The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suwimolsoisan3254, 2023-01-17 04:43:13

ภูมิศาสตร์ ม.4-6

ภูมิศาสตร์ ม.4-6

ขอสอบเนนการคิด 5) ยางพารา เป็นพืชเขตร้อนชื้น ขึ้นได้ดีในเขตอุณหภูมิสูงสม�่ำเสมอเฉลี่ยประมำณ 21 - 29 องศำเซลเซียส ต้องกำรปริมำณฝนเฉลี่ยไม่ต�่ำกว่ำ 1,905 มิลลิเมตรต่อปี ปลูกได้ดีบริเวณ เนินเขำ หรือที่รำบที่มีดินร่วนและระบำยน�้ำได้ดี พื้นที่ปลูกยำงพำรำส่วนใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน อินเดีย และศรีลังกำ 6) ปาล์มน�้ามัน เป็นพืชในเขตร้อนชื้นแถบศูนย์สูตร ขึ้นได้ดีในเขตที่มีฝนตกชุก สม�่ำเสมอเสมอตลอดปี มีควำมชื้นสูงและแสงแดดจัด ปริมำณฝนเฉลี่ยประมำณ 1,800 - 2,000 มิลลิเมตรต่อปี ปลูกได้ดีในดินร่วนเหนียวถึงดินเหนียว อุ้มน�้ำได้ดี มีธำตุอำหำรสูง แหล่งปลูกปำล์ม น�้ำมันส�ำคัญ เช่น ประเทศมำเลเซีย อินโดนีเซีย ไนจีเรีย ภำคใต้ของประเทศไทย 7) ฝ้าย ปลูกได้ในเขตร้อนและเขตอบอุ่นที่มีปริมำณฝนเฉลี่ย 500 - 1,020 มิลลิเมตร ต่อปี ต้องกำรอุณหภูมิสูง แหล่งเพำะปลูกส�ำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกำในเขตพื้นที่ที่เรียกว่ำ Cotton Belt ตั้งแต่รัฐนอร์ทแคโรไลนำไปทำงตะวันตกถึงรัฐเท็กซัส และจำกเขตที่แม่น�้ำโอไฮโอไหลลงแม่น�้ำ มิสซิสซิปปีถึงดินดอนสำมเหลี่ยมปำกแม่น�้ำมิสซิสซิปปี นอกจำกนี้ ยังมีปลูกในรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐแอริโซนำ ในทวีปเอเชียปลูกมำกทำงตะวันตกเฉียงเหนือของที่รำบสูงเดกกันในประเทศ อินเดีย ในประเทศจีนปลูกมำกบริเวณลุ่มแม่น�้ำฉำงเจียงและลุ่มแม่น�้ำหวำงเหอในที่รำบภำคเหนือ 8) ชา เป็นพืชที่ปลูกตำมเนินเขำในเขตร้อนชื้น และเขตอบอุ่นของทวีปเอเชีย ต้องกำรปริมำณฝนเฉลี่ย 1,270 - 6,350 มิลลิเมตรต่อปี ปลูกได้ดี ในพื้นที่ที่มีควำมสูงกว่ำระดับ น�้ำทะเล 1,000 - 2,000 เมตร แหล่งเพำะปลูกส�ำคัญ เช่น ประเทศอินเดียมีกำรปลูกชำในไร่ขนำดใหญ่ ในรัฐอัสสัม บริเวณหุบเขำพรหมบุตร ซึ่งมีควำมอุดมสมบูรณ์เอื้อต่อกำรเจริญเติบโตของต้นชำ รัฐเบงกอลตะวันตก ปลูกบนเทือกเขำที่มีควำมสูงกว่ำ 2,150 เมตรเหนือระดับน�้ำทะเล และบริเวณ ยอดเขำทำงตอนใต้ของประเทศที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ ฝนตกชุกตลอดปี ในประเทศจีนปลูกได้มำก ที่สุดในโลก โดยปลูกมำกในเขตเทือกเขำตอนกลำงและตอนใต้ระหว่ำงตอนเหนือของแม่น�้ำฉำงเจียง ในประเทศญี่ปุ่นปลูกมำกตำมเนินเขำตอนกลำงและตอนใต้ของเกำะฮนชู ศูนย์กลำงกำรผลิตที่ ส�ำคัญ คือ เมืองชิซุโอะกะ 9) กาแฟ ปลูกได้ในเขตร้อนที่มีปริมำณฝนเฉลี่ย 1,143 - 1,524 มิลลิเมตร อุณหภูมิ 18 - 25 องศำเซลเซียส ไม่ชอบน�้ำขัง แหล่งเพำะปลูกส�ำคัญ เช่น ประเทศบรำซิล ปลูกมำกทำง ตะวันออกของประเทศซึ่งเป็นเขตที่รำบสูง มีดินที่เหมำะแก่กำรปลูกกำแฟ คือ เป็นดินที่เกิดจำก หินภูเขำไฟที่มีรูพรุนและมีแร่ธำตุอุดมสมบูรณ์ ในทวีปเอเชียปลูกมำกทำงตอนใต้ของคำบสมุทร อำหรับในประเทศเยเมน ในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปลูกมำกที่เกำะชวำ เกำะสุมำตรำ ส่วนในหมู่เกำะเวสต์อินดีสปลูกมำกที่ประเทศจำเมกำ เฮติ และดินแดนเปอร์โตริโก 136 137 งตะวันตกเฉียงเหนือของที่รำบสูงเดกกันในประเทศ 1 หินภูเขำไฟที่มีรูพรุนและมีแร่ธ 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • ปจจัยสําคัญดานใดที่ทําใหกิจกรรมทาง การเกษตรที่สําคัญของโลกแตกตางกัน (แนวตอบ ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะ ภูมิอากาศ ตําแหนงที่ตั้งทางภูมิศาสตรของ แตละพื้นที่ ตลอดจนความอุดมสมบูรณของ ทรัพยากรธรรมชาติแตละประเภท) • กิจกรรมทางการเกษตรที่สําคัญของประเทศ ไทยสวนใหญอยูในภูมิภาคใด (แนวตอบ แหลงการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ หลายชนิดมักอยูที่ภาคกลางและภาคใต เพราะบริเวณพื้นที่ภาคกลางและภาคใตของ ประเทศไทยเปนที่ราบลุมและมีปริมาณ นํ้าฝนเพียงพอในการเพาะปลูกพืชตางๆ เชน ขาว ยางพารา ปาลมนํ้ามัน) นักเรียนควรรู 1 ที่ราบสูงเดกกัน เกิดจากการที่แผนดินสวนหนึ่งของทวีปแอนตารกติกา เคลื่อนตัวมาชนกับแผนดินทวีปเอเชีย รวมถึงทําใหเกิดเปนเทือกเขาขึ้นมา คือ เทือกเขาหิมาลัย 2 หินภูเขาไฟ หรือหินอัคนีผุ เกิดจากการเย็นตัวลงอยางรวดเร็วของหินหนืด ที่ดันตัวพุออกมานอกผิวโลกเปนลาวา (Lava) ผลึกแรมีขนาดเล็กหรือไมเกิด ผลึกเลย เชน หินบะซอลต (Basalt) หินแอนดีไซต (Andesite) หินไรโอไลต (Rhyolite) พืชเศรษฐกิจชนิดใดขึ้นไดดีในเขตภูมิอากาศแบบเดียวกัน 1. ชา ฝาย 2. กาแฟ ขาวเจา 3. ยางพารา กาแฟ 4. ปาลมนํ้ามัน ขาวสาลี 5. ยางพารา ปาลมนํ้ามัน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 5. ยางพารา ปาลมนํ้ามัน เปนพืช ในเขตรอนชื้น ขึ้นไดดีในเขตฝนตกชุก) นํา สอน สรุป ประเมิน T142


ขอสอบเนน การคิด 10 ํW 30 ํN 40 ํN 50 ํN 30 ํN 40 ํN 50 ํN 0 ํ 10 ํE 20 ํE 30 ํE 40 ํE 0 ํ 10 ํE 20 ํE 30 ํE 40 ํE ท ะ เ ล เ ม ดิเ ต อ รเ ร เ น�ย น ท ะ เ ล ดํา สเปน ฝรั�งเศส ก.คอรซิกา อิตาลี ก.ซารดิเน�ย ก.ซิซิลี กรีซ บัลแกเรีย แอลเบเน�ย โรมาเน�ย ตุรกี ซีเรีย จอรแดน ไซปรัส อิสราเอล เลบานอน ลิเบีย อียิปต ตูนิเซีย แอลจีเรีย โมร็อกโก โปรตุเกส พื้นที่เหมาะสม N มาตราสวน 1 : 45,000,000 0 500 1,000 กม. 50 ํN 30 ํE 40 ํE 10) ไม้ผล ผลไม้ปลูกได้ดีในเขตภูมิอำกำศแบบอบอุ่นและแบบชุ่มชื้น โดยเฉพำะ ในเขตภูมิอำกำศแบบเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งมีอำกำศค่อนข้ำงร้อนแห้ง มีแสงแดดจัดในฤดูร้อน ในฤดูหนำวอำกำศอบอุ่นและมีฝนตกค่อนข้ำงชุก ดินแดนในแถบเมดิเตอร์เรเนียนได้ชื่อว่ำเป็น “ดินแดนสวนผลไม้ของโลก” (orchard lands of the world) ไม้ผลที่ส�ำคัญในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และบริเวณอื่น ๆ ของโลกที่มีภูมิอำกำศ แบบเมดิเตอร์เรเนียน เช่น ส้ม นอกจำกปลูกได้ดีในแถบเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว ยังปลูกได้ในเขต อบอุ่นค่อนข้ำงร้อนที่มีฤดูร้อนชุ่มชื้น เช่น ในรัฐฟลอริดำ สหรัฐอเมริกำ องุ่น เป็นพืชส�ำคัญในเขต เมดิเตอร์เรเนียนทุกแห่ง และยังปลูกได้ในเขตที่มีอุณหภูมิประมำณ 16 องศำเซลเซียส พื้นที่ปลูก องุ่นมำก เช่น ภำคกลำงของประเทศฝรั่งเศส ตอนกลำงของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกำ มะกอก เป็นผลไม้พื้นเมืองของดินแดนในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เป็นพืชที่ปลูกเพื่อใช้น�้ำมัน สำมำรถเจริญ เติบโตได้แม้ในดินที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ต�่ำ 11) โคนม ส่วนมำกเลี้ยงในไร่นำผสม เขตเลี้ยงโคนมและผลิตอำหำรจำกนมโคที่ส�ำคัญ เช่น ทวีปอเมริกำเหนือ เลี้ยงบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกำและตะวันออกเฉียงใต้ ของแคนำดำ เพรำะบริเวณนี้เป็นเขตที่มีควำมชื้นเพียงพอท�ำให้หญ้ำอุดมสมบูรณ์ ในฤดูร้อนอำกำศ ไม่ร้อนมำก ท�ำให้โคที่เลี้ยงมีคุณภำพดีมำก นอกจำกนี้ บริเวณดังกล่ำวยังเป็นเขตที่ประชำกรอำศัย อยู่หนำแน่น มีฐำนะทำงเศรษฐกิจดี มีควำมเจริญก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี สำมำรถเตรียมผลผลิต จำกนมโคได้รวดเร็วและมีคุณภำพ และยังมีกำรขนส่งที่ทันสมัยและมีประสิทธิภำพท�ำให้ส่งผลผลิต ถึงผู้บริโภคได้รวดเร็ว แผนที่แสดงพื้นที่เหมาะสมในการท�าสวนผลไม้รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 136 137 องุ่นมำก เช่น ภำคกลำงของประเทศฝรั่งเศส ตอนกลำงของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกำ มะกอก 1 นักเรียนควรรู 1 มะกอก มะกอกชนิดที่นํามาทํานํ้ามันมะกอก เรียกวา มะกอกโอลีฟ เปน พันธุไมที่เหมาะกับภูมิอากาศรอน ซึ่งเปนลักษณะตามธรรมชาติของประเทศ แถบเมดิเตอรเรเนียน พื้นที่ที่มีตนมะกอกโอลีฟชุกชุมนั้นเปนบริเวณที่เสนละติจูด กับความสูงเหนือระดับนํ้าทะเลมีความสัมพันธในเชิงตรงขาม เชน ในประเทศ สเปน มะกอกจะขึ้นไดดีบริเวณตางๆ ไดแก ที่แควน Rioja ซึ่งอยูเหนือระดับ นํ้าทะเล 250 เมตร ที่แควน Castilla-La Mancha เหนือระดับนํ้าทะเล 700 เมตร และที่เมือง Jean และ Garnada เหนือระดับนํ้าทะเล 1,200 เมตร ในประเทศโมร็อกโกตนมะกอกโอลีฟมีอยูชุกชุมที่เทือกเขาแอตลาส บริเวณ 1600 -1700 เมตร เหนือระดับนํ้าทะเล เพราะเหตุใดประเทศในแถบเมดิเตอรเรเนียนจึงไดชื่อวาเปน “ดินแดนสวนผลไมของโลก” 1. เปนประเทศที่สงออกผลไมอันดับ 1 ของโลก 2. ประชากรสวนใหญประกอบอาชีพคาขายผลไม 3. มีการจัดแสดงนวัตกรรมดานการทําสวนผลไมระดับโลก 4. มีสภาพภูมิอากาศไมรอนจัดและไมหนาวจัดมาก เหมาะแก การปลูกผลไม 5. มีดินอุดมสมบูรณเหมาะแกการปลูกผลไมจากการปะทุของ ภูเขาไฟบอยครั้ง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ประเทศแถบเมดิเตอรเรเนียนมี สภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอรเรเนียน ซึ่งฤดูรอน มีอากาศรอนและ แหงแลง สวนฤดูหนาว อากาศอบอุนและมีฝนตกคอนขางชุก จึงทําใหดินแดนแถบนี้อุดมสมบูรณไปดวยผลไมนานาชนิด) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 7. ครูใหนักเรียนดูแผนที่แสดงพื้นที่ที่เหมาะสม ในการทําสวนผลไมรอบทะเลเมดิเตอรเรเนียน จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกัน อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เชื่อมโยง กับลักษณะทางกายภาพตามแผนที่ที่กําหนด นํา สอน สรุป ประเมิน T143


ทวีปยุโรป เลี้ยงบริเวณเขตภูมิอำกำศภำคพื้นสมุทรชำยฝั่งตะวันตกแถบประเทศ เดนมำร์ก เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศเหล่ำนี้มีกำรส่งผลิตผลจำกนมโคออก จ�ำหน่ำยมำก ทุ่งหญ้ำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อุดมสมบูรณ์มีคุณค่ำทำงอำหำร ท�ำให้นมโคใน สวิตเซอร์แลนด์มีคุณภำพดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย เลี้ยงบริเวณตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย เพรำะมีควำมชื้นเพียงพอ ท�ำให้มีทุ่งหญ้ำอุดมสมบูรณ์ มีแรงงำนเพียงพอ และมีกำรขนส่งที่มี ประสิทธิภำพ ในประเทศนิวซีแลนด์มีกำรเลี้ยงโคนมในเกำะเหนือ 12) โคเนื้อ ส่วนมำกใช้เนื้อเป็นอำหำร หนังใช้ฟอกท�ำเครื่องใช้ต่ำง ๆ ใช้แรงงำน และใช้เป็นสัตว์บรรทุก ประเทศที่เลี้ยงโคเนื้อมำก เช่น สหรัฐอเมริกำ บรำซิล อินเดีย จีน สำยพันธ์ุที่นิยมเลี้ยง ได้แก่ พันธุ์เฮียร์ฟอร์ด เป็นสำยพันธุ์ที่เลี้ยงมำกที่สุดในสหรัฐอเมริกำ พันธุ์ ลองฮอร์น เลี้ยงมำกในทุ่งหญ้ำทำงภำคตะวันตกของสหรัฐอเมริกำ มีควำมทนทำนต่อสภำพอำกำศ ที่รุนแรง พันธุ์บรำห์มัน เป็นพันธุ์พื้นเมืองของประเทศอินเดีย ทนอำกำศร้อนชื้นได้ดี สหรัฐอเมริกำ จึงน�ำไปผสมหรือปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้เหมำะส�ำหรับเลี้ยงในเขตร้อนชื้นของสหรัฐอเมริกำ และพันธุ์ ชอร์ตฮอร์น เลี้ยงทั่วไปในทวีปอเมริกำเหนือ อเมริกำใต้ ยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกำ เป็นพันธุ์ ที่ให้ทั้งเนื้อและนม 13) ประมงน�้าเค็ม เป็นกำรประมงในเขตน�้ำตื้นใกล้ชำยฝั่งหรืออำจเป็นกำรประมงใน ทะเลหลวง กำรประมงของแต่ละภูมิภำคขึ้นอยู่กับสภำพทำงภูมิศำสตร์และเศรษฐกิจที่ส�ำคัญ ดังนี้ ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ลักษณะของพื้นทะเล แหล่งที่มีปลำ ชุกชุม ได้แก่ พื้นที่ของท้องทะเล นับจำกบริเวณชำยฝั่งไปถึงเขต ที่มีน�้ำลึกไม่เกิน 200 เมตร ลักษณะชำยฝั่ง ฝั่งทะเลที่เว้ำแหว่งมีอ่ำว ใหญ่น้อยและน�้ำไม่ลึกมำกเป็นที่อำศัย ของปลำและที่วำงไข่ขยำยพันธุ์ของสัตว์น�้ำ เขตน�้ำตื้น แสงสว่ำงส่องลงไปใต้ น�้ำ ท�ำให้เกิดแพลงก์ตอนซึ่งเป็น อำหำรของปลำ อุณหภูมิ ในบริเวณที่มีอุณภูมิต�่ำจะมี ฤดูเพำะปลูกสั้น คนในเขตนั้นจึงต้อง ท�ำประมงเพื่อเพิ่มผลผลิตอำหำรถ้ำมี แหล่งน�้ำ กำรผสมกันระหว่ำงน�้ำจืด ที่ไหลลงทะเล ท�ำให้น�้ำทะเล ได้รับอินทรียวัตถุซึ่งเป็น อำหำรของสัตว์น�้ำ เขตประมงอยู่ ใกล้เขตประชำกรหนำแน่น เพรำะมีแรงงำนและใกล้ผู้บริโภค ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี ท�ำให้มีเครื่องมือ ที่ทันสมัยมีอุปกรณ์ติดตำมฝูงปลำ ท�ำให้ออกไป จับปลำในน่ำนน�้ำได้เป็นเวลำนำน 138 139 กิจกรรม สรางเสริม ประสิทธิภำพ ในประเทศนิวซีแลนด์มีกำรเลี้ยงโคนมในเกำะเหนือ ทะเลหลวง กำรประมงของแต่ละภูมิภำคขึ้นอยู่กับสภำพทำงภูมิศำสตร์และเศรษฐกิจที่ส�ำคัญ ดังนี้ 1 2 นักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุโคนมและ โคเนื้อ พื้นที่บริเวณที่นิยมเลี้ยงในทวีปตางๆ ของโลก จากแหลง ขอมูลตางๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซต จากนั้นสรุป ความรูลงในกระดาษรายงาน พรอมติดภาพประกอบ ตกแตงให สวยงาม ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 8. ครูใหนักเรียนใชสมารตโฟนสืบคนแหลง ประมงนํ้าเค็มที่สําคัญของโลกจากเว็บไซตใน อินเทอรเน็ต จากนั้นรวมกันศึกษาเชื่อมโยง และยกตัวอยาง ความสัมพันธระหวางเขต ประมงสําคัญของโลกกับลักษณะทางกายภาพ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจาก แหลงการเรียนรูอื่นๆ เพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 เกาะเหนือ (North Island) เปนหนึ่งในเกาะหลัก 2 เกาะ (เกาะเหนือและ เกาะใต) ของประเทศนิวซีแลนด ตั้งอยูละติจูด 39  00’ ใต ลองจิจูด 176  00’ ตะวันออก มีเนื้อที่ 114, 729 ตารางกิโลเมตร 2 ทะเลหลวง (high seas) ทะเลที่อยูนอกเขตเศรษฐกิจจําเพาะ ทะเล อาณาเขตนานนํ้าภายในของรัฐ หรือนานนํ้าหมูเกาะ รัฐใดก็ไมสามารถจะอาง สิทธิที่จะทําใหสวนหนึ่งสวนใดของทะเลหลวงตกอยูภายใตอธิปไตยของตนได นํา สอน สรุป ประเมิน T144


ขอสอบเนน การคิด 0 ํ 40 ํE 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 0 ํ 0 ํ 40 ํS 40 ํN 80 ํN 0 ํ 40 ํS 40 ํN 80 ํN 40 ํE 80 ํE 120 ํE เสนศูนยสูตร เสนทรอปกออฟแคนเซอร เสนทรอปกออฟแคปริคอรน เสนอารกติกเซอรเคิล 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW N 0 2,000 4,000 กม. มหาสมุทรแปซิฟก ญี่ปุน เปรู นามิเบีย นอรเวย ชิลี มหาสมุทร อินเดีย มหาสมุทร แอตแลนติก มหาสมุทรอารกติก แกรนดแบงส คูริลแบงก (ตัน/ตร.กม./ป) เขตศักยภาพการประมง 0.05 0.2 1 3 5 10 ที่มา : United Nations Environment Programme, 2008 แผนที่แสดงผลผลิตจากการท�าประมงในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก เขตประมงส�ำคัญของโลก ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตร้อนและอยู่ในซีกโลกทำงเหนือ เพรำะทะเลในเขตร้อนมีจ�ำนวนปลำน้อย เนื่องจำกแพลงก์ตอนที่เป็นอำหำรปลำมีหนำแน่นในเขต ที่มีน�้ำเย็น ตัวอย่ำงแหล่งประมงที่ส�ำคัญของโลก เช่น เขตประมงทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น เขตน่ำนน�้ำ ไต้หวันถึงทะเลเบริง โดยเฉพำะบริเวณที่เรียกว่ำ คูริลแบงก์ เป็นเขตทะเลตื้นที่มีกระแสน�้ำอุ่น คุโระชิโอะและกระแสน�้ำเย็นโอะยะชิโอะมำบรรจบกัน เขตประมงทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก เช่น น่ำนน�้ำ นอกชำยฝั่งนิวอิงแลนด์ขึ้นไปถึงชำยฝั่งแคนำดำและนิวฟันด์แลนด์ เป็นเขตที่มีไหล่ทวีปกว้ำง แหล่งจับปลำที่ส�ำคัญ คือ แกรนด์แบงส์ เป็นบริเวณที่มีกระแสน�้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมและกระแสน�้ำเย็น แลบรำดอร์ไหลมำบรรจบกัน เขตประมงทางตะวันออกกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ประเทศเปรูและชิลี ตะวันตกของอเมริกำกลำง ประเทศเม็กซิโก มีกระแสน�้ำเย็นเปรูไหลผ่ำน ท�ำให้มีอำหำรของปลำ จ�ำนวนมำก แต่เป็นปลำขนำดเล็กใช้ท�ำปลำป่นส�ำหรับอำหำรสัตว์และท�ำปุ๋ย ปัจจุบันกำรประมงเพื่อกำรค้ำมีกำรน�ำเครื่องมือที่ทันสมัยมำใช้ เช่น เครื่องมือเสียง อิเล็กทรอนิกส์ ที่ท�ำให้ทรำบทิศทำง ระยะห่ำง และขนำดของฝูงปลำ กำรใช้ดำวเทียมเพื่อแสดง ภำพลักษณะของมหำสมุทรในกำรช่วยยืนยันต�ำแหน่งระหว่ำงเขตกระแสน�้ำเย็นและกระแสน�้ำอุ่น 138 139 คูริลแบงก์ เป็นเขตทะเลตื้นที่มีกระแสน�้ำอุ่น คุโระชิโอะและกระแสน�้ำเย็นโอะยะชิโอะม 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 9. ครูใหนักเรียนรวมกันศึกษาและวิเคราะห แผนที่แสดงผลผลิตจากการทําประมงใน ภูมิภาคตางๆ ของโลก จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจากแหลงการเรียนรู อื่นๆ เพิ่มเติม 10. ครูสุมถามนักเรียนเพิ่มเติมถึงพื้นที่ที่มีผลผลิต จากการทําประมงในภูมิภาคตางๆ ของโลก จากนั้นอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพื่อ วิเคราะหและแปลผลขอมูลรวมกัน นักเรียนควรรู 1 กระแสนํ้าอุน กระแสนํ้าที่มีอุณหภูมิสูงกวานํ้าบริเวณนั้น สวนใหญมักเกิด บริเวณชายฝงทางตะวันออกของทวีป เชน กระแสนํ้าอุนกัลฟสตรีม (เกิดทาง ชายฝงตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ) จะทําใหอุณหภูมิเหนือผิวดินอุนขึ้น ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น ความกดอากาศตํ่าลง ภูมิประเทศบริเวณนั้นจึงเปน เขตอบอุนและอุดมสมบูรณ 2 กระแสนํ้าเย็น กระแสนํ้าที่มีอุณหภูมิตํ่ากวานํ้าบริเวณนั้น สวนใหญเกิดขึ้น บริเวณชายฝงตะวันตกของทวีป เชน กระแสนํ้าเย็นเปรู (เกิดทางชายฝงตะวันตก ของทวีปอเมริกาใต) จะทําใหเกิดความกดอากาศสูง และลดความชื้นในอากาศ ฝนจึงตกนอยลง ภูมิประเทศบริเวณนั้นจึงแหงแลง บางเปนทะเลทราย เขตคูริลแบงกบริเวณนานนํ้าไตหวันถึงทะเลแบริงมีความสําคัญ ทางเศรษฐกิจอยางไร 1. แหลงปโตรเลียม 2. แหลงประมงที่มีปลาชุกชุม 3. เขตนํ้าลึก มีชายฝงทะเลเวาแหวง 4. เปนเสนทางการไหลของกระแสนํ้าในมหาสมุทร 5. มีแนวปะการังยาว เปนที่อยูอาศัยของแพลงกตอน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. คูริลแบงกเปนบริเวณที่กระแสนํ้าอุน คุโระชิโอะกับกระแสนํ้าเย็นโอะยะชิโอะไหลมาบรรจบกัน ทําใหมี แพลงกตอนซึ่งเปนอาหารของปลาอยูเปนจํานวนมาก จึงเปนแหลง ปลาชุกชุม มีประโยชนทางดานการประมง) นํา สอน สรุป ประเมิน T145


คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ขาวเจา 0150 150 พื้นที่อื่นๆ กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกขาวของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE 0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกขาวโพดของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ขาวโพด พื้นที่อื่นๆ แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกข้าวเจ้าของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกข้าวโพดของไทย 1.3 เกษตรกรรมในประเทศไทย ประเทศไทยมีพื้นที่ที่เหมำะแก่กำรเพำะปลูก พืชเศรษฐกิจที่ปลูกมีทั้งพืชที่ใช้เป็นอำหำร ใช้เป็นวัตถุดิบในโรงงำนอุตสำหกรรม และส่งเป็นสินค้ำออกที่ส�ำคัญ ได้แก่ ข้าวเจ้า เป็นพืชเศรษฐกิจที่ส�ำคัญของไทย มีพื้นที่เพำะปลูกมำกกว่ำพืชชนิดอื่น ๆ ขึ้นได้ดี ในดินเหนียวและดินร่วนปนเหนียว ปลูกมำกในที่ลุ่มภำคกลำงและภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าวโพด ปลูกได้ดีในทุกภำค แต่ส่วนมำกปลูกมำกในพื้นที่ภำคเหนือและภำคตะวันออก เฉียงเหนือ ผลผลิตน�ำไปใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอำหำรสัตว์ อุตสำหกรรมท�ำแป้งข้ำวโพด มันส�าปะหลัง ขึ้นได้ในสภำพดินฟ้ำอำกำศหลำยชนิด แม้แต่สภำพอำกำศแห้งแล้ง เนื้อดิน มีตั้งแต่ดินร่วนปนทรำยถึงดินทรำย ปลูกมำกในภำคตะวันออกเฉียงเหนือและภำคตะวันออก อ้อย ปลูกทุกภำค ยกเว้นภำคใต้มีกำรปลูกน้อย เจริญเติบโตได้ดีบริเวณที่ดอนน�้ำไม่ขัง ดินร่วนซุย และแสงแดดจัด เป็นวัตถุดิบส�ำคัญในอุตสำหกรรมผลิตน�้ำตำล และพลังงำนทดแทน ยางพารา เจริญเติบโตได้ดีบริเวณที่มีควำมชื้น ฝนตกชุก ปลูกได้ทั่วไปในภำคใต้และภำค ตะวันออก ปัจจุบันสำมำรถพัฒนำพันธุ์และปลูกได้ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ปาล์มน�้ามัน เจริญเติบโตได้ดีในอำกำศร้อนชื้น ฝนตกชุก ปลูกได้ดีในบริเวณภำคใต้ของไทย ปัจจุบันได้มีกำรน�ำเทคโนโลยีมำใช้ในกำรเพำะปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ เช่น กำรพัฒนำ พันธุ์พืชให้มีควำมต้ำนทำนโรค กำรเพำะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อใช้ในกำรขยำยพันธุ์ ตลอดจนกำรประยุกต์ ใช้ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์เพื่อค�ำนวณกำรให้น�้ำแก่พืชและระยะเวลำกำรเก็บเกี่ยว 140 141 ล และพลังงำนทดแทน ปาล์มน�้ามัน เจริญเติบโตได้ดีในอ 1 2 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 11. ครูใหนักเรียนรวมกันนําขอมูลที่ไดจาก การศึกษามาวิเคราะหเชื่อมโยงกับประเด็น “เกษตรกรรมในประเทศไทย” อภิปรายและ เสนอแนะขอคิดเห็นเพิ่มเติม 12. ครูถามคําถามเพื่อใหนักเรียนไดวิเคราะห ความรูเพิ่มเติม เชน • ประเทศไทยมีการปลูกยางพารา ซึ่งเปน พืชเขตรอนชื้นเปนจํานวนมาก โดยเฉพาะ บริเวณพื้นที่จังหวัดใด (แนวตอบ ในภาคใต เชน จังหวัดสุราษฎรธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ภาคตะวันออก เชน จังหวัดจันทบุรี ตราด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เชน จังหวัดบุรีรัมย อุบลราชธานี หนองคาย นครพนม) นักเรียนควรรู 1 พลังงานทดแทน กากของออย หรือชานออยที่เหลือจากการคั้นนํ้าออก สามารถนํามาทําเปนเชื้อเพลิงชีวมวล เพื่อกลับมาใชในกระบวนการผลิตตอไป เชน เปนเชื้อเพลิงในการผลิตนํ้าตาลดิบ หรือนําไปผลิตกระแสไฟฟา โดยออย 1 ตัน เมื่อผานกระบวนการแปรรูปตางๆ แลวจะมีวัสดุที่เหลือจากกระบวนการ ผลิตหรือกากกอย ประมาณ 290 กิโลกรัม หรือเทียบเทาพลังงานไฟฟาได 100 kWh 2 ปาลมนํ้ามัน มีถิ่นกําเนิดในทวีปแอฟริกา เปนพืชที่ใหผลผลิตนํ้ามันตอหนวย พื้นที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับพืชนํ้ามันชนิดอื่นๆ ปาลมนํ้ามันเจริญเติบโตและให ผลิตผลดีในสภาพอากาศที่รอนและชื้น มีปริมาณฝนตั้งแต 2,000 มิลลิเมตร ตอปขึ้นไป ปลูกกันมากในภาคใตและชายฝงทะเลดานตะวันออกของอาวไทย สามารถนํามาใชประโยชนหลากหลาย เชน เปนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตสบู อุตสาหกรรมอาหาร เชน นมขนหวาน ไอศกรีม ครีมเทียม ใชในอุตสาหกรรม โอลิโอเคมีคัล รวมถึงอุตสาหกรรมผลิตไบโอดีเซล นักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจการเกษตรในทองถิ่น ของตนเอง ในประเด็น สภาพพื้นที่ที่เหมาะแกการเพาะปลูก ผลิตผลที่ไดจากการเพาะปลูก เทคโนโลยีที่ชวยในการเพาะปลูก แลวนําเสนอขอมูลลงกระดาษโปสเตอร พรอมมีภาพประกอบ ตกแตงใหสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T146


0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกมันสำปะหลังของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ มันสำปะหลัง พื้นที่อื่นๆ 0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกออยของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ออย พื้นที่อื่นๆ 0150 150 กิโลเมตร N แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกยางพาราของประเทศไทย อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ยางพารา พื้นที่อื่นๆ 0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกปาลมน้ำมันของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ปาลมน้ำมัน พื้นที่อื่นๆ แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกมันส�าปะหลังของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกยางพาราของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกอ้อยของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกปาล์มน�้ามันของไทย 140 ที่มา : กรมพัฒนำที่ดิน พ.ศ. 2558 / 2559 141 กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนดูแผนที่แสดงพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย จากหนังสือเรียน หนา 141 แลวรวมกันวิเคราะหปฏิสัมพันธระหวาง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 4.1 เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจในดานเกษตรกรรม 3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในดานเกษตรกรรม โดยครูแนะนําเพิ่มเติม ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือ ดานเทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับกิจกรรมทาง เศรษฐกิจในดานเกษตรกรรม หรือใช PPT สรุป สาระสําคัญของเนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประเภทเกษตรกรรม ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนํา เสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบ ประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 4 เรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T147


ขอสอบเนนการคิด 2 อุตสาหกรรมการผลิต อุตสำหกรรม หมำยควำมถึง เทคนิคในกำรผลิตที่เป็นกระบวนกำรเปลี่ยนแปลงหรือแปรรูป วัตถุดิบเป็นผลผลิตในรูปแบบต่ำง ๆ เป็นกระบวนกำรที่อำศัยเครื่องจักรและวิธีกำรที่ทันสมัยเป็น กลไกส�ำคัญ อุตสำหกรรมมีหลำยประเภทกระจำยตัวอยู่ตำมภูมิภำคต่ำง ๆ ของโลก โดยมีปัจจัย ส�ำคัญ ดังนี้ 2.1 ปจจัยกำาหนดที่ตั้งของอุตสาหกรรม กำรเลือกที่ตั้งโรงงำนอุตสำหกรรมที่เหมำะสมที่สุดส�ำหรับกำรด�ำเนินกำรมีปัจจัยส�ำคัญ ดังนี้ 1) ที่ดิน เป็นสถำนที่ตั้งในกำรประกอบธุรกิจอุตสำหกรรม ประเด็นที่น�ำมำพิจำรณำ คือ รำคำที่ดิน และขนำดของพื้นที่ ตำมปกติท�ำเลในเขตเมืองมีค่ำใช้จ่ำยสูง ดังนั้น โรงงำนส่วนมำก จึงตั้งห่ำงจำกเมืองออกไปอยู่ตำมชำนเมืองหรือชนบท 2) วัตถุดิบ อุตสำหกรรมบำงประเภทตั้งอยู่ ใกล้แหล่งวัตถุดิบโดยตรง เพื่อประหยัด ค่ำขนส่งในปริมำณมำก เช่น กำรถลุงเหล็ก โรงงำนแปรรูปไม้ อุตสำหกรรมบำงประเภทอำจ เสียหำยได้จำกกำรขนส่งระยะไกล เช่น อุตสำหกรรมเนื้อสัตว์ ผลไม้ แต่อุตสำหกรรมบำงประเภท ที่ใช้วัตถุดิบที่มีน�้ำหนักเบำ จ�ำนวนน้อย เพื่อผลิตสินค้ำรำคำสูง เช่น โรงงำนผลิตเวชภัณฑ์ โรงงำนผลิตเสื้อผ้ำ อำจตั้งอยู่ไกลจำกแหล่งวัตถุดิบ หรือไปตั้งในแหล่งผู้บริโภค หรือแหล่งที่มี ค่ำแรงถูกได้ 3) แรงงาน ควำมส�ำคัญของแรงงำนอยู่ที่จ�ำนวน คุณภำพ และค่ำจ้ำงแรงงำนนั้น ๆ เช่น กำรผลิตในอุตสำหกรรมที่ต้องใช้ทักษะควำมช�ำนำญ ผู้ผลิตมักเข้ำมำตั้งโรงงำนในเขตที่มี แรงงำนประเภทที่ต้องกำร เช่น กำรเจียระไนเพชรที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ กำร ผลิตนำฬิกำที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กำรท�ำพรมที่ประเทศอิหร่ำน นอกจำกคุณภำพของแรงงำน แล้ว ค่ำแรงยังมีผลต่อที่ตั้งอุตสำหกรรมด้วย เพรำะเมื่อมีแรงงำนที่รำคำถูกกว่ำท�ำให้ต้นทุน ต�่ำสำมำรถแข่งขันกับสินค้ำของประเทศอื่น ๆ ได้ จำกควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีในปัจจุบัน ได้มีกำรหุ่นยนต์และแขนกลมำใช้แทนแรงงำน คนมำกขึ้น ซึ่งเป็นเป้ำหมำยใหม่ของกำร ทดแทนแรงงำนคนในอนำคต เนื่องจำกสำมำรถ ท�ำงำนหนักหรืองำนอันตรำยที่คนไม่สำมำรถ ท�ำได้ เช่น กำรจับโลหะร้อน ของมีพิษหรือรังสี อุตสำหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ มักตั้งอยู่ ใกล้ภูเขำหินปูน สำมำรถท�ำงำนได้อย่ำงมีคุณภำพและสม�่ำเสมอ 142 143 ผลิตนำฬิกำที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กำรท�ำพรมที่ประเทศอิหร่ำน นอกจำกคุณภำพของแรงงำน 1 การผลิตสินคาอุตสาหกรรมในขอใดจําเปนตองใชแรงงานที่มี ทักษะความชํานาญและความละเอียดประณีตสูงที่สุด 1. การผลิตไวน 2. การปกครอสสติตช 3. การผลิตกระเบื้อง 4. การเจียระไนเพชร 5. การผลิตอาหารกระปอง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. การเจียระไนเพชร เปนอุตสาหกรรม ที่ตองใชแรงงานที่มีทักษะความชํานาญ ความอดทน สายตาดี และความละเอียดประณีตสูง เพื่อใหไดงานที่สวยงามและมีมูลคา มากที่สุด) นักเรียนควรรู 1 การทําพรมที่ประเทศอิหราน หรือเปนที่รูจักกันดีวา พรมเปอรเซีย ถือกําเนิดขึ้นตั้งแตประเทศอิหรานยังคงเปนอาณาจักรเปอรเซียโบราณที่ ยิ่งใหญในอดีต ปจจุบันเปนงานศิลปที่ไดรับการยอมรับไปทั่วโลกจากคุณภาพ อันยอดเยี่ยม มีลวดลายที่ประณีตละเอียดออนที่มีเอกลักษณเฉพาะตัว นับเปน สินคาออกที่ทํารายไดใหแกประเทศอิหรานจํานวนมหาศาลตลอดมา และที่ สําคัญก็คือ พรมเปอรเซียมีความผูกพันลึกซึ้งกับวิถีชีวิตของชาวอิหรานอยาง มากตั้งแตเกิดจนตาย กิจกรรมของชาวอิหรานสวนใหญลวนเกี่ยวของกับ ผืนพรม ทั้งยามกิน ยามนอน ทํางาน เที่ยวพักผอน หรือแมกระทั่งการประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา ขั้นนํา (Geographic Inquiry Process) 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ชื่อเรื่อง จุดประสงค และผลการเรียนรู 2. ครูใหนักเรียนนําคลิปวิดีโอที่ไดรวมกันหามา ลวงหนาเกี่ยวกับความกาวหนาของกิจกรรม ทางเศรษฐกิจของมนุษยในเรื่องตางๆ เชน อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใชไฟฟา การผลิต อาหาร หรือการทองเที่ยว 3. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นจาก คลิปวิดีโอ ตามประเด็น เชน • จากคลิปวิดีโอแสดงถึงความเจริญกาวหนา ในดานใด • จากคลิปวิดีโอแสดงถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่สําคัญในเรื่องใด • ปจจัยสําคัญที่สงผลตอการดําเนินกิจกรรม ตามคลิปวิดีโอคือสิ่งใด นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T148


ขอสอบเนน การคิด 4) การขนส่ง เส้นทำงขนส่งที่มีเส้นทำงติดต่อกันหลำยสำยและมีค่ำบริกำรที่ไม่สูง เป็นปัจจัยส�ำคัญในกำรก�ำหนดที่ตั้งอุตสำหกรรม โดยเฉพำะกำรขนส่งทำงน�้ำที่เหมำะส�ำหรับ เมืองรอตเทอร์ดำม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองกำรค้ำ อุตสำหกรรม และเมืองท่ำที่ส�ำคัญแห่งหนึ่งของโลก ส่งสินค้ำที่มีน�้ำหนักและปริมำณมำก เพรำะค่ำ ขนส่งถูกเมื่อเทียบกับกำรขนส่งทำงอื่น ดังนั้น เขตอุตสำหกรรมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้แม่น�้ำ ทะเล หรือมหำสมุทร และเมืองท่ำเหล่ำนั้นจะกลำยเป็น ศูนย์กลำงอุตสำหกรรมด้วย เช่น เมืองมำร์เซย์ เมืองฮัมบูร์ก เมืองรอตเทอร์ดำม เมืองนิวยอร์ก ปัจจุบันระบบโลจิสติกส์เข้ำมำมีบทบำทใน อุตสำหกรรมต่ำง ๆ มำกขึ้น เพรำะเป็นระบบที่ ช่วยสนับสนุนภำคอุตสำหกรรมในกำรขนส่งหรือ เคลื่อนย้ำยสินค้ำ กำรบริกำร หรือข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกันอย่ำงมีประสิทธิภำพ จำกต้นทำงถึง ปลำยทำงผู้บริโภค 5) ตลาด หมำยถึง ผู้บริโภคสินค้ำ ซึ่งได้แก่ประชำชนทั่วไป รวมถึงธุรกิจต่ำง ๆ ทั้ง ในภำคเกษตรและอุตสำหกรรม ขนำดของตลำด คือ อ�ำนำจซื้อของประชำชนและกำรขยำยตัว ของเศรษฐกิจต่ำง ๆ อุตสำหกรรมบำงประเภท ตั้งอยู่ใกล้ตลำด โดยเฉพำะอุตสำหกรรมที่ เกี่ยวข้องกับกำรผลิตเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น Geo Tip นอกจำกปัจจัยทำงภูมิศำสตร์จะมีส่วนส�ำคัญ ในกำรเลือกที่ตั้งของโรงงำนอุตสำหกรรมแล้ว ปัจจัยทำงสังคมและวัฒนธรรมยังเข้ำมำมี บทบำทต่ออุตสำหกรรมด้วย เช่น นโยบำย ของรัฐ ซึ่งมีส่วนส�ำคัญมำกในกำรก�ำหนดย่ำน อุตสำหกรรม ชนิดของอุตสำหกรรม กำรกระจำย ของอุตสำหกรรมในพื้นที่ต่ำง ๆ อำหำร เครื่องดื่ม จ�ำเป็นต้องส่งถึงตลำดให้เร็วเพื่อควำมสดใหม่ เครื่องใช้ประจ�ำวัน เครื่องเรือน ซึ่งเป็นสินค้ำส�ำเร็จรูปขนำดใหญ่ กำรขนส่งไกลท�ำให้เสียค่ำใช้จ่ำยสูงและอำจช�ำรุดเสียหำย จึงตั้ง อยู่ในแหล่งชุมชน ควำมแตกต่ำงของตลำดอำจขึ้นอยู่กับรำยได้ของประชำกร ซึ่งหมำยถึงกำรมี อ�ำนำจซื้อของประชำกรด้วย ในประเทศก�ำลังพัฒนำส่วนใหญ่ประชำกรมีอ�ำนำจในกำรซื้อต�่ำ ซึ่ง ส่งผลต่อสินค้ำที่มีรำคำสูงถูกจ�ำกัดลง แต่สินค้ำรำคำถูกยังมี โอกำสดี แต่ในประเทศที่พัฒนำแล้ว ประชำกรมีอ�ำนำจซื้อสูง สำมำรถซื้อสินค้ำรำคำแพงได้ จึงเป็นตลำดของสินค้ำได้แทบทุกชนิด Activity นักเรียนแสดงบทบำทสมมติเป็นเจ้ำของโรงงำนอุตสำหกรรมกำรผลิตที่สนใจคนละ 1 แห่ง จำกนั้น ให้เลือกที่ตั้งของโรงงำน แล้ววิเครำะห์ถึงปัจจัยส�ำคัญที่เป็นตัวก�ำหนดที่ตั้งของโรงงำนดังกล่ำว Geo 142 143 ศูนย์กลำงอุตสำหกรรมด้วย เช่น เมืองมำร์เซย์ ปัจจุบันระบบโลจิสติกส์เข้ำมำมีบทบำทใน 1 2 ขั้นนํา 4. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับการ เลือกที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม จาก หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกัน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขอมูลดังกลาว 5. ครูอาจใหนักเรียนแบงกลุม ศึกษาและทํา กิจกรรมตามแนวทาง Geo Activity จาก หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพื่อเปนการ กระตุนความสนใจของนักเรียนเพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 เมืองมารเซย ตั้งอยูทางตะวันออกเฉียงใตของประเทศฝรั่งเศส เปนเมืองทา การคาที่สําคัญ สงวัสดุกอสราง ผลิตภัณฑอาหาร เหลาองุน และงานโลหะเปน สินคาออก มีอุตสาหกรรมสบู นํ้าตาล วัสดุกอสราง เคมีภัณฑ การกลั่นนํ้ามัน และอูตอเรือ 2 ระบบโลจิสติกส เปนการวางแผนการดําเนินการ การควบคุม การไหลเวียน การจัดเก็บวัสดุสินคา การบริการ และสารสนเทศอยางมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล จากแหลงจุดกําเนิดของวัตถุดิบ จนถึงจุดบริโภค หรือจุดการใชงาน เพื่อตอบสนองความตองการของลูกคา ในการเลือกตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในบริเวณใดก็ตาม จําเปนตอง มีปจจัยใดบาง (แนวตอบ การตั้งโรงงานอุตสาหกรรม มีหลายปจจัย เชน 1. ที่ิดิน เพื่อเปนที่ตั้งโรงงาน 2. วัตถุดิบ เพื่อนํามาปอนเขาสูกระบวนการผลิต 3. แรงงาน เพื่อดําเนินการควบคุมหรือผลิตสินคา ตลอดจน การขนสงสินคาไปยังผูบริโภค 4. ตลาด เพื่อเปนแหลงซื้อขายแลกเปลี่ยนสินคา) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T149


0 ํ 0 ํ 40 ํE 40 ํW 80 ํE 80 ํW 120 ํE 120 ํW 160 ํE 160 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 60 ํW 100 ํE 100 ํW 140 ํE 180 ํ140 ํW 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร อิ น เ ดี ย รถยนต เครื่องบิน เหล็ก ตอเรือ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญ พื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ N 1 : 160,000,000 0 2,000 4,000 กม. แผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสำคัญ 0 ํ 0 ํ 40 ํE 40 ํW 80 ํE 80 ํW 120 ํE 120 ํW 160 ํE 160 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 60 ํW 100 ํE 100 ํW 140 ํE 180 ํ140 ํW 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร อิ น เ ดี ย อิเล็กทรอนิกส ปโตรเคมี อาหารแปรรูป สิ�งทอ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญ พื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ N 1 : 160,000,000 0 2,000 4,000 กม. แผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสำคัญ ที่มา : DK Concise World Atlas 144 145เครื่องบิน1 นักเรียนควรรู กิจกรรม ทาทาย 1 เครื่องบิน บริษัทที่ประสบความสําเร็จในการดําเนินธุรกิจเครื่องบิน โดยสารขนาดใหญและเปนที่รูจักไปทั่วโลกมีเพียงแอรบัส (ของยุโรป) และโบอิง (ของสหรัฐอเมริกา) ซึ่งมีมูลคาสวนแบงทางการตลาดในสัดสวนรอยละ 83 โดยผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชยรุนตางๆ ตั้งแตขนาด 100-500 ที่นั่ง ตามความ ตองการของตลาด อยางไรก็ดี ใน พ.ศ. 2560 จีนประสบความสําเร็จในการผลิต เครื่องบินโดยสาร รุน C919 โดยบริษัทโคแม็ก (COMAC) และไดทดลองบิน เที่ยวแรกสําเร็จ จากทาอากาศยานผูตง นครเซี่ยงไฮ เปนเวลานาน 80 นาที การเปดตัวเครื่องบินโดยสารขนาดใหญลําแรกของจีนครั้งนี้ นับเปนอีกกาวสําคัญ ในการผลักดันของรัฐบาลจีน ที่ตองการลดการพึ่งพาการสั่งซื้อเครื่องบินจาก แอรบัสของยุโรป และโบอิงของสหรัฐอเมริกา รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรม การบินของตัวเอง เพื่อสวนแบงทางการตลาดจากตางชาติ ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมาอานและแปลความหมาย จากแผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสําคัญของโลก หนา 144-145 โดยวิเคราะหทําเลที่ตั้งที่เหมาะแกการประกอบ อุตสาหกรรมประเภทตางๆ ใหเพื่อนฟงที่หนาชั้นเรียน ขั้นนํา 6. ครูใหนักเรียนศึกษาแผนที่แสดงการกระจาย อุตสาหกรรมสําคัญในบริเวณตางๆ ทั่วโลก จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 7. ครูและนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น เชื่อมโยงเกี่ยวกับปจจัยที่กําหนดทําเลที่ตั้งของ อุตสาหกรรมเพิ่มเติม 8. ครูถามคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน รวมกันตอบคําถาม เชน • อุตสาหกรรมที่นับไดวาเปนรากฐานสําคัญ ของสังคมสมัยใหมคืออุตสาหกรรมใด และ สามารถพบไดในบริเวณใด (แนวตอบ อุตสาหกรรมประเภทเหล็กและ เหล็กกลา พบในบริเวณตางๆ ของโลก เชน เขตเทือกเขาแอปพาเลเชียน ใน สหรัฐอเมริกา เขตดอนบาส ในรัสเซีย เขต เทือกเขาอูรัล ในไซบีเรีย เขตเมืองอานชาน ในจีน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T150


ขอสอบเนน การคิด 0 ํ 0 ํ 40 ํE 40 ํW 80 ํE 80 ํW 120 ํE 120 ํW 160 ํE 160 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 60 ํW 100 ํE 100 ํW 140 ํE 180 ํ140 ํW 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร อิ น เ ดี ย อิเล็กทรอนิกส ปโตรเคมี อาหารแปรรูป สิ�งทอ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญ พื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ N 1 : 160,000,000 0 2,000 4,000 กม. แผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสำคัญ ที่มา : DK Concise World Atlas 144 145ปโตรเคมี1 ขั้นนํา • บริเวณทวีปแอฟริกา จากแผนที่แสดงการ กระจายอุตสาหกรรมที่สําคัญ พบจํานวน การทําอุตสาหกรรมประเภทใดมากที่สุด และนอยที่สุด เพราะเหตุใด (แนวตอบ บริเวณทวีปแอฟริกาจะพบการ ทําอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปมากที่สุด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการที่มีทรัพยากร ทางการเกษตรคอนขางมาก เชน ชา กาแฟ อินทผลัม จึงกอใหเกิดอุตสาหกรรม การแปรรูปอาหารเปนจํานวนมาก และ พบอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกสนอยที่สุด เนื่องจากเปนอุตสาหกรรมที่ตองอาศัยความ เจริญกาวหนาทางเทคโนโลยีคอนขางมาก จึงพบการทําอุตสาหกรรมประเภทนี้ในพื้นที่ สวนนอยของทวีปแอฟริกาตามขอจํากัด ทางเศรษฐกิจ สังคม และลักษณะทาง กายภาพของทวีป) นักเรียนควรรู 1 ปโตรเคมี เปนการนําปโตรเลียม (นํ้ามัน หรือแกสธรรมชาติ) มาแปรสภาพ โดยผานกระบวนการตางๆ ของโรงกลั่นนํ้ามัน หรือโรงแยกแกสธรรมชาติ โดยการใชความรอน ความดัน หรือการทําปฏิกิริยาเคมี เพื่อใหเกิดสารตัวใหม ที่นําไปใชเปนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปโตรเคมี ทําใหไดผลิตภัณฑปโตรเคมี ขั้นตน ขั้นกลาง และขั้นปลาย ตามลําดับ เพราะเหตุใดอุตสาหกรรมปโตรเคมีถึงมีมากในแถบประเทศ ตะวันออกกลาง และการตั้งโรงงานมักอยูบริเวณชายฝงทะเล (แนวตอบ เพราะประเทศแถบตะวันออกกลางมีทรัพยากร ปโตรเลียมและแกสธรรมชาติ ซึ่งเปนวัตถุดิบตั้งตนของ อุตสาหกรรมปโตรเคมีอยูมาก นอกจากนี้ ยังตองใชเงินลงทุนสูง ประเทศแถบตะวันออกกลางจึงเปนผูผลิตรายใหญและสงออก ผลิตภัณฑปโตรเคมีสูตลาดโลก นอกจากนี้ อุตสาหกรรมปโตรเคมี จําเปนตองใชโครงสรางพื้นฐานและสาธารณูปการตางๆ รองรับ หลายดาน โดยเฉพาะระบบนํ้าและทาเรือ เนื่องจากกระบวนการ ผลิตจําเปนตองใชนํ้า หรือระบบหลอเย็นตางๆ จํานวนมาก และ การตั้งโรงงานบริเวณชายฝงทะเลจะชวยในการขนสงวัตถุดิบ และผลิตภัณฑตางๆ ในปริมาณมากได) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T151


ขอสอบเนนการคิด 2.2 อุตสาหกรรมที่สำาคัญ ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่ส�าคัญ เช่น 1) อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า เป็นอุตสาหกรรมซึ่งเป็นรากฐานส�าคัญของ สังคมสมัยใหม่ แหล่งผลิตเหล็กและเหล็กกล้าของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา มีอุตสาหกรรมเหล็ก และเหล็กกล้าในเขตเทือกเขาแอปพาเลเชียน บริเวณรอบทะเลสาบเกรตเลกส์ และเขตริมฝั่ง แอตแลนติกตอนกลาง ในประเทศรัสเซีย เขตดอนบาสเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ ยังมีในเขตเทือกเขาอูรัลและคูสบาสในไซบีเรีย ในประเทศเยอรมนี เขตส�าคัญอยู่บริเวณลุ่มแม่น�้ารูร์ซึ่งเป็นเขตถ่านหิน ในประเทศจีนเขตส�าคัญอยู่ทางตอนใต้ของ ที่ราบในแมนจูเรีย ที่เมืองอานชานและเฉิ่นหยาง ในประเทศญี่ปุ่นอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า อยู่บริเวณตอนเหนือของเกาะคีวชูและตอนใต้ของเกาะฮนชู กราฟแสดงปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า พ.ศ. 2560 จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย เกาหลีใต้ เยอรมนี ตุรกี บราซิล ยูเครน 900 800 700 600 500 400 300 200 100 0 808.4 104.8 95.6 78.5 70.8 42.1 33.2 31.3 24.2 ปริมาณผลิต: ล้านตัน ประเทศ 68.6 ที่มา : World Steel Association, 2017 2) อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์สหรัฐอเมริกามีการใช้รถยนต์มากที่สุดเพราะประชากร มีมากขึ้น ท�าให้มีการใช้รถยนต์ในการคมนาคมขนส่ง ประกอบกับรายได้ของประชากรมีมาก โดย แหล่งผลิตรถยนต์ที่ส�าคัญของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่เมืองดิทรอยต์รัฐมิชิแกนซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม เหล็กและเหล็กกล้า อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ในยุโรป เช่น ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร ที่ตั้งของโรงงานอยู่ในแหล่งผลิตเหล็กและเหล็กกล้าของยุโรป ตั้งอยู่ในเขตที่มี ประชากรหนาแน่นซึ่งเป็นการตั้งในบริเวณของตลาดและในยุโรปมีเมืองท่าจ�านวนมากท�าให้สะดวก ต่อการส่งออกไปยังตลาดโลก ในทวีปเอเชีย ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการผลิตมากที่สุดและส่งออกเข้าสู่ ตลาดโลกเป็นจ�านวนมาก 146 147 บริเวณรอบทะเลสาบเกรตเลกส์ คัญอยู่บริเวณลุ่มแม่น�้ารูร์ซึ่งเป็นเขตถ่านหิน 1 2 การที่รถยนตญี่ปุนเปนที่นิยมใชกันอยางแพรหลายและแบรนด ติดอันดับขายดีระดับโลก เปนเพราะเหตุผลใด (แนวตอบ มีหลายเหตุผล เชน รถญี่ปุนมีราคาและคาซอมบํารุง ไมสูงมากเมื่อเทียบกับรถยุโรป มีความทนทาน ประหยัดนํ้ามัน คันไมใหญมาก สามารถวิ่งในถนนเลนแคบได มีหลายแบบที่ สามารถสนองความตองการของผูบริโภคได เชน รถสําหรับ ครอบครัว รถกระบะสําหรับบรรทุกของ) ขั้นนํา • อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกลา เปนปจจัย ที่กอใหเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจประเภท อุตสาหกรรมในดานใด (แนวตอบ อุตสาหกรรมการตอเรือ อุตสาหกรรม การผลิตรถยนต อุตสาหกรรมการผลิต เครื่องบิน อุตสาหกรรมการผลิตรถไฟ) • นักเรียนคิดวาแนวโนมของอุตสาหกรรมผลิต รถยนตในอนาคตจะเปนอยางไร (แนวตอบ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต ในอนาคตมีแนวโนมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก ความตองการในการใชรถยนตเพื่อการ คมนาคมขนสงและดํารงชีวิตประจําวัน ของประชากรโลกยังคงมีความจําเปนและ อาจมีเพิ่มมากขึ้น โดยอาจมีการปรับเปลี่ยน พลังงานเชื้อเพลิงเพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่นิยมใชเปนนํ้ามัน หรือแกสธรรมชาติ ก็อาจมีการปรับเปลี่ยน เปนพลังงานเพื่อสิ่งแวดลอมที่ยั่งยืน เชน พลังงานนํ้า พลังงานลม พลังงานแสง อาทิตย ฯลฯ) นักเรียนควรรู 1 ทะเลสาบเกรตเลกส เปนชื่อเรียกกลุมทะเลสาบในทวีปอเมริกาเหนืออยู ตอนกลางของทวีป ประกอบดวยทะเลสาบ 5 แหง ไดแก ซุพีเรีย มิชิแกน ฮูรอน อิรี และออนแทรีโอ กลุมทะเลสาบนี้มีความสําคัญอยางยิ่งในฐานะเปน เสนทางการคาระหวางดานตะวันออกกับดานตะวันตกเฉียงเหนือของ สหรัฐอเมริกา 2 แมนํ้ารูร เปนแมนํ้าในประเทศเยอรมนีไหลไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันตก รวมกับแมนํ้าไรนที่ตําบลรูรออรท (สวนหนึ่งของเมืองดูสบูรก) ยาว 235 กิโลเมตร ลุมนํ้าของแมนํ้าสายนี้ เรียกชื่อวา รูรเกบีท เปนเขตเหมืองแร มีเมืองอุตสาหกรรมหลายเมือง รวมทั้งเมืองเอสเซิน โบคุม ดึสบูรก เกลเซนเคียรเชิน และเมืองดอรทมุนด นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T152


ขอสอบเนน การคิด อุตสำหกรรมต่อเรือในประเทศเยอรมนี 3) อุตสาหกรรมต่อเรือ เป็นอุตสำหกรรมเครื่องจักรกลที่ส�ำคัญ ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต เหล็กกล้ำเพรำะต้องใช้เหล็กจ�ำนวนมำก กำรสร้ำงเรือมีในบริเวณปำกน�้ำกว้ำง หรือริมฝั่งทะเลที่ อยู่ใกล้แหล่งผลิตเหล็กกล้ำ อุตสำหกรรมต่อ เรือกระจำยกันอยู่ในประเทศที่มีกำรคมนำคม ขนส่งทำงน�้ำ และมีประสบกำรณ์ในด้ำนเทคนิค กำรต่อเรือมำเป็นเวลำนำน ประเทศที่มีกำรต่อ เรือมำก เช่น ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีกำรต่อเรือ มำกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพรำะภูมิประเทศ เป็นเกำะ เช่น เมืองโคเบะ ฮิโระชิมะ นะงะซะกิ ชิโมะโนะเซกิ โอซะกะ ในสหรำชอำณำจักร ที่ เมืองกลำสโกว์มีชื่อเสียงในกำรต่อเรือโดยสำร และกำรต่อเรือสินค้ำที่เมืองเบลฟัสต์ ในเยอรมนี มีกำรต่อเรือที่เมืองฮัมบูร์กซึ่งอยู่บริเวณปำกแม่น�้ำเอลเบ และเมืองเบรเมินซึ่งตั้งอยู่ปำกแม่น�้ำ เวเซอร์ และในสหรัฐอเมริกำ มีกำรต่อเรือบริเวณริมฝั่งมหำสมุทรแอตแลนติกจำกรัฐนิวยอร์กถึง ตอนใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย บริเวณริมอ่ำวเม็กซิโก และเขตชำยฝั่งมหำสมุทรแปซิฟิก 4) อุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน ในอุตสำหกรรมกำรผลิตเครื่องบินต้องมีกระบวนกำร ในกำรผลิตชิ้นส่วนเฉพำะอย่ำง เป็นอุตสำหกรรมที่ต้องลงทุนมำก แต่กำรผลิตท�ำได้จ�ำนวนน้อย สหรัฐอเมริกำเป็นประเทศที่ผลิตเครื่องบินได้มำกที่สุด ต�ำแหน่งที่ตั้งของโรงงำนส่วนมำกอยู่ทำง ตะวันตกของประเทศ เช่น เมืองลอสแอนเจลิส เมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เพรำะภูมิอำกำศในรัฐทำงตะวันตกของสหรัฐอเมริกำมีอำกำศอบอุ่นและแห้งเป็น ส่วนใหญ่ ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนหรือสนิม และอำกำศที่ปลอดโปร่งท�ำให้สำมำรถทดลองบินได้ ตลอดเวลำ นอกจำกนี้ ยังมีกำรผลิตในสหรำชอำณำจักร ฝรั่งเศส แคนำดำ อิตำลี จีน และประเทศ เครือรัฐเอกรำช เช่น รัสเซีย ยูเครน เบลำรุส 5) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอุตสำหกรรมที่มีควำมต่อเนื่องกันใน กระบวนกำรผลิตและเป็นอุตสำหกรรมที่มีควำมเชื่อมโยงกับกำรผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมำกมำย กำรผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ำและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องปรับอำกำศ อุปกรณ์ สื่อสำร คอมพิวเตอร์ เครื่องมือทำงกำรแพทย์ต่ำง ๆ เช่น เครื่องเอกซเรย์ เครื่องตรวจคลื่นสมอง มีกำรผลิตในเขตอุตสำหกรรมที่พัฒนำแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกำ ประเทศในทวีปยุโรป ญี่ปุ่น 146 147 เมืองกลำสโกว์มีชื่อเสียงในกำรต่อเรือโดยสำร 1 นักเรียนควรรู 1 เมืองกลาสโกว เปนเมืองที่ใหญที่สุดของสกอตแลนด ตั้งอยูบนแมนํ้าไคลด ชาวกลาสโกวรูจักกันในชื่อ กลาสวีเจียนส (Glaswegians) ตั้งแตในคริสต- ศตวรรษที่ 16 เมืองกลาสโกวเติบโตขึ้นอยางรวดเร็วเนื่องจากการเปนเมืองทา ใหญของมหาสมุทรแอตแลนติก จากนั้นในคริสตศตวรรษที่ 19 อุตสาหกรรม เหล็ก การตอเรือ และยานยนตก็ไดเติบโตขึ้น ปจจุบันเมืองกลาสโกวยังคง ความเปนศูนยกลางการคา ขายปลีก วิศวกรรม และอุตสาหกรรมตอเรือของ สกอตแลนด นอกจากนี้ ยังเปนเมืองทางการเงิน (Financial Centre) ที่ใหญ อีกแหงของสหราชอาณาจักรอีกดวย ปจจัยใดที่เอื้อใหสหรัฐอเมริกาเปนประเทศอุตสาหกรรมสําคัญ ของโลก (แนวตอบ เนื่องจากเปนประเทศที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ ทําใหมี ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ นอกจากนี้ ประชากรก็ประกอบ ดวยเชื้อชาติตางๆ ที่มีความรูความสามารถ แรงงานมีการศึกษา ในระดับสูง รวมถึงเปนตลาดที่มีกําลังซื้อสูง อีกทั้งมีการคนควา วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีตางๆ ใหทันสมัยอยูเสมอ สิ่งตางๆ เหลานี้ลวนเปนปจจัยที่ชวยเอื้อใหสหรัฐอเมริกากลายเปนประเทศ อุตสาหกรรมระดับโลก) สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับประเทศอุตสาหกรรมแนวหนาของโลกในป 2020 ไดที่ https://www.mmthailand.com/10-interesting-manu-country-2020/ ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 1. ครูใหนักเรียนดูภาพหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของ กับวัตถุดิบที่นํามาใชในอุตสาหกรรม โดย เฉพาะในดานการเกษตรกรรม เพื่อเชื่อมโยง ความรูที่ผานมา จากนั้นใหนักเรียนแสดง ความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูนําภาพตัวอยางสินคาจากอุตสาหกรรม มาใหนักเรียนดูแลววิเคราะหรวมกันวา สามารถพบไดในแหลงผลิตใดบาง ขั้นนํา • อุตสาหกรรมการตอเรือ มีความเกี่ยวของ สัมพันธกับแหลงอุตสาหกรรมใด (แนวตอบ อุตสาหกรรมประเภทเหล็กและ เหล็กกลา เนื่องจากอุตสาหกรรมการตอ เรือจะตองใชเหล็กเปนจํานวนมาก รวมถึง ตองมีลักษณะทางกายภาพที่เปนบริเวณ ปากนํ้ากวาง หรือริมฝงทะเลที่อยูใกลแหลง ผลิตเหล็กกลา เชน ญี่ปุน สหราชอาณาจักร เยอรมนี) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T153


6) อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสำหกรรมปิโตรเคมีมีปิโตรเลียมเป็นวัตถุดิบหลักใน กำรผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมีหลำกหลำยประเภทมำก เช่น น�้ำมัน แก๊ส ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้น ในโรงงำนอุตสำหกรรมเม็ดพลำสติก ใยสังเครำะห์ ยำงสังเครำะห์ สำรเคลือบผิว และกำวต่ำง ๆ ผลิตภัณฑ์เหล่ำนี้ถือเป็นวัตถุดิบพื้นฐำนที่ส�ำคัญในกำรผลิตเครื่องอุปโภคบริโภค ประเทศจีน เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีรำยใหญ่ที่สุดของโลก มีสัดส่วนกำรผลิตประมำณ ร้อยละ 29 และส่วนแบ่งกำรบริโภคร้อยละ 28 ขณะที่ประเทศในอเมริกำเหนือและตะวันออกกลำง ใช้แก๊สเป็นวัตถุดิบในกำรผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เนื่องจำกมีควำมสมบูรณ์ของแหล่งแก๊สธรรมชำติ กำรหมักองุ่นในถังเพื่อสกัดสีขององุ่นให้ ได้ไวน์แดง 7) อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เป็นอุตสำหกรรมที่น�ำผลิตผลทำงกำรเกษตร มำผ่ำนกระบวนกำรแปรรูป เพื่อให้ง่ำยต่อกำรน�ำ ไปบริโภค เช่น อุตสำหกรรมสีข้ำว อุตสำหกรรม ผลิตภัณฑ์มันส�ำปะหลัง อุตสำหกรรมน�้ำตำล จำกอ้อย รวมถึงกำรท�ำเบียร์จำกข้ำวบำร์เลย์ กำรท�ำไวน์จำกองุ่น กำรบ่มใบยำสูบ ใบชำ กำร คั่วอบและบดเมล็ดกำแฟ โกโก้ ในสมัยก่อน เกษตรกรจะเป็นผู้แปรรูปอำหำรเอง แต่ใน ปัจจุบันมีกำรจัดกำรที่เป็นระบบอุตสำหกรรม มำกขึ้น Geo Tip หลักการทั่วไปของการแปรรูปอาหาร 1. การท�าแห้ง เพื่อลดปริมำณน�้ำในอำหำรจนถึงระดับที่ยับยั้งกำรเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ และ ชะลอกำรเปลี่ยนแปลงทำงเคมีหรือชีวเคมีของอำหำร กำรใช้พลังงำนแสงอำทิตย์ กำรใช้ตู้อบแห้ง แบบสุญญำกำศ กำรท�ำแห้งแบบพ่นฝอย เช่น กล้วยตำก เนื้อเค็ม ข้ำวเปลือก 2. การหมัก เป็นกระบวนกำรแปรรูปที่มีกำรใช้เชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลำยคำร์โบไฮเดรตท�ำให้ได้สำรอื่น มีอำยุกำรเก็บรักษำนำน มีกลิ่นและรสเฉพำะตัวขึ้น เช่น เบียร์ ไวน์ น�้ำส้มสำยชู 3. การใช้สารเคมี เป็นกำรยืดอำยุของอำหำรที่ต้องค�ำนึงถึงควำมปลอดภัยและปริมำณสำรเคมีที่ใช้ต้อง ไม่เกินกว่ำที่กฎหมำยก�ำหนดหรืออนุญำตให้ใช้ได้ เช่น สำรกลุ่มซัลไฟต์ เพื่อป้องกันกำรเกิดสีน�้ำตำล ในผลไม้ ไนไทรต์ ส�ำหรับท�ำเนื้อหมัก โซเดียมเบนโซเอต โพแทสเซียมเบนโซเอต โซเดียมซอร์เบต ใช้ในอำหำรที่เป็นกรด เช่น แยม เยลลี 4. การใช้รังสี เป็นกำรแปรรูปอำหำรโดยไม่ใช้ควำมร้อน โดยใช้รังสีแกมมำ รังสีเอกซ์ หรือรังสีอิเล็กตรอน ในกำรท�ำลำยหรือยับยั้งจุลินทรีย์ ชะลอกำรเปลี่ยนแปลงชีวเคมีของอำหำร เพื่อยืดอำยุกำรเก็บรักษำ อำหำรสด ท�ำลำยเชื้อโรคและพยำธิ และควบคุมกำรแพร่พันธุ์ของแมลงระหว่ำงเก็บรักษำ 148 149 อุตสำหกรรมปิโตรเคมีมีปิโตรเลียมเป็นวัตถุดิบหลักใน 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูกระตุนใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถาม เชิงภูมิศาสตร เชน • ปจจัยสําคัญที่ทําใหมนุษยสามารถดําเนิน กิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม การทองเที่ยว และการบริการ คือสิ่งใด • ปจจัยใดบางที่ทําใหการดําเนินกิจกรรม ในภาคอุตสาหกรรมการทองเที่ยวและการ บริการ มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีการพัฒนา เพิ่มมากขึ้น • การดําเนินกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ กอใหเกิดการ เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดลอมทางกายภาพของ โลกอยางไร • อิทธิพลของโลกาภิวัตนสงผลตอการดําเนิน กิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม การทองเที่ยว และการบริการอยางไร 4. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับหลักการ ทั่วไปของการแปรรูปอาหาร จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 ประกอบการตั้งคําถาม เชิงภูมิศาสตรเพิ่มเติม กิจกรรม ทาทาย นักเรียนจับคูวาดแผนที่โครงรางทวีปตางๆ ของโลกลงใน กระดาษโปสเตอร จากนั้นระบุตําแหนงและประเภทของแหลง อุตสาหกรรมทางเศรษฐกิจในบริเวณตางๆ โดยกําหนดสัญลักษณ ตามความสนใจลงในแผนที่ พรอมทั้งอธิบายและแสดงเหตุผล ประกอบใหชัดเจน นักเรียนควรรู 1 ปโตรเลียม หรือนํ้ามันดิบ เปนแหลงไฮโดรคารบอนที่สําคัญที่สุด มีสถานะ ของเหลว มีการใชงานอยางแพรหลายและมีปริมาณการใชมากที่สุดเมื่อเทียบ กับแหลงไฮโดรคารบอนอื่นๆ ทั้งใชเปนเชื้อเพลิงสําหรับยานพาหนะ หรือใช เปนแหลงพลังงานแกที่อยูอาศัยและอุตสาหกรรมและบางสวนนํามาใชเปน วัตถุดิบสําคัญสําหรับอุตสาหกรรมปโตรเคมี และดวยนํ้ามันปโตรเลียมเปนของ ผสมที่มีองคประกอบหลักเปนไฮโดรคารบอนตั้งแตโมเลกุลเล็กที่สุดจนถึงใหญ ละลายอยูดวยกัน กอนนํามาใชประโยชนจึงตองนําไปกลั่นลําดับสวนเพื่อแยก ไฮโดรคารบอนออกเปนสวนกลั่นที่มีชวงจุดเดือดตางๆ และผลิตเปนผลิตภัณฑ ปโตรเลียมหลายชนิดตามความตองการของตลาด เชน แกสปโตรเลียมเหลว หรือแกสหุงตม แนฟทาที่ใชผลิตนํ้ามันเบนซินหรือแกโซลีน นํ้ามันเครื่องบิน นํ้ามันดีเซล นํ้ามันเตา ฯลฯ นํา สอน สรุป ประเมิน T154


2.3 อุตสาหกรรมในประเทศไทย ประเทศไทยมีกำรพัฒนำอุตสำหกรรมมำอย่ำงต่อเนื่อง เริ่มจำกอุตสำหกรรมเบำเพื่อทดแทน กำรน�ำเข้ำ ต่อมำได้พัฒนำอุตสำหกรรมหนักที่เน้นกำรผลิตเพื่อกำรส่งออก ที่ส�ำคัญ เช่น 1) อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสำหกรรมเครื่องจักรกลเป็นอีกหนึ่งในภำค อุตสำหกรรมไทยที่เจริญเติบโตจำกควำมได้เปรียบทำงกำรค้ำในด้ำนแรงงำน และระบบขนส่งของ ประเทศ ประเภทของเครื่องจักรกลหลัก ๆ ได้แก่ เครื่องแม่พิมพ์ เครื่องผลิตกระดำษและสิ่งพิมพ์ เครื่องจักรที่ใช้ในกำรบรรจุสิ่งของ และเครื่องจักรที่ใช้ ในกำรทอและตัดเย็บเสื้อผ้ำ 2) อุตสาหกรรมยานยนต์และส่วนประกอบ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลำงกำรผลิต รถยนต์ในตลำดอำเซียน ประเทศผู้ผลิตรถยนต์หลักที่เข้ำมำด�ำเนินกำรในประเทศ เช่น ประเทศ ญี่ปุ่น โดยประเทศไทยส่งออกรถยนต์ทำงเรือไปยัง 130 ประเทศทั่วโลก กำรผลิตและประกอบ ยำนยนต์ไม่เพียงแต่เป็นส่วนประกอบที่ส�ำคัญของอุตสำหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยเท่ำนั้น แต่ บริษัทรถยนต์จำกต่ำงประเทศยังลงทุนด้ำนสิ่งอ�ำนวยควำมสะดวก เพื่อวิจัยและพัฒนำรวมทั้งด้ำน เทคนิคอีกด้วย 3) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทยเป็นฐำนกำรผลิต ที่ส�ำคัญของบริษัทข้ำมชำติ โดยเฉพำะประเทศญี่ปุ่นและเกำหลีใต้ ประเทศไทยมีศักยภำพในด้ำน ปัจจัยกำรผลิตทั้งด้ำนทรัพยำกรมนุษย์ ทรัพยำกรควำมรู้ มีกำรพัฒนำผลิตภัณฑ์ที่มีควำม หลำกหลำยมำกขึ้น อีกทั้งทำงด้ำนภูมิศำสตร์ยังมีควำมได้เปรียบเชิงกำรค้ำในภูมิภำคอินโดจีน และ มีศักยภำพในกำรเป็นศูนย์กลำงของภูมิภำค จึงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลเชิงบวกในด้ำนกำรขนส่ง ตลำด ส่งออกที่ส�ำคัญ คือ กลุ่มประเทศอำเซียน สหภำพยุโรป ประเทศจีน และสหรัฐอเมริกำ ตำมล�ำดับ 4) อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ประเทศไทยได้ขุดพบแก๊สธรรมชำติในอ่ำวไทย อุตสำหกรรมปิโตรเคมีของไทยใช้แก๊สธรรมชำติเป็นวัตถุดิบในกำรผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ผู้ผลิต ปิโตรเคมีรำยใหญ่ในไทยมี 2 กลุ่ม คือ กำรปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) และกลุ่มซีเมนต์ไทย โดยกลุ่ม ปตท. มีธุรกิจขุดเจำะและผลิตแก๊สธรรมชำติ โรงกลั่นน�้ำมัน และมีกำรผลิตผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีหลำกหลำยประเภท กลุ่มซีเมนต์ไทยมีธุรกิจต่อเนื่องกับอุตสำหกรรมปิโตรเคมี เช่น สินค้ำ อุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้ำง Question อุตสำหกรรมปิโตรเคมีเข้ำมำมีบทบำทส�ำคัญในกำรด�ำเนินกิจกรรมในชีวิตประจ�ำวันของนักเรียน ในเรื่องใดบ้ำง Geo 148 149 ประเทศไทยได้ขุดพบแก๊สธรรมชำติในอ่ 1 กิจกรรม ทาทาย นักเรียนวิเคราะหในประเด็น “หากนักเรียนเปนนักธุรกิจดาน อุตสาหกรรม จะประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมประเภทใด และจะตั้ง โรงงานหรือฐานการผลิตในบริเวณพื้นที่ใด” นําเสนอรวมกับการใช เครื่องมือทางภูมิศาสตร เชน ลูกโลก แผนที่ พรอมทั้งแสดงเหตุผล ประกอบเพิ่มเติม ขั้นสอน ขั้นที่ 2 การรวบรวมขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5-7 คน สืบคน ขอมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในดาน อุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ ตามพื้นที่ตางๆ ของโลก และในประเทศไทย จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจาก แหลงการเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต ประกอบการใช เครื่องมือทางภูมิศาสตร 2. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Question เกี่ยวกับ อุตสาหกรรมปโตรเคมี จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 ประกอบการรวบรวมขอมูล และตอบคําถาม (แนวตอบ อุตสาหกรรมปโตรเคมีมีเปนการนํา วัตถุดิบจากอุตสาหกรรมปโตรเลียมมาผลิต ตอเนื่องเปนเม็ดพลาสติก เสนใยสังเคราะห ยางสังเคราะห สารเคลือบผิว และกาวตางๆ ซึ่งเปนวัตถุดิบพื้นฐานสําคัญในการผลิต เครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใชในการประกอบอาชีพ รวมไปถึง สิ่งอํานวยความสะดวกตางๆ ที่ทําใหมนุษย มีความเปนอยูที่สบายมากขึ้น) 3. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นาเชื่อถือ ใหกับนักเรียนเพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 แกสธรรมชาติ เปนเชื้อเพลิงฟอสซิล เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเกิด จากการทับถมสะสมของซากสิ่งมีชีวิตตามชั้นหิน ดิน และในทะเลหลายรอย ลานป ซึ่งความรอนและความกดดันของผิวโลกทําใหมีการเปลี่ยนแปลง จนซากสัตวและซากพืชเหลานั้นกลายเปนนํ้ามันดิบ แกสธรรมชาติ และถานหิน คุณสมบัติของแกสธรรมชาติ คือ ไมมีสี ไมมีกลิ่น และพิษ ในสถานะปกติมีสภาพ เปนแกส หรือไอที่อุณหภูมิและความดันบรรยากาศ โดยมีคาความถวงจําเพาะ ตํ่ากวาอากาศ จึงเบากวาอากาศ เมื่อเกิดการรั่วไหลจะฟุงกระจายไปตาม บรรยากาศอยางรวดเร็ว จึงไมมีการสะสมลุกไหมบนพื้นราบ และเมื่อเผาไหมจะ เปนเชื้อเพลิงสะอาดและสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอมนอยที่สุด นํา สอน สรุป ประเมิน T155


5) อุตสาหกรรมสิ่งทอ กำรผลิตเส้นใยนับเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสำหกรรมสิ่งทอ ประเทศไทยผลิตได้เป็น 2 ประเภท คือ เส้นใยธรรมชำติและเส้นใยสังเครำะห์ ส่วนใหญ่อุตสำหกรรม กำรผลิตเส้นใยในไทยจะเป็นกำรผลิตเส้นใยสังเครำะห์ ลักษณะของโรงงำนเหล่ำนี้เป็นโรงงำน ขนำดใหญ่ มีก�ำลังกำรผลิตสูง อำศัยเทคโนโลยีในกำรผลิต ใช้เงินลงทุนค่อนข้ำงมำก ผู้ประกอบกำร ส่วนใหญ่เป็นบรรษัทข้ำมชำติหรือเป็นกำรลงทุนร่วมกันระหว่ำงผู้ประกอบกำรไทยและชำวต่ำงชำติ ประเทศไทยมีกำรส่งออกสินค้ำในกลุ่มสิ่งทอ โดยมีตลำดส�ำคัญ คือ กลุ่มประเทศอำเซียน สหรัฐอเมริกำ สหภำพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ทั้งนี้ ตลำดอำเซียนนับเป็นตลำดที่ส�ำคัญของ อุตสำหกรรมสิ่งทอไทย เป็นตลำดที่ไทยส่งออกสูงสุด ส่งออกผ้ำผืนไปยังเวียดนำม เมียนมำ และ กัมพูชำ นอกเหนือจำกกำรเป็นตลำดกำรส่งออกที่ส�ำคัญของไทยแล้ว อำเซียนยังเป็นฐำนกำรผลิต ที่ส�ำคัญที่ส่งออกไปทั่วโลกอีกด้วย 6) อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร สินค้ำประเภทอำหำรแปรรูปของไทยมีทั้งกำรผลิต เพื่อบริโภคภำยในประเทศ และเพื่อกำรส่งออก ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้ำอำหำรที่ มีคุณภำพ เนื่องจำกมีควำมพร้อมทำงด้ำนวัตถุดิบ รวมถึงศักยภำพของผู้ประกอบกำรที่สำมำรถ พัฒนำคุณภำพและรูปแบบของสินค้ำให้ตรงตำมควำมต้องกำรของตลำดได้ ท�ำให้ประเทศไทย เป็นผู้ส่งออกอำหำรแปรรูปเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่ส�ำคัญ เช่น ไก่แปรรูป กุ้งกระป๋องและ สับปะรดกระป๋อง ตลำดส่งออกอำหำรแปรรูปที่ส�ำคัญของไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกำ และญี่ปุ่น สถำนกำรณ์ของอุตสำหกรรมไทยในปัจจุบันสรุปได้ ดังนี้ 1. มีวัตถุดิบทำงกำรเกษตรที่มีศักยภำพ ทั้งในด้ำนปริมำณและคุณภำพ และมี ผลผลิตทำงกำรเกษตรที่หลำกหลำย ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่สำมำรถน�ำวัตถุดิบด้ำน กำรเกษตรเหล่ำนี้มำผลิตสินค้ำสร้ำงมูลค่ำเพิ่ม น�ำไปสู่กำรเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันให้ กับประเทศ 2. ค่ำจ้ำงในกำรท�ำงำนของประเทศไทยไม่สูงมำกนัก ทั้งยังเป็นแรงงำนที่มีทักษะ ท�ำให้ภำคกำรผลิตของไทยยังคงมีควำมสำมำรถในกำรแข่งขันด้ำนแรงงำน 3. มีท�ำเลที่ตั้งเหมำะสมในกำรเป็นศูนย์กลำงภูมิภำค จึงเป็นประโยชน์ในแง่ ของกำรขำยสินค้ำและกำรหำวัตถุดิบ และยังส่งผลให้เกิดควำมสะดวกในกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ทั้งทำงบก ทำงน�้ำ และทำงอำกำศ 4. มีพัฒนำกำรทำงธุรกิจกำรค้ำและอุตสำหกรรม เมื่อเทียบกับหลำยประเทศ ในอำเซียน 150 151 ประเทศไทยผลิตได้เป็น 2 ประเภท คือ เส้นใยธรรมชำติและเส้นใยสังเครำะห์ ส่วนใหญ่อุตส 1 2 นักเรียนควรรู 1 เสนใยธรรมชาติ เปนเสนใยที่มีแหลงกําเนิดมาจากธรรมชาติ แบงเปน 3 ชนิด ไดแก 1. เสนใยจากพืช ไดจากสวนตางๆ ของพืช เชน ปาน ปอ ลินิน 2. เสนใยจากสัตว ไดแก เสนใยโปรตีน เชน ขนสัตว ไหม เสนใยเหลานี้ เมื่อเปยกนํ้า ความเหนียวและความแข็งแรงจะลดลง 3. เสนใยจากสินแร เชน แรใยหิน ทนตอการกัดกรอนของสารเคมี ทนไฟ ไมนําไฟฟา 2 เสนใยสังเคราะห เปนเสนใยที่มนุษยสังเคราะหขึ้นจากสารอนินทรีย หรือสารอินทรีย เพื่อใชทดแทนเสนใยจากธรรมชาติและเพื่อตอบสนองความ ตองการเฉพาะดาน เสนใยแตละชนิดมีคุณสมบัติแตกตางกันไปตามการใชงาน ทั้งมีความเงา ยืดหยุน ทนทาน แหงงาย และมีราคาถูกแพงแตกตางกันดวย เชน สแปนเด็กซ ที่เปนยางยืดมีความทนทาน มักใชเปนขอบยางของกางเกงใน พอลิเอสเทอร เปนผาที่มีความเงา รีดงาย ยับยาก ใสสบาย แตซีดเร็ว ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การจัดการขอมูล 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู ระหวางกัน 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ที่นําเสนอเพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอง และรวม อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม กิจกรรม 21st Century Skills นักเรียนคนควาขอมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมในประเทศไทย 1 ประเภท ในประเด็นปจจัยที่เอื้อตอการประกอบกิจกรรม บริเวณ พื้นที่ที่เหมาะแกการทําอุตสาหกรรม จากนั้นสรุปขอมูลที่ไดเปน แผนผังความคิด พรอมทั้งตกแตงใหสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T156


ขอสอบเนน การคิด 3 การท่องเที่ยวและการบริการ กำรท่องเที่ยวเป็นธุรกิจภำคบริกำรที่ท�ำ รำยได้ให้กับประเทศต่ำง ๆ ทั่วโลก เพรำะเป็น กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่ำง ๆ มำกมำย เช่น กำรคมนำคมขนส่ง ธุรกิจที่พัก ร้ำนอำหำร ร้ำนขำยของที่ระลึก และกำรบริกำรสุขภำพ ดังนั้น กำรท่องเที่ยวจึงช่วยส่งเสริมกำรสร้ำง งำน สร้ำงรำยได้ โดยเฉพำะในพื้นที่ที่เป็น จุดหมำยปลำยทำงของกำรท่องเที่ยว อย่ำงไร ก็ตำม กำรท่องเที่ยวต้องได้รับกำรดูแลและ บริหำรจัดกำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ 3.1 การเติบโตของการท่องเที่ยว กำรเติบโตของกำรท่องเที่ยวเกิดจำกปัจจัยต่ำง ๆ เช่น สถำนที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจ สภำวะ กำรเมืองและเศรษฐกิจของโลก ส่งผลให้แต่ละพื้นที่มีกำรเติบโตของกำรท่องเที่ยวแตกต่ำงกัน 1) การเติบโตของการท่องเที่ยวในโลก ภูมิภำคต่ำง ๆ ทั่วโลกมีจ�ำนวนนักท่องเที่ยว ทิวทัศน์น�้ำตกไนแอกำรำบริเวณเส้นเขตแดนสหรัฐอเมริกำ กับแคนำดำ ทวีปเอเชียมีสถำนที่ท่องเที่ยวส�ำคัญจ�ำนวนมำก และเป็น จุดหมำยปลำยทำงกำรท่องเที่ยวที่ส�ำคัญของโลก Activity สืบค้นข่ำวหรือบทควำมเกี่ยวกับสถำนกำรณ์กำรท่องเที่ยวของประเทศไทยและของโลก แล้วน�ำ ควำมรู้มำแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน Geo เพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง ในพ.ศ. 2558 มีนักท่องเที่ยว ระหว่ำงประเทศทั่วโลกมำกกว่ำ 1,200 ล้ำนคน ซึ่งภูมิภำคเอเชียและแปซิฟิกมีอัตรำกำรเติบโต ของนักท่องเที่ยวต่ำงชำติสูงสุดถึงร้อยละ 7 นอกจำกนี้ ยังคำดกำรณ์ว่ำ จ�ำนวนนักท่องเที่ยว จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2563 และจะเพิ่มเป็น 1,800 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2573 ภูมิภำคที่มีรำยได้สูงสุดจำกกำรท่องเที่ยว คือ ยุโรป รองลงมำ ได้แก่ เอเชียและแปซิฟิก และ อเมริกำ 150 151 กำรท่องเที่ยวเป็นธุรกิจภำคบริกำรที่ท�ำ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลการสืบคน ของตนเองมาเชื่อมโยงกับรูปแบบของการ ทองเที่ยว และวิเคราะหวาในแตละทวีปมี รูปแบบทางการทองเที่ยวที่โดดเดนในดาน ใดบาง พรอมทั้งยกตัวอยางประกอบ 2. ครูนําแผนที่แสดงที่ตั้งเมืองสําคัญในการ ทองเที่ยวเชิงธุรกิจ สุขภาพ และนันทนาการ มาใหนักเรียนดู แลวตอบคําถามเพิ่มเติม ถึงลักษณะทางกายภาพที่เปนผลใหเมือง ดังกลาวเปนเมืองสําคัญในการทองเที่ยว เชิงธุรกิจ สุขภาพ และนันทนาการ 3. ครูอาจใหนักเรียนศึกษาและทํากิจกรรมตาม แนวทาง Geo Activity จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพื่อเปนการวิเคราะหขอมูล ของนักเรียนเพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 การทองเที่ยว มีความสําคัญตอการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เปน แหลงรายไดที่สําคัญ มีองคประกอบตางๆ ดังนี้ • ทรัพยากรการทองเที่ยว ทั้งแหลงทองเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เชน นํ้าตก ถํ้า เกาะ และแหลงทองเที่ยวที่มนุษยสรางขึ้น เชน โบราณสถาน แหลงชุมชนทองถิ่น • นักทองเที่ยว ทั้งในประเทศและระหวางประเทศ • ธุรกิจทองเที่ยว เพื่ออํานวยความสะดวกในการเดินทางทองเที่ยว • สิ่งอํานวยความสะดวก เชน การตรวจหนังสือเดินทาง การขนถายกระเปา มัคคุเทศก • ตลาดการทองเที่ยว เพื่อใหขอมูลขาวสารการทองเที่ยวผานสื่อตางๆ • การคมนาคมขนสง มีหลายรูปแบบ เชน รถยนต รถไฟ เรือ ธุรกิจการทองเที่ยวมีความสําคัญมากนอยเพียงใดในโลกยุค ปจจุบัน (แนวตอบ มีความสําคัญมากในหลายดาน เชน ดานเศรษฐกิจ ชวยสรางงานและรายไดเขาทองถิ่นและประเทศ เปนการสงเสริม การคาและการลงทุน ดานสังคม ชวยพัฒนาใหเกิดโครงสราง พื้นฐานและระบบคมนาคม ทําใหคนในสังคมมีความเปนอยูที่ สะดวกสบายมากขึ้น ดานสิ่งแวดลอม ชวยกระตุนใหเกิดการดูแล รักษาสิ่งแวดลอมในชุมชนและประเทศ) นํา สอน สรุป ประเมิน T157


1,800 1,600 1,400 1,200 1,000 800 600 400 200 0 1950 1960 1970 1980 1990 2000 2010 2020 2030 แอฟริกำ ตะวันออกกลำง อเมริกำ เอเชียและแปซิฟิก ยุโรป ค.ศ. 940 ล้ำนคน 1.8 พันล้ำนคน 1.4 พันล้ำนคน จ�ำนวนนักท่องเที่ยว : ล้ำนคน 2) การท่องเที่ยวของไทย มีกำรขยำยตัวอย่ำงต่อเนื่องทั้งจ�ำนวนและรำยได้จำก กำรท่องเที่ยว จ�ำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำก 32.5 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2559 เป็น 35.3 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2560 นักท่องเที่ยวที่เดินทำงมำท่องเที่ยวในประเทศไทยมำกที่สุด คือ นักท่องเที่ยวจำก ภูมิภำคเอเชียตะวันออก (รวมอำเซียน) รองลงมำ ได้แก่ นักท่องเที่ยวจำกยุโรปและอเมริกำ ปัจจัย ที่ท�ำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมำยปลำยทำงของนักท่องเที่ยว เช่น ควำมสวยงำมของธรรมชำติ ควำมหลำกหลำยทำงวัฒนธรรม กำรเดินทำงสะดวกสำมำรถเดินทำงต่อไปยังประเทศข้ำงเคียง ได้ง่ำย ค่ำใช้จ่ำยไม่สูง ส่วนรำยได้และค่ำใช้จ่ำยของนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตำมจ�ำนวน นักท่องเที่ยว ที่มา : กระทรวงกำรท่องเที่ยวและกีฬำ, 2560 กราฟแสดงจ�านวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย172,213 187,126 25,000,000 20,000,000 15,000,000 10,000,000 5,000,000 0 เอเชียตะวันออก ภูมิภำค 1,770,116 789,847 1,541,520 938,684 1,407,458 747,219 910,901 1,523,555 จ�ำนวนนักท่องเที่ยว : ล้ำนคน เอเชียใต้ ยุโรป ตะวันออกกลำง อเมริกำ โอเชียเนีย แอฟริกำ6,174,957 6,511,195 พ.ศ. 2559 พ.ศ. 2560 23,642,669 21,593,285 ที่มา : UNWTO Tourism Highlights, 2012 กราฟแสดงการเติบโตของจ�านวนนักท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก 152 153 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 4. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหในประเด็นของ ประเทศไทย วามีพื้นที่ในจังหวัดใดบาง ที่ถือวาเปนเมืองสําคัญในการทองเที่ยว เชิงธุรกิจ สุขภาพ และนันทนาการ อันเกิด จากลักษณะทางกายภาพ หรือปจจัยอื่นๆ ประกอบกันอยางไร สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับการทองเที่ยวแหงประเทศไทย ไดที่ https:// www.mots.go.th/main.php?fifilename=indexfi กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา นักเรียนแบงกลุมคนควาขอมูลในประเด็น “แหลงทองเที่ยว ในจังหวัดของฉัน” พรอมวิเคราะหทําเลที่ตั้งที่มีอิทธิพลตอแหลง ทองเที่ยว แลวนําขอมูลที่ไดมาจัดบอรด ตกแตงภาพประกอบ ใหสวยงาม กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนหาขาว หรือบทความเกี่ยวกับสถานการณการทองเที่ยว ของประเทศไทย แลวนํามาแลกเปลี่ยนเรียนรูกับเพื่อนๆ ใน ชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T158


ขอสอบเนน การคิด 3.2 ปฏิสัมพันธของประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกดานการท่องเที่ยว จุดเริ่มต้นและจุดหมำยปลำยทำงของนักท่องเที่ยวมีกระจำยอยู่ทั่วทุกมุมโลก กำรเดินทำง ท่องเที่ยวระหว่ำงประเทศมำกกว่ำครึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจำกประเทศที่พัฒนำแล้ว ทั้งจำกในทวีป ยุโรปและอเมริกำเหนือ อย่ำงไรก็ตำม นักท่องเที่ยวจำกประเทศก�ำลังพัฒนำทั้งในเอเชียแปซิฟิก และอเมริกำใต้ ต่ำงก็เพิ่มจ�ำนวนขึ้นอย่ำงรวดเร็ว แนวโน้มกำรเดินทำงท่องเที่ยวระหว่ำงประเทศ ดังแสดงในแผนที่ด้ำนล่ำง จำกแผนที่แสดงให้เห็นว่ำ มีนักท่องเที่ยวจำกทวีปอเมริกำเหนือจ�ำนวนมำกกว่ำ 10 ล้ำนคน เดินทำงเข้ำสู่ทวีปอเมริกำกลำง ทวีปอเมริกำใต้ และทวีปยุโรป เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจำก ทวีปยุโรปที่มีจ�ำนวนมำกกว่ำ 10 ล้ำนคนต่อปี เดินทำงเข้ำสู่ทวีปอเมริกำเหนือและตะวันออกกลำง ในขณะที่นักท่องเที่ยวจำกประเทศญี่ปุ่นจ�ำนวนประมำณ 5 - 10 ล้ำนคน เดินทำงเข้ำสู่ทวีป อเมริกำเหนือ ภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปยุโรป นอกจำกนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจ�ำนวนประมำณ 3 - 5 ล้ำนคน เดินทำงท่องเที่ยวภำยใน ทวีปเอเชีย จำกทวีปเอเชียสู่ทวีปอเมริกำเหนือ จำกทวีปเอเชียสู่ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย และจำกทวีปยุโรปสู่ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย ส่วนทวีปแอฟริกำ เป็นภูมิภำคที่มี นักท่องเที่ยวเดินทำงไปน้อย แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบำงส่วนจำกยุโรปที่เดินทำงไปยังทำงตอนเหนือ และตอนใต้ของทวีปแอฟริกำ แผนที่แสดงแหล่งนักท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยม พ.ศ. 2560 ที่มา : All About Geography Human Geography Elective p.29 0 ํ 0 ํ 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 80 ํE 120 ํE 160 ํE 140 ํW 100 ํW 60 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 100 ํE 140 ํE 180 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 1 : 230,000,000 แผนที่แสดงกลุมนักทองเที่ยวและจุดหมายปลายทางที่ไดรับความนิยม มากกวา 10 ลานคน 5 - 10 ลานคน 3 - 5 ลานคน นอยกวา 3 ลานคน แหลงทองเที่ยว ที่ไดรับความนิยม 0 2000 4000 กม. จำนวนนักทองเที่ยว 152 153 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 5. ครูใหนักเรียนดูแผนที่แสดงกลุมนักทองเที่ยว และจุดหมายปลายทางที่ไดรับความนิยม พ.ศ. 2560 จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกันวิเคราะหเพิ่มเติมถึงลักษณะทาง กายภาพที่เปนผลใหเมืองดังกลาวเปนเมือง สําคัญในการทองเที่ยวเชิงธุรกิจ สุขภาพ และ นันทนาการ 6. ครูแบงนักเรียนออกเปน 2 ฝาย แตละฝาย มีจํานวนเทาๆ กัน จากนั้นใหฝายที่ 1 ใช สมารตโฟนคนหาสถานที่ที่ไดรับความนิยม ทางการทองเที่ยวของโลกในภูมิภาคตางๆ แลวใหเพื่อนนักเรียนที่อยูในฝายที่ 2 เปนผูตอบ คําถามเชื่อมโยงถึงลักษณะทางกายภาพ ตลอดจนปจจัยอื่นๆ ที่ทําใหสถานที่นั้นได รับความนิยมทางการทองเที่ยว โดยครูเปน ผูตัดสินและใหคําแนะนําเพิ่มเติม ปจจัยที่สงเสริมใหนักทองเที่ยวตางชาตินิยมเขามาทองเที่ยว ในภูมิภาคอาเซียนกันเปนจํานวนมาก (แนวตอบ มีหลายปจจัย เชน ปจจัยดานแหลงทองเที่ยว ประเทศ ในอาเซียนมีสถานที่ทองเที่ยวและวัฒนธรรมที่สวยงามและมีคุณคา มากมาย ปจจัยดานคาที่พักและอาหารถูก โดยธุรกิจที่พัก โรงแรม และรีสอรตมีหลายขนาด หลายราคาใหเลือก และอาหารการกิน ก็อุดมสมบูรณ ดานนโยบายระหวางประเทศ บางประเทศใน อาเซียนไดมีนโยบายเปดกวางตอนักทองเที่ยว โดยไมตองขอวีซา เขาประเทศ) บูรณาการอาเซียน ประชาคมอาเซียนเปนภูมิภาคที่มีประชากรกวา 600 ลานคน ถือเปนหนึ่งใน ตลาดการทองเที่ยวของโลกที่มีการเติบโตอยางรวดเร็ว สําหรับประชาคมอาเซียน มีกลยุทธสําคัญดานการทองเที่ยว 2 กลยุทธหลัก โดยจําแนกตามประเภทของ กลุมนักทองเที่ยวที่เดินทางเขามาเที่ยวในอาเซียน ไดแก • กลุม Long Haul เปนกลุมนักทองเที่ยวที่เดินทางมาจากภูมิภาคอื่น เชน ยุโรป อเมริกา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง ซึ่งตองการจะไปเที่ยวหลายสถานที่ ในหลายประเทศของอาเซียน จะใชการนําเสนอแพ็กเกจการทองเที่ยวแบบ 2 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง และ 3 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง • กลุม Intra ASEAN เปนนักทองเที่ยวในประเทศสมาชิกอาเซียนดวยกันเอง ซึ่งจะเนนการโปรโมตการเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห การทองเที่ยวเพื่อสุขภาพ (wellness) การรักษาพยาบาล และการศึกษา นํา สอน สรุป ประเมิน T159


ขอสอบเนนการคิด 3.3 รูปแบบของการท่องเที่ยว ปัจจุบันกำรท่องเที่ยวมีหลำยรูปแบบ มีวัตถุประสงค์ต่ำงกันไปตำมคุณลักษณะของ นักท่องเที่ยว เช่น เพื่อสุขภำพ เพื่อธุรกิจหรือศึกษำดูงำน กำรกีฬำ นันทนำกำร นักท่องเที่ยวแต่ละคน วำงแผนกำรท่องเที่ยวต่ำงกัน เพื่อตอบสนอง ควำมต้องกำรที่หลำกหลำย ดังนี้ 1) การท ่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (business tourism) เกิดขึ้นได้หลำยรูปแบบ เช่น กำรเดินทำงที่มีวัตถุประสงค์ทำงธุรกิจ กำรฝกอบรม กำรแสดงสินค้ำหรือนิทรรศกำร กำรท่องเที่ยวเพื่อเป็นรำงวัล กำรจัดประชุม นำนำชำติ และกำรจัดนิทรรศกำรเป็นที่รู้จักกัน ในนำมของ MICE (Meeting, Incentive, Convention and Exhibition) ปัจจุบัน MICE มีกำรเติบโตสูงและมีควำมส�ำคัญต่อกำรสร้ำงรำยได้ให้แก่ประเทศ เนื่องจำกนักท่องเที่ยวในกลุ่ม MICE มีเป้ำหมำยในทำงธุรกิจจึงมีอ�ำนำจซื้อสูง ท�ำให้ค่ำใช้จ่ำยโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับที่สูงกว่ำ นักท่องเที่ยวทั่วไปประมำณ 2 - 3 เท่ำ เมืองที่เป็นที่ตั้งของกำรท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ต้องมีสถำนที่ จัดงำนที่กว้ำงขวำง มีระบบโครงสร้ำงพื้นฐำนและบริกำรต่ำง ๆ เพื่ออ�ำนวยควำมสะดวก เช่น กรุงปำรีส ประเทศฝรั่งเศส กรุงลอนดอน สหรำชอำณำจักร 2) การท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ (recreational tourism) เป็นกำรท่องเที่ยวไปยัง สถำนที่ต่ำง ๆ ซึ่งอำจเป็นแหล่งธรรมชำติหรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้ำงขึ้น โดยมีกิจกรรมเพื่อ ควำมสนุกสนำน ตื่นเต้นผจญภัยควบคู่ไปด้วย สถำนที่ท่องเที่ยวประเภทนี้มีอยู่ตำมเมืองใหญ่ มี ข้อดี คือ ใช้เวลำและงบประมำณไม่มำกและมีกิจกรรมให้เลือกหลำกหลำย เช่น กิจกรรมนันทนำกำร เพื่อกำรเรียนรู้และทักษะ เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดกำรพัฒนำทำงกำย อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ กิจกรรมนันทนำกำรเพื่อสุขภำพ เป็นกิจกรรมที่เน้นพัฒนำสุขภำพกำยและใจ สถำนที่จัดงำนนิทรรศกำรนำนำชำติ (World EXPO) เมืองมิลำน ประเทศอิตำลี Geo Tip แนวโน้มอุตสาหกรรม MICE ในประเทศไทย อุตสำหกรรม MICE เป็นอุตสำหกรรมที่เป็นยุทธศำสตร์ชำติ เพรำะประเทศไทยมีควำมพร้อมใน ทรัพยำกรทั้งในเรื่องของสถำนที่จัดงำน สถำนที่ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ทั้งนี้ รัฐบำลได้พัฒนำโครงสร้ำง พื้นฐำนในอุตสำหกรรม MICE เช่น ศูนย์ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต และอีกหลำยแห่งในภูมิภำค ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลำงธุรกิจระหว่ำงประเทศ 154 155 นำนำชำติ และกำรจัดนิทรรศกำรเป็นที่รู้จักกัน ในนำมของ MICE (Meeting, Incentive, 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 7. ครูสุมถามนักเรียนถึงสถานที่ที่อยากไป ทองเที่ยวหรือใชบริการมากที่สุด พรอมทั้ง เชื่อมโยงเพิ่มเติมวา จะสามารถนําเทคโนโลยีใด ไปใชในการทองเที่ยวไดบาง จากนั้นให นักเรียนแสดงความคิดเห็นรวมกัน 8. ครูถามคําถาม เชน • นักเรียนคิดวา ในอนาคตสถานการณการ ทองเที่ยวของประชากรโลกจะมีแนวโนมเปน อยางไร และสงผลกระทบอยางไร (แนวตอบ เชน ในอนาคตประชากรโลกอาจ มีแนวโนมในการทองเที่ยวที่สูงขึ้น อันเนื่อง มาจากการคาดการณของ UNWTO หรือ หนวยงานขององคการสหประชาชาติที่ ควบคุมดูแลทางการทองเที่ยว ที่คาดการณ วาจะมีนักทองเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในป ค.ศ. 2020 เปนจํานวนถึง 1,400 ลานคน และ ในป ค.ศ. 2030 เปนจํานวนถึง 1,800 ลานคน จึงสามารถคาดการณไดวา ในอนาคต ประชากรโลกจะมีการทองเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น อยางตอเนื่อง อันเปนการสงผลให เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวและดําเนิน กิจกรรมตางๆ ไดอยางตอเนื่อง เกิด ความหลากหลายทางวัฒนธรรม แตทั้งนี้ อาจสงผลกระทบในดานการยายถิ่น การเกิด แรงงานผิดกฎหมาย หรือเกิดปญหา สิ่งแวดลอมเสื่อมโทรมลงได) นักเรียนควรรู 1 การจัดนิทรรศการ (exhibition) เปนหนึ่งในอุตสาหกรรมไมซ (MICE) ที่ชวยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหกับประเทศ เนื่องจากเปนชองทางหนึ่งที่ผูผลิตสินคา หรือผูใหบริการไดนําเสนอสินคา หรือผลิตภัณฑของตนออกสูสายตาสาธารณชน ใหเปนที่รูจัก ซึ่งนอกจากจะสรางมูลคาจากการซื้อขายสินคาแลว ยังเปนการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสรางความสัมพันธอันดีระหวางผูซื้อและผูขาย อีกดวย 2 MICE หรืออุตสาหกรรมไมซ เปนคําใชเรียกกลุมธุรกิจ 4 กลุม ไดแก M (Meeting) : ธุรกิจการจัดประชุม I (Incentive) : การทองเที่ยวเพื่อเปนรางวัล C (Convention : ธุรกิจการจัดประชุมนานาชาติ E (Exhibition) : ธุรกิจการจัดแสดงสินคาและนิทรรศการ ประเทศไทยมีศักยภาพในการเปนศูนยกลางของอุตสาหกรรม MICE ในภูมิภาคอาเซียนมากนอยเพียงไร จงวิเคราะห (แนวตอบ มีศักยภาพ เนื่องจากประเทศไทยมีปจจัยที่เปน ขอไดเปรียบหลายประการ เชน ความคุมคาเงิน การพัฒนาโครงสราง พื้นฐานดานการคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ ทําเลที่ตั้งที่เปน ศูนยกลางของภูมิภาคในการเดินทางไปยังประเทศตางๆ ในอาเซียน และเอเชียไดสะดวกมีโรงแรมที่พักจํานวนมาก ทําใหตนทุน การเดินทาง ประชุม และทองเที่ยวตํ่ากวา มีแหลงทองเที่ยวและ ศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงความเปนมิตร และยิ้มแยม แจมใส อันเปนลักษณะนิสัยที่สําคัญของคนไทย) นํา สอน สรุป ประเมิน T160


ขอสอบเนน การคิด 3) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (medical tourism) หรือกำรท่องเที่ยวเชิงกำรแพทย์ เป็นกำรท่องเที่ยวที่มีจุดมุ่งหมำยเพื่อบ�ำบัด ฟนฟู หรือส่งเสริมสุขภำพ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตของ ประเทศญี่ปุ่นมีบ่อพุน�้ำร้อน ทั้งประเภทในร่มและกลำงแจ้ง กระจำยอยู่ทั่วประเทศ คนรุ่นใหม่ที่ให้ควำมสนใจเรื่องกำรดูแลสุขภำพ เป็นอย่ำงดี สำมำรถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 3.1) การท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริม สุขภาพ เป็นกำรท่องเที่ยวในลักษณะที่ช่วย ส่งเสริมให้ร่ำงกำยรู้สึกผ่อนคลำย มีสุขภำพจิต ที่ดี ซึ่งสำมำรถจัดรูปแบบของกิจกรรมได้ หลำกหลำย เช่น กำรนวดหรือประคบสมุนไพร สปำ วำรีบ�ำบัด กำรอำบน�้ำแร่หรือแช่น�้ำพุร้อน โยคะ เพื่อปรับสมดุลให้แก่ร่ำงกำย 3.2) การท่องเที่ยวเชิงบ�าบัด รักษา เป็นกำรเดินทำงมำเพื่อรักษำพยำบำล เป็นหลัก โดยเข้ำรับบริกำรบ�ำบัด รักษำ ฟนฟูสุขภำพในสถำนพยำบำลหรือโรงพยำบำลที่มีคุณภำพ และได้มำตรฐำน เช่น กำรตรวจสุขภำพ กำรรักษำโรคต่ำง ๆ ศัลยกรรมควำมงำม หรืออำจเป็นกำร พักฟนหลังจำกกำรเข้ำพักรักษำตัว เมื่อวิทยำกำรทำงกำรแพทย์ก้ำวหน้ำ มีเครื่องมือแพทย์ที่ทัน สมัย แพทย์มีควำมเชี่ยวชำญหลำยสำขำ คนไข้มีควำมเชื่อมั่น และเดินทำงเข้ำมำรับบริกำร ประกอบกับปัจจัยเสริมอย่ำงอื่น เช่น กำรเดินทำงที่สะดวกรวดเร็ว กำรบริกำรกำรเงินระหว่ำง ประเทศที่สะดวก ท�ำให้กำรท่องเที่ยวเชิงกำรแพทย์มีเพิ่มมำกขึ้น ประเทศที่เป็นศูนย์กลำงด้ำนกำร รักษำพยำบำล เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินเดีย กำรศึกษำธรรมชำติเป็นรูปแบบหนึ่งของกำรท่องเที่ยว ที่ช่วยให้เกิดควำมตระหนักในกำรร่วมกันรักษำธรรมชำติ 4) การท ่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นกำรท่องเที่ยวที่ค�ำนึงถึงสภำพแวดล้อมและ ธรรมชำติโดยอำศัยควำมรู้ด้ำนกำรอนุรักษ์ กำรรักษำคุณค่ำ และควำมเป็นเอกลักษณ์ของ แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมของกำรท่องเที่ยวอำจ มีหลำกหลำย เช่น กำรเดินศึกษำธรรมชำติ กำร ส่องสัตว์หรือดูนก กำรท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่ง นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ สัมผัส และได้รับ ประสบกำรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชำติ ทั้งเกิด จิตส�ำนึกและควำมรับผิดชอบในกำรอนุรักษ์ ทรัพยำกรกำรท่องเที่ยวให้คงอยู่อย่ำงยั่งยืน 154 155 สปำ วำรีบ�ำบัด กำรอำบน�้ำแร่หรือแช่น�้ำพุร้อน 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • นักเรียนคิดวาปจจัยสําคัญที่ทําใหประเทศไทย เปนจุดหมายปลายทางของนักทองเที่ยว คือสิ่งใด (แนวตอบ เชน ความสวยงามของธรรมชาติ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสถานที่ ความประหยัดของคาใชจาย ความสะดวก สบายในการเดินทาง) 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายและ แสดงความคิดเห็นเชื่อมโยงกิจกรรมทาง เศรษฐกิจในดานอุตสาหกรรม การทองเที่ยว และการบริการ ที่ไดทําการศึกษา จากนั้นให แตละกลุมจัดทําแผนผังมโนทัศนสรุปความรู ทั้งหมด โดยครูแนะนําเพิ่มเติม ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอขอมูลจาก การศึกษาประกอบแผนผังมโนทัศนที่ไดจัดทํา พรอมทั้งอภิปรายแสดงความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 4.2 เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจในดานอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ นักเรียนควรรู 1 วารีบําบัด (hydrotherapy) เปนการใชนํ้า หรือไอนํ้าในการรักษาโรค บรรเทาอาการปวด ทําใหผอนคลายและรักษาสุขภาพทั่วไป ปจจุบันวารีบําบัด ไดรับความนิยมอยางกวางขวาง ในแงของการเปนทางเลือกหนึ่งในการเยียวยา ตามวิถีธรรมชาติ ซึ่งวิธีการบําบัดที่ไดรับความนิยมคอนขางมาก มี 2 รูปแบบ ใหญๆ คือ วารีบําบัดในสวนของการออกกําลังกายใตนํ้าและในสวนของสปา 2 นํ้าพุรอน บอนํ้าพุรอนในที่ตางๆ ของโลก ที่สําคัญ เชน • บอนํ้าพุรอนเดลดารตุงกูเวอร (Deildartunguhver Thermal Spring) ของไอซแลนด เปนบอนํ้าพุรอนที่นํ้าไหลเร็วที่สุดในยุโรป • บอนํ้าพุรอนสีเลือด (Blood Pond Hot Spring) ที่เมืองเบ็ปปุของญี่ปุน มีนํ้าเปนสีแดง ซึ่งอุดมไปดวยธาตุเหล็ก • บอนํ้าพุรอนจิโกคุดานิ (Jigokudani) สถานพักฟนของลิงหิมะญี่ปุน • บอนํ้าพุรอนแมมมอธ (Mammoth Hot Springs) ของสหรัฐอเมริกา ที่สวยงามและมีเกลือของกรดคารบอนตกตะกอนใหญที่สุดในโลก “มิสเตอรฟรองซัวมาทองเที่ยวเมืองไทย และตองการนวดแผน โบราณเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการเดินทางเปนเวลานาน ไกดจึงพาไปที่วัดโพธิ์” จัดเปนการทองเที่ยวที่สอดคลองกับขอใด มากที่สุด 1. การทองเที่ยวเชิงธุรกิจ 2. การทองเที่ยวเชิงนิเวศ 3. การทองเที่ยวเชิงสุขภาพ 4. การทองเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5. การทองเที่ยวเชิงนันทนาการ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. การนวดจัดเปนการทองเที่ยว เชิงสุขภาพที่มีจุดมุงหมายเพื่อบําบัด ฟนฟู หรือสงเสริมสุขภาพ) นํา สอน สรุป ประเมิน T161


3.4 ผลจากการท่องเที่ยว กำรท่องเที่ยวเป็นอุตสำหกรรมบริกำรที่ต้องอำศัยทรัพยำกรธรรมชำติและวัฒนธรรมเป็น สิ่งดึงดูดและสร้ำงรำยได้ หำกไม่มีกำรจัดกำรที่มีประสิทธิภำพอำจเกิดควำมเสื่อมโทรมลงได้ กำรท่องเที่ยวส่งผล ดังนี้ 1) ด้านเศรษฐกิจ ท�ำให้เกิดกำรสร้ำงงำนของประชำชนจ�ำนวนมำก กำรสร้ำงรำยได้ จำกธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้ำนอำหำร ร้ำนขำยของที่ระลึก และอื่น ๆ ท�ำให้มีกำรลงทุน เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจขยำยตัว แต่ก็ส่งผลกระทบอื่นๆ ตำมมำ เช่น ปัญหำกำรกระจำยรำยได้ ที่กระจุกตัวเฉพำะพื้นที่ ผู้ประกอบกำรได้รับผลประโยชน์มำกกว่ำคนในท้องถิ่น 2) ด้านสังคมและวัฒนธรรม ท�ำให้ลดกำรอพยพย้ำยถิ่น เกิดกำรพัฒนำโครงสร้ำง พื้นฐำนที่จ�ำเป็นให้กับชุมชน ได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมประจ�ำชำติ แต่อำจ ส่งผลกระทบอื่นๆ เช่น อำจมีกำรใช้พื้นที่สำธำรณะในเชิงพำณิชย์เพื่อคนบำงกลุ่ม เกิดควำมแออัด ในสถำนที่ท่องเที่ยว หรือเกิดควำมช�ำรุดเสียหำยของสถำนที่ท่องเที่ยว 3) ด้านสิ่งแวดล้อม ท�ำให้เกิดกำรพัฒนำและปรับปรุงพื้นที่ทำงธรรมชำติ หรือ ภูมิลักษณ์ทำงกำยภำพให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีกำรออกกฎและระเบียบต่ำง ๆ ในกำรอนุรักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำติ สร้ำงจิตส�ำนึกในกำรอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยำกรกำรท่องเที่ยว แต่อำจ ส่งผลกระทบอื่นๆ เช่น ธรรมชำติบำงส่วนอำจถูกท�ำลำยจำกกำรสร้ำงที่พักหรือกำรจัดกิจกรรม บำงประเภท หรืออำจมีกำรบุกรุกพื้นที่ป่ำและล่ำสัตว์ป่ำ 156 157 ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 4. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจใน ดานอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ 5. ใหนักเรียนทําแบบวัดฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือดาน เทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับสิ่งแวดลอมทาง กายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของเนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบวัดฯ และแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย การเรียนรูที่ 4 เรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพ กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประเภทอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางานและนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัด และประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการ จัดการเรียนรูหนวยที่ 4 เรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม กิจกรรม 21st Century Skills ครูใหนักเรียนแบงกลุม จับสลากสืบคนขอมูลที่เกี่ยวของ กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในทวีปตางๆ ของโลก ประกอบการใช เครื่องมือทางภูมิศาสตร แลวนําขอมูลมาบันทึกลงในแผนที่โครงราง ของแตละทวีป พรอมเหตุผลประกอบที่แสดงใหเห็นถึงปฏิสัมพันธ ระหวางสิ่งแวดลอมทางกายภาพกับวิถีการดําเนินชีวิตของประชากร ในดานเศรษฐกิจที่สําคัญของทวีป โดยระบุขอมูลประกอบการใช สัญลักษณและคําอธิบายในแผนที่ ตามประเด็น ดังนี้ • ประเภทของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ • ตําแหนงที่ตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ • ความสัมพันธระหวางตําแหนงที่ตั้งกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จากนั้นใหนักเรียนนําแผนที่โครงรางของแตละทวีปที่บันทึก ขอมูลแลวมาจัดวางรวมกัน ใหอยูในรูปแบบแผนที่โครงรางของโลก อภิปรายสรุป และเสนอแนะขอคิดเห็นรวมกัน นํา สอน สรุป ประเมิน T162


คำาถามเนนการคิด กิจกรรมพัฒนาทักษะ 1. เพรำะเหตุใดกิจกรรมทำงกำรเกษตรจึงปรำกฏในพื้นที่ต่อไปนี้ • กำรท�ำกำรเกษตรกรรม ในเขตที่รำบลุ่ม • กำรท�ำประมงน�้ำเค็ม ในเขตน�้ำตื้นใกล้ชำยฝั่ง • กำรเลี้ยงโคนม ในเขตอำกำศอบอุ่น 2. เพรำะเหตุใดทวีปเอเชียจึงเป็นแหล่งพืชอำหำรที่ส�ำคัญของโลก 3. ปัจจัยก�ำหนดที่ตั้งของอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญมีอะไรบ้ำง ยกตัวอย่ำงเขตอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญ ของโลก 4. อุตสำหกรรมประเภทใดที่ควรส่งเสริมในประเทศไทย เพรำะเหตุใด 5. หำกนักเรียนต้องกำรลงทุนสร้ำงที่พักและสถำนที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ต้องค�ำนึงถึง ปัจจัยใดบ้ำง และเลือกที่ใด พร้อมบอกเหตุผล 1. เพรำะเหตุใดกิจกรรมทำงกำรเกษตรจึงปรำกฏในพื้นที่ต่อไปนี้ 2. เพรำะเหตุใดทวีปเอเชียจึงเป็นแหล่งพืชอำหำรที่ส�ำคัญของโลก 3. ปัจจัยก�ำหนดที่ตั้งของอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญมีอะไรบ้ำง ยกตัวอย่ำงเขตอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญ 4. อุตสำหกรรมประเภทใดที่ควรส่งเสริมในประเทศไทย เพรำะเหตุใด 5. หำกนักเรียนต้องกำรลงทุนสร้ำงที่พักและสถำนที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ต้องค�ำนึงถึง 1. วิเครำะห์ข้อได้เปรียบของท�ำเลที่ตั้งของประเทศไทยในกำรพัฒนำกำรท่องเที่ยวของประเทศ โดยใช้แผนที่ประกอบกำรวิเครำะห์ 2. แบ่งกลุ่มเพื่อระดมสมอง สมมติให้แต่ละกลุ่มเป็นนักธุรกิจต้องกำรไปลงทุนขยำยธุรกิจ ไปต่ำงประเทศ ให้เลือกประเทศที่จะไปลงทุนท�ำธุรกิจ โดยวิเครำะห์ ในประเด็นหลัก เช่น • ท�ำเลที่ตั้ง • ทรัพยำกรธรรมชำติ • กำรคมนำคม • แรงงำน 1. วิเครำะห์ข้อได้เปรียบของท�ำเลที่ตั้งของประเทศไทยในกำรพัฒนำกำรท่องเที่ยวของประเทศ 2. แบ่งกลุ่มเพื่อระดมสมอง สมมติให้แต่ละกลุ่มเป็นนักธุรกิจต้องกำรไปลงทุนขยำยธุรกิจ 156 157 เฉลย คําถามเนนการคิด 1. • เขตที่ราบลุมเปนเขตที่มีตะกอนสะสม ทําให ดินมีความอุดมสมบูรณเหมาะแกการทํา เกษตรกรรม • เขตนํ้าตื้นใกลชายฝง เปนเขตที่มีแสงสวาง สองลงไปใตนํ้า ทําใหอุณหภูมิของนํ้า เหมาะสม เนื่องจากมีแพลงกตอนซึ่งเปน อาหารของปลา จึงทําใหมีปลามาอาศัยอยู เปนจํานวนมาก • เขตอากาศอบอุน มีความชื้นเพียงพอทําให หญาอุดมสมบูรณและในฤดูรอนอากาศจะ ไมรอนมาก ทําใหโคนมที่เลี้ยงมีคุณภาพดี 2. ทวีปเอเชียเปนทวีปที่มีทรัพยากรดินและนํ้า อุดมสมบูรณ และมีภูมิอากาศแบบมรสุมที่ เหมาะสําหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สําคัญ ของโลก 3. ปจจัยที่กําหนดที่ตั้งของอุตสาหกรรมที่สําคัญ ไดแก ที่ดิน วัตถุดิบ แรงงาน การขนสง ตลาด ตัวอยางเขตอุตสาหกรรมที่สําคัญของโลก เชน เขตอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกลา มีศูนยกลางอยูที่สหรัฐอเมริกา แถบเทือกเขา แอปพาเลเชียน บริเวณรอบทะเลสาบเกรตเลกส และเขตริมฝงแอตแลนติกตอนกลาง 4. อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร เพราะ ประเทศไทยมีความพรอมทางดานวัตถุดิบ รวมถึงศักยภาพของผูประกอบการที่สามารถ พัฒนาคุณภาพและรูปแบบของสินคาใหตรง ตามความตองการของตลาดได 5. ตองคํานึงถึงความปลอดภัย ความสะอาด ความสะดวกสบายในการเดินทาง ความ สวยงามของธรรมชาติ และเลือกสถานที่ บริเวณที่อยูใกลกับแหลงธรรมชาติและไมสง ผลกระทบตอธรรมชาติและสิ่งแวดลอม เพื่อ เนนใหเกิดการพัฒนาสุขภาพกายและใจ ของผูมาใชบริการและรักษาสภาพแวดลอม ควบคูกัน เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพัฒนาทักษะ ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยทั่วไป งานหรือชิ้นงานใชเวลาไมนาน งานสําหรับประเมินรูปแบบนี้อาจเปนคําถามปลายเปดหรือผังมโนทัศน นิยมสําหรับประเมินผูเรียนรายบุคคล ประเมินความสามารถ • เชน ความคลองแคลวในการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร การแปลความหมายขอมูล ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการแกปญหา งานหรือชิ้นงานจะสะทอนถึง ทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปใช อาจเปนการประเมินการเขียน ประเมินกระบวนการทํางานทางภูมิศาสตรตางๆ หรือการวิเคราะห และการแกปญหา ประเมินทักษะ • มีเปาหมายหลายประการ ผูเรียนไดแสดงทักษะ ความสามารถทางภูมิศาสตรตางๆ ที่ซับซอนขึ้น งานหรือชิ้นงานมักเปนโครงงานระยะยาว ซึ่งผูเรียน ตองมีการนําเสนอผลการปฏิบัติงานตอผูเกี่ยวของหรือตอสาธารณะ สิ่งที่ตองคํานึงถึงในการประเมิน คือ จํานวนงานหรือกิจกรรมที่ผูเรียนปฏิบัติ และผูประเมินควรกําหนดรายการประเมิน และทักษะที่ตองการประเมินให ชัดเจน นํา สอน สรุป ประเมิน T163


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ภัยพิบัติ ธรรมชาติ ทางธรณีภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint - ใบงานที่ 5.1 - เครื่องมือทาง ภูมิศาสตร์เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทางธรณีภาค ในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทางธรณีภาค ได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคเพื่อน�ำมา ปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 ภัยพิบัติ ธรรมชาติทาง บรรยากาศภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - PowerPoint - ใบงานที่ 5.2 - เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทาง บรรยากาศภาคใน ประเทศไทยและภูมิภาค ต่างๆ ของโลกได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทาง บรรยากาศภาคได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง บรรยากาศภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง บรรยากาศภาค เพื่อน�ำมาปรับใช้ใน ชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.2 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ T164


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 ภัยพิบัติ ธรรมชาติ ทางอุทกภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - PowerPoint - ใบงานที่ 5.3 - เครื่องมือทาง ภูมิศาสตร์เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทางอุทกภาค ในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทางอุทกภาค ได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง อุทกภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง อุทกภาคเพื่อน�ำมาปรับ ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.3 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 4 ภัยพิบัติ ธรรมชาติ ทางชีวภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - แบบวัดและบันทึผล การเรียนรู้ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint - ใบงานที่ 5.4 - เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทางชีวภาค ในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทางชีวภาค ได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ชีวภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ชีวภาคเพื่อน�ำมาปรับ ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจการท�ำแบบวัด และบันทึกผลการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.4 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ T165


นักเรียนมีแนวทาง เตรียมความพร้อม รับมือกับสถานการณ์ ÀѾԺѵԷҧ ¸ÃÃÁªÒµÔ ได้อย่างไร   ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตาม ธรรมชาติบนเปลือกโลก มีการเกิดแบบช้า ๆ ท�าให้มีเวลาเตรียม รับมือได้ แต่บางภัยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีเวลาเตรียมการ รองรับ และมีทั้งระดับที่ไม ่รุนแรงจนถึงระดับที่เป็นอันตราย จนท�าให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิต อาคารบ้านเรือนและ ทรัพย์สินเสียหายจ�านวนมาก  เมื่อเกิดขึ้นแล้วย ่อมส ่งผลต ่อ การด�าเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่ประสบภัย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ สาระการเรียนรู้แกนกลาง •  ปัญหาทางกายภาพและภัยพิบั ติทาง ธรรมชาติในประเทศและภูมิภาค ต่าง ๆ ของโลก •  สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ�งแวดล้อม  ได้แก่  การเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ  ความเสื่อมโทรมของ สิ�งแวดล้อม  ความหลากหลายทาง ชีวภาพ และภัยพิบัติ • การจัดการภัยพิบัติ ตัวชี้วัด  ส 5.1 ม.4 - 6/2     ส 5.2 ม.4 - 6/2 หนวยการเรียนรูที่5 158 ขั้นนํา (Geographic Inquiry Process) 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ชื่อเรื่อง จุดประสงค และผลการเรียนรู 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย การเรียนรูที่ 5 เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ 3. ครูอานขอความตัวอยางใหนักเรียนฟง เชน “แผนดินไหวขนาด 7.8 ที่ประเทศเนปาล เมื่อ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 และเกิด อาฟเตอรช็อก (After Shock) รุนแรงมาก มีผูเสียชีวิตมากกวาการเกิดแผนดินไหว เมื่อครั้งที่แลวถึง 3,000 คน และมีอาคาร บานเรือนเสียหายมากที่สุด” 4. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นและ ตอบคําถามจากขอความตัวอยาง เชน • หากนักเรียนเปนผูประสบภัยแผนดินไหว จะมีแนวทางรับมือกับเหตุการณดังกลาว อยางไร (แนวตอบ เชน ติดตามขาวสารจากทาง ราชการ เตรียมสิ่งของที่จําเปน สังเกต สัญญาณภัยพิบัติ อยูหางจากอาคารสูง กําแพงหรือเสาไฟฟา) • ผลกระทบจากการเกิดปญหาหรือภัยพิบัติ ทางธรรมชาตินี้กอใหเกิดความเสียหาย อยางไร (แนวตอบ เชน ทําใหอาคารบานเรือนเสียหาย ผูคนสูญเสียชีวิตและทรัพยสิน) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดกิจกรรมโดยเนนความสามารถในการใชทักษะ กระบวนการ และความสามารถทางภูมิศาสตร เชน ทักษะการใชเทคนิคและเครื่องมือทางภูมิศาสตร ทักษะการแปลความขอมูลทางภูมิศาสตร ทักษะการใชเทคโนโลยี ทักษะการคิดเชิงพื้นที่ ประกอบการเรียนการสอนโดยจัดกิจกรรม เชน • นําเครื่องมือทางภูมิศาสตร เชน แผนที่ รูปถายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียมหรือใชสมารตโฟน ในการสืบคนขอมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ • การจัดกิจกรรมตางๆ ควรเนนกิจกรรมที่กระตุนความสนใจของนักเรียน ใหนักเรียนรูจักคิด และมีสวนรวมในกิจกรรมตางๆ รวมทั้งสงเสริมประสบการณ และความสามารถของผูเรียน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T166


ขอสอบเนน การคิด รอยเลื่อน รอยเลื่อน คลื่นเดินทางแผออกไป ศูนยกลางแผนดินไหว คลื่นแผถึงพื้นผิว จุดเหน�อศูนยแผนดินไหว x 1 ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาค ภัยพิบัติทางธรณีภาคเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจ�าจากพลังงาน ภายในโลกที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ที่ส�าคัญ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟปะทุ สึนามิ  แผ่นดินถล่ม 1.1 แผ่นดินไหว (earthquake) 1) ค�าจ�ากัดความ  แผ่นดินไหวเกิดจากการสั่นสะเทือนของเปลือกโลกในระดับ ขนาดแตกต่างกัน  หากมีขนาดมากกว่า 5  จะเป็นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง  ท�าให้เกิดการสูญเสีย ชีวิตและทรัพย์สินจ�านวนมาก  ในแต่ละปีทั่วโลกมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเป็นแสนครั้งและแต่ละวัน เกิดเป็นหลายร้อยครั้ง 2) กระบวนการเกิดแผ่นดินไหว เกิดขึ้นเมื่อ  การเคลื่อนที่ของคลื่นแผ่นดินไหวออกไปโดยรอบ •  มีการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน มีพลังในแผ่นธรณีภาค  เกิดการสะสมแรงเค้น และความเครียดอย่างช้า ๆ ใต้เปลือกโลก เมื่อเกิด การเปลี่ยนแปลงอย ่างฉับพลัน  รอยเลื่อนใน แผ ่นเปลือกโลกจะปลดปล ่อยพลังงานที่สะสม ใต้เปลือกโลกเป็นคลื่นไหวสะเทือน  เกิดการสั่น สะเทือนของแผ่นดิน     •  เมื่อเกิดการปะทุของภูเขาไฟที่แมกมาแทรกดันขึ้นมาตามรอยแตก หรือปล่อง ภูเขาไฟ ท�าให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่มีระดับความรุนแรงแตกต่างกัน การปะทุของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่ท�าให้เกิดแผ่นดินไหว หรือสึนามิขึ้น 3) ประเภทของรอยเลื่อนมีพลัง มี 3 ประเภทหลัก ดังนี้ 1 รอยเลื่อนปกติ (normal fault) เป็นรอยเลื่อนที่หินเพดานเลื่อน ลง เมื่อเทียบกับหินพื้น 2 รอยเลื่อนย้อน (reverse fault) เป็นรอยเลื่อนที่หินเพดานเลื่อน ขึ้น  เมื่อเทียบกับหินพื้น  ถ้า รอยเลื่อนย้อนมีค่ามุมเท่ากับ หรือน้อยกว่า 45 องศา เรียกว่า รอยเลื่อนย้อนมุมต�่า 3 รอยเลื่อนตามแนวระดับ (strike - slip fault) หรือรอยเลื่อนเหลื่อม ข้าง (transcurrent fault) เป็น รอยเลื่อนในหินที่สองด้านเคลื่อน ตัวในแนวราบเฉือนกัน 159 มีพลังในแผ่นธรณีภาค  เกิดการสะสมแรงเค้น คลื่นเดินทางแผออกไป จุดเหน�อศูนยแผนดินไหว 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 1. ครูสุมนักเรียนใหออกมาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับรอยเลื่อนมีพลังทั้ง 3 ประเภทวา แตละประเภทมีลักษณะอยางไร และมีความ เหมือน หรือแตกตางกัน อยางไร โดยศึกษา ภาพประกอบจากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจากแหลงการเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนที่ไมไดรับการสุมเชื่อมโยงวา รอยเลื่อนแตละประเภทกอใหเกิดแผนดินไหว แตละประเภทไดอยางไร ขั้นนํา 5. ครูใหนักเรียนใชสมารตโฟนสืบคนขอมูล เกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เคย เกิดขึ้นและกอใหเกิดความเสียหายอยางรุนแรง ในประเทศไทยและภูมิภาคตางๆ ของโลก เชน แผนดินไหว สึนามิ ภูเขาไฟปะทุ แผนดินถลม เพื่อเชื่อมโยงเขาสูบทเรียน แผนดินไหวมีกระบวนการเกิดอยางไร (แนวตอบ แผนดินไหวสวนใหญเกิดขึ้นจากการคลายตัวอยาง รวดเร็วของความเครียดภายในเปลือกโลกที่มีการกอตัวของ ความเครียดอยางชาๆ อันเปนผลสืบเนื่องมาจากการเคลื่อนตัว ของเปลือกโลกในรูปของการเลื่อนตัวของหิน หรือการปะทุของ ภูเขาไฟ) นักเรียนควรรู 1 แผนธรณีภาค สวนของธรณีภาคซึ่งรวมสวนที่เปนเปลือกโลกและเนื้อโลก ตอนบน วางตัวอยูบนฐานธรณีภาค ประกอบดวยแผนธรณีขนาดใหญ 9 แผน ไดแก แผนแปซิฟก แผนแอนตารกติก แผนอินโด-ออสเตรเลีย แผนยูเรเชีย แผนอเมริกาเหนือ แผนอเมริกาใต แผนแอฟริกา แผนโคโคส แผนนัซกา และมี แผนธรณีเล็กๆ อีกจํานวนหนึ่ง แผนธรณีสวนใหญเคลื่อนที่ในแนวราบ หรือเลื่อน รวมกับแผนธรณีแผนอื่นๆ ในแนวเขตแผนดินไหว 2 จุดเหนือศูนยแผนดินไหว ตําแหนงสมมติที่กําหนดดวยจุดตัดของเสนดิ่ง ที่ลากจากศูนยเกิดแผนดินไหว (earthquake focus) ตัดกับผิวโลก นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T167


ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET ขนาดตาม มาตราริกเตอร์ ระดับ ผลกระทบ 0 - 3.0 3.0 - 3.9 4.0 - 4.9 5.0 - 5.9 6.0 - 6.9 7.0 - 7.9 8.0 ขึ้นไป ขนาดเล็กมาก (micro) ขนาดเล็ก (minor) ขนาดเบา (light) ขนาดปานกลาง(moderate) ขนาดรุนแรง (strong) ขนาดรุนแรงมาก (major) ขนาดใหญ่มาก (great) ผู้คนเริ่มรู้สึกถึงการสั่นไหว ผู้คนที่อยู่ในอาคารรู้สึกเหมือนรถไฟวิ่งผ่าน ผู้คนรู้สึกถึงการสั่นสะเทือน วัตถุที่ห้อยแขวนแกว่งไกว สั่นไหวรุนแรงเป็นบริเวณกว้างเครื่องเรือนและวัตถุมีการเคลื่อนที่ สั่นไหวรุนแรงมาก อาคารเริ่มเสียหายพังทลาย สิ่งก่อสร้างเสียหายมาก แผ่นดินแยก วัตถุที่พื้นถูกเหวี่ยงกระเด็น สิ่งก่อสร้างถูกท�าลายหมด 4) สาเหตุการเกิดแผ่นดินไหว การเกิดแผ่นดินไหวมีสาเหตุหลัก 2 ประการ ดังนี้ 4.1) การเคลื่อนตัวฉับพลันของรอยเลื่อนมีพลัง ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เกิดขึ้นในชั้นเปลือกโลก  ซึ่งยังคงมีการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ  แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้น เมื่อพลังงานจากความเครียดที่สะสมบริเวณรอยเลื่อนมีมากจึงเกิดการปรับสมดุลใหม่แผ่นดินไหว ที่มีความรุนแรงมากมักเกิดในบริเวณการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกเข้าหากัน  4.2) การปะทุของภูเขาไฟอย่างรุนแรง เช่น การปะทุของแก๊ส ไอน�้า การไหลพุ่ง ของลาวาออกสู่ภายนอกปล่องภูเขาไฟหรือบริเวณรอยแยกของเปลือกโลก 5) ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว มาตรวัดขนาดและความรุนแรงของ การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่นิยมใช้ ได้แก่ 5.1) ขนาดของแผ่นดินไหว (magnitude) เป็นการวัดพลังงานของแผ่นดินไหว ที่ปลดปล่อยออกมา เป็นการค�านวณปริมาณพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจากศูนย์กลางการเกิด แผ่นดินไหวที่วัดได้จากความสูงของคลื่น (amplitude) จากเส้นไซสโมแกรม หากมีความสูงมาก แสดงว่าพื้นดินจะมีการสั่นสะเทือนมาก หรือแสดงว่ามีแผ่นดินไหวรุนแรงมาก มาตรวัดขนาด แผ่นดินไหวที่ส�าคัญ ได้แก่ มาตราริกเตอร์(Richter Scale) นิยมใช้กับแผ่นดินไหวที่มีขนาด เล็กกว่า หรือเท่ากับ 6 ถ้ามากกว่านั้นใช้มาตราโมเมนต์(Moment Scale) เนื่องจากมีความ ละเอียดและแม่นย�ากว่า ขนาดแผ่นดินไหวแสดงในตาราง ดังนี้ 160 มาตราริกเตอร์ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูนํานักเรียนสนทนาเพิ่มเติมถึงความหมาย สาเหตุ ขนาด และความรุนแรงของแผนดินไหว เพื่อใหนักเรียนรวมกันอธิบายความรูเบื้องตน เกี่ยวกับแผนดินไหว โดยการตอบคําถามใน ดานปจจัยที่ทําใหเกิดแผนดินไหว สถานการณ การเกิดแผนดินไหว และผลกระทบจากการ เกิดแผนดินไหว เชน • การจําแนกขนาดของแผนดินไหวมีราย ละเอียดอยางไร และแผนดินไหวแตละ ขนาดมีผลกระทบอยางไร (แนวตอบ การจําแนกขนาดของแผนดินไหว นิยมใชขนาดตามมาตราริกเตอร โดยขนาด ความรุนแรง 1-3.9 จัดเปนแผนดินไหว ขนาดเล็ก และ 4-5.9 จัดเปนแผนดินไหว ขนาดปานกลาง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับ พื้นที่ คือ อาคารสิ่งกอสรางเกิดรอยราวจาก การสั่นไหว สวนแผนดินไหวที่มีขนาดความ รุนแรงตั้งแต 6 ขึ้นไป จัดเปนแผนดินไหว ขนาดรุนแรง จะสงผลกระทบตอพื้นที่อยาง รุนแรง เชน อาคารบานเรือนที่ไมแข็งแรง พังทลาย ดินถลม และอาจกอใหเกิด สึนามิ ซึ่งทําใหเกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพยสินอยางประเมินคาไมได) นักเรียนควรรู 1 มาตราริกเตอร เปนคาที่บงชี้ขนาดความรุนแรง ณ จุดศูนยกลางแผนดินไหว ซึ่งนิยมใชในปจจุบัน แบงระดับความรุนแรงไว ดังนี้ นอยกวา 3.0, 3.0-3.9 เกิด การสั่นไหวเล็กนอย 4.0-4.9 เกิดการสั่นไหวปานกลาง ผูคนสามารถรูสึกได และอาคารอาจเกิดความเสียหาย 5.0-5.9, 6.0-6.9 เกิดการสั่นไหวรุนแรงถึง รุนแรงมาก ตามลําดับ อาคารเริ่มพังทลายเสียหาย และตั้งแต 7.0 ขึ้นไป เกิดการสั่นไหวอยางรุนแรงมาก แผนดินอาจแยกตัว อาคารสิ่งกอสรางพังทลาย เกร็ดแนะครู ครูควรนําภาพขาวหรือวีดิทัศนเกี่ยวกับการเกิดแผนดินไหวมาใหนักเรียน พิจารณาในขั้นตอนของกิจกรรมการเรียนรูที่เหมาะสม เพื่อใหนักเรียนเกิดความ สนใจและเขาใจลักษณะการเกิดแผนดินไหวไดชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากนักเรียน สวนใหญไมเคยมีประสบการณที่เกี่ยวของกับภัยแผนดินไหว ภัยทางธรรมชาติในขอใดจัดอยูในแหลงการเกิดเดียวกัน 1. พายุหมุน ฟาผา สึนามิ 2. ฟาผา สึนามิ การกัดเซาะชายฝง 3. อุทกภัย แผนดินไหว ภูเขาไฟปะทุ 4. ภาวะโลกรอน พายุหมุน พายุทอรนาโด 5. สึนามิ การกัดเซาะชายฝง ภาวะโลกรอน ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ภาวะโลกรอน พายุหมุน พายุทอรนาโด เนื่องจากเปนภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบรรยากาศภาค) นํา สอน สรุป ประเมิน T168


180 ํ 0 ํ 20 ํE 60 ํE 100 ํE 140 ํE 140 ํW 100 ํW 60 ํW 20 ํE20 ํW 40 ํE 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 0 ํ40 ํW 20 ํS 20 ํN 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 40 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 ตื้น 0-70 กม. ปานกลาง 71-300 กม. ลึกมากกวา 300 กม. ระดับความลึกของจุดศูนยกลางแผนดินไหว ขนาด ความรุนแรง ผลกระทบ น้อยกว่า 3.0 3.0 - 3.9 4.0 - 4.9 5.0 - 5.9 6.0 - 6.9 7.0 - 7.9 มากกว่า 8.0 I - II III IV - V VI - VII VII - VIII IX - X XI - XII ประชาชนไม่รู้สึก ตรวจวัดได้เฉพาะเครื่องมือ คนอยู่ในบ้านเท่านั้นรู้สึก ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกได้ ประชาชนทุกคนรู้สึก และอาคารเสียหาย ประชาชนตื่นตกใจ และอาคารเสียหายปานกลาง อาคารเสียหายอย่างมาก อาคารเสียหายเกือบทั้งหมด 5.2) ความรุนแรงของแผ่นดินไหว (intensity)  เป็นการวัดจากความรู้สึกที่รับรู้  และผลกระทบจากความเสียหายที่มีต่อคน  โครงสร้าง  อาคาร  และพื้นดิน  ใช้มาตราเมอร์คัลลี ปรับปรุง ซึ่งมีค่าระหว่าง I - XII ความรุนแรงมีผลกระทบ ดังตาราง 6) การกระจายการเกิดแผ่นดินไหวของโลก       จากแผนที่ ระดับความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวส่วนใหญ่อยู่บริเวณวงแหวน แห่งไฟในบริเวณแนวรอยต่อแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกที่มีการขยายตัวตลอดเวลา ซึ่งระดับความลึก ของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์  เช่น  แผ่นดินไหว ที่ประเทศเปรู  เมื่อเดือนสิงหาคม  พ.ศ. 2555  มีขนาด 6.1  บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวมีประชากร ที่มา : www.dmr.go.th/กรมทรัพยากรธรณี แผนที่แสดงการกระจายการเกิดแผ่นดินไหวของโลกในช่วง พ.ศ. 2543 - 2561 ที่มา: https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/ 161 และผลกระทบจากความเสียหายที่มีต่อคน  โครงสร้าง  อาคาร  และพื้นดิน  ใช้มาตราเมอร์คัลลี ปรับปรุง ซึ่งมีค่าระหว่าง I - XII ความรุนแรงมีผลกระทบ ดังตาราง 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร • การเกิดแผนดินไหวในปจจุบันมีลักษณะเปน อยางไร ยกตัวอยางประกอบพอสังเขป (แนวตอบ แผนดินไหวที่เกิดขึ้นในปจจุบัน มีความบอยครั้งและทวีความรุนแรง เพิ่มมากขึ้น เชน แผนดินไหวที่ประเทศ เนปาล ขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งเกิดจากแผนเปลือกโลกอินเดีย มุดตัวใตแผนเปลือกโลกยูเรเชีย ในลักษณะ รอยเลื่อนยอนมุมตํ่า ไปในทางทิศเหนือ โดยประมาณ สงผลใหมีผูเสียชีวิตมากกวา 8,000 คน และบาดเจ็บมากกวา 17,800 คน) นักเรียนควรรู 1 มาตราเมอรคัลลีปรับปรุง ผูพัฒนามาตราวัดความรุนแรงของแผนดินไหว ดังกลาว ไดแก Harry Wood และ Frank Neumann ซึ่งเปนนักวิชาการ แผนดินไหวชาวอเมริกัน และเขาไดปรับปรุงขึ้นใชใน ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) ความรุนแรงของแผนดินไหวตามมาตราวัดความรุนแรงของแผนดินไหวของ เมอรคัลลีที่ปรับปรุงแลวมี 12 ระดับ จากระดับความรุนแรงที่นอยมากจน ไมสามารถรูสึกไดซึ่งตองตรวจวัดดวยเครื่องมือวัดแผนดินไหวเทานั้น จนถึง ขั้นรุนแรงที่สุดจนทุกสิ่งทุกอยางพังพินาศ และใชหนวยระดับเปนตัวเลขโรมัน สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหว ไดที่ http://www.dmr.go.th/main.php?filename=severity กรมทรัพยากรธรณี ครูอาจมอบหมายใหนักเรียนสืบคนแผนที่แสดงการกระจาย การเกิดแผนดินไหวของโลกในชวง พ.ศ. 2543-2561 จากแหลง การเรียนรูอื่น พรอมทั้งสรุปสาระสําคัญ แลวจัดทําเปนบันทึก การสืบคนความรู กิจกรรม สรางเสริม ครูอาจมอบหมายใหนักเรียนอานและสรุปสาระสําคัญจาก แผนที่แสดงการกระจายการเกิดแผนดินไหวของโลกในชวง พ.ศ. 2543-2561 นํา สอน สรุป ประเมิน T169


รอยเลอื่นแมจัน รอยเล่อืนแมอิงรอยเลอ่ืนปว รอยเลอ่ืนพะเยา รอยเลอ่ืนแมทา รอยลเื่อนแมฮองสอนรอยเลื่อนเมย รอยเลื่อนเถินรอยเล่อืนอุตรดิตถ รอยเลอื่นเพชรบูรณ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลอ่ืนเจดยีสามองค รอยเลื่อนระนอง รอยเลื่อนคลองมะรุย กลุ่มรอยเลื่อน รายชื่อจังหวัด   1. แม่จัน เชียงราย เชียงใหม่   2. แม่อิง เชียงราย   3. แม่ฮ่องสอน แม่ฮ่องสอน ตาก   4. เมย ตาก ก�าแพงเพชร   5. แม่ทา เชียงใหม่ ล�าพูน เชียงราย   6. เถิน ล�าปาง แพร่   7. พะเยา พะเยา เชียงราย ล�าปาง   8. ปัว น่าน   9. อุตรดิตถ์ อุตรดิตถ์ 10. เจดีย์สามองค์ กาญจนบุรี 11. ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ตาก 12. ระนอง ระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ พังงา 13. คลองมะรุ่ย สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา 14. เพชรบูรณ์ เพชรบูรณ์ กลุ่มรอยเลื่อนมีพลังพาดผ่านประเทศไทย อาศัยอยู่หนาแน่น แต่ไม่มีความเสียหาย เนื่องจากระดับความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ในระดับปานกลาง 143 กิโลเมตรจากพื้นดิน ขณะที่เดือนเดียวกันที่เมืองตาบริซประเทศอิหร่าน เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ระดับความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว 9.9 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ใน ระดับตื้น ส่งผลให้หมู่บ้านเสียหาย มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจ�านวนมาก แสดงว่าระดับ ความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวในระดับตื้นจะอันตรายมากกว่าระดับลึก แผนที่รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย   การเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย เกิดจากการ ปลดปล่อยพลังงานที่สะสมของรอยเลื่อนมีพลัง จ�านวน 14 กลุ่ม พบอยู่ ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ ของประเทศเนื่องจากเป็นรอยเลื่อนขนาดเล็ก ท�าให้เกิด แผ่นดินไหวไม่รุนแรงมากแผ่นดินไหวที่เกิดรุนแรง เช่น แผ่นดินไหวที่มีจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ อ�าเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย  เมื่อวันที่ 5  พฤษภาคม พ.ศ. 2557เนื่องจากมีแนวรอยแยก เป็นจ�านวนมาก กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 6.3 ลึก 7.4กม. ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 100 ปี     ศูนย์กลางแผ ่นดินไหวขนาดใหญ ่ และมีผลต่อไทย มักอยู่บริเวณหมู่เกาะ อันดามัน อินโดนีเซีย เมียนมา ทางตอนใต้ของจีน และ ทางตอนเหนือของลาว ที่มา : กรมทรัพยากรธรณี 162 แผนที่รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร • การเกิดแผนดินไหวจะสงผลตอประเทศไทย อยางไรบาง (แนวตอบ ในประเทศไทยไมมีแนวรอยเลื่อน ขนาดใหญของแผนเปลือกโลก มีเพียง แนวรอยเลื่อนขนาดเล็กในภาคเหนือ ภาค ตะวันตก และภาคใต ผลที่ประเทศไทย จะไดรับหากเกิดแผนดินไหวที่สําคัญ คือ แรงสั่นสะเทือนที่กอใหเกิดความเสียหายแก สิ่งกอสราง และอาจเกิดสึนามิที่ซัดเขา ทําลายพื้นที่ชายฝง อันเนื่องมาจากการ เกิดแผนดินไหวอยางรุนแรงในประเทศ เพื่อนบาน) 4. ครูใหนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนที่รอยเลื่อน มีพลังในประเทศไทย จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวสุมนักเรียนออกมา อธิบายความหมายและแสดงขอคิดเห็น เกี่ยวกับแผนที่ จากนั้นครูและนักเรียนอภิปราย ขอคิดเห็นดังกลาวรวมกัน นักเรียนสืบคนแผนที่แสดงขอมูลแผนดินไหวในประเทศไทย จากแหลงการเรียนรูอื่น พรอมทั้งสรุปสาระสําคัญ แลวจัดทําเปน บันทึกการสืบคนความรู กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนอานและสรุปสาระสําคัญจากแผนที่แสดงบริเวณ เสี่ยงภัยแผนดินไหวในประเทศไทยลงในสมุดสงครูผูสอน นักเรียนควรรู 1 รอยเลื่อนมีพลัง รอยเลื่อนบนเปลือกโลกที่สามารถตรวจสอบได หรือมี หลักฐานทางธรณีวิทยาวายังคงมีการเลื่อนตัวอยูในปจจุบัน และอาจมีการเลื่อนตัว อีกในอนาคต สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณแผนดินไหว ไดที่ http://www.earthquake.tmd.go.th/home.php กองเฝาระวังแผนดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา นํา สอน สรุป ประเมิน T170


กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค 7) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากแผ่นดินไหวรุนแรง 1. เกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินรุนแรง  ท�าให้สิ่งก่อสร้างพัง แผ่นดินแยก หรือแผ่นดินทรุด ผู้คนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 2. เกิดไฟไหม้การเกิดแผ่นดิน ไหวรุนแรงในพื้นที่ชุมชนที่มีการใช้แก๊สหุงต้ม เมื่อท่อแก๊สรั่ว จะท�าให้เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง และอาจท�าให้มีการเสียชีวิตตามมาด้วย 3. เกิดสึนามิ จากการเกิด แผ ่นดินไหวรุนแรงใต้ทะเล หรือมหาสมุทร ซึ่งท�าลายอาคารสิ่งก่อสร้าง ทรัพย์สินและชีวิต มนุษย์จ�านวนมากบริเวณชายฝั่งทะเล 4. เกิดแผ ่นดินถล ่มในพื้นที่ เทือกเขาหรือพื้นที่ลาดชัน ท�าให้อาคารบ้านเรือน ที่อยู่เชิงเขาพังทลายและอาจมีการเสียชีวิตของ ผู้คนจ�านวนมากได้ 8) เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น สาเหตุ : เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 ได้เกิด แผ ่นดินไหวบนบก ขนาด 7.8 ที่ระดับความลึก 15 กิโลเมตร จากผิวโลก จุดศูนย์กลางเกิดห่าง จากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 77 กิโลเมตร สาเหตุเกิดจากแผ่นเปลือก โลกอินเดียมุดตัวใต้แผ ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ใน ลักษณะรอยเลื่อนย้อนมุมต�่า (thrust fault) ไปใน ทางทิศเหนือโดยประมาณ สภาพความเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหว ประเทศเนปาล ผลกระทบ : ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนระบบสาธารณูปโภคเสียหายจ�านวนมากโบราณสถานหลายแห่ง ที่มีอายุหลายร้อยปี เช่น หอภีมเสน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวส�าคัญในกรุงกาฐมาณฑุถูกท�าลายเสียหาย จนไม่เหลือสภาพเดิม สหประชาชาติประเมินว่าบ้านเรือนกว่า 70,000 หลัง เสียหายจนไม่สามารถ ซ่อมแซมได้ อีกกว่า 530,000 หลังเสียหาย คาดว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 8,000 คน บาดเจ็บมากกว่า  17,800 คน และจากการประเมินเบื้องต้นของส�านักงานส�ารวจด้านธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกาคาดว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของเนปาลประมาณ 1,000 - 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหตุการณ์ แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล พ.ศ. 2558   แผ่นดินแยกและทรุดตัวลงจากแรงสั่นสะเทือนของ   แผ่นดินไหวที่รุนแรง 163 ลักษณะรอยเลื่อนย้อนมุมต�่า  1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 2 กลุม แขงขันกัน ใชสมารตโฟนสืบคนเหตุการณแผนดินไหว ที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ตางๆ ของโลก กลุมใดทําการสืบคนเหตุการณแผนดินไหว ที่เคยเกิดขึ้นไดมากที่สุดถือเปนฝายชนะ 6. ครูใหนักเรียนวิเคราะหรวมกันวา หากนักเรียน เปนผูประสบภัยแผนดินไหว จะมีวิธีการจัดการ อยางไร ทั้งในชวงกอนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนดินไหวไดจากภาพยนตรสารคดีสั้น Twig เรื่อง การใชชีวิตบนอันตราย http://www.twig-aksorn.com/fif ilm/living-onthe-edge-7981/ นักเรียนทํากิจกรรมกลุมรวมกัน โดยการสาธิตการปฏิบัติตน เพื่อการปองกันและระวังภัยจากเหตุการณแผนดินไหว โดยจําลอง จากสถานการณที่เกิดขึ้นจริงในดินแดนตางๆ ของโลก รวมถึง ในประเทศไทย โดยสาธิตในโอกาสและในสถานที่ตางๆ เชน ใน วันแสดงนิทรรศการวิชาการของโรงเรียน สถานที่ เชน บริเวณหนา เสาธง หอประชุม หนาชั้นเรียน ฯลฯ และอาจใหผูชมไดมีโอกาส เขารวมกิจกรรมในเหตุการณจําลองนั้น หรือมีการตอบคําถาม หรือมีสวนรวมในการแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ตองจัดกิจกรรมให อยูภายในเวลาที่กําหนด นักเรียนควรรู 1 รอยเลื่อนยอนมุมตํ่า เปนรูปแบบของรอยเลื่อนที่เปนผลเนื่องมาจากหิน เกิดการเคลื่อนที่ยอนกลับจากรอยเลื่อนปกติ (normal fault) ดวยมุมที่นอยกวา 45 องศาจากกระบวนการแปรสัณฐาน นํา สอน สรุป ประเมิน T171


ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET 9) การจัดการภัยพิบัติแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวเกิดขึ้นฉับพลัน ดังนั้น จึงควรมี มาตรการเตรียมตัว วิธีป้องกัน และการปฏิบัติตนให้รอดจากภัยพิบัติ ดังนี้ 9.1) มาตรการ ในกรณีที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยมีมาตรการ ดังนี้     1. สนับสนุนให้มีการตรวจสภาพของอาคารสิ่งก่อสร้าง หากไม่แข็งแรง ให้ท�าการเสริมความแข็งแรง     2. จัดให้มีการซักซ้อมการหลบภัยจากแผ่นดินไหว     3. เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวทางสื่อสาธารณะให้ประชาชนรับรู้ อย่างทั่วถึง 9.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้     1. ออกแบบอาคารและสิ่งก่อสร้างให้สามารถรับแรงแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้     2. ศึกษาข้อมูลภัยพิบัติแผ่นดินไหวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเข้าร่วมการ หลบภัยในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว     3. ตรวจสอบสภาพอาคารที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน  ท�าการยึด เครื่องเรือนให้มั่นคง และไม่ควรวางสิ่งของที่มีน�้าหนักมากไว้บนที่สูง 9.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ 1.  ติดตามข่าวสารจากทางราชการ อย่างต่อเนื่อง 2.  เตรียมสิ่งของจ�าเป็นไว้ใกล้ตัว เช่น  น�้าดื่ม อาหารแห้ง ยา รักษาโรค ไฟฉาย 3.  สังเกตสัญญาณภัยพิบัติเช่น พฤติกรรมแปลก ๆ ของสัตว์ เช่น หนูวิ่งเพ่นพ่าน สุนัขเห่า หอนไม่หยุด เพื่อจะได้ระวัง และเตรียมรับมือได้ทัน 1.  ให้ตรวจสอบร่างกายตนเอง และคนข้างเคียง และควร รีบออกจากอาคารที่เสียหาย ทันทีเพราะอาจพังทลายลง มาได้หากเกิดอาฟเตอร์ช็อก ตามมา 2.  หากเดินท่ามกลางซากปรัก หักพัง ให้สวมรองเท้าหุ้มส้น เพื่อป้องกันอันตรายจากเศษ แก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่น ๆ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1.  กรณีที่อยู่ในอาคาร ให้ระวัง สิ่งของที่อยู ่สูงตกใส ่ศีรษะ ให้ถอยออกห ่างจากประตู หน้าต่างและกระจก ถ้าการ สั่นไหวรุนแรงให้หลบอยู ่ ใต้ โต๊ะ ใต้เตียง  2.  ขณะเกิดเหตุห้ามใช้ลิฟต์ 3.  ถ้าอยู ่นอกอาคาร ควรอยู ่ ห่างจากอาคารสูง  ก�าแพง และเสาไฟฟ้า 164 มาได้หากเกิดอาฟเตอร์ช็อก1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 7. ครูกระตุนใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถาม เชิงภูมิศาสตร เชน • ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เกิดขึ้นใน แตละภูมิภาคของโลกมีความสัมพันธกับ ลักษณะภูมิประเทศอยางไร • ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เกิดขึ้น ในภูมิภาคตางๆ ของโลก มีความเหมือน หรือแตกตางกัน อยางไร • ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เกิดขึ้นใน ภูมิภาคตางๆ ของโลกมีความรุนแรงและ สรางความเสียหายอยางไร • แนวทางการปฏิบัติตนใหปลอดภัยจาก ปญหาหรือภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาค ควรทําอยางไร นักเรียนควรรู 1 อาฟเตอรช็อก หรือแผนดินไหวตาม เปนแผนดินไหวขนาดเล็กกวาที่เกิดขึ้น ในบริเวณเดียวกันหรือใกลเคียง ซึ่งอาจเกิดตอเนื่องเปนระยะเวลานานนับสัปดาห หรือเดือน หรืออาจนานเปนป เปนผลจากการปรับลดแรงเคนที่ยังคงคางเหลืออยู จากเหตุการณแผนดินไหวหลัก บุคคลใดปฏิบัติตนตามแนวทางการระวังภัยจากแผนดินไหว ไดอยางถูกตอง 1. หลุยสรีบลงจากตึกสูงโดยใชลิฟต 2. จอหนหลบภัยบริเวณชายฝงทะเล 3. เจมสคนหาสิ่งอุปโภคบริโภคเมื่อเกิดภัย 4. ลีโอเขารวมฝกซอมการหลบภัยแผนดินไหว 5. แมทธิวหลบอยูใตอาคารสูงขณะเกิดเหตุแผนดินไหว ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ลีโอเขารวมฝกซอมการหลบภัย แผนดินไหว เปนแนวทางการระวังภัยจากแผนดินไหวที่ถูกตอง เนื่องจากเมื่อประสบภัยลีโอจะสามารถปฏิบัติตนไดอยางเหมาะสม สวนบุคคลอื่นลวนปฏิบัติตนไมถูกตองตามแนวทางการระวังภัย จากแผนดินไหว เชน การรีบลงจากตึกสูงโดยใชลิฟตของหลุยส ซึ่งอาจจะติดอยูในลิฟต เนื่องจากกระแสไฟฟาขัดของได) นํา สอน สรุป ประเมิน T172


ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET Geo Tip 1.2 ภูเขาไฟปะทุ (volcanic eruption) 1) ค�าจ�ากัดความ ภูเขาไฟปะทุเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่มีความรุนแรง แตกต่างกันไปตามลักษณะการปะทุและประเภทของการปะทุ  ทั่วโลกมีภูเขาไฟมีพลังประมาณ  1,500 ลูก ส่วนใหญ่อยู่ตามแนววงแหวนแห่งไฟในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก การปะทุของภูเขาไฟ มีหลายแบบ  เช่น  แบบแมกมาแทรกดันหรือพุขึ้นมาตามรอยแตก  หรือปะทุจากปล่อง  จนเหนือ พ้นพื้นผิวเปลือกโลก หรือเกิดการปะทุอย่างรุนแรงท�าให้ฝุ่น เถ้าธุลี แก๊ส ไอน�้า และเศษหินภูเขาไฟ จ�านวนมากปะทุสูงขึ้นไปในอากาศเป็นระยะ 5 - 20 กิโลเมตร 2) กระบวนการเกิดภูเขาไฟปะทุ ภายใต้เปลือกโลกมีการไหลเวียนของแมกมาอยู่ ตลอดเวลา เมื่อเปลือกโลกมีจุดอ่อน เช่น รอยต่อระหว่างเปลือกโลก การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ในบริเวณรอยต่อดังกล่าว เช่น การมุดเข้าหากัน หรือแยกออกจากกัน ท�าให้แมกมาที่อยู่ภายใต้ มีแรงดันที่สูงจึงเคลื่อนตัวขึ้นสู่ผิวโลกผ่านรอยแตกของชั้นหินต่าง ๆ ลักษณะการปะทุขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบของแมกมาในบริเวณนั้น ประเภทของภูเขาไฟ   ภูเขาไฟแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท แต่โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามการปะทุ ดังนี้ 1. ภูเขาไฟมีพลัง (active  volcano) เป็นภูเขาไฟที่ยัง คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา  อาจปะทุ หรือระเบิดขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ เช่น ภูเขาไฟเอ็ตนา ในเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี ภูเขาไฟเมอราปี ประเทศอินโดนีเซีย ภูเขาไฟ อารีนอล ประเทศคอสตาริกา 2. ภูเขาไฟสงบ (dormant  volcano)  เป็นภูเขาไฟที่ปะทุแล้ว และสงบอยู่  เมื่อมีพลังเพิ่มพูนขึ้น ใหม่มากพอ ก็อาจปะทุขึ้นมาอีกได้ เช ่น ภูเขาไฟเวซูเวียส ประเทศ อิตาลี ภูเขาไฟฟุจิ ประเทศญี่ปุ่น 3. ภูเขาไฟดับสนิท (extinct volcano) เป็นภูเขาไฟ ที่ไม ่มีการปะทุอีกต ่อไป เช ่น  เขาพนมรุ้ง ประเทศไทย ภูเขาไฟ บูนินยง ประเทศออสเตรเลีย   ภูเขาไฟเอ็ตนา   ภูเขาไฟเวซูเวียส   ภูเขาไฟบูนินยง 165 1,500 ลูก ส่วนใหญ่อยู่ตามแนววงแหวนแห่งไฟในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก การปะทุของภูเขาไฟ พ้นพื้นผิวเปลือกโลก หรือเกิดการปะทุอย่างรุนแรงท�าให้ฝุ่น เถ้าธุลี แก๊ส ไอน�้า และเศษหินภูเขาไฟ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 การรวบรวมขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5-7 คน สืบคน ขอมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาค ตลอดจนสาเหตุ ลักษณะทางกายภาพที่เปน จุดเสี่ยงตอการเกิดภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาค เหตุการณภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยและ ภูมิภาคตางๆ ของโลก สถิติการเกิดเหตุการณ ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เคยเกิดขึ้น ในประเทศไทยและภูมิภาคตางๆ ของโลก และแนวทางการจัดการภัยพิบัติธรรมชาติ ทางธรณีภาคประเภทตางๆ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจากแหลงการเรียนรู อื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตใน อินเทอรเน็ต ประกอบการใชเครื่องมือทาง ภูมิศาสตรตามประเด็น ดังนี้ • แผนดินไหว • ภูเขาไฟปะทุ • สึนามิ • แผนดินถลม 2. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับประเภท ของภูเขาไฟ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพื่อเปนการรวบรวมขอมูลเพิ่มเติม 3. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่เชื่อถือได ใหกับนักเรียนเพิ่มเติม การศึกษาเกี่ยวกับภูเขาไฟมีพลังในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต ควรดําเนินการในประเทศใดบาง 1. ลาว มาเลเซีย 2. ไทย เวียดนาม 3. ฟลิปปนส ไทย 4. กัมพูชา อินโดนีเซีย 5. อินโดนีเซีย ฟลิปปนส ( วิเคราะหคําตอบ ตอบ 5. การศึกษาเกี่ยวกับภูเขาไฟที่ยังมีพลัง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตควรดําเนินการในประเทศที่ เปนแหลงของภูเขาไฟ ไดแก ประเทศอินโดนีเซีย มีภูเขาไฟที่ยังมี พลังประมาณ 33 ลูก และประเทศฟลิปปนส มีภูเขาไฟที่ยังมีพลัง ประมาณ 25 ลูก) นักเรียนควรรู 1 แนววงแหวนแหงไฟ แนวของตําแหนงแผนดินไหวและภูเขาไฟมีพลัง ซึ่ง กระจายตัวตอเนื่องกันบริเวณขอบทวีป (continental margin) รอบๆ มหาสมุทร แปซิฟก เชน ประเทศญี่ปุน ไตหวัน ฟลิปปนส นิวซีแลนด 2 แกส การปะทุของภูเขาไฟมีแกสซึ่งเปนอันตรายตอรางกายมนุษยจนถึง ขั้นเสียชีวิต เชน แกสซัลเฟอรไดออกไซด แกสไฮโดรเจนคลอไรด แกส ไฮโดรเจนซัลไฟด โดยจากสถิติที่รวบรวมไว ในระหวาง ค.ศ.1900-1986 ปรากฏวา มีผูเสียชีวิตจากแกสที่พวยพุงออกมาจากการปะทุของภูเขาไฟคิดเปนรอยละ 3 ของผูเสียชีวิตทั้งหมด นํา สอน สรุป ประเมิน T173


ประเภทของการปะทุ ลักษณะการปะทุ เป็นการปะทุที่รุนแรงมากที่สุด  มีลาวาที่เหนียวข้น  การพ่นเถ้าธุลี เศษหิน และแก๊ส ขึ้นสู่บรรยากาศชั้น สแตรโทสเฟียร์  ด้วยความเร็วมหาศาลท�าให้เศษหิน กระจายออกไปได้ ไกลจากภูเขาไฟมาก การปะทุแบบนี้ อาจท�าให้เกิดภูเขาไฟแบบกรวยกรวดภูเขาไฟ  หรือ แบบกรวยภูเขาไฟสลับชั้น เป็นการปะทุรุนแรงในระยะเวลาสั้น ๆ ลาวาที่ข้นหนืด  มีการพ ่นและระเบิดของเศษหินออกจากปล ่อง  การปะทุแบบนี้มีความรุนแรงที่ท�าให้เศษหินกระเด็น ออกไปด้วยความเร็วมากกว่านาทีละ 350 เมตร และ มีความสูงในบรรยากาศได้หลายกิโลเมตร  ท�าให้เกิด หมอกควันคล้ายดอกเห็ดในบรรยากาศ การปะทุแบบนี้ ท�าให้เกิดภูเขาไฟแบบกรวยกรวดภูเขาไฟ เป็นการปะทุของลาวาเหลวออกจากปล่อง  ท�าให้เศษ หินทับถมที่ปากปล่อง การปะทุจะเกิดขึ้นในเวลาสั้น ๆ  อาจท�าให้ลาวาพวยพุ่งไปในอากาศสูงหลายร้อยเมตร ก ่อนตกลงมา  เศษหินกระจัดกระจาย  รวมถึงเถ้า  หรือบอมบ์  และมีลาวาไหลหลากปานกลาง  ลักษณะ การปะทุแบบนี้ท�าให้เกิดภูเขาไฟหลายแบบ  เช ่น  แบบกรวยกรวดภูเขาไฟ  หรือแบบกรวยภูเขาไฟ สลับชั้น เป็นการปะทุที่มีความรุนแรงน้อยสุด มีการพ่นลาวา ร้อนเป็นล�าขึ้นไปในอากาศคล้ายน�้าพุ มีลาวาหลาก ไหลเป็นล�าธารออกจากปล่อง ลาวาที่เหลวจะสะสมกัน จนเกิดเป็นภูเขาไฟรูปโล่ 3) ประเภทการปะทุของภูเขาไฟ ตามลักษณะความรุนแรงของการปะทุ มีดังนี้ พลิเนียน (Plinian)  วัลเคเนียน (Vulcanian) สตรอมโบเลียน (Strombolian) ฮาวายเอียน (Hawaiian) 166 อาจท�าให้เกิดภูเขาไฟแบบกรวยกรวดภูเขาไฟ  หรือ แบบกรวยภูเขาไฟสลับชั้น 1 2 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การจัดการขอมูล 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก การรวบรวมมาอธิบายแลกเปลี่ยนความรูกัน 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูลที่ นําเสนอเพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอง และรวมกัน อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอ ขอมูลประกอบการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร พรอมทั้งอภิปรายแสดงความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับภูเขาไฟที่ นักเรียนไดศึกษามา แลวสุมนักเรียน 1 กลุม เพื่อใหชวยกันวิเคราะหและอธิบายความรู เกี่ยวกับภูเขาไฟปะทุ โดยชวยกันวาดภาพ การเกิดภูเขาไฟและการปะทุที่กระดานหนา ชั้นเรียน จากนั้นครูใหนักเรียนกลุมอื่นสอบถาม ขอสงสัยจนเกิดความเขาใจที่ถูกตองตรงกัน นักเรียนฝกวาดภาพการปะทุของภูเขาไฟแตละประเภท ตกแตง ใหสวยงาม พรอมทั้งวิเคราะหความเหมือน ความแตกตาง และ ตัวอยางภูเขาไฟในทวีปตางๆ ของโลก ลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของการปะทุ ของภูเขาไฟจากแหลงการเรียนรูตางๆ แลวอภิปรายรวมกันใน ชั้นเรียนถึงความแตกตางของภูเขาไฟแตละประเภท นักเรียนควรรู 1 กรวยกรวดภูเขาไฟ ภูเขาไฟที่มีลักษณะเปนเนินรูปกรวย ประกอบดวย ลาวา และ/หรือหินภูเขาไฟ เกิดจากภูเขาไฟพนลาวาและตะกอนภูเขาไฟออกมา สะสมอยูรอบๆ ปลองภูเขาไฟนั้น 2 กรวยภูเขาไฟสลับชั้น ภูเขาไฟที่มีการสลับชั้นของหินลาวาและหินตะกอน ภูเขาไฟ เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟพนลาวาออกมาแลวไหลลามออกไปรอบๆ ปลองเปนวงกวางสลับกับการตกสะสมของสิ่งตกจมภูเขาไฟ นํา สอน สรุป ประเมิน T174


ขอสอบเนน การคิด 1 : 200,000,000 0 2,000 4,000 กม. ภูเขาไฟ เขตวงแหวนแหงไฟ คำอธิบายสัญลักษณ N 1 : 200,000,000 0 2,000 4,000 กม. เขตวงแหวนแหงไฟ คำอธิบายสัญลักษณ ภูเขาไฟ N 80 ํE 100 ํE 120 ํE 140 ํE 160 ํE 180 ํ 160 ํW 140 ํW 120 ํW 100 ํW 80 ํW 40 ํW60 ํW 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 40 ํS 60 ํS 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 40 ํS 60 ํS ท.แ อนดีส ท.ร็อกกี ที่ราบสูง ทิเบต ทวีปเอเชีย ทวีป อเมริกาเหนือ ทวีป อเมริกาใต้ ทวีป ออสเตรเลีย ก.สมุ าตราก.ชวา ก.บอรเนียวก.ซูลาเวซี ก.นิวกินี มก.รีวกีว ก.ฮกไกโด ก.ฮนชู มก.คูริล มก.อะลูเชียน มก.ไลนมก.ตอูาโมตู มก.โอสทราล มก.ราทัก มก.ราสิกมก.กิลเบิรต มก.แคโรไลน ก.นิวฟนดแลนด มก.กาลาปาโกสมก.มารเคซัส มก.ฮาวาย หมูเกาะคุก หมูเกาะพิตแครน ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก มหาสมุทร อินเดีย ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ทะเลเบริง ทะเลจีนใต ทะเล ฟลิปปน ทะเลคอรัล ทะเลแทสมัน ทะเลแคริบเบียน อาวเม็กซิโก 4) สาเหตุการเกิดภูเขาไฟปะทุ มีดังนี้ 4.1) เกิดจากการเคลื่อนที่ของแมกมา มีแรงดันปะทุขึ้นเหนือแผ่นดินตามรอยต่อ ระหว่างแผ่นเปลือกโลก รอบวงแหวนแห่งไฟ เช่น ภูเขาไฟกรากะตัว ภูเขาไฟซีนาบุง  ประเทศ อินโดนีเซีย 4.2) เกิดจากจุดร้อนนอกรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก  ใต้แผ่นเปลือกโลก มีจุดร้อนที่มีแมกมาร้อนจัดพร้อมที่จะปะทุขึ้นมาเหนือผิวโลก เช่น บริเวณกลางแผ่นเปลือกโลก แปซิฟิกมีจุดร้อนที่หมู่เกาะฮาวาย 5) การกระจายของภูเขาไฟมีพลังของโลก แผนที่แสดงการกระจายของภูเขาไฟบริเวณวงแหวนแห่งไฟ       จากแผนที่ การกระจายของภูเขาไฟอยู่บริเวณวงแหวนแห่งไฟในมหาสมุทรแปซิฟิก  ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกกับแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือด้านตะวันออก และแผ่นฟิลิปปิน แผ่นอินโด-ออสเตรเลียด้านตะวันตก โดยแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกด้านตะวันออก จะมุดเข้าไปใต้แผ่นอเมริกา ขณะที่แผ่นฟิลิปปินและแผ่นอินโด-ออสเตรเลียมุดเข้าไปใต้แผ่น เปลือกโลกแปซิฟิก การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกท�าให้รอยต่อเกิดจุดอ่อนที่ส่งผลให้แมกมา ไหลขึ้นเหนือผิวดินได้ ที่มา : www.worldatlas.com 167 4.1) เกิดจากการเคลื่อนที่ของแมกมา มีแรงดันปะทุขึ้นเหนือแผ่นดินตามรอยต่อ แปซิฟิกมีจุดร้อนที่หมู่เกาะฮาวาย 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 3. ครูตั้งประเด็นอภิปรายเกี่ยวกับสาเหตุและ ปจจัยการปะทุของภูเขาไฟ เพื่อใหนักเรียนได รวมกันวิเคราะหความรูเพิ่มเติม เชน • ความสัมพันธของแมกมาและลาวากับ การปะทุของภูเขาไฟ • โครงสรางของโลกกับการปะทุของภูเขาไฟ • การเปลี่ยนแปลงทางธรณีสัณฐานของโลกกับ สาเหตุและผลกระทบของภูเขาไฟปะทุ 4. ครูตั้งคําถามเกี่ยวกับสถานการณภูเขาไฟปะทุ เพื่อใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหความรู เชน • จากการศึกษาเกี่ยวกับสถานการณภูเขาไฟ ปะทุในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต ภัยพิบัตินี้มักเกิดในประเทศใดบาง (แนวตอบ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตที่มักประสบกับภัยภูเขาไฟปะทุ ไดแก ประเทศฟลิปปนส และประเทศ อินโดนีเซีย เนื่องจากทั้งสองประเทศตั้งอยู บริเวณวงแหวนแหงไฟ ในมหาสมุทรแปซิฟก ซึ่งยังมีการเคลื่อนตัวของแผนเปลือกโลกอยู ตลอดเวลา จึงเกิดแผนดินไหวและภูเขาไฟ ปะทุบอยครั้ง ตัวอยางของภูเขาไฟที่มีพลัง เชน ภูเขาไฟเมอราปแทมโบรา และกรากะตัว ในประเทศอินโดนีเซีย ภูเขาไฟปนาตูโบ มาโยน และตาอัลในประเทศฟลิปปนส) นักเรียนควรรู 1 แมกมา สารเหลวรอนเกิดตามธรรมชาติอยูภายในโลก สามารถเคลื่อนตัว ไปมาไดในวงจํากัด อาจมีของแข็ง เชน ผลึกเศษหินแข็ง และ/หรือแกสรวมอยู ดวย หรือไมมีเลยก็ได เมื่อแทรกตัวดันขึ้นมา หรือพุพุงออกสูผิวโลกแลวจะเย็น และแข็งตัวเกิดเปนหินอัคนี 2 จุดรอน พื้นที่เล็กๆ ในชั้นเปลือกโลก ที่มีการไหลถายความรอนสูงผิดปกติ ซึ่งสัมพันธกับการเกิดภูเขาไฟ สมมติฐานในปจจุบันเชื่อวา ชั้นเนื้อโลกมีการ หลอมละลายบางสวนจนกลายเปนแมกมาที่รอนจัดมากและพุงขึ้นมายังผิวโลก เปนชวงๆ โดยมากมักสัมพันธกับการเคลื่อนที่ของแผนเปลือกโลก เชน หมูเกาะ ฮาวายทางตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟก ซึ่งสันนิษฐานวาเกิดจากจุดรอนนี้ เชนเดียวกัน ภูเขาไฟปะทุที่เกิดขึ้นในบริเวณตางๆ ของโลก มีสาเหตุสําคัญ มาจากอะไร (แนวตอบ มีสาเหตุสําคัญเกิดจากการเคลื่อนที่ของแมกมา ปะทุ ขึ้นเหนือแผนดินตามรอยตอระหวางแผนเปลือกโลกรอบวงแหวน แหงไฟ เชน ภูเขาไฟกรากะตัว ภูเขาไฟซีนาบุง ประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังเกิดจากจุดรอนนอกรอยตอระหวางแผนเปลือกโลก เชน บริเวณกลางแผนเปลือกโลกแปซิฟกมีจุดรอนที่หมูเกาะฮาวาย) นํา สอน สรุป ประเมิน T175


ขอสอบเนนการคิด 6) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากภูเขาไฟปะทุรุนแรง มีดังนี้ ภัยที่เกิดจากภูเขาไฟปะทุ ลักษณะ เป็นแก๊สที่ละลายเป็นของเหลวอยู่ ในแมกมา มีความเป็นกรดจัด ประกอบด้วย  ไอน�้า คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ และไฮโดรเจนเฮไลด์ ซึ่งเมื่อ ปะทุเป็นกลุ่มควันขึ้นสู่บรรยากาศลอยไปตามกระแสลม  และเมื่อตกลงมา คล้ายฝนกรดที่เป็นพิษ เมื่อสัมผัส หรือสูดดมเข้าสู่ร่างกาย จะท�าให้เกิดความ ระคายเคืองที่ผิวหนัง เป็นตะกอนภูเขาไฟขนาดต่าง ๆ ที่ถูกพ่นออกมาจากภูเขาไฟ และถูกพัดพาไป ในอากาศ ฝุ่นภูเขาไฟ เถ้าธุลีภูเขาไฟ ตะกรันภูเขาไฟ บอมบ์ภูเขาไฟ เมื่อ เวลานานมากขึ้นจะผุพังอยู่รวมกันรอบภูเขาไฟ หากอยู่บนพื้นที่ลาดชันและมี ฝนตกมากอาจท�าให้เกิดการถล่ม เป็นอันตรายต่อผู้คน สิ่งก่อสร้าง และชุมชน ที่อยู่รอบเชิงเขาได้ เป็นลาวาเหลวไหลออกไปจากปล่องภูเขาไฟ หรือรอยแตกของเปลือกโลก มีลักษณะเหมือนล�าธารลาวา ไหลเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ก่อนที่จะแข็งตัว สามารถ ท�าลายอาคารและทรัพย์สินที่เคลื่อนผ่านได้ แรงสั่นสะเทือนและแรงดันของแมกมาท�าให้หิน  ดิน  ด้านข้างของภูเขาไฟ เกิดการพังทลายเป็นแผ่นดินถล่ม  เคลื่อนที่ลงสู่พื้นที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว  ดังตัวอย่างภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ที่เกิดใน พ.ศ. 2523 เป็นฝุ่นและเถ้าธุลีภูเขาไฟที่ไหลออกมาจากปล่องภูเขาไฟ แล้วไหลลงไปกอง ทับถมกันด้านข้างของภูเขาไฟ รวมตัวกับน�้าจากฝนหรือหิมะละลาย ท�าให้มี ลักษณะเป็นโคลนไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่างของภูเขาไฟทับถมบ้านเรือน และพื้นที่ การเกษตรเสียหาย เป็นฝุ่น  เถ้าธุลี  และเศษหินภูเขาไฟที่มีอุณหภูมิสูงมาก  ปะทุออกจากปล่อง ภูเขาไฟแล้วไหลลงไปตามความลาดของขอบด้านข้างลงสู ่ด้านล ่างอย ่าง รวดเร็ว จะเผาไหม้สิ่งต่าง ๆ ที่หินตะกอนภูเขาไฟหลากเคลื่อนผ่าน แก๊สภูเขาไฟ (volcanic gas) ทีฟรา (tephra) ลาวาหลาก (lava flow) แผ่นดินถล่มจากภูเขาไฟปะทุ ลาฮาร์ (lahar) หินตะกอนภูเขาไฟหลาก  (pyroclastics) 168 ในอากาศ ฝุ่นภูเขาไฟ เถ้าธุลีภูเขาไฟ ตะกรันภูเขาไฟ บอมบ์ภูเขาไฟ เมื่อ 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • ลักษณะของภูเขาไฟในประเทศไทยเปน อยางไร อธิบายพรอมยกตัวอยางประกอบ พอสังเขป (แนวตอบ ภูเขาไฟในประเทศไทยมีอยู ทั่วทุกภูมิภาค โดยมีลักษณะเปนภูเขาไฟ รูปโลที่มีความลาดชันนอย อันเกิดจากการ ไหลของลาวาแบบบะซอลตออกเปนบริเวณ กวาง อยางไรก็ตาม ภูเขาไฟสวนใหญใน ประเทศไทยเปนภูเขาไฟที่ดับ หรือสงบแลว ตัวอยางของจังหวัดที่มีภูเขาไฟในแตละ ภาค เชน จังหวัดลําปาง จังหวัดเชียงราย ในภาคเหนือ จังหวัดสุโขทัย จังหวัด กําแพงเพชร ในภาคกลาง จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดจันทบุรี ในภาคตะวันออก จังหวัด กาญจนบุรี จังหวัดตาก ในภาคตะวันตก และจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดศรีสะเกษ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) นักเรียนควรรู 1 เถาธุลีภูเขาไฟ (volcanic ash) เปนชิ้นสวนของวัตถุที่พนออกมาจาก ชองปะทุภูเขาไฟ มีขนาดไมเกิน 4 มิลลิเมตร ถามีขนาดระหวาง 1 4-4 มิลลิเมตร จัดเปนเถาธุลีหยาบ ถาขนาดตํ่ากวา 1 4 มิลลิเมตร จัดเปนเถาธุลีละเอียด บางครั้งอาจเรียกวา ฝุนภูเขาไฟ (volcanic dust) 2 ตะกรันภูเขาไฟ (scoria) เปนชิ้นสวนหินภูเขาไฟซึ่งถูกระเบิดกระจายขึ้น ไปในอากาศแลวแข็งตัวตกลงมายังพื้นโลก โดยมากสีคลํ้า มีรูพรุน เนื้อเปนแกว แกมผลึก หากมีขนาดเล็กอยูระหวาง 4-32 มิลลิเมตร เรียกวา กรวดภูเขาไฟ 3 บอมบภูเขาไฟ (volcanic bomb) เปนวัตถุที่เปนกอนซึ่งเกิดจากการ ปะทุของภูเขาไฟ ผิวนอกแสดงลักษณะของของเหลวที่แข็งตัวในอากาศแลวจึง ตกลงมา มีลักษณะมน และอาจมีรูปรางไดหลายแบบ เมื่อเกิดเหตุการณภูเขาไฟปะทุรุนแรงขึ้น จะกอใหเกิดภัยใด ตามมา (แนวตอบ เมื่อเกิดการปะทุของภูเขาไฟอยางรุนแรง จะกอให เกิดภัยตางๆ ตามมา เชน แกสภูเขาไฟ ซึ่งอาจเปนอันตรายตอ รางกายมนุษย ทีฟรา หากอยูบนพื้นที่ลาดชันและมีฝนตกมาก อาจทําใหเกิดการถลมทับผูคนและชุมชนรอบเชิงเขา ลาฮาร หาก รวมกับฝนอาจทําใหเกิดโคลนไหลทับถมบานเรือนและพื้นที่เกษตร เสียหาย ลาวาหลาก ที่สามารถทําลายอาคารและทรัพยสินตางๆ หินตะกอนภูเขาไฟหลาก ซึ่งอาจเผาไหมสิ่งตางๆ ที่เคลื่อนผานได) นํา สอน สรุป ประเมิน T176


7) เหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น เหตุการณ์การปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟเมอราป บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เถ้าภูเขาไฟจากการปะทุของภูเขาไฟโวลกันเดฟวยโก ท่วมทับชุมชนที่ประสบภัยพิบัติ สาเหตุ : เกิดจากแมกมาใต้เปลือกโลก ส่งผลให้ หินหนืดนั้นถูกดันขึ้นมาตามรอยแยกของแผ ่น เปลือกโลก และด้วยพลังงานมหาศาล จึงท�าให้ ภูเขาไฟเมอราปีปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม  พ.ศ. 2553 ผลกระทบ : ท�าให้มีกลุ่มควันสีขาวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ในระดับความสูงมากกว ่า 6,000 เมตร รวมทั้ง มีลาวาและเถ้าถ ่านไหลลงมาตามที่ลาดเชิงเขา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 คน ประชาชน ราว 90,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย  และมีทรัพย์สินเสียหายเป็นจ�านวนมาก สาเหตุ : เกิดในบริเวณการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลก ท�าให้มีการเคลื่อนไหลของแมกมาขึ้นสู ่ผิวโลก ตามรอยแตกของแผ่นเปลือกโลก ภูเขาไฟโวลกันเดฟวยโก (Volca ' n de Fuego) เป็นภูเขาไฟมีพลัง  มีความสูง 3,763 เมตร เคยปะทุรุนแรงมามากกว่า  60 ครั้ง และได้ส่งสัญญาณการสั่นสะเทือนด้วย การพ่นแก๊สและลาวาจากปล่องต่อเนื่องมานาน  โดยแต ่ละปียังคงมีการคุกรุ ่นและปะทุเป็นระยะ  และในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน พ.ศ. 2561  ก็มีการปะทุที่รุนแรงอีกครั้ง เหตุการณ์ ภูเขาไฟเมอราปปะทุในประเทศอินโดนีเซีย พ.ศ. 2553 เหตุการณ์ ภูเขาไฟโวลกันเดฟวยโกปะทุในประเทศกัวเตมาลา พ.ศ. 2561 ผลกระทบ : ท�าให้มีการปะทุของแก๊ส เถ้าธุลี และเศษหินภูเขาไฟที่มีอุณหภูมิสูง การปะทุครั้งนี้ท�าให้ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน สูญหายอีกกว่า 200 คน แม้จะมีการอพยพชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟ ให้ออกห่างจากเขตอันตราย แต่อาคารที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินต้องสูญเสียเป็นจ�านวนมาก 169 มีลาวาและเถ้าถ ่านไหลลงมาตามที่ลาดเชิงเขา 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 5. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและอธิบาย ผลกระทบเมื่อเกิดภูเขาไฟปะทุ โดยแบงเปน ผลกระทบในดานบรรยากาศภาค ธรณีภาค อุทกภาค และชีวภาค แลวใหนักเรียนอภิปราย ขอสงสัยจนเกิดความเขาใจที่ถูกตองตรงกัน นักเรียนสืบคนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณภูเขาไฟปะทุรุนแรง ของโลก จากแหลงการเรียนรูตางๆ ในประเด็น ชื่อเหตุการณ ปที่เกิด สาเหตุ จํานวนผูเสียชีวิต โดยนําเสนอขอมูลในรูปแบบ เสนเวลา (Timeline) ติดภาพประกอบ พรอมตกแตงใหสวยงาม นําเสนอหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 ลาวา แมกมาใตเปลือกโลกที่พุพนเปลือกโลก ไหลลามออกไปจากปลอง ภูเขาไฟแบบปะทุพน (effusive volcano) หรือจากรอยแยกของเปลือกโลก ขณะที่ยังรอนและไมแข็งตัว มีลักษณะเหนียวหนืด สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูเขาไฟไดจากภาพยนตรสารคดีสั้น Twig เรื่อง วันสุดทายของเมืองปอมเปอี https://www.twig-aksorn.com/film/thelast-day-of-pompeii-7988/ นํา สอน สรุป ประเมิน T177


ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET 8) การจัดการภัยพิบัติภูเขาไฟปะทุ 8.1) มาตรการ ที่ส�าคัญ มีดังนี้     1. ต้องมีการเตือนภัยล่วงหน้าว่าภูเขาไฟจะเกิดการปะทุ จะเกิดขึ้นเมื่อไร จะต้องมีการอพยพหรือไม่ จะช่วยลดจ�านวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต การสูญเสียทรัพย์สินจากการ ปะทุของภูเขาไฟได้มากที่สุด     2. ต้องมีการประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับภัยแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุ ทางสื่อสาธารณะให้ประชาชนรับรู้อย่างทั่วถึง     3. เตรียมแผนรับมือและมีแผนส�ารองแม้ยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ซักซ้อมการ อพยพและช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ 8.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้     1. ให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังประสบภัยพิบัติ     2. จัดเตรียมศูนย์อพยพชั่วคราวในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในชุมชน     3. เตรียมสิ่งของที่จ�าเป็นให้พร้อม เช่น น�้าดื่ม อาหารกระป๋อง ยารักษาโรค  วิทยุสื่อสาร หน้ากากกันฝุ่นหรือหน้ากากอนามัย หรือแว่นตา เพื่อป้องกันเถ้าภูเขาไฟ 8.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1. รอฟังประกาศจากทางราชการ เมื่อได้รับการสั่งให้อพยพกลับก็ให้ปฏิบัติตาม 2.  ส�ารวจตรวจสอบความเสียหายพื้นที่บริเวณบ้าน และซ่อมแซมส่วนที่ได้รับ ความเสียหาย หรือหากเสียหายมากจนยากแก่การซ่อมแซม ให้อพยพไปยัง ศูนย์อพยพชั่วคราว 1. ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง 2.  วางแผนช่องทางติดต่อสื่อสารฉุกเฉินในครอบครัว ว่าจะติดต่อกันด้วยวิธีใดและจุดนัดหมายเพื่อรวมตัว อีกครั้งหลังเหตุการณ์สงบ 1.  เมื่อทางการสั่งอพยพ ให้อพยพออกจากพื้นที่ ประสบภัยทันที 2.  สวมใส่เสื้อคลุม กางเกงขายาว ถุงมือ รองเท้า ที่ทนทาน หน้ากากกันฝุ่น หรือแว่นตา และน�า สิ่งของจ�าเป็นไปด้วย 3.  ไม่ควรหลบอยู่ในอาคารสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจพังถล่มลงมาจากแผ่นดินไหว หรือ เถ้าภูเขาไฟตกใส่ 170 หน้ากากกันฝุ่นหรือหน้ากากอนามัย 1 การปะทุของภูเขาไฟกอใหเกิดผลกระทบตอระบบนิเวศของ อุทกภาคไดอยางไร 1. แกสและควันที่พวยพุงจากการปะทุทําใหสัตวนํ้าสูญพันธุ 2. อาคารบานเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรถูกทําลายเสียหาย 3. แรงสั่นสะเทือนทําใหเกิดคลื่นขนาดใหญ ซัดผูคนจมนํ้า เสียชีวิต 4. หินหนืดที่ไหลลงสูทะเลสงผลใหลักษณะชายฝงเกิดการ เปลี่ยนแปลง 5. เถาถานที่ปกคลุมทองฟาทําใหแสงแดดและความรอน ไมสามารถสองลงมาถึงผิวนํ้าได ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. การปะทุของภูเขาไฟทําใหหินหนืด รอนไหลไปตามพื้นผิวภูมิประเทศ ตลอดจนลงสูพื้นที่ชายฝง ซึ่งกอใหเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศชายฝงทะเลได) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 6. ครูสนทนากับนักเรียนเพิ่มเติมถึงแนวทาง การปองกันและระวังภัยที่เกิดจากภูเขาไฟ ปะทุ แลวใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและ อภิปรายความรูเกี่ยวกับการระวังภัยที่เกิดจาก ภูเขาไฟปะทุ โดยแบงออกเปนการระวังภัยของ หนวยงานที่มีสวนเกี่ยวของทั้งภาครัฐและ เอกชน และการระวังภัยภาคประชาชน รวมถึง การฟนฟูพื้นที่ภายหลังประสบภัย จากนั้น ครูเสนอแนะ หรือเพิ่มเติมขอมูลใหถูกตอง ชัดเจนยิ่งขึ้น นักเรียนควรรู 1 หนากากกันฝุน หนากากอนามัยชนิดที่มีคุณสมบัติปองกันฝุนพิษไดดี คือ หนากาก N95 จัดเปนหนากากอนามัยที่มีความมิดชิดมากที่สุด สามารถปองกัน ฝุนละออง หรือมลพิษทางอากาศไดดีกวาหนากากอนามัยธรรมดา โดยเฉพาะ ฝุนละอองขนาดเล็ก ขนาด 0.1-0.3 ไมครอน ได 95% เปนอยางนอย อีกทั้ง ยังมีนํ้าหนักเบาและสวมใสงาย เกร็ดแนะครู ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรู วิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ เรื่อง ธรณีวิทยา โดยใชกระบวนการ กลุม นําเสนอผลงานที่ใชวิธีการทางวิทยาศาสตร เพื่อใหนักเรียนเกิดความรูความ เขาใจถึงการเกิดภัยพิบัติตางๆ รวมทั้งแนวทางปองกัน หรือบรรเทาผลกระทบ จากภัยพิบัตินั้น นํา สอน สรุป ประเมิน T178


ขอสอบเนน การคิด การเกิดสึนามิ 1.3 สึนามิ (tsunami) 1) ค�าจ�ากัดความ  สึนามิ  คือ  คลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุรุนแรง ใต้ทะเลหรือมหาสมุทร  และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 - 700  กิโลเมตรต่อชั่วโมง  หรือมากกว่า เข้าสู่ชายฝั่ง เมื่ออยู่ในทะเลเปิด คลื่นจะมีความสูงน้อย แต่มีความยาวคลื่นมาก  เมื่อคลื่นเคลื่อน เข้าสู่ชายฝั่งน�้าตื้นจะมีความเร็วและความยาวคลื่นลดลง แต่ความสูงคลื่นเพิ่มขึ้น ท�าให้คลื่นมีอ�านาจ การท�าลายสูงทั้งชีวิต อาคารที่อยู่อาศัย และทรัพย์สิน สึนามิเกิดบ่อยบนพื้นที่ชายฝั่งในประเทศ ญี่ปุ่นที่มีเรือจอดอยู่จ�านวนมากทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก จึงเป็นที่มาของชื่อ “สึนามิ” ที่แปลว่า  คลื่นท่าเรือ (“nami” แปลว่า คลื่น และ “tsu” แปลว่า ท่าเรือ) 2) กระบวนการเกิดสึนามิ มีดังนี้         •  เกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟปะทุใต้ทะเลหรือมหาสมุทรอย่างรุนแรง ท�าให้ น�้าทะเลกระเพื่อมตัวขึ้นสู่ผิวน�้า         •  ขณะที่อยู่ในทะเล คลื่นมีความสูงน้อยกว่า  1 เมตร แต่มีความยาวคลื่นประมาณ 100 - 200 กิโลเมตร         •  คลื่นเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งด้วยความเร็วมากกว่า 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  และเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่ง คลื่นจะสูงมากขึ้นถึง 10 เมตรหรือมากกว่า คล้ายก�าแพงน�้าซัดเข้าสู่ชายฝั่ง ด้วยความเร็ว 2   คลื่นในทะเลลึกที่มีความยาวคลื่นมากเคลื่อนตัว ด้วยความเร็วมากกว่า 700 กม./ชม. 3   เมื่อคลื่นเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่ง จะลดความเร็วลง  ท�าให้ความสูงคลื่นเพิ่มขึ้นเกิดเป็นก�าแพงคลื่นโถม ซัดท�าลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า 1   เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟปะทุใต้มหาสมุทร จะกระตุ้นให้เปลือกโลก ใต้ท้องทะเลเคลื่อนตัวอย่างรุนแรง และเกิดคลื่นกระจายออกทุกทิศทาง นักเรียนมีวิธีสังเกตอย่างไรว่าก�าลังจะเกิดสึนามิ และประเทศไทยมีโอกาสเกิดสึนามิอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะเหตุใด คําถามทาทายการคิดขั้นสูง 171   สึนามิ  คือ  คลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุรุนแรง 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 7. ครูสนทนากับนักเรียนถึงความรูเกี่ยวกับสึนามิ ที่นักเรียนไดศึกษามา แลวใหนักเรียนรวมกัน วิเคราะหและอภิปรายความรูเพิ่มเติม 8. ครูใหนักเรียนวิเคราะหและตอบคําถามจาก H.O.T.S. เกี่ยวกับการเกิดสึนามิ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 โดยครูแนะนําเพิ่มเติม 9. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายความรูเกี่ยวกับ สถานการณการเกิดสึนามิ โดยการชวยกันตอบ คําถามที่ครูตั้ง ตัวอยางขอคําถาม เชน • ภาษาที่ใชในการตั้งชื่อการเกิดสึนามิสัมพันธ กับแหลงที่มักเกิดสึนามิอยางไร (แนวตอบ สึนามิ มาจากภาษาญี่ปุน แปลวา คลื่นอาวจอดเรือ เนื่องจากประเทศญี่ปุน มีเรือจอดอยูมากทางแถบมหาสมุทร แปซิฟก และมักไดรับผลกระทบจากสึนามิ ที่สวนใหญเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟก ดังนั้น สึนามิ จึงเปนการตั้งชื่อที่สัมพันธกับ แหลงการเกิด คือ บริเวณมหาสมุทรแปซิฟก โดยเฉพาะประเทศญี่ปุนนั่นเอง) “สึนามิ” ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเปนภัยพิบัติที่มีสาเหตุการเกิด สัมพันธกับขอใด 1. แผนดินถลมบริเวณเชิงเขา 2. แผนดินไหวขนาดเล็กพรอมกับภูเขาไฟปะทุ 3. พายุหมุนอยางฉับพลันบริเวณกลางมหาสมุทร 4. แผนเปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่เขาหากัน 5. แผนดินไหวหรือภูเขาไฟปะทุรุนแรงใตทองทะเล (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 5. สึนามิเปนคลื่นที่เกิดจากแผนดิน ไหวและภูเขาไฟปะทุรุนแรงใตทะเลหรือมหาสมุทร แลวเคลื่อนตัว ดวยความเร็วสูง เมื่อคลื่นเขาใกลชายฝงจะลดความเร็วลง ทําให เกิดกําแพงคลื่นโถมซัดทําลายทุกสิ่งที่ขวางหนา) นักเรียนควรรู 1 แผนดินไหว การเกิดแผนดินไหวใชวาจะทําใหเกิดสึนามิทุกครั้ง สึนามิ จะเกิดไดก็ตอเมื่อแผนดินไหวที่รอยแตกของเปลือกโลกนั้นตองอยูใต หรือใกล กับมหาสมุทร และไปทําใหพื้นสมุทรมีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง (ขนาดความสูง หลายเมตร) ในพื้นที่กวาง (ถึงหนึ่งแสนตารางกิโลเมตร) แผนดินไหวในบริเวณ นํ้าตื้น (ลึกไมเกิน 70 กิโลเมตร หรือ 42 ไมล) ตามแนวการมุดตัวของ แผนเปลือกโลก เปนตัวการกอใหเกิดสึนามิที่มีอานุภาพในการทําลายสูงที่สุด นํา สอน สรุป ประเมิน T179


3) ประเภทของสึนามิ สึนามิแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 3.1) สึนามิระยะใกล้หรือสึนามิท้องถิ่น (local tsunami) เป็นสึนามิที่มีแหล่ง ก�าเนิดอยู่ใกล้ชายฝั่ง คลื่นจะใช้ระยะเวลาเคลื่อนที่เข้าสู่ชายฝั่งประมาณ 30 - 60 นาที 3.2) สึนามิระยะไกล(distant tsunami)มีแหล่งก�าเนิดสึนามิอยู่ห่างไกลจากชายฝั่ง ที่ได้รับผลกระทบ คลื่นจะใช้เวลาในการเดินทางเคลื่อนที่ถึงชายฝั่ง 4 - 8 ชั่วโมง หรือมากกว่า 4) สาเหตุการเกิดสึนามิ ที่ส�าคัญ มีดังนี้ 4.1) แผ่นดินไหวใต้ทะเล หรือมหาสมุทรอย่างรุนแรง มักเกิดจากการเคลื่อนตัว ของแผ่นเปลือกโลก ท�าให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจนน�้ากระเพื่อมขึ้นสู่ผิวน�้า และท�าให้เกิดสึนามิตามมา 4.2) เกาะภูเขาไฟปะทุหรือภูเขาไฟใต้ทะเลปะทุอย่างรุนแรง ท�าให้เกิดการสั่น สะเทือนและแรงผลักดันน�้าทะเลขึ้นสู่ผิวน�้าจนเกิดสึนามิตามมา 4.3) แผ่นดินถล่มขนาดใหญ่ใต้ทะเล โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของไหล่ทวีปกับ ที่ลาดทวีป การเกิดดินถล่มที่รุนแรงท�าให้กองดินทรายไหลลงสู่ที่ลาดทวีปอย่างรวดเร็วจนน�้าทะเล ปั่นป่วนและเกิดเป็นสึนามิตามมา 4.4) อุกกาบาตขนาดใหญ่ตกในทะเล เป็นสาเหตุหนึ่งที่ท�าให้เกิดสึนามิได้ แม้จะ มีโอกาสการเกิดไม่มากนัก   สึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งเมืองปาลูบนเกาะซูลาเวซีของประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2561 หลังเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.5 นอกชายฝั่ง  ท�าให้อาคารบ้านเรือนพังเสียหายและเรือถูกซัดเกยขึ้นฝั่ง รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็น จ�านวนมาก 172 เกร็ดแนะครู กิจกรรม ทาทาย ครูควรกระตุนความสนใจของนักเรียน โดยอาจนําขาว คลิปวิดีโอ หรือ คลิปขาวเกี่ยวกับสึนามิที่เกิดขึ้นในทวีปตางๆ ของโลก และใหนักเรียนฝก ตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตรที่เกี่ยวของกัน แลวนํามาอภิปรายรวมกันในชั้นเรียน ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 10. ครูอธิบายความรูเพื่อการวิเคราะหขอมูล เพิ่มเติมของนักเรียนเกี่ยวกับบริเวณที่มักเกิด คลื่นสึนามิวา จากการรวบรวมเชิงสถิติของ การเกิดสึนามิทั่วโลก พบวา สึนามิมักเกิด ในบริเวณที่เปนแหลงกําเนิดแผนดินไหว ขนาดใหญในทะเลและมหาสมุทรตามแนว วงแหวนไฟแปซิฟก โดยคิดเปนรอยละ 25.4 ของการเกิดสึนามิทั้งหมด อยางไรก็ตาม บริเวณอื่นๆ ก็เกิดสึนามิไดดวยเชนกัน ไดแก หมูเกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต บริเวณทะเลของญี่ปุนและรัสเซีย และทะเล แคริบเบียน โดยคิดเปนรอยละ 20.3, 18.6 และ 13.8 ของการเกิดสึนามิทั้งหมด ตามลําดับ สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณแผนดินไหว ไดที่ http://www. earthquake.tmd.go.th/home.php กองเฝาระวังแผนดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา นักเรียนฝกวิเคราะหและเปรียบเทียบภาพจากดาวเทียมแสดง พื้นที่ชายฝงที่ประสบภัยสึนามิ โดยศึกษาคนควาจากแหลงการ เรียนรูตางๆ เชน http://www.gisthai.org/ เว็บไซตศูนยวิจัย ภูมิสารสนเทศเพื่อประเทศไทย แลวบันทึกผลการวิเคราะหและ เปรียบเทียบสงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T180


ขอสอบเนน การคิด 0 ํ 0 ํ 20 ํN 20 ํN 20 ํS 20 ํS 40 ํN 40 ํN 40 ํS 40 ํS 60 ํN 60 ํN 60 ํS 60 ํS 80 ํN 80 ํN 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 80 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 พื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ เสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงนอย 5) การกระจายการเกิดสึนามิของโลก         จากแผนที่  พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิ เช่น ชายฝั่งของ ประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีระดับความเสี่ยงตั้งแต ่เสี่ยงมาก พบตามชายฝั ่งประเทศ รอบวงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก เสี่ยงปานกลาง เช่น ชายฝั่งประเทศออสเตรเลียและแอฟริกา และ เสี่ยงน้อย เช่น ชายฝั่งด้านตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ และตอนใต้ของทวีป แอฟริกา โดยสาเหตุหลักที่ท�าให้เกิดสึนามิ คือ แผ่นดินไหวและการปะทุของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร อย่างรุนแรง มักเกิดขึ้นตามรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกในมหาสมุทร 6) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากสึนามิรุนแรง โดยสรุป มีดังนี้         1. เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ปะการัง หรือ ป ่าชายเลนที่ถูกคลื่นซัดจนหักโค ่น  หรือหลุดลอยไปกับมวลน�้า  เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิประเทศชายฝั่งทะเล ทั้งชายฝั่งทะเลที่ถูกท�าลายและมีการทับถมสร้างแนวชายฝั่งใหม่         2. ท�าให้น�้าทะเลท่วมเข้าไปในชายฝั่งทะเล  ส่งผลให้น�้าเค็มเข้าไปผสมในแหล่ง น�้าจืด         3. ท�าลายอาคาร สิ่งก่อสร้างที่มีโครงสร้างไม่มั่นคงแข็งแรงจ�านวนมาก ตลอดจน ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล         4. เกิดการสูญเสียชีวิตของมนุษย์ สัตว์เลี้ยง และสัตว์ป่าจ�านวนมาก แผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงการเกิดสึนามิของโลก ที่มา : www.mapsofworld.com, 2015 173 ประเทศไทยมีโอกาสไดรับความเสียหายจากสึนามิที่มีสาเหตุ มาจากขอใดมากที่สุด 1. แผนดินไหว 2. แผนดินถลม 3. ภูเขาไฟมีพลัง 4. แผนดินไหวใตทะเล 5. รอยเลื่อนของแผนเปลือกโลก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. บริเวณที่มีความเปนไปไดมากที่สุด ที่ทําใหประเทศไทยไดรับผลกระทบจากสึนามิ คือ แนวรองลึกใน ทะเลอันดามัน ซึ่งการเกิดแผนดินไหวที่บริเวณนี้สามารถเกิดขึ้นได ตลอดเวลา) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 11. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหขอมูลและ อภิปรายเกี่ยวกับภัยตางๆ ที่เกิดจากสึนามิ รุนแรง โดยชวยกันจัดทําเปนผังกราฟก แสดงภัยตางๆ ที่เกิดจากสึนามิรุนแรงลงใน กระดาษโปสเตอร หรือกระดานหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายถึงการกระจายการเกิดสึนามิ ของโลกเพิ่มเติม 12. ครูอาจใหนักเรียนวิเคราะหขอมูลจากแผนที่ แสดงพื้นที่เสี่ยงการเกิดสึนามิของโลก จาก หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 โดยครูแนะนํา เพิ่มเติม สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสึนามิไดจากภาพยนตรสารคดีสั้น Twig เรื่อง คลื่นสึนามิ http://www.twig-aksorn.com/fif ilm/tsunami -7980/ นํา สอน สรุป ประเมิน T181


อินเดีย 16,383 คน ศรีลังกา 38,195 คน มัลดีฟส 82 คน เมียนมา 90 คน 5,322 คนไทย มาเลเซีย อินโดน�เซีย 68 คน 166,320 คน โซมาเลีย 298 คน 7) เหตุการณ์สึนามิที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น แผนที่แสดงศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา และจ�านวนผู้เสียชีวิตจากสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย สาเหตุ : เกิดจากแผ่นดินไหวขนาด9.2ศูนย์กลาง อยู่ที่นอกชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจาก พลังงานอันมหาศาลในชั้นเนื้อโลกผลักดันให้แผ่น เปลือกโลกอินโด - ออสเตรเลีย ขยับตัวมุดลงไป ใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย เป็นแนวยาวกว่า 1,200  กิโลเมตร ผ่านหมู่เกาะนิโคบาร์ขึ้นไปทางเหนือ จนถึงหมู่เกาะอันดามัน  ท�าให้เกิดการสั่นสะเทือน อย่างรุนแรงและเกิดสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย เหตุการณ์ สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา พ.ศ. 2547 คลื่นสึนามิซัดเข้าหาชายฝั่งทะเลของเมืองมิยะโกะ จังหวัดอิวะเตะ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 สาเหตุ : เดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 เกิดการสั่น สะเทือนอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหว ขนาด 8.9 ศูนย์กลางแผ ่นดินไหวอยู ่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากชายฝั่งเกาะฮนชูประมาณ 150  กิโลเมตร  เป็นผลท�าให้เกิดสึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งเขตอิวะเตะ มิยะงิและฟุกุชิมะ ด้วยความสูงถึง 38.9 เมตร ภายหลังต่อมาศูนย์อุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ปรับ เพิ่มความรุนแรงเหตุแผ่นดินไหว จาก 8.9 เป็น 9.0 ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การเกิด แผ่นดินไหวของญี่ปุ่น ผลกระทบ : ท�าให้บ้านเรือนพังพินาศมีผู้เสียชีวิต กว่า 15,000 คน สูญหายกว ่า 8,000 คน และ บาดเจ็บกว่า 5,000 คน และยังท�าให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิเกิดการรั่วไหลของกัมมันตรังสี ท�าให้ทางการต้องเร่งอพยพผู้คนในรัศมี20 - 30 กิโลเมตร ออกจากพื้นที่ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่ามากถึง 16 - 25 ล้านล้านเยน เหตุการณ์ สึนามิในประเทศญี่ปุ่น พ.ศ. 2554 ผลกระทบ : ท�าให้พื้นที่ชายฝั่งของประเทศต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบมหาสมุทรอินเดียได้รับความเสียหาย  มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 200,000 คน ประเทศที่ได้รับความเสียหาย มากที่สุด คือ อินโดนีเซีย รองลงมา ได้แก่ ศรีลังกา อินเดีย และไทย คาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ไม่ต�่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 174 กิจกรรม ทาทาย และไทย 1 นักเรียนวาดภาพแสดงกระบวนการเกิดสึนามิ ตกแตงให สวยงาม แลววิเคราะหโอกาสในการเกิดสึนามิของประเทศไทย จากนั้นนําเสนอผลงานที่หนาชั้นเรียน กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณสึนามิครั้งรุนแรงของ โลกจากแหลงการเรียนรูตางๆ แลวนํามาแลกเปลี่ยนเรียนรูกัน ในชั้นเรียนถึงผลกระทบของเหตุการณนั้นๆ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 13. ครูตั้งคําถามประกอบการวิเคราะหขอมูล เพิ่มเติม เชน • ประเทศไทยไดรับผลกระทบจากการเกิด สึนามิอยางไร (แนวตอบ จากแผนดินไหวทางตะวันตก เฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศ อินโดนีเซีย ใน พ.ศ. 2547 กอใหเกิด สึนามิซัดเขาทําลายพื้นที่ชายฝงของหลาย ประเทศที่ติดตอกับมหาสมุทรอินเดีย โดย ชายฝงทะเลอันดามันของประเทศไทย ซึ่งเปนแหลงทองเที่ยวทางธรรมชาติ ที่สําคัญก็ไดรับผลกระทบอยางรุนแรง เชนเดียวกัน ไดแก ทําใหมีผูเสียชีวิตทั้ง ชาวไทยและชาวตางประเทศประมาณ 5,400 คน สิ่งกอสรางตางๆ รวมถึงระบบ นิเวศชายฝงเกิดการเปลี่ยนแปลง) นักเรียนควรรู 1 ไทย พื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ คือ 6 จังหวัดภาคใต ไดแก จังหวัดพังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ตรัง และสตูล ดังสรุปขอมูลผูเสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย แยกตามจังหวัด ณ วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2549 ในตาราง จังหวัด เสียชีวิต บาดเจ็บ สูญหาย (ชาวไทย+ ชาวตางชาติ) ไมสามารถ ระบุได (ชาวไทย+ ชาวตางชาติ) (ชาวไทย+ ชาวตางชาติ) 1. ภูเก็ต 262 17 1,111 608 2. พังงา 3,504 722 5,597 1,655 3. กระบี่ 560 161 1,376 544 4. ระนอง 159 - 246 9 5. ตรัง 5 - 112 1 6. สตูล 6 - 15 - รวม 4,496 900 8,457 2,817 ที่มา : กรมปองกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย, 2549 นํา สอน สรุป ประเมิน T182


ขอสอบเนน การคิด 8) การจัดการภัยพิบัติสึนามิ มีดังนี้  8.1) มาตรการ ที่ส�าคัญ มีดังนี้     1. การติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้วยการวางทุ่นลอยในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ในมหาสมุทรอินเดีย หรือในชายฝั่งอันดามันของประเทศไทย เพื่อตรวจจับการเกิดแผ่นดินไหว ใต้ท้องทะเล และเมื่อพบการสั่นสะเทือนใต้ท้องทะเลเกินกว่า 5 - 7 ตามมาตราริกเตอร์ขึ้นไป ศูนย์เตือนภัยจะแจ้งให้ประชาชนทราบ     2. ต้องมีการซ้อมรับภัยจากสึนามิในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้งติดตั้งป้ายบอก เส้นทางอพยพหนีภัยไปยังจุดปลอดภัยที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อรับมือกับสึนามิที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้     3. ต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลแผ่นดินไหวและสึนามิและระบบเตือนภัยจาก สึนามิให้ประชาชนได้รับทราบผ่านสื่อต่าง ๆ 8.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้     1. ศึกษาความรู้เรื่องภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและสึนามิ สัญญาณเตือนภัย สึนามิ รวมถึงติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด     2. ฝึกซ้อมรับภัยสึนามิ วางแผนการอพยพผู้คน เตรียมที่พักอาศัยชั่วคราว     3. หลีกเลี่ยงการก่อสร้างใกล้ชายฝั่งทะเลในเขตที่มีความเสี่ยงภัยจากสึนามิสูง 8.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1.  ติดตามข่าวสารจากทางราชการ และอพยพกลับเมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าปลอดภัย 2.  พยายามอยู่ห่างจากอาคารสิ่งก่อสร้างที่เสียหาย เพราะอาจพังถล่มลงมาได้อีก 3.  กลับเข้าบ้านอย่างระมัดระวัง โดยระวังเพดานพังลงมา ไม่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าจนกว่า ทางการจะแจ้ง และตรวจดูท่อน�้าว่ายังใช้การได้ปกติหรือไม่ 4. ซ่อมแซมและท�าความสะอาดอาคารบ้านเรือน รวมถึงช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 1.  ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด 2.  เมื่อรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง หรือเห็น น�้าทะเลลดลงผิดปกติ ให้รีบย้ายไปยังที่สูงทันที 3.  เตรียมสิ่งของจ�าเป็นต่าง ๆให้พร้อมเช่น น�้าดื่ม อาหารแห้ง ไฟฉาย รองเท้า ยารักษาโรค 1.  หากอยู่ที่ชายหาดและรู้สึกแผ่นดินสั่นสะเทือน หรือเห็นน�้าทะเลลดลงผิดปกติให้ย้ายไปยัง พื้นที่สูงทันที โดยไม่ต้องรอประกาศเตือนภัย 2.  หากได้ยินประกาศเตือนภัยสึนามิให้อพยพไป ยังที่สูงที่น�้าท่วมไม่ถึง 3.  หากอยู่บนเรือในทะเลระหว่างเกิดสึนามิให้ลอย เรืออยู่กลางทะเล หรือน�าเรือออกสู่ทะเลลึก 175 การติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้วยการวางทุ่นลอยในพื้นที่เสี่ยงภัย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 14. ครูสุมตัวแทนนักเรียนจํานวน 4-6 คน เพื่อ นําเสนอการระวังภัยจากสึนามิที่หนาชั้นเรียน โดยแบงหนาที่นําเสนอการระวังภัยของผูที่อยู บริเวณชายฝง และการระวังภัยของผูที่อยูใน เรือกลางทะเล ทั้งในชวงกอนเกิดภัย ขณะ เกิดภัย และหลังเกิดภัย ในรูปแบบตางๆ เชน การแสดงบทบาทสมมติ ตารางนําเสนอขอมูล หรือรูปแบบอื่นๆ ตามความสามารถและ ความสนใจของนักเรียน พรอมทั้งวิเคราะห และเสนอแนะขอคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อใหเกิด ความเขาใจที่ถูกตองตรงกัน ขอใดเปนสิ่งที่ควรกระทําเปนอันดับแรกเมื่อไดยินสัญญาณ เตือนภัยสึนามิ 1. ไปดูแลเพื่อนบานใกลเคียง 2. ตะโกนรองขอความชวยเหลือ 3. วิ่งลงไปที่ชายหาดเพื่อดูนํ้าทะเล 4. เปดโทรทัศนดูประกาศจากทางราชการ 5. รีบเคลื่อนยายไปยังที่สูงพรอมสัมภาระจําเปน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 5. เมื่อไดยินสัญญาณเตือนภัย ใหรีบ อพยพออกจากบานไปยังพื้นที่สูงที่นํ้าทวมไมถึงทันที) นักเรียนควรรู 1 ระบบเตือนภัย สําหรับเฝาสังเกตการณ ตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของ เปลือกโลกที่จะสงผลใหเกิดสึนามิ คํานวณผลการเกิดและความรุนแรงในการ กอความเสียหาย ทิศทางของคลื่น การเคลื่อนตัวของคลื่น การประเมินคา ความเสี่ยง และระยะเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติ โดยจัดตั้งสถานีตรวจวัดขึ้นตาม ภูมิภาคตางๆ ทั่วโลก แลวสงผลการวิเคราะหเตือนไปยังประเทศที่จะไดรับ ผลกระทบ แตระบบเตือนภัยสึนามิที่ใชกันอยูในปจจุบันจะมีเฉพาะทางฝง มหาสมุทรแปซิฟกซึ่งเกิดแผนดินไหวและสึนามิบอยครั้ง โดยประเทศที่อยูบริเวณ มหาสมุทรแปซิฟกไดรวมกันจัดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิขึ้น โดยมีสหรัฐอเมริกา เปนแกนนําในการริเริ่มจัดตั้งระบบ พรอมดวยการสนับสนุนดานเงินทุน และเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุน ศูนยเตือนภัยสึนามิระดับนานาชาติที่สําคัญ คือ ศูนยเตือนภัยจากคลื่นสึนามิในภูมิภาคแปซิฟก (PTWC) ในรัฐฮาวาย นํา สอน สรุป ประเมิน T183


ขอสอบเนนการคิด 1.4 แผ่นดินถล่ม (landslide) 1) ค�าจ�ากัดความ แผ่นดินถล่มเป็นภัยที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของมวลดินและ เศษหิน ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกโดยมีน�้าหรือแรงสั่นสะเทือนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนที่ ตามบริเวณพื้นที่ลาดชันของภูเขาอาจเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ หรืออย่างฉับพลันก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน 2) กระบวนการเกิดแผ่นดินถล่ม มีดังนี้ • มีการสั่นสะเทือนในพื้นที่ เช่น แผ่นดินไหว ท�าให้เศษหิน ดิน ร่วงหล่นลงมา ตามแรงโน้มถ่วงของโลก หรือมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ลาดชันบนภูเขา หรือเทือกเขา     •  พื้นที่ลาดชันไม่สามารถรับน�้าหนักได้ท�าให้เกิดดินถล่มลงมา การเคลื่อนที่ของ มวลดิน หิน มีทั้งความเร็วปานกลางและความเร็วมาก โดยมีน�้าเป็นตัวขับเคลื่อน     •  ในพื้นที่เทือกเขาหินปูนที่มีโพรงใต้ดิน อาจเกิดแผ ่นดินถล ่มหรือหลุมยุบ ขนาดใหญ่ได้ ที่มาภาพ : www.usgs.gov/media/images/landslide-la-conchita-california/ การเกิดแผ่นดินถล่ม 1   ชั้นดินบริเวณภูเขาหรือหน้าผา เคลื่อนลงตามแรงดึงดูดของโลก ผนวกกับการมีฝนตกหนักเป็น เวลานานในพื้นที่ลาดชันมากกว่า 30 � 2   เกิดน�้าสะสมบนพื้นที่ลาดชัน ท�าให้มวลดิน หิน ไม่สามารถรับ น�้าหนักได้จึงทรุดตัวและไหลลง มาตามที่ลาดชัน 3   มวลดิน หิน เคลื่อนที่ลงมาทับ สิ่งก่อสร้างบริเวณเชิงเขา   การเกิดแผ่นดินถล่มแบบเลื่อนไถล (slump) ที่เมือง  ลา คอนชิตา (La Conchita) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2548 176 อาจเกิดแผ ่นดินถล ่มหรือหลุมยุบ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 15. ครูสนทนากับนักเรียนถึงความหมายของ แผนดินถลมที่นักเรียนไดศึกษามา จากนั้น สุมนักเรียนเพื่ออภิปรายถึงกระบวนการเกิด แผนดินถลม เสนอแนะขอคิดเห็น และ วิเคราะหสรุปรวมกัน 16. ครูสุมนักเรียนใหตอบคําถามเกี่ยวกับปจจัย ที่ทําใหเกิดภัยแผนดินถลม เชน • ปจจัยทางธรรมชาติที่ทําใหเกิดแผนดินถลม ไดแกอะไรบาง (แนวตอบ เชน การเกิดแผนดินไหวรุนแรง ที่สงผลใหดินบริเวณที่ลาดเชิงเขาเกิดการ เคลื่อนตัวลงมาตามแรงโนมถวงของโลก การเกิดฝนตกหนัก ทําใหดินอุมนํ้าไวมาก จนไมสามารถเกาะตัวอยูได จึงเลื่อนไหล ลงมาตามความลาดชัน และปจจัยอื่นๆ เชน การปะทุของภูเขาไฟ การเกิดสึนามิ การละลายของหิมะ หรือการมีหิมะตกหนัก การเปลี่ยนแปลงของระดับนํ้าใตดิน การกัดเซาะชายฝงของแมนํ้าและพื้นที่ บริเวณไหลทวีป) นักเรียนควรรู 1 หลุมยุบ หลุมหรือแองบนแผนดินที่ปากหลุมเกือบกลมและมีเสนผาน ศูนยกลางราว 20 เมตร ถึงกวา 200 เมตร เกิดจากนํ้าละลายเอาหินเกลือ หินยิปซัม หรือหินปูนที่อยูขางใตออกไป ทําใหพื้นดินตอนบนยุบลงเปนหลุมใหญ หากการละลายสารดังกลาวเปนไปอยางกวางขวาง หลุมยุบนี้จะลึกลงๆ จนทะลุ ถึงทางนํ้าขางลางเกิดเปนปลองขึ้นได พื้นที่บริเวณใดที่เสี่ยงตอการเกิดแผนดินถลม (แนวตอบ บริเวณที่มักจะเกิดแผนดินถลม ไดแก บริเวณที่ใกลกับ แนวรอยเลื่อนที่มีพลังและมีการยกตัวของแผนดินขึ้นเปนภูเขาสูง บริเวณที่ทางนํ้ากัดเซาะเปนโตรกเขาลึกและชัน บริเวณที่มีแนว รอยแตกและรอยแยกหนาแนนบนลาดเขา บริเวณที่มีการผุพัง ของหินและทําใหเกิดชั้นดินหนาบนลาดเขา) สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับดินถลม ไดที่ http://www.dmr.go.th/ download/Landslide/what_landslide1.htm สํานักธรณีวิทยาสิ่งแวดลอมและ ธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี นํา สอน สรุป ประเมิน T184


ขอสอบเนน การคิด การไหลของดิน (solifluction) โคลนไหล (mudflow) หินพัง (rock fall) การเลื่อนไถล (slump) ประเภทของแผ่นดินถล่ม ลักษณะ เป็นแผ่นดินถล่มบนพื้นที่ที่มีความลาดชันมาก น�้าหนักของหินหรือแรงสั่น สะเทือนท�าให้หินร่วงหล่นลงมา เป็นการเคลื่อนที่ของมวลหินหรือเศษดินเศษหินลงมาตามความลาดชัน  โดยเคลื่อนที่หรือทรุดตัวหมุนเป็นบล็อกตามระนาบโค้งเว้า  มักเกิดบริเวณ หน้าผาหรือไหล่เขา เป็นการเลื่อนไถลของดินอย่างช้า ๆ ลงไปตามลาดเขาในเขตอากาศหนาว เกิด เนื่องจากน�้าแข็งและหิมะที่ละลายในฤดูร้อนไหลซึมลงไปในดินชั้นบน ท�าให้ดิน ชั้นแฉะ  ในขณะที่ดินชั้นล ่างยังคงมีอุณหภูมิที่จุดเยือกแข็งอยู ่  ดินชั้นบน จึงค่อย ๆ ไหลเลื่อนลงไป เป็นการเคลื่อนที่แบบเลื่อนไถลอย่างช้า ๆ ลงมาตามลาดเขาของดินหรือหินผุ  เนื่องจากแรงดึงดูดของโลกและมีน�้าในดินระดับปานกลาง เป็นการไหลของมวลตะกอนขนาดเล็ก มีปริมาณน�้ามากจนเป็นดินโคลนเหลว  ไหลลงไปตามร่องธารและที่ลาดเชิงเขาอย่างรวดเร็ว มีพลังงานที่จะท�าลาย สิ่งกีดขวางตามทางที่ผ่านไป ดินไหล (earth flow) 3) ประเภทของแผ่นดินถล่ม ตามความเร็วในการเคลื่อนที่และในสภาพที่มีน�้า หรือ ไม่มีน�้า ที่ส�าคัญ เช่น 4) สาเหตุการเกิดแผ่นดินถล่ม มีทั้งสาเหตุจากธรรมชาติและจากมนุษย์ ดังนี้ 4.1) สาเหตุจากธรรมชาติ  เช่น  การเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง  ส่งผลให้แผ่นดิน บริเวณลาดเขาที่มีความชันเกิดการเคลื่อนที่ลงมาตามแรงดึงดูดของโลก การมีฝนตกหนักต่อเนื่อง น�้าฝนจะซึมไปสะสมอยู่ในดิน เมื่อดินไม่สามารถอุ้มน�้าไว้ได้จะลื่นไถลลงตามความลาดชัน  และ มักมีต้นไม้ เศษหินเลื่อนไหลตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภูเขาไฟปะทุ หิมะถล่ม น�้าแข็งใต้ดินละลาย 4.2) สาเหตุจากมนุษย์ เช่น การเพาะปลูก  การปลูกสิ่งก่อสร้างบนพื้นที่ลาดชัน การตัดไม้ท�าลายป่าเพื่อท�าไร่ ท�าสวน การตัดถนนตามไหล่เขา 177 เป็นการเคลื่อนที่แบบเลื่อนไถลอย่างช้า ๆ ลงมาตามลาดเขาของดินหรือหินผุ 1 นักเรียนควรรู 1 หินผุ เปนวัตถุดิบชนิดหนึ่งที่พบไดในแหลงที่มีหินภูเขาไฟ หินแกรนิต เฟลดสปาร หรือในแหลงดินขาว การเกิดหินผุมี 3 ลักษณะ ไดแก 1. เกิดจากหินตนกําเนิดที่เปนหินหนืดที่แทรกดันตัวผานหินทองที่ (Country Rock หรือ Wall Rock) ขึ้นสูผิวโลก แลวเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน ดวยตนเองจนกลายเปนหินผุ 2. เกิดจากหินหนืดที่ถูกดันตัวและเปลี่ยนแปลงโครงสราง โดยการพัดพา ของนํ้ารอน จนกลายเปนหินตนกําเนิดที่เปนหินผุ (หินทองที่มักเปนหินภูเขาไฟ หรือหินขี้เถาภูเขาไฟ) การเกิดประเภทนี้ หินทองที่และหินตนกําเนิดจะเปนหิน ประเภทเดียวกัน และมักจะจับตัวกันเปนพื้นที่กวาง 3. เกิดจากหินภูเขาไฟที่มีสวนประกอบเปนชนิดบะซอลตไปจนถึงชนิด ไรโอไลต ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • การประกอบกิจกรรมของมนุษยเปนปจจัย ที่ทําใหเกิดแผนดินถลมไดอยางไร (แนวตอบ เชน การขุดดินบริเวณเชิงเขา เพื่อทําถนน เพื่อการอยูอาศัย หรือเพื่อ การเกษตร นอกจากนี้ การสูบนํ้าบาดาล ขึ้นมาใชในปริมาณมากจนเกินไป การ ดูดทรายจากใตดินหรือแมนํ้าขึ้นมาใช ประโยชน รวมไปถึงการบดอัดดิน เพื่อใช ประโยชนในการกอสราง ก็อาจกอใหเกิด การเปลี่ยนแปลงโครงสรางทางธรณีวิทยา ของพื้นที่โดยรอบจนนําไปสูการเกิดแผนดิน ถลมไดเชนเดียวกัน) ปจจัยใดที่เปนสาเหตุทําใหเกิดแผนดินถลม (แนวตอบ ปจจัยทางธรรมชาติที่สําคัญ ไดแก การเกิดฝนตกหนัก เปนเวลานานบนที่ลาดเชิงเขาหรือภูเขาสูง การกัดเซาะของดิน จากกระแสนํ้าในแมนํ้า คลื่นซัดฝง การผุพังของมวลดินและหิน ทําใหความหนาแนนของมวลดินลดลง การเกิดภัยธรรมชาติ รุนแรง เชน แผนดินไหว อุทกภัย และปจจัยจากการกระทํา ของมนุษย เชน การตัดไมทําลายปา ทําใหไมมีรากไมยึดเกาะ หนาดิน การกอสรางหรือการทําการเกษตรบริเวณเชิงเขาที่ลาดชัน) นํา สอน สรุป ประเมิน T185


กิจกรรม ทาทาย 0 ํ 0 ํ 20 ํN 20 ํN 20 ํS 20 ํS 40 ํN 40 ํN 40 ํS 40 ํS 60 ํN 60 ํN 60 ํS 60 ํS 80 ํN 80 ํN 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 80 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 ไมเสี่ยง เสี่ยงมาก ไมมีขอมูล พื้นที่เสี่ยงภัยแผนดินถลม 5) การกระจายการเกิดแผ่นดินถล่มของโลก จากแผนที่ พื้นที่เกิดแผ่นดินถล่มมักเป็นบริเวณที่ลาดเชิงเขา หรือพื้นที่ราบด้านหน้า ภูเขาที่มีการพังทลายของดินสูง  หรือพื้นที่ต้นน�้าที่มีการท�าลายป่ามาก  หรือเกิดบริเวณหน้าผาที่ เป็นหินชนิดผุพังง่าย โดยหินนั้นรองรับชั้นดินที่มีความลาดเทสูงและน�้าซึมผ่านได้สะดวก เมื่อเกิด พายุฝนตกหนัก ท�าให้เกิดน�้าป่าไหลหลาก และเกิดแผ่นดินถล่มได้ง่าย บริเวณที่เกิดแผ่นดินถล่ม บ่อย  เช่น  ชุมเขายูนนานและชุมเขาปามีร์ ในทวีปเอเชีย  เทือกเขาแอลปในทวีปยุโรป  เทือกเขา ร็อกกีทางตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ เทือกเขาแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้       ส�าหรับประเทศไทย แผ่นดินถล่มมีสาเหตุส�าคัญมาจากการมีฝนตกหนักและมีฝนตก ต่อเนื่องหลายวัน  ถ้ามีปริมาณฝนภายใน 24 - 48  ชั่วโมง  มากกว่า 300  มิลลิเมตร  โดยเฉพาะ ภาคเหนือและภาคใต้มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มได้มาก เนื่องจากมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงและ เนินเขาเป็นจ�านวนมาก 6) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากแผ่นดินถล่มรุนแรง มีดังนี้         1. ท�าให้บ้านเรือนพังทลายเสียหาย เนื่องจากถูกดินไหลเลื่อนถล่มทับ         2. ท�าให้ผู้คนและสัตว์เลี้ยงบาดเจ็บล้มตายและสูญหาย         3. ท�าให้พื้นที่เกษตรและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย         4. เส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ถูกท�าลาย ซึ่งต้องใช้เงินจ�านวนมากในการซ่อมแซม ให้ดีดังเดิม นอกจากนี้ เส้นทางคมนาคมที่ช�ารุดอาจถูกปิด ท�าให้การสัญจรไปมาได้รับความยากล�าบาก แผนที่แสดงการเกิดแผ่นดินถล่มของโลก ที่มา : https://earthobservatory.nasa.gov 178 ภาคเหนือและภาคใต้มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มได้มาก เนื่องจากมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงและ 1 2 กิจกรรม สรางเสริม ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 17. ครูตั้งประเด็นเกี่ยวกับสถานการณการเกิด แผนดินถลมใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและ อภิปรายสรุปรวมกัน เชน • แผนดินถลม : ภัยของประชาคมโลกและ ประชาชนไทย • แนวทางปองกันภัยแผนดินถลมจากกิจกรรม ของมนุษย • การพัฒนาที่ยั่งยืนกับการปองกันและแกไข ปญหาภัยแผนดินถลม 18. ครูใหนักเรียนศึกษาแผนที่แสดงการเกิด แผนดินถลมของโลก จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 ประกอบการวิเคราะหและ อภิปรายขอมูล นักเรียนควรรู 1 ภาคเหนือ รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโอกาสเกิดแผนดินถลม ในชวงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เนื่องจากไดรับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตรอน ทําใหเกิดฝนตกหนัก 2 ภาคใต มีโอกาสเกิดดินถลมในชวงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เนื่องจาก เปนชวงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ นักเรียนจัดทําตารางหรือผังกราฟกที่แสดงรายละเอียด เกี่ยวกับภัยแผนดินถลมและตัวอยางสถานการณการเกิดภัยแผน ดินถลมในประเทศไทยหรือในภูมิภาคอื่นของโลก โดยศึกษา คนควาขอมูลเพิ่มเติมจากแหลงการเรียนรูที่ครูเสนอแนะ แลว ตกแตงใหสวยงาม สงครูผูสอน นักเรียนจัดทําตารางหรือผังกราฟกที่แสดงรายละเอียด เกี่ยวกับภัยแผนดินถลมในดานปจจัย สาเหตุ สถานการณ การเกิด ผลกระทบของภัย รวมถึงการระวังภัย แลวตกแตงให สวยงาม สงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T186


7) เหตุการณ์แผ่นดินถล่มที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น เหตุการณ์แผ่นดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 สาเหตุ :บริเวณความกดอากาศสูงก�าลังค่อนข้าง แรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส ่งผลให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ ่าวไทยและ ภาคใต้มีก�าลังแรง ท�าให้เกิดฝนตกหนักในหลาย พื้นที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจนถึง จังหวัดพัทลุง ระหว่างวันที่ 23 - 31 มีนาคม พ.ศ.  2554 ผลกระทบ : ท�าให้เกิดน�้าป่าไหลหลากและดินโคลน ถล่มทับบ้านเรือนของประชาชน ในบริเวณภาคใต้ ของประเทศไทย มีผู้เสียชีวิต 64 คน ประชาชน เดือดร้อนกว่า 6 แสนครัวเรือน จ�านวน 2 ล้าน เหตุการณ์ แผ่นดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย พ.ศ. 2554 กว่าคน ภาคเศรษฐกิจได้รับความเสียหายอย่างหนัก คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.1 - 2.6 หมื่นล้านบาท โดยภาคการค้าการขนส่งและบริการได้รับผลกระทบมากที่สุดคิดเป็นมูลค่ากว่า4,000 - 5,000ล้านบาท เหตุการณ์แผ่นดินถล่มที่หมู่บ้านซินโม มณฑลซื่อชวน ประเทศจีน เมื่อ พ.ศ. 2560 สาเหตุ : เกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันจึง ท�าให้เกิดเหตุแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ที่หมู่บ้านซินโม (Xinmo) ในเขตเหมาเซียน(Maoxian)ซึ่งตั้งอยู่ใน เขตเทือกเขาสูงทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ผลกระทบ : ท�าให้ดินและหินถล่มลงมาทับบ้าน เรือนประชาชนอย ่างน้อย 46 หลังคาเรือน  มี ผู้เสียชีวิต 15 คน และสูญหายประมาณ 120 คน นอกจากนี้ดินถล่มยังได้กีดขวางเส้นทางน�้าของ แม่น�้าในพื้นที่เป็นระยะทางราว 2 กิโลเมตร และ ตัดขาดถนนสายหลักเข้าสู่ตัวหมู่บ้านที่มีความยาว ประมาณ 1.6 กิโลเมตร เหตุการณ์ แผ่นดินถล่มในประเทศจีน พ.ศ. 2560 179 บริเวณความกดอากาศสูงก� 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 19. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลการสืบคน ของตนเองมาเชื่อมโยงกับประเด็นวิเคราะห ในใบงานที่ 5.1 เรื่อง ธรณีพิบัติภัย ตาม ประเด็น ดังนี้ • ชื่อธรณีพิบัติภัยที่เลือกศึกษา • ลักษณะทางกายภาพที่สงผลใหเกิดธรณี พิบัติภัย • ผลกระทบสําคัญจากธรณีพิบัติภัย • แนวทางการระวังภัยจากธรณีพิบัติภัย 20. ครูนําแผนที่โลกในรูปแบบโปสเตอรมาให นักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายและแสดง ความคิดเห็นเชื่อมโยงภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคที่ไดทําการศึกษา และใหแตละกลุม ระบุตําแหนงพื้นที่เกิดภัยพิบัติ รวมถึงพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติ แลวเชื่อมโยง พื้นที่ตางๆ ตามลักษณะทางกายภาพของ พื้นที่ โดยครูแนะนําเพิ่มเติม กิจกรรม Geo - Literacy นักเรียนจับคูกันสํารวจและรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ ทางธรรมชาติที่สําคัญในทองถิ่นของตน โดยใชกระบวนการทาง ภูมิศาสตร ดังนี้ 1. การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 2. การรวบรวมขอมูล 3. การจัดการขอมูล 4. การวิเคราะหขอมูล 5. การสรุปเพื่อตอบคําถาม จากนั้นสรุปความรูเพื่อรวมกันวางแผนเพื่อจัดการภัยพิบัติ ดังกลาว แลวจัดทําเปนแผนพับเพื่อเผยแพรในชุมชน นักเรียนควรรู 1 ความกดอากาศสูง หมายถึง บริเวณที่มีคาความกดอากาศสูงกวาบริเวณ โดยรอบ ในแผนที่อุตุนิยมจะใชอักษร “H” สีนํ้าเงินเปนสัญลักษณ ในทาง ตรงกันขาม ความกดอากาศตํ่า หมายถึง บริเวณซึ่งมีปริมาณอากาศอยูนอย ซึ่งจะทําใหนํ้าหนักของอากาศนอยลงตามไปดวยเชนกัน ทําใหอากาศเบาและ ลอยตัวสูงขึ้น ในแผนที่อุตุนิยมจะใชอักษร “L” สีแดงเปนสัญลักษณ นํา สอน สรุป ประเมิน T187


8) การจัดการภัยพิบัติแผ่นดินถล่ม มีดังนี้ 8.1) มาตรการ ที่ส�าคัญ มีดังนี้     1. จัดท�าระบบเตือนภัยแผ่นดินถล่ม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตั้งไว้ ในพื้นที่เสี่ยงภัย และออกประกาศเตือนทางสื่อต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังและเตรียม ตัวอพยพ     2. มีอาสาสมัครหมู่บ้าน หากในพื้นที่เสี่ยงภัยเกิดภัยพิบัติขึ้นให้ส่งสัญญาณ เตือนส่งต่อเป็นระยะ พร้อมทั้งจัดเวรยามเฝ้าระวังภัย     3. ดูแลไม่ให้มีการถางป่าในบริเวณต้นน�้า  เสริมสร้างความแข็งแรงบริเวณ ไหล่เขาและลาดเขาที่อาจเกิดแผ่นดินถล่มหรือโคลนไหลได้ 8.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้     1. ปลูกพืชคลุมดินหรือหญ้าแฝกบริเวณที่ลาดเชิงเขา เพื่อให้ช่วยยึดเกาะ หน้าดินไม่ให้เลื่อนหรือไหลลงมา     2. ไม่ตัดไม้ท�าลายป่า และปลูกต้นไม้บริเวณป่าต้นน�้าเพื่อชะลอความแรง ของน�้า     3. ซักซ้อมอพยพหนีภัยในพื้นที่เสี่ยง 8.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1.  ส�ารวจพื้นที่ที่อยู่อาศัยและหมั่นสังเกตสัญญาณ เตือนภัยทางธรรมชาติเช่นระดับน�้าในแม่น�้า ล�าห้วยเพิ่มขึ้นรวดเร็วผิดปกติหรือสีของน�้า ขุ่นมากกว่าปกติ เปลี่ยนเป็นสีดินภูเขา 2.  จัดเวรยามเฝ้าระวังภัย และติดตามข ่าว พยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด 1.  อพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย โดยขึ้น ที่สูง หรือไปยังสถานที่ปลอดภัยที่อยู่ห่างไกล จากพื้นที่ประสบภัยอย่างน้อย2 - 5กิโลเมตร 2.  อยู่ให้ห่างจากล�าน�้าให้มากที่สุด 3.  กรณีพลัดตกน�้าให้หาต้นไม้ ใหญ่ยึดเกาะและ ปีนหนีน�้า 1. ห้ามเข้าใกล้และกลับเข้าไปในบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากดินถล่ม 2.  จัดท�าทางเบี่ยงของดินและน�้า เพื่อไม่ให้ไหลลงมาสมทบกับมวลดินซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิด ดินถล่มลงมาซ�้าได้ 180 ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสรุปขอมูลที่ไดจาก การศึกษา จากนั้นสงตัวแทนนําเสนอขอมูล ประกอบแผนที่ที่ไดจัดทํา พรอมทั้งอภิปราย แสดงความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาค ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือดาน เทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติ ทางธรณีภาค หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของ เนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาค ไดจากการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตรในการสืบคนและนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมิน การนํา เสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูที่ 5 เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค นักเรียนรวมมือกันสํารวจธรณีพิบัติภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เชน แผนดินไหว สึนามิ แผนดินถลม แลวนํามาวิเคราะหผลกระทบ หรือความเสียหายที่เกิดขึ้น จากนั้นรวมกันเสนอแนวทางการ ปฏิบัติตน การปองกันและระวังภัย แลวรวมมือกันเขียนเปนโปสเตอร เผยแพรในบริเวณตางๆ ตามความเหมาะสม พรอมเชิญชวน ใหทุกคนมีสวนรวมในการปองกันและระวังภัย นํา สอน สรุป ประเมิน T188


ขอสอบเนน การคิด 2 ภัยพิบัติธรรมชาติทางบรรยากาศภาค 2.1 พายุฝนฟาคะนอง (thunderstorm) พายุฝนฟาคะนองเปนปรากฏการณที่เกิดจากการกอตัวของเมฆขนาดใหญในแนวดิ่ง เนื่องจากการยกตัวของอากาศที่มีความรอนมากใหสูงขึ้นจนเขาสูชั้นอากาศที่มีความเย็น จนมี การกลั่นตัวเปนหยดนํ้าและนํ้าแข็ง เกิดสภาพอากาศที่แปรปรวน เชน ลมกระโชก ฟาแลบ ฟาผา ฝนตกหนัก อาจมีลูกเห็บตก 1) สาเหตุและกระบวนการเกิดพายุฝนฟาคะนอง มีดังนี้ • อากาศรอนชื้นปกคลุมพื้นผิว • เกิดกระแสอากาศรอนชื้นใกลพื้นผิวพัดขึ้นสูหยอมความแปรปรวนภายใน เมฆกอนที่กอตัวอยูดานบน • เกิดกระบวนการลดอุณหภูมิตามความสูงอยางรวดเร็ว และเกิดการกลั่นตัวเปน หยดนํ้า พรอมทั้งปลดปลอยความรอนแฝงออกมา พัฒนาเปนเมฆกอนที่ใหญขึ้น และเกิดเปน เมฆพายุฝนฟาคะนอง กระบวนการเกิดพายุฝนฟาคะนองแบงออกเปน 3 ขั้นตอน ดังนี้ 12 9 6 3 1.5 0 ความสูง (กม.) อุณหภูมิ 0 ํC ระดับสมดุล 3-5 นาที ขั้นกอตัว 5-10 นาที ขั้นเติบโตเต็มที่ 5-7 นาที ขั้นสลายตัว กระแสอากาศรอน กระแสอากาศเย็น การเกิดพายุฝนฟาคะนอง 181 2.1 พายุฝนฟาคะนอง (thunderstorm) 1 ขั้นนํา (Geographic Inquiry Process) 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงชื่อเรื่อง จุดประสงค และผลการเรียนรู 2. ครูใหนักเรียนฟงคลิปเสียงที่เกี่ยวของกับพายุ ฝนฟาคะนอง เชน เสียงลมกระโชก เสียง ฟารอง เสียงฟาผา เสียงฝนตกหนัก แลวให นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวาเปนเสียง ชนิดใด 3. ครูสุมนักเรียนใหอธิบายในประเด็น “การเกิด พายุฝน” ตามความรูความเขาใจเบื้องตนของ นักเรียน 4. ครูใหนักเรียนดูภาพกระบวนการเกิดพายุ ฝนฟาคะนอง จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมถึงสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก ภาพดังกลาว นักเรียนควรรู 1 พายุฝนฟาคะนอง เปนพายุที่เกิดขึ้นเฉพาะถิ่น การเกิดพายุนี้มีความ เกี่ยวของกับการเกิดเมฆคิวมูโลนิมบัสอยูมาก เพราะเวลาเกิดเมฆคิวมูโลนิมบัส อากาศจะลอยตัวขึ้นขางบนอยางเร็วและแรง พายุฝนฟาคะนองไมใชพายุหมุน เพราะการพัดของลมเวลาเกิดพายุฝนฟาคะนองไมมีการหมุนตัวของอากาศ เพราะเหตุใดเมื่อเกิดพายุฝนฟาคะนอง เราจึงเห็นฟาแลบกอน ไดยินเสียงฟารองเสมอ (แนวตอบ เพราะแสงมีความเร็วมากกวาเสียง แสงมีอัตราเร็ว 300,000 กิโลเมตรตอวินาที สวนเสียงมีอัตราเร็วประมาณ 1 3 กิโลเมตรตอวินาที เราจึงเห็นฟาแลบหรือประกายไฟไดทันที และไดยินเสียงฟารองทีหลัง) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T189


0 ํ 0 ํ 20 ํN 20 ํN 20 ํS 20 ํS 40 ํN 40 ํN 40 ํS 40 ํS 60 ํN 60 ํN 60 ํS 60 ํS 80 ํN 80 ํN 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 80 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 จำนวนวันที่ประสบพายุฝนฟาคะนองตอป 02 4 10 25 40 60 80 100 140 200 แผนที่แสดงการกระจายของพายุฝนฟ้าคะนองในโลก ที่มา : www.mapsontheweb.zoom-maps.com 1.1) ขั้นก่อตัว (cumulus stage) เป็นขั้นตอนของกระแสอากาศไหลขึ้น เกิดขึ้น เมื่ออากาศร้อนชื้นลอยตัวและลดอุณหภูมิลงก ่อตัวเป็นเมฆคิวมูลัส ความร้อนแฝงจากการ กลั่นตัวของไอน�้าท�าให้การลอยตัวของกระแสอากาศภายในก้อนเมฆเร็วมากขึ้น  จนเมฆคิวมูลัส มีขนาดใหญ่ขึ้น 1.2) ขั้นเติบโตเต็มที่ (mature stage) ภายในเมฆพายุหรือเมฆคิวมูโลนิมบัสจะเกิด ความแปรปรวนจากกระแสอากาศพัดขึ้นลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง  ท�าให้เกิดการกลั่นตัว  การคาย ความร้อนแฝงและเกิดการชนปะทะรวมตัวกันของหยดน�้า หยดน�้าแข็ง และเสียดสีกันเกิดเป็นเม็ดฝน  ลูกเห็บ  พายุ  ลม  และประจุไฟฟ้า  เกิดกระแสลมเย็นพัดลงจากฐานเมฆ  ท�าให้เกิดลมกระโชกแรง  ฝนตกหนัก หรือลูกเห็บตก ใช้เวลา 15 - 30 นาที 1.3) ขั้นสลายตัว (dissipating stage)  เป็นระยะที่ไม่มีกระแสอากาศเคลื่อนที่ ขึ้นลง ปริมาณฝนตกลดลงและสลายตัว 2) การกระจายการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองของโลก Question   พายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้อย่างไร และพายุที่รุนแรงมักเกิดในช่วงฤดูใดของประเทศไทย Geo 182 เมื่ออากาศร้อนชื้นลอยตัวและลดอุณหภูมิลงก ่อตัวเป็นเมฆคิวมูลัส ความร้อนแฝงจากการ  (mature stage) ภายในเมฆพายุหรือเมฆคิวมูโลนิมบัสจะเกิด 1 2 นักเรียนควรรู 1 เมฆคิวมูลัส มีลักษณะเปนกอนหนา สีขาวคลายปุยฝายหรือสําลี ซึ่งลักษณะ เมฆนี้บอกถึงสภาวะอากาศแจมใส อากาศแหง และมีแดดจัด กอตัวในแนวตั้ง เกิดจากอากาศไมมีเสถียรภาพ ฐานเมฆเปนสีเทาเนื่องจากมีความหนามาก 2 เมฆคิวมูโลนิมบัส เมฆกอตัวในแนวตั้งพัฒนามาจากเมฆคิวมูลัส มีขนาด ใหญมาก ทําใหเกิดพายุฝนฟาคะนอง หากกระแสลมชั้นบนพัดแรงจะทําให ยอดเมฆรูปกะหลํ่ากลายเปนเมฆรูปทั่งตีเหล็ก ขั้นนํา 5. ครูใหนักเรียนดูภาพหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของ กับภัยพิบัติธรรมชาติทางบรรยากาศภาคใน ประเทศไทยและประเทศตางๆ เชน • พายุฝนฟาคะนองในประเทศญี่ปุน • พายุโซนรอนฟงวองพัดเขาถลมเกาะลูซอน ทางตอนเหนือของประเทศฟลิปปนส • พายุเฮอรริเคนแคทรีนาพัดถลมสหรัฐอเมริกา 6. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใช Geo Question จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวใหนักเรียนรวมกันตอบคําถาม โดยครู แนะนําเพิ่มเติม (แนวตอบ พายุฝนฟาคะนองเกิดขึ้นจากสาเหตุ หลายปจจัย สวนมากประกอบดวยมวลอากาศ (cells) หลายมวล คือ มีทั้งมวลอากาศที่ ลอยตัวขึ้น (updraft) และมวลอากาศที่จม ตัวลง (downdraft) มวลอากาศแตละมวลมี ลักษณะการเกิดแตละขั้นแตกตางกันดวย การ เกิดพายุฝนฟาคะนองปกติจะพบในเขตรอน สําหรับประเทศไทยมักจะเกิดขึ้นระหวางเดือน เมษายน-พฤษภาคม) กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขอมูลและศึกษาเกี่ยวกับปจจัยที่ทําใหเกิด พายุฝนฟาคะนอง และการเกิดพายุฝนฟาคะนองในแตละขั้น จากนั้นสรุปองคความรูและนําเสนอหนาชั้นเรียน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T190


ขอสอบเนน การคิด       โดยปกติทั่วโลกมีการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองทุกวัน  แต่ค่าเฉลี่ยจ�านวนวันที่เกิดจะ แตกต่างกันไปในแต่ปี โดยจะเกิดขึ้นเกือบทุกวันในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร ที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ประมาณปีละ 140 - 200 วัน ซึ่งเป็นพื้นที่มีอากาศร้อนมากในช่วงเวลาบ่ายของฤดูร้อน ส่วนเขต ที่มีอากาศหนาวเย็น หรือไม่มีความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิอากาศ จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง น้อยมาก       ส�าหรับประเทศไทย ในช่วงฤดูร้อนนับจากกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงช่วงต้น ฤดูฝน  มักมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดพาความชื้นจากทะเล ในขณะที่ภาคกลาง  ภาคเหนือ  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือปกคลุมด้วยอากาศร้อน  ความกด อากาศต�่า  เกิดเป็นเมฆคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัส  และเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง  มีลมกระโชกแรง เกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ และอาจมีลูกเห็บตก Geo Tip   ในรอบหนึ่งปีทั่วโลกจะมีพายุฝนฟ้าคะนองประมาณ 16 ล้านครั้ง โดยเฉพาะในเขตร้อนพบได้มากกว่า ในเขตละติจูดสูง ในเมืองร้อนที่มีอากาศชื้นจะมีจ�านวนวันที่มีพายุฝนฟ้าคะนองแบบอากาศร้อนเกิดขึ้น ได้มากถึง 80 - 160 วันต่อปี เมืองที่ประสบกับพายุฝนฟ้าคะนองมากที่สุด คือ เมืองบุยเต็นซอร์ค (Buitenzorg)  ในจังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย   สภาพอากาศจากพายุฝนฟ้าคะนอง  หากมีความรุนแรงมากสามารถ สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้เป็นจ�านวนมาก 183 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 1. ครูใหนักเรียนดูภาพ หรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของ กับพายุฝนฟาคะนองที่ทําใหเกิดลมกระโชก รุนแรง ฟาแลบ ฟารอง ฟาผา หรือมีลูกเห็บตก ประกอบการศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับพายุฝน ฟาคะนองและการระวังฟาผาจากการคํานวณ ระยะหาง จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพิ่มเติม 2. ครูตั้งคําถามถามนักเรียน เชน • หากเกิดพายุฝนฟาคะนองเราควรมีแนวทาง ในการปองกันผลกระทบตออาคารบานเรือน อยางไร (แนวตอบ เชน ตรวจตราและซอมแซม บานประตู หนาตางที่ชํารุด ใหอยูในสภาพ ที่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งถือเปนแนวทางในการ ปองกันผลกระทบจากวาตภัยที่เหมาะสม เพราะในขณะประสบภัยเราอาจไมสามารถ เตรียมการปองกันบานเรือนใหมั่นคง แข็งแรงไดทันเวลา) พายุฤดูรอนในประเทศไทยมีลักษณะการเกิดอยางไร (แนวตอบ พายุฤดูรอนในประเทศไทยมักเกิดในเดือนมีนาคมเมษายน ในชวงเวลาที่มีอากาศรอนอบอาวติดตอกันเปนเวลา นาน แลวมีกระแสอากาศเย็นจากประเทศจีนพัดลงมาปะทะ ทําใหเกิดฝนฟาคะนอง และอาจมีลูกเห็บตกได พายุฤดูรอนมัก เกิดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สวนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีการเกิดนอย ภาคใตอาจเกิดขึ้นไดเชนกัน แตไมบอยครั้ง) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของพายุฝนฟาคะนองวาสามารถแบงตาม ภาวะการเกิดไดหลายชนิด เชน พายุฝนฟาคะนองที่เกิดจากอากาศเปนตัวการ มักจะเกิดขึ้นตอนบาย เพราะเปนชวงที่อุณหภูมิใกลผิวดินรอนขึ้นสูงสุด พายุ ฝนฟาคะนองภูเขา เปนพายุที่ถูกอากาศพัดไปปะทะภูเขาที่ขวางกั้นทิศทางลม และพายุฝนฟาคะนองจากแนวปะทะ เกิดจากกลุมอากาศรอนถูกพัดพาไป ปกคลุมบริเวณอากาศเย็น นํา สอน สรุป ประเมิน T191


Click to View FlipBook Version