ขอสอบเนนการคิด 5) ยางพารา เป็นพืชเขตร้อนชื้น ขึ้นได้ดีในเขตอุณหภูมิสูงสม�่ำเสมอเฉลี่ยประมำณ 21 - 29 องศำเซลเซียส ต้องกำรปริมำณฝนเฉลี่ยไม่ต�่ำกว่ำ 1,905 มิลลิเมตรต่อปี ปลูกได้ดีบริเวณ เนินเขำ หรือที่รำบที่มีดินร่วนและระบำยน�้ำได้ดี พื้นที่ปลูกยำงพำรำส่วนใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน อินเดีย และศรีลังกำ 6) ปาล์มน�้ามัน เป็นพืชในเขตร้อนชื้นแถบศูนย์สูตร ขึ้นได้ดีในเขตที่มีฝนตกชุก สม�่ำเสมอเสมอตลอดปี มีควำมชื้นสูงและแสงแดดจัด ปริมำณฝนเฉลี่ยประมำณ 1,800 - 2,000 มิลลิเมตรต่อปี ปลูกได้ดีในดินร่วนเหนียวถึงดินเหนียว อุ้มน�้ำได้ดี มีธำตุอำหำรสูง แหล่งปลูกปำล์ม น�้ำมันส�ำคัญ เช่น ประเทศมำเลเซีย อินโดนีเซีย ไนจีเรีย ภำคใต้ของประเทศไทย 7) ฝ้าย ปลูกได้ในเขตร้อนและเขตอบอุ่นที่มีปริมำณฝนเฉลี่ย 500 - 1,020 มิลลิเมตร ต่อปี ต้องกำรอุณหภูมิสูง แหล่งเพำะปลูกส�ำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกำในเขตพื้นที่ที่เรียกว่ำ Cotton Belt ตั้งแต่รัฐนอร์ทแคโรไลนำไปทำงตะวันตกถึงรัฐเท็กซัส และจำกเขตที่แม่น�้ำโอไฮโอไหลลงแม่น�้ำ มิสซิสซิปปีถึงดินดอนสำมเหลี่ยมปำกแม่น�้ำมิสซิสซิปปี นอกจำกนี้ ยังมีปลูกในรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐแอริโซนำ ในทวีปเอเชียปลูกมำกทำงตะวันตกเฉียงเหนือของที่รำบสูงเดกกันในประเทศ อินเดีย ในประเทศจีนปลูกมำกบริเวณลุ่มแม่น�้ำฉำงเจียงและลุ่มแม่น�้ำหวำงเหอในที่รำบภำคเหนือ 8) ชา เป็นพืชที่ปลูกตำมเนินเขำในเขตร้อนชื้น และเขตอบอุ่นของทวีปเอเชีย ต้องกำรปริมำณฝนเฉลี่ย 1,270 - 6,350 มิลลิเมตรต่อปี ปลูกได้ดี ในพื้นที่ที่มีควำมสูงกว่ำระดับ น�้ำทะเล 1,000 - 2,000 เมตร แหล่งเพำะปลูกส�ำคัญ เช่น ประเทศอินเดียมีกำรปลูกชำในไร่ขนำดใหญ่ ในรัฐอัสสัม บริเวณหุบเขำพรหมบุตร ซึ่งมีควำมอุดมสมบูรณ์เอื้อต่อกำรเจริญเติบโตของต้นชำ รัฐเบงกอลตะวันตก ปลูกบนเทือกเขำที่มีควำมสูงกว่ำ 2,150 เมตรเหนือระดับน�้ำทะเล และบริเวณ ยอดเขำทำงตอนใต้ของประเทศที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ ฝนตกชุกตลอดปี ในประเทศจีนปลูกได้มำก ที่สุดในโลก โดยปลูกมำกในเขตเทือกเขำตอนกลำงและตอนใต้ระหว่ำงตอนเหนือของแม่น�้ำฉำงเจียง ในประเทศญี่ปุ่นปลูกมำกตำมเนินเขำตอนกลำงและตอนใต้ของเกำะฮนชู ศูนย์กลำงกำรผลิตที่ ส�ำคัญ คือ เมืองชิซุโอะกะ 9) กาแฟ ปลูกได้ในเขตร้อนที่มีปริมำณฝนเฉลี่ย 1,143 - 1,524 มิลลิเมตร อุณหภูมิ 18 - 25 องศำเซลเซียส ไม่ชอบน�้ำขัง แหล่งเพำะปลูกส�ำคัญ เช่น ประเทศบรำซิล ปลูกมำกทำง ตะวันออกของประเทศซึ่งเป็นเขตที่รำบสูง มีดินที่เหมำะแก่กำรปลูกกำแฟ คือ เป็นดินที่เกิดจำก หินภูเขำไฟที่มีรูพรุนและมีแร่ธำตุอุดมสมบูรณ์ ในทวีปเอเชียปลูกมำกทำงตอนใต้ของคำบสมุทร อำหรับในประเทศเยเมน ในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปลูกมำกที่เกำะชวำ เกำะสุมำตรำ ส่วนในหมู่เกำะเวสต์อินดีสปลูกมำกที่ประเทศจำเมกำ เฮติ และดินแดนเปอร์โตริโก 136 137 งตะวันตกเฉียงเหนือของที่รำบสูงเดกกันในประเทศ 1 หินภูเขำไฟที่มีรูพรุนและมีแร่ธ 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • ปจจัยสําคัญดานใดที่ทําใหกิจกรรมทาง การเกษตรที่สําคัญของโลกแตกตางกัน (แนวตอบ ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะ ภูมิอากาศ ตําแหนงที่ตั้งทางภูมิศาสตรของ แตละพื้นที่ ตลอดจนความอุดมสมบูรณของ ทรัพยากรธรรมชาติแตละประเภท) • กิจกรรมทางการเกษตรที่สําคัญของประเทศ ไทยสวนใหญอยูในภูมิภาคใด (แนวตอบ แหลงการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ หลายชนิดมักอยูที่ภาคกลางและภาคใต เพราะบริเวณพื้นที่ภาคกลางและภาคใตของ ประเทศไทยเปนที่ราบลุมและมีปริมาณ นํ้าฝนเพียงพอในการเพาะปลูกพืชตางๆ เชน ขาว ยางพารา ปาลมนํ้ามัน) นักเรียนควรรู 1 ที่ราบสูงเดกกัน เกิดจากการที่แผนดินสวนหนึ่งของทวีปแอนตารกติกา เคลื่อนตัวมาชนกับแผนดินทวีปเอเชีย รวมถึงทําใหเกิดเปนเทือกเขาขึ้นมา คือ เทือกเขาหิมาลัย 2 หินภูเขาไฟ หรือหินอัคนีผุ เกิดจากการเย็นตัวลงอยางรวดเร็วของหินหนืด ที่ดันตัวพุออกมานอกผิวโลกเปนลาวา (Lava) ผลึกแรมีขนาดเล็กหรือไมเกิด ผลึกเลย เชน หินบะซอลต (Basalt) หินแอนดีไซต (Andesite) หินไรโอไลต (Rhyolite) พืชเศรษฐกิจชนิดใดขึ้นไดดีในเขตภูมิอากาศแบบเดียวกัน 1. ชา ฝาย 2. กาแฟ ขาวเจา 3. ยางพารา กาแฟ 4. ปาลมนํ้ามัน ขาวสาลี 5. ยางพารา ปาลมนํ้ามัน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 5. ยางพารา ปาลมนํ้ามัน เปนพืช ในเขตรอนชื้น ขึ้นไดดีในเขตฝนตกชุก) นํา สอน สรุป ประเมิน T142
ขอสอบเนน การคิด 10 ํW 30 ํN 40 ํN 50 ํN 30 ํN 40 ํN 50 ํN 0 ํ 10 ํE 20 ํE 30 ํE 40 ํE 0 ํ 10 ํE 20 ํE 30 ํE 40 ํE ท ะ เ ล เ ม ดิเ ต อ รเ ร เ น�ย น ท ะ เ ล ดํา สเปน ฝรั�งเศส ก.คอรซิกา อิตาลี ก.ซารดิเน�ย ก.ซิซิลี กรีซ บัลแกเรีย แอลเบเน�ย โรมาเน�ย ตุรกี ซีเรีย จอรแดน ไซปรัส อิสราเอล เลบานอน ลิเบีย อียิปต ตูนิเซีย แอลจีเรีย โมร็อกโก โปรตุเกส พื้นที่เหมาะสม N มาตราสวน 1 : 45,000,000 0 500 1,000 กม. 50 ํN 30 ํE 40 ํE 10) ไม้ผล ผลไม้ปลูกได้ดีในเขตภูมิอำกำศแบบอบอุ่นและแบบชุ่มชื้น โดยเฉพำะ ในเขตภูมิอำกำศแบบเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งมีอำกำศค่อนข้ำงร้อนแห้ง มีแสงแดดจัดในฤดูร้อน ในฤดูหนำวอำกำศอบอุ่นและมีฝนตกค่อนข้ำงชุก ดินแดนในแถบเมดิเตอร์เรเนียนได้ชื่อว่ำเป็น “ดินแดนสวนผลไม้ของโลก” (orchard lands of the world) ไม้ผลที่ส�ำคัญในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และบริเวณอื่น ๆ ของโลกที่มีภูมิอำกำศ แบบเมดิเตอร์เรเนียน เช่น ส้ม นอกจำกปลูกได้ดีในแถบเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว ยังปลูกได้ในเขต อบอุ่นค่อนข้ำงร้อนที่มีฤดูร้อนชุ่มชื้น เช่น ในรัฐฟลอริดำ สหรัฐอเมริกำ องุ่น เป็นพืชส�ำคัญในเขต เมดิเตอร์เรเนียนทุกแห่ง และยังปลูกได้ในเขตที่มีอุณหภูมิประมำณ 16 องศำเซลเซียส พื้นที่ปลูก องุ่นมำก เช่น ภำคกลำงของประเทศฝรั่งเศส ตอนกลำงของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกำ มะกอก เป็นผลไม้พื้นเมืองของดินแดนในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เป็นพืชที่ปลูกเพื่อใช้น�้ำมัน สำมำรถเจริญ เติบโตได้แม้ในดินที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ต�่ำ 11) โคนม ส่วนมำกเลี้ยงในไร่นำผสม เขตเลี้ยงโคนมและผลิตอำหำรจำกนมโคที่ส�ำคัญ เช่น ทวีปอเมริกำเหนือ เลี้ยงบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกำและตะวันออกเฉียงใต้ ของแคนำดำ เพรำะบริเวณนี้เป็นเขตที่มีควำมชื้นเพียงพอท�ำให้หญ้ำอุดมสมบูรณ์ ในฤดูร้อนอำกำศ ไม่ร้อนมำก ท�ำให้โคที่เลี้ยงมีคุณภำพดีมำก นอกจำกนี้ บริเวณดังกล่ำวยังเป็นเขตที่ประชำกรอำศัย อยู่หนำแน่น มีฐำนะทำงเศรษฐกิจดี มีควำมเจริญก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี สำมำรถเตรียมผลผลิต จำกนมโคได้รวดเร็วและมีคุณภำพ และยังมีกำรขนส่งที่ทันสมัยและมีประสิทธิภำพท�ำให้ส่งผลผลิต ถึงผู้บริโภคได้รวดเร็ว แผนที่แสดงพื้นที่เหมาะสมในการท�าสวนผลไม้รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 136 137 องุ่นมำก เช่น ภำคกลำงของประเทศฝรั่งเศส ตอนกลำงของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกำ มะกอก 1 นักเรียนควรรู 1 มะกอก มะกอกชนิดที่นํามาทํานํ้ามันมะกอก เรียกวา มะกอกโอลีฟ เปน พันธุไมที่เหมาะกับภูมิอากาศรอน ซึ่งเปนลักษณะตามธรรมชาติของประเทศ แถบเมดิเตอรเรเนียน พื้นที่ที่มีตนมะกอกโอลีฟชุกชุมนั้นเปนบริเวณที่เสนละติจูด กับความสูงเหนือระดับนํ้าทะเลมีความสัมพันธในเชิงตรงขาม เชน ในประเทศ สเปน มะกอกจะขึ้นไดดีบริเวณตางๆ ไดแก ที่แควน Rioja ซึ่งอยูเหนือระดับ นํ้าทะเล 250 เมตร ที่แควน Castilla-La Mancha เหนือระดับนํ้าทะเล 700 เมตร และที่เมือง Jean และ Garnada เหนือระดับนํ้าทะเล 1,200 เมตร ในประเทศโมร็อกโกตนมะกอกโอลีฟมีอยูชุกชุมที่เทือกเขาแอตลาส บริเวณ 1600 -1700 เมตร เหนือระดับนํ้าทะเล เพราะเหตุใดประเทศในแถบเมดิเตอรเรเนียนจึงไดชื่อวาเปน “ดินแดนสวนผลไมของโลก” 1. เปนประเทศที่สงออกผลไมอันดับ 1 ของโลก 2. ประชากรสวนใหญประกอบอาชีพคาขายผลไม 3. มีการจัดแสดงนวัตกรรมดานการทําสวนผลไมระดับโลก 4. มีสภาพภูมิอากาศไมรอนจัดและไมหนาวจัดมาก เหมาะแก การปลูกผลไม 5. มีดินอุดมสมบูรณเหมาะแกการปลูกผลไมจากการปะทุของ ภูเขาไฟบอยครั้ง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ประเทศแถบเมดิเตอรเรเนียนมี สภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอรเรเนียน ซึ่งฤดูรอน มีอากาศรอนและ แหงแลง สวนฤดูหนาว อากาศอบอุนและมีฝนตกคอนขางชุก จึงทําใหดินแดนแถบนี้อุดมสมบูรณไปดวยผลไมนานาชนิด) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 7. ครูใหนักเรียนดูแผนที่แสดงพื้นที่ที่เหมาะสม ในการทําสวนผลไมรอบทะเลเมดิเตอรเรเนียน จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกัน อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เชื่อมโยง กับลักษณะทางกายภาพตามแผนที่ที่กําหนด นํา สอน สรุป ประเมิน T143
ทวีปยุโรป เลี้ยงบริเวณเขตภูมิอำกำศภำคพื้นสมุทรชำยฝั่งตะวันตกแถบประเทศ เดนมำร์ก เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศเหล่ำนี้มีกำรส่งผลิตผลจำกนมโคออก จ�ำหน่ำยมำก ทุ่งหญ้ำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อุดมสมบูรณ์มีคุณค่ำทำงอำหำร ท�ำให้นมโคใน สวิตเซอร์แลนด์มีคุณภำพดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย เลี้ยงบริเวณตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย เพรำะมีควำมชื้นเพียงพอ ท�ำให้มีทุ่งหญ้ำอุดมสมบูรณ์ มีแรงงำนเพียงพอ และมีกำรขนส่งที่มี ประสิทธิภำพ ในประเทศนิวซีแลนด์มีกำรเลี้ยงโคนมในเกำะเหนือ 12) โคเนื้อ ส่วนมำกใช้เนื้อเป็นอำหำร หนังใช้ฟอกท�ำเครื่องใช้ต่ำง ๆ ใช้แรงงำน และใช้เป็นสัตว์บรรทุก ประเทศที่เลี้ยงโคเนื้อมำก เช่น สหรัฐอเมริกำ บรำซิล อินเดีย จีน สำยพันธ์ุที่นิยมเลี้ยง ได้แก่ พันธุ์เฮียร์ฟอร์ด เป็นสำยพันธุ์ที่เลี้ยงมำกที่สุดในสหรัฐอเมริกำ พันธุ์ ลองฮอร์น เลี้ยงมำกในทุ่งหญ้ำทำงภำคตะวันตกของสหรัฐอเมริกำ มีควำมทนทำนต่อสภำพอำกำศ ที่รุนแรง พันธุ์บรำห์มัน เป็นพันธุ์พื้นเมืองของประเทศอินเดีย ทนอำกำศร้อนชื้นได้ดี สหรัฐอเมริกำ จึงน�ำไปผสมหรือปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้เหมำะส�ำหรับเลี้ยงในเขตร้อนชื้นของสหรัฐอเมริกำ และพันธุ์ ชอร์ตฮอร์น เลี้ยงทั่วไปในทวีปอเมริกำเหนือ อเมริกำใต้ ยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกำ เป็นพันธุ์ ที่ให้ทั้งเนื้อและนม 13) ประมงน�้าเค็ม เป็นกำรประมงในเขตน�้ำตื้นใกล้ชำยฝั่งหรืออำจเป็นกำรประมงใน ทะเลหลวง กำรประมงของแต่ละภูมิภำคขึ้นอยู่กับสภำพทำงภูมิศำสตร์และเศรษฐกิจที่ส�ำคัญ ดังนี้ ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ลักษณะของพื้นทะเล แหล่งที่มีปลำ ชุกชุม ได้แก่ พื้นที่ของท้องทะเล นับจำกบริเวณชำยฝั่งไปถึงเขต ที่มีน�้ำลึกไม่เกิน 200 เมตร ลักษณะชำยฝั่ง ฝั่งทะเลที่เว้ำแหว่งมีอ่ำว ใหญ่น้อยและน�้ำไม่ลึกมำกเป็นที่อำศัย ของปลำและที่วำงไข่ขยำยพันธุ์ของสัตว์น�้ำ เขตน�้ำตื้น แสงสว่ำงส่องลงไปใต้ น�้ำ ท�ำให้เกิดแพลงก์ตอนซึ่งเป็น อำหำรของปลำ อุณหภูมิ ในบริเวณที่มีอุณภูมิต�่ำจะมี ฤดูเพำะปลูกสั้น คนในเขตนั้นจึงต้อง ท�ำประมงเพื่อเพิ่มผลผลิตอำหำรถ้ำมี แหล่งน�้ำ กำรผสมกันระหว่ำงน�้ำจืด ที่ไหลลงทะเล ท�ำให้น�้ำทะเล ได้รับอินทรียวัตถุซึ่งเป็น อำหำรของสัตว์น�้ำ เขตประมงอยู่ ใกล้เขตประชำกรหนำแน่น เพรำะมีแรงงำนและใกล้ผู้บริโภค ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี ท�ำให้มีเครื่องมือ ที่ทันสมัยมีอุปกรณ์ติดตำมฝูงปลำ ท�ำให้ออกไป จับปลำในน่ำนน�้ำได้เป็นเวลำนำน 138 139 กิจกรรม สรางเสริม ประสิทธิภำพ ในประเทศนิวซีแลนด์มีกำรเลี้ยงโคนมในเกำะเหนือ ทะเลหลวง กำรประมงของแต่ละภูมิภำคขึ้นอยู่กับสภำพทำงภูมิศำสตร์และเศรษฐกิจที่ส�ำคัญ ดังนี้ 1 2 นักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุโคนมและ โคเนื้อ พื้นที่บริเวณที่นิยมเลี้ยงในทวีปตางๆ ของโลก จากแหลง ขอมูลตางๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซต จากนั้นสรุป ความรูลงในกระดาษรายงาน พรอมติดภาพประกอบ ตกแตงให สวยงาม ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 8. ครูใหนักเรียนใชสมารตโฟนสืบคนแหลง ประมงนํ้าเค็มที่สําคัญของโลกจากเว็บไซตใน อินเทอรเน็ต จากนั้นรวมกันศึกษาเชื่อมโยง และยกตัวอยาง ความสัมพันธระหวางเขต ประมงสําคัญของโลกกับลักษณะทางกายภาพ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจาก แหลงการเรียนรูอื่นๆ เพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 เกาะเหนือ (North Island) เปนหนึ่งในเกาะหลัก 2 เกาะ (เกาะเหนือและ เกาะใต) ของประเทศนิวซีแลนด ตั้งอยูละติจูด 39 00’ ใต ลองจิจูด 176 00’ ตะวันออก มีเนื้อที่ 114, 729 ตารางกิโลเมตร 2 ทะเลหลวง (high seas) ทะเลที่อยูนอกเขตเศรษฐกิจจําเพาะ ทะเล อาณาเขตนานนํ้าภายในของรัฐ หรือนานนํ้าหมูเกาะ รัฐใดก็ไมสามารถจะอาง สิทธิที่จะทําใหสวนหนึ่งสวนใดของทะเลหลวงตกอยูภายใตอธิปไตยของตนได นํา สอน สรุป ประเมิน T144
ขอสอบเนน การคิด 0 ํ 40 ํE 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 0 ํ 0 ํ 40 ํS 40 ํN 80 ํN 0 ํ 40 ํS 40 ํN 80 ํN 40 ํE 80 ํE 120 ํE เสนศูนยสูตร เสนทรอปกออฟแคนเซอร เสนทรอปกออฟแคปริคอรน เสนอารกติกเซอรเคิล 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW N 0 2,000 4,000 กม. มหาสมุทรแปซิฟก ญี่ปุน เปรู นามิเบีย นอรเวย ชิลี มหาสมุทร อินเดีย มหาสมุทร แอตแลนติก มหาสมุทรอารกติก แกรนดแบงส คูริลแบงก (ตัน/ตร.กม./ป) เขตศักยภาพการประมง 0.05 0.2 1 3 5 10 ที่มา : United Nations Environment Programme, 2008 แผนที่แสดงผลผลิตจากการท�าประมงในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก เขตประมงส�ำคัญของโลก ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตร้อนและอยู่ในซีกโลกทำงเหนือ เพรำะทะเลในเขตร้อนมีจ�ำนวนปลำน้อย เนื่องจำกแพลงก์ตอนที่เป็นอำหำรปลำมีหนำแน่นในเขต ที่มีน�้ำเย็น ตัวอย่ำงแหล่งประมงที่ส�ำคัญของโลก เช่น เขตประมงทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น เขตน่ำนน�้ำ ไต้หวันถึงทะเลเบริง โดยเฉพำะบริเวณที่เรียกว่ำ คูริลแบงก์ เป็นเขตทะเลตื้นที่มีกระแสน�้ำอุ่น คุโระชิโอะและกระแสน�้ำเย็นโอะยะชิโอะมำบรรจบกัน เขตประมงทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก เช่น น่ำนน�้ำ นอกชำยฝั่งนิวอิงแลนด์ขึ้นไปถึงชำยฝั่งแคนำดำและนิวฟันด์แลนด์ เป็นเขตที่มีไหล่ทวีปกว้ำง แหล่งจับปลำที่ส�ำคัญ คือ แกรนด์แบงส์ เป็นบริเวณที่มีกระแสน�้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมและกระแสน�้ำเย็น แลบรำดอร์ไหลมำบรรจบกัน เขตประมงทางตะวันออกกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ประเทศเปรูและชิลี ตะวันตกของอเมริกำกลำง ประเทศเม็กซิโก มีกระแสน�้ำเย็นเปรูไหลผ่ำน ท�ำให้มีอำหำรของปลำ จ�ำนวนมำก แต่เป็นปลำขนำดเล็กใช้ท�ำปลำป่นส�ำหรับอำหำรสัตว์และท�ำปุ๋ย ปัจจุบันกำรประมงเพื่อกำรค้ำมีกำรน�ำเครื่องมือที่ทันสมัยมำใช้ เช่น เครื่องมือเสียง อิเล็กทรอนิกส์ ที่ท�ำให้ทรำบทิศทำง ระยะห่ำง และขนำดของฝูงปลำ กำรใช้ดำวเทียมเพื่อแสดง ภำพลักษณะของมหำสมุทรในกำรช่วยยืนยันต�ำแหน่งระหว่ำงเขตกระแสน�้ำเย็นและกระแสน�้ำอุ่น 138 139 คูริลแบงก์ เป็นเขตทะเลตื้นที่มีกระแสน�้ำอุ่น คุโระชิโอะและกระแสน�้ำเย็นโอะยะชิโอะม 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 9. ครูใหนักเรียนรวมกันศึกษาและวิเคราะห แผนที่แสดงผลผลิตจากการทําประมงใน ภูมิภาคตางๆ ของโลก จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจากแหลงการเรียนรู อื่นๆ เพิ่มเติม 10. ครูสุมถามนักเรียนเพิ่มเติมถึงพื้นที่ที่มีผลผลิต จากการทําประมงในภูมิภาคตางๆ ของโลก จากนั้นอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพื่อ วิเคราะหและแปลผลขอมูลรวมกัน นักเรียนควรรู 1 กระแสนํ้าอุน กระแสนํ้าที่มีอุณหภูมิสูงกวานํ้าบริเวณนั้น สวนใหญมักเกิด บริเวณชายฝงทางตะวันออกของทวีป เชน กระแสนํ้าอุนกัลฟสตรีม (เกิดทาง ชายฝงตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ) จะทําใหอุณหภูมิเหนือผิวดินอุนขึ้น ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น ความกดอากาศตํ่าลง ภูมิประเทศบริเวณนั้นจึงเปน เขตอบอุนและอุดมสมบูรณ 2 กระแสนํ้าเย็น กระแสนํ้าที่มีอุณหภูมิตํ่ากวานํ้าบริเวณนั้น สวนใหญเกิดขึ้น บริเวณชายฝงตะวันตกของทวีป เชน กระแสนํ้าเย็นเปรู (เกิดทางชายฝงตะวันตก ของทวีปอเมริกาใต) จะทําใหเกิดความกดอากาศสูง และลดความชื้นในอากาศ ฝนจึงตกนอยลง ภูมิประเทศบริเวณนั้นจึงแหงแลง บางเปนทะเลทราย เขตคูริลแบงกบริเวณนานนํ้าไตหวันถึงทะเลแบริงมีความสําคัญ ทางเศรษฐกิจอยางไร 1. แหลงปโตรเลียม 2. แหลงประมงที่มีปลาชุกชุม 3. เขตนํ้าลึก มีชายฝงทะเลเวาแหวง 4. เปนเสนทางการไหลของกระแสนํ้าในมหาสมุทร 5. มีแนวปะการังยาว เปนที่อยูอาศัยของแพลงกตอน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. คูริลแบงกเปนบริเวณที่กระแสนํ้าอุน คุโระชิโอะกับกระแสนํ้าเย็นโอะยะชิโอะไหลมาบรรจบกัน ทําใหมี แพลงกตอนซึ่งเปนอาหารของปลาอยูเปนจํานวนมาก จึงเปนแหลง ปลาชุกชุม มีประโยชนทางดานการประมง) นํา สอน สรุป ประเมิน T145
คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ขาวเจา 0150 150 พื้นที่อื่นๆ กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกขาวของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE 0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกขาวโพดของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ขาวโพด พื้นที่อื่นๆ แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกข้าวเจ้าของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกข้าวโพดของไทย 1.3 เกษตรกรรมในประเทศไทย ประเทศไทยมีพื้นที่ที่เหมำะแก่กำรเพำะปลูก พืชเศรษฐกิจที่ปลูกมีทั้งพืชที่ใช้เป็นอำหำร ใช้เป็นวัตถุดิบในโรงงำนอุตสำหกรรม และส่งเป็นสินค้ำออกที่ส�ำคัญ ได้แก่ ข้าวเจ้า เป็นพืชเศรษฐกิจที่ส�ำคัญของไทย มีพื้นที่เพำะปลูกมำกกว่ำพืชชนิดอื่น ๆ ขึ้นได้ดี ในดินเหนียวและดินร่วนปนเหนียว ปลูกมำกในที่ลุ่มภำคกลำงและภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าวโพด ปลูกได้ดีในทุกภำค แต่ส่วนมำกปลูกมำกในพื้นที่ภำคเหนือและภำคตะวันออก เฉียงเหนือ ผลผลิตน�ำไปใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอำหำรสัตว์ อุตสำหกรรมท�ำแป้งข้ำวโพด มันส�าปะหลัง ขึ้นได้ในสภำพดินฟ้ำอำกำศหลำยชนิด แม้แต่สภำพอำกำศแห้งแล้ง เนื้อดิน มีตั้งแต่ดินร่วนปนทรำยถึงดินทรำย ปลูกมำกในภำคตะวันออกเฉียงเหนือและภำคตะวันออก อ้อย ปลูกทุกภำค ยกเว้นภำคใต้มีกำรปลูกน้อย เจริญเติบโตได้ดีบริเวณที่ดอนน�้ำไม่ขัง ดินร่วนซุย และแสงแดดจัด เป็นวัตถุดิบส�ำคัญในอุตสำหกรรมผลิตน�้ำตำล และพลังงำนทดแทน ยางพารา เจริญเติบโตได้ดีบริเวณที่มีควำมชื้น ฝนตกชุก ปลูกได้ทั่วไปในภำคใต้และภำค ตะวันออก ปัจจุบันสำมำรถพัฒนำพันธุ์และปลูกได้ในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ปาล์มน�้ามัน เจริญเติบโตได้ดีในอำกำศร้อนชื้น ฝนตกชุก ปลูกได้ดีในบริเวณภำคใต้ของไทย ปัจจุบันได้มีกำรน�ำเทคโนโลยีมำใช้ในกำรเพำะปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ เช่น กำรพัฒนำ พันธุ์พืชให้มีควำมต้ำนทำนโรค กำรเพำะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อใช้ในกำรขยำยพันธุ์ ตลอดจนกำรประยุกต์ ใช้ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์เพื่อค�ำนวณกำรให้น�้ำแก่พืชและระยะเวลำกำรเก็บเกี่ยว 140 141 ล และพลังงำนทดแทน ปาล์มน�้ามัน เจริญเติบโตได้ดีในอ 1 2 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 11. ครูใหนักเรียนรวมกันนําขอมูลที่ไดจาก การศึกษามาวิเคราะหเชื่อมโยงกับประเด็น “เกษตรกรรมในประเทศไทย” อภิปรายและ เสนอแนะขอคิดเห็นเพิ่มเติม 12. ครูถามคําถามเพื่อใหนักเรียนไดวิเคราะห ความรูเพิ่มเติม เชน • ประเทศไทยมีการปลูกยางพารา ซึ่งเปน พืชเขตรอนชื้นเปนจํานวนมาก โดยเฉพาะ บริเวณพื้นที่จังหวัดใด (แนวตอบ ในภาคใต เชน จังหวัดสุราษฎรธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ภาคตะวันออก เชน จังหวัดจันทบุรี ตราด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เชน จังหวัดบุรีรัมย อุบลราชธานี หนองคาย นครพนม) นักเรียนควรรู 1 พลังงานทดแทน กากของออย หรือชานออยที่เหลือจากการคั้นนํ้าออก สามารถนํามาทําเปนเชื้อเพลิงชีวมวล เพื่อกลับมาใชในกระบวนการผลิตตอไป เชน เปนเชื้อเพลิงในการผลิตนํ้าตาลดิบ หรือนําไปผลิตกระแสไฟฟา โดยออย 1 ตัน เมื่อผานกระบวนการแปรรูปตางๆ แลวจะมีวัสดุที่เหลือจากกระบวนการ ผลิตหรือกากกอย ประมาณ 290 กิโลกรัม หรือเทียบเทาพลังงานไฟฟาได 100 kWh 2 ปาลมนํ้ามัน มีถิ่นกําเนิดในทวีปแอฟริกา เปนพืชที่ใหผลผลิตนํ้ามันตอหนวย พื้นที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับพืชนํ้ามันชนิดอื่นๆ ปาลมนํ้ามันเจริญเติบโตและให ผลิตผลดีในสภาพอากาศที่รอนและชื้น มีปริมาณฝนตั้งแต 2,000 มิลลิเมตร ตอปขึ้นไป ปลูกกันมากในภาคใตและชายฝงทะเลดานตะวันออกของอาวไทย สามารถนํามาใชประโยชนหลากหลาย เชน เปนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตสบู อุตสาหกรรมอาหาร เชน นมขนหวาน ไอศกรีม ครีมเทียม ใชในอุตสาหกรรม โอลิโอเคมีคัล รวมถึงอุตสาหกรรมผลิตไบโอดีเซล นักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจการเกษตรในทองถิ่น ของตนเอง ในประเด็น สภาพพื้นที่ที่เหมาะแกการเพาะปลูก ผลิตผลที่ไดจากการเพาะปลูก เทคโนโลยีที่ชวยในการเพาะปลูก แลวนําเสนอขอมูลลงกระดาษโปสเตอร พรอมมีภาพประกอบ ตกแตงใหสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T146
0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกมันสำปะหลังของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ มันสำปะหลัง พื้นที่อื่นๆ 0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกออยของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ออย พื้นที่อื่นๆ 0150 150 กิโลเมตร N แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกยางพาราของประเทศไทย อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ยางพารา พื้นที่อื่นๆ 0150 150 กิโลเมตร N อาวตังเกี๋ย ทะเลอันดามัน อาวไทย เมียนมาลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม แผนที่แสดงพื้นที่การปลูกปาลมน้ำมันของประเทศไทย 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 18 ํN 14 ํN 10 ํN 6 ํN 100 ํE 104 ํE 100 ํE 104 ํE คำอธิบายสัญลักษณ แมน้ำ, แหลงน้ำ ปาลมน้ำมัน พื้นที่อื่นๆ แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกมันส�าปะหลังของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกยางพาราของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกอ้อยของไทย แผนที่แสดงพื้นที่ปลูกปาล์มน�้ามันของไทย 140 ที่มา : กรมพัฒนำที่ดิน พ.ศ. 2558 / 2559 141 กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนดูแผนที่แสดงพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย จากหนังสือเรียน หนา 141 แลวรวมกันวิเคราะหปฏิสัมพันธระหวาง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 4.1 เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจในดานเกษตรกรรม 3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในดานเกษตรกรรม โดยครูแนะนําเพิ่มเติม ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือ ดานเทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับกิจกรรมทาง เศรษฐกิจในดานเกษตรกรรม หรือใช PPT สรุป สาระสําคัญของเนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประเภทเกษตรกรรม ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนํา เสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบ ประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 4 เรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T147
ขอสอบเนนการคิด 2 อุตสาหกรรมการผลิต อุตสำหกรรม หมำยควำมถึง เทคนิคในกำรผลิตที่เป็นกระบวนกำรเปลี่ยนแปลงหรือแปรรูป วัตถุดิบเป็นผลผลิตในรูปแบบต่ำง ๆ เป็นกระบวนกำรที่อำศัยเครื่องจักรและวิธีกำรที่ทันสมัยเป็น กลไกส�ำคัญ อุตสำหกรรมมีหลำยประเภทกระจำยตัวอยู่ตำมภูมิภำคต่ำง ๆ ของโลก โดยมีปัจจัย ส�ำคัญ ดังนี้ 2.1 ปจจัยกำาหนดที่ตั้งของอุตสาหกรรม กำรเลือกที่ตั้งโรงงำนอุตสำหกรรมที่เหมำะสมที่สุดส�ำหรับกำรด�ำเนินกำรมีปัจจัยส�ำคัญ ดังนี้ 1) ที่ดิน เป็นสถำนที่ตั้งในกำรประกอบธุรกิจอุตสำหกรรม ประเด็นที่น�ำมำพิจำรณำ คือ รำคำที่ดิน และขนำดของพื้นที่ ตำมปกติท�ำเลในเขตเมืองมีค่ำใช้จ่ำยสูง ดังนั้น โรงงำนส่วนมำก จึงตั้งห่ำงจำกเมืองออกไปอยู่ตำมชำนเมืองหรือชนบท 2) วัตถุดิบ อุตสำหกรรมบำงประเภทตั้งอยู่ ใกล้แหล่งวัตถุดิบโดยตรง เพื่อประหยัด ค่ำขนส่งในปริมำณมำก เช่น กำรถลุงเหล็ก โรงงำนแปรรูปไม้ อุตสำหกรรมบำงประเภทอำจ เสียหำยได้จำกกำรขนส่งระยะไกล เช่น อุตสำหกรรมเนื้อสัตว์ ผลไม้ แต่อุตสำหกรรมบำงประเภท ที่ใช้วัตถุดิบที่มีน�้ำหนักเบำ จ�ำนวนน้อย เพื่อผลิตสินค้ำรำคำสูง เช่น โรงงำนผลิตเวชภัณฑ์ โรงงำนผลิตเสื้อผ้ำ อำจตั้งอยู่ไกลจำกแหล่งวัตถุดิบ หรือไปตั้งในแหล่งผู้บริโภค หรือแหล่งที่มี ค่ำแรงถูกได้ 3) แรงงาน ควำมส�ำคัญของแรงงำนอยู่ที่จ�ำนวน คุณภำพ และค่ำจ้ำงแรงงำนนั้น ๆ เช่น กำรผลิตในอุตสำหกรรมที่ต้องใช้ทักษะควำมช�ำนำญ ผู้ผลิตมักเข้ำมำตั้งโรงงำนในเขตที่มี แรงงำนประเภทที่ต้องกำร เช่น กำรเจียระไนเพชรที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ กำร ผลิตนำฬิกำที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กำรท�ำพรมที่ประเทศอิหร่ำน นอกจำกคุณภำพของแรงงำน แล้ว ค่ำแรงยังมีผลต่อที่ตั้งอุตสำหกรรมด้วย เพรำะเมื่อมีแรงงำนที่รำคำถูกกว่ำท�ำให้ต้นทุน ต�่ำสำมำรถแข่งขันกับสินค้ำของประเทศอื่น ๆ ได้ จำกควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีในปัจจุบัน ได้มีกำรหุ่นยนต์และแขนกลมำใช้แทนแรงงำน คนมำกขึ้น ซึ่งเป็นเป้ำหมำยใหม่ของกำร ทดแทนแรงงำนคนในอนำคต เนื่องจำกสำมำรถ ท�ำงำนหนักหรืองำนอันตรำยที่คนไม่สำมำรถ ท�ำได้ เช่น กำรจับโลหะร้อน ของมีพิษหรือรังสี อุตสำหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ มักตั้งอยู่ ใกล้ภูเขำหินปูน สำมำรถท�ำงำนได้อย่ำงมีคุณภำพและสม�่ำเสมอ 142 143 ผลิตนำฬิกำที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กำรท�ำพรมที่ประเทศอิหร่ำน นอกจำกคุณภำพของแรงงำน 1 การผลิตสินคาอุตสาหกรรมในขอใดจําเปนตองใชแรงงานที่มี ทักษะความชํานาญและความละเอียดประณีตสูงที่สุด 1. การผลิตไวน 2. การปกครอสสติตช 3. การผลิตกระเบื้อง 4. การเจียระไนเพชร 5. การผลิตอาหารกระปอง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. การเจียระไนเพชร เปนอุตสาหกรรม ที่ตองใชแรงงานที่มีทักษะความชํานาญ ความอดทน สายตาดี และความละเอียดประณีตสูง เพื่อใหไดงานที่สวยงามและมีมูลคา มากที่สุด) นักเรียนควรรู 1 การทําพรมที่ประเทศอิหราน หรือเปนที่รูจักกันดีวา พรมเปอรเซีย ถือกําเนิดขึ้นตั้งแตประเทศอิหรานยังคงเปนอาณาจักรเปอรเซียโบราณที่ ยิ่งใหญในอดีต ปจจุบันเปนงานศิลปที่ไดรับการยอมรับไปทั่วโลกจากคุณภาพ อันยอดเยี่ยม มีลวดลายที่ประณีตละเอียดออนที่มีเอกลักษณเฉพาะตัว นับเปน สินคาออกที่ทํารายไดใหแกประเทศอิหรานจํานวนมหาศาลตลอดมา และที่ สําคัญก็คือ พรมเปอรเซียมีความผูกพันลึกซึ้งกับวิถีชีวิตของชาวอิหรานอยาง มากตั้งแตเกิดจนตาย กิจกรรมของชาวอิหรานสวนใหญลวนเกี่ยวของกับ ผืนพรม ทั้งยามกิน ยามนอน ทํางาน เที่ยวพักผอน หรือแมกระทั่งการประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา ขั้นนํา (Geographic Inquiry Process) 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ชื่อเรื่อง จุดประสงค และผลการเรียนรู 2. ครูใหนักเรียนนําคลิปวิดีโอที่ไดรวมกันหามา ลวงหนาเกี่ยวกับความกาวหนาของกิจกรรม ทางเศรษฐกิจของมนุษยในเรื่องตางๆ เชน อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องใชไฟฟา การผลิต อาหาร หรือการทองเที่ยว 3. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นจาก คลิปวิดีโอ ตามประเด็น เชน • จากคลิปวิดีโอแสดงถึงความเจริญกาวหนา ในดานใด • จากคลิปวิดีโอแสดงถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่สําคัญในเรื่องใด • ปจจัยสําคัญที่สงผลตอการดําเนินกิจกรรม ตามคลิปวิดีโอคือสิ่งใด นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T148
ขอสอบเนน การคิด 4) การขนส่ง เส้นทำงขนส่งที่มีเส้นทำงติดต่อกันหลำยสำยและมีค่ำบริกำรที่ไม่สูง เป็นปัจจัยส�ำคัญในกำรก�ำหนดที่ตั้งอุตสำหกรรม โดยเฉพำะกำรขนส่งทำงน�้ำที่เหมำะส�ำหรับ เมืองรอตเทอร์ดำม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองกำรค้ำ อุตสำหกรรม และเมืองท่ำที่ส�ำคัญแห่งหนึ่งของโลก ส่งสินค้ำที่มีน�้ำหนักและปริมำณมำก เพรำะค่ำ ขนส่งถูกเมื่อเทียบกับกำรขนส่งทำงอื่น ดังนั้น เขตอุตสำหกรรมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้แม่น�้ำ ทะเล หรือมหำสมุทร และเมืองท่ำเหล่ำนั้นจะกลำยเป็น ศูนย์กลำงอุตสำหกรรมด้วย เช่น เมืองมำร์เซย์ เมืองฮัมบูร์ก เมืองรอตเทอร์ดำม เมืองนิวยอร์ก ปัจจุบันระบบโลจิสติกส์เข้ำมำมีบทบำทใน อุตสำหกรรมต่ำง ๆ มำกขึ้น เพรำะเป็นระบบที่ ช่วยสนับสนุนภำคอุตสำหกรรมในกำรขนส่งหรือ เคลื่อนย้ำยสินค้ำ กำรบริกำร หรือข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกันอย่ำงมีประสิทธิภำพ จำกต้นทำงถึง ปลำยทำงผู้บริโภค 5) ตลาด หมำยถึง ผู้บริโภคสินค้ำ ซึ่งได้แก่ประชำชนทั่วไป รวมถึงธุรกิจต่ำง ๆ ทั้ง ในภำคเกษตรและอุตสำหกรรม ขนำดของตลำด คือ อ�ำนำจซื้อของประชำชนและกำรขยำยตัว ของเศรษฐกิจต่ำง ๆ อุตสำหกรรมบำงประเภท ตั้งอยู่ใกล้ตลำด โดยเฉพำะอุตสำหกรรมที่ เกี่ยวข้องกับกำรผลิตเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น Geo Tip นอกจำกปัจจัยทำงภูมิศำสตร์จะมีส่วนส�ำคัญ ในกำรเลือกที่ตั้งของโรงงำนอุตสำหกรรมแล้ว ปัจจัยทำงสังคมและวัฒนธรรมยังเข้ำมำมี บทบำทต่ออุตสำหกรรมด้วย เช่น นโยบำย ของรัฐ ซึ่งมีส่วนส�ำคัญมำกในกำรก�ำหนดย่ำน อุตสำหกรรม ชนิดของอุตสำหกรรม กำรกระจำย ของอุตสำหกรรมในพื้นที่ต่ำง ๆ อำหำร เครื่องดื่ม จ�ำเป็นต้องส่งถึงตลำดให้เร็วเพื่อควำมสดใหม่ เครื่องใช้ประจ�ำวัน เครื่องเรือน ซึ่งเป็นสินค้ำส�ำเร็จรูปขนำดใหญ่ กำรขนส่งไกลท�ำให้เสียค่ำใช้จ่ำยสูงและอำจช�ำรุดเสียหำย จึงตั้ง อยู่ในแหล่งชุมชน ควำมแตกต่ำงของตลำดอำจขึ้นอยู่กับรำยได้ของประชำกร ซึ่งหมำยถึงกำรมี อ�ำนำจซื้อของประชำกรด้วย ในประเทศก�ำลังพัฒนำส่วนใหญ่ประชำกรมีอ�ำนำจในกำรซื้อต�่ำ ซึ่ง ส่งผลต่อสินค้ำที่มีรำคำสูงถูกจ�ำกัดลง แต่สินค้ำรำคำถูกยังมี โอกำสดี แต่ในประเทศที่พัฒนำแล้ว ประชำกรมีอ�ำนำจซื้อสูง สำมำรถซื้อสินค้ำรำคำแพงได้ จึงเป็นตลำดของสินค้ำได้แทบทุกชนิด Activity นักเรียนแสดงบทบำทสมมติเป็นเจ้ำของโรงงำนอุตสำหกรรมกำรผลิตที่สนใจคนละ 1 แห่ง จำกนั้น ให้เลือกที่ตั้งของโรงงำน แล้ววิเครำะห์ถึงปัจจัยส�ำคัญที่เป็นตัวก�ำหนดที่ตั้งของโรงงำนดังกล่ำว Geo 142 143 ศูนย์กลำงอุตสำหกรรมด้วย เช่น เมืองมำร์เซย์ ปัจจุบันระบบโลจิสติกส์เข้ำมำมีบทบำทใน 1 2 ขั้นนํา 4. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับการ เลือกที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม จาก หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกัน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขอมูลดังกลาว 5. ครูอาจใหนักเรียนแบงกลุม ศึกษาและทํา กิจกรรมตามแนวทาง Geo Activity จาก หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพื่อเปนการ กระตุนความสนใจของนักเรียนเพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 เมืองมารเซย ตั้งอยูทางตะวันออกเฉียงใตของประเทศฝรั่งเศส เปนเมืองทา การคาที่สําคัญ สงวัสดุกอสราง ผลิตภัณฑอาหาร เหลาองุน และงานโลหะเปน สินคาออก มีอุตสาหกรรมสบู นํ้าตาล วัสดุกอสราง เคมีภัณฑ การกลั่นนํ้ามัน และอูตอเรือ 2 ระบบโลจิสติกส เปนการวางแผนการดําเนินการ การควบคุม การไหลเวียน การจัดเก็บวัสดุสินคา การบริการ และสารสนเทศอยางมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล จากแหลงจุดกําเนิดของวัตถุดิบ จนถึงจุดบริโภค หรือจุดการใชงาน เพื่อตอบสนองความตองการของลูกคา ในการเลือกตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในบริเวณใดก็ตาม จําเปนตอง มีปจจัยใดบาง (แนวตอบ การตั้งโรงงานอุตสาหกรรม มีหลายปจจัย เชน 1. ที่ิดิน เพื่อเปนที่ตั้งโรงงาน 2. วัตถุดิบ เพื่อนํามาปอนเขาสูกระบวนการผลิต 3. แรงงาน เพื่อดําเนินการควบคุมหรือผลิตสินคา ตลอดจน การขนสงสินคาไปยังผูบริโภค 4. ตลาด เพื่อเปนแหลงซื้อขายแลกเปลี่ยนสินคา) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T149
0 ํ 0 ํ 40 ํE 40 ํW 80 ํE 80 ํW 120 ํE 120 ํW 160 ํE 160 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 60 ํW 100 ํE 100 ํW 140 ํE 180 ํ140 ํW 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร อิ น เ ดี ย รถยนต เครื่องบิน เหล็ก ตอเรือ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญ พื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ N 1 : 160,000,000 0 2,000 4,000 กม. แผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสำคัญ 0 ํ 0 ํ 40 ํE 40 ํW 80 ํE 80 ํW 120 ํE 120 ํW 160 ํE 160 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 60 ํW 100 ํE 100 ํW 140 ํE 180 ํ140 ํW 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร อิ น เ ดี ย อิเล็กทรอนิกส ปโตรเคมี อาหารแปรรูป สิ�งทอ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญ พื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ N 1 : 160,000,000 0 2,000 4,000 กม. แผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสำคัญ ที่มา : DK Concise World Atlas 144 145เครื่องบิน1 นักเรียนควรรู กิจกรรม ทาทาย 1 เครื่องบิน บริษัทที่ประสบความสําเร็จในการดําเนินธุรกิจเครื่องบิน โดยสารขนาดใหญและเปนที่รูจักไปทั่วโลกมีเพียงแอรบัส (ของยุโรป) และโบอิง (ของสหรัฐอเมริกา) ซึ่งมีมูลคาสวนแบงทางการตลาดในสัดสวนรอยละ 83 โดยผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชยรุนตางๆ ตั้งแตขนาด 100-500 ที่นั่ง ตามความ ตองการของตลาด อยางไรก็ดี ใน พ.ศ. 2560 จีนประสบความสําเร็จในการผลิต เครื่องบินโดยสาร รุน C919 โดยบริษัทโคแม็ก (COMAC) และไดทดลองบิน เที่ยวแรกสําเร็จ จากทาอากาศยานผูตง นครเซี่ยงไฮ เปนเวลานาน 80 นาที การเปดตัวเครื่องบินโดยสารขนาดใหญลําแรกของจีนครั้งนี้ นับเปนอีกกาวสําคัญ ในการผลักดันของรัฐบาลจีน ที่ตองการลดการพึ่งพาการสั่งซื้อเครื่องบินจาก แอรบัสของยุโรป และโบอิงของสหรัฐอเมริกา รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรม การบินของตัวเอง เพื่อสวนแบงทางการตลาดจากตางชาติ ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมาอานและแปลความหมาย จากแผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสําคัญของโลก หนา 144-145 โดยวิเคราะหทําเลที่ตั้งที่เหมาะแกการประกอบ อุตสาหกรรมประเภทตางๆ ใหเพื่อนฟงที่หนาชั้นเรียน ขั้นนํา 6. ครูใหนักเรียนศึกษาแผนที่แสดงการกระจาย อุตสาหกรรมสําคัญในบริเวณตางๆ ทั่วโลก จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 7. ครูและนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น เชื่อมโยงเกี่ยวกับปจจัยที่กําหนดทําเลที่ตั้งของ อุตสาหกรรมเพิ่มเติม 8. ครูถามคําถามกระตุนความคิดโดยใหนักเรียน รวมกันตอบคําถาม เชน • อุตสาหกรรมที่นับไดวาเปนรากฐานสําคัญ ของสังคมสมัยใหมคืออุตสาหกรรมใด และ สามารถพบไดในบริเวณใด (แนวตอบ อุตสาหกรรมประเภทเหล็กและ เหล็กกลา พบในบริเวณตางๆ ของโลก เชน เขตเทือกเขาแอปพาเลเชียน ใน สหรัฐอเมริกา เขตดอนบาส ในรัสเซีย เขต เทือกเขาอูรัล ในไซบีเรีย เขตเมืองอานชาน ในจีน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T150
ขอสอบเนน การคิด 0 ํ 0 ํ 40 ํE 40 ํW 80 ํE 80 ํW 120 ํE 120 ํW 160 ํE 160 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 60 ํW 100 ํE 100 ํW 140 ํE 180 ํ140 ํW 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํN 20 ํS 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ม ห า ส มุ ท ร อิ น เ ดี ย อิเล็กทรอนิกส ปโตรเคมี อาหารแปรรูป สิ�งทอ เมืองอุตสาหกรรมสำคัญ พื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญ N 1 : 160,000,000 0 2,000 4,000 กม. แผนที่แสดงการกระจายอุตสาหกรรมสำคัญ ที่มา : DK Concise World Atlas 144 145ปโตรเคมี1 ขั้นนํา • บริเวณทวีปแอฟริกา จากแผนที่แสดงการ กระจายอุตสาหกรรมที่สําคัญ พบจํานวน การทําอุตสาหกรรมประเภทใดมากที่สุด และนอยที่สุด เพราะเหตุใด (แนวตอบ บริเวณทวีปแอฟริกาจะพบการ ทําอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปมากที่สุด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการที่มีทรัพยากร ทางการเกษตรคอนขางมาก เชน ชา กาแฟ อินทผลัม จึงกอใหเกิดอุตสาหกรรม การแปรรูปอาหารเปนจํานวนมาก และ พบอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกสนอยที่สุด เนื่องจากเปนอุตสาหกรรมที่ตองอาศัยความ เจริญกาวหนาทางเทคโนโลยีคอนขางมาก จึงพบการทําอุตสาหกรรมประเภทนี้ในพื้นที่ สวนนอยของทวีปแอฟริกาตามขอจํากัด ทางเศรษฐกิจ สังคม และลักษณะทาง กายภาพของทวีป) นักเรียนควรรู 1 ปโตรเคมี เปนการนําปโตรเลียม (นํ้ามัน หรือแกสธรรมชาติ) มาแปรสภาพ โดยผานกระบวนการตางๆ ของโรงกลั่นนํ้ามัน หรือโรงแยกแกสธรรมชาติ โดยการใชความรอน ความดัน หรือการทําปฏิกิริยาเคมี เพื่อใหเกิดสารตัวใหม ที่นําไปใชเปนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปโตรเคมี ทําใหไดผลิตภัณฑปโตรเคมี ขั้นตน ขั้นกลาง และขั้นปลาย ตามลําดับ เพราะเหตุใดอุตสาหกรรมปโตรเคมีถึงมีมากในแถบประเทศ ตะวันออกกลาง และการตั้งโรงงานมักอยูบริเวณชายฝงทะเล (แนวตอบ เพราะประเทศแถบตะวันออกกลางมีทรัพยากร ปโตรเลียมและแกสธรรมชาติ ซึ่งเปนวัตถุดิบตั้งตนของ อุตสาหกรรมปโตรเคมีอยูมาก นอกจากนี้ ยังตองใชเงินลงทุนสูง ประเทศแถบตะวันออกกลางจึงเปนผูผลิตรายใหญและสงออก ผลิตภัณฑปโตรเคมีสูตลาดโลก นอกจากนี้ อุตสาหกรรมปโตรเคมี จําเปนตองใชโครงสรางพื้นฐานและสาธารณูปการตางๆ รองรับ หลายดาน โดยเฉพาะระบบนํ้าและทาเรือ เนื่องจากกระบวนการ ผลิตจําเปนตองใชนํ้า หรือระบบหลอเย็นตางๆ จํานวนมาก และ การตั้งโรงงานบริเวณชายฝงทะเลจะชวยในการขนสงวัตถุดิบ และผลิตภัณฑตางๆ ในปริมาณมากได) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T151
ขอสอบเนนการคิด 2.2 อุตสาหกรรมที่สำาคัญ ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่ส�าคัญ เช่น 1) อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า เป็นอุตสาหกรรมซึ่งเป็นรากฐานส�าคัญของ สังคมสมัยใหม่ แหล่งผลิตเหล็กและเหล็กกล้าของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา มีอุตสาหกรรมเหล็ก และเหล็กกล้าในเขตเทือกเขาแอปพาเลเชียน บริเวณรอบทะเลสาบเกรตเลกส์ และเขตริมฝั่ง แอตแลนติกตอนกลาง ในประเทศรัสเซีย เขตดอนบาสเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ ยังมีในเขตเทือกเขาอูรัลและคูสบาสในไซบีเรีย ในประเทศเยอรมนี เขตส�าคัญอยู่บริเวณลุ่มแม่น�้ารูร์ซึ่งเป็นเขตถ่านหิน ในประเทศจีนเขตส�าคัญอยู่ทางตอนใต้ของ ที่ราบในแมนจูเรีย ที่เมืองอานชานและเฉิ่นหยาง ในประเทศญี่ปุ่นอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า อยู่บริเวณตอนเหนือของเกาะคีวชูและตอนใต้ของเกาะฮนชู กราฟแสดงปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า พ.ศ. 2560 จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย เกาหลีใต้ เยอรมนี ตุรกี บราซิล ยูเครน 900 800 700 600 500 400 300 200 100 0 808.4 104.8 95.6 78.5 70.8 42.1 33.2 31.3 24.2 ปริมาณผลิต: ล้านตัน ประเทศ 68.6 ที่มา : World Steel Association, 2017 2) อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์สหรัฐอเมริกามีการใช้รถยนต์มากที่สุดเพราะประชากร มีมากขึ้น ท�าให้มีการใช้รถยนต์ในการคมนาคมขนส่ง ประกอบกับรายได้ของประชากรมีมาก โดย แหล่งผลิตรถยนต์ที่ส�าคัญของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่เมืองดิทรอยต์รัฐมิชิแกนซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม เหล็กและเหล็กกล้า อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ในยุโรป เช่น ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร ที่ตั้งของโรงงานอยู่ในแหล่งผลิตเหล็กและเหล็กกล้าของยุโรป ตั้งอยู่ในเขตที่มี ประชากรหนาแน่นซึ่งเป็นการตั้งในบริเวณของตลาดและในยุโรปมีเมืองท่าจ�านวนมากท�าให้สะดวก ต่อการส่งออกไปยังตลาดโลก ในทวีปเอเชีย ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการผลิตมากที่สุดและส่งออกเข้าสู่ ตลาดโลกเป็นจ�านวนมาก 146 147 บริเวณรอบทะเลสาบเกรตเลกส์ คัญอยู่บริเวณลุ่มแม่น�้ารูร์ซึ่งเป็นเขตถ่านหิน 1 2 การที่รถยนตญี่ปุนเปนที่นิยมใชกันอยางแพรหลายและแบรนด ติดอันดับขายดีระดับโลก เปนเพราะเหตุผลใด (แนวตอบ มีหลายเหตุผล เชน รถญี่ปุนมีราคาและคาซอมบํารุง ไมสูงมากเมื่อเทียบกับรถยุโรป มีความทนทาน ประหยัดนํ้ามัน คันไมใหญมาก สามารถวิ่งในถนนเลนแคบได มีหลายแบบที่ สามารถสนองความตองการของผูบริโภคได เชน รถสําหรับ ครอบครัว รถกระบะสําหรับบรรทุกของ) ขั้นนํา • อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกลา เปนปจจัย ที่กอใหเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจประเภท อุตสาหกรรมในดานใด (แนวตอบ อุตสาหกรรมการตอเรือ อุตสาหกรรม การผลิตรถยนต อุตสาหกรรมการผลิต เครื่องบิน อุตสาหกรรมการผลิตรถไฟ) • นักเรียนคิดวาแนวโนมของอุตสาหกรรมผลิต รถยนตในอนาคตจะเปนอยางไร (แนวตอบ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต ในอนาคตมีแนวโนมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก ความตองการในการใชรถยนตเพื่อการ คมนาคมขนสงและดํารงชีวิตประจําวัน ของประชากรโลกยังคงมีความจําเปนและ อาจมีเพิ่มมากขึ้น โดยอาจมีการปรับเปลี่ยน พลังงานเชื้อเพลิงเพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่นิยมใชเปนนํ้ามัน หรือแกสธรรมชาติ ก็อาจมีการปรับเปลี่ยน เปนพลังงานเพื่อสิ่งแวดลอมที่ยั่งยืน เชน พลังงานนํ้า พลังงานลม พลังงานแสง อาทิตย ฯลฯ) นักเรียนควรรู 1 ทะเลสาบเกรตเลกส เปนชื่อเรียกกลุมทะเลสาบในทวีปอเมริกาเหนืออยู ตอนกลางของทวีป ประกอบดวยทะเลสาบ 5 แหง ไดแก ซุพีเรีย มิชิแกน ฮูรอน อิรี และออนแทรีโอ กลุมทะเลสาบนี้มีความสําคัญอยางยิ่งในฐานะเปน เสนทางการคาระหวางดานตะวันออกกับดานตะวันตกเฉียงเหนือของ สหรัฐอเมริกา 2 แมนํ้ารูร เปนแมนํ้าในประเทศเยอรมนีไหลไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันตก รวมกับแมนํ้าไรนที่ตําบลรูรออรท (สวนหนึ่งของเมืองดูสบูรก) ยาว 235 กิโลเมตร ลุมนํ้าของแมนํ้าสายนี้ เรียกชื่อวา รูรเกบีท เปนเขตเหมืองแร มีเมืองอุตสาหกรรมหลายเมือง รวมทั้งเมืองเอสเซิน โบคุม ดึสบูรก เกลเซนเคียรเชิน และเมืองดอรทมุนด นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T152
ขอสอบเนน การคิด อุตสำหกรรมต่อเรือในประเทศเยอรมนี 3) อุตสาหกรรมต่อเรือ เป็นอุตสำหกรรมเครื่องจักรกลที่ส�ำคัญ ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต เหล็กกล้ำเพรำะต้องใช้เหล็กจ�ำนวนมำก กำรสร้ำงเรือมีในบริเวณปำกน�้ำกว้ำง หรือริมฝั่งทะเลที่ อยู่ใกล้แหล่งผลิตเหล็กกล้ำ อุตสำหกรรมต่อ เรือกระจำยกันอยู่ในประเทศที่มีกำรคมนำคม ขนส่งทำงน�้ำ และมีประสบกำรณ์ในด้ำนเทคนิค กำรต่อเรือมำเป็นเวลำนำน ประเทศที่มีกำรต่อ เรือมำก เช่น ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีกำรต่อเรือ มำกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพรำะภูมิประเทศ เป็นเกำะ เช่น เมืองโคเบะ ฮิโระชิมะ นะงะซะกิ ชิโมะโนะเซกิ โอซะกะ ในสหรำชอำณำจักร ที่ เมืองกลำสโกว์มีชื่อเสียงในกำรต่อเรือโดยสำร และกำรต่อเรือสินค้ำที่เมืองเบลฟัสต์ ในเยอรมนี มีกำรต่อเรือที่เมืองฮัมบูร์กซึ่งอยู่บริเวณปำกแม่น�้ำเอลเบ และเมืองเบรเมินซึ่งตั้งอยู่ปำกแม่น�้ำ เวเซอร์ และในสหรัฐอเมริกำ มีกำรต่อเรือบริเวณริมฝั่งมหำสมุทรแอตแลนติกจำกรัฐนิวยอร์กถึง ตอนใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย บริเวณริมอ่ำวเม็กซิโก และเขตชำยฝั่งมหำสมุทรแปซิฟิก 4) อุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน ในอุตสำหกรรมกำรผลิตเครื่องบินต้องมีกระบวนกำร ในกำรผลิตชิ้นส่วนเฉพำะอย่ำง เป็นอุตสำหกรรมที่ต้องลงทุนมำก แต่กำรผลิตท�ำได้จ�ำนวนน้อย สหรัฐอเมริกำเป็นประเทศที่ผลิตเครื่องบินได้มำกที่สุด ต�ำแหน่งที่ตั้งของโรงงำนส่วนมำกอยู่ทำง ตะวันตกของประเทศ เช่น เมืองลอสแอนเจลิส เมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เพรำะภูมิอำกำศในรัฐทำงตะวันตกของสหรัฐอเมริกำมีอำกำศอบอุ่นและแห้งเป็น ส่วนใหญ่ ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนหรือสนิม และอำกำศที่ปลอดโปร่งท�ำให้สำมำรถทดลองบินได้ ตลอดเวลำ นอกจำกนี้ ยังมีกำรผลิตในสหรำชอำณำจักร ฝรั่งเศส แคนำดำ อิตำลี จีน และประเทศ เครือรัฐเอกรำช เช่น รัสเซีย ยูเครน เบลำรุส 5) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอุตสำหกรรมที่มีควำมต่อเนื่องกันใน กระบวนกำรผลิตและเป็นอุตสำหกรรมที่มีควำมเชื่อมโยงกับกำรผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมำกมำย กำรผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ำและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องปรับอำกำศ อุปกรณ์ สื่อสำร คอมพิวเตอร์ เครื่องมือทำงกำรแพทย์ต่ำง ๆ เช่น เครื่องเอกซเรย์ เครื่องตรวจคลื่นสมอง มีกำรผลิตในเขตอุตสำหกรรมที่พัฒนำแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกำ ประเทศในทวีปยุโรป ญี่ปุ่น 146 147 เมืองกลำสโกว์มีชื่อเสียงในกำรต่อเรือโดยสำร 1 นักเรียนควรรู 1 เมืองกลาสโกว เปนเมืองที่ใหญที่สุดของสกอตแลนด ตั้งอยูบนแมนํ้าไคลด ชาวกลาสโกวรูจักกันในชื่อ กลาสวีเจียนส (Glaswegians) ตั้งแตในคริสต- ศตวรรษที่ 16 เมืองกลาสโกวเติบโตขึ้นอยางรวดเร็วเนื่องจากการเปนเมืองทา ใหญของมหาสมุทรแอตแลนติก จากนั้นในคริสตศตวรรษที่ 19 อุตสาหกรรม เหล็ก การตอเรือ และยานยนตก็ไดเติบโตขึ้น ปจจุบันเมืองกลาสโกวยังคง ความเปนศูนยกลางการคา ขายปลีก วิศวกรรม และอุตสาหกรรมตอเรือของ สกอตแลนด นอกจากนี้ ยังเปนเมืองทางการเงิน (Financial Centre) ที่ใหญ อีกแหงของสหราชอาณาจักรอีกดวย ปจจัยใดที่เอื้อใหสหรัฐอเมริกาเปนประเทศอุตสาหกรรมสําคัญ ของโลก (แนวตอบ เนื่องจากเปนประเทศที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ ทําใหมี ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ นอกจากนี้ ประชากรก็ประกอบ ดวยเชื้อชาติตางๆ ที่มีความรูความสามารถ แรงงานมีการศึกษา ในระดับสูง รวมถึงเปนตลาดที่มีกําลังซื้อสูง อีกทั้งมีการคนควา วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีตางๆ ใหทันสมัยอยูเสมอ สิ่งตางๆ เหลานี้ลวนเปนปจจัยที่ชวยเอื้อใหสหรัฐอเมริกากลายเปนประเทศ อุตสาหกรรมระดับโลก) สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับประเทศอุตสาหกรรมแนวหนาของโลกในป 2020 ไดที่ https://www.mmthailand.com/10-interesting-manu-country-2020/ ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 1. ครูใหนักเรียนดูภาพหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของ กับวัตถุดิบที่นํามาใชในอุตสาหกรรม โดย เฉพาะในดานการเกษตรกรรม เพื่อเชื่อมโยง ความรูที่ผานมา จากนั้นใหนักเรียนแสดง ความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูนําภาพตัวอยางสินคาจากอุตสาหกรรม มาใหนักเรียนดูแลววิเคราะหรวมกันวา สามารถพบไดในแหลงผลิตใดบาง ขั้นนํา • อุตสาหกรรมการตอเรือ มีความเกี่ยวของ สัมพันธกับแหลงอุตสาหกรรมใด (แนวตอบ อุตสาหกรรมประเภทเหล็กและ เหล็กกลา เนื่องจากอุตสาหกรรมการตอ เรือจะตองใชเหล็กเปนจํานวนมาก รวมถึง ตองมีลักษณะทางกายภาพที่เปนบริเวณ ปากนํ้ากวาง หรือริมฝงทะเลที่อยูใกลแหลง ผลิตเหล็กกลา เชน ญี่ปุน สหราชอาณาจักร เยอรมนี) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T153
6) อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสำหกรรมปิโตรเคมีมีปิโตรเลียมเป็นวัตถุดิบหลักใน กำรผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมีหลำกหลำยประเภทมำก เช่น น�้ำมัน แก๊ส ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้น ในโรงงำนอุตสำหกรรมเม็ดพลำสติก ใยสังเครำะห์ ยำงสังเครำะห์ สำรเคลือบผิว และกำวต่ำง ๆ ผลิตภัณฑ์เหล่ำนี้ถือเป็นวัตถุดิบพื้นฐำนที่ส�ำคัญในกำรผลิตเครื่องอุปโภคบริโภค ประเทศจีน เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีรำยใหญ่ที่สุดของโลก มีสัดส่วนกำรผลิตประมำณ ร้อยละ 29 และส่วนแบ่งกำรบริโภคร้อยละ 28 ขณะที่ประเทศในอเมริกำเหนือและตะวันออกกลำง ใช้แก๊สเป็นวัตถุดิบในกำรผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เนื่องจำกมีควำมสมบูรณ์ของแหล่งแก๊สธรรมชำติ กำรหมักองุ่นในถังเพื่อสกัดสีขององุ่นให้ ได้ไวน์แดง 7) อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เป็นอุตสำหกรรมที่น�ำผลิตผลทำงกำรเกษตร มำผ่ำนกระบวนกำรแปรรูป เพื่อให้ง่ำยต่อกำรน�ำ ไปบริโภค เช่น อุตสำหกรรมสีข้ำว อุตสำหกรรม ผลิตภัณฑ์มันส�ำปะหลัง อุตสำหกรรมน�้ำตำล จำกอ้อย รวมถึงกำรท�ำเบียร์จำกข้ำวบำร์เลย์ กำรท�ำไวน์จำกองุ่น กำรบ่มใบยำสูบ ใบชำ กำร คั่วอบและบดเมล็ดกำแฟ โกโก้ ในสมัยก่อน เกษตรกรจะเป็นผู้แปรรูปอำหำรเอง แต่ใน ปัจจุบันมีกำรจัดกำรที่เป็นระบบอุตสำหกรรม มำกขึ้น Geo Tip หลักการทั่วไปของการแปรรูปอาหาร 1. การท�าแห้ง เพื่อลดปริมำณน�้ำในอำหำรจนถึงระดับที่ยับยั้งกำรเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ และ ชะลอกำรเปลี่ยนแปลงทำงเคมีหรือชีวเคมีของอำหำร กำรใช้พลังงำนแสงอำทิตย์ กำรใช้ตู้อบแห้ง แบบสุญญำกำศ กำรท�ำแห้งแบบพ่นฝอย เช่น กล้วยตำก เนื้อเค็ม ข้ำวเปลือก 2. การหมัก เป็นกระบวนกำรแปรรูปที่มีกำรใช้เชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลำยคำร์โบไฮเดรตท�ำให้ได้สำรอื่น มีอำยุกำรเก็บรักษำนำน มีกลิ่นและรสเฉพำะตัวขึ้น เช่น เบียร์ ไวน์ น�้ำส้มสำยชู 3. การใช้สารเคมี เป็นกำรยืดอำยุของอำหำรที่ต้องค�ำนึงถึงควำมปลอดภัยและปริมำณสำรเคมีที่ใช้ต้อง ไม่เกินกว่ำที่กฎหมำยก�ำหนดหรืออนุญำตให้ใช้ได้ เช่น สำรกลุ่มซัลไฟต์ เพื่อป้องกันกำรเกิดสีน�้ำตำล ในผลไม้ ไนไทรต์ ส�ำหรับท�ำเนื้อหมัก โซเดียมเบนโซเอต โพแทสเซียมเบนโซเอต โซเดียมซอร์เบต ใช้ในอำหำรที่เป็นกรด เช่น แยม เยลลี 4. การใช้รังสี เป็นกำรแปรรูปอำหำรโดยไม่ใช้ควำมร้อน โดยใช้รังสีแกมมำ รังสีเอกซ์ หรือรังสีอิเล็กตรอน ในกำรท�ำลำยหรือยับยั้งจุลินทรีย์ ชะลอกำรเปลี่ยนแปลงชีวเคมีของอำหำร เพื่อยืดอำยุกำรเก็บรักษำ อำหำรสด ท�ำลำยเชื้อโรคและพยำธิ และควบคุมกำรแพร่พันธุ์ของแมลงระหว่ำงเก็บรักษำ 148 149 อุตสำหกรรมปิโตรเคมีมีปิโตรเลียมเป็นวัตถุดิบหลักใน 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูกระตุนใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถาม เชิงภูมิศาสตร เชน • ปจจัยสําคัญที่ทําใหมนุษยสามารถดําเนิน กิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม การทองเที่ยว และการบริการ คือสิ่งใด • ปจจัยใดบางที่ทําใหการดําเนินกิจกรรม ในภาคอุตสาหกรรมการทองเที่ยวและการ บริการ มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีการพัฒนา เพิ่มมากขึ้น • การดําเนินกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ กอใหเกิดการ เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดลอมทางกายภาพของ โลกอยางไร • อิทธิพลของโลกาภิวัตนสงผลตอการดําเนิน กิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม การทองเที่ยว และการบริการอยางไร 4. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับหลักการ ทั่วไปของการแปรรูปอาหาร จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 ประกอบการตั้งคําถาม เชิงภูมิศาสตรเพิ่มเติม กิจกรรม ทาทาย นักเรียนจับคูวาดแผนที่โครงรางทวีปตางๆ ของโลกลงใน กระดาษโปสเตอร จากนั้นระบุตําแหนงและประเภทของแหลง อุตสาหกรรมทางเศรษฐกิจในบริเวณตางๆ โดยกําหนดสัญลักษณ ตามความสนใจลงในแผนที่ พรอมทั้งอธิบายและแสดงเหตุผล ประกอบใหชัดเจน นักเรียนควรรู 1 ปโตรเลียม หรือนํ้ามันดิบ เปนแหลงไฮโดรคารบอนที่สําคัญที่สุด มีสถานะ ของเหลว มีการใชงานอยางแพรหลายและมีปริมาณการใชมากที่สุดเมื่อเทียบ กับแหลงไฮโดรคารบอนอื่นๆ ทั้งใชเปนเชื้อเพลิงสําหรับยานพาหนะ หรือใช เปนแหลงพลังงานแกที่อยูอาศัยและอุตสาหกรรมและบางสวนนํามาใชเปน วัตถุดิบสําคัญสําหรับอุตสาหกรรมปโตรเคมี และดวยนํ้ามันปโตรเลียมเปนของ ผสมที่มีองคประกอบหลักเปนไฮโดรคารบอนตั้งแตโมเลกุลเล็กที่สุดจนถึงใหญ ละลายอยูดวยกัน กอนนํามาใชประโยชนจึงตองนําไปกลั่นลําดับสวนเพื่อแยก ไฮโดรคารบอนออกเปนสวนกลั่นที่มีชวงจุดเดือดตางๆ และผลิตเปนผลิตภัณฑ ปโตรเลียมหลายชนิดตามความตองการของตลาด เชน แกสปโตรเลียมเหลว หรือแกสหุงตม แนฟทาที่ใชผลิตนํ้ามันเบนซินหรือแกโซลีน นํ้ามันเครื่องบิน นํ้ามันดีเซล นํ้ามันเตา ฯลฯ นํา สอน สรุป ประเมิน T154
2.3 อุตสาหกรรมในประเทศไทย ประเทศไทยมีกำรพัฒนำอุตสำหกรรมมำอย่ำงต่อเนื่อง เริ่มจำกอุตสำหกรรมเบำเพื่อทดแทน กำรน�ำเข้ำ ต่อมำได้พัฒนำอุตสำหกรรมหนักที่เน้นกำรผลิตเพื่อกำรส่งออก ที่ส�ำคัญ เช่น 1) อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสำหกรรมเครื่องจักรกลเป็นอีกหนึ่งในภำค อุตสำหกรรมไทยที่เจริญเติบโตจำกควำมได้เปรียบทำงกำรค้ำในด้ำนแรงงำน และระบบขนส่งของ ประเทศ ประเภทของเครื่องจักรกลหลัก ๆ ได้แก่ เครื่องแม่พิมพ์ เครื่องผลิตกระดำษและสิ่งพิมพ์ เครื่องจักรที่ใช้ในกำรบรรจุสิ่งของ และเครื่องจักรที่ใช้ ในกำรทอและตัดเย็บเสื้อผ้ำ 2) อุตสาหกรรมยานยนต์และส่วนประกอบ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลำงกำรผลิต รถยนต์ในตลำดอำเซียน ประเทศผู้ผลิตรถยนต์หลักที่เข้ำมำด�ำเนินกำรในประเทศ เช่น ประเทศ ญี่ปุ่น โดยประเทศไทยส่งออกรถยนต์ทำงเรือไปยัง 130 ประเทศทั่วโลก กำรผลิตและประกอบ ยำนยนต์ไม่เพียงแต่เป็นส่วนประกอบที่ส�ำคัญของอุตสำหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยเท่ำนั้น แต่ บริษัทรถยนต์จำกต่ำงประเทศยังลงทุนด้ำนสิ่งอ�ำนวยควำมสะดวก เพื่อวิจัยและพัฒนำรวมทั้งด้ำน เทคนิคอีกด้วย 3) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทยเป็นฐำนกำรผลิต ที่ส�ำคัญของบริษัทข้ำมชำติ โดยเฉพำะประเทศญี่ปุ่นและเกำหลีใต้ ประเทศไทยมีศักยภำพในด้ำน ปัจจัยกำรผลิตทั้งด้ำนทรัพยำกรมนุษย์ ทรัพยำกรควำมรู้ มีกำรพัฒนำผลิตภัณฑ์ที่มีควำม หลำกหลำยมำกขึ้น อีกทั้งทำงด้ำนภูมิศำสตร์ยังมีควำมได้เปรียบเชิงกำรค้ำในภูมิภำคอินโดจีน และ มีศักยภำพในกำรเป็นศูนย์กลำงของภูมิภำค จึงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลเชิงบวกในด้ำนกำรขนส่ง ตลำด ส่งออกที่ส�ำคัญ คือ กลุ่มประเทศอำเซียน สหภำพยุโรป ประเทศจีน และสหรัฐอเมริกำ ตำมล�ำดับ 4) อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ประเทศไทยได้ขุดพบแก๊สธรรมชำติในอ่ำวไทย อุตสำหกรรมปิโตรเคมีของไทยใช้แก๊สธรรมชำติเป็นวัตถุดิบในกำรผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ผู้ผลิต ปิโตรเคมีรำยใหญ่ในไทยมี 2 กลุ่ม คือ กำรปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) และกลุ่มซีเมนต์ไทย โดยกลุ่ม ปตท. มีธุรกิจขุดเจำะและผลิตแก๊สธรรมชำติ โรงกลั่นน�้ำมัน และมีกำรผลิตผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีหลำกหลำยประเภท กลุ่มซีเมนต์ไทยมีธุรกิจต่อเนื่องกับอุตสำหกรรมปิโตรเคมี เช่น สินค้ำ อุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้ำง Question อุตสำหกรรมปิโตรเคมีเข้ำมำมีบทบำทส�ำคัญในกำรด�ำเนินกิจกรรมในชีวิตประจ�ำวันของนักเรียน ในเรื่องใดบ้ำง Geo 148 149 ประเทศไทยได้ขุดพบแก๊สธรรมชำติในอ่ 1 กิจกรรม ทาทาย นักเรียนวิเคราะหในประเด็น “หากนักเรียนเปนนักธุรกิจดาน อุตสาหกรรม จะประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมประเภทใด และจะตั้ง โรงงานหรือฐานการผลิตในบริเวณพื้นที่ใด” นําเสนอรวมกับการใช เครื่องมือทางภูมิศาสตร เชน ลูกโลก แผนที่ พรอมทั้งแสดงเหตุผล ประกอบเพิ่มเติม ขั้นสอน ขั้นที่ 2 การรวบรวมขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5-7 คน สืบคน ขอมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในดาน อุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ ตามพื้นที่ตางๆ ของโลก และในประเทศไทย จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจาก แหลงการเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต ประกอบการใช เครื่องมือทางภูมิศาสตร 2. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Question เกี่ยวกับ อุตสาหกรรมปโตรเคมี จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 ประกอบการรวบรวมขอมูล และตอบคําถาม (แนวตอบ อุตสาหกรรมปโตรเคมีมีเปนการนํา วัตถุดิบจากอุตสาหกรรมปโตรเลียมมาผลิต ตอเนื่องเปนเม็ดพลาสติก เสนใยสังเคราะห ยางสังเคราะห สารเคลือบผิว และกาวตางๆ ซึ่งเปนวัตถุดิบพื้นฐานสําคัญในการผลิต เครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใชในการประกอบอาชีพ รวมไปถึง สิ่งอํานวยความสะดวกตางๆ ที่ทําใหมนุษย มีความเปนอยูที่สบายมากขึ้น) 3. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่นาเชื่อถือ ใหกับนักเรียนเพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 แกสธรรมชาติ เปนเชื้อเพลิงฟอสซิล เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเกิด จากการทับถมสะสมของซากสิ่งมีชีวิตตามชั้นหิน ดิน และในทะเลหลายรอย ลานป ซึ่งความรอนและความกดดันของผิวโลกทําใหมีการเปลี่ยนแปลง จนซากสัตวและซากพืชเหลานั้นกลายเปนนํ้ามันดิบ แกสธรรมชาติ และถานหิน คุณสมบัติของแกสธรรมชาติ คือ ไมมีสี ไมมีกลิ่น และพิษ ในสถานะปกติมีสภาพ เปนแกส หรือไอที่อุณหภูมิและความดันบรรยากาศ โดยมีคาความถวงจําเพาะ ตํ่ากวาอากาศ จึงเบากวาอากาศ เมื่อเกิดการรั่วไหลจะฟุงกระจายไปตาม บรรยากาศอยางรวดเร็ว จึงไมมีการสะสมลุกไหมบนพื้นราบ และเมื่อเผาไหมจะ เปนเชื้อเพลิงสะอาดและสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอมนอยที่สุด นํา สอน สรุป ประเมิน T155
5) อุตสาหกรรมสิ่งทอ กำรผลิตเส้นใยนับเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสำหกรรมสิ่งทอ ประเทศไทยผลิตได้เป็น 2 ประเภท คือ เส้นใยธรรมชำติและเส้นใยสังเครำะห์ ส่วนใหญ่อุตสำหกรรม กำรผลิตเส้นใยในไทยจะเป็นกำรผลิตเส้นใยสังเครำะห์ ลักษณะของโรงงำนเหล่ำนี้เป็นโรงงำน ขนำดใหญ่ มีก�ำลังกำรผลิตสูง อำศัยเทคโนโลยีในกำรผลิต ใช้เงินลงทุนค่อนข้ำงมำก ผู้ประกอบกำร ส่วนใหญ่เป็นบรรษัทข้ำมชำติหรือเป็นกำรลงทุนร่วมกันระหว่ำงผู้ประกอบกำรไทยและชำวต่ำงชำติ ประเทศไทยมีกำรส่งออกสินค้ำในกลุ่มสิ่งทอ โดยมีตลำดส�ำคัญ คือ กลุ่มประเทศอำเซียน สหรัฐอเมริกำ สหภำพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ทั้งนี้ ตลำดอำเซียนนับเป็นตลำดที่ส�ำคัญของ อุตสำหกรรมสิ่งทอไทย เป็นตลำดที่ไทยส่งออกสูงสุด ส่งออกผ้ำผืนไปยังเวียดนำม เมียนมำ และ กัมพูชำ นอกเหนือจำกกำรเป็นตลำดกำรส่งออกที่ส�ำคัญของไทยแล้ว อำเซียนยังเป็นฐำนกำรผลิต ที่ส�ำคัญที่ส่งออกไปทั่วโลกอีกด้วย 6) อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร สินค้ำประเภทอำหำรแปรรูปของไทยมีทั้งกำรผลิต เพื่อบริโภคภำยในประเทศ และเพื่อกำรส่งออก ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้ำอำหำรที่ มีคุณภำพ เนื่องจำกมีควำมพร้อมทำงด้ำนวัตถุดิบ รวมถึงศักยภำพของผู้ประกอบกำรที่สำมำรถ พัฒนำคุณภำพและรูปแบบของสินค้ำให้ตรงตำมควำมต้องกำรของตลำดได้ ท�ำให้ประเทศไทย เป็นผู้ส่งออกอำหำรแปรรูปเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่ส�ำคัญ เช่น ไก่แปรรูป กุ้งกระป๋องและ สับปะรดกระป๋อง ตลำดส่งออกอำหำรแปรรูปที่ส�ำคัญของไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกำ และญี่ปุ่น สถำนกำรณ์ของอุตสำหกรรมไทยในปัจจุบันสรุปได้ ดังนี้ 1. มีวัตถุดิบทำงกำรเกษตรที่มีศักยภำพ ทั้งในด้ำนปริมำณและคุณภำพ และมี ผลผลิตทำงกำรเกษตรที่หลำกหลำย ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่สำมำรถน�ำวัตถุดิบด้ำน กำรเกษตรเหล่ำนี้มำผลิตสินค้ำสร้ำงมูลค่ำเพิ่ม น�ำไปสู่กำรเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันให้ กับประเทศ 2. ค่ำจ้ำงในกำรท�ำงำนของประเทศไทยไม่สูงมำกนัก ทั้งยังเป็นแรงงำนที่มีทักษะ ท�ำให้ภำคกำรผลิตของไทยยังคงมีควำมสำมำรถในกำรแข่งขันด้ำนแรงงำน 3. มีท�ำเลที่ตั้งเหมำะสมในกำรเป็นศูนย์กลำงภูมิภำค จึงเป็นประโยชน์ในแง่ ของกำรขำยสินค้ำและกำรหำวัตถุดิบ และยังส่งผลให้เกิดควำมสะดวกในกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ทั้งทำงบก ทำงน�้ำ และทำงอำกำศ 4. มีพัฒนำกำรทำงธุรกิจกำรค้ำและอุตสำหกรรม เมื่อเทียบกับหลำยประเทศ ในอำเซียน 150 151 ประเทศไทยผลิตได้เป็น 2 ประเภท คือ เส้นใยธรรมชำติและเส้นใยสังเครำะห์ ส่วนใหญ่อุตส 1 2 นักเรียนควรรู 1 เสนใยธรรมชาติ เปนเสนใยที่มีแหลงกําเนิดมาจากธรรมชาติ แบงเปน 3 ชนิด ไดแก 1. เสนใยจากพืช ไดจากสวนตางๆ ของพืช เชน ปาน ปอ ลินิน 2. เสนใยจากสัตว ไดแก เสนใยโปรตีน เชน ขนสัตว ไหม เสนใยเหลานี้ เมื่อเปยกนํ้า ความเหนียวและความแข็งแรงจะลดลง 3. เสนใยจากสินแร เชน แรใยหิน ทนตอการกัดกรอนของสารเคมี ทนไฟ ไมนําไฟฟา 2 เสนใยสังเคราะห เปนเสนใยที่มนุษยสังเคราะหขึ้นจากสารอนินทรีย หรือสารอินทรีย เพื่อใชทดแทนเสนใยจากธรรมชาติและเพื่อตอบสนองความ ตองการเฉพาะดาน เสนใยแตละชนิดมีคุณสมบัติแตกตางกันไปตามการใชงาน ทั้งมีความเงา ยืดหยุน ทนทาน แหงงาย และมีราคาถูกแพงแตกตางกันดวย เชน สแปนเด็กซ ที่เปนยางยืดมีความทนทาน มักใชเปนขอบยางของกางเกงใน พอลิเอสเทอร เปนผาที่มีความเงา รีดงาย ยับยาก ใสสบาย แตซีดเร็ว ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การจัดการขอมูล 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู ระหวางกัน 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูล ที่นําเสนอเพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอง และรวม อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม กิจกรรม 21st Century Skills นักเรียนคนควาขอมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมในประเทศไทย 1 ประเภท ในประเด็นปจจัยที่เอื้อตอการประกอบกิจกรรม บริเวณ พื้นที่ที่เหมาะแกการทําอุตสาหกรรม จากนั้นสรุปขอมูลที่ไดเปน แผนผังความคิด พรอมทั้งตกแตงใหสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T156
ขอสอบเนน การคิด 3 การท่องเที่ยวและการบริการ กำรท่องเที่ยวเป็นธุรกิจภำคบริกำรที่ท�ำ รำยได้ให้กับประเทศต่ำง ๆ ทั่วโลก เพรำะเป็น กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่ำง ๆ มำกมำย เช่น กำรคมนำคมขนส่ง ธุรกิจที่พัก ร้ำนอำหำร ร้ำนขำยของที่ระลึก และกำรบริกำรสุขภำพ ดังนั้น กำรท่องเที่ยวจึงช่วยส่งเสริมกำรสร้ำง งำน สร้ำงรำยได้ โดยเฉพำะในพื้นที่ที่เป็น จุดหมำยปลำยทำงของกำรท่องเที่ยว อย่ำงไร ก็ตำม กำรท่องเที่ยวต้องได้รับกำรดูแลและ บริหำรจัดกำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ 3.1 การเติบโตของการท่องเที่ยว กำรเติบโตของกำรท่องเที่ยวเกิดจำกปัจจัยต่ำง ๆ เช่น สถำนที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจ สภำวะ กำรเมืองและเศรษฐกิจของโลก ส่งผลให้แต่ละพื้นที่มีกำรเติบโตของกำรท่องเที่ยวแตกต่ำงกัน 1) การเติบโตของการท่องเที่ยวในโลก ภูมิภำคต่ำง ๆ ทั่วโลกมีจ�ำนวนนักท่องเที่ยว ทิวทัศน์น�้ำตกไนแอกำรำบริเวณเส้นเขตแดนสหรัฐอเมริกำ กับแคนำดำ ทวีปเอเชียมีสถำนที่ท่องเที่ยวส�ำคัญจ�ำนวนมำก และเป็น จุดหมำยปลำยทำงกำรท่องเที่ยวที่ส�ำคัญของโลก Activity สืบค้นข่ำวหรือบทควำมเกี่ยวกับสถำนกำรณ์กำรท่องเที่ยวของประเทศไทยและของโลก แล้วน�ำ ควำมรู้มำแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน Geo เพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง ในพ.ศ. 2558 มีนักท่องเที่ยว ระหว่ำงประเทศทั่วโลกมำกกว่ำ 1,200 ล้ำนคน ซึ่งภูมิภำคเอเชียและแปซิฟิกมีอัตรำกำรเติบโต ของนักท่องเที่ยวต่ำงชำติสูงสุดถึงร้อยละ 7 นอกจำกนี้ ยังคำดกำรณ์ว่ำ จ�ำนวนนักท่องเที่ยว จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2563 และจะเพิ่มเป็น 1,800 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2573 ภูมิภำคที่มีรำยได้สูงสุดจำกกำรท่องเที่ยว คือ ยุโรป รองลงมำ ได้แก่ เอเชียและแปซิฟิก และ อเมริกำ 150 151 กำรท่องเที่ยวเป็นธุรกิจภำคบริกำรที่ท�ำ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลการสืบคน ของตนเองมาเชื่อมโยงกับรูปแบบของการ ทองเที่ยว และวิเคราะหวาในแตละทวีปมี รูปแบบทางการทองเที่ยวที่โดดเดนในดาน ใดบาง พรอมทั้งยกตัวอยางประกอบ 2. ครูนําแผนที่แสดงที่ตั้งเมืองสําคัญในการ ทองเที่ยวเชิงธุรกิจ สุขภาพ และนันทนาการ มาใหนักเรียนดู แลวตอบคําถามเพิ่มเติม ถึงลักษณะทางกายภาพที่เปนผลใหเมือง ดังกลาวเปนเมืองสําคัญในการทองเที่ยว เชิงธุรกิจ สุขภาพ และนันทนาการ 3. ครูอาจใหนักเรียนศึกษาและทํากิจกรรมตาม แนวทาง Geo Activity จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพื่อเปนการวิเคราะหขอมูล ของนักเรียนเพิ่มเติม นักเรียนควรรู 1 การทองเที่ยว มีความสําคัญตอการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เปน แหลงรายไดที่สําคัญ มีองคประกอบตางๆ ดังนี้ • ทรัพยากรการทองเที่ยว ทั้งแหลงทองเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เชน นํ้าตก ถํ้า เกาะ และแหลงทองเที่ยวที่มนุษยสรางขึ้น เชน โบราณสถาน แหลงชุมชนทองถิ่น • นักทองเที่ยว ทั้งในประเทศและระหวางประเทศ • ธุรกิจทองเที่ยว เพื่ออํานวยความสะดวกในการเดินทางทองเที่ยว • สิ่งอํานวยความสะดวก เชน การตรวจหนังสือเดินทาง การขนถายกระเปา มัคคุเทศก • ตลาดการทองเที่ยว เพื่อใหขอมูลขาวสารการทองเที่ยวผานสื่อตางๆ • การคมนาคมขนสง มีหลายรูปแบบ เชน รถยนต รถไฟ เรือ ธุรกิจการทองเที่ยวมีความสําคัญมากนอยเพียงใดในโลกยุค ปจจุบัน (แนวตอบ มีความสําคัญมากในหลายดาน เชน ดานเศรษฐกิจ ชวยสรางงานและรายไดเขาทองถิ่นและประเทศ เปนการสงเสริม การคาและการลงทุน ดานสังคม ชวยพัฒนาใหเกิดโครงสราง พื้นฐานและระบบคมนาคม ทําใหคนในสังคมมีความเปนอยูที่ สะดวกสบายมากขึ้น ดานสิ่งแวดลอม ชวยกระตุนใหเกิดการดูแล รักษาสิ่งแวดลอมในชุมชนและประเทศ) นํา สอน สรุป ประเมิน T157
1,800 1,600 1,400 1,200 1,000 800 600 400 200 0 1950 1960 1970 1980 1990 2000 2010 2020 2030 แอฟริกำ ตะวันออกกลำง อเมริกำ เอเชียและแปซิฟิก ยุโรป ค.ศ. 940 ล้ำนคน 1.8 พันล้ำนคน 1.4 พันล้ำนคน จ�ำนวนนักท่องเที่ยว : ล้ำนคน 2) การท่องเที่ยวของไทย มีกำรขยำยตัวอย่ำงต่อเนื่องทั้งจ�ำนวนและรำยได้จำก กำรท่องเที่ยว จ�ำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำก 32.5 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2559 เป็น 35.3 ล้ำนคน ใน พ.ศ. 2560 นักท่องเที่ยวที่เดินทำงมำท่องเที่ยวในประเทศไทยมำกที่สุด คือ นักท่องเที่ยวจำก ภูมิภำคเอเชียตะวันออก (รวมอำเซียน) รองลงมำ ได้แก่ นักท่องเที่ยวจำกยุโรปและอเมริกำ ปัจจัย ที่ท�ำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมำยปลำยทำงของนักท่องเที่ยว เช่น ควำมสวยงำมของธรรมชำติ ควำมหลำกหลำยทำงวัฒนธรรม กำรเดินทำงสะดวกสำมำรถเดินทำงต่อไปยังประเทศข้ำงเคียง ได้ง่ำย ค่ำใช้จ่ำยไม่สูง ส่วนรำยได้และค่ำใช้จ่ำยของนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตำมจ�ำนวน นักท่องเที่ยว ที่มา : กระทรวงกำรท่องเที่ยวและกีฬำ, 2560 กราฟแสดงจ�านวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย172,213 187,126 25,000,000 20,000,000 15,000,000 10,000,000 5,000,000 0 เอเชียตะวันออก ภูมิภำค 1,770,116 789,847 1,541,520 938,684 1,407,458 747,219 910,901 1,523,555 จ�ำนวนนักท่องเที่ยว : ล้ำนคน เอเชียใต้ ยุโรป ตะวันออกกลำง อเมริกำ โอเชียเนีย แอฟริกำ6,174,957 6,511,195 พ.ศ. 2559 พ.ศ. 2560 23,642,669 21,593,285 ที่มา : UNWTO Tourism Highlights, 2012 กราฟแสดงการเติบโตของจ�านวนนักท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก 152 153 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 4. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหในประเด็นของ ประเทศไทย วามีพื้นที่ในจังหวัดใดบาง ที่ถือวาเปนเมืองสําคัญในการทองเที่ยว เชิงธุรกิจ สุขภาพ และนันทนาการ อันเกิด จากลักษณะทางกายภาพ หรือปจจัยอื่นๆ ประกอบกันอยางไร สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับการทองเที่ยวแหงประเทศไทย ไดที่ https:// www.mots.go.th/main.php?fifilename=indexfi กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา นักเรียนแบงกลุมคนควาขอมูลในประเด็น “แหลงทองเที่ยว ในจังหวัดของฉัน” พรอมวิเคราะหทําเลที่ตั้งที่มีอิทธิพลตอแหลง ทองเที่ยว แลวนําขอมูลที่ไดมาจัดบอรด ตกแตงภาพประกอบ ใหสวยงาม กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนหาขาว หรือบทความเกี่ยวกับสถานการณการทองเที่ยว ของประเทศไทย แลวนํามาแลกเปลี่ยนเรียนรูกับเพื่อนๆ ใน ชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T158
ขอสอบเนน การคิด 3.2 ปฏิสัมพันธของประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกดานการท่องเที่ยว จุดเริ่มต้นและจุดหมำยปลำยทำงของนักท่องเที่ยวมีกระจำยอยู่ทั่วทุกมุมโลก กำรเดินทำง ท่องเที่ยวระหว่ำงประเทศมำกกว่ำครึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจำกประเทศที่พัฒนำแล้ว ทั้งจำกในทวีป ยุโรปและอเมริกำเหนือ อย่ำงไรก็ตำม นักท่องเที่ยวจำกประเทศก�ำลังพัฒนำทั้งในเอเชียแปซิฟิก และอเมริกำใต้ ต่ำงก็เพิ่มจ�ำนวนขึ้นอย่ำงรวดเร็ว แนวโน้มกำรเดินทำงท่องเที่ยวระหว่ำงประเทศ ดังแสดงในแผนที่ด้ำนล่ำง จำกแผนที่แสดงให้เห็นว่ำ มีนักท่องเที่ยวจำกทวีปอเมริกำเหนือจ�ำนวนมำกกว่ำ 10 ล้ำนคน เดินทำงเข้ำสู่ทวีปอเมริกำกลำง ทวีปอเมริกำใต้ และทวีปยุโรป เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจำก ทวีปยุโรปที่มีจ�ำนวนมำกกว่ำ 10 ล้ำนคนต่อปี เดินทำงเข้ำสู่ทวีปอเมริกำเหนือและตะวันออกกลำง ในขณะที่นักท่องเที่ยวจำกประเทศญี่ปุ่นจ�ำนวนประมำณ 5 - 10 ล้ำนคน เดินทำงเข้ำสู่ทวีป อเมริกำเหนือ ภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปยุโรป นอกจำกนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจ�ำนวนประมำณ 3 - 5 ล้ำนคน เดินทำงท่องเที่ยวภำยใน ทวีปเอเชีย จำกทวีปเอเชียสู่ทวีปอเมริกำเหนือ จำกทวีปเอเชียสู่ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย และจำกทวีปยุโรปสู่ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย ส่วนทวีปแอฟริกำ เป็นภูมิภำคที่มี นักท่องเที่ยวเดินทำงไปน้อย แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบำงส่วนจำกยุโรปที่เดินทำงไปยังทำงตอนเหนือ และตอนใต้ของทวีปแอฟริกำ แผนที่แสดงแหล่งนักท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยม พ.ศ. 2560 ที่มา : All About Geography Human Geography Elective p.29 0 ํ 0 ํ 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 80 ํE 120 ํE 160 ํE 140 ํW 100 ํW 60 ํW 20 ํE20 ํW 60 ํE 100 ํE 140 ํE 180 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 1 : 230,000,000 แผนที่แสดงกลุมนักทองเที่ยวและจุดหมายปลายทางที่ไดรับความนิยม มากกวา 10 ลานคน 5 - 10 ลานคน 3 - 5 ลานคน นอยกวา 3 ลานคน แหลงทองเที่ยว ที่ไดรับความนิยม 0 2000 4000 กม. จำนวนนักทองเที่ยว 152 153 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 5. ครูใหนักเรียนดูแผนที่แสดงกลุมนักทองเที่ยว และจุดหมายปลายทางที่ไดรับความนิยม พ.ศ. 2560 จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกันวิเคราะหเพิ่มเติมถึงลักษณะทาง กายภาพที่เปนผลใหเมืองดังกลาวเปนเมือง สําคัญในการทองเที่ยวเชิงธุรกิจ สุขภาพ และ นันทนาการ 6. ครูแบงนักเรียนออกเปน 2 ฝาย แตละฝาย มีจํานวนเทาๆ กัน จากนั้นใหฝายที่ 1 ใช สมารตโฟนคนหาสถานที่ที่ไดรับความนิยม ทางการทองเที่ยวของโลกในภูมิภาคตางๆ แลวใหเพื่อนนักเรียนที่อยูในฝายที่ 2 เปนผูตอบ คําถามเชื่อมโยงถึงลักษณะทางกายภาพ ตลอดจนปจจัยอื่นๆ ที่ทําใหสถานที่นั้นได รับความนิยมทางการทองเที่ยว โดยครูเปน ผูตัดสินและใหคําแนะนําเพิ่มเติม ปจจัยที่สงเสริมใหนักทองเที่ยวตางชาตินิยมเขามาทองเที่ยว ในภูมิภาคอาเซียนกันเปนจํานวนมาก (แนวตอบ มีหลายปจจัย เชน ปจจัยดานแหลงทองเที่ยว ประเทศ ในอาเซียนมีสถานที่ทองเที่ยวและวัฒนธรรมที่สวยงามและมีคุณคา มากมาย ปจจัยดานคาที่พักและอาหารถูก โดยธุรกิจที่พัก โรงแรม และรีสอรตมีหลายขนาด หลายราคาใหเลือก และอาหารการกิน ก็อุดมสมบูรณ ดานนโยบายระหวางประเทศ บางประเทศใน อาเซียนไดมีนโยบายเปดกวางตอนักทองเที่ยว โดยไมตองขอวีซา เขาประเทศ) บูรณาการอาเซียน ประชาคมอาเซียนเปนภูมิภาคที่มีประชากรกวา 600 ลานคน ถือเปนหนึ่งใน ตลาดการทองเที่ยวของโลกที่มีการเติบโตอยางรวดเร็ว สําหรับประชาคมอาเซียน มีกลยุทธสําคัญดานการทองเที่ยว 2 กลยุทธหลัก โดยจําแนกตามประเภทของ กลุมนักทองเที่ยวที่เดินทางเขามาเที่ยวในอาเซียน ไดแก • กลุม Long Haul เปนกลุมนักทองเที่ยวที่เดินทางมาจากภูมิภาคอื่น เชน ยุโรป อเมริกา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง ซึ่งตองการจะไปเที่ยวหลายสถานที่ ในหลายประเทศของอาเซียน จะใชการนําเสนอแพ็กเกจการทองเที่ยวแบบ 2 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง และ 3 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง • กลุม Intra ASEAN เปนนักทองเที่ยวในประเทศสมาชิกอาเซียนดวยกันเอง ซึ่งจะเนนการโปรโมตการเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห การทองเที่ยวเพื่อสุขภาพ (wellness) การรักษาพยาบาล และการศึกษา นํา สอน สรุป ประเมิน T159
ขอสอบเนนการคิด 3.3 รูปแบบของการท่องเที่ยว ปัจจุบันกำรท่องเที่ยวมีหลำยรูปแบบ มีวัตถุประสงค์ต่ำงกันไปตำมคุณลักษณะของ นักท่องเที่ยว เช่น เพื่อสุขภำพ เพื่อธุรกิจหรือศึกษำดูงำน กำรกีฬำ นันทนำกำร นักท่องเที่ยวแต่ละคน วำงแผนกำรท่องเที่ยวต่ำงกัน เพื่อตอบสนอง ควำมต้องกำรที่หลำกหลำย ดังนี้ 1) การท ่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (business tourism) เกิดขึ้นได้หลำยรูปแบบ เช่น กำรเดินทำงที่มีวัตถุประสงค์ทำงธุรกิจ กำรฝกอบรม กำรแสดงสินค้ำหรือนิทรรศกำร กำรท่องเที่ยวเพื่อเป็นรำงวัล กำรจัดประชุม นำนำชำติ และกำรจัดนิทรรศกำรเป็นที่รู้จักกัน ในนำมของ MICE (Meeting, Incentive, Convention and Exhibition) ปัจจุบัน MICE มีกำรเติบโตสูงและมีควำมส�ำคัญต่อกำรสร้ำงรำยได้ให้แก่ประเทศ เนื่องจำกนักท่องเที่ยวในกลุ่ม MICE มีเป้ำหมำยในทำงธุรกิจจึงมีอ�ำนำจซื้อสูง ท�ำให้ค่ำใช้จ่ำยโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับที่สูงกว่ำ นักท่องเที่ยวทั่วไปประมำณ 2 - 3 เท่ำ เมืองที่เป็นที่ตั้งของกำรท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ต้องมีสถำนที่ จัดงำนที่กว้ำงขวำง มีระบบโครงสร้ำงพื้นฐำนและบริกำรต่ำง ๆ เพื่ออ�ำนวยควำมสะดวก เช่น กรุงปำรีส ประเทศฝรั่งเศส กรุงลอนดอน สหรำชอำณำจักร 2) การท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ (recreational tourism) เป็นกำรท่องเที่ยวไปยัง สถำนที่ต่ำง ๆ ซึ่งอำจเป็นแหล่งธรรมชำติหรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้ำงขึ้น โดยมีกิจกรรมเพื่อ ควำมสนุกสนำน ตื่นเต้นผจญภัยควบคู่ไปด้วย สถำนที่ท่องเที่ยวประเภทนี้มีอยู่ตำมเมืองใหญ่ มี ข้อดี คือ ใช้เวลำและงบประมำณไม่มำกและมีกิจกรรมให้เลือกหลำกหลำย เช่น กิจกรรมนันทนำกำร เพื่อกำรเรียนรู้และทักษะ เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดกำรพัฒนำทำงกำย อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ กิจกรรมนันทนำกำรเพื่อสุขภำพ เป็นกิจกรรมที่เน้นพัฒนำสุขภำพกำยและใจ สถำนที่จัดงำนนิทรรศกำรนำนำชำติ (World EXPO) เมืองมิลำน ประเทศอิตำลี Geo Tip แนวโน้มอุตสาหกรรม MICE ในประเทศไทย อุตสำหกรรม MICE เป็นอุตสำหกรรมที่เป็นยุทธศำสตร์ชำติ เพรำะประเทศไทยมีควำมพร้อมใน ทรัพยำกรทั้งในเรื่องของสถำนที่จัดงำน สถำนที่ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ทั้งนี้ รัฐบำลได้พัฒนำโครงสร้ำง พื้นฐำนในอุตสำหกรรม MICE เช่น ศูนย์ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต และอีกหลำยแห่งในภูมิภำค ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลำงธุรกิจระหว่ำงประเทศ 154 155 นำนำชำติ และกำรจัดนิทรรศกำรเป็นที่รู้จักกัน ในนำมของ MICE (Meeting, Incentive, 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 7. ครูสุมถามนักเรียนถึงสถานที่ที่อยากไป ทองเที่ยวหรือใชบริการมากที่สุด พรอมทั้ง เชื่อมโยงเพิ่มเติมวา จะสามารถนําเทคโนโลยีใด ไปใชในการทองเที่ยวไดบาง จากนั้นให นักเรียนแสดงความคิดเห็นรวมกัน 8. ครูถามคําถาม เชน • นักเรียนคิดวา ในอนาคตสถานการณการ ทองเที่ยวของประชากรโลกจะมีแนวโนมเปน อยางไร และสงผลกระทบอยางไร (แนวตอบ เชน ในอนาคตประชากรโลกอาจ มีแนวโนมในการทองเที่ยวที่สูงขึ้น อันเนื่อง มาจากการคาดการณของ UNWTO หรือ หนวยงานขององคการสหประชาชาติที่ ควบคุมดูแลทางการทองเที่ยว ที่คาดการณ วาจะมีนักทองเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในป ค.ศ. 2020 เปนจํานวนถึง 1,400 ลานคน และ ในป ค.ศ. 2030 เปนจํานวนถึง 1,800 ลานคน จึงสามารถคาดการณไดวา ในอนาคต ประชากรโลกจะมีการทองเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น อยางตอเนื่อง อันเปนการสงผลให เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวและดําเนิน กิจกรรมตางๆ ไดอยางตอเนื่อง เกิด ความหลากหลายทางวัฒนธรรม แตทั้งนี้ อาจสงผลกระทบในดานการยายถิ่น การเกิด แรงงานผิดกฎหมาย หรือเกิดปญหา สิ่งแวดลอมเสื่อมโทรมลงได) นักเรียนควรรู 1 การจัดนิทรรศการ (exhibition) เปนหนึ่งในอุตสาหกรรมไมซ (MICE) ที่ชวยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหกับประเทศ เนื่องจากเปนชองทางหนึ่งที่ผูผลิตสินคา หรือผูใหบริการไดนําเสนอสินคา หรือผลิตภัณฑของตนออกสูสายตาสาธารณชน ใหเปนที่รูจัก ซึ่งนอกจากจะสรางมูลคาจากการซื้อขายสินคาแลว ยังเปนการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสรางความสัมพันธอันดีระหวางผูซื้อและผูขาย อีกดวย 2 MICE หรืออุตสาหกรรมไมซ เปนคําใชเรียกกลุมธุรกิจ 4 กลุม ไดแก M (Meeting) : ธุรกิจการจัดประชุม I (Incentive) : การทองเที่ยวเพื่อเปนรางวัล C (Convention : ธุรกิจการจัดประชุมนานาชาติ E (Exhibition) : ธุรกิจการจัดแสดงสินคาและนิทรรศการ ประเทศไทยมีศักยภาพในการเปนศูนยกลางของอุตสาหกรรม MICE ในภูมิภาคอาเซียนมากนอยเพียงไร จงวิเคราะห (แนวตอบ มีศักยภาพ เนื่องจากประเทศไทยมีปจจัยที่เปน ขอไดเปรียบหลายประการ เชน ความคุมคาเงิน การพัฒนาโครงสราง พื้นฐานดานการคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ ทําเลที่ตั้งที่เปน ศูนยกลางของภูมิภาคในการเดินทางไปยังประเทศตางๆ ในอาเซียน และเอเชียไดสะดวกมีโรงแรมที่พักจํานวนมาก ทําใหตนทุน การเดินทาง ประชุม และทองเที่ยวตํ่ากวา มีแหลงทองเที่ยวและ ศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงความเปนมิตร และยิ้มแยม แจมใส อันเปนลักษณะนิสัยที่สําคัญของคนไทย) นํา สอน สรุป ประเมิน T160
ขอสอบเนน การคิด 3) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (medical tourism) หรือกำรท่องเที่ยวเชิงกำรแพทย์ เป็นกำรท่องเที่ยวที่มีจุดมุ่งหมำยเพื่อบ�ำบัด ฟนฟู หรือส่งเสริมสุขภำพ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตของ ประเทศญี่ปุ่นมีบ่อพุน�้ำร้อน ทั้งประเภทในร่มและกลำงแจ้ง กระจำยอยู่ทั่วประเทศ คนรุ่นใหม่ที่ให้ควำมสนใจเรื่องกำรดูแลสุขภำพ เป็นอย่ำงดี สำมำรถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 3.1) การท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริม สุขภาพ เป็นกำรท่องเที่ยวในลักษณะที่ช่วย ส่งเสริมให้ร่ำงกำยรู้สึกผ่อนคลำย มีสุขภำพจิต ที่ดี ซึ่งสำมำรถจัดรูปแบบของกิจกรรมได้ หลำกหลำย เช่น กำรนวดหรือประคบสมุนไพร สปำ วำรีบ�ำบัด กำรอำบน�้ำแร่หรือแช่น�้ำพุร้อน โยคะ เพื่อปรับสมดุลให้แก่ร่ำงกำย 3.2) การท่องเที่ยวเชิงบ�าบัด รักษา เป็นกำรเดินทำงมำเพื่อรักษำพยำบำล เป็นหลัก โดยเข้ำรับบริกำรบ�ำบัด รักษำ ฟนฟูสุขภำพในสถำนพยำบำลหรือโรงพยำบำลที่มีคุณภำพ และได้มำตรฐำน เช่น กำรตรวจสุขภำพ กำรรักษำโรคต่ำง ๆ ศัลยกรรมควำมงำม หรืออำจเป็นกำร พักฟนหลังจำกกำรเข้ำพักรักษำตัว เมื่อวิทยำกำรทำงกำรแพทย์ก้ำวหน้ำ มีเครื่องมือแพทย์ที่ทัน สมัย แพทย์มีควำมเชี่ยวชำญหลำยสำขำ คนไข้มีควำมเชื่อมั่น และเดินทำงเข้ำมำรับบริกำร ประกอบกับปัจจัยเสริมอย่ำงอื่น เช่น กำรเดินทำงที่สะดวกรวดเร็ว กำรบริกำรกำรเงินระหว่ำง ประเทศที่สะดวก ท�ำให้กำรท่องเที่ยวเชิงกำรแพทย์มีเพิ่มมำกขึ้น ประเทศที่เป็นศูนย์กลำงด้ำนกำร รักษำพยำบำล เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินเดีย กำรศึกษำธรรมชำติเป็นรูปแบบหนึ่งของกำรท่องเที่ยว ที่ช่วยให้เกิดควำมตระหนักในกำรร่วมกันรักษำธรรมชำติ 4) การท ่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นกำรท่องเที่ยวที่ค�ำนึงถึงสภำพแวดล้อมและ ธรรมชำติโดยอำศัยควำมรู้ด้ำนกำรอนุรักษ์ กำรรักษำคุณค่ำ และควำมเป็นเอกลักษณ์ของ แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมของกำรท่องเที่ยวอำจ มีหลำกหลำย เช่น กำรเดินศึกษำธรรมชำติ กำร ส่องสัตว์หรือดูนก กำรท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่ง นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ สัมผัส และได้รับ ประสบกำรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชำติ ทั้งเกิด จิตส�ำนึกและควำมรับผิดชอบในกำรอนุรักษ์ ทรัพยำกรกำรท่องเที่ยวให้คงอยู่อย่ำงยั่งยืน 154 155 สปำ วำรีบ�ำบัด กำรอำบน�้ำแร่หรือแช่น�้ำพุร้อน 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • นักเรียนคิดวาปจจัยสําคัญที่ทําใหประเทศไทย เปนจุดหมายปลายทางของนักทองเที่ยว คือสิ่งใด (แนวตอบ เชน ความสวยงามของธรรมชาติ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสถานที่ ความประหยัดของคาใชจาย ความสะดวก สบายในการเดินทาง) 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายและ แสดงความคิดเห็นเชื่อมโยงกิจกรรมทาง เศรษฐกิจในดานอุตสาหกรรม การทองเที่ยว และการบริการ ที่ไดทําการศึกษา จากนั้นให แตละกลุมจัดทําแผนผังมโนทัศนสรุปความรู ทั้งหมด โดยครูแนะนําเพิ่มเติม ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอขอมูลจาก การศึกษาประกอบแผนผังมโนทัศนที่ไดจัดทํา พรอมทั้งอภิปรายแสดงความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 4.2 เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจในดานอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ นักเรียนควรรู 1 วารีบําบัด (hydrotherapy) เปนการใชนํ้า หรือไอนํ้าในการรักษาโรค บรรเทาอาการปวด ทําใหผอนคลายและรักษาสุขภาพทั่วไป ปจจุบันวารีบําบัด ไดรับความนิยมอยางกวางขวาง ในแงของการเปนทางเลือกหนึ่งในการเยียวยา ตามวิถีธรรมชาติ ซึ่งวิธีการบําบัดที่ไดรับความนิยมคอนขางมาก มี 2 รูปแบบ ใหญๆ คือ วารีบําบัดในสวนของการออกกําลังกายใตนํ้าและในสวนของสปา 2 นํ้าพุรอน บอนํ้าพุรอนในที่ตางๆ ของโลก ที่สําคัญ เชน • บอนํ้าพุรอนเดลดารตุงกูเวอร (Deildartunguhver Thermal Spring) ของไอซแลนด เปนบอนํ้าพุรอนที่นํ้าไหลเร็วที่สุดในยุโรป • บอนํ้าพุรอนสีเลือด (Blood Pond Hot Spring) ที่เมืองเบ็ปปุของญี่ปุน มีนํ้าเปนสีแดง ซึ่งอุดมไปดวยธาตุเหล็ก • บอนํ้าพุรอนจิโกคุดานิ (Jigokudani) สถานพักฟนของลิงหิมะญี่ปุน • บอนํ้าพุรอนแมมมอธ (Mammoth Hot Springs) ของสหรัฐอเมริกา ที่สวยงามและมีเกลือของกรดคารบอนตกตะกอนใหญที่สุดในโลก “มิสเตอรฟรองซัวมาทองเที่ยวเมืองไทย และตองการนวดแผน โบราณเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการเดินทางเปนเวลานาน ไกดจึงพาไปที่วัดโพธิ์” จัดเปนการทองเที่ยวที่สอดคลองกับขอใด มากที่สุด 1. การทองเที่ยวเชิงธุรกิจ 2. การทองเที่ยวเชิงนิเวศ 3. การทองเที่ยวเชิงสุขภาพ 4. การทองเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5. การทองเที่ยวเชิงนันทนาการ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. การนวดจัดเปนการทองเที่ยว เชิงสุขภาพที่มีจุดมุงหมายเพื่อบําบัด ฟนฟู หรือสงเสริมสุขภาพ) นํา สอน สรุป ประเมิน T161
3.4 ผลจากการท่องเที่ยว กำรท่องเที่ยวเป็นอุตสำหกรรมบริกำรที่ต้องอำศัยทรัพยำกรธรรมชำติและวัฒนธรรมเป็น สิ่งดึงดูดและสร้ำงรำยได้ หำกไม่มีกำรจัดกำรที่มีประสิทธิภำพอำจเกิดควำมเสื่อมโทรมลงได้ กำรท่องเที่ยวส่งผล ดังนี้ 1) ด้านเศรษฐกิจ ท�ำให้เกิดกำรสร้ำงงำนของประชำชนจ�ำนวนมำก กำรสร้ำงรำยได้ จำกธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้ำนอำหำร ร้ำนขำยของที่ระลึก และอื่น ๆ ท�ำให้มีกำรลงทุน เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจขยำยตัว แต่ก็ส่งผลกระทบอื่นๆ ตำมมำ เช่น ปัญหำกำรกระจำยรำยได้ ที่กระจุกตัวเฉพำะพื้นที่ ผู้ประกอบกำรได้รับผลประโยชน์มำกกว่ำคนในท้องถิ่น 2) ด้านสังคมและวัฒนธรรม ท�ำให้ลดกำรอพยพย้ำยถิ่น เกิดกำรพัฒนำโครงสร้ำง พื้นฐำนที่จ�ำเป็นให้กับชุมชน ได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมประจ�ำชำติ แต่อำจ ส่งผลกระทบอื่นๆ เช่น อำจมีกำรใช้พื้นที่สำธำรณะในเชิงพำณิชย์เพื่อคนบำงกลุ่ม เกิดควำมแออัด ในสถำนที่ท่องเที่ยว หรือเกิดควำมช�ำรุดเสียหำยของสถำนที่ท่องเที่ยว 3) ด้านสิ่งแวดล้อม ท�ำให้เกิดกำรพัฒนำและปรับปรุงพื้นที่ทำงธรรมชำติ หรือ ภูมิลักษณ์ทำงกำยภำพให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีกำรออกกฎและระเบียบต่ำง ๆ ในกำรอนุรักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำติ สร้ำงจิตส�ำนึกในกำรอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยำกรกำรท่องเที่ยว แต่อำจ ส่งผลกระทบอื่นๆ เช่น ธรรมชำติบำงส่วนอำจถูกท�ำลำยจำกกำรสร้ำงที่พักหรือกำรจัดกิจกรรม บำงประเภท หรืออำจมีกำรบุกรุกพื้นที่ป่ำและล่ำสัตว์ป่ำ 156 157 ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 4. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจใน ดานอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ 5. ใหนักเรียนทําแบบวัดฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือดาน เทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับสิ่งแวดลอมทาง กายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของเนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบวัดฯ และแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย การเรียนรูที่ 4 เรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพ กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประเภทอุตสาหกรรม การทองเที่ยวและการบริการ ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางานและนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัด และประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการ จัดการเรียนรูหนวยที่ 4 เรื่อง สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม กิจกรรม 21st Century Skills ครูใหนักเรียนแบงกลุม จับสลากสืบคนขอมูลที่เกี่ยวของ กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในทวีปตางๆ ของโลก ประกอบการใช เครื่องมือทางภูมิศาสตร แลวนําขอมูลมาบันทึกลงในแผนที่โครงราง ของแตละทวีป พรอมเหตุผลประกอบที่แสดงใหเห็นถึงปฏิสัมพันธ ระหวางสิ่งแวดลอมทางกายภาพกับวิถีการดําเนินชีวิตของประชากร ในดานเศรษฐกิจที่สําคัญของทวีป โดยระบุขอมูลประกอบการใช สัญลักษณและคําอธิบายในแผนที่ ตามประเด็น ดังนี้ • ประเภทของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ • ตําแหนงที่ตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ • ความสัมพันธระหวางตําแหนงที่ตั้งกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จากนั้นใหนักเรียนนําแผนที่โครงรางของแตละทวีปที่บันทึก ขอมูลแลวมาจัดวางรวมกัน ใหอยูในรูปแบบแผนที่โครงรางของโลก อภิปรายสรุป และเสนอแนะขอคิดเห็นรวมกัน นํา สอน สรุป ประเมิน T162
คำาถามเนนการคิด กิจกรรมพัฒนาทักษะ 1. เพรำะเหตุใดกิจกรรมทำงกำรเกษตรจึงปรำกฏในพื้นที่ต่อไปนี้ • กำรท�ำกำรเกษตรกรรม ในเขตที่รำบลุ่ม • กำรท�ำประมงน�้ำเค็ม ในเขตน�้ำตื้นใกล้ชำยฝั่ง • กำรเลี้ยงโคนม ในเขตอำกำศอบอุ่น 2. เพรำะเหตุใดทวีปเอเชียจึงเป็นแหล่งพืชอำหำรที่ส�ำคัญของโลก 3. ปัจจัยก�ำหนดที่ตั้งของอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญมีอะไรบ้ำง ยกตัวอย่ำงเขตอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญ ของโลก 4. อุตสำหกรรมประเภทใดที่ควรส่งเสริมในประเทศไทย เพรำะเหตุใด 5. หำกนักเรียนต้องกำรลงทุนสร้ำงที่พักและสถำนที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ต้องค�ำนึงถึง ปัจจัยใดบ้ำง และเลือกที่ใด พร้อมบอกเหตุผล 1. เพรำะเหตุใดกิจกรรมทำงกำรเกษตรจึงปรำกฏในพื้นที่ต่อไปนี้ 2. เพรำะเหตุใดทวีปเอเชียจึงเป็นแหล่งพืชอำหำรที่ส�ำคัญของโลก 3. ปัจจัยก�ำหนดที่ตั้งของอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญมีอะไรบ้ำง ยกตัวอย่ำงเขตอุตสำหกรรมที่ส�ำคัญ 4. อุตสำหกรรมประเภทใดที่ควรส่งเสริมในประเทศไทย เพรำะเหตุใด 5. หำกนักเรียนต้องกำรลงทุนสร้ำงที่พักและสถำนที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ต้องค�ำนึงถึง 1. วิเครำะห์ข้อได้เปรียบของท�ำเลที่ตั้งของประเทศไทยในกำรพัฒนำกำรท่องเที่ยวของประเทศ โดยใช้แผนที่ประกอบกำรวิเครำะห์ 2. แบ่งกลุ่มเพื่อระดมสมอง สมมติให้แต่ละกลุ่มเป็นนักธุรกิจต้องกำรไปลงทุนขยำยธุรกิจ ไปต่ำงประเทศ ให้เลือกประเทศที่จะไปลงทุนท�ำธุรกิจ โดยวิเครำะห์ ในประเด็นหลัก เช่น • ท�ำเลที่ตั้ง • ทรัพยำกรธรรมชำติ • กำรคมนำคม • แรงงำน 1. วิเครำะห์ข้อได้เปรียบของท�ำเลที่ตั้งของประเทศไทยในกำรพัฒนำกำรท่องเที่ยวของประเทศ 2. แบ่งกลุ่มเพื่อระดมสมอง สมมติให้แต่ละกลุ่มเป็นนักธุรกิจต้องกำรไปลงทุนขยำยธุรกิจ 156 157 เฉลย คําถามเนนการคิด 1. • เขตที่ราบลุมเปนเขตที่มีตะกอนสะสม ทําให ดินมีความอุดมสมบูรณเหมาะแกการทํา เกษตรกรรม • เขตนํ้าตื้นใกลชายฝง เปนเขตที่มีแสงสวาง สองลงไปใตนํ้า ทําใหอุณหภูมิของนํ้า เหมาะสม เนื่องจากมีแพลงกตอนซึ่งเปน อาหารของปลา จึงทําใหมีปลามาอาศัยอยู เปนจํานวนมาก • เขตอากาศอบอุน มีความชื้นเพียงพอทําให หญาอุดมสมบูรณและในฤดูรอนอากาศจะ ไมรอนมาก ทําใหโคนมที่เลี้ยงมีคุณภาพดี 2. ทวีปเอเชียเปนทวีปที่มีทรัพยากรดินและนํ้า อุดมสมบูรณ และมีภูมิอากาศแบบมรสุมที่ เหมาะสําหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สําคัญ ของโลก 3. ปจจัยที่กําหนดที่ตั้งของอุตสาหกรรมที่สําคัญ ไดแก ที่ดิน วัตถุดิบ แรงงาน การขนสง ตลาด ตัวอยางเขตอุตสาหกรรมที่สําคัญของโลก เชน เขตอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกลา มีศูนยกลางอยูที่สหรัฐอเมริกา แถบเทือกเขา แอปพาเลเชียน บริเวณรอบทะเลสาบเกรตเลกส และเขตริมฝงแอตแลนติกตอนกลาง 4. อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร เพราะ ประเทศไทยมีความพรอมทางดานวัตถุดิบ รวมถึงศักยภาพของผูประกอบการที่สามารถ พัฒนาคุณภาพและรูปแบบของสินคาใหตรง ตามความตองการของตลาดได 5. ตองคํานึงถึงความปลอดภัย ความสะอาด ความสะดวกสบายในการเดินทาง ความ สวยงามของธรรมชาติ และเลือกสถานที่ บริเวณที่อยูใกลกับแหลงธรรมชาติและไมสง ผลกระทบตอธรรมชาติและสิ่งแวดลอม เพื่อ เนนใหเกิดการพัฒนาสุขภาพกายและใจ ของผูมาใชบริการและรักษาสภาพแวดลอม ควบคูกัน เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพัฒนาทักษะ ประเมินความรอบรู • ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพื้นฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยทั่วไป งานหรือชิ้นงานใชเวลาไมนาน งานสําหรับประเมินรูปแบบนี้อาจเปนคําถามปลายเปดหรือผังมโนทัศน นิยมสําหรับประเมินผูเรียนรายบุคคล ประเมินความสามารถ • เชน ความคลองแคลวในการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร การแปลความหมายขอมูล ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการแกปญหา งานหรือชิ้นงานจะสะทอนถึง ทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปใช อาจเปนการประเมินการเขียน ประเมินกระบวนการทํางานทางภูมิศาสตรตางๆ หรือการวิเคราะห และการแกปญหา ประเมินทักษะ • มีเปาหมายหลายประการ ผูเรียนไดแสดงทักษะ ความสามารถทางภูมิศาสตรตางๆ ที่ซับซอนขึ้น งานหรือชิ้นงานมักเปนโครงงานระยะยาว ซึ่งผูเรียน ตองมีการนําเสนอผลการปฏิบัติงานตอผูเกี่ยวของหรือตอสาธารณะ สิ่งที่ตองคํานึงถึงในการประเมิน คือ จํานวนงานหรือกิจกรรมที่ผูเรียนปฏิบัติ และผูประเมินควรกําหนดรายการประเมิน และทักษะที่ตองการประเมินให ชัดเจน นํา สอน สรุป ประเมิน T163
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ภัยพิบัติ ธรรมชาติ ทางธรณีภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint - ใบงานที่ 5.1 - เครื่องมือทาง ภูมิศาสตร์เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทางธรณีภาค ในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทางธรณีภาค ได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคเพื่อน�ำมา ปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 ภัยพิบัติ ธรรมชาติทาง บรรยากาศภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - PowerPoint - ใบงานที่ 5.2 - เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทาง บรรยากาศภาคใน ประเทศไทยและภูมิภาค ต่างๆ ของโลกได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทาง บรรยากาศภาคได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง บรรยากาศภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง บรรยากาศภาค เพื่อน�ำมาปรับใช้ใน ชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.2 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ T164
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 ภัยพิบัติ ธรรมชาติ ทางอุทกภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - PowerPoint - ใบงานที่ 5.3 - เครื่องมือทาง ภูมิศาสตร์เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทางอุทกภาค ในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทางอุทกภาค ได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง อุทกภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง อุทกภาคเพื่อน�ำมาปรับ ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.3 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 4 ภัยพิบัติ ธรรมชาติ ทางชีวภาค 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ม.4-6 - แบบฝึกสมรรถนะ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - แบบวัดและบันทึผล การเรียนรู้ภูมิศาสตร์ ม.4-6 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint - ใบงานที่ 5.4 - เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนที่ เข็มทิศ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพที่ท�ำให้เกิด ปัญหา หรือภัยพิบัติ ธรรมชาติทางชีวภาค ในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ได้(K) 2. วิเคราะห์ผลกระทบ ที่เกิดจากภัยพิบัติ ธรรมชาติทางชีวภาค ได้(K) 3. เสนอแนวทางในการ ป้องกันตนเองและระวัง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ชีวภาคได้(P) 4. สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ชีวภาคเพื่อน�ำมาปรับ ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพิ่มมากขึ้น (A) กระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) - ตรวจการท�ำแบบฝึก สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจการท�ำแบบวัด และบันทึกผลการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ม.4-6 - ตรวจใบงานที่ 5.4 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - การแปลความ ข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ - การคิดเชิงพื้นที่ - การคิดแบบ องค์รวม - การใช้สถิติ พื้นฐาน 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน 4. มีจิตสาธารณะ T165
นักเรียนมีแนวทาง เตรียมความพร้อม รับมือกับสถานการณ์ ÀѾԺѵԷҧ ¸ÃÃÁªÒµÔ ได้อย่างไร ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตาม ธรรมชาติบนเปลือกโลก มีการเกิดแบบช้า ๆ ท�าให้มีเวลาเตรียม รับมือได้ แต่บางภัยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีเวลาเตรียมการ รองรับ และมีทั้งระดับที่ไม ่รุนแรงจนถึงระดับที่เป็นอันตราย จนท�าให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิต อาคารบ้านเรือนและ ทรัพย์สินเสียหายจ�านวนมาก เมื่อเกิดขึ้นแล้วย ่อมส ่งผลต ่อ การด�าเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่ประสบภัย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ สาระการเรียนรู้แกนกลาง • ปัญหาทางกายภาพและภัยพิบั ติทาง ธรรมชาติในประเทศและภูมิภาค ต่าง ๆ ของโลก • สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ�งแวดล้อม ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ ความเสื่อมโทรมของ สิ�งแวดล้อม ความหลากหลายทาง ชีวภาพ และภัยพิบัติ • การจัดการภัยพิบัติ ตัวชี้วัด ส 5.1 ม.4 - 6/2 ส 5.2 ม.4 - 6/2 หนวยการเรียนรูที่5 158 ขั้นนํา (Geographic Inquiry Process) 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอน ชื่อเรื่อง จุดประสงค และผลการเรียนรู 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย การเรียนรูที่ 5 เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ 3. ครูอานขอความตัวอยางใหนักเรียนฟง เชน “แผนดินไหวขนาด 7.8 ที่ประเทศเนปาล เมื่อ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 และเกิด อาฟเตอรช็อก (After Shock) รุนแรงมาก มีผูเสียชีวิตมากกวาการเกิดแผนดินไหว เมื่อครั้งที่แลวถึง 3,000 คน และมีอาคาร บานเรือนเสียหายมากที่สุด” 4. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นและ ตอบคําถามจากขอความตัวอยาง เชน • หากนักเรียนเปนผูประสบภัยแผนดินไหว จะมีแนวทางรับมือกับเหตุการณดังกลาว อยางไร (แนวตอบ เชน ติดตามขาวสารจากทาง ราชการ เตรียมสิ่งของที่จําเปน สังเกต สัญญาณภัยพิบัติ อยูหางจากอาคารสูง กําแพงหรือเสาไฟฟา) • ผลกระทบจากการเกิดปญหาหรือภัยพิบัติ ทางธรรมชาตินี้กอใหเกิดความเสียหาย อยางไร (แนวตอบ เชน ทําใหอาคารบานเรือนเสียหาย ผูคนสูญเสียชีวิตและทรัพยสิน) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดกิจกรรมโดยเนนความสามารถในการใชทักษะ กระบวนการ และความสามารถทางภูมิศาสตร เชน ทักษะการใชเทคนิคและเครื่องมือทางภูมิศาสตร ทักษะการแปลความขอมูลทางภูมิศาสตร ทักษะการใชเทคโนโลยี ทักษะการคิดเชิงพื้นที่ ประกอบการเรียนการสอนโดยจัดกิจกรรม เชน • นําเครื่องมือทางภูมิศาสตร เชน แผนที่ รูปถายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียมหรือใชสมารตโฟน ในการสืบคนขอมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ • การจัดกิจกรรมตางๆ ควรเนนกิจกรรมที่กระตุนความสนใจของนักเรียน ใหนักเรียนรูจักคิด และมีสวนรวมในกิจกรรมตางๆ รวมทั้งสงเสริมประสบการณ และความสามารถของผูเรียน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T166
ขอสอบเนน การคิด รอยเลื่อน รอยเลื่อน คลื่นเดินทางแผออกไป ศูนยกลางแผนดินไหว คลื่นแผถึงพื้นผิว จุดเหน�อศูนยแผนดินไหว x 1 ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาค ภัยพิบัติทางธรณีภาคเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจ�าจากพลังงาน ภายในโลกที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ที่ส�าคัญ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟปะทุ สึนามิ แผ่นดินถล่ม 1.1 แผ่นดินไหว (earthquake) 1) ค�าจ�ากัดความ แผ่นดินไหวเกิดจากการสั่นสะเทือนของเปลือกโลกในระดับ ขนาดแตกต่างกัน หากมีขนาดมากกว่า 5 จะเป็นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ท�าให้เกิดการสูญเสีย ชีวิตและทรัพย์สินจ�านวนมาก ในแต่ละปีทั่วโลกมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเป็นแสนครั้งและแต่ละวัน เกิดเป็นหลายร้อยครั้ง 2) กระบวนการเกิดแผ่นดินไหว เกิดขึ้นเมื่อ การเคลื่อนที่ของคลื่นแผ่นดินไหวออกไปโดยรอบ • มีการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน มีพลังในแผ่นธรณีภาค เกิดการสะสมแรงเค้น และความเครียดอย่างช้า ๆ ใต้เปลือกโลก เมื่อเกิด การเปลี่ยนแปลงอย ่างฉับพลัน รอยเลื่อนใน แผ ่นเปลือกโลกจะปลดปล ่อยพลังงานที่สะสม ใต้เปลือกโลกเป็นคลื่นไหวสะเทือน เกิดการสั่น สะเทือนของแผ่นดิน • เมื่อเกิดการปะทุของภูเขาไฟที่แมกมาแทรกดันขึ้นมาตามรอยแตก หรือปล่อง ภูเขาไฟ ท�าให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่มีระดับความรุนแรงแตกต่างกัน การปะทุของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่ท�าให้เกิดแผ่นดินไหว หรือสึนามิขึ้น 3) ประเภทของรอยเลื่อนมีพลัง มี 3 ประเภทหลัก ดังนี้ 1 รอยเลื่อนปกติ (normal fault) เป็นรอยเลื่อนที่หินเพดานเลื่อน ลง เมื่อเทียบกับหินพื้น 2 รอยเลื่อนย้อน (reverse fault) เป็นรอยเลื่อนที่หินเพดานเลื่อน ขึ้น เมื่อเทียบกับหินพื้น ถ้า รอยเลื่อนย้อนมีค่ามุมเท่ากับ หรือน้อยกว่า 45 องศา เรียกว่า รอยเลื่อนย้อนมุมต�่า 3 รอยเลื่อนตามแนวระดับ (strike - slip fault) หรือรอยเลื่อนเหลื่อม ข้าง (transcurrent fault) เป็น รอยเลื่อนในหินที่สองด้านเคลื่อน ตัวในแนวราบเฉือนกัน 159 มีพลังในแผ่นธรณีภาค เกิดการสะสมแรงเค้น คลื่นเดินทางแผออกไป จุดเหน�อศูนยแผนดินไหว 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 1. ครูสุมนักเรียนใหออกมาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับรอยเลื่อนมีพลังทั้ง 3 ประเภทวา แตละประเภทมีลักษณะอยางไร และมีความ เหมือน หรือแตกตางกัน อยางไร โดยศึกษา ภาพประกอบจากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจากแหลงการเรียนรูอื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตในอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนที่ไมไดรับการสุมเชื่อมโยงวา รอยเลื่อนแตละประเภทกอใหเกิดแผนดินไหว แตละประเภทไดอยางไร ขั้นนํา 5. ครูใหนักเรียนใชสมารตโฟนสืบคนขอมูล เกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เคย เกิดขึ้นและกอใหเกิดความเสียหายอยางรุนแรง ในประเทศไทยและภูมิภาคตางๆ ของโลก เชน แผนดินไหว สึนามิ ภูเขาไฟปะทุ แผนดินถลม เพื่อเชื่อมโยงเขาสูบทเรียน แผนดินไหวมีกระบวนการเกิดอยางไร (แนวตอบ แผนดินไหวสวนใหญเกิดขึ้นจากการคลายตัวอยาง รวดเร็วของความเครียดภายในเปลือกโลกที่มีการกอตัวของ ความเครียดอยางชาๆ อันเปนผลสืบเนื่องมาจากการเคลื่อนตัว ของเปลือกโลกในรูปของการเลื่อนตัวของหิน หรือการปะทุของ ภูเขาไฟ) นักเรียนควรรู 1 แผนธรณีภาค สวนของธรณีภาคซึ่งรวมสวนที่เปนเปลือกโลกและเนื้อโลก ตอนบน วางตัวอยูบนฐานธรณีภาค ประกอบดวยแผนธรณีขนาดใหญ 9 แผน ไดแก แผนแปซิฟก แผนแอนตารกติก แผนอินโด-ออสเตรเลีย แผนยูเรเชีย แผนอเมริกาเหนือ แผนอเมริกาใต แผนแอฟริกา แผนโคโคส แผนนัซกา และมี แผนธรณีเล็กๆ อีกจํานวนหนึ่ง แผนธรณีสวนใหญเคลื่อนที่ในแนวราบ หรือเลื่อน รวมกับแผนธรณีแผนอื่นๆ ในแนวเขตแผนดินไหว 2 จุดเหนือศูนยแผนดินไหว ตําแหนงสมมติที่กําหนดดวยจุดตัดของเสนดิ่ง ที่ลากจากศูนยเกิดแผนดินไหว (earthquake focus) ตัดกับผิวโลก นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T167
ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET ขนาดตาม มาตราริกเตอร์ ระดับ ผลกระทบ 0 - 3.0 3.0 - 3.9 4.0 - 4.9 5.0 - 5.9 6.0 - 6.9 7.0 - 7.9 8.0 ขึ้นไป ขนาดเล็กมาก (micro) ขนาดเล็ก (minor) ขนาดเบา (light) ขนาดปานกลาง(moderate) ขนาดรุนแรง (strong) ขนาดรุนแรงมาก (major) ขนาดใหญ่มาก (great) ผู้คนเริ่มรู้สึกถึงการสั่นไหว ผู้คนที่อยู่ในอาคารรู้สึกเหมือนรถไฟวิ่งผ่าน ผู้คนรู้สึกถึงการสั่นสะเทือน วัตถุที่ห้อยแขวนแกว่งไกว สั่นไหวรุนแรงเป็นบริเวณกว้างเครื่องเรือนและวัตถุมีการเคลื่อนที่ สั่นไหวรุนแรงมาก อาคารเริ่มเสียหายพังทลาย สิ่งก่อสร้างเสียหายมาก แผ่นดินแยก วัตถุที่พื้นถูกเหวี่ยงกระเด็น สิ่งก่อสร้างถูกท�าลายหมด 4) สาเหตุการเกิดแผ่นดินไหว การเกิดแผ่นดินไหวมีสาเหตุหลัก 2 ประการ ดังนี้ 4.1) การเคลื่อนตัวฉับพลันของรอยเลื่อนมีพลัง ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เกิดขึ้นในชั้นเปลือกโลก ซึ่งยังคงมีการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้น เมื่อพลังงานจากความเครียดที่สะสมบริเวณรอยเลื่อนมีมากจึงเกิดการปรับสมดุลใหม่แผ่นดินไหว ที่มีความรุนแรงมากมักเกิดในบริเวณการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกเข้าหากัน 4.2) การปะทุของภูเขาไฟอย่างรุนแรง เช่น การปะทุของแก๊ส ไอน�้า การไหลพุ่ง ของลาวาออกสู่ภายนอกปล่องภูเขาไฟหรือบริเวณรอยแยกของเปลือกโลก 5) ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว มาตรวัดขนาดและความรุนแรงของ การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่นิยมใช้ ได้แก่ 5.1) ขนาดของแผ่นดินไหว (magnitude) เป็นการวัดพลังงานของแผ่นดินไหว ที่ปลดปล่อยออกมา เป็นการค�านวณปริมาณพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจากศูนย์กลางการเกิด แผ่นดินไหวที่วัดได้จากความสูงของคลื่น (amplitude) จากเส้นไซสโมแกรม หากมีความสูงมาก แสดงว่าพื้นดินจะมีการสั่นสะเทือนมาก หรือแสดงว่ามีแผ่นดินไหวรุนแรงมาก มาตรวัดขนาด แผ่นดินไหวที่ส�าคัญ ได้แก่ มาตราริกเตอร์(Richter Scale) นิยมใช้กับแผ่นดินไหวที่มีขนาด เล็กกว่า หรือเท่ากับ 6 ถ้ามากกว่านั้นใช้มาตราโมเมนต์(Moment Scale) เนื่องจากมีความ ละเอียดและแม่นย�ากว่า ขนาดแผ่นดินไหวแสดงในตาราง ดังนี้ 160 มาตราริกเตอร์ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูนํานักเรียนสนทนาเพิ่มเติมถึงความหมาย สาเหตุ ขนาด และความรุนแรงของแผนดินไหว เพื่อใหนักเรียนรวมกันอธิบายความรูเบื้องตน เกี่ยวกับแผนดินไหว โดยการตอบคําถามใน ดานปจจัยที่ทําใหเกิดแผนดินไหว สถานการณ การเกิดแผนดินไหว และผลกระทบจากการ เกิดแผนดินไหว เชน • การจําแนกขนาดของแผนดินไหวมีราย ละเอียดอยางไร และแผนดินไหวแตละ ขนาดมีผลกระทบอยางไร (แนวตอบ การจําแนกขนาดของแผนดินไหว นิยมใชขนาดตามมาตราริกเตอร โดยขนาด ความรุนแรง 1-3.9 จัดเปนแผนดินไหว ขนาดเล็ก และ 4-5.9 จัดเปนแผนดินไหว ขนาดปานกลาง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับ พื้นที่ คือ อาคารสิ่งกอสรางเกิดรอยราวจาก การสั่นไหว สวนแผนดินไหวที่มีขนาดความ รุนแรงตั้งแต 6 ขึ้นไป จัดเปนแผนดินไหว ขนาดรุนแรง จะสงผลกระทบตอพื้นที่อยาง รุนแรง เชน อาคารบานเรือนที่ไมแข็งแรง พังทลาย ดินถลม และอาจกอใหเกิด สึนามิ ซึ่งทําใหเกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพยสินอยางประเมินคาไมได) นักเรียนควรรู 1 มาตราริกเตอร เปนคาที่บงชี้ขนาดความรุนแรง ณ จุดศูนยกลางแผนดินไหว ซึ่งนิยมใชในปจจุบัน แบงระดับความรุนแรงไว ดังนี้ นอยกวา 3.0, 3.0-3.9 เกิด การสั่นไหวเล็กนอย 4.0-4.9 เกิดการสั่นไหวปานกลาง ผูคนสามารถรูสึกได และอาคารอาจเกิดความเสียหาย 5.0-5.9, 6.0-6.9 เกิดการสั่นไหวรุนแรงถึง รุนแรงมาก ตามลําดับ อาคารเริ่มพังทลายเสียหาย และตั้งแต 7.0 ขึ้นไป เกิดการสั่นไหวอยางรุนแรงมาก แผนดินอาจแยกตัว อาคารสิ่งกอสรางพังทลาย เกร็ดแนะครู ครูควรนําภาพขาวหรือวีดิทัศนเกี่ยวกับการเกิดแผนดินไหวมาใหนักเรียน พิจารณาในขั้นตอนของกิจกรรมการเรียนรูที่เหมาะสม เพื่อใหนักเรียนเกิดความ สนใจและเขาใจลักษณะการเกิดแผนดินไหวไดชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากนักเรียน สวนใหญไมเคยมีประสบการณที่เกี่ยวของกับภัยแผนดินไหว ภัยทางธรรมชาติในขอใดจัดอยูในแหลงการเกิดเดียวกัน 1. พายุหมุน ฟาผา สึนามิ 2. ฟาผา สึนามิ การกัดเซาะชายฝง 3. อุทกภัย แผนดินไหว ภูเขาไฟปะทุ 4. ภาวะโลกรอน พายุหมุน พายุทอรนาโด 5. สึนามิ การกัดเซาะชายฝง ภาวะโลกรอน ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ภาวะโลกรอน พายุหมุน พายุทอรนาโด เนื่องจากเปนภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบรรยากาศภาค) นํา สอน สรุป ประเมิน T168
180 ํ 0 ํ 20 ํE 60 ํE 100 ํE 140 ํE 140 ํW 100 ํW 60 ํW 20 ํE20 ํW 40 ํE 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 0 ํ40 ํW 20 ํS 20 ํN 40 ํN 40 ํS 60 ํN 60 ํS 80 ํN 80 ํS 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 40 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 ตื้น 0-70 กม. ปานกลาง 71-300 กม. ลึกมากกวา 300 กม. ระดับความลึกของจุดศูนยกลางแผนดินไหว ขนาด ความรุนแรง ผลกระทบ น้อยกว่า 3.0 3.0 - 3.9 4.0 - 4.9 5.0 - 5.9 6.0 - 6.9 7.0 - 7.9 มากกว่า 8.0 I - II III IV - V VI - VII VII - VIII IX - X XI - XII ประชาชนไม่รู้สึก ตรวจวัดได้เฉพาะเครื่องมือ คนอยู่ในบ้านเท่านั้นรู้สึก ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกได้ ประชาชนทุกคนรู้สึก และอาคารเสียหาย ประชาชนตื่นตกใจ และอาคารเสียหายปานกลาง อาคารเสียหายอย่างมาก อาคารเสียหายเกือบทั้งหมด 5.2) ความรุนแรงของแผ่นดินไหว (intensity) เป็นการวัดจากความรู้สึกที่รับรู้ และผลกระทบจากความเสียหายที่มีต่อคน โครงสร้าง อาคาร และพื้นดิน ใช้มาตราเมอร์คัลลี ปรับปรุง ซึ่งมีค่าระหว่าง I - XII ความรุนแรงมีผลกระทบ ดังตาราง 6) การกระจายการเกิดแผ่นดินไหวของโลก จากแผนที่ ระดับความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวส่วนใหญ่อยู่บริเวณวงแหวน แห่งไฟในบริเวณแนวรอยต่อแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกที่มีการขยายตัวตลอดเวลา ซึ่งระดับความลึก ของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์ เช่น แผ่นดินไหว ที่ประเทศเปรู เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2555 มีขนาด 6.1 บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวมีประชากร ที่มา : www.dmr.go.th/กรมทรัพยากรธรณี แผนที่แสดงการกระจายการเกิดแผ่นดินไหวของโลกในช่วง พ.ศ. 2543 - 2561 ที่มา: https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/ 161 และผลกระทบจากความเสียหายที่มีต่อคน โครงสร้าง อาคาร และพื้นดิน ใช้มาตราเมอร์คัลลี ปรับปรุง ซึ่งมีค่าระหว่าง I - XII ความรุนแรงมีผลกระทบ ดังตาราง 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร • การเกิดแผนดินไหวในปจจุบันมีลักษณะเปน อยางไร ยกตัวอยางประกอบพอสังเขป (แนวตอบ แผนดินไหวที่เกิดขึ้นในปจจุบัน มีความบอยครั้งและทวีความรุนแรง เพิ่มมากขึ้น เชน แผนดินไหวที่ประเทศ เนปาล ขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งเกิดจากแผนเปลือกโลกอินเดีย มุดตัวใตแผนเปลือกโลกยูเรเชีย ในลักษณะ รอยเลื่อนยอนมุมตํ่า ไปในทางทิศเหนือ โดยประมาณ สงผลใหมีผูเสียชีวิตมากกวา 8,000 คน และบาดเจ็บมากกวา 17,800 คน) นักเรียนควรรู 1 มาตราเมอรคัลลีปรับปรุง ผูพัฒนามาตราวัดความรุนแรงของแผนดินไหว ดังกลาว ไดแก Harry Wood และ Frank Neumann ซึ่งเปนนักวิชาการ แผนดินไหวชาวอเมริกัน และเขาไดปรับปรุงขึ้นใชใน ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) ความรุนแรงของแผนดินไหวตามมาตราวัดความรุนแรงของแผนดินไหวของ เมอรคัลลีที่ปรับปรุงแลวมี 12 ระดับ จากระดับความรุนแรงที่นอยมากจน ไมสามารถรูสึกไดซึ่งตองตรวจวัดดวยเครื่องมือวัดแผนดินไหวเทานั้น จนถึง ขั้นรุนแรงที่สุดจนทุกสิ่งทุกอยางพังพินาศ และใชหนวยระดับเปนตัวเลขโรมัน สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับขนาดและความรุนแรงของแผนดินไหว ไดที่ http://www.dmr.go.th/main.php?filename=severity กรมทรัพยากรธรณี ครูอาจมอบหมายใหนักเรียนสืบคนแผนที่แสดงการกระจาย การเกิดแผนดินไหวของโลกในชวง พ.ศ. 2543-2561 จากแหลง การเรียนรูอื่น พรอมทั้งสรุปสาระสําคัญ แลวจัดทําเปนบันทึก การสืบคนความรู กิจกรรม สรางเสริม ครูอาจมอบหมายใหนักเรียนอานและสรุปสาระสําคัญจาก แผนที่แสดงการกระจายการเกิดแผนดินไหวของโลกในชวง พ.ศ. 2543-2561 นํา สอน สรุป ประเมิน T169
รอยเลอื่นแมจัน รอยเล่อืนแมอิงรอยเลอ่ืนปว รอยเลอ่ืนพะเยา รอยเลอ่ืนแมทา รอยลเื่อนแมฮองสอนรอยเลื่อนเมย รอยเลื่อนเถินรอยเล่อืนอุตรดิตถ รอยเลอื่นเพชรบูรณ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลอ่ืนเจดยีสามองค รอยเลื่อนระนอง รอยเลื่อนคลองมะรุย กลุ่มรอยเลื่อน รายชื่อจังหวัด 1. แม่จัน เชียงราย เชียงใหม่ 2. แม่อิง เชียงราย 3. แม่ฮ่องสอน แม่ฮ่องสอน ตาก 4. เมย ตาก ก�าแพงเพชร 5. แม่ทา เชียงใหม่ ล�าพูน เชียงราย 6. เถิน ล�าปาง แพร่ 7. พะเยา พะเยา เชียงราย ล�าปาง 8. ปัว น่าน 9. อุตรดิตถ์ อุตรดิตถ์ 10. เจดีย์สามองค์ กาญจนบุรี 11. ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ตาก 12. ระนอง ระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ พังงา 13. คลองมะรุ่ย สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา 14. เพชรบูรณ์ เพชรบูรณ์ กลุ่มรอยเลื่อนมีพลังพาดผ่านประเทศไทย อาศัยอยู่หนาแน่น แต่ไม่มีความเสียหาย เนื่องจากระดับความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ในระดับปานกลาง 143 กิโลเมตรจากพื้นดิน ขณะที่เดือนเดียวกันที่เมืองตาบริซประเทศอิหร่าน เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ระดับความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว 9.9 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ใน ระดับตื้น ส่งผลให้หมู่บ้านเสียหาย มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจ�านวนมาก แสดงว่าระดับ ความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวในระดับตื้นจะอันตรายมากกว่าระดับลึก แผนที่รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย การเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย เกิดจากการ ปลดปล่อยพลังงานที่สะสมของรอยเลื่อนมีพลัง จ�านวน 14 กลุ่ม พบอยู่ ในภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ ของประเทศเนื่องจากเป็นรอยเลื่อนขนาดเล็ก ท�าให้เกิด แผ่นดินไหวไม่รุนแรงมากแผ่นดินไหวที่เกิดรุนแรง เช่น แผ่นดินไหวที่มีจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ อ�าเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557เนื่องจากมีแนวรอยแยก เป็นจ�านวนมาก กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 6.3 ลึก 7.4กม. ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 100 ปี ศูนย์กลางแผ ่นดินไหวขนาดใหญ ่ และมีผลต่อไทย มักอยู่บริเวณหมู่เกาะ อันดามัน อินโดนีเซีย เมียนมา ทางตอนใต้ของจีน และ ทางตอนเหนือของลาว ที่มา : กรมทรัพยากรธรณี 162 แผนที่รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร • การเกิดแผนดินไหวจะสงผลตอประเทศไทย อยางไรบาง (แนวตอบ ในประเทศไทยไมมีแนวรอยเลื่อน ขนาดใหญของแผนเปลือกโลก มีเพียง แนวรอยเลื่อนขนาดเล็กในภาคเหนือ ภาค ตะวันตก และภาคใต ผลที่ประเทศไทย จะไดรับหากเกิดแผนดินไหวที่สําคัญ คือ แรงสั่นสะเทือนที่กอใหเกิดความเสียหายแก สิ่งกอสราง และอาจเกิดสึนามิที่ซัดเขา ทําลายพื้นที่ชายฝง อันเนื่องมาจากการ เกิดแผนดินไหวอยางรุนแรงในประเทศ เพื่อนบาน) 4. ครูใหนักเรียนรวมกันพิจารณาแผนที่รอยเลื่อน มีพลังในประเทศไทย จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวสุมนักเรียนออกมา อธิบายความหมายและแสดงขอคิดเห็น เกี่ยวกับแผนที่ จากนั้นครูและนักเรียนอภิปราย ขอคิดเห็นดังกลาวรวมกัน นักเรียนสืบคนแผนที่แสดงขอมูลแผนดินไหวในประเทศไทย จากแหลงการเรียนรูอื่น พรอมทั้งสรุปสาระสําคัญ แลวจัดทําเปน บันทึกการสืบคนความรู กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนอานและสรุปสาระสําคัญจากแผนที่แสดงบริเวณ เสี่ยงภัยแผนดินไหวในประเทศไทยลงในสมุดสงครูผูสอน นักเรียนควรรู 1 รอยเลื่อนมีพลัง รอยเลื่อนบนเปลือกโลกที่สามารถตรวจสอบได หรือมี หลักฐานทางธรณีวิทยาวายังคงมีการเลื่อนตัวอยูในปจจุบัน และอาจมีการเลื่อนตัว อีกในอนาคต สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณแผนดินไหว ไดที่ http://www.earthquake.tmd.go.th/home.php กองเฝาระวังแผนดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา นํา สอน สรุป ประเมิน T170
กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค 7) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากแผ่นดินไหวรุนแรง 1. เกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินรุนแรง ท�าให้สิ่งก่อสร้างพัง แผ่นดินแยก หรือแผ่นดินทรุด ผู้คนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 2. เกิดไฟไหม้การเกิดแผ่นดิน ไหวรุนแรงในพื้นที่ชุมชนที่มีการใช้แก๊สหุงต้ม เมื่อท่อแก๊สรั่ว จะท�าให้เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง และอาจท�าให้มีการเสียชีวิตตามมาด้วย 3. เกิดสึนามิ จากการเกิด แผ ่นดินไหวรุนแรงใต้ทะเล หรือมหาสมุทร ซึ่งท�าลายอาคารสิ่งก่อสร้าง ทรัพย์สินและชีวิต มนุษย์จ�านวนมากบริเวณชายฝั่งทะเล 4. เกิดแผ ่นดินถล ่มในพื้นที่ เทือกเขาหรือพื้นที่ลาดชัน ท�าให้อาคารบ้านเรือน ที่อยู่เชิงเขาพังทลายและอาจมีการเสียชีวิตของ ผู้คนจ�านวนมากได้ 8) เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น สาเหตุ : เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 ได้เกิด แผ ่นดินไหวบนบก ขนาด 7.8 ที่ระดับความลึก 15 กิโลเมตร จากผิวโลก จุดศูนย์กลางเกิดห่าง จากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 77 กิโลเมตร สาเหตุเกิดจากแผ่นเปลือก โลกอินเดียมุดตัวใต้แผ ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ใน ลักษณะรอยเลื่อนย้อนมุมต�่า (thrust fault) ไปใน ทางทิศเหนือโดยประมาณ สภาพความเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหว ประเทศเนปาล ผลกระทบ : ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนระบบสาธารณูปโภคเสียหายจ�านวนมากโบราณสถานหลายแห่ง ที่มีอายุหลายร้อยปี เช่น หอภีมเสน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวส�าคัญในกรุงกาฐมาณฑุถูกท�าลายเสียหาย จนไม่เหลือสภาพเดิม สหประชาชาติประเมินว่าบ้านเรือนกว่า 70,000 หลัง เสียหายจนไม่สามารถ ซ่อมแซมได้ อีกกว่า 530,000 หลังเสียหาย คาดว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 8,000 คน บาดเจ็บมากกว่า 17,800 คน และจากการประเมินเบื้องต้นของส�านักงานส�ารวจด้านธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกาคาดว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของเนปาลประมาณ 1,000 - 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหตุการณ์ แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล พ.ศ. 2558 แผ่นดินแยกและทรุดตัวลงจากแรงสั่นสะเทือนของ แผ่นดินไหวที่รุนแรง 163 ลักษณะรอยเลื่อนย้อนมุมต�่า 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 2 กลุม แขงขันกัน ใชสมารตโฟนสืบคนเหตุการณแผนดินไหว ที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ตางๆ ของโลก กลุมใดทําการสืบคนเหตุการณแผนดินไหว ที่เคยเกิดขึ้นไดมากที่สุดถือเปนฝายชนะ 6. ครูใหนักเรียนวิเคราะหรวมกันวา หากนักเรียน เปนผูประสบภัยแผนดินไหว จะมีวิธีการจัดการ อยางไร ทั้งในชวงกอนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนดินไหวไดจากภาพยนตรสารคดีสั้น Twig เรื่อง การใชชีวิตบนอันตราย http://www.twig-aksorn.com/fif ilm/living-onthe-edge-7981/ นักเรียนทํากิจกรรมกลุมรวมกัน โดยการสาธิตการปฏิบัติตน เพื่อการปองกันและระวังภัยจากเหตุการณแผนดินไหว โดยจําลอง จากสถานการณที่เกิดขึ้นจริงในดินแดนตางๆ ของโลก รวมถึง ในประเทศไทย โดยสาธิตในโอกาสและในสถานที่ตางๆ เชน ใน วันแสดงนิทรรศการวิชาการของโรงเรียน สถานที่ เชน บริเวณหนา เสาธง หอประชุม หนาชั้นเรียน ฯลฯ และอาจใหผูชมไดมีโอกาส เขารวมกิจกรรมในเหตุการณจําลองนั้น หรือมีการตอบคําถาม หรือมีสวนรวมในการแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ตองจัดกิจกรรมให อยูภายในเวลาที่กําหนด นักเรียนควรรู 1 รอยเลื่อนยอนมุมตํ่า เปนรูปแบบของรอยเลื่อนที่เปนผลเนื่องมาจากหิน เกิดการเคลื่อนที่ยอนกลับจากรอยเลื่อนปกติ (normal fault) ดวยมุมที่นอยกวา 45 องศาจากกระบวนการแปรสัณฐาน นํา สอน สรุป ประเมิน T171
ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET 9) การจัดการภัยพิบัติแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวเกิดขึ้นฉับพลัน ดังนั้น จึงควรมี มาตรการเตรียมตัว วิธีป้องกัน และการปฏิบัติตนให้รอดจากภัยพิบัติ ดังนี้ 9.1) มาตรการ ในกรณีที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยมีมาตรการ ดังนี้ 1. สนับสนุนให้มีการตรวจสภาพของอาคารสิ่งก่อสร้าง หากไม่แข็งแรง ให้ท�าการเสริมความแข็งแรง 2. จัดให้มีการซักซ้อมการหลบภัยจากแผ่นดินไหว 3. เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวทางสื่อสาธารณะให้ประชาชนรับรู้ อย่างทั่วถึง 9.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้ 1. ออกแบบอาคารและสิ่งก่อสร้างให้สามารถรับแรงแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้ 2. ศึกษาข้อมูลภัยพิบัติแผ่นดินไหวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเข้าร่วมการ หลบภัยในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว 3. ตรวจสอบสภาพอาคารที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน ท�าการยึด เครื่องเรือนให้มั่นคง และไม่ควรวางสิ่งของที่มีน�้าหนักมากไว้บนที่สูง 9.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ 1. ติดตามข่าวสารจากทางราชการ อย่างต่อเนื่อง 2. เตรียมสิ่งของจ�าเป็นไว้ใกล้ตัว เช่น น�้าดื่ม อาหารแห้ง ยา รักษาโรค ไฟฉาย 3. สังเกตสัญญาณภัยพิบัติเช่น พฤติกรรมแปลก ๆ ของสัตว์ เช่น หนูวิ่งเพ่นพ่าน สุนัขเห่า หอนไม่หยุด เพื่อจะได้ระวัง และเตรียมรับมือได้ทัน 1. ให้ตรวจสอบร่างกายตนเอง และคนข้างเคียง และควร รีบออกจากอาคารที่เสียหาย ทันทีเพราะอาจพังทลายลง มาได้หากเกิดอาฟเตอร์ช็อก ตามมา 2. หากเดินท่ามกลางซากปรัก หักพัง ให้สวมรองเท้าหุ้มส้น เพื่อป้องกันอันตรายจากเศษ แก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่น ๆ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1. กรณีที่อยู่ในอาคาร ให้ระวัง สิ่งของที่อยู ่สูงตกใส ่ศีรษะ ให้ถอยออกห ่างจากประตู หน้าต่างและกระจก ถ้าการ สั่นไหวรุนแรงให้หลบอยู ่ ใต้ โต๊ะ ใต้เตียง 2. ขณะเกิดเหตุห้ามใช้ลิฟต์ 3. ถ้าอยู ่นอกอาคาร ควรอยู ่ ห่างจากอาคารสูง ก�าแพง และเสาไฟฟ้า 164 มาได้หากเกิดอาฟเตอร์ช็อก1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 7. ครูกระตุนใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถาม เชิงภูมิศาสตร เชน • ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เกิดขึ้นใน แตละภูมิภาคของโลกมีความสัมพันธกับ ลักษณะภูมิประเทศอยางไร • ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เกิดขึ้น ในภูมิภาคตางๆ ของโลก มีความเหมือน หรือแตกตางกัน อยางไร • ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เกิดขึ้นใน ภูมิภาคตางๆ ของโลกมีความรุนแรงและ สรางความเสียหายอยางไร • แนวทางการปฏิบัติตนใหปลอดภัยจาก ปญหาหรือภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาค ควรทําอยางไร นักเรียนควรรู 1 อาฟเตอรช็อก หรือแผนดินไหวตาม เปนแผนดินไหวขนาดเล็กกวาที่เกิดขึ้น ในบริเวณเดียวกันหรือใกลเคียง ซึ่งอาจเกิดตอเนื่องเปนระยะเวลานานนับสัปดาห หรือเดือน หรืออาจนานเปนป เปนผลจากการปรับลดแรงเคนที่ยังคงคางเหลืออยู จากเหตุการณแผนดินไหวหลัก บุคคลใดปฏิบัติตนตามแนวทางการระวังภัยจากแผนดินไหว ไดอยางถูกตอง 1. หลุยสรีบลงจากตึกสูงโดยใชลิฟต 2. จอหนหลบภัยบริเวณชายฝงทะเล 3. เจมสคนหาสิ่งอุปโภคบริโภคเมื่อเกิดภัย 4. ลีโอเขารวมฝกซอมการหลบภัยแผนดินไหว 5. แมทธิวหลบอยูใตอาคารสูงขณะเกิดเหตุแผนดินไหว ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ลีโอเขารวมฝกซอมการหลบภัย แผนดินไหว เปนแนวทางการระวังภัยจากแผนดินไหวที่ถูกตอง เนื่องจากเมื่อประสบภัยลีโอจะสามารถปฏิบัติตนไดอยางเหมาะสม สวนบุคคลอื่นลวนปฏิบัติตนไมถูกตองตามแนวทางการระวังภัย จากแผนดินไหว เชน การรีบลงจากตึกสูงโดยใชลิฟตของหลุยส ซึ่งอาจจะติดอยูในลิฟต เนื่องจากกระแสไฟฟาขัดของได) นํา สอน สรุป ประเมิน T172
ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET Geo Tip 1.2 ภูเขาไฟปะทุ (volcanic eruption) 1) ค�าจ�ากัดความ ภูเขาไฟปะทุเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่มีความรุนแรง แตกต่างกันไปตามลักษณะการปะทุและประเภทของการปะทุ ทั่วโลกมีภูเขาไฟมีพลังประมาณ 1,500 ลูก ส่วนใหญ่อยู่ตามแนววงแหวนแห่งไฟในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก การปะทุของภูเขาไฟ มีหลายแบบ เช่น แบบแมกมาแทรกดันหรือพุขึ้นมาตามรอยแตก หรือปะทุจากปล่อง จนเหนือ พ้นพื้นผิวเปลือกโลก หรือเกิดการปะทุอย่างรุนแรงท�าให้ฝุ่น เถ้าธุลี แก๊ส ไอน�้า และเศษหินภูเขาไฟ จ�านวนมากปะทุสูงขึ้นไปในอากาศเป็นระยะ 5 - 20 กิโลเมตร 2) กระบวนการเกิดภูเขาไฟปะทุ ภายใต้เปลือกโลกมีการไหลเวียนของแมกมาอยู่ ตลอดเวลา เมื่อเปลือกโลกมีจุดอ่อน เช่น รอยต่อระหว่างเปลือกโลก การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ในบริเวณรอยต่อดังกล่าว เช่น การมุดเข้าหากัน หรือแยกออกจากกัน ท�าให้แมกมาที่อยู่ภายใต้ มีแรงดันที่สูงจึงเคลื่อนตัวขึ้นสู่ผิวโลกผ่านรอยแตกของชั้นหินต่าง ๆ ลักษณะการปะทุขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบของแมกมาในบริเวณนั้น ประเภทของภูเขาไฟ ภูเขาไฟแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท แต่โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามการปะทุ ดังนี้ 1. ภูเขาไฟมีพลัง (active volcano) เป็นภูเขาไฟที่ยัง คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา อาจปะทุ หรือระเบิดขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ เช่น ภูเขาไฟเอ็ตนา ในเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี ภูเขาไฟเมอราปี ประเทศอินโดนีเซีย ภูเขาไฟ อารีนอล ประเทศคอสตาริกา 2. ภูเขาไฟสงบ (dormant volcano) เป็นภูเขาไฟที่ปะทุแล้ว และสงบอยู่ เมื่อมีพลังเพิ่มพูนขึ้น ใหม่มากพอ ก็อาจปะทุขึ้นมาอีกได้ เช ่น ภูเขาไฟเวซูเวียส ประเทศ อิตาลี ภูเขาไฟฟุจิ ประเทศญี่ปุ่น 3. ภูเขาไฟดับสนิท (extinct volcano) เป็นภูเขาไฟ ที่ไม ่มีการปะทุอีกต ่อไป เช ่น เขาพนมรุ้ง ประเทศไทย ภูเขาไฟ บูนินยง ประเทศออสเตรเลีย ภูเขาไฟเอ็ตนา ภูเขาไฟเวซูเวียส ภูเขาไฟบูนินยง 165 1,500 ลูก ส่วนใหญ่อยู่ตามแนววงแหวนแห่งไฟในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก การปะทุของภูเขาไฟ พ้นพื้นผิวเปลือกโลก หรือเกิดการปะทุอย่างรุนแรงท�าให้ฝุ่น เถ้าธุลี แก๊ส ไอน�้า และเศษหินภูเขาไฟ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 การรวบรวมขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5-7 คน สืบคน ขอมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาค ตลอดจนสาเหตุ ลักษณะทางกายภาพที่เปน จุดเสี่ยงตอการเกิดภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาค เหตุการณภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยและ ภูมิภาคตางๆ ของโลก สถิติการเกิดเหตุการณ ภัยพิบัติธรรมชาติทางธรณีภาคที่เคยเกิดขึ้น ในประเทศไทยและภูมิภาคตางๆ ของโลก และแนวทางการจัดการภัยพิบัติธรรมชาติ ทางธรณีภาคประเภทตางๆ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 หรือจากแหลงการเรียนรู อื่นๆ เชน หนังสือในหองสมุด เว็บไซตใน อินเทอรเน็ต ประกอบการใชเครื่องมือทาง ภูมิศาสตรตามประเด็น ดังนี้ • แผนดินไหว • ภูเขาไฟปะทุ • สึนามิ • แผนดินถลม 2. ครูใหนักเรียนศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับประเภท ของภูเขาไฟ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพื่อเปนการรวบรวมขอมูลเพิ่มเติม 3. ครูแนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศที่เชื่อถือได ใหกับนักเรียนเพิ่มเติม การศึกษาเกี่ยวกับภูเขาไฟมีพลังในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต ควรดําเนินการในประเทศใดบาง 1. ลาว มาเลเซีย 2. ไทย เวียดนาม 3. ฟลิปปนส ไทย 4. กัมพูชา อินโดนีเซีย 5. อินโดนีเซีย ฟลิปปนส ( วิเคราะหคําตอบ ตอบ 5. การศึกษาเกี่ยวกับภูเขาไฟที่ยังมีพลัง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตควรดําเนินการในประเทศที่ เปนแหลงของภูเขาไฟ ไดแก ประเทศอินโดนีเซีย มีภูเขาไฟที่ยังมี พลังประมาณ 33 ลูก และประเทศฟลิปปนส มีภูเขาไฟที่ยังมีพลัง ประมาณ 25 ลูก) นักเรียนควรรู 1 แนววงแหวนแหงไฟ แนวของตําแหนงแผนดินไหวและภูเขาไฟมีพลัง ซึ่ง กระจายตัวตอเนื่องกันบริเวณขอบทวีป (continental margin) รอบๆ มหาสมุทร แปซิฟก เชน ประเทศญี่ปุน ไตหวัน ฟลิปปนส นิวซีแลนด 2 แกส การปะทุของภูเขาไฟมีแกสซึ่งเปนอันตรายตอรางกายมนุษยจนถึง ขั้นเสียชีวิต เชน แกสซัลเฟอรไดออกไซด แกสไฮโดรเจนคลอไรด แกส ไฮโดรเจนซัลไฟด โดยจากสถิติที่รวบรวมไว ในระหวาง ค.ศ.1900-1986 ปรากฏวา มีผูเสียชีวิตจากแกสที่พวยพุงออกมาจากการปะทุของภูเขาไฟคิดเปนรอยละ 3 ของผูเสียชีวิตทั้งหมด นํา สอน สรุป ประเมิน T173
ประเภทของการปะทุ ลักษณะการปะทุ เป็นการปะทุที่รุนแรงมากที่สุด มีลาวาที่เหนียวข้น การพ่นเถ้าธุลี เศษหิน และแก๊ส ขึ้นสู่บรรยากาศชั้น สแตรโทสเฟียร์ ด้วยความเร็วมหาศาลท�าให้เศษหิน กระจายออกไปได้ ไกลจากภูเขาไฟมาก การปะทุแบบนี้ อาจท�าให้เกิดภูเขาไฟแบบกรวยกรวดภูเขาไฟ หรือ แบบกรวยภูเขาไฟสลับชั้น เป็นการปะทุรุนแรงในระยะเวลาสั้น ๆ ลาวาที่ข้นหนืด มีการพ ่นและระเบิดของเศษหินออกจากปล ่อง การปะทุแบบนี้มีความรุนแรงที่ท�าให้เศษหินกระเด็น ออกไปด้วยความเร็วมากกว่านาทีละ 350 เมตร และ มีความสูงในบรรยากาศได้หลายกิโลเมตร ท�าให้เกิด หมอกควันคล้ายดอกเห็ดในบรรยากาศ การปะทุแบบนี้ ท�าให้เกิดภูเขาไฟแบบกรวยกรวดภูเขาไฟ เป็นการปะทุของลาวาเหลวออกจากปล่อง ท�าให้เศษ หินทับถมที่ปากปล่อง การปะทุจะเกิดขึ้นในเวลาสั้น ๆ อาจท�าให้ลาวาพวยพุ่งไปในอากาศสูงหลายร้อยเมตร ก ่อนตกลงมา เศษหินกระจัดกระจาย รวมถึงเถ้า หรือบอมบ์ และมีลาวาไหลหลากปานกลาง ลักษณะ การปะทุแบบนี้ท�าให้เกิดภูเขาไฟหลายแบบ เช ่น แบบกรวยกรวดภูเขาไฟ หรือแบบกรวยภูเขาไฟ สลับชั้น เป็นการปะทุที่มีความรุนแรงน้อยสุด มีการพ่นลาวา ร้อนเป็นล�าขึ้นไปในอากาศคล้ายน�้าพุ มีลาวาหลาก ไหลเป็นล�าธารออกจากปล่อง ลาวาที่เหลวจะสะสมกัน จนเกิดเป็นภูเขาไฟรูปโล่ 3) ประเภทการปะทุของภูเขาไฟ ตามลักษณะความรุนแรงของการปะทุ มีดังนี้ พลิเนียน (Plinian) วัลเคเนียน (Vulcanian) สตรอมโบเลียน (Strombolian) ฮาวายเอียน (Hawaiian) 166 อาจท�าให้เกิดภูเขาไฟแบบกรวยกรวดภูเขาไฟ หรือ แบบกรวยภูเขาไฟสลับชั้น 1 2 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การจัดการขอมูล 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก การรวบรวมมาอธิบายแลกเปลี่ยนความรูกัน 2. จากนั้นสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูลที่ นําเสนอเพื่อใหไดขอมูลที่ถูกตอง และรวมกัน อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนนําเสนอ ขอมูลประกอบการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร พรอมทั้งอภิปรายแสดงความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับภูเขาไฟที่ นักเรียนไดศึกษามา แลวสุมนักเรียน 1 กลุม เพื่อใหชวยกันวิเคราะหและอธิบายความรู เกี่ยวกับภูเขาไฟปะทุ โดยชวยกันวาดภาพ การเกิดภูเขาไฟและการปะทุที่กระดานหนา ชั้นเรียน จากนั้นครูใหนักเรียนกลุมอื่นสอบถาม ขอสงสัยจนเกิดความเขาใจที่ถูกตองตรงกัน นักเรียนฝกวาดภาพการปะทุของภูเขาไฟแตละประเภท ตกแตง ใหสวยงาม พรอมทั้งวิเคราะหความเหมือน ความแตกตาง และ ตัวอยางภูเขาไฟในทวีปตางๆ ของโลก ลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของการปะทุ ของภูเขาไฟจากแหลงการเรียนรูตางๆ แลวอภิปรายรวมกันใน ชั้นเรียนถึงความแตกตางของภูเขาไฟแตละประเภท นักเรียนควรรู 1 กรวยกรวดภูเขาไฟ ภูเขาไฟที่มีลักษณะเปนเนินรูปกรวย ประกอบดวย ลาวา และ/หรือหินภูเขาไฟ เกิดจากภูเขาไฟพนลาวาและตะกอนภูเขาไฟออกมา สะสมอยูรอบๆ ปลองภูเขาไฟนั้น 2 กรวยภูเขาไฟสลับชั้น ภูเขาไฟที่มีการสลับชั้นของหินลาวาและหินตะกอน ภูเขาไฟ เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟพนลาวาออกมาแลวไหลลามออกไปรอบๆ ปลองเปนวงกวางสลับกับการตกสะสมของสิ่งตกจมภูเขาไฟ นํา สอน สรุป ประเมิน T174
ขอสอบเนน การคิด 1 : 200,000,000 0 2,000 4,000 กม. ภูเขาไฟ เขตวงแหวนแหงไฟ คำอธิบายสัญลักษณ N 1 : 200,000,000 0 2,000 4,000 กม. เขตวงแหวนแหงไฟ คำอธิบายสัญลักษณ ภูเขาไฟ N 80 ํE 100 ํE 120 ํE 140 ํE 160 ํE 180 ํ 160 ํW 140 ํW 120 ํW 100 ํW 80 ํW 40 ํW60 ํW 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 40 ํS 60 ํS 0 ํ 20 ํS 20 ํN 40 ํN 60 ํN 80 ํN 40 ํS 60 ํS ท.แ อนดีส ท.ร็อกกี ที่ราบสูง ทิเบต ทวีปเอเชีย ทวีป อเมริกาเหนือ ทวีป อเมริกาใต้ ทวีป ออสเตรเลีย ก.สมุ าตราก.ชวา ก.บอรเนียวก.ซูลาเวซี ก.นิวกินี มก.รีวกีว ก.ฮกไกโด ก.ฮนชู มก.คูริล มก.อะลูเชียน มก.ไลนมก.ตอูาโมตู มก.โอสทราล มก.ราทัก มก.ราสิกมก.กิลเบิรต มก.แคโรไลน ก.นิวฟนดแลนด มก.กาลาปาโกสมก.มารเคซัส มก.ฮาวาย หมูเกาะคุก หมูเกาะพิตแครน ม ห า ส มุ ท ร แ ป ซิ ฟ ก ม ห า ส มุ ท ร อ า ร ก ติ ก มหาสมุทร อินเดีย ม ห า ส มุ ท ร แ อ ต แ ล น ติ ก ทะเลเบริง ทะเลจีนใต ทะเล ฟลิปปน ทะเลคอรัล ทะเลแทสมัน ทะเลแคริบเบียน อาวเม็กซิโก 4) สาเหตุการเกิดภูเขาไฟปะทุ มีดังนี้ 4.1) เกิดจากการเคลื่อนที่ของแมกมา มีแรงดันปะทุขึ้นเหนือแผ่นดินตามรอยต่อ ระหว่างแผ่นเปลือกโลก รอบวงแหวนแห่งไฟ เช่น ภูเขาไฟกรากะตัว ภูเขาไฟซีนาบุง ประเทศ อินโดนีเซีย 4.2) เกิดจากจุดร้อนนอกรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก ใต้แผ่นเปลือกโลก มีจุดร้อนที่มีแมกมาร้อนจัดพร้อมที่จะปะทุขึ้นมาเหนือผิวโลก เช่น บริเวณกลางแผ่นเปลือกโลก แปซิฟิกมีจุดร้อนที่หมู่เกาะฮาวาย 5) การกระจายของภูเขาไฟมีพลังของโลก แผนที่แสดงการกระจายของภูเขาไฟบริเวณวงแหวนแห่งไฟ จากแผนที่ การกระจายของภูเขาไฟอยู่บริเวณวงแหวนแห่งไฟในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกกับแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือด้านตะวันออก และแผ่นฟิลิปปิน แผ่นอินโด-ออสเตรเลียด้านตะวันตก โดยแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกด้านตะวันออก จะมุดเข้าไปใต้แผ่นอเมริกา ขณะที่แผ่นฟิลิปปินและแผ่นอินโด-ออสเตรเลียมุดเข้าไปใต้แผ่น เปลือกโลกแปซิฟิก การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกท�าให้รอยต่อเกิดจุดอ่อนที่ส่งผลให้แมกมา ไหลขึ้นเหนือผิวดินได้ ที่มา : www.worldatlas.com 167 4.1) เกิดจากการเคลื่อนที่ของแมกมา มีแรงดันปะทุขึ้นเหนือแผ่นดินตามรอยต่อ แปซิฟิกมีจุดร้อนที่หมู่เกาะฮาวาย 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 3. ครูตั้งประเด็นอภิปรายเกี่ยวกับสาเหตุและ ปจจัยการปะทุของภูเขาไฟ เพื่อใหนักเรียนได รวมกันวิเคราะหความรูเพิ่มเติม เชน • ความสัมพันธของแมกมาและลาวากับ การปะทุของภูเขาไฟ • โครงสรางของโลกกับการปะทุของภูเขาไฟ • การเปลี่ยนแปลงทางธรณีสัณฐานของโลกกับ สาเหตุและผลกระทบของภูเขาไฟปะทุ 4. ครูตั้งคําถามเกี่ยวกับสถานการณภูเขาไฟปะทุ เพื่อใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหความรู เชน • จากการศึกษาเกี่ยวกับสถานการณภูเขาไฟ ปะทุในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต ภัยพิบัตินี้มักเกิดในประเทศใดบาง (แนวตอบ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตที่มักประสบกับภัยภูเขาไฟปะทุ ไดแก ประเทศฟลิปปนส และประเทศ อินโดนีเซีย เนื่องจากทั้งสองประเทศตั้งอยู บริเวณวงแหวนแหงไฟ ในมหาสมุทรแปซิฟก ซึ่งยังมีการเคลื่อนตัวของแผนเปลือกโลกอยู ตลอดเวลา จึงเกิดแผนดินไหวและภูเขาไฟ ปะทุบอยครั้ง ตัวอยางของภูเขาไฟที่มีพลัง เชน ภูเขาไฟเมอราปแทมโบรา และกรากะตัว ในประเทศอินโดนีเซีย ภูเขาไฟปนาตูโบ มาโยน และตาอัลในประเทศฟลิปปนส) นักเรียนควรรู 1 แมกมา สารเหลวรอนเกิดตามธรรมชาติอยูภายในโลก สามารถเคลื่อนตัว ไปมาไดในวงจํากัด อาจมีของแข็ง เชน ผลึกเศษหินแข็ง และ/หรือแกสรวมอยู ดวย หรือไมมีเลยก็ได เมื่อแทรกตัวดันขึ้นมา หรือพุพุงออกสูผิวโลกแลวจะเย็น และแข็งตัวเกิดเปนหินอัคนี 2 จุดรอน พื้นที่เล็กๆ ในชั้นเปลือกโลก ที่มีการไหลถายความรอนสูงผิดปกติ ซึ่งสัมพันธกับการเกิดภูเขาไฟ สมมติฐานในปจจุบันเชื่อวา ชั้นเนื้อโลกมีการ หลอมละลายบางสวนจนกลายเปนแมกมาที่รอนจัดมากและพุงขึ้นมายังผิวโลก เปนชวงๆ โดยมากมักสัมพันธกับการเคลื่อนที่ของแผนเปลือกโลก เชน หมูเกาะ ฮาวายทางตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟก ซึ่งสันนิษฐานวาเกิดจากจุดรอนนี้ เชนเดียวกัน ภูเขาไฟปะทุที่เกิดขึ้นในบริเวณตางๆ ของโลก มีสาเหตุสําคัญ มาจากอะไร (แนวตอบ มีสาเหตุสําคัญเกิดจากการเคลื่อนที่ของแมกมา ปะทุ ขึ้นเหนือแผนดินตามรอยตอระหวางแผนเปลือกโลกรอบวงแหวน แหงไฟ เชน ภูเขาไฟกรากะตัว ภูเขาไฟซีนาบุง ประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังเกิดจากจุดรอนนอกรอยตอระหวางแผนเปลือกโลก เชน บริเวณกลางแผนเปลือกโลกแปซิฟกมีจุดรอนที่หมูเกาะฮาวาย) นํา สอน สรุป ประเมิน T175
ขอสอบเนนการคิด 6) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากภูเขาไฟปะทุรุนแรง มีดังนี้ ภัยที่เกิดจากภูเขาไฟปะทุ ลักษณะ เป็นแก๊สที่ละลายเป็นของเหลวอยู่ ในแมกมา มีความเป็นกรดจัด ประกอบด้วย ไอน�้า คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ และไฮโดรเจนเฮไลด์ ซึ่งเมื่อ ปะทุเป็นกลุ่มควันขึ้นสู่บรรยากาศลอยไปตามกระแสลม และเมื่อตกลงมา คล้ายฝนกรดที่เป็นพิษ เมื่อสัมผัส หรือสูดดมเข้าสู่ร่างกาย จะท�าให้เกิดความ ระคายเคืองที่ผิวหนัง เป็นตะกอนภูเขาไฟขนาดต่าง ๆ ที่ถูกพ่นออกมาจากภูเขาไฟ และถูกพัดพาไป ในอากาศ ฝุ่นภูเขาไฟ เถ้าธุลีภูเขาไฟ ตะกรันภูเขาไฟ บอมบ์ภูเขาไฟ เมื่อ เวลานานมากขึ้นจะผุพังอยู่รวมกันรอบภูเขาไฟ หากอยู่บนพื้นที่ลาดชันและมี ฝนตกมากอาจท�าให้เกิดการถล่ม เป็นอันตรายต่อผู้คน สิ่งก่อสร้าง และชุมชน ที่อยู่รอบเชิงเขาได้ เป็นลาวาเหลวไหลออกไปจากปล่องภูเขาไฟ หรือรอยแตกของเปลือกโลก มีลักษณะเหมือนล�าธารลาวา ไหลเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ก่อนที่จะแข็งตัว สามารถ ท�าลายอาคารและทรัพย์สินที่เคลื่อนผ่านได้ แรงสั่นสะเทือนและแรงดันของแมกมาท�าให้หิน ดิน ด้านข้างของภูเขาไฟ เกิดการพังทลายเป็นแผ่นดินถล่ม เคลื่อนที่ลงสู่พื้นที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ที่เกิดใน พ.ศ. 2523 เป็นฝุ่นและเถ้าธุลีภูเขาไฟที่ไหลออกมาจากปล่องภูเขาไฟ แล้วไหลลงไปกอง ทับถมกันด้านข้างของภูเขาไฟ รวมตัวกับน�้าจากฝนหรือหิมะละลาย ท�าให้มี ลักษณะเป็นโคลนไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่างของภูเขาไฟทับถมบ้านเรือน และพื้นที่ การเกษตรเสียหาย เป็นฝุ่น เถ้าธุลี และเศษหินภูเขาไฟที่มีอุณหภูมิสูงมาก ปะทุออกจากปล่อง ภูเขาไฟแล้วไหลลงไปตามความลาดของขอบด้านข้างลงสู ่ด้านล ่างอย ่าง รวดเร็ว จะเผาไหม้สิ่งต่าง ๆ ที่หินตะกอนภูเขาไฟหลากเคลื่อนผ่าน แก๊สภูเขาไฟ (volcanic gas) ทีฟรา (tephra) ลาวาหลาก (lava flow) แผ่นดินถล่มจากภูเขาไฟปะทุ ลาฮาร์ (lahar) หินตะกอนภูเขาไฟหลาก (pyroclastics) 168 ในอากาศ ฝุ่นภูเขาไฟ เถ้าธุลีภูเขาไฟ ตะกรันภูเขาไฟ บอมบ์ภูเขาไฟ เมื่อ 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • ลักษณะของภูเขาไฟในประเทศไทยเปน อยางไร อธิบายพรอมยกตัวอยางประกอบ พอสังเขป (แนวตอบ ภูเขาไฟในประเทศไทยมีอยู ทั่วทุกภูมิภาค โดยมีลักษณะเปนภูเขาไฟ รูปโลที่มีความลาดชันนอย อันเกิดจากการ ไหลของลาวาแบบบะซอลตออกเปนบริเวณ กวาง อยางไรก็ตาม ภูเขาไฟสวนใหญใน ประเทศไทยเปนภูเขาไฟที่ดับ หรือสงบแลว ตัวอยางของจังหวัดที่มีภูเขาไฟในแตละ ภาค เชน จังหวัดลําปาง จังหวัดเชียงราย ในภาคเหนือ จังหวัดสุโขทัย จังหวัด กําแพงเพชร ในภาคกลาง จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดจันทบุรี ในภาคตะวันออก จังหวัด กาญจนบุรี จังหวัดตาก ในภาคตะวันตก และจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดศรีสะเกษ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) นักเรียนควรรู 1 เถาธุลีภูเขาไฟ (volcanic ash) เปนชิ้นสวนของวัตถุที่พนออกมาจาก ชองปะทุภูเขาไฟ มีขนาดไมเกิน 4 มิลลิเมตร ถามีขนาดระหวาง 1 4-4 มิลลิเมตร จัดเปนเถาธุลีหยาบ ถาขนาดตํ่ากวา 1 4 มิลลิเมตร จัดเปนเถาธุลีละเอียด บางครั้งอาจเรียกวา ฝุนภูเขาไฟ (volcanic dust) 2 ตะกรันภูเขาไฟ (scoria) เปนชิ้นสวนหินภูเขาไฟซึ่งถูกระเบิดกระจายขึ้น ไปในอากาศแลวแข็งตัวตกลงมายังพื้นโลก โดยมากสีคลํ้า มีรูพรุน เนื้อเปนแกว แกมผลึก หากมีขนาดเล็กอยูระหวาง 4-32 มิลลิเมตร เรียกวา กรวดภูเขาไฟ 3 บอมบภูเขาไฟ (volcanic bomb) เปนวัตถุที่เปนกอนซึ่งเกิดจากการ ปะทุของภูเขาไฟ ผิวนอกแสดงลักษณะของของเหลวที่แข็งตัวในอากาศแลวจึง ตกลงมา มีลักษณะมน และอาจมีรูปรางไดหลายแบบ เมื่อเกิดเหตุการณภูเขาไฟปะทุรุนแรงขึ้น จะกอใหเกิดภัยใด ตามมา (แนวตอบ เมื่อเกิดการปะทุของภูเขาไฟอยางรุนแรง จะกอให เกิดภัยตางๆ ตามมา เชน แกสภูเขาไฟ ซึ่งอาจเปนอันตรายตอ รางกายมนุษย ทีฟรา หากอยูบนพื้นที่ลาดชันและมีฝนตกมาก อาจทําใหเกิดการถลมทับผูคนและชุมชนรอบเชิงเขา ลาฮาร หาก รวมกับฝนอาจทําใหเกิดโคลนไหลทับถมบานเรือนและพื้นที่เกษตร เสียหาย ลาวาหลาก ที่สามารถทําลายอาคารและทรัพยสินตางๆ หินตะกอนภูเขาไฟหลาก ซึ่งอาจเผาไหมสิ่งตางๆ ที่เคลื่อนผานได) นํา สอน สรุป ประเมิน T176
7) เหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น เหตุการณ์การปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟเมอราป บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เถ้าภูเขาไฟจากการปะทุของภูเขาไฟโวลกันเดฟวยโก ท่วมทับชุมชนที่ประสบภัยพิบัติ สาเหตุ : เกิดจากแมกมาใต้เปลือกโลก ส่งผลให้ หินหนืดนั้นถูกดันขึ้นมาตามรอยแยกของแผ ่น เปลือกโลก และด้วยพลังงานมหาศาล จึงท�าให้ ภูเขาไฟเมอราปีปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ผลกระทบ : ท�าให้มีกลุ่มควันสีขาวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ในระดับความสูงมากกว ่า 6,000 เมตร รวมทั้ง มีลาวาและเถ้าถ ่านไหลลงมาตามที่ลาดเชิงเขา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 คน ประชาชน ราว 90,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย และมีทรัพย์สินเสียหายเป็นจ�านวนมาก สาเหตุ : เกิดในบริเวณการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลก ท�าให้มีการเคลื่อนไหลของแมกมาขึ้นสู ่ผิวโลก ตามรอยแตกของแผ่นเปลือกโลก ภูเขาไฟโวลกันเดฟวยโก (Volca ' n de Fuego) เป็นภูเขาไฟมีพลัง มีความสูง 3,763 เมตร เคยปะทุรุนแรงมามากกว่า 60 ครั้ง และได้ส่งสัญญาณการสั่นสะเทือนด้วย การพ่นแก๊สและลาวาจากปล่องต่อเนื่องมานาน โดยแต ่ละปียังคงมีการคุกรุ ่นและปะทุเป็นระยะ และในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน พ.ศ. 2561 ก็มีการปะทุที่รุนแรงอีกครั้ง เหตุการณ์ ภูเขาไฟเมอราปปะทุในประเทศอินโดนีเซีย พ.ศ. 2553 เหตุการณ์ ภูเขาไฟโวลกันเดฟวยโกปะทุในประเทศกัวเตมาลา พ.ศ. 2561 ผลกระทบ : ท�าให้มีการปะทุของแก๊ส เถ้าธุลี และเศษหินภูเขาไฟที่มีอุณหภูมิสูง การปะทุครั้งนี้ท�าให้ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน สูญหายอีกกว่า 200 คน แม้จะมีการอพยพชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟ ให้ออกห่างจากเขตอันตราย แต่อาคารที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินต้องสูญเสียเป็นจ�านวนมาก 169 มีลาวาและเถ้าถ ่านไหลลงมาตามที่ลาดเชิงเขา 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 5. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและอธิบาย ผลกระทบเมื่อเกิดภูเขาไฟปะทุ โดยแบงเปน ผลกระทบในดานบรรยากาศภาค ธรณีภาค อุทกภาค และชีวภาค แลวใหนักเรียนอภิปราย ขอสงสัยจนเกิดความเขาใจที่ถูกตองตรงกัน นักเรียนสืบคนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณภูเขาไฟปะทุรุนแรง ของโลก จากแหลงการเรียนรูตางๆ ในประเด็น ชื่อเหตุการณ ปที่เกิด สาเหตุ จํานวนผูเสียชีวิต โดยนําเสนอขอมูลในรูปแบบ เสนเวลา (Timeline) ติดภาพประกอบ พรอมตกแตงใหสวยงาม นําเสนอหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 ลาวา แมกมาใตเปลือกโลกที่พุพนเปลือกโลก ไหลลามออกไปจากปลอง ภูเขาไฟแบบปะทุพน (effusive volcano) หรือจากรอยแยกของเปลือกโลก ขณะที่ยังรอนและไมแข็งตัว มีลักษณะเหนียวหนืด สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูเขาไฟไดจากภาพยนตรสารคดีสั้น Twig เรื่อง วันสุดทายของเมืองปอมเปอี https://www.twig-aksorn.com/film/thelast-day-of-pompeii-7988/ นํา สอน สรุป ประเมิน T177
ขอสอบเนนการคิดแนว O-NET 8) การจัดการภัยพิบัติภูเขาไฟปะทุ 8.1) มาตรการ ที่ส�าคัญ มีดังนี้ 1. ต้องมีการเตือนภัยล่วงหน้าว่าภูเขาไฟจะเกิดการปะทุ จะเกิดขึ้นเมื่อไร จะต้องมีการอพยพหรือไม่ จะช่วยลดจ�านวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต การสูญเสียทรัพย์สินจากการ ปะทุของภูเขาไฟได้มากที่สุด 2. ต้องมีการประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับภัยแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุ ทางสื่อสาธารณะให้ประชาชนรับรู้อย่างทั่วถึง 3. เตรียมแผนรับมือและมีแผนส�ารองแม้ยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ซักซ้อมการ อพยพและช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ 8.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้ 1. ให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังประสบภัยพิบัติ 2. จัดเตรียมศูนย์อพยพชั่วคราวในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในชุมชน 3. เตรียมสิ่งของที่จ�าเป็นให้พร้อม เช่น น�้าดื่ม อาหารกระป๋อง ยารักษาโรค วิทยุสื่อสาร หน้ากากกันฝุ่นหรือหน้ากากอนามัย หรือแว่นตา เพื่อป้องกันเถ้าภูเขาไฟ 8.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1. รอฟังประกาศจากทางราชการ เมื่อได้รับการสั่งให้อพยพกลับก็ให้ปฏิบัติตาม 2. ส�ารวจตรวจสอบความเสียหายพื้นที่บริเวณบ้าน และซ่อมแซมส่วนที่ได้รับ ความเสียหาย หรือหากเสียหายมากจนยากแก่การซ่อมแซม ให้อพยพไปยัง ศูนย์อพยพชั่วคราว 1. ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง 2. วางแผนช่องทางติดต่อสื่อสารฉุกเฉินในครอบครัว ว่าจะติดต่อกันด้วยวิธีใดและจุดนัดหมายเพื่อรวมตัว อีกครั้งหลังเหตุการณ์สงบ 1. เมื่อทางการสั่งอพยพ ให้อพยพออกจากพื้นที่ ประสบภัยทันที 2. สวมใส่เสื้อคลุม กางเกงขายาว ถุงมือ รองเท้า ที่ทนทาน หน้ากากกันฝุ่น หรือแว่นตา และน�า สิ่งของจ�าเป็นไปด้วย 3. ไม่ควรหลบอยู่ในอาคารสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจพังถล่มลงมาจากแผ่นดินไหว หรือ เถ้าภูเขาไฟตกใส่ 170 หน้ากากกันฝุ่นหรือหน้ากากอนามัย 1 การปะทุของภูเขาไฟกอใหเกิดผลกระทบตอระบบนิเวศของ อุทกภาคไดอยางไร 1. แกสและควันที่พวยพุงจากการปะทุทําใหสัตวนํ้าสูญพันธุ 2. อาคารบานเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรถูกทําลายเสียหาย 3. แรงสั่นสะเทือนทําใหเกิดคลื่นขนาดใหญ ซัดผูคนจมนํ้า เสียชีวิต 4. หินหนืดที่ไหลลงสูทะเลสงผลใหลักษณะชายฝงเกิดการ เปลี่ยนแปลง 5. เถาถานที่ปกคลุมทองฟาทําใหแสงแดดและความรอน ไมสามารถสองลงมาถึงผิวนํ้าได ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. การปะทุของภูเขาไฟทําใหหินหนืด รอนไหลไปตามพื้นผิวภูมิประเทศ ตลอดจนลงสูพื้นที่ชายฝง ซึ่งกอใหเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศชายฝงทะเลได) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 6. ครูสนทนากับนักเรียนเพิ่มเติมถึงแนวทาง การปองกันและระวังภัยที่เกิดจากภูเขาไฟ ปะทุ แลวใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและ อภิปรายความรูเกี่ยวกับการระวังภัยที่เกิดจาก ภูเขาไฟปะทุ โดยแบงออกเปนการระวังภัยของ หนวยงานที่มีสวนเกี่ยวของทั้งภาครัฐและ เอกชน และการระวังภัยภาคประชาชน รวมถึง การฟนฟูพื้นที่ภายหลังประสบภัย จากนั้น ครูเสนอแนะ หรือเพิ่มเติมขอมูลใหถูกตอง ชัดเจนยิ่งขึ้น นักเรียนควรรู 1 หนากากกันฝุน หนากากอนามัยชนิดที่มีคุณสมบัติปองกันฝุนพิษไดดี คือ หนากาก N95 จัดเปนหนากากอนามัยที่มีความมิดชิดมากที่สุด สามารถปองกัน ฝุนละออง หรือมลพิษทางอากาศไดดีกวาหนากากอนามัยธรรมดา โดยเฉพาะ ฝุนละอองขนาดเล็ก ขนาด 0.1-0.3 ไมครอน ได 95% เปนอยางนอย อีกทั้ง ยังมีนํ้าหนักเบาและสวมใสงาย เกร็ดแนะครู ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรูบูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรู วิทยาศาสตร โลก ดาราศาสตร และอวกาศ เรื่อง ธรณีวิทยา โดยใชกระบวนการ กลุม นําเสนอผลงานที่ใชวิธีการทางวิทยาศาสตร เพื่อใหนักเรียนเกิดความรูความ เขาใจถึงการเกิดภัยพิบัติตางๆ รวมทั้งแนวทางปองกัน หรือบรรเทาผลกระทบ จากภัยพิบัตินั้น นํา สอน สรุป ประเมิน T178
ขอสอบเนน การคิด การเกิดสึนามิ 1.3 สึนามิ (tsunami) 1) ค�าจ�ากัดความ สึนามิ คือ คลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุรุนแรง ใต้ทะเลหรือมหาสมุทร และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 500 - 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่า เข้าสู่ชายฝั่ง เมื่ออยู่ในทะเลเปิด คลื่นจะมีความสูงน้อย แต่มีความยาวคลื่นมาก เมื่อคลื่นเคลื่อน เข้าสู่ชายฝั่งน�้าตื้นจะมีความเร็วและความยาวคลื่นลดลง แต่ความสูงคลื่นเพิ่มขึ้น ท�าให้คลื่นมีอ�านาจ การท�าลายสูงทั้งชีวิต อาคารที่อยู่อาศัย และทรัพย์สิน สึนามิเกิดบ่อยบนพื้นที่ชายฝั่งในประเทศ ญี่ปุ่นที่มีเรือจอดอยู่จ�านวนมากทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก จึงเป็นที่มาของชื่อ “สึนามิ” ที่แปลว่า คลื่นท่าเรือ (“nami” แปลว่า คลื่น และ “tsu” แปลว่า ท่าเรือ) 2) กระบวนการเกิดสึนามิ มีดังนี้ • เกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟปะทุใต้ทะเลหรือมหาสมุทรอย่างรุนแรง ท�าให้ น�้าทะเลกระเพื่อมตัวขึ้นสู่ผิวน�้า • ขณะที่อยู่ในทะเล คลื่นมีความสูงน้อยกว่า 1 เมตร แต่มีความยาวคลื่นประมาณ 100 - 200 กิโลเมตร • คลื่นเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งด้วยความเร็วมากกว่า 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่ง คลื่นจะสูงมากขึ้นถึง 10 เมตรหรือมากกว่า คล้ายก�าแพงน�้าซัดเข้าสู่ชายฝั่ง ด้วยความเร็ว 2 คลื่นในทะเลลึกที่มีความยาวคลื่นมากเคลื่อนตัว ด้วยความเร็วมากกว่า 700 กม./ชม. 3 เมื่อคลื่นเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่ง จะลดความเร็วลง ท�าให้ความสูงคลื่นเพิ่มขึ้นเกิดเป็นก�าแพงคลื่นโถม ซัดท�าลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า 1 เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟปะทุใต้มหาสมุทร จะกระตุ้นให้เปลือกโลก ใต้ท้องทะเลเคลื่อนตัวอย่างรุนแรง และเกิดคลื่นกระจายออกทุกทิศทาง นักเรียนมีวิธีสังเกตอย่างไรว่าก�าลังจะเกิดสึนามิ และประเทศไทยมีโอกาสเกิดสึนามิอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะเหตุใด คําถามทาทายการคิดขั้นสูง 171 สึนามิ คือ คลื่นที่เกิดจากแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุรุนแรง 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 7. ครูสนทนากับนักเรียนถึงความรูเกี่ยวกับสึนามิ ที่นักเรียนไดศึกษามา แลวใหนักเรียนรวมกัน วิเคราะหและอภิปรายความรูเพิ่มเติม 8. ครูใหนักเรียนวิเคราะหและตอบคําถามจาก H.O.T.S. เกี่ยวกับการเกิดสึนามิ จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 โดยครูแนะนําเพิ่มเติม 9. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายความรูเกี่ยวกับ สถานการณการเกิดสึนามิ โดยการชวยกันตอบ คําถามที่ครูตั้ง ตัวอยางขอคําถาม เชน • ภาษาที่ใชในการตั้งชื่อการเกิดสึนามิสัมพันธ กับแหลงที่มักเกิดสึนามิอยางไร (แนวตอบ สึนามิ มาจากภาษาญี่ปุน แปลวา คลื่นอาวจอดเรือ เนื่องจากประเทศญี่ปุน มีเรือจอดอยูมากทางแถบมหาสมุทร แปซิฟก และมักไดรับผลกระทบจากสึนามิ ที่สวนใหญเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟก ดังนั้น สึนามิ จึงเปนการตั้งชื่อที่สัมพันธกับ แหลงการเกิด คือ บริเวณมหาสมุทรแปซิฟก โดยเฉพาะประเทศญี่ปุนนั่นเอง) “สึนามิ” ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเปนภัยพิบัติที่มีสาเหตุการเกิด สัมพันธกับขอใด 1. แผนดินถลมบริเวณเชิงเขา 2. แผนดินไหวขนาดเล็กพรอมกับภูเขาไฟปะทุ 3. พายุหมุนอยางฉับพลันบริเวณกลางมหาสมุทร 4. แผนเปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่เขาหากัน 5. แผนดินไหวหรือภูเขาไฟปะทุรุนแรงใตทองทะเล (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 5. สึนามิเปนคลื่นที่เกิดจากแผนดิน ไหวและภูเขาไฟปะทุรุนแรงใตทะเลหรือมหาสมุทร แลวเคลื่อนตัว ดวยความเร็วสูง เมื่อคลื่นเขาใกลชายฝงจะลดความเร็วลง ทําให เกิดกําแพงคลื่นโถมซัดทําลายทุกสิ่งที่ขวางหนา) นักเรียนควรรู 1 แผนดินไหว การเกิดแผนดินไหวใชวาจะทําใหเกิดสึนามิทุกครั้ง สึนามิ จะเกิดไดก็ตอเมื่อแผนดินไหวที่รอยแตกของเปลือกโลกนั้นตองอยูใต หรือใกล กับมหาสมุทร และไปทําใหพื้นสมุทรมีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง (ขนาดความสูง หลายเมตร) ในพื้นที่กวาง (ถึงหนึ่งแสนตารางกิโลเมตร) แผนดินไหวในบริเวณ นํ้าตื้น (ลึกไมเกิน 70 กิโลเมตร หรือ 42 ไมล) ตามแนวการมุดตัวของ แผนเปลือกโลก เปนตัวการกอใหเกิดสึนามิที่มีอานุภาพในการทําลายสูงที่สุด นํา สอน สรุป ประเมิน T179
3) ประเภทของสึนามิ สึนามิแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 3.1) สึนามิระยะใกล้หรือสึนามิท้องถิ่น (local tsunami) เป็นสึนามิที่มีแหล่ง ก�าเนิดอยู่ใกล้ชายฝั่ง คลื่นจะใช้ระยะเวลาเคลื่อนที่เข้าสู่ชายฝั่งประมาณ 30 - 60 นาที 3.2) สึนามิระยะไกล(distant tsunami)มีแหล่งก�าเนิดสึนามิอยู่ห่างไกลจากชายฝั่ง ที่ได้รับผลกระทบ คลื่นจะใช้เวลาในการเดินทางเคลื่อนที่ถึงชายฝั่ง 4 - 8 ชั่วโมง หรือมากกว่า 4) สาเหตุการเกิดสึนามิ ที่ส�าคัญ มีดังนี้ 4.1) แผ่นดินไหวใต้ทะเล หรือมหาสมุทรอย่างรุนแรง มักเกิดจากการเคลื่อนตัว ของแผ่นเปลือกโลก ท�าให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจนน�้ากระเพื่อมขึ้นสู่ผิวน�้า และท�าให้เกิดสึนามิตามมา 4.2) เกาะภูเขาไฟปะทุหรือภูเขาไฟใต้ทะเลปะทุอย่างรุนแรง ท�าให้เกิดการสั่น สะเทือนและแรงผลักดันน�้าทะเลขึ้นสู่ผิวน�้าจนเกิดสึนามิตามมา 4.3) แผ่นดินถล่มขนาดใหญ่ใต้ทะเล โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของไหล่ทวีปกับ ที่ลาดทวีป การเกิดดินถล่มที่รุนแรงท�าให้กองดินทรายไหลลงสู่ที่ลาดทวีปอย่างรวดเร็วจนน�้าทะเล ปั่นป่วนและเกิดเป็นสึนามิตามมา 4.4) อุกกาบาตขนาดใหญ่ตกในทะเล เป็นสาเหตุหนึ่งที่ท�าให้เกิดสึนามิได้ แม้จะ มีโอกาสการเกิดไม่มากนัก สึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งเมืองปาลูบนเกาะซูลาเวซีของประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2561 หลังเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.5 นอกชายฝั่ง ท�าให้อาคารบ้านเรือนพังเสียหายและเรือถูกซัดเกยขึ้นฝั่ง รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็น จ�านวนมาก 172 เกร็ดแนะครู กิจกรรม ทาทาย ครูควรกระตุนความสนใจของนักเรียน โดยอาจนําขาว คลิปวิดีโอ หรือ คลิปขาวเกี่ยวกับสึนามิที่เกิดขึ้นในทวีปตางๆ ของโลก และใหนักเรียนฝก ตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตรที่เกี่ยวของกัน แลวนํามาอภิปรายรวมกันในชั้นเรียน ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 10. ครูอธิบายความรูเพื่อการวิเคราะหขอมูล เพิ่มเติมของนักเรียนเกี่ยวกับบริเวณที่มักเกิด คลื่นสึนามิวา จากการรวบรวมเชิงสถิติของ การเกิดสึนามิทั่วโลก พบวา สึนามิมักเกิด ในบริเวณที่เปนแหลงกําเนิดแผนดินไหว ขนาดใหญในทะเลและมหาสมุทรตามแนว วงแหวนไฟแปซิฟก โดยคิดเปนรอยละ 25.4 ของการเกิดสึนามิทั้งหมด อยางไรก็ตาม บริเวณอื่นๆ ก็เกิดสึนามิไดดวยเชนกัน ไดแก หมูเกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต บริเวณทะเลของญี่ปุนและรัสเซีย และทะเล แคริบเบียน โดยคิดเปนรอยละ 20.3, 18.6 และ 13.8 ของการเกิดสึนามิทั้งหมด ตามลําดับ สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณแผนดินไหว ไดที่ http://www. earthquake.tmd.go.th/home.php กองเฝาระวังแผนดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา นักเรียนฝกวิเคราะหและเปรียบเทียบภาพจากดาวเทียมแสดง พื้นที่ชายฝงที่ประสบภัยสึนามิ โดยศึกษาคนควาจากแหลงการ เรียนรูตางๆ เชน http://www.gisthai.org/ เว็บไซตศูนยวิจัย ภูมิสารสนเทศเพื่อประเทศไทย แลวบันทึกผลการวิเคราะหและ เปรียบเทียบสงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T180
ขอสอบเนน การคิด 0 ํ 0 ํ 20 ํN 20 ํN 20 ํS 20 ํS 40 ํN 40 ํN 40 ํS 40 ํS 60 ํN 60 ํN 60 ํS 60 ํS 80 ํN 80 ํN 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 80 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 พื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ เสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงนอย 5) การกระจายการเกิดสึนามิของโลก จากแผนที่ พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิ เช่น ชายฝั่งของ ประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีระดับความเสี่ยงตั้งแต ่เสี่ยงมาก พบตามชายฝั ่งประเทศ รอบวงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก เสี่ยงปานกลาง เช่น ชายฝั่งประเทศออสเตรเลียและแอฟริกา และ เสี่ยงน้อย เช่น ชายฝั่งด้านตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ และตอนใต้ของทวีป แอฟริกา โดยสาเหตุหลักที่ท�าให้เกิดสึนามิ คือ แผ่นดินไหวและการปะทุของภูเขาไฟใต้มหาสมุทร อย่างรุนแรง มักเกิดขึ้นตามรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกในมหาสมุทร 6) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากสึนามิรุนแรง โดยสรุป มีดังนี้ 1. เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ปะการัง หรือ ป ่าชายเลนที่ถูกคลื่นซัดจนหักโค ่น หรือหลุดลอยไปกับมวลน�้า เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิประเทศชายฝั่งทะเล ทั้งชายฝั่งทะเลที่ถูกท�าลายและมีการทับถมสร้างแนวชายฝั่งใหม่ 2. ท�าให้น�้าทะเลท่วมเข้าไปในชายฝั่งทะเล ส่งผลให้น�้าเค็มเข้าไปผสมในแหล่ง น�้าจืด 3. ท�าลายอาคาร สิ่งก่อสร้างที่มีโครงสร้างไม่มั่นคงแข็งแรงจ�านวนมาก ตลอดจน ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล 4. เกิดการสูญเสียชีวิตของมนุษย์ สัตว์เลี้ยง และสัตว์ป่าจ�านวนมาก แผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงการเกิดสึนามิของโลก ที่มา : www.mapsofworld.com, 2015 173 ประเทศไทยมีโอกาสไดรับความเสียหายจากสึนามิที่มีสาเหตุ มาจากขอใดมากที่สุด 1. แผนดินไหว 2. แผนดินถลม 3. ภูเขาไฟมีพลัง 4. แผนดินไหวใตทะเล 5. รอยเลื่อนของแผนเปลือกโลก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. บริเวณที่มีความเปนไปไดมากที่สุด ที่ทําใหประเทศไทยไดรับผลกระทบจากสึนามิ คือ แนวรองลึกใน ทะเลอันดามัน ซึ่งการเกิดแผนดินไหวที่บริเวณนี้สามารถเกิดขึ้นได ตลอดเวลา) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 11. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหขอมูลและ อภิปรายเกี่ยวกับภัยตางๆ ที่เกิดจากสึนามิ รุนแรง โดยชวยกันจัดทําเปนผังกราฟก แสดงภัยตางๆ ที่เกิดจากสึนามิรุนแรงลงใน กระดาษโปสเตอร หรือกระดานหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายถึงการกระจายการเกิดสึนามิ ของโลกเพิ่มเติม 12. ครูอาจใหนักเรียนวิเคราะหขอมูลจากแผนที่ แสดงพื้นที่เสี่ยงการเกิดสึนามิของโลก จาก หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 โดยครูแนะนํา เพิ่มเติม สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสึนามิไดจากภาพยนตรสารคดีสั้น Twig เรื่อง คลื่นสึนามิ http://www.twig-aksorn.com/fif ilm/tsunami -7980/ นํา สอน สรุป ประเมิน T181
อินเดีย 16,383 คน ศรีลังกา 38,195 คน มัลดีฟส 82 คน เมียนมา 90 คน 5,322 คนไทย มาเลเซีย อินโดน�เซีย 68 คน 166,320 คน โซมาเลีย 298 คน 7) เหตุการณ์สึนามิที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น แผนที่แสดงศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา และจ�านวนผู้เสียชีวิตจากสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย สาเหตุ : เกิดจากแผ่นดินไหวขนาด9.2ศูนย์กลาง อยู่ที่นอกชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจาก พลังงานอันมหาศาลในชั้นเนื้อโลกผลักดันให้แผ่น เปลือกโลกอินโด - ออสเตรเลีย ขยับตัวมุดลงไป ใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย เป็นแนวยาวกว่า 1,200 กิโลเมตร ผ่านหมู่เกาะนิโคบาร์ขึ้นไปทางเหนือ จนถึงหมู่เกาะอันดามัน ท�าให้เกิดการสั่นสะเทือน อย่างรุนแรงและเกิดสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย เหตุการณ์ สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา พ.ศ. 2547 คลื่นสึนามิซัดเข้าหาชายฝั่งทะเลของเมืองมิยะโกะ จังหวัดอิวะเตะ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 สาเหตุ : เดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 เกิดการสั่น สะเทือนอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหว ขนาด 8.9 ศูนย์กลางแผ ่นดินไหวอยู ่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากชายฝั่งเกาะฮนชูประมาณ 150 กิโลเมตร เป็นผลท�าให้เกิดสึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งเขตอิวะเตะ มิยะงิและฟุกุชิมะ ด้วยความสูงถึง 38.9 เมตร ภายหลังต่อมาศูนย์อุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ปรับ เพิ่มความรุนแรงเหตุแผ่นดินไหว จาก 8.9 เป็น 9.0 ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การเกิด แผ่นดินไหวของญี่ปุ่น ผลกระทบ : ท�าให้บ้านเรือนพังพินาศมีผู้เสียชีวิต กว่า 15,000 คน สูญหายกว ่า 8,000 คน และ บาดเจ็บกว่า 5,000 คน และยังท�าให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิเกิดการรั่วไหลของกัมมันตรังสี ท�าให้ทางการต้องเร่งอพยพผู้คนในรัศมี20 - 30 กิโลเมตร ออกจากพื้นที่ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่ามากถึง 16 - 25 ล้านล้านเยน เหตุการณ์ สึนามิในประเทศญี่ปุ่น พ.ศ. 2554 ผลกระทบ : ท�าให้พื้นที่ชายฝั่งของประเทศต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบมหาสมุทรอินเดียได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 200,000 คน ประเทศที่ได้รับความเสียหาย มากที่สุด คือ อินโดนีเซีย รองลงมา ได้แก่ ศรีลังกา อินเดีย และไทย คาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ไม่ต�่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 174 กิจกรรม ทาทาย และไทย 1 นักเรียนวาดภาพแสดงกระบวนการเกิดสึนามิ ตกแตงให สวยงาม แลววิเคราะหโอกาสในการเกิดสึนามิของประเทศไทย จากนั้นนําเสนอผลงานที่หนาชั้นเรียน กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขอมูลเกี่ยวกับเหตุการณสึนามิครั้งรุนแรงของ โลกจากแหลงการเรียนรูตางๆ แลวนํามาแลกเปลี่ยนเรียนรูกัน ในชั้นเรียนถึงผลกระทบของเหตุการณนั้นๆ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 13. ครูตั้งคําถามประกอบการวิเคราะหขอมูล เพิ่มเติม เชน • ประเทศไทยไดรับผลกระทบจากการเกิด สึนามิอยางไร (แนวตอบ จากแผนดินไหวทางตะวันตก เฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศ อินโดนีเซีย ใน พ.ศ. 2547 กอใหเกิด สึนามิซัดเขาทําลายพื้นที่ชายฝงของหลาย ประเทศที่ติดตอกับมหาสมุทรอินเดีย โดย ชายฝงทะเลอันดามันของประเทศไทย ซึ่งเปนแหลงทองเที่ยวทางธรรมชาติ ที่สําคัญก็ไดรับผลกระทบอยางรุนแรง เชนเดียวกัน ไดแก ทําใหมีผูเสียชีวิตทั้ง ชาวไทยและชาวตางประเทศประมาณ 5,400 คน สิ่งกอสรางตางๆ รวมถึงระบบ นิเวศชายฝงเกิดการเปลี่ยนแปลง) นักเรียนควรรู 1 ไทย พื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ คือ 6 จังหวัดภาคใต ไดแก จังหวัดพังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ตรัง และสตูล ดังสรุปขอมูลผูเสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย แยกตามจังหวัด ณ วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2549 ในตาราง จังหวัด เสียชีวิต บาดเจ็บ สูญหาย (ชาวไทย+ ชาวตางชาติ) ไมสามารถ ระบุได (ชาวไทย+ ชาวตางชาติ) (ชาวไทย+ ชาวตางชาติ) 1. ภูเก็ต 262 17 1,111 608 2. พังงา 3,504 722 5,597 1,655 3. กระบี่ 560 161 1,376 544 4. ระนอง 159 - 246 9 5. ตรัง 5 - 112 1 6. สตูล 6 - 15 - รวม 4,496 900 8,457 2,817 ที่มา : กรมปองกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย, 2549 นํา สอน สรุป ประเมิน T182
ขอสอบเนน การคิด 8) การจัดการภัยพิบัติสึนามิ มีดังนี้ 8.1) มาตรการ ที่ส�าคัญ มีดังนี้ 1. การติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้วยการวางทุ่นลอยในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ในมหาสมุทรอินเดีย หรือในชายฝั่งอันดามันของประเทศไทย เพื่อตรวจจับการเกิดแผ่นดินไหว ใต้ท้องทะเล และเมื่อพบการสั่นสะเทือนใต้ท้องทะเลเกินกว่า 5 - 7 ตามมาตราริกเตอร์ขึ้นไป ศูนย์เตือนภัยจะแจ้งให้ประชาชนทราบ 2. ต้องมีการซ้อมรับภัยจากสึนามิในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้งติดตั้งป้ายบอก เส้นทางอพยพหนีภัยไปยังจุดปลอดภัยที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อรับมือกับสึนามิที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ 3. ต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลแผ่นดินไหวและสึนามิและระบบเตือนภัยจาก สึนามิให้ประชาชนได้รับทราบผ่านสื่อต่าง ๆ 8.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้ 1. ศึกษาความรู้เรื่องภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและสึนามิ สัญญาณเตือนภัย สึนามิ รวมถึงติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด 2. ฝึกซ้อมรับภัยสึนามิ วางแผนการอพยพผู้คน เตรียมที่พักอาศัยชั่วคราว 3. หลีกเลี่ยงการก่อสร้างใกล้ชายฝั่งทะเลในเขตที่มีความเสี่ยงภัยจากสึนามิสูง 8.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1. ติดตามข่าวสารจากทางราชการ และอพยพกลับเมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าปลอดภัย 2. พยายามอยู่ห่างจากอาคารสิ่งก่อสร้างที่เสียหาย เพราะอาจพังถล่มลงมาได้อีก 3. กลับเข้าบ้านอย่างระมัดระวัง โดยระวังเพดานพังลงมา ไม่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าจนกว่า ทางการจะแจ้ง และตรวจดูท่อน�้าว่ายังใช้การได้ปกติหรือไม่ 4. ซ่อมแซมและท�าความสะอาดอาคารบ้านเรือน รวมถึงช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 1. ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด 2. เมื่อรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง หรือเห็น น�้าทะเลลดลงผิดปกติ ให้รีบย้ายไปยังที่สูงทันที 3. เตรียมสิ่งของจ�าเป็นต่าง ๆให้พร้อมเช่น น�้าดื่ม อาหารแห้ง ไฟฉาย รองเท้า ยารักษาโรค 1. หากอยู่ที่ชายหาดและรู้สึกแผ่นดินสั่นสะเทือน หรือเห็นน�้าทะเลลดลงผิดปกติให้ย้ายไปยัง พื้นที่สูงทันที โดยไม่ต้องรอประกาศเตือนภัย 2. หากได้ยินประกาศเตือนภัยสึนามิให้อพยพไป ยังที่สูงที่น�้าท่วมไม่ถึง 3. หากอยู่บนเรือในทะเลระหว่างเกิดสึนามิให้ลอย เรืออยู่กลางทะเล หรือน�าเรือออกสู่ทะเลลึก 175 การติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้วยการวางทุ่นลอยในพื้นที่เสี่ยงภัย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 14. ครูสุมตัวแทนนักเรียนจํานวน 4-6 คน เพื่อ นําเสนอการระวังภัยจากสึนามิที่หนาชั้นเรียน โดยแบงหนาที่นําเสนอการระวังภัยของผูที่อยู บริเวณชายฝง และการระวังภัยของผูที่อยูใน เรือกลางทะเล ทั้งในชวงกอนเกิดภัย ขณะ เกิดภัย และหลังเกิดภัย ในรูปแบบตางๆ เชน การแสดงบทบาทสมมติ ตารางนําเสนอขอมูล หรือรูปแบบอื่นๆ ตามความสามารถและ ความสนใจของนักเรียน พรอมทั้งวิเคราะห และเสนอแนะขอคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อใหเกิด ความเขาใจที่ถูกตองตรงกัน ขอใดเปนสิ่งที่ควรกระทําเปนอันดับแรกเมื่อไดยินสัญญาณ เตือนภัยสึนามิ 1. ไปดูแลเพื่อนบานใกลเคียง 2. ตะโกนรองขอความชวยเหลือ 3. วิ่งลงไปที่ชายหาดเพื่อดูนํ้าทะเล 4. เปดโทรทัศนดูประกาศจากทางราชการ 5. รีบเคลื่อนยายไปยังที่สูงพรอมสัมภาระจําเปน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 5. เมื่อไดยินสัญญาณเตือนภัย ใหรีบ อพยพออกจากบานไปยังพื้นที่สูงที่นํ้าทวมไมถึงทันที) นักเรียนควรรู 1 ระบบเตือนภัย สําหรับเฝาสังเกตการณ ตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของ เปลือกโลกที่จะสงผลใหเกิดสึนามิ คํานวณผลการเกิดและความรุนแรงในการ กอความเสียหาย ทิศทางของคลื่น การเคลื่อนตัวของคลื่น การประเมินคา ความเสี่ยง และระยะเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติ โดยจัดตั้งสถานีตรวจวัดขึ้นตาม ภูมิภาคตางๆ ทั่วโลก แลวสงผลการวิเคราะหเตือนไปยังประเทศที่จะไดรับ ผลกระทบ แตระบบเตือนภัยสึนามิที่ใชกันอยูในปจจุบันจะมีเฉพาะทางฝง มหาสมุทรแปซิฟกซึ่งเกิดแผนดินไหวและสึนามิบอยครั้ง โดยประเทศที่อยูบริเวณ มหาสมุทรแปซิฟกไดรวมกันจัดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิขึ้น โดยมีสหรัฐอเมริกา เปนแกนนําในการริเริ่มจัดตั้งระบบ พรอมดวยการสนับสนุนดานเงินทุน และเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุน ศูนยเตือนภัยสึนามิระดับนานาชาติที่สําคัญ คือ ศูนยเตือนภัยจากคลื่นสึนามิในภูมิภาคแปซิฟก (PTWC) ในรัฐฮาวาย นํา สอน สรุป ประเมิน T183
ขอสอบเนนการคิด 1.4 แผ่นดินถล่ม (landslide) 1) ค�าจ�ากัดความ แผ่นดินถล่มเป็นภัยที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของมวลดินและ เศษหิน ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกโดยมีน�้าหรือแรงสั่นสะเทือนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนที่ ตามบริเวณพื้นที่ลาดชันของภูเขาอาจเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ หรืออย่างฉับพลันก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน 2) กระบวนการเกิดแผ่นดินถล่ม มีดังนี้ • มีการสั่นสะเทือนในพื้นที่ เช่น แผ่นดินไหว ท�าให้เศษหิน ดิน ร่วงหล่นลงมา ตามแรงโน้มถ่วงของโลก หรือมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ลาดชันบนภูเขา หรือเทือกเขา • พื้นที่ลาดชันไม่สามารถรับน�้าหนักได้ท�าให้เกิดดินถล่มลงมา การเคลื่อนที่ของ มวลดิน หิน มีทั้งความเร็วปานกลางและความเร็วมาก โดยมีน�้าเป็นตัวขับเคลื่อน • ในพื้นที่เทือกเขาหินปูนที่มีโพรงใต้ดิน อาจเกิดแผ ่นดินถล ่มหรือหลุมยุบ ขนาดใหญ่ได้ ที่มาภาพ : www.usgs.gov/media/images/landslide-la-conchita-california/ การเกิดแผ่นดินถล่ม 1 ชั้นดินบริเวณภูเขาหรือหน้าผา เคลื่อนลงตามแรงดึงดูดของโลก ผนวกกับการมีฝนตกหนักเป็น เวลานานในพื้นที่ลาดชันมากกว่า 30 � 2 เกิดน�้าสะสมบนพื้นที่ลาดชัน ท�าให้มวลดิน หิน ไม่สามารถรับ น�้าหนักได้จึงทรุดตัวและไหลลง มาตามที่ลาดชัน 3 มวลดิน หิน เคลื่อนที่ลงมาทับ สิ่งก่อสร้างบริเวณเชิงเขา การเกิดแผ่นดินถล่มแบบเลื่อนไถล (slump) ที่เมือง ลา คอนชิตา (La Conchita) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2548 176 อาจเกิดแผ ่นดินถล ่มหรือหลุมยุบ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 15. ครูสนทนากับนักเรียนถึงความหมายของ แผนดินถลมที่นักเรียนไดศึกษามา จากนั้น สุมนักเรียนเพื่ออภิปรายถึงกระบวนการเกิด แผนดินถลม เสนอแนะขอคิดเห็น และ วิเคราะหสรุปรวมกัน 16. ครูสุมนักเรียนใหตอบคําถามเกี่ยวกับปจจัย ที่ทําใหเกิดภัยแผนดินถลม เชน • ปจจัยทางธรรมชาติที่ทําใหเกิดแผนดินถลม ไดแกอะไรบาง (แนวตอบ เชน การเกิดแผนดินไหวรุนแรง ที่สงผลใหดินบริเวณที่ลาดเชิงเขาเกิดการ เคลื่อนตัวลงมาตามแรงโนมถวงของโลก การเกิดฝนตกหนัก ทําใหดินอุมนํ้าไวมาก จนไมสามารถเกาะตัวอยูได จึงเลื่อนไหล ลงมาตามความลาดชัน และปจจัยอื่นๆ เชน การปะทุของภูเขาไฟ การเกิดสึนามิ การละลายของหิมะ หรือการมีหิมะตกหนัก การเปลี่ยนแปลงของระดับนํ้าใตดิน การกัดเซาะชายฝงของแมนํ้าและพื้นที่ บริเวณไหลทวีป) นักเรียนควรรู 1 หลุมยุบ หลุมหรือแองบนแผนดินที่ปากหลุมเกือบกลมและมีเสนผาน ศูนยกลางราว 20 เมตร ถึงกวา 200 เมตร เกิดจากนํ้าละลายเอาหินเกลือ หินยิปซัม หรือหินปูนที่อยูขางใตออกไป ทําใหพื้นดินตอนบนยุบลงเปนหลุมใหญ หากการละลายสารดังกลาวเปนไปอยางกวางขวาง หลุมยุบนี้จะลึกลงๆ จนทะลุ ถึงทางนํ้าขางลางเกิดเปนปลองขึ้นได พื้นที่บริเวณใดที่เสี่ยงตอการเกิดแผนดินถลม (แนวตอบ บริเวณที่มักจะเกิดแผนดินถลม ไดแก บริเวณที่ใกลกับ แนวรอยเลื่อนที่มีพลังและมีการยกตัวของแผนดินขึ้นเปนภูเขาสูง บริเวณที่ทางนํ้ากัดเซาะเปนโตรกเขาลึกและชัน บริเวณที่มีแนว รอยแตกและรอยแยกหนาแนนบนลาดเขา บริเวณที่มีการผุพัง ของหินและทําใหเกิดชั้นดินหนาบนลาดเขา) สื่อ Digital ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับดินถลม ไดที่ http://www.dmr.go.th/ download/Landslide/what_landslide1.htm สํานักธรณีวิทยาสิ่งแวดลอมและ ธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี นํา สอน สรุป ประเมิน T184
ขอสอบเนน การคิด การไหลของดิน (solifluction) โคลนไหล (mudflow) หินพัง (rock fall) การเลื่อนไถล (slump) ประเภทของแผ่นดินถล่ม ลักษณะ เป็นแผ่นดินถล่มบนพื้นที่ที่มีความลาดชันมาก น�้าหนักของหินหรือแรงสั่น สะเทือนท�าให้หินร่วงหล่นลงมา เป็นการเคลื่อนที่ของมวลหินหรือเศษดินเศษหินลงมาตามความลาดชัน โดยเคลื่อนที่หรือทรุดตัวหมุนเป็นบล็อกตามระนาบโค้งเว้า มักเกิดบริเวณ หน้าผาหรือไหล่เขา เป็นการเลื่อนไถลของดินอย่างช้า ๆ ลงไปตามลาดเขาในเขตอากาศหนาว เกิด เนื่องจากน�้าแข็งและหิมะที่ละลายในฤดูร้อนไหลซึมลงไปในดินชั้นบน ท�าให้ดิน ชั้นแฉะ ในขณะที่ดินชั้นล ่างยังคงมีอุณหภูมิที่จุดเยือกแข็งอยู ่ ดินชั้นบน จึงค่อย ๆ ไหลเลื่อนลงไป เป็นการเคลื่อนที่แบบเลื่อนไถลอย่างช้า ๆ ลงมาตามลาดเขาของดินหรือหินผุ เนื่องจากแรงดึงดูดของโลกและมีน�้าในดินระดับปานกลาง เป็นการไหลของมวลตะกอนขนาดเล็ก มีปริมาณน�้ามากจนเป็นดินโคลนเหลว ไหลลงไปตามร่องธารและที่ลาดเชิงเขาอย่างรวดเร็ว มีพลังงานที่จะท�าลาย สิ่งกีดขวางตามทางที่ผ่านไป ดินไหล (earth flow) 3) ประเภทของแผ่นดินถล่ม ตามความเร็วในการเคลื่อนที่และในสภาพที่มีน�้า หรือ ไม่มีน�้า ที่ส�าคัญ เช่น 4) สาเหตุการเกิดแผ่นดินถล่ม มีทั้งสาเหตุจากธรรมชาติและจากมนุษย์ ดังนี้ 4.1) สาเหตุจากธรรมชาติ เช่น การเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง ส่งผลให้แผ่นดิน บริเวณลาดเขาที่มีความชันเกิดการเคลื่อนที่ลงมาตามแรงดึงดูดของโลก การมีฝนตกหนักต่อเนื่อง น�้าฝนจะซึมไปสะสมอยู่ในดิน เมื่อดินไม่สามารถอุ้มน�้าไว้ได้จะลื่นไถลลงตามความลาดชัน และ มักมีต้นไม้ เศษหินเลื่อนไหลตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภูเขาไฟปะทุ หิมะถล่ม น�้าแข็งใต้ดินละลาย 4.2) สาเหตุจากมนุษย์ เช่น การเพาะปลูก การปลูกสิ่งก่อสร้างบนพื้นที่ลาดชัน การตัดไม้ท�าลายป่าเพื่อท�าไร่ ท�าสวน การตัดถนนตามไหล่เขา 177 เป็นการเคลื่อนที่แบบเลื่อนไถลอย่างช้า ๆ ลงมาตามลาดเขาของดินหรือหินผุ 1 นักเรียนควรรู 1 หินผุ เปนวัตถุดิบชนิดหนึ่งที่พบไดในแหลงที่มีหินภูเขาไฟ หินแกรนิต เฟลดสปาร หรือในแหลงดินขาว การเกิดหินผุมี 3 ลักษณะ ไดแก 1. เกิดจากหินตนกําเนิดที่เปนหินหนืดที่แทรกดันตัวผานหินทองที่ (Country Rock หรือ Wall Rock) ขึ้นสูผิวโลก แลวเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน ดวยตนเองจนกลายเปนหินผุ 2. เกิดจากหินหนืดที่ถูกดันตัวและเปลี่ยนแปลงโครงสราง โดยการพัดพา ของนํ้ารอน จนกลายเปนหินตนกําเนิดที่เปนหินผุ (หินทองที่มักเปนหินภูเขาไฟ หรือหินขี้เถาภูเขาไฟ) การเกิดประเภทนี้ หินทองที่และหินตนกําเนิดจะเปนหิน ประเภทเดียวกัน และมักจะจับตัวกันเปนพื้นที่กวาง 3. เกิดจากหินภูเขาไฟที่มีสวนประกอบเปนชนิดบะซอลตไปจนถึงชนิด ไรโอไลต ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล • การประกอบกิจกรรมของมนุษยเปนปจจัย ที่ทําใหเกิดแผนดินถลมไดอยางไร (แนวตอบ เชน การขุดดินบริเวณเชิงเขา เพื่อทําถนน เพื่อการอยูอาศัย หรือเพื่อ การเกษตร นอกจากนี้ การสูบนํ้าบาดาล ขึ้นมาใชในปริมาณมากจนเกินไป การ ดูดทรายจากใตดินหรือแมนํ้าขึ้นมาใช ประโยชน รวมไปถึงการบดอัดดิน เพื่อใช ประโยชนในการกอสราง ก็อาจกอใหเกิด การเปลี่ยนแปลงโครงสรางทางธรณีวิทยา ของพื้นที่โดยรอบจนนําไปสูการเกิดแผนดิน ถลมไดเชนเดียวกัน) ปจจัยใดที่เปนสาเหตุทําใหเกิดแผนดินถลม (แนวตอบ ปจจัยทางธรรมชาติที่สําคัญ ไดแก การเกิดฝนตกหนัก เปนเวลานานบนที่ลาดเชิงเขาหรือภูเขาสูง การกัดเซาะของดิน จากกระแสนํ้าในแมนํ้า คลื่นซัดฝง การผุพังของมวลดินและหิน ทําใหความหนาแนนของมวลดินลดลง การเกิดภัยธรรมชาติ รุนแรง เชน แผนดินไหว อุทกภัย และปจจัยจากการกระทํา ของมนุษย เชน การตัดไมทําลายปา ทําใหไมมีรากไมยึดเกาะ หนาดิน การกอสรางหรือการทําการเกษตรบริเวณเชิงเขาที่ลาดชัน) นํา สอน สรุป ประเมิน T185
กิจกรรม ทาทาย 0 ํ 0 ํ 20 ํN 20 ํN 20 ํS 20 ํS 40 ํN 40 ํN 40 ํS 40 ํS 60 ํN 60 ํN 60 ํS 60 ํS 80 ํN 80 ํN 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 80 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 ไมเสี่ยง เสี่ยงมาก ไมมีขอมูล พื้นที่เสี่ยงภัยแผนดินถลม 5) การกระจายการเกิดแผ่นดินถล่มของโลก จากแผนที่ พื้นที่เกิดแผ่นดินถล่มมักเป็นบริเวณที่ลาดเชิงเขา หรือพื้นที่ราบด้านหน้า ภูเขาที่มีการพังทลายของดินสูง หรือพื้นที่ต้นน�้าที่มีการท�าลายป่ามาก หรือเกิดบริเวณหน้าผาที่ เป็นหินชนิดผุพังง่าย โดยหินนั้นรองรับชั้นดินที่มีความลาดเทสูงและน�้าซึมผ่านได้สะดวก เมื่อเกิด พายุฝนตกหนัก ท�าให้เกิดน�้าป่าไหลหลาก และเกิดแผ่นดินถล่มได้ง่าย บริเวณที่เกิดแผ่นดินถล่ม บ่อย เช่น ชุมเขายูนนานและชุมเขาปามีร์ ในทวีปเอเชีย เทือกเขาแอลปในทวีปยุโรป เทือกเขา ร็อกกีทางตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ เทือกเขาแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้ ส�าหรับประเทศไทย แผ่นดินถล่มมีสาเหตุส�าคัญมาจากการมีฝนตกหนักและมีฝนตก ต่อเนื่องหลายวัน ถ้ามีปริมาณฝนภายใน 24 - 48 ชั่วโมง มากกว่า 300 มิลลิเมตร โดยเฉพาะ ภาคเหนือและภาคใต้มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มได้มาก เนื่องจากมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงและ เนินเขาเป็นจ�านวนมาก 6) ภัยต่าง ๆ ที่เกิดจากแผ่นดินถล่มรุนแรง มีดังนี้ 1. ท�าให้บ้านเรือนพังทลายเสียหาย เนื่องจากถูกดินไหลเลื่อนถล่มทับ 2. ท�าให้ผู้คนและสัตว์เลี้ยงบาดเจ็บล้มตายและสูญหาย 3. ท�าให้พื้นที่เกษตรและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย 4. เส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ถูกท�าลาย ซึ่งต้องใช้เงินจ�านวนมากในการซ่อมแซม ให้ดีดังเดิม นอกจากนี้ เส้นทางคมนาคมที่ช�ารุดอาจถูกปิด ท�าให้การสัญจรไปมาได้รับความยากล�าบาก แผนที่แสดงการเกิดแผ่นดินถล่มของโลก ที่มา : https://earthobservatory.nasa.gov 178 ภาคเหนือและภาคใต้มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มได้มาก เนื่องจากมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงและ 1 2 กิจกรรม สรางเสริม ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 17. ครูตั้งประเด็นเกี่ยวกับสถานการณการเกิด แผนดินถลมใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและ อภิปรายสรุปรวมกัน เชน • แผนดินถลม : ภัยของประชาคมโลกและ ประชาชนไทย • แนวทางปองกันภัยแผนดินถลมจากกิจกรรม ของมนุษย • การพัฒนาที่ยั่งยืนกับการปองกันและแกไข ปญหาภัยแผนดินถลม 18. ครูใหนักเรียนศึกษาแผนที่แสดงการเกิด แผนดินถลมของโลก จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 ประกอบการวิเคราะหและ อภิปรายขอมูล นักเรียนควรรู 1 ภาคเหนือ รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโอกาสเกิดแผนดินถลม ในชวงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เนื่องจากไดรับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตรอน ทําใหเกิดฝนตกหนัก 2 ภาคใต มีโอกาสเกิดดินถลมในชวงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เนื่องจาก เปนชวงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ นักเรียนจัดทําตารางหรือผังกราฟกที่แสดงรายละเอียด เกี่ยวกับภัยแผนดินถลมและตัวอยางสถานการณการเกิดภัยแผน ดินถลมในประเทศไทยหรือในภูมิภาคอื่นของโลก โดยศึกษา คนควาขอมูลเพิ่มเติมจากแหลงการเรียนรูที่ครูเสนอแนะ แลว ตกแตงใหสวยงาม สงครูผูสอน นักเรียนจัดทําตารางหรือผังกราฟกที่แสดงรายละเอียด เกี่ยวกับภัยแผนดินถลมในดานปจจัย สาเหตุ สถานการณ การเกิด ผลกระทบของภัย รวมถึงการระวังภัย แลวตกแตงให สวยงาม สงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T186
7) เหตุการณ์แผ่นดินถล่มที่รุนแรง ครั้งส�าคัญ เช่น เหตุการณ์แผ่นดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 สาเหตุ :บริเวณความกดอากาศสูงก�าลังค่อนข้าง แรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส ่งผลให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ ่าวไทยและ ภาคใต้มีก�าลังแรง ท�าให้เกิดฝนตกหนักในหลาย พื้นที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจนถึง จังหวัดพัทลุง ระหว่างวันที่ 23 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2554 ผลกระทบ : ท�าให้เกิดน�้าป่าไหลหลากและดินโคลน ถล่มทับบ้านเรือนของประชาชน ในบริเวณภาคใต้ ของประเทศไทย มีผู้เสียชีวิต 64 คน ประชาชน เดือดร้อนกว่า 6 แสนครัวเรือน จ�านวน 2 ล้าน เหตุการณ์ แผ่นดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย พ.ศ. 2554 กว่าคน ภาคเศรษฐกิจได้รับความเสียหายอย่างหนัก คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.1 - 2.6 หมื่นล้านบาท โดยภาคการค้าการขนส่งและบริการได้รับผลกระทบมากที่สุดคิดเป็นมูลค่ากว่า4,000 - 5,000ล้านบาท เหตุการณ์แผ่นดินถล่มที่หมู่บ้านซินโม มณฑลซื่อชวน ประเทศจีน เมื่อ พ.ศ. 2560 สาเหตุ : เกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันจึง ท�าให้เกิดเหตุแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่ที่หมู่บ้านซินโม (Xinmo) ในเขตเหมาเซียน(Maoxian)ซึ่งตั้งอยู่ใน เขตเทือกเขาสูงทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ผลกระทบ : ท�าให้ดินและหินถล่มลงมาทับบ้าน เรือนประชาชนอย ่างน้อย 46 หลังคาเรือน มี ผู้เสียชีวิต 15 คน และสูญหายประมาณ 120 คน นอกจากนี้ดินถล่มยังได้กีดขวางเส้นทางน�้าของ แม่น�้าในพื้นที่เป็นระยะทางราว 2 กิโลเมตร และ ตัดขาดถนนสายหลักเข้าสู่ตัวหมู่บ้านที่มีความยาว ประมาณ 1.6 กิโลเมตร เหตุการณ์ แผ่นดินถล่มในประเทศจีน พ.ศ. 2560 179 บริเวณความกดอากาศสูงก� 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล 19. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลการสืบคน ของตนเองมาเชื่อมโยงกับประเด็นวิเคราะห ในใบงานที่ 5.1 เรื่อง ธรณีพิบัติภัย ตาม ประเด็น ดังนี้ • ชื่อธรณีพิบัติภัยที่เลือกศึกษา • ลักษณะทางกายภาพที่สงผลใหเกิดธรณี พิบัติภัย • ผลกระทบสําคัญจากธรณีพิบัติภัย • แนวทางการระวังภัยจากธรณีพิบัติภัย 20. ครูนําแผนที่โลกในรูปแบบโปสเตอรมาให นักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายและแสดง ความคิดเห็นเชื่อมโยงภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาคที่ไดทําการศึกษา และใหแตละกลุม ระบุตําแหนงพื้นที่เกิดภัยพิบัติ รวมถึงพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติ แลวเชื่อมโยง พื้นที่ตางๆ ตามลักษณะทางกายภาพของ พื้นที่ โดยครูแนะนําเพิ่มเติม กิจกรรม Geo - Literacy นักเรียนจับคูกันสํารวจและรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ ทางธรรมชาติที่สําคัญในทองถิ่นของตน โดยใชกระบวนการทาง ภูมิศาสตร ดังนี้ 1. การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 2. การรวบรวมขอมูล 3. การจัดการขอมูล 4. การวิเคราะหขอมูล 5. การสรุปเพื่อตอบคําถาม จากนั้นสรุปความรูเพื่อรวมกันวางแผนเพื่อจัดการภัยพิบัติ ดังกลาว แลวจัดทําเปนแผนพับเพื่อเผยแพรในชุมชน นักเรียนควรรู 1 ความกดอากาศสูง หมายถึง บริเวณที่มีคาความกดอากาศสูงกวาบริเวณ โดยรอบ ในแผนที่อุตุนิยมจะใชอักษร “H” สีนํ้าเงินเปนสัญลักษณ ในทาง ตรงกันขาม ความกดอากาศตํ่า หมายถึง บริเวณซึ่งมีปริมาณอากาศอยูนอย ซึ่งจะทําใหนํ้าหนักของอากาศนอยลงตามไปดวยเชนกัน ทําใหอากาศเบาและ ลอยตัวสูงขึ้น ในแผนที่อุตุนิยมจะใชอักษร “L” สีแดงเปนสัญลักษณ นํา สอน สรุป ประเมิน T187
8) การจัดการภัยพิบัติแผ่นดินถล่ม มีดังนี้ 8.1) มาตรการ ที่ส�าคัญ มีดังนี้ 1. จัดท�าระบบเตือนภัยแผ่นดินถล่ม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตั้งไว้ ในพื้นที่เสี่ยงภัย และออกประกาศเตือนทางสื่อต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังและเตรียม ตัวอพยพ 2. มีอาสาสมัครหมู่บ้าน หากในพื้นที่เสี่ยงภัยเกิดภัยพิบัติขึ้นให้ส่งสัญญาณ เตือนส่งต่อเป็นระยะ พร้อมทั้งจัดเวรยามเฝ้าระวังภัย 3. ดูแลไม่ให้มีการถางป่าในบริเวณต้นน�้า เสริมสร้างความแข็งแรงบริเวณ ไหล่เขาและลาดเขาที่อาจเกิดแผ่นดินถล่มหรือโคลนไหลได้ 8.2) วิธีป้องกัน ท�าได้ ดังนี้ 1. ปลูกพืชคลุมดินหรือหญ้าแฝกบริเวณที่ลาดเชิงเขา เพื่อให้ช่วยยึดเกาะ หน้าดินไม่ให้เลื่อนหรือไหลลงมา 2. ไม่ตัดไม้ท�าลายป่า และปลูกต้นไม้บริเวณป่าต้นน�้าเพื่อชะลอความแรง ของน�้า 3. ซักซ้อมอพยพหนีภัยในพื้นที่เสี่ยง 8.3) การปฏิบัติตน ท�าได้ ดังนี้ ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1. ส�ารวจพื้นที่ที่อยู่อาศัยและหมั่นสังเกตสัญญาณ เตือนภัยทางธรรมชาติเช่นระดับน�้าในแม่น�้า ล�าห้วยเพิ่มขึ้นรวดเร็วผิดปกติหรือสีของน�้า ขุ่นมากกว่าปกติ เปลี่ยนเป็นสีดินภูเขา 2. จัดเวรยามเฝ้าระวังภัย และติดตามข ่าว พยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด 1. อพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย โดยขึ้น ที่สูง หรือไปยังสถานที่ปลอดภัยที่อยู่ห่างไกล จากพื้นที่ประสบภัยอย่างน้อย2 - 5กิโลเมตร 2. อยู่ให้ห่างจากล�าน�้าให้มากที่สุด 3. กรณีพลัดตกน�้าให้หาต้นไม้ ใหญ่ยึดเกาะและ ปีนหนีน�้า 1. ห้ามเข้าใกล้และกลับเข้าไปในบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากดินถล่ม 2. จัดท�าทางเบี่ยงของดินและน�้า เพื่อไม่ให้ไหลลงมาสมทบกับมวลดินซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิด ดินถล่มลงมาซ�้าได้ 180 ขั้นสอน ขั้นที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคําถาม 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสรุปขอมูลที่ไดจาก การศึกษา จากนั้นสงตัวแทนนําเสนอขอมูล ประกอบแผนที่ที่ไดจัดทํา พรอมทั้งอภิปราย แสดงความคิดเห็นรวมกัน 2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร 3. ครูใหนักเรียนทําแบบฝกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 เกี่ยวกับเรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาค ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน การใชเครื่องมือทางภูมิศาสตร และเครื่องมือดาน เทคโนโลยีในการสืบคนเกี่ยวกับภัยพิบัติธรรมชาติ ทางธรณีภาค หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของ เนื้อหา ขั้นประเมิน 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณีภาค ไดจากการใชเครื่องมือทางภูมิศาสตรในการสืบคนและนําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมิน การนํา เสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูที่ 5 เรื่อง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค นักเรียนรวมมือกันสํารวจธรณีพิบัติภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เชน แผนดินไหว สึนามิ แผนดินถลม แลวนํามาวิเคราะหผลกระทบ หรือความเสียหายที่เกิดขึ้น จากนั้นรวมกันเสนอแนวทางการ ปฏิบัติตน การปองกันและระวังภัย แลวรวมมือกันเขียนเปนโปสเตอร เผยแพรในบริเวณตางๆ ตามความเหมาะสม พรอมเชิญชวน ใหทุกคนมีสวนรวมในการปองกันและระวังภัย นํา สอน สรุป ประเมิน T188
ขอสอบเนน การคิด 2 ภัยพิบัติธรรมชาติทางบรรยากาศภาค 2.1 พายุฝนฟาคะนอง (thunderstorm) พายุฝนฟาคะนองเปนปรากฏการณที่เกิดจากการกอตัวของเมฆขนาดใหญในแนวดิ่ง เนื่องจากการยกตัวของอากาศที่มีความรอนมากใหสูงขึ้นจนเขาสูชั้นอากาศที่มีความเย็น จนมี การกลั่นตัวเปนหยดนํ้าและนํ้าแข็ง เกิดสภาพอากาศที่แปรปรวน เชน ลมกระโชก ฟาแลบ ฟาผา ฝนตกหนัก อาจมีลูกเห็บตก 1) สาเหตุและกระบวนการเกิดพายุฝนฟาคะนอง มีดังนี้ • อากาศรอนชื้นปกคลุมพื้นผิว • เกิดกระแสอากาศรอนชื้นใกลพื้นผิวพัดขึ้นสูหยอมความแปรปรวนภายใน เมฆกอนที่กอตัวอยูดานบน • เกิดกระบวนการลดอุณหภูมิตามความสูงอยางรวดเร็ว และเกิดการกลั่นตัวเปน หยดนํ้า พรอมทั้งปลดปลอยความรอนแฝงออกมา พัฒนาเปนเมฆกอนที่ใหญขึ้น และเกิดเปน เมฆพายุฝนฟาคะนอง กระบวนการเกิดพายุฝนฟาคะนองแบงออกเปน 3 ขั้นตอน ดังนี้ 12 9 6 3 1.5 0 ความสูง (กม.) อุณหภูมิ 0 ํC ระดับสมดุล 3-5 นาที ขั้นกอตัว 5-10 นาที ขั้นเติบโตเต็มที่ 5-7 นาที ขั้นสลายตัว กระแสอากาศรอน กระแสอากาศเย็น การเกิดพายุฝนฟาคะนอง 181 2.1 พายุฝนฟาคะนอง (thunderstorm) 1 ขั้นนํา (Geographic Inquiry Process) 1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงชื่อเรื่อง จุดประสงค และผลการเรียนรู 2. ครูใหนักเรียนฟงคลิปเสียงที่เกี่ยวของกับพายุ ฝนฟาคะนอง เชน เสียงลมกระโชก เสียง ฟารอง เสียงฟาผา เสียงฝนตกหนัก แลวให นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวาเปนเสียง ชนิดใด 3. ครูสุมนักเรียนใหอธิบายในประเด็น “การเกิด พายุฝน” ตามความรูความเขาใจเบื้องตนของ นักเรียน 4. ครูใหนักเรียนดูภาพกระบวนการเกิดพายุ ฝนฟาคะนอง จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวรวมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมถึงสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก ภาพดังกลาว นักเรียนควรรู 1 พายุฝนฟาคะนอง เปนพายุที่เกิดขึ้นเฉพาะถิ่น การเกิดพายุนี้มีความ เกี่ยวของกับการเกิดเมฆคิวมูโลนิมบัสอยูมาก เพราะเวลาเกิดเมฆคิวมูโลนิมบัส อากาศจะลอยตัวขึ้นขางบนอยางเร็วและแรง พายุฝนฟาคะนองไมใชพายุหมุน เพราะการพัดของลมเวลาเกิดพายุฝนฟาคะนองไมมีการหมุนตัวของอากาศ เพราะเหตุใดเมื่อเกิดพายุฝนฟาคะนอง เราจึงเห็นฟาแลบกอน ไดยินเสียงฟารองเสมอ (แนวตอบ เพราะแสงมีความเร็วมากกวาเสียง แสงมีอัตราเร็ว 300,000 กิโลเมตรตอวินาที สวนเสียงมีอัตราเร็วประมาณ 1 3 กิโลเมตรตอวินาที เราจึงเห็นฟาแลบหรือประกายไฟไดทันที และไดยินเสียงฟารองทีหลัง) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T189
0 ํ 0 ํ 20 ํN 20 ํN 20 ํS 20 ํS 40 ํN 40 ํN 40 ํS 40 ํS 60 ํN 60 ํN 60 ํS 60 ํS 80 ํN 80 ํN 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 160 ํW 120 ํW 80 ํW 40 ํW 40 ํE 0 ํ 80 ํE 120 ํE 160 ํE 80 ํS 80 ํS N 0 2,000 4,000 กม. 1 : 250,000,000 จำนวนวันที่ประสบพายุฝนฟาคะนองตอป 02 4 10 25 40 60 80 100 140 200 แผนที่แสดงการกระจายของพายุฝนฟ้าคะนองในโลก ที่มา : www.mapsontheweb.zoom-maps.com 1.1) ขั้นก่อตัว (cumulus stage) เป็นขั้นตอนของกระแสอากาศไหลขึ้น เกิดขึ้น เมื่ออากาศร้อนชื้นลอยตัวและลดอุณหภูมิลงก ่อตัวเป็นเมฆคิวมูลัส ความร้อนแฝงจากการ กลั่นตัวของไอน�้าท�าให้การลอยตัวของกระแสอากาศภายในก้อนเมฆเร็วมากขึ้น จนเมฆคิวมูลัส มีขนาดใหญ่ขึ้น 1.2) ขั้นเติบโตเต็มที่ (mature stage) ภายในเมฆพายุหรือเมฆคิวมูโลนิมบัสจะเกิด ความแปรปรวนจากกระแสอากาศพัดขึ้นลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ท�าให้เกิดการกลั่นตัว การคาย ความร้อนแฝงและเกิดการชนปะทะรวมตัวกันของหยดน�้า หยดน�้าแข็ง และเสียดสีกันเกิดเป็นเม็ดฝน ลูกเห็บ พายุ ลม และประจุไฟฟ้า เกิดกระแสลมเย็นพัดลงจากฐานเมฆ ท�าให้เกิดลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก หรือลูกเห็บตก ใช้เวลา 15 - 30 นาที 1.3) ขั้นสลายตัว (dissipating stage) เป็นระยะที่ไม่มีกระแสอากาศเคลื่อนที่ ขึ้นลง ปริมาณฝนตกลดลงและสลายตัว 2) การกระจายการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองของโลก Question พายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้อย่างไร และพายุที่รุนแรงมักเกิดในช่วงฤดูใดของประเทศไทย Geo 182 เมื่ออากาศร้อนชื้นลอยตัวและลดอุณหภูมิลงก ่อตัวเป็นเมฆคิวมูลัส ความร้อนแฝงจากการ (mature stage) ภายในเมฆพายุหรือเมฆคิวมูโลนิมบัสจะเกิด 1 2 นักเรียนควรรู 1 เมฆคิวมูลัส มีลักษณะเปนกอนหนา สีขาวคลายปุยฝายหรือสําลี ซึ่งลักษณะ เมฆนี้บอกถึงสภาวะอากาศแจมใส อากาศแหง และมีแดดจัด กอตัวในแนวตั้ง เกิดจากอากาศไมมีเสถียรภาพ ฐานเมฆเปนสีเทาเนื่องจากมีความหนามาก 2 เมฆคิวมูโลนิมบัส เมฆกอตัวในแนวตั้งพัฒนามาจากเมฆคิวมูลัส มีขนาด ใหญมาก ทําใหเกิดพายุฝนฟาคะนอง หากกระแสลมชั้นบนพัดแรงจะทําให ยอดเมฆรูปกะหลํ่ากลายเปนเมฆรูปทั่งตีเหล็ก ขั้นนํา 5. ครูใหนักเรียนดูภาพหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของ กับภัยพิบัติธรรมชาติทางบรรยากาศภาคใน ประเทศไทยและประเทศตางๆ เชน • พายุฝนฟาคะนองในประเทศญี่ปุน • พายุโซนรอนฟงวองพัดเขาถลมเกาะลูซอน ทางตอนเหนือของประเทศฟลิปปนส • พายุเฮอรริเคนแคทรีนาพัดถลมสหรัฐอเมริกา 6. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใช Geo Question จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลวใหนักเรียนรวมกันตอบคําถาม โดยครู แนะนําเพิ่มเติม (แนวตอบ พายุฝนฟาคะนองเกิดขึ้นจากสาเหตุ หลายปจจัย สวนมากประกอบดวยมวลอากาศ (cells) หลายมวล คือ มีทั้งมวลอากาศที่ ลอยตัวขึ้น (updraft) และมวลอากาศที่จม ตัวลง (downdraft) มวลอากาศแตละมวลมี ลักษณะการเกิดแตละขั้นแตกตางกันดวย การ เกิดพายุฝนฟาคะนองปกติจะพบในเขตรอน สําหรับประเทศไทยมักจะเกิดขึ้นระหวางเดือน เมษายน-พฤษภาคม) กิจกรรม สรางเสริม นักเรียนสืบคนขอมูลและศึกษาเกี่ยวกับปจจัยที่ทําใหเกิด พายุฝนฟาคะนอง และการเกิดพายุฝนฟาคะนองในแตละขั้น จากนั้นสรุปองคความรูและนําเสนอหนาชั้นเรียน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T190
ขอสอบเนน การคิด โดยปกติทั่วโลกมีการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองทุกวัน แต่ค่าเฉลี่ยจ�านวนวันที่เกิดจะ แตกต่างกันไปในแต่ปี โดยจะเกิดขึ้นเกือบทุกวันในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร ที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ประมาณปีละ 140 - 200 วัน ซึ่งเป็นพื้นที่มีอากาศร้อนมากในช่วงเวลาบ่ายของฤดูร้อน ส่วนเขต ที่มีอากาศหนาวเย็น หรือไม่มีความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิอากาศ จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง น้อยมาก ส�าหรับประเทศไทย ในช่วงฤดูร้อนนับจากกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงช่วงต้น ฤดูฝน มักมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดพาความชื้นจากทะเล ในขณะที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือปกคลุมด้วยอากาศร้อน ความกด อากาศต�่า เกิดเป็นเมฆคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัส และเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง เกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ และอาจมีลูกเห็บตก Geo Tip ในรอบหนึ่งปีทั่วโลกจะมีพายุฝนฟ้าคะนองประมาณ 16 ล้านครั้ง โดยเฉพาะในเขตร้อนพบได้มากกว่า ในเขตละติจูดสูง ในเมืองร้อนที่มีอากาศชื้นจะมีจ�านวนวันที่มีพายุฝนฟ้าคะนองแบบอากาศร้อนเกิดขึ้น ได้มากถึง 80 - 160 วันต่อปี เมืองที่ประสบกับพายุฝนฟ้าคะนองมากที่สุด คือ เมืองบุยเต็นซอร์ค (Buitenzorg) ในจังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย สภาพอากาศจากพายุฝนฟ้าคะนอง หากมีความรุนแรงมากสามารถ สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้เป็นจ�านวนมาก 183 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 การตั้งคําถามเชิงภูมิศาสตร 1. ครูใหนักเรียนดูภาพ หรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของ กับพายุฝนฟาคะนองที่ทําใหเกิดลมกระโชก รุนแรง ฟาแลบ ฟารอง ฟาผา หรือมีลูกเห็บตก ประกอบการศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับพายุฝน ฟาคะนองและการระวังฟาผาจากการคํานวณ ระยะหาง จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 เพิ่มเติม 2. ครูตั้งคําถามถามนักเรียน เชน • หากเกิดพายุฝนฟาคะนองเราควรมีแนวทาง ในการปองกันผลกระทบตออาคารบานเรือน อยางไร (แนวตอบ เชน ตรวจตราและซอมแซม บานประตู หนาตางที่ชํารุด ใหอยูในสภาพ ที่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งถือเปนแนวทางในการ ปองกันผลกระทบจากวาตภัยที่เหมาะสม เพราะในขณะประสบภัยเราอาจไมสามารถ เตรียมการปองกันบานเรือนใหมั่นคง แข็งแรงไดทันเวลา) พายุฤดูรอนในประเทศไทยมีลักษณะการเกิดอยางไร (แนวตอบ พายุฤดูรอนในประเทศไทยมักเกิดในเดือนมีนาคมเมษายน ในชวงเวลาที่มีอากาศรอนอบอาวติดตอกันเปนเวลา นาน แลวมีกระแสอากาศเย็นจากประเทศจีนพัดลงมาปะทะ ทําใหเกิดฝนฟาคะนอง และอาจมีลูกเห็บตกได พายุฤดูรอนมัก เกิดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สวนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีการเกิดนอย ภาคใตอาจเกิดขึ้นไดเชนกัน แตไมบอยครั้ง) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของพายุฝนฟาคะนองวาสามารถแบงตาม ภาวะการเกิดไดหลายชนิด เชน พายุฝนฟาคะนองที่เกิดจากอากาศเปนตัวการ มักจะเกิดขึ้นตอนบาย เพราะเปนชวงที่อุณหภูมิใกลผิวดินรอนขึ้นสูงสุด พายุ ฝนฟาคะนองภูเขา เปนพายุที่ถูกอากาศพัดไปปะทะภูเขาที่ขวางกั้นทิศทางลม และพายุฝนฟาคะนองจากแนวปะทะ เกิดจากกลุมอากาศรอนถูกพัดพาไป ปกคลุมบริเวณอากาศเย็น นํา สอน สรุป ประเมิน T191