ความสําคัญและมีประโยชน์ตอ่ โลก ชั้นโอโซนอยู่ห่างจากผิวโลก ประมาณ 20 ไมล์ โดยอยู่ในบรรยากาศชัน้ สตราโตส
เฟียร์ ชั้นโอโซนจะช่วยปอ้ งกันไม่ใหร้ ังสีอุลตราไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์ส่องมาถึงโลกของเราดวงอาทติ ย์ทําให้เกิดรังสีที่
เปน็ อนั ตรายตอ่ ชีวิตด้วย ช้ันโอโซนมีความสําคัญอย่างย่ิง เพราะทาํ หน้าท่เี ป็นเกราะค้มุ กันปกป้องพืชและสตั วจ์ ากรังสีท่ี
เปน็ อันตรายของดวงอาทิตย์ ดังนน้ั หากชน้ั โอโซนบางลงเราก็ได้รบั การปกป้องน้อยลงด้วย เราเรยี กรังสีที่เป็นอันตราย
จากดวงอาทิตย์วา่ อุลตราไวโอเล็ต เปน็ รงั สที ีไ่ ม่สามารถมองเหน็ ได้ หากมีปรมิ าณ นอ้ ยรงั สีอลุ ตราไวโอเลต็ จะปลอดภัย
และมปี ระโยชน์ โดยชว่ ยใหร้ า่ งกายของเราได้รบั วติ ามนิ อี แตถ่ า้ เราไดร้ ับรังสอี ุลตราไวโอเล็ตทีม่ ากเกินไปจะเปน็ สาเหตุ
ท่ที าํ ให้ผวิ หนงั อกั เสบเนอื่ งจากแพแ้ ดดได้ นอกจากนีร้ งั สอี ุลตราไวโอเลต็ ปริมาณมากยงั ทาํ ลายพืชในไรแ่ ละต้นพชื เล็ก ๆ
ในทะเล ซึ่งเป็นอาหารของปลา
2) ผลกระทบของภาวะเรือนกระจก
ปรากฏการณ์เรอื นกระจก คอื ปรากฏการณ์ที่โลกมอี ณุ หภูมิสูงขน้ึ เนื่องจาก
พลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงความยาว คลื่นอินฟาเรดที่สะท้อนกลับถูกดูดกลืนโดยโมเลกุลของไอน้ำคาร์บอนไดออกไซด์
มีเทน และไนตรัสออกไซด์ ในบรรยากาศทําให้โมเลกุลเหล่านี้มีพลังงานสูงขึน้ มีการถ่ายเทพลังงานซึ่งกันและกันทําให้
อณุ หภมู ิชั้นบรรยากาศสูงข้ึน การถ่ายเทพลงั งานและความยาวคล่ืนของโมเลกุลต่อ ๆ กันไปในบรรยากาศทาํ ให้โมเลกุล
เกดิ การส่ันและเคล่อื นไหว ตลอดเวลาเมอื่ มาสมั ผสั ถูกผิวหนงั ของเราทาํ ให้เกิดความรสู้ ึกร้อน
3) การพัฒนาด้านอตุ สาหกรรม
การพฒั นาดา้ นอุตสาหกรรม (industrial development) เป็นการทาํ ให้
ภาค 5 อุตสาหกรรมเจริญเติบโต (growth) หรือขยายตัว (expand) และมีการใช้เทคโนโลยี การผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้
เกิดมลภาวะทางอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอาจจะเกดิ สภาวะโลกร้อนได้
4) การตัดไม้ทําลายปา่
การทาํ ลายปา่ คือ สภาวะของปา่ ตามธรรมชาตทิ ่ถี ูกทาํ ลายโดยการตัดไมแ้ ละ
การเผาป่าเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การนําต้นไม้และถ่านไม้มาใช้หรือเพื่อจําหน่าย การตัด ต้นไม้โดยไม่ปลูก
ทดแทนด้วยจาํ นวนที่เพียงพอ กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายต่อท่ีอยู่อาศัย ความหลากหลายทางชีวภาพ และสง่ ผลเสียต่อการ
กกั เกบ็ กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซดใ์ นบรรยากาศ โดยพชื พืน้ ทป่ี า่ ท่ถี ูกทาํ ลายโดยมากจะเกิดความเสยี หายจากการพังทลาย
ของหนา้ ดนิ และ คุณภาพของดินจะลดลงกลายเป็นทด่ี ินทีท่ ําประโยชน์ไม่ได้
ในประเทศไทย ภยั แลง้ เกดิ จากสาเหตุหลัก ๆ 4 ประการ ดังนี้
1. ปริมาณฝนตกนอ้ ยเกินไปเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงตดิ ตอ่ กนั เป็นเวลานานหรือ การกระจายน้ำฝนทีต่ กไม่
สมำ่ เสมอตลอดท้งั ปี ซึ่งกรณีหลงั จะทําให้การขาดแคลนนำ้ เป็นบางชว่ ง หรอื บางฤดูกาลเท่าน้ัน แต่ถา้ หากฝนตกน้อย
กว่าอตั ราการระเหยของน้ำก็จะทาํ ใหบ้ รเิ วณน้นั เกดิ สภาพการขาดแคลนน้ำท่ตี ่อเน่ืองอย่างถาวร
2. ขาดการวางแผนในการใช้นำ้ ท่ีดี เชน่ ไม่จดั เตรยี มภาชนะหรืออ่างเก็บนำ้ รองรับน้ำฝนทีต่ กเพอื่ นาํ ไปใช้
ในชว่ งขาดแคลนน้ำ
3. ลักษณะภูมิประเทศไม่อํานวยจึงทาํ ให้บริเวณน้ันไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ขนาดใหญ่และถาวรหรอื อยู่ใกล้ภูมิ
ประเทศลาดเอียงและดินไมอ่ ุ้มน้ำ จึงทําให้การกักเก็บน้ำไวใ้ ช้ทําได้ยาก เช่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ไทย
4. พืชพันธุธ์ รรมชาติถกู ทําลายโดยเฉพาะพ้นื ท่ปี ่าตน้ น้ำลําธาร 2.2 ผลกระทบทเ่ี กิดจากภยั แลง้ ภยั แลง้ ใน
ประเทศไทยมผี ลกระทบโดยตรงกบั การเกษตรและแหลง่ นำ้ เนื่องจาก ประเทศไทยเปน็ ประเทศทป่ี ระชาชนประกอบ
อาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ภัยแล้งจึงสง่ ผล เสียหายตอ่ การเกษตร เช่น พน้ื ดนิ ขาดความชุ่มชื้น พชื ขาดนำ้ พชื
ชะงักการเจรญิ เติบโต ผลผลติ ที่ได้มีคณุ ภาพต่ำ รวมถึงปรมิ าณลดลง ส่วนใหญ่ภยั แลง้ ที่มีผลตอ่ การเกษตร มักเกิดในฤดู
ฝนท่ีมี ฝนทิ้งชว่ งเปน็ เวลานาน ผลกระทบที่เกดิ ขึ้นรวมถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ ดงั นี้
1.2 ดา้ นเศรษฐกิจ สิน้ เปลืองและสูญเสยี ผลผลิตทางการเกษตร ปศสุ ัตว์ ป่าไม้ การ
ประมงเศรษฐกจิ ท่วั ไป เชน่ ราคาท่ดี ินลดลง โรงงานผลติ เสียหาย การว่างงาน สญู เสยี อุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว สง่ ผลให้
รายไดข้ องประเทศลดลงก่อให้เกดิ ปญั หาทางเศรษฐกิจ
1.3 ด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อสตั ว์ตา่ ง ๆ ทําใหข้ าดแคลนนำ้ เกดิ โรคกับสตั ว์
สญู เสยี ความหลากหลายพันธุ์ รวมถงึ ผลกระทบด้านอุทกวิทยา ทําใหร้ ะดบั และปริมาณน้ำลดลง พื้นทีช่ ุ่มน้ำลดลง ความ
เคม็ ของน้ำเปลย่ี นแปลง ระดับนำ้ ในดินเปล่ียนแปลง คุณภาพนำ้ เปลยี่ นแปลง เกิดการกัดเซาะของดิน ไฟปา่ เพ่ิมขึ้น
สง่ ผลตอ่ คณุ ภาพอากาศและสูญเสยี ทศั นียภาพ เป็นตน้
1.4 ดา้ นสงั คม เกิดผลกระทบในดา้ นสุขภาพอนามัย เกดิ ความขัดแยง้ ในการใช้นำ้ และ
การจดั การคุณภาพชีวิตลดลง
2. ห้วงเวลาการเกิดภยั และพน้ื ทเ่ี สีย่ งภยั ต่อการเกิดภยั แล้งในประเทศไทย และ ประเทศต่าง ๆ ในทวีป
เอเซยี
2. 1 หว้ งเวลาการเกิดภัยแลง้ และพ้นื ทีเ่ สี่ยงภัยในประเทศไทยช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องถึงฤดรู ้อน ซงึ่ เร่ิมจาก
คร่ึงหลังของเดอื นตุลาคมเป็นต้นไป บรเิ วณภาคเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก จะมี
ปริมาณฝนลดลง เป็นลาํ ดับ จนกระท่ังเข้าสู่ฤดูฝนในชว่ งกลางเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป
ซึง่ ภยั แลง้ ลกั ษณะนจ้ี ะ เกดิ ข้ึนเปน็ ประจาํ ทุกปี
ตารางแสดงห้วงเวลาการเกดิ ภยั แลง้ และพน้ื ที่เสี่ยงภัย
พืน้ ที่เส่ยี งภยั แล้งในประเทศไทย ท่ีไดร้ ับผลกระทบจากภยั แล้งมาก ได้แก่ บรเิ วณภาค
ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนกลาง เพราะเปน็ บรเิ วณที่อทิ ธิพลของมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต้ เข้าไปไม่ถงึ อย่างไรก็ตาม ทุก
ภมู ภิ าคของประเทศไทยมีโอกาสประสบภัยแลง้ และช่วงกลางฤดูฝน ประมาณปลายเดือนมถิ นุ ายนถึงเดอื นกรกฎาคมจะ
มีฝนท้ิงชว่ งเกดิ ขึ้น ภยั แล้งลกั ษณะนีจ้ ะเกิดขน้ึ เฉพาะท้องถ่ินหรอื บางบริเวณ บางครง้ั อาจครอบคลุมพื้นท่ีเป็นบริเวณ
กวา้ งเกือบทุกภมู ภิ าคของ ประเทศมโี อกาสประสบภัยแลง้
2.2 ห้วงเวลาการเกิดภยั แลง้ และพ้นื ที่เสย่ี งภัยของประเทศตา่ ง ๆ ในทวีปเอเชยี
ประเทศ จีน
ภยั แล้ง ทีร่ า้ ยแรงทส่ี ุดในรอบ 300 ปเี ลยทีเดยี ว เปน็ ภัยแลง้ ท่ีส่งผลกระทบต่อ
ผลผลติ ทางการเกษตรในทางตอนเหนือของจีน ซ่งึ เป็นแหล่งผลิตข้าวสาลที ่ใี หญ่ของโลก ซ่งึ อาจมี ผลทําให้ราคาขา้ วสาลี
ในตลาดโลกผันพวนได้ สํานักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งประเทศจีนประกาศว่า มณฑลยูนนาน เสฉวน กุ้ยโจว และเขต
ปกครองตนเองชนชาตจิ ว้ งกวางสีประสบภยั แล้ง ซงึ่ มีบาง พนื้ ทป่ี ระสบภัยแล้งรุนแรง ตัง้ แตเ่ ดอื นพฤศจกิ ายนเป็นต้นมา
ภาคตะวันตกเฉยี งใต้และภาคใต้ของ จนี มีฝนตกน้อย มณฑลยนู นานทีป่ ระสบภัยแล้งรุนแรงทีส่ ุดมปี ริมาณฝนในช่วงเข้า
สู่ฤดูใบไม้ร่วง ลดลงร้อยละ 50 จากระยะเดียวกันของปีก่อน ๆ เป็นปริมาณน้อยที่สุดหลังจากปี 1951 เป็นต้นมา
ปจั จบุ นั พืชพนั ธุก์ ารเกษตรประสบภัยแลง้ อยา่ งรุนแรง
ประเทศอินเดีย
นายประนาบ มคุ เคอรจ์ ี รฐั มนตรีกระทรวงการคลังของอินเดีย เปดิ เผยวา่ อินเดยี จะนําเขา้
อาหารเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอันเนื่องมาจากภัยแล้งเพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง ซึ่งส่งผล
กระทบต่อประชากร 700 ล้านคน ทั้งนี้ความแห้งแล้ง ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของอินเดีย โดยราคาอาหาร
ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 10 หลังจากฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล โดยมีผลกระทบต่อการปลูกข้าว ถั่วเหลือง อ้อย และฝ้ายอินเดีย
จะนาํ เขา้ อาหารจากต่างประเทศมากขน้ึ ในชว่ งน้ี อยา่ งไรก็ตามกลับ กลายเป็นการเพ่ิมความหวั่นวิตกขึ้นวา่ ราคาอาหารหลาย
รายการจะมีราคาท่ีเพิ่มขน้ึ รัฐบาลอนิ เดยี กลา่ ววา่ รัฐบาลจะมีมาตรการทร่ี ับประกันวา่ ราคาอาหารจะมีเสถียรภาพ
ช่อื ............................................................................ระดับ.......................รหัสนกั ศึกษา...........................................
ใบงาน
เรื่อง ลกั ษณะการเกิดภยั แล้ง
1 อธบิ ายความหมายภัยแล้ง ฝนแลง้ และฝนท้งิ ชว่ ง
1)ภยั แล้ง หมายถึง
…...............................................................…...............................................................................................
................................................................................................................................................... .................
........................................................................................................................... ........................................
....................................................................................................................................................................
2) ฝนแลง้ หมายถึง
..................................................................................................…………….........…………………………….........
......................................................................................................................................... ...........................
....................................................................................................... .............................................................
....................................................................................................................................................................
3) ฝนทิง้ ชว่ ง หมายถงึ
............................................................................................................................. .......................................
.....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................
.......................................................................................................................................... ..........................
2 บอกความแตกตา่ งระหว่างฝนแลง้ และฝนท้งิ ชว่ งมาพอสังเขป
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................... ...............................
........................................................................................................................... ..............................................
.........................................................................................................................................................................
3 บอกสาเหตุของการเกดิ ภยั แลง้ พอสังเขป
..................................................................................................... ....................................................................
.........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................ .................................
....................................................................................................... ..................................................................
.........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................... ...............................
แบบทดสอบหลังเรียน
คำช้ีแจง เลือกคำตอบท่ีถกู ต้องท่ีสดุ เพยี งคำตอบเดยี ว
1. บุคคลในข้อใดสามารถช่วยป้องกันภยั แล้งได้ในระยะยาว
ก. สมควรปลูกตน้ ไม้ในสวนหลงั บา้ น
ข. สมใจภาวนาขอใหฝ้ นตก
ค. สมคิดทำท่รี องน้ำฝนเพ่ือกกั เก็บน้ำไวใ้ ช้
ง. สมจติ รฟังขา่ วพยากรณ์อากาศทุกวัน
2. ข้อใดไม่ใชผ่ ลกระทบจากการเกดิ ภยั แล้ง
ก. ผลกระทบทางดา้ นสังคม
ข. ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ
ค. ผลกระทบทางด้านสง่ิ แวดลอ้ ม
ง. ผลกระทบทางดา้ นวฒั นธรรม
3. ข้อใดให้ความหมายของ “ภัยแลง้ ”ไดถ้ กู ต้องท่ีสดุ
ก. ภัยทเ่ี กิดจากการขาดแคลนนำ้ ในช่วงหน้าแล้งจนก่อใหเ้ กดิ ความเสียหาย
ข. ภยั ทเ่ี กิดจากความอดุ มสมบูรณข์ องพืนทปี่ ่าไม้ลดลงมากจนกอ่ ให้เกิดความ
แหง้ แลง้ และสง่ ผลกระทบต่อชมุ ชน
ค. ภยั ทเี่ กิดจากการขาดแคลนนำ้ ในพื้นที่ใดพืน้ ทหี่ น่ึงเป็นเวลานานจนกอ่ ให้เกดิ
ความแหง้ แล้ง และส่งผลกระทบต่อชุมชน
ง. ภยั ท่ีเกดิ จากความแปรปรวนของสภาพลมฟา้ อากาศจนก่อให้เกิดความแห้งแล้ง
และส่งผลกระทบต่อชมุ ชน
4. ข้อใดเปน็ สาเหตุของการเกิดภยั แล้งท่เี กิดขึ้นโดยธรรมชาติ
ก. การตดั ไม้ทาํ ลายปา่
ข. การทําลายชน้ั โอโซน
ค. การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ
ง. ผลกระทบของภาวะเรือนกระจก
5. สถานการณภ์ ัยแลง้ ของประเทศไทยส่วนใหญ่จะเกิดข้ึนในภาคใด
ก. ภาคเหนือ ภาคใต้
ข. ภาคเหนือ ภาคตะวนั ออก
ค. ภาคเหนอื ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ง. ภาคตะวนั ออก ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
6. ข้อใดเปน็ การป้องกนั ภยั แลง้ ทมี่ ีประสทิ ธิภาพมากทส่ี ุด
ก. งดการตดั ไมท้ กุ ประเภท
ข. หาฝนเทียมในบริเวณทีแ่ ห้งแลง้
ค. ลดการใช้น้ำโดยใชเ้ ฉพาะท่ีจำเป็น
ง. ลดการทำลายปา่ และเพ่ิมพน้ื ท่ปี ่า
7. ในปจั จุบนั ประเทศไทยปลกู หญ้าแฝกเพือ่ แก้ไขปญั หาใด
ก. ดนิ ขาดปยุ๋ ไนโตรเจน
ข. เศรษฐกิจตกตำ่
ค. การชะล้างการพงั ทลายของดนิ
ง. การขาดแคลนวัสดมุ ุงหลงั คา
8. การป้องกันและแก้ไขปัญหาภยั แล้งวธิ ีใดดีที่สุด
ก. การขดุ เจาะน้ำบาดาล
ข. การสร้างเขอ่ื นกักเกบ็ น้า
ค. การแจกจ่ายนำ้ แก่ประชาชน
ง. การรักษาป่าไม้ให้คงความอดุ มสมบรู ณ์
9. ขอ้ ใดไม่ใช่ภยั พิบตั ทิ ่ีมผี ลสืบเนือ่ งมาจากการตัดไม้ทำลายปา่
ก. ภัยแล้ง
ข. แผ่นดินถล่ม
ค. แผ่นดินไหว
ง. นำ้ ท่วมฉบั พลัน
10. ผู้เรยี นสามารถติดตามขา่ วพยากรณ์อากาศไดจ้ ากหน่วยงานใด
ก. กรมวชิ าการเกษตร
ข. กรมอตุ ุนิยมวทิ ยา
ค. กรมทรพั ยากรธรณี
ง. กรมทรัพยากรและสงิ่ แวดล้อม
เฉลยขอ้ สอบหลงั เรยี น
1. ก 2. ง 3. ค 4. ค 5. ค 6. ง 7. ค 8. ง 9. ค 10. ข
บนั ทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ครั้งท…่ี ………..วนั ที่…………..…………………..เดอื น………………………..พ.ศ. …………………………………..
สถานท…่ี …………………………………………………………………………………………………………………………..
กิจกรรมการเรยี นรู้
.............................................................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................. ..............................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................................................
.............................................................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................................................................................
สภาพปัญหาท่ีพบ
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
วธิ ีแก้ปัญหา
............................................................................................................................... .............................................................
............................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
ลงชือ่ ..................................................ผู้บนั ทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
(..................................................)
ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหาร
.............................................................. ............................................................................................................................. .
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
ลงช่ือ.......................................................
(………………………………….)
ผอู้ ำนวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอยางชุมน้อย
แผนการเรียนรู้รายวชิ าการเรียนรสู้ ภู้
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ภ
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ที่…1… เรือ่ ง…สถานการณ์การเกดิ ภัยแล้งในป
รายวชิ า/ ตวั ช้วี ัด เนื้อหา
หัวเร่ือง
6. บอกหว้ งเวลาการเกิดภัยแลง้ 3. สถานการณ์การเกดิ ภัยแล้ง
สถานการณ์
การเกดิ ภัย และพืน้ ที่เส่ยี งภยั ตอ่ การเกิดภัย 3.1 สถานการณ์ภยั แลง้ ในประเทศ
แล้งใน
ประเทศไทย แลง้ ในประเทศไทย ไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก
และประเทศ
ตา่ งๆในโลก 7. บอกสถานการณก์ ารเกิดภัย 3.2 สถิตกิ ารเกดิ ภยั แล้งของประเทศ
แลง้ ในประเทศไทยและและ ต่าง ๆในโลก
ประเทศต่างๆในโลก 4. แนวทางการป้องกนั และการแกไ้ ข
8. วิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบสถติ ิ ปญั หาผลกระทบทเ่ี กิดจากภัยแล้ง
การเกิดภัยแลง้ ของประเทศต่างๆ 4.1 การเตรียมความพร้อมรับ
ในโลกและคาดคะเนการ เกิดภยั สถานการณ์การเกิดภยั แลง้
แลง้ ในอนาคต 4.2 การปฏิบัตขิ ณะเกิดภยั แล้ง
9. บอกวธิ กี ารเตรยี มความพร้อม 1.4.3 การปฏบิ ัตติ นหลังเกิดภัยแลง้
รับสถานการณ์การเกิดภยั แล้ง
10.บอกวธิ กี ารปฏิบตั ิขณะเกิดภยั
แลง้
11. บอกวธิ ีการปฏิบตั หิ ลงั เกิดภยั
แล้ง
12. เสนอแนวทางการป้องกนั
และแนวทางการแกป้ ญั หา
ภัยธรรมชาติ 3 รหัสวชิ า สค 32032
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563
ประเทศไทยและประเทศต่างๆในโลก………….. สัปดาหท์ …่ี …3……
การจัดกระบวนการเรียนรู้ สือ่ และ การวัดและ
แหล่งเรียนรู้ ประเมนิ ผล
ขั้นที่ 1 กำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการ - -แบบทดสอบ
เรียนรู้ (O: Orientation) หนังสอื เรียน กอ่ น/หลังเรียน
นักศึกษาแบ่งกลมุ่ ๆละ 3 คนเลือกประธานและ รายวิชาการ
เลขานกุ ารกลุ่ม แลว้ ตัง้ ชอื่ กลุ่ม เพราะในการเรยี นรเู้ ร่ือง เรียนรูส้ ้ภู ยั - แบบการสังเกต
โครงงานต้งั แต่บดั น้ีเป็นต้นไปนักศึกษาจะต้องปฏบิ ัติงาน ธรรมชาติ - ผา่ นการตอบ
เปน็ กลุ่มเดมิ จนงานเสรจ็ สิน้ สมบรู ณ์ ระดบั คำถามได้
ข้ันท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และจดั การเรียนรู้ มัธยมศกึ ษา 80% ขนึ้ ไป
(N: New ways of learning) ตอนปลาย - ผ้เู รียนจับ
นกั ศึกษาศึกษาบทเรยี นผ่านเว็บ ในหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ประเดน็ สำคัญ
เร่อื ง “สถานการณ์การเกดิ ภัยแล้ง”จากน้ัน - เข้าใจ 80% ขน้ึ
ให้นักศึกษาทำ ใบงาน สถานการณภ์ ัยแล้งในประเทศ อนิ เตอรเ์ น็ต ไป
ไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก - ผู้เรียน 80%
ขน้ั ที่ 3 ปฏบิ ัติและนำไปประยกุ ตใ์ ช้ ข้ึนไปมีสว่ นร่วม
(I: Implementation) ในการอธิบาย
- ครสู มุ่ ตัวแทนนกั ศึกษาสรุปแนวทางการป้องกนั และ แลกเปลย่ี นความ
การแก้ไขปัญหาผลกระทบทีเ่ กดิ จากภยั แลง้ ” คิดเห็น
- การเตรยี มความพร้อมรบั สถานการณ์การเกดิ ภยั แลง้
- นกั ศกึ ษาและครรู ว่ มกันสรุปองค์ความรู้“สถานการณ์
การเกิดภัยแลง้ ในประเทศไทยและประเทศตา่ งๆในโลก
รายวชิ า/ ตัวช้วี ัด เน้อื หา
หัวเร่ือง ผลกระทบทีเ่ กดิ จากภยั แลง้
การจดั กระบวนการเรียนรู้ สือ่ และ การวดั และ
แหลง่ เรียนรู้ ประเมินผล
- ครูแนะให้นกั ศึกษาไปศกึ ษาเพิ่มเติม เรอื่ ง
“สถานการณก์ ารเกิดภยั แล้งในประเทศไทยและประเทศ
ต่างๆในโลก” จากบทเรยี น
ข้นั ท่ี 4 ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
ความรู้ (Knowledge)
ประเมินช้ินงาน/ภาระงานที่ 2
เรอ่ื งการเขยี นรายงานเร่ืองสถานการณ์การเกิดภยั แลง้ ”
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
ทกั ษะ (Skill)
การนำเสนอหน้าชั้นเรยี น
เจตคติ (Attitude)
มเี จตคตทิ ด่ี ีต่อการเรียนรู้ในรายวิชาทีต่ นศึกษา
แบบทดสอบก่อนเรียน
คำชแ้ี จง ใหผ้ ้เู รียนเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งท่ีสุดเพียงคำตอบเดยี ว
1. ปจั จยั สำคญั ท่ที ำให้อณุ หภมู ิของโลกสงู ขึ้น คืออะไร
ก. ป่าไม้เหลือน้อย
ข. ปรากฏการณเ์ รือนกระจก
ค. ปรากฏการณภ์ เู ขาไฟระเบิด
ง. แสงอาทติ ยแ์ ผร่ งั สีตรงมายังโลกเพิม่ ขึน้
2. การเพม่ิ ปริมาณกา๊ ซ “เรือนกระจก” จะเกดิ ขึ้นในข้อใด
ก. อุทกภัย
ข. ภยั แลง้
ค. แผ่นดนิ ไหว
ง. ความกดอากาศต่ำ
3. ผลกระทบจากการเกิดปรากฏการณ์ “เอลนิโญ” หมายถึงอะไร
ก. บรเิ วณที่เคยแห้งแล้งจะมฝี นตกชกุ ตลอดท้ังปี
ข. บริเวณทม่ี ฝี นตกน้อยกลบั จะมีฝนตกมากอยา่ งต่อเน่ืองตลอดทง้ั ปี
ค. บรเิ วณท่มี ปี รมิ าณฝนตกเพ่ิมขนึ้ อีกและบริเวณทแี่ ห้งแล้งยงั แห้งแลง้ เพ่มิ มากข้ึน
ง. บรเิ วณที่เคยมีฝนตกชุกจะมีปริมาณฝนลดลงอย่างมากและบริเวณท่มี ีฝนตกน้อยมฝี น เพ่ิมมากข้ึน
4. ผลกระทบจากการสูญเสยี พน้ื ท่ปี ่าไมจ้ นทำใหเ้ กิดภาวะโลกรอ้ นคือข้อใด
ก. พนื้ ดินแตกแยกระแหง
ข. ขาดแคลนแหล่งต้นนำ้ ลำธาร
ค. เกิดปรากฏการณ์เรอื นกระจก
ง. สตั ว์ป่าบางชนิดลม้ ตายใกล้จะสญู พนั ธุ์
5. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ภัยพบิ ตั ิทมี่ ีผลสืบเนื่องมาจากการตัดไมท้ ำลายป่า
ก. ภยั แล้ง
ข. แผ่นดนิ ถลม่
ค. แผ่นดินไหว
ง. นำ้ ท่วมฉับพลัน
6. ขอ้ ใดกลา่ วถึงวาตภัยไดถ้ ูกต้อง
ก. ภยั ท่ีเกดิ จากไฟไหมป้ ่าทีก่ ่อใหเ้ กิดหมอกควนั
ข. ภยั ท่เี กิดจากนำ้ ทว่ มพนื้ ที่การเกษตรของประชำชน
ค. ภัยทเี่ กิดจากการปลอ่ ยก๊าซจากโรงงานอุตสาหกรรม
ง. ภัยท่ีเกดิ ข้นึ จากพำยลุ มแรงจนทำให้เกดิ ความเสียหาย
7. พายุในขอ้ ใดเปน็ พายทุ อร์นาโด
ก. พายไุ ตฝ้ ุ่น
ข. พายุลมงวง
ค. พายโุ ซนรอ้ น
ง. พายดุ ีเปรสช่ัน
8. การเกดิ วาตภัยส่งผลกระทบตอ่ สงั คมอย่างไร
ก. ทำใหค้ นเสียชวี ิต
ข. ทำให้ได้รับบาดเจบ็
ค. ทำให้สาธารณูปโภคเสียหาย
ง. ทำให้เกดิ ความวิตกกงั วล
9. ขอ้ ใดเรียงลำดับความรุนแรงของพำยหุ มุนเขตร้อนจากน้อยไปหามากไดถ้ ูกต้อง
ก. ดีเปรสชัน่ โซนร้อนไตฝ้ ุ่น
ข. ไต้ฝนุ่ โซนรอ้ นดีเปรสชัน่
ค. โซนร้อนไต้ฝุ่นดีเปรสชั่น
ง. ดเี ปรสชนั่ ไตฝ้ นุ่ โซนร้อน
10. พำยหุ มนุ เขตร้อนเกิดขึน้ ในมหาสมทุ รอนิ เดียเรยี กว่าอะไร
ก. ไซโคลน
ข. บาเกียว
ค. ทอร์นาโด
ง. เฮอรร์ เิ คน
เฉลยข้อสอบก่อนเรียน
1. ง 2. ข 3. ค 4. ง 5. ง. 6. ข 7. ข 8. ก 9. ค 10. ง.
ใบความรู้
เร่อื งสถานการณก์ ารเกดิ ภัยแล้ง
ประเทศไทยไมใ่ ช่ประเทศเดยี วทีก่ ําลังประสบภัยแล้งคร้ังรา้ ยแรงทสี่ ดุ ในรอบหลายทศวรรษ
หลายประเทศในโลกกก็ ําลงั ต่อส้กู ับวิกฤตขาดแคลนน้ำ ส่งผลใหป้ ระชาชนไดร้ บั
ผลกระทบจากสถานการณ์
1. สถานการณ์ภยั แลง้ ในประเทศไทย และประเทศตา่ ง ๆ ในทวปี เอเชีย
สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบันเป็นผลมาจากปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนหลายแห่ง ประกอบกับภาวะฝนทิ้งช่วง
ซึ่งในเดือนตุลาคม 2556 ถึง เดือนเมษายน 2557 มีจังหวัดที่ได้รับ ผลกระทบ และประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติ ภัยแล้ง) ทั้งหมด 44 จังหวัด 311 อําเภอ 1,927 ตําบล 18,355 หมู่บ้าน แบ่งเป็นภาคเหนือ 13 จังหวัด
ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ 10 จังหวัด ภาคกลาง 7 จังหวัด ภาคตะวันออก 7 จังหวัด และภาคใต้ 7 จังหวัด โดยปัจจัย
หลักที่ทําให้เกิดภาวะแล้ง คือ ปริมาณฝนทีถ่ ึงแม้วา่ ปรมิ าณฝนสะสมทั้งประเทศในปี พ.ศ. 2556 สูงกว่าคา่ เฉลี่ยรอ้ ยละ
14 แต่กลบั พบว่ามีฝนทีต่ กบริเวณพนื้ ท่รี บั นำ้ ของเขื่อนภูมิพล และเขอ่ื นสริ กิ ิต์คิ อ่ นข้างนอ้ ยทสี่ ุดในรอบ 10 ปี
สําหรับปี พ.ศ. 2558 มีพื้นที่ประสบภัยกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ ทางภาคเหนือและภาค
ตะวันออกเฉียงเหนอื เชน่ จังหวดั นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดติ ถ์ ตาก นา่ น ลพบรุ ี นครราชสีมา ขอนแก่น ชัยภูมิ
สกลนคร อํานาจเจริญ สุรินทร์ เป็นต้น เนื่องจากภัยแล้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงกลางฤดูฝน คือ ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน
ถึงเดือนกรกฎาคม โดยได้รับอิทธิพลจาก ความแปรปรวนสภาพภูมิอากาศโลก จึงเรียกอีกนัยหนึ่งว่า “ภัยแล้งนอก
ฤดูกาล” ซึ่งภัยแล้งใน ลักษณะปัจจุบัน ทําให้ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติราวร้อยละ 46 ปริมาณน้ำ
ต้นทุนทั้งประเทศค่อนข้างต่ำอยู่อยู่ราวร้อยละ 45 ของปริมาณความจุเขื่อนทั้งประเทศความแห้งแล้งในทวีปเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ กําลังเป็นปัญหาท่ีทําให้ผู้นําหลายประเทศ กลุ้มใจ ล่าสุดเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ลาว บุนยัง
วอละจิด กล่าวย้ำวา่ จะพยายามให้เกดิ ผลกระทบให้น้อยที่สุดต่อประเทศท่ีอยู่ด้านล่างแม่น้ำโขงจากโครงการเข่ือนของ
ลาวที่จะมีการสร้าง เขื่อนทั้งหมด 11 แห่งตามแนวแม่น้ำโขง ประชากร 70 ล้านคน อาศัยเขตลุ่มแม่น้ำโขงเป็นแหล่ง
อาหารโดยตรง
ซง่ึ จํานวนมากเป็นชนเผา่ ต่าง ๆ ในเอเชยี อาคเนย์
สอื่ Phnom Penh Post ของกัมพูชา ระบวุ า่ นายบนุ ยงั กล่าวว่าสําหรับเขือ่ นดอนสะโฮง ของลาว ที่อยใู่ กล้
ตอนเหนือกมั พูชา ทางรัฐบาลเวียงจันทนใ์ ห้สัญญาว่าจะให้เกิดผลกระทบน้อย ทส่ี ุดต่อเขมร และเสรมิ ว่าลาวได้ศึกษา
โครงการน้ีอยา่ งรอบคอบแลว้
Samin Ngach โฆษกของกลุ่มเยาวชนพื้นถิ่นของกัมพูชา หรือ Cambodia Indigenous Youth Association
กล่าวว่าขณะนี้ปริมาณน้ำสะอาดมีอยา่ งจาํ กัด และอาหารหลักซึ่งก็คือข้าว ก็เกิดปัญหาผลผลิตตกต่ำเพราะฝนตกลงมา
นอ้ ยในหนา้ ฝนปีทแี่ ล้ว เขากลา่ ววา่ ในชมุ ชนพ้ืนบา้ น ชาวบ้านไมส่ ามารถปลูกขา้ วได้ และไมม่ อี าหารรบั ประทาน
ประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดถึงคือสาเหตุของภัยแล้งขณะนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการตัดไม้ทําลายป่า และการสร้าง
เขื่อนในบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำโขงในประเทศจีน รวมถึงการเปลี่ยน พื้นที่ป่ามาเป็นที่ดินอุตสาหกรรมขณะเดียวกัน
น่าจะเป็นผลของภาวะอากาศเปล่ียนแปลงผิดธรรมชาตดิ ว้ ย
2. สถิตกิ ารเกิดภัยแล้งของประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย
จากสถานการณ์การเกิดความแห้งแล้ง ปัจจุบันความแห้งแล้งได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ของโลกรวมทั้ง
ประเทศไทยและนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นบริเวณพื้นที่ที่เกิดและช่วงเวลา ที่เกิดก็ยาวนานมากขึ้น ตัวอย่าง เช่น ภัย
แลง้ ในประเทศจีน แมน่ ้ำฉางเจยี งและแม่นำ้ หวางเหอ ซ่ึงเปน็ แม่น้ำสายหลกั ของประเทศ
มีระดับน้ำลดลงอย่างผิดปกติ ส่งผลให้ประเทศจีนหลายล้านคน ขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและยังมีอีกหลาย
ประเทศทไ่ี ด้รับผลกระทบเช่นเดยี วกนั ดงั น้ี
ตารางแสดงสรุปผลกระทบที่เกิดจากภัยแลง้ ของประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย
ช่อื ............................................................................ระดบั .......................รหัสนักศึกษา...........................................
ใบงาน
เรอื่ งสถานการณก์ ารเกดิ ภยั แลง้
1. ให้บอกวธิ ีเตรยี มความพร้อมรบั มือภยั แลง้ อย่างน้อย 3 ขอ้
..............................................................................................................................................................................
..................................................................................................... .......................................................... ...............
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
......................................................................................... .......................................................... ...........................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ใหศ้ ึกษาคน้ ควา้ ภยั แล้งทีเ่ กิดข้ึนในประเทศต่าง ๆ ของโลก และยกตวั อยา่ งมา 1 ประเทศ
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................... ...............................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................. .................................................................................................... .........
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................... .....................
............................................................................................................................. .................................................
3. ใหผ้ เู้ รยี นยกตวั อยา่ งว่าปรากฏการณ์ใดที่จะส่งผลต่ออุณหภูมิของโลกที่สูงขนึ้
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................. ............................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................... .......................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. ................................................
แบบทดสอบหลังเรียน
คำชี้แจง ใหผ้ ู้เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องที่สดุ เพียงคำตอบเดยี ว
1. การเพ่ิมปรมิ าณก๊าซ “เรอื นกระจก” จะเกดิ ขึ้นในขอ้ ใด
ก. อุทกภัย
ข. ภัยแลง้
ค. แผ่นดินไหว
ง. ความกดอากาศตำ่
2. ผลกระทบจากการเกิดปรากฏการณ์ “เอลนโิ ญ” หมายถึงอะไร
ก. บรเิ วณท่ีเคยแหง้ แล้งจะมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี
ข. บริเวณที่มีฝนตกน้อยกลับจะมีฝนตกมากอยา่ งต่อเน่ืองตลอดทงั้ ปี
ค. บริเวณทม่ี ปี ริมาณฝนตกเพิ่มขึน้ อีกและบรเิ วณท่แี ห้งแลง้ ยังแห้งแลง้ เพิ่มมากขึ้น
ง. บรเิ วณทีเ่ คยมฝี นตกชกุ จะมปี ริมาณฝนลดลงอยา่ งมากและบรเิ วณท่มี ฝี นตกน้อย
มฝี น เพมิ่ มากขึน้
3. ประเทศไทยไดร้ ับผลกระทบจากปรากฏการณ์โลกร้อนอย่างไร
ก. พื้นท่ชี ายฝ่งั ทะเลถูกกัดเซาะ
ข. ธารนำ้ แขง็ ละลาย
ค. ภาคเหนือมคี วามแหง้ แลง้ มากขึน้
ง. ถูกทุกขอ้
4. ปจั จัยสำคญั ทท่ี ำให้อณุ หภูมขิ องโลกสูงขึ้น คืออะไร
ก. ปา่ ไมเ้ หลอื น้อย
ข. ปรากฏการณเ์ รือนกระจก
ค. ปรากฏการณ์ภเู ขาไฟระเบิด
ง. แสงอาทิตยแ์ ผร่ ังสตี รงมายังโลกเพ่มิ ข้ึน
5. ปัญหาภัยแลง้ ซำ้ ซากสง่ ผลต่อสงั คมชนบทอยา่ งไรมากทีส่ ดุ
ก. ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ
ข. คุณภาพชวี ติ ของคนชนบทตกตำ่
ค. ขาดแคลนแหลง่ น้ำเพ่ือการเกษตร
ง. คนชนบทอพยพเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่
6. ขอ้ ใดคือแนวทางการป้องกนั และการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกดิ จากภัยแล้ง
ก. การเตรยี มความพรอ้ ม
ข. การปฏิบัตขิ ณะเกิดภยั แล้ง
ค. การชว่ ยเหลอื และฟืน้ ฟภู ายหลังการเกิดภัยแลง้
ง. ถกู ทุกข้อ
7. ข้อใดคือผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากการป้องกันและแกไ้ ขปญั หาภัยแล้ง
ก. การทำฝนเทยี ม
ข. การขุดลอกคลองหนองบึงที่ต้นื เขนิ
ค. การปลูกป่าทดแทนในพ้นื ที่ป่าเสื่อมโทรม
ง. การสร้างอา่ งเก็บนำ้ และเข่ือนเพ่ือเกบ็ น้ำให้เพยี งพอ
8. ผลกระทบจากการสญู เสยี พ้ืนทป่ี ่าไม้จนทำใหเ้ กิดภาวะโลกร้อนคอื ขอ้ ใด
ก. พื้นดินแตกแยกระแหง
ข. ขาดแคลนแหล่งต้นน้ำลำธาร
ค. เกิดปรากฏการณเ์ รอื นกระจก
ง. สัตวป์ ่าบางชนดิ ล้มตายใกล้จะสูญพนั ธ์ุ
9. ปรากฏการณ์ใดกอ่ ใหเ้ กดิ ความแห้งแล้งและความหนาวเยน็ มาสู้บริเวณชายฝัง่ ตะวันออกของมหาสมทุ รแปซฟิ ิค
ก. ปรากฏการณ์โลกรอ้ น
ข. ปรากฏการณ์เอลนิโญ่
ค. ปรากฏการณ์ลานญิ า่
ง. ปรากฏการณเ์ รือนกระจก
10. กิจกรรมใดท่ีก่อใหเ้ กิดภาวะโลกร้อน
ก. การขับถ่ายของสตั ว์
ข. การเผาเชื้อเพลงิ ฟอสซลิ
ค. ถูกทงั้ ขอ้ ก และ ข
ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก
เฉลยข้อสอบก่อนเรียน
1. ข 2. ค 3. ง 4. ก 5. ค. 6. ง 7. ข 8. ง 9. ข 10. ค.
บันทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
คร้งั ท…่ี ………..วันท่ี…………..…………………..เดือน………………………..พ.ศ. …………………………………..
สถานท…ี่ …………………………………………………………………………………………………………………………..
กิจกรรมการเรียนรู้
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................ ................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................ ................................
สภาพปัญหาท่พี บ
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ..............................................................
............................................................................................................................................................ ................................
วธิ แี กป้ ญั หา
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................. ...............................
ลงชอื่ ..................................................ผูบ้ ันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
(..................................................)
ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหาร
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
..................................................................................................................................................................... .......................
ลงช่ือ.......................................................
(………………………………….)
ผอู้ ำนวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอยางชุมน้อย
แผนการเรียนร้รู ายวิชาการเรยี นรสู้ ู้ภ
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ภ
ช่ือหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่อื ง ความหมาย ปร
รายวิชา/ ตัวชวี้ ดั เนื้อหา
หวั เรือ่ ง
1.บอกความหมายของวาตภยั 1.ความหมายของวาตภยั
ความหมาย 2.บอกประเภทของวาตภัย 1.1ความหมายของวาตภยั
ของวาตภัยและ 3.บอกสาเหตุ และปจจัยการเกิดวาต 1.2ประเภทของวาตภยั
ลักษณะการ ภัย
เกดิ วาตภัย 4. บอกผลกระทบท่ีเกดิ จากวาตภยั 2.ลกั ษณะการเกิดวาตภัย
5. ตระหนกั ถึงภยั และผลกระทบท่เี กดิ 2.1สาเหตุและปัจจัยการเก
จากวาตภยั
6. บอกพนื้ ท่ีเสี่ยงภัย วาตภัย 1.2 ผูเ้ รียนซกั ถ
ตอการเกดิ วาตภยั ในประเทศไทยและ 2.2 ผลกระทบที่เกิดจากว
ประเทศตาง ๆ ในโลก ภยั
2.3พื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเก
วาตภัยในประเทศไทยแล
ประเทศตา่ งๆในโลก
ภัยธรรมชาติ 3 รหัสวชิ า สค 32032
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563
ระเภท และลกั ษณะการเกิดวาตภัย สัปดาห์ที่ 4
การจดั กระบวนการเรียนรู้ ส่ือและ การวัดและ
แหลง่ เรยี นรู้ ประเมินผล
ขน้ั ท่ี 1 กำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการใน -หนังสือ -ใบงาน
การเรยี นรู้ (O: Orientation) เรยี น -
1.1 ครซู ักถามหรอื ตงั้ คำถาม ถามนักศกึ ษาเกยี่ วกบั -ใบความรู้ แบบทดสอบ
เรื่องท่จี ะเรยี นวา่ นกั เรยี นมีความพร้อมในการเรียน -หอ้ งสมุด / ก่อนเรียน
กิด มากน้อยเพียงใด อินเทอรเ์ นต็ -
ถาม 1.2 ข้อสงสยั กอ่ นเข้าสบู่ ทเรียนในขน้ั ตอ่ ไป แบบทดสอบ
าต ข้นั ท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และจดั การเรยี นรู้ หลงั เรยี น
(N: New ways of learning)
กิด 2.1ครกู ับนกั ศึกษารว่ มกนั วางแผนการเรยี นรู้ในเร่ือง
ละ ความหมาย ประเภท และลักษณะการเกิด วาตภยั
2.2 ครูสนทนากบั นกั ศกึ ษาเกี่ยวกบั ความหมาย
ประเภท และลกั ษณะการเกิดวาตภยั
ขนั้ ที่ 3 ปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้
(I: Implementation)
3.1 แบ่งกล่มุ นกั ศกึ ษากลุ่มละ 4-5 คน ให้รว่ มกนั
แลกเปลี่ยนเรยี นรูศ้ กึ ษาเร่ืองความหมาย ประเภท
และลักษณะการเกิดวาตภยั แล้วทำกจิ กรรมใบงาน
3.2นกั ศึกษาแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสรปุ กจิ กรรมจากใบ
ความรู้ ครกู บั นกั ศึกษารว่ มกันสรปุ ความรู้ ทีไ่ ดร้ ับ
รายวิชา/ ตวั ช้วี ัด เน้อื หา
หวั เรอ่ื ง
การจัดกระบวนการเรียนรู้ สอื่ และ การวดั และ
แหลง่ เรยี นรู้ ประเมินผล
ข้ันท่ี 4 ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
4.1 ครูและนักศึกษาร่วมกนั สรุปเรอ่ื ง
สถานการณว์ าตภยั และแนวทางการป้องกันการ
แกไ้ ขปญั หาผลกระทบทีเ่ กดิ จากวาตภัย
4.2 ให้นักศกึ ษาใบงานที่ 3
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
คำชแ้ี จง:ให้นักศกึ ษาเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องท่ีสดุ เพียงคำตอบเดียว
1. วาตภยั มีความหมายตรงกับขอ้ ใด
ก. ไฟไหม้ ข.นำ้ ท่วม
ค.ดินถลม่ ง.ลมพายุ
2. วาตภัย แบง่ ออกเปน็ ก่ีประเภท
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท
ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
3. ขอ้ ใดกลา่ วถึงวาตภยั ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ภัยที่เกดิ จากไฟไหมป้ ่าทก่ี ่อใหเ้ กดิ หมอกควัน
ข. ภัยท่เี กิดจากนำ้ ท่วมพ้ืนที่การเกษตรของประชำชน
ค. ภยั ที่เกิดจากการปล่อยก๊าซจากโรงงานอุตสาหกรรม
4. สาเหตขุ องวาตภัย ในข้อใดถูกต้อง
ก. ฝนตก ข. มนุษยส์ รา้ งข้ึน
ค. ปรากฏการณท์ างทะเล ง. ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
5. การเกิดวาตภยั สง่ ผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
ก. ทำให้คนเสียชวี ิต ข. ทำใหไ้ ดร้ บั บาดเจ็บ
ค. ทำให้สาธารณปู โภคเสียหาย ง. ทำใหเ้ กดิ ความวิตกกังวล
6. พน้ื ทีเ่ สี่ยงทีเกิดจากวาตภัยมกี ร่ี ะดับ
ก. 2 ระดบั ข. 3 ระดบั
ค. 4 ระดับ ง. 5 ระดับ
7. พายุหมนุ เขตร้อนเกิดขึน้ ในมหาสมทุ รอินเดยี เรยี กวา่ อะไร
ก. ไซโคลน ข. บาเกียว
ค. ทอรน์ าโด ง. เฮอร์ริเคน
8. ข้อใดเรียงลำดบั ความรนุ แรงของพายุหมุนเขตร้อนจากน้อยไปหามากไดถ้ ูกต้อง
ก. ดเี ปรสช่นั โซนร้อนไตฝ้ ุน่ ข. ไตฝ้ นุ่ โซนร้อนดีเปรสชนั่
ค. โซนร้อนไต้ฝ่นุ ดเี ปรสชน่ั ง. ดเี ปรสช่ันไตฝ้ นุ่ โซนรอ้ น
9. พายุหมนุ เขตร้อนเกิดขน้ึ ในทวปี ออสเตรเลยี เรียกว่า อะไร
ก. ไซโคลน ข. วิลลี่-วลิ ล
ค. ทอรน์ าโด ง. เฮอรร์ เิ คน
10. พายุหมนุ เขตร้อนเกิดในทวีปอเมรกิ า เรียกวา่ อะไร
ก. ไซโคลน ข. วิลลี่-วลิ ล
ค. ทอร์นาโด ง. เฮอร์ริเคน
ใบความรู้
เรื่อง ความหมาย ประเภท และลักษณะการเกิดวาตภัย
วาตภัย
วาตภัย หมายถึง ภยั ทีเ่ กิดข้ึนจากพายลุ มแรง จนทำให้เกดิ ความเสยี หายแก่อาคารบ้านเรอื น ต้นไม้ และ
ส่ิงก่อสร้าง วาตภัยมักเกดิ ขึ้นในพ้นื ที่ทร่ี บั ลมฝนหรือรับพายุโดยทไี่ ม่มเี ทือกเขาหรือสิ่งท่ีลดแรงปะทะของลม และวาต
ภยั ก็เปน็ ภัยพิบัตทิ เี่ กิดข้นึ ไดใ้ นประเทศของเราได้เสมอเราจึงต้องทำความรู้จักและเรียนเกี่ยวกบั วาตภยั
1. สาเหตทุ ่ีทำให้เกดิ วาตภัย
จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั (2550, 42-43) ได้กล่าวถึงวาตภยั หรอื พายลุ มแรง วา่ มสี าเหตมุ าจากปรากฎการณ์
ทางธรรรมชาติ ได้แก่
1.1 พายุหมนุ เขตร้อน ได้แก่ ดเี ปรสช่ัน พายโุ ซนร้อน พายใุ ตฝ้ ุ่น
1.2 พายฤุ ดูร้อน สว่ นมากจะเกดิ ระหว่างเดือนมนี าคมถงึ เดือนเมษายน โดยจะเกิดถี่ในภาคเหนือ และภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง และภาคตะวนั ออก จะมกี ารเกดิ น้อยครงั้ กว่า สำหรับภาคใต้กส็ ามารถเกิดได้แต่ไม่
บ่อยนัก โดยพายฤุ ดูร้อนจะเกดิ ใน ช่วงที่มลี ักษณะอากาศรอ้ นอบอา้ วตดิ ต่อกนั หลายวนั แลว้ มกี ระแสอากาศเย็นจาก
ความกดอากาศสูงในประเทศจีนพัดมาปะทะกนั ทำใหเ้ กิดฝนฟ้าคะนองมีพายลุ มแรง และอาจมลี กู เหบ็ ตกได้จะทำ
ความเสียหายในบรเิ วณท่ีไม่กวา้ งนกั ประมาณ 20-30 ตารางกิโลเมตร
1.3 ลมงวง (เทอร์นาโด) เป็นพายหุ มุนรุนแรงขนาดเลก็ ที่เกดิ จากกาหมนุ เวยี น ของลมภายใต้เมฆกอ่ ตัวในทาง
ตัง้ หรือเมฆพายฝุ นฟ้าคะนอง (เมฆควิ มูโลนมิ บสั ) ท่ีมฐี านเมฆต่ำ กระแสลมวนทมี่ ีความเรว็ ลมสงู น้ีจะ ทำให้กระแส
อากาศเป็นลำพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า หรอื ยอ้ ยลงมาจากฐานเมฆ ดูคลา้ ยกบั งวงหรอื ปล่องย่ืนลงมา ถา้ ถึงพนื้ ดินก็จะทำ
ความเสยี หายแกบ่ า้ นเรอื น ต้นไม้ และสิ่งปลูกสรา้ งได้ สำหรับในประเทศไทยมักจะเกิดกระแสลมวน ใกล้พื้นดนิ เป็น
ส่วนใหญไ่ ม่ต่อเนื่องข้ึนไปจนถงึ ใต้พ้ืนฐานเมฆ และจะเกดิ ขึน้ นาน ๆ ครัง้ โดยจะเกิดขึ้นในพ้ืนที่แคบ ๆ และมชี ว่ ง
ระยะเวลาสั้น ๆ จึงทำให้เกดิ ความเสยี หายไดใ้ นบางพน้ื ที่
2. อนั ตรายท่เี กดิ จากวาตภัย
อนั ตรายทเี่ กิดจากพายุและลมแรงจดั สง่ ผลความเสียหายทัง้ บนบกและในทะเลดงั นี้
2.1 บนบกต้นไม้ถอนรากถอนโคน ต้นไม้ทับบา้ นเรอื นพงั ผู้คนได้รับบาดเจบ็ ถึงตาย เรอื กสวนไรน่ า เสียหาย
หนกั มาก บ้านเรือนท่ไี มแ่ ข็งแรง ไม่สามารถตา้ นทานความรุนแรงของลมได้พงั ระเนระนาด หลังคาบา้ นทีท่ ำดว้ ยสังกะสี
จะถกู พดั เปิด กระเบ้ืองหลงั คาปลวิ วอ่ น เปน็ อันตรายต่อผู้ที่อยใู่ นทโ่ี ลง่ แจ้ง เสาไฟฟ้า เสาโทรเลข เสาโทรศัพท์ล้ม
สายไฟฟา้ ขาด ไฟฟา้ ลัดวงจร เกิดเพลงิ ไหม้ ผ้คู นเสยี ชวี ิตจากไฟฟา้ ดูดได้ ผ้คู นที่พักอยู่รมิ ทะเล จะถกู คลนื่ ซัดท่วม
บ้านเรอื น และกวาดลงทะเล ผูค้ นอาจจมนำ้ ตายในทะเลได้ ฝนตกหนักมากทัง้ วันและทั้งคนื อุทกภัยจะตามมา นำ้ ปา่
จากภูเขาไหลหลากลงมาอย่าง รุนแรง ท่วมบา้ นเรือน ถนน และเรอื นสวนไร่นา เส้นทางคมนาคม ทางรถไฟ สะพาน
และถนนถูกตัดขาด
2.2 ในทะเล ในทะเลมีลมพัดแรงจดั มาก คลนื่ ใหญ่ เรอื ขนาดใหญ่อาจถูกพดั พาไปเกยฝง่ั หรือชนหินโสโครกทำ
ให้จมได้ เรือทุกชนดิ ควรงดออกจากฝั่งหรอื หลกี เล่ยี งการเดนิ เรือเข้าใกล้ศูนย์กลางพายุ มคี ลื่นใหญซ่ ัดฝ่งั ทำใหร้ ะดบั น้ำ
สูงทว่ ม อาคารบา้ นเรือนบริเวณริมทะเล และอาจกวาด ส่งิ กอ่ สร้างท่ีไม่แขง็ แรงลงทะเลได้ เรือประมงบริเวณชายฝง่ั จะ
ถกู ทำลาย
3. ส่ิงท่ีต้องปฏิบตั ิเพ่ือเตรียมการป้องกนั อันตรายจากวาตภยั
การเตรยี มการและขณะเกดิ วาตภยั ควรทำดงั น้ี
3.1 ตดิ ตามขา่ วและประกาศคำเตือนลักษณะอากาศรา้ ยจากกรมอุตุนยิ มวิทยา
3.2 เตรยี มวิทยุและอุปกรณส์ ื่อสาร ชนดิ ใชถ้ า่ นแบตเตอร่ี เพ่ือติดตามขา่ วในกรณที ่ีไฟฟ้าขดั ข้อง
3.3 ตัดก่ิงไม้ หรอื รีดกิ่งไมท้ ่ีอาจหักได้จากลมพายุ โดยเฉพาะกิง่ ท่ีจะหกั มาทับบ้าน สายไฟฟา้ ตน้ ไมท้ ่ีตายยนื
ต้นควรจัดการโค่นลงเสยี
3.4 ตรวจเสาและสายไฟฟา้ ท้งั ในและนอกบริเวณบ้านใหเ้ รียบร้อย ถา้ ไมแ่ ข็งแรงให้ยดึ เหนยี่ วเสาไฟฟ้าให้
มน่ั คง
3.5 พักในอาคารทีม่ ่ันคงตลอดเวลาขณะเกดิ วาตภัย อยา่ ออกมาในท่โี ลง่ แจ้ง เพราะตน้ ไม้และกิ่งไม้อาจหักโค่น
ลงมาทบั ได้ รวมทัง้ สังกะสแี ละกระเบือ้ งจะปลวิ ตามลมมาทำอนั ตรายได้
3.6 ปดิ ประตู หน้าต่างทุกบาน รวมทง้ั ยดึ ประตแู ละหนา้ ต่างให้ม่นั คงแข็งแรง ถ้าประตู หนา้ ตา่ งไม่แข็งแรง ให้
ใช้ไมท้ าบตีตะปูตรึงปดิ ประตูหน้าตา่ งไว้จะปลอดภัยข้ึน
3.7 ปดิ กน้ั ชอ่ งทางลมและช่องทางตา่ ง ๆ ทีล่ มจะเขา้ ไปทำใหเ้ กดิ ความเสียหาย
3.8 เตรียมตะเกียง ไฟฉาย และไม้ขีดไฟไวใ้ ห้พรอ้ ม ใหอ้ ยู่ใกล้มือ เมื่อเกดิ ไฟฟ้าดับจะได้หยิบใชไ้ ด้อยา่ ง
ทันทว่ งที และน้ำสะอาด พร้อมทัง้ อุปกรณเ์ ครื่องหุ้มตุ้ม
3.9 เตรยี มอาหารสำรอง อาหารกระป๋องไว้บา้ งสำหรับการยังชพี ในระยะเวลา 2-3 วัน
3.10 ดับเตาไฟใหเ้ รียบร้อยและควรจะมีอปุ กรณ์สำหรับดับเพลิงไว้
3.11 เตรยี มเครื่องเวชภัณฑ์
3.12 สิ่งของควรไวใ้ นท่ีต่ำ เพราะอาจจะตกหลน่ แตกหักเสียหายได้
3.13 บรรดาเรือ แพ ใหล้ งสมอยึดตรงึ ให้ม่นั คงแข็งแรง
3.14 ถ้ามีรถยนตห์ รอื พาหนะควรเตรียมไวใ้ หพ้ ร้อมภายหลังพายสุ งบอาจตอ้ งนำผปู้ ว่ ยไปส่ง โรงพยาบาล
น้ำมันควรจะเติมให้เต็มถงั อยู่ตลอดเวลา
3.15 เม่ือลมสงบแลว้ ตอ้ งรออยา่ งน้อย 3 ช่ัวโมง ถา้ พน้ ระยะนแ้ี ล้วไม่มลี มแรงเกิดขนึ้ อีก จงึ จะวางใจว่าพายุ
ได้ผ่านพ้นไปแล้วท้ังนีเ้ พราะเมอ่ื ศนู ย์กลางพายผุ า่ นไปแล้วจะตอ้ งมีลมแรงและฝนตกหนักผ่านมาอีก
ประมาณ 2 ชั่วโมง
3.16 ต้ังสตใิ หม้ น่ั ในการตดิ สินใจ ชว่ ยครอบครัวให้พ้นอนั ตรายในขณะวกิ ฤต โทรปรึกษา นักพยากรณ์อากาศ
ทีห่ มายเลขโทรศัพท์ 398-9830, 399-4012-3
4. ข้อควรปฏิบตั เิ ม่ือพายสุ งบแล้ว
หลงั จากพายุสงบแล้ว สิง่ ปรากฏให้เห็นก็คอื ความเสยี หายท้งั ทางดา้ นชวี ติ และทรัพยส์ ิน ท่ีผ้ปู ระสบภัยต้อง
เผชญิ ต่อไปเพือ่ ดำเนินชีวติ ให้เขา้ สูป่ กติ เราจงึ ต้องเรยี นรขู้ ้อควรปฏิบัติเมื่อพายุสงบแลว้ ดงั น้ี
4.1 เมอ่ื มผี บู้ าดเจ็บให้รบี ช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลทใี่ กล้เคยี งใหเ้ รว็ ทส่ี ุด
4.2 ตน้ ไม้ใกล้จะลม้ ให้รีบจดั การโคน่ ลม้ ลงเสีย มิฉะนน้ั จะหักโค่นล้มภายหลงั
4.3 ถา้ มเี สาไฟฟ้าล้ม สายไฟขาดอยา่ เขา้ ใกล้หรอื แตะต้องเปน็ อันขาด ทำเคร่ืองหมายแสดงอนั ตราย
4.4 แจ้งให้เจ้าหนา้ ทห่ี รือช่างไฟฟา้ จัดการดว่ น อย่าแตะโลหะทเี่ ป็นสอื่ ไฟฟ้า เมื่อปรากฎว่าทอ่ ประปาแตกท่ี
ใด ใหร้ บี แจง้ เจ้าหน้าที่มาแก้ไขโดยด่วน
4.5 อยา่ เพิง่ ใช้น้ำประปา เพราะน้ำอาจไม่บริสุทธ์ิ เนือ่ งจากท่อแตกหรือน้ำทว่ ม ถ้าใช้น้ำประปาขณะนน้ั ดมื่
อาจจะเกดิ โรคได้ ให้ใช้นำ้ ทก่ี ักตนุ ก่อนเกดิ เหตุด่ืมแทน
4.6 พยายามควบคุมปัญหาทางด้านสาธารณสุขที่อาจจะเกิดขน้ึ ได้ไดแ้ ก่การควบคุมโรคติดตอ่ ทอี่ าจเกดิ
ระบาดได้ การทำนำ้ ให้สะอาดก่อนบริโภค การกำจดั อจุ จาระการกำจดั พาหนะนำโรค เช่น ยุง และแมลงวนั โดยใช้ฆ่า
แมลงโรคตา่ ง ๆ ท่ีมกั เกดิ หลังวาตภัย การระมดั ระวังโรคระบบหายใจ เช่น หวัด โรคติดเชอ้ื และปรสิต การอักเสบมี
หนอง โรคฉห่ี นู เป็นต้น โรคผิวหนัง เชน่ โรค นำ้ กัดน้ำ กลาก เป็นต้น โรคระบบทางเดนิ ทางอาหาร เชน่ โรคอุจจาระ
รว่ ง ภาวะทางจิต เช่น ความเครียด
จะเหน็ ไดว้ า่ วาตภยั สามารถทำใหเ้ กดิ ความเสยี หายได้มาก ซึ่งถา้ เรามีความรแู้ ละความพร้อมทีร่ ับมือกบั วาตภยั
ท่ีเกิดข้นึ เราก็จะลดการสูญเสียทีจ่ ะเกิดขน้ึ กบั ชวี ิตและทรัพย์สนิ ไดแ้ ละสามารถช่วยเหลอื ผ้อู ืน่ ได้อีกดว้ ย
ใบงาน
เรอื่ ง ความหมาย ประเภท และลกั ษณะการเกดิ วาตภัย
คำชแ้ี จง: ให้นักศกึ ษาตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. วาตภยั หมายถึง
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
2. บอกประเภทของวาตภัยมีอะไรบ้าง
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
3. บอกสาเหตุทท่ี ำใหเ้ กิดวาตภยั
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
คร้ังท…่ี ………..วันท่ี…………..…………………..เดอื น………………………..พ.ศ. …………………………………..
สถานท…ี่ …………………………………………………………………………………………………………………………..
กจิ กรรมการเรียนรู้
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................... ..........................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
........................................................................................................................................................... ..............................
.................................................................................. .......................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
.................................................................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................................................................... .........
สภาพปญั หาทีพ่ บ
............................................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ............................................................
.................................................................................................................................................................................. ......
วิธีแกป้ ญั หา
............................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. ............................................................
........................................................................................................................................... .............................................
ลงช่ือ..................................................ผบู้ ันทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
(..................................................)
ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ าร
.................................................................................................................................................................................... .....
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................................................
ลงช่ือ.......................................................
(…………….………………………….)
ผอู้ ำนวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอยางชุมน้อย
แผนการเรียนร้รู ายวชิ าการเรยี นร้สู ู้ภ
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ภ
ชือ่ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่อื ง สถานการณว์ าตภัยและแนวทางกา
รายวิชา/ ตัวชีว้ ดั เนอ้ื หา
หวั เรื่อง
1. บอกสถานการณภัยแลงใน 1.สถานการณการเกดิ ภัยแลง
สถานการณ์วาต ประเทศไทย และประเทศตาง ๆ 1.1 สถานการณภัยแลงใน
ภัยและแนว ในโลก ประเทศไทยและประเทศตาง ๆ
ทางการป้องกนั 2.วเิ คราะหเปรยี บเทียบสถิตกิ าร ในโลก
การแก้ไขปัญหา เกดิ ภยั แลงของประเทศตาง ๆ ใน 1.2 สถิติการเกิดภัยแลงของ
ผลกระทบทีเ่ กดิ โลกและคาดคะเนการเกิดภัย ประเทศตาง ๆ1ใน.2โลผกู้เรยี นซักถาม
จากวาตภัย แลงในอนาคต 2.แนวทางการปองกันและการ
3.บอกวิธกี ารเตรยี มความพรอมรับ แ ก ไ ขป ญหาผลกระทบที่เกิด
สถานการณการเกิดภยั แลง จากภัยแลง
4.บอกวธิ กี ารปฏิบตั ิขณะเกิดภัย 2.1 การเตรียมความพรอมรับ
แลง สถานการณการเกิดภยั แลง
5.บอกวธิ กี ารปฏิบตั ติ นหลงั เกิดภัย 2.2 การปฏิบัติขณะเกิดภยั แล
แล้ง ง
6.เสนอแนวทางการปองกนั และ 2.3 การปฏิบัติตนหลงั เกิดภัย
การแกไขปญหาผลกระทบที่เกิด แลง
จากภยั แลง
ภยั ธรรมชาติ 3 รหัสวิชา สค 32032
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563
ารป้องกนั การแกไ้ ขปัญหาผลกระทบทเ่ี กิดจากวาตภยั สัปดาห์ท่ี 5
การจัดกระบวนการเรียนรู้ สอื่ และ การวดั และ
แหลง่ เรียนรู้ ประเมนิ ผล
ขน้ั ท่ี 1 กำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการ -หนงั สอื -ใบงาน
เรียนรู้ (O: Orientation) เรยี น -
1.1 ครูซักถามหรอื ตั้งคำถาม ถามนกั ศึกษาเกย่ี วกับเร่อื งท่ี -ห้องสมุด / แบบทดสอบ
จะเรยี นว่านักเรยี นมีความพร้อมในการเรียนมากน้อย อนิ เทอร์เน็ต ก่อนเรียน
เพียงใด -
1.2 ข้อสงสยั กอ่ นเข้าส่บู ทเรียนในขน้ั ต่อไป แบบทดสอบ
ขนั้ ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ หลงั เรียน
(N: New ways of learning)
2.1ครูกับนักศึกษาร่วมกนั วางแผนการเรยี นรู้ในเร่ือง
สถานการณ์วาตภยั และแนวทางการป้องกนั การแกไ้ ขปัญหา
ผลกระทบท่เี กิดจากวาตภัย
2.2 ครูสนทนากับนักศกึ ษาเกย่ี วกับสถานการณว์ าตภัยและ
แนวทางการป้องกันการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจาก
วาตภัย
ข้ันที่ 3 ปฏบิ ตั ิและนำไปประยุกต์ใช้
(I: Implementation)
3.1 แบ่งกลุม่ นักศึกษากลุ่มละ 4-5 คน ให้รว่ มกัน
แลกเปลี่ยนเรยี นรศู้ กึ ษาเร่อื งสถานการณว์ าตภยั และแนว
รายวิชา/ ตวั ช้วี ัด เน้อื หา
หวั เรอ่ื ง
การจดั กระบวนการเรยี นรู้ สือ่ และ การวดั และ
แหล่งเรยี นรู้ ประเมินผล
ทางการป้องกันการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากวาตภยั
แลว้ ทำกิจกรรมใบงาน
3.2ครูและนักศึกษาแต่ละกลุ่มรว่ มกนั สรปุ เนื้อหาอกี คร้ัง
ขนั้ ที่ 4 ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
4.1ครูและนักศึกษารว่ มกันสรุปเรอ่ื งสถานการณ์วาตภยั
และแนวทางการป้องกันการแกไ้ ขปัญหาผลกระทบท่ีเกดิ
จากวาตภัย
4.2 ให้นกั ศึกษาใบงานท่ี 4
แบบทดสอบก่อนเรียน
คำชีแ้ จง:ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถกู ต้องท่ีสดุ เพียงคำตอบเดียว
1.การเกดิ วาตภัยในข้อใด ไมส่ ัมพันธก์ ับแหลง่ ท่ีเกดิ
ก.พายุไซโคลนเอลลี – ออสเตรเลีย ข.พายุไซโคลนนาร์กสี – พมา่
ค.พายโุ ซนรอ้ น ปาบึก – ไทย ง.พายุไต้ฝนุ่ กิสนา – ฟลิ ิปปนิ ส์
2. การเกดิ วาตภัยสง่ ผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
ก. ทำให้คนเสียชีวติ ข. ทำใหไ้ ด้รับบาดเจบ็
ค. ทำใหส้ าธารณูปโภคเสยี หาย ง. ทำให้เกิดความวติ กกังวล
3. เมือ่ เกิดวาตภยั ควรปฏบิ ัติอย่างไร
ก. เปดประตหู นาตางทกุ บาน ข. พยายามควบคุมสตอิ ยางสงบ
ค. เดินออกไปอยใู่ นพื นทโี่ ล่งแจง้ ง. ใช้เทยี น ไมข้ ดี ไฟหรือสิ่งท่จี ะท้าใหเ้ กิดเปลวไฟ
4. ขอ้ ใดกล่าวถึงวาตภยั ไดถ้ ูกต้อง
ก. ภยั ท่เี กิดจากไฟไหมป้ า่ ทก่ี ่อให้เกิดหมอกควัน
ข. ภยั ทเี่ กดิ จากนำ้ ท่วมพืน้ ที่การเกษตรของประชำชน
ค. ภยั ท่ีเกิดจากการปล่อยก๊าซจากโรงงานอุตสาหกรรม
ง. ภยั ท่เี กิดข้นึ จากพำยลุ มแรงจนทำใหเ้ กดิ ความเสยี หาย
5. ข้อใดเรยี งลำดับความรุนแรงของพายุหมนุ เขตร้อนจากน้อยไปหามากได้ถูกต้อง
ก. ดเี ปรสช่ันโซนร้อนไตฝ้ นุ่ ข. ไต้ฝุ่นโซนร้อนดีเปรสชัน่
ค. โซนรอ้ นไต้ฝุ่นดเี ปรสชน่ั ง. ดเี ปรสชนั่ ไต้ฝนุ่ โซนรอ้ น
6. พายุหมนุ เขตร้อนเกิดข้ึนในมหาสมุทรอนิ เดยี เรยี กวา่ อะไร
ก. ไซโคลน ข. บาเกียว
ค. ทอรน์ าโด ง. เฮอร์ริเคน
7. กอ่ นเกดิ พายฝุ นฟา้ คะนองจะมีสัญญาณเตอื นอย่างไร
ก. ฝนตกหนกั ข. อากาศเยน็
ค. ทอ้ งฟา้ โปร่ง ง. อากาศร้อนอบอ้าว
8. สาเหตขุ องวาตภัย ในข้อใดถูกต้อง
ก. ฝนตก ข. มนุษย์สรา้ งขน้ึ
ค. ปรากฏการณ์ทางทะเล ง. ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ
9. หลังเกดิ วาตภยั ควรปฏิบตั ิตนตามข้อใด
ก. หากมีผู้บาดเจ็บให้ช่วยเหลอื ทนั ที
ข. ตดิ ตามฟงั ขา่ วอากาศจากแหลง่ ขา่ วรัฐบาล
ค. ควรดับไฟปลดสะพานไฟฟา้ ปดิ วาลว์ แก๊ส
ง. พักในอาคารที่ม่ันคงตลอดเวลาขณะเกดิ ววาตภัย
10. แนวทางการป้องกนั และการแก้ไขปญั หาผลกระทบที่เกดิ จากวาตภัยบคุ คลใดปฏิบัติถกู ต้อง
ก. นายแสงออกไปยืนที่โลง่ แจ้ง ขณะเกดิ พำยลุ มแรง
ข. นายหมอกพักในอาคารท่ีไม่มนั่ คงขณะเกดิ วาตภัย
ค. นายแซมเตรียมวทิ ยุและอุปกรณส์ ือ่ สารชนดิ ใชถ้ ่านแบตเตอรี่
ง. นายปราชญ์ไมต่ ิดตามข่าวบันเทงิ จากรายการโทรทศั น์ต่าง ๆ
ใบความรู้
เรื่อง สถานการณ์วาตภยั และแนวทางการป้องกันการแก้ไขปญั หาผลกระทบท่เี กดิ จากวาตภยั
ใบงาน
เร่ือง สถานการณ์วาตภยั และแนวทางการป้องกนั การแกไ้ ขปญั หาผลกระทบท่ีเกิดจากวาตภัย
คำช้แี จง: ให้นกั ศกึ ษาตอบคำถามต่อไปน้ี
๑. พายุหมนุ เขตร้อนท่ีเคล่ือนเข้าสปู่ ระเทศไทย ทีส่ รา้ งความเสียหายอย่างรุนแรง ได้แกพ่ ายุอะไร
.................................................................................................................... ........................................................
................................................................................................................................................................... .........
.......................................................................................................................... ..................................................
................................................................................................................ ............................................................
............................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...........................................
...................................................................................................................... ................................................
๒. มีแนวทางการป้องกนั การแก้ไขปัญหาผลกระทบทเี่ กิดจากวาตภยั อย่างไร
............................................................................................................................. ...............................................
................................................................................................................................................... .........................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................................... .............................
..........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................................
3. ข้อปฏิบตั ิเม่ือเกดิ วาตภัย
............................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................................................................
.......................... ...............................................................................................................................................
แบบทดสอบหลังเรยี น
คำชแี้ จง:ให้นกั ศึกษาเลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องทส่ี ุดเพียงคำตอบเดยี ว
1. เมือ่ เกิดวาตภัย ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร
ก. เปิดประตูหนาตางทกุ บาน ข. พยายามควบคุมสตอิ ย่างสงบ
ค. เดินออกไปอยู่ในพืน้ ทีโ่ ลง่ แจง้ ง. ใชเ้ ทียน ไมข้ ีดไฟหรือส่งิ ท่จี ะทา้ ใหเ้ กดิ เปลวไฟ
2. ขอ้ ใดกล่าวถึงวาตภัยไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. ภยั ท่ีเกดิ จากไฟไหม้ป่าทีก่ ่อใหเ้ กิดหมอกควนั
ข. ภยั ที่เกิดจากนำ้ ท่วมพ้นื ท่ีการเกษตรของประชำชน
ค. ภัยท่ีเกิดจากการปลอ่ ยกา๊ ซจากโรงงานอุตสาหกรรม
ง. ภัยทเ่ี กิดข้ึนจากพำยลุ มแรงจนทำใหเ้ กิดความเสียหาย
3. การเกดิ วาตภัยในข้อใด ไมส่ ัมพนั ธ์กบั แหล่งทเี่ กิด
ก.พายไุ ซโคลนเอลลี – ออสเตรเลยี ข.พายุไซโคลนนาร์กสี – พมา่
ค.พายุโซนร้อน ปาบึก – ไทย ง.พายไุ ต้ฝนุ่ กสิ นา – ฟิลิปปินส์
4. ข้อใดเรียงลำดับความรนุ แรงของพายุหมุนเขตร้อนจากน้อยไปหามากได้ถูกต้อง
ก. ดเี ปรสช่นั โซนร้อนไตฝ้ ุ่น
ข. ไตฝ้ ุ่นโซนรอ้ นดีเปรสช่นั
ค. โซนรอ้ นไต้ฝ่นุ ดเี ปรสช่นั
ง. ดีเปรสชั่นไต้ฝ่นุ โซนร้อน
5. การเกดิ วาตภัยส่งผลกระทบตอ่ สังคมอย่างไร
ก. ทำให้คนเสยี ชวี ิต
ข. ทำให้ไดร้ ับบาดเจบ็
ค. ทำให้สาธารณูปโภคเสียหาย
ง. ทำใหเ้ กิดความวิตกกงั วล
6. แนวทางการปอ้ งกันและการแกไ้ ขปญั หาผลกระทบที่เกิดจากวาตภยั บคุ คลใดปฏิบตั ิถูกต้อง
ก. นายแสงออกไปยนื ทโี่ ล่งแจ้ง ขณะเกดิ พำยลุ มแรง
ข. นายหมอกพกั ในอาคารที่ไมม่ ่นั คงขณะเกิดวาตภยั
ค. นายแซมเตรยี มวิทยุและอุปกรณส์ ื่อสารชนดิ ใชถ้ า่ นแบตเตอร่ี
ง. นายปราชญไ์ ม่ตดิ ตามขา่ วบันเทงิ จากรายการโทรทศั น์ต่าง ๆ
7. ก่อนเกิดพายฝุ นฟ้าคะนองจะมสี ัญญาณเตือนอยา่ งไร
ก. ฝนตกหนัก ข. อากาศเยน็
ค. ทอ้ งฟ้าโปร่ง ง. อากาศร้อนอบอา้ ว
8. สาเหตุของวาตภยั ในขอ้ ใดถกู ต้อง
ก. ฝนตก ข. มนษุ ยส์ ร้างข้นึ
ค. ปรากฏการณ์ทางทะเล ง. ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
9. หลังเกดิ วาตภยั ควรปฏิบตั ิตนตามข้อใด
ก. หากมผี ้บู าดเจบ็ ใหช้ ่วยเหลือทันที
ข. ตดิ ตามฟงั ข่าวอากาศจากแหล่งข่าวรัฐบาล
ค. ควรดบั ไฟปลดสะพานไฟฟ้า ปิดวาล์วแกส๊
ง. พักในอาคารท่ีมน่ั คงตลอดเวลาขณะเกดิ ววาตภยั
10.พายุหมุนเขตร้อนในทะเลอันดามนั เกิดได้ก่ชี ว่ ง
ก. 2 ชว่ ง ข. 3 ช่วง
ค. 4 ช่วง ง. 5 ช่วง
บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ครงั้ ท…ี่ ………..วันท่ี…………..…………………..เดือน………………………..พ.ศ. …………………………………..
สถานท…ี่ …………………………………………………………………………………………………………………………..
กจิ กรรมการเรียนรู้
............................................................................................................................. ............................................................
.........................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................. ...........................................
.........................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... ......................................................................................
.......................................................................................................................................................................... ...............
........................................................................................................................ ...............................................................
......................................................... ............................................................................................................................. ...
................................................................................................................................ .......................................................
สภาพปัญหาท่พี บ
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
.................................................................................................................................................. ......................................
วธิ แี ก้ปญั หา
.........................................................................................................................................................................................
...................................................................................... ................................................................ ...................................
............................................................................................................................. ...........................................................
................................................................................................................................................................. ........................
ลงชอื่ ...................................................ผู้บันทึกหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
(..................................................)
ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร
................................................................................................. ................................................................ ........................
............................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................................................................ .............
ลงช่ือ.......................................................
(……………………………………………….)
ผ้อู ำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอยางชมุ น้อย
แผนการเรียนรรู้ ายวิชาการเรยี นรู้ส้ภู
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลายภา
ช่ือหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรือ่ ง ความหมายและค
รายวชิ า/ ตัวชี้วดั เน้อื หา
หัวเรอ่ื ง
1. อธิบายความหมายของ 3.1 ความหมายของอทุ กภัย
ความหมาย อุทกภัย 3.1.1 ความหมายของอทุ กภยั
และความรู้ 2. บอกสาเหตุ และปัจจัยการ
ทั่วไป เกิดอุทกภยั 3.2 ลักษณะการเกิดอุทกภัย
เกยี่ วกับ 3. บอกผลกระทบทีเ่ กิดจาก 3.2.1 สาเหตแุ ละปัจจัยการเกิด
อุทกภัย อทุ กภยั อทุ กภยั
4. ตระหนกั ถึงภยั และ 3.2.2 ผลกระทบท่เี กดิ จากอุทกภยั
ผลกระทบท่เี กดิ จากอุทกภัย 3.2.3 สญั ญาณบอกเหตกุ ่อนเกิด
5. บอกสญั ญาณบอกเหตุก่อน อุทกภยั
เกิดอุทกภยั 3.2.4 พนื้ ทเ่ี ส่ียงภยั ตอ่ การเกิด
6. บอกพน้ื ทีเ่ ส่ียงภยั อุทกภยั ในประเทศไทยและ
ตอ่ การเกิดอทุ กภัยในประเทศ ประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชยี
ไทยและประเทศตา่ ง ๆในทวีป
เอเชีย
ภัยธรรมชาติ 3 รหัสวิชา สค32032
าคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563
ความร้ทู ่ัวไปเกี่ยวกับอทุ กภัย สัปดาห์ที่ 6
การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ส่อื และ การวัดและ
แหลง่ เรียนรู้ ประเมนิ ผล
ขั้นท่ี 1 กำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ 1.หนงั สือ 1. บนั ทกึ
(O: Orientation) เรียน การเรียนรู้
1.ครูทักทายผู้เรียนและชวนคุยเร่ืองอุทกภยั หรือ นำ้ ท่วม 2.ใบงาน 2. การตอบ
2.ใหผ้ ู้เรยี นแลกเปลีย่ นความรู้ประสบการณ์ ท่ีประสบภยั นำ้ 3.สือ่ คำถาม
ทว่ ม อนิ เตอร์เน็ต 3. การมสี ว่ น
3.ครูและผูเ้ รยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ความรู้ทว่ั ไป 4. รว่ มในการ
เก่ยี วกับอุทกภัย ลักษณะการเกดิ สาเหตุและปัจจยั การเกิด แบบทดสอบ แลกเปล่ยี น
ผลกระทบ สญั ญาณบอกเหตุกอ่ นเกดิ พ้ืนที่เสี่ยง เรียนรขู้ อง
4.ใหผ้ เู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อเปน็ การประเมนิ ผเู้ รียน ไดแ้ ก่
ความรู้ ความต้งั ใจ
ขั้นที่ 2 แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ ความสนใจ
(N: New ways of learning) การแสดง
1 ครูอธิบายความหมายของอุกภยั ความคิดเหน็
2. ครใู ห้ผูเ้ รียนดคู ลปิ วิดีโอ
จากYoutube
https://www.youtube.com/watch?v=Nrp8xD93mmo
จากYoutube
https://www.youtube.com/watch?v=PCgAJhSoug0
รายวิชา/ ตวั ช้วี ัด เน้อื หา
หวั เรอ่ื ง
การจัดกระบวนการเรยี นรู้ สอ่ื และ การวัดและ
แหลง่ เรยี นรู้ ประเมินผล
3.หลังจากดคู ลปิ วดิ โี อ ครูให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคดิ เหน็
การเกิดอทุ กภยั โดยใหผ้ ้เู รียนนำเสนอทีละคน สรปุ องค์
ความรู้ร่วมกนั
ข้นั ท่ี 3 ปฏิบตั แิ ละนำไปประยุกตใ์ ช้
(I: Implementation)
1.ครศู กึ ษาใบความรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 หรือ
http://online.pubhtml5.com/dbyw/jkdg/#p=1
2.ครสู มุ่ ผู้เรยี นตอบคำถามจากใบงานดังกล่าว และอธบิ าย
เพ่ิมเติมในสว่ นทผ่ี ูเ้ รียนยังไม่เขา้ ใจ
ขน้ั ท่ี 4 ประเมินผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)
1.ให้ผ้เู รียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น
2. ครูเฉลยแบบทดสอบ และสรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรรู้ ว่ มกับผเู้ รียน
โดยผเู้ รียนบันทึกสงิ่ ทไ่ี ด้เรยี นร้ลู งในบนั ทกึ การเรียนร้ขู อง
ผู้เรียน
3. ให้ผูเ้ รียนตอบคำถามในประเดน็ ท่จี ะสามารถนำเอา
ความรู้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้อยา่ งไร และให้
ยกตวั อยา่ ง
4. ครแู ละผเู้ รียนสรปุ สิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกัน
5. นดั หมาย ในการพบกลุม่ ครั้งต่อไป
แบบทดสอบก่อนเรยี น
คำช้ีแจง เลอื กคำตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดียว
1. ข้อใดไมใ่ ชภ่ ัยพิบัติที่มผี ลสืบเน่อื งมาจากการตดั ไม้ทำลายป่า
ก. ภยั แล้ง
ข. แผน่ ดนิ ถลม่
ค. แผ่นดินไหว
ง. น้ำท่วมฉับพลนั
2. พื้นทใี่ ดเส่ียงต่อการเกิดนำ้ ท่วมมากทส่ี ดุ
ก. บริเวณที่ราบลมุ่ แม่น้ำ
ข. บรเิ วณพนื้ ทร่ี าบเชิงเขา
ค. บริเวณชายฝ่งั ทะเลอนั ดามัน
ง. บรเิ วณท่ีเปน็ ภเู ขา หรอื เนินเขาที่มีบริเวณลาดชนั มาก
3. ข้อใดเปน็ การปฏิบัตติ นขณะท่เี กิดอุทกภัย
ก. ตดิ ตามข้อมูลสภาพอากาศและปรมิ าณน้ำในพนื้ ท่ี
ข. จดั สภาพแวดล้อมรอบบ้านใหป้ ลอดภยั จากนำ้ ทว่ ม
ค. จดั เตรยี มสิ่งของเคร่ืองใชท้ ่ีจา้ เป็นไวใ้ ช้ในชว่ งนำ้ ทว่ ม
ง. ตัดสะพานไฟ และปิดแกส๊ หงุ ตม้
4. ข้อใดไม่ควรปฏิบตั เิ ม่ือตอ้ งเดนิ ลุยนำ้ ทว่ มคือข้อใด
ก. เดินเข้าใกลเ้ สาไฟฟ้า
ข. แตง่ กายด้วยเสือ้ ผ้ำที่มิดชิด
ค. นำถงุ พลาสตกิ หุ้มเทา้ แล้วรดั ดว้ ยยางอีกช้นั เพอื่ ป้องกันปลงิ
ง. ใช้ไมเ้ ขี่ยหรอื กระทุง้ น้ำให้กระจายเพื่อให้สตั วร์ า้ ยตกใจและหนีไป
5. การเกดิ อทุ กภัยในประเทศไทยเกิดผลกระทบดา้ นใดน้อยท่สี ดุ
ก. อตุ สาหกรรม จติ รกรรม ประติมากรรม
ข. เกษตรกรรม เศรษฐกิจ สงั คม สาธารณสุข
ค. การศกึ ษา เกษตรกรรม และอตุ สาหกรรม
ง. ทรพั ยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ ม การเมอื ง
6. ขอ้ ใดเรียงลำดับกระบวนการป้องกนั ภยั ธรรมชาติไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. การเตือนภยั การเฝ้าระวงั การป้องกนั ภัย และการแกป้ ัญหาเม่อื เกิดภยั
ข. การปอ้ งกันภัย กรเฝา้ ระวงั การเตอื นภัย และการแกป้ ัญหาเม่อื เกดิ ภัย
ค. การเฝ้าระวัง การเตือนภยั การป้องกนั ภยั และการแกป้ ญั หาเม่อื เกิดภยั
ง. การแก้ปญั หาเมือ่ เกิดภัย การเฝา้ ระวงั การเตือนภยั และการป้องกันภัย
7. ข้อใดไม่จัดวา่ เป็นปัจจยั สำคญั ที่ทำให้เกดิ อุทกภยั
ก. การสร้างเข่ือน ข. นำ้ ทะเลหนุนขนึ้
ค. พ้ืนทเ่ี ป็นทร่ี าบลุ่ม ง. ฝนตกหนักและต่อเนื่องยาวนาน
8. ข้อใดเป็นสาเหตุของนำ้ ท่วมท่เี กิดจากการกระทำของมนุษย์
ก. ฝนตกหนักอยา่ งตอ่ เนื่อง
ข. พายุ ลมมรสุมเขตรอ้ น
ค. ตดั ไมท้ ำลายป่า
ง. นำ้ ล้นตลงิ่
9. เมื่อเกดิ อุทกภัยไม่ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร
ก. บริโภคอาหารและนำ้ ที่สะอาด
ข. ขี่จกั รยานยนตบ์ นถนนท่ีน้ำกำลังท่วม
ค. เคล่อื นยา้ ยสง่ิ ของท่จี ำเป็นไปอยู่ทส่ี งู และปลอดภยั
ง. ตดิ ตามขา่ วการพยากรณ์อากาศและเตือนภัยจากสือ่ ต่างๆ
10. การตัดไม้ทำลายป่ากอ่ ให้เกดิ สาธารณภัยในข้อใด
ก. สนึ ามิ
ข. อทุ กภัย
ค. พายุใต้ฝุน่
ง. แผน่ ดนิ ไหว
เฉลยข้อสอบ
1. ค 2. ก 3. ง 4. ก 5. ง 6. ก 7. ก 8. ค 9. ข 10. ข