The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by มรดกเชียงใหม่, 2021-07-27 18:02:37

วิหารล้านนา มรดกภูมิปัญญา พุทธสถาปัตยกรรม



(3) วหารู้แบีบีปัด หรู้อวหารู้มปัางเอก




43


เปันรปัแบบวิหารล้านนาทพุบเหน














ได ทวิไปัในปัจัจับน สนนษฐ์านวิาวิหารแบบปัิด










เพุงไดรบควิามนยมในการกอสรางในชีนหล้ง




ของพุุทธศตวิรรษที 24 เปันตนมา วิิหารชีนดนี�







มการทาฝาผู้นง หรอปัางเอกจัากฐ์านขนจัรด

โครงหล้ังคาแล้ะใชีผู้นงเปันเคร่องปัดล้อม











รปัอากาศของส�งกอสราง มการใชีฝาผู้นง







จัากวิสด 2 ชีนดไดแก ปัน แล้ะไม โดยทีฝาผู้นง ั







แบบไมนาจัะมการใชีกอนฝาผู้นงทเปันปัน










วิหารแบบปัดนหากพุจัารณาผู้านการออกแบบ




ผู้งพุนสามารถแบงแยกรปัแบบออกไปัไดอก





ไดแก วิิหารทรงโรง แล้ะวิิหารทรงปัราสาท




วิหารู้ทรู้งโรู้ง ค่อ วิิหารแบบปัดทีผู้งวิิหาร










มการยกเกจั หรอยอมม ผู้งพุนเปัน
สีเหล้ียมผู้่นผู้าเทานัน สนนษฐ์านวิานาจัะ









ไดรบอิทธพุล้จัากรปัแบบวิหารของ





ภูาคกล้างเขามาปัะปัน

วหารู้ทรู้งปัรู้าสาท เปันวิหารท�มการเชีอม










มณฑปัปัราสาทไวิทางดานหล้งของวิหาร









หรอมหองคหาทายวิหาร ซึ่งอาจัเปัน ภูาพุที 12 - 13





รปัแบบทพุฒนามาจัากวิหารโถงแบบทม ี วิิหารวิดปัราสาทเปันวิิหารทรงปัราสาท













หองคหาทายวิหารทกอสรางหล้งคา หร่อวิิหารทีตอทายดวิยมณฑปัปัราสาท














เปันปัราสาท ซึ่อนชีน แตตอมามการกอ สรางราวิพุุทธศตวิรรษที� 24






ปัดตวิวิิหาร ทีมล้กษณะโถงใหทบ


46


ภูาพุที 14 - 15



การปัระดษฐ์านพุระปัระธานภูายในคหามณฑปัทายวิิหาร
วิดปัราสาท จัังหวิดเชีียงใหม ่


47


ภูาพุที 16





วิิหารหล้วิง วิดปัาแดงหล้วิงมหาวิิหาร เปันวิิหารแบบปัดทบ

ทีมการสรางมณฑปัปัราสาทตอทายวิิหาร
















48








ในทศนะของปัระวิตศาสตรศล้ปัะ วิหารล้านนา




ยงสามารถแบงกล้มวิหารโดยใชีหล้กการแบงทางภูมศาสตร ์







แล้ะควิามสมพุนธทางปัระวิตศาสตรในการวิิเคราะห แล้ะจััด








รปัแบบผู้ังพุ�นวิิหารออกเปั็นกล้มๆ โดย สุรพุล้ ดารหกล้ (2561)

















ไดใชีการแบงเขตพุนทล้มนาเปันตวิกาหนด เชีน เขตวิฒนธรรม















ล้มนาปัง-วิง ได้แกจังหวิัดเชียงใหม่ ล้าพุน แล้ะล้ำาปัาง





เขตวิฒนธรรมลุ้มนา (กก-อง) ไดแกเม่องเชีียงราย เชีียงแสน






นอกจัากนยังมรปัแบบของวิิหารในเขตพุ�นทอ�นๆ เชี่น วิิหาร









ของกล้มไทล้อในเขตล้มนานาน แล้ะกล้มวิหารพุะเยา










ในเขตล้มนายม ทงนมการพุจัารณาควิามสมพุนธ ์














ทางปัระวิตศาสตรรวิมดวิย

49

(2.2)








การแบงกลุมวหารล�านำนำา


ตามเขีตลุมนำาที่สมพุนำธกบบรบที่ที่างปัระวตศาสตร ์














สรพุล้ ดารหกล้ (2561) ไดแบงกล้มวิหารล้านนาออกเปัน











2 กลุ้มใหญ ดงนี �
44











(1) กลุมวหารู้ในเข่ตทีรู้าบีลุมแมนาปัง และแมนาวง





วิิหารในเขตทีราบลุ้มนาปัง-วิง นีโดยสวินใหญจัะล้กษณะของแผู้นผู้ง











วิหารในรูปัแบบส�เหล้ยมผู้นผู้ายกเก็จัออกทางด้านหน้าสองชี่วิง ดานหล้ัง





หนงชีวิง หรอทเรยกวิาวิหารหกจัอก หรอวิหารบบ ซึ่ึงการล้ดส่วินหัวิท้าย













45


ของผู้ังพุ�นมีควิามสัมพุันธกับการล้ดชี�นระนาบหล้ังคาแบบด้านหน้า 3 ซึ่ด










แล้ะดานหล้ง 2 ซึ่ด เรยกในภูาษาถนเหนอวิา “ล้ดหล้งคาหนา 3 ซึ่ด ล้ดหล้งคา






หล้ง 2 ซึ่ด” หมายถง มการล้ดมข ดานหนา 3 ชีัน ดานหล้ง 2 ชีัน ซึ่ึ�งเปั็น





46


รปัแบบของผู้งพุนวิหารทพุบโดยสวินใหญในเขตล้มนาปัง-วิง การยกเกจัผู้งพุน



















ดงกล้าวิสอถงนยของการสรางรปัแบบสญล้กษณในทางสถาปัตยกรรม















ในรปัทรงสาเภูาทรงปัราสาทวิิมาน ตามคตวิิมานที�ปัระทบของพุระพุุทธเจัา 47
50


ภูาพุที 17




ผู้งพุ่นวิิหาร รปัดานหนา แล้ะรปัตดซึ่ดหนา ้







ของวิิหารนาแตม วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง



อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง


ทีมาของภูาพุ : เจัษฎา สภูาศร, อางแล้้วิ,







โดยทวิไปัวิิหารในเขตล้มนาปัิง-วิัง หนา 95-96.









นนยมสรางเปันอาคารยาวิ 5-9 หอง





กวิาง 3 หอง การท�วิหารล้านนามักออกแบบ




จัานวิน 5-9 หองนน มควิามเกยวิของกบ










คตควิามเชีอวิาดวิยเรองโฉล้กวิหาร












ทมควิามหมายสมพุนธกบจัานวินห้องเสา











วิิหาร เพุอใหเปันสรมงคล้ อกทังยงสมพุนธ ์







กบการเล้อกรปัทรงหล้งคาเพุอกาหนด
จัานวินซึ่ดของวิหาร โดยจัะกล้่าวิต่อไปั


48

ในหวิขอวิาดวิยศาสตรของการสรางแปัล้ง





วิิหารล้้านนา
51


ภูาพุที 18




การระบตาแหนง หอง,การยกเกจัผู้งอาคาร,



ซึ่ดแล้ะตบหล้งคาของอาคารวิิหาร


ทีมาของภูาพุ : เจัษฎา สภูาศร, อางแล้้วิ, หนา 85.










การู้วางผู้ังวิหารู้ลานนา นน มกวิาง มมมองจัะคอยๆ บบล้งจันกระทงเปัดโล้งออก













อาคารในแนวิแกนตะวินออก – ตะวินตก มการ เมอเดนออกจัากห้องท 1 ดังนั�นการยกเก็จั
49









ล้ดควิามกวิางของผู้งดานสกดจัากแคบทสด หร่อ “หกจั�อก” ผู้งพุ่นวิิหาร นอกจัากจัะแฝง















ดานหนาวิหาร แล้ะคอยๆ ขยายออกในห้อง ฝงไวิซึ่งนยยะควิามหมายเชีงสญล้กษณแล้วิ





ที 2 แล้ะ 3 จันคงที�ในหองที 4 แล้ะจัะล้ดล้ง ยงมผู้ล้ตอการรบรทางสายตา แล้ะการปัดล้อม











อกครังในหองทายวิิหาร หร่อหองที 5 โดยการ พุ่นที (Enclosed Space) อกดวิย










ล้ดควิามกวิางของผู้ง หร่อ การยกเกจัดงกล้าวิ
สงผู้ล้ให้ผู้ทเขาไปัในตัวิอาคารสามารถเปัิดมม











มองสายตาจัากมมแคบไปักวิาง แล้วิพุงควิาม




สนใจัยงไปัยังจัดทปัระดษฐ์านพุระปัระธาน






ทคอนขางมดสล้วิ แล้ะขณะทออกจัากตวิวิหาร






52












วิิหารทมผู้ังพุ�นยกเกจั หรอวิหารหัก “ ...ทั้นจ้กกล่าวอัปต่ต่่น่ทั้านอันสร้างว้ด้กาน














จัอกนน พุบวิานยมสรางในเขตล้มนาปัง-วิง โถมส้นนี� เจ้้าม้งรายมาสรางเวยงกมกามทั้ี�นน ยงมไม ้























ซึ่งเปันเขตวิัฒนธรรมหริภูญชียดงเดม เด้อัเกล�ยงต่น 1 ค์ามานวาไมสภิานต่้นใหญ่นก




















สนนษฐ์านวิาวิหาร รปัแบบดงกล้าวิมพุฒนาการ รกขัเทั้วด้าต่นสกสวาด้อัยรกสาไมเด้อัต่นนน เทั้วด้า








จ้นน�นมกใค์รหอัเป็นค์ุณแกค์นทั้งหลาย ก็เนรม่ต่





สบทอดจัากวิิหาร สมยหรภูญชีย เนองจัากพุบ เปนแลนเผ่่อักต่้ว 1 อัยไมเด้อัต่นนน ค์นทั้้งหลายห้นก ็















รปัแบบผู้งพุนวิหารยกเกจัในเขตโบราณสถาน เอัากนไป สกการะปชาแลวปรารถนาเอัาลกยงลกชาย

















เวิยงกมกาม แล้ะเวิยงทากานเปั็นจัานวินมาก ขัาวขัอังสมบูต่ กได้ด้งใจ้ มกด้งใจ้ค์นทั้งหลายแล






















เมอพุจัารณาจัากหล้กฐ์านปัระเภูทโบราณ อัยบูนานเทั้าใด้ ไมเด้อัต่นนนเปนอันแกนกลวด้ต่าย


















สถานในเขตเวิยงกมกาม ซึ่งดาเนนการขดคน ค์นทั้งหลายเทั้ยรยอัมไปสกการะปชาทั้นนต่ราบูเถง ่
















วิหารวิดกานโถม ในปัพุ.ศ. 2527 ไดขอสรปั เจ้้าม้งรายมาต่งเวยงกมกาม แลในกาลนน มมหาเถร





จัากการขดคนทางโบราณคดวิา วิหารวิดกาน เจ้้า 5 ต่น มมหาเถรต่นชอัมหาก้สสปปะ เปนประธาน














อันประกอับูด้วยปฏิปรย้ต่อันทั้รยสงวรด้นก กมาเลง






โถมในเวิยงกมกามสร้างทบล้งบนวิัดโบราณ หนยงฐานะไมเด้อัต่ายนนเปนทั้สงด้วเวกด้นก















กอนสมยพุญามงราย โดยบรเวิณดงกล้าวิ มหาเถรเจ้้าทั้้ง 5 ต่น กลวด้มาอัยสถ่ต่สาราญ่...” 51














คนพุบพุระพุมพุดนเผู้าศล้ปัะแบบล้าพุนบรเวิณ







ใตฐ์านรากของสถูปัขนาดเล้็กหล้งวิหารโถง จัากตานานสะท้อนใหเหนวิา แตเดม










แล้ะซึ่มปัราสาท ซึ่งจัากล้กษณะของการ บรเวิณวิดกานโถม (ชีางคา) ทีตอมากล้ายเปัน












กระจัายพุระพุมพุดนเผู้าทฝงอยแล้ะตรวิจัสอบ ศนยกล้างเวิยงกมกามนนเปันชีมชีนมากอน
















ชีนดน ทางโบราณคดีพุบวิากล้มพุระพุมพุ ์ แล้ะอยสบตอกนมาจันถงสมยพุญามงราย





















ดงกล้าวิเปันสงทมอยกอนแล้ะไมมควิาม มาสรางเวิยงกมกาม พุระมหากสสปัปัะเถระ











สัมพุันธกับการก่อสร้างวิิหารวิัดกานโถม พุรอมกับพุระภูกษ 5 รปั ไดตงสานักสงฆ์ ์











แล้ะสถปัเจัดย แล้ะโบราณสถานโดยเฉพุาะกล้ม บาเพุญธรรมขนบรเวิณไมเดอ ซึ่งเปันไปัไดวิา

















วิหารแล้ะเจัดยวิดกานโถม สรางทบบน บรเวิณดงกล้าวินนอาจัมวิดอยแล้วิ เมอพุญามง





















วิดโบราณสมัยหรภูญชีย ซึ่ึงจัะสอดคล้้อง รายมาปัระทบในเวิยงกมกามจังโปัรดใหสราง

50














ตามตานานพุนเมองเชียงใหม่ไดกล้าวิถงสภูาพุ วิดกานโถมขน โดยสรางทบวิดเดมซึ่งคงจัะ












กอนการสร้างวิดกานโถม ทกล้าวิถงบรเวิณ ชีารดทรดโทรมแล้วิ แล้ะจัากการขดคนพุบ
















วิดกานโถม วิาเปันชีมชีนอยกอนแล้วิ พุระพุิมพุดนเผู้า แล้ะจัารึกอกษรมอญโบราณ









แล้ะชีุมชีนแหงนนนบถอตนไมเดอตนหนง สนนษฐ์านได้วิาชีมชีนแห่งนอาจัมีอายุราวิ



















ในตานานพุ่นเม่องเชีียงใหม กล้าวิวิา พุุทธศตวิรรษที� 17 แล้ะเปันชีมชีนที�อยภูายใต ้






การปักครองของเม่องหรภูญชีย 52

53


















จัากผู้งพุนโบราณสถานสวินใหญ เปันผู้งแบบสเหล้ยมผู้นผู้ายอเกจัดานหนา















2 ชีวิงเสาแล้ะดานหล้ง 1 ชีวิงเสา ไดแก วิดกานโถม (ชีางคา) วิดธาตนอย วิดกมกาม

วิดหวิหนอง วิดพุญามงราย วิดพุระเจัาองคดา วิดกอายหล้าน วิดกอายส วิดกมะเกล้อ


























วิดกรดไม วิดโบสถ แล้ะวิดกมกามทปัราม เปั็นต้น ซึ่ึงพุบวิ่ามีการสร้างวิิหารใน





53



ล้กษณะดงกล้าวิมากกวิารอยล้ะ 90 อาจักล้าวิไดวิาวิิหารกลุ้มนีมพุฒนาการส่บทอด












มาจัากวิิหารในสมยหรภูญชีย

54

จัากโบราณสถานทพุบในเวิยงกมกามสวินใหญมอายอยในชีวิงสดทาย














ก่อนการท�งร้างในราวิพุุทธศตวิรรษท� 21 เปั็นต้นมา ทน่าสนใจัคอ ผู้ังพุ�นวิิหารทมีการ












ยกเกจันน ไดถายทอดรปัแบบมายงผู้งพุนวิหารล้านนาในเขตล้มนาปัง-วิง ซึ่งพุบมาก















ในปัจัจับน อกปัระการคอฐ์านวิหารบางแห่งมการเชีอมตอกบมณฑปัท้ายอาคาร













หรอคนธกฏ เชีน วิิหารวิดชีางคากานโถม เปันวิหารทรงปัราสาททเกาแก ่
















ราวิพุทธศตวิรรษท 19 มล้กษณะเปันวิหารโถงในผู้งสเหล้ยมผู้นผู้ายกเกจัดานหนา













2 ตอน ด้านหล้ัง 1 ตอน หันหน้าส่ทิศตะวิันตก ไมมฐ์านชีุกชีีแตมีทางเชี�อมต่อ












กับมณฑปัท้ายวิิหาร ทมฐ์านปััทมก่ออฐ์รปัทรงแปัดเหล้�ยม เปั็นทปัระดิษฐ์าน


ของพุระพุทธรูปัทง 4 ทศ คำาวิ่า “มณฑปั” นันแปัล้วิ่าอาคารรูปัสี�เหล้ียม





55






ทมียอดแหล้ม ไมปัรากฏในภูาษาล้้านนา จัารึกวิัดพุระยนเรียกอาคารปัระเภูทนวิ่า














56


“ปัราสาท” จังกล้ายเปันชีอเรยกวิหารทมอาคารสเหล้ยมยอดแหล้มตอทายวิา
“วหารู้ทรู้งปัรู้าสาท”








หากวิเคราะห์รวิมกบเอกสารทางปัระวิัตศาสตร์ ตานานพุ�นเมองเชียงใหม่




จัะพุบวิา พุญามงรายสรางวิดกานโถม บนพุนทวิดเดมสมยหรภูญชียแล้ะสราง
















หล้งจัากกล้ับมาจัากเมองพุกาม ซึ่ึงเปันไปัได้วิาอาจันำารปัแบบแผู้นผู้ังของอาคาร














ทมมณฑปัเชีอมทายวิหารซึ่งเปันรปัแบบทแพุรหล้ายของสถาปัตยกรรมในพุกาม








ชีวิงเวิล้านนมาออกแบบสรางวิหารวิดกานโถม ทาใหสนนษฐ์านไดวิารปัแบบวิหาร















วิดชีางคากานโถม มควิามสัมพุนธกบสถาปัตยกรรมท�เมองพุกาม ดังควิามปัรากฏ








57




ในตานานพุ่นเม่องเชีียงใหมวิา
54

“...ต่อัเทั้าบูด้นแล วหารอันเปนหอันอันยงบูมเทั้อั เจ้ามงรายไปไหว ้




















มหากสสปปเถรเจ้้าว่า ภินเต่ ขั้าแต่่เจ้้าก ขั้าสร้างวหารแล้วบูวรมวลชุเยอังแล้วแล











มหากสสปปเถรเจ้าเมต่ต่าวาวหารเปนด้งโรงค์ลมหาราชนนมแล เทั้ายงค์นธกฎเจ้ต่ย




























หอันอันบูมเทั้อั ค์วรมหาราชเจ้ากอัเจ้ต่ยอัโมงค์โขังหอัเปนทั้ฐาปนาต่งไวค์วรชะแลวาอัน








พญ่าม้งรายกมใจ้ชมชนย่นด้มากน้ก พญ่าม้งรายส้นน่ฏิฐานใจ้วา บู้ด้นี� กจ้้กสรางว่หาร


่�










แลวกจ้กไปแอัวด้ ประเทั้สเมอังพกามอังวะกอัน ผ่วาพญ่าอังวะย้งมไมต่รนอัมเซื่งกแล











ได้อันใด้อันหนงเปนด้งพญ่าหงสานน ค์นกแพญ่าอังวะแทั้กค์นมากจ้กกอัเจ้ต่ยไววด้กาน















โถมชะแล...” 58










สนนษฐ์านไดวิาผู้งพุนวิหารทมมณฑปัตอทายเพุอปัระดษฐ์าน




















พุระพุทธรปัอาจัมควิามสมพุนธกบรปัแบบสถาปัตยกรรมพุกาม ทเรยกวิา







กพุญา หร่ออาจัไดรบอทธพุล้จัากมอญหรภูญชีย ซึ่งเปันชีมชีนเดมกอนการ







สร้างเวิียงกุมกามของพุญามังรายดวิยเชี่นกัน สอดคล้้องกับงานศึกษาของ

59










ชีาญณรงค ศรสวิรรณ (2545) เรอง สถาปัตยกรรมในพุนทปัระวิตศาสตร ์




เวิียงกุมกาม : กรณศึกษา วิัดกานโถม ท�ได้ใหข้อสรปัจัากผู้ล้การศึกษา


เกียวิกบรปัแบบของวิิหารวิดกานโถมวิา วิิหารวิดกานโถม เปันรปัแบบวิิหาร











ล้านนาในชีวิงตน ตงแตสมยพุญามงราย มล้กษณะเปันวิหารโถง ไม่มผู้นง
















ดานขาง หรอถามกเปันผู้นงไม เพุราะไม่ปัรากฏหล้กฐ์านแนวิผู้นังทล้มอย ่ ู








ด้านข้าง ผู้ังพุ�นเปั็นแบบส�เหล้�ยมยกเกจัสัมพุันธกับการล้ดชี�นของหล้ังคา










แบบหนา 3 หล้ง 2 โครงสรางสวินบนเปันเครองไมแบบขอมา-ตางไหม





















โดยสวินทายตอจัรนม สนนษฐ์านวิาวิิหารล้กษณะนีคงไดรบควิามนยมสราง








มาตงแตสมยพุญามงราย แล้ะยงเปันตนแบบใหกบวิหารตางๆในเมอง







เชีียงใหมในสมยตอมา

60

นอกจัากนี� ในการขดคนซึ่ากโบราณสถานในพุ่�นทีบรเวิณวิดอโมงค- ์






สวินพุุทธธรรม อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม พุบฐ์านของวิิหารที�มล้กษณะ



















สเหล้ยมผู้นผู้าย่อมมดานหนา 2 ชีวิง ดานหล้ง 1 ชีวิง เชีน วิหารวิดฤาษ-


ชีวิกะ ทวิหารมมณฑปั หรอคนธกฏทปัระดษฐ์านพุระปัระธานบนฐ์าน
























แทนแกวิในผู้งสเหล้ยมยกเกจัตอทายวิหารดวิย เปั็นทีน่าสังเกต

61




คอ ฐ์านของวิหารสวินใหญทพุบในโบราณสถานรางพุนทวิดอโมงคนน














จัะมผู้งพุ่นที มมณฑปัในตอนทายอาคาร หร่อ “คนธกฏ” จัานวินหล้ายแหง











ซึ่งเปันรปัแบบทพุบในวิหารปัจัจับน เชีน วิหารล้ายคา วิดพุระสงห- ์



















วิรมหาวิหาร วิหารวิดปัราสาทแล้ะวิหารหล้วิง วิดปัาแดงมหาวิหาร



อาเภูอเม่อง จัังหวิดเชีียงใหม ่
55

ภูาพุที 19 - 20



การปัระดิษฐ์านพุระปัระธานในวิหารล้ายคาวิดพุระสิงห ์











แตเดมคงปัระดษฐ์านภูายในคนธกฏ ทอยดานหล้ง



แตปัจัจับนปัระดษฐ์านพุระพุทธสหงสดานหนา












เพุอใหเหนพุระพุุทธสรระเตมองค ์




56

ุ่






ุ่







อาจักล้าวิไดวิากล้มวิหารเขตทราบล้ม เกยวิกบการซึ่อมวิหารวิัดพุระสงห ในปั ี








นาปัง-วิงทมล้กษณะของผู้งแบบยกเกจั พุ.ศ.2406 ซึ่งเปันครงสดทายกอนการบรณะ
















แล้ะมการล้ดระดบชีนหล้งคาแบบหนา 3 ซึ่ด ครงใหญ่โดยครูบาศรีวิชีย ผู้งล้กษณะดังกล้าวิ


















หล้ง 2 ซึ่ด นันเปันรปัแบบที ธวิชีชีย ทาทอง อาจัเปันพุฒนาการของการวิางผู้ังทปัรากฏ










(2560) เรยกวิาเปัน “รู้้ปัแบีบีจัารู้ต” เปั็นรูปั ในชีวิงปัล้ายยคฟื้นอาณาจักรล้านนา


62





ทรงของสถาปัตยกรรมวิหารทพุบมากในเขต (พุ.ศ.2357-2426) แต่ทีน่าสังเกตค่อพุบผู้ังพุ่�น
65





















ล้มนาแหงน ตวิอย่างของวิหารกล้มนทยงหล้ง วิหารล้กษณะนทวิดกปัาดอม โบราณสถาน















เหล้ออยแล้ะถกซึ่อมแซึ่มเปันรปัแบบวิหาร เวิยงกมกาม สนนษฐ์านจัากรปัแบบศล้ปักรรม

















ล้านนายคหล้งทมอายในชีวิงกอนพุทธศตวิรรษ ทปัรากฏพุบวิามอายราวิพุทธศตวิรรษ






ที 25 (กอน พุ.ศ.2400) เชีนวิิหาร ในจัังหวิด ที 21 (พุ.ศ.2001-2100) ซึ่ึงสอดคล้้องกับ




66


ล้าปัาง ได้แก่ วิิหารนาแต้มแล้ะวิิหารหล้วิง พุงศาวิดารโยนก ทกล้าวิถงการสรางวิหารหล้วิง














วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง วิหารจัามเทวิ ี วิดพุระสงหในสมยพุระเมองแกวิ ในวินศกร ์









67
วิดปังยางคก อาเภูอหางฉตร วิหารหล้วิง เดอนอาย แรม 10 คา พุ.ศ.2061 ทีอาจั











วิดเวิยงเถน เปันตน แล้ะวิหารวิดปัราสาท เกยวิเนอง แล้ะสงอทธพุล้ดานรปัแบบของวิหาร














วิหารวิดปัาแดงมหาวิหาร วิหารล้ายคา ระหวิางกนกเปันได ้








วิดพุระสงหวิรมหาวิหาร จังหวิัดเชียงใหม ่ ล้กษณะของวิหารทมมณฑปัตอทาย





















เปันตน วิหารน มควิามคล้ายคล้งดานการใชีงาน รปัทรง







ในสวินของวิสดแล้ะโครงสร้างวิหารน�น แล้ะผู้งพุนกบสถาปัตยกรรมพุทธศาสนาในพุมา









จัะเปั็นโครงสร้างไม้เปั็นหล้ัก โดยมีระบบ ปัระเภูทหน�งทเรยกวิา ตระยาอิม (Trya im)









โครงสรางหล้งคาทเรยกวิา “รู้ะบีบีข่อมา- หรอ ธรรมศาล้า ซึ่ึงเปันอาคารท�พุระภูกษ ุ















ตางไหม” หล้งคามงดวิยกระเบ�องดนขอ ใชีแสดงธรรมเทศนา สอนหนังสอแกพุระภูกษุ














ซึ่งจัะกล้าวิตอไปัในหวิขอองคปัระกอบทาง สามเณร รวิมถึงปัระชีาชีนท�วิไปั ปัจัจับน


โครงสรางสถาปััตยกรรมแล้ะศล้ปักรรม ไมมีอาคารดังกล้่าวิหล้งเหล้อในสภูาพุท�สมบูรณ ์











นอกจัากน ยงพุบวิหารทมผู้งพุน พุบแตเพุยงซึ่ากของฐ์านอาคาร แล้ะตนเสา











มการล้ดควิามกวิางชีวิงเสา หรอยกเกจั สนนษฐ์านวิามล้กษณะ เปันศาล้าโถงเครองไม ้



















ดานหนา แล้ะด้านหล้งอย่างล้ะ 2 หองดวิย ดานทายอาคารเชีอมตอกบอาคารกออฐ์












เชีนกน ซึ่งปัรากฏในผู้งวิิหารหล้วิง วิดพุระสงห ์ ทรงมณฑปัผู้งสเหล้ยมดานหล้ง ล้กษณะ















วิรมหาวิหาร จังหวิดเชียงใหม กอนการ คล้ายคล้งกบสถาปัตยกรรมวิหารทตอทาย






บรณปัฏสงขรณครงใหญในสมยของครูบา- มณฑปัทพุบอยางแพุรหล้ายในสโขทย























ศรวิชีย เมอราวิปั พุ.ศ. 2463 ซึ่งผู้งล้กษณะ สนนษฐ์านวิ่าคงให้อทธพุล้แก่สโขทย






68











ดงกล้าวิเปันการสนนษฐ์านโดย ธวิชีชีย ทาทอง แล้ะล้านนาอาจัไดรบอทธพุล้นเชีนกน






(2564) ผู้านการวิเคราะห์บทฮิาวิหารพุระสิงห- ์ โดยไมผู้านพุุกามโดยตรง กอาจัผู้านสโขทย














หล้วิง เมองเชียงใหม่ ปัรากฏหล้กฐ์านบันทึก
63
57












(2) กลุมวหารู้ในเข่ตทีรู้าบีลุมแมนากก และแมนาอง


















พุนทเขตทราบล้มนากก-องนน แตเดมเคยเปั็นแควินโยนกก่อนทจัะถกผู้นวิก








เขากบแควินหรภูญไชีย ในสมยของพุญามงรายใหเปันอาณาจักรล้านนานน พุบโบราณ








สถานปัระเภูทวิหารท�รางไปักอนพุทธศตวิรรษท� 24 ในเขตเมองเชียงแสน พุะเยา





















แล้ะเวิยงล้อ อาเภูอจัน จังหวิดพุะเยา วิหารในเขตทราบล้มกก-อง นจัะมล้กษณะ


















ของผู้งพุนวิหารแตกตางไปัจัากกล้มล้มนาปัง-วิง ซึ่งสงผู้ล้ใหมการล้ดระดบหล้งคาแตกตาง







กนไปัดวิย แตระบบโครงสรางหล้งคายงคงเปันแบบขอมา-ตางไหม รวิมทงล้กษณะของการ




















ล้ดชีันหล้งคา แล้ะการล้ดปักนกดานขางสามารถแบงออกได 3 กลุ้มหล้ก ไดแก ่














(1) รู้ปัแบีบีท 1 มล้กษณะของผู้งพุนวิหารรปัสเหล้ยมผู้นผู้ายกเกจั













ดานหนาหนงชีวิง ดานหล้งตดตรง หล้ังคาล้ดชี�นดานหนาหนงชีนดานหล้งตดตร











ระบบโครงสร้างหล้ังคาเปั็นแบบข่อมา-ตางไหม รปัแบบน�พุบมากท�สดในเขตเมองเชียงแสน















พุะเยา แล้ะเวิยงล้อ สวินมากพุบเหล้อแตฐ์านวิหารทกอสรางดวิยอฐ์ เนองจัากหล้งคา





















กอสรางดวิยไมจังไมหล้งเหล้อหล้กฐ์านอย แตสนนษฐ์านไดวิาเปันโครงสรางแบบขอ



มา-ตางไหม



จัากการศึกษาของ ชีาญคณิต อาวิรณ์ (2560) เก�ยวิกับรปัแบบศล้ปัะ









แล้ะขอสนนษฐ์านรปัแบบโบราณสถาน พุบวิาฐ์านวิหารในกล้มโบราณสถานเวิยงล้อ









อาเภูอจัน จังหวิดพุะเยาสามารถ แบ่งออกไดถง 4 รปัแบบ ไดแก วิหารแบบยกเก็จั

















ดานหนา 1 ชีวิง ดานหล้งตดตรง, วิหารแบบผู้งสเหล้ยมผู้นผู้า, วิหารทรงปัราสาท

แล้ะวิหารรปัแบบพุเศษ โดยวิหารรปัแบบยกเกจั ดานหนา 1 ชีวิง ดานหล้งตดตรงน � ี















พุบทวิดพุระเจัาเขากาด,วิัดพุระแก้วิ แล้ะวิดสารภู ทงสามแห่งหล้งเหล้อเพุยงซึ่ากฐ์านวิหาร




















แล้ะวิิหารวิดศรปังเม่องเวิยงล้อ อาเภูอจัน จัังหวิดพุะเยา ทีมการสรางวิิหารใหมทบล้งบน


ฐ์านวิหารเดิม จัากฐ์านวิหารท�หล้งเหล้อสนนษฐ์านได้วิาสวินยกเก็จัดานหนาจัะเปั็น





















สวินมขหนา ถดเขามาภูายในเปันชีองปัระตปัระธาน ล้กษณะคล้้ายกบผู้งวิิหารวิดธาตขาวิ











เวิยงกมกาม จังหวิดเชียงใหม แล้ะล้กษณะผู้งวิหารรปัแบบน ยงพุบในกล้มซึ่ากวิหารโบราณ














สถานเมองเชียงแสนดวิย เชีน โบราณสถานวิดออมแกวิ โบราณสถานวิดเจัดยหล้วิง






โบราณสถานวิดปัาสก เมองเชียงแสน เปันตน ผู้งวิหารแบบยกเกจัดานหนา 1 ชีวิงน สามารถ























สนนษฐ์านรปัแบบโครงสรางหล้งคาไดวิาอาจัเปันดานหนา 2 ซึ่ด แล้ะดานหล้ง 1 ซึ่ดได ้
โดยการล้ดระดบเสา แตไมล้ดระดบผู้งพุ่น แล้ะมีการปัิดห้องท้ายวิิหารไวิ้สามด้าน






69

58


ภูาพุที 21







แสดงแผู้นผู้งวิิหาร รปัตดดานสกดแล้ะรปัดานตามยาวิ


ของวิิหารวิดไหล้หนหล้วิง อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง









ทีมาของภูาพุ : เจัษฎา สภูาศร, อางแล้้วิ, หนา 104-106.










วิหารรปัแบบดงกล้าวิ ยงปัรากฏในเขตล้มนาปัง





ดวิยเชีนกน เชีน วิหารวิดไหล้หนหล้วิง อาเภูอเกาะคา














จังหวิดล้าปัาง ทสรางขนราวิพุทธศตวิรรษท 23 โดยชีาง








ชีาวิเมองเชีียงตุง ซึ่�งเปั็นกล้มเมองทมีควิามสัมพุันธ์ กับเมอง



เชียงแสน แล้ะวิหารหล้งเล้ก วิดบพุพุาราม อาเภูอเมอง













จังหวิดเชียงใหม สรางราวิพุทธศตวิรรษท� 24 (พุ.ศ. 2362)

โดยเจัาหล้วิงชีางเผู้่อกธรรมล้งกา



59

60

ภูาพุที 22





วิิหารวิดไหล้หนหล้วิง อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง


61

62




นอกจัากน ยงพุบวิหาร






ทมล้กษณะของผู้ังพุนแบบยกเก็จั







ดานหนา 1 ชีวิง ดานหล้งตดตรง



ในเขตพุนทล้มนานาน จังหวิัดนาน








เชีน วิหารวิดหนองบวิ อาเภูอทาวิงผู้า













จังหวิดนาน กาหนดอายแรกสรางราวิ


ตนพุุทธศตวิรรษที 25 หร่อกอนหนา










นนเล้กนอย ซึ่งวิหารวิดหนองบวิ

เปันรปัแบบวิหารไทล้อทไดรบ










อทธพุล้จัากวิหารแบบล้านนา



แล้ะวิิหารแบบหล้วิงพุระบางผู้สม





ผู้สานกนกบควิามเปั็นทองถน






โดยอทธพุล้ล้านนาสวินหนงปัรากฏ


ในระบบโครงสรางหล้งคาแบบ

“ขอมา – ตางไหม” แล้ะยงพุบวิา






วิหารไทล้�อบางแห่งอาจัมโครงสร้าง



ทคล้ายคล้งกน แตอาจัคล้ายกน












ในสวินทีเรยกวิา “ตางไหม”
63














(2) รู้ปัแบีบีท 2 มแผู้นผู้งวิหารเปันแบบสเหล้ยมผู้นผู้า






แบบหนากระดาน ไม่มยกเกจั พุบในเมองเชียงแสน พุะเยา แล้ะเวิยงล้อ
นอกจัากนยงพุบในเมองตางๆ ในเขตวิฒนธรรมล้านนาทมการกอสราง



















ในยคสมยหล้งโดยชีางชีาวิเชีียงแสนที�อพุยพุเคล้อนยายเขามา



ในเขตโบราณสถานเวิยงล้อ พุบฐ์านของวิหารรปัแบบ











สเหล้ยมผู้นผู้าไมยกเกจัมากทสด ไดแก วิหารวิดมะมวิงแกมแดง,กบวิกก,

















กเกอกมา แล้ะวิดพุระธาตบนนาค โดยวิหารดงกล้าวิมล้กษณะสาคญคอ












มการเจัาะชีองปัระตทางเขาทางทศตะวินออก มเสาไมดานขางผู้นง

















ตามตาแหนงคของเสาภูายในวิิหาร สวินผู้นงวิหารนาจัะกออฐ์ถอปัน








เพุอรบโครงสร้างไมฝาหยาบ แล้ะห้องทายวิหารมีการกอผู้นงทงสามด้าน


























วิหารทมผู้งพุนสเหล้ยมผู้นผู้าแบบหนากระดานไมยกเกจันน บางแหงมรปั





แบบการซึ่อนชีันของหล้งคาแบบดานหนา 3 ซึ่ด ดานหล้ง 2 ซึ่ด หร่อหนา











2 หล้ง 2 แล้ะอาจัพุบแบบหนา 3 หล้ง ดวิยกได ทงนการล้ดชีนหล้งคา












มไดสมพุนธกบระบบผู้ง หากแตเปันการล้ดระดบเสา จัึงทำาให้ระดับ



70










ของชีองวิางระหวิางตบหล้งคา แตล้ะซึ่ดไมหางกนมากเหมอนผู้งวิหาร








แบบหกจั�อก หร่อวิิหารบบทีพุบมากในลุ้มนาปัง-วิง ั


นอกจัากนยงปัรากฏล้กษณะดงกล้าวิในวิหารพุนถน










เชีียงตง สมยดังเดม เชีน วิิหารวิดบานแสน แล้ะวิิหารวิดบานแงก โดยวิิหาร





















วิดบานแสน เมองเชียงตง มล้กษณะคล้ายคล้งกบวิหารโถงแบบล้านนา






ทนยมสรางระหวิางพุทธศตวิรรษท 21-25 อาจัมควิามสมพุนธเชีอมโยง










กบการเผู้ยแพุรศาสนาของล้านนาสมยพุญากอนา กษตรยเชียงใหม ่














(พุ.ศ. 1898-1928) ซึ่งชีวิงเวิล้าดงกล้าวิมการแพุรกระจัายพุทธศาสนาศาสนา





จัากเชียงใหม่ - เชียงแสน ไปัยังเชียงตง แล้ะขยายไปัยังเมองเชียงรง







ผู้านเสนทางการคาแล้ะการตดตอระหวิางเมอง ซึ่งมชีมชีนชีาวิไทดอย












หรอล้วิะตงถนฐ์านอาศยอย ซึ่งวิหารวิดบานแสนนน ตงอยในตาแหนงเสน


























ทางดงกล้าวิ จังอาจักาหนดรปัแบบทางสถาปัตยกรรมวิหารวิัดบานแสนได ้

วิาเปัน “วหารู้รู้วมแบีบีลานนา” ซึ่ึงสันนิษฐ์านได้วิ่าอาจัได้รับอิทธิพุล้






71

ดานรปัแบบไปัจัากเม่องเชีียงแสน เน่องจัากพุบฐ์านวิิหารล้ักษณะดังกล้่าวิ


72




ในเขตเมองโบราณเชียงแสนจัานวินหล้ายแหง เชีน โบราณสถาน


หมายเล้ข 12, โบราณสถานวิดมหาธาตแล้ะโบราณสถานวิดบญยน




เม่องโบราณเชีียงแสน เปันตน
73


64

รปัแบบผู้งพุนวิหารของวิดในเขตรฐ์ฉาน









ตะวินออก ปัระเทศพุม่า เชีน เมองเชียงตุง เมองม้า




เมองล้า แล้ะเขตเวิยงโบราณสามตาวิ ซึ่งเปันดนแดน












ทอยในรอยตอระหวิ่างเขตปักครองของเมองเชียงตง














แล้ะเมองสบสองปันนา มล้กษณะเปันสเหล้ยมผู้นผู้า





หนากระดาน ไมยกเกจันนกเปันรปัแบบทเดนชีด
















ของกล้มวิหารไทล้อ ซึ่งล้กษณะดงกล้าวิกพุบใน



เชีียงแสน พุะเยา แล้ะนานดวิยเชีนกน



74

อกทงระบบโครงสร้างหล้งคาของวิหาร









วิดบานแงก วิิหารวิดบานแสน เปันแบบขอมา-ตางไหม




ท�สะท้อนให้เห็นถึงอิทธพุล้เชีิงชี่างท�ไดรับไปัจัากล้้านนา




นอกจัากน วิหารของวิดชีาวิไทดอย (ไตหล้อย) ตล้อดจัน










วิหารในเขตเมองเชียงตง แล้ะเมองยองบางแหง ยงคงใชี ้




ระบบโครงสรางแบบขอมา-ตางไหมอย แมวิาบางหล้ง







ภูาพุที� 23 - 25 จัะไมพุบการใชีขอมา แตยงมการใชีตางไหม หร่อตางโย












วิหารวิดบานแงก ล้กษณะทางกายภูาพุ หรอแมกระทงพุบการใชีโครงสรางทคล้ายคล้ง













ภูายนอก แล้ะภูายในทแสดงโครงสรางรบนา ำ � 75







หนกหล้งคาแบบขอมา-ตางไหม กบโครงสรางแบบ “ชีวินโตวิ” ของจัีนอีกด้วิย






65

66


ภูาพุที 26 - 27


แล้ะวิิหารวิดบานแสน





ภูายในเปันโครงสรางขอมา-ตางไหม











67











(3) รู้้ปัแบีบีที 3 เปันรปัแบบทีมแผู้นผู้งวิิหารเปันรปัสีเหล้ียมผู้่น




ผู้ายกเกจัออกดานหนา 1 ชีวิง แล้ะดานหล้ง 1 ชีวิง มล้กษณะแผู้นผู้งคล้้ายคล้ง
















กบวิหารรปัแบบหนงของสโขทย สนนษฐ์านวิาไดรบอทธพุล้จัากสโขทย ซึ่งการ


















วิางผู้งล้กษณะนนยมสรางในอาคารปัระเภูทอโบสถ ซึ่งเปันอาคารทนยมสราง










ในชีวิงรชีกาล้พุระเจัาตโล้กราชี (พุ.ศ.1984-2030) ถงสมยพุระเมองแกวิ









(พุ.ศ. 2038-2068) โดยสรางอโบสถเปันอาคารถาวิรเพุมภูายในวิดทมมาแตเดม












มากขน อาจัเพุอใชีแทนการบวิชีอทกกเขปัสมาแบบเดมซึ่งตองบวิชีแพุในนา











ซึ่�งสุโขทัยกปัรากฏการสร้างอุโบสถขนาดเล้็กเพุ�มเติมข�นมาในวิัดต�งแต ่


ราวิพุุทธศตวิรรษที� 20 เปันตนมา





ในเมองเชียงแสน แล้ะเชียงแสนน้อย ปัรากฏหล้กฐ์านทาง




โบราณสถานท�สะท้อนให้เห็นถึงควิามสัมพุันธ์แล้ะอิทธพุล้ทางศล้ปัะสถาปััตยกรรม

แบบสโขทย เชีน การสร้างเจัดยทรงระฆ์ังกล้มแบบล้ังกา ทวิดจัอมหมอก นอกเมอง

















โบราณเชียงแสน รปัแบบการสรางมณฑปัปัระธาน ทวิดมหาธาต ในเมองเชียงแสน,




รปัแบบการสรางมณฑปัทายวิหาร ทวิดสสด (สวิสด) ในเมองเชียงแสน แล้ะพุบการ













สรางอโบสถทีมล้กษณะผู้งยกเกจัดานหนา 1 ชีวิง แล้ะดานหล้ง 1 ชีวิงสอดคล้้อง














กบรปัแบบของสโขทยในโบราณสถานทีมอายราวิพุุทธศตวิรรษที� 19-20


76









นอกจัากน ยงพุบรปัแบบของผู้งวิหารล้กษณะดงกล้าวิใน




วิิหารพุระพุุทธ วิัดพุระธาตล้าปัางหล้วิง ซึ่งผู้ังล้ักษณะนีปัรากฏน้อยมากในล้้านนา







ซึ่งพุบอกแหงหนึ�ง ค่อ วิิหารหล้วิง วิดเจัดยหล้วิง เม่องโบราณเชีียงแสนทีพุระเจัา








แสนภูโปัรดใหสรางขนในชีวิงตนพุทธศตวิรรษท 19 ซึ่งนาจัะเปันไปัไดทอาจัม ี


















การนารปัแบบของวิหารแบบสโขทยมาใชีในล้านนา เนองมาจัากควิามสมพุนธ ์














ทางศาสนาแล้ะทางการเมอง โดยเฉพุาะผู้ทสรางวิหารพุระพุทธ วิดพุระธาตล้าปัาง







หล้วิงนนเปันชีาวิเชีล้ยง ซึ่ึงปัรากฏหล้ักฐ์านในตำานาน แล้ะศิล้าจัารึกหล้ักที 2

77






วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง ทกล้าวิถงเจัาหมนคาเปัก หรอเจัาหมนคาเพุชีร ผู้เปัน


















เชี่อ ขน (นาง) อยเม่องใต (นาจัะเปันเม่องที�อยทางทศใตของล้าปัาง หร่อ ล้้านนา)








แล้ะมการกล้าวิถงเจัาหมนคาเพุชีรชีาวิเชีล้ยงในพุงศาวิดารโยนก วิาไดมาสวิามภูกด ิ �

















ตอพุระยาธรรมราชีาตโล้กะ (พุระเจัาตโล้กราชี กษตรยเม่องเชีียงใหม) ผู้ซึ่งแตงตัง �
























ใหเจัาหมนคาเพุชีรเปันเจัาเมองนครล้าปัาง ไดมจัตศรทธากอกาแพุง สรางพุระพุทธ









รปัแล้ะวิิหารขึนในวิดแหงนีเมอจัล้ศกราชี 838 หร่อ พุ.ศ.2019

78
68

ภูาพุที 28



ผู้งพุ่นวิิหาร รปัดาน แล้ะรปัตดตามยาวิของวิิหารพุระพุุทธ







วิดพุระธาตล้าปัางหล้วิง อาเภูอเกาะคา จัังหวิดล้าปัาง





ทีมาของภูาพุ : เจัษฎา สภูาศร, อางแล้้วิ, หนา 86-89.









ในชีวิงสมยฟื้นฟื้อาณาจักรล้านนา (พุ.ศ.2339-2356)


ถงชีวิงปัล้ายยคฟื้นฟื้อาณาจักรล้านนา (พุ.ศ.2357-2426)









พุบวิามการสรางวิหารล้กษณะรปัแบบผู้งสเหล้ยมผู้นผู้ายกเกจั



















ออกดานหนา 1 ชีวิง แล้ะดานหล้ง 1 ชีวิง นีดวิย เชีน วิิหาร



วิดแจัซึ่องหล้วิง (วิหารศรีหล้วิง แจัซึ่อน) (พุ.ศ.2450-2468)





แตภูายนอกมการสรางหล้งคาคล้มบนไดนาค แล้ะล้ดชีนหล้งคา


















ดานหนา เพุมอก 1 ชีน ทาใหล้กษณะภูายนอกอาคารคล้ายวิหาร



ทีมการยกเกจัดานหนา 2 ชีวิง ดานหล้ง 1 ชีวิง 79










69


ภูาพุที 29 - 30







วิิหารวิดศรหล้วิงแจัซึ่อน อาเภูอเม่องปัาน จัังหวิดล้าปัาง



ทีมาของภูาพุ : สมาคมสถาปันกสยามในพุระบรมราชีปัถมภู,





[ออนไล้น]. https://asaconservationaward.com/ ส่บคน เมอวินที 3 พุฤษภูาคม 2564.



70





ผู้เขยนไดศกษาคนควิาเพุมเตมเกยวิกบวิหารในเขตวิัฒนธรรมล้านนา



























ล้มนาอ�นๆ ท�อาจัมพุัฒนาการทสัมพุันธกับกล้มวิิหารท�อยในเขตล้มนาปัิง-วิัง














แล้ะกก-อง โดยไดศกษาเพุมเตมเบองตนในกล้มวิหารล้มนาอง จังหวิดพุะเยา













แล้ะกลุ้มวิิหารในจัังหวิดนาน ดงตอไปันี �







(3) กลุมวหารู้ในเข่ตลุมนาอง จัังหวดพิะเยา








ล้กษณะของวิหารในเขตเมองพุะเยาพุบวิาสวินใหญจัะมผู้งพุนวิหาร












รปัแบบสีเหล้ียมผู้่นผู้าหนากระดาน ไมยกเกจั โดยมการเจัาะปัระตดานหนา 1














หรอ 3 ชีอง แล้ะมปัระตดานขางทศเหนอบรเวิณกงกล้างวิหาร แล้ะมกไมมปัระต ู










ดานหล้ง ผู้นงหองทายวิหาร หรอหองพุระหารกอทบหรอเจัาะชีองแสงขนาดเล้็ก



















ฐ์านของวิหารมกเตยตดดน หรอยกสงจัากพุนดนไมมาก มอตราสวินของพุนท � ี








หล้งคาในรปัดานมากกวิาหรอเทากบผู้นง ระยะหางระหวิางคอสองของหล้งคา








ตบบนแล้ะล้่างนอย ทาใหวิหารดเตยแล้ะมดสล้วิ ล้กษณะของหน้าแหนบ
















เปันแบบหมหนงกล้องตีไมชีด มกไมมปัากแล้แล้ะแผู้งแล้ หากมีกเปันรปัแบบ


















เรยบงาย แล้ะบนไดทางขนวิหารมกเปันรปัครงวิงกล้ม หรออฒจันทร ์

ตามคตจัักรวิาล้ทางพุุทธศาสนา








รปัทรงของวิหารพุ�นถนเมองพุะเยามีหล้ากหล้ายล้กษณะ จัากการศึกษา


สธ เมฆ์บญสงล้าภู (2555) เกียวิกบรปัแบบของวิิหารจัังหวิดพุะเยา โดยศึกษา






80






ในมตทางกายภูาพุภูายนอก รปัทรงหล้งคา ผู้งพุน แล้ะองคปัระกอบ






ทางศล้ปักรรม พุบวิามจัานวิน 8 รปัแบบทรงหล้งคา ไดแก ่




(1) วิิหารทรงไก่แจั้ หร่อทรงไก่ฟื้ักไข่ ล้ักษณะหล้ังคาแบบผู้่นเดียวิ

ทอดยาวิไมล้ดชีน พุบไดนอยในจังหวิดพุะเยา เชีน วิหารวิด














สางเหนอ อาเภูอเมองพุะเยา แล้ะวิหารวิดรตนคหาวินาราม




อาเภูอดอกคาใต ้
(2) วิิหารทรงชี้างมูบ มีล้ักษณะหล้ังคาล้ดชีั�นด้านหน้า 1 ซึ่ด
แล้ะผู้งวิหารมทงแบบสเหล้ยมผู้นผู้าหนากระดาน แล้ะแบบ














ยกเกจัทีสวินมขโถงหนา พุบจัานวินนอย เชีน วิิหารวิดพุระธาต-













ดอยหยวิก ตาบล้ปัง อาเภูอปัง จังหวิดพุะเยาแล้ะวิหารวิดกอซึ่าวิ


ตาบล้ทุงกล้้วิย อาเภูอภููซึ่าง จัังหวิดพุะเยา



71









(3) วิหารทรงพุนถน หรอวิหารทรงโบราณ เปันรปัแบบทพุบมาก









ในพุะเยา มการสรางมาแตเดมหรอเปันรปัแบบทนยมใชีในชีวิง









กระบวินการสรางวิหารของครบาศรวิชีย รปัแบบหล้งคาเปันแบบ













ซึ่ดดานหนา 1 ซึ่ด แล้ะดานหล้ง 1 ซึ่ด เชีน วิดศรพุรม อาเภูอปัง


แล้ะวิดหล้วิง อาเภูอปัง

(4) วิิหารทรงพุ่นถินอทธพุล้ล้้านนา มรปัแบบหล้งคา ค่อล้ดระดบชีัน












หล้งคาดานหนา 2 ซึ่ด แล้ะดานหล้ง 1 ซึ่ด โดยพุบผู้งวิหาร









ทังแบบสี�เหล้ี�ยมผู้่นผู้าหนากระดาน แล้ะแบบยกเกจัดานหนา 1



ชีวิงเสา เชีน วิิหารวิดหล้วิงราชีสณฐ์าน แล้ะวิิหารวิดแสนเม่องมา





เปันตน









(5) วิหารทรงภูาคกล้าง เปันรปัแบบวิิหารทไดรบอทธพุล้จัาก


ภูาคกล้าง มการล้ดระดบชีันตบหล้งคาดานหนา 2 ซึ่ด แล้ะดาน








หล้ง 2 ซึ่ดเทากน เปันรปัแบบทีนยมในพุะเยา แล้ะมกมหล้งคา








3 ตับ หรอท�เรียกวิ่า “3 ชีาย” เชี่น วิหารวิัดไทยสภูาพุ







อาเภูอเชีียงมวิน วิิหารวิดพุระธาตขงแกง อาเภูอจัน เปันตน








(6) วิหารทรงศาล้า เปันรปัแบบทพุบในชีมชีนชีาวิอสาน เปันวิหาร













ทรงโรง มยอดหล้งคาจัวิแล้ะตอชีายคาปักนกคล้มโดยรอบ




ล้กษณะคล้ายศาล้าการเปัรยญ พุบจัานวินนอย เชีน วิหาร




วิดกองแล้ อาเภูอดอกคาใต ้








(7) วิหารทมระเบยงรอบ เปั็นรปัแบบททางวิดใหสล้าไปัดแบบ










จัากพุ่�นทีอนแล้้วิมาออกแบบกอสรางเอง















(8) วิหารทมพุนทใชีงาน 2 ชีน เปันวิหารทมการออกแบบใหม ่



โดยดจัากพุ่�นทีอนสรางโดยชีางทองถิ�น หร่อชีางตางถิน










72

ภูาพุที 31






วิิหารวิดศรปังเม่อง อาเภูอเวิยงล้อ จัังหวิดพุะเยา

ทีมาของภูาพุ : โบราณสถานเวิยงล้อ,


[ออนไล้น]. https://www.museumthailand.com/.




รปัแบบของวิหารในจังหวิดพุะเยาทสาคญ แล้ะมล้กษณะของทองถน

















คอ วิหารทรงไกแจั หรอทรงไกฟื้กไข ผู้งสเหล้ยมผู้นผู้าหนากระดาน

























ทไมมการล้ดชีนหล้งคา ซึ่งเปันรปัแบบของวิหารพุนถนพุะเยาแบบหนง



ในชีวิงทพุะเยาอยภูายใต้การปักครองของเมองเชียงแสนในเขตล้มนากก-อง













แล้ะอาจัเปันรปัแบบทไดอทธพุล้จัากชีางไทยวินล้าปัาง เนองจัากพุบวิหาร















ล้กษณะนในพุนทของชีมชีนชีาวิไทยวินพุะเยาท�อพุยพุกล้บมาจัากล้ำาปัาง





โดยเฉพุาะในเขตพุนทแจัหม-เมองปัาน แล้ะวิงเหนอ ซึ่งอดตเคยเปัน





















เมองล้กหล้วิงของพุะเยาในสมยอาณาจักรพุยาวิ สวินวิหารทรงชีางมบ




ทมผู้งสเหล้ยมผู้นผู้าหนากระดาน แล้ะแบบยกเกจัหนงชีวิงเสาดานหนา

















แล้ะล้ดชี�นหล้งคา 1 ซึ่ดด้านหนานน พุบในเขตพุ�นทถนฐ์านของชีาวิไทล้�อ











อพุยพุใน “ชีวิงยคฟื้นฟื้ล้านนา” ในเขตอาเภูอเชียงคา - ภูซึ่าง แล้ะชีมชีน










ชีาวิไทยวินพุะเยาเขตอำาเภูอเมอง ดอกคำาไต้ แล้ะปัง อาจัสันนษฐ์านได้วิา











เปันรปัแบบวิหารทมล้กษณะรวิมของวิหารไทล้อทแพุรกระจัายไปัมาระหวิาง












พุะเยาเขตอาเภูอเชีียงคา – ภูซึ่างผู้านทางเมองเงน แขวิงไซึ่ยะบร ปัระเทศล้าวิ
73










อยางไรกตามในเขตโบราณสถานเวิยงล้อกพุบวิหารทรงนทวิหาร




















วิดศรปังเมอง อาเภูอเวิยงล้อ จังหวิดพุะเยา ซึ่งเปันเมองสาคญมาตงแตสมยพุญาเจัอง

(พุ.ศ.1625 – 1705) ตามตานานเมองพุะเยาวิหารวิดศรปังเมองน สรางทบบนแนวิฐ์าน










วิหารเกา ซึ่งรปัแบบปัจัจับนนาจัะเปันการสรางขนใหมภูายหล้งการบรณะในชีวิง























ราวิพุทธศตวิรรษท� 25 โดยรปัแบบปัจัจับนมล้กษณะร่วิมทพุบในเขตเมองเชียงคา








เชีน วิหารวิดวิงเคม ตาบล้เจัดยคา แล้ะวิหารวิดบานคม ตาบล้สบปัง ทมอาย ุ
























ในชีวิงครงหล้งพุทธศตวิรรษท� 25 ซึ่งเปันกล้มวิหารแบบล้ดมขหนา 1 ชีวิงพุบใน











เมองเชียงคา แล้ะอาจัเปั็นไปัได้วิ่ามีร่องรอยบางปัระการที�สะท้อนให้เห็นควิามสัมพุันธ์
81




เชีิงชี่างระหวิ่างวิิหารแบบเชีียงแสน วิิหารในเขตล้มนากก-อิง รวิมถึงวิิหารหรออุโบสถ

แบบไทล้่อดวิย


82











สวินรปัทรงวิหารทพุบมากทสดในจังหวิดพุะเยาปัจัจับน คอรปัแบบ






















“วิหารพุนถนพุะเยาแล้ะล้านนาท�ไดรบอทธพุล้สโขทย” แล้ะ “วิหารล้านนาท�ไดรบอทธพุล้









รตนโกสนทร” ในชีวิงที�สยามเขามาปัฏรปัการปักครองในล้้านนา หร่อชีวิงกระบวินการฯ


ครบาศรวิิชีย มล้กษณะของการล้ดชีันหล้งคาดานหนา 1 ซึ่ด แล้ะดานหล้ง 1 ซึ่ด ตวิอยาง































วิหารทมอายเกาแกทสดของรปัทรงน คอ วิหารพุระเจัาตนหล้วิง วิดศรโคมคา
อาเภูอเม่องพุะเยา จัากการสารวิจัของ สธ (2555) พุบวิามการสรางวิิหารจัาล้องรปัแบบ












ดงกล้าวิมอายุในชีวิงพุทธศตวิรรษท� 23-25 เชีน วิหารจัำาล้องทพุบในวิดตอมกล้าง











อาเภูอเมองพุะเยา สร้างข�นใน พุ.ศ. 2394 ซึ่�งเปั็นชีวิงเวิล้าของ “ยุคฟื้�นฟื้พุะเยา” หล้ังจัาก








ทีตังเม่องพุะเยา ไดใหมในปั พุ.ศ.2386 สมยรชีกาล้ที 3 แหงกรงรตนโกสนทร จังคาดวิา




















ยงไมมอทธพุล้ของรัตนโกสินทรเขามาปัะปัน อาจักล้่าวิไดวิารปัแบบวิหารท�มซึ่ดหล้งคาดาน












หนาแล้ะหล้งอยางล้ะ 1 ซึ่ดนัน เปันรปัแบบทีแพุรหล้ายในพุะเยาในชีวิงราวิพุุทธศตวิรรษ







ท 24 กอนการเขามามอทธพุล้ทางการเมองการปักครองจัากภูาคกล้าง ซึ่งการล้ดชีนหล้งคา























ล้กษณะดงกล้าวิ ยงพุบในวิหารพุระพุทธ วิดพุระธาตุล้าปัางหล้วิงท�สะทอนอทธพุล้สุโขทย


















ดงทไดกล้าวิมาแล้วิ จังเปันไปัไดวิารปัแบบการล้ดชี�นหล้งคาอาจัไดอทธพุล้สโขทย











สวินผู้งพุนวิหารท�เปันสเหล้ยมผู้นผู้าไมยกเกจันน สะท้อนอทธพุล้วิหาร หรออโบสถ


























แบบไทล้อ หรอกล้มวิหารล้มนาองในเขตเมองเชียงแสนกเปันได ตอมาในสมยหล้ง













ไดมอทธพุล้ของรปัแบบอโบสถ ภูาคกล้างเขามาปัะปัน แล้ะผู้สมผู้สานกบล้กษณะทองถิ�น


ผู้าน “แบบพุระอโบสถเพุอกอสรางในตางจัังหวิด” อนเปันงานกอสรางแบบไทยปัระเพุณ ี



















จังกล้ายเปันล้กษณะของรปัทรงวิิหารพุะเยาทีพุบไดมากในปััจัจับน
74









(4) กลุมวหารู้ในเข่ตลุมนานาน จัังหวดนาน



ล้กษณะของวิหารในเขตล้มนานาน จังหวิดนาน













ทมอตล้กษณเฉพุาะถ�นทมการศกษาแล้ะมักถกกล้าวิถง คอ วิหาร

















แบบไทล้อ เมองนาน ปัจัจับนรปัแบบวิหารทพุบในเมองนานสวินใหญ ่







มการปัฏสงขรณ ซึ่อมแซึ่มใหมซึ่งไดรบอทธพุล้ศล้ปัะแบบ














รตนโกสินทร แล้ะบางแห่งสะทอนถงอทธพุล้ทางศิล้ปัะสถาปัตยกรรม









แบบสโขทยไวิดวิย เนองจัากเมองนานเปันเมองทมสายสมพุนธกบ














ทงล้านนา เชียงแสน พุะเยา แล้ะสโขทย ตล้อดจันหล้วิงพุระบาง








ทงในทางการเมองการปักครอง การศาสนา แล้ะเส้นทางการคมนาคม




เชีอมตอกนระหวิางดนแดนในล้กษณะชีมทางการคาแล้ะเสนทาง









การเดินทพุ โดยเฉพุาะอย่างย�งการติดต่อกับเมองเชีียงใหม่ ศูนย์กล้าง



อาณาจัักรล้้านนาผู้านทางเม่องปัง ในเขตจัังหวิดพุะเยา ผู้านเวิยงล้อ








เขาสเชียงใหม ซึ่งเปันเสนทางเดนทพุครงทพุระยาตโล้กราชี











ยาตราทพุมาตเม่องนาน


83


ในศล้าจัารึกหล้ักท� 64 (วิัดพุระธาตชี้างคาฯ)



สะท้อนให้เห็นควิามสัมพุันธ์ทางเครอญาติระหวิ่างชีนชี�นปักครอง







เมองนานแล้ะสโขทย ในขณะทควิามสมพุนธกบล้านนา









เมองเชียงใหม่เปันไปัในล้ักษณะของการเปั็นเมองปัระเทศราชี







เนองจัากพุญาตโล้กราชีตเม่องนานไดใน พุ.ศ.1993 ทาใหเม่องนาน









เปันสวินหนงของอาณาจักรล้านนา ทตองสงสวิยเกล้อบอมางให้แก ่

















เมองเชียงใหม จันกระทงพุระเจัาหงสาวิดบเรงนองตเมองเชียงใหม ่





ไดในปั พุ.ศ.2101 ทาใหเจัาผู้ครองนครนานตองหนไปัพุงพุา












เมองหล้วิงพุระบาง จัากหล้กฐ์านทางปัระวิตศาสตรแล้ะจัารก



ตานานต่างๆ ยังพุบร่องรอยหล้ักฐ์านทสาคัญท�สะท้อนถึงอิทธพุล้






ทางวิฒนธรรม ทังจัากสโขทยแล้ะล้้านนา ในรปัแบบงานศล้ปักรรม





จัานวินมาก เชี่น เจัดียวิัดพุระธาตุชี้างคำาวิรวิิหาร ซึ่ึงเปั็นรูปัแบบ




84


เจัดยชีางล้อม ทไดรบอทธพุล้จัากสโขทย – ล้านนาทถายทอดมาจัาก



















ศล้ปัะล้งกา อกตอหนง เจัดยวิดสวินตาล้องค์เดมทมรปัแบบเปัน













เจัดยทรงพุุมขาวิบณฑแบบสโขทย เปั็นต้น





85
75












ภูายหล้งจัาก “ยคเกบผู้กใสซึ่า เกบขาใสเมอง” ของล้านนา





ทมการเทครวิจัากทตางๆ ไปัตงถนฐ์านในเมองเขตวิฒนธรรมล้านนา ทาใหชีวิงเวิล้า


























ดงกล้าวิเปันชีวิงเวิล้าแหงการฟื้นฟื้บานเมอง ในเมองนานนนสถาปัตยกรรม








จัาพุวิกวิหาร อโบสถ แล้ะพุระเจัดยตามวิดตางๆ ในเมองนานทยงหล้งเหล้อ













ในปัจัจับน สวินใหญ่สรางขนในชี่วิงพุทธศตวิรรษท� 24-25 (พุ.ศ. 2329-2474)









ซึ่งเปันชีวิงหล้งจัากทเจัาอตถวิรปัญโญข�นครองเมองนานแล้ะขอเปั็นขา









ขอบขัณฑสีมาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในปัี พุ.ศ.2331 จัึงเปั็นชีวิงทศล้ปักรรม









ของเมองนาน ไดรบการฟื้นฟื้อกวิาระหนง ซึ่งสวินใหญแล้วิเปันการล้อกเล้ยนแบบ














ของเดม หรอการรับเอาอทธพุล้ศล้ปัะรปัแบบอนจัากภูายนอกมาดัดแปัล้ง
















ใหเขากบควิามนยมของชีางพุนเมอง เชีน ศล้ปัะรตนโกสนทร ศล้ปัะล้าวิ หรอแมแต ่









ศล้ปัะพุมา-ไทใหญ เปันตน
86


วิหารในเมองนานสวินใหญ่จัะมผู้งอาคารเปั็นรปัสเหล้ยมผู้นผู้า














ตงหนหนาไปัทางทศตะวินออก หล้งคาจัวิซึ่อนล้ดหล้นกน มมขยนออกมาดานหนา




















เชีน วิหารวิดพุระธาตแชีแหง วิดหนองบวิ แล้ะวิดเบงสกด เปันตน วิหารแล้ะอโบสถ











ทสรางขนในระยะหล้ังนคงไดรบอทธพุล้ทางรูปัแบบสถาปัตยกรรมจัากล้านนา
















พุมา แล้ะรตนโกสนทร ทาใหปัรากฏล้กษณะผู้สมผู้สานของอิทธพุล้ดงกล้าวิ















บนตวิอาคาร นอกจัากนในชีวิงปัล้ายพุทธศตวิรรษท 25 เปันตนมา เกดการ






เปัล้ยนแปัล้งปัระโยชีนการใชีสอยตวิอาคารข�น โดยวิดตางๆ นยมผู้กพุทธสมา









วิิหารทมีอยเดิมให้ใชี้เปั็นอุโบสถในคราวิเดียวิกัน เพุ�อการปัระหยัดงบปัระมาณ




ในการสรางอาคาร ตัวิอย่างเชี่น วิิหาร (อุโบสถ) วิัดภููมินทร์ ทีเปั็นอาคารจััตุรมุข

87






ซึ่งเปันรปัแบบพุเศษของสถาปััตยกรรมวิิหารในเม่องนาน
76








นอกจัากน�วิหารในเขตอำาเภูอเมองนาน ทมล้กษณะ








คล้้ายคล้งกบวิิหารในเขตลุ้มนากก-อง จัังหวิดพุะเยา เชีน วิิหารวิดพุญาภูู











ทีมผู้งพุ่นวิิหารแบบสี�เหล้ียมผู้่นผู้าหนากระดานไมยกเกจั มโถงหนาวิิหาร







หล้ังคาล้ดชี�นด้านหน้าแล้ะด้านหล้ังอย่างล้ะ 1 ซึ่ด ซึ่�งเปั็นรปัแบบทพุบมาก
ในพุะเยา











เนองจัากจังหวิดนาน เปันถนฐ์านทมปัระชีาชีน








เปั็นชีาวิไทล้�ออยอาศัยเปั็นจัานวินมาก โดยเฉพุาะอย่างย�งในชีวิงทมีการ











อพุยพุครงใหญใน “ยุคเกบผู้กใสซึ่า เกบขาใสเมอง” ในสมยของ










พุระยากาวิล้ะ แหงเมองเชียงใหม โดยทชีาวิไทล้อในเขตเชียงใหม-ล้าพุน




อพุยพุมาจัากเมองยองแล้ะเมองตางๆ ทางฝ�งตะวินตกของแม่นาโขง







ในขณะทชีาวิล้อในพุะเยา เชียงราย แล้ะนาน มาจัากเมองตางๆ ในฝงตะวิน




















ออกท�ตดกบล้านชี้าง แล้ะน่าน โดยเฉพุาะท�อาเภูอเชียงคำา อาเภูอเชียงม่วิน









แล้ะอาเภูอซึ่าง จังหวิดพุะเยา แล้ะอาเภูอทาวิงผู้า อาเภูอปัวิ อาเภูอทงชีาง








กงอาเภูอทงหล้วิง แล้ะก�งอาเภูอแม่จัรม เปั็นตน ในท�นจัะขอกล้่าวิถง








เพุียงวิิหารรปัแบบไทล้�อในเมองน่าน ซึ่�งเปั็นวิิหารทมล้ักษณะพุ�นถ�น











เม่องนานเปันหล้ก

จัากการศกษาของ ชียวิฒ บญเอนก (2548)











พุบวิาสามารถแบงกล้มรปัแบบวิหารไทล้อเมองนานไดอย 2 รปัแบบ


















คอ วิหารไทล้อทรงฮิางหงส แล้ะวิหารไทล้อทรงโรง โดยวิหารไทล้อทงสอง









แบบมผู้งพุนอาคารเปันแบบสเหล้ยมผู้นผู้าหนากระดานไมยกเกจั แตแบบ












ทรงโรงจัะมการเพุิมมขโถงดานหนา



77

วหารไที่ล่�อที่รงฮ่่างหงส











เปันรปัแบบทยดถอเหมอนวิหาร

ตนแบบในสิบสองพุนนา มกพุบในแถบ



จังหวิดนานแล้ะพุะเยา จัะมีล้ักษณะ


88





ของหล้งคาปักนกคล้มโดยรอบ เรยกวิา





“หล้งผู้ด” ชี�นบนสุดซึ่้อนดวิยหล้งคาทรงจัวิ






เรยกวิา “หาน” ไดแก วิิหารวิดดอนมล้ วิิหาร


วิดตนแหล้ง แล้ะวิหารวิดหนองแดง เปันตน






มล้ักษณะโครงสร้างหล้ังคาเปั็นระบบเสา








แล้ะคาน โดยทเสาทาหนาทรบนาหนก





โครงสรางหล้งคาสวินบนถายตอไปัยงคาน วหารไที่ล่อที่รงโรง






ไทล้อเรยกระบบนวิา “ โกม” ซึ่ึงคล้้ายคล้ึงกับ เปันกล้มทมพุฒนาการทางรปัแบบ







89












โครงสร้างแบบต่างไหมทพุบไดท�งในล้้านนา แล้ะมล้กษณะเฉพุาะตนทไดรบอทธพุล้








หล้วิงพุระบาง เชีียงตุง แล้ะสิบสองพุันนา ทางดานสถาปััตยกรรมของทองถิ�น ผู้สมผู้สาน



เปันตน แตบางแหงกใชีระบบ “ตางโย” กบวิฒนธรรมล้านนา มรปัแบบทรงหล้ังคา











90

แทนตางไหม เชีน วิหารไทล้�อวิดหนองแดง แบบจัวิซึ่อนตบสองชีน ฐ์านยกสง ผู้นงวิหารเตย
















อาเภูอเชีียงกล้าง จัังหวิดนาน


หล้ังคาคลุ้มตา เชี่น วิิหารวิัดร้องแง วิิหาร



วิดเบงสกด แล้ะวิหารวิดหนองบวิ โดยเฉพุาะ







วิหารวิดหนองบวิ เปันวิหารไทล้อแหงเดยวิ









ทมผู้งพุนแบบยกเกจั หรอล้ดควิามกวิางของผู้ง ั














พุนอาคารในสวินหนา แตสนนษฐ์านวิา







โครงสรางจัวิมขโถงดานหนานาจัะสรางเพุมใหม ่





ในภูายหล้ง เพุราะมควิามแตกตางจัากการ



ยกเกจัแบบเชียงใหม หรอทเรยกวิา “วิหาร ภูาพุที 33















หกจั�อก” เนองจัากวิิหารวิดหนองบวิมล้กษณะ วิิหารไทล้่อ วิดหนองบวิ






อาเภูอทาวิงผู้า จัังหวิดนาน




ของการเพุมพุนทเขาไปัมากกวิาการยกเกจั กบโครงสรางแบบ “ขอมา-ตางไหม”


















ผู้งพุ่น อกทังยงพุบการใชีระบบขอมา-ตางไหม





แบบล้้านนาปัรากฏอยดวิย



78


ภูาพุที 32




วิิหารไทล้่อ วิดหนองแดง อาเภูอเชีียงกล้าง จัังหวิดนาน





แล้ะโครงสรางหล้งคาแบบใชี “ตางโย”










ภูาพุที 33




วิิหารไทล้่อ วิดหนองบวิ



อาเภูอทาวิงผู้า จัังหวิดนาน



กบโครงสรางแบบ “ขอมา-ตางไหม”





79







จัากทกล้าวิมาขางตนเกยวิกบรปัแบบของวิหารล้านนา




















ทพุจัารณาตามแหล้งล้มนาในเขตวิฒนธรรมล้านนา คอล้มนา



ปัง-วิง เชีน กล้มวิิหารจัังหวิัดเชียงใหม ล้าพุูน แล้ะล้าปัาง
















ล้มนากก-อง เชีน กล้มวิหารในเมองโบราณเชียงแสน เวิยงล้อ



แล้ะบางแหงในเขตจังหวิดพุะเยา กล้มวิหารในจังหวิดพุะเยา
























แล้ะกล้มวิหารในเขตล้มนานาน จังหวิดนานนน เปันการจัดกล้ม



ตามล้กษณะของผู้งพุนวิหาร แล้ะล้กษณะทางกายภูาพุภูายนอก








โดยวิเคราะหรวิมกบบรบททางปัระวิตศาสตร ควิามสมพุนธ ์





ทางการเมอง ศาสนาแล้ะวิัฒนธรรม ตล้อดจันเส้นทางคมนาคม



ตดตอทีมปััจัจััยทางภููมศาสตรเปันตวิกาหนด ซึ่งจัะพุบวิาวิิหาร

























ในล้มนาเหล้านมล้กษณะรวิมแล้ะแตกตางกน ทงในมตกายภูาพุ

ภูายนอก องค์ปัระกอบทางสถาปัตยกรรม แล้ะเชีงชีาง







ทเล้อนไหล้ไปัมาในพุนททมการแล้กรบปัรบเปัล้ยนทาง














วิฒนธรรมระหวิางกน แตกยงแฝงไวิซึ่งอตล้กษณเฉพุาะตวิ










ของแตล้ะทองถนทอาจัปัรากฏในรปัของงานศล้ปักรรม










องคปัระกอบทางสถาปััตยกรรม ตล้อดจันเทคนคการกอสราง


80









โดยมากแล้วิล้กษณะรวิมกนมกปัรากฏในรปัของผู้งพุนอาคาร











โดยเฉพุาะอย่างยงผู้งพุนสเหล้ยมผู้นผู้าแบบหนากระดาน ไมยกเกจั












ซึ่งพุบการใชีผู้งล้กษณะนีแพุรหล้ายในเขตเชีียงแสน พุะเยา แล้ะนาน












ในขณะทเชียงใหม ล้าปัาง ล้าพุนนยมผู้งพุนแบบยกเกจัมากกวิา









แตกระนนกพุบฐ์านวิหารโบราณแบบส�เหล้ยมผู้นผู้าหนากระดาน



ทมทงมขหนาย่นออกมา แล้ะไม่ม เชีนในเขตโบราณสถานเวิยงกมกาม















เวิียงท่ากาน แล้ะบริเวิณวิัดร้างในพุ�นทวิัดอุโมงค์สวินพุุทธธรรม














ดวิยเชีนกน จังอาจัเปันไปัไดวิา ผู้งพุนวิหารแบบสเหล้ยมผู้นผู้า






หนากระดาน ไมยกเกจันัน เปันรปัแบบทีเรยบงายทีสามารถออกแบบ

















่�

โครงสรางหล้งคาแบบเครองไมใหครอบคล้มพุนทไดไมซึ่บซึ่อนเทากบ
















ผู้งพุ่นทีมการยกเกจั หร่อยอมม เนองจัากการยอมมผู้งพุ่นนัน จัะตอง





คานวิณโครงสร้างในสวินหล้ังคาใหสัมพุันธกับผู้ัง ทาใหต้องมีการ




เตรยมเคร่องไม้โครงสร้างหล้ังคาท�ยงยากกวิ่า ปัระกอบกับล้กษณะ







ผู้ังพุ�นแบบยกเกจัน�น เปั็นอิทธพุล้จัากรปัแบบของสถาปััตยกรรมอินเดีย












ทสงผู้านไปัยังสถาปัตยกรรมท�เกยวิเนองกบพุทธศาสนาในศรีล้งกา
















สงตอมายงมอญไปัจันถงกมพุชีา ทถอไดวิาเปันการออกแบบ



ทางสถาปััตยกรรมทีใชีศาสตรชีันสงในการกอสราง





81

จัากหล้ักฐ์านทางโบราณคดี แล้ะผู้ล้การศึกษาจัากรายงาน





การวิจัยตางๆ อาจัเปั็นไปัได้วิาในสมัยกอนหน้าพุญามังราย









บรเวิณทเปันเวิยงกมกามแตเดมเปันชีมชีนมอญหรภูญชีย


















มการกอสรางศาสนสถานท�มล้กษณะผู้งเปันแบบย่อมมอยกอนแล้วิ
เมอมการสรางสถาปัตยกรรมในพุทธศาสนาขน จังมรากฐ์านเดม











แล้ะนามาเปันตนทนในการออกแบบ ปัระกอบกบไดรบแรงบนดาล้ใจั















ในการออกแบบจัากเมองพุกาม แล้วิมการปัรบใชีระบบโครงสราง














แบบ “ขอมา-ตางไหม” หรออาจัมมากอนแล้วิตงแตสมยเมองเชียงแสน



เดม มาออกแบบคานวิณโครงสรางใหสามารถใชีกบผู้งพุนแบบย่อมม
















ไดอยางเหมาะเจัาะล้งตวิ แล้ะยังคงไวิซึ่งคตการสราง “วิหาร”







ทมมาแตพุทธกาล้ คอตองม “คนธกฏ” ของพุระพุทธเจัาแยกพุ�นท ี �



















ตางหากจัากตวิวิหาร แตยงเชีอมกนดวิยอโมงคหรอหองกระสน





ทมชีองเปัดใหพุระภูกษสงฆ์แล้ะฆ์ราวิาส สามารถกราบนมสการ









แล้ะมองเห็นไดจัากในตัวิวิหารเสมอนพุระพุทธองค์ทรงเปั็นปัระธาน


ในพุธกรรมตางๆ นันเอง






สวินล้กษณะของหล้ังคาแล้ะการซึ่้อนชีนของวิหารท�ปัรากฏ









ในล้มนาตางๆ นน ดจัากภูายนอกอาจัเหมอนหรอแตกตางกน

















แตภูายในอาจัใชีระบบโครงสร้างหล้งคาทเหมอนหรอแตกตางกนกได ้





ขึนอยกบวิาชีาง หร่อ “สล้า” ผู้สรางวิิหารนัน เล้่อกใชีระบบโครงสราง








แล้ะเทคนคใดในการกอสราง



82













สามารถสรปัเบองตนไดวิา กล้มวิหารในล้มนาปัง-วิง















มควิามเกาแกกวิาในเขตพุนทอนๆ อาจัเนองมาจัากการพุัฒนา










ตวิงานสถาปัตยกรรมทมพุนฐ์านสวินหนงมาจัากมอญหรภูญชีย







ทอาจัมอายเกาแกกวิาพุทธศตวิรรษท 19 อกทงยงเปันพุนทๆรบเอา





















พุทธศาสนาสายล้งกากอนพุนทอนในเขตวิฒนธรรมล้านนา วิหารใน













ล้มนาปัง-วิงนมล้กษณะของผู้งพุนทพุบมากเปันแบบยกเกจัดานหนา





















2 หอง แล้ะดานหล้ง 1 หอง หร่อที�เรยกวิา “วิิหารหกจั�อก” แล้ะบางแหง





พุบการเชีอมตอของมณฑปัท้ายวิหารเพุ่อปัระดษฐ์านพุระพุทธรูปั








แยกตางหากจัากพุนทวิหาร อนเปันการกาหนดขอบเขตศกดสทธ � ิ














ซึ่งพุบการแยกพุ่�นทีล้กษณะเดยวิกนนี ในสโขทย เชีล้ยง แล้ะศรสชีนาล้ย






ดวิยเชีนกน หากแต่มรปัแบบแล้ะรายล้ะเอยดแตกตางกนไปั ในล้านนา






















นกปัระวิตศาสตรศล้ปัะเรยกวิาวิหารทมมณฑปัปัราสาทตอทายวิา








“วิหารทรงปัราสาท” ซึ่ึงล้กษณะดงกล้าวิอาจัไดรบแรงบนดาล้ใจั










จัากสถาปัตยกรรมกพุญาในเมองพุกาม หรอมอญหรภูญชียกเปันได ้






นอกจัากน�บางแหงยังมการสราง “โขงพุระเจัา” แทนการสร้างฐ์านชีุกชี ี
เพุ�อปัระดิษฐ์านพุระปัระธานของวิัดซึ่�งเปั็นล้ักษณะเด่นทพุบในวิิหาร






เขตลุ้มนาปัง-วิง













ล้กษณะเดนทสาคญอกปัระการของวิหารในล้มนาปัง-วิง




ค่อ การใชีระบบโครงสรางหล้งคาแบบขอมา ซึ่�งอาจัใชีรวิมกบโครงสราง













แบบต่างไหม หรอต่างโยก็ได้ แล้วิแต่การคานวิณโครงสร้าง แล้ะขนาด





ของอาคาร ซึ่�งวิิหารล้้านนาล้มนาปัิง-วิัง นิยมใชี้โครงสร้างแบบข�อ











มา-ตางไหม ทมเสาสะโก๋นเปันองคปัระกอบพุิเศษททาใหแตกตาง



จัากระบบโครงสรางหล้งคาอนๆ ทมล้กษณะการถายนาหนกคล้ายๆกน














จัะกล้าวิในหวิขอถดไปั




83


ภูาพุที 34






ภูาพุสนนษฐ์านรปัแบบทางสถาปััตยกรรมของวิดกานโถมสมยหล้งสด






ทีมาของภูาพุ : ชีาญณรงค ศรสวิรรณ, รายงานการวิิจััยฉบบสมบรณ ์









เรอง สถาปััตยกรรมในพุ่�นที�ปัระวิตศาสตรเวิยงกมกาม : กรณศกษา วิดกานโถม,






(เชีียงใหม : คณะสถาปััตยกรรมศาสตร มหาวิิทยาล้ยเชีียงใหม, 2545), หนา 84.



สวินกล้มวิหารในเขตล้มนากก-อง เมองเชียงแสน โบราณสถานเวิยงล้อ























แล้ะวิหารในเมองพุะเยานน มล้กษณะของผู้งวิหารเปันแบบสเหล้ยมผู้นผู้าหนากระดาน











ไมยกเกจั หร่อยกเกจัเพุยง 1 หอง เปันล้กษณะรวิมหล้กที�พุบ แล้ะการซึ่อนชีันของตบ








หล้งคามกไมมควิามสมพุนธกบการยกเกจัในผู้งพุนอาคาร แต่เปันการล้ดระดับควิามสง











ของเสาโครงสร้าง ในเขตเมองโบราณเชียงแสน มควิามหล้ากหล้ายของรูปัแบบฐ์านวิหาร






แล้ะยงสะทอนควิามสมพุนธบางปัระการกบการวิางผู้งวิด แล้ะวิหารของเมองสโขทย






















อกทงยังมการปัรบเปัล้ยนปัระโยชีนใชีสอยของวิหาร โดยการผู้กพุทธสมาวิหารเปันอโบสถ







คล้้ายคล้งกบวิิหารหล้ายแหงในจัังหวิดนาน รปัแบบโครงสรางหล้งคาเปันแบบโครงสราง

















ขอมา-ตางไหม สวินวิหารในจังหวิัดพุะเยา อาจัได้รบอทธพุล้จัากเชียงแสน แล้ะกล้ม










ไทล้อผู้สมผู้สานกน โดยวิหารทพุบมากมกจัะมการล้ดชีนหล้งคาหนาแล้ะหล้งอย่างล้ะ









1 ซึ่ด ซึ่งโครงสรางหล้งคาอาจัพุบเพุยงระบบ “ตางไหม” หร่อ “ตางโย” แต่ไม่มีข่อม้า




91



บนผู้งสเหล้ยมผู้นผู้าแบบหนากระดานไมยกเกจั แตกพุบวิหารทมระบบขอมาตางไหม




























แสดงถงอทธพุล้ล้้านนาอยบาง เชีน วิิหารวิดทาฟื้าใต อาเภูอเชีียงมวิน จัังหวิดพุะเยา



84




















สวินในพุนทล้มนานาน จังหวิดนาน วิหารท�พุบในปัจัจับนสวินใหญ ่









ไดรบการสร้าง หรอบรณะฟื้นฟืู้ในชีวิงพุทธศตวิรรษท� 24-25 ทปัรากฏ










รองรอยควิามสมพุนธทางศล้ปักรรมแบบสโขทย ล้านนา พุมา







แล้ะรัตนโกสินทร์ แต่วิิหารทมล้ักษณะท้องถ�นสูง คอ กล้มวิิหารไทล้�อ














เม่องนาน ซึ่งมอย 2 รปัแบบทีเรยกวิา ทรงฮิางหงส แล้ะทรงโรง โดยมกม ี















ผู้งพุนวิหารเปันแบบสเหล้ยมผู้นผู้าหนากระดาน แล้ะมโครงสรางหล้งคา









ททองถนเรยกวิา “ระบบโกม” คล้ายกบ “ตางไหม” แล้ะแตกพุบใน













แบบอนๆ ดวิย เชีน แบบขอมา-ตางไหม แล้ะแบบตางโยดวิยเชีนกน








เชีน ในงานศกษาของ สามารถ สรเวิชีพุนธ ทีทาการสารวิจัรงวิดกลุ้มวิิหาร


















ไทล้อในจังหวิดนาน พุบวิาโครงสรางหล้งคาสวินใหญเปันโครงสรางในระบบ



ท�เรียกวิ่า “ต�งโย” จัะเห็นได้วิ่ารูปัทรงต่างๆ ทีจัำาแนกผู้่านล้ักษณะ

92


ทางกายภูาพุภูายนอกนน แมวิามล้กษณะเฉพุาะทสะทอนถงอตล้กษณ ์










ไทล้�อ แต่บางแห่งก็อาจัปัรากฏอิทธพุล้ของล้านนาในสวินของงานโครงสร้าง







หร่องานศล้ปักรรมไดเชีนกน

85






เชื่งอรรถที่�ายสวนำที่ 2 บทควิามวิชีาการ ล้านนาคดีศกษา มหาวิทยาล้ัย




เชียงใหม, (เชียงใหม่: สเทพุการพุิมพุ, 2557),




หนา 222.







1 โชีตมา จัตรวิงค, วิหารพุระพุทธรปั 12 กรมศล้ปัากร, รายงานการขดแตง



สถาปัตยกรรมเปัรียบเทยบไทย เมียนมา แล้ะศรี แล้ะบูรณะโบราณสถานเวิียงกุมกาม, (กรุงเทพุฯ:




















ล้งกา, (กรงเทพุฯ: อทพุบล้ชีชีง, 2563), หนา 469. บรษทสานกพุมพุสมาพุนธ, 2534), หนา 98.












2 ชียยศ อษฏวิรพุนธ แล้ะภูาณพุงษ ์ 13 อรณรตน วิเชียรเขยวิ แล้ะเดวิด เค.






เล้าหสม, วิิหารล้ายคา วิดพุระสงห สถาปััตยกรรม วิัยอาจั, ตานานพุ�นเมองเชีียงใหม่, (กรุงเทพุฯ:
















แล้ะจัตรกรรมฝาผู้นง, (กรงเทพุฯ: โอ.เอส.พุรินติง สานกพุมพุซึ่ล้คเวิอรม, 2543) หนา 36.






เฮิาส, 2543), หนา 4. 14 ตะวิน วิระกล้, วิดเวิยงกมกาม,












3 โชีตมา จัตรวิงค, เรองเดม, หนา 143. วิทยานิพุนธสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑต











4 โชีตมา จัตรวิงค, เรองเดม, หนา 145. บณฑตวิทยาล้ย มหาวิทยาล้ยศล้ปัากร,2550,






5 วิรล้ญจัก บณยสรตน, บทควิามเรอง หนา 75.














“วิหารไมมปัางเอกในจังหวิดล้าปัาง” วิารสารเมอง 15 เมธ เมธาสิทธ สขสาเรจั, พุฒนาการ














โบราณ ปัที 23 ฉบบที 2 หนา 70. เวิยงกมกามจัากหล้กฐ์านโบราณคด, วิิทยานพุนธ ์















6 สรพุล้ ดารหกล้, ปัระวิตศาสตร ์ ดษฎบณฑต ภูาควิชีาโบราณคดี มหาวิทยาล้ย






แล้ะศล้ปัะล้้านนา, (กรงเทพุฯ : เมองโบราณ, ศล้ปัากร, 2552, หนา 184-241.










2561), หนา 194-201. 16 สรพุล้ ดารหกล้, ปัระวิตศาสตรแล้ะ










7 ปัฐ์ม พุวิพุนธสกล้, วิิหารบบ “วิิหารหก ศล้ปัะล้านนา, (กรุงเทพุฯ: เมองโบราณ, 2561),


จัอกล้านนา” บทควิามปัระกอบการสัมมนา หนา 197.








นานาชีาติ ไทยศึกษา คร�งท� 3 14-19 ตล้าคม 2539 17 ศนยมานษยวิทยาสรนธร.(2564).















ณ โรงแรมโล้ตสปัางสวินแกวิ แล้ะเชียงใหมออรคด, ฐ์านขอมล้แหล้งโบราณคดทสาคญในปัระเทศไทย.


หนา 226. ส่บคน 23 เมษายน 2564. จัาก https://www.




8 ธวิชีชีย ทาทอง, มอกวิหาร: วิธการ sac.or.th/databases/archaeology/archaeol-






กาหนดระเบียบสดสวินในการออกแบบวิหารใน ogy/








ภูาคเหนอของไทย, บทควิามในวิารสารหน้าจัวิ: วิา 18 โชีตมา จัตรวิงศ, วิหารพุระพุทธรปั





ดวิยสถาปัตยกรรม การออกแบบ แล้ะสภูาพุ สถาปัตยกรรมเปัรียบเทยบไทย เมียนมา แล้ะศรี













แวิดล้อม ฉบบท 32 (มกราคม-ธนวิาคม 2560), ล้งกา, (กรงเทพุฯ: อทพุบล้ชีชีง, 2563), หนา 161.













หนา 53. 19 เมธ เมธาสทธ สขสาเรจั, เรองเดม,


9 ปัฐ์ม พุวิพุนธสกล้, เรองเดม, หนา 225. หนา 187-188.

















10 ธวิชีชีย ทาทอง, เรองเดม, หนา 56-57. 20 อรณรตน วิิเชีียรเขยวิ แล้ะเดวิิด เค. วิย















11 วิรล้ญจัก บณยสรตน, พุทธ อาจั, ตานานพุ่นเม่องเชีียงใหม, (เชีียงใหม: สานก


สถาปัตยกรรมล้านนา: วิหาร อโบสถ หอธรรม,


86



















พุมพุซึ่ล้คเวิอรม, 2543), หนา 39-40. ตงแตยคฟื้นฟื้อาณาจักร ถงยุคครบาศรวิชีย









21 โชีตมา จัตรวิงค, เรองเดม, หนา 142. พุ.ศ. 2339-2481, วิทยานพุนธศล้ปัศาสตรมหา









22 ชีาญณรงค์ ศรสวิรรณ, รายงานการวิจัย บัณฑิต ภูาควิชีาศล้ปัสถาปััตยกรรม, มหาวิิทยาล้ัย




ฉบบสมบรณ เรอง สถาปัตยกรรมในพุ�นท � ี ศล้ปัากร, ปัการศกษา 2544, หนา 404.









ปัระวิตศาสตรเวิยงกมกาม: กรณศกษา วิดกาน 28 เมธี เมธาสิทธิ สุขสาเรจั, เร�องเดิม, หน้า











โถม, (เชียงใหม: คณะสถาปัตยกรรมศาสตร ์ 223.





มหาวิิทยาล้ยเชีียงใหม, 2545), หนา 91. 29 จัรศกดิ เดชีวิงศญา, เรองเดม, หนา 6.












23 สรชีย จังจัตงาม, บาทควิาม เรอง 30 เกรยงไกร เกิดศร, พุกาม การก่อรปัของ





ศล้ปักรรมภูายในวิัดอโมงคสวินพุทธธรรม ตาบล้ส ุ สถาปัตยกรรมจัากกอนอฐ์แหงศรทธา, (กรงเทพุฯ:











เทพุ อาเภูอเมอง จังหวิัดเชียงใหม่, ใน พุนท ี � อษาคเนย, 2551), หนา 154.


















ศกดสทธในบรเวิณวิดอโมงคสวินพุทธธรรม 31 จัรศกดิ เดชีวิงศญา,ปัระวิตศาสตรแล้ะ
















ปัระวิตศาสตร ศล้ปักรรม แล้ะวิทยาศาสตร์, ศล้ปักรรมเวิยงกมกาม, (เชีียงใหม: มล้นธสถาบน












(เชีียงใหม: วินดาการพุมพุ, 2561), หนา164-165. พุฒนาเม่อง, 2548), หนา 36.

24 ธวิชีชีย ทาทอง, มอกวิหาร : วิธการ 32 ชีาญคณต อาวิรณ, การศกษามรดก
















กาหนดระเบียบสดสวินในการออกแบบวิหารใน ศล้ปักรรมในเมองโบราณเวิยงล้อ: รปัแบบศล้ปัะ








ภูาคเหนอของไทย, บทควิาม ในวิารสารหนาจัวิ: แล้ะขอสนนษฐ์านรปัแบบโบราณสถาน, รายงาน







วิาดวิยสถาปัตยกรรม การออกแบบ แล้ะสภูาพุ การวิิจััย, (กรงเทพุฯ: สานกงานกองทนสนบสนน






แวิดล้อม, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาล้ย การวิิจััย(สกวิ.), 2560, หนา 132.








ศล้ปัากร (ฉบบที 32 (มกราคม-ธนวิาคม 2560), 33 เกรยงไกร เกดศร, วิิหารวิดบานแสน:







หนา 53. วิหารรวิมแบบล้านนาพุบใหมกล้างปัาเมองเชียง







25 ธวิชีชีย ทาทอง, มองสถาปัตยกรรมผู้่าน ตง, การปัระชีุมวิชีาการทางสถาปัตยกรรม















บทฮิาวิหารวิดพุระสงหหล้วิง เมองเชียงใหม, นานาชีาต สถาปัตยปัาฐ์ะ: สถาปัตยกรรมในดน





เอกสารปัระกอบการบรรยาย งานเสวินา แดนสวิรรณภููม, พุ.ศ. 2549, หนา 45-71.





วิชีาการ"จัารึกแล้ะเอกสารโบราณ 725 ปัเมอง 34 สรพุล้ ดารหกล้, เรองเดม, หนา 199-















เชียงใหม" เนองในวินอนรกษมรดกไทย 2 เมษายน 200.



2564, (เชีียงใหม: สถาบนวิิจััยสงคม, 2564). 35 เอกสทธ เรอนทอง, พุฒนาการของ








26 จัรศกด เดชีวิงศญา, วิดพุระสงห ์ แผู้นผู้งโบราณสถานในเมองโบราณเชียงแสนแล้ะ


















ศนย์กล้างพุทธศาสนาแหงหนงในล้านนาไทย เชียงแสนนอย, วิทยานพุนธศล้ปัศาสตรมหาบณฑต







ศกษาจัากโบราณวิตถสถาน, วิทยานพุนธศล้ปั ภูาควิิชีาโบราณคด มหาวิิทยาล้ยศล้ปัากร, ปัการ









ศาสตรมหาบัณฑต ภูาควิชีาโบราณคดี ศกษา 2556, หนา 31-32.






มหาวิิทยาล้ัยศล้ปัากร, ปัีการศึกษา 2535, หน้า 8. 36 ระบบโครงสราง “ชีวินโตวิ” (穿斗)











27 พุระนนท นนทขวิาง, การศึกษารปัแบบ เปันชีดโครงสรางของเสาทตงขนานกบหนาบน














โบสถ แล้ะวิหารล้านนาในเขตภูาคเหนอตอนบน ทเสาจัะสงตอเนองจัากพุนจัรดแปั ทาใหเสาทา






87



















หนาทรบแปัโดยตรง จัะมการเสยบขอเพุอเสรม วิทยานพุนธศล้ปัศาสตรมหาบณฑต ภูาควิชีา


ควิามแขงแรงใหแกเสา รปัแบบนนยมในภูาคใต ้ โบราณคดี, มหาวิทยาล้ัยศล้ปัากร, ปัการศกษา











ของจัน 2561. หนา 52.








37 เอกสทธ เรอนทอง, เรองเดม, หนา 127. 44 อรยธชี นกงาม, เรองเดม, หนา 5.










38 วิรล้ญจัก บณยสรตน, รายงานการวิิจััย 45 สรศกด ศรสาอาง, เมองนาน โบราณคด ี

















เรองแบบแผู้นศล้ปักรรมของวิหารพุนเมองล้านนา ปัระวิตศาสตร แล้ะศล้ปัะ, (กรงเทพุฯ:












ในระหวิางพุทธศตวิรรษท 20-24, (เชียงใหม: กรมศล้ปัากร, 2537).














คณะวิจัตรศล้ปั มหาวิทยาล้ยเชียงใหม, 2543), 46 สรศกดิ ศรสาอาง, เรองเดม, หนา 89.





หนา 70. 47 สรศกดิ ศรสาอาง, เรองเดม, หนา 95.














39 วิรล้ญจัก บณยสรตน, เรองเดม, 48 ศโรดม เสอคล้าย, การศึกษาเปัรียบ












หนา 68. เทยบพุฒนาการของวิหารไทล้�อ ระหวิางกรณ ี



40 พุระนนท นนทขวิาง, การศึกษารปัแบบ ศกษาในเมองนาน ปัระเทศไทย กบกรณศกษา














โบสถ แล้ะวิหารล้านนาในเขตภูาคเหนอตอนบน ในแควินสบสองปัันนา มณฑล้ยนนาน สาธารณรฐ์











ตงแตยคฟื้นฟื้อาณาจักรล้านนา ถงยคครบาศร ี ปัระชีาชีนจัน. บทควิามวิชีาการ ใน วิารสาร











วิชีย, วิทยานพุนธศล้ปัศาสตรมหาบณฑต ภูาควิชีา วิชีาการ ศล้ปัะสถาปัตยกรรมศาสตร มหาวิทยาล้ย



















ศล้ปัะสถาปััตยกรรม, มหาวิิทยาล้ยศล้ปัากร นเรศวิร ปัท 6 ฉบับท 1 มกราคม – มถนายน





ปัการศกษา 2544, หนา 404. 2558, หนา 9.















41 สธ เมฆ์บญสงล้าภู, รปัแบบของวิิหาร 49 ชียวิฒ บญเอนก, วิหารไทล้�อเมองนาน:








ในจังหวิดพุะเยา, วิทยานพุนธสถาปัตยกรรม รปัแบบแล้ะคติควิามเชี�อ, สารนพุนธศล้ปัศาสตร







ศาสตรมหาบัณฑต มหาวิทยาล้ัยเชียงใหม่, มาบณฑต ภูาควิชีาปัระวิตศาสตรศล้ปัะ








ปัการศกษา 2555. มหาวิทยาล้ยศล้ปัากร, ปัการศกษา 2548,








42 ชีาญคณต อาวิรณ, การศกษามรดก หนา 52.



ศล้ปักรรมในเมองโบราณเวิยงล้อ: รปัแบบศล้ปัะ 50 ศโรดม เส่อคล้้าย, เรองเดม, หนา 9.













แล้ะข้อสนนษฐ์านรปัแบบโบราณสถาน, รายงาน 51 ตางโย คอ โครงสรางหล้งคาปัระเภูท














การวิิจััย, (กรงเทพุฯ: สานกงานกองทนสนบสนน หนงทพุบในล้านนา เปันโครงสรางหล้งคาทวิาง









การวิิจััย(สกวิ.), 2560, หนา 44-45. ทแยงตวิพุาดจัากอกไกมายังขอ เพุอรบแปั กล้อน


42 ชีาญคณต อาวิรณ, ซึ่ากโบราณสถาน แล้ะไมระแนง อางองจัาก สชีล้ มล้ล้กะมาล้ย,




















ในเมองโบราณเวิยงล้อ: การศกษาทผู้านมาแล้ะขอ ระบบโครงสรางหล้งคา “ตงโย” ในงาน




สงเกตเบ่องตน, บทควิามวิิชีาการ วิารสารหนาจัั�วิ สถาปัตยกรรมในภูมภูาคล้านนา บทควิามวิชีาการ











ฉบบที 15 ปัระจัาปั พุ.ศ. 2561 หนา 90, 113. ในวิารสาร หน้าจัวิ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์




43 อรยธชี นกงาม, ควิามสมพุนธระหวิาง มหาวิทยาล้ยศล้ปัากร, ฉบบท 29 (มกราคม –

















เมองนานกบสโขทย แล้ะล้านนา ในชีวิงพุทธ ธนวิาคม), 2558.




ศตวิรรษท 19-22 จัากหล้กฐ์านทางโบราณคด,



88

(ตอนำที่ 3)



องคำปัระกอบที่างโคำรงสร�าง



สถาปััตยกรรม และงานำศลปักรรม













วิหารล้านนามระบบโครงสรางทมอตล้กษณเฉพุาะ








ทสะทอนผู้านรปัทรงของหล้ังคา แล้ะโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม
ตล้อดจันองคปัระกอบทางศล้ปักรรมตางๆ ททาใหวิหารล้านนามควิาม















แตกตางไปัจัากวิิหารในภูาคอนๆ รวิมทังยงมชีอเรยกองคปัระกอบตางๆ








ในภูาษาพุ�นเมองล้านนา ตล้อดจันมีกระบวินวิธการกาหนดระเบียบ















สดสวิน เทคนคการกอสรางทมล้กษณะเฉพุาะ แล้ะแมแตพุธกรรม











ทเกยวิของกบการแปัล้งสร้าง บรณะซึ่อมแซึ่ม หรอรอถอนวิหาร











กยงมขนตอนทแฝงไปัดวิยภูมปัญญาอนชีาญฉล้าดทผู้านการตกผู้ล้ก














แล้ะส่บทอดภููมปััญญาเชีงชีาง แล้ะจัารตพุธกรรมเหล้านีจัากรุนสูรุน





องคปัระกอบของวิหารล้านนา สามารถแบงออกไดเปัน








องคปัระกอบทางโครงสราง แล้ะองคปัระกอบทางศล้ปักรรม ได้ดังนี �


93
89

(3.1)



องคำปัระกอบที่างโคำรงสร�าง




ได�แก โคำรงสร�างหลงคำา ผู้นำงวหาร เสา และฐานำวหาร

( 1) ระบบโคำรงสร�างหลงคำา



โครงสร้างของวิิหารล้้านนาเปั็นระบบโครงสร้างเสา แล้ะคานรับนาหนัก











โครงสรางหล้งคา ทีเรยกวิา โครงสรางแบบ “ขอมา-ตางไหม” ทีมล้กษณะการ








ถายนาหนกจัากหล้งคาวิหารล้งมาตามส่วินของขอตางๆ ล้งสเสาแล้ะหล้งคา






















ปักนกดานล้าง 2 ขาง เหตทมการเรยกชีอโครงสรางนวิา “มาตางไหม”



เพุราะมีล้กษณะของการถ่ายแรงคล้ายคล้ึงกบการบรรทุกบนหล้ังมา













ชีาวิล้้านนาเรยกการบรรทกสมภูาระวิา “ตาง” แล้ะยังสอถง “ตั�ง” ซึ่งกค่อไม ้


ทีรองรบสมภูาระกอนทีจัะวิางบนหล้งมา สวินคาวิา “ตางไหม” เกียวิของกบ












ล้กษณะการบรรทกสนคาผู้าไหมของกองคาราวิานบนเสนทางสายไหม























ซึ่งเปันเสนทางการคาสาคญของภูมภูาคเอเชียตะวินออกเฉยงใตจัากจันสอนเดย










หรออาจัเรยกโครงสรางดงกล้าวิจัากควิามสามารถในการรองรบนาหนก








ทกดทบล้งมาของหล้งคาไดด เชีนเดยวิกบมาทมหนาทบรรทก (หรอตาง)











ผู้าไหมไปัขาย

94
ภูาพุที 35







“ตาง” ค่อการบรรทกสมภูาระที�มล้กษณะการถายนาหนกจัากบนล้งล้าง




สองฝั�งซึ่ายแล้ะขวิา ชีาวิล้้านนาใชีสาหรบบรรทกสมภูาระบนหล้งสตวิตาง



















เชีน มาตาง แล้ะวิวิตาง ทีมาของภูาพุ : เชีียงใหมทีคณไมเคยเหน


90




ระบบขีอม�า อตลกษณ ์

ขีองระบบโคำรงสร�างหลงคำาในำวหารล�านำนำา


ล้กษณะของโครงสร้างของวิหารล้านนาเปั็นแบบกรอบยึด














มมฉาก โครงจั�วิหล้กปัระกอบข�นดวิยไมททาหนาท 2 ปัระเภูท














ค่อ ตวิไมตังทียนอยตรงกล้างของตวิไมขอ แล้ะตวิไมขอซึ่งวิางนอน





พุาดไปัตามควิามกวิางของอาคาร หร่อที�เรียกวิ่าระบบโครงสร้าง
95
เสาแล้ะคาน

ล้กษณะสาคญของระบบโครงสรางน คอ “ชีดขอมา”





















ทปัระกอบดวิย ขอมา แล้ะเสาสะโกน หรอ เสาแกบโกน คาวิา “โกน”












มาจัากคาวิา โกล้น ทีหมายถงการกล้งไมใหเรยบ สวินคาวิา “แกบ”







่�
หมายถง การแนบตด หรอการปัระกบ เนองจัากเสาหล้วิงในวิหาร

มกเปันไม จังตองมการกล้ง เพุอใหมควิามเสมอกนตล้อดทงเล้ม
















แตเนองจัากไมเปันวิสดธรรมชีาตทมขนาดไมเทากน ดงนนในการ























ตดตังโครงสรางจังไมอาจัทาใหเรยบเสมอกนไดทังหมด จังตองมเสา










อกตนหนงทมขนาดเล้กกวิา สามารถทาใหเรยบเสมอกนไดตดแนบ




























กบตวิเสาหล้วิงอกทหนงเพุอเปันตวิยดโครงสามเหล้ยมทเรยกวิา








“ตางไหม” ในสวินของปักนกทีมขอมารองรบอกชีันหนึง




91






เสาสะโกน เปันองคปัระกอบสาคญของระบบ



โครงสร้างทเรยกวิา “ขอมา” แล้ะเปั็นโครงสร้าง






ท�เปั็นเอกล้ักษณ์เฉพุาะทปัรากฏในสถาปััตยกรรม

ล้านนา โดยเฉพุาะวิหาร เน่องจัากสล้่าล้านนาในอดีต













ตองการแกไขปัญหาเรองควิามไมเสมอกน หรอไมเทากน






ของเสาหล้วิง เมอตั�งเสาหล้วิงแล้้วิจัะตองยดโครงสราง

“ตางไหม” มกพุบวิาระยะของเสาหล้วิงกบตวิโครงสราง








ปักนกไมเทากนในแตล้ะตน จังทาใหทางานไดชีา












แล้ะยงยาก ดงนนเสาสะโกน จังเปันองคปัระกอบสาคญ









ทชีวิยแกปัญหาเรองนได โดยทชีางสามารถปัระกอบ




























ชีดข�อมานไดกอนทจัะนาไปัตดตงกบเสาหล้วิงอกทง






สามารถปัรบระยะแคบ-กวิางระหวิางเสาหล้วิง กบเสา

สะโกน ทงยงเปันตวิชีวิยยดโครงสรางใหมควิามมนคง












แขงแรงมากขึ�นอกดวิย



92



นอกจัากนี เสาสะโกน มกปัรากฏในตาราล้กขณะวิิหาร




หรอ สตรการกอสรางวิหารล้านนา เพุราะเสาสะโก๋นเปันตวิชีวิย














ในการคานวิณโครงสรางหล้งคา ในกระบวินการกอสรางวิหาร




ในล้านนาน�นมควิามแตกต่างจัากพุ�นทอน เน่องจัากชี่าง





จัะคานวิณโครงสรางหล้งคาเปันหล้ก แล้วิคอยตามดวิยเสา


















ซึ่งปักติแล้วิมกจัะเรมจัากเสาก่อน แล้วิคอยขนโครงหล้ังคา








เชีน ในตาราล้กษณะวิิหาร ฉบบพุระครอดล้ยสล้กตติ วิดธาตคา






จัังหวิดเชีียงใหม ดงนี �













“...ขัอัมานนหอัเอัาเกง (แปลวา ค์รง) ขัอัหลวง แถมนอักนน มา ้














ยหอัเอัาแปหลงมาแต่หวเขัามาแปค์อัค์ีบู ปนไหนหมายหนเปนขัอัมาย� ี









แล้วม้า3 น�นก็เอัาขัอัย�มาต่�งปูนไหนหมายห�นเป็นม้า 3 แล ไมขัอัหลวงอัน












ห้ก 6 เสย 2 สวนเปนสะโกนแกนนอักนนเปนค์อัค์บูเสย 1 ย�าแปขัึนบูนทั้ี�












อันห้ก 2 อันลุมนน มา 3 แปหล้งทั้้งมาเขัาต่นต่้งไหมชอันแล...”













โครงสร้างวิหารล้านนาในอดีตนนนยมใชีโครงสร้างไม ้










เนองจัากไม้หาไดงาย แล้ะทำางานไดสะดวิกกวิ่าวิสดอน










แตกระนันกพุบวิิหารบางหล้งใชีวิสดอน เชีน หน หร่อศล้าแล้ง









เปันโครงสราง ซึ่งพุบนอยในล้านนา จันบางครงไดชีอเรยกวิดนน










ตามวิสดทีใชีในการกอสราง เชีน วิดเสาหน เปันตน









93




ภูาพุที 36 - 38



โครงสราง “ตางไหม” ค่อชีดของเสาปัอก (เสาไมเตี�ย)















ทตงอยขอเรยงตวิซึ่อนชีนขนไปัในรูปัสณฐ์าน



สามเหล้ียม พุบทังในโครงหนาจััวิ แล้ะสวินปักนก






95


Click to View FlipBook Version