The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by มรดกเชียงใหม่, 2021-07-27 18:02:37

วิหารล้านนา มรดกภูมิปัญญา พุทธสถาปัตยกรรม

วิหารลานนา : มรกดภูมิปญญาพุทธสถาปตยกรรม








วิหารลานนา





มรดกภูมิปญญา

พุทธสถาปตยกรรม








โครงการจัดตั้งสถาบันสลาลานนา เพื่อฟนฟูองคความรูสลาลานนา
ภายใตโครงการขับเคลื่อนเมืองเชียงใหมสูเมืองมรดกโลก






ไพลิน ทองธรรมชาติ








ไพลิน ทองธรรมชาติ

วิหารล�านำนำา
วิ หารล� านำนำา



มิ
ปัั
งพุุ
ที่ธสถาปัั
ญญาแห่
มรดกภู้
มรดกภู้มิปััญญาแห่งพุุที่ธสถาปััตยกรรม
ตยกรรม



ชุี

ส้
องเ
องมรู้ดกโลก
เมื
ยงใหม่

บีเค์ลื
ภายใต�โค์รู้งการู้ข่ับีเค์ลือนเมืองเชุียงใหม่ส้เมืองมรู้ดกโลก
โค์รู้งการู้ข่ั
ภายใต�
อนเมื






ไพิลิน ทองธรู้รู้มชุาติ




















โค์รู้งการู้จััดตังสถาบีันสล่าล�านนา เพิือฟ้้นฟ้้องค์์ค์วามรู้้สล่าล�านนา




ภายใต�โค์รู้งการู้ข่ับีเค์ลือนเมืองเชุียงใหม่ส้เมืองมรู้ดกโลก






1

2

ชุุดองค์์ค์วามรู้้งานสถาปััตยกรู้รู้มและศิิลปักรู้รู้มล�านนา






แนวทางการู้อนรู้กษ์์ และทะเบีียนเค์รู้อข่่ายชุาง (สลา)

งานสถาปััตยกรู้รู้มและศิิลปักรู้รู้มในจัังหวดเชุยงใหม ่



ชุือหนงสอ :



วิิหารล้้านนา : มรดกภููมปััญญาแหงพุุทธสถาปััตยกรรม


พิิมพิค์รู้ังแรู้ก : พุฤษภูาคม 2564

จัานวนพิิมพิ : 125 เล้ม


©สงวินล้ขสทธิโดย





องคการบรหารสวินจัังหวิดเชีียงใหม ่





ผู้้เข่ยน/ภาพิถาย/ภาพิลายเส�น

ไพุล้น ทองธรรมชีาต ิ

ภูาพุถาย : วิิศรต จัันทรทอง


ออกแบีบีรู้้ปัเลม

ชียเชีษฐ์์ โกฏธ ิ


จััดทาโดย


องคการบรหารสวินจัังหวิดเชีียงใหม ่




ทีปัรู้กษ์า



สถาบนวิิจััยสงคม มหาวิิทยาล้ยเชีียงใหม ่

พิิมพิที �




เจัรญวิฒนการพุมพุ เชีียงใหม ่

1

2

คำำนำำ






โครงการขับเคล้อนเมองเชียงใหม่สเมองมรดกโล้ก โดยองค์การบรหาร












สวินจัังหวิัดเชีียงใหม่ รวิมกับสถาบันวิิจััยสังคม มหาวิิทยาล้ัยเชีียงใหม่ เพุ�อมุงเนน
ใหเกดการทางานรวิมกนอยางบรณาการ กบเครอขายนกวิชีาการ ผู้เชียวิชีาญ




















จัากสถาบันการศกษา แล้ะองค์กรตางๆ ในการสร้างควิามร่วิมมอระหวิางหนวิย






งานภูาครฐ์ ภูาคเอกชีน ภูาคปัระชีาสงคม คณะสงฆ์ แล้ะปัระชีาชีนท�วิไปั เกดเปัน

ผู้ล้สมฤทธ� ตามแนวิทางขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ แล้ะวิัฒนธรรม






แหงสหปัระชีาชีาต หร่อองคการ UNESCO ถงขั�นตอนการยนเอกสารขอเสนอ






แล้ะการขับเคล้�อนแผู้นการจััดการแหล้่งมรดกเชีียงใหม่ ตามข้อเสนอขอข�น

ทะเบยนเม่องเชีียงใหมเปันเม่องมรดกโล้ก


ชีดองคควิามรภูายใตโครงการ “การอนรกษสถาปัตยกรรมแล้ะศล้ปักรรม






















ตามรายชีอเอกสารขอเสนอฯ ทเปันแหล้งสาคญแล้ะมควิามจัาเปันเรงดวิน”












จัดทาขนเพุอรวิบรวิมองคควิามรสล้าล้านนา เปันแนวิทางสการจัดตง “สถาบน
















สล้าล้้านนา” ทเปันสวินหนงในการขับเคล้�อนเมองเชีียงใหมสเมองมรดกโล้ก









ใหสามารถเปันองคกรทจัะถายทอดมรดกภูมปัญญาทางดานสถาปัตยกรรม








แล้ะศล้ปักรรมล้้านนา สูการยอมรบในระดบสากล้







องคการบรหารสวินจังหวิดเชียงใหม แล้ะสถาบนวิจัยสงคม มหาวิทยาล้ย















เชียงใหม หวิงเปันอยางยงวิา การผู้ล้ตชีดองคควิามรครงน จัะเปันปัระโยชีน ์














ตอผู้ทสนใจัในสถาปัตยกรรมแล้ะศิล้ปักรรมล้านนา เพุ่อเปันการอนุรกษ ์









รกษามรดกวิัฒนธรรม งานสถาปัตยกรรมแล้ะศิล้ปักรรมล้านนา ให้คงอยค ู ่





เม่องเชีียงใหมส่บไปั




องค์์การู้บีรู้หารู้สวนจัังหวดเชุยงใหม ่
1


คำำนำยม















เชียงใหม่ อดตศนย์กล้างอาณาจักรล้านนา เมองปัระวิตศาสตรทมชีวิต











แล้ะเมองแหงการสบสานสงตอมรดกทางวิฒนธรรมล้านนาผู้าน “แหล้งมรดก













ทางวิฒนธรรม” ทเปันหล้กฐ์านแล้ะปัระจักษพุยานแสดงออกถงอจัฉรยะภูาพุ




แล้ะคณคาอนโดดเดนดานวิฒนธรรมของกล้มชีนชีาตพุนธไต ทยงคงเหล้ออย ู ่















หนงในคณคาทสาคญของเมองเชียงใหม โดยเฉพุาะใน Criteria ท 4 ทกล้าวิถงคณคา

























ดานปัระวิตศาสตร ศล้ปักรรมแล้ะสถาปัตยกรรมล้กษณะอนเปันเอกล้กษณ ์

ของสถาปััตยกรรมของเชีียงใหม ่




ทมการนาเสนอควิามโดดเดนของสถาปัตยกรรมเชียงใหม ผู้านเรอง










“วิหารเครองไมโบราณ” ทยงคงหล้งเหล้ออย ไดนามาสการสรางองคควิามร ้ ู













ในเรอง“วิหารล้านนา : มรดกภูมปัญญาแหงพุทธสถาปัตยกรรม” ซึ่งนกวิชีาการ



























ไดจััดให้เปันคณคาอนโดดเดนของเมองเชียงใหม ทมล้กษณะเปันเอกล้กษณ ์





แล้ะเตมไปัดวิยภููมปััญญา ทีหนงส่อเล้มนีไดใหควิามรูใน 5 เรองสาคญ ค่อ


















เรองที 1 ควิามหมาย แล้ะองคควิามรูในภูาพุรวิมเกียวิกบวิิหารล้้านนา

สวินที 2 พุฒนาการของวิิหารล้้านนา





สวินที 3 องคปัระกอบทางโครงสราง แล้ะศล้ปักรรมของวิิหารล้้านนา










สวินท 4 องคควิามรภูมปัญญาการสรางวิหารล้านนาของสล้่าสรางวิหาร







ล้้านนาในปััจัจับน



สวินที 5 ทาเนยบสล้าสรางวิิหารล้้านนา











นอกจัากน�นหนงสอเล้มนยังเปั็นฐ์านองคควิามรในการเพุ�มพุูนทกษะ












(Upskill) ของสล้า แล้ะผู้สนใจัในการสรางงาน เพุอผู้ล้กดนสการจัดตง















“สถาบันสล้าล้านนา” เพุ่อฟื้นฟืู้องคควิามรสล้าล้านนา ทจัะเปันหนวิยถายทอดมรดก









ภูมปัญญาทางศล้ปัวิฒนธรรม อนมคณคาโดดเดนอนเปันสากล้ (Outstanding








Universal Value) รองรับการผู้ล้ักดนเมองเชียงใหม่สการยอมรับในระดับนานาชีาติ






ขององคการ UNESCO
2













องคควิามรนไดนามาสอดรบกบการสรางนวิตกรรมทางสังคม โดยหวิหนา



โครงการขบเคล้อนเมองเชียงใหมสเมองมรดกโล้ก ไดสรางตนแบบการพุฒนานวิตกรรม



















ทางสงคม โดยเรมจัากวิดถวิาย อาเภูอหางดง จังหวิดเชียงใหม อนเปันแหล้งแกะสล้ก











ไมเพุอการสรางงานพุทธศิล้ปัแล้ะศล้ปักรรม ซึ่งตงชีอในแพุล้ตฟื้อร์มวิา “C-STREAM"












Platform ซึ่ึงเปันกระบวินการจัดการศิล้ปัะแล้ะวิัฒนธรรมผู้สานการศึกษา


ซึ่งปัระกอบดวิย


C: Culture วิฒนธรรม



S: Strengthen Skill ทกษะทีเขมแขง

T: Technology เทคโนโล้ย ี

R: Ritual พุธกรรม





E: Education, Environment, Economy การศึกษา สงแวิดล้อม เศรษฐ์กจั
A: Arts ศล้ปัะ

M: Management การจััดการ














แล้ะนามาผู้สานใหเกดการนาไปัใชีแล้ะพุฒนาตออยางยงยน โดยผู้านหนงสอ














“วิหารล้านนา : มรดกภูมปัญญาแหงพุทธสถาปัตยกรรม” เล้มน ทหล้ายภูาคสวิน









ทไดมสวินรวิม ไดแก องคการบรหารสวินจังหวิด คณะสงฆ์จังหวิดเชียงใหม สล้า (ชีาง)




















ศล้ปันชีาง มหาวิทยาล้ยเชียงใหม เพุอเปันสวินสาคญในการรวิมปักปักรกษามรดก














ภููมปััญญาของล้้านนา ทีมเม่องเชีียงใหมเปันศนยกล้างของล้้านนาในอดต




สดทายน ขอแสดงควิามชีนชีมทผู้เขยน อาจัารยไพุล้น ทองธรรมชีาต ิ










ไดพุากเพุยรศกษา แล้ะนามาเขยนใหเปันปัระโยชีนส่บตอไปั












รู้องศิาสตรู้าจัารู้ย ดรู้. วรู้ลญจัก บีณยสรู้ตน ์





ผู้้อานวยการู้สถาบีนวจััยสงค์ม มหาวทยาลยเชุยงใหม ่






3

คำำนำำผู้้เขีียนำ














วหารู้ เปันสถาปัตยกรรมทกอรปัขนจัากแรงศรทธา







ในพุระพุทธศาสนาของพุทธบรษททปัรารถนาจัะอทศถวิายเสนาสนะ











แดพุระพุทธเจัา แล้ะพุระภูิกษสงฆ์ เพุอใชีสอยในกิจัแหงพุระศาสนา








อกทงอานิสงสแหงการถวิายวิหารทานน�นเปันกศล้กรรมอันย�งใหญ่



วิิหารจัึงมิใชี่เพุียงส�งปัลู้กสร้างเพุ�ออรรถปัระโยชีน์ หากแต่เปั็น



สถาปััตยกรรมท�หล้อมรวิมท�งศาสตร์แล้ะศล้ปั์ ตล้อดจันควิามสามารถ


ทงหมดของชี่างสล้า ทสรางถวิายเปั็นพุทธบชีา แล้ะเพุอใหฆ์ราวิาส













ทงหล้ายไดสมผู้สยงสภูาวิะแหงควิามเปันทพุยตามจันตนาการ



















แล้ะการตควิาม ดงนนชีาง หรอสล้าจังไมเพุยงเชียวิชีาญการกอสราง




เทานน หากยงตองเขาใจัถงพุระธรรมคาสอนจังจัะสามารถสรรสราง











สถาปััตยกรรมไดอยางลุ้มล้ก ทังดานควิามงาม แล้ะควิามหมาย














วิหารล้านนาเปันสถาปัตยกรรมเนองในพุทธศาสนาทชีางสล้า







ล้านนาไดอทศแรงกายแรงใจัสรางอยางสดสตปัญญาแล้ะกาล้ง















ควิามสามารถ วิหารล้านนาจัึงเปันมรดกภูมปัญญาอนล้าคาทบรรพุชีน



ไดส่งต่อให้แกลู้กหล้านได้เรียนรรากเหง้าภูมิปััญญาแห่งตน ภูมิปััญญา














เมออยกบตวิคน ยอมตายพุรอมไปักบคน แตหากภูมปัญญาเหล้านน















ไดถายทอดไปัยงสิงทียนยาวิกวิานันดงเชีนวิิหารล้้านนานี ควิามรูจังย่อม









ไมดบสญแล้ะยงคงถายทอดจัากคนรนหนงสคนอกรนหนง แล้ะผู้ทสบตอ



















กค่อชีางสล้าแขนงตางๆ นันเอง




4



หนงส่อ “วิิหารล้้านนา : มรดกภููมปััญญาพุุทธสถาปััตยกรรม”






เล้มน เปันการรวิบรวิมขอมล้องคควิามรทเกยวิกบวิหารล้านนา











ในภูาพุรวิม เพุอฉายใหเหนภูาพุกวิางของสถาปัตยกรรมปัระเภูทวิหาร









ทปัรากฏในภูาคเหนอตอนบนในด้านล้กษณะทางกายภูาพุ ควิามเหมอน


ควิามต่าง ตล้อดจันการส่งอิทธพุล้ แล้ะแล้กรับปัรับเปัล้�ยนภูมิปััญญา

















ระหวิางกน แล้ะทสาคญหนงสอเล้มนพุยายามจัะค้นหาแล้ะชีใหเหนถง


เอกล้กษณอนโดดเดนของวิหารล้านนา โดยเฉพุาะอยางยงในเขตล้ม

















นาปัง-วิง หร่อในพุ่�นทีเชีียงใหม-ล้าพุน-ล้าปัาง วิามสิงที�พุเศษทีสามารถ











แสดงออกถงคณคาอนโดดเดนเปันสากล้ หรอ Outstanding





Universal Value (OUV) อนจัะนาไปัสูกระบวินการสรางควิามเขมแขง






ของมรดกทางวิฒนธรรมตามขอกาหนดขององคการ UNESCO ตอไปั




นอกจัากนี� ในสวินของเน่อหาที�วิาดวิยศาสตรแหงการออกแบบ












กอสรางวิหารล้านนา เผู้ยใหเหนควิามสาคญขององคควิามรเชีงชีาง









ทถายทอดผู้่านเอกสารโบราณ หรอพุบสาใบล้านของล้านนา ทนบวิน












จัะเล้่อนรางแล้ะเขาใจัยากย�ง ดวิยปัราการทางภูาษา การตควิาม ทกษะ

เชีิงชี่าง แล้ะแบบแผู้นตามสมัยนิยม จัากพุ�นทอ่�นท�เข้ามาผู้สมกล้มกล้น












แล้ะบางครงกมอทธพุล้ตอรปัแบบงานศล้ปักรรมทองถน ทาใหวิหาร









ล้านนาโดยเฉพุาะอยางยงวิหารเครองไมโบราณแบบจัารตคอยๆ









ล้ดจัานวินล้ง แล้ะเสอมสภูาพุไปัตามกาล้เวิล้า แตกระนนกยงคงม ี











ชี่างสล้่าผู้้ทสบต่อศาสตร์เหล้่าน� แล้ะยังคงสรรสร้างงานสถาปััตยกรรม











โดยเล้อกเฟื้นภูมปัญญาของบรรพุชีนท�ตกผู้ล้กแล้วิมาผู้นวิกเขากบการ

ออกแบบของตนเอง จันกล้ายเปั็นวิิหารล้้านนาทปัรากฏในปัจัจับัน






โดยหวิังใจัวิ่าภูมิปััญญาเหล้่านจัะไดรับการถ่ายทอดแล้ะส่งต่อไปัยังลู้ก


หล้านส่บไปั

ไพิลน ทองธรู้รู้มชุาต ิ
5

คำำขีอบคำณ














ผู้เขยนขอขอบพุระคณหนวิยงาน องคกร แล้ะบคคล้ผู้มคณปัการตอการ


















สนบสนนใหมการจัดทำาแล้ะผู้ล้ิตหนงสอทรวิบรวิมองค์ควิามรภูมปัญญา






เชีงชีางสล้่าของล้านนา ณ ทได ขอขอบพุระคุณ องค์การบริหารส่วินจังหวิัด







เชีียงใหม สถาบนวิิจััยสงคม มหาวิิทยาล้ยเชีียงใหม โครงการที 8 โครงการจััดตัง
















สถาบนสล้าล้านนา เพุ่อฟื้นฟืู้องคควิามรสล้าล้านนา (วิหารล้านนาแล้ะปัูนปัน










ล้านนา) ภูายใตโครงการขบเคล้อนเมองเชียงใหมสเมองมรดกโล้ก โครงการ















จัดทาแผู้นปัฏบตการดานการอนรกษแล้ะพุฒนาพุนทปัระวิตศาสตร ์




แล้ะวิฒนธรรมเมองเชียงใหม ตามแนวิทางมรดกโล้ก (CHIANG MAI WORLD



HERITAGE INITIATIVE PROJECT) ปัระจัาปังบปัระมาณ 2563




ผู้เขยนขอขอบพุระคณ รศ.ดร. วิรล้ญจัก บณยสรตน ผู้อานวิยการ



















สถาบนวิจัยสงคม มหาวิทยาล้ยเชียงใหม ทกรณามอบโอกาสอนดยง






















ใหผู้เขยนไดมสวินรวิมในโครงการฯ ครงน แล้ะผู้เขยนขอขอบพุระคณ









อาจัารย ธวิชีชีย ทาทอง อาจัารย์ปัระจัาสาขาวิิชีาการทองเทียวิแล้ะธรกจับรการ





คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาล้ัยราชีภูฎล้าปัาง ทไดเมตตาใหคาแนะนา









คาปัรกษา ตล้อดจันชีวิยตรวิจัแกไขงานเขยนภูายในระยะเวิล้าอนนอยนดน ี �









อยางอดทนอดกล้ัน ผู้เขยนขอแสดงควิามคารวิะ มา ณ ทีนี �



6





ขอขอบพุระคณ อาจัารยเจัษฎา สภูาศร อาจัารยปัระจัา





คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาล้ัยเทคโนโล้ยีราชีมงคล้วิทยาเขตพุายัพุ




ทยนดอนเคราะหแบบงานสถาปัตยกรรมของวิหารล้านนาจังหวิดล้าปัาง



















ในงานวิิทยานพุนธของอาจัารย์ใหแกผู้เขยนดวิยควิามยินดยง





ขอขอบพุระคณ ดร.ดเรก อนจัันทร นกวิิชีาการศกษา ศนยใบล้านศกษา

















สานกศล้ปัะแล้ะวิฒนธรรม มหาวิทยาล้ยราชีภูฏเชียงใหม ทไดกรณาปัรวิรรต









อกษรธรรมล้านนา แล้ะสบคนขอมล้จัากเอกสารใบล้านตางๆ ใหแกผู้เขยนดวิย




















ควิามเมตตายง ขอขอบคณ คณศภูกล้ เร่องวิิทยานสรณ ผู้ชีวิยผู้เขยน แล้ะเปัน
















ผู้จัดทาขอมล้ทาเนยบสล้าสรางวิหารล้านนาทงหมดในเล้มนดวิยควิามอตสาหะ







แล้ะเต็มใจัยง ผู้เขยนขอขอบคณ คณอรกญญา อนทะวิงค (นองแคท)









คณวิชีราภูรณ์ ชีางเหล้ก (นองมน) แล้ะคณะทำางานโครงการฯ ทกคนทไดใหโอกาส












ผู้เขยน ตล้อดจันอดทนรอคอยแล้ะหมนสอบถามดวิยควิามหวิงใยเสมอมา แล้ะ







ขอแสดงควิามขอบพุระคณผู้มอปัการคณทานอนๆ ทไมไดเอยนาม มา ณ ทนดวิย





























สดทายน งานเขยนเล้มนไมอาจัสาเรจัล้ล้วิงล้งไดหากไมไดรบควิามชีวิย














เหล้่อแล้ะการสนบสนนจัากครอบครวิ ขอบพุระคณคณพุอ คณแม คณปัระสงค ์












แสงงาม ผู้เปันสามทนารก แล้ะล้กๆทงสองคนทอดทน แล้ะเขาใจัยามเมอแม ่








ตองจัมอยกบกองหนงส่อ แล้ะหนาจัอคอมพุวิเตอรเปันเวิล้านานๆ






ไพิลน ทองธรู้รู้มชุาต ิ
7


สารบญ



หน�า


ค า ำ น า ำ 1

ค ำ า น ย ิ ม 2





คานาผู้เขยน 4

คาขอบคณ 5

ส า ร บ ญ ั 8




ตอนที 1 วหารู้ : ค์วามหมาย และม้ลเหตแหงการู้สรู้�าง 11
1.1) ควิามหมายของวิิหาร 11

1.2) มล้เหตแหงการสรางวิิหาร 17



1.3) วิิวิฒนาการของวิิหาร 19


1.4) หนาทีของวิิหาร 24






1.5) คตควิามเชีอ แล้ะปัรชีญาในการสรางวิิหารล้้านนา 26


1.6) การวิางตาแหนงวิิหารล้้านนา 30







1.7) วิสด แล้ะควิามเชีอเกี�ยวิกบวิสดทีใชีในการกอสราง 32




วิิหารล้้านนา



ตอนที 2 วหารู้ในวฒนธรู้รู้มล�านนา: รู้้ปัแบีบีทางสถาปััตยกรู้รู้ม 37

และมตทางปัรู้ะวตศิาสตรู้ ์



2.1) รปัแบบทางสถาปััตยกรรมของวิิหารล้้านนา 39

- วิิหารโถง 40
- วิิหารกึงโถง 45

- วิิหารแบบทบ หร่อมปัางเอก 46











2.2) การแบงกลุ้มวิิหารล้้านนาตามเขตลุ้มนาทีสมพุนธ ์ 50


กบบรบททางปัระวิตศาสตร ์






- กลุ้มวิิหารในเขตทีราบลุ้มแมนาปัง แล้ะแมนาวิง 50








- กลุ้มวิิหารในเขตทีราบลุ้มแมนากก แล้ะแมนาอง 58














- กลุ้มวิิหารในเขตลุ้มนาอง จัังหวิดพุะเยา 71




- กลุ้มวิิหารในเขตลุ้มนานาน จัังหวิดนาน 75




8

ห น า �



ตอนที 3 องค์์ปัรู้ะกอบีทางโค์รู้งสรู้�างสถาปััตยกรู้รู้ม 89
และงานศิิลปักรู้รู้ม


3.1) องคปัระกอบทางโครงสราง 90




- ระบบโครงสรางหล้งคาแบบขอมา – ตางไหม 104


- เสาวิิหาร 107

- ผู้นงวิิหาร 108
- ฐ์านวิิหาร 109
3.2) องคปัระกอบทางศล้ปักรรมของวิิหาร 111




- องคปัระกอบเครองไม 111




- องคปัระกอบเครองปัน 126







- องคปัระกอบเครองปัันดนเผู้า 135
- องคปัระกอบเครองโล้หะ 135






3.3) ล้วิดล้าย สญล้กษณแล้ะคตควิามเชีอทีปัรากฏในวิิหารล้้านนา 136







ตอนที 4 ศิาสตรู้วาด�วยการู้ออกแบีบีกอสรู้�างวหารู้ 144









(4.1) ล้กษณะวิิหาร : สถาปััตยกรรมนพุนธวิาดวิยการกาหนด 145
สดสวินวิิหารในล้้านนา





(4.2) การกอรปัขึนทรงวิิหารล้้านนา 154






(4.3) จัารตการกอสรางวิิหาร: โฉล้กวิิหาร พุธกรรม แล้ะจัารต 157
การซึ่อมสรางเสนาสนะของล้้านนา


(4.4) ขอสนนษฐ์านเกียวิกบรปัแบบโครงสรางหล้งคาวิิหารล้้านนา 166









(ระบบขอมา-ตั�งไหม)







ตอนที 5 บีทสรู้ปัอตลกษ์ณแหงวหารู้ล�านนา: มรู้ดกภ้มปััญญา 174






และค์ณค์าอนโดดเดน






ตอนที 6 ทาเนยบีสลาวหารู้ โดยศิภกล เรู้องวทยานสรู้ณ 178






บรรณานกรม

9

10


วหารล�านำนำา



มรดกภูมปััญญาพุุที่ธสถาปััตยกรรม








(ตอนำที่ 1)



คำวามหมาย และม้ลเหตแหงการสร�าง












คาวิา “วิหาร” เปั็นคาศพุทภูาษาบาล้ี มควิามหมายวิา











การพุกผู้อน การเทยวิ แล้ะหมายถงทอย ทอยของสงฆ์ ทปัระดษฐ์าน






1










พุระพุทธรูปัคกบโบสถ์ หรอหมายถงการพุักผู้อน การเปั็นอยหรอการ

2

ดาเนนชีีวิิต เปันตน







วิิหารในสมยพุุทธกาล้ หมายถง สถานที�ซึ่งพุระสงฆ์์ใชีกาบง ั




ฝนซึ่�งจัะสร้างด้างไมมุงหล้ังคาดวิยหญ้าคา ในระยะแรก ต่อมาราวิ





พุุทธศตวิรรษที 3 วิิหารหมายถง ทีอยอาศยของพุระสงฆ์์ ค่อเปันกฏ ิ






ซึ่งเปันหนงในเสนาสนะ คอทนงทนอน 5 ชีนด ซึ่ึงพุระพุุทธเจั้า










3





ทรงอนญาตใหสามารถใชีไดตามแตเหมาะสมกบสภูาพุภูมอากาศ







ในแตล้ะเขต ไดแก วิิหาร 1, อฑฒโยค 1, ปัราสาท 1, หมมยะ 1, คหา











1 ซึ่งวิหารคงเปั็นกฎแบบมีหล้งคา มปักสองข้างอย่างปักติ โดยกาหนด





วิัสดที�อนุญาตให้ใชี้ได้ ค่อ อฐ์ ศล้า ปัูนปัั�น หญ้า แล้ะใบไม้ ผู้นังอาคาร

ไมควิรทาดวิยดนโคล้น แล้ะเปัล้อกไม ต่อมาเม่อมีการสร้างพุระพุุทธ






4






รปัขนในอนเดย วิิหารกล้ายเปันทสาหรบปัระดษฐ์านพุระพุุทธรปั










แล้ะเปันทีปัระกอบพุธกรรมทางศาสนา
11






จัากควิามหมายของวิิหารขางตน คาวิา “วิิหาร” ค่อ การเปัน












ทพุานกอยูอาศย เพุอการเปัล้�ยนอรยาบถของพุระภูิกษสงฆ์ ซึ่งอาจัเทียบ




















เคยงไดจัากคาวิา “กฏ” แตคาวิาวิหารนน หมายถงทอยู่อนเปันกรยา










สวินกฏ หมายถงทอย หรอสงปัล้กสรางขนเปันทอย เปันตวิงาน
























สถาปัตยกรรม แตตอมาเมอมการสรางพุระพุทธปัฏมา จังมอาคาร


ทสรางขนเปันทปัระดิษฐ์าน ในทางสถาปัตยกรรมไทย เรยกวิา













“วหารู้” ถ่อเปั็นสถานทีสมมติให้เปั็นทีปัระทับของพุระสัมมา
5

สมพุทธเจัานงปัระทบเปันปัระธานในการปัระชีุมกจัของสงฆ์ ์








หร่อเพุอการบชีาของฆ์ราวิาส















วิรล้ญจัก บณยสรตน (2543) กล้าวิวิา วิหารเปันทงตวิงาน










สถาปัตยกรรมท�มการกอสรางมานานนับแตสมยพุทธกาล้ หากแต่วิาเปัน








ไปัในล้กษณะของกุฎทปัระทบของพุระพุทธเจัาหรอพุระภูกษสงฆ์ ์



















การเปันทีพุานกนัน กเพุอเปัล้ี�ยนอรยาบถ อนเปันเรองของกรยานันเอง



ตอมาควิามหมายของวิหารได้แปัรเปัล้�ยนไปัในควิามหมายเดียวิ คอ


ตวิงานสถาปัตยกรรมท�แสดงถึงอาคารท�มหนาทในการปัระดิษฐ์าน














พุระพุทธรูปัคกบอโบสถ บางคร�งสรางใหมขนาดใหญ่กวิาอโบสถ










เนองจัากมวิตถปัระสงคเพุอใหเปันทปัระชีมของคนจัานวินมากเพุอทา













พุธกรรมบางอย่างไดสะดวิก วิิหารจัึงเปั็นอาคารที�ปัระกอบพุธีกรรม
6




ทางศาสนา มการสรางพุระพุทธรปัเปันปัระธาน วิหารเปั็นอาคาร












ปัระกอบพุธกรรมรวิมกนระหวิางพุระภูกษกบชีาวิบาน ในศรีล้ังกา

7
สมยอนราธปัระ แล้ะโปัโล้นนารวิะ มอาคารสาหรบปัระดษฐ์าน








พุระพุุทธรปั ซึ่ง ชีาวิสงหล้เรยกวิา ปัฏมาฆ์ระ (patimaghara) หมายถง
















เคหสถานของพุระพุทธเจัา หรอบานของพุระพุทธรปั หรอวิหาร
(ทอยของ พุระสงฆ์-พุระพุทธเจัา) แต่สนนษฐ์านวิ่ามการเปัล้�ยนการเรยก





















“ปัฏมาฆ์ระ” เปั็น “วิหาร” หรอ “วิหารเค” ตงแตสมยคมโปัล้ะ

จันถงปัจัจับน ซึ่งวิหารของศรีล้งกานนมไดมการใชีสอยปัระโยชีนเหมอน















อยางไทย หากแตเปันทีอยของพุระสงฆ์์






8
12

13


ภูาพุที 1
วิิหารล้งกาตล้ากา (Lankathilaka Vhihara)


เม่องแคนด ปัระเทศศรล้งกา














ภูาพุที 2





พุระพุุทธรปัปัระธานทีปัระดษฐ์านอยภูายในวิิหาร





ปัระทบนังเหน่อแทนภูายใตซึุ่มมกรโทรณะ


ทีมาของภูาพุ : https://en.wikipedia.org/wiki/

Lankatilaka_Vihara [ออนไล้น],
ส่บคนเมอวินที 3 พุฤษภูาคม 2564





14






สวินในพุม่ามอาคารปัระดิษฐ์านพุระพุทธรูปัเชีนกน ชีาวิพุมาเรยก



พุญาเซึ่าง (bhaya-hsaung) (อาคาร หร่อหอของพุระพุุทธเจัา) ในขณะที�คนไทย













ใชีคาวิา “วิหาร” วิาหมายถงท�อยของพุระพุทธเจั้า แล้ะบางครงพุระพุุทธรปั


ปัระดษฐ์านในมณฑปั โดยมณฑปัใชีปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัอยางเดยวิ ขณะท ี �






วิหารใชีปัระดษฐ์านทงพุระพุทธรูปัแล้ะปัระกอบพุิธกรรม ในคัมภูีร์มูล้ศาสนา





9








ไดกล้าวิถงการเผู้ยแพุรพุระพุุทธศาสนาในสมยของพุระเจัาอโศก ควิามวิา

“มหาเถรถวายพรว่า พระธรรมทั้งหลายอั้นพระพุทั้ธเจ้าเทั้ศนาไวนนมถง














84,000 พระธรรมขันธ พระอังค์ทั้รงเลอัมใสยงนก มพระทั้ยปรารถนาจ้ะบูชาพระธรรม

















ขันธแต่ละอันๆ นนด้วยการสรางวหารหนงๆ ในพระนค์รทั้งหลาย 84,000 เมอัง ในชมพ ู









้�
ทั้วปทั้วไป และใหกอัพระเจ้ด้ย 84,000 อังค์อักด้วยใชเวลา 6 ป มหาวหารทั้งหลาย












84,000 เม่อังจ้งแลวเสรจ้ พระมหาโมค์ค์ลจ้งทั้าปาฏิหาร่ยไขัโลก (เปด้โลก) ใหพระเจ้้า










อัโศกได้้เห็น พระเจ้้าอัโศกมีพระทั้ยเต่็มไปด้้วยค์วามปต่แทั้จ้รง ทั้รงค์านึงว่าด้งเราได้ยน




มา ปจ้จ้้ยทั้านแหงกค์รงนีเปนมหาทั้านอันยงใหญ่่ในการยกยอัพระศาสนาพระพทั้ธเจ้้า










ด้้วยโด้ยธรรมโด้ยแทั้ ้

ภูาพุที 3

มณฑปัปัระดษฐ์านพุระพุุทธรปัวิดพุระศรรตนมหาธาตเชีล้ยง








(ดานทศเหน่อของวิิหารปัระธาน)








ทีมาของภูาพุ : สานกศล้ปัากรที 6 สโขทย กรมศล้ปัากร
15






หล้งจัากน�น การสร้างวิหารท�งในอินเดย




แล้ะในดนแดนทพุระพุทธศาสนาแพุรไปัไดเกด







ควิามนยมในการสรางวิหารตอมา แล้ะล้กษณะ

ของวิหารมควิามแตกตางไปัตามล้กษณะ









ภูมศาสตรของแตล้ะพุนท แล้ะมวิวิฒนาการ








10

ไปัตามแตล้ะยคสมย ดังปัรากฏหล้ักฐ์านการใชี้


คาวิาวิหารในตราปัระดับดนเผู้าทพุบในเมอง





ปัปัราหวิา ปัระเทศอนเดย เปันจัารกอกษรพุราหม ี








อายราวิครสตศตวิรรษท� 1-2 (พุทธศตวิรรษท� 5-6)






ใจัควิามวิา





“โอัมเทั้วบูต่ร ว่หาร กบู่ลว้สด้สะ ภิกขัส้งฆัสสะ”




แปัล้ควิามหมายไดวิ่า “ทีนีเปันวหารู้

ข่องพิรู้ะภกษ์สงฆ์ข่องกบีลพิสด” ยอมแสดง














ใหเหนถงการสร้างวิหารสำาหรบกจักรรมของ
พุระภูกษสงฆ์์ในพุุทธศาสนาในเวิล้าตอมา


11

16

(1.2)




ม้ลเหตแหงการสร�างวหาร









ในระยะแรกเริมของพุระพุุทธศาสนายงไมมการสรางวิิหาร สิงกอสราง








หรอแม้แตรปัเคารพุอย่างเปั็นกจัจัะล้ักษณะเชี่นในปัจัจัุบัน พุุทธศาสนาเน้นเพุียง

่�



เรองของหล้กธรรมแล้ะการปัฏบตตามพุระพุทธวิจันะของพุระพุทธองคเทานน







แล้ะทรงใชีสงแวิดล้อมทางธรรมชีาติเปันหล้ก เชีนอาณาบรเวิณของปัาหรอสวิน












ตางๆ แม้แตสถานท�พุานกของพุระภูิกษสงฆ์ หรอองคปัจัเจักพุทธเจัากตางอาศัย


























พุงพุงธรรมชีาต เชีน พุานกอยตามปัา โคนไม ภูเขา ซึ่อกเขา หล้บถา

แล้ะล้อมฟื้าง เปันตน






มล้เหตการณสรางวิหารเกดขนเนองดวิยทานอนาถบณฑกะเศรษฐ์ ี













คหบดชีาวิกรงราชีคฤหผู้เล้อมใสศรทธาในพุระพุทธศาสนา มควิามปัรารถนา



















ทจัะสรางสถานทพุานกใหแกพุระภูกษแล้ะพุระปัจัเจักพุทธเจัา เพุอรองรบสภูาพุ




















แหงการดารงอยของเหล้าภูกษทงหล้ายทคอนขางล้าบาก จังไดขอใหเหล้าภูกษ ุ





กราบทล้ขออนญาตตอองคสมเดจัพุระสมมาสมพุุทธเจัา โดยทรงไดอนญาตให ้















มสถานทีๆ ภูกษสามารถพุานกได 5 ปัระการ ค่อ เสนาสนะทั�ง 5 ได้แก่
12


วหารู้ (วหารู้ำ) หมายถง อาคารทีมปักหล้กคาล้าดล้งไปั






2 ขางสองปัก




พิะเพิิง (อฒโยค์ำ) หมายถง อาคารเร่อนมงทีมปักนก


แถบเดยวิ ที�รูจัักโดยทัวิไปัวิา เพุง






ปัรู้าสาท (ปัาสาทำ) หมายถง อาคารทีสรางมากกวิา 1 ชีัน




ขึ�นไปั

ทมแถว (หมมยำ) หมายถง อาคารที�มหล้งคาที�มหล้งคาตด











มล้านใหพุระจัันทรสองได ้






ค์้หา (ค์หนำต) หมายถง ถา อาจัสรางดวิยอฐ์หร่อเปันถา




ตามธรรมชีาต ิ
17







ทานอนาถบณฑกะเศรษฐ์ไดทาการสรางวิหาร 60 หล้งในการ















ขออนญาตครงน แล้ะในการถวิายนน สมเดจัพุระสมมาสมพุทธเจัาเสดจัมา




เปันปัระธานแล้ะทรงตรสอนโมทนาเสนาสนะทานครงนวิาเปันทาน









อนปัระเสรฐ์ ควิามวิา


“...เสนาสนะ ยอัมปอังกนรอันหนาว ต่ลอัด้ถงภิยพาลมฤค์ อัสรพษ













และเหลอับูยุงบูงรานรนทั้งหลาย ถงสายฝนสาด้ค์ราทั้�สรฤด้กกนได้ ต่อัไปถง











แด้ด้กลา ลมกลา บูรรด้าทั้จ้ะเกด้ทั้ วหารทั้านน สมเด้จ้พระพทั้ธเจ้าทั้งหลาย




























ทั้รงสรรเสร่ญ่วา เปนทั้านอันเล่ศ เพอัใหเปนทั้ีลีภิ้ย เพอัใหได้้ค์วามสขั เพอับูาเพญ่








ญ่าณ เพอัจ้าเร่ญ่ว่ปสสนาขัอังภิกษสงฆั...












... เหต่นนแทั้จ้ร่ง บู้ณฑิต่สาธชน เมอัเหนประโยชนต่นจ้งสรางเถ่ด้ ว่หาร









ทั้้งหลาย อัยางรนรมย ใหภิกษพหสต่ทั้้งหลายนนด้้วยนาใจ้ผ่่อังใส ศร้ทั้ธาในพหสต่









ผู่ปฏิบู้ต่่ซื่่อัต่รงทั้้งหลาย













--- พหสต่ทั้�งหลายเหล่าน�นยอัมจ้ะสาแด้งธรรมแกบูค์ค์ลน�น เพอัได้บูรรเทั้า


ทั้กขัด้วยประการทั้งมวล นรชนผ่นนได้รธรรมใด้กอัาจ้เปนไปเพอัหาอัาสวะมได้ ้

















ค์่อั พระน่พพานในชาต่่นี�...” 13



จัากควิามหมายของวิหารทกล้าวิไวิขางตนวิา “วิหาร” นน มควิาม










หมายในเชีงกรยาอนหมายถง การเปัล้ียนอรยาบถ หร่อการพุกผู้อนซึ่งมควิาม



















หมายทบซึ่อนกบคาวิา “กฏ” ทมควิามหมายในล้กษณะของสงปัล้กสราง











จันเมอมการสรางพุระพุุทธรปั ซึ่งถ่อวิาเปันตวิแทนของพุระสมมาสมพุุทธเจัา






















ใหปัระดษฐ์านในกฏ (ทพุานกของพุระพุทธเจัา) แล้ะสามารถใหพุระภูกษ ุ




แล้ะฆ์ราวิาสจัานวินมากเขาปัระกอบพุธกรรมได ควิามหมายแล้ะการใชี ้




ปัระโยชีนจังเล้อนไหล้เขาหากน




18



อยางไรกตาม กล้บปัรากฏ











(1.3) บนทกของ ภูกษฟื้าเหยนเกยวิกบพุระพุทธรปั


อนย�งใหญ แล้ะอาคารปัระดิษฐ์านของ















ววฒนำาการขีองวหาร พุระพุทธรปัทอนราธปัระ จังเปันไปัไดวิาในชีวิง




เวิล้าทเขยนคมภูรอรรถกถาโบราณภูาษาสงหล้










นน อาจัไมมอาคารปัระดษฐ์านพุระพุทธรปั






อาคารทีปัระดษฐ์านพุระพุุทธรปั หร่อ ภูายในวิัด หรอมจัานวินน้อยแล้ะไม่มควิาม







“วิิหาร” น�นเกิดข�นเพุ�อให้เปั็นทปัระดิษฐ์าน สาคัญ สวินพุระพุุทธรปัเปั็นส�งท�ควิรบชีา














พุระพุทธรปัซึ่งแรกเรมการสรางพุระพุทธรปั เมอปัระดิษฐ์านพุระบรมสาริกธาตุของ
















ครังแรกในสมยกษาณะ ทางภูาคตะวินตกเฉยง พุระพุทธเจัาแล้วิเทานน อกทงพุระพุทธรปัอาจั











เหน่อของอนเดย ราวิครสตศตวิรรษที� 1 – ตน มขนาดเล้กสามารถพุกพุาเคล้อนยายไปัทตางๆ




















ครสตศตวิรรษท 2 ภูายใตพุทธศาสนานกาย ได จังไมมควิามจัาเปันทจัะตองสรางอาคาร
















มหายาน แล้ะยงไมเปันทรจัก มการกล้าวิถงการ เพุอปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัโดยเฉพุาะ










สรางพุระพุทธรปัแล้ะอาคารปัระดษฐ์าน ซึ่งพุระพุทธรปัอาจัปัระดษฐ์านภูายในอาคาร


















พุระพุทธรปัในปัระเทศศรล้งกาตงแตครสต ์ ทอยของพุระสงฆ์ หรอในพุระเจัดย หรอหนา











ศตวิรรษที 4 เปันตนมา แตไมปัรากฏการกล้าวิ ต้นโพุธก็ได้ นอกจัากน�การสร้างพุระพุทธรปั







ถงอาคารปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัในคมภูร ์ แล้ะอาคารปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัเปันทนยม








อรรถกถา ทังยังไม่ได้ให้ควิามสำาคัญวิ่าเปั็น ในพุุทธศาสนานิกายมหายานมากกวิ่าจัึงไมค่อย
14













สถานทของการบชีาเทยบเทาพุระเจัดย ์ ถกกล้าวิถงคมภูรอรรถกถาฝายหนยาน









แล้ะตนโพุธ ดงทกล้าวิถงในคมภูรอรรถกถา-















วิภูงคในพุระอภูธรรมปัฎกทวิา บคคล้จัะไดพุทธ ตอมาในชีวิงปัล้ายครสตศตวิรรษท 5
















ล้มพุนปัต หรอควิามเบกบานหรอปัตทไดเหน พุระพุทธรปัแล้ะอาคารปัระดษฐ์านพุระพุุทธรปั

















พุระพุทธเจัาหรอระล้กถงพุระองค์ กตอเมอ เริมมควิามสาคญขึนเรอยๆ พุบวิามการนาพุระ















เพุงมองพุระเจัดยหรอตนโพุธ นอกจัากนคมภูร ์ เกศาธาตมาปัระดษฐ์านทศรล้งกาในสมยของ















อรรถกถาให้ควิามสำาคญกบพุระพุทธรูปั พุระเจัาโมคคล้ล้านะ (Moggallana) (ค.ศ.496-






กตอเมอปัระดษฐ์านพุระบรมสารรกธาตของ 513) โดยนาไปัปัระดษฐ์านไวิทอาคาร










พุระพุุทธเจัาเทานัน ปัระดิษฐ์านพุระพุทธรปั จันกระท�งในคริสต ์




ศตวิรรษที 10 มการกล้าวิถงการถวิายปัระทปั





ภูายในอาคารปัระดิษฐ์านพุระพุทธรูปั แตยง




ไมมขอมล้เพุยงพุอ ทจัะอธบายล้กษณะของ











อาคารปัระดิษฐ์านพุระพุทธรูปัไดจันกระทงใน






สมยโปัโล้นนารุวิะทมทงหล้กฐ์านบันทก




แล้ะหล้กฐ์านโบราณคด 15
19








อาคารทีปัระดษฐ์านพุระพุุทธรปั ซึ่งมนย








ถงกฏของพุระพุทธเจัานน ยอมจัะตองมควิาม








วิจัตรแล้ะพุเศษกวิากฏของพุระภูกษสงฆ์ทวิไปั
















อกทงพุระพุทธองคนนเปันอดตกษตรยจังทาให ้







การออกแบบกฏของพุระพุทธรปัมล้กษณะอยางวิง







ของพุระราชีา คอ เปันอาคารทมหล้งคาเครองยอด







ทมชีนล้ดหล้นกนไปัของปัราสาทราชีมณเฑยร










แล้ะบางครงมล้กษณะรวิมกบเทวิาล้ยในศาสนา













ฮินดทเสมอนเปัน วิมาน หรอปัราสาท หรอ

มณเฑยรของเทพุเจัา ซึ่งในงานสถาปััตยกรรมไทย







น�น อาคารทมียอดแหล้มมี 3 ปัระเภูท คอ ปัราสาท


มณฑปั แล้ะบษบก โดยปัราสาทคออาคารยอด
แหล้มทีมมข มณฑปั ค่ออาคารยอดแหล้มไมมมข








คนเขาไปัได สวินบษบก เปันอาคารยอดแหล้ม




ขนาดเล้กทีคนเขาไปัไดคนเดยวิ หร่อเขาไปัไมได ้ 16










สวินล้กษณะของวิหารสมยโบราณนน



สนนษฐ์านรปัแบบของวิหารวิาเปันอาคารทสราง








โดยหล้งคา 2 ปัก หร่อหล้งคาทีล้าดล้งไปั 2 ขาง





อีกนัยหน�งคอหล้งคาทมสันหล้งคาหรออกไก ่










หล้งคาสองปักอาจัจัะเปัน “หล้งคาทรงมนล้า”









(Gable roof) โดยมหนาจัวิหวิทายหล้งคากได หรอ







จัะไมมหนาจัั�วิแตเปัน “ทรงปัั�นหยา” (Hip roof)












กได หรอผู้สมกนทงทรงปันหยากบมนล้า เปันทรง













ปัรามด คอทรงปันหยาทไมมอกไก แตมยอดแหล้ม




แทนกจััดวิาเปันอาคารสองปักเชีนกน


20



ในอินเดียสมัยโบราณน�น “วิิหาร” มีควิามหมายท�เก�ยวิข้อง













กบ “เจัดย” ซึ่งเจัดยมควิามหมายทกวิางแล้ะครอบคล้มมาก


ยงกวิาสถปั โดยเจัดียแบ่งออกเปั็น 4 ปัระเภูท ค่อ



17
ธาตเจัดย ์ หมายถง สงกอสรางทใชีบรรจัุพุระบรม













สารรกธาตของพุระพุทธเจัาทไดจัาก








การถวิายพุระเพุล้ง แล้ะถกแจักจัาย







ใหเจัาเมองทเล้อมใสในพุระพุทธศาสน


ไปัสกการบชีา



บีรู้โภค์เจัดย ์ หมายถง สถานททพุระพุทธองค ์









ทรงอนญาตใหใชีเปันทระล้กถง





พุระองคเมอพุระองคปัรนพุพุานไปั











แล้วิ ไดแก สงเวิชีนยสถาน 4 แหง







ไดแก สถานทปัระสต ณ ล้มพุน ี




เมองกบล้พุสด สถานทตรสร ณ













อรเวิล้าเสนานคม ตาบล้พุทธคยา

สถานท�ปัฐ์มเทศนา ณ ปัาอสปัตน-




มฤคทายวิน เมองพุาราณส แล้ะสถาน


ทปัรนพุพุาน ณ สาล้วิโนทยาน




เม่องกสนารา



ธรู้รู้มเจัดย ์




หมายถง พุระธรรมคาสงสอน




ของพุระพุทธเจัา หรอคมภูรทาง


พุระพุุทธศาสนา
อเทสกะเจัย ์










หมายถง สงทสรางขนเจัตนาอทศ




ถวิายตอพุระพุทธเจัา เชีน พุระพุิมพุ ์







พุระพุุทธรปั พุระสถปั เปันตน
21


ภูาพุที 4






ภูาพุตดแนวิยาวิแสดงพุ่นทีภูายในวิิหารถาอะชีนตา




เม่องเอารงคาบาด รฐ์มหาราษฏระ ปัระเทศอนเดย

ทีมาของภูาพุ : Bernard Smith, History of Buddhist

Temples in India, [ออนไล้น], http://www.bernardsmith.eu/,




ส่บคนเมอวินที 3 พุฤษภูาคม 2564.



ราวิพุทธศตวิรรษท� 10-11 มการสรางอาคารยาวิคร่อม
















ทบสถปัทมขนาดเล้กซึ่งเปันตนแบบของแนวิคดอาคารทปัระดษฐ์าน











พุระพุทธรปั หากแตสรางเพุอเปันทตงของสถปัทปัระดษฐ์าน









พุระบรมสารรกธาต มล้กษณะเปันเจัดยวิิหาร เรยกวิา “เจัตยวิิหาร







หรอเจัตยสถาน” หรอ “วิหารเจัดย” โดยการเจัาะถาเขาไปัเปันหอง










โถง แกะสล้ักเล้ียนแบบเคร�องไม้แล้ะมีเสารายล้้อมสองข้าง

ปัระดษฐ์านสถปัอยดานหล้ง การใชีถาเปันสถานทนนเปันหนงใน

























เสนาสนะ ค่อ ถาคหา จัะมการจััดแบงแยกเปันหองเล้กๆ สาหรบ







พุกอาศยยาวิเรยงตอกนไปั โอบล้อมเนอทวิาง ตรงกล้างไวิสาหรบ
























ปัฏบตศาสนกจัแล้ะกระทาปัระทกษณ รวิมทงใชีเปันทสาหรบ


ปัระชีมสงฆ์ในการทำาสงฆ์กรรม รวิมท�งเปันทสาหรบชีาวิพุทธ









ใชีชีมชีนกนในการกระทาศาสนพุธดวิย ได้แก่ ถำาเจัติยสถานที �





18







การล้ แล้ะถาอชีนตา ปัระเทศอนเดย เปันตน




22







วิวิัฒนาการต่อมาสถปัภูายในหายไปั เสนาสนะนนๆ หรอมการสรางอาคารยาวิ




กล้ับเหล้อแต่เพุียงพุระพุุทธรปัอย่างเดียวิ ครอบคล้มตวิองคเจัดยขนาดเล้ก กเปันวิหาร




























ซึ่งเปันแบบอยางทพุบโดยทวิไปัในวิด ล้กษณะหนงทเรยกวิา เจัตยวิหาร ซึ่งกคอ



พุทธศาสนา แตจัะมการตกแตงเพุมเตมตาม อาคารที�มทังเจัดยแล้ะวิิหารผู้นวิกรวิมกน














ควิามนยมในแตล้ะทองถน ในล้านนายงเหล้อ















แบบแผู้นทมการแยกสถปัซึ่งเดมอยในเจัตย วิหาร จังเปันอาคารท�มพุฒนาการ













วิหารออกไวิดานหล้งหองอาคารสาหรบ ไปัตามยคสมยแตยงคงไวิซึ่งบทบาทหนาท � ี









ปัระกอบพุธกรรม ซึ่งตอมาเรยกวิา วิหาร แล้ะฐ์านนดรศกดแหงสถาปัตยกรรม นนคอ































โดยยงมหองกระสนเชีอมอย ดงปัรากฏท ี � การเปันพุนทกระทาสงฆ์กรรมของสงฆ์ โดยม ี




วิิหารล้ายคา วิดพุระสงหวิรมหาวิิหาร จัังหวิด พุระพุทธองคทรงเปันปัระธาน บางแหงมขนาด





















เชียงใหม แล้ะสถปัทตอมานยมเรยกวิา เจัดย ์ เล้ก บางแห่งมขนาดใหญ่ทฆ์ราวิาสสามารถเขา






กไดแยกขาดตอนออกไปัอยดานหล้งวิหาร รวิมกระทาพุธกรรมดวิยได บางแหงใหควิาม
















ทาใหสถปัหรอเจัดย แล้ะวิหารแยกจัากกน สาคญกบองคเจัดยซึ่งปัระดษฐ์านพุระบรม-












แล้ะมพุฒนาการของตนเองไปัตามยุคสมย สารรกธาต โดยอาจัไมปัระดษฐ์านพุระพุทธรปั










19




กมพุฒนาการในรูปัแบบเจัตยวิหาร แต่โดย










กล้าวิโดยสรปั คอ วิหาร เปันหนงใน สวินใหญ่แล้วิมกจัะปัระดิษฐ์านพุระพุทธรูปัไวิ ้




เสนาสนะทพุระพุุทธเจั้าทรงปัระทานอนุญาต เปันปัระธานแห่งอาคารน�น โดยอาจัมีอาคาร










ใหภูกษสงฆ์พุานกได โดยวิหารในสมยพุทธกาล้ ปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัตอทาย เชีน มณฑปั















เปั็นเพุียงอาคารทมีหล้ังคากันแดดกันฝนใน ทายวิหาร หองคหาทายวิหาร ซึ่ึงทาหนาท � ี








ล้กษณะจัวิ หรอหล้งคาทมปักหล้งคาล้าดล้งไปั เสมอนดังกฏิของพุระพุุทธเจั้า โดยมากวิหารมัก















2 ขาง เปันล้กษณะโถงแล้ะเชีอมตอกบกฏของ ตงอยูดานหนาของพุระเจัดยแล้ะแยกออก

















พุระพุทธเจัา มหนาทเปันศาล้าตอนรบไวิ ้ จัากกนตามแนวิแกน



เพุอกระทาพุธกรรมทางศาสนารวิมกนระหวิาง









พุระภูกษสงฆ์ กบฆ์ราวิาส โดยมพุระพุทธเจัา







ทรงเปั็นปัระธาน การใชี้สอยพุ�นท�เสนาสนะ





ล้กษณะดงกล้าวิยงพุบในรปัแบบของคหาวิหาร




หรอวิหารถา ทมการใชีโถงในถำาเปันตวิวิหาร


















แล้ะปัล้ายสดมการกอสถปัเพุอปัระดษฐ์าน







พุระพุทธรปั หรอพุระบรมสารรกธาตเปันดง



ตวิแทนของพุระพุทธเจัานงเปันปัระธานใน




23

(1.4)




หนำ�าที่ขีองวหาร

















“วหารู้” นนถอเปันสถานทสมมตใหเปันทปัระทบของสมเดจั








พุระสมมาสมพุทธเจัานงปัระทับเปันปัระธานในการปัระชีุมกจัของสงฆ์ ์











หร่อเพุอการบชีาของฆ์ราวิาส จังมบทบาทหนาที�สาคญ ดงตอไปันี �

(1) การู้เปันทีอย้อาศิยข่องพิรู้ะภกษ์สงฆ์์












เปันควิามหมายแล้ะหนาทๆ สบเนองมาตงแตสมยพุทธกาล้ตาม






คตทีพุบในอนเดยหร่อล้งกาสมยพุุทธกาล้ ค่อมควิามหมายเชีนเดยวิกบคา
















วิา วิด หรออาราม ปัรากฏในวิฒนธรรมล้านนาตงแตพุระพุทธศาสนาได ้












ปัระดษฐ์านครงแรกสมยพุระนางจัามเทวิ กล้าวิถงการเสดจัมายงแควิน





หรภูญไชียของพุระองค์ทนาพุระอรยสงฆ์ทงหล้ายจัานวินถง 500 องค์


















แล้ะทรงสร้างกฏวิหารท�งหล้ายให้เปันทอยแกชีาวิเจัาทงหล้าย 500 องค์


ทีมาดวิยพุระยาแตเม่องล้ะโวิ ้






(2) เปันทีปัรู้ะดษ์ฐานพิรู้ะพิทธรู้้ปัปัรู้ะธาน












ซึ่งเปันเสมอนตวิแทนของพุระพุทธเจัาทไดเสดจัดบขนธปัรนพุพุาน















ไปั เสมอนเปันทสมมตใหเปันทปัระทบของพุระพุทธองค แล้ะเปันหนาท � ี














ทีมการพุบโดยทัวิไปัตังแตอดตจันถงปััจัจับน ดงมจัารกเปันหล้กฐ์านแสดง










ถงการสรางวิหารเพุอเปันทปัระดิษฐ์านพุระพุทธรูปัตงแตสมยพุญามงราย








ดงขอควิามทีกล้าวิถงการสรางพุระพุุทธรปั 5 องค วิ่า








20



“....ด้วยเด้ชะบูญ่อันขัาได้สรางพระพทั้ธรปเจ้าน ขัาจ้กยกกาลงรพล





















ไปเสาเมอังรามญ่เทั้สะหงสาเมอังเมง ผ่ว่าพญ่าอั่อันนอัมกบูขั้า ด้วยอัานภิาวะ











อันขัาได้ลางพระพทั้ธรปเจ้านแทั้ ขัามารอัด้ จ้กสางวหารหอัทั้านเปนทั้ � ี









สถ่ต่สาราญ่พระพทั้ธรปเจ้้าชะแล...”
24
















แล้ะในปั พุ.ศ. 2160 มจัารกของวิดผู้า นนคออาสนสงฆ์ทตงอยดานขวิามอของ




ขาวิปัาน (วิดสนทราราม) หมูที 2 ตาบล้เวิยง พุระปัระธานแล้ะยกสูงกวิาทนงของฆ์ราวิาส
























กิงอาเภูอเชีียงแสน จัังหวิดเชีียงราย มขอควิาม เพุอเปันการแบงการใชีพุนทระหวิางสงฆ์ ์













แสดงถงการสถตของพุระพุทธรปัในวิหาร กบฆ์ราวิาส ตวิอยางกจัของสงฆ์ทปัระกอบ


ควิามวิา ในวิิหาร ได้แก่ พุธีรดนามูรธาภูิเษก ยกเล้�อน



สมณะศักด� พุระภูิกษุในล้้านนา การปัระดิษฐ์าน


“... พญ่าหลวงเมอังเชยงแสนเจ้า ขององคพุระปัฏมาในอาคารวิหาร เปัรยบ









และนางพญ่าหลวงเจ้า และลกทั้งมวลภิายในมพระ เสมอนพุระพุุทธองคยังคงเปั็นองคปัระธาน









ราชค์รเจ้าทั้ง 3 ค์ณะ และสมเด้จ้เจ้าทั้งมวล ในการปัระกอบกจัของสงฆ์ หรอในทปัระชีม










มหาส้งฆัราชาสวามพระส้งฆัเจ้้า จุ้�พระอังค์์ พรอัม สงฆ์ นอกจัากนในชีวิงสมยทพุมาปักครอง














ปกพระวหารหลงน เพอัหอัเปนทั้ต่งพระไต่รร้ต่นะ ล้านนา มควิามนิยมการบวิชีเณรมากกวิ่า

















แกวทั้ง 3 ชอัวาอัด้มโกศล เด้รอั 6 อัอัก 8 ค์า บวิชีพุระ เปันเหตใหมการสรางวิหารมากข�น














ว้น 5 ไทั้ยเปกส้น (ยาม) กลอังงายแลว 2 ลกนาทั้ ี เพุอใชีเปันทีปัระกอบพุธกรรม รวิมถงการบวิชี









กอัพระพทั้ธ (รป) เจ้้าอังค์์หลวง ปก (พระ) ว่หาร เณรดวิย จังทาใหอโบสถล้ดควิามสาคญล้ง 22









และกอัพระพทั้ธเจ้้าแล้ว 4 เด้่อัน ปลาย 21 วน








ได้นมนต่สมเด้จ้เจ้าราชโมลเจ้าต่นชอั จ้ต่ต่สาร










ม้งค์ละ มาเปนเจ้้าอัาส...” (4) เปันทีปัรู้ะกอบีพิิธข่องรู้าชุสานก



เหตุการณท�เก�ยวิข้องกับการปัระกอบ

พุธีการทางราชีสานักเชีียงใหม่ในอาคารวิิหาร






ในสมยพุระเจัากอนา พุระองคโปัรดให ้


เอาโรงคนในเวิยงเชียงใหมออกมาสราง เชีน กรณการพุระราชีทานเพุล้ิงศพุพุระราชีธิดา





















เปันวิหา ร แล้วิใหหล้อพุระพุทธรปัองคหนงไวิ ้ ของพุระเมองแกวิ เมอแรม 12 คา เดอน 5












ในวิหารเพุอไดบชีาทกวินแล้ แล้ะในสมยของ พุ.ศ. 2065 หร่อการปัระกอบพุธถ่อนาพุพุฒน ์








พุระเมองแกวิ พุระองคโปัรดใหสรางอารามท � ี สตยาของเจัาราชีบุตรชียคงคาแห่งราชีสำานก



















ชีอ ปัพุพุาราม (วิดเมง) แล้้วิพุระองคทรงสราง เชียงตง เมอวินเสารแรม 11 คา เดอน 5







ปัราสาทองคหนงทามกล้างมหาวิหารนน พุ.ศ.2067 ตล้อดจันการขอยกเวินการเก็บคา







เพุอเปันที�ปัระดษฐ์านพุระพุุทธปัฏมา 21 สวิยจัากขาพุระ โดยสมเด็จัเสตถอัคควิรราชีครู




จัุฑามณีตรวิ เฑ สวิสังฆ์ปัรินายกวิรสิงหาราม

เมอราวิ พุ.ศ.2173 23


(3) เปันทีปัรู้ะกอบีกจัข่องสงฆ์์






วิหารมกเปันสถานทปัระกอบพุธกรรม




ระหวิางสงฆ์กบฆ์ราวิาส เน่องจัากชีาวิล้านนา









ไมอนญาตใหสตรเขาไปัในอโบสถ การปัระกอบ



พุธกรรมจัึงตองใชีวิหารเสมอ หากแต่มพุนท ี �







ทีสามารถแสดงถงการใชีพุ่นทีของสงฆ์์ในวิิหาร




25

(1.5)



คำตคำวามเชื่่�อ และปัรชื่ญา



ในำการสร�างวหารล�านำนำา









ชีาวิล้านนามควิามคดควิามเชีอในเรองของการสรางวิหาร


นอกจัากเพุอปัระดษฐ์านพุระพุทธรปั แล้ะพุระรตนตรยแล้วิ




















ยงมควิามเชีอเรองอานสงคแล้ะผู้ล้บญของการสราง เนองดวิยยด







มนวิาการกอสรางสงใดๆ ในศาสนาเปันการปัระกอบกรรมด สงผู้ล้


















ใหมอายุยนแล้ะเมอล้ะซึ่งสงขารแล้วิกจัะพุนจัากอบายภูมทง 4

แล้ะการเปันเปัรต



ปัรากฏหล้ักฐ์าน แล้ะจัารึกตางๆ ของล้านนาท�แสดงให้










เหนถงคตควิามเชีอในการสรางวิหาร เชีน จัารกเจัาอตถวิรราชีสราง



วิิหาร พุ.ศ. 2341 ควิามวิา


“... จ้ลศ้กพ้ทั้ได้้ 1160 ต่้ว อัสสะสนาก้มโพชขัอัมพ่ส้ย เขัามา











ในค์่มห้นต่ฤด้ กาฬปกษ จ้ต่ ค์รวารไถง ไทั้ยภิาษาวาปเปกซื่งา เด้่อัน 8

แรม 5 ค์า เมง 5 ไทั้ยกาบูย ฤกษ 21 ต่้ว ยามกลอังงาย บูรมวรปฐมมล











ส้ทั้ธาภิายในหมายมอัภิช้ย ภิกขัแลศ่ษ (ยา) นศ่ษยเจ้้าชูต่นแลอัร่ยสงฆั ์





รอังด้าย ม 25 ว้ด้ ปฐมมลส้ทั้ธาภิายนอักมร้ฏิฐาธ่บูด้ช้ยน้นทั้บูร มนาม






บูญ่ญ่ต่ชอั อัต่ถวรราช เปนประธานทั้ง ราชบูต่ราบูต่ร บูด้ามารด้า

















ชูค์น แลมหา (ยว) ราชหอัหนา แลราชกลวงศา ราชขัระกล ราชบูต่รา






บูต่ร ราชกญ่ญ่า ไวยาวจ้กร ใชสอัยทั้งมวล ชวนกนรสรางแปลงยง















มหาวหาร แลมหาเจ้ด้ย และพทั้ธพมพรปเจ้าในวจ้กรรม มาเมงพอั








วนนน แลผ่ขัาทั้งหลายบูได้รอัด้จ้อัด้เถงเนรพานเทั้อั ขัอัหอัผ่ขัาทั้งมวล















ได้้เวนจ้ากเสยยงอับูายทั้้�ง 4 แลเปรต่ว่ส้ย...”
26
















นอกจัากนการปัฏสงขรณวิหารกเปันสงทเกดขนเสมอ





ดวิยควิามเชีอในเรองอานสงคของการปัฏสงขรณ เชีน








การปัฏสงขรณวิดดอยแทนพุระเมอ พุ.ศ.2357 ทีปัรากฏในจัารก














ภูาษาบาล้ทีสมเดจัเสฏฐ์ (เจัาอาวิาส) วิดศรเกด เปันปัระธานฝาย






สงฆ์ แล้ะพุระยากาวิล้ะเปันปัระธานฝายฆ์ราวิาสรวิมกนปัฏสงขรณ ์











วิิหารแล้ะปัล้กตนโพุธิทีวิดดอยแทนพุระ เพุอเปันทีสกการะแกคน









แล้ะเทวิดาตราบ 5,000 พุรรษา ดงขอควิามทแปัล้จัากภูาษาบาล้ ี 24




“...ด้วยกรรมค์อัการปฏิสงขัรณ (วหาร) น ขัอัให ้








ขัาพเจ้าเปนผ่มปญ่ญ่า เปนผ่แกลวกลา แมยงทั้อังเทั้ยวอัยในวฏิฏิสงสาร
























กขัอัใหได้เกด้ในต่ระกลทั้สง เมอัใด้พระพทั้ธเจ้านามวาพระอัรย-














เมต่ไต่รยอับู้ต่ขั�น (ในโลก) เมอันนขัอัใหขั้าพเจ้าได้พบูพระศาสด้า












บูรรพชาในสำานก (ขัอังพระอังค์) เหนผ่มปญ่ญ่า (และ) ถงพรอัม



ด้วยฤทั้ธ ปรากฏิเหมอันพระจ้นทั้ร (บูนทั้อังฟ้า) พึงทั้รงไวพระไต่รปิฎก






ในศาสนาทั้ีนาส้ต่วทั้้งหลายอัอักจ้ากทั้กขั...”








ควิามเชีอเรองอานิสงคการสร้างวิหารน� จัดอยใน
















“อาวิาสทาน” อนปัระกอบไปัดวิยอาคารพุทธสถานทอยภูายในวิด
เชีน วิิหาร โบสถ ศาล้าการเปัรยญ กฏสงฆ์์ อาวิาสทานนี�ถ่อเปัน










อสสระกวิาทานทงปัวิงในฝายพุระสตร ตรงกนขามกบจัวิรทาน












ถอเปันทานอนปัระเสรฐ์ในฝายพุระวินย บคคล้ใดถวิายอาวิาสทาน
















แกสงฆ์ บคคล้นนไดชีอวิา ใหซึ่งอาย ใหวิรรณะ ใหสข ใหพุล้ะ





ใหปัตภูาณอนปัระเสริฐ์ ซึ่งปัระเพุณีการวิถายอาวิาสทาน แล้วิหล้ง ั �









ำ�

นา “อทโสทก” พุรอมกบการเปัล้งวิาจัา กเทยบไดกบเหตการณ ์




เมอพุระเจัาพุมพุสารไดถวิายเวิฬุวินวิหาร แล้ะพุระเจัาเทวิานม-
















ปัยตสราชี ได้ถวิายทานมหาเมฆ์อุทยาน ซึ่ึงถอเปันอานิสงคมากมาย



หาทเปัรยบไมได นอกจัากนยงเปันการคมครองใหผู้กระทาทาน















พุนจัากภูยอนตรายใดๆทังปัวิง 25


27






จัารตในล้านนานอกจัากการสรางวิหาร “...ศ้กราชได้้ 856 ต่้ว ในปเม่งไส เด้่อัน 2














เสนาสนะถวิายแดพุระศาสนาแล้วิ ยังมจัารีต อัอัก 11 ค์า วนพธไทั้ วด้กด้เหมา เจ้าหมนลอั






ของการถวิายทนา ปัาหมาก ขาพุระไวิอปัฏฐ์าก เทั้พศรจุ้ฬา มีใจ้ศร้ทั้ธาในพระศรร้ต่นต่รย มาสร้างว้ด้











อารามตางๆ ทีเรยกวิา “การกล้ปันา” ซึ่งเปัน ปาใหม เอัาบูญ่ทั้้งมวลนีเม่อัถวายเปนว้ด้พระเปนเจ้้า














ทั้งสอังพระอังค์ พระมหาเทั้วเจ้าหอัเงนมาถวาย 500







รปัแบบหน�งของการอุปัถมภูศาสนาท�มแนวิคด เงน พระเปนเจ้าเทั้ศนาแกเจ้าหมนสามนาโหราธบูด้ ี

















เกยวิกบการอทศสงของทดน แล้ะแรงงานคน จ้งหอัค์นมาเถงเจ้าพนศร มงค์ลหนงสอัต่างเมอัง

















ใหกบศาสนา โดยมจัดเรมตนมาจัากธรรมเนียม เจ้้าพ้นเพกพวกนา เจ้้าพ้นโค์ต่รพวกขัน ห่�อัแต่่งนาก้บู












การปัฏบตของพุราหมณทมการถวิายขาคน ค์นไวก้บูว้ด้น� นาส่บูแสนเบู�ยไว้เป็นขั้าวพระพทั้ธเจ้้า
























สาหรบดแล้เทวิสถาน หรอเทวิาล้ยตางๆ ซึ่งตอ สอังแสนเบูยไวเปนจ้งหนชาวเจ้าบูงอัารามนสอังแสน









มาพุทธศาสนาฝ่ายมหายานได้รบเอาแนวิคิดน ี � เบู�ย ค์นสามส่บูค์รวไวก้บูอัปฏิฐากพระพทั้ธเจ้้าในวหาร














มาปัฏบต แล้ะพุระสงฆ์ฝายเถรวิาทกไดสบทอด นี ย�ส่บูค์ร้วไวก้บูอัโบูสถ ไวก้บูหอัปฎกหาค์ร้ว ไวทั้ีหน









วนอัอักฝงนาเปนแด้น หนภิายใต่ค์อัเวยงเปนแด้น มหา






แนวิคดนี�มา สามีเจ้้าป่านอัย มหาเถรเจ้าป่าหลวง มหาเถรเจ้า
26










ศรเกด้เจ้ากูสงฆัระรปากยงหนงสอัผ่หนง หมนเปลา







อยางไรกตาม ในดินแดนล้านนา ผู่หนึ�ง เถ้าเม่อังโสมผู่หนึ�ง แสนเจ้้าศ่ลาแสน เจ้้าร้ด้พ้น












ปัจัจับนยังไมปัรากฏหล้ักฐ์านของคำาวิา กล้ปันา หน้งส่อัสวรรณ พ้นสม พฒลาพ้น...


ในศล้าจัารกหร่อเอกสารตานานตางๆ หากพุบ












แตพุฤตการณของการกล้ปันาซึ่งเปันปัระเพุณ ี ไวจ้าเจ้รญ่บูญ่พระเป็นเจ้าทั้งสอังพระอังค์ ์
























การอทศผู้คน สงของ พุชีพุรรณทดนใหกบ ห่อัมอัายได้้รอัยซื่าว (120) ป ก้บูเจ้้าหมนลอัผู่ร้งสราง













วิดนนๆ โดยมกพุบคาทแสดงถงการกล้ปันา อัารามน กบูนกบูญ่ทั้งหลายผ่ต่อัเทั้าพระศาสนา









28
พระพทั้ธเจ้้า 5,000 พรรษาเทั้อัญ่...”




ไดแก ห่อ เชีน ห่อคน ห่อนา ห่อทาน คนทาน







หอดแล้พุระเจัาไวิ เชีน ไวิเงน ไวิคน ไวินา จัากควิามเชีอดงกล้าวิขางตนสะทอน














ไวิเพุอน ไวิขา สรางไวิ ไวิเปันขาพุระ ไถไวิ ้ ใหเหนถงควิามคดควิามเชีอเรองอานสงคการ























ทานไวิ, แปัล้ง เชีน แปัล้งพุระเจัา แปัล้งพุหาร, สรางวิหารซึ่งเปันสงทหล้อหล้อมใหสงคมล้าน
















หยาดนา เชี่น หยาดนาห�อพุระราชีทาน นาเกดการสร้างแล้ะปัฏิสงขรณ์วิหารกันอย่าง











หยาดนาทาน หยาดนาตกแผู้นดน หยาดนา ตอเนองแมวิาปัจัจับนจัะไมมการถวิายขาพุระ















ถวิาย แล้ะให สราง โอยทาน มาฐ์าปันา ไวิกบวิดหรอการถวิายทนาดงอดต แต่ควิามเชีอ













เปันตน 27 เรองอานสงคนนไดหย�งรากล้กในสงคมล้านนา












มาแตโบราณ อนสบเนองมาจัากคำาสงสอนใน









ปัรากฏตวิอยางเรองการกล้ปันา พุทธศาสนาเรองเสนาสนะทาน ดงทองคพุระ
















ใน ล้านนา เชีน จัากรกหมนล้อสรางวิดเทพุใหม ่ สมมาสมพุทธเจัาไดทรงตรสเรองการถวิาย













ทเวิยงล้อ อาเภูอจัน จังหวิดพุะเยา เมอปั ี วิิหารทีเปันเสนาสนะวิา









พุ.ศ.2040 วิา
28









“...วหารทั้านน สมเด้จ้พระพทั้ธเจ้้าทั้�งหลายทั้รงสรรเสร่ญ่แล้วว่าเป็นทั้านอันเลศ















เพอัใหเปนทั้ีลีภิ้ย เพอัใหได้้ค์วามสขั เพอับูาเพญ่ฌาน เพอัจ้าเร่ญ่ว่ปสสนาขัอังภิกษสงฆั...



























…แลพงถวายขัอังขับูฉันเขัา (ขัาว) นาผ่าแลทั้นงนอัน แกพหสต่ทั้งหลายนน ด้วยนาใจ้




ผ่่อังใส ศร้ทั้ธาในพหสต่ผู่ประต่่บู้ต่่ (ปฏิบู้ต่่) ซื่่อัต่รงทั้้งหลาย....






...พระพหสต่ทั้งหลายเหลานนยอัมจ้ะแสด้งธรรมแก่บูค์ค์ลนน เพอัใหบูรรเทั้าทั้กขัด้วยประการ





















ทั้้งปวง นรชนผู่นน ได้้รูธรรมใด้กอัาจ้เปนไปเพอัหาอัาสวะม่ได้้ ค์่อั พระปร่น่พพาน...” 29

ชีาวิล้้านนานิยมการสร้างวิิหารแล้ะเจัดย์มากกวิ่าการสร้างอุโบสถ













เนองดวิย วิหาร คอสถานทในเขตพุทธาวิาสททงฆ์ราวิาส แล้ะพุระภูกษสงฆ์สามารถ




ทจัะใชีเปัน “พุนทศกดสทธ” ในการปัระกอบกศล้กจัอนเปันหนทางทจัะทาใหหล้ด























พุ้นจัากวิัฏฏสงสารได้ แล้ะเปั็นสถานท�สมมติแห่งพุุทธภูมิในขณะเดียวิกัน 30








ปัระกอบกบควิามเชีอเกยวิกบพุทธทานายถงควิามยนยาวิของพุทธศาสนา 5,000






วิัสสา การเวิียนวิ่ายตายเกิดในสังสารวิัฏ การสอนใหปัระพุฤติแตส�งดี ตล้อดจัน

โล้กทศนเกยวิกบภูพุภูมตางๆ ในมงคล้จักรวิาล้ จังเปันเหตใหมการสรางสรรค ์

























สอสญล้กษณตางๆ เขามาปัระกอบ โดยเฉพุาะอย่างย�งในวิหารท�ทงเพุอสนอง










การใชีสอยอรรถปัระโยชีน ขณะเดยวิกนกตอบสนองสญล้กษณแหง



“นพุพุานสภูาวิะ”ทกปัรากฏในงานวิรรณกรรมของล้านนา คอ เตภูมกถา









แล้ะจักรวิาฬุทีปัน ทพุระศรมงคล้าจัารย์ พุระภูกษชีาวิเชียงใหม่ไดรจันาไวิตงแต ่












ในสมยพุระเม่องแกวิ






ควิามเขาใจัอยางล้กซึ่งถองแทเกยวิกบพุระพุทธศาสนาน�นมควิามสาคญยิง












แล้ะเปันหนงในหล้กการสาคญในการออกแบบสร้างสรรคสถาปัตยกรรมเพุ่อตอบ

















สนองการใชีสอยในพุระศาสนา การส่อสารผู้่านสญล้กษณตางๆ เพุ่อสะทอนถงควิาม

คดควิามเชีอในรปัแบบของงานศล้ปัสถาปััตยกรรม องคควิามรูในพุระพุุทธศาสนา













จังเปันหนึงในแนวิคดสาคญของการออกแบบวิิหารล้้านนาซึ่ง “สล้า” หร่อชีางนัน











จัะตองเขาใจัอย่างล้กซึ่งถองแท จังจัะสามารถออกแบบได้อย่างล้มล้ก สงางามแล้ะ

















เหมาะกบฐ์านนดรศกดแหงสถาปัตยกรรมนน การคานงถงรายล้ะเอยดตงแตการ














วิางผู้งอาคาร จันถงการปัระดบตกแตงทางศล้ปักรรมเล้กๆ นอยๆนน มไดสรางสรรค ์









อยางไรซึ่งควิามหมาย หากแต่ล้ะเมยดล้ะไมแล้ะแฝงฝังไวิซึ่งคตทางพุทธศาสนา






แล้ะบางครงยงเปันทงการบอกเล้าเรองราวิในปัระวิตศาสตรของทองถนนนๆ

















อกดวิย
29

(1.6)





การวางตำแหนำงวหารล�านำนำา












การวิางผู้งวิดในวิฒนธรรมล้านนาเนนใหควิามสาคญกบการวิางผู้ง







อาคารในเขตพุทธาวิาสเปั็นหล้ก โดยทเขตพุทธาวิาส แล้ะเขตสังฆ์าวิาส






จัะอยภูายในกำาแพุงวิัดทล้อมรอบท�งสดาน ไม่มการแบ่งแยกออกจัากกัน





อยางชีดเจันเหมอนกบการวิางผู้ังวิดในภูาคกล้าง ในล้้านนาจัะมีการ




31










ออกแบบผู้งวิดโดยเชีอมโยงแนวิคดเชีงนามธรรมทล้านนาเรยกวิา “ขวิงแกวิ














ทังสาม” อนหมายถงพุระรตนตรย ค่อ พุระพุุทธ เปันพุ่นทีๆ เกียวิของกบ










พุระพุทธเจัา ไดแก ซึ่มปัระตูโขง พุระเจัดย แล้ะวิหาร สวินทสอง คอ








พุระธรรม เปั็นพุ�นท�ๆ เก�ยวิข้องกับคาสอน หรอท�เก็บรักษาหล้ักธรรมคาสอน






ของพุระพุทธเจัา ได้แก หอไตร สวินทสาม คอ พุระสงฆ์ ได้แก อโบสถ












ซึ่งเปันพุนทปัระกอบสงฆ์กรรมของพุระสงฆ์ พุนทอนๆ ทไมเกยวิของกบ























ขวิงแกวิทงสาม เชีน เมรเผู้าศพุ ทางล้านนาเราจัะแบงแยกพุนทออกไปั











เรยกวิา “ปัาเฮิวิ” นอกบรเวิณวิด มกเปันพุ่นทีสาธารณะทายหมูบาน








การสร้างเสนาสนะทปัรากฏในเอกสารตานานต่างๆ มักเก�ยวิข้อง









กบการสรางเจัดย แล้ะวิิหาร เพุราะทังสองสิงนีเปันเสม่อนตวิแทนแหงการ






ระล้กถงพุระพุุทธองค พุระเจัดยถ่อเปันเสม่อนสิงแทนองคของพุระพุุทธเจัา







สวินวิหารเปันทปัระดษฐ์านของพุระพุทธปัฏมา นงปัระทบเปันปัระธาน


















เมอมการปัระชีมสงฆ์ในกจัพุธตางๆ แล้ะเปันสถานทชีมนมของพุทธบรษท






















ดงนน เจัดยแล้ะวิหาร จังเปันอาคารทเปันแกนหล้กสาคญในการออกแบบ























วิางผู้งวิด ซึ่งมกถกกาหนดใหตงอยตาแหนงกงกล้างของพุนททสมพุนธกบ












แนวิแกนตะวิันออก – ตะวิันตก โดยวิหารจัะต�งอยทางดานหนาของพุระเจัดย ์








ทีเปันอาคารปัระธานในแนวิแกนเดยวิกน ซึ่งเปันแบบแผู้นที�นยมในล้้านนา





ทถงแมวิาวิดจัะมขนาดเล้ก แล้ะไมมทนทรพุยพุอทจัะกอสรางเจัดย กจัะม ี



















วิิหารเปันอาคารปัระธานของวิดนัน
30


ภูาพุที 5




แผู้นผู้งเขตพุุทธาวิาส วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง ปัรบปัรงจัากศล้ปัากร,






กรม. (2525). การขึนทะเบยนโบราณสถานภูาคเหน่อ. หนา 182.




ทีมาของภูาพุ : ล้้านนาคดศกษา: ดานที 2 ปัระวิตศาสตรแล้ะโบราณคด,






[ออนไล้น], http://lannakadee.cmu.ac.th/, ส่บคนเมอวินที 3 พุฤษภูาคม 2564.










ในการหันทิศทางของวิิหารล้้านนาน�น อยางไรกตาม วิดบางแหงมการวิางผู้ง






นยมหนไปัทาง ทศตะวินออก ซึ่งทศทาง ทสมพุนธกบเสนทางสญจัร เชีน กล้มวิด





















ของวิหารจัะถกกาหนดโดยตาแหนงของ ในเขตโบราณสถานเวิยงกมกาม พุบวิามกล้ม













พุระปัระธาน ชีาวิล้านนาจัะปัระดิษฐ์าน วิดทหนหนาวิหารไปัทางทศเหนอ เชีน วิดอคาง
















พุระพุทธรปัในล้กษณะ “ผู้นหนาพุระเจัา- วิดปัูเปัีย วิดพุญามงราย เปันตน สนนษฐ์านวิา













ตอตะวิน” อาคารจัะหนหนาไปัในทศทางใด วิดเหล้านนนาจัะสรางขนในชีวิงทแมนาปัง















ขนอยกับการหันพุระพุักตรของพุระพุทธรูปั โบราณไหล้ผู้าน ในทางตอนเหนอของ







เปันหล้ก วิดในล้านนาจัะใหควิามสาคญตอองค ์ เวิยงกมกาม จังตองวิางผู้งวิดใหสอดคล้อง













พุระธาตเจัดยเปันหล้ก รองล้งมาค่อวิิหาร กบเสนทางการสญจัรทางนา










32









โดยจัะตงอยในตาแหนงทสมพุนธกบ







พุระธาตเจัดยในแนวิแกนทศตะวินออก








แล้ะตะวิันตกตามควิามเชีอทวิาทศทปัระสต ิ








ตรสร แล้ะปัรนพุพุานของพุระพุทธเจัาอยทาง











ทศตะวินตก เมอพุทธศาสนกชีนเขาไปัถวิายสก

การะพุระปัระธานในวิหาร กจัะไดสกการะ






ทงองคเจัดย แล้ะทศทพุระพุทธองค ปัระสต ิ








33



ตรสรู แล้ะปัรนพุพุานไปัพุรอมกน



31

(1.7)







วสดที่ใชื่�ในำการสร�างวหารล�านำนำา




















วิสดทใชีในการกอสรางวิหารล้านนาทพุบโดยทวิไปันน คอ ไมสก


(Tectona grandis L.f.) ซึ่งเปันไมทหาไดทวิไปัในเขตล้านนา มคณสมบต ิ




























ของเนอไมทมควิามล้ะเอยดเกล้ยงเกล้า ไม่มเสยน เนอไมไมแขงมาก สามารถ
นามาทาการแกะสล้กล้วิดล้ายปัระดบได อกทงมคณสมบตสาคญคอ เนอไมม ี




























สารทมผู้ล้ตอตานการทาล้ายจัากสตวิจัาพุวิกปัล้วิก มอด ไดดแล้ะมควิาม













ทนทานสง เนองจัากวิหารเปันสถาปัตยกรรมสาคญเพุอใชีปัระดษฐ์าน













พุระพุทธรูปัปัระธานของวิัดจังตองมการเล้อกใชีวิสดกอสรางทมนคงแขงแรง















เชีน ไม อฐ์ปัน กระเบ่องดนขอ เปันตน แตอย่างไรกตาม พุบวิา ในอดตวิิหาร










บางแหงกมการใชีวิสดแบบเครองผู้ก เชีน ใชีไมไผู้เปันโครงสราง แล้ะผู้กยด
่�
















ดวิยตอก หร่อหวิาย หล้งคามงดวิยหญาคาซึ่งมกจัะสรางขึนเปันการชีัวิคราวิ









บางครังในชีมชีนเรยกวิา ผู้าม สาหรบใชีสอยในพุธกรรมชีัวิคราวิ 34






เนองดวิยดนแดนล้้านนาเปันแหล้งทรพุยากรปัาไม โดยเฉพุาะอย่าง











ยงไมสก ในการสรางวิหารจังมกใชีไมสกในการกอสรางมาแตโบราณ ดงปัรากฏ










ขอควิามในจัารกวิดสทธาวิาส พุ.ศ. 2045 ควิามวิา









“...ได้้ 864 ในปเต่่าเสด้ เด้่น 6 ไทั้ยอัอัก 6 ค์า ว้นกาเรา เมงว้นพธ เจ้้าหมน







นอัยญ่...กบูเจ้าร้อัยหน กบูเจ้าสบูอั...เจ้าพนแกว พวก...เจ้าแม่ลกทั้งสอัง...นแห่งเมงใด้



้�







กด้ ห่อัได้้ฝงหล้ก...(หมน) ห่อัเทั้ียงเจ้้าห้วเจ้้าพ้นแกวพวกเร่อัก้บูเจ้้าห้วเจ้้าหมน พรานค์า ำ













ห่อัไมส้ก 1,000 เค์า ห่�อัสรางว้ด้ค์าเร่ง ก้บูว้ด้ปาแด้งก้บูว้ด้เชต่ะว้นก้บูว้ด้หลวง







ก้(บูว้ด้) ... (ค์าเร่งหล้ง) 1 ยงปาแด้งหล้ง 1 ส่�นไมทั้้งมวล 730 เค์า...”



32


ภูาพุที 6






สล้ากาล้งมงหล้งคาโฮิงวิดราชีฐ์านหล้วิงเชีียงตุ้ง เม่องมา

รฐ์ฉานตะวินออก ปัระเทศพุมา โดยใชีกระเบ่องดนขอ










ทีมาของภูาพุ: ไพุล้น ทองธรรมชีาต (เจัาของภูาพุ)






จัากขอควิามขางตน พุบวิามการนาไม ้ สวินการมุงหล้งคานน โดยมากจัะใชี ้

















สกมาสรางวิดโดยคนหล้ายกล้มรวิมกนนาไม ้ กระเบองดนขอปัน ปัรากฏหล้กฐ์านของจัารก


















มาสราง นอกจัากน�ยงมการใชีวิสดจัาพุวิกอฐ์ดน อายราวิพุทธศตวิรรษท 21-23 เชีน จัารกบน















หรอการกออฐ์ถอปันดวิยเชีนกน ดงเชีนตวิอยาง ดนขอ โรงเหนอทพุพุธภูณฑสถานแหงชีาต ิ












บทคาวิฮิาวิิหาร วิดพุระสงหหล้วิง เชีียงใหม ่ เชีียงแสน เปันอกษรพุมาที�วิา





“...กอัด้วยด้นละอัด้ ถมเทั้กปกเสาสูง “ดนข่อปัันเมืออย้โรู้งเหนอ...”












เสาใหญ่ เสาเลยมจ้บูใชสากนกซื่าปลายเสาบูนขัอัหวา ้










ยแปหลวง ค์อัค์บู ขัอัมาต่งไหม กอันลาด้กานฝา ชอัฟ้า ้ และบูนจ้ารึกด้นขัอั พบูอักษรธรรมล้านนา











ปานลม ยอังปล ปาสาทั้ะมวางเค์รอังทั้ด้ทั้เกงกลาง ทั้ีระบูชอัขัอังผู่ปันวา “ญ่าณปัน”























สงค์าเวหงอัากาศ เหมอันจ้กกลงทั้ทั้าวมฆัะวาสพนต่า









ใสลาด้นากบูจ้อัง มงด้นขัอั ขัอัหลวงซื่ด้หนาซื่ด้หลงซื่ด้






กลางสอังฝ่ายหอัเปนสามชาย ใสแปนหชาง ค์อัว่า








นาค์ทั้น ทั้งแหนบูหน้าแหนบูหลงแหนบูกลาง

กอัฝาขัาง ทั้้งพน้กหนาฝาทั้กนานาทั้่สสะ...” 35



33
















นอกจัากชีอผู้ปัันแล้้วิ ยงพุบการทาเครองหมายสญล้กษณปัรากฏดวิย เชีนรปัตวิ











โค นก ดอกไม ทังนีอาจัเนองมาจัากการสรางวิิหารตองอาศยควิามรวิมม่อจัากหล้ายฝาย







โดยแตล้ะพุวิกจัะทาสญล้กษณของตนปัระทบไวิทกระเบองดนขอดวิย นอกจัากน ี �














ยงมการเขยนคาถากำากบเพุอปัองกนล้ม ปัองกนไฟื้ไหม้ แล้ะภูยันตรายทจัะเกด





แกวิิหารหล้งนันดวิย

36







นอกจัากน ยงปัรากฏการนาเอาสงปัล้กสรางของราชีสานกเชียงใหมมาสรางแปัล้ง












เปันวิหารดวิย ดงปัรากฏในเอกสารมล้สาสนา สานวินล้านนา ผู้กท 7 ธรรมมราชีทาวิ









ก่อนาทรงถวิายนา เปันกล้ปันาพุระธาตควิามวิา




“...เมอันนทั้าวกอันาต่นประกอับูด้วยสทั้ธาอัฬารชฌาสยะ ได้ยนค์าแหงมหาเถระเจ้าน้น







































ค์ต่งไวหอัเปนจ้งหนแกพระธาต่เจ้าหมนเงน 1 วนหนแล แลวค์อัยาด้นาต่กแผ่นด้นหอัเปนถาวระมาต่อั










เทั้าสาสนา 5000 วสสานแล ถด้นนพระญ่าค์หอัเอัาโรงค์ลงไวในเชยงใหมอัอักมาสางวหาร พอัยหอั













้�



ู่






หลอัรปพระพทั้ธะต่น 1 ไวในวหารค์แลว ได้ปชาค์แลวชอันแล ทั้าวกอันาหอักอัเจ้ต่ยะนน สกราชะ



















ได้ 7 รอัยสามสบูต่ว พอัยเอัาโรงยงเวยงมาแปลงวหาร สกราชะได้ 777 ต่วแลว ธมมราชะกอันา


ได้้กะทั้าบูญ่ด้้วยสมนสว้ณณร้ต่ต่นมหาสวามไพ เสี�ยงกาละนาน...”



37

















จัะเหนไดวิามการรอสงปัล้กสรางทเปันของราชีสานกนามาสรางวิหาร ซึ่งนาจัะ








เปั็นเคร�องไมท�งหมดแล้ะคงจัะมีขนาดของโครงสร้าง แล้ะเคร�องไม้ใกล้้เคียงกันจัึงสามารถ





นามาปัลู้กสร้างใหม่ได้ แสดงให้เห็นถึงธรรมเนียมปัฏบติของการร�อส�งปัลู้กสร้าง




ของราชีสำานกมาถวิายแก่พุระศาสนาในการสร้างเสนาสนะเพุ่อเปันพุทธบูชีา ดงเชีน














เจัาอนทวิชียานนท นาเอาหอคา หรอทองพุระโรงของพุระเจัามโหตรปัระเทศ เจัาหล้วิง









เชีียงใหม องคที 5 แหงทพุยจัักราวิงศ มาสรางแปัล้งเปันวิิหารวิดพุนเตา เม่องเชีียงใหม ่

ในปั พุ.ศ.2418 เปันตน



38
34


คำวามเชื่่�อเกียวกบวสด ุ



ในำการกอสร�างวหารล�านำนำา











ในการกอสรางวิหารล้านนานยมใชีไมเปันวิสดกอสรางหล้ก




















ชีาวิล้านนาจังมจัารตแล้ะคตควิามเชีอทเกยวิของกบการใชีไม จังมธรรมเนยม












ปัฏบตแล้ะพุธกรรมตางๆ เชีน การจัะเขาปัาตดไม ตองมการพุล้กรรมบชีา











เจัาปัาเจัาเขา หากจัะตดตนใด ตองมการบอกเทพุยดาอารกษทปัระจัาตนไมนน





















เสยกอน จัะมการกาหนดขนาดตนไมทีตด ตล้อดจันกาหนดชีวิงฤดทีทาการตด









ไม แล้ะชี่วิงฤดกาล้ท�หามตด นอกจัากน� ยงมการกำาหนดล้ักษณะของไม้ทจัะนา












มาใชีตด เชีน หามตดไมทมจัอมปัล้วิกข�น หรอเปันทอยของสตวิ หามตดไม ้















ทีมล้กษณะเปันงาม หร่อคดงอ เปันตน






35

12 สมเดจัพุระวินรต, สงคตยวิงศ ปัรเฉทท 6-9,













เชื่งอรรถที่�ายสวนำที่ 1

พุระบาปัรยตธรรมธาดา แปัล้ (กรงเทพุมหานคร: โรงพุมพุ ์





กรมการศาสนา, 2521) หนา 492.



13 สมเดจัพุระวินรต, เรองเดม, หนา 401-495.




1







มานต มานตเจัรญ, พุจันานกรมไทย ฉบบพุมพุ ์ 14 โชีตมา จัตรวิงค, วิหารพุระพุทธรปั สถาปัตยกรรม








ครงท 6 (กรงเทพุมหานคร: สานกพุมพุสภูา, 2520), หนา 888. เปัรยบเทยบไทย เมยนมา แล้ะศรีล้งกา, (กรุงเทพุฯ: อ.ท.















2 พุระราชีวิรมุน (ปั.อ.ปัยุตโต), พุจันานกรมพุทธ พุบล้ชีชีิง, 2563), หนา 105-106) คมภูรอรรถกถารจันาโดย















ศาสน ฉบบปัระมวิล้ศพุท พุมพุฉล้องสมโภูชีพุระไตรปัฎก พุระพุุทธโฆ์สาจัารยในชีวิงครสตศตวิรรษที 5











ภูาษาบาล้ อกษรล้านนา (กรงเทพุมหานคร: โรงพุมพุมหา 15 โชีตมา จัตรวิงค, เรองเดม, หนา 106










จัฬุาล้งกรณราชีวิิทยาล้ย, 2540), หนา 285. 16 โชีตมา จัตรวิงค, เรองเดม, หนา 106-107











3 สมเดจัพุระมหาสมณเจั้า กรมพุระยาวิชีิรญาณ 17 วิรล้ญจัก บณยสรตน, วิหารล้าน (กรงเทพุ












วิโรรส, สารานุกรมพุระพุทธศาสนา, (มหามกุฏราชีวิทยาล้ย มหานคร: เม่องโบราณ, 2544), หนา 18-19. สถปั ค่อที�บรรจั ุ





ในพุระบรมราชีปัถมภู, 2529), หนา 1173 อฐ์ธาต มควิามหมายเดียวิกบ จัตตาธาน อนแปัล้วิา กองฟื้อน













4 พุระโพุธรง, ตานานมล้ศาสนา, แปัล้โดย ทีเผู้าศพุ


กรมศล้ปัากร (ม.ปั.ท., 2518. พุระบาทสมเดจัพุระเจัาอยหวิ 18 สมคด จัระทศนกล้, วิด : พุทธศาสนสถาปัตยกรรม














ทรงพุระกรณาโปัรดเกล้าฯ ใหพุมพุพุระราชีทานในงาน ไทย, (กรงเทพุมหานคร : โรงพุมพุมหาวิิทยาล้ยธรรมศาสตร,










พุระราชีทานเพุล้งศพุ หมอมหล้วิงเดชี สนทวิงศ 2518), 2537), หนา88-89.



หนา 91-94 19 วิรล้ญจัก บณยสรตน, เรองเดม, หนา 20.















5 โชีต กล้ยาณมตร, สถาปัตยกรรมแบบไทยเดม, 20 สถาบันราชีภูัฏเชีียงใหม่แล้ะศูนยศล้ปัวิัฒนธรรม










พุมพุครงท 2 (กรุงเทพุมหานคร: โรงพุิมพุมหาวิทยาล้ัย จังหวิดเชียงใหม, ตานานพุนเมองเชียงใหม ฉบบเชียงใหม ่













ธรรมศาสตร ทาพุระจัันทร, 2539), หนา 98. 700 ปั, (เชีียงใหม : โรงพุมพุมิงเม่อง, 2538), หนา 27.












6 ธงทอง จัันทรางศ, มหาธาต (กรงเทพุมหานคร: 21 พุระศรมงคล้าจัารย,ชีนกาล้มาล้ปักรณ,














อมรนทรพุรินติงกรุฟื้, 2534), หนา 84. หนา 120.




7 สานกโบราณคด กรมศล้ปัากร กระทรวิง 22 วิรล้ญจัก บณยสรตน, รายงานการวิจัย









วิฒนธรรม, ศพุทานกรมโบราณคด, (กรงเทพุมหานคร: รงศล้ปั ์ เรอง แบบแผู้นทางศิล้ปักรรมของวิหารพุ�นเมองล้านนาใน















การพุมพุ (1977)), หนา 473. ระหวิางพุทธศตวิรรษท 20-24, (เชียงใหม: มหาวิทยาล้ย














8 โชีตมา จัตรวิงค์, วิหารพุระพุทธรูปั สถาปัตยกรรม เชีียงใหม, 2543), หนา 10.





เปัรยบเทยบไทย เมยนมา แล้ะศรีล้งกา, (กรุงเทพุฯ: อ.ท. 23 สถาบนวิิจััยสงคม มหาวิิทยาล้ยเชีียงใหม, วิิหาร








พุบล้ชีชีิง, 2563), หนา 173-174). ล้ายค: ปัระวิตควิามเปันมา ล้กษณะแล้ะแนวิทางการอนรกษ,
















9 โชีตมา จัตรวิงค,เรองเดม, หนา106. (ม.ปั.ท.: โครงการวิิจััยสถาปััตยกรรมล้้านนา, 2536) หนา 4.





10 พุระนนท นนทขวิาง, การศกษารปัแบบโบสถ ์ 24 วิรล้ญจัก บณยสรตน, วิหารล้านนา,

















แล้ะวิหารล้านนาในเขตภูาคเหนอตอนบน ตงแตยคฟื้นฟื้ ู (กรงเทพุมหานคร : เม่องโบราณ, 2544), หนา 22.











อาณาจักรล้านนา ถง ยคครบาศรวิชีย พุ.ศ.2339-2481, 25 อมพุร มาล้ย, การศกษาวิหารล้านนาในสมัยการ











(วิิทยานพุนธศล้ปัศาสตรมหาบณฑต สาขาวิิชีาปัระวิตศาสตร ์ ปักครองของเชีอสายตระกล้เจัาเจัดตน (พุ.ศ.2317-2442)











สถาปัตยกรรม บัณฑิตวิิทยาล้ัย มหาวิิทยาล้ัยศล้ปัากร, 2544), ในจังหวิดเชียงใหม่ ล้าพุน ล้าปัาง,วิทยานิพุนธ,









หนา 39. (กรงเทพุมหานคร : มหาวิิทยาล้ยศล้ปัากร, 2540), หนา 60.










11 วิรล้ญจัก บณยสรตน, แบบแผู้นทางศล้ปักรรม 26 นชีนนท กล้างวิิชีย, การกล้ปันา : ควิามส่บเนอง









ของวิิหารพุ�นเมองล้้านนาในระหวิ่างพุุทธศตวิรรษท� 20-24, แล้ะการเปัล้�ยนแปัล้งแนวิคิดของคนในชีุมชีนล้านนาต่อการ












รายงานการวิจัย. (เชียงใหม: ภูาควิชีาศล้ปัะไทย คณะวิจัตร กล้ปันาคน (บทควิาม), (กรุงเทพุมหานคร: ดารงวิชีาการ





ศล้ปั มหาวิิทยาล้ยเชีียงใหม, 2543), หนา 8) วิารสารรวิมบทควิามวิชีาการ คณะโบราณคดี, 2556),





หนา 14.

36

27 นชีนนท กล้างวิิชีย, เรองเดม, หนา 18.








28 สจัตต วิงษเทศ, ปัระชีมจัารกเมองพุะเยา,













(กรงเทพุมหานคร : สานกพุมพุมตชีน, 2538), หนา 204-207

29 สมเดจัพุระวินรต, สงคตยวิงศ ปัรเฉท 6-9 หนา









491-495.
30 วิรล้ญจัก บณยสรตน, แบบแผู้นทางศล้ปักรรม








ของวิิหารพุ่นเม่องล้้านนา ในระหวิางพุุทธศตวิรรษที� 20-24,








รายงานการวิจัย, (เชียงใหม: คณะวิจัตรศล้ปั มหาวิทยาล้ย




เชีียงใหม, 2543), หนา 16.

31 อมพุร มาล้ย, การศกษาวิหารล้านนาในสมยการ







ปักครองของเชีอสายตระกล้เจัาเจัดตน (พุ.ศ.2317-2442)






ในจังหวิดเชียงใหม ล้าปัาง ล้าพุน, วิทยานพุนธ,










(กรงเทพุมหานคร: มหาวิิทยาล้ยศล้ปัากร, 2540), หนา 63.


32 ธวิชีชีย ทาทอง, มองสถาปัตยกรรมผู้่านบทฮิา ำ�





วิิหารวิดพุระสงหหล้วิง เม่องเชีียงใหม, เอกสารปัระกอบการ



บรรยาย งานเสวินาวิิชีาการ"จัารกแล้ะเอกสารโบราณ 725 ปั ี



เมองเชียงใหม" เนองในวินอนรกษมรดกไทย 2 เมษายน 2564,








(เชีียงใหม: สถาบนวิิจััยสงคม, 2564)


33 อมพุร มาล้ย, เรองเดม, หนา 63.






34 ล้านนาคดีศกษา ดานปัระวิัตศาสตร์ แล้ะ





โบราณคด, วิิหาร, เอกสารอเล้คทรอนกส, (http://lannaka-





dee.cmu.ac.th/area2/page2.php?pid=4, สบค้นเม�อ

วินที 11 เมษายน 2564)

35 ธวิชีชีย ทาทอง, เรองเดม.






36 วิรล้ญจัก บณยสรตน, วิหารล้านนา,










(กรงเทพุมหานคร : เม่องโบราณ, 2544), หนา 26-27.
37 พุุทธญาณ – พุระพุุทธพุุกาม, มล้สาสนา สานวิน












ล้้านนา, พุมพุเนองในงานทาบญอายวิฒนมงคล้ พุระครสวิตถิ �

ปััญญาโสภูต วิดแสนเม่องมาหล้วิง (หวิขวิง) จัังหวิดเชีียงใหม,







2553, หนา 373-374.
38 สงวิน โชีตสขรตน, ปัระชีมตานานล้านนาไทย,








(กรงเทพุฯ: ศรปััญญา ,2555)

37



(ตอนำที่ 2)



วหารในำวฒนำธรรมล�านำนำา :



ร้ปัแบบที่างสถาปััตยกรรม และมตที่างปัระวตศาสตร ์














จัากควิามหมายของ “วิหาร” ทกล้าวิถงขางตนนนในแงมมของงาน











สถาปัตยกรรมหมายถงเปันอาคารทปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัทเปันเสมอนตวิแทน



ของพุระพุุทธเจัา ซึ่งการใชีงาน “วิิหาร” ตล้อดจันการออกแบบทางสถาปััตยกรรม









มควิามแตกต่างกนไปัในแต่ล้ะทองท เชีนในศรีล้งกา มอญ แล้ะพุม่านนมอาคาร








ปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัทไมมพุนทขนาดใหญในการรวิมคนเพุอปัระกอบศาสนพุธ ี













เนองจัากอาคารปัระดษฐ์านพุระพุทธรปั คอ บาน หรอวิหาร หรอปัราสาทของ

















พุระพุุทธเจัา ดงนันศรล้ง มอญ แล้ะพุมา จังตองมอาคารธรรมศาล้าเพุอปัระกอบ




ศาสนพุธแล้ะฟื้งธรรมแยกตางหากจัากอาคารปัระดษฐ์านพุระพุทธรปั ซึ่งเปัรยบ
















ไดกบการแยกพุนทระหวิางโล้กตระออกจัากพุนทโล้กยะ แตกต่างจัากล้้านนา





39








แล้ะสโขทยทวิหาร ทาหนาทปัระดษฐ์านทงพุระพุทธรปัแล้ะเปันสถานทปัระกอบ










พุธกรรมทางศาสนา





ในเขตวิฒนธรรมล้้านนานันอาจัสนนษฐ์านเกียวิกบพุฒนาการแล้ะรปัแบบ









วิหารล้านนาโดยแบ่งการวิเคราะห์ไดหล้ากหล้ายแนวิทาง เชีน วิเคราะห์จัากรูปัแบบ






ของตวิวิหาร วิเคราะหจัากการกาหนดพุนทปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัในวิหาร 40













ไดแก หองคหา หรอมณฑปัทายวิหาร แล้ะการสรางโขงพุระเจัา วิเคราะหจัาก














รปัแบบผู้งพุนวิหาร แตกระนนกตองเทยบเคยงอายุสมยเพุอเปัรยบเทยบพุฒนาการ

















ของวิหารล้านนาด้วิยเชีนกน อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาเก�ยวิกบวิหารล้านนา

สวินใหญ มักเปันการกาหนดรปัแบบวิหารล้้านนา ผู้านล้ักษณะของการปัดล้้อม









ทวิางภูายในอาคาร รปัแบบทางศิล้ปักรรมแล้ะล้ักษณะพุเศษบางปัระการ
















แตกมการจัดกล้มวิหารผู้านการวิเคราะหผู้งพุนอาคาร แล้ะงานศล้ปักรรมรวิมกบ




บรบททางภููมศาสตร แล้ะมตทางปัระวิตศาสตรอกดวิย










38


ภูาพุที 7




ฐ์านวิิหารวิดชีางคา (กานโถม) ทีปัรากฏการ











สรางหองคหาทายวิิหารแล้ะเชีอมตอกบเจัดยทรงปัราสาท
(2.1)
ร้ปัแบบที่างสถาปััตยกรรม
ขีองวหารล�านำนำา




จัากการศึกษาของ วิรล้ญจัก บณยสรตน (2544)





ไดกาหนดแบ่งรปัแบบของวิิหารล้านนา ออกเปั็น 2 รปัแบบ







ไดแก วิิหารโถง หร่อวิิหารไมมปัางเอก วิิหารกึ�งโถง แล้ะวิิหาร

แบบปัด หร่อวิิหารมปัางเอก



39







(1) วหารู้โถง หรู้อวหารู้ไมมปัางเอก



(ไมมฝาผู้นง)



สนนษฐ์านวิาวิหารรูปัแบบนนาจัะเปัน








วิิหารแบบแรกทีมการสรางในล้้านนา จัากการ

ศกษาสารวิจัวิหารล้านนาของวิรล้ัญจัก (2544)













พุบวิามการสรางตงแตพุทธศตวิรรษท 21





เปันตนมา มล้กษณะเปันวิหารทเปัดผู้นง






ด้านล้่าง แตมีการสร้างฝาผู้นังแบบฝาตาผู้้า




หรอ “ฝายอย” หรอ “ฝาหยาบ” เพุยงครงหนง � ึ


ของควิามสงเสารบนาหนกดานนอกสดเทานัน














วิหารโถงเปันล้กษณะเดนของวิหาร



ล้านนาทมการสรางในชีวิงกอนพุทธศตวิรรษ






ท 23 (ชีวิงพุ.ศ. 2200-2290) จัากผู้ล้การศกษา






โบราณสถานเวิยงกมกามพุบวิาอาคารปัระเภูท





โบสถวิหารสวินใหญจัะเปันทรงเปัด หรอแบบ









โถง อกทังยงพุบวิามการสรางหองคหากอดวิย









อฐ์เพุอปัระดิษฐ์านพุระพุทธรูปัอยทายวิหาร





เชีน วิิหารวิดชีางคา กานโถม วิิหารวิดธาตนอย





วิหารวิดกอายส วิหารวิดกอายหล้าน วิหาร





















วิดกปัาดอม วิหารวิดกมกาม วิหารวิดอคาง ภูาพุที 8






วิหารวิดพุญามงราย วิหารวิดกจัอกปัอก โขงพุระเจัาปัระดษฐ์านพุระปัระธาน




















แล้ะวิหารวิดปัเปัย เปันตน ซึ่งโบราณสถาน ภูายในวิิหารหล้วิง วิดเชีียงมัน อาเภูอเม่อง





หล้ายแหงในเวิยงกมกาม มการสรางขนในสมย จัังหวิดเชีียงใหม ่







พุญามงราย (พุ.ศ.1804-1854)
40

ภูาพุที 9



ภูายในวิิหารทีปัระดษฐ์านพุระปัระธานภูายในโขงพุระเจัา ้












นอกจัากน วิหารแบบโถงยงมการสรางซึ่มโขงปัราสาทไวิภูายในตวิวิหาร





เพุ�อปัระดิษฐ์านพุระพุทธรปั ชีาวิล้้านนาเรียก ห้องคูหาทปัระดิษฐ์าน

พุระพุุทธรปัทายวิิหาร แล้ะปัราสาทคล้้ายบษบกภูายในวิิหารวิา “โข่งพิรู้ะเจั�า”




คาวิา “โขง” แปัล้วิา บรเวิณ หรอ เขต “พุระเจัา” หมายถง พุระพุทธรปั










หรอพุระพุทธเจัา ดงนนโขงพุระเจัา จังหมายถง เขตของพุระพุทธเจัา










ถาโขงนนปัระดษฐ์านพุระบรมสารรกธาต จัะเรยกวิา “โขงพุระธาต” แตหาก










ปัระดิษฐ์านพุระปัระธาน กจัะเรยกวิา “โขงพุระปัระธาน” เชีน โขงพุระปัระธาน




วิดปัราสาท สวินบษบกทปัระดษฐ์านพุระพุทธรปั ล้านนาเรยกวิา “ปัราสาท”















โดยบุษบก แล้ะปัราสาทมล้ักษณะเคร�องยอดคล้้ายกัน บางคร�งกจัะเรียกวิ่า
“โขงปัราสาท” ตัวิอย่างวิิหารโถงที�มีโขงปัราสาท เชี่น วิิหารปังยางคก
41






อาเภูอเกาะคา จังหวิัดล้าปัาง วิหารหล้วิง วิดพุระธาตุล้าปัางหล้วิง อาเภูอเกาะคา














จังหวิดล้าปัาง แล้ะวิหารหล้วิงวิดเวิยงเถน อาเภูอเถน จังหวิดล้าปัาง วิหารหล้วิง




วิดเชีียงมั�น อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม เปันตน


41


ภูาพุที 10








ภูาพุตด ISOMETRIC วิิหารนาแตม วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง








ทีมาของภูาพุ : เจัษฎา สภูาศร, หอธรรมศล้ปัล้้านนา, วิิทยานพุนธศล้ปัศาสตรมหาบณฑต






ภูาควิิชีาศล้ปัะสถาปััตยกรรม มหาวิิทยาล้ยศล้ปัากร, หนา 84.


42

43








อาจักล้าวิไดวิารปัแบบของวิหารล้านนาในชี่วิงตนราวิพุทธศตวิรรษท� 21








ถึงก่อนพุทธศตวิรรษท� 23 จัะเปั็นรปัแบบวิหารโถง ทบางแห่งมีการกาหนดพุ�นท � ี






















ปัระดษฐ์านพุระพุทธรปัทมหองคหากอดวิยอฐ์ทายวิหาร แล้ะวิหารทมการสรางตงแต ่








ชีวิงตนพุุทธศตวิรรษที 23 เปันตนมาจัะมการสรางซึุ่มโขงปัราสาทไวิภูายในวิิหาร

การกาหนดแยกพุนท “โขงพุระเจัา” ในล้านนาท�งรปัแบบของหองคหา












ท้ายวิิหาร แล้ะการสร้างโขงปัราสาทนันเปั็นการแบ่งแยกพุ่นทีของพุระพุุทธรปัซึ่�งหมาย


















ถงพุนทโล้กตระ ใหแยกออกจัากพุ�นทของปัถชีน ปัระกอบกบพุระพุทธรูปัปัระธาน


ในวิหารอาจัมีขนาดเล้ก การสรางโขงปัราสาทจัึงเปันการเนนพุระพุทธรูปัใหชีดเจัน








แล้ะมควิามสำาคญ หองคหาปัระดิษฐ์านพุระพุทธรูปันยมสร้างดวิยวิสดทมควิาม












คงทนถาวิร เชีน ศล้าแล้ง หร่ออฐ์ ซึ่งสอดคล้้องกบคาวิา “คหา” แล้ะมระดบพุ่�นทีสง ู





















กวิาพุ่�นวิิหาร ในขณะทีตวิวิิหารซึ่งเปันพุ่นทีปัระกอบศาสนพุธของฆ์ราวิาสจัะสรางดวิย

วิสดทีคงทนนอยกวิา เชีน โครงสรางหล้งคาไม มงกระเบ่องดนขอ เปันตน

















ล้กษณะของวิหารโถงท�มคหาทายวิหารนน อาจัเปัรียบเทยบไดกบกฏ ิ























ของพุระพุทธเจัา กบศาล้าทวิดเชีตวินวิหาร ปัระเทศอนเดย ซึ่งกคอ กาเรรกฎ ี





















แล้ะกาเรรมณฑปั กาเรรกฎนนเปันหนงในกฏของพุระพุทธเจัาแล้ะทปัระตทางเขา






ดานหนาของกฏเปันทตงของศาล้ากาเรรทเรยกวิา “กาเรรมณฑปั” ทาหนาทเปันโถง





























ตอนรบ เนองจัากกฏมขนาดเล้ก ในศรสชีนาล้ย แล้ะเชีล้ยงพุบหองคหาทายวิหาร


ทีมผู้งพุ่�นรปัสีเหล้ี�ยมจััตรส กอผู้นงโดยรอบ แล้ะกอหล้งคาแบบสนเหล้อม นยมทารปั


















ทรงจัวิคล้้ายกุฏิขนาดเล้็กสาหรับพุระพุุทธเจั้า ในขณะทีล้้านนานิยมทำาหล้ังคา



42



เปันทรงปัราสาท เพุ่อแสดงฐ์านันดรศกดของพุนทวิาเปันเสมอนทปัระทบของ












พุระพุุทธองค ์
44


ภูาพุที 11




ล้ายเสนวิิหารกึงโถงของวิิหารหล้วิง วิดคะตกเชีียงมัน ล้าปัาง





ทีมา : เจัษฎา สภูาศร, อางแล้้วิ, หนา 84.


(2) วหารู้กึงโถง



เปั็นวิิหารท�เปั็นพุัฒนาการระหวิ่างวิิหารแบบโถงแล้ะวิิหาร









แบบปัด โดยจัะทาเปันวิหารโถงในชี่วิงหองวิหารท� 1-2 สวินในชีวิงหอง















ท 3 จัะมการสรางฝาผู้นงหรอปัางเอกปัดกนทงหมด รปัแบบนจัะนยม










สรางในชีวิงกล้างของพุทธศตวิรรษท 24 เปันตนมา ไดแก วิหารคะตก



เชีียงมั�น อาเภูอเม่อง จัังหวิดล้าปัาง



45


Click to View FlipBook Version