










เจัดยทรังรัะฆ์ังมกล้บบวซึ่อนเปูนบวปูากรัะฆ์ัง


องครัะฆ์งปูรัะดบดวยรัดอก ต่ามความนยม





ในศิล้ปูะพมาแบบพกามแล้ะในศิล้ปูะหรัภญช่ย









เหนือองครัะฆ์ังเปู็นบัวกล้มเถิ่ารัองรัับปูล้้องไฉน



แล้ะปูล้ยอด ล้กษณ์ะทรัง 5 ยอดนี คงเปูนแบบ








ทนยมกนมากอนทพรัะเจัาต่โล้กรัาช่







จัะทรังบรัณ์ะองคเจัดยหล้วงใหเปูนกรัะทม







ยอดเดยว ในรัาวครังหล้งของพทธศิต่วรัรัษท 20











ซึ่งล้กษณ์ะเจัดยวดปูาสกเช่ยงแสนนมล้กษณ์ะ






คล้้ายกนกบเจัดยเช่ยงยัน จัังหวดล้ำาพน ภาพที� 14








งานปููนปูนปูรัะดบเรัอนธาต่่ เจัดยวดปูาสก












เจัดยวดปูาสกเช่ยงแสน ถิ่อเปูนเจัดย ์





ทรังปูรัาสาทแบบล้านนา 5 ยอดยังคงอย ่ ู


ในสภาพทนักโบรัาณ์คดีแล้ะนักปูรัะวต่ศิาสต่รั ์










ต่างเหนคอนขางต่รังกนวา มสภาพทสมบรัณ์ ์


แล้ะสวยงามจันไม่มสถิ่าปูต่ยกรัรัมท�ไหน







ในแผู้นดนล้านนาจัะงดงามเทาเจัดยทรัง





ปูรัาสาทวัดปูาสกแหงน นบเปูนวฒนธรัรัม








อกรัปูแบบหนึงของเจัดยในล้้านนา


ภาพที 15 - 16








งานปููนปูนปูรัะดบหนากรัะดานทองไม เจัดยวดปูาสก




23





2.2.3 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีเจัดยวดพิรู้ะธาต ุ

สองพิีน�อง




อาเภอเชุยงแสน จัังหวดเชุยงรู้าย







พิรู้ะธาตุสองพินอง บานเช่ยงแสนน้อย





อาเภอเช่ยงแสน มเจัดยทรังปูรัาสาทสององค ์
อยคกน โบรัาณ์สถิ่านแหงนไมปูรัากฏหล้กฐาน










เปู็นล้ายล้ักษณ์อักษรัทางด้านปูรัะวต่ิการัก่อสรั้าง



โดยต่รัง มรัปูแบบของสถิ่าปูต่ยกรัรัมองค์พ � ี






เปูนเจัดยทรังปูรัาสาทหายอด อนมแบบแผู้น








เดยวกนกบเจัดยปูรัะธานวดปูาสก เมองเช่ยงแสน













เจัดยองคนถิ่กกาหนดอายอยในรัาวพทธศิต่วรัรัษ


ท 19 หล้กฐานทางด้านศิล้ปูกรัรัมแล้ะด้าน











โบรัาณ์คดี แสดงใหเหนถิ่งความสมพนธกบการั


ต่งเมองเช่ยงแสน อนสอดคล้องกบเรัองรัาว







ในพงศิาวดารัท�กล้่าวถิ่ึงพญาแสนภูได้เดินทาง




ล้องมาต่ามล้านากก ถิ่งล้านาโขงแล้ะต่งมนเอาช่ย












ทเวยงเปูกสา กอนเดนทางเขาเมองเช่ยงแสน










รัวมถิ่งเรัองเล้าทวาเจัดยองคนอาจัเปู็นเจัดยทบรัรัจั ่




















อฐของพญาคาฟื้แล้ะพรัะยาแสนภ จังไดกล้ายเปูน




พรัะธาต่่สองพีนองหรัอเจัดยสองพีนอง ภาพที� 17






เจัดยวดพรัะธาต่่สองพีนอง






อาเภอเช่ยงแสน จัังหวดเช่ยงรัาย






งานปูนปูนปูรัะดบองคพรัะธาต่เจัดย ์







วดสองพนอง คงเหล้อใหเหนบรัเวณ์เรัอนธาต่ ่











ต่รังซึ่มจัรัะนาสดานปูรัะดบล้ายปูนปูนบนฐานปูทม ์ ดวยช่ดกาบบน กาบล้าง แล้ะปูรัะจัายามอก

















กรัอบซึ่มแล้ะใบรัะกา ทมรัายล้ะเอียดล้วดล้าย โดยมรัปูแบบล้ายทซึ่าๆ กัน จัากน�นต่่อด้วยช่�น

















สกล้ช่างเช่ยงแสนในช่วงปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท 19 มาล้ยเถิ่าแปูดเหล้ยม เจัดยทงสมมดานบน













เช่นล้ายมกรัคายนาค เปู็นต่น ในสวนของเสาซึ่มล้ด เปูนรัะฆ์งทรังกล้ม ซึ่งมแบบแผู้นเหมอนกบ

















แล้ะเสาปูรัะดับมมเรัอนธาต่ หวเสาปูรัะดบงาน เจัดยวดปูาสกเช่ยงแสนแล้ะเจัดยเช่ยงยน















ปููนปูนเปูนรัปูกล้บบวซึ่อนช่ั�นมเกสรับว ปูรัะดบม่ม จัังหวดล้าพน
24


ภาพที 18








การัปูรัะดบล้วดล้ายปููนปูนบรัเวณ์เรัอนธาต่่ เจัดยวดพรัะธาต่่สองพีนอง










สวนในเมองเช่ยงใหม ปูรัากฏการัสรัางเจัดยวดเช่ยงมัน
















ซึ่งจัารักวดเช่ยงมนกล้าววาเปูนวดแรักทพญามงรัายโปูรัดให้

















สถิ่าปูนาขนเปูนแหงแรักเมอต่งเมองเช่ยงใหม ซึ่งรัปูแบบไมแนช่ด










วามล้กษณ์ะแบบไหน แต่องคทเหนในปูจัจับนนนจัากจัารัก








วดเช่ยงมนกล้าววาพรัะเจัาต่โล้กรัาช่โปูรัดให้สรัางขนในปู ี











พ.ศิ.2016 โดยได้สรัางเปูนทรังกรัะท่มยอดเดียวเช่นเดยว





กบเจัดยหล้วงท�พรัะองค์ทรังบรัณ์ะ แล้ะขยายให้ใหญกวาเดม





















จัารักยงกล้าววามการักอครัอบเจัดยวดเช่ยงมนนอกครัง







ในปูพ.ศิ.2114 ซึ่งคงจัะใช่รัปูแบบเดมในสมยพรัะเจัาต่โล้กรัาช่


25




เจัดยชุางลอม เปูนเจัดยปูรัะธานจัดเปูน










เจัดยทรังปูรัาสาทยอดเดยวแบบล้านนา


ปูรัะกอบดวยฐานเขยง 1 ฐานรัองรับฐานทม ี




ช่างล้้อมรัองรัับสวนเรัอนธาต่่ โดยสวนเรัอนธาต่่










มฐานบวล้กแกวอกไกรัองรับ เรัอนธาต่ยกเกจั






มีการัปูรัะดับซึ่มจัรัะนาด้านล้ะ 3 ซึ่ม ซึ่�งเปู็น








รัปูแบบทแต่กต่างจัาก เจัดยทรังปูรัาสาทยอด










โดยทวไปูทจัะมซึ่มจัรัะนาเพยงดานล้ะซึ่ม










อาจัเปูนงานทสรัางเพมเต่มขนในภายหล้ัง ถิ่ดขน














ไปูจังเปูนสวนยอดทเปูนเจัดยทรังรัะฆ์ง สวนยอด







ทเปูนเจัดยทรังรัะฆ์ังปูรัะกอบด้วย ช่นหล้งคา




เอนล้าดใน ผู้งยกเกจั 2 ช่น ปูล้ายหล้งคาปูรัะดบ





หางวน ถิ่ดขึนไปูจังเปูนเจัดยทรังรัะฆ์ง ทีมสวน












รัองรับองค์รัะฆ์งแบบบัวถิ่ล้าในผู้ังแปูดเหล้�ยม







3 ช่น องครัะฆ์งมบล้ล้งกในผู้งยอมมไมสบสอง ภาพที� 19










เหนอบล้ล้งกเปูนสวนยอดเจัดยทรังรัะฆ์งทวๆไปู เจัดยช่างล้้อม วดเช่ยงมัน จัังหวดเช่ยงใหม ่


















ทปูรัะกอบดวยกานฉต่รั บวฝาล้ะม ปูล้องไฉน






แล้ะปูล้ต่ามล้าดบ



26















สวนสาคญของรัูปูแบบเจัดย คอ สวนยอดท�เปูนเจัดยทรังรัะฆ์ังท ใช่บวถิ่ล้า












แล้ะอยในผู้งแปูดเหล้ยม โดยรับรัปูแบบมาจัากสโขทยแล้ะมาปูรับเปูนผู้งหล้าย







เหล้ยม การัเขามาของช่�นบวถิ่ล้าจัากสโขทย ปูรัากฏหล้ักฐานแล้วต่�งแต่รัาว















ต่นพทธศิต่วรัรัษท 20 ทล้านนารับพทธศิาสนาแล้ะศิล้ปูะจัากสโขทย จันมาถิ่ง



สมยของพรัะเจัาต่โล้กรัาช่ ไดมการัสรัางเจัดยทรังรัะฆ์งแบบสโขทยขนอกครังหนง


















ต่วอยาง สาคญคอเจัดยทรังรัะฆ์งทีวดปูาแดงหล้วง สวนการัปูรัับเปูนแปูดเหล้ียม






















อาจัเกดขึนทีวดเจัดยหล้วง ทีสรัางขึนในสมยของพรัะเจัาต่โล้กรัาช่เช่่นกน แล้ะคง






ใหรัปูแบบมายงวดเช่ยงมน สอดคล้องกบพฒนาการัของเจัดยทรังปูรัาสาท
















ยอดเดยวทนาจัะเกดขนในรัช่สมยของพรัะเจัาต่โล้กรัาช่ ในช่วงต่นพทธศิต่วรัรัษท � ี
























21 ดงนนรัปูแบบเจัดยวดเช่ยงมนทคงปูรัากฏอยในปูจัจับน จังนาจัะเปูนงานทสรัาง








ขึนในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที� 21 แล้้ว 5
27

2.2.4 ลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีเจัดยแปัดเหลียม




วดอนทข่ล อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่












พรัะเจัดยองคนไดรับการับรัณ์ะแล้ว





โดยกรัมศิล้ปูากรั สภาพในปูจัจับนปูรัะกอบดวยฐาน






เขียงในผู้ัง ส�เหล้�ยมรัับฐานปูทมในผู้ังแปูดเหล้�ยม












(แต่เดมนาจัะมล้กแกวปูรัะดบทองไมแล้ะยกเกจั







ดวย) สวนกล้างเปูนเรัอนธาต่แปูดเหล้ยม
โดยเหล้ียมทังแปูดปูรัะดบดวยเสาหล้อกทีปูรัะกอบ











ดวยบวเช่งแล้ะบวหวเสา กงกล้างของดานทงแปูด





มจัรัะนาปูรัะดับ โดยเฉพาะจัรัะนาด้านทศิต่ะวัน







ออกเจัาะเปูนคหาภายในปูรัะดษฐานพรัะพทธรัปู


สวนยอดเปูนช่นล้ดแปูดเหล้ยม ปูรัะกอบดวยบวถิ่ล้า












หนากรัะดานแล้ะทองไม ซึ่อนล้ดหล้นกน กงกล้าง




ของช่�นล้ดทกช่�นสันนิษฐานว่าน่าจัะปูรัะดับด้วย







ซึ่่มจัรัะนำาขนาดเล้ก เพือรัับกบแนววงโคงทีปูรัะดบ




บนองครัะฆ์งกล้ม เหนอทรังรัะฆ์งเปูนบล้ล้งกกล้ม
6














กานฉต่รั ปูล้องไฉนแล้ะปูล้ เจัดยองคนมขอ









สนนษฐานวาอาจัเปูนเจัดยบรัรัจัอฐธาต่ของ









พญามงรัายแล้ะคงสรัางขนในรัะยะแรัก ใกล้เคยงกบ










การัสรัางเมองเช่ยงใหม ในขณ์ะทีอกความเหนหนึง �


เข้าใจัว่าน่าจัะสรั้างข�นรัาวปูล้ายพทธศิต่วรัรัษ ท� 19


หรัอต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที 20


7
ภาพที� 20
เจัดยแปูดเหล้ยมวดอนทขล้ อาเภอเมอง จังหวดเช่ยงใหม ่












28


ภาพที 21






รัายล้ะเอยดงานปููนปูน วดอนทขล้





สาหรับล้ายปูนปูนปูรัะดบบนเจัดยนน







การัผู้กล้ายแล้ะเทคนคการัปูนปูนมความสวยงาม





เหนไดจัากกรัอบซึ่่มจัรัะนำา ทีมล้กษณ์ะกรัอบซึ่่ม













ทเปูนวงโคงหล้ายวงต่อเนองกนอยางเล้อนไหล้






มากกว่าซึ่มจัรัะนาเจัดยวัดปู่าสัก แล้ะวัดสองพน้อง











ทไดนาเสนอมากอนหนานเหนอกรัอบซึ่มมแถิ่ว











ใบรัะกา ปูล้ายกรัอบซึ่ม คงเปูนกล้มกรัะหนก
วงโคง นาจัะเปู็นรัปูแบบซึ่มรัาวปูล้ายพทธ






8

ศิต่วรัรัษท� 19 ล้ักษณ์ะของรัปูแบบล้วดล้าย



ปูนปูนปูรัะดบดงกล้าวถิ่อเปูนช่วงทมความ















สาคญมาก ซึ่งแสดงใหเหนถิ่งซึ่มแบบล้านนายค

















ใหม ทกรัอบซึ่มแบบหนานางทนาจัะไดรับอทธพล้







จัากศิล้ปูะสโขทยผู้สมกบล้วดล้ายในรัปูแบบของ
ศิล้ปูะล้านนาซึ่งรัปูแบบนจัะปูรัากฏ ในการั ภาพที� 22
















ปูรัะดบล้วดล้ายปููนปูนในย่คต่่อมา รัายล้ะเอยดงานปููนปูน วดอนทขล้
29





2.2.5 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีเจัดยวดอุมโอ (รู้�าง)






อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่





โบรัาณ์สถิ่านแหงนปูรัะกอบดวยเจัดย ์





แล้ะวิหารั เจัดยมสภาพช่ำารัด เรัอนธาต่ส�เหล้ยม







มซึ่มพรัะพทธรัปูทง 4 ดาน มล้วดล้ายปูนปูนปูรัะดบซึ่ม













สวนยอดพงทล้ายหมดแล้้ว อาย่สมยรัาวพ่ทธศิต่วรัรัษ



ที 21









สาหรับกรัณ์ของวดอมโอ (รัาง) ในเช่ยงใหมนน


แม้ไมปูรัากฏหล้ักฐานท�กล้่าวถิ่ึงวัดอมโอโดยต่รัง













อ.จัรัศิกด เดช่วงศิญา ไดเปูรัยบเทยบต่าแหนง






ของวดอมโอกบต่านานมูล้ศิาสนาฝ่ายวดยางควง






เช่ยงต่ง แล้ะต่ำานานมล้ศิาสนาฝ่ายวดปูาแดง เช่ยงต่ง



แล้้วเห็นว่า น่าจัะต่รังกับวัด “พันโล้” ซึ่�งเปู็นวัดท � ี

พรัะมหาธรัรัมกิต่ต่ วดนนทารัาม รับอารัธนาไปูสรั้างไว ้







ทางทศิต่ะวนต่กเฉยงเหนอ ไมไกล้จัากกาแพง







เมองเช่ยงใหม จัากการัศิกษาดานรัปูแบบสถิ่าปูต่ยกรัรัม







ในรัะยะแรักของเจัดยองคนไดกาหนดอายไว ้



9


รัาวพทธศิต่วรัรัษท 21 ต่อมาไดมการัศิกษาล้วดล้าย







ปูนปูนปูรัะดบซึ่งมการัสนนษฐานวาอาจัจัะสรัางขนใน
















พทธศิต่วรัรัษท 19 แล้ะมการัซึ่อมแซึ่มรัาวพทธศิต่วรัรัษ

10




ท 21 แล้ะจัากการัศิึกษารัปูแบบสถิ่าปูต่ยกรัรัม





แล้ะล้วดล้ายปูรัะดบของ อ.จัรัศิกดิ เดช่วงศิญา พบวา ภาพที� 23






เจัดยองคนนาจัะสรัางรัาวกล้างพทธศิต่วรัรัษท 20 เจัดยวดอ่มโอรัาง


















แล้ะไมนาจัะมการัซึ่อมแซึ่มเจัดยนอก จันเปูนสภาพรั้าง
11



มาถิ่งยคปู้จัจั่บน


30








เหต่การัณ์ครังนคงเกดขนในรัาวกล้าง





พทธศิต่วรัรัษท� 20 ความสัมพนธทางสถิ่าปูต่ยกรัรัม


่้




แล้ะพรัะพทธรัปูต่กแต่่งซึ่มจัรัะนาท�เหล้ืออยู่ของวัดอมโอ
่้




กสามารัถิ่จัดอยในยคน กล้าวคอ เปูนอาคารัเรัอนธาต่ ่















ทรังส�เหล้�ยมย�นเกจัท�งสด้าน มซึ่มจัรัะนาในแต่ล้ะด้าน








พอเหนรัองรัอยการักอซึ่่้มแบบสนโคง ซึ่งเปูนเทคนครัวม






สมัยกับการัก่อจัรัะนาสันโค้งทวิหารัเก่าวัดอโมงค ์






อารัยมณ์ฑล้ในต่วนครัเช่ยงใหม ล้วดล้ายปูนปูนเทาทเหล้อ
















อยจัะปูรัากฏเฉพาะทเสากรัอบซึ่มแล้ะเสามมผู้นง



ในช่่ดกาบบนกาบล้าง แล้ะปูรัะจัายามโดยมการัออกล้าย





ในแต่ล้ะกรัอบเปู็นรัปูดอกไม้หล้ายกล้ีบทมมผู้นงเช่นเดียว



กับทวัดปู่าสัก รัวมท�งแนวคิดในการัออกล้ายกล้ีบบัว










หวเสากมทังอทธพล้จัากวดปูาสกแล้ะจัากหรัภ่ญช่ย





การัเกดรัปูแบบล้วดล้ายปูรัะดบในงานพทธศิล้ปู ์













ล้านนา ต่งแต่ต่นพทธศิต่วรัรัษท 19 การัเกดขนของ

เมืองเช่ียงแสน เวียงกมกาม เมืองเช่ียงใหม่ จันพัฒนา

เปูนอาณ์าจักรัล้านนา โดยได้รับอทธพล้วฒนธรัรัม














ทงจัากหรัภญช่ยแล้ะอทธพล้วฒนธรัรัมจัากพกาม







ซึ่งต่วอย่างงานในยคแรักนปูรัากฏเปูนงานปูรัะเภท





ล้วดล้ายปูนปูนปูรัะดบศิาสนสถิ่านต่างๆ นอกจัากนยง





ปูรัากฏล้ายดอกบว ซึ่งมความนยมใช่ในงานปูรัะดบ












ของล้านนามากเช่นกัน ดงปูรัากฎในงานปูนปู้นปูรัะดับ










เจัดยวดปูาสกเช่ยงแสน เมอพทธศิต่วรัรัษท 19



ซึ่งคาดวาไดรับอทธพล้จัากล้ายเครัองถิ่วยจัากศิล้ปูะจัน












จันถิ่ึงต่นพทธศิต่วรัรัษท� 21 ดงล้ายคล้ายดอกบัวในงาน



ปูนปูนวดเจัดยอด (วัดมหาโพธารัาม) อาเภอเมือง





12









จังหวดเช่ยงใหม เจัดยเช่ยงยัน เมองล้าพน แล้ะเจัดย ์









วดอ่มโอ เมองเช่ยงใหม เปูนต่น

ภาพที� 24





ล้ายปููนปูนปูรัะดบเจัดยวดอ่มโอ (รัาง)



31


ภาพที 25 - 26






ล้ายปููนปูนปูรัะดบเจัดยวดอ่มโอ (รัาง)


32









แบบแผู้นการัสรั้างล้วดล้ายในยคน มกจัะปูนล้ายแบนต่ิดกบพนผู้ว โดยจัะไม่












ยกนนขนมามากนก อกทงรัะนาบของล้วดล้ายจัะเทากนหมด ล้กษณ์ะสาคญ











ต่วล้วดล้ายกาบบน กาบล้างทอยในกรัอบสามเหล้ยม แล้ะล้ายปูรัะจัายามจัะเปูน







สีเหล้ียมขนมเปูยกปููน ล้วดล้ายในกรัอบคล้้ายล้ายดอกไมขนาดใหญ แต่่เปูนล้กษณ์ะ


ของล้ายดอก 4 กล้ีบ มต่วล้ายต่รังกล้างเปู็นวงกล้มขนาดใหญ่เหมอนเกสรัดอกไม้





ล้อมรัอบดวยล้ายกรัะหนกในล้กษณ์ะของกล้บดอก สวนล้ายปูรัะเภทพนธพฤกษา





ทเปูนล้ายดอกไมจัาพวกดอกโบต่น ล้ายพนธพฤกษาในกรัอบกรัะจัก หรัอกรัอบ











ช่่องแว่น หรัืออาจัเรัียกว่าแล้ะล้ายกล้ีบบัวหรัือบัวมีไส้ เหล้่าน�ล้้วนเปู็นอิทธิพล้


ของศิิล้ปูะจันทังสิน


33

2.3



ลวดลายปั้นปััน



พิทธศิตวรู้รู้ษ์ที 20 – 21 ยค์ทองข่องล�านนา

(พิ.ศิ. 1900 - 2000)











สาหรับล้วดล้ายปูนปู้นปูรัะดบงานพทธศิล้ปูล้านนาในช่วง












พทธศิต่วรัรัษท 20 - 21 หรัอทเรัารับรักนวาเปูนยคทอง สงผู้ล้ให ้







งานช่างฝีมอแขนงต่างๆ ได้รับการัพัฒนาทกษะมากข�น ทงเทคนคการั



















ขนรัปูของล้วดล้ายดวยโครังสรัางทมการัโกล้นพนล้ายขนมารัองรับ















รัายล้ะเอยดของปูนปู้นปูรัะดบ สรัางมต่ทล้อยนนเดนยกต่วขนมาจัาก


พนอย่างนาสนใจั ซึ่งล้วดล้ายยคนไดรับแรังบนดาล้ใจัแล้ะอทธพล้















ของล้วดล้ายจัากศิล้ปูะจันทมอาย่รัะหวางพทธศิต่วรัรัษท 20 - 22








ในสมยรัาช่วงศิหยวนแล้ะรัาช่วงศิหมง ผู้านงานเครัองปูนดนเผู้า




















แล้ะเครั�องใช่ต่างๆ อนเปูนสนคาของช่นช่�นสงทมการัซึ่อขายแล้ก




เปูล้�ยนในรัาช่สานักล้้านนา โดยเกิดเปู็นล้ายเครัือเถิ่าทปูรัากฏ





ในการันามาปูรัะดบศิาสนสถิ่าน แล้ะสบต่อกนมาจันเปูนเอกล้กษณ์ ์



13




ทองถิ่น จันเปูนทีมาของล้ายเครัอล้้านนา





ล้กษณ์ะของล้ายเครัอล้านนา ทเปูนล้ายพรัรัณ์พฤกษา



ปูรัะกอบดวยกรัอบล้ายทีหยกโคง หล้ายหยัก ภายในปูรัะดบดวยล้าย









ดอกไมแล้ะใบไมทีมช่่อดอก กาน แล้ะใบคดโคง ปูรัะกอบกนจันเต่ม






14




พนท เปูนล้ายแบบฉล้โปูรัง ล้กษณ์ะของดอกเปูนดอกโบต่นทเปูน
























อทธพล้ศิล้ปูะจัน อนเปูนล้วดล้ายทพบวานาจัะเรัมไดรับความนยม
15

ในสมยพรัะเจัาต่โล้กรัาช่ในช่วงต่้นพทธศิต่วรัรัษท 21 โดยล้วดล้าย


















พทธศิล้ปูในยคนล้กษณ์ะงานปูนปู้นมกจัะมการัปูรับแบบกรัอบล้าย


ด้วยหยักโค้งแล้ะการักรัีดเส้นค หรัือการักรัีดรั่องกล้างเส้น ล้วดล้าย

ภายในกรัอบคล้ายล้ายดอกไม ขนาดใหญ ล้กษณ์ะของดอกไม ้












แล้ะใบไมทเหมอนธรัรัมช่าต่ ล้วดล้ายมมต่แต่กต่างไปูจัากงานในยค

พ่ทธศิต่วรัรัษที� 19
34

35


2.3.1 ลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีเจัดยวดปัาแดง







หลวง อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่






วดปัาแดงหลวง ถิ่อเปูนศินย์กล้าง
สาคญของพทธศิาสนานกายสหล้ หรัอ













ล้งกาวงศิใหม มมาแล้วสมยพรัะเจัาสาม






ฝงแกน ต่งอยบรัเวณ์ทางดานทศิต่ะวนออก











ของวดในสวนทมพรัะสงฆ์จัาพรัรัษา


ต่ามปูรัะวัต่กล้าววาพรัะภิกษสงฆ์ล้งกา






ไดเดนทางจัากล้ังกามาถิ่ึงเมองเช่ยงใหม ่








เมือปู พ.ศิ.1973 แล้ะเจัดยองคนีสรัางขึนในปู ี


18


พ.ศิ. 1990 โดยพญาต่โล้กรัาช่โปูรัดใหสรัาง









ขนเพอบรัรัจัอฐพรัะรัาช่มารัดาแล้ะพรัะบดา
ของพรัะองค ์ 17
ภาพที� 28






เจัดยวดปูาแดงหล้วง อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่


36


ภาพที 29













เจัดยวดปูาแดงหล้วง อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่ เจัดยองคนปูรัะกอบดวยฐานเขยงทรัง











สเหล้ยมซึ่อนกนสองช่�นแล้วเคยปูรัากฏรัูปูปูน





















เจัดยวดปัาแดงหลวง (รู้าง) เปูนเจัดย ์ ช่างล้อมองคเจัดย ล้าต่วของช่างเหล้านนต่ดกบ





















กออฐถิ่อปููน รัปูล้กษณ์ะเปูนเจัดยทรังล้งกาทียงคง ฐานเขยงทรังสเหล้ยมแต่ปูจัจับนช่ารัดหล้ดรัวง


















รัปูแบบอย่างสโขทยไดช่ด ทมฐานรับเปูนซึ่มช่าง ไปูหมดแล้ว ถิ่ดจัากฐานช่้างล้อมเปู็นฐานทรังแท่ง









แล้ะซึ่มพรัะ แล้ะมาล้ยเถิ่าทเปูนแบบบวฝาล้ะม ี รัปูสเหล้ยมยกสง เจัาะเปูนช่องซึ่มจัรัะนาเปูนกรัอบ












แล้ะบล้ล้งกทรับยอดปูล้องไฉน ล้กษณ์ะปูรัะกอบ วงโคงล้กษณ์ะคล้ายกรัอบซึ่มหนานางในศิล้ปูะ




































ของเจัดยมความสมพนธกบเจัดยช่างล้อม สโขทย โดยทช่องซึ่มนเปูนทปูรัะดษฐานของ









19


ศิรัสช่ช่นาล้ัย รัวมทงเจัดยองคอนทมช่างรัอบฐาน พรัะพทธรัปู โดยรัอบทง 4 ดาน ดานล้ะ 5 ซึ่ม




























ในทานองเดยวกนในศิิล้ปูะส่โขทย แสดงวาอทธพล้ รัวม 20 ซึ่ม ซึ่งมล้กษณ์ะคล้ายกรัอบซึ่มหนานาง


ของศิล้ปูะสโขทยยังมอยเสมอมา แมในรัะยะนน ในศิล้ปูะสโขทยทไดรับอทธพล้จัากศิล้ปูะล้งกา































กรั่งส่โขทยหมดอานาจัทางการัเมองไปูแล้้วกต่าม 18 ซึ่งอทธพล้ของเจัดยทรังรัะฆ์งแบบสโขทย






อาจัเขามาในล้านนาต่งแต่การัเขามาเผู้ยแพรั ่

พรัะพ่ทธศิาสนาของพรัะส่มนเถิ่รัะ พ.ศิ. 1912
37


ภาพที 30









ล้ายปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนา เจัดยวดปูาแดงหล้วง


ในสวนของงานปูนปูนปูรัากฎ



ในการัต่กแต่งซึ่มจัรัะนาแล้ะเสากรัอบซึ่ม










ล้กษณ์ะของซึ่มจัรัะนา ปูล้ายซึ่มทงสองขาง










ทาเปูนรัปูหางวันโดยมเสนล้วดเปูนแนว




กรัอบ บรัเวณ์ซึ่มหนานางทมล้กษณ์ะเปูน








ซึ่มโคงปูรัะดบดวยล้ายเครัอพนธพฤกษา ภาพที� 31














ต่อเนองกนไปูเปูนล้ายกานแล้ะใบไม ้ ล้ายปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนา เจัดยวดปูาแดงหล้วง







ทมล้กษณ์ะของการัผูู้กล้าย มจัดออกล้าย






เปูนดอกไม้อยสามดอก มแนวเสนล้วด เสากรัอบซึ่ม ไดคล้คล้ายมาเปูนเสาทมหวเสา
















เปูนกรัอบอยู่ด้านบน เหนือเสนล้วดขนไปู แล้ะโคนเสาในรัปูของโครังสรัางช่ดบวควา บวหงาย















เปูนล้ายพนธพฤกษาปูรัะเภทเดยวกนในรัปู การัต่กแต่งในสวนหนากรัะดานหวเสาทรับปูล้ายซึ่มทงสอง













ของซึ่มหรัอกรัะบงซึ่อนต่ดกน เทคนคการั ขางเปูนล้ายกรัอบเสนหวมวนเกยวพนกน มช่ดเสนล้วด




















ปูนปูนเปูนล้กษณ์ะเฉพาะ ของช่างในรัะยะ แล้ะอกไกค�นอยสองเส้นท�งต่อนบน แล้ะต่อนล้่างของเสา
















ดงกล้าว ซึ่งจัะมผู้ล้ ต่่อเนืองในรัะยะต่่อมา มการัต่กแต่่งเสากรัอบซึ่่มในสวนนีต่ามแนวสงของเสาดวย







โดยล้กษณ์ะของการัปู้นปูนล้วดล้ายกาน ล้ายเสนล้วดโคงภายในปูนล้ายพนธพฤกษาปูรัะกอบดวย













ดอก แล้ะใบล้งบนโกล้น เส้นล้วดรัองรับ ช่อดอกแล้ะใบเล้อย ขนไปูในแนวต่งเต่มพนท ซึ่งการั














ล้ายอกครััง ทำาใหเกดความนน - ล้กทีมมต่ ิ ผู้กล้ายดงกล้าวยงไมเคยพบรัปูแบบนีมากอน





















ของแสงแล้ะเงา ทโดดเดนกวางานช่าง



รัะยะกอนหนานี �
38

ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีโบีรู้าณสถาน



ในวดเจัดยอด




อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่









ปูรัะวต่จัากเอกสารักล้าววา กอนปู ี





พ.ศิ.1998 พรัะเจัาต่โล้กรัาช่ไดสดบธรัรัม



เรัองอานสงคปูล้กต่นโพธจัากพรัะภกษ ่












สายสงหล้ จังมความเล้อมใสแล้ะโปูรัดฯ

ใหหาสถิ่านทปูล้กพรัอมทงสรัางอารัาม











ใหเปูนทอยของพรัะมหาอต่ต่มปูญญา




20



ในปูพ.ศิ.1998 ดวยเหต่นวดนจังไดช่อวา











วดมหาโพธารัาม

นอกจัากน�ยงทรังสรั้างสต่ต่มหา-



สถิ่านไวในปูเดยวกน ซึ่งมเอกสารัรัะบ่ถิ่งการั












สรัางโบรัาณ์วต่ถิ่่สถิ่านอยางต่่อเนือง ถิ่อเปูน







วดสาคญของพรัะภกษฝายสงหล้โบรัาณ์


สถิ่านท�หล้งเหล้ืออยภายในวัดแล้ะมีล้าย











ปูนปูนปูรัะดบซึ่งเปูนขอมล้ในการัศิกษา



มดงนี �
ภาพที� 32



วดเจัดยอด จั.เช่ยงใหม ่
39





2.3.2 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีวหารู้เจัดยอด











วหารัเจัดยอดไมมหล้กฐานทรัะบช่ดเจัน ความคดคอ กล้มทเช่อวาสรัางขนพรัอมกบการั












23





สาหรับรัะยะเวล้าในการัก่อสรัาง โดยมการั สรั้างวัดเม�อพ.ศิ.1998 แล้ะอีกกล้มหน�ง เช่�อว่า











สนนษฐานกนแต่กต่างไปูใน 2 ปูรัะเดนคอ กล้มแรัก นาจัะสรัางรัาว พ.ศิ. 2020 โดยให้เหต่ผู้ล้วา



























เช่อวาเปูนงานสรัางต่งแต่กอนหรัอ รัวมสมยกบพญา ในครัาวทพรัะเจัาต่โล้กรัาช่ปูลู้กต่นโพธนน คงสรัาง



21














มงรัายครัองเมองเช่ยงใหม แล้ะยังมผู้เช่ือวาอาจัจัะ เปูนอาคารัไมพรัอมทงมหาสถิ่านอนอก 6 แหง




มีการัสรั้างมาก่อนแต่มีการัซึ่่อมในสมัยพรัะเจั้าต่ิโล้ก ล้อมรัอบ คล้ายกบสมยพรัะเจัาอโศิกมหารัาช่










รัาช่ เพ�อฉล้องพรัะพทธศิาสนาครับ 2000 ปู ี 22 ทสรัางเฉพาะอาคารัไมรัอบต่นโพธแล้ะวช่รัอาสน ์











ในขณ์ะท�กล้มทสองสวนใหญเช่อวาสรัางขนใน ต่อมาในสมยรัาช่วงศิกษาณ์ะจังสรัางวหารั
















รัช่กาล้ของ พรัะเจั้าต่ิโล้กรัาช่ แล้ะยงแยกไดอกสอง มหาโพธิ ขึนแทนที �

40


ภาพที 33 - 34






ล้ายปููนปูนปูรัะดบวหารัวดเจัดยอด จั.เช่ยงใหม ่







แล้ะเนองจัากมเอกสารัรัะบถิ่ึงการักอกาแพงล้อมรัอบ








พรัะวหารัของวดเจัดยอด ซึ่งนาย E.W. Hutchinson ไดกล้าว

วาเมื�อเขามาวดเจัดยอดเมือปูพ.ศิ. 2490 เขาไดพบกำาแพง













แกวล้อมรัอบวหารัเจัดยอดอย ต่ล้อดจันการัขดคน








ทางโบรัาณ์คดไดพบรัองรัอยของกาแพงแกวดงกล้าวดวย









เนืองจัากเหต่่ผู้ล้ดงกล้าวทำาใหเช่ือกนวา นาจัะสอดคล้้องกบ
24



ช่นกาล้มาล้ปูกรัณ์ทรัะบวาสรัางมหาวหารัในปู พ.ศิ. 2020







ดงนนรัะยะเวล้าของการัปูนล้ายปูนปูนทปูรัะดบอยางเรัว













กคอพรัอมกบการัสรัางวหารันันเอง







41





ล้ายเทวดา งานปูรัะดบผู้นงดานนอกของวหารั








เจัดยอดแบงเปูนสองช่น แต่ล้ะช่นแบงเปูนช่องสาหรับ










เทวดานง แล้ะมรัปูเทวดายนพนมมอปูรัะดบในสวนท � ี






เปูนมมจัากการัยกเกจั พนหล้งของรัปูเทวดาเหล้าน ี �











ปูรัะดบดวยล้ายโปูรังปูรัะเภทล้ายพนธพฤกษา เทวดา






ทกองคมพรัะพกต่รัแล้ะพรัะวรักายอวบอวนงดงาม





สดสวนสมบรัณ์ วงพรัะพกต่รัยาวรัคล้ายรัปูไข จังอาจั















เกียวของกบอทธพล้ของศิิล้ปูะส่โขทยทีแพรัหล้ายขึนมา









ต่งแต่เม�อต่นพทธศิต่วรัรัษท� 20 ขณ์ะท�เครัองปูรัะดับ


ต่่างๆ เช่่น มงก่ฎ กรัองศิอ สงวาล้ แล้ะภษามล้กษณ์ะ




ทีใกล้้เคยงกบทีมอยในศิิล้ปูะส่โขทยพมาแล้ะจัน












ปูรัะต่มากรัรัมปูนปูนรัปูเทวดายนพนมมอ















เพอพทกษพรัะมหาโพธ�เจัดย อาภรัณ์ต่างๆ ทปูรัะดับ






จัะไมมล้กษณ์ะซึ่ากน เปูนสถิ่าปูต่ยกรัรัมสมย




พรัะเจัาต่โล้กรัาช่แล้ะส่งอทธพล้แกสถิ่าปูต่ยกรัรัม












แล้ะศิล้ปูกรัรัมในทอนๆ ทสรัางต่อมาภายหล้งดวย






ล้ายปูนปูนรัปูดอกไม แล้ะกานเปูล้วเปูนล้ายเมฆ์ไหล้






ปูรัะดบฉากหล้งของรัปูเทวดายนปูรัะนมมอ แสดงถิ่ง
















แบบอยางล้วดล้ายทไดรับอทธพล้ศิล้ปูะจันซึ่งแฝง

เขามาในรัปูเครัองล้ายครัามจัน ในสมยรัาช่วงศิหงวน







(ปูรัะมาณ์พ.ศิ. 1803-1991) แล้ะรัาช่วงศิเหมง (ปูรัะมาณ์





พ.ศิ. 1911-2187) แล้ะล้านนาไดนามาดบแปูล้งใหม ่



จันกล้ายเปูนแบบอยางเฉพาะต่ว


ภาพที 35


เทวดาปููนปูน วดเจัดยอด จั.เช่ยงใหม ่



42



ล้ายพรัรัณ์พฤกษา สาหรับล้ายดอกไม ้






เปูนกล้มหรัอล้ายแบบช่อดอกไม ต่ล้อดจัน


ล้ายอืนๆ เช่่น ล้ายปูรัะจัำายามกามปูู ล้ายเปูล้ว







ไขมก แล้ะล้ายเมฆ์ไหล้ แสดงถิ่งอทธพล้ทมาจัาก





ล้วดล้ายต่กแต่งเครัองถิ่วยจันแบบรัาช่วงศิหยวน









แล้ะหมงแล้ว เทคนคการัปูนปูนยงนาสนใจั

เพรัาะล้ายเหล้านเรัมปูรัากฏล้กษณ์ะเดน










ของเทคนิคปููนปู�นทมีการับิดล้ายให้สะบัดพรั�ว


แล้ะล้ายแบบหอใบ ซึ่�งนาจัะเปูนเทคนคช่่างจัน ภาพที� 37










โดยเฉพาะซึ่งช่างล้านนามสวนรัวมในการั ล้ายปููนปูนปูรัะดบวหารัวดเจัดยอด จั.เช่ยงใหม ่















สรัางสรัรัคดวย เช่นล้ายเปูล้วไขมกบนผู้นง






ทมการับดล้าย สะบดพรัวอยางรันแรัง เช่นเดยว นอกจัากน ยงมงานปูนปูนในกล้ม





















กบล้ายปูรัะจัายามกานปูบรัเวณ์ทองไมของ ล้ายพรัรัณ์พฤกษา ล้ายเมฆ์ แล้ะล้ายกนกทมการั



อาคารัวหารัเจัดยอด แล้ะยงมการักรัดเสนล้อ ใช่โกล้นล้ายหน่นต่วล้าย ซึ่งทาใหต่วล้ายมความ



















ดงทพบไดในกานแล้ะใบของล้ายเครัอล้านนา นนเดนจัากผู้วพน อนเปูนเทคนคทพบมาก















ทปูรัะต่โขงวดเจัดยอด ซึ่ึงในกรัณ์ีหล้งนอาจั ในศิล้ปูะล้านนาในรัาวปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท ี �











แสดงล้กษณ์ะช่างทองถิ่นเองอยางช่ดเจัน 20 – 21 กล้มปูรัะต่มากรัรัมเทคนคการัปูน















ซึ่งแสดงถิ่งความสมพนธกบล้วดล้ายต่กแต่ง ล้วดล้ายทมการัใช่โกล้น ในกล้่มของล้ายพรัรัณ์










25





ซึ่่มจัรัะนำาทีเจัดยวดปูาแดงหล้วง ในรัะยะกอน พฤกษา ล้ายเมฆ์แล้ะล้ายกนกน มกจัะใช่การั









หนานีดวย โกล้นล้าย ซึ่งหมายถิ่งเทคนคการัปูนล้วดล้าย








ปูนปูนทมการัปูนปูนหนนเสรัมต่วล้ายใหม ี













ความนนสงเดนขนมาจัากพ�นผู้นง โดยปูนทหนน











เสรัมนเรัยกวา “โกล้น” ปูนในส่วนโกล้นน�จัะอย ่ ู





ในต่าแหน่งกล้างรัะหว่างผู้ิวผู้นังกับต่ัวล้าย








เทคนคดงกล้าวเปูนเทคนคทพบมากในยคน � ี


โดยเฉพาะงานปู้นล้ายพรัรัณ์พฤกษาเปู็นล้าย










พนฐานหล้กทพบใช่มากทสดในศิล้ปูะล้านนา



มาอย่างยาวนาน มรัปูแบบหล้ักเปู็นล้ายเครัือเถิ่า
ดอกไมทมล้กษณ์ะของดอกแล้ะใบในรัปูทรัง














ทใกล้เคยงกบใบไมต่ามธรัรัมช่าต่มากกวาทจัะ




เปูนล้ายแบบปูรัะดษฐ ดงต่วอยางทีสามารัถิ่พบ













ไดทซึ่มปูรัะต่โขงวดเจัดยอด ซึ่มปูรัะต่โขง




ภาพที 36 วดพรัะธาต่ล้ำาปูางหล้วง แล้ะกวัดเกาะกล้าง






ล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาปูรัะดบวหารั เปูนต่น


วดเจัดยอด จั.เช่ยงใหม ่



43









2.3.3 ลายปันปันปัรู้ะดับีซุ้มจัรู้ะนาอนมตเจัดย ์








อนมต่เจัดย คอหนงในบรัรัดา




“สต่ต่มหาสถิ่าน" ทพรัะเจัาต่โล้กรัาช่โปูรัดให้


สรัางขน ปูรัะกอบกบต่นมหาโพธทแยกหนอจัาก










ต่นมหาโพธทนามาจัากล้งกามาปูล้กไว ้













ณ์ วดปูาแดงมหาวหารัหรัอวดปูาแดงหล้วง






ในปูจัจับน เหต่การัณ์ดงกล้าวคงเกิดขน



26
ในปู พ.ศิ.1998 หรัอ พ.ศิ. 1999


ภาพที� 39






อนมต่เจัดย วดเจัดยอด จั.เช่ยงใหม ่







เปูนเจัดยทรังปูรัาสาทในผู้งแปูดเหล้ยม
โดยอาจัจัะนำารัปูแบบมาจัากเจัดยแปูดเหล้�ยม 27













วดสะดอเมองในครังหล้งของพทธศิต่วรัรัษท 19


พฒนาการัทเหนไดคอมการัปูรับปูรังรัปูแบบ














ทสวนบนของเรัอนธาต่ใหเปูนช่นหล้งคาอย่างเดนช่ด

















กล้างดานของช่นหล้งคาทกช่นปูรัะดบซึ่มขนาดเล้ก
สวนยอดทหกหายไปูคงต่อดวยปูล้องไฉนแล้ะปูล้ ี








เช่นเดยวกบเจัดยวดสะดอเมอง สนนษฐานวามการั




















ปูรัะดบล้ายปูนปูนทงองค ซึ่งปูจัจับนคงเหล้ออยเพยง



















ต่าแหนงเดยว คอซึ่มจัรัะนาดานทศิใต่ ซึ่งรัปูแบบ

ของล้วดล้ายแสดงถิ่งพฒนาการัของล้ายซึ่มจัากแบบ







หรัภญช่ย แบบเช่ยงแสน แบบสโขทย แล้ะแบบ




เช่ยงใหมในรััช่กาล้นี โดยล้วดล้ายซึ่่มทีเปูนเสนล้วด






อกไกขนาบดวยเมดไขปูล้านน ปูรัากฏใหเหนทงท ี �










ภาพที 38



















ซึ่่มจัรัะนำาดานทศิใต่ อนมต่เจัดย ์ รััต่นเจัดย วดกูก่ด แล้ะทีซึ่่มเจัดยวดปูาสก เช่ยงแสน










มาแล้ว แล้ะยงปูรัากฏใหเหนในซึ่มบางซึ่มทเจัดย ์




วดสะดอเมองอกดวย



44




2.3.4 ลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีซุ้มปัรู้ะต้โข่ง วดเจัดยอด


ซึ่มปูรัะตู่โขงดานทศิต่ะวนออก เปู็นปูรัะตู่กาแพง






ขนาดใหญทมล้กษณ์ะทางสถิ่าปูต่ยกรัรัมเช่นเดียวกบ

















ถิ่มณ์ฑปู สวนบนทาเปูนซึ่มแบบสนโคงซึ่งสามารัถิ่รับ








นาหนักในพ�นท�กว้างไดดีกว่าซึ่มแบบสันเหล้�อม ผู้ังเรัือนธาต่ ่















ยกเกจั 2 ช่น แล้ะมเสารับซึ่มล้ดอก 2 ช่น กออฐสอดน




แล้ะฉาบปูน ถิ่งแมวาปูรัะตู่โขงวดเจัดยอดอยในสภาพท� ี











พงทล้ายล้งไปูบางสวนแล้วกต่าม แต่จัากรัปูทรังทคงเหล้อ







ถิ่าสมบรัณ์นาจัะมล้กษณ์ะรัปูแบบคล้ายกบซึ่มปูรัะต่โขง








วดพรัะธาต่่ล้ำาปูางหล้วง จัังหวดล้ำาปูาง






การัต่กแต่งปูนปู้นทสาคญคอ สวนมมของซึ่ม













ดานขางทงสองขาง ทาเปูนโครังสรั้างล้ายแบบต่ัวเหงา


ในล้ักษณ์ะของล้ายกรัะหนกหัวมน ซึ่�งกล้ายมาเปู็นส่วนหน�ง


















ภาพที 40 ของช่อหางหงสทเกาะปูรัะดบอยทหวเสารับซึ่มทงสองขาง


ซึ่่มปูรัะต่โขงวดเจัดยอด อนจัะเปูนแบบอยางทนยมแพรัหล้ายกนอยางมาก นอกจัาก





















นยงมสวนล้ายกาบบน (บวคอเสอ) แล้ะล้ายกาบล้าง




(บวเช่งล้าง) เปูนสวนสาคญอกสวนทมการัต่กแต่งดวยล้าย
















ปูนปูนในกรัอบคดโคงรัปูสามเหล้ยม เสนล้วดกรัอบมการั











กรัดเปูนเสนเล้กๆ มล้ายพนธพฤกษาทปูรัะกอบดวยล้าย






กานใบแล้ะดอกอยภายใน มกนยมออกล้ายกานใบ






จัากดอกไมมกล้บทอยต่รังกล้างสนมมผู้นง แล้ะจัากดอก









ทอยกล้างกาบของแต่ล้ะดาน ซึ่งมรัปูแบบเทคนคการัปูน













ล้ายเช่นเดียวกบ ล้ายกรัะหนกของปูรัะจัายามกามปูแล้ะล้าย



เปูล้วไขมกทต่กแต่งวหารัเจัดยอด แสดงถิ่งล้กษณ์ะงาน











ทีรัวมสมยกน


ภาพที 41 - 42

ล้ายพรัรัณ์พฤกษาปูรัะดษฐเปูนล้ายกาบบว ั




คอเสื�อ ซึ่่มปูรัะต่โขงวดเจัดยอด จั.เช่ยงใหม ่




45


Click to View FlipBook Version