The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Tʜᴇ วิชาการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by JaneJane, 2020-09-15 03:23:55

Tʜᴇ วิชาการศึกษา

Tʜᴇ วิชาการศึกษา

THE สรุปยอ่ อย่างละเอยี ด

BEST

BOOKS OF 2020 ฉบบั สมบรู ณ์ทส่ี ุด ปรับปรุงใหม่ พ.ศ. 2563

ปรปบั รปับรปุงรคงุรคัง้ รทงั้่ี 2ที่ 2

วิชา

การศกึ ษา

เตรยี มเปน็ อนั ดับ 1 ทกุ สนามสอบครผู ชู้ ่วย

The รบั ประกันคุณภาพโดย The Teacher เคยี งคู่ รูค้ า่ พัฒนาการศึกษาไทย
Teacher

หนงั สือเลม่ นี้ ? TheTeacher สรปุ ย่ออย่างละเอียด วิชาการศกึ ษา ฉบับสมบูรณ์ทส่ี ุด ปรบั ปรุงใหม่ พ.ศ. 2563

นอ้ ยด้วยข้อความ แต่แน่นดว้ ยเนือ้ หาและขอ้ สอบ
สั้นดว้ ยจานวนหน้า แตย่ าวด้วยข้อมูลทกุ ประเด็น
ไมเ่ ปลอื งเวลาจด แตจ่ าไดด้ ้วยสตู รทอ่ งคลอ้ งจอง

ทางเลอื กใหม่ สาหรบั นักส้ผู มู้ เี วลาเตรียมตวั น้อย

ครบถว้ นตาม หลักสูตรการสอบของ ก.ค.ศ.

ราคา 320 บาท

The ติดต่อสอบถาม เพจ The Teacher รับประกนั คุณภาพ 320
Teacher
บาท

กยริ า เจ กยิราเถนํ
จะทำสิ่งไร ควรทำจรงิ

ชื่อหนังสอื : หนงั สอื สอบบรรจคุ รูผชู้ ่วย สรุปย่ออย่างละเอียด ฉบับสมบรู ณ์ทส่ี ดุ วชิ าการศกึ ษา

ผูเ้ ขียน : The Teacher
ออกแบบปก : The Teacher
ออกแบบรปู เล่ม : The Teacher
พิสจู นอ์ กั ษร : ทีมงาน The Teacher

สงวนลิขสิทธิต์ าม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 (แกไ้ ขเพม่ิ เติม พ.ศ.2558) ห้ามลอกเลยี นแบบหรือคดั ลอก
สว่ นหนงึ่ ส่วนใดของหนงั สอื เลม่ นี้ นอกจากจะไดร้ บั อนญุ าตเป็นลายลักษณ์อกั ษรเท่าน้ัน

พิมพค์ ร้งั แรก : เดือนกันยายน พ.ศ. 2562
พิมพค์ รง้ั ท่ี 2 : เดอื นมกราคม พ.ศ. 2563

จดั ทำโดย : The Teacher
4-5 ม.14 ถนนสุเทพ ตำบลสเุ ทพ อำเภอเมอื งเชยี งใหม่ จงั หวัดเชียงใหม่ 50200
ราคา 320 บาท

พมิ พ์ที่ : ลกั ษณ์พานชิ
224/8 ถนนเจรญิ ประเทศ ตำบลชา้ งคลาน อำเภอเมอื งเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100

ติดต่อส่ังซอ้ื : Facebook : The Teacher

บทนำ

ปัญหาสำคัญของการอ่านหนังสือสอบบรรจคุ รูผ้ชู ว่ ยมีหลายประการ เช่น หนังสือมรี ายละเอียดมาก เกินไป ทำให้
จดจำไมไ่ ด้ หรือหนงั สอื สรุปสั้นเกินไป ทำใหไ้ มเ่ ขา้ ใจรายละเอยี ด รวมถงึ หนงั สือที่ไม่มีหลักจำ สูตรทอ่ ง ทำให้จดจำได้ยาก
ซ่ึงปัญหาข้างต้นน้ี ล้วนสะท้อนมาจากอดตี นักรบในสนามสอบหลายท่าน หนงั สือเลม่ น้ีจึงมที ี่มาจากปัญหานานัปการดังกล่าว
ไปแล้ว ที่ผู้เขียนเองตั้งใจสรุปขึ้นมาใหม่จากเอกสารทฤษฎีทางการศึกษาหลายเล่ม โดยอ้างอิงจากข้อสอบครูผู้ช่วย
วิชาการศึกษา ภาค ข หลายสนาม เพ่อื เสริมความรู้ สู่ความถนดั อดั รอยรว่ั สำหรับผ้สู อบบรรจคุ รูผู้ช่วยทุกท่าน ด้วยวิธี
สรุปย่ออย่างละเอียดสำหรบั ผอู้ ่านท่านใหม่ ให้เข้าใจสาระภายในเล่มเดยี ว และสรา้ งสูตรท่องใหม่สำหรบั ท่านท่ีไม่ถนัดการจำ
ดว้ ยสูตรคำคล้องจอง ท่องงา่ ย สบายเม่ือสอบ

คณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณคณาจารย์ผู้ผลิตครูสู่วงการศึกษาทุกท่าน พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ในวงการศึกษา
และว่าที่ครูผู้ช่วยทุกท่าน ขอผลบุญจากกุศลกรรมอันบริสุทธิ์ในครั้งน้ี จงเป็นพลวปัจจัยให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความสุข
เจริญก้าวหน้าในชีวิตการงาน และท่านทค่ี รอบครองหนงั สอื เล่มนี้ จงสมหวังดงั ความมงุ่ มาดความปรารถนาทุกประการ

“สิทฺธิกจิ จฺ ํ ขอใหก้ ารงานสำเรจ็
สิทฺธิกมฺมํ ขอให้การกระทำทกุ อย่างจงสำเร็จ
สทิ ฺธิลาโภ นิรนฺตรํ ขอให้มีลาภตลอดกาล
สิทฺธิเตโช ชโยนิจฺจํ ขอให้มีเดชมอี ำนาจทย่ี ่ังยนื
สพพฺ สิทฺธิ ภวนฺตุ เต ขอความสำเร็จทง้ั หลายเหลา่ นีจ้ งมีแก่ท่าน”

The Teacher

(คณะผ้จู ดั ทำ)

สารบญั หน้า

เรอ่ื ง 2
3
คำนำ 5
13
สารบัญ 20
24
หลักสตู รและการพฒั นาหลักสูตร 31
47
- ความหมายของการศกึ ษา 48
- ปรัชญาการศกึ ษา 49
- นกั การศึกษาตน้ แบบแนวคดิ และทฤษฎีทางการศึกษา
- ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหลกั สูตร 53
- ความรู้พนื้ ฐานเก่ยี วกบั การพัฒนาหลักสูตร 54
- ความเป็นมาการจดั การศึกษาและพัฒนาหลักสูตรของไทย 54
- หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 55
- หลักสูตรระดบั ท้องถ่ิน 58
- หลกั สูตรสถานศกึ ษา 59
- นโยบายลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้
69
หลกั การสอนท่ีเนน้ ภารคดิ วิเคราะหแ์ ละการจัดการเรยี นรู้ท่เี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ 73
83
- หลกั การสอนและการเรียนรู้ 85
- ทฤษฎีการเรยี นรู้
- กลมุ่ ท่ี 1 ทฤษฎีเกย่ี วกับการเรยี นรู้ชว่ งก่อนครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 20 87
- กลุ่มที่ 2 ทฤษฎีเก่ยี วกบั การเรยี นรู้ในชว่ งคริสต์ศตวรรษท่ี 20 89
- กลุ่มท่ี 3 ทฤษฎีการเรียนรูแ้ ละการสอนรว่ มสมัย 90
- รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทีเ่ น้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ 90
96
จติ วทิ ยาการศึกษาและการแนะแนว 96

- ความรูเ้ กย่ี วกบั จติ วิทยาการศกึ ษาและการแนะแนว
- จิตวิทยาการศกึ ษา
- จติ วทิ ยาการแนะแนว
- 18 ขอ้ ควรรู้ สู้จติ วทิ ยาการศกึ ษา

การพฒั นาผูเ้ รียน

- การพฒั นาผ้เู รยี น
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
- กจิ กรรมแนะแนว
- กิจกรรมนกั เรยี น
- กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
- ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

สารบัญ (ต่อ) หนา้

เรื่อง 99
96
การบริหารจดั การช้ันเรียน 100
102
- การจดั การชั้นเรียนเพอ่ื สง่ เสรมิ บรรยากาศการเรียนรู้
- บรรยากาศทพ่ี ึงปรารถนาในชั้นเรียน 104
- ประเภทของบรรยากาศในชัน้ เรียน 110
- เทคนคิ การปกครองช้นั เรียน 113
115
การวิจัยทางการศึกษา 116

- ความรูเ้ บือ้ งตน้ เกยี่ วกับการวจิ ยั 118
- การหาคุณภาพของเครอ่ื งมือวิจยั 119
- สถติ ทิ ใ่ี ช้ในการวิจยั 121
- การเขยี นรายงานวิจยั 123
- การวิจัยในชน้ั เรยี น
127
สอ่ื นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา 130
131
- ความรูเ้ กย่ี วกบั ส่ือทางการศึกษา 133
- ตัวอยา่ งสอ่ื ทางการศึกษา 133
- นวตั กรรม และเทคโนโลยกี ารศกึ ษา
- การบริหารระบบสารสนเทศในสถานศึกษา 136
136
การวัดและประเมินผลการศึกษา 136
136
- ความรู้พื้นฐานเกยี่ วกับการวัดและประเมนิ ผลการศึกษา 136
- พฤติกรรมทางการศึกษา 136
- การสร้างแบบทดสอบ
- การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ
- การหาคุณภาพของเครื่องมอื

ลกั ษณะงานที่ปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานตำแหนง่

- ลักษณะงานที่ปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานตำแหน่ง
- มาตรฐานตำแหน่ง และมาตรฐานวทิ ยฐานะของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
- หน้าท่ีและความรบั ผิดชอบ
- ลักษณะงานที่ปฏิบตั ิ
- คณุ สมบัตเิ ฉพาะสำหรบั ผดู้ ำรงตำแหน่ง
- การใหไ้ ดร้ ับเงินเดอื น

สารบัญ (ต่อ) หนา้

เร่ือง 137
147
แบบทดสอบวชิ าการศึกษา ชดุ ท่ี 1 156
แบบทดสอบวชิ าการศึกษา ชุดท่ี 2 164
แบบทดสอบวชิ าการศกึ ษา ชดุ ที่ 3 172
แบบทดสอบวิชาการศกึ ษา ชุดที่ 4 181
แบบทดสอบวิชาการศึกษา ชดุ ท่ี 5 189
แบบทดสอบวชิ าการศึกษา ชุดท่ี 6 196
แบบทดสอบวชิ าการศึกษา ชุดที่ 7 203
แบบทดสอบวชิ าการศกึ ษา ชุดที่ 8 210
แบบทดสอบวิชาการศกึ ษา ชุดที่ 9 217
แบบทดสอบวิชาการศกึ ษา ชุดที่ 10 225
แบบทดสอบวชิ าการศกึ ษา ชุดที่ 11 232
แบบทดสอบวิชาการศึกษา ชดุ ท่ี 12 238
แบบทดสอบวชิ าการศกึ ษา ชดุ ที่ 13 246
แบบทดสอบวชิ าการศึกษา ชดุ ท่ี 14 247
เฉลยแบบทดสอบวิชาการศึกษา ชุดที่ 1-2 248
เฉลยแบบทดสอบวิชาการศึกษา ชุดท่ี 3-4 249
เฉลยแบบทดสอบวิชาการศึกษา ชุดที่ 5-6 250
เฉลยแบบทดสอบวิชาการศกึ ษา ชุดท่ี 7-8 251
เฉลยแบบทดสอบวิชาการศึกษา ชุดท่ี 9-10 252
เฉลยแบบทดสอบวิชาการศึกษา ชุดที่ 11-12 253
เฉลยแบบทดสอบวิชาการศกึ ษา ชุดท่ี 13-14
บรรณานุกรม

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย สรปุ ยอ่ อยา่ งละเอียด เรอ่ื ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

1เรื่อง หลกั สูตร
และการพฒั นาหลกั สูตร

หลักสตู รและการพฒั นาหลกั สูตร ประกอบด้วย

(1) ความหมายของการศึกษา
(2) ปรัชญาการศึกษา
(3) นกั การศึกษาตน้ แบบแนวคดิ และทฤษฎที างการศึกษา
(4) ความรพู้ ืน้ ฐานเกยี่ วกบั หลักสูตร
(5) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสตู ร
(6) ความเป็นมาการจดั การศึกษาและพฒั นาหลกั สตู รของไทย
(7) หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
(8) หลกั สูตรระดับทอ้ งถิ่น
(9) หลกั สูตรสถานศกึ ษา
(10) นโยบายลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลารู้

เน้ือหาในบทท่ี 1 เกีย่ วกับหลกั สูตรและพฒั นาหลกั สูตร
The Teacher ไดส้ รปุ เนือ้ หาวิชาและเตรียม “สูตรทอ่ ง”

ไว้สำหรบั วา่ ทค่ี รผู ู้ช่วยทกุ ทา่ น
สู้ ๆ นะครบั ☺

สรุปเน้อื หาสอบครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 1

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย สรุปยอ่ อยา่ งละเอียด เร่ือง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 ความหมายของการศึกษา

1) อรสิ โตเตลิ (Aristotle)

การศกึ ษา คือ การพฒั นาบุคคลใหม้ คี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรม

2) ชลู ซ์ (Shultz)

การศกึ ษา คอื การลงทุน

3) แฮรบ์ าร์ต (Herbart)

การศึกษา คอื การทาํ พลเมืองให้มีความประพฤติดแี ละมีอุปนิสัยท่ีดงี าม

4) ยงั ยคั ส์ รสุ โซ (JeanJacquesRousseau)

การศกึ ษา คือ การพัฒนาศกั ยภาพ ความรู้ความสามารถของมนุษยม์ าใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์

5) คาร์เตอร์ วี. กู๊ด (CarterV.Good)

การศึกษาคอื การพัฒนาความรู้ความสามารถของบคุ คล เจตคติ และคณุ ธรรม

6) จอหน์ ดวิ อ้ี (JohnDewey) เน้นประสบการณ์

• การศึกษา คอื ชีวิต ชวี ิต คือ การศกึ ษา
• การศึกษา คอื ความเจริญงอกงาม
• การศกึ ษา คือ กระบวนการทางสงั คม การถ่ายทอดความรู้
• การศกึ ษา คือ การสรา้ งประสบการณช์ วี ิต

☺ อรสิ โตเตลิ เอ้ินคณุ ธรรม ดวิ อ้ีนำชีวติ คือการศึกษา ว่ากระบวนการสงั คม
ชนื่ ชมความเจรญิ งอกงาม ตามสรา้ งประสบการณ์ชีวติ ติดศักยภาพรุสโซ
โอ้ความสามารถวกี ดู๊ พดู ลงทนุ ซูลล์ คุณประพฤตดิ ีแฮรบ์ ารต์

สรปุ เนอ้ื หาสอบครูผู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 2

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหน่งครูผู้ชว่ ย สรุปย่ออยา่ งละเอยี ด เรอื่ ง วิชาการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

7) ดร. สาโรช บัวศรี  เนน้ ธรรมะ

การศึกษา คือ การพัฒนาความเจริญงอกงามของขันธ์ 5

8) ทา่ นพทุ ธทาสภิกขุ

การศึกษา คอื หมาหางด้วนที่เน้นแต่การให้ความรู้ แต่ขาดคณุ ธรรม

9) พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 ข้อสอบ : เคยออกขอ้ สอบ

การศกึ ษา คอื กระบวนการเรยี นรูเ้ พอื่ ความเจรญิ งอกงามของบุคคลและสังคม

10) พระธรรมปฎิ ก

การศกึ ษา คอื กระบวนการสําคัญในการพัฒนาประเทศ

☺ สาโรชพัฒนาขนั ธ์ห้า หมาหางด้วนของพุทธทาส พระราชบญั ญตั ิเจริญงอกงามบุคคลและสังคม
ชื่นชมพระธรรมปฎิ กพฒั นาชาติ

 ปรชั ญาการศึกษา ข้อสอบ : เคยออกข้อสอบ

ปรัชญา ตรงกับคาํ ในภาษาองั กฤษวา่ “Philosophy” ผ้นู ํามาใช้คือ “พิทากอรัส” มาจากรากศัพท์ภาษากรีกวา่

“Philosophia” ประกอบมาจากรากศัพท์คําว่า ดังน้นั Philosophia” จงึ หมายถงึ
➢ Philos แปลว่า ความรกั ความเลอื่ มใส ความสนใจ ความรกั ในปัญญา และความรกั ในวิชาการ

➢ Sophia แปลว่า ปัญญา ความรู้ วิชาการ

 สาขาของปรัชญา

 อภิปรัชญา (Metaphysics) หรอื ภวปรชั ญา (Ontology)

ว่าด้วยความแทจ้ ริงของสรรพสง่ิ สิง่ ทีม่ อี ยูย่ อ่ มเป็นสง่ิ แท้จรงิ ส่งิ แท้จรงิ ย่อมมีอยู่ ความมอี ยู่และความแทจ้ ริงเป็นส่ิงเดยี วกัน

 ญาณวทิ ยา (Epistemology)

การคน้ หาความรูท้ ่ีแท้จริง ศกึ ษาถงึ รายละเอยี ดของความรู้ทัง้ หมด เพอ่ื ให้เหน็ ความเป็นไป และตดั สนิ ได้วา่ อะไรเปน็ ความจริงแท้

 คุณวิทยา (Axiology)

วิชาทีว่ ่าดว้ ยคณุ คา่ มี 4 ประเภท คือ จริยศาสตร์ (หลกั ความประพฤต)ิ สนุ ทรียศาสตร์ (วชิ าวา่ ด้วยความดงี าม)
ตรรกศาสตร์ (ว่าดว้ ยการใหเ้ หตผุ ล) และเทววิทยา (หลกั คำสอนด้านศาสนา)

สรปุ เน้ือหาสอบครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 3

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย สรปุ ยอ่ อย่างละเอียด เรื่อง วชิ าการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

ปรัชญาการศึกษา 6 สาขา

ปรัชญา จุดเนน้ ผรู้ ิเรมิ่ แนวคิด หมายเหตุ

สารตั ถนยิ ม เนือ้ หาสาระวชิ า วลิ เลียม ซี แบกเลย์ *ผสู้ อนเปน็ สำคัญ/เนน้ การทอ่ งจำ
โรเบิรต์ เอม็ ฮทั ชินส์ *ถา่ ยทอดมรดกทางวฒั นธรรม
(Essentialism) ความรูใ้ นอดตี
จอห์น ดิวอี้ *เน้นการถกเถยี ง
นริ นั ตรนิยม เน้นประสบการณ์ *เก่ยี วกบั ศาสนา
การแก้ไขปัญหา ธโี อดอร์ บราเมล *ความเชอ่ื และค่านยิ ม
(Perennialism) ซอเรนครี ์ เคกอร์ด
รวมกนั ระหวา่ งสารัตถนยิ มและ ดร.สาโรช บัวศรี *ผเู้ รยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง
พิพฒั นาการนิยม หรือ พิพัฒนาการนยิ ม *Learning by Doing
ปฏิบตั นิ ิยม (Progressivism) เรียนดว้ ยตนเอง *หลักสูตรแบบประสบการณ์ สปช.
และประสบการณ์นิยม เข้าใจตนเอง สลน.

(Experientialism) ไตรสกิ ขา (ศลี สมาธิ ปญั ญา) *ปรชั ญาหลกั สูตรแกนกลาง 51
*เนน้ สังคม แก้ปัญหาสังคม
ปฏริ ูปนิยม สรา้ งระเบียบสังคมใหม่ บนประชาธิปไตย
หรือ บูรณาการนยิ ม *เนน้ การอภิปราย

(Reconstructionism) *พัฒนาความเปน็ คนของตนเอง
*มีเสรภี าพในการเลือกเรยี น
อตั ถภิ าวนิยม
*เนน้ หลกั ไตรสกิ ขา (ศีล สมาธิ ปญั ญา)
(Existentialism) *เน้นสรา้ งศรัทธาและโยนโิ สมนสกิ าร

พทุ ธปรัชญาการศึกษา

(Buddhism)

☺ สารตั ถจะทอ่ งจำ ยำ้ ของเดมิ นริ นั ตร์ หันมาสนใจผเู้ รียนพพิ ฒั น์
อตั ถิสนใจตนเอง เล็งไตรสกิ ขาคือพทุ ธ หลักสูตรแกนกลางใช้ปฏริ ูป

สรุปเน้ือหาสอบครูผชู้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 4

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย สรุปย่ออย่างละเอียด เรื่อง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 นกั การศึกษาต้นแบบแนวคดิ และทฤษฎที างการศึกษา

1. โจฮันน์ ไฮนร์ ิค เปสตาลอสซี (Johann Heinrich Pestalozzi)

 ชาวสวสิ เซอรแ์ ลนด์ ข้อสอบ : ทฤษฎีนักคดิ คนใด เนน้ หลกั สตู รบูรณาการ ?
 ทฤษฎที างการศกึ ษาของเปสตาลอสซี คอื

"I wish to psychologize Instruction"

 กระบวนการสอนโดยการเพม่ิ ความรสู้ กึ ตอ่ ความรใู้ นเรอ่ื งความเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของเดก็
 คํานงึ ถงึ เรอื่ งความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลอนั จะมผี ลต่อการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น
 เนน้ หลักสูตรแบบบูรณาการ (Integrated Currirulum)

ความเห็นเก่ยี วกบั การศกึ ษาและการเรยี นการสอน ดงั น้ี
1. รากฐานของการให้ความรู้คอื การหดั ให้นักเรยี นสังเกต
2. การเรยี นภาษาถอ้ ยคําก็ตอ้ งใช้คู่กับของจริงทเ่ี ขาใช้เรียก
3. การสอนเรม่ิ ต้นจากสงิ่ ที่งา่ ยทส่ี ดุ
4. ให้เวลาเพยี งพอแกน่ ักเรยี นแตล่ ะคน
5. ต้องทําให้นกั เรียนรูส้ กึ ว่าโรงเรยี นไมต่ ่างจากบา้ น

สรปุ เน้อื หาสอบครผู ู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 5

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย สรปุ ยอ่ อย่างละเอียด เรือ่ ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

2. เฟรดเดริค โฟรเบล (Friedrich Froebel)

 บิดาแหง่ การอนบุ าลศึกษา หรือ การศกึ ษาปฐมวัย ขอ้ สอบ : บิดาแหง่ การศกึ ษาปฐมวัย คือใคร ?
 ชาวเยอรมนั

ทฤษฎีการศึกษาของ โฟรเบล คือ การอบรมเดก็ ให้ความสามารถภายในตวั เดก็ อันมอี ยู่แล้วตามธรรมชาติตาม
พัฒนาการอันมอี ยู่แลว้ ใหค้ วามเจรญิ ปรากฏในตวั เด็ก หน้าที่ของครูคือการจัดส่ิงแวดล้อมรอบตวั เดก็ ให้มีลักษณะ
เหมาะสมตามความเจริญของเด็กท่จี ะเกิดขึน้ โดยสมบูรณ์ทกุ ประการ

องคประกอบพ้ืนฐานในการใหการศึกษาแกเดก็ 4

1) ใหโอกาสผูเรยี นปฏิบัติกจิ กรรมดวยตนเองอยางเสรี
2) ใหโอกาสผูเรยี นไดคดิ สรางสรรค
3) ใหโอกาสผูเรียนไดมีสวนรวม
4) ใหผูเรียนมโี อกาสแสดงออกทางกลไกหรอื กายภาพ อนั ไดแก การเรยี นโดยการกระทาํ

 วิธีสอน เนน้ ท่ีการสอนเดก็ อนุบาล ออกมาในรูปการเรียนปนเลน่ (Play way)
 ฟรอเบลเปรยี บเทียบการศกึ ษาของเดก็ วา่ “เด็กเปรียบเสมอื นเมล็ดพนั ธทุ์ ่ตี ้องการพฒั นาให้งอกงาม”

(Play way)
1)
2)
3)

☺ เบล อนบุ าล การเรยี นปนเลน่ เนน้ ความสามารถในตวั

สรุปเน้อื หาสอบครผู ู้ชว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 6

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย สรปุ ยอ่ อย่างละเอยี ด เรือ่ ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

3. แฮร์บาร์ต (Herbart)

 ชาวเยอรมนั
 ทฤษฎกี ารศึกษา คอื การศึกษา ประกอบด้วยส่วนสาํ คัญ 3 ส่วน ไดแ้ ก่

การปกครอง
การสอน
การฝกึ อบรม

 หลักการสอนของแฮร์บาร์ต มี 5 ขั้น คือ

1. ข้ันเตรยี ม (Preparation)
2. ขน้ั สอน (Presentation)
3. ข้นั สัมพนั ธ์ (Association)
4. ขัน้ สรปุ (Formulation)
5. ขั้นนําไปใช้ (Application)

4. ธอรน์ ไดค์ (Edward L. Thorndike)  ฤษฎ ธ์ ื โ ข้อสอบ : เคยออกเกย่ี วกบั กฎของธอร์นไดค์ ?

 นักการศึกษาและจิตวิทยาชาวอเมรกิ ัน

 ผ้ใู หก้ ําเนดิ ทฤษฎีแห่งการเรียนรู้ชอ่ื วา่ ทฤษฎีสัมพนั ธ์เช่อื มโยง (Connectionism Theory)

 เน้นท่คี วามสัมพันธเ์ ชอ่ื มโยงระหว่าง สิ่งเรา้ (Stimulus) กบั การตอบสนอง (Response)

การเรยี นรู้จะเกิดขน้ึ ได้ด้วยการทีม่ นษุ ย์หรือสตั ว์ได้เลอื กเอาปฏิกิริยาตอบสนองทีถ่ ูกต้องน้ันมาเช่ือมต่อ (Connect)
เขา้ กับสง่ิ เรา้ อย่างเหมาะสม หรอื การเรียนรูจ้ ะเกิดขึ้นได้โดยการสรา้ งสิง่ เช่อื มโยง (Bond) ระหวา่ งสิง่ เร้ากับการตอบสนองใหเ้ กดิ ขึ้น

สรปุ เนอ้ื หาสอบครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 7

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหน่งครูผชู้ ว่ ย สรปุ ยอ่ อยา่ งละเอยี ด เรือ่ ง วิชาการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

จากการทดลองและแนวความคดิ ตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วกบั การเรียนรู้ของธอรน์ ไดค์ ดงั กลา่ วมาข้างตน้

จึงได้เสนอกฎการเรียนรู้ทส่ี ําคญั ขึ้นมา 3 กฎ ได้แก่

1. กฎแหง่ การฝกึ หดั หรอื การกระทาํ ซ้ำ (TheLawofExerciseorRepetition)
การกระทําซำ้ หรอื การฝึกหัดน้ี หากทําบอ่ ย ๆ จะทําให้การกระทําถูกตอ้ งสมบูรณ์และม่ันคง

2. กฎแห่งผล (TheLawofEffect) เป็นกฎทม่ี ีช่ือเสยี งและไดร้ บั ความสนใจมากทีส่ ดุ
รางวลั ชว่ ยส่งเสรมิ การแสดงพฤตกิ รรม แต่การทําโทษจะลดอาการแสดงพฤตกิ รรม

3. กฎแหง่ ความพรอ้ ม (TheLawofReadiness)
ความพรอ้ มของร่างกายในอนั ท่ีจะแสดงพฤตกิ รรมออกมา

☺ ธอรน์ ไดคใ์ หส้ มั พันธ์ สำคัญทส่ี ิ่งเรา้
แลว้ เขา้ ตอบสนอง กฎของซำ้ ทำบอ่ ยดี ผลนีม้ รี างวลั ทำโทษ

พรอ้ มประโยชนค์ วามพรอ้ มรา่ งกาย

5. ดิวอ้ี (John Dewey)  ้ บ ณ์ ื ำ ข้อสอบ : ผู้กำหนดทฤษฎีประสบการณ์คอื ใคร ?

เป็นชาวอเมริกนั
ปรัชญาการศึกษาพื้นฐาน "มนษุ ยจ์ ะมคี วามรู้เกี่ยวกบั สงิ่ ต่าง ๆ ได้ ดว้ ยการอาศัยประสบการณ์เทา่ นัน้ "
กําหนดทฤษฎีประสบการณ์ (TheoryofExperience) เนน้ วา่ กุญแจสาํ คญั ที่จะไขไปสู่ความรู้และความเจรญิ งอกงาม
ของบคุ คลในดา้ นตา่ ง ๆ คอื การเรยี นรู้จากการกระทํา (Learning by Doing)

☺ ดิวอ้ี ตอ้ งมปี ระสบการณ์

สรุปเนอ้ื หาสอบครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 8

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหน่งครผู ู้ชว่ ย สรปุ ย่ออยา่ งละเอยี ด เร่อื ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

6. มาเรยี มอนเตสซอรี (Maria Montessori)  เน้นแตกต่างอย่างอสิ ระ

 ชาวอติ าลี ข้อสอบ : ใครใหค้ วามสำคัญระหวา่ งบา้ นและโรงเรียน ?

 ผบู้ กุ เบิกเกย่ี วกับการสอนแบบ Nourishing

 แนวคิดพืน้ ฐานของวิธีสอนแบบมอนเตสซอรี มลี ักษณะท่ีสาํ คัญอยู่ 3 ประการ คือ

1. การจดั กจิ กรรมของโรงเรียนให้เหมาะสมกบั ผเู้ รยี นแตล่ ะคน
2. แบ่งเด็กให้มโี อกาสทํางานได้อยา่ งอสิ ระ โดยไมข่ ้นึ อยูก่ บั ครูผ้สู อนฝ่ายเดียว
3. เนน้ ในเร่ืองลักษณะการแบง่ แยกระบบประสาทสมั ผสั (education of the senses)

☺ มอนเตสซอรี เน้นที่แตกต่างอย่างอสิ ระ

7. รสุ โซ (Jean Jacques Rousseau) ขอ้ สอบ : ใครเปรยี บเด็กเหมือนผา้ ขาว ?

 ชาวฝร่ังเศส
มีความเชื่อว่า "เดก็ เปรียบเสมือนผ้าขาว แตเ่ มื่ออย่ใู นสภาพแวดล้อมแลว้ ก็เสอื่ มโทรมลง"

ทฤษฎีการศึกษา คือ การใหก้ ารศกึ ษาแก่เด็กจะตอ้ งทาํ ความเข้าใจธรรมชาตขิ องเดก็

จุดมงุ่ หมายของการศึกษา จงึ ควรมงุ่ ให้การศกึ ษารายบคุ คลมากกวา่ สว่ นรวม และความรูค้ วรสอดคลอ้ ง
กบั ความต้องการของเดก็

การส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กเลน่ เสรี (FreePlay) มอี ทิ ธิพลตอ่ การศกึ ษาปฐมวัยในปจั จบุ นั

ทฤษฎคี นเถ่ือนใจธรรม (Noblesavage) คอื มนุษย์เป็นคนดโี ดยธรรมชาติ

8. สกินเนอร์ (B.E.Skinner) ้ ข้อสอบ : การเสรมิ แรงเป็นของใคร ?

 นักจิตวทิ ยาชาวอเมรกิ นั
ทฤษฎีการเรยี นร้แู บบการปฏบิ ัติ คือ การเรียนร้แู บบการกระทํา และ การเสริมแรง (Reinforcement)
ทาํ ใหค้ นแสดงพฤตกิ รรมตอบสนอง โดยอาศัยส่ิงเร้าภายในตนเองเป็นตวั กระต้นุ เพอ่ื สนองความต้องการ

สรุปเนอื้ หาสอบครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 9

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครูผูช้ ่วย สรปุ ย่ออยา่ งละเอยี ด เร่อื ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

9. โรเบริ ต์ กาเย่ (Robert Gangne) ้ บ้ ู ขอ้ สอบ : ทฤษฎกี ารรบั ร้ขู ้อมลู เป็นของใคร ?

นักจิตวิทยาชาวอเมริกนั

ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ เรยี กว่า ทฤษฎกี ารรับรู้ข้อมูล (InformationprocessingTheory) กลา่ วถึงความรูจ้ ากภายนอก

เข้ามาสูต่ วั เรา การรบั รูข้ องสมองแลว้ บันทึกไว้เป็นความจาํ ชวั่ คราวกบั ความจําระยะยาว รวมถงึ การระลึกได้

เมือ่ ถูกเรียกและแสดงออกเป็นพฤติกรรม

หลักการสอนทง้ั 9 ประการ ได้แก่

 เรง่ เร้าความสนใจ (Gain Attention)  กระตนุ้ การตอบสนองบทเรยี น (Elicit Respone)

 บอกวตั ถุประสงค์ (Specify Objective)  ให้ข้อมูลย้อนกลบั (Provide Feedback)

 ทบทวนความรูเ้ ดิม (Activate Prior Knowledge)  ทดสอบความรูใ้ หม่ (Assess Performance)

 นำเสนอเน้ือหาใหม่ (Present New Information)  สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer)

 ชี้แนะแนวทางการเรยี นรู้ (Guide Learning)

10. บลมู (Benjamin S. Bloom)  ้ ำ บ ฤต ขอ้ สอบ : ข้อใดคือทกั ษะการคดิ ข้ันสูง ? (วิ/สัง/ประ)

ชาวอเมรกิ ัน

 จดั ลําดับพฤติกรรมเป็นหมวดหมู่ และระดบั ความยากง่าย เรยี กว่า Taxonomy of Educational objective ดังนี้
1. พฤตกิ รรมพทุ ธพิ ิสยั (Cognitive domain) หมายถึง พฤติกรรมด้านความคดิ

การแกป้ ญั หา เป็นพฤตกิ รรมทางดา้ นสมองและสติปญั ญา แบ่งเป็น 6 ขั้น คือ

1.1 ความรู้ทีเ่ กิดจากการจำ (Knowledge) 1.4 การวเิ คราะห์ (Analysis)
1.2 ความเขา้ ใจ (Comprehension) 1.5 การสงั เคราะห์ (Synthesis) ☺ พทุ ธพิ สิ ยั จำ ใจ ใช้ วิ สัง ประ

1.3 การนาํ ไปใช้ (Application) 1.6 การประเมนิ คา่ (Evaluation)

2. พฤติกรรมจิตพสิ ัย (Affective domain) หมายถึง พฤติกรรมทางดา้ นจิตใจ ความรู้สึก

เจตคติ พฤตกิ รรมน้ีเปน็ ความคิดควบคมุ พฤตกิ รรมชวี ติ ของบุคคล แบ่งเป็น 5 ข้นั ดังนี้

2.1 การรบั (Receiving) 2.4 การจดั รวบรวม (organization) ☺ จติ พสิ ยั รับ ตอบ คา่ รวม พฒั

2.2 การตอบสนอง (Responding) 2.5 พัฒนาลักษณะนสิ ัยจากค่านิยม

2.3 การให้คา่ นยิ ม (Valuing) (Characterization by value or value concept)

3. พฤตกิ รรมดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) หมายถึง การเคลื่อนไหว

การใช้อวัยวะของรา่ งกาย แบง่ เป็น 5 ขนั้ ดงั นี้ ☺ ทกั ษะพสิ ยั รบั เตรยี ม หดั ได้ นาญ
3.1 ขัน้ การรบั (Reception) 3.4 ข้ันทําได้ (Mechanism)

3.2 ชั้นการตระเตรียม (Set) 3.5 ข้ันชํานาญ (Complus overt reqouse)

3.3 ขน้ั ฝึกหดั (Guide respawn)

สรุปเนอ้ื หาสอบครผู ู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 10

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหน่งครูผชู้ ่วย สรปุ ยอ่ อย่างละเอยี ด เร่อื ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

11. เพียเจต์ (Jean Piaget)  ้ ์ ญญ

ชาวสวิตเซอรแ์ ลนด์
แนวโน้มพื้นฐานท่ตี ิดตัวมาต้ังแตก่ ําเนดิ 2 ชนดิ คือ การจัดและรวบรวม (Organization)

และการปรับตวั (Adaptation)

1. การจัดและรวบรวม (Organization) การรับเข้า
หมายถงึ การจัดและรวบรวมกระบวนการต่าง ๆ ภายใน เข้าเป็นระบบอย่างต่อเนือ่ ง

และเปลี่ยนแปลงอยูต่ ลอดเวลาตราบทมี่ ปี ฏิสัมพนั ธก์ บั ส่ิงแวดล้อม

2. การปรับตวั (Adaptation)  การปรับเข้า
หมายถึง การปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั สง่ิ แวดล้อมเพือ่ สมดลุ มกี ระบวนการ 2 อยา่ ง คอื

2.1 การซมึ ซาบหรอื ดูดซมึ (Assimilation)

คือ ดูดซึมประสบการณ์ใหม่เมอ่ื มีปฏสิ มั พันธ์ รวมในโครงสร้างของสติปญั ญา
2.2 การปรบั โครงสรา้ งทางปญั ญา (Accommodation)

คอื เปลยี่ นแบบโครงสรา้ งของเชาวน์ปญั ญาที่มีอยู่เข้ากับประสบการณใ์ หม่

พฒั นาการเชาวนป์ ัญญา ☺ เชาวนป์ ญั ญา

ข้ันที่ 1 Sensorimotor (แรกเกดิ - 2 ขวบ) เกิดสองปีมปี ฏิสัมพันธ์ สวล.
พอ 7 ขวบ รวบใช้สญั ลักษณ์
 ต้องการมปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั สงิ่ แวดล้อมโดยตรง เดก็ จบั ตอ้ งได้ และลงมือทำเอง
ข้นั ที่ 2 Reoperations (2 - 7 ขวบ) อายุ 11 ยิ่งหนัก ตง้ั กฎ
ยอ้ นกลบั ในใจ
 ใชส้ ัญลกั ษณ์แทนวัตถุสงิ่ ของรอบตวั และจะมีพัฒนาการทางดา้ นภาษา
ขั้นที่ 3 Concrete Operations (7 – 11 ขวบ) จากนน้ั ไป ใหต้ งั้ สมมุตฐิ าน

 ตั้งกฎเกณฑ์ คดิ ในใจ สรา้ งภาพในใจและนําเสนอออกมาได้
คดิ เปรยี บเทยี บและคดิ ยอ้ นกลบั ได้ ขอ้ สอบ : ขน้ั ใดคิดย้อนกลบั ได้ ?

ขัน้ ที่ 4 Formal operations (12 – วัยผูใ้ หญ่)

 ตอบคำถามโดยตัง้ สมมตฐิ าน

สรปุ เน้ือหาสอบครผู ู้ชว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 11

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย สรุปยอ่ อยา่ งละเอียด เรื่อง วิชาการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

12. เจอร์โรม บรเู นอร์ (Jerome Bruner) เนน้ ไม่รอเวลา

นกั จิตวทิ ยาแนวพทุ ธปิ ัญญา
เน้นที่พัฒนาการเกี่ยวกับความสามารถในการรับรู้และความเข้าใจของผู้เรียน ประกอบกับ การจดั โครงสร้างของ
เน้ือหาท่ีจะเรียนรูใ้ หส้ อดคลอ้ งกนั
การจัดการศึกษาควรคํานึงถึง การเช่อื มโยงทฤษฎพี ฒั นาการกบั ทฤษฎีความรู้และทฤษฎกี ารสอน เพราะการจดั
เนื้อหาและวิธีการสอนจะต้องคํานึงถึงพัฒนาการ และปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับความสามารถในการคิด หรือการรับรู้
การใชภ้ าษาทีเ่ หมาะสม รวมถงึ การเลอื กใชว้ ธิ กี ารทเี่ หมาะสมกบั วยั ของผู้เรยี น
เชอื่ วา่ “ครูสามารถชว่ ยพฒั นาใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ความพร้อมได้โดยไมต่ อ้ งรอเวลา”
การจัดการเรียนการสอนควรมีการจัดเนื้อหาวิชาที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกนั ไปเรื่อย ๆ มีความลึกซึ้งซับซ้อน
และกว้างขวางออกไปตามประสบการณ์ของผู้เรียน เรื่องเดียวกันอาจสามารถเรียนตั้งแต่ระดับประถมถึงมหาวิทยาลัย
เรยี กวา่ Spiral curriculum

☺ บรูเนอร์ ตอ่ เน่ือง ไมร่ อเรอ่ื งเวลา

13. จอห์น อมอส คอมิวนอิ ุส (John Amos Comenius) ข้อสอบ : ข้อใดจัดการศกึ ษาตามคอมิวนอิ ุส ?

 เชอ่ื วา่ ✓การศกึ ษาควรเปน็ ไปตามลำดบั ขน้ั ของธรรมชาติ
✓การศึกษาเป็นเครอ่ื งมอื สำหรบั เตรยี มคนเพอ่ื ดำรงชพี อยู่อย่างเป็นสขุ
✓ธรรมชาตเิ ป็นกญุ แจสำคญั ของการพฒั นาชีวติ พุทธิศกึ ษา และจริยธรรม

 จุดมุ่งหมายทางการศึกษา คือ ความรู้ คณุ ธรรม และความเครง่ ครดั ในศาสนา

 หนงั สือ Orbus Pictus หรอื โลกรูปภาพ เปน็ แบบเรยี นเลม่ แรกทีม่ ภี าพประกอบ แตง่ โดยคอมิวนิอุส

14. เดวดิ เอลไคนด์ (David Elkind)

 แท้จรงิ แลว้ การเรยี นรู้ทเ่ี หมาะสมกับเดก็ ปฐมวยั คือ การเรยี นรผู้ า่ นการเลน่
 เชอ่ื ว่า การเรง่ ใหเ้ ดก็ เรยี นเปน็ อนั ตรายยงิ่ นกั
 เขยี นหนังสือเรอ่ื ง The Hurried Child

สรปุ เน้อื หาสอบครูผชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 12

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหน่งครผู ูช้ ว่ ย สรปุ ยอ่ อย่างละเอยี ด เรื่อง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

ความรพู้ ื้นฐานเก่ยี วกับหลักสูตร

 ความหมายของหลักสตู ร

 Curriculum มีรากศพั ท์มาจากภาษาละติน Currure หมายถึง ชอ่ งทางสำหรับวิง่

 ทาบา หลักสูตร หมายถึง วธิ เี ตรยี มเยาวชนใหม้ สี ว่ นรว่ มในฐานะที่
เปน็ สมาชกิ ทีส่ ามารถสรา้ งผลผลติ ใหแ้ ก่สงั คมของเรา

กรมวชิ าการ หลักสูตร หมายถงึ มวลประสบการณต์ า่ ง ๆ ท่ี  ็ค

สถานศกึ ษาจดั ขน้ึ ทัง้ ในและนอกห้องเรยี นเพือ่ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ค จำ

และพัฒนาตนเองไปในทศิ ทางที่เหมาะสม ข้อสอบ : หลักสตู รหมายถึง ?

 กดู๊ ใหค้ วามหมายของหลกั สูตรไว้ 3 ประการ

1) เนื้อหาวิชาท่ีจัดใหผ้ เู้ รียนไดศ้ กึ ษา เชน่ หลักสูตรสังคมศึกษา หลกั สูตรพลานามยั หลกั สูตรศิลปศาสตร์
เป็นต้น (หลกั สูตรเป็นรายวชิ า)

2) เค้าโครงท่วั ไปของเนอื้ หา หรือส่ิงเฉพาะท่ีจะต้องสอน ซ่งึ โรงเรียนจดั ให้แก่เด็กเพอื่ ใหเ้ ดก็ มีความรูจ้ บชั้น
หรอื ไดป้ ระกาศนยี บัตรเพ่อื เข้าสูว่ งการอาชีพ (รวมทกุ วชิ าเข้าด้วยกนั )

3) กลุ่มวชิ าและประสบการณท์ ก่ี ําหนดไว้ ซ่งึ นกั เรยี นไดเ้ ลา่ เรียนภายใต้การแนะนําของโรงเรยี น
หรอื สถาบันการศึกษา

 เซเลอร์ และอเลก็ ซานเดอร์ (Saylor and Alexander)ใหค้ วามหมายว่า บรรดาความพยายามท้ังหมด

ของโรงเรียนท่ีเกดิ ผลการเรยี นท่โี รงเรียนปรารถนาท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น”

หลกั สูตรสามารถสรุปได้ ๒ ลกั ษณะ ดังนี้

สรุปความหมายหลักสูตร ดงั นี้

ความหมายวงแคบ หมายถึง วชิ าและเนอื้ หาวชิ าตา่ ง ๆ ท่ีกระทรวงศกึ ษาธกิ ารกาํ หนดให้
เรียนในแตล่ ะชั้นมากน้อยเพยี งใด จะต้องเรยี นอะไรบา้ ง

ความหมายวงกวา้ ง หมายถึง ประสบการณ์ทง้ั มวลทเ่ี รยี น จัดให้กบั นักเรียนทง้ั ในและนอก
หอ้ งเรยี น เพ่ือให้นักเรียนไดม้ ีความรู้ ทักษะ เกิดความคดิ และทัศนคติทีจ่ าํ เปน็ ตอ่ การดํารงชวี ติ

สรปุ เนื้อหาสอบครูผชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 13

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหน่งครูผ้ชู ่วย สรุปยอ่ อย่างละเอยี ด เรือ่ ง วิชาการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 ความสาํ คัญของหลกั สตู ร  ื ผ /็ ศ

ไพศาล หวงั พานิช หลกั สูตรทาํ หน้าท่เี ปน็ ตัวกาํ หนดโครงการหรือแผนปฏบิ ตั ิเป็นแนวทางของการเรยี นการสอน
ทช่ี ่วยให้ผ้เู รยี นไปสู่จุดมงุ่ หวังของสงั คมหรอื ชาตบิ า้ นเมอื ง

สันต์ ธรรมบาํ รงุ ให้ความสําคัญของหลกั สูตร ดังน้ี

✓ เครอ่ื งบง่ ชถ้ี งึ ความเจริญของประเทศ
✓ เอกสารทางราชการใหบ้ คุ คลท่ีปฏิบตั ิตาม
✓ แผนการดําเนินงานของผ้บู ริหารการศึกษา
✓ กาํ หนดลักษณะและรูปรา่ งของสังคมในอนาคต
✓ แผนปฏบิ ตั งิ านหรอื เครื่องชแี้ นวทางปฏบิ ัติงานของครู
✓ ขอ้ กําหนดแผนการเรียนการสอนส่วนรวมของประเทศ
✓ เกณฑม์ าตรฐานการศกึ ษาควบคุมการเรยี นการสอน
✓ กาํ หนดแนวทางในการส่งเสรมิ ความเจรญิ งอกงามและพัฒนาการของเด็ก
✓ กําหนดแนวทางใหค้ วามรูท้ กั ษะความสามารถสู่การพฒั นาเศรษฐกิจและสังคม

การอปุ มาหลกั สตู ร

✓หากเปรยี บการศกึ ษาเปน็ รถยนต์ หลกั สูตรอุปมาเป็น พวงมาลยั
✓หากเปรยี บการศึกษาเป็นเรอื ยนต์ หลกั สูตรอปุ มาเปน็ หางเสอื

ข้อสอบ : หากเปรียบการศึกษาเป็นรถยนต์ หลักสูตรเปรียบเสมอื นอะไร ?

 องค์ประกอบของหลกั สูตร ขอ้ สอบ : องค์ประกอบใดสำคญั ทส่ี ดุ ?

ดังน้ันจึงสรปุ ได้วา่ หลักสูตร ประกอบด้วย 4 องคป์ ระกอบดงั นี้ ☺ มุ่ง เน้อื
1. ความมงุ่ หมาย นำ ประเมิน
2. เนอ้ื หาวชิ า

3. การนาํ หลกั สูตรไปใช้ สำคญั ทส่ี ดุ
4. การประเมินผล

สรปุ เน้อื หาสอบครูผชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 14

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหน่งครผู ู้ช่วย สรุปยอ่ อยา่ งละเอียด เร่ือง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

1) ความมงุ่ หมาย (Objectives)

 เป็ นเสมอื นการกาํ หนดทิศทางของการจัดการศกึ ษา

 คาํ นึงถึง…
✓ ข้อมูลพื้นฐานของสงั คมเพอ่ื ประโยชนใ์ นการแก้ปัญหา
✓ สนองความต้องการของสังคมและผู้เรยี น
✓ ตอ้ งสอดคลอ้ งสมั พันธก์ บั นโยบายการจัดการศกึ ษาของชาติ

กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธกิ าร กาํ หนดองค์ประกอบของหลกั สูตรมี 2 ลักษณะ คอื

 “หลกั การของหลกั สตู ร” หมายถงึ แนวทางหรือทิศทางใน 
การจัดการศกึ ษาผ้ทู ่ีเกีย่ วขอ้ งกบั การจดั การศึกษายึดถอื เป็นแนวปฏิบตั ิ  ต้

 “จุดหมายของหลักสูตร” หมายถึง พฤติกรรมหรือ
คุณสมบัติ ที่ต้องการให้เกิดแก่ผู้เรียน เมื่อผ่านกระบวนการที่กําหนดใน
หลกั สูตร

2) เน้อื หาวิชา (Content) ค ้ ื ื ค ื ำ ู ้

เปน็ สาระสําคญั ทกี่ ําหนดไว้ในหลักสูตร เพื่อพัฒนาไปสคู่ วามมุ่งหมายของหลกั สูตร ประกอบดว้ ย

2.1 โครงสร้างของหลกั สตู ร หมายถึง การกําหนดรูปแบบ จ ื้ ็ ็ุ ู้
ของการจัดเนื้อหาสาระ การกําหนดขอบเขต หรือจํานวนความมากน้อย บ ณ์ ื
ของสาระ เวลาเรียน

2.2 เนือ้ หาของหลักสตู ร หมายถึง การกําหนดหวั ขอ้ เรื่อง
ศษ ืภค
ที่สําคัญในแต่ละรายวิชา กลุ่มประสบการณ์ และสาระการเรียนรู้ตาม
โครงสร้างของหลักสูตรให้ชัดเจน เรือ่ งทีส่ อน และลาํ ดบั กอ่ น - หลัง  คำ ธบ

สรุปเนอื้ หาสอบครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 15

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย สรปุ ย่ออย่างละเอียด เร่ือง วชิ าการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

3. การนําหลักสูตรไปใช้ (Curriculum Implementation)  ้ ำคญ ุ !

 เป็นกิจกรรมท่ีจะ แปลงหลกั สูตรไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ
 กจิ กรรมทีส่ ําคญั ที่สุด คือ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
 การสอนเป็นหวั ใจของการนาํ หลกั สูตรไปใช้ ขอ้ สอบ : เคยออกขอ้ สอบ
 ครูผู้สอนจึงเปน็ ผู้ทมี่ ีบทบาทสําคญั ในฐานะเปน็ ผู้จัดการเรยี นรู้
 หนว่ ยการเรยี นรู้ เป็นหวั ใจสำคัญของหลกั สูตร ข้อสอบ : ขอ้ ใดเปน็ หัวใจหลักสตู ร

?

การกาํ หนดวิธีการทจี่ ะนําผู้เรียนไปสคู่ วามมุ่งหมายของหลักสูตร ประกอบดว้ ย

3.1 วธิ ีการจัดการเรียนรู้
 วิธกี ารจดั การเรยี นรูข้ องหลักสูตรขนึ้ อยูก่ ับ ปรชั ญาการศกึ ษา แนวความคดิ

ความเชอื่ และจดุ หมายของหลกั สูตร
วธิ กี ารจัดการเรียนรตู้ ามหลกั สตู รในปัจจุบนั เนน้ แบบยดึ ผู้เรยี นเปน็ สาํ คญั

เนน้ “การสอนคนมากกวา่ การสอนหนังสอื ”
แนวทางการจดั การเรยี นรู้ คือ กระบวนการเรยี นหรอื วธิ ีการเรยี นสําคญั พอ ๆ

กับเนื้อหาวิชา

3.2 วัสดปุ ระกอบหลกั สูตร หมายถึง วัสดุ เอกสาร รวมทั้งสือ่ การเรียนการสอนต่าง ๆ
เพอ่ื ชว่ ยครูใช้หลักสูตรได้ง่าย สะดวก และมปี ระสทิ ธิภาพ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

 สาํ หรับครู
 สาํ หรบั นักเรียน

☺ นำหลกั สูตรไปใช้จำไว้จงดี เป็นขั้นทส่ี ำคัญนกั หนา
การสอนยืนหนง่ึ ต้องพงึ่ ครูบา

จัดการศึกษา ตามปรชั ญา ความเช่อื ของตน

สรปุ เนื้อหาสอบครูผชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 16

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่งครผู ู้ช่วย สรปุ ยอ่ อย่างละเอียด เร่อื ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

4) การประเมินผล (Evaluation)  ำ ้ ูต

 ชีใ้ ห้เห็นว่าการนำหลักสูตรแปลงสู่การปฏิบัติบรรลผุ ลหรอื ไม่
 เปน็ แนวทางไปสูก่ ารปรับปรุง

ขอ้ สอบ : องคป์ ระกอบใดของหลกั สตู รที่ทำใหท้ ราบวา่ หลักสูตรบรรลุผล ?

 ประเภทของหลกั สูตร

1. หลกั สตู รแบบเนอ้ื หาวชิ าหรือแบบรายวิชา (The SubjectCurriculum)

 ลกั ษณะ เป็นหลักสูตรแบบดงั้ เดิมหรือหลักสูตรเกา่ เนน้ การถา่ ยทอดเนื้อหาวิชา ผ้เู รยี นได้เรยี นรู้เนอ้ื หามาก

ความรู้จดั ไว้เพือ่ การถ่ายทอดอย่างมีระเบยี บ Ex. เรียงความ หลกั ภาษา
 การเรียนการสอน ใช้วิธีการบรรยาย ครูเป็นศนู ย์กลาง ประวัติศาสตร์ ภมู ศิ าสตร์
 การวดั และประเมินผล วดั ความจํา เขียนไทย คดั ไทย
 แนวคิด สารตั ถนยิ ม และ นิรันตรนยิ ม

 ขอ้ ดี • ประหยัดเวลา • สะดวกตอ่ การหยบิ ใชข้ องครู • เหมาะสอนใหเ้ ด็กมพี ัฒนาการทางสติปัญญา

2. หลักสตู รแบบสัมพนั ธ์วิชา (Correlated Curriculum)

 ลกั ษณะ พ้ืนฐานจากหลกั สูตรแบบรายวิชา แต่นําเนอ้ื หาวิชาท่ีสมั พนั ธ์กันไวด้ ว้ ยกนั และคงเอกลักษณว์ ชิ าไว้
 การเรียนการสอน ครูเปน็ ศูนย์กลาง เนน้ สอนแบบสัมพันธว์ ิชา ครูตา่ งวิชาวางแผนร่วมกัน
 การวดั และประเมินผล วดั เน้อื หาวชิ า และพฒั นาการทางสตปิ ญั ญา
 ข้อดี • ครูไดว้ างแผนร่วมกัน • นกั เรียนได้เรยี นรูค้ วามสัมพันธร์ ะหวา่ งวชิ า

สรปุ เนื้อหาสอบครผู ้ชู ่วย ภาค ข โดย The Teacher 17

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหน่งครผู ชู้ ่วย สรุปย่ออย่างละเอยี ด เรอ่ื ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

3. หลักสตู รแบบหมวดวิชา หรอื สหสัมพนั ธ์ (The Board FieldCurriculum)

 ลักษณะ ผสมผสานเนือ้ หาวิชาท่ีลกั ษณะใกล้เคียง หรือ สาขาเดียวกนั ในลกั ษณะหมวดวชิ า

 การเรียนการสอน การบรรยาย Ex. หมวดวชิ าสงั คมศึกษา จะมี
วชิ าภูมิศาสตร์ หน้าที่พลเมอื ง ฯลฯ
 การวดั และประเมินผล วดั เน้อื หาวิชา และพฒั นาการทางสตปิ ญั ญา Ex.หลักสูตรประถมศกึ ษา และ
หลกั สูตรมธั ยมศกึ ษา พ.ศ.2503
 แนวคดิ สารัตถนยิ ม และ นริ ันตรนยิ ม
 ขอ้ ดี • เกิดความสมั พนั ธร์ ะหว่างวิชา • ผสมผสานความรู้ นำไปใชไ้ ด้

• ผ้สู อนมเี สรีภาพในการเลือกเน้ือหา

4. หลักสูตรกิจกรรมและประสบการณ์ (The Activities andExperience Curriculum)

 ลกั ษณะ ตอ้ งการแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งของหลักสูตรแบบรายวิชา  Learning by Doing
 การเรียนการสอน เนน้ กิจกรรม ความสนใจ และประสบการณแ์ วดลอ้ ม
 การวดั และประเมินผล ใหค้ วามสําคัญกับการพฒั นาตัวผู้เรยี น
 แนวคดิ ปรัชญาพิพฒั นาการ (Progressivism)

 ข้อดี • สนองความต้องการของผ้เู รียน • ผ้เู รียนมสี ว่ นร่วมในการวางแผน

• ผ้เู รยี นเป็นศนู ยก์ ลาง ขอ้ สอบ : หลักสูตรใดยดึ ผู้เรยี นเป็นศนู ยก์ ลาง ?

5. หลักสูตรเพอ่ื ชีวติ และสังคม (The Social Processand Life Function Curriculum)

 ลักษณะ เช่ือว่าการเรียนรูเ้ กิดจากประสบการณ์ และประสบการณท์ าํ ให้พฤติกรรมเปล่ยี นแปลง

หลักสูตรนี้จะยึดเอาสังคมและชีวิตของเดก็ เปน็ หลกั ขอ้ สอบ : หลกั สตู รใดยดึ สังคมและชีวติ เด็กเปน็ หลกั ?

 การเรยี นการสอน ยดึ ผูเ้ รยี นเปน็ สําคัญ ครูมบี ทบาทในการใหค้ าํ แนะนาํ

 การวดั และประเมินผล เนน้ พฒั นาการของผู้เรยี นทกุ ด้าน

และความสามารถในการปรบั ปรุงตนเองและสร้างสรรค์สงั คม  เนน้ ตนเองและสังคม
 แนวคดิ ปรัชญาพพิ ัฒนาการ (Progressivism)

 ขอ้ ดี • สนองตอ่ ความต้องการในการดาํ รงชวี ติ ของผ้เู รียนในสังคม

• ผเู้ รียนมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม และมมี นุษยสมั พันธ์ที่ดี

• พัฒนาคุณภาพชีวิตโดยผเู้ รียนแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง

สรุปเนอ้ื หาสอบครผู ชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 18

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย สรปุ ยอ่ อย่างละเอยี ด เรื่อง วิชาการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

6. หลักสตู รแกนกลาง (The Core Curriculum)

 ลักษณะ ผสมผสานเนอ้ื หาเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการและความสนใจของผู้เรยี น การเรยี นมีความสัมพนั ธ์กับ

ประสบการณ์ชวี ิตผ้เู รยี น โดยกาํ หนดวิชาหน่ึงเป็นแกน วิชาอ่ืนสนับสนุนแกน และอาจใชค้ วามต้องการของผเู้ รียน

หรือกิจกรรมในสังคมเปน็ แกน

 การเรยี นการสอน สอนวิชาแกน และเนน้ บูรณาการในการสอน (Integration)

 แนวคิด ปฏริ ูปนิยม (Reconstructionism)  เปน็ รากฐานของหลักสูตรแบบหนว่ ยกิต
 ข้อดี • ผสานการเรยี นรูแ้ ละเน้ือหาวิชา

• เก่ยี วกบั ชีวิตและความสนใจของผู้เรยี น • สนองความสนใจและความถนดั ของบุคคล

• เปิดโอกาสให้หาความรูเ้ พม่ิ เตมิ

ขอ้ สอบ : หลักสูตรปจั จุบนั เปน็ หลกั สตู รประเภทใด ?

7. หลักสตู รแบบเอกตั ภาพ (The Individual Curriculum)

 ลักษณะ จัดเนอ้ื หาหลักสูตรตามความเหมาะสม และความตอ้ งการของผเู้ รยี นแตล่ ะบคุ คล

 การเรียนการสอน การจดั ชดุ การเรยี นให้ผ้เู รียนพัฒนาตนเอง

 แนวคดิ อตั ถภิ าวนิยม (Existentialism)  ข้ึนอยูก่ ับดุลยพินิจของครูผู้สอน
 ขอ้ ดี • เรยี นไดด้ ว้ ยตนเอง ครูคอยแนะนํา

• ผ้เู รียนทม่ี คี วามสามารถสูง สามารถพัฒนาตนเองได้เตม็ ความสามารถ

8. หลกั สูตรบรู ณาการ (The Integrated Curriculum)

 ลักษณะ ผสมผสานเน้อื หาเข้าด้วยกนั ไมแ่ ยกเป็นรายวิชา รวมประสบการณเ์ ปน็ อนั เดยี วกนั เพ่อื นกั เรยี นได้

ประสบการณ์ตอ่ เนอื่ ง มีคณุ คา่ ต่อการดําเนนิ ชีวติ และพัฒนาตนเอง การบูรณาการเนอ้ื หาเนน้ ทต่ี วั เดก็ และปญั หาสงั คม

 การเรียนการสอน ยดึ ตวั ผ้เู รยี น และสังคมเป็นศูนย์กลาง Ex. หลักสตู รประถมศึกษา พ.ศ. 2521
 การวดั และประเมนิ ผล พัฒนาการทกุ ดา้ น โดยเฉพาะการแกป้ ัญหา
ผลกั ษณะหขลอ้ กั ดสี ูต•รแผบเู้ รบยี นน้มี กปี ราะรสจบดั กหารลณกั ์ตสอ่ ตู เนร่ือแงบมบปี นร้ ี ะทโยี่จชะนวโ์ ิเดคยรตาระงตห่อค์กวาราดมาํ ตรงอ้ชงวี ติการ (รฉบะบั ดปับรับสปรตุง ิปพั.ญศ.2ญ533า) และ

ความสามารถขอ•งผสูเ้ อรดียคนลไอ้ ดงกอ้ บั ยคา่วงาถมสกู นตใอ้จแงจละดั คกวาามรตเรอ้ ียงกนากรขาอรงผสู้เอรนยี นอยูใ่ นรูปของการจดั ชุดการเรยี นใหผ้ ูเ้ รยี นได้

☺ ประเภทหลกั สูตร : เนอื้ พันธ์ หมวด ตรวจกจิ กรรม
นำชวี ติ คิดแกนกลาง ทางเอกตั จดั บรู ณาการ

สรปุ เน้ือหาสอบครผู ู้ชว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 19

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่งครผู ชู้ ่วย สรปุ ยอ่ อย่างละเอยี ด เรื่อง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 ลกั ษณะของหลกั สูตรที่ดี ขอ้ สอบ : หลกั สตู รท่ดี ตี ้องมีลักษณะอย่างไร ?

1. Specific  เฉพาะเจาะจง กําหนดวัตถุประสงค์ชัดเจน  (หลักสูตรทดี่ ี ตอ้ งมี SMART)
2. Measurable  วัดและประเมินผลทั้งผู้เรยี นและสอน

3. Accountable  มีการระบผุ สู้ อนผรู้ ับผดิ ชอบชดั เจน คณุ วุฒขิ องผสู้ อนเหมาะสมกับหลักสูตร

4. Reasonable  มที ม่ี าชัดเจน สมเหตสุ มผล อา้ งอิงได้ และเป็นไปตามหลักการวิทยาศาสตร์

5. Timeline  กําหนดระยะเวลาชัดเจนเพื่อให้เหมาะสมกับการจัดประสบการณใ์ ห้ผเู้ รยี น

☺ หลกั สูตรดี มีSMART
เฉพาะเจาะวดั ชดั ใครรับผดิ ชอบ มอบหมายมีเหตุผล ให้พ้นเวลา

ความร้พู ้ืนฐานเกี่ยวกบั การพัฒนาหลักสตู ร

 ความหมาย ข้อสอบ : เคยออกข้อสอบ

สงัด อทุ รานนั ท์

“การพัฒนา” ตรงกับคําในภาษาอังกฤษวา่ “Development” มีความหมายอยู่ 2 ลักษณะ คอื
1) การทําให้ดีข้นึ หรือทําให้สมบูรณข์ ้นึ ปรับปรุง
2) การทําให้เกดิ ข้นึ เปล่ยี นแปลง

ด้วยเหตุนี้การพฒั นาหลกั สูตรจงึ มคี วามหมายใน 2 ลักษณะ คือ
1) การทาํ หลักสตู รที่มีอยูแ่ ลว้ ให้ดขี ึน้ หรือสมบูรณ์ขึ้น
2) การสร้างหลกั สตู รขึน้ มาใหม่ โดยไมม่ ีหลกั สูตรเดิมเปน็ พน้ื ฐานเลย

ทาบา (Taba) การพัฒนาหลกั สูตร หมายถงึ การเปลี่ยนแปลงปรับปรงุ หลกั สูตรเดมิ ใหไ้ ด้ผลดีข้ึน

ในการวางจุดมุ่งหมาย การจดั เนื้อหาวิชา การเรียนการสอน การวดั ผลประเมินผล เพือ่ ให้บรรลจุ ุดหมายอันใหม่ที่วางไว้
 การเปลี่ยนแปลงหลักสูตร เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบหรือเปลี่ยนแปลงทั้งหมด การเปลี่ยนแปลง

หลกั สูตรน้ีจะมีผลกระทบดา้ นความคิด และความรูส้ ึกของผู้ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
 การปรับปรุงหลักสูตร หมายถึง การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรบางส่วนโดยไม่เปลี่ยนแปลงแนวคิดพื้นฐาน

หรือรูปแบบ ขอ้ สอบ : การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรทง้ั ระบบ คอื อะไร ?

สรปุ เนอ้ื หาสอบครูผู้ชว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 20

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหน่งครูผูช้ ่วย สรุปย่ออย่างละเอียด เรื่อง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

กูด๊ (Good) การพัฒนาหลกั สูตรเกดิ ได้ 2 ลักษณะ คอื การปรับปรงุ และ เปลย่ี นแปลงหลกั สูตร

การปรับปรุงหลกั สตู ร เปน็ วิธกี ารพัฒนาหลกั สูตรอย่างหนึ่ง
การเปลย่ี นแปลงหลกั สตู ร หมายถึง การแก้ไขหลักสูตรใหแ้ ตกตา่ งไปจากเดิม

สรุปการพัฒนาหลักสูตร (Curriculum Development)

หมายถึง การจัดทําหลักสูตร การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงหลกั สูตรให้ดีข้นึ ใหเ้ หมาะกับความตอ้ งการของบคุ คล และสภาพสงั คม

การปรบั ปรงุ หลักสตู ร (CurriculumImprovement) ปรบั แกบ้ างส่วน  Ex.การปรบั และขยายหลักสตู รระดบั ชาติ
หมายถึง การนําหลักสูตรทีใ่ ช้อยู่มาปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม ซ่ึงเป็นหลกั สูตรกลางให้เหมาะกับทอ้ งถิน่

และสมบูรณย์ ่ิงขึน้ ตอ้ งกระทําอยูต่ ลอดเวลาทใ่ี ช้หลักสูตร การปรบั ปรุงหลักสูตรประถมศกึ ษา พ.ศ.2521
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2533)

การเปลย่ี นแปลงหลกั สูตร (CurriculumChange) เปล่ยี นท้งั ระบบ  Ex.การเปล่ยี นหลักสตู ร
หมายถึง การจดั สรา้ งหลักสูตรขึ้นใหม่ ต่างจากหลกั สูตรเดิมท้ัง
จาก หลักสตู รประถมศกึ ษา พ.ศ.2521 (ฉบับปรบั ปรุง
ระบบ เปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้าง และวิธีการ เป้าหมายและ พ.ศ.2533) ม.ตน้ พ.ศ.2521 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2533)

กระบวนการ เรียกว่า การยกร่างหลักสูตร (Curriculum Planning) และ ม.ตน้ พ.ศ.2521 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2533)
การจัดทําหลักสูตร (Curriculum Organization) และ การสร้างหลักสูตร เปน็ หลกั สูตร การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ.2544

(Curriculum Construction) หรอื การเปลย่ี นหลกั สูตร
จาก หลักสตู รการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พ.ศ.2544
เปน็ หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พ.ศ.2551

 กระบวนการพัฒนาหลกั สตู ร

1) การวิเคราะห์ขอ้ มูลพน้ื ฐาน
ขอ้ มูลทางดา้ นความต้องการ ความจําเปน็ และปัญหาสงั คม เศรษฐกจิ การเมือง นโยบายทางการศกึ ษา

จิตวทิ ยา ปรชั ญาการศึกษา ความตอ้ งการของผูเ้ รยี น วิเคราะหห์ ลักสูตรเดมิ เพอ่ื ปรบั ปรุงแก้ไข
2) การกาํ หนดจดุ มุ่งหมายของหลักสูตร
กาํ หนดให้สอดคล้องกบั ข้อมูลพ้นื ฐาน ระบุคณุ สมบัติผู้จบหลักสูตร มุ่งพฒั นาผู้เรียนด้านพุทธิพิสยั จิตพิสัย

และทกั ษะพิสยั โดยกําหนดจดุ มงุ่ หมายทั่วไป และเฉพาะ
3) การกําหนดเนือ้ หาและประสบการณ์การเรียนรู้
การคดั เลอื กเน้อื หาแลว้ จดั ลําดบั เนื้อหาใดเป็นพืน้ ฐาน เรยี นอะไรก่อนหลัง ตามหลกั จติ วิทยาการเรยี นรู้
4) การนําหลักสตู รไปใช้
การแปลงหลักสูตรสูก่ ารสอน และการทดลองสอน สําคญั มากและเกีย่ วกบั ครูผูส้ อน

ข้อสอบ : ขอ้ ใดเปน็ ตวั บ่งชคี้ วามสำเร็จหรอื ลม้ เหลวของหลักสตู ร ?

สรุปเนื้อหาสอบครผู ู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 21

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหน่งครผู ชู้ ว่ ย สรุปยอ่ อย่างละเอียด เรื่อง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

5) การประเมนิ ผลหลกั สูตร ประเมนิ สัมฤทธ์ิผลของหลักสูตร วา่ ผจู้ บหลกั สูตรมคี ณุ สมบตั ิตามท่ีกาํ หนดไว้
หรอื ไม่ การประเมนิ หลกั สูตรเป็นประโยชน์ต่อการปรบั ปรงุ หลักสูตร ควรประเมนิ ให้ตอ่ เนื่อง มดี ังน้ี

5.1 การประเมินเอกสารหลักสตู ร ตรวจสอบคุณภาพของหลกั สตู ร
5.2 การประเมินการใชห้ ลักสตู ร ตรวจสอบวา่ สามารถนําไปใชไ้ ดด้ ีเพียงใด
5.3 การประเมนิ สัมฤทธิผลของหลกั สูตร ตดิ ตามความกา้ วหนา้ ของผสู้ ําเร็จการศกึ ษา
เกย่ี วข้องกบั องคป์ ระกอบอ่ืนท่ีเกี่ยวขอ้ งกับหลกั สูตร
5.4 การประเมินระบบหลักสูตร

6) การปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงหลกั สูตร ทำหลังการประเมนิ ผล เพือ่ แก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพแวดลอ้ ม
ที่เปลยี่ นไป

☺ เคราะห์ หมาย นำเนอื้ ไปใช้ ประเมิน ปรบั ปรงุ

เทคนิควิทยาศาสตร์ 4 ขั้นตอน โดย ราฟ ไทเลอร์

1) กำหนดวัตถปุ ระสงค์ 3) เรยี งลำดับประสบการณ์
2) เลือกประสบการณ์การเรยี นรู้ 4) ประเมินผล

ข้อสอบ : ขอ้ ใดไมถ่ กู ต้องเก่ยี วกับการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ ?

 ปจั จยั พื้นฐานในการพฒั นาหลักสตู ร ขอ้ สอบ : ข้อใดไมเ่ กย่ี วข้องกับการพฒั นาหลักสูตร ?

ปจั จยั พื้นฐานในการพฒั นาหลักสูตร ทค่ี วรนํามาพิจารณาในการพัฒนาหลักสูตร มี 5 ด้าน ดงั น้ี

1) พื้นฐานทางด้านปรัชญาการศึกษา

2) พ้นื ฐานทางด้านจติ วทิ ยา ☺ ปรชั จิต สงั เศรษฐ์ วิทย์
3) พื้นฐานทางด้านสังคมและวัฒนธรรม

4) พื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง

5) พ้ืนฐานทางด้านวทิ ยาการและเทคโนโลยี

1) พืน้ ฐานทางดา้ นปรชั ญาการศกึ ษา  ควบคุมทศิ ทางการศึกษา
ปรัชญาการศึกษาท่สี าํ คญั มีดังนี้
1. ปรัชญาสารตั ถนิยมหรือสารนิยม (Essentialism)

2. ปรัชญานริ ันตรนยิ ม (Perennialism)
3. ปรัชญาพพิ ฒั นาการนิยม (Progressivism)
4. ปรัชญาปฏิรูปนิยม หรือ บูรณาการนยิ ม (Reconstructionism)
5. ปรัชญาอตั ถิภาวนยิ ม (Existentialism)

สรปุ เน้ือหาสอบครูผูช้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 22

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย สรุปย่ออย่างละเอยี ด เรอ่ื ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

2) พื้นฐานทางด้านจิตวิทยา
จิตวทิ ยามีบทบาทกาํ หนดรูปแบบของหลกั สูตร และการจดั การเรียนการสอน มี 2 แขนงวิชา คอื

จิตวทิ ยาการพฒั นาการ
กล่าวถึงพฒั นาการของผเู้ รยี นในวยั ตา่ ง ๆ ใชก้ ำหนดจุดมุง่ หมาย  เพอื่ สอดคล้องกบั พัฒนาการ
ของผู้เรียนแตล่ ะวยั
คาบเรยี น อายกุ ารเข้าเรยี น และการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้

จิตวิทยาการเรียนรู้

ว่าด้วยเรือ่ งธรรมชาตกิ ารเรยี นรู้และองคป์ ระกอบทีม่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การเรยี นรู้

ใช้กำหนดเนอื้ หาและประสบการณ์ คา่ นิยม พฤตกิ รรม และการจดั การเรยี นการสอน

การวดั ผลดา้ นอารมณ์ พฤติกรรม

3) พนื้ ฐานทางดา้ นสังคมและวัฒนธรรม  ทำให้ทศิ ทางหลกั สูตร
ธรรมชาตขิ องคนในสังคม
ลักษณะใดควรคงไว้ ลักษณะใดควรเปลีย่ นแปลง ตรงกบั ความต้องการของสงั คมอยา่ งแท้จรงิ

ค่านยิ มในสังคม

คา่ นยิ มใดควรรกั ษา ค่านยิ มใดควรเปลย่ี น หรือสรา้ งใหมใ่ ห้เหมาะสมกบั สภาพของสงั คมในปัจจุบัน

ระบบสงั คม

คาํ นึงถึงพ้นื ฐานทางสังคมส่วนใหญ่ ยกระดับสงั คมเกษตรกรรม และเตรยี มพน้ื ฐานเพ่ือการเปล่ียนแปลงสังคม

สูก่ ารพฒั นาอุตสาหกรรม โดยสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ

ศาสนาในสังคม

ความยดื หยุน่ ในการสอนศาสนาในโรงเรียน

การเปลยี่ นแปลงของสังคม

เข้าใจการเปลยี่ นแปลงสังคมตลอดเวลา และความเปล่ยี นแปลงทางวัฒนธรรม

4) พน้ื ฐานทางด้านเศรษฐกิจ และการเมอื งการปกครอง ขอ้ สอบ : ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ งเก่ียวกับปัจจยั ในการพัฒนาหลักสูตร ?
สภาพทางดา้ นเศรษฐกจิ

กาํ หนดหลกั สูตรให้สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ

ระบบการเมืองการปกครอง

การปลูกฝังแนวคิดรากฐานประชาธิปไตย และสรา้ งสํานึกรับผดิ ชอบตอ่ ชาติ

5) พ้นื ฐานทางดา้ นวิทยาการและเทคโนโลยี
เป็นปัจจยั พิจารณากําหนดจดุ มุ่งหมาย การเลอื กเน้ือหา ประสบการณ์ และการสอน

สรปุ เนอื้ หาสอบครผู ู้ชว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 23

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหน่งครผู ู้ชว่ ย สรปุ ย่ออย่างละเอยี ด เร่ือง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 ความเป็นมาของการจดั การศกึ ษาและพัฒนาหลกั สตู รของไทย

 กอ่ นกรงุ สโุ ขทัย

กิจกรรมทางการศกึ ษาทีม่ ีอิทธิพลตอ่ ชีวิตในล้านนา คือ กิจกรรมอันเนอื่ งด้วยพระพุทธศาสนา
และดา้ นสถาปตั ยกรรม ปฏมิ ากรรม ตลอดจนศลิ ปะการช่าง เช่น ช่างทอง ชา่ งเงิน ช่างเหล็ก

 กรงุ สุโขทัย พ.ศ.1792-1981

 ยุคนีก้ ารศกึ ษาคือ ชวี ติ (Education is Life) การศึกษาคือการแกป้ ญั หา ศกึ ษาโดยการปฏบิ ัติจริง
(Learning by Doing) พุทธศาสนามอี ทิ ธิพล แบ่งออกเป็น 2 สาย คอื

1) สายฆราวาส คอื ผคู้ รองเรอื น มี 2 ดา้ น
1.1) ดา้ นวชิ าชีพ เรียนรูใ้ นครอบครัว ข้อสอบ : เคยออกขอ้ สอบ
1.2) ด้านความประพฤติ ศึกษาและปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรม มีพระสงฆ์ เป็นผสู้ ่งั สอน วดั เปน็ ศูนยก์ ลาง

2) สายบรรพชิต คอื พระสงฆ์ สนใจศกึ ษาพระไตรปฎิ กอยา่ งลึกซึ้ง และพระเจ้าแผน่ ดินทรงสนบั สนุน

พ่อขุนรามคำแหงประดษิ ฐ์ลายสือไทย EX.พระมหาธรรมราชาลิไท ทรงพระราชนิพนธ์ไตรภูมิ

พระร่วง

 กรงุ ศรีอยธุ ยา พ.ศ.1893-2310 ข้อสอบ : ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะสำคญั ของการจัดการศึกษาสมัยกรงุ ศรอี ยุธยา ?

 ชว่ งทย่ี ังไม่มกี ารตดิ ต่อกบั ฝร่ัง กรงุ ศรีอยุธยามธี รรมเนยี มการศึกษาเหมอื นกบั กรุงสุโขทัย กล่าวคอื

1.วดั เป็นศนู ย์กลางการศึกษาและกิจกรรมของสงั คม พระสงฆ์สงั่ สอนประชาชน และสืบประเพณี

มาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น  ค ู้ การเรียนใชก้ ารทอ่ งจำ
2.วชิ าชีพ สอนในครอบครัวหรอื ญาติ ส่วนวชิ าตอ่ สูเ้ รยี นจากสาํ นัก
3.ราชสํานัก มกั ส่งพระโอรสไปเรียนตามสำนกั และครูมาสอนในวัง นกั เรียนส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย  วรรณกรรม
เขยี นลงสมุดไทย หรอื จารลงใบลาน  ผู้หญิง
ยคุ สมเด็จพระนารายณ์ วรรณกรรมเฟอ่ื งฟู มพี ระโหราธิบดี ศรีปราชญ์ เรียนการเรอื น และอยู่ในราชสาํ นัก แบบเรยี น
พระศรมี โหสถ ขนุ เทพกวี และพระเจ้าอยูห่ ัวทรงเปน็ กวี เล่มแรกของไทย จนิ ดามณี แตง่ โดยพระโหราธบิ ดี

สรปุ เนือ้ หาสอบครูผ้ชู ่วย ภาค ข โดย The Teacher 24

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย สรปุ ย่ออย่างละเอยี ด เรือ่ ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 กรุงธนบรุ ี พ.ศ.2310–2325  ็ ื้ ฐ ้ ต โ นทร์

 แม้เมืองหลวงมอี ายนุ ้อย แตพ่ ระเจ้าตากสนิ ทรงวางพน้ื ฐานด้านการค้า การศาสนา และอักษรศาสตร์
การศกึ ษาสมัยนแี้ ม้ไม่เจรญิ นัก แต่เป็นการเริ่มต้นการศกึ ษาท่ีเป็นพน้ื ฐานใหเ้ จริญกา้ วหน้าในสมัยรัตนโกสินทร์

 กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น (รชั กาลท่ี 1 - 4)พ.ศ.2325 -2411  ต จ ุธ

การศึกษาสมัยกรุงรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น ไม่ต่างจากสมยั กรงุ ศรอี ยุธยา มีหนงั สือเรียน 5 เลม่
ทั้งของราชสำนักและสามญั ชน การศกึ ษาเรม่ิ มแี บบแผน
1. ประถม ก กา 2. สบุ นิ ทกุมาร
มแี บบหนังสอื จินดามณี หนงั สอื ประถม ก กา และปฐมมาลา
3. ปฐมมาลา 4. ประถมจินดามณี เลม่ 1
กําหนดหลักการและวิธกี ารจดั การศกึ ษา เรียกวา่ มาติกาการศึกษา 5. ประถมจินดามณี เลม่ 2

 สมัยปฏริ ูปการศึกษา (รัชกาลที่ 5-7 )พ.ศ.2411-2475

ปัจจัยทีก่ อ่ ใหเ้ กิดการปฏิรูปการศกึ ษา ขอ้ สอบ : กระทรวงธรรมการเกิดขึ้นในสมยั ใด ?
1) อทิ ธิพลของชาวตะวันตก
2) การคุกคามของจกั รวรรดนิ ิยม
3) ขาดแคลนบคุ คลเพ่ือมารบั ราชการ

4) การศกึ ษาระบบโรงเรยี นที่ ร.5 ศกึ ษาจากต่างประเทศ

 รัชกาลท่ี 5 (2411 - 2453)
การศกึ ษาตามระบบโรงเรียนเกิดขึ้นครัง้ แรก การเรยี นตามระบบ เปน็ รากฐาน
ทำใหเ้ กดิ พ.ร.บ.ประถมศึกษา 2464
ขยายการศกึ ษาทั่วกรงุ เทพฯ และหวั เมือง

ตัง้ กระทรวงธรรมการ

 ต้ังโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝา่ ยพลเรือน

 รัชกาลท่ี 6 (2453 - 2468)

พ.ร.บ.ประถมศกึ ษา พ.ศ.2464

ยกระดับโรงเรียนสำหรบั ฝึกหดั ฯ เปน็ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั

 รชั กาลที่ 7 (2468-2477)

ขยายการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.ประถมศกึ ษา ร.7 มพี ระราชดำรสั ว่า
สง่ เสริมการเรยี นวชิ าชพี โดยเฉพาะประถมศึกษา ‘’การศึกษาสมัยนี้ควรถอื เอาคณุ ภาพ
ไม่ใช่ถือเอาจำนวน‘’
ปรบั ปรุงคณุ ภาพการศกึ ษา

สรปุ เนื้อหาสอบครูผู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 25

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหน่งครผู ชู้ ว่ ย สรุปย่ออยา่ งละเอียด เร่อื ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 สมยั หลงั เปลย่ี นแปลงการปกครอง (พ.ศ. 2475 – 2503)

ประกาศใช้แผนการศึกษาชาติ รวม 3 ฉบับ คอื
1) แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2475

2) แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2479
3) แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2494

 พ.ศ. 2475 - 2503

มุ่งขยายการศึกษาภาคบังคับออกให้กว้างขวาง ผลิตครูให้เพียงพอ ในช่วงกลางของยุค (2484 - 2487)
ทัว่ โลกตกอยูใ่ นภาวะสงคราม นโยบายการศกึ ษาจงึ ไมค่ อ่ ยชดั เจน ภายหลังสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 รฐั บาลมนี โยบายปรับปรงุ
การศึกษาทุกด้าน ทุกระดับให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะประถมศึกษา
และใหท้ ุนอดุ หนุนการศึกษาเอกชน

 พ.ศ. 2503 - 2520

ขยายการศึกษาทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ได้รับความร่วมมือจากองค์กรระหวา่ งประเทศ พ.ศ. 2494 - 2520
กระทรวงศึกษาฯ ได้ผลักดันให้มีการประกาศใช้แผนพัฒนาการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2503 และปรับปรุงหลักสูตรระดับ
การศึกษา ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาที่สําคัญ คือ มีการขยายการศึกษาภาคบังคับเป็น 7 ปี
ใน พ.ศ. 2506

 พ.ศ. 2509 โอนการศึกษาประชาบาลสังกดั องคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั
 พ.ศ. 2503 – 2515 ผลติ นักเรยี นฝึกหดั ครูจํานวนมาก ภายหลังนิยมลดลง เพราะบางสว่ นจบแลว้ ตกงาน
และเอกชนหันมาสนใจมัธยมศกึ ษาและอุดมศกึ ษามากข้ึน

 พ.ศ. 2503 - 2517 อาชวี ศกึ ษามผี สู้ นใจศกึ ษาน้อยมาก แตเ่ พ่ิมข้ึนใน พ.ศ. 2517 - 2529
พ.ศ. 2503 - 2520 นำแผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2503 เป็นแผนแม่บทจัดการศกึ ษาของกระทรวงฯ

 แผนพัฒนาการศึกษาชาติ ฉบบั ที่ 1 (พ.ศ. 2504 - 2509)

 มีนโยบายหลกั 4 ประการ คือ เนน้ ขยายการศกึ ษาภาคบงั คับ

1. ขยายการศกึ ษาภาคบงั คบั จาก 4 ปี เปน็ 7 ปี ใหท้ ัว่ ประเทศ

2. ขยายและปรบั ปรุงการศึกษาระดบั กลางทั้งสายสามญั และอาชวี ศกึ ษาใหเ้ ขม้ แขง็

3. ผลติ ครูใหเ้ พยี งพอและส่งเสริมให้มวี ฒุ ิเขา้ สูร่ ะดับมาตรฐาน

4. ขยายการศึกษาระดบั อดุ มศกึ ษาสูภ่ ูมภิ าค

สรปุ เนอ้ื หาสอบครูผ้ชู ่วย ภาค ข โดย The Teacher 26

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครผู ูช้ ่วย สรปุ ยอ่ อย่างละเอียด เรื่อง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 แผนพฒั นาการศึกษาแหง่ ชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510 - 2514)

เพราะการใชแ้ ผน 1 เยาวชนยงั ไมไ่ ดร้ บั การศกึ ษาเทา่ ทคี่ วร ผสู้ ำเรจ็ การศึกษายังไมส่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ
ของตลาด จึงมีแผนที่ 2 โดยมีนโยบาย ดงั นี้

1. จัดให้สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ
2. จัดและขยายการศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาระผกู พนั ของรัฐทีม่ ตี ่อสังคม
3. ปรับปรงุ คุณภาพทางการศกึ ษา
4. สง่ เสรมิ โรงเรยี นราษฎร์

แผนพฒั นาการศึกษาแหง่ ชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2515 - 2519)

มุ่งแกไ้ ขปญั หาและอปุ สรรคทเ่ี กดิ ในชว่ งระยะของแผนท่ี 2 นโยบายสรุปไดด้ ังนี้
1. สอดคลอ้ งกับการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคม ปลกู ฝังเยาวชนรบั ผิดชอบตอ่ สังคม และความมั่นคงของประเทศ
2. การศกึ ษาสาขาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
3. การศึกษาเกษตรกรรม

4. ขยายและปรับปรงุ การศกึ ษาภาคบังคบั ให้สอดคลอ้ งกับการเพิ่มจํานวนประชากรวยั เรียน
5. ผลติ ครูให้เพียงพอกบั ความต้องการและส่งเสรมิ ดา้ นสวสั ดิการครู
6. ความเสมอภาคในโอกาสทางการศึกษา จัดการศึกษาเหมาะสมกบั ท้องถ่นิ
7. เอกชนมีสว่ นร่วมจดั การศกึ ษา

8. ส่งเสริมจริยธรรม คณุ ธรรมและวินัยของเดก็ และพลานามยั สว่ นบุคคลและส่วนรวม

แผนพัฒนาการศกึ ษาแห่งชาติ ฉบับท่ี 4 (พ.ศ. 2520 - 2524) ระบบการศึกษา 6 : 3 : 3 คอื

 เปลย่ี นระบบการศกึ ษาจาก 4 : 3 : 3 : 2 (3) เปน็ 6 : 3 : 3 การศึกษาข้ันประถมศึกษา 6 ปี (6 ระดบั ช้ัน)
และขยายการศึกษาภาคบงั คบั และระบบการศึกษาใหม่ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 3 ปี (3 ระดับช้นั )

แผนพัฒนาการศกึ ษาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525 - 2529) และมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 3 ปี

 เปน็ ช่วงเศรษฐกจิ ตกตำ่ และการพฒั นาทีไ่ ม่สมดลุ เกดิ ปัญหาการวา่ งงาน

และความไมเ่ ท่าเทยี มด้านโอกาสของคนชนบท เป็นการจดั การศึกษาเพื่ออาชีพ และขยายโอกาสทางการศึกษา

 แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาตฉิ บับท่ี 6 (พ.ศ. 2530 - 2534)

 ขยายโอกาสทางการศกึ ษาแกค่ นชนบทและด้อยโอกาส ด้วยการพัฒนาระบบบริหาร และคุณภาพทางการศกึ ษา

สรปุ เน้ือหาสอบครูผู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 27

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย สรปุ ย่ออยา่ งละเอียด เรื่อง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 การจดั หลกั สตู รการศกึ ษาสมัยหลงั เปลยี่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475-ปจั จุบนั

พ.ศ. 2474 ประกาศใชแ้ ผนการศกึ ษาชาติ พ.ศ.2475 และต่อมาปรบั ปรงุ แผนการศกึ ษาชาติ พ.ศ. 2479

เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมกับระบอบประชาธิปไตย และไปปรับปรุงหลกั สูตรประถมศกึ ษาและมัธยมศกึ ษาเป็นระยะ ดงั นี้

 แผนการศกึ ษาชาติ พ.ศ. 2479
1. ประมวลศกึ ษาภาค 2 พ.ศ. 2480
1.1 หลกั สูตรช้ันประถมศึกษา (4 ปี)

1.2 หลักสูตรมัธยมตน้ (3 ป)ี
1.3 หลักสูตรมธั ยมปลาย (3 ปี)
มุ่งใหพ้ ลเมืองทกุ คนไดร้ ับการศึกษา ท้ังสามญั ศกึ ษาและอาชวี ศกึ ษา เพื่อทําหนา้ ทีพ่ ลเมือง
ตามรฐั ธรรมนูญ และใหท้ กุ คนทําประโยชนแ์ กต่ นเองและประเทศชาติตามหน้าท่ี

แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2479
2. หลกั สูตร พ.ศ. 2491
2.1 หลกั สูตรช้ันประถมศกึ ษา (4 ปี)
2.2 หลกั สูตรเตรยี มอดุ มศึกษา แบ่งเปน็ 2 แผนก
- แผนกอักษรศาสตร์
- แผนกวทิ ยาศาสตร์
มุ่งการอา่ นออกเขยี นได้อย่างรวดเรว็ และได้เรยี นวชิ าที่สมควรแกอ่ ตั ภาพ

แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2479
3. หลกั สูตร พ.ศ. 2493
3.1 หลักสูตรมธั ยมศึกษาตอนต้น (3 ป)ี
3.2 หลกั สูตรมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (3 ป)ี
มุ่งให้เปน็ การศึกษาของทวยราษฎรอ์ ยา่ งแทจ้ ริง และใหเ้ รียนวชิ าทีเ่ หมาะสมกับตนเอง เพื่อการดํารงชวี ติ

และการประกอบอาชีพ

สรปุ เนอ้ื หาสอบครผู ้ชู ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 28

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย สรุปยอ่ อยา่ งละเอยี ด เร่อื ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 แผนการศกึ ษาชาติ พ.ศ. 2494
4. หลักสูตร พ.ศ. 2498
4.1 หลกั สูตรประถมศึกษา
เพอ่ื พฒั นาความงอกงามของเด็กทางด้านร่างกาย สติปญั ญา สงั คมและอาชพี โดยเนน้ องค์ 4 ของ

การศกึ ษา คือ จรยิ ศกึ ษา พุทธิศกึ ษา พลศกึ ษา และหัตถศกึ ษา
4.2 หลกั สูตรเตรียมอุดมศึกษา
จดั ใหเ้ ปน็ พื้นฐานสําหรบั การศกึ ษาต่อในระดับอดุ มศึกษา

 แผนการศกึ ษาชาติ พ.ศ. 2494

5.หลักสูตรประถมศกึ ษาสําหรับใชใ้ นโรงเรียนปรบั ปรงุ ป.1, ป.2 พ.ศ. 2501
เนน้ ส่งเสริมพฒั นาการของเด็กเพือ่ ใหส้ ามารถดํารงตนเป็นพลเมืองดีของชาติในระบอบประชาธิปไตย

 แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2503
6. หลกั สูตร พ.ศ. 2503
6.1 หลักสูตรประโยคประถมศกึ ษาตอนตน้ พ.ศ. 2503 (4 ป)ี
6.2 หลกั สูตรประโยคประถมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. 2503 (3 ปี)
6.3 หลกั สูตรประโยคมัธยมศึกษาตอนตน้ พ.ศ. 2503 (3 ปี) แบ่งเป็น 2 สาย
- สายสามญั
- สายอาชพี
มงุ่ ส่งเสริมพัฒนาการเดก็ ให้ดำรงตนเปน็ พลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตย โดยอบรมให้มีคณุ ลักษณะ

4 ประการ คอื ความเจริญแหง่ ตน มนษุ ยสมั พนั ธ์ ความสามารถในการครองชพี และความรับผิดชอบตาม
หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง

6.4 หลกั สูตรประโยคมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย พ.ศ. 2503 (3 ปี)
แบ่งเป็น 2 สาย คอื สายสามญั และสายอาชพี สายสามัญ มี 3 แผนก คอื
- แผนกวิทยาศาสตร์
- แผนกศลิ ปะ
- แผนกท่ัวไป

 แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2503
7. หลักสูตรประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. 2518
ม่งุ ใหผ้ ูเ้ รยี นมีความรู้ ทักษะ เจตคติ และวฒั นธรรม ซึ่งจําเป็นต่อการประกอบอาชีพ

สรุปเนอื้ หาสอบครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 29

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่งครผู ูช้ ว่ ย สรปุ ยอ่ อยา่ งละเอยี ด เร่ือง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 แผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2520
8. หลกั สูตร พ.ศ. 2520
8.1 หลกั สูตรประโยคประถมศึกษา หมวดวชิ าสังคมศึกษา (1 ป)ี
8.2 หลักสูตรประโยคมัธยมศึกษาตอนต้น หมวดวชิ าสงั คมศึกษา (3 ป)ี
8.3 หลักสูตรประโยคมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หมวดวิชาสังคมศกึ ษา (3 ปี)
 มุง่ ใหม้ ีความรู้ ทักษะ เจตคติ และวัฒนธรรมอันจําเปน็ ต่อการประกอบอาชพี

การศกึ ษาหาความรเู้ พ่ิมเติมและการดํารงชวี ิตในสงั คมประชาธปิ ไตย
9. หลักสูตรพุทธศกั ราช 2521 - 2524
9.1 หลกั สูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2521
9.2 หลกั สูตรมัธยมศกึ ษาตอนต้น พ.ศ. 2521
9.3 หลักสูตรมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย พ.ศ. 2524

พมพ2ก5ธัํา..ศศ3หยแ..3นมผ)ศ22ดนใ-55หึกนก42ษลป51าพัการีสตร(ศมพะูตอฉ.รกึ 2.นรบศาษ7แตชับ.2ากบน้ปแใ5นัญรห3หกับแค้3ญ่งลปลณชตัาะรไางมะิกงุดตซกธัาม้ งึ่ิพรยรตพกี รศม.อ้าศม.ึกศศงร.กยษึกป.า2กษารร25แับเกา5ล3หปาิก33่งโรร5ใดช)ุงศชายหึกห้ตแใลษลชลิกั กั้ดาะพสหขสงั .ูตนัน้ศลูตร้ีกัพ.รสปนื้23ูตรฐ5ะร4ารถม2นะมธัดศยับแกึ มคกษศอืไ้ าขหึกเลษพักา่มิ สตเตูตอนิมรปปร(และลฉาถะยบหมเกลบั ศักิดพทหสกึ .ีู่ตลษศกัร2.แสา)กูตแ2นรลก5กะา2ลมรา4ศงธั ฯกึ ยษ(‘5มาฉ1ขศบ้นั กึพบั ษ้นื ปฐาราบันตป‘อ4ร4นงุ ตพ้น.ศ.
- หลักสตู รการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พ.ศ.2544 ประกาศใช้ 2 พ.ย. 2544 โดย สวุ ทิ ย์ คุณกิตติ (รมว.ศธ.)
- หลกั สตู รแกนกลางฯ พ.ศ.2551 ประกาศใช้ 11 ก.ค. 2551 โดย สมชาย วงศส์ วสั ด์ิ (รมว.ศธ.)

ข้อสอบ : เคยออกข้อสอบเก่ียวกับการประกาศใช้หลกั สูตรแกนกลาง ?

 การปฏิรปู การศึกษาของรฐั บาลคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.ศ. 2561-2580
ปฏิรูปการศกึ ษาโดยขบั เคล่ือนการศกึ ษาไทยสู่ Thailand 4.0 สอดคล้องกบั
➢ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2561-2580)
➢แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560-2564)
➢แผนการศกึ ษาแห่งชาติ (พ.ศ.2560-2579)

“ถา้ เรอ่ื งราวในชีวิตมันงา่ ยไปเสียหมด
ชีวติ เราคงไม่มีอะไรนา่ จดจำ

และคงไม่มีเร่ืองเล่าทต่ี นื่ เต้นใหค้ นอ่ืนฟงั ”

สรปุ เนอื้ หาสอบครผู ชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 30

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย สรปุ ย่ออยา่ งละเอยี ด เรื่อง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ.2551 (หลักสูตรองิ มาตรฐาน) เลขา กพฐ.มอี ำนาจยกเลิก เพ่มิ เตมิ
เปลี่ยนแปลงหลกั สูตรแกนกลางฯ

เปรยี บเทียบหลักสูตรหลกั สูตร 2544 และ หลักสูตรแกนกลาง 2551

ที่ หัวขอ้ หลักสูตรการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา

1. วสิ ยั ทัศน์ พ.ศ. 2544 ขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551
2. หลักการ
3. จุดหมาย ไม่มี มี
4. สมรรถนะสาํ คญั ของผู้เรียน
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5 ขอ้ 6 ขอ้
6. มาตรฐานการเรยี นรู้
7. ระดบั ตวั ชวี้ ดั 9 ขอ้ 5 ข้อ
8. สาระการเรียนรู้
9. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ไมม่ ี 5 ประการ
10. กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
11. ระดับช่วงชน้ั /ระดับการศึกษา กำหนดในจดุ หมาย 8 ประการ
12. โครงสร้างเวลาเรียน
13. การจัดการศกึ ษาเฉพาะกลุ่มฯ 76 มาตรฐาน 55 มาตรฐาน (ใหม่)
14. การจัดการเรยี นรู้
15. ส่อื การเรยี นรู้ ไม่มี 2 ประเภท
16. การวัดและประเมินผลฯ
17. เกณฑก์ ารวัดและประเมินฯ 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้
18. เอกสารหลกั ฐาน
19. การเทยี บโอนผลการเรยี น มี มี

2 กิจกรรม 3 กิจกรรม

4 ชว่ งช้ัน 3 ระดับ

มี มี

มี มี

มี มี

มี มี

แบ่งเปน็ 3 ระดับ แบง่ เปน็ 4 ระดับ

มี มี

แบง่ เป็น 2 ระดบั แบง่ เป็น 2 ระดบั

มี มี

 การกาํ หนดการใชห้ ลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

1) โรงเรียนต้นแบบ และ โรงเรียนทมี่ คี วามพร้อม
 ปกี ารศึกษา 2552 ใชใ้ นระดบั ชัน้ ป.1 - ป.6, ม.1 และ ม.4

 ปีการศึกษา 2553 ใช้ในระดบั ช้ัน ป.1 - ป.6 และ ม.1, ม.2, ม.4 และ ม.5

 ปีการศึกษา 2554 ประกาศใช้ครบทุกระดับช้ัน

2) โรงเรียนทัว่ ไป ขอ้ สอบ : เคยออกขอ้ สอบ

 ปีการศกึ ษา 2553 ใช้ในระดบั ช้ัน ป.1 - ป.6, ม.1 และ ม.4

 ปกี ารศึกษา 2554 ใช้ในระดบั ชั้น ป.1 - ป.6 และ ม.1, ม.2, ม.4 และ ม.5

 ปกี ารศึกษา 2555 ประกาศใช้ครบทุกระดับช้นั ท่ัวประเทศ

สรุปเนอ้ื หาสอบครูผูช้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 31

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย สรุปย่ออย่างละเอยี ด เรือ่ ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 วสิ ยั ทัศน์ ขอ้ สอบ : ข้อใดกล่าวถกู ต้องเก่ียวกับวสิ ัยทศั นข์ องหลกั สูตรฯ ?

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน มงุ่ พัฒนาผูเ้ รยี นทกุ คน ซ่ึงเปน็ กาํ ลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มี
ความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสํานึกในความเป็นพลเมืองไทย และเป็นพลโลก ยึดมั่นในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มี ความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมท้ัง
เจตคติที่จําเป็นต่อการศึกษาต่อการประกอบอาชีพ และการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ
บนพืน้ ฐานความเชอื่ ที่วา่ ทกุ คนสามารถเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองไดเ้ ต็มศักยภาพ

 หลักการ (6ขอ้ ) ข้อสอบ : ข้อใดไมใ่ ชห่ ลกั การของหลกั สตู ร ?

(1) เป็นหลักสูตรการศกึ ษาเพือ่ ความเปน็ เอกภาพของชาติ มีจดุ มุง่ หมายและมาตรฐานการเรียนรูเ้ ปน็

เปา้ หมายสาํ หรับพฒั นาเดก็ และเยาวชน ให้มีความรู้ ทกั ษะ เจตคตแิ ละคุณธรรมบนพ้นื ฐานของความ

เปน็ ไทยควบคูก่ บั ความเปน็ สากล

(2) เป็นหลักสูตรการศกึ ษาเพอ่ื ปวงชน ทป่ี ระชาชนทุกคน ☺ เอก – ชน – กระจาย – ยืด – เน้น – คลมุ
มโี อกาสไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งเสมอภาคและมคี ุณภาพ

(3) เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาทส่ี นองการกระจายอํานาจ ให้สงั คมมีส่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษาใหส้ อดคล้อง

กบั สภาพและความต้องการของทอ้ งถ่ิน

(4) เป็นหลักสูตรการศึกษาทม่ี ีโครงสร้างยดื หยุน่ ท้งั ดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลา และการจัดการเรียนรู้

(5) เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาที่เน้นผูเ้ รียนเปน็ สาํ คัญ

(6) เป็นหลกั สูตรการศึกษาสาํ หรบั การศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั ครอบคลมุ ทุกกลุ่มเป้าหมาย

สามารถเทียบโอนผลการเรยี นรูแ้ ละประสบการณ์

 จุดหมาย (5ข้อ) ข้อสอบ : เคยออกข้อสอบ

มุง่ พฒั นาผเู้ รียนให้เป็น คนดี มีปัญญา มคี วามสขุ  ภายหลังจบการศกึ ษา ☺ คณุ รู้ กาย
1) มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมทีพ่ งึ ประสงค์ เหน็ คุณคา่ ของตนเอง มวี ินัย
รกั จิต

ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนับถอื ยึดหลักของเศรษฐกิจพอเพียง

2) มีความรู้ความสามารถในการส่อื สาร
การคดิ การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชวี ิต (สอดคล้องกบั สมรรถนะสําคญั ของผเู้ รียน 5 ข้อ)

3) มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ทีด่ ี มสี ขุ นิสยั และรักการออกกาํ ลังกาย

4) มคี วามรักชาติ มจี ิตสํานกึ ในความเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ยดึ มนั่ ในวถิ ชี ีวติ และการปกครอง

ตามระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข

5) มจี ติ สํานกึ ในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย การอนรุ ักษ์และพัฒนาสิง่ แวดลอ้ ม

มจี ิตสาธารณะที่ม่งุ ทําประโยชน์และสรา้ งส่ิงทีด่ ีงามในสงั คม และอยู่ร่วมกนั ในสังคมอย่างมคี วามสุข

สรปุ เนื้อหาสอบครูผชู้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 32

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย สรุปย่ออย่างละเอยี ด เรอื่ ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 สมรรถนะสาํ คัญ (5ขอ้ ) ข้อสอบ : ข้อใดไมใ่ ชส่ มรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ?

(1) ความสามารถในการส่อื สาร เป็นความสามารถในการรับและสง่ สาร ☺
(2) ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์
สือ่ คิด แก้ ทกั ษะ โน
การคิดสงั เคราะหก์ ารคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบ

(3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ

(4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต เปน็ ความสามารถในการนาํ กระบวนการไปใชใ้ นการดาํ เนิน

ชีวติ ประจําวัน การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อย่างตอ่ เนอ่ื ง ข้อสอบ : สมรรถนะใดสำคญั ตอ่ ชีวติ ประจำวนั มากทีส่ ุด ?

(5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลอื กเทคโนโลยดี ้านตา่ ง ๆ

 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (8ประการ) ข้อสอบ : เคยออกขอ้ สอบ

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผูเ้ รยี นให้มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพื่อใหส้ ามารถ

อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ นื่ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก

1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 5. อยู่อย่างพอเพียง จดุ เน้นในแตล่ ะระดบั ช้ัน

2. ซือ่ สตั ย์สจุ รติ 6. มุ่งม่นั ในการทาํ งาน ป.1 - ป.3 : ใฝด่ ี

3. มวี ินัย 7. รักความเป็นไทย ป.4 - ป.6 : ใฝ่เรยี นรู้
ม.1 - ม.3 : อยู่อยา่ งพอเพยี ง
4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มจี ิตสาธารณะ ม.4 - ม.6 : มุ่งม่ันในการทํางาน

☺ รกั -สัตย์-นยั -ใฝ่-เพยี ง-งาน-ไทย-ณะ

 มาตรฐานการเรยี นรู้  เป้าหมายสำคญั ของการพฒั นาผเู้ รยี น ขอ้ สอบ : การพัฒนาผู้เรยี นใหส้ มดุล ตอ้ งคำนงึ ถึง ?

การพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ กิดความสมดุล ตอ้ งคาํ นงึ ถึง หลักพฒั นาการทางสมอง และ พหุปญั ญา

จงึ กาํ หนดใหผ้ เู้ รยี นเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ดังนี้ แนวคดิ พหุปัญญา เป็นของ โฮเวริ ์ดการด์ เนอร์
จำแนกปญั ญาของมนุษย์ไว้ 8 ดา้ น
1. ภาษาไทย 5. สุขศึกษาและพลศกึ ษา 1. ดา้ นภาษา 2. ด้านตรรกะและคณติ ศาสตร์
3. ดา้ นเคล่ือนไหว 4. ด้านดนตร/ี จังหวะ
2. คณิตศาสตร์ 6. ศลิ ปะ 5. ด้านมติ สิ มั พันธ์ 6. ดา้ นการเข้าใจตนเอง
7. ดา้ นมนษุ ยสมั พันธ์ 8. ด้านการรอบรธู้ รรมชาติ
3. วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7. การงานอาชพี

4. สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 8. ภาษาต่างประเทศ

แตล่ ะกล่มุ สาระฯ กําหนดมาตรฐานการเรียนรเู้ ป็นเปา้ หมายสาํ คญั ของการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน โดยจะระบุส่งิ ท่ผี ู้เรียนพงึ รูแ้ ละ
พึงปฏิบตั ิได้ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์เมือ่ จบการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน นอกจากนนั้ จะสะทอ้ นใหท้ ราบวา่ ต้องการอะไร
จะสอนประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเครื่องมือตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาโดยระบบการประเมินคุณภาพการศึกษา
คอื ระบบการประเมนิ คุณภาพภายใน และภายนอก การทดสอบระดับเขตฯ และระดับชาติ เพอื่ สะท้อนการจัดการศกึ ษา

สรปุ เน้ือหาสอบครูผ้ชู ่วย ภาค ข โดย The Teacher 33

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหน่งครผู ู้ช่วย สรุปย่ออย่างละเอยี ด เรอ่ื ง วชิ าการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ขอ้ สอบ : เปา้ หมายของการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นคอื อะไร ?

กลุ่มสาระ สาระ มาตรฐาน สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
(1) ภาษาไทย 5 5 ประกอบด้วย
(2) คณิตศาสตร์ K (Knowledge)
(3) วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 3 (ใหม)่ 7 (ใหม่) องค์ความรู้
(4) สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม P (Process)
(5) สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 4 (ใหม่) 10 (ใหม่) ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้
(6) ศิลปะ A (Attitude)
(7) การงานอาชีพ 5 11 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
(8) ภาษาตา่ งประเทศ 5 6
3 6 ขอ้ สอบ : KPA คืออะไร ?
รวม 2 (ใหม่) 2 (ใหม่)
☺ ไทย – คณติ – วทิ ย์
4 8
31 (ใหม)่ 55 (ใหม่) – สงั – สขุ – ศลิ ป์ – งาน
– ตา่ ง
 คำ 921/2561 ้ 2 บ3 ุ
ืุ ุ ศ ต์

 ตวั ชว้ี ัด (2ประเภท) ข้อสอบ : ขอ้ ใดระบุสิง่ ทีน่ ักเรยี นพงึ รู้และปฏิบัติได้ รวมท้ังคุณลกั ษณะของผู้เรียน ?

ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ คุณลักษณะของผู้เรียนแต่ละระดับชั้น ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้

ตัวชี้วัดใช้ในการกําหนดเนื้อหา จัดทําหน่วยการเรียนรู้  ( จ คญ ูต ) จัดการเรียนการสอน
และเป็นเกณฑส์ ําคัญที่วดั และประเมินผลเพอื่ ตรวจสอบคณุ ภาพผ้เู รยี น

ข้อสอบ : ระดบั การศึกษาใดใช้ตัวชี้วัดชั้นปี ?

(1) ตัวชี้วดั ชน้ั ปี  ระดบั การศึกษาภาคบงั คับ (ป.1 - ม.3)
(2) ตัวชีว้ ัดชว่ งชน้ั ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 - ม.6)

การกําหนดรหัสกาํ กับมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั ข้อสอบ : ถามเก่ียวกบั ความหมายของรหสั ?

ว. 1.1 ป.1/2 ค. 1.1 ม.4 – 6/2
ค.  กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ว.  กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ 1.1  สาระที่ 1 มาตรฐานที่ 1
1.1  สาระท่ี 1 มาตรฐานที่ 1
ป.1/2  ตวั ช้วี ัดช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ขอ้ ที่ 2 ม.4-6/2  ตัวชีว้ ัดช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ข้อที่ 2

☺ กำหนดรหสั : กลมุ่ สาระ ฐาน ชี้ ขอ้

สรปุ เน้ือหาสอบครูผชู้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 34

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย สรุปยอ่ อย่างละเอยี ด เรื่อง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

สรปุ การเปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชีว้ ดั (ใหม่)

โดย คำสั่ง สพฐ.คำสงั่ กระทรวงศึกษาธิการทแี่ กไ้ ขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบัน ขอ้ สอบ : ขอ้ ใดไมไ่ ด้อยใู่ นกลมุ่ สาระ… ?

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย (5สาระ5มาตรฐาน)
สาระท่ี 1 การอา่ น สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย

สาระที่ 2 การเขยี น สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม

สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพูด

กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ (3สาระ7มาตรฐาน)

สาระที่ 1 จํานวนและพีชคณิต สาระที่ 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเป็น

สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (4สาระ10มาตรฐาน)
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ 4 เทคโนโลยี

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (5สาระ11 มาตรฐาน)
สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม สาระท่ี 4 ประวัตศิ าสตร์

สาระท่ี 2 หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดาํ เนนิ ชีวติ ในสงั คม สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ (ปรบั ปรงุ มาตรฐาน)

สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์

กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (5สาระ6 มาตรฐาน)
สาระท่ี 1 การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ สาระท่ี 4 การสร้างเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค

สาระที่ 2 ชีวติ และครอบครัว สาระท่ี 5 ความปลอดภัยในชวี ิต

สาระท่ี 3 การเคล่อื นไหว การออกกาํ ลังกาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ (3สาระ 6มาตรฐาน)
สาระที่ 1 ทศั นศิลป์ สาระที่ 3 นาฏศิลป์

สาระท่ี 2 ดนตรี

กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ (2สาระ2มาตรฐาน)
สาระที่ 1 การดํารงชวี ติ และครอบครวั สาระท่ี 2 การอาชีพ

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (4 สาระ8มาตรฐาน)

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสอ่ื สาร สาระที่ 3 ภาษากับความสมั พันธก์ บั กลุม่ สาระการเรียนร้อู น่ื

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

เง่อื นไข ระยะเวลาการใช้มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั

สําหรับกลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาฯ วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ท่ปี รบั ปรุง
 ปกี ารศึกษา 2561 ให้ใชใ้ น ช้ัน ป.1, ป.4 และ ชน้ั ม.1, ม.4

 ปกี ารศกึ ษา 2562 ใหใ้ ชใ้ น ช้นั ป.1, ป.2, ป.4 ป.5 และ ชนั้ ม.1, ม.2.
 ปีการศึกษา 2563 เปน็ ต้นไป ใหใ้ ชใ้ นทกุ ชน้ั เรยี น

สรปุ เนือ้ หาสอบครูผู้ชว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 35

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่งครผู ูช้ ว่ ย สรปุ ยอ่ อยา่ งละเอยี ด เรื่อง วิชาการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน (3ลกั ษณะ) ขอ้ สอบ : เคยออกขอ้ สอบ

 มุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย

อารมณ์และสังคม เสรมิ สรา้ งให้เปน็ ผู้มศี ีลธรรม จริยธรรม มรี ะเบยี บวนิ ยั ปลูกฝังและสร้างจติ สำนกึ ของการทำประโยชน์

เพื่อสงั คมและจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผูอ้ ืน่ อยา่ งมีความสขุ ☺ พัฒนาผู้เรียน : แนว นัก สงั
(1) กจิ กรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมทสี่ ่งเสริมและพฒั นาผูเ้ รียนให้รจู้ กั ตนเอง
นักปัง ๆ ทหาร – เสือ – ชมุ นุม
ครูรจู้ กั และเขา้ ใจผ้เู รียน ช่วยเหลอื ให้คำปรกึ ษาผปู้ กครองในการพฒั นาผ้เู รียน

(2) กิจกรรมนกั เรียน เป็นกิจกรรมท่มี ุ่งพฒั นาความมีระเบยี บวนิ ยั ความเปน็ ผนู้ าํ ผตู้ ามทดี่ ี

กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด ผ้บู ําเพ็ญประโยชน์ และ นกั ศึกษาวชิ าทหาร

กิจกรรมชุมนมุ ชมรม ขอ้ สอบ : ข้อใดไมใ่ ชก่ จิ กรรมนักเรยี น ?

(3) กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ เปน็ กจิ กรรมที่ส่งเสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนบําเพญ็ ตนให้เปน็ ประโยชน์

ต่อสงั คม ชุมชน และทอ้ งถน่ิ ในลักษณะอาสาสมคั ร เชน่ กิจกรรมอาสา

 ระดับการศึกษา (3ระดบั )  ต บ . .บ. ศ ษ ต 42 บ ็  ูต ฯ บ ็
(1) ศ ษ (2) ศ ษ (1) ศ ษ (2) ธ ศ ษ ต ต้
(3) ธ ศ ษ (3) ธ ศ ษ ต

1) ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.1 - ป.6) ขอ้ สอบ : ระดบั ชน้ั ใดเนน้ การอา่ น การเขียน การคิดคำนวณ ?

 เปน็ ชว่ งแรกของการศกึ ษาภาคบงั คับ มุ่งเนน้ ทักษะพน้ื ฐาน เน้นทกั ษะพ้ืนฐาน
และจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการ
ดา้ นการอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ ทกั ษะการคดิ พ้ืนฐาน การตดิ ตอ่ ส่ือสาร
กระบวนการเรียนรูท้ างสงั คม และพื้นฐานความเปน็ มนษุ ย์ การพฒั นาคณุ ภาพชีวิต

อยา่ งสมบูรณแ์ ละสมดุลท้ังในด้านร่างกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ สงั คม และวฒั นธรรม เน้นจัดการเรียนรูแ้ บบบูรณาการ

2) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น (ม.1 - ม.3) เน้นสำรวจค.ถนดั และค.สนใจของตนเอง
และเปน็ พน้ื ฐานอาชพี หรือศึกษาตอ่
 ชว่ งสดุ ทา้ ยของการศึกษาภาคบงั คับ มงุ่ เน้นใหผ้ เู้ รียน
ไดส้ ํารวจความถนัดและความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการพฒั นา

บคุ ลิกภาพสว่ นตน มที ักษะในการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ คิดสรา้ งสรรค์ และคิดแกป้ ัญหา มีทกั ษะในการดําเนนิ ชวี ิต

มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความสมดุล ทั้งด้านความรู้

ความคดิ ความดีงาม และมคี วามภูมใิ จในความเป็นไทย เป็นพ้นื ฐานในการประกอบอาชพี หรอื การศกึ ษาต่อ

3) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4 - ม.6) ข้อสอบ : ระดับใดเน้นเพิม่ ความรู้และทักษะเฉพาะดา้ น ?

 เน้นการเพมิ่ พูนความรแู้ ละทักษะเฉพาะดา้ น เน้นเพ่ิมความรู้และทกั ษะเฉพาะดา้ น
นำค.ร้ไู ปใชป้ ระโยชนใ์ นการศึกษาตอ่ และ
สนองตอบความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผเู้ รียนแต่ละคน ประกอบอาชพี
ทั้งด้านวชิ าการและวชิ าชีพ มที กั ษะในการใชว้ ทิ ยาการ และเทคโนโลยี

ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง สามารถนําความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ

มุ่งพัฒนาตนและประเทศตามบทบาทของตน สามารถเป็นผ้นู ําและผูใ้ หบ้ รกิ ารชมุ ชนในด้านตา่ ง ๆ

สรปุ เนื้อหาสอบครผู ู้ชว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 36

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่งครผู ูช้ ว่ ย สรปุ ยอ่ อย่างละเอยี ด เรือ่ ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 การจดั เวลาเรยี น ข้อสอบ : เคยออกขอ้ สอบ

1. ระดับชน้ั ประถมศึกษา
✓จัดเวลาเรียนเป็น..รายปี... มเี วลาเรยี นวนั ละ...ไม่เกนิ 5 ช่วั โมง...

2 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น
✓จัดเวลาเรียนเป็น..รายภาค... มีเวลาเรยี นวันละ...ไมเ่ กิน 6 ชวั่ โมง...
✓คดิ น้ำหนักของรายวชิ าที่เรยี นเปน็ หนว่ ยกิต
✓ใชเ้ กณฑ์ 40 ช่วั โมง ตอ่ ภาคเรียน มีค่าน้ำหนกั วชิ าเทา่ กบั 1 หนว่ ยกิต

3. ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
✓จัดเวลาเรียนเป็น..รายภาค...มีเวลาเรียนวนั ละ...ไมน่ ้อยกว่า 6 ช่ัวโมง...
✓คดิ น้ำหนกั ของรายวชิ าที่เรยี นเปน็ หน่วยกติ
✓ใชเ้ กณฑ์ 40 ช่วั โมง ต่อภาคเรียน มีค่านำ้ หนักวิชาเท่ากบั 1 หน่วยกิต

☺ ชน้ั ประถม – ตน้ – ปลาย
ราย ปี – ภาค – ภาค
เวลา ไมเ่ กนิ 5 - 5 - ไมน่ อ้ ยกว่า 6

การจดั เวลากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ขอ้ สอบ : เคยออกข้อสอบ
(1) กจิ กรรมแนะแนว และกจิ กรรมนกั เรยี น

 ชน้ั ป.1 - ม.3 ปลี ะ 120 ช่วั โมง

 ชั้น ม.4 - ม.6 จํานวน 360 ชว่ั โมง

(2) กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์

 ระดับชั้นประถมศึกษา (ป.1 - ป.6) รวม 6 ปี จาํ นวน 60 ชวั่ โมง

 ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาตอนต้น (ม.1 - ม.3) รวม 3 ปี จาํ นวน 45 ชัว่ โมง

 ระดับช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 - ม.6) รวม 3 ปี จํานวน 60 ช่วั โมง

 การจัดการเรยี นรู้

การจัดการเรียนรูเ้ ป็นกระบวนนาํ หลกั สูตรสู่การปฏบิ ตั ิ โดยมมี าตรฐานการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคญั
และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นเปา้ หมายสาํ หรับพัฒนาเด็กและเยาวชน
1. หลักการจัดการเรียนรู้

ยึดหลักวา่ ผู้เรยี นมคี วามสาํ คญั ทส่ี ดุ เชื่อว่าทกุ คนมคี วามสามารถเรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเองได้
2. กระบวนการเรยี นรู้

การจัดการเรยี นการเรยี นรูท้ ี่เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาํ คัญ ผเู้ รียนจะตอ้ งอาศัยกระบวนการเรยี นรทู้ ี่หลากหลายเป็น
เครอื่ งมือที่จะนําพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลกั สูตร

สรุปเนื้อหาสอบครูผชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 37

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย สรุปย่ออยา่ งละเอยี ด เรอื่ ง วิชาการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

3. การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ ขอ้ สอบ : ผสู้ อนต้องศึกษาอะไรก่อนออกแบบจดั การเรียนรู้ ?

ผสู้ อนต้องศกึ ษาหลกั สูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั สมรรถนะสาํ คัญของผเู้ รยี น

และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แลว้ จึงพจิ ารณาออกแบบการจัดการเรียนรู้

4. บทบาทของผสู้ อนและผ้เู รยี น ข้อสอบ : ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้องเก่ียวกบั บทบาทผู้สอน/ผ้เู รียน ?
 ผสู้ อน

1) วิเคราะหผ์ ้เู รียนเป็นรายบุคคล นําข้อมูลมาวางแผนการจัดการเรยี นรู้

2) กำหนดเป้าหมายที่ตอ้ งการให้เกดิ ขน้ึ กบั ผู้เรียน

3) ออกแบบและจดั การเรยี นรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบคุ คลและพัฒนาการทางสมอง

4) จัดบรรยากาศท่เี อ้ือต่อการเรียนรู้ และช่วยเหลือผ้เู รยี นให้เกิดการเรียนรู้

5) เตรียม/เลือกสื่อเหมาะสมกบั กจิ กรรม

6) ประเมนิ ความกา้ วหน้าของผ้เู รียนดว้ ยวิธีหลากหลาย

7) วเิ คราะหผ์ ลการประเมินใชใ้ นการซอ่ มเสริมและพฒั นาผ้เู รยี น และปรบั ปรุงการสอนของตน

 ผเู้ รยี น

1) กาํ หนดเป้าหมายการเรยี นรู้ วางแผน และรบั ผิดชอบการเรียนรูข้ องตนเอง
2) เสาะแสวงหาความรู้ ตง้ั คำถามคดิ หาคำตอบหรือแนวทางแกป้ ัญหา
3) ลงมือปฏิบัติ สรุปดว้ ยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกต์
4) ประเมนิ และพฒั นาการเรียนรู้ของตนอยา่ งตอ่ เนื่อง

 สือ่ การเรียนรู้ ขอ้ สอบ : ข้อใดไม่ใชส่ ือ่ การเรียนรตู้ ามหลกั สูตรฯ ?

เปรยี บเสมอื นมอื ท่ี 3 ของครู เป็นเครอ่ื งมือสนับสนนุ การจดั กระบวนการเรียนรูใ้ ห้ผเู้ รยี นเขา้ ถงึ ความรู้

ทักษะกระบวนการ และคณุ ลกั ษณะตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ประกอบด้วย

1) สือ่ ธรรมชาติ

2) ส่อื ส่ิงพมิ พ์ เลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการ
3) สือ่ เทคโนโลยี และลีลาการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน

4) เครือข่ายการเรยี นรู้

สรุปเนอ้ื หาสอบครูผชู้ ว่ ย ภาค ข โดย The Teacher 38

สอบบรรจุขา้ ราชการครู ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย สรุปยอ่ อยา่ งละเอียด เร่ือง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 โครงสรา้ งเวลาเรยี น ข้อสอบ : ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ กู ตอ้ งเกีย่ วกบั โครงสร้างเวลาเรยี นแบบใหม่ ?

ยดึ ตามคําสง่ั สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ท่ี 922 / 2561 เร่อื ง การปรบั ปรุง
โครงสร้างเวลาเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (3 พ.ค. 61)

ระดับประถมศกึ ษา
(1) ปรบั เวลาเรยี นพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรไู้ ด้ตามความเหมาะสม
รวมทั้งสิน้ 880 ชม./ปี
✓สอดคลอ้ งกบั บรบิ ท จดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา และศกั ยภาพของผูเ้ รยี น (22 ชม./สปั ดาห)์
✓โดยจัดเวลาเรียนพื้นฐานสําหรับสาระประวตั ศิ าสตร์ 40 ชวั่ โมงตอ่ ปี

✓ตอ้ งมเี วลาเรียนพนื้ ฐานรวม จาํ นวน 840 ชวั่ โมงตอ่ ปี

✓ผ้เู รยี นต้องมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชวี้ ดั ทกี่ ําหนด

(2) จัดเวลาเรยี นเพิ่มเติม โดยจดั เปน็ รายวิชาเพ่ิมเติม หรือกจิ กรรมเพิ่มเติมให้สอดคล้องกบั จุดเน้น

และความพรอ้ มของสถานศึกษา และเกณฑ์การจบหลกั สตู ร 40 ชวั่ โมงตอ่ ปี
✓เฉพาะระดบั ชนั้ ป.1 - 3 สถานศกึ ษาอาจจัดให้เปน็ เวลาสําหรับสาระการเรยี นรู้พน้ื ฐาน

ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย และคณติ ศาสตร์

(3) จดั เวลาสําหรับกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น จํานวน 120 ชว่ั โมงต่อปี

(4) จดั เวลาเรยี นรวมท้งั หมด ให้เปน็ ไปตามความเหมาะสมของสถานศึกษา ทั้งนค้ี วรคาํ นึงถึง

ศกั ยภาพและพฒั นาการตามชว่ งวยั ของผเู้ รยี น และเกณฑก์ ารจบหลกั สูตร

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น รวมทั้งสน้ิ 1,080 ชม./ปี
(1) ปรับเวลาเรียนพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรไู้ ด้ตามความเหมาะสม (27 ชม./สปั ดาห)์
✓สอดคล้องกับบรบิ ท จดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา และศกั ยภาพของผูเ้ รยี น

✓จัดเวลาเรียนพื้นฐานสาํ หรับสาระประวตั ศิ าสตร์ 40 ชวั่ โมงตอ่ ปี (1 หนว่ ยกติ ตอ่ ป)ี

✓ตอ้ งมเี วลาเรยี นพน้ื ฐานรวม 880 ชว่ั โมงตอ่ ปี หรือ 22 หนว่ ยกติ ตอ่ ปี

✓ผ้เู รยี นตอ้ งมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั ท่กี ําหนด

และสอดคลอ้ งกบั เกณฑ์การจบหลกั สูตร

(2) จัดเวลาเรียนเพ่มิ เตมิ โดยจดั เปน็ รายวิชาเพ่ิมเติม หรือกิจกรรมเพ่มิ เตมิ ให้สอดคล้องกับจุดเนน้

และความพรอ้ มของสถานศึกษา และเกณฑก์ ารจบหลกั สตู ร 200 ชว่ั โมงตอ่ ปี

(3) จัดเวลาสาํ หรับกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน จำนวน 120 ชวั่ โมงตอ่ ปี

(4) จัดเวลาเรยี นรวมท้ังหมด ให้เปน็ ไปตามความเหมาะสมของสถานศึกษา ท้ังนี้ควรคํานึงถึง

ศกั ยภาพและพฒั นาการตามชว่ งวยั ของผูเ้ รยี น และเกณฑก์ ารจบหลกั สูตร

สรปุ เน้อื หาสอบครผู ู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 39

สอบบรรจขุ ้าราชการครู ตำแหน่งครผู ู้ชว่ ย สรุปยอ่ อย่างละเอยี ด เรื่อง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย รวมทงั้ สิน้ 3 ปี เวลาเรยี น
รวมไมน่ อ้ ยกวา่ 3,600 ชม.
(1) ปรับเวลาเรยี นพนื้ ฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ตามความเหมาะสม
✓สอดคล้องกับบรบิ ท จดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา และศกั ยภาพของผูเ้ รยี น

✓จัดเวลาเรียนพนื้ ฐานสําหรบั สาระประวตั ศิ าสตร์ 3 ปี 80 ชว่ั โมง (2 หนว่ ยกติ )

✓ต้องมีเวลาเรยี นพ้นื ฐานรวม 3 ปี 1,640 ชว่ั โมง หรอื 41 หนว่ ยกติ

✓ผ้เู รียนตอ้ งมคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวัดทกี่ าํ หนด

และสอดคลอ้ งกบั เกณฑก์ ารจบหลักสูตร

(2) จดั เวลาเรียนเพิม่ เติม โดยจัดเป็นรายวิชาเพ่ิมเติม หรือกจิ กรรมเพิ่มเตมิ ให้สอดคล้องกบั จุดเนน้

และความพรอ้ มของสถานศกึ ษา และเกณฑก์ ารจบหลกั สูตร รวม 3 ปี เทา่ กบั 1,560 ชม.
(3) จดั เวลาสาํ หรบั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น จำนวน 360 ชว่ั โมงตอ่ ปี

(4) จดั เวลาเรียนรวมทง้ั หมด ให้เปน็ ไปตามความเหมาะสมของสถานศกึ ษา ทั้งนีค้ วรคํานึงถึง

ศกั ยภาพและพฒั นาการตามชว่ งวยั ของผูเ้ รยี น และเกณฑก์ ารจบหลกั สูตร

 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น

✓ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 ถงึ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3  ปีละ 120 ชั่วโมง

✓ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 จํานวน 360 ชว่ั โมง

เปน็ เวลาสำหรับปฏิบัติ : กจิ กรรมแนะแนวกิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพ่ือสังคม และสาธารณประโยชน์

ในสว่ นกิจกรรมเพื่อสงั คม และสาธารณประโยชน์ ให้สถานศกึ ษาจดั สรรเวลาให้ผเู้ รียนไดป้ ฏบิ ัติกิจกรรม ดังนี้

✓ระดบั ประถมศกึ ษา (ป.1-6) รวม 6 ปี จํานวน 60 ชวั่ โมง

✓ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-3) รวม 3 ปี จาํ นวน 45 ชว่ั โมง

✓ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) รวม 3 ปี จาํ นวน 60 ช่ัวโมง

“ผปู้ ระสบความสำเร็จ คอื ผูล้ ับคมของตนอยู่เสมอ
เมื่อมโี อกาสใชง้ าน ก็ไมต่ อ้ งเสยี เวลาลับคมใหม่”

สรปุ เน้ือหาสอบครผู ู้ช่วย ภาค ข โดย The Teacher 40

สอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย สรปุ ย่ออยา่ งละเอยี ด เรือ่ ง วิชาการศกึ ษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (4ระดับ) ข้อสอบ : การประเมนิ เพือ่ อะไร สำคัญท่สี ุด ?

อยู่บนหลกั การพื้นฐานสองประการ คือประเมนิ เพื่อ....พฒั นาผเู้ รยี น และ ตดั สินผลการเรียน มี 4 ระดับ ดังน้ี

1. ระดับชัน้ เรยี น

ตรวจสอบพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน ประเมินในกระบวนการจัดการเรียนรู้

ใช้การประเมินอย่างหลากหลาย และให้ผู้สอน ผู้เรียน เพื่อนประเมิน หรือผู้ปกครองประเมินได้ สอดคล้องกับ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั โดยผูส้ อนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ

2. ระดับสถานศกึ ษา

ตรวจสอบผลการเรียนของผู้เรียนเป็นรายปี / รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ประเมนิ เกี่ยวกบั การจดั การของสถานศึกษา วา่ ส่งผลต่อการเรียน

ตามเป้าหมายหรือไม่ เพื่อปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ วิธีจัดการเรียนการสอน ทำแผนพัฒนาคุณภาพ

การศึกษา และรายงานผลต่อหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง

3. ระดับเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา
ประเมินผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้หลักสูตรแกนกลางฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูล

พ้ืนฐานในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของเขตพน้ื ที่การศกึ ษา

4. ระดับชาติ (NT, O-NET, PISA) ขอ้ สอบ : ระดับชั้นใดไม่ต้องประเมินระดบั ชาติ ?

ประเมนิ ผู้เรียนชน้ั ป.3 ป.6 ม.3 และ ม.6 เพอื่ ใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลในการเทียบเคียงคณุ ภาพการศกึ ษาในระดบั ตา่ ง ๆ

เพอื่ นาํ ไปใช้ในการวางแผนยกระดบั คุณภาพการจัดการศกึ ษา ตลอดจนเปน็ ข้อมูลสนบั สนุนการตดั สนิ ใจในระดับนโยบาย

ของประเทศ

การสอบ NT สอบความสามารถด้าน

 ดา้ นภาษา ด้านเหตผุ ล ด้านการคำนวณ

การสอบ O-NET สอบวิชา

คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ภาษาอังกฤษ วทิ ยาศาสตร์

 เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ขอ้ สอบ : มักจะถามเกี่ยวกบั เวลาเรยี นของผูเ้ รียน

 การตัดสินผลการเรียนระดับประถมศึกษา
1. ผเู้ รยี นต้องมเี วลาเรยี นไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทงั้ หมด
2. ผเู้ รียนตอ้ งได้รบั การประเมนิ ทุกตัวชีว้ ัด และผา่ นตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากําหนด

3. ผ้เู รียนต้องได้รับการตดั สินผลการเรยี นทุกรายวิชา
4. ผู้เรยี นต้องไดร้ บั การประเมนิ และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากาํ หนดในการอ่าน

คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน

สรุปเนือ้ หาสอบครูผชู้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 41

สอบบรรจขุ า้ ราชการครู ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย สรปุ ย่ออย่างละเอยี ด เร่อื ง วชิ าการศึกษา

____________________________________________________________________________________________________________________________

การตัดสนิ ผลการเรียนระดับมัธยมศกึ ษา
1. ตดั สนิ ผลการเรยี นเปน็ รายวชิ า ผเู้ รียนตอ้ งมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลา

เรยี นทงั้ หมดในรายวชิ านัน้ ๆ
2. ผ้เู รยี นตอ้ งไดร้ บั การประเมินทุกตวั ช้ีวัด และผา่ นตามเกณฑ์ทีส่ ถานศกึ ษากําหนด
3. ผ้เู รียนตอ้ งไดร้ ับการตดั สินผลการเรียนทกุ รายวิชา
4. ผู้เรียนต้องไดร้ ับการประเมิน และมีผลการประเมินผา่ นตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากําหนดในการอ่าน

คิดวเิ คราะห์ และเขยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น

 การใหร้ ะดับผลการเรียน ข้อสอบ : : ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้องเกย่ี วกบั การให้ระดบั ผลการเรียนระดบั ประถมศกึ ษา ?

 ระดับผลการเรียนระดับประถมศกึ ษา การประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น และคณุ ลกั ษณะ
 ระบบตวั เลข (เช่น 4, 3, 2, 1) อนั พงึ ประสงค์ ประเมินเปน็ ดเี ย่ยี ม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน
 ระบบตัวอกั ษร (เช่น A, B, C, D) การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น พจิ ารณาเวลาเขา้ รว่ ม
 ระบบรอ้ ยละ (เช่น รอ้ ยละ 80) กิจกรรม และผลงานผู้เรยี น ประเมนิ เปน็ ผา่ น ไมผ่ ่าน

 ระบบคําสําคญั สะท้อนมาตรฐาน (เช่น ดีมาก ดี พอใช้)

 การใหร้ ะดับผลการเรียนระดับมธั ยมศึกษา การประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น และคุณลกั ษณะ
 ใช้ตวั เลขแสดงระดับผลการเรยี น อนั พึงประสงค์ ประเมินเปน็ ดเี ยีย่ ม ดี ผ่าน ไมผ่ า่ น
การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น พจิ ารณาเวลาเข้าร่วม
เป็น 8 ระดบั เท่านัน้ เช่น 4, 3.5, 3, 2.5, 2, 1.5, 1, 0 กิจกรรม และผลงานผูเ้ รียน ประเมินเปน็ ผา่ น ไมผ่ ่าน

 การรายงานผลการเรยี น ข้อสอบ : : การสื่อสารกับผปู้ กครองใช้เอกสารใด ?

การรายงานผลการเรียนเปน็ การสอื่ สารใหผ้ ูป้ กครองและผเู้ รยี นทราบความกา้ วหนา้
ในการเรียนรูข้ องผเู้ รยี น โดยให้รายงานผลการเรียน เปน็ ระยะ ๆ หรอื อยา่ งนอ้ ย ภาคเรยี นละ 1 ครง้ั

 เกณฑ์การจบการศึกษา

เรยี น

หลักสูตรแกนกลาง ฯ ได้กําหนดเกณฑก์ ลางสําหรบั การจบการศึกษา เปน็ 3 ระยะ คอื

ระดบั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

สรปุ เนอ้ื หาสอบครผู ูช้ ่วย ภาค ข โดย The Teacher 42


Click to View FlipBook Version