The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารเผยแพร่ของม.ราชภัฏเพชรบุรี ในงานมหกรรมเกลือทะเลเพชรสมุทรคีรี "หอมกลิ่นดอกเกลือ" วันที่ 15-17 พ.ย. 2562 ติดตามข่าวสารได้จาก https://www.thaiseasalt.info/news-2019111101

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chanitnart.wic, 2019-11-12 12:05:07

หอมกลิ่นดอกเกลือ

เอกสารเผยแพร่ของม.ราชภัฏเพชรบุรี ในงานมหกรรมเกลือทะเลเพชรสมุทรคีรี "หอมกลิ่นดอกเกลือ" วันที่ 15-17 พ.ย. 2562 ติดตามข่าวสารได้จาก https://www.thaiseasalt.info/news-2019111101

Keywords: เกลือทะเล,ดอกเกลือ,บ้านแหลม

บอ่ เกลอื ภูเขำทีจ่ งั หวดั น่ำนและบอ่ เกลอื ที่จงั หวัดพษิ ณโุ ลก
ทยี่ งั ใช้กำรน�ำน้ำ� เกลอื มำต้มเพ่ือให้ไดผ้ ลึกเกลือ

กำรทำ� นำเกลือในเมอื งมมุ ไบ ประเทศอินเดีย
ทีม่ ำ: Bharat Honmane1, Tejaswini Deshpande1, Abhishek Dhand,
Rhea Bhansali and Pushpito K. Ghosh, 2018

101

ประเภทของเกลอื

102

การผลติ เกลอื ของประเทศไทย แบง่ ออกได้เป็น 2 ประเภท คอื
เกลอื สมทุ ร,เกลือทะเล
เกลือหนิ หรือเกลอื สนิ เธำว ์ โดยแต่ละประเภทมีที่มำแตกต่ำงกัน ดังน้ี
1) เกลอื สมทุ รหรอื เกลือทะเล (Sea Salt) เป็นเกลอื ทผี่ ลิตข้นึ โดยกำรนำ� น้�ำ
ทะเลขึน้ มำตำกแดดให้นำ�้ ระเหยไปเหลอื แตผ่ ลึกเกลือตกอย ู่ เกลอื ประเภทนีม้ ีกำร
ผลิตและมีกำรซื้อขำยเป็นสินค้ำกำรใช้มำตั้งแต่สมัยโบรำณและถือเป็นอำชีพเก่ำแก่
อำชพี หนงึ่ ของโลกและของคนไทย โดยไดม้ กี ำรกำ� หนดเป็นสนิ คำ้ เกษตรกรรมขั้นตน้
ตำมพระรำชบัญญตั ธิ นำคำรเพอื่ กำรเกษตรและสหกรณ์กำรเกษตร พ.ศ. 2509 ตอ่ มำ
มมี ติ คณะรัฐมนตรเี มอ่ื วนั ท ่ี 1 มีนำคม พ.ศ. 2554 ใหก้ ำรท�ำนำเกลือทะเลเป็นส่วน
หนง่ึ ของเกษตรกรรม
103 2. เกลอื หินหรือเกลอื สินเธำว์ (Rock Salt)เปน็ เกลอื ทท่ี ำ� มำจำกดินที่น้ำ� ชะ
ดนิ ละลำยแลว้ แหง้ ปรำกฏเปน็ ครำบเกลอื ติดอยู่บนผิวดนิ เรียกว่ำ “สำ่ ดิน” เม่ือนำ� สำ่
ดนิ มำละลำยน�ำ้ แลว้ ต้มจะได้เกลอื สนิ เธำว ์ ต่อมำในปี พ.ศ. 2512 ไดม้ กี ำรค้นพบ
เกลือหินที่อยู่ไต้ดินในเขตภำคตะวันออกเฉียงเหนือท�ำให้รูปแบบกำรผลิตเกลือ
สินเธำวเ์ ปลี่ยนแปลงไปเปน็ กำรใชเ้ กลือหินแทน โดยใชว้ ธิ ฉี ีดนำ�้ ลงไปละลำยเกลือใน
บ่อเกลือ หรือใชว้ ิธสี ูบนำ�้ เกลอื ใตด้ นิ ข้ึนตำกแดด หรือโดยกำรตม้ เพ่ือใหไ้ ด้ตะกอน
เกลอื และหำกใช้เคร่อื งจักรท่ที ันสมัยสำมำรถผลติ ได้ตลอดปีปัจจุบัน เกลือหินไดถ้ กู
น�ำมำใช้ประโยชน์อย่ำงแพร่หลำยและเป็นคู่แข่งกับเกลือทะเลเพรำะสำมำรถใช้
ทดแทนกันได้ แต่เกลือหินมีข้อแตกตำ่ งจำกเกลือทะเลทไ่ี มม่ ธี ำตุไอโอดนี (ป้องกันโรค
คอหอยพอกและโรคเออ)และได้ถูกก�ำหนดเป็นสินค้ำอุตสำหกรรมตำมพระรำช
บัญญัตแิ ร ่ พ.ศ. 2510

แหลง ผลิตเกลอื ทะเลที่สําคญั ของประเทศไทย 104

แบง่ ออกเป็น 2 กลุม่ ดงั นี้
1. กลุ่มที่มีกำรผลิตมำก ประมำณรอ้ ยละ 98 ของผลผลิตทง้ั ประเทศ อยทู่ ่ ี 3
จังหวดั ภำคกลำง คือ จังหวัดเพชรบุรี สมทุ รสำคร และสมทุ รสงครำม
2.กลมุ่ ทมี่ ีกำรผลติ เลก็ นอ้ ย ประมำณรอ้ ยละ 2 ของผลผลติ ทั้งประเทศ อยทู่ ่ี
4 จังหวดั ในภำคกลำงและภำคใต้ คอื จังหวัดชลบุร ี จนั ทบุรี ฉะเชิงเทรำ และปตั ตำน ี
ประเทศไทยมีพื้นทท่ี �ำนำเกลือท้ังหมดประมำณ 81,485 ไร ่ โดยจงั หวดั เพชรบุรมี พี ืน้ ที่
มำกท่ีสดุ รอ้ ยละ 47.0 รองลงมำ ไดแ้ ก ่ จังหวดั สมทุ รสำคร รอ้ ยละ 43.1 จังหวัด
สมทุ รสงครำม ร้อยละ 7.7 จังหวัดชลบุร ี รอ้ ยละ 1.0 จังหวัดจนั ทบรุ ี รอ้ ยละ 0.6
จังหวดั ปัตตำน ี รอ้ ยละ 0.4 และจงั หวัดฉะเชงิ เทรำ ร้อยละ 0.2 ตำมลำ� ดับ2 (ข้อมูลป ี
พ.ศ. 2553)

ลกั ษณะการผลิตเกลอื ทะเล

1. เมด็ เกลอื ทะเลที่มีคณุ ภำพและปริมำณมำกหรอื น้อยจะข้นึ อยกู่ ับปจั จัย
ทำงธรรมชำต ิ คอื ธำตทุ ้งั 4 เปน็ สำ� คญั ได้แก่ ดิน น้ำ� ลม ไฟ เมื่อธำตุทง้ั 4 ไมส่ มดุล
ท�ำให้เปน็ อปุ สรรคในกำรผลติ เกลือทะเล
- พ้ืนดนิ นำเกลอื พืน้ ดินทีเ่ คยท�ำนำเกลอื มำแล้วยอ่ มมกี ำรปรับสภำพโดย
ธรรมชำติ สำมำรถให้ผลผลิตเกลอื ทะเลท่มี ีคุณภำพดีกว่ำพนื้ ทนี่ ำใหม่ๆ เกลอื ทะเลจะ
ไดแ้ รธ่ ำตุท่สี ะสมอยใู่ นดิน และดินจะเก็บสะสมควำมร้อนทำ� ใหเ้ กลอื ทะเลตกผลกึ เรว็
- น�ำ้ ทะเล น�้ำทะเลท่ีดีจะตอ้ งไม่มสี ำรปนเปือ้ นหรือเศษผงตะกอนอยใู่ นน้�ำ
ดังน้ันชำวนำเกลือทะเลจึงต้องหม่ันรักษำสภำพคลองน�้ำเค็มท่ีอยู่ใกล้พ้ืนท่ีของตนเอง
ใหส้ ะอำด เพรำะจะส่งผลใหผ้ ลึกเกลือที่แชอ่ ยู่ใต้นำ้� ในอันนำ มีคุณภำพดีทงั้ รสชำติ
และแร่ธำตุทำงอำหำร
- แรงลม ควำมแรงของลมทะเลท่ีพัดเข้ำหำฝ่งั ตลอดฤดกู ำรทำ� นำเกลือทะเล
จะช่วยให้ผิวน�ำ้ ท่ ี แช่ขังในอนั นำเป็นระลอกคล่ืน เกิดระบบกำรเคล่ือนทข่ี องน้ำ�
เสมือนกวนน�ำ้ ให้มคี วำมเข้มขน้ เทำ่ ๆกัน ท้งั อนั นำซึ่งเป็นกำรช่วยเร่งควำมเข้มข้นของ
นำ้� ใหเ้ กดิ กำรตกผลึกเรว็ ข้ึนและสมำ�่ เสมอ

- แสงแดด ควำมเข้มของแสงแดดที่จัดสม่ำ� เสมอ จะชว่ ยใหก้ ำรระเหยของ
ผวิ น�ำ้ ในอันนำ และน้�ำในอนั นำมีควำมร้อนในระดับทพ่ี อเหมำะกบั ควำมเค็มจดั ท�ำให้
เกดิ กำรตกผลกึ เกลอื ไดป้ รมิ ำณมำก ดังน้นั เกลอื ทะเลจึงไดร้ ับกำรยอมรบั วำ่ เปน็ เกลอื
ธรรมชำตทิ ่ดี ีทีส่ ดุ มคี ณุ ภำพ และอดุ มไปดว้ ยแร่ธำตทุ ีไ่ ด้จำกธำตุทงั้ 4 คอื ดนิ (ดินนำ)
น้ำ� (นำ้� ทะเล) ลม (ลมทะเล) ไฟ (แสงแดด) อยำ่ งครบถว้ น
2. กำรทำ� นำเกลอื ทะเล ต้องใช้พน้ื ที่อย่ำงนอ้ ย 30 ไร ่ เรยี กวำ่ นำ 1 คู ่ แบ่ง
ออกเปน็ 2 แถบแตล่ ะแถบจะแบง่ พน้ื ทีอ่ อกเป็นส่วน ๆ ประมำณ 5 ส่วน ดังน้ ี วังขงั นำ้�
นำตำก นำรองเชื้อ นำเชอ้ื และนำปลง โดยทำ� คันดินกั้นเป็นกระทงแบบนำขำ้ ว พน้ื นำ
ลกึ ประมำณ 50 เซนตเิ มตร ประมำณ 20 กระทง ต่อพนื้ ท่ี 30 ไร่ เพ่ือใชต้ ำกน�ำ้ ทะเล
ที่มีควำมเค็มในระดับต่ำง ๆ กนั หำกมีพืน้ ท่ใี นกำรตำกน�ำ้ น้อย จะมปี รมิ ำณนำ�้ เคม็ ที่
ระดับควำมเคม็ 23-25 ดกี ร ี หรอื ท่ชี ำวนำเกลือเรยี กว่ำ นำ�้ แก่ เม่ือพืน้ ทไี่ ม่พอตอ่ กำร
ตกผลกึ เกลอื ทะเลในแต่ละครั้ง เนอ่ื งจำกเกษตรกรท่มี ีท่ดี ินของตนเองเม่อื แบ่งให้ลูก
หลำน จึงเหลอื พ้ืนทไี่ มเ่ พียงพอในกำรทำ� นำเกลอื ทะเล และลกู หลำนไม่สืบทอดอำชีพ

105

กำรท�ำนำเกลอื ทะเลท่มีำ: http://www.azkhan.de/MyWebalbums_PhotosPakistan_KhewraSaltMines.htm

การทาํ นาเกลือทะเลเปนอาชีพเกษตรกรรม

มติ ครม. วันท ่ี 1 มีนำคม 2554 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กำรทำ� นำเกลอื ใน
สว่ นทเี่ ป็นเกลือสมทุ รเปน็ “เกษตรกรรม” และผทู้ �ำนำเกลือเปน็ “เกษตรกร” ตำมข้อ
เสนอของคณะกรรมกำรนโยบำยและแผนพัฒนำกำรเกษตรและสหกรณ์ ตำมที่
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐำนะประธำนกรรมกำรนโยบำยและ
แผนพฒั นำกำรเกษตรและสหกรณ์เสนอ
สำระสำ� คญั ของเรอ่ื ง รฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงเกษตรและสหกรณใ์ นฐำนะประธำน
กรรมกำรนโยบำยและแผนพัฒนำกำรเกษตรและสหกรณ์รำยงำนวำ่
1. คณะกรรมกำรนโยบำยและแผนพฒั นำกำรเกษตรและสหกรณ์ในครำว
ประชุมครงั้ ที ่ 2/2553 เม่ือวนั ที ่ 24 สิงหำคม 2553 มมี ตริ ับทรำบผลกำรรำยงำนกำร
ประชุมหำรอื รว่ มกันระหว่ำงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.)

กับหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องว่ำหลักสำกลว่ำด้วยกำรแบ่งประเภทอุตสำหกรรมตำม 106
กิจกรรมทำงเศรษฐกจิ และกำรแบง่ ประเภทอุตสำหกรรมของประเทศไทย ไดก้ �ำหนด
ใหก้ ำรขดุ เกลอื บดเกลอื รอ่ นเกลือ และกำรผลติ เกลอื โดยใชก้ ำรระเหยของน�้ำทะเล
ทะเลสำบน้�ำเค็ม หรือน�ำ้ เค็มจำกแหลง่ ธรรมชำติอื่นๆ โดยใช้แสงอำทติ ย์เปน็ กจิ กรรม
ประเภทกำรท�ำเหมืองหินและเหมืองแร่ซ่ึงหลังจำกกำรน�ำเสนอคณะกรรมกำร
นโยบำยและแผนพัฒนำกำรเกษตรและสหกรณ์รบั ทรำบแลว้ กษ. ได้สง่ั กำรใหห้ น่วย
งำนท่ีเก่ียวขอ้ งในสังกัดยดึ เป็นหลกั ปฏบิ ตั วิ ่ำ กำรใหค้ วำมชว่ ยเหลอื แกผ่ ทู้ ำ� นำเกลือ
กษ. สำมำรถดำ� เนินกำรได้ตำมที่กฎหมำยกำ� หนด
2. กรมกำรคำ้ ภำยใน ในฐำนะฝ่ำยเลขำนกุ ำรคณะกรรมกำรนโยบำยและ
มำตรกำรช่วยเหลอื เกษตรกร (คชก.) มหี นังสอื แจ้งไปยังจังหวดั ทเ่ี กี่ยวขอ้ งว่ำ กษ. ได้
กำ� หนดใหก้ ำรทำ� นำเกลอื เป็นกิจกรรมประเภทกำรทำ� เหมืองหินและเหมืองแร ่ โดย
อ้ำงมติคณะกรรมกำรนโยบำยและแผนพัฒนำกำรเกษตรและสหกรณ์ในครำวประชุม
ครงั้ ที่ 2/2553 เม่อื วันที ่ 24 สิงหำคม 2553 และแจง้ ว่ำ คชก. ไม่สำมำรถช่วยเหลือ
เกษตรกรผูท้ �ำนำเกลือไดเ้ ชน่ ทผี่ ำ่ นมำ ซึ่งตัวแทนเกษตรกรผ้ทู �ำนำเกลือได้มกี ำรร้อง
เรียนวำ่ ไดร้ บั ควำมเดือดรอ้ นจำกกำรท่ีได้รบั แจ้งเร่ืองดังกลำ่ วข้ำงต้น
3. คณะกรรมกำรนโยบำยและแผนพัฒนำกำรเกษตรและสหกรณ ์ ในครำว
ประชมุ ครง้ั ที่ 3/2553 เมอ่ื วนั ท่ี 23 ธันวำคม 2553 ได้พจิ ำรณำเพ่อื หำแนวทำงแก้ไข
ปญั หำขอ้ รอ้ งเรยี นและเหน็ สมควรให้ กำรเกษตรกรรมรวมถงึ กำรท�ำนำเกลือสมทุ ร
โดยมอบหมำยให้ฝ่ำยเลขำนุกำรคณะกรรมกำรนโยบำยและแผนพัฒนำกำรเกษตร
และสหกรณ ์ รับขอ้ คิดเห็นของท่ีประชมุ ไปดำ� เนินกำรน�ำเสนอคณะรัฐมนตรี เรื่อง
กำรเกษตรกรรมใหร้ วมถึงกำรทำ� นำเกลือสมทุ รดว้ ย
4. เนอ่ื งจำกขอ้ เท็จจริงที่มกี ฎหมำยหลำยฉบับไดบ้ ญั ญัติให ้ “เกษตรกรรม”
หรือ “เกษตรกร” ครอบคลุมถึงกำรท�ำนำเกลอื ขณะทมี่ ีกฎหมำยทไ่ี ดใ้ ห้อำ� นำจ
รัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัติสำมำรถออกประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
กำ� หนดเพ่มิ เตมิ ให้ “เกษตรกรรม” หรอื “เกษตรกร” ครอบคลุมถงึ กำรท�ำนำเกลอื
และกฎหมำยที่ไม่ให้อ�ำนำจรัฐมนตรีในกำรออกประกำศก�ำหนดเพ่ิมเติมก็มิได้มี
บญั ญัตหิ ำ้ ม

หรือยกเว้นมิใหก้ �ำหนดใหก้ ำรทำ� นำเกลอื เป็นเกษตรกรรม ดงั นั้น เพื่อให้
หนว่ ยงำนตำ่ งๆ สำมำรถถือปฏบิ ัติได้ในแนวทำงเดียวกนั คณะกรรมกำรนโยบำยและ
แผนพฒั นำกำรเกษตรและสหกรณ์ ในครำวประชุมคร้งั ที่ 3/2553 เมือ่ วันท่ ี 23
ธนั วำคม 2553 มติคณะรัฐมนตรีอยำ่ งเป็นทำงกำรของสำ� นกั เลขำธกิ ำรคณะ
รฐั มนตร(ี www.cabinet.thaigov.go.th ) จงึ มีมตใิ ห้ควำมเห็นชอบในหลกั กำรให้กำร
ทำ� นำเกลอื ในส่วนท่เี ป็นเกลือสมุทรเป็น “เกษตรกรรม” และผู้ท�ำ นำเกลอื เป็น
“เกษตรกร” และให้นำ� เสนอคณะรฐั มนตรีเพอ่ื พจิ ำรณำให้ควำมเห็นชอบตอ่ ไป(w-
ww.thaigov.go.th)
สรุปขำ่ วกำรประชุมคณะรฐั มนตรี 18 กันยำยน 2555 ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับเกลอื
ทะเล สรุปสำระสำ� คัญได้ดงั น้ี

เรอ่ื งมาตรการบังคบั ให้เกลอื บริโภค (โซเดียมคลอไรด) เสริมไอโอดนี เปน
สวนผสมในอาหารสตั ว
คณะรัฐมนตรมี มี ติเห็นชอบมำตรกำรบงั คับใหเ้ กลอื บริโภค (โซเดียมคลอไรด)์
107 เสรมิ ไอโอดีนเปน็ ส่วนผสมในอำหำรสัตว ์ ตำมที่กระทรวงสำธำรณสขุ (สธ.) เสนอ ดงั นี้
1. กำ� หนดใหเ้ กลือบรโิ ภคท้งั คนและสตั ว์ทุกชนดิ เปน็ เกลือเสรมิ ไอโอดนี ตำม
นโยบำยเกลอื เสริมไอโอดนี ถว้ นหนำ้ (Universal Salt Iodization; USI)
2. มอบหมำยใหห้ นว่ ยงำนทเ่ี กย่ี วขอ้ ง คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รบั
ไปด�ำเนินกำรออกกฎหมำยควบคุมเกลอื ส�ำหรับสัตวใ์ ห้เปน็ เกลอื เสรมิ ไอโอดีนทัง้ หมด

มาตรฐานที่เกี่ยวขอ้ งกบั เกลอื ทะเล

ปัจจบุ นั เกลือทะเลถกู คู่แข่งจำกเกลือสินเธำวแ์ ย่งตลำด เพรำะสำมำรถใช้
ทดแทนกันได้แตเ่ กลอื สินเธำวม์ ีขอ้ แตกตำ่ งจำกเกลือทะเลทไ่ี มม่ ีธำตุไอโอดีน (ปอ้ งกนั
โรคคอหอยพอกและโรคเออ) และไดก้ ำ� หนดเปน็ สินค้ำอุตสำหกรรมตำมพระรำช
บญั ญัติแร่ พ.ศ. 2510 (ศูนย์ควำมรวู้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี สำ� นักปลัดกระทรวง
วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี, 2552) ประเทศไทยใชเ้ กณฑ์มำตรฐำนและประกำศเกยี่ ว
กับกำรควบคมุ คุณภำพของเกลอื ดังน้ี

1) มำตรฐำนผลติ ภัณฑช์ ุมชน เกลอื สมุทร มผช.11230/2549 มำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์ชุมชนนีค้ รอบคลุมเกลือสมทุ รท่ีใชส้ ำ� หรบั บริโภค บรรจุในภำชนะบรรจ ุ
ครอบคลุมทั้งเกลอื และผลิตภณั ฑ์แปรรูปจำกเกลือทะเล ม ี 3 ชนิด ท้ังเกลอื ผง เกลือ
ป่นและเกลือเม็ด เกลือสมุทร หมำยถึง ผลิตภัณฑท์ ไี่ ด้จำกกำรขังน�ำ้ ทะเลในนำพกั เพ่ือ
ใหม้ โี คลนตมตกตะกอนและมคี วำมเค็มเพมิ่ ขนึ้ จำกนั้นระบำยน้�ำเข้ำสูน่ ำอีกแห่งเพื่อ
ใหน้ �ำ้ ระเหยไปโดยกระแสลมและควำมร้อนจำกแสงอำทิตยจ์ นเกลือตกผลึก ทิ้งไว้ให้
แหง้ แลว้ เตมิ ไอโอดีนสังเครำะหต์ อ้ งไม่นอ้ ยกว่ำ 30 มลิ ลิกรมั ตอ่ 1 กโิ ลกรมั ควำมช้นื
เกลือชนิดผงต้องไม่เกนิ ร้อยละ 4 โดยน�ำ้ หนักชนิดปน่ ต้องไมเ่ กินรอ้ ยละ 6 โดยนำ้� หนัก
ชนิดเมด็ ตอ้ งไมเ่ กินรอ้ ยละ 7 โดยน้�ำหนักโซเดียมคลอไรดต์ อ้ งไมน่ อ้ ยกวำ่ รอ้ ยละ 80
โดยนำ้� หนักสำรทีไ่ มล่ ะลำยนำ้� ต้องไม่เกินรอ้ ยละ 0.5 โดยน้ำ� หนกั และมกี ำรก�ำหนดให้
สำรปนเปือ้ น สำรหนมู ีค่ำไมเ่ กิน 0.5 มก./กก. ทองแดง ไมเ่ กนิ 2 มก./กก. ตะก่ัวไม่
เกิน 2 มก.มก./กก. แคดเมียมไม่เกนิ 0.5 มก./กก. และปรอท 0.1 มก./กก.
2) มำตรฐำนผลติ ภัณฑ์อตุ สำหกรรม เกลือบริโภค มอก.2085-2544
3) ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เร่อื ง เกลือบริโภค พ.ศ. 2554ในกำรเติม
สำรไอโอดีนสังเครำะห์ในเกลือบริโภคเพื่อใช้เกลือเป็นพำหะน�ำสำรไอโอดีนสู่ร่ำงกำย
มนุษยใ์ นกำรป้องกันโรคคอหอยพอก
4) มำตรฐำน Codex Standard for food grade salt CXS150-1985,
Rev.1-1997 Amend.1999, Aminde. 2-2001, Amend.3-2006 ในกำรก�ำหนด
คุณภำพของเกลอื ทำงกำยภำพและเคมี
ทง้ั น้ี ประเทศไทยยงั ไมม่ ีกำรจัดทำ� มำตรฐำนสำ� หรบั เกลอื ทะเลโดยเฉพำะ
และคุณลักษณะของเกลือที่ก�ำหนดไว้ในมำตรฐำนต่ำงๆก็ใช้คุณลักษณะของเกลือ
สินเธำวห์ รอื เกลอื อุตสำหกรรมมำเปน็ เกณฑก์ �ำหนด ทำ� ใหเ้ กลอื ทะเลซึ่งผลติ จำก
กรรมวิธีที่แตกต่ำงกันและมคี ุณลักษณะต่ำงจำกเกลือชนดิ อน่ื ๆ กลำยเปน็ เกลอื ทม่ี ี
คณุ ภำพต่ำ� เมือ่ พจิ ำรณำตำมเกณฑ์ในมำตรฐำนและประกำศต่ำงๆ ทีม่ ีอยู่

108

มำตรฐำนผลติ ภณั ฑ์อตุ สำหกรรม เกลือบรโิ ภค 2085-2544 โดยสำ� นัก
มำตรฐำนผลติ ภัณฑ์อตุ สำหกรรม ประกำศในรำชกจิ จำนุเบกษำ ฉบบั ประกำศท่ัวไป
เล่ม 119 ตอนพเิ ศษ 983วนั ที ่ 10 ตลุ ำคม 2545 ขอบขำ่ ยครอบคลมุ เกลือ 3 ชนิด
ไดแ้ ก ่ เกลอื สมุทร เกลอื สนิ เธำว์และเกลือหนิ ซงึ่ มคี ุณสมบตั ิ ดงั น้เี กลอื เม็ด ควำมช้นื
ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 7 สำรท่ีไม่ละลำยน�้ำรอ้ ยละ ไม่เกนิ 0.5 โซเดียมคลอไรด์ ร้อยละ ไม่
น้อยกว่ำ 93 สำรประกอบไอโอดีน (คดิ เปน็ ไอโอดนี ) 30 มลิ ลิกรัมต่อกิโลกรัม ก�ำหนด
ให้สำรปนเปอื้ น สำรหนูมีค่ำไม่เกิน 0.5 มก./กก. ทองแดง ไมเ่ กิน 2 มก./กก. ตะกัว่ ไม่
เกนิ 2 มก.มก./กก. แคดเมยี มไม่เกนิ 0.5 มก./กก. และปรอท 0.1 มก./กก.
กรณที ่ีมกี ำรบรรจ ุ ภำชนะบรรจุเกลอื บริโภคทุกหนว่ ยอยำ่ งนอ้ ยตอ้ งมเี ลข
อกั ษร หรอื เครื่องหมำยแจง้ รำยละเอียด ดังนี ้ ชอ่ื ผลติ ภณั ฑ์ ชนิดนำ้� หนกั สุทธิ ชนดิ
และปริมำณวตั ถุเจือปนในอำหำร เดอื น ป ี ท่ีผลติ ชื่อผู้ผลติ หรือโรงงำนทีผ่ ลิต ผ้บู รรจุ
หรอื ผู้จ�ำหน่ำยหรือเครอื่ งหมำยกำรค้ำท่จี ดทะเบยี น
ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรือ่ ง เกลือบรโิ ภค ในรำชกจิ จำนเุ บกษำ เลม่
128 ตอนพเิ ศษ 41 วนั ท ี่ 7 เมษำยน 2554 ให้ควำมหมำยเกลอื บรโิ ภค หมำยถงึ
เกลือแกงทใ่ี ช้เปน็ อำหำรหรอื ใช้เปน็ สว่ นผสมหรือเปน็ สว่ นประกอบของอำหำร โดย
เกลอื บรโิ ภคจะต้องมีปริมำณไอโอดนี ไมน่ ้อยกวำ่ 20 มิลลิกรมั และไม่เกิน 40 มลิ ลิกรมั
ต่อเกลือบริโภค 1 กิโลกรัมกำรแสดงฉลำกใหแ้ สดงชอ่ื และท่ีต้ังส�ำนักงำนใหญ่ของผู้
ผลติ หรือของผแู้ บง่ บรรจุได้ น้ำ� หนกั สุทธิระบบเมตรกิ มีขอ้ ควำมว่ำ “ควรเกบ็ ในทรี่ ่ม
และแห้ง” เกลอื ท่ีไม่เสริมไอโอดีนใหม้ ีข้อควำมวำ่ “เกลือบริโภคไม่เสรมิ ไอโอดนี ”
หรอื “สำ� หรับผทู้ ี่ตอ้ งจำ� กดั กำรบริโภคไอโอดนี ” จำกประกำศฉบบั นีส้ ง่ ผลกระทบต่อ
สินค้ำเกลือทะเลเนื่องจำกกำรเสริมสำรไอโอดีนสังเครำะห์ลงในเกลือทะเลด้วยวิธีกำร
ปัจจบุ นั นัน้ นับว่ำมีควำมคงตัวในผลิตภัณฑเ์ กลือทะเลต�่ำ เน่อื งจำกเกลือทะเลมี
คณุ สมบตั ดิ ดู ควำมชนื้ ไดง้ ่ำย โดยเฉพำะเกลอื ทะเลท่ีผลติ ด้วยกรรมวิธีแบบด้งั เดมิ สำร
ไอโอดนี ท่ีเติมลงไปค่อยข้ำงจะสญู เสียไปไดง้ ำ่ ยหำกอยู่ในสภำพทีม่ ีควำมชืน้ และแสง

109

CODEX STANDARD FOR FOOD GRADE SALT (CXS 150-1985, Rev.
1-1997 Amend. 1-1999, Amend. 2-2001)มีขอบเขตเก่ยี วกบั เกลอื ท่ีใช้เปน็ ส่วน
ประกอบของอำหำรทง้ั ทำงตรงและทำงอ้อมไม่ว่ำจะเปน็ กำรจ�ำหน่ำยเกลือโดยตรงให้
กับผ้บู ริโภคหรอื เป็นวัตถเุ ตมิ ลงในอำหำร ทงั้ นี้ไมค่ รอบคลุมถึงเกลอื ที่เปน็ ของเสียจำก
กระบวนกำรผลติ ของอุตสำหกรรมเคมี ดังนน้ั ค�ำอธบิ ำยลักษณะผลติ ภณั ฑ์จงึ หมำย
ถงึ เกลือบริโภคนม้ี ลี ักษณะเป็นผลกึ ซงึ่ มีส่วนประกอบหลักคือโซเดียมคลอไรด ์ อำจ
จะเป็นผลิตภณั ฑ์ซงึ่ ผลิตจำกนำ้� ทะเล น�ำ้ เค็มที่สะสมอยู่ใตด้ ิน หรอื นำ้� เคม็ ในแหลง่ นำ้�
ธรรมชำติ เกลอื น้จี ึงต้องประกอบดว้ ยโซเดยี มคลอไรด์ไมน่ ้อยกว่ำ 97% (น้�ำหนกั แหง้ )
โดยเฉพำะเกลือทีใ่ ชเ้ พือ่ เป็นส่วนประกอบในอำหำร ทั้งนี ้ เกลอื อำจประกอบไปด้วย
องค์ประกอบทำงเคมอี ่นื ๆ อำท ิ แคลเซยี ม แมกนีเซียม คลอไรด์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบ
ทพี่ บในธรรมชำตอิ ยู่แลว้ แต่มีอัตรำส่วนท่พี บแตกต่ำงกันไปตำมแหล่งกำ� เนิดและวธิ ี
กำรผลติ เกลือ
CODEX STAN 193-1995 ไดร้ ะบไุ วเ้ ก่ียวกับปรมิ ำณโลหะหนกั สูงสุดท่พี บ
โดยสำมำรถยอมรับได้ ในทนี่ ี้ หมำยถึง โลหะหนัก 5 ชนดิ ได้แก ่ สำรหน ู ตะกั่ว
แคดเมยี ม และปรอท ซงึ่ อำจจะสง่ ผลอนั ตรำยตอ่ ร่ำงกำยของผู้บริโภค โดยก�ำหนดให ้
สำรหนูมีค่ำไม่เกนิ 0.5 มก./กก. ทองแดง ไม่เกนิ 2 มก./กก. ตะก่ัวไมเ่ กิน 2 มก./กก.
แคดเมียมไม่เกนิ 0.5 มก./กก. และปรอท 0.1 มก./กก.
CODEX GENERAL STANDARD FOR THE LABELLING OF PREPACK-
AGED FOODS :CODEX STAN 1-1985 (Rev. 1-1991)[1] ขอบเขต เปน็ มำตรฐำน
ทส่ี ำมำรถน�ำไปประยกุ ตก์ บั กำรจัดท�ำฉลำกตดิ เกลือที่มกี ำรบรรจภุ ำชนะไว้ลว่ งหนำ้
แลว้ เพอ่ื แสดงข้อมูลตอ่ ผบู้ รโิ ภคใหต้ รงตำมวัตถปุ ระสงค์ในกำรสื่อสำรขอ้ มูลเกี่ยวกบั
อำหำรชนิดน้ัน ประกอบดว้ ย ชอ่ งทำงรอ้ งเรยี นสำ� หรบั ผบู้ รโิ ภค วันทผ่ี ลิต วนั ที่บรรจุ
วนั หมดอำย(ุ ข้นึ กับภำชนะบรรจุ) ควรบริโภคก่อน ชนิดเกลอื ส่วนประกอบ รนุ่ ท่ผี ลิต
สถำนท่ปี ระเทศผ้ผู ลติ บรรจุ/นำ�้ หนัก ค�ำแนะนำ� ในกำรเก็บรกั ษำ วิธใี ช้

110

นับตั้งแต่มีประกำศกำรใช้เกลือเป็นพำหะเพ่ือพำสำรไอโอดีนสู่กำรบริโภค
ของประชำชน ซงึ่ เปน็ มำตรกำรในกำรป้องกันโรคคอหอยพอก สง่ ผลใหม้ มุ มองตอ่
คุณภำพของเกลือบริโภคในประชำชนเปลีย่ นไปหลำยประกำร อำทิ ควำมเช่ือท่ีว่ำ
เกลือบริโภคท่มี ีคุณภำพดีตอ้ งมปี รมิ ำณไอโอดีนสังเครำะห์เตมิ ลงไปสูงๆเทำ่ นนั้ เกลือ
บรโิ ภคทม่ี ีคุณภำพดตี ้องมีโซเดียมคลอไรด์เปน็ องค์ประกอบ 99.9 เปอร์เซ็นต์ เกลอื ท่ี
ดีต้องมีควำมบริสุทธแิ์ ละควำมเข้มขน้ ของโซเดยี มคลอไรด์สงู กว่ำ 97 เปอร์เซน็ ต ์
ปริมำณของไอโอดีนสังเครำะห์ทคี่ นได้รบั มีผลต่อระดบั สติปัญญำ แม้ว่ำคนๆนน้ั จะมี
กำรบริโภคอำหำรอย่ำงครบถ้วน 5 หมู่ก็ตำม ซ่งึ ดว้ ยองคป์ ระกอบเกลอื แรท่ ่ีมีในเกลือ
แต่ละประเภทที่มีควำมแตกต่ำงกันและเหตุผลด้ำนชีวเคมีควำมต้องกำรทำง
โภชนำกำรของมนษุ ยแ์ ต่ละคน
ท่ีมีพฤติกรรมกำรบริโภคแตกต่ำงกันกลับไม่เป็นเช่นนั้นควำมจริงในกำร
บริโภคเกลือเพื่อเป็นแหล่งเกลือแร่ที่ส�ำคัญของร่ำงกำยมนุษย์และสัตว์จ�ำเป็นจะต้อง
ไดร้ ับชนดิ ของเกลอื แรท่ ห่ี ลำกหลำยและเพียงพอต่อควำมต้องกำรของร่ำงกำย กำรได้
รับเกลือแร่เพียงชนิดใดชนิดหนึ่งในปริมำณท่ีสูงเกินไปกลับส่งผลเสียต่อร่ำงกำยในแง่
ท่อี ำจจะทำ� ให้รำ่ งกำยต้องทำ� งำนหนักในกำรขับเกลอื แรส่ ่วนเกนิ ออก กำรบรโิ ภค
เกลือแรใ่ ห้ไดร้ ับประโยชนส์ งู สดุ คอื กำรบรโิ ภคร่วมกบั กำรรบั ประทำนอำหำรใหค้ รบ 5
หมู่อย่ำงสมดุลต่อควำมต้องกำรของร่ำงกำยนน่ั เอง
มำตรฐำน The Codex General Standard for the Labelling of Pre-
packaged Foods น้ปี รบั ปรงุ โดย the Codex Alimentarius Commission at its
14th Session, 1981 และนำ� มำทบทวนใหม่ในป ี 1985 และ 1991 โดย 16th , 19th
, 23rd , 24th, Session ป ี 1999 2001. ยนื ยันโดยสมำชิกของ FAO และ WHO
General Principles of the Codex Alimentarius.

111

ความแตกตางของเกลือทะเลกบั เกลือชนดิ อื่น

นำ�้ ทะเลนัน้ ประกอบไปดว้ ยไอออนต่ำงๆ มำกมำยหลำยชนิด เช่น โซเดียม
รอ้ ยละ 31 คลอไรด์ ซง่ึ มีมำกถงึ ร้อยละ 55 ซลั เฟต ร้อยละ 8 แมกนีเซียม ร้อยละ 4
แคลเซยี ม รอ้ ยละ 1 และ โพแทสเซยี มอีกร้อยละ 1 กำรผลิตเกลอื สมทุ รกค็ อื กำรแยก
เอำโซเดียมคลอไรด์ออกมำจำกน�้ำทะเลกำรผลิตเกลือสมุทรจำกน้�ำทะเลน้ีให้
เกลือแกงออกมำประมำณ 2.5-6.0 กิโลกรมั ตอ่ 1 ตำรำงกิโลเมตร นอกจำกเกลือแล้ว
ยังไดก้ ุง้ หอย ป ู ปลำท่ตี ดิ มำกบั น้ำทะเล รวมถึงยปิ ซมั ในนำเชอ้ื เป็นผลพลอยได้อีก
ดว้ ย
องคป์ ระกอบโดยรวมแล้ว เกลือทไ่ี ดอ้ อกมำไมว่ ่ำจะเป็นเกลือทะเลหรอื เกลือ
สนิ เธำว์ก็คอื โซเดยี มคลอดไรด์เหมือนๆ กนั แตเ่ กลอื ทะเลน้นั จะมีสำรพวกไอโอดนี ปน
อยมู่ ำกกวำ่ เกลือสนิ เธำว์ ท�ำให้เหมำะแก่กำรไปใชบ้ รโิ ภค หำกจะน�ำเกลอื สินเธำว์ไป
บริโภคจะต้องเติมสำรเคมีสังเครำะห์ซ่ึงเป็นสำรประกอบไอโอดีนในรูปของไอโอไดด์
หรอื ไอโอเดตเข้ำไปเสียก่อน โดยสำรเหลำ่ นี้มอี ำยกุ ำรคงอย่ไู ดใ้ นเกลือ 6 เดือน – 2 ปี
ขึ้นอย่กู ับกำรเกบ็ รกั ษำ ซง่ึ แสงและควำมช้ืนสำมำรถท�ำใหส้ ำรเคมที เ่ี ตมิ ลงไปเหลำ่ นี้
สลำยตวั หรือไมค่ งตัวได้
อย่ำงไรก็ตำมเกลือสินเธำว์จัดเป็นเกลือท่ีมีปริมำณของโซเดียมคลอไรด์อยู่สูง
มำก มแี คลเซียม แมกนเี ซียมและควำมช้ืนต่ำ� จงึ เหมำะสำ� หรับใชใ้ นโรงงำน
อุตสำหกรรมหลำยชนิด เช่น โซดำไฟหรือช่อื ทำงเคมีวำ่ โซเดยี มไฮดรอกไซด ์ ใชท้ ำ� สบู่
โซดำแอชหรอื เรยี กอีกอย่ำงวำ่ โซเดียมคำรบ์ อเนต และสำรฟอกขำวหรือโซเดียมไฮโป
คลอไรต์ ที่ใช้ฆ่ำเช้ือและเปน็ สว่ นผสมของผงซกั ฟอก น�้ำยำลำ้ งหอ้ งนำ้� น�ำ้ ยำท�ำควำม
สะอำดทมี่ ีฤทธิ์กัดกรอ่ นหลำยชนิด
มำตรฐำนผลติ ภัณฑ์อุตสำหกรรมเกลอื บรโิ ภค ป ี พ.ศ. 2544 ให้บทนิยำมวำ่
เกลือบรโิ ภค หมำยถงึ ผลิตภณั ฑท์ ีป่ ระกอบดว้ ยโซเดียมคลอไรด์เปน็ ส่วนสำ� คญั เหมำะ
ส�ำหรับใชบ้ ริโภค โดยทว่ั ไปมลี ักษณะเปน็ ผลกึ ใส หรือสขี ำว ได้จำกน้ำ� ทะเล เกลอื หนิ
จำกใตด้ นิ หรือจำกน�้ำเกลือตำมธรรมชำติและฉบับแกไ้ ข พ.ศ.2556 ให้แกไ้ ขช่อื
มำตรฐำน “เกลอื บรโิ ภค” เป็น “เกลอื บรโิ ภคเสรมิ ไอโอดีน”

112

ร่ำงกำยต้องกำรไอโอดีนประมำณ 75 มิลลกิ รัมต่อปี เมื่อได้รับไอโอดนี ร่ำงกำยจะน�ำ
ไปเก็บไวใ้ นตอ่ มไทรอยด ์ ซ่งึ ทำ� หนำ้ ทคี่ วบคุมสมอง ประสำท และเน้ือเย่อื ตำ่ ง ๆ ถ้ำ
ขำดจะเปน็ โรคคอพอก และถำ้ ขำดตั้งแตเ่ ด็ก รำ่ งกำยจะแคระแกรน็ สติปัญญำต่ำ� หู
หนวก เปน็ ใบ้ ตำเหล่และอมั พำต
เกลือทะเล เปน็ เกลอื ที่เหมำะส�ำหรบั ใช้ในกำรบริโภคเพรำะมไี อโอดีนจำก
ธรรมชำติ กลำ่ วคอื เกลอื ทะเลจะมไี อโอดีน 1-5 มลิ ลกิ รมั ต่อกโิ ลกรัม ท่ีควำมชนื้ 2-68
เปอร์เซ็นตแ์ ต่อยู่ในรูปท่เี หมำะสมต่อกำรดดู ซมึ เพรำะในน้�ำทะเลและเกลอื ทะเล
ธรรมชำต ิ มักพบในรปู เกลอื ไอโอเดต (KIO3) และในรูปไอโอไดด์ หรอื เป็นสำรประกอบ
อินทรีย์ ในส่งิ มชี วี ิต เช่น ในเลือด เน้ือเย่ือ น้�ำนม เหงอื่ และปัสสำวะ ร่ำงกำยของคน
เรำใช้ไอโอดนี ในรปู ไอโอไดด์เพ่ือสร้ำงไทรอยด์ฮอร์โมนในตอ่ มไทรอยด ์ โดยไอโอไดด์
ถกู ออกซไิ ดซ์แลว้ สร้ำงพนั ธะกบั ไทโรโกลบูลนิ (Thyroglobulin ) ไดไ้ ทโรซิน (Thyro-
sine,T3 ) และไทรอกซิน ( Thyroxine,T4) กำรบรโิ ภคเกลอื ทะเลของมนษุ ย์มี
ประวัติศำสตร์มำอย่ำงยำวนำน ในปัจจบุ ันควำมเจรญิ กำ้ วหน้ำทำงเทคโนโลยีด้ำนชวี
โมเลกุลและสรรี วิทยำ (molecular biology and physiology) สะทอ้ นใหเ้ หน็ ควำม
ส�ำคัญของกำรศึกษำบทบำทของน�้ำและเกลือแร่ในเซลล์ไปประยุกต์ใช้เพ่ือกำรดูแล
สขุ ภำพดว้ ยกำรรกั ษำระบบสมดลุ เกลือแรใ่ นรำ่ งกำยมนษุ ย ์ (Dick, 1966) ก�ำเนิดของ
ส่ิงมชี ีวติ ทุกชนดิ บนโลกลว้ นมีววิ ฒั นำกำรมำจำกมหำสมทุ ร
ดังจะเห็นได้จำกองค์ประกอบทำงเคมีของสสำรภำยในร่ำงกำยของส่ิงมีชีวิต
ท้งั ในนำ้� เลือดของมนษุ ย์และนำ้� ทะเลต่ำงกม็ รี ะบบกำรรกั ษำสมดุล (Buffered) ของ
สำรละลำยโซเดียมคลอไรด์ คำ่ ควำมเปน็ กรดเปน็ ดำ่ ง เปน็ ตน้ ทำ� ใหก้ ำรเปล่ยี นแปลง
ของสำรประกอบของน้�ำเลือดมนุษย์และน�ำเค็มในมหำสมุทรมีกำรเปล่ียนแปลงอย่ำง
ไมม่ นี ยั ส�ำคัญ แมว้ ่ำเวลำจะเปลีย่ นไป (Dietrich, 1963) น้ำ� ทะเลและเซรัมของมนษุ ย์
มสี ัดส่วนขององค์ประกอบที่คล้ำยคลงึ กัน ดงั จะเห็นได้จำกกรำฟกำรเปรียบเทียบองค์
ประกอบของน้ำ� ทะเลและนำ�้ เลือดของมนษุ ย ์ (ตำรำงท ี่ 2.1)จึงไม่น่ำแปลกใจเลยทีก่ ำร
บริโภคเกลือทะเลนั้นมีปรำกฎในประวัติศำสตร์วัฒนธรรมกำรกินของมนุษย์มำอย่ำง
ยำวนำนตั้งแต่สมยั ดึกด�ำบรรพ ์ เพรำะองคป์ ระกอบทเี่ หมำะสมตอ่ กำรดดู ซมึ และน�ำ
ไปใชข้ องร่ำงกำยมนษุ ย์

113

กำรเปรยี บเทยี บองค์ประกอบของน�ำ้ เลอื ดของมนุษย์และน�้ำทะเล
องค์ประกอบของน�ำ้ ทะเลจำกอำ่ วไทย 100 กรัม เมอ่ื ท�ำแห้งโดยไมม่ กี ำรเกบ็
ผลผลิตเกลือออกในกระบวนกำรผลิตท่ีมีควำมชนื้ ร้อยละ 11.8 พบวำ่ มแี รธ่ ำตหุ ลัก
ได้แก่ แคลเซยี ม 73.765 กรมั โซเดียม 26,340.71 มลิ ลิกรมั โพแทสเซยี ม 819.735
มลิ ลกิ รัม แมกนเี ซียม 328.54 มลิ ลกิ รมั คลอไรด ์ 13,342.87 มิลลิกรัม ซลั เฟต
20,161.50 มิลลกิ รมั ต่อกิโลกรัม
(เม่ือท�ำเป็นสำรละลำย เกลอื 1 กรัมต่อน้�ำ 500 มลิ ลลิ ติ ร) (บญั ญัติ และ
จุฑำมำศ, 2559) นำ้� ทะเลเมือ่ ทำ� ใหแ้ ห้งในกระบวนกำรผลติ เกลอื ทะเลแล้วกจ็ ะมี
ปริมำณของแร่ธำตแุ ตกตำ่ งไปจำกเดิม แตย่ งั คงมสี ัดสว่ นเช่นเดมิ และเมื่อเปรยี บ
เทียบกับสดั ส่วนของสำรทเ่ี ป็นองคป์ ระกอบของเกลือบนพืน้ โลก(เกลอื หิน) กลบั พบวำ่
มีกรำฟทแ่ี ตกตำ่ งกบั นำ้� ทะเลและน�้ำทะเลเม่ือท�ำให้แหง้

114

กำรเปรียบเทยี บองค์ประกอบของน้ำ� ทะเล
และเกลือทีพ่ บบนเปลือกโลก(เกลอื หนิ )
ทม่ี ำ : Sverdrup, Johnson and Fleming (1942)
เกลอื สนิ เธำว ์ เปน็ เกลือที่เหมำะส�ำหรบั ใชใ้ นกำรอุตสำหกรรม เพรำะมี
ควำมชืน้ และแมกนเี ซียม แคลเซียมคอ่ นข้ำงต่ำ� แต่มไี อโอดนี เปน็ ส่วนประกอบนอ้ ย
0.02-0.05 มลิ ลิกรมั ตอ่ กิโลกรมั เน่อื งจำกเกลือสนิ เธำวไ์ ด้จำกกำรนำ� น้�ำท่ผี ำ่ นช้ันเกลือ
ใต้ดินหรือน�้ำบำดำลซ่ึงมีควำมเค็มมำต้มหรือระเหยน�้ำออกด้วยหม้อควำมดันต่�ำเพื่อ
ใหเ้ กลอื ตกผลึกได้โซเดยี มคอลไรด์เช่นเดียวกับเกลือทะเล

115

แต่มีองค์ประกอบแร่ธำตุที่ยังไม่เหมำะสมกับควำมต้องกำรเกลือแร่ใน
ร่ำงกำยมนุษย์เม่ือเกลือเหล่ำนี้จะเข้ำสู่ตลำดเกลือบริโภคจึงต้องผ่ำนกระบวนกำร
หลำยอย่ำงเพื่อทำ� ให้เกลอื มีควำมบริสุทธมิ์ ำกขน้ึ เช่น กำรดึงแคลเซียม แมกนีเซยี ม
และซลั เฟต ออก กำรลดควำมชืน้
กำรเตมิ สำรไอโอดนี สงั เครำะห์และวตั ถุเจือปนในอำหำรอ่นื ๆ เช่น แคลเซียม
ซิลิเกตเปน็ สำรตำ้ นกำรแข็งตัวเป็นก้อน (anti-caking agent) เข้ำไปเพือ่ ปรับปรุง
คุณสมบัตใิ ห้ตอบสนองตอ่ ควำมต้องกำรของตลำดได้ เกลือสินเธำว์ถูกผนั ให้มำเปน็
เครื่องมือหน่ึงในกำรเสริมไอโอดีนเพื่อป้องกันโรคคอหอยพอกและโรคเออครั้งแรก
ในปี ค.ศ. 1982
โดยบรษิ ัทเกลือมอรต์ ้นั ในอเมรกิ ำและเผยแพรว่ ิธกี ำรดังกลำ่ วไปกวำ่ 150
ประเทศ ท�ำให้ปัจจบุ นั เกลือสนิ เธำวถ์ ูกพฒั นำเขำ้ มำเปน็ คูแ่ ขง่ กบั เกลือทะเลอย่ำงไร
ก็ตำมเกลือทผ่ี ำ่ นกำรปรบั ปรุงคุณภำพเหลำ่ น้ีมวี นั หมดอำย ุ โดยเฉพำะเกลือเสริม
ไอโอดนี
บริษัทเกลือมอร์ต้ันในอเมริกำแนะน�ำว่ำไม่ควรเก็บเกลือเสริมไอโอดีนไว้เกิน
5 ป ี ในขณะท่ีเกลอื ทะเลธรรมชำติน้นั ไม่มีวนั หมดอำยุ อกี ทัง้ โพแทสเซยี มไอโอ
เดต(KIO2) เสรมิ ลงไปในเกลอื ก็มกี ำรสลำยตัวได้งำ่ ยเมอ่ื เกลือมีควำมชน้ื เพม่ิ ขนึ้

116

กำรเปรียบเทียบองคป์ ระกอบนำ�้ ทะเล เลอื ดมนุษย ์ เกลอื ชนดิ ตำ่ งๆ และ
ปริมำณสำรอำหำรท่ีแนะนำ� ในแต่ละคนตอ่ วัน

ดดั แปลงจำก Dietrich, 1963,with permission of John Wiley and Sons
หมำยเหตุ* ผลกำรวิเครำะห์

117

กำรเปรียบเทียบองค์ประกอบรองในน้�ำทะเล
น้ำ� เลอื ดของมนุษย ์ กบั เกลอื ประเภทต่ำงๆ

aFor a very detailed survey of the composition of body fluid see
Altman and Dittmer(1961).
*ผลจำกกำรเก็บตัวอยำ่ งเกลอื ทะเลจ�ำนวน 25 ตวั อย่ำงจำกนำเกลอื ทะเลใน
จังหวัดสมุทรสำคร สมทุ รสงครำมและเพชรบรุ ตี ัง้ แต่เดือน มถิ ุนำยน 2560 ถงึ
มถิ ุนำยน 2561 โดยสถำบนั เกลอื ทะเล มหำวทิ ยำลัยรำชภฏั เพชรบุรี
** Saltworks, Inc2015 , USA.*** ผลวิเครำะหจ์ ำกผขู้ ำย Celtic Sea Salt®

118

กำรเปรยี บเทียบองคป์ ระกอบของน�ำ้ ทะเลกับอำหำรทะเล

119

วถิ กี ารตลาด

เกลือทะเลไทย

120

เกลือทะเลไทยมีคุณสมบัติท่ีดีในกำรเป็นแหล่งเกลือแร่ที่จ�ำเป็นต่อร่ำงกำย
สำมำรถนำ� ไปบริโภคและประกอบอำหำรได้ กระบวนกำรผลติ เกลือทะเลแบบดง้ั เดมิ
จะเน้นกำรผลติ เกลอื เพื่อกำรบริโภค ได้แก ่ เกลือเมด็ ดเี กลอื แตใ่ นขณะเดยี วกันกเ็ กดิ
ผลิตภณั ฑ์ท่ีเป็นผลพลอยได้จำกกำรผลิต ไดแ้ ก ่ สตั ว์น้ำ� ทะเลตำ่ งๆ ท่อี ยภู่ ำยในวัง
เปน็ กำรเพำะเลยี้ งสตั วน์ ำ�้ แบบธรรมชำติเพื่อเป็นรำยได้เสรมิ ทำงหนึง่ น�้ำเค็มเขม้ ขน้
สำ� หรบั น�ำไปผสมกบั น�้ำปกตเิ พอ่ื ใชเ้ พำะเล้ยี งก้งุ ทะเล และผลพลอยไดอ้ กี อยำ่ งทีม่ ี
ศกั ยภำพในกำรนำ� มำเพม่ิ มูลค่ำ ได้แก่ เกลือจืด หรอื ยิปซัม่ เป็นสินแรท่ เี่ กิดในนำเกลือ
เฉพำะแปลงท่ใี ช้กักเกบ็ น�้ำแก ่ (นำรองเชื้อ และนำเช้อื ) เกลอื จืดจะเกิดอยบู่ นหนำ้ ดิน
เกษตรกรชำวนำเกลอื จะทำ� เกลือจดื ในฤดูฝนหลงั จำกหมดฤดทู ำ� นำเกลอื แลว้ โดยจะ
ขงั น�้ำฝนไว้ในแปลงนำทม่ี เี กลือจืด แล้วรวบรวมเกลือจดื เข้ำเป็นกองๆจำกน้ันก็จะรอ่ น
และลำ้ งเอำเศษดนิ เศษโคลนออกให้เหลอื แตเ่ มด็ เกลือจดื โดยปกตริ ำคำเกลือจดื จะสูง
กวำ่ เกลอื ทะเลสำมำรถน�ำไปใช้ผลิตปูนปลำสเตอร ์ ยำสีฟันชนิดผง และแป้ง ซง่ึ ตลำด
เกลอื ทะเลไทยสำมำรถแยกประเภทตำมควำมตอ้ งกำรใชเ้ กลือทะเลได ้ ดงั น้ี
1) ด้ำนอตุ สำหกรรมอำหำร รอ้ ยละ 30.50
2) ด้ำนอตุ สำหกรรมประมง ร้อยละ 19.50
3) ด้ำนกิจกำรโรงงำนดองผกั รอ้ ยละ 20.70
4) ดำ้ นอตุ สำหกรรมอน่ื ๆ ร้อยละ 19.30
5) ดำ้ นผ้บู รโิ ภค ร้อยละ 7.10
6) ดำ้ นอน่ื ๆ รอ้ ยละ 2.90
เกลือทะเลในบำงท้องถิ่นกลับได้รับควำมนิยมน�ำไปใช้เพ่ือกำรบริโภคมำ
อย่ำงยำวนำน อำท ิ เกลอื ปตั ตำนที ี่มชี ่อื เสยี ง ไดร้ บั ควำมนยิ มจำกผูบ้ รโิ ภคในดำ้ น
รสชำติท่ีกลมกล่อม ไมเ่ คม็ เพียงอยำ่ งเดียว เม่ือใชเ้ กลือปตั ตำนีปรงุ อำหำร ทำ� นำ�้ บูด ู
ทำ� ปลำแห้ง ทำ� ไอศกรมี ดองสะตอ หรอื ใชด้ องผกั ผลไม้ต่ำงๆ โดยเฉพำะดองสะตอ
น้ัน หำกใช้เกลอื ปัตตำนีจะท�ำใหส้ ะตอแห้ง ไมเ่ ปอ่ื ยยุ่ย มรี สชำตหิ วำน มัน อรอ่ ย หรอื
ทมี่ ีชือ่ เสียงทเ่ี รยี กกัน “ฆำแฆ ตำนิง มำนสิ ” (เกลอื หวำนอ่ำวปตั ตำนี) ซ่ึงมีควำมหมำย
ทีม่ ีรสชำติกลมกลอ่ ม (วบิ ลู ย ์ สมุ ำลี, มปป.)

121

กระบวนกำรหมักดองต่ำงๆ เกลอื แมก่ ลอง เกลอื สมุทรสำคร เกลือบำ้ นแหลม ทข่ี ึ้นชอ่ื
ในคุณภำพดำ้ นกำรน�ำไปหมกั ดองอำหำรทำ� ใหไ้ ดอ้ ำหำรคณุ ภำพดี อำท ิ กะป ิ น�ำ้ ปลำ
ปลำเคม็ หอยดอง ปลำรำ้ ผกั ดอง หมึกดอง แมงกะพรนุ ดอง เกลือทะเลจงึ ได้รับควำม
นิยมในกำรถนอมอำหำร ตลอดจนในปจั จุบนั ดอกเกลอื ทะเลกไ็ ด้รับควำมสนใจน�ำไป
บรโิ ภคจำกกลมุ่ ผูร้ กั ษ์สุขภำพและกำรทำ� เกลอื สปำ
กำรผลิตเกลอื ทะเลในรปู ของเกลอื เมด็ จะถกู รวบรวมโดยพ่อค้ำคนกลำง
ประเภทพ่อคำ้ ท้องท่ีและพ่อคำ้ ท้องถนิ่ โดยพ่อค้ำคนกลำงจะไปรับซื้อถงึ ฟำรม์ ของ
เกษตรกรท้ังทำงบกและทำงน้�ำ และในบำงท้องท่ี เกษตรกรจะขำยผ่ำนสหกรณ์
กำรเกษตรท่ีตนเองเปน็ สมำชิกอยู่ จำกน้ันสินค้ำเกลอื ทะเลจะไหลเวียนไปยงั แหล่ง
ตำ่ งๆ ได้แก่ โรงโม่เกลอื โรงงำนอตุ สำหกรรมอำหำร และโรงงำนอตุ สำหกรรมอ่นื ๆท่ี
เก่ียวขอ้ ง กอ่ นจะกระจำยไปถงึ ผู้บรโิ ภค
ตลำดเกลือภำยในประเทศ เมื่อพจิ ำรณำตำมคณุ ภำพสินคำ้ ทีน่ �ำเกลือทะเล
ไปใช้เป็นวตั ถุดิบในขบวนกำรผลิต สำมำรถแบ่งออกได้เป็น 3 กลมุ่ ใหญ่ๆ คือ
1. เกลอื คณุ ภำพสงู คือ กลมุ่ ทีต่ อ้ งกำรเกลือทะเลทมี่ คี วำมบริสทุ ธิ ์ ประมำณ
ร้อยละ 97มสี ิง่ เจอื ปนต่ำ� โดยน�ำไปใชท้ ำ� ประโยชน์ตำ่ งๆ ไดแ้ ก่ กำรใช้ในกำรสร้ำง
เรซนิ กำรผลิตกระจก กำรผลติ เคมีภัณฑต์ ่ำงๆ และใชใ้ นกำรบรโิ ภค
2. เกลือคณุ ภำพปำนกลำง คอื กลุ่มที่ไมจ่ ำ� เปน็ ต้องใชเ้ กลือทม่ี คี วำมบริสทุ ธ์ิ
มำกนัก ได้แก ่ กำรน�ำไปใชบ้ รโิ ภค กำรถนอมอำหำร กำรผลิตอำหำรสตั ว ์ และกำร
ฟอกยอ้ ม
3. เกลอื คุณภำพปำนกลำงถึงต่ำ� เป็นเกลอื ทม่ี ีควำมบริสุทธ์นิ อ้ ยกวำ่ สองกล่มุ
แรกและมสี ิง่ เจอื ปนพอสมควร มักนิยมใชใ้ นอตุ สำหกรรมบำ� บัดน�ำ้ เสยี

122

วิถกี ำรตลำดเกลือทะเลไทย
ทม่ี ำ: มหำวิทยำลยั รำชภฏั เพชรบุรี, 2559
กระบวนกำรทำ� นำเกลือทะเลของไทย

123

ดอกเกลือหรอื ดอกเกลือที่ภำษำฝร่ังเศสเรียกวำ่ Fleur de Sel(เฟลอ-เดอ-
เซล) (ยุวนชุ , 2553) ดอกเกลอื มีลักษณะเปน็ ผงเล็กๆ ลอยจบั ตัวกนั เปน็ แพอยูเ่ หนือ
นำ้� ในผืนนำเกลือ หำกมีลมพัดมำ ดอกเกลือมักจะลอยมำอยตู่ ำมขอบคันนำ ดงั นั้น
ชำวนำเกลือจึงตอ้ งตน่ื แตเ่ ช้ำตรู่เพ่อื รีบชอ้ นดอกเกลือข้นึ มำ ก่อนทีแ่ สงแดดและ
สำยลมจะทำ� ให้ดอกเกลอื จมลงดำ้ นลำ่ ง ดอกเกลอื ท่เี ก็บได้จะมคี วำมเคม็ ต่ำ� ไอโอดนี
สงู ผลกึ มีสีขำวสะอำด มีแรธ่ ำตุต่ำงๆ อยูม่ ำก จงึ มีคุณภำพสูง อีกท้ัง ผลผลติ ดอกเกลือ
ท่มี ปี รมิ ำณนอ้ ยเม่อื เทียบกับผลผลติ เกลือทะเลทัง้ หมดจึงมีรำคำสงู โดยปกตเิ กลือแกง
บริโภครำคำขำยปลกี กโิ ลกรมั ละ 2-5 บำท แต่หำกเปน็ ดอกเกลือรำคำจะสูงถึง
กโิ ลกรัมละ 60-100 บำท ส่วนรำคำดอกเกลอื ของฝร่งั เศสจะมรี ำคำแพงกว่ำนั้นนำ้�
หนัก 125 กรมั รำคำ 9 ยโู ร หรอื ประมำณ 450 บำทเนือ่ งจำกทำงยโุ รปจะผลติ ดอก
เกลือได้ปีละคร้ังส�ำหรับในประเทศไทยสำมำรถผลิตดอกเกลือได้เกือบตลอดฤดูกำล
ผลติ ชำวนำเกลือมกั จะเก็บดอกเกลือไวใ้ ช้เอง ท้ังบรโิ ภค เขำ้ เคร่อื งยำ ใชล้ ้ำงหนำ้ เดก็
ออ่ น ใชป้ ระกอบเครอื่ งประทินผิวและใช้เปน็ ยำ เก็บไว้ลำ้ งแผลบำ้ ง เก็บไวแ้ จกจำ่ ย
ญำติพ่ีน้องชำวนำเกลือจะใช้ดอกเกลือในกำรท�ำกับข้ำวแทนกำรใช้น�้ำปลำและน�ำมำ
คลุกปลำย่ำง เนอ้ื ย่ำง (สุมติ รำ จันทร์เงำ, 2559)

กระบวนกำรทำ� นำเกลอื ของไทย เริม่ ดว้ ยกำรปรบั พนื้ ดนิ ใหเ้ รียบและแนน่
แลว้ แบ่งพน้ื ท่ีนำออกเปน็ แปลงๆ แตล่ ะแปลงมีพนื้ ทปี่ ระมำณ 1 ไร่ แตล่ ะแปลงยก
ขอบให้สูงเหมอื นคนั นำและมรี ่องระบำยน�ำ้ ระหวำ่ งแปลง แล้วแบ่งพ้ืนท่นี ำออกเป็น 3
ตอน เรยี กวำ่ นำตำก นำเช้ือ และนำปลง (นำอนั ตำก นำอนั เชอ้ื นำอันปลง;จันทบรุ )ี
แต่ละตอนให้มีระดบั สูงต่�ำลงมำตำมลำ� ดบั คอื นำตำกซง่ึ อยูใ่ กลท้ ะเลทส่ี ดุ ให้มีระดับ
พื้นท่สี งู ท่ีสุด นำเช้อื มีระดับต�ำ่ ลงมำ และนำปลง มรี ะดบั พ้ืนทตี่ ่ำ� ทส่ี ดุ เพอื่ ควำม
สะดวกในกำรระบำยนำ้� เขำ้ นำโดยไมต่ ้องใชเ้ คร่ืองสูบน้ำ� เรม่ิ ตน้ จำกกำรวำงผงั ทำ�
แปลงนำเกลือ โดยแบ่งกำรใช้พ้นื ท่ีออกเป็น 4 สว่ น ไดแ้ ก ่ 1) นำขัง 2) นำตำกหรอื นำ
แผ3่ ) นำเชือ้ หรือนำดอก 4) นำวำง มักนยิ มให้นำวำงอยตู่ ิดถนนและยุ้งเกลือเพ่ือให้
สะดวกต่อกำรขนส่ง

124

ขั้นที ่ 2 กำรท�ำนำเกลอื
1. ก่อนถึงฤดูทำ� นำเกลือ (ฤดูท�ำนำเกลือ ตัง้ แต่เดือนพฤศจกิ ำยน - เดอื น
พฤษภำคม) ชำวนำจะไขน�ำ้ เขำ้ ไปเก็บไว้ในวงั ขังน้�ำ เพอื่ ใหส้ งิ่ เจอื ปนในนำ้� เชน่
โคลนตมตกตะกอนลงมำกอ่ น
2. เมื่อถงึ ฤดทู ำ� นำเกลือ จงึ ระบำยน�้ำทะเลจำกวงั ขงั น้�ำเข้ำสนู่ ำตำก โดยให้มี
ระดบั นำ�้ ในนำสูงประมำณ 5 เซนตเิ มตร ปลอ่ ยใหน้ ำ�้ ในนำตำกระเหยไปบำ้ ง โดย
อำศัยแสงแดดและกระแสลม จนน�้ำมคี วำมถว่ งจำ� เพำะประมำณ 1.08
3. ระบำยน�ำ้ จำกนำตำกเขำ้ ส่นู ำเชื้อและปลอ่ ยให้นำ้� ระเหยไปอีก
ควำมถว่ งจำ� เพำะของน้�ำจะเพมิ่ ข้ึน ในข้นั นี้จะมผี ลึกแคลเซียมซัลเฟตตกลงมำบำ้ ง ซ่ึง
เป็นผลพลอยได้ท่ีน�ำไปขำยได ้ จำกนน้ั ปล่อยใหน้ ้�ำระเหยไปจนมีควำมถ่วงจ�ำเพำะ
ประมำณ 1.20
4. ระบำยนำ�้ จำกนำเช้ือเข้ำสนู่ ำปลง ระยะเวลำต้งั แต่กำรระบำยน้�ำเข้ำสูน่ ำ
ตำกจนถงึ นำปลงประมำณ 45 วนั หลังจำกระบำยน�ำ้ เขำ้ สู่นำปลงประมำณ 2 วัน
ผลึกเกลือแกงจะตกลงมำและมปี รมิ ำณมำกขนึ้ เรอ่ื ยๆ ในระหวำ่ งนนี้ ้ำ� จะยังคงระเหย
ตอ่ ไป ทำ� ให้ควำมถ่วงจ�ำเพำะของน้�ำเพ่มิ ขึน้ จะท�ำใหผ้ ลึกแมกนเี ซียมคลอไรด ์ และ
แมกนเี ซยี มซลั เฟต ตกลงมำด้วย ท�ำให้ไดเ้ กลอื แกงทีไ่ ม่บรสิ ุทธ์ ิ เปน็ เหตุให้เกลือแกงมี
คุณภำพต�ำ่ ขึ้นง่ำย กำรปอ้ งกันไม่ให้ผลึกแมกนเี ซียมคลอไรด์ และแมกนเี ซยี มซัลเฟต
ตกลงมำ ก็คอื ควบคมุ ควำมถ่วงจำ� เพำะของน�ำ้ ในนำปลงไม่ให้สงู เกินไป โดยกำร
ระบำยน้ำ� จำกนำเช้อื เขำ้ สู่นำปลงอยำ่ งสมำ่� เสมอ
โดยท่ัวไป ชำวนำเกลอื จะปลอ่ ยใหเ้ กลอื แกงตกผลกึ อยู่ในนำปลงประมำณ
15-45 วัน จึงขดู เกลอื ออก เกลือแกงทไ่ี ดจ้ ะมผี ลผลติ ประมำณ 4–9 ตันต่อไร่ หรือ
2.5–6 กโิ ลกรัมต่อพ้นื ท่ีนำ 1 ตำรำงเมตร กำรเกบ็ เกย่ี ว
ภำคใต้ จังหวดั ปตั ตำนีจำกกำรทบทวนเอกสำรงำนวจิ ยั ทีเ่ ก่ียวข้องได้ขอ้ มลู
เพ่มิ เตมิ เก่ยี วกบั ควำมไดเ้ ปรียบของลักษณะภมู ิศำสตร์ของพนื้ ที่ท�ำนำเกลือจงั หวดั
ปตั ตำนี ไวว้ ำ่ กำรทำ� นำเกลอื ในจงั หวดั ปตั ตำนมี ีประวตั ศิ ำสตร์มำยำวนำน มีทงั้ กำร
บอกเล่ำส่กู ันฟังจำกรนุ่ ลกู สูร่ นุ่ หลำน และจดบนั ทึกเปน็ รำยลักษณ์อักษร

125

พ้ืนที่ที่เหมำะต่อกำรท�ำนำเกลือควรมีเน้ือดินเป็นดินเหนียวสำมำรถกักเก็บน้�ำได้ด ี
และติดกบั ชำยฝั่งทะเล ลกั ษณะทำงภูมศิ ำสตรเ์ หล่ำน้ ี จึงเปน็ ขอ้ ไดเ้ ปรียบของกำร
ประกอบอำชพี นำเกลอื เหตุเพรำะวำ่ เกลอื มีควำมส�ำคัญกบั คนในชุมชนโบรำณมำชำ้
นำน ทำ� ให้อำชพี ท�ำนำเกลอื มีกำรสบื ทอดกนั มำนำนกวำ่ 400 ปี โดยอำศัยภูมิปัญญำ
ท้องถ่ินทีถ่ ำ่ ยทอดกันมำต้ังแตบ่ รรพบุรุษสู่รุ่นลกู และรุ่นหลำน ในทำงกลบั กนั พื้นทที่ �ำ
นำเกลอื กลับลดนอ้ ยลง
กำรท�ำนำเกลือแบบปตั ตำนี ม ี 2 ข้นั ตอน ได้แก่
ขน้ั ตอนที่ 1 กำรเตรียมพืน้ ท ี่
กอ่ นถึงฤดกู ำรทำ� นำเกลอื ชำวนำจะเริ่มสูบนำ�้ ทะเลข้นึ มำโดยใชห้ ัวพญำนำค
สบู นำ�้ เขำ้ มำส่วู งั ขังน�้ำ ซง่ึ เป็นพนื้ ทแ่ี ปลงแรกทชี่ ำวนำจะใช้เกบ็ นำ�้ ทะเล นำ�้ ในแปลงนี้
ชำวนำจะเรียกวำ่ น�้ำออ่ น เป็นพ้นื ท่ที ่ีใช้เกบ็ นำ�้ ตลอดฤดกู ำลท�ำนำ ซง่ึ ชำวนำเกลอื จะ
ต้องสังเกตไมใ่ หป้ รมิ ำณน้�ำลดลง ตอ้ งหมน่ั เตมิ น้�ำไมใ่ ห้น้�ำในแปลงนำแหง้
ระหว่ำงทพี่ ักน้ำ� ไว้ในวงั ขงั น�ำ้ ชำวนำจะเตรยี มแปลงนำเกลอื เพอ่ื ทำ� ควำม
สะอำด โดยกำรขดู ตะไครน้ ำ้� ทมี่ ลี ักษณะเปน็ แผน่ หนำปกคลมุ พน้ื นำ ปรบั สภำพแปลง
นำ ยกคนั นำ ขนำดแปลงๆ ละประมำณ 10 x 40 เมตร คันนำกวำ้ งประมำณ 50
เซนติเมตร พอใหค้ นเดินผ่ำนไปมำได้ และสูงประมำณ 30 เซนตเิ มตร เพ่ือขงั น้�ำทะเล
ได้
กำรปลอ่ ยน�ำ้ จำกวังขงั น�้ำลงนำทกุ แปลง ปรมิ ำณน้ำ� ทปี่ ล่อยไม่ต้องมำก
ประมำณ 1 ขอ้ นิ้ว เพื่อให้ดนิ นมิ่ และใช้เสยี มขุดลอกดินท�ำคันนำใหม่ และลอกคสู ่งน้ำ�
รอบ ๆ คนั นำ ตกแต่งคันให้เรยี บแนน่ จำกน้ัน จงึ ครำดนำแต่ละแปลง จำกนนั้ จึง
ปลอ่ ยน้ำ� ออกจำกแปลงนำ แลว้ อดั ดนิ ให้แน่นโดยใช้อุปกรณ์ลกู กลง้ิ กล้งิ ไปตำมพื้นนำ
ในแนวเดียวกนั กลงิ้ ไปมำจนดิน เรียบและแนน่ ทงิ้ ไว้ใหแ้ ห้งสนิทประมำณ 1 สัปดำห ์
โดยเฉพำะในนำปลงชักน�ำ้ เขำ้ มำขังไวอ้ ีก 2-3 วนั จำกน้ันปล่อยน�้ำออก แลว้ ใช้ลกู กลิ้ง
อดั ดนิ ใหแ้ น่นอกี ครัง้ ท้ิงไวใ้ หแ้ หง้ สนิทอีก 1 สปั ดำห์
ข้ันตอนท่ี 2 กำรทำ� นำเกลอื
ชำวนำจะเร่มิ ปลอ่ ยน้ำ� จำกวังขังนำ้� เข้ำสูแ่ ปลงนำตำก เพ่ือดักสิง่ สกปรกและ
ตะกอนส่งิ โสโครก ขยะ สำหรำ่ ยและซำกพชื และซำกสตั ว์ทำ� ให้ตกลงในแปลงนำตำก

126

ตำก โดยอำศยั วธิ กี ำรตกตะกอนตำมธรรมชำติ และขังน�ำ้ ไว้เป็นเวลำประมำณ 1
สปั ดำห์ จำกนัน้ ปลอ่ ยน�ำ้ เคม็ ไปยังนำเชอ้ื ปลอ่ ยใหน้ �ำ้ ระเหยและตกตะกอนตำม
ธรรมชำต ิ และทำ� ให้น�้ำทะเลเข้มขน้ ขนึ้ หรอื ระดบั ควำมเค็มเพิ่มขนึ้ ทิง้ ไวเ้ ปน็ เวลำ
ประมำณ 10 วนั น�ำ้ ในนำเชอ้ื จะเรียกว่ำ นำ�้ แก่ โดยวิธกี ำรสงั เกตจำกประสบกำรณ์
และควำมช�ำนำญของชำวนำเกลอื และกำรถ่ำยทอดตำมภมู ิปัญญำท่สี บื ทอดมำจำก
บรรพบุรุษ โดยกำรสังเกตจำกสีและลักษณะของน�ำ้ สีของน้�ำจะเปล่ียนเป็นสีสม้ คลำ้ ย
สนมิ เกิดขน้ึ บรเิ วณรมิ ขอบนำ เม่ือน�ำ้ แกเ่ พยี งพอแลว้ ชำวนำเกลอื จะไขนำ้� (ผนั น�้ำ)
จำกนำเช้อื เข้ำสู่นำปลง ในข้ันตอนนีจ้ ะใช้เวลำประมำณ 4-5 วนั นำ�้ ทะเลจะถงึ
จุดอิม่ ตวั หรอื เกดิ กำรตกผลกึ ของโซเดียมคลอไรด์กำรตกผลกึ จะใชว้ ธิ กี ำรระเหยและ
ตกผลึกในนำเกลือ
กำรเกบ็ เกี่ยว เมื่อน�ำ้ ทะเลในแปลงนำปลงระเหยกลำยเป็นผลกึ เกลอื ซึ่งมี
ควำมหนำของเกลือประมำณ 1 น้ิว จะเข้ำสูข่ น้ั ตอนกำรเกบ็ ผลผลิต ชำวนำเกลอื จะดงึ
น้�ำเคม็ ออกไปเกบ็ ยงั นำเชอ้ื อกี คร้ัง แล้วใชล้ ูกกลงิ้ ไถไปมำทำ� ให้เกลือแตกเปน็ เม็ด
จำกนั้นท�ำกำรครำดเกลือ ซงึ่ ครำดเป็นอุปกรณ์ท่ที �ำด้วยไมไ้ ผ ่ เรยี กว่ำ “งีแจ” ครำด
เกลอื ดึงเกลอื จดั ทำ� ใหแ้ ยกเปน็ กอง ๆ ในขัน้ ตอนน้ีตอ้ งเบำมอื อย่ำใหพ้ ืน้ ดินถลอก
เพรำะจะท�ำใหด้ นิ มำปะปนกับเกลือ ทำ� ใหส้ ขี องเกลอื ไมข่ ำว จำกนนั้ ท�ำกำรโกยเกลอื
เกบ็ เกยี่ วผลผลิตใสก่ ระบุ้ง หรือรถเขน็ ขนำดเลก็ เพ่ือขนยำ้ ยเกลอื ไปกองรวมไว้บรเิ วณ
ลำนเกลือ และคลุมกองเกลอื ด้วยทำงมะพรำ้ วและรอกำรจำ� หนำ่ ยดว้ ยตนเอง หรอื
จ�ำหน่ำยใหว้ สิ ำหกจิ ชุมชน เพื่อแปรรูปและจ�ำหนำ่ ยเปน็ ผลติ ภณั ฑเ์ กลอื สปำ หรือ
เกลอื ขมิ้น ส่วนตลำดจ�ำหน่ำยสินคำ้ เกลอื ปัตตำนี มีทั้งจ�ำหน่ำยในตลำดระดบั ท้องถิน่
จังหวดั ใกล้เคียง และสง่ จำ� หนำ่ ยไปยังประเทศมำเลเซีย
เมอื่ เสรจ็ สน้ิ ขัน้ ตอนกำรผลผลิตเกลอื ทั้งหมดแล้ว ชำวนำจะปล่อยนำ้� แก่ท่ี
เล้ียงไวใ้ นแปลงนำเชอ้ื เข้ำมำรวมกบั น้�ำในแปลงนำปลงท่เี หลอื และเร่ิมกระบวนกำร
ตำกเกลอื และรอเกบ็ ผลผลิตอกี ครัง้ ในล�ำดับตอ่ ไป ชำวนำเกลอื จะทำ� เช่นนไี้ ปเร่ือย ๆ
อย่ำงน้อย 2-3 คร้ัง จนกวำ่ ฤดฝู นจะมำเยือนในเดือนพฤษภำคมของทุกปี

127

ผลผลติ จากผนื นาเกลือ

1.เกลือเม็ด มีกำรแบง่ รูปร่ำงตำมผลกึ ของเกลือทเี่ กดิ ในนำ เกลือตัวผู้มีผลึก
รปู แหลม เกลือตัวเมยี มีผลึกรูปเหลย่ี ม ส่วนกำรแบ่งผลิตภณั ฑ์ตำมสีสันกจ็ ะมีชื่อเรยี ก
ตำมสที ่ปี รำกฏ เชน่ เกลอื ด�ำ เกลือเหลอื ง เกลือกลำง เกลือขำว เปน็ ตน้ เมอ่ื คดั เกลอื
ท่ีต้องกำรได้แล้วก็จะน�ำเข้ำโรงงำนผ่ำนกำรล้ำงด้วยน�้ำที่มีควำมเค็มมำกกว่ำเกลือเป็น
ข้ันตอนที่ทำ� ใหเ้ กลอื สะอำดขนึ้ จำกนน้ั น�ำไปโมบ่ ดใหไ้ ดข้ นำดตำมวัตถุประสงคท์ ี่
ต้องกำรแตกต่ำงกนั ไป เชน่ เกลอื ท�ำฝนหลวงต้องบดละเอียดเปน็ เกลอื แป้ง เกลอื ขดั
หนำ้ ตอ้ งเป็นเกลอื ท่ีมีเม็ดขนำดเล็ก เกลือขัดตัวมีขนำดเมด็ เกลือทีใ่ หญ่กวำ่ โดยกำร
รอ่ นผ่ำนตะแกรงเบอร์ตำ่ งๆ จำกน้ันนำ� เกลอื ท่ไี ดไ้ ปอบจนแห้ง แลว้ จึงน�ำบรรจุถุงเพื่อ
กำรบริโภคหรือน�ำไปแปรรูปโดยผสมกับส่วนผสมอื่นๆเพื่อท�ำผลิตภัณฑ์เกลือแปรรูป
ได้ตำมตอ้ งกำร เช่น สมนุ ไพร แต่งกล่นิ สี โดยกำรชง่ั น้ำ� หนกั เพือ่ ผสมตำมสว่ นผสมใน
สตู รสำมำรถแปรรปู เป็นเกลือสปำขดั ผิว เกลอื อำบน�้ำ เกลือหอมปรบั อำกำศ เป็นต้น
2. เกลือจืดหรือยิปซัม่ เปน็ ผลพลอยได้เกิดในนำเกลอื ต้ังแตน่ ำดอกถงึ นำปลง/
นำวำง เกลอื จืดจะเกิดอยบู่ นหน้ำดนิ เกษตรกรชำวนำเกลือจะทำ� เกลือจืดในฤดูฝน
หลงั จำกหมดฤดูทำ� นำเกลอื แล้ว โดยจะขงั น�้ำฝนไวใ้ นแปลงนำทีม่ เี กลอื จดื แลว้
รวบรวมเกลอื จืดเข้ำเปน็ กองๆ จำกนน้ั ก็จะร่อนและลำ้ งเอำเศษดนิ เศษโคลนออกให้
เหลือแต่เม็ดเกลือจืดทแี่ ข็ง คล้ำยทรำยหยำบๆ และไม่ละลำยนำ�้ สำมำรถนำ� ไปใช้ใน
อุตสำหกรรมกำรผลติ ปูนปลำสเตอร ์ ท�ำยำสฟี ันชนิดผง แป้งร่�ำและแปง้ ผัดหน้ำ
เปน็ ต้น
3. ดเี กลือ ชำวนำเกลือมักไม่ไดต้ งั้ ใจทจ่ี ะผลิตดีเกลอื นี้โดยตรงแต่ดีเกลอื เกดิ
จำกกำรนำ� นำ้� จำกกำรรื้อเกลือแต่ละคร้ังไปขงั รวมกนั ไวเ้ รยี กวำ่ น�ำ้ ดเี กลอื ซึ่งเปน็ น้�ำที่
มคี วำมเคม็ สงู เม่อื ท้งิ ไว้ระยะหนึง่ ก็จะมดี ีเกลอื เกิดข้นึ เกำะอยู่ตำมพื้นนำ ดีเกลือเปน็
เม็ดสขี ำวมีรสเค็มปนขม สำมำรถน�ำไปใชป้ ระกอบเป็นเคร่ืองยำไทยโบรำณประเภท
ยำระบำยหรอื ยำถำ่ ย ส่วนน�้ำดีเกลือทีม่ ีควำมเค็มจดั มำกนำ� ไปใช้เปน็ สว่ นประกอบใน
กำรทำ� เตำ้ หู้ มีคณุ สมบัติเป็นสำรทำ� ให้เต้ำหแู้ ข็งตัว

128

4. ขแ้ี ดดหรือดนิ หนังหมำ เป็นดนิ ท่จี บั ตวั กับตะไคร่ทเี่ คลอื บอย่บู นผวิ ดินของ
นำเกลอื เม่อื แหง้ จะแตกแยกออกเปน็ แผ่นรอ่ นอยู่บนผวิ นำ ซงึ่ เกษตรกรชำวนำเกลอื
ตอ้ งทำ� กำรเกบ็ ข้ีแดดออกกอ่ นท�ำกำรบดดินตอนตน้ ฤดกู ำรท�ำนำเกลือ ข้แี ดดนี้
สำมำรถนำ� ไปใชเ้ ป็นปุยบำ� รงุ พืชโดยเฉพำะไม้ผลท่ตี ้องกำรให้มีรสหวำนไดห้ ลำยชนิด
เชน่ สม้ โอ
5. น�้ำเค็ม เนื่องจำกน้�ำในนำเกลือมีควำมเค็มมำกกว่ำน�ำ้ ทะเล เกษตรกร
ชำวนำเกลอื สำมำรถจำ� หนำ่ ยน้�ำเค็มเขม้ ข้นให้กบั เกษตรกรชำวนำกงุ้ ซึง่ จะน�ำไปผสม
กบั น้�ำจืดเพ่อื เจือจำงควำมเคม็ ให้ลดลงแล้วจึงใชใ้ นบอ่ เพำะเลีย้ งก้งุ ได้ตำมปกต ิ หรือ
อำจจะใชพ้ นื้ ท่บี ่อเก็บน�้ำเค็มเพอื่ เลี้ยงสตั วท์ ะเลต่ำงๆ เกษตรกรชำวนำเกลอื ทมี่ ีพืน้ ท่ี
กกั เก็บนำ้� ทะเล (นำวัง) กจ็ ะมีสัตวน์ ำ้� ทะเลต่ำงๆ เช่น ก้งุ กุลำดำ� กงุ้ แชบ๊วย ปลำ
หมอเทศ ปลำกะพง ปทู ะเล ฯลฯ อยภู่ ำยในวงั น้ำ� หรอื ประยุกต์ในกำรเลี้ยงสำหรำ่ ย
ทะเล เช่น สำหรำ่ ยพวงองุ่น
6. ดอกเกลอื หรอื เกสรเกลือ ดอกเกลอื มีลักษณะเปน็ เกล็ดเล็กๆ ลอยจับตวั
กันเป็นแพอยใู่ กลผ้ วิ น�้ำในผนื นำเกลอื หำกมลี มพัดมำ ดอกเกลือนนั้ มักจะลอยมำอยู่
ตำมขอบคันนำ ดงั นนั้ ชำวนำเกลอื จงึ ตอ้ งต่นื แต่เชำ้ ตรูเ่ พือ่ รบี ช้อนดอกเกลอื ขึ้นมำ
กอ่ นท่แี สงแดด และสำยลมจะทำ� ให้ดอกเกลือจมลงดำ้ นล่ำง หำกเกบ็ ดว้ ยวธิ นี ้จี ะ
ทำ� ให้ไดด้ อกเกลอื ท่ีมีลกั ษณะฟเู บำ คณุ ภำพดี ดอกเกลอื ที่ไดจ้ ะมีควำมเคม็ ตำ�่ ผลึกมี
สขี ำวสะอำด มแี ร่ธำตตุ ่ำงๆอยู่มำก ตลำดสนิ คำ้ เพือ่ สุขภำพและควำมงำมมีควำม
ตอ้ งกำรสูงท้งั นเี้ พรำะในกำรเก็บเก่ยี วตอ้ งใช้แรงงำนและเวลำมำกเมื่อเทียบกบั กำร
เกบ็ เกย่ี วผลผลติ เกลือทง้ั หมด

129

130

ระหดั วิดน้ำ� เขำ้ นำเกลอื

131

การเกบ็ เกี่ยว

นำยนำจะทยอยเก็บดอกเกลอื โดยใช้ “สวกหรือท่ีช้อนขีแ้ ดด” ที่เป็นขำ่ ยมุ้ง
ฟำ้ นำ� มำทำ� เปน็ เครอ่ื งมือคลำ้ ยสวงิ ชอ้ นดอกเกลอื ใส่ “ลว้ั หวำย”กำรครำดเกลอื เปน็
อีกข้นั ตอนสำ� คญั ทจี่ ะทำ� ให้ได้เกลือมำกหรือน้อย เริ่มจำกเมื่อเกลอื แห้งในนำวำงแล้ว
จะครำดโดยใชพ้ ล่ัวมำเคำะให้เกลือแตก “พลวั่ /คฑำ/ครำด/อรี ุน”จึงเปน็ ชุดเครือ่ งมือ
ท่ีใช้กระเทำะใหแ้ ผ่นเกลือแตกออกจำกกัน เม่อื เกลือแตกเปน็ แผ่นเล็กๆแลว้ กจ็ ะใช้
เคร่อื งมอื ท่เี รยี กวำ่
“ตะเขห้ รือวัวหรืองวั ” มำลำกโดยใชเ้ คร่อื งมือน้ีมีลักษณะคล้ำยเครอื่ งไถนำ
โดยมีคนคอยจบั ไม้ลำก 2 คนและอกี 1 คนคอยกดและดนั ให้หน้ำไม้ครูดไปกับแผ่น
เกลืออีกทำงเทคนิคถ้ำกดไม้มำกไปกินเอำแผ่นเกลือท่ีอยู่ลึกเกินไปก็จะมีข้ีดินปนมำ
กำรกด “งัว”นี้จงึ มีควำมสำ� คัญ ตะเขถ้ อื เป็นเคร่ืองมอื ประดิษฐ์ตำมภูมปิ ญั ญำชำว
บ้ำนอีกชนิดหนึ่งจำกนั้นจึงใช้คฑำหรือครำดส�ำหรับกองเกลือเป็นกองๆรูปปิรำมิดเพื่อ
รอให้น�้ำไหลออกจำกกองเกลือ
จึงค่อยเก็บเก่ียวเกลือเม็ดเข้ำเก็บในยุ้งฉำงต่อไปโดยใช้แรงหำบ(นิยมใน
จังหวัดเพชรบุรี)ด้วยกำรใชพ้ ลั่วโกยเกลอื ใส่หำบปุ้งกี๋หวำย 2 ใบสอดไมค้ ำน ใช้แรงคน
หำบไปเกบ็ ไว้ในยงุ้ หรือกองเกลอื ไว้ ส่วนจังหวดั สมุ ทรสำครและสมทุ รสงครำมนิยมใช้
รถเข็นแบบรถเข็นปนู มำประยุกต์เขน็ เกลอื เกบ็ แทนกำรหำบ

นวตั กรรมในขั้นตอนเกบ็ เกยี่ วเกลอื ทะเล ท่ีได้คดิ ค้นขึ้นในปี 2562 เปน็
เครื่องมือช่วยขนเกลือจำกกระทงนำเข้ำไปเก็บในยุ้งฉำงโดยผู้ช่วยศำสตรำจำรย ์
ดร.ปำณศิ ำ แกว้ สวัสด์ ิ คณบดีคณะวศิ วกรรมศำสตร์และเทคโนโลยีอุตสำหกรรม
มหำวิทยำลยั รำชภัฏเพชรบุรี กลำ่ วว่ำ
กำรท�ำนำเกลือหรือเกลือทะเลเป็นอำชีพหลักอำชีพหนึ่งของชำวอ�ำเภอ
บ้ำนแหลม จังหวัดเพชรบรุ ี โดยอ�ำเภอบำ้ นแหลมเป็นพื้นทผี่ ลิตเกลือทะเลท่ใี หญท่ ส่ี ุด
ในประเทศไทย มีคณุ ภำพควำมเคม็ ดีทสี่ ดุ แตค่ ณุ ภำพและปริมำณของเกลอื ทะเลจะ
ขึน้ อยู่กบั ปัจจยั ทำงธรรมชำต ิ ได้แก่ ดิน น�ำ้ ลม

132

และแสงจำกดวงอำทติ ย์ทีม่ ีควำมสมั พันธก์ ัน กำรทำ� นำเกลอื เปน็ อำชีพท่ีมีควำมเสี่ยง
ในกำรลงทุน ซ่ึงมีตน้ ทุนของวตั ถุดิบทใ่ี ชใ้ นกำรผลิตตำ่� เพรำะใช้น้�ำทะเลเปน็ หลกั แต่
เกษตรกรจะมีตน้ ทนุ ดำ้ นค่ำแรงและกำรขนส่งทีค่ อ่ นข้ำงสูง
ในปัจจุบันเกษตรกรที่ท�ำนำเกลือก�ำลังประสบปัญหำเร่ืองกำรเก็บหรือ
ล�ำเลียงเกลือไปไว้ในยุ้งเก็บเกลือเนื่องจำกปัญหำอุปสรรคทำงด้ำนธรรมชำติที่ไม่
สำมำรถควบคุมได ้ เมื่อฝนตกลงมำกอ่ นกำรเก็บผลผลิตจะทำ� ให้ผลผลติ ไดร้ บั ควำม
เสยี หำย เกษตรกรจึงมีควำมจำ� เป็นท่ตี ้องใชแ้ รงงำนคนจำ� นวนมำกเพอ่ื ไมใ่ ห้ผลผลิต
เกิดควำมเสียหำยและขำดทุน แต่จ�ำนวนแรงงำนคนในพืน้ ทีน่ น้ั ๆ มจี �ำนวนนอ้ ย ท�ำให้
คำ่ แรงของกำรเก็บเกลอื สงู ขึน้ ส่งผลใหเ้ กิดกำรลงทนุ ทส่ี ูงขน้ึ ตำมไปดว้ ย อกี ทัง้ หำกผู้
ลำ� เลยี งท�ำกำรเก็บเกลือเปน็ เวลำนำนตดิ ตอ่ กนั ท�ำใหเ้ กดิ ควำมเหนอ่ื ยล้ำ สุขภำพทรดุ
โทรม
ด้วยเหตผุ ลนี้ ทำ� ให้แรงงำนบำงกลุ่มหนั ไปประกอบอำชีพอนื่ คณะ
วศิ วกรรมศำสตร์และเทคโนโลยอี ตุ สำหกรรม มหำวทิ ยำลัยรำชภฏั เพชรบุร ี มงุ่ เน้นใน
กำรสรำ้ งสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมส่ชู ุมชน ภำยใต้แนวคดิ และแนวทำงในกำร
ดำ� เนินโครงกำรของพลเอกสรุ ยุทธ ์ จุลำนนท ์ นำยกสภำมหำวิทยำลัยรำชภัฏเพชรบุรี
ดังนัน้
ผู้บริหำรคณำจำรย์และนักศึกษำคณะวิศวกรรมศำสตร์และเทคโนโลยี
อุตสำหกรรม จงึ ได้ช่วยกันออกแบบอุปกรณช์ ่วยขนยำ้ ยเกลอื สำ� หรบั เกษตรกร โดย
เป็นกำรนำ� นวัตกรรมมำใชใ้ นกำรเกบ็ ผลผลิตเกลือเพือ่ แกไ้ ขปัญหำดงั กล่ำวขำ้ งต้น อกี
ท้งั ยงั อ�ำนวยควำมสะดวกใหแ้ กเ่ กษตรกรผู้ท�ำนำเกลืออกี ด้วย
โดยมหำวิทยำลยั รำชภฏั เพชรบุร ี ได้เปดิ ตัวนวตั กรรม “รถลำ� เลียงเกลือ
สำ� หรับเกษตรกร” หวังทนุ่ แรง ลดต้นทุน เพม่ิ รำยได้ เม่อื วันท่ ี 7 กุมภำพนั ธ ์ 2562
เวลำ 09.00 น. ณ พื้นที่นำเกลือ หม่ ู 3 ต�ำบลบำงขนุ ไทร อ�ำเภอบำ้ นแหลม จงั หวดั
เพชรบุรี ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร.เสนำะ กล่ินงำม อธิกำรบดีมหำวิทยำลัยรำชภฏั
เพชรบรุ ี เป็นประธำนเปิดโครงกำร “ถ่ำยทอดเทคโนโลยรี ถล�ำเลยี งเกลือส�ำหรบั
เกษตรกร” ท่ีคณะวศิ วกรรมศำสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ตุ สำหกรรม มหำวทิ ยำลยั รำชภัฏ
เพชรบุรีไดจ้ ดั ข้ึน

133

โดยมีนำยศรีธรรม รำชแก้ว นำยอำ� เภอบ้ำนแหลม ผู้นำ� ทอ้ งถนิ่ คณะผ้บู รหิ ำร
มหำวทิ ยำลยั ฯ คณำจำรย์ เจำ้ หน้ำท ่ี นกั ศกึ ษำ ตลอดจนเกษตรกรนำเกลอื ในพน้ื ท่ี
ร่วมใหก้ ำรตอ้ นรับ
ซ่ึงจะได้มีกำรถ่ำยทอดเทคโนโลยีและให้ค�ำแนะน�ำแก่ผู้สนใจน�ำไปต่อยอดให้
เปน็ ประโยชนต์ อ่ วงกำรเกลอื ทะเลตอ่ ไป ส�ำหรบั รถลำ� เลยี งเกลอื ทค่ี ณะ
วิศวกรรมศำสตร์และเทคโนโลยีอุตสำหกรรม มหำวิทยำลัยรำชภฏั เพชรบุรี ไดค้ ดิ ค้น
ขน้ึ ดร.อิทธพิ ัฒน์ รูปคม กมลวรรณ วงศ์วฒุ ิ ดวงกมล องั อ�ำนวยศิร ิ และครรชิต
ภำวนำนนท ์ ทมี ผวู้ จิ ัยได้อธบิ ำยถงึ ลกั ษณะเด่นคือตัวรถขนย้ำยมีกระบะเก็บเกลอื วำง
อยู่บนโครงสรำ้ งรถเหนอื ล้อทรงกระบอกทีย่ ำว วำงแนวขนำนกัน ขบั เคลื่อนด้วย
เคร่อื งยนต ์ มอเตอร์ไฟฟ้ำ กระบะเกบ็ เกลือสำมำรถยกเทและเกบ็ กระบะไดโ้ ดยใช้
ระบบไฮดรอลิค คันโยก มอื ยกเท เพื่อควำมสะดวกและเหมำะสมกบั พืน้ ทป่ี ฏิบตั งิ ำนท่ี
มีลักษณะกง่ึ เปียก ผนื ดินไมแ่ น่นและรับนำ�้ หนกั ไดไ้ ม่มำกนัก

134

กำรเก็บเกี่ยวเกลอื ทะเล
ท่มี ำ:FB: Somruk Ruenraroengsak

135

รถขนยำ้ ยเกลอื เขำ้ ยุ้ง

รถขนเกลือในแปลงนำ

136

รถขนเกลอื ขนำดเล็ก

คนขนเกลอื ด้วยปุ้งก๋แี ละไมค้ ำนหำบท่อี ำ� เภอบ้ำนแหลม จังหวัดเพชรบรุ ี

137

138

ปงุ กี๋และหำบสำ� หรบั ขนเกลือทจ่ี งั หวัดปัตตำนี

139

คนขนเกลือดว้ ยรถเขน็ ธรรมดำ

140

สถานการณ์
เกลือทะเลไทย

141

เกลือทะเลไทยแต่เดิมผลิตด้วยระบบนำดินโดยกำรปรับผืน
ดนิ รมิ ชำยฝง่ั ทะเลเปน็ ที่รำบคลำ้ ยแปลงนำ ท�ำคนั กนั้ ดนิ เพอ่ื สูบนำ้�
ทะเลขึ้นมำกักไว้แล้วใช้แสงแดดและกระแสลมชำยฝั่งเป็นปัจจัย
ทำ� ให้นำ้� ทะเลระเหย เม่อื นำ้� ทะเลมคี วำมเขม้ ขน้ มำกขึ้นจนถึงระดับที่
เกลือสำมำรถตกผลึกได้ก็จะได้ผลผลิตเกลือทะเลมำใช้ในกำรอุปโภค
บรโิ ภค กำรทำ� นำเกลือในลักษณะนีเ้ รียกวำ่ sea salt pan หรือ sea
salt farm เปน็ กระบวนกำรแบบดง้ั เดมิ ในกำรนำ� น�ำ้ ทะเลมำเปน็
วัตถุดิบเพื่อท�ำเกลือมำแตโ่ บรำณ แตห่ ำกนำ� นำ้� จำกทะเลสำบน�ำ้ เคม็
หรอื น�ำ้ เค็มจำกใตด้ นิ มำตำกในแปลงนำเพอ่ื ให้ได้เกลือ ก็อำจจะเรียก
โดยรวมว่ำ Solar salt โดยน�ำ้ เค็มทเ่ี ป็นวตั ถุดบิ อำจจะไม่ใช้น�ำ้ ทะเล
เกลอื ทีไ่ ด้จงึ ไมจ่ ดั เปน็ เกลือทะเล อยำ่ งไรก็ตำม เกลอื ทผ่ี ลิตไดจ้ ำก
แปลงนำบริเวณชำยฝั่งอำ่ วไทยลว้ นเป็นเกลอื ทะเล ซงึ่ ในปจั จบุ นั ใน
กระบวนกำรล้ำงเกลือในโรงงำนแปรรูปและบรรจุเกลือก็มีควำม
พยำยำมของเกษตรกรท่ีจะพัฒนำระบบกำรท�ำนำเกลือเพ่ือผลิต
เกลอื ท่มี ีควำมขำวสะอำด มคี วำมบริสทุ ธ์ิสงู ข้นึ นนั้ ได้แก่ กำรทำ� นำ
เกลอื แบบใชพ้ ลำสตกิ ปูพ้ืนเรียกวำ่ นำเกลือพลำสติก กำรทำ� นำเกลอื
แบบบ่อปนู นบั เป็นพัฒนำกำรในกำรท�ำนำเกลอื ทะเลชำยฝ่ังในแถบ
น้แี มว้ ำ่ อำจจะทำ� ใหต้ ้นทนุ เพิม่ สงู ข้ึน แตก่ ระบวนกำรดงั กล่ำวกแ็ สดง
ถึงควำมพยำยำมในกำรพัฒนำระบบกำรผลิตเกลือทะเลสู่เชิง
พำณิชย์

142

กำรทำ� นำเกลือทะเลแบบนำดนิ ในปจั จุบนั ไดร้ ับผลกระทบ
จำกคุณภำพของน้�ำทะเลท่ีด้อยลงอันเนื่องมำจำกกำรปนเปื้อนจำก
สำรเคมี สำรอนิ ทรยี แ์ ละส่งิ ปฏิกูลที่มำกบั มวลน�้ำจืดซึง่ ไหลลงสทู่ ้อง
ทะเล อีกทง้ั พื้นท่ีป่ำชำยเลน (Mangrove forest) และพ้นื ท่ีชมุ่ น้ำ�
เค็ม (marine salt marsh) ทเี่ คยเปน็ เสมอื นแหล่งดดู ซับของเสีย
และบำ� บดั น�ำ้ กม็ ีพ้ืนทีล่ ดนอ้ ยลง รวมถงึ พืน้ ท่ีแหล่งผลติ เดมิ ใน
จังหวัดเพชรบุรี จังหวดั สมุทรสำครและจงั หวัดสมุทรสงครำมถูกขำย
เพ่ือน�ำไปใช้เป็นพื้นที่กำรท�ำโรงงำนอุตสำหกรรมหรือกิจกรรมอื่นที่
ได้ผลตอบแทนสูงกว่ำปัจจุบันพ้ืนท่ีกำรท�ำนำเกลือของประเทศไทย
ลดลงในทกุ ๆ ปี เมอ่ื เปรียบเทียบศกั ยภำพกำรแขง่ ขนั กบั สินคำ้
ทดแทนประเภทเดียวกนั อำชีพกำรทำ� นำเกลอื ทะเลสว่ นหนง่ึ ได้รับ
ผลกระทบจำกกำรผลิตเกลือโดยกระบวนกำรทำงวิศวกรรมเหมือง
แรท่ ีเ่ รยี กวำ่ เกลอื หินหรือเกลือบริสุทธ์ ิ ซึ่งไดร้ ับควำมนยิ มในกล่มุ
โรงงำนอตุ สำหกรรม

143

เป็นเหตุให้รำคำเกลือทะเลลดลงไปในทสี่ ดุ (ศูนยค์ วำมรู้
วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ส�ำนกั ปลัดกระทรวงวิทยำศำสตร์
และเทคโนโลย,ี 2556) นอกจำกน้ ี กรรมวิธีในกำรผลิตเกลือทะเล
ก็ยังต้องใช้ระยะเวลำนำนกว่ำและต้นทุนในกำรผลิตท่ีสูงกว่ำ
รวมไปถงึ กระบวนกำรทำ� นำเกลือถือเปน็ ศำสตร์และศลิ ป  เพรำะ
ต้องอำศยั ควำมเหมำะสมของสภำพภมู ิอำกำศ ซ่งึ มีกำร
เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลำ
อย่ำงไรกต็ ำม หำกคำ� นงึ ถงึ คณุ คำ่ ระหว่ำงเกลอื ทะเลกบั
เกลือบริสุทธแิ์ ลว้ มคี วำมแตกต่ำงกันอยำ่ งส้นิ เชิง เนอ่ื งจำก เกลอื
บรสิ ทุ ธม์ิ เี ฉพำะปริมำณโซเดียมคลอไรด ์ (ควำมเคม็ ) ที่สูงมำกเกนิ
ควำมจ�ำเป็นของรำ่ งกำย จึงเหมำะทจ่ี ะนำ� ไปใชใ้ นภำค
อตุ สำหกรรม แต่เกลือทะเลทำ� มำจำกน้ำ� ทะเลทอ่ี ุดมไปดว้ ยแร่
ธำตุท่ีจำ� เปน็ ต่อกำรด�ำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว ์ โดยมนษุ ย์
ต้องกำรบริโภคเกลือประมำณวนั ละ 5-10 กรัม เพือ่ นำ� ไปชว่ ย
รักษำสมดลุ ของน้ำ� ในร่ำงกำยให้เซลล์เนอ้ื เยือ่ ตำ่ งๆ

144

ทำ� งำนอยำ่ งปกต ิ และในเกลือทะเลยังมสี ่วนผสมของสำรไอโอดีน
ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคคอพอกและท�ำให้กำรพัฒนำกำรทำงสมอง
ของเด็ก (IQ) สูงข้นึ นอกจำกน ี้ เกลือยงั สำมำรถนำ� ไปใช้ประโยชน์
ต่ำงๆ เชน่ ใช้ถนอมอำหำรยืดอำยุอำหำรไม่ใหเ้ น่ำเปอื่ ยเสยี หำย ใช้
ลำ้ งสำรเคมใี นผักและผลไม ้ ใช้ในผลิตภัณฑเ์ สรมิ ควำมงำม เช่น สปำ
เกลอื ใชท้ �ำยำสฟี ันรักษำควำมสะอำดของชอ่ งปำก ใช้ในกำรฆำ่ เชือ้
และปรบั สมดุลในระบบนิเวศ รวมทัง้ รกั ษำโรคในบอ่ ปลำ ใชล้ ะลำย
น�้ำเพอ่ื กำรเล้ยี งกุ้งทะเลในระบบควำมเคม็ ต�่ำในพน้ื ทที่ ี่ห่ำงไกลทะเล
โดยไมใ่ ชน้ ำ�้ ทะเลธรรมชำติหรอื นำ้� เค็มเขม้ ขน้ เพอื่ ลดต้นทนุ และกำร
ควบคมุ ควำมเสี่ยงต่อโรคกงุ้ (Daviset al., 2004) ใชท้ ำ� ปยุ ต้นไม้และ
ปรบั สภำพดินในพืชสวนหลำยชนิด เช่น มะพร้ำว สม้ โอ และเกลอื ยัง
ใช้เป็นสินค้ำท่ีช่วยสร้ำงรำยได้ให้กับประเทศและมีผลต่อกำรพัฒนำ
เศรษฐกิจโดยรวมโอกำสทำงกำรค้ำของไทยในฐำนะที่เป็นผู้ผลิต
เกลือในเวทีโลกยังมีศักยภำพในกำรพัฒนำเพ่ือหำส่วนแบ่งกำรตลำด
ทส่ี ูงขึน้ ได้ โดยเกลอื เป็นวตั ถุดบิ ทมี่ ีควำมส�ำคญั ในอตุ สำหกรรม
หลำยชนดิ เพรำะนอกจำกจะน�ำมำใช้ในกำรบรโิ ภคแลว้ ยงั สำมำรถ
น�ำมำใช้ในภำคกำรผลติ อีกด้วย

145

นอกจำกน้ี ควำมตอ้ งกำรใชเ้ กลอื ยงั เพ่ิมสงู ข้นึ อยำ่ ง
รวดเร็วในธุรกิจอีกหลำยดำ้ น เชน่ ธรุ กิจสปำและเสรมิ ควำม
งำม ทใี่ ชเ้ กลอื ผลติ แปง้ เกลอื จดื หรอื ดอกเกลอื สปำ เพ่ือใชใ้ น
กำรขดั หรอื อบผิว ผลติ ภณั ฑ์ชนดิ นม้ี ีรำคำสูงมำกในตลำดต่ำง
ประเทศ ปริมำณควำมต้องกำรของเกลอื จึงมีแนวโนม้ เพมิ่ ขึ้น
ตำมจำ� นวนประชำกรในแตล่ ะป ี ในขณะที่ประเทศท่สี ำมำรถ
ผลติ เกลอื ไดน้ ัน้ มอี ยูอ่ ย่ำงจ�ำกัด สง่ ผลใหห้ ลำยประเทศต้องมี
กำรน�ำเขำ้ เกลอื เปน็ จ�ำนวนมำก ซึง่ จะเพ่ิมบทบำทในกำรส่ง
ออกใหไ้ ทยไดใ้ นอนำคต กล่มุ ประเทศในอำเซียนมกี ำรนำ� เข้ำ
เกลือในสัดส่วนที่สูง เนอ่ื งจำกผลิตได้ไมเ่ พยี งพอตอ่ ควำม
ตอ้ งกำรในประเทศ ไดแ้ ก่ ประเทศอนิ โดนีเซยี ฟิลปิ ปินส์
มำเลเซยี และเวยี ดนำม โดยประเทศอินโดนเี ซียมปี รมิ ำณน�ำ
เข้ำสุทธสิ งู ทส่ี ดุ ในอำเซียนกว่ำ 2 ลำ้ นตันในป ี 2557 หรอื รำว
รอ้ ยละ 30 ของปรมิ ำณนำ� เข้ำทั้งหมดในอำเซยี น ส่วน
ฟลิ ปิ ปินส์ มำเลเซยี และเวียดนำม มสี ดั ส่วนกำรนำ� เขำ้ เกลอื
อย่ทู ป่ี ระมำณ 3-5 แสนตันต่อป ี ตำมลำ� ดบั

146

ส�ำหรับประเทศไทยมีกำรผลิตและกำรใช้เกลือในประเทศท่ี
ค่อนข้ำงสมดลุ แต่เรมิ่ มกี ำรน�ำเข้ำสงู ขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันผ้สู ่งออก
เกลอื รำยใหญ่ใหก้ ับอำเซยี น คือ ประเทศออสเตรเลีย โดยมสี ดั สว่ น
กำรส่งออกมำกกวำ่ ร้อยละ 90 ส่วนประเทศจนี อินเดยี และญี่ปนุ่
มสี ดั สว่ นกำรสง่ ออกเกลือรองลงมำ คำดว่ำในอนำคตประเทศไทย
จะมีควำมได้เปรียบในเร่ืองของระบบขนส่งไปยังประเทศคู่ค้ำใน
อำเซียนท่มี ชี ำยแดนติดกบั ไทย หรือประเทศทม่ี ีระยะทำงขนส่งที่
ใกลก้ วำ่ เมอื่ เทยี บกับค่แู ขง่ หลกั คือออสเตรเลยี และไทยยังมขี อ้ ได้
เปรยี บที่มีคำ่ จ้ำงแรงงำนข้นั ตำ่� ถูกกว่ำออสเตรเลยี ถงึ 10 เท่ำ ท�ำให้
ไดเ้ ปรียบในด้ำนตน้ ทนุ กำรผลติ ทีต่ ่�ำกว่ำ (เลิศพงศ์ ลำภชวี ะสทิ ธ์ิ,
โพสตท์ ูเดย ์ 5 พฤศจิกำยน 2558) ในปี 2561-2562 กลับมีตัวเลข
กำรนำ� เข้ำเกลือทะเลจำกประเทศอินเดียสูงขนึ้ มำก อนิ เดยี สง่
เกลือ(ซ่ึงได้จำกกระบวนกำรทำ� เกลือสญุ ญำกำศและนำเกลอื ) ขำย
ไปทั่วโลกในรำคำถูกกวำ่ ประเทศอื่นๆ เม่ือเปรยี บเทยี บกบั เกลือ
จำกประเทศจนี คูเวต สหรฐั อเมรกิ ำ ซำอุดอิ ำระเบีย อยำ่ งไรกต็ ำม
ในปีท่ีผ่ำนมำ เกษตรกรนำเกลอื ก�ำลงั ประสบปัญหำรำคำเกลอื
ตกต่ำ� เนือ่ งจำกสภำพอำกำศแลง้ และรอ้ นยำวนำน อนั เป็นผลมำ
จำกปรำกฏกำรณ์เอลนินโญ่ (El Nino) ทำ� ใหผ้ ลผลติ เกลือมมี ำก
จนเกินควำมต้องกำรของตลำด

147

กำรเปรียบเทียบรำคำขำยของเกลือจำกแหล่งผลิตท่ัวโลก
ที่มำ: Kishor G. Nayara และคณะ, 2019

148

149

พชื ผลทำงกำรเกษตรทใ่ี ชเ้ กลือในกำรหมกั ดอง มผี ลผลติ น้อยลง ประกอบกบั
นโยบำยของรัฐบำลที่เข้มงวดในกำรควบคุมอุปกรณ์ในกำรจับสัตว์น�้ำของผู้ประกอบ
กำรประมงท่ีต้องใช้เกลือในกำรถนอมอำหำรท�ำให้ควำมจ�ำเป็นในกำรใช้เกลือทะเล
ลดลง รำคำเกลือทะเลทเี่ กษตรกรผลิตขำยไดเ้ พียง เกวียนละ 700 – 800 บำท ในป ี
2559-60 ซง่ึ เป็นรำคำเกลอื ทะเลทต่ี กต�ำ่ มำกในรอบสิบปที ผ่ี ำ่ นมำ โดยรำคำท่ี
เกษตรกรขำยไดใ้ นขณะน้ ี ไม่คุ้มกบั ต้นทนุ กำรผลติ โดยเฉพำะคำ่ แรงงำนทเี่ พม่ิ ขึ้น
และหำได้ยำก ท�ำให้ประสบภำวะขำดทุนและมีหนสี้ ินเพมิ่ เกษตรกรบำงรำย จงึ ยุติ
กำรท�ำนำเกลอื ประกอบกับปัญหำส่ิงแวดลอ้ มเป็นพิษ ขยะทะเล ไมโครพลำสตกิ
ท�ำให้ประชำชนขำดควำมเช่ือมั่นต่อสินค้ำจำกสภำพน�้ำท่ีมีปัญหำเก่ียวกับสำรปน
เปื้อน ท�ำใหเ้ กลือทะเลไม่เปน็ ทตี่ อ้ งกำรของตลำด ขณะเดียวกนั ปัญหำรำคำเกลอื
ตกต่�ำเกษตรกรผู้ท�ำนำเกลือไม่ได้รับควำมคุ้มครองช่วยเหลือและสนับสนุนจำกทำง
รำชกำรเหมือนเกษตรกรทีท่ �ำนำขำ้ วหรือสวนยำงพำรำ ซึ่งจะไดร้ ับค่ำชดเชยเสยี หำย
กรณีเกิดน�ำ้ ทว่ มหรือฝนตกชกุ พำยุฝนฟ้ำคะนองที่ทำ� ควำมเสยี หำยต่อนำเกลือ ยุ้ง
ฉำงและผลผลติ กองเกลอื กต็ ำม จำกปญั หำท่ีเกิดข้ึนกบั เกษตรกรผทู้ ำ� นำเกลือ ผลกระ
ทบทสี่ ง่ ผลด้ำนตน้ ทุน รำคำ ชอ่ งทำงกำรจ�ำหนำ่ ยเกลอื ทะเลและคณุ ภำพของผลผลติ
รวมถึงปัญหำและอุปสรรคในกำรท�ำนำเกลือทะเลของเกษตรกรเพ่ือที่จะให้หน่วยงำน
ทเ่ี ก่ียวข้องและผูท้ ส่ี นใจสำมำรถนำ� ขอ้ มลู ทไี่ ดไ้ ปใช้ในกำรแกป้ ัญหำดำ้ นกำรผลิต กำร
ตลำด ในกำรเพม่ิ มูลค่ำให้กับตัวสินค้ำ รวมท้งั เสนอแนวทำงเชิงนโยบำยในกำรให้
ควำมช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ผลิตเกลือทะเลให้สำมำรถประกอบอำชีพท�ำนำเกลือได้
อย่ำงย่งั ยนื ต่อไป

150


Click to View FlipBook Version