The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thasakaes65030064, 2020-08-27 02:58:00

สื่อ60พรรษา ชุดกิจกรรมวิทย์ ป.6 เล่ม1

Sue60Ps_Sci61

Keywords: S60PSci61

ชื่อ-สกลุ ชั้น เลขที่ บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๒-๐๑
วนั ที่ พ.ศ.
เดอื น

ปัญหาทเ่ี กดิ จากการใชท้ รัพยากรอากาศ

๑. ปัญหาเรื่องสุขภาพของมนุษย์ มลพิษในอากาศท่ีมนุษย์รับเข้าไปในร่างกาย
หากรับไปในปริมาณมากในทันทีทันใดก็จะก่อให้เกิดผลกระทบทันที และหากรับ

ในปรมิ าณนอ้ ย จะเขา้ ไปสะสมในรา่ งกายจนมปี รมิ าณมากพอทจี่ ะทา� ใหบ้ คุ คลนนั้ แสดงอาการ
เปน็ พษิ ออกมาในรูปของการเจบ็ ปว่ ยรปู แบบต่าง ๆ
๒. ปญั หาเรอื่ งความสกปรกจากการมีฝุ่นละออง ท�าใหส้ งิ่ ของ เครอ่ื งมือเครอ่ื งใช้ อาคาร

ส่ิงก่อสร้างเกิดความสกปรก มีสภาพที่ไม่น่าดู เกิดความไม่สบายตา ไม่สบายใจแก่
ผพู้ บเหน็ และผ้อู าศยั
๓. ปญั หาทางเศรษฐกจิ จากความสกปรกทางอากาศไมว่ า่ จะเปน็ ฝนุ่ ละอองหรือสารอนื่

ทา� ใหต้ ้องเสียคา่ ใช้จา่ ยในการดแู ลรกั ษาและท�าความสะอาด
๔. ปัญหาเร่ืองน�้าอุปโภคบริโภค มลพิษทางอากาศท�าให้บ้านเรือนโดยเฉพาะส่วนหลังคา

สกปรก เมื่อฝนตก น้�าฝนจะชะล้างส่ิงสกปรกสู่ภาชนะรองรับ รวมทั้งแหล่งน�้า ท�าให ้
ประชาชนนา� นา้� มาใชใ้ นการอปุ โภคบริโภคไม่ได้
๕. ปญั หาตอ่ พชื และผลผลติ ทางการเกษตร มลพษิ ทางอากาศบางชนดิ จะทา� ลายโครงสรา้ ง
ภายนอกและภายในของใบ ทา� ให้ใบไมม้ ีสซี ดี ทา� ให้ต้นไม้ พชื ผกั เห่ยี วเฉา
๖. ปัญหาการเกิดฝนกรด มลพิษทางอากาศที่ปล่อยออกมาเม่ือรวมกับน�้าฝนแล้วท�าให ้
นา�้ ฝนมคี วามเปน็ กรด ฝนทเี่ ปน็ กรดจะทา� ลายสง่ิ กอ่ สรา้ งใหส้ กึ กรอ่ น ปา่ ไมถ้ กู ทา� ลาย
แหล่งน้�าเมื่อเป็นกรดเพ่ิมขึ้นจะท�าให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ไม่ได้ เกิดผลกระทบต่อเนื่อง
กับโซ่อาหาร สภาพดนิ ทีเ่ ปน็ กรดท�าใหผ้ ลผลิตทางการเกษตรไม่เจรญิ เติบโต
๗. ปญั หาทศั นวสิ ยั อากาศทม่ี ฝี นุ่ ละออง ควนั พษิ จากทอ่ ไอเสยี รถยนตห์ รอื จากกจิ กรรม
ของชมุ ชน ปลอ่ งควันของโรงงานอุตสาหกรรมหรอื จากการเผาป่า สง่ ผลทั้งด้าน
สุขภาพอนามยั และทัศนวสิ ยั ไมด่ ี

๑๔๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นักเรียน) กลุมสาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๒-๐๑
วันที่ พ.ศ.

ปัญหาท่เี กิดจากการใชท้ รัพยากรสตั ว์ปา่

๑. สตั ว์ป่าลดจ�านวนลงหรอื อาจสูญพนั ธ ุ์ อนั เนอื่ งมาจากการท�าท่อี ยูอ่ าศยั ของสัตวป์ ่า
การลา่ เพ่ือเป็นอาหารและสนิ ค้า
๒. สัตว์ต่างถ่ินรบกวน เช่น การเล้ียงปลาซัคเกอร์หรือปลาเทศบาลส�าหรับดูด

ตะไครน่ า้� เพอื่ ทา� ความสะอาดในตเู้ ลย้ี งปลาสวยงาม เมอื่ ผเู้ ลยี้ งเลกิ เลยี้ งปลาสวยงามแลว้
แต่ปลาซคั เกอรม์ อี ายยุ นื ทนต่อสภาวะแวดลอ้ ม ผู้เลีย้ งจงึ ปลอ่ ยลงสู่แหลง่ นา�้ ธรรมชาติ
ท�าให้ปลาซัคเกอร์ที่มีถ่ินก�าเนิดในทวีปอเมริกาใต้ไม่มีศัตรูธรรมชาติ จึงสามารถ
เพิ่มจ�านวนได้อย่างรวดเร็ว และกินตัวอ่อนของแมลง หอย ไข่ของปลาท้องถิ่น
จนลดจ�านวนลงอยา่ งรวดเรว็

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นักเรยี น) กลุม สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรับปรุง) ๑๔๗

ชื่อ-สกลุ เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๒-๐๑
วันท ่ี พ.ศ.

ปญั หาทเี่ กดิ จากการใช้ทรัพยากรดนิ
ดนิ สว่ นใหญถ่ กู ทา� ลายใหส้ ญู เสยี ความอดุ มสมบรู ณห์ รอื ตวั เนอื้ ดนิ ไป อาจเนอ่ื งจาก
การกระท�าของมนษุ ย ์ เชน่

๑. มนษุ ยช์ ว่ ยเรง่ ใหม้ กี ารพงั ทลายเพม่ิ ขนึ้ จากธรรมชาตทิ เ่ี กดิ ขนึ้ เปน็ ประจา� อยแู่ ลว้ เชน่
การตดั ไมท้ า� ลายปา่ การทา� การเพาะปลกู ซา้� ๆ ทา� ใหด้ นิ ขาดแรธ่ าตบุ างชนดิ

ดนิ ทไี่ มม่ สี ง่ิ ปกคลมุ จงึ ทา� ใหน้ า�้ ลม ซง่ึ เปน็ ตวั การกดั เซาะทส่ี า� คญั พดั พาอนภุ าคดนิ
สญู หายไป

๒. การเพาะปลูกและเตรียมดินอย่างไม่ถูกวิธี จะก่อให้เกิดความเสียหายกับดินได้มาก
เช่น การปลูกพืชบางชนิดจะท�าให้ดินเส่ือมเร็ว การเผาป่าไม้หรือตอข้าวในนา

จะทา� ใหฮ้ ิวมสั ในดินเสื่อม เกิดผลเสยี กบั ดนิ มาก
** ฮวิ มสั คอื ซากพชื ซากสัตวท์ ่มี ีการยอ่ ยสลายและกลายเป็นธาตอุ าหารของดนิ
ซ่งึ จะทา� ให้ดินมีสเี ข้ม ด�า ท�าให้ดนิ มีความอดุ มสมบูรณ์

วิธีการแก้ไข : ควรมีการปลูกพืชหมุนเวียน ลดการปลูกพืชซ้�า การเผาท�าลายวัชพืช
ควรใช้การไถ ฝังกลบ เพ่ือเป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้กับดินแทน และปลูกพืชคลุมดิน
ท่มี รี ากแผ่ขยายเพื่อยดึ ดนิ ไมใ่ ห้เกิดการพงั ทลาย

๑๔๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลุม สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบับปรับปรุง)

ช่อื -สกุล เดอื น ชน้ั เลขที่ บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๒-๐๑
วนั ท่ ี พ.ศ.

ปญั หาท่เี กิดจากการใช้ทรัพยากรปา่ ไม้

๑. การบกุ รกุ พน้ื ท่ีป่าไม้เพ่ือเข้าครอบครองท่ดี นิ เมือ่ ประชากรเพม่ิ สูงขึ้น ความตอ้ งการ
ใชท้ ด่ี นิ เพอ่ื ปลกู สรา้ งทอี่ ยอู่ าศยั และทด่ี นิ ทา� กนิ กม็ สี งู ขน้ึ เปน็ ผลใหม้ นษุ ยเ์ ขา้ ไปบกุ รกุ พนื้ ที่
ป่าไม้ หรือเผาป่า ทา� ไรเ่ ลอ่ื นลอย

๒. ไฟไหมป้ า่ สามารถเกดิ ขนึ้ ไดโ้ ดยธรรมชาตเิ มอื่ อากาศแหง้ และรอ้ นจดั และจากการกระทา�
ของมนุษยท์ อ่ี าจลกั ลอบเผาป่าหรอื เผลอจดุ ไฟท้ิงไว้
๓. การท�าเหมืองแร่ แหล่งแร่ที่พบในบริเวณท่ีมีป่าไม้ปกคลุมอยู่ มีความจ�าเป็นที่จะต้อง
เปิดหน้าดินก่อนจึงท�าให้ป่าไม้ท่ีข้ึนปกคลุมถูกท�าลายลง เสน้ ทางขนยา้ ยแรใ่ นบางครงั้

ต้องท�าลายป่าไม้ลงเป็นจ�านวนมาก เพ่ือสร้างถนน การระเบิดหน้าดินเพื่อให้ได้แร่
ส่งผลถึงการท�าลายปา่

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลุมสาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๔๙

ช่ือ-สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๒-๐๑
วันท ่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ

บันทกึ ผลการท�ากิจกรรม
พิจารณารูปและตอบคา� ถามต่อไปน้ี

รูปชุมชนเยาวราชในอดตี รปู ชมุ ชนเยาวราชในปจั จุบนั

๑. สภาพแวดลอ้ มของรูปทั้งสองแตกตา่ งกนั อย่างไร

๒. อะไรเปน็ สาเหตุของการเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มทงั้ สองรปู

๑๕๐ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรับนักเรียน) กลุม สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบับปรับปรุง)

ชือ่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๒-๐๑
วันที่ พ.ศ.

ผลการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติทเี่ กยี่ วข้องกบั การเพม่ิ ขึ้นของประชากรมนษุ ย์

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลุมสาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๕๑

ช่อื -สกุล เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๒-๐๑
วนั ท่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหดั เร่อื งการเพ่ิมข้นึ ของประชากรกับ
การใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ

ยกตัวอย่างผลของการใชท้ รัพยากรธรรมชาติในท้องถนิ่ เมือ่ มจี �านวนประชากรในทอ้ งถน่ิ
เพ่มิ ขึน้

๑๕๒ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรบั นักเรยี น) กลุม สาระการเรยี นรูว ิทยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ใบงาน

บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๓

หน่วยย่อยท่ี ๒

ทรัพยากรธรรมชาติ

เร่ือง สิ่งมีชวี ติ กบั การเปล่ยี นแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรับนักเรยี น) กลุมสาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๕๓

ช่อื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๓-๐๑
วันที่ พ.ศ.

กิจกรรมท่ี ๑ สงิ่ แวดล้อมเปล่ยี นแปลงไปไดอ้ ยา่ งไร

จุดประสงค์
สืบคน้ ข้อมลู และสรุปประเดน็ จากขา่ วทีเ่ กีย่ วข้องกบั การเปลี่ยนแปลงส่ิงแวดลอ้ ม
แลว้ ส่งผลตอ่ สิ่งมีชวี ติ

วสั ดุ-อุปกรณ์
๑. ข่าวทเ่ี ก่ียวข้องกับการเปลย่ี นแปลงสงิ่ แวดลอ้ มแลว้ มผี ลตอ่ สิ่งมีชีวิต
(เชน่ ภาวะโลกร้อน)
๒. ปากกาเคมสี ตี ่าง ๆ เช่น สีแดง สีเขยี ว สดี �า

วิธีท�า
๑. แตล่ ะกลุม่ หาขา่ วทีส่ นใจเกยี่ วกบั การเปลี่ยนแปลงส่ิงแวดล้อม แลว้ ส่งผลตอ่
สิ่งมชี ีวติ บนโลก ๑ ขา่ ว ความยาวไม่เกินหนงึ่ หนา้ กระดาษ แลว้ ติดลงในใบงาน
๒. ฝึกอ่านและศึกษาข้อมูลจากข่าวท่ไี ดร้ ับ
๓. ใช้ปากกาสแี ดง ขดี เส้นใต้ขอ้ ความทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สาเหตขุ องเหตกุ ารณ์ในขา่ ว
๔. ใชป้ ากกาสเี ขยี ว ขดี เสน้ ใตข้ อ้ ความทเ่ี ปน็ สถานทท่ี เ่ี กดิ เหตกุ ารณใ์ นขา่ ว
๕. ใช้ปากกาสดี �า ขีดเส้นใต้ข้อความทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับผลกระทบทีเ่ กิดขึ้นกับสิง่ มีชวี ติ
ในข่าว
๖. ตอบคา� ถามในใบงาน และน�าเสนอขา่ ว

๑๕๔ ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรับนักเรียน) กลุม สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกลุ เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๒-๐๑
วนั ท ี่ พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : การเปลย่ี นแปลงของสง่ิ แวดล้อมทส่ี ่งผลต่อส่งิ มชี ีวติ

บันทกึ ผลการทา� กจิ กรรม
ขา่ ว เร่อื ง

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนักเรียน) กลุมสาระการเรียนรูว ิทยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๕๕

ชื่อ-สกุล ชั้น เลขท่ี บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๓-๐๑
วันที ่ พ.ศ.
เดอื น

ค�าถามหลังจากท�ากิจกรรม

๑. จากข่าว สาเหตุของเหตกุ ารณ์น้คี อื อะไร

๒. นักเรียนคดิ วา่ เหตุการณน์ ส้ี ง่ ผลกระทบตอ่ สง่ิ มีชีวติ อะไรบ้าง และส่งผลอย่างไร

๓. การกระท�าของมนุษย์เปน็ สาเหตุหรอื มีความเกย่ี วข้องกบั การเกิดเหตกุ ารณ์
ตามขา่ วนห้ี รอื ไม ่ อยา่ งไร
๔. จากกิจกรรมนี้ สรปุ ได้ว่าอย่างไร

๑๕๖ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบับปรับปรุง)

ชื่อ-สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๓-๐๒
วันท่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหัด เร่ืองการเปลย่ี นแปลงของสิ่งแวดล้อม
ทีส่ ง่ ผลตอ่ สง่ิ มีชวี ติ

อา่ นสถานการณน์ ้ ี แล้วตอบค�าถาม

เรอ่ื ง สถานการณ์ความหลากหลายของส่ิงมีชวี ติ ในประเทศไทย

กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของมนษุ ย ์ เชน่ การตดั ไมท้ า� ลายปา่ และการลกั ลอบตดั ไมท้ สี่ า� คญั
ทางเศรษฐกจิ เชน่ ไมก้ ฤษณา ไมส้ กั ไมเ้ ตง็ ไมร้ งั ไมแ้ ดง ไมพ้ ะยงู ไมม้ ะคา่ โมง ไมป้ ระด ู่
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแหล่งท่ีอยู่ตามธรรมชาติของส่ิงมีชีวิต นอกจากน ้ี
การล่าสตั วป์ ่า เช่น เสอื โคร่ง หม ี นมิ่ เต่า ฯลฯ การน�าเข้ามาและการเพ่ิมจา� นวนของพืช
หรือสัตว์ต่างถิ่น รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ล้วนส่งผลใหส้ ง่ิ มชี วี ติ ลดนอ้ ยลง
อยา่ งไมเ่ คยปรากฏมากอ่ นและสง่ ผลตอ่ มนุษยแ์ ละสง่ิ มีชีวติ อื่น ๆ ทง้ั หมด
พชื ทอี่ ยใู่ นสถานภาพสญู พนั ธใ์ุ นธรรมชาต ิ คอื โสกระยา้ สว่ นพชื ทคี่ าดวา่ มสี ถานภาพ
สูญพันธใ์ุ นธรรมชาต ิ คือ ฟ้ามุ่ยน้อย นอกจากน้ียงั มพี ืชที่อย่ใู นสถานภาพใกลส้ ูญพนั ธห์ุ รอื
มแี นวโน้มใกลส้ ญู พนั ธอ์ุ กี มากกวา่ ๕๑๗ ชนดิ
สัตว์มีกระดูกสันหลังจากท่ีอาจมีสถานภาพสูญพันธุ์ไปจากโลกมี ๒ ชนิด
ได้แก่ สมัน และปลาหวีเกศ ส่วนนกช้อนหอยใหญ่ นกพงหญ้า ปลาหางไหม ้
ปลาเสอื ตอ อาจสญู พนั ธไ์ุ ปจากประเทศไทย กปู ร ี ละองหรอื ละมงั่ แรด กระซ ู่ นกกระเรยี น
นกชอ้ นหอย ตะโขง อยใู่ นสถานภาพสญู พนั ธใ์ุ นธรรมชาตแิ ตย่ งั มอี ยใู่ นแหลง่ อนรุ กั ษ ์ นอกจากนี้
ยงั มสี ตั วม์ กี ระดกู สนั หลงั ทอ่ี ยใู่ นสถานภาพใกลส้ ญู พนั ธห์ุ รอื มแี นวโนม้ ใกลส้ ญู พนั ธอ์ุ กี ๕๔๙ ชนดิ

นกกระเรยี น แรด ฟ้ามุย่ นอ้ ย ตะโขง

ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลุมสาระการเรียนรูว ิทยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๕๗

ชื่อ-สกลุ เดอื น ชัน้ เลขที่ บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๓-๐๒
วนั ที่ พ.ศ.

คา� ถาม

๑. สัตวแ์ ละพืชลดน้อยลงหรือจะสญู พันธเ์ กิดขนึ้ เพราะอะไร

๒. จากสถานการณ์นี้ นกั เรียนคิดวา่ จะมวี ิธกี ารอนุรักษ์สัตว์และพืชทีม่ อี ยู่ในปัจจุบัน
ไมใ่ ห้สญู พนั ธ์ุได้อยา่ งไร

๑๕๘ ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรับนักเรยี น) กลุม สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง)

ใบงาน

บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๔

หน่วยยอ่ ยที่ ๒

ทรัพยากรธรรมชาติ

เรือ่ ง การดแู ลทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู (สําหรับนักเรยี น) กลุม สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๕๙

ชือ่ -สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๔-๐๑
วันท ่ี พ.ศ.

กิจกรรมที่ ๑ ดแู ลทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมไดอ้ ย่างไร

จดุ ประสงค์
สืบคน้ ข้อมูลและอภปิ รายวิธกี ารดูแลทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

วัสดุ-อปุ กรณ์
๑. กระดาษขนาด A4
๒. เครื่องเขยี น
๓. สเี ทียนหรอื สไี ม้

วิธีทา�
๑. ส�ารวจกิจกรรมในชีวติ ประจา� วนั ของตนเองมา ๑ กจิ กรรม ทม่ี ีส่วนทา� ใหเ้ กิด
ปญั หาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ มในท้องถิ่น อภิปราย
บันทึกผล
๒. อ่านใบความรูเ้ ร่ืองปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และรว่ มกันอภปิ รายเก่ียวกับ
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๓. เสนอแนวทางลดปญั หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ มตามหลกั
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง บันทกึ ผล
๔. ร่วมกนั ออกแบบแผ่นพับเพอ่ื เสนอแนวทางการดแู ลทรพั ยากรธรรมชาติและ

ส่งิ แวดล้อม โดยใชข้ ้อมลู ในขอ้ ๓
๕. น�าเสนอแผ่บพับหน้าชัน้ เรยี น

๑๖๐ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลุมสาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง)

ชอ่ื -สกลุ ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๔-๐๑
วนั ท่ ี เดอื น พ.ศ.

เรือ่ งปรัชญาขใบอคงเวศารมษรฐู้ กจิ พอเพยี ง

การน�าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการด�ารงชีวิต จะช่วย
ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละความเสื่อมโทรมของสงิ่ แวดลอ้ มลงได้
เศรษฐกจิ พอเพยี ง (Sufficiency economy) เปน็ ปรชั ญาทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร -
มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มพี ระราชด�ารสั ชแ้ี นะแนวทางการดา� เนินชวี ติ แกพ่ สกนกิ รชาวไทย มาเปน็
ระยะเวลานานกวา่ ๓๐ ป ี เปน็ ปรชั ญาทช่ี ถ้ี งึ การดา� รงชวี ติ และปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดบั
ให้ด�าเนินไปในทางสายกลางและก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
และอยา่ งรวดเรว็
ผลจากการนา� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ช ้ จะทา� ใหเ้ กดิ การพฒั นาทส่ี มดลุ
และย่ังยืนในทุกด้าน ทง้ั ชวี ติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวฒั นธรรม

ความพอเพียง ประกอบดว้ ยคณุ ลกั ษณะท้ัง ๓ ประการ
พรอ้ มกัน ไดแ้ ก่
๑) ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ท่ีไม่น้อย

เกนิ ไปและไมม่ ากเกนิ ไป พอเหมาะกบั สภาพของตน
พอควรกับส่ิงแวดล้อมทางกายภาพและสังคม
ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและ
บรโิ ภคท่ีอย่ใู นระดบั พอประมาณ
๒) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับ
ระดับความพอเพียงต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล
ไม่ประมาท (รอบรู้และมีสติ) โดยพิจารณา
สาเหตุและปัจจัยท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนค�านึงถึง
ผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระท�าน้ัน ๆ
อย่างรอบคอบ
๓) การมีภูมิคุ้มกันที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้
พรอ้ มรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงด้านตา่ ง ๆ
ที่จะเกิดขึ้น โดยค�านึงถึงความเป็นไปได ้
ของสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้น
ในอนาคต ทง้ั ใกลแ้ ละไกล เรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเอง
อย่างตอ่ เน่ือง ท�าประโยชนใ์ หก้ บั ผู้อนื่ และสังคม

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนักเรยี น) กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ (ฉบบั ปรับปรุง) ๑๖๑

ช่ือ-สกุล เดอื น ชัน้ เลขที่ บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๔-๐๑
วันที ่ พ.ศ.

เงื่อนไขพืน้ ฐาน
การตดั สนิ ใจและดา� เนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพยี งนน้ั ตอ้ งอาศยั ทงั้ ความร้ ู
และคณุ ธรรม เป็นพนื้ ฐาน
๑. ความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องอย่างรอบด้าน

ความรอบคอบท่ีจะน�าความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบ
การวางแผน และความระมัดระวงั ในขัน้ ตอนการปฏิบัติ
๒. คุณธรรม ประกอบด้วย การเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจให้มีความตระหนักในคุณธรรม
มคี วามซอื่ สตั ย ์ สจุ รติ มคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการดา� เนนิ ชวี ติ ไมโ่ ลภ
และไม่ตระหน่ี

ทางสายกลาง

พอประมาณ

มเี หตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี

ความรู้ คณุ ธรรม
รอบร ู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ขยนั อดทน

สตปิ ญั ญา แบง่ ปนั

นา� ไปสู่

เศรษฐกจิ / สงั คม / สงิ่ แวดลอ้ ม / วฒั นธรรม
สมดลุ / พรอ้ มรบั ตอ่ การเปลยี่ นแปลง

๑๖๒ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นักเรียน) กลุม สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบบั ปรับปรงุ )

ชอื่ -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๔-๐๑
วนั ท ี่ พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : การดแู ลทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม

บันทึกผลการท�ากจิ กรรม
๑. กิจกรรมในชีวิตประจ�าวันท่ีมีส่วนท�าให้เกิดปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและ
ผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อมในทอ้ งถ่นิ คือ

๒. แนวทางการลดปญั หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม
ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรับนกั เรียน) กลุมสาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๖๓

ช่ือ-สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๔-๐๑
วันที่ พ.ศ.

รา่ งแบบแผน่ พบั การดูแลทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม

๑๖๔ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนักเรียน) กลุมสาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง)

ช่อื -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๒/ ผ. ๒.๔-๐๑
วนั ท่ี พ.ศ.

ค�าถามหลังจากท�ากจิ กรรม

๑. กจิ กรรมในชวี ติ ประจา� วนั ใดบา้ งทที่ า� ใหเ้ กดิ ปญั หาทรพั ยากรธรรมชาต ิ และกจิ กรรมนนั้
สง่ ผลกระทบตอ่ สิ่งแวดล้อมในทอ้ งถ่นิ อย่างไร

๒. หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแนะแนวทางในการแก้ปญั หาทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดล้อมอยา่ งไร ยกตวั อย่าง

๓. แนวทางการแกป้ ญั หาตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งใดบา้ งทไี่ มส่ ามารถปฏบิ ตั ไิ ดโ้ ดยลา� พงั
แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย ๆ คน หรือทุกคนจึงจะประสบความส�าเร็จ
เพราะเหตใุ ด

๔. จากกจิ กรรมนี้ สรุปได้ว่าอย่างไร

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๖ (ฉบับปรบั ปรุง) ๑๖๕

ชอื่ -สกลุ เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๒ / ผ. ๒.๔-๐๒
วันท ี่ พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหัด เรือ่ งการดแู ลทรพั ยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดล้อม

ตอบค�าถามต่อไปนใี้ หถ้ ูกตอ้ ง
ในแตล่ ะวนั นกั เรยี นสร้างขยะอะไรบา้ ง และจะมีวิธีการลดปรมิ าณขยะไดอ้ ยา่ งไร

๑๖๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบับปรับปรุง)

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๓
สารในชวี ติ ประจา� วัน

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู (สําหรับนกั เรียน) กลุม สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๖๗

ใบงาน

บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑

หนว่ ยย่อยท่ี ๑

สมบตั ขิ องสาร

เรอ่ื ง ของแข็ง

๑๖๘ ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลุม สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกลุ ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วันท ่ี เดือน พ.ศ.

ใบความรู้ เรอื่ งของเเขง็

น้�ำแขง็ คือนำ�้ ทม่ี ีสถำนะเปน็ ของแข็ง นำ�้ แขง็
เนื่องจำกน้�ำแข็งมีลักษณะเป็นก้อน หิน
เรำสำมำรถหยบิ ก้อนน�ำ้ แขง็ ได้
หินกเ็ ป็นของแข็งเชน่ เดียวกับน้ำ� แขง็
มลี กั ษณะเป็นกอ้ น และเรำสำมำรถหยบิ
ก้อนหนิ ได้

ของแข็งเป็นสถำนะหน่ึงของสสำร
ของแข็งนอกจำกมีลักษณะเป็นก้อน และ
สำมำรถหยิบจับขึ้นมำได้แล้ว ของแข็งยัง
มสี มบัติอะไรอกี บำ้ ง

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนักเรียน) กลุมสาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๖๙

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วนั ที่ พ.ศ.

กจิ กรรมท่ี ๑ ของแขง็ มมี วลและต้องการที่อยหู่ รือไมแ่ ละมรี ปู รา่ งอย่างไร

จดุ ประสงค์
๑. สังเกตและอธบิ ำยเกยี่ วกับมวล รปู ร่ำงและกำรตอ้ งกำรที่อยขู่ องของแขง็
๒. ใช้เครื่องช่ังวัดมวลของของแข็ง

วัสด-ุ อปุ กรณ์
๑. ก้อนหิน
๒. ปำกกำเคมี
๓. แกว้ พลำสตกิ ใส
๔. นำ้�
๕. จำน
๖. เครอ่ื งชั่งแบบคำน ๓ แขน

วธิ ีท�า
ตอนท่ี ๑

๑. ยกกอ้ นหนิ ทก่ี ลมุ่ เตรยี มมำ แลว้ คำดคะเนวำ่ หนิ กอ้ นนน้ั จะมมี วลเทำ่ ใด บนั ทกึ ผล
๒. ทำ� กจิ กรรมเพ่อื ตรวจสอบกำรคำดคะเน โดยช่งั มวลของก้อนหนิ น้นั บันทกึ ผล
๓. เปรียบเทยี บมวลของก้อนหินที่ชง่ั ได้กบั ทีค่ ำดคะเนไว้ บนั ทึกผล

ตอนที่ ๒
๑. แตล่ ะกลมุ่ นง่ั ลอ้ มวง วำงกอ้ นหนิ ของกลมุ่ ตนเองตรงกลำงโตะ๊ สงั เกตและบนั ทกึ ผล

โดยวำดรปู หนิ ท่ีมองเห็น
๒. ช่วยกันไปหำกอ้ นหนิ ของตนเองตำมท่ีต่ำง ๆ ซงึ่ ครูนำ� ไปวำงไว้
๓. รว่ มกนั อภปิ รำยวำ่ กอ้ นหนิ ทพ่ี บเปน็ กอ้ นหนิ ของกลมุ่ ตนเองหรอื ไม่ เพรำะเหตใุ ด

๑๗๐ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรับปรุง)

ชือ่ -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วนั ท ่ี พ.ศ.

ตอนที่ ๓
๑. เตมิ น�ำ้ ลงในแก้วพลำสตกิ ใส ประมำณ ๓/๔ แก้ว พร้อมท้งั ทำ� เครอื่ งหมำยบอก
ระดับนำ้� ไว้ ดงั รูป
๒. คำดคะเนและบนั ทกึ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลวำ่ จะเกดิ อะไรขนึ้ ถำ้ หยอ่ นกอ้ นหนิ ลงในแกว้ น�้ำ
๓. ท�ำกจิ กรรมเพอ่ื ตรวจสอบกำรคำดคะเน บนั ทกึ ผล

ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรับนกั เรียน) กลุม สาระการเรยี นรูว ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๗๑

ช่ือ-สกุล เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วนั ท ่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : มวล รปู ร่าง และการต้องการท่ีอยู่ของของแข็ง

ตอนที่ ๑
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม

ผลกำรคำดคะเนและชัง่ มวลของก้อนหิน

มวลของก้อนหนิ ทคี่ ำดคะเน (ระบหุ นว่ ย)
มวลของก้อนหินท่ีชงั่ ได้ (ระบุหน่วย)
ผลกำรเปรียบเทยี บมวลของก้อนหินท่ชี ่งั ได้กับมวลของกอ้ นหนิ ที่คำดคะเน

๑๗๒ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรียน) กลุมสาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วันท่ ี พ.ศ.

ค�าถามหลังจากทา� กิจกรรม
๑. มวลของกอ้ นหนิ ทีค่ ำดคะเนกบั มวลที่ช่ังได้ เหมือนหรือแตกตำ่ งกันอย่ำงไร

๒. กอ้ นหนิ มมี วลหรอื ไม่ รูไ้ ดอ้ ยำ่ งไร

๓. จำกกิจกรรมนี้ สรุปได้วำ่ อย่ำงไร

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สําหรับนกั เรียน) กลุมสาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๗๓

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วนั ที ่ พ.ศ.

ตอนท่ี ๒
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม
ผลกำรสงั เกต

ผลกำรอภปิ รำย

๑๗๔ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑/ ผ. ๑.๑-๐๑
วันท ี่ พ.ศ.

คา� ถามหลงั จากท�ากจิ กรรม

๑. กำรทพ่ี บกอ้ นหินของกลุม่ ตนเองไดน้ ั้นรไู้ ดจ้ ำกสมบัติใดของกอ้ นหนิ

๒. รปู ร่ำงของหนิ แต่ละก้อนเปลี่ยนแปลงหรอื ไม่ เมอ่ื ไปวำงในสถำนทีต่ ่ำง ๆ

๓. จำกกจิ กรรมน้ี สรุปได้ว่ำอยำ่ งไร

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สําหรบั นักเรยี น) กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๖ (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๗๕

ชื่อ-สกุล เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วนั ที่ พ.ศ.

ตอนท่ี ๓
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม
วำดรูปและเขยี นอธบิ ำยกำรคำดคะเนและผลกำรสังเกต

กำรคำดคะเน ผลกำรสังเกต

๑๗๖ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู (สําหรบั นักเรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ (ฉบับปรับปรุง)

ชอ่ื -สกุล เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑/ ผ. ๑.๑-๐๑
วนั ที่ พ.ศ.

ค�าถามหลังจากท�ากจิ กรรม

๑. เมอื่ หยอ่ นกอ้ นหนิ ลงไปในนำ�้ สงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เหมอื นหรอื แตกตำ่ งจำกทค่ี ำดคะเน อยำ่ งไร

๒. เมอ่ื กอ้ นหนิ ลงไปอยู่ในแก้ว น้ำ� ทเ่ี คยอยู่ตรงนน้ั ไปอย่ทู ไี่ หน รู้ไดอ้ ย่ำงไร

๓. กอ้ นหนิ ตอ้ งกำรทอี่ ยูห่ รอื ไม่ รไู้ ดอ้ ย่ำงไร

๔. จำกกิจกรรมนี้ สรุปได้วำ่ อยำ่ งไร

๕. จำกสง่ิ ทค่ี ้นพบทัง้ ๓ ตอน สรุปได้วำ่ อย่ำงไร

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรียน) กลุมสาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๗๗

ชือ่ -สกุล เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒
วนั ท่ี พ.ศ.

กจิ กรรมที่ ๒ ของแขง็ มปี รมิ าตรเป็นอยา่ งไร

จุดประสงค์
๑. สังเกตและอธบิ ำยเก่ียวกับปริมำตรของของแขง็
๒. ใช้เครอื่ งมอื วดั ปรมิ ำตรของของแขง็

วัสดุ-อุปกรณ์
๑. กอ้ นหิน
๒. แกว้ พลำสติกใส
๓. น้�ำ
๔. กระบอกตวง
๕. เชอื กหรือดำ้ ย
๖. ถ้วยยูรีกำ

วิธีทา�
๑. สงั เกตอปุ กรณท์ ่ีกำ� หนดให้และร่วมกันวำงแผนวธิ ีกำรหำปรมิ ำตรของกอ้ นหนิ

นำ� เสนอ
๒. ร่วมกันอภิปรำยและสรุปวิธีกำรหำปริมำตรของกอ้ นหนิ บันทกึ ผล
๓. หำปริมำตรของก้อนหนิ ตำมวธิ กี ำรท่อี อกแบบไว้ ๓ คร้งั บนั ทกึ ผล

๑๗๘ ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรับนักเรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรับปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดือน ชั้น เลขที่ บ. ๓.๑/ ผ. ๑.๑-๐๒
วันที่ พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : ปรมิ าตรของของแขง็

จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม
วิธกี ำรหำปรมิ ำตรของก้อนหนิ

วัสดุ อุปกรณท์ ่ีใช้

วธิ กี ำร

ตาราง ปริมาตรของก้อนหินทีว่ ดั ไดใ้ นแตล่ ะครงั้

ครัง้ ท่ี ปริมำตรของก้อนหิน (ระบุหนว่ ยให้ถกู ต้อง)




ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรียน) กลุม สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที่ ๖ (ฉบับปรบั ปรุง) ๑๗๙

ช่ือ-สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒
วันที ่ พ.ศ.

คา� ถามหลงั จากท�ากจิ กรรม
๑. กำรหำปรมิ ำตรของก้อนหินทำ� ไดอ้ ย่ำงไร

๒. ปรมิ ำตรของกอ้ นหนิ ท่หี ำได้ท้ัง ๓ ครง้ั เป็นอย่ำงไร เพรำะเหตุใด

๓.จำกกจิ กรรมน้ี สรุปไดว้ ำ่ อย่ำงไร

๑๘๐ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู (สําหรบั นกั เรียน) กลุมสาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ (ฉบับปรับปรุง)

ชือ่ -สกุล เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑/ ผ. ๑.๑-๐๒
วนั ท ่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หัด เรื่องสมบัติของของแข็ง

ตอบค�ำถำมตอ่ ไปนี้ให้ถูกต้อง พรอ้ มใหเ้ หตุผล
สำร ๓ ชนดิ คอื A B และ C ตำ่ งมีมวลและต้องกำรท่ีอยู่ แต่มสี มบัตดิ ำ้ นรูปรำ่ ง
และปรมิ ำตรเปน็ ดงั นี้

สำร ปริมำตร รปู ร่ำง
A คงท ่ี คงท่ี
B เปลย่ี นแปลงตำมภำชนะท่บี รรจุ เปลี่ยนแปลงตำมภำชนะทีบ่ รรจุ
C ไมค่ งท ่ี คงท่ี

สำรใดบำ้ งเปน็ ของแขง็ ข. สำร B
ก. สำร A ง. สำร A และ B
ค. สำร C

เหตุผล

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๘๑

ใบงาน

บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒

หนว่ ยย่อยท่ี ๑

สมบัตขิ องสาร

เร่อื ง ของเหลว

๑๘๒ ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกุล เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑
วันท่ี พ.ศ.

ใบความรู้ เรอ่ื งของเหลว

ของเหลวเป็นสถำนะหน่ึงของสสำร ของเหลวที่พบโดยทั่วไป
ได้แก่ น้�ำ เม่ือเทน�้ำจำกภำชนะใบหนึ่งลงไปในภำชนะอีกใบหน่ึง
น้�ำจะไหลจำกท่ีสูงไปสู่ท่ีต�่ำ โดยน�้ำที่เทจะไหลลงไปอยู่ท่ีก้นภำชนะ
และครอบครองพื้นที่จนเต็มก้นภำชนะก่อน แล้วจึงมีระดับสูงข้ึน
เรำไม่สำมำรถหยิบน�้ำขึ้นมำได้ แต่เม่ือต้องกำรจะใช้น้�ำต้องใช้
ภำชนะในกำรตักข้ึนมำ ส่ิงต่ำง ๆ รอบตัว เช่น สบู่เหลว แชมพู
นม น้�ำผลไม้ น้�ำมัน เป็นของเหลวหรือไม่ เรำจะรู้ได้อย่ำงไร

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นักเรียน) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบับปรับปรุง) ๑๘๓

ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑
วันท่ ี พ.ศ.

กิจกรรมท่ี ๑ ของเหลวมีมวลและต้องการที่อย่หู รอื ไม่

จุดประสงค์
สงั เกตและอธิบำยมวล และกำรต้องกำรทอี่ ยู่ของของเหลว

วัสด-ุ อุปกรณ์
๑. น�้ำยำล้ำงจำน
๒. แก้วพลำสตกิ ใส
๓. น�้ำ
๔. กระบอกตวง
๕. เครือ่ งช่งั แบบคำน ๓ แขน

วิธีท�า
ตอนที่ ๑
๑. ชัง่ มวลของแก้วพลำสตกิ ใส บันทกึ ผล

๒. เตมิ น�้ำลงไปครึง่ แกว้ น�ำไปชง่ั อีกคร้ังหน่งึ บันทกึ ผล
๓. เปรยี บเทียบมวลของแก้วกอ่ นและหลังเตมิ นำ้�

ตอนที่ ๒
๑. เติมน้ำ� ลงในแก้วพลำสติกใส ประมำณครง่ึ แก้ว พร้อมทงั้ ท�ำเคร่อื งหมำยบอกระดับ
น้�ำไว้ ดงั รปู
๒. คำดคะเนและอภปิ รำยให้เหตผุ ลวำ่ จะเกดิ อะไรขึน้ กบั ระดับน้�ำในแก้ว ถ้ำรนิ นำ�้

ยำลำ้ งจำนลงในแก้วโดยไม่คน จนมปี ริมำณครง่ึ หน่ึงของนำ�้ บนั ทกึ ผล
๓. ท�ำกจิ กรรมเพอ่ื ตรวจสอบกำรคำดคะเน สงั เกตและบันทกึ ผล

๑๘๔ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู (สําหรบั นกั เรียน) กลมุ สาระการเรียนรูว ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖ (ฉบับปรับปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑
วันท่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : มวลและต้องการทอี่ ยู่ของของเหลว

ตอนที่ ๑
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม
ผลกำรชง่ั มวลของแก้วนำ�้

มวลของแก้วน้�ำ (ระบหุ น่วย)
มวลของแกว้ ท่ีมีนำ�้ (ระบุหนว่ ย)
ผลกำรเปรยี บเทียบมวลของแกว้ กอ่ นและหลงั เติมนำ้�

ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรับนักเรียน) กลุมสาระการเรยี นรูว ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ ๖ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๑๘๕

ช่ือ-สกุล เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑
วันท ่ี พ.ศ.

ค�าถามหลงั จากท�ากิจกรรม

๑. มวลของแก้วกอ่ นและหลงั เตมิ น�้ำเหมอื นหรอื แตกต่ำงกนั อย่ำงไร

๒. น�้ำมมี วลหรือไม่ รู้ได้อยำ่ งไร

๓. จำกกิจกรรมน้ี สรปุ ไดว้ ำ่ อย่ำงไร

๑๘๖ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู (สําหรับนักเรียน) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบบั ปรับปรุง)

ชอื่ -สกลุ เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑/ ผ. ๑.๒-๐๑
วันท ่ี พ.ศ.

ตอนท่ี ๒
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม
วำดรูปและเขียนอธิบำยกำรคำดคะเนและผลกำรสงั เกต

กำรคำดคะเน ผลกำรสงั เกต

ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สําหรบั นกั เรียน) กลุมสาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบับปรับปรุง) ๑๘๗

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑
วันท่ี พ.ศ.

คา� ถามหลงั จากทา� กิจกรรม
๑. เมือ่ ใส่น�้ำยำลำ้ งจำนลงในน้�ำ สิ่งท่ีเกิดขึน้ เหมือนหรือแตกตำ่ งจำกท่ีคำดคะเน
อย่ำงไร

๒. บรเิ วณทน่ี �้ำยำลำ้ งจำนลงไปอยูใ่ นแก้ว เคยเป็นทอ่ี ยูข่ องสิง่ ใด

๓. นำ้� ตอ้ งกำรทอี่ ยูห่ รือไม่ รไู้ ด้อย่ำงไร

๔. จำกกจิ กรรมนี้ สรปุ ได้ว่ำอยำ่ งไร

๕. จำกสิ่งทคี่ น้ พบท้ัง ๒ ตอน สรปุ ไดว้ ำ่ อยำ่ งไร

๑๘๘ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สําหรับนกั เรยี น) กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรับปรุง)

ชอื่ -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วนั ท่ี พ.ศ.

กจิ กรรมที่ ๒ ของเหลวมีปรมิ าตร รูปร่างและระดับผวิ หน้าเป็นอยา่ งไร

จดุ ประสงค์
สังเกตและอธบิ ำยสมบัตเิ กยี่ วกับปริมำตร รูปร่ำงและระดบั ผิวหน้ำของของเหลว

วสั ดุ-อุปกรณ์
๑. น้ำ� สี
๒. บีกเกอร์ หรือถ้วยตวง
๓. แบบจำ� ลองศกึ ษำสมบตั ิของของเหลว
๔. ดินสอสี
วิธีท�า

ตอนที่ ๑
๑. เติมนำ้� สลี งในบกี เกอรใ์ บท่ี ๑ จนระดับน้ำ� ถึงขดี บอกปรมิ ำตร บันทกึ ปรมิ ำตร

ของนำ้� สี
๒. คำดคะเนและบนั ทกึ วำ่ ถำ้ เทนำ�้ สีทั้งหมดจำกบีกเกอรใ์ บที่ ๑ ไปยังบีกเกอร์ใบที่ ๒

และจำกบีกเกอร์ใบท่ี ๒ ไปบกี เกอรใ์ บท่ี ๓ ปริมำตรของน�้ำสีจะเปน็ อยำ่ งไร
๓. ท�ำกจิ กรรมเพ่ือตรวจสอบกำรคำดคะเน สงั เกตและบันทกึ ผล

ตอนที่ ๒
๑. สงั เกตและอภปิ รำยลักษณะแบบจ�ำลองศึกษำสมบตั ิของของเหลว
๒. คำดคะเนและบันทึกวำ่ เมอ่ื รนิ น�ำ้ สีลงในภำชนะของแบบจ�ำลองจนเตม็ ภำชนะ
รูปรำ่ งของน�ำ้ สีจะเป็นอยำ่ งไร
๓. ท�ำกิจกรรมเพอื่ ตรวจสอบกำรคำดคะเน สังเกตและบนั ทึกผล

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู (สําหรบั นักเรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที่ ๖ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๑๘๙

ชื่อ-สกุล เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วันท ่ี พ.ศ.

ตอนที่ ๓
๑. คำดคะเนและบันทึกวำ่ ถำ้ เตมิ น้ำ� สีลงในภำชนะใบหน่งึ ของแบบจ�ำลองศกึ ษำ
สมบัติของของเหลวให้ระดับนำ�้ สีสูงประมำณครึ่งหนง่ึ ของภำชนะ แลว้ วำง
แบบจ�ำลองในแนวรำบและเอยี งในลักษณะตำ่ ง ๆ ระดบั ผวิ หนำ้ ของน�้ำสี
จะเปน็ อยำ่ งไร
๒. ท�ำกิจกรรมเพอ่ื ตรวจสอบกำรคำดคะเน สงั เกต เปรียบเทยี บระดับผวิ หน้ำ
ของนำ้� สีกับระดับของขอบโตะ๊ บนั ทึกผล

แบบจำ� ลองศกึ ษำสมบตั ขิ องของเหลว

๑๙๐ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู (สําหรบั นกั เรยี น) กลุม สาระการเรยี นรูว ิทยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที่ ๖ (ฉบับปรับปรุง)

ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วนั ท ่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ : ปริมาตร รูปร่างและระดบั ผวิ หน้าของของเหลว

ตอนที่ ๑
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม

วำดรูปและเขียนอธบิ ำยกำรคำดคะเนและผลกำรสังเกต
ปริมำตรนำ้� สีในบีกเกอร์ ๑
น�ำ้ สมี ปี รมิ ำตร (ระบหุ น่วยให้ถูกตอ้ ง)

บีกเกอร์ กำรคำดคะเน ผลกำรสังเกต

ใบที่ ๒ นำ้� สมี ปี รมิ ำตร น�้ำสีมีปรมิ ำตร

(ระบุหน่วยให้ถูกตอ้ ง) (ระบหุ น่วยให้ถกู ต้อง)

ใบท่ี ๓ น้ำ� สีมปี รมิ ำตร น้�ำสมี ปี ริมำตร

(ระบุหนว่ ยให้ถูกต้อง) (ระบุหนว่ ยใหถ้ กู ต้อง)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรับนักเรยี น) กลุม สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๑๙๑

ชอื่ -สกลุ เดือน ชั้น เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วันท ่ี พ.ศ.

ค�าถามหลงั จากทา� กิจกรรม
๑. เม่ือเทนำ้� สจี ำกบีกเกอรใ์ บหนง่ึ ไปยงั บีกเกอร์อีกใบ ปริมำตรของน้�ำสีในบกี เกอร์
แต่ละใบเหมอื นกับที่คำดคะเนไว้หรอื ไม่ อยำ่ งไร

๒. ปรมิ ำตรของนำ้� สีเปล่ียนแปลงไดห้ รือไม่ อย่ำงไร

๓. จำกกจิ กรรมนี้ สรปุ ได้วำ่ อยำ่ งไร

๑๙๒ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู (สําหรับนกั เรยี น) กลุม สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบับปรับปรุง)

ชื่อ-สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑/ ผ. ๑.๒-๐๒
วนั ที่ พ.ศ.

ตอนที่ ๒
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม
กำรคำดคะเน
ระบำยสีแสดงรปู ร่ำงของน้ำ� สีในภำชนะของแบบจำ� ลอง

ผลกำรสงั เกต
ระบำยสแี สดงรูปรำ่ งของน�ำ้ สใี นภำชนะของแบบจ�ำลอง

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สาํ หรับนกั เรยี น) กลุม สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๙๓

ชอื่ -สกุล เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วนั ท ี่ พ.ศ.

ค�าถามหลงั จากท�ากิจกรรม
๑. เม่อื น้ำ� เตม็ ภำชนะแตล่ ะใบในแบบจำ� ลอง รูปรำ่ งของน�้ำสีจะเหมอื นกนั หรอื ไม ่
อย่ำงไร

๒. จำกกิจกรรมน้ี สรปุ ได้ว่ำอย่ำงไร

๑๙๔ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู (สําหรบั นักเรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรับปรุง)

ชื่อ-สกลุ เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วนั ท ่ี พ.ศ.

ตอนที่ ๓
จุดประสงค์ของกิจกรรม

บันทึกผลการท�ากิจกรรม
กำรคำดคะเน
ระบำยสีแสดงระดับผิวหนำ้ ของน�้ำสีในภำชนะของแบบจำ� ลอง
เมื่อวำงในแนวรำบ

เมือ่ เอียงภำชนะ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู (สาํ หรบั นักเรียน) กลุม สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๖ (ฉบับปรบั ปรุง) ๑๙๕


Click to View FlipBook Version