42
๑๖
มาตรา ๖๖ สถาบันการเงินใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๐ ต้องระวางโทษ
ปรบั ไมเ่ กินหา้ แสนบาท และปรบั อีกไม่เกนิ วันละห้าพนั บาทตลอดเวลาท่ยี ังฝา่ ฝนื
ในกรณที ี่การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนึง่ เกิดจากการส่งั การหรอื การกระทาํ
ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ หรอื บุคคลใดซึง่ รบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของสถาบันการเงนิ นนั้
หรือในกรณีที่บคุ คลดังกลา่ วมหี น้าทต่ี ้องสง่ั การหรอื กระทาํ การและละเว้นไม่ส่ังการหรอื ไม่กระทาํ การ
จนเปน็ เหตุให้สถาบันการเงินน้นั กระทําความผิด ผนู้ ้ันต้องรบั โทษตามทีบ่ ัญญัตไิ วใ้ นวรรคหน่งึ ด้วย”
๗๐. พระราชบัญญตั ิการดแู ลผลประโยชน์ของคสู่ ญั ญา พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๕๐ ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดในส่วนท่ี ๒ นี้ ยกเว้นมาตรา ๔๘ เป็นนิติบุคคล
ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลน้ันเกิดจากการสั่งการหรือการกระทําของกรรมการ หรือผู้จัดการ
หรอื บคุ คลใดซึ่งรบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของนิติบคุ คลน้นั หรอื ในกรณที ีบ่ ุคคลดงั กล่าวมีหน้าท่ี
ต้องสง่ั การหรือกระทําการและละเว้นไมส่ ง่ั การหรอื ไม่กระทําการจนเปน็ เหตุใหน้ ติ ิบุคคลนั้น
กระทําความผิด ผ้นู ัน้ ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาํ หรับความผดิ น้นั ๆ ด้วย”
๗๑. พระราชบัญญัตมิ าตรฐานสนิ คา้ เกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๗๖ ในกรณที ี่ผกู้ ระทําความผิดเป็นนิตบิ คุ คล ถ้าการกระทํา
ความผดิ ของนิติบคุ คลนัน้ เกดิ จากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผจู้ ัดการ
หรอื บุคคลใดซ่ึงรบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ ุคคลนน้ั หรือในกรณีทีบ่ คุ คลดังกล่าว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผิด ผูน้ ั้นต้องรบั โทษตามที่บัญญัติไวส้ าํ หรบั ความผดิ นั้น ๆ ด้วย”
๗๒. พระราชบัญญตั ิการมาตรฐานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๕๘ ในกรณีท่ีผู้กระทําความผดิ เปน็ นติ ิบุคคล ถา้ การกระทํา
ความผิดของนติ ิบคุ คลนั้นเกิดจากการสงั่ การหรอื การกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จัดการ
หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนนิ งานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บคุ คลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องสั่งการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผดิ ผนู้ น้ั ต้องรบั โทษตามทบี่ ญั ญตั ิไวส้ าํ หรับความผดิ นัน้ ๆ ด้วย”
๗๓. พระราชบญั ญตั ิภาพยนตรแ์ ละวีดทิ ัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๘๕ ในกรณีทีผ่ กู้ ระทําความผดิ ซ่ึงต้องรับโทษอาญาตามสว่ นนี้
เป็นนิตบิ คุ คล ถา้ การกระทาํ ความผดิ ของนิตบิ ุคคลนั้นเกดิ จากการส่งั การหรือการกระทาํ
ของกรรมการ หรอื ผจู้ ดั การ หรอื บุคคลใดซ่ึงรบั ผดิ ชอบในการดําเนนิ งานของนติ บิ ุคคลน้นั
หรือในกรณที ีบ่ ุคคลดังกล่าวมหี นา้ ที่ตอ้ งส่งั การหรอื กระทําการและละเว้นไมส่ ง่ั การหรือไมก่ ระทําการ
จนเปน็ เหตใุ หน้ ิตบิ ุคคลนั้นกระทาํ ความผดิ ผนู้ ้ันต้องรับโทษตามท่บี ัญญัตไิ ว้สาํ หรบั ความผดิ
น้ัน ๆ ดว้ ย”
43
๑๗
๗๔. พระราชบัญญัตเิ ครอื่ งมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๑๒๒ ในกรณีท่ผี ้กู ระทาํ ความผิดเปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผิดของนติ บิ คุ คลนัน้ เกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ ของกรรมการ หรอื ผู้จดั การ
หรอื บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของนติ บิ คุ คลนั้น หรอื ในกรณที บ่ี ุคคลดังกลา่ ว
มีหน้าท่ีต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลน้ัน
กระทาํ ความผดิ ผูน้ นั้ ต้องรบั โทษตามทีบ่ ญั ญัตไิ ว้สําหรบั ความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย”
๗๕. พระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองผรู้ ับงานไปทําท่บี ้าน พ.ศ. ๒๕๕๓
“มาตรา ๔๘ ในกรณที ่ผี ู้กระทาํ ความผดิ เปน็ นติ บิ คุ คล ถา้ การกระทาํ
ความผดิ ของนิติบุคคลนัน้ เกดิ จากการส่ังการหรือการกระทําของกรรมการ หรอื ผูจ้ ัดการ
หรือบคุ คลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาํ เนินงานของนติ บิ ุคคลน้ัน หรอื ในกรณที บ่ี ุคคลดงั กลา่ ว
มีหน้าที่ต้องส่ังการหรือกระทําการและละเว้นไม่ส่ังการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น
กระทาํ ความผิด ผูน้ ้ันต้องรับโทษตามที่บัญญตั ิไว้สาํ หรับความผดิ นั้น ๆ ด้วย”
๗๖. พระราชบัญญัตกิ องทนุ การออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔
“มาตรา ๖๒ ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนรายใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๕๗
วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหน่ึงแสนห้าหม่ืนบาท
จนกว่าจะได้ปฏบิ ตั ใิ ห้ถูกต้อง
ในกรณที ีก่ ารกระทําความผดิ ตามวรรคหนงึ่ เกิดจากการส่ังการหรือการกระทาํ
ของกรรมการ หรือผ้จู ัดการ หรอื บคุ คลใดซง่ึ รบั ผิดชอบในการดาํ เนินงานของผ้ไู ด้รบั มอบหมาย
ใหจ้ ดั การเงินของกองทนุ นนั้ หรอื ในกรณีทบ่ี ุคคลดงั กลา่ วมีหนา้ ท่ตี ้องสง่ั การหรอื กระทําการ
และละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนนั้น
กระทําความผดิ ผูน้ ้ันต้องระวางโทษจําคุกไมเ่ กินสามปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ สองล้านบาท หรอื ทงั้ จําท้งั ปรบั ”
44
เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๑๘ ก หน้า ๖ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคําวินิจฉัยว่า
พระราชบญั ญัตขิ ายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๕๔ เฉพาะในส่วนท่ีสันนิษฐานให้กรรมการผู้จัดการ
ผูจ้ ัดการ หรือบคุ คลใดซ่งึ รับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลน้ัน ต้องรับโทษทางอาญาร่วมกับการกระทํา
ความผิดของนิติบุคคล โดยไม่ปรากฏว่ามีการกระทําหรือเจตนาประการใดอันเกี่ยวกับการกระทําความผิดของ
นิติบุคคลน้ัน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๙ วรรคสอง
เป็นอันใช้บังคับไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ และต่อมา
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคําวินิจฉัยในลักษณะดังกล่าวทํานองเดียวกัน คือ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
มาตรา ๗๔ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๗๘ พระราชบัญญัติ
สถานบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๒๘/๔ และพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๗๒/๕ ขัดหรือแย้งต่อ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๙ วรรคสอง เป็นอันใช้บังคับไม่ได้
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ ดังน้ัน เพื่อแก้ไขบทบัญญัติของ
กฎหมายดงั กล่าวและกฎหมายอ่ืนที่มบี ทบัญญตั ใิ นลกั ษณะเดียวกนั มิให้ขัดหรอื แยง้ ตอ่ รัฐธรรมนูญ จึงจําเป็นต้อง
ตราพระราชบัญญัตนิ ้ี
‡≈¡à ÒÒ¯ µÕπ∑’Ë ÒÒ ° 45 ı 惻®°‘ “¬π ÚıÙÙ
Àπâ“ 5
√“™°®‘ ®“π‡ÿ ∫°…“
°Æ°√–∑√«ß
°”Àπ¥Õµ— √“§à“∏√√¡‡π’¬¡ ”À√—∫ºŸâª√–°Õ∫«™‘ “™’æ«»‘ «°√√¡§«∫§ÿ¡
æ.». ÚıÙÙ
Õ“»¬— Õ”π“®µ“¡§«“¡„π¡“µ√“ ı ·Àßà æ√–√“™∫≠— ≠µ— «‘ »‘ «°√ æ.». ÚıÙÚ Õπ— ‡ªπì æ√–√“™
∫≠— ≠µ— ∑‘ ¡Ë’ ∫’ ∑∫≠— ≠µ— ∫‘ “ߪ√–°“√‡°¬Ë’ «°∫— °“√®”°¥— ∑‘ ∏·‘ ≈–‡ √¿’ “æ¢Õß∫§ÿ §≈ ´ßË÷ ¡“µ√“ Ú˘ ª√–°Õ∫°∫—
¡“µ√“ Û˘ ·≈–¡“µ√“ ı ¢Õß√∞— ∏√√¡π≠Ÿ ·Àßà √“™Õ“≥“®°— √‰∑¬ ∫≠— ≠µ— „‘ À°â √–∑”‰¥‚â ¥¬Õ“»¬— Õ”π“®
µ“¡∫∑∫≠— ≠—µ·‘ Ààß°ÆÀ¡“¬ √—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß¡À“¥‰∑¬ÕÕ°°Æ°√–∑√«ß‰«â ¥—ßµàÕ‰ªπ’È
„À°â ”Àπ¥§à“∏√√¡‡π’¬¡ ¥—ßµÕà ‰ªπÈ’
(Ò) §à“„∫Õπ≠ÿ “µ‡ªìπºªâŸ √–°Õ∫«‘™“™æ’ «»‘ «°√√¡§«∫§¡ÿ
∫ÿ§§≈∏√√¡¥“
(°) √–¥∫— «ÿ≤‘«»‘ «°√ ©∫—∫≈– ı, ∫“∑
(¢) √–¥—∫ “¡—≠«»‘ «°√ ©∫—∫≈– Û,ı ∫“∑
(§) √–¥—∫¿“§’«‘»«°√ ©∫—∫≈– Ò, ∫“∑
(ß) √–¥—∫¿“§«’ ‘»«°√摇»… ©∫∫— ≈– Ò, ∫“∑
𵑠‘∫ÿ§§≈
§“à „∫Õπÿ≠“µπ‘µ‘∫§ÿ §≈ ©∫—∫≈– Ò, ∫“∑
(Ú) §à“µàÕÕ“¬ÿ„∫Õπÿ≠“µ‡ªìπºŸâª√–°Õ∫«‘™“™’æ«‘»«°√√¡§«∫§ÿ¡∑Ë’¢ÕµàÕÕ“¬ÿ„∫Õπÿ≠“µ°àÕπ
„∫Õπÿ≠“µÀ¡¥Õ“¬ÿ
∫§ÿ §≈∏√√¡¥“
(°) √–¥∫— «≤ÿ ‘«»‘ «°√ ©∫∫— ≈– Ò,ı ∫“∑
(¢) √–¥∫— “¡≠— «»‘ «°√ ©∫∫— ≈– Ò, ∫“∑
46
‡≈à¡ ÒÒ¯ µÕπ∑’Ë ÒÒ ° Àπ“â 6 ı 惻®°‘ “¬π ÚıÙÙ
√“™°®‘ ®“π‡ÿ ∫°…“
(§) √–¥—∫¿“§«’ ‘»«°√ ©∫∫— ≈– ı ∫“∑
(ß) √–¥—∫¿“§«’ »‘ «°√懑 »… ©∫—∫≈– ı ∫“∑
”À√∫— ºâŸ∑¢’Ë ÕµàÕÕ“¬ÿ„∫Õπÿ≠“µÀ≈ß— ®“°„∫Õπÿ≠“µÀ¡¥Õ“¬ÿ
„À‡â æ¡‘Ë Õ—µ√“§à“∏√√¡‡π’¬¡ ©∫∫— ≈– Ú, ∫“∑
𑵑∫ÿ§§≈
(°) §“à µÕà „∫Õπÿ≠“µπµ‘ ‘∫ÿ§§≈∑’¢Ë ÕµÕà Õ“¬ÿ„∫Õπ≠ÿ “µ
°àÕπ„∫Õπ≠ÿ “µÀ¡¥Õ“¬ÿ ©∫∫— ≈– Û, ∫“∑
(¢) §“à µÕà „∫Õπ≠ÿ “µπ‘µ∫‘ ÿ§§≈∑¢Ë’ ÕµÕà Õ“¬ÿ„∫Õπ≠ÿ “µ
À≈—ß®“°„∫Õπÿ≠“µÀ¡¥Õ“¬ÿ ©∫∫— ≈– ı, ∫“∑
(Û) §“à Àπß— Õ◊ √∫— √Õß§«“¡√§âŸ «“¡™”π“≠„π°“√ª√–°Õ∫«‘™“™’æ
«‘»«°√√¡§«∫§ÿ¡ ©∫—∫≈– ı, ∫“∑
(Ù) §à“„∫·∑π„∫Õπ≠ÿ “µÀ√◊ÕÀ≈°— ∞“π√∫— √Õß°“√‰¥√â ∫— „∫Õπ≠ÿ “µ
∫§ÿ §≈∏√√¡¥“ ©∫—∫≈– ı ∫“∑
𵑠∫‘ §ÿ §≈ ©∫∫— ≈– ı, ∫“∑
(ı) §“à ∑¥ Õ∫§«“¡√⟄π°“√ª√–°Õ∫«‘™“™æ’ «‘»«°√√¡§«∫§¡ÿ
§√—ßÈ ≈– Ò,ı ∫“∑
„À‰â «â ≥ «π— ∑’Ë Ú˘ µÿ≈“§¡ æ.». ÚıÙÙ
√âÕ¬µ”√«®‡Õ° ª√ÿ –™¬— ‡ªï¬ò ¡ ¡∫Ÿ√≥å
√—∞¡πµ√’«“à °“√°√–∑√«ß¡À“¥‰∑¬
47
‡≈à¡ ÒÒ¯ µÕπ∑Ë’ ÒÒ ° Àπâ“ 7 ı 惻®°‘ “¬π ÚıÙÙ
√“™°‘®®“π‡ÿ ∫°…“
À¡“¬‡Àµÿ :- ‡Àµÿº≈„π°“√ª√–°“»„™â°Æ°√–∑√«ß©∫—∫πÈ’ §◊Õ ‡πË◊Õß®“°Õ—µ√“§à“∏√√¡‡π’¬¡‡¥‘¡∑’˰”Àπ¥‰«âµ“¡
°Æ°√–∑√«ß∑ÕË’ Õ°‚¥¬Õ“»¬— Õ”π“®µ“¡æ√–√“™∫≠— ≠µ— «‘ ™‘ “™æ’ «»‘ «°√√¡ æ.». Úıı ´ß÷Ë ∂°Ÿ ¬°‡≈°‘ ‰ª·≈«â ·µ¬à ß— ¡’
º≈„™â∫—ß§—∫Õ¬Ÿàµ“¡∫∑‡©æ“–°“≈¢Õßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘«‘»«°√ æ.». ÚıÙÚ ‰¡à‡À¡“– ¡°—∫ ∂“π°“√≥å„πªí®®ÿ∫—π
·≈–‚¥¬∑’Ë¡“µ√“ ı ·Ààßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘«‘»«°√ æ.». ÚıÙÚ °”Àπ¥„Àâ√—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß¡À“¥‰∑¬ÕÕ°
°Æ°√–∑√«ß°”Àπ¥Õ—µ√“§“à ∏√√¡‡π’¬¡‰¡‡à °π‘ Õµ— √“∑“â ¬æ√–√“™∫—≠≠µ— ¥‘ —ß°≈“à « ®ß÷ ®”‡ªìπµâÕßÕÕ°°Æ°√–∑√«ßπÈ’
เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๘๖ ก 48 ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐
หนา ๔
ราชกิจจานเุ บกษา
กฎกระทรวง
กําหนดสาขาวชิ าชีพวิศวกรรมและวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ
พ.ศ. ๒๕๕๐
อาศัยอาํ นาจตามความในบทนยิ ามคาํ วา “วชิ าชีพวศิ วกรรม” และ “วิชาชพี วิศวกรรมควบคุม”
ในมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติวศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒ อนั เปน กฎหมายท่มี ีบทบัญญัติ
บางประการเกีย่ วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และ
มาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตาม
บทบญั ญตั แิ หง กฎหมาย รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดงั ตอไปน้ี
ขอ ๑ ใหกําหนดเพมิ่ เตมิ สาขาวศิ วกรรมดงั ตอ ไปน้ีเปนวิชาชพี วิศวกรรม
(๑) วศิ วกรรมสิง่ แวดลอม
(๒) วศิ วกรรมเคมี
ขอ ๒ ใหว ชิ าชพี วศิ วกรรมในสาขาดงั ตอไปน้ีเปน วชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุม
(๑) วศิ วกรรมโยธา
(๒) วิศวกรรมเหมอื งแร
(๓) วศิ วกรรมเครอื่ งกล
(๔) วศิ วกรรมไฟฟา
(๕) วศิ วกรรมอุตสาหการ
(๖) วศิ วกรรมสิ่งแวดลอ ม
(๗) วิศวกรรมเคมี
49
เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก หนา ๕ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
ราชกจิ จานเุ บกษา
ทั้งนี้ เฉพาะงานตามประเภทและขนาดของวิชาชีพวิศวกรรมแตละสาขาที่กําหนดไวใน
กฎกระทรวงน้ี
ขอ ๓ งานในวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุมแตล ะสาขา มีดังตอ ไปน้ี
(๑) งานใหค าํ ปรึกษา หมายถงึ การใหขอ แนะนาํ การตรวจวนิ ิจฉยั หรอื การตรวจรบั รองงาน
(๒) งานวางโครงการ หมายถึง การศึกษา การวิเคราะหหาทางเลือกที่เหมาะสม หรือ
การวางแผนของโครงการ
(๓) งานออกแบบและคํานวณ หมายถึง การใชหลักวิชาและความชํานาญเพื่อใหไดมาซ่ึง
รายละเอียดในการกอสราง การสราง การผลิต หรือการวางผังโรงงานและเครื่องจักร โดยมีรายการ
คํานวณ แสดงเปนรูป แบบ ขอกําหนด หรือประมาณการ
(๔) งานควบคุมการสรางหรือการผลิต หมายถึง การอํานวยการควบคุม หรือการควบคุม
เก่ียวกับการกอสราง การสราง การผลิต การติดต้ัง การซอม การดัดแปลง การรื้อถอนงาน หรือ
การเคลือ่ นยา ยงานใหเปนไปโดยถูกตอ งตามรูป แบบ และขอกาํ หนดของหลกั วิชาชีพวศิ วกรรม
(๕) งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การคน ควา การวิเคราะห การทดสอบ การหาขอมูล
และสถิตติ าง ๆ เพื่อใชเปนหลักเกณฑ หรือประกอบการตรวจสอบวนิ ิจฉัยงาน หรือในการสอบทาน
(๖) งานอํานวยการใช หมายถึง การอํานวยการดูแลการใช การบํารุงรักษางาน ทั้งที่เปน
ชนิ้ งานหรอื ระบบ ใหเ ปน ไปโดยถูกตอ งตามรปู แบบ และขอกาํ หนดของหลักวิชาชพี วิศวกรรม
ขอ ๔ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมโยธา
มีดังตอไปน้ี
(๑) อาคารทีม่ ีความสงู ตงั้ แต ๓ ชัน้ ข้นึ ไป หรอื โครงสรางของอาคารทชี่ ั้นใดช้ันหน่งึ มีความสูง
ตงั้ แต ๔ เมตรขึ้นไป หรอื อาคารทีม่ ชี ว งคานต้ังแต ๕ เมตรข้นึ ไป
(๒) อาคารสาธารณะทุกขนาด
(๓) คลังสินคา ไซโล หองเย็น หรอื ยุง ฉางที่มีความจตุ ัง้ แต ๑๐๐ ลูกบาศกเมตรขน้ึ ไป
(๔) โครงสรางที่มีลักษณะเปนหอ ปลอง หรือศาสนวัตถุ เชน พระพุทธรูปหรือเจดียท่ีมี
ความสูงตัง้ แต ๖ เมตรข้ึนไป
(๕) โครงสรางสะพานที่มีชวงระหวางศูนยกลางตอมอชวงใดชวงหนึ่งยาวต้ังแต ๑๐ เมตร
ขึ้นไป
(๖) ทาเทยี บเรอื หรอื อเู รือสาํ หรับเรอื ที่มรี ะวางขบั น้ําตง้ั แต ๕๐ เมตรกิ ตันข้ึนไป
เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก 50 ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
หนา ๖
ราชกจิ จานุเบกษา
(๗) ชิ้นสว นโครงสรา งคอนกรีตหลอ สําเร็จหรอื คอนกรตี อดั แรงหลอสาํ เร็จทุกชนดิ ที่มคี วามยาว
ตง้ั แต ๕ เมตรขึน้ ไป
(๘) เสาเข็มคอนกรีตท่ีมีความยาวตั้งแต ๖ เมตรข้ึนไป หรือท่ีรับนํ้าหนักบรรทุกปลอดภัย
ตง้ั แต ๓ เมตรกิ ตันขน้ึ ไป
(๙) งานเสรมิ ความมั่นคงของฐานรากทุกขนาด
(๑๐) นั่งรา นหรือคํา้ ยนั ช่ัวคราวทีม่ ีความสูงต้ังแต ๔ เมตรขน้ึ ไป
(๑๑) แบบหลอคอนกรีตสําหรับเสาที่มีความสูงตั้งแต ๔ เมตร หรือคานท่ีมีชวงคานตั้งแต
๕ เมตรขนึ้ ไป
(๑๒) โครงสรา งใตดนิ สงิ่ กอ สรา งชัว่ คราว กาํ แพงกนั ดิน คนั ดินปองกันน้ํา หรือคลองสงนํ้า
ทม่ี ีความสงู หรอื ความลกึ ตงั้ แต ๑.๕๐ เมตรข้นึ ไป
(๑๓) โครงสรา งของระบบขนสงสาธารณะ ทางรถสาธารณะ หรอื ทางว่ิงสนามบนิ ทุกขนาด
(๑๔) ทางรถไฟ ทางรถรางสาธารณะ ทางหลวง ทางสาธารณะ หรอื ทางวิ่งสนามบินทกุ ขนาด
(๑๕) เขือ่ น ฝาย อโุ มงค ทอ ระบายน้ํา หรือระบบชลประทานท่มี ีความสงู ตัง้ แต ๑.๕๐ เมตร
ข้ึนไป หรือมีความจุต้ังแต ๕๐ ลูกบาศกเมตรข้ึนไป หรือท่ีมีอัตราการไหลของนํ้าต้ังแต ๑ ลูกบาศกเมตร
ตอ วินาทขี ึน้ ไป
(๑๖) โครงสรา งทีม่ กี ารกักของไหล เชน ถงั เกบ็ นาํ้ ถงั เกบ็ นํ้ามัน อุโมงคสงน้ํา หรือสระวายนํ้า
ท่ีมีความจุตัง้ แต ๕๐ ลูกบาศกเ มตรขึน้ ไป
(๑๗) ทอ สง นาํ้ ทอระบายนํ้า หรอื ชอ งระบายนํ้าที่มีเสน ผา ศูนยกลางตัง้ แต ๐.๘๐ เมตรข้ึนไป
หรือพ้ืนท่ีหนาตัดต้ังแต ๐.๕๐ ตารางเมตรข้ึนไปและมีโครงสรางรองรับ หรือมีความยาวตั้งแต
๑๐๐ เมตรข้นึ ไป
(๑๘) ระบบชลประทานท่ีมพี นื้ ท่ชี ลประทานต้ังแต ๕๐๐ ไรตอโครงการขึน้ ไป
(๑๙) ปายหรอื สิง่ ทสี่ รา งขน้ึ สาํ หรบั ติดหรอื ตั้งปายทีม่ พี ืน้ ที่ตั้งแต ๕๐ ตารางเมตรขึ้นไปและมี
ความสงู จากพ้ืนดินต้ังแต ๑๕ เมตรขึ้นไป หรือปายหรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติดหรือต้ังปายที่มีพื้นที่
ต้งั แต ๒๕ ตารางเมตรขึ้นไปท่ตี ดิ ตัง้ อยูบนหลังคา ดาดฟา หรอื กันสาด หรอื ที่ติดกับสวนใดสวนหนึ่ง
ของอาคาร
(๒๐) อฒั จันทรท มี่ พี ื้นทต่ี ้งั แต ๑,๐๐๐ ตารางเมตรข้ึนไป
เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก 51 ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
หนา ๗
ราชกจิ จานุเบกษา
(๒๑) โครงสรา งสาํ หรบั ใชในการรบั สงหรอื ตดิ ตัง้ อปุ กรณรับสงวิทยหุ รือโทรทัศนที่มีความสูง
จากระดับฐานของโครงสรางตัง้ แต ๒๕ เมตรขึน้ ไป หรอื ทม่ี นี าํ้ หนักตัง้ แต ๒๐๐ กโิ ลกรัมขน้ึ ไป
ขอ ๕ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมเหมืองแร
มีดงั ตอไปนี้
(๑) งานเหมอื งแร ไดแ ก
(ก) การทําเหมอื งแรท ใี่ ชก าํ ลงั สงู สุดรวมกนั ตั้งแต ๖๐๐ กิโลวตั ตขนึ้ ไป
(ข) การทําเหมอื งใตดินทุกขนาด
(ค) การเจาะอุโมงคใ นเหมอื ง หรอื ปลองหรือโพรงในหนิ ทุกขนาด
(ง) งานวศิ วกรรมทม่ี ีการใชวตั ถุระเบิดทกุ ขนาด
(จ) การโม บด หรือยอ ยแรและหินท่ใี ชกาํ ลงั สูงสุดรวมกันตง้ั แต ๖๐๐ กิโลวตั ตข ึ้นไป
(ฉ) การแยกวสั ดตุ าง ๆ ออกจากของท่ใี ชแ ลว โดยใชก รรมวธิ ีทางการแตงแรทกุ ขนาด
(ช) การแตง แรท ีใ่ ชกําลังสงู สุดรวมกันต้งั แต ๑๐๐ กโิ ลวตั ตขึน้ ไป
(ซ) การประเมนิ ผลและวิเคราะหม ูลคาของแหลง แรทุกขนาด
(๒) งานโลหะการ ไดแ ก
(ก) การแยกวัสดุตาง ๆ ออกจากของทีใ่ ชแ ลว โดยใชกรรมวธิ ที างการแตงแรท ุกขนาด
(ข) การแตง แรทใี่ ชก ําลงั สูงสดุ รวมกันตั้งแต ๑๐๐ กโิ ลวตั ตขน้ึ ไป
(ค) การถลุงแรเหล็กหรือการ ผลิตเหล็กกลาที่มีกําลังการผลิตสูงสุดตั้งแ ต
๗,๐๐๐ เมตรกิ ตนั ตอปข ้ึนไป
(ง) การถลงุ แรอ ่ืน ๆ หรือการสกัดโลหะ โลหะเจือ หรือสารประกอบโลหะออกจาก
แร ตะกรัน เศษโลหะ วัสดุ หรือสารอื่นใด รวมทั้งการทําโลหะใหบริสุทธ์ิท่ีมีกําลังการผลิตสูงสุด
ต้ังแต ๑,๐๐๐ เมตริกตันตอปขึ้นไป หรืองานที่ลงทุนต้งั แตสบิ ลา นบาทข้ึนไปโดยไมรวมคา ที่ดิน
(จ) การหลอม การหลอ การแปรรปู การปรบั ปรุงคณุ สมบตั ิดวยความรอ นการตกแตงผิว
หรือการชุบเคลือบโลหะสําหรับงานท่ีใชคนงานต้ังแตสามสิบคนข้ึนไป หรืองานท่ีลงทุนต้ังแต
สิบลา นบาทขึน้ ไปโดยไมร วมคาท่ีดิน
ขอ ๖ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
มดี งั ตอไปน้ี
52
เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๘๖ ก หนา ๘ ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐
ราชกิจจานุเบกษา
(๑) งานใหคาํ ปรึกษาและงานพจิ ารณาตรวจสอบตาม (๒) (๓) (๔) หรือ (๕) ทุกประเภท
และทกุ ขนาด
(๒) งานวางโครงการ
(ก) เครื่องจักรกลท่ีมีมูลคาต้ังแตสิบลานบาทตอเครื่องข้ึนไป หรือที่มีมูลคาตั้งแตยี่สิบ
ลานบาทตอโครงการขึ้นไป หรือที่มีขนาดระบบตั้งแต ๑๐๐ กิโลวัตตรวมกันขึ้นไป หรือที่ใชงาน
ในอาคารท่ีมีพ้ืนที่ใชสอยในอาคารตงั้ แต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรขน้ึ ไป หรือทใ่ี ชง านในอาคารทีม่ ีผูใชสอย
พ้นื ที่ต้งั แตส องรอ ยคนขึ้นไป
(ข) เคร่ืองกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอื่น ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม ที่มี
มูลคาตั้งแตสิบลานบาทตอเครื่องขึ้นไป หรือท่ีมีมูลคาต้ังแตย่ีสิบลานบาทตอโครงการข้ึนไป หรือ
เคร่ืองกําเนดิ ไอนาํ้ หรอื ไออยา งอื่น หรือเตาอตุ สาหกรรมทใ่ี ชค วามรอนต้ังแต ๒๐ ลา นเมกะจูลตอปข้ึนไป
หรือเครอ่ื งกําเนิดไอนํา้ หรือไออยางอื่น ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรมที่ใชงานในอาคารที่มี
พ้ืนทใ่ี ชส อยในอาคารตั้งแต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป หรือท่ีใชงานในอาคารท่ีมีผูใชสอยพื้นท่ีตั้งแต
สองรอยคนขึ้นไป
(ค) เคร่ืองปรบั ภาวะอากาศหรือเครื่องทาํ ความเย็นที่มีมูลคาต้ังแตสิบลานบาทตอเคร่ือง
ขนึ้ ไป หรอื ท่มี ีมลู คาตัง้ แตยีส่ ิบลานบาทตอโครงการข้ึนไป หรือท่ีมีขนาดระบบต้ังแต ๑๐๐ กิโลวัตต
ข้นึ ไป หรือท่ีใชงานในอาคารทม่ี ีพืน้ ทใี่ ชส อยในอาคารตงั้ แต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรข้ึนไป หรือที่ใชงาน
ในอาคารท่ีมผี ใู ชส อยพ้ืนทตี่ ้ังแตสองรอ ยคนขึน้ ไป
(ง) ระบบของไหลในทอรับแรงดัน หรือสุญญากาศที่มีมูลคาตั้งแตสิบลานบาทตอ
เคร่ืองขึ้นไป หรือที่มีมูลคาตั้งแตย่ีสิบลานบาทตอโครงการข้ึนไป หรือท่ีมีขนาดระบบต้ังแต
๑๐๐ กโิ ลวตั ตข ึ้นไป หรือท่ีใชง านในอาคารทมี่ พี ้ืนที่ใชส อยในอาคารตั้งแต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป
หรือที่ใชงานในอาคารท่มี ีผูใ ชส อยพ้ืนท่ีตั้งแตส องรอ ยคนขึ้นไป
(จ) การจดั การพลงั งานทีม่ ขี นาดตั้งแต ๑,๐๐๐ กโิ ลวตั ตขึ้นไป หรือใชความรอนตั้งแต
๒๐ ลานเมกะจูลตอปข ้นึ ไป
(ฉ) ระบบดับเพลิงและปองกันอัคคีภัยท่ีมีมูลคารวมกันตั้งแตสามลานบาทตอระบบ
ขึ้นไป หรือท่ีมพี ื้นท่ีปอ งกนั อคั คีภัยตัง้ แต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรขึน้ ไป
(๓) งานออกแบบและคํานวณ
(ก) เครื่องจกั รกลทมี่ ีขนาดรวมกนั ตง้ั แต ๗.๕ กิโลวัตตตอ เครอ่ื งขนึ้ ไป
53
เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก หนา ๙ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(ข) เครื่องกําเนิดไอน้ําหรือไออยางอื่น ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม
ทุกขนาด
(ค) เคร่ืองปรับภาวะอากาศหรือเคร่ืองทําความเย็นท่ีมีขนาดตั้งแต ๗.๕ กิโลวัตตตอ
เครือ่ งขึน้ ไป หรือทีม่ ีพนื้ ทีป่ รบั อากาศหรอื ทาํ ความเยน็ ตง้ั แต ๔๐๐ ตารางเมตรขน้ึ ไป
(ง) ระบบของไหลในทอรับแรงดันหรือสุญญากาศที่มีความดันของไหลในทอต้ังแต
๕๐๐ กโิ ลปาสกาลข้ึนไป หรอื สุญญากาศตัง้ แตลบ ๕๐ กิโลปาสกาลลงมา
(จ) การจดั การพลังงานทุกขนาด
(ฉ) ระบบดับเพลิงและปองกันอัคคีภัยท่ีมีพ้ืนท่ีปองกันอัคคีภัยตั้งแต ๒,๐๐๐ ตารางเมตร
ข้นึ ไป
(๔) งานควบคุมการสรา งหรอื การผลิต
(ก) เครือ่ งจักรกลทม่ี ีขนาดรวมกันตั้งแต ๒๐ กิโลวตั ตตอ เครื่องข้นึ ไป
(ข) เคร่ืองกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอ่ืน ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรมท่ีมี
ความดันตั้งแต ๕๐๐ กิโลปาสกาลข้ึนไป หรือปริมาตรต้ังแต ๑ ลูกบาศกเมตรขึ้นไป หรืออัตรา
การผลติ ไอน้ําหรอื ไออยางอนื่ ตงั้ แต ๕๐๐ กิโลกรัมตอ ชัว่ โมงขึน้ ไป
(ค) เคร่ืองปรบั ภาวะอากาศหรือเครือ่ งทาํ ความเย็นท่ีมขี นาดตง้ั แต ๒๐ กิโลวัตตข ึ้นไป
(ง) ระบบของไหลในทอรับแรงดันหรือสุญญากาศที่มีความดันของไหลในทอตั้งแต
๕๐๐ กิโลปาสกาลข้ึนไป หรือสญุ ญากาศต้ังแตลบ ๕๐ กโิ ลปาสกาลลงมา
(จ) ระบบดบั เพลงิ และปองกันอัคคภี ยั ท่มี พี ้ืนท่ีปอ งกันอัคคีภัยตั้งแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร
ขน้ึ ไป
(๕) งานอํานวยการใช
(ก) เครอ่ื งจกั รกลทม่ี ีขนาดรวมกันตงั้ แต ๕๐๐ กโิ ลวัตตตอระบบขึน้ ไป
(ข) เครื่องกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอ่ืน ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรมท่ีมี
อตั ราการผลติ ไอนาํ้ หรือไออยางอื่นต้งั แต ๒๐,๐๐๐ กิโลกรัมตอชวั่ โมงตอ เคร่ืองข้นึ ไป
(ค) หมออัดอากาศหรือหมออัดกาซท่ีมีขนาดความดันตั้งแต ๑,๓๐๐ กิโลปาสกาลข้ึนไป
และมปี ริมาตรต้งั แต ๑๐ ลกู บาศกเ มตรข้นึ ไป
(ง) เคร่ืองปรับภาวะอากาศหรือเครื่องทําความเย็นท่ีมีขนาดต้ังแต ๕๐๐ กิโลวัตต
ตอระบบข้ึนไป
54
เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๘๖ ก หนา ๑๐ ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐
ราชกิจจานุเบกษา
(จ) ระบบของไหลในทอรับแรงดันหรือสุญญากาศที่มีความดันของไหลในทอตั้งแต
๕๐๐ กิโลปาสกาลตอระบบขึ้นไป
(ฉ) ระบบดับเพลิงและปอ งกนั อัคคภี ยั ทีม่ ีพ้นื ทป่ี อ งกนั อัคคีภัยตั้งแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร
ขึน้ ไป
ขอ ๗ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมไฟฟา
มดี งั ตอ ไปนี้
(๑) งานไฟฟากําลัง ไดแก
(ก) งานใหค ําปรึกษาตาม (ข) (ค) (ง) (จ) หรือ (ฉ) ทกุ ประเภทและทุกขนาด
(ข) งานวางโครงการ
๑) ระบบการผลิตไฟฟาท่ีมีขนาดรวมกันตั้งแต ๑,๐๐๐ กิโลโวลตแอมแปรข้ึนไป
หรือที่มขี นาดแรงดันสงู สุดระหวางสายในระบบต้งั แต ๓,๓๐๐ โวลตข ึน้ ไป
๒) ระบบสง ระบบจําหนาย และระบบการใชไฟฟาท่ีมีขนาดรวมกันตั้งแต
๑,๐๐๐ กิโลโวลตแ อมแปรข ึ้นไป หรอื ท่มี ขี นาดแรงดันระหวา งสายในระบบตั้งแต ๑๒ กโิ ลโวลตขน้ึ ไป
(ค) งานออกแบบและคํานวณ
๑) ระบบหรืออปุ กรณไ ฟฟาท่มี ีขนาดต้ังแต ๓๐๐ กโิ ลโวลตแอมแปรขึ้นไป หรือ
ทม่ี ีขนาดแรงดนั ระหวางสายในระบบตั้งแต ๓,๓๐๐ โวลตขน้ึ ไป
๒) ระบบไฟฟาสําหรับอาคารสาธารณะที่มีขนาดการใชไฟฟากําลังรวมกันตั้งแต
๒๐๐ กโิ ลโวลตแ อมแปรข นึ้ ไป
๓) ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยและระบบปองกันฟาผาสําหรับอาคารสูง อาคาร
ขนาดใหญพ ิเศษ หรอื อาคารชดุ
(ง) งานควบคมุ การสรางหรือการผลิต
๑) ระบบหรืออุปกรณไฟฟาท่ีมีขนาดต้ังแต ๑,๐๐๐ กิโลโวลตแอมแปรข้ึนไป
หรือทม่ี ขี นาดแรงดันระหวา งสายในระบบตง้ั แต ๑๒ กโิ ลโวลตขึ้นไป
๒) ระบบไฟฟาสําหรับอาคารสาธารณะท่ีมีขนาดการใชไฟฟากําลังรวมกันต้ังแต
๒๐๐ กโิ ลโวลตแอมแปรข้นึ ไป
๓) ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยและระบบปองกันฟาผาสําหรับอาคารสูง อาคาร
ขนาดใหญพิเศษ หรอื อาคารชดุ
55
เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๘๖ ก หนา ๑๑ ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐
ราชกจิ จานเุ บกษา
(จ) งานพจิ ารณาตรวจสอบ
๑) ระบบไฟฟาทีม่ ีขนาดรวมกนั ต้งั แต ๑,๐๐๐ กโิ ลโวลตแ อมแปรข้ึนไป หรือที่มี
แรงดนั สูงสุดระหวางสายในระบบตัง้ แต ๑๒ กิโลโวลตข้ึนไป
๒) ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยและระบบปองกันฟาผาสําหรับอาคารสูง อาคาร
ขนาดใหญพ ิเศษ หรอื อาคารชุด
(ฉ) งานอํานวยการใชระบบหรืออุปกรณไฟฟาที่มีขนาดต้ังแต ๑,๐๐๐ กิโลโวลต
แอมแปรขึ้นไป หรือท่ีมขี นาดแรงดนั สงู สุดระหวา งสายในระบบต้ังแต ๑๒ กิโลโวลตข น้ึ ไป
(๒) งานไฟฟา ส่ือสาร ไดแก
(ก) งานใหคําปรึกษาตาม (ข) (ค) หรอื (ง) ทุกประเภทและทุกขนาด
(ข) งานวางโครงการระบบเครือขายท่ีมีสถานีรับ สง และถายทอดเพ่ือกระจายคล่ืน
แมเ หลก็ ไฟฟา ท่ีมคี วามถต่ี ัง้ แต ๓๐๐ กิโลเฮิรตซ และทีม่ กี ําลงั สง แตล ะสถานีตง้ั แต ๑ กิโลวัตตขึน้ ไป
(ค) งานออกแบบและคํานวณ งานควบคุมการสรางหรือการผลิต และงานพิจารณา
ตรวจสอบ
๑) ระบบกระจายคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มีความถ่ีต้ังแต ๓๐๐ กิโลเฮิรตซขึ้นไป
และทม่ี ีกําลังสง แตล ะสถานตี ั้งแต ๑ กโิ ลวัตตขึ้นไป
๒) ระบบรับ สง แยก หรือรวมสัญญาณสงโดยใชความถี่คลื่นแมเหล็กไฟฟา
ขนาดต้งั แต ๓๐๐ เมกะเฮริ ตซข้ึนไป และท่ีมชี องการสอ่ื สารต้งั แต ๖๐ วงจรเสยี งข้นึ ไปหรอื เทียบเทา
(ง) งาน อําน วยการใ ชระบบกระจายคล่ืน แ มเหล็กไฟฟาที่มีความ ถี่ต้ังแ ต
๓๐๐ กโิ ลเฮริ ตซข้ึนไป และที่มีกาํ ลงั สง แตละสถานีตั้งแต ๑ กโิ ลวัตตข นึ้ ไป
ขอ ๘ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
มดี งั ตอ ไปน้ี
(๑) งานใหคําปรึกษา งานวางโครงการ งานออกแบบและคํานวณ งานควบคุมการสราง
หรือการผลติ และงานพิจารณาตรวจสอบ
(ก) โรงงานท่ีใชค นงานตง้ั แตหาสิบคนขน้ึ ไป หรือโรงงานที่ลงทุนต้ังแตย่ีสิบลานบาท
ข้ึนไปโดยไมร วมคา ท่ีดนิ
(ข) การผลติ การสรา งหรอื การประกอบสิ่งใด ๆ กระบวนการผลิตวัสดุสําเร็จรูปหรือ
กึง่ สําเร็จรูป การหลอม การหลอ การรดี หรือการเคลือบโลหะ และการอบชุบ การชุบ หรือการแปร
เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก 56 ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐
หนา ๑๒
ราชกจิ จานเุ บกษา
รูปโลหะ ไม หรอื วัสดุอื่น ๆ ท่ีใชคนงานตงั้ แตหาสบิ คนข้นึ ไป หรือที่ลงทุนตัง้ แตยี่สิบลานบาทข้ึนไป
โดยไมร วมคา ที่ดิน
(ค) การถลุงแรและการทําโลหะใหบริสุทธ์ิที่มีปริมาณการผลิตดังตอไปน้ี ในกรณีที่
เปน ดบี ุกต้งั แต ๒ ตนั ตอ วันขึน้ ไป ในกรณีทเ่ี ปน ตะก่วั สังกะสี ทองแดง หรอื พลวง ตัง้ แต ๕ ตนั ตอ
วันขน้ึ ไป หรือในกรณีทเี่ ปนเหลก็ หรอื เหลก็ กลา ต้ังแต ๑๐ ตันตอ วนั ข้นึ ไป
(ง) ระบบดับเพลิงท่ีมีมูลคารวมกันต้ังแตสามลานบาทขึ้นไป หรือที่มีพื้นที่ปองกัน
อคั คภี ัยต้งั แต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรขน้ึ ไป
(๒) งานอาํ นวยการใช
(ก) สงิ่ กอสรางและเครื่องจักรที่ใชควบคุมมลพิษ บําบัดของเสีย กําจัดสารพิษ กําจัด
วัตถุอันตราย หรือกําจัดสิ่งใด ๆ ของโรงงานท่ีใชคนงานต้ังแตหาสิบคนขึ้นไป หรือที่ลงทุนต้ังแต
ยีส่ ิบลา นบาทขึ้นไปโดยไมร วมคาทีด่ นิ
(ข) ระบบระบายอากาศ ระบบแสงสวาง และระบบอยางอื่นที่เก่ียวของกับการควบคุม
มลพษิ การบําบดั ของเสีย การกําจัดสารพิษ การกําจัดวัตถุอันตราย หรือการกําจัดส่ิงใด ๆ ของโรงงาน
ทใ่ี ชค นงานตง้ั แตห าสิบคนข้ึนไป หรอื ท่ีลงทนุ ต้ังแตย ส่ี บิ ลา นบาทข้ึนไปโดยไมร วมคา ทดี่ ิน
(ค) กระบวนการผลติ ท่ีมีปฏิกริ ิยาเคมี ใชสารไวไฟ ใชสารอันตราย ใชก ารกลนั่ ลาํ ดบั สว น
หรือกระทําภายในอุปกรณที่มีความดันสูงกวาบรรยากาศ ในโรงงานที่ใชคนงานตั้งแตสิบหาคน
ขึ้นไปหรือท่ีลงทุนตงั้ แตส บิ ลา นบาทข้ึนไปโดยไมรวมคา ที่ดิน
(ง) ระบบดับเพลิงท่ีมีมูลคารวมกันตั้งแตสามลานบาทขึ้นไป หรือท่ีมีพ้ืนที่ปองกัน
อัคคีภยั ตัง้ แต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรข้นึ ไป
ขอ ๙ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดลอม
มีดงั ตอ ไปน้ี
(๑) ระบบประปาที่มอี ัตรากําลังผลิตสูงสดุ ตัง้ แต ๑,๐๐๐ ลูกบาศกเมตรตอ วันขึ้นไป
(๒) ระบบน้าํ สะอาดสาํ หรับโรงงาน อาคารสาธารณะ หรืออาคารขนาดใหญ ที่มีอัตรากําลัง
ผลติ สงู สุดต้ังแต ๕๐ ลกู บาศกเมตรตอ วันขึ้นไป
(๓) ระบบนํ้าเสียสาํ หรับชุมชน โรงงาน อาคารสาธารณะ หรืออาคารขนาดใหญที่สามารถ
รองรับนาํ้ เสียในอัตรากาํ ลงั สงู สดุ ต้ังแต ๓๐ ลกู บาศกเมตรตอวนั ขน้ึ ไป
เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก 57 ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
หนา ๑๓
ราชกิจจานุเบกษา
(๔) ระบบการนํานํา้ ทิง้ กลบั มาใชใหมสําหรับชุมชน โรงงาน อาคารสาธารณะ หรืออาคาร
ขนาดใหญท ี่มอี ัตรากาํ ลงั ผลติ สูงสุดตัง้ แต ๓๐ ลูกบาศกเ มตรตอ วนั ขน้ึ ไป
(๕) ระบบการพฒั นาพ้ืนทหี่ รอื แหลงนํา้ ที่มผี ลกระทบตอ สิง่ แวดลอมที่เก่ยี วขอ งกบั
(ก) นํ้าฝนหรือน้ําฝนที่ยังขังอยูท่ีมีปริมาณรวมสูงสุดต้ังแต ๑๐,๐๐๐ ลูกบาศกเมตร
ตอ วันขึ้นไป
(ข) นา้ํ ทิ้งหรือนาํ้ บาดาลที่มีปริมาณรวมสูงสุดตัง้ แต ๑,๐๐๐ ลกู บาศกเ มตรตอวนั ข้ึนไป
(๖) ระบบควบคุมมลพิษทางอากาศของสถานที่ที่มแี หลง กาํ เนดิ มลพิษท่ีมีปริมาตรการระบาย
อากาศต้งั แต ๑๐,๐๐๐ ลกู บาศกเมตรตอ ชัว่ โมงขึ้นไป
(๗) ระบบการจดั การมลภาวะทางเสยี งสําหรับโรงงานหรืออาคารสาธารณะที่มีคาระดับเสียง
เกินมาตรฐานทก่ี ฎหมายกําหนด
(๘) ระบบการฟน ฟูสภาพดินท่มี ีพ้นื ทีต่ ้งั แต ๓,๐๐๐ ตารางเมตรข้ึนไป หรือระบบการฟนฟู
สภาพนํา้ ทีม่ อี ตั รากําลงั ผลติ สูงสุดตงั้ แต ๓๐ ลกู บาศกเ มตรตอวนั ขึน้ ไป
(๙) ระบบขยะมูลฝอยในสถานทด่ี ังตอ ไปนี้
(ก) ชมุ ชนทีม่ ปี ริมาณขยะมูลฝอยตงั้ แต ๑๐,๐๐๐ กโิ ลกรมั ตอวันขน้ึ ไป
(ข) โรงงาน อาคารสาธารณะ หรืออาคารขนาดใหญท่ีมีปริมาณขยะมูลฝอยต้ังแต
๒,๐๐๐ กโิ ลกรัมตอ วนั ข้นึ ไป
(ค) แหลงทท่ี ําใหม ีการติดเช้ือทีม่ ปี รมิ าณขยะมูลฝอยต้งั แต ๑๕ กโิ ลกรมั ตอ วันข้นึ ไป
(ง) แหลง ทท่ี ําใหมสี ารกัมมนั ตภาพรงั สีปนเปอ นทกุ ขนาด
(๑๐) ระบบการจดั การกากอุตสาหกรรมทุกขนาด
(๑๑) ระบบดับเพลงิ และปอ งกันอคั คีภยั ท่มี ีมูลคา รวมต้งั แตส ามลานบาทตอระบบขึ้นไป หรือ
ท่มี พี ้นื ที่ปองกันอัคคภี ัยตงั้ แต ๒,๐๐๐ ตารางเมตรข้ึนไป
ขอ ๑๐ ประเภทและขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในสาขาวิศวกรรมเคมี
มีดังตอ ไปนี้
(๑) กระบวนการผลิตของโรงงานหรือสถานประกอบการท่ีอาศัยปฏิกิริยาเคมี เคมีฟสิกส
ชีวเคมี หรอื เคมไี ฟฟาเพ่อื ใหไดเ ปนผลิตภณั ฑตามกําหนด ที่ใชเงินลงทุนต้งั แตห นึง่ รอยลานบาทข้ึนไป
โดยไมร วมคาทด่ี นิ หรือทใ่ี ชกาํ ลงั ตัง้ แต ๕๐๐ กโิ ลวตั ตข้นึ ไปหรือเทยี บเทา
58
เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๘๖ ก หนา ๑๔ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๒) กระบวนการผลิตของโรงงานหรือสถานประกอบการท่ีทําใหวัตถุดิบมีการเปลี่ยนแปลง
คุณสมบัติทางกายภาพหรือเปลี่ยนแปลงสถานะเพื่อใหไดเปนผลิตภัณฑตามกําหนด ที่ใชเงินลงทุน
ต้ังแตหนึ่งรอยลานบาทขึ้นไปโดยไมรวมคาที่ดิน หรือที่ใชกําลังตั้งแต ๕๐๐ กิโลวัตตข้ึนไปหรือ
เทยี บเทา ทง้ั น้ี เฉพาะที่ประกอบดวยกระบวนการผลิตของหนว ยการผลิตตาม (๙)
(๓) กระบวนการผลิตของโรงงานหรอื สถานประกอบการที่มีวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑเปนวัตถุผง
หรือวัตถุเม็ดซ่ึงอาจกอใหเกิดการระเบิดหรือเกิดไฟฟาสถิตได ที่ใชเงินลงทุนต้ังแตหนึ่งรอยลานบาท
ข้นึ ไปโดยไมร วมคา ทดี่ ิน หรือท่ีใชก ําลังตงั้ แต ๕๐๐ กโิ ลวัตตข ้นึ ไปหรอื เทยี บเทา
(๔) กระบวนการผลิตของโรงงานหรือสถานประกอบการที่ใชสารเคมีท่ีเปนวัตถุอันตราย
เพือ่ เปน สารผสมหรือเปนสารชว ยในการผลิต
(๕) กระบวนการผลติ ของโรงงานหรอื สถานประกอบการที่อาศัยปฏกิ ริ ยิ าเคมีภายใตความดัน
ตง้ั แต ๓ บรรยากาศขึ้นไป หรอื ต่ํากวาความดัน ๑ บรรยากาศ
(๖) กระบวนการจัดการหรือบําบัดของเสียจากกระบวนการผลิตของโรงงาน หรือสถาน
ประกอบการทใี่ ชสารเคมี ตัวเรงปฏิกริ ิยาเคมี ตวั เรง ปฏกิ ริ ิยาชีวเคมี ตัวเรงปฏิกิริยาชีวภาพ หรือหนวย
การผลติ ท่ชี ว ยในการบาํ บดั ของเสียทใ่ี ชเงินลงทนุ ตง้ั แตห นึ่งลานบาทข้ึนไปโดยไมรวมคาท่ีดินหรือท่ีใช
กาํ ลังในกระบวนการบําบัดของเสยี ตั้งแต ๒๐ กิโลวัตตข น้ึ ไปหรือเทยี บเทา
(๗) ระบบการเก็บหรือขนถายที่กระทําภายในโรงงานหรือเพ่ือสงออกนอกโรงงานซึ่งวัตถุ
อันตราย สารเคมี สารพิษ หรอื วตั ถุผงหรือวัตถุเม็ดอันอาจกอใหเกิดการระเบิดหรือเกิดไฟฟาสถิตท่ีมี
ขนาดตงั้ แต ๒๐ เมตรกิ ตนั ข้ึนไป
(๘) กระบวนการผลิตทกุ ขนาดท่ใี ชหรอื กอใหเ กิดวตั ถุอนั ตราย สารเคมี สารพิษ หรือสารไวไฟ
(๙) กระบวนการผลติ ทอ่ี าศัยปฏกิ ริ ยิ าเคมี เคมีฟส ิกส ชีวเคมี หรือเคมีไฟฟา ของหนวยการผลิต
ดังตอ ไปนี้
(ก) หอกลั่น หอดูดซับ หอดูดซมึ อปุ กรณส กัดสาร ถงั ตกตะกอน หรือเคร่ืองตกผลึก
ท่ใี ชก ําลงั ต้งั แต ๗.๕ กโิ ลวตั ตข้ึนไปหรือเทียบเทา
(ข) อุปกรณแ ยกสารแบบอื่น ๆ เชน เครือ่ งแยกสารโดยใชเย่ือ หอแลกเปลี่ยนไอออน
หรอื เครือ่ งกรองแบบอัดแนนทีใ่ ชก ําลังตง้ั แต ๗.๕ กิโลวตั ตขึ้นไปหรอื เทียบเทา
(ค) อปุ กรณแ ยกขนาดแบบอ่นื ๆ เชน ถุงกรอง ไซโคลน หรือเครื่องกําจัดฝุนละออง
ดว ยไฟฟาสถิตท่ใี ชกําลังในกระบวนการผลติ ตัง้ แต ๗.๕ กิโลวัตตข ึ้นไปหรอื เทียบเทา
59
เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๘๖ ก หนา ๑๕ ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐
ราชกจิ จานเุ บกษา
(ง) เครอื่ งตมระเหยหรือเตาเผากระบวนการผลิตท่ีใชกําลังตั้งแต ๑๐ กิโลวัตตขึ้นไป
หรือเทยี บเทา
(จ) เครอื่ งปฏิกรณทกุ ขนาด
(๑๐) ระบบดับเพลงิ ทกุ ขนาดของโรงงานอตุ สาหกรรมเคมี
ขอ ๑๑ กฎกระทรวงนี้ไมใชบังคับแกผูประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
เฉพาะในสวนท่ีเกี่ยวกับงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมส่ิงแวดลอมและงานวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคมุ สาขาวศิ วกรรมเคมี
ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๑๘ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๐
พลเอก สรุ ยทุ ธ จลุ านนท
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
60
เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๘๖ ก หนา ๑๖ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
ราชกจิ จานุเบกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เปนการสมควรกําหนดใหสาขา
วศิ วกรรมสิ่งแวดลอมและสาขาวิศวกรรมเคมีเปนวิชาชีพวิศวกรรม และกําหนดใหสองสาขาดังกลาว และ
สาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมเหมืองแร วิศวกรรมเคร่ืองกล วิศวกรรมไฟฟา และวิศวกรรมอุตสาหการ
เปน วิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ ดว ย และโดยทม่ี าตรา ๔ แหง พระราชบัญญัตวิ ิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ บญั ญัติให
การกําหนดดังกลาวใหก ระทําโดยกฎกระทรวง จงึ จาํ เปนตองออกกฎกระทรวงนี้
เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๖๒ ก 61 ๙ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐
หนา้ ๙
ราชกิจจานุเบกษา
กฎกระทรวง
กําหนดสาขาวชิ าชพี วิศวกรรมและวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุม (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐
อาศัยอํานาจตามความในบทนิยามคําว่า “วิชาชีพวิศวกรรม” ในมาตรา ๔ และมาตรา ๕ วรรคหน่ึง
แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้
ดงั ตอ่ ไปน้ี
ใหย้ กเลิกความในข้อ ๑ แหง่ กฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใชค้ วามต่อไปน้แี ทน
“ข้อ ๑ ใหส้ าขาวศิ วกรรมอืน่ ดังตอ่ ไปนเ้ี ปน็ วชิ าชีพวศิ วกรรม
(๑) วศิ วกรรมเกษตร
(๒) วศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์
(๓) วิศวกรรมเคมี
(๔) วิศวกรรมชายฝัง่
(๕) วิศวกรรมชีวการแพทย์
(๖) วิศวกรรมต่อเรอื
(๗) วศิ วกรรมบาํ รงุ รักษาอาคาร
(๘) วศิ วกรรมป้องกนั อัคคภี ยั
(๙) วศิ วกรรมปิโตรเลยี ม
(๑๐) วิศวกรรมพลงั งาน
(๑๑) วิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์
(๑๒) วิศวกรรมยานยนต์
(๑๓) วศิ วกรรมระบบราง
(๑๔) วิศวกรรมสารสนเทศ
(๑๕) วิศวกรรมสํารวจ
(๑๖) วศิ วกรรมสงิ่ แวดล้อม
62
เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๖๒ ก หนา้ ๑๐ ๙ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๑๗) วศิ วกรรมแหลง่ นาํ้
(๑๘) วิศวกรรมอากาศยาน
(๑๙) วศิ วกรรมอาหาร”
ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
พลเอก อนพุ งษ์ เผ่าจนิ ดา
รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
63
เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๖๒ ก หน้า ๑๑ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เนื่องจากการกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรม
ตามกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวศิ วกรรมและวิชาชพี วิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐ ยังไม่สอดคล้องกับ
สภาพการณ์ในปัจจุบันที่ความก้าวหน้าทางวิชาการด้านวิศวกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว สมควรเพิ่มการกําหนด
สาขาวิชาชีพวิศวกรรมเพ่ือให้ครอบคลุมสาขาวิชาชีพวิศวกรรมท่ีเกิดขึ้นใหม่ซึ่งประเทศไทยได้มีข้อผูกพันไว้ใน
ข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนด้านบริการวิศวกรรมและข้อตกลงเขตการค้าเสรี อันจะเป็นการส่งเสริม
ให้ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมมีความพร้อมและศักยภาพในการแข่งขันบริการวิชาชีพวิศวกรรมกับต่างประเทศได้
จึงจาํ เป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก 64 ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
หน้า ๒๖
ราชกิจจานุเบกษา
กฎกระทรวง
กาํ หนดการดําเนินการอน่ื อนั เปน็ วตั ถุประสงคข์ องสภาวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๖๐
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๗ (๘) แห่งพระราชบัญญัติ
วศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ต่อไปนี้
ให้สภาวิศวกรมีวตั ถปุ ระสงคใ์ นการดําเนนิ การอน่ื ตามมาตรา ๗ (๘) ดังตอ่ ไปนี้
(๑) ส่งเสริม สนับสนุน และจัดให้มีการรับรองความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมและวิชาชพี วศิ วกรรมควบคมุ
(๒) ส่งเสริม สนับสนุน และจัดให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุมตามข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนด้านบริการวิศวกรรม รวมท้ังข้อตกลงระหว่าง
ประเทศอน่ื ท่เี กี่ยวกบั การให้บริการวศิ วกรรมข้ามแดน
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐
พลเอก อนพุ งษ์ เผ่าจนิ ดา
รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
65
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก หนา้ ๒๗ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้สภาวิศวกร
มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดให้มีการรับรองความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม รวมท้ังการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุม ทั้งนี้ เพื่อให้วิศวกรไทยได้รับประโยชน์จากข้อตกลงยอมรับร่วมของอาเซียนด้านบริการวิศวกรรม
รวมทั้งขอ้ ตกลงระหว่างประเทศอืน่ ท่เี กย่ี วกับการให้บริการวิศวกรรมข้ามแดน จึงจําเปน็ ตอ้ งออกกฎกระทรวงน้ี
เลม ๑๒๖ ตอนที่ ๙๗ ก 66 ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๒
หนา ๑
ราชกิจจานเุ บกษา
พระราชกฤษฎีกา
กําหนดหนว ยงานของรฐั ตามพระราชบญั ญัติ
ความรบั ผิดทางละเมิดของเจาหนา ท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบบั ท่ี ๑๖)
พ.ศ. ๒๕๕๒
ภมู พิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วนั ที่ ๑๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
เปน ปท ี่ ๖๔ ในรชั กาลปจจุบนั
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา
โดยท่ีเปนการสมควรแกไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาวาดวยการกําหนดหนวยงานของรัฐ
ตามพระราชบัญญตั คิ วามรบั ผดิ ทางละเมิดของเจา หนาที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๔
แหง พระราชบญั ญตั ิความรบั ผดิ ทางละเมิดของเจา หนาท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ
ใหตราพระราชกฤษฎกี าข้นึ ไว ดังตอไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกวา “พระราชกฤษฎีกากําหนดหนวยงานของรัฐ
ตามพระราชบัญญตั ิความรับผดิ ทางละเมดิ ของเจา หนาท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับท่ี ๑๖) พ.ศ. ๒๕๕๒”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปนตน ไป
เลม ๑๒๖ ตอนที่ ๙๗ ก 67 ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๒
หนา ๒
ราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๓ ใหย กเลกิ ความใน (๓๙) ของมาตรา ๓ แหง พระราชกฤษฎกี ากําหนดหนว ยงานของรัฐ
ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติม
โดยพระราชกฤษฎีกากําหนดหนวยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาท่ี
พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใชค วามตอ ไปนแ้ี ทน
“(๔๐) สภาวิศวกร”
มาตรา ๔ ใหยกเลิกความใน (๔๐) และ (๔๑) ของมาตรา ๓ แหงพระราชกฤษฎีกา
กาํ หนดหนว ยงานของรัฐตามพระราชบญั ญัติความรับผิดทางละเมิดของเจา หนา ท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ พ.ศ. ๒๕๔๐
ซ่งึ แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชกฤษฎีกากําหนดหนวยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด
ของเจา หนา ท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบบั ที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใ ชค วามตอไปนีแ้ ทน
“(๔๑) กองทนุ สนับสนุนการสรางเสริมสขุ ภาพ
(๔๒) สาํ นกั งานคณะกรรมการกํากบั และสง เสรมิ การประกอบธรุ กิจประกันภัย”
มาตรา ๕ ใหเพิ่มความตอไปน้ีเปน (๔๓) และ (๔๔) ของมาตรา ๓ แหงพระราชกฤษฎีกา
กําหนดหนวยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
พ.ศ. ๒๕๔๐
“(๔๓) สถาบนั การแพทยฉุกเฉินแหง ชาติ
(๔๔) สภากายภาพบาํ บดั ”
ผูรบั สนองพระบรมราชโองการ
อภิสิทธ์ิ เวชชาชวี ะ
นายกรัฐมนตรี
เลม ๑๒๖ ตอนท่ี ๙๗ ก 68 ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๒
หนา ๓
ราชกจิ จานุเบกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่สถาบันการแพทยฉุกเฉินแหงชาติ
และสภากายภาพบําบัดมิไดมฐี านะเปนกระทรวง ทบวง กรม หรือสวนราชการทเี่ รียกช่อื อยา งอ่นื และมีฐานะเปนกรม
ราชการสวนภูมิภาค ราชการสวนทองถ่ิน หรือรัฐวิสาหกิจที่ต้ังขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา
หากแตไ ดรบั การจัดตงั้ ใหม ฐี านะเปน นิติบคุ คลและใชอาํ นาจรฐั ตามพระราชบญั ญัตกิ ารแพทยฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑
และพระราชบัญญัติวิชาชีพกายภาพบาํ บดั พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามลําดับ อันจัดไดวาเปนหนวยงานของรัฐประเภทหนึ่ง
และขณะนี้ยงั ไมไ ดร ับการกําหนดใหเปน หนวยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตคิ วามรับผดิ ทางละเมดิ ของเจา หนา ที่
พ.ศ. ๒๕๓๙ และโดยท่ีพระราชบัญญัติดังกลาวบัญญัติใหการกําหนดใหหนวยงานอื่นของรัฐเปนหนวยงาน
ของรฐั ตามกฎหมายฉบบั นีต้ องตราเปนพระราชกฤษฎกี า ดังนั้น เพ่ือใหเจาหนาท่ีของสถาบันการแพทยฉุกเฉิน
แหง ชาตแิ ละสภากายภาพบําบดั ซ่งึ ปฏบิ ัตหิ นาท่โี ดยสจุ รติ ไดร บั ความคมุ ครองตามพระราชบัญญัติความรับผิด
ทางละเมิดของเจาหนาท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกอบกับสมควรแกไขลําดับของสภาวิศวกรกองทุนสนับสนุน
การเสรมิ สรางสขุ ภาพ และสาํ นกั งานคณะกรรมการกํากับและสงเสรมิ การประกอบธุรกิจประกันภัยเสียใหม
ใหถ กู ตอง จึงจาํ เปน ตอ งตราพระราชกฤษฎกี าน้ี
69
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๑ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา
ขอบงั คับสภาวศิ วกร
ยกเลกิ ขอ บงั คบั สภาวิศวกรวาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๑
โดยที่ขอบังคับสภาวศิ วกรวาดว ยมาตรฐานการประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมที่ออกตามความ
ในพระราชบญั ญัตวิ ศิ วกร พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๘ (๖) (ฌ) ทุกฉบับ มีบทบัญญัติท่ีเปนสาระสําคัญ
จํานวนมากไมสอดคลองกับกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฌ) แหงพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
อนั เปนกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรฐั ธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย บัญญัติใหกระทําได
โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบของท่ีประชุมใหญสามัญ
สภาวศิ วกร และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพเิ ศษแหง สภาวิศวกร จึงออกขอ บงั คบั ไว ดังตอไปน้ี
ขอ ๑ ขอบังคับนี้เรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร ยกเลิกขอบังคับสภาวิศวกรวาดวย
มาตรฐานการประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ พ.ศ. ๒๕๕๑”
ขอ ๒ ขอบงั คับนใ้ี หใ ชบงั คบั ต้ังแตวนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปนตนไป
ขอ ๓ ใหยกเลกิ
(๑) ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๔๗
(๒) ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สาขาวิศวกรรมโยธา พ.ศ. ๒๕๔๗
(๓) ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สาขาวศิ วกรรมเหมอื งแร พ.ศ. ๒๕๔๗
(๔) ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สาขาวิศวกรรมเคร่ืองกล พ.ศ. ๒๕๔๗
(๕) ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สาขาวศิ วกรรมไฟฟา พ.ศ. ๒๕๔๗
70
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๒ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา
(๖) ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยมาตรฐานการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ พ.ศ. ๒๕๔๗
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วริ ะ มาวิจกั ขณ
นายกสภาวศิ วกร
71
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๓ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานเุ บกษา
ขอ บงั คบั สภาวศิ วกร
วา ดว ยหลักเกณฑและคุณสมบัตขิ องผปู ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมแตล ะระดบั
สาขาวศิ วกรรมโยธา
พ.ศ. ๒๕๕๑
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ อันเปน กฎหมายท่มี บี ทบัญญตั ิบางประการเกีย่ วกบั การจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบของ
ท่ีประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร จึงออก
ขอบังคบั ไว ดังตอไปนี้
ขอ ๑ ขอบังคับน้ีเรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติของ
ผูประกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุมแตล ะระดบั สาขาวศิ วกรรมโยธา พ.ศ. ๒๕๕๑”
ขอ ๒ ขอ บังคบั น้ีใหใ ชบังคับตั้งแตว นั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
ขอ ๓ ใหงาน ประเภท และขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมโยธา
เปนไปตามท่ีกําหนดไวในกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐
ขอ ๔ ใหผ ไู ดร ับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา
ระดับวุฒิวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ไดทุกงาน ทุกประเภท
และทุกขนาด
ขอ ๕ ใหผไู ดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา
ระดับสามญั วศิ วกร ประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ไดเ ฉพาะงานวางโครงการ
งานออกแบบและคํานวณ งานควบคุมการสรางหรือการผลิต งานพิจารณาตรวจสอบ หรืองาน
อํานวยการใช ทุกประเภทและทกุ ขนาด
72
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๔ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ ๖ ใหผไู ดรับใบอนญุ าตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา
ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ไดเฉพาะงาน ประเภท
และขนาดดงั น้ี
(๑) งานออกแบบและคํานวณ
(ก) อาคารทมี่ คี วามสูงไมเกนิ ๔ ชั้น หรือโครงสรา งของอาคารท่ีชน้ั ใดชั้นหนึ่งมีความสูง
ไมเ กนิ ๕ เมตร หรืออาคารทม่ี ีชว งคานยาวทุกขนาด
(ข) คลงั สนิ คา ไซโล หอ งเย็น หรือยุงฉางทมี่ คี วามจุไมเกิน ๑,๐๐๐ ลกู บาศกเ มตร
(ค) โครงสรางท่มี ีลกั ษณะเปน หอ ปลอ ง หรือศาสนวัตถุ เชน พระพุทธรูป หรือเจดีย
ทีม่ ีความสงู ไมเกิน ๑๕ เมตร
(ง) น่ังรา นหรือคํ้ายนั ชั่วคราวที่มคี วามสงู ไมเกนิ ๒๕ เมตร
(จ) แบบหลอคอนกรีตสําหรับเสาที่มีความสูงไมเกนิ ๕ เมตร หรือคานทม่ี ีชวงคานยาว
ทุกขนาด
(ฉ) โครงสรา งใตดิน ส่ิงกอสรางช่วั คราว กําแพงกันดิน คันดินปองกันน้ํา หรือคลอง
สงน้าํ ท่ีมีความสูงหรอื ความลึกไมเ กนิ ๒.๕๐ เมตร
(ช) เขื่อน ฝาย อุโมงค ทอระบายนํ้า หรือระบบชลประทานที่มีความสูงไมเกิน
๒.๕๐ เมตร หรือมีความจุไมเกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศกเมตร หรือที่มีอัตราการไหลของน้ําไมเกิน
๕ ลูกบาศกเมตรตอ วินาที
(ซ) โครงสรางท่ีมีการกักของไหล เชน ถังเก็บน้ํา ถังเก็บนํ้ามัน อุโมงคสงนํ้า
หรือสระวา ยนา้ํ ทีม่ ีความจไุ มเกิน ๕๐๐ ลกู บาศกเมตร
(ฌ) ทอ สงน้าํ ทอระบายนํา้ หรือชอ งระบายน้ําท่มี เี สน ผาศูนยกลางไมเกิน ๑.๕๐ เมตร
หรือพื้นทีห่ นา ตดั ไมเ กิน ๒.๐๐ ตารางเมตร และมีโครงสรา งรองรับ
(ญ) ระบบชลประทานทม่ี พี นื้ ทีช่ ลประทานไมเ กนิ ๕,๐๐๐ ไรต อ โครงการ
(๒) งานควบคุมการสรา งหรอื การผลติ
(ก) อาคารที่มคี วามสูงไมเ กนิ ๘ ช้ัน
(ข) อาคารสาธารณะทีม่ คี วามสูงไมเกิน ๘ ชั้น
(ค) คลังสินคา ไซโล หองเยน็ หรอื ยงุ ฉางทกุ ขนาด
73
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๕ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา
(ง) โครงสรา งท่ีมลี กั ษณะเปนหอ ปลอง ทีม่ คี วามสงู ไมเกนิ ๔๐ เมตร หรือศาสนวตั ถุ
เชน พระพุทธรูป หรอื เจดีย ทม่ี คี วามสูงไมเ กนิ ๒๓ เมตร
(จ) โครงสรางสะพานท่ีมีชวงระหวางศูนยกลางตอมอชวงใดชวงหน่ึงยาวไมเกิน
๑๒ เมตร
(ฉ) ชน้ิ สว นโครงสรางคอนกรีตหลอสําเร็จหรือคอนกรีตอัดแรงหลอสําเร็จรูปทุกชนิด
ที่มคี วามยาวทกุ ขนาด
(ช) เสาเขม็ คอนกรีตทกุ ขนาด
(ซ) นัง่ รานหรอื คาํ้ ยนั ชั่วคราวที่มคี วามสูงไมเ กิน ๔๒ เมตร
(ฌ) โครงสรา งใตดนิ สง่ิ กอ สรา งช่ัวคราว กําแพงกันดิน คันดินปองกันน้ํา หรือคลอง
สงน้ําท่มี ีความสูงหรือความลกึ ไมเ กนิ ๒.๕ เมตร
(ญ) ทางสาธารณะทกุ ขนาด
(ฎ) เขือ่ น ฝาย อโุ มงค ทอระบายนาํ้ หรอื ระบบชลประทาน ทกุ ขนาด
(ฏ) โครงสรางท่ีมีการกักของไหล เชน ถังเก็บนํ้า ถังเก็บนํ้ามัน อุโมงคสงน้ํา
หรอื สระวา ยนํ้าทกุ ขนาด
(ฐ) ทอสง นํ้า ทอ ระบายนาํ้ หรือชอ งระบายน้ําทุกขนาด และมโี ครงสรางรองรบั
(ฑ) ระบบชลประทานทุกขนาด
(ฒ) ปายหรือส่ิงที่สรางข้ึนสําหรับติดหรือตั้งปาย มีความสูงจากพื้นดินไมเกิน
๒๓ เมตร หรือปาย หรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติดหรือตั้งปายท่ีมีพ้ืนที่ไมเกิน ๕๐ ตารางเมตร
ท่ีติดต้ังอยูบนหลงั คา ดาดฟา หรือกนั สาด หรอื ท่ตี ดิ กับสวนใดสวนหน่ึงของอาคาร
(ณ) อัฒจนั ทรท ี่มพี ้นื ทไี่ มเกนิ ๑,๕๐๐ ตารางเมตร
(ด) โครงสรางสําหรับใชในการรับสงหรือติดตั้งอุปกรณรับสงวิทยุหรือโทรทัศน
ทีม่ คี วามสงู จากระดับฐานของโครงสรา งไมเกิน ๕๐ เมตร
(๓) งานพิจารณาตรวจสอบ หรืองานอาํ นวยการใช ทกุ ประเภทและทกุ ขนาด
ขอ ๗ ใหผ ไู ดรบั ใบอนญุ าตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา
ระดบั ภาควี ิศวกรพเิ ศษ ประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมโยธา ไดตามงาน ประเภท
และขนาดทร่ี ะบไุ วใ นใบอนุญาต
74
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๖ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานเุ บกษา
ขอ ๘ ในกรณีท่ีตองมีการวินิจฉัยชี้ขาดหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุมแตละระดับ สาขาวิศวกรรมโยธา ตามขอบังคับนี้ ใหคณะกรรมการสภาวิศวกร
เปน ผูวนิ ิจฉัยช้ขี าด คําวินจิ ฉยั ช้ีขาดของคณะกรรมการสภาวศิ วกรใหเ ปนทส่ี ุด
ขอ ๙ ผูไดรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซ่ึงประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคมุ ตามประเภท และสาขาท่รี ะบไุ วในใบอนุญาต ภายในขอกําหนดและเง่ือนไขตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ อยูกอน
วนั ท่ีขอบงั คบั น้ีมีผลใชบังคับ ใหผนู นั้ ประกอบการงานน้นั ตอไปไดจ นกวา งานจะแลว เสร็จ
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วิระ มาวจิ ักขณ
นายกสภาวิศวกร
75
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๗ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานเุ บกษา
ขอ บงั คบั สภาวศิ วกร
วา ดว ยหลักเกณฑแ ละคุณสมบตั ขิ องผปู ระกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคุมแตล ะระดบั
สาขาวิศวกรรมเหมอื งแร
พ.ศ. ๒๕๕๑
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ อนั เปน กฎหมายท่ีมีบทบญั ญัตบิ างประการเกยี่ วกบั การจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบ
ของที่ประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร
จึงออกขอบงั คับไว ดังตอไปนี้
ขอ ๑ ขอบังคับนี้เรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติ
ของผปู ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุมแตละระดับ สาขาวิศวกรรมเหมืองแร พ.ศ. ๒๕๕๑”
ขอ ๒ ขอ บังคบั น้ีใหใชบังคับตง้ั แตวนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน ตน ไป
ขอ ๓ ใหงาน ประเภท และขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมเหมืองแร
เปนไปตามท่ีกําหนดไวในกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐
ขอ ๔ ใหผูไดรับใบอนญุ าตเปน ผปู ระกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
แขนงเหมืองแร ระดับวุฒิวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
งานเหมืองแร ไดท ุกงาน ทุกประเภท และทกุ ขนาด
ขอ ๕ ใหผ ไู ดร บั ใบอนุญาตเปน ผปู ระกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคมุ สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร
แขนงเหมืองแร ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
งานเหมอื งแร ไดเ ฉพาะงานวางโครงการ งานออกแบบและคาํ นวณ งานควบคุมการสรางหรือการผลิต
งานพจิ ารณาตรวจสอบ และงานอํานวยการใช ตามประเภทและขนาดดงั นี้
(๑) การทาํ เหมืองแรทีใ่ ชกําลงั สงู สุดรวมกันไมเ กิน ๑๕,๐๐๐ กโิ ลวัตต
76
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๘ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา
(๒) การทาํ เหมอื งใตดนิ ทม่ี หี นาตดั ไมเ กิน ๒๐ ตารางเมตร หรือมีกําลงั การผลติ สูงสดุ ไมเกิน
๑๕๐,๐๐๐ เมตริกตนั ตอ ป
(๓) การเจาะอุโมงคใ นเหมอื ง หรอื ปลอ งหรือโพรงในหินทม่ี ีหนาตัดไมเกนิ ๒๐ ตารางเมตร
หรือมกี ําลงั การผลิตสงู สดุ ไมเกิน ๑๕๐,๐๐๐ เมตรกิ ตันตอป
(๔) งานวิศวกรรมท่ีมีการใชวัตถุระเบิด ที่มีปริมาณวัสดุจากการระเบิดไมเกิน
๑๐,๐๐๐ เมตรกิ ตันตอ วัน หรือไมเกนิ ๓,๕๐๐,๐๐๐ เมตริกตันตอ ป
(๕) การโม บด หรอื ยอ ยแรแ ละหินทุกขนาด
(๖) การแยกวัสดุตาง ๆ ออกจากของทใ่ี ชแลว โดยใชกรรมวธิ ที างการแตงแรท ุกขนาด
(๗) การแตงแรทกุ ขนาด
ขอ ๖ ใหผไู ดร ับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคมุ สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร
แขนงเหมืองแร ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
งานเหมืองแร ไดเฉพาะงานควบคุมการสรางหรือการผลิต งานพิจารณาตรวจสอบ และงานอํานวยการใช
ตามประเภทและขนาดดังน้ี
(๑) การทําเหมอื งแรท่ใี ชก าํ ลังสงู สดุ รวมกันไมเกิน ๑,๒๐๐ กิโลวัตต
(๒) งานวิศวกรรมท่ีมีการใชวัตถุระเบิด ที่มีปริมาณวัสดุจากการระเบิดไมเกิน
๘๐๐ เมตริกตนั ตอวนั หรอื ไมเกนิ ๒๘๐,๐๐๐ เมตริกตนั ตอ ป
(๓) การแยกวัสดุตาง ๆ ออกจากของที่ใชแลว โดยใชกรรมวิธีทางการแตงแร ที่ใชกําลัง
สูงสดุ รวมกนั ไมเกิน ๒๐๐ กิโลวัตต
(๔) การแตงแรที่ใชกําลงั สูงสุดรวมกันไมเกิน ๕๐๐ กิโลวตั ต
ขอ ๗ ใหผ ไู ดรบั ใบอนุญาตเปนผปู ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
แขนงเหมืองแร ระดับภาคีวิศวกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
งานเหมืองแร ไดต ามงาน ประเภท และขนาดที่ระบุไวในใบอนุญาต
ขอ ๘ ใหผไู ดร บั ใบอนุญาตเปน ผูป ระกอบวชิ าชพี วศิ วกรรมควบคมุ สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร
แขนงโลหะการ ระดับวุฒิวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
งานโลหะการ ไดทกุ งาน ทุกประเภท และทุกขนาด
ขอ ๙ ใหผไู ดรับใบอนญุ าตเปน ผปู ระกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร
แขนงโลหะการ ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
77
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๒๙ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
งานโลหะการ ไดเฉพาะงานวางโครงการ งานออกแบบและคาํ นวณ งานควบคมุ การสรางหรือการผลิต
งานพจิ ารณาตรวจสอบ และงานอํานวยการใช ตามประเภทและขนาดดงั น้ี
(๑) การแยกวสั ดุตา ง ๆ ออกจากของท่ีใชแ ลวโดยใชก รรมวธิ ีทางการแตง แรท กุ ขนาด
(๒) การแตง แรทกุ ขนาด
(๓) การถลุงแรเหล็กหรือการผลิตเหล็กกลาที่มีกําลังการผลิตสูงสุดไมเกิน ๓๐๐,๐๐๐
เมตรกิ ตนั ตอป
(๔) การถลุงแรอื่น ๆ หรือการสกัดโลหะ โลหะเจือ หรือสารประกอบโลหะออกจากแร
ตะกรัน เศษโลหะ วสั ดุ หรอื สารอน่ื ใด รวมท้ังการทําโลหะใหบริสุทธิ์ท่ีมีกําลังการผลิตสูงสุดไมเกิน
๔๐,๐๐๐ เมตริกตันตอป หรืองานท่ีลงทุนไมเกินหนึ่งรอยลานบาทโดยไมรวมคาท่ีดิน และไมรวม
มูลคา ของขอ ๙ (๓)
(๕) การหลอม การหลอ การแปรรูป การปรับปรุงคุณสมบัติดวยความรอนการตกแตงผิว
หรือการชุบเคลือบโลหะสําหรับงานที่ใชคนงานไมเกินสามรอยคน หรืองานท่ีลงทุนไมเกินหกสิบ
ลานบาทโดยไมรวมคาที่ดนิ
ขอ ๑๐ ใหผ ูไดร ับใบอนุญาตเปนผปู ระกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
แขนงโลหะการ ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
งานโลหะการ ไดเฉพาะงานควบคุมการสรา งหรอื การผลิต งานพิจารณาตรวจสอบ และงานอํานวยการใช
ตามประเภทและขนาดดงั นี้
(๑) การแตงแรที่ใชก ําลงั สงู สดุ รวมกันไมเ กนิ ๕๐๐ กิโลวัตต
(๒) การถลุงแรเหล็กหรือการผลิตเหล็กกลาท่ีมีกําลังการผลิตสูงสุดไมเกิน ๘๐ เมตริกตัน
ตอวัน หรือไมเ กิน ๒๘,๐๐๐ เมตรกิ ตนั ตอป
(๓) การถลุงแรอื่น ๆ หรือการสกัดโลหะ โลหะเจือ หรือสารประกอบโลหะออกจากแร
ตะกรัน เศษโลหะ วสั ดุ หรือสารอน่ื ใด รวมทัง้ การทําโลหะใหบริสุทธิ์ท่ีมีกําลังการผลิตสูงสุดไมเกิน
๕,๐๐๐ เมตริกตันตอป หรืองานท่ีลงทุนไมเกินย่ีสิบลานบาทโดยไมรวมคาท่ีดิน และไมรวมมูลคา
ของขอ ๑๐ (๒)
(๔) การหลอม การหลอ การแปรรูป การปรับปรุงคุณสมบัติดวยความรอนการตกแตงผิว
หรือการชุบเคลือบโลหะสําหรับงานท่ีใชคนงานไมเกินหนึ่งรอยคน หรืองานที่ลงทุนไมเกินสามสิบลานบาท
โดยไมรวมคา ทีด่ ิน
78
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๐ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ ๑๑ ใหผ ูไดรับใบอนุญาตเปน ผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
แขนงโลหะการ ระดับภาคีวศิ วกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร
งานโลหะการ ไดต ามงาน ประเภท และขนาดทีร่ ะบไุ วในใบอนญุ าต
ขอ ๑๒ ในกรณีที่ตองมีการวินิจฉัยชี้ขาดหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคมุ แตละระดบั สาขาวิศวกรรมเหมืองแร ตามขอบังคับนี้ ใหคณะกรรมการสภาวิศวกร
เปน ผวู ินจิ ฉยั ชีข้ าด คําวินจิ ฉยั ช้ขี าดของคณะกรรมการสภาวศิ วกรใหเปนที่สดุ
ขอ ๑๓ ใหผ ูไดร บั ใบอนุญาตเปนผูป ระกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร
ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๐๘) และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ออกตามความ
ในพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ สามารถประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร งานเหมืองแร และงานโลหะการไดตามระดบั ใบอนุญาตท่ีไดรบั
ขอ ๑๔ ผูไดรับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซึ่งประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคมุ ตามประเภท และสาขาท่รี ะบุไวในใบอนุญาต ภายในขอกําหนดและเงื่อนไขตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ อยูกอน
วนั ท่ีขอบงั คับนม้ี ผี ลใชบ ังคับ ใหผ นู นั้ ประกอบการงานนน้ั ตอ ไปไดจ นกวางานจะแลวเสรจ็
ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วริ ะ มาวจิ กั ขณ
นายกสภาวิศวกร
79
เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๔๙ ง หนา้ ๑๕ ๒ มนี าคม ๒๕๕๘
ราชกิจจานุเบกษา
ข้อบงั คบั สภาวศิ วกร
วา่ ด้วยหลักเกณฑแ์ ละคุณสมบตั ิของผูป้ ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ แตล่ ะระดับ
สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร่ (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขชื่อประเภทของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่
ให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐
และเพิ่มประเภทและขนาดของงานในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของผู้ได้รับใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ ระดับสามัญวิศวกร และระดับภาคีวิศวกร
ให้สามารถประกอบวชิ าชีพไดม้ ากย่ิงขน้ึ
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๐
สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบของท่ีประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เม่ือวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕
และโดยความเหน็ ชอบของสภานายกพิเศษแหง่ สภาวศิ วกร จึงออกข้อบังคบั ไว้ ดังต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของ
ผปู้ ระกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคมุ แต่ละระดบั สาขาวศิ วกรรมเหมืองแร่ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘”
ขอ้ ๒ ขอ้ บงั คบั นใี้ ห้ใชบ้ งั คบั ตง้ั แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ต้นไป
ขอ้ ๓ ใหแ้ ก้ไขคําวา่ “แขนง” ในขอ้ บังคบั สภาวิศวกร วา่ ดว้ ยหลักเกณฑ์ และคุณสมบัติของ
ผปู้ ระกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคมุ แตล่ ะระดับ สาขาวิศวกรรมเหมอื งแร่ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็น “งาน” ทกุ แห่ง
ขอ้ ๔ ให้ยกเลิกความใน (๓) ของข้อ ๕ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยหลักเกณฑ์
และคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมแต่ละระดับ สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ พ.ศ. ๒๕๕๑
และให้ใช้ความตอ่ ไปนี้แทน
“(๓) การเจาะอุโมงค์ในเหมือง หรือปล่องหรือโพรงในหินท่ีมีหน้าตัดไม่เกิน ๔๐ ตารางเมตร
หรือมกี ําลังการผลติ สูงสดุ ไมเ่ กนิ ๑๕๐,๐๐๐ เมตรกิ ตันตอ่ ปี”
ข้อ ๕ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๕) ของข้อ ๖ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วย
หลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมแต่ละระดับ สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่
พ.ศ. ๒๕๕๑
“(๕) การโม่ บด หรือย่อยแร่และหนิ ทใี่ ช้กําลังรวมกนั ไมเ่ กิน ๑,๒๐๐ กโิ ลวตั ต์”
80
เล่ม ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๔๙ ง หน้า ๑๖ ๒ มีนาคม ๒๕๕๘
ราชกจิ จานุเบกษา
ข้อ ๖ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซึ่งประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคมุ ตามประเภท และสาขาท่รี ะบุไวใ้ นใบอนุญาต ภายในข้อกําหนดและเง่ือนไข ตามข้อบังคับสภาวิศวกร
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมแต่ละระดับ สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่
พ.ศ. ๒๕๕๑ อยู่ก่อนวันท่ีข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ ให้ผู้นั้นประกอบการงานนั้นต่อไปได้จนกว่างาน
จะแลว้ เสรจ็
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
กมล ตรรกบุตร
นายกสภาวศิ วกร
81
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๑ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานเุ บกษา
ขอ บังคบั สภาวิศวกร
วาดวยหลกั เกณฑแ ละคณุ สมบัตขิ องผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ แตละระดบั
สาขาวศิ วกรรมเครอ่ื งกล
พ.ศ. ๒๕๕๑
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ อันเปน กฎหมายทมี่ ีบทบัญญตั ิบางประการเกย่ี วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบ
ของที่ประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร
จึงออกขอ บังคบั ไว ดงั ตอไปนี้
ขอ ๑ ขอบังคับนี้เรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติ
ของผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมแตล ะระดับ สาขาวศิ วกรรมเครอ่ื งกล พ.ศ. ๒๕๕๑”
ขอ ๒ ขอบังคบั นใ้ี หใชบ งั คบั ตง้ั แตวันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
ขอ ๓ ใหงาน ประเภท และขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
เปนไปตามท่ีกําหนดไวในกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐
ขอ ๔ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคร่ืองกล
ระดบั วฒุ วิ ศิ วกร ประกอบวิชาชพี วศิ วกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคร่ืองกล ไดทุกงาน ทุกประเภท
และทุกขนาด
ขอ ๕ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคร่ืองกล
ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเคร่ืองกล ไดเฉพาะงาน
ประเภท และขนาดดงั น้ี
(๑) งานวางโครงการทกุ ประเภทและทุกขนาด
(๒) งานออกแบบและคาํ นวณ
(ก) เคร่อื งจักรกลที่มขี นาดรวมกันไมเ กิน ๗๕๐ กโิ ลวัตตต อ เครอ่ื ง
82
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๒ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา
(ข) เครื่องกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอื่น ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม
ท่ีมขี นาดความดันไมเ กิน ๔,๐๐๐ กโิ ลปาสกาล หรอื ภาชนะรับแรงดนั ปริมาตรไมเกิน ๑๐ ลูกบาศกเมตร
ตอ ถัง หรืออัตราการผลิตไอนาํ้ หรือไออยางอ่นื ไมเกนิ ๒๐,๐๐๐ กิโลกรัมตอ ชวั่ โมง
(ค) เครื่องปรับภาวะอากาศหรือเครื่องทําความเย็นท่ีมีขนาดทําความเย็นไมเกิน
๗๐๐ กิโลวตั ตต อเคร่อื ง หรือท่มี ีพื้นทปี่ รับอากาศหรอื ทําความเยน็ ไมเ กิน ๕๐,๐๐๐ ตารางเมตร
(ง) ระบบของไหลในทอ รบั แรงดันหรือสญุ ญากาศทีม่ ีความดนั ของไหลในทอทุกขนาด
เวนแตของไหลเปนสารมีพิษหรือวัตถุอันตรายตามกฎหมาย วาดวยการควบคุมวัตถุอันตราย ท้ังน้ี
มิใหห มายความรวมถึงสารทําความเย็นทว่ั ไป
(จ) การจัดการพลงั งานทกุ ขนาด
(ฉ) ระบบดบั เพลิงและปอ งกันอคั คีภัยทุกขนาด
(๓) งานควบคุมการสรางหรอื การผลิต
(ก) เครือ่ งจักรกลที่มขี นาดรวมกนั ไมเ กิน ๒,๐๐๐ กิโลวตั ตตอเคร่ือง
(ข) เคร่ืองกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอ่ืน ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรมท่ีมี
ความดันไมเ กนิ ๔,๐๐๐ กโิ ลปาสกาล หรือภาชนะรบั แรงดันปริมาตรไมเ กนิ ๓๐ ลูกบาศกเมตรตอถัง
หรอื อัตราการผลติ ไอน้ําหรือไออยา งอื่นไมเกนิ ๓๐,๐๐๐ กิโลกรมั ตอช่ัวโมง
(ค) เครื่องปรับภาวะอากาศหรือเคร่ืองทําความเย็นที่มีขนาดทําความเย็นไมเกิน
๑,๕๐๐ กิโลวัตตตอ เคร่อื ง
(ง) ระบบของไหลในทอรับแรงดันหรือสุญญากาศที่มีความดันของไหลในทอไมเกิน
๓,๐๐๐ กิโลปาสกาล เวนแตข องไหลเปนสารมีพิษหรือวัตถุอันตรายตามกฎหมาย วาดวยการควบคุม
วตั ถุอันตราย ทงั้ นี้ มใิ หห มายความรวมถงึ สารทําความเยน็ ทัว่ ไป
(จ) ระบบดับเพลงิ และปอ งกันอัคคีภยั ทกุ ขนาด
(๔) งานพจิ ารณาตรวจสอบ ทุกประเภทและทกุ ขนาด
(๕) งานอาํ นวยการใช
(ก) เคร่อื งจักรกลที่มขี นาดรวมกันไมเกนิ ๕,๐๐๐ กโิ ลวตั ตตอระบบ
(ข) เครื่องกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอ่ืน ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม
ท่ีมีความดันไมเกิน ๕,๐๐๐ กิโลปาสกาล หรือที่มีอัตราการผลิตไอน้ําหรือไออยางอื่นไมเกิน
๑๐๐,๐๐๐ กิโลกรัมตอชั่วโมงตอเคร่ือง หรือท่ีมีขนาดรวมกันไมเกิน ๓๐๐,๐๐๐ กิโลกรัมตอช่ัวโมง
ตอระบบ
83
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๓ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานเุ บกษา
(ค) หมออัดอากาศหรือหมออัดกาซท่ีมีขนาดความดันไมเกิน ๕,๐๐๐ กิโลปาสกาล
และมีปรมิ าตรไมเ กนิ ๕๐ ลูกบาศกเมตร
(ง) เครื่องปรบั ภาวะอากาศหรือเคร่อื งทาํ ความเยน็ ทุกขนาด
(จ) ระบบของไหลในทอ รบั แรงดนั หรือสุญญากาศทมี่ ีความดันของไหลในทอทุกขนาด
เวนแตของไหลเปนสารมีพิษหรือวัตถุอันตรายตามกฎหมาย วาดวยการควบคุมวัตถุอันตราย ท้ังนี้
มใิ หห มายความรวมถึงสารทาํ ความเยน็ ทว่ั ไป
(ฉ) ระบบดับเพลงิ และปอ งกันอคั คภี ัยทกุ ขนาด
ขอ ๖ ใหผูไดรับ ใบ อนุญาตเปน ผูประกอบวิช าชีพวิศ วกรรม ควบคุม สาขา
วิศวกรรมเคร่ืองกล ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเครื่องกล
ไดเฉพาะงาน ประเภท และขนาดดงั นี้
(๑) งานวางโครงการ
(ก) เครื่องจักรกลท่ีมีมูลคาไมเกินหาสิบลานบาทตอโครงการ หรือที่มีขนาดระบบ
รวมกันไมเกนิ ๕๐๐ กโิ ลวตั ต หรอื ทใี่ ชงานในอาคารที่มพี ้ืนท่ีใชสอยในอาคารไมเกิน ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร
หรอื ทใี่ ชง านในอาคารท่มี ีผูใชส อยพน้ื ทีไ่ มเ กนิ หารอยคน
(ข) เคร่ืองกําเนิดไอน้ําหรือไออยางอื่น ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม
ท่ีมีมูลคาไมเกินหาสิบลานบาทตอโครงการ หรือเครื่องกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอ่ืน หรือ
เตาอตุ สาหกรรมที่ใชความรอนไมเ กนิ ๑๐๐ ลา นเมกะจลู ตอป หรือเครื่องกําเนิดไอน้ําหรือไออยางอ่ืน
ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรมที่ใชงานในอาคารท่ีมีพื้นที่ใชสอยในอาคารไมเกิน
๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร หรือทใี่ ชง านในอาคารที่มีผูใชสอยพ้นื ท่ไี มเ กนิ หา รอยคน
(ค) เคร่ืองปรับภาวะอากาศหรือเคร่ืองทําความเย็นที่มีมูลคาไมเกินหาสิบลานบาท
ตอโครงการ หรือที่มีขนาดทําความเย็นของระบบไมเกิน ๕๐๐ กิโลวัตต หรือที่ใชงานในอาคาร
ท่มี ีพืน้ ท่ีใชส อยในอาคารไมเ กิน ๕,๐๐๐ ตารางเมตร หรือท่ีใชงานในอาคารท่ีมีผูใชสอยพื้นท่ีไมเกิน
หา รอยคน
(ง) ระบบของไหลในทอรับแรงดัน หรือสุญญากาศที่มีมูลคาไมเกินหาสิบลานบาท
ตอโครงการ หรือที่มีขนาดระบบไมเกิน ๕๐๐ กิโลวัตต หรือที่ใชงานในอาคารที่มีพ้ืนท่ีใชสอย
ในอาคารไมเกนิ ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร หรอื ท่ีใชงานในอาคารที่มผี ูใชส อยพืน้ ท่ไี มเกินหา รอยคน
84
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๔ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา
(จ) การจัดการพลังงานท่ีมีขนาดไมเกิน ๒,๐๐๐ กิโลวัตต หรือใชความรอนไมเกิน
๔๐ ลา นเมกะจลู ตอป
(ฉ) ระบบดับเพลิงและปองกันอัคคีภัย ซึ่งไมใชระบบดับเพลิงแบบพิเศษ เชน การใชกาซ
หรอื โฟม เปนตน ท่ีมีมูลคารวมกันไมเกินสิบลานบาทตอระบบ หรือที่มีพ้ืนที่ปองกันอัคคีภัยไมเกิน
๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร
(๒) งานออกแบบและคํานวณ
(ก) เคร่อื งจกั รกลท่มี ีขนาดรวมกนั ไมเกนิ ๑๐๐ กิโลวัตตต อ เคร่อื ง
(ข) เครื่องกําเนิดไอน้ําหรือไออยางอ่ืน ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม
ท่ีมีขนาดความดันไมเกิน ๑,๐๐๐ กิโลปาสกาล หรือภาชนะรับแรงดัน ปริมาตรไมเกิน ๓ ลูกบาศกเมตร
ตอถงั หรอื อัตราการผลิตไอนํา้ หรือไออยางอ่ืนไมเกนิ ๕,๐๐๐ กิโลกรัมตอ ชั่วโมง
(ค) เคร่ืองปรับภาวะอากาศหรือเคร่ืองทําความเย็นท่ีมีขนาดทําความเย็นไมเกิน
๑๐๐ กิโลวตั ตตอ เครอ่ื ง หรอื ท่มี พี ้ืนที่ปรบั อากาศหรอื ทาํ ความเยน็ ไมเ กนิ ๒,๐๐๐ ตารางเมตร
(ง) ระบบของไหลในทอรับแรงดันหรือสุญญากาศท่ีมีความดันของไหลในทอไมเกิน
๑,๕๐๐ กิโลปาสกาล เวนแตข องไหลเปนสารมีพิษหรือวัตถุอันตรายตามกฎหมาย วาดวยการควบคุม
วัตถอุ ันตราย ทงั้ น้ี มิใหห มายความรวมถงึ สารทําความเยน็ ท่วั ไป
(จ) การจัดการพลังงานขนาดไมเกิน ๑,๐๐๐ กิโลวัตต หรือใชความรอนไมเกิน
๒๐ ลานเมกกะจลู ตอป
(ฉ) ระบบดับเพลงิ และปอ งกนั อัคคภี ยั ซงึ่ ไมใชระบบดบั เพลงิ แบบพิเศษ เชน การใชก าซ
หรือโฟม เปนตน ที่มีมูลคารวมกันไมเกินหาลานบาทตอระบบ หรือท่ีมีพื้นท่ีปองกันอัคคีภัยไมเกิน
๕,๐๐๐ ตารางเมตร
(๓) งานควบคุมการสรา งหรือการผลติ
(ก) เครื่องจักรกลท่ีมีขนาดรวมกันไมเกิน ๕๐๐ กโิ ลวตั ตต อเครอ่ื ง
(ข) เคร่ืองกําเนิดไอน้ําหรือไออยางอ่ืน ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม
ทม่ี คี วามดนั ไมเกิน ๒,๐๐๐ กิโลปาสกาล หรือภาชนะรับแรงดันปริมาตรไมเกิน ๑๐ ลูกบาศกเมตร
ตอ ถัง หรอื อัตราการผลติ ไอนํา้ หรือไออยางอ่นื ไมเ กิน ๕,๐๐๐ กิโลกรมั ตอชั่วโมงตอ เครือ่ ง
(ค) เคร่ืองปรับภาวะอากาศหรือเคร่ืองทําความเย็นที่มีขนาดทําความเย็นไมเกิน
๓๕๐ กโิ ลวัตตตอ เครอ่ื ง
85
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๕ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
(ง) ระบบของไหลในทอรับแรงดันหรือสุญญากาศท่ีมีความดันของไหลในทอไมเกิน
๑,๕๐๐ กโิ ลปาสกาล เวน แตข องไหลเปนสารมีพิษหรือวัตถุอันตรายตามกฎหมาย วาดวยการควบคุม
วตั ถอุ นั ตราย ท้งั น้ี มใิ หห มายความรวมถงึ สารทาํ ความเยน็ ทว่ั ไป
(จ) ระบบดับเพลิงและปอ งกนั อคั คภี ัยทุกขนาด
(๔) งานพิจารณาตรวจสอบ
(ก) เครือ่ งจกั รกลที่มีขนาดรวมกนั ไมเกิน ๑๐๐ กโิ ลวตั ตต อเครอ่ื ง
(ข) ระบบดบั เพลงิ และปอ งกนั อคั คภี ยั ทกุ ขนาด
(๕) งานอาํ นวยการใช
(ก) เครอื่ งจกั รกลทมี่ ีขนาดรวมกันไมเกนิ ๒,๐๐๐ กิโลวัตตต อ ระบบ
(ข) เคร่ืองกําเนิดไอนํ้าหรือไออยางอ่ืน ภาชนะรับแรงดัน หรือเตาอุตสาหกรรม
ท่ีมีความดันไมเกิน ๒,๐๐๐ กิโลปาสกาล หรือท่ีมีอัตราการผลิตไอน้ําหรือไออยางอื่นไมเกิน
๒๐,๐๐๐ กิโลกรัมตอ ชัว่ โมงตอเครื่อง หรือทีม่ ีขนาดรวมกันไมเกิน ๑๐๐,๐๐๐ กิโลกรมั ตอชั่วโมงตอระบบ
(ค) หมออัดอากาศหรือหมออัดกาซท่ีมีขนาดความดันไมเกิน ๒,๐๐๐ กิโลปาสกาล
และมีปรมิ าตรไมเกิน ๓๐ ลูกบาศกเมตร
(ง) เคร่ืองปรับภาวะอากาศหรือเคร่ืองทําความเย็นท่ีมีขนาดทําความเย็นไมเกิน
๒,๐๐๐ กิโลวตั ตต อระบบ
(จ) ระบบของไหลในทอรบั แรงดันหรือสญุ ญากาศ ที่มีความดันของไหลในทอไมเกิน
๒,๐๐๐ กิโลปาสกาล เวน แตข องไหลเปนสารมีพิษหรือวัตถุอันตรายตามกฎหมาย วาดวยการควบคุม
วัตถอุ นั ตราย ท้งั นี้ มิใหหมายความรวมถึงสารทาํ ความเยน็ ท่ัวไป
(ฉ) ระบบดับเพลงิ และปอ งกนั อคั คีภยั ทุกขนาด
ขอ ๗ ใหผ ไู ดร บั ใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเครื่องกล
ระดับภาคีวิศวกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมเครื่องกลได ตามงาน
ประเภท และขนาดทร่ี ะบุไวใ นใบอนญุ าต
ขอ ๘ ในกรณีที่ตองมีการวินิจฉัยช้ีขาดหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพ
วศิ วกรรมควบคมุ แตล ะระดับ สาขาวศิ วกรรมเคร่ืองกล ตามขอบังคับนี้ ใหคณะกรรมการสภาวิศวกร
เปน ผวู นิ จิ ฉยั ช้ขี าด คําวนิ จิ ฉัยชข้ี าดของคณะกรรมการสภาวศิ วกรใหเ ปน ที่สดุ
86
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๖ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ ๙ ผไู ดรบั ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุม ซึ่งประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุมตามประเภท และสาขาทีร่ ะบุไวใ นใบอนุญาต ภายในขอกําหนดและเง่ือนไขตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ อยูกอน
วนั ท่ขี อบังคับนีม้ ีผลใชบงั คับ ใหผ นู ัน้ ประกอบการงานน้ันตอ ไปไดจนกวา งานจะแลวเสร็จ
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วริ ะ มาวจิ ักขณ
นายกสภาวิศวกร
87
เลม ๑๒๕ ตอนพเิ ศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๗ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานเุ บกษา
ขอบงั คับสภาวศิ วกร
วา ดว ยหลกั เกณฑแ ละคุณสมบตั ิของผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ แตล ะระดับ
สาขาวศิ วกรรมไฟฟา
พ.ศ. ๒๕๕๑
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ อนั เปน กฎหมายทมี่ บี ทบัญญตั บิ างประการเกยี่ วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบ
ของที่ประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร
จึงออกขอบังคบั ไว ดังตอ ไปนี้
ขอ ๑ ขอบังคับนี้เรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติของ
ผูประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุมแตล ะระดบั สาขาวศิ วกรรมไฟฟา พ.ศ. ๒๕๕๑”
ขอ ๒ ขอบงั คับน้ีใหใ ชบ ังคับตงั้ แตวันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป
ขอ ๓ ใหง าน ประเภท และขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรมไฟฟา
เปนไปตามท่ีกําหนดไวในกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐
ขอ ๔ ใหผ ไู ดร บั ใบอนญุ าตเปน ผปู ระกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟา กาํ ลงั ระดบั วุฒิวิศวกร ประกอบวชิ าชีพวศิ วกรรมควบคมุ สาขาวิศวกรรมไฟฟา งานไฟฟา
กาํ ลงั ไดท ุกงาน ทกุ ประเภท และทุกขนาด
ขอ ๕ ใหผ ูไ ดร บั ใบอนญุ าตเปน ผูประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟากําลัง ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
งานไฟฟา กาํ ลัง ไดเฉพาะงาน ประเภท และขนาดดังน้ี
(๑) งานวางโครงการ ระบบการผลิตไฟฟาที่มีขนาดรวมกันไมเกิน ๕๐,๐๐๐ กิโลโวลต
แอมแปร หรอื ท่มี ีขนาดแรงดันสูงสดุ ระหวา งสายในระบบไมเ กนิ ๓๖,๐๐๐ โวลต
88
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๘ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑
ราชกจิ จานุเบกษา
(๒) งานออกแบบและคํานวณ
(ก) ระบบหรืออุปกรณไฟฟาท่ีมีขนาดไมเกิน ๕๐,๐๐๐ กิโลโวลตแอมแปร หรือท่ีมี
ขนาดแรงดนั ระหวา งสายในระบบไมเกิน ๓๖,๐๐๐ โวลต
(ข) ระบบไฟฟาสําหรับอาคารสาธารณะท่ีมีขนาดการใชไฟฟากําลังรวมกันไมเกิน
๑๐,๐๐๐ กิโลโวลตแ อมแปร
(ค) ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยและระบบปองกันฟาผาสําหรับ อาคารสูง อาคาร
ขนาดใหญพ เิ ศษ หรืออาคารชุด ทุกขนาด
(๓) งานควบคุมการสรางหรอื การผลติ
(ก) ระบบไฟฟา ท่มี ีขนาดแรงดันระหวา งสายในระบบไมเกิน ๑๑๕ กโิ ลโวลต
(ข) อุปกรณไฟฟา ที่มีขนาดไมเ กิน ๑๐๐,๐๐๐ กิโลโวลตแ อมแปร หรอื ทีม่ ีขนาดแรงดนั
ระหวา งสายในระบบไมเ กิน ๑๑๕ กิโลโวลต
(ค) ระบบไฟฟาสําหรับอาคารสาธารณะที่มีขนาดการใชไฟฟากําลังรวมกันไมเกิน
๒๐,๐๐๐ กโิ ลโวลตแอมแปร
(ง) ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยและระบบปองกันฟาผาสําหรับ อาคารสูง อาคาร
ขนาดใหญพิเศษ หรืออาคารชดุ ทกุ ขนาด
(๔) งานพจิ ารณาตรวจสอบ ทุกประเภทและทุกขนาด
(๕) งานอาํ นวยการใช
(ก) ระบบไฟฟาทมี่ ีขนาดแรงดันสูงสุดระหวา งสายในระบบไมเ กิน ๑๑๕ กิโลโวลต
(ข) อปุ กรณไฟฟา ท่ีมีขนาดไมเ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ กโิ ลโวลตแ อมแปร หรอื ท่มี ีขนาดแรงดนั
สงู สดุ ระหวางสายในระบบไมเกิน ๑๑๕ กโิ ลโวลต
ขอ ๖ ใหผ ไู ดรับใบอนุญาตเปนผปู ระกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟากําลัง ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
งานไฟฟา กําลัง ไดเ ฉพาะงาน ประเภท และขนาดดงั น้ี
(๑) งานออกแบบและคาํ นวณ
(ก) ระบบหรืออุปกรณไฟฟาที่มีขนาดไมเกิน ๑,๐๐๐ กิโลโวลตแอมแปร หรือท่ีมี
ขนาดแรงดนั ระหวา งสายในระบบไมเ กนิ ๑๒ กิโลโวลต
(ข) ระบบไฟฟาสําหรับอาคารสาธารณะที่มีขนาดการใชไฟฟากําลังรวมกันไมเกิน
๑,๐๐๐ กโิ ลโวลตแอมแปร
89
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๓๙ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
(ค) ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยและระบบปองกันฟาผาสําหรับ อาคารสูง อาคาร
ขนาดใหญพิเศษ หรอื อาคารชุด ทุกขนาด
(๒) งานควบคุมการสรา งหรอื การผลิต
(ก) ระบบไฟฟาที่มีขนาดไมเกิน ๑๐,๐๐๐ กิโลโวลตแอมแปร หรือที่มีขนาดแรงดัน
ระหวา งสายในระบบไมเกนิ ๓๖ กโิ ลโวลต
(ข) ระบบไฟฟาสําหรับอาคารสาธารณะที่มีขนาดการใชไฟฟากําลังรวมกัน ไมเกิน
๑๐,๐๐๐ กโิ ลโวลตแ อมแปร
(ค) ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัยและระบบปองกันฟาผาสําหรับ อาคารสูง อาคาร
ขนาดใหญพ เิ ศษ หรอื อาคารชุด ทกุ ขนาด
(๓) งานพจิ ารณาตรวจสอบยกเวนการวเิ คราะหร ะบบไฟฟา ทกุ ประเภทและทุกขนาด
(๔) งานอาํ นวยการใชระบบหรอื อปุ กรณไ ฟฟา ทม่ี ขี นาดไมเ กนิ ๑๐,๐๐๐ กโิ ลโวลตแอมแปร
หรอื ทีม่ ขี นาดแรงดันสงู สดุ ระหวางสายในระบบไมเกนิ ๓๖ กิโลโวลต
ขอ ๗ ใหผ ไู ดร บั ใบอนญุ าตเปนผูประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟากําลัง ระดับภาคีวิศวกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
งานไฟฟา ไดต ามงาน ประเภท และขนาดทร่ี ะบไุ วใ นใบอนุญาต
ขอ ๘ ใหผ ไู ดรับใบอนญุ าตเปน ผปู ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟาสื่อสาร ระดับวุฒิวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
งานไฟฟา สอ่ื สาร ไดท กุ งาน ทุกประเภท และทกุ ขนาด
ขอ ๙ ใหผ ูไดรบั ใบอนุญาตเปนผปู ระกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟาสื่อสาร ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
งานไฟฟาส่อื สาร ไดเฉพาะงาน ประเภท และขนาดดังนี้
(๑) งานวางโครงการระบบเครือขายที่มีสถานีรับ สง และถายทอดเพ่ือกระจายคลื่น
แมเ หลก็ ไฟฟา ท่ีมกี ําลงั สงแตละสถานไี มเกิน ๕ กโิ ลวตั ต
(๒) งานออกแบบและคํานวณ และงานควบคุมการสรางหรือการผลิต
(ก) ระบบกระจายคลนื่ แมเ หลก็ ไฟฟา ทม่ี ีกําลังสง แตล ะสถานไี มเกนิ ๕ กโิ ลวัตต
(ข) ระบบรับ สง แยก หรือรวมสัญญาณสงโดยใชความถ่ีคล่ืนแมเหล็กไฟฟา
ทกุ ขนาด
90
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๐ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
(๓) งานพจิ ารณาตรวจสอบทกุ ประเภทและทกุ ขนาด
(๔) งานอํานวยการใชระบบกระจายคล่ืนแมเหล็กไฟฟาท่ีมีกําลังสงแตละสถานีไมเกิน
๕ กิโลวัตต
ขอ ๑๐ ใหผ ไู ดร บั ใบอนุญาตเปน ผปู ระกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟาส่ือสาร ระดับภาคีวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
งานไฟฟาส่อื สาร ไดเฉพาะงาน ประเภท และขนาดดังน้ี
(๑) งานออกแบบและคํานวณ และงานควบคุมการสรางหรือการผลิต ระบบรับ สง แยก
หรือรวมสัญญาณสง โดยใชคลน่ื แมเหล็กไฟฟาทีม่ ชี อ งการส่อื สารไมเกนิ ๒๔๐ วงจรเสยี งหรอื เทยี บเทา
(๒) งานพจิ ารณาตรวจสอบทุกประเภทและทกุ ขนาด
(๓) งานอํานวยการใชระบบกระจายคล่ืนแมเหล็กไฟฟาที่มีกําลังสงแตละสถานีไมเกิน
๒ กิโลวัตต
ขอ ๑๑ ใหผูไ ดร บั ใบอนุญาตเปนผูประกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
แขนงไฟฟา สื่อสาร ระดับภาคีวิศวกรพิเศษ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมไฟฟา
งานไฟฟาสอ่ื สาร ไดตามงาน ประเภท และขนาดทรี่ ะบไุ วในใบอนุญาต
ขอ ๑๒ ในกรณีท่ีตองมีการวินิจฉัยชี้ขาดหลักเกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุมแตละระดับ สาขาวิศวกรรมไฟฟา ตามขอบังคับน้ี ใหคณะกรรมการสภาวิศวกร
เปน ผูวนิ จิ ฉยั ชข้ี าด คําวนิ จิ ฉยั ชี้ขาดของคณะกรรมการสภาวศิ วกรใหเ ปน ท่สี ุด
ขอ ๑๓ ผูไดร ับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซึ่งประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคมุ ตามประเภท และสาขาที่ระบไุ วใ นใบอนุญาต ภายในขอกําหนดและเง่ือนไขตามกฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ อยูกอน
วันทขี่ อ บังคบั นม้ี ีผลใชบ งั คับ ใหผ ูน ัน้ ประกอบการงานน้ันตอไปไดจ นกวางานจะแลว เสร็จ
ประกาศ ณ วันท่ี ๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๑
วริ ะ มาวิจกั ขณ
นายกสภาวิศวกร
91
เลม ๑๒๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง หนา ๔๑ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
ราชกิจจานุเบกษา
ขอบงั คบั สภาวิศวกร
วา ดวยหลกั เกณฑและคุณสมบัติของผูประกอบวิชาชีพวศิ วกรรมควบคุมแตละระดบั
สาขาวศิ วกรรมอุตสาหการ
พ.ศ. ๒๕๕๑
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ฉ) และมาตรา ๔๖ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ และกฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
พ.ศ. ๒๕๕๐ อันเปนกฎหมายท่ีมบี ทบัญญัตบิ างประการเกยี่ วกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย สภาวิศวกรโดยความเห็นชอบ
ของที่ประชุมใหญสามัญสภาวิศวกร และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแหงสภาวิศวกร
จึงออกขอ บังคับไว ดังตอไปน้ี
ขอ ๑ ขอบังคับน้ีเรียกวา “ขอบังคับสภาวิศวกร วาดวยหลักเกณฑและคุณสมบัติของ
ผปู ระกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุมแตละระดับ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ พ.ศ. ๒๕๕๑”
ขอ ๒ ขอบังคับนใ้ี หใชบงั คับตง้ั แตว ันถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
ขอ ๓ ใหงาน ประเภท และขนาดของงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาวิศวกรรม
อุตสาหการ เปนไปตามท่ีกําหนดไวใ นกฎกระทรวงกาํ หนดสาขาวชิ าชีพวิศวกรรมและวชิ าชพี วิศวกรรม
ควบคมุ พ.ศ. ๒๕๕๐
ขอ ๔ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
อตุ สาหการ ระดบั วฒุ วิ ศิ วกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคมุ สาขาวศิ วกรรมอุตสาหการ ไดทุกงาน
ทุกประเภท และทุกขนาด
ขอ ๕ ใหผูไดรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรม
อุตสาหการ ระดับสามัญวิศวกร ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
ไดเฉพาะงาน ประเภท และขนาดดังนี้
(๑) งานใหคําปรึกษาทุกประเภทและทุกขนาด ท่ีลงทุนไมเกินสองรอยลานบาทโดยไมรวม
คา ท่ีดนิ