The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารเผยแพร่ของม.ราชภัฏเพชรบุรี ในงานมหกรรมเกลือทะเลเพชรสมุทรคีรี "หอมกลิ่นดอกเกลือ" วันที่ 15-17 พ.ย. 2562 ติดตามข่าวสารได้จาก https://www.thaiseasalt.info/news-2019111101

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chanitnart.wic, 2019-11-12 12:05:07

หอมกลิ่นดอกเกลือ

เอกสารเผยแพร่ของม.ราชภัฏเพชรบุรี ในงานมหกรรมเกลือทะเลเพชรสมุทรคีรี "หอมกลิ่นดอกเกลือ" วันที่ 15-17 พ.ย. 2562 ติดตามข่าวสารได้จาก https://www.thaiseasalt.info/news-2019111101

Keywords: เกลือทะเล,ดอกเกลือ,บ้านแหลม

1

2

หอมเจ้าหอมสดุ ล�้ำคำ�เปรย หอมเจ้าเอย...

หอมกลิ่นดอกเกลือ

ย้อนอดตี ไปในดนิ แดนแหล่งผลิตเกลอื ทะเลชน้ั ดี
นานาทศั นะคนแผน่ ดินเกลือทะเล

ภูมปิ ัญญาการทำ�เกลือทะเล นวัตกรรม สาระ
ประโยชนข์ องเกลอื ทะเล
เมนเู ดด็ จากเกลือทะเล

เส้นทางสายเกลือทะเล เพชรสมุทรคีรี

3

บรรณาธิการ : จฑุ ามาศ ทะแกลว้ พนั ธุ์
แดนอรญั แสงทอง
นักเขยี นรับเชิญ : ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาวรรณศลิ ป์ ปี 2561
จุฑามาศ ทะแกลว้ พนั ธ์ุ
ฐิตมิ า พ้นภัย
เสกสรร สกุ โข
นกั เขียน : อธิคม กฤษมณี
เกตุแกว้ สำ�เภาทอง
พิสูจนอ์ ักษร : จฑุ ามาศ ทะแกลว้ พนั ธุ์
อธคิ ม กฤษมณี
ภาพประกอบ : จกั รธร ชมภนู ชิ
ชนัดดา ชา้ งเยาว์
มเี อ่ียว พร้ินติ้ง โทร. 093-5395641

4



ศลิ ปกรรม :





พมิ พท์ ่ี :

จำ�นวน 2,000 เลม่

พฤศจกิ ายน 2562

รักษาความดี ดุจเกลอื รกั ษาความเคม็

รกั ษาความดใี ห้สม�ำ่ เสมอเช่นเกลือรักษาความเคม็ ไว้ไมเ่ ปลยี่ นแปลง

5

สารบญั

ชาวท่งุ กบั ชาวเล 11
60
นานาทัศนะคนแผน่ ดนิ เกลอื ทะเล
92
ภูมปิ ญั ญาการทำ�นาเกลอื ทะเลของไทยและ 102

นวัตกรรมการทำ�เกลือในรปู แบบตา่ งๆ ทั่วโลก

ประเภทของเกลือ

6

สารบญั 120
141
วิถีการตลาดเกลือทะเลไทย 184
สถานการณ์เกลือทะเลไทย 221
การใชป้ ระโยชน์จากเกลือทะเลในด้านต่างๆ 252
เมนูเดด็ จากเกลอื ทะเล
คณะทำ�งานจัดงานมหกรรมเกลือทะเลเพชรสมุทรครี ี

7

คำ�นำ�

“เกลือทะเล”นับเป็นส่ิงล�้ำค่าท่ีบรรพบุรุษของเราได้ถ่ายทอดมรดกมาสู่

ลูกหลาน ภมู ปิ ัญญาการทำ�นาเกลือถอื เปน็ สุดยอดแหง่ องค์ความรู้ในการนำ�พลัง

แหง่ ธรรมชาติทั้ง 4 ไดแ้ ก่ ดิน น้�ำ ลม ไฟ มาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ไดอ้ ย่างสมดลุ

ความชาญฉลาดในการนำ�เอาพลังธรรมชาติมาใช้ให้เกิดผลึกเกลือจากน�้ำทะเลขึ้น

มาได้ ชาวนาเกลอื จงึ ไดข้ ึน้ ชื่อว่าทำ�อาชีพปั้นน�้ำเปน็ ตวั ได้อย่างแทจ้ รงิ “ดอก

เกลอื ” นับเป็นจุดกำ�เนดิ ของการกอ่ ตวั ซ่งึ ชาวนาเกลือผ้มู ีความมานะ จะเฝ้าอดทน

หล่อผลกึ เล็กๆ เหล่านัน้ ให้เกาะตวั กันจนมีขนาดใหญ่ขึน้ และกลายเป็นแผน่ เกลอื ทแ่ี ผ่

ตัวออกจนกระท่งั เต็มท้องกระทงนา มองเห็นเปน็ เกล็ดแวววาวสขี าวบรสิ ุทธิ์

สะทอ้ นแสงแดดอย่างระยิบระยบั เปน็ ทวิ ทัศน์ท่เี ปน็ เอกลกั ษณ์ สวยงามและสะดดุ

ตาแก่นักท่องเท่ียวท่ีสัญจรมาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบนเส้นทางท่องเท่ียวสาย

เกลือ เลยี บชายฝ่งั อ่าวไทยฝง่ั ตะวันตก “เพชรสมทุ รคีรี” ผืนนาเกลอื รมิ ชายฝ่ัง

อา่ วไทย รปู ตวั ก ท่ีมีพ้นื ทีใ่ หญท่ ส่ี ดุ ในประเทศไทย อย่ใู นเขตจังหวดั เพชรบุรี

สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ซ่งึ ผลผลิตเกลอื ทะเลของไทยกวา่ ร้อยละ 90 เป็น

เกลือเพชรสมุทรคีรีผืนดินแห่งน้ีจึงเป็นแหล่งผลิตเกลือแร่ที่มากคุณค่าและมี

บ ท บ า ท สำ�คั ญ ม า อ ย ่ า ง ย า ว น า น ดั ง จ ะ พ บ ว ่ า เ ก ลื อ ท ะ เ ล ป ร า ก ฏ อ ยู ่ ใ น ห น ้ า

ประวตั ิศาสตรท์ กุ ยคุ ทกุ สมยั

8

ในแงท่ ีเ่ ป็นอาหาร วัตถดุ บิ สำ�คญั ในการถนอมอาหาร อย่ใู นกระบวนการผลิต
ของกิน-ของใช้ ยทุ ธปัจจยั และเป็นของมีค่าใช้จา่ ยแทนเงินตราในสมัยโบราณได้ ใช้
ในการยอ้ มสผี า้ เครอื่ งหนัง ถนอมความคงทนของเนอื้ ไม้ หากพนิ จิ พเิ คราะหใ์ หด้ ี
ก็จะพบว่ามีเกลือทะเลเจืออยู่ในทุกๆที่และเป็นส่วนหน่ึงในชีวิตประจำ�วันของคนเรา
สะท้อนใหเ้ หน็ ว่า สสารท่ีมรี ปู ลกั ษณะเป็นผลกึ สีขาว ให้รสเค็ม ทีเ่ รยี กวา่ “เกลอื
ทะเล” นัน้ ยังประโยชนต์ อ่ ทกุ สรรพส่งิ บนโลกนี้
สาระประโยชน์และอรรถรสจากเนื้อหาที่อัดแน่นอยู่ภายในหนังสือเล่มน้ี
ถ่ายทอดจากนักเขียนลกู เกดิ ชาวเมอื งเพชรบรุ ี คุณแดนอรญั แสงทองรับอาสา
พ า ท ่ า น ผู ้ อ ่ า น ย ้ อ น อ ดี ต ไ ป ใ น ดิ น แ ด น แ ห ล ่ ง ผ ลิ ต เ ก ลื อ ท ะ เ ล ช้ั น ดี แ ล ะ ก อ ง
บรรณาธกิ ารซึ่งได้รวบรวมสาระพนั ประโยชน์จากเกลือทะเล ตลอดจนวทิ ยาการ
และความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยีนวัตกรรมเก่ียวกบั เกลือทะเลมาไวพ้ รอ้ ม โดยม่งุ
สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ท่านผู้อ่านและเป็นคู่มือการชมนิทรรศการภายในงาน
มหกรรมเกลือทะเลเพชรสมทุ รครี ี “หอมกลนิ่ ดอกเกลอื ”ทงั้ น้ี คณะผจู้ ัดทำ�มี
เจตนารมณ์และความตั้งใจเป็นอย่างย่ิงท่ีจะส่งเสริมและสนับสนุนให้อาชีพ
เกษตรกรนาเกลอื และเกลือทะเลไทยมีความกา้ วหนา้ และความย่ังยนื อยคู่ ู่กับแผ่น
ดนิ ไทยตลอดไป


จฑุ ามาศ ทะแกล้วพันธุ์
บรรณาธิการ

พฤศจกิ ายน 2562

9

10

ชาวทุ่งกบั ชาวทะเล
แดนอรญั แสงทอง
11

ขา้ พเจ้าเกดิ ท่ีต�บลนาพันสาม

อำ� เภอเมือง จังหวดั เพชรบรุ ี
ท่ีจริงไม่น่ำจะต้องระบุให้ชัดเจนจนถึงขนำดนี้ก็ได้แต่ก็เห็นควำมจ�ำเป็นท่ีจะ
ตอ้ งระบุ เพรำะมขี อ้ สังเกตทช่ี วนให้ขุ่นเคืองใจตะหงิดๆ อย่สู กั สองประกำร
ประกำรแรก ช่ือบำ้ นนำมถิน่ ของชมุ ชนต่ำงๆในประเทศไทยของเรำนีม้ นั มัก
จะซ้ำ� ซอ้ นกนั โดยทบี่ ำงที มันไม่มีอะไรเก่ียวข้องกันเลยช่ืออยำ่ งมำบปลำเค้ำหนอง
ปลำไหล หนองโสน หรือ แมแ้ ต่ตล่งิ ชนั จ�ำเป็นต้องระบุใหช้ ัดเจนลงไปว่ำอยทู่ ไ่ี หนแน่
บนแผนท่ีภมู ิศำสตร์
ในแง่น้ีชำวต�ำบลนำพันสำมไม่จ�ำเป็นต้องเดือดเนื้อร้อนใจว่ำต�ำบลของเรำจะ
ไปมีชื่อพ้องพำนกับตำ� บลอ่ืนหรือหม่บู ้ำนอน่ื ต�ำบลนำพันสำมและหมู่บำ้ นนำพนั สำม
เปน็ นำมกรของเรำเองแทๆ้ หมู่บ้ำนเดยี ว ต�ำบลเดียวโดดๆ ไมไ่ ปซ้ำ� ซ้อนกบั ชื่อตำ� บล
ช่อื หม่บู ำ้ นของใครเลย
เรำอำจจะเอำเร่ืองรำวเช่นน้ไี วค้ ุยเข่อื งเล่นสนกุ ๆ บ้ำงก็ได้ แต่ส่ิงทน่ี ำ่ ร�ำคำญ
ใจก็คอื ไอค้ ำ� ว่ำ “นำพันสำม” นี้ มันมคี วำมหมำยวำ่ กระไรของมนั แน ่ มันหมำยถึงทนี่ ำ
หนงึ่ พนั สำมร้อยไรหรือเปล่ำ ตำ� บลนำพนั สำมในปัจจุบนั น้สี ว่ นใหญพ่ น้ื ท่ขี องมนั ก็เปน็
ทนี่ ำทั้งน้นั และจ�ำนวนที่นำนนั้ ก็น่ำจะมีมำกกว่ำหน่งึ พนั สำมร้อยไร่เป็นอนั มำก
หรือว่ำช่ือนี้มันเป็นชื่อชุมชนเก่ำแก่นมนำนกำเลมำแล้วอำจเป็นชุมนุมในเว้ิง
ทงุ่ เล็กๆ แห่งหนึง่ ซึ่งมีผืนดนิ รำบเรียบเสมอกนั ดีเหมำะแก่กำรทำ� นำไดส้ ักหนง่ึ พันสำม
ร้อยไร่ โดยท่ีพน้ื ที่รำยรอบในบรเิ วณเวิง้ ทุ่งดงั กลำ่ วนี ้ ในยคุ สมยั โบร่ำ� โบรำณพนู้ มันยัง
คงเป็นป่ำตำลป่ำไผ่สีสุกป่ำสะแกดงขลู่ป่ำข่อยและแม้แต่ป่ำไม้หำยำกอย่ำงป่ำพะยอม
เอำเถอะนำ่ ขำ้ พเจำ้ อำจจะเดำถกู กเ็ ป็นได ้

12

ทเี วง้ิ ท่งุ แหง่ หน่งึ ของทุง่ นาพันสาม

ผเู ฒา ผูแกเรียกกนั วา ทุงนาพะยอม เว้ิงทงุ นาพะยอมนขี้ า พเจาคุนเคยมา
แตออ นแตออก เดินจากบานไปโรงเรยี นกต็ องเดนิ ผา น ไปดูหนังหรอื ดลู เิ กทวี่ ดั ก็
ตองเดนิ ผา น ในฤดูเกี่ยวขาวไปหาเก็บขา วตกแถวๆ น้ันกเ็ คย

ในฤดูขาวต้ังทองซ่ึงมีตนขาวเขียวขจีทั้งทุงและชาวนาเขาทําขวัญขาวกัน
(ซึง่ เขาจะปก ธงสีสวยสดใสไวเปน ที่หมายบอกกลา ว) ขา พเจาก็จะเฉแฉลบออก
นอกเสนทางเดินไปดวยฤทธ์ิของเด็กตะกละท่ี ใตคันธงน้ันชาวนาเขาทํากระบะจาก
กาบกลวย มเี สาไมไผนอยๆ ยกกระบะน้นั สงู ข้ึนมาสกั ศอกหนึ่ง

ในกระบะน้นั มขี า วสวย น้าํ พริกมะขามดบิ ไขเค็ม มีสมเขียว หวานหน่งึ
ผล หรือสมโอหน่งึ กลีบ และมีขนมหวานอยอู กี นิดหนอ ย สวนมากก็เปนขาวพอง
ขา วเหนียวแดง หรอื ไมก ็กาละแม แตส ม เขียวหวานหรือสม โอนั้นขาดไมได

ชาวบานแถวน้ีเขาถือวาขาวตั้งทองก็คือแมโพสพตั้งทองเขาเช่ือของเขา
ซื่อๆ อยา งน้ี เมอื่ แมโพสพต้งั ทอง แมกย็ อมจะตองอยากกินอะไรเปรีย้ วๆ บา ง
เปนธรรมดา เคยไปจบั ปลาตกแอง ในบรเิ วณน้นั ก็เคย ในฤดนู าํ้ หลากปห น่ึงเคย
เจอปลาชอ นตัวเขือ่ งสกั เทา นอ งติด “ชดุ ” ของใครอยกู ็ไมร ู “ชดุ ” นเ้ี ปนเคร่อื งมอื
ประมงน้าํ จดื ถกั จากหวาย ตาหา งมาก ชาวบา นเขาจะวาง “ชุด” ไวตามเสน ทาง
นา้ํ ไหลใหด า นหนา ของมนั ทวนกระแสนํา้

ปลาใหญมันจะวายทวนกระแสน้าํ ขึน้ ไปหากินไกลๆ ถึงกลางทงุ หา งไกล
จากลําคลองเปน อนั มาก พอมันเจอ “ชดุ ” ถักตาหางๆ อาปากกวางๆ อยู มันก็
วายนํ้ามุดหัวเขา ไป สวนปลายของชุดนมี้ ีลกั ษณะสอบๆ แคบๆ ปลาใหญมนั หมนุ
ตวั กลบั ไมได มนั กก็ ลับไมไดไปก็ไมถึง ตดิ แหง็กอยูในน้ัน มันเปน ยามบา ยคลอย
จวนเยน็ ยํ่าในราวเดอื นสิบเอด็ ตอ เดอื นสิบสอง ทงุ ขาวกวา งใหญไพศาลสีเขียวสด
ขจีไปสุดขอบโลกปาละเมาะและทิวตาลกีดขวางสายตาอยูบางประปรายไกลออก
ไปทางทศิ เหนือ

13

คือแถวแนวเขียวขรึมของหมูบานฝงทาตีแนวโอบโคงไปทางทิศตะวัน
ออกอันเปนแถวแนวของหมบู า นนาโตนด ทางทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือคือแถวแนว
เขยี วขรึมของวดั และโรงเรียน แดดออนแสงและฟา โปรงโลงเปนโดมผลึกสคี ราม

ทุงนั้นเย็นสดฉาํ่ และมีนา้ํ ใสไหลรนิ ขาพเจา เปนเด็กนกั เรียนชนั้ ประถมใน
โรงเรียนประชาบาล นงุ กางเกงสีกากตี ัวเล็กๆ เกาๆ ใสเ ช้ติ แขนส้ันสขี าวมวั หมอง
ตัวเล็กๆ เกาๆ รองเทาไมไดใส คาดเขม็ ขดั ลกู เสอื หัวกลมๆ สลักตัวอักษรมี
ใจความวา “เสยี ชพี อยาเสียสัตย”

หว้ิ ปน โตอาหารกลางวันเถาเล็ก มรี อยกะเทาะหลายแหงไวในมอื ขา ง
หนงึ่ ห้วิ กระเปา นกั เรยี นแฟบๆ ไวในมอื อกี ขา งหนงึ่ โรงเรียนเลกิ แลว และกําลังจะ
กลบั บาน อยูค นเดยี วกลางทุง มองดูปลาชอ นตัวเข่อื งทีต่ ดิ กับดักอยตู ัวนัน้ เจา ของ
“ชดุ ” จะเปนใครก็ไมร ู

ขา พเจาอยากขโมยมนั มาเสียใจแทบขาด ยงั เสยี ดายไมห ายอยูจนกระทงั่
ทุกวันนี้ ไดปลาชอ นไปแกงกบั หนอ ไมด อง นาํ้ แกงสีแดงเผด็ จัดเปรยี้ วจดั มเี นอ้ื
ปลาชอ นหน่ั เปน แวน กลมๆ พอมันสกุ เนือ้ มนั จะบบุ ๆ บุม ๆ ลงไปบางและนูนๆ
หนุยๆ ข้นึ มาบา ง

และถาหากวาปลาชอนมันมีไขบางทีไขของมันก็จะแตกออกลอยฟองอยู
มนั จะเปนกับขา วอรอยม้อื หน่ึง “ชุด” น้นั สําหรับขาพเจา แลวมันก็เปน ของสวยงาม
ดว ย มนั มีไวดกั ปลาตัวโตจริงๆ เทานน้ั เปน งานจกั สานอันประณตี (มันอาจหมาย
ถึง “กระช”ุ ในภาษาของคนภาคกลางหรอกกระมงั ?แตก อนเคยเหน็ หมถู กู จบั ใส
กรงหวายและขนสง ไปไหนไกลๆ

กรงหวายอยางนน้ั คนบา นขาพเจาเขากเ็ รยี ก วา “ชดุ ” เหมอื นกัน หรอื
บางทกี เ็ รียกมนั วา “ชุดหมู”) แตถา หากขนื ด้อื ขโมยมาทง้ั “ชดุ ” และปลาชอนกค็ ง
ไมแคลว ถกู ผูใหญท บ่ี า นตเี อาจนไดหรอก ปลาใหญน อ ยหลากหลายมอี ยเู ต็มทงุ
เตม็ ทา ไปหมด ไมจาํ เปนตองลักขโมยใคร มีน้ําท่ีไหนมีปลาท่นี นั่ ถอยคําท่วี า “ใน
นาํ้ มีปลาในนามขี าว” จากจารึกของพอ ขนุ รามคาํ แหงยงั คงเปน ความจริงในเชงิ
ประจักษ

14

น่นั เปน เหตกุ ารณทเี่ กิดข้ึนในราวปพ.ศ. 2509 ขณะน้นั ประเทศไทยมี
จํานวนประชากรอยู 27 ลานคน ขา พเจา เกิดและเติบโตมาในยคุ สมยั ท่ีไมมีใคร
คิดวาสักวันหน่ึงในเวลาตอมาเราจะตองเผชิญหนาเขากับปญหาการแยงชิง
ทรัพยากร

ยอหนา นี้ขา พเจา เขยี นเสียยาวเหยยี ดและก็ยังไมไดบ อกทานเลยวา ทงุ นา
พะยอมอันเปนสวนหนึ่งของทุงนาพันสามท่ีขาพเจากลาวถึงน้ันในเวลานั้นไมมี
พะยอมเหลืออยูเ ลยแมแตส กั ตนเดยี ว

ในบัดน้ีเมื่อขาพเจามีปญญาหาซื้อท่ีดินขนาดแมวด้ินตายไดแปลงหนึ่ง
ขาพเจา ก็จงึ ปลูกพะยอมไวเ ปนดงพะยอมนอ ยๆ ดงหนงึ่ และขา พเจากย็ งั ไมได
บอกทานเลยวาแกงสมหนอไมดองกับปลาชอนที่ขาพเจาเห็นวาเปนอาหารทิพย
น้นั พวกชาวทะเลแทๆ แถวแหลมผกั เบี้ย บางแกว หรอื พะเนินนัน้ เขาเบอื นหนาหนี
พวกชาวทะเลแทๆ รุน ปูรุนยา นนั้ เขาไมก นิ ปลานา้ํ จืด

เขาวา ปลาน้าํ จืดนะมันคาว แมแตเ นอ้ื ววั หรอื แมแ ตเ นอ้ื ไกเ ขาก็ยงั วา มัน
คาว! พิลึกดีไหมเลา ชาวทะเลรุน เกาเหลานนั้ เขากนิ กุง หอยปปู ลาของเขามาแต
ไหนแตไรจนเขาเคยตัว อยา งไรกต็ ามขาพเจา ก็ยงั ไมรเู ลยวา “นาพันสาม” นัน้ มนั
เกย่ี วขอ งกับ “นาพันรอ ย” อนั เปน สว นหนึง่ ของตําบลหนองโสนหรือไม เรื่องนีต้ อ ง
ถาม อ.บุญมี พบิ ูลย สมบัติ แต อ.บญุ มีก็ไมอ ยูเสียแลว นาหงุดหงดิ เสยี จริงๆ ที่
บดั น้ีไมม ีใครเฉลยปญหาน้ีไดเ สยี แลว

15

เย็นวันหนงึ่ ในฤดฝู นปี 06 หรือ 07

ขำ้ พเจำ้ ไม่แนใ่ จข้ำพเจ้ำอย่บู ้ำนแต่เพยี งล�ำพังกับยำ่ มันเป็นปนี ้�ำทว่ มใหญ่ ฝน
ตกวนิ ำศสนั ตะโรไมห่ ยดุ หย่อนหลำยวนั หลำยคืน ผนื ฟำ้ อมึ ครึมมัวซวั เหมือนโลกไมม่ ี
แสงสวำ่ งและจะมีก็แต่สำยฝนเท่ำนน้ั เม็ดใหญ่เป้งๆ สำดใสห่ น้ำตำเนอ้ื ตวั เอำจนเจ็บก็
มีบำ้ ง เมด็ เล็กๆ ยิบหววิ เหมือนละอองหมอกกม็ บี ำ้ ง
ทงุ่ นำพนั สำมท้ังท่งุ กลำยเป็นทะเลน�ำ้ จืดอันเวง้ิ วำ้ ง นำล่ม พวกผใู้ หญค่ ง
กลัดกลุม้ วิตกกงั วล เดก็ ๆ ไมร่ ู้อะไร นำ้� มนั ท่วมเข้ำมำถึงในลำนบำ้ นของเรำ ท่วมเกิน
หวั เข่ำของผู้ใหญเ่ สียอีก ท่วมเขำ้ มำถึงใตถ้ ุน ข้ำพเจำ้ จงึ น่ังอยบู่ นหัวกระไดและตก
ปลำอย่ำงเปน็ งำนเป็นกำรเสยี เลย ใช้คนั เบ็ดไม้ไผ่ข้ีกระโลโ้ ท้ ใชเ้ หยือ่ ไสเ้ ดือน ได้ปลำ
หมอหน้ำโง่หลำยตวั อยู่เหมือนกัน
ตกปลำเพลินๆ จๆู่ กม็ เี รือมำดล�ำหน่งึ พำยผำ่ นลำนบำ้ นเขำ้ มำถึงตนี กระได
คนพำยเรือเปน็ หญงิ วัยกลำงคน นุง่ ซีนสีดำ� ใสเ่ สอ้ื แขนยำวสดี ำ� และใส่หมวกงอบ ใน
เรือลำ� น้ันมีเตำอัง้ โลใ่ บใหญ่มฟี นื สมุ ใส่ บนเตำมหี ม้อใบใหญ ่ ในหม้อมีปลำทูตัว งำม
นอนเรียงรำยซอ้ นกันเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ยอยูส่ กั -อู้ฮ-ู สักหกสิบเจด็ สบิ ตัวเห็นจะได้
น�ำ้ ในหม้อนน้ั มนั สง่ กลนิ่ หอมฉุยข้ึนมำเตะจมกู ขำ้ พเจ้ำมองและสดู จมกู และ
กลืนน้�ำลำยขณะนั้นย่ำก�ำลังท�ำกับข้ำวอยู่ในครัวกับข้ำวของย่ำก็เป็นผัดเผ็ดปลำช่อน
กับใบยอและปลำหมอเค็มย่ำงไฟ หรือจะเป็นอะไรก็ตำมทีเถอะ ข้ำพเจ้ำไม่อยำก
เอำใจใสก่ บั ข้ำวของยำ่ ขำ้ พเจ้ำโกรธย่ำดว้ ยในเรือ่ งกำรทำ� กำ� ข้ำว
ย่ำมชี ่ือเสียงพอสมควรในเรอ่ื งควำมเปน็ คนทำ� กับขำ้ วไมอ่ ร่อย แต่ว่ำไอเ้ จ้ำ
ปลำทูตม้ ในหมอ้ ในเรือมำดล�ำนัน้ ซี แคก่ ล่นิ ของมันกช็ วนน�้ำลำยสอแลว้ ยำยแมค่ ้ำเขำ
ปรงุ มนั อยำ่ งไรของเขำนะ หม้อนะ่ ข้ำงนอกของมนั กเ็ หมๆ่ มอมๆ อยู่หรอกเพรำะ
อำนุภำพของฟืนไม้แสมท่ีวำงเรียงเป็นระเบียบอยู่ในเรือแต่ทว่ำไอ้ปลำทูที่อยู่ในหม้อ
นัน้ ซมี ันกลับงำมแอร่ม
แอร่ม “มคี นใหญอ่ ยูบ่ ้ำนหรอื เปล่ำ ไอ้หน”ู ยำยแม่ค้ำถำม

16

“ยำ่ อยู่ในครัว” ข้ำพเจ้ำตอบ ยำ่ เดินออกมำเมอ่ื ได้ยินบทสนทนำนน้ั
“มำจำกไหน” ย่ำถำมยำยแม่ค้ำ
“บำงแกว้ ” ยำยแมค่ ้ำตอบ
“ไมเ่ อำ ไม่ซอื้ ไม่มเี งนิ ” ย่ำตัดบททันท ี กระบวนขยี้เหนียวด้วยกนั แลว้ ย่ำไม่
เปน็ สองรองใคร
ย่ำกลัดกลุ้มอยู่เป็นอันมำกด้วยควำมเป็นห่วงลูกหลำนในเม่ือนำล่มอย่ำงนั้น
ยำยแม่ค้ำใจเยน็ มำก ซุนฟืนใสเ่ ตำดว้ ยกริ ิยำปรกติ
แกถำมขำ้ พเจำ้ อยำ่ งผูใ้ หญใ่ จดวี ่ำ “ไอห้ นูกนิ ขำ้ วเยน็ หรอื ยงั ?”
“ยังจะ้ ” ข้ำพเจำ้ ตอบ
“เอ็งไปเข้ำครัวแล้วคดข้ำวมำสักจำนน่ึงซี”สุ้มเสียงของแกเป็นกำรให้ค�ำ
แนะน�ำอย่ำงฉันมิตรมำกกว่ำจะเปน็ กำรออกค�ำสง่ั
ข้ำพเจ้ำละจำกคนั เบด็ และลงมอื ปฏิบัติโดยไมช่ ้ำที ข้ำพเจำ้ ถือจำนข้ำวเดิน
ลงบนั ไดไป ยำยแม่คำ้ ยืน่ มอื มำรบั จำนข้ำวสงั กะสี แกตกั ปลำทูต้มครึ่งตัวใสล่ งในจำน
ขำ้ ว แกตักน้ำ� ตม้ เทรำดลงมำดว้ ยอีกสกั ครงึ่ ทพั พี
“เอ้ำ ปำ้ ใหล้ องชมิ ” ยำยแมค่ ้ำพูด
“ระวงั ก้ำงหนอ่ ยละ่ ” แกอุตสำ่ ห์มนี �ำ้ ใจตักเตือน ข้ำพเจ้ำตักเนอื้ และน�้ำตม้
ปลำทูและข้ำวอีกหน่อยหนง่ึ เขำ้ ปำก โอ้โอ มันเป็นอำหำรทอ่ี รอ่ ยทสี่ ุดมื้อหนึง่ ในโลก
“อรอ่ ยไหมล่ะ” ยำยแมค่ ้ำถำม ข้ำพเจ้ำพยักหน้ำแทนค�ำตอบ
“ถ้ำอรอ่ ยกบ็ อกให้ยำ่ ของเอ็งซ้ือปลำของปำ้ สักห้ำบำทซ”ี ข้ำพเจ้ำกจ็ งึ เงย
หน้ำข้นึ และบอกแกย่ ำ่ ว่ำ “ย่ำ ซื้อ! นำ้� เสียงเชน่ นนั้ ย่ำรู้ดวี ำ้ หำกวำ่ ไมเ่ ป็นไปตำมนน้ั
ขำ้ พเจำ้ จะออกฤทธิ์ ย่ำจึงจ�ำยอมปฏิบตั ติ ำมแตโ่ ดยด ี ย่ำขนุ่ เคืองยำยแม่ค้ำ แตย่ ่ำไม่
ไม่รวู้ ่ำจะพูดอย่ำงไร
เงินน้ันยำ่ ตอ้ งถ่ถี ว้ นมธั ยัสถ์ ยำ่ นน้ั ต้องไปถอื ศลี อุโบสถทว่ี ดั อยู่เป็นอตั รำใน
ทกุ วนั พระ และย่ำก็คงอยำกเก็บเงนิ ไวท้ �ำบญุ บ้ำงเลก็ ๆ น้อย ๆ

17

แต่หลำยชำยคนโปรดของย่ำก็ท�ำให้ย่ำต้องเสียทียำยแม่ค้ำชำวทะเลคนน้ัน
เสียได ้ ยำยแม่คำ้ คนนัน้ คงเป็นชำวบ้ำนต�ำบลบำงแกว้ แกพำยเรือของแกขนึ้ มำขำย
ของของแกให้กบั ชำวทงุ่ นำพนั สำมไดอ้ ยำ่ งไรของแกนะ หน ทำงมนั มิใชใ่ กลๆ้ เลยและ
อำจวกวนคดเคย้ี วอยำ่ งน่ำสนเท่ห์
อย่ำงไรก็ตำมเส้นทำงคมนำคมระหว่ำงชำวทะเลกับชำวทุ่งข้ำงบนน้ันคือกำร
ใช้คลองเป็นหลักมีทั้งคลองสำยใหญ่และสำยย่อยแยกย้ำยออกไปตำมต�ำบลและ
หมู่บ้ำนตำ่ งๆ เส้นทำงคมนำคมดงั กล่ำวน ้ี
พวกคนรุ่นหลังหำทำงส�ำรวจให้ละเอียดลออสักทีก็อำจจะดีจะกล่ำวถึงไอ้
หลำนชำยคนโปรดนนั้ ของยำ่ เสียอีกเล็กนอ้ ย เม่อื มันเติบใหญข่ ึ้นมำมนั กเ็ คยดัดจรติ
เปน็ นักชมิ และเคยแอค็ อำรต์ เป็นผูส้ กั ทัดกรณีในเร่อื งข้ำวปลำอำหำร มนั เคยลองกิน
อำหำรไทยอำหำรจนี อำหำรญป่ี นุ่ อำหำรฝรงั่ มำก็มำกหลำย
เคยบำ้ งถงึ ขนำดเทย่ี วไปชมิ สเต็กสะตูวต์ ำมรำ้ นดังต่ำงๆ เคยกระแดกนิ ปลำ
ดบิ และยำกิโซบะ แต่มันกร็ ดู้ แี กใ่ จวำ่ ไมม่ ีอำหำรมอ้ื ไหนอร่อยแซงหนำ้ ปลำทตู ้มเค็ม
ของยำยแม่คำ้ ชำวบ้ำนแหลมคนนน้ั ไปได้เลย

18

ต้นฤดูฝนหลังจากนวดข้าวแล้วเสร็จ

เมื่อทุ่งข้ำวท้ังทุ่งมันแห้งแล้งกรอมเกรียมเป็นสีน้�ำตำลและผืนดินเร่ิมแตก
รำ้ วเปน็ รอยระแหง จะมีอำคันตกุ ะเดนิ ทำงมำยังหมู่บ้ำนของเรำทุกปี เขำเดนิ เทำ้ กนั
มำจำกทิศตะวนั ออกเฉียงเหนอื คือมำจำกำตำ� บลบำงแก้ว หนทำงมนั ช่ำงไกลลิบลับ
แค่นกึ ถงึ มนั เทำ่ นนั้ ก็ชวนเหนอ่ื ยเสยี แล้ว เท่ำท่นี ึกน่กี ็นึกเพยี งแคว่ ่ำเดินตวั เปลำ่
แต่อำคันตุกะชำวต�ำบลบำงแก้วเหล่ำนั้นเขำต่ำงพำกันหำบกระบุงใหญ่
บรรจุปลำเค็มน้�ำหนกั มำกกันมำด้วยด้วยอกี คนละสองกระบุง เดินตีนเปลำ่ หำบปลำ
เคม็ อึกอักๆ กันมำ ระยะทำงมนั หลำยกโิ ลเมตรอยู่ทเี ดียว เขำคงออกเดนิ ทำงกนั มำ
ตงั้ แตใ่ นยำมฟำ้ สำง ผำ่ นผืนดนิ รำบเรยี บทเ่ี ปน็ ทีท่ ำ� นำเกลือ ย�่ำมำบนผืนดนิ เค็มทมี่ ี
ประกำยระยบิ ระยับและเต็มไปดว้ ยดงต้นชะครำม
ก่อนจะเข้ำสู่เขตท่งุ เขำมำถึงในยำมเชำ้ เสมอทกุ ท ี เขำเอำอำหำรทะเลของ
เขำมำแลกข้ำวเปลือก เขำจะเอำปลำกเุ ลำเค็ม ปลำอินทรเี ค็มและปลำกดทะเลเคม็
ตวั ละส่ีริ้วของเขำออกมำอวดและโฆษณำวำ่ สินคำ้ ของเขำดอี ย่ำงไร ฝ่ำยพวกชำวนำก็
จะพดู วำ่ ขำ้ วของตนกว่ำจะได้มำแตล่ ะเม็ดน้นั มันยำกล�ำบำกแค่ไหน ท้งั สองฝำ่ ยจะ
เจรจำต่อรองกันอย่นู ำนครัน ต่ำงฝำ่ ยต่ำงไม่ยอมเสียเปรียบ
กว่ำจะตกลงกนั ได้ก็จะเสียเวลำไปมิใชน่ ้อย ๆ ในท่สี ุดชำวนำกจ็ ะไดอ้ ำหำร
ทะเลเลศิ รสไวใ้ นควำมครอบครอง พวกชำวทะเลก็จะหำบเหยิบๆ เดนิ ทำงกลบั ไป มี
ข้ำวเปลือกไปคนละสองกระบงุ หำบหนกั ท้งั ขำไปและขำกลับ ชำวทงุ่ กับชำวทะเล
เขำแลกเปล่ียนสินค้ำกันโดยไมต่ ้องพึ่งพงิ เงินตรำเลย
คนในต�ำบลนำพันสำมท�ำไมยังคงติดต่อกับคนในอ�ำเภอบ้ำนแหลำมอยู่ได้
เสมอทั้งที่กำรไปมำหำสูก่ นั มนั ออกนะลำ� บำก นเี่ ปน็ เรือ่ งชวนฉงน วนั หนึ่งข้ำพเจำ้ ค้น
หนงั สือเกำ่ ๆ เกย่ี วกับประวัตขิ องต�ำบลนำพันสำม พอขำ้ พเจ้ำได้พบวำ่ แต่กอ่ นนี้
ตำ� บลนำพันสำมเคยข้ึนอยกู่ บั อ�ำเภอบ้ำนแหลมขำ้ พเจำ้ กเ็ ลยถึงบำงอ้อ
เร่อื งทว่ี ำ่ ตำ� บลนำพนั สำมเปลีย่ นมำขึ้นอยกู่ บั อ�ำเภอเมืองเม่ือไหร่แนน่ ้นั เอำ
ไว้วันไหนวำ่ ๆ ข้ำพเจ้ำจะเอำวนั เวลำทช่ี ัดเจนมำระบอุ ีกที

19

เรอื เกลอื อืดเปน็ เรอื เกลือ

ส�ำนวนน้ีข้ำพเจำ้ เข้ำใจกระจ่ำงมำตัง้ แตข่ ้ำพเจ้ำยังหัวเทำ่ ก�ำปน้ั เสยี งของมัน
ดังมำก่อนนำนมำก คือวำ่ ดงั มำแตไ่ กล เป็นเสียงเคร่อื งยนต์ขนำดใหญด่ ังมำอ่อื ๆ จำก
ต�ำบลชำยทะเลอำ� เภอบำ้ นแหลม มันลดั เลำะเรือ่ ยเป่อื ยมำตำมล�ำคลอง มนั มักจะมำ
ในรำวสกั เดือนสิบสองเมือ่ น้ำ� ยงั ทว่ มท่งุ
มันแล่นเป็นจระเข้ขวำงคลองเข้ำมำจำกบ้ำนนำหัวเรือและบ้ำนคลองใหญ่
โอ้เอ้ขำยเกลือของมนั มำตำมรำยทำงจนถึงหม่บู ้ำนนำโตนดเลีย้ วซำ้ ยขึ้นสู่ทิศใต ้ และ
มำจนถึงหมบู่ ำ้ นของเรำ ลำ� ของมันใหญค่ บั คลอง เกลอื ทมี่ ันเอำมำขำยนั้นเป็นเกลือดำ�
สไี มส่ วย
ท่ีข้ำนของข้ำพเจ้ำซ้ือไว้สักสองถังก็อยู่ได้เป็นปีเอำไว้ใส่ปลำท�ำเป็นปลำเค็ม
บำ้ ง เอำ ไวห้ มกั กับกงุ้ ทำ� เป็นกะปบิ ้ำง เรือเกลือจำกไปพร้อมกบั ท้งิ ควำมร้สู ึกไมด่ ีไว ้
คอื ข้ำพเจำ้ คิดว่ำ มนั นำ่ จะเอำเกลือขำวๆ สวยๆ มำขำยมำกกว่ำ และขำ้ พำเจำ้ ก็นกึ
ต่อไปวำ่ มันจะไปขำยทไ่ี หนของมันต่อ
มันอำจกลับไปทำงทิศเหนือและเลี้ยวซ้ำยมุ่งตะวันตกไปขำยเกลือถึงแถว
ตำ� บลส�ำมะโรง! และอำจมคี ลองใหม้ นั เดนิ ทำงต่อไปไดอ้ ีกไกลจนถงึ ย่ำนส�ำมะลำนำ
บวั และลัดเลำะซอกซอนตอ่ ไปอกี จนถงึ ตลำดเมอื งเพชร เพชร ระบบคลองท่ีคนเมอื ง
เพชรรุน่ ปยู่ ่ำตำทวดของเรำไดท้ �ำข้ึนน้ีเปน็ ส่ิงนำ่ อศั จรรย์ใจ
ทกุ วนั นเ้ี รำคุ้นเคยกับกำรเดนิ ด้วยระบบถนนและปล่อยให้คูคลองตำ่ งๆ ของ
เรำตน้ื เขินไปตำมบุญตำมกรรม นี่เปน็ เร่ืองน่ำเสยี ดำย เกลอื ด�ำๆ รำคำถกู ๆ ทข่ี ้ำพเจำ้
นึกหม่ินแคลนนั้นครูท่ีโรงเรียนเขำก็บอกปำกเปียกปำกแฉะว่ำมันคือเกลือแกงอุดมไป
ด้วยไอโอดีน ซง่ึ จะท�ำใหไ้ มเ่ ปน็ โรคคอพอก

20

อยู่เมืองเพชรมำตั้งแต่เกิดจนโตรู้ควำมข้ำพเจ้ำไม่เคยเห็นคนเป็นโรคคอพอก
เลย ตรำบจนกระท่งั เปน็ หน่มุ ไปเรียนมหำวทิ ยำลยั แล้วก็เลยมโี อกำสไดเ้ ดนิ ทำง
ไกลๆ กับพวกรุน่ พ่ๆี ในชมรมอำสำพัฒนำชนบท
วนั หนงึ่ ในหมู่บำ้ นอนั ไกลลบิ ลับแห่งหนง่ึ ของจังหวดั เชียงใหม่ ขำ้ พเจ้ำไดพ้ บ
เข้ำกบั คนท่ีเปน็ โรคคอพอกเข้ำหลำยรำย ทนั ทีนน้ั เองทีข่ ำ้ พเจำ้ ก็นึกถงึ เกลอื ดำ� จำก
เรือเกลอื ของอำ� เภอบำ้ นแหลมขึ้นมำและไดแ้ ตข่ อโทษมนั อุตลดุ อยู่ในใจ

21

ตากล�า่ ท�นาเกลือกะตาสง่า

ปรำกฏตัวตนอยใู่ นหนงั สือแบบเรียนภำษำไทยของข้ำพเจ้ำ ข้ำพเจ้ำคุ้นเคย
กับตำกล่�ำและตำสง่ำยิ่งนักเช่นเดียวกับท่ีข้ำพเจ้ำคุ้นเคยกับเรือนแพของแม่หยำ
ข้ำพเจ้ำคุ้นเคยกับตัวละครเหล่ำน้ีย่ิงกว่ำบรรดำสังคญำติที่มีเถือกเถำเหล่ำกอเดียวกัน
กับข้ำพเจ้ำเสียอีก ในเรือ่ งสัน้ เร่ืองหน่ึงใน “แพรกหนำมแดง”
ข้ำพเจ้ำเขียนเรื่องเกี่ยวกับเด็กชำยคนหน่ึงซ่ึงฝันไปว่ำเขำได้ไปอยู่ที่เรือนแพ
ของแม่หยำเขียนจบแล้วก็พึงพอใจตนเองเป็นบ้ำเป็นหลังครึ้มอกครึ้มใจเงียบเชียบอยู่
คนเดยี วหลำยวนั ใครจะอ่ำนหรือไม่อ่ำนกไ็ มใ่ ส่ใจ ใครจะชอบหรือใครจะชงั ก็ไม่แยแส
เฉยฉบิ ในฐำนะนักเขียนคนหนึง่ ขำ้ พเจำ้ ได้ท�ำในสิง่ ที่สมควรท�ำอยำ่ งยิง่ ไปเรียบร้อย
แล้ว มนั เป็นกำรกรำบเท้ำครบู ำอำจำรยผ์ ูป้ ระสทิ ธิ์ประสำทวชิ ำควำมรู้และควำมรัก
ภำษำไทยให้แก่ข้ำพเจำ้
มันเป็นกำรสำ� แดงกตญั แู ละกตเวทิตำต่อผู้มีพระคณุ มนั เปน็ กำรกระท�ำที่
เป็นสิริมงคลตอ่ ตนเอง และก็ได้กระทำ� ลงไปอยำ่ งเรียบรอ้ ยช้อยช่ืนเสยี ดว้ ย ไมต่ ้อง
เซลฟส่ี ง่ ไปอวดใครๆ ไม่ต้องร้องแรกแหกกระเชอ ไมต่ อ้ งจดั แถลงขำ่ ว ทนี ีม้ ำว่ำกันถึง
เร่อื งรำวของตำกลำ�่ กะตำสงำ่
เฒ่ำกระดูกเหล็กสองพระหน่อน้ีหนังสือเขำระบุไว้ว่ำท�ำนำเกลืออยู่ท่ีสำขลำ
สำขลำนีม้ ันอย่ทู ี่ไหนของมนั กันแนห่ ว่ำ ตอนเป็นเดก็ ก็ไมก่ ล้ำถำมครู กลัวอยำ่ งหน่งึ
เกรงใจอยำ่ งหนงึ่ เคยได้ยนิ แต่สงขลำ ซ่งึ เปน็ ช่ือจงั หวดั ทจี่ ังหวดั น้ันมอี �ำเภอส�ำคัญ
อำ� เภอหนึง่ ช่ืออำ� เภอหำดใหญ่ ทอ่ี ำ� เภอหำดใหญ่มีชมุ ทำงรถไฟ
เรยี กกันวำ่ ชุมทำงหำดใหญ ่ ในจินตนำกำรของเดก็ อำยเุ จ็ดแปดขวบ ชมุ ทำง
หำดใหญเ่ ป็นนำมกรอนั ขรมึ ขลงั ยงิ่ นกั เปน็ ฉำกของเหตกุ ำรณ์ท่มี คี วำมส�ำคญั ระดับ
คอขำดบำดตำยเป็นจุดปฏิบัติกำรขององค์กรลับท่ีมีจุดหมำยในกำรยึดครอง
ประเทศไทยและอำจเปล่ียนแปลงระบอบกำรปกครองเสยี

22

เป็นฉำกของควำมรกั ควำมพศิ วำสอันเรำ่ ร้อนรุนแรงของหน่มุ เข้มพระหนอ่
หน่งึ และสำวหนำ้ หวำนผมู้ ีนยั นต์ ำหยำดนำ�้ ผึ้งคนหนึ่ง นั่นคือที่มำของภำพยนตรไ์ ทย
เร่ืองเยย่ี มทที่ ำ่ นไมค่ วรพลำด
“ชมุ ทำงหำดใหญ่” มิตร ชัยบัญชำเป็นพระเอก เพชรำ เชำวรำษฎรเ์ ปน็
นำงเอก ถวัลย์ ครี ีวตั เป็นตวั หน้ำหน้ำผรู้ ำ้ ย ไอห้ มอนโี่ กงสะบดั ชอ่ ไอ้หมอน่ีถ้ำมนั มำ
เยี่ยมๆ มองๆ ทต่ี �ำบลนำพันสำมขำ้ พเจำ้ ก็ถือว่ำเปน็ หนำ้ ทขี่ องเดก็ อำยุแปดขวบคน
หนง่ึ ผมู้ ีควำมจรงิ ใจและควำมปรำรถนำดีต่อตำ� บลบ้ำนเกิดเมอื งนอนของตนเองท่ีจะ
ไปบอก “คนใหญ่”
ทเี่ ขำมปี นื ให้เขำยิงไอห้ มอนท่ี งิ้ เสีย คนอยำ่ งนเ้ี อำไวไ้ มไ่ ด้ เหน็ หน้ำมนั ก็รู้
แลว้ ไอห้ มอนีม่ นั โกง ก็อีหรอ็ บเดียวกันกับไอ้ชำณยี ์ ยอดชยั และไออ้ ดินนั ท ์ สงิ ห์หิรัญ
นะ่ แหละ ตกลงขำ้ พเจ้ำกจ็ ึงโง่เรอ่ื ยมำอีกนำนครันกวำ่ จะรู้ได้ว่ำสำขลำของตำกลำ�่ กะ
ตำสงำ่ น้ันมันเป็นช่อื ของตำ� บลๆ หนง่ึ ในอ�ำเภอพระประแดง จงั หวดั สมทุ รปรำกำร
ในควำมเป็นจรงิ ทกุ วันนนี้ ำเกลือที่สำขลำนัน้ คงจะเลกิ ไปแลว้ หรือไมก่ ห็ ลง
เหลืออย่นู อ้ ยเต็มที ขำ้ พเจ้ำไม่มีโอกำสผ่ำนไปทำงนนั้ เสียด้วย กเ็ ลยไม่รู้วำ่ เทจ็ จริง
เปน็ อย่ำงไร เคยเหน็ ภำพขำ่ วทำงโทรทัศนเ์ มอื่ รำวสักสำมสป่ี ีกอ่ น รแู้ ต่เพยี งวำ่ พื้นท่ี
ชำยฝ่งั ของตำ� บลน้นั ก�ำลังถกู น้�ำทะเลกัดเซำะอย่ำงรนุ แรงจนชำวบ้ำนร้ำนช่องและ
พระสงฆอ์ งคเ์ จำ้ ตำ่ งเดือดรอ้ นไปตำมๆ กัน
พูดถึงเรอ่ื งนีข้ ้ึนมำกเ็ พื่อท ี่ จะบอกกล่ำวแกพ่ วกทำ่ นตำมประสำซอ่ื วำ่ พ้นื ท่ี
ทำ� นำเกลอื นัน้ มันไม่ได้ยงั่ ยนื ถำวร กำรทำ� นำเกลอื นน้ั เป็นภมู ิปญั ญำ เป็นกำรแสวงหำ
ประโยชนจ์ ำกธรรมชำต ิ เป็นกำรลงุ ทุนทแ่ี ยบคำบและใหผ้ ลตอบแทนสงู เปน็ สัมมำ
อำชวี ะอนั หำไดย้ ำกเข็ญอยำ่ งยิง่ ในยคุ ปจั จบุ นั
ดงั นั้น พ้ืนทีท่ ำ� นำเกลือจ�ำนวน 3,600 ไรใ่ นเขตต�ำบลบ้ำนแหลม บำงขุนไทร
ปำกทะเล บำงแกว้ แหลมผกั เบ้ียและบำงส่วนของตำ� บลนำพนั สำมอันเปน็ แหล่งผลติ
เกลอื ท่ีใหญ่ทีส่ ุดของประเทศไทยนั้น จงึ เป็นพืน้ ท่ีทม่ี คี วำมสลกั ส�ำคัญอยำ่ งย่งิ ยวด น่ี
คือพื้นทที่ ีท่ �ำใหค้ นไทยไมต่ อ้ งซ้อื เกลอื จำกชำตอิ ื่นมำกิน

23

พ้นื ทท่ี �นาเกลอื

ในเขตจังหวัดสมุทรสำครและจังหวัดสมุทรสงครำมนั้นนับวันก็จะย่ิงเหลือ
น้อยลงทกุ ท ี อทิ ธฤิ ทธ์ขิ องถนนพระรำมสองทพ่ี ำดผำ่ นบริเวณท่เี ปน็ นำเกลือมำแต่เก่ำ
ก่อนนั้นท�ำให้ที่ดินสองฟำกถนนถูกปรับเปล่ียนไปใช้ประโยชน์อย่ำงอื่นที่ให้ผล
ตอบแทนทส่ี งู กว่ำไม่วำ่ จะเป็นร้ำนอำหำร รำ้ นกำแฟ ปมั้ ปนำ�้ มนั หรือปั้มปแ ก๊ซก็ตำม
แต ่
ถนนเส้นนี้จ�ำเป็นท่ีจะต้องมีกำรขยำยพื้นผิวกำรจรำจรอย่ำงไม่อำจหลีกเลี่ยง
ได้และอำจจะต้องท�ำตลอดทง้ั สำยเพอ่ื รองรับกำรจรำจรที่นับวนั มแี ตจ่ ะเพิม่ ขน้ึ พ้นื ท่ี
ทำ� นำเกลือยงั มีอย่อู ีกบำ้ งทีต่ ำ� บลนำเกลือ อ�ำเภอบำงละมุง จังหวดั ชลบุรี
แต่ที่นั่นก็ไม่ใช่แหล่งผลิตเกลือคุณภำพดีชำวนำเกลือที่น่ันเขำยังต้องพึ่งพำ
เทคนิควิธีบำงอย่ำงจำกชำวนำเกลือบ้ำนแหลมเสียด้วยซ�้ำไปพื้นที่ท�ำนำเกลือยังมีอยู่
อกี เลก็ นอ้ ยมำกท่ีจังหวัดปัตตำนแี ละผลติ เกลอื ไดใ้ นปริมำณท่เี ลก็ นอ้ ยมำก
ปีละกี่สิบเกวียนข้ำพเจ้ำไม่กล้ำเดำและไม่กล้ำถำมเพื่อนชำวจังหวัดปัตตำนี
ตรงๆ เกรงว่ำเขำจะอำย แต่ทีแ่ นน่ อนกค็ ือจงั หวัดชำยแดนใตน้ น้ั ผลติ เกลอื ได้ไมเ่ พียง
พอตอ่ กำรบรโิ ภคหรอก น่ีเปน็ ข้อเท็จจริง

24

ข้าพเจา้ ได้มโี อกาส

ไดพ้ ูดคยุ กับพีแ่ อด๊ (ชุมพล นิลพัน-088-454-6694) เฒำ่ นำเกลอื กระดกู เหลก็
แกเล่ำให้ข้ำพเจ้ำฟังเป็นคุ้งเป็นแควว่ำตั้งแต่แกยังเป็นเด็กมำแล้วแกก็ได้เคยเห็นเรือ
ใบแขกมำหำซ้อื เกลือจำกชำวนำเกลือเมืองเพชรเพ่ือเอำไปขำย
สมยั นนั้ เสน้ ทำงกำรคมนำคมมันยงั ไม่สะดวกดำยอย่ำงทกุ วันนี้ แขกทว่ี ่ำนี้ก็
คอื แขกจำกเมืองกลนั ตันและเมืองตรังกำนูในประเทศมำเลเซียโนน่ เรอื ใบแขกเหล่ำนี้
เปน็ เรือใบล�ำใหญอ่ ยุ้ อ้ำย บรรทุกเกลอื ได้ถึงลำ� ละ 80 เกวียน !
ในตอนขำมำน่ะเรือใบอุ้ยอ้ำยเหล่ำน้ีมันก็จึงต้องบรรทุกทรำยมำด้วยครำวละ
มำกๆ เป็นอบั เฉำกันไมใ่ ห้เรอื โคลงเคลง เมื่อเรอื ใบแขกเหล่ำนม้ี ำถึงส่งิ แรกทค่ี นในเรอื
ตอ้ งช่วยกนั ท�ำกค็ อื กำรโกยทรำยออกท้ิง จุดโกยทรำยออกท้งิ ก็คอื ตรงบรเิ วณแหลม
เหลว
พี่แอ๊ดแกบอกข้ำพเจ้ำว่ำวันไหนข้ำพเจ้ำว่ำงแกจะอำสำพำข้ำพเจ้ำไปชมดู
คุยกบั พีแ่ อ๊ดแล้วกเ็ พลดิ เพลนิ เจรญิ ใจดีเป็นอันมำก เหมอื นได้คยุ กะตำกล่�ำหรือตำสงำ่
น่นั เทียว พีแ่ อด๊ นบ่ี รรพบุรษุ ของแกได้ท�ำนำเกลือมำแล้วหลำยช่ัวอำยุคน ตระกลู น้ี
ยังชีพดว้ ยเกลือ วำ่ งนั้ เถอะ
แกเปน็ ตำเฒำ่ นำเกลอื กระดกู เหลก็ โดยแท้ อำยุอำนำมแมจ้ ะมำกโขแลว้ แต่
เรอื นกำยกย็ ังแข็งแรงแกร่งฉกำจ แข้งขำอดุ มด้วยมัดกล้ำมเคล่อื นไหวกก็ ระฉบั กระเฉง
หูตำกย็ ังดี สุขภำพของปำกและฟนั ดีอยำ่ งน่ำประหลำดใจ ควำมทรงจำ� ก็ยงั แจ่มชดั
พดู จำก็ฉำดฉำน
ชำวนำเกลอื นส้ี ่วนมำกแลว้ เขำบึกบึนทรหดของเขำไปเองตำมธรรมชำติ เขำ
ลว้ นแล้วแตเ่ ปน็ คนบรมอึดตำยยำก กำรงำนในนำเกลือนั้นมนั หนักหนำสำหัส คนไม่
แกร่งจรงิ ใจไมเ่ ข้มจรงิ จะทนทำนอยู่ไม่ได ้ ชำวทงุ่ ตำ� บลนำพันสำมหลำยต่อหลำยคน
เขำก็ท่มี กั จะคยุ เขอ่ื งเรอื่ งควำมทรหดบกึ บึนของเขำอยบู่ ำ้ งเหมือนกนั

25

และพอเขำวำ่ งจำกงำนนำ เขำกเ็ คยไปรับจำ้ งหำบเกลอื ปรำกฏว่ำบ่นกันอ้ไู ป
ทกุ รำย ชำวนำเกลอื น้ันเขำแขง็ แรงกว่ำคนในอำชพี อ่ืนๆ อยำ่ งเห็นได้ชดั เขำอยูใ่ นท่ี
โลง่ กว้ำง ลมแรง อำกำศดี (แนน่ อนวำ่ แดดก็ดีด้วย)
เขำอยู่อย่ำงนัน้ ของเขำมำตำปตี ำชำต ิ พี่แอ๊ดเป็นตัวอย่ำงหนึ่งท่เี ปน็ รูปธรรม
ชัดเจนทีส่ ดุ แกเปน็ สมำชิกสหกรณ์กำรเกษตรเกลือทะเลไทยเพชรบรุ ที ข่ี ยนั ขนั แข็ง
ท่ีสดุ ผหู้ น่งึ ทำ่ นผู้ใดอยำกจะตดิ ตอ่ ซื้อเกลือกโ็ ทร.ไปหำแกได้ตำมเบอรท์ ี่แกไดใ้ ห้ไว้นั้น
พีแ่ อ๊ดเลำ่ ถึงเรือใบแขกต่อไปอีกว่ำมันเปน็ เรอื ใบทมี่ เี สำกระโดงถงึ สำมเสำ เดินทำง
ล่องทะเลเลำะชำยฝั่งภำคใต้ด้ำนตะวนั
ออกมำซ้ือเกลือทบ่ี ้ำนแหลมทุกปีในชว่ งระหวำ่ งเดอื นมนี ำคมและเมษำยน ทยอยๆ
กนั มำ บำงปีอำจมำกันถึง 20 ล�ำ น่นั คอื เสน้ ทำงพำณิชย์นำวีจำกอำ� เภอบ้ำนแหลเมือง
เพชรสูแ่ หลมมำลำยู เป็นตำ� นำนอนั ยิง่ ใหญ่ทมี่ ีมำแตค่ รงั้ บรมสมกัปป มันดำ� เนินสืบ
เนอ่ื งกันมำนมนำนกำเลจนเพิ่งมำยุตลิ งเอำเมือ่ ประมำณปี 2510 นี่เอง
เมือ่ มีกำรตัดถนนเพชรเกษมเป็นทำงหลวงสำยใตอ้ ยำ่ งเป็นทำงกำร ทกุ วนั น้ี
ข้ำพเจ้ำไม่แน่ใจว่ำเกลือจำกบ้ำนแหลมเมืองเพชรยังเป็นสินค้ำส่งออกไปขำยใน
มำเลเซียอย่อู กี หรือไม่ จะอยำ่ งไรก็ตำมแคข่ ำยเฉพำะในเมอื งไทยกเ็ หลอื แหลแ่ ลว้ โรง
งำนน�้ำปลำ โรงดองผกั โรงดองแมงกะพรุน โรงดองปลำเคม็ โรงปลำร้ำ โรงงำนซอี ิ๊ว
ทั่วพระรำช
อำณำจักรยังคงสัง่ ซ้อื เกลือบ้ำนแหลมเมอื งเพชรอยู่อย่ำงสม่ำ� เสมอ ถนนตัด
ใหมส่ ำยคลองโคน-ชะอ�ำมอี ำนิสงส์มหำศำล เพรำะมนั ยง่ิ ทำ� ให้กำรขนสง่ เกลอื เป็นไป
อยำ่ งสะดวกมำกข้นึ อีกอกั โข

26

ผลผลิตจากนาเกลือ

อันไดแ้ กเ่ กลอื ตัวผู้ เกลอื ตัวเมีย เกลือดำ� เกลือเหลือง เกลอื ขำวและดอก
เกลือน้นั คงมีท่ำนผู้ทรงคุณวฒุ ิท่ำนอน่ื ๆ ไดอ้ ธิบำยขยำยควำมไวแ้ ล้วโดยพสิ ดำร ขัน้
ตอนในกำรท�ำนำเกลือนับจำกกำรน�ำน้�ำทะเลเข้ำมำในนำประเทียบหรือนำตำกไปสู่
นำรองเชือ้
นำเชอ้ื และนำปลงน้ันเล่ำกค็ งจะมีผู้ทรงคณุ วฒุ ทิ ำ่ นอืน่ ๆ อธิบำยขยำยควำม
ไว้แล้วโดยพสิ ดำรอกี เชน่ กัน มำบัดนข้ี ำ้ พเจำ้ คงจะเขยี นดว้ ยอำรมณเ์ รอื่ ยๆ มำเรียงๆ
และร้องเพลงเลน่ ฮมึ ฮมั ๆ ด ู คือว่ำข้ำพเจำ้ นีถ่ นดั ทำงเพลงลูกท่งุ (ทง้ั ท่ีรูปรำ่ งหน้ำตำน่
ะมีคนพดู วำ่ แหมเกำล้ีเกำหลีหรอื ไมก่ ญ็ ี่ปนุ ญป่ี ุ่น แตพ่ อร้องเพลงเขำ้ หน่อยเดียว
เท่ำน้นั กม็ แ่ี ต่คนรอ้ งว้ำ บำงคนก็พดู ว่ำพ่อคุณเอ๊ยสงสำรคนพังเขำบำ้ งเถดิ บำงคนก็
แนะน�ำใหข้ ้ำพเจ้ำหนั ไปเอำดที ำงอืน่ แตว่ ่ำทั้งปลำยทั้งปวงเหลำ่ น้ไี ม่ไดท้ �ำใหก้ ำ� ลังใจ
ของข้ำพเจ้ำถูกบั่นทอนไปแต่ประกำรใด)
ฮะแอ้มฮะแอม้ ข้ำพเจ้ำจะรอ้ งเพลงแลว้ นะ
“ก่อนจะอำ� ลำ น้�ำตำพร่ี ินไหลรว่ ง แสนรักแสนห่วงพุม่ พวง ดงั ทรวงนีย้ อก
เหมือนเหนบ็ ดว้ ยหนำม เจบ็ แปลบแสบใจ เหลือทนจนมิอำจหำ้ ม กอ่ นลำนอ้ งแม่
โฉมงำม พ่ีขอพรำ่� เตอื นสกั นิดเถิดกลอย.....” เสียงของขำ้ พเจำ้ น่ะมันไม่ไดค้ วำม แต่วำ่
กว็ ำ่ เถอะ
ต่อให้เป็นนักร้องอำชีพคนไหนก็ยังร้องไม่ได้ควำมเหมือนกันน่ะแหละเมื่อ
เปรยี บเทยี บกบั เจ้ำของเสียงต้นฉบบั คอื ไพรวัลย์ ลกู เพชร บรุ ุษผนู้ ้ีเป็นนักรอ้ งลูกทงุ่
พนั ธแ์ุ ท้กจ็ รงิ อย่ ู แต่ทวำ่ เสยี งของเขำมนั นุ่มและทมุ้ และมิหน�ำซำ�้ หวำนเหมอื นนำ�้ ตำล
ปก (คือว่ำไม่ใช่หวำนใสเหมอื นอยำ่ งนำ�้ ตำลทรำย)

27

ถ้ำหำกว่ำท่ำนมีควำมสนใจในกำรร้องเพลงอยู่บ้ำงท่ำนพึงทรำบไว้ว่ำวิธีกำร
ในกำรรอ้ งแบบลกู ทุ่งนน้ั มันแตกต่ำงออกไปจำกวธิ กี ำรรอ้ งเพลงแบบลูกกรุง เพลงลูก
ทงุ่ นัน้ มนั เป็นเพลงของชำวบ้ำนหรือชนช้นั รำกหญ้ำ
เพลงลูกกรุงน้ันมันเป็นเพลงของคนในเมืองในยุคสมัยท่ีวิทยุทรำนซิสเตอร์
เป็นสอ่ื ทีท่ รงอทิ ธิพลท่ีสดุ นั้น หนมุ่ สำวบำ้ นนอกคอกนำเขำก็จะฟังเพลงของสุรพล
สมบตั เิ จรญิ พร ภิรมย ์ ชำย เมืองสงิ ห์ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ผ่องศร ี วรนชุ เตือนใจ
บญุ พระรกั ษำกันเป็นหลกั
หนุ่มสำวในเมอื งหรอื สำวชำวกรุงเทพฯ เขำก็จะฟังสุเทพ วงศ์กำ� แหง ชรนิ ทร์
นันทนำคร ธำนินทร อินทรเทพ ทนงศักดิ์ ภักดีเทวำ สุนทรำภรณแ์ ละเพลงฝรั่งของเอ
ลวสิ เพรสลยี ์และ
คลิฟ รชิ ำร์ดกันเป็นหลัก
แต่วำ่ ประเทศไทยของเรำนีค้ นบ้ำนนอกมนั มจี ำ� นวนมำกกวำ่ คนในเมอื ง เมื่อ
เพลงลกู ท่งุ สักเพลงมันเกดิ ฮติ เปร้ยี งข้นึ มำ ก็แสดงว่ำมนั คอื เพลงโปรดของคนหลำย
สิบลำ้ นคน
ทีนีเ้ มือ่ ในรำวสักปี 06 หรือ 07 (ขำ้ พเจำ้ จ�ำไมไ่ ด้ชดั เจนนัก แตค่ งจะรำวๆ นั้น
แหละ และข้ำพเจ้ำกเ็ พียงแต่ตอ้ งกำรทจ่ี ะระลกึ ถึงควำมหลงั เลน่ ๆ เท่ำน้ัน ไมไ่ ด้ม่งุ
หมำยทีจ่ ะใหเ้ ป็นต�ำรำประวัติศำสตร์หรอื พงศำวดำรแตป่ ระกำรใด)
ไอ้เจำ้ เพลง “ก่อนจะอำ� ลำ นำ้� ตำพ่รี ินไหล ร่วง....” นม่ี ันก็เกิดฮติ เปรยี้ งขึ้น
มำ
ไพรวัลย์ ลกู เพชรกลำยเปน็ นกั ร้องลูกทุ่งเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยในยุคน้ัน
ขึน้ มำทันที เป็น “บ๊ิกเนม” โดยปรำศจำกขอ้ สงสัย เน้อื เพลงทอ่ นแรกน้ันใช้ภำษำสละ
สลวย ท�ำนองก็คิดคน้ ขน้ึ มำใหม่โดยไม่ได้เลียนแบบใครหรือยืมมำจำกเพลงไทยเดิม
แตท่ ่อนต่อมำสกิ ลับประหลำด

28

ท�ำนองกลบั กลำยเป็นเพลงลเิ กไปอยำ่ งหน้ำตำเฉย
“ชำ่ งเหน็บแนมแกมประชด อรณุ เอย แบบบท ของแม่ชำ่ งหยดชำยย้อย....”
และไพรวัลยเ์ ขำกร็ ้องทำ� นองลิเกได้เนียนสนทิ
ในยุคสมยั เชน่ นน้ั นี่ถอื เปน็ ปรำกฏกำรณป์ ระหลำด เปน็ สุนทรียรสในรูปแบบ
ใหม่ ขำ้ พเจำ้ เคยฟัง “ทิดหนว่ ย” คุยเหนอ่ ๆ ในสวท.เพชรบุรี ทิดหน่วยนีเ่ ป็นนกั จัด
รำยกำรคนโปรดของขำ้ พเจ้ำ
ทดิ หนว่ ยบอกว่ำเพลงนผ้ี ูแ้ ตง่ กค็ ือไพรวลั ยน์ นั่ เอง แต่ว่ำแตง่ ร่วมกบั สุรพล
สมบตั ิเจริญ รำชำเพลงลูกทุ่งเป็นครูของเขำ จำกค�ำบอกเลำ่ ของทดิ หน่วย
สุรพลถำมไพรวัลย์วำ่ “เฮ้ยไอ้ค�ำวำ่ ชำ่ งเหนบ็ แนมแกมประชด อรณุ เอย แบบ
บทของเอ็งนี่นะ่ มนั หมำยว่ำอยำ่ งไรของมันวะ?” (สุรพลเหน่อแบบสพุ รรณ)
“หำรู้ไม่หรอกครับ ผมเคยไดย้ ินลิเกแถวๆ บำ้ นผมมนั ร้องพรรคน์ ”ี้ (ไพรวัลย์
เหน่อแบบเพชรบุร)ี

29

ดงั เพลงเดยี ว

ประเด๋ยี วจะมีขอ้ ครหำวำ่ ฮโี่ ธ่เอย มนั กแ็ คฟ่ ลคุ๊ ละมัง้ ไพรวัลย์ก็จึงดงั อกี เพลง
ในเวลำอันกระชนั้ ชดิ เพลงแรกนนั้ กด็ งั พอแรงอยู่แลว้ แตค่ รูสุรพลแกตอ้ งกำรควำม
มัน่ ใจ แกกร็ บี แต่งเพลงใหมใ่ ห ้ ส�ำนวนเหนอ่ ของทดิ หนว่ ยเขำวำ่
“คู้แกกเ็ ลยตอ็ กเข้ำใหอ้ กี เพลง” ท่วงทลี ลี ำของเพลงทสี่ องน้จี ะวำ่ ไปแล้วมันก็
ละม้ำยคลำ้ ยคลงึ กบั เพลงแรก คือเป็นลกู ทุ่งปนลเิ ก มีกำรออดอ้อนแฟนเหมือนลิเก
ออดอ้อนแม่ยก แตแ่ มก้ ระนนั้ กม็ กี ววี จั น์อนั เป็นวรรคทอง
“พยี่ งั รักเจำ้ เหมอื นดำวน้ันรกั รำตร ี เหมอื นฟ้ำรกั รัชนี เหมือนดั่งวำรีรกั ฝ่งั
เร่อื ยไป.....” วรรคกอ่ นหน้ำน้ีกส็ ะดุดใจดว้ ยกำรใช้ภำษำซื่อๆ เยย่ี งบกวีชำวทงุ่ ซึ่งอำจ
ได้รบั อิทธพิ ลมำจำก
“ไม้เมอื งเดิม” ควำมซอ่ื ตรง ไม่วำ่ มนั จะอย่ใู นศิลปะแขนงใดก็แล้วแต ่ (หรือ
ตอ่ ให้มนั อยูใ่ นควำมเป็นจรงิ ของชวี ิตวนั ต่อวัน) มันคือพลำนุภำพมหำศำล
“พอี่ ยู่เมอื งหลวง หัวใจพหี่ ่วงสะท้อน ยังรกั ผกั บุ้งบ้ำนดอน...” ผกั บ้งุ บำ้ น
ดอนในทนี่ ้ีกห็ มำยถึงผกั บุ้งไทย ไม่ใชผ่ กั บุ้งจนี และไมใ่ ช่ผักบุ้งไทยท่ขี นึ้ อยใู่ นนำ้� หรอื
ตำมที่ลุ่มชืน่ แฉะ หำกแต่อตุ ริไปขึ้นอยไู่ ดต้ ำมที่ดอน ตำมโคกตำมเนิน ตำมหวั คันนำสูง
ยอดซบู ๆ เรยี วๆ ยำวๆ สีออกแดงๆ อุดมไปด้วยวติ ำมินเอ
ไอ้ยอดผักบุ้งชนดิ นเี้ หนยี วหนบึ กินกบั น�ำ้ พรกิ กะปเิ ปร้ียวๆ เผ็ดๆ กเ็ ขำ้ ทำ่
เอำมำแกงค่วั กบั หวั ปลำชอ่ นตำกแหง้ หรือกบั ปลำกดเค็มกเ็ ข้ำทยี ง่ิ อนุ่ ซำ�้ ก็ยงิ่ อรอ่ ย
ก็ด้วยเหตุนี้เองมันก็จึงเป็นกำรถูกต้องและเหมำะสมด้วยประกำรท้ังปวงท่ีกวีผู้รจนำ
เพลงเขำจะเรยี กนำงในฝนั ของเขำวำ่ แม ่
“ผักบงุ้ บำ้ นดอน” อีกเพลงท่ีดังตดิ ตำมไล่หลังมำหรือดังในเวลำไลเ่ รยี งกนั ก็
ยงั เป็นเพลงลกู ทุ่งผสมลิเกอยู่อีกนน่ั เอง

30

“ได้มำเจอะนอ้ งรปู ทองบำ้ นนำ โสภำเลศิ ลอย เหมอื นดงั เอ้อื งดอยทหี่ อมกรุน่
หำกแม้นได้นอ้ งมำครองคู่ชม คงนบั ว่ำบญุ ....” ท้งั สำมตวั อยำ่ งน้ชี ัดเจนมำกพอแล้วที่
จะทำ� ใหเ้ รำกลำ่ วได้เตม็ เสยี งวำ่ ไพรวลั ย์
ลูกเพชรเป็นนักร้องที่ประสบควำมส�ำเร็จสูงสุดในกำรผสมผสำนเพลงลูกทุ่ง
และเพลงลิเกเข้ำดว้ ยกนั ครูสรุ พลแกตอ็ กเข้ำไปแตล่ ะทีกย็ ิ่งทำ� ให้ไพรวัลย์ดงั สนนั่

31

เพลงอะไรเพลงหนึ่ง

ของไพรวลั ย์นะที่ร้องว่ำ
“จันกระจำ่ งฟำกฟำ้ ....” น่เี ปน็ เพลงไทยเดิมประยกุ ต ์ ดนตรีท่บี รรเลงนั้นก็มี
สีสันเป็นเพลงมโหร ี ไพรวลั ยน์ ั้นแมว้ ำ่ เขำจะเปน็ นักร้องลกู ทงุ่
แต่น้�ำเสียงของเขำและวิธีร้องของเขำก็อำจท�ำให้นักร้องเพลงลูกกรุงชั้นเต้ยอ
ย่ำงชรินทรห์ รอื สเุ ทพ ถึงแก่ฉงนฉงำย เวลำทเี่ ขำร้องเพลงไทยเดมิ ประยกุ ต ์ เขำก็อำจ
ท�ำใหน้ ักร้องเพลงไทยเดิมตำมต�ำรับมำตรฐำนอยำ่ ง นฤพล ดรุ ยิ ะพันธถ์ งึ แก่ฉงนฉงำย
ได้ด้วยเชน่ กนั
ดนตรีในเพลงดังยุคแรกๆ ของเขำหลำยตอ่ หลำยเพลงเป็นดนตรแี ตรวง! วิธี
กำรบรรเลงของแตรวงนั้นนักดนตรีมืออำชีพท่ีศึกษำวิชำดนตรีตำมระเบียบแบบแผน
เขำจะพูดถึงมันดว้ ยนำ�้ เสยี งหมน่ิ แคลน อพโิ ธ่เอย
พวกมอื สมคั รเล่น! อนจิ จำเอยแตรวงบำ้ นๆ! เสยี งแตรวงในเพลงฮติ ยุคแรกๆ
ของไพรวัลย์นั้นข้ำพเจ้ำแทบจะสบถให้ก็ได้ว่ำมันคือแตรวงเมืองเพชรอันแปรแปร้น
และขรมถมเถในกำรแห่นำคเวียนรอบโบสถ์ตำมวัดวำอำรำมตำมท้องไร่ท้องนำเมือง
เพชรเรำนแ่ี หละ
แต่ว่ำเสียงแตรวงเมืองเพชรนี่เองที่มันประสำนสอดร้อยไปกับเน้ือเพลงของ
ไพรวัลย์และฮิตเปรย้ี งปร้ำงไปทว่ั ประเทศ

32

ในเวลาตอ่ มาไพรวลั ย์

แยกตัวออกมำจำกกำรเป็นนักร้องในสังกัดของสุรพลสมบัติเจริญ
เขำออกมำตั้งวงดนตรีของเขำเองเขำแต่งงำนกะนักร้องหญิงคนหนึ่งชื่อวิภำรัตน์
เปร่ืองสุวรรณ
สุรพลกะไพรวัลย์จะขัดแย้งกันด้วยสำเหตุอันใดข้ำพเจ้ำมืดแปดด้ำน
ทดิ หน่วยบอกข้ำพเจำ้ ท ี เจษฎำ นรำธรบอกขำ้ พเจ้ำท ี ใครก็ได้ช่วยบอกขำ้ พเจำ้ ท ี แต่
ศิษย์และครคู ูน่ ีเ้ ขำกไ็ มไ่ ด้ท�ำใหม้ ันเป็นเรอื่ งออื้ ฉำว
เขำไม่ถงึ กบั จะแต่งเพลงดำ่ กนั ไม่เหมอื นกับเมอ่ื ครงั้ ทสี่ รุ พลทะเลำะกับ
เบญจมินทร์ ไม่เหมือนกับเมือ่ ครง้ั ท่ีพรภริ มย์ทะเลำะกบั ชำย เมอื งสิงห ์ ไพรวลั ย์ออก
มำ
“บนิ เดย่ี ว” ในภำวะที่กำรแก่งแย่งแขง่ ขันในวงกำรลูกทุ่งเป็นไปอยำ่ ง
เร่ำรอ้ นอยำ่ งย่ิง ในฐำนะคนฟงั น่ันคือยคุ ทองของเพลงลูกทุง่ ไทย แต่สำ� หรบั ตวั นัก
ร้องลูกทงุ่ เองเขำคงต้องระทกึ หว่ันไหวไม่รู้จบ ถำ้ หำกวำ่ ทำ่ นเปน็ ไพรวัลย์
คู่ตอ่ ส่ขู องทำ่ นมีรำยนำมดังตอ่ ไปน ้ี : สรุ พล สมบตั ิเจรญิ , ไวพจน ์ เพชร
สุพรรณ, ชยั ชนะ บญุ นะโชต,ิ ชำย เมืองสิงห,์ ทูน ทองใจ, พร ภิรมย,์ เพลนิ พรหม
แดน, ผอ่ งศร ี วรนุช, ขวญั จติ ศรปี ระจนั ต์, กำ้ น แก้วสพุ รรณ, ยงยทุ ธ เชี่ยวชำญชยั ,
สมำนมติ ร เกดิ ก�ำแพง ฯลฯ กำรแข่งขนั ในครงั้ กระนัน้ เปน็ ไปอย่ำงซื่อๆ ไม่มกี ลยทุ ธ์
ทำงกำรตลำด
ไม่มกี ำรใช้ควำมไดเ้ ปรยี บทำงกำรเงิน แตม่ ันคอื สงครำมชัดๆ เป็นสงครำม
แยง่ ชงิ ประชำชน เพลงต้องมลี ักษณะพเิ ศษจริงๆ เทำ่ นน้ั ถึงจะเป็นเพลงฮติ ได้ เพลงจะ
ตอ้ งไดร้ ับกำรนำ� เสนอในเวลำท่ถี ูกต้องทีส่ ดุ เท่ำนัน้ มันถึงจะกลำยเปน็ เพลงฮิตได้
(อะไรคือองคป์ ระกอบของควำมฮติ อะไรคอื สตู รส�ำเร็จของมัน ไมม่ คี �ำตอบที่
ตำยตัว ทุกวนั นนี้ กั กำรตลำดตำมคำ่ ยเพลงต่ำงๆ กย็ ังคงต้องขบคดิ กันหัวแทบแตกกบั
โจทย์อนั ยำกเขญ็ ข้อน้ี)
เม่อื มำนึกทบทวนย้อนหลังดู กำรแข่งขนั ในแวดวงลกู ทุ่งเมือ่ ครำครั้งกระนนั้
เต็มไปด้วยควำมดุเดือดและเมำมันย่ิงกว่ำกำรแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ
ในยคุ นีเ้ สียอกี

33

ในภาวการณเ์ ชน่ น้ัน

ช่อื ของไพรวัลย์ ลกู เพชรคอ่ ยๆ เลือนหำย ถ้ำหำกจะยังมคี นจำ� ไดไ้ พรบูลย์ก็
จะถูกจดจำ� ในสภำพของ “คนเคยดงั ” เท่ำนั้น
จำกคนที่มีมิตรรักแฟนเพลงแห่ห้อมล้อมรุมเกรียวกรำวในทุกหนแห่งท่ีเขำ
เหยียบย่ำงไป เขำกำ� ลังเผชิญหน้ำกบั ควำมเดียวดำย เขำยังก�ำลงั หนุ่มแนน่ ฉกำจ
ฉกรรจ์ดีอยู่แทๆ้ แตเ่ ขำกำ� ลงั ถกู ชะตำชีวิตต้อนเขำ้ สู่มมุ อบั
ไมม่ ีใครคิดว่ำเขำจะ “กลบั มำ” ได้อกี วันหนึ่งในปพี .ศ. 2508 เขำเดนิ ทำง
เข้ำไปพบครูไพบูลย์บุตรขันนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ท่ีสุดผู้หนึ่งในประวัติศำสตร์ของชำติ
ไทย บุรุษลึกลับผดู้ �ำรงชวี ติ อยำ่ งเปล่ียวเหงำโดดเดย่ี วผไู้ ดร้ บั สมญำนำมว่ำ
“เจำ้ ชำยรตั ตกิ ำล”
คนผูน้ ้แี หละคือคนแต่งเพลง
“กล่ินโคลนสำบควำย”
“สำส์นสวำท”
“คำ่ นำ้� นม”
“มนต์เมอื งเหนือ”
“เดือนตำ�่ ดำวตก”
“โลกน้คี ือละคร”
“นำ้� ตำเทยี น”
“คนื สวรรคล์ ม่ ”ฯลฯ ซง่ึ เคยทำ� ให้นักรอ้ งอย่ำงสมยศ ทศั นพนั ธ,์ ค�ำรณ สัม
ปณุ ณำนนท์, ชำญ เย็นแขและทูล ทองใจกลำยเปน็ นกั รอ้ งขวญั ใจมหำชนมำแลว้ บำ้ น
ของครไู พบูลย ์ บตุ รขนั เปน็ บ้ำนหลงั เล็กๆ มีลักษณะเหมือนกระทอ่ ม ปลกู อยู่ในอำณำ
บรเิ วณของบำ้ นหลังใหญ่อีก

34

หลงั หนึ่งซง่ึ เปน็ ของญำติของเขำอยใู่ นยำ่ นถนนรองเมือง เขตปทุมวัน แต่
เจำ้ ของกระทอ่ มนน้ั คือจอมขมังเวทย์ผู้องอำจสำมำรถที่จะเสกดินใหเ้ ปน็ ดำว ส�ำหรบั
ครูไพบูลยแ์ ลว้ ไพรวลั ยแ์ ทบจะไมต่ ้องแนะน�ำตัวหรอื ต้องบรรยำยสรรพคณุ ของตนเอง
ครูไพบูลย์เห็นว่ำไพรวัลย์น้ันเป็นนักร้องผู้มีลักษณะพิเศษและมีควำม
สำมำรถอย่ำงแทจ้ ริง บทเพลงต่ำงๆ นำนำท้งั หลำยท้ังปวงของครูนั้นมีอยหู่ ลำยเพลงท่ี
ครูอยำกใหไ้ พรวลั ยเ์ ปน็ ผู้ขบั ร้อง แต่ครูไมก่ ล้ำทำบทำมไพรวัลย ์ เหตผุ ลกเ็ พยี งเพรำะ
วำ่ ครู
คดิ ว่ำไพรวลั ยน์ น้ั ยังเปน็ ศษิ ย์ของสุรพลอยู่ จำกกระทอ่ มหลังนัน้ เองท่ไี พร
วลั ย์ไดเ้ นื้อรอ้ งและท�ำนองของเพลงมำสองเพลงดว้ ยกัน เขำดำ� เนนิ กำรบนั ทกึ แผน่
เสยี งในทันที
เพลงหนึ่งคือ “กลิ่นธูปสุโขทยั ”
“รุ่งสรุ ิยำนกกำเร่ำรอ้ ง เสยี งไกข่ ันดังก้อง ต้องลำจำกนอ้ งเสยี แลว้ ขวัญพ่.ี ...”
อีกเพลงหน่งึ คอื “นริ ำศรกั นครปฐม”
(“รถเมลร์ ับจำ้ งจำกเขำวังเมืองเพชรบุร ี ผ่ำนองค์ปฐมเจดยี ์ สที องมองสูง
ตระหง่ำน เมอ่ื เดือนสิบสองทกุ ปตี อ้ งมงี ำนออกรำ้ น....”)
ทง้ั สองเพลงนท้ี �ำให้ไพรวลั ย ์ “คมั แบค็ ” กลับมำดงั ในเวลำเพยี งช่ัวข้ำมคืน
มันท�ำให้เขำกลับมำยืนอยู่ในแถวหน้ำของแวดวงนักร้องลูกทุ่งได้อีกวำระหนึ่งอย่ำง
แสนโสภำ

35

หอมเอยหอมดอกกระถนิ
รวยระรินเคำล้ากล่ินกองฟาง
เหด็ ตับเตา่ ขนึ้ อยู่รมิ เถาหญา้ นาง
มองเห็นบวั สล้างลอยปริม่ ริมบงึ ....

น่ีคอื เน้ือร้องสี่ห้ำวรรคแรกของเพลงลูกทุ่งระดับอภิอมตะมหำนริ ันดร์กำล
“มนต์รกั ลูกทงุ่ ” มนั เริม่ ต้นอยำ่ งบรรเจดิ และมนั กท็ �ำทำ่ ว่ำมนั จะด�ำเนินไปได้
อย่ำงรำบรนื่
“ไพบลู ย ์ บตุ รขันกำ� ลังตง้ั ควำมหวงั ไวว้ ำ่ เพลงน้จี ะเป็นเพลงท่ีดีท่ีสุดอกี เพลง
หนงึ่ ในชีวิตนักแต่งเพลงของเขำ มนั จะทำ� ใหเ้ ขำเปน็ อมตะ ผ้ทู ่ีจะรอ้ งเพลงๆ น้ีก็คอื
ไพรวัลย ์ ลกู เพชร ซงึ่ กแ็ นน่ อนละว่ำจะกลำยเป็นนกั รอ้ งอมตะไปด้วย
“อยำกจะเด็ดมำดอมหอมหนอ่ ย ลองเอ้อื มมอื คอ่ ยๆ กเ็ อื้อมไม่ถงึ ....” ควำม
คืบหน้ำเชน่ นี้มันคลอ้ งจองกันเหมำะเจำะ มันดีเกนิ กวำ่ จะเป็นจริงคนทท่ี �ำงำนศลิ ป
เป็นอำชีพไม่ว่ำจะเป็นแขนงใดก็ตำม เม่ือเขำเผชิญหนำ้ กับสถำนกำรณ์เชน่ นี้
เขำจะสังหรณ์ใจ ชำวเรอื ทุกคนจะร้ดู วี ่ำทะเลทส่ี งบรำบเรียบไร้ระลอกคล่นื นั้นมันคอื
สัญญำณอนั ตรำย “อยำกจะแปลงรำ่ งเปน็ แมลงภู่ผ้ึง บนิ ไดจ้ ะบนิ ไปคลึง เคล้ำเจ้ำ
บัวตูมบวั บำน...”
สญั ญำณอนั ตะรงอันตรำยที่ไหนกนั ปอดกระเส่ำเกนิ กว่ำเหตุไปหรือเปลำ่ น ี่
“หอมดนิ เคลำ้ กลนิ่ ไอฝน อวลระคนหอมแก้มนงครำญ ขลุ่ยเป่ำแผว่ พล้ิวผำ่ นทวิ แถว
ตน้ ตำล มนตร์ กั เพลงชำวบ้ำน
ลกู ทุ่งแผว่ มำ....” เหล่ำนี้มนั เปน็ วรรคทองท้ังหมด มนั เรียบงำ่ ย ซ่อื ตรงและงดงำม
เพลงๆ หน่งึ นะ่ แค่มันมวี รรคทองสักหนงึ่ หรอื สองวรรค

36

ก็ถือวำ่ โชคเขำ้ ข้ำงอักโขอยแู่ ลว้ ไพบลู ย์ บุตรขนั ประคบั ประคองเพลงๆ นี้
เหมอื นอสิ ตรสี ักนำงหนึง่ ประคบั ประคองบตุ รในอทุ ร ไพรวัลย ์ ลกู เพชรก็คำดหวังและ
รอคอย และเขำก็รอคอยแหงก็ อยู่เชน่ น้นั อกี เฉยี ดครง่ึ คอ่ นปี
“มนต์รักลกู ทุง่ ” เกดิ อำกำรสะดุด มันติดแหง็กคำ้ งเตง่ิ อยแู่ คน่ ั้น ไพบูลย์ บุตร
ขนั ไมอ่ ำจฝนื ใจแต่งใหม้ นั คบื หนำ้ ตอ่ ไปได้ งำนทำงด้ำนอ่ืนๆ ของเขำกย็ ุ่งขิงไปหมด ใน
ระหว่ำงน้นั เขำตอ้ งแต่งเพลงประกอบภำพยนตร์อยอู่ กี นับสิบๆ
เรื่องสุขภำพของเขำมันก็ไม่สู้ดีมำแต่ไหนแต่ไรเขำตำกตร�ำแต่งเพลงมำกเกิน
ไป เขำไมม่ ีสมำธิ บรรยำกำศของกรุงเทพฯ มันกไ็ ม่เอื้อใหเ้ กิดแรงบนั ดำลใจ ไพบลู ย์
บตั รขนั สู้อตุ สำ่ หป์ ลกี วิเวกกลบั ไปยังบ้ำนเกดิ ท่ีริมฝ่งั แม่น้�ำเจำ้ พระยำของเขำ จงั หวัด
ปทุมธำนีบ้ำนเกดิ ของเขำนนั้ (ขำ้ พเจ้ำเคยไปเยย่ี มชมบ้ำนเกิดของเขำและยังอยำกไป
ซ้�ำอีกบอ่ ยๆ)
มันเต็มไปด้วยท่งุ นำและป่ำตำล ลำ� คลองห้วยละหำรและบงึ บำง มนั ดรู ำวกบั
ท่งุ นำเมอื งเพชรอยำ่ งนั้นแหละ ท่ีเรอื นไม้หลงั เล็กโยๆ้ เอยี งๆ ริมฝง่ั เจำ้ พระยำหลงั นั้น
นัน่ เองแหละท่เี ขำได้วรรคตอ่ ๆ มำของ
“มนตร์ ักลูกทงุ่ ”
“ไดค้ นั เบด็ สักคนั พรอ้ มเหย่อื มีนอ้ งนำงแกม้ เรื่อน่ังเคยี งตกปลำ....” จนมัน
จบสิน้ บรบิ รู ณ์ ไพรวัลยไ์ ด้รอ้ งเพลงนีเ้ สยี ทีหลังจำกรอคอยมำเนิ่นนำน และร้องอย่ำง
ถอดหวั ใจ
ในทนั ทีทเ่ี พลงได้รบั กำรเผยแพร ่ มนั ก็ท�ำให้ไพรวัลยก์ ลำยเป็นนักร้องเบอร์
หนึง่ ของประเทศ เขำครองตำ� แหนง่ น้ีอยนู่ ำนคนั

37

ข้าพเจ้าเลา่ เรื่องราว

ของไพรวลั ย์ ลกู เพชรมำเสยี เปน็ คงุ้ เป็นแควทัง้ ท่ขี ้ำพเจำ้ มีขอ้ มลู เกย่ี วกบั
ประวัติชีวิตของเขำน้อยมำกเท่ำที่ได้สำธยำยไปน้ันก็สำธยำยในฐำนะท่ีมันเป็นต�ำนำน
มิใช่กำรเลำ่ ขำนในฐำนะทีม่ ันเป็นประวตั ศิ ำสตร์
สำ� หรับข้ำพเจ้ำ เร่อื งรำวของเขำมนั ชวนอศั จรรย์ใจ เขำนัง่ รถบขส.จำกเมอื ง
เพชรไปลงสถำนีบขส.สำยใตท้ ีส่ ำมแยกไฟฉำยและกลำยเป็นคนดังระดบั ประเทศไป
ได้อยำ่ งไร ขำ้ พเจ้ำกเ็ คยน่ังบขส.จำกเมอื งเพชรไปลงที่สำมแยกไฟฉำยนับคร้งั ไมถ่ ้วน
ท�ำไมขำ้ พเจ้ำถึงไม่ดงั เอำเสียบำ้ งเลย ตอนที่ขำ้ พเจำ้ ยงั เดก็ ข้ำพเจำ้ คดิ ไปตำม
ประสำเด็กไมร่ ู้ อิโหน่อิเหนว่ ่ำไพรวัลย ์ ลูกเพชรคนนเี้ ขำเป็นคนเมอื งเพชรแน่นอนละ
นัน่ กเ็ ป็นเพรำะว่ำนำมสกุลของเขำมันบอกอย่ทู นโท่
และเหตผุ ลทวี่ ำ่ ท�ำไมเสียงของเขำมนั ถึงได้หวำนซึ้งใจเช่นนน้ั ก็เพรำะ วำ่ ขยัน
กินนำ้� ตำล มีเพลงเก่ำๆ ในยคุ แรกของเขำอยู่เพลงหนึ่งซ่ึงมอี ทิ ธพิ ลอย่ำงลกึ ลบั ตอ่ ชีวติ
ของขำ้ พเจำ้ ไม่รู้วำ่ ใครเปน็ คนแตง่ ให้เขำ แตค่ นแต่งก็นำ่ จะเป็นคนเมอื งเพชรเรำน่ี
แหละ
ถ้ำไม่ใช่คนเพชรเห็นจะแตง่ เพลงอย่ำงนีไ้ ม่ได ้
“เหน็ ยอดตำลพลิว้ ไกวลมล่ยู นื ทะมนึ เป็นหมู่ ดงั ซ่เู หมอื นใครก่หู ำ....”
(“ทดิ หนว่ ยชว่ ยผมหนอ่ ย เจษฎำ นรำธรช่วยผมหนอ่ ย”)
“จำกเพชรบรุ ีเสียนำน คิดถึงดนิ แดนหม่บู ้ำน ดงตำลทเี่ คยสขุ สันต ์ ป่ำนน้รี กั
เรำคงอบั เฉำเพรำะอยูไ่ กลกัน....” ขออนุญำตพูดเรื่องส่วนตวั สักนิดหน่อย คือวำ่ มนั มี
อยู่หลำยคร้ังหลำยหนในชีวิตที่พรหมลิขิตมันขีดเข่ียให้ข้ำพเจ้ำต้องระหกระเหินไปอยู่
ท่ีโน่นท่ีนัน่ ห่ำงไกลบำ้ นเกดิ บำงทกี ็จำกเมอื งเพชรไปนำนนบั สบิ ปี
เคยคดิ จะปักหลกั เปน็ ชำวกรงุ กเ็ คย
เคยคดิ แมแ้ ตจ่ ะไปเป็นโรบินฮดู้ อยู่ทเ่ี มืองมะรกิ ำมะริหงสพ์ นู้ กเ็ คย
แต่พอได้ยนิ เพลงนข้ี องไพรวัลย์เขำ้ ทีไรกค็ ดิ ถงึ เมอื งเพชรใจแทบขำดทกุ ทีไป

38

ขา้ พเจ้าเกือบๆ

ตกใจเม่อื ได้รวู้ ่ำไพรวลั ย ์ ลกู เพชรน้นั แท้จริงแล้วเป็นชำวต�ำบลบำงขุนไทร
อำ� เภอบ้ำนแหลมแดนท�ำนำเกลอื ตำ่ งหำก ขอ้ เทจ็ จริงนม้ี ันขดั แย้งกับเรอ่ื งที่ขำ้ พเจ้ำ
คิดไปเองและไดเ้ ชือ่ มั่นฝงั หวั มำแต่ไหนแต่ไร
ไม่นำ่ เชือ่ เลยว่ำอำหำรทไ่ี พรวลั ย์เขำไดก้ ินมำตั้งแต่เด็กอย่ำงปลำกุเลำ ปลำ
อกกะแร ปลำกระเบน หมึกสำย หอยแครงและหอยเสยี บ จะทำ� ให้กลำย เป็นนกั รอ้ ง
เสียงทองขึน้ มำได ้ มหิ นำ� ซำ้� ผิวพรรณของเขำกไ็ มไ่ ด้คล้ำ� เกรยี มอย่ำงชำวทะเลทั่วๆ ไป
(อยำ่ หำวำ่ อย่ำงน้นู อยำ่ งนเี้ ลย พวกบำงขนุ ไทรพวกดอนผงิ แดดนะ่ ตัวด�ำๆ
ทง้ั นนั้ แหละ)
เขำเป็นผชู้ ำยท่มี ผี ิวพรรณผดุ ผำดนวลเนียนจนแมแ้ ตผ่ ้หู ญงิ กอ็ ำจอจิ ฉำ เป็น
คนรำ่ งสูงสะโอดสะอง หน้ำตำเลำ่ ก็ออ่ นหวำนสละสลวย เขำไดม้ ีโอกำสปรำกฏตวั ใน
ภำพยนตรไ์ ทยหลำยต่อหลำยเรือ่ ง ขำ้ พเจ้ำไดพ้ บเห็นเขำกเ็ ฉพำะแต่ในจอภำพยนตร์
เทำ่ นัน้ ไมเ่ คยพบเหน็ ตวั จริง
เขำเปน็ คน “ไมข่ ึ้นกลอ้ ง” ชลท ี ธำรทอง นักแต่งเพลงผเู้ ปน็ เพอื่ นสนทิ ของ
เขำยืนยันหนักแน่นวำ่ เขำเป็นหนุ่มรูปงำม สมำน เมอื งรำชนกั แต่งเพลงผ้เู ป็นเพ่ือน
สนทิ อีกคนหนึ่งของเขำรูจ้ กั เทอื กเถำเหลำ่ กอและภูมิหลงั ของเขำด ี สมำน เมอื งรำชได้
เล่ำเรือ่ งรำวเหลำ่ นใ้ี หโ้ ส อำนนท์ผูเ้ ปน็ บตุ รชำยของเขำฟัง (กพ็ โ่ี สลกู ทงุ่ เหนอ่ เมอื ง
เพชรหน่ึงเดยี วคนน้ันนะ่ แหละ)
และพโี่ สกเ็ อำมำเล่ำให้ขำ้ พเจ้ำฟงั อีกต่อหนึง่ พ่ีโสน่ีเวลำเลำ่ ถงึ ไพวัลยแ์ กก็ถอื
โอกำสใชค้ �ำพดู ค�ำจำ “ตซี ี”้ กับไพรวัลยเ์ สยี เลย แกเรียกไพรวลั ยว์ ่ำ “พน่ี ึก” อยำ่ งคน
กันเอง แกบอกวำ่

39

“ไพรวัลย์นม่ี ีชอื่ และนำมสกลุ วำ่ นำยสมนึก นลิ เขียว เป็นชำวบำ้ นดอนผิง
แดด ตำ� บลบำงขุนไทร พน่ี กึ นี่แกเปน็ ลิเกเกำ่ หดั เลน่ ลิเกมำตั้งแตเ่ ดก็ และเลน่ ลิเก
หำกินอยแู่ ถวๆ เมอื งเพชรเรำนแี่ หละ แต่แกเลน่ ลเิ กแลว้ ก็ไมม่ ีแววรุ่ง แกรำ� ลิเกไม่สวย
แกเปน็ ผูช้ ำยตวั โต แขนขำเกง้ ก้ำง แตช่ ดุ ลิเกแลว้ กไ็ มอ่ ้อนแอ้นอรชร เวลำรำ่ ยรำ� ก็
ค่อนขำ้ งประดกั ประเดดิ จะร่ำยจะร�ำแต่ละทีแม่ยกต้องเบอื นหน้ำหน ี แตเ่ วลำแกร้อง
เสียงรอ้ งของแกมมี นตร”์

ไพรวัลย์ ลกู เพชร
นักร้องเพลงลุกทงุ่ ชำวตำ� บลบำงขนุ ไทร อ�ำเภอบ้ำนแหลม จงั หวดั เพชรบุรี

“เบ้ำหลอมดวงใจ”
“ไอ้หนุม่ ตงั เก”
“มนต์รกั ลกู ท่งุ ”

40

หลังจากไพลวลั ยโ์ ดง่ ดงั

ทวั่ ทุกหวั ระแหงจำกเพลง “มนต์รกั ลูกทงุ่ ” ชือ่ เสยี งของเขำก็สรำ่ งซำลง แต่
เขำก็ยงั ไม่ได้หำยไปไหน เขำยังยืนหยดั อยู่ได้เพรำะได้เพลงที่สมำน เมืองรำชแตง่ ปอ้ น
ให้อกี หลำยเพลงดว้ ยกัน มเี พลงสนุกๆ อย่ำง
“จ�ำพไี่ ด้บอ่ ”
“ตำมนำงทำงใต”้
และเพลงท่ีพูดถึงปัญหำชีวิตของไพรวัลย์หลังจำกแยกทำงเดินกับวิภำรัตน ์
เปร่ืองสุวรรณคือเพลง “แพแตก”
เพลงลึกซึ้งอกี เพลงหนึ่งคอื เพลง “ไพรวลั ยล์ ำบวช” ซ่งึ สมำน เมืองรำชผ้แู ต่ง
ใสบ่ ทสวดภำษำบำลีเข้ำไปด้วยเสียหลำยวรรคด้วยกัน ต่อจำกนั้นไพวัลย์กห็ ำยหน้ำคำ่
ตำไป ชลท ี ธำรทองเล่ำไวใ้ นหนงั สอื ประวัติชวี ติ
“เทวดำเพลง”
ของเขำวำ่ ชีวติ ไพวลั ยใ์ นชว่ งน้นั ค่อนขำ้ งล�ำบำก และเขำกค็ อ่ นข้ำงอึดอดั ใจ
เม่ือวันหน่ึงไพวัลย์ไปหำเขำและปรำรภกับเขำว่ำไพรวัลย์อยำกจะกลับมำดังอีกคร้ัง
หน่งึ เป็น
“เซค็ กนั ด์คมั แบ็ค”
เป็นกำรกลับมำอกี เปน็ คร้ังทส่ี อง ชลทีก็รูด้ พี อๆ กบั ไพรวัลยว์ ำ่ มนั เปน็ เร่ือง
ยำก มีนักรอ้ งลูกทงุ่ หน้ำใหม่ทยอยกันเข้ำมำไม่ขำดสำย มัน “หมดยุค” ของไพรวัลย์
เสียแลว้ แตไ่ พรวัลย์ก็ยงั ด้อื ดงึ รบเร้ำว่ำถ้ำหำกว่ำเขำได้เพลงดสี ักเพลงเขำกย็ งั จะร้อง
ใหม้ ันดสี ดุ ชีวติ ของเขำใหจ้ งได้ ชลทีจ�ำเป็นต้องตกกระไดพลอยโจน
เขำคงต้องล่วงรู้ถึงภูมิหลังของไพรวัลย์อยู่บ้ำงเป็นแน่ว่ำไพรวัลย์เป็นชำว
อ�ำเภอบำ้ นแหลม

41

“ไอห้ นุ่มตงั เกรอ่ นเรห่ ำปลำ ลอ่ ง ลอยนำวำ เห็นน้�ำกับฟำ้ เปน็ เพ่อื น” วรรค
แรกๆ ของเพลงมนั ถึงไดป้ รำกฏโฉมออกมำเชน่ น้ ี
“ไอห้ นุ่มตงั เก” เพลงนอ้ี ิทธิฤทธิ์ของมนั ไมต่ ้องกลำ่ วถึง สรรพคุณของมนั ไม่
จ�ำเป็นต้องบรรยำยมันเป็นเพลงที่เป็นประวัติกำรณ์เพลงหนึ่งในชีวิตของนักแต่งเพลง
อย่ำงชลที ธำรทอง มันเปน็ เพลงทที่ ำ� ใหไ้ พรวัลยก์ ลับมำแจ้งเกิดไดอ้ ีกครง้ั หนึง่ อยำ่ ง
เต็มตวั

42

บนเสน้ ทางเพชรสมทุ รคำีรี

ยังมีต�ำนำนลูกทงุ่ อันลอื ล่ันอีกบทหนึ่ง เป็นตำ� นำนทย่ี งั มีชวี ติ อยู่ รุ่งเพชร
แหลมสงิ หย์ งั ไม่ตำย แต่ก�ำลงั จะถกู ลมื นเ่ี ปน็ ควำมอยตุ ธิ รรมท่ีคนร่นุ เรำกระทำ� กับคน
รุน่ ก่อน จะเปน็ เพรำะควำมโง่ ควำมรเู้ ทำ่ ไมถ่ งึ กำรณ ์ หรือควำมเป็นโรคควำมจำ� เส่อื ม
ของเรำก็ตำมทเี ถิด เรำควรจะรสู้ กึ ละอำย
ร่งุ เพชรเป็นตัวอยำ่ งอนั ดีของควำมเปน็ คนกลำ้ คือกลำ้ ที่จะดงั และดงั ในทำง
ทถี่ ูกทีค่ วร ตน้ ทนุ ชีวิตของเขำมนั ตำ�่ แต่คนนับแสนนบั ล้ำนในประเทศนก้ี ล็ ้วนแล้วแต่
มตี น้ ทนุ ชีวิตต�ำ่ ดว้ ยกนั ทั้งนั้น และมอี กี นบั แสนนบั ลำ้ นที่ต้นทุนชวี ิตของเขำถงึ แกอ่ ยู่
ในระดับติดลบ รุ่งเพชรเปน็ ชำวตำ� บลบำงตะบนู อ�ำเภอบำ้ นแหลม
เรียนหนังสือจบถึงระดับมัธยมปลำยแล้วก็สมัครสอบเข้ำโรงเรียนนำยสิบ
ทหำรบก โรงเรียนอย่ำงนีเ้ ป็นโรงเรียนสำ� หรบั ลูกชำว บ้ำน ไม่ใชโ่ รงเรียนสำ� หรบั ลูก
ท่ำนหลำนเธอ กนิ ฟร ี นอนฟร ี ระหวำ่ งเรยี นกม็ เี งินเดอื น จบออก มำกม็ ีงำนท�ำ คือ
เปน็ ทหำรชนั้ ประทวน เปน็ นำยสิบตอ๊ กตอ ย
รุ่งเพชรจบออกมำเปน็ นำยสบิ ประจ�ำหน่วยเสนำรักษ์ เขำเป็นคนตวั ด�ำ
รำวกับจรกำ หนำ้ ตำของเขำเทวดำทำ่ นแกล้งปั้น คือวำ่ เทวดำอำรมณ์ไมด่ ตี อนท่ีท่ำน
ปนั้ แต่งหน้ำตำของเขำ พูดอยำ่ งไรดี หน้ำตำของเขำนนั้ มัน
“เดอ ๆ ดำๆ เซอ่ ๆ ซำ่ ๆ” เขำพดู เหน่อแบบคนเมอื งเพชร ไปอยกู่ รุงเทพก็ยัง
ไมว่ ำยเหน่อ เวลำที่เขำรอ้ งเพลง ไอเ้ จำ้ สำ� เนยี งเหน่อนน้ั มนั ก็ยังไมว่ ำยผลบุ ๆ โผลๆ่
ออกมำอกี แต่เขำเป็นลูกทุ่งขนำนแท้และด้ังเดิมอันหำไดย้ ำกยงิ่ นำ�้ เสยี งของเขำมี
เอกลักษณเ์ ฉพำะตัว เขำส้อู ตุ สำ่ หเ์ กบ็ หอมรอมรบิ เงินเดอื นนำยสิบของเขำได้มำกถึง
400 บำท

43

ได้ครบถว้ นเรยี บรอ้ ยกก็ �ำเงินจำ� นวนนีเ้ ข้ำไปกรำบไพบลู ย ์ บุตรขันนกั แต่ง
เพลงผยู้ ่งิ ใหญ่ ขอร้องให้ไพบลู ย์แตง่ เพลงใหเ้ ขำสักเพลงหนง่ึ เขำทำ� เช่นนี้โดยมีไพวลั ย ์
ลูกเพชรคนเมอื งเพชรด้วยกันเป็นผู้ตดิ ต่อประสำนงำน ในวนั ทคี่ นทั้งสองได้พบกันนน้ั
ร่งุ เพชรพดู จำอย่ำงไรบ้ำงกบั ไพบูลย์
ข้ำพเจ้ำไมท่ รำบ กค็ งพูดเหน่อๆ น่ะแหละ คงกระอกั กระอว่ นพโิ ยกพิเยนอยู่
หลำยขยักกวำ่ จะกล้ำออกปำก คอื ว่ำนำ่ จะเกรงอกเกรงใจไพบูลยผ์ เู้ ปน็
“คร”ู อยเู่ ป็นอนั มำก กริ ิยำอำกำรของรุง่ เพชรเปน็ อย่ำงไรบำ้ งในขณะนัน้
ขำ้ พเจ้ำก็ไม่ทรำบ คงจะคำรวะนอบนอ้ ม คงจะเขินอำย
“บญุ ที่เคยทำ� ร่วมกันมำแต่ชำติปำงก่อน” น่ะท่ำนอยำ่ ไปนึกสง่ เดชนะวำ่ มัน
ไมม่ อี ยจู่ ริง คำ� พดู ค�ำจำและจริตจกำ้ นซอื่ ๆ ของรงุ่ เพชรทำ� ให้ไพบูลยร์ ู้สกึ ขันแกมเอ็นดู
รุง่ เพชรขึ้นมำในทันที ไพบูลย์รบั ปำกรุ่งเพชรวำ่ จะแตง่ เพลงให ้
“สว่ นค่ำจำ้ งค่ำออนน้นั ค่อยเอำไวว้ ำ่ กันทีหลงั ”

44

เรื่องจรงิ

นี่หลำยต่อหลำยคร้งั มนั แปลกยิง่ กวำ่ นิยำย สำมเพลงแรกท่รี งุ่ เพชรได้มำจำก
ไพบูลยก์ ค็ ือ
“ไอดนิ กลน่ิ สำว”
(“กลิ่นโคลนสำบควำยมันติดผวิ กำยพี่มำ มำอยกู่ รุงเทพฯเมอื งฟ้ำตั้งสำมปีก
วำ่ ก็ยังมกี ลิ่น....” ซง่ึ มที อ่ นฮคุ อันเฉยี บขำด
“อย่กู รุงเทพฯผิวพรรณมนั ซดี ผู้หญงิ ในเมืองคอนกรีตมีแตช่ วี ิตไม่มชี วี ำ....”
และอกี เพลงหน่งึ ข้ำพเจำ้ จ�ำชอ่ื เพลงไม่ไดแ้ ละข้ีเกยี จค้น แต่ขำ้ พเจ้ำร้องเพลงนี้ได้
เกือบจบท้ังเพลง
“อยู่ดีๆ น้องหำว่ำพี่โกหก นอ้ งเอย นำ้� ตำพี่ไหลตก เสียอกเสียใจพูดไมค่ อย
ออก...”
“อพิโธโ่ ออพิถังนอ้ งนำงบ้ำนนำ ขอรอ้ งนอ้ ยอยำ่ หเู บำเชือ่ เขำประจำน....”
และอกี เพลงหน่งึ คอื
“ฝนเดือนหก”
(“ย่ำงเขำ้ เดอื นหกฝนกต็ กพร�ำๆ กบมนั กร็ ้องงมึ ง�ำ ระงมไปท่ัวท้องนำ...”)
เพลงนขี้ ำ้ พเจำ้ ไมม่ ีสถิติทำงดำ้ นสงั คมศำสตร์อยใู่ นมือหรอก แตก่ แ็ นใ่ จไดด้ ้วย
สำมัญส�ำนึกว่ำมันได้ช�ำแรกแทรกซึมเข้ำไปในหัวใจของชนทุกชั้นและกลำยเป็นส่วน
หน่งึ ของควำมทรงจำ� ของคนทกุ คนทีไ่ ดเ้ คยได้ยนิ ไดฟ้ งั มัน
มนั คือหนึ่งในเพลงไทยที่ได้รบั ควำมนิยมสูงสุดตลอดกำล รุ่งเพชรกลำยเป็น
ศษิ ย์คนโปรดของไพบูลย์ บตุ รขัน เขำกลำยเป็นดำวจรสั แสงแรงกล้ำ ขำ้ พเจำ้ เดำว่ำ
ไพบูลย์ บุตรขนั มแี ผนกำรลับๆ ที่จะผลักดันรุ่งเพชรใหข้ ึ้นครองบลั ลงั ก์

45

“รำชำเพลงลูกท่งุ ” แทนที่สรุ พล สมบตั เิ จรญิ ซง่ึ เพิ่งงำยชนมไ์ ปก่อนหนำ้ นน้ั
ไมน่ ำน แตเ่ ร่ืองน่ำเศรำ้ ก็เกดิ ขึ้น ร่งุ เพชรทำ� ให้แคเ่ พียงเกอื บๆ-เกอื บๆ อย่ำงยิง่ -ท่จี ะ
ไดเ้ ปน็ “รำชำเพลงลูกทุ่ง”

รงุ่ เพชร แหลมสงิ ห์
มชี ื่อจรงิ ว่ำ พันตรวี สนั ต ์ จันทร์เปล่ง นกั รอ้ งเพลงลกู ทุ่งเป็นชำว
อำ� เภอบ้ำนแหลม จังหวดั เพชรบุรี
รุง่ เพชร เกษยี ณรำชกำรในยศพนั ตรี สงั กดั สดุ ท้ำยคอื กอง
บัญชำกำรทหำรสงู สดุ เมือ่ 1 ตลุ ำคม พ.ศ. 2545
แใชชีวิตอยำ่ งเรยี บง่ำย ยึดธรรมะในกำรครองชีพทบ่ี ้ำนในจังหวดั
นนทบุร ี และยงั รบั รอ้ งเพลงอยเู่ ปน็ ระยะ

46

สาเหตุของคำวามข่นุ เคำือง

กนั ระหว่ำงไพบลู ย์ บุตรขนั และรงุ่ เพชร แหลมสงิ ห์นัน้ ทุกวนั นี้ก็ยงั มดื มน รุ่ง
เพชรต้ังวงดนตรีและมีคิวกำรแสดงยำวเหยียดแทบจะตลอดท้ังปีนั่นท�ำให้เขำห่ำงเหิน
ไปจำกไพบูลย์ บุตรขันไปชว่ั ระยะเวลำหน่ึง
ในระหวำ่ งนน้ั ไพบูลยส์ ง่ ขำ่ ววำ่ ต้องกำรควำมชว่ ย เหลืออะไรสักอยำ่ งหนง่ึ ไม่
ถึงกบั จะเป็นเรื่องเหลือบำ่ กวำ่ แรงอันใด-อำจเปน็ เรื่องของผูอ้ ำ� นวย กำรสรำ้ ง
ภำพยนตร์ไทยคนหนึ่งเขำคิดจะท�ำภำพยนตร์เพลงสักเร่ืองหนึ่งและเขำต้องกำรให้รุ่ง
เพชรร้องเพลงของไพบูลยแ์ ละรว่ มแสดงในภำพยนตรเ์ พลงเรือ่ งน้นั ของเขำ
ไพบูลย์รับปำกกับผู้อ�ำนวยกำรสร้ำงคนนั้นว่ำจะช่วยทำบทำมรุ่งเพชรให ้
ไพบูลย์เปน็ “คร”ู เป็นผ้ใู หญ ่ เคยมบี ญุ คุณกบั ร่งุ เพชรมำก่อน มนั ไมน่ ่ำจะยำก แต่
พอไพบลู ยก์ ับรงุ่ เพชรไดเ้ จรจำกนั เขำ้ จริง
รงุ่ เพชรก็กลบั ปฏิเสธ ไพบลู ยก์ เ็ ลยข่นุ เคือง เขำไมพ่ ดู จำวำ่ กระไร ไพบูลย ์
บุตรขนั ผ้นู ้นี อกจำกจะเปน็ ศิลปินผู้ยิง่ ใหญ่แล้ว เขำกย็ ังเปน็ กลั ยำณชนอกี ดว้ ย เขำเป็น
ผู้เพียบพร้อมไปด้วยสมบตั ิผูด้ ีโดยแท้จรงิ -สำเหตุแห่งควำมขนุ่ เคอื งน้ีขำ้ พเจำ้ เดำเอำ
และมันอำจจะผิดท้ังเพ-นำยทุนวงดนตรีของรุ่งเพชรบอกรุ่งเพชรว่ำเขำไม่
เหน็ ดว้ ยถ้ำหำกว่ำรุง่ เพชรจะไปแสดงภำพยนตร์ เขำอำจยกเหตุผลว่ำแฟนเพลงของรงุ่
เพชรนั้นให้เขำฟังรุ่งเพชรร้องเพลงก็พอหรือเห็นรุ่งเพชรมือถือไมค์มีไฟส่องหน้ำบน
เวทีคอนเสร์ติ เท่ำน้ันกพ็ อ
ถ้ำแฟนเพลงเขำได้เห็นรุ่งเพชรตวั เป็นๆ เข้ำในจอภำพยนตร ์ แฟนเพลงเขำ
อำจจะไม่ปลำบปลมื้ กเ็ ป็นได้

47

รุ่งเพชรได้ฟังอย่ำงนกี้ ็หลงเชื่อคำรมของเขำ ไพบูลย์ บตุ รขันขนุ่ เคือง แลว้ ก็
ใช้ประโยชน์จำกควำมขุ่นเคอื งนี้เสียเลย เขำแต่เพลง
“อยำกร้นู ักเออหวั ใจของเธอท�ำด้วยสิง่ ใดจึงออ่ นเหมอื นขผ้ี งึ้ ลนไฟ โอนเอน
ออ่ นไหวเหมอื นไผต่ อ้ งลม....” เพลงนี้พวกเซยี นเพลงลูกทงุ้ เขำวเิ ครำะห์กนั วำ่ ไพบูลย์
แต่งตดั พ้อรุ่งเพชร
เปน็ เพลงดังเพลงหนึง่ เสยี ดว้ ขำ้ พเจ้ำก็มเี รื่องขุ่นเคืองใครต่อใครอย่หู ลำย
พระหน่อหลำยครั้งหลำยหนในชวี ติ แต่ท�ำไมหนอขำ้ พเจ้ำจงึ แต่งเพลงไม่ไดซ้ ักกะ
เพลง ย่อหน้ำนี้ท้งั ยอ่ หนำ้ ข้ำพำเจ้ำเขียนเดำสุ่มอยำ่ งคำดคะเน
ชำวบ้ำนแหลมบำงตะบูนคนใดอยำกรู้ให้ชัดก็ชวนรุ่งเพชรกลับมำเย่ียมบ้ำน
เกิดของเขำเสยี บำ้ งซีและจัดกำรไต่ถำมเสยี ให้มนั กระจ่ำงแจง้ ลกู หลำนจะรู้ชัดถึง
ควำมเปน็ ไปต่ำงๆ นำนำของยอดนักรอ้ งลูกทงุ่ จำกดงต้นจำกแหง่ บำงตะบูนคนน้ซี ึ่ง
เปน็ คนส�ำคญั ระดับตอ้ งมีอนุสำวรยี ์

48

แตเ่ หตกุ ารณ์

ในย่อหน้ำนี้เป็นเหตุกำรณ์ในประวัติศำสตร์เพลงลูกทุ่งที่แฟนเพลงลูกทุ่งคุ้น
เคยกันดีและมักจะนำ� มำเล่ำสู่กนั อยเู่ สมอ คนทเ่ี ล่ำไดอ้ ย่ำงน่ำเช่อื ถือทส่ี ดุ ก็คือคณุ
วฒั น์ วรรลยำงกรู ผเู้ ขียน “ไพบลู ย์ บตุ รขนั คีตกวลี กู ท่งุ ” คุณวฒั นค์ นนี้เปน็ เพอ่ื น
อำวโุ สของขำ้ พเจ้ำ
คุณวฒั นเ์ ลำ่ วำ่ หลงั จำกเหตุกำรณ์แหง่ ควำมบำดหมำงอนั มืดมนลกึ ลบั นัน้
น้ันผ่ำนไปสักชวั่ เวลำหน่ึง รุง่ เพชรร้สู ึกผดิ เขำกจ็ ึงก็เดนิ ทำงไปกรำบขอขมำไพบลู ย์ที่
บำ้ นของครูไพบูลยร์ ิมฝ่งั แมน่ �ำ้ เจ้ำพระยำ
ผเู้ ป็นศิษย์กข็ อโทษขอโพยซ่ือๆ ผเู้ ปน็ ครกู ไ็ มไ่ ดผ้ ูกอำฆำต ยอมรบั คำ� ขอขมำ
แต่โดยด ี ควำมกนิ แหนงแคลงใจกนั ถึงครำวมลำย ครูกอ็ ำรมณ์ดี รงุ่ เพชรก็อำมรณด์ ี
รุ่งเพชรเขำกพ็ ดู ขึน้ มำว่ำครูกบั เขำควรจะออกไปพำยเรอื เล่นกัน
รงุ่ เพชรอำสำเป็นคนพำย แลว้ ครูและศษิ ยค์ นู่ เ้ี ขำก็จดั แจงน�ำพำเรือมำดล�ำ
นอ้ ยใหม้ นั คลอ้ ยเคลอ่ื นไปในสำครในระหว่ำงนั้นเองผู้เป็นครกู เ็ อ่ยเอือ้ ยเพลงๆ หน่งึ
ข้นึ มำเบำๆ ท�ำนองเพลงน้ันสดสวยแปลกประหลำด
เน้อื ร้องมีใจควำมว่ำ
“พี่พบเนื้อนวลเมือ่ นัง่ เรอื ดว่ นสำยบ้ำนแพน เรำต่ำงรกั กันเหมอื นแฟนเม่อื
เรอื ดว่ นแล่นถึงเมอื งปทุม เรือดว่ นว่งิ ไปเหมอื นหัวใจพตี่ กหลุม....”
น่ีคือเพลง “แม่ค้ำตำคม” รงุ่ เพลงลว่ งรูไ้ ดใ้ นทนั ทโี ดยสญั ชำตญำณของนัก
ร้องอำชีพว่ำเพลงๆ นี้จะทำ� ให้ย่งิ โดง่ ดังระเบิดระเบ้อ
เขำพูดว่ำ “เพลงน้ขี อให้ผมนะครบั ครู”
ไพบลู ย์ตอบว่ำ “เห็นจะไม่ได้ เพลงนศี้ รคีร ี (ศรีประจวบ) เขำจองไวแ้ ลว้ ” คำ�
พดู นข้ี องไพบลู ย ์ บตุ รขันทำ� เอำรุง่ เพชรตกใจจนถงึ แกทำ� พำยหลุดมอื

49

โชคเครำะหม์ นั เล่นตลกกบั รงุ่ เพชร แหลมสงิ ห์อย่ำงเจบ็ แสบ ร่งุ เพชรพลำด
เพลงเอกที่ไพบลู ย ์ บุตรขนั ได้แต่งขนึ้ มำในชว่ งที่เขำก�ำลงั “พ้คี ”
ในชว่ งนน้ั ท้ังหมด เขำพลำดท้ัง
“รักของพ ี่ มันไม่มคี วำมหมำยดอก รกั ของชำยบ้ำนนอก สูงแคด่ อก ผกั ตบ
ชวำ...”
ทงั้ “ปนี ีฝ้ นตกทง้ั ปีไม่สร่ำง กบเขยี ดรอ้ งครำง เคล้ำเสยี งอึ่งอำ่ งระงม....”
ทง้ั “เนอ้ื คกู่ นั แลว้ กค็ งไมแ่ คลว้ กันไปได้ ถำ้ เคยท�ำบุญร่วมไว้ถึงจะอย่ำงไรก็
ต้องเจอะกนั ....”
ทง้ั “น้ำ� ท่วมนอ้ งวำ่ ดกี วำ่ ฝนแล้ง พ่วี ำ่ นำ้� แห้งให้ฝนแล้งเสียยังดีกวำ่ ....”
ท้ัง “ขี้เหร่เพยี งไหนขเ้ี หร่เพยี งไหนฉนั กจ็ ะรัก....” ทงั้ ฯลฯ
มันเหมือนนักเลงหวยอย่ำงได้เจอหวยชุดเลขเด็ดเข้ำให้น่ะแหละแต่ก็กลับ
ชะล่ำใจไม่รบี ซอื้ ปลอ่ ยให้คนอน่ื เขำฉกไปเสีย และมนั ก็เป็นหวยชดุ รำงวลั ท่ีหนึ่งสัก
สิบใบเสียด้วย หวยชุดน้ีมันไปออกท่ีศรคีร ี ศรีประจวบอย่ำงทเ่ี รำทำ่ นท้ังหลำยคงจะ
ทรำบกันดอี ยู่แลว้ น่ันเอง

50


Click to View FlipBook Version