วนั ท่ี ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ พระราชทานฉลองพระองค์คลมุ ไหมมดั หมส่ี มี ว่ งให้แก่นางไท้ แสงวงศ์
เพ่อื เป็นแบบในการทอผา้ ผืนใหม่ ณ บ้านหนองแข้ ต.ตองโขบ อ.โคกศรสี พุ รรณ จ.สกลนคร
วันที่ ๑๐ ธนั วาคม ๒๕๔๘ เสดจ็ ฯ ไปทรงเยยี่ มราษฎรและสมาชิกศิลปาชีพ
ณ บ้านทา่ แร่ (ชุมชนดงปลาปาก) อ.อากาศอำ�นวย จ.สกลนคร
วันท่ี ๒๘ ธนั วาคม ๒๕๔๗ ทรงเย่ียมราษฎรในโครงการส่งเสรมิ ศลิ ปาชีพบ้านทรายทอง
หมู่ท่ี ๑๑ ต.ปทุมวาปี อ.สอ่ งดาว จ.สกลนคร
247
แล้วให้ทำ�เพ่ิมข้ึน ผ้าของชาวบ้านท่ีเขาทำ�ไว้นุ่ง ธรรมเนียมของภาคอีสานก็คือการต่อหัวซิ่นกับตีนซิ่น เพราะฉะน้ัน
ผ้าจะหน้าแคบ กี่ก็จะแคบ แล้วเขาก็ทอผ้าชิ้นเล็กสองช้ินเป็นหัวซ่ินเป็นตีนซ่ินแล้วมาต่อเป็นผ้านุ่ง พอเราไปเอาผ้ามา
ถวายทอดพระเนตรก็รับส่งั ว่า ใหก้ ลับไปหาคนเดิมแลว้ ก็เอาชนิ้ น้ีไปบอกให้เขาทำ�เพม่ิ ขนึ้ อกี โดยให้ทำ�ใหเ้ หมอื นผนื เดิม
ซ่ึงชาวบ้านเองเขาทำ�ทีละผืน เพราะเขาปลูกหม่อนเล้ียงไหมได้ทีละปอยสองปอย ทรงให้สนับสนุนให้คนปลูกหม่อน
เลย้ี งไหมเยอะขึ้น ส่งิ ทไ่ี ดต้ ามมากค็ ือบ้านไหนปลูกหมอ่ นเลย้ี งไหมบ้านนน้ั สะอาด เพราะวา่ หนอนไหมและกระด้งไหม
ถ้ามแี มลงวันมาตอม หนอนไหมจะตายทัง้ กระด้งเลย พอ่ บ้านสบู ยามวนใกล้ ๆ หนอนไหมก็ตายทงั้ กระดง้ และแม้แต่
ไปสบู ในสวนหมอ่ น ใบหม่อนก็รับกล่นิ ควนั แล้วถ้าเอาใบนัน้ มาเลี้ยงไหมหนอนไหมกเ็ สยี นค่ี ือส่งิ ทีช่ าวบ้านปลกู หม่อน
เล้ียงไหมมีก็คือบ้านน้ันสะอาด มีผ้าสีมอ ๆ ปิดกระด้งไหมแต่ผ้าผืนนั้นต้องถูกซักมาสะอาด ถ้ามันมีกลิ่น มีความชื้น
มีความเหม็นเปรย้ี วของผ้าท่ปี ิดกระด้ง หนอนไหมกเ็ สีย เพราะตวั หนอนไหมรกั ความสะอาด มันกนิ ใบหม่อน พระองค์
ทา่ นถงึ ได้สนับสนนุ ใหช้ าวบา้ นปลูกหมอ่ นเลี้ยงไหม เพราะบา้ นน้นั สะอาดสุขภาพของชาวบ้านกจ็ ะดดี ว้ ย
ทา่ นผู้หญงิ สุประภาดา เกษมสนั ต์
อดีตราชเลขานกุ ารในพระองค์สมเดจ็ พระบรมราชนิ ีนาถ
แตก่ อ่ นผา้ ไหมหาซอื้ ยากมาก ชาวบา้ นทอใชเ้ อง พระองคท์ า่ นทรงอยากใหใ้ นหมบู่ า้ นเดยี วกนั คนนอี้ ายมุ ากแลว้
กท็ ำ�เสน้ ไหมไป สว่ นสาว ๆ บ้านนไ้ี ปเอาเส้นไหมบ้านนู้นมาทอผ้าขาย รายไดก้ ็จะชว่ ยกนั อยู่ในหม่บู ้าน เรื่องลวดลายผา้
รับส่ังว่าไม่ต้องเอาลายไปให้เขาทอ ชาวบ้านมีปัญญาเขาคิดลายของเขาเอง เขาดูต้นไม้เขาก็ผูกลายเป็นต้นไม้ เขาเห็น
หลังคาโบสถ์เขากผ็ กู ลาย มีลายหลากหลาย พระองคท์ า่ นทรงสอนวา่ คนโบราณคดิ และทำ�ขึ้นมาจากปญั ญาของตนเอง
ผ้าแต่ละผืนจะไม่เหมือนกัน รับส่ังว่าผ้าขี้ร้ิวท่ีเขาเช็ดถูเรือนไปคลี่ดูด้วย ลายสวยอยู่ตรงน้ัน ในวิถีชีวิตของคนเราก็ใช้
ผ้าเก่าถูเรือน แล้วก็จริงของพระองค์ท่าน คนจะคิดไหมว่าสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงจะทรงคิดอะไรละเอียด
ขนาดนี้ เราก็ทำ�ตามพระราชดำ�ริมาเร่ือย เม่ือแรกเร่ิมโครงการ เวลาทอดพระเนตรผ้าท่ีมาจากชาวบ้าน ทรงพระวิริย
อุตสาหะมาก ใช้เวลาทรงงานในแต่ละวันนานเป็นช่ัวโมง ๆ ทอดพระเนตรผ้าทุกผืนนะคะ ทุกบ่ายเลยต้องเชิญผ้า
ขึ้นไปถวาย เมื่อทอดพระเนตรแล้วจะให้จดไว้ว่าคนน้ีฝีมือคงที่แล้ว ก็จะให้ขยายเคร่ืองมือให้เขา โดยทำ�ฟืมหน้ากว้าง
ไปใหเ้ ขา เวลาคนซอื้ ผา้ มาตดั เสื้อ เขาจะตอ้ งใช้ผา้ หนา้ กวา้ งใช่ไหม ๔๐ น้ิว หรอื ๓๖ น้วิ แต่กอ่ นผา้ หน้าแคบจะขายยาก
เรากไ็ ปสงั่ ทำ�ฟมื หนา้ กวา้ งขนึ้ แลว้ นำ�ไปใหช้ าวบา้ นทอ ใหท้ ำ�สเี ดมิ ลายเทา่ เดมิ แตใ่ หห้ นา้ ผา้ กวา้ งตามขนาดฟมื ทน่ี ำ�ไปให้
คนทอตอ้ งคดิ นะคะ ไมใ่ ชส่ กั แตว่ า่ ทำ�นะ ตอ้ งคดิ เราเรยี นคำ�นวณเราคดิ เกอื บตายนะวา่ ทำ�อยา่ งไรถงึ จะทำ�ใหล้ ายมนั เทา่ เดมิ
ลายขา้ วหลามตดั เหมอื นเดมิ กบั ผา้ หนา้ แคบ ถา้ เปน็ หนา้ กวา้ งบางคนไมเ่ ขา้ ใจ ทำ�แลว้ ขา้ วหลามตดั ไมเ่ ปน็ รปู ทรงเลย คอื
ชาวบ้านต้องใช้ปัญญา พระองค์ท่านถึงทรงยกย่องภูมิปัญญาของคนไทยมากเลย บางทีสีอาจเพ้ียนจากผืนเดิม แต่เงา
248
ของผา้ สวยสอ่ งประกายมเี สนห่ ์ พระองคท์ า่ นโปรดผา้ ไหมมดั หมี่ เพราะการทเ่ี อาเส้นไหมมดั ยอ้ มจมุ่ ไป ๓ - ๔ ที จมุ่ ยอ้ ม
มดั ยอ้ ม สแี ต่ละสที ำ�ให้ผ้าที่ทอออกมามสี ีที่เงางามสวยงาม แลว้ ยิง่ ถ้าเป็นไหมไทยแท้ ๆ ย่ิงสวยมาก ย่ิงใช้ ยิง่ เก่า ย่งิ นุม่
ย่ิงเป็นแพร พระองค์ท่านโปรดและพอพระทัยมากท่ีชาวบ้านมีภูมิปัญญา ถึงได้รับสั่งชมว่าคนไทยมีความสามารถอยู่
ในตวั เอง แต่เขาไมม่ โี อกาสได้แสดงออก ทรงถ่อมพระองคม์ าก รบั ส่ังว่า เพียงเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความสามารถ
เขากส็ อ่ งประกายความสามารถออกมาไดเ้ ลย
พระองค์ท่านทรงช่วยเรื่องปากท้องก่อน ชาวบ้านเองไม่เคยทอผ้าขายมีแต่เอาไปแลกข้าวกิน ร้านผ้าไหมที่
ไปเดินสมัยก่อน ตอนปี ๒๕๑๕ ไม่มีร้านขายผ้าไหม ไปอีสานต้องไปท่ีร้านขายข้าวสาร เพราะเขาเอาไปแลกข้าวสาร
เราตอ้ งไปดทู ร่ี า้ นขายขา้ วสาร ขอซอื้ ผา้ ไหม ขอดผู า้ ไหม เขากจ็ ะไปเปดิ หบี เปดิ ตขู้ องเขาแลว้ หยบิ มาใหเ้ ราดู เปน็ ผนื เลก็
ผืนน้อย แล้วแต่เขาจะตกลงกัน ผ้าผืนหนึ่งจะแลกข้าวได้กระป๋องเล็ก ๆ พอนํ้าแล้งทำ�อะไรไม่ได้ชาวบ้านก็ต้องไป
แลกข้าวกิน พระองคท์ ่านรับสั่งวา่ เวลาไปสง่ั ใหเ้ ขาทอผ้าต้องใหเ้ งนิ เขาไวล้ ่วงหน้า รบั ส่งั วา่ ใหเ้ งนิ เขาไว้ ๒๐๐ บาท ถงึ
๕๐๐ บาท ในสมัยนนั้ นะปี ๒๕๑๕ พอจัดเงินให้ ๒๐๐ บาท ชาวบา้ นตกใจเพราะไปแลกข้าวสารไดน้ ิดเดียวไง ชาวบา้ น
ตกใจฉันจะทำ� ๔ - ๕ ผืนได้อย่างไร ฉันทำ�ไม่ได้ไม่มีเส้นไหมมาก ขอไม่รับเงิน ชาวบ้านไทยดีมากไม่ยอมรับเงิน เขา
บอกว่าไม่รับ ถ้ารับเดี๋ยวทำ�ไม่ได้ ถา้ รับมันเป็นการผกู มดั ปหี นา้ มากแ็ ลว้ กนั ถา้ มาแล้วมีกม็ าซอื้ ไป มาเอาไป ชาวบา้ น
ไมย่ อมรบั เรากพ็ ยายามใหเ้ ขา เพราะเขาตอ้ งเลยี้ งลกู พระองคท์ า่ นทรงอยากชว่ ย ทรงทราบดวี า่ ยงั มคี นทกุ ขย์ ากเดอื ดรอ้ น
อย่างมาก มีพระราชดำ�รใิ ห้เงนิ จำ�นวนนไ้ี ว้ชว่ ยแกป้ ญั หาของเขากอ่ น ระหวา่ งทเ่ี ขาทอผา้ พระองคท์ า่ นใหเ้ ราไปติดตาม
งานทกุ ปีนะคะ ตอนน้นั ยังไมม่ ภี ูพานราชนิเวศน์ มีชาวบ้านเอาซองเงนิ เดิมมาคนื บอกวา่ ไม่ได้ทำ�หรอกลูกป่วย พอถาม
ว่าเอาเงินท่ีไหนไปเป็นค่าใช้จ่ายเร่ืองลูกป่วย บอกไปกู้เขาไม่ใช้หรอกเงินที่พระราชทานให้ เพราะว่าเป็นเงินศักดิ์สิทธ์ิ
ที่เป็นเหมือนมัดจำ�ให้ทอผ้าไหมและเป็นเงินท่ีมาจากพระองค์ท่าน พอมากราบบังคมทูลทรงทราบก็ทรงซาบซึ้งมากว่า
คนไทยน่ารัก พระองค์ท่านรักราษฎร และก็ทรงช่วยเขามาตลอด ชาวบ้านหันมาปลูกหม่อนเล้ียงไหม ทอผ้าไหมส่ง
ศลิ ปาชีพกันแทบจะทกุ หมู่บ้านอสี าน เปน็ ผ้าไหมมดั หมีแ่ ละผ้าไหมลวดลายอนื่ ๆ มากมาย ท่ีเฟือ่ งฟูอยจู่ นทกุ วนั น้ี
แตเ่ รากม็ ามปี ญั หาเรอ่ื งการนำ�เสน้ ไหมอนื่ ทคี่ ณุ ภาพไมด่ ี บางทกี ใ็ ชเ้ สน้ ใยอน่ื ทไ่ี มใ่ ชเ่ สน้ ไหมไทยแทม้ าทอผา้ ไหม
ส่งศิลปาชีพด้วย เน้ือผ้าจะไม่สวยเลย ทำ�ให้เราต้องเข้มงวดและอธิบายถึงผลดีผลเสีย ว่าเป็นการทำ�ลายคุณค่าของ
ผ้าไหมไทย ขณะนี้ก็ยังมีบ้างโดยการท่ีสอดแทรกเข้ามา เราก็บอกไม่ได้ว่ามันร้อยเปอร์เซ็นต์ท่ีเราดูแลนะ เวลาท่ี
สมาชกิ ศลิ ปาชพี นำ�ผา้ สง่ เขา้ มาเรากส็ อนใหเ้ จา้ หนา้ ทดี่ เู นอ้ื ผา้ วา่ ผา้ ชน้ิ นจ้ี ะตอ้ งเปน็ ผา้ ไหมนะ เนอ้ื ผา้ จะตอ้ งเปน็ แบบไหน
จากสัมผัสของการท่เี ราจับบ่อย ๆ ก็พอจะรู้ได้ พระองค์ท่านถึงขอใหม้ ีการตงั้ กรมหม่อนไหมขึ้นมาดแู ลกิจการเรอื่ งไหม
ของประเทศไทย มารกั ษาพนั ธไุ์ หมไทยเอาไวใ้ หไ้ ด้ จะมโี รงงานไหมอตุ สาหกรรมอะไรกไ็ ด้ ของเราเปน็ Cottage Industry
ซึ่งให้ชาวบ้านกลุ่มเล็ก ๆ เขาทำ� ในครัวเรือน ในหมู่บ้าน ซึ่งแต่ละหมู่บ้านก็ยังส่งเส้นไหม ผ้าไหม ให้ศิลปาชีพอยู่
จนทกุ วนั น้ี ภาคใตป้ ลกู หมอ่ นเลย้ี งไหมยาก เพราะวา่ ฝนตก ๘ เดอื น เรากเ็ อาเสน้ ไหมจากอสี านไปใหช้ าวบา้ นทอ เพราะมี
ชาวบา้ นอสี านทนี่ ราธวิ าส พน้ื เพเปน็ คนอสี าน ซง่ึ วถิ ชี วี ติ เขากป็ ลกู หมอ่ นเลย้ี งไหม เขาเคยเอาตน้ หมอ่ นไปปลกู ตน้ หมอ่ น
งามดแี ตอ่ ากาศไมอ่ ำ�นวย ชนื้ สาวไหมไมอ่ อก เพราะว่าฝนตกบอ่ ยมาก
น่กี เ็ ป็นทีม่ าของผา้ ไหมศลิ ปาชีพ จากกอ่ นก็ทอแค่ผนื เดยี ว ๑.๘๐ - ๒ เมตร เดย๋ี วนม้ี าทหี นง่ึ ๓๐ ถงึ ๔๐ เมตร
ไดแ้ ลว้ พระองคท์ า่ นคอ่ ยทำ�คอ่ ยไป ลายผ้านี่เวลาราษฎรมาเฝ้าฯ นะคะ เวลาลกุ เดินผา้ น่งุ โดนแดดนส่ี วยมาก มีเงางาม
ของไหม จะทรงชมทุกครัง้ เมอ่ื มพี ระตำ�หนักภพู านฯ พระองค์ทา่ นเสดจ็ ฯ ออกไปทรงงานในแต่ละวนั จะประทับที่โตะ๊
ทรงงานแล้วราษฎรเข้าเฝ้าฯ บางคนที่เขาทอผ้าเป็นสมาชิกอยู่แล้วเขาอยากจะขอบคุณพระองค์ท่าน เขาก็ทอผ้าไหม
สวยเตรยี มไว้เลยเพอื่ นำ�มาทูลเกล้าฯ ถวาย และกราบบังคมทลู ว่าชน้ิ นี้ไม่ขอรบั พระราชทานเงนิ เพราะลูกฉนั เรยี นจบ
แลว้ บางคนลกู จบปรญิ ญาเอารปู รบั พระราชทานปรญิ ญาบตั รมาอวดดว้ ย ชน้ิ นขี้ อถวายเปน็ ของขวญั เหตกุ ารณอ์ ยา่ งนี้
เป็นความผกู พนั ของราษฎรกบั พระองค์ทา่ น
249
วนั ท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๗ เสด็จลง ณ ลานคำ�หอม ภูพานราชนเิ วศน์ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร
ทรงรบั บายศรเี ชิญพระขวัญตามประเพณีของชาวอีสาน ในงานประกวดผา้ ไหม
วนั ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๖ งานประกวดผ้าไหมท่ภี พู านราชนเิ วศน์
วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๘ ทอดพระเนตรผ้าไหมซง่ึ ชนะการประกวดระดบั ภาค ประจำ�ปี ๒๕๓๘
ณ บริเวณลานคำ�หอม ภพู านราชนิเวศน์ อ.เมอื งสกลนคร จ.สกลนคร
250
การประกวดผ้าไหม ณ ภูพานราชนเิ วศน์ จงั หวดั สกลนคร
เหน็ มีรูปพระราชทานสร้อยคอใชไ่ หมครับ
สรอ้ ยคอพระราชทานเปน็ รางวลั จากการประกวดผา้ ไหมของสมาชกิ ศลิ ปาชพี ตามแนวพระราโชบาย คอื เปน็ การ
สร้างแรงบันดาลใจให้สมาชิกศิลปาชีพมีความรักในงานฝีมือของตนเอง ต้ังใจทำ�เต็มที่ โดยมีรางวัลเป็นแรงกระตุ้นให้
สร้างผลงานชิ้นเลิศ เป็นฝีมือล้วน ๆ ตามกฎเกณฑ์ ทรงเชิญแขกต่างประเทศท่ีทรงรู้จักมาร่วมงานท่ีภูพานราชนิเวศน์
อากาศดแี ละนำ�งานศลิ ปหตั ถกรรมของสมาชกิ หลายประเภทมาแสดง มปี ระเพณบี ายศรี มชี าวเรณนู ครมาเซง้ิ แขกทม่ี า
เข้าเฝ้าฯ ได้เห็นผา้ ไหมงาม ๆ ก็ชว่ ยสนบั สนุนซื้อผ้าไหม มารจู้ กั ผา้ ไหมไทย หนา้ พระตำ�หนกั ภพู านฯ เต็มไปดว้ ยผ้าไหม
พรอ้ มผู้ทอ เรยี กว่าเปน็ ตลาดนัดผา้ ไหมกันเลย ทกุ ปีก็เพ่ิมข้ึนเรอื่ ย ๆ สมาชิกทอมาเยอะ ไม่ยอมสง่ ทัง้ ปี คอยเวลาทจี่ ะ
เขา้ เฝา้ ฯ ทพี่ ระตำ�หนกั ภพู านฯ แขกตา่ งประเทศทมี่ าแตล่ ะปี บางครงั้ กเ็ ปน็ คนเดมิ อยากมาอกี บางคนกเ็ รมิ่ ดผู า้ ไหมเปน็
แลว้ กม็ ีตชิ มบ้างว่าเนอ้ื ไหมปนี ที้ ำ�ไมสปู้ ีที่แล้วไมไ่ ด้ คณุ ภาพเปน็ ยังไง เม่อื พระองค์ทา่ นเสดจ็ ฯ ออกทรงงานกท็ รงสัมผัส
251
ชาวผูไ้ ทจากจงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ เฝา้ ทูลละอองธลุ พี ระบาท ณ พระตำ�หนกั เปย่ี มสุข วงั ไกลกงั วล
ไดด้ ว้ ยพระองคเ์ องวา่ สมาชกิ อาจรบี ทำ� ไมเ่ นน้ คณุ ภาพแตเ่ นน้ ปรมิ าณมากกวา่ กเ็ ลยรบั สง่ั วา่ ใหม้ กี ารประกวดผา้ ไหมกนั
เปน็ การกระตนุ้ อยา่ งนอ้ ยกต็ อ้ งรกั ษาฝมี อื ๑ ผนื ทจี่ ะสง่ เขา้ ประกวด เพราะฉะนนั้ การประกวดจะทำ�ใหค้ นกระตอื รอื รน้
ทจ่ี ะทำ�งานทด่ี ที สี่ ดุ ดว้ ยฝมี อื ของตนเอง ปหี นงึ่ กย็ งั ดที พ่ี ยายามทำ�มาประกวดใหด้ ที ส่ี ดุ เปน็ การรกั ษามาตรฐาน ถงึ จะทำ�
ปีละผนื ก็เถอะ กเ็ กดิ การประกวดผ้าไหมชนิดต่าง ๆ ผ้าไหมมดั หมี่ ผ้าแพรวา ผ้าหางกระรอก และอนื่ ๆ พระองคท์ า่ น
พระราชทานสรอ้ ยคอทองคำ�หอ้ ยเหรยี ญพระรปู ๒ พระองค์ เปน็ รางวลั ทที่ า้ ทายมาก สายสรอ้ ยทองแลว้ ยงั มเี หรยี ญทอง
มเี งนิ รางวลั ดว้ ย แล้วมีประกาศนียบตั รรบั รองอกี
ขอพูดเร่ืองผ้าไหมแพรวานิดหนึ่ง เดี๋ยวนี้มีอาคารใหญ่โตมากท่ีบ้านโพน กาฬสินธ์ุ และสามารถหารายได้เข้า
ประเทศได้เยอะมาก เมื่อปี ๒๕๕๘ เขาเคยมาอวดว่าครงึ่ ปเี ขาทำ�เงินไดต้ ้ัง ๖๐ ลา้ น มีสมาชิกซ่งึ เป็นคนรนุ่ ใหมน่ ่ังกันอยู่
เกอื บ ๒๐๐ มารอรบั ก็เลยต้องเลา่ ความหลงั ใหเ้ ขาฟงั ดใี จนะคะที่ได้ยินวา่ แพรวาสรา้ งรายไดม้ ากมาย สมเดจ็ พระบรม
ราชชนนพี นั ปหี ลวงทรงทราบกด็ พี ระทยั คะ่ วนั นน้ั ดฉิ นั กเ็ ลยเลา่ ทมี่ าของผา้ ไหมแพรวาใหส้ าว ๆ ทที่ อผา้ แพรวาไดร้ บั รวู้ า่
เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์
ไปทรงเย่ียมราษฎรประมาณปี ๒๕๒๐ ชาวบ้านเอาผ้าแพรวาวางถวายเป็นลาดพระบาท สวยงามมาก มีสีแดงสีเดียว
หนา้ ผา้ แคบเพราะเปน็ ผา้ สไบแพรวาจากเครอ่ื งแตง่ กายประจำ�ถนิ่ ของเขา เมอื่ เสดจ็ ฯ กลบั มาวนั นน้ั พระองคท์ า่ นรบั สงั่ ให้
ทา่ นผหู้ ญงิ สปุ ระภาดาไปพบชาวบา้ นโพน อำ�เภอคำ�มว่ ง พรอ้ มคำ�ชมเชยวา่ ผา้ แพรวาสวยมาก ทรงเหน็ วา่ ตอ้ งรบี รกั ษาไว้
ไมง่ ้ันอาจจะสูญหาย มีพระราชเสาวนียใ์ หไ้ ปสนับสนุน ใหห้ าคนทอ โดยเอาคนทอเป็นคนในหมบู่ า้ นเปน็ ครสู อน วนั รงุ่ ขน้ึ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดเฮลิคอปเตอร์ให้ท่านผ้หู ญิงสุประภาดา
252
เดนิ ทางไปอำ�เภอคำ�มว่ งทนั ที และใหน้ ำ�เสน้ ไหมไปดว้ ย ๖ กโิ ลกรมั ทางอำ�เภอนดั ชาวบา้ นมาคอยพบทา่ นผหู้ ญงิ สปุ ระภาดา
๖ คน สงู อายทุ งั้ นน้ั ถามว่ามผี า้ แพรวาไหม กบ็ อกว่ามีกันคนละผืนสองผืนเท่านัน้ เพราะผนื หน่ึงใชเ้ วลาทอ ๘ - ๙ เดอื น
แล้วเขาก็ทอไว้ให้ลูกสาวลูกชายใช้ ก็ได้บอกเล่าให้เขาฟังถึงแนวพระราโชบายที่จะทรงอนุรักษ์การทอผ้าไหมแพรวา
และถามว่าเสน้ ไหมท่นี ำ�มานนั้ ใครจะรบั ไปทำ�บ้าง กไ็ ม่มใี ครรับทำ� เพราะบอกว่ามันทำ�ยาก มันทำ�นานตั้งหลายเดือน
แก่แล้ว หูตาไม่ดี ลูกหลานไม่มีใครทำ� มีแค่คนแก่ ๆ ทำ�เป็นเท่าน้ัน หว่านล้อมสารพัดก็ไม่มีใครยอมทำ� จนกระท่ัง
แม่คำ�ใหม่ โยคะสิงห์ เป็นสะใภ้ของหมู่บ้านนั้น ทอผ้าไหมเป็นเพราะเป็นคนอีสาน แต่ทอผ้าแพรวาไม่เป็น สามีเป็น
ครูใหญ่โรงเรียนท่ีตรงน้ัน แม่คำ�ใหม่สปอร์ตมากเว้าอีสานเลย บอกว่าแปลกนะพระเจ้าแผ่นดินพระราชินีส่งคนมา
ออ้ นวอนให้ทอผา้ ทำ�ไมไม่มใี ครรบั เลย น่าขายหนา้ และกว็ ่าเอาเถอะ ตัวเขาทำ�เส้นไหมเป็นขอรับมาก่อน แต่จะเป็น
ผ้าแพรวาเมื่อไรยังไม่รับรอง หายไปสักปีกว่า ๆ ก็บอกมาว่าผ้าไหมแพรวาเสร็จแล้ว จะให้ทำ�อย่างไร สมเด็จพระ
บรมราชชนนีพันปีหลวงทรงให้ท่านผู้หญิงสุประภาดาจัดรถไปรับมาทั้งหมดเลย มาที่วังไกลกังวล พระองค์ท่านทรง
ฉลองพระองค์สีแดงประกอบผ้าไหมแพรวาสีแดง เสด็จออกรับชาวบ้านโพน อำ�เภอคำ�ม่วง โปรดฯ ให้จัดอาหาร
พระราชทานเลย้ี ง น่นั คอื ผา้ ไหมแพรวาผืนแรกทเี่ ร่มิ ทอกันใหม่ หลงั จากนน้ั ก็เลยมคี นทำ�แพรวาเพมิ่ ขน้ึ เรื่อย ๆ คนทอ
ก็อายุไม่มากแล้ว เพราะทราบแล้วว่างานฝีมือของบรรพบุรุษน้ันมีค่าท่ีจะสืบทอดต่อมาเป็นรายได้เล้ียงครอบครัว
เพราะงั้นถึงได้เล่าให้สมาชิกราว ๒๐๐ คนท่ีนั่งอยู่ตรงนั้นฟัง เป็นความภาคภูมิใจของที่มา ถ้าไม่ใช่ครั้งแรกเพราะ
พระองค์ทา่ นแลว้ รบั รองผ้าไหมแพรวาสูญไปแล้ว และตอนนก้ี ม็ สี มาชิกทอผา้ ไหมแพรวา คือ นางคำ�สอน ศาสตรท์ อง
ได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ท่ีน่าภาคภูมิใจ คือ พระองค์ท่านได้ฟ้ืนคืนชีวิตให้ผ้าไหมแพรวายังคงอยู่คู่กับ
ชาวบ้านโพน จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ
เคยไดย้ ินชาวบ้านเขาเล่าว่าพระองคท์ ่านมพี ระราชด�ำ รสั ขอวา่ ใหท้ อผา้ ผืนใหญ่ ๆ
ใช่ค่ะ แต่เดิมเคยทำ�หน้าแคบแล้วต่อหัวซิ่น ตีนซิ่น ก็ให้ทำ�ผ้าหน้ากว้างขึ้น ทรงอยากให้ผ้าไหมท่ีชาวบ้านทอ
มีมาตรฐานเหมือนผ้าในท้องตลาด เวลามีคนซ้ือก็จะง่ายต่อการกำ�หนด จะซื้อกี่เมตรกี่หลาก็แล้วแต่ จะขายได้ง่าย
สะดวกทง้ั ผซู้ อื้ ผขู้ าย ผา้ สไบไหมแพรวากเ็ ชน่ กนั ทรงขอใหข้ ยายความกวา้ งของผา้ ไหมแพรวาใหม้ ขี นาดสำ�หรบั คลมุ ไหลไ่ ด้
ก็ทำ�ให้เป็นที่นิยม และต่อมาก็มีการทอผ้าสีพื้นให้เข้ากับสีของผ้าแพรวา และทรงขอให้เพ่ิมสี จากเดิมตามประเพณี
ของเขาทเ่ี ปน็ สแี ดงสีเดียว ก็ได้ทอมาเปน็ สตี ่าง ๆ มากขึ้นจนทกุ วันนี้
253
วันท่ี ๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๐ ทรงตรวจผลงานของสมาชิกศิลปาชีพ ณ โครงการพัฒนาเพือ่ ความม่ันคงพืน้ ทภ่ี ขู ัด ภูเม่ียง
และภสู อยดาว ต.บอ่ ภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
ผา้ ชาวเขาดว้ ยใชไ่ หมครบั
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ทรงเร่ิมงานโครงการหลวง ชาวเขามีสร้อยเงินท่ีเขาทำ�เองใช้เองมา
ทลู เกล้าฯ ถวาย แล้วก็กราบบงั คมทลู ว่าแม่หลวงจะซอ้ื ของเราบ้างไหม พระองคท์ ่านกท็ รงซ้อื นะ ทรงเห็นว่าเขามฝี ีมือ
ต่างเผ่าก็ต่างฝีมือกัน ทรงชวนชาวเขามาอยู่ที่โรงฝึกศิลปาชีพ ซ่ึงปัจจุบันคือสถาบันสิริกิต์ิ รับส่ังว่าเขาเก่งในเรื่องการ
ทำ�เครือ่ งเงนิ เขาจะตอกจะขนึ้ รูปอะไรได้ทั้งนนั้ เขากม็ าอยูก่ บั เด็กที่พระองค์ท่านทรงขอจากครอบครวั ทม่ี คี วามลำ�บาก
รายไดน้ อ้ ย ใหม้ าหดั ทำ�งานฝมี อื อยทู่ โี่ รงฝกึ สำ�หรบั ชดุ แตง่ กายของชาวเขาเผา่ ตา่ ง ๆ สวยมาก มง้ แตง่ อยา่ งหนง่ึ ลซี อแตง่
อย่างหน่งึ มเู ซอแตง่ อยา่ งหนึ่ง เย้าอยา่ งหนงึ่ กะเหรยี่ งอย่างหน่งึ รับส่งั ให้พวกผู้หญงิ ปักผา้ ลวดลายแบบปกเส้ือหรอื ขา้ ง
หลงั เส้ือชดุ ประจำ�เผา่ ของเขา ไม่ตอ้ งเยบ็ เป็นตัวเสือ้ ให้ทำ�เปน็ ชิ้น ๆ มา พระองค์ทา่ นจะนำ�มาตกแต่งฉลองพระองค์เอง
จากเครอ่ื งแตง่ กายของแตล่ ะเผา่ ทรงหยบิ ยกออกมาเปน็ งานอาชพี ใหช้ าวไทยภเู ขาได้ อยา่ งเผา่ ลซี อเขามเี ชอื กทเ่ี ราเรยี ก
เชอื กลซี อ เขาทำ�เปน็ สตี า่ ง ๆ แลว้ มพี หู่ อ้ ยเลก็ ๆ สตี า่ ง ๆ อยทู่ ่ดี ้านหลงั ของชดุ จะหอ้ ยเป็นพวงยาวประมาณศอกหน่ึง
เวลาเขาเดินพู่น้ีก็สวยงาม ก็รับส่ังให้เขาทำ�มายาวเส้นละสักเมตรหรือสองเมตร ทรงให้นำ�เชือกลีซอมาใช้แทนริบบิ้นก็
เปน็ ท่มี าของเชอื กลีซอ เด็ก ๆ จับเขม็ ไดก้ ็ให้เดก็ ทำ�ไดแ้ ล้ว ลูกช่วยทำ�แม่กต็ ้องสอนให้ทำ�ให้ดี ชาวไทยภเู ขาทีเ่ ป็นสมาชกิ
ศิลปาชีพมอี ยู่ประมาณ ๖ - ๗ เผา่ เราเคยจดั งานที่หอศิลปส์ มเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ ตรงผ่านฟ้า มีนทิ รรศการแสดง
วฒั นธรรมของชาวเขาทัง้ หมด ๖ เผ่า แลว้ แสดงเคร่อื งแตง่ กาย แสดงวิถีชวี ติ แสดงการเขยี นเทยี นของม้ง การทำ�เชือก
ลีซอของลีซอ ทอผ้ากะเหรยี่ งจากกี่เอว เยา้ ก็ทำ�งานปักแบบของเขา
254
วนั ท่ี ๑๙ มนี าคม ๒๕๔๕ ทอดพระเนตรผลงานศลิ ปาชพี
ณ บา้ นรวมไทย ต.หมอกจำ�แป่ อ.เมืองแมฮ่ อ่ งสอน จ.แมฮ่ ่องสอน
255
แล้วเรื่องจกั สานไม้ไผล่ ายขิดล่ะครบั
พูดถึงจักสานไม้ไผ่ลายขิด ตอนน้ันเหลืออยู่ครอบครัวเดียว อยู่ท่ีกาฬสินธุ์ ต้องขอบคุณวิทยาลัยครูท่ี
มหาสารคาม (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม) เขามากราบเรียนท่านผู้หญิงสุประภาดาว่า เขามีแจกันลายขิด
สวยเชียวทำ�ด้วยไม้ไผ่ บอกว่าคนทำ�เหลืออยู่บ้านเดียวมีอายุมากแล้ว เขาเห็นเราออกไปช่วยเชียร์ให้ชาวบ้านทำ�งาน
ฝีมือต่าง ๆ นอกจากผ้าไหมเราก็ไปดูอย่างอื่นด้วย ท่านผู้หญิงสุประภาดาก็มากราบบังคมทูล พระองค์ท่านก็รับสั่ง
ให้ไปสนับสนุน ก็ไปท่ีบ้านลุงคนน้ีช่ือนายแปลง โสภาคะยัง เขาทำ�เป็นตะกร้าห้ิว เป็นทรงอีสานสวยมาก แล้วภรรยา
ก็ทอผ้า ก็ชวนเขาให้มาสอนที่สวนจิตรลดา เขาบอกมาไม่ไหว แก่แล้วขอเถอะ ทีนี้อีกปีหนึ่งพระองค์ท่าน
เสด็จฯ ไปประทับที่พระตำ�หนักภูพานฯ เขาก็ยอมไปท่ีภูพานฯ สอนนักเรียนศิลปาชีพที่เป็นเด็กมาจากครอบครัว
ท่ีเดือดร้อนด้วยเหตุต่าง ๆ กัน ทรงเปิดโรงฝึกชั่วคราว แล้วพอเสด็จฯ กลับกรุงเทพฯ เขาเลยให้ลูกศิษย์มาสอนต่อ
กค็ อื นายมณรี ตั น์ ไชยขนั ธ์ ซง่ึ เดยี๋ วนเี้ ปลยี่ นชอ่ื เปน็ นายจรี ะพนั ธ์ ไชยขนั ธ์ กม็ าเปน็ ครอู ยกู่ บั เรา ชว่ ยสอนเดก็ ๆ หลายคน
ให้ทำ�จักสานไม้ไผ่ลายขิด และขยายไปเป็นอาชีพให้อีกหลายหมู่บ้านได้มีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว นอกจากทำ�
ไมไ้ ผล่ ายขดิ พระองคท์ า่ นยงั รบั สงั่ ใหเ้ อาเสน้ เงนิ เสน้ ทองสานดว้ ยกนั แทนทจี่ ะใชไ้ มไ้ ผ่ ใหร้ ดี เสน้ เงนิ เสน้ ทองใหบ้ างแลว้
นำ�มาสาน กเ็ ลยเปน็ เครอ่ื งเงนิ เครอ่ื งทองที่ละเอียด สรปุ คือ งานที่เกอื บจะสูญหายไปกับครอบครวั เดียว กย็ งั อยู่ย่ังยนื
มาจนทุกวันนี้ดว้ ยพระมหากรุณาธคิ ุณ
256
๑ กนั ยายน ๒๕๔๕ เสด็จพระราชดำ�เนนิ เยีย่ มราษฎรและสมาชิกศลิ ปาชีพกลมุ่ ผ้าปกั
ณ บ้านไทยสขุ หม่ทู ี่ ๘ ต.ลาโละ อ.รอื เสาะ จ.นราธิวาส
แลว้ ภาคใต้มีไหมครบั
ภาคใต้ทรงนำ�งานปักผ้าไปให้เขาค่ะ เป็นปักซอยแบบไทยนะคะ ประมาณปี ๒๕๑๖ ชาวบ้านภาคใต้มีอาชีพ
ทำ�สวนยาง โดยวิถีชีวิตเขากรีดยางช่วงหลัง ๐๑.๐๐ - ๐๒.๐๐ น. เป็นต้นไป พอเช้าฟ้าสางเขาต้องกลับมาพักผ่อน
กนิ ขา้ วแลว้ กน็ อนวา่ งทงั้ วนั พระองคท์ า่ นกท็ รงชว่ ยใหง้ านปกั ผา้ เปน็ งานเสรมิ อาชพี หลกั ยามวา่ ง ผหู้ ญงิ ไทยมสุ ลมิ รกั สวย
รักงาม เขามผี า้ โพกผมปกั ฉลุ สมยั ก่อนเขาเปิดหน้าแลว้ เขากโ็ พกผ้าคลุมผม เวลาปรกตกิ ็คล้องคอไวเ้ วลาเขาลุกขน้ึ เดิน
เขาก็จะจับผ้าขึ้นคลมุ ผม กริ ิยาที่เขาทำ�สวยมาก มีเสนห่ น์ ะ ชาวไทยภาคใตค้ วิ้ ดำ�ตาดำ�หนา้ ตาสวย พระองคท์ า่ นรับส่ัง
ว่าให้นำ�งานปักผ้าไปให้เขา มีพระราชเสาวนีย์ให้คุณข้าหลวงท่ีปักผ้าเก่งเป็นคนสอนปักผ้า ปักซอยไล่สีสวย ภาพท่ีนำ�
มาปักก็ขอจากศิลปินหลายคนที่เขาวาดรูปไว้ หากเห็นว่าเหมาะจะเป็นลายปัก ก็ไปขออนุญาตนำ�ผลงานของเขามาใช้
ต่อมาจึงทรงให้ต้ังแผนกจิตรกรรมต้นแบบภาพปัก รับสมัครเด็กจบจากเพาะช่าง จบจากศิลปากร มานั่งเขียนภาพ
ตามทีพ่ ระองค์ท่านรบั สั่ง ใหเ้ ขียนเรอ่ื งวรรณคดี ให้เขยี นลายดอกบวั ลายธรรมชาติ เขียนนก ผเี ส้ือ อะไรต่าง ๆ แลว้ แต่
ตามท่จี ะมพี ระราชเสาวนยี ์
257
ห้ชาวบ้าน ชาวบ้าน
ะมีทุกข์ในครอบครัว
พัดปัญหา อย่าไปสั่ง
ทำเพ่ือทรงซ้ือ เป็น
ท่ที ำนาไมไ่ ด้ผล
น ถา้ เราไปบอกวา่ ตอ้ งทำ
อย่างน้ีนะคะชาวบ้าน
หัว แล้วก็ไม่ทำ โดย
รกเลย เพราะฉะน้ัน
ราชดำริว่า “เขาทำ
ำอย่างน้ัน เขาจะได้สบายใจ” เสพด็จฯอเเปขดิ งาานทศลิำปม์แผาน่ ดแินลคร้วัง้ ทแี่ ๒ลเมะื่อวขันทา่ี ย๑๒ไธดัน้เวางคินม ๒๕เ๓ร๘าช่วยเขา
มาเราถงึ บอกเขาว่า ส“่วแนยม่า่นคลิเนภเาขพาระออยงคา์ทก่าไนดมีกผ้ ลา้ ่อทงยหี่ ่านนล้าิเภกาวเป้า็นงขขอึน้งสนมะเด็จเพขราะจพันะวไัสปสตาอัดัยเยสิกื้อาเจ้ตา ัดเปช็นดุรูปทรงหนังสือมี
าหน้าแคบอย่าควงานมหี้เขนาาเตปิดัดฝไามขา้ ่พงใอนกใ็ สข่ขยองาไยด้ อมีคอวกามไสปวยอปีกระหณนตี ่อเสยน้ ลดิเภีไาหเปมน็ ”สีน้ําถตา้าลชเสาน้ วลบะเ้าอียนดตทกรงลใชง้กใลจอ่ งย่านลิเภาใบนี้
างข้ึน จากน้ันตเกป้น็เ็นเปถตาัวลยอ่า่ียยน่านลงใิเเหภค้ชานารวำื่อ�ภมางาคปทใลตอูก้ดขใูแยหลาะย้โขพดอันใยธหทุ์ย้สาาี่เกนรมลาาะกทเอำเียพดไรปาจะแนวเ่าจสเ้นคกยลเนิเขภำ�าามทาใ่ีนปนำล�มนูกาแาสลาม้วนแขไตดอ่ช้ถ้าูกงมเมหากลูลานแจลนิธะลิสเะสเ่ง้นอเลียสิเดภบราาิเมขงเาปจ็นะเโสต้นโดผยมตเล้อยง
ำผ้าหน้ากว้างพนั เไพปกรบั าตะ้นเไมข้สางู รใหู้แญล่ เ้วชน่วต่าน้ ทยาำงแเรลา้วใชขเ้ สา้นยยา่ไนดล้ิเภเารแาคบป่ ลออ้ กงแเรขกขาอแงยคา่ ่นนล้ีเิเอภางเทสา่ น่ว้นั นซก่ึงจระรยามววปริธะี มาณ ๑ เมตร
รเฐขาานอขยอู่เหงผมา้ ือทนั่วกมยเ่า็จาไดนสะปาผลิมนทุิเภคโัง้ ดาเือเสยมพน้มกี ๒ไีหียวปวเา้งาสลยีงแยหคตืออ๔แมสต่เ๐ีนเถ่ปปา้ํ้าน็เลตนรโาาค่ียลิ้วลรกอนงับกเยสเสคา่ีดน้นำร�เลป่ือิเเภรลงาือาใจกมชะน้เือตฉีอ้ ่าพอใงากหกะไับเป้กปไกมลว่อ้ไือผ้านก่ลจงขาะขอยองข้ึยนเดิส่ไู ดคเ้นท้นอื วาแ่าน่ากนนขจใดิั้นานทกตเำ�ส้อโเค้นงรทรใาหง้ิงรไญกูปปก่็จขเพ็น้ึนะำรม�มาไาะากดถร่อดู้า้ผนเใกห้แา็บเ้ลซปไว้ วน็ิ่กน้แเ็สสกาน้นนเขลลอะก็ งเอมแียันลดจ้วหะนมุ้ผำ�ุ
ส่วนยา่ นลเิ ภานเี้ ราตอ้ งสานไปพรอ้ ม ๆ กับทเ่ี ราทำ�โครงรปู คุณตอ้ งขดไปพร้อมกบั ทีค่ ณุ สานไปเร่ือย ๆ ยากมาก ไม่ไดม้ ี
ภาก็เหมือนกันกานรยะ้อคมสะี ใชเเ้ขสน้านท้าํ ตำาอลยแล่าะงเสไน้รดอำ�มยาู่เสราานกสอ็ใดหส้เลขับากนัทไปำอคยวา่ามงเงนามั้นนั เกแิดจตา่เกมกาื่อรทรดู ำเสไน้ ดให้เง้มินัน แตรลงน้วีค้ ืองานละเอยี ด
ให้ละเอียดหนจร่องิ ยๆไเปดน็ ้ไฝหีมือมจริงเสๆ้นที่ทำใหญ่ไป ทำให้ไม่ละเอียด น่าจะผ่าให้เส้นเล็ก
กล่องกลมบ้าง เหลี่ยมบ้าง ห้าเหลี่ยม แปดเหลี่ยม ส่ีเหลี่ยมตัดมุมบ้าง”
งบอกเลย ชาวบ้านเขาจะพัฒนาของเขาไปเอง แล้วเขาคิดได้สวยด้วย อย่างถ้า
ล่ียมแล้วตรงลงมาเขาจะรู้สึกว่าธรรมดาไปเสียแล้ว เขาจะออกแบบแปลกๆ บางที
ลย่ี มแตข่ า้ งลา่ งมน แปลกมากเลยนะคะ แลว้ เขากเ็ อามาถวาย ทรงตน่ื เตน้ วา่ ไมต่ อ้ งไป
วามคดิ สรา้ งสรรคใ์ นตวั แลว้ ตอนนเี้ ขาสบายแลว้ ความทกุ ขต์ า่ งๆ ไดร้ บั การบรรเทา
ตา่ งๆ จึงออกมาจากความคิดของเขาเอง
หีบพระศรีของสมเดจ็ พระพนั วสั สาอยั ยกิ าเจา้ ท่ีได้รบั การตกแตง่ ใหม่
พมคี วา2ม5ผ8กู พนั กับพระองค์
วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๒๔ ทอดพระเนตรผลงานของสมาชกิ ศลิ ปาชีพ ในระหว่างการเสดจ็ พระราชดำ�เนนิ เยีย่ มราษฎร
และสมาชิกศลิ ปาชีพ ณ ศูนย์ศิลปาชพี บา้ นคลอแระ ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธวิ าส
259
วนั ที่ ๒๐ ตลุ าคม ๒๕๒๒ เสดจ็ ฯ เยย่ี มกล่มุ ป้นั ต๊กุ ตาชาววัง ท่วี ดั ท่าสุทธาวาส ต.บางเสดจ็ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
อยา่ งทอ่ี ่างทอง งานตุ๊กตาชาววัง
ตุก๊ ตาชาววงั เกดิ จากการทีอ่ ำ�เภอป่าโมก จงั หวดั อ่างทอง มปี ัญหานํ้าทว่ ม ทัง้ สองพระองคเ์ สดจ็ ฯ ไปทรงเยยี่ ม
ราษฎร ที่น่ันเขามีอาชีพทำ�อิฐมอญ ทำ�ธูป พระองค์ท่านเห็นเขามีฝีมือทางการปั้นและมีดินท่ีใช้ในการปั้นอยู่แล้วจึงมี
พระราชดำ�รใิ หล้ องปนั้ ตกุ๊ ตา ทรงเลา่ พระราชทานวา่ เมอ่ื ครงั้ ทรงพระเยาว์ ทรงเคยเลน่ ตกุ๊ ตาชาววงั มเี ขยี นหนา้ เขยี นตา
ทาปาก ป้ันตัวเล็ก ๆ เหมือนจริง มีรับสั่งให้เชิญอาจารย์จุลทัศน์ พยาฆรานนท์ ไปสอนชาวบ้านท่ีนั่น เขาก็ยังทำ�อยู่
ทุกวนั นี้ จนเขาเล้ียงตวั เองได้แล้ว ทำ�ออกมาขายตามงานตา่ ง ๆ ชาวบา้ นมีรายได้แตก่ ย็ งั ตอ้ งกำ�กับอยบู่ ้าง เร่อื งสัดส่วน
ตามความเปน็ จริง เช่นมงั คุดจะใหญก่ ว่าทเุ รยี นไมไ่ ด้ มะมว่ งใหญ่กว่าสับปะรดไม่ได้
คนไทยมีอายุประมาณใกล้ ๆ หกสิบปีหรอื กว่าน้ัน คงจะจำ�กนั ได้วา่ เมอ่ื เด็ก ๆ เคยเล่นตุ๊กตาตวั เลก็ ๆ แต่งกาย
แบบไทยโบราณ หญงิ นุ่งผ้าโจงกระเบน หม่ สไบ ชายนงุ่ ผ้าม่วงใส่เสอ้ื ราชปะแตน หรอื เสือ้ คอกลม ตกุ๊ ตาเหลา่ นีแ้ หละ
มชี ่ือว่าตุ๊กตาชาววงั ตอ่ มาการทำ�ตกุ๊ ตาชาววังก็ดเู หมอื นจะเลิกรากนั ไป หาไดย้ ากเขา้ ทุกที
สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง ทรงเป็นผูห้ นง่ึ ทีย่ งั จดจำ�ความนา่ รัก
ของตุ๊กตาชาววัง ฉะน้ัน เมื่อเสด็จเย่ียมราษฎร ตำ�บลบางเสด็จ อำ�เภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งประสบอุทกภัย
ในปลายปพี ุทธศกั ราช ๒๕๑๘ ทรงทราบวา่ ราษฎรทน่ี ่นี อกจากจะทำ�นาแล้ว ยังมีการทำ�อฐิ และทำ�ธปู ขาย วัตถุดบิ ท่ี
หาได้ง่ายคือดินเหนียว จึงมีพระราชดำ�ริให้นำ�ดินเหนียวท่ีใช้ทำ�อิฐนั้นเองมาป้ันตุ๊กตาเป็นอาชีพเสริม และทรงริเริ่ม
โครงการตกุ๊ ตาไทยขนึ้ เปน็ ครงั้ แรก เมอ่ื เดอื นมกราคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๙ ทรงขอใชศ้ าลาวดั ทา่ สทุ ธาวาส ตำ�บลบางเสดจ็
อำ�เภอปา่ โมก จงั หวดั อา่ งทอง เปน็ ศนู ยฝ์ กึ ชว่ั คราว โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ดิ ตอ่ อาจารยจ์ ลุ ทศั น์ พยาฆรานนท์ อาจารยภ์ าวาส
บุนนาค คุณหญิงเสริมศรี บุนนาค และอาจารย์ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ขอความร่วมมือให้ไปสอนและแนะนำ�ชาวบ้าน
ทีน่ ัน่ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินนี าถ พระบรมราชชนนพี ันปหี ลวง เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการฝกึ เป็น
ระยะ ๆ จนทรงเหน็ ว่าสมาชกิ สามารถปัน้ ไดด้ พี อสมควร และมตี ลาดรับซอื้ เปน็ ทีพ่ อพระราชหฤทัยแล้ว จึงได้ทรงหัน
ไปสนบั สนนุ โครงการอ่นื ๆ ในภาคอน่ื ๆ ต่อไป ขณะนีส้ มาชิกกลุ่มน้ีมีรายได้จากการป้นั ตกุ๊ ตาพอเพยี งท่จี ะเล้ียงตวั ได้
ในระยะทว่ี ่างเวน้ จากการทำ�ไรท่ ำ�นาแล้ว
260
พอดีผมเป็นคนจังหวัดตราด ขอความกรุณาทา่ นเล่าเรื่องเขาล้านให้ฟังบ้างครบั
ท่ีเขาล้านตอนนั้นเม่ือปี ๒๕๒๒ เขมรเกิดการสู้รบกันเขาก็พากันหนีตาย เขาข้ามเขามายึดหาดทรายตรง
เขาล้านที่ตราด ลงมาเยอะมาก แต่งกายด้วยชุดดำ�ท้ังตัว ตอนน้ันท่านผู้ว่าปัญญา ฤกษ์อุไร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
ตราด ท่านผู้ว่าปัญญาท่านเขียนจดหมายถึงเลขาธิการสภากาชาด คือ หม่อมหลวงเกษตร สนิทวงศ์ คุณหมอเกษตร
ท่านอ่านแล้วก็ตกใจเพราะว่าท่านผู้ว่าปัญญาบรรยายมาเลยว่าคนมาเป็นแสน ๆ ลูกเล็กเด็กแดงทุกคนอดอยาก
มาก ๆ คุณหมอเกษตรก็ส่งจดหมายไปทูลเกล้าฯ ถวายที่หัวหิน (ตอนนั้นประทับอยู่ที่วังไกลกังวล) พระองค์ท่าน
ทรงอ่านแล้วก็ไม่สบายพระทัยเลย รับส่ังว่าพระองค์ท่านจะเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง หลายคนก็
กราบบังคมทูลถึงความไม่ปลอดภัย เพราะคนเหล่านี้เขาเข้ามาแล้วมีอาวุธหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วเชื้อโรคก็ต้องมีเพราะ
เขาเดินรอนแรมข้ามเขามา ๗ - ๘ ลูก บาดแผลก็มี เป็นไข้ตายตรงน้ันก็มี ก็ไม่อยากให้พระองค์ท่านเสด็จฯ ไป แต่
พระองคท์ า่ นกท็ รงยนื ยนั วา่ ทรงเปน็ สภานายกิ าสภากาชาดไทย ตอ้ งใหค้ วามชว่ ยเหลอื เพอ่ื นมนษุ ย์ พระองคท์ า่ นใหเ้ ตรยี ม
ของจากสวนจติ รลดา ทง้ั ขา้ วสาร ทง้ั นมผง ผา้ พลาสตกิ และอน่ื ๆ ต้องมกี ระตกิ น้ํารอ้ น มีนมผงจิตรลดา มีชอ้ น มถี ้วย
ท่ีจะไปชง มีขวดนํ้า ท้ังนํา้ ร้อน และนํ้าธรรมดา ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าจะทรงนำ�ไปทำ�อะไร ปรากฏวา่ พอเสดจ็ ฯ ถงึ
เราเหน็ ชาวบา้ นสภาพดหี มดเลยเพราะเขาไมเ่ ชญิ เสดจ็ ฯ ไปทจี่ ดุ นน้ั จงั หวดั กบั ทหารเขารว่ มกนั เอารถไปขนคนจากสถานที่
จรงิ ใครปีนขน้ึ รถทหารไดก้ ไ็ ด้มา เพราะฉะน้ันมแี ตค่ นทดี่ แู ข็งแรง แล้วกด็ ดู ี เขากค็ งตรวจอาวุธอะไรแล้ว มาน่งั อยูเ่ ตม็
โรงเรียนบ้านไร่ พระองคท์ า่ นรับสงั่ วา่ นไี่ ม่เหมือนกับที่ผู้วา่ เขียนไปถึงสภากาชาดเลย พระองค์ทา่ นทรงซักไซต้ รงนัน้ เลย
และรบั ส่งั ยืนยนั ใหน้ ำ�พระองคท์ า่ นเสดจ็ ฯ ไปยงั สถานที่จรงิ พระองคท์ ่านจะทรงชว่ ยด้วยเป็นสภากาชาดไทย สดุ ท้าย
พระองคท์ ่านเสดจ็ ฯ ดว้ ยเฮลิคอปเตอรล์ ำ�เดียว เม่อื เสด็จลงจากเฮลิคอปเตอร์ พื้นไมไ่ ดส้ ะอาดเลย เขาอยู่ เขากิน เขา
ขบั ถา่ ยอย่ตู รงนน้ั ส่งิ ปฏกิ ลู ทัง้ นั้น กล่นิ หึ่งเลย พระองค์ทา่ นไดท้ อดพระเนตรสิ่งเหลา่ นี้ ทง้ั หาดทรายไมเ่ ห็นพ้ืนดนิ เลย
261
เด็กอ่อนอ้าปากเหมือนลูกนกหิว แล้วมีแต่หนังหุ้มกระดูกเหมือนเอธิโอเปียอย่างไรอย่างนั้นเลย รับสั่งให้นำ�อุปกรณ์ที่
นำ�มา แลว้ พระองคท์ า่ นผสมนมผงจติ รลดา แล้วทรงสอนวา่ ใหด้ สู ภาพเขาเปน็ อยา่ งนี้ จะไปเอานมผงตามสูตรเป๊ะไมไ่ ด้
เดี๋ยวเขาทอ้ งเสียเพราะเขาอดมานานมาก ทอ้ งยังไมเ่ คย ตอ้ งเจือจาง ตอ้ งเติมนํา้ ลงไปกอ่ นแล้วค่อย ๆ เอาปลายช้อน
ตักให้เขาจิบทลี ะนดิ ๆ
วันนั้นรบั สัง่ ใหท้ า่ นผหู้ ญงิ สปุ ระภาดากบั ดฉิ ัน และคณุ ชวลี อมาตยกุล ทำ�งานอยู่ตรงนั้น พระราชทานเขม็ กลดั
สภากาชาดไทยจากคณะสภากาชาดไทยทมี่ าดว้ ย รบั สงั่ ใหเ้ ปน็ ตวั แทนของพระองคท์ า่ นอยทู่ ำ�งานทเ่ี ขาลา้ นเลย อกี ๒ วนั
ถัดมาเราก็ได้รับเส้ือผ้าจากหัวหิน เอามาให้เราที่เขาล้าน ท้ังสามคนก็ไปอยู่โรงแรมเมืองตราด ซึ่งมีอยู่โรงแรมเดียว
พระองค์ท่านทรงส่งของหลายอย่างท่ีจำ�เป็นมาให้เราช่วยเหลือผู้อพยพเหล่านี้ คณะเราต้องส่งโทรเลขถวายรายงาน
ไปที่หัวหินทุกวัน เราทำ�การคัดเด็กกำ�พร้ามา เพราะเด็กไม่มีผู้ปกครองมาทำ�อาหารให้ เราจึงต้องทำ�อาหารให้เขากิน
เราก็ไปอาศัยจวนผู้ว่าทำ�อาหาร ต้องไปซ้ือกับข้าวที่ตลาดมาหุงข้าว ทำ�กับคุณชวลี ๒ คน ข้าวหม้อหนึ่ง ไปซื้อหมู
ซ้อื ตบั ซ้ือไก่ ซอื้ ไข่ ถัว่ เขยี ว ไขต่ ้มกต็ อ้ งมีทกุ วัน ให้คนละใบสำ�หรบั เดก็ กำ�พร้า ส่วนคนอนื่ ให้ขา้ วเป็นกระป๋องนม เขา
เอาผา้ ขาวม้ามารบั ข้าว หยอดใสผ่ า้ ขาวม้ายาว ๆ ที่ทำ�เป็นผา้ คลอ้ งคอสีดำ�มายนื่ เรากต็ ัก ๑ กระปอ๋ งให้เขา เวลาเขามา
เขาก็จะเวียนเทียนนะคะเพราะหวิ ไง ตอนแรกเราก็เอา Gentian Violet มาทำ�เครื่องหมายท่ีมอื ไว้ เขาก็เอาทรายขดั จน
262
เนอ้ื ผวิ หนงั ถลอก เราตอ้ งเอาใสใ่ นซอกเลบ็ ไมใ่ ชว่ า่ เราหวง แตค่ นขา้ งหลงั อกี เปน็ แสน เราจะไปเอาจากทไ่ี หน ตอ้ งแบง่ กนั
พวกเราทุกคนทำ�งานไปน้ําตาไหลไปและภาวนากันว่าคนไทยอย่าเป็นอย่างน้ีนะ ไม่มีใครจะมาช่วยเราหรอก ก็คงตก
ทะเลหมด ตายหมดไมเ่ หลอื นเี่ ขาไดร้ บั พระมหากรณุ าจากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และพระบรมราชนิ นี าถของไทย
ทำ�อยา่ งนี้ทุกวัน ทำ�อาหารไปให้ เขากินเสรจ็ เรากต็ ้องนำ�กลบั มาลา้ งทจี่ วนผูว้ ่า ลา้ งเสร็จรวนหมูไว้ วันรงุ่ ข้นึ เรากม็ าตม้
ข้าวต้มไปใหม่ ฝนตกเราก็ต้องไปเพราะเด๋ยี วเขาหิว สำ�หรับเด็กอ่อนกใ็ หแ้ ม่เขาคอ่ ย ๆ ป้อนนม เดก็ ก็คอ่ ย ๆ ดขี น้ึ ที่น่นั
จะมีคนตายทุกวัน สภากาชาดไทยก็นำ�คณะแพทยไ์ ปต้งั เตน็ ทช์ ว่ ยดูเรอื่ งโรคภยั ไข้เจ็บ ทำ�เป็นแครไ่ มไ้ ผ่เอาคนเจ็บนอน
มคี นเป็นแผลเหวอะหวะที่เท้าเพราะเขาตอ้ งเดนิ รอนแรมมานานมาก ๆ เหน็ สภาพอย่างนั้น สะท้อนจิตสะทอ้ นใจมาก
บางวนั เด็กกำ�พร้าเราหายไปเพราะเรานบั ว่ามีเทา่ น้ัน เทา่ นี้ อา้ วทำ�ไมวนั นเ้ี หลอื แคน่ ้ี หายไปไหน ก็ตอ้ งไปดวู า่ อยู่ไหน
ก็ไปดูทีโ่ รงหมอ ปรากฏวา่ ตายแลว้ ทำ�ไปนา้ํ ตาไหลไป
263
แลว้ มอี ยวู่ ันหนึ่งเรานง่ั อยู่ มแี ม่ลูกคหู่ น่ึง แม่เป็นผู้หญิงสวย สงู โปรง่ มีความสงา่ เราคดิ นะวา่ เขาไม่ใช่ชาวบ้าน
ธรรมดา เดินมากับลูกชาย พอเขาเดินมาถึงด่านก่อนเข้าค่าย ลูกชายเดินมาถึงล้มตึงแล้วหมดลมหายใจเลย เหมือน
คนเราช็อก เดินทางมาตั้งหลายวัน พอมาถึงที่ที่คิดว่าตัวเองปลอดภัยร่างกายมันเหมือนหัวใจหยุดเต้น ล้มท้ังยืนเลย
หมอวิ่งกนั เขา้ ไปดู กช็ ่วยไมไ่ ด้แลว้ มบี างคนหลังเทา้ เปดิ หมดเหน็ ถงึ กระดกู เทา้ เลย ตอนแรกไม่เห็น เพราะเต็มไปดว้ ย
หนอน จำ�ตดิ ตาเลย อาสากาชาดกเ็ ปน็ เดก็ สาว ๆ มาทำ�แผลให้ เรากช็ ว่ ยเขาเอานาํ้ ยาราดลงไป เขากเ็ อาคมี กบั ผา้ กอ๊ ซปาด
ออกไป เห็นเสน้ เอน็ นว้ิ เทา้ เห็นกระดูกลว้ น ๆ แดงเลย ใส่หมดไปทง้ั ๒ ขวด แลว้ ก็พนั ผ้าใหเ้ ขา อาสากาชาดเป็นคนทำ�
แล้วอีกอย่างหนงึ่ กค็ ือเวลาทไี่ ปอยตู่ รงนั้น เรากไ็ ม่รูว้ า่ ใครเปน็ ยังไง ชายฉกรรจ์ก็มเี ยอะ แตส่ ่งิ ทสี่ งั เกตคอื ทีเ่ อวจะมีไถ้ใส่
ข้าวสารผูกอยู่ บางคนมี ๒ เส้น บางคนมีถ่ัวเขียว แลว้ ก็จะมีชอ้ นสอ้ มอะลมู ิเนยี มเสยี บมาท่เี สื้อของเขา ไม่ร้ทู ำ�ไม แลว้ ก็
หิ้วกานาํ้ ท่ีมีพวยกา แคน่ ้ีก็คอื อปุ กรณท์ ี่ติดตัวมา คอื กาน้าํ น่าจะสำ�คัญ ไปเอาน้าํ ท่ตี รงไหนไดก้ ็ตม้ นาํ้ กนิ ใช้ชีวิตอยู่ในป่า
ยังมีแม่ลูกคู่หน่ึง เป็นอีกหน่ึงความประทับใจท่ีจำ�ได้ แม่อุ้มลูกคนหน่ึง แล้วมาเจอเด็กกำ�พร้าที่อยู่กับเรา เขา
ถลากอดกันร้องไห้เลย เราก็เข้าไปถาม เขาบอกว่าน่ีคือลูกสาวคนโตของเขา ท่ีอุ้มคือลูกคนเล็ก ก็ถามว่าทำ�ไม
มันคลาดกันได้อย่างไร เขาบอกว่าเขาจูงมาด้วยกัน แต่ต้องท้ิงคนหน่ึงเพราะไม่ไหว ต้องตัดใจท้ิงลูกคนโตเพราะ
ลูกคนเล็กยังไปไหนเองไม่ได้ แต่ลูกคนโตรู้เรื่องแล้ว ในท่ีสุดก็ตัดสินใจทิ้งคนโต ให้ช่วยตนเองตามยถากรรม
ลูกคนเล็กยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แล้วก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกันตรงนี้ ถึงได้ดีใจมาก ดิฉันอยู่ตรงนั้น ๓ เดือน แล้วก็
มีพระราชเสาวนีย์ให้กลับ พระองค์ท่านก็ทรงส่งข้าราชบริพารผลัดเปล่ียนไปเสริมเร่ือย ๆ ท่านผู้หญิงสุประภาดา
น่ีอยู่ราว ๖ เดือน (ถ้าจำ�ไม่ผิด) แล้วตอนหลังก็โปรดเกล้าฯ ให้มีทั้งข้าราชบริพารและมีผู้ใหญ่ที่ทรงรู้จักคุ้นเคย
รวมท้ังข้าราชการทหารที่ทรงรู้จักและเกษียณอายุแล้ว ก็ทรงขอให้ไปช่วย อาสากาชาดผู้ใหญ่ก็ไปช่วย ต้องมี
โรงครัวทำ�อาหารให้แก่คนที่มาทำ�งาน และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปโดยพระอาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิม
และใหผ้ อู้ พยพทงั้ ผใู้ หญแ่ ละเดก็ มาสวดมนตก์ อ่ นนอน จะได้เป็นหลักยึดเหนยี่ วจิตใจ
264
265
266
ตอนนั้นพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เสด็จฯ หลายครั้งที่เขาล้าน ทรงดูแลเร่ืองความปลอดภัยของ
ศูนยเ์ ขาลา้ น ใหม้ ีทหารมาตั้งดา่ นตรวจ ปลดอาวุธก่อนจะเขา้ มาอย่ใู นศนู ย์ และอ่ืน ๆ อีกหลายอย่างค่ะ พระบาทสมเดจ็
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จประทับแรมในศูนย์เขาล้านด้วยหลายคร้ัง
มีเรือนท่ีประทับสร้างด้วยไม้ไผ่ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรตกแต่ง มีรับส่ังให้สร้างแบบง่าย กรมชลประทานก็สร้างถวาย
การที่พระองค์ท่านทรงให้ตั้งศูนย์ท่ีตรงน้ันเป็นการควบคุมพื้นที่ให้ผู้อพยพอยู่รวมตัวกันในที่เดียวกัน ควบคุม
ดูแลง่าย เพราะทรงเป็นห่วงคนไทยท่ีมีบ้านอยู่ในละแวกนั้นด้วย ทุกวันท่ีคณะของท่านผู้หญิงสุประภาดาเดิน
ทางจากในเมืองไปที่เขาล้าน เราจะเจอคนแต่งชุดดำ� สะพายอาวุธบ้าง ไม่สะพายบ้าง เดินกันข้างถนน มุ่งหน้า
เข้าเมือง บ้านไหนมีผลไม้ มีสวนเงาะ สวนมังคุด เขาก็ถือวิสาสะเข้าไปเก็บกิน เพราะเขาอดมานับเดือน สำ�หรับ
เด็กกำ�พร้าประมาณ ๓๐ - ๔๐ คน ประเทศที่สามแจ้งสภากาชาดไทยช่วยรับไป วันที่เราไปส่งเขาที่สนามบิน
ดอนเมือง คณะของท่านผู้หญิงสุประภาดาที่เคยไปทำ�งานท่ีเขาล้านหลายคนก็ไปส่ง มีเด็กกำ�พร้าที่โตที่สุดดูเสมือน
เป็นพี่เลี้ยงเด็ก เขาพาเด็กกราบลงไปท่ีพ้ืน ก่อนที่จะเข้าช่องทางเดินไป และก็บอกกับพวกเราว่าช่วยฝากไปบอก
ผู้หญิง (เขาเรียกไม่เป็น) ที่ใส่ชุดสีขาว คาดกระติกนํ้า ใส่หมวก ซึ่งน่ันคือชุดท่ีพระองค์ท่านเสด็จฯ ไปครั้งแรก
ทรงคาดกระติกนํ้า ทรงพระมาลาปีกกว้าง เขาบอกฝากไปกราบด้วยเลยว่าเขาสำ�นึกในความเมตตาของพระองค์ท่าน
ทีใ่ หเ้ ขามีชีวิตรอดไดอ้ ย่จู นทุกวนั นี้ เขาจะไม่มีวนั ลมื แผน่ ดนิ ไทย พวกเราและเด็ก ๆ กร็ ํา่ ลากันด้วยนํ้าตา เพราะดแู ลกนั
อยู่นาน ตอนน้ันเด็กกำ�พร้าที่เล้ียงดูท่ีเขาล้านไปอยู่ท่ีสวางคนิวาสพักหน่ึง ก่อนจะไปประเทศท่ีสาม จากเด็กท่ีเราเหน็
หนงั หมุ้ กระดกู พอเขาไดอ้ าหารกเ็ ปน็ คนละคนกนั เลย ตอนแรกเราดเู หมอื นวา่ เขาอายสุ กั ๗๐ - ๘๐ ปี แตพ่ อตอนเราไปสง่ เขา
เขากลบั มาเปน็ เดก็ อายปุ กติ มนั ตา่ งกนั ขนาดนน้ั เลยนะคะ นค่ี อื เรอ่ื งเขาลา้ น ทจ่ี ำ�ตดิ ตาตดิ ใจ และไม่อยากเห็นเมืองไทย
ต้องบา้ นแตกสาแหรกขาดแบบน้ัน
267
268
๖๖ ปีท่ีพระองคท์ รงเคียงราช
ไทยทง้ั ชาตเิ จนใจเพราะได้เห็น
วา่ ทีใ่ ดไทยร้อน ธ ผ่อนเยน็
ประดจุ เป็นม่ิงมหาชลาริน
ทั่วอสี านบน-ลา่ ง กลาง เหนือ ใต้
หลอ่ เลี้ยงแผ่นดินไทยไมร่ ูส้ ิ้น
ธ ทรงท�ำ เพอ่ื คนไทยได้มกี ิน
อีกเสกศลิ ป์สร้างชอื่ ไทยลอื ชา
ทรงถนอมประเทศไทยให้ธำ�รง
คืนคงทุกสงิ่ อนั อนันต์ค่า
เกบ็ ขุนเขาทะเลรอบถึงขอบฟ้า
โอบอุ้มป่าเออื้ ตน้ นาํ้ ลำ�ธารไทย
๖๖ ปที ่พี ระองคท์ รงเคยี งราษฎร์
ไทยทงั้ ชาตซิ มึ ซับรับรไู้ ด้
ธ จึงเป็นแมห่ ลวงในดวงใจ
ตลอดไป จากวานน้ี จนนิรันดร์
269
กรมการพัฒนาชุมชน
สืบสานโครงการพระราชด�ำ รดิ ้านส่งเสริมอาชพี หัตถกรรม
วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๑๔
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี ันปหี ลวง เสด็จพระราชดําเนินไปทอดพระเนตรการดาํ เนินงาน
ของศูนยฝ์ กึ อบรมทอผ้า ณ หมูบ่ ้านเขาเต่า ตําบลหนองแก อาํ เภอหัวหิน จงั หวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมีนายดําริ นอ้ ยมณี รองอธบิ ดีกรมการพัฒนาชุมชน นําพฒั นากร ๒ รายท่ปี ระจําการในเขตพัฒนาทดลองพิเศษบ้านเขาเตา่
เขา้ เฝา้ ฯ กราบบงั คมทูลรายงานความก้าวหน้าในการดําเนินงาน
พุทธศักราช ๒๕๐๘ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง มพี ระราชด�ำ ริ
สง่ เสรมิ อาชพี หตั ถกรรมครงั้ แรกใหแ้ กร่ าษฎรทบี่ า้ นเขาเตา่ ต�ำ บลหนองแก อ�ำ เภอหวั หนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เนอื่ งจาก
ในช่วงมรสุมชาวประมงในหมู่บ้านจะว่างงาน ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงทรงชักชวนให้หญิงชาวบ้านเขาเต่า
หัดทอผ้าฝ้าย จากนั้นโปรดเกล้าฯ ให้สร้างศูนย์ฝึกอบรมทอผ้าข้ึนท่ีบ้านเขาเต่าเพ่ือเป็นสถานท่ีส่งเสริมให้ราษฎร
มีอาชีพเสริมโดยการทอผ้าฝ้ายด้วยกี่กระตุก ต่อมาทรงมอบหมายกิจการศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวให้แก่จังหวัด
ประจวบครี ขี นั ธแ์ ละกรมการพฒั นาชมุ ชนรบั ผดิ ชอบด�ำ เนนิ การตามพระราชประสงค์ จนถงึ วนั ท่ี ๒๓ สงิ หาคม พทุ ธศกั ราช
๒๕๑๑ กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศเปิดพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษบ้านเขาเต่า ควบคู่ไปกับกรมการพัฒนาชุมชนได้ส่ง
เจา้ หนา้ ทพ่ี ฒั นาชมุ ชน ๒ คน เปน็ ชาย ๑ คน และหญงิ ๑ คน ไปประจ�ำ การและปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์
โดยสองคนแรกท่ไี ปประจ�ำ การได้แก่ นายสมหมาย สภุ ธิ รรม และนางนภิ า พลสุวรรณ
ภารกิจการดำ�เนนิ งานในพื้นทเ่ี ขตพฒั นาพิเศษบ้านเขาเตา่ ของเจา้ หน้าทพี่ ฒั นาชมุ ชน แบ่งเปน็ ๒ ด้านคอื
พัฒนากรชาย ทำ�หน้าท่ีเป็นพัฒนากรประจำ�ตำ�บล ใช้หลักการพัฒนาชุมชนรับผิดชอบการพัฒนาหมู่บ้าน
ในดา้ นตา่ ง ๆ ร่วมกับคณะกรรมการหม่บู า้ น เช่น พฒั นาระบบสาธารณูปโภค ไดแ้ ก่ การสร้างถนนลาดยาง การติดตงั้
ระบบไฟฟา้ นา้ํ ประปา การจัดตัง้ ศูนย์พัฒนาเดก็ เลก็ และการจดั ตง้ั ศูนยพ์ ัฒนาตำ�บล เป็นตน้
พฒั นากรหญงิ ท�ำ หนา้ ที่เปน็ ผดู้ แู ลรบั ผิดชอบศนู ย์ฝึกอบรมทอผ้าบา้ นเขาเตา่ แบง่ การด�ำ เนินงานเป็น ๒ สว่ น
ส่วนแรกคืออาคารฝึกอบรมทอผา้ และเป็นโรงงานทอผ้าส�ำ หรับสมาชิกกลมุ่ สตรีทอผา้ บา้ นเขาเตา่ ส่วนที่ ๒ คอื อาคาร
272
จำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ซ่ึงก่อสร้างภายหลัง โดยพัฒนากรมีหน้าที่ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่า จัดทำ�
โครงการและประสานงานกับส่วนราชการอ่นื ๆ เพอื่ จัดหางบประมาณมาสนับสนนุ การดำ�เนินงาน เช่น กที่ อผา้ จักร
เย็บผ้า และวัสดุสาธิตสำ�หรับฝึกอบรม มีการฝึกอบรมการทอผ้าฝ้ายโดยขอรับการสนับสนุนวิทยากรจากกรมส่งเสริม
อุตสาหกรรมและอาจารยด์ า้ นการทอผา้ จากจงั หวัดราชบรุ ี
พัฒนากรจะเป็นผู้ให้ความรู้ด้านการตัดเย็บเสื้อผ้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น
ของท่ีระลึกและของชำ�ร่วยให้แก่กลุ่มสตรีบ้านเขาเต่า ตลอดจนผู้สนใจที่อยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัด
ใกลเ้ คยี ง หลกั สตู รละ ๒๐ - ๒๕ คน ใช้เวลาอบรมหลักสตู รละ ๓ เดอื น เปิดอบรมปลี ะ ๓ ครงั้ เป็นประจ�ำ ระหวา่ งการ
อบรม ผู้เข้าอบรมจะพักอาศัยท่ีโรงงานทอผ้า ซ่ึงจะมีสมาชิกกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่าท่ีเป็นนักเรียนทอผ้ารุ่นแรกๆ
เขา้ มารบั จา้ งทอผา้ ในโรงงานทอผา้ แหง่ นเี้ พอ่ื หารายไดเ้ สรมิ ดว้ ย นอกจากนย้ี งั มภี ารกจิ จดั กลมุ่ ใหส้ ตรที อผา้ บา้ นเขาเตา่
มีการบรหิ ารจัดการอย่างมปี ระสิทธภิ าพด้วย
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร และสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการดำ�เนินงานของศูนย์ฝึกอบรมทอผ้า
หลายคร้ัง ทุกครั้งสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงจะทรงสอบถามสภาพความเป็นอยู่ของสมาชิกกลุ่มทอผ้ารวมทั้ง
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสมทบอยู่เสมอ คราวหน่ึงมีพระราชดำ�ริให้ปลูกหม่อนเล้ียงไหมเพ่ือส่งเสริมให้มีการทอผ้าไหม
อกี อยา่ งหนงึ่ พฒั นากรจงึ ไดก้ ราบบงั คมทลู รายงานวา่ ไดท้ ดลองปลกู ตน้ หมอ่ นแลว้ แตไ่ มส่ ามารถปลกู ได้ เพราะสภาพพน้ื ท่ี
ไม่เหมาะเนื่องจากอยู่ติดทะเล พระองค์ก็ทรงเข้าพระราชหฤทัย พัฒนากรพืน้ ทเี่ ขตพัฒนาพิเศษบ้านเขาเตา่ ได้มโี อกาส
รับเสด็จและถวายงานทห่ี มู่บ้านเขาเตา่ หลายครงั้ ทงั้ การเสดจ็ ฯ อยา่ งเปน็ ทางการและเป็นการสว่ นพระองค์ พัฒนากร
ทั้งสองคนตา่ งภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้แทนเจ้าหน้าท่ขี องกรมการพฒั นาชมุ ชนในการรับสนองพระราชดำ�รอิ ยา่ งใกล้ชดิ
แนะน�ำ ตัวพฒั นากร
ในทปี่ ระชมุ คณะกรรมการพฒั นาหม่บู า้ น
การประชมุ กลุ่มสตรที อผา้ บา้ นเขาเตา่
ในระยะเรม่ิ ด�ำ เนินการ
273
พุทธศักราช ๒๕๓๖ กิจการของกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่าได้หยุดดำ�เนินการไปด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น
ค่าแรงไม่เพียงพอและปัญหาด้านการตลาด ต่อมาในพุทธศักราช ๒๕๔๕ นางณัฐากาญจน์ เอ่ียมสำ�อางค์ นักเรียน
ทอผ้ารุ่นแรก ได้ชักชวนสมาชิกกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่าท่ีแยกย้ายกันไปทำ�งานที่อ่ืนและกลับมาทำ�งานในหมู่บ้าน
ใหร้ วมตวั กนั เพอื่ ฟนื้ ฟแู ละพฒั นากจิ การทอผา้ ขน้ึ มาใหม่ เจา้ หนา้ ทพี่ ฒั นาชมุ ชนจงึ ไดเ้ สนอเรอื่ งไปยงั ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั
และประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้ามาปรับปรุงซ่อมแซม
อาคารและสนบั สนนุ วสั ดุอปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่ีจำ�เป็น ทำ�ให้สามารถดำ�เนนิ การทอผ้าได้อกี ครง้ั และจดทะเบยี นกลุ่มเปน็
ศนู ยห์ ตั ถกรรมทอผา้ บา้ นเขาเตา่ จากนน้ั หนว่ ยราชการตา่ ง ๆ ไดเ้ ขา้ มาสนบั สนนุ เพอ่ื เพม่ิ ศกั ยภาพการบรหิ ารจดั การกลมุ่
และพฒั นาผลติ ภณั ฑอ์ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยเสรมิ สรา้ งองคค์ วามรอู้ ยา่ งสมาํ่ เสมอ รวมทงั้ ประสานกบั ส�ำ นกั งานอตุ สาหกรรม
จงั หวัดนำ�วิทยากรมาสอนการทอผ้าฝา้ ยยกดอกทีม่ คี วามละเอยี ดมากขึ้น โดยยงั คงเนน้ การทอผ้าฝ้ายดว้ ยกีก่ ระตุกและ
ใชเ้ ส้นใยฝ้ายแท้ล้วน ๆ
สมาชิกกลุ่มสตรีทอผา้ บา้ นเขาเตา่ และเจา้ หนา้ ที่พฒั นาชมุ ชน ใหก้ ารตอ้ นรับแขกผู้มีเกียรติ
พฒั นาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายอ�ำ เภอหัวหนิ
ในการติดตามผลการด�ำ เนนิ งานโครงการสง่ เสรมิ อาชพี หัตถกรรมตามแนวพระราชด�ำ ริ
ปัจจุบันกรมการพัฒนาชุมชนยังคงสนับสนุนการดำ�เนินงานของศูนย์ฝึกอบรมทอผ้าบ้านเขาเต่าอย่างต่อเนื่อง
จากการทไี่ ดเ้ ปน็ ทป่ี รกึ ษาและผดู้ แู ลประสานงานมาตงั้ แตร่ ะยะกอ่ ตงั้ จงึ ไดถ้ า่ ยทอดแนวคดิ หลกั การพฒั นาชมุ ชน รวมถงึ
วธิ กี ารยกระดบั และพฒั นาผลติ ภณั ฑข์ องกลมุ่ เขา้ สโู่ ครงการสนิ คา้ หนง่ึ ต�ำ บล หนง่ึ ผลติ ภณั ฑ์ (OTOP) จนถงึ ระดบั ๕ ดาว
ท�ำ ใหก้ จิ การของกลมุ่ สตรที อผา้ บา้ นเขาเตา่ มคี วามเขม้ แขง็ พง่ึ พาตนเองได้ และสามารถพฒั นาการทอผา้ ไดห้ ลากหลาย
จากเดิมสินคา้ ท่ีผลิตไดแ้ ก่ ผา้ ขาวมา้ ผ้าถุง และผ้าโสร่ง ไดผ้ ลติ สนิ ค้าเพ่มิ ขนึ้ ได้แก่ ผา้ ขาวมา้ ลวดลายทนั สมยั สามารถ
น�ำ ไปตัดเย็บและประยุกต์ได้หลายแบบ ผา้ ตัดเสือ้ และผ้ายกดอกซง่ึ เดมิ ทออยู่ ๓ ลาย คือลายบานชื่น ลายดาหลา และ
ลายแก้วสุวรรณสาร ปัจจุบันได้ทอเพิ่มอีก ๓ ลาย คือ ลายเต่า ซึง่ เปน็ ลายเอกลักษณข์ องชมุ ชนบ้านเขาเต่า มีลกั ษณะ
ยกดอกเป็นลายหลังเต่า ลายสี่ทิศ และลายดอกเกศ ซ่ึงเป็นลวดลายที่เน้นจุดเด่นของชุมชนและจังหวัด ตลอดจน
พัฒนาเส้นฝ้ายธรรมชาติให้เป็นเส้นฝ้ายขัดมันเส้นเล็ก มีความมันวาวเหมือนเส้นไหม แต่การดูแลรักษาง่ายกว่าและ
สวมใสส่ บาย สีไม่ตก ปลอดภยั ต่อสง่ิ แวดล้อม ท�ำ ให้เปน็ ท่ีต้องการของตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ จงึ สามารถสรา้ ง
รายไดใ้ หแ้ กส่ มาชกิ กลมุ่ สตรที อผา้ บา้ นเขาเตา่ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี นอกจากน้ีศนู ยฝ์ กึ อบรมทอผา้ บา้ นเขาเตา่ ไดเ้ ปดิ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้
ใหแ้ กน่ กั เรยี น นกั ศกึ ษา และผสู้ นใจในดา้ นการทอผา้ อกี ทงั้ ยงั เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทจ่ี �ำ หนา่ ยผลติ ภณั ฑข์ องสมาชกิ และ
ยงั ไดถ้ า่ ยทอดองคค์ วามร้กู ระบวนการทอผา้ ตลอดจนการออกแบบตดั เย็บเสือ้ ผา้ ให้แกน่ ักเรียนในโรงเรยี นบา้ นเขาเต่า
เพือ่ สืบทอดอาชพี พระราชทานส่รู ุน่ ลูกหลานต่อไป
274
ตัวอย่างผลิตภณั ฑข์ องกลมุ่ สตรที อผ้าบา้ นเขาเตา่
ผา้ ยกดอกลายเตา่ และลายสท่ี ิศ ผ้าขาวม้า ผา้ คลมุ ไหล่
ผมู้ าศกึ ษาดงู าน
มตชิ นออนไลน์
ถา่ ยทอดความรใู้ หแ้ ก่นกั เรียนโรงเรยี นบา้ นเขาเต่าสปั ดาห์ละ ๑ วัน
275
จดั นิทรรศการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ในงานต่าง ๆ ผา้ ขาวม้าบ้านเขาเต่า ออกแบบเปน็ ชดุ
ของผู้เข้าประกวดนางสาวไทยปี ๒๕๕๗
ผา้ ฝา้ ยทอมือบา้ นเขาเตา่ ออกแบบเปน็ ชุดผา้ ไทย
ของสำ�นักงานพฒั นาชมุ ชนจงั หวดั ประจวบครี ีขันธ์
276
รางวัลแห่งความภาคภูมใิ จ
• ผลิตภัณฑ์ผ้ายกดอก เป็นผลิตภัณฑ์ระดับ ๕ ดาว ประเภทผ้า เคร่ืองแต่งกาย ตามโครงการคัดสรร
สุดยอดหนง่ึ ต�ำ บล หนึ่งผลิตภณั ฑ์ไทย ปี ๒๕๕๕
• รางวลั ชนะเลศิ ประเภทผา้ ทอมอื ในการประกวดผา้ สบื สาน อนรุ กั ษศ์ ลิ ปผ์ า้ ถน่ิ ไทย ด�ำ รงไวใ้ นแผน่ ดนิ จงั หวดั
ประจวบครี ขี นั ธ์ ปี ๒๕๖๓
• รางวลั ชนะเลศิ ประเภทผา้ อัตลักษณ์ ผ้าขาวม้าลายเก้าเส้น ในการประกวดผ้าสืบสาน อนุรักษศ์ ิลปผ์ า้ ถิน่ ไทย
ดำ�รงไวใ้ นแผ่นดิน จังหวัดประจวบครี ขี นั ธ์ ปี ๒๕๖๓
• รางวัลรองชนะเลิศ ประเภทผา้ ขาวมา้ แปรรูป ในการประกวดผา้ ขาวม้าท้องถ่นิ หตั ถศิลปไ์ ทย
• รางวลั รองชนะเลศิ ประเภทผา้ ขาวมา้ อตั ลกั ษณป์ ระจ�ำ ชมุ ชน ในการประกวดผา้ ขาวมา้ ทอ้ งถน่ิ หตั ถศลิ ปไ์ ทย
• นางสาวธัญรดา พลายชมพู เลขานกุ ารกลุม่ สตรที อผ้าบ้านเขาเตา่ ได้รับรางวัลเชดิ ชคู รชู า่ ง จากศูนยส์ ง่ เสริม
ศิลปาชพี ระหวา่ งประเทศ (องคก์ ารมหาชน) ประจำ�ปี ๒๕๕๕
277
นางสาวธญั รดา พลายชมพู เลขานกุ ารกลุ่มสตรที อผ้าบ้านเขาเต่า
(บุตรของนางณัฐากาญจน์ เอย่ี มสำ�อางค์ ประธานกลมุ่ ทไี่ ดร้ บั พระราชทานเหรยี ญคนขยัน)
ไดร้ ับการคัดเลือกเป็นศลิ ปนิ OTOP ประจ�ำ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นบุคคลท่ไี ดอ้ นุรักษ์
สบื ทอดภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ สรา้ งสรรคผ์ ลิตภณั ฑ์ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแตง่ กายที่ทรงคุณคา่
ใหไ้ ดร้ บั การยอมรบั ดา้ นคุณภาพและมาตรฐานอย่างกว้างขวาง
278
ดว้ ยส�ำ นึกในพระมหากรุณาธิคณุ ... จากผแู้ ทนเจา้ หน้าท่ีกรมการพฒั นาชุมชน
ปฏิบตั หิ น้าท่ี ปี ๒๕๑๔ - ๒๕๔๖
นางทรงศรี งามไพบูลย์ อดีตพัฒนาการอ�ำ เภอหัวหนิ
“ปี ๒๕๑๙ ได้มีโอกาสรับเสด็จท้ังสองพระองค์ สมเด็จ
พระพันปหี ลวงรบั สงั่ ถามดฉิ นั วา่ เปน็ อยา่ งไรบ้าง งานทอผ้าดีไหม ดิฉนั ก็
บอกว่าดี ชาวบา้ นก็สนใจ พระองคท์ ่านได้รับสัง่ ถามอกี วา่ เขาเลกิ ตดั ไม้
กันไปหรือยัง ได้บอกท่านว่าเขาเลิกแล้ว การทอผ้าน้ีก็เป็นอีกส่วนหน่ึง
ทำ�ให้ราษฎรในหมู่บ้านเขาเต่าลืมตาอ้าปากได้นอกจากอาชีพเดิมคือการ
ท�ำ ประมงและการไปตดั ไมไ้ ผบ่ นเขา ไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งมาประกอบอาชพี ตรงน้ี
แทนท่ีจะไปตัดไม้ ซง่ึ อาจไดร้ ับอันตราย
ชาวหวั หนิ โชคดไี ดเ้ ขา้ เฝา้ ฯ อยา่ งใกลช้ ดิ โดยเฉพาะตวั ดฉิ นั เองทไ่ี ด้
รับมอบหมายใหเ้ ขา้ ไปท�ำ งานในศูนย์ทอผา้ ตรงนี้ รวมถึงเจ้าหนา้ ทีพ่ ฒั นา
ชุมชนท่ีอยู่เขตอำ�เภอหัวหินทุกคนก็รู้สึกประทับใจมากที่ได้มีโอกาสท่ีดี พระองค์ท่านทรงมีเมตตาทุกครั้งท่ีเสด็จฯ มา
เสมอ รู้สึกปลืม้ ปตี ิจนไม่อาจบอกเป็นค�ำ พดู ไดว้ า่ ชวี ิตหน่ึงเราไดม้ ีโอกาสใกลช้ ิดพระองค์ท่าน เรยี กวา่ หาทีส่ ุดมไิ ด้แล้ว”
279
ผทู้ ่ไี ดร้ ับพระราชทานเหรียญคนขยัน เมือ่ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๐๙
จากซา้ ยไปขวา แถวบน : นางแหวน วิงวอน, นางเงก็ ลง้ั แซจ่ วิ , นางอุดมลักษณ์ มารยาท, นางประเทือง ปานสงา่ ,
นางวไิ ล แจง้ สว่าง, นางพทิ ศ แสงพลอย, นางพะเยาว์ ธรรมรักษ,์ นางสมศรี ศิลปี (เสียชีวติ )
แถวลา่ ง :นางมว่ ง เอ่ียมสำ�อางค์, นางหอม วงิ วอน (เสยี ชีวติ ), นางนนั จา ชบุ ทอง, นางเยาวภา ชอ่ จนั ทร์,
นางณัฐากาญจน์ เอีย่ มสำ�อางค์
ผไู้ ด้รบั พระราชทานเหรยี ญคนขยนั ณ ศนู ยห์ ตั ถกรรมทอผา้ บา้ นเขาเตา่ ถ่ายเมือ่ วันที่ ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๖๓
ดว้ ยสำ�นึกในพระมหากรณุ าธิคณุ ... จากนักเรยี นทอผ้ารุ่นแรก
นางณัฐากาญจน์ เอยี่ มสำ�อางค์ ประธานกลุ่มสตรที อผ้าบ้านเขาเต่า
“ด้วยพระเมตตาของพระพันปีหลวงท่านได้ให้อาชีพแก่ชุมชน จากการท่ีหาเช้า
กินคํ่าแล้วต้องหางานทำ�ในแต่ละวันพอมาทอผ้าก็มีรายได้ดีข้ึน แล้วพระพันปีหลวงท่าน
ทรงสอนว่าการท่ีจะชวนใครออกมาทำ�งาน คุณต้องชวนคนในบ้านออกมาก่อนแล้วถึงจะ
ไปชวนคนนอกบา้ น ปา้ กเ็ ลยจ�ำ ค�ำ ทพี่ ระพนั ปหี ลวงทา่ นสอนไว้ และท�ำ มาตลอดอยา่ งนคี้ ะ่
ความภาคภมู ิใจทพ่ี ระองค์ท่านไดม้ อบสงิ่ ตา่ ง ๆ ใหช้ าวชมุ ชนเขาเต่าเหล่านไี้ ม่อาจ
ลืมได้ เพราะว่าพระองคเ์ ปน็ ทุกสิ่งทุกอยา่ งใหแ้ ก่ชมุ ชน เพราะฉะน้นั ความจงรกั ภกั ดี ความเทดิ ทูนในส่วนของป้าท่ีเป็น
ตัวแทนของชาวบ้านเขาเต่านี้ จะบอกได้ว่ารักไม่เคยลืม ยิ่งนานยิ่งคิดถึง เป็นความรู้สึกตื้นตันเพราะเป็นความใกล้ชิด
ต้ังแตท่ ่ปี า้ อายไุ ด้แค่ ๘ - ๙ ขวบ พอ่ แม่บอกวา่ ในหลวงมา แต่ปา้ ไม่ทราบว่าในหลวงคือใคร กว็ ง่ิ ตามมาเอาขนม ซึ่งถอื ว่า
เป็นความใกล้ชิดมาตลอด เป็นความรักที่ลืมไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ไม่เคยลืม เราก็เก็บรูปเก็บอะไรไว้ทุกอย่าง และคิดไว้ว่า
ชาตนิ ี้เรากจ็ ะสานงานของพ่อจนส้ินลมหายใจของป้านะ ส่วนทายาทกใ็ ห้เขาชว่ ยกนั สืบต่อไป”
280
นางวิไล แจ้งสว่าง
“เดิมฉนั รับจา้ งดายหญ้า ท�ำ ไรส่ บั ปะรดไดว้ นั ละ ๘ บาท พอเรามาท�ำ งานตรงน้ี
ครงั้ แรกท่ีทอเลยก็ได้ผนื ละ ๕๐ บาท แรก ๆ เราท�ำ ไมเ่ ปน็ กไ็ มค่ อ่ ยสวยหรอก แต่ขยนั ท�ำ
ก็พัฒนาขึ้น ดีขึ้นค่ะ ผ้าขาวม้าก็ขายได้ดีข้ึน ประทับใจท่ีพระองค์ท่านมีรางวัลให้
พวกเรา วา่ เราเปน็ คนทท่ี ำ�ได้และอยนู่ าน ก็รูส้ กึ ภาคภูมิใจคะ่ ”
นางพะเยาว์ ธรรมรกั ษ์
“พอพระองค์ท่านเสด็จฯ มาทางเขาเต่าความเจริญก็เข้ามาเยอะ เม่ือก่อนจะมี
ความกันดาร หมู่บ้านยังไม่ค่อยมี แถบน้ีจะเป็นป่าหมดเลย ขอบคุณพระองค์ท่านท่ีมี
ความใสใ่ จกับครอบครวั ของประชาชนท่ัวไป และอีกอยา่ งหนง่ึ ความเป็นอย่ขู องพวกเรา
ก็ดีข้ึน มีกินมใี ช้ มีความสุขเพราะท่าน อยากใหท้ ่านอยูก่ ับเราไปนาน ๆ”
นางนันจา ชุบทอง
“สมัยก่อนท่ีน่ีส่วนมากมีแต่ออกเรือ เราก็เป็นเด็กผู้หญิงอยู่กับบ้านหุงข้าวคอย
พอ่ แม่ ไมไ่ ดท้ �ำ อะไร ทไ่ี ดม้ าทอผา้ เลยท�ำ ใหม้ อี าชพี ตอ่ จนถงึ ทกุ วนั นี้ รสู้ กึ ดใี จมากเพราะวา่
ถา้ ไมไ่ ดท้ า่ นตง้ั ศนู ยข์ นึ้ มา ไมไ่ ดห้ าอาชพี ใหเ้ รา ปจั จบุ นั นเ้ี รากไ็ มร่ วู้ า่ ชวี ติ นเ้ี ราจะไปยงั ไง”
นางเยาวภา ช่อจนั ทร์
“ไมค่ าดคดิ วา่ ฉนั คนจน ๆ แบบนจ้ี ะไดร้ บั เมตตาจากพระองคท์ า่ น หรอื ขนึ้ อยกู่ บั
บุญไม่รู้นะ ขอให้พระองค์ท่านอายุยืนหม่ืน ๆ ปี เป็นร่มโพธ์ิร่มไทรของประชาชน
ตลอดไปจะ้ ”
นางอดุ มลกั ษณ์ มารยาท
“กราบขอบพระคุณพระองค์ท่านท่ีให้ความเป็นอยู่ท่ีดีนะคะ คือพูดไม่ออก
มันต้ืนตันใจที่ท่านกรุณามาให้ความรู้ ให้อาชีพกับชาวบ้านเขาเต่า และก็ดีใจที่ยังมีลูก
หลานบ้านเขาเตา่ มาสบื ทอดกจิ การต่อไป”
นางเงก็ ลง้ั แซ่จวิ
“ตอนน้ันเราแค่เด็กอายุ ๑๔ ได้เข้าไปฝึกทอผ้า ไม่ได้คิดอะไร ทำ�เอาสนุกตาม
ประสา แต่มาคิดดูก็มีผลในตอนน้ี เราได้มีอาชีพ มีความรู้มาท�ำ งานเล้ียงตัวเอง เป็น
สิ่งดีมากที่พระองค์มาทำ�ไว้ให้ รู้สึกภาคภูมิใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ด้วย
แล้วน้อยคนนักทจี่ ะมีโอกาสได้รบั ของพระราชทานจากพระองคท์ า่ น”
281
สดดุ พี ระแมไ่ ทย
บทเพลงเฉลมิ พระเกยี รติ
สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง
โลกสดดุ ีพระปรชี าชาญ
ราษฎรส์ ขุ สราญเพราะพระบารมี
สิริกิต์ิเกริกฟา้ สุดแดนแผน่ ดินน้ี
พระพนั ปีหลวงมิง่ ขวัญไทย
ใต้ฝ่าละอองฯ ผองไทยบชู า
ใตร้ ม่ บุญญาพร้อมเพรียงภมู ิใจ
จุดเทียนแซซ่ อ้ งส่องเมอื งสวา่ งไสว
ไทยเทดิ ไท้ถวายพระพร
ศูนยร์ วมใจปวงประชา ศลิ ปาชพี อมร พสกนิกรภักดี
พระเมตตาเตมิ ใจคมุ้ ครองไทยสขุ ศรี
สดดุ ีพระแม่ไทย ทรงพระเจริญ
คำ�รอ้ ง ชัยรตั น์ วงศ์เกยี รตข์ิ จร
ทำ�นอง วิรชั อยูถ่ าวร
282
283
บรรณานกุ รม
กองราชเลขานกุ ารในพระองค์สมเด็จพระบรมราชนิ นี าถ. เคยี งราษฎร.์ กรุงเทพฯ :อมรนิ ทรพ์ รน้ิ ตง้ิ กรุ๊พ, ๒๕๓๕.
กองราชเลขานกุ ารในพระองคส์ มเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ. ดว้ ยพลงั แหง่ รกั . กรงุ เทพฯ : ศริ วิ ฒั นาอนิ เตอรพ์ รนิ้ ท,์ ๒๙๔๘.
ธนาคารเอเชีย จ�ำ กัด, มูลนธิ สิ ่งเสริมศลิ ปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์
ตะวันออก, ๒๕๓๕.
ฝ่ายประชาสัมพนั ธแ์ ละเผยแพร่ ส�ำ นักพระราชวัง, เสด็จฯ เย่ยี มราษฎร. กรุงเทพฯ : พิมพค์ รั้งที่ ๒, อมรินทร์พรน้ิ ต้ิง
แอนด์พับลิชชิ่ง, ๒๕๔๒.
มณีรตั น์ บุนนาค และคณะ, มดั หมีไ่ หมไทย สายใยชนบท. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์กรงุ เทพฯ, ม.ป.ป.
มลู นิธิสง่ เสริมศิลปาชพี ในสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ, โขนพระราชทาน ศาสตร์และศิลป์
แผน่ ดนิ ไทย. กรงุ เทพฯ : บริษทั แปลน โมทิฟ จำ�กัด, ๒๕๕๗.
สภาสตรแี หง่ ชาติ ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์, ๘๕ พรรษา สมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ. กรุงเทพฯ : อมรนิ ทร์พร้ินติง้ แอนด์
พับลิชชงิ่ , ๒๕๖๐.
สภาสตรแี หง่ ชาติในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์, เฉลมิ พระเกียรติเกรกิ ไกร ศิลปะผา้ ไทยงามตระการ. กรงุ เทพฯ : ม.ป.ป.
สุทธพิ งษ์ จลุ เจรญิ , สมดุ ภาพเมืองตราด ๒๕๕๙. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทพมิ พ์ดี จ�ำ กดั , ๒๕๕๙
ส�ำ นกั งานคณะกรรมการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต,ิ สมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ นกั พฒั นา เพอ่ื ปวงประชาสขุ ศานต.์
กรุงเทพฯ : อมรนิ ทรพ์ รน้ิ ต้ิงแอนดพ์ บั ลิชช่ิง, ๒๕๕๕.
สำ�นักงานปลัดสำ�นักนายกรัฐมนตรี, ประมวลพระราโชวาทและพระราชดำ�รัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม
ราชนิ นี าถ. กรุงเทพฯ : พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑, อมรนิ ทร์พร้ินติง้ แอนด์พับลชิ ชง่ิ , ๒๕๕๘.
สำ�นกั พระราชวงั , เสด็จประพาสตน้ มาเปน็ โครงการพระราชดำ�ริ พ.ศ. ๒๕๐๒ - พ.ศ. ๒๕๑๘. กรุงเทพฯ : ๒๕๓๙.
แหล่งข้อมูลอ่นื
บุปผาราชนิ ี ปฏทิ ินชุดภาพพระราชทาน ปี ๒๕๕๙ ของสถาบนั สขุ ภาพเดก็ แห่งชาติมหาราชนิ ี
284
คณะผูจ้ ดั ทำ�
ทีป่ รกึ ษากติ ติมศกั ด์ิ
ทา่ นผู้หญิงจรงุ จิตต์ ทขี ะระ ราชเลขานกุ ารในพระองคส์ มเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกิติ์ พระบรมราชินนี าถ
พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง
ทา่ นผ้หู ญิงสภุ รภ์เพ็ญ หลวงเทพนมิ ิต ประจำ�สำ�นักพระราชวงั พเิ ศษ ระดบั ๑๐
ทีป่ รกึ ษา รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย
พลเอก อนพุ งษ์ เผา่ จินดา ปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายฉัตรชยั พรหมเลศิ ประจ�ำ ส�ำ นักพระราชวังพเิ ศษ ระดับ ๙
คุณหญิงอุไรวรรณ สวัสดิศานต์ ประจำ�ส�ำ นักพระราชวงั พิเศษ ระดับ ๙
คุณหญิงสรอ้ ยระย้า เรืองวเิ ศษ ประจำ�ส�ำ นกั พระราชวังพิเศษ ระดับ ๙
นายอรรคฤทธ์ิ ทรัพยย์ ง่ิ ผ้อู ำ�นวยการพิพธิ ภัณฑผ์ า้ ในสมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ
นางปิยวรา ทขี ะระ เนตรนอ้ ย ประธานคณะกรรมการบรหิ ารสภาสมาคมสตรแี ห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
นางรชตภร โตดิลกเวชช ์
บรรณาธกิ าร อธิบดีกรมการพฒั นาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
นายสทุ ธพิ งษ์ จลุ เจรญิ ประธานสภาสมาคมสตรีแหง่ ชาติ ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจรญิ
ผ้ชู ่วยบรรณาธิการ นกั วชิ าการพัฒนาชมุ ชนชำ�นาญการ
นางสาวปฏญิ ญา ปงหาญ นักวชิ าการพัฒนาชมุ ชนชำ�นาญการ
นางสาวกชพร มณฝี นั้
ผปู้ ระพนั ธบ์ ทร้อยกรอง คณุ หญงิ อไุ รวรรณ สวัสดิศานต์
285
ขอขอบคณุ
ส�ำ นกั พระราชวัง
กองกิจการในพระองค์ ๙๐๔
กองราชเลขานกุ ารในพระองคส์ มเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง
สถาบันสิรกิ ติ ิ์
กองศิลปาชีพ
กองเผยแพรพ่ ระราชกรณียกิจ กรมราชเลขานกุ ารในพระองค์
สำ�นกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ
มลู นธิ ิส่งเสรมิ ศลิ ปาชีพ ในสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ
พพิ ธิ ภัณฑผ์ า้ ในสมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ
สภาสมาคมสตรแี ห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
กระทรวงวฒั นธรรม
ศนู ยห์ ัตถกรรมทอผ้าบ้านเขาเตา่ อ�ำ เภอหัวหิน จงั หวัดประจวบครี ีขันธ์
286
สภาสมาคมสตรแี ห่งชาติ ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์
อาคารบา้ นพระกรณุ านวิ าสน์ เลขท่ี ๖/๒ ถนนสุโขทยั เขตดุสิต กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๐
โทรศพั ท์ : ๐ ๒๑๑๗ ๙๓๕๓
โทรสาร : ๐ ๒๑๑๗ ๙๓๕๔
เว็บไซต์ : http://www.thaiwomen.or.th
อเี มล : [email protected]
กรมการพัฒนาชุมชน
กรมการพฒั นาชมุ ชน กระทรวงมหาดไทย
ศนู ยร์ าชการเฉลิมพระเกยี รติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชนั้ ๕
ถนนแจ้งวฒั นะ หลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
โทรศัพท์ : ๐ ๒๑๔๑ ๖๐๔๗
โทรสาร : ๐ ๒๑๔๓ ๘๙๐๕
เว็บไซต์ : http://www.cdd.go.th
อเี มล : [email protected]
287
ข้อมลู เกย่ี วกบั หนงั สือ ๘๘ พรรษา สมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง
เรียงรอ้ ยรกั จากใจไทยท้ังชาติ
เจ้าของหนังสือ : กรมการพฒั นาชมุ ชน กระทรวงมหาดไทย รว่ มกบั สภาสมาคมสตรแี หง่ ชาติ ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์
จดั พมิ พเ์ ฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง
เนือ่ งในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๓
พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๒ : กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔
จ�ำ นวน : ๕๐๐ เล่ม
ISBN : 978-616-92928-4-5
พิมพ์ท่ ี : บริษัทอมรนิ ทรพ์ ริน้ ติง้ แอนดพ์ ับลิชชิ่ง จ�ำกัด (มหาชน)
๓๗๖ ถนนชยั พฤกษ์ แขวงตล่งิ ชนั เขตตล่ิงชนั กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทรศพั ท์ ๐-๒๔๒๒-๙๐๐๐, ๐-๒๘๘๒-๑๐๑๐
โทรสาร ๐-๒๔๓๓-๒๗๔๒, ๐-๒๔๓๔-๑๓๘๕
E-mail : [email protected] Homepage : http://www.amarin.com
288
จดั พิมพโ์ ดย
สภาสมาคมสตรีแหง่ ชาตใิ นพระบรมราชินปู ถมั ภ์
และ
กรมการพฒั นาชมุ ชน