The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by มรดกเชียงใหม่, 2021-07-27 18:02:37

วิหารล้านนา มรดกภูมิปัญญา พุทธสถาปัตยกรรม











(1) ฉบีบีพิรู้ะค์รู้อดลยสลกต วดธาตค์า อ.เมองฯ จั.เชุยงใหม ่













สตรการหกไมวิหารฉบบนเหมอนกบเอกสารล้กขณะตดวิหาร
ทปัรากฏตพุมพุในหนงสอ ตาราพุธสงขดแล้ะอบาทวิแบบพุนเมอง





























โดย สงวิน โชีตสขรตน (ไมปัรากฏปัทีพุมพุ, หนา 45-48) แล้ะที�อางอง
ในหนงสอ วิหารล้านนา โดย วิรล้ญจัก บณยสรตน (2544, หนา 31-33)












มรายล้ะเอยดดงนี �


“...จ้กแปงสรางพระวหาร หอัเอัาลวงกวางเปนนาย (หอัเอัาขัอัหลวง
















เป็นนาย-ในสงวน และวรล้ญ่จ้ก์) ต่้ด้ไมหอัเอัาขัอัหลวงเป็นนายเอัาขัอัมาแทั้ก








(แทั้ก หมายถง วด้ขันาด้) หวหอัเปนหวสะต่วง (ค์อั หวขัอัทั้บูากประกบูแป)
















แลวเหลยมแปมาต่งแลวหกกลางใจ้ (หมายถง แบูงค์รงเพอัหาศนยกลาง)














แลวแทั้กขัอัหลวงมาหก 6 เสย 2 สวน ยง 4 สวน เปนขัอัย ขัอัต่งไหม































(หรอั ขัอัมา หมายถงขัอัปกนก) ทั้าวลกหวขันแถมนอักนนแล หวขัอัแทั้กนน
















เหลียมเด้ยวเปนนาย ขัอัมานนเอัาเกงขัอัหลวง แถมนอักนน มายห่อัเอัาแปหล้ง










มาแต่หวเขัามาแปค์อัค์บู (หมายถง ค์อัสอัง) ปนไหนหมายหนหอัเปนขัอัมาย � ี






















แลวมา 3 กเอัาขัอัมายมาต่งปนไหนหมายหนห่อัเปนขัอัมา 3 แล…











ไมขัอัหลวงอันห้ก 6 เสย 2 สวนเปนสะโกนแกนนอักนนเปนค์อัค์บูเสย









ำ�

1 ยาแปขันบูนทั้อันหก 2 อันลมนน มา 3 แปหลงทั้งมาเขัาต่นต่งไหมชอันแล






ุ่

้�










ในแปอัายหล้งซื่ด้มาเขัาสะโกนนน ห่อัห้กค์อัค์บูหล้งเปน 8 สวน ไวบูน 2 สวน









แปอัายเขัาหนแลแทั้กค์อัค์บูลงมา ปลงค์อัค์บูหลงซื่ด้ใน ยางนาค์ชายบูนนน


















ห่อัเอัา 8 ห้ก แปแต่่กีไวลุม 6 บูน 2 ยำาแกนขัอัยางเทั้าห้วแต่่ต่นต่้�งไหมอัอักแกน



ในแนวนน แลวยางชายลมนนลวด้เปนด้ง ในยางซื่อันแปซื่ด้อันมาจ้บูนน
























แทั้กแต่ต่นยางลงรอัด้ทั้ใด้ ยางเขัาหนชหลงแล อันวาแปอัายซื่ด้นอักนนหอัเขัา












เสาหลวงซื่ด้ใน แปยนนห่อัปลงตุ่มขัอัหลวง แป 3 ห่�อัเขัาต่้งต่น แปค์อัค์บูห่อัเขัา





















เสาหลวง ลำานนกหอัลาด้บูลงมาชุทั้จ้าไหนหมายหน จ้กใค์ร่จ้ด้หอัหอัย กปลง




















ต่ามนนแมนวาจ้้กจ้่�มพอัห่อัเปนประต่ กปลงต่ามนนเต่�อัะ...”


146











สตรการหกไมนกาหนดสดสวินวิหารจัากควิามกวิ้างของวิหาร

เปันหล้ก โดยการกาหนดขนาด “ไมมอก” คอขนาดสดสวินหล้ก















ทจัะเปันตวิกาหนดขนาดของสวินปัระกอบอนๆ ของวิหารจัากการหก










“ขอหล้วิง” 6 สวิน กาหนดระยะ 1 สวิน ใน 6 สวินนันเปันขนาดไมมอก



่�



เพุอใชีวิดเทยบสวินอนๆ ปัรากฏในขอควิามทวิา “...แล้วิแทกขอหล้วิง



่�

่�


มาหก 6 เสย 2 สวิน ยง 4 สวิน เปันขอย...” หมายถง ใหแบงขอหล้วิง


























ออกเปัน 6 สวิน 4 สวินใหเปันขอย แสดงวิาขอยีมขนาดเปัน 4 สวินของ
















ไมมอก หรอขอควิามทวิา “...ไมขอหล้วิงอนหก 6 เสย 2 สวินเปัน









สะโกน...” คอ เสาสะโกนมควิามยาวิ 4 ใน 6 สวินของไมขอหล้วิง










หรอมควิามยาวิ 4 เทาของไมมอก เปันตน สตรการหกไมวิหารน ี �




เปันสตรการสรางวิหารแบบย่อมม หรอวิหารหกจัอก ปัรากฏในขอควิาม










“...อนวิาแปัอายซึ่ดนอกนนหอเขาเสาหล้วิงซึ่ดใน แปัยนนหอปัล้งตม



















ข�อหล้วิง แปั๋ 3 ห่�อเข้าตั�งตีน แปั๋คอคีบห่�อเข้าเสาหล้วิง ล้านั�นกห่�อล้าดับ

ล้งมาชีทีจัาไหนหมายหัน จัักใครจัดห่อหอย กปัล้งตามนั�นแมนวิาจัักจัิม

















พุอห�อเปั็นปัระตู กปัล้งตามน�นเตอะ...” คาวิ่า ซึ่ดนอก แล้ะซึ่ดใน








หมายถงการล้ดชีันหล้งคาที�มดานนอก ดานใน แล้ะการปัรบล้ดสดสวิน

จัากชีดขอหล้วิงล้งมา เชีน แปัอายของซึ่ดนอกเขาชีนกล้างเสาหล้วิงซึ่ดใน











แสดงให้เหนวิาตาแหนงของเสาหล้วิงซึ่ดหน้า แล้ะซึ่ดในเหล้่อมกน






เพุราะวิาตามปักตแล้วิ แปัอายตงอยทหวิเสาสะโกนเสมอ เมอแปัอาย















ของซึ่ดหนาพุงเขาหากล้างเสาหล้วิง แสดงวิาชีวิงกวิางของเสาหล้วิง


หล้ังซึ่ดหน้าแคบกวิ่าซึ่ดในเล้็กน้อย การทตาแหน่งเสาหล้วิงเหล้�อมกันน ี �









สะทอนถงผู้งพุนวิหารท�มการย่อมมนนเอง สตรการหักไมดงกล้าวิจังเปัน














สตรการสรางวิิหารแบบยอมม หร่อวิิหารแบบหกจั�อกทีปัรากฏในวิิหาร







ล้านนาสวินใหญ ดงนนการการเหล้่อมกนของเสาจัึงไมไดอาจัเกยวิเนอง
















กบการแกมมบบทางสายตา (Anti-perspective) โดยตรง หากแตเปัน














เรองของเทคนคการกอสรางซึ่งใหผู้ล้ล้พุธทเปันผู้ล้พุล้อยไดในเรอง




ของมมมองทางสายตา
147


ภูาพุที 82 - 83









แสดงการเยองตาแหนงของเสาวิิหารทีเปันผู้ล้มาจัากผู้งพุ่นวิิหารทีมการยอมม






แล้ะมมมองทางสายตาทีสมพุนธกบการวิางแนวิเสาวิิหาร





ทีมาของภูาพุ : ภูาพุล้ายเสนโดย เจัษฎา สภูาศร. อางแล้้วิ, หนา 124.




148








(2) ตารู้าลกข่ณะวหารู้ ฉบีบีสวาธเจั�านนทา วดตุนใต� จัังหวดพิะเยา


















สตรการหกไมวิหารฉบบนเปันอกรปัแบบหนงของการกาหนดระเบยบสดสวิน








ของวิิหารล้้านนาทีมรปัทรงแบบทรงโรงหล้ันซึ่ด สนนษฐ์านวิาอายปัระมาณพุุทธศตวิรรษ


ที 2460-2470 มขอควิามดงนี �









“...ล้กขัณะต่้ด้ไมเค์รอังว่หารห่อังามนน มด้้งนี�
ค์นวาขัอัยาว 8 สอักค์บูปลายมอัขัวางนน หอัเอัาขัอัชก ค์อัวาขัอัยอันน เกงขัอัหลวงปลายค์บู 1







































แลวห่�อัเอัาขัอัยอัทั้้ง 2 จ้าก้น แลวเอัาไมมาแทั้กทั้้ง 2 เชนนน มาห้ก 5 สวน เอัา 4 สวน ค์วางเสา 1
















เอัาสวนมาต่งเปนสะกน ห่อัไวแปค์อัค์บู 2 สอักเทั้อัะ ค์้นใค์รได้้ค์อัค์บูสงเผ่อัค์้นใค์รได้้ต่ากผ่่อันลงเทั้อัะ

















หอัเอัาเสาสะกนมาต่้งขัอัขันแผ่วแปจ้อังเต่อัะ ลวงสงกเทั้านน แลวหอัเอัาฮางหน้าใสซื่อันฮางซื่ด้
















กางไหลหางแปหาห�อัได้เสาต่ง เสาหลวงเต่อัะ จ้กไวหลนซื่ด้ต่าสง...ใด้ กเอัาค์อัค์บูวาเต่อัะ หางแปหลวง



ซื่ด้หนาก้บูห้วแปหลวง...ก้น ค์่บู 1 เสาละเบูยงซื่ด้หนาหล้งต่งแต่่บูนเทั้่กเม่อับูน 7 สอัก ฝง... เทั้่กต่าม







เพงใจ้เทั้อัะ แปลหลวง ซื่ด้กลาง ยาว20 เอัด้สอัก แปลหลวงซื่ด้หน้า ยาว 03 สอักค์บูแล ค์นใค์ร ่








ได้้ยาวก็เภิียมอัอัก ค์นใค์ร่ได้ส้�นก็ผ่อันเขั้า ทั้งลวงขัอัลวงแปล ค์็ผ่อันเขั้าเทั้่อัะ ค์นแปลยาวกว่าน � ี







ลวงขัอัค์ยาวอัอักเทั้่อัะ งามแลฯ ม้กใค์รได้้ฅาวต่า ฅาวสงนน ห่�อัเอัาซื่ด้หนาเปนนายเทั้อัะ...”



















จัากขอควิามจัะเหนวิา ในการเรมกาหนดสดสวินจัะใชีขอหล้วิงเปันหล้กในการ
กาหนดมาตราสวิน แล้ะใชี้ 4 สวินของข�อหล้วิงเปั็นเสาสะโก๋น แล้ะควิามสูงของคอกีบ
















สามารถปัรบไดสงตาตามตองการ แล้ะนาเสาสะโกนมาตงบนขอกจัะไดควิามสงตาม






ควิามสงของเสาสะโกน แล้ะล้กษณะเปันหล้งคาหล้ั�นซึ่ดทีมระยะไมกวิาง ขนาดควิามยาวิ


















ของขอแล้ะแปั สามารถปัรบไดตามตองการ แล้ะระดบควิามสงของวิิหารนันขึนอยกบซึ่ด






หนาเปันหล้ก แล้ะจัากขอควิาม “...หางแปัหล้วิงซึ่ดหนากบหวิแปัหล้วิง...กน คบ 1












เสาล้ะเบยงซึ่ดหนาหล้งตังแตบนเทกเม่อบน 7 สอก ฝง... เทกตามเพุงใจัเทอะ...” แล้ะม ี















องคปัระกอบทเรยกวิา “ขอชีก” หรอ “ขอยอ” หมายถงขอมา ทขยายควิามยาวิ













หรอยดออก จัะเหนไดวิาเปันสตรล้กขณะวิหารทคอนขางยดหยน แล้ะเปันไปัไดวิาเปันสตร































ของวิหารทมผู้งสเหล้ยมไมยอมม แล้ะมซึ่ดหล้งคาหนาแล้ะหล้งอยางล้ะ 1 ซึ่ด หรอมากกวิา









กได เนองจัากสตรไมไดกาหนดไวิ ตวิอยางวิิหารตามสตรนี เชีน วิิหารล้ายคา วิดพุระสงห- ์













วิรมหาวิหาร อาเภูอเมอง จังหวิดเชียงใหม ตาราล้กขณะวิหารฉบับน อาจัใหผู้ล้ล้พุธ ์











ในเชีงรปัทรงคล้ายคล้ึงกบฉบบของสมเด็จัราชีครูวิรยะวิงโส วิดทาดอยคา อาเภูอแม่ทา



















จัังหวิดล้าพุน ทีเปันวิิหารฐ์านเขยงสีเหล้ี�ยมผู้่นผู้า แตหล้งคาเปันแบบหล้ั�นซึ่ด

128
149








นอกจัากนี ยงมสตรการหกไมวิิหารอก
หล้ายสานวิน เชีน เอกสารล้กขณะวิหาร
















วิดล้งการมปัง ทใหสดสวินรปัทรงสงโปัรง


เพุราะกาหนดขนาดมอกของเสาด�งคอนขางสง








หรอตาราฉบับพุระครูวินยสารโสภูิต วิดสนศร ี








อาเภูอสนทราย จังหวิัดเชียงใหม่ ทเปันสตร




วิิหารทีมขนาดใหญ เปั็นต้น ซึ่ึ�งแต่ล้ะสำานวิน
129





อาจัมรายล้ะเอยดปัล้กยอยทแตกตางกนไปั




ยงผู้ล้ใหมควิามแตกตางกนในเชีงรปัทรง






ภูาพุที 84 - 85 แล้ะสนทรยภูาพุ



วิิหารหล้วิง วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง





เปันตวิอยางของวิิหารทรงโรงขนาดใหญ ่





ทีมาของภูาพุ : สมาคมสถาปันกสยามในพุระบรมราชีปัถมภู,


[ออนไล้น]. https://asaconservationaward.com/
150







จัากงานศกษาของ ธวิชีชีย ทาทอง (2560) (1)วิหารู้สองชุายมอกแมสบีสอง


















เกยวิกบวิธการกอสราง แล้ะการกาหนดระเบยบ เปันสตรทใชีคานวิณโครงสรางวิหารหรออโบสถ


สดสวินในการกอสรางวิหารในภูาคเหนอ แบบโบราณขนาดเล้็กถงขนาดกล้าง เปั็นสตร





















หร่อทีเรยกในภูาษาถินเหน่อวิา “มอกวิิหาร” นัน ทนยมมากทสด แมมอก 12 นจัะแบงขอหล้วิงออก











อาจักล้าวิไดวิา ในการกาหนดสดสวินแล้ะรปัทรง 6 สวิน แล้วิเอา 1 สวินเปันมอก แล้ะสัดสวินทนยม







ของวิหารตองอาศยบรรทดฐ์านทเปันตวิเทยบ คอ วิดควิามสงจัากหล้งขอหล้วิงขนไปั 4 แม ่




























ขนาด ทาหน้าที�เปั็นตวิเทียบอัตราสวิน ในทีนีกค่อ หรอยกเอาเสาสะโกนมาเปันควิามสงของแปัจัอง




“ไมมอก” โดยทวิไปัจัะใชีการแบงอตราสวินจัาก แตบางคร�งกพุบควิามสูงของแปัจั๋องมากกวิ่า 4 แม่











ควิามยาวิของ “ขอหล้วิง” แตบางกรณกใชีไมอนๆ กม เชี่น วิิหารสกล้ชี่างเชีียงใหมที�บางแห่งควิามสูง












ทีกาหนดขึนมาเอง แล้ะใชี “มอก” ทีกาหนดขึ�นนี � ของแปัจัองเทากบระยะขอหล้วิง ทาใหเสาขางยด












ในการเทยบสดสวินตามสตรล้กษณะวิิหาร สงไปัตามหล้งคาจัวิสงผู้ล้ใหวิหารมควิามสงโปัรง
















สตรตางๆ ดงนน มอกจัึงเปันตวิกาหนดขนาด แล้ะหล้งคาดดโคงใหรบกบชีายคาปักนก ทเรยกกน





























ของวิหารวิาจัะเล้ก หรอใหญ แล้ะจัะมรปัทรง วิา “ฮิางแม” เปันตน


อยางไรข�นกบสตรการสร้าง เพุราะฉะน�นการสร้าง





วิหารจังตองมทงสตร แล้ะมอก ตล้อดจันจัานวิน (2) วหารู้สามชุายมอกแมสบีหก คอสตร


















ชีายคาของวิิหารเปันตวิกากบรวิมดวิย การคานวิณอกแบบหนงสาหรบกอสรางวิหาร








ทมสามชีาย มกเปันวิหารขนาดกล้างไปัจันถึง














อยางไรกตาม แมวิาจัะมสตรแมมอก ขนาดใหญ สาหรบแม 16 ใหนาขอหล้วิงมาหาร 8











ทแตกตางกน แตกระนนกมแมบทพุนฐ์าน กจัะไดไมมอก หรอนาขอหล้วิงมาแบ่งออก 16 สวิน


































ทีเรยกวิา “แมกรู้ะด�าง” ซึ่งหมายถง สตรตายตวิ หนงสวินนนคอไมมอก จัากนนใชีวิธการคานวิณ





















ซึ่งมกจัะพุบคาศพุทสาคญในมอกแมกระดาง เชีนเดยวิกนกบแมสบสอง เพุยงแตเพุมชีายคา








ค่อ “ทาวลก” “ทาวฮ่าง” แล้ะ “กาเกง” มาอกขางล้ะสองสวิน






130

อกทงยงตองมการคานวิณร่วิมกบจัานวินชีายคา












วิิหารซึ่งมทังแบบ ชีายคาเดยวิ หมายถงหล้งคาจััวิ (3) วหารู้สามชุายมอกแมสบีแปัด









ไมมปักนก หล้งคาสองชีาย หมายถง หล้งคาจัวิ เปันสตรการคานวิณวิหารขนาดกล้างถงขนาดใหญ ่


















มปักนก 1 ตบ หล้งคาสามชีาย หมายถง ใชีวิธการเดยวิกนกบมอกแมสบสอง แล้ะแม่สบหก









หล้งคาจัวิ แล้ะมปักนกจัานวิน 2 ตบ แล้ะแบบ คอ แบงขอหล้วิงออกเปัน 18 สวิน 1 สวินนน














่�




ทีมหล้งคามากกวิาสามชีาย เปันขนาดของไม้มอก โดยท ขอหล้วิงยาวิ 6 แม่







แล้วิใชีไมมอก 3 แมวิดจัากดานซึ่ายแล้ะขวิา


















แมกระดาง มแมมอกหล้กอย 3 แม เขาหากน จัะไดขางล้ะ 3 แม 2 สวิน แบงเปันสวิน


131





แล้ะมกจัะใชีวิิธ “ทาวิล้ก-ทาวิฮิาง-กาเกิง” ในการ ของขอปัก นกนอก แล้ะขอปักนกกล้าง รวิมเปัน
















กาหนดระยะตางๆ ของโครงสราง แล้ะควิามยาวิ 18 แมพุอด ี


ของขอมาจัะเปันครงหนงของขอหล้วิงเสมอ ไดแก ่









151


ภูาพุที 86







มอกวิิหารสองชีายแมสงสอง กบสามชีายแมสบหก แล้ะแมสบแปัด


ทีมาของภูาพุ : ปัรบปัรงจัากล้ายเสนในบทควิาม มอกวิิหาร


ของ ธวิชีชีย ทาทอง, อางแล้้วิ, หนา 61-64.















จัากตาราล้กขณะวิหารฉบบสวิาธเจัานนทา วิดตนใต ้




จังหวิดพุะเยา สามารถคานวิณขนาดรวิมกบแมมอก แล้ะรางแบบ







สดสวินวิิหาร ไดดงนี �
132

ภูาพุที 87



แบบรางสดสวินของวิิหาร

ทีไดจัากการคานวิณตามสตรของ








สวิาธเจัานนทา วิดตุนใต ้

จัังหวิดพุะเยา
152








จัากคานวิณตามสตรฯ ขางตน พุบวิาไมเปันไปัตามระบบ “แมกระดาง”















หร่อวิิธ “ทาวิล้ก” ทีสดสวินแนวินอนของขอมาจัะเทากบสดสวินของเสาสะโกน













จังทาใหองศาหล้งคาในสวินปักนกปัานกวิาปักต เนองจัากควิามล้าดชีันของปักนก


ควิามสงแปัคอคบ รวิมทงระดบควิามสงของแปัจัอง หรอดง มควิามแตกตาง










จัากวิิหารสองชีายแมสบสองทีเปันสตรแมกระดางปักต ิ









พุบวิารปัทรงทไดจัากการคานวิณมควิามใกล้เคยงกบรปัทรงของวิหาร
















ล้ายคาวิดพุระสงหวิรมหาวิิหาร อาเภูอเม่องเชีียงใหม จัังหวิดเชีียงใหม จัะเหนได ้












วิาการปัรบสดสวิน ระยะ ขนาด แล้ะควิามสงในสตรคานวิณสงผู้ล้ใหรปัทรง







ของวิิหารเปัล้ียนแปัล้งไปัตาม “จัรตชีาง” แล้ะรสนยมควิามงามที�แตกตางกนไปั



ในแตล้ะทองถิน





ปัระเด็นสาคญอกปัระการหน�งคอ มาตราส่วินในการวิัดของชี่าง

สมยโบราณ มควิามแตกตางจัากปัจัจับนอยางมาก เนองจัากกระบวินทศน ์






















แล้ะการรบรเรองของสดสวินในปัจัจับนอางองระบบตวิเล้ขแบบเมตรกในขณะท � ี











ชีางในอดตสดสวินควิามงามสมพุนธกบรางกายของมนษย์ การถอดรหสสดสวิน




เพุอแสวิงหาสูตรสาเรจัของควิามงามแห่งสถาปัตยกรรมโบราณ จังไมอาจัอาศย












เพุยงมาตรวิดทีเปันระบบตวิเล้ขเทานัน หากยังตองอาศยควิามเขาใจัอยางล้กซึ่ึง �














ถง “วิิถแหงการกอรปั” ของสถาปััตยกรรมนันๆ ซึ่งในปััจัจับน เราจัะยงศกษาได ้






จัากเอกสารโบราณ พุบสาใบสาน หร่อแมแตครสล้าผู้เฒาทีส่บทอดองคควิามรูนี �














มาอย่างยาวินาน แต่การทจัะเข้าใจัไดน�น ไม่ไดมีเพุียงแค่สามารถอ่านเอกสาร









โบราณได้เทานน หากยังตองเขาใจัถงกระบวินการก่อสราง คาศพุทชีางโบราณ








แล้ะพุจัารณาบริบททางสังคมปัระวิติศาสตร์ควิบคไปัดวิย ดังเชี่นท� ธวิชีชีัย-





ทาทอง (2560) ไดใหทศนะเกียวิกบการส่บทอดองคควิามรูในการกอสรางวิิหาร








ล้้านนาวิา











“การจ้ะสบูทั้อัด้อังค์ค์วามรเชงชางโบูราณน้น ต่อังทั้ำาค์วามเขัาใจ้ค์าศพทั้ชาง











สมยโบูราณรวมถงค์วามหมายขัอังค์า และวธการสะกด้ทั้ถกต่อัง เนอังจ้ากการจ้ด้บูนทั้ก













ด้้วยอักษรลานนา บูอัยค์รงทั้ีจ้ะมค์วามค์ลาด้เค์ลอันในการผ่้นเสยงวรรณยกต่ หร่อัการเขัยน







ต่กหลน ซื่ึ�งบูางค์รงผู่ปร่วรรต่ กปร่วรรต่ไปต่ามอักษรทั้ีปรากฏิ อัาจ้มการแบูงวรรค์ หร่อัเวน



















วรรค์ค์าทั้ทั้าใหเกด้ค์วามสบูสน และเขัาใจ้ค์ลาด้เค์ลอัน ด้งนนปราการด้านแรกขัอังการ






สบูต่อัอังค์ค์วามรนนค์อั ค์วามสามารถในการอั่านและเขัาใจ้ค์าศพทั้ชางโบูราณ ต่ลอัด้จ้นการ









ทั้าค์วามเขัาใจ้มาต่ราสวนด้้วยการวางต่ล้บูเมต่ร แลวใช “ไม้้ม้อก” แทั้นน้�นเอัง”





153

(4.2)







การกอร้ปัขีนำที่รงวหารล�านำนำา








วิหารล้านนามกระบวินการขนรปัทรง หรอล้าดบการกอสรางทสามารถ









วิเคราะหไดจัากเอกสารโบราณในการกาหนดระเบยบสดสวินของโครงสราง









หร่อทีเรยกวิา “ตาราล้กขณะวิิหาร” จัากการศกษาของ ส่บพุงศ จัรรยส่บศร ี



(2549) เกี�ยวิกับกระบวินการก่อรูปัขึนทรงวิิหารล้้านนา ทีมีล้ำาดับการขึ�นรูปั


133










โดยเริมจัากการขึนฐ์านทีมควิามสงเทากนทังหล้ง จัากนันขึนอาคารหล้งหล้วิง

















ทีสวินใหญมผู้งเก่อบสีเหล้ียมจััตรส แล้้วิจังคอยขึนอาคารหล้งซึ่ดหนา – หล้ง




ทมขนาดเทากนแตมควิามกวิางล้ดล้งจัากหล้งหล้วิงทไมเปันสดสวินใดๆ ตอกน
















แตมควิามยาวิเปั็นกงหนงของหล้ังหล้วิง ตอมาจัึงขนอาคารมุขหนาอาคาร









ทีมควิามกวิางล้ดล้งแล้ะมควิามยาวิใกล้้เคยงกบหล้งซึ่ด จัากนันจังตดตังบนได

























ทางขนเฉพุาะดานหนา แล้ะอาจัมบนไดทางขนเล้กๆ ดานขางทไมสาคญมาก










นก จังไมมการปัระดบตกแตงราวิบนได ในการขึนโครงสรางชีางมกมการสราง








สวินปัระกอบทังหมดของโครงสรางดานล้างกอน จัากนันจังยกขึนไปัปัระกอบ







พุรอมกน
134





ขอสงเกต ค่อ การขึ�นรปันันจัะขึนที “หลงหลวง” หร่อชีดโครงสราง










หนาจัวิมาตางไหมท�ใหญทสด โดยระบบสัดสวินเรมขนทโถงกล้างของอาคาร















แล้วิถายทอดล้งมาตามสดสวินจันจับทมขดานหนา ซึ่งควิามงามแล้ะสดสวิน












ของอาคารอันเปั็นผู้ล้สาเรจัจัะเกิดข�นทมุขหน้า ซึ่�งหากไมมีระเบียบสัดสวิน







ทกาหนดไวิแล้วิกอนการข�นรปัหล้งหล้วิง อาคารอาจัไม่ไดสดสวินรูปัทรง






















ทสวิยงาม แมวิาชีางจัะขนโครงทรงหล้งหล้วิงแล้วิ แตเมอถายสดสวินล้งมา

















จันถงมขหนา อาจัไมไดสดสวินทล้งตวิสวิยงามหากไมมระเบยบของการกาหนด


สดสวินทีชีดเจัน หร่อทีเรยกวิา “มอก” ของวิิหาร





135
154

ภูาพุที 88 - 89




ตวิอยางการกอสรางวิิหารล้้านนา




วิดปัาปัฐ์มชีย อาเภูอเม่อง

จัังหวิดนครปัฐ์ม ผู้ล้งานของ





อาจัารยธวิชีชีย ทาทอง

ทีมาของภูาพุ : ธวิชีชีย ทาทอง (เจัาของภูาพุ)




155

ภูาพุที 90 - 95







ตวิอย่างการกอสรางซึ่อมแซึ่มโรง (กฏ)



ขางวิิหารของวิดราชีฐ์านหล้วิงเชีียงตุง เม่องมา รฐ์ฉาน







156

(4.3)








จารตการกอสร�างวหาร: โฉลกวหาร พุธกรรม

และจารตการซ่่อม สร�างเสนำาสนำะขีองล�านำนำา


วิิหาร เปั็นหน�งในเสนาสนะท�ง 5 ทพุระพุุทธเจั้าปัระทานอนุญาตให ้



ภูิกษุสงฆ์์สามารถใชี้สอยปัระโยชีน์ได้ตามควิรเหมาะสม วิิหารจัึงกล้ายเปั็นหน�ง ึ






ในสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาท�มควิามสำาคญย�ง เน่องจัากเปั็นพุนท � ี












ปัระดษฐ์านพุระพุุทธรปัปัระธานของวิด แล้ะเปันพุนทปัระกอบพุธกรรม


















ทางศาสนาร่วิมกนระหวิางพุระสงฆ์กบพุทธบรษท วิหารจังเปันดงพุนทซึ่ง

พุุทธบรษัทสามารถเข้าถึงแล้ะสัมผู้ัสผู้่านผู้ัสสะปัระสบการณ์แห่งพุุทธภูม ิ









ทชีางสล้่าสรรค์สรางขนจัากการตีควิามแล้ะจัินตนาการบนพุ�นฐ์านแห่งภูมร ู ้

ทางพุทธศาสนา ดงนนในการก่อสรางวิหาร หรอแม้แตการซึ่่อมแซึ่ม หรอรอถอน




















จังมจัารตพุธกรรมกากบไวิเสมอทกขันตอน









กอนทจัะทาการู้สรู้างวหารู้ จัะตองมการู้ออกแบีบีข่นาด








และรู้ปัทรู้งข่องวิหารู้ทตองการู้ ในลานนามจัารู้ตและค์ติค์วามเชุอ


เรู้�อง “โฉลกวิหารู้” ซึ่ึงการกล้่าวิถึงจัำานวินห้องเสาของวิิหาร วิ่าแต่ล้ะจัำานวิน
136












นนดหรอไมด เปันมงคล้หรอไม จัะพุบวิาสวินใหญ่ วิหารล้านนานยมสราง







5-9 หอง มตาราโฉล้กวิิหาร ระบไวิดงนี �




วิิหาร 1 หอง วิิหารพุระเจัา (ปัานกล้าง)



วิิหาร 2 หอง บมคนเขามาหา (ไมด) ี








วิิหาร 3 หอง ศรทธาหนไปัอน (ไมด) ี






วิิหาร 4 หอง ตุเจัาอยบยนยาวิ (ไมด) ี




วิิหาร 5 หอง กนทานอย่บขาด (ด) ี




วิิหาร 6 หอง ศรวิิล้าสรุงเร่องไร (ด) ี



วิิหาร 7 หอง ศรทธาไกล้มาสู (ด) ี








วิิหาร 8 หอง อยเมนไปัศรทธาจัิงเตม (ด) ี




วิิหาร 9 หอง สขเกษมทั�งวิดแล้บาน (ด) ี

157








ขนตอนการสรางวิหาร ในล้านนามจัารตแล้ะธรรมเนยมปัฏบต ิ











ในการกอสราง โดยเรมตนจัากการหารอระหวิางพุระสงฆ์ แล้ะศรทธาวิด








เมอตกล้งไดแล้้วิจังกาหนดสถานที�โดยใชีตอกกาหนดจัด ค่อ จัดตังแทนแกวิ











(ฐ์านชีกชี) สาหรบปัระดษฐ์านพุระปัระธาน จัากนนตองทาพุธบอกกล้าวิ
















เส่อวิด แล้้วิจังเริมกอฐ์านชีกชีีแล้ะพุระปัระธาน หล้งจัากการเตรยมไมเครอง



วิิหารแล้้วิ กทาการขดหล้มฝงเสา โดยเสาคูแรกที�ยกขึ�น ค่อเสาเอก จัะเปัน






เสาคหนาของพุระปัระธาน รวิมถึงเสากาแพุงในแนวิระนาบเดียวิกน











(ชีดโครงสรางขอหล้วิง) ในการยกเสาคเอก จัะมพุธ “ตงขน” ตามตาราโบราณ















กอน ค่อใหตังขนหล้วิง ภูายในบรรจัสิงตางๆ ดงนี �





เทยนเล้มบาท 3 คู เทยนเล้มเล้ก 8 คู ่

เบีย 10,000 หมาก 10,000


เงน 3 จั�อย ผู้าขาวิมาแดง


กล้้วิย 1 เคร่อ มะพุราวิ 1 เคร่อ



ตาล้ 1 เคร่อ หอกล้้วิยหอออย

ไหนา 7 ไห วิางไวิในพุธ 3 ไห







แล้ะวิางไวิทีมมวิิหาร 4 มมจัานวิน 4 ไห



158












นอกจัากนใหเตรยมสะตวิงเครอง 4 ขนขาวิ 4 ขน แตล้ะขน




จัะมเทยนเล้มบาท 1 คู เทยนนอย 1 คู แล้้วินมนตพุระจัาก 4 วิด มาสวิด





















ในขณะทสวิดกจัดเทยนทถวิายในขนขาวิทง 4 มม รวิมถงในสะตวิงทง

4 มมดวิย แล้วิจังยกเสาอนๆจันครบ จัากนนจังกอกาแพุงดานสกด



















หร่อ “ปัางเอก” แล้ะกาแพุงดานขาง หร่อ “ปัางฝา” อกทังยงมการขดหล้ม










ฝงสมบต สงของมคาล้งยงในทสายพุระเนตรของพุระปัระธานในวิหาร





ทอดล้งมายงพุ่�น หร่อทีเรยกวิา “ตกสายตาพุระเจัา”









ในการปัระกอบโครงสรางวิหาร สล้า หรอชีาง จัะนาขนตง










หร่อ “ขนคร” ของพุวิกตนขึนแขวินบนขอ โดยจัะไมทาการปัล้ดล้งจันกวิา










การสรางวิหารจัะยุตล้ง หล้งจัากปัระกอบโครงสร้างหล้กของวิหารแล้วิเสรจั












จังทาการปัระกอบส่วินอนๆ เชีน ฝา หล้งคา นาคทันต แปันนายอย

แล้ะสดทาย คอ การทาล้วิดล้ายปัระดบวิหารทงในสวินหนาบน แล้ะสวิน














องคปัระกอบอนๆ เมอวิหารแล้วิเสรจัล้งจัะมการเฉล้มฉล้องยงใหญ ่






















หรอทเรยกวิา “ปัอยหล้วิง” ซึ่งนยมทาในชีวิงเดอน 6 ของล้านนา (ราวิเดอน









กมภูาพุนธ – พุฤษภูาคม) อนเปันชีวิงฤดกาล้เกบเกียวิ







นอกจัากน ยงปัรากฏคตควิามเชีอ แล้ะจัารตในการกอสราง








แล้ะการรอถอนวิหาร เจัดย แล้ะพุระพุทธรูปัของชีาวิล้านนาปัรากฏในพุับ

สาใบล้านโดยจัารเปั็นอักษรธรรมล้้านนา ซึ่�งมีหล้ายตารา แล้ะสานวิน

















ในทนขอยกตวิอยางสานวินฉบบวิดบานเออม อาเภูอเมองล้าปัาง

จัังหวิดล้าปัาง แล้ะวิดปัาเหม่อด อาเภูอปััวิ จัังหวิดนาน ดงนี �








159












(1) พุบสาเรอง “โอกาส, ปัรวิาร, วิิธสตกะทามงคล้ะทงมวิน แล้ะอนฯ”












ตนฉบบจัาก วิดบานเอ่อม อ.เม่อง จั.ล้าปัาง หอสมดดจัทล้คมภูรใบล้านล้้านนา


(http://lannamanuscripts.net/) รหัส PNTMP ปัรวิรรตโดย





ดร.ดเรก อนจันทร นกวิชีาการศกษา ศนยใบล้านศกษา สานกศล้ปัะ











แล้ะวิฒนธรรม มหาวิิทยาล้ยราชีภูฏเชีียงใหม ่









“...สทั้ธการ จ้กกลาวกอัแรกส้าง ขัวกหลอัพระพุทั้ธรปเจ้า แลวหาร อัุโปสถ

ขัว้กต่อังแต่มกอันแล






ออกฅ่ำำา 1 แรมฅ่ำำา 1 ด แมนผู้ชีงเราคมใจัหล้ิ�งนอม







เขาชีวิยเราแล้


ออก 2 ฅ่ำา แรม 2 ฅ่ำำา บดแล้ พุระญามารมาสน บด ี












ออก 3 ฅ่ำำ�า แรม 3 ฅ่ำำา อยสวิสสด มโชีคแล้
ออก 4 ฅ่ำำ�า แรม 4 ฅ่ำำา มโสกทกขมากนกแล้









ออก 5 ฅ่ำำ�า แรม 5 ฅ่ำำา สางพุุทธเจัา ฟื้าจัักผู้า บอันทพุระจััก




ผู้ดกน ฟื้นกนตายแล้








ออก 6 ฅ่ำำ�า แรม 6 ฅ่ำำา สางพุุทธรปัเจัาดแล้



ออก 7 ฅ่ำำ�า แรม 7 ฅ่ำำา สางพุุทธรปัเจัาดแล้




ออก 8 ฅ่ำำ�า แรม 8 ฅ่ำำา สางพุุทธรปัเจัา จัักไดรอนใจัดวิยไฟื้






ต า ่ ง ๆ







ออก 9 ฅ่ำำ�า แรม 9 ฅ่ำำา สางพุุทธรปัเจัา สตรชีางมาหงสา

วิดชีางหางแล้










ออก 10 ฅ่ำำา แรม 10 ฅ่ำำา (สาง) พุุทธรปัเจัา จัักอยด ี


มสขสวิสดแล้


ออก 11 ฅ่ำำา แรม 11 ฅ่ำำา สางบด ี







ออก 12 ฅ่ำำา แรม 12 ฅ่ำำา ออก 13 ฅ่ำำา แรม 13 ฅ่ำำา ออก 14 ฅ่ำำา


แรม 14 ฅ่ำำา บดสางแล้






เด่อนเพุง เด่อนดบ บดแล้...”

160


วธแรกกอพุุที่ธเจตยะใหม
















“...ทั้นจ้กกลาวลกขัณะอัปเทั้สวธีอันกอัแรกยงพทั้ธรป




เจ้ต่่ยะใหม แลว่หารใหมกอันแล

เด่อนออกฅ่ำำ�า 1 จัักสมรทธ ี


2 ฅ่ำำา โจัรจัักกะทาโทส


3 ฅ่ำำา ขาวิด ขาพุระ อยด ี







ออก 4 ฅ่ำำ�า ขาพุระเจัาเปันทก


ออก 5 ฅ่ำำ�า ฟื้าจัักผู้า
ออก 6 ฅ่ำำ�า ทานจัักฟื้นกน



ออก 7 ฅ่ำำ�า ทานจัักปัชีา


ออก 8 ฅ่ำำ�า จัักรอนใจั






9 ฅ่ำำา สพุพุสตรจัักกะทาราย เบยนสาสนา



10 ฅ่ำำา อยดมสข









11 (ฅ่ำำา) ขาพุระเจัาจัักสบหาย
12 ฅ่ำำา จัักไดรอนใจั




13 ฅ่ำำา อยเปันใจั


14 ฅ่ำำา อายยนตอเถา






15 ฅ่ำำา ข้าพุระเจั้าพุันตาย บดี อย่าเยียะ อย่า




กะทา บดแล้
161







ถอนำที่จกตังกฏ วหารใหม











“...จ้กต่�งกุฏิ่วหาร ค์่อัว่าโรงอันเปนทั้อัยอันใหม่แทั้ ้







กด้ อัาไสรเซื่งอันจ้้กแปงใหม บูใชทั้ีเกาด้้�งอัน ห่อักะทั้าด้้งกลาว

























ไวนเทั้อัะ เหต่กงขัาวต่รณี วนยปฏิกะว่าสนน หอันมนต่สงฆัะ







พอั 4 ต่น มาในทั้ี�อันจ้้กสางแปงนน แลวห่�อัส้งฆัะได้้สต่ต่ญ่้ต่ต่่



ทั้ต่่ยก้มมวาจ้าวา”




สณาต เม ภูนเต สงโฆ์ อยำ อตถนนาโม ภูกขุ









สญฺญาจัิกามย กฏึ กตฺตกาโม อสามก อตุเทต สงฆ์











กฏ วิตถุ เทสน ยาจัต ยท สงฆ์สส ปัตตกล้ล้ำ สงโฆ์ อย ำ





อตถนนามสส ภูกขโน กฏ วิตถ เทเสยย เอสา ญตต ฯ





















สณาต เม ภูนเต สงโฆ์ อย อตถนนาโม ภูกข สญฺฺญาจั ิ



กามย กฏ กตตกาโม อสามก อตเทส โส สงฆ์ กฏ ึ














เทสนำ ยาจัติ สงฺโฆ์ อตฺถนฺนามสฺส ฯ บ ฯ ภูกขุโน กฏึ วิตถุ ำ








เทเสส ยสสา ยสมโต ขมต อตถนนมสส ภูกขโน กฏ ิ








เทสน โส ตณหสส ยสส น ขมต โส ภูาเสยย เทเสต ุ ำ







สงโฆ์ น อตถนนามสส ภูกขโน กฏ ขมต สงฆ์สส
















ตสมา ตณห เอวิเม ตำ ธารยาม ฯ 3 ท ี
162



เที่วหารแปัลงที่ใหม


(ร่�อสร�างใหม) ่



ต่นจ้กเทั้วหาร สงฆัะ 8 ต่นฯ จ้กเทั้โบูสถ “สุณาต่ เม ภินฺเต่ สงฺโฆั ฯ ภินฺเต่ ขั้าแก่เจ้าค์ ู























สงฆัะ 20 ต่น หอัเจ้าอัาวาสไพบูอักแกสงฆัะวา บูด้น ี � สงโฆั อันวาสงฆัะเจ้าทั้งหลาย สณาต่ จ้งจ้กฟ้ง วจ้น ำ




โรงหอั (หอั) วา กฏิ ค์นวาวหาร หอัวา วหาร ฯ ค์นวาโบูสถ ยงค์า เม แหงขัาเทั้อัะ อัุโปสถ ค์ารสมม อันวาอัโปสถ





















หอัว่า อัุโปสถค์ารสมมา หลงน เพ�นส้างไวก้บูอัาวาส ค์ารสมมาหลงน วหาร วหารหลงน กฏิ อันวาโรงหลงน � ี































ทั้น� เปนทั้อัยแกผ่้ขั้าทั้งหลาย บูด้น อัุโบูสถค์ารสมมา ค์เปนอันหลไพแลว บูด้นเราทั้งหลายค์ได้อันญ่าต่หอัมาง
































หลงน ค์เปนอันหลอันค์ราชรา อัยาด้พงไพแลว จ้กอัย ู ่ เทั้เสยแลว ค์าอันขัาปจ้ฉัานี ยง (ชอับู) ฅอัพอัใจ้ อัายสม






















สบูต่อัไพค์กลวเปนกงวลอันต่รายแกผ่ขัาทั้งหลาย โต่ แกเจ้้าต่นมอัายต่นใจ้ โส อัายสมโต่ อันวาเจ้้าต่นมอัาย ุ





บูด้น สนใด้จ้กด้ ค์็เอัาสงฆัะเจ้้าทั้งหลายชต่นชอังค์ว่าเทั้อัะ ต่นนน ขัมต่่ แลเขัาใจ้ เพ่งใจ้ โส อัายสมโต่ แหงเจ้้าต่น

























วาอันแลว สงฆัะเจ้าทั้งหลายค์ค์วรปุจ้ฉัากนวา โรงกฏิ ่ มอัายต่นนน ภิาเสยฺย จ้งกลาวมาบูด้นเทั้อัะ ค์าอันขัา























หลงน วหารหลงน อันทั้ายกะหากส้างหอัเปนทั้านแก่ ปจ้ฉัานี ยงชอับูฅอัเพ่งใจ้ อัายสมโต่ แกเจ้้าต่นใด้ น ขัมต่่




















สงฆัะเจ้าทั้งหลายแต่กอัน สงฆัะเจ้าทั้งหลายค์อับูไวกบูเจ้า ้ แลบูเขัาใจ้เพ่งใจ้ โส อัายสมโต่ อันวาเจ้้าต่นมอัายต่นนน















อัาวาสทั้ีนีส่บูๆ มาต่ราบูบู้ด้นี ค์เปนอันหลพ้งไพเสยแลว ต่มห่ภิาเวน จุ้งอัยบูปาก...














บูด้นเจ้าอัาวาสทั้�นค์มาบูอักแกเราทั้งหลายอันเปนสงฆัะ




่�












บูด้นเราทั้งหลายค์ค์วรปจ้ฉัาเซื่งกนกนหอัทั้ด้กน แลวหอั .... แลวห่อัมฅน อัาจ้ารยกด้ ห่อัถ่อัสล 5 สล 8




















สต่ต่ถอันญ่ต่ต่ทั้ง ๔ แจ้ง แลทั้ากลาง แลวค์วรอันญ่าต่ แลวค์วรหอัสงฆัะไพอัยนอัย 4 ต่น ถอัเอัาอัอักไพปนใด้นน





















หอัเทั้ บูหอัเปนบูาปปาปกมมแกสทั้ธาทั้งหลายอันจ้กได้ล ี หอัสงเกต่ปกหลกไวทั้ด้นน แลวหอัฅนถอัสบูเอัาหนกด้ ี




























ด้มางขัอังทั้านแหงทั้านน แมนเอัาทั้มเสยค์อัยาหอัได้เป ด้นจ้กด้ 4 กอัน ไพยนหอัแกภิกขั หอัวา กปปยา กฏิ ่





























นบูาป แมนเอัาใหมมาใสค์อัยาหอัเปนบูาป เราทั้งหลาย ภินเต่ 3 ทั้ ส้งฆัะหยุบูเอัาด้่นจ้ี 4 กอันนน ทั้วนก้นทั้้ง 4













ค์ค์วรอันุญ่าต่ อัย่าหอัเขัาได้สางเสียบูด้าย..ห�อัเปน กอัน 4 ต่น เอัาวางแจ้ง ๑ ห่อัต่น ๑ วา กปปย กฏิ กโรห่










บูาปกมมสกเยอังสกประการ..ค์ด้ลาสางแปลงย้งอัโปสถ 3 ทั้ ว











ค์ารสมมา วหาร กุฏิ โรง วด้วาอัาราม สาสนาทั้ด้ทั้�น ี �















หอัเปนบูญ่แกสทั้ธาทั้งพายในแลพายนอักทั้กมวลด้�งอัน













ได้ค์ด้ลาสางหอัเปนบูญ่แกสทั้านทั้งหลายนบูเสยง





ค์าปจ้ฉัาวาด้้งนี �


163






(2) พิบีสาเรู้อง “โหรู้าศิาสตรู้์, ไสยศิาสตรู้์” ตนฉบบพุบสา อกษรธรรม















ล้านนา วิดบานเออม อ.เมอง จั.ล้าปัาง) หอสมุดดจัทล้คมภูรใบล้านล้านนา

(http://lannamanuscripts.net/) รหส PNTMP329_464_030420089_00













ปัรวิรรตโดย ดร.ดเรก อนจันทร นกวิชีาการศกษา ศนยใบล้านศกษา สานกศล้ปัะ



แล้ะวิฒนธรรม มหาวิิทยาล้ยราชีภูฏเชีียงใหม ่


ถอนำวหาร

อัต่ถรเก ว่หาร สเจ้ น มลลกาโทั้สำ ภินทั้ต่พพำ ฯ
























สณาต่ เม ภินเต่ สงโฆั ยทั้ สงฆัสส ปต่ต่กลล สงโฆั วหารสส ปรกโทั้ส อัทั้ธเรยย เอัสา






ญ่ต่ต่ ฯ สณาต่ เม ภินเต่ สงโฆั วหารพทั้ธรป โทั้ส อัทั้ธรต่ต่ ยสสา ยสมโต่ ขัมต่วหาร














พทั้ธรป ปร่โทั้สสส อัพภิโร โส ต่ณหสส ยสส นกขัมต่่ โส ภิาเสยย ฯ อัพภิต่ำ สงเฆัน ว่หาร





















พทั้ธรป มลลกโทั้สำ ขัมต่่ สงฆัสส ต่สมา ต่ณห่ เอัวเมต่ำ ธารยาม่ ฯ










เปาสะทั้วง 3 รอับู 7 รอับู แลวเอัาด้่น 4 แจ้ง ด้่นทั้ากลาง ใสสะทั้วง





สงเสยเทั้อัะ ฯ แมนจ้กขัด้งาชาง มางเสาเรอัน จ้กสอัมแซื่มลด้เกาแปลงใหม หอัถอันเสย












ขันต่งต่ามกระกลเทั้่อัะ ฯ









(3) พิบีสาเรู้อง “ค์าสมมาพิรู้ะเจัาใหม, ค์าไข่ตาพิรู้ะเจัา, ค์าอปัปัโหล









กพิรู้ะวหารู้ ฯลฯ” ตนฉบบจัาก วิดปัาเหม่อด อ.ปััวิ จั.นาน หอสมดดจัทล้คมภูร ์









ใบล้านล้านนา (http://lannamanuscripts.net/) รหส PNTMP 060620010_00

(หนา 22-23)

164








คำำอปัโลกนำกอพุระวหารใหม จัากเอกสารพุับสาโบราณต่างๆ ทยก


ตวิอยางมาขางตน จัะเหนไดวิาในล้านนา









คาอปัโล้กนพุระวิหารใหม อนสทธา มธรรมเนยมปัฏบตอนเปันการแสดงควิามคารวิะ











สางแล้้วิถวิายใหเปันทานแล้้วิ นอบนอมทั�งแกสถานที ผู้กอสราง แมกระทังวิสด ุ
















ควิรพุระสงฆ์ะเจัาอปัโล้กนเสยกอน ในการกอสราง ไมวิาจัะเปันการบอกกล้าวิถงการ











จัิงจัักอย่วิฑฒแล้ สรางแปัล้ง ซึ่อม หรอรอถอนแกเจัาทเจัาแดน





















ทาวิจัตโล้กบาล้อนเปันภูมจัตวิญญาณอนศกดสทธ � ิ














สณาต่ เม ภินเต่ สงโฆั ฯ ภินเต่ ขัาแด้พระสงฆัะเจ้าทั้งปวง อกทงถวิายเครองพุล้กรรมตางๆ แล้ะในการ
















สณาต่ จ้งจ้กฟ้ง วจ้น ยงค์า เม แหงขัา อัาวุจ้จ้มาโน ทจัะรอถอน เพุอสรางใหมหรอซึ่อมแซึ่ม




















อันจ้้กกลาวไปพายหนานีเทั้อัะ อัย ว่หารำ อันวาว่หารหล้ง










น อันสทั้ธาอัุปาสกะอัุปาสกาในบูาน......ทั้�น หากมา คนล้้านนาจัะมการแสดงควิามเคารพุ แล้ะขอขมา















สางถวายเปนทั้านแกพระแกวเจ้า 3 ประการแลว แดบรพุอาจัารยปัสล้าทกอสรางไวิเมอนานมา


















เราเจ้าขัาทั้งหลายจ้กสงวภิาค์แบูงบูนปนกนยงสมค์วรหรอั วิาถงกาล้ะเวิล้าทจัะตองรอถอนทาล้าย

























ไมสมค์วร ถ้ายงไมสมค์วรน้น ขัอัเจ้าต่นมีอัายุ ต่นใด้ต่นน�ง หรอซึ่อมแซึ่มสงท สล้าชีางผู้สรางไวินนออกเสย

ภิาเสยย จุ้งจ้้กกลาวมาบู้ด้นี�เทั้อัะ ห่อัวา 3 ทั้ ฯ แล้ะสรางใหมทดแทนเพุออรรถปัระโยชีนในการ

















ใชีสอยเสนาสนะ สงกอสรางอาคารตางๆ ตอไปั


แลวต่นนึงต่อับูวา สณาต่ เม ภินเต่ สงโฆั ภินเต่ ของล้กหล้าน








ขัาแด้พระส้งฆัะเจ้้าทั้้งพวง สณาต่ จ้้กฟ้ง วจ้นำ ยงค์า เม







แหงขัา อัาวจ้จ้มาโน อันจ้้กกลาวต่่อัไปพายหนานีเทั้อัะ ฯ พุธกรรมดงกล้าวิ ไมเพุยงปัรากฏแตใน



























อัย วหาร อันวาวหารหลงน อันสทั้ธาอัปาสกะอัปาสกา









ทั้้งหลาย มปสาทั้ส้ทั้ธา ในทั้านปารมอันโยด้ยง จ้งจ้้กมา ล้้านนาเท่าน�น หากยังปัรากฏในเขตวิัฒนธรรมรวิม















สางยงพระวหารหลงนแล ยอัถวายใหเปนทั้านเถงแก ่ เชีน สบสองพุนนา เชีียงตง หรอหล้วิงพุระบาง









พระแกวเจ้้า ๓ ประการ ด้จ้ด้้งเลอันลอัยลงมาทั้างอัากาส เชีน กรณการรอซึ่อมแซึ่มหอปัฏบตธรรม (โฮิง)












อัยาด้ลงมาทั้าง มชเฌ ในทั้ามกลางสงฆัในกาลบูด้น ี � ของวิดราชีฐ์านหล้วิงเชียงตง เมองมา (เขตปักครอง



เราเจ้าขั้าจ้กแบู่งบูนปันแกกนให้เปน อัต่ต่โนสนต่ก แก่เรา พุเศษท 4 เมองล้า) รฐ์ฉานตะวิันออก ปัระเทศพุม่า












เจ้้าขัาทั้้งหลาย ค์บูห้นสมค์วร ค์วรเราเจ้้าขัาทั้้งหลายสะซื่ ซึ่�งเปั็นพุ�นททปัระชีากรสวินใหญ่เปั็นชีาวิไทล้�อ












วางวาง ใหไวแกปชชาชนทั้้งหลาย อันจ้้กมาสาน้กอัาไสร กอนการรอถอนนนจัะมพุธกรรมทชีาวิล้อ





















ในสา (น.24) ยารมงาอันน ใหเปนผ่ละปรมปราไปพาย










หนา ค์นยงสมด้งค์าขัาพระเจ้าว่ามาน ขัอัใหพระสงฆัะเจ้า เรียกวิ่า “สุมาสล้่า ตานทราย” เปั็นพุธีกรรม
















ทั้้งพวง จุ้งจ้้กห่อัสาธการมาในกาลบู้ด้นี�เทั้่อัะ ฯ 3 ทั้ ฯ เพุอขอขมาแก่ชีาง (สล้่า) ทไดกอสรางอาคาร









ดงกล้าวิไวิแล้ะบดนถงกาล้ะเวิล้าทตองบรณะ




ซึ่่อมแซึ่มใหม่ แล้ะการอทิศถวิายทรายก็เปั็น













พุธกรรมเชีงสญล้กษณทเกยวิของกบอานสงส ์




แล้ะวิสดกอสรางนันเอง


165

(4.4)








ขี�อสนำนำษฐานำเกียวกบร้ปัแบบโคำรงสร�างหลงคำา



วหารล�านำนำา (ระบบขีอม�า-ตังไหม)













จัากงานศกษาทเกยวิกบวิหารล้านนาทผู้านมา พุบวิา
โครงสรางหล้ังคาวิิหารล้้านนาน�นมล้กษณะแตกต่างจัากโครงสราง









ของโบสถ แล้ะวิิหารในภูาคกล้างใตเขตสโขทยล้งไปัเปันอยางมาก


วิรล้ญจัก บณยสรตน (2557) ได้สนนษฐ์านเก�ยวิกบควิาม













เปันมาของโครงสร้างแบบต่างไหมวิ่า มควิามเปั็นไปัไดวิาพุฒนามาจัาก







โครงสรางหล้งคาบานของจัน แตมการเพุมควิามสงของเสาตง















หร่อเสาปัอก หร่อทีภูาคกล้างเรยกวิา “ตุกตา” ทีมหนาทีคาระหวิาง



















ขอ ใหมควิามสงเพุมขน เทคนคดงกล้าวิอาจัไดรบอทธพุล้ถายทอด




ผู้านควิามสมพุนธระหวิางล้านนา กบจันทงทางการเมอง แล้ะการ














ตดตอคาขาย ทดาเนนมาโดยตล้อดระยะเวิล้าในปัระวิตศาสตร ์




ซึ่งระบบการวิางโครงสรางหล้งคาในล้กษณะที�คล้้ายกนนียงพุบในดน








แดนสบสองพุนนา หรอ “เชีอหล้�” ซึ่งเปันเมองทมควิามสมพุนธ ์
















ทางสงคมวิฒนธรรมกบดนแดนล้้านนา

166











อยางไรกตาม ในล้านนามการพุฒนาโครงสรางทเรยกวิาระบบ “ขอมา”











ทปัระกอบดวิยข�อม้า แล้ะเสาสะโก๋น ซึ่�งเปั็นโครงสร้างทชีวิยให้สามารถก่อสร้างหล้ังคา
















ทมโครงหนาจัวิสามเหล้ยมแบบซึ่อนชีน หรอทเรยกวิา “ซึ่ด” บนผู้งพุนทยอมมได ้



















เนองจัากตวิ “เสาสะโกน”เปันตวิชีวิยในการยดโครงสรางตางไหมเขากบตวิเสาหล้วิง



ทชีวิยใหสามารถขยบระยะระหวิ่างเสาหล้วิงกับตวิโครงสรางตางไหมไดอยางย่ดหยุ่น






















ผู้เขยนสนนษฐ์านวิา ระบบขอมานเปันวิทยาการ หรอเทคนคการกอสรางทพุบ












ในเขตวิฒนธรรมล้านนา โดยเฉพุาะในเขตล้มนาปัง-วิง แล้ะกก-อง ดงเชีนทพุบ









ในเขตเม่องเชีียงแสน เรอยไปัจันถงเม่องล้าปัาง




แตกระนน กปัรากฏระบบโครงสร้างแบบขอมาในดนแดนอนๆ ทมควิาม














สมพุนธกบดนแดนล้้านนา เชีน พุะเยา นาน เชีียงตง สบสองพุนนา แล้ะหล้วิงพุระบาง






ทีเปันกลุ้มชีาวิไทล้่�อในดนแดนเหล้านั�น เชีน วิิหารไทล้่�อบางแหงมโครงสรางแบบขอ



















มา-ตางไหม แตบางแหงกพุบเพุยงเฉพุาะโครงสรางแบบตางไหม หรอตางโย














ยกตวิอยางทพุบระบบขอมาในโครงสรางหล้งคาวิหาร เชีน วิหารไทล้อวิดบานพุน













เขตปักครองพุเศษท 4 เมองล้า รฐ์ฉาน วิิหารวิดบานไฮิ เมองฮิา สบสองพุนนา





วิิหารของชีาวิไทดอย (ไตหล้อย) บานหา เวิยงโบราณสามตาวิ รฐ์ฉาน ปัระเทศพุมา







เปันตน
167


ภูาพุที 96 - 98









วิหารวิดบานพุน ของชีมชีนไทล้อทตงบนเสนทางจัากเมองล้าไปัยังเขต






เวิยงโบราณสามต้าวิ รฐ์ฉานตะวิันออก ปัระเทศพุม่า มระบบโครงสร้าง







หล้งคาแบบข่อมา-ตางไหมภูายใต้รปัทรงหล้ังคาแบบ “หล้ังผู้ด” หรอทม ี




ปักนกคล้มโดยรอบ


168


ภูาพุที 99 - 101

วิิหารของชีาวิไทดอย (ไตหล้อย) หร่อชีาวิปัล้ง






ในเขตเวิยงโบราณสามตาวิทพุบทงการใชีระบบขอ






มา-ตางไหม แล้ะระบบขอมา-ตางโย



169


ภูาพุที 102
แสดงโครงสร้างหล้ังคาระบบไถเหล้ียงของจัีน








นอกจัากน ล้กษณะโครงสรางแบบตางไหม



ยงอาจัคล้ายคล้งกบระบบโครงสรางหล้งคาของจัีนทเรยกวิา









137

“ไถเหลยง” (抬梁) ซึ่ึงเปั็นระบบโครงสร้างรับนำาหนักรูปัแบบ



หนงทพุบในกล้่มของชีาวิตง (Dong Minority) ซึ่งเปันกล้ม














ทพุดภูาษาตระกล้ขรา-ไท (จัวิง-ตง) ในเขตพุนทจันตอนใต ้












บรเวิณมณฑล้กวิางส กยโจัวิ แล้ะบางสวินในเขตมณฑล้หหนาน 138
ระบบไถเหล้ียง เปั็นโครงสร้างแบบเสา แล้ะคาน (Beams-and-


columns) โดยมีเสาหล้ักขึนสองข้าง หัวิเสาทำาหน้าทีรองรับข่อ











แล้ะบนขอ มการตงเสาขนาดเล้กแล้ะสนอก 2 เสาเพุอรองรบขอ
















ทสนกวิาขอชีนล้าง แล้ะมการซึ่อนขอแล้ะเสาขนาดเล้กนล้ดหล้น





















กนขนไปัจันถงยอดจัวิ โครงสรางน ขอทาหนาทรบแปัโดยตรง


มักพุบการใชี้โครงสร้างปัระเภูทนีในอาคารขนาดใหญ่

170







โครงสร้างดงกล้าวิมล้กษณะคล้ายกบโครงสรางแบบตางไหม







ทพุบในเขตวิฒนธรรมล้านนา แตแตกตางกนตรงทโครงสราง














แบบ-ตางไหมจัะยดควิามสงของเสาทตงบนขอ ทาใหหล้งคามควิาม




ล้าดชีนมากข�น อกทงระบบต่างไหมในล้านนามีการใชีชีด “ขอมา”




















ทมขอมา แล้ะเสาสะโก๋นทรองรบโครงสรางในสวินปักนกของหล้งคา









เทยบไดกบชีวิงหองเสาหมายเล้ข 9 ของระบบไถเหล้ยง นอกจัากน ี �














สวินคอมาเปันสวินททาใหเกดการ แบงตบหล้งคาระหวิางบน แล้ะล้าง




หรอทเรยกวิา “ชีาย” ซึ่งระบบไถเหล้ยงไมมชีดโครงสรางททาใหเกดการ

















แยกตบหล้งคาล้กษณะดงกล้าวิ














อยางไรกตาม นีเปันเพุยงขอสนนษฐ์านเบ่องตนที�ยงตองทาการ



ศึกษาค้นควิ้าต่อไปั แต่อาจัต�งสมมตฐ์านเบ�องต้นไดวิ่าโครงสร้างแบบ


ต่างไหมอาจัไดรับแรงบันดาล้ใจั หรอเทคนิควิิทยาการบางอย่างจัากจัีน






แตมการพุฒนา แล้ะปัรบเปัล้ยน แล้ะคดคนเทคนควิทยาการกอสราง









ของตนเองขนมา จันเกดเปันเอกล้กษณเฉพุาะทสงผู้ล้ใหเกดการ










สรางสรรครปัทรงของสถาปััตยกรรมขึน





















องคควิามรเรองโครงสร้างแบบขอมานเปันภูมปัญญาทถกพุฒนา









ขนในดนแดนทเปันเขตวิฒนธรรมล้านนา ซึ่งภูมปัญญาดงกล้าวิ












คงมการเล้อนไหล้ไปัมาภูายในเขตแดนทมวิฒนธรรมรวิมกน เชีน ล้านนา











สบสองพุนนา หล้วิงพุระบาง โดยเฉพุาะอยางยงการแพุรกระจัายไปั









พุรอมกบพุุทธศาสนาซึ่งมเชีียงใหม-เชีียงแสน เปันศนยกล้าง แล้้วิแตล้ะ


ทองถนนาเอาหล้ักการของระบบข่อมา-ตางไหมหรอตางโย ไปัปัรับใหเขา
















กบบรบทสภูาพุแวิดล้อมของตนเอง ดงเชีนการพุบระบบโครงสร้าง

แบบขอมา-ตางไหม หรอขอมา-ตางโย ในวิหารบางแห่งของชีาวิไทล้�อ














สบสองพุนนา แตมการออกแบบโครงสรางพุเศษบางปัระการ เพุอให ้












สอดคล้องกับรปัแบบหล้ังคาท�เหมาะสมกับสภูาพุภูมอากาศ การใชีพุนท � ี
ภูายใน ตล้อดจันปัรับไปัตามวิัสดแล้ะเทคโนโล้ยีการกอสรางในท้องถน







จันกล้ายเปันล้กษณะเฉพุาะตวิขน หรอการเล้อกใชีโครงสรางระบบ















ขอมา-ตางไหม ในวิหารวิดบานแสนทมผู้งพุนเปันสเหล้ยมผู้นผู้าแบบ













หนากระดาน
171










การใชีโครงสรางขอมา-ตางไหมทพุบในตานาน

พุนเมองเชียงใหม ไดกล้าวิถง ชีางกานโถมเตรยมเครองไม ้
















ทจัะกอสรางวิหารวิัดกานโถม เวิยงกมกามจัากเมองเชียงแสน












อาจัเปันไปัได้วิามการใชีโครงสร้างระบบข่อมา-ตางไหมท�เชียงแสน







กอนทพุญามงรายจัะสรางเวิยงกมกามซึ่งเปันถนทอยเดมของ















ชีาวิมอญหรภูญชีย เปันไปัไดวิาวิหารวิดกานโถมนนมการออกแบบ















ทผู้สมผู้สานระหวิางโครงสรางหล้งคาแบบข�อมา-ตางไหมภูายใต ้




ผู้ังพุ�นยกเกจั ทมีการเชี�อมต่อกับมณฑปัท้ายวิิหาร แล้ะอาคาร







ปัระดษฐ์านพุระพุุทธรปั 5 องคทีไดรบอทธพุล้รปัแบบศล้ปักรรม









ของวิฒนธรรมมอญผู้านพุุกาม-องวิะ หร่ออกตอหนึง

139









อาจักล้าวิไดวิา ระบบโครงสรางขอมา-ตางไหมเปันชีด







องคควิามรเกยวิกบโครงสรางหล้งคาทสามารถปัรบแตงไปั








ใหสอดคล้องกบผู้ังพุนทมควิามหล้ากหล้าย เชี่น ผู้งพุนแบบยกเกจั

















ผู้งพุนสเหล้ยมผู้นผู้าหนากระดาน หรอแมกระทงผู้งแบบจัตรมข












อกทงยังชีวิยแกไขปัญหาเกยวิกบระบบโครงสรางอาคาร









ชีวิยเรองควิามแขงแรงของโครงสร้าง ตล้อดจันการคำานวิณ




วิสดกอสราง




172


ภูาพุที 103
รูปัแบบหล้ังคาทรงยวินแบบต่างๆ ในพุม่า


ทีมาของภูาพุ : ปัรับปัรุงจัาก โชีติมา จัตุรวิงศ์, วิ่าทีวิัดพุม่า

ในจัังหวิัดเชีียงใหม่ แล้ะล้ำาปัาง วิารสารหน้าจััวิ
คณะสถาปััตยกรรมศาสตร์ มหาวิิทยาล้ัยศิล้ปัากร ฉบับที 5

กันยายน 2550, หน้า 60.










นอกจัากน ยงปัรากฏการเรยกล้กษณะหล้งคาซึ่อนชีนในวิหาร












ของพุมาตอนล้างวิาหล้งคา “ทรงยวิน” ซึ่ง “ยวิน” ดงกล้าวิหมายถง








ชีาวิไทยวิน ทอาศยอยในภูาคเหนอของปัระเทศไทย คงเปันรปัทรงหล้งคา





ทมการซึ่อนชีนของชีาวิยวินทใหอทธพุล้แกชีาวิพุมา โดยเฉพุาะพุนท � ี

















ของชีาวิมอญในพุมาตอนล้าง เชีน เมองสะเทม แล้ะเมาะล้ะแหมง




โดยหล้งคาทรงยวินของพุมาคงพุฒนามาจัากล้กษณะการซึ่อนชีน



หล้ังคาของวิิหาร อุโบสถ แล้ะหอคำา ของชีาวิไทยวิน มักเปั็นหล้ังคาเหน่อ












พุนททเปันอาคารเชีอมตอระหวิางอาคารปัระดษฐ์านพุระพุทธรปั

















แล้ะอาคารหล้ก รวิมทงเปันหล้งคาของพุนททอยของสามเณรอกดวิย






หล้งคาทรงยวินของพุมามหล้ายปัระเภูท เชีน ยวินเซึ่าง สนยวินเซึ่าง ์


ยวินทดงาซึ่น แล้ะยวินเพุยเซึ่างทาน ล้กษณะทางสถาปัตยกรรม








ดงกล้าวิสะทอนใหเหนถงควิามสมพุนธระหวิางล้านนาแล้ะพุมา










ตอนล้าง อยางไรก็ตามการซึ่้อนชีันหล้ังคานันอาจัเปั็นเพุียงการหยบยม




140
รูปัแบบ แล้ะอาจัไม่ได้นำาเอาระบบโครงสร้างหล้ังคามาใชี้ก็เปั็นได้
173

(ตอนำที่ 5)





บที่สรปัอตลกษณแหงวหารล�านำนำา







: มรดกภูมปััญญาและคำณคำาอนำโดดเดนำ














จัากการศกษาคนควิา แล้ะวิเคราะหขอมล้จัากแหล้งตางๆ ของผู้เขยน สามารถ




สรปัเก�ยวิกบอตล้กษณอนโดดเด่นของวิหารล้านนา ได้วิา รปัแบบของวิหารล้านนา












ทแสดงออกถึงล้กษณะเฉพุาะตนแล้ะผู้่านการตกผู้ล้ึกองคควิามรมาอย่างยาวินาน













ค่อ รปัแบบวิิหารยอมม หร่อวิิหารหกจั�อก ทีมการล้ดชีันหล้งคาแบบดานหนา 3 ซึ่ด

แล้ะด้านหล้ัง 2 ซึ่ด ภูายใต้ระบบโครงสร้างหล้ังคาแบบข�อม้า-ต่างไหมท�แสดงออก



ถงควิามงามผู้านศล้ปักรรมหนาบนวิหารแบบแสดงโครงสรางขอมาตางไหม















แล้ะเอกล้ักษณสาคัญปัระการหน�ง คอ การสร้างโขงพุระเจั้า เพุ�อปัระดิษฐ์าน




พุระปัระธานในวิหารซึ่ึงเปันการแบงแยกพุนทเพุอกาหนดขอบเขตปัรมณฑล้ควิาม


























ศกดสทธภูายในวิหารท�เปันล้กษณะเฉพุาะท้องถนทพุบในล้านนา ในขณะท�พุนทอนๆ














จัะใชีฐ์านชีกชี หรอการสร้างมณฑปัตอทายวิหารเพุอปัระดษฐ์านพุระพุทธรูปัปัระธาน

ในวิิหาร



กล้่าวิไดวิ่า การก่อรปัของวิิหารล้้านนาเปั็นการตกผู้ล้ึกทางภูมิปัญญา












ทมการบรณาการองคควิามรจัากหล้ากหล้ายแหล้ง ทเปันแรงบนดาล้ใจัใหแกสล้า






ผู้ออกแบบวิหาร ซึ่งแหล้งแรงบนดาล้ใจัเหล้านนล้วินเปันแหล้งอารยธรรมสาคญ
























ในภููมภูาคอษาคเนยทีสงอทธพุล้ตอรฐ์อนๆ ทีอยรายรอบทั�งในดานการเม่อง ศาสนา














เศรษฐ์กจั ตล้อดจันงานศล้ปักรรม โดยชีางสล้าของล้านนากเล้อกรบปัรบเปัล้ยน






ตล้อดจันออกแบบใหม เพุอใหสามารถแกไขปัญหาในเชีงเทคนคการกอสราง







แล้ะสรรสรางปัรากฏการณ (Phenomenon) ภูายในงานสถาปัตยกรรม ไดอยาง



สอดคล้องกบบรบทสงคม วิสดแล้ะทรพุยากรทองถน จัารตทางสงคม ตล้อดจัน



















โล้กทศนแล้ะปัรชีญาคต ควิามคด ควิามเชีอทางพุุทธศาสนา หล้อหล้อมจันกล้ายเปัน



สถาปััตยกรรมวิิหารล้้านนาทมล้ักษณะเฉพุาะตน เปั็นมรดกทางภูมิปััญญา




สถาปััตยกรรมของดนแดนล้้านนาแหงนี �

174

175

176





เชื่งอรรถที่�ายสวนำที่ 4 รายงานการวิจัย มหาวิทยาล้ัยมหาจัฬุาล้งกรณราชี




วิิทยาล้ย วิิทยาเขตเชีียงใหม, 2560, หนา 87.



11 ธวิชีชีย ทาทอง,เรองเดม. 56.






















1 ธวิชีชีย ทาทอง, มอกวิหาร: วิธการ 12 พุระครูอดล้ยสล้กตต, วินด วินเสย ฤกษ ์










กาหนดระเบยบสดสวินในการออกแบบวิหาร ยามทาพุธล้านนาฉบบวิดธาตคา อางใน มอกวิิหาร:












ในภูาคเหนอของไทย, บทควิามวิชีาการ วิารสาร วิธการกาหนดระเบยบสดสวินในการออกแบบ


หนาจััวิ คณะสถาปััตยกรรมศาสตร มหาวิิทยาล้ย วิิหารในภูาคเหน่อของไทย, บทควิามวิิชีาการ ใน







ศล้ปัากร, ฉบบที� 32 มกราคม – ธนวิาคม 2560, วิารสารหนาจััวิ ฉบบที� 32 มกราคม – ธนวิาคม



หนา 54. 2560.หนา 56-57.










2 ชียยศ อษฏวิรพุนธ แล้ะภูาณพุงษ ์ 13 อชีรชีญ ไชียพุจันพุานชี, โครงสรางรบ












เล้าหสม, วิิหารล้ายคา วิดพุระสงห สถาปััตยกรรม นาหนกแบบชีาเหล้ยงในศาล้เจัาแล้ะภูาพุสะทอน








แล้ะจัตรกรรมฝาผู้นง, (กรงเทพุฯ: โอ.เอส.พุรินติง ชีาวิจันอพุยพุในกรงเทพุฯ สมยรชีกาล้ท 1 – 5,











เฮิาส, 2543), หนา 10. วิารสารวิชีาการอเล้คทรอนกส ฉบบภูาษาไทย








3 ธวิชีชีย ทาทอง, เรองเดม, หนา 54. สาขามนษยศาสตร์ สงคมศาสตร์ แล้ะศล้ปัะ ปัท 8











4 ธวิชีชีย ทาทอง, เรองเดม, หนา 56. ฉบบท 2 เดอนพุฤษภูาคม – สงหาคม 2558,












5 ดเพุิ�มเตมใน ธวิชีชีย ทาทอง, เรองเดม, มหาวิิทยาล้ยศล้ปัากร, หนา 2494.






หนา 56. 14 Ling Cai, Peter W.Ferreto and Yi







6 ดเพุิ�มเตมใน ธวิชีชีย ทาทอง, เรองเดม, Deng. A study of the Timber structure of


หนา 59-60. Drum tower of Chinese Dong Minority Ar-






7 ดเพุิ�มเตมใน ธวิชีชีย ทาทอง, เรองเดม, chitecture and Its Development and Evo-




หนา 60-64. lution. [Online]. http://iiwc.icomos.org/.








8 คานวิณโดย ธวิชีชีย ทาทอง เมอวินที� 2 15 โชีตมา จัตวิงศ, วิหารพุระพุทธรปั







พุฤษภูาคม 2564. สถาปัตยกรรมเปัรียบเทยบไทย เมียนมา แล้ะศรี








9 ส่บพุงศ จัรรยส่บศร, หอปัระวิตศาสตร ์ ล้งกา, (กรงเทพุฯ : อ.ท. พุบล้ชีชีิง, 2563), หนา











ล้านนา, วิทยานพุนธศล้ปัศาสตรมหาบณฑต 503.













ภูาควิชีาศล้ปัสถาปัตยกรรม, มหาวิทยาล้ยศล้ปัากร 16 โชีตมา จัตรวิงศ, วิาทีวิดพุมาในจัังหวิด










ปัการศกษา 2549, หนา 15-16. เชียงใหมแล้ะล้าปัาง, วิารสารหนาจัวิ คณะ










10 พุระครธรสตพุจัน แล้ะพุล้ล้ภู หารคาจัา, สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาล้ยศล้ปัากร ฉบบ







การศกษาองคปัระกอบพุุทธสถาปััตยกรรมแล้ะภูม ิ ที 5 กนยายน 2550, หนา 59-60.








ทศนวิฒนธรรมของวิดในอาเภูอเมองเชียงใหม,


177

(ตอนำที่ี 6)




ที่ำเนำียบสล่าวิหาร

โดยศุภูกุล เร่องวิที่ยานำุสรณ์










รายชื่่อสล่าในำที่ำเนำียบ







พิืนทีเชุียงใหม่ พิืนทีลำาปัาง
1. อ.จัุล้ทัศน์ กิติบุตร 13. นายสมบูรณ์ แก้วิมารัตน์
2. นายเบญจัิมิน สุตา (สล้่าพุ่อหนานมิน) (สล้่าสมบูรณ์)
3. นายรุง จัันตาบุญ (ชี่างรุง) 14. นายพุัฒ จัันทร์เกล้ี�ยง (สล้่าพุัฒ)


4. นายเกตุ มูล้ปัระการ (สล้่าเกตุ)


5. นายธวิัชีชีัย ทำาทอง (สล้่าแจั็ค) พิืนทีเชุียงรู้าย
6. นายวิิศาล้ทัศน์ รัตนมงคล้เกษม 15. พุระครูบามหาสมสิน วิุฒิธัมโม
(สล้่าบอย) 16. นายสุภูาพุ วิงษ์ตะวิัน (สล้่าสุภูาพุ)


7. นายพุิสณห์ ปัินแก้วิ (สล้่าสน)
8. นายทวิี ยะแก้วิ (สล้่าวิี) พิืนทีแพิรู้่





9. นายสิงห์ทร สิทธิวิงค์ (สล้่าสิงห์ทร) 17. นายพุนจั ศรวิชีย (สล้าพุอหนานพุนจั)









10. นายอนนต แจัมแจัง (สล้าหนานออม)



พิืนทีลำาพิ้น

11. นายวิฒนา บญยน (สล้าพุอหนานไวิย์)






12. นายดนัย ยปัารมีย (สล้่าดนัย)

178
178

พุ่นำที่ีเชื่ียงใหม่


















1. อาจัารู้ย์จัุลทัศิน์ กิติบีุตรู้ รู้างวัลและค์วามภาค์ภ้มิใจั



ที�อย้่ - ปัรญญาสถาปัตยกรรมศาสตรดษฎ- ี



48/1 หมู 3 ตำาบล้สันผู้ีเส่อ อำาเภูอเม่อง บณฑตกตตมศกด มหาวิทยาล้ยเชียงใหม ่












จัังหวิัดเชีียงใหม่ 50300 พุ.ศ. 2546



- สถาปันกดเดน ปัระจัาปั 2547


ภ้มิลำาเนา ดานวิชีาชีพุ โดยสมาคมสถาปันกสยาม




เม่องเชีียงใหม่ อำาเภูอเม่อง ในพุระบรมราชีูปัถัมภู์




จัังหวิัดเชีียงใหม่ - ศล้ปันแหงชีาตสาขาทศนศล้ปั ์


(สถาปััตยกรรมร่วิมสมัย) พุ.ศ. 2547
วันเกิด
16 ตุล้าคม 2487
การู้ศิึกษ์า
สถาปััตยกรรมศาสตรบัณฑิต
จัุฬุาล้งกรณ์มหาวิิทยาล้ัย พุ.ศ.2511
179


แนวค์ดและค์วามเชุือ การู้สบีทอดองค์์ค์วามรู้้ �










อาจัารยจัล้ทศน กตบตร เปันสถาปันก อาจัารยจัล้ทศน เตบโตขน เมอราวิ



















ในยคสมยใหมทไดผู้นวิกเอาควิามรแบบสากล้ พุ.ศ.2490-2510 ภูายในเขตกาแพุงเชียงใหม ่














แล้ะควิามเชียวิชีาญเชีงชีาง หรอ “สล้า” ทมสภูาพุแวิดล้อมธรรมชีาตงดงาม มคเมอง









แบบโบราณเขาดวิยกน เปันตวิแทนของสล้า ในสะอาดล้อมรอบทงสดาน ไดใชีชีวิตเตบโตมา






























ล้านนาในยคปัจัจับนไดอยางสมบรณแบบ ทงในคมเจัาบรรตนมหาอนทร ซึ่งสถานท�สาคญ







มมมมองวิาสถาปััตยกรรมทีด ควิรมการพุฒนาไปั ของเม่อง (ปััจัจับนเปันศนย์สถาปััตยกรรมล้้านนา











ตามยคสมย แล้ะชีวิางานสถาปัตยกรรมจัะมการ ในควิามดูแล้ของคณะสถาปััตยกรรมศาสตร ์





















ปัรบปัรงเปัล้ยนแปัล้งอยเสมอ โดยจัะเหนไดชีด มหาวิทยาเชียงใหม) แล้ะคมเจัาราชีวิงศชีมชีน











จัากปัระวิตศาสตรแล้ะตวิอยางงานสถาปัตยกรรม ซึ่งเปันบานของครอบครวิอาจัารย ์







พุ่นถิ�นในอดตที�ผู้านมา ในสวินของสถาปััตยกรรม อาจัารย์คนเคยกบสถาปัตยกรรมอย่าง






ล้านนานน อาจัารยจัล้ทศนเชีอวิามควิามพุอด ี วิหารแล้ะหอไตรวิัดดวิงดทมล้วิดล้ายแกะสล้ัก



























เปันธรรมชีาต มควิามเรยบงายควิามเปันธรรมดา อนวิจัตร วิหารวิดพุนเตาซึ่งในอดตเปันหอคา




แล้ะเปันควิามงามตามเวิล้า เจัาหล้วิงเมองเชียงใหม่ นอกจัากน�คณยายมกจัะ








พุาอาจัารย์เขาวิดอยเสมอทาใหอาจัารย์เขาใจัถง





ในขณะทแนวิโน้มของงานสถาปัตยกรรม ขนบธรรมเนยมแล้ะวิถชีวิตของชีาวิล้านนาเปั็น


















พุนถน เปันไปัในสองทศทางคอ งานทพุยายาม อยางด แล้ะยงทาใหอาจัารยรจักคนเคยกบ





























รกษารปัแบบดั�งเดมไวิ กบงานทีมการปัรบเปัล้ียน พุระสงฆ์หรอเจัาอาวิาสท�มวิชีาควิามรในแขนง
รปัแบบโดยยงรกษาเอกล้กษณควิามเปันล้านนา ตางๆ เชีน พุระมหาหมน เจัาอาวิาสวิดเจัดยหล้วิง
















อาจัารย์จัล้ทศนมองวิ่า อาคารสถาปัตยกรรมพุ�น ในขณะนน เปันผู้มควิามรอบรทางปัระวิตศาสตร ์
















ถนทกแหงของโล้ก ควิรมการเปัล้ยนแปัล้ง หรอ ทองถน เจัาอาวิาสวิดชียพุระเกยรต เปันสล้า























พุฒนาใหเขากบยคสมย สภูาพุสงคมของโล้กท � ี ท�เชี�ยวิชีาญในงานก่อสร้างอาคารศาสนา วิัดพุันอ้น











เปัล้ยนแปัล้ง คอ เปันการทาใหเจัรญขนอยางม ี เปันหองสมดปัระชีาชีนทมหนงสอหล้ากหล้าย

















พุล้วิต ควิรนาเอาภููมปััญญาในอดต รากเหงาทาง ปัระเภูทใหเล้อกอานไดอยางเตมท ปัระสบการณ ์





วิัฒนธรรมมาต่อยอด แต่ปััญหาของสถาปัตยกรรม เหล้านัน ไดหล้อหล้อมควิามคด ทศนะคตคานยม











พุนถนในยคปัจัจับนคอ ไล้ฟื้สไตล้ สภูาพุวิถชีวิต ใหเปันผู้ทรกในบานเกดเมองนอน รกหวิงแหน





































ควิามเปันอยของคนเชียงใหมเปัล้ยนแปัล้งไปัตล้อด ในวิฒนธรรมล้านนา บมเพุาะรสนยมแล้ะสนทรยะ











เวิล้า เราตองเขาใจัวิาไมอาจัรกษารปัแบบดงเดมไวิ ้ ใหเปันแรงบนดาล้ใจัในการสรางสรรคผู้ล้งาน




ไดทังหมด


180




สวินพุธีกรรมทางศาสนาท�เก�ยวิข้องกับการก่อสร้าง อาจัารยกมีควิามสนใจั














แล้ะรสกวิาสนก ทงการล้งเสาเอก การปัลู้กตนไมมงคล้ ฯล้ฯ สงเหล้านเปัน













วิฒนธรรมปัระเพุณล้้านนาอาจัารยผู้กพุนธมาตังแตวิยเดก

เมออาจัารย์จัล้ทศน ไดเรยนจับทางด้านสถาปัตยกรรมจัากจัุฬุาล้งกรณ์

















มหาวิิทยาล้ยแล้ะไดมปัระสบการณทางาน อาจัารยไดสงเกตวิา กลุ้มสล้า หร่อ





















ชีางพุนบาน เปันผู้ทมบทบาทในการพุฒนาสถาปัตยกรรมพุนถนในปัจัจับนอยาง









มาก แตกล้บมผู้สบทอดนอยมาก อาจัารยจังมควิามตองการปัล้กจัตวิญญาณ














ของควิามเปันชีางพุนบานขนมาอกครง ผู้านการฝกฝน เดกรนใหม ทมควิาม























ตงใจัจัรง มาเรยนรฝกฝนใหมควิามเชียวิชีาญแล้ะชีำานาญ เพุราะอาจัารย์เหนวิา





ปัระสบการณมควิามสาคญไมนอยกวิา ควิามรูจัากระบบการศกษา แล้ะไมควิร









ยดตดอยเฉพุาะกบใบปัรญญาหรอใบปัระกอบวิชีาชีพุ ดวิยจัตวิญญาณในควิาม
















เปันครทาใหอาจัารย์ถายทอดควิามรใหแกล้กศษย ดวิยควิามพุรอมแล้ะควิาม












มงหวิังใหนักเรียน นักศึกษามคุณภูาพุ แล้ะท่านได้ ส่งเสริมการฟื้�นควิามเปั็นสล้่า








โดยการยกย่องควิามสามารถของสล้า ในฐ์านะทมสวินชีวิยใหงานสถาปัตยกรรม
พุ่นถินยงคงอยแล้ะพุฒนาตอไปั







ผู้ลงานการู้ออกแบีบีและกอสรู้�าง










- พุ.ศ. 2517 วิดอรญวิเวิก ตาบล้อนทขล้ อาเภูอแมแตง จังหวิดเชียงใหม ่









- พุ.ศ. 2530-2544 วิดอนาล้โยทพุยาราม ตาบล้สนปัามวิง อาเภูอเมอง


จัังหวิดพุะเยา


- พุ.ศ. 2546 วิิหาร วิัดดอนมหาวิัน ตาบล้เวิียง อาเภูอเชีียงของ จัังหวิัด
เชีียงราย

แหลงอ�างอง










วิฑรย เหล้ยวิรงเรอง แล้ะคณะ. (2558). สล้าเกาล้านนา สถาปันก




ผู้สบทอดจัตวิญญาณล้านนา. พุมพุครงท 2.หางหนสวินจัากดภูทระพุรเพุล้ส.
















น. 11-35.
181








2. นายเบีญจัมน สตา (สลาพิอหนานมน) แนวค์ดและค์วามเชุือ









ท�อย ้่ มควิามเชีอวิาปััจัจััยสาคญในการเปั็นสล้า









76 หมูที� 17 ตาบล้สบเตียะ ทาวิด ควิรเรมจัากการสรางศรทธาทมาจัากจัตใจั





อาเภูอจัอมทอง จัังหวิดเชีียงใหม ่ การสรางภูาวิะทสรางควิามสงบภูายในจัตใจั





โดยการศกษาคาสอนของพุระพุทธองค แล้ะฝกฝน






เบีอรู้โทรู้ศิพิท 0969599546 ตามหล้ักปัฏบตในพุระพุทธศาสนา อาทิเชีน










การน�งสมาธิเพุ�อสร้างควิามสงบในใจั การไหวิพุระ











ภ้มลาเนา สวิดมนต กระทงเมอจัตเปันเอกา การทางานวิหาร










ตาบล้ขวิงเปัา อาเภูอจัอมทอง เสมอนเปั็นการปัฏบตวิิปัสสนา โดยเมอพุจัารณา



จัังหวิดเชีียงใหม ่ ล้งไปัในรายล้ะเอียดจัะพุบวิ่า ในการศึกษาเรองราวิ




คาสอนของพุระพุทธเจัา ควิรทาควิามเขาใจัถงหล้ก









วนเกด ควิามเชีอ พุธกรรม แล้ะองคปัระกอบตางๆ
















7 ธนวิาคม 2497 ทกอรปัพุทธสถาปัตยกรรมใหไดอย่างล้กซึ่ง เมออย ู ่






ในขนดาเนนการนนตองทางานใหด ทางานดวิยจัต









การู้ศิกษ์า วิญญาณ ทาอยางเขาอกเขาใจั มนจัะสงผู้านเขายง ั














ระดบมธยมศกษาที 3 สมองแล้ะจัะทาใหงานมควิามมันคงแล้ะแขงแรง




โรงเรยนจัอมทอง ในสวินการควิบคุมมาตรฐ์านงานต้องม ี


อาเภูอจัอมทอง จัังหวิดเชีียงใหม ่ จัรรยาบรรณชีาง มควิามซึ่�อสตย์ มควิามรควิาม










เขาใจัเกยวิกบงานศล้ปัะแล้ะเทคนคทสาคญ









ดงคาพุดทครอาจัารยไดสอนสบตอกนมาวิา






















“มนอยทกนทปัญญา”แล้ะในสวินสดทาย



182







คอ การให้ควิามสำาคญกบควิามเชีอแล้ะพุิธกรรม ปัรู้ะวตการู้ทางาน










ทเกยวิกบงานสล้่า ตามวิถชีาวิล้านนา ซึ่ึงจัะทา

















โดยการไหวิ้สาบอกกล้่าวิสงศกดสทธ ภูตผู้เทวิดา พุอหนานมนเปันล้กชีายของชีางแกะสล้ก










เพุอบอกขออนญาต แล้ะเพุอควิามสรมงคล้ ต�งแต่เด็กจัึงไดฝึกหัดการแกะสล้ักงานไมล้วิดล้าย

















ในการเรยนแล้ะการทางาน โดยถอวิามพุธสาคญ ตางๆ เพุอชีวิยพุอแล้ะครอบครวิ







อย 2 สวิน สวินแรก คอพุธกรรมไหวิครชีาง ปัระมาณปั พุ.ศ.2517 พุอหนานมน













เพุราะชีางแตล้ะแขนงจัะมครชีางของแตล้ะคน เรมผู้นตวิไปัทางานสล้่าบาน เน่องจัากไม้เรม












มขนคร แล้ะต้องมพุธไหวิสกการะครูบาอาจัารย์ ขาดแคล้น ทาใหงานแกะสล้ักไมล้ดนอยล้ง แล้ะ






















ทกปั ซึ่งจัะปัระกอบไปัดวิยสล้าเกา แล้ะสล้า ชีวิงปั พุ.ศ. 2530 ไดเริมทางานเปันสล้าออกแบบ




















ทานอนๆทเกยวิของกบงาน ในสวินนเปันการแสดง อาคารในวิด โดยไดรบโอกาสใหสรางโบสถทวิด






ควิามเคารพุแล้ะควิามกตญญฺตอครอาจัารย ์ พุทธนมตรกอน เมอไดเรมทางานเกยวิกบวิดแล้ะ
















มสวินชีวิยในการทบทวิน สอบทานองคควิามรเดม วิหาร พุอหนานมนแล้ะเพุอนรวิมงานไดเดนทางไปั



























ทมอย แล้ะสวินตอมาคอ พุธกรรมไหวิเจัาท ี � ดงานออกแบบพุทธอาคารแล้ะพุุทธศล้ปัในพุนท � ี













โดยจัะเปันพุธกรรมกอนเริมการกอสราง เพุอบอก ภูาคเหน่อทั�งหมด

















กล้าวิสงศกดสทธภูตผู้เทวิดาเจัาทเจัาทางทดแล้











ผู้นแผู้นดนนน ในสวินนเปันการแสดงควิามเคารพุ การู้สบีทอดองค์์ค์วามรู้้ �








ตอพุ่นที เจัาของพุ่นที เพุอนรวิมงานแล้ะเปันการ












สงบใจักอนเริมทางาน ใหมสต มควิามไมปัระมาท พุ่อหนานมินไดรับองค์ควิามรการสร้าง









แล้ะเปันขวิญกาล้งใจัแกคณะที�รวิมทางาน วิหารล้านนาจัากปัระสบการณการทางาน







รวิมกบวิดแล้ะจัากการเดนทางไปัศกษา







เอกลกษ์ณทางกายภาพิข่องวหารู้ล�านนา พุทธสถาปัตยกรรมท�ทรงคณคาหรอสถาปัตยกรรม









ในทศินค์ตข่องสลา ครูใหญ่ คอ ศาสนสถานทสาคัญ ท�เก�ยวิพุันกับ





วิฒนธรรมล้านนา ทงทอยในปัระเทศอันไดแก ่












เอกล้กษณของวิหารล้านนาพุ่อหนานมินม จัังหวิัดเชีียงราย จัังหวิัดเชีียงใหม่ จัังหวิัดพุะเยา



องวิามอยดวิยกน 2 สวิน คออยทรปัทรงหล้งคา จัังหวิดล้าพุน จัังหวิดล้าปัาง จัังหวิดแพุร จัังหวิด




















ทรงตากแห ซึ่ึงมองคปัระกอบแบบล้านนาอย่าง นาน แล้ะจังหวิดแมฮิองสอน แล้ะทอยนอก














ครบถวิน ไดแก ชีอฟื้า ปัานล้ม หนาบน โกงควิ ปัระเทศ อนไดแก เมองล้าวิ เมองสบสองปันนา
























นาคทัณฑ แผู้งล้าย แล้ะเชีงชีาย แล้ะเอกล้ักษณ ์ แล้ะเม่องเชีียงตง เปันตน พุอหนานมนศกษาแล้ะ


















อกอยางคอ โครงสรางมาตางไหม ซึ่งแบงเปัน ถอดรหสการสรางวิดเพุอสรางแล้ะออกแบบใหรวิม



แบบตางโย แล้ะแบบตางไหม สมยมากข�น สถาปัตยกรรมท�ถอวิาเปันครใหญ ่
















ทอยในจังหวิดเชียงใหม ไดแก วิดปัราสาท



183









อาเภูอเมอง วินตนเกวิน อาเภูอหางดง วิดทงออหล้วิง อาเภูอหางดง












วิดขนคงหล้วิง อาเภูอหางดง วิดพุทธเอ้น อาเภูอแม่แจัม วิดปัาแดด



อาเภูอแมแจัม วิดสะล้วิงใน อาเภูอแม่รม แล้ะวิหารจัตรมข วิดพุระธาตุ-




















ศรจัอมทอง อาเภูอจัอมทอง เปันตน ทีอยในจัังหวิดล้าปัาง ไดแก วิิหารนา







แตม วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง อาเภูอเกาะคา วิดเสดจั อาเภูอเม่อง เปันตน




ปัจัจับนพุอหนานมน ไดสอนแล้ะสงมอบองคควิามรการทาวิหาร

















ล้้านนา ใหกบล้กศษย์ 3 คน ไดแก ล้กชีายคนที 2 นายชียพุล้ สตา (เกง)






ล้กเขย แล้ะชีางชีาวิไทใหญทีทางานดวิยกนมานาน






ผู้ลงานการู้ออกแบีบีและกอสรู้�าง






- วิดดงหาดนาค ตาบล้สบเตียะ อาเภูอจัอมทอง จัังหวิดเชีียงใหม ่




- วิดพุุทธนมตร ตาบล้สบเตียะ อาเภูอจัอมทอง จัังหวิดเชีียงใหม ่







- วิดพุระธาตจัอมทอง ตาบล้บานหล้วิง อาเภูอจัอมทอง

จัังหวิดเชีียงใหม ่


- วิดเทพุปัระสิทธ (วิดตนเฮิอด) ตาบล้หางดง อาเภูอหางดง







จัังหวิดเชีียงใหม ่







- วิดเดชีดารง (วิดบานกาด) ตาบล้หางดง อาเภูอหางดง
จัังหวิดเชีียงใหม ่






- อุโบสถ วิัดราเปัิง (ตโปัทาราม) ตาบล้สุเทพุ อาเภูอเมอง

จัังหวิดเชีียงใหม ่

แหลงอ�างอง




กวิน วิองวิกย์การ. (2564). สล้่าสรางสถาปัตยกรรมล้านนา. เอกสาร











ปัระกอบการบรรยาย. วิดราเปัง ตาบล้สเทพุ อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม,

3 เมษายน 2564. น. 49-52.
เบญจัมน สตา. (11 เมษายน 2564). สล้าทาวิิหารวิด. แนวิคดการ














สรางวิหารล้านนา ถายทอดองค์ควิามร ชีวิปัระวิต แล้ะผู้ล้งานของสล้่า



ทาวิิหารวิด.

184





3. นายรูุ้ง จัันตาบีญ (สลารูุ้ง) แนวค์ดและค์วามเชุือ


ท�อย ้่ กระบวินการออกแบบสร้างสรรค์ผู้ล้งาน












485/32 ถ.เจัรญเม่อง ตาบล้วิดเกต ของสล้่ารงมวิธการเฉพุาะตัวิทเปันเอกล้ักษณ ์








อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม 50100 คอ นอกจัากการศกษาตามพุนฐ์านการทางาน







ภ้มลาเนา สถาปัตยกรรมท�วิไปัแล้วิ การไดมการล้งพุนท ี �






ตาบล้สบเตียะ อาเภูอจัอมทอง สอบถามถงรากเหงาของบรบทโดยรอบกอน








จัังหวิดเชีียงใหม ่ นบวิาเปันเรองสาคญ เนองจัากพุนฐ์านของ













วนเกด สล้ารงนน แตเดมไดทางานรวิมกบกรมศล้ปัากร




















1 เมษายน 2515 ดงนนการไดคล้กคล้หรออยางนอยทสดคอ




การสบคนถงปัระวิตควิามเปันมา จังเปันแรง






การู้ศิกษ์า บันดาล้ใจัในการออกแบบเสมอมา สล้่ารงเล้อก









ปัรญญาสถาปัตยกรรมศาสตรบณฑต ทจัะใชีการรางแบบดวิยมอ เนองจัากเปันสงท � ี












กตตมศกด สาขาเทคโนโล้ยสถาปัตยกรรม ตนเองไดฝกฝนมาตงแตเยาวิวิยแล้ะมควิามถนด




















มหาวิทยาล้ย เทคโนโล้ยีราชีมงคล้ล้านนา คล้องตวิมากกกวิา ซึ่งหล้งจัากใชีการรางแบบ






วิิทยาเขตภูาคพุายพุ แล้วิ การทางานเปันทมเปันสงหนงทสล้ารงมองวิา

















สถาปันกนกออกแบบแล้ะสล้าจัะขาดล้กทมไมได ้




185











สวินคาวิา “พุนถน” ในมุมมองของสล้่ารง หมายถง ทกสงทก



















อยางทีมควิามเปันพุ่นบาน เปันซึ่งที�ชีาวิบานมควิามผู้กพุนดวิยตังแตเกดจันถง







วิาระสดทายของชีวิต มควิามสมพุนธกบสภูาพุแวิดล้อม สภูาพุอากาศ


















งานสถาปัตยกรรมพุ�นถน เปันงานทมเอกล้กษณในตวิเอง บนพุนฐ์านของควิาม


แตกตางกนของชีาตพุนธุ ์












เหตผู้ล้ทเล้อกทางานในเชีงอนรกษรปัแบบจัารตเพุราะเหนวิา





ทกอย่างย่อมมกระแส เปั็นไปัตามควิามนิยมของยุคสมย แล้ะหากสถาปันิกแล้ะ








สล้าคนหนง จัะสามารถออกแบบงานสถาปัตยกรรมโบราณไดอยางงดงาม




กยอมจัะออกแบบงานสถาปัตยกรรมสมัยใหมไดดเชีนกน เพุราะท�ง














สถาปัตยกรรมโบราณแล้ะสมยใหมกล้วินแล้วิแตมจัดรวิมเดยวิกน นนคอ





“ควิามพุอด” ซึ่งสล้ารงกไดเปันตวิอยางทดของสถาปันกรนใหมทสามารถ
























ออกแบบงานโบราณ แล้ะงานสมยไปัไดอยางดไปัพุรอมกน


การู้สบีทอดองค์์ค์วามรู้้ �
















ปัระสบการณชีวิตในวิยเยาวิ ซึ่งยังมผู้ล้มาถงทกวินนคอ สล้ารง












ไดเตบโตในสงคมชีนบท นอกเมองเชีียงใหม ทผู้คนยงผู้กพุนกบพุระพุทธศาสนา









อยางมาก มแมอุย (ยาหร่อยาย) เปันผู้ถายทอดเรองราวิทางพุระพุุทธศาสนา










การอบรมส�งสอนเก�ยวิกับบาปับุญคุณโทษชีาตภูพุ ทาให้ตนเปั็นผู้้มีศรัทธา-













ปัสาทะอยางแรงกล้า เมอเรมตนชีวิตการทางานสล้ารง ไดมโอกาสเขาไปัทางาน







ในกรมศล้ปัากร ไดขดคนโบราณสถาน โดยเฉพุาะอยางย�งกล้มโบราณสถาน







เมองเชีียงแสน ซึ่ึ�งถอวิ่าเปั็นแหล้่งรวิมมรดกทางสถาปััตยกรรมอันทรงคุณค่า






ของล้านนา ไดเหนวิธการกอสรางอาคารแบบโบราณ ควิามปัระทบใน











ควิามงดงามของสถาปัตยกรรมเหล้านน ไดกล้ายเปันแรงขบสาคญ











ในการสรางสรรคงานในปัจัจับน นอกจัากน�การทางานในชีวิงนน ยงทาใหไดพุบ



















เจัอบคคล้ทสาคญทเปันจัดเปัล้ยนชีวิตไดแก อาจัารยสนน สมพุน








แล้ะพุล้อากาศตรอาวิธ เงนชีกล้ิน


186





ผู้ลงานการู้ออกแบีบีและกอสรู้�าง - วิหารพุระเจัาทองคา ตาบล้ทงเสล้ยม





อาเภูอทุงเสล้ียม จัังหวิดสโขทย










- วิดปัาดาราภูรมย ตาบล้รมใต ้ - บูรณะวิัดเจั็ดยอด มหาโพุธารามวิรวิิหาร









อาเภูอแมรม จัังหวิดเชีียงใหม ่ ตาบล้ชีางเผู้่อก อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม ่


- วิดเจัดยหล้วิงวิรวิหาร ตาบล้พุระสงห ์ - บรณะพุระตาหนกพุระราชีชีายา




















อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม ่ เจัาดารารศม ตาบล้แมรมใต อาเภูอแมรม จัังหวิด



- วิิหารพุระเจัา 700 ปั ศรเม่องเชีียงใหม ่ เชีียงใหม ่











วิดเจัดยอด ตาบล้ชีางเผู้อก อาเภูอเมอง จังหวิัด - บรณะพุระธาตุดอยสเทพุ ตาบล้สเทพุ




เชีียงใหม ่ อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม ่









- วิดโล้กโมฬี ตาบล้ศรีภูม อาเภูอเมอง - บรณะเจัดยเหล้ยม วิดเจัดยเหล้ยม









จัังหวิดเชีียงใหม ่ เวิยงกมกาม ตาบล้ทาวิงตาล้ อาเภูอสารภู จัังหวิด










- วิดหนองเจัดล้น ตาบล้พุระสงห ์ เชีียงใหม ่



อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม ่ - บรณะวิหารไทใหญ วิดศรชีมล้าปัาง

















- วิัดกเต้า ตาบล้ชี้างเผู้อก อาเภูอเมอง อาเภูอเม่อง จัังหวิดล้าปัาง








จัังหวิดเชีียงใหม ่ - บรณะวิหารวิดปัาแดด ตาบล้ทาผู้า

- วิดมณเฑยร ตาบล้ศรภูม อาเภูอเมอง อาเภูอแมแจัม จัังหวิดเชีียงใหม ่












จัังหวิดเชีียงใหม ่ - บรณะวิดพุระธาตุศรชีม ตาบล้ในเวิยง






- วิดสบเตยะ ตาบล้สบเตยะ อาเภูอ อาเภูอเม่อง จัังหวิดแพุร ่















จัอมทอง จัังหวิดเชีียงใหม ่ - บรณะเจัดยผู้าขาวิ วิดผู้าขาวิ









- วิดใจัดงเทวิ ตาบล้เชียงดาวิ อาเภูอ เวิยงกมกาม ตาบล้ทาวิงตาล้ อาเภูอสารภู ี



เชีียงดาวิ จัังหวิดเชีียงใหม ่ จัังหวิดเชีียงใหม ่




- วิดบานขน ตาบล้บอหล้วิง อาเภูอฮิอด





จัังหวิดเชีียงใหม ่




- วิิหารพุระเจัาล้านตอง มหาวิิทยาล้ย แหลงอ�างอง





แมฟื้าหล้วิง ตาบล้นางแล้ อาเภูอเมอง จังหวิัด วิิฑรย เหล้ยวิรุงเร่อง แล้ะคณะ. (2558).






เชีียงราย สล้าเกาล้านนา สถาปันกผู้สบทอดจัตวิญญาณ






















- วิดเมองสารทหล้วิง ตาบล้วิดเกต ล้านนา. พุมพุครงท 2. หางหนสวินจัากด




อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม ่ ภูทระพุรเพุล้ส. น. 57-75.






- วิัดเชีิงดอยตุง ตาบล้หวิยไคร้ อาเภูอ

แมสาย จัังหวิดเชีียงราย



- วิดธาราทพุยชียปัระดษฐ์์ ตาบล้แมแตง





อาเภูอแมแตง จัังหวิดเชีียงใหม ่



187


แนวค์ดและค์วามเชุือ




การทาการงานใหปัระสบควิามสาเรจันน




ผู้ทาตองตงใจัทา หมนศกษาหาควิามร หมนฝกฝน















จันกวิาจัะเขาใจัถงแกนแท เหมอนทคนโบราณสอน













สล้าเกตวิา “ขบมันใหแตก” แล้ะเม่อเราเขาใจั





ถงแกนของงานแล้วิ เราจัะสามารถทางานล้ล้วิงไปั

ดวิยด ี



4. นายเกต ม้ลปัรู้ะการู้ (สลาเกต) ุ การู้สบีทอดองค์์ค์วามรู้้ �











ท�อย ้่ เรมเปันสล้าบาน ทางานแล้ะเรยนรงานไม ้








บานตนแหนนอย ตาบล้ทุงรวิงทอง กบพุเขย (บานตนแหนนอย อาเภูอสนปัาตอง)















จัังหวิดเชีียงใหม ่ เมอปั พุ.ศ. 2506 รบจัางเปันล้กมอสล้าไม ้


รบทางานสรางบานในล้ะแวิกบานตนแหนหล้วิง







ภ้มลาเนา แล้ะตนแหนนอย



บานตนแหนหล้วิง ตาบล้ทาวิงพุราวิ สล้าเกตควิามจัาด จังสบวิชีาแล้ะควิามร ู ้
























อาเภูอสนปัาตอง จัังหวิดเชีียงใหม ่ ชีางไดเรวิ จันเมอปั พุ.ศ. 2520 ไดมโอกาสทางาน





ออกแบบแล้ะกอสรางหอระฆ์ง วิดสนคะยอม



วนเกด จังเปันจัดเริมตนในการทางานพุุทธอาคาร ในชีวิง























13 พุฤศจักายน 2480 ททางานใหกบวิดตางๆ สล้าเกตไดใชีควิามรเชีงชีาง




งานไม ปัระกอบเขากบปัระสบการณการทางาน






ชีวิยในการสร้างสรรค์งาน แล้ะเม่อไดรบแบบวิหาร


พุระครูมหาเข�อนคาท�เขียนเผู้ยแพุร่ไวิ้เปั็นธรรม









ทาน ทาใหสล้าเกตใชีเปันตนแบบในการสรางงาน



ท�แม่นยายิ�งข�น
188










กระทงเมอปั พุ.ศ. 2554 สล้่าเกตุไดหยุดทางาน เน่องจัากปัญหา

สขภูาพุ แล้ะได้สอนงานแล้ะส่งตอควิามรใหกบคนรนถดไปัสองท่าน

















ไดแก หล้านของตวิสล้าเกตเอง ซึ่งไดฝกฝนเปันล้กม่อทางานกบสล้าเกต ุ











มานานพุอควิร แล้ะภูายหล้ังไดสอนใหล้กชีายคนท� 2 ซึ่งเรยนพุนฐ์าน








ดานงานกอสรางจัากสถาบนการศกษามากอน





เอกล้กษณทางกายภูาพุของวิิหารล้้านนาในทศนคตของสล้า

สล้่าเกตุเห็นวิ่า อย่ทรปัทรงหล้ังคาแอ่น อ่อนเหมอนการฟื้้อน













มควิามออนชีอยเสมอกน ไมด ไมงอ ดโดยรวิมแล้้วิ สะอาดตา มควิาม






ล้ะเอยดออน ทังนี� ควิามแอนของหล้งคาจัะปัระเมนจัากควิามพุงพุอใจั


ของคณะศรทธาแล้ะควิามตองการของวิดนันๆ ปัระกอบดวิย







ผู้ล้งานการออกแบบแล้ะกอสราง

สล้าเกตทางานพุุทธสถาปััตยกรรมมามากกวิา 30 วิด โดยมผู้ล้










งานทภูาคภูมใจั คอ วิหาร วิดถวิาย (วิดปัวิงคา) ตาบล้ขนคง อาเภูอหางดง








จัังหวิดเชีียงใหม ่

แหลงอ�างอง





เกต มล้ปัระการ. (11 เมษายน 2564). สล้่าทาวิหารวิด. แนวค์ด


การู้สรู้างวหารู้ลานนา ถายทอดองค์ค์วามรู้ ชุวปัรู้ะวตและผู้ลงานข่อง











สลาทาวหารู้วด.



189








5. นายธวชุชุย ทาทอง (สลาแจัค์) แนวค์ดและค์วามเชุือ


ท�อย ้่ เชีอวิาการกอสรางวิหารของล้านนา








ศนย์กล้างเรยนรูบานศาล้า ตาบล้ทาผู้า มสดสวินเฉพุาะท�คดผู้านเครองมอทเรยกวิา






















อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง “ไม้มอกวิิหาร” จัึงนาไม้มอกมาเทียบกับสัดสวิน






วิหารล้านนาหล้ายแหงในภูาคเหนอ ทงจังหวิด






เบีอรู้โทรู้ศิพิท 0982682681 เชียงใหม จังหวิดล้าพุน แล้ะจังหวิดล้าปัาง
















จันพุบวิา “ไมมอกวิหาร” คอสวินทกาหนด






ภ้มลาเนา รปัแบบ รปัทรงของวิหารทางล้านนา เปั็นสวิน


อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง สาคญททาใหวิดในล้านนามีอตล้กษณเฉพุาะตวิ


















หากไม่ใชีจัะมสัดสวินรปัทรงคล้าดเคล้�อนไปัจัาก

การู้ศิกษ์า รปัแบบเดม ในวิธการกาหนดสดสวินระยะ

















ศล้ปัศาสตรมหาบณฑต ดานกวิางของวิหารนน จัากการศกษาคนควิา









(การจััดการศล้ปัะ แล้ะวิฒนธรรม) ของสล้าแจัคเกยวิกบระเบยบสดสวินในการ






มหาวิิทยาล้ยเชีียงใหม ่ ออกแบบก่อสรางวิหารสกุล้ชีางล้านนาพุบวิ่า


มสูตรการคานวิณระเบียบสัดสวินในการออกแบบ



เปันแมบทสบทอดกนมา เรยกในภูาษาถนเหนอวิา

















“มอก” หรอ “แมมอก” ซึ่งใชีไดในการกอสราง
่�

หล้งคาแบบ “ขอมาตางไหม” แล้ะ “ขอตางโย”


่�

190












โดยคาวิา “มอก”หมายถง สดสวินทถกกาหนดขนเพุอใชีเปันหล้ก










ในสรางสรรคศล้ปัสถาปัตยกรรม ตล้อดจันเคร่องมอเครองใชี ้









ในชีวิตปัระจัำาวินใหเกดควิามล้งตัวิ แล้ะงดงามตามท�นยมของท้องถน








อาท วิหาร เรอน พุระพุทธรปั เกวิยน เปันตน ดงนน “มอก”


















จังเปันภูมปัญญาเชีงชีางล้านนา ทมทงในงานศล้ปักรรม


แล้ะสถาปัตยกรรม ซึ่ึงในงานแต่ล้ะปัระเภูทจัะมีควิามแตกต่างกน











ออกไปั แล้ะไมมขนาดตายตวิ เมอกาหนดขนาดทตองการแล้วิ










จังจัะนามอกไปัคานวิณตามสูตรทใชีคานวิณในงานน�นๆ เชีน



มอกวิหารกำาหนดจัากการถอดส่วินควิามกวิ้างของวิหาร มอกพุระพุทธ








รปักาหนดจัากการถอดสวินควิามกวิางของหนาตก ซึ่ง “มอกวิิหาร”

ทีบางครังเรยกวิา “สตรการหกไมวิิหาร” เปันวิิธการกาหนดระเบยบ















สดสวินในการกอสรางสถาปััตยกรรมวิิหารในภูาคเหน่อ






ทงนจัะสามารถพุบ “มอกวิหาร” บนทกอยในเอกสารเกา






สันนิษฐ์านวิ่าวิธีการกาหนดระเบียบสัดสวินในการก่อสร้างเชี่นน � ี







มมาตงแตสมยล้านนา แล้ะมการถายทอดควิามรเปันภูมปัญญา


















เชีงชีางสบทอดตอเนองกนมา แล้ะยังพุบวิาเปันภูมปัญญาเชีงชีาง




ของชีางอาวิโสทมปัระสบการณในการกอสรางวิหารตามวิธการ














แบบเกา แล้ะล้กศษย์ผู้ตดตามครบามหาเถระทบรณะหรอกอสรางวิด












มาในอดต


เอกลกษ์ณทางกายภาพิข่องวหารู้ล�านนาในทศินค์ตข่องสลา








สล้าแจัคเหนวิาวิหารล้านนาปัระกอบขนดวิยองค ์
















ปัระกอบ 3 องค์ปัระกอบทสาคญ ไดแก ฝมอสกล้ชีาง องคควิามร ู้








ควิามเขาใจัเกยวิกบพุทธศาสนา แล้ะรูปัทรงวิหารท�สอออกมาผู้่าน

ระบบโครงสรางของวิิหาร

191


การู้สบีทอดองค์์ค์วามรู้้ �



สล้่าแจั็คได้เติบโตมาท่ามกล้างสถาปััตยกรรมท�เปัรียบเสมอนเปั็นครูใหญ ่





ในบรรดางานสถาปััตยกรรมในล้้านนา ทังวิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง วิดปังยางคก



















ไดมควิามสนใจัใฝรนาพุาใหชีอบไปัวิดตงแตวิยเยาวิ หล้งเล้กเรยนแล้ะวินหยด

จัะปั�นจัักรยานไปัเท�ยวิวิัดอยเสมอ ปัระกอบกับครอบครวิมฐ์านอาชีพุชี่างไม ้












จังทาใหมควิามผู้กพุนแล้ะสนใจัในศาสตรแขนงน เมอไดมโอกาสศกษาศล้ปัะไทย














ทคณะวิจัตรศล้ปั มหาวิทยาล้ัยเชียงใหม่ จังไดชีวิยเสรมระบบการศึกษาแล้ะพุัฒนา



















งานชีางศล้ปัตอไปั โดยหล้งจัากนนไดนาควิามรทงศล้ปัะเชีงชีาง ปัระวิตศาสตร ์












แล้ะอนๆ มาปัระกอบเขากบการศกษาเอกสารโบราณ แล้ะการสมภูาษณชีาง









รนเกาๆ อาทเชีน พุอหนานอนคา ผู้เปันพุอครสอนจัานใบล้านทแมแจัม แล้ะทาน


























อดตเจัาคณะอาเภูอสบปัราบแล้ะแจัหม ทไดเล้าเกยวิกบวิธคดแล้ะระเบยบ




แบบแผู้นในการสรางงานสถาปััตยกรรมล้้านนาในอดต จันกระทังไดมโอกาสเริม





ทางานวิิหารหล้งแรก ในปั พุ.ศ.2548


ผู้ลงานการู้ออกแบีบีและกอสรู้�าง



- วิดปัาปัฐ์มชีย ตาบล้โพุรงมะเดอ อาเภูอเมองนครปัฐ์ม จังหวิดนครปัฐ์ม







- อโบสถวิดศาล้าหมอ ตาบล้ทาผู้า อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง
















- วิิหารวิดแพุะใต ตาบล้วิงเหน่อ อาเภูอวิงเหน่อ จัังหวิดล้าปัาง






- อโบสถวิดหนองพุนเงน อาเภูอยุหวิา จัังหวิดเชีียงใหม ่



แหลงอ�างอง







กวิน วิองวิกยการ. (2564). สล้าสรางสถาปัตยกรรมล้านนา. เอกสาร








ปัระกอบการบรรยาย. วิดราเปัง ตาบล้สเทพุ อาเภูอเมอง จังหวิดเชียงใหม,





3 เมษายน 2564. น. 87-91.





ธวิชีชีย ทาทอง. (2 เมษายน 2564). สล้าทาวิิหารวิด. แนวิคดการสราง









วิิหารล้้านนา ถายทอดองคควิามรู ชีีวิปัระวิตแล้ะผู้ล้งานของสล้าทาวิิหารวิด.


192




6. นายวิศิาลทศิน รู้ตนมงค์ลเกษ์ม (สล่าบีอย) แนวค์ดและค์วามเชุือ










ท�อย ้่ เชีอวิาตองพุยายามรกษารากเหงาแล้ะรปั






38/2 ตาบล้หนองหอย อาเภูอเม่อง แบบเดิมของศล้ปัะวิิหารล้านนาไวิ้ให้มากทสุด



จัังหวิดเชีียงใหม ่ พุยายามใหการกอสรางเปันไปัตามรปัแบบจัารต




หรอแบบฮิ่างเดิมของวิิหารล้้านนา แล้ะศึกษาให ้






เบีอรู้โทรู้ศิพิท 0925149656 เข้าใจัวิถีธรรมชีาติของพุ�นท�แล้ะอัตล้ักษณ์ของ


พุ่นทีนัน ๆ


ภ้มลาเนา






ชีมชีนเม่องสาตรหล้วิง เอกลกษ์ณทางกายภาพิข่องวหารู้ล�านนา





ตาบล้หนองหอย อาเภูอเม่อง ในทศินค์ตข่องสลา
จัังหวิดเชีียงใหม ่










สล้าบอยมองวิ่าอยทรปัทรงแล้ะสดสวินของวิหาร








วนเกด ทีเปันรปัแบบ “ฮิางไกแจั” หร่อทรงแมไกโอบล้ก









27 ธนวิาคม 2516 ตามคาสอนของคนโบราณท�กล้าวิถงตานาน
แม่กาเผู้อก อันเปั็นพุระมารดาของพุระโพุธสัตวิ ์











การู้ศิกษ์า ในชีาตภูพุหนง อกหนงองคปัระกอบสำาคญ





การศกษาสงสด ปัระกาศนยบตร คอ เทคนคการเขาไมแบบโบราณทเรยกวิา
















วิิชีาชีีพุ ชีางยนต วิิทยาล้ยเทคนค โครงสรางมาตางไม ทีสล้าบอยสนใจัแล้ะไดศกษา













เชีียงใหม สาขาชีางยนต ์ จัากวิดเกา แล้วินามาควิามรนนมาปัระยกตใชี ้








แล้ะสล้่าบอยมควิามเชีอวิาวิสดหล้กทใชีในการ







สรางวิหารล้านนาทเหมาะสมแล้ะงดงามน�นคอ ไม ้





193

การู้สบีทอดองค์์ค์วามรู้้ �











มควิามสนใจัแล้ะปัระทบใจังานวิหารตงแตยงเดก บดาของ






สล้าบอยเปันชีางฝม่อ แล้ะไดอาศยอยกบยาทีบานเม่องสาตรหล้วิง
























ชีอบไปัเทยวิดวิดในยานนนอยบอยครง ในระหวิางทเรยนวิชีาชีพุ








ชีางยนต สล้าบอยไดมควิามสนใจัแล้ะควิามถนดในดนตรพุนเมอง






สามารถเล้นดนตรพุนเมองปัระเภูทเครองสายไดทกปัระเภูท







ทาใหมควิามเขาใจัล้กซึ่งในแขนงงานศล้ปัะ ภูายหล้งศกษาจัาก
















คาบอกเล้า คาพุด คาสอน จัากครบา ไดแก ทานพุระคณวิด











เมองสาตรหล้วิง แล้ะทานพุระคณวิดสนปัาเหยง ทบอกเล้าเรอง





พุุทธคติแล้ะการตกแต่งต่างๆ พุ่อน้อยพุ่อหนานท�เปั็นสล้่า ได้แก ่


ปัออยหนอย ชีาวิแมแจัม แล้ะผู้เฒาผู้แก จันไดสะสมตานาน



















คาบอกเล้า คตควิามคด กล้ายเปันชีดควิามรู เทคนค ปัระกอบกบ







ปัระสบการณจัากการไดล้งม่อทางานจัรงกบสล้าที�ทาวิิหาร



ผู้ลงานการู้ออกแบีบีและกอสรู้�าง



- วิิหารไมสัก หอครู โรงหล้วิง วิัดปั่าแดด ตาบล้ปั่าแดด


อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม ่




- หอไหวิพุระธาต วิดพุระสงห ตาบล้พุระสงห อาเภูอเม่อง






จัังหวิดเชีียงใหม ่

- วิิหารไมสัก แล้ะอุโบสถ วิัดสันปัูเล้ย ตาบล้สันปัูเล้ย




อาเภูอดอยสะเกด จัังหวิดเชีียงใหม ่

แหลงอ�างอง

วิภูาดา ศภูรฐ์ปัรชีา แล้ะคณะ. (2557). ชีางพุนบานล้านนา













กบงานอนรกษสถาปััตยกรรม. น. 20-23.




วิิศาล้ทศน รตนมงคล้เกษม. (6 เมษายน 2564). สล้าทา








วิหารวิด. แนวิคดการสรางวิหารล้านนา ถายทอดองคควิามร ู ้


ชีีวิปัระวิตแล้ะผู้ล้งานของสล้าทาวิิหารวิด.




194






7. นายพิิสณห ปัินแก�ว (สลาสน) แนวค์ดและค์วามเชุือ
ท�อย ้่ มควิามเชีอวิาสล้า ตางจัากชีางหรอผู้รบ













52 หมู 5 บานดอนปัน ตาบล้แชีชีาง เหมา โดย สล้า ค่อ ผู้รู รูวิาตอง ทาอะไร อยางไร



















อาเภูอสนกาแพุง จัังหวิดเชีียงใหม ่ เล้อกอยางไร คดอยางไร ปัระกอบอยางไร






สล้าไมใชีแคเขาใจัแล้ะบรหารการกอสรางได ้










เบีอรู้โทรู้ศิพิท 0810359132 ยงตองเขาใจัศล้ปัะ ควิามเชีอแล้ะพุธกรรม










ทีเกียวิของกบการกอสราง




ภ้มลาเนา






บานดอนปัน ตาบล้แชีชีาง สล้าสน มเจัตนารมณทจัะอนรกษงาน










อาเภูอสนกาแพุง จัังหวิดเชีียงใหม ่ พุนถนล้านนา โดยพุยายามยดตามรปัแบบเดม














แตปัรบเปัล้ยนวิสดแล้ะเทคนคตามยคสมย







วนเกด แล้ะเห็นวิาเอกล้ักษณของวิหารล้านนา คอควิาม















24 มนาคม 2520 เปันพุนถนของพุ�นทนนๆ หรออธบายได้วิา










คาวิา “ล้านนา” คอสถาปัตยกรรมพุนถน





การู้ศิกษ์า ของแตล้ะพุนท ทมเอกล้กษณของตวิเอง ทไดรบ















ระดบ ปัวิส. คณะสถาปััตยกรรม อทธพุล้จัากปัจัจัยแวิดล้อม เชีน สภูาพุอากาศ










มหาวิิทยาล้ยเทคโนโล้ยราชีมงคล้ล้้านนา กลุ้มคน ชีาตพุนธุ ควิามเชีอ ปัระเพุณวิฒนธรรม







วิิทยาเขตภูาคพุายัพุ แล้ะสกล้ชีางศล้ปั สวินคาวิา “ล้านนา”







สาขาสถาปััตยกรรมไทย
195


Click to View FlipBook Version