เอกสารประกอบการสอน
รายวชิ าการวจิ ยั เพอ่ื พฒั นาการเรยี นรู้ ED347-107
อสิ มาอลี ราโอบ
ปวค. ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพครู
ศศ.บ. ศิลปศาสตรบัณฑติ (กฎหมายอสิ ลาม)
ศษ.บ. ศึกษาศาสตรบัณฑติ (การวดั ผลและประเมินผลทางการศกึ ษา)
ศษ.ม. ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต (การวดั ผลและวิจัยการศึกษา)
Ph.D. (Statistics & Research Methodology)
คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
2563
เอกสารประกอบการสอน
รายวชิ าการวิจยั เพือ่ พัฒนาการเรยี นรู้ ED347-107
อสิ มาอลี ราโอบ
ปวค. ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ครู
ศศ.บ. ศิลปศาสตรบัณฑิต (กฎหมายอิสลาม)
ศษ.บ. ศกึ ษาศาสตรบัณฑติ (การวัดผลและประเมินผลทางการศกึ ษา)
ศษ.ม. ศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ (การวดั ผลและวจิ ยั การศึกษา)
Ph.D. (Statistics & Research Methodology)
คณะศึกษาศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยฟาฏอนี
2563
ก
คำนำ
อลั ฮำดูลิลาฮฺขอสรรเสริญตอ่ เอกองค์อัลลอฮฺ ได้ทรงสร้างมนษุ ย์พรอ้ มกบั ความสมบูรณ์
จากสิ่งที่ถูกสร้างอื่น ๆ พร้อมให้นิมัตและสิ่งดี ๆ ทั้งหลายนับไม่ถ้วน แต่นิมัตที่ยิ่งใหญ่ที่หาคำ
เปรียบเทียบไมไ่ ด้ก็คอื การชน้ี ำทางใหเ้ ราอยู่ในทางทเี่ ทีย่ งตรง
เอกสารประกอบการสอนรายวชิ าการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ED347-107 นี้ เป็นเอกสาร
ที่มุ่งเน้นให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจและทักษะเกี่ยวกับระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษา ตาม
หลักสูตรศกึ ษาศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลยั ฟาฏอนี
เนื้อหาในเอกสารประกอบการสอนได้แบ่งออกเป็น 12 บท ได้แก่ แนวคิดอิสลามต่อการ
พัฒนาโจทย์วิจัย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิจัยทางการศึกษา การกำหนดประเด็นปัญหาและ
วัตถุประสงค์การวิจัย การทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตัวแปรการวิจัยและสมมุติฐาน การออกแบบ
การวิจยั การสรา้ งเครื่องมือการวิจัย การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวจิ ยั ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
สถิติเพื่อการวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนโครงการวิจัย และการวิจัยในชั้นเรียน ทั้งน้ี
นักศกึ ษาจะสามารถนำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นรายวชิ าอื่น ๆ ต่อไป
ผู้เขียนหวังว่าเอกสารประกอบการสอนนี้คงอำนวยประโยชน์ต่อผู้สอนรายวิชาการวิจัยเพื่อ
พัฒนาการเรียนรู้ หากท่านที่นำไปใช้มีข้อเสนอแนะประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับความแนะนำที่
นำไปส่กู ารปรบั ปรุงการจัดการเรยี นการสอนต่อไป และขอขอบคณุ ผูท้ รงคณุ วฒุ ิท่คี อยให้คำช้ีแนะแนว
ทางการจัดทำเอกสารประกอบการสอนฉบับนี้ไว้ ณ โอกาสน้ดี ว้ ย
และสิง่ ท่ีดีจากอัลลอฮฺ และส่งิ ทีไ่ มด่ กี บั ขอ้ ผิดพลาดเป็นการกระทำของบา่ วพระองค์ หวงั
ว่าอัลลอฮฺ ตอบรับและใหอ้ ภยั โทษ อัสตฆั ฟิรรูลลอฮฺ อามนี
อสิ มาอีล ราโอบ
มถิ ุนายน 2563
ข หนา้
ก
สารบญั ข
ฉ
คำนำ 1
สารบัญ 1
มคอ.3 4
7
บทท่ี 1 แนวคดิ อสิ ลามต่อการพัฒนาโจทย์วจิ ยั 11
1.1 การมีเป้าหมายสงู สดุ (Ultimate Goal) 11
1.2 ปญั หา (Problem) 12
1.3 แนวทางแก้ไข (Solution) 14
15
บทที่ 2 ความรู้เบอ้ื งต้นเก่ียวกับการวิจัยทางการศกึ ษา 20
2.1 ความหมายของการวจิ ัยทางการศกึ ษา 24
2.2 จดุ ม่งุ หมายของการวิจยั 27
2.3 ประโยชนข์ องการวิจัย 29
2.4 ขัน้ ตอนการวิจยั 30
2.5 ประเภทของการวจิ ัย 31
2.6 ความสัมพันธข์ องการวจิ ัยกบั การศึกษา 32
2.7 จรรยาบรรณนักวิจัย 32
2.8 สรปุ 33
2.9 คำถามทบทวน 36
2.10 เอกสารอ้างอิง 41
42
บทที่ 3 การกำหนดประเดน็ ปัญหาและวัตถุประสงคก์ ารวิจัย 45
3.1 ความหมายของปญั หาการวิจัย 45
3.2 แหล่งท่มี าของปัญหาการวิจัย 46
3.3 แนวทางการกำหนดประเด็นปัญหาการวจิ ยั
3.4 การตัง้ ชอื่ เรื่องการวิจยั
3.5 การเขียนวตั ถปุ ระสงค์การวิจัย
3.6 สรุป
3.7 คำถามทบทวน
3.8 เอกสารอา้ งองิ
ค 47
47
บทที่ 4 การทบทวนเอกสารทีเ่ กี่ยวข้อง 49
4.1 ความสำคัญของการทบทวนเอกสารที่เก่ยี วข้อง 51
4.2 ประโยชน์ของการทบทวนเอกสารทเ่ี กีย่ วข้อง 55
4.3 แหลง่ ของเอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง 59
4.4 วิธีการศกึ ษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง 60
4.5 กรอบแนวคิดการวิจยั 60
4.6 ตวั อยา่ งกรอบแนวคิดการวจิ ยั 61
4.7 สรุป 61
4.8 คำถามทบทวน 62
4.9 เอกสารอ้างอิง 62
63
บทท่ี 5 ตัวแปรการวิจัยและสมมุตฐิ าน 65
5.1 ความหมายของตัวแปรการวิจัย 69
5.2 ประเภทของตวั แปรการวิจยั 69
5.3 การวดั ตวั แปร 71
5.4 ความหมายของสมมุตฐิ านการวิจัย 73
5.5 ลกั ษณะของสมมุตฐิ านการวิจัย 74
5.6 ประโยชนข์ องสมมตุ ฐิ านการวิจัย 74
5.7 หลกั การเขยี นสมมตุ ฐิ านการวิจัย 75
5.8 การทดสอบสมมุตฐิ าน 75
5.9 สรปุ 76
5.10 คำถามทบทวน 76
5.11 เอกสารอา้ งอิง 77
79
บทท่ี 6 การออกแบบการวิจยั 88
6.1 ความหมายของการออกแบบการวจิ ยั 93
6.2 จุดมงุ่ หมายของการออกแบบการวิจัย 94
6.3 ข้ันตอนการออกแบบการวจิ ยั 94
6.4 ลักษณะของการออกแบบการวจิ ัย
6.5 สรปุ
6.6 คำถามทบทวน
6.7 เอกสารอา้ งอิง
ง 95
95
บทท่ี 7 การสรา้ งเครื่องมือการวจิ ัย 96
7.1 ความหมายของเครื่องมอื การวิจัย 102
7.2 ประเภทของเคร่ืองมือการวจิ ยั 104
7.3 มาตรวัดตัวแปร 114
7.4 ขน้ั ตอนการสร้างเคร่ืองมือการวิจยั 116
7.5 ลกั ษณะของเครื่องมือวิจยั ทีด่ ี 117
7.6 สรปุ 117
7.7 คำถามทบทวน 118
7.8 เอกสารอา้ งองิ 118
134
บทท่ี 8 การตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมือวจิ ัย 137
8.1 ความหมายของการตรวจสอบคณุ ภาพ 143
8.2 ความเท่ยี งตรง 145
8.3 ความเชื่อมนั่ 146
8.4 ค่าความยาก 148
8.5 ค่าอานาจจำแนก 148
8.6 ค่าความเป็นปรนยั 150
8.7 สรุป 151
8.8 คำถามทบทวน 151
8.9 เอกสารอ้างอิง 152
153
บทท่ี 9 ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 158
9.1 ความหมายของประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง 161
9.2 ลักษณะของกลุ่มตัวอย่างท่ดี ี 161
9.3 การกำหนดขนาดกลุ่มตัวอยา่ ง 162
9.4 วธิ กี ารสุ่มกลุ่มตวั อย่าง 163
9.5 สรปุ 163
9.6 คำถามทบทวน 164
9.7 เอกสารอ้างองิ 168
บทที่ 10 สถิตเิ พอ่ื การวิจัยและการวเิ คราะห์ข้อมูล
10.1 ความหมายของสถิติ
10.2 ความสำคัญของสถติ ใิ นการวจิ ยั
10.3 ประเภทของสถิติ
จ 175
179
10.4 การเลือกใช้สถิตใิ นการวเิ คราะหข์ ้อมลู 180
10.5 สรปุ 180
10.6 คำถามทบทวน 181
10.7 เอกสารอา้ งองิ 181
บทท่ี 11 การเขยี นโครงการวิจัย 182
11.1 ลักษณะของโครงการวจิ ยั 184
11.2 วตั ถปุ ระสงค์ของการเขียนโครงการวจิ ัย 186
11.3 องค์ประกอบของโครงการวิจัย 194
11.4 หลักการเขียนโครงการวิจยั 195
11.5 สรุป 195
11.6 คำถามทบทวน 196
11.7 เอกสารอา้ งองิ 196
บทท่ี 12 การวิจยั ในชน้ั เรยี น 197
12.1 ความหมายของการวจิ ัยในชนั้ เรยี น 198
12.2 ความสำคัญของการวิจยั ในชนั้ เรียน 205
12.3 ข้ันตอนการทำวิจัยในชั้นเรียน 210
12.4 นวตั กรรมทางการศึกษา 210
12.5 สรปุ 211
12.6 คำถามทบทวน
12.7 เอกสารอ้างอิง
ฉ
มคอ. 3
รายละเอยี ดของรายวชิ า
มหาวทิ ยาลยั ฟาฏอนี
คณะศึกษาศาสตร์
หมวดท่ี ๑ ขอ้ มูลทัว่ ไป
๑.๑ รหสั และช่ือรายวชิ า
ภาษาไทย ED347-107 การวจิ ัยเพือ่ พฒั นาการเรยี นรู้
ภาษาอังกฤษ ED347-107 Research for learning development
๑.๒ จำนวนหนว่ ยกิต
3 (2-2-5) หนว่ ยกติ
๑.๓ หลกั สตู รและประเภทของรายวชิ า
หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑติ ประเภท วชิ าชีพครบู งั คบั หมวดวิชาชีพครู
๑.๔ อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบรายวชิ าและอาจารยผ์ สู้ อน
ดร. อิสมาอลี ราโอบ
ดร. มะยูตี ดือรามะ
อ. อบั ดุลฆอนี เจะโซะ
อ. นาดีย๊ะ นหิ ลง
๑.๕ ภาคการศกึ ษา / ชัน้ ปีที่เรียน
ภาคการศึกษาตอนตน้ ปี ๒๕๖๓ ชั้นปที ี่ ๓
๑.๖ เงือ่ นไขของรายวชิ า/รายวชิ าทตี่ อ้ งเรยี นมากอ่ น (Pre-requisite)
ไม่มี
๑.๗ รายวิชาท่ีต้องเรยี นพร้อมกนั (Co-requisites)
ไม่มี
๑.๘ สถานทีเ่ รยี น
คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ฟาฎอนี
๑.๙ วนั ทีจ่ ดั ทำหรอื ปรับปรงุ รายวิชาครั้งล่าสดุ
วนั ที่ ๑๕ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
ช
หมวดที่ ๒ จุดมงุ่ หมายและวัตถุประสงค์
๒.๑ จุดมงุ่ หมายของรายวิชา
๒.๑.๑ นักศกึ ษาสามารถอธบิ ายหลักการ แนวคดิ ทฤษฎี และความสำคญั ของการ
วจิ ัย
๒.๑.๒ นักศกึ ษาสามารถอธิบายรูปแบบ เทคนิค และระเบยี บวธิ กี ารวิจยั แบบต่างๆ
๒.๑.๓ นกั ศึกษาสามารถจำแนกประเภทตัวแปรการวจิ ัยและให้คำจำกดั ความตัวแปร
๒.๑.๔ นักศึกษาสามารถเปรยี บเทียบลักษณะและรูปแบบการวจิ ัยเพื่อพฒั นาการ
เรียนรู้
๒.๑.๕ นักศกึ ษาสามารถสบื คน้ และสงั เคราะหง์ านวิจัยทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการพัฒนาการ
เรยี นรู้
๒.๑.๖ นกั ศึกษาสามารถออกแบบเครอ่ื งมือวิจัย การรวบรวมขอ้ มูลและการวเิ คราะห์
ขอ้ มลู
๒.๑.๗ นกั ศึกษาสามารถเขียนและนำเสนอเค้าโครงการวจิ ยั เพ่อื พฒั นาการเรยี นรู้
๒.๑.๘ นักศกึ ษาสามารถปฏิบัตกิ ารทำวิจยั เพอื่ พัฒนาการเรยี นรู้ และเขียนรายงาน
การวิจัย
๒.๑.๙ นักศกึ ษาเหน็ คุณคา่ การปฎิบัตติ นตามจรรณยาบรรณนกั วิจัย
๒.๒ วตั ถุประสงค์ในการพฒั นา/ปรบั ปรุงรายวิชา
ปลูกฝังให้นักศึกษาเห็นคณุ คา่ ความสำคัญของวิจัยการศึกษา พร้อมทั้งประยุกต์ใช้
ฐานข้อมูลเอกสารฉบับเต็มในรูปอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการจัดการ
เรียนการสอน ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้การวิเคราะห์
ขอ้ มลู เชิงปริมาณ เพ่ือใหน้ ักศึกษาเรยี นรูอ้ ย่างเตม็ ศกั ยภาพ
หมวดที่ ๓ ลักษณะและการดำเนนิ การ
๓.๑ คำอธิบายรายวิชา
หลักการ แนวคิด ความสำคัญของการวิจัยและการวิจัยในอิสลาม ทฤษฎี รูปแบบ
เทคนิค ระเบียบวิธีวิจัยและแนวปฏิบัติในการวิจยั การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ การ
วจิ ัยช้ันเรียน หลักการและการฝึกปฏิบัติ การจัดทำโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียน
การสอนและพัฒนาผู้เรียน การดำเนินการวิจยั การวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหข์ อ้ มูล การ
เขยี นรายงาน การนำเสนอ และการเผยแพรง่ านวิจยั การศึกษา การสังเคราะห์และการ
ซ
ใชง้ านวิจัยทเี่ กย่ี วข้องกับการพัฒนาการเรยี นรู้ และการนำเสนอผลการวจิ ัยไปใชใ้ นการ
จัดกาเรียนการสอน จรรยาบรรณนกั วจิ ัย
๓.๒ จำนวนชว่ั โมงทใ่ี ช้ตอ่ ภาคการศกึ ษา
บรรยาย สอนเสริม การฝกึ ปฏิบตั ิ การศึกษาดว้ ย
ตนเอง
๒ ช่วั โมงต่อ สอนเสรมิ ตาม ๒ ชั่วโมงต่อสปั ดาห์ ๕ ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์
สปั ดาห์ ความต้องการ
ของนักศึกษา
๓.๓ จำนวนช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์ท่ีอาจารยใ์ ห้คำปรกึ ษาและแนะนำทางวิชาการแก่
นักศกึ ษาเป็นรายบคุ คล
๒ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ตามความต้องการของนักศึกษาเฉพาะราย)
หมวดท่ี ๔ การพฒั นาผลการเรียนร้ขู องนกั ศึกษา
๔.๑ ๑. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
(๑.๑) ผลการเรยี นรู้
๑.๑.๑ มจี รรยาบรรณวิชาการและจรรยาบรรณวิชาชพี ครทู กี่ ำหนดโดยครุสภา
๑.๑.๒ เคารพกฎและปฎิบตั ติ ามระเบยี บตา่ งๆของมหาวิทยาลยั สังคม และกรอบ
จริยธรรมอสิ ลาม
๑.๑.๓ มคี ณุ ธรรมจริยธรรม ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ เสียสละ มจี ติ สาธารณะ เป็น
แบบอย่างที่ดี มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง และส่วนรวม
(๑.๒) วธิ ีการสอน
๑.๒.๑ สอนโดยยกตวั อย่างสถานการณ์ เพอ่ื ให้นกั ศกึ ษาร่วมกันวิจารณ์ตามหลกั
คณุ ธรรมของนักวจิ ัย
๑.๒.๒ สอนทางออ้ มผ่านการแสดงตนเป็นแบบอยา่ งของอาจารยผ์ สู้ อน และ
กำหนดกติกาการเข้าเรียน การสง่ งาน และการมสี ่วนรว่ มในการสรา้ งบรรยากาศที่
ส่งเสริมใหเ้ กดิ การเรยี นรใู้ นช้ันเรียน
๑.๒.๓ สอนโดยเลา่ ประสบการณ์และยกกรณีตัวอยา่ ง
๑.๒.๔ การบรรยายและสนทนาแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ในช่วงเวลาการบรรยาย
และการฝึกปฏบิ ตั ิ
ฌ
(๑.๓) วิธีการวดั และประเมินผล
๑.๓.๑ ประเมินจากการสังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี นและผลการเปลี่ยนแปลง
พฤตกิ รรมตามคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์
๑.๓.๒ ประเมินโดยสงั เกตพฤตกิ รรมการบรหิ ารเวลาในการทำแบบฝกึ หัดและ
ความซอื่ สตั ยส์ จุ ริตในการทำงานด้วยตนเอง
๔.๒ ๒. ความรู้
(๒.๑) ผลการเรยี นรู้
๒.๑.๑ มีความรู้พ้ืนฐานศาสตสร์ทางดา้ นระเบยี บวิธกี ารวจิ ยั ทางการศกึ ษา
และตระหนักถึงความสำคัญของการวจิ ยั เพื่อพฒั นาการจัดการเรียนรู้
๒.๑.๒ มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และประเมนิ คา่ การบรู
ณาการ และนำความรู้ดา้ นวชิ าชพี ครูประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
๒.๑.๓ มคี วามสามารถวเิ คราะหป์ ัญหาการจัดการเรยี นการสอน การทำวจิ ัยใน
ชนั้ เรยี น และการนำผลการวิจยั เพื่อพมั นาการจัดการเรียนการสอนและพฒั นาผเู้ รยี น
๒.๑.๔ มีความสามารถในออกแบบการวจิ ยั เพ่ือพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ และต่อ
ยอดองคค์ วามรดู้ ้านวิชาชพี และความรู้เฉพาะดา้ น
(๒.๒) วิธกี ารสอน
๒.๒.๑ บรรยาย อภปิ ราย การสอนแบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem based
learning)
๒.๒.๒ การสาธติ การสอนแบบใช้วิจยั เปน็ ฐาน (Research based learning)
๒.๒.๓ กจิ กรรมกลุ่มยอ่ ย
๒.๒.๔ การนำเสนอเป็นรายบคุ คลและรายกล่มุ
๒.๒.๕ การฝกึ ปฏิบตั ิ
๒.๒.๖ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ผา่ น Social Network
(๒.๓) วธิ กี ารวดั และประเมินผล
๒.๓.๑ ประเมินจากผลงานท่ีมอบหมาย
๒.๓.๒ การมีสว่ นรว่ มและพฤติกรรมในช้ันเรยี น
๒.๓.๓ แบบทดสอบยอ่ ย และการสอบปลายภาค
๔.๓ ๓. ทักษะทางปญั ญา
(๓.๑) ผลการเรียนรู้
๓.๑.๑ สามารถวิเคราะหป์ ัญหาท่ซี บั ซ้อน มีทกั ษะในการแก้ปญั หา และเสนอวิธี
แกป้ ญั หาได้อยา่ งสร้างสรรค์
ญ
๓.๑.๒ มีความสามารถประยกุ ต์ความเขา้ อันถอ่ งแท้ในทฤษฎีและระเบยี บ
วิธีการศึกษาวิจยั เพือ่ สรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่
(๓.๒) วิธีการสอน
๓.๒.๑ การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
๓.๒.๒ การอภิปรายกลมุ่ ยอ่ ย
(๓.๓) วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล
๓.๓.๑ ผลการปฏิบตั งิ านและผลงานที่มอบหมาย
๓.๓.๒ แบบฝึกปฏบิ ัติ และการสอบระหวา่ งภาค
๔.๔ ๔. ทักษะความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบ
(๔.๑) ผลการเรยี นรู้
๔.๑.๑ สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาตนเองและสงั คม
ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
๔.๑.๒ สามารถสรา้ งความสมั พนั ธท์ ี่ดี และสามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อื่นในบรบิ ท
ต่างๆ
๔.๑.๓ มคี วามเปน็ ผ้นู ำและผ้ตู ามที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม สงั คมและ
ส่งิ แวดลอ้ ม
(๔.๒) วธิ กี ารสอน
๔.๒.๑ การทำกิจกรรมกลุม่ ยอ่ ย
๔.๒.๒ การอภปิ รายกล่มุ ยอ่ ย
๔.๒.๓ เชิญวทิ ยากรภายนอกมาใหแ้ ลกเปลย่ี นความคดิ เหน็
(๔.๓) วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล
๔.๓.๑ การสอบถามนักศกึ ษาภายในกลมุ่ และทำสงั คมมิติ
๔.๓.๒ การตรวจสอบผลงานกลุ่ม
๔.๕ ๕. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตวั เลข การส่อื สาร และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
(๕.๑) ทักษะการวิเคราะห์เชิงตวั เลข การสือ่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศท่ี
ตอ้ งพัฒนา
๕.๑.๑ ทกั ษะการวิเคราะห์ขอ้ มลู เชิงปรมิ าณเพ่อื การตดั สินใจอย่างสร้างสรรค์ใน
การแปลความหมาย และเสนอแนะแนวทางในการแก้ปญั หาหรือข้อโตแ้ ยง้
๕.๑.๒ ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และสถิติพน้ื ฐานทใ่ี ช้ในการวิจัยเพอื่
การเรยี นรกู้ ารสือ่ สารและการจัดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธภิ าพ
๕.๑.๓ ทกั ษะในการพดู การเขยี น และการนำเสนออยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ฎ
(๕.๒) วธิ ีการสอน
๕.๒.๑ การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
๕.๒.๒ การอภปิ ราย การอภิปรายกลุ่มยอ่ ย
๕.๒.๓ การศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง
๕.๒.๔ การแลกเปลี่ยนเรียนร้ใู นเครือข่ายสงั คมออนไลน์ facebook
(๕.๓) วิธกี ารวัดและประเมินผล
๕.๓.๑ ประเมนิ จากผลงานทม่ี อบหมาย
๕.๓.๒ ประเมินจากการสื่อสารแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากเว็บบล็อกและเครือขา่ ย
สงั คมออนไลน์
หมวดท่ี ๕ แผนการสอนและการประเมนิ ผล
๕.๑ แผนการสอน
หวั ข้อ/รายละเอียด จำนวน กจิ กรรรมการเรียนการสอน อาจารย์
ชว่ั โมง และส่อื ท่ใี ช้
สัปดาห์ เน้อื หา อิสมาอลี ราโอบ
๒ ๑. แนะนำผู้สอนและผเู้ รยี น มะยูตี ดอื รามะ
๑ ๑. ปฐมนิเทศ ๒. ช้แี จงรายวชิ า รปู แบบการ อับดุลฆอนี เจะโซะ
จดั การเรียนการสอน การวดั และ นาดีย๊ะ นิหลง
เกี่ยวกบั การ ประเมินผล
จัดการเรยี นการสอน
๓. กำหนดข้อตกลงรว่ มกนั ในการ
กิจกรรมการเรยี นการสอนและส่ือ
ท่ีใชเ้ รยี น
๔. วัดความรู้เบ้ืองตน้ ของผเู้ รยี น
กอ่ นการสอน
๕. กจิ กรรม Story Telling
เพอ่ื ใหน้ กั ศกึ ษารจู้ กั ซง่ึ กันและกนั
- สือ่ ทใี่ ช้
๑. มคอ.๓
๒. สไลดแ์ นะนำการเรียนรู้
๓. เกมส์ Story Telling
๑-๒ ๑. หลักการ แนวคดิ ๖ ๑. บรรยาย อภปิ ราย อสิ มาอลี ราโอบ
ทฤษฎี ความสำคญั
๒. อภิปรายกลมุ่ ยอ่ ยและนำเสนอ มะยูตี ดอื รามะ
อับดลุ ฆอนี เจะโซะ
ฏ
การวิจยั เพอ่ื ผลการอภปิ รายกลุ่มยอ่ ย นาดีย๊ะ นหิ ลง
พฒั นาการเรยี นรู้ ๓. การสบื คน้ ขอ้ มูลและการตอบ
คำถามออนไลน์
๔. แลกเปลยี่ นเรียนรู้ผ่าน Social
Network
- ส่ือที่ใช้
๑. สไลด์
๒. หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์
๓-๔ ๑. รปู แบบและ ๘ ๑. บรรยาย อธบิ าย อิสมาอลี ราโอบ
ประเภทของระเบยี บ ๒. นำเสนอผลการศึกษาค้นคว้า มะยูตี ดือรามะ
วิธกี ารวิจยั ทางการ ๓. อภิปรายและสรปุ เนอื้ หา
ศกึ ษา ๔. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลมุ่
facebook
- สือ่ ทใ่ี ช้
๑. สไลด์
๒. หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์
๓. Mind Mapping
๕ ๑. การกำหนดตวั ๔ ๑. บรรยาย อธบิ าย อิสมาอลี ราโอบ
มะยตู ี ดอื รามะ
แปรการวจิ ัย การให้ ๒. อภปิ รายกล่มุ อบั ดลุ ฆอนี เจะโซะ
นาดียะ๊ นหิ ลง
คำจำกดั ความตวั แปร - สอ่ื ทใ่ี ช้
และการวัดตวั แปร ๑. สไลด์
๒. ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์
๖-๗ ๑. การออกแบบการ ๘ ๑. บรรยาย อธิบาย อิสมาอีล ราโอบ
วิจัยการสืบค้นและ ๒. สรุปอภิปราย มะยตู ี ดอื รามะ
สังเคราะหง์ านวจิ ัยท่ี ๓. ฝึกปฎบิ ตั ิ อับดุลฆอนี เจะโซะ
นาดียะ๊ นหิ ลง
เกยี่ วขอ้ ง การเขยี น - สื่อทใ่ี ช้
เคา้ โครงการวิจัย ๑. สไลด์
๒. หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์
๘-๙ ๑. การสร้าง ๘ ๑. บรรยาย อธบิ าย อิสมาอีล ราโอบ
เครือ่ งมอื การวจิ ยั ๒. ฝกึ ปฏบิ ัติ มะยูตี ดือรามะ
และการตรวจสอบ - สอื่ ทใ่ี ช้ อบั ดลุ ฆอนี เจะโซะ
นาดยี ะ๊ นหิ ลง
ฐ
คุณภาพ ๑. สไลด์
๒. หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์
๑๐ ๑. การกำหนดกลมุ่ ๔ ๑. บรรยาย อธิบาย อิสมาอีล ราโอบ
มะยูตี ดือรามะ
ประชากรและการสุ่ม ๒. อภปิ รายกลุ่มยอ่ ย อับดุลฆอนี เจะโซะ
นาดยี ๊ะ นหิ ลง
ตวั อยา่ งเพื่อการเก็บ - สอ่ื ทใี่ ช้
รวบรวมขอ้ มูลวิจัย ๑. สไลด์
๒. ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์
๑๑-๑๒ ๑. การวิเคราะห์ ๘ ๑. บรรยาย สาธติ อธบิ าย อิสมาอีล ราโอบ
ข้อมลู การวจิ ัยเชิง ๒. ฝกึ ปฏบิ ตั ิ มะยูตี ดอื รามะ
ปริมาณและเชิง ๔. นำเสนอเป็นรายกลมุ่ อับดลุ ฆอนี เจะโซะ
คณุ ภาพ ๕. สรุปอภิปราย นาดยี ๊ะ นหิ ลง
- ส่ือท่ใี ช้
๑. สไลด์
๒. หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพิวเตอร์
๑๓-๑๔ ๑. การเขยี นรายงาน ๘ ๑. บรรยาย สาธติ อธิบาย อิสมาอีล ราโอบ
การวจิ ัย การ ๒. นำเสนอเปน็ รายกลมุ่ มะยูตี ดอื รามะ
นำเสนอผลการวิจยั - สอ่ื ทใ่ี ช้ อบั ดุลฆอนี เจะโซะ
การนำผลการวจิ ยั ไป ๑. สไลด์ นาดยี ๊ะ นิหลง
ใช้ในการพฒั นาการ ๒. หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์
เรยี นการสอน
๑๕ ๑. จรรยาบรรณ ๔ ๑. บรรยาย อธิบาย อสิ มาอีล ราโอบ
นักวจิ ยั ๒. อภิปราย มะยตู ี ดอื รามะ
- สื่อที่ใช้ อับดลุ ฆอนี เจะโซะ
๑. สไลด์ นาดียะ๊ นหิ ลง
๑๖ สอบปลายภาค ๓ แบบทดสอบ อสิ มาอลี ราโอบ
มะยูตี ดือรามะ
อบั ดลุ ฆอนี เจะโซะ
นาดยี ๊ะ นหิ ลง
ฑ
๕.๒ แผนการประเมินผลการเรยี นรู้
กิจกรรมท่ี ผลการเรียนรู้ วิธีการประเมนิ สปั ดาหท์ ่ี สัดสว่ นของ
ประเมนิ การประเมิน
๑ ๑.๑.๑, ๑.๑.๒ การสงั เกตพฤติกรรม ตลอดภาค ๑๐
๑.๑.๓, ๑.๑.๔ การปฏบิ ตั งิ านส่วนบุคคล เรียน ๔๐
๔.๑.๑, ๔.๑.๒ การมาเรยี น และการมี ๒๐
๔.๑.๓ สว่ นร่วมในชั้นเรยี น ๓๐
๒ ๒.๑.๑ ๒.๑.๒ การประเมินผลงานการ ๑๒-๑๔
๒.๑.๓ ๒.๑.๔ เขยี นเค้าโครงวจิ ยั การ
๓.๑.๑, ๓.๑.๒, ประเมนิ ผลงานการเขยี น
๕.๑.๓ รายงานการวจิ ัยและการ
นำเสนอ
๔ ๒.๑.๑, ๒.๑.๒ ทดสอบยอ่ ย และการ ๑๕
๒.๑.๓, ๒.๑.๔ ประเมนิ ผลการฝกึ ปฎบิ ัติ
๓.๑.๑, ๓.๑.๒,
๕.๑.๑, ๕.๑.๒
๕ ๒.๑.๑, ๒.๑.๒ การทดสอบปลายภาค ๑๖
๒.๑.๔, ๕.๑.๑,
๕.๑.๒
หมวดที่ ๖ ทรพั ยากรประกอบการเรยี นการสอน
๖.๑ ตำราและเอกสารหลกั
๑. นวลอนงค์ บญุ ฤทธพิ งศ์. (2556). ระเบีบบวธิ ีวจิ ัยทางการศึกษา. พมิ พ์ครงั้ ที่ 3.
กรุงเทพฯ: สำนกั พมิ พ์แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
๒. พสิ ณุ ฟองศรี. (2550). วจิ ยั ในชนั้ เรียน: หลกั การและเทคนคิ ปฏบิ ัติ. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 4.
กรุงเทพฯ: บริษัทพรอพเพอร์ตพี้ ริ้นท์ จำกัด.
๓. วาโร เพง็ สวัดสดิ์. (2545). การวจิ ัยในช้ันเรยี น. กรุงเทพฯ: สรุ ยิ ศาสน์ .
๔. ธานินทร์ ศิลปจ์ ารุ. (2549). การวจิ ยั และการวิเคราะห์ขอ้ มลู ทางสถติ ดิ ้วย SPSS.
พมิ พ์คร้ังที่ 5. กรงุ เทพฯ: วี อนิ เตอร์ พร้ิน.
๕. พชิ ิต ฤทธิ์จรญู . (2544). แนวทางการวจิ ยั เพ่ือพฒั นาการเรียนรู้: บทบาทครกู ับการ
วจิ ัยในชนั้ เรียน. กรงุ เทพมหานคร : พรกิ หวาน กราฟฟิค จำกัด.
ฒ
๖.๒ เอกสารและข้อมูลสำคญั
ไม่มี
๖.๓ เอกสารและข้อมูลแนะนำ
๑. ฐานข้อมลู เอกสารฉบบั เต็มในรูปอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (ThaiLIS)
http://202.28.199.3/tdc/basic.php
๒. เว็บไซตว์ ัดผล สถิติ และวจิ ยั การศกึ ษา http://www.watpon.com/watpon
หมวดท่ี ๗ การประเมนิ และปรับปรุงการดำเนนิ การของรายวิชา
๗.๑ การประเมินประสทิ ธผิ ลของรายวชิ าโดยนักศึกษา
-แบบประเมินผลการสอนอาจารย์ผู้สอน ซ่ึงเป็นแบบประเมินผลการสอนของ
มหาวิทยาลัยที่กำหนดใหม้ กี ารประเมินการสอนอาจารย์โดยนกั ศกึ ษาทุกภาคการศึกษา
ในฐานข้อมูลระบบบรกิ ารการศกึ ษา (eRegister)
๗.๒ กลยทุ ธก์ ารประเมนิ การสอน
- การสังเกตการณร์ ะหว่างการสอน
- การทดสอบระหวา่ งเรยี น และหลงั เรียน
- การประเมนิ การเรียน การสง่ งานที่มอบหมาย
- การส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรียนการสอน
- ผลการเรียนของนักศกึ ษา
- ตรวจสอบแบบบนั ทกึ การเขา้ รว่ มกิจกรรมและแบบบันทกึ รายงานการพัฒนา
บุคลกิ ภาพตนเอง
๗.๓ การปรับปรุงการสอน
หลงั จากได้รับผลการประเมนิ การสอน จะมีการปรบั ปรุงการสอน ดังนี้
- พฒั นากระบวนการเรยี นการสอน
- นำเสนอผลการประชุมในกรประชมุ สาขาวชิ าเพ่ือรบั ฟงั ความคิดเหน็
- ศกึ ษาเอกสารและทำการวิจัยเพ่ือพฒั นาการจดั การเรียนการสอน
การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนในรายวชิ า
๗.๔ - ฝ่ายวชิ าการทบทวน กล่นั กรองผลการประเมนิ การเรยี นรู้ของนักศึกษา โดยพจิ ารณา
การให้คะแนนข้อสอบและการใหค้ ะแนนพฤตกิ รรม จริยธรรม พฤติกรรมทพี่ งึ ประสงค์
บทที่ 1
แนวคดิ อิสลามตอ่ การพัฒนาโจทยว์ ิจัย
การพัฒนาโครงการวิจัย นักวิจัยต้องมีชุดความคิด (Mindset) ที่เป็นกระบวนทัศน์
(Paradigm) เพือ่ ให้เปน็ เป้าหมายใหญ่ที่ต้องการให้เกิด หรือเปา้ หมายทจ่ี ะใหเ้ กดิ ผลผลติ ผลลพั ธ์ และ
ผลกระทบ อีกทั้งต้องกำหนดปัญหา (Problem) ให้ชัดว่า ตรรกะว่าด้วยเหตุและผลใดที่เป็นปัญหา
และไม่สามารถไปอยู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ และประการสุดท้ายมีแนวทาง (Solution) นวัตกรรม
(Innovation) หรือกระบวนการใดที่สามารถแก้ปัญหาและดำเนินการไปสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่
กำหนดไว้ได้
1.1 การมเี ปา้ หมายสูงสุด (Ultimate Goal)
เปา้ หมายสูงสุดของชีวิตแต่ละคนก็คงแตกต่างกันไป บางคนอาจว่าความสำเร็จในหน้าที่การเรียน
การได้เป็นครู การมีการจัดการศึกษาที่ครบวงจร แต่เป้าหมายของแต่ละคนที่กำหนดสามารถนำพา
ตนเองไปสู่โลกหน้า การได้เข้าสวรรค์ เพื่อการกลับไปสู่ผู้ทรงสร้างได้อย่างไร ศาสนาอิสลามระบุ
เป้าหมายสูงสุดสำหรับมนุษย์ก็คือ “และเราอัลลอฮฺนั้นไม่ได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่อสิ่งอื่นใด
นอกจากเคารพสักการะภักดีต่อพระองค์” ดังนั้นเป้าหมายในการใช้ชีวิตของเรานั้น จึงไม่ใช่อยู่ไป
วันๆ ทำงาน กิน นอน โดยลืมที่จะทำการงานที่เป็นความดี ขาดความตักวา (ยำเกรง) ต่ออัลลอฮฺ ซึ่ง
ความคิดหรือการกระทำเช่นนั้นเป็นเป้าหมายหรือความคิดที่ผิด เพราะมนุษย์นั้นต้องพบกับวันโลก
หน้า (อาคีเราะห์) ซึ่งมนุษย์ต้องถูกสอบสวนจากพระผู้เป็นเจ้า และรับการตอบแทนจากพระองค์
ดงั น้ันเพอื่ ใหห้ นา้ ท่กี ารงานของเราสมบูรณ์ โดยเฉพาะหนา้ ที่ของครูผ้สู อนต้องรบั ผดิ ชอบเพ่อื พัฒนาให้
ผ้เู รียนมีความรู้ ทกั ษะ และคณุ ลักษณะท่ีกำหนดในหลกั สตู รการศึกษาได้
อลั ลอฮฺ (ซุบฮาฯ) ทรงตรสั ไวว้ า่
َٰو َأ ۡل َ ىٰقٰ ِٰفٰٱ ۡۡلَۡر ِضٰٰ َر َوى ِ َٰسٰأَ ٰنٰتَ ِمي َٰدٰبِ ُك ٰۡمٰ َو َأنۡ َهى ٗرٰاٰ َو ُس ُب ٗ ٰلٰلَّ َعلَّ ُك ۡمٰٰ َت ۡه َت ُدو َن
และพระองค์ทรงให้มีเทือกเขามั่นคงในแผ่นดิน เพื่อมิให้มันสั่นสะเทือนแก่พวกเจ้า และ
(ทำใหม้ ี) ลำนำ้ และหนทาง เพือ่ พวกเจ้าจะได้บรรลุสเู่ ปา้ หมาย
(อลั นฮั ล์: 15)
2
ตฟั ซรี อฏั ตอบารยี ์
นี้เป็นเนี๊ยะมัต (ความกรุณาปราณี) ของพระองค์ต่อปวงมนุษย์ที่ได้ทรงให้มีเทือกเขาใน
แผ่นดิน เพื่อมิให้ส่ันสะเทอื น เพราะมีหลายฮาดีษรายงานว่า หลังจากพระองค์ทรงสร้างพืน้ โลกเสร็จ
แผ่นดินได้สั่นสะเทือน ดังนั้นพระองค์ทรงสร้างภูเขาเพื่อยึดติดแผนดินมิให้สั่นสะเทือน เช่นเดียวกัน
พระองค์ทรงสร้างลำน้ำเพื่อให้มนุษย์และสัตว์ได้ใช้ประโยชน์จากมัน ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนแต่ต้องการน้ำ
และเกิดจากน้ำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกสิ่งมีชีวิตต้องมีน้ำเพื่อดำรงชีวิตในการอยู่รอด ดังนั้นการท่ี
พระองค์สร้างลำน้ำหรือแม่น้ำ เปน็ เน๊ยี ะมัตท่บี งบอกวา่ พระองค์รักมคั ลูกของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นคน
มุอ์มินหรือกาเฟร อัลลอฮฺก็ให้ดื่มน้ำ สุดท้าย อายะห์ได้กล่าวถึงหนทาง ซึ่งหลังจากที่สร้างภูเขาและ
แม่น้ำ พระองค์ก็ไม่ลืมที่จะสร้างหนทาง เพื่อให้ปวงมนุษย์และสัตว์ทังหลาย สามารถใช้เดินทาง
สะดวกในการใชป้ ระโยชนจ์ ากภเู ขาและแม่น้ำ เพื่อมิใหห้ ลงทาง
ตฟั ซรี อลั กุรฏูบยี ์
ฮาดีษรายงานจากตัรมีซีย์ ความว่า หลังสร้างแผ่นดินเรียบเสร็จ แผ่นดินได้มีการเคลื่อน
สั่นสะเทือน แล้วพระองค์ก็สร้างภูเขาบนพื้นแผ่นดิน จึงทำให้แผ่นดินนิ่งสงบไม่เคลื่อนสั่นสะเทือน
จนทำให้มาลาอีกะห์แปลกใจในความแข่งแกรงของภูเขา จงึ ไดถ้ ามวา่ มีอีกหรือสิ่งที่แข่งแกรงกว่าภูเขา
พระองคต์ อบว่า มี น่ันก็คือ เหลก็
ตัฟซรี อิบนกู าษีร
หลังเสร็จสิ้นสร้างภูเขา พระองค์สร้างแม่น้ำให้ไหลรินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เพื่อให้มนุษย์
และสัตว์สะดวกในการดำรงหาปัจจัยยังชีพของพระองค์ และพระองค์สร้างทาง เพื่อให้ผู้คนสามารถ
เคลอื่ นย้ายจากเมืองหน่งึ ไปอกี เมืองหนึ่งโดยสะดวกมากขึ้น
สรปุ
จากอายะห์ขา้ งต้นสรปุ ไดว้ ่า ทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นสงิ่ เป็นมชี ีวิต เชน่ สัตว์ต่าง ๆ และสิ่ง
ที่ไม่มีชีวิต เช่น ภูเขา แม่น้ำ ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมาย และอัลลอฮฺไม่สร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
บนโลกใบน้ี เวน้ แต่ต้องมีเป้าหมายท่ีจัดเจน โดยไม่สรา้ งสิ่งใดเปล่าประโยชน์ น่ันคือ การอำนวยความ
สะดวกแก่บา่ วของพระองค์
3
อัลลอฮฺ (ซบุ ฮาฯ) ทรงตรัสไวว้ ่า
ِعبَا ِد ِه ِم ْن َاََّّلل َيْ َشى إَِّنَا أَلَْوانخهخ َك َذلِ َك ُخمْتَلِ ٌف َوالأَنْ َعاِم اَََّوّالللَ َّدَعَواِزيٌِزب اَلْوِعخملََنَماالءَنّاإِ َِّنس
َغخفوٌر
และในหมู่มนุษย์ และสัตว์ และปศุสัตว์ ก็มีหลากหลายสีเช่นเดียวกัน แท้จริง บรรดาผู้ที่มี
ความรู้จากปวงบ่าวของพระองค์เท่านั้นที่เกรงกลัวอัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺ นั้นเป็นผู้ทรง
อำนาจ ผทู้ รงอภัยเสมอ
(อลั ฟาติร: 28)
ตัฟซีรอลั กรุ ฏูบยี ์
อัลลอฮทรงได้สร้างภูเขาหลากหลายชนิดและหลากหลายสีไม่ว่าขาว แดง และดำสนิท และ
สร้างพืชผลไม้งอกเงย สีสันของมัน มีสีหลากหลายสีแตกต่างกัน เช่นเดียว อัลลอฮได้สร้างความ
แตกต่างของบ่าวของเขาด้วยกับการเทียบกับความยำเกรง ผู้ที่รู้ แท้จริงคือผู้ที่กลัวอำนาจและ
ความสามารถของพระองค์
ตฟั ซรี อัลบาฆอวีย์
ท่านมัสรูก กล่าว เพียงพอแล้วกับความยำเกรงต่อพระองค์ในสิ่งที่ได้เรียนรู้มา และเพียงพอ
กับการถูกหลอกโดยพระองค์จากสิ่งทีเ่ ขาไมร่ ู้ ในฮาดีษหนึ่งความว่า ท่านนบีกลา่ วว่า หากพวกท่านรู้
ในสิง่ ที่ฉนั รู้ แน่นอนพวกท่านจะหัวเราะน้อยลง และร้องไห้มากขน้ึ
ตัฟซรี อิบนกู าซรี
ท่านอาลี บินอาบีตอลฮะห์กล่าว ผู้รู้ทีแท้จริง คือผู้รู้ทีรู้เรื่องเกี่ยวข้องกับพระเจ้า ใน
ความสามารถและอำนาจของพระองค์
ท่านอิบนูอับบาสกล่าว ผู้ที่มีความรูท้ ี่แท้จริง คือคนที่ไม่ตังภาคตี ่อพระองค์ และทรงทำให้ฮา
ลาลในสิ่งที่ถูกให้ฮาลาล ทำให้ฮารอมในสิ่งที่ถูกฮามรอม รักษาปฏิบัติคำสั่งเสีย และมั่นใจว่าเขา
จะต้องพบเจอพระองค์และจะถกู สอบถามการงานของเขา
ทา่ นอบิ นูมสั อูดกล่าวว่า ไมใ่ ชผ่ ู้รสู้ ำหรับคนทที่ อ่ งฮาดีษได้หลายฮาดีษ แตผ่ รู้ ู้คอื ผูท้ ม่ี ีความยำ
เกรงมากที่สดุ
4
สรุปได้ว่า ผู้ที่มีความรู้ นั้นย่อมมีความยำเกรงมากกว่าผู้ที่ไม่มีความรู้ เห็นได้ว่าอัลลอฮฺ
สนับสนุน และวาญบิ สำหรบั มุอม์ ินทต่ี อ้ งแสวงหาความรใู้ นดา้ นต่าง ๆ ไมว่ า่ เปน็ ดา้ นศาสนาหรอื สามัญ
เพราะทางเดียวท่เี ราจะรูจ้ ักอลั ลอฮฺ รจู้ กั อิสลาม รู้จกั ชารีอะห์ของอัลลอฮ
จากอายะห์ขา้ งต้นสรุปไดว้ ่า ทุกสิ่งบนโลกน้ีไม่ว่าจะเปน็ สิง่ เป็นมชี วี ิต เช่นสัตว์ต่าง ๆ และสิ่ง
ที่ไม่มีชีวิต เช่น ภูเขา แม่น้ำ ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมาย และอัลลอฮฺไม่สร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
บนโลกใบน้ี เวน้ แต่ต้องมีเป้าหมายท่ีจดั เจน โดยไมส่ ร้างสิง่ ใดเปล่าประโยชน์ นั่นคอื การอำนวยความ
สะดวกแก่บ่าวของพระองค์ ดงั น้นั ผู้สอนต้องมีจิตวิญญาณ โดยมีเป้าหมายเพ่อื ศิษย์ และเพื่อพัฒนาให้
ศิษย์มีทักษะ กระบวนการ และคุณลักษณะที่พร้อมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและวิจัยให้กับ
สถานศึกษา
1.2 ปญั หา (Problem)
อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรสั ไวว้ า่
ٰيََّّٰلٰ ُي ۡبِِ ُصو َنٰبِ َهاٰ َولَ ُه ۡمٞ ُُ أُب ْٰوََّلَّٰٓئلِٰ ََيكۡفٰ َقُه ُه ُموٰٱ َلۡنٰ َبغِى َهفِالُٰوَولََٰنُه ۡمٰأَ ۡعٞ ٰٓۚ نَََّٰٰذّ َلر ۡأٰينََا ٰۡسَِِم َل ُع َهو َّن ََنمٰٰبِ َكَهثاِٰۚٓيأُٗر ْواٰلَٰٓئِِم ََنكٰٰٰٱ َِٰك ۡ ِٱل ۡۡ ِ َلٰنٰنۡ ََٰوٰٱعى ِٰۡۡمِلٰنبَ ِۡلٰسٰٰ ُلهَ ُهۡمٰۡمأَٰ ُقَضُلولََٞوءاَل َذَقا ۡد
และแน่นอนเราได้บังเกิดสำหรับญะฮันนัม ซึ่งมากมายจากญินและมนุษย์ โดยที่พวกเขามี
หัวใจซ่ึงพวกเขาไม่ใชม้ ันทำความเขา้ ใจและพวกเขามีตา ซึง่ พวกเขาไม่ใช้มันมอง และพวกเขา
มหี ู ซง่ึ พวกเขาไม่ใชม้ ันฟังชน เหล่านแ้ี หละประหนึง่ ปศสุ ัตว์ ใช้แตเ่ ท่าน้ัน และพวกเขาเป็นผู้
หลงผิดยงิ่ กวา่ ชนเหลา่ นีแ้ หละ คอื ผ้ทู เี ผลอเรอ
(อลั อะรอฟ: 179)
ตัฟซีรอบิ นูกาซีร
พวกเขามีหัวใจ มีดวงตา มีหูไวสดับฟัง แต่พวกเขาไม่ได้รับประโยชน์จากอวัยวะเหล่านี้เลย
ไม่ใช้สิ่งเหล่านัน้ พยายามค้นคว้าและแสวงหา ฮีดายะห์ของพระองค์ อีกทั้งอัลลอฮฺ (ซุบฮาฯ) กล่าวใน
ซูเราะห์อัลบากอเราะห์อายะห์ท่ี 171 ความว่า พวกเขาหูหนวก เป็นใบ ตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่
เข้าใจ รวมทง้ั ในซเู ราะห์อัลอันฟาล อายะห์ที่ 23 ความว่า และหากอลั ลอฮฺทรงรวู้ า่ ในตวั พวกเขาน้ันมี
ความดี แน่นอนกจ็ ะทรงให้พวกเขาได้ยิน และหากพระองค์ทรงให้พวกเขาไดย้ ิน แลว้ แน่นอนพวกเขา
ผนิ หลงั ให้ โดยท่ีพวกเขานั้นเปน็ ผู้ผินหลงั อยแู่ ลว้
5
ดังนั้นอัลลอฮอุปมาพวกเขา ดั่งสัตว์ เพราะพวกเขาคือผู้ที่ไม่รับฟังความจริง ไม่ช่วยเหลือใน
การไดร้ ับความจริง ไมเ่ หน็ ทางนำ เชน่ ววั ท่รี ักอสิ ระ ทไี่ ม่ไดร้ บั ประโยชน์จากประสาทสมั ผัสเหลา่ นี้เลย
ยกเว้นใช้ชีวิตไปวันๆ คิดแต่เรื่องการกิน การนอน แต่สำหรับพวกเขาเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ เพราะสัตว์
พวกนน้ั เมอ่ื เจ้าของเรียกมัน มันก็จะตอบรับถงึ แม้มันฟงั ไม่เขา้ ใจคำพูดของเจ้าของมันก็ตาม แตกต่าง
โดยสิ้นเชงิ กับพวกเขาเหล่าน้ัน เพราะพวกเขาเหล่านั้นเข้าใจคำพูด หูสามารถฟังรู้เร่ือง ตาสามารถดู
ได้เห็นชัด แต่ทว่าไม่ตอบรับ สุดท้ายพวกเขาเปน็ ผูท้ ีห่ ลงลืม ด้วยกับการไม่ใหค้ วามสำคัญต่อประสาท
สมั ผสั ของพวกเขาเหลา่ นนั้
ตัฟซรี อลั กรุ ฏูบีย์
อัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์และญิน ส่วนมากพวกเขาเหล่านั้นจะอยู่ในนรก ญะฮัมนัม เพราะ
สำหรับพวกเขามีหัวใจแต่ไม่ไดท้ ำความเข้าใจกับมนั พวกเขาอยู่ในสถานะที่หัวใจมืดบอดและเป็นโรค
โดยไม่คิดเรื่องผลบุญต่าง ๆ ที่ได้รับมาและโทษต่าง ๆ ที่จะไปพบเจอ สำหรับพวกเขามีตา แต่ไม่ได้ใช้
มองหาทางนำของอัลลอฮฺ และไม่ได้ไตร่ตรองสิ่งที่อัลลอฮฺสร้างเพื่อจะให้ถึงทางนำและรับรู้ว่าทุกสิ่งมี
ผูส้ รา้ ง สำหรบั พวกเขามหี ู แต่ไม่ไดฟ้ ังนาศีหัตหรือสิ่งดี ๆ เพอื่ นำพาไปสู่ทางนำและรู้จกั พระองค์ พวก
เขาเหล่าน้ัน เปรียบเสมือนสัตว์ แต่ทว่าพวกเขาเป็นผู้หลงผิดยิง่ กว่า เพราะสัตว์ให้ความสำคัญแค่การ
กิน การดืม่ เท่านน้ั แตกต่างกบั มนุษย์ท่ีมีประสาทสัมผัส สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ และรับรู้ประโยชน์
และโทษต่าง ๆได้ แตท่ ว่าพวกเขากย็ งั คดิ ไม่ได้
อลั ลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรสั ไว้ว่า
ٰ َٰو َج َعلۡ َناٰلَ ُه ۡمٰ َس ۡم ٗعاٰ َو َأبۡ َصى ٗراٰ َوأَ ۡ ِفٰ َد ٗةٰ َف َماٰأَ ۡغ ََ ىنٰ َع ۡن ُه ۡمٰ َس ۡم ُع ُه ۡمٰ َوََّلٰ َأبۡ َصى ُر ُه ۡمٰ َوََّلٰأَ ۡ ِفٰ َد ُت ُهمٰ ِمنٰ ََ ۡش ٍء
ِٰإِ ۡذََٰكنُواََْٰيۡ َح ُدو َنٰأَِب َيى ِتٰٱََّّلل
ความว่า และเราได้ทำให้พวกเขามีหู มีตา และมีหัวใจ แต่ว่าหูของพวกเขา ตาของพวกเขา
และหัวใจของพวกเขามิได้อำนวยประโยชน์อันใดแก่พวกเขา โดยที่พวกเขาปฏิเสธสัญญาณ
ตา่ ง ๆ ของอลั ลอฮฺ และสงิ่ ทีพ่ วกเขาได้เคยเยาะเย้ยไวน้ นั้ กห็ ้อมล้อมพวกเขา
(อัลอะก๊อฟ: ส่วนหนึง่ ของอายัตท่ี 26)
6
ตัฟซรี อลั วาซีด
จุดประสงค์หลักของอายะห์นี้ คือการอธิบายสภาพความเป็นอยู่ของคนมุซรีกีนก่อน ๆ
เนื่องจากพวกเขา อัลลอฮได้ให้ความเจริญร่ำรวย ให้ลูกหลานและอำนาจแก่พวกเขา มากกว่าคน
กาฟิรอน่ื ๆ ทีม่ อี ยู่ในเวลาน้ัน แต่ทวา่ พวกเขาไมส่ ำนึก ไมข่ อบคุณพระองค์ในส่ิงท่ีไดร้ บั มา ย่ิงกว่าน้ัน
พวกเขา ละเมิดสิทธิต่อพระองค์ จนนำพาพวกเขาไปยังความหายนะ ดั่งอายะห์นี้ พวกเขามีหู มีตา มี
หัวใจ แต่ไม่ใช้ประโยชนจ์ ากมันในการศรัทธาต่อพระองค์ จนอลั ลอฮรีดทรัพย์สมบัติ อำนาจ จนนำพา
พวกเขาสกู่ ารลงโทษ ทัง้ ๆ ทีพ่ วกเขามีอำนาจแข่งแกรงแต่ก็ไมส่ ามารถยบั ยั้งบทลงโทษของอัลลอฮได้
ตฟั ซีรอฏั ตอบารยี ์
อัลลอฮได้ใหห้ ูนันเพอ่ื ฟงั คำเทศนาต่าง ๆ และไดใ้ หด้ วงตาไดด้ สู ิง่ ที่อลั ลอฮสฺ รา้ งต่าง ๆ และได้
ให้หัวใจของพวกเขามีความเข้าใจต่อสิ่งต่าง ๆ แต่ทว่า พวกเขาไม่ได้รับประโยชน์อันใด จากสิ่งท่ี
อัลลอฮฺให้พวกเขามา ไม่ว่าเป็นหู ตา และหัวใจ ไม่ได้ใช้สิ่งที่ได้มาเพื่อให้รอดพ้นจากบทลงโทษของ
พระองค์ แตก่ ลับกันพวกเขาใช้ในหนทางทีจ่ ะทำให้พวกเขา ไปสคู่ วามหายนะ
สรุปได้ว่า การที่อัลลอฮฺให้ตา หู และหัวใจ ใช่ว่าจะให้แบบเปล่าประโยชน์ ทุกอย่างที่ให้มา
ล้วนแต่มีหน้าที่ของมัน ให้เราคิดไตร่ตรอง สิ่งต่าง ๆ เพื่อนำพาตัวเราไปสู่หนทางที่ยำเกรง และ
ห่างไกลความหายนะ ดังนั้นครูผู้สอนต้องใชป้ ระสาทสัมผัสในการอ่าน (อิกเกราะห์) ผู้เรียนผ่านหวั ใจ
หู และตา เพื่อให้ทราบปัญหา ปมในอดีต และความต้องการของผู้เรียน อันนำไปสู่หาแนวทางในการ
แกไ้ ขและพฒั นาต่อไป
7
1.3 แนวทางแก้ไข (Solution)
อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาฯ) ทรงตรสั ไว้วา่
ٰٱٱ ۡۡۡق ِلَرنأَٰٰۡبِٰىسٰٱ َ ۡنٰسٰ ِٰمَمٰا َٰرلَبِ ۡمَٰ َكيٰ ٰۡعٱََّلَّ ِلٰۡميٰ َخلَ َقٰ َخلَ َقٰٱ ۡۡ ِلن َ ىس َنٰٰ ِم ۡنٰ َع َل ٍقٰٱ ۡق َرٰأٰۡ َو َرب َكٰٱ ۡۡلَ ۡك َر ُٰمٰٱََّّ ِليٰ َع َّل َمٰٰبِٱلۡ َقلَ ِٰمٰ َع َّل َم
1. จงอ่านดว้ ยพระนามแหง่ พระเจ้าของเจ้าผู้ทรงบังเกิด 2. ทรงบงั เกิดมนุษย์จากก้อนเลอื ด
3. จงอ่านเถดิ และพระเจ้าของเจา้ นั้นผ้ทู รงใจบญุ ยิง่ 4. ผู้ทรงสอนการใช้ปากกา 5. ผทู้ รง
สอนมนุษย์ในส่ิงทีเ่ ขาไม่รู้
(อัลอะลัก: 1-5)
ตฟั ซีรอบิ นกู าซีร
ในบรรดาอูลามาอ์ตัฟซรี ไดก้ ลา่ วเป็นเสียงเดยี วกัน ว่าเปน็ ซเู ราะหแ์ รกท่ีลงมายงั นบี และเป็น
จุดเริ่มต้นของการลงมาของวัฮยูแก่นบี และเป็นการริเริ่มของการเป็นนบี สิ่งแรกที่ลงมาจากกุรอ่าน
เป็นสิ่งที่มีความเมตตา ความกรุณาและปราณีต่อนบีและบ่าวของเขา นั้นก็คือ การอ่าน เพราะการ
อ่านเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาไปสู่ความรู้ต่าง ๆ อายะห์ที่สองเป็นการย้ำเตือนบ่าวของพระองค์ว่า
เจา้ ถูกสร้างมาจากกอ้ นเลือด ดงั น้นั สเู่ จ้าอยา่ โอหงั เพราะพวกเจา้ จะกลบั ไปสูอ่ ัลลอฮฺอกี ครง้ั
อายัตที่สามความรักของอัลลอฮฺที่มีต่อบ่าวของเขา คือการสอนอาดัมในสิ่งเขาไม่รู้ แล้ว
ยกย่องสรรเสริญเขา เพราะการสร้างอาอัมเป็นการสร้างที่ยิ่งใหญ่มาก จนกระทั่งอัลลอฮฺได้สั่งอิบลีส
และมาลาอกี ะห์กม้ ซูญูดตอ่ ทา่ นนบีอาดมั ความรูส้ ามารถหาได้หลายวธิ ี บางความรู้สามารถเรยี นรดู้ ้วย
กับการคิด บางความรู้สามารถเรียนรู้ด้วยกับการพูด บางความรู้สามารถเรียนรู้ด้วยกับการเขียน แต่
ในอายะห์น้ีอัลลอฮได้ใช้การเรียนรู้ด้วยกับการเขียน และความประเสริฐของความรู้ ใครก็ตามที่
ปฏบิ ตั ติ ามในส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรมู้ า อลั ลอฮฺจะเปดิ ใหเ้ ขาได้รบั รู้ในสง่ิ ใหม่ๆท่ยี ังไมเ่ คยรู้และทราบมาก่อน
ตัฟซรี อสั อาดยี ์
นี้คือซูเราะแรกที่ประทานลงมายังนบี มูฮำหมัด (ซล) และเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนบี ซ่ึง
ในขณะนน้ั ท่านนบไี มร่ ู้ อะไรคอื กตี าบ อะไรคืออหี มาน ดงั นั้นอัลลอฮได้สง่ สารผา่ นญิบรีลลงมา และได้
สอนท่านนบีอ่าน แต่ท่านนบี (อุมมียัน) อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ท่านคือบุคคลผู้ที่ไม่เคยอ่าน ไม่เคย
เขียน จึงไม่สามารถอ่านได้ในสิ่งที่ญิบรีลขอร้อง สุดท้ายแล้วญีบรีลได้สอนท่านนบีอ่าน จนท่านนบี
สามารถอ่านได้และอัลลอฮได้สร้างมนุษย์จากก้อนเลือด และดูแลจัดการระบบของเขา ด้วยการ
8
บัญญัติสิ่งที่ต้องปฏิบัติและสิ่งท่ีห้ามปฏิบัติ โดยการส่งศาสนทูตพร้อมอัลกุรอ่าน มาอธิบายโองการ
ตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั บัญญตั ิตา่ ง ๆ ที่ลงมายงั บ่าวของพระองค์
อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ตรสั
َعلَّمٰا ْۡ ِلن ْ َسا َٰنٰ َمٰاٰلَ ْٰمٰ َي ْعل ٰم
ท่านอัสสะดีย์ได้กล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮฺทรงทำให้เจ้าออกจากท้องแม่ โดยไม่สามารถ
ช่วยเหลอื ตัวเองไดแ้ ละไม่มีความรู้แม้แต่น้อยติดตัวมา แล้วอัลลอฮฺได้สรา้ งหู ตาและหัวใจ เพื่อความ
ง่ายดายในการรับรู้ และแสวงความรู้ของพระองค์ ดังนั้น อัลลอฮฺได้สอนความรู้กับนบีเกี่ยวกับ
อัลกรุ อา่ น ความรู้เกี่ยวกบั ภูมิปัญญา และเก่ยี วกับการเขียนและอืน่ ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ สามารถรกั ษา
และปกปอ้ งความรู้ เพอ่ื ให้ความร้นู น้ั ยงั คงอยูจ่ นถงึ ปัจจบุ นั
ตัฟซีร อลั วาซดี
ซูเราะห์เริ่มด้วยการ ขอแก่ท่านนบีใหอ้ ่านในขณะที่ท่านนั้น (อุมมียัน) อ่านไม่ออกเขียนไมไ่ ด้
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกใส่ร้ายของชาวมักกะฮ์ ว่ากุรอ่านมาจากท่านนบีเองโดยไม่ได้มาจากวัฮยูผ่าน
ญิบรลี
อัลลอฮไดต้ รสั ว่า
اََّّ ِليٰ َخ َل َٰق
เพอ่ื ให้เรานกึ ถึงการทอี่ ลั ลอฮสรา้ งเรานั้น มันมคี วามย่ิงใหญ่ ความสามารถและเปน็ ความ
กรุณาปราณีท่ีมตี ่อบา่ วของเขา เพราะการทเ่ี ราถูกสรา้ งขึน้ มา ถือวา่ เป็นความกรุณาปราณที ่ียิ่งใหญ่
ท่พี ระองค์สรา้ งจากส่งิ ทีไ่ มม่ ี ทำให้บงั เกิด(อาดมั )
อลั ลอฮไดต้ รัสวา่
َخ َل َقٰٰا ْۡ ِلن ْ َسا َنٰٰ ِم ْٰنٰ َع َل ٍٰق
อายะห์นี้อัลลอฮจะแสดงความสามารถของเขา ในการสร้างมนุษย์จากน้ำอสจุ ิกลายเป็นก้อน
เลือด แล้วเจริญเติบโตกลายเป็นมนุษย์ ที่สามารถรับฟัง สามารถเห็น สามารถคิด เช่นเดียวกัน
อัลลอฮฺสามารถทำให้นบี จากการอา่ นไม่ออก เขยี นไม่ได้ สามารถอ่านออก เขยี นได้ ถึงแม้ก่อนหน้าน้ี
ท่านนบีไม่เคยอา่ น ไมเ่ คยเขียนมาก่อนก็ตาม
9
ในอายะห์น้ีเชน่ เดยี วกัน อัลลอฮฺกล่าวคำวา่ ( )ا ْۡ ِلن ْ َسا َٰنหมายถงึ มนุษย์ อัลลอฮไดเ้ สรมิ คำน้ใี น
อายะห์นีโ้ ดยเฉพาะ กเ็ พราะว่ามนษุ ย์เปน็ สิ่งที่ถกู สรา้ งข้ึนมาอย่างเกยี รติ
อัลลอฮได้ตรสั วา่
اقْ َرٰأْٰ َو َرب َكٰٰا ْۡ َل ْك َر ٰم
อัลลอฮไดส้ งั่ ให้ท่านนบอี ่าน เพราะการอ่านเป็นส่งิ ทม่ี ีเกยี รติ และยิ่งใหญ่ การท่ีอัลลอฮกลา่ ว
ทวนคำ (ْٰ )اقْ َرأในอายะห์ เพราะการอา่ นเป็นเครื่องมอื ในการรบั ขอ้ มลู ขา่ วสาร การอ่านจะไมเ่ กิด
ประโยชน์ตอ่ ผูอ้ ่าน นอกจากอ่านและทวนหลายๆรอบ จึงจะเกดิ ประโยชน์ตอ่ ผู้อา่ น
อลั ลอฮได้ตรสั ว่า
اََّّ ِليٰ َعلَّ َٰمٰبِالْ َق َل ِٰم
อัลลอฮได้สอนการเรียนรู้แก่มนุษย์ ด้วยกับการใช้ปากกา เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจอย่าง
กระจ่างใส ถึงแม้ท่านไม่มีความสามารถและความรู้ก็ตาม และด้วยกับปากกาสามารถจดบันทึกตำรา
เรียนตา่ ง ๆ และเรอ่ื งราวในอดตี ตา่ ง ๆ ที่เกดิ ข้นึ
อัลลอฮไดต้ รสั ว่า
ٰإََِووٱََّلنمٰا َِّٰسأَفنَٰحَزاََخللِٰۡبٱ َِٰقٱَّّٰللۡٱُللُمٰ ََِّمسس ََنمىَّخَٰٱوىرِلٰ َِّبَتس ُٰۡ َمََوياٱٰ ِۡءۡٱلَٰلۡرِمَّس ِ َنمٰاض َّٰمءِاَٰوٱ َٖءوٱٰ ۡۡخۡفَتِألََۡرَلىۡحَِِياضفٰٰٰٓبِٱأََهَِّلّٰلَۡٱيى ِۡۡلَٰلٖۡرتَوٰٱ َلِل َنَّقض َهٰۡواَب ٖمرِۡعٰٰ َيَ َدو ٰۡٱعلَِۡقم ُفۡلُولۡتِو َه َِٰناكٰٰ َٱو َلّبَ ِِ َّتثََٰٰفِ ۡتي ِرَهاٰيِٰم ِفنٰٰٱ ُ ۡۡ َِلكٰ ۡحَدارِٰبَّٰبةَِٰٖم َاوٰتَيَ ۡنِ َف ِص ُيعٰ ِٱلفّنَٰاٱلَ ِرس َٰيى ِح
ความว่า แท้จริงในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และสับเปลี่ยนกลางคืนและกลางวัน
และเรือที่วิ่งแล่นอยู่ในทะเล พร้อมด้วยสิ่งที่อำนวยประโยชน์แก่มนุษย์ และน้ำ ที่อัลลอฮฺได้
ทรงให้หลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วทรงให้แผ่นดินมีชีวิตชีวาขึ้น ด้วยน้ำนั้น หลังจากที่มันตาย
ไปแลว้ และได้ทรงใหส้ ัตว์แตล่ ะชนิด แพร่สะพัดไปในแผน่ ดนิ และในการให้ลมเปลี่ยนทิศทาง
และให้เมฆซง่ึ ถกู กำหนดใหบ้ รกิ าร(แก่โลก) ผันแปรไประหวา่ งฟากฟ้าและแผน่ ดินนน้ั แน่นอน
ล้วนเป็นสญั ญาณนานาประการแกก่ ลุ่มชนท่ใี ชป้ ญั ญา
(อลั บากอเราะห์: 164)
10
ตัฟซรี อัฏตอบารีย์
ท่านญัอ์ฟรั กลา่ ววา่ อุลามาอ์ตฟั ซรี ได้ขดั แยง้ กันเกยี่ วกับสาเหตุการประทานลงมาของโองการ
นี้ บางอุลามาอ์กล่าวว่าเป็นการเรียกร้องสิทธิของอัลลอฮแก่ผู้ตั้งภาคี เพราะขณะนั้นท่านนบีอ่าน
อายะหน์ ีแ้ กซ่ อฮาบะห์ ว่าอัลลอฮมีเพยี งองค์เดียวเท่าน้ัน ซง่ึ ในตอนนั้น พวกมุชรกี นี บังเอิญฟังโองการ
ทท่ี า่ นนบีอ่าน เลยปฏิเสธไป เพราะพวกเขานบั ถือพระเจา้ หลายองค์ อายะห์นี้จึงถกู ประทานลงมา
บางอุลามาอ์กล่าวว่าอายะห์นี้ถูกประทานลงมาก็เพราะพวกมุชรีกีน มาถามท่านนบีเกี่ยว
สัญญานต่าง ๆ อัลลอฮฺจึงประทานลงมา และได้ทำให้พวกเขารู้ว่า สัญญานของอัลลอฮฺ คือ ฟากฟ้า
แผนดิน ดวงดาง ทะเล น้ำ และอื่น ๆ สัญญานต่าง ๆ นี้จะบอกว่าอัลลอฮฺมีแค่องค์เดียว และไม่มีผู้ใด
ที่ร่วมกันสร้างสิ่งเหล่านี้ และสำหรับผู้ที่มีปัญญาแล้วคิดไตร่ตรอง ก็จะทราบว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูก
สรา้ งมีเจ้าของและผู้จัดการบรหิ ารสิง่ เหล่านัน้
อัลลอฮได้ตรัสว่า
أَ َف َلٰيَن ُظ ُرو َنٰإِ ََلٰٱ ۡۡ ِلبِ ِلٰ َك ۡي َفٰ ُخلِ َق ٰۡت
พวกเขาไม่พจิ ารณาดอู ูฐดอกหรอื วา่ มนั ถูกบังเกิดมาอยา่ งไร?
(อัลฆอชียะห์: 17)
อัสอาดีย์
ในอายะห์นี้อัลลอฮสนับสนนุ ให้ท่านรอซูลและคนอื่น ๆ ให้ใช้ประโยชน์จากดวงตาทีไ่ ด้รับมา
ให้ดสู ิง่ ตา่ ง ๆ ทีอ่ ลั ลอฮฺสรา้ งข้ึนมา แล้วให้พิจารณาส่งิ เหลา่ นั้นว่าอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง ให้แก่
บา่ วพระองค์ เพอื่ ให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองมากท่ีสดุ
ตฟั ซีรอบิ นูกาซรี
อัลลอฮทรงสั่งให้บ่าวของพระองค์ใช้สติปัญญาและมองดูความสวยงาม ความแปลก
ประหลาดของสิ่งต่างๆที่พระองค์ได้สร้างขึ้นมา การที่อูฐสามารถด่ืมน้ำครั้งละหลายลิตรและสามารถ
เก็บได้นานนับเดือน นี้จะบงบอกความความสามารถ ความยิ่งใหญ่ ของพระองค์ ให้เราสังเกต ศึกษา
เพ่ือจะนำพาเราไปสู่ทางนำของพระองค์
จากอายะห์ที่ผ่านมา อัลลอฮฺให้ประสาทสัมผัส ไม่ว่าเป็น หัวใจ หู ตา สมอง และอื่น ๆ ล้วน
แต่ให้เราใช้งานมันให้เกิดประโยชนม์ ากที่สดุ เพ่ือจะได้เจอทางนำของพระองค์และได้สรุปวิธีแก้ปัญหา
ด้านการอ่าน การเขียน และการคิด ด้วยกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ดังนั้นผู้สอนสามารถคิดค้น
นวตั กรรมทีส่ อดคล้องกับผเู้ รยี นตามบรบิ ทพ้ืนท่ีและสามารถแก้ปัญหาทางการศึกษาได้