The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by มรดกเชียงใหม่, 2021-07-27 17:48:59

ปูนปั้นล้านนา งานช่างและสล่าศิลป์ ถิ่นศรัทธา

ภาพที� 135










2.5.10 ลายปันปันปัรู้ะดบีกทายวหารู้วดปัาแดง ล้ายปููนปูนปูรัะดบจัรัะนา








หลวง อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่ กูทายวหารัวดปูาแดงหล้วง




















วหารู้วดปัาแดงหลวง สรัางเมอ สาหรับหองทายวหารัเปูนผู้นงกอทบ











พ.ศิ.2361 แผู้นผู้ังของวหารัเปูนรัปูสเหล้ยมผู้นผู้า แล้ะเจัาะช่องเพ�อทะล้ถิ่ึงองคมณ์ฑปูปูรัาสาท
66



























สมพนธกบหล้งคาทม 2 ช่น ล้กษณ์ะต่ววหารั ทสรัางทายวหารั ซึ่มแล้ะผู้นงหองเช่อม ปูรัะดบ







เปูนอาคารัเครั�องไม้ขนาดกว้าง 3 หอง ยาว 6 หอง ต่กแต่งด้วยเทคนิคงานปูนปู้น ล้วดล้ายพรัรัณ์










หนหนาไปูทางทศิต่ะวนออก มล้กษณ์ะเปูนวหารั พฤกษาแล้ะสต่วปูาหมพานต่ แล้ะล้วดล้าย












แบบปูดโดยมการั กออฐฉาบปูนเปูนผู้นงทบ ปูรัะแจัจัน ซึ่งเปูนล้ายมงคล้ในวฒนธรัรัมจัน















รัอบต่วอาคารั มการัเจัาะช่องหน้าต่างรัะหว่าง ทารัก ทาช่าดแล้วปูดทองภายในซึ่มเปูน









หองวหารัท่กหอง ต่ามสภาพในปู้จัจั่บนไดรัับการั ทปูรัะดษฐานของพรัะพทธรัปูสารัด พรัะสาคญ












บรัณ์ะปูฏิสงขรัณ์ครั�งสาคญเมอ พ.ศิ. 2523 ของวดปูาแดงหล้วง



เช่่น การักอผู้นงแล้ะหนาต่่างใหม การัม่งหล้งคา









ดวยกรัะเบ�อง แต่ในส่วนศิล้ปูกรัรัมต่ามสภาพเดิม 67






ซึ่งรัวมไปูถิ่ึงล้วดล้ายปูนปู้นปูรัะดบกหองทาย




วิหารั (มณ์ฑปูปูรัาสาทภายในวิหารั) มล้ักษณ์ะ

คอนขางสมบรัณ์ หนาบนวหารัปูรัะดบดวย









ล้วดล้ายปูนปูนรัปูสต่วปูาหมพานต่ เช่นสงห กเล้น

















นกหสดล้งค เปูนต่น แล้ะล้วดล้ายเครัอพรัรัณ์







พฤกษานานาช่นด ซึ่งสวนใหญเปูนล้ายปูรัะดษฐ ์


96

ภาพที� 136 - 138




ล้ายปููนปูนปูรัะดบผู้นงดานหนา กูทายวหารัวดปูาแดงหล้วง


































ภาพที 139




ล้ายปููนปูนปูรัะดบผู้นงดานหนา กูทายวหารัวดปูาแดงหล้วง








97


ภาพที 140




วดหางดง อาเภอหางดง จัังหวดเช่ยงใหม ่






2.5.11 ลายปันปันปัรู้ะดบีวหารู้วดหางดง อาเภอหางดง




จัังหวดเชุยงใหม ่










วหารัวดหางดงไมปูรัากฏหล้กฐานเกยวกบปูรัะวต่การัสรัาง
แต่จัากล้กษณ์ะของแผู้นผู้งแล้ะโครังสรัาง วหารัทคล้ายกบวหารั










วดต่นเกวน แล้ะเมอพจัารัณ์าจัากหล้กฐานเอกสารัพบวา วดหางดง


















หรัอทช่าวบานเรัยกกนโดยทวไปูวาวดบานดงนนมมาแล้ว อย่างนอย







68





ต่งแต่รัาวพ.ศิ.2440 กนาจัะสนบสนนถิ่งรัะยะเวล้าการัสรัางดวย







อกปูรัะการัหนึง
98




วหารัเปูนสถิ่าปูต่ยกรัรัมแบบล้านนา





ทมความงดงามมากแห่งหนง รัปูแบบทรัวดทรัง










ของวหารัมล้กษณ์ะคล้ายคล้ึงกบวดต่นเกวน
อาเภอหางดง ซึ่ึงอยห่างกนไมมากนัก ต่ล้อดจัน











กรัรัมวธการัปูนแล้ะล้วดล้ายปููนปูนทีปูรัะดบ กเปูน








ฝมอกล้มช่างเดยวกนดวย ดงนนอาจัเปูนไปูไดวา












เปู็นล้ายปููนปู�นท�สรั้างข�นรัาวพทธศิต่วรัรัษท� 25










เขาใจัวาวดหางดงกคงจัะสรัางขนในรัะยะเวล้าใกล้ ้


เคยงกน วหารัมแผู้นผู้งทมขยนออกดานขาง ซึ่งควรั













เปูนแผู้นผู้ังของวิหารัรัาวต่้นพทธศิต่วรัรัษท� 25









ทหนาแหนบวหารัแล้ะเสาภายในวหารัปูรัะดบ






ดวยล้ายปููนปูนทีมฝมอเปูนเอกล้กษณ์์



ล้วดล้ายปูนปู้นปูรัากฎการัใช่ปูรัะดบหนา
















บนวหารั เปูนปูรัะดบต่าผู้ารัปูสเหล้ยมซึ่อนสล้บ






กนของโครังรัางมาต่่างไหม มทังรัปูเทพพนม กนรั ี




แล้ะกนนรั ปูนปูนปูรัะดบล้ายต่กแต่งดวยกรัะจัก







จันสต่างๆ แล้วทารักปูิดทอง รัวมไปูถิ่งโกงคว










ล้ายปูนเครัอเถิ่า เสาภายในวหารัเปูนเสากล้ม




ปูรัะดบล้วดล้ายปูนปูนล้ายต่างๆภายในช่องท � ี




กาหนด เช่น รัปูนาค กนรั กนนรั สงห เปูนต่น













กอนจัะทารัก ทาช่าดแล้วปูิดทอง ถิ่อไดวาวหารั






วดหางดง เปูนวหารัอกหนงหล้งของอาเภอหางดง








ภาพที 141 - 143 ทีมความงดงามดานศิิล้ปูะการัปูนปููน อนเปูนงาน











ปููนปูนปูรัะดบเสาวหารัวดหางดง ช่างเฉพาะถิ่นในเขต่อาเภอหางดง ทเกดขนในช่วง











พ่ทธศิต่วรัรัษที 25
99


ภาพที 144








วหารัวดต่นเกวน 2.5.12 ลายปันปันปัรู้ะดบีวหารู้วดตนเกวน







อาเภอหางดง จัังหวดเชุยงใหม ่

วดต่นเกวันไมพบปูรัะวัต่การัสรั้าง










แต่คาดวารัาวปู พ.ศิ.2348 นนคงมวดนอยแล้ว











เพรัาะเปูนปูท พรัะเจัากาวล้ะอญเช่ญพรัะบรัมธาต่ ่


จัากวัดพรัะธาต่่ศิรัจัอมทอง เข้ามาในเมืองเช่ียงใหม ่











จัดสดทายทพกแรัม สดทายกอนเขาเมองเช่ยงใหม ่




คือวัดต่้นเกว๋น แต่สาหรัับวิหารัวัดต่้นเกว๋นน�น
69











มจัารักใต่เพดานดานทศิเหนอวา สรัางขนในปู ี
70

พ.ศิ.2401 ต่รังกบสมยพรัะเจัากาวโล้รัสส่รัวงศิ ์










ล้วดล้ายปูนปู้นทปูรัะดบหนาแหนบวิหารั






หล้งนใช่เทคนคการัปูนทเปูนเฉพาะต่ว แล้ะม ี








ล้กษณ์ะเช่่นเดยวกนกบงานปููนปูนวหารัวดหางดง











ซึ่งงานช่างทต่อเนองมาจัากกล้มช่างฝมอทปูนล้าย















บนซึ่มโขงวิหารัล้ายคา แต่มความนิยมปูรัะดับ


กรัะจักจัืนมากข�น ซึ่งนบวาเปูนเทคนิครัวมสมัย






ในช่่วงต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที 25


100





ล้วดล้ายปูนปูนปูรัากฎการัใช่ปูรัะดบหนา





บันวิหารั เปู็นปูรัะดับต่าผู้้ารัปูส�เหล้�ยมซึ่้อนสล้ับกัน

ของโครังรัางมาต่่างไหม ปูรัะดบล้ายต่กแต่ง






ดวยกรัะจักจันสต่่างๆ แล้้วทารัักปูดทอง ล้กษณ์ะ






ของล้วดล้ายปูนปูนล้าย เปูนการัปูนล้ายพรัรัณ์








พฤกษา ซึ่งเปูนรัปูแบบดอกปูรัะดษฐ มล้ายเมฆ์



ไหล้ ล้ายกรัะจัังแล้ะดอกปูรัะจัายาม ท�ได้รัับ


อทธพล้จัากศิล้ปูะจันแล้ะศิล้ปูะรัต่นโกสนทรั ์





เขามามบทบาทกบงานช่างมากขน ถิ่อไดวาเปูน
















วหารัอกหนงหล้งทมความโดดเด่นมากในเรัอง










ภาพที 145 - 147 ของการัปูรัะดบศิล้ปูกรัรัม ของวดกล้มหางดง




ล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดต่นเกวน อันเปู็นงานช่างเฉพาะถิ่�นท�เกิดข�นในช่่วง









พ่ทธศิต่วรัรัษที 25

101


ภาพที 148







งานปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดข่นคง








2.5.13 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีก้ท�ายวหารู้วดข่นค์ง อาเภอหางดง จัังหวด

เชุยงใหม ่



ต่งอยบานขนคงซึ่งในอดต่คอช่มช่นรัาง ต่อมาในยคพรัะเจัา-


















กาวล้ะ พรัะองคไดนาพวกล้ะวาจัากสนปูาต่องมาอยในหมบานแหงน � ี























โดยผู้นาในครังนนมยศิเปูนขนช่อคง พรัอมกนนนปูขนคงไดนาช่าวบาน




















มาพฒนาสรัางหมบานขน พรัอมบรัณ์ะวดแหงน จังไดช่อวาวดขนคงหล้วง





แล้ะเปูนหมบานข่นคงจันถิ่งปู้จัจั่บน












สาหรับสงทนาสนใจัภายในวดขนคง คอวหารัโบรัาณ์ศิล้ปูะ








ล้้านนายคฟื้นฟืู้ ต่ัวอาคารัเปู็นรัปูส�เหล้�ยมผู้ืนผู้้า มีการัยกเกจัของผู้ัง




ล้ักษณ์ะโครังสรั้างของอาคารัโครังสรั้างก่ออิฐฉาบปููน แล้ะเครั�องบน



เปูนโครังสรั้างไม หล้งคาสรั้างดวยโครังสรั้างไมในรัะบบเสาแล้ะคาน





หล้ังคาเปู็นทรังจั�วมีการัซึ่้อนช่�นของหล้ังคาด้านหน้าสามช่�นด้านหล้ัง

สองช่ัน สมพนธกบการัยกเกจัของผู้งอาคารั







102



การัปูรัะดับงานปูนปู้น จัะปูรัากฏ








ใหเหนอย 3 จั่ด ภายในวหารั คอ หนาบน




ซึ่มปูรัะต่โขงแล้ะกพรัะเจัาภายในวหารั




หองสดทาย ซึ่งวธการัปูนแล้ะล้วดล้าย

















ปูนปูนทปูรัะดบกเปูนฝมอกล้มช่างเดยวกน













กบวดหางดง วดทาวคาวง ซึ่งมอายอย ่ ู









ในรัาวพทธศิต่วรัรัษท 25 ซึ่งถิ่อเปูน










ล้ายปูนปูนทมฝมอเปูนเอกล้กษณ์ ์



ของช่่างในกล้มนี �






ล้วดล้ายปูนปูนปูรัะดบหนาบน



วหารั เทคนิคการัปูนแปูะแต่อาจัจัะใช่วสด ่



ในการัปูนทต่างไปู คอเปูนการัใช่รักสมก













ปูนแทนปูนสด ปูนปูรัะดบต่าผู้ารัปูสเหล้ยม












ซึ่อนสล้บกนของโครังสรั้างมาต่างไหม


เปูนล้ายพรัรัณ์พฤกษาปูรัะดบล้าย


ต่กแต่่งดวยกรัะจักจันสต่่างๆ ซึ่งสวนใหญ ่














เปูนล้ายดอกปูรัะดษฐทเรัมนยมในช่วง


พทธศิต่วรัรัษท 25 โดยสภาพปูจัจับน





หล้่ดรัอนไปูบางแล้้ว





จัดท 2 คอซึ่มปูรัะตู่โขงทางเขาหนาวหารั









ซึ่งรัปูแบบดังกล้าวนาจัะสรั้างขนพรัอมกบวหารัรัาว

















ต่นพทธศิต่วรัรัษท� 25 ซึ่งมรัปูแบบทต่างไปูจัากซึ่มปูรัะต่ ู












โขงทางเขาหนาวหารัยคกอนหนานน ทงรัปูแบบการัซึ่อน






ช่นปูรัาสาท รัายล้ะเอยดของเครัองปูรัะดบซึ่ม






แล้ะเทคนคการัปูนล้ายทเปูนการัปูนแปูะใหเต่มพนท � ี












ล้วดล้ายปูรัะดบซึ่มโขงมล้ายเครัอดอกออกล้ายเต่มพนท ี �













มต่วมอมสอดแทรัก ทงสองขางของเสาซึ่ม มรัปูปูน







เทวดายืนถิ่ออาวธ ซึ่�งมแนวความคิดเหมอนกับซึ่มโขง












อโบสถิ่สองสงฆ์ วดพรัะสงห (สรัางปู พ.ศิ.2355) อยางไรั

ภาพที 149 - 150 กต่ามล้กษณ์ะของล้ายปูรัะเภทอนพบวามความแต่กต่าง












ซึ่มปูรัะต่โขงทางเขาวหารั แล้ะงานปูนปูน





ปูรัะดบเสาซึ่่มปูรัะต่โขงรัปูเทวดา วดข่นคง



103

ภาพที� 151 - 154





มณ์ฑปูพรัะเจัาภายในวหารั แล้ะงานปููนปูนปูรัะดบมณ์ฑปู
พรัะเจัาภายในวหารัวดข่นคง












จัดท 3 ล้วดล้ายปูนปู้นปูรัะดบโขง ปูล้ายซึ่มทาเปูนล้ายมกรัคายนาค 3 เศิยรั







พรัะพทธรัปูทปูรัะดษฐานภายในวหารั มล้วดล้ายปูนปูนต่กแต่งต่ามสวนต่างๆ สวนเรัอน





















ทมล้กษณ์ะเปูนอบมงภายในวหารัหองสดทาย ธาต่่ต่กแต่่งดวย ล้ายกาบบน กาบล้าง สวนกาบ







เปูนอาคารักออฐถิ่อปูน หล้งคาจัวดาดปูน บนแล้ะกาบล้่าง มล้วดล้ายแล้ะเทคนิคเช่นเดียว





















ดานหนาปูรัะดบซึ่มโคงจัรัะนา ล้กษณ์ะคล้ายกบ กบปูรัะต่โขงหนาวหารั เปูนล้ายเครัอล้านนา










ซึ่มปูรัะตู่โขงหน้าวหารั แต่ไม่มยอดปูรัาสาท ล้ายดอก แล้ะกานใบปูรัะเภทเดยวกน เทคนค












แต่เปูนล้กษณ์ะของซึ่มจัรัะนาซึ่อนกน 2 ต่กแต่ง ปู�นปูนแปูะเปู็นล้ายปูรัะดิษฐ์ ทมล้ักษณ์ะ













ซึ่มดวยล้ายพนธพฤกษาเปู็นล้ายเครัือมหงส ์ ของการัเล้ียนแบบธรัรัมช่าต่ิ ซึ่งเปูนล้กษณ์ะงาน

เกาะเปูนเเถิ่วในซึ่มช่นล้าง ปูล้ายซึ่มเปูนหงส ์ ในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที 25










ทงสองขาง สวนซึ่มช่นบนเปูนหางนาคเก�ยว










104









2.5.14 ลายปันปันปัรู้ะดบีกทายวหารู้วดรู้อง






แหยง อาเภอหางดง จัังหวดเชุยงใหม ่
ล้วดล้ายปูนปู้นปูรัะดับโขงพรัะพทธรัูปู



ทมล้กษณ์ะเปู็นอบมงภายในวิหารัหองสดทาย


















เปูนอาคารักออฐถิ่อปูน หล้งคาจัวดาดปูน








ซึ่งมล้กษณ์ะคล้ายแล้ะมกล้มช่างเดยวกนกบก ่ ู










ทายวหารัวดขนคง กล้าวคอ ดานหนาปูรัะดบ












ซึ่มโคงจัรัะนาซึ่อนช่น ต่เสนกรัอบล้ายดวย







เสนล้วดแล้ะไขปูล้า ต่กแต่งซึ่มดวยล้ายพนธ ์


พฤกษาเปูนล้ายเครัอมหงสเกาะเปูนเเถิ่วในซึ่ม







ช่นล้าง ปูล้ายซึ่มเปูนล้ายหางวนพรัรัณ์พฤกษา







ทงสองขาง สวนซึ่มช่นบนเปูนหางนาคเกยว















ปูล้ายซึ่มทาเปูนล้ายมกรัคายนาค 3 เศิยรั

มล้วดล้ายปูนปูนต่กแต่งต่ามสวนต่างๆ สวนเรัอน








ธาต่่ต่กแต่่งดวย ล้ายกาบบน กาบล้าง สวนกาบ





บนแล้ะกาบล้างมล้วดล้าย ใช่เทคนคการัปูนแปูะ





เปูนล้ายเครัอล้านนาล้ายดอกแล้ะกานใบเปูนล้าย







ปูรัะดิษฐทมล้กษณ์ะของการัเล้ียนแบบธรัรัมช่าต่ิ



มการัต่กแต่งด้วยกรัะจักจัืน ทารัก ทาช่าด









แล้วปูดทอง ซึ่ึงล้กษณ์ะงานช่างแบบน� พบในช่วง


พทธศิต่วรัรัษท� 24 แล้วนยมกนมากในช่วง






พ่ทธศิต่วรัรัษที 25 ซึ่งกูทายวหารัทีเปูนล้กษณ์ะ







ของคนธกฎเช่นน พบจัานวนหล้ายแหงในพนท � ี










อาเภอหางดง

ภาพที 155 - 157







งานปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนาซึ่อนช่ัน

ซึ่่มปูรัาสาททายวหารัวดรัองแหยง ่





105



การัปูนล้ายพรัรัณ์พฤกษาภายในกรัอบเส้นล้วด


แล้ะขาปูล้าเต่มพนท ดานขางของเสาซึ่มมงาน








ปูนปูนรัปูเทวดาพนมมือยืนบนดอกบัวปูรัะดับ











ทงสองขางของทางเขา มซึ่มล้ดเพ�อวางจัรัะนา






ซึ่งเปูนล้กษณ์ะของซึ่่มจัรัะนาซึ่อนกน 2 ต่กแต่่ง












ซึ่มเปูนซึ่มหยก เดนขอบดวยเสนล้วดแล้ะขาปูล้า


ภายในกรัอบโคงหยกปูนล้ายล้ายพนธพฤกษา







เปูนล้ายเครัอ มหงสเกาะเปูนเเถิ่วในซึ่มช่นล้าง









ปูล้ายซึ่่มเปูนหงสทังสองขาง สวนซึ่่มช่ันบนเปูน










หางนาคเกียว ปูล้ายซึ่่มทำาเปูนล้ายมกรัคายนาค




3 เศิยรั มล้วดล้ายปูนปูนต่กแต่งต่ามสวนต่างๆ







รัวมไปูถิ่ึงยอดปูรัาสาททปู�นแปูะเปู็นรัปูดอกล้อย






นอกจัากนปูรัะดบซึ่มปูรัาสาทมขหนาบน




มการัต่กแต่งด้วยกรัะจักจัืน แล้ะทาสีสนต่างๆ










เช่น สนาเงนจัากครัาม สเหล้อจัากรัง เปูนต่น









ซึ่งล้กษณ์ะงานช่างแบบนพบในช่วงพทธศิต่วรัรัษ


ที 24 แล้้วนยมกนมากในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที 25






ซึ่งพบมากในพืนทีจัังหวดเช่ยงใหม ่











2.5.15 ลายปันปันปัรู้ะดบีซุ้มปัรู้าสาทมข่

หนาบีนอโบีสถวดบีานเปัยง อาเภอหางดง







จัังหวด

เชุยงใหม ่





อ่โบสถิ่วดบานเปูยง ปูรัากฏงานปููนปูน

บรัเวณ์ซึ่มปูรัาสาทมขหนาบนทางเขาหนาอโบสถิ่









มรัปูแบบโครังสรัางปูรัาสาทต่ามแบบซึ่ม





ปูรัะต่โขง มการัปูรัะดับล้วดล้ายปูนปู้นต่าม



ช่ันฐาน ถิ่งช่ันหล้งคาทรังปูรัาสาทซึ่อนกน 3 ช่ัน








โดยเฉพาะในส่วนเรัอนธาต่จัะต่กแต่งในส่วน



กาบบน กาบล้าง แล้ะปูรัะจัำายามอก รัวมไปูถิ่ง

ภาพที� 158 - 159




ซึ่่มปูรัาสาทม่ขหนาบนอ่โบสถิ่วดบานเปูยง



อาเภอหางดง จัังหวดเช่ยงใหม ่


106

ภาพที 160 - 162






งานปููนปูนปูรัะดบซึ่่มจัรัะนาปูรัาสาทม่ขหนา ้



บนอ่โบสถิ่วดบานเปูยง

107

ภาพที� 163


วหารัวดปูาจัี� อาเภอเมอง



จัังหวดเช่ยงใหม ่











2.5.16 ลายปันปันปัรู้ะดับีวหารู้วัดปัาจั อาเภอเมือง จังหวัดเชุยงใหม่












วดปูาจั�หรัอวดปู่าช่ หน�งในวดเกาแกทมความสาคญของ





71









ต่าบล้แมเหยะ ต่ามปูรัะวต่วดสรัางขึนเมือปู พ.ศิ.2125 สาหรัับวหารั



















หล้งปูจัจั่บนไมพบหล้กฐานแนช่ดวาสรัางขนเมอไหรั ซึ่งปูจัจับนไดมการั






บรัณ์ะแล้้ว








วหารัวดปูาจั ถิ่อเปูนงานสถิ่าปูต่ยกรัรัมล้านนายคฟื้นฟื้ ู













อกหนึงหล้ง ทียงคงล้กษณ์ะโครังสรัางหล้งคาดานหนา 3 ช่ัน ดานหล้ง ั



ซึ่อนกน 2 ช่น ต่วอาคารัเปูนรัปูสเหล้ยมผู้นผู้าต่งอยบนพนยกสง




















ปูรัะมาณ์ครั�งเมต่รัแล้ะมีการัยกเกจัของผู้ัง ล้ักษณ์ะโครังสรั้างของอาคารั




โครังสรัางกออฐฉาบปูนแล้ะเครัองบนเปูนโครังสรัางไม หล้งคาสรัาง












ดวยโครังสรัางไมในรัะบบเสาแล้ะคาน
108

ภาพที� 164 - 166



ล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดปูาจัี �









การัปูรัะดบงานปูนปูน




จัะปูรัากฏใหเหนบรัเวณ์หนาบน

วหารั ดวยล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา






สอดแทรักสต่วต่างๆโดยเฉพาะต่ว







มอมทกาล้งวงไล้กน ปูรัะดบเต่มพนท ี �





ในส่วนของต่าผู้้าบนหน้าบัน
นอกจัากนยงมการัปูนล้ายดอก









ปูรัะดษฐเปูนดอกล้อยทเหนช่ดเจัน





มากขึน เช่่นดอกบวผู้ด (ทานต่ะวน)



ดอกต่าสบปูะรัด เปูนต่น โดยมอาย่






อยในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษที 25

109



2.5.17 ลายปันปันปัรู้ะดบีอโบีสถ วดอโบีสถ








อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่








วดอโบสถิ่ สรัางขนเมอปู พ.ศิ.2135

72

ไดรับพรัะรัาช่ทานวสงคามสมา เมอปู พ.ศิ.2210









ภายในวัดปูรัากฏอโบสถิ่โบรัาณ์ เปู็นอาคารัก่ออฐ







ถิ่อปูน สวนบนปูรัะดบดวยเครัองไม หล้งคา


ซึ่อนกน 2 ช่น มงดวยกรัะเบองดนขอ ซึ่งจัาก











จัารักบนแผู้นไมภายในอโบสถิ่ ทาใหทรัาบวา







73



อ่โบสถิ่หล้งดงกล้าวสรัางขึ�นในปู พ.ศิ.2390



ในสวนของการัปูรัะดับต่กแต่ล้ายปูนปู้น



ภาพที 167















อ่โบสถิ่ วดอ่โบสถิ่ อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่ ปูรัากฏใหเหนบรัเวณ์หนาบนทปูรัะดบดวยล้าย






ปูนปูนพรัรัณ์พฤกษาต่กแต่งดวยกรัะจักจัน




สต่างๆ ภายในกรัอบต่าผู้าของโครังสรัางมา


ต่างไหม รัวมไปูถิ่งเสาวหารั ซึ่งเทคนคปูนปูน













ดงกล้าวเปูนการัปูนแปูะต่ดกบโครังสรั้างไม ้




แต่นาเสยดายทอโบสถิ่หล้ังนปูจัจับนอยในสภาพ











ทีคอนขางทรั่ดโทรัม



110

72




































ภาพที 169 - 170





งานปููนปูนปูรัะดบหนาบนอ่โบสถิ่ วดอ่โบสถิ่


111


ภาพที 171






ล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดทาวคาวง ั















2.5.18 ลายปันปันปัรู้ะดบีวหารู้วดทาวค์าวง อาเภอหางดง จังหวดเชุยงใหม ่












วหารัวดทาวคาวง เปูนวหารัทรังล้านนายคฟื้นฟื้ ต่วอาคารั






เปูนรัปูสเหล้ยมผู้นผู้า มการัยกเก็จัของผู้ัง ล้กษณ์ะโครังสรั้างของอาคารั

















โครังสรัางกออฐฉาบปูนแล้ะเครัองบนเปูนโครังสรัางไม หล้งคาสรัางดวย


โครังสรัางไมในรัะบบเสาแล้ะคาน หล้งคาเปูนทรังจัวมการัซึ่อนช่นของหล้งคา






















ดานหนาสามช่ันดานหล้งสองช่ัน สมพนธกบการัยกเกจัของผู้งอาคารั
112


ภาพที 172









ล้ายปููนปูนปูรัะดบหนาบนวหารัวดทาวคาวง ั




ล้วดล้ายปูนปู้นปูรัะดับหนาบนวหารั เทคนิคการัปู้นแปูะ










แบบกดแบน ปูนปูรัะดบต่าผู้ารัปูสเหล้ยมของโครังสรัางมา










ต่างไหม เปูนล้ายพรัรัณ์พฤกษาปูรัะดบดวยกรัะจักจันสต่างๆ



ซึ่�งส่วนใหญ่เปูนล้ายดอกปูรัะดษฐแล้ะล้ายเครัือล้านนา









หรัอ ล้ายใบเทศิ ทีเรัิมนยมในช่่วงครัึงหล้งของพ่ทธศิต่วรัรัษที 25









โดยสภาพปูจัจับนหล้ดรัอนไปูบาง แต่ยงคงแสดงใหเหนถิ่งรัปูแบบ





โครังสรัางของล้วดล้ายทีเกดขึนในยคนีอยางช่ดเจัน








113

2.6



ลวดลายปั้นปัันปัลายพิทธศิตวรู้รู้ษ์ที 25









ยค์อทธพิลพิมาค์�าไม�และอทธพิลรู้ตนโกสนทรู้ ์









ในช่วงเวล้าครังหล้งของพทธศิต่วรัรัษท 25 สภาพบานเมอง





ในรัาช่อาณ์าจัักรัไทยเกิดการัเปูล้�ยนแปูล้งครั�งสาคัญทส่งผู้ล้ให้เกิด



รัปูแบบการัสรั้างงานศิล้ปูกรัรัมท�ไดเกยวเน�องจัากแนวทางการัเมืองการั










ปูกครัอง จัากสมบรัณ์าญาสทธรัาช่มาเปูนแบบปูรัะช่าธปูไต่ยใน





พ.ศิ.2475 ได้สงผู้ล้ให้สงคมแล้ะวัฒนธรัรัมล้านนาได้มการัปูรับเปูล้�ยน


รัปูแบบ ซึ่งรัปูแบบงานศิล้ปูกรัรัมก็ไดรับผู้ล้กรัะทบน�ดวยเช่นเดยวกน





















ดงจัะพบรัูปูแบบท�รับอทธพล้รัฐนยมมาปูรัากฏในงานศิล้ปูกรัรัมท้องถิ่น









เช่น ล้วดล้ายหนาบนปูรัะดบดวยครัฑ นารัายณ์ทรังครัฑ แล้ะช่าง





สามเศิยรั เปูนต่น ทผู้กล้วดล้ายดวยล้ายกนกแบบศิล้ปูะภาคกล้าง





สะท้อนความนิยมของศิล้ปูะจัากส่วนกล้าง ท�เรั�มมีความนิยมในช่่วง






กอนหนานี โดยการัสนบสน่นจัากเจัานายในทองถิ่นมาบางแล้้ว








ในสวนของล้ายเครัอเถิ่า ซึ่งปูรัากฏใหเหนในการัปูรัะดบหนา







บันวิหารัแล้ะอโบสถิ่ล้้านนา จัะเปู็นล้ายท�โดดเด่นในช่่วงเวล้าน� คือมล้าย




ขนาดใหญแล้ะเต่มพนทกรัอบสามเหล้ยมจัวหนาบนโครังสรัางงาน


















สถิ่าปูต่ยกรัรัม ซึ่งสามารัถิ่แบงออกเปูน 3 กล้มใหญ คอ กล้มแรักล้วดล้าย







พรัรัณ์พฤกษาศิล้ปูะแบบต่ะวันต่ก เปู็นล้ายเครัือเถิ่าหรัือทเรัยกวา

ล้ายเครัอฝรััง กล้มทีสองล้วดล้ายกนกไทยในศิิล้ปูะรััต่นโกสนทรั แล้ะ














กล้มทีสามผู้สมรัะหวางล้ายเครัอฝรัังกบล้ายกนกไทย 74








ในขณ์ะเดยวกน กยงปูรัากฏความนยมในการัสรัางงานทเปูน








เอกล้กษณ์ทองถิ่นล้านนาอกกรัะแสหนง โดยสะทอนคต่นยมในเรัอง







ความสมพนธรัะหวางคน พรัะธาต่ แล้ะปูนกษต่รัไดอยางนาสนใจั
























ทไดรัจักกนดในสงคมแล้ะวฒนธรัรัมล้านนาคอ “คต่ช่ธาต่”


75
แล้ะ “ปูเปูง” ซึ่งจัะเปูนการัผู้กล้ายพรัรัณ์พฤกษาเขากบล้ายสต่วปูรัะจัา

















ปูเกดของบคคล้สาคญๆ ในการันำามาปูรัะดับหนาบนอาคารัทาง


พ่ทธศิาสนา
114



2.6.1 ลายปั้นปัั�นปัรู้ะดบีวหารู้วดแสนฝาง


อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่










วหารัวดแสนฝางเปูนวหารัทพรัะเจัา-







อนทวช่ยานนท เจัาผู้ครัองนครัเช่ยงใหม (รัาช่วงศิ ์




พรัะเจัาเจัดต่น) องคท 7 แล้ะเจัาทพเกสรัรัาช่เทว ี






ภาพที 173 - 174 (พรัะรัาช่บดา แล้ะพรัะรัาช่มารัดาในพรัะรัาช่ช่ายา-










วหารัวดแสนฝาง เจัาดารัารัศิม) โปูรัดให้รัอพรัะต่าหนกของพรัะเจัา-

อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่ กาวโล้รัสสรัยวงษ เจัาผู้ครัองนครัเช่ยงใหมองคท 6


















ล้ง แล้วนามาถิ่วายวดเมอ พ.ศิ.2420 โดยให้ปูรับปูรัง













ดดแปูล้งสรัางเปูนวหารัปูดทองล้องช่าดทงหล้ง เมอแล้ว



76


เสรัจัจังโปูรัดใหฉล้องสมโภช่พรัะวหารัในปู พ.ศิ. 2421



ซึ่�งต่รังกับจัารัึกในต่านานล้านนาไทยว่า “...จั่ล้ศิักรัาช่



1239 (พ.ศิ.2420) ปูฉล้นพศิก ปูกวหารัวดแสนฝาง



ข้างปูรัะต่ท่าแพช่�นนอก ข้างในเจั้าอินทวิไช่ยานนท ์





เจัานครัเช่ยงใหมใหรัอเอาโรังพรัะเจัากาวโรัรัสไปู





77
สรัาง…”

115








วหารัหล้งนสรัางดวยรัปูแบบ




สถิ่าปูต่ยกรัรัมล้านนาแบบใหม่ ช่วงพทธศิต่วรัรัษ


ท 25 ทาใหเกดรัปูแบบผู้งสเหล้ยมผู้นผู้า














หล้ังคาเต่�ยแล้ะล้าดต่า โดยล้ดช่�นหล้ังคาด้านหน้า


2 ซึ่ด แผู้นหล้งคาดานขางออกมา 2 ต่บ เปูนรัปู













แบบทเกดขนกบวหารัล้านนายคใหม หนาบน










วหารัปูรัะดบดวยล้วดล้ายไมแกะสล้ก แล้ะปููนปูน

ปูดทอง ผู้นงดานนอกวหารัปูรัะดบล้วดล้ายปูนปูน












เปูนรัปูสต่วหมพานต่สล้บกบล้ายกานขด เทคนค






การัปูนแปูะ ผู้ล้งานของครัูบาโสภา (เถิ่�ม) โสภโณ์



ภาพที� 175 - 179






งานปููนปูนรัปูสต่วปูาหมพานต่ ์




ปูรัะดบผู้นงดานนอกวหารัวดแสนฝาง


116

ภาพที� 180

งานปููนปูน ปูรัะดบซึ่่มปูรัะต่ ู



ทางหล้งวหารัวดแสนฝาง








ครับาเถิ่ม บรัรัพช่าเปูนสามเณ์รัปู พ.ศิ.2418



อปูสมบทเปูนพรัะภกษปู พ.ศิ.2427 ทวดแสนฝาง







แล้ะดารังต่าแหนงเปูนเจัาอาวาสวัดแสนฝางในเวล้า






ต่่อมา แล้ะมรัณ์ภาพในปู พ.ศิ.2478 ขณ์ะทีมอาย 70 ปู ี





เปูนภกษผู้มความสามารัถิ่ในทางสล้า คอเปูนช่างกอสรัาง












ศิาสนสถิ่าน ทงยงมความแต่กฉานในวช่าโหรัาศิาสต่รั ์


สามารัถิ่พยากรัณ์เหต่การัณ์ต่างๆไดถิ่กต่องแมนยา
















จังทาใหช่วงรัะยะเวล้าท�ทานดารังต่าแหนงเจัาอาวาสวด



มการัสรั้างถิ่าวรัวัต่ถิ่หล้ายหล้ัง หน�งในน�นคอการัปู้นปูน







ปูรัะดบวหารัหล้งนี �



117

ภาพที� 181





งานปููนปูนปูรัะดบอ่โบสถิ่วดปูาเปูา ้





2.6.2 ลายปันปันปัรู้ะดบีอโบีสถวดปัาเปัา อาเภอเมอง จังหวดเชุยงใหม ่













วดปูาเปูาสถิ่านทนเคยเปูนคมเกา(วงเกา) ของพญากอนา-



















ธรัรัมมการัาช่ เจัาผู้ครัองนครัเช่ยงใหมสมยนน ภายหล้งพญากอนา














ไดสวรัรัคต่ล้ง ไดทาพธสงสการัพรัะศิพเสรัจัแล้วสถิ่านทดงกล้าวไมไดรับ









การัดแล้ เพรัาะค่มต่ังอยนอกกาแพงเมองแล้ะช่่วงเวล้าดงกล้าวต่ดพนอย่ ู





กบสงครัามด้านหล้ายดาน จังเปูนอนช่ารัดทรัดโทรัมแล้ะกล้ายเปู็นทรักรั้าง












ในช่่วงเวล้าต่่อมา ทาใหเกดเปูนปูาต่นเปูาในบรัเวณ์นี



78



118









ต่อมาช่าวเงยว (ไทใหญ) ทเขามาต่ง








ถิ่นฐานในนครัเช่ยงใหม ไดรัวมกนขออนญาต่








ต่อเจัาผู้ครัองนครัในสมยนนขอสรัางวด












จังอนญาต่ใหไปูแพวถิ่างปูาไมเปูาทคมเกา

(วังเก่า) นอกกาแพงเมือง ทาการัสรั้างวัด





เปูนสถิ่าปูต่ยกรัรัมแบบศิล้ปูะของช่าวเง�ยว









(ไทยใหญ่) หล้งคาซึ่อนกนเปูนช่นๆ เรัยกช่อวา


เช่ต่วนวหารับาง เวฬุวนวหารับาง มการับรัณ์ะ









ซึ่อมแซึ่มมาหล้ายครััง




จันถิ่งสมยเจัาอนทรัวช่ยานนท ์





เจั้าผู้ครัองนครัเช่ียงใหม่องคท� 7 (พ.ศิ.2413 -




2440) แมหมอมบวไหล้ (ช่ายาช่าวไทใหญ)






รัวมกบช่าวเง�ยว (ไทใหญ่) ทาการัขออนญาต่ ภาพที� 182 - 184












บรัณ์ะซึ่อมแซึ่มวดปูาเปูาครังใหญในปู พ.ศิ.2426 งานปููนปูน ล้ายหมอบรัณ์ฆ์ฏะ








แล้ะในปู พ.ศิ.2434 เจัาอนทรัวช่ยานนท ์ ปูรัะดบอ่โบสถิ่วดปูาเปูา ้




เปูนปูรัะธานรัวมกบแมหมอมบวไหล้ ไดสรัาง




พรัะเจัดย์แล้ะวิหารัไม้ ทมีสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมแบบ




ไทใหญ”
119


ภาพที 185





ซึ่่มปูรัะต่โขงแล้ะอ่โบสถิ่วดเช่ยงยน



อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่











2.6.3 ลายปันปันปัรู้ะดบีซุ้มปัรู้ะตโข่งและอโบีสถวดเชุยงยน



อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่










ซึ่มปูรัะต่โขงแล้ะอโบสถิ่แปูดเหล้ยม โครังสรัางทงหมด

เปูนการัก่ออฐถิ่อปูน มการัปูรัะดับงานปูนปู้นปูรัะดับบรัเวณ์












ซึ่มปูรัะต่หนาต่างของอโบสถิ่ ดวยล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา








แล้ะล้ายสต่วต่างๆ เช่น นกยูง กรัะต่าย อนสญล้กษณ์ ์





พรัะอาทต่ย์ พรัะจัันทรั์ ทช่าวพม่า-ไทใหญ่ให้ความสาคัญ





เปูนต่น โดยล้วดล้ายปูนปู้นดงกล้าวมเทคนคปูนแกะ










ซึ่งเปูนเทคนคทีนยมกนในช่่างพมา-ไทใหญ ่





120






ซึ่มปูรัะตู่โขง เปู็นซึ่มปูรัะตู่ 4 ช่�น บนซึ่ม









ช่นแรักปูรัากฏงานปูนล้อยต่วปูนรัปูเทวดาองคท 1 นง � ั









ขดสมาดมือถิ่ออาวธ แล้ะองค์ท 2 มอถิ่อสมด









แล้ะดนสอจัดบนทกความด แล้ะมมของซึ่มเปูนรัปู









หมอบรัณ์ฆ์ฏะ แล้ะมล้ายกาบต่งแบบพมา-ไทใหญ ่

สล้บกบปูรัะดบดอกแปูดกล้ีบ ซึ่อนช่นขนไปูต่ามช่น














ปูรัาสาท หวเสาปูนปูนปูรัะดบกาบบนเปูนล้าย





พรัรัณ์พฤกษา ถิ่อเปูนอกหนึ�งต่วอย่างของงานปููนปูน


แบบพมา-ไทใหญ ทปูนปูรัะดบสถิ่าปูต่ยกรัรัม









ทีมความงดงาม


ภาพที 186 - 190


ล้ายปูนปูนปูรัะดบซึ่มปูรัะต่โขงวดเช่ยงยน











อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่

121







2.6.4 ลายปันปันปัรู้ะดบีหอธรู้รู้ม วดปัาซุ้างงาม ภาพที� 191 - 193







อาเภอปัาซุ้าง จัังหวดลาพิ้น ล้ายปููนปูนปูรัะดบหอธรัรัม
วดปูาซึ่างงาม อาเภอปูาซึ่าง จัังหวดล้าพน








หอธรัรัมหรัือหอไต่รัวัดปูาซึ่างงาม





สรัางเมอ พ.ศิ. 2451 โดยครับานนทาธดงค ์


มาจัากเมองยอง เปูนผู้ทาการับรัณ์ะกอสรัางขน









ซึ่งมล้กษณ์ะทางสถิ่าปูต่ยกรัรัมผู้สมผู้สานกัน









รัะหวางสถิ่าปูต่ยกรัรัมต่ะวนต่กแล้ะเอกล้กษณ์ ์
แบบล้านนา อาคารักออฐถิ่อปูนหนาทบสองช่น















แบบต่ะวนต่ก แต่โครังสรัางหล้งคาซึ่อนช่น








ล้ดหล้นกนต่ามเอกล้กษณ์ล้านนา มงดวย




กรัะเบอง หนาบนแล้ะนาคสะดงปูรัะดบดวย





ล้วดล้ายปูนปูนพรัรัณ์พฤกษา ล้ายใบเทศิ ต่กแต่ง ่





ดวยกรัะจักจันสต่างๆสวยสดงดงาม ต่วอาคารั




ปูรัะดบดวยล้ายปูนปูนเทวดาศิล้ปูะแบบพมา

















ซึ่งพบเหนไดทวไปูในพนทบรัเวณ์น เหนอกรัอบ


บานหน้าต่างปูรัะดับล้ายปูนปู้นล้ายหม้อ-





บรัณ์ฆ์ฏะ ซึ่งงานปูนปูนปูรัะดบหอธรัรัมน ี � ภาพที� 191 - 192 ้ ู







งานปููนปูนล้ายหมอบรัณ์ฆ์ฏะ
เปูนล้กษณ์ะงานปู้นแกะ เทคนิคแบบงานช่าง ปูรัะดบหอธรัรัมวดปูาซึ่างงาม







พมา-ไทใหญดงที�เคยเสนอต่วอยางไวขางต่น








122

ภาพที� 194 - 196


งานปููนปูนล้ายเทวดา


ปูรัะดบหอธรัรัมวดปูาซึ่างงาม

123

ภาพที� 197




วหารัวดสวนดอก อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่



2.6.5 ลายปั้นปัันปัรู้ะดบีวหารู้วดสวนดอก อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่










วิหารัหล้วงหล้ังน� สรั้างโดยครัูบาเจั้าศิรัวช่ัย แล้ะเจั้าแก้วนวรััฐ







เมือ พ.ศิ.2474 - 2475 เปูนอาคารัโครังสรัางคอนกรัต่เสรัมเหล้ก โดยมล้กษณ์ะ

79













พเศิษคอเปูนวหารัโถิ่งไมมฝาผู้นงมแต่่รัะเบยงโดยรัอบ เจัาแกวนวรััฐ เจัาผู้ครัอง



นครัเช่ียงใหม่องคสดท้ายแล้ะพรัะรัาช่ช่ายาเจั้าดารัารัศิมี ได้กรัาบอารัาธนา
















ครับาศิรัวช่ยมาเปูนปูรัะธานกอสรัางปูฏสงขรัณ์พรัะวหารั พรัะเจัดย ซึ่มปูรัะต่ ู

กาแพง ต่ามรัาช่ศิรัทธาของเจัาแกวนวรัฐแล้ะพรัะรัาช่ช่ายาดารัารัศิม ี






ต่ล้อดศิรััทธาช่าวเมองเช่ยงใหมทังหล้าย ในวนแรัม 10 คา เดอน 8 (เดอน 10










เหนอ) จั.ศิ.1293 (ต่รังกบวนพฤหสบด ที 9 กรักฎาคม พ.ศิ.2474) ไดเรัิมล้งมอ















ขดรัากฐานวิหารั วดสวนดอก แล้ะได้ปูฏสงขรัณ์พรัะเจัดยบรัณ์ะกาแพงซึ่มปูรัะตู่





พรัอมกนไปูดวย การับรัณ์ะวดสวนดอกครัังนีเปูนการับรัณ์ะทียงใหญ ่










124


ภาพที 198 - 199






ล้ายปููนปูนหนาบนวหารัวดสวนดอก


ล้วดล้ายปูนปูนปูรัะดบหนาบนทงสองดาน เปูนล้ายเครัอเถิ่า










แบบศิิล้ปูะล้้านนาผู้สมกบรััต่นโกสนทรั เช่่นล้ายกานขด ล้ายกรัะจััง






ใบเทศิ ล้ายเทพพนม ล้ายเทวดา รัวมถิ่อการัสอนแทรักรัปูสต่วต่่างๆ









เขาไปูในงานปูนปู้นแฝงไวกบแมกไม้หมมวล้พฤกษา เช่น นกแก้ว






แขกเต่า พญานาค แล้ะเสออนเปูนสญล้กษณ์ปูนกษต่รัของ









ครับาศิรัวช่ย ปูรัะดบดวยกรัะจักจัน ทารัักแล้้วปูดทอง ถิ่อเปูนงาน







ปูนปูนล้านนายคหล้งสดทมพฒนาการัท�เปูล้ยนไปู ถิ่อเปูนต่วอย่าง





















งานปููนปูน ในช่่วงปูล้ายพ่ทธศิต่วรัรัษที 25 ทีช่ดเจันทีส่ด
125


ภาพที 200







ซึ่่มปูรัะต่ทางเขาวหารัวดช่ยพรัะเกยรัต่ ิ






2.6.6 ลายปันปั�นปัรู้ะดบีซุ้�มพิรู้ะเจัาในวิหารู้วัดชุยพิรู้ะเกียรู้ต ิ


อาเภอเมอง จัังหวดเชุยงใหม ่






วดช่ยพรัะเกยรัต่ เดมช่อวดช่ยผู้าเกยรัต่ เปูนพรัะอารัาม
















ของนครัเช่ยงใหมมาแต่โบรัาณ์ ในรัช่สมยของพรัะเจัาเมกฏ วสทธวงศิ ์






เจัาผู้ครัองนครัเช่ยงใหม่ สวนการัสรั้างวดแล้ะพรัะปูรัะธานในวิหารั




พรัะมหาเทวีจัรัะปูรัะภา ทรังสรั้างเพ�อเปูนอนสาวรัียถิ่วายแด่ สมเด็จั-














พรัะช่ยรัาช่าธรัาช่ กษต่รัยในวงศิสวรัรัณ์ภม ซึ่งปูกครัองกรังศิรัอยธยา










รัะหวางปู พ.ศิ.2081 ถิ่งปู พ.ศิ.2088 นาหนกทหล้อพรัะพทธรัปูองคน ี �












มอย่ 5 ต่ือ ต่ือ 1 เทากบ 10 โกฏ นาหนกทอง 5 ต่ือ เทากบ 50 โกฏ ิ















จังเรัยกพรัะนามว่า “พรัะเจัา 5 ต่อ” ต่ามหล้กฐานจัารัึกทฐานพรัะ

80
วาสรัางเมื�อจั่ล้ศิกรัาช่ 920 ต่รังกบ พ.ศิ.2101




126













วหารัหล้งปูจัจับนเปูนวหารัทสรัางขนมา









ทดแทนของเดมทผู้พงไปู เปูนทรังพนเมองหนาบน









ทาเปูนล้ายพนธพฤกษา ปูรัะดบดวยช่อฟื้า ใบรัะกา









แล้ะหางหงสทาเปูนรัปูพญานาค ปูรัะต่ทางเขาวหารั



ทาเปูนซึ่มปูรัะต่ยคใหมทสรัางขนในปู พ.ศิ.2495




















ดงจัารักทปูรัากฏใต่ซึ่มปูรัะต่ ซึ่มปูรัะต่ในรัปูแบบน � ี


ไดต่ดล้ดความหนาของเสา ต่ดทอนรัายล้ะเอียด ภาพที� 201 - 203








ของยอดปูรัาสาทใหสงเรัยวแล้ะจัรัะนาทเรัยบบาง ซึ่่มพรัะเจัาในวหารัวดช่ยพรัะเกยรัต่ ิ


















ซึ่งคงไดรัับอทธพล้จัากศิิล้ปูะรััต่นโกสนทรั ถิ่อเปูนรัปู อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่





แบบใหม่ทเกดขนในช่วงปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท� 25














ดงปูรัากฏใหเหนหล้ายวดในพนทจังหวดเช่ยงใหม ่











เช่น ซึ่มปูรัะต่วหารัวดเช่ยงมน ซึ่มปูรัะต่วหารั











วดพรัะสงห เปูนต่น
127

เช่งอรรถตอนำที 2































1 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์

มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 27.




2
วช่ย ต่นกต่ต่กรั, เจัดยเช่ยงยัน อกแงมมหนงของการัพจัารัณ์าทางรัปูแบบ (เมองโบรัาณ์.


















17, 2 (เมษายน – มถิ่่นายน 2534), หนา 48 – 53.





3 ฐาปูกรัณ์ เครัอรัะยา, พรัรัณ์พฤกษาล้านนา:จัากพนธกรัรัมพช่ สล้วดล้ายในศิล้ปูกรัรัม (เช่ยงใหม ่








: อพ.สธ.-แมโจั, 2563), หนา 43.

4 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์























มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 29.




5












สนต่ เล้กสขม, ศิล้ปูะภาคเหนือ: หรัิภญช่ย-ล้านนา, (กรังเทพฯ: สานกพมพเมองโบรัาณ์, 2538)




หนา 149.




6 สนต่ เล้กส่ข่ม “ เจัดยแปูดเหล้ียมวดสะดอเมอง เมองเช่ยงใหม ” ศิิล้ปูวฒนธรัรัม ปูที 16 ฉบบ













ที 4 (ก่มภาพนธ 2538) : 36 - 37.








7 สนต่ เล้กส่ข่ม , ศิิล้ปูะภาคเหนอ: หรัภ่ญช่ย - ล้้านนา (กรั่งเทพฯ: สำานกพมพเมองโบรัาณ์ ,






2538) หน้า 161 . แล้ะการัศิึกษาเปูรัียบเทียบล้ักษณ์ะองคปูรัะกอบทางสถิ่าปูต่ยกรัรัมต่ล้อดจันล้ายปูรัะดับ



บางสวนไดสรั่ปูวา นาจัะสรัางรัาวต่นพ่ทธศิต่วรัรัษที 20 ดรัายล้ะเอยดใน จัรัศิกดิ เดช่วงศิญา , เจัดยเมอง



















เช่ยงใหม, (กรั่งเทพฯ: สำานกพมพวรัรัณ์รัักษ , 2541) หนา 47 .







8 สนต่ เล้กส่ข่ม, ศิิล้ปูะภาคเหนอ: หรัภ่ญช่ย - ล้้านนา, (กรั่งเทพฯ : สำานกพมพเมองโบรัาณ์ ,





2538) หนา 183.






9 อรั่ณ์รััต่น วเช่ยรัเขยว แล้ะ ส่รัพล้ ดำารัหก่ล้, วดรัางในเวยงเช่ยงใหม , (เช่ยงใหม : สำานกพมพ ์










ต่รััสวน . 2539) หนา 76.






10 จัรัาวรัรัณ์ แสงเพช่รั, ล้ายปููนปูนล้้านนารัะยะแรักทีวดอ่มโอ จั.เช่ยงใหม ใน รัวมบทความ ทาง
















วช่าการั 72 พรัรัษาท่านอาจัารัย์ หมอมเจัาสภทรัดศิ ดศิกล้, (กรังเทพฯ: พฆ์เณ์ศิ พรันต่ง เซึ่นเต่อรั , 2538)




หนา 151.
11

จัรัศิกดิ เดช่วงศิญา, พรัะเจัดยเมองเช่ยงใหม, (เช่ยงใหม: วรัรัณ์รัักษ , 2541), หนา 95 - 101.


















12 สนต่ เล้กสขม, ศิล้ปูะภาคเหนือ : หรัิภญช่ย-ล้านนา, (กรังเทพ: เมืองโบรัาณ์, 2561), หน้า 197.







13 มารั่ต่ อมรัานนท. อทธพล้ศิิล้ปูะจันทีมต่่อล้วดล้ายล้้านนา, (ในวารัสารั มหาวทยาล้ยศิิล้ปูากรั,







ปูที 3 ฉบบที� 1 ก.ค.-ธ.ค. 2522), หนา 120-130.









14 ศิกดช่ย สายสงห. คมอนาช่มศิล้ปูกรัรัมโบรัาณ์ล้านนา, (กรังเทพ: เมองโบรัาณ์, 2563),







หนา 87.













15 สนต่ เล้กสขม, ศิล้ปูะภาคเหนอ: หรัภญช่ย-ล้านนา, (กรังเทพ: เมองโบรัาณ์, 2561),

หนา 137.


16 เสนอ นล้เดช่, ศิิล้ปูะสถิ่าปู้ต่ยกรัรัมล้้านนา, (ดานส่ทธการัพมพ:กรั่งเทพฯ,2544) หนา 70









17 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์























มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 56.
128











18 สนต่ เล้กสขม, ศิล้ปูะภาคเหนอ : หรัภญช่ย-ล้านนา. (กรังเทพ: เมองโบรัาณ์, 2561),



หนา 109








19 สานกโบรัาณ์คดีแล้ะพิพธภณ์ฑสถิ่านแห่งช่าต่ิท 6 เช่ยงใหม่. รัายงานการัขดต่รัวจัศิึกษาเนิน







เจัดยรัางวดปูาแดงหล้วง ต่.ส่เทพ อ.เมอง จั.เช่ยงใหม. (เอกสารัอดสาเนา), 2540.




20 พรัะรัต่นเถิ่รัะปูญญา , ช่ินกาล้มาล้ปูกรัณ์์ , รั.ต่.ท. แสง มนวทรั (แปูล้) , พิมพ์ครั�งท� 5 (กรังเทพฯ









:กรัมศิิล้ปูากรั , 2518) หนา 123.












21 สมเดจัพรัะเจัาบรัมวงศิเธอ กรัมพรัะยาดารังรัาช่านภาพ, ต่านานพทธเจัดย, พมพครังท 7





(พรัะนครั หางห่นสวนจัำากดศิิวพรั, 2510) หนา 101 - 102. Reginald Le May, The Culture of


SouthEast Asia : The Heritage of India, 3rd ed. (London: Novello, 1964) p.168.











22 หมอมเจัาสภทรัดศิ ดศิกล้, มหาวหารัโพธทพทธคยาแล้ะการัจัาล้องแบบ, วารัสารัมหาวทยาล้ย








ศิิล้ปูากรั, ฉบบปูล้ายภาคการัศิกษา ปูการัศิกษา 2529: 20 - 37


23 ยอรัซึ่ เซึ่เดส แล้ะ บวสเซึ่ล้เย, ปูรัะวต่ศิิล้ปูะในปูรัะเทศิไทย, หมอมเจัาส่ภทรัดศิ ดศิก่ล้ แปูล้.















(พรัะนครั: มหาวทยาล้ยธรัรัมศิาสต่รั, 2508) หนา 20. พเศิษ เจัยจัันทรัพงษ, ปู้ญหาวดเจัดยอด, วารัสารั







โบรัาณ์คด, ปูที 1 ฉบบที 2 (ต่่ล้าคม - ธนวาคม 2510): 3 - 97 แล้ะ น. ณ์.ปูากนา, ศิิล้ปูะแหงอาณ์าจัักรั








ไทยโบรัาณ์ (พรัะนครั: โอเดยนสโต่รั, 2520) หนา 101 - 102.




















24 ฉต่รัแกว สมารักษ, ปูรัะต่มากรัรัมปูนปูนรัปูเทพช่มนมปูรัะดบฝาผู้นงวหารัวดเจัดยอด










(มหาโพธารัาม) จัังหวดเช่ยงใหม (วทยานพนธปูรัญญาศิิล้ปูะศิาสต่รัมหาบณ์ฑต่ สาขาวช่าปูรัะวต่ศิาสต่รั ์









ศิิล้ปูะบณ์ฑต่วทยาล้ย มหาวทยาล้ยศิิล้ปูากรั, 2541) หนา 43-44.















25 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์









มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม, 2544), หนา 61.





26 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์




























มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม, 2544), หนา 61.





27 จัรัศิกดิ เดช่วงศิญา, พรัะเจัดยเมองเช่ยงใหม, (เช่ยงใหม: วรัรัณ์รัักษ, 2541), หนา 130.

























28 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์










มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 65.












29 วเศิษ เพช่รัปูรัะดบ แล้ะ วงศิฉต่รั ฉต่รักล้ ณ์.อยธยา, รัายงานการัขดแต่งศิกษาแล้ะบรัณ์ะ









เจัดยวดหนองหล้ม (รัาง) แล้ะเจัดยวดปูาต่าล้, (หน่วยศิล้ปูากรัท 4, กรัมศิล้ปูากรั, เอกสารัอัดสาเนา,





2528) หนา 15.







30 จัรัศิกดิ เดช่วงศิญา, จัรัะนำาเจัดยล้้านนากอนพ่ทธศิต่วรัรัษ ที 22, (เช่ยงใหม: สานกพมพวรัรัณ์










รัักษ, 2541), หนา 167.











31 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์

















มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 68.


32 ปูายขอมล้วด, วดหมืนสารั อ.เมอง จั.เช่ยงใหม, วนที 10 เมษายน 2564.













33 ต่านานมล้ศิาสนา, อน่สรัณ์์งานพรัะรัาช่ทานเพล้งศิพ ม.ล้. เดช่ สนทวงศิ, 1 ธนวาคม 2518.,



หนา 218.


34 ต่านานพรัะศิิล้าวดช่ยงมัน, (เช่ยงใหม: มปูพ, 2525). หนา 18.


























35 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์




มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 100.








36 ส่รัพล้ ดารัหก่ล้, ปูรัะวต่ศิาสต่รัแล้ะศิิล้ปูะล้้านนา, (กรั่งเทพ: เมองโบรัาณ์, 2561), หนา 239.














37 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์














มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 116.


129










38 หนวยศิล้ปูากรัท� 4, รัายงานการัขดแต่งแล้ะบรัณ์ะเจัดยวดปูนสาท, เอกสารัโรัเนยว, 2528.



หนา 15-19.









39 สนต่ เล้กสขม, ศิล้ปูะภาคเหนอ: หรัภญช่ย-ล้านนา, (กรังเทพ: เมองโบรัาณ์, 2561),




หนา 167.


40 จัรัศิกดิ เดช่วงศิญา, พรัะเจัดยเมองเช่ยงใหม, (เช่ยงใหม: วรัรัณ์รัักษ, 2541), หนา 147.
















41 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์





















มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 118.













42 อนกรัรัมการั...,ต่ำานานพนเมองเช่ยงใหมฉบบ 700 ปู, (ศินยวฒนธรัรัม จังหวัดเช่ยงใหม:







โรังพมพมิงเมอง, 2538), หนา 87.

























43 ม.ล้, สรัสวสด สขสวสด, เทยววดเทยววา ดล้ายปูนปูนล้านนา, (เช่ยงใหม: คณ์ะวจัต่รัศิล้ปู ์

มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม,2544), หนา 119.





44 เรัืองเดยวกน), หนา 121.











45 ปูายขอมล้วด, วดปูาซึ่างงาม อ.ปูาซึ่าง จั.ล้าพน, วนที 8 เมษายน 2564.








46 เธยรัช่าย อกษรัดษฐ, ล้วดล้ายพืนถิ่นงานพ่ทธศิิล้ปูล้้านนา, ในวารัสารั รัมพยอม, ปูที 21 ฉบบ







ที 2 เม.ย.-ก.ย. 2562, หนา 1-17.















47 สนต่ เล้กสขม, ศิล้ปูะภาคเหนอ: หรัภญช่ย-ล้านนา, (กรังเทพ: เมองโบรัาณ์, 2561),

หนา 22.



48 เรัืองเดม. หนา 25.




49 ฐาปูกรัณ์์ เครัือรัะยา, พรัรัณ์พฤกษาล้้านนา: จัากพันธกรัรัมพช่ ส่ล้วดล้ายในศิล้ปูกรัรัม

(เช่ยงใหม: อพ.สธ.-แมโจั, 2563), หนา 165 .











50 ส่รัพล้ ดารัหก่ล้, ปูรัะวต่ศิาสต่รัแล้ะศิิล้ปูะล้้านนา, (กรั่งเทพ: เมองโบรัาณ์, 2561), หนา 274.






51 ฮัันส เพนธ แล้ะคณ์ะ ปูรัะช่่มจัารักล้้านนา เล้ม 2 จัารักพรัะเจัากาวล้ะ, (เช่ยงใหม: คล้งจัารัก








ขอมล้ล้้านนา สถิ่าบนวจััยสงคม มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม, 2541) หนา 191.



















52 จัรัศิกด เดช่วงศิญา, ล้วดล้ายปูนปูน ปูรัะดบโบรัาณ์สถิ่านในเมองเช่ยงใหม, (เช่ยงใหม:




สถิ่าบนวจััยสงคม, 2545), หนา 24.











53 อนกรัรัมการั...,ต่ำานานพนเมองเช่ยงใหมฉบบ 700 ปู, (ศินยวฒนธรัรัม จังหวัดเช่ยงใหม:







โรังพมพมิงเมอง, 2538), หนา 144.







54 ฮัันส เพนธ แล้ะคณ์ะ, ปูรัะช่่มจัารักล้้านนา เล้ม 2 จัารักพรัะเจัากาวล้ะ, (เช่ยงใหม: คล้งจัารัก









ขอมล้ล้้านนา สถิ่าบนวจััยสงคม มหาวทยาล้ยเช่ยงใหม, 2541) หนา 191.













55 บญเสรัม ศิาสต่รัาภย, เสดจัล้านนา 2, พมพครังท 2 (เช่ยงใหม: อกษรัภพฒน, 2532),













หนา 51.




56 สรััสวด อองสก่ล้, ปูรัะวต่ศิาสต่รัล้้านนา, (กรั่งเทพฯ: อมรันทรั, 2544.), หนา 28.




57












สานกศิล้ปูากรัท 8 เช่ยงใหม. โครังการับรัณ์ะวหารัแล้ะอโบสถิ่วดดวงด อาเภอเมอง







จัังหวดเช่ยงใหม. (เอกสารัอดสาเนา), 2548.หนา 5.




58 วรัล้ญจัก บ่ณ์ยส่รััต่น, วหารัล้้านนา, (กรั่งเทพฯ: เมองโบรัาณ์, 2544.) หนา 206.




59 วรัศิกดิ ของเดม, แปูล้, วนที 15 มกรัาคม 2564.









60 สรััสวด อองสก่ล้, หล้กฐานปูรัะวต่ศิาสต่รั, หนา 27.






61 พรัะครัช่นวงศิาน่วต่ วดปูรัาสาท, หนา 15



62 พรัะรััต่นเถิ่รัะปู้ญญา, ช่นกาล้มาล้ปูกรัณ์์ , หนา 135.



130

















63 ปูวงคา ต่ยเขยว, ปูรัะวต่วดมหาวน, (เช่ยงใหม: กองทนพธวดมหาวน, 2534) หนา 10.






พมพในงานครับ 6 รัอบ พรัะครัมนญธรัรัมาภรัณ์ วดมหาวน ต่.ช่างคล้าน อ.เมอง จั.เช่ยงใหม แล้ะ พรัะครั ู






ปูรัะจัักษพัฒนค่ณ์, “บันทึกครัูบาโสภาโณ์ (ครัูบาเย�ม)” ปูรัะวต่วัดแสนฝางเช่ียงใหม่, (มปูท, 2537)



หนา 9 – 13.

64 รัายงานโครังการั การัศิกษาความเหมาะสมแล้ะออกแบบรัายล้ะเอยดการัใหแสงสวางโบรัาณ์









สถิ่านในต่วเมองเช่ยงใหม การัทองเทียวแหงปูรัะเทศิไทย, หนา123.



65 ขอความจัากจัารักทีกำาแพงดานหนาวหารัวดสำาเภา







66






วรัล้ญจัก บ่ณ์ยส่รััต่น, วหารัล้้านนา. (กรั่งเทพฯ: เมองโบรัาณ์, 2544) หนา 186.





67 สมโช่ต่ อองสกล้ แล้ะคณ์ะ. โครังการัศิกษาปูรัะวต่ศิาสต่รัพทธศิาสนาเพอการัอนรักษแล้ะพฒนา















วดปูาแดงมหาวหารัอยางยงยน. (2552). หนา 32.







68 สมหมาย เปูรัมจัต่ต่, รัายช่ือวดแล้ะนกายสงฆ์์โบรัาณ์ในเช่ยงใหม, หนา 16.






69 ฮัันส เพนธ แล้ะ คณ์ะ, ปูรัะช่่มจัารักล้้านนา..., หนา 151.










70 ปูวงคำา ต่่ยเขยว, ปูรัะวต่วดอนทรัาวาส (ต่นเกวน), (มปูพ., 2527) หนา 3.ที�รัะล้กในงานทอด


ผู้าปูา เช่ยงใหมสามคคการัก่ศิล้ 2527.





71 ปูายขอมล้วด, วดปูาจัี อ.เมอง จั.เช่ยงใหม, วนที 2 เมษายน 2564.




















72 ปูายขอมล้วด, วดอ่โบสถิ่ อ.เมอง จั.เช่ยงใหม, วนที 2 เมษายน 2564.




73 ฮัันส เพนธ , ศิรัเล้า เกษพรัหม, ปูรัะช่่มจัารักล้้านนา เล้ม 10 จัารักในจัังหวดเช่ยงใหม ภาค 2.










(สถิ่าบนวจััยสงคม มหาวทยาล้ยช่นงใหม: โรังพมพมิงเมอง). หนา 46.















74 ส่รัพล้ ดารัหก่ล้, ปูรัะวต่ศิาสต่รัแล้ะศิิล้ปูะล้้านนา, (กรั่งเทพ : เมองโบรัาณ์, 2561), หนา 280.





75 เธยรัช่าย อกษรัดษฐ, เรัืองเดยวกน.





76 สมภาษณ์์, พรัะส่เทพ ปูยธโรั, พรัะวดแสนฝาง, วนที 14 มกรัาคม 2564.







77 สงวน โช่ต่ส่ขรััต่น. “จัดหมายเหต่่เมองเช่ยงใหม,” ใน ปูรัะช่่มต่านานล้านนาไทย.








78 ปูายขอมล้วด, วดปูาเปูา อ.เมอง จั.เช่ยงใหม, วนที 5 เมษายน 2564.








79 ศิกดิช่ย สายสงห, คูมอนาช่มศิิล้ปูกรัรัมโบรัาณ์ในล้้านนา. เมองโบรัาณ์: กรั่งเทพฯ, หนา 108.










80 พนธ่ทพย ธรัะเนต่รั, โครังการัฐานขอมล้จัารักในปูรัะเทศิไทย, ศิมส., 2548, จัาก: ฮัันส เพนธ,














“22 วดช่ยพรัะเกยรัต่,” ใน คาจัารักทฐานพรัะพทธรัปูในนครัเช่ยงใหม (กรังเทพฯ: คณ์ะกรัรัมการัจัดพิมพ ์













เอกสารัทางปูรัะวต่ศิาสต่รั สานกนายกรััฐมนต่รั, 2519), 98-102.


131

ตอนำที 3














วาดั�วยเรองเทคำนำคำงานำปูนำปูนำ



และส้ตรปูนำ ตำโบราณที�พับในำพั่นำทีล�านำนำา










ในสวนนจัะกล้าวถิ่งสต่รัปูนต่าทช่างล้านนานำามาใช่ในการั












ทาปูนต่าโบรัาณ์ วามสวนผู้สมอะไรับาน แต่งล้ะสานกมการัสบทอด












งานช่างมาจัากไหน รัวมไปูถิ่ึงเทคนิคงานปูนปู้นทปูรัากฏว่ามกเทคนิค

ในการัสรัางสรัรัคงานในพืนทีจัังหวดเช่ยงใหม ่














จัากการัศิกษาเกบขอมล้ล้วดล้ายปูนปูน พบวาช่างในอดต่










ในเขต่พ�นทล้านนาจัะมีเทคนคการัปู้นล้วดล้าย 3 แบบคือ 1) ปูนโกล้น


2) ปู้�นแปูะ 3) ปู้�นแกะ ซึ่�งแต่ล้ะเทคนิคน�นมีความนิยมในช่่วงรัะยะ





เวล้าแล้ะยคสมยทต่างกน รัวมถิ่งเทคนคช่างนน ขนอยกบอทธพล้



















ทางวฒนธรัรัมที�ต่่างกนดวย ดงมรัายล้ะเอยดดงต่่อไปูนี �


132
















1. ปันโกลน การัปูนโกล้น คอการัโกล้น 3. ปันแกะ คออกวธการัหนงในงานปูนปู้น










โครังล้ายใหยกนนขนกอน แล้วคอยปูนล้ายล้ะเอยด ทปูรัากฏในพนทวฒนธรัรัมล้านนา โดยมวธการั




















ของล้วดล้ายทับอีกครั�ง เพ�อการัเพ�มมต่ิให้งาน คอการัพอกปูนใหมความหนาต่ามล้กษณ์ะของ










ปูนปูนนนล้ก โดยเทคนคการัปูนโกล้นล้ายน � ี ต่วล้าย แล้ะมความกวางยาวใหพอดกบบรัเวณ์










เปู็นล้ักษณ์ะเด่นท�เกิดข�นในช่่วงพทธศิต่วรัรัษท � ี พนททจัะทาการัสรัางล้วดล้าย ทงไวใหหมาด





















20 - 21 อนเปูนยคทองของศิล้ปูะล้านนา จัากนนคอยใช่โล้หะแบนเรัยบต่ดปูาด แล้ะแกะ









ยกต่วอย่างเช่่น ล้ายปููนปูนวดเจัดยอด ล้ายปููนปูน เปูนล้วดล้าย ต่ามพนปูนทฉาบไว โดยเทคนคน � ี










วดปูาแดงหล้วง ล้ายปููนปูนวนเกาะกล้าง ล้ายปููน เปูนล้กษณ์ะของงานช่างพมา - ไทใหญ มกจัะใช่ ้











ปูนซึ่มปูรัะต่โขง วดพรัะธาต่ล้าปูางหล้วง เปูนต่น ต่กแต่งปูรัะดบบรัเวณ์ซึ่มปูรัะต่ หนาต่าง ของวหารั






























ซึ่งกรัณ์ดงนโดยสวนต่วผู้เขยน สนนษฐานวาเปูน ปูนแล้ะอโบสถิ่ปูน รัวมไปูถิ่งเจัดย ซึ่งสวนใหญ ่














เทคนคการัปู้นปูนปูรัะดับภายนอกอาคารัของ เปูนล้วดล้ายพรัรัณ์พฤกษา ปูรัากฏใหเหนเทคนค










ยคสมยน ทมการัปูนใหเกดความนนสงของล้าย นในช่วงปูล้ายพทธศิต่วรัรัษท� 25 เปูนต่นมา



























โดยใหมมต่ เพออาศิยแสงเงาทจัะต่กกรัะทบในการั โดยเขามากบการัทาธรักจัคาไมของช่าวพมา -



ทจัะทำาใหเหนล้ายเด่นช่ด (มมต่ทางแสงเงา) ไทใหญในช่่วงรัะยะเวล้าดงกล้าว งานในล้กษณ์ะนี �
























เมอมองดจัากรัะยะไกล้ เพรัาะกล้มต่วอยางสวน คาดวาช่างไทใหญไดรับอทธพล้มาจัากพมา

















ใหญปูรัากฏแต่การัปูนปูรัะดบเทคนคนกบสง แล้ะพมารัับอทธพล้มาจัากองกฤษอกทอดหนึ�ง








กอสรัางภายนอกเปู็นสวนใหญ่ ทงเจัดย สถิ่ปู
















แล้ะซึ่มปูรัะต่โขง ซึ่งอาจัจัะเปูนการัแกปูญหา นอกจัากเทคนคงานปูนปูนทไดกล้าวไว ้



ของการักล้นล้ายกล้างแจังของช่่างในยคนนีกได ้ แล้้วในข้างต่้น จัากการัเก็บข้อมล้ในช่่วงเวล้า








ทผู้านมา พบเทคนคพเศิษอกหล้ายแบบ ทถิ่กคด














2. ปันแปัะ คอการัปูนล้ายต่ดกบต่ว ขนมา เพอทาใหงานปูนปูนมความนาสนใจั























โครังสรัางหล้กเล้ย โดยไมมการัโกล้นล้ายให้นนขน โดยวธการัใช่วสดอนขนโกล้นล้าย แล้วใช่ปูนปูนปูน



















ซึ่งเทคนิคดงกล้าวพบโดยทวไปู แล้ะช่างส่วนมาก ทบต่อ งานในล้ักษณ์ะน�สามารัถิ่เพ�มมต่ของ























จัะนยมเทคนคนเพรัาะไมต่องยงยากในการัเพม ล้วดล้ายใหนนสงขน เพมเนองานปูนปูนใหมรัปูทรัง















สวนเนอโครังสรัางล้ายเหมอนเทคนคแรัก มากขึน ดงปูรัากฏในเทคนคพเศิษดงนี �












แต่่ขอเสยคอล้ายจัะไมมมต่ โดยเฉพาะถิ่าเปูนการั

ปูนล้ายปูรัะดบสงกอสรัางกล้างแจัง เวล้ามองใน












รัะยะไกล้จัะไมเหนรัปูแบบโครังสรัางของล้วดล้าย



เทาไหรั่ โดยเทคนิคนมกไดรับความนิยมในช่วง






พ่ทธศิต่วรัรัษที 23 - 25 เปูนต่นมา

133


ภาพที 204

การัโกล้นล้ายดวยหนง (หางหงส) วดปูรัาสาท อ. เมอง จั. เช่ยงใหม ่













การู้โกลนลายดวยหนัง เทคนคดงกล้าว การู้โกลนลายดวยไม เปูนอกหนงเทคนค














เปูนล้กษณ์ะของการัใช่แผู้นหนงวว หรัอหนงควาย ในงานปููนปู�นล้้านนาทน่าสนใจั โดยการันาเอาไม้ไผู้ ่

























ต่ากแหง แล้วนำามาต่ดเปูนรัปูรัางทต่องการั ทผู้าเปูนซึ่ๆ มาดดเปูนโคงแล้วฝงหวแล้ะทายเขาไปู







ก่อนนาไปูปูรัะกอบกับโครังสรั้างหล้ักแล้้วปู�น ในต่วโครังสรัางหล้กของงานปูนปูน เพอใหสวนโคง ้























ล้วดล้ายปูนปูนทบล้งไปู ซึ่งล้กษณ์ะเทคนค ดงกล้าว เกดเปูนรัปูทรังที�นนขึนแล้ะมมต่ จัากนัน

















ดงกล้าวจัะเปู็นล้กษณ์ะของล้ายปูนปู้นทต่องอาศิัย นาปูนมาปูนทบเปูนล้วดล้ายอกครัง ซึ่งปูรัากฏ














ล้กษณ์ะของโครังสรัางปูนปูนทบาง เช่นการัใช่ ้ เทคนคนในการัปูรัะดับซึ่มจัรัะนา ทาใหงานมความ












เปูนโคล้งของหางหงส ปูกนก หรัอเครัองทรัง ล้กแล้ะมความนาสนใจัอยางมากในทางเช่งช่าง


















เปูนต่น ซึ่งต่วอยางทีเหนไดช่ดคองานปููนปูนรัปู ทคดแล้ะหาวธในการัเพมมต่ใหกบงานปูนปูน
























หงส์ ปูรัะดับซึ่มมณ์ฑปูปูรัาสาทท้ายวิหารัปูรัาสาท ไดอยางนาสนใจั ยกต่วอยางงานปููนปูนซึ่่มจัรัะนา







อาเภอเมอง จัังหวดเช่ยงใหม ่ วดรัองแหยง อาเภอหางดง จังหวดเช่ยงใหม ่









เปูนต่น
134



การู้โกลนลายดวยโลหะ หรัอ เทคนคการั








รัองรับงานปูนปูนดวยโครังโล้หะ เทคนคนพบมากในงาน










ปูนปูนของศิล้ปูะแบบพมา-ไทใหญ ทปูรัากฏใหเหน

โดยทวไปูในวดแบบพมา-ไทใหญในช่วงพทธศิต่วรัรัษท � ี








25 เปูนต่นมา โดยการัต่ัดแล้ะดดโล้หะเปู็นรัปูรัาง





ต่ามโครังล้ายทีออกไว กอนจัะนาไปูต่ดยดกบโครังสรัาง














หล้กของงานศิล้ปูกรัรัมนนๆ แล้วคอยทาการัปูนปูน












ดวยล้วดล้ายต่างๆทับไปูบนแผู้นโล้หะอกครัง ซึ่งเทคนค



กงกล้าวพบวาใช่ปูรัะดับแทนแกว เสาวิหารั พรัะพทธรัปู






ดาวเพดาน แล้ะอ�นๆอกมากมาย ยกต่ัวอย่างเช่น



การัปูรัะดบปูนปูนเสาวหารัมณ์ฑปูปูรัาสาทวดพรัะแกว-











ดอนเต่าส่ช่าดารัาม จัังหวดล้าปูาง เปูนต่น
ภาพที� 205 - 206




การัโกล้นล้ายดวยไม เทคนคงานปููนปูนซึ่่ม



จัรัะนาวดรัองแหยง ่


135

ภาพที� 207




การัโกล้นล้ายดวยโล้หะ ปูรัะดบปููนปูนบวหวเสามณ์ฑปู




ปูรัาสาทวดพรัะแกวดอนเต่าส่ช่าดารัาม























ภาพที 208


การัโกล้นล้ายดวยโล้หะ ล้ายเครัอพนธ่์พฤกษา




ปูรัะดบปููนปูนเสามณ์ฑปูปูรัาสาท วดพรัะแกวดอนเต่าส่ช่าดารัาม




136


ภาพที 209





การัโกล้นล้ายดวยดนเผู้า ปูรัะดบปููนปูน


ซึ่่มปูรัะต่โขงวดปูาต่นหล้วง จัังหวดล้าปูาง
















การู้โกลนลายดวยดนเผู้า เปูนอกหนงเทคนคทพบบอยครัง





ในงานปูนปูนล้านนา โดยปูนขนรัปูทรังดวยดน กอนนาไปูเผู้าใหสก



















แล้วคอยนาเอาโครังรัางของรัปูทรังเหล้านนน มาปูรัะกอบเปูนโครังสรัาง











แล้้วคอยปูรัะดบล้วดล้ายปููนปูนทบอกครััง ซึ่งเทคนคล้กษณ์ะนี ปูรัากฎ






ในการัสรัางงานปูรัะดบต่กแต่่งซึ่่มปูรัะต่โขงในช่่วง ในช่่วงพ่ทธศิต่วรัรัษ











ท 24 ล้งมา ทาใหการัทางานปูนปูนรัวดเรัวขน โดยไมต่องรัอใหโครังสรัาง

















ปูนปูนแหงกอนปูรัะดับล้ายปูนปู้น ถิ่อเปูนการัแก้ปูญหาเรัองเวล้า










ของช่างไดอยางนาสนใจั ยกต่วอยางดงทพบทซึ่มปูรัะต่โขง






วดปูาต่นหล้วง ซึ่่มปูรัะต่โขงวดศิรัหมวดเกล้้า จัังหวดล้าปูาง เปูนต่น









137

ภาพที� 210 - 212





การัโกล้นล้ายดวยดนเผู้า ปูรัะดบปููนปูน
ซึ่่มปูรัะต่โขงวดปูาต่นหล้วง จัังหวดล้าปูาง






























138




วาดั�วยวสดัทีเปูนำสวนำผู้สมขีองปูนำปูนำ








ในดนแดนทเปูนปูรัะเทศิไทยปูจัจับน มนษยรัจักนาปูนมาใช่ในงาน
















กอสรัางเปูนเวล้ามากกวาพนปูแล้ว โดยใช่เปูนวสดเช่อมปูรัะสานหน



























หรัออฐทใช่ในการักอสรัางใหต่ดกน ปูนทใช่คอ “ปูนขาว” (lime) ซึ่งไดจัาก






การัเผู้าวต่ถิ่่ทีมองคปูรัะกอบสวนใหญเปูนแคล้เซึ่ยมคารับอเนต่ (calcium-






carbonate) เช่่น หนปููน หนออน แล้ะเปูล้อกหอย เปูนต่น หากนาปููนขาว




















ไปูใช่เปูนวสดเช่อมยึดหนหรัออฐใหต่ดกนเพอกอเปูนผู้นงกาแพง หรัอเพดาน














กจัะเรัยกวา “ปูนสอ” (Mortar) แต่ถิ่าใช่เปูนวสดฉาบหน หรัออฐ















จัะเรัยกวา “ปููนฉาบ” (plaster) แล้ะถิ่าใช่ทาเปูนล้วดล้ายหรัอปูนปูรัะดบ



ต่ามอาคารัจัะเรัียกว่า “ปููนปู�น” (stucco) ท�งน�ในปููนสอแล้ะปููนฉาบ







จัะมองคปูรัะกอบทีสาคญ 2 สวน คอ ปููนขาวแล้ะทรัาย ขณ์ะทีในปููนปูน








จัะมองคปูรัะกอบ 4 สวน คอ ปููนขาว ทรัาย เสนใย แล้ะกาว











ปูนทใช่ในการัปูนเปูนล้วดล้ายปูรัะดับสถิ่าปูต่ยกรัรัมดังทกล้าวมา










แล้วนน จัะเปูนวสดทไดมาจัากหนปูน หรัอเปูล้อกหอยทะเล้เผู้าไฟื้













ซึ่งเผู้าไหมแล้วจัะเปูนผู้งสขาว จังมช่อเรัยกอกอยางหนงวา “ปูนขาว”










ปูนทจัะนามาปูนเปูนล้วดล้ายปูรัะดบนน จัะต่องไดรับการัเต่รัยมการั























ใหมคณ์ภาพเหนียวแล้ะจับต่ัวแขงแกรั่ง เม�อภายหล้ังปูนปู้นนนแหงสนท




จังผู้สมนายากบวสดบางช่นดเพอเพมคณ์ภาพ ซึ่งการัเต่รัยมปูนดงกล้าว























มกจัะใช่กรัรัมวธการัต่าหรัอการัโขล้ก เพอใหวต่ถิ่ทผู้สมล้งไปูหรัอสวน







ปูรัะกอบต่่างๆ เหล้านันปูนกนแล้ะเขากนเปูนอยางด ี







139





















ดงนนปูนทจัะใช่งานปูนจังมกจัะเรัยกวา “ปูนต่า” ครันเมอนา





ไปูปูนกเรัยกวา ปูนปูนต่า ปูนปูนโขล้ก แล้ะปูนปูนทม หรัอบางแหง



















เรัยกวา “ปููนสด” เพรัาะเมือนาไปูปูน ต่องปูนกนสดๆ จัะใหปููนแหง








ไมไดต่องใหสดเสมอ








ปูนปูน หรัอ ปูนต่าทจัะใช่ในการัปูนไมปูรัากฏวาจัะปูรัากฏ












อยในภาคใดๆ ในปูรัะเทศิไทย จัะมสวนผู้สมสาคญอย 4 อยาง คอ



















1. ปูนขาว (Lime) จัะเปูนวสดหล้ก มหนาททาใหกอนปูน






มีความแข็งแกรั่ง ปููนขาวทจัะนามาใช่ต่้องบรัสทธ� ไมปูนเปู�อน






หรัอค่ณ์ภาพต่า










2. ทรัาย (Sand) เปูนวสด่ทีมหนาทีทาใหแนนแขงแล้ะทรังต่ว







ทรัายทีจัะนามาใช่ควรัเปูนทรัายนาจัด สะอาด ไมปูนเปูอน แล้ะมความ





ล้ะเอยด



3. เสนใย (Fiber) เปูนวสด่ทีจัาเปูนอยางหนึงในการันามาเปูน























สวนผู้สมของปูนท�จัะนามาใช่ในงานปูน เสนใยนนจัะทาหนาทเหนยวรัง








ปูรัะสานภายในก้อนปูน เปู็นสงช่วยเสรัมโครังสรัางในเนอปูน ใหยดกน









มั�นคงแล้ะช่่วยใหปููนไมแต่กรัาวเมือเกดการัหดหรัอขยายต่ว











4. กาว (Gum) เปูนวสด่ทีมบทบาทสาคญในปููนต่า จัะเปูนต่ว













ยดเนอปูนใหเขาเปูนเนอเดยวกน แล้ะเปูนต่วเรังใหปูนจับต่วแขงเรัว






















ยงขึน อาจัทรังต่วอยไดในขณ์ะทียงทาการัปูนไมแล้้วเสรัจั


140




ปูระเภุทขีองปูนำปูนำ






















เนอปูนทใช่ในงานปูนทปูรัากฏมอยทงในอดต่


แล้ะสืบมาจันถิ่ึงทกวันน� อาจัแบ่งออกได้เปู็นสองปูรัะเภท




ไปูต่ามความแต่กต่่างของวสด่ทีใช่เปูนสวนผู้สม










ปูรัะเภทแรัก เนอปูนทจัะใช่ในการัปูนนนใช่นากาว












เช่่น กาวหนงสต่ว นาออย ฯล้ฯ เปูนสวนผู้สม จัะเรัยกวา




ปููนนากาว โดยสวนผู้สมของปูนนากาวมกจัะปูรัะกอบดวย













ปููนขาว ทรัายแมนา กาวหนังสต่ว์ นาอ้อยแล้ะกรัะดาษ

หรัอ ฟื้างหรัอปู่ยนน เปูนต่น






ปูรัะเภททสอง เนอปูนทมสวนผู้สมดวยนามน






















เช่่น นามนต่งอิว นามนยาง ฯล้ฯ นัน จัะเรัยกวา ปููนนามน





ซึ่งสวนผู้สมมกจัะปูรัะกอบดวย ปูนขาว ช่น นามนต่งอว















แล้ะกรัะดาษหรัอฟื้าง หรัอ ปู่ยนน เปูนต่น



141

วสดัในำกุารผู้สมปูนำ



81

โคำรงสร�างแบบล�านำนำาโบราณทัวไปู







ต่นไมไก หรัอ ไมเมอก (Termstro-
emia gymnanthera Bedd) ใช่สวนเปูล้อก










ไมแช่นาปูรัะมาณ์ 15 วนจัะไดนายาง




ทีมล้กษณ์ะของคล้้ายกาวนาใสๆ หรัออาจันำา






ปูนขาวล้งไปูหมกรัวมนาเปูล้อกไมไก หรัอไม ้











เมอกไดอกวธหนึงเช่่นกน






ปูนขาว ปูนเผู้าหรัอปูนเปูล้อกหอย

เผู้าหรัอเปูล้อกหอยเผู้าไดจัากการัเอาหนปูน






มาเผู้าไฟื้จัะได้ปูนเผู้าหรัือแคล้เซึ่ยมออกไซึ่ด ์
กบคารับอนไดออกไซึ่ด (แคล้เซึ่ยมคารับอเนต่)






หนงควาย ไดจัากสวนที�เปูนหนงเผู้า






เอาขนของควายออกใหหมด โดยการันามา



ขดในนาให้สะอาจัอีกครังหนงเพอการัล้ดกล้�น












จัากนั�นนำาไปูหมกอกปูรัะมาณ์ 15 วน แล้้วจัง

นำานาหนงควายเอาไปูเคียวจัน กล้ายเปูนกาว





นาหนงควาย





นาอ้อย หรัือ นาต่าล้อ้อยที�ไดจัากต่้น











ออยมาคนหนบเอานาออยกอน แล้วจังเอามา








เคยวจันนาออยเหนยวหนดไดท แล้ะหยอดล้ง








พมพทเต่รัยมไวแบงเปูนกอนๆ เพองายต่อ









การันามาใช่ ้
ภาพที� 213 - 214



การัเผู้าปููนขาวใหแต่กล้ะเอยดแล้ะบดเปูนผู้ง
กอนนาไปูเปูนสวนผู้สมปููนปูน






142

ภาพที� 215 - 217


การัต่าปููนสด




143





อปูกุรณและเคำรองม่อทีใช่�



ในำกุารผู้สมปูนำสะทายจิ้นำ






ครักกรัะเดือง หรัอครักมอง ใช่ในการัต่ำาปููนแล้ะวสด่สวนผู้สมต่่างๆใหเขากน










โอง/บอ ใช่สำาหรัับการัหมกปููนขาว หนงควายแล้ะ


เปูล้อกไมทีเปูนสวนผู้สม



กรัะปูอง ใช่ต่วงวสด่สวนผู้สมต่่างๆ ในการัผู้สมปููนต่า









ไมพาย ใช่ในการัคนวสด่สวนผู้สม



ต่ะแกรัง ใช่ในการัรัอนกรัองทรัายแล้ะเศิษวสด่


ตำราและส้ตรกุารผู้สมปูนำปูนำ












งานช่างปูนปูนนน ในอดต่ต่องมการัเต่รัยมปูนปูนเองในการันามา



สรัางสรัรัคงาน ซึ่งวสดสาคญในการัสรัางสรัรัคงานปูรัะเภทนนน คอ ปูนต่าสด



















ซึ่งช่างแต่ล้ะพนทกมกจัะมเทคนคแล้ะสวนผู้สมของเน�อปูนทแต่กต่างกัน อาจัจัะ
















กล้าวไดวาในอดต่ต่ารัาแล้ะสต่รัการัผู้สมปูนปูนเหล้าน คอนขางทจัะเปูนความล้บ














้�



















ของกล้มช่างแต่ล้ะพนท สงวนไวเพยงกล้มต่นเทานน ดงนนจังปูรัากฏสต่รัต่าปูน


















ทหล้ากหล้ายในปูจัจับัน โดยมวต่ถิ่ดบเหมอนกน แต่กต่างกันในสวนผู้สมเท่านน




ดงจัะไดนาเสนอต่่อไปู
144









1. สตรู้การู้ผู้สมปันฉบีบีค์รู้บีาอาโนชุยธรู้รู้ม 2. สตรู้การู้ผู้สมปันฉบีบีค์รู้บีาโสภา (เถม)














จันดามน วดปังสนกเหนอ จังหวดลาปัาง โสภโณ วดแสนฝาง จังหวดเชุยงใหม ่




(ชุวงปั พิ.ศิ.2400 - 2454) 82 (ชุวงปั พิ.ศิ.2427 - 2478)



ซึ่ะทายเทก (ปููนกอฉาบ) เอาทรัายกบปููน ครับาเถิ่�ม ดารังต่าแหนงเปูนเจัาอาวาส
















เทากน นาออย 1 นาไก 9 นาออยเบี�ยทอดบจัม วดแสนฝาง ช่วงปู พ.ศิ. 2427 แล้ะมรัณ์ภาพใน






















ผู้วานาออยยอยปูกบาง เอานาออย 1 ไก 7 ปู พ.ศิ.2478 เปูนครับาสล้าของเมองเช่ียงใหม ่











ซึ่ะทายจันฝาก(ปูนกาวปูรัะสาน) ออย 1 คอเปูนช่างกอสรัางศิาสนสถิ่าน ทงยงมีความ






ไก 6 ออยยอยปูกบาง ออย 1 ไก 5 นาดูนาแงะเอา แต่กฉานในวิช่าโหรัาศิาสต่รั์ สามารัถิ่พยากรัณ์ ์







เปูล้อกมาเคยว เอาปูนมาแขวดหมายไวคนแหงทก เหต่การัณ์ต่างๆได้ถิ่กต่องแมนยำา จังทาให้ช่วง




















ปููนหมายไวเอานาเต่ือมแหงพอ 3 เทื�อ เอานาแงะ รัะยะเวล้าททานดารังต่าแหนงเจัาอาวาสวด มการั
















นาดใสกบกนหอเปูนผู้อง 1 นามะคาผู้อง 1 นาหนง ั สรัางถิ่าวรัวต่ถิ่่หล้ายหล้ง เช่่น การัปูนปููนปูรัะดบ




















ผู้อง 1 หาหนังบ่ได้คานามะค่ากดี นามันยางต่วง 1 วหารัวดแสนฝาง การัปูนปูนปูรัะดบวดพรัะธาต่ ่



















ปููน 6 ทรัาย 5 คนต่าครักใหญใสกล้้วยคาวหนวย ดอยสเทพ ซึ่งสต่รัในการัผู้สมปูนของครับาเถิ่ม

















1 คนครักหนอยใสเกิงหนวย 1 หาบไดกล้้วยนากด ี สวนผู้สมสต่รันีจัะเปูน 9/5/1 คอปููนขาว 9 สวน
























คนแต่กหอเต่มล้งหอเต่อมนาออยหาเต่อะ อนนจัน ทรัายล้ะเอยด 5 สวน แล้ะนามนต่งอว 1 สวน




83







ฝากแล้ โดยนามาคล้กเคล้าแล้วต่ำาใหเขากนโดยล้ะเอียด













คนจันบด(ปูนปูน) เอาปูน 7 ทรัาย 5 จันเกดปูฏกรัยาความรัอนรัะหวางปูนกบนามน















คะย้า 3 นามันยางเปู็นนาฮัักต่ัดดาเมินเท่าใดด ี จัะทาใหเนอปูนต่าทไดเหนยวล้ะเอยด สามารัถิ่

















เทานันแล้ บบนวด ปูนคล้งขนรัปูล้วดล้ายไดโดยทเนอปูน









คนจันฝงแกว(กาวสาหรับใช่ปูรัะสาน ไมแต่ก












แกวจัน) คะยาทวง 1 ดนจัทวง 1 ปูนเกงทวง








1 ฮัักต่าต่ดหือดแล้ สวนการัปูนทาล้วดล้ายบนผู้นงแล้ะอาคารั

คนจันฮัอ(ปูนปูนสต่รัจันฮัอ) ปูน 7 สถิ่าปูต่ยกรัรัม ผู้ปูนจัะต่องทาความสะอาดผู้นงเสย



































ทรัาย 5 นามน 6 นามนมะหงหมดเต่อะดแทแล้ วธ ี กอนแล้วใช่ยางรักทาล้งบนพน ผู้นงดงกล้าว














สม ซึ่ะทายแล้้วเทานีแล้ เพอใหใช่สาหรับเปูนต่วปูรัะสานในการัเกาะต่วของ




ล้าย ปูนปูนจังเรัมปูนล้วดล้ายต่ามรัปูแบบงาน















ศิิล้ปูกรัรัม ปููนที�เหล้ออยซึ่งต่องใช่ปูนอกนันใหหอ







เกบไวในภาช่นะทีปูดมดช่ด ซึ่งถิ่าหากต่องการัปูน













ใหมอกครังนน กนาปูนไปูโขล้กแล้ะเพ�มนามน















ต่งอิว ล้งไปูอกเล้กนอย

145


Click to View FlipBook Version