18 $ 8 5 $ 2565
สารบญั
หนา
พระราชบญั ญัติวศิ วกร พ.ศ. 2542
• คาํ ปรารภของพระราชบัญญตั ิ......……………………………………………………..…………………………………......... 1
• หมวด 1 สภาวศิ วกร......……………………………………………………..……………………………………..................... 2
• หมวด 2 สมาชิก......……………………………………………………..……………………………………........................... 4
• หมวด 3 คณะกรรมการ …………………..……………………………..……………………………………..…................... 7
• หมวด 4 การดําเนนิ การของคณะกรรมการ………………………………………………………………..….................. 10
• หมวด 5 ขอบังคบั สภาวิศวกร………………………………………………................………….………..………….…...... 11
• หมวด 6 การควบคมุ การประกอบวิชาชพี วิศวกรรม………………………………….………….…..........…….…...... 12
• หมวด 7 การกํากับดูแล......……………………………………………………..…………………………...........…….…...... 16
• หมวด 8 บทกําหนดโทษ………………………………………………………………………...…………..…...…..…….…..... 17
บทเฉพาะกาล...............................................................................................................................…….….....18
• หมายเหตทุ ายพระราชบญั ญตั …ิ ………..........………......……………………..………....…………...........…….…..... 20
• อตั ราคา ธรรมเนียมทา ยพระราชบัญญตั ิ………………………………………………………………...………..…….…..... 21
แกไขเพมิ่ เตมิ มาตรา 74 พระราชบัญญตั วิ ศิ วกร พ.ศ. 2542 (ความรับผิดในทางอาญาของผแู ทนนิติบคุ คล)
• พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแหงกฎหมายท่ีเกี่ยวกับความรบั ผิดในทางอาญาของผูแทนนติ ิบคุ คล
พ.ศ. 2560…………………………………………………………………………………………………………………………………... 22
กฎกระทรวงออกตามพระราชบัญญตั ิวศิ วกร พ.ศ. 2542
คาธรรมเนยี มสําหรับผปู ระกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม
• กฎกระทรวงกาํ หนดอัตราคาธรรมเนยี มสําหรับผูป ระกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ พ.ศ. 2544………..... 45
กาํ หนดสาขาวชิ าชีพวิศวกรรมและวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุม
• กฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวศิ วกรรมและวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุม พ.ศ. 2550.............................. 48
• กฎกระทรวงกําหนดสาขาวชิ าชีพวิศวกรรมและวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2560............ 61
กําหนดวตั ถปุ ระสงคอ นื่ เพ่ิมเติมของสภาวิศวกร
• กฎกระทรวงกําหนดการดําเนนิ การอืน่ อันเปนวัตถุประสงคข องสภาวศิ วกร พ.ศ. 2560........................... 64
กาํ หนดใหส ภาวิศวกรเปน หนว ยงานของรฐั
ตามพระราชบญั ญัตคิ วามรบั ผิดทางละเมดิ ของเจา หนาที่
• พระราชกฤษฎีกากําหนดหนวยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาท่ี
พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2552 ........................................................................................................... 66
สารบญั
หนา
ขอบงั คับสภาวิศวกร และระเบยี บคณะกรรมการสภาวิศวกร
ขอบเขตงาน ประเภท และขนาดของงานในการประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุม
• ขอบังคับสภาวิศวกร ยกเลิกขอบังคับสภาวิศวกรวาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. 2551 ...……........................................................................................................................................ 69
สาขาวิศวกรรมโยธา
• ขอบงั คับสภาวิศวกร วา ดวยหลกั เกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุมแตล ะระดับ
สาขาวศิ วกรรมโยธา พ.ศ. 2551...................................................................................................................71
สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร
• ขอ บังคบั สภาวิศวกร วา ดวยหลักเกณฑและคณุ สมบตั ขิ องผูป ระกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมแตล ะระดบั
สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร พ.ศ. 2551...........................................................................................................75
• ขอ บงั คบั สภาวศิ วกร วาดวยหลกั เกณฑและคุณสมบัติของผปู ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมแตละระดับ
สาขาวศิ วกรรมเหมอื งแร (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2558…………………………………...…………………………………....….. 79
สาขาวิศวกรรมเครื่องกล
• ขอ บงั คบั สภาวิศวกร วา ดวยหลักเกณฑและคุณสมบัตขิ องผปู ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมแตล ะระดบั
สาขาวศิ วกรรมเครอื่ งกล พ.ศ. 2551........................................................................................................... 81
สาขาวิศวกรรมไฟฟา
• ขอ บังคับสภาวิศวกร วา ดว ยหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคมุ แตละระดบั
สาขาวศิ วกรรมไฟฟา พ.ศ. 2551................................................................................................................. 87
สาขาวศิ วกรรมอตุ สาหการ
• ขอบังคับสภาวศิ วกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบตั ิของผูประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ แตล ะระดับ
สาขาวศิ วกรรมอุตสาหการ พ.ศ. 2551……………………………………......……………………………………………..… 91
• ขอบงั คับสภาวศิ วกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมแตล ะระดบั
สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2558…………………………………………….……………........…..…..... 94
สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดลอ ม
• ขอ บังคบั สภาวศิ วกร วา ดว ยหลกั เกณฑแ ละคณุ สมบัตขิ องผปู ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ แตล ะระดบั
สาขาวศิ วกรรมสงิ่ แวดลอม พ.ศ. 2551………………………………………………......………………………….…............ 97
สาขาวศิ วกรรมเคมี
• ขอบงั คับสภาวศิ วกร วาดวยหลักเกณฑแ ละคุณสมบตั ขิ องผูประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคมุ แตล ะระดบั
สาขาวศิ วกรรมเคมี พ.ศ. 2551……………….......…………………………………........………………………………....... 99
สารบัญ หนา
การเลือกตงั้ กรรมการสภาวศิ วกร
• ขอบงั คับสภาวศิ วกร วาดว ยการเลือกและการเลือกตงั้ กรรมการสภาวิศวกร พ.ศ. 2543……...…..…......... 101
• ขอ บังคับสภาวศิ วกร วาดวยการเลือกและการเลอื กต้ังกรรมการสภาวศิ วกร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551........ 112
• ขอบังคบั สภาวศิ วกร วา ดวยการเลอื กและการเลอื กตง้ั กรรมการสภาวิศวกร (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2555......... 114
• ขอบังคับสภาวศิ วกร วา ดวยการเลือกและการเลือกตง้ั กรรมการสภาวิศวกร (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2564......... 115
การเลือกนายกสภาวศิ วกรและอปุ นายกสภาวิศวกร
• ขอ บงั คับสภาวศิ วกร วาดวยการเลอื กกรรมการเพื่อดํารงตําแหนงนายกสภาวิศวกรและอุปนายกสภาวศิ วกร
และการเลอื กหรอื การเลอื กตั้งกรรมการแทนตาํ แหนงกรรมการทวี่ างลง พ.ศ. 2552............................... 116
การมอบหมายใหกระทําการแทนนายกสภาวิศวกร
• ขอบงั คับสภาวิศวกร วา ดวยการมอบหมายใหก ระทาํ การแทนนายกสภาวศิ วกร พ.ศ. 2543….....…...… 119
การประชุมใหญส ภาวิศวกร
• ขอ บงั คับสภาวิศวกร วา ดวยการประชุมใหญส ภาวิศวกร พ.ศ. 2543…………………………………....……….. 121
• ขอบงั คับสภาวิศวกร วาดว ยการประชุมใหญสภาวศิ วกร (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2550................................... 127
• ขอบังคบั สภาวิศวกร วาดวยการประชุมใหญสภาวศิ วกร (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2564................................... 129
คุณสมบัติ วาระการดาํ รงตําแหนง และการพน จากการดาํ รงตําแหนง ของผตู รวจสภาวศิ วกร
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดว ยคุณสมบัติ วาระการดํารงตําแหนงและการพนจากการดาํ รงตําแหนงของผตู รวจ
สภาวศิ วกร พ.ศ. 2559.......................................................................................................................….... 130
การรับสมัครเปนสมาชิกสามัญและสมาชกิ วิสามญั
• ขอบงั คับสภาวิศวกร วาดวยการรบั สมคั รเปนสมาชิกสามัญของสภาวศิ วกร พ.ศ. 2543………......…...... 132
• ขอบงั คับสภาวิศวกร วาดวยการรับสมัครเปน สมาชกิ สามัญของสภาวิศวกร (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2564…...... 135
• ขอบังคบั สภาวิศวกร วาดวยการรบั สมัครเปนสมาชิกวิสามญั ของสภาวิศวกร พ.ศ. 2543………..……..... 137
• ขอ บงั คับสภาวศิ วกร วา ดว ยการรบั สมคั รเปนสมาชิกวสิ ามญั ของสภาวิศวกร (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2564…..... 140
โรคตอ งหา มการเปน สมาชิกสภาวศิ วกร
• ขอ บังคบั สภาวศิ วกร วา ดว ยโรคตองหา มการเปนสมาชิกสภาวิศวกร พ.ศ. 2543……..…..………...……... 142
การแตง ต้งั สมาชิกกติ ติมศักด์ิ
0 ระเบยี บคณะกรรมการสภาวิศวกร วา ดว ยการแตงตั้งสมาชิกกิตติมศกั ด์ิ พ.ศ. 2544 .............................. 144
สารบัญ
หนา
คาจดทะเบยี นสมาชิก คาบํารงุ และคา ธรรมเนยี มทเ่ี รยี กเกบ็ จากสมาชกิ หรือบคุ คลภายนอก
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง และคาธรรมเนียมที่เรียกเก็บจาก
สมาชิกหรอื บุคคลภายนอก พ.ศ. 2551.................................................................................................... 146
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง และคาธรรมเนียมท่ีเรียกเก็บจาก
สมาชกิ หรือบคุ คลภายนอก (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2558.................................................................................. 150
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง และคาธรรมเนียมท่ีเรียกเก็บจาก
สมาชกิ หรอื บคุ คลภายนอก (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2559.................................................................................. 151
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง และคาธรรมเนียมที่เรียกเก็บจาก
สมาชิกหรอื บคุ คลภายนอก (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2561.................................................................................. 152
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการกําหนดคาจดทะเบียนสมาชิก คาบํารุง และคาธรรมเนียมท่ีเรียกเก็บจาก
สมาชิกหรอื บุคคลภายนอก (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2564.................................................................................. 154
แบบและอายใุ บอนญุ าตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ
• ขอบงั คับสภาวิศวกร วาดว ยแบบและอายุใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ พ.ศ. 2553........ 156
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยแบบและอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2561................................................................................................................................................. 162
คณุ สมบตั ิและลักษณะตองหามของบุคคลธรรมดาและนติ ิบคุ คลท่ีจะขอรบั ใบอนญุ าต
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยคุณสมบัติและลักษณะตองหามของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ท่ีจะขอรับ
ใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคมุ พ.ศ. 2543…...………………………………...........……….… 165
การออกใบอนญุ าต ประเภทบคุ คลธรรมดา
ระดบั ภาควี ิศวกรพิเศษ
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับภาคีวิศวกร
พเิ ศษ พ.ศ. 2543...................................................................................................................................... 168
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับภาคีวิศวกร
พิเศษ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2555.................................................................................................................... 171
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับภาคีวิศวกร
พเิ ศษ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2559.................................................................................................................... 173
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับภาคีวิศวกร
พิเศษ (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2564.................................................................................................................... 175
0 ระเบยี บคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดว ยการทดสอบความรูการปฏิบัติงานระดับภาคีวิศวกรพิเศษ
พ.ศ. 2544………………...........................................................................................…...................... 177
สารบญั
หนา
ระดบั ภาควี ศิ วกร
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับภาคีวิศวกร
พ.ศ. 2561…………….................................................................................................................................. 179
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยคุณสมบัติของผูมสี ิทธิเขารับการทดสอบความรูเพื่อขอรับ
ใบอนญุ าตเปน ผูป ระกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุม ระดับภาคีวศิ วกร พ.ศ. 2549 ......................... 183
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรูเพ่ือขอรับใบอนุญาตเปนผูประกอบ
วชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม ระดับภาคีวิศวกร พ.ศ. 2563 ...........................................…................... 185
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการอบรมและทดสอบความรูเกี่ยวกับความพรอมในการ
ประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคมุ พ.ศ. 2563 ...............................................…........................... 191
ระดับสามญั วศิ วกร และระดับวฒุ ิวศิ วกร
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญวิศวกร
และระดบั วุฒิวศิ วกร พ.ศ. 2547................................................................................................................ 197
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรูความชํานาญระดับสามัญวิศวกร
และระดับวฒุ ิวศิ วกร พ.ศ. 2551 .................................................................................................... 200
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรูความชํานาญระดับสามัญวิศวกร
และระดบั วุฒวิ ศิ วกร (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2553 .................................................................................. 203
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรูความชํานาญระดับสามัญวิศวกร
และระดบั วฒุ วิ ศิ วกร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 .................................................................................. 205
การออกใบอนญุ าตสาขาวศิ วกรรมสิ่งแวดลอม และสาขาวิศวกรรมเคมี (บทเฉพาะกาล 2 ป)
• ขอบังคับสภาวิศวกร วา ดวยการออกใบอนุญาตใหแกผูขอประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรม
สิง่ แวดลอม พ.ศ. 2564 ............................................................................................................................ 207
• ขอบังคับสภาวิศวกร วา ดวยการออกใบอนุญาตใหแกผูขอประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรม
เคมี พ.ศ. 2564 ......................................................................................................................................... 210
การออกใบอนญุ าต ประเภทนิตบิ ุคคล
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมประเภทนิติบุคคล
พ.ศ. 2543………………................................................................................................................................ 213
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมประเภทนิติบุคคล
(ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2554 ..….......................................................................................................................… 217
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมประเภทนิติบุคคล
(ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2564 ..….......................................................................................................................… 219
สารบัญ
หนา
การขึน้ ทะเบยี นวิศวกรวิชาชีพอาเซียน
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered
Professional Engineer) พ.ศ. 2557 ...................................................................................................... 221
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered
Professional Engineer) (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2560 .................................................................................... 224
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการข้ึนทะเบียนวิศวกรอาเซียน (ASEAN Chartered
Professional Engineer) (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2563 .................................................................................... 226
การข้ึนทะเบยี นวศิ วกรวิชาชีพตา งดา ว (RFPE)
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการข้ึนทะเบียนวิศวกรวิชาชีพตางดาวตามขอตกลงยอมรับรวมของอาเซียน
ดา นบรกิ ารวศิ วกรรม พ.ศ. 2561 ................................................................................................................228
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการขึ้นทะเบียนวิศวกรวิชาชีพตางดาวตามขอตกลงยอมรับรวมของอาเซียน
ดานบรกิ ารวศิ วกรรม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2564 ...............................................................................................232
การขึ้นทะเบียนเปน วิศวกรเอเปค
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการข้ึนทะเบียนเปนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) พ.ศ. 2552
................................................................................................................................................................. 233
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการขึ้นทะเบียนเปนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2560 ............................................................................................................................................... 236
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการขึ้นทะเบียนเปนวิศวกรเอเปค (APEC Engineer) (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................................... 238
การพฒั นาวิชาชีพตอเนื่อง
0 ระเบยี บคณะกรรมการสภาวศิ วกร วาดวยการพัฒนาวชิ าชีพตอ เนอื่ ง พ.ศ. 2551 ................................ 240
จรรยาบรรณแหง วชิ าชีพวิศวกรรม
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยจรรยาบรรณแหงวิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนาํ มา
ซึ่งความเส่ือมเสียเกยี รติศกั ดิแ์ หง วิชาชีพ พ.ศ. 2543………………………........………………………………..…………243
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดว ยจรรยาบรรณแหงวิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามา
ซง่ึ ความเสอื่ มเสียเกียรตศิ ักดิ์แหง วิชาชีพ พ.ศ. 2559...................................................................................246
0 ระเบียบสภาวิศวกร วาดวยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแหงวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. 2546
..................................................................................................................................................... 250
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวศิ วกร วาดวยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแหงวิชาชพี วิศวกรรม
(ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2551 ......................................................................................................................262
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวศิ วกร วาดวยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแหงวิชาชพี วิศวกรรม
(ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2554 .......................................................................................................................263
สารบญั
หนา
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแหงวิชาชพี วิศวกรรม
(ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2564 .......................................................................................................................264
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและวิธีการอุทธรณคําวินิจฉัยช้ขี าดของคณะกรรมการจรรยาบรรณ
พ.ศ. 2551………….….….................................................................................................................................265
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการพักใชและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. 2551……….….…..……...............................................................................................................….…..... 269
การสรรหากรรมการจรรยาบรรณ
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการสรรหาสมาชิกสภาวิศวกรผูสมควรไดรับการเสนอชื่อ
ตอ ทีป่ ระชุมใหญส ภาวิศวกร เพอ่ื แตง ต้ังเปนกรรมการจรรยาบรรณ พ.ศ. 2550 ……………….......................272
การรับรองปริญญา และมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตรการรับรองปริญญา
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพ
วศิ วกรรมควบคมุ พ.ศ. 2554......................................................................................................................275
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคมุ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561.................................................................................................... 279
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในการประกอบวิชาชีพ
วศิ วกรรมควบคมุ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2564.................................................................................................... 283
0 ระเบยี บคณะกรรมการสภาวศิ วกร วา ดวยองคค วามรพู นื้ ฐานทางวิทยาศาสตร องคความรพู น้ื ฐานทาง
วิศวกรรมและองคค วามรูเฉพาะทางวิศวกรรม ที่สภาวิศวกรจะใหการรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร
หรอื วุฒบิ ัตรในการประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุม พ.ศ. 2562 ................................................... 286
การรับรองมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร
พ.ศ. 2560 ...................................................................................................................................................292
มาตรฐานในการประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม
• ขอบงั คบั สภาวศิ วกร วา ดว ยมาตรฐานในการประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ พ.ศ. 2561.....................294
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยความสามารถในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. 2563 .......................................................................................................................................297
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไขการรับรองมาตรฐาน
การใหบ รกิ ารวชิ าชีพและมาตรฐานการปฏิบตั ิวิชาชีพ พ.ศ. 2563 ...................................................299
สารบญั
หนา
การรับรองความรูความชาํ นาญ
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการออกหนังสือรับรองความรูความชํานาญในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคมุ พ.ศ. 2564 ..…...........................................................................................................................…..302
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไขการทดสอบความรู
เพื่อขอรบั หนังสือรับรองความรคู วามชํานาญในการประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม (เฉพาะดา น) พ.ศ. 2564
...................................................................................................................................................................... 304
• ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการรับรองความรูความชํานาญในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. 2564
..….......................................................................................................................….......................................306
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการทดสอบความรูเพ่ือขอรับใบรับรองความรูความชํานาญ
ในการประกอบวิชาชพี วศิ วกรรม ระดับวิศวกร และระดับวิศวกรวชิ าชีพ พ.ศ. 2564.................................. 311
กฎหมายวาดวยขอ มลู ขา วสาร
0 ระเบยี บคณะกรรมการสภาวิศวกร วา ดว ยขอมูลขาวสารของราชการ พ.ศ. 2554 ................................. 313
0 ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร วาดวยการรักษาความเปนระเบียบเรียบรอยและความปลอดภัย
ในการใหประชาชนเขาตรวจดขู อ มูลขาวสาร พ.ศ. 2554 ............................................................................318
0 ประกาศสภาวิศวกร เร่ือง โครงสรางและอํานาจหนาท่ี วิธีการดําเนินงาน และสถานท่ีติดตอเพื่อรับขอมูล
ขา วสารของสาํ นักงานสภาวศิ วกร พ.ศ. 2563 .......................................................................................... 320
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
*
* หมายเหตุ
มาตรา ๗๔ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ ก้ไขเพม่ิ เตมิ บทบัญญตั แิ ห่งกฎหมายทเี่ กย่ี วกบั ความรับผดิ ในทางอาญาของผู้แทนนิตบิ ุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐
“มาตรา ๗๔ ในกรณที ผ่ี ู้กระทาํ ความผดิ เป็ นนิตบิ ุคคล ถ้าการกระทาํ ความผดิ ของนิตบิ ุคคลน้ันเกดิ จากการสั่งการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรือบุคคลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิตบิ ุคคลน้ัน หรือในกรณที บ่ี ุคคลดงั กล่าว มหี น้าทตี่ ้องสั่งการหรือกระทาํ การและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่
กระทาํ การจนเป็ นเหตุให้นิตบิ ุคคลน้ัน กระทาํ ความผดิ ผู้น้ันต้องรับโทษตามทบ่ี ัญญตั ไิ ว้สําหรับความผดิ น้ัน และสําหรับนิตบิ ุคคล ต้องระวางโทษปรับไม่เกนิ
สิบเท่าของอตั ราโทษปรับสําหรับความผดิ น้ันด้วย”
19
20
21
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๘ ก 22 ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐
หนา้ ๑
ราชกจิ จานุเบกษา
พระราชบญั ญัติ
แกไ้ ขเพิม่ เตมิ บทบญั ญัติแห่งกฎหมาย
ท่ีเก่ยี วกับความรบั ผิดในทางอาญาของผู้แทนนติ บิ ุคคล
พ.ศ. ๒๕๖๐
สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร
ใหไ้ ว้ ณ วันที่ ๑๐ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
เปน็ ปีท่ี ๒ ในรชั กาลปัจจุบัน
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ
ใหป้ ระกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีเกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ
ผูแ้ ทนนติ บิ ุคคล
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ
สภานติ ิบญั ญัตแิ หง่ ชาติ ดงั ต่อไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชบัญญตั ินเี้ รียกวา่ “พระราชบญั ญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ทเ่ี กย่ี วกับความรับผดิ ในทางอาญาของผแู้ ทนนติ บิ คุ คล พ.ศ. ๒๕๖๐”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
มาตรา ๓ ใหย้ กเลิกความในมาตราแห่งประมวลกฎหมาย พระราชบัญญัติและพระราชกําหนด
จํานวนเจ็ดสิบหกฉบบั ดังตอ่ ไปนี้ และให้ใช้ความตามท่ีปรากฏในบัญชที า้ ยพระราชบัญญตั ิน้ีแทนตามลาํ ดบั
(๑) มาตรา ๑๒ จัตวา แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า
พุทธศักราช ๒๔๗๔ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า
(ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๓๕
23
เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๒ ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
(๒) มาตรา ๓๕ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๒๕ และมาตรา ๙๐/๕ แห่งประมวลรัษฎากร ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลรษั ฎากร (ฉบับท่ี ๓๐) พ.ศ. ๒๕๓๔
(๓) มาตรา ๖๒ ตรี แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบญั ญัติเรอื ไทย (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
(๔) มาตรา ๑๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัตกิ ารเดินอากาศ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๕) มาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติกําหนดความผิดเก่ียวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
ห้างหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
กําหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด สมาคม และมูลนิธิ
(ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
(๖) มาตรา ๒๘/๔ แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญัติสถานบรกิ าร (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๖
(๗) มาตรา ๓๙ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญัติภาษปี ้าย (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔
(๘) มาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะหท์ หารผ่านศึก พ.ศ. ๒๕๑๐
(๙) มาตรา ๗๖ แหง่ พระราชบญั ญัตภิ าษเี งินไดป้ โิ ตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
(๑๐) มาตรา ๗๒/๕ แหง่ พระราชบญั ญัตปิ ุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึง่ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติปุ๋ย
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
(๑๑) มาตรา ๘๓ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ นเขา้ เมอื ง พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๒) มาตรา ๘๘ แห่งพระราชบญั ญัตสิ ทิ ธบิ ัตร พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๓) มาตรา ๓๘ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ ารรับเดก็ เป็นบตุ รบญุ ธรรม พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๔) มาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
อาคารชดุ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๑๕) มาตรา ๕๙ แหง่ พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๖) มาตรา ๗๒ แหง่ พระราชบัญญตั ิควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
(๑๗) มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๒๔
(๑๘) มาตรา ๒๓ แหง่ พระราชกาํ หนดควบคุมสินคา้ ตามชายแดน พ.ศ. ๒๕๒๔
(๑๙) มาตรา ๗๖ แหง่ พระราชบัญญตั ิอ้อยและน้ําตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗
24
เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๘ ก หนา้ ๓ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๒๐) มาตรา ๑๕ แห่งพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗
ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
พ.ศ. ๒๕๒๗ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕
(๒๑) มาตรา ๙๒ แหง่ พระราชบัญญัตจิ ดั หางานและคุม้ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘
(๒๒) มาตรา ๔๑ แหง่ พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สํารองเลีย้ งชพี พ.ศ. ๒๕๓๐
(๒๓) มาตรา ๑๐๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิประกนั สงั คม พ.ศ. ๒๕๓๓
(๒๔) มาตรา ๒๖ แห่งพระราชบญั ญัติการเลน่ แชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔
(๒๕) มาตรา ๔๘/๑ แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติ
การทะเบยี นราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔
(๒๖) มาตรา ๕๙ แหง่ พระราชบัญญตั สิ งวนและค้มุ ครองสตั ว์ปา่ พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒๗) มาตรา ๖๐ แหง่ พระราชบัญญัติการส่งเสรมิ การอนุรกั ษ์พลงั งาน พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒๘) มาตรา ๑๑๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
(๒๙) มาตรา ๘๗/๒ แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญตั ิวตั ถอุ นั ตราย (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๓๐) มาตรา ๖๓ แหง่ พระราชบญั ญตั ิโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
(๓๑) มาตรา ๑๑๔ แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญัตปิ ระกันชวี ิต (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๓๒) มาตรา ๑๐๘ แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติประกนั วนิ าศภยั (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
(๓๓) มาตรา ๓๙ แหง่ พระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสนิ คา้ ทางเรือแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๗
(๓๔) มาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญตั ิลิขสทิ ธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
(๓๕) มาตรา ๘๙ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ องทุนบาํ เหนจ็ บํานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙
(๓๖) มาตรา ๑๓ แห่งพระราชกําหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบญั ญัติแก้ไขเพ่ิมเตมิ พระราชกําหนดบรษิ ัทบรหิ ารสนิ ทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๐
(๓๗) มาตรา ๔๒ แหง่ พระราชบญั ญตั วิ ่าดว้ ยราคาสินคา้ และบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๒
(๓๘) มาตรา ๖๑ แหง่ พระราชบัญญัตปิ ้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
(๓๙) มาตรา ๘๘ แห่งพระราชบัญญตั ิมาตราช่งั ตวงวัด พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๐) มาตรา ๖๙ แห่งพระราชบัญญัตคิ ้มุ ครองพันธพ์ุ ชื พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๑) มาตรา ๘๒ แห่งพระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองและสง่ เสริมภมู ปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๒) มาตรา ๗๔ แหง่ พระราชบญั ญตั วิ ศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒
25
เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๔ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๔๓) มาตรา ๗๘ แหง่ พระราชบญั ญตั ิควบคุมนา้ํ มันเชื้อเพลงิ พ.ศ. ๒๕๔๒
(๔๔) มาตรา ๗๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ิสถาปนกิ พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๕) มาตรา ๔๓ แห่งพระราชบญั ญตั กิ ารขุดดนิ และถมดิน พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๖) มาตรา ๔๐ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๗) มาตรา ๕๒ แหง่ พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแบบผังภมู ิของวงจรรวม พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๘) มาตรา ๖๖ แหง่ พระราชบัญญัติการจดั สรรท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๔๓
(๔๙) มาตรา ๑๘ แหง่ พระราชบัญญัตกิ ารจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๓
(๕๐) มาตรา ๖๐ แหง่ พระราชบัญญัติการคา้ น้ํามนั เชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๓
(๕๑) มาตรา ๘๖ แหง่ พระราชบัญญตั ิการรถไฟฟา้ ขนส่งมวลชนแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓
(๕๒) มาตรา ๔๑ แหง่ พระราชบัญญตั ิกองทนุ สนับสนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔
(๕๓) มาตรา ๗๘ แหง่ พระราชบญั ญตั ิการประกอบกจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
(๕๔) มาตรา ๔๖ แห่งพระราชบญั ญัตวิ า่ ดว้ ยธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
(๕๕) มาตรา ๖๔ แหง่ พระราชบญั ญัตกิ ารฌาปนกจิ สงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๔๕
(๕๖) มาตรา ๑๓๕ แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. ๒๕๔๖
(๕๗) มาตรา ๑๑๕ แห่งพระราชบญั ญตั ิสถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖
(๕๘) มาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองสิง่ บ่งช้ีทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๔๖
(๕๙) มาตรา ๗๒ แหง่ พระราชบัญญัติวชิ าชีพบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗
(๖๐) มาตรา ๓๖ แหง่ พระราชบัญญตั ิการผลติ ผลิตภัณฑ์ซีดี พ.ศ. ๒๕๔๘
(๖๑) มาตรา ๗๗ แหง่ พระราชบัญญัติการขนส่งต่อเน่ืองหลายรปู แบบ พ.ศ. ๒๕๔๘
(๖๒) มาตรา ๖๐ แห่งพระราชบญั ญตั ิโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๓) มาตรา ๑๔๑ แหง่ พระราชบัญญัติการประกอบกจิ การพลงั งาน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๔) มาตรา ๑๕๓ แหง่ พระราชบัญญัติโรงเรยี นเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๕) มาตรา ๘๐ แห่งพระราชบญั ญัตทิ รัสตเ์ พอื่ ธรุ กรรมในตลาดทุน พ.ศ. ๒๕๕๐
(๖๖) มาตรา ๕๔ แหง่ พระราชบัญญตั ิองคก์ ารกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๕๑
(๖๗) มาตรา ๑๓๒ และมาตรา ๑๓๙ แหง่ พระราชบญั ญตั ธิ รุ กิจสถาบนั การเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑
(๖๘) มาตรา ๖๒ แห่งพระราชบญั ญัติคมุ้ ครองซากดึกดําบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๖๙) มาตรา ๖๕ และมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติสถาบนั คมุ้ ครองเงนิ ฝาก พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๐) มาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญตั ิการดูแลผลประโยชนข์ องคสู่ ัญญา พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๑) มาตรา ๗๖ แหง่ พระราชบญั ญัติมาตรฐานสนิ คา้ เกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๒) มาตรา ๕๘ แหง่ พระราชบัญญตั กิ ารมาตรฐานแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑
26
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๘ ก หนา้ ๕ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๗๓) มาตรา ๘๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ิภาพยนตรแ์ ละวีดิทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๔) มาตรา ๑๒๒ แหง่ พระราชบัญญตั ิเครอ่ื งมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๗๕) มาตรา ๔๘ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองผูร้ ับงานไปทําทบ่ี ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓
(๗๖) มาตรา ๖๒ แห่งพระราชบัญญตั กิ องทนุ การออมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔
ผ้รู ับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
27
บัญชที ้ายพระราชบญั ญตั ิ
แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ บทบญั ญัตแิ ห่งกฎหมายทเ่ี กี่ยวกับความรบั ผิดในทางอาญาของผู้แทนนติ บิ ุคคล
พ.ศ. ๒๕๖๐
๑. พระราชบัญญตั คิ วบคุมการขายทอดตลาดและคา้ ของเกา่ พทุ ธศักราช ๒๔๗๔
“มาตรา ๑๒ จตั วา ในกรณที ผ่ี กู้ ระทาํ ความผดิ เปน็ นติ บิ ุคคล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนติ บิ คุ คลน้ันเกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิติบคุ คลนัน้ หรือในกรณที ี่บคุ คลดังกล่าว
มหี นา้ ที่ตอ้ งสงั่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตุให้
นติ บิ คุ คลนน้ั กระทําความผิด ผู้นั้นตอ้ งรับโทษตามที่บญั ญัตไิ วส้ าํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”
๒. ประมวลรัษฎากร
“มาตรา ๓๕ ทวิ ผูใ้ ดฝา่ ฝืนมาตรา ๑๒ ทวิ ตอ้ งระวางโทษจําคุกไมเ่ กินสองปี
และปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาท
ในกรณีท่ผี ้กู ระทําความผดิ ตามวรรคหน่ึงเป็นนิติบุคคล ถา้ การกระทําความผดิ
ของนติ ิบคุ คลนั้นเกิดจากการสัง่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ หรอื บุคคลใด
ซ่ึงรบั ผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิตบิ คุ คลนั้น หรอื ในกรณีทีบ่ คุ คลดังกล่าวมหี นา้ ที่ตอ้ งสัง่ การ
หรอื กระทาํ การและละเว้นไมส่ ่งั การหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตใุ ห้นิติบคุ คลน้ันกระทําความผิด
ผ้นู ั้นต้องรบั โทษตามทบี่ ัญญัตไิ วใ้ นวรรคหน่ึงดว้ ย”
“มาตรา ๙๐/๕ ในกรณีทผ่ี กู้ ระทําความผดิ ตามหมวดนีเ้ ป็นนิติบคุ คล
ถา้ การกระทาํ ความผดิ ของนิติบุคคลน้ันเกดิ จากการสงั่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ
หรอื ผ้จู ดั การ หรอื บุคคลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบคุ คลน้นั หรือในกรณีท่ี
บุคคลดังกลา่ วมหี น้าทีต่ ้องสั่งการหรอื กระทาํ การและละเว้นไม่สงั่ การหรอื ไมก่ ระทาํ การ
จนเป็นเหตุใหน้ ติ บิ ุคคลนนั้ กระทาํ ความผิด ผูน้ ้นั ต้องรบั โทษตามทีบ่ ญั ญัติไว้สาํ หรบั ความผดิ
น้นั ๆ ด้วย”
๓. พระราชบญั ญตั ิเรอื ไทย พทุ ธศักราช ๒๔๘๑
“มาตรา ๖๒ ตรี ในกรณีที่ผู้กระทาํ ความผิดตามมาตรา ๖๒ ทวิ เปน็ นติ ิบุคคล
ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ คุ คลน้นั หรอื ในกรณที ่บี ุคคลดงั กล่าวมีหนา้ ท่ี
ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ หน้ ติ บิ ุคคลนั้น
กระทําความผิด ผ้นู ั้นตอ้ งรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๖๒ ทวิ ด้วย”
๔. พระราชบญั ญตั ิการเดนิ อากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗
“มาตรา ๑๑๘ ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทาํ
ความผิดของนิตบิ ุคคลนนั้ เกดิ จากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
28
๒
หรอื บคุ คลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ ุคคลนน้ั หรือในกรณีทบี่ ุคคลดังกล่าว
มีหนา้ ทีต่ อ้ งสงั่ การหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่งั การหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตใุ ห้
นติ ิบคุ คลน้ันกระทําความผิด ผู้นัน้ ตอ้ งรบั โทษตามทบ่ี ญั ญัตไิ วส้ าํ หรบั ความผิดน้ัน ๆ ดว้ ย”
๕. พระราชบัญญัติกําหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด
สมาคม และมลู นิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙
“มาตรา ๒๕ ในกรณีที่บริษทั จํากดั ใดกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๗
ถงึ มาตรา ๒๔ ถ้าการกระทําความผดิ ของบริษัทจํากัดน้นั เกดิ จากการส่ังการหรือการกระทาํ
ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ หรอื บุคคลใดซึ่งรบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของบรษิ ัทจํากดั นั้น
หรอื ในกรณีทบี่ ุคคลดงั กล่าวมหี น้าทีต่ อ้ งสง่ั การหรอื กระทําการและละเว้นไมส่ ั่งการหรอื ไม่กระทําการ
จนเป็นเหตใุ ห้บรษิ ัทจาํ กดั น้นั กระทาํ ความผิด ผูน้ ั้นตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ ห้าหม่นื บาท”
๖. พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙
“มาตรา ๒๘/๔ ในกรณีที่ผูก้ ระทําความผิดเป็นนติ บิ คุ คล ถ้าการกระทาํ
ความผิดของนิติบคุ คลน้นั เกิดจากการส่งั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ ิบคุ คลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าท่ตี ้องสัง่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทาํ การจนเปน็ เหตใุ ห้
นติ บิ คุ คลนนั้ กระทําความผิด ผู้น้นั ต้องรับโทษตามทีบ่ ัญญตั ิไวส้ าํ หรับความผิดน้นั ๆ ด้วย”
๗. พระราชบัญญตั ิภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐
“มาตรา ๓๙ ทวิ ในกรณที ผี่ กู้ ระทําความผดิ เปน็ นิตบิ คุ คล ถา้ การกระทํา
ความผดิ ของนติ ิบุคคลนั้นเกดิ จากการสง่ั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บุคคลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดําเนินงานของนิติบคุ คลน้นั หรอื ในกรณีทีบ่ ุคคลดงั กล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผิด ผนู้ ้นั ต้องรับโทษตามท่ีบญั ญัติไวส้ ําหรบั ความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”
๘. พระราชบัญญัตอิ งค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศกึ พ.ศ. ๒๕๑๐
“มาตรา ๓๓ ผใู้ ดมิใช่ในกิจการของ อผศ. หรอื โดยมไิ ดร้ ับอนุญาตเป็นหนงั สอื
จาก อผศ. ใชช้ อื่ หรอื ถอ้ ยคาํ ในประการทนี่ า่ จะทาํ ใหป้ ระชาชนเข้าใจว่าเป็นกจิ การของ อผศ.
หรือเกี่ยวเน่ืองกับกิจการของ อผศ. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท
หรอื ท้ังจําท้งั ปรบั
นติ บิ คุ คลใดมิใชก่ ระทรวง ทบวง กรม หรอื โดยมไิ ดร้ ับอนญุ าตเป็นหนงั สอื
จาก อผศ. ใช้คําว่า “อผศ.” “ทหารผ่านศึก” “ผ่านศึก” “นอกประจําการ” หรือคําว่า“ทหาร”
เป็นชื่อหรือประกอบชื่อของนิติบุคคลน้ัน ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการส่ังการ
หรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ หรอื บุคคลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดําเนินงาน
ของนิติบุคคลน้ัน หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการ
หรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตุให้นติ ิบุคคลนัน้ กระทําความผิดผู้น้นั ต้องรับโทษตามที่บัญญตั ิไว้
ในวรรคหน่ึงดว้ ย”
29
๓
๙. พระราชบญั ญัตภิ าษเี งนิ ได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
“มาตรา ๗๖ ในกรณีทบ่ี รษิ ัทใดกระทาํ ความผิด ถ้าการกระทาํ ความผดิ
ของบริษทั น้ันเกดิ จากการส่ังการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ หรอื บคุ คลใด
ซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของบริษัทน้ัน หรอื ในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กลา่ วมีหน้าท่ตี ้องสัง่ การ
หรอื กระทําการและละเว้นไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตุใหบ้ รษิ ัทนัน้ กระทาํ ความผดิ
ผนู้ ั้นตอ้ งรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาํ หรับความผดิ นั้น ๆ ดว้ ย”
๑๐. พระราชบัญญัตปิ ๋ยุ พ.ศ. ๒๕๑๘
“มาตรา ๗๒/๕ ในกรณที ี่ผู้กระทําความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คล เว้นแตก่ รณี
ตามมาตรา ๗๒/๒ ถ้าการกระทําความผิดของนติ ิบุคคลนนั้ เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทํา
ของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ หรือบคุ คลใดซึง่ รบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ คุ คลนน้ั
หรอื ในกรณที ี่บคุ คลดังกล่าวมีหน้าที่ตอ้ งสงั่ การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ ั่งการ
หรอื ไม่กระทาํ การจนเป็นเหตใุ ห้นิติบคุ คลนั้นกระทําความผิด ผูน้ ้ันตอ้ งรบั โทษตามทบี่ ัญญตั ิไว้
สาํ หรบั ความผิดน้ัน ๆ ด้วย”
๑๑. พระราชบญั ญตั ิคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๘๓ ในกรณีท่ีผู้กระทําความผดิ เปน็ นิติบคุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผิดของนติ บิ คุ คลน้ันเกดิ จากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบคุ คลนนั้ หรอื ในกรณีท่บี ุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าทตี่ ้องสง่ั การหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่งั การหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นิตบิ ุคคลน้นั กระทําความผดิ ผนู้ ้ันต้องรับโทษตามท่บี ญั ญตั ไิ ว้สาํ หรบั ความผดิ นน้ั ๆ ด้วย”
๑๒. พระราชบญั ญตั ิสทิ ธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๘๘ ในกรณีท่ผี ู้กระทาํ ความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผิดของนติ บิ ุคคลนน้ั เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซงึ่ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ คุ คลน้นั หรอื ในกรณีท่ีบุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าท่ตี ้องส่ังการหรอื กระทาํ การและละเวน้ ไม่สงั่ การหรอื ไมก่ ระทาํ การจนเป็นเหตุให้
นติ ิบุคคลนน้ั กระทาํ ความผิด ผูน้ ้นั ต้องรบั โทษตามทบี่ ัญญัตไิ วส้ ําหรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”
๑๓. พระราชบญั ญัตกิ ารรบั เดก็ เป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๓๘ ในกรณที ีผ่ ู้กระทําความผิดเป็นนติ ิบคุ คล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนติ ิบคุ คลน้ันเกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรือบุคคลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบคุ คลนนั้ หรอื ในกรณีทีบ่ ุคคลดงั กล่าว
มหี น้าท่ีต้องสั่งการหรอื กระทําการและละเว้นไม่สงั่ การหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตุให้
นติ บิ ุคคลน้ันกระทําความผดิ ผู้นนั้ ตอ้ งรับโทษตามท่ีบญั ญตั ิไวส้ ําหรบั ความผิดนน้ั ๆ ดว้ ย”
30
๔
๑๔. พระราชบญั ญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๗๑ นิติบคุ คลอาคารชุดใดฝ่าฝืนหรือไมป่ ฏบิ ตั ิตามมาตรา ๓๘/๑
มาตรา ๓๘/๒ และมาตรา ๓๘/๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนง่ึ หม่นื บาท
ในกรณีทนี่ ติ บิ คุ คลอาคารชดุ กระทําความผิดตามวรรคหน่ึง ถ้าการกระทําความผิด
ของนิติบุคคลอาคารชุดนั้นเกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของผู้จัดการของนิติบุคคลอาคารชุดนั้น
หรือในกรณที ่ีผู้จัดการของนิติบคุ คลอาคารชุดน้ันมหี น้าที่ต้องสั่งการหรอื กระทาํ การและละเว้น
ไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลอาคารชุดนั้นกระทําความผิด ผู้จัดการของนิติบุคคล
อาคารชุดนั้นต้องรับโทษตามท่ีบัญญตั ิไว้ตามวรรคหนง่ึ ดว้ ย”
๑๕. พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองผู้บรโิ ภค พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๕๙ ในกรณีทีผ่ ู้กระทําความผดิ เป็นนติ บิ ุคคล ถา้ การกระทํา
ความผดิ ของนิตบิ ุคคลน้ันเกดิ จากการสัง่ การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของนิติบคุ คลน้นั หรือในกรณีท่ีบุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผ้นู นั้ ต้องรับโทษตามที่บญั ญตั ิไว้สาํ หรับความผิดน้นั ๆ ด้วย”
๑๖. พระราชบญั ญตั ิควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๗๒ ในกรณที ่ผี กู้ ระทําความผดิ เปน็ นิตบิ คุ คล ถา้ การกระทํา
ความผิดของนิติบุคคลนน้ั เกดิ จากการสงั่ การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซงึ่ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ ุคคลนั้น หรือในกรณที ี่บคุ คลดังกลา่ ว
มหี น้าท่ีตอ้ งสง่ั การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ ัง่ การหรือไม่กระทาํ การจนเป็นเหตใุ ห้
นิติบุคคลนนั้ กระทาํ ความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษตามทบ่ี ญั ญตั ไิ ว้สําหรับความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”
๑๗. พระราชบญั ญตั ชิ ดเชยคา่ ภาษีอากรสินค้าส่งออกท่ผี ลติ ในราชอาณาจกั ร พ.ศ. ๒๕๒๔
“มาตรา ๓๒ ในกรณีที่ผ้กู ระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๓๐ หรอื มาตรา ๓๑
เป็นนิตบิ คุ คล ถา้ การกระทาํ ความผิดของนติ บิ คุ คลน้นั เกิดจากการสงั่ การหรอื การกระทํา
ของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ หรอื บคุ คลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิติบุคคลน้นั
หรอื ในกรณที บี่ คุ คลดงั กล่าวมีหนา้ ท่ตี อ้ งสั่งการหรอื กระทําการและละเวน้ ไมส่ ่งั การหรือไม่กระทาํ การ
จนเปน็ เหตุใหน้ ิติบุคคลนัน้ กระทําความผดิ ผู้นัน้ ต้องรับโทษตามท่ีบญั ญตั ิไวส้ ําหรับความผดิ
นั้น ๆ ด้วย”
๑๘. พระราชกาํ หนดควบคมุ สินค้าตามชายแดน พ.ศ. ๒๕๒๔
“มาตรา ๒๓ ในกรณีท่ีผกู้ ระทาํ ความผดิ เป็นนิติบคุ คล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนิติบุคคลนนั้ เกิดจากการสัง่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบคุ คลน้ัน หรอื ในกรณที ่ีบุคคลดงั กลา่ ว
มหี น้าท่ตี อ้ งสง่ั การหรือกระทําการและละเวน้ ไม่ส่ังการหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตุให้
นติ บิ คุ คลนนั้ กระทาํ ความผิด ผู้นน้ั ตอ้ งรบั โทษตามทีบ่ ญั ญตั ิไวส้ าํ หรบั ความผดิ นั้น ๆ ดว้ ย”
31
๕
๑๙. พระราชบญั ญตั ิอ้อยและนํา้ ตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗
“มาตรา ๗๖ ในกรณีทีผ่ ู้กระทาํ ความผดิ เป็นนติ ิบุคคล ถา้ การกระทํา
ความผดิ ของนติ ิบคุ คลน้ันเกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่งึ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบคุ คลนนั้ หรือในกรณีทบ่ี ุคคลดังกลา่ ว
มหี น้าท่ตี อ้ งสงั่ การหรือกระทําการและละเวน้ ไม่สั่งการหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นิติบุคคลนัน้ กระทําความผิด ผนู้ น้ั ต้องรบั โทษตามที่บัญญตั ไิ วส้ าํ หรบั ความผดิ นน้ั ๆ ด้วย”
๒๐. พระราชกาํ หนดการกู้ยืมเงนิ ทเ่ี ปน็ การฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗
“มาตรา ๑๕ ในกรณที ีผ่ ้กู ระทาํ ความผดิ เปน็ นิตบิ คุ คล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนติ ิบุคคลนนั้ เกิดจากการสงั่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรอื บคุ คลใดซึง่ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ ุคคลนั้น หรอื ในกรณีท่ีบคุ คลดงั กลา่ ว
มีหนา้ ท่ตี ้องส่งั การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ัง่ การหรอื ไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้
นติ บิ ุคคลน้นั กระทําความผดิ ผ้นู ้ันตอ้ งรบั โทษตามที่บญั ญัติไวส้ ําหรับความผดิ นนั้ ๆ ด้วย
ความในวรรคหนึง่ ใหใ้ ชบ้ ังคบั แกพ่ นักงานหรือลูกจ้างของนิติบคุ คลซงึ่ ปรากฏ
พยานหลักฐานว่ามพี ฤติกรรมเปน็ ผูร้ ับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบุคคลดว้ ย”
๒๑. พระราชบัญญัติจดั หางานและคมุ้ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘
“มาตรา ๙๒ ในกรณที ่ผี กู้ ระทาํ ความผดิ เปน็ นติ ิบคุ คล ถา้ การกระทํา
ความผิดของนิตบิ คุ คลนนั้ เกิดจากการสัง่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรือบุคคลใดซง่ึ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิติบุคคลนั้น หรอื ในกรณีทบ่ี คุ คลดังกล่าว
มหี น้าท่ตี ้องสั่งการหรอื กระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ง่ั การหรือไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นติ ิบุคคลนัน้ กระทําความผดิ ผูน้ ัน้ ต้องรับโทษตามที่บญั ญัติไวส้ าํ หรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”
๒๒. พระราชบญั ญตั ิกองทนุ สาํ รองเลี้ยงชพี พ.ศ. ๒๕๓๐
“มาตรา ๔๑ ในกรณที ี่คณะกรรมการกองทนุ กระทาํ ความผิดตามมาตรา ๓๔
ถ้าการกระทาํ ความผดิ ของคณะกรรมการกองทุนนนั้ เกิดจากการสงั่ การหรอื การกระทาํ
ของกรรมการผู้ใด หรอื ในกรณที ก่ี รรมการดงั กล่าวมีหน้าทีต่ อ้ งสัง่ การหรือกระทําการและละเว้น
ไม่สง่ั การหรอื ไมก่ ระทําการจนเป็นเหตใุ ห้คณะกรรมการกองทุนนั้นกระทําความผิด กรรมการผูน้ นั้
ต้องรับโทษตามที่บญั ญัตไิ ว้สาํ หรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”
๒๓. พระราชบัญญัติประกนั สงั คม พ.ศ. ๒๕๓๓
“มาตรา ๑๐๑ ในกรณที ผ่ี ้กู ระทําความผิดเป็นนิติบคุ คลและถูกลงโทษ
ถา้ การกระทําความผิดของนิตบิ คุ คลน้ันเกิดจากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ
หรือผู้จัดการ หรือบคุ คลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลนัน้ หรอื ในกรณที ่ี
บคุ คลดังกลา่ วมหี นา้ ท่ีตอ้ งสงั่ การหรอื กระทําการและละเวน้ ไมส่ งั่ การหรือไม่กระทาํ การ
จนเป็นเหตุใหน้ ติ บิ ุคคลนน้ั กระทาํ ความผิด ผู้นน้ั ตอ้ งรับโทษตามท่ีบัญญัติไวส้ าํ หรบั ความผิด
น้ัน ๆ ดว้ ย”
32
๖
๒๔. พระราชบัญญตั กิ ารเลน่ แชร์ พ.ศ. ๒๕๓๔
“มาตรา ๒๖ ในกรณที ีผ่ ู้กระทําความผดิ ตามมาตรา ๕ หรอื มาตรา ๘
เป็นนติ บิ คุ คล ถ้าการกระทําความผดิ ของนติ บิ ุคคลน้นั เกิดจากการสั่งการหรือการกระทํา
ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ หรือบุคคลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ คุ คลนั้น
หรือในกรณที ่บี คุ คลดงั กล่าวมหี นา้ ทตี่ อ้ งสง่ั การหรอื กระทําการและละเว้นไม่สัง่ การหรือไม่กระทาํ การ
จนเป็นเหตุใหน้ ติ บิ คุ คลนั้นกระทาํ ความผิด ผนู้ ้ันตอ้ งระวางโทษจําคุกไมเ่ กินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกนิ
สามแสนบาท หรือทงั้ จาํ ทงั้ ปรบั ”
๒๕. พระราชบญั ญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔
“มาตรา ๔๘/๑ ผใู้ ดฝา่ ฝนื มาตรา ๑๕ วรรคส่ี ต้องระวางโทษจาํ คกุ ต้ังแตห่ กเดอื น
ถงึ ห้าปี และปรบั ตัง้ แต่หนงึ่ หม่นื บาทถงึ หนึง่ แสนบาท
ในกรณที ่ีสว่ นราชการหรือหนว่ ยงานของรฐั กระทําผดิ ตามวรรคหนงึ่
ถ้าการกระทําความผิดของสว่ นราชการหรอื หน่วยงานของรัฐนัน้ เกิดจากการสั่งการหรือการกระทํา
ของหัวหน้าสว่ นราชการหรือหัวหนา้ หน่วยงานของรฐั หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกลา่ วมีหน้าท่ี
ต้องสงั่ การหรอื กระทาํ การและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทาํ การจนเป็นเหตใุ ห้ส่วนราชการ
หรือหน่วยงานของรัฐนนั้ กระทาํ ความผดิ หัวหน้าส่วนราชการหรอื หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั นั้น
ต้องรับโทษตามทีบ่ ญั ญตั ิไวส้ ําหรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย
มาตรา ๔๙ ผ้ใู ดฝา่ ฝืนมาตรา ๑๗ ต้องระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กินหกเดอื น
หรือปรับไม่เกินสองหม่นื บาท หรอื ท้ังจําทั้งปรบั
ในกรณที ่ผี ูก้ ระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ เปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทํา
ความผิดของนติ บิ ุคคลนั้นเกดิ จากการสงั่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ ิบุคคลน้นั หรือในกรณีทบี่ คุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผูน้ นั้ ต้องรับโทษตามที่บัญญัตไิ วส้ าํ หรบั ความผิดน้นั ๆ ดว้ ย”
๒๖. พระราชบญั ญัตสิ งวนและคุ้มครองสตั วป์ า่ พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๕๙ ในกรณีทผี่ ้กู ระทําความผิดเปน็ นิตบิ ุคคล ถา้ การกระทาํ
ความผิดของนติ ิบคุ คลนน้ั เกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบุคคลนั้น หรือในกรณีทีบ่ คุ คลดงั กลา่ ว
มหี นา้ ที่ตอ้ งสัง่ การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ งั่ การหรือไมก่ ระทาํ การจนเป็นเหตุให้
นติ ิบุคคลนน้ั กระทําความผิด ผู้น้ันตอ้ งรบั โทษตามที่บัญญัตไิ ว้สําหรบั ความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”
๒๗. พระราชบัญญัตกิ ารส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๖๐ ในกรณที ผ่ี กู้ ระทําความผิดเป็นนิตบิ ุคคล ถา้ การกระทํา
ความผดิ ของนติ ิบุคคลนนั้ เกดิ จากการส่งั การหรือการกระทําของกรรมการ หรือผ้จู ัดการ
หรอื บคุ คลใดซึง่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลนั้น หรอื ในกรณที บ่ี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหนา้ ท่ีต้องสงั่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไม่สง่ั การหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้
นิติบคุ คลนนั้ กระทาํ ความผดิ ผู้น้ันตอ้ งรบั โทษตามท่บี ญั ญตั ไิ วส้ าํ หรบั ความผิดนั้น ๆ ด้วย”
33
๗
๒๘. พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๑๑ ในกรณีท่ผี ู้กระทาํ ความผดิ เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนิติบคุ คลน้นั เกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรอื บุคคลใดซงึ่ รบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ คุ คลนัน้ หรือในกรณที ่บี คุ คลดงั กล่าว
มีหนา้ ท่ีตอ้ งสั่งการหรือกระทําการและละเวน้ ไม่สัง่ การหรอื ไมก่ ระทาํ การจนเปน็ เหตุให้
นิติบคุ คลนั้นกระทําความผิด ผู้น้นั ต้องรบั โทษตามท่ีบัญญตั ไิ ว้สําหรับความผดิ น้นั ๆ ด้วย”
๒๙. พระราชบัญญตั วิ ตั ถอุ นั ตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๘๗/๒ ในกรณีทีผ่ ู้กระทําความผิดเปน็ นติ บิ คุ คล ถ้าการกระทําความผิด
ของนิตบิ ุคคลน้ันเกดิ จากการสง่ั การหรือการกระทําของกรรมการหรือผู้จดั การ ผู้เชี่ยวชาญ
บคุ ลากรเฉพาะ หรอื บุคคลใดซ่งึ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ คุ คลน้ัน หรอื ในกรณที ่ี
บคุ คลดังกลา่ วมีหนา้ ท่ีต้องส่งั การหรอื กระทาํ การและละเวน้ ไม่สั่งการหรอื ไม่กระทาํ การจนเป็นเหตุให้
นติ ิบคุ คลน้นั กระทาํ ความผิด ผู้น้นั ตอ้ งรบั โทษตามทีบ่ ัญญตั ไิ ว้สําหรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”
๓๐. พระราชบัญญตั ิโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๖๓ ในกรณที ่ีผู้กระทาํ ความผดิ เป็นนติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผดิ ของนติ บิ ุคคลนัน้ เกดิ จากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ คุ คลน้นั หรอื ในกรณที ่ีบคุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผู้นนั้ ต้องรับโทษตามทบ่ี ญั ญัติไวส้ ําหรบั ความผดิ นนั้ ๆ ด้วย”
๓๑. พระราชบัญญัติประกันชวี ิต พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๑๔ ในกรณที บี่ ริษัทใดกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๘
มาตรา ๓๖ หรือมาตรา ๕๑ วรรคหน่งึ หรือแสดงขอ้ ความอันเป็นเท็จหรือปกปดิ ความจริง
ทตี่ ้องบอกใหแ้ จ้งหรอื ให้ทําคาํ ชี้แจงตามมาตรา ๔๕ ถา้ การกระทําความผิดดงั กล่าวของบรษิ ัทนัน้
เกิดจากการสงั่ การหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผ้จู ดั การ หรือบคุ คลใดซงึ่ รับผดิ ชอบ
ในการดาํ เนนิ งานของบริษทั น้ัน หรอื ในกรณที ่ีบคุ คลดงั กล่าวมีหนา้ ทีต่ อ้ งส่งั การหรอื กระทาํ การ
และละเวน้ ไมส่ ั่งการหรอื ไมก่ ระทาํ การจนเป็นเหตุใหบ้ รษิ ทั น้ันกระทําความผิดผ้นู น้ั ตอ้ งระวางโทษ
จําคุกไม่เกินหน่ึงปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนึ่งแสนบาท หรอื ทง้ั จาํ ทัง้ ปรบั ”
๓๒. พระราชบัญญตั ปิ ระกันวินาศภยั พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๐๘ ในกรณที ีบ่ รษิ ทั ใดกระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๘
มาตรา ๓๕ หรอื มาตรา ๕๗ วรรคหน่งึ หรอื แสดงข้อความอันเปน็ เท็จ หรือปกปิดความจรงิ
ท่ีต้องบอกให้แจ้งหรือให้ทําคําชี้แจงตามมาตรา ๔๙ หรือไม่หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว
ตามมาตรา ๕๒ วรรคหน่ึง ถ้าการกระทาํ ความผิดดงั กลา่ วของบริษัทน้ันเกิดจากการส่ังการหรือการกระทํา
ของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของบริษัทน้ัน หรือในกรณีท่ี
บุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้
บรษิ ัทน้ันกระทําความผิด ผู้น้ันต้องระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ หนึง่ ปี หรอื ปรบั ไม่เกินหน่งึ แสนบาท
หรือท้งั จาํ ทั้งปรบั ”
34
๘
๓๓. พระราชบัญญตั ิสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๗
“มาตรา ๓๙ ในกรณที ีส่ ภากระทาํ ความผิดและถกู ลงโทษ ถา้ การกระทําความผิด
ของสภานั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการผู้ใด หรือในกรณีที่กรรมการผู้ใดมีหน้าที่
ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้สภานั้นกระทําความผิด
กรรมการผู้น้นั ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หา้ หมนื่ บาท”
๓๔. พระราชบญั ญัติลขิ สิทธ์ิ พ.ศ. ๒๕๓๗
“มาตรา ๗๔ ในกรณที ผ่ี ู้กระทาํ ความผดิ เป็นนติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผดิ ของนิติบคุ คลนนั้ เกิดจากการสงั่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผ้นู น้ั ต้องรบั โทษตามท่ีบญั ญัตไิ วส้ าํ หรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย”
๓๕. พระราชบญั ญตั ิกองทุนบําเหนจ็ บํานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙
“มาตรา ๘๙ ผู้ไดร้ บั มอบหมายใหด้ ําเนนิ การจัดการกองทุนรายใดไม่ปฏิบตั ิ
ตามมาตรา ๘๕ ต้องระวางโทษปรบั ไม่เกนิ หนง่ึ ล้านบาท และปรบั อีกไม่เกินวนั ละหนงึ่ แสนบาท
จนกวา่ จะได้ปฏิบัติให้ถูกตอ้ ง
ในกรณีท่ผี ูไ้ ด้รบั มอบหมายให้ดําเนินการจัดการกองทนุ กระทําความผิด
ตามวรรคหนงึ่ ถ้าการกระทาํ ความผดิ ของผไู้ ด้รบั มอบหมายให้ดาํ เนนิ การจดั การกองทุนนัน้ เกดิ จาก
การส่ังการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ หรอื บคุ คลใดซง่ึ รับผิดชอบในการดาํ เนนิ งาน
ของผู้ได้รับมอบหมายให้ดําเนินการจัดการกองทุนนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการ
หรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับมอบหมายให้ดําเนินการ
จดั การกองทุนน้ันกระทําความผดิ ผู้นน้ั ตอ้ งระวางโทษจําคุกไมเ่ กนิ สามปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ
หนง่ึ ลา้ นหา้ แสนบาท หรอื ทง้ั จําทงั้ ปรับ”
๓๖. พระราชกําหนดบริษัทบรหิ ารสินทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๑
“มาตรา ๑๓ บรษิ ัทบรหิ ารสินทรพั ย์ใดฝา่ ฝนื หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔/๑ วรรคหน่ึง
มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๑/๑ วรรคสอง หรือฝา่ ฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ติ ามหลกั เกณฑ์
หรอื คําส่ังหรอื เงอื่ นไขท่ีกําหนดตามมาตรา ๔/๑ วรรคสอง มาตรา ๕ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑
มาตรา ๑๑/๑ วรรคหน่ึง หรือมาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท และปรับอีกไม่เกิน
วันละสามพนั บาทตลอดเวลาทย่ี ังมไิ ดป้ ฏิบัตใิ ห้ถกู ตอ้ ง
ในกรณีทบี่ รษิ ทั บรหิ ารสนิ ทรัพย์ใดกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหน่งึ ถ้าการกระทํา
ความผิดของบริษัทบริหารสินทรัพย์นั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซงึ่ รบั ผิดชอบในการดําเนินงานของบรษิ ัทบริหารสินทรัพย์นนั้ หรือในกรณที ่บี ุคคล
ดงั กลา่ วมหี น้าทตี่ ้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สัง่ การหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้
บรษิ ทั บรหิ ารสินทรัพย์น้นั กระทาํ ความผิด ผู้น้ันต้องระวางโทษจาํ คุกไม่เกินสามปี หรือปรบั
ไมเ่ กนิ สามแสนบาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั ”
35
๙
๓๗. พระราชบัญญัติว่าดว้ ยราคาสนิ คา้ และบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๔๒ ในกรณีทผ่ี ้กู ระทาํ ความผดิ เปน็ นิติบุคคล ถา้ การกระทํา
ความผิดของนติ ิบุคคลน้ันเกดิ จากการสั่งการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ
หรือบคุ คลใดซงึ่ รบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของนิตบิ คุ คลนั้น หรือในกรณที บ่ี คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผู้นน้ั ต้องรบั โทษตามท่บี ัญญัติไว้สาํ หรับความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”
๓๘. พระราชบญั ญตั ิปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๖๑ นติ ิบุคคลใดกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๗ มาตรา ๘
หรอื มาตรา ๙ ตอ้ งระวางโทษปรับตัง้ แตส่ องแสนบาทถงึ หน่ึงลา้ นบาท
ในกรณีที่การกระทําความผิดตามวรรคหนึง่ ของนติ ิบคุ คลเกิดจากการสง่ั การ
หรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลน้ัน
หรอื ในกรณที บี่ ุคคลดงั กล่าวมหี นา้ ทตี่ อ้ งสัง่ การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไม่สงั่ การหรอื ไมก่ ระทาํ การ
จนเปน็ เหตุใหน้ ิตบิ คุ คลนน้ั กระทาํ ความผดิ ผนู้ ้ันต้องระวางโทษจําคุกตัง้ แต่หนง่ึ ปีถึงสิบปี
หรือปรบั ตงั้ แตส่ องหมนื่ บาทถงึ สองแสนบาท หรอื ทง้ั จําทัง้ ปรบั ”
๓๙. พระราชบัญญตั มิ าตราช่ังตวงวดั พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๘๘ ในกรณีทผ่ี ู้กระทําความผดิ เป็นนติ ิบคุ คล ถ้าการกระทาํ
ความผดิ ของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดําเนินงานของนิตบิ ุคคลนนั้ หรอื ในกรณีทบี่ คุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผู้นั้นต้องรับโทษตามทบี่ ญั ญัติไวส้ าํ หรับความผิดนน้ั ๆ ด้วย”
๔๐. พระราชบญั ญัติคุ้มครองพันธุพ์ ืช พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๖๙ ในกรณที ่ผี ู้กระทําความผดิ เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนติ ิบุคคลนั้นเกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซงึ่ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลนนั้ หรือในกรณที ี่บคุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผ้นู น้ั ตอ้ งรับโทษตามท่ีบัญญตั ไิ ว้สาํ หรับความผดิ นน้ั ๆ ดว้ ย”
๔๑. พระราชบัญญตั ิค้มุ ครองและส่งเสรมิ ภมู ิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๘๒ ในกรณที ี่ผู้กระทําความผิดเป็นนิตบิ ุคคล ถา้ การกระทาํ
ความผิดของนิตบิ คุ คลนนั้ เกิดจากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ
หรอื บุคคลใดซ่งึ รับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ ุคคลนัน้ หรอื ในกรณที ีบ่ ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผ้นู ้ันตอ้ งรับโทษตามทบี่ ญั ญัตไิ ว้สาํ หรบั ความผดิ น้นั ๆ ด้วย”
36
๑๐
๔๒. พระราชบญั ญตั ิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๗๔ ในกรณที ่ีผูก้ ระทําความผิดเป็นนติ บิ คุ คล ถา้ การกระทํา
ความผดิ ของนติ บิ คุ คลน้ันเกดิ จากการสัง่ การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผูจ้ ดั การ
หรือบุคคลใดซง่ึ รับผิดชอบในการดาํ เนินงานของนิติบุคคลนัน้ หรอื ในกรณีทบ่ี ุคคลดงั กล่าว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผิด ผูน้ ้นั ตอ้ งรบั โทษตามท่ีบัญญตั ไิ ว้สาํ หรบั ความผิดนั้น และสาํ หรับนติ ิบุคคล
ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินสบิ เทา่ ของอัตราโทษปรับสาํ หรบั ความผดิ นัน้ ด้วย”
๔๓. พระราชบญั ญัตคิ วบคมุ น้าํ มันเชอ้ื เพลิง พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๗๘ ในกรณที ีผ่ ้กู ระทาํ ความผดิ เปน็ นิติบุคคล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนติ บิ คุ คลนัน้ เกดิ จากการสงั่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผูจ้ ัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณที บ่ี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผดิ ผ้นู นั้ ตอ้ งรับโทษตามทีบ่ ญั ญตั ิไวส้ ําหรับความผดิ น้ัน ๆ ด้วย”
๔๔. พระราชบัญญัติสถาปนกิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๗๔ ในกรณีท่ผี ู้กระทาํ ความผดิ เป็นนิติบคุ คล ถ้าการกระทาํ
ความผิดของนติ บิ คุ คลนนั้ เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ
หรือบุคคลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบุคคลนัน้ หรือในกรณีทบี่ ุคคลดังกลา่ ว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผดิ ผนู้ ้ันต้องรบั โทษตามที่บัญญัติไวส้ ําหรับความผดิ นนั้ และสาํ หรบั นติ ิบคุ คล
ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กนิ สบิ เท่าของอตั ราโทษปรับสําหรับความผดิ นนั้ ดว้ ย”
๔๕. พระราชบัญญตั ิการขดุ ดินและถมดนิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๔๓ ในกรณที ีผ่ ้กู ระทําความผิดเปน็ นติ ิบคุ คล ถ้าการกระทาํ
ความผดิ ของนติ ิบคุ คลนน้ั เกิดจากการสง่ั การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผ้จู ดั การ
หรอื บุคคลใดซ่งึ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ ิบุคคลน้ัน หรือในกรณที ่บี คุ คลดังกลา่ ว
มหี น้าท่ีตอ้ งสัง่ การหรือกระทําการและละเวน้ ไมส่ ง่ั การหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้
นิตบิ คุ คลนั้นกระทําความผิด ผนู้ น้ั ต้องรบั โทษตามทบ่ี ญั ญัตไิ ว้สาํ หรับความผดิ น้นั ๆ ด้วย”
๔๖. พระราชบัญญตั ิการบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๔๐ ในกรณที ผ่ี กู้ ระทําความผิดเปน็ นติ ิบคุ คล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนิตบิ ุคคลนั้นเกิดจากการส่งั การหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จดั การ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ คุ คลน้นั หรอื ในกรณที ี่บคุ คลดังกล่าว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผู้นน้ั ต้องรบั โทษตามทบ่ี ัญญัตไิ ว้สําหรบั ความผดิ นั้น ๆ ดว้ ย”
37
๑๑
๔๗. พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแบบผงั ภูมิของวงจรรวม พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๕๒ ในกรณที ีผ่ ูก้ ระทําความผิดเป็นนิติบคุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผดิ ของนิตบิ ุคคลนัน้ เกดิ จากการส่งั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผูจ้ ดั การ
หรอื บคุ คลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลนัน้ หรอื ในกรณีทบี่ คุ คลดังกล่าว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามทบ่ี ญั ญตั ไิ ว้สําหรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย”
๔๘. พระราชบัญญัติการจัดสรรทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๖๖ ในกรณที ี่ผู้กระทําความผิดเป็นนิตบิ คุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผิดของนติ ิบคุ คลนั้นเกิดจากการส่งั การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผ้จู ดั การ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนิตบิ ุคคลน้นั หรอื ในกรณีท่บี คุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผนู้ ัน้ ตอ้ งรบั โทษตามทบี่ ัญญัตไิ ว้สาํ หรับความผดิ นน้ั ๆ ด้วย”
๔๙. พระราชบัญญัตกิ ารจัดการหุ้นส่วนและหนุ้ ของรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๑๘ ในกรณีทผ่ี ้กู ระทําความผิดเปน็ นิตบิ ุคคล ถ้าการกระทาํ
ความผดิ ของนติ ิบคุ คลนนั้ เกดิ จากการสง่ั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผูจ้ ดั การ
หรอื บคุ คลใดซงึ่ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนติ บิ คุ คลน้ัน หรือในกรณที ีบ่ คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผูน้ ้ันต้องรบั โทษตามท่บี ัญญตั ไิ วส้ ําหรบั ความผิดน้ัน ๆ ด้วย”
๕๐. พระราชบัญญัตกิ ารค้านํา้ มนั เชือ้ เพลงิ พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๖๐ ในกรณที ีผ่ ู้กระทาํ ความผิดเป็นนิตบิ ุคคล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนติ บิ ุคคลน้ันเกดิ จากการสั่งการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิติบุคคลนัน้ หรอื ในกรณที ่ีบุคคลดังกล่าว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผนู้ ้นั ตอ้ งรบั โทษตามทบี่ ญั ญตั ไิ วส้ าํ หรับความผิดนนั้ ๆ ดว้ ย”
๕๑. พระราชบญั ญัติการรถไฟฟ้าขนสง่ มวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓
“มาตรา ๘๖ ในกรณที ่ีผกู้ ระทําความผดิ เปน็ นิติบคุ คล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนิตบิ ุคคลนั้นเกดิ จากการสัง่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซงึ่ รับผดิ ชอบในการดําเนินงานของนติ บิ คุ คลนน้ั หรือในกรณีทบ่ี คุ คลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผนู้ ั้นตอ้ งรับโทษตามทบี่ ญั ญัติไวส้ ําหรับความผดิ นั้น ๆ ดว้ ย”
38
๑๒
๕๒. พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔
“มาตรา ๔๑ ในกรณีทผี่ ้กู ระทาํ ความผดิ เป็นนิตบิ คุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผิดของนติ ิบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนติ ิบคุ คลน้ัน หรอื ในกรณีทบี่ ุคคลดังกลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผูน้ ัน้ ต้องรบั โทษตามทบี่ ญั ญัตไิ ว้สําหรับความผิดน้ัน ๆ ดว้ ย”
๕๓. พระราชบญั ญัตกิ ารประกอบกจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
“มาตรา ๗๘ ในกรณีทีผ่ กู้ ระทําความผิดเปน็ นิติบุคคล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนิตบิ ุคคลนนั้ เกิดจากการส่งั การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลนัน้ หรอื ในกรณีทบ่ี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามทบ่ี ญั ญัติไว้สําหรบั ความผิดนัน้ ๆ ด้วย”
๕๔. พระราชบญั ญัติวา่ ด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
“มาตรา ๔๖ ในกรณที ่ผี กู้ ระทาํ ความผดิ เป็นนติ ิบคุ คล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนิตบิ คุ คลน้ันเกิดจากการส่ังการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซงึ่ รับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ ิบุคคลนนั้ หรอื ในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผู้นัน้ ต้องรบั โทษตามท่ีบญั ญัติไว้สาํ หรบั ความผดิ น้ัน ๆ ดว้ ย”
๕๕. พระราชบัญญตั กิ ารฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๔๕
“มาตรา ๖๔ ในกรณที ่สี มาคมฌาปนกจิ สงเคราะหไ์ ม่ปฏิบัตติ ามมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
มาตรา ๑๗ มาตรา ๒๐ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ หรือมาตรา ๓๙ หรือฝ่าฝืนมาตรา ๓๐
หรือมาตรา ๓๑ ถา้ การกระทาํ ความผิดของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์น้นั เกิดจากการสัง่ การ
หรือการกระทําของกรรมการผู้ใด หรือในกรณีที่กรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการ
และละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นกระทําความผิด
กรรมการผ้นู ั้นตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หน่งึ หม่นื บาท”
๕๖. พระราชบญั ญัตสิ ญั ญาซือ้ ขายล่วงหนา้ พ.ศ. ๒๕๔๖
“มาตรา ๑๓๕ ในกรณที ผ่ี ูก้ ระทาํ ความผิดตามมาตรา ๑๒๖ มาตรา ๑๒๗
มาตรา ๑๒๘ มาตรา ๑๒๙ มาตรา ๑๓๐ มาตรา ๑๓๑ มาตรา ๑๓๓ หรือมาตรา ๑๓๘ เปน็ นิติบคุ คล
ถา้ การกระทาํ ความผดิ ของนิตบิ คุ คลนนั้ เกดิ จากการสง่ั การหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ ิบุคคลนน้ั หรือในกรณีท่บี ุคคลดังกลา่ วมหี นา้ ที่
ต้องสง่ั การหรือกระทาํ การและละเว้นไม่สัง่ การหรอื ไม่กระทาํ การจนเป็นเหตุให้นิตบิ ุคคลน้ัน
กระทําความผิด ผู้น้ันต้องรับโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตามท่ีบัญญัติไว้สําหรับความผิดน้ัน ๆ
หรือทั้งจําท้งั ปรับ”
39
๑๓
๕๗. พระราชบัญญัตสิ ถาบันอดุ มศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖
“มาตรา ๑๑๕ สถาบันอดุ มศึกษาเอกชนใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๗๔
หรือมาตรา ๗๕ ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กนิ หนึง่ ล้านบาท
ในกรณที ส่ี ถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชนใดกระทําความผดิ ตามมาตรา ๗๔
หรอื มาตรา ๗๕ ถ้าการกระทําความผดิ ของสถาบนั อดุ มศึกษาเอกชนนั้นเกดิ จากการสัง่ การ
หรือการกระทําของกรรมการสภาสถาบนั อธกิ ารบดี หรอื บุคคลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดาํ เนนิ งาน
ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนน้นั หรอื ในกรณีท่บี ุคคลดังกลา่ วมหี นา้ ที่ตอ้ งส่งั การหรอื กระทาํ การ
และละเวน้ ไมส่ งั่ การหรือไม่กระทาํ การจนเป็นเหตุใหส้ ถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชนน้นั กระทําความผดิ
ผ้นู น้ั ต้องรบั โทษตามท่ีบญั ญัตไิ วส้ ําหรบั ความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”
๕๘. พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองสิ่งบ่งชีท้ างภูมิศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๔๖
“มาตรา ๔๒ ในกรณที ี่ผูก้ ระทําความผิดเป็นนติ ิบุคคล ถา้ การกระทํา
ความผดิ ของนติ บิ ุคคลน้ันเกดิ จากการสั่งการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ
หรือบคุ คลใดซึ่งรบั ผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิติบคุ คลน้นั หรือในกรณีท่บี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผดิ ผนู้ น้ั ตอ้ งรบั โทษตามท่ีบัญญตั ไิ วส้ าํ หรบั ความผิดนัน้ ๆ ดว้ ย”
๕๙. พระราชบญั ญัติวชิ าชพี บญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๗
“มาตรา ๗๒ ในกรณีทผ่ี ู้กระทาํ ความผิดเป็นนติ ิบุคคล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนิติบคุ คลนั้นเกดิ จากการส่งั การหรอื การกระทําของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ
หรอื บคุ คลใดซง่ึ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนิตบิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณีท่ีบุคคลดังกลา่ ว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทําความผดิ ผ้นู นั้ ตอ้ งรบั โทษตามที่บัญญัติไว้สําหรบั ความผิดน้ัน ๆ ดว้ ย”
๖๐. พระราชบญั ญัตกิ ารผลติ ผลิตภัณฑซ์ ดี ี พ.ศ. ๒๕๔๘
“มาตรา ๓๖ ในกรณที ผี่ กู้ ระทําความผิดเปน็ นติ บิ ุคคล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนติ ิบุคคลนั้นเกิดจากการส่งั การหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรับผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิตบิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณีทีบ่ คุ คลดงั กล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผดิ ผ้นู น้ั ต้องรบั โทษตามท่ีบญั ญัตไิ ว้สาํ หรับความผิดนนั้ ๆ ดว้ ย”
๖๑. พระราชบัญญตั กิ ารขนสง่ ตอ่ เนือ่ งหลายรปู แบบ พ.ศ. ๒๕๔๘
“มาตรา ๗๗ ในกรณีท่ีผู้กระทําความผิดซึ่งต้องรับโทษตามมาตรา ๗๐ หรือมาตรา ๗๑
เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ
หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลน้ัน หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าว
มีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผูน้ ้ันตอ้ งรบั โทษตามท่บี ัญญัติไวส้ ําหรับความผดิ นั้น ๆ ด้วย”
40
๑๔
๖๒. พระราชบญั ญตั โิ รงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๖๐ ในกรณีทผ่ี ้รู บั ใบอนุญาตหรือผ้รู บั อนญุ าตตามมาตรา ๓๓
ซ่งึ เป็นนิติบุคคลกระทําความผิด ถ้าการกระทําความผดิ ของนิตบิ ุคคลนน้ั เกิดจากการส่งั การ
หรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรือผจู้ ัดการ หรอื บคุ คลใดซึ่งรบั ผิดชอบในการดําเนนิ งาน
ของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีท่ีบุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการ
หรอื ไม่กระทาํ การจนเปน็ เหตุใหน้ ิติบุคคลน้ันกระทําความผิด ผู้นนั้ ต้องรับโทษตามทบ่ี ญั ญัติไว้
สําหรบั ความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”
๖๓. พระราชบญั ญัติการประกอบกิจการพลงั งาน พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๑๔๑ ในกรณีที่ผกู้ ระทาํ ความผดิ เปน็ นิติบุคคล ถา้ การกระทํา
ความผิดของนิตบิ คุ คลนน้ั เกิดจากการส่งั การหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิติบคุ คลน้ัน หรือในกรณีที่บคุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทําความผดิ ผู้น้นั ต้องรบั โทษตามทบี่ ัญญัติไว้สาํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ดว้ ย”
๖๔. พระราชบญั ญตั โิ รงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๑๕๓ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลกระทําความผิดและถูกลงโทษ
ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลน้ันเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซ่งึ รับผดิ ชอบในการดําเนินงานของนิติบคุ คลน้ันหรือในกรณที บ่ี คุ คลดงั กล่าวมีหนา้ ที่
ต้องสง่ั การหรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ั่งการหรือไมก่ ระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้นติ บิ คุ คลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผนู้ ัน้ ต้องรบั โทษตามทบี่ ญั ญตั ไิ ว้สาํ หรับความผิดนน้ั ๆ ดว้ ย”
๖๕. พระราชบัญญตั ทิ รสั ต์เพ่ือธุรกรรมในตลาดทนุ พ.ศ. ๒๕๕๐
“มาตรา ๘๐ ผใู้ ดให้ถ้อยคําอันเปน็ เท็จตอ่ พนักงานเจ้าหนา้ ที่ ซง่ึ ความเท็จน้นั
เป็นขอ้ สําคัญในการตรวจสอบหรือการดําเนินการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ต้องระวางโทษจาํ คกุ
ไม่เกินหนึ่งปี หรอื ปรบั ไม่เกินหนึง่ แสนบาท หรือท้งั จาํ ทัง้ ปรับ
ในกรณที ผ่ี ูใ้ หถ้ อ้ ยคาํ อนั เปน็ เท็จต่อพนกั งานเจ้าหนา้ ทต่ี ามวรรคหน่ึงเปน็ ทรัสตี
ถ้าการกระทําความผิดของทรัสตีนั้นเกิดจากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรือบคุ คลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของทรสั ตีนน้ั หรอื ในกรณที ่บี ุคคลดังกลา่ วมีหน้าท่ี
ต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้ทรัสตีนั้นกระทําความผิด
ผู้น้นั ต้องระวางโทษจาํ คุกไม่เกินสองปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาท หรือท้ังจําท้งั ปรบั ”
๖๖. พระราชบญั ญตั อิ งคก์ ารกระจายเสียงและแพรภ่ าพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๕๔ ในกรณีท่ีผกู้ ระทําความผิดเป็นนติ บิ คุ คล ถ้าการกระทํา
ความผิดของนติ บิ ุคคลนัน้ เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทําของกรรมการ หรอื ผ้จู ัดการ
หรือบคุ คลใดซึง่ รับผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลนัน้ หรอื ในกรณที ่บี ุคคลดังกล่าว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผูน้ นั้ ตอ้ งรบั โทษตามท่ีบัญญัตไิ ว้สาํ หรับความผิดน้นั ๆ ด้วย”
41
๑๕
๖๗. พระราชบญั ญตั ิธรุ กิจสถาบนั การเงนิ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๑๓๒ ในกรณีท่ีผกู้ ระทําความผิดตามมาตรา ๑๒๑ หรอื มาตรา ๑๒๓
เป็นนิตบิ ุคคล ถา้ การกระทาํ ความผดิ ของนิติบคุ คลนนั้ เกดิ จากการสัง่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ
หรอื ผู้จดั การ หรอื ผมู้ ีอํานาจในการจดั การของนิติบคุ คล หรอื บุคคลใดซ่งึ รบั ผิดชอบในการดําเนินงาน
ของนติ บิ คุ คลน้ัน หรือในกรณที ี่บุคคลดงั กล่าวมีหน้าที่ตอ้ งส่ังการหรือกระทําการและละเวน้ ไมส่ ่ังการ
หรือไม่กระทาํ การจนเป็นเหตใุ หน้ ิติบุคคลนั้นกระทาํ ความผดิ ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามท่ีบญั ญตั ไิ ว้สําหรับ
ความผิดน้นั ๆ ดว้ ย
ภายใต้บังคับมาตรา ๑๓๙ ในกรณีที่สถาบันการเงินกระทําความผิดตามมาตรา ๑๒๒
มาตรา ๑๒๔ มาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา ๑๒๘ ถ้าการกระทําความผดิ ของสถาบันการเงินนั้น
เกิดจากการสั่งการหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ หรือผู้มีอํานาจในการจัดการของ
สถาบันการเงิน หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของสถาบันการเงินน้ัน หรือในกรณีท่ี
บุคคลดังกล่าวมีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้
สถาบนั การเงินน้ันกระทาํ ความผดิ ผ้นู ้นั ต้องรบั โทษตามทบ่ี ญั ญตั ิไว้สาํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ด้วย”
“มาตรา ๑๓๙ ในกรณีท่ีสถาบันการเงินใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๖ มาตรา ๕๐
มาตรา ๖๖ มาตรา ๘๐ มาตรา ๙๓ มาตรา ๙๔ หรือมาตรา ๙๕ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
ประกาศ ข้อกําหนด หลักเกณฑ์ หรือคําสั่งที่กําหนดตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง
มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๖ มาตรา ๕๐ มาตรา ๖๖ มาตรา ๗๑ มาตรา ๘๐ มาตรา ๙๐ หรือมาตรา ๙๕
ถา้ การกระทําความผิดของสถาบนั การเงินนน้ั เกดิ จากการสงั่ การหรือการกระทาํ ของกรรมการ
หรือผู้จัดการ หรือผู้มีอํานาจในการจัดการของสถาบันการเงิน หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการ
ดําเนินงานของสถาบันการเงนิ นน้ั หรือในกรณีที่บคุ คลดงั กลา่ วมีหนา้ ท่ตี ้องสั่งการหรอื กระทาํ การ
และละเว้นไมส่ ั่งการหรือไม่กระทําการจนเปน็ เหตใุ ห้สถาบันการเงนิ นัน้ กระทาํ ความผิด
ผู้นนั้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกนิ หนง่ึ ปี หรอื ปรบั ตัง้ แตห่ ้าแสนบาทถงึ หนง่ึ ล้านบาท หรอื ทงั้ จําทง้ั ปรับ”
๖๘. พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองซากดึกดําบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๖๒ ในกรณที ผี่ ้กู ระทําความผิดเป็นนิติบคุ คลและถกู ลงโทษ
ถ้าการกระทําความผิดของนิตบิ ุคคลน้ันเกิดจากการสัง่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ
หรอื ผ้จู ัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผดิ ชอบในการดาํ เนินงานของนิตบิ คุ คลนน้ั หรือในกรณีท่ี
บุคคลดงั กลา่ วมหี น้าทต่ี ้องสงั่ การหรอื กระทําการและละเวน้ ไมส่ ั่งการหรอื ไม่กระทําการจนเป็นเหตใุ ห้
นิติบคุ คลนน้ั กระทาํ ความผิด ผนู้ ้ันต้องรับโทษตามทบ่ี ัญญตั ิไวส้ าํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ด้วย”
๖๙. พระราชบญั ญัติสถาบนั ค้มุ ครองเงนิ ฝาก พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๖๕ ผู้ใดนอกจากสถาบันการเงิน ใช้ข้อความ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์
เพื่อแสดงวา่ ธรุ กิจของตนเป็นสถาบนั การเงินทเี่ งินฝากได้รับการคมุ้ ครองตามพระราชบัญญัตินี้
ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ่ กนิ สองปี หรอื ปรับไม่เกนิ สองแสนบาทหรอื ทั้งจําทั้งปรับ และปรับอกี ไม่เกนิ
วันละห้าพันบาทตลอดเวลาท่ยี งั ฝา่ ฝืน
ในกรณที ่ีผู้กระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ เปน็ นิติบคุ คล ถ้าการกระทําความผดิ
ของนิตบิ ุคคลน้ันเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบคุ คลใด
ซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ บิ คุ คลนั้น หรือในกรณที ่ีบุคคลดังกล่าวมีหนา้ ท่ีต้องส่ังการ
หรือกระทาํ การและละเวน้ ไมส่ ่ังการหรือไมก่ ระทาํ การจนเปน็ เหตุให้นติ ิบุคคลนั้นกระทาํ ความผิด
ผู้น้นั ต้องรับโทษตามทบ่ี ัญญัติไว้สําหรับความผิดนน้ั ๆ ด้วย