แผนวิชาระบบจัดการฐานข้อมูล

196

6. ข้อใดเป็นการพมิ พค์ ำส่งั ในการคน้ หาถูกต้อง
ก. (กรณุ ากรอกชอ่ื )
ข. “กรุณากรอกชอ่ื ”
ค. ‘กรณุ ากรอกช่อื ’
ง. [กรุณากรอกช่อื ]
จ. &กรณุ ากรอกชื่อ&

7. การพิมพ์คำส่ังในการคน้ หาจะต้องพิมพใ์ หอ้ ยูใ่ นสว่ นใด
ก. Field
ข. Table
ค. Sort
ง. Show
จ. or

8. ถา้ ไม่ตอ้ งการให้ขอ้ มูลในฟิลดใ์ ดฟลิ ด์หนึ่งแสดง จะตอ้ งคลิกทเ่ี ครอื่ งหมายถูกออกในช่องใด
ก. Field
ข. Table
ค. Sort
ง. Show
จ. or

9. การพิมพส์ ตู รคำนวณถ้าไมก่ ำหนดช่อื ฟิลด์จะปรากฏช่ือวา่ อะไร
ก. Expr1:
ข. Expr1&
ค. Expr1=
ง. Total:
จ. Total=

10. ข้อใดเป็นการพมิ พ์สตู รคำนวณถูกตอ้ ง
ก. Bonus=[Salary]*2
ข. Bonus:[Salary]*2
ค. Bonus:(Salary)*2
ง. Bonus:([Salary]*2)
จ. Bonus=(Salary)*2

เอกสารอ้างอิง
หนังสือเรยี นวิชา ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

ภาคผนวก (ถา้ ม)ี

197

ใบงานท่ี 9 หน่วยท่ี 9

รหสั วิชา 30204-2002 ช่อื วิชา ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ภาคเรยี นท่ี 1

ชื่อหนว่ ย การสรา้ งแบบสอบถาม เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ช่อื งาน การสร้างแบบสอบถาม จำนวน 4 ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพ่อื มคี วามรู้ความเข้าใจการสร้างแบบสอบถาม
2. เพ่ือมีความรคู้ วามเข้าใจส่วนประกอบการสร้างแบบสอบถาม

จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของแบบสอบถามได้
2. อธิบายประโยชนข์ องแบบสอบถามได้
3. อธบิ ายวิธกี ารสร้างแบบสอบถามได้
4. อธิบายวธิ ีการออกแบบแบบสอบถามได้
5. อธิบายวธิ ีการคำนวณในแบบสอบถามได้
6. อธบิ ายวธิ ีการออกแบบแบบสอบถามเองได้
7. ปฏิบัตกิ ารเลอื กใช้การออกแบบและสร้างแบบสอบถามให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1. แสดงความร้เู กีย่ วกับ การสรา้ งแบบสอบถาม
2. วางแผนการใชก้ ารสร้างแบบสอบถาม

เครอ่ื งมอื วัสดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ

ลำดบั ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงาน
1. ใหน้ กั ศกึ ษาแบ่งกล่มุ ตามความเหมาะสม เพ่ือศึกษาและอภิปราย
1.1 อธบิ ายความร้เู กย่ี วกับความเข้าใจการสร้างแบบสอบถาม 1.2 เขยี นรูปพร้อมอธบิ าย
ความเข้าใจการสรา้ งแบบสอบถาม
2. เขียนอภิปรายและวเิ คราะหใ์ ส่กระดาษ
3. นำผลงานสง่ ครผู ู้สอนเพอ่ื ประเมินผล

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

ผู้เรียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ่ีถ้วน ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพ่ือปอ้ งกันความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน

198

ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี)
นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้ถกู ตอ้ ง

การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน)
1. สังเกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือร้น
ในการแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรียนรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหัดหลังเรยี นได้ถูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ

เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียนวชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

199

ใบกจิ กรรมที่ 9 หนว่ ยท่ี 9

รหสั วชิ า 30204-2002 ช่อื วิชา ระบบจดั การฐานข้อมูล ภาคเรียนที่ 1

ช่อื หนว่ ย การสรา้ งแบบสอบถาม เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ชือ่ งาน การสรา้ งแบบสอบถาม จำนวน 4 ชว่ั โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงค์ท่ัวไป
1. เพ่ือมคี วามรู้ความเขา้ ใจการสร้างแบบสอบถาม
2. เพอื่ มีความรู้ความเข้าใจสว่ นประกอบการสร้างแบบสอบถาม

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของแบบสอบถามได้
2. อธบิ ายประโยชน์ของแบบสอบถามได้
3. อธิบายวธิ ีการสรา้ งแบบสอบถามได้
4. อธบิ ายวธิ กี ารออกแบบแบบสอบถามได้
5. อธิบายวธิ กี ารคำนวณในแบบสอบถามได้
6. อธิบายวธิ กี ารออกแบบแบบสอบถามเองได้
7. ปฏบิ ตั ิการเลือกใช้การออกแบบและสร้างแบบสอบถามใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหนว่ ย
1. แสดงความรู้เกยี่ วกับ การสร้างแบบสอบถาม
2. วางแผนการใชก้ ารสร้างแบบสอบถาม

เครอื่ งมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สอื

ลำดบั กจิ กรรม
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการงา่ ยเพื่อให้หาคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำข้อสงสยั ซักถามครูในการเรียนทกุ ครั้งทีเ่ กิดความสับสน และไมเ่ ขา้ ใจ

2. ผู้มีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพอื่ เสริมสร้างความเข้าใจอย่างแทจ้ รงิ
3. ผู้เรียนหม่นั ทำใบงาน แบบฝึกหดั และแก้ไขขอ้ ท่ีผดิ ใหถ้ กู ตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการพร้อมกับ
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพ่ือเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
ไม่ใช่เกดิ จากการท่องจำ

200

5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เมื่อได้รบั มอบหมายงานมา
การประเมินผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน)

1. สังเกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรยี นรู้ประจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ทันเวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝึกหดั หลงั เรยี นได้ถูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ
เอกสารอ้างองิ
หนงั สือเรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พิมพจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

201

ใบปฏบิ ัตงิ านที่ 9 หนว่ ยท่ี 9

รหัสวิชา 30204-2002 ชอื่ วิชา ระบบจดั การฐานข้อมูล ภาคเรียนท่ี 1

ชอ่ื หน่วย การสร้างแบบสอบถาม เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ชอ่ื งาน การสรา้ งแบบสอบถาม จำนวน 4 ชวั่ โมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพ่อื มีความรู้ความเข้าใจการสร้างแบบสอบถาม
2. เพอ่ื มีความรูค้ วามเขา้ ใจส่วนประกอบการสร้างแบบสอบถาม

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของแบบสอบถามได้
2. อธบิ ายประโยชนข์ องแบบสอบถามได้
3. อธบิ ายวธิ กี ารสรา้ งแบบสอบถามได้
4. อธิบายวิธีการออกแบบแบบสอบถามได้
5. อธิบายวธิ ีการคำนวณในแบบสอบถามได้
6. อธบิ ายวิธกี ารออกแบบแบบสอบถามเองได้
7. ปฏบิ ตั ิการเลือกใชก้ ารออกแบบและสรา้ งแบบสอบถามใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหนว่ ย
1. แสดงความรเู้ กยี่ วกบั การสรา้ งแบบสอบถาม
2. วางแผนการใชก้ ารสรา้ งแบบสอบถาม

เครือ่ งมือ วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

ลำดับขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน
1. ผู้เรียนคน้ หาขอ้ มลู จากในอินเตอรเ์ นต็ ตามเรอ่ื งท่ีได้รับมอบหมายมาจาครผู ้สู อน
2. เม่ือผู้เรยี นไดร้ บั ข้อมูลเรยี บรอ้ ยแล้ว ให้ผู้เรียน นำขอ้ มลู นนั้ มาเรียบเรียงใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเขา้ ใจได้งา่ ย โดยจดั ทำในรูปแบบเลม่ รายงาน

ภาพประกอบ

ข้อควรระวัง
ผ้เู รยี นควรตรวจสอบข้อมูลกอ่ นให้ถ่ีถ้วน ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพ่ือปอ้ งกันความผิดพลาดก่อน

การสง่ งาน

202

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

203

ใบมอมหมายงานที่ 9 หน่วยที่ 9

รหัสวชิ า 30204-2002 ชือ่ วชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ภาคเรยี นที่ 1

ชอื่ หน่วย การสรา้ งแบบสอบถาม เวลารวม 8 ชั่วโมง

ชอ่ื งาน การสรา้ งแบบสอบถาม จำนวน 4 ชวั่ โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. เพ่ือมคี วามรู้ความเข้าใจการสร้างแบบสอบถาม
2. เพื่อมีความรูค้ วามเขา้ ใจสว่ นประกอบการสร้างแบบสอบถาม

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของแบบสอบถามได้
2. อธบิ ายประโยชน์ของแบบสอบถามได้
3. อธบิ ายวิธกี ารสร้างแบบสอบถามได้
4. อธิบายวิธีการออกแบบแบบสอบถามได้
5. อธบิ ายวธิ กี ารคำนวณในแบบสอบถามได้
6. อธบิ ายวธิ กี ารออกแบบแบบสอบถามเองได้
7. ปฏิบัตกิ ารเลอื กใช้การออกแบบและสร้างแบบสอบถามใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1. แสดงความรู้เกีย่ วกับ การสรา้ งแบบสอบถาม
2. วางแผนการใช้การสร้างแบบสอบถาม

เครอื่ งมือ วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสอื

แนวทางการปฏบิ ตั งิ าน
1. ใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ัติงานตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ตั งิ าน อยา่ งเคร่งครดั ตามหวั ขอ้ ทีไ่ ด้รบั
มอบหมาย ให้เสรจ็ ส้นิ ตามระยะเวลาท่ีกำหนด พร้อมทั้งการจดั ทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง
ถูกต้อง ครบถว้ น เปน็ ระเบียบเรียบร้อย
2. ให้ผูเ้ รียนแบง่ หน้าท่ีกบั เพ่ือนในกลุ่มให้ชัดเจน และสามารถเข้าใจเนอ้ื หาตามหัวข้อดังกลา่ ว ได้
อย่างถูกต้อง ครบถว้ น

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

204

ผู้เรียนควรตรวจสอบข้อมูลกอ่ นใหถ้ ีถ่ ว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพอื่ ป้องกันความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ

นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาให้สอดคล้องกับภาพให้
ถูกตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือร้นใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทนั เวลาทกี่ ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหดั หลังเรยี นได้ถูกต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างตำ่
เอกสารอ้างอิง
หนังสอื เรียนวิชา ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนักพิมพจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

205

แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยท.ี่ .............. 10..................................... จำนวน........8..........ชั่วโมง สัปดาห์ที่.....12-13......
ช่ือวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มูล
ช่ือหนว่ ย การสรา้ งฟอรม์
ช่ือเร่อื ง การสรา้ งฟอรม์

1. สาระสำคัญ
ฟอร์ม (Form) จะช่วยในการออกแบบฐานข้อมูลมีความสวยงาม และสะดวกในการใช้งานมากยิ่งข้ึน

เพราะฟอร์มจะสามารถที่จะสร้างปุ่มเครื่องมือต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา การเชื่อมโยงไปยังฟอรม์ หรอื
รายงานที่ต้องการ การเลื่อนหรือถอยไปยังฟอร์มที่ต้องการ ทั้งน้ี แบบของฟอร์มจะแบ่งออกเป็น 6 ประเภท
ด้วยกันคือ ฟอร์มสำหรับป้อนข้อมูล ฟอร์มแบบกำหนดเอง ฟอร์มแบบแผ่นตารางข้อมูล Main/Sub Forms,
Pivot Table Forms และ Pivot Chart Forms

2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1 แสดงความรู้เก่ยี วกับการสร้างฟอร์ม
2 วางแผนการใชก้ ารสร้างฟอรม์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 จุดประสงคท์ ว่ั ไป
1. เพ่อื มีความรู้ความเขา้ ใจการสร้างฟอร์ม
2. เพ่ือมีความร้คู วามเข้าใจกระบวนการสร้างฟอร์ม
3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. บอกความหมายของฟอรม์ ได้
2. อธิบายประโยชน์และประเภทของฟอร์มได้
3. อธบิ ายวิธกี ารสร้างฟอร์มแบบต่าง ๆ ได้
4. อธิบายวิธีการสร้างปมุ่ เคร่ืองมอื ต่าง ๆ ได้
5. ปฏบิ ตั กิ ารเลอื กใช้การออกแบบและสรา้ งแบบสอบถามให้เหมาะสมกับงานได้

4. สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของฟอร์ม
2. ประโยชน์ของฟอรม์
3. ประเภทของฟอรม์
4. มมุ มองของฟอรม์
5. การสรา้ งฟอร์มโดยใชเ้ ครอ่ื งมือ Form

206

6. การสรา้ งฟอรม์ เดี่ยวหรอื ฟอรม์ สำหรบั กรอกขอ้ มลู
7. การปรบั แต่งฟอรม์
8. การปรบั แต่งฟอร์มในสว่ นของ Form Header และ Form Footer
9. การบันทึก
10. การสร้างปุ่มเครื่องมอื
11. การสรา้ งฟอรม์ จากแบบสอบถาม
12. การสรา้ งโดยการออกแบบเอง
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี......12-13.........)
กระบวนการจัดการเรียนรู้
5.1 ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1.ผสู้ อนแนะนำเน้ือหาการเรยี นรู้ และแนวทางการเรยี นรู้ในหนว่ ยการเรยี น

2.ผ้สู อนให้ผเู้ รยี นตอบต้งั คำถาม และซกั ถามในเรื่องการสร้างฟอร์ม

5.2 ข้นั สอน

1.ผู้สอนให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษารายละเอยี ดข้อมูลในเร่อื งความรู้เก่ียวกบั การสรา้ งฟอร์ม

2.ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคิดเห็นและมสี ่วนรว่ มในการวิเคราะหเ์ นอ้ื หาท่เี รยี นรู้ โดยเนน้ ใหผ้ ้เู รยี นได้มี

การแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ และมสี ว่ นร่วม

3.ผู้สอนให้ผู้เรยี นได้ฝึกปฎบิ ัติการสรา้ งฟอรม์ เชือ่ มโยง โดยผู้สอนคอยให้คำปรกึ ษา และอธิบาย

ข้ันตอน การใชง้ านตามลำดับ

5.3 ข้นั สรุป

1.ผู้สอนและผูเ้ รียนสรุปเนื้อหาการเรยี นรู้อีกครงั้ ดว้ ยการตั้งคำถาม และให้เหตุผลในการตอบคำถามใน
แต่ละเนื้อหาเพือ่ ทบทวนอีกครง้ั

2.มอบหมายภาระงานและแบบฝึกหดั
3.ปฏิบตั ิตามใบงาน
6. สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
6.1 หนังสือเรียน รหัส 30204-2002ระบบจัดการฐานข้อมูล
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝึกหัด
6.4 แบบฝกึ ปฏิบัติ
6.5 แบบทดสอบหลังเรยี น
6.7 คอมพิวเตอร์
6.8 เคร่อื งฉายโปรเจค็ เตอร์
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลักฐานความรู้

ใบงาน แบบฝึกหัด การค้นควา้ ข้อมลู ทไี่ ด้รับการเรยี บเรียง สวยงาม เปน็ ระเบยี บ ถกู ต้อง

207

7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั งิ าน

ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการค้นคว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เป็นระเบียบ

ถูกตอ้ ง พรอ้ มทง้ั เอกสารประกอบการนำเสนองานหน้าชัน้ เรยี นของผู้เรยี น และภาพประกอบ

8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เครือ่ งมือประเมนิ

1. ใบงาน

2. แบบฝกึ หัด

3. แบบประเมนิ ผลงาน

4. แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ

เครื่องมอื การประเมิน วธิ วี ัดและประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ

แบบฝกึ หัด ตรวจแบบฝึกหัด ไดค้ ะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขึ้นไป
ถกู 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

แบบฝกึ ปฏิบัติ ตรวจแบบฝึกปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป
ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น ได้คะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขนึ้ ไป
ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ ูก 0 คะแนน

แบบสงั เกตพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม สังเกตพฤตกิ รรม ได้คะแนน

จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ดี 2 คะแนน รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป

ประสงค์ พอใช้ 1 คะแนน

ปรับปรุง 0 คะแนน

9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย (ถ้ามี)
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศกึ ษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการง่ายเพือ่ ใหห้ าคำตอบได้

อย่างถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธกี ารท่ีครูผู้สอนสรุปในขณะทีท่ ำการสอน และ
นำขอ้ สงสยั ซกั ถามครูในการเรียนทุกครัง้ ที่เกดิ ความสบั สน และไมเ่ ข้าใจ

2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพอื่ เสริมสร้างความเขา้ ใจอย่างแทจ้ รงิ
3. ผเู้ รียนหมน่ั ทำใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ทผ่ี ิดใหถ้ ูกต้องเสมอ

208

4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพใหเ้ กิดความคิดรวบยอดในสาระการเรยี นรแู้ ละเทคนิควธิ ีการพรอ้ มกับความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใชใ้ ห้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ไดเ้ พื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งแท้จริงไม่ใชเ่ กดิ จาก
การท่องจำ
10. เอกสารอา้ งอิง

หนังสือเรียนวชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู ของ สำนักพิมพจ์ ิตรวฒั น์ (JW) กทม., 2563

ใบความรู้ท่ี 10 หน่วยท่ี 10

รหสั วิชา 30204-2002ช่ือวชิ า ระบบจดั การฐานขอ้ มูล ภาคเรยี นท่ี 1

ชอื่ หนว่ ย การสร้างฟอร์ม เวลารวม 8 ชั่วโมง

ช่ือเรอ่ื ง การสร้างฟอร์ม เวลา 4 ชัว่ โมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพอ่ื มคี วามรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งฟอร์ม
2. เพื่อมีความรู้ความเข้าใจกระบวนการสร้างฟอร์ม

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของฟอรม์ ได้
2. อธบิ ายประโยชน์และประเภทของฟอรม์ ได้
3. อธิบายวธิ กี ารสรา้ งฟอรม์ แบบตา่ ง ๆ ได้
4. อธบิ ายวิธกี ารสร้างปมุ่ เครือ่ งมือตา่ ง ๆ ได้
5. ปฏบิ ัติการเลอื กใช้การออกแบบและสร้างแบบสอบถามใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรเู้ กีย่ วกับการสรา้ งฟอร์ม
2 วางแผนการใช้การสร้างฟอร์ม

หน่วยท่ี 10 การสร้างฟอรม์ เชอื่ มโยง
การสร้างฟอรม์
ประเภทของฟอรม์ แบง่ ออกเป็น 6 ชนดิ

1. ฟอร์มสำหรับปอ้ นข้อมลู
2. ฟอรม์ แบบกำหนดเอง
3. ฟอรม์ แบบแผ่นตารางขอ้ มลู
4. Main / Sub forms
5. Pivot Table Forms
6. Pivot Chart Forms
7.

209

มุมมองของฟอร์ม
1. มมุ มองเคา้ โครง (Layout View)
2. มุมมองการออกแบบ (Design View)
3. มุมมองฟอรม์ (Form View

การสรา้ งฟอร์มทำได้ 3 วิธี คอื
1. การสร้างฟอร์มด้วยเครื่องมอื ช่วยสร้างฟอร์ม
2. การสร้างดว้ ยตวั ช่วยสรา้ ง
3. การสรา้ งฟอร์มขึ้นเองดว้ ยมุมมองออกแบบ

การสรา้ งฟอรม์ เดย่ี ว
1. เลือกตารางหรอื แบบสอบถามที่ตอ้ งการสร้างฟอรม์
2. คลิกเลือก สรา้ ง (Create)
3. เลือกไอคอน Form
4. บนั ทึกฟอร์ม

การสร้างฟอรม์ แยก
1. คลิกที่แทบ็ สรา้ ง (Create)
2. คลิกเลอื กตารางท่ีต้องการสร้าง
3. คลกิ ปมุ่ ฟอรม์ แยก (Split Form)
4. บันทึกตัง้ ช่ือฟอรม์

การสรา้ งฟอรม์ ด้วยตัวช่วยสรา้ ง( Form Wizard)
1. คลิกทีแ่ ทบ็ สร้าง (Create)
2. คลกิ ไอคอนคำสงั่ ฟอร์มเพม่ิ เติม (More Form) เลือกตวั ชว่ ยสรา้ งฟอร์ม (Form Wizard)

210

3. คลิกเลือกตาราง tbl_product
4. เลือกฟิลด์ทั้งหมด
5. ถัดไป (Next)

6. เลือกแบบคอลัมน์ (Columnar)
7. ถดั ไป (Next)

8. เลอื กรูปแบบ
9. ถดั ไป (Next

211

10. ตง้ั ชอ่ื ฟอร์ม Frm_product
11. คลกิ ป่มุ เสร็จสิน้ (Finish)

ตัวอย่างฟอร์ม

212

แบบฝกึ หัด/เฉลย
ตอนท่ี 1 จงเลือกคาํ ตอบที่ถูกตอ้ งที่สดุ เพยี งข้อเดียว
1. การป้อนขอ้ มูลในฟอรม์ แทนตารางเรยี กว่าอะไร

ก. Datasheet View
ข. Design View
ค. Table Datasheet
ง. Form View
จ. Table View
2. ประเภทของฟอร์มมที ง้ั หมดก่ีชนดิ
ก. 2 ชนดิ
ข. 3 ชนิด
ค. 4 ชนิด
ง. 5 ชนดิ
จ. 6 ชนิด
3. มมุ มองของฟอรม์ มที ั้งหมดกช่ี นิด
ก. 2 ชนดิ
ข. 3 ชนิด
ค. 4 ชนดิ
ง. 5 ชนิด
จ. 6 ชนิด
4. ขอ้ ใดเป็นมุมมองการออกแบบของฟอร์ม
ก. Layout View
ข. Form View
ค. Design View
ง. Datasheet View
จ. Design Form
5. ขอ้ ใดหมายถึงฟอร์มเปล่า
ก. Form
ข. Form Design
ค. Blank Form
ง. Form Wizard
จ. Navigation

213

6. ข้อใดหมายถงึ ฟอร์มท่สี ร้างโดยใช้ตวั ชว่ ย
ก. Form
ข. Form Design
ค. Blank Form
ง. Form Wizard
จ. Navigation

7. Split Form หมายถงึ ฟอร์มแบบใด
ก. ฟอร์มแบบหลายรายการ
ข. ฟอร์มแบบแผ่นขอ้ มูล
ค. ฟอร์มแยก
ง. ฟอรม์ แบบกลอ่ งโต้ตอบโมดอล
จ. ฟอรม์ แบบ Pivot Table

8. ปมุ่ เคร่อื งมอื Previous record หมายถึงอะไร
ก. ไปเรคอร์ดกอ่ นหนา้ น้ี
ข. ไปเรคอร์ดต่อไป
ค. ไปเรคอร์ดแรก
ง. ไปเรคอรด์ สุดท้าย
จ. ไปเรคอร์ดปัจจุบัน

9. ส่วนประกอบของฟอร์มมที ง้ั หมดกสี่ ่วน
ก. 1 สว่ น
ข. 2 ส่วน
ค. 3 ส่วน
ง. 4 ส่วน
จ. 5 ส่วน

10. การสรา้ งป่มุ เคร่อื งมือเพ่อื คน้ หาข้อมลู จะตอ้ งใชค้ ำส่ังใด
ก. Find Record
ข. Go To First Record
ค. Go To Last Record
ง. Go To Next Record
จ. Go To Previous Record

เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียนวิชา ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนักพิมพ์จิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

ภาคผนวก (ถา้ ม)ี

214

ใบงานที่ 10 หน่วยที่ 10

รหัสวิชา 30204-2002 ชื่อวชิ า ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ภาคเรียนที่ 1

ชอื่ หนว่ ย การสรา้ งฟอรม์ เวลารวม 8 ชั่วโมง

ช่ืองาน การสรา้ งฟอรม์ จำนวน 4 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงคท์ ั่วไป
1. เพื่อมีความรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งฟอร์ม
2. เพ่อื มคี วามร้คู วามเข้าใจกระบวนการสรา้ งฟอรม์

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกความหมายของฟอร์มได้
2. อธบิ ายประโยชน์และประเภทของฟอร์มได้
3. อธบิ ายวธิ กี ารสรา้ งฟอรม์ แบบตา่ ง ๆ ได้
4. อธิบายวิธกี ารสร้างปมุ่ เคร่อื งมือตา่ ง ๆ ได้
5. ปฏบิ ตั กิ ารเลอื กใชก้ ารออกแบบและสรา้ งแบบสอบถามให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหนว่ ย
1 แสดงความร้เู กย่ี วกับการสรา้ งฟอร์ม
2 วางแผนการใชก้ ารสร้างฟอรม์

เครื่องมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

ลำดับขน้ั ตอนการปฏิบตั งิ าน
1. ใหน้ ักศกึ ษาแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม เพอ่ื ศึกษาและอภิปราย
1.1 อธิบายความรู้เกย่ี วกบั ความเขา้ ใจการสร้างฟอรม์
1.2 เขียนรปู พรอ้ มอธิบายความเขา้ ใจการสร้างฟอร์ม
2. เขียนอภิปรายและวิเคราะห์ใสก่ ระดาษ
3. นำผลงานส่งครูผู้สอนเพ่ือประเมนิ ผล

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

ผ้เู รียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ่ถี ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพอ่ื ป้องกันความผิดพลาดก่อน
การส่งงาน

215

ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี)
นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้ถกู ตอ้ ง

การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน)
1. สังเกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือร้น
ในการแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรียนรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหัดหลังเรยี นได้ถูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ

เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียนวชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

216

ใบกิจกรรมที่ 10 หนว่ ยท่ี 10

รหัสวิชา 30204-2002 ชือ่ วชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ภาคเรยี นท่ี 1

ชอื่ หน่วย การสรา้ งฟอรม์ เวลารวม 8 ชั่วโมง

ช่อื งาน การสร้างฟอรม์ จำนวน 4 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงคท์ ั่วไป
1. เพื่อมคี วามรู้ความเข้าใจการสร้างฟอร์ม
2. เพือ่ มีความรู้ความเขา้ ใจกระบวนการสร้างฟอร์ม

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของฟอรม์ ได้
2. อธบิ ายประโยชนแ์ ละประเภทของฟอร์มได้
3. อธบิ ายวิธีการสร้างฟอรม์ แบบตา่ ง ๆ ได้
4. อธบิ ายวิธกี ารสร้างปุ่มเคร่อื งมอื ต่าง ๆ ได้
5. ปฏิบัติการเลอื กใช้การออกแบบและสร้างแบบสอบถามให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรเู้ ก่ียวกับการสร้างฟอรม์
2 วางแผนการใชก้ ารสรา้ งฟอร์ม

เคร่ืองมอื วัสดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

ลำดบั กิจกรรม
1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการง่ายเพื่อใหห้ าคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำข้อสงสยั ซักถามครูในการเรียนทกุ คร้ังทเ่ี กดิ ความสับสน และไม่เขา้ ใจ

2. ผู้มีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สร้างความเข้าใจอยา่ งแทจ้ รงิ
3. ผู้เรยี นหม่นั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขขอ้ ทผ่ี ดิ ใหถ้ ูกต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพ่ือเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไม่ใชเ่ กิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เมือ่ ไดร้ บั มอบหมายงานมา

217

การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรยี นรปู้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทันเวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรยี นได้ถกู ต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ

เอกสารอา้ งอิง
หนังสือเรียนวชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู ของ สำนกั พิมพจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

218

ใบปฏบิ ัตงิ านท่ี 10 หน่วยที่ 10

รหสั วิชา 30204-2002 ชือ่ วชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู ภาคเรียนท่ี 1

ช่ือหนว่ ย การสรา้ งฟอรม์ เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ชือ่ งาน การสรา้ งฟอรม์ จำนวน 4 ช่วั โมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพ่ือมคี วามรู้ความเขา้ ใจการสร้างฟอรม์
2. เพื่อมีความรคู้ วามเขา้ ใจกระบวนการสร้างฟอรม์

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกความหมายของฟอรม์ ได้
2. อธิบายประโยชนแ์ ละประเภทของฟอรม์ ได้
3. อธบิ ายวธิ ีการสรา้ งฟอร์มแบบตา่ ง ๆ ได้
4. อธบิ ายวิธีการสรา้ งป่มุ เครื่องมอื ต่าง ๆ ได้
5. ปฏิบัตกิ ารเลือกใช้การออกแบบและสร้างแบบสอบถามให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหนว่ ย
1 แสดงความรเู้ กีย่ วกับการสร้างฟอรม์
2 วางแผนการใช้การสร้างฟอร์ม

เคร่ืองมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

ลำดับข้ันตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ผ้เู รยี นคน้ หาข้อมูลจากในอนิ เตอรเ์ น็ต ตามเรอื่ งทไี่ ด้รับมอบหมายมาจาครูผสู้ อน
2. เม่ือผูเ้ รียนได้รบั ขอ้ มูลเรยี บร้อยแล้ว ให้ผเู้ รยี น นำข้อมูลนน้ั มาเรยี บเรียงให้เปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเขา้ ใจได้ง่าย โดยจัดทำในรูปแบบเล่มรายงาน

ภาพประกอบ

ขอ้ ควรระวัง
ผู้เรียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนใหถ้ ถ่ี ้วน ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพ่ือปอ้ งกนั ความผดิ พลาดกอ่ น

การสง่ งาน

219

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

220

ใบมอมหมายงานท่ี 10 หน่วยที่ 10

รหัสวิชา 30204-2002 ชอ่ื วิชา ระบบจดั การฐานขอ้ มูล ภาคเรียนที่ 1

ชือ่ หนว่ ย การสรา้ งฟอรม์ เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ชอ่ื งาน การสร้างฟอร์ม จำนวน 4 ชว่ั โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1. เพื่อมคี วามรู้ความเขา้ ใจการสร้างฟอรม์
2. เพื่อมีความร้คู วามเข้าใจกระบวนการสรา้ งฟอรม์

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. บอกความหมายของฟอรม์ ได้
2. อธิบายประโยชนแ์ ละประเภทของฟอร์มได้
3. อธบิ ายวธิ ีการสรา้ งฟอร์มแบบตา่ ง ๆ ได้
4. อธบิ ายวธิ กี ารสร้างป่มุ เคร่อื งมือต่าง ๆ ได้
5. ปฏิบัติการเลอื กใชก้ ารออกแบบและสรา้ งแบบสอบถามใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรู้เกยี่ วกับการสร้างฟอรม์
2 วางแผนการใช้การสรา้ งฟอร์ม

เครอ่ื งมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ

แนวทางการปฏิบัติงาน
1. ให้ผู้เรียนปฏิบัติงานตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ัตงิ าน อย่างเคร่งครดั ตามหวั ข้อที่ไดร้ ับ
มอบหมาย ให้เสร็จสน้ิ ตามระยะเวลาท่กี ำหนด พร้อมท้งั การจดั ทำรายงาน และนำเสนองานอย่าง
ถูกตอ้ ง ครบถ้วน เป็นระเบียบเรียบร้อย
2. ใหผ้ เู้ รียนแบ่งหน้าทีก่ บั เพอ่ื นในกลมุ่ ให้ชัดเจน และสามารถเข้าใจเนือ้ หาตามหัวขอ้ ดังกล่าว ได้
อย่างถกู ตอ้ ง ครบถ้วน

ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง

ผเู้ รยี นควรตรวจสอบขอ้ มูลกอ่ นให้ถถ่ี ้วน ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพ่อื ป้องกนั ความผิดพลาดกอ่ น
การส่งงาน

221

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

222

แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยท.่ี .............. 11..................................... จำนวน........8..........ชั่วโมง สัปดาห์ที่.....14-15......
ชือ่ วิชา ระบบจัดการฐานข้อมลู
ชอ่ื หน่วย การสรา้ งรายงาน
ชอ่ื เรื่อง การสรา้ งรายงาน

1. สาระสำคัญ
การสรา้ งรายงานน้นั จะใชว้ ิธกี ารสร้างคล้ายกบั การสรา้ งฟอรม์ ดังนนั้ จงึ สามารถนำ ความรู้เกีย่ วกบั การ

สร้างฟอรม์ มาใชใ้ นการสรา้ งรายงานได้ นอกจากน้ีในโปรแกรม Microsoft Access นัน้ ยังมีตวั ช่วยในการสร้าง
รายงานอย่างรวดเร็ว โดยจะถามข้อมลู ที่จำเป็นในการสร้างรายงาน

2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1 แสดงความร้เู ก่ยี วกบั การสร้างรายงาน
2 วางแผนการใช้การสรา้ งรายงาน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ัว่ ไป
1. เพอ่ื มคี วามรู้ความเข้าใจการสรา้ งรายงาน
2. เพอ่ื มีความรูค้ วามเข้าใจกระบวนการสรา้ งรายงาน
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของรายงานได้
2. อธิบายประโยชนแ์ ละมมุ มองของรายงานได้
3. อธบิ ายข้นั ตอนการสรา้ งรายงานได้
4. อธิบายขัน้ ตอนการสร้างรายงานโดยใช้เครื่องมอื Report Wizard ได้
5. ปฏิบัตกิ ารเลอื กใช้การสรา้ งรายงานใหเ้ หมาะสมกบั งานได้

4. สาระการเรียนรู้ฃ
1. ความหมายของรายงาน
2. ประโยชนข์ องรายงาน
3. มุมมองของรายงาน
4. ขน้ั ตอนการสรา้ งรายงาน
5. การสรา้ งรายงานโดยใช้เครอ่ื งมือ Report Wizard

223

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ .่ี .....14-15.........)
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
5.1 ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรียน
1.ผู้สอนแนะนำเน้ือหาการเรียนรู้ และแนวทางการเรียนรู้ในหนว่ ยการเรียน

2.ผสู้ อนให้ผ้เู รียนตอบคำถาม และซกั ถามในเรอ่ื งการสร้างรายงาน

5.2 ข้ันสอน

1.ผู้สอนให้ผู้เรียนไดศ้ ึกษารายละเอยี ดข้อมลู ในเรื่องความรเู้ กย่ี วกบั การสร้างรายงาน

2.ผู้สอนให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ และมีส่วนร่วมในการวเิ คราะห์เนอ้ื หาทเ่ี รียนรู้ โดยเนน้ ให้ผเู้ รียนได้มี

การแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ และมีส่วนร่วม

3.ผสู้ อนให้ผู้เรียนไดฝ้ ึกปฎบิ ตั ิการสรา้ งฟอรม์ เช่ือมโยง โดยผู้สอนคอยให้คำปรึกษา และอธิบาย

ขั้นตอนการใช้งานตามลำดับ

5.3 ขั้นสรปุ

1.ผู้สอนและผู้เรยี นสรปุ เนอ้ื หาการเรยี นรูอ้ ีกครั้งด้วยการตัง้ คำถาม และให้เหตุผลในการตอบคำถามใน
แตล่ ะเนอื้ หาเพ่อื ทบทวนอีกครั้ง

2.มอบหมายภาระงานและแบบฝึกหดั
3.ปฏิบัติตามใบงาน
6. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
6.1 หนังสอื เรียน รหสั 30204-2002ระบบจัดการฐานขอ้ มลู
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝึกหดั
6.4 แบบฝกึ ปฏิบัติ
6.5 แบบทดสอบหลังเรยี น
6.7 คอมพิวเตอร์
6.8 เครือ่ งฉายโปรเจ็คเตอร์
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้

ใบงาน แบบฝกึ หดั การคน้ ควา้ ข้อมลู ท่ไี ด้รับการเรียบเรยี ง สวยงาม เป็นระเบยี บ ถกู ต้อง

7.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน
ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการค้นคว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เป็นระเบียบ

ถกู ตอ้ ง พรอ้ มท้ังเอกสารประกอบการนำเสนองานหนา้ ชนั้ เรียนของผู้เรียน และภาพประกอบ
8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เครือ่ งมือประเมิน

224

1. ใบงาน

2. แบบฝึกหัด

3. แบบประเมนิ ผลงาน

4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ

เครอ่ื งมอื การประเมนิ วธิ วี ัดและประเมิน เกณฑ์การประเมิน
ได้คะแนน
แบบฝกึ หดั ตรวจแบบฝึกหัด ร้อยละ 75 ข้ึนไป

ข้อละ 1 คะแนน ไดค้ ะแนน
รอ้ ยละ 75 ขึน้ ไป
ถูก 1 คะแนน
ไดค้ ะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป

แบบฝึกปฏบิ ัติ ตรวจแบบฝึกปฏิบัติ ไดค้ ะแนน
ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป
ขอ้ ละ 1 คะแนน

ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น

ขอ้ ละ 1 คะแนน

ถกู 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

แบบสังเกตพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม สังเกตพฤติกรรม

จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ดี 2 คะแนน

ประสงค์ พอใช้ 1 คะแนน

ปรับปรุง 0 คะแนน

9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถา้ มี)
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการง่ายเพือ่ ใหห้ าคำตอบได้

อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการท่ีครูผู้สอนสรุปในขณะทีท่ ำการสอน และ
นำข้อสงสยั ซักถามครใู นการเรยี นทกุ ครงั้ ทีเ่ กดิ ความสบั สน และไม่เข้าใจ

2. ผู้มีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอย่างแทจ้ ริง
3. ผเู้ รยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝกึ หัด และแกไ้ ขขอ้ ทผี่ ิดให้ถูกต้องเสมอ
4. ผเู้ รยี นต้องสรา้ งมโนภาพให้เกิดความคดิ รวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธกี ารพรอ้ มกับความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใชใ้ ห้เกิดขึน้ โดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรูค้ วามเข้าใจอยา่ งแท้จริงไม่ใช่เกิดจาก
การทอ่ งจำ
10. เอกสารอา้ งอิง
หนังสือเรยี นวิชา ระบบจดั การฐานข้อมลู ของ สำนกั พิมพจ์ ติ รวฒั น์ (JW) กทม., 2563

225

ใบความรทู้ ี่ 11 หนว่ ยที่ 11

รหสั วชิ า 30204-2002 ช่อื วิชา ระบบจดั การฐานขอ้ มูล ภาคเรียนท่ี 1

ชอ่ื หน่วย การสรา้ งรายงาน เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ชื่อเรื่อง การสรา้ งรายงาน เวลา 4 ชัว่ โมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงคท์ ่ัวไป
1. เพ่ือมคี วามรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งรายงาน
2. เพื่อมคี วามรู้ความเขา้ ใจกระบวนการสรา้ งรายงาน

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของรายงานได้
2. อธบิ ายประโยชน์และมมุ มองของรายงานได้
3. อธบิ ายขั้นตอนการสรา้ งรายงานได้
4. อธบิ ายขั้นตอนการสรา้ งรายงานโดยใชเ้ ครอ่ื งมอื Report Wizard ได้
5. ปฏิบตั ิการเลือกใชก้ ารสรา้ งรายงานให้เหมาะสมกบั งานได้

สมรรถนะรายหนว่ ย
1 แสดงความร้เู ก่ียวกบั การสรา้ งรายงาน
2 วางแผนการใช้การสร้างรายงาน

226

หน่วยที่ 11 การสร้างรายงาน
การสรา้ งรายงาน

แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท ดังน้ี
รายงานแบบตาราง (Tabular Report) เป็นรายงานที่มีการจดั เรยี งขอ้ มูลเหมอื นตาราง ซึ่งจะ
เรียงฟลิ ด์จากซา้ ยไปขวาของรายงาน
โดยจะแสดงขอ้ มลู ทุกเรคคอรด์ ในหนึง่ หนา้ รายงาน
รายงานแบบหลายคอลมั น์ (Columnar Report) เป็นรายงานทแี่ สดงขอ้ มูลซง่ึ จะจัดเรียงฟิลด์
จากบนลงล่าง โดยจะแสดงขอ้ มลู ทีละ 1 เรคคอร์ด
รายงานแบบปา้ ยช่ือ (Label Report) เป็นรายงานแบบปา้ ยฉลากท่เี รยี กว่าเลเบล สำหรับ
ติด หน้าซองตา่ งๆ เชน่ ปา้ ยติดซองจดหมาย เลเบลต่างๆ ปา้ ยฉลากสินคา้ เป็นตน้
มุมมองของรายงาน
มมุ มองรายงาน(Report View) เปน็ มุมมองท่ีใช้สำหรบั การแสดงผลในรปู แบบรายงานเท่านั้น
ไม่สามารถแกไ้ ขรายงานได้
มุมมองแสดงตวั อยา่ งก่อนพมิ พ์ (Print Preview) เป็นมุมมองทีใ่ ช้สำหรับแสดงตัวอยา่ งรายงาน
กอ่ นพิมพ์ โดยมีลกั ษณะเหมือนกับทเ่ี หน็ บนหนา้ จอ
มมุ มองเคา้ โครง (Layout View) มลี กั ษณะคลา้ ยกบั มุมมองรายงาน ในการแสดงผลขอ้ มูลและ
คลา้ ยกบั มุมมองออกแบบตรงท่ีสามารถจดั รูปแบบของรายงานได้
มุมมองออกแบบ (Design View) เป็นมมุ มองทใ่ี ช้ในการออกแบบและปรับแตง่ รูปแบบการ
แสดงผลของรายงานโดยสามารถเพมิ่ ตัวควบคุมต่างๆ เขา้ มาในรายงานได้
การสรา้ งรายงาน

ในการสร้างรายงานเพ่อื ใช้สรุปข้อมลู หรือแสดงผลจะมีลกั ษณะคลา้ ยกับฟอรม์ คือ
สามารถกำหนดเงื่อนไขของข้อมลู เพ่อื เลอื กดูเฉพาะข้อมูลที่สนใจได้ แตจ่ ะแตกต่างกนั ตรงท่ี
ฟอร์มใช้แสดงผลข้อมลู ที่หน้าจอและแก้ไขข้อมลู ได้ ส่วนรายงานพมิ พไ์ ดแ้ ต่ไม่สามารถแกไ้ ข
ขอ้ มลู ได้
การสรา้ งรายงานอยา่ งงา่ ยดว้ ยปุ่มคำส่งั Report
การสรา้ งรายงานเปลา่
การสร้างรายงานด้วยตัวช่วยสรา้ ง
การสร้างรายงานแบบเลเบล
การสรา้ งรายงานดว้ ยตวั เองในมมุ มองออกแบบ
3. จากนัน้ จะแสดงหนา้ จอรายงานขึ้นมาอตั โนมตั ิ

4. คลิกปุ่มบนั ทึก และตงั้ ชอ่ื ใหก้ ับรายงาน เชน่ rpt_product

5. คลิกปุ่มตกลง

227

การสร้างรายงานเปล่าในมุมมองเค้าโครง (Layout View)
คลกิ ที่แทบ็ สรา้ ง(Create) คลกิ ไอคอนคำสง่ั รายงานเปลา่ (Bank Report)
คลกิ เลือกตารางท่ตี อ้ งการแสดงโดยคลกิ ท่ีเคร่ืองหมาย + (บวก) ในหนา้ ตา่ งเขตขอ้ มูลในทน่ี ้ี
เลอื กตาราง tbl_product
จากนั้นเลอื กฟิลดท์ ตี่ ้องการแสดง
การบนั ทกึ รายงาน
บันทกึ รายงาน คลกิ ที่ไอคอน
ตง้ั ชอื่ รายงาน rpt_product
คลกิ ปมุ่ OK
การสร้างรายงานด้วยตัวชว่ ยสร้าง (Report Wizard)
คลกิ ทแี่ ท็บ สร้าง(Create)
คลิกไอคอนคำส่ัง ตวั ชว่ ยสรา้ งรายงาน (Report Wizard)
คลกิ เลือกตารางหรอื ควิ รีท่ีตอ้ งการ
คลกิ เลือกฟลิ ด์ท่ีต้องการ โดยคลิกท่ปี ุ่ม > เพ่อื เลอื กทลี่ ะฟลิ ด์ หรอื คลกิ ทปี่ ุ่ม >> เพือ่ เลอื กฟิลด์
ท้งั หมด
คลิกปมุ่ ถดั ไป (Next)
6.คลิกปมุ่ ถัดไป (Next)
7. คลิกปุ่ม ถัดไป (Next)
8. คลิกป่มุ ถัดไป
9. เลือกรปู แบบเคา้ โครงและรปู แบบการวาง คลิกปมุ่ ถัดไป (Next)
10. เลอื กรูปแบบ คลกิ ปุ่ม ถัดไป (Next)
11.ตัง้ ชื่อรายงาน rpt_product
การสร้างรายงานเปล่าในมมุ มองเค้าโครง (Layout View)
คลกิ ทแ่ี ท็บ สร้าง(Create) คลกิ ไอคอนคำสง่ั รายงานเปลา่ (Bank Report)
คลิกเลือกตารางที่ตอ้ งการแสดงโดยคลกิ ท่ีเครอ่ื งหมาย + (บวก) ในหน้าต่างเขตขอ้ มูลในที่นี้
เลอื กตาราง tbl_product
จากน้นั เลือกฟลิ ด์ทต่ี ้องการแสดง
การบนั ทกึ รายงาน
บันทึกรายงาน คลิกท่ไี อคอน

228

ตั้งชื่อรายงาน rpt_product

คลกิ ปมุ่ OK
การสร้างรายงานดว้ ยตวั ช่วยสร้าง (Report Wizard)
คลิกทแี่ ท็บ สรา้ ง(Create)
คลกิ ไอคอนคำสัง่ ตวั ช่วยสรา้ งรายงาน (Report Wizard)
คลิกเลือกตารางหรือคิวรที ตี่ อ้ งการ
คลิกเลือกฟิลดท์ ี่ตอ้ งการ โดยคลิกที่ป่มุ > เพอ่ื เลอื กที่ละฟิลด์ หรอื คลิกท่ีปุ่ม >> เพอ่ื เลือกฟิลด์
ท้ังหมด
คลกิ ปุ่ม ถดั ไป (Next)
6.คลกิ ปุ่ม ถัดไป (Next)
7. คลกิ ป่มุ ถดั ไป (Next)
8. คลกิ ปุ่ม ถัดไป
9. เลอื กรปู แบบเค้าโครงและรูปแบบการวาง คลกิ ปุ่ม ถดั ไป (Next)
10. เลือกรปู แบบ คลกิ ปุม่ ถัดไป (Next)
11.ตง้ั ช่ือรายงาน rpt_product

การสร้างรายงานแบบลาเบล (Label Wizard)
เลือกตารางหรือควิ รที ี่ต้องการสรา้ งเปน็ ลาเบล
คลกิ ทีแ่ ท็บ สรา้ ง (Create)
คลกิ ไอคอนคำส่ัง ป้ายชอ่ื (label)
กำหนดขนาดและชนดิ ของเลเบล
กำหนดรูปแบบของข้อความทจ่ี ะแสดงในเลเบล
คลกิ เลอื กฟิลด์ท่ีต้องการแสดง
เลือกรปู แบบการแสดง
ตง้ั ช่อื รายงาน
คลิกปมุ่ เสร็จส้นิ Finish

229

แบบฝกึ หัด/เฉลย
ตอนที่ 1 จงเลอื กคําตอบท่ถี ูกต้องท่สี ดุ เพยี งข้อเดยี ว
1. ขอ้ ใดหมายถึงการสร้างรายงาน

ก. Table
ข. Query
ค. Form
ง. Report
จ. Relationship
2. มมุ มองของรายงานมกี ่ีแบบ
ก. 1 แบบ
ข. 2 แบบ
ค. 3 แบบ
ง. 4 แบบ
จ. 5 แบบ
3. Sample Layout เปน็ มมุ มองแบบใด
ก. แสดงตัวอยา่ งเคา้ โครง
ข. มุมมองออกแบบ
ค. ตัวอยา่ งกอ่ นพิมพ์
ง. มุมมองสร้าง
จ. มุมมองรายงาน
4. Labels เป็นการสรา้ งรายงานแบบใด
ก. รายงานเปล่า
ข. ออกแบบรายงาน
ค. รายงานพเิ ศษ
ง. ปา้ ยช่ือ
จ. ตวั ชว่ ยสรา้ งรายงาน

5. Report Wizard เป็นการสร้างรายงานแบบใด
ก. รายงานเปลา่
ข. ออกแบบรายงาน
ค. รายงานพเิ ศษ
ง. ป้ายช่อื
จ. ตวั ชว่ ยสร้างรายงาน

230

6. ถา้ ต้องการปรับรปู แบบของรายงาน จะต้องใชม้ ุมมองใด
ก. Report View
ข. Print Preview
ค. Layout View
ง. Design View
จ. Report Preview

7. กรณที คี่ วามกวา้ งของคอลมั นไ์ ม่พอจะปรากฏเครื่องหมายใด
ก. ######
ข. &&&&&
ค. @@@@@
ง. *****
จ. -----

8. ข้อใดหมายถงึ การหาผลรวม
ก. Plus
ข. Sort
ค. Summary
ง. Grouping
จ. Ascending

9. ขอ้ ใดหมายถงึ การจัดรปู แบบรายแนวต้ัง
ก. Stepped
ข. Block
ค. Outline
ง. Portrait
จ. Landscape

10. ถ้าต้องการดูตวั อยา่ งกอ่ นพมิ พ์ จะต้องใชม้ มุ มองใด
ก. Report View
ข. Print Preview
ค. Layout View
ง. Design View
จ. Report Preview

เอกสารอ้างอิง
หนงั สอื เรียนวิชา ระบบจดั การฐานข้อมลู ของ สำนกั พมิ พ์จิตรวฒั น์ (JW) กทม., 2563

ภาคผนวก (ถา้ มี)

231

ใบงานที่ 11 หน่วยที่ 11

รหสั วชิ า 30204-2002 ชื่อวชิ า ระบบจดั การฐานขอ้ มูล ภาคเรยี นที่ 1

ชือ่ หน่วย การสร้างรายงาน เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ช่อื งาน การสรา้ งรายงาน จำนวน 4 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพ่ือมีความรู้ความเข้าใจการสรา้ งรายงาน
2. เพื่อมคี วามร้คู วามเข้าใจกระบวนการสรา้ งรายงาน

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของรายงานได้
2. อธบิ ายประโยชน์และมมุ มองของรายงานได้
3. อธิบายขั้นตอนการสร้างรายงานได้
4. อธิบายข้นั ตอนการสร้างรายงานโดยใชเ้ ครื่องมอื Report Wizard ได้
5. ปฏิบัตกิ ารเลือกใช้การสรา้ งรายงานใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหนว่ ย
1 แสดงความรเู้ ก่ียวกบั การสร้างรายงาน
2 วางแผนการใชก้ ารสร้างรายงาน

เครอ่ื งมือ วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสือ

ลำดับข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน
1. ให้นกั ศกึ ษาแบง่ กล่มุ ตามความเหมาะสม เพอื่ ศึกษาและอภิปราย
1.1 อธบิ ายความรเู้ ก่ยี วกับความเข้าใจการสร้างรายงาน
1.2 เขียนรูปพร้อมอธบิ ายความเข้าใจการสร้างรายงาน
2. เขียนอภปิ รายและวิเคราะหใ์ ส่กระดาษ
3. นำผลงานสง่ ครูผู้สอนเพอื่ ประเมินผล

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

ผู้เรยี นควรตรวจสอบข้อมูลกอ่ นใหถ้ ถ่ี ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพือ่ ป้องกันความผดิ พลาดก่อน
การสง่ งาน

232

ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี)
นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้ถกู ตอ้ ง

การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน)
1. สังเกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือร้น
ในการแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรียนรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหัดหลังเรยี นได้ถูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ

เอกสารอา้ งองิ
หนงั สอื เรียนวชิ า ระบบจดั การฐานข้อมลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

233

ใบกิจกรรมที่ 11 หน่วยที่ 11

รหัสวิชา 30204-2002 ช่อื วิชา ระบบจดั การฐานข้อมูล ภาคเรยี นที่ 1

ช่ือหนว่ ย การสรา้ งรายงาน เวลารวม 8 ชั่วโมง

ชอ่ื งาน การสร้างรายงาน จำนวน 4 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1. เพ่ือมีความรู้ความเขา้ ใจการสรา้ งรายงาน
2. เพือ่ มคี วามร้คู วามเข้าใจกระบวนการสร้างรายงาน

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. บอกความหมายของรายงานได้
2. อธบิ ายประโยชน์และมุมมองของรายงานได้
3. อธบิ ายขน้ั ตอนการสรา้ งรายงานได้
4. อธิบายขนั้ ตอนการสร้างรายงานโดยใช้เคร่ืองมอื Report Wizard ได้
5. ปฏบิ ัติการเลือกใช้การสร้างรายงานให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรู้เก่ยี วกับการสรา้ งรายงาน
2 วางแผนการใชก้ ารสร้างรายงาน

เคร่อื งมือ วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สือ

ลำดับกจิ กรรม
1. ผู้เรียนต้องใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการงา่ ยเพ่ือใหห้ าคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำข้อสงสัยซกั ถามครูในการเรียนทุกครง้ั ท่ีเกิดความสบั สน และไม่เข้าใจ

2. ผ้มู กี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพอื่ เสริมสร้างความเข้าใจอยา่ งแท้จรงิ
3. ผู้เรียนหม่ันทำใบงาน แบบฝึกหดั และแก้ไขข้อท่ผี ิดใหถ้ ูกต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกับ
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพ่ือเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไมใ่ ชเ่ กดิ จากการท่องจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เม่ือได้รบั มอบหมายงานมา

234

การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผ้เู รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทันเวลาท่ีกำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรยี นได้ถกู ต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ

เอกสารอา้ งอิง
หนังสือเรียนวชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู ของ สำนกั พิมพจ์ ติ รวฒั น์ (JW) กทม., 2563

235

ใบปฏบิ ตั ิงานท่ี 11 หน่วยท่ี 11

รหสั วิชา 30204-2002 ช่อื วชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู ภาคเรียนที่ 1

ชอ่ื หน่วย การสร้างรายงาน เวลารวม 8 ชั่วโมง

ชื่องาน การสร้างรายงาน จำนวน 4 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพอ่ื มคี วามรู้ความเข้าใจการสรา้ งรายงาน
2. เพื่อมีความร้คู วามเขา้ ใจกระบวนการสร้างรายงาน

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. บอกความหมายของรายงานได้
2. อธบิ ายประโยชนแ์ ละมมุ มองของรายงานได้
3. อธบิ ายขน้ั ตอนการสร้างรายงานได้
4. อธิบายขั้นตอนการสร้างรายงานโดยใชเ้ คร่อื งมือ Report Wizard ได้
5. ปฏิบัติการเลอื กใช้การสร้างรายงานใหเ้ หมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหนว่ ย
1 แสดงความรู้เก่ยี วกบั การสร้างรายงาน
2 วางแผนการใช้การสรา้ งรายงาน

เคร่อื งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ

ลำดบั ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
1. ผเู้ รยี นคน้ หาข้อมูลจากในอินเตอรเ์ น็ต ตามเรอื่ งท่ไี ด้รบั มอบหมายมาจาครูผู้สอน
2. เมอ่ื ผเู้ รียนไดร้ บั ข้อมูลเรยี บรอ้ ยแลว้ ให้ผู้เรยี น นำขอ้ มลู น้ัน มาเรยี บเรียงให้เปน็ ระเบียบ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจได้งา่ ย โดยจัดทำในรูปแบบเล่มรายงาน

ภาพประกอบ

ข้อควรระวัง
ผเู้ รยี นควรตรวจสอบข้อมูลก่อนให้ถถ่ี ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพ่อื ป้องกันความผิดพลาดก่อน

การส่งงาน

236

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

237

ใบมอมหมายงานท่ี 11 หน่วยที่ 11

รหสั วิชา 30204-2002 ชอ่ื วิชา ระบบจัดการฐานข้อมลู ภาคเรียนท่ี 1

ชอื่ หน่วย การสร้างรายงาน เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ช่ืองาน การสรา้ งรายงาน จำนวน 4 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อมคี วามรู้ความเขา้ ใจการสร้างรายงาน
2. เพ่อื มคี วามรู้ความเข้าใจกระบวนการสร้างรายงาน

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของรายงานได้
2. อธิบายประโยชน์และมมุ มองของรายงานได้
3. อธิบายขนั้ ตอนการสรา้ งรายงานได้
4. อธบิ ายขน้ั ตอนการสรา้ งรายงานโดยใชเ้ ครื่องมอื Report Wizard ได้
5. ปฏิบตั กิ ารเลอื กใช้การสร้างรายงานให้เหมาะสมกับงานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความร้เู กี่ยวกับการสร้างรายงาน
2 วางแผนการใชก้ ารสรา้ งรายงาน

เครอื่ งมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เคร่อื งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

แนวทางการปฏบิ ัติงาน
1. ให้ผ้เู รยี นปฏบิ ัติงานตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ตั ิงาน อย่างเคร่งครัด ตามหัวข้อท่ีไดร้ ับ
มอบหมาย ให้เสรจ็ สิ้นตามระยะเวลาท่กี ำหนด พรอ้ มทั้งการจัดทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง
ถกู ต้อง ครบถว้ น เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย
2. ใหผ้ ู้เรยี นแบ่งหนา้ ทกี่ ับเพ่ือนในกลมุ่ ให้ชดั เจน และสามารถเขา้ ใจเน้ือหาตามหวั ข้อดังกลา่ ว ได้
อยา่ งถกู ต้อง ครบถ้วน

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง

ผู้เรียนควรตรวจสอบขอ้ มูลกอ่ นให้ถี่ถ้วน ละเอียด และรอบคอบก่อน เพอื่ ปอ้ งกันความผิดพลาดกอ่ น
การสง่ งาน

238

ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนื้อหาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้

ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
หนังสอื เรียนวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ิตรวัฒน์ (JW) กทม., 2563

239

แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยท.่ี .............. 12..................................... จำนวน........4..........ชั่วโมง สปั ดาห์ท่.ี ....16......
ชอื่ วชิ า ระบบจัดการฐานข้อมลู
ช่ือหนว่ ย การสร้างฟอรม์ เช่ือมโยง
ช่ือเร่ือง การสร้างฟอร์มเช่อื มโยง

1. สาระสำคัญ
การสร้างฟอรม์ (Form) จะเป็นการแสดงผลของข้อมูลที่ทำให้ดูงา่ ยและสะดวกในการใชข้ ้อมูล เพราะ

จากการทำฟอรม์ ก็เหมอื นการสรปุ จากการสรา้ งตารางและคิวรี ซ่ึงการสร้างฟอร์มจะไม่มีเพยี งฟอร์มเดียว แต่จะ
มีฟอร์มหลายฟอร์มด้วยกัน ซึ่งจะต้องทำการเชื่อมโยงแต่ละฟอร์มให้สามารถที่จะแสดงข้อมูลซึ่งกันและกันได้
โดยจะใช้ปุม่ เครอื่ งมอื (Button) ในการเช่ือมโยง

2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1 แสดงความรู้เกี่ยวกบั การสรา้ งฟอร์มเช่ือมโยง
2 วางแผนการใช้การสร้างฟอรม์ เชือ่ มโยง

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป
1. เพอื่ มีความรู้ความเข้าใจการสร้างฟอร์มเชอ่ื มโยง
2. เพือ่ มคี วามรูค้ วามเข้าใจกระบวนการสรา้ งฟอรม์ เช่อื มโยง
3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. บอกความหมายของการสร้างฟอรม์ เชือ่ มโยงได้
2. อธบิ ายวธิ กี ารสร้างปมุ่ เครือ่ งมอื เปดิ ฟอร์มได้
3. อธิบายวิธีการสร้างปมุ่ เครือ่ งมอื เปดิ รายงานได้
4. อธบิ ายวธิ ีการสร้างปุม่ เครือ่ งมือปดิ ฟอรม์ และออกจากโปรแกรมได้
5. อธิบายวธิ ีการสร้างมาโครได้
6. ปฏบิ ตั กิ ารเลือกใช้การสร้างฟอรม์ เชอ่ื มโยงให้เหมาะสมกับงานได้

4. สาระการเรียนรู้
1. การสร้างฟอร์มเชื่อมโยง
2. การสรา้ งปมุ่ เครอ่ื งมือเปิดฟอรม์ ค้นหา
3. การสรา้ งปุม่ เครอื่ งมอื เพอื่ เปิดรายงาน

240

4. การสรา้ งปุ่มเครอื่ งมอื เพ่ือเปิดรายงานที่แสดงผลรวม
5. การสรา้ งปุ่มเคร่อื งมือออกจากโปรแกรม
6. การทดสอบในการเปดิ ฟอร์ม
7. การสรา้ งปุ่มเครอ่ื งมอื ปดิ ฟอรม์
8. การสรา้ งมาโคร.
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่......16.........)
กระบวนการจัดการเรียนรู้
5.1 ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1.ผู้สอนแนะนำเนื้อหาการเรียนรู้ และแนวทางการเรียนร้ใู นหนว่ ยการเรียน

2.ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนตอบตง้ั คำถาม และซกั ถามในเรอื่ งการสร้างฟอร์มเช่ือมโยง

5.2 ขั้นสอน

1.ผู้สอนให้ผเู้ รียนได้ศกึ ษารายละเอยี ดข้อมูลในเรื่องความร้เู กย่ี วกบั การสรา้ งฟอร์ม

2.ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ และมีสว่ นร่วมในการวเิ คราะหเ์ น้อื หาทเ่ี รียนรู้ โดยเนน้ ใหผ้ ูเ้ รียนไดม้ ี

การแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ และมสี ว่ นรว่ ม

3.ผ้สู อนใหผ้ ู้เรยี นไดฝ้ ึกปฎบิ ัติการสรา้ งฟอร์มเชอ่ื มโยง โดยผู้สอนคอยให้คำปรึกษา และอธิบายข้ันตอน

การใชง้ านตามลำดับ

5.3 ขน้ั สรปุ

1.ผู้สอนและผ้เู รยี นสรุปเนื้อหาการเรียนรู้อกี ครั้งดว้ ยการต้งั คำถาม และใหเ้ หตุผลในการตอบคำถามใน
แตล่ ะเนอื้ หาเพอ่ื ทบทวนอีกครงั้

2.มอบหมายภาระงานและแบบฝึกหัด
3.ปฏิบัติตามใบงาน
6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
6.1 หนงั สอื เรยี น รหสั 30204-2002 ระบบจัดการฐานขอ้ มูล
6.2 ใบความรู้
6.3 แบบฝึกหดั
6.4 แบบฝึกปฏิบัติ
6.5 แบบทดสอบหลงั เรยี น
6.7 คอมพิวเตอร์
6.8 เครือ่ งฉายโปรเจค็ เตอร์
7. หลักฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้

ใบงาน แบบฝึกหดั การค้นคว้าข้อมลู ทีไ่ ดร้ บั การเรยี บเรียง สวยงาม เปน็ ระเบยี บ ถูกตอ้ ง

7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน

241

ใบงาน แบบฝึกหัด รูปเล่มรายงานการค้นคว้าข้อมูล ที่ได้รับการเรียบเรียง สวยงาม เป็นระเบียบ

ถกู ต้อง พรอ้ มทง้ั เอกสารประกอบการนำเสนองานหน้าชั้นเรยี นของผเู้ รยี น และภาพประกอบ

8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เคร่อื งมือประเมนิ

1. ใบงาน

2. แบบฝึกหัด

3. แบบประเมินผลงาน

4. แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

8.2 เกณฑก์ ารประเมิน

เครือ่ งมอื การประเมนิ วธิ วี ัดและประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ

แบบฝกึ หัด ตรวจแบบฝึกหัด ไดค้ ะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขึ้นไป
ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ ูก 0 คะแนน

แบบฝึกปฏิบัติ ตรวจแบบฝึกปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป
ถกู 1 คะแนน

ไม่ถกู 0 คะแนน

แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน ได้คะแนน

ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขนึ้ ไป
ถกู 1 คะแนน

ไม่ถกู 0 คะแนน

แบบสังเกตพฤติกรรมด้านคุณธรรม สังเกตพฤติกรรม ได้คะแนน

จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึง ดี 2 คะแนน รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป

ประสงค์ พอใช้ 1 คะแนน

ปรบั ปรุง 0 คะแนน

9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถา้ ม)ี
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการง่ายเพือ่ ใหห้ าคำตอบได้

อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธกี ารที่ครูผู้สอนสรุปในขณะทีท่ ำการสอน และ
นำข้อสงสยั ซกั ถามครใู นการเรยี นทกุ ครั้งท่เี กิดความสับสน และไมเ่ ขา้ ใจ

2. ผู้มีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพื่อเสริมสร้างความเขา้ ใจอย่างแทจ้ รงิ
3. ผู้เรียนหมนั่ ทำใบงาน แบบฝกึ หัด และแกไ้ ขขอ้ ท่ผี ิดให้ถกู ตอ้ งเสมอ

242

4. ผ้เู รียนต้องสร้างมโนภาพให้เกดิ ความคดิ รวบยอดในสาระการเรยี นรแู้ ละเทคนิควธิ ีการพร้อมกับความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใชใ้ ห้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งแท้จรงิ ไม่ใชเ่ กิดจาก
การทอ่ งจำ
10. เอกสารอ้างอิง

หนังสือเรยี นวชิ า ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ของ สำนกั พมิ พจ์ ติ รวัฒน์ (JW) กทม., 2563

ใบความรู้ที่ 12 หน่วยที่ 12

รหัสวิชา 30204-2002 ชื่อวชิ า ระบบจัดการฐานขอ้ มูล ภาคเรยี นที่ 1

ช่ือหน่วย การสร้างฟอรม์ เช่อื มโยง เวลารวม 4 ช่ัวโมง

ช่อื เรอ่ื ง การสรา้ งฟอร์มเชอ่ื มโยง เวลา 4 ชัว่ โมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพอ่ื มคี วามรู้ความเข้าใจการสรา้ งฟอร์มเชือ่ มโยง
2. เพอ่ื มคี วามร้คู วามเขา้ ใจกระบวนการสร้างฟอร์มเช่ือมโยง

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. บอกความหมายของการสร้างฟอรม์ เช่ือมโยงได้
2. อธิบายวิธกี ารสร้างป่มุ เคร่อื งมือเปดิ ฟอร์มได้
3. อธบิ ายวิธีการสรา้ งปุ่มเคร่อื งมอื เปดิ รายงานได้
4. อธิบายวิธีการสรา้ งปมุ่ เครื่องมือปิดฟอร์มและออกจากโปรแกรมได้
5. อธบิ ายวธิ ีการสรา้ งมาโครได้
6. ปฏิบัตกิ ารเลือกใช้การสร้างฟอร์มเช่อื มโยงให้เหมาะสมกบั งานได้

สมรรถนะรายหน่วย
1 แสดงความรู้เกีย่ วกบั การสรา้ งฟอร์มเชื่อมโยง
2 วางแผนการใชก้ ารสร้างฟอรม์ เช่ือมโยง

243

หน่วยท่ี 12 การสร้างฟอรม์ เชอ่ื มโยง
การสร้าง Form เปลา่ เราสามารถสร้างและออกแบบหนา้ จอไดด้ ว้ ยตัวเราเอง และสามารถกำหนดหนา้
Form ไดท้ ำอะไรก็ได้ตามต้องการ

1. ไปท่ี Tab Create ----> Blank Form(ฟอร์ม เปลา่ )

3. เมอ่ื เลือกเสร็จแล้วจะเปน็ หนา้ จอเปล่าๆ ทีเ่ ปน็ Form ซง่ึ เราสามารถสร้างเคร่อื งมอื หรอื ปุ่มต่างๆ
ตามทโ่ี ปรแกรมใหบ้ น Tool box แถบดา้ นบน

3. ลองให้ Form เรยี ก Form กรอกข้อมูลขึ้นมา โดยเริม่ ที่การเลือกปมุ่ เพ่อื ใหป้ ุม่ เรียกหน้า Form อื่นข้ึนมา

4.หนา้ ตา่ งตัวช่วยสร้าง ป่มุ Command Button Wizard ให้นักเรียนเลือก Form Operation --> Open
Form เพอ่ื ใหป้ มุ่ น้นั เปิด Form ที่ต้องการ

244

5. เลอื ก Form ทต่ี ้องการ เพอ่ื ใหป้ ุ่มเราเรียกหนา้ จอนนั้ ขึ้นมา
6.

245