The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Witoon Yuengyang, 2021-10-22 12:42:08

แผนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูล

แผนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูล

246

การสรา้ งตัวชว่ ยกรอกขอ้ มูล Combobox
1. เลอื กท่ี Form แลว้ ไปที่ Design View

2. เขา้ ไปทหี่ น้า Design View

247

3. ใน Tab Design เลือก รูปเคร่อื งมือ Combobox
4. เม่อื เลอื กเครื่องมือ Comboboxแลว้ ลากลงมาทห่ี นา้ Design ของ Form

5.เม่ือลากพ้ืนท่ี Combobox เสร็จแลว้ จะมี หนา้ ต่างตงั้ คา่ (Combobox Wizard ขน้ึ มา)
จะมตี ารางข้อมลู ให้เลือกว่าจะนำขอ้ มูลจากตารางใหนมาเปน็ ตวั เลือก เมอ่ื เลอื กเสรจ็ แล้วกด Next

248

6.จากนั้นเมื่อเลือกตารางเสร็จแลว้ ภายในตารางจะมแี ถวข้อมลู

7.เม่อื เสรจ็ แลว้ หน้าต่างถัดไปจะใหเ้ ราเลือกวา่ จะนำข้อมลู ใหนข้นึ กอ่ น (ตัวเลือกใน Combobox)

8.ขอ้ มลู ท่ีเราเลือกไว้ในตารางจะขึน้ มาแสดงเปน็ ตัวอย่างในหนา้ น้ี ตรวจทานข้อมูลใหถ้ ูกต้องเสรจ็ แลว้ กด
Next

249

9.หน้าต่างน้จี ะให้เลือกวา่ เรานำขอ้ มูลท่เี ราเลือกข้ึนมา นำไปใสไ่ วใ้ นชอ่ งใหนของตารางแรก
10. ตั้งชื่อ Combobox เมื่อเสร็จแล้วกด Finish

250

เมอ่ื เสรจ็ แลว้ เราจะได้ Combobox ที่สามารถเลือกชุดขอ้ มูล เพอื่ ชว่ ยในการกรอกตารางไดง้ า่ ยข้ึน

251

แบบฝกึ หัด/เฉลย
ตอนท่ี 1 จงเลอื กคาํ ตอบทีถ่ ูกต้องทสี่ ุดเพียงข้อเดียว
1. การสรา้ งฟอร์มเชอ่ื มโยงควรใช้เครอ่ื งมอื ใด

ก. Form
ข. Form Design
ค. Blank Form
ง. Form Wizard
จ. Navigation
2. การสร้างปมุ่ เครือ่ งมือจะต้องใช้เครอ่ื งมือใด
ก. Label
ข. Text
ค. Button
ง. Link
จ. Folder
3. ขอ้ ใด ไม่อยู่ ในกลมุ่ Form Operations
ก. Apply Form Filter
ข. Close Form
ค. Open Form
ง. Print a Form
จ. Form View
4. คำสง่ั ใดหมายถึงการเปิดฟอรม์
ก. Apply Form Filter
ข. Close Form
ค. Open Form
ง. Print a Form
จ. Form View
5. ขอ้ ใด ไมอ่ ยู่ ในฝั่ง Categories (ประเภท)
ก. Record Navigation
ข. Record Operations
ค. Form Operations
ง. Query Operations
จ. Application

252

6. ข้อใด ไมอ่ ยู่ ในกลมุ่ Report Operations
ก. Mail Report
ข. Close Report
ค. Open Report
ง. Preview Report
จ. Print Report

7. ช่อื ปุ่มเครอื่ งมอื ท่กี ำหนดใหอ้ ัตโนมตั จิ ะมชี อื่ วา่ อะไร
ก. Button
ข. Command
ค. Name
ง. Tool
จ. Click

8. ปุ่มเคร่อื งมอื ใดที่ใช้สำหรับการออกจากโปรแกรม
ก. Close
ข. Exit
ค. Quit Application
ง. Out
จ. Stop

9. รปู ภาพของเครอ่ื งมือออกจากโปรแกรม จะมีชอ่ื วา่ อะไร
ก. Close
ข. Exit
ค. Quit Application
ง. Out
จ. Stop

10. การกำหนด ไม่ให้ อา่ นค่าของปมุ่ เครอื่ งมือ จะต้องไปกำหนดทีใ่ ด
ก. Tab Index
ข. Tab Stop
ค. Status Bar Text
ง. Format
จ. Data

เอกสารอา้ งอิง
หนงั สือเรยี นวิชา ระบบจัดการฐานข้อมูล ของ สำนักพิมพจ์ ิตรวฒั น์ (JW) กทม., 2563

ภาคผนวก (ถา้ ม)ี

253

ใบงานท่ี 12 หนว่ ยท่ี 12

รหสั วชิ า 30204-2002 ชือ่ วิชา ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ภาคเรียนที่ 1

ชื่อหนว่ ย การสรา้ งฟอร์มเชือ่ มโยง เวลารวม 4 ชั่วโมง

ชื่องาน การสรา้ งฟอรม์ เชื่อมโยง จำนวน 4 ช่วั โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงคท์ ่ัวไป
1. เพอื่ มคี วามรู้ความเข้าใจการสรา้ งฟอรม์ เชอื่ มโยง
2. เพอ่ื มีความรู้ความเขา้ ใจกระบวนการสร้างฟอรม์ เชื่อมโยง

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของการสร้างฟอรม์ เชอ่ื มโยงได้
2. อธิบายวิธกี ารสร้างปมุ่ เครื่องมอื เปิดฟอรม์ ได้
3. อธบิ ายวิธีการสร้างปมุ่ เครอ่ื งมอื เปิดรายงานได้
4. อธบิ ายวิธกี ารสรา้ งปมุ่ เครื่องมือปดิ ฟอรม์ และออกจากโปรแกรมได้
5. อธิบายวิธีการสร้างมาโครได้
6. ปฏิบัตกิ ารเลือกใช้การสร้างฟอรม์ เชอ่ื มโยงให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรู้เก่ยี วกบั การสรา้ งฟอรม์ เช่ือมโยง
2 วางแผนการใช้การสร้างฟอร์มเชอ่ื มโยง

เครื่องมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสอื

ลำดับขั้นตอนการปฏบิ ตั ิงาน
1. ให้นักศกึ ษาแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม เพอื่ ศึกษาและอภิปราย
1.1 อธิบายความรู้เกีย่ วกบั ความเขา้ ใจการสรา้ งฟอรม์ เชือ่ มโยง
1.2 เขียนรปู พรอ้ มอธิบายความเข้าใจการสร้างฟอร์มเช่อื มโยง
2. เขียนอภิปรายและวิเคราะหใ์ สก่ ระดาษ
3. นำผลงานส่งครูผู้สอนเพ่อื ประเมินผล

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

ผูเ้ รยี นควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนใหถ้ ถ่ี ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพื่อปอ้ งกนั ความผดิ พลาดก่อน
การสง่ งาน

254

ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี)
นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้ถกู ตอ้ ง

การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน)
1. สังเกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือร้น
ในการแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรียนรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหัดหลังเรยี นได้ถูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ

เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียนวชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

255

ใบกจิ กรรมท่ี 12 หน่วยที่ 12

รหสั วชิ า 30204-2002 ช่ือวิชา ระบบจัดการฐานข้อมลู ภาคเรยี นท่ี 1

ชอื่ หน่วย การสร้างฟอรม์ เช่ือมโยง เวลารวม 4 ช่ัวโมง

ชื่องาน การสร้างฟอร์มเช่ือมโยง จำนวน 4 ชั่วโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพอ่ื มคี วามรู้ความเขา้ ใจการสร้างฟอร์มเชอื่ มโยง
2. เพอ่ื มีความร้คู วามเขา้ ใจกระบวนการสรา้ งฟอรม์ เชือ่ มโยง

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของการสร้างฟอร์มเช่อื มโยงได้
2. อธบิ ายวิธีการสรา้ งป่มุ เคร่อื งมือเปดิ ฟอรม์ ได้
3. อธบิ ายวิธกี ารสรา้ งปมุ่ เคร่ืองมือเปิดรายงานได้
4. อธบิ ายวธิ ีการสรา้ งปุม่ เครื่องมือปิดฟอรม์ และออกจากโปรแกรมได้
5. อธบิ ายวธิ กี ารสร้างมาโครได้
6. ปฏิบัติการเลอื กใช้การสรา้ งฟอร์มเชือ่ มโยงให้เหมาะสมกบั งานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการสรา้ งฟอรม์ เช่ือมโยง
2 วางแผนการใช้การสรา้ งฟอรม์ เชอ่ื มโยง

เครอ่ื งมือ วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสือ

ลำดับกจิ กรรม
1. ผู้เรียนตอ้ งให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการง่ายเพ่ือให้หาคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำข้อสงสัยซกั ถามครใู นการเรียนทกุ คร้ังท่เี กิดความสับสน และไมเ่ ข้าใจ

2. ผู้มีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพ่ือเสรมิ สร้างความเขา้ ใจอย่างแทจ้ ริง
3. ผูเ้ รียนหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขขอ้ ทีผ่ ิดใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไม่ใชเ่ กิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เม่อื ไดร้ ับมอบหมายงานมา

256

การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทันเวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรยี นได้ถกู ต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ

เอกสารอา้ งอิง
หนังสือเรียนวชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู ของ สำนกั พิมพจ์ ติ รวฒั น์ (JW) กทม., 2563

257

ใบปฏบิ ัตงิ านท่ี 12 หนว่ ยที่ 12

รหสั วิชา 30204-2002 ชือ่ วิชา ระบบจัดการฐานขอ้ มูล ภาคเรยี นที่ 1

ช่ือหนว่ ย การสร้างฟอรม์ เชื่อมโยง เวลารวม 4 ช่ัวโมง

ช่ืองาน การสร้างฟอรม์ เชื่อมโยง จำนวน 4 ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพอื่ มคี วามรู้ความเข้าใจการสรา้ งฟอร์มเช่อื มโยง
2. เพือ่ มีความรู้ความเข้าใจกระบวนการสรา้ งฟอรม์ เชื่อมโยง

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของการสร้างฟอร์มเชอ่ื มโยงได้
2. อธบิ ายวิธกี ารสร้างปมุ่ เครื่องมอื เปดิ ฟอร์มได้
3. อธบิ ายวิธกี ารสรา้ งปมุ่ เคร่อื งมือเปดิ รายงานได้
4. อธบิ ายวธิ กี ารสรา้ งป่มุ เคร่อื งมอื ปดิ ฟอร์มและออกจากโปรแกรมได้
5. อธบิ ายวิธกี ารสร้างมาโครได้
6. ปฏิบตั กิ ารเลือกใชก้ ารสร้างฟอรม์ เชื่อมโยงให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรเู้ ก่ียวกบั การสร้างฟอรม์ เช่ือมโยง
2 วางแผนการใชก้ ารสรา้ งฟอร์มเชือ่ มโยง

เครอ่ื งมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

ลำดับขั้นตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ผเู้ รยี นค้นหาข้อมูลจากในอนิ เตอรเ์ น็ต ตามเรอื่ งทไ่ี ด้รบั มอบหมายมาจาครูผสู้ อน
2. เมือ่ ผู้เรยี นไดร้ ับขอ้ มลู เรียบร้อยแลว้ ให้ผู้เรียน นำขอ้ มูลนนั้ มาเรียบเรียงใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจไดง้ า่ ย โดยจัดทำในรูปแบบเลม่ รายงาน

ภาพประกอบ

ข้อควรระวัง
ผู้เรียนควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนใหถ้ ีถ่ ้วน ละเอียด และรอบคอบก่อน เพอื่ ปอ้ งกนั ความผดิ พลาดกอ่ น

การสง่ งาน

258

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

259

ใบมอมหมายงานที่ 12 หน่วยท่ี 12

รหัสวิชา 30204-2002 ชื่อวชิ า ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ภาคเรยี นที่ 1

ช่อื หน่วย การสร้างฟอรม์ เชอ่ื มโยง เวลารวม 4 ชั่วโมง

ชอ่ื งาน การสรา้ งฟอรม์ เชือ่ มโยง จำนวน 4 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. เพอื่ มีความรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งฟอรม์ เชอื่ มโยง
2. เพื่อมีความรคู้ วามเข้าใจกระบวนการสร้างฟอร์มเชือ่ มโยง

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของการสร้างฟอร์มเช่ือมโยงได้
2. อธบิ ายวิธีการสรา้ งปุ่มเครอื่ งมือเปดิ ฟอรม์ ได้
3. อธิบายวิธกี ารสร้างปุ่มเครอ่ื งมอื เปิดรายงานได้
4. อธิบายวิธีการสรา้ งปุม่ เครือ่ งมือปดิ ฟอรม์ และออกจากโปรแกรมได้
5. อธิบายวธิ ีการสร้างมาโครได้
6. ปฏบิ ตั กิ ารเลือกใชก้ ารสร้างฟอรม์ เช่ือมโยงใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั การสร้างฟอร์มเชื่อมโยง
2 วางแผนการใช้การสรา้ งฟอร์มเชอื่ มโยง

เครื่องมือ วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสอื

แนวทางการปฏิบตั งิ าน
1. ใหผ้ ้เู รยี นปฏิบัตงิ านตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ัตงิ าน อย่างเคร่งครัด ตามหวั ขอ้ ท่ไี ด้รบั
มอบหมาย ให้เสรจ็ ส้ินตามระยะเวลาทกี่ ำหนด พร้อมท้ังการจัดทำรายงาน และนำเสนองานอย่าง
ถูกตอ้ ง ครบถ้วน เปน็ ระเบียบเรยี บร้อย
2. ให้ผเู้ รยี นแบง่ หน้าท่ีกับเพอ่ื นในกลมุ่ ใหช้ ัดเจน และสามารถเขา้ ใจเนื้อหาตามหัวข้อดงั กล่าว ได้
อยา่ งถูกตอ้ ง ครบถ้วน

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

ผู้เรียนควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนใหถ้ ถี่ ้วน ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพือ่ ปอ้ งกนั ความผิดพลาดกอ่ น
การสง่ งาน

260

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

261

แผนการจดั การเรียนรู้
หนว่ ยท.่ี .............. 13..................................... จำนวน........4..........ชั่วโมง สัปดาห์ที่.....17......
ชื่อวชิ า ระบบจัดการฐานข้อมูล
ช่อื หน่วย การสร้างความสมั พันธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ย่อย
ชอื่ เรื่อง การสร้างความสมั พันธ์และการสร้างฟอร์มย่อย

1. สาระสำคัญ
การสร้างความสมั พันธ์จะเกิดขน้ึ ในกรณีที่มกี ารสร้างตารางมากกว่า 1 ตารางขนึ้ ไป ซึ่งจะทำให้สามารถ

ดึงข้อมลู จากตารางตา่ ง ๆ ท่ีเช่อื มโยงหรือสร้างความสมั พนั ธไ์ ว้ และสามารถทีจ่ ะสรา้ งสรรค์รูปแบบของฟอร์มให้
แสดงขอ้ มูลตามท่ีตอ้ งการได้เป็นอย่างดี
2. สมรรถนะประจำหน่วย

1 แสดงความรูเ้ กีย่ วกบั การสรา้ งความสมั พนั ธ์และการสร้างฟอรม์ ย่อย
2 วางแผนการใช้การสร้างความสัมพันธแ์ ละการสรา้ งฟอรม์ ยอ่ ย
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 จุดประสงค์ท่ัวไป
1. เพ่อื มคี วามรู้ความเข้าใจการสรา้ งความสัมพนั ธ์และการสรา้ งฟอรม์ ยอ่ ย
2. เพือ่ มคี วามรคู้ วามเข้าใจกระบวนการสร้างความสมั พันธ์และการสร้างฟอรม์ ยอ่ ย
3.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของการสร้างความสัมพนั ธไ์ ด้
2. อธิบายขั้นตอนในการสรา้ งความสัมพนั ธ์ได้
3. อธบิ ายวธิ ีการสรา้ งความสมั พนั ธไ์ ด้
4. อธบิ ายวธิ กี ารสร้างฟอรม์ หลกั และฟอร์มยอ่ ยได้
5. ปฏิบตั ิการเลือกใชก้ ารสร้างความสมั พันธ์ได้
4. สาระการเรยี นรู้
1. ข้นั ตอนการสร้างความสัมพนั ธ์
2. การสรา้ งความสมั พนั ธ์
3. การสร้างฟอร์มหลกั และฟอรม์ ยอ่ ย
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที.่ .....17.........)
กระบวนการจัดการเรียนรู้
5.1 ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรยี น
1.ผูส้ อนแนะนำเน้ือหาการเรยี นรู้ และแนวทางการเรยี นรูใ้ นหนว่ ยการเรยี น

262

2.ผู้สอนให้ผูเ้ รียนตอบต้ังคำถาม และซักถามในเรอ่ื งการสรา้ งความสัมพนั ธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ยอ่ ย

5.2 ขน้ั สอน

1.ผู้สอนให้ผเู้ รียนได้ศึกษารายละเอยี ดข้อมูลในเรอ่ื งความรเู้ กย่ี วกับการสรา้ งฟอร์ม

2.ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการวเิ คราะห์เนอ้ื หาท่เี รียนรู้ โดยเนน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นได้มี

การแลกเปลย่ี นความคิดเห็นและมสี ว่ นร่วม

3.ผสู้ อนให้ผู้เรียนได้ฝึกปฎิบัติการสรา้ งฟอรม์ เช่ือมโยง โดยผู้สอนคอยให้คำปรึกษา และอธิบาย

ขัน้ ตอน การใชง้ านตามลำดับ

5.3 ขั้นสรปุ

1.ผู้สอนและผเู้ รียนสรุปเน้อื หาการเรียนรู้อกี ครงั้ ด้วยการต้งั คำถาม และใหเ้ หตุผลในการตอบคำถามใน
แต่ละเนือ้ หาเพอ่ื ทบทวนอกี ครัง้

2.มอบหมายภาระงานและแบบฝึกหดั
3.ปฏบิ ัตติ ามใบงาน
6. สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้
6.1 หนังสอื เรยี น รหัส 30204-2002 ระบบจัดการฐานขอ้ มลู
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝึกหัด
6.4 แบบฝกึ ปฏบิ ัติ
6.5 แบบทดสอบหลงั เรียน
6.7 คอมพวิ เตอร์
6.8 เครอื่ งฉายโปรเจ็คเตอร์
7. หลักฐานการเรียนรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้

ใบงาน แบบฝึกหัด การคน้ คว้าข้อมูล ทีไ่ ดร้ ับการเรยี บเรยี ง สวยงาม เปน็ ระเบียบ ถกู ต้อง

7.2 หลักฐานการปฏิบัติงาน
ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการค้นคว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เป็นระเบียบ

ถกู ต้อง พรอ้ มทั้งเอกสารประกอบการนำเสนองานหนา้ ชน้ั เรียนของผู้เรยี น และภาพประกอบ
8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เครื่องมือประเมิน
1. ใบงาน
2. แบบฝึกหัด
3. แบบประเมนิ ผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

8.2 เกณฑก์ ารประเมิน

263

เครือ่ งมอื การประเมนิ วธิ วี ัดและประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน
แบบฝึกหดั ได้คะแนน
ตรวจแบบฝึกหัด รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป
แบบฝึกปฏบิ ัติ ขอ้ ละ 1 คะแนน
ถูก 1 คะแนน ได้คะแนน
แบบทดสอบหลังเรยี น ไม่ถูก 0 คะแนน ร้อยละ 75 ขึน้ ไป
ตรวจแบบฝกึ ปฏิบัติ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม ขอ้ ละ 1 คะแนน ไดค้ ะแนน
จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึง ถูก 1 คะแนน ร้อยละ 75 ข้ึนไป
ประสงค์ ไมถ่ ูก 0 คะแนน
ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
ถกู 1 คะแนน
ไม่ถกู 0 คะแนน
สังเกตพฤติกรรม
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน

9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถา้ มี)
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการงา่ ยเพือ่ ใหห้ าคำตอบได้

อย่างถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการท่ีครูผูส้ อนสรปุ ในขณะทีท่ ำการสอน และ
นำขอ้ สงสยั ซกั ถามครใู นการเรียนทุกครัง้ ทเ่ี กดิ ความสบั สน และไมเ่ ข้าใจ

2. ผู้มกี ารทบทวนบทเรียน ตลอดเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอย่างแท้จริง
3. ผเู้ รยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขข้อท่ผี ิดให้ถูกตอ้ งเสมอ
4. ผูเ้ รียนตอ้ งสรา้ งมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรยี นร้แู ละเทคนิควธิ กี ารพรอ้ มกับความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึน้ โดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงไม่ใช่เกิดจาก
การทอ่ งจำ
10. เอกสารอ้างองิ
หนังสือเรียนวชิ า ระบบจัดการฐานข้อมูล ของ สำนกั พิมพ์จติ รวฒั น์ (JW) กทม., 2563

264

ใบความรทู้ ี่ 13 หนว่ ยที่ 13

รหัสวชิ า 30204-2002 ชือ่ วชิ า ระบบจดั การฐานขอ้ มูล ภาคเรียนท่ี 1

ชอ่ื หน่วย การสรา้ งความสมั พันธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ย่อย เวลารวม 4 ช่ัวโมง

ช่ือเรอ่ื ง การสรา้ งความสัมพันธ์และการสรา้ งฟอรม์ ยอ่ ย เวลา 4 ชัว่ โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงคท์ ั่วไป
1. เพอ่ื มีความรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งความสมั พันธ์และการสรา้ งฟอรม์ ยอ่ ย
2. เพ่ือมีความรคู้ วามเข้าใจกระบวนการสรา้ งความสมั พันธ์และการสรา้ งฟอร์มย่อย

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกความหมายของการสรา้ งความสมั พันธ์ได้
2. อธบิ ายข้ันตอนในการสร้างความสัมพนั ธไ์ ด้
3. อธิบายวธิ กี ารสร้างความสมั พันธไ์ ด้
4. อธิบายวิธีการสร้างฟอรม์ หลกั และฟอรม์ ยอ่ ยได้
5. ปฏิบตั กิ ารเลอื กใช้การสรา้ งความสัมพันธไ์ ด้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรเู้ ก่ียวกบั การสร้างความสมั พนั ธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ย่อย
2 วางแผนการใช้การสรา้ งความสมั พนั ธ์และการสรา้ งฟอร์มยอ่ ย

หนว่ ยที่ 13 การสรา้ งความสมั พันธแ์ ละการสรา้ งฟอร์มยอ่ ย
เรียนรูเ้ กีย่ วกบั ฟอรม์ ย่อย

ฟอร์มย่อยคือฟอร์มที่ถูกแทรกลงในอกี ฟอรม์ หนึง่ โดยฟอรม์ แรกจะเรียกวา่ ฟอร์มหลกั และฟอร์มท่ี
อยใู่ นฟอรม์ เรียกวา่ ฟอร์มย่อย ในบางคร้ัง การรวมฟอรม์ /ฟอร์มย่อยเขา้ ดว้ ยกันจะเรยี กวา่ ฟอรม์ แบบลำดับ
ชน้ั ฟอรม์ ตน้ แบบ/รายละเอยี ด หรอื ฟอร์มหลกั /รอง
ฟอรม์ ยอ่ ยจะมีประสทิ ธภิ าพเปน็ อย่างยง่ิ เมือ่ คุณต้องการแสดงขอ้ มูลจากตารางหรือควิ รที ม่ี คี วามสมั พันธ์
แบบหน่ึง-ตอ่ -กล่มุ ความสัมพันธแ์ บบหนง่ึ -ตอ่ -กลุ่มคอื ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสองตารางทีม่ คี า่ คียห์ ลักของแต่
ละระเบียนในตารางหลกั ทีส่ ัมพันธ์กับคา่ ในเขตขอ้ มูลท่ตี รงกัน หรือเขตข้อมูลของหลายๆ ระเบยี นในตาราง
ที่สมั พันธ์กนั ตวั อยา่ งเช่น คุณสามารถสร้างฟอรม์ ทแ่ี สดงข้อมูลของพนักงาน และมฟี อร์มยอ่ ยทแ่ี สดงใบสงั่
ซอ้ื แต่ละใบของพนกั งานไดด้ ้วย ขอ้ มูลในตารางพนักงาน คอื ดา้ น "หนึ่ง" ของความสมั พนั ธ์ ขอ้ มูลในตาราง
ใบส่งั ซ้ือ คือด้าน "กลมุ่ " ของความสมั พันธ์ (พนักงานแต่ละคนมีใบสงั่ ซื้อมากกวา่ หนึง่ ใบได้)

265

1. ฟอร์มหลกั จะแสดงข้อมูลจากด้าน "หน่ึง" ของความสมั พนั ธ์
2. ฟอรม์ ยอ่ ยจะแสดงขอ้ มูลจากด้าน "กล่มุ " ของความสมั พันธ์

ฟอร์มหลกั และฟอร์มยอ่ ยในฟอรม์ ประเภทนจ้ี ะลิงก์เขา้ ด้วยกนั เพือ่ ให้ฟอรม์ ย่อยแสดงเฉพาะ
ระเบยี นทส่ี มั พันธก์ ับระเบียนปัจจุบนั ในฟอร์มหลกั เทา่ นัน้ ตัวอย่างเช่น เมอื่ ฟอร์มหลักแสดงขอ้ มลู ของอญั
ชนา ภานุวฒั นวงศ์ ฟอร์มย่อยกจ็ ะแสดงเฉพาะใบสง่ั ซื้อของเธอเทา่ น้ัน ถ้าฟอร์มและฟอร์มย่อยไมไ่ ด้ลงิ กก์ นั
ฟอรม์ ยอ่ ยจะแสดงใบส่งั ซ้ือทัง้ หมดท่ไี ม่ใชแ่ ค่ของอญั ชนาเพียงคนเดียว

ตารางตอ่ ไปนอี้ ธิบายถงึ ศพั ท์เฉพาะบางตัวที่สมั พันธก์ ับฟอรม์ ย่อย Access จะจัดการรายละเอียดส่วนใหญ่
ถา้ คณุ ใช้กระบวนงานทอี่ ยใู่ นบทความนี้ แต่จะเป็นประโยชนถ์ า้ คุณไดร้ วู้ ่ามอี ะไรเกิดข้นึ บา้ งในเบอ้ื งหลังใน
กรณที ่คี ุณตอ้ งการทำการปรบั เปลย่ี นในภายหลัง

คำศพั ท์ คำจำกัดความ
ตวั ควบคุม ตวั ควบคมุ ท่ีฝงั ฟอรม์ ไว้ในฟอร์ม คุณสามารถมองตวั ควบคุมฟอร์มยอ่ ยเป็น "มมุ มอง"
ฟอรม์ ยอ่ ย หน่งึ ของวัตถอุ ืน่ ในฐานข้อมลู ของคณุ ได้ ไมว่ า่ จะเปน็ ฟอร์ม ตาราง หรอื คิวรอี ่ืนๆ ก็
ตาม ตวั ควบคุมฟอร์มย่อยจะให้คุณสมบัตทิ ีช่ ว่ ยใหค้ ุณสามารถลิงกข์ อ้ มลู ทแี่ สดงใน
คุณสมบัตวิ ตั ถุ ตัวควบคุมไปยงั ขอ้ มูลบนฟอรม์ หลกั ได้
ตน้ ฉบบั คุณสมบัติของตวั ควบคมุ ฟอรม์ ย่อยท่กี ำหนดว่าวตั ถใุ ดจะถกู แสดงในตวั ควบคุม
แผน่ ขอ้ มลู
การแสดงข้อมลู อยา่ งง่ายๆ ในแถวและคอลัมน์เหมอื นกับสเปรดชีต ตวั ควบคุมฟอร์ม
ย่อยจะแสดงแผ่นข้อมูลเมือ่ วัตถุตน้ ฉบับของฟอร์มยอ่ ยคอื ตารางหรอื ควิ รี หรอื เม่ือ
วัตถตุ ้นฉบับของฟอรม์ ยอ่ ยคือฟอรม์ ซงึ่ คุณสมบตั ิมุมมองเรม่ิ ตน้ ถกู ต้งั ค่าใหเ้ ปน็

266

แผน่ ข้อมูล ในกรณเี หลา่ น้ี ก็มบี างคร้งั ทีฟ่ อร์มยอ่ ยจะถกู อา้ งวา่ เป็นแผ่นขอ้ มลู หรือ
แผ่นขอ้ มูลย่อยแทนท่ีจะเปน็ ฟอรม์ ย่อย

คุณสมบตั ลิ งิ ก์ คุณสมบตั ขิ องตัวควบคมุ ฟอรม์ ย่อยทร่ี ะบุว่าเขตข้อมลู ใดในฟอรม์ ยอ่ ยท่ีจะลิงกฟ์ อรม์
เขตขอ้ มูลลกู ยอ่ ยไปยังฟอรม์ หลัก

คณุ สมบตั ิลิงก์ คุณสมบัติของตวั ควบคุมฟอรม์ ย่อยทรี่ ะบุว่าเขตข้อมูลใดบนฟอรม์ หลกั ที่ลิงก์ฟอรม์
เขตขอ้ มลู หลกั หลักไปยังฟอร์มย่อย
การสรา้ งหรือเพ่ิมฟอร์มยอ่ ย

ใช้ตารางต่อไปน้เี พ่ือพิจารณาว่ากระบวนงานใดเหมาะสมทส่ี ดุ สำหรบั สถานการณ์ของคณุ

สถานการณ์ กระบวนงานแนะนำ

คณุ ต้องการให้ Access สรา้ งท้งั ฟอร์มหลักและ การสร้างฟอร์มท่ีมฟี อรม์ ย่อยโดยใช้ตัวชว่ ยสรา้ ง
ฟอรม์ ย่อย รวมถงึ ให้ลิงก์ฟอร์มย่อยไปยงั ฟอร์ม ฟอรม์
หลัก

คุณต้องการใชฟ้ อร์มทม่ี ีอยู่แล้วเปน็ ฟอรม์ หลัก แต่ การเพมิ่ ฟอรม์ ยอ่ ยอยา่ งนอ้ ยหนง่ึ ฟอรม์ ลงใน
คุณตอ้ งการให้ Access สร้างฟอรม์ ยอ่ ยใหม่และ ฟอรม์ ทม่ี อี ยู่โดยใช้ตวั ชว่ ยสร้างฟอรม์ ย่อย
เพมิ่ ฟอรม์ ยอ่ ยดังกลา่ วลงในฟอรม์ หลกั ด้วย

คณุ ตอ้ งการใชฟ้ อรม์ ท่ีมีอยูแ่ ล้วเปน็ ฟอรม์ หลกั การสร้างฟอรม์ ยอ่ ยด้วยการลากฟอร์มหนง่ึ ลงบน
และต้องการเพมิ่ ฟอร์มท่ีมีอยู่แล้วอย่างน้อยหนึง่ อกี ฟอรม์ หนง่ึ
ฟอร์มโดยใหเ้ ป็นฟอรม์ ย่อยไปท่ฟี อรม์ ดงั กล่าว

การสร้างฟอร์มท่มี ฟี อรม์ ย่อยโดยใช้ตัวชว่ ยสรา้ งฟอร์ม

กระบวนงานนจ้ี ะสร้างการรวมฟอรม์ และฟอร์มยอ่ ยข้นึ มาใหม่โดยใชต้ ัวช่วยสรา้ งฟอร์ม น่ียงั เปน็ วธิ ที เี่ รว็
ที่สุดท่ีจะเริ่มตน้ ใช้งานถา้ คุณยังไมไ่ ด้สรา้ งฟอรม์ ทคี่ ณุ ต้องการใช้เป็นฟอรม์ หลกั หรอื ฟอรม์ ย่อย

1. บนแท็บ สรา้ ง ในกลมุ่ แบบฟอรม์ ให้คลกิ ตัวชว่ ยสรา้ งแบบฟอร์ม
2. ในหนา้ แรกของตัวชว่ ยสร้าง ใหเ้ ลอื กตารางหรือคิวรีในรายการดรอปดาวน์ ตาราง/คิว

รี ตวั อย่างเช่น เมอ่ื ตอ้ งการสรา้ งฟอรม์ พนกั งานทแ่ี สดงใบสั่งซื้อสำหรับพนกั งานแต่ละคนในฟอรม์
ย่อย เราจะเลอื ก ตาราง: พนกั งาน (ด้าน "หนึง่ " ของความสัมพนั ธ์แบบหน่ึง-ต่อ-กลมุ่ )
3. ดบั เบลิ คลิกทเี่ ขตข้อมลู ทีค่ ณุ ต้องการรวมจากตารางหรอื คิวรนี ี้

267

4. ในหนา้ เดียวกันของตัวชว่ ยสรา้ ง ในรายการดรอปดาวน์ ตาราง/คิวรี ให้เลอื กตารางหรอื คิวรอี ่ืน
จากรายการ สำหรบั ตัวอย่างนเ้ี ราจะเลือกตารางใบสั่งซอื้ (ด้าน "กลุ่ม" ของความสัมพนั ธ์แบบหน่ึง-
ตอ่ -กลมุ่ )

5. ดบั เบลิ คลิกทเี่ ขตขอ้ มลู ทคี่ ณุ ต้องการรวมจากตารางหรอื ควิ รนี ี้
6. สมมตวิ า่ คุณไดต้ ้งั คา่ ความสัมพันธอ์ ย่างถกู ต้องแล้ว และเมือ่ คุณคลกิ ถดั ไป ตัวช่วยสร้างจะถาม

ว่า คณุ ตอ้ งการแสดงข้อมลู ของคณุ อย่างไร ซึง่ กค็ ือ การแสดงโดยใช้ตารางหรือคิวรี เลือกตารางท่ี
ด้าน "หนงึ่ " ของความสมั พนั ธ์แบบหนึง่ -ตอ่ -กลุ่ม ตวั อย่างเช่น เมอื่ ตอ้ งการสรา้ งฟอร์มพนักงาน ให้
คลิก โดยพนกั งาน ตัวชว่ ยสร้างจะแสดงไดอะแกรมขนาดเล็กของฟอรม์ หน้าควรมลี ักษณะคลา้ ย
กับภาพประกอบต่อไปนี้

กล่องในส่วนล่างของไดอะแกรมฟอรม์ จะเปน็ ฟอรม์ ยอ่ ย
7. ทด่ี า้ นล่างของหน้าตวั ชว่ ยสร้าง ให้เลือก ฟอร์มทม่ี ีฟอรม์ ยอ่ ย แล้วคลิก ถัดไป
8. ในหนา้ คุณตอ้ งการใช้เค้าโครงแบบใดกบั ฟอร์มย่อยของคณุ ให้คลกิ ตัวเลอื กเคา้ โครงท่คี ุณ

ตอ้ งการ แลว้ คลิก ถัดไป สไตลเ์ คา้ โครงทั้งสองจะจัดเรียงขอ้ มูลฟอร์มยอ่ ยในแถวและคอลัมน์ แต่
เคา้ โครงแบบตารางจะสามารถกำหนดเองได้หลากหลายกว่า คุณสามารถเพมิ่ สี กราฟกิ และ
องค์ประกอบการจัดรปู แบบอืน่ ๆ ลงในฟอร์มยอ่ ยแบบตารางได้ เนือ่ งจากแผ่นขอ้ มูลจะมีขนาด
กะทดั รัดมากขึ้น เหมอื นกับมมุ มองแผ่นข้อมลู ของตาราง
9. บนหน้าถดั ไปของตัวช่วยสร้าง เลือกสไตล์การจดั รูปแบบสำหรับฟอร์ม จากนน้ั คลกิ ถัดไป ถ้าคณุ
เลอื กแบบตารางในหน้ากอ่ นหนา้ สไตลก์ ารจดั รูปแบบท่คี ุณเลอื กจะยงั สามารถนำไปใชก้ ับฟอรม์
ยอ่ ยได้อกี ด้วย
10. ในหน้าสดุ ทา้ ยของตวั ช่วยสร้าง ใหพ้ ิมพ์ชอ่ื เร่ืองท่ีคุณตอ้ งการใช้กบั ฟอรม์ ตา่ งๆ Access จะตั้งชื่อ
ฟอรม์ โดยยึดตามช่อื ที่คณุ พมิ พ์ และจะตั้งช่ือปา้ ยชื่อฟอร์มยอ่ ยโดยยดึ ตามชอ่ื ที่คุณพิมพ์ใหก้ บั
ฟอรม์ ยอ่ ย

268

11. ระบุวา่ คณุ ต้องการเปดิ ฟอร์มในมุมมองฟอร์มเพื่อใหค้ ณุ สามารถดูหรือใสข่ ้อมูล หรือในมมุ มอง
ออกแบบเพ่ือใหค้ ุณสามารถปรบั เปลยี่ นดไี ซนข์ องฟอร์ม แลว้ คลกิ เสรจ็ ส้นิ

Access จะสรา้ งฟอร์มขนึ้ มาสองฟอร์ม โดยฟอร์มหน่ึงสำหรับฟอร์มหลกั ทมี่ ตี ัวควบคมุ ฟอร์มยอ่ ย
และอีกฟอร์มสำหรบั ฟอร์มยอ่ ย

การเพมิ่ ฟอรม์ ย่อยอยา่ งนอ้ ยหนงึ่ ฟอร์มลงในฟอรม์ ทม่ี ีอยู่โดยใช้ตัวช่วยสรา้ งฟอร์มย่อย

ใช้กระบวนงานนเี้ พ่ือเพม่ิ ฟอร์มย่อยอยา่ งนอ้ ยหนงึ่ ฟอร์มไปยงั ฟอรม์ ท่มี ีอยู่แล้ว สำหรับฟอร์มย่อยแตล่ ะ
ฟอรม์ คุณสามารถเลอื กให้ Access สรา้ งฟอร์มใหมห่ รอื ใช้ฟอรม์ ทม่ี อี ยู่แล้วเปน็ ฟอรม์ ย่อยกไ็ ด้

1. คลกิ ขวาฟอรม์ ทม่ี อี ยู่แล้วในบานหนา้ ตา่ งนำทาง แลว้ คลิก มมุ มองออกแบบ
2. บนแทบ็ ออกแบบ ในกลุม่ ตวั ควบคมุ ให้คลิกลูกศรลงเพ่อื แสดงแกลเลอรี ตัวควบคมุ และ

ตรวจสอบให้แนใ่ จว่าได้เลือก ใช้ตวั ช่วยสร้างตัวควบคุม ไว้
3. บนแทบ็ ออกแบบ ในกลุ่ม ตวั ควบคมุ ให้คลกิ ปมุ่ ฟอร์มยอ่ ย/รายงานย่อย
4. คลกิ บนฟอร์มท่ีคุณต้องการวางฟอร์มย่อย
5. ทำตามคำแนะนำในตวั ชว่ ยสร้าง

การสรา้ งฟอรม์ ยอ่ ยด้วยการลากฟอรม์ หนึง่ ลงบนอีกฟอร์มหนง่ึ

ใชก้ ระบวนงานนี้ถา้ คณุ ตอ้ งการใชฟ้ อร์มที่มีอยู่แล้วเป็นฟอร์มหลกั และคุณตอ้ งการเพมิ่ ฟอร์มที่มีอย่อู ยา่ ง
น้อยหนึง่ ฟอร์มไปทฟี่ อรม์ ดงั กล่าวในรปู แบบฟอรม์ ยอ่ ย

1. ในบานหน้าต่างนำทาง ให้คลิกขวาท่ฟี อรม์ ท่ีคณุ ต้องการใช้เป็นฟอร์มหลกั แล้วคลิก มุมมองเคา้
โครง

2. ลากฟอร์มท่ีคุณตอ้ งการใชเ้ ปน็ ฟอร์มยอ่ ยจากบานหน้าตา่ งนำทางลงในฟอรม์ หลกั

Access จะเพ่มิ ตวั ควบคุมฟอร์มย่อยไปยังฟอรม์ หลกั และผกู ตัวควบคมุ น้นั เข้ากบั ฟอรม์ ท่ีคุณลาก
จากบานหน้าตา่ งนำทาง Access ยงั จะพยายามลิงก์ฟอร์มยอ่ ยไปยังฟอรม์ หลกั โดยยึดตาม
ความสัมพันธท์ ีไ่ ดร้ บั การกำหนดไว้ในฐานข้อมูลของคุณ

3. ทำซำ้ ขัน้ ตอนนเ้ี พื่อเพิม่ ฟอรม์ ยอ่ ยเพม่ิ เติมลงในฟอร์มหลกั
4. เมื่อต้องการตรวจสอบว่าลงิ กน์ ้นั ประสบความสำเรจ็ บนแทบ็ หนา้ แรก ในกลุ่ม มุมมอง ให้

คลิก มุมมอง คลิก มุมมองฟอรม์ แล้วใชต้ ัวเลอื กระเบียนของฟอร์มหลักเพอื่ เล่อื นไปตามระเบยี น
ต่างๆ ถ้าฟอรม์ ยอ่ ยกรองตวั เองสำหรบั พนกั งานแตล่ ะคนได้อย่างถูกตอ้ งแลว้ แสดงวา่ กระบวนงาน
ดังกลา่ วเสร็จสมบรู ณ์

269

ถา้ การทดสอบกอ่ นหนา้ นัน้ ไมถ่ กู ต้อง จะทำให้ Access ไมส่ ามารถระบวุ ิธีลิงกฟ์ อร์มยอ่ ยไปยังฟอรม์ หลักได้
และคณุ สมบตั ิ ลิงกเ์ ขตขอ้ มูลลกู และ ลิงกเ์ ขตข้อมลู หลัก ของตวั ควบคมุ ฟอร์มยอ่ ยจะว่าง คุณตอ้ งตง้ั ค่า
คณุ สมบัตเิ หล่าน้ีดว้ ยตนเองโดยทำดงั ตอ่ ไปน้ี

1. คลิกขวาฟอรม์ หลักในบานหนา้ ต่างนำทาง แลว้ คลิก มมุ มองออกแบบ
2. คลิกตัวควบคมุ ฟอรม์ ย่อยหนงึ่ ครง้ั เพ่ือเลอื ก
3. ถ้าบานหนา้ ต่างงาน แผ่นคุณสมบัติ ไมไ่ ด้แสดงอยู่ ให้กด F4 เพอ่ื แสดง
4. ในแผ่นคณุ สมบตั ิ ให้คลกิ แทบ็ ขอ้ มูล
5. คลิกปมุ่ สร้าง ทอ่ี ยู่ถัดจากกลอ่ ง คณุ สมบัติ ลงิ ก์ เขตข้อมูลลกู

กลอ่ งโตต้ อบ ตัวลิงก์เขตขอ้ มลู ฟอรม์ ย่อย จะปรากฏขน้ึ

6. ในรายการดรอปดาวน์ เขตข้อมลู หลัก และ เขตข้อมลู รอง ใหเ้ ลือกเขตขอ้ มูลที่คณุ ตอ้ งการลิงก์เข้า
กับฟอร์ม แล้วคลิก ตกลง ถ้าคณุ ไมแ่ นใ่ จว่าจะใชเ้ ขตข้อมูลใด ให้คลิก เสนอแนะ เพอื่ ให้ Access
พยายามกำหนดเขตขอ้ มลู ลงิ ก์ให้

7. บันทึกฟอร์มหลกั แล้วสลบั ไปยังมุมมองฟอร์ม จากนน้ั ตรวจสอบว่าฟอรม์ ดงั กลา่ วทำงานได้ตามที่

270

แบบฝึกหดั /เฉลย
ตอนท่ี 1 จงเลือกคําตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสดุ เพยี งข้อเดียว
1. ข้อใดหมายถงึ ความสัมพนั ธ์

ก. Table
ข. Query
ค. Form
ง. Report
จ. Relationship
2. การสรา้ งฐานขอ้ มลู จะต้องใชเ้ ครื่องมือใด
ก. New
ข. Open
ค. Create
ง. File
จ. Data
3. การสร้างความสมั พนั ธจ์ ะต้องมตี ารางไมน่ ้อยกว่าเท่าไร
ก. 1 ตาราง
ข. 2 ตาราง
ค. 3 ตาราง
ง. 4 ตาราง
จ. 5 ตาราง
4. All Access Objects หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. เครอ่ื งมือของโปรแกรม
ข. คำส่งั ของโปรแกรม
ค. มุมมองทง้ั หมด
ง. วัตถุท้งั หมด
จ. ตารางท้ังหมด
5. เคร่ืองมือ Relationship อยู่ในเมนูใด
ก. Data
ข. External Data
ค. Tool
ง. Database Tools
จ. Database
6. กรอบ Show Table จะไมม่ เี ครื่องมอื ใด

271

ก. Tables
ข. Queries
ค. Form
ง. Both
จ. Add
7. ถ้าไม่มตี ารางปรากฏจะต้องใช้เครอ่ื งมือใด
ก. Show
ข. Show Table
ค. Table
ง. Relationship
จ. Database
8. ตวั เลอื กใดท่จี ะทำใหข้ อ้ มูลทเี่ กยี่ วข้องถูกแกไ้ ขดว้ ย
ก. Enforce Referential Integrity
ข. Cascade Update Related Fields
ค. Enforce Update Related Fields
ง. Cascade Delete Related Records
จ. Cascade Referential Integrity
9. ตัวเลอื กใดทใ่ี ห้คงสภาพการอา้ งอิงความสัมพันธ์
ก. Enforce Referential Integrity
ข. Cascade Update Related Fields
ค. Enforce Update Related Fields
ง. Cascade Delete Related Records
จ. Cascade Referential Integrity
10. เมือ่ ทำการสรา้ งความสมั พันธ์เสร็จแลว้ จะต้องคลกิ ท่ีเครื่องมอื ใด
ก. Close
ข. Exit
ค. Quit
ง. Relationship
จ. OK
เอกสารอา้ งองิ
หนงั สือเรียนวชิ า ระบบจดั การฐานขอ้ มูล ของ สำนกั พิมพ์จติ รวฒั น์ (JW) กทม., 2563
ภาคผนวก (ถ้าม)ี

272

ใบงานท่ี 13 หน่วยท่ี 13

รหัสวิชา 30204-2002 ช่ือวิชา ระบบจดั การฐานข้อมูล ภาคเรียนที่ 1

ชื่อหน่วย การสร้างความสมั พนั ธ์และการสร้างฟอร์มย่อย เวลารวม 4 ช่ัวโมง

ช่ืองาน การสร้างความสมั พนั ธ์และการสรา้ งฟอร์มย่อย จำนวน 4 ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงคท์ ั่วไป
1. เพือ่ มีความรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งความสัมพนั ธ์และการสร้างฟอร์มย่อย
2. เพื่อมีความรคู้ วามเข้าใจกระบวนการสร้างความสมั พันธ์และการสรา้ งฟอร์มยอ่ ย

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. บอกความหมายของการสรา้ งความสัมพนั ธไ์ ด้
2. อธบิ ายข้ันตอนในการสรา้ งความสัมพันธไ์ ด้
3. อธิบายวธิ ีการสร้างความสัมพนั ธไ์ ด้
4. อธิบายวธิ ีการสรา้ งฟอรม์ หลักและฟอร์มย่อยได้
5. ปฏบิ ัติการเลือกใชก้ ารสรา้ งความสัมพันธไ์ ด้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั การสร้างความสัมพนั ธแ์ ละการสร้างฟอร์มยอ่ ย
2 วางแผนการใชก้ ารสรา้ งความสมั พันธ์และการสร้างฟอรม์ ย่อย

เครื่องมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สอื

ลำดับข้นั ตอนการปฏบิ ัติงาน
1. ใหน้ ักศึกษาแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม เพื่อศึกษาและอภปิ ราย
1.1 อธบิ ายความรู้เก่ียวกับความเขา้ ใจการสรา้ งฟอร์มเช่อื มโยง
1.2 เขียนรปู พร้อมอธบิ ายความเข้าใจการสรา้ งฟอร์มเช่อื มโยง
2. เขยี นอภปิ รายและวเิ คราะหใ์ ส่กระดาษ
3. นำผลงานส่งครูผู้สอนเพอื่ ประเมนิ ผล

ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง

ผูเ้ รียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ี่ถ้วน ละเอียด และรอบคอบก่อน เพ่ือปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การส่งงาน

273

ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี)
นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้ถกู ตอ้ ง

การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ให้ชัดเจน)
1. สังเกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื ร้น
ในการแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรียนรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหัดหลังเรยี นได้ถูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ

เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียนวชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ของ สำนักพมิ พ์จติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

274

ใบกิจกรรมท่ี 13 หน่วยที่ 13

รหัสวิชา 30204-2002 ชอ่ื วชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ภาคเรียนท่ี 1

ชื่อหน่วย การสรา้ งความสมั พันธ์และการสรา้ งฟอร์มยอ่ ย เวลารวม 4 ชั่วโมง

ช่ืองาน การสร้างความสมั พันธ์และการสรา้ งฟอร์มยอ่ ย จำนวน 4 ชั่วโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพือ่ มคี วามรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งความสัมพันธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ย่อย
2. เพอื่ มีความรูค้ วามเขา้ ใจกระบวนการสร้างความสมั พนั ธแ์ ละการสร้างฟอร์มยอ่ ย

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกความหมายของการสร้างความสัมพนั ธ์ได้
2. อธบิ ายขัน้ ตอนในการสรา้ งความสัมพนั ธไ์ ด้
3. อธบิ ายวิธีการสรา้ งความสมั พนั ธไ์ ด้
4. อธิบายวธิ กี ารสรา้ งฟอร์มหลกั และฟอรม์ ยอ่ ยได้
5. ปฏิบัติการเลือกใช้การสร้างความสัมพันธไ์ ด้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความร้เู กย่ี วกบั การสรา้ งความสัมพันธแ์ ละการสรา้ งฟอร์มย่อย
2 วางแผนการใชก้ ารสร้างความสัมพนั ธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ย่อย

เคร่ืองมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสอื

ลำดบั กจิ กรรม
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการงา่ ยเพื่อใหห้ าคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำขอ้ สงสัยซักถามครูในการเรยี นทกุ คร้ังทเ่ี กดิ ความสบั สน และไม่เขา้ ใจ

2. ผู้มกี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่อื เสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ รงิ
3. ผู้เรยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขข้อท่ผี ิดใหถ้ กู ต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการพร้อมกับ
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพ่ือเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
ไม่ใช่เกดิ จากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เมอ่ื ได้รบั มอบหมายงานมา

275

การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทันเวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรยี นได้ถกู ต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ

เอกสารอา้ งอิง
หนังสือเรียนวชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู ของ สำนกั พิมพจ์ ติ รวฒั น์ (JW) กทม., 2563

276

ใบปฏบิ ตั ิงานที่ 13 หนว่ ยท่ี 13

รหสั วิชา 30204-2002 ชอ่ื วิชา ระบบจัดการฐานขอ้ มูล ภาคเรยี นท่ี 1

ช่ือหน่วย การสรา้ งความสัมพนั ธ์และการสร้างฟอร์มยอ่ ย เวลารวม 4 ชั่วโมง

ชื่องาน การสรา้ งความสัมพันธ์และการสร้างฟอร์มยอ่ ย จำนวน 4 ชัว่ โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงคท์ ่ัวไป
1. เพือ่ มีความรู้ความเข้าใจการสร้างความสมั พันธ์และการสร้างฟอรม์ ย่อย
2. เพอ่ื มีความร้คู วามเข้าใจกระบวนการสรา้ งความสัมพันธแ์ ละการสรา้ งฟอร์มย่อย

จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. บอกความหมายของการสรา้ งความสมั พนั ธ์ได้
2. อธิบายขัน้ ตอนในการสร้างความสมั พนั ธไ์ ด้
3. อธิบายวิธีการสรา้ งความสมั พันธ์ได้
4. อธบิ ายวธิ กี ารสรา้ งฟอร์มหลักและฟอร์มยอ่ ยได้
5. ปฏิบัติการเลอื กใชก้ ารสร้างความสัมพันธไ์ ด้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรูเ้ กีย่ วกบั การสรา้ งความสัมพันธ์และการสร้างฟอรม์ ยอ่ ย
2 วางแผนการใช้การสรา้ งความสัมพนั ธ์และการสร้างฟอร์มย่อย

เครอื่ งมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ

ลำดับขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ผเู้ รียนคน้ หาข้อมลู จากในอนิ เตอร์เนต็ ตามเรือ่ งท่ไี ด้รบั มอบหมายมาจาครูผสู้ อน
2. เมื่อผู้เรียนได้รับข้อมูลเรียบร้อยแลว้ ให้ผเู้ รยี น นำข้อมูลนน้ั มาเรียบเรยี งใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจไดง้ า่ ย โดยจัดทำในรูปแบบเลม่ รายงาน

ภาพประกอบ

ข้อควรระวัง
ผู้เรียนควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนให้ถถ่ี ว้ น ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพ่อื ป้องกันความผดิ พลาดก่อน

การส่งงาน

277

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

278

ใบมอมหมายงานท่ี 13 หน่วยท่ี 13

รหสั วชิ า 30204-2002 ชอื่ วชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ภาคเรยี นที่ 1

ช่อื หน่วย การสร้างความสัมพันธแ์ ละการสรา้ งฟอร์มย่อย เวลารวม 4 ชั่วโมง

ชอื่ งาน การสร้างความสัมพนั ธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ยอ่ ย จำนวน 4 ชว่ั โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงคท์ ั่วไป
1. เพื่อมคี วามรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งความสัมพันธ์และการสร้างฟอรม์ ยอ่ ย
2. เพ่ือมีความรู้ความเข้าใจกระบวนการสรา้ งความสมั พนั ธ์และการสร้างฟอร์มย่อย

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของการสร้างความสมั พนั ธไ์ ด้
2. อธบิ ายขัน้ ตอนในการสรา้ งความสมั พนั ธไ์ ด้
3. อธิบายวธิ กี ารสรา้ งความสมั พนั ธไ์ ด้
4. อธบิ ายวธิ ีการสร้างฟอรม์ หลกั และฟอร์มย่อยได้
5. ปฏิบัติการเลือกใช้การสรา้ งความสมั พันธไ์ ด้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การสร้างความสมั พันธแ์ ละการสรา้ งฟอร์มยอ่ ย
2 วางแผนการใช้การสรา้ งความสัมพนั ธแ์ ละการสร้างฟอรม์ ยอ่ ย

เคร่ืองมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

แนวทางการปฏิบัตงิ าน
1. ให้ผเู้ รยี นปฏิบัติงานตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ัตงิ าน อยา่ งเคร่งครดั ตามหัวข้อท่ีไดร้ ับ
มอบหมาย ให้เสรจ็ ส้นิ ตามระยะเวลาท่ีกำหนด พร้อมท้ังการจดั ทำรายงาน และนำเสนองานอย่าง
ถกู ต้อง ครบถ้วน เป็นระเบียบเรียบรอ้ ย
2. ใหผ้ ู้เรียนแบง่ หนา้ ทก่ี บั เพือ่ นในกล่มุ ให้ชดั เจน และสามารถเขา้ ใจเน้ือหาตามหัวข้อดงั กลา่ ว ได้
อยา่ งถกู ตอ้ ง ครบถ้วน

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

ผูเ้ รียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนให้ถ่ถี ้วน ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพ่อื ปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การส่งงาน

279

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

280

แบบประเมนิ ผลงาน

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี.............................................................................................................................

ชอ่ื กลมุ่ .........................................................................ช้นั ................................................................

รายชอื่ สมาชิก 1...............................................................................................................................

2...............................................................................................................................

3...............................................................................................................................

ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ
321

1

2

3

4

5

รวม

ผู้ประเมิน..............................................
วนั ท.่ี .............เดอื น...............................พ.ศ...................

281

เกณฑ์การประเมนิ
1. ความถูกต้องของเนือ้ หา

3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคัญครบถ้วน ส่อื ความหมายชัดเจนและมรี ปู ภาพประกอบ
2 คะแนน = มีเนือ้ หาสาระสำคัญครบถ้วน ส่ือความหมายและมีรปู ภาพไม่ตรงเนอื้ หา
1 คะแนน = มเี นอ้ื หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถว้ น
2. ความประณีตสวยงาม
3 คะแนน = รูปภาพสวยงาม ตัวอักษรคมชัด สีสันเหมาะสม การวางรูปแบบสมดุล
2 คะแนน = รูปภาพสวยงาม ตัวอกั ษรคมชัด การวางรปู แบบสมดุล
1 คะแนน = รปู ภาพไมส่ วยงาม การวางรูปแบบสมดุล
3. ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์
3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ในทอ้ งถ่นิ

และประหยัด
2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ในทอ้ งถ่ิน

แต่ไม่ประหยัด
1 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่าสนใจ
4. สารประโยชน์
3 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชดั เจน
2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกับองค์ประกอบ ไม่ครอบคลมุ แต่ชดั เจน
1 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน

282

แบบประเมินผลงาน
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี.............................................................................................................................
ช่อื กลมุ่ .........................................................................ช้ัน................................................................

รายชื่อสมาชิก 1...............................................................................................................................
2...............................................................................................................................
3...............................................................................................................................

ข้อที่ รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ
321
1 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา
2 ความประณีตสวยงาม
3 ความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์
4 สาระประโยชน์
5 .................................................................

รวม

ผปู้ ระเมนิ ..............................................
วนั ท.่ี .............เดอื น...............................พ.ศ...................

283

เกณฑ์การประเมนิ
1. ความถูกต้องของเนือ้ หา

3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคัญครบถ้วน ส่อื ความหมายชัดเจนและมรี ปู ภาพประกอบ
2 คะแนน = มีเนือ้ หาสาระสำคัญครบถ้วน ส่ือความหมายและมีรปู ภาพไม่ตรงเนอื้ หา
1 คะแนน = มเี นอ้ื หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถ้วน
2. ความประณีตสวยงาม
3 คะแนน = รูปภาพสวยงาม ตัวอักษรคมชัด สีสันเหมาะสม การวางรูปแบบสมดุล
2 คะแนน = รูปภาพสวยงาม ตัวอกั ษรคมชัด การวางรปู แบบสมดุล
1 คะแนน = รปู ภาพไมส่ วยงาม การวางรูปแบบสมดุล
3. ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์
3 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ในทอ้ งถ่นิ

และประหยัด
2 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มกี ารประยกุ ต์ใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ในทอ้ งถ่ิน

แต่ไม่ประหยัด
1 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่าสนใจ
4. สารประโยชน์
3 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชดั เจน
2 คะแนน = ใหค้ วามคิดรวบยอดเกย่ี วกับองค์ประกอบ ไม่ครอบคลมุ แต่ชดั เจน
1 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบ ไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน

284

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี.............................................................................................................................
ช่อื กลุม่ .........................................................................ชน้ั ................................................................

รายช่ือสมาชิก 1...............................................................................................................................
2...............................................................................................................................
3...............................................................................................................................

ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ
321

1

2

3

4

5

รวม

ผูป้ ระเมนิ ..............................................
วนั ท.่ี .............เดอื น...............................พ.ศ...................

285

เกณฑ์การประเมนิ

1. การเตรยี มความพรอ้ ม
3 คะแนน = มกี ารจดั เตรยี มสถานที่ สื่อ/อุปกรณ์ไวอ้ ย่างพรอ้ มเพรยี ง
2 คะแนน = มีสื่อ/อุปกรณพ์ ร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานที่
1 คะแนน = สื่อ/อปุ กรณไ์ มเ่ พยี งพอ ขาดการจดั เตรียมสถานท่ี

2. เนอ้ื หาสาระ
3 คะแนน = สาระสำคญั ครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์
2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจดุ ประสงค์
1 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์

3. รปู แบบการนำเสนอ
3 คะแนน = มรี ูปแบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสือ่ และ
ใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ นำวัสดุในทอ้ งถิ่นมาประยกุ ต์ใช้
อย่างคุ้มค่าและประหยัด
2 คะแนน = ใชเ้ ทคนิคแปลกใหม่ มีส่อื และใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ
ขาดการประยกุ ตใ์ ช้วัสดใุ นทอ้ งถ่ิน
1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่นา่ สนใจ

4. การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิก
3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมบี ทบาทและมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่
2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญม่ ีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่
1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่

5. การรักษาเวลา
3 คะแนน = ดำเนนิ กจิ กรรมไดต้ ามเวลาท่กี ำหนด
2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กว่าเวลาท่ีกำหนด
1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กวา่ เวลาทีก่ ำหนด

6. ความสนใจของผู้ฟัง
3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ ร้อยละ 80 สนใจ และให้ความร่วมมอื
2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามรว่ มมอื
1 คะแนน = ผู้ฟังนอ้ ยกว่า ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื

286

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่.............................................................................................................................
ชื่อกลุม่ .........................................................................ช้นั ................................................................

รายช่อื สมาชกิ 1...............................................................................................................................
2...............................................................................................................................
3...............................................................................................................................

ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ
321
1 การเตรียมความพร้อม
2 เนอื้ หาสาระ
3 รูปแบบการนำเสนอ
4 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุม่
5 การรักษาเวลา
6 ความสนใจของผู้ฟัง

รวม

ผู้ประเมนิ ..............................................
วันท่.ี .............เดือน...............................พ.ศ...................

287

เกณฑ์การประเมนิ

1. การเตรยี มความพรอ้ ม
3 คะแนน = มกี ารจดั เตรยี มสถานที่ สื่อ/อุปกรณ์ไวอ้ ย่างพรอ้ มเพรยี ง
2 คะแนน = มีสื่อ/อุปกรณพ์ ร้อม ขาดการจัดเตรียมสถานที่
1 คะแนน = สื่อ/อปุ กรณไ์ มเ่ พยี งพอ ขาดการจดั เตรียมสถานท่ี

2. เน้อื หาสาระ
3 คะแนน = สาระสำคญั ครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์
2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจดุ ประสงค์
1 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์

3. รปู แบบการนำเสนอ
3 คะแนน = มรี ูปแบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสือ่ และ
ใช้เทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ นำวัสดุในทอ้ งถิ่นมาประยกุ ต์ใช้
อย่างคุ้มค่าและประหยัด
2 คะแนน = ใชเ้ ทคนิคแปลกใหม่ มีส่อื และใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ
ขาดการประยกุ ตใ์ ช้วัสดใุ นทอ้ งถ่ิน
1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไม่นา่ สนใจ

4. การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิก
3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมบี ทบาทและมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่
2 คะแนน = สมาชกิ สว่ นใหญม่ ีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่
1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่

5. การรักษาเวลา
3 คะแนน = ดำเนนิ กจิ กรรมไดต้ ามเวลาท่กี ำหนด
2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กว่าเวลาท่ีกำหนด
1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กวา่ เวลาทีก่ ำหนด

6. ความสนใจของผู้ฟัง
3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ ร้อยละ 80 สนใจ และให้ความร่วมมอื
2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามรว่ มมอื
1 คะแนน = ผู้ฟังนอ้ ยกว่า ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื

288

รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้

 เห็นควรอนุญาตให้ใชก้ ารสอนได้

 เหน็ ควรปรบั ปรุงเก่ียวกบั ..........................................................................................................

.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................

.................................................................
ลงช่ือ (...............................................................)

หวั หน้าหมวด/แผนกวิชา
............./.............../…………….

 ควรอนญุ าตใหน้ ำไปใช้การสอนได้

 ควรปรับปรุงเก่ียวกบั .................................................................................................................

.........................................................................................................................................................

 อื่น ๆ...........................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................

.................................................................
ลงชอ่ื (...............................................................)

รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
............/................./..............

 อนญุ าตใหน้ ำไปใช้สอนได้

 อ่ืน ๆ .........................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

.................................................................
ลงช่อื (...............................................................)

289

ผูอ้ ำนวยการ

290

รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้
 เห็นควรอนุญาตใหใ้ ช้การสอนได้
 เหน็ ควรปรับปรงุ เกยี่ วกบั ..........................................................................................................

.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................

.................................................................
ลงชอ่ื (...............................................................)

หัวหนา้ หมวด/แผนกวชิ า
............./.............../…………….

 ควรอนญุ าตใหน้ ำไปใชก้ ารสอนได้

 ควรปรบั ปรงุ เก่ยี วกับ .................................................................................................................

.........................................................................................................................................................

 อื่น ๆ...........................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................

.................................................................
ลงช่อื (...............................................................)

รองผ้อู ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
............/................./..............

 อนญุ าตใหน้ ำไปใช้สอนได้

 อนื่ ๆ .........................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

.................................................................
ลงช่อื (...............................................................)

ผู้อำนวยการ
............./.............../………….


Click to View FlipBook Version