The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542(แก้ไข๒๕๖๕)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-05-30 00:18:17

พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542(แก้ไข๒๕๖๕)

พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542(แก้ไข๒๕๖๕)

Keywords: พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542(แก้ไข๒๕๖๕)

92

เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๒ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา

(๒) งานวางโครงการทุกประเภทและทุกขนาด ท่ีลงทุนไมเกินสองรอยลานบาทโดยไมรวม
คา ทดี่ ิน

(๓) งานออกแบบและคํานวณ โรงงานท่ีใชคนงานไมเกินสามรอยคน หรือโรงงานท่ีลงทุน
ไมเ กนิ สองรอ ยลานบาทโดยไมร วมคา ทีด่ นิ

(๔) งานควบคุมการสรางหรือการผลติ
(ก) โรงงานท่ีใชค นงานไมเกินสามรอยคน หรือโรงงานที่ลงทุนไมเกินสองรอยลานบาท

โดยไมรวมคาที่ดิน
(ข) การผลติ การสรางหรือการประกอบสิ่งใด ๆ กระบวนการผลิตวัสดุสําเร็จรูปหรือ

ก่งึ สําเร็จรูป การหลอม การหลอ การรดี หรือการเคลอื บโลหะ และการอบชุบ การชุบ หรือการแปร
รูปโลหะ ไม หรือวัสดุอื่น ๆ ที่ใชคนงานไมเกินสามรอยคน หรือที่ลงทุนไมเกินสองรอยลานบาท
โดยไมร วมคาท่ดี ิน

(ค) การถลุงแรและการทาํ โลหะใหบริสุทธิท์ ่มี ีปรมิ าณการผลิตดงั ตอ ไปน้ี ในกรณีท่ีเปน
ดีบุกไมเกนิ ๓๐ ตนั ตอ วัน ในกรณที ีเ่ ปน ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง หรือพลวง ไมเกนิ ๒๐๐ ตันตอวัน
หรือในกรณที เ่ี ปน เหลก็ หรอื เหลก็ กลาไมเ กนิ ๒๐๐ ตันตอ วนั

(ง) ระบบดับเพลงิ ทกุ ขนาด
(๕) งานพิจารณาตรวจสอบทกุ ประเภทและทกุ ขนาด
(๖) งานอํานวยการใชทุกประเภทและทกุ ขนาด
ขอ ๖ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
อุตสาหการ ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
ไดเ ฉพาะงาน ประเภท และขนาดดังนี้
(๑) งานวางโครงการทุกประเภทและทุกขนาด ที่ลงทุนไมเกินยี่สิบลานบาทโดยไมรวม
คา ทีด่ ิน
(๒) งานควบคุมการสรา งหรือการผลิต

(ก) โรงงานท่ีใชคนงานไมเกินหน่ึงรอยหาสิบคน หรือโรงงานที่ลงทุนไมเกิน
สามสบิ ลานบาทโดยไมรวมคาทีด่ ิน

(ข) การผลิต การสรางหรือการประกอบส่ิงใด ๆ กระบวนการผลิตวัสดุสําเร็จรูปหรือ
กึ่งสาํ เรจ็ รูป การหลอม การหลอ การรดี หรือการเคลือบโลหะ และการอบชุบ การชุบ หรือการแปรรูป

93

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๓ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา

โลหะ ไม หรือวัสดุอื่น ๆ ท่ีใชคนงานไมเกินสองรอยคน หรือที่ลงทุนไมเกินแปดสิบลานบาท
โดยไมร วมคาทดี่ ิน

(ค) การถลงุ แรและการทาํ โลหะใหบ รสิ ทุ ธิท์ ่ีมปี รมิ าณการผลิตดงั ตอ ไปน้ี ในกรณีที่เปน
ดีบกุ ไมเ กนิ ๑๐ ตันตอวนั ในกรณที ีเ่ ปน ตะกวั่ สังกะสี ทองแดง หรือพลวง ไมเกิน ๒๐ ตันตอวัน
หรอื ในกรณที ่เี ปนเหลก็ หรือเหลก็ กลา ไมเ กิน ๒๐ ตันตอวัน

(ง) ระบบดับเพลงิ ทุกขนาด
(๓) งานพิจารณาตรวจสอบทกุ ประเภทและทุกขนาด
(๔) งานอํานวยการใชทุกประเภทและทุกขนาด ที่ลงทุนไมเกินสองรอยลานบาทโดยไมรวม
คาทดี่ ิน
ขอ ๗ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
อุตสาหการ ระดับภาคีวิศวกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
ไดตามงาน ประเภท และขนาดท่รี ะบไุ วใ นใบอนญุ าต
ขอ ๘ ในกรณีที่ตองมีการวินิจฉัยช้ีขาดหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุมแตละระดับ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ตามขอบังคับน้ี ใหคณะกรรมการ
สภาวิศวกรเปนผวู นิ จิ ฉัยชี้ขาด คาํ วินจิ ฉยั ชี้ขาดของคณะกรรมการสภาวิศวกรใหเ ปนทสี่ ุด
ขอ ๙ ผไู ดรบั ใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซ่ึงประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคมุ ตามประเภท และสาขาทรี่ ะบุไวในใบอนุญาต ภายในขอกําหนดและเง่ือนไขตามกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ อยูกอน
วันทข่ี อบังคับน้มี ผี ลใชบงั คับ ใหผ นู ้ันประกอบการงานนั้นตอไปไดจนกวางานจะแลวเสรจ็

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วริ ะ มาวจิ กั ขณ
นายกสภาวิศวกร

94

เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๔๙ ง หนา้ ๑๗ ๒ มีนาคม ๒๕๕๘
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอ้ บังคับสภาวิศวกร

ว่าด้วยหลักเกณฑแ์ ละคุณสมบตั ิของผปู้ ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมแตล่ ะระดบั
สาขาวศิ วกรรมอุตสาหการ (ฉบบั ที่ ๒)

พ.ศ. ๒๕๕๘

โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประเภทและขนาดของงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุมของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ระดับสามัญวิศวกร
และระดับภาควี ศิ วกร ให้มากขึน้ เพ่ือสอดคล้องกับการปรับตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่ีมีการพัฒนา
เสริมสร้างศักยภาพกระบวนการผลิต โดยการจัดหาเครื่องจักรและเทคโนโลยีท่ีสูงขึ้น เพ่ือสร้าง
มูลค่าเพ่ิมของสินค้าให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ จึงเป็นเหตุให้กลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องใช้
เงินลงทุนมากข้นึ กวา่ เดิม

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐
สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบของท่ีประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕
และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวศิ วกร จึงออกข้อบังคบั ไว้ ดังตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของ
ผ้ปู ระกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุมแต่ละระดบั สาขาวิศวกรรมอตุ สาหการ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘”

ขอ้ ๒ ข้อบงั คับน้ใี ห้ใช้บังคับตงั้ แตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๕ และข้อ ๖ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยหลักเกณฑ์
และคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมแต่ละระดับ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ พ.ศ. ๒๕๕๑
และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนี้แทน
“ข้อ ๕ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ได้เฉพาะงาน ประเภท
และขนาด ดงั นี้
(๑) งานให้คําปรกึ ษาทกุ ประเภทและทกุ ขนาด ทล่ี งทุนไมเ่ กนิ หา้ รอ้ ยล้านบาทโดยไม่รวมค่าทดี่ ิน
(๒) งานวางโครงการทุกประเภทและทกุ ขนาด ท่ลี งทุนไมเ่ กนิ หา้ รอ้ ยล้านบาทโดยไม่รวมค่าทีด่ ิน
(๓) งานออกแบบและคํานวณ โรงงานท่ีใช้คนงานไม่เกินสามร้อยคน หรือโรงงานท่ีลงทุน
ไม่เกนิ หา้ ร้อยลา้ นบาทโดยไม่รวมค่าทด่ี นิ

95

เล่ม ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๔๙ ง หน้า ๑๘ ๒ มีนาคม ๒๕๕๘
ราชกจิ จานุเบกษา

(๔) งานควบคมุ การสร้างหรือการผลิต
(ก) โรงงานที่ใช้คนงานไม่เกินสามร้อยคน หรือโรงงานที่ลงทุนไม่เกินห้าร้อยล้านบาท

โดยไมร่ วมค่าท่ดี นิ
(ข) การผลิต การสร้างหรือการประกอบส่ิงใด ๆ กระบวนการผลิตวัสดุสําเร็จรูปหรือก่ึงสําเร็จรูป

การหลอม การหล่อ การรีด หรือการเคลือบโลหะ และการอบชุบ การชุบ หรือการแปรรูปโลหะ ไม้
หรอื วัสดอุ นื่ ๆ ท่ีใช้คนงานไมเ่ กินสามรอ้ ยคน หรือท่ีลงทุนไม่เกินหา้ ร้อยลา้ นบาทโดยไม่รวมค่าทด่ี นิ

(ค) การถลุงแร่และการทําโลหะให้บริสุทธิ์ที่มีปริมาณการผลิตดังต่อไปนี้ ในกรณีท่ีเป็นดีบุก
ไม่เกิน ๓๐ ตันต่อวัน ในกรณีท่ีเป็นตะก่ัว สังกะสี ทองแดง หรือพลวง ไม่เกิน ๒๐๐ ตันต่อวัน
หรอื ในกรณีทเ่ี ปน็ เหลก็ หรอื เหลก็ กล้าไมเ่ กนิ ๒๐๐ ตนั ต่อวัน

(ง) ระบบดับเพลิงทุกขนาด
(๕) งานพจิ ารณาตรวจสอบทุกประเภทและทุกขนาด
(๖) งานอํานวยการใชท้ กุ ประเภทและทุกขนาด”
“ข้อ ๖ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการได้เฉพาะงาน ประเภท
และขนาด ดังน้ี
(๑) งานวางโครงการทุกประเภทและทุกขนาด ท่ีลงทุนไมเ่ กินหนงึ่ รอ้ ยล้านบาท โดยไม่รวมคา่ ที่ดิน
(๒) งานควบคมุ การสรา้ งหรอื การผลติ

(ก) โรงงานท่ีใช้คนงานไม่เกินหน่ึงร้อยห้าสิบคน หรือโรงงานที่ลงทุนไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท
โดยไมร่ วมคา่ ที่ดิน

(ข) การผลิต การสร้างหรือการประกอบส่ิงใด ๆ กระบวนการผลิตวัสดุสําเร็จรูปหรือกึ่งสําเร็จรูป
การหลอม การหล่อ การรีด หรือการเคลือบโลหะ และการอบชุบ การชุบ หรือการแปรรูปโลหะ ไม้
หรือวัสดุอน่ื ๆ ที่ใช้คนงานไมเ่ กินสามรอ้ ยคน หรอื ทีล่ งทุนไม่เกินหนึง่ รอ้ ยลา้ นบาทโดยไมร่ วมค่าท่ีดิน

(ค) การถลุงแร่และการทําโลหะให้บริสุทธิ์ที่มีปริมาณการผลิตดังต่อไปน้ี ในกรณีท่ีเป็นดีบุก
ไม่เกิน ๑๐ ตันต่อวัน ในกรณีท่ีเป็นตะก่ัว สังกะสี ทองแดง หรือพลวง ไม่เกิน ๒๐ ตันต่อวัน
หรือในกรณีทเี่ ปน็ เหลก็ หรอื เหลก็ กล้าไมเ่ กิน ๒๐ ตันต่อวนั

(ง) ระบบดบั เพลงิ ทกุ ขนาด
(๓) งานพิจารณาตรวจสอบทุกประเภทและทกุ ขนาด

96

เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๔๙ ง หน้า ๑๙ ๒ มนี าคม ๒๕๕๘
ราชกิจจานุเบกษา

(๔) งานอํานวยการใช้ทุกประเภทและทุกขนาด ที่ลงทุนไม่เกินสองร้อยล้านบาท โดยไม่รวม
คา่ ที่ดนิ ”

ข้อ ๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซึ่งประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคมุ ตามประเภท และสาขาที่ระบุไวใ้ นใบอนญุ าต ภายในข้อกําหนดและเง่ือนไข ตามข้อบังคับสภาวิศวกร
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมแต่ละระดับ สาขาวิศวกรรม
อุตสาหการ พ.ศ. ๒๕๕๑ อยู่ก่อนวันท่ีข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ ให้ผู้น้ันประกอบการงานน้ันต่อไปได้
จนกว่างานจะแลว้ เสร็จ

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๕ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร

97

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๔ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา

ขอบงั คับสภาวศิ วกร

วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบตั ขิ องผูป ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมแตล ะระดับ
สาขาวศิ วกรรมส่งิ แวดลอ ม
พ.ศ. ๒๕๕๑

อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติ
วิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ อนั เปน กฎหมายทมี่ ีบทบัญญตั บิ างประการเก่ยี วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบของ
ท่ีประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร
จึงออกขอ บงั คบั ไว ดังตอไปน้ี

ขอ ๑ ขอบังคับน้ีเรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติของ
ผูประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมแตล ะระดับ สาขาวศิ วกรรมสิง่ แวดลอ ม พ.ศ. ๒๕๕๑”

ขอ ๒ ขอบงั คับนใ้ี หใ ชบงั คบั ต้งั แตว นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหงาน ประเภท และขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรม
สิ่งแวดลอม เปนไปตามที่กําหนดไวในกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพ
วศิ วกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐
ขอ ๔ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
สิ่งแวดลอม ระดับวุฒิวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดลอม
ไดท กุ งาน ทุกประเภท และทุกขนาด
ขอ ๕ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
ส่ิงแวดลอม ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดลอม
ไดเฉพาะงานวางโครงการ งานออกแบบและคาํ นวณ งานควบคุมการสรางหรือการผลิต งานพิจารณา
ตรวจสอบ หรืองานอาํ นวยการใช ไดทุกประเภทและทุกขนาด

98

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๕ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ ๖ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
สิ่งแวดลอม ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมส่ิงแวดลอม
ไดเฉพาะงาน ประเภท และขนาดดงั น้ี

(๑) งานออกแบบและคํานวณ
(ก) ระบบนํ้าสะอาดสําหรับโรงงาน อาคารสาธารณะ หรืออาคารขนาดใหญ

ท่ีมอี ัตรากําลงั ผลติ สูงสุดไมเ กนิ ๑๐๐ ลูกบาศกเมตรตอวัน
(ข) ระบบน้ําเสียสําหรับชุมชน โรงงาน อาคารสาธารณะ หรืออาคารขนาดใหญ

ท่ีสามารถรองรับน้าํ เสยี ในอัตรากาํ ลงั สูงสุดไมเ กนิ ๑๐๐ ลูกบาศกเมตรตอ วัน
(ค) ระบบขยะมลู ฝอยในสถานที่ดงั ตอไปนี้
๑) ชุมชนท่มี ปี รมิ าณขยะมูลฝอยไมเกิน ๒๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั ตอวัน
๒) โรงงาน อาคารสาธารณะ หรืออาคารขนาดใหญที่มีปริมาณขยะมูลฝอย

ไมเ กนิ ๔,๐๐๐ กโิ ลกรัมตอวัน
๓) แหลงทที่ าํ ใหมกี ารติดเช้ือท่มี ปี ริมาณขยะมลู ฝอยไมเกนิ ๓๐ กิโลกรัมตอวนั

(ง) ระบบดับเพลิงและปองกันอัคคีภัยท่ีมีมูลคารวมตั้งแตสามลานบาทตอระบบขึ้นไป
หรือที่มพี น้ื ที่ปอ งกนั อัคคภี ยั ไมเกนิ ๔,๐๐๐ ตารางเมตร

(๒) งานควบคุมการสรางหรือการผลิต งานพิจารณาตรวจสอบ หรืองานอํานวยการใช
ทกุ ประเภทและทกุ ขนาด

ขอ ๗ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
สิ่งแวดลอ ม ระดบั ภาคีวิศวกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมส่ิงแวดลอมได
ตามงาน ประเภท และขนาดที่ระบไุ วในใบอนญุ าต

ขอ ๘ ในกรณีท่ีตองมีการวินิจฉัยช้ีขาดหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุมแตละระดับ สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดลอม ตามขอบังคับน้ี ใหคณะกรรมการ
สภาวศิ วกรเปนผูวินจิ ฉยั ช้ขี าด คําวนิ จิ ฉัยชขี้ าดของคณะกรรมการสภาวิศวกรใหเ ปน ท่ีสดุ

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วิระ มาวิจักขณ
นายกสภาวิศวกร

99

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๖ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอบังคบั สภาวศิ วกร

วาดว ยหลกั เกณฑแ ละคณุ สมบตั ิของผูประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุมแตล ะระดบั
สาขาวศิ วกรรมเคมี
พ.ศ. ๒๕๕๑

อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ อันเปน กฎหมายทมี่ ีบทบญั ญัตบิ างประการเก่ยี วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบ
ของที่ประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร
จึงออกขอ บังคบั ไว ดังตอไปนี้

ขอ ๑ ขอบังคับน้ีเรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติของ
ผูป ระกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ แตล ะระดบั สาขาวศิ วกรรมเคมี พ.ศ. ๒๕๕๑”

ขอ ๒ ขอ บงั คับนี้ใหใ ชบงั คับตงั้ แตว ันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหงาน ประเภท และขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมเคมี
เปนไปตามท่ีกําหนดไวในกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐
ขอ ๔ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี
ระดับวุฒิวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี ไดทุกงาน ทุกประเภท
และทกุ ขนาด
ขอ ๕ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี
ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมีไดเฉพาะงาน ประเภท
และขนาดดงั น้ี
(๑) งานวางโครงการ งานควบคุมการสรางหรือการผลิต งานพิจารณาตรวจสอบ และงาน
อํานวยการใช ทกุ ประเภทและทุกขนาด

100

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๗ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา

(๒) งานออกแบบและคาํ นวณ ยกเวน ประเภทและขนาดดงั น้ี
(ก) ระบบการเก็บหรือขนถายท่ีกระทําภายในโรงงานหรือเพ่ือสงออกนอกโรงงาน

ซง่ึ วัตถอุ ันตราย สารเคมี สารพิษ หรือวัตถผุ งหรือวัตถุเม็ดอันอาจกอใหเกิดการระเบิด หรือเกิดไฟฟา
สถิตท่ีมีขนาดตั้งแต ๒๐ เมตรกิ ตนั ขึน้ ไป

(ข) กระบวนการผลิตทุกขนาดที่ใชหรือกอใหเกิดวัตถุอันตราย สารเคมี สารพิษ
หรอื สารไวไฟ

ขอ ๖ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี
ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมีไดเฉพาะงาน ประเภท
และขนาดดงั นี้

(๑) งานควบคุมการผลติ และงานพิจารณาตรวจสอบ ทุกประเภทและทุกขนาด
(๒) งานอาํ นวยการใช ยกเวนประเภทและขนาดดังน้ี

(ก) ระบบการเก็บหรือขนถายท่ีกระทําภายในโรงงานหรือเพื่อสงออกนอกโรงงาน
ซึง่ วตั ถอุ นั ตราย สารเคมี สารพษิ หรอื วตั ถุผงหรอื วัตถุเม็ดอันอาจกอใหเกิดการระเบิด หรือเกิดไฟฟา
สถติ ที่มขี นาดต้งั แต ๒๐ เมตรกิ ตนั ขน้ึ ไป

(ข) กระบวนการผลิตทุกขนาดท่ีใชหรือกอใหเกิดวัตถุอันตราย สารเคมี สารพิษ
หรอื สารไวไฟ

ขอ ๗ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมี
ระดบั ภาควี ิศวกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคมีได ตามงาน ประเภท
และขนาดทรี่ ะบุไวในใบอนญุ าต

ขอ ๘ ในกรณีท่ีตองมีการวินิจฉัยช้ีขาดหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุมแตละระดับ สาขาวิศวกรรมเคมี ตามขอบังคับน้ี ใหคณะกรรมการสภาวิศวกร
เปนผูวินจิ ฉัยช้ขี าด คาํ วนิ จิ ฉยั ชข้ี าดของคณะกรรมการสภาวศิ วกรใหเ ปนทส่ี ุด

ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วิระ มาวิจักขณ
นายกสภาวิศวกร

101

102

103

104

105

106

107

108

109

110

111

112

เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๔ ง หนา ๒๓ ๑๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอ บังคับสภาวิศวกร

วา ดว ยการเลอื กและการเลอื กตั้งกรรมการสภาวศิ วกร
(ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๑

โดยท่ีเปนการสมควรแกไขเพ่ิมเติมขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือกและการเลือกตั้ง
กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) และมาตรา ๓๒ แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติท่ีประชุมใหญวิสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๐ เม่ือวันที่ ๒๒ สิงหาคม
พ.ศ. ๒๕๕๐ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร จึงออกขอบังคับไว
ดังตอไปน้ี

ขอ ๑ ขอ บงั คับน้ีเรียกวา “ขอ บังคบั สภาวศิ วกร วาดวยการเลือกและการเลือกต้ังกรรมการ
สภาวิศวกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑”

ขอ ๒ ขอ บังคับนี้ใหใ ชบ ังคับตั้งแตว ันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลิกความในขอ ๒๔ ของขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือกและ
การเลอื กต้ังกรรมการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ ชความตอไปนีแ้ ทน
“ขอ ๒๔ กรรมการสภาวิ ศวกรจากสมาชิ กสามั ญท่ี มิ ได ดํ ารงตํ าแหน งคณาจารย ใน
สถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาจํานวนสิบคน ตามมาตรา ๒๔ (๑) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดแก
(๑) ผูไดรบั เลอื กตง้ั ที่ไดคะแนนสูงสุดในแตล ะสาขาวิชาชพี วิศวกรรมควบคมุ
(๒) ผูไดรับเลือกต้ังในแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ท่ีไดคะแนนสูง รองจาก (๑)
เรยี งตามลาํ ดบั เปน ผไู ดร บั การเลือกตง้ั ของจาํ นวนกรรมการทเ่ี หลอื อยู
สาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในแตละสาขาไดรับการเลือกตั้งไดไมเกินสองคน เวนแต
ในกรณีไมมีผูสมัคร หรือที่มีผูสมัครแตไมครบทุกสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ใหผูสมัครท่ีเหลือ
ท่ีไดคะแนนสูงสุดของแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมเรียงตามลําดับ เปนผูไดรับการเลือกตั้ง
ตามจํานวนกรรมการ
กรณมี ผี ไู ดค ะแนนเทากนั หลายคน ใหใชว ิธีจับสลาก”

113

เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๔ ง หนา ๒๔ ๑๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ ๔ ใหเพ่ิมความตอไปนี้เปน ขอ ๒๔/๑ ของขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือก
และการเลอื กตงั้ กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

“ขอ ๒๔/๑ กรรมการสภาวิศวกรจากสมาชิกสามัญที่ดํารงตําแหนงคณาจารยใน
สถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาจํานวนหาคน ตามมาตรา ๒๔ (๒) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดแก ผูไดรับเลือกต้ังที่ไดคะแนนสูงสุดในแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
เรียงตามลาํ ดับ

สาขาวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมในแตล ะสาขาจะมีผูไดรบั การเลอื กตงั้ ไดไมเกินหนึ่งคน เวนแต
ในกรณีที่ไมมีผูสมัคร หรือมีผูสมัครไมครบทุกสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ใหผูสมัครท่ีเหลือ
ที่ไดคะแนนสูงสุดของแตละสาขาวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมเรียงตามลําดับ เปนผูไดรับการเลือกต้ัง
ตามจํานวนกรรมการ

กรณีมผี ูไดค ะแนนเทากนั หลายคน ใหใชว ิธจี บั สลาก”

ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

วิระ มาวจิ ักขณ
นายกสภาวศิ วกร

114

เลม่ ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๘๘ ง หนา้ ๗๒ ๑ มถิ ุนายน ๒๕๕๕
ราชกจิ จานเุ บกษา

ขอ้ บังคบั สภาวิศวกร

วา่ ด้วยการเลือกและการเลือกตงั้ กรรมการสภาวศิ วกร (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๕

โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือกและการเลือกต้ัง
กรรมการสภาวิศวกร

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) และมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ อันเป็นกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บญั ญัตใิ ห้กระทําได้โดยอาศยั อาํ นาจตามบทบัญญัตแิ ห่งกฎหมาย สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่สามัญ
สภาวศิ วกร และความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกร จงึ ออกข้อบังคับไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ ข้อบังคับนีเ้ รียกวา่ “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือกและการเลือกตั้งกรรมการ
สภาวศิ วกร (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๕”

ขอ้ ๒ ข้อบังคับนใ้ี ห้ใชบ้ ังคบั ตั้งแตว่ ันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในขอ้ ๑๗ ของขอ้ บังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือกและการเลือกต้ัง
กรรมการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และให้ใช้ความต่อไปน้แี ทน
“ข้อ ๑๗ ให้คณะกรรมการอํานวยการเลือกต้ังดําเนินการจัดส่งบัตรเลือกตั้ง พร้อมเอกสาร
แนะนําวิธีการลงคะแนนเลอื กตง้ั และซองทีจ่ า่ หน้าสง่ ไปที่ตู้ไปรษณีย์ท่ีผู้อํานวยการเลือกตั้งเช่าไว้สําหรับ
การเลือกต้งั เพือ่ สง่ กลบั ถึงสํานักงานสภาวิศวกร โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ณ ที่อย่ปู ัจจุบนั ซง่ึ บุคคลดงั กลา่ วใหไ้ วต้ ่อสํานักงานสภาวิศวกร รวมทั้งแจ้งกําหนดวันและเวลาการเปิดตู้ไปรษณีย์
เพ่ือนบั คะแนนเลอื กตง้ั ใหท้ ราบลว่ งหนา้ ไมน่ อ้ ยกวา่ สามสบิ วนั ”
ขอ้ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๑ วรรคสอง ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลือก
และการเลอื กตัง้ กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนีแ้ ทน
“การนับคะแนนในวันนับคะแนนเลือกตั้ง เมื่อเริ่มดําเนินการแล้ว ให้ดําเนินการต่อเนื่องไป
จนกว่าจะแลว้ เสรจ็ ”

ประกาศ ณ วันท่ี ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เรอื งศกั ดิ์ วชั รพงศ์
นายกสภาวศิ วกร

115

หน้า ๗๔ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา

ขอ้ บงั คบั สภาวิศวกร

ว่าด้วยการเลอื กและการเลอื กตง้ั กรรมการสภาวิศวกร (ฉบบั ท่ี ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าดว้ ยการเลือกและการเลือกต้งั
กรรมการสภาวศิ วกร เพือ่ รองรับการเลือกต้งั ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ อนั จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชกิ สามญั
ของสภาวศิ วกรผู้มสี ิทธิเลือกตั้งในการแสดงความจานงเลือกใชส้ ทิ ธลิ งคะแนนเลอื กตัง้ แบบอิเล็กทรอนกิ ส์
แทนวิธีการลงคะแนนแบบเดมิ ทางไปรษณีย์

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) และมาตรา ๓๒ แหง่ พระราชบัญญัตวิ ิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติทปี่ ระชุมใหญส่ ามญั สภาวิศวกร เมือ่ วนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔
และโดยความเห็นชอบของสภานายกพเิ ศษแห่งสภาวศิ วกรออกข้อบังคับไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ขอ้ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการเลอื กและการเลือกต้ัง
กรรมการสภาวิศวกร (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ขอ้ ๒ ข้อบงั คบั นี้ใหใ้ ชบ้ ังคบั ตง้ั แตว่ ันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในวรรคสองของขอ้ ๑๖ ของขอ้ บงั คับสภาวิศวกร วา่ ด้วยการเลอื ก
และการเลือกตัง้ กรรมการสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ช้ความต่อไปนแ้ี ทน
“การเลอื กตงั้ กรรมการให้ดาเนินการเลือกตง้ั ทางไปรษณีย์ หรอื โดยวธิ ีอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ก็ได้”

ประกาศ ณ วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารยส์ ชุ ชั วีร์ สุวรรณสวัสดิ์
นายกสภาวศิ วกร

116

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๙๒ ง หนา ๘ ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๕๒
ราชกิจจานุเบกษา

ขอ บังคับสภาวิศวกร

วา ดวยการเลอื กกรรมการเพื่อดาํ รงตาํ แหนงนายกสภาวิศวกรและอุปนายกสภาวิศวกร
และการเลือกหรอื การเลือกตง้ั กรรมการแทนตาํ แหนง กรรมการทวี่ างลง
พ.ศ. ๒๕๕๒

โดยทเ่ี ปน การสมควรปรบั ปรุงขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการเลือกกรรมการเพ่ือดํารงตําแหนง
นายกสภาวิศวกรและอุปนายกสภาวิศวกร และการเลือกหรือการเลือกต้ังกรรมการแทนตําแหนง
กรรมการทีว่ างลง

อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ค) ประกอบกบั มาตรา ๓๒ แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ อนั เปน พระราชบญั ญตั ทิ มี่ บี ทบัญญตั บิ างประการเก่ยี วกบั การจํากดั สิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญตั ใิ หกระทําไดโดยอาศัยอาํ นาจตามบทบัญญัติแหง กฎหมาย สภาวศิ วกรโดยมติท่ีประชุมใหญวิสามัญ
คร้ังที่ ๑/๒๕๕๑ เมื่อวันท่ี ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษ
แหง สภาวิศวกร จึงออกขอบังคับไว ดงั ตอ ไปน้ี

ขอ ๑ ขอบงั คับนเ้ี รยี กวา “ขอบังคบั สภาวิศวกร วา ดวยการเลอื กกรรมการเพือ่ ดํารงตําแหนง
นายกสภาวิศวกรและอุปนายกสภาวิศวกร และการเลือกหรือการเลือกต้ังกรรมการแทนตําแหนง
กรรมการทีว่ า งลง พ.ศ. ๒๕๕๒”

ขอ ๒ ขอ บังคบั นี้ใหใชบ ังคับตัง้ แตวนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหย กเลกิ ขอบงั คบั สภาวิศวกร วา ดว ยการเลือกกรรมการเพื่อดํารงตําแหนงนายกสภา
วิศวกรและอุปนายกสภาวิศวกร การเลือกหรือการเลือกต้ังกรรมการแทนตําแหนงกรรมการท่ีวางลง
พ.ศ. ๒๕๔๓

สว นท่ี ๑
การเลอื กกรรมการเพ่อื ดาํ รงตาํ แหนงนายกสภาวิศวกรและอปุ นายกสภาวศิ วกร

ขอ ๔ ในวันเร่ิมวาระของการอยูในตําแหนงกรรมการ ใหคณะกรรมการเลือกกรรมการ
เพื่อดํารงตําแหนงนายกสภาวิศวกร อุปนายกสภาวิศวกรคนที่หนึ่ง อุปนายกสภาวิศวกรคนที่สอง
ตาํ แหนง ละหนง่ึ คน

117

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๙๒ ง หนา ๙ ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๕๒
ราชกจิ จานุเบกษา

ในการเลือกตามวรรคหนึ่ง ใหกรรมการซึ่งอยูในท่ีประชุมและมีอายุสูงสุดทําหนาท่ีประธาน
ในที่ประชุมเปนการช่ัวคราว และใหประธานในที่ประชุมมอบหมายใหกรรมการสองคนทําหนาที่
ชวยประธานในการนบั คะแนน

ขอ ๕ ในการเลือกกรรมการเพื่อดํารงตําแหนงนายกสภาวิศวกร กรรมการแตละคนมีสิทธิ
เสนอชอ่ื กรรมการซ่ึงอยูใ นทปี่ ระชมุ และสมควรไดรบั เลือกเปนนายกสภาวศิ วกร คนละหนง่ึ ช่อื

การเสนอชอ่ื ตามวรรคหนงึ่ ใหก รรมการเขียนชื่อและช่ือสกุลของผูท่ีตนเสนอในบัตรลงคะแนน
ลงลายมอื ชือ่ ของตนกาํ กับ แลว สง ใหป ระธาน กรรมการผูใดไมประสงคจะเสนอชื่อ ใหเขียนขอความ
ท่ีแสดงความประสงคดงั กลาว ลงลายมอื ชือ่ ของตนกํากบั แลวสง ใหประธาน

ความผิดพลาดในการสะกดช่ือและช่ือสกุลของผูท่ีไดรับการเสนอชื่อไมกระทบตอความสมบูรณ
ของการเสนอชือ่

เมือ่ กรรมการซง่ึ อยูในทปี่ ระชุมทุกคนไดด ําเนนิ การตามวรรคสองแลว ใหป ระธานในทป่ี ระชุม
และกรรมการซ่งึ ไดร บั มอบหมายตามขอ ๔ วรรคสอง ดําเนนิ การนบั คะแนน

ผูไดรับการเสนอช่ือดวยคะแนนสูงสุดเกินก่ึงหนึ่งของจํานวนกรรมการท้ังหมด ซึ่งเสนอชื่อ
และแสดงความประสงคตามวรรคสองเปน ผไู ดร บั เลือก หากไมมีผูไดรับการเสนอช่ือดวยคะแนนสูงสุด
เกินก่ึงหนึ่ง ใหมีการเลือกใหมเฉพาะผูไดรับการเสนอช่ือดวยคะแนนสูงสุดสองลําดับแรก และให
ผไู ดรับการเสนอชอ่ื ดวยคะแนนสงู สุดของจํานวนกรรมการทัง้ หมดซึ่งเสนอชื่อและแสดงความประสงค
ตามวรรคสองในรอบนี้เปนผูไดรบั เลือก แตถ าในรอบน้ีมีผูไดรับการเสนอช่ือดวยคะแนนสูงสุดเทากัน
ใหป ระธานในทปี่ ระชุมออกเสียงเพิม่ ข้ึนอีกเสยี งหนง่ึ เปนเสียงช้ขี าด

ในกรณตี ามวรรคหา หากประธานในท่ีประชุมเปนผูไดรับการเสนอช่ือและไดคะแนนสูงสุด
เทากันกับผูไดรับการเสนอช่ือรายอื่น ประธานในที่ประชุมไมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง
เปนเสียงช้ีขาด และตองมีการลงคะแนนใหมระหวางผูไดรับการเสนอชื่อดังกลาว โดยใหกรรมการ
ซึ่งอยใู นทปี่ ระชุมและมอี ายุสูงสุดถดั ลงมา และมิใชผูไดรับการเสนอชอ่ื ทาํ หนาที่ประธานในที่ประชุม
เปนการชั่วคราวแทนเฉพาะการเลือกกรรมการตามวรรคน้ี และถาในรอบน้ีมีผูไดรับการเสนอชื่อ
ดว ยคะแนนสงู สุดเทา กันอกี ใหป ระธานชัว่ คราวออกเสียงเพ่ิมขนึ้ อกี เสยี งหน่งึ เปน เสยี งชี้ขาด

ถามีผูไดรับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว ไมวาจะมีการแสดงความประสงคไมเสนอชื่อดวยหรือไม
ใหถือวาผนู นั้ ไดร ับเลือก

ขอ ๖ ในการเลอื กอุปนายกสภาวศิ วกรคนทห่ี นึง่ และอุปนายกสภาวศิ วกรคนท่สี อง ใหดําเนินการ
ตามขอ ๕ โดยอนุโลม

118

เลม ๑๒๖ ตอนพเิ ศษ ๙๒ ง หนา ๑๐ ๓๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๒
ราชกิจจานุเบกษา

สว นที่ ๒
การเลอื กหรือการเลอื กตง้ั กรรมการแทนตาํ แหนง กรรมการที่วางลง

ขอ ๗ เมื่อตําแหนงกรรมการซึ่งไดรับเลือกตั้งตามมาตรา ๒๔ (๑) หรือ (๒)
แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ วางลงกอนครบวาระ และตองมีการเลือกกรรมการแทน
ใหคณะกรรมการประชุมเพื่อเลือกสมาชิกผูมีคุณสมบัติและไมมีลักษณะตองหาม ตามมาตรา ๒๗
แหงพระราชบัญญัติดังกลาวเปนกรรมการแทน แลวแตกรณี ทั้งน้ี ผูไดรับการเสนอช่ือตองเปน
ผูไดรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในสาขาวิศวกรรมเดียวกันกับตําแหนงกรรมการ
ท่ีวางลง

การเลือกตามวรรคหนึ่ง ใหด ําเนนิ การตามขอ ๕ โดยอนุโลม
ขอ ๘ ในการประชุมใหญเพอ่ื เลอื กตง้ั กรรมการแทนตําแหนงกรรมการท่ีวางลง สมาชิกสามัญ
ซึ่งเขาประชุมแตละคนมีสิทธิเสนอชื่อสมาชิกสามัญซึ่งอยูในท่ีประชุมไมเกินจํานวนกรรมการท่ีวางลง
ตอ ทป่ี ระชมุ เพือ่ เลือกตั้งขน้ึ เปนกรรมการแทน และตองมีสมาชิกสามัญรับรองการเสนอชื่อไมนอยกวา
หาสบิ คน
การลงมตเิ ลือกผูไดรบั การเสนอชอื่ เปนกรรมการแทนตําแหนงกรรมการท่วี า งลงใหเปนไปตาม
ขอ บงั คบั สภาวิศวกรวา ดว ยการประชุมใหญสภาวศิ วกร

ประกาศ ณ วันท่ี ๒๙ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๒
วริ ะ มาวจิ กั ขณ
นายกสภาวิศวกร

119

120

121

122

123

124

125

126

127

เลม ๑๒๔ ตอนพเิ ศษ ๒๓ ง หนา ๔๖ ๒๘ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๐
ราชกจิ จานุเบกษา

ขอบงั คับสภาวิศวกร

วาดวยการประชุมใหญสภาวิศวกร (ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๐

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ญ) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
สภาวิศวกรโดยมติทป่ี ระชุมใหญว ิสามัญ ครั้งท่ี ๑/๒๕๔๙ เม่ือวันท่ี ๒๕ กันยายน ๒๕๔๙ และโดย
ความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวศิ วกร จงึ ออกขอบงั คับไว ดังตอ ไปนี้

ขอ ๑ ขอบังคับน้ีเรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการประชุมใหญสภาวิศวกร
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐”

ขอ ๒ ขอบังคับนใ้ี หใชบ งั คบั ตง้ั แตว ันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตน ไป
ขอ ๓ ใหยกเลิกความในขอ ๘ แหงขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยการประชุมใหญ
สภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชความตอไปนแี้ ทน
“ขอ ๘ ใหคณะกรรมการมีหนังสือนัดประชุมแจงวัน เวลา สถานท่ี และระเบียบวาระ
การประชุมไปยงั สมาชกิ โดยทางไปรษณียตามทีอ่ ยูทไี่ ดแ จงไวตอสภาวิศวกรและใหประกาศ วัน เวลา
สถานที่ และระเบียบวาระการประชุมในระบบสารสนเทศของสภาวิศวกรและในหนังสือพิมพรายวัน
ท่ีแพรห ลายทั่วราชอาณาจกั รไมน อ ยกวาหนงึ่ ฉบับเปน เวลาสามวันตดิ ตอ กนั
การแจงและการประกาศตามวรรคหน่งึ ตองกระทํากอนวันประชุมใหญไมนอยกวาสิบหาวัน
และใหสงเอกสารประกอบการประชุมไปในคราวเดียวกันไป หรือจัดสงเอกสารการประชุมลวงหนา
ใหสมาชกิ กอนวันประชมุ ใหญไมน อ ยกวาสามวัน
เอกสารประกอบการประชุมตามวรรคสองอาจทําในรปู ขอ มูลอิเล็กทรอนิกสกไ็ ด
ในกรณีท่มี กี ารจดั ทําเอกสารประกอบการประชุมในรปู ขอมูลอิเล็กทรอนิกส คณะกรรมการ
ตอ งเผยแพรข อมูลดังกลาวในระบบสารสนเทศของสภาวิศวกรลว งหนากอ นวันประชุมใหญไมนอยกวา
สามวัน และตองเปดใหสมาชกิ สามารถทาํ สาํ เนาขอ มลู นนั้ ผา นระบบสารสนเทศของสภาวิศวกรไดโดย
ไมเสียคา ธรรมเนียม

128

เลม ๑๒๔ ตอนพเิ ศษ ๒๓ ง หนา ๔๗ ๒๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๐
ราชกิจจานเุ บกษา

ใหคณะกรรมการสงหนังสือนัดประชุมและเอกสารประกอบการประชุมในรูปเอกสาร
สิง่ พมิ พไ ปยังผูต รวจลวงหนากอนการประชุมไมนอยกวาหนึง่ วัน”

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๓ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๐
วิระ มาวจิ กั ขณ
นายกสภาวิศวกร

129

หน้า ๗๐ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ข้อบงั คบั สภาวิศวกร

วา่ ดว้ ยการประชมุ ใหญส่ ภาวศิ วกร (ฉบับท่ี ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยทเี่ ป็นการสมควรแกไ้ ขเพ่ิมเติมข้อบงั คบั สภาวิศวกร ว่าด้วยการประชมุ ใหญ่สภาวศิ วกร
พ.ศ. ๒๕๔๓ และขอ้ บงั คับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
เพอื่ ให้สามารถจดั สง่ หนงั สือนัดประชุม และเอกสารประกอบวาระการประชมุ ผา่ นระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ญ) แห่งพระราชบัญญัติวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒
สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวศิ วกร เมอื่ วนั ที่ ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔ และโดยความเห็นชอบ
ของสภานายกพเิ ศษแหง่ สภาวิศวกรออกขอ้ บังคบั ไว้ ดงั ต่อไปนี้

ข้อ ๑ ข้อบังคับนีเ้ รียกว่า “ข้อบังคับสภาวศิ วกร ว่าด้วยการประชมุ ใหญ่สภาวศิ วกร
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ขอ้ ๒ ขอ้ บังคบั นใ้ี ห้ใชบ้ งั คบั ตั้งแต่วนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ใหย้ กเลิกความในข้อ ๘ ของขอ้ บงั คับสภาวศิ วกร วา่ ด้วยการประชุมใหญส่ ภาวศิ วกร
พ.ศ. ๒๕๔๓ ซง่ึ แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยข้อบงั คับสภาวศิ วกร วา่ ดว้ ยการประชุมใหญส่ ภาวศิ วกร (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปนแ้ี ทน
“ขอ้ ๘ การนัดประชมุ การเชญิ ประชุม การสง่ เอกสารการประชุม และการแจ้งมติทีป่ ระชมุ
ให้คณะกรรมการมีหนังสือนัดประชุมแจ้งวัน เวลา สถานที่ และระเบยี บวาระการประชมุ พร้อมเอกสาร
ประกอบการประชมุ ไปยังสมาชกิ ก่อนวนั ประชุมใหญไ่ มน่ อ้ ยกวา่ สบิ หา้ วนั ผา่ นระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ สก์ ไ็ ด้
ท้งั น้ี ไมร่ วมถงึ การดาเนนิ การประชุม”
ขอ้ ๔ ใหเ้ พ่ิมความตอ่ ไปนเ้ี ป็นวรรคสองของข้อ ๑๕ ของข้อบงั คบั สภาวิศวกร วา่ ด้วย
การประชุมใหญส่ ภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓
“ในการแจง้ บันทึกรายงานการประชุมตามวรรคหนง่ึ จะใชว้ ธิ ีผ่านระบบทางอิเลก็ ทรอนิกส์
ด้วยกไ็ ด้”

ประกาศ ณ วนั ท่ี 9 กนั ยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารยส์ ชุ ัชวรี ์ สวุ รรณสวสั ด์ิ
นายกสภาวศิ วกร

130

เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๕๔ ง หนา้ ๒ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙
ราชกิจจานุเบกษา

ข้อบงั คบั สภาวศิ วกร

ว่าดว้ ยคณุ สมบัติ วาระการดํารงตาํ แหน่ง
และการพ้นจากการดํารงตําแหน่งของผู้ตรวจสภาวิศวกร

พ.ศ. ๒๕๕๙

โดยทีเ่ ปน็ การสมควรปรับปรุงข้อบังคับสภาวศิ วกรว่าด้วยการกําหนดคณุ สมบตั ขิ องผ้ตู รวจสภาวิศวกร
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (จ) และมาตรา ๒๐ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ
วิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติท่ีประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งท่ี ๑/๒๕๕๗ เมื่อวันท่ี
๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแห่งสภาวิศวกร ออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยคุณสมบัติ วาระการดํารงตําแหน่ง
และการพ้นจากการดํารงตําแหนง่ ของผตู้ รวจสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๙”
ขอ้ ๒ ข้อบงั คับนใ้ี หใ้ ช้บงั คับตั้งแตว่ ันถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดคุณสมบัติของผู้ตรวจการสภาวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๓

หมวด ๑
คณุ สมบัติ

ข้อ ๔ ผู้ตรวจสภาวิศวกรซ่ึงแต่งต้ังจากสมาชิกสภาวิศวกรต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ และไม่มี
ลกั ษณะต้องห้าม ดงั ต่อไปนี้

(๑) มีอายไุ มต่ ํา่ กวา่ สส่ี ิบปบี ริบรู ณใ์ นวนั ท่ีได้รับการแตง่ ตงั้
(๒) มสี ญั ชาตไิ ทย
(๓) ไม่มีความประพฤติเส่ือมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี หรือไม่ได้กระทําการใด ๆ
อนั ไม่นา่ ไว้วางใจในความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต
(๔) ไม่เคยต้องคําพิพากษาให้จําคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงท่ีสุดหรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่
เป็นกรณีที่คดียังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทําโดยประมาท ความผิดลหุโทษ
หรือความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาท
(๕) ไมเ่ ปน็ บคุ คลลม้ ละลาย หรอื เคยเป็นบคุ คลล้มละลายทุจริต
(๖) ไม่เปน็ ผูว้ ิกลจริตหรือจิตฟ่ันเฟือนไม่สมประกอบ
(๗) ไมเ่ คยถกู ลงโทษฐานประพฤติผดิ จรรยาบรรณ
(๘) ไมเ่ คยถกู ท่ปี ระชมุ ใหญส่ ภาวศิ วกรมีมติให้พน้ จากตําแหน่งผตู้ รวจสภาวิศวกร
(๙) ไม่เปน็ กรรมการหรือเจ้าหนา้ ที่สภาวิศวกร

131

เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๕๔ ง หน้า ๓ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙
ราชกจิ จานุเบกษา

ในกรณีผู้ตรวจสภาวิศวกรซึ่งแต่งตั้งจากบุคคลภายนอกต้องเป็นผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ
และประสบการณ์เป็นท่ีประจักษ์ ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์หรือศาสตร์สาขาอ่ืนที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่
ผู้ตรวจสภาวิศวกร ท้ังน้ี ในกรณีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามให้นําความในวรรคหน่ึง มาใช้บังคับ
โดยอนโุ ลม

หมวด ๒
วาระการดาํ รงตําแหนง่

ขอ้ ๕ ผู้ตรวจสภาวิศวกรมีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละสามปี และอาจได้รับแต่งต้ังใหม่
แตจ่ ะดาํ รงตําแหนง่ เกินสองวาระตดิ ตอ่ กนั ไม่ได้

ในกรณีไม่มีผู้ตรวจสภาวิศวกรเหลืออยู่ ให้ผู้ตรวจสภาวิศวกรที่พ้นจากตําแหน่งตามวาระปฏิบัติ
หน้าทตี่ ่อไป จนกวา่ จะมีการแตง่ ตัง้ ผ้ตู รวจสภาวศิ วกรใหม่

หมวด ๓
การพน้ จากตาํ แหนง่

ข้อ ๖ นอกจากการพน้ จากตําแหนง่ ตามวาระ ผ้ตู รวจสภาวิศวกรพน้ จากตาํ แหนง่ เม่อื
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบตั หิ รอื มีลกั ษณะตอ้ งห้ามตามข้อ ๔
(๔) ท่ีประชุมใหญ่สภาวิศวกรมีมติให้พ้นจากตําแหน่งผู้ตรวจสภาวิศวกรด้วยคะแนนเสียง
ไมน่ ้อยกว่าสองในสามของจํานวนสมาชิกสามัญทมี่ าประชุม

บทเฉพาะกาล

ขอ้ ๗ ให้ผู้ตรวจการสภาวิศวกรตามข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดคุณสมบัติของ
ผู้ตรวจการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ ซ่ึงดํารงตําแหน่งอยู่ก่อนวันท่ีข้อบังคับน้ีใช้บังคับ ให้คงดํารงตําแหน่ง
และปฏบิ ัตหิ น้าทีต่ อ่ ไปจนกวา่ จะส้ินสุดวาระ

ในระหว่างที่การแต่งต้ังผู้ตรวจสภาวิศวกรตามข้อบังคับนี้ยังไม่แล้วเสร็จให้ผู้ตรวจการสภาวิศวกร
ตามข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการกําหนดคุณสมบัติของผู้ตรวจการสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ ปฏิบัติหน้าที่
ตอ่ ไปจนกวา่ จะมีการแตง่ ต้ังผตู้ รวจสภาวิศวกรตามขอ้ บงั คับน้ี

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๙ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวิศวกร

132

133

134

135

หน้า ๖๒ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกจิ จานุเบกษา

ข้อบงั คับสภาวิศวกร

วา่ ด้วยการรับสมัครเป็นสมาชกิ สามญั ของสภาวศิ วกร (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยทเ่ี ปน็ การสมควรแก้ไขเพ่ิมเตมิ ข้อบงั คบั สภาวศิ วกร วา่ ด้วยการรับสมคั รเป็นสมาชิกสามัญ
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ เพ่ือให้เป็นไปตามมาตรการอานวยความสะดวกและลดภาระ
แก่ประชาชนผ้มู าติดต่อ โดยไมเ่ รียกเกบ็ สาเนาเอกสารท่ีทางราชการออกให้ ตามมติคณะรัฐมนตรี
ในคราวประชุม เมอื่ วนั ท่ี ๒ ตลุ าคม ๒๕๖๑ รวมถึงเพอื่ เปน็ การอานวยความสะดวกและเพ่มิ ประสทิ ธิภาพ
ในการให้บรกิ ารของสภาวศิ วกรผา่ นธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์

อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) และมาตรา ๑๑ แหง่ พระราชบัญญัติวศิ วกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมตทิ ปี่ ระชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร เมอื่ วนั ท่ี ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแหง่ สภาวิศวกรออกขอ้ บงั คบั ไว้ ดังตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ ข้อบงั คบั น้เี รียกวา่ “ขอ้ บังคับสภาวศิ วกร วา่ ดว้ ยการรบั สมคั รเปน็ สมาชิกสามัญ
ของสภาวศิ วกร (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ขอ้ ๒ ข้อบังคบั นี้ให้ใชบ้ งั คบั ต้งั แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป
ขอ้ ๓ ใหย้ กเลิกความในข้อ ๖ ของข้อบงั คับสภาวิศวกร วา่ ด้วยการรับสมคั รเป็นสมาชิกสามัญ
ของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนีแ้ ทน
“ขอ้ ๖ ผ้สู มัครเปน็ สมาชิก ตอ้ งยน่ื ใบสมัครตามแบบทคี่ ณะกรรมการสภาวศิ วกรกาหนดต่อ
สานักงานสภาวิศวกร พรอ้ มดว้ ยหลกั ฐาน ดงั นี้
(๑) สาเนาหลกั ฐานการศึกษา
(๒) รปู ถา่ ยปจั จุบัน ไม่เกนิ ๑๒ เดือน หน้าตรงไม่สวมหมวก ไมส่ วมแว่นดา ขนาดกวา้ ง
๒.๕ เซนติเมตร สงู ๓.๕ เซนตเิ มตร จานวน ๒ รปู
(๓) ใบรบั รองแพทย์ตามแบบทแ่ี พทยสภารับรอง”
ข้อ ๔ ให้เพ่มิ ความต่อไปนเี้ ปน็ หมวด ๔ ธุรกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ และข้อ ๑๐ ของขอ้ บงั คบั
สภาวศิ วกร วา่ ด้วยการรับสมคั รเป็นสมาชิกสามญั ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓

“หมวด ๔
ธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

ข้อ ๑๐ คาขอ ใบสมัคร การอนุญาต ทะเบียนสมาชิก คาสั่งทางปกครอง หรือ
การดาเนินการใด ๆ ตามข้อบงั คับนี้ ถ้าไดก้ ระทาในรูปของข้อมูลและธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ให้ถือวา่
ใช้บังคบั ไดแ้ ละมผี ลโดยชอบดว้ ยข้อบังคบั น้ี ท้ังน้ี หลักเกณฑใ์ หเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายว่าดว้ ยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์”

136

หน้า ๖๓ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา

ข้อ ๕ ใบสมคั รสมาชิกทไ่ี ด้ยน่ื ไว้ก่อนวนั ท่ีข้อบังคับนี้มีผลใชบ้ งั คบั และยงั อยใู่ นระหวา่ ง
การพิจารณา ให้ดาเนนิ การต่อไปจนกว่าจะแลว้ เสร็จตามขอ้ บังคบั สภาวศิ วกร วา่ ดว้ ยการรบั สมัคร
เป็นสมาชิกสามญั ของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

ประกาศ ณ วนั ท่ี 9 กนั ยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สชุ ชั วรี ์ สวุ รรณสวสั ด์ิ
นายกสภาวศิ วกร

137

138

139

140

หน้า ๖๔ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานเุ บกษา

ขอ้ บงั คบั สภาวศิ วกร

วา่ ด้วยการรับสมัครเปน็ สมาชกิ วสิ ามญั ของสภาวศิ วกร (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยท่ีเปน็ การสมควรแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ขอ้ บังคบั สภาวศิ วกร วา่ ด้วยการรับสมคั รเป็นสมาชกิ วสิ ามญั
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการอานวยความสะดวกและลดภาระ
แก่ประชาชนผ้มู าติดต่อ โดยไม่เรียกเก็บสาเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ ตามมติคณะรัฐมนตรี
ในคราวประชมุ เม่ือวันท่ี ๒ ตุลาคม ๒๕๖๑ รวมถงึ เพือ่ เปน็ การอานวยความสะดวกและเพ่มิ ประสิทธิภาพ
ในการให้บริการของสภาวิศวกรผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนกิ ส์

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๒ วรรคสอง
แหง่ พระราชบญั ญัตวิ ศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวศิ วกรโดยมตทิ ป่ี ระชมุ ใหญส่ ามญั สภาวศิ วกร เมือ่ วนั ท่ี
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแหง่ สภาวิศวกรออกข้อบงั คับไว้
ดงั ตอ่ ไปน้ี

ข้อ ๑ ขอ้ บังคบั น้ีเรยี กว่า “ข้อบงั คบั สภาวศิ วกร ว่าดว้ ยการรบั สมคั รเปน็ สมาชกิ วิสามัญ
ของสภาวิศวกร (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔”

ข้อ ๒ ขอ้ บังคบั น้ีให้ใชบ้ ังคบั ต้งั แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ความในข้อ ๕ ของขอ้ บงั คบั สภาวิศวกร วา่ ดว้ ยการรับสมัครเป็นสมาชกิ วสิ ามัญ
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ้ ช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๕ ผสู้ มัครเปน็ สมาชิก ตอ้ งยนื่ ใบสมคั รตามแบบท่ีคณะกรรมการสภาวศิ วกรกาหนดต่อ
สานักงานสภาวิศวกร พร้อมดว้ ยหลกั ฐาน ดังนี้
(๑) สาเนาหนังสือเดินทางสาหรบั ชาวต่างประเทศ
(๒) สาเนาหลักฐานการศกึ ษา
(๓) หนงั สือรับรองวา่ เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ิงานเกยี่ วขอ้ งกับวชิ าชีพวิศวกรรม โดยมผี ไู้ ด้รับใบอนญุ าต
ประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ต้ังแตร่ ะดบั สามญั วศิ วกรข้นึ ไปเปน็ ผลู้ งนามรับรอง
(๔) รูปถ่ายปัจจบุ ัน ไมเ่ กนิ ๑๒ เดือน หน้าตรงไม่สวมหมวก ไมส่ วมแว่นดา ขนาดกวา้ ง
๒.๕ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร จานวน ๒ รูป
(๕) ใบรับรองแพทย์ตามแบบทแ่ี พทยสภารับรอง”
ข้อ ๔ ใหเ้ พิ่มความต่อไปนเี้ ปน็ หมวด ๕ ธรุ กรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ และขอ้ ๙ ของข้อบงั คบั
สภาวศิ วกร วา่ ด้วยการรบั สมคั รเป็นสมาชกิ วิสามญั ของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

141

หน้า ๖๕ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔
เล่ม ๑๓๘ ตอนพเิ ศษ ๒๒๔ ง ราชกจิ จานเุ บกษา

“หมวด ๕
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ ๙ คาขอ ใบสมัคร การอนุญาต ทะเบียนสมาชิก คาส่ังทางปกครอง หรือ
การดาเนินการใด ๆ ตามขอ้ บังคบั นี้ ถา้ ได้กระทาในรูปของข้อมูลและธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ใหถ้ อื ว่า
ใชบ้ ังคบั ได้และมีผลโดยชอบด้วยขอ้ บังคับน้ี ทัง้ นี้ หลักเกณฑใ์ ห้เปน็ ไปตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม
ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์”

ขอ้ ๕ ใบสมัครสมาชิกทไี่ ด้ย่ืนไว้กอ่ นวันทข่ี ้อบังคบั นี้มผี ลใชบ้ งั คบั และยังอยู่ในระหวา่ ง
การพจิ ารณา ใหด้ าเนินการต่อไปจนกว่าจะแลว้ เสร็จตามขอ้ บงั คบั สภาวิศวกร วา่ ดว้ ยการรบั สมัคร
เป็นสมาชกิ วิสามญั ของสภาวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๓

ประกาศ ณ วนั ที่ 9 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สชุ ชั วีร์ สวุ รรณสวสั ดิ์
นายกสภาวิศวกร


Click to View FlipBook Version