The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thasakaes65030064, 2020-08-27 02:58:00

สื่อ60พรรษา ชุดกิจกรรมวิทย์ ป.6 เล่ม1

Sue60Ps_Sci61

Keywords: S60PSci61

๗. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง
ก. เดก็ ท้ัง ๓ คนมรี ูปรา่ งสมส่วน
ข. เด็กคนที่ ๑ มรี ูปร่างผอมท่ีสุด
ค. เด็กคนที่ ๒ มีรูปรา่ งอว้ นกวา่ เด็กคนท่ี ๓
ง. เด็กคนที่ ๑ และ ๓ มีการเจริญเตบิ โตเทา่ กนั

๘. เดก็ ผู้หญงิ คนหนง่ึ มคี วามสงู ๑๕๔ เซนติเมตร หนกั ๕๗ กโิ ลกรมั
เดก็ คนนีม้ รี ปู รา่ งแบบใด
ก. ผอม
ข. สมส่วน
ค. เรม่ิ อว้ น
ง. ข้อมูลไม่เพยี งพอ

๙. เด็กผู้หญงิ คนหนงึ่ มีความสูง ๑๕๔ เซนติเมตร รปู ร่างคอ่ นขา้ งผอม
เด็กคนนนี้ า่ จะมีน�้าหนกั ตามข้อใด
ก. ๓๐ กิโลกรัม
ข. ๓๕ กโิ ลกรัม
ค. ๔๐ กิโลกรัม
ง. ๔๕ กิโลกรมั

๑๐. จากรูป ถา้ ลกู ศรแสดงทศิ ทางการหมนุ เวยี นของเลอื ด แล้ว A หมายถึงอะไร

ก. ไต ข. ตบั ค. ปอด ง. กระเพาะอาหาร

๒๔๖ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนักเรียน) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง)

๑๑. จากข้อมูลในตาราง ปริมาณแกส๊ ไนโตรเจนทีร่ ่างกายรับเข้าไปและขับออกมา
มปี รมิ าณเทา่ กันเพราะเหตใุ ด

ชนดิ ของแกส๊ ลมหายใจเข้า (รอ้ ยละ) ลมหายใจออก (ร้อยละ)

ออกซิเจน ๒๐ ๑๖
คาร์บอนไดออกไซต์ ๐.๐๔ ๔

ไนโตรเจน ๗๘ ๗๘

ก. รา่ งกายสามารถสรา้ งเองได้
ข. รา่ งกายไม่ได้นา� มาใช้ประโยชน์
ค. ร่างกายขับออกมาโดยวธิ กี ารอนื่
ง. รา่ งกายใช้และก�าจัดออกในปรมิ าณท่เี ทา่ กัน

๑๒. จากรูปแสดงการแลกเปล่ียนแกส๊ ที่ถงุ ลมภายในปอด หมายเลข ๑ และ หมายเลข ๒
คือแก๊สชนิดใด

หมายเลข ๑ หมายเลข ๒

ก. แกส๊ ไนโตรเจน แก๊สออกซเิ จน
ข. แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ แก๊สไนโตรเจน
ค. แก๊สออกซเิ จน แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์
แก๊สออกซิเจน
ง. แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรับนกั เรียน) กลุมสาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๒๔๗

๑๓. แผนภาพความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระบบยอ่ ยอาหาร ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด และระบบหายใจ
ในขณะถูพน้ื
กำรถูพน้ื

ระบบยอ่ ยอำหำร เกย่ี วขอ้ งกับ ระบบหำยใจ

มหี น้าที่ ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด

ย่อยอำหำร มหี นา้ ท่ี
มี แลกเปลี่ยนแก๊ส
ได้ ได้
ดูดซึมเข้าสู่ A ล�าเลียงเขา้ สู่
สำรอำหำรขนำดเลก็ C

ล�าเลียงผา่ นทาง ลา� เลียงเขา้ สู่

B

ไปยัง

สว่ นตำ่ ง ๆ ของรำ่ งกำย

เพื่อ เกดิ D

นำ� ไปสร้ำงพลังงำน

ส�าหรบั

กำรท�ำกจิ กรรม เชน่ ถูพนื้

จากแผนภาพ A B C และ D คืออะไร ตามล�าดับ
ก. หลอดเลอื ด แก๊สออกซเิ จน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เลือด
ข. หลอดเลอื ด เลอื ด แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ แกส๊ ออกซเิ จน
ค. เลอื ด หลอดเลือด แกส ออกซิเจน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์
ง. เลือด แกส๊ ออกซเิ จน หลอดเลอื ด แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

๑๔. หัวใจห้องล่างซ้ายมผี นังหนามากทีส่ ุด เพราะเหตใุ ด
ก. เพราะต้องรบั เลือดทีม่ แี กส๊ ออกซิเจนสูงจากปอด
ข. เพราะต้องสง่ เลอื ดที่มแี ก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สงู ไปยงั ปอด
ค. เพราะตอ้ งส่งเลอื ดทม่ี แี กส๊ ออกซิเจนสูงไปยงั สว่ นต่างๆ ของร่างกาย
ง. เพราะต้องรับเลอื ดท่ีมแี กส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์สูงจากสว่ นต่างๆ ของรา่ งกาย

๒๔๘ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สําหรบั นักเรียน) กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบับปรบั ปรงุ )

๑๕. ลักษณะใดของลา� ไสเ้ ลก็ ที่ไมช่ ่วยในการดูดซมึ อาหาร
ก. มีความยาวมาก
ข. มีรอยหยักภายใน
ค. มหี ลอดเลือดฝอยรอบ ๆ
ง. มกี ารขดตวั ไปมาภายในช่องทอ้ ง

๑๖. สารอาหารประเภทใดบา้ งทรี่ ่างกายน�าไปใชไ้ ดท้ ันที
ก. คารโ์ บไฮเดรต เกลือแร่ วิตามนิ
ข. โปรตีน นา้� วิตามิน
ค. ไขมัน เกลอื แร่ วติ ามิน
ง. น้า� เกลอื แร่ วิตามนิ

๑๗. การเพ่มิ ขนึ้ ของประชากรมนษุ ย์ มีผลทา� ใหท้ รพั ยากรใดลดลงอยา่ งรวดเรว็
ก. ดิน
ข. น้�า
ค. อากาศ
ง. ปา่ ไม้

๑๘. การอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาตทิ ดี่ ที สี่ ุด ควรปฏิบัติตามข้อใด
ก. การน�าเศษกระดาษมาเผาไฟ
ข. การฉกี กระดาษเปน็ ชน้ิ เล็ก ๆ
ค. การนา� เศษกระดาษทไ่ี ม่ใช้แล้วไปขาย
ง. การน�าเศษกระดาษมาท�าเป็นแผ่นกระดาษใหม่

๑๙. ข้อใดแสดง “โซ่อาหาร” ได้ถูกตอ้ ง นก
ก. หญ้า หนอน นก คน
ข. หญา้ หนอน หญา้ คน
ค. คน หนอน หญา้ แมลง
ง. คน หนอน แมลง

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สําหรับนกั เรียน) กลุมสาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบับปรับปรงุ ) ๒๔๙

๒๐. วางช็อกโกแลตช้ินหนึ่งไว้ ใหห้ ลอมเหลวจนหมด ดังภาพ สมบตั ใิ ดที่ยงั เหมอื นเดมิ

ก. มวล ข. รูปรา่ ง
ค. สถานะ ง. ความแขง็

๒๑. ขวดใบท่ี ๑ และ ๒ บรรจุของเหลวได้ ๕๐ และ ๑๐๐ ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ตามล�าดับ
ถ้าเทของเหลวชนดิ หน่งึ จ�านวน ๕๐ ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในขวดแตล่ ะใบ ของเหลว
ในแตล่ ะขวดจะมีปรมิ าตรเท่าใด

ขวดใบท่ี ๑ ขวดใบท่ี ๒
ก. ๕๐ ๕๐
ข. ๕๐ ๑๐๐
ค. ๑๐๐ ๕๐
๑๐๐
ง. ๑๐๐

๒๒. บรรจแุ ก๊สชนิดหน่ึงในขวดทม่ี ีลูกโปง่ ครอบอยทู่ ีป่ ากขวด สังเกตลกั ษณะของขวด
และลูกโปง่ ดงั รปู

ก. ตา� แหนง่ B ไมม่ ีแกส๊ อยู่ เพราะลูกโปง่ พองไมม่ าก
ข. ต�าแหน่ง D เท่าน้ันทีม่ ีแก๊ส เพราะแกส๊ มีมวล
ค. ตา� แหน่ง A ท่ีมแี ก๊สอยู่ เพราะแก๊สมีรปู ร่างตามภาชนะ
ง. ตา� แหน่ง C ไมม่ แี กส๊ เพราะแกส๊ ลอยข้ึนไปอยู่ด้านบนของขวด

๒๕๐ ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลุม สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรับปรุง)

๒๓. จากคา� กลา่ วทวี่ า่ “ดนิ ประกอบดว้ ยซากพืชซากสตั ว์ วัตถตุ ้นกา� เนิดดิน น�า้ และอากาศ”
องคป์ ระกอบของดนิ อยู่ในสถานะใดบา้ ง
ก. ของแขง็
ข. ของแข็งและแก๊ส
ค. ของแขง็ และของเหลว
ง. ของแข็ง ของเหลวและแกส๊

๒๔. วางภาชนะอยู่บนพนื้ เอยี ง ดงั รปู ภาชนะ

พ้ืนเอียง

เม่อื ใสข่ องเหลวลงในภาชนะนี้ ระดับผิวหนา้ ของของเหลวจะมลี กั ษณะเป็นอยา่ งไร

ก. ระดบั ผวิ หนา้ ของของเหลว

ข. ระดับผวิ หน้าของของเหลว

ค. ระดบั ผิวหนา้ ของของเหลว
ง. ระดบั ผวิ หนา้ ของของเหลว

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลุมสาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๒๕๑

๒๕. ของแข็ง ก ละลายในของเหลว ข จะแยกของแขง็ ก ออกจากของเหลว ข
ได้โดยวธิ ีใด
ก. การกรอง
ข. การตกตะกอน
ค. การระเหยแห้ง
ง. การรินออก

๒๖. สารผสมประกอบด้วยของแขง็ ๒ ชนดิ มขี นาดใกลเ้ คียงกนั แตม่ สี ีตา่ งกนั
และแมเ่ หลก็ ดึงดดู ไดท้ ้งั คู่ รวมทงั้ ละลายนา้� ได้ทั้งคู่ จะแยกออกจากกันไดโ้ ดยวิธใี ด
ก. การรอ่ น
ข. การหยิบออก
ค. การระเหยแห้ง
ง. การดึงดดู ด้วยแมเ่ หลก็

๒๗. ควรใชว้ ธิ แี ยกสารแบบใดเพื่อแยกนา้� ชาออกจากผงชา
ก. การกรอง
ข. การร่อน
ค. การหยิบออก
ง. การระเหยแห้ง

๒๘. สารผสมชนิดใดตอ่ ไปนแี้ ยกโดยการกรองได้
ก. พรกิ กบั เกลือ
ข. นา�้ กบั แปง้ มนั
ค. น้�าแดงโซดา
ง. น้�ากับน�้ามนั พืช

๒๕๒ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สําหรับนกั เรียน) กลุม สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบับปรบั ปรุง)

ใชข้ อ้ มูลตอ่ ไปน้ี ตอบค�าถามขอ้ ๒๙-๓๐
โรงผลติ อาหารสัตวใ์ ช้เมลด็ ข้าวโพดเปน็ วตั ถุดิบ โดยบดเมล็ดขา้ วโพด และแยกผา่ นตะแกรง
ท่ีมรี ขู นาดแตกต่างกนั ๓ ขนาด ไดผ้ ลดงั ตาราง

ขนาดของรขู องตะแกรง (หน่วย)

ตะแกรงชดุ ท่ี ๑ ตะแกรงชดุ ท่ี ๒ ตะแกรงชุดที่ ๓

๗๐๓ ๗๔๐ ๘๑๙

๒๙. การแยกเมล็ดข้าวโพดที่ผา่ นการบดออกเป็น ๓ ขนาดนใ้ี ช้วิธีใด
ก. การฝดั
ข. การรอ่ น
ค. การหยิบออก
ง. การระเหยแห้ง

๓๐. ถ้าขนาดของเมลด็ ขา้ วโพดทผี่ ่านการบดมีขนาด ๗๓๐ หน่วย เม่อื น�ามาแยก จะผา่ น
ตะแกรงชดุ ใด
ก. ชดุ ที่ ๑ และ ๒
ข. ชุดที่ ๒ และ ๓
ค. ชดุ ที่ ๑ และ ๓
ง. ผ่านทุกชุด

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลุมสาระการเรยี นรูว ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี ๖ (ฉบับปรบั ปรุง) ๒๕๓

บันทึก

๒๕๔ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลุม สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบับปรับปรงุ )

บันทึก

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู (สําหรบั นกั เรียน) กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๒๕๕

บันทึก

๒๕๖ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลุมสาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบับปรับปรงุ )


Click to View FlipBook Version