The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by มรดกเชียงใหม่, 2021-07-27 17:48:59

ปูนปั้นล้านนา งานช่างและสล่าศิลป์ ถิ่นศรัทธา







2.3.5 ลายปันปันปัรู้ะดบีพิรู้ะเจัดยหลวง
วดเจัดยหลวง







วดเจัดยหล้วงหรัอวดโช่ต่การัามวหารั ภาพที� 43












สรัางครังแรักในสมัยพรัะเจัาแสนเมืองมาเพ�ออทศิ เจัดยหล้วง วดเจัดยหล้วง จั.เช่ยงใหม ่










สวนก่ศิล้แกพญากอนาพรัะบดา โดยสรัางอยูกล้าง






เวยงใหมความสูงพอทจัะมองเห็นไดไกล้ในรัะยะ ทเหนในปูจัจับันนาจัะเปูนการักอสรัางในสมย












2000 วา แล้ะกอสรัางเสรัจัสมบรัณ์ในรัช่สมย พรัะเจั้าต่ิโล้กรัาช่ ทมีการัปูฏสังขรัณ์์พรัะเจัดย์หล้วง









ของพญาสามฝ้งแกน ครัั�งนันเรัยกวา “เจัดยหล้วง” ต่งแต่ปู พ.ศิ. 2022 โดยกอเสรัมฐานออกไปู


















เจัดยหล้วงจัะมีการับรัณ์ะปูฏสงขรัณ์ ์ เปูน 70 เมต่รั สง 90 เมต่รั แล้ะไดบรัรัจั่พรัะบรัม-





อกหล้ายครังในสมยต่อมา เช่น การัขยายฐานเพม สารัรักธาต่ ซึ่งพรัะมหาญาณ์คมภรัเถิ่รันามาจัาก




















เต่มใหกวางขวางออกไปู แล้ะอาจัมการักอเสรัมอก ล้งกาไวในสถิู่ปู พรัอมทงอญเช่ญพรัะแก้วมรักต่










ภายหล้งทพรัะเจัดยหล้วงพงทล้ายดวยสาเหต่ ่ มาปูรัะดษฐานทีองคพรัะเจัดยหล้วง











แผู้นดนไหวในปู พ.ศิ.2088 แต่สภาพของเจัดยหล้วง





46







งานปููนปูนต่กแต่่งพรัะเจัดยหล้วงเหล้ออย่บางสวน










ในซึ่มจัรัะนา เสารับซึ่ม แล้ะเศิยรันาครัาวบนใดดานทศิเหนอ










ในสวนของซึ่มจัรัะนาดานทศิเหนอซึ่งเปูนซึ่มล้ด คงเหล้อ








รัองรัอยล้ายพนธพฤกษาทเปูนล้ายเครัอมกานแล้ะใบ







ขนาดใหญ ล้กษณ์ะล้ายเช่่นเดยวกบล้ายเครัอที�มมาแต่่แรัก
















ในซึ่มจัรัะนา เจัดยวดปูาแดงหล้วง ปูล้ายซึ่มซึ่อนช่นบน







เปูนล้ายกรัะหนกขนาดใหญต่ามสดสวนของเรัอนธาต่ ่





ในสวนเสารับซึ่มล้ด มการัต่กแต่งในสวนของกาบบน






แล้ะกาบล้่าง มทงล้ายช่อกรัะหนกผู้ักกดซึ่งมช่อเปูนล้ายดอก








คล้้ายล้ายเมฆ์ไหล้ทมมเสาแล้ะออกล้ายกรัะหนกผู้ักกูด

สล้บไปูมา

ล้ายมกรัคายนาค เปูนล้ายปููนปูนต่กแต่่งรัาวบนได










ดานเหนอ โดยมล้วดล้ายต่กแต่งเหนอเศิยรันาคทาใหดคล้าย






สวมกรัะบงหนาแผู้พงพาน ซึ่งในสวนนมการัออกล้ายดอก














แล้ะเครัอกานใบปูนต่ามขอบสนกรัะบง สองขางออกล้าย



ต่ามแนวนอนมเสนล้วดคน ถิ่ดล้งมาเปูนแถิ่วล้ายดอก ถิ่ดล้ง









มาเปูนแถิ่วล้ายดอกขนาดเล้ก แถิ่วของล้ายเครัอกานใบ

แล้ะแถิ่วของล้ายเปูล้วไขม่ก

ภาพที 44 - 45

ล้ายกาบบนแล้ะกาบล้าง ล้ายพนธ่พฤกษาแล้ะล้ายกรัะหนก ปูรัะดบเจัดยหล้วง





47




2.3.6 ลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีเจัดยวดปัาตาล



อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่














วดปูาต่าล้ในทนต่งอยทางทศิเหนอ

ของเมองเช่ยงใหม เปูนโบรัาณ์สถิ่าน ทีนาจัะ






28






อยในช่วงครั�งแรักของพทธศิต่วรัรัษท� 21




รัะหวางรัช่กาล้พรัะเจัาต่โล้กรัาช่ ถิ่งสมย


พรัะเมองแกว เหต่ทกล้าววาเช่นนอาจั











พจัารัณ์าได้เปูน 2 ปูรัะการั คอทงในส่วน




ปูรัะกอบทางสถิ่าปูต่ยกรัรัมแล้ะล้วดล้าย


ปููนปูน

ภาพที� 46
ซึ่่มจัรัะนา ปูรัะดบเจัดยวดปูาต่าล้











อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่
48


ภาพที 47










ซึ่่มจัรัะนา ปูรัะดบเจัดยวดปูาต่าล้ อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่




ซึ่งเปูนเจัดยรัางทไดรับการัขดแต่งบรัณ์ะแล้ว













โดยกรัมศิล้ปูากรัเม�อปูี พ.ศิ. 2528 ข้อมล้จัากการัขดแต่่ง











ทาใหมขอสนนษฐานถิ่งรัปูแบบจันนาไปูสการับรัณ์ะ





วาสวนฐาน เปูนฐานเขยงในฝ้�งสีเหล้ียมจััต่่รััส ซึ่อนล้ดหล้ั�น






กนสามฐานรัับฐานปู้ทมล้กแกวอกไกยกเกจั สวนเรัอนธาต่่

















ยกเกจั มซึ่มจัรัะนาปูรัะดษฐาน พรัะพทธรัปูปูนปูนทงสดาน










ส่วนยอดเหนือเรัือนธาต่เปู็นช่�นมาล้ัยเถิ่าทช่ารัดไม่สามารัถิ่



หาหล้ักฐานได้ ซึ่�งเปู็นล้ักษณ์ะแบบแผู้นท�ได้รัับอิทธิพล้

จัากศิล้ปูะสโขทย สวนยอดถิ่ดขนไปูนนเปูนองครัะฆ์ง













ขนาดใหญ่แล้ะผู้ายออกไม่มบล้ล้งก เหนอทรังรัะฆ์ังต่อเน�อง









ดวยปูล้้องไฉนแล้ะปูล้ แล้ะยงไดกำาหนดอายเวล้าการัสรัาง


29





ไวรัาวพทธศิต่วรัรัษท 21 ล้วดล้ายปูนปูนทปูรัะดบนน
















ปูรัากฏเฉพาะทซึ่มจัรัะนา ซึ่งเปูนอทธพล้ของซึ่มหนานาง











ภาพที 48 แบบสโขทย แล้ะเปูนแบบแผู้นของล้วดล้ายปูนปูน
30



เจัดยวดปูาต่าล้ อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่ รัาวต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที 21 ดวย








49







2.3.7 ลายปันปันปัรู้ะดบีปัรู้ะตโข่ง วดพิรู้ะธาต ุ

ลำาปัางหลวง อาเภอเกาะค์า จัังหวดลำาปัาง






ซึ่มปูรัะต่โขงวดพรัะธาต่ล้าปูางหล้วง





เปูนล้กษณ์ะทรังปูรัาสาท คอ มหล้งคาล้าด


ซึ่อนช่ัน ล้ดหล้ันกนไปู ต่กแต่่งซึ่่มดวยล้ายพนธ ์











พฤกษาเปูนล้ายเครัอมหงสเกาะเปูนแถิ่วใน








ซึ่มช่นล้าง ปูล้ายซึ่มเปูนกนนรัหรัอกนรัฟื้อน










สวนซึ่มช่นบนเปูนหางนาคเกยว ปูล้ายซึ่มทาเปูน










ล้ายมกรัคายนาค มล้วดล้ายปูนปูนต่กแต่ง


ต่ามสวนต่างๆ ของช่นหล้งคา สวนเรัอนธาต่ ่











ต่กแต่งดวย ล้ายกาบบน กาบล้าง แล้ะปูรัะจัา
ยามอก สวนกาบบนแล้ะกาบล้่างมล้วดล้าย ภาพที� 50


ซึ่่มปูรัะต่โขง วดพรัะธาต่่ล้าปูางหล้วง




แล้ะเทคนิคเช่นเดียว กบปูรัะต่โขงวดเจัดยอดกล้่าว







คอ เปู็นล้ายเครัือล้านนาล้ายดอกแล้ะก้านใบ







ปูรัะเภทเดยวกน เทคนคปูนปูนกม โกล้นรัองรับ








เช่นกน แต่ล้กษณ์ะทพฒนาไปูมากกว่ากคอมการัใช่ ้






ล้ายปูรัะจัายาม ออกล้ายจัากดอกทก�งกล้างมม










กรัอบล้ายโคงหยก ล้ายกานแล้ะใบมทงล้กษณ์ะ





เล้ยนแบบธรัรัมช่าต่แล้ะแบบปูรัะดษฐ คอมการับด




ใบทานองเดยวกบทพบไดจัากปูรัะต่โขงวดเจัดยอด







ภาพที 49



ล้ายบวคอเสือ (กาบบน) ล้ายปูรัะจัายามอก


ปูรัะดบซึ่่้มปูรัะต่โขง

50






2.3.8 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีเจัดยวดเกาะกลาง

อาเภอปัาซุ้าง จัังหวดลำาพิ้น





เจัดยวดเกาะกล้าง โบรัาณ์สถิ่านรัาง









กอดวยอฐ สวนฐานเต่ียช่ำารั่ดทรั่ดโทรัม ผู้งอยใน


รัปูทรังสี�เหล้ี�ยมจััต่่รััสยกเกจัออกมาจัากดานทั�งสี�




เพ�อเปู็นฐานของจัต่่รัมข ส่วนกล้างคือเรัือนธาต่ ่


เปู็นแท่งทึบทรังส�เหล้�ยม ปูรัะดับเสาหล้อกทมม



ทงส มจัต่รัมขต่อย�นจัากทงสดานของเรัอนธาต่ ่























เพอเปูนจัรัะนาไว ปูรัะดษฐานพรัะพทธรัปู




ซึ่มของแต่ล้ะจัรัะนาเปูนซึ่มล้ด สนนษฐานวาอาจั













เปูนเจัดยทรังปูรัาสาทแบบหนงทเกาไปูถิ่งยค ภาพที� 51 ำ ่ ั ู



เจัดยวดเกาะกล้าง อาปูาซึ่าง จัังหวดล้ำาพน




หรัภ่ญช่ย ถิ่งรัาวรััช่สมยของพญามงรัาย 31







ล้วดล้ายปูนปู้นต่กแต่งของเจัดยวดเกาะ




กล้างท�เหล้ืออย สันนิษฐานว่าเปู็นงานบรัณ์ะ




ในครัึ�งหล้งพ่ทธศิต่วรัรัษที� 20 ถิ่งพ่ทธศิต่วรัรัษที �

21 แล้้ว อนไดแกล้ายซึ่่มล้ด แล้ะช่่ดล้ายกาบบน





แล้ะกาบล้่าง ทปูนล้ายเครัือพนธพฤกษาเทคนิค












มโกล้นรัองรับล้ายทานองเดยวกบงานปูนปูน










ในยคน สวนซึ่มช่นบนกออกล้ายเครัอทานอง












เดยวกน แต่่ทีปูล้ายซึ่่มทังสองทำาเปูนรัปูต่วกเล้น



มหางเปูนล้ายกรัะหนกหวมน เหนอซึ่่มขึนไปูเปูน




ล้ายกรัะหนก ซึ่งเปูนล้กษณ์ะทมมาแล้วต่งแต่ ่ ภาพที� 52 ั ้ ำ ี ์ ั











งานปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนา เจัดยวดเกาะกล้าง


เจัดย์วัดปู่าแดงหล้วงในต่อนต่้นรัช่กาล้พรัะเจั้า-


ต่โล้กรัาช่
ภาพที 53 - 54






งานปููนปูนปูรัะดบเจัดยวดเกาะกล้าง

รัปูเทพพนม แล้ะพญานาค ต่ามล้าดบ



51






2.3.9 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีเจัดยวดหมืนสารู้ อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่






















วดหมนสารั อกหนงวดทถิ่อเปูนวดปูรัะวต่ศิาสต่รัของเมองเช่ยงใหม ่









ซึ่งในอดต่เปูนสถิ่านทแหล้งเรัยนรัอกขรัะทสาคญ เปูนสถิ่านทแปูล้พรัะรัาช่สาสน ์


























แล้ะกเคยเปูนทจัาพรัรัษาของพรัะสงฆ์ช่นผู้ใหญ โดยวดแหงนสรัางขนในปู พ.ศิ.1981


32











สมยของพญาสามฝ้งแกน แหงรัาช่วงศิเมงรัาย ถิ่อเปูนวดนกายล้งกาวงศิ





ในสมยของพรัะเจัาต่โล้กรัาช่ ไดปูรัากฏช่ือวดในต่านานมล้ศิาสนาต่อนหนึง �




วา “...พญา(ติิโลกราช) จึึงไว้้ศาสนาแก่พุทธญาณมหาสว้ามีเจึ้า อัันอัยู่่ว้ัดหม่นสาร


33

เจึาไทตินนเป็นหลานแหงพทธญานเจึาว้ดสว้นดอักไม...” นอักจึากนในสมยู่ขอังพระเจึา













ติโลกราชนเอัง ว้ดหมนสารยู่งมคว้ามสมพนธกบว้ดป็าแดง ดงป็รากฏในติานานติอันหนง � ึ










่�





















ว้า “...ในกาลน�นอัามาติยู่์ใหญผู้หนงนามว้า หมนหนงสอัว้มละกติเป็นสงฆการนน















ไดอัาราธนาพระเจึาศลาเจึาจึากว้ัดป็าแดงมาป็ระดิษฐานในว้ัดหมนสารเพ่อัใหจึาเรญรงเรอัง


ในพระพทธศาสนาติอัไป็ภายู่หนาแล..” แต่อยางไรักต่ามช่วงรัะยะเวล้าต่อมาเกด






34



ศิกสงครัาม ทาใหวดหมนสารัเปูนวดรัาง ช่าวบานอพยพหล้บหนีไปูจัากช่มช่น































จันกรัะทงไดมการัฟื้นฟื้เมองเช่ยงใหมอกครังในสมยเจัากาวล้ะ ยคเกบผู้กใสซึ่า


เกบขาใสเมอง วดหมืนสารัไดกล้บมาเปูนศินยกล้างของช่่มช่นอกครััง โดยไดกล้มคน

















มาจัากบานววล้าย แขวงเมืองปูนล้มแมนาสาล้ะวน จังเกดเปูนช่มช่นทเจัรัญรังเรัอง





ำ�











อกครััง












เจัดยวดหมื�นสารั ในอดต่สนนษฐานวาเปูนเจัดยล้้านนาทรังปูรัาสาทฐานสง







ซึ่งไมมปูรัะวต่การัสรัางทีช่ดเจัน แต่่เมื�อปูรัะมาณ์ปู พ.ศิ. 2465 – 2466 มการับรัณ์ะ



















ครัังสาคญโดยช่่างพมา-ไทใหญ จังทาใหรัปูแบบเจัดยผู้ดเพียนไปู แต่่ยงคงงานปููนปูน








ซึ่มจัรัะนาปูรัะจัาดานไวอย่างสมบูรัณ์ ปูจัจับนเจัดยยงคงรัปูแบบทรังปูรัาสาท















มซึ่่มจัรัะนา (ของเดม) 4 ดาน ปูรัะดษฐานพรัะ 4 ดาน มต่วสงหปูรัะดบทัง 4 ดาน











ของพรัะเจัดย มบนไดทสรัางขนสาหรับใหพรัะสงฆ์ขนไปูสรังนาพรัะบนพรัะธาต่เจัดย ์































ฐานเจัดยขางหนามสงหคาบงหนงต่ว สงหอกต่วคาบคนไว มรัปูปูนของเสอเยน






ทัง 2 ดาน ซึ่งทังหมดล้้วนมความสมพนธกบต่านานเสอเยนของวดหมืนสารั ซึ่งงาน

















ปููนปู้�นท�งหมดล้้วนเปู็นเอกล้ักษณ์์ของช่าวไทใหญทมีความสวยงานแล้ะน่าสนใจัมาก




ในเช่งช่่างศิิล้ปู ์

52

ภาพที� 55



เจัดยวดหมืนสารั

53




ต่อเนองกนไปูเปูนล้ายกานแล้ะใบไม ้





ทีมล้กษณ์ะของการัผู้กล้าย มจั่ดออกล้าย




เปูนดอกไม้ มแนวเส้นล้วดเปู็นรัอบอย ู ่

ดานบน เหนอเสนล้วดขึนไปูเปูนเปูนล้าย









พนธพฤกษาปูรัะเภทเดยวกนในรัปู






ของซึ่มหรัอกรัะบังซึ่อนต่ดกน เทคนิคการั








ปูนปูนเปูนล้กษณ์ะงานเดยวกนกบ






วดปูาแดงหล้วง บรัเวณ์เช่งดอยสเทพ






โดยล้กษณ์ะของการัปูนปูนล้วดล้ายกาน

ดอกแล้ะใบล้งบนโกล้น เส้นล้วดรัองรับ

ล้ายอกครัง สนนษฐานวาเปูนล้ายทสรัาง












ขนพรัอมกบเจัดยองคเดมในช่วง







พ่ทธศิต่วรัรัษที 20

ภาพที� 56



การัปูรัะดบงานปููนปูนศิิล้ปูะไทใหญ ่






ผู้สมกบซึ่่้มจัรัะนายคล้้านนา เจัดยวดหมืนสารั



ในสวนของล้วดล้ายปูนปู้นทปูรัากฏ เปูนการั






ปูนปูรัะดบซึ่มจัรัะนาเหนอโขงปูรัาสาทพรัะเจัา








ดวยงานปูนปูนเทคนคโกล้นล้าย ล้กษณ์ะของซึ่ม






จัรัะนา ปูล้ายซึ่มทงสองขางทาเปูนรัปูหางวน










โดยปูล้ายซึ่มเปูนรัปูมองหรัอสงห กเล้น แล้ะหงส ์
















ซึ่�งทาใหคิดถิ่ึงกิเล้นทวัดเกาะกล้าง จั.ล้าพูน ซึ่มมีเส้น




ล้วดเปู็นแนวกรัอบ บรัิเวณ์ซึ่มหน้านางทมล้ักษณ์ะ ภาพที� 57












เปูนซึ่มโคงปูรัะดบดวยล้ายเครัอพนธพฤกษา งานปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนายคล้้านนา








เจัดยวดหมืนสารั

54

ภาพที� 58


งานปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนา ำ


ยคล้้านนา เจัดยวดหมืนสารั













ดวยขอสนนษฐานดงกล้าว อาจัจัะกล้าวไดวา




ล้ายปููนปู�นซึ่มจัรัะนาเจัดยวัดหม�นสารั คือล้ายปููนปู�น






ในพ่ทธศิต่วรัรัษที� 20 ซึ่งมรัปูแบบคล้้ายกบปููนปูนเจัดย ์







รั้างวัดปู่าแดงหล้วงเช่ิงดอยสเทพ เพียงแต่่เจัดย ์










วดหมนสารั ไดรับการับรัณ์ะกอนการัมกฏรัะเบยบ





จัากกรัมศิล้ปูากรั จังสามารัถิ่ต่อเต่ิมรัปูแบบเจัดย ์












ไดในช่วงรัะยะเวล้ากอนหนาน แล้ะโช่คดทอยบรัเวณ์















ช่มช่นจังมการัทานบารังเรัอยมาจันยงเปูนวดทมช่วต่




จันถิ่งท่กวนนี�






ถิ่าล้ายปูนปูนปูรัะดบจัรัะนาวดหมนสารั










มอายอยในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที� 20 จัรังดงขอสนนษฐาน







ของผู้เขยน อาจัจัะกล้่าวไดวาล้วดล้ายดงกล้าวได ้



ภาพที� 59


รัอดต่าย แล้ะมช่วต่รัอดหน�งเดียวในล้้านนาทยังคง งานปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนายคล้้านนา














ทาหนาทใหกบวดทมช่วต่ ถิ่กรักษาสบทอดจันถิ่งปูจัจับน เจัดยวดหมืนสารั























แล้ะหล้ดรัอดสายต่าจัากนกวช่าการัด้านปูรัะวต่ศิาสต่รั ์

ศิล้ปู เพรัาะถิ่กหล้อกต่าดวยขอทวาเปูนเจัดยทรังพมา-
















ไทใหญ ทีถิ่กบรัณ์ะครัั�งใหญเมือปู 2465 ซึ่งถิ่อเปูนเรัือง








ทโช่คดมาก ทช่างยคนนยังเหนความสำาคญแล้ะให้เกยรัต่ ิ


















สล้าช่างรั่นเก่า โดยไม่ทบหรัอพอกล้ายทบงานปูนปู้น







โบรัาณ์แล้ะเปูล้ยนเปูนล้ายปูนปูนศิล้ปูะพมา - ไทใหญ ่



ไปูหมดสิ�น
55



2.3.10 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบี
เจัดยวดโลกโมฬีี







อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่


วดโล้กโมฬี สรั้างโดยพญาเมือง-
เกษเกล้้าโปูรัดให้ในปูี พ.ศิ.2071 ต่่อมา




ใหสรัางมหาเจัดยแล้ะวหารัวดโล้กโมฬี ี


35

ในปูี พ.ศิ.2088 เม�อพญาเกศิถิู่กล้อบปูล้ง




พรัะช่นมล้งขารัาช่การัขนนางไดถิ่วาย

พรัะเพล้งแล้วนาพรัะบรัมอฐ มาบรัรัจัไว ้








ทวดโล้กโมฬีในนอกเมองเช่ยงใหม ่



ดานเหนอ




เจัดยวดโล้กโมฬี เปูนเจัดย ์





ทรังปูรัาสาททมขนาดสงโดยการัเพมฐาน ภาพที� 60















ปูทมบวล้กแกวขนอกช่นหนงเหนอฐาน เจัดยวดโล้กโมฬี อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่



















เขยง เรัอนธาต่เปูนรัปูสเหล้ยมยนเกจั










ไมยสบ ปูรัะดบดวยเสาองทมมเรัอนธาต่ ่









แต่ล้ะดานของเรัอนธาต่ต่กแต่งงาน




ปูนปูนรัปูเทวดายนปูรัะนมหต่ถิ่ ซึ่งในช่วง







ปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท� 21 ความนิยมสรั้าง


ปูรัะต่มากรัรัมท�เล้ยนแบบจัากเทวดา














วดเจัดยอดนนมอยทวไปู นอกจัากนมการั
ต่กแต่งท�ซึ่มล้ดท�งสทศิ โดยต่กแต่งด้วยล้าย
















เครัอล้กษณ์ะใกล้เคยงกบซึ่มดานขาง



ของปูรัะต่โขงวดเจัดยอด ปูล้ายซึ่มทาเปูน









หงสหนศิรัษะเขามายงจัรัะนำา เหนอซึ่่มทำา







เปูนล้ายกรัะหนกหวมนมเปูล้ว สวนซึ่่มช่ัน









บนทา เปูนล้ายเครัอล้านนามยอดเปูน ภาพที� 61 - 62


กรัะบงเช่นกัน ทปูล้ายซึ่มทาเปูนนาค เทวดาปููนปูน ปูรัะดบเจัดยวดโล้กโมฬีี จัังหวดเช่ยงใหม ่














5 เศิียรั มล้ายในวงกล้มเปู็นต่ัวต่่อล้าย





รัะหวางล้ายเครัอกบล้ายเศิยรันาค


ซึ่งมความสวยงามแล้ะนาสนใจั


56








2.3.11 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีเจัดยวดเจัดลน



หรู้อหนองจัลน อาเมอง จัังเชุยงใหม ่











วดเจัดล้น ปูรัากฎช่อในนรัาศิหรัภญช่ย


ทเขยนขนในปู พ.ศิ.2060 ซึ่งรัปูแบบเจัดย ์


















วดเจัดล้นมโครังสรัางทไดรับอทธพล้การักอฐาน







ปูทมซึ่อนช่นมาจัากเจัดยวดโล้กโมฬีิ โดยอาจัสรั้าง




ขนในสมยทาวแมก (พรัะเมกฏวสทธวงศิ ครัองรัาช่ย ์











พ.ศิ.2094-2101) ซึ่งกล้าวถิ่งการัท พรัะองค ์






เสดจัมาสรังนาพรัะทวดเจัดล้น เมอครัาวทา









พธรัาช่าภเศิกขนครัองเมองเช่ยงใหมในปู ี








พ.ศิ. 2094 ภาพที� 65
เจัดยวดเจัดล้น
















เจัดยวดเจัดล้นยงคงเหล้อสวนปูนปูน



ต่กแต่งในสวนกาบบนแล้ะกาบล้างของเสา





ปูรัะดบซึ่มแล้ะเสามมเรัอนธาต่ รัวมทงบรัเวณ์






ใต่ซึ่มจัรัะนาดวย โดยเทคนคการัปูนยงคงม ี









การัโกล้นรัองรับล้ายปูนปูนอย เช่นเดยวกบ











ทปูรัากฎมาต่�งแต่สมัยพรัะเจัาต่โล้กรัาช่แล้ว






ล้วดล้ายมล้กษณ์ะเปูนล้ายเครัอล้านนา



ทมการัออกล้ายกานขดแล้ะใบจัากล้ายดอก



ก�งกล้างต่รังมมเรัือนธาต่ มีการัออกแบบ



ภาพที� 63 ล้ายกรัะหนกหวมนทมเปูล้วสะบดเปูนการั










งานปููนปูนล้ายพรัรัณ์พฤกษา ปูรัะดบบวกาบบนแล้ะกาบล้าง

จับล้ายกรัอบเสนล้วด

ภาพที� 64


งานปููนปูนปูรัะดบบวกาบบนแล้ะกาบล้าง



57

ภาพที� 66









2.3.12 ลายปันปันปัรู้ะดบีฉากหลงพิรู้ะปัรู้ะธาน วหารู้วดเชุยงยน ล้ายปููนปูนปูรัะดบฉากหล้งพรัะปูรัะธาน





อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่ วหารัวดเช่ยงยน

















วดเช่ยงยน มความสาคญเปูนวดปูรัะจัาเมองเช่ยงใหม ่






จัะสรัางขนในสมยใดไมมปูรัากฏหล้กฐานทช่ดเจัน แต่ทมการัสนนษฐาน













กนวาสรัางในสมยพญามงรัาย ครังสรัางเมองเช่ยงใหม วดเช่ยงยน























ถิ่อเปูนวดสาคญทีเปูนทีต่ังอนเปูนทศิมงคล้ของเมองเช่ยงใหม โดยเมือ








ครั�งเกิดศิึกสงครัามแมทัพจัะทาการัสักการัะพรัะพทธสัพพัญญู ู



กอนแล้ะหล้งทาศิกสงครัามเพอใหรัอดพนจัากภยพบต่ทงหล้าย



















นอกจัากนี�ยงเปูนวดที�เจัาผู้ครัองเมององคใหม ถิ่อเปูนปูรัะเพณ์ในการั






สกการัะพรัะพทธสพพญญู พรัะปูรัะธานศิักดสทธภายในพรัะวิหารั









ก่อนเข้าสพรัะรัาช่วังทางปูรัะต่ช่้างเผู้ือก โดยเรั�มต่�งแต่่สมัย








พรัะไช่ยเช่ษฐาธรัาช่ (พรัะญาอปูปูโย) ซึ่งถิ่อเปูนปูรัะเพณ์สบทอด






กนมาจันถิ่งสมยพรัะเจัากาวล้ะ




58










พรัะสพพญญูเจัา ปูรัะดษฐานภายในวหารัเปูนพรัะพทธรัปู




ปูางมารัวช่ยขดสมาธรัาบวสด่ปููนปูนทารัักแล้้วปูดทอง มขนาดหนาต่ก










กวาง 3.40 เมต่รั พ่ทธล้กษณ์ะเปูนศิิล้ปูะสมยเช่ยงแสน ซึ่งสนนษฐาน







วาสรัางขึนรัาวพ่ทธศิต่วรัรัษที 21



ในส่วนของล้วดล้ายปููนปู�นทปูรัากฏ เปู็นการัปู�นปูรัะดับ




ซึ่มจัรัะนาฉากหล้งพรัะสพพญญูเจัา ดวยงานปูนปูนเทคนคโกล้นล้าย



















กอนปูนล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาเปูนรัปูดอกโบต่น สล้บกบใบเครัอ




ล้้านนา ปูล้ายซึ่มเปู็นรัปูหงส์ ต่กแต่่งด้วยกรัะจักจัืนสีต่่างๆ ทารััก













แล้วปูดทอง ซึ่งงานปูนปูนดงกล้าวเมอพจัารัณ์าเปูรัยบเทยบแล้ว




สนนษฐานวาสรัางขึนในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที 24 เช่่นกน







ภาพที 67

ล้ายปููนปูนปูรัะดบจัรัะนา




ฉากหล้งพรัะปูรัะธานในวหารัวดเช่ยงยน





59

2.4



ลวดลายปั้นปัันพิทธศิตวรู้รู้ษ์ที 22 - 24



ยค์พิมาปักค์รู้องส้ล�านนายค์เสือม (พิ.ศิ. 2100 - 2300)












ในช่วงพทธศิต่วรัรัษท 22 - 24 ถิ่อเปูนยคเสอมของล้านนา เนองจัากพมา












เขายดครัองล้้านนารัะหวางปู พ.ศิ. 2101 - 2317 ทาใหล้้านนาออนแอ แล้ะเกด







ความวนวายจัากการัแยงช่งอานาจัดวยกนเองกบทงพมาแล้ะกรังศิรัอยธยา









36


สงผู้ล้ใหงานศิิล้ปูกรัรัมต่่างๆเรัิมเสือมถิ่อยล้ง เปูนเวล้า 200 กวาปู ี





สาหรับรัปูแบบแล้ะล้กษณ์ะเดน ทแสดงถิ่งความพยายามทจัะสบสาน










แบบแผู้นแล้ะฝมอของช่่างในย่คทองเมือช่่วงกอนหนานี การัสรัางงานพ่ทธศิิล้ปู ์














จังไดมโอกาสไดรับการัสนบสนนจัากผู้ปูกครัองในการัทจัะสามารัถิ่สรัางงาน
















ต่ามแบบขนบจัารัีต่ เหต่ผู้ล้หน�งทมสวนททาใหเกดการัสรั้างงานแบบยคทอง









มาสูยคดงกล้าวนีกคงเนืองมาจัากธรัรัมเนยม “การักล้ปูนา” ซึ่งยงไดเอือต่่อการั









สรัางงานพทธศิล้ปูโดยทอทธพล้อานาจัทางการัเมืองแล้ะการัปูกครัองจัะเขามา






ครัอบงำาได












ดงนนการัสบทอดฝมองานช่างศิล้ปูกรัรัมอนเนองในพทธศิาสนา




ยงปูรัากฏให้เหนในช่วงปูล้ายรัาช่วงศิ์มงรัายมาอีกรัะยะหน�ง กล้าวคอเปูนการัใช่ ้



















เทคนคการัปูนแปูะต่ดล้งไปูบนพนทปูรัะดบนนเล้ย โดยไมมการัโกล้นปูนเปูนฐาน

รัองรัับ ซึ่งเปูนเหมอนล้กษณ์ะงานในช่่วงต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที 21 ดงนันจัะเหนได ้




















วารัปูแบบของล้วดล้ายทออกแบบปูรัะดบต่กแต่งสวนใหญแล้วจังดแบนต่ดพน








ผู้นงทสรัางงานอย ดงปูรัากฏถิ่งการัปูรัะดบต่กแต่งบรัเวณ์ซึ่มจัรัะนา แล้ะสวนของ














เรัอนปูรัาสาท เช่นกรั้างต่างๆแถิ่วเมืองล้าพน กพรัะเจัาล้านทอง วดพรัะธาต่-





















ล้าปูางหล้วง ซึ่มปูรัะต่โขงวดปูาต่นหล้วง ซึ่มปูรัะต่โขงวดไหล้หนหล้วงแกวช่างยน








จัังหวดล้าปูาง เปูนต่น

60



2.4.1 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีมณฑปั

พิรู้ะเจั�าล�านทอง วดพิรู้ะธาตลำาปัางหลวง

อาเภอเกาะค์า จัังหวดลำาปัาง






มณ์ฑปูพรัะเจัาล้้านทอง ไมไดมการัรัะบ่






ช่ดวาสรัางขนเมอไหรั ต่อมหล้กฐานจัารัก









ทปูรัากฎภายในวหารัวดพรัะธาต่ล้าปูางหล้วง





ว่าเจั้าเมืองล้าปูางให้หล้่อพรัะเจั้าล้้านทองท�อย ่ ู

ภายในมณ์ฑปูมในปู พ.ศิ. 2106

ภาพที� 68 - 69

ล้ายปููนปู�นปูรัะดับมณ์ฑปูพรัะเจั้าล้้านทอง

วดพรัะธาต่่ล้ำาปูางหล้วง
ทีมาของภาพ. หอภาพถิ่ายล้้านนา





เปูดเขาไปูสพรัะเจัาล้านทองได โดยเทคนค









การัปู�นปูนค่อนข้างจัะแต่กต่างไปูจัากงาน







ปููนปูนในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที 21 คอไมมการั


ทาโกล้นรัองรับล้าย หากใช่วธปูนแปูะล้งไปู















มณ์ฑปูพรัะเจัาล้านทอง มรัปูแบบ เปูนล้ายเล้ย ซึ่งล้วดล้ายปูนปูนเปูนล้ายสต่ว ์




โครังสรั้างปูรัาสาทต่ามแบบซึ่มปูรัะตู่โขง มีการั หมพาน เช่่น พญาล้วง มกรัคายนาค 5 เศิยรั











ปูรัะดบล้วดล้ายปูนปูนต่ามช่นฐานถิ่งช่นหล้งคา แล้ะล้ายหงสเปูนต่น สล้บผู้กล้ายพนธพฤกษา























ทรังปูรัาสาทซึ่อนกน 5 ช่น โดยเฉพาะในสวน ไดอยางมช่นเช่ง สวนเรัอนธาต่ช่ดกาบบน







เรัอนธาต่จัะต่กแต่งในสวนกาบบน กาบล้าง แล้ะ กาบล้าง แล้ะปูรัะจัายามอก เปูนล้ายเครัอ










ปูรัะจัายามอก แต่ล้ะด้านของเรัือนธาต่่มซึ่มล้ด ล้านนา ล้กษณ์ะกานแล้ะใบจัะแบนต่ิดพน






ทังสีทศิ ซึ่่มดานต่ะวนออกเปูนจัรัะนำา ผู้นง





61




2.4.2 ลายปันปั�นปัรู้ะดบีมณฑปั


พิรู้ะธาตจัอมทอง อาเภอจัอมทอง

จัังหวดเชุยงใหม ่


จัากต่านานพรัะบรัมธาต่ ่
จัอมทองกล้าวไววา พญาแกวโปูรัดให ้






มหาเถิ่รัฟื้าหล้งมาสรัางวดทจัอมทอง








เพอปูรัะดษฐานพรัะบรัมธาต่ในปู ี



พ.ศิ. 2060 ซึ่งจัากล้กษณ์ะล้วดล้าย







ปูนปูนของมณ์ฑปูซึ่งต่างไปูจัากงานปูน




ปูนในรัะยะนน หากมเทคนคการัปูน








แล้ะการัต่กแต่งล้วดล้ายเหมอนกบ



มณ์ฑปูพรัะเจัาล้านทอง วดพรัะธาต่-





ล้าปูางหล้วง ทงในสวนฐาน สวนเรัอน






ธาต่ แล้ะสวนหล้งคา ซึ่งอาจักาหนดให ้





งานปูนปูนองคพรัะธาต่จัอมทองอยรั่วม




สมัยกับมณ์ฑปูพรัะเจั้าล้้านทอง คืออยใน









รัาวต่นพทธศิต่วรัรัษท 22 ซึ่งอาจั เปูนผู้ล้



งานบรัณ์ะปูฏสังขรัณ์์ในยคพม่าเข้าครัอง
37
ล้้านนาแล้้ว




การัปูรัะดบล้วดล้ายปูนปูน

มณ์ฑปูพรัะธาต่จัอมทองในสวนของต่ว ภาพที� 70



เรัอนธาต่ จัะต่กแต่งดวยล้ายกาบบน มณ์ฑปูพรัะธาต่่จัอมทอง









แล้ะกาบล้าง ต่ล้อดจันล้ายซึ่มล้ดทงสทศิ อาเภอจัอมทอง จัังหวดเช่ยงใหม ่









แล้ะล้ายเทวดาทมมเรัอนธาต่ทงสมม









ล้กษณ์ะล้ายเครัอล้านนาทงในสวน




กาบบน กาบล้าง แล้ะสวนต่กแต่่งซึ่่มล้ด


จัะมปูรัมาต่รัล้ายไมมากอยางล้วดล้ายใน







ยคทองล้านนาท�มการัใช่โกล้นรัองรับ



ล้ายกานแล้ะใบทีเหมอนธรัรัมช่าต่ ิ



62


สวนกาบบนแล้ะกาบล้่าง กรัอบล้าย









ทมหยกสองหยกสงเกต่เหนไดช่ดเจัน




แล้ะล้วดล้ายทเปูนใบไมปูรัะดษฐมากกวา



ล้ักษณ์ะก้านแล้ะใบ แสดงให้เห็นถิ่ึงคล้ีคล้าย


สบเนองมาจัากล้ายดอกไมในยคทองล้านนา





เช่่นล้ายดอกไมในซึ่่มปูรัะต่โขงวดเจัดยอด






นอกจัากน�เทคนิคการัปูรัะดับปููนปู�น



มณ์ฑปูพรัะธาต่จัอมทอง มการัปูนล้าย


ใหดล้อยต่วโดยเฉพาะในสวนซึ่มล้ดช่นล้าง











ปูนล้ายเครัือล้านนาโดยการัปู้นล้ายไปูบน




โครังโล้หะ ซึ่งเทคนคดงกล้าวเปูนเทคนค





ทีช่่างพมานยมกน




ภาพที� 71 - 72


รัายล้ะเอยดงานปููนปูน


ซึ่่มจัรัะนาปูรัะดบมณ์ฑปูพรัะธาต่่จัอมทอง


63


ภาพที 73














ภาพถิ่ายวหารัวดไหล้หน 2.4.3 ลายปันปันปัรู้ะดบีซุ้มปัรู้ะตโข่งวดไหลหน

อาเภอเกาะค์า จัังหวดลำาปัาง




ซึ่มปูรัะต่โขงวดไหล้หน มอายในรัาวปู พ.ศิ.2226









ต่ามปูรัะวต่ทเขยนอยบนแผู้นไมใน วหารั ซึ่งต่วซึ่มโขง



















ไดอทธพล้ดานรัปูแบบจัากวดพรัะธาต่่ล้ำาปูางหล้วง แต่่การั


ล้ดช่�นยอดแล้ะล้ายต่กแต่่งปูรัะดับมน้อยกว่าเพรัาะเปู็น










วดเล้ก แล้ะทนาสนใจัคอช่างยคนไดมการันาเทคนคเซึ่รัามค








(เครัืองปูนเคล้อบดนเผู้า) มาทดแทนในสวนของล้ายปููนปูน













เช่นต่าแหนงของกรัอบโค้งซึ่มแล้ะช่นต่างๆของยอดปูรัาสาท

ปูรัะดบดวยเซึ่รัามคทถิ่กปูนเผู้าเคล้อบเปูนช่นๆ แล้วนามา














ต่ดปูรัะดบ

64










ในสวนของล้ายปูนปูนนนไดแกสวนล้าย
กาบบน กาบล้าง แล้ะปูรัะจัายามอก ซึ่งคล้คล้าย












มาจัากซึ่มปูรัะต่โขงวดพรัะธาต่ล้าปูางหล้วง
แล้ะช่ดต่กแต่งซึ่มล้ดโดยซึ่มล้ดช่นล้างต่กแต่ง


















ดวยล้ายกนรักนนรั มรัปูแถิ่วหงสแล้ะล้ายเครัอ


ล้านนาเปู็นล้ายต่กแต่ง สวนซึ่มช่นบนเปู็นรัปู








มกรัคายนาค ต่ามแบบแผู้นโครังสรัางแล้ะสวน


ปูรัะกอบซึ่่้มปูรัะต่โขงทัวไปู
ภาพที� 74 - 79





เซึ่รัามกปูรัะดบ ซึ่่มปูรัะต่โขงวดไหล้หน


65

ภาพที� 80


เจัดยวดปู้นสาด (รัาง)








2.4.4 ลายปันปันปัรู้ะดับีเจัดยวดปันสาด (รู้าง) อาเภอเมองเช่ยงใหม ่









อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่








เจัดยวดปูนสาดเปูนเจัดยรันหล้ง



พทธศิต่วรัรัษท 21 ล้งมา เมอศิล้ปูะเช่ยงใหม ่









ไดคล้คล้ายรับเอารัปูแบบต่างๆ มาผู้สมผู้สาน





แล้ะพฒนาเปูนรัปูแบบเจัดยทรังปูรัาสาท ทีมความ






นาสนใจั
66






จัากการัขดแต่งกอนการับรัณ์ะของกรัมศิล้ปูากรั พบวา














ไดสรัางครัอบเจัดยทรังกล้มไวภายใน ซึ่งผู้ขดแต่งสนนษฐานวา










เปูนเจัดยทรังกล้มทีไดรัับอทธพล้จัากศิิล้ปูะส่โขทย โดยรัปูแบบ
38






ของสวนยอดเปูนการัผู้สมผู้สานกนรัะหวางหล้งคาล้าดกบช่นล้ด





โดยมทรังเจัดยขนาดเล้กปูรัะจัาทกล้างดานของช่นล้ด










แล้ะคาดวาสรัางขนรัาวปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท 21 หรัอครังแรัก







39




ของพทธศิต่วรัรัษท 22 อยางไรักต่ามมความเหนทแต่กต่าง










วานาจัะสรัางขนรัาวปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท 21 มากกวา โดยอธบาย









จัากล้กษณ์ะของส่วนฐานซึ่ึงปูรัะกอบด้วยฐานเขยงซึ่อนล้ดหล้�น











กนรับฐานปูทมล้กแกวอกไกยกเกจัแบบซึ่อนกนสองฐาน










ถิ่ดไปูเปูนช่นล้ดรับเรัอนธาต่ในผู้งสเหล้ยมยกเกจั จัากล้กษณ์ะ









ของสวนฐานเปูนฐานทพฒนาของฐานเจัดยในเมองเช่ยงใหม ่





ต่ังแต่่รัาวกล้างพ่ทธศิต่วรัรัษที 21 ล้งมา ต่ล้อดจันการัล้ดขนาด



ล้งของความล้กของม่มเรัอนธาต่่ ทำาใหพืนทีวางดานบนล้ดขนาด







ล้งไปูดวย แต่ยงสามารัถิ่ปูรัะดับรัปูจัาล้องทมมแล้ะทกงกล้าง














ของดานได ซึ่งรัปูแบบนีนาจัะพฒนามาจัากมณ์ฑปูทรังปูรัาสาท






ทายวหารัล้ายคาวดพรัะสงหวรัมหาวหารั ซึ่งกาหนดอายไว ้









40
รัาวปูล้ายพ่ทธศิต่วรัรัษที 20

จัากแบบแผู้นส�งก่อสรั้างจัะเห็นว่าในส่วนฐานยังม ี



รัปูแบบล้านนาด�งเดมคอ ปูรัะกอบฐานหน้า กรัะดานใหญ่







สีเหล้ียมสง รัองรัับฐานหนากรัะดานเล้กยอเกจัสามช่ัน กอขึนไปู













เปูนฐานบวล้กแกวยอเกจั 2 เสน รัอบรับฐานเขยงไมมบว





เรัอนธาต่่ยอเกจัสง ซึ่่มจัรัะนำาปูรัะดษฐานพรัะพ่ทธรัปูทัง 4 ทศิ














แล้ะปูรัะดบล้วดล้าย ปูนปูนในสวนกาบบนแล้ะกาบล้าง






อยางสวยงาม เหนือเรัอนธาต่ใหญ่เปูนบวถิ่ล้าจันถิ่ึงเรัอนธาต่ ่





ยอสวนรัองรัับ ล้ดหล้ั�นกนขึนไปูอก 3 ช่ัน มเจัดยจัำาล้องปูรัะดบ













ทมมทงส รัวมทงกล้บขนนแล้ะหนาบนจัาล้องดวย แบบแผู้น











เช่นนเปูนแบบแผู้นของปูรัางค์ ซึ่งเพงจัะนามาผู้สมผู้สาน







ในสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมล้้านนาเปูนแหงแรัก 41

67





สาหรับล้วดล้ายปูนปูนนน มล้กษณ์ะ










ทสืบเน�องแล้ะคล้�คล้ายมาจัากล้ายปููนปู�น




ต่กแต่งวหารัเจัดยอด แล้ะปูรัะต่โขงของ

วดเจัดยอดอย่างช่ดเจัน ล้ายดอกไม้หล้ายกล้ีบ







ต่กแต่่งใต่ซึ่่มโคง หรัอล้ายกรัะหนกหวมนที�ม ี

เปูล้วสะบัดในสวนกาบบนแล้ะกาบล้่าง





สวนหนาบนจัาล้องเปูนการัยอสวนของ


ซึ่มจัรัะนาข�นไปูปูรัะดับ ล้ักษณ์ะของล้วดล้าย















แล้ะเทคนคการัปูนนนใกล้เคยงกบล้ายปูนปูน







ภาพที 81 ทสรัางขนรัาวปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท 21









งานปููนปูนปูรัะดบ เจัดยวดปู้นสาด (รัาง) เช่นล้ายปููนปู�นปูรัะดับเจัดย์วัดโล้กโมฬี ี



42

ทีสรัางขึนรัาว พ.ศิ.2071


ภาพที� 82




งานปููนปูนปูรัะดบ เจัดยวดปู้นสาด (รัาง)



68



2.4.5 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีก้ปัาลาน


อาเภอเมอง จัังหวดลาพิ้น




กปูาล้านเปูนโบรัาณ์สถิ่านทรัง





มณ์ฑปูปูรัาสาทกออฐฉาบปูน สวนฐาน











เปูนหนากรัะดานรัูปูทรังสเหล้ยม ถิ่ดขนไปู



เปูนบวยกเกจัมล้กแกวอกไกปูรัะดบ










รัองรับต่ัวเรัอนธาต่ ทางทิศิต่ะวนออกปูรัะดับ







ซึ่มจัรัะนำา ในซึ่มเจัาะเขาไปูเพ�อเปูนท ี �
ปูรัะดษฐานพรัะพทธรัปู ถิ่งแมวาซึ่มจัรัะนา









ดงกล้าวจัะพังทล้ายไปูพรั้อมกบสวนยอด





ปูรัาสาทไปูแล้ว แต่พอยังปูรัากฏรั่องรัอย


ของล้วดล้ายปูนปูนใหเหนถิ่งเทคนคหารั











กอซึ่มไดช่ดเจัน นอกจัากน�อกสามด้าน ภาพที 84









ทเหล้อจัะเปูนซึ่มทบ ซึ่งผู้นงซึ่มทางดานทศิ ล้ายปููนปูนผู้นงซึ่่มทางดานทศิต่ะวนต่กแล้ะเหนอ










่้


่้





ต่ะวนต่กแล้ะเหนอยงคงมล้วดล้ายปูนปูน ปูรัะดบกู่ปูาล้าน









ปูรัะดบใหเหนอยางช่ดเจัน


ล้วดล้ายปูนปู้นต่กแต่งของกปูรัาสาท














หล้งน สนนษฐานวาสรัางขนในหล้งพทธศิต่วรัรัษ
43



ที 22 ล้งมา ซึ่งเทคนคการัปูนล้ายนันเปูนล้กษณ์ะ











ของการัปูนแปูะโดยไมมโกล้นรัองรับล้าย




โดยภาพรัวมปูนเปูนล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาในสวน
ของกาบบนแล้ะกาบล้าง แล้ะยงปูรัากฏล้วดล้าย


พรัรัณ์พฤกษาแบบล้ายต่อก้าน ปูนภายในกรัอบล้าย



บรัเวณ์เรัอนธาต่ แล้ะล้ายเมฆ์ไหล้กานบด













ซึ่งสามารัถิ่เปูรัยบเทยบไดกบล้ายดอกโบต่นแล้ะ




ล้ายเปูล้วขามกปูรัะดบวหารัวดเจัดยอด นอกจัากน ี �


ภาพที 83 ยงมล้ายเสนล้วด ไขปูล้าปูรัะดบโดยทัวไปู เพือเปูน










ล้ายปููนปูนผู้นงซึ่่มทางดานทศิต่ะวนต่ก










แล้ะเหนอปูรัะดบกูปูาล้าน ล้ายกาหนดขอบล้ายทีช่ดเจัน


69

ภาพที� 85 - 86




ล้ายปููนปูนปูรัะดบกูทายวหารั


วดยางหล้วง อาเภอแมแจัม





2.4.6 ลายปันปันปัรู้ะดบีกทายวหารู้วดยางหลวง











อาเภอแมแจัม จัังหวดเชุยงใหม ่



กปูรัาสาททายวหารัวดยางหล้วง เปู็นศิล้ปูะ








ล้านนาทผู้สมผู้สานกับศิล้ปูะพมาแบบเมืองพกาม









หรัอเล้ยนแบบพกามทผู้านมาทางเช่ยงแสน







แล้ะมาผู้สานกบศิล้ปูกรัรัมแมแจัม ซึ่งคงเกดขน


ภายหล้ังท�พรัะยากาวล้ะเจั้าผู้ครัองเมืองเช่ียงใหม ่






ไดรั่วมมือกับกองทัพจัากกรังเทพฯ ต่ีเมืองเช่ียงแสนท � ี





พมายดครัองอยแต่กในปู พ.ศิ.2347 แล้ะมการั



กวาดต่อนเทครััวช่าวเช่ยงแสนมายงเช่ยงใหม เพื�อมให ้




พมาสามารัถิ่ใช่เช่ยงแสนเปูนฐานต่งมนกองทพได ้










อกต่่อไปู 44
70




กปัรู้าสาททายวหารู้วดยางหลวง






แสดงใหเหนโครังสรัางสถิ่าปูต่ยกรัรัมพมา

ทเมองพกาม ซึ่งผู้านมากบช่างเช่ยงแสน ในรัะยะ











ท�พม่ายังยึดครัองเช่ียงแสนอย่รัาวต่้นพทธศิต่วรัรัษ












ท 24 เหนไดจัากการัจัดวางซึ่มจัรัะนาแล้ะซึ่ม ปูกนก






สองขาง ซึ่งมซึ่มโคงขนาดใหญซึ่อนอยเหนอ











ซึ่มจัรัะนา ซึ่งศิล้ปูะล้านนาไมนยมทา ล้กษณ์ะ ล้วดล้ายปูนปูนแสดงถิ่งความพยายาม


















เช่่นน�เทียบไดกับสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมพม่าแบบพกาม เล้ยนแบบล้ายพนธพฤกษาหรัือล้ายเครัือล้านนา





ซึ่งจัะกล้บมาเปูนทนยมกนอกครังในรัาวต่น ในช่ดกาบบนแล้ะกาบล้่างจัากเมองเช่ยงใหม ่


















พทธศิต่วรัรัษท 24 ซึ่งกปูรัาสาทหล้งน ช่างไดนาเอา หรัอล้ำาปูาง หรัอเล้ยนแบบแมแต่่เทคนคปููนปูน




















ล้วดล้ายปูนปูนต่กแต่งแบบต่างๆ มาใช่รัวมกนได ้ ทพยายามปูนโกล้นสงรัองรับต่วล้าย แต่ล้าย


















อยางล้งต่วมเอกล้กษณ์ ทงล้วดล้ายแบบล้วดล้าย กานดอกแล้ะใบ ทเทอะทะแล้ดเสมอนจัรัง














ปูนปูนแบบพมา-เช่ยงแสน แล้ะสกล้ช่างเช่ยงใหม ่ จันกรัะดางกแสดงออกถิ่งรัะดบฝมอช่างทองถิ่น


















แล้ะล้าปูาง ผู้สมกบล้วดล้ายแล้ะเทคนคฝมอช่าง ในยคหล้งยครังเรัองของล้้านนาแล้้ว


แมแจัมในต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที� 24



ภาพที 87


ล้ายปููนปูนปูรัะดบซึ่่ม กูทายวหารัวดยางหล้วง






71
71



2.4.7 ลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีก้มณฑปัโบีรู้าณ



วดถวาย อาเภอหางดง จัังหวดเชุยงใหม ่



กมณ์ฑปูโบรัาณ์น ในอดต่เปูนก ู ่












ปูรัาสาททายวหารัหล้งเดม คาดวาสรัางขน




รัาวพทธศิต่วรัรัษท 24 ปูจัจับนช่าวบาน




เรัยกวา กเกาโบรัาณ์ หรัอ โขงโบรัาณ์












พรัะเจัาหกนว เปูนโบรัาณ์สถิ่านรัาง กอดวย


อฐ สวนฐานเต่ยช่ารัดทรัดโทรัม ผู้งอยใน













รัปูทรังส�เหล้�ยมจัต่รััสยกเกจัออกมาจัาก



ดานทงสาม โดยสวนหล้งยอดปูรัาสาท









จัะต่ดกบผู้นงวหารั สวนกล้างคอเรัอนธาต่ ่



เปูนแทงทบทรังส�เหล้ยม เจัาะช่องเฉพาะ









ดานหนาเพอปูรัะดษฐานพรัะพทธรัปู






ปูรัะดบซึ่มจัรัะนาปูล้ายหางวน ซึ่มของแต่ ่




ล้ะจัรัะนาเปูนซึ่มล้ด ต่อดวยช่นปูรัาสาท










2 ช่ันกอนจัะจับดวยยอดแบบกล้บมะเฟื้้อง



ล้วดล้ายปูนปู้นต่กแต่งของก ู ่


ปูรัาสาททายวหารัหล้งน สนนษฐานวาสรัาง









ขนในพทธศิต่วรัรัษท 24 ล้งมา เพรัาะยงคง














เทคนคการัปูนโกล้นรัองรับกอนปูนล้ายทบ





แต่ล้วดล้ายดังกล้าวไมล้ะเอยด รัวมถิ่ง






สดสวนของโครังสรั้างกปูรัาสาทท�ยงไม ่







ล้งต่ว ซึ่งเมอเทยบกบยคทองคงอยคนล้ะ












ช่วงเวล้ากน แต่นาจัะเปูนย่คต่อมาทนามา
สการัฟื้นฟื้สรัรัพวทยา โดยยงคงนาเอา









เทคนิคการัโกล้นล้ายกล้ับมาใช่อีกครั�ง









กอนทยคต่อมาจัะเปูนเทคนคการัปูนแปูะ



ไปู ซึ่งสงเกต่ได้จัากล้ายซึ่มล้ดแล้ะช่ดล้าย









กาบบนแล้ะกาบล้าง ทปูนล้ายเครัอพนธ ่ ์




พฤกษาเทคนิค มโกล้นรัองรับล้ายทานอง

ภาพที 88 - 89 เดยวกบงานปูนปูนในช่วงพทธศิต่วรัรัษ










กูมณ์ฑปูโบรัาณ์ วดถิ่วาย ท 23 - 24 ล้งมา ซึ่งปูจัจับนมสภาพ








อาเภอหางดง จัังหวดเช่ยงใหม ่



ทรั่ดโทรัมมากแล้้ว
72

ภาพที� 90 - 93




รัายล้ะเอยด งานปููนปูนปูรัะดบกูมณ์ฑปู วดถิ่วาย









73





2.4.8 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีก้พิรู้ะเจั�า วดปัาซุ้างงาม





อาเภอปัาซุ้าง จัังหวดลาพิ้น


วดปูาซึ่างงาม ต่ามปูรัะวต่วดแจังวาสรัางเมอ









ปูีพ.ศิ.2380 เดิมเปู็นวัดรั้างต่อมาครัูบานันทา
เดนธ่ดงคมาจัากเมองยอง สบสองปู้นนา แล้ะไดมา








บรัณ์ะอาคารัศิาสนสถิ่านรั้างเหล้านแล้ะไดสรัาง





45





ถิ่าวรัวต่ถิ่่ขึนใหมต่ังแต่่นันเปูนต่นมา เช่่น หล้วงพอ




พรัะงาม พรัะปูรัะธานในวหารัซึ่งสรัางใหมครัอบองค ์







เดมใต่ฐานพรัะปูรัะธานมพรัะพทธรัปูอกสององค ์


พรัะพทธรัปูโบรัาณ์สนนษฐานสรัางสมยพรัะเจัา-









กาวล้ะหรัอกอนกวานน เปูนพรัะปูรัะธานวิหารั





หล้งเดมต่อมาไดสรัางวหารัหล้งใหมจังสรัาง
















พรัะปูรัะธานองคใหมขึนสวนสอง พรัะคูบ่ญไดสรัาง




เปูนอ่โมงคครัอบไวทีเดม ภาพที� 94 - 95






ล้ายปููนปูนปูรัะดบกูพรัะเจัา วดปูาซึ่างงาม


74


ล้วดล้ายปูนปูนทปูรัากฏ ได้สรัางขน












ต่กแต่งของกปูรัาสาทท้ายวหารัเกาหล้งน � ี










สนนษฐานวาสรัางขนในพทธศิต่วรัรัษท 24







ล้งมา เทคนคการัปูนแบบปูนแปูะ แต่เนน










เนอปูน เพอใหมขนาดเสนทใหญเพอใหเกด





ความนูน รัวมถิ่งสัดส่วนของโครังสรั้างก ู ่

ปูรัาสาททยงแปูล้กแล้ะเปู็นล้กษณ์ะ









เฉพาะกล้ม ซึ่งเหนไดจัากล้ายซึ่่มจัรัะนาเปูน







ซึ่มนาคเกยว แล้ะช่ดล้ายกาบต่�งปูรัะดบ









ปูรัาสาท แล้ะล้ายเช่งช่ายทเปูนล้กษณ์ะ





ของล้ายกนกล้านนา ทปูนล้ายเครัอพนธ ์ ่





พฤกษา ซึ่�งน่าจัะเปู็นงานปูนปู�นในช่่วง



พทธศิต่วรัรัษท� 24 ล้งมา ซึ่�งปูจัจับันก ู ่







ปูรัาสาทดงกล้าวถิ่กแทนแกวพรัะปูรัะธาน



องคปูจัจับนสรัางบงทบไว จันไมสามารัถิ่เหน









รัายล้ะเดยดของซึ่่มจัรัะนาไดช่ดเจัน



ภาพที� 96

ล้ายปููนปูนปูรัะดบกูพรัะเจัา วดปูาซึ่างงาม







ภาพที 94 - 95 ภาพที� 97





ล้ายปููนปูนปูรัะดบกูพรัะเจัา วดปูาซึ่างงาม






ล้ายกรัะหนก ปูรัะดบกูพรัะเจัาวดปูาซึ่างงาม

75

2.5








ลวดลายปั้นปัันพิทธศิตวรู้รู้ษ์ที 24 - 25 ยค์ฟื้้นฟื้้






เปูนรัะยะเวล้าของการัฟื้นฟืู้บานเมองหล้งจัากทแควนล้านนา





ไดล้มสล้ายหล้งจัากยคพมาปูกครัอง ดนแดนล้้านนากล้ายเปูนเมองรัาง















ในช่วงรัะยะเวล้าหนง กอนจัะมการักวาดต่อนผู้คนต่างเมองมอยอกครัง














กอใหเกดรัปูแบบศิล้ปูะพนบานทหล้ากหล้าย รัวมถิ่งรัปูแบบงาน


















พทธศิล้ปูล้านนาแขนงต่างๆ ซึ่งเกดจัากการักวาดต่อนผู้คนมาไวใน








เมองเช่ยงใหม ล้าพน ล้าปูาง กอเกดความหล้ากหล้ายทางช่าต่ิพนธ ์ ่











ทมความสมพนธกนอย่างใกล้ช่ดกบช่าวล้านนา ทงช่าต่พนธกะเหรัยง



















หรัอยาง ไทล้ื�อ ไทเขน แล้ะไทใหญ ซึ่งเปูนยค “เกบผู้กใสซึ่า เกบขา



ใสเมอง” ของการัฟื้นฟื้บานเมองทจัาเปูนจัะต่องเกณ์ฑผู้คนมารัวมกน

















บรัณ์ะสภาพสงคมวฒนธรัรัมแล้ะเศิรัษฐกจั ภายใต่การัปูกครัองรัะบอบ





จัารัต่ทีจัะต่องเปูนปูรัะเทศิรัาช่ของสยาม










้�




งานช่่างจังมการัฟื้นฟื้เกดขนรัวมไปูถิ่งงานทศินศิล้ปูสาขาต่างๆ




งานพทธศิล้ปู์ จัากหล้ักฐานช่่วงเวล้าดังกล้่าวเปู็นการัรัวบรัวมช่่างฝมือ











จัากหวเมองสาคญโดยเฉพาะช่างจัากเมองเช่ยงแสน ทกอนหนาน ี �










ไดเปูนศินยกล้างการัปูกครัองเมอครังทอยภายใต่การัปูกครัองของพมา










โดยช่างกล้มนไดมบทบาทในการัสรัางงานในยคฟื้นฟื้ขนต่ามหวเมอง












สาคญของล้านนา เช่น เมองล้าปูาง เมองเช่ยงใหม เมองล้าพน












เมืองแพรั่ แล้ะเมืองน่าน อันเปู็นทีรัูจัักกันดีในนาม “สก่ล้ช่่างเช่ียงแสน”


กอเกดการัสรัางงานยคใหมทกหวเมอง โดยเฉพาะเทคนิคงานล้ายคา










ทีปูรัากฏบนงานพ่ทธศิิล้ปู เช่่นหบธรัรัม ธรัรัมมาสน เปูนต่น




นอกจัากนนยงมกล้มช่างอนทสาคญในล้านนายค “เกบผู้กใสซึ่า


























เกบขาใสเมอง” ทมบทบาทสำาคญในการัสรั้างงานศิล้ปูกรัรัมในท้องถิ่น










ทต่นได้เข้ามาต่�งถิ่�นฐาน โดยการัสรั้างงานน�นมท�งการัคงรัักษาเอกล้ักษณ์ ์

รัปูแบบของต่นเอาไว้ ดังเช่่น กล้มช่่างไทล้ื�อ ที�เข้ามาต่ั�งถิ่�นฐานในบรัิเวณ์








เมองพะเยาแล้ะเมืองนาน ต่ล้อดจันกล้่มช่างทมการัผู้สมผู้สาน


แล้ะเกดพฒนาการัทางดานรัปูแบบแล้ะฝมอจันเปูนเอกล้กษณ์ใหม ่









ในเวล้าต่่อมากคอ ช่่างช่าวยองในเมองล้าพน เปูนต่น
46







76




นอกจัากน�นในช่่วงเวล้าดังกล้่าว อิทธิพล้ แล้ะช่าวพม่าโดยต่รังในเวล้าน�น ซึ่งศิล้ปูะพม่า


















จัากศิล้ปูะจันไดเขามามบทบาทในดนแดนสยาม ทเกดขนจัะมล้กษณ์ะทงการัสรัางงานแบบ

ซึ่งกอนหนานเคยไดรับมาบางแล้วในสมยกรัง ปูรัะเพณ์ีนยม ช่วงยคสมัยรัาช่วงศิ์คองบอง



























ศิรัอยธยาแล้ะล้านนา โดยไดรับความนยมมากทสด หรัอ มณ์ฑเล้ย เช่น มณ์ฑปูทรังปูรัาสาท
49










ในบรัรัดางานช่างอ�นๆ คอ ล้วดล้ายปูรัะดับ ซึ่งสวน วดพรัะแกวดอนเต่าสช่าดารัาม อโบสถิ่แล้ะจัอง






ใหญจัะพบในล้กษณ์ะทมการัผู้สมผู้สานรัะหว่าง วดศิรัช่่ม เปูนต่น




ศิล้ปูะรัต่นโกสนทรัผู้สมกบศิล้ปูะจัน เพรัาะช่วง









เวล้าดงกล้าวนสยามได้มการัต่ดต่อคาขายกบจัน รัปูแบบล้วดล้ายทไดรับความนิยมในช่วง



















เปูนหล้ก จังทาใหเกดรัปูแบบศิล้ปูกรัรัมแบบ กล้างพทธศิต่วรัรัษท� 25 คอล้วดล้ายผู้สมผู้สาน








ผู้สมผู้สานท�งสวนทมอยกอนหนานแล้ะสวนท ี � กนรัะหว่างศิล้ปูะต่ะวันต่กแล้ะศิล้ปูะจัน
















47











ทยอยแพรัหล้ายเขามาสมทบเปูนรัะยะ ถิ่งแมวา ททางสยามนิยมในช่วงเวล้าก่อนหนานทเรัยกวา









เมอเรัมปูรัากฏวฒนธรัรัมต่ะวนต่กแพรัหล้ายเขามา “ล้ายเทศิ” สงผู้ล้ต่อรัปูแบบล้ายพรัรัณ์พฤกษา




















ล้วดล้ายแบบจันกยงคงอย ทงทเปูนเอกเทศิ ทมรัปูแบบเปูนล้กษณ์ะของดอกไม้ล้ายปูรัะดิษฐ ์












แล้ะผู้สมผู้สานปูะปูนกล้มกล้น จันเปูนรัสนยมอยาง มากขน จันไมสามารัถิ่รัะบสายพนธกรัรัมได ้


ไทยทแยกแยะไดไมงายนก ดงต่วอยางสาคญ ทงในล้กษณ์ะของใบ เครัอเถิ่า ดอกไม ทมการั



























ซึ่งแพรัหล้ายอยางยงในรัช่สมยรัช่กาล้ท 3 คอ ผู้สมผู้สานกนจันเปูนล้ายในรัปูแบบใหม ่





48





ล้วดล้ายปูรัะดบทเรัยกวาล้ายเทศิ ทมแบบแผู้นของ ทีไมจัากดช่ือเรัยกอกต่่อไปู










การัสรั้างล้วดล้ายด้วยล้ักษณ์ะก้านต่่อดอก




หรัอพนธ่พฤกษา อยางไรักต่ามล้ายเครัอเถิ่ายงเปูนทนยม








แต่จัะเปูนล้ายปูรัะดษฐรัปูทรังคล้ายใบเทศิ









สาหรับในวฒนธรัรัมล้านนา ยงมปูจัจัย บางรัปูแบบจัะมล้กษณ์ะของล้ายกรัะหนกใบเทศิ










ในการัสรัางสรัรัคล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาในงาน เข้าไปูผู้สม ส่วนดอกไมทนิยมยังคงเปู็นล้าย


พ่ทธศิิล้ปูทีนาสนใจัอยอกปูรัะการัหนึ�ง คอ ในช่่วง ดอกบว แต่จัะเปูนล้กษณ์ะของล้ายปูรัะดษฐ ์

























ดงกล้าวอทธพล้ช่าต่ต่ะวนต่กไดแผู้ขยายเขามาส ่ ู มากขน เช่น ล้ายดอกบวบาน ล้ายดอกบวต่ม















อาณ์าจักรัสยาม โดยเฉพาะในวัฒนธรัรัมล้านนานน ซึ่งจัะมล้กษณ์ะคล้ายดอกโบต่นแล้ะคล้ายล้ายพม





อทธพล้ศิล้ปูะต่ะวันต่กได้เขามามีอทธพล้โดยผู้าน กรัะหนกใบเทศิในศิิล้ปูะรััต่นโกสนทรั ์ 50




ทางศิล้ปูะพมาแล้ะไทใหญ่ นบวาเปูนพฒนาการั














ของรัปูแบบงานพทธศิล้ปูในช่วงพทธศิต่วรัรัษท 24



ดงเรัาจัะพบวารัปูแบบล้วดล้ายการัปูรัะดบงาน





พทธศิล้ปูในล้านนา มปูรัากฏการัสรัางงาน



ศิาสนสถิ่านแบบพม่า-ไทใหญ่ โดยทช่างเขามา










พรัอมกบกจัการัสมปูทานปูาไมของช่าวต่ะวนต่ก
77









อกหนงสงทเกดขนในช่วงพทธศิต่วรัรัษน� ี จันถิ่งรัาวพทธศิต่วรัรัษท 24 อทธพล้จัากศิล้ปูะ













คอการัผู้สมผู้สานกับรัปูแบบล้วดล้ายจัากศิล้ปูะ รัต่นโกสนทรัโดยเฉพาะงานศิล้ปูกรัรัมทง ในสวน















ต่ะวนต่กทผู้านมาทางศิล้ปูะพมายคสมยมณ์ฑเล้ย ์ ของสยาม ทงในสวนของกล้มช่าต่พนธ กมอทธพล้
















พรัอมกนกบวสดแล้ะเทคนิคงานปูรัะดบกรัะจัก มากขนในล้านนา เช่น ล้ายปูนปูนเช่งเสาวหารั
















ไดแผู้กรัะจัายแล้ะไดรับความนยมในช่วงเวล้าน � ี จัากวดช่างคา จังหวัดนาน ล้ายปูนปู้นวดปูรัาสาท






















นาไปูสการัคล้คล้ายล้วดล้ายใหม ทเปูนทนยม จัังหวัดเช่ียงใหม่ ล้ายปููนปู�นวัดช่่างฆ์้อง จัังหวัด





แล้ะรัจักกนในช่อของล้าย “ดอกขะนด” เช่ยงใหม เปูนต่น นอกจัากนแล้วการัเขามา














“ล้ายต่าขะหนด” หรัอทรัจักคอ สปูปูะรัด ต่งถิ่นฐานของช่าวพม่าหรัอไทใหญ กไดมการัสรัาง
























ทมการัผู้กล้ายปูรัะกอบกบกานใบเทศิโดยใบ งานปูนปูนศิล้ปูะพมาแบบมณ์ฑเล้ยขนในหล้าย














มล้กษณ์ะเปู็นขอบหยักสะบดมวน ทมการัผู้สม พนท ดงนนต่วอยางงานปูนปูนในยคน จังเปูน


























ผู้สานกนรัะหวางใบแล้ะดอกในศิล้ปูะจันกบศิล้ปูะ ล้ักษณ์ะงานปูรัะต่ิมากรัรัมท�ได้รัับการัผู้สมผู้สาน


ต่ะวนต่ก จัากหล้ายช่นช่าต่ิ ท�งจัากสยามต่ามแบบแผู้น





ภาคกล้าง จัากจัน จัากพมา แล้ะจัากช่นช่าต่พนธ่ ์

หล้งจัากเช่ยงใหมสญเสยอานาจั ต่างๆทถิ่กกวาดต่อนเขามาอย่ในดนแดนล้านนา





















การัปูกครัองให้แกพมาต่งแต่ ปู พ.ศิ. 2101 ไมวาจัะเปูนไทล้อ ไทเขน ไทยอง ซึ่งมรัปูแบบ


















เปูนต่นมา ถิ่งแมวาอทธพล้ทางศิล้ปูกรัรัมพม่า งานทีเปูนอต่ล้กษณ์์เฉพาะต่ว จังถิ่อไดวายคนีเอง











จัะไมมผู้ล้ต่อศิล้ปูกรัรัมล้านนามากนก เนองจัาก งานปูนปูนแบบล้านนาคล้าสสิคไดจับล้ง แต่ยงคง























ล้านนามศิล้ปูกรัรัมท�เขมแขงกวา แต่ความเจัรัญ เปูนล้านนาในแบบพหวฒนธรัรัมมาจันถิ่งปูจัจับน














ทางดานศิล้ปูกรัรัมนาจัะหยดช่ะงกล้งไปู การัสรัาง











งานพทธศิล้ปูจัาพวกงานปูนปูน กเปูนการัสรัาง
โดยช่างฝมอในแต่ล้ะทองถิ่นทมรัปูแบบแต่กต่าง













กนไปูต่ามความช่านาญของช่างแล้ะกรัะแส



ความนิยมในท้องถิ่�น เปู็นหล้ัก ซึ่�งยังไม่สามารัถิ่








จััดแบงแยกกล้มรัปูแบบไดช่ดเจันมากนก
78









ซึ่งรัปูแบบดงกล้าวนาจัะไมนาจัะเปูน










ซึ่มโขงทสรัางขนพรัอมกบการัซึ่่อมรัาว พ.ศิ.2406










เพรัาะมรัปูแบบทใกล้เคยงกบซึ่มโขงอโบสถิ่
51

วดพรัะสิงหทสรัางขนรัาวพ.ศิ.2355 มากกว่า






ทจัะเปูนรัปูแบบทสบทอดจัากซึ่มโขงรัาว















พทธศิต่วรัรัษท 22 - ต่นพทธศิต่วรัรัษท 23




ดงนนอาจัเปูนไปูไดวาเปูนซึ่มโขงทมมาอยกอน












52



พ.ศิ.2406 แล้้ว สาหรัับล้วดล้ายปูรัะดับซึ่มโขงน�น








มล้ายดอกสล้บกานแนวทแยงกล้บใกล้เคยงกบ






ล้ายปูนปูนปูรัะเภทเดยวกนของซึ่มโขงอโบสถิ่









วดพรัะสงห คงสรัางพรัอมกนกบอโบสถิ่





เมอพ.ศิ.2355 อยางไรักต่ามล้กษณ์ะของล้าย

ปูรัะเภทอนพบวามความแต่กต่างออกไปูทงใน










เรัองของรัปูแบบแล้ะเทคนค ซึ่งควรัจััดเปูนกล้ม







ช่างอกกล้มหนง ดงนนปูรัะเด็นทเกยวกบซึ่มโขง





















แล้ะล้ายปูนปู้นปูรัะดับของซึ่มโขงวหารัล้ายคาอาจั

2.5.1 ลวดลายปันปันปัรู้ะดบีซุ้มปัรู้ะตโข่ง จัะสนนษฐานไดวา โครังสรัางของซึ่่มโขงแล้ะล้าย
















วหารู้ลายค์า วดพิรู้ะสงหวรู้มหาวหารู้ ปูนปูนปูรัะดบ อาจัสรัางขนรัาวพทธศิต่วรัรัษท 24















อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่



ต่ามหล้กฐานเอกสารักได ้




ซึ่มโขงหนาปูรัะต่ทางเขาออกวหารั


ล้ายคา เสากรัอบปูรัะต่ยกเกจั 2 ช่น ปูรัะกอบดวย









ฐานเสาแล้ะหัวเสาซึ่ึงมล้กษณ์ะคล้ายฐานปูทม









ทปูรัะกอบดวยหนากรัะดาน ล้วดบว ล้กแกวอกไก ่

ทองไม แล้ะปูากแล้ วงโค้งของกรัอบซึ่มจัรัะนา




ช่นล้างปูล้ายกรัอบซึ่มรัปูต่วเหงา ดานหนาปูรัะดบ










ด้วยรัปูหงส์ วงโค้งหยักของกรัอบซึ่ม เกิดจัากล้าย




ปูนปูนมากกวาจัะเปูนโคงทเกดจัากโครังสรั้าง












ของกรัอบ กรัอบซึ่มจัรัะนาช่นบนเปูนล้าต่ว











ของมกรัคายนาคทมหางเกยวกรัะหวดกนดานบน





เหนอล้าต่วเหยียบดวยขาของปูรัะต่ิมากรัรัม





ทสวนล้าต่วหกหายไปู สวนยอดของซึ่มโขงเปูนช่น











ล้ดรัปูฐานปูทมล้กแกวอกไกยกเกจัซึ่อนกนสาม








ช่ันต่่อดวยยอดรัปูดอกบวต่ม ภาพที� 98 - 99

ซึ่มปูรัะต่โขงแล้ะล้วดล้ายปูนปู้น วหารัล้ายคา วดพรัะสิงห ์








วรัมหาวหารั

79



2.5.2 ลวดลายปั้นปัันปัรู้ะดบีหน�าบีน




และซุ้มปัรู้ะต้โข่งอโบีสถสองสงฆ์์


วดพิรู้ะสงหวรู้มหาวหารู้




อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่








ต่านานพนเมองเช่ยงใหมกล้าววา









อโบสถิ่วดพรัะสงหเรัมสรัางในปู พ.ศิ.2349

โดยพรัะยาธรัรัมล้ังกาอปูรัาช่เมืองเช่ยงใหม่


ในขณ์ะนน แล้ะทาบญฉล้องพรัะมหาอโบสถิ่







ในปู พ.ศิ.2355 โดยมพรัะยากาวล้ะ

53



เปูนปูรัะธาน อโบสถิ่สองสงฆ์วางต่ัวในแนว







เหนอใต่ มแผู้นผู้งเรัมต่นจัากรัปูสเหล้ยมยกเกจั











ออกทงดานหนาแล้ะดานหล้งดานล้ะ 2 ช่วง






ด้านหน้าแล้ะด้านหล้ังมมขโถิ่ง มบันไดทางข�น







ทงสองดานรัวมถิ่งซึ่มปูรัะต่โขงทงทศิใต่ ้







แล้ะทศิเหนอทีมการัปูรัะดบล้ายปููนปูน










สวนบนหนาบนแล้ะเสานนมเฉพาะ


หนาบนแล้ะเสาดานทศิเหนอ สาหรับ
















ดานทศิใต่นนเปูนล้ายแกะสล้กไม ซึ่งมการั



ทารักปูดทองทงสองดาน ล้กษณ์ะของล้าย





ปููนปู�น ทปูรัะดับหน้าแหนบด้านทศิเหนือ








กมล้กษณ์ะรัปูแบบท�ใกล้เคยง กบล้าย






แกะสล้กไมทางดานทศิใต่ แต่่มความแต่กต่่าง






ในเรัองรัายล้ะเอยดเล้กนอย ซึ่งคงเกดจัากการั










ใช่เทคนคทต่างกน ดงนนจังควรัเปูนงานทสรัาง










ขึนพรัอมกน

ภาพที� 100




ซึ่่มปูรัะต่โขงอ่โบสถิ่สองสงฆ์์ วดพรัะสงหวรัมหาวหารั


80

ภาพที� 101



จัรัะนาซึ่อนช่ัน ซึ่่มปูรัะต่โขงอ่โบสถิ่สองสงฆ์์


วดพรัะสงหวรัมหาวหารั








งานปูนปูนดงกล้าว เปูนล้กษณ์ะงานปูนแปูะ






ดวยล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาปูรัะกอบกบล้วดล้ายสต่ว ์









ปูาหมพานต่์ เช่น มอม สงห หงส์ กเล้น เปู็นต่น









นอกจัากนเสาของซึ่มปูรัะต่โขงมการัปูนล้ายบวกาบ
บนแล้ะกาบล้่าง โดยล้กษณ์ะงานปูนปู้�นเปูนรัปูแบบ





ทีมาต่รัฐานในยคนี �

ภาพที� 102 - 103



ปููนปูนซึ่่มปูรัะต่โขงอ่โบสถิ่สองสงฆ์์

วดพรัะสงหวรัมหาวหารั




81






2.5.3 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีหอไตรู้ วดพิรู้ะสงหวรู้มหาวหารู้

อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่








หอไต่รัวดพรัะสงหวรัมหาวหารัสรัางขึนเมือปู พ.ศิ. 2355 54










แต่ต่อมากมการัซึ่อมอกหล้ายครังแล้ะการัซึ่อมครังสดทายคอการั












ซึ่อมเม�อปู พ.ศิ.2469 ครัาวท�พรัะบาทสมเด็จั พรัะปูกเกล้า-

55
เจัาอยหว เสดจัพรัะรัาช่ดำาเนนมามณ์ฑล้พายพ




















ล้กษณ์ะเปู็นอาคารัทรังส�เหล้ยมผู้นผู้า 2 ช่น ช่นล้างกออฐ

ถิ่อปูน ช่�นบนเปู็นไม มงหล้งคากรัะเบองดนเผู้าหนหนาไปูทาง


















ต่ะวนออก บนไดทางขนดานหนาเปูนรัปูมกรัคายสงหบนแทน



ขางล้ะ 1 ต่ว ซึ่่มปูรัะต่ทางเขาในสวนหนาบนเปูนบ่ษบกซึ่อนกน














5 ช่น แกะสล้ักล้วดล้ายปูนปู้นพรัรัณ์พฤกษา พญานาคแล้ะปูรัะดับ





กรัะจักส สรัางเปูนอาคารัครังต่กครังไม ผู้นงดานนอกปูรัะดบ


















ดวยทวยเทพปูนปูน ทาเปูนรัปูเทพพนมยืน บางกเหาะปูรัะดบ


อยโดยรัอบ
ปูรัะมาณ์ พ.ศิ.2476 เจั้าแก้วนวรััฐไดซึ่่อมแซึ่มข�นใหม ่













ทฐานหอไต่รัปูนเปูนล้ายล้กฟื้กล้ดบว ภายในปูรัะดบดวยรัปูสต่ว ์










หมพานต่์ เช่น นางเงือกมปูก คช่สีหมปูก กเล้น เปู็นต่น แล้ะมี



ล้ายปูรัะจัายามล้กษณ์ะคล้ายล้ายสมยรัาช่วงศิเหมงของจัน




โดยรัอบผู้นงดานนอกอาคารัช่นล้างปูรัะดบดวยล้ายปูนปูน

















รัปูเทวดา แล้ะเทพนมจัานวน 16 องค สต่วหมพานต่ อาท สงห ์











ช่าง กเล้น ปูล้า กวาง นกยง คช่สห เหมรัาช่ แล้ะนรัสงห เปูนต่น
82


ภาพที 104








หอไต่รัวดพรัะสงหวรัมหาวหารั ในสวนของล้วดล้ายทปูรัะดบหนาบน รัวมทง









เสา ฝายอย แล้ะผู้นงของม่ขหอไต่รั เปูนล้ายทีซึ่อมขึน







ครัังใหญรัาวปู พ.ศิ. 2469 แล้ะอาจัมการัซึ่อมเพิ�มเต่ม





อกครังสาหรับล้ายทหล้ดรัวงไปู รัปูแบบล้วดล้ายปูนปูน









เปูนล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา แล้ะล้วดล้ายดอกปูรัะดษฐ์





ปูรัะดบซึ่มปูรัาสาทมขหนาบน มการัต่กแต่งดวยกรัะจัก







จัืน ทารักแล้วปูดทอง ซึ่�งเปู็นล้ักษณ์ะงานช่่างในช่่วง






พทธศิต่วรัรัษท� 24 แล้้วนิยมกันมากในช่วงพทธศิต่วรัรัษ


ที 25 ซึ่งพบมากในพืนทีจัังหวดเช่ยงใหม ่





83


ภาพที 105 - 114





งานปููนปูนรัปูสต่วในกรัอบช่่องแวน





ปูรัะดบฐานหอไต่รัวดพรัะสงหวรัมหาวหารั

84


ภาพที 115 -117






งานปููนปูนรัปูเทพพนมยน ปูรัะกบหอไต่รัวดพรัะสงหวรัมหาวหารั



















85



2.5.4 ลวดลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีหอไตรู้วดดวงด ี
อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่











หอไต่รัต่งอยทางทศิต่ะวนออกของอโบสถิ่

จัากจัารักในสมดขอย “ปูบหล้น” กล้าววาสรัางใน









ปูพ.ศิ.2372 โดยเจัามหาอปูรัาช่มหาวงศิ์ แล้ะจัาก











คมภรัใบล้านวดภมนทรั จังหวดนาน (สรัสวด อองสกล้







2534: 28) กล้่าวถิ่งการัสรั้างแล้ะฉล้องอโบสถิ่

56



พรัอมหอไต่รัของวดดวงดในปู พ.ศิ.2377






ต่อมาหอไต่รัไดพงทล้ายล้ง ทาใหเสาผู้นง






แล้ะซึ่มหนาต่างพงล้งมาทงหมด กรัมศิล้ปูากรัจังได ้







ทาการับรัณ์ะขนมาใหม่ยกเวนในสวนของล้วดล้าย



57





ทีไมสามารัถิ่บรัณ์ะไดทาเพยงการัทาปููนฉาบเรัยบ


ภาพที� 118 - 119
ล้วดล้ายปููนปูนปูรัะดบหอไต่รัวดดวงด ี




86

ภาพที� 120 - 121


ล้วดล้ายปููนปูนปูรัะดบ ดานหนาหอไต่รัวดดวงด ี










รัปูแบบเปูนอาคารักออฐถิ่อปูนในผู้ง













ทรังสเหล้ยมจัต่รัส หล้งคาคล้มสรัางจัากเครัองไม ้


มงสงกะสแบบทรังปูรัาสาทซึ่อนล้ดหล้นกน 3 ช่น







หรัอทรังมณ์ฑปูแบบล้้านนา ปูรัะดบดวยแผู้นโล้หะ





ฉล้่ล้าย ซึ่�งอาจัเปูรัียบเทียบไดกับอาคารัแบบหน�ง ึ










ในศิล้ปูะพมารัาวพทธศิต่วรัรัษท 24 มบนไดขน

ทางดานทศิเหนอ ต่วอาคารัโดยรัอบปูรัะดบ







ดวยล้ายปูนปูน ล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษาพบวาเปูน












กล้มช่างทใช่เทคนคเช่นเดยวการัปูนล้วดล้าย



บางต่ว แล้ะรัปูแบบของล้ายใกล้เคยงกบกล้มช่าง
















ทสรัางล้ายปูนปูนปูรัะดบซึ่มปูรัะต่โขงวหารัล้ายคา




วัดพรัะสิงห์วรัมหาวิหารั ดังน�นจัึงคาดว่ามีอาย ่
รัาวพ่ทธศิต่วรัรัษที� 24
87







2.5.5 ลวดลายปั้นปัันปัรู้ะดบีวหารู้วดปัรู้าสาท อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่


58











วหารัหล้งนีไดมการับรัณ์ะ ในสมยเจัาหล้วงธรัรัมล้งกา เมือปู พ.ศิ.2366



โดย โปูรัดฯ ใหพรัะยาหล้วงสามล้านสรัางพรัะวหารัขน ซึ่งเปูนพรัะวหารัทปูรัากฏ









อยในปูจัจับัน จัากการัสำารัวจังานจัิต่รักรัรัมล้ายคาภายในวิหารั ทาใหพบรัองรัอย




















จัารักบนผู้นงปูนทางดานทศิใต่ ความวา “....สกกรัาช่ได 1183 ต่ว ปูล้..สนากมโพช่-





ฌพไสรั ไทยภา สาวาปูล้ล้วงเมด...” ซึ่งทาใหทรัาบวาวหารัหล้งดงกล้าว มการั






59






กอผู้นง ฉาบปููน แล้ะสรัางงานจัต่รักรัรัมล้ายคาขึนในช่่วงปูรัะมาณ์ ปู พ.ศิ. 2364





(1181+1183) กอนมการัปูรัะดบต่กแต่งแล้ะถิ่วายในเวล้าต่อมา นอกจัากน� ี




60







ยงมหล้กฐานเอกสารัอกฉบบหนงยนยนถิ่งการัฉล้องวดปูรัาสาทในปู พ.ศิ.2368








ซึ่งอาจัจัะหมายถิ่งการัฉล้องสมโภช่วหารัหล้งนีเมือสรัางเสรัจักได ้







88

วิหารัหล้ังน� มล้ักษณ์ะสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมแบบด�งเดิม












หนาบนวหารัเปูนล้วดล้ายเทคนคงานไมแกะสล้ก สล้บกบ
เทคนคงานปูนปูน ปูรัะดบกรัะจักสต่างๆ เปูนล้กษณ์ะ















ล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา ล้ายบวล้กฟื้ก แล้ะรัปูต่วสต่วปูา








หมพานต่ เช่่น สงห มอม กเล้น เปูนต่น นอกจัากนียงนยม












ปูรัะดบกรัะจักจัน ซึ่งมความใกล้เคยงกบล้ายปูรัะดบรัาว





พทธศิต่วรัรัษท� 25 มากกว่า เช่น ล้ายปูรัะดบหอไต่รั

วดพรัะสงห หรัอ ล้ายปูรัะดบหนาบนวหารัวดบพพารัาม













ดงนนสนนษฐานไดวาล้ายปูรัะดบหนาบนวหารัวดปูรัาสาท








ถิ่กซึ่อมขึนใหมทังหมดรัาวพ่ทธศิต่วรัรัษที 25 แล้ะมความ




















เปูนไปูได เมอมปูรัะวต่กล้าววาครับาศิรัวช่ยเคยมาช่วย




บรัณ์ะซึ่มปูรัาสาทหล้ังวิหารัเม�อพ.ศิ. 2469 ซึ่�งการัซึ่่อมครั�ง ั








นันอาจัรัวมถิ่งล้ายปููนปูนของหนาแหนบดวย 61

ภาพที 122 - 123



ล้วดล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบน



วหารัวดปูรัาสาท

ภาพที 124






ล้วดล้ายปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนา



มณ์ฑปูทายวหารัวดปูรัาสาท
89




2.5.6 ลวดลายปั้นปัันปัรู้ะดบีวหารู้หลงเลก



วดบีพิพิารู้าม อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่














วดบพพารัามต่ามปูรัะวต่กล้าววาสรัางขน


ในรัช่กาล้ของพรัะเมองแกวเมอพ.ศิ.2039













ในบรัเวณ์ท�เคย เปูนทปูรัะทบของทาวศิรับญเรัอง
62





ครัาวทดารังต่าแหนงพรัะยพรัาช่ สาหรับวหารันน






ไมถิู่กกล้่าวถิ่ึงปูรัะวต่ิ การัสรั้างในครัาวเดียวกับการั











สรัางวด วหารัในวดบพพารัามปูจัจับนม 2 หล้ง










ซึ่งต่ามปูรัะวต่นันรัะบ่วา สรัางขึนเมือ พ.ศิ. 2362






หล้งหนง แล้ะอกหล้งหนงสรัางขนโดยหมองแขง-






63


โหย เมือพ.ศิ.2386
วหารัหล้ังเล้กน ทมล้ายปูนปู้นปูรัะดับ
















บนหนาบนนาจัะเปูนวหารัทสรัางเมอ พ.ศิ.2362









นาจัะมีการัซึ่อมแซึ่มหล้ายครั�ง ซึ่งมการัปูรัะดับงาน

ปูนปูนบรัเวณ์รัต่นบล้ล้งก (แทนแกว) ภายในวหารั


















ซึ่งปูนเปูนล้ายสต่วปูาหมพานต่ สงห มอม กเล้น











ผู้กล้ายกบพรัรัณ์พฤกษา ต่ามรัปูแบบล้ายปูนปูน






ทวไปูในล้านนาท�เกดขนในช่วงรัะยะเวล้า



พทธศิต่วรัรัษท 24 ซึ่งเปูนล้กษณ์ะของการัปูนแปูะ ภาพที� 125












วหารัหล้งเล้ก วดบ่พพารัาม


อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่


90








ในสวนของล้วดล้ายปูนปูนทปูรัะดบ
บนหนา จัะมล้กษณ์ะของล้วดล้ายปูนปูน










ทนยมปูรัะดับกรัะจักจัืนเขามามสวนในการั











ต่กแต่ง นาจัะเปูนล้กษณ์ะ ทนยมสรัางกนในล้าย



ปูนปูนรัาวพทธศิต่วรัรัษท 24 ต่อนปูล้าย









ถิ่งพทธศิต่วรัรัษท 25 แล้ะเมอคานงถิ่งปูรัะวต่ ิ













ทกล้าวถิ่งการัซึ่อม ในครัาวทเจัาแมทพผู้สม



ณ์ เช่ยงใหม ไดทาการับรัณ์ะวหารัหล้งเล้ก ภาพที� 126 - 127











64


เมอปู พ.ศิ.2454 แล้วล้ายปูนปูนปูรัะดบหนา ล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบน

















บนวหารัอาจัจัะถิ่กซึ่อมขึ�นใหมในครัั�งนีดวย วหารัหล้งเล้ก วดบ่พพารัาม

91

ภาพที 128






วหารัวดสำาเภา อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่








2.5.7 ลวดลายปันปันปัรู้ะดบีวหารู้วดสาเภา

อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่



วหารัวดสำาเภาไมมปูรัะวต่ทีช่ดเจัน ในการั








กล้าวถิ่งรัะยะเวล้าในการัสรั้าง แต่พบจัารัึกรัะบวา








มการัเรัมปูฏสงขรัณ์ซึ่งนาจัะเปูนการัปูฏสงขรัณ์ ์









ครังใหญ เมอวนพธท 15 มนาคม พ.ศิ.2464












แล้ะฉล้องสมโภช่เมอวนศิกรัท 26 กนยายน

















พ.ศิ.2468 การัปูฏสงขรัณ์ครังนมเจัาหมนแกว-









ณ์ เช่ยงใหม เจัาหญงศิรัวรัรัณ์ เจัาสรัยวงษ ์

65







เจัาหญงบวนวล้เจัาหญงอาพรัรัณ์ เปู็นศิรัทธา



โดยสนนษฐานวาการัซึ่อมในครั�งนคงเปูนรัปูแบบ







วหารัหล้งปูจัจับน รัวมทงล้วดล้ายปูนปูนทปูรัะดบ






้�





หนาบนแล้ะเสาวหารัดวย ภาพที� 129







วหารัวดสำาเภา อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่


92





รัปูแบบล้วดล้ายปูนปูน ปูรัากฏใหเหน












บรัเวณ์หนาบน แล้ะเสาคหนาวหารั ซึ่งมการั




ผู้กล้ายโดยปูนเปูนล้ายสต่วปูาหมพานต่์ สงห ์






มอม กเล้น หงส ผู้สมกบล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา





ปูรัะดบต่ามช่องต่าผู้้าของโครังสรั้างมาต่างไหม




ต่ามรัปูแบบล้ายปูนปูนทวไปูในล้านนาทเกดขน




้�





ในช่วงรัะยะเวล้าพทธศิต่วรัรัษท� 24 - 25






ซึ่งเปูนล้กษณ์ะของการัปูนแปูะ แล้ะทารัก



แล้้วปูดทอง






ภาพที� 130 - 131





ล้วดล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดสำาเภา


93




2.5.8 ลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีวหารู้วดทงย้


อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่













วดทงยเปูนวดเกาแกสมนรัาช่วงศิเมงรัาย



ไดรับการับรัณ์ะแล้ะฟื้นฟื้จัากเจัาหล้วงเช่ยงใหม ่












สบต่อมาดงปูรัากฏในบนทกวา ปู พ.ศิ. 2452

เจัาอนทวโรัรัสสรัยวงษ เจัาหล้วงเช่ยงใหมองคท 8












โปูรัดสรัางฉต่รัพรัะเจัดย ์



วหารัหล้งน ในอดต่ไดถิ่กรัอโครังสรัางเดม













แล้ะเกบองคปูรัะกอบโครังสรัางหนาบนไว แล้วนามา





ปูรัะกอบขนใหมอกครัง บนโครังสรัางวหารัใหม ่













ทยกฐานแล้ะเสาใหสงขน นาล้ายหนาแหนบมา







ปูรัะกอบใหเหมอนเดมมากทสด ดวยล้วดล้ายปูนปูน











ปูรัะดบหนาบนแล้ะเสาวหารัทงดงามอยางมาก



ทงโกงคว หนาบน เสาวหารัคดานหนาวหารั ปูรัะดบ



















ดวยงานปูนปูนล้วดล้ายเครัอเถิ่าปูรัะดบกรัะจักจัน







ดวยล้วดล้ายสต่วปูาหมพานต่ สงห มอม กเล้น หงส ์


ผู้สมกับล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา แล้ะพรัะอาทิต่ย ์








พรัะจันทรั เปูนล้กษณ์ะของการัปูนปูนแปูะปูรัะดบ




ต่ามช่องต่าผู้้าของโครังสรั้างมาต่างไหม ซึ่ึงนยม

ในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที 24 - 25

ภาพที� 132

ล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดท่งย ู






94


กรัณ์ดงกล้าวนคอวหารั







ของวดทงย จัากการัพจัารัณ์าช่ดภาพ









โบรัาณ์สถิ่านเมองเช่ยงใหม ของสานก




หอจัดหมายเหต่แหงช่าต่ พบรัปูวหารั





ไมหล้งเดมถิ่กบนทกในช่วงปู 2464








แล้ะเมื�อนามาเทยบกบรัปูวหารัวดท่งย ู









หล้งปูจัจับน พบวาภาพถิ่ายวหารั







โบรัาณ์ดังกล้าวคอวหารัวดทงยหล้งเดม





กอนทจัะมการัเสรัิมฐานวิหารัแล้ะเสา







ใหสงขนในยคหล้ง ซึ่งในการัรั�อถิ่อน



ภาพที 133 - 134







ล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดท่งย ู ครัังนัน อาจัสรัางความเสยหายใหล้าย






หนาบนบาง โดยเฉพาะกรัะจักทปูรัะดบ















ต่าผู้าหนาบน แต่ช่างกมการัปูนปูน




ปูรัะดบเสรัมทดแทน จันทาใหหนาบน



วิหารัหล้ังน�กล้ับมาอวดโฉมอีกครั�ง



อยางสงางาม
95


Click to View FlipBook Version