The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตร พระพุทธ รวม ป.1-6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by maytarat.k, 2022-06-11 09:52:30

หลักสูตร พระพุทธ รวม ป.1-6

หลักสูตร พระพุทธ รวม ป.1-6

การเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน/ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์
าคมอาเซียน จดุ เน้น ค่านยิ มของคนไทย/โตไปไม่

องบุคคลสาคญั ๑. ความสามารถในการสื่อสาร โกง/ปศพพ./บูรณาการ
นาประจาชาติ จดุ เน้น การอ่าน กิจกรรมตา้ นทุจรติ ศกึ ษา
องประเทศใน อ่านออกเสยี ง รบั รแู้ ละเขา้ ใจ
ชาคมอาเซยี น ความหมายของคา ประโยคจาก ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ยนบนั ทกึ เร่อื งราวในสอ่ื ต่างๆ ได้ ๒. ใฝ่เรยี นรู้
คคลสาคญั ทาง จดุ เน้น การเขียน ๓. มุง่ มนั่ ในการทางาน
ระจาชาตติ ่างๆ เขยี นบนั ทกึ คา ประโยค จาก
ทศในกลมุ่ เรอ่ื งราวไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม
มอาเซยี น มา จดุ เน้น การพดู
สามารถสง่ สารไดต้ รงตาม
ทา่ น พรอ้ มทงั้ วตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใชค้ าสุภาพ
ลกั การดาเนนิ ๒. ความสามารถในการคิด
รนามาเป็น จดุ เน้น การคิด
ง) สามารถรวบรวมขอ้ มลู เช่อื มโยง
จาแนกประเภทและเปรยี บเทยี บได้
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
ชีวิตนกั เรยี นสามารถนาขอ้ คดิ ใน
การรจู้ กั ตนเอง และจดั การกบั
อารมณ์ของตนเองได้

๘๑ สาระการเรยี นร/ู้ สาระก
สาระทอ้ งถน่ิ ประชา
ระดับช้ัน ผลการเรยี นรู้

ป.๖ ๓. เห็นคณุ ค่า และปฏิบตั ิ พทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา

ตนตามแบบอย่างการ - พระราธะ

ดำเนนิ ชีวติ และข้อคดิ จาก ชาดก

ประวัตสิ าวก ชาดก/เรอ่ื ง- ทฆี ีติโกสลชาดก
สมั พทาฐชิ าดก
เลา่ และ - ศาสนิกชนตัวอย่าง
พ่อขนุ รามคำเแหง
ศาสนิกชนตวั อย่าง ตามท่ี

กำหนด -

- สมเดจ็ พระมหาสมณ

เจา้ กรมพระปรมานชุ ิต

ชิโนรส

- พระธรรมสิทธมิ งคล (วัด

เมอื งยะลา)

- ดร. ซกู าร์โน

การเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน/ คุณลักษณะอนั พึง
าคมอาเซยี น
จุดเน้น ประสงค์/ค่านยิ มของคน

ไทย/โตไปไมโ่ กง/ปศพพ.

๑. ความสามารถในการสอื่ สาร ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์

จุดเนน้ การอ่าน ๒. มีวนิ ัย

อา่ นออกเสียง รบั รู้และเข้าใจ ๓. ใฝเ่ รยี นรู้

ความหมายของคำ ประโยคจาก ๔. มุง่ มนั่ ในการทำงาน

เรอ่ื งราวในสื่อตา่ งๆ ได้ ๕. รกั ความเปน็ ไทย

จดุ เน้น การเขยี น ๖. อยูอ่ ยา่ งสนั ติ

เขยี นบนั ทึก คำ ประโยค จากเรอื่ งราว (หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ

ไดถ้ ูกต้อง เหมาะสม พอเพียง)

จุดเนน้ การพูด

สามารถสง่ สารไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์

โดยใชค้ ำสุภาพ

๒. ความสามารถในการคิด

จดุ เนน้ การคดิ

สามารถรวบรวมข้อมูล เชื่อมโยง

จำแนกประเภทและเปรยี บเทียบได้

๘๒



๘ร๓ะดับชั้น ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้/ สาระก
ระดับช้ัน ผลการเรียนรู้ สาระทอ้ งถิน่ ประชา

สาระการเรยี นร้/ู สาระก
สาระท้องถิ่น ประชา

ป.๖ ๔. วเิ คราะหค์ วามสาคญั พระรตั นตรยั -หลกั ธรรม

และเคารพ พระรตั นตรยั : ศรทั ธา ๔ ศาสนาตา่

ปฏบิ ตั ติ นตามไตรสกิ ขา - พระพทุ ธ ประเทศใน

และหลกั ธรรม : พทุ ธกจิ ประชาคม

โอวาท ๓ ใน - พระธรรม (ใหน้ กั เรยี

พระพทุ ธศาสนา : อรยิ สจั 4 หลกั ธรรม

: หลกั กรรม ศาสนาตา่

- พระสงฆ์ ประเทศใน

ไตรสกิ ขา ประชาคม

- ศลี สมาธิ ทงั้ อธบิ าย

ปัญญา ของหลกั ธ
ของศาสน
โอวาท ๓
- ไม่ทาชวั่ : เบญจ ประเทศใน
ศลี : อบายมขุ ประชาคม
6 : อกศุ ลมลู 3 นามาประ
ชวี ติ ประจ
- ทาความดี :

เบญจธรรม :

กุศลมลู 3 : พละ

4 : คารวะ

การเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น/ คุณลกั ษณะอันพงึ

าคมอาเซียน จุดเน้น ประสงค์/ค่านยิ มของคน

ไทย/โตไปไม่โกง/ปศพพ.

การเรยี นรสู้ ู่ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น/ บรู คณุณากลาักรษกณิจกะอรรันมพตึง้าน

าคมอาเซยี น จดุ เน้น ประสทงคุจ์/รคิตา่ ศนึกิยษมาของคน

๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ไทย/โตไปไมโ่ กง/ปศพพ.

มทส่ี าคญั ของ ช๑ีว. ิตความสามารถในการสื่อสาร ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
นจกัดุ เรนยี ้นนสกาามราอรถ่าคนดิ เป็นระบบ เพอ่ื ๒. ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ
างๆ ของ
นกลุ่ม นอ่านไปอสอกู่ าเสรสยี รงา้ รงบัอรงแคู้ ลค์ ะวเาขมา้ รใู้จเพอ่ื ๓. ใฝ่เรยี นรู้
ตคดัวาสมนิ หใจมเากยย่ี ขวอกงบั คตานปเอรงะแโยลคะสจางั กคมได้ ๔. กตญั ญู
มอาเซยี น
๕. อย่อู ย่างสนั ติ
ยนบนั ทกึ เรอ่ื งราวในสอ่ื ตา่ งๆได้

ม ทส่ี าคญั ของ จดุ เน้น การเขียน ๖. ความเป็นธรรมทาง

างๆ ของ เขยี นบนั ทกึ คา ประโยค จาก สงั คม

นกลุ่ม เร่อื งราวไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

มอาเซยี น พรอ้ ม จดุ เน้น การพดู พอเพียง

ยถงึ ความสาคญั สามารถสง่ สารไดต้ รงตาม ตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา

ธรรมทส่ี าคญั วตั ถุประสงคโ์ ดยใชค้ าสภุ าพ ส่งิ แวดลอ้ มเพ่ือสขุ ภาพทด่ี ี

นาต่างๆ ของ ๒. ความสามารถในการคิด

นกลุม่ จดุ เน้น การคิด
มอาเซยี นท่ี
ะยุกตใ์ ชใ้ น สามารถรวบรวมขอ้ มลู เช่อื มโยง
จาวนั ได้ จาแนกประเภทและเปรยี บเทยี บได้
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ

ชีวิต นกั เรยี นสามารถนาขอ้ คดิ ใน

การรจู้ กั ตนเอง และจดั การกบั

อารมณ์ของตนเองได้

๘๔



๘๕ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้/ สาระก
สาระท้องถนิ่ ประชา
ระดบั ชั้น

- คารวะ 6 : -หลกั ธรรม

กตญั ญกู ตเวทตี อ่ ศาสนาต่า

พระมหากษตั รยิ ์ ประเทศใน

- มงคล ๓๘ ประชาคม

: มวี นิ ยั (ใหน้ กั เรยี

: การงานไมม่ ี หลกั ธรรม
โทษ ศาสนาต่า
: ไม่ประมาทใน ประเทศใน
ธรรม ประชาคม
ทงั้ อธบิ าย
ทาจติ ใหบ้ รสิ ทุ ธิ์
(บรหิ ารจติ และ ของหลกั ธ
ของศาสน
เจรญิ ปัญญา)
ประเทศใน
พทุ ธศาสนสภุ าษติ
ประชาคม
- สจ.เจน กติ ตปึ ป. นามาประ
โปติ ชวี ติ ประจ

คนจะไดเ้ กยี รตดิ ว้ ย

สจั จะ

- ยถาวาที ตถาการี

พดู เช่นไรทาเช่นนัน้

การเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น/ คณุ ลกั ษณะอันพึง
าคมอาเซียน จุดเน้น ประสงค์/ค่านยิ มของคน
ไทย/โตไปไม่โกง/ปศพพ.
มทส่ี าคญั ของ
างๆ ของ
นกล่มุ
มอาเซยี น
ยนบนั ทกึ
ม ทส่ี าคญั ของ
างๆ ของ
นกลุม่
มอาเซยี น พรอ้ ม
ยถงึ ความสาคญั
ธรรมทส่ี าคญั
นาต่างๆ ของ
นกลุ่ม
มอาเซยี นท่ี
ะยุกตใ์ ชใ้ น
จาวนั ได้

๘๖

สาระการเรยี นรู/้ สาระก
สาระทอ้ งถ่ิน ประชา

ระดับชั้น ผลการเรยี นรู้

ป.๖ ๕. ชน่ื ชมการทาความดี ตวั อย่างการกระทาความดี ประวตั แิ ล

ของ บคุ คลในประเทศ ของบุคคลในประเทศไทย บคุ คลสาค

ตามหลกั ศาสนา พรอ้ ม ในกลมุ่ ปร

ทงั้ บอกแนวปฏบิ ตั ใิ นการ อาเซยี น

ดาเนินชวี ติ

การเรยี นรสู้ ู่ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น/ คณุ ลกั ษณะอันพงึ
าคมอาเซียน จดุ เน้น
ประสงค์/ค่านยิ มของคน
ละผลงานของ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร
ไทย/โตไปไม่โกง/ปศพพ.
คญั ของประเทศ จดุ เน้น การอ่าน
บูรณาการกิจกรรมตา้ น
ระชาคม อา่ นออกเสยี ง รบั รแู้ ละเขา้ ใจ
ทจุ ริตศึกษา
ความหมายของคา ประโยคจาก
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
เรอ่ื งราวในสอ่ื ต่างๆ ได้ ๒. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ
๓. มวี นิ ยั
จดุ เน้น การเขียน ๔. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๕. รกั ความเป็นไทย
๖. กตญั ญู

เขยี นบนั ทกึ คา ประโยค จาก

๘๗

ระดับช้นั ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นร/ู้ สาระ
สาระท้องถิน่ ประชา

ป.๖ ๖. ปฏบิ ตั ติ นตาม -หลกั ธรรม : อรยิ สจั ๔

หลกั ธรรมของศาสนา หลกั กรรม

พทุ ธ โอวาท ๓

เพอ่ื แกป้ ัญหาอบายมุข เบญจศลี -เบญจ

และสง่ิ เสพตดิ ธรรม

อบายมขุ ๖

อกศุ ลมลู ๓

เรอ่ื งราวไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม

ะการเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน/ คณุ ลักษณะอันพึง
าคมอาเซยี น จุดเน้น ประสงค/์ คา่ นยิ มของคน
ไทย/โตไปไมโ่ กง/ปศพพ.
- ทกั ษะการคิดพื้นฐาน
ทกั ษะการสรุปอา้ งองิ ทกั ษะการนา ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ความรไู้ ปใช้ ๒. ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
๓. รกั ความเป็นไทย

๘๘

สาระการเรยี นรู้/ สาระ
สาระทอ้ งถ่ิน ประชา

ระดบั ชน้ั ผลการเรียนรู้

ป.๖ ๗. อธบิ ายความรู้ อธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั อธบิ ายคว

เกย่ี วกบั สถานทต่ี ่าง ๆ สถานทต่ี ่าง ๆในศาสน สถานทต่ี ่า

ในศาสนสถานของ สถานของศาสนาพุทธและ สถานของ

ศาสนาพุทธและปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ย่าง และปฏบิ ตั

ตนไดอ้ ย่างเหมาะสม เหมาะสม เหมาะสม

ะการเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น/ คณุ ลักษณะอันพงึ
าคมอาเซียน
จดุ เนน้ ประสงค/์ ค่านิยมของคน
วามรเู้ กย่ี วกบั
าง ๆในศาสน ไทย/โตไปไม่โกง/ปศพพ.
งศาสนาพุทธ
ตติ นไดอ้ ย่าง บูรณาการกจิ กรรมต้าน

ทุจรติ ศึกษา

อธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั สถานทต่ี ่าง ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์

ๆในศาสนสถานของศาสนาพทุ ธและ ๒. ใฝ่เรยี นรู้

ปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ย่างเหมาะสม ๓. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

๘๙

สาระการเรยี นรู/้ สาระ
สาระทอ้ งถ่นิ ประชา

ระดบั ชัน้ ผลการเรยี นรู้

ป.๖ ๘. มมี ารยาทของความ - การถวายของแด่ - ขนั้ ตอน

เป็นศาสนิกชนทด่ี ี พระภกิ ษุสงฆ์ พธิ กี รรมข

- การปฏบิ ตั ติ นในขณะฟัง พทุ ธศาสน

ะการเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น/ คุณลกั ษณะอนั พึง
าคมอาเซยี น จุดเน้น ประสงค์/ค่านยิ มของคน

นการปฏบิ ตั ิ ๑. ความสามารถในการใช้ ไทย /โตไปไม่โกง/
ของ เทคโนโลยเี พ่อื การเรยี นรู้ ปศพพ.บรู ณาการ
นกิ ชนใน -ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสบื คน้ ขอ้ มลู กจิ กรรมตา้ นทจุ ริต

ศึกษา

๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. มุง่ มนั่ ในการทางาน
๓. อย่อู ย่างพอเพยี ง

๙๐

ธรรม ประเทศต
- การปฏบิ ตั ติ ามแนวทาง ประชาคม
ของพุทธศาสนิกชนเพอ่ื
ประโยชน์ต่อศาสนา
สาระท้องถิ่น

-ระเบยี บการปฏบิ ตั ขิ อง
พธิ กี รรมทางศาสนาพทุ ธ
ในทอ้ งถน่ิ

สาระการเรยี นรู้/ สาระ
สาระทอ้ งถนิ่ ประชา

ระดบั ชั้น ผลการเรยี นรู้

ป.๖ ๙. เหน็ คุณค่าและสวด - สวดมนตไ์ หว้พระ -ความสาม

ต่าง ๆของกลมุ่ เรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ นของพธิ กี รรมทาง หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ
มอาเซยี น ศาสนาพุทธในทอ้ งถนิ่ พอเพียง
ต้านทจุ รติ ศกึ ษา
สง่ิ แวดล้อมเพื่อสขุ ภาพท่ดี ี

ะการเรยี นรู้สู่ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น/ คุณลักษณะอนั พงึ
าคมอาเซียน จดุ เนน้ ประสงค/์ ค่านิยมของคน
ไทย/โตไปไม่โกง/ปศพพ.
มารถในการ สวดมนต์แผ่เมตตา บรู ณาการกิจกรรมต้าน

ทจุ รติ ศึกษา

-รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

๙๑

มนต์แผ่เมตตา และและ สรรเสรญิ คุณพระรัตนตรยั เคารพและ

บริหารจิตเจริญปัญญามี และแผ่เมตตา แตกต่างห

สตทิ เ่ี ปน็ พืน้ ฐานของสมาธิ - รคู้ วามหมายของ ศาสนา ปร

ในพระพทุ ธศาสนา หรือ สตสิ ัมปชญั ญะ วฒั นธรรม

การพฒั นาจติ ตามแนวทาง สมาธแิ ละปญั ญา ตามหลกั ศ

ของศาสนาพุทธ - ร้วู ธิ ปี ฏิบัติและประโยชน์ และวนั สำ

ของการบรหิ ารจติ และเจรญิ ตา่ งของปร

ปญั ญา กลมุ่ ประช

- ฝกึ การยืน การเดิน การน่ัง

และการนอนอย่างมสี ติ

- ฝึกการกำหนดความรู้สึก

เม่อื ตาเหน็ รปู หูฟงั เสย่ี ง

จมูกดมกลิน่ ลนิ้ ลม้ิ รส กาย

สมั ผัสสงิ่ ทม่ี ากระทบ ใจรับรู้

ธรรมารมณ์

สาระการเรยี นรู้/ สาระ
สาระทอ้ งถนิ่ ประชา

ระดับชัน้ ผลการเรยี นรู้

ป.๖ ๑๐. อธบิ ายประโยชน์ -ทบทวนการอาราธนาศลี -คากล่าวข

ะยอมรับความ ทกั ษะการใช้ชวี ติ ประจำวนั - รกั ความเปน็ ไทย
หลากหลายทาง
ระเพณแี ละ
ม การแต่งกาย
ศาสนา พธิ กี รรม
ำคัญทางศาสนา
ระเทศตา่ ง ๆ ใน
ชาคมอาเซยี น

ะการเรยี นรสู้ ู่ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น/ คณุ ลักษณะอนั พงึ
าคมอาเซยี น จดุ เน้น ประสงค์/ค่านยิ มของคน
ไทย/โตไปไม่โกง/ปศพพ.
ของศาสนพธิ ี ๑. ความสามารถในการสื่อสาร บูรณาการกจิ กรรมต้าน

ทุจรติ ศึกษา

๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์

๙๒

ของการเขา้ รว่ มในศาสน อาราธนาธรรม และ ของพุทธศ

พธิ ี พธิ กี รรม กจิ กรรมใน อาราธนาพระปรติ ร ประเทศต

วนั สาคญั ทาง - พธิ ที อดผา้ ป่า ประชาคม

พระพุทธศาสนาและ - พธิ ที อดกฐนิ

ปฏบิ ตั ติ นไดถ้ กู ตอ้ ง - ระเบยี บพธิ ใี นการทาบญุ

งานอวมงคล

-การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในวนั

มาฆบชู า วนั วสิ าขบูชา วนั

อาสาฬหบูชา วนั อฐั มบี ูชา

วนั ธรรมสาวนะ

ระดับช้ัน ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้/ู สาระ
สาระทอ้ งถนิ่ ประชา

ศาสนกิ ชนใน - ฟัง ดู พดู อ่าน เขยี น อย่างมี ๒.มวี นิ ยั
ตา่ งๆของกลุ่ม มารยาทและแสดงความคดิ เหน็ ๓.ใฝ่เรยี นรู้
มอาเซยี น วเิ คราะหจ์ ากเร่อื งทฟ่ี ังอย่าง ๔.มงุ่ มนั่ ในการทา
สมเหตสุ มผล (หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียง)

ะการเรยี นรสู้ ู่ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน/ คุณลกั ษณะอันพึง
าคมอาเซียน จดุ เนน้ ประสงค์/คา่ นยิ มของคน
ไทย/โตไปไมโ่ กง/ปศพพ.
บรู ณาการกจิ กรรมต้าน

๙๓

- ประโยชน์ของการเขา้
ร่วมในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม
วนั สาคญั ทาง
พระพุทธศาสนา
สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ
-หลกั การปฏบิ ตั แิ ตล่ ะศา
สนพธิ ี พธิ กี รรมวนั สาคญั
ทางพระพุทธศาสนาของ
ทอ้ งถนิ่

ทจุ ริตศึกษา

๙๑

ส๑๑๒๐๑ พระพทุ ธศาสนา คาอธิบายรายวิชา
วฒั นธรรม
ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และ
ชวั่ โมง / ปี
เวลาเรยี น ๑๒๐

การศกึ ษา วเิ คราะห์ อธบิ าย ปฏบิ ตั ิ เขา้ ใจประวตั ขิ องพระพุทธศาสนา พทุ ธประวตั ิ ตอน
ประสตู ิ ตรสั รู้ และปรนิ ิพพาน แบบอยา่ งการดาเนินชวี ติ และขอ้ คดิ จากประวตั พิ ุทธสาวกและศาสนิก
ชนตวั อย่าง พระรตั นตรยั ไตรสกิ ขา และหลกั โอวาท ๓ หรอื ปฏบิ ตั ติ นหลกั ธรรมทางศาสนา การ
สวดมนต์ บทแผ่เมตตา ความหมายของสติสมั ปชญั ญะ สมาธิและปัญญาและการพฒั นาจิตตาม
แนวทางของศาสนาการบารุงรกั ษาศาสนสถาน มรรยาทของความเป็นศาสนิกชนทด่ี ี การแต่งกาย
ของพทุ ธศาสนิกชนใน กลุ่มประชาคมอาเซยี น พธิ กี รรมในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม การปฏิบัติ
กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และการแกไ้ ขปัญหา

เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ศรัทธา เห็นคุณค่า สามารถปฏิบตั ติ นในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข มี
คุณธรรม จรยิ ธรรม มคี ุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ในด้าน ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ย์
สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง รกั ความเป็นไทย มุ่งมนั่ ในการทางาน จติ สาธารณะ
กตญั ญู สนั ติ
บูรณาการโดยน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอยู่อย่าง
พอเพยี ง บูรณาการกิจกรรมต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) และบูรณาการสงิ่ แวดลอ้ ม

เพอ่ื สุขภาพทด่ี ี

ผลการเรียนรู้

1. บอกพุทธประวตั แิ ละความสาคญั ของพระพุทธศาสนา ทต่ี นนบั ถอื

2. บอกความหมายความสาคญั และเคารพ พระรตั นตรยั ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมโอวาท ๓

ในพระพทุ ธศาสนาและหลกั ธรรมทต่ี นนบั ถอื ตามทก่ี าหนด
3. ช่ืนชมและบอกแบบอย่างและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เร่ืองเล่าและศาสนิกชน

ตวั อย่างตามทก่ี าหนด

๙๒

4. แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรอื แสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนา ทต่ี นนบั ถอื
5. เหน็ คุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา มสี ตทิ ่เี ป็นพน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรอื
การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามทก่ี าหนด
6. ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวนั สาคญั ทางศาสนาตามทก่ี าหนดไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

รวมทงั้ หมด...........6...........ผลการเรียนรู้

ส๑๒๒๐๑ พระพทุ ธศาสนา คาอธิบายรายวิชา
วฒั นธรรม
ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ ๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และ
ชวั่ โมง / ปี
เวลาเรียน ๑๒๐

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึ กปฏิบตั ิ สรา้ งความคิดรวบยอด นาภมู ิปัญญาท้องถ่ิน สภาพปัญหา
ชีวิตและสภาพส่ิงแวดลอ้ มเขา้ มาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรยี นรู้ เพ่ือให้มคี วามรู้ ความ
เข้าใจ ตระหนัก และเหน็ คณุ ค่าในการดาเนินชีวิต บอกประวตั ิของพระพทุ ธศาสนา เขา้ ใจ
พทุ ธประวตั ิตงั้ แต่ตอนประสตู ิ ตรสั รู้ ปรินิพพาน และ เขา้ ใจพระรตั นตรยั ไตรสิกขา และหลกั
โอวาท ๓ หรอื หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เพ่ือเป็นแนวทางต่อการดาเนินชีวิต ข้อคิดจาก
ประวตั ิพทุ ธสาวก ชาดก ศาสนิกชนตวั อยา่ ง และเขา้ ใจความสาคญั ของการบารงุ รกั ษาศาสน
สถาน และปฏิบตั ิตนต่อมารยาทของความเป็นศาสนิกชนท่ีดีได้ ฝึ กการสวดมนต์และการแผ่
เมตตา บอกความหมายหมายของสติสมั ปัญญะ สมาธิและปัญญา การพฒั นาจิตตามแนวทาง
ของพระพทุ ธศาสนาและเขา้ ใจพิธีกรรมในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มลู กระบวนการกลมุ่ กระบวนการ
ปฏิบตั ิจริง กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชิญสถานการณ์จริง และการแก้ไขปัญหา
เพอื่ ให้ผ้เู รียนมคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต โดยสามารถนาข้อคิดในการร้จู กั ตนเอง
และการจดั การกบั อารมณ์ของตนเองได้ สามารถคิดเป็นระบบ เพอ่ื นาไปส่กู ารสรา้ งองค์
ความรตู้ ่อการตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสงั คมได้

๙๓

เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมพี ฤติกรรมอนั พงึ ประสงคต์ ามคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ อง
สถานศึกษา โดยมีความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสตั ย์ สจุ ริต มวี ินัย ใฝ่ เรยี นรู้ อยอู่ ย่าง
พอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ กตญั ญแู ละอย่อู ยา่ งสนั ติ
บูรณาการโดยน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอยู่อย่าง
พอเพยี ง บูรณาการกิจกรรมต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) และบูรณาการสง่ิ แวดลอ้ ม
เพอ่ื สขุ ภาพทด่ี ี

ผลการเรยี นรู้
๑. บอกพทุ ธประวตั ิและความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาท่ีตนนับถือ
๒. ชื่นชมและบอกแบบอยา่ งการดาเนินชีวิตและขอ้ คิดจากประวตั ิพระสาวก ชาดก/

เรอื่ งเลา่ และศาสนิกชนตวั อย่างตามที่กาหนด และปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม เพ่ืออย่รู ว่ มกนั อยา่ ง
สนั ติสขุ

๓. ร้แู ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา มศี รทั ธาท่ี
ถกู ต้อง ยดึ มนั่ และปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม เพ่ืออยรู่ ่วมกนั อย่างสนั ติสขุ

๔. บอกความหมาย ความสาคญั และเคารพต่อพระรตั นตรยั ปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมใน
โอวาท 3 ในพระพทุ ธศาสนา หรอื หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาที่ตนนบั ถือตามท่ีกาหนด

๕. ชื่นชมการทาความดขี องตนเอง บุคคลในครอบครวั และในโรงเรียนตามหลกั
พระพทุ ธศาสนา

๖. เหน็ คณุ ค่าและสวดมนต์ แผเ่ มตตา มีสติท่ีเป็นพนื้ ฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนา
หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนาท่ีตนนับถอื ตามท่ีกาหนด

๗. ปฏิบตั ิตนอย่างเหมาะสมต่อสาวกของพระพทุ ธศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามท่ีกาหนดได้
ถกู ต้อง

๘. ปฏิบตั ิตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ตามที่กาหนดได้
ถกู ต้อง
รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

๙๔

ส๑๓๒๐๑ พระพทุ ธศาสนา คาอธิบายรายวิชา
วฒั นธรรม
ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และ
ชวั่ โมง / ปี
เวลาเรยี น ๑๒๐

ศึกษา บอก วิเคราะห์ ยกตวั อย่าง อภิปราย อธิบาย สรปุ ความสาคญั ของ
พระพทุ ธศาสนา ในฐานะที่เป็นรากฐานสาคญั ของวฒั นธรรมไทยและประชาคมอาเซียน

๙๕

พทุ ธประวตั ิตอนการบาเพญ็ เพียร ผจญมาร ปฐมเทศนา ปรินิพพาน แบบอยา่ งการดาเนิน
ชีวิต ข้อคิดจากประวตั ิสาวก ชาดก/เร่ืองเลา่ และพทุ ธศาสนิกชนตวั อยา่ งของประเทศไทยและ
ในประชาคมอาเซียน ความหมาย ความสาคญั ของพระไตรปิ ฏก หลกั ธรรมคาสอนของ
พระพทุ ธศาสนา บทสวดมนต์ บทแผ่เมตตา สติท่ีเป็นพนื้ ฐานของสมาธิในการพฒั นาจิตตาม
แนวทางพระพทุ ธศาสนา ความสาคญั ของ ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน ท่ีสาคญั ของ
พระพทุ ธศาสนาในกลมุ่ ประชาคมอาเซียน วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ศาสนพิธี พิธีกรรม
และความสาคญั ของการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการ
กลุม่ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการทางสงั คมและกระบวนการแสดงบทบาทสมมติ
เพื่อให้ตระหนัก เหน็ คณุ ค่า ชื่นชม ศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนา รกั การเรยี นรู้ ประพฤติปฏิบตั ิ
ตนเป็นพทุ ธศาสนิกชนท่ีดี มคี ณุ ธรรมจริยธรรมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคส์ ามารถอยู่
ร่วมกนั ในสงั คมได้อยา่ งสนั ติสขุ
บูรณาการโดยน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพ่ือให้เกิดคุณลกั ษณะอยู่อย่าง
พอเพยี ง บูรณาการกิจกรรมต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) และบูรณาการสงิ่ แวดลอ้ ม
เพอ่ื สขุ ภาพทด่ี ี

ผลการเรยี นรู้
๑. อธิบายความ สาคญั ของพระพทุ ธศาสนา ในฐานะที่เป็นรากฐานสาคญั ของ

วฒั นธรรมไทยและประชาคมอาเซียนนาไปปฏิบตั ิในชีวิตประจาวนั ได้
๒. สรปุ พทุ ธประวตั ิตอนการบาเพญ็ เพียร ผจญมาร ปฐมเทศนา ปรินิพพานและนา

หลกั ธรรมมาเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตประจาวนั
๓. ช่ืนชมและบอกแบบอย่างการดาเนินชีวิต ข้อคิดจากประวตั ิสาวก ชาดก/เรือ่ งเล่า

และพทุ ธศาสนิกชนตวั อยา่ ง
๔. บอกความ หมาย ความสาคญั ของ พระไตรปิ ฏก และนาไปใช้ในการศึกษา

หลกั ธรรมคาสอนของพระพทุ ธศาสนา
๕. บอกหลกั ธรรม ในพระพทุ ธศาสนาท่ีเรยี นร้แู ละสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในการ

ดาเนิ นชีวิตได้

๙๖

๖. จาบทสวดมนต์เหน็ คณุ ค่าของการสวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติที่เป็นพนื้ ฐานของ
สมาธิในการพฒั นาจิตตามแนวทางพระพทุ ธศาสนา

๗. อธิบายความสาคญั และเหน็ คณุ ค่าของ ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน และปฏิบตั ิตน ได้
อย่างถกู ต้อง

๘.รแู้ ละเขา้ ใจวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา บอกขนั้ ตอนของศาสนพิธี พิธีกรรม
ตระหนักถงึ คณุ ค่าและนาไปปฏิบตั ิให้ถกู ต้องตามขนั้ ตอนได้

๙. ร้แู ละเหน็ ความสาคญั ของการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ และปฏิบตั ิตามขนั้ ตอนได้
อยา่ งถกู ต้อง

รวมทงั้ หมด ๙ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา

ส๑๔๒๐๑ พระพทุ ธศาสนา ๙๗
วฒั นธรรม
ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และ
ชวั่ โมง / ปี เวลาเรยี น ๑๒๐

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึ กปฏิบตั ิ สรา้ งความคิดรวบยอด นาภมู ิปัญญาท้องถ่ิน สภาพปัญหา
ชีวิต สภาพสิ่งแวดลอ้ มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรยี นรู้ เพ่อื ให้มีความรู้ ความ
เขา้ ใจ ตระหนัก และเหน็ คณุ ค่าในการดาเนินชีวิต บอกประวตั ิของพระพทุ ธศาสนา เขา้ ใจ
พทุ ธประวตั ิตงั้ แต่ตอนประสตู ิ ตรสั รู้ ปรินิพพาน และเข้าใจพระรตั นตรยั ไตรสิกขา และหลกั
โอวาท 3 หรือหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาเพ่ือเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต ข้อคิดจาก
ประวตั ิพทุ ธสาวก ชาดก ศาสนิกชนตวั อยา่ ง และเขา้ ใจความสาคญั ของการบารงุ รกั ษาศาสน
สถาน และร้เู ข้าใจมารยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดี แลว้ ร้จู า เขา้ ใจ บทสวดมนต์ บทแผ่
เมตตา บอกความหมายหมายของสติสมั ปชญั ญะ สมาธิและปัญญา การพฒั นาจิตตาม
แนวทางของพระพทุ ธศาสนาและเข้าใจพิธีกรรมในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ข้อมลู กระบวนการกลุ่ม กระบวนการ
ปฏิบตั ิจริง กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชิญสถานการณ์จริง และการแก้ไขปัญหา
เพอื่ ให้ผ้เู รียนมีความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต โดยสามารถนาข้อคิดในการรจู้ กั ตนเอง
และการจดั การกบั อารมณ์ของตนเองได้ สามารถคิดเป็นระบบ เพ่อื นาไปส่กู ารสรา้ งองค์
ความรตู้ ่อการตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสงั คมได้

เพื่อให้ผเู้ รยี นมพี ฤติกรรมอนั พงึ ประสงคต์ ามคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ อง
สถานศึกษา โดยมคี วามรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสตั ย์ สจุ ริต มวี ินัย ใฝ่ เรียนรู้ อย่อู ยา่ ง
พอเพียง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ กตญั ญแู ละอย่อู ยา่ งสนั ติ
บูรณาการโดยน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพ่ือให้เกิดคุณลกั ษณะอยู่อย่าง
พอเพยี ง บูรณาการกิจกรรมต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) และบูรณาการสง่ิ แวดลอ้ ม
เพอ่ื สุขภาพทด่ี ี

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นศนู ยร์ วมจิตใจของศาสนิกชน

๙๘

2. สรปุ พทุ ธประวตั ิตงั้ แต่บรรลธุ รรมจนถึงประกาศธรรม
3. เหน็ คณุ ค่า และปฏิบตั ิตนตามแบบอย่างการดาเนินชีวิตและขอ้ คิดจากประวตั ิสาวก
ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตวั อยา่ ง
4. แสดงความเคารพ พระรตั นตรยั ปฏิบตั ิตามไตรสิกขาและหลกั ธรรมโอวาท 3 ใน
พระพทุ ธศาสนา
5. ชื่นชมการทาความดีของตนเอง บคุ คลในครอบครวั โรงเรียนและชมุ ชน ตามหลกั
พระพทุ ธศาสนา พรอ้ มทงั้ บอกแนวทางปฏิบตั ิในการดาเนินชีวิต
6. เหน็ คณุ ค่าและสวดมนต์ แผเ่ มตตา มสี ติที่เป็นพ้ืนฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนา
หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนา
7. ปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา เพอ่ื การนาไปแก้ไขและนาไปใช้ใน
ชีวิตประจาวนั อย่ไู ด้อยา่ งสนั ติสขุ
8. อภิปรายความสาคญั และมสี ่วนรว่ มในการบารงุ รกั ษาศาสนสถานของ
พระพทุ ธศาสนา
9. มมี ารยาทของความเป็นศาสนิกท่ีดีตามที่กาหนด
10. ปฏิบตั ิตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาได้ถกู ต้อง
รวมทงั้ หมด 10 ผลการเรยี นรู้

๙๙

ส๑๕๒๐๑ พระพทุ ธศาสนา คาอธิบายรายวิชา
วฒั นธรรม
ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และ
ชวั่ โมง / ปี
เวลาเรียน ๑๒๐

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏบิ ตั ิ สรา้ งความคดิ รวบยอด นาภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ สภาพปัญหาชวี ติ
และสภาพสงิ่ แวดลอ้ มเขา้ มาเป็นสว่ นหน่งึ ของกระบวนการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ
ตระหนกั และเหน็ คุณคา่ ในการดาเนินชวี ติ บอกประวตั ขิ องพระพทุ ธศาสนา เขา้ ใจพุทธประวตั ติ งั้ แต่
ตอนประสตู ิ ตรสั รู้ ปรนิ พิ พาน และ เขา้ ใจพระรตั นตรยั ไตรสกิ ขา และหลกั โอวาท 3 หรอื หลกั ธรรม
ทางพระพทุ ธศาสนา เพอ่ื เป็นแนวทางตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ขอ้ คดิ จากประวตั พิ ทุ ธสาวก ชาดก ศาสนกิ
ชนตวั อยา่ ง และเขา้ ใจความสาคญั ของการบารงุ รกั ษาศาสนสถาน และปฏบิ ตั ติ นตอ่ มารยาทของความ
เป็นศาสนิกชนทด่ี ไี ด้ ฝึกการสวดมนตแ์ ละการแผเ่ มตตา บอกความหมายหมายของสตสิ มั ปัญญะ
สมาธแิ ละปัญญา การพฒั นาจติ ตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนาและเขา้ ใจพธิ กี รรมในวนั สาคญั ทาง
พระพทุ ธศาสนา

โดยใชก้ ระบวนการคดิ กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏบิ ตั จิ รงิ
กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์จรงิ และการแกไ้ ขปัญหา เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมี
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ โดยสามารถนาขอ้ คดิ ในการรจู้ กั ตนเองและการจดั การกบั อารมณ์
ของตนเองได้ สามารถคดิ เป็นระบบ เพอ่ื นาไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรตู้ อ่ การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ตนเอง
และสงั คมได้

๑๐๐

เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมพี ฤตกิ รรมอนั พงึ ประสงคต์ ามคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องสถานศกึ ษา โดยมี
ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั
ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ กตญั ญแู ละอยอู่ ย่างสนั ติ
บูรณาการโดยน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพ่ือให้เกิดคุณลกั ษณะอยู่อย่าง
พอเพยี ง บูรณาการกิจกรรมต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) และบูรณาการสงิ่ แวดลอ้ ม

เพอ่ื สขุ ภาพทด่ี ี

ผลการเรยี นรู้
๑. วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของ พระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นมรดกทางวฒั นธรรมและหลกั ในการ

พฒั นาชาตไิ ทย
๒. สรปุ พุทธประวตั ติ งั้ แต่เสดจ็ กรุงกบลิ พสั ดจุ์ นถงึ พทุ ธกจิ สาคญั หรอื ประวตั ศิ าสดาทต่ี นนบั

ตามทก่ี าหนด
๓. เหน็ คณุ ค่า และประพฤตติ นตามแบบอย่างการดาเนินชวี ติ และขอ้ คดิ จากประวตั สิ าวก

ชาดก/เรอ่ื งเลา่ และ ศาสนิกชนตวั อยา่ งทก่ี าหนด
๔. แสดงความเคารพพระรตั นตรยั และปฏบิ ตั ติ ามหลกั ไตรสกิ ขา,หลกั ธรรมโอวาท ๓
๕ เหน็ คณุ คา่ และสวดมนต์ แผเ่ มตตา มสี ตทิ เ่ี ป็นของพน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา

หรอื การพฒั นาจติ ตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนา
๖. จดั พธิ กี รรมทางพระพุทธศาสนาอยา่ งเรยี บงา่ ย มปี ระโยชน์ และปฏบิ ตั ติ นถูกตอ้ ง
๗. ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวนั สาคญั ทางศาสนาตามทก่ี าหนด และอภปิ ราย

ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
๘. มมี ารยาทของความเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ี ตามทก่ี าหนด
รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้

๑๐๑

ส๑๖๒๐๑ พระพทุ ธศาสนา คาอธิบายรายวิชา
วฒั นธรรม
ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และ
ชวั่ โมง / ปี
เวลาเรียน ๑๒๐

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏบิ ตั ิ สรา้ งความคดิ รวบยอด นาภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ สภาพปัญหา
ชวี ติ และสภาพสง่ิ แวดลอ้ มเขา้ มาเป็นสว่ นหน่งึ ของกระบวนการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ
ตระหนกั และเหน็ คณุ ค่าในการดาเนินชวี ติ บอกประวตั ขิ องพระพุทธศาสนา เขา้ ใจพุทธประวตั ติ งั้ แต่
ตอนประสตู ิ ตรสั รู้ ปรนิ พิ พาน และ เขา้ ใจพระรตั นตรยั ไตรสกิ ขา และหลกั โอวาท 3 หรอื หลกั ธรรม

๑๐๒

ทางพระพทุ ธศาสนา เพอ่ื เป็นแนวทางต่อการดาเนนิ ชวี ติ ขอ้ คดิ จากประวตั พิ ุทธสาวก ชาดก ศาสนิก
ชนตวั อยา่ ง และเขา้ ใจความสาคญั ของการบารงุ รกั ษาศาสนสถาน และปฏบิ ตั ติ นตอ่ มารยาทของความ
เป็นศาสนกิ ชนทด่ี ไี ด้ ฝึกการสวดมนตแ์ ละการแผเ่ มตตา บอกความหมายหมายของสตสิ มั ปัญญะ
สมาธแิ ละปัญญา การพฒั นาจติ ตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนาและเขา้ ใจพธิ กี รรมในวนั สาคญั ทาง
พระพุทธศาสนา

โดยใชก้ ระบวนการคดิ กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู กระบวนการกลมุ่ กระบวนการปฏบิ ตั จิ รงิ
กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์จรงิ และการแกไ้ ขปัญหา เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมี
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ โดยสามารถนาขอ้ คดิ ในการรจู้ กั ตนเองและการจดั การกบั อารมณ์
ของตนเองได้ สามารถคดิ เป็นระบบ เพอ่ื นาไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรตู้ ่อการตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ตนเอง
และสงั คมได้

เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมพี ฤตกิ รรมอนั พงึ ประสงคต์ ามคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องสถานศกึ ษา โดยมี
ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สตั ย์ สุจรติ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั
ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ กตญั ญแู ละอย่อู ย่างสนั ติ
บูรณาการโดยน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอยู่อย่าง
พอเพยี ง บรู ณาการกิจกรรมต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) และบูรณาการสงิ่ แวดลอ้ ม
เพอ่ื สุขภาพทด่ี ี

ผลการเรียนรู้
1. วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจาชาติ
2. สรปุ พุทธประวตั ติ งั้ แต่ปลงอายุสงั ขารถงึ สงั เวนียสถาน
3. เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามแบบอย่างการดาเนนิ ชวี ติ และขอ้ คดิ จากประวตั สิ าวก ชาดก/

เรอ่ื งเล่าและ ศาสนิกชนตวั อย่าง ตามทก่ี าหนด
4. วเิ คราะหค์ วามสาคญั และเคารพ พระรตั นตรยั ปฏบิ ตั ติ นตามไตรสกิ ขาและหลกั ธรรม

โอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา
5. ชน่ื ชมการทาความดขี อง บุคคลในประเทศตามหลกั ศาสนา พรอ้ มทงั้ บอกแนวปฏบิ ตั ใิ น

การดาเนนิ ชวี ติ
6. ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนาพทุ ธเพอ่ื แกป้ ัญหาอบายมขุ และสง่ิ เสพตดิ
๗. อธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั สถานทต่ี า่ ง ๆในศาสนสถานของศาสนาพุทธและปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ย่าง

เหมาะสม
๘. มมี ารยาทของความเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ี

๑๐๓

๙. เหน็ คุณค่าและสวดมนตแ์ ผเ่ มตตา และและบรหิ ารจติ เจรญิ ปัญญามสี ตทิ เ่ี ป็นพน้ื ฐานของ
สมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรอื การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาพุทธ

1๐. อธบิ ายประโยชน์ของการเขา้ รว่ มในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม กจิ กรรมในวนั สาคญั ทาง
พระพทุ ธศาสนา
และปฏบิ ตั ติ นไดถ้ ูกตอ้ ง

รวมทงั้ หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

โครงสร้างเวลาเรียน รายวชิ าเพม่ิ เติม
รายวชิ า ส ๑๑๒๐๑ พระพุทธศาสนา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาฯ

๑๐๔

ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลาเรยี น ๑๒๐ ชั่วโมง น้ำหนักคะแนน ๒๐๐ คะแนน

หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
การ ช่อื หน่วย (ชั่วโมง) คะแนน
เรียนรู้ การเรยี นรู้ ๑. บอกพทุ ธ
ท่ี ประวัติและ การศึกษาเกี่ยวกบั พุทธประวัติ (๒๒) (๒๕)
ความสำคญั ของ เปน็ การศึกษาเกี่ยวกบั ประวตั ิ
๑ ประวตั แิ ละ พระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้า ตงั้ แตป่ ระสูติ
ความสำคญั ของ ทตี่ นนบั ถือ จนถึงปรินพิ พานเพ่อื ให้ทราบ
พระพทุ ธศาสนา ถงึ ต้นกำเนิดและความเป็นมา
ของพระพุทธศาสนา

- การศึกษาประวัติ
พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ใน ป ร ะ เท ศ
อาเซียนจะช่วยให้เข้าใจความ
เปน็ มาไดด้ ียิง่ ขน้ึ

๒ หลักธรรมนำชาว ๒. บอก - การศึกษาเก่ียวกับประวัติ (๒๖) (๔๐)

พุทธ ความหมาย พุทธสาวกทำให้ได้รับความรู้

ความสำคญั และ เกิดความจรรโลงใจและมี

เคารพ พระ ศรัทธาในพระพุทธศาสนา

รัตนตรยั ปฏิบตั ิ - ชาดกเป็นวรรณกรรมทาง

ตามหลักธรรม พระพุทธศาสนาท่ีใช้อบรมสั่ง

โอวาท ๓ สอน โดยการยกนิทานข้ึนมา

ในพระพทุ ธศาสนา สอน การศึกษาเก่ียวกับนิทาน

และหลกั ธรรมทตี่ น ชาดก จะทำให้เข้าใจหลักธรรม

นับถือ ตามที่ คำสอนต่างๆได้ง่ายขึ้นและเกิด

กำหนด ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ได้

ข้อคิดเตือนใจ

๑๐๕

หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก
การ ชือ่ หน่วย (ชั่วโมง) คะแนน
เรียนรู้ การเรยี นรู้
ที่

- การศกึ ษาประวตั ชิ าวพุทธ
ตวั อย่าง ทำให้เห็นคุณค่าของ
การทำความดีและทำเป็น
แบบอยา่ งในการดำเนินชีวติ
(หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง)

๓ พทุ ธสาวกชาดก ๓. ช่ืนชมและบอก การศกึ ษาประวัตพิ ุทธสาวก (๑๒) (๑๕)

และศาสนิกชน แบบอยา่ งและขอ้ คดิ ชาดกและพุทธศาสนิกชนตัง

ตวั อยา่ ง จากประวตั ิสาวก อยา่ งจะทำให้ไดข้ ้อคดิ และ
ชาดก/เรอ่ื งเลา่ และศา แบบอย่างท่ีดใี นการนำไปใช้
สนิกชนตวั อยา่ งตามท่ี ดำรงชวี ติ ทำให้ผูอ้ ่ืนชื่นชมและ
อยูใ่ นสงั คมอย่างสงบสขุ
กำหนด

เวลาเรียนภาคเรยี นที่ ๑ ๖๐ ๘๐
เวลาสอบภาคเรยี นที่ ๑ - ๒๐
รวมเวลาเรียน/สอบภาคเรยี นที่ ๖๐ ๑๐๐

๑๐๖

หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก
การ ชื่อหน่วย (ช่ัวโมง) คะแนน
เรียนรู้ การเรยี นรู้ ๔. แสดงตนเป็น
ที่ พทุ ธมามกะหรือ การแสดงตนเปน็ (๒๐) (๒๐)
แสดงตนเปน็ ศาสนิกชน พุทธศาสนกิ ชนทุกคนมีหน้าที่
๔ หน้าทแ่ี ละ ของศาสนา ทต่ี นนบั ถือ ในการทำนุบำรุง
มารยาทชาว พระพทุ ธศาสนาให้
พุทธ เจรญิ รุ่งเรอื งและคงอยสู่ ืบ
ต่อไปซ่ึงทุกคนสามารถปฏิบตั ิ
ไดโ้ ดยการบำเพญ็ ประโยชน์
ตอ่ วดั หรอื สถานต่างๆรวมทั้ง
เข้าร่วมกจิ กรรมทาง
พระพทุ ธศาสนาอยู่เสมอ
ผู้ทน่ี ับถือพระพทุ ธศาสนาหรอื
พทุ ธศาสนิกชนควรเขา้ รว่ มพิธี
การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ
ซ่ึงเป็นพธิ กี ารประกาศตนเป็น
ผู้นบั ถอื พระพทุ ธศาสนาและ
นำหลกั ธรรมคำสอนของ
พระพุทธเจา้ ไปใชด้ ำเนินชีวติ

๕ การบรหิ ารจิต ๕. เหน็ คณุ ค่าและสวด การฝกึ บริหารจติ และเจรญิ (๒๒) (๔๐)

และเจริญ มนตแ์ ผ่เมตตา มสี ติท่ี ปญั ญาเปน็ วิธกี ารทำจติ ใจให้

ปญั ญา เป็นพ้ืนฐานของสมาธใิ น สะอาดผ่องใสสามารถดำเนนิ

พระพุทธศาสนา หรือ ชีวติ อย่างมีสติใช้ปญั ญาแก้ไข

การพฒั นาจิตตาม ปัญญาตา่ งๆ ไดจ้ งึ อยู่ในสังคม

แนวทางของศาสนาทีต่ น อย่างปกตสิ ขุ

นับถือตามท่กี ำหนด

๑๐๗

หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก
การ ชื่อหน่วย (ชว่ั โมง) คะแนน
เรียนรู้ การเรยี นรู้ ๖.ปฏิบัตติ นในศาสนพิธี วนั สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา
ที่ (๑๘) (๒๐)

๖ วนั สำคัญทาง พิธกี รรม และวันสำคัญ เปน็ วันทม่ี เี หตุการณส์ ำคัญ
พระพุทธศาสนา
และศาสนพธิ ี ทางศาสนาตามที่ เกีย่ วกับพระพุทธเจา้ และ

กำหนดได้อยา่ งถกู ต้อง พระพุทธศาสนาเกดิ ขึ้น

พทุ ธศาสนกิ ชนทุกคนจึงควร

ไปทำบุญฟังธรรมหรือบำเพ็ญ

ตนให้เปน็ ประโยชน์

การบูชาพระรตั นตรัยเปน็ การ

นอ้ มระลึกถึงคุณของพระพทุ ธ

พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่ง

ถอื เปน็ หลกั เคารพบูชาสูงสุด

ของชาวพุทธ

(หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี ง)

เวลาเรียนภาคเรยี นที่ ๒ ๖๐ ๘๐
เวลาสอบภาคเรียนที่ ๒ - ๒๐
รวมเวลาเรียน/สอบภาคเรียนท่ี ๒ ๖๐ ๑๐๐
รวมตลอดปีการศกึ ษา ๑๒๐ ๒๐๐

๑๐๘

โครงสร้างเวลาเรียน รายวชิ าเพม่ิ เติม

รายวิชา ส ๑๒๒๐๑ พระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษาฯ

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลาเรยี น ๑๒๐ ชัว่ โมง นำ้ หนกั คะแนน ๒๐๐ คะแนน

หนว่ ย ช่อื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั
ที่ การเรยี นรู้ เรียน คะแนน
(ชว่ั โมง)

๑ ประวตั ิและ ๑. บอกพุทธประวตั แิ ละ พระพุทธศาสนา มี ๒๒ ๒๕

ความสำคัญ ความสำคัญของ ความสำคญั ต่อวถิ ชี วี ิตของคนไทย

ของ พระพุทธศาสนาที่ตนนบั ในฐานะทเ่ี ปน็ เครื่องยึดเหนย่ี ว

พระพทุ ธศาสน ถือ จติ ใจ เปน็ ศูนย์กลางของการทำ

า ความดีและการพัฒนาจิตใจ จึง

ชว่ ยทำให้สงั คมไทยมีความสงบ

สุข

พระพุทธศาสนาเกิดขนึ้ ใน

ดินแดนชมพูทวีป พระพทุ ธเจ้า

ทรงออกผนวชเพื่อคน้ หาทางดับ

ทกุ ข์ หลังจากคน้ พบแลว้ ทรงได้

เผยแผห่ ลักธรรมที่พระองคท์ รง

คน้ พบให้ผู้อน่ื รแู้ ละปฏบิ ัติตามใน

ดินแดนตา่ งๆ

๒ หลักธรรมนำ ๓. รูแ้ ละเขา้ ใจประวตั ิ หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนามี ๒๖ ๔๐

ชาวพุทธ ความสำคัญ ศาสดา ความสำคญั และมีประโยชน์

หลักธรรมของ มากมาย สำหรับชาวพทุ ธควร

พระพุทธศาสนา มีศรัทธา ศกึ ษา และนำไปปฏบิ ัติ

ทถี่ กู ต้อง ยึดม่ัน และ การเคารพพระรัตนตรยั

ปฏิบัตติ ามหลักธรรม เพ่ือ และปฏบิ ัตามหลกั ธรรมใน

อยูร่ ว่ มกนั อย่างสนั ติสขุ พระพุทธศาสนา ยึดมนั่ ถือม่นั

และศึกษา ข้อคิด

(หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ

พอเพยี ง)

๑๐๙

หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก
ที่ การเรยี นรู้ เรียน คะแนน
(ช่ัวโมง)

๔. บอกความหมาย คติเตือนใจท่เี ก่ียวขอ้ งกับ
ความสำคัญ และเคารพ หลกั ธรรมทาง
ต่อพระรตั นตรยั ปฏิบัติ พระพทุ ธศาสนาในศาสน
ตามหลกั ธรรมในโอวาท สถานในท้องถิ่นและ
๓ ในพระพุทธศาสนา หลักธรรมที่สำคญั ของ
หรือหลักธรรมของ ประเทศในกลุ่มประชาคม
พระพุทธศาสนาท่ตี นนับ อาเซยี น
ถอื ตามทีก่ ำหนด

๓ พทุ ธสาวกชาดก ๒. ชืน่ ชมและบอก การศกึ ษาเกีย่ วกบั ประวัติ ๑๒ ๑๕

และศาสนกิ ชน แบบอย่างการดำเนิน พระพุทธสาวกทำใหไ้ ดร้ บั

ตวั อยา่ ง ชวี ิตและขอ้ คดิ จาก ความรู้ เกดิ ความจรรโลงใจ

ประวตั ิพระสาวก ชาดก และมศี รัทธาใน

เร่ืองเลา่ และศาสนกิ ชน พระพทุ ธศาสนาและนิทาน

ตวั อย่างตามทก่ี ำหนด ชาดกเป็นวรรณกรรมทาง

และปฏิบัตติ าม พระพุทธศาสนาที่ใช้อบรมส่ัง

หลกั ธรรม เพอ่ื อยู่ สอน โดยการยกนิทานข้ึนมา

รว่ มกนั อยา่ งสนั ติสุข สอน การศึกษาเกยี่ วกับนทิ าน

๕. ชนื่ ชมการทำความดี ชาดก จะทำให้เขา้ ใจ

ของตนเอง บคุ คลใน หลกั ธรรมคำสอนตา่ งๆ ได้

ครอบครวั และใน ง่ายข้นึ และเกิดความ

โรงเรยี นตามหลกั สนุกสนานเพลดิ เพลิน ได้

พระพทุ ธศาสนา ข้อคิดเตอื นใจ

๑๑๐

หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลาเรยี น น้ำหนัก
ท่ี การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน

การศกึ ษาประวัติชาว

พุทธตัวอย่าง ประวัตคิ วาม

เปน็ มาของศาสนสถานทาง

พระพทุ ธศาสนาที่สำคญั ใน

ทอ้ งถ่ิน และประวัติของ

บคุ คลสำคญั ทาง

พระพทุ ธศาสนาประจำชาติ

ตา่ งๆ ของประเทศในกล่มุ

ประชาคมอาเซียน ทำให้

เห็นคุณค่าของการทำความ

ดีและการประพฤตปิ ฏิบตั ิ

เป็นแบบอย่างในการดำเนิน

ชวี ิต

เวลาเรยี นภาคเรียนท่ี ๑ ๖๐ ๘๐

เวลาสอบภาคเรยี นท่ี ๑ - ๒๐

รวมเวลาเรยี น/สอบภาคเรยี นท่ี ๑ ๖๐ ๑๐๐

๑๑๑

หน่วยที่ ช่อื หนว่ ย สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั
การ ผลการเรียนรู้ เรียน คะแนน
๔ เรยี นรู้ (ชว่ั โมง)

๕ หน้าทีแ่ ละ ๗. ปฏิบตั ติ นอย่าง ชาวพทุ ธมีหนา้ ท่ี ๒๐ ๒๐
มารยาท เหมาะสมต่อสาวกของ
ชาวพทุ ธ พระพุทธศาสนาทตี่ นนับ บำรุงรกั ษาศาสนสถานและเข้า

ถอื ตามท่กี ำหนด รว่ มกิจกรรมการทำความดที าง
ไดถ้ ูกตอ้ ง
พระพทุ ธศาสนา พระสงฆ์ถือว่า
การ
บรหิ ารจติ เปน็ ผสู้ บื ทอดพระพทุ ธศาสนา
และเจรญิ
ปัญญา ดงั น้ัน การปฏบิ ตั ติ นของท่านจงึ

แตกต่างไปจากบุคคลธรรม ชาว

พทุ ธจึงควรเรยี นรู้เก่ียวกบั

มารยาทของชาวพุทธท่พี งึ

ปฏบิ ตั ิตอ่ พระสงฆเ์ พื่อให้

สามารถปฏิบัตไิ ด้ถูกต้อง และ

บำเพ็ญประโยชนต์ ่อวดั และมี

ความสามารถในการปฏิบัตติ น

ต่อพระภิกษสุ งฆ์และผู้นำ

ศาสนาพุทธในทอ้ งถ่ินและใน

กลมุ่ ประชาคมอาเซยี น

เห็นคณุ ค่าและสวดมนตแ์ ผ่ ๒๒ ๔๐

เมตตา มีสตทิ ่เี ปน็ พ้นื ฐานของ

สมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรือ

การพฒั นาจติ ตามแนวทางของ

พระพทุ ธศาสนา

การบริหารจติ เป็นการ

พัฒนาตนเองด้วยการฝึกอบรม

จติ ใจควบคมุ จิตให้มีความแน่ว

ไมฟ่ ุ้งซา่ น ซึ่งทำให้เกิด

ประโยชนใ์ นการทำงานต่างๆ

๑๑๒

หน่วยท่ี ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลาเรียน น้ำหนัก
การ (ชวั่ โมง) คะแนน
เรยี นรู้

๖. เหน็ คุณค่าและสวด การสวดมนต์ไหว้พระ

มนต์ แผ่เมตตา มีสติท่เี ป็น สรรเสริญคณุ พระรตั นตรัยและ

พน้ื ฐานของสมาธิใน แผเ่ มตตาเปน็ กจิ กรรมท่ีชาว

พระพทุ ธศาสนา หรือการ พทุ ธและศาสนิกชนควรปฏิบัติ

พฒั นาจติ ตามแนวทางของ ในชีวติ ประจำวัน เพื่อความสุข

พระพทุ ธศาสนาทีต่ นนับ ในการดำเนินชวี ติ และ

ถือตามทก่ี ำหนด ความสามารถในการจำแนก

แยกแยะความแตกต่างระหวา่ ง

การนบั ถือศาสนาพทุ ธใน

ทอ้ งถน่ิ และอธบิ ายลกั ษณะ

เด่นของพระเพณีทาง

พระพุทธศาสนาในทอ้ งถิ่น และ

มคี วามสามารถในการศกึ ษา

หลกั ธรรมคำสง่ั สอนทสี่ ำคญั

ของศาสนาพุทธในท้องถ่นิ และ

สามารถจำแนกแยกแยะความ

แตกตา่ งระหวา่ งการนบั ถือ

ศาสนาต่างของประเทศในกลุ่ม

ประชาคมอาเซียน

ความสามารถในการเคารพและ

ยอมรับความแตกต่าง

หลากหลายทางศาสนา

ประเพณแี ละวัฒนธรรม

๑๑๓

หน่วย ชอื่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก
ที่ การเรยี นรู้ เรียน คะแนน
(ชัว่ โมง)
๖ วันสำคญั ทาง ๘. ปฏบิ ตั ิตนในศาสนพธิ ี ปฏิบัตติ นในศาสนพิธี ๒๐
พระพทุ ธศาสนา พิธกี รรม และวันสำคัญ พธิ กี รรม และวนั สำคัญทาง ๑๘
และศาสนพิธี ทางพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนา ตามท่ี ๘๐
ตามท่กี ำหนดได้ถูกต้อง กำหนดได้ถูกต้องและวนั ๖๐ ๒๐
สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา - ๑๐๐
เปน็ พธิ ีกรรมทางท่ีมีอทิ ธิพล ๖๐ ๒๐๐
ต่อการดำเนนิ ชีวติ ของ ๑๒๐
พุทธศาสนิกชน จะทำให้เกิด
ความศรทั ธาและเห็น
ความสำคัญและเขา้ ร่วมใน
ศาสนาพิธี พิธกี รรม และวนั
สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา
(หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง)

เวลาเรียนภาคเรียนที่ ๒

เวลาสอบภาคเรยี นที่ ๒

รวมเวลาเรียน/สอบภาคเรียนท่ี ๒

รวมตลอดปีการศึกษา


Click to View FlipBook Version