The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suwimolsoisan3254, 2023-01-17 04:43:13

ภูมิศาสตร์ ม.4-6

ภูมิศาสตร์ ม.4-6

กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค 5.2) ผลกระทบของวิกฤตการณ์ขยะและของเสียอันตราย ที่ส�ำคัญ มีดังนี้ 1. มีสารพิษปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม ของเสียอันตรำยบำงอย่ำง เช่น ถ่ำนไฟฉำย หลอดไฟ แบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ มีสำรโลหะหนักบรรจุอยู่ เมื่อปนเปื้อนสู่ดิน และน�้ำส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ และจะเป็นอันตรำยเมื่อเข้ำสู่ร่ำงกำยของมนุษย์และสะสมปริมำณ มำกขึ้นเป็นเวลำนำน 2. เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค ขยะมูลฝอยที่มีเศษอำหำรปะปนและเหลือ ตกค้ำง เป็นแหล่งเพำะพันธุ์ของแมลงสำบ แมลงวัน และหนู ซึ่งเป็นสัตว์พำหะน�ำโรค 3. ท�าให้แหล่งน�้าเน่าเสีย ขยะมูลฝอยประเภทอินทรีย์ เมื่อถูกทิ้งปนเปื้อน ลงสู่แหล่งน�้ำ จะถูกจุลินทรีย์ในน�้ำย่อยสลำยท�ำให้ออกซิเจนในน�้ำลดลง ส่งผลให้น�้ำเน่ำเสีย 4. ท�าให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและสังคม ของเสียอันตรำยที่ติด ไฟง่ำยหรือมีส่วนประกอบของสำรที่ติดไฟง่ำยหรือสำรไวไฟ ท�ำให้เกิดไฟไหม้ได้หำกเก็บไว้ใกล้ไฟ หรือในที่ที่มีอุณหภูมิสูงมำก ๆ หรือของเสียอันตรำยที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่ำง ท�ำให้เกิดกำรกัดกร่อน เสียหำยต่อวัสดุต่อเนื้อเยื่อของร่ำงกำยมนุษย์ตลอดจนเกิดควำมเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลกระทบทำงอ้อมท�ำให้เกิดปัญหำทำงสังคมด้วย 5.3) แนวทางแก้ไขวิกฤตการณ์ขยะและของเสียอันตราย มีดังนี้ 1. คัดแยกประเภทของขยะและของเสียอันตราย ท�ำให้ง่ำยต่อกำรเก็บ และกำรท�ำลำย ช่วยลดขยะในระบบ และลดปัญหำด้ำนสิ่งแวดล้อม 2. น�าขยะมารีไซเคิล โดยกำรแปรสภำพและหมุนเวียนกลับมำใช้ใหม่ เช่น ประเทศสิงคโปร์สำมำรถน�ำขยะไปผลิตกระแสไฟฟ้ำได้มำกถึง 56 เมกะวัตต์ต่อวัน ประเทศสวีเดน น�ำขยะมำใช้ประโยชน์ในกำรผลิตพลังงำน 3. ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อลดกำรเคลื่อนย้ำยขยะติดเชื้อเน้นหลักกำร ก�ำจัดที่แหล่งก�ำเนิด เช่น เทคโนโลยีกำรท�ำลำยเชื้อด้วยไอน�้ำ ณ แหล่งก�ำเนิด 4. เลือกซื้อ เลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้สินค้ำฉลำกเขียว เช่น ถ่ำนไฟฉำยสูตรไม่ผสมสำรปรอท ตู้เย็นฉลำกเขียว สีอิมัลชันสูตรลดสำรพิษ หรือใช้สำรสกัด จำกธรรมชำติหรือสมุนไพรแทนกำรใช้สำรเคมีที่สังเครำะห์ขึ้น Geo Tip การคัดแยกขยะมูลฝอย กำรจัดกำรขยะมูลฝอยจ�ำเป็นต้องมีกำรคัดแยกขยะประเภทต่ำง ๆ เพื่อน�ำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ และง่ำยต่อกำรก�ำจัด ดังนี้ ขยะอันตราย/ขยะพิษ • ถ่ำนไฟฉำย • หลอดไฟ • แบตเตอรี่ ฯลฯ ขยะทั่วไป • ถุงพลำสติก • ซองขนมขบเคี้ยว • กล่องโฟม ฯลฯ ขยะรีไซเคิล • ขวดแก้ว • กระดำษ • กระป๋องเครื่องดื่มฯลฯ ขยะย่อยสลายได้ • เศษอำหำร • เศษผัก เปลือกผลไม้ • ใบไม้ ฯลฯ 232 233 การคัดแยกขยะมูลฝอย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 15. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับ การคัดแยกขยะมูลฝอย จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 และวิเคราะหขอมูลรวมกัน 16. ครูใหนักเรียนรวมกันนําเสนอแนวทางแกไข วิกฤตการณเกี่ยวกับขยะและของเสียอันตราย เพิ่มเติม และนําขอมูลที่ไดมาอภิปรายสรุป รวมกัน นักเรียนควรรู 1 การคัดแยกขยะมูลฝอย ในการจัดการขยะมูลฝอยจําเปนตองมีระบบ การคัดแยกขยะประเภทตางๆ โดยมีวัตถุประสงคเพื่อนํากลับไปใชประโยชน ไดใหม สามารถทําไดตั้งแตแหลงกําเนิด โดยจัดวางภาชนะรองรับขยะมูลฝอย ใหเหมาะสม และแบงแยกประเภทของถังหรือภาชนะใหชัดเจนตามสีตางๆ โดยมีถุงบรรจุในถังเพื่อความสะดวกและขยะไมตกหลนหรือแพรกระจาย นักเรียนแบงกลุมเสนอแนวทางการจัดการขยะมูลฝอย อยางครบวงจร เพื่อลดปริมาณขยะมูลฝอยในชุมชน และสามารถ นําขยะมูลฝอยมาใชประโยชน ทั้งการใชซํ้า หรือนํากลับมาใช ใหม โดยนําเสนอวิธีการดําเนินงาน ดังนี้ • การลดปริมาณการผลิตขยะมูลฝอย • การจัดระบบการรีไซเคิล • การคัดแยก เก็บรวบรวม และการขนสงขยะมูลฝอย • การกําจัด นํา สอน สรุป ประเมิน T242


1.3 การเปลี่ยนแปลงความหลากหลายทางชีวภาพ ปัจจุบันสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลำยทั่วโลกก�ำลังลดจ�ำนวนลง ในอัตรำที่สูงกว่ำที่เคยเป็นมำในอดีต และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนำคต เมื่อระบบนิเวศ ถูกท�ำลำยจนเสียสมดุล ส่งผลให้ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพลดลงอย่ำงรวดเร็ว 1) สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงความหลากหลายทางชีวภาพ ปัจจุบันโลกก�ำลัง สูญเสียสัตว์และพืชในป่ำเขตร้อนอย่ำงน้อย 27,000 ชนิดต่อปี หรือสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไปจำกโลกนี้ ประมำณ 3 - 4 สปีชีส์ต่อชั่วโมง เพรำะเขตภูมิอำกำศเขตร้อนเป็นเขตที่อุดมสมบูรณ์มีควำม หลำกหลำยทำงชีวภำพมำก แต่เมื่อใดที่ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพถูกท�ำลำยแล้วก็จะฟื้นฟู ให้กลับสู่ควำมอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมได้ยำกเช่นกัน สำเหตุหลักมำจำกกำรสูญเสียที่อยู่อำศัย ตำมธรรมชำติ เนื่องจำกกำรขยำยตัวของประชำกรโลกและกิจกรรมทำงเศรษฐกิจของมนุษย์ นอกจำกในป่ำเขตร้อนแล้วควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพในระบบนิเวศอื่น ๆ ก็ก�ำลังลดลงเช่นกัน เช่น ในแนวปะกำรัง พื้นที่ชุ่มน�้ำบนเกำะหรือบนภูเขำ ประเทศไทยมีนักวิชำกำรประมำณชนิดของสิ่งมีชีวิตว่ำมีอยู่ถึงร้อยละ 7 ของชนิด สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกซึ่งมีประมำณ 5 ล้ำนชนิดโดยเป็นพืชประมำณ 15,000ชนิดสัตว์ประมำณ 16,000 ชนิด แต่ปัจจุบันทรัพยำกรธรรมชำติและพื้นที่ป่ำไม้ในประเทศไทยลดลงอย่ำงรวดเร็ว ในช่วง 30 - 40 ปีที่ผ่ำนมำ จำกเดิมร้อยละ 70 ของพื้นที่ เหลือร้อยละ 25 สำเหตุส่วนใหญ่มำจำก กำรกระท�ำของมนุษย์เพรำะกำรเพิ่มขึ้นของประชำกรมนุษย์ท�ำให้มีกำรบุกรุกท�ำลำยป่ำไม้ส่งผลให้ สัตว์ป่ำต้องสูญเสียแหล่งที่อยู่อำศัยหรืออพยพ และหลำยชนิดได้สูญพันธุ์ไปจำกประเทศไทย เช่น สมัน กูปรีหรือโคไพร กำรบุกรุกท�ำลำยพื้นที่ป่ำไม้ สำเหตุหลักของกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ 232 233 เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณความหลากหลายทางชีวภาพของ ประเทศไทยวาเปนพื้นที่ที่มีจํานวนและชนิดพันธุพืชและพันธุสัตวที่หลากหลาย เนื่องจากมีพื้นที่ปาไมและทิวเขาอันเปนรอยตอกับพื้นที่ขางเคียง และเชื่อมตอ กับแมนํ้าโขง อาวไทย และทะเลอันดามัน จึงไดรับการจัดลําดับใหเปนหนึ่งใน ประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง แตปจจุบันทรัพยากรธรรมชาติของ ประเทศถูกคุกคามอยางตอเนื่องจากการใชประโยชนมากเกินไป การคุกคาม แหลงอาศัย การนําสัตวตางถิ่นเขามา การถมพื้นที่ชุมนํ้า เหลานี้ลวนเปนปจจัย ที่ทําใหความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศลดลงอยางตอเนื่อง กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนรวมกันเสนอแนวทางการจัดการความหลากหลายทาง ชีวภาพ เพื่อใหเกิดการอนุรักษและการใชประโยชนอยางยั่งยืน ทั้งทางตรงและทางออม เชน การสรางความตระหนักและ ปลูกจิตสํานึกใหแกประชาชน การใหความรูเกี่ยวกับการใช ทรัพยากรธรรมชาติอยางเหมาะสม โดยครูเปดโอกาสใหนักเรียน ไดเสนอความคิดเห็นอยางหลากหลาย และนํามาอภิปรายรวมกัน ในชั้นเรียน ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 6.1 เรื่อง สถานการณการเปลี่ยนแปลงดานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม 3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ การเปลี่ยนแปลงดานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม โดยครูแนะนําเพิ่มเติม นํา สอน สรุป ประเมิน T243


กิจกรรม Geo-Literacy ที่มา : Ecology: The effect of conservation spending (2016) 0 ํ 0 ํ 20 ํN 20 ํN 20 ํS 20 ํS 40 ํN 40 ํN 40 ํS 40 ํS 60 ํN 60 ํN 60 ํS 60 ํS 80 ํN 80 ํN 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 80 ํS 80 ํS N 0 2000 4000 กม. 1 : 250,000,000 อัตราการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ 5%4%3%2%1% 2) ปจจัยที่ท�าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความหลากหลายทางชีวภาพ มีดังนี้ 2.1) การเพิ่มของจ�านวนประชากรและการกระจายตัวของประชากร ท�ำให้เกิดกำร รุกล�้ำเข้ำไปในพื้นที่ที่มีควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อควำมสมดุลของระบบนิเวศ 2.2) การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของโลก โดยเฉพำะภำวะโลกร้อนที่มี ผลกระทบต่อกำรเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต ท�ำให้สิ่งมีชีวิตหลำยชนิดสูญพันธุ์ 2.3) การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง ส�ำหรับกำรด�ำรงชีวิตและเพื่อ ผลประโยชน์ทำงกำรค้ำ เช่น กำรค้ำไม้และสัตว์ป่ำอย่ำงผิดกฎหมำย 2.4) การเกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เช่น กำรทิ้งขยะมูลฝอยลงแม่น�้ำล�ำคลอง กำรปล่อยควันพิษหรือของเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม 2.5) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพ (biotechnology) ด้ำนกำรตัดต่อหน่วย พันธุกรรม หรือจีเอ็มโอ (Genetically Modified Organisms: GMOs) หรือพันธุวิศวกรรม (genetic engineering) ส่งผลให้เกิดกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ จำกแผนที่ พื้นที่ที่มีกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ที่มีกำร ตัดไม้ท�ำลำยป่ำเป็นจ�ำนวนมำก โดยเฉพำะประเทศอินโดนีเซีย มีกำรตัดไม้ท�ำลำยป่ำในบริเวณ เกำะสุมำตรำ รวมถึงปัญหำไฟป่ำ ส่งผลให้เกิดกำรสูญเสียควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ เช่น กำรลดจ�ำนวนลงของช้ำงสุมำตรำ แรดสุมำตรำ จนเสี่ยงต่อกำรสูญพันธุ์ ในขณะที่ประเทศอินเดีย สัตว์ที่หำยำกถูกคุกคำม เช ่น เสือโคร ่งเบงกอล สิงโตอินเดีย นอกจำกนี้ ยังมีกำรสูญเสีย ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพยังเกิดขึ้นมำกในประเทศออสเตรเลีย จีน สหรัฐอเมริกำ บรำซิล และทวีปยุโรป แผนที่แสดงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ 234 235 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือ ดานเทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับสถานการณ การเปลี่ยนแปลงดานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของ เนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง สถานการณการ เปลี่ยนแปลงดานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทาย แผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 6 เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมกับ การพัฒนาที่ยั่งยืนแบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ครูนําภาพหรือขาวเกี่ยวกับการจัดการสิ่งกอสราง เชน ที่พักตาก อากาศ สวนสัตว และชุมชนที่บุกรุกพื้นที่ปาเพื่อการอนุรักษตางๆ การสรางที่พักตากอากาศในพื้นที่อุทยานแหงชาติของนายทุน หรือของหนวยงานที่เกี่ยวของ มาใหนักเรียนพิจารณารวมกัน แลวตั้งประเด็นอภิปรายที่ชวยพัฒนาทักษะการคิด เชน • การอนุรักษปาไมโดยการบังคับใชกฎหมายหรือสรางจิตสํานึก • แนวทางการอยูรวมกันระหวางคนกับปา นักเรียนสรุปผลการอภิปรายเพื่อใหเขาใจสถานการณการบุกรุก พื้นที่ปาในประเทศไทย ทั้งนําไปสูการสรางจิตสํานึกในการมีสวนรวม ในการอนุรักษปา นํา สอน สรุป ประเมิน T244


ขจัดความ ยากจน น�้าสะอาดและ สุขาภิบาล เมืองและ ชุมชนยั่งยืน การรับมือกับ Climate Change การผลิตและ บริโภคที่ รับผิดชอบ ขจัดความ หิวโหย พลังงานสะอาด และจ่ายได้ งานที่มีคุณค่า เศรษฐกิจที่ เติบโต อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา ที่มีคุณภาพ ความเท่าเทียม ทางเพศ การมีสุขภาพ และความ เป็นอยู่ที่ดี ลดความ เหลื่อมล�้า นิเวศทางทะเล และมหาสมุทร ระบบนิเวศ บนบก สันติภาพและ สถาบันเข้มแข็ง หุ้นส่วนเพื่อ การพัฒนา 2 มาตรการป้องกันและแก้ ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัญหำทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่เกิดจำกกำรกระท�ำของมนุษย์ทั้งทำงตรง และทำงอ้อม มำกกว่ำเกิดจำกกำรกระท�ำของธรรมชำติ ดังนั้น กำรแก้ไขปัญหำจึงต้องด�ำเนินกำร โดยมนุษย์เอง มำตรกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำ มีดังนี้ 2.1 การพัฒนาที่ยั่งยืน กำรพัฒนำสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน หมำยถึง กำรพัฒนำทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม โดยค�ำนึงถึงควำมเสียหำย มีกำรป้องกันปัญหำที่เกิดแก ่สิ่งแวดล้อมหรือก ่อให้เกิดควำม เสียหำยน้อยที่สุด โดยค�ำนึงถึงควำมต้องกำรพื้นฐำนของประชำกรในประเทศด้วย ปัจจุบันองค์กำร สหประชำชำติได้เผยแพร่ “เป้ำหมำยกำรพัฒนำที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่ประชำคมโลกตกลงร่วมกันที่จะใช้เป็นกรอบในกำรด�ำเนินงำนด้ำนกำรพัฒนำ ตั้งแต่ เดือนกันยำยน พ.ศ. 2558 - สิงหำคม พ.ศ. 2573 ครอบคลุมระยะเวลำ 15 ปี โดยมีเป้ำหมำย 17 ข้อ ดังนี้ 234 235 ขั้นนํา (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรู และผลการเรียนรู 2. ครูใหนักเรียนใชสมารตโฟนสืบคนขาวที่ เกี่ยวของกับปญหาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม เชน ขาวการลักลอบตัดไม ขาว การลาสัตวในเขตปาหวงหาม ฯลฯ จากนั้น วิเคราะหประเด็นปญหาจากขาวรวมกัน 3. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น เชื่อมโยงความเกี่ยวของของขาวที่ไดจากการ สืบคนกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET ประเทศใดตอไปนี้นาจะมีปญหาสิ่งแวดลอมมากที่สุดตาม หลักการจัดการสิ่งแวดลอม 1. ประเทศ ก มีพื้นที่นอย แตมีที่ตั้งเหมาะเปนเมืองทา 2. ประเทศ ข มีประชากรมาก แตสวนใหญไมไดรับการศึกษา ที่มีคุณภาพ 3. ประเทศ ค มีทรัพยากรนอย แตหลากหลายประเภทและ กระจายอยูทั่วประเทศ 4. ประเทศ ง มีทรัพยากรนอย แตมีการสํารวจเพิ่มและหา สิ่งทดแทนการใชทรัพยากร 5. ประเทศ จ มีทรัพยากรมาก แตไมหลากหลาย ตองพึ่งพา การนําเขาทรัพยากรจากตางประเทศ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เนื่องจากหลักการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมรวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน เนนเรื่องคุณภาพของประชากรในประเทศเปนสําคัญ) บูรณาการอาเซียน อาเซียนไดดําเนินงานดานสิ่งแวดลอมอยางตอเนื่องมาโดยตลอด โดยมี การดําเนินงานที่สอดคลองหรือเกี่ยวของกับความตกลงระหวางประเทศทั้งใน ระดับภูมิภาค และสนธิสัญญาระหวางประเทศในเรื่องที่เกี่ยวของกับสิ่งแวดลอม เชน ความตกลงอาเซียนวาดวยมลพิษและหมอกควัน อนุสัญญาสตอกโฮลมวา ดวยสารมลพิษที่ตกคางยาวนาน และยังมีการดําเนินงานดานสิ่งแวดลอมเพื่อ “สิ่งแวดลอมที่ยั่งยืนของอาเซียน” ตามแผนงานประชาคมอาเซียน นํา นํานํา สอนสอน สรุปสรุป ประเมิน ประเมิน T245


ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้ เป้าหมายข้อที่ จุดมุ่งหมาย แนวทางด�าเนินการ • ให้ทุกคนมีน�้าดื่มที่ปลอดภัยและเข้าถึง สุขอนามัยที่พอเพียงและเป็นธรรม • ยกระดับคุณภาพน�้า ด�าเนินการบริหารจัดการ ทรัพยากรน�้าแบบองค์รวมในทุกระดับ • ปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับ แหล่งน�้า รวมถึงภูเขาป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน�้า แม่น�้า ชั้นหินอุ้มน�้า และทะเลสาบ • ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศและ เสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่ประเทศ ก�าลังพัฒนาในกิจกรรมและแผนงาน เกี่ยวกับน�้าและสุขอนามัยรวมถึงการใช้ น�้าอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการน�้าเสีย เทคโนโลยีการน�าน�้ากลับมาใช้ใหม่ • ให้ทุกคนเข้าถึงการบริการพลังงานสมัยใหม่ ในราคาที่สามารถซื้อหาได้ • เพิ่มสัดส่วนของพลังงานทดแทนในการผสม ผสานการใช้พลังงานของโลก • เพิ่มอัตราการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ พลังงานของโลกให้เพิ่มขึ้น 2 เท่า • ยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศใน การเข้าถึงการวิจัยและเทคโนโลยีพลังงาน ที่สะอาด • ขยายโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนา เทคโนโลยีส�าหรับจัดส่งบริการพลังงาน สมัยใหม่และยั่งยืนในประเทศก�าลังพัฒนา • เสริมสร้างภูมิต้านทานในการปรับตัวต ่อ อันตรายและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้อง กับภูมิอากาศ • พัฒนาการศึกษา สร้างความตระหนักรู้ในการ ลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับตัว การลดผลกระทบ และการเตือน ภัยล่วงหน้า • ด�าเนินการให้เกิดผลตามพันธกรณี ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ • เพิ่มขีดความสามารถในการวางแผน และการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมี ประสิทธิผลในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด • ป้องกันและลดมลพิษทางทะเลทุกประเภท • บริหารจัดการและปกป้องระบบนิเวศทางทะเล และชายฝั่ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบ • อนุรักษ์พื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งอย่างน้อย ร้อยละ 10 ให้เป็นไปตามกฎหมายระหว่าง ประเทศและภายในประเทศ • เพิ่มความรู้ทางวิทยาศาสตร์ พัฒนางาน วิจัย และถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทะเล • เพิ่มพูนการอนุรักษ์และการใช้มหาสมุทร และทรัพยากรอย่างยั่งยืน • จัดให้มีการเข้าถึงทรัพยากรทางทะเลและ ตลาดส�าหรับชาวประมงพื้นบ้านรายเล็ก • ปกป้อง ฟื้นฟูและสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศ บนบกอย่างยั่งยืน • ส่งเสริมการบริหารจัดการป่าไม้ทุกประเภท อย่างยั่งยืน ฟื้นฟูที่ดินที่เสื่อมโทรมให้ฟื้น สภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสูญเสียความ หลากหลายทางชีวภาพ • ระดมและเพิ่มเงินทุนเพื่อการอนุรักษ์และ การใช้ความหลากหลายทางชีวภาพและ ระบบนิเวศอย่างยั่งยืน • เพิ่มพูนการสนับสนุนในระดับโลกที่จะ ต่อต้านการล่าและการเคลื่อนย้ายชนิด พันธุ์คุ้มครอง รวมถึงเพิ่มความร่วมมือ ของชุมชนท้องถิ่น น�้ำสะอำดและ สุขำภิบำล พลังงำนสะอำด และจ่ำยได้ กำรรับมือกับ Climate Change นิเวศทำงทะเล และมหำสมุทร ระบบนิเวศ บนบก 236 237 ชั้นหินอุ้มน�้า 1 ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 4. ครูนําภาพขาวเกี่ยวกับบทบาทในการดูแล รักษาสิ่งแวดลอมของหนวยงานที่เกี่ยวของและ องคกรตางๆ ทั้งในประเทศและตางประเทศ มาใหนักเรียนดู เชน การรื้อถอนสิ่งกอสราง ที่รุกลํ้าพื้นที่ปาเพื่อการอนุรักษของเจาหนาที่ กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช การพัฒนาแนวทางการอยูรวมกันระหวาง ปาอนุรักษกับชาวบานในชุมชนบริเวณผืนปา ภาคตะวันตกของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และ การลงนามในพิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocol) ของประเทศตางๆ เพื่อรวมกันลดการปลอย แกสเรือนกระจกขึ้นสูบรรยากาศ จากนั้นให นักเรียนบอกชื่อหนวยงานและองคกรทาง สิ่งแวดลอมและกิจกรรมของหนวยงานนั้นๆ ที่ นักเรียนทราบเพิ่มเติม 5. ครูใหนักเรียนเชื่อมโยงความสัมพันธบทบาท ในการดูแลรักษาสิ่งแวดลอมของหนวยงาน ตางๆ กับเปาหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ องคการสหประชาชาติวามีความเกี่ยวของกัน หรือไม อยางไร นักเรียนควรรู 1 ชั้นหินอุมนํ้า ชั้นหินที่มีสมบัติยอมใหนํ้าซึมเขาไดโดยงาย เนื่องจากมี ชองวางระหวางเม็ดแรที่กวาง มีโพรง หรือรอยแตกตอเนื่องกัน จึงทําใหเก็บนํ้า ไวไดในปริมาณมาก จนกลายเปนแหลงนํ้าใตดิน ชั้นหินนี้อยูในเขตอิ่มนํ้า ตัวอยางชั้นหินอุมนํ้า เชน หินทราย หินปูน การปฏิบัติตนเพื่อการอนุรักษและพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดลอม ทําไดหลายวิธี ยกเวนขอใด 1. หลีกเลี่ยงไมใชสินคาที่เปนอันตรายตอสิ่งแวดลอม 2. เลือกใชเครื่องใชไฟฟาใหเหมาะสมกับฐานะของครอบครัว 3. ลางรถยนตดวยการตักนํ้าใสถังแทนการใชนํ้าจากสายยาง 4. ใชหนังสือพิมพหอเศษอาหารกอนนําไปทิ้งลงถังขยะสีเขียว 5. การประสานความรวมมือระหวางรัฐบาลและประชาชนใน การดูแลรักษาปา (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. การเลือกใชเครื่องใชไฟฟาให เหมาะสมกับฐานะของครอบครัว เปนการปฏิบัติตนเพื่อประหยัด คาใชจายในครัวเรือน ซึ่งควรพิจารณาจากความปลอดภัยในการ ผลิตและการใชงาน รวมถึงการประหยัดพลังงานของเครื่องใช ไฟฟาประกอบดวย สวนตัวเลือกในขออื่นเปนวิธีปฏิบัติตนเพื่อการ อนุรักษและพัฒนาสิ่งแวดลอมที่ถูกตองเหมาะสม) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T246


2.2 การผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน กำรผลิตและกำรบริโภคอย่ำงยั่งยืน (sustainable consumption and production) คือ กำรผลิตและกำรบริโภคที่เน้นกำรจัดกำรและกำรใช้ทรัพยำกรธรรมธรรมชำติอย่ำงมีประสิทธิภำพ และยั่งยืน กำรลดของเสียที่เป็นอำหำร ลดกำรปล่อยสำรเคมีและของเสียเป็นพิษออกสู่ธรรมชำติ และจัดกำรอย่ำงถูกต้อง กำรลดของเสียโดยกระบวนกำรกำรใช้ซ�้ำ (reuse) และกำรน�ำไปผลิตกลับ มำใช้ ใหม่ (recycle) ภำยใต้สภำวะที่มีอยู่อย่ำงจ�ำกัดของทรัพยำกรธรรมชำติ ที่ต้องสงวนรักษำ ไว้ ใช้ประโยชน์และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น โดยกำรผลิตและกำรบริโภคอย่ำงยั่งยืน มีแนวทำง ดังนี้ แผนผังแสดงแนวทำงกำรผลิตและกำรบริโภคอย่ำงยั่งยืน แนวทาง การผลิตและการบริโภค อย่างยั่งยืน พัฒนำสินค้ำหรือบริกำร ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีควำมปลอดภัยในกำรใช้งำน ใช้ทรัพยำกรอย่ำงมีประสิทธิภำพ มีมำตรกำรประหยัดพลังงำนและ มีกำรน�ำทรัพยำกรกลับมำใช้ ใหม่ ส่งเสริมนโยบำยกำรซื้อ สินค้ำและบริกำรที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้เกิดกำรตลำดที่ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำรรับรองผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยให้ฉลำกสิ่งแวดล้อม ลดขยะเศษอำหำรของโลกลง ครึ่งหนึ่ง และลดกำรสูญเสีย อำหำรจำกกระบวนกำรผลิต เสริมสร้ำงควำมตระหนักและ กระตุ้นกำรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้ำนกำรผลิตและกำรบริโภคอย่ำง ยั่งยืน ใช้เทคโนโลยีและขั้นตอน กำรผลิตที่มีมำตรฐำนด้ำน สิ่งแวดล้อม และลดปริมำณ กำรปล่อยมลพิษ จัดให้มีระบบกำรบริหำรงำน ด้ำนสิ่งแวดล้อมที่เหมำะสม และติดตำมประเมินผล กำรด�ำเนินงำน อย่ำงสม�่ำเสมอ 236 237 โดยให้ฉลำกสิ่งแวดล้อม1 ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 6. ครูใหนักเรียนศึกษาแผนผังแสดงแนวทาง การผลิตและการบริโภคอยางยั่งยืน จาก หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 จากนั้น สอบถามถึงพฤติกรรมประจําวันของนักเรียน และบุคคลใกลชิดกับแนวทางตามแผนผัง ดังกลาว ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 คน คละ ความสามารถ คือ เกง ปานกลาง ออน โดย ใหนักเรียนในแตละกลุมมีหมายเลขประจําตัว คือ หมายเลข 1 2 3 เรียกวา กลุมแมบาน โดยครูอธิบายเพิ่มเติมถึงหลักการทํางานตาม วิถีประชาธิปไตย มีการรับฟงความคิดเห็น รวมถึงชวยเหลือซึ่งกันและกันอยางมีเหตุผล สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับประเภทของฉลากสิ่งแวดลอม ไดที่ https:// scpdatacenter.deqp.go.th/articledetail.php?id=12 ระบบฐานขอมูล การผลิต การบริการและการบริโภคที่เปนมิตรกับสิ่งแวดลอม กรมสงเสริม คุณภาพสิ่งแวดลอม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กิจกรรม สรางเสริม ครูนําฉลากสิ่งแวดลอมประเภทตางๆ มาใหนักเรียนดู เชน ฉลากเขียว ตะกราเขียว ใบไมเขียว ฉลากประหยัดไฟเบอร 5 ฉลากคารบอน cool mode แลวตั้งคําถามใหนักเรียนรวมกัน อภิปรายในชั้นเรียน เชน ฉลากแตละประเภทสื่อถึงอะไร ฉลาก แตละประเภทมีความเหมือนหรือแตกตางกันอยางไร โดยเปด โอกาสใหนักเรียนไดแสดงความคิดเห็นอยางหลากหลาย นักเรียนควรรู 1 ฉลากสิ่งแวดลอม เปนกลไกการสื่อสารและบงบอกความเปนมิตรตอ สิ่งแวดลอมของผลิตภัณฑใหแกผูบริโภคไดรับทราบ เปนฉลากที่มอบใหแก ผลิตภัณฑคุณภาพที่มีผลกระทบตอสิ่งแวดลอมนอยกวาผลิตภัณฑที่ทําหนาที่ อยางเดียวกัน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T247


ขอสอบเนนการคิด 3 กฎหมายและนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของไทย ในประเทศไทยปัญหำสิ่งแวดล้อมถือว่ำเป็นปัญหำระดับชำติ และได้มีกำรระบุแนวนโยบำย กำรแก้ปัญหำอย่ำงเป็นรูปธรรมไว้ในแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติทุกฉบับ กฎหมำย หรือนโยบำยเพื่อกำรคุ้มครองทรัพยำกรธรรมชำติมีขึ้นเพื่อส่งเสริม บ�ำรุงรักษำ และคุ้มครองคุณภำพ สิ่งแวดล้อมตำมหลักกำรพัฒนำที่ยั่งยืน ตลอดจนลงโทษผู้กระท�ำควำมผิด 3.1 กฎหมายเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของไทย กฎหมำยเกี่ยวกับกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมของไทย ที่ส�ำคัญ มีดังนี้ 1) พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติพ.ศ.2504 เป็นกฎหมำยที่ออกมำเพื่อ คุ้มครองรักษำทรัพยำกรธรรมชำติที่มีอยู่ เช่น พันธุ์ไม้และของป่ำ สัตว์ป่ำ ให้คงอยู่ในสภำพ ธรรมชำติเดิม มิให้ถูกท�ำลำยหรือเปลี่ยนแปลงไปเพื่อประโยชน์ของรัฐและประชำชน โดยมี ข้อปฏิบัติในเขตอุทยำนแห่งชำติ ที่ส�ำคัญ ดังนี้ 1. ห้ำมครอบครองที่ดิน รวมถึงก่อสร้ำง แผ้วถำง หรือเผำป่ำ 2. ห้ำมน�ำสัตว์ออกจำกอุทยำนแห่งชำติ 3. ห้ำมน�ำเครื่องมือส�ำหรับล่ำสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออำวุธเข้ำไป เว้นแต่ได้รับ อนุญำตจำกเจ้ำหน้ำที่และปฏิบัติตำมเงื่อนไขที่ก�ำหนด 4. ห้ำมเก็บ น�ำออกไป หรือท�ำให้เป็นอันตรำย หรือท�ำให้เสื่อมสภำพแก่กล้วยไม้ น�้ำผึ้ง ครั่ง ถ่ำนไม้ เปลือกไม้ หรือมูลค้ำงคำว 5. ห้ำมเปลี่ยนแปลงทำงน�้ำ หรือท�ำให้น�้ำในล�ำธำร ล�ำห้วยบึง ท่วมท้นเหือดแห้ง 2) พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พระรำชบัญญัติฉบับนี้เป็น กฎหมำยที่ก�ำหนดขึ้นโดยมีแนวคิดในกำรอนุรักษ์ป่ำสงวนแห่งชำติ คือ กำรสงวนและรักษำไว้ซึ่ง ทรัพยำกรป่ำไม้ เพื่อประโยชน์ในด้ำนกำรพัฒนำเศรษฐกิจอย่ำงยั่งยืน มีประสิทธิภำพ และให้มี กำรใช้ประโยชน์ได้นำนที่สุด โดยมีกำรก�ำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีควบคุมดูแลรักษำพื้นที่ป่ำสงวน แห่งชำติไว้ ดังนี้ 1. ห้ำมบุคคลเข้ำยึดถือ ครอบครอง ท�ำประโยชน์ หรืออำศัยอยู่ แผ้วถำง เผำป่ำ หรือเข้ำไปก่อสร้ำงในเขตป่ำสงวน ท�ำให้เกิดกำรเสื่อมสภำพของป่ำ 2. ห้ำมท�ำไม้ซึ่งรวมถึงกำรตัดขุด หรือชักลำกไม้ที่มีอยู่ในป่ำ หรือน�ำไม้ที่อยู่ในป่ำ ออกมำจำกป่ำสงวนแห่งชำติ รวมถึงห้ำมเก็บหำของป่ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญำตจำกเจ้ำพนักงำน 3. ในกรณีที่พื้นที่ป่ำสงวนที่มีสภำพเสื่อมโทรม กรมป่ำไม้สำมำรถอนุญำตให้ รำษฎรที่ไม่มีที่ดินท�ำกินเข้ำท�ำกินได้ โดยไม่สำมำรถถือเอำกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองได้ หรือ ให้เอกชนเข้ำมำปลูกป่ำทดแทนเพื่อฟื้นฟูสภำพป่ำไม้ ให้ดีขึ้น รวมถึงเพื่อประโยชน์ ในกำรศึกษำ 238 239 3. ในกรณีที่พื้นที่ป่ำสงวนที่มีสภำพเสื่อมโทรม1 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 2. นักเรียนกลุมแมบานแยกยายไปรวมกันตาม หมายเลขเดียวกัน เรียกวา กลุมผูเชี่ยวชาญ 3. สมาชิกในกลุมผูเชี่ยวชาญ รวมกันสืบคน ความรู เรื่อง มาตรการปองกันและแกไข ปญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจาก แหลงการเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต ตามประเด็นตอไปนี้ • หมายเลข 1 เรื่อง มาตรการปองกัน และแกไขปญหาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม • หมายเลข 2 เรื่อง กฎหมายและนโยบายดาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของไทย • หมายเลข 3 เรื่อง บทบาทขององคกรและ การประสานความรวมมือในประเทศและ ตางประเทศ 4. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นาเชื่อถือ ใหกับนักเรียนเพิ่มเติม หากบริษัทปาไมไทยตองการปลูกปาทดแทนในบริเวณปาสงวน ที่มีสภาพเสื่อมโทรม สามารถทําไดหรือไม เพราะอะไร (แนวตอบ สามารถทําได แตตองไดรับอนุญาตจากกรมปาไม ทั้งนี้ ในกรณีที่ปาสงวนมีสภาพเสื่อมโทรม กรมปาไมสามารถ อนุญาตใหเอกชนเขามาปลูกปาทดแทนเพื่อฟนฟูสภาพปาใหดี ขึ้นได) นักเรียนควรรู 1 ปาสงวนที่มีสภาพเสื่อมโทรม หรือปาเสื่อมโทรม หมายความวา ปาที่มี สภาพเปนปาไมรางหรือทุงหญา หรือเปนปาที่ไมมีไมมีคาขึ้นอยูเลย หรือมีไม มีคาลักษณะสมบูรณเหลืออยูเปนจํานวนนอย และปานั้นยากที่จะฟนคืนความ อุดมสมบูรณตามธรรมชาติได เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ. 2507 วา ในกรณีที่ปาสงวนแหงชาติมีสภาพเปนปาเสื่อมโทรม ใหอธิบดีโดยไดรับอนุมัติ จากรัฐมนตรีมีอํานาจอนุญาตเปนหนังสือใหบุคคลหนึ่งบุคคลใดทําการบํารุงปา หรือปลูกสรางสวนปา หรือไมยืนตนในเขตปาเสื่อมโทรมไดภายในระยะเวลาและ เงื่อนไขที่กําหนด นํา สอน สรุป ประเมิน T248


3) พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 กฎหมายฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองป้องกันสัตว์ป่า เพื่อมิให้สัตว์ป่าลดจ�านวนลงหรือสูญพันธุ์ไป ตาม ประเภท ตัวอย่างสัตว์ป่า 1. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มี 201 ชนิด เม่นใหญ่ แมวดาว ลิงกัง วัวแดง เสือโคร่ง หมาใน หมีขอ 2. นก มี 952 ชนิด ไก่ป่า นกกระปูดเล็ก นกกระสาคอด�า นกขุนทอง นกยูง 3. แมลง มี 20 ชนิด ด้วงดินขอบทองแดง ด้วงดินปีกแผ่น ผีเสื้อถุงทองป่าสูง 4. สัตว์เลื้อยคลาน มี 91 ชนิด งูจงอาง งูสิง งูเหลือม จระเข้น�้าเค็ม จระเข้น�้าจืด เต่านา 5. ปลา มี 14 ชนิด ปลาติดหิน ปลาตะพัดหรือปลาอโรวาน่า ปลาเสือตอ 6. สัตว์สะเทินน�้าสะเทินบก มี 12 ชนิด กบเกาะช้าง กบท่าสาร กะทั่ง คางคกเล็ก จงโคร่ง 7. สัตว์ ไม่มีกระดูกสันหลัง มี 12 ชนิด กัลปังหา ปะการัง ปูเจ้าฟ้า ปูราชินี หอยสังข์แตร พระราชบัญญัติฉบับนี้ สัตว์ป่า หมายถึง สัตว์ทุก ชนิด ไม่ว่าสัตว์บก สัตว์น�้า สัตว์ปีก แมลงหรือ แมง ซึ่งโดยสภาพธรรมชาติย่อมเกิดและด�ารง ชีวิตอยู่ในป่าหรือในน�้า และรวมถึงไข่ของสัตว์ ป่าเหล่านั้นทุกชนิดด้วย แต่ไม่ได้หมายรวมถึง สัตว์พาหนะที่ได้จดทะเบียนท�าตั๋วรูปพรรณตาม กฎหมาย 3.1) สัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์ป่า ที่หายากตามบัญชีพระราชบัญญัติและตาม ก�าหนดโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา มี 15 ชนิด ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร แรด กระซู่ กูปรี พะยูนหรือหมูน�้า พบได้บริเวณหาดเจ้าไหม และรอบ ๆ เกาะลิบง จังหวัดตรัง ควายป่า ละองหรือละมั่ง สมันหรือเนื้อสมัน เลียงผา กวางผา นกแต้วแล้วท้องด�า นกกระเรียน แมวลายหินอ่อน สมเสร็จ เก้งหม้อ พะยูน และมีสัตว์ป่าที่เสนอขึ้นบัญชีเพิ่มเติม 4 ชนิด ได้แก่ วาฬบรูด้า วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และฉลามวาฬ 3.2) สัตว์ป่าคุ้มครอง* หมายถึง สัตว์ป่าตามที่กระทรวงก�าหนดให้เป็นสัตว์ป่า คุ้มครอง แบ่งออกเป็น 7 ประเภท ดังนี้ *กฎกระทรวงก�าหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 เพิ่มบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง 12 ชนิด ซึ่งเป็นสัตว์จ�าพวกปลาที่หายาก เช่น กลุ่มปลากระเบนปีศาจ ปลากระเบนแมนต้า ปลากระเบนราหูน�้าจืด ปลาโรนิน ปลาฉนาก 238 239 ปลาติดหิน ปลาตะพัดหรือปลาอโรวาน่า ปลาเสือตอ กบเกาะช้าง กบท่าสาร กะทั่ง คางคกเล็ก จงโคร่ง 1 2 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 1. สมาชิกในกลุมผูเชี่ยวชาญแตละหมายเลข ทําการรวบรวมและอภิปรายขอมูล และกลับ ไปยังกลุมแมบานของตนเอง 2. สมาชิกในแตละกลุมแมบานนําขอมูลที่ตนได จากการสืบคนมาหลอมรวมเปนประเด็นสําคัญ จากนั้นอธิบายแลกเปลี่ยนความรูระหวางกัน โดยเรียงตามลําดับหมายเลข 3. ตัวแทนในแตละกลุมนําเสนอผลงานหนา ชั้นเรียน 2-3 กลุม แลวใหกลุมอื่นนําเสนอตอ จากนั้นใหทุกกลุมสงผลงานตอครูผูสอน เพิ่มเติมในสวนที่แตกตางกัน ครูตรวจสอบ ความถูกตอง และใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม นักเรียนแบงกลุมอธิบายสัตวปาคุมครองตามกฎกระทรวง จากนั้นใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหสาเหตุและแนวโนมการลดลง ของสัตวปา เพื่อใหนักเรียนเกิดความรูความเขาใจถึงดานการ ลดลงของจํานวนสัตวปาแตละประเภท อันเกิดจากสาเหตุและ ปจจัยที่แตกตางกัน นักเรียนควรรู 1 ปลาตะพัดหรือปลาอโรวานา อาศัยอยูในแมนํ้าที่ใสสะอาด มีนิสัย คอนขางดุ มักอาศัยอยูตัวเดียวหรือเปนคู ถาอยูเปนฝูงจะไมเกิน 3-5 ตัว พบได ในหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต เชน ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ปลาในแตละแหลงนํ้าจะมีสีสันแตกตางกันออกไป 2 จงโครง เปนคางคกขนาดใหญ พบในประเทศไทย มีสันแข็งที่บริเวณเหนือ ตาและหูโดยคั่นอยูระหวางเปลือกตา ความกวางของหัวมากกวาความยาวของหัว ที่ไมมีสันขมับ ปลายปากคอนขางมน ผิวลําตัวดานบนมีตอมขนาดใหญ ลําตัว ดานบนมีสีดําหรือสีนํ้าตาลเขม ทองสีครีมอมเทา ตัวผูมีเสียงรองคลายสุนัขเหา จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งวา หมานํ้า นํา สอน สรุป ประเมิน T249


3.3) การล่าสัตว์และการมีสัตว์ป่าไว้ในครอบครองทั้งที่มีชีวิตและซากสัตว์ป่า กฎหมำยก�ำหนดไว้ ดังนี้ 1. ห้ำมมิให้ผู้ใดล่ำ หรือพยำยำมล่ำสัตว์ป่ำสงวน หรือสัตว์ป่ำคุ้มครอง เว้นแต่เป็นกำรกระท�ำโดยทำงรำชกำรที่ได้รับกำรยกเว้น เช่น เพื่อกำรส�ำรวจ กำรศึกษำและวิจัย ทำงวิชำกำรเพื่อกำรคุ้มครองสัตว์ป่ำ กำรเพำะพันธุ์ หรือเพื่อกิจกำรสวนสัตว์สำธำรณะ 2. ห้ำมเพำะพันธุ์สัตว์ป่ำสงวนหรือสัตว์ป่ำคุ้มครอง เว้นแต่เป็นกำรเพำะพันธุ์ สัตว์ป่ำคุ้มครองชนิดที่คณะกรรมกำรสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำแห่งชำติ ก�ำหนดให้เป็นสัตว์ป่ำชนิด ที่เพำะพันธุ์ของผู้รับใบอนุญำตจัดตั้งและด�ำเนินกิจกำรสวนสัตว์สำธำรณะ 3. ห้ำมเก็บ ท�ำอันตรำย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งรังของสัตว์ป่ำสงวน หรือสัตว์ป่ำคุ้มครอง ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญำตให้เก็บรังนกนำงแอ่นตำมกฎหมำย 4. ห้ำมครอบครองสัตว์ป่ำสงวนสัตว์ป่ำคุ้มครอง รวมถึงซำก เว้นแต่จะเป็น สัตว์ป่ำคุ้มครองชนิดที่ก�ำหนดไว้ตำมหลักเกณฑ์ของกฎหมำย ซึ่งได้มำจำกกำรเพำะพันธุ์และต้อง ได้รับอนุญำตจำกอธิบดีอีกทั้งต้องปฏิบัติตำมข้อก�ำหนดในกฎกระทรวงและเงื่อนไขที่ก�ำหนดไว้ ในใบอนุญำต 5. ห้ำมค้ำสัตว์ป่ำสงวนสัตว์ป่ำคุ้มครอง รวมถึงซำกหรือผลิตภัณฑ์ที่ท�ำจำก ซำกของสัตว์ป่ำดังกล่ำว เว้นแต่เป็นกำรค้ำสัตว์ป่ำคุ้มครองชนิดได้รับควำมเห็นชอบตำมกฎหมำย 4) กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพระรำชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษำคุณภำพสิ่งแวดล้อมแห่งชำติ พ.ศ. 2535 มีมำตรกำรส่งเสริมและรักษำคุณภำพ สิ่งแวดล้อม โดยเปิดโอกำสให้ทุกภำคส่วนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี หลักกำรและเหตุผลที่ส�ำคัญ ดังนี้ 1. กำรก�ำหนดเขตอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อมส�ำหรับพื้นที่ที่มีสภำพธรรมชำติ และสิ่งแวดล้อมอันสมควรอนุรักษ์ เช่น เขตอุทยำนแห่งชำติและเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำ หรือพื้นที่ ต้นน�้ำล�ำธำร กำรด�ำเนินกำรใด ๆ จะต้องระมัดระวังไม่ ให้เกิดปัญหำสิ่งแวดล้อม 2. ก�ำหนดให้มีมำตรฐำนในกำรควบคุมมลพิษ ได้แก่ มลพิษทำงอำกำศและเสียง มลพิษทำงน�้ำ รวมถึงมลพิษอื่น ๆ และของเสียอันตรำย โดยกำรจัดให้มีระบบบ�ำบัดและให้อ�ำนำจ พนักงำนหรือเจ้ำหน้ำที่ในกำรตรวจสอบยำนพำหนะหรืออุปกรณ์เครื่องมือต่ำง ๆ 3. สนับสนุนให้ประชำชนและองค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในกำรส่งเสริมและรักษำ คุณภำพสิ่งแวดล้อม ให้องค์กรเอกชนซึ่งมีฐำนะเป็นนิติบุคคลตำมกฎหมำยไทยหรือกฎหมำย ต่ำงประเทศ ที่มีกิจกรรมเกี่ยวข้องโดยตรงกับกำรคุ้มครองสิ่งแวดล้อม มีสิทธิขอจดทะเบียนเป็น องค์กรเอกชนด้ำนกำรคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติได้ 240 241 เว้นแต่เป็นกำรเพำะพันธุ์ เขตอุทยำนแห่งชำติและเขตรักษ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูตั้งคําถามเกี่ยวกับการอนุรักษทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม เพื่อเปนการอธิบาย ความรูเพิ่มเติม โดยใหนักเรียนแตละกลุม ชวยกันตอบกลุมละ 1 คําถาม โดยใชคําถาม ที่มีลักษณะขยายประสบการณจากชีวิต ประจําวัน ทองถิ่น หรือประเทศ เชน • หนวยงานภาครัฐ องคกรสวนทองถิ่น และ ชาวบานจะมีแนวทางในการรวมมือกัน เพื่อการจัดการสัตวปาไดอยางไร (แนวตอบ การจัดการสัตวปาที่สําคัญตอง อาศัยความรวมมือจากภาคสวนตางๆ ทั้ง หนวยงานภาครัฐ องคกรสวนทองถิ่น และ ชาวบาน รวมถึงองคกรอิสระตางๆ ในการ รวมกันวางแผนและชวยกันดูแลรักษาปา ซึ่งเปนที่อยูอาศัยและแหลงอาหารของ สัตวปา ปองกันการลักลอบลาสัตวใน ทองถิ่น และการควบคุมไฟปาดวยวิธีการ ตางๆ เชน การทําแนวกันไฟ การจัดตั้ง หนวยเฝาระวัง และการแจงเจาหนาที่ หรือ หนวยงานที่เกี่ยวของในการควบคุมไฟปา รวมถึงปองกันการนําสัตวตางถิ่นเขามา ในทองถิ่น ซึ่งอาจเกิดการปะปน หรือแพร กระจายโรคติดตอสูสัตวปาในทองถิ่นได) นักเรียนควรรู 1 การเพาะพันธุ เปนบทบาทสําคัญของหนวยงานภาครัฐ คือ สํานักอนุรักษ สัตวปา กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม โดยมีอํานาจหนาที่ในการกําหนดนโยบาย กลยุทธ และแผน ดําเนินงานการสงวนคุมครองและอนุรักษสัตวปา กําหนดหลักเกณฑ มาตรฐาน รูปแบบ เทคนิค วิธีการ และตัวชี้วัดการจัดการพื้นที่การอนุรักษสัตวปา 2 อุทยานแหงชาติ อุทยานแหงชาติเขาใหญ เปนอุทยานแหงชาติแหงแรก ของประเทศไทย ไดรับการประกาศใน พ.ศ. 2505 ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ไดแก นครราชสีมา สระบุรี นครนายก และปราจีนบุรี กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขาวเกี่ยวกับการลาสัตวและการมีสัตวปาไว ในครอบครองทั้งที่มีชีวิตและซากสัตวปาตามที่กฎหมายกําหนด จากนั้นใหนักเรียนชวยกันสรุปสาระสําคัญของบทบัญญัติเกี่ยวกับ โทษของการลาสัตวและการมีสัตวปาไวในครอบครอง นํา สอน สรุป ประเมิน T250


ขอสอบเนน การคิด 3.2 นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยมีนโยบำยในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 1) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีบัญญัติในเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมไว้ว่ำ กำรด�ำเนินกำรใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญำต ให้ผู้ใดด�ำเนินกำร ถ้ำกำรนั้นอำจมีผลกระทบต่อทรัพยำกรธรรมชำติ คุณภำพสิ่งแวดล้อม สุขภำพ อนำมัย คุณภำพชีวิต หรือส่วนได้เสียส�ำคัญอื่นใดของประชำชน ชุมชน หรือสิ่งแวดล้อมอย่ำง รุนแรง รัฐต้องด�ำเนินกำรให้มีกำรศึกษำและประเมินผลกระทบต่อคุณภำพสิ่งแวดล้อมและสุขภำพ ของประชำชนหรือชุมชน และจัดให้มีกำรรับฟังควำมคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชำชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อนเพื่อน�ำมำประกอบกำรพิจำรณำ ด�ำเนินกำรหรืออนุญำตตำมที่กฎหมำย บัญญัติ 2) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) กำรพัฒนำประเทศตำมแนวทำงของแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติที่ผ่ำนมำ ส่งผลให้ ประเทศไทยมีระดับกำรพัฒนำที่สูงขึ้นตำมล�ำดับ ในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้ทรัพยำกรธรรมชำติ และสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมลงอย่ำงรวดเร็ว ดังนั้น ประเด็นที่ต้องเร่งด�ำเนินกำร ได้แก่ กำรสร้ำง ควำมมั่นคงของฐำนทรัพยำกรธรรมชำติและยกระดับคุณภำพสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนกำรเติบโต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคุณภำพชีวิตของประชำชน ดังนี้ 1. กำรรักษำฟื้นฟูทรัพยำกรธรรมชำติ โดยอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยำกรป่ำไม้ อนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพอย่ำงยั่งยืน พัฒนำระบบบริหำรจัดกำรที่ดิน ปกป้อง ทรัพยำกรทำงทะเล และป้องกันกำรกัดเซำะตลิ่งและชำยฝั่ง วำงแผนบริหำรจัดกำรทรัพยำกรแร่ 2. เพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรน�้ำ และเพิ่มประสิทธิภำพกำร เก็บกักน�้ำของแหล่งน�้ำต้นทุนและระบบกระจำยน�้ำ เพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้น�้ำและกำรจัดสรรน�้ำ 3. แก้ ไขปัญหำวิกฤตสิ่งแวดล้อม ปัญหำขยะตกค้ำง สนับสนุนกำรแปรรูปเป็น พลังงำน 4. ส่งเสริมกำรผลิตและกำรบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยส่งเสริมกำรผลิต และกำรลงทุนในภำคอุตสำหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมกำรท่องเที่ยวที่ยั่งยืน 5. สนับสนุนกำรลดกำรปล่อยแก๊สเรือนกระจกและเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำร ปรับตัวต่อกำรเปลี่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศ พัฒนำกลไกเพื่อสนับสนุนกำรลดแก๊สเรือนกระจก ในทุกภำคส่วน 6. บริหำรจัดกำรเพื่อลดควำมเสี่ยงด้ำนภัยพิบัติ เสริมสร้ำงขีดควำมสำมำรถใน กำรเตรียมควำมพร้อมและกำรรับมือภัยพิบัติ พัฒนำระบบกำรจัดกำรภัยพิบัติในภำวะฉุกเฉิน 7. กำรพัฒนำควำมร่วมมือด้ำนสิ่งแวดล้อมระหว่ำงประเทศ 240 241 ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 1. ครูตั้งประเด็นใหนักเรียนแตละกลุมอภิปราย กลุมยอยเกี่ยวกับนโยบายของหนวยงาน ภาครัฐที่เกี่ยวของกับการอนุรักษสิ่งแวดลอม ของไทย เชน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม กระทรวงเกษตรและสหกรณ กระทรวงมหาดไทย ในนโยบายและบทบาท หนาที่ของหนวยงานภาครัฐกับการอนุรักษ สิ่งแวดลอมของไทย กลไกการอนุรักษ สิ่งแวดลอมของภาครัฐและทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมแลวใหนักเรียนแตละกลุม สงตัวแทนออกมานําเสนอผลการอภิปราย กลุมยอยของตนที่หนาชั้นเรียน โดยครูแนะนํา เพิ่มเติม เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับยุทธศาสตรการเติบโตที่เปนมิตรกับสิ่งแวดลอม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนวา ปจจุบันสภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กําลังเปนจุดออนสําคัญตอการรักษาฐานการผลิตและการใหบริการ รวมทั้ง การดํารงชีวิตของคนไทย ซึ่งปญหาดังกลาวเกิดขึ้นจากการลดลงของพื้นที่ ปาไม ทรัพยากรดินเสื่อมโทรม ความหลากหลายทางชีวภาพถูกคุกคาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติมีความรุนแรง มากขึ้น ดังนั้น การพัฒนาในระยะยาวจึงมุงเนนรักษาและฟนฟูฐานทรัพยากร ธรรมชาติ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ หากนักเรียนเปนรัฐบาลจะมีนโยบายในการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอมอยางไร (แนวตอบ ใหการอนุรักษ คุมครอง บํารุงรักษา ฟนฟู บริหาร จัดการ หรือจัดใหมีการใชประโยชนจากทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม และความหลากหลายทางชีวภาพอยางสมดุลและ ยั่งยืน โดยใหประชาชนและชุมชนในทองถิ่นเขามามีสวนรวม ดําเนินการ และไดรับผลประโยชนจากการดําเนินการดังกลาว ตามกฎหมาย) นํา สอน สรุป ประเมิน T251


4 บทบาทขององค์กรและการประสานความร่วมมือ ในประเทศไทยและต่างประเทศ จำกปัญหำควำมเสื่อมโทรมของทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ทั้งภำครัฐและ เอกชนของประเทศต่ำง ๆ ทั่วโลกได้มีกำรจัดตั้งองค์กรและหน่วยงำนทำงด้ำนสิ่งแวดล้อมขึ้น รวมถึงออกกฎหมำยระหว่ำงประเทศที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 4.1 หน่วยงานและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม กำรดูแลรักษำทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน้ำที่ของประชำชนทุกคน รวมทั้ง หน่วยงำนต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภำครัฐและเอกชน 1) หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยมีทั้งภำครัฐและเอกชน ที่ส�ำคัญ ดังนี้ 1.1) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีภำรกิจหลักในกำรสร้ำงควำมยั่งยืนให้แก่ ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมผ่ำนกำรพัฒนำพลเมืองให้มีจิตส�ำนึกและร่วมกันรักษำ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จำกสิ่งแวดล้อมอย่ำงรู้คุณค่ำและยั่งยืน โดยมีผลงำนที่ส�ำคัญ ดังนี้ 1. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กำรวิจัยด้ำนกำรเปลี่ยนแปลง สภำพภูมิอำกำศ โดยเฉพำะด้ำนกำรศึกษำ กำรสร้ำงจิตส�ำนึก กำรมีส่วนร่วมของประชำชน 2. จัดสัมมนาวิชาการเผยแพร่ผลงานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม“วิจัยสิ่งแวดล้อม สู่ยุค Thailand 4.0” ขึ้น เพื่อเผยแพร่ผลงำนวิจัยและแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นจำกทุกภำคส่วน ถึงแนวทำงกำรน�ำผลงำนวิจัยไปใช้ในกำรแก้ไขปัญหำสิ่งแวดล้อมในด้ำนต่ำง ๆ ของประเทศ 3. จัดการอบรมเพิ่มศักยภาพพัฒนาองค์ความรู้ชุมชนปลอดขยะ โรงเรียน ปลอดขยะ และนวัตกรรมกำรจัดกำรขยะมูลฝอยชุมชน เร่งลดปริมำณขยะโดยใช้หลัก 3Rs ได้แก่ กำรลดกำรใช้ (Reduce) กำรใช้ซ�้ำ (Reuse) และกำรน�ำกลับมำใช้ใหม่ (Recycle) กำรเผยแพร่ประชำสัมพันธ์ควำมรู้ด้ำนสิ่งแวดล้อมแก่ประชำชน เป็นภำรกิจหนึ่งของกรมส่งเสริมคุณภำพสิ่งแวดล้อม ในกำรสร้ำงควำมยั่งยืนทำงทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม 242 243 1.1) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม1 นักเรียนควรรู 1 กรมสงเสริมคุณภาพสิ่งแวดลอม เปนหนวยงานในสังกัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม มีอํานาจหนาที่ในการเผยแพรประชาสัมพันธ ดานสิ่งแวดลอม รวบรวม จัดทํา และใหบริการขอมูลดานสิ่งแวดลอม สงเสริม การมีสวนรวมของประชาชนในการสงวน รักษา และใชประโยชนจากทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอมอยางสมดุล ยั่งยืน ศึกษาวิจัย พัฒนา ถายทอดและ สงเสริมเทคโนโลยีและการจัดการดานสิ่งแวดลอม รวมทั้งเปนศูนยเทคโนโลยี สะอาด และศูนยปฏิบัติการอางอิงดานสิ่งแวดลอม ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 2. ครูตั้งคําถามเกี่ยวกับบทบาทหนาที่ของ หนวยงานภาครัฐ และการประสานความ รวมมือตางๆ ทั้งในและตางประเทศที่เกี่ยวของ กับสิ่งแวดลอม แลวสุมใหนักเรียนชวยกัน ตอบ เชน • หนวยงานหลักในการอนุรักษทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม รวมถึงสงเสริม และดําเนินการตามโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดําริตางๆ คือหนวยงานใด และมี ขอบขายหนาที่อยางไร (แนวตอบ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมเปนหนวยงานหลักที่มีหนาที่ ในการอนุรักษ ฟนฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมในประเทศ เพื่อตอบสนอง ความตองการตามศักยภาพใหเกิดประโยชน อยางยั่งยืน รวมถึงสงเสริมและดําเนินการ ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ที่เกี่ยวของกับสิ่งแวดลอมตางๆ ผาน ทางการจัดทําระเบียบ กฎ และระบบการ เขาถึงทรัพยากรธรรมชาติของประชาชนใน ทุกภาคสวนบนพื้นฐานของการวิจัยและ พัฒนาเพื่อนําไปสูการปฏิบัติอยางจริงจัง) กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับหนวยงานภาครัฐที่เกี่ยวของกับ การอนุรักษสิ่งแวดลอมของไทยในประเด็นตางๆ เชน • บทบาทหนาที่ของหนวยงานกับการอนุรักษทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม • การดําเนินงานเกี่ยวกับงานในหนาที่ นักเรียนออกมานําเสนอผลการศึกษาหนาชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T252


1.2) กรมควบคุมมลพิษ มีหน้ำที่ควบคุม ป้องกัน และแก้ไขปัญหำสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมำจำกภำวะมลพิษ เช่น คุณภำพน�้ำ คุณภำพอำกำศ กำรก�ำจัดขยะและของเสียอันตรำย รวมไปถึงกำรประกำศเขตควบคุมมลพิษ โดยสนับสนุนให้ประชำชนทุกภำคส่วนมีส่วนร่วมในกำร จัดกำรมลพิษ โดยมีผลงำนที่ส�ำคัญดังนี้ 1. การจัดการมลพิษทางน�้า เช่นก�ำหนดมำตรฐำนควบคุมกำรระบำยน�้ำทิ้ง จำกแหล่งก�ำเนิด ส่งเสริมกำรใช้มำตรกำรทำงสังคมในกำรบริหำรจัดกำรมลพิษทำงน�้ำ 2. การจัดการมลพิษทางอากาศและเสียง เช่น ก�ำหนดมำตรฐำนคุณภำพ อำกำศและเสียงในบรรยำกำศ ศึกษำและน�ำเทคโนโลยีมำใช้ควบคุมและลดมลพิษทำงอำกำศ จำกแหล่งก�ำเนิดมลพิษ 3. การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายเช่นสนับสนุนนโยบำยแปรรูป ขยะมูลฝอยเป็นพลังงำน ด�ำเนินกำรตำมอนุสัญญำระหว่ำงประเทศด้ำนมลพิษ เช่น อนุสัญญำ บำเซิล (Basel Convention) 1.3) ส�านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงำน ในสังกัดกระทรวงทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมมีบทบำทหน้ำที่เกี่ยวกับกำรก�ำหนดนโยบำย และแผนกำรส่งเสริมและรักษำคุณภำพสิ่งแวดล้อมโดยเสนอแนะนโยบำยและแผนกำรอนุรักษ์และ บริหำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งสนับสนุนกำรจัดกำรเพื่อน�ำไปสู่กำรปฏิบัติ อย่ำงเป็นรูปธรรม ตลอดจนติดตำมตรวจสอบตำมรำยงำนกำรวิเครำะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศมีควำมเข้มแข็ง เพื่อกำรพัฒนำที่ยั่งยืนและมีคุณภำพชีวิตที่ดีโดยกำร ด�ำเนินงำนที่ส�ำคัญ เช่น กำรจัดท�ำแผนจัดกำรคุณภำพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2560 - 2564 ซึ่งเปิด โอกำสให้หน่วยงำน องค์กรทั้งภำครัฐและเอกชนได้เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรให้ข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะ ทั้งนี้ ก็เพื่อส่งเสริมให้กำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม มีทิศทำงและเป้ำหมำยที่ชัดเจน และน�ำประเทศไปสู่กำรพัฒนำที่ยั่งยืน 1.4) องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย หรือเอ็นจีโอ (Non - Governmental Organization: NGO) มีบทบำทในกำรดูแลรักษำสิ่งแวดล้อม เมื่อรัฐบำล ประกำศใช้แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2535 - 2539) ระบุให้มีกำร ปรับปรุงระบบบริหำรและจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติ โดยสนับสนุนให้ประชำชนและรัฐบำลร่วมกัน ด�ำเนินกำร โดยที่รัฐบำลจะต้องส่งเสริมองค์กรประชำชนและองค์กรพัฒนำเอกชนทั้งในส่วนกลำง และส่วนท้องถิ่น ให้มีบทบำทในกำรก�ำหนดโครงกำรจัดหำทรัพยำกรธรรมชำติ Activity นักเรียนวำงแผนกำรลดปริมำณขยะในบ้ำนหรือในชุมชน โดยใช้หลักกำร 3Rs (Reduce - Reuse - Recycle) แล้วน�ำไปปฏิบัติในกำรคัดแยกขยะเป็นเวลำ 1 สัปดำห์ รำยงำนผลกำรปฏิบัติและบอกประโยชน์ ที่ได้รับ Geo 242 243 ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET การดําเนินงานดานสิ่งแวดลอมขององคกรเอกชนใดถูกตอง เหมาะสมที่สุด 1. กลุมรักษไมจัดตั้งกองกําลังติดอาวุธเฝาระวังการบุกรุกปา 2. กลุมรักษพิทักษสัตวนําชิ้นสวนสัตวปาออกขายเพื่อนําเงิน มาพัฒนาองคกร 3. องคกรพิทักษปาแหงชาติตอตานการดําเนินงานของรัฐดาน ปาไมและสัตวปา 4. สมาคมคนรักสัตวปานําสัตวปาที่ใกลสูญพันธุมาเพาะพันธุ ดวยนวัตกรรมของตนเอง 5. มูลนิธิสิ่งแวดลอมรับบริจาคเงินและอุปกรณเพื่อนําไปใชใน การดําเนินงานดานสิ่งแวดลอม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 5. เพราะเปนการสงเสริมการมีสวนรวม ในการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติของประชาชน) ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ • ฐานะทางกฎหมายขององคกรพัฒนาเอกชน ดานสิ่งแวดลอมเปนเชนไร (แนวตอบ องคกรพัฒนาเอกชนดาน สิ่งแวดลอมในประเทศไทยมีทั้งสถานะที่เปน นิติบุคคลตามกฎหมาย และไมมีสถานะเปน นิติบุคคล เนื่องจากไมไดจดทะเบียนตาม กฎหมาย) • องคกรพัฒนาเอกชนดานสิ่งแวดลอมมี ลักษณะการดําเนินงานที่สําคัญอยางไร (แนวตอบ องคกรพัฒนาเอกชนดาน สิ่งแวดลอมดําเนินการและจัดกิจกรรมที่ เกี่ยวของกับการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม โดยไมดําเนินกิจกรรม ทางการเมือง ไมแสวงหาผลกําไรหรือ ผลประโยชนทางธุรกิจ) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเกี่ยวกับลักษณะสําคัญขององคกรพัฒนาเอกชนดานสิ่งแวดลอม เพิ่มเติมวา องคกรพัฒนาเอกชนดานสิ่งแวดลอมจะดําเนินกิจการและกิจกรรม ที่เกี่ยวของโดยตรงกับการดูแลสิ่งแวดลอมและการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ โดยไมดําเนินกิจกรรมใดๆ ทางการเมือง ไมดําเนินการใดๆ ที่เปนการแสวงหา ผลกําไรหรือผลประโยชนทางธุรกิจ และหากเปนองคกรพัฒนาเอกชนระหวาง ประเทศ จะตองมีสํานักงานสาขาอยูในประเทศไทย นํา สอน สรุป ประเมิน T253


ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET มูลนิธิโลกสีเขียว ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหำคม พ.ศ. 2533 เพื่อจัดท�ำ สื่อสิ่งพิมพ์ให้ควำมรู้ด้ำนสิ่งแวดล้อมและให้ข่ำวสำรควำมเคลื่อนไหว ด้ำนสิ่งแวดล้อมแก่สำธำรณชน มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 กันยำยน พ.ศ. 2533 หลังกำรเสียชีวิตของสืบ นำคะเสถียร หัวหน้ำเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำ ห้วยขำแข้ง เพื่อส่งเสริมสนับสนุนประชำชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้ ตระหนักถึงควำมส�ำคัญของกำรอนุรักษ์ป่ำไม้และสัตว์ป่ำ 2) องค์กรสิ่งแวดล้อมโลก มีวัตถุประสงค์ ในกำรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลก ที่ส�ำคัญ เช่น กรีนพีซ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่ำโลก กรีนพีซ (Greenpeace) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 มีส�ำนักงำน ทั่วโลกกว่ำ 41 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ผลงานเด่น คัดค้ำนกำรใช้ถ่ำนหินที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ กำรยุติสร้ำงโรงไฟฟ้ำถ่ำนหินที่อ�ำเภอบ่อนอก และอ�ำเภอบ้ำนกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำรเจรจำปกป้องวำฬ ฉลำมขำว เป็นต้น มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าโลก (World Wide Fund Nature: WWF) เป็น องค์กรนำนำชำติที่ด�ำเนินกำรด้ำนกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ และสิ่งแวดล้อม โดยให้ควำมส�ำคัญกับกระบวนกำรสิ่งแวดล้อม ผลงานเด่น มีบทบำทส�ำคัญในกำรจัดตั้งอนุสัญญำว ่ำด้วยควำม หลำกหลำยทำงชีวภำพ รวมถึงอนุสัญญำสหประชำชำติว่ำด้วยกำร เปลี่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศ ตัวอย่าง ตัวอย่าง องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมของไทย องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมของโลก ผลงานเด่น ริเริ่มโครงกำรสมำชิกอุปถัมภ์เพื่อเผยแพร่ข่ำวสำรด้ำนสิ่งแวดล้อมสู่วงกว้ำงให้มำกที่สุด ก่อตั้งศูนย์ข้อมูลและห้องสมุดของมูลนิธิโลกสีเขียวใน พ.ศ. 2537 เพื่อรวบรวมข่ำวสำรข้อมูลกำร เคลื่อนไหวด้ำนสิ่งแวดล้อม ทั้งในประเทศและของโลกอย่ำงมีระบบ ผลงานเด่น ให้กำรสนับสนุนงำนอนุรักษ์ผืนป่ำและสัตว์ป่ำของเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำห้วยขำแข้ง เขต รักษำพันธุ์สัตว์ป่ำทุ่งใหญ่นเรศวร และสถำนีวิจัยสัตว์ป่ำเขำนำงร�ำ นอกจำกนี้ ยังมีกำรจัดสรรงบประมำณ สนับสนุนกำรอนุรักษ์ผืนป่ำตะวันตกร่วมกับกรมป่ำไม้ และกำรคัดค้ำนกำรสร้ำงเขื่อนแม่วงก์ 244 245 มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าโลก (World Wide Fund Nature: WWF) เป็น 1 นักเรียนควรรู 1 มูลนิธิคุมครองสัตวปาโลก ไดสนับสนุนการกอตั้งมูลนิธิคุมครองสัตวปา และพรรณพืชแหงประเทศไทยใน พ.ศ. 2525 และตอมาไดรวมตัวกับกัมพูชา ลาว และเวียดนาม ใชชื่อ WWF Greater Mekong Programme เพื่อขยายงาน ดานการอนุรักษใหกวางขวางออกไป โดยมีภารกิจหลัก เชน ใหความชวยเหลือ สัตวที่ใกลสูญพันธุ ฟนฟูระบบนิเวศปา ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ • องคกรพัฒนาเอกชนดานสิ่งแวดลอมใน ประเทศไทยที่มีบทบาทสําคัญในการเผย แพรขอมูลขาวสารไดแกองคกรใด และมี การดําเนินงานอยางไร (แนวตอบ เชน มูลนิธิโลกสีเขียว มีบทบาท หนาที่หลักในการเผยแพรความรูและขอมูล ขาวสารใหแกประชาชนเพื่อความเขาใจใน สิ่งแวดลอมไทย ผานการจัดทําหนังสือชุด โลกสีเขียว และนิตยสารโลกสีเขียว รวมถึง กิจกรรมอื่น ๆ เชน นักสืบสิ่งแวดลอม จักรยานกลางเมือง รานโลกสีเขียว ฯลฯ) • กิจกรรมหลักของกรีนพีซที่สอดคลองกับ วิกฤตการณดานสิ่งแวดลอมของโลกคือ อะไร (แนวตอบ การหยุดภาวะโลกรอนดวยการ ผลักดันใหมีการใชพลังงานสะอาดตางๆ เพื่อลดการปลอยแกสเรือนกระจกซึ่งเปน สาเหตุสําคัญของภาวะโลกรอน ทั้งในระดับ หนวยงานที่เกี่ยวของของภาครัฐและเอกชน และในระดับประชาชนทั่วไปที่ใชพลังงาน และเครื่องอุปโภคบริโภคตางๆ ในชีวิต ประจําวัน อันจะนําไปสูการพัฒนาที่ยั่งยืน) องคการเอกชนใหญที่สุดที่เฝาระวังและดูแลทรัพยากรทั่วโลก คือองคการใด 1. Think Earth 2. Greenpeace International 3. World Wild Fund for Nature 4. Global Environmental Facility 5. United Nation Environment Programme (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. World Wild Fund for Nature หรือ WWF เปนองคการเอกชนดานสิ่งแวดลอมขนาดใหญที่สุดใน โลกปจจุบัน จากทุนบริจาคของประชาชนทั่วไป หนวยงาน และ รัฐบาลของประเทศตางๆ ปจจุบันองคการไดชวยอนุรักษพันธุพืช และสัตวไปแลวประมาณ 12,000 ชนิด) นํา สอน สรุป ประเมิน T254


4.2 การประสานความร่วมมือทางด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ในช่วงศตวรรษที่ผ่ำนมำได้มีกำรออกกฎหมำยระหว่ำงประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เป็นจ�ำนวนมำก ที่ส�ำคัญ มีดังนี้ 1) อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เรียกอีกอย่ำงว่ำ อนุสัญญำไซเตส (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora: CITES) ใน พ.ศ. 2516 สหภำพนำนำชำติเพื่อกำรอนุรักษ์ธรรมชำติ และทรัพยำกรธรรมชำติ ได้จัดประชุมที่กรุงวอชิงตันดี.ซี. สหรัฐอเมริกำ เพื่อร่ำงอนุสัญญำว่ำด้วย กำรค้ำสัตว์ป่ำและพืชป่ำที่ใกล้สูญพันธุ์ ประเทศไทยเข้ำเป็นสมำชิกเมื่อ พ.ศ. 2526 มีวัตถุประสงค์ เพื่อควบคุมกำรค้ำสัตว์ป่ำและพืชป่ำที่ใกล้สูญพันธุ์ตลอดจนผลิตภัณฑ์จำกสัตว์ป่ำและพืชป่ำ โดยสร้ำงกลไกที่มีโครงข่ำยทั่วโลกเพื่อควบคุมกำรสร้ำงระบบกำรออกใบอนุญำตในกำรน�ำเข้ำ ส่งออก หรือน�ำผ่ำนของสัตว์ป่ำและพืชป่ำที่ ใกล้สูญพันธุ์ 2) อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) จำกปัญหำแก๊สเรือนกระจก ที่ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น จึงได้มีกำรประชุมเพื่อหำทำงแก้ ไขและป้องกันขึ้นใน พ.ศ. 2535 ที่เมือง รีอูดีจำเนรู ประเทศบรำซิล ซึ่งประเทศไทยเข้ำเป็นสมำชิกในอนุสัญญำนี้ด้วย มีวัตถุประสงค์เพื่อ ป้องกันกำรคุกคำมที่อันตรำยของมนุษย์ต่อระบบภูมิอำกำศ โดยกำรควบคุมควำมเข้มข้นของแก๊ส เรือนกระจกที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์ ให้อยู่ในระดับที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรำยต่อสภำพภูมิอำกำศ นอกจำกนี้ ยังต้องสร้ำงควำมมั่นคงด้ำนกำรผลิตอำหำร และกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืนของมนุษยชำติ 3) อนุสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน�้า (Convention on Wetlands of พื้นที่ชุ่มน�้ำโมรอนดำวำ ประเทศมำดำกัสกำร์ International Importance especially as Waterfowl Habitat) มีกำรประชุมรับรอง อนุสัญญำฉบับนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 2 กุมภำพันธ์ พ.ศ.2514 ที่เมืองแรมซำร์ประเทศอิหร่ำน และ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 ธันวำคม พ.ศ.2518 ส�ำหรับประเทศไทยได้เข้ำร่วมเป็นภำคีอนุสัญญำ ในวันที่13 พฤษภำคม พ.ศ.2541มีวัตถุประสงค์ เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน�้ำทั่วโลกอย่ำง ยั่งยืน เนื่องจำกเป็นแหล่งที่มีควำมหลำกหลำย ทำงนิเวศวิทยำและเป็นที่อยู่อำศัยของนกน�้ำ 244 245 3) อนุสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน�้า 1 นักเรียนควรรู 1 อนุสัญญาวาดวยการอนุรักษพื้นที่ชุมนํ้า พื้นที่ชุมนํ้าแหงแรกของประเทศไทย ที่ไดรับการประกาศใหเขาเปนทําเนียบของอนุสัญญา คือ พรุควนขี้เสียน เขตหามลาสัตวปาทะเลนอย จังหวัดพัทลุง ลําดับถัดมา ไดแก เขตหามลา สัตวปาบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ปากแมนํ้ากระบี่ จังหวัดกระบี่ เขตรักษา พันธุสัตวปาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ปาพรุโตะแดง) จังหวัดนราธิวาส ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม และ เขตหามลาสัตวปาหนองบงคาย จังหวัดเชียงราย ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม เกี่ยวของกับอนุสัญญา ฉบับใด 1. IPCC 2. CITES 3. Ramsar 4. UNFCCC 5. Kyoto Protocal (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. Ramsar จากมติการประชุมของ คณะกรรมการสิ่งแวดลอมนานาชาติใน ค.ศ. 2001 ดวยเหตุที่ มีความสําคัญทางระบบนิเวศชายฝง โดยเปนหาดเลนนํ้าทวมถึง บริเวณปากแมนํ้าแมกลอง มีสัตวสําคัญ คือ หอยหลอด ซึ่งมี ประโยชนสําคัญตอเศรษฐกิจของทองถิ่นดวย) ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ • โครงการพัฒนาปาชุมชนในประเทศไทย เปนการดําเนินงานที่สอดคลองกับอนุสัญญา ฉบับใด (แนวตอบ อนุสัญญาวาดวยการคาระหวาง ประเทศซึ่งชนิดสัตวปาและพืชปาที่ใกล สูญพันธุ หรืออนุสัญญาไซเตส เนื่องจาก โครงการพัฒนาปาชุมชนของประเทศไทย มีวัตถุประสงคหลักของการดําเนินงานที่ สอดคลองกับอนุสัญญาไซเตส กลาวคือ การควบคุมมิใหมีการบุกรุกพื้นที่ปาสงวน เพื่อลักลอบคาพืชและสัตวปา โดยการสราง จิตสํานึกใหแกชาวบานในชุมชนที่อาศัยปา ในการดํารงชีวิต และสงเสริมใหชาวบาน ชวยกันเฝาระวังมิใหมีการบุกรุกพื้นที่ปา สงวน) 3. ครูใหนักเรียนทบทวนความรู หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของเนื้อหาที่ไดศึกษามา 4. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 6.2 เรื่อง มาตรการปองกันและแกไขปญหาทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม 5. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง มาตรการปองกันและแกไข ปญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม นํา สอน สรุป ประเมิน T255


ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET 4) อนุสัญญาบาเซิลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสีย อันตรายและการก�าจัด (Basel Convention on the Control of Transboundary Movements of Hazardous Wastes and their Disposal) หรือเรียกย่อ ๆ ว่ำ อนุสัญญำบำเซิล (Basel Convention) มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสุขภำพอนำมัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจำกของเสีย อันตรำยและกำรป้องกันอันตรำยต ่อสิ่งแวดล้อมในประเทศก�ำลังพัฒนำ โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประกำร ได้แก่ 1. เพื่อลดกำรเคลื่อนย้ำยของเสียอันตรำยข้ำมแดนให้น้อยที่สุด 2. เพื่อก�ำจัดของเสียอันตรำยที่แหล่งก�ำเนิดให้ ได้มำกที่สุด 3. เพื่อลดกำรก่อก�ำเนิดของเสียอันตรำยทั้งในเชิงปริมำณและควำมเป็นอันตรำย หลักกำรส�ำคัญของอนุสัญญำนี้ คือ กำรใช้มำตรกำรทำงกฎหมำยในกำรควบคุมกำร เคลื่อนย้ำยของเสีย และเครื่องมือหรือกลไกกำรจัดกำรของเสียอันตรำยให้อยู่ ในระดับสำกล ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ ให้สัตยำบันเมื่อ พ.ศ. 2540 5) อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity: CBD) เป็นข้อตกลงด้ำนสิ่งแวดล้อมระหว ่ำงประเทศ ที่มีวัตถุประสงค์ ให้รัฐบำล ทุกประเทศพัฒนำประเทศโดยไม่ละเลยกำรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยำกรธรรมชำติ โดยมีกำร ก�ำหนดวัตถุประสงค์หลักไว้ 3 ประกำร ได้แก่ 1. เพื่ออนุรักษ์ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ 2. เพื่อใช้ประโยชน์จำกควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพอย่ำงยั่งยืน 3. เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้จำกกำรใช้ทรัพยำกรพันธุกรรมอย่ำงเท่ำเทียม และยุติธรรม ประเทศไทยให้สัตยำบันในอนุสัญญำว่ำด้วยควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ เมื่อวันที่ 31 ตุลำคม พ.ศ. 2546 อนุสัญญำว่ำด้วยควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ มีจุดมุ่งหมำยเพื่ออนุรักษ์พันธุกรรม ชนิดพันธุ์ และระบบนิเวศ เพื่อควำม หลำกหลำยทำงชีวภำพ 246 247 ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง มาตรการปองกัน และแกไขปญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทาย แผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 6 เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมกับ การพัฒนาที่ยั่งยืนแบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม โครงการพัฒนาปาชุมชนในประเทศไทยเปนการดําเนินงาน ที่สอดคลองกับอนุสัญญาฉบับใด 1. อนุสัญญาไซเตส 2. อนุสัญญาบาเซิล 3. อนุสัญญาเวียนนา 4. อนุสัญญาวาดวยการอนุรักษพื้นที่ชุมนํ้า 5. อนุสัญญาวาดวยความหลากหลายทางชีวภาพ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เนื่องจากโครงการพัฒนาปาชุมชน ของไทยมีวัตถุประสงคหลักของการดําเนินงานที่สอดคลองกับ อนุสัญญาไซเตส กลาวคือ การควบคุมไมใหมีการบุกรุกพื้นที่ปา สงวนเพื่อลักลอบคาพืชและสัตวปา โดยการสรางจิตสํานึกใหแก ชาวบานในชุมชนที่อาศัยปาในการดํารงชีวิต และสงเสริมให ชาวบานชวยกันเฝาระวังไมใหมีการบุกรุกพื้นที่ปาสงวน) ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบและสรุปผล จากการตอบคําถาม การทําใบงาน และการทํา แบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือ ดานเทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับมาตรการ ปองกันและแกไขปญหาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของ เนื้อหา นํา สอน สรุป ประเมิน T256


5 การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำรจัดกำรสิ่งแวดล้อม (environmental management) เป็นกระบวนกำรใช้สิ่งแวดล้อมอย่ำง มีประสิทธิภำพและเป็นระบบ โดยกำรวำงแผน ด�ำเนินงำนติดตำมประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข พัฒนำให้ดีขึ้น ทั้งนี้ ต้องค�ำนึงถึงกำรใช้อย่ำงประหยัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืนยำวนำน 5.1 หลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม จะต้องมีแนวทำงและมำตรกำรต่ำง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ สภำพปัญหำที่เป็นอยู่ โดยมีหลักกำรส�ำคัญ ดังนี้ 1) การควบคุมจ�านวนประชากร เนื่องจำกจ�ำนวนประชำกรที่มำกขึ้น ส่งผลให้มี กำรใช้ทรัพยำกรเพิ่มขึ้นตำมไปด้วย รัฐบำลควรมีนโยบำยในกำรลดอัตรำกำรเพิ่มของประชำกร โดยจัดตั้งโครงกำรวำงแผนครอบครัว 2) การส่งเสริมคุณภาพประชากร ให้มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ มีจิตส�ำนึก ตระหนักถึง ควำมส�ำคัญและควำมจ�ำเป็นของกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม โดยบรรจุเป็น หลักสูตรในโรงเรียน และกำรให้กำรศึกษำอย่ำงไม่เป็นทำงกำรผ่ำนสื่อมวลชน 3) การส�ารวจแหล่งทรัพยากรเพิ่ม และสิ่งทดแทนกำรใช้ทรัพยำกร เช่น กำรส�ำรวจ แหล่งแร่และพลังงำน กำรคิดค้นกรรมวิธีขยำยพันธุ์พืชและสัตว์เพื่อเพิ่มปริมำณ 4) การปองกันรักษา เพื่อมิให้ทรัพยำกรเสื่อมโทรม ร่อยหรอลง เช่น กำรป้องกัน กำรท�ำลำยป่ำ กำรป้องกันทรัพยำกรน�้ำ อำกำศ แร่ ไม่ ให้เกิดกำรปนเปื้อนจำกสำรพิษ 5) การใช้ทรัพยากรให้ถูกประเภท เพรำะทรัพยำกรหลำยประเภทเป็นสิ่งที่ ใช้แล้ว หมดไปเสื่อมโทรมลง จึงต้องใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น กำรใช้ที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ ในกำร เพำะปลูก 6) การปรับปรุงคุณภาพทรัพยากร ทรัพยำกรที่เสื่อมโทรมควรมีกำรพัฒนำปรับปรุง คุณภำพ เช่น กำรฟื้นฟูสภำพป่ำที่ถูกท�ำลำย กำรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ กำรปลูกพืชตระกูลถั่วคลุมดิน กำรแก้ปัญหำน�้ำเน่ำเสีย เช่น กำรใช้กังหันชัยพัฒนำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน�้ำ 7) การใช้ทรัพยากรทดแทนกัน เป็นกำรน�ำทรัพยำกรที่มีมำกหรือเกิดขึ้นใหม่ มำใช้ทดแทนทรัพยำกรที่หำยำกหรือมีรำคำแพง เช่น กำรใช้พลำสติกแทนโลหะหรือไม้ กำรใช้ พลังงำนจำกน�้ำ ลม แสงอำทิตย์ แทนน�้ำมัน ถ่ำนหิน 8) การน�ามาใช้ใหม่ เป็นกำรน�ำทรัพยำกรกลับมำใช้ใหม่ เช่น หลอมพลำสติก เศษโลหะมำใช้ ใหม่ น�ำกระดำษมำผลิตใหม่ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมกับการพัฒนาที่ยั่งยืน 246 247 1) การควบคุมจ�านวนประชากร เนื่องจำกจ�ำนวนประชำกรที่มำกขึ้น ส่งผลให้มี 1 ขั้นนํา (Geographic Inquiry Process) 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรม “ทานถาม-เราตอบ” โดยผลัดกันตั้งคําถามเกี่ยวกับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม (มอบหมาย ใหนักเรียนเตรียมคําถามเปนการบานกลุมละ 2 ขอ) 2. ครูสุมนักเรียนใหเลาความประทับใจ หรือยก ตัวอยางการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดลอม ของประเทศไทยที่มีแนวโนม หรือไดรับผล สําเร็จตามเปาหมาย 3. ครูใหนักเรียนใชสมารตโฟนสองดู QR Code เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กับการพัฒนาที่ยั่งยืน จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 และอภิปรายแสดงความ คิดเห็นรวมกัน นักเรียนควรรู 1 การควบคุมจํานวนประชากร การเพิ่มขึ้นของจํานวนประชากรทําใหเกิด การใชทรัพยากรอยางกวางขวาง จึงตองมีการผลิตอาหารและจัดสรรที่อยู อาศัยเพิ่มขึ้น ความตองการที่เพิ่มขึ้นเหลานี้กอใหเกิดการขาดแคลนทรัพยากร เกิดสารพิษในสิ่งแวดลอม และทําใหธรรมชาติขาดสมดุลในที่สุด การควบคุม การเพิ่มจํานวนประชากรเปนแนวทางหนึ่งที่จะชวยลดความเสื่อมโทรมของ สิ่งแวดลอม และลดปริมาณการใชทรัพยากรธรรมชาติลงได กิจกรรม สรางเสริม ครูจัดกิจกรรมการเรียนรูเกี่ยวกับแนวทางการอนุรักษ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมตามหลัก 7R โดยเนนฝกทักษะ การปฏิบัติของนักเรียน เพื่อใหนักเรียนสามารถใชความรูเกี่ยวกับ แนวทางการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติในการดําเนินชีวิตประจําวัน ไดอยางถูกตอง นํา นํานํา สอนสอน สรุปสรุป ประเมิน ประเมิน T257


ขอสอบเนนการคิด 5.2 แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ปัญหำสิ่งแวดล้อมและกำรขำดแคลนทรัพยำกรธรรมชำติ มีผลกระทบต่อประชำชนใน ทวีปต่ำง ๆ ของโลก ดังนั้น ทุกคนจ�ำเป็นต้องมีควำมรับผิดชอบร่วมกันในกำรอนุรักษ์ทรัพยำกร ธรรมชำติให้คงอยู่ต่อไปอย่ำงยั่งยืน 1) ทวีปเอเชีย ในภูมิภำคต่ำง ๆ ของทวีปเอเชียได้มีกำรวำงแผนจัดกำร เพื่อกำร อนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมเช่น ภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมกันจัดตั้ง มรดกอุทยำนแห่งอำเซียน โดยมีวัตถุประสงค์ให้อุทยำนแห่งอำเซียนมีลักษณะเป็นหนึ่งเดียว มีกำรท�ำนุบ�ำรุงกระบวนกำรทำงนิเวศวิทยำ และกำรอนุรักษ์ไว้ซึ่งควำมหลำกหลำยทำงพันธุศำสตร์ และระบบนิเวศอย่ำงยั่งยืน หรือกำรจัดตั้งสมำคมสวนสัตว์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นกำรรวม กลุ ่มกันของสวนสัตว์ในภูมิภำคเพื่อกำรให้ควำมรู้แก ่สำธำรณชน กระตุ้นเตือนให้ประชำชน ตระหนักถึงกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกำรให้ควำมส�ำคัญต่อคุณค่ำ ของสัตว์ป่ำ นอกจำกนี้ ยังมีกำรส่งเสริมกำรพัฒนำพลังงำนสะอำด กำรก่อตั้งกองทุนสีเขียว และกำรจัดท�ำระบบบ�ำบัดน�้ำเสีย ภูมิภำคเอเชียตะวันออก ในประเทศญี่ปุ่น มีนโยบำยพัฒนำภำคอุตสำหกรรมควบคู่ ไปกับกำรรักษำสภำพแวดล้อม เพื่อท�ำให้ประชำชนมีคุณภำพชีวิตที่ดีตำมคุณสมบัติของประเทศ ที่พัฒนำแล้วโดยเน้นนโยบำยด้ำนกำรน�ำของเสียกลับมำใช้ ใหม่ ในขณะที่ประเทศเกำหลีใต้มี นโยบำยในกำรลดกำรปล่อยแก๊สเรือนกระจก กำรลดกำรพึ่งพำน�้ำมันและเพิ่มกำรพึ่งพำตัวเองใน ด้ำนพลังงำน และกระจำยอ�ำนำจกำรปกครองสู่ท้องถิ่นให้สำมำรถบริหำรจัดกำรสิ่งแวดล้อมได้เอง 2) ทวีปออสเตรเลีย มีกำรจัดตั้งพื้นที่อนุรักษ์ทำงทะเลจ�ำนวน 200 แห่ง โดย ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 65 ล้ำนเฮกตำร์ รวมถึงอุทยำนทำงทะเลแนวปะกำรังขนำดใหญ่ ที่เรียกว่ำ เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) พื้นที่อนุรักษ์ถิ่นที่อยู่ของปลำ เขตสงวนพันธุ์ปลำ และ พื้นที่อนุรักษ์อีกหลำยแห่ง นอกจำกนี้ รัฐบำลออสเตรเลียยังได้จัดท�ำข้อตกลงด้ำนป่ำไม้ระดับ ภูมิภำค (Regional Forest Agreements: RFAs) เพื่ออนุรักษ์และบริหำรจัดกำรป่ำไม้พื้นเมือง ของออสเตรเลียอย่ำงยั่งยืน และเพื่อปกป้องควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ 3) ทวีปแอฟริกา บำงประเทศในทวีปแอฟริกำได้จัดท�ำโครงกำรเพื่อรักษำและฟื้นฟู สภำพแวดล้อมมีกำรจัดพื้นที่คุ้มครองเพื่อฟื้นฟูพันธุ์พืชและสัตว์ในอุทยำนและเขตสงวนทำงด้ำน ตะวันออกของทวีปหลำยเขต เช่น มำไซมำรำ ประเทศเคนยำ เซเรนเกติประเทศแทนซำเนีย มีกำร ช่วยในกำรแพร่พันธุ์ของนกฟลำมิงโก รวมถึงกำรขับไล่ช้ำงออกจำกพื้นที่กำรเกษตรด้วยวิธีกำร ธรรมชำติ และกำรใช้ระบบวนอุทยำนในกำรปลูกธัญพืช 248 249 ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งนักเรียนจะปฏิบัติตนเพื่ออนุรักษและ พัฒนาสิ่งแวดลอมอยางไรจึงจะเหมาะสม (แนวตอบ การใชทรัพยากรธรรมชาติทุกชนิดไมวาจะเปน อาหาร นํ้า ไฟฟา จะตองลดปริมาณการใชลงใหเหลือเทาที่จําเปน ตองใช การใชทรัพยากรใหคุมคา คือ การนําทรัพยากรมาใชให เกิดประโยชนสูงสุด ลดละเลิกการใชสารพิษ โดยหันมาใชสาร ธรรมชาติที่ไมเปนอันตรายตอสิ่งแวดลอมและสุขภาพ ชวยกัน ปลูกตนไมและดูแลตนไมสาธารณะ เพื่อปองกันการแพรกระจาย ของสารพิษและชวยดูดซับมลภาวะตางๆ) ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 1. ครูนําภาพหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของกับ การกระทํา หรือกิจกรรมที่แสดงถึงความ รวมมือในการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมในทวีปตางๆ ทั่วโลก เชน • โครงการขยายพันธุพืชและพันธุสัตว • การเพาะเลี้ยงสัตวนํ้า • การใชพลังงานลม • การนํากระดาษมาใชใหม • การทําเกษตรอินทรีย 2. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเพิ่มเติมจากภาพ หรือคลิปวิดีโอดังกลาว บูรณาการอาเซียน ครูอธิบายใหนักเรียนมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับแผนงานการจัดตั้ง ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน วาประกอบไปดวยความรวมมือในดาน ตางๆ โดยเฉพาะความยั่งยืนดานสิ่งแวดลอม เชน การจัดการและการปองกัน มลพิษทางสิ่งแวดลอมขามแดน สงเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยการศึกษาดาน สิ่งแวดลอมและการมีสวนรวมของประชาชน สงเสริมมาตรฐานการดํารงชีวิต ในเขตเมือง สงเสริมการใชทรัพยากรชายฝงและทรัพยากรทางทะเลอยางยั่งยืน สงเสริมความยั่งยืนของทรัพยากรนํ้าจืด การตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศและการจัดการตอผลกระทบ และสงเสริมการบริหารจัดการ ปาไมอยางยั่งยืน นํา สอน สรุป ประเมิน T258


4) ทวีปยุโรป ได้มีกำรออกนโยบำยด้ำนสิ่งแวดล้อม โดยมุ ่งเน้นกำรคุ้มครอง สิ่งแวดล้อมอย่ำงรอบด้ำน ทั้งในด้ำนกำยภำพ เช่น น�้ำ ดิน อำกำศ และพัฒนำพลังงำนทดแทน ดังนี้ 1. ด้ำนปัญหำกำรเปลี่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศ มีโครงกำรซื้อขำยสิทธิกำรปล่อย แก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ โดยมีเป้ำหมำยเพื่อกำรลดแก๊สเรือนกระจก 2. ด้ำนควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ มีแผนยุทธศำสตร์ ระบุให้มีกฎระเบียบและ นโยบำยที่ค�ำนึงถึงผลกระทบด้ำนควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งนโยบำยด้ำน สิ่งแวดล้อม ป่ำไม้ และกำรท่องเที่ยว 3. ด้ำนสิ่งแวดล้อม สุขภำพและคุณภำพชีวิต เป็นกำรปกป้องสิ่งแวดล้อมและ สุขภำพของประชำชนด้วยกำรหำทำงจ�ำกัดสำรพิษและป้องกันกำรก่อมลภำวะต่ำง ๆ เพื่อควบคุม กำรผลิต กำรใช้ และกำรจ�ำหน่ำยสำรเคมีอันตรำย 4. ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติและของเสีย เป็นกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและ ของเสีย ได้แก่ กำรก�ำหนดระเบียบว่ำด้วยกำรจ�ำกัดกำรใช้สำรอันตรำยในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้ำและ อิเล็กทรอนิกส์ ลดกำรใช้พลังงำนในกำรท�ำลำยขยะและน�ำกลับมำใช้ ใหม่ 5. ด้ำนกำรใช้พลังงำนทดแทน ได้แก่ กำรใช้พลังงำนจำกธรรมชำติ รวมถึงกำร ใช้พลังงำนนิวเคลียร์ ในกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำ เช่นในประเทศเยอรมนีเดนมำร์กและมีกำรส่งออก เทคโนโลยีกังหันลมและสนับสนุนกำรใช้พลังงำนลมมำกที่สุดในโลก 5) ทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้มีแนวทำงในกำรแก้ไขปัญหำทรัพยำกร ธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมในด้ำนต่ำง ๆ ดังนี้ 1. ด้ำนควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ มีกำรจัดตั้งเขตอุทยำนแห่งชำติขึ้น เพื่อให้กำรคุ้มครองพันธุ์สัตว์และพืชที่อยู่ในภำวะเสี่ยงต่อกำรสูญพันธุ์ มีกำรเชื่อมอุทยำนต่ำง ๆ เข้ำด้วยกัน 2. กำรใช้พลังงำนทดแทนในทวีปอเมริกำเหนือสหรัฐอเมริกำและแคนำดำมีอัตรำ กำรผลิตพลังงำนไฟฟ้ำจำกพลังงำนทดแทน แทนกำรใช้น�้ำมันเชื้อเพลิงมำกที่สุดในทวีป มีกำร ออกแบบรถยนต์ที่สำมำรถใช้ได้กับทั้งน�้ำมันและเอทำนอล ซึ่งได้รับควำมนิยมมำก 3. กำรแก้ปัญหำภำวะโลกร้อน สหรัฐอเมริกำมีกำรออกฎหมำยเพื่อป้องกันกำร เปลี่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศโลกและกำรใช้พลังงำนสะอำด โดยก�ำหนดให้มีกำรลดกำรปล่อย แก๊สเรือนกระจกให้ ได้ร้อยละ 17 ภำยใน พ.ศ. 2563 4. ลดอัตรำกำรท�ำลำยพื้นที่ป่ำฝนของประเทศต่ำง ๆ ในทวีปอเมริกำใต้โดยเฉพำะ พื้นที่ป่ำแอมะซอนมีควำมพยำยำมในกำรลดอัตรำกำรตัดไม้ท�ำลำยป่ำ ด้วยกำรไม่ปรับสภำพพื้นที่ ป่ำเป็นทุ่งหญ้ำเลี้ยงสัตว์ และกำรสนับสนุนระบบเกษตรอินทรีย์ 248 249 รถใช้ได้กับทั้งน�้ำมันและเอทำนอล ยพื้นที่ป่ำฝนของประเทศต่ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูกระตุนใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถาม เชิงภูมิศาสตร เชน • หลักการสําคัญในการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอมมีอะไรบาง • แนวทางในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมเพื่อการพัฒนาอยางยั่งยืน มีอะไรบาง • ประเทศใดบางที่มีวิธีการจัดการการอนุรักษ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมที่เปน แบบอยางที่ดี นักเรียนควรรู 1 เอทานอล คือ แอลกอฮอลที่ไดจากการหมักพืชผลทางการเกษตร เชน ออย มันสําปะหลัง กากนํ้าตาล โดยผานกระบวนการยอยสลายและหมักจาก แปงเปนนํ้าตาล และสุดทายเปลี่ยนเปนแอลกอฮอล และแยกจนไดความบริสุทธิ์ สามารถนํามาใชเปนเชื้อเพลิงสําหรับเครื่องยนตได 2 ปาฝน ปาไมที่มีปริมาณฝนตกชุกตลอดป โดยมากอยูในบริเวณอากาศ ประเภทรอนชื้นแถบศูนยสูตร เชน ปาในเขตลุมนํ้าแอมะซอน ทวีปอเมริกาใต ลุมนํ้าคองโกในทวีปแอฟริกา เกาะบอรเนียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET บุคคลในขอใดมีสวนรวมในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดลอม ที่ใหผลยั่งยืนยาวนาน 1. นายเอตรวจวัดคุณภาพอากาศเปนประจํา 2. นายบีใชสารดีดีทีกําจัดแมลงแทนสารซีเอฟซี 3. นายซีปลูกหญาแฝกเพื่อปองกันนํ้าเซาะตลิ่งพัง 4. นายดีพัฒนาเทคโนโลยีที่ใชทรัพยากรฟุมเฟอย 5. นายเอฟใชหนังสือพิมพหอขยะเปยกกอนทิ้งลงถังขยะสีเหลือง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. การปลูกหญาแฝกเพื่อปองกัน นํ้าเซาะตลิ่ง เปนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ที่ยั่งยืน สวนการกระทําของบุคคลอื่นไมถูกตองตามแนวทาง จัดการทรัพยากรและสิ่งแวดลอม และการกระทําของเอได เพียงขอมูลคุณภาพอากาศแตยังไมไดลงมือปฏิบัติเพื่อจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมแตอยางใด) ขั้นที่ 2 การรวบรวมขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5-7 คน สืบคนขอมูลเกี่ยวกับแนวทางการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม รวมถึง การมีสวนรวมในการแกปญหาและการดําเนิน ชีวิตตามแนวทางการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติที่ยั่งยืน จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจากแหลงการเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาขอมูลในหัวขอ ที่รับผิดชอบ โดยนําความรูเกี่ยวกับเครื่องมือ ทางภูมิศาสตรมาใชประกอบในการศึกษาดวย นํา สอน สรุป ประเมิน T259


ขอสอบเนนการคิด Knowledge Geo ประเทศที่มีการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลก ดัชนีผลงำนด้ำนสิ่งแวดล้อม Environmental Performance Index (EPI) เป็นกำรจัดอันดับผลงำน กำรจัดกำรด้ำนสิ่งแวดล้อมของประเทศต่ำง ๆ รวม 163 ประเทศ โดยผู้เชี่ยวชำญจำกมหำวิทยำลัยเยล (Yale University) และมหำวิทยำลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ในกำรจัดอันดับ จะพิจำรณำจำกสภำพปัจจัยในด้ำนต่ำง ๆ เช่น คุณภำพของอำกำศ กำรบริหำร จัดกำรแหล่งน�้ำธรรมชำติ ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ สภำพป่ำไม้ กำรท�ำเกษตรกรรม กำรเปลี่ยนแปลง ของชั้นบรรยำกำศ พ.ศ. 2561 ประเทศที่มีกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมดีที่สุด คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รองลงมำ คือ ฝรั่งเศส เดนมำร์ก มอลตำ และสวีเดน ตำมล�ำดับ ส�ำหรับปัจจัยส�ำคัญที่ท�ำให้ประเทศเหล่ำนี้ประสบควำมส�ำเร็จในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติ และสิ่งแวดล้อม คือ กำรมีนโยบำยรัฐด้ำนกำรรักษำทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมที่ต่อเนื่อง มีกำร ลงทุนในโครงสร้ำงพื้นฐำนด้ำนสิ่งแวดล้อม กำรควบคุมมลภำวะที่เข้มงวด รวมถึงกำรสร้ำงจิตส�ำนึก แก่ประชำชนให้เห็นควำมส�ำคัญในกำรรักษำทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม โครงกำร Bergwaldprojekt เป็นโครงกำร อนุรักษ์ป่ำไม้ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เปิดรับ สมัครอำสำสมัครเพื่อเข้ำไปท�ำกิจกรรมฟื้นฟู อนุรักษ์ป่ำไม้ โดยไม่จ�ำกัดเพศ วัย เชื้อชำติ และไม่เก็บค่ำใช้จ่ำย เป็นตัวอย่ำงหนึ่งในกำร จัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม ที่มีประสิทธิภำพของสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ ประเทศ คะแนนที่ได้ 1 สวิตเซอร์แลนด์ 87.42 2 ฝรั่งเศส 83.95 3 เดนมำร์ก 81.60 4 มอลตำ 80.90 5 สวีเดน 80.51 6 สหรำชอำณำจักร 79.89 7 ลักเซมเบิร์ก 79.12 8 ออสเตรเลีย 78.97 9 ไอร์แลนด์ 78.77 10 ฟินแลนด์ 78.64 ที่มา : http://epi.envirocenter.yele.edu/2018 EPI 2018 Rankings 250 251 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 การรวบรวมขอมูล 3. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Knowledge เกี่ยวกับ ประเทศที่มีการจัดการทรัพยากรและ สิ่งแวดลอมดีที่สุดในโลก จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 ประกอบการรวบรวมขอมูล 4. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่เชื่อถือได ใหกับนักเรียนเพิ่มเติม เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับดัชนีชี้วัดผลการดําเนินงานดานสิ่งแวดลอม หรือ EPI เพิ่มเติมวา เปนการนํากิจกรรมที่เกี่ยวของกับสิ่งแวดลอมของประเทศหนึ่งๆ มาแปลงใหเปนระบบเมตริกอยางงายที่เริ่มตนจากศูนย หมายถึง เปนมิตรตอ สิ่งแวดลอมนอยที่สุด จนถึงหนึ่งรอย หมายถึง เปนมิตรกับสิ่งแวดลอมมากที่สุด เมื่อมีการจัดอันดับกลุมประเทศสแกนดิเนเวียจะอยูในอันดับตนๆ และประเทศ ในทวีปแอฟริกาจะอยูในอันดับทายๆ ขั้นที่ 3 การจัดการขอมูล 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรูกัน 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ที่นําเสนอเพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอง และรวม อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลที่ไดทําการ สืบคนมาเรียบเรียงเปนบทความในหัวขอ “การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม” เพื่อเปนการทบทวนและวิเคราะหความรู เพิ่มเติม 2. ครูสุมนักเรียนจํานวน 2-3 คน เพื่อยก ตัวอยางการมีสวนรวมในการแกปญหาและ การดําเนินชีวิตตามแนวทางการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืนในชีวิตประจําวัน บริเวณหนาชั้นเรียน ในการพัฒนาที่ยั่งยืน นักเรียนสามารถใชประโยชนจาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ ได โดยการพัฒนาที่ยั่งยืนไมไดปฏิเสธการใชประโยชน จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม แตควรมีการศึกษา และวางแผนการใชอยางถูกตองเหมาะสม เชน ศึกษาความ อุดมสมบูรณของดินเพื่อกําหนดพื้นที่เพาะปลูกพืชแตละชนิด เลี้ยงสัตว หรือกอสรางที่อยูอาศัย และการใชประโยชนตองไมกอให เกิดผลเสียตอสิ่งแวดลอม เชน บานเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรม ตองมีการบําบัดนํ้าเสียกอนปลอยลงสูแหลงนํ้าธรรมชาติ) นํา สอน สรุป ประเมิน T260


Reject : การปฏิเสธการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สร้ำงมลพิษ เช่น กล่องโฟมหรือพลำสติก ประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง Reduce : การลดการใช้เช่น ถ้ำบ้ำนอยู่ทำงเดียวกันก็นั่ง รถไปคันเดียวกันช่วยประหยัดน�้ำมัน หรือน�ำสินค้ำที่ซื้อมำ ใส่รวมในถุงเดียวกันเพื่อลดกำรใช้ถุง Recycle : การน�าไปผลิตขึ้นใหม่ เช่น กำรน�ำของที่ ใช้งำนไม่ได้แล้วไปเข้ำ กระบวนกำรผลิต เป็นวัตถุดิบตั้งต้นใหม่ เช่น ถุงพลำสติก ขวดแก้ว Reuse : การน�าของใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่เช่น กำรน�ำบรรจุภัณฑ์ที่ ใช้แล้วมำใช้ ใหม่ หรือใช้ถุงพลำสติกใส่ของหลำย ๆ ครั้ง Repair : การซ่อมแซมฟื้นฟูเช่น กำรซ่อมแซมกระเป๋ำ เสื้อผ้ำที่ ฉีกขำดให้ ใช้งำนได้อีก Recovery : การถนอมรักษา เช่น สิ่งของเครื่องใช้ในวันส�ำคัญหรือ เทศกำลต่ำง ๆ ควรเก็บไว้ใช้ ในครั้งต่อไป หรือกำรเก็บรักษำกระเป๋ำ เดินทำงให้อยู่ในสภำพดี Renewal : การเสริมแต่งของเก่า เช่น กำรตกแต่งกระเป๋ำ เสื้อผ้ำเก่ำให้สวยงำมขึ้น และน�ำไปใช้ต่อได้ R1 R2 R3 R4 R6 R7 R5 7R หลัก 5.3 การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและการด�าเนินชีวิตตามแนวทาง การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหำสิ่งแวดล้อมและกำรขำดแคลนทรัพยำกรธรรมชำติย่อมส่งผลกระทบต่อมนุษย์ดังนั้น ประชำชนทุกคนจ�ำเป็นต้องมีส่วนร่วมในกำรแก้ปัญหำและกำรด�ำเนินชีวิตตำมแนวทำงจัดกำร ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้หลัก 7R ดังนี้ กล่ำวโดยสรุปรอบตัวเรำมีทรัพยำกรธรรมชำติอยู่มำกมำย ทรัพยำกรบำงชนิดใช้แล้วหมดไป บำงชนิดต้องใช้ระยะเวลำในกำรฟื้นตัวและบำงชนิดเป็นทรัพยำกรที่ไม่มีวันหมดแต่จำกกำรพัฒนำ ในด้ำนต่ำง ๆ ทั้งด้ำนเกษตรกรรม อุตสำหกรรม ตลอดจนกำรขยำยตัวของเมือง ท�ำให้ทรัพยำกร ธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมถูกท�ำลำยอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้น กำรใช้ประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติจึงต้อง มีกำรจัดกำรทรัพยำกรที่เหมำะสมและกำรพัฒนำควำมรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดจนอำศัย ควำมร่วมมือจำกทุกฝ่ำย จะช่วยให้ใช้ทรัพยำกรอย่ำงเกิดประโยชน์คุ้มค่ำมำกที่สุดและก่อให้เกิด ผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด 250 251 ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอขอมูลจากการ ศึกษา และอภิปรายความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. นักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 6.3 เรื่อง การ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ที่ยั่งยืน 4. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมที่ยั่งยืน 5. นักเรียนทําแบบวัดฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมกับการ พัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อทดสอบความรู ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมกับการพัฒนา ที่ยั่งยืน ตลอดจนความสําคัญที่มีอิทธิพลตอการ ดําเนินชีวิตของประชากรและทรัพยากรตางๆ หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของเนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบวัดฯ และแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย การเรียนรูที่ 6 เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมกับการพัฒนาที่ยั่งยืน แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง การจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมที่ยั่งยืน ไดจากการตอบคําถาม การรวมกัน ทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมิน ผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยที่ 6 เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมกับการพัฒนาที่ยั่งยืน กิจกรรม 21st Century Skills ครูมอบหมายใหนักเรียนชวยกันทําโครงการที่เกี่ยวของกับการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในทองถิ่นหรือชุมชน ของตนเอง ทั้งในสวนของการแกไขปญหา การปองกัน และการ พัฒนาอยางถูกตองเหมาะสม โดยจัดทําแผนการดําเนินโครงการ ใหครูตรวจพิจารณากอนนําไปดําเนินการจริง แลวนําเสนอผลการ ดําเนินโครงการหนาชั้นเรียน จากนั้นรวบรวมไวเปนแหลงการ เรียนรูในโรงเรียน หรือนําออกเผยแพรแกชุมชนแบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T261


ค�าถามเน้นการคิด กิจกรรมพัฒนาทักษะ 1. ภำวะโลกร้อนเกิดจำกสำเหตุใด ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่ำงไร 2. กำรลดลงของป่ำดิบชื้นแหล่งใหญ่ของโลก เช่น บริเวณเกำะสุมำตรำ บริเวณลุ่มน�้ำแอมะซอน ส่งผลกระทบอย่ำงไร 3. เพรำะเหตุใดสัตว์ป่ำหลำยชนิดของไทยได้สูญพันธุ์ หรืออยู่ในภำวะเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ และควร มีมำตรกำรหรือแนวทำงกำรปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหำนี้อย่ำงไร 4. ในปัจจุบันปริมำณกำรใช้น�้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปริมำณแร ่เชื้อเพลิงมีจ�ำกัด มีแนวทำงในกำรแก้ปัญหำนี้อย่ำงไรบ้ำง 5. นักเรียนสำมำรถมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมอย่ำงยั่งยืนได้ อย่ำงไรบ้ำง 1. ภำวะโลกร้อนเกิดจำกสำเหตุใด ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่ำงไร 2. กำรลดลงของป่ำดิบชื้นแหล่งใหญ่ของโลก เช่น บริเวณเกำะสุมำตรำ บริเวณลุ่มน�้ำแอมะซอน 3. เพรำะเหตุใดสัตว์ป่ำหลำยชนิดของไทยได้สูญพันธุ์ หรืออยู่ในภำวะเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ และควร 4. ในปัจจุบันปริมำณกำรใช้น�้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปริมำณแร ่เชื้อเพลิงมีจ�ำกัด 5. นักเรียนสำมำรถมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมอย่ำงยั่งยืนได้ 1. เลือกสืบค้นข้อมูลสถำนกำรณ์ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมของไทยหรือของโลก ต่อไปนี้ 1 ข้อ โดยใช้กระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ • ภำวะโลกร้อน • ป่ำไม้และสัตว์ป่ำ • กำรใช้ที่ดินและน�้ำ • แร่และแร่พลังงำน • อำหำร • กำรละลำยของน�้ำแข็งขั้วโลก โดยวิเครำะห์สถำนกำรณ์ สำเหตุกำรเปลี่ยนแปลง ผลกระทบ กำรป้องกันและแก้ปัญหำ อย่ำงยั่งยืน จำกนั้นสรุปสำระส�ำคัญน�ำเสนอในชั้นเรียน 2. อภิปรำยร่วมกันในชั้นเรียนเกี่ยวกับกิจกรรมของมนุษย์ที่มีส่วนท�ำให้เกิดปัญหำสิ่งแวดล้อม วิเครำะห์หำสำเหตุ ผลกระทบ และแนวทำงกำรจัดกำรเพื่อป้องกันและแก้ ไขปัญหำ จำกนั้น ช่วยกันจัดท�ำโปสเตอร์เพื่อเผยแพร่ในโรงเรียน 1. เลือกสืบค้นข้อมูลสถำนกำรณ์ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมของไทยหรือของโลก 2. อภิปรำยร่วมกันในชั้นเรียนเกี่ยวกับกิจกรรมของมนุษย์ที่มีส่วนท�ำให้เกิดปัญหำสิ่งแวดล้อม 252 253 เฉลย คําถามเนนการคิด 1. เกิดจากการสะสมของแกสเรือนกระจก และ การเก็บกักความรอนในชั้นบรรยากาศที่เพิ่ม สูงขึ้น สวนทางกับปริมาณปาไมที่ลดลง ทําให ภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยางฉับพลัน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น เกิดการ เปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ เชน ไฟปา สัตวปา ลมตาย การละลายของหิมะและนํ้าแข็ง ขั้วโลก ซึ่งสงผลใหหมีขั้วโลกลดลงอยาง รวดเร็ว ในขณะที่ประเทศเขตรอนเกิดภาวะ ขาดแคลนนํ้าเปนบริเวณกวาง 2. ทําใหพืชและสัตวหลายชนิดสูญพันธุ เนื่องจาก ขาดแคลนอาหารและที่อยูอาศัย รวมถึงทําให เกิดภาวะโลกรอน เนื่องจาก ขาดแหลงดูดซับ แกสคารบอนไดออกไซดจากชั้นบรรยากาศ สงผลใหอุณหภูมิสูงขึ้น นํ้าแข็งขั้วโลกละลาย ระดับนํ้าทะเลสูงขึ้น และเกิดอุทกภัยตามมา 3. เนื่องจากเกิดการสูญเสียพื้นที่ปาไมซึ่งเปน แหลงที่อยูและอาหารของสัตวปา รวมถึงมีการ ลักลอบคาสัตวปาที่ผิดกฎหมายจํานวนมาก จึงควรมีการกําหนดมาตรการปองกันการ บุกรุกพื้นที่ปา กําหนดพื้นที่ปาเพื่อการอนุรักษ สัตวปา หรือฟนฟูและเพาะพันธุสัตวปาที่ หายากและใกลสูญพันธุ 4. พัฒนาและสงเสริมใหมีการเลือกใชพลังงาน ทดแทน หรือพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นๆ เชน พลังงานนํ้า พลังงานความรอนใตพิภพ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย พลังงาน จากคลื่นทะเล ที่นอกจากจะเปนพลังงานที่ สามารถหมุนเวียนได ยังเปนพลังงานที่เปน มิตรกับสิ่งแวดลอมอีกดวย 5. ใหความรวมมือและปฏิบัติตามกฎหมาย หรือนโยบายที่เกี่ยวของกับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ศึกษา และนําแนวทางการผลิตและการบริโภคอยาง ยั่งยืนมาปรับใชในชีวิตประจําวัน เชน ซื้อและ ใชสินคาและบริการที่เปนมิตรกับสิ่งแวดลอม ใชทรัพยากรและพลังงานอยางประหยัด คุมคา หรือหมุนเวียนนํากลับมาใชใหม เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพัฒนาทักษะ ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยทั่วไป งานหรือชิ้นงานใชเวลาไมนาน งานสําหรับประเมินรูปแบบนี้อาจเปนคําถามปลายเปดหรือผังมโนทัศน นิยมสําหรับประเมินผูเรียนรายบุคคล ประเมินความสามารถ • เชน ความคลองแคลวในการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร การแปลความหมายขอมูล ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการแกปญหา งานหรือชิ้นงานจะสะทอนถึง ทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปใช อาจเปนการประเมินการเขียน ประเมินกระบวนการทํางานทางภูมิศาสตรตางๆ หรือการวิเคราะห และการแกปญหา ประเมินทักษะ • มีเปาหมายหลายประการ ผูเรียนไดแสดงทักษะ ความสามารถทางภูมิศาสตรตางๆ ที่ซับซอนขึ้น งานหรือชิ้นงานมักเปนโครงงานระยะยาว ซึ่งผูเรียน ตองมีการนําเสนอผลการปฏิบัติงานตอผูเกี่ยวของหรือตอสาธารณะ สิ่งที่ตองคํานึงถึงในการประเมิน คือ จํานวนงานหรือกิจกรรมที่ผูเรียนปฏิบัติ และผูประเมินควรกําหนดรายการประเมิน และทักษะที่ตองการประเมินให ชัดเจน นํา สอน สรุป ประเมิน T262


บรรณานุกรม คณะกรรมการวิชาสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและชีวิต ศูนย์วิชาบูรณาการ หมวดวิชาศึกษาทั่วไปมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์. 2549. สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและชีวิต. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาเกษตรศาสตร์. ภาควิชาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2548. ปฐพีวิทยาเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์. ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค�าแหง. 2535. ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ชัชพล ทรงสุนทรวงศ์. 2546. มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ดาณุภา ไชยพรธรรม. 2537. สึนามิ-แผ่นดินไหว ภัยใกล้ตัว. กรุงเทพมหานคร : ยูโรปา เพรส. ทิศนา แขมมณี 2557. ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เทพพรรณี เสตสุบรรณ. (ม.ป.ป). ภัยพิบัติจากธรรมชาติในเขตร้อน. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. นิวัติ เรืองพานิช. 2528. การอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพมหานคร : เฉลิมชาญการพิมพ์. นิศศา ศิลปเสรฐ. 2560. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ และศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์. 2549. คู่มือเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ. กรุงเทพมหานคร : ดอกหญ้า กรุ๊ป. ปัญญา จารุศิริ และคณะ. 2557. ภูมิศาสตร์กายภาพ. กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์. 2548. เอกสารการสอนชุดวิชา นิเวศวิทยาและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. มาตรินี รักษ์ตานนท์ชัย และคณะ. 2557. ภูมิศาสตร์มนุษย์. กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์. ราชบัณฑิตยสถาน. 2549. พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ 4 (แก้ไขเพิ่มเติม). กรุงเทพมหานคร : ราชบัณฑิตยสถาน. _______.2549. พจนานุกรมชื่อภูมิศาสตร์สากล เล่ม 1 (อักษร A - L) ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพมหานคร : ราชบัณฑิตยสถาน. _______.2550. พจนานุกรมชื่อภูมิศาสตร์สากล เล่ม 2 (อักษร M - Z) ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพมหานคร : ราชบัณฑิตยสถาน. _______.2557. อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย เล่ม 1 ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร : ราชบัณฑิตยสถาน. _______. 2558. พจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : ราชบัณฑิตยสถาน. วิโรจน์ เอี่ยมเจริญ และคณะ. (ม.ป.ป). Aksorn Thailand Atlas. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์. ศึกษาธิการ, กระทรวง. 2543. ภูมิศาสตร์ประชากร. กรุงเทพมหานคร : ศูนย์พัฒนาหนังสือกรมวิชาการ. สากล สถิตวิทยานันท์. 2555. ทรัพยากรธรรมชาติและการจัดการ. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. สิริพร เกรียงไกรเพชร และคณะ. 2559. ภูมิศาสตร์เทคนิค. กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์. สิริวรรณ ศรีพหล. 2552. การจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สมยศ วัฒนากมลชัย. 2554. ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว. ปทุมธานี : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ. PB 253 นํา สอน สรุป ประเมิน T263


สุคนธ์ สินทพานนท์. 2552. สุดยอดวิธีสอนสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม น�าไปสู่การจัดการเรียนการสอน ของครูยุคใหม่. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์. สุรภี อิงคากุล. 2548. การวิเคราะห์ข้อมูลจากระยะไกล. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ส�านักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน). 2552. ต�าราเทคโนโลยีอวกาศและ ภูมิสารสนเทศ. กรุงเทพมหานคร : อัมรินทร์พรินติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. ส�านักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน).2553. สมุดภาพแผนที่ประเทศไทย จากดาวเทียม. กรุงเทพมหานคร : อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. Dorling Kindersley, Inc. 2016. Concise World Atlas. 7th. London: DK Publishing (Dorling Kindersley). Fabritius, Heidi. et al. Maa Elaman Planeetta. Helsinki: Otava. Harrison, James and Mcrae, Anne. 2008. Children’s World Atlas. Florence: Anne McRae, Marco Nardi. Janssen, Sarah. 2016. The World Almanac and Book of Fact 2017. Indiana: LSC communications. Kaplan, David H. and Monmonier, Mark. 2006. Perthes World Atlas. Gotha: Klett - Perthes Verlag. Pask, Raymond, Peters, Andrew and Yu Sandra. 2017. All About Geography Elective. Singapore: Hachettle Singapore Pte Ltd. Strahler, Arthur N. 1975. Physical Geography. Fourth Edition. New York: John Wiley and Sons. สื่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวง. สถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ปี 2560 (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2561. จาก http://www.mots.go.th/more_news.php?cid=465&filename =index ทรัพยากรธรณี, กรม.แนวทางการลดความเสี่ยงภัยสึนามิของประเทศไทย. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2561. จาก http://www.dmr.go.th/download/TSUNAMI_RISK_TH.pdf ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวง. รายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย พ.ศ. 2559. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2561. จาก http://infofile.pcd.go.th/mgt/Thailand_state_pollution2017%20 Thai.pdf?CFID=1448694&CFTOKEN=37204735 บัญชา ธนบุญสมบัติ. พายุงวงช้างในประเทศไทย. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2561. จาก https:// www2.mtec.or.th/th/e-magazine/admin/upload/295_66.pdf พัฒนาที่ดิน, กรม. การใช้ที่ดินของประเทศไทย. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2561. จาก http://www. ldd.go.th/www/lek_web/web.jsp?id=18671 ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์. แหล่งน�้า. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 30 มกราคม 2561. จาก http://www.lesa.biz/earth/hydrosphere/water-resources Mark Fonstad. IMAGES OF WISCONSIN. (online). Retrieved October 25, 2018. From https://blogs. uoregon.edu/fonstad/images-of-wisconsin/ Population Reference Bureau. 2017 World Population Data Sheet. (online). Retrieved January 20, 2018. Available http://www.prb.org/pdf17/2017_World_Population.pdf ฺ ฺ ฺ ฺ 254 PB นํา สอน สรุป ประเมิน T264


Click to View FlipBook Version