คน-สังคม-ดิจิทัล 200 แต่สุดท้ายก็ฝืนไม่ได้และต้องท�ำตามตัวเลือกนั ้น ค�ำถามคือใครเป็นผู้มีอ�ำนาจบงการ การตัดสินใจของสเตฟานตามที่เขาพูดถึง ในกรณีของผู้ชม การตัดสินใจของผู้ชมดู เหมือนว่าจะมีส่วนที่ท�ำให้สเตฟานกระท�ำอะไรบางอย่างได้จริงดังฉากที่กล่าวมาข้าง ต้น หากผู้ชมเลือกให้สเตฟานกัดเล็บ เขาก็จะกัดเล็บ หากเลือกให้ดึงติ่งหู เขาก็จะดึง ติ่งหู แต่ผู้ชมไม่สามารถควบคุมการตัดสินใจทุกอย่างของเขาได้ดังใจปรารถนา เห็น ได้จากการที่สเตฟานพยายามฝืนไม่ท�ำตามตัวเลือกที่ผู้ชมเลือก แน่นอนว่าผู้ชมไม่ได้ เลือกให้สเตฟานฝืนค�ำสั่ง แสดงว่าต้องมีกลไกอะไรบางอย่างที่คอยควบคุมสเตฟาน อีกต่อหนึ่ง นอกจากนี ้ยังมีเหตุการณ์มากมายในเรื่องที่เกิดขึ ้นโดยที่ผู้ชมไม่มีส่วนใน การตัดสินใจใดๆ ผู้ชมจึงไม่ใช่ผู้ควบคุมการตัดสินใจของสเตฟานตามที่เขาเอ่ยถึง หากพิจารณาให้ดีจะพบว่าการตัดสินใจของผู้ชมมีผลต่อเส้นทางของเรื่อง เล่าเท่านั ้น ไม่ใช่การเข้าไปในจิตใจของตัวละครและเลือกตัดสินใจแทนตัวละคร แต่ ส่วนประสานผู้ใช้กับกลไกอินเทอร์แอคทีฟท�ำให้ผู้ชมทึกทักไปเองว่าตนเองก�ำลัง ควบคุมตัวละครอยู่ แท้จริงแล้วอัลกอริทึมของตัวบทต่างหากที่เป็นตัวกลางระหว่าง ผู้ชมใน “โลกจริง” กับตัวละครใน “โลกจริงในตัวบทที่ถูกเล่า” อัลกอริทึมคือผู้สร้าง ทางเลือกขึ ้นมาให้ผู้ชมเลือกและน�ำผลจากการเลือกของผู้ชมไปด�ำเนินการต่อ ในบาง ครั ้งอัลกอริทึมก็สร้ างทางเลือกที่ไม่มีผลต่อเนื ้อเรื่องมาให้ผู้ชมเลือกดังในฉากที่ ดร.เฮนส์ถามสเตฟานว่า “เธอไม่อยากให้มันตื่นเต้นกว่านี ้หน่อยเหรอถ้าเธอก�ำลังดู รายการนี ้ในทีวี” (Wouldn’t you want a little more action if you were watching this now on telly?) (Netflix, 2018) ตัวเลือกที่ปรากฏขึ ้นมามีเพียง “ใช่” (YES) กับ “เออสิวะ” (FUCK YEAH) ซึ่งทั ้ง 2 ทางเลือกนี ้จะน�ำไปสู่ฉากต่อสู้ระหว่าง ดร.เฮนส์ กับสเตฟานที่เหมือนกันทุกประการ การตัดสินใจของผู้ชมในฉากนี ้จึงไม่มีผลใดๆ กับ เส้นเรื่อง อีกฉากหนึ่งที่น่าสนใจคือฉากที่สเตฟานหงุดหงิดกับปัญหาในการเขียน โปรแกรม ผู้ชมจะได้รับตัวเลือกว่า “ท�ำลายคอมพิวเตอร์” (DESTROY COMPUTER) กับ “เทชาใส่คอมพิวเตอร์” (THROW TEA OVER COMPUTER) ตัวเลือกนี ้เป็นตัว เลือกหลอกเพราะไม่ว่าจะเลือกอะไร สเตฟานก็จะขัดขืนและร้ องขอให้คนที่ก�ำลัง ควบคุมเขาอยู่แสดงสัญญาณบางอย่าง ในฉากนี ้ผู้ชมจะพบตัวเลือกระหว่าง สัญลักษณ์เน็ตฟลิกซ์กับสัญลักษณ์ทางแยก (หรืออาจเป็นค�ำว่า “แพคส์” (PACS) ขึ ้นกับการตัดสินใจจากฉากก่อนๆ) หากเราเลือกโลโก้เน็ตฟลิกซ์ตัวเลือกดังในภาพที่ 4 จะปรากฏขึ ้น
201 ภาพที่ 4 ตัวเลือกในฉากหลังจากผู้ชมเลือกสัญลักษณ์เน็ตฟลิกซ์ จากฉากในภาพที่ 4 ตัวเลือกที่ผู้ชมต้องเลือกคือ “บอกเขาเพิ่มอีก” (TELL HIM MORE) กับ “พยายามอธิบาย” (TRY TO EXPLAIN) หากพิจารณาให้ดีจะพบว่าตัว เลือกในฉากอื่นๆ มักอยู่ในรูปประโยคค�ำสั่งให้สเตฟานปฏิบัติเช่น “กัดเล็บ” (BITE NAILES) แต่ตัวเลือกในภาพที่ 4 เป็นประโยคค�ำสั่งที่เอ่ยถึงสเตฟานด้วยสรรพนาม “เขา” (HIM) จึงน�ำไปสู่ข้อสงสัยว่าประโยคเหล่านี ้ใครเป็นคนสั่งและสั่งให้ใครปฏิบัติ ไม่ว่าผู้ชมจะเลือกตัวเลือกใด สเตฟานก็จะเห็นข้อความปรากฏขึ ้นบนจอภาพดังใน ภาพที่ 4 สังเกตได้ว่าข้อความบนจอภาพจะใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 คือ “ฉัน” (I) เช่น “ฉันตัดสินใจให้คุณ” (I MAKE DECISIONS FOR YOU.) แต่ “ฉัน” ในที่นี ้ย่อมไม่ได้ หมายถึงตัวผู้ชมเพราะผู้ชมไม่ใช่คนพิมพ์ข้อความดังกล่าวด้วยตนเอง และผู้ชมก็ไม่ ได้ตัดสินใจแทนสเตฟานอย่างแท้จริงดังที่กล่าวมาแล้ว ดังนั ้น ค�ำว่า “ฉัน” ในที่นี ้ จึงเป็นการอ้างถึงอัลกอริทึมของตัวบทที่ควบคุมสเตฟานอยู่ และประโยคค�ำสั่งใน ฉากนี ้เป็นประโยคที่ผู้ชมสั่งให้อัลกอริทึมบอกหรืออธิบายสเตฟานเกี่ยวกับเน็ตฟลิกซ์ ดังนั ้น อัลกอริทึมจึงมีบทบาทส�ำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมทิศทางของเรื่องเล่าจนน�ำ ไปสู่ฉากจบทั ้ง 5 แบบได้
คน-สังคม-ดิจิทัล 202 เมื่อการตัดสินใจของผู้ชมไม่ได้เป็นอิสระอย่างที่คิด ขณะเดียวกันอัลกอริทึม ก็มีบทบาทมากเหนือความคาดหมาย ดังนั ้น จะเกิดอะไรขึ ้นถ้าผู้ชมปฏิเสธการเลือก ตัวเลือกทั ้งหมดภายในเรื่อง ผลคืออัลกอริทึมจะเลือกแทนผู้ชมทั ้งหมด โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชมจะมีเวลาตัดสินใจเพียง 10 วินาทีในแต่ละครั ้ง หากเลยเวลาดังกล่าวโดยที่ผู้ชม ไม่ได้เลือกตัวเลือกใด ระบบจะเลือกตัวเลือกทางฝั่งซ้ายให้โดยอัตโนมัติ นอกเสียจาก ว่าตัวเลือกฝั่งซ้ายจะน�ำไปสู่ลูปของ “ทางตัน” ซึ่งจะพาเรื่องย้อนกลับมายังฉากเดิม ในครั ้งที่ 2 ระบบจะเลือกตัวเลือกทางฝั่งขวาแทนเพื่อให้เรื่องด�ำเนินต่อไปได้ เว็บไซต์ กีคกี บรัมมี (Geeky Brummie) ได้เปิดเผยเส้นทางการด�ำเนินเรื่องหากผู้ชมปล่อยให้ ระบบตัดสินใจเลือกเองจนพบว่า วิธีการนี ้ผู้ชมจะได้พบกับฉากจบหลักเกือบทั ้งหมด (Massey, 2019) แน่นอนว่าวิธีการนี ้ไม่ได้ครอบคลุมทุกฉากที่เป็นไปได้ในเรื่อง เพราะ ฉากลับบางฉากต้องการการตัดสินใจเลือกจากผู้เล่นในเส้นทางที่เฉพาะเจาะจงมากๆ แต่วิธีดังกล่าวก็สามารถน�ำผู้ชมไปพบกับความเป็นไปได้ที่หลากหลายมากพอในการ ท�ำความเข้าใจประเด็นส�ำคัญของเรื่อง ดังนั ้นการ “เลือก” ที่จะ “ไม่เลือก” ของผู้ชม จึงเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นมีเจตจ�ำนงเสรีเหนืออัลกอริทึมอย่างแท้จริง บทสรุป ดังที่กล่าวมาแล้วว่า บทความวิจัยนี ้ต้องการสร้างบทสนทนาทางวิชาการต่อ ประเด็นการเล่าเรื่องอันซับซ้อนของสื่อดิจิทัลในฐานะตัวบทวรรณกรรมร่วมสมัย การ ศึกษา แบล็ก มิร์เรอร์: แบนเดอร์สแนตช์ จึงเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการวิเคราะห์ ตัวบทดิจิทัลที่แสดงให้เห็นว่าปฏิสัมพันธ์ของผู้ชมต่อตัวบทไม่ได้เป็นสิ่งที่ขัดขวาง กระบวนการเล่าเรื่องเสมอไป ตรงกันข้าม ปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมกลับกลายเป็นเครื่อง มือส�ำคัญของกระบวนการถ่ายทอดความหมายของเรื่องเล่า แบนเดอร์สแนตช์ ใช้ ประโยชน์จากลักษณะเฉพาะของสื่อดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟในการน�ำเสนอ ประเด็นเรื่องมายาภาพของเจตจ�ำนงเสรีและโลกคู่ขนานได้อย่างลึกซึ ้ง โดยท�ำให้เห็น วิธีการประกอบสร้างความหมายของตัวบทประเภท “เรื่องเล่าที่คุณเลือกได้” ที่เปรียบ เสมือนเขาวงกตของความเป็นไปได้ส�ำหรับให้ผู้ชมเข้ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์ใน การประกอบสร้างเรื่องเล่าอันหลากหลาย ก�ำกวม ซับซ้อน และย้อนแย้ง ควบคู่ไปกับ กลไกอัลกอริทึมของตัวบทที่อ�ำพรางตัวและสร้างมายาภาพของทางเลือกมาหลอกผู้ชม อยู่เสมอ ขณะเดียวกัน แบนเดอร์สแนตช์ ก็เปิดเผยให้เห็นลักษณะเชิงอภิบันเทิงคดี
203 หรือการสะท้อนและวิพากษ์ความเป็นตัวบทของตัวเองออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ไม่ ว่าจะเป็นการอ้างถึงแพลตฟอร์มเน็ตฟลิกซ์ การสอดแทรกฉากการถ่ายท�ำภาพยนตร์ หรือการสร้างตอนจบหลายแบบ ท�ำให้เกิดระยะห่างระหว่างผู้ชมกับตัวบท และท�ำให้ ผู้ชมตระหนักถึงลักษณะทางภววิทยาของโลกในเรื่องเล่าอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยตั ้งข้อสังเกตว่า ลักษณะอินเทอร์แอคทีฟของสื่อดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมเลือก เส้นทางการด�ำเนินเรื่องนั ้นสอดคล้องกับการน�ำเสนอข้อถกเถียงเรื่องมายาภาพของ เจตจ�ำนงเสรีอย่างพอดิบพอดี แต่การเล่าเรื่องเพื่อถ่ายทอดแนวคิดแบบอื่นจะเหมาะ สมกับลักษณะอินเทอร์แอคทีฟของสื่อประเภทนี ้หรือไม่ คงต้องรอให้มีผู้ศึกษาสื่อ ประเภทนี ้มากขึ ้นจึงจะตอบค�ำถามดังกล่าวได้ บรรณานุกรม ภาษาไทย อรรถพล ปะมะโข. 2562. “วิธีวิทยาการศึกษาวรรณกรรมดิจิทัล.” ใน สุรเดช โชติอุดมพันธ์ (บ.ก.), นววิถี: วิธีวิทยาร่วมสมัยในการศึกษาวรรณกรรม, หน้า 565-638. กรุงเทพฯ: ศยามปัญญา. ภาษาอังกฤษ Bell, A. 2010. The Possible Worlds of Hypertext Fiction. Basingstoke: Palgrave Macmillan. Cincerova, A. 2010. The World’s First Interactive Film: Kinoautomat. Retrieved from http://www.kinoautomat.cz/index.htm?lang=gbr (25 May 2019) IGN. 2019. Bandersnatch Endings. Retrieved from https://www.ign.com/wikis/ black-mirror/Bandersnatch_Endings (28 May 2019) Lunenfeld, P. 2002. “The Myths of Interactive Cinema.” in Harries, D. (ed.), The New Media Book, pp. 144-154. London: BFI Publishing. Massey, D. 2019. Bandersnatch – Don’t Choose Anything…. Retrieved from https://geekybrummie.com/blog/bandersnatch-dont-choose-any thing/ (28 May 2019) Montfort, N. 2005. Twisty Little Passages. Cambridge: The MIT Press. Mukherjee, S. 2015. Video Games and Storytelling: Reading Games and
คน-สังคม-ดิจิทัล 204 Playing Books. New York: Palgrave Macmillan. Netflix. 2018. Black Mirror: Bandersnatch. Retrieved from https://www.netflix. com/title/80988062 (25 May 2019) Shaul, B. N. 2012. Cinema of Choice: Optional Thinking and Narrative Movies. New York: Berghahn. Shaul, B. N. 2008. Hyper-Narrative Interactive Cinema: Problems and Solutions. Amsterdam: Rodopi. Slade, D. (Director). 2018. Black Mirror: Bandersnatch. Motion Picture. Sujon, Z. 2016. The World’s First Interactive Cinema: Kinoautomat 1967 Prague. Retrieved from https://sujonz.wordpress.com/2016/11/12/ the-worlds-first-interactive-cinema-kinoautomat-1967-prague/ (25 May 2019)
ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลที่ใช้ในการลงรายการงานศิลปะและ วัตถุทางวัฒนธรรม : กรณีศึกษามาตรฐานเมทาดาทา ชุด หมวดหมู่ ส�ำหรับการอธิบายงานศิลปะ1 Terminology/Format for Cataloging Works of Art and Cultural Objects: a case study of the Categories for the Description of Works of Art (CDWA) ดุษฎีพร ชาติบุตร
207 บทคัดย่อ การจัดการทรัพยากรมรดกวัฒนธรรมในรูปแบบดิจิทัล ต้องอาศัยมาตรฐาน เมทาดาทาเป็นเครื่องมือในการจัดการข้อมูลที่มีเป็นจ�ำนวนมาก หมวดหมู่ส�ำหรับการ อธิบายงานศิลปะ (Categories for the Description of Works of Art) หรือ CDWA เป็นมาตรฐานเมทาดาทาส�ำหรับงานพิพิธภัณฑ์ที่ใช้กันในระดับสากล พัฒนาโดย ตัวแทนจากบุคลากรผู้จัดหาและใช้ข้อมูลด้านศิลปะ ภายใต้การสนับสนุนจาก กองทุน เจ พอล เก็ตตี ้ CDWA เป็นแนวปฏิบัติส�ำหรับการลงรายการและอธิบายงานศิลปะและวัตถุ ทางวัฒนธรรม และยังสามารถน�ำไปใช้ออกแบบฐานข้อมูลได้เช่นกัน บทความนี ้ เป็นการเสนอแนวปฏิบัติของ CDWA ในการเลือกใช้ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูล (terminology/format) ส�ำหรับการลงรายการในแต่ละหัวข้อ ซึ่ง CDWA ได้เสนอแนะ รูปแบบที่เหมาะสมที่สุดไว้แล้ว ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลที่แนะน�ำให้ใช้ มีดังนี ้ 1) รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก (controlled list) 2) รายการหลักฐาน (authority) 3) ข้อมูลรูปแบบเฉพาะ (controlled format) และ 4) บรรยายโดยอิสระ (free text) ซึ่ง รูปแบบที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสิ่งที่ CDWA ได้ออกแบบมาเพื่อจัดสรรว่าข้อมูลใดที่ใช้ ในการแสดงผล หรือข้อมูลใดที่ใช้ในการค้นคืนข้อมูล และเพื่อจัดการกับปัญหาความ ไม่ชัดเจนหรือความคลุมเครือของข้อมูล ซึ่งพบได้เสมอส�ำหรับข้อมูลด้านศิลปะ ทั ้งนี ้ จะยกตัวอย่างปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะพบได้ในการลงรายการวัตถุทางวัฒนธรรม ซึ่ง การใช้ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลอย่างเหมาะสมจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ พร้อม ยกตัวอย่างการลงรายการวัตถุทางวัฒนธรรม จากโครงการจัดท�ำโครงสร้างและรูป แบบฐานข้อมูลดิจิทัลส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ที่อิงมาจาก CDWA ซึ่งผู้เขียนเป็นนักวิจัยโครงการ เพื่อให้เห็นวิธีการลงรายการได้ชัดเจนมากยิ่ง ขึ ้น บทความนี ้มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะน�ำแนวทางการจัดท�ำฐานข้อมูลวัตถุทาง
คน-สังคม-ดิจิทัล 208 วัฒนธรรมในประเทศไทย โดยใช้มาตรฐานเมทาดาทาระดับสากลและเป็นปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้การบันทึกและสืบค้นข้อมูลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ ้น อันจะเป็นประโยชน์ ในการจัดการข้อมูลวัตถุทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์ไทยในวงกว้างต่อไป ค�ำส�ำคัญ: พิพิธภัณฑ์, เมทาดาทา, CDWA Abstract The management of digital cultural heritage resources relies on metadata standards to tackle large amount of data. The Categories for the Description of Works of Art or CDWA is a metadata standard that is widely used internationally. It was developed by the representatives from the communities that provide and use art information, and funded by the J. Paul Getty Trust. CDWA is one of the guidelines for best practice in cataloging and describing works of art and cultural objects and may be used for designing databases. This article presents the recommendations by CDWA regarding the terminologies/formats for cataloging under various categories, among which the most appropriate is suggested by CDWA. These terminologies/ formats include 1) Controlled list 2) Authority 3) Controlled format 4) Free text. They are designed to deal with differences between information intended for display and information intended for retrieval, as well as to manage the uncertainty and ambiguity that are common in art information. This article will raise some problematic cases that might occur when cataloging cultural objects, which can be solved or improved by the appropriate use of terminologies/formats. In addition, the article will provide the cataloging of cultural object from Thammasat Museum of Anthropology Digital Database Project as a case example, as it was done using CDWA, and the author is the project researcher. The purpose of this article is to introduce the guidelines for designing cultural objects database in Thailand based on current international metadata standards. Hopefully, this will be helpful to the management of cultural objects in Thai museums in the future. Keywords: museum, metadata, CDWA
209 บทน�ำ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี ้เราอยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านข้อมูลที่เป็นเอกสาร สิ่งพิมพ์ ไปสู่ข้อมูลที่เกิดในรูปดิจิทัล (born digital) องค์กรหลากหลายสาขาต่างก็ เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อจัดการกับทรัพยากรใน องค์กร และจัดหาวิธีการเข้าถึงข้อมูลของทรัพยากรเหล่านั ้น ค�ำว่า เมทาดาทา (metadata) ถูกกล่าวถึงอยู่เสมอในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ ผ่านมา เนื่องจากเป็นเครื่องมือส�ำคัญในการจัดการข้อมูล นิยามของ เมทาดาทา กล่าวโดยสรุปได้ดังนี ้ “ข้อมูลที่ถูกจัดวางโครงสร้างอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้อธิบายวัตถุ ประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นการรวบรวมคุณลักษณะและกิจกรรมที่เกิดขึ ้นกับวัตถุที่ถูกบันทึก วัตถุในที่นี ้ หมายถึง สิ่งใดก็ตามที่มีข้อมูลแวดล้อมให้บันทึกได้ เมทาดาทาจึงสามารถ น�ำมาใช้กับวัตถุหลากหลายประเภท ตั ้งแต่ทรัพยากรสารสนเทศ เช่น บทความ หนังสือพิมพ์ หรือภาพถ่าย ไปจนถึงกิจกรรม เหตุการณ์ บุคคล สถานที่ ธุรกรรม แอปพลิเคชัน” (Greenberg, 2003: 1876-1877) สถาบันหรือประชาคมที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน จะสร้างมาตรฐานเมทาดาทา ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ ห้องสมุด หอจดหมายเหตุ พิพิธภัณฑ์ และหน่วยงานด้าน ประวัติศาสตร์ ถือเป็นสถาบันที่บริหารจัดการ “มรดกวัฒนธรรม” (cultural heritage) หรือบางครั ้งเรียกกันว่าเป็น “สถาบันแห่งความทรงจ�ำ” (memory institutions) (Foulonneau and Riley, 2008: 3) มาตรฐานเมทาดาทาส�ำหรับประชาคมนี ้ถึงแม้ว่าจะ สามารถเทียบเคียงหรือใช้ร่วมกันได้บ้าง แต่วัตถุที่เก็บรักษาก็มีลักษณะเฉพาะแตก ต่างกันไป พิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นสถาบันที่เก็บรักษางานศิลปะและวัตถุทางวัฒนธรรม มีมาตรฐานเมทาดาทาส�ำหรับงานพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะดังต่อไปนี ้
คน-สังคม-ดิจิทัล 210 หมายเหตุปรับปรุงจาก “Setting the Stage,” by Anne J. Gilliland, 2016, In Murtha Baca (Ed.), Introduction to Metadata (3rd ed.). Copyright 2008, 2016 by J. Paul Getty Trust. Retrieved from http://www.getty.edu/publications/intrometadata/setting-the-stage/ บทความนี ้จะกล่าวถึง ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลที่ใช้ในการลงรายการงาน ศิลปะและวัตถุทางวัฒนธรรม: กรณีศึกษามาตรฐานเมทาดาทา ชุด หมวดหมู่ส�ำหรับ การอธิบายงานศิลปะ (Categories for the Description of Works of Art) หรือ CDWA ซึ่งเป็นมาตรฐานโครงสร้างข้อมูลที่ใช้เป็นแนวทางในโครงการจัดท�ำโครงสร้าง และรูปแบบฐานข้อมูลดิจิทัลส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งผู้เขียนเป็นผู้ช่วยวิจัย โครงการ โดยได้ท�ำการวิจัยเชิงปฏิบัติการ คือ ศึกษา ออกแบบ ทดลอง และแก้ไข จน ได้เป็นโครงสร้างฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ฯ โดยอิงจาก CDWA และมีส่วนที่พิพิธภัณฑ์ฯ เพิ่มเติมขึ ้นมาด้วย พร้อมคู่มือการลงรายการโดยอิงจาก CCO และ CDWA ตารางที่ 1 มาตรฐานเมทาดาทาส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ รูปแบบมาตรฐานข้อมูล ตัวอย่างมาตรฐานเมทาดาทา ส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ มาตรฐานโครงสร้างข้อมูล: Data structure standards มาตรฐานค�ำศัพท์: Data value standards มาตรฐานการลงรายการ: Cataloging Cultural Objects (CCO) Data content standards มาตรฐานการเข้ารหัส: Data format/ CDWA-Lite XML Schema, technical interchange standards VRA Core 4.0 XML Getty Art & Architecture Thesaurus (AAT), Union List of Artist Names (ULAN), Thesaurus of Geographic Names (TGN) Categories for the Description of Works of Art (CDWA), VRA Core
211 CDWA คืออะไร หมวดหมู่ส�ำหรับการอธิบายงานศิลปะ (Categories for the Description of Works of Art) หรือ CDWA เป็นมาตรฐานโครงสร้างข้อมูลส�ำหรับงานพิพิธภัณฑ์ ประกอบไปด้วยชุดคู่มือเพื่อแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด ในการลงรายการและอธิบายงาน ศิลปะ สถาปัตยกรรม วัตถุทางวัฒนธรรม และทรัพยากรภาพที่เกี่ยวข้อง CDWA ไม่ใช่แม่แบบ แต่เป็นกรอบแนวคิดที่สามารถน�ำไปใช้ออกแบบโครงสร้างข้อมูลและ ฐานข้อมูลได้ CDWA มีหัวข้อหลักและหัวข้อย่อยรวมกันทั ้งหมดประมาณ 540 หัวข้อ โดยมีหัวข้อส�ำคัญชุดหนึ่งเรียกว่า core เป็นหัวข้อที่ต้องกรอกข้อมูลให้ได้อย่างน้อย เท่าที่จ�ำเป็น ห้ามเว้นว่างไว้ เพื่อระบุตัววัตถุแต่ละชิ ้นได้อย่างเฉพาะเจาะจง ทุกหัวข้อ ใน CDWA จะมีข้ออภิปราย แนวปฏิบัติเบื ้องต้น และตัวอย่างการลงรายการ CDWA พัฒนาขึ ้นโดยคณะกรรมการเฉพาะกิจด้านข้อมูลศิลปะ (Art Information Task Force) หรือ AITF ประกอบไปด้วยตัวแทนจากบุคลากรผู้จัดหาและใช้ ข้อมูลศิลปะ ได้แก่ นักประวัติศาสตร์ศิลปะ ภัณฑารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากร ภาพ ผู้ให้บริการข้อมูลสารสนเทศด้านศิลปะ นักสารสนเทศ รวมทั ้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ทางสาขาต่าง ๆ ภายใต้การสนับสนุนจาก กองทุน เจ พอล เก็ตตี ้ (J. Paul Getty Trust) โครงการนี ้เริ่มก่อตั ้งในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และมีการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ มาจนถึงปัจจุบัน CDWA ได้รับการเทียบโครงสร้างให้เข้ากันกับมาตรฐานเมทาดาทาอื่นๆ ไว้ แล้ว (mapping) เช่น VRA Core2 , Dublin Core, DACS เป็นต้น การใช้แนวปฏิบัติ ของ CDWA จะช่วยให้ข้อมูลมีความถูกต้อง คงเส้นคงวา และใช้งานได้ในระยะยาว นอกจากนี ้ ยังเอื ้อต่อการย้ายข้อมูลไปสู่ระบบใหม่ ในกรณีที่เทคโนโลยีสารสนเทศมี การพัฒนาขึ ้นในอนาคต (Baca & Harpring, 2019) แนวปฏิบัติของ CDWA ต้องใช้ควบคู่กันไปกับ คู่มือการลงรายการวัตถุทาง วัฒนธรรม (Cataloging Cultural Objects: A Guide to Describing Cultural Works and Their Images) หรือ CCO ซึ่งได้ก�ำหนดหลักเกณฑ์และยกตัวอย่างประกอบการ อธิบายมาจากหัวข้อส�ำคัญ (core) ของ CDWA และ VRA Core
คน-สังคม-ดิจิทัล 212 จากตารางที่ 1 มาตรฐานโครงสร้างข้อมูลส�ำหรับพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะที่ใช้ กันทั่วไปในระดับสากล ได้แก่ CDWA และ VRA Core เหตุผลที่พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เลือกใช้ CDWA เนื่องจาก 1) CDWA มีรายละเอียดที่อธิบายไว้อย่าง ชัดเจน ทั ้งนิยาม วิธีการลงรายการ และตัวอย่างการลงรายการ อีกทั ้งยังครอบคลุม การใช้งานมากกว่า VRA core 2) CDWA สามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับตัววัตถุและ ภาพถ่ายวัตถุได้ในรายการเดียวกัน ไม่ต้องลงรายการแยกกันอย่าง VRA Core2 3) หัวข้อของ CDWA สามารถเพิ่มช่องซ� ้ำได้ ถ้ามีข้อมูลมากกว่าหนึ่ง เช่น ชื่อวัตถุที่มีได้ หลายชื่อ จะสามารถบันทึกข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งอ้างอิงที่มีความแตกต่างกันได้ 4) CDWA ช่วยให้ข้อมูลมีความถูกต้อง คงเส้นคงวา ใช้งานได้ในระยะยาว และเอื ้อ ต่อการย้ายข้อมูลไปสู่ระบบใหม่ ส่วน VRA Core นั ้นอาจจะเหมาะสมที่สุดส�ำหรับ การจัดการและสร้ างวิธีการเข้าถึงข้อมูลงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เป็นภาพ ทดแทน (visual surrogates) เช่น ภาพถ่าย สไลด์ ภาพถ่ายดิจิทัล เป็นต้น (Gul, Tramboo, & Ahangar, 2015: 1845) ส่วน Dublin Core นั ้นเป็นมาตรฐานโครงสร้าง ข้อมูลแบบทั่วไป (Gilliland, 2016) ซึ่งไม่ครอบคลุมการใช้งานเท่ากับมาตรฐาน โครงสร้างข้อมูลส�ำหรับพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งต้อง พิจารณาเลือกมาตรฐานเมทาดาทาที่เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะขององค์กรมาก ที่สุด ไม่จ�ำกัดว่าต้องใช้ CDWA เท่านั ้น ส�ำหรับบทความนี ้เป็นเพียงการแนะน�ำ มาตรฐานโครงสร้างข้อมูลที่พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้พิจารณาแล้ว ว่าเหมาะสมกับทางพิพิธภัณฑ์ฯ อุปสรรคในการใช้ CDWA ในความเห็นของผู้เขียนคือ โครงสร้างมีความซับ ซ้อนและมีรายละเอียดมาก การจัดท�ำฐานข้อมูลจึงต้องใช้เวลาเพื่อศึกษาและ ท�ำความเข้าใจพอสมควร นอกจากนี ้การท�ำฐานข้อมูลตามโครงสร้าง CDWA ให้มี ความสมบูรณ์ได้ ควรต้องมีศัพท์ควบคุมมาตรฐานบรรจุไว้ในฐานข้อมูลด้วย ซึ่งเป็น ภาระงานที่หนักกว่าการจัดท�ำโครงสร้างฐานข้อมูลเสียอีก อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถ ท�ำตามกรอบแนวคิดที่ CDWA ได้ให้แนวทางไว้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการมรดก วัฒนธรรมในระยะยาวต่อไป
213 แนวปฏิบัติของ CDWA ในการใช้ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลส�ำหรับการลง รายการ บทความนี ้จะกล่าวถึง ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูล (terminology/format) ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดค�ำอธิบายที่ก�ำกับไว้ในทุกหัวข้อ (template of categories) ของ CDWA โดยมีการขยายความค�ำว่า terminology/format ไว้ดังนี ้ “แนวทางการใช้ศัพท์ ควบคุม (controlled vocabularies) และข้อเสนอแนะในการก�ำหนดรูปแบบข้อมูล” (Baca & Harpring, 2014) การที่ผู้เขียนต้องการน�ำเสนอเรื่องระบบค�ำศัพท์/รูปแบบ ข้อมูลนี ้ เนื่องจากแนวปฏิบัติดังกล่าวมีความส�ำคัญในด้านเทคนิคหรือเรียกได้ว่าเป็น วิธีที่ใช้ลงรายการ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการออกแบบระบบฐานข้อมูลเพื่อก�ำหนด ว่าข้อมูลใดใช้ในการแสดงผล หรือข้อมูลใดใช้ในการค้นคืนข้อมูล นอกจากนี ้ ยังช่วย ให้การบันทึกข้อมูลมีความถูกต้องและเชื่อถือได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลที่ CDWA แนะน�ำให้ใช้ มีดังนี ้3 1) รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก (controlled list) 2) รายการหลักฐาน (authority) 3) ข้อมูลรูปแบบเฉพาะ (controlled format) 4) บรรยายโดยอิสระ (free text) ตารางที่ 2 ตัวอย่างการลงรายการวัตถุ (cataloging) “Wooden Tray” โดยใช้โครงสร้างและแนวปฏิบัติของ CDWA Wooden Tray Object/Work* Classification* Titles or Names* Catalog Level: * item Type: * tray Terms: * lacquerware decorative arts Asian art Text: * Wooden Tray Preference: preferred Controlled list Authority Controlled list Free text Controlled list
คน-สังคม-ดิจิทัล 214 Creation* Subject Matter* Style/Period Materials and Techniques* Measurements* Creator Description: * unknown Burmese Creation Place/Original Location: Myanmar Value: 3.7 Unit: cm Type: height Value: 48.0 Unit: cm Type: width Value: 32.0 Unit: cm Type: depth Indexing Terms: object (utilitarian) Identity: * unknown Burmese Role: * Artist Indexing Terms: Burmese Description: * made of wood and lacq u e r e d i n t h e y u n t e c h n i q u e (A Burmese lacquer technique, involving engraving and then coloring) Creation Date: * 19th-20th century Earliest: * 1858 Latest: * 1957 Dimensions Description: * 3.7 x 48.0 x 32.0 cm Material Name: wood lacquer cinnabar Technique Names: engraving coloring lacquering Free text Authority Controlled format and Controlled lists Authority Authority Authority Authority Free text Free text Controlled format Free text Authority
215 Descriptive Note Current Location* Rectangular tray, made of wood and lacquered in the yun technique using yellow, orange and green on a black ground. The main surface on the front is decorated with the picture of a Burmese play, decorated with floral patterns. Inscriptions are seen at top. Citations: พิเชฐ สายพันธ์ (บรรณาธิการ). 2556. วัฒนธรรมรัก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. ป ทุ ม ธ า นี : พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์ เฉลิมพระเกียรติ คณะสังคมวิทยาและ มานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ . Page: 116 Repository Name/Geographic Location: * Thammasat Museum of Anthropology (Thammasat University Rangsit Campus, Pathum Thani, Thailand) Repository Numbers: * มธ. 1131/2535 Free text Authority Free text Authority Free text
คน-สังคม-ดิจิทัล 216 หมายเหตุ: * หมายถึง หัวข้อส�ำคัญ เป็นหัวข้อที่ต้องกรอกข้อมูลให้ได้อย่างน้อยเท่า ที่จ�ำเป็น ห้ามเว้นว่างไว้ 1. รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก (controlled list) รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก คือ รายการค�ำศัพท์แบบไม่ซับซ้อน เพื่อควบคุม ศัพท์เฉพาะให้ถูกต้อง การสร้างรายการค�ำศัพท์ที่ดี ต้องเป็นไปตามลักษณะดังต่อไป นี ้: ศัพท์แต่ละค�ำต้องมีความหมายเฉพาะตัว; ศัพท์ทั ้งหมดที่อยู่ในรายการต้องเป็น หมวดหมู่เดียวกัน; ศัพท์ทั ้งหมดต้องมีความหมายไม่ซ� ้ำกัน; ศัพท์ทั ้งหมดต้องมีความ ส�ำคัญหรือเงื่อนไขการใช้ในระดับเดียวกัน และการเรียงค�ำในรายการควรเรียงตาม ตัวอักษรหรือเรียงตามตรรกะที่สมเหตุสมผล (Getty Vocabulary Program, 2004) รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือกเป็นประเภทหนึ่งของศัพท์ควบคุม (controlled vocabularies) มักใช้ในกรณีที่สามารถจ�ำกัดขอบเขตของค�ำศัพท์ได้ เหมาะกับหัวข้อ ที่สามารถสร้ างรายการค�ำศัพท์ได้สั ้น และความหมายของแต่ละค�ำมีความชัดเจน ไม่ซ� ้ำกับค�ำอื่น ๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดความก�ำกวมได้ อย่างไรก็ตาม ทุกค�ำศัพท์ที่ใช้ใน การลงรายการควรมีนิยามก�ำกับไว้ด้วยเสมอ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนให้แก่ผู้ ลงรายการ และควรน�ำศัพท์มาจากศัพท์ควบคุมมาตรฐานที่เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ประโยชน์ของรายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก คือ สะดวกต่อผู้ลงรายการ เพราะมีเพียง รายการสั ้นๆ ให้เลือก ท�ำให้ลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ ้นได้ ในแง่ของผู้ใช้ขั ้นปลาย (end-user) รายการที่สั ้นจะง่ายต่อการค้นหาข้อมูลกว่ารายการที่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ผู้ใช้ที่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ (Harpring, 2010: 19-20) จากตารางที่ 2 หมวดหมู่วัตถุ (Classification) เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ใช้ระบบ ค�ำศัพท์ รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก (controlled list) ตัวอย่างด้านล่างนี ้เป็นส่วน หนึ่งของรายการในหัวข้อ หมวดหมู่วัตถุ จากโครงการจัดท�ำโครงสร้างและรูปแบบ ฐานข้อมูลดิจิทัลส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ประติมากรรม (sculpture) เครื่องมือเครื่องใช้ (tools and implements) ภาพถ่าย (photographs) เครื่องจักสาน (wickerwork)
217 มัณฑนศิลป์ (decorative arts) เครื่องรัก (lacquerware) เครื่องปั ้นดินเผา (ceramics) เครื่องรางของขลัง (amulets and talismans) เครื่องแต่งกาย (costume) เหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึก และ ธนบัตร (numismatics) นอกจากหมวดหมู่วัตถุที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ก็ยังมีหมวดหมู่วัตถุอื่นอีก จ�ำนวนหนึ่ง ซึ่งพิจารณาจากวัตถุที่พิพิธภัณฑ์ฯ ได้เก็บรักษาไว้ ทั ้งนี ้การก�ำหนดหมวด หมู่วัตถุได้ใช้แนวทางจากตัวอย่างของ CDWA และมีนิยามก�ำกับไว้ทุกค�ำ โดยอ้างอิง จากศัพท์ควบคุมมาตรฐานที่เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ทั ้งนี ้ พิพิธภัณฑ์ฯ ได้แปลนิยาม ค�ำศัพท์จากพจนานุกรมศัพท์ศิลปะและสถาปัตยกรรม (Art & Architecture Thesaurus) หรือ AAT 2. รายการหลักฐาน (authority)4 รายการหลักฐาน (ค�ำเรียกแบบสั ้นของค�ำว่า แฟ้มรายการหลักฐาน) คือ แฟ้มข้อมูล (โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์) ที่น�ำมาใช้เป็นแหล่ง อ้างอิงรูปแบบมาตรฐานของ ชื่อบุคคล ศัพท์เฉพาะ ชื่อเรียก เป็นต้น รายการหลักฐาน ควรระบุที่มาของ ค�ำที่แนะน�ำให้ใช้ (preferred form) และค�ำทางเลือกอื่น (variant forms) ไว้ด้วย จุดประสงค์หลักของรายการหลักฐาน คือ เพื่อบังคับใช้ ส่วนมากจะ ก�ำหนดให้ใช้เฉพาะค�ำที่แนะน�ำให้ใช้ ทั ้งนี ้ศัพท์ทุกประเภทสามารถใช้เป็นรายการ หลักฐานได้ (Harpring, 2010: 211-212) รายการหลักฐานเป็นประเภทหนึ่งของศัพท์ควบคุมเช่นเดียวกับรายการที่ ก�ำหนดไว้ให้เลือก ใช้ในกรณีที่ข้อมูลมีได้หลากหลายมาก ไม่สามารถก�ำหนดลงใน รายการได้ทั ้งหมด เช่น ประเภทวัตถุ แบบศิลปะ วัสดุ เป็นต้น แต่ควรอ้างอิงจาก รายการหลักฐานที่องค์กรได้จัดท�ำไว้ หรืออ้างอิงจากศัพท์ควบคุมมาตรฐานที่เชื่อถือได้ ในการจัดท�ำรายการหลักฐานขององค์กร (local authorities) ควรรวบรวม ศัพท์ควบคุมจากแหล่งอ้างอิงมาตรฐานหลาย ๆ แหล่ง (Harpring, 2010: 90) ตาม
คน-สังคม-ดิจิทัล 218 ที่พิจารณาว่าเหมาะสมกับการใช้งาน รายการหลักฐานประเภทต่างๆ ที่ CDWA ได้ แนะน�ำให้จัดท�ำ มีดังต่อไปนี ้ รายการหลักฐานส�ำหรับบุคคลและองค์กร (person/ corporate body authority), รายการหลักฐานส�ำหรับสถานที่ (place/location authority), รายการหลักฐานส�ำหรับค�ำศัพท์ทั่วไป (generic concept authority) เช่น ประเภทวัตถุ วัสดุ แบบศิลปะ/ยุคสมัย หน้าที่ของผู้สร้าง กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั ้ง คุณลักษณะอื่น ๆ และ รายการหลักฐานส�ำหรับหัวเรื่อง (subject authority) (Baca & Harpring, 2014) ประโยชน์ของรายการหลักฐาน คือ ระบบฐานข้อมูลจะท�ำการเชื่อมโยงไปยัง รายการหลักฐานโดยอัตโนมัติ สามารถดึงข้อมูลจากรายการหลักฐานไปลงรายการ วัตถุได้ทุกชิ ้นที่ต้องการ โดยไม่ต้องพิมพ์ซ� ้ำทุกครั ้ง การแก้ไขข้อมูลก็แก้ที่รายการหลัก ฐานที่เดียว แต่อัปเดตไปยังวัตถุทุกชิ ้นได้ นอกจากนี ้รายการหลักฐานยังช่วยเชื่อมโยง ค�ำพ้อง (synonyms) เข้าด้วยกันทั ้งหมด เช่น ในรายการหลักฐานส�ำหรับหัวเรื่อง ค�ำว่า Three Kings, Three Wise Men และ Three Magi จะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ผู้ใช้ขั ้นปลายสามารถใช้ค�ำใดก็ได้ในการสืบค้นหัวเรื่องเดียวกันนั ้น (Baca, Harpring, Lanzi, Whiteside, & McRae, 2006: 209) ในกรณีที่องค์กรใดยังไม่มีระบบรายการ หลักฐาน อาจลงรายการโดยพิมพ์ข้อมูลเอง เช่น การลงรายการในหัวข้อ สถานที่ตั ้ง วัตถุในปัจจุบัน (Current location) ถ้าองค์กรยังไม่มีรายการหลักฐานส�ำหรับสถาน ที่ ผู้ลงรายการสามารถพิมพ์เองได้ โดยปฏิบัติตามรูปแบบการใช้ค�ำตามหลักเกณฑ์ ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงรายการ (Baca et al., 2006: 192) จากตารางที่ 2 จะเห็นได้ว่า รายการหลักฐานส�ำหรับค�ำศัพท์ทั่วไป (generic concept authority) จะถูกน�ำมาใช้ในการลงรายการมากที่สุด ได้แก่ ประเภทวัตถุ (Object/Work Type), หน้าที่ของผู้สร้าง (Creation Role), แบบศิลปะ/ยุคสมัย (Style/ Period) และชื่อวัสดุ (Material Names) ผู้เขียนจึงสร้างตัวอย่าง รายการหลักฐาน ส�ำหรับค�ำศัพท์ทั่วไป โดยใช้แนวทางของ CDWA (ปรับเป็นภาษาไทย) ได้ดังนี ้ ค�ำศัพท์: เกียรติมุข ล�ำดับการเลือกใช้: แนะน�ำ (preferred) ที่มา: ศิลปากร, กรม. (2550). ศัพทานุกรมโบราณคดี. กรุงเทพฯ :
219 ส�ำนักโบราณคดี กรมศิลปากร. ค�ำศัพท์: หน้ากาล ล�ำดับการเลือกใช้: ทางเลือก (variant) ที่มา: ศิลปากร, กรม. (2550). ศัพทานุกรมโบราณคดี. กรุงเทพฯ : ส�ำนักโบราณคดี กรมศิลปากร. ค�ำที่กว้างกว่า: รูปประกอบสถาปัตยกรรมทางศาสนาฮินดู วัตถุ ......องค์ประกอบสถาปัตยกรรม ……….รูปประกอบสถาปัตยกรรมทางศาสนา …………….รูปประกอบสถาปัตยกรรมทางศาสนาฮินดู ………………….เกียรติมุข ค�ำจ�ำกัดความ: หน้าอมนุษย์ประดับอยู่เหนือซุ้มคูหาหรือช่องทางเข้า เช่น หน้าบัน ทับหลัง ฯลฯ ลักษณะของใบหน้าเป็นสัตว์ผสมคล้ายสิงห์ ไม่มีริมฝีปากล่าง ไม่มีล�ำตัว ปรากฏตามเทวสถาน และพุทธสถาน เป็นสัญลักษณ์ของการขจัดสิ่งชั่ว ร้าย เช่น ทับหลังศิลปะเขมรในประเทศไทย และยอดซุ้มในศิลปะสุโขทัย เป็นต้น ตาม คัมภีร์ ปัทมะปุราณะกล่าวว่า เกียรติมุขมีก�ำเนิดมาจากพระเนตรที่สามของพระศิวะ ในภาวะที่ก�ำลังโกรธกริ ้ว ต่อมาพระศิวะทรงรับเป็นพระโอรส และให้เฝ้าอยู่หน้าวิมาน ของพระองค์ เพื่อคอยกลืนกินสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้าไปภายในอาคาร ที่มา: ศิลปากร, กรม. 2550. ศัพทานุกรมโบราณคดี. กรุงเทพฯ : ส�ำนัก โบราณคดี กรมศิลปากร. หน้า: 47 จากตัวอย่างข้างต้น ลักษณะพิเศษของรายการหลักฐาน คือ มีการติดป้าย ก�ำกับค�ำที่แนะน�ำให้ใช้ รวมทั ้งค�ำทางเลือกอื่น เพื่อเป็นแนวทางในการลงรายการและ สามารถเชื่อมโยงค�ำพ้องได้ นอกจากนี ้ ยังมีการจัดล�ำดับชั ้นค�ำศัพท์ เพื่อแสดงค�ำที่ กว้างกว่า (broader context) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสืบค้นค�ำศัพท์ในหมวดหมู่
คน-สังคม-ดิจิทัล 220 เดียวกัน อย่างไรก็ตาม การจัดท�ำรายการหลักฐานให้ครบถ้วนและสมบูรณ์ตามที่ CDWA ได้ให้กรอบแนวคิดไว้ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร องค์กรอาจจัดท�ำใน รูปแบบที่ซับซ้อนน้อยลงกว่านี ้ได้ ในค�ำแนะน�ำการใช้ งานของ CDWA มีบางหัวข้อ เช่น หมวดหมู่วัตถุ (Classification) สามารถเลือกใช้รายการหลักฐาน หรือ รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือกก็ได้ (Baca & Harpring, 2008) เนื่องจากองค์กรแต่ละแห่งนั ้นมีความหลากหลายของ วัตถุที่เก็บรักษาไว้ แตกต่างกันไป บางพิพิธภัณฑ์มีวัตถุหลากหลายมาก เช่น พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่เก็บรักษาวัตถุหลากหลายประเภทจากทั่วโลก อาจเลือกใช้ รายการหลักฐาน เนื่องจากขอบเขตของหมวดหมู่วัตถุนั ้นกว้างมาก ส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เลือกใช้รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก เนื่องจากพอจะ จ�ำกัดขอบเขตหมวดหมู่วัตถุได้ และเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ทั ้งผู้ลงรายการและผู้ใช้ บริการทั่วไป ผู้เขียนเห็นว่าหลักการนี ้ใช้กับหัวข้ออื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น หัวข้อ ชื่อวัสดุ (Material Names) ถ้าของในพิพิธภัณฑ์ท�ำจากวัสดุเพียงไม่กี่ประเภท ก็สามารถสร้าง รายการสั ้น ๆ ให้เลือกได้ 3. ข้อมูลรูปแบบเฉพาะ (Controlled format) คือ ข้อมูลที่เป็นรูปแบบเฉพาะ ได้แก่ ตัวเลขหรือรหัส ซึ่งจ�ำเป็นต้องก�ำหนด รูปแบบการบันทึกตัวเลขหรือรหัสนั ้นๆ อย่างเคร่งครัด เช่น อายุในการสร้าง, วัน เดือน ปี, ชั่วโมง นาที วินาที, ขนาด เป็นต้น ข้อมูลรูปแบบเฉพาะเหมาะส�ำหรับการบันทึกขนาด พิกัดภูมิศาสตร์ และ ข้อมูลอื่นๆ ในหัวข้อที่ต้องพิมพ์ตัวเลขหรือรหัสลงไป หัวข้อที่ใช้รูปแบบนี ้ในการลง รายการ อาจมีการตั ้งค่าเพื่อควบคุมจ�ำนวนหลักตัวเลขในการลงรายการ การเขียน เลขทศนิยม หรือการเขียนจ�ำนวนเต็มลบ เป็นต้น ตามหลักทฤษฎีแล้ว ควรปฏิบัติตาม เกณฑ์ ISO, NISO หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่เหมาะสม (Harpring, 2010: 14) หัวข้อที่ ใช้ข้อมูลรูปแบบเฉพาะ บางหัวข้อจะลงรายการเป็นชุดพร้ อมกับศัพท์ควบคุม บางหัวข้อจะลงรายการด้วยข้อมูลรูปแบบเฉพาะอย่างเดียว โดยไม่ต้องก�ำกับด้วย ศัพท์ควบคุม จากตารางที่ 2 มีตัวอย่างดังนี ้
221 ตัวอย่างที่ 1 : ข้อมูลรูปแบบเฉพาะที่ต้องลงรายการเป็นชุดพร้อมกับศัพท์ ควบคุม [for Wooden Tray] Dimensions Description: 3.7 x 48.0 x 32.0 cm Free text Value: 3.7 Unit: cm Type: height Controlled format and Value: 48.0 Unit: cm Type: width Controlled list Value: 32.0 Unit: cm Type: depth จากตัวอย่างที่ 1 เป็นการลงรายการในหัวข้อหลัก ขนาด (Measurements) โดยมีหัวข้อย่อย คือ ค�ำอธิบายขนาด (Dimensions Description) ซึ่งบรรยายโดย อิสระ ส่วนหัวข้อย่อยที่ใช้ข้อมูลรูปแบบเฉพาะ คือ ค่า (Value) โดยต้องลงรายการ เป็นชุดพร้อมกับศัพท์ควบคุมอีก 2 หัวข้อย่อย ได้แก่ หน่วย (Unit) และประเภท (Type) จึงจะได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ คือ ถาดไม้มีขนาด สูง 3.7 ซม., กว้าง 48.0 ซม., ลึก 32.0 ซม. ถ้าลงรายการเพียงตัวเลขที่วัดค่าได้ เช่น 3.7, 48.0, 32.0 โดยไม่ระบุหน่วยและ ประเภทก�ำกับไว้ ข้อมูลจะใช้ประโยชน์ไม่ได้ เนื่องจากไม่ทราบหน่วยที่ใช้วัดหรือจุด ที่ท�ำการวัด ส่วนหลักเกณฑ์ในการเขียนเลขทศนิยม CDWA ได้ก�ำหนดให้ระบุขนาด เป็นเลขทศนิยม 1 หรือ 2 ต�ำแหน่ง และปัดขึ ้น (Baca & Harpring, 2012) ตัวอย่างที่ 2 : ข้อมูลรูปแบบเฉพาะอย่างเดียว ไม่ต้องก�ำกับด้วยศัพท์ควบคุม [for Wooden Tray] Creation Date: 19th-20th century Free text Earliest: 1858 Latest: 1957 Controlled format จากตัวอย่างที่ 2 เป็นการลงรายการในหัวข้อหลัก ข้อมูลเกี่ยวกับการสร้าง วัตถุ (Creation) โดยมีหัวข้อย่อย คือ ช่วงเวลาที่สร้าง (Creation Date) ซึ่งบรรยาย โดยอิสระ ส่วนหัวข้อย่อยที่ต้องใช้ข้อมูลรูปแบบเฉพาะ คือ อายุสันนิษฐานที่เก่าที่สุด (Earliest) และ อายุสันนิษฐานที่ใหม่ที่สุด (Latest) สองหัวข้อย่อยนี ้ใช้ในการค้นคืน ข้อมูลเท่านั ้น จะไม่ถูกน�ำขึ ้นให้บุคคลทั่วไปได้เห็น ผู้ลงรายการต้องสันนิษฐานช่วง อายุการสร้างให้ครอบคลุมความเป็นไปได้มากที่สุด ในกรณีนี ้คือ พุทธศตวรรษที่ 25 เมื่อเปลี่ยนเป็นคริสต์ศตวรรษจะอยู่ในช่วง 19th-20th century การสันนิษฐานจึงอยู่
คน-สังคม-ดิจิทัล 222 ในช่วง -/+ 100 ปี ของพุทธศตวรรษที่ 25 เมื่อเปลี่ยนเป็นคริสตศักราชจะอยู่ในช่วงปี 1858 ถึงปี 1957 หัวข้ออายุสันนิษฐานที่เก่าที่สุดและอายุสันนิษฐานที่ใหม่ที่สุด ไม่ต้องมีศัพท์ ควบคุมก�ำกับ ระบุเป็นตัวเลขเท่านั ้น CDWA แนะน�ำให้ใช้มาตรฐาน ISO 8601:2004 โดยมีหลักเกณฑ์การลงรายการดังนี ้ ระบุตัวเลขเพียงอย่างเดียว ไม่มีตัวอักษรและ เครื่องหมายวรรคตอนใดๆ ยกเว้นเครื่องหมายยติภังค์ (-) ซึ่งเป็นรูปของจ�ำนวนเต็ม ลบ ใช้ระบุเวลาในช่วงก่อนสากลศักราช (BCE: Before Common Era) ดังนั ้นการลง รายการในสองหัวข้อย่อยนี ้ จะมีสองแบบ คือ 1) ระบุเวลาเป็นจ�ำนวนเต็ม 4 หลัก ตาม ปีศักราชในระบบปฏิทินสากล (proleptic Gregorian calendar) เช่น 1205 และ 2) ระบุเวลาเป็นจ�ำนวนเต็มลบ บอกถึงจ�ำนวนปีก่อนสากลศักราช ซึ่งอาจจะมีมากกว่า 4 หลักได้ เช่น -10000 (Baca & Harpring, 2015) หลักเกณฑ์ในการลงรายการข้อมูลรูปแบบเฉพาะยังมีอีกมาก มีระบุไว้ใน เว็บไซต์ CDWA และคู่มือการลงรายการวัตถุทางวัฒนธรรม (CCO) เช่น ศิลปะแสดง สดหรือศิลปะจัดวางอาจต้องระบุเวลาที่สร้างเป็นวันและเวลาที่ศิลปินแสดงงาน ตาม รูปแบบนี ้ : YYYY-MM-DD (year, month, day, separated by dashes) และ hh:mm:ss (hours, minutes, seconds, separated by colons) (Baca et al., 2006: 169) ตัวอย่างที่ 3 : การลงรายการข้อมูลรูปแบบเฉพาะ ที่เป็นวันและเวลา [for performance art, includes time] Creation Date: 5 November 1983, midnight-2:30 pm Earliest: 1983-11-05 00:00:00 Latest: 1983-11-05 14:30:00 4. บรรยายโดยอิสระ (Free text) คือ การเขียนข้อมูลด้วยภาษาธรรมชาติที่ไม่มีการควบคุมรูปแบบการเขียน โดยปกติแล้วผู้ลงรายการสามารถใช้หลักไวยากรณ์และเครื่องหมายวรรคตอนได้ตาม ที่ต้องการ (Baca et al., 2006: 377)
223 หัวข้อที่บรรยายโดยอิสระ (free-text field)5 มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แสดงผล ต่อผู้ใช้ขั ้นปลาย ดังนั ้น จึงต้องเขียนด้วยภาษาที่เข้าใจได้ง่าย แต่ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ รูปแบบการเขียนและโครงสร้างประโยคที่คงเส้นคงวา ดังตัวอย่างต่อไปนี ้ -ระบุขนาดทั ้งระบบ metric และ US Customary ถ้าท�ำได้ โดยเรียงล�ำดับ ดังนี ้ height by width by depth (ต.ย., 198 x 233 x 82 cm (78 x 91 3/4 x 32 1/4 inches)) (Baca & Harpring, 2012) -แนวทางการเรียงล�ำดับค�ำบรรยายวัตถุมีดังต่อไปนี ้: วัตถุนั ้นคืออะไร (ระบุ ประเภทวัตถุ, หัวเรื่อง, แบบศิลปะ), ใครที่เกี่ยวข้องในการสร้างวัตถุนั ้นบ้าง, วัตถุนั ้น ถูกสร้างขึ ้นที่ไหน, วัตถุนั ้นถูกสร้างขึ ้นเมื่อใด ข้ามเรื่องใดก็ได้ที่คิดว่าไม่ส�ำคัญหรือ ถูกอธิบายไว้แล้วอย่างครบถ้วนในหัวข้ออื่น ๆ (Baca & Harpring, 2010) หัวข้อที่บรรยายโดยอิสระและหัวข้อที่ใช้ศัพท์ควบคุมหรือรูปแบบเฉพาะใน การลงรายการ ถูกออกแบบมาเพื่อจัดสรรว่าข้อมูลใดที่ใช้ในการแสดงผลหรือข้อมูล ใดที่ใช้ในการค้นคืนข้อมูล ดังจะกล่าวโดยละเอียดต่อไป ข้อมูลที่ใช้แสดงผลและข้อมูลที่ใช้เป็ นดัชนี (Display information vs Indexing information) หัวข้อที่ใช้แสดงผล (display field) ในบริบทของ CDWA และ CCO คือ หัวข้อ ที่มีจุดประสงค์ให้ผู้ใช้ขั ้นปลายได้เห็น โดยทั่วไปแล้วจะใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งง่ายต่อการอ่านและท�ำความเข้าใจ และสามารถอธิบายถึงความแตกต่างที่ใกล้ เคียงกันมากของข้อมูลที่อาจท�ำให้เกิดความเข้าใจผิด รวมทั ้งข้อมูลที่คลุมเครือได้ใน บางกรณีข้อมูลที่ใช้แสดงผลอาจน�ำมาจากหัวข้อควบคุม (controlled fields) แต่ใน กรณีทั่วๆ ไป ข้อมูลที่ใช้แสดงผลควรลงรายการด้วยวิธีบรรยายอิสระจะดีที่สุด (Harpring, 2010: 218)
คน-สังคม-ดิจิทัล 224 การท�ำดัชนี (indexing) ในบริบทของ CDWA และ CCO คือ กระบวนการ วิเคราะห์ข้อมูลและก�ำหนดค�ำศัพท์เพื่อใช้เป็นค�ำดัชนี โดยค�ำศัพท์ที่ก�ำหนดนั ้นต้อง เป็นศัพท์ควบคุม ซึ่งช่วยในการสืบค้นและเข้าถึงข้อมูลวัตถุทางวัฒนธรรม การท�ำ ดัชนีในบริบทนี ้หมายถึงการก�ำหนดค�ำด้วยแรงงานบุคคล ดังที่เรียกได้อีกแบบว่า การ ท�ำดัชนีด้วยบุคคล (human indexing/manual indexing) ไม่ใช่การท�ำดัชนีที่ตัด ข้อความออกเป็นค�ำๆ แล้วจัดเรียงอัตโนมัติด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (automatic indexing) (Harpring, 2010: 222) เหตุที่ข้อมูลที่ใช้แสดงผลและข้อมูลที่ใช้เป็นดัชนีถูกพิจารณาแยกออกจาก กัน เนื่องจากข้อมูลด้านศิลปะและมรดกวัฒนธรรมมีลักษณะพิเศษที่ต้องใช้ทั ้งการ แสดงผลและค้นคืนข้อมูล (retrieval) ข้อมูลที่ใช้แสดงผลต้องอยู่ในรูปแบบที่สามารถ อธิบายความแตกต่างที่ใกล้เคียงกันมาก ความคลุมเครือ และความไม่ชัดเจนของ ข้อมูลได้ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัตถุทางวัฒนธรรมรวมทั ้งข้อมูลผู้สร้ างอาจไม่ปรากฏ หรือไม่ได้บอกมาตรงๆ เสมอไป อาจท�ำให้เกิดการเข้าใจผิดและท�ำให้นักวิชาการมี ข้อคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน เป็นผลให้ไม่สามารถระบุข้อมูลที่ชัดเจนได้ ในขณะเดียวกันการ ค้นคืนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพจ�ำเป็นต้องใช้การท�ำดัชนี โดยปฏิบัติตามระเบียบวิธีการ ลงรายการและเลือกค�ำจากศัพท์ควบคุม หัวข้อที่ใช้ในการค้นคืนข้อมูลให้เกิดผลส�ำเร็จ นั ้น เรียกว่าหัวข้อควบคุม (controlled field) เป็นหัวข้อที่ถูกก�ำหนดรูปแบบ อาจถูก เชื่อมโยงเข้ากับรายการหลักฐาน รายการที่ก�ำหนดไว้ให้เลือก หรือลงรายการด้วย ข้อมูลรูปแบบเฉพาะ (Harpring, 2010: 12-13) หัวข้อที่บรรยายโดยอิสระไม่ต้องมีหลักเกณฑ์ที่เคร่งครัดอย่างหัวข้อควบคุม แต่ยังจ�ำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์ก�ำกับอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าตามนิยามของหัวข้อที่บรรยาย โดยอิสระจะสามารถใช้ค�ำอื่นๆ ที่ไม่ใช่ศัพท์ควบคุมก็ได้ แต่แนะน�ำให้ใช้ศัพท์ที่ สอดคล้องกันกับหัวข้อควบคุมเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนของผู้ใช้งาน ในการออกแบบ ฐานข้อมูลส�ำหรับหัวข้อที่บรรยายโดยอิสระ สามารถลดภาระการท�ำงานของผู้ลง รายการได้ด้วยการให้ระบบดึงข้อมูลจากหัวข้อควบคุมที่เกี่ยวข้องกันเข้ามาที่หัวข้อ บรรยายโดยอิสระด้วย จากนั ้นผู้ลงรายการสามารถปรับข้อมูลได้ตามต้องการ (Baca et al., 2006: 24) ซึ่งทั ้งสะดวกในการใช้งานและลดการผิดพลาดได้
225 ในหัวข้อย่อยต่าง ๆ ของ CDWA จะมีค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลที่ ไม่ชัดเจน คลุมเครือ หรือไม่มีข้อมูลปรากฏ ว่าควรลงรายการอย่างไร วิธีแก้ปัญหา เบื ้องต้น คือ ให้อธิบายความไม่ชัดเจนต่างๆ ลงในหัวข้อที่บรรยายโดยอิสระ และระบุ ศัพท์ควบคุมให้ครบทุกค�ำที่อาจจะเป็นไปได้ลงในหัวข้อควบคุม ส่วนการแก้ปัญหา ส�ำหรับหัวข้อที่ไม่มีช่องให้บรรยายโดยอิสระ คือ ให้ระบุศัพท์แบบกว้างกว่าที่มั่นใจว่า ถูกต้องแน่นอน ดีกว่าการระบุศัพท์ที่แคบลงมาแต่ไม่มั่นใจว่าข้อมูลนั ้นถูกต้องหรือไม่ (Baca & Harpring, 2019) กรณีตัวอย่างของปัญหาที่พบ มีดังต่อไปนี ้ ตัวอย่างที่ 1 : ถ้าแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ 2 แหล่ง ให้ข้อมูลเรื่องปีที่สร้างเจดีย์ องค์หนึ่งไม่ตรงกัน แหล่งข้อมูลหนึ่งระบุว่าสร้างประมาณปี พ.ศ. 2070 แต่อีกแหล่ง ข้อมูลหนึ่งระบุว่าสร้างประมาณปี พ.ศ. 2080 วิธีการลงรายการ คือ อธิบายข้อมูลที่ แตกต่างกันให้ครบถ้วนลงในหัวข้อช่วงเวลาที่สร้าง ซึ่งสามารถบรรยายโดยอิสระ และ สันนิษฐานอายุการสร้างให้ครอบคลุมมากที่สุดลงในหัวข้ออายุสันนิษฐานที่เก่า/ใหม่ ที่สุด ซึ่งใช้ในการค้นคืนข้อมูล ในกรณีที่ลงรายการเป็นภาษาไทยต้องเปลี่ยนปี พ.ศ. ให้เป็นปีศักราชในระบบปฏิทินสากล ตามมาตรฐาน ISO 8601:2004 ทั ้งนี ้ CDWA ได้ให้ข้อแนะน�ำในการสันนิษฐานปีที่สร้ างตามลักษณะข้อมูลแบบต่างๆ ไว้แล้ว ในกรณีนี ้การสันนิษฐานจะอยู่ในช่วงทศวรรษเดียวกันให้ -/+ ด้วย 5 ปี ดังนั ้น อายุสันนิษฐานที่เก่าที่สุดจะเป็น (2070-543)-5= 1522 ส่วนอายุสันนิษฐานที่ใหม่ ที่สุดจะเป็น (2080-543)+5= 1542 ดังนี ้ ช่วงเวลาที่สร้าง: ประมาณปี พ.ศ. 2070 หรือประมาณปี พ.ศ. 2080 Free text อายุสันนิษฐานที่เก่าที่สุด: 1522 อายุสันนิษฐานที่ใหม่ที่สุด: 1542 Controlled format ตัวอย่างที่ 2 : ถ้าแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ระบุไว้ว่าสร้อยคอเส้นหนึ่งท�ำจาก โลหะ แต่ผู้ลงรายการได้ตรวจสอบและพิจารณาสร้อยคอเส้นนั ้นแล้วคิดว่าน่าจะท�ำ มาจากเงิน ผู้ลงรายการไม่ควรบันทึกข้อมูลจากความรู้สึกของตนโดยไม่มีหลักฐาน หรือผลการตรวจสอบที่ชัดเจนมายืนยัน ผู้ลงรายการควรระบุข้อมูลในหัวข้อชื่อวัสดุ ด้วยค�ำศัพท์แบบกว้างๆ ว่า โลหะ ดีกว่าสุ่มเสี่ยงในการให้ข้อมูลที่ผิดด้วยค�ำศัพท์ที่ชี ้ เฉพาะมากเกินไป
คน-สังคม-ดิจิทัล 226 ตัวอย่างที่ 3 : ถ้านักวิชาการท่านหนึ่งระบุว่าภาพสีน� ้ำมันภาพหนึ่งวาดโดย จิตรกรนิรนามชาวดัตช์ แต่อีกนักวิชาการอีกท่านระบุว่าวาดโดยจิตรกรนิรนามชาว เยอรมัน ผู้ลงรายการยังไม่ควรลงรายการในหัวข้อค�ำอธิบายเกี่ยวกับผู้สร้างว่า “วาด โดยจิตรกรชาวดัตช์หรือเยอรมัน” เพราะนั่นหมายความโดยนัยว่านักวิชาการทั ้งสอง ท่านเห็นตรงกันว่าอาจเป็นไปได้ทั ้งสองอย่าง ในกรณีนี ้ผู้ลงรายการควรระบุข้อมูลโดย อ้างอิงจากข้อค้นพบ ล่าสุดและน่าเชื่อถือมากที่สุด ผู้ลงรายการอาจค้นคว้าข้อมูลเพิ่ม เติมแล้วพบว่าเมื่อราว 50 ปีก่อน นักวิชาการในขณะนั ้นเชื่อว่าภาพนี ้วาดโดยชาวดัตช์ แต่ในปัจจุบันนักวิชาการรุ่นใหม่ต่างเห็นตรงกันว่าภาพนี ้วาดโดยชาวเยอรมัน และ ให้ระบุข้อมูลดังกล่าวนี ้ลงไปในหัวข้อค�ำอธิบายเกี่ยวกับผู้สร้างด้วย แต่ถ้านักวิชาการ มีความเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายพอๆ กัน ผู้ลงรายการสามารถใช้ค�ำว่า “วาดโดยจิตรกร ชาวดัตช์หรือเยอรมัน” ได้และให้ระบุเชื ้อชาติของจิตรกรทั ้งดัตช์ และเยอรมัน ลงใน หัวข้อ การระบุตัวผู้สร้าง ซึ่งใช้เป็นดัชนีค้นคืนข้อมูล - กรณีที่ 1 นักวิชาการรุ่นใหม่ต่างเห็นตรงกันว่าภาพนี ้วาดโดยชาวเยอรมัน ค�ำอธิบายเกี่ยวกับผ้สร้าง:ู เมื่อทศวรรษ 2510 นักวิชาการในขณะนั ้นเชื่อ ว่าภาพนี ้วาดโดยจิตรกรนิรนามชาวดัตช์ แต่ปัจจุบันนักวิชาการเห็นตรงกันว่าภาพนี ้ วาดโดยจิตรกรนิรนามชาวเยอรมัน Free text การระบุตัวผ้สร้าง:ู เยอรมัน (นิรนาม) Authority หน้าที่ของผ้สร้างู: จิตรกร Authority - กรณีที่ 2 นักวิชาการมีความเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ ายพอๆ กัน ค�ำอธิบายเกี่ยวกับผ้สร้าง:ู วาดโดยจิตรกรนิรนามชาวดัตช์ หรือชาวเยอรมัน Free text การระบุตัวผ้สร้าง:ู ดัตช์ (นิรนาม) Authority เยอรมัน (นิรนาม) หน้าที่ของผ้สร้าง:ู จิตรกร Authority
227 ตัวอย่างการลงรายการวัตถุตามโครงสร้างฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ตารางที่ 3 ตัวอย่างการลงรายการวัตถุตามโครงสร้ างฐานข้ อมูลพิพิธภัณฑ์ ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ Categories ชื่อวัตถุ* เลขล�ำดับ* เลขทะเบียนวัตถุ* วัตถุ* หมวดหม่วัตถุ* ู ข้อมูลเกี่ยวกับ การสร้างวัตถุ* ภาพถ่ายวัตถุ Subcategories ช่วงเวลาที่สร้าง:* ต้นถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 21 อายุสันนิษฐานที่เก่าที่สุด:* 1458 อายุสันนิษฐานที่ใหม่ที่สุด:* 1517 ชื่อวัตถุ:* จาน ล�ำดับการเลือกใช้: preferred 836 มธ. 274/2535 คุณลักษณะของรายการ:* Item ประเภทวัตถุ:* จาน เครื่องปั ้นดินเผา ศิลปะเอเชีย ค�ำอธิบายเกี่ยวกับผ้สร้าง:* ูล้านนา (ไม่ทราบชื่อ) การระบุตัวผ้สร้าง:* ู ล้านนา (ไม่ทราบชื่อ) หน้าที่ของผ้สร้าง:* ูศิลปิน Terminology /Format Free text Controlled format Free text Controlled list Controlled Format Free Text Controlled list Authority Controlled list Free text Authority Authority Files
คน-สังคม-ดิจิทัล 228 วัสดุและเทคนิค การสร้าง* หัวเรื่องวัตถุ* ค�ำบรรยายวัตถุ รายการอ้างอิง สถานที่ตั้งวัตถุ ในปัจจุบัน* แบบศิลปะ/ยุคสมัย ขนาด* สถานที่สร้าง/สถานที่ดั้งเดิมที่พบ: อ�ำเภอเวียงป่าเป้า (จังหวัดเชียงราย, ประเทศไทย) ประเภท: สูง ค่า: 6.3 หน่วย: ซม. ประเภท: เส้นผ่าศูนย์กลาง ค่า: 21.9 หน่วย: ซม. ประเภท: เส้นผ่าศูนย์กลางฐาน ค่า: 11.5 หน่วย: ซม. ล้านนา เครื่องปั ้นดินเผากาหลง ค�ำอธิบายขนาด:* สูง 6.3 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 21.9 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางฐาน 11.5 ซม. ค�ำอธิบายวัสดุและเทคนิค:* ดินเผาเนื ้อแกร่ง เขียนลายสีด�ำใต้เคลือบ ชื่อวัสดุ: ดินเผาเนื ้อแกร่ง ชื่อเทคนิค: เขียนลายใต้เคลือบ เครื่องมือเครื่องใช้ จาน เครื่องปั ้นดินเผากาหลง ศิลปะล้านนา พบที่ อ�ำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย สร้างราวต้นถึง กลางพุทธศตวรรษที่ 21 ลักษณะ: จานก้นลึก ก้นมี เชิง เคลือบสีขาว เขียนลายสีด�ำใต้เคลือบ ด้านใน ตัวจานบริเวณขอบเขียนลายเส้นรอบวงระหว่างเส้น รอบวงเขียนลายกลีบดอกไม้ ก้นจานเขียนลาย ดอกไม้ 5 กลีบ ด้านนอก ตัวจานเขียนลายกลีบบัว เคลือบสีขาวไม่ถึงเชิง พจนก กาญจนจันทร (บรรณาธิการ). 2560. “ศึกษาสิ่งของ เข้าใจผู้คน” 30 ปี พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ. ปทุมธานี : พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. หน้า: 115 ที่ตั้งองค์กรผ้เก็บรักษา/ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์: ู พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, จังหวัด ปทุมธานี, ประเทศไทย) Authority Controlled list and Controlled format Free text Authority Authority Authority Free text Free text Authority Authority Free text
229 หมายเหตุ: * หมายถึง หัวข้อส�ำคัญ เป็นหัวข้อที่ต้องกรอกข้อมูลให้ได้อย่างน้อยเท่า ที่จ�ำเป็น ห้ามเว้นว่างไว้ จากตารางข้างต้นจะเห็นว่ามีการปรับโครงสร้างข้อมูลจาก CDWA บ้างเล็ก น้อย เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของพิพิธภัณฑ์ฯ มากที่สุด นอกจากที่ยกมา ข้างต้นแล้ว ยังมีหัวข้อปลีกย่อยอื่น ๆ อีกมาก ผู้เขียนยกมาเฉพาะหัวข้อส�ำคัญเท่านั ้น ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบทความ ได้แก่ ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลส�ำหรับการลง รายการ จะเห็นได้ว่าโครงสร้างฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ใช้แนวปฏิบัติของ CDWA มาใช้เกือบทั ้งหมด เนื่องจากเป็นหลักการที่เหมาะสมดีแล้ว ในฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ฯ มีการเพิ่มรูปแบบข้อมูลที่เป็นไฟล์ดิจิทัลเข้าไปด้วย ซึ่งก็คือหัวข้อ ภาพถ่ายวัตถุ เนื่องจากภาพถ่ายวัตถุนั ้นเป็นสิ่งที่จ�ำเป็นต้องมีในฐานข้อมูลยุคปัจจุบัน บทสรุป ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูล (terminology/format) คือ แนวทางการใช้ศัพท์ ควบคุมและข้อเสนอแนะในการก�ำหนดรูปแบบข้อมูล ที่ CDWA ได้ให้แนวปฏิบัติไว้ ในทุกหัวข้อย่อยของโครงสร้างข้อมูล ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดที่สามารถน�ำไปใช้ออกแบบ ฐานข้อมูลด้านศิลปะและวัตถุทางวัฒนธรรมได้ ผู้เขียนเห็นว่าการลงรายการโดยใช้ แนวปฏิบัติข้างต้นมีประโยชน์ส�ำคัญ 3 ประการได้แก่ 1) ท�ำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง และน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีวิธีในการอธิบายข้อมูลที่คลุมเครือหรือข้อมูลที่มีข้อคิดเห็น ทางวิชาการที่แตกต่างกันได้ 2) ช่วยให้ฐานข้อมูลมีความคงเส้นคงวาและใช้งานต่อ ไปได้ในระยะยาว เนื่องจากมีระเบียบวิธีการลงรายการที่อธิบายไว้อย่างชัดเจน และ มีศัพท์ควบคุมไว้ใช้เป็นมาตรฐาน 3) ช่วยให้การค้นคืนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ ้น จากแนวทางการใช้ระบบค�ำศัพท์/รูปแบบข้อมูลที่ผู้เขียนได้อธิบายโดย ละเอียดแล้วในบทความนี ้ จะเห็นได้ว่าการจัดการข้อมูลมี 3 สิ่งที่เป็นหลักส�ำคัญและ ต้องใช้งานร่วมกันอยู่เสมอ คือ 1) โครงสร้างข้อมูล 2) ระเบียบวิธีในการลงรายการ 3) ศัพท์ควบคุม ซึ่งก็คือมาตรฐานเมทาดาทาประเภทต่างๆ นั่นเอง
คน-สังคม-ดิจิทัล 230 การได้ ท�ำงานในโครงการจัดท�ำฐานข้ อมูลดิจิทัลส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติตลอดสามปีที่ผ่านมา ผู้เขียนพบว่าภาระงานที่ซับซ้อน น้อยที่สุดคือการออกแบบโครงสร้างข้อมูล ซึ่งน�ำไปสู่ภาระงานถัดไปที่ยากขึ ้นไปอีก คือการจัดท�ำคู่มือการลงรายการ อันเป็นระเบียบวิธีในการลงรายการตามโครงสร้าง ข้อมูลข้างต้นที่ออกแบบไว้ เนื่องจากต้องศึกษาข้อมูลโดยละเอียดทั ้งจากคู่มือ CDWA และ CCO ที่เป็นภาษาอังกฤษทั ้งหมดและเป็นเรื่องใหม่ที่ผู้เขียนยังไม่เคยมีความรู้ ด้านนี ้มาก่อน แต่เมื่อได้ท�ำส�ำเร็จแล้วผู้เขียนพบว่าคู่มือการลงรายการนั ้นเป็นสิ่ง ส�ำคัญอย่างยิ่งในการจัดท�ำฐานข้อมูล ถ้าขาดสิ่งนี ้ไปข้อมูลที่บันทึกไว้จะสะเปะสะปะ ไม่มีมาตรฐาน ทั ้งยังไม่สะดวกต่อผู้ลงรายการ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการจัดการข้อมูล ในระยะยาว ภาระงานปัจจุบันของผู้เขียนคือการจัดท�ำศัพท์ควบคุมด้านศิลปะและวัตถุ ทางวัฒนธรรม ดังที่บทความได้กล่าวถึงความส�ำคัญของศัพท์ควบคุมไว้แล้ว จะเห็น ได้ว่า ถึงแม้จะมีโครงสร้ างข้อมูลและคู่มือการลงรายการ แต่ถ้าองค์กรไม่มีศัพท์ ควบคุมที่ได้มาตรฐานไว้ใช้งาน ฐานข้อมูลก็จะไม่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามที่ควรจะ เป็น ผู้เขียนพบว่าภาระงานนี ้เป็นภาระงานที่ยากที่สุด ด้วยปริมาณค�ำศัพท์นั ้นมีมาก ตามความหลากหลายของวัตถุ แหล่งอ้างอิงค�ำศัพท์ที่มีอยู่มากแต่ไม่เป็นมาตรฐาน เดียวกัน รวมทั ้งความซับซ้อนของโครงสร้ างรายการหลักฐาน (authority) ตามที่ CDWA ได้ให้กรอบแนวคิดไว้ เช่น การก�ำหนดค�ำที่แนะน�ำให้ใช้ (preferred form) และค�ำทางเลือกอื่น (variant forms) การก�ำหนดค�ำศัพท์ที่กว้างกว่า (broader context) เพื่อสร้างระบบล�ำดับชั ้นค�ำศัพท์ (hierarchy) ทั ้งหมดนี ้เป็นหลักปฏิบัติเพื่อ ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ถ้าท�ำได้ แม้ว่าแนวปฏิบัติของ CDWA และ CCO นั ้นค่อนข้างซับซ้อนและมีราย ละเอียดมาก อาจจะไม่สะดวกต่อบางองค์กรในการจัดท�ำตามมาตรฐานดังกล่าว แต่ ผู้เขียนเห็นว่าแม้ในระยะแรกจะเป็นงานที่ยากล�ำบาก แต่ถ้าท�ำได้ส�ำเร็จก็จะสามารถ ใช้งานได้ไปอีกนาน โดยไม่ต้องกลับมาแก้ไขใหม่ทั ้งระบบ และถึงแม้จะไม่สามารถ ท�ำตามกรอบแนวคิดได้ทั ้งหมด แต่องค์กรก็สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการและ ข้อจ�ำกัดที่มีอยู่ได้เช่นกัน
231 กิตติกรรมประกาศ ขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พจนก กาญจนจันทร อดีตผู้อ�ำนวยการ พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผู้ริเริ่มโครงการจัดท�ำฐานข้อมูลดิจิทัลส�ำหรับ พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และสนับสนุนให้ผู้เขียนได้เขียนบทความฉบับ นี ้ในฐานะนักวิจัยโครงการเพื่อเป็นประโยชน์ในวงกว้าง ขอขอบพระคุณผู้ช่วย ศาสตราจารย์ สุดแดน วิสุทธิลักษณ์ อดีตผู้อ�ำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ ท่านต่อมา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เทียมสูรย์ สิริศรีศักดิ์ ผู้อ�ำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ คนปัจจุบัน ที่สนับสนุนการด�ำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง และขอขอบพระคุณอาจารย์บุญเลิศ อรุณพิบูลย์ ผู้อ�ำนวยการฝ่ ายบริการความรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส�ำนักงาน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ให้ค�ำปรึกษาอย่างดียิ่งและ สนับสนุนโครงการมาโดยตลอดตั ้งแต่เริ่มต้นโครงการถึงปัจจุบัน ทั ้งนี ้ผลงานใน โครงการขั ้นสุดท้ าย ลิขสิทธิ์ ทางวิชาการเป็ นของพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชิงอรรถ 1 บทความนี ้พัฒนามาจากผลการด�ำเนินงานภายใต้โครงการจัดท�ำโครงสร้างและรูป แบบฐานข้อมูลดิจิทัลส�ำหรับพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะสังคมวิทยา และมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยร่วมมือกับ ฝ่ ายบริการความรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) 2 อ่านข้อมูลการใช้งาน VRA Core ได้ที่ http://www.loc.gov/standards/vracore/ schemas.html และอ่านตัวอย่างการลงรายการได้ที่ http://core.vraweb.org/vracore_examplescat07.html 3 เนื่องจากบทความนี ้กล่าวถึงแนวปฏิบัติของ CDWA การอธิบายความหมายของทั ้ง 4 หัวข้อนี ้ ผู้เขียนจึงใช้เอกสารที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยเก็ตตี ้เป็นหลักในการอ้างอิง ซึ่งเป็นความหมายที่ใช้ในบริบทของ CDWA และ CCO โดยเฉพาะ 4 เนื่องจากค�ำว่า “authority” ยังไม่มีศัพท์บัญญัติจากราชบัณฑิตยสภา ผู้เขียนจึงใช้ ค�ำว่า “รายการหลักฐาน” โดยสืบค้นจาก เว็บไซต์คลังศัพท์ไทย โดย STKS/NSTDA
คน-สังคม-ดิจิทัล 232 http://www.thaiglossary.com/node/10160 อนึ่ง ผู้เขียนเห็นว่าค�ำนี ้ยังมีปัญหาอยู่ บ้างต่อการท�ำความเข้าใจของผู้อ่านทั่วไป ทั ้งนี ้ ผู้เขียนได้อธิบายความหมายเพิ่มเติม ไว้แล้ว และความหมายของค�ำว่า “รายการหลักฐาน” ในเว็บไซต์คลังศัพท์ไทยนั ้นตรง กันกับความหมายในบริบทของบทความนี ้เป็นอย่างดี ในเบื ้องต้นจึงได้เลือกใช้ค�ำดัง กล่าวส�ำหรับบทความนี ้ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจมีการใช้ค�ำอื่นที่เข้าใจได้ง่าย ขึ ้น เช่น “บัญชีศัพท์” เป็นต้น 5 ค�ำว่า “field” ในที่นี ้ หมายถึง “หน่วยของข้อมูล (ช่องข้อความ) ในส่วนต่อประสาน ของผู้ใช้ที่ข้อมูลจะถูกแสดงผล หรือให้ผู้ลงรายการสามารถกรอกข้อมูลลงไปได้” และ ยังไม่มีศัพท์บัญญัติจากราชบัณฑิตยสภา จากการสืบค้นค�ำนี ้ในเว็บไซต์คลังศัพท์ไทย โดย STKS/NSTDA http://www.thaiglossary.com/node/10405 พบการใช้ภาษา ไทยว่า “เขตข้อมูล” ผู้เขียนเห็นว่าค�ำนี ้ยังสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจนนักส�ำหรับ บทความนี ้ และอาจจะเข้าใจยากขึ ้นไปอีกเมื่อน�ำมาแปลรวมเข้ากับค�ำว่า free-text field และ controlled field จึงขอใช้ค�ำว่า “หัวข้อที่บรรยายโดยอิสระ” และ “หัวข้อที่ ถูกควบคุม” ตามล�ำดับ ซึ่งมีความกระชับและน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าส�ำหรับผู้อ่าน ทั่วไป บรรณานุกรม ภาษาไทย พจนก กาญจนจันทร (บรรณาธิการ). 2560. “ศึกษาสิ่งของเข้าใจผู้คน” 30 ปี พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ. ปทุมธานี : พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์. ศิลปากร, กรม. 2550. ศัพทานุกรมโบราณคดี. กรุงเทพฯ : ส�ำนักโบราณคดี กรมศิลปากร. ภาษาอังกฤษ Baca, M., & Harpring, P. 2008. Classification. In Categories for the Description of Works of Art. Retrieved from http://www.getty.edu/research/publi cations/electronic_publications/cdwa/2classification.html
233 Baca, M., & Harpring, P. 2015. Creation. In Categories for the Description of Works of Art. Retrieved from http://www.getty.edu/research/publica tions/electronic_publications/cdwa/14creation.html Baca, M., & Harpring, P. 2010. Descriptive Note. In Categories for the De scription of Works of Art. Retrieved from http://www.getty.edu/re search/publications/electronic_publications/cdwa/27descriptive.html Baca, M., & Harpring, P. 2019. Introduction. In Categories for the Description of Works of Art. Retrieved from http://www.getty.edu/research/publi cations/electronic_publications/cdwa/introduction.html Baca, M., & Harpring, P. 2012. Measurements. In Categories for the Descrip tion of Works of Art. Retrieved from http://www.getty.edu/research/ publications/electronic_publications/cdwa/7measurements.html Baca, M., & Harpring, P. 2014. Overview of Categories. In Categories for the Description of Works of Art. Retrieved from http://www.getty.edu/re search/publications/electronic_publications/cdwa/categories.html Baca, M., Harpring, P., Lanzi, E., Whiteside, A., & McRae, L. 2006. Cataloging cultural objects: a guide to describing cultural works and their images. Chicago: American Library Association. Boughida, K. 2005. “CDWA Lite for Cataloging Cultural Objects (CCO): A New XML Schema for the Cultural Heritage Community.” in Human ities, Computers, and Cultural Heritage: Proceedings of the XVI In ternational Conference of the Association for History and Computing, 14–17 September 2005, pp. 49-56. Amsterdam: Royal Netherlands Academy of Arts and Sciences. Foulonneau, M., & Riley, J. 2008. Metadata for digital resources : implemen tation, systems design and interoperability. Oxford: Chandos Pub. Getty Vocabulary Program. 2004. controlled lists. Art & Architecture Thesaurus® Online. Retrieved from http://vocab.getty.edu/page/aat/300265267 Gilliland, A. J. 2016. “Setting the Stage.” In Baca, M. (Ed.), Introduction to
คน-สังคม-ดิจิทัล 234 Metadata, (3rd ed.). Los Angeles: Getty Publications. Retrieved from http://www.getty.edu/publications/intrometadata/setting-the-stage/ Greenberg, J. 2003. “Metadata and the World Wide Web.” In Drake, M. A. (Ed.), Encyclopedia of Library and Information Science (2nd ed.), 3, 1876-1888. New York: Basel: Marcel Dekker, Inc. Gul, S., Tramboo, S. R., & Ahangar, H. 2015. “Metadata Diversity in the Cultural Heritage Repositories.” In Khosrow-Pour, D.B.A., M. (Ed.), Encyclo pedia of Library and Information Science (3rd ed.), 3, 1845. Hershey, PA: IGI Global. Harpring, P. 2010. Introduction to controlled vocabularies: terminology for art, architecture, and other cultural works. Los Angeles: Getty Research Institute.
235
คน-สังคม-ดิจิทัล 236 ฐานข้อมูลศิลปกรรมลุ่มน�้ำโขง : การเข้าถึงสารสนเทศดิจิทัล ทางด้านศิลปวัฒนธรรม Database of Art&Culture in Makong River Basin : Digital Information Access สิริพร ทิวะสิงห์ ส�ำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น ธีรยุทธ บาลชน ส�ำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ช ่วยศาสตราจารย์ธวัชชัย ช ่างเกวียน คณะศิลปกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
237 บทคัดย่อ มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีพันธกิจหนึ่งในการท�ำนุบ�ำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ตลอดจนคณะศิลปกรรมศาสตร์ได้เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนทางด้านวิจัยศิลป วัฒนธรรมและการออกแบบขึ ้น เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลทางด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อตอบสนองต่อพันธกิจในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเป็นแหล่งข้อมูลสนับสนุน การศึกษาตามหลักสูตร ผู้จัดท�ำจึงได้พัฒนาฐานข้อมูลขึ ้น โดยมุ่งเน้นในการรวบรวม สารสนเทศในรูปแบบดิจิทัล เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงของผู้สนใจ เน้นสารสนเทศ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและวัฒนธรรมที่เกิดขึ ้นในอนุภูมิภาคลุ่มน� ้ำโขงที่เผยแพร่ในรูป แบบต่างๆ อาทิ หนังสือ งานวิจัย บทความ คลิปวีดิโอ ภาพถ่าย สูจิบัตร เป็นต้น ในการจัดท�ำฐานข้อมูล ประกอบด้วย การเลือกโปรแกรมที่ง่ายต่อการจัดเก็บและการ ค้นคืน การพิจารณาคัดเลือกทรัพยากรที่จะจัดเก็บ การขอสิทธิ์ จากเจ้าของผลงาน เพื่อดัดแปลงผลงานในรูปแบบดิจิทัล การจัดหมวดหมู่เนื ้อหา การจัดท�ำค�ำค้น การ ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ในการเผยแพร่รูปแบบดิจิทัล นอกจากประโยชน์ข้างต้น แล้ว ฐานข้อมูลดังกล่าวยังท�ำให้ส�ำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยมีสื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ ้น ส�ำหรับบริการนักศึกษาและนักวิจัยด้วย ค�ำส�ำคัญ: ฐานข้อมูลเฉพาะ, สารสนเทศดิจิทัล, ฐานข้อมูลศิลปกรรมลุ่มน� ้ำโขง Abstract One mission of Khon Kaen University is arts and culture preservation. As well as the Faculty of Fine and Applied Arts have a teaching course of the research in art and culture. In order to collecting the information about arts and culture for response to the KKU mission for preservation Thai’s
คน-สังคม-ดิจิทัล 238 culture, and as a source to support education curriculum. We developed the Mekong Basin Culture database and focusing on information in digital form, because it’s make easies access for the user. Information collected from many resources that related to art and culture in the Makong River Basin’s country, such as books, research, articles, video clips, photo books, etc. In the process was program selection, it was easy to searching and retrieval. Selected resources to keep. Requesting permission from from the author, for transform the original sources to digital, Content classification, Keywords, Prevention of piracy for publish, In addition to the above benefits, the database also makes the KKU library has more digital media for students and researchers. Keyword: Special Database, Digital Information, Database of Art&Culture in Makong River Basin ความส�ำคัญและความเป็ นมา กรอบยุทธศาสตร์ประเทศไทย 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบับที่ 12 ทางด้านวัฒนธรรมมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมในระดับนานาชาติมีภาพลักษณ์ ความสัมพันธ์ ที่ดี และได้รับการยอมรับในเวทีทางวัฒนธรรมระดับสากล ผลักดันสังคมไทยให้เป็น สังคมแห่งคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม เอื ้ออาทร มีความปรองดองสมานฉันท์เพิ่มมาก ขึ ้น รวมทั ้งส่งเสริมสนับสนุนให้ประเทศไทยมีรายได้ และความมั่งคั่งจากอุตสาหกรรม สร้างสรรค์และบริการทางวัฒนธรรมเพิ่มมากขึ ้น (กระทรวงวัฒนธรรม, 2558) มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีพันธกิจหนึ่งในการท�ำนุบ�ำรุงศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีโครงการที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การบริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่นใน ด้านการศึกษาและเรียนรู้ การท�ำนุบ�ำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม เน้นการอนุรักษ์ และฟื ้นฟูเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ตลอดจนคณะศิลปกรรมศาสตร์ได้เปิด หลักสูตรการเรียนการสอนทางด้านวิจัยศิลปวัฒนธรรมและการออกแบบขึ ้น เพื่อ
239 เป็นการรวบรวมข้อมูลทางด้านศิลปวัฒนธรรมเพื่อตอบสนองต่อพันธกิจในการ อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเป็นแหล่งข้ อมูลสนับสนุนการศึกษาตามหลักสูตร (มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2558) ในปัจจุบันการเข้าถึงสารสนเทศที่สะดวกรวดเร็ว มีผลต่อแวดวงวิชาการและการวิจัย มหาวิทยาลัยขอนแก่นมุ่งเน้นที่จะเป็นศูนย์กลาง ที่มีความเป็นเลิศทางด้านศิลปะแห่งภูมิภาคลุ่มน� ้ำโขง ตลอดจนเมื่อการเป็นอาเซียน หนึ่งเดียวนั ้นท�ำให้สารสนเทศในแต่ละภูมิภาคมีความส�ำคัญที่จะบ่งบอกรากเหง้า วัฒนธรรมความเป็นมาของแต่ละภูมิภาคได้ รวมถึงการต่อยอดเป็นเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ การสร้างมูลค่าเพิ่มนั ้นสามารถท�ำได้หลากหลายประการ เช่น พัฒนาเครือ ข่าย สร้างแหล่งเรียนรู้เฉพาะทาง เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาสารสนเทศเฉพาะทาง ด้วย ในการพัฒนาสารสนสนเทศนั ้นจะท�ำให้เกิดสารสนเทศที่สะดวกในการเข้าถึง ของหน่วยงานผู้เป็นเจ้าของ เป็นการรวบรวมองค์ความรู้ ของหน่วยงานและผู้ที่ เกี่ยวข้อง เป็นการประชาสัมพันธ์สมรรถนะของหน่วยงาน และยังเป็นการบริการ วิชาการแก่ชุมชนอีกด้วยหากอนุญาตให้บุคคลภายนอกได้ใช้สารสนเทศเหล่านั ้น คณะฯจึงมีแนวคิดในการจัดท�ำเอกสารฉบับเต็มเพื่อเพิ่มมูลค่าในการเข้ าถึง สารสนเทศเฉพาะทางด้ านศิลปะ และวัฒนธรรมของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจในการเป็นศูนย์กลางความรู้ และบริการเพื่อสนับสนุน การผลิตบัณฑิตและการท�ำวิจัยของมหาวิทยาลัยเพื่อความเป็นเลิศ การอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมให้ด�ำรงอยู่อย่างยั่งยืนจะต้องท�ำให้ทุกคน รับรู้และเข้าใจความเป็นมาและความส�ำคัญของศิลปวัฒนธรรมเหล่านั ้น ส่วนใหญ่ ปัญหาในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีคือ ขาดการจัดเก็บองค์ความรู้ ขาด เครื่องมือและเทคโนโลยีด้านโปรแกรมและฐานข้อมูลที่เหมาะสม (งามนิจ กุลกัน, 2557) หากเป็นองค์ความรู้ความรู้ที่มีการบันทึกไว้ในสื่อต่างๆ และสามารถรวบรวม เพื่อเผยแพร่ความรู้ได้โดยง่าย นอกจากนั ้นแล้วยังต้องสามารถค้นหาวัฒนธรรมความ รู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรมในแง่มุมต่างๆ ได้ ฐานข้อมูลเฉพาะทางจึงเป็น เครื่องมือหนึ่งที่ช่วยรวบรวม อนุรักษ์ และเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ได้
คน-สังคม-ดิจิทัล 240 แนวคิดในการพัฒนาฐานข้อมูล แนวคิดในการพัฒนาฐานข้อมูลศิลปกรรมลุ่มน� ้ำโขงนั ้น ได้อาศัยแนวคิดด้าน การเข้าถึงสื่อดิจิทัล และการจัดท�ำฐานข้อมูล ที่สามารถเข้าถึงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ท�ำให้ผู้ใช้สารสนเทศค้นข้อมูลได้จากทุกที่ ทุกเวลาโดยไม่มีข้อจ�ำกัดในด้านสถานที่ และเวลาบริการ ภาพที่ 1 แนวคิดในการพัฒนาฐานข้อมูล 1. แนวคิดเรื่องสื่อดิจิทัล (Digital Media) สื่อดิจิทัล หมายถึง สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งท�ำงานโดยใช้รหัสดิจิทัลในการแสดง ข้อมูล คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงและแสดงผล เนื ้อหา ดิจิทัลอื่นๆ สามารถถูกสร้ างขึ ้น อ้างอิงถึง และได้รับการเผยแพร่ผ่านทางเครื่อง ประมวลผลข้อมูลดิจิทัล เป็นนวัตกรรมที่สร้ างขึ ้นมาทดแทนสิ่งที่มีอยู่เดิม เช่น ข้อความ (Text) ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ในการผลิตมีราคาถูกลงและรักษาไว้ซึ่ง คุณภาพของเนื ้อหา เอื ้อต่อประโยชน์การใช้สอยที่มากกว่าสื่อรูปแบบเดิม รัตติยา กิลคริส (2553) การจัดเก็บเอกสารในรูปแบบสื่อดิจิทัลเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นแหล่งรวบรวมเอกสารต่างๆ ขององค์กร และช่วยอ�ำนวยความสะดวกต่อ บุคลากรในการสืบค้นและเรียกใช้ข้อมูล ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบยังสามารถ ก�ำหนดสิทธิผู้เข้าใช้งานเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ ระบบสามารถช่วย ให้การท�ำงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วมากขึ ้น มีความรวดเร็วมากขึ ้น และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา สื่อดิจิทัล ฐานข้อมูล อินเทอร์เน็ต แปลงไฟล์ รวบรวมสื่อ เช่น คลิป เว็บฐานข้อมูล การบันทึกและค้นคืน ความสะดวกใน การเข้าถึง
241 2. แนวคิดเรื่องฐานข้อมูล (Database) ฐานข้อมูล คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ โดยมีความสัมพันธ์ซึ่งกัน และกัน โดยไม่ได้บังคับว่าข้อมูลทั ้งหมดนี ้จะต้องเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลเดียวกันหรือ แยกหลายๆ แฟ้มข้อมูล มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ท�ำให้ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูล ที่เกี่ยวข้องในระบบงานต่างๆ ร่วมกันได้ โดยไม่เกิดการซ� ้ำซ้อนของข้อมูล ข้อมูลมี ความถูกต้องเชื่อถือได้ และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ฐานข้อมูลมีลักษณะเป็นโครงสร้าง ของการเก็บรวบรวมข้อมูล การที่จะเพิ่มเติม เข้าถึงหรือประมวลผลข้อมูลที่เก็บในฐาน ข้อมูลจ�ำเป็นจะต้องอาศัยระบบจัดการฐานข้อมูล ซึ่งจะท�ำหน้าที่เป็นตัวกลางในการ จัดการกับข้อมูลในฐานข้อมูลทั ้งส�ำหรับการใช้งานเฉพาะ และรองรับการท�ำงานของ แอปพลิเคชันอื่นๆ เพื่อให้ได้รับความสะดวกในการจัดการกับข้อมูลจ�ำนวนมาก (มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช, 2557) ซึ่งได้น�ำมาใช้เป็นแนวคิดของการพัฒนาฐาน ข้อมูลเฉพาะทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมลุ่มน� ้ำโขง เป็นฐานข้อมูลเฉพาะทางที่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดท�ำขึ ้นเพื่อรวบรวมสารสนเทศที่เกี่ยว กับศิลปะและวัฒนธรรมไว้เพื่อความสะดวกในการสืบค้น 3. แนวคิดเรื่องการเข้าถึงสื่อในยุคดิจิทัลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Internet and Media access in the digital age) ตั ้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา เป็นยุคซอฟต์แวร์เครือข่ายสังคม และ เนื ้อหาแบบเปิดกว้าง เป็นยุคที่ไม่มีข้อจ�ำกัดในเรื่องซอฟต์แวร์ และเนื ้อหา สามารถ ใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาได้อย่างไม่จ�ำกัด ท�ำให้สื่อดิจิทัลได้แพร่หลายและเป็นที่ นิยมมากขึ ้นเมื่อใช้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ท�ำให้ผู้ใช้ได้รับความการรู้สารสนเทศ ดิจิทัล (Digital Literacy) ผู้เรียนรู้สามารถเข้าใจและใช้สารสนเทศรูปแบบซึ่งน�ำเสนอ ในรูปดิจิทัลผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลจากแหล่ง ทรัพยากรสารสนเทศที่เข้าถึงในระยะไกลมาใช้ได้ พิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่ง เผยแพร่สารสนเทศได้ ซึ่งน�ำมาซึ่งคุณภาพของสารสนเทศนั ้นๆ รู้ จักใช้โปรแกรม การค้นหา สามารถสืบค้นโดยใช้การสืบค้นขั ้นสูง รู้เรื่องของกฎหมายลิขสิทธิ์ ที่คุ้มครอง ทรัพยากรสารสนเทศบนเว็บไซต์ และสามารถอ้างอิงสารสนเทศที่ค้นจากเว็บไซต์ได้ (เทอดศักดิ์ ไม้เท้าทอง, 2557 ; Majetic & Pellegrino, 2018) แนวคิดและ
คน-สังคม-ดิจิทัล 242 ความส�ำคัญและความเป็นมาดังกล่าวจึงท�ำให้คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่นได้น�ำมาพัฒนาฐานข้อมูลศิลปวัฒนธรรมลุ่มน� ้ำโขงขึ ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี ้ นิยามศัพท์ 1) สารสนเทศด้านศิลปะ คือ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ ขึ ้น เพื่อสนองความต้องการทางใจ โดยมีความงาม ความไพเราะ ที่เกิดขึ ้นจากความ คิด สติปัญญา ตลอดจนทักษะฝีมือของผู้สร้างสรรค์ เป็นการกระตุ้นให้ผู้ดูหรือผู้ชม เกิดความรู้สึกเพลิดเพลิน ปีติยินดี 2) สารสนสนเทศด้านวัฒนธรรม คือ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับวิถีการด�ำเนิน ชีวิต (The way of life) ของคนในสังคม นับตั ้งแต่วิธีกิน วิธีอยู่ วิธี แต่งกาย วิธีท�ำงาน วิธีพักผ่อน วิธีแสดงอารมณ์ วิธีสื่อความ วิธีจราจรและขนส่ง วิธีอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ 3) สารสนเทศทางศิลปวัฒนธรรมลุ่มน� ้ำโขง คือ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องสิ่งที่ มนุษย์สร้างสรรค์ขึ ้น เพื่อสนองความต้องการทางใจ โดยมีความงาม ความไพเราะ ที่เกิดขึ ้นจากความคิด สติปัญญา ตลอดจนทักษะฝีมือของผู้สร้ างสรรค์ เป็นการ กระตุ้นให้ผู้ดูหรือผู้ชมเกิดความรู้สึกเพลิดเพลิน ปีติยินดี วิถีการด�ำเนินชีวิต (The way of life) ของคนในสังคม นับตั ้งแต่วิธีกิน วิธีอยู่ วิธีแต่งกาย วิธีท�ำงาน วิธีพักผ่อน วิธีแสดงอารมณ์ วิธีสื่อความ วิธีจราจรและขนส่ง วิธีอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะที่มีเนื ้อหา เกี่ยวกับประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน� ้ำโขง 6 ประเทศ คือ ไทย เมียนมา สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา จีน(ยูนนาน) และเวียดนาม (รัชดา เจียสกุล, 2557) จัดอยู่ในรูปแบบต่างๆ ทั ้งสื่อสิ่งพิมพ์ และสิ่งไม่ตีพิมพ์ เป็นต้น วัตถุประสงค์เฉพาะในการพัฒนาฐานข้อมูล 1. เพื่อรวบรวมสารสนเทศเฉพาะทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่มีเนื ้อหา เกี่ยวกับประเทศต่างๆ ในอนุภาคลุ่มน� ้ำโขงในรูปของเอกสารฉบับเต็ม 2. เพื่อพัฒนาเว็บฐานข้อมูลในการจัดเก็บและให้บริการสารสนเทศผ่านเครือ ข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงสารสนเทศของผู้ใช้
243 ขอบเขตเฉพาะด้านสถานที่ ฐานข้อมูลนี ้มีขอบเขตการรวบรวมข้อมูลจากทรัพยากร สารสนเทศประเภทต่างๆ ที่มีเนื ้อหาเกี่ยวกับจากประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น� ้ำโขง 6 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา ลาว ไทย กัมพูชา เวียดนาม และจีนยูนนานซึ่งเป็นผลงาน ที่มีการจัดแสดงผลงาน การศึกษา และการท�ำงานกับเครือข่ายในประเทศดังกล่าว ทั ้งนี ้เพื่ อความสอดคล้ องกับวิสัยทัศน์ ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่ ว่า “คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ชั ้นน�ำด้านภาษา การสื่อสาร และวัฒนธรรมแห่งอนุภูมิภาคลุ่มน� ้ำโขง” (คณะศิลปกรรมศาสตร์, 2562) ขั้นตอนในการพัฒนาฐานข้อมูล ภาพที่ 2 ขั ้นตอนในการพัฒนาฐานข้อมูลศิลปกรรมลุ่มน� ้ำโขง วิเคราะห์ ความต้องการของผู้ใช้ การจัดท�ำฐานข้ อมูล ศิลปกรรมลุ่มน� ้ำโขง ศึกษาความต้ องการของ คณะด้าน • ขอบเขต • นโยบายการเข้าถึง • เนื ้อหา • ประเภททรัพยากร • แหล่งเผยแพร่ • การเลือกโปรแกรม • การก�ำหนดหมวดหมู่และ คัดเลือกทรัพยากรที่จะจัดเก็บ • การขอสิทธิ์ จากเจ้าของ ผลงานเพื่อดัดแปลงสื่อเป็น ดิจิทัล รวมถึงการจัดท�ำไฟล์ เป็นดิจิทัล • บันทึกข้อมูล • การป้องกันการละเมิด ลิขสิทธิ์ ในการเผยแพร่รูป แบบดิจิทัล • การจัดท�ำค�ำค้น • การจัดเก็บ: Sever ของคณะ • การเผยแพร่ : การเข้าถึง ไฟล์ Full text ได้โดยไม่ต้อง มีรหัสผ่าน การจัดเก็บ และเผยแพร่ ประเมินการใช้งาน
คน-สังคม-ดิจิทัล 244 ขั้นตอนในการจัดท�ำฐานข้อมูลศิลปกรรมลุ่มน�้ำโขง ประกอบด้วยขั ้นตอน 7 ขั ้น ตอน ได้แก่ 1. การเลือกโปรแกรม ความต้องการของคณะต้องการที่จะใช้โปรแกรมที่ ง่ายต่อการจัดเก็บและการค้นคืน เนื่องจากผู้ดูแลฐานข้อมูลไม่มีความรู้ ทางด้าน บรรณารักษ์และสารสนเทศ ในการพัฒนาโปรแกรมได้ระบุรายละเอียดของโปรแกรม ไว้ดังนี ้ 1) เป็นโปรแกรมที่ท�ำงานแบบเว็บฐานข้อมูล ต้องพัฒนาด้วยภาษา PHP เวอร์ชั่น 5.5 และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลด้วย MySQL 5.5 MySQL ถือเป็น ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System -DBMS) MySQL ท�ำ หน้าที่เป็นทั ้งตัวฐานข้อมูลและระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้ไม่เสียค่าธรรมเนียมการ ใช้งาน MySQL ระบบฐานข้อมูลที่สร้างขึ ้นนี ้จะทางานร่วมกับเครื่อง บริการเว็บ (Web ํ Server) 2) มีการออกแบบโครงสร้างในการแสดงผลของเว็บไซต์ในรูปแบบ Section, Category, Content 3) มีระบบจัดการเนื ้อหา Web Content Management System (CMS) 4) ติดตั ้งและประมวลผลข้อมูลได้บนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Server 5) พัฒนาเว็บไซต์ให้รองรับกับ Microsoft IIS 8 6) รองรับข้อมูลประเภทเอกสาร ข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว 7) สามารถสืบค้นได้ตามข้อก�ำหนดในการสืบค้น เช่น ค�ำส�ำคัญ ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง 8) สามารถแสดงข้อมูลฉบับเต็มและลักษณะอื่น ๆ ตามลักษณะของ ข้อมูลบนเว็บไซต์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ส�ำนักหอสมุด และ เชื่อมโยงกับ OPAC ได้ 9) สามารถค้นข้อมูลแบบรวมทุกหมวดหมู่ หรือแยกเฉพาะหมวดหมู่ได้
245 2. การจัดหมวดหม่และคัดเลือกทรัพยากรที่จะจัดเก็บู ผู้ออกแบบฐาน ข้อมูลได้ศึกษาประเภททรัพยากรสารสนเทศโดยการสัมภาษณ์นักวิชาการทางด้าน ศิลปกรรมศาสตร์ (ธวัชชัย ช่างเกวียน และสัมฤทธิ์ ภูกงลี, 2561) และสรุปการศึกษา ดูงาน National Taiwan University of Arts พบว่า ทรัพยากรสารสนเทศทางด้าน ศิลปวัฒนธรรมลุ่มน� ้ำโขงนั ้นมีด้วยกันหลากหลายประเภท เช่น เอกสารต้นฉบับ (Menu scripts) หนังสือ ต�ำรา งานวิจัย บทความ การแสดง เพลง โน้ตเพลง งานสร้ างสรรค์ สูจิบัตร และอื่นๆ ซึ่งทรัพยากรที่จะจัดเก็บในระยะแรก ได้แก่ โครงการ/กิจกรรมศิลปะ งานวิจัย บทความวิชาการ หนังสือและต�ำรา สูจิบัตร ผลงาน สร้างสรรค์ และเทปบันทึกการแสดง 3. การขอสิทธิ์จากเจ้าของผลงานหากมีการดัดแปลงสื่อเป็ นดิจิทัล เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และพ.ศ. 2558 ที่มีความคุ้มครองงานโดยห้ามทําซ� ้ำหรือดัดแปลง หรือเผยแพร่สู่สาธารณะ ดังนั ้น หากต้องการดัดแปลงทรัพยากรสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบสิ่งพิมพ์ ให้เป็นสื่อ ดิจิทัล ต้องมีการขออนุญาตสิทธิ์ ในการดัดแปลงสื่อ รูปแบบที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และภาพดิจิทัล หากในผลงานนั ้นมีจ�ำนวนผู้ แต่งหรือเจ้าของงานมากกว่า 1 คน ควรให้ผู้แต่งหรือเจ้าของงานลงนามมอบสิทธิ์ ให้ ครบทุกคน และควรระบุแหล่งเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้แต่งหรือเจ้าของงานทราบประกอบ การพิจารณามอบสิทธิ์ 4. บันทึกข้อมูล การบันทึกข้อมูลจะเป็นการท�ำงานบนแบบฟอร์มหรือ เทมเพลต (Template) ที่ประกอบด้วยหมวดหมู่ของเนื ้อหา ชื่อเรื่องหรือชื่อผลงาน ค�ำอธิบายในลักษณะบทคัดย่อเพื่ออธิบายสรุปถึงเนื ้อหาของผลงานเรื่องนั ้นๆ ชื่อผู้ แต่งหรือผู้จัดท�ำ ภาพปกหรือภาพสไลด์ เนื ้อหาหรือเอกสารฉบับเต็ม (Fulltext)
คน-สังคม-ดิจิทัล 246 ภาพที่ 3 แบบฟอร์มหรือเทมเพลตในการบันทึกข้อมูล เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว ข้อมูลส�ำหรับการจัดการจะแสดงดังภาพด้านล่าง ที่ผู้ บันทึกสามารถแก้ไขข้อมูลได้ ในขั ้นตอนนี ้จะเป็นขั ้นตอนของงานประจ�ำ หากมีข้อมูล ใหม่ผู้บันทึกต้องท�ำการบันทึกข้อมูลเข้าที่ละรายการ ภาพที่ 4 ลักษณะการแสดงข้อมูลส�ำหรับการจัดการข้อมูลที่บันทึกแล้วเสร็จ
247 ส�ำหรับเทมเพลต จะมีประเภทหมวดหมู่ให้เลือก การจัดหมวดหมู่เนื ้อหานี ้ เพื่อให้ง่ายในการค้นหาและการแสดงข้อมูล จึงได้แบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของสื่อ แบ่งออกเป็น 8 ประเภท ได้แก่ - โครงการ/กิจกรรมศิลปะ หมายถึง โครงการหรือกิจกรรมศิลปะและ วัฒนธรรม ที่ได้จัดขึ ้น โดยบุคลากรของคณะศิลปกรรมศาสตร์และเครือข่าย ซึ่งมี เนื ้อหาเกี่ยวกับลุ่มน� ้ำโขง หรือจัดขึ ้นในด้านสถานที่ต่างๆ ในประเทศลุ่มน� ้ำโขง - งานวิจัย หมายถึง งานวิจัยที่เป็นตัวเล่มทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม - บทความวิชาการ หมายถึง บทความวิชาการและบทความวิจัยที่ตีพิมพ์ใน เอกสารการประชุมวิชาการระดับชาติของคณะศิลปกรรมศาสตร์จัดขึ ้น และบทความ จากแหล่งอื่นๆ - วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หมายถึง บทความที่ตี พิมพ์ในวารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งน�ำเสนอในเว็บไซต์ของ Thaijo - หนังสือและต�ำรา/เอกสารประกอบการสอน/เอกสารค�ำสอน หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่เป็นตัวเล่ม เครื่องหมายใช้ขีดเขียนแทนเสียงหรือค�ำพูดให้ความหมายใน เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ประกอบด้วยปก ค�ำน�ำ สารบัญ เนื ้อหา และเอกสารอ้างอิง(ถ้ามี) อาจมีภาพประกอบหรือตาราง แผนภูมิ ซึ่งรวมถึงสิ่งพิมพ์ที่เป็นรูปเล่มที่ใช้ในการสอน ทั ้งเป็นเนื ้อหาหลักและเนื ้อหาประกอบ - สูจิบัตรศิลปะ คือ ใบแจ้งก�ำหนดการต่างๆ ในการประชุม การแสดงมหรสพ ประกอบด้วยเนื ้อหาและภาพ - ผลงานสร้างสรรค์ งานศิลปะ หมายถึง ผลงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ทาง ศิลปะประเภทต่างๆ ที่มีความเป็นนวัตกรรม โดยมีการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ ที่เหมาะสมตามประเภทของงานศิลปะซึ่งมีแนวทางการทดลองหรือการพัฒนาจาก แนวคิดสร้างสรรค์เดิมเพื่อเป็นต้นแบบหรือความสามารถในการบุกเบิกศาสตร์อันก่อ ให้เกิดคุณค่าทางสุนทรีย์และคุณประโยชน์ ที่เป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพตามการจัด กลุ่มศิลปะของอาเซียน งานสร้างสรรค์ทางศิลปะ ได้แก่ (1) ทัศนศิลป์ (Visual Art) ประกอบด้วย ผลงานด้านจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย ภาพยนตร์ สื่อประสม สถาปัตยกรรมและงานออกแบบประเภทอื่นๆ (2) ศิลปะการแสดง (Performance Arts) ประกอบด้วย ดุริยางคศิลป์ นาฏยศิลป์ รวมทั ้งการแสดงรูปแบบต่างๆ
คน-สังคม-ดิจิทัล 248 (3) วรรณศิลป์ (Literature) ซึ่งประกอบด้วยบทประพันธ์และกวีนิพนธ์รูปแบบต่างๆ - เทปบันทึกการแสดงศิลปะ ดนตรีและการแสดง หมายถึง สื่อที่บันทึกภาพ เคลื่อนไหว บันทึกเหตุการณ์ของการแสดงศิลปะ การแสดงดนตรี และการแสดง ประเภทต่างๆ เช่น ไฟล์ VDO หรือไฟล์บนยูทูป ที่มีนามสกุล .wmv 5. การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ในการเผยแพร่รูปแบบดิจิทัล ใช้วิธี การใส่ลายน� ้ำเพื่อแสดงสิทธิ์ ในผลงาน เพื่อให้ผู้เข้าถึงและน�ำไปใช้ประโยชน์รับรู้ถึง สิทธิ์ ในผลงานนั ้น ซึ่งลายน� ้ำนั ้นมีทั ้งรูปแบบที่มองเห็นและมองไม่เห็น 6. การจัดท�ำค�ำค้น ระบบการค้น ใช้การค้น 2 ประเภท คือ 1) จากค�ำค้น (Keyword Search) ใช้การตัดค�ำอัตโนมัติจากส่วนของข้อมูลบรรณานุกรม และ ค�ำอธิบายในรายการแต่ละรายการ และ 2) จากการไล่เรียง (Browse from Type) ตามประเภทของหมวดหมู่ ประเภทของสารสนเทศ หมวดหมู่ของงานวิจัย หมวดหมู่หนังสือ เอกสารต�ำราวิชาการ หมวดหมู่ของบทความวารสาร หมวดหมู่ของ Art Gallery สูจิบัตร ผลงานสร้างสรรค์ งานศิลปะเทปบันทึกการ แสดง ดนตรีและการแสดง ความต้องการด้านการสืบค้น **ได้รายการบรรณานุกรมในการอ้างอิงและการเข้าถึง ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ครั ้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ ส�ำนักพิมพ์ ปีที่ พิมพ์ ค�ำส�ำคัญ (เพิ่มได้ตามจ�ำนวนค�ำส�ำคัญที่เกี่ยวข้อง) ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ครั ้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ ส�ำนักพิมพ์ ปีที่ พิมพ์ ค�ำส�ำคัญ (เพิ่มได้ตามจ�ำนวนค�ำส�ำคัญที่เกี่ยวข้อง) ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ชื่อวารสาร ปีที่พิมพ์ ฉบับที่พิมพ์ ปีที่พิมพ์ หน้าที่ปรากฏ ค�ำส�ำคัญ (เพิ่มได้ตามจ�ำนวนค�ำส�ำคัญที่ เกี่ยวข้อง) ชื่อเจ้าของผลงาน ชื่อการแสดง วันที่แสดง ขนาดของภาพ ประเภทศิลปะ ค�ำส�ำคัญ (เพิ่มได้ตามจ�ำนวนค�ำส�ำคัญที่ เกี่ยวข้อง)
249 ภาพที่ 5 การค้นค�ำจากค�ำค้น ภาพที่ 6 การค้นค�ำแบบไล่เรียง