The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-05-29 02:09:26

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.2

ครูเบญจวรรณ ทองเสน

แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศ ึ กษาปี ท ี่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนพนมศึกษา อ าเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส านักงานเขตพื้นทการศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ี่ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ม.2 นางสาวเบญจวรรณ ทองเสน ต าแหน่งครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาวิทยาศาสตร์


แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว22101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จ านวน 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน จ านวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ครูผู้สอน นางสาวเบญจวรรณ ทองเสน การก าหนดการใช้แผนจัดการเรียนรู้ รายการตรวจสอบและกลั่นกรองการใช้แผนจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐชยา ถนิมกาญจน์) รองผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา


ข ค าน า แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นสิ่งจ าเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอน เพราะเป็นเอกสารหลักสูตร ที่ใช้ในการบริหารงานของครูผู้สอนให้ตรงตามนโยบายในการปฏิรูป การศึกษา ก าหนดไว้ในแผนหลักคุณภาพการศึกษา สนองจุดประสงค์และค าอธิบายรายวิชาของ หลักสูตร ในการบริหารงานวิชาการถือว่า “แผนจัดการเรียนรู้”เป็นเอกสารทางวิชาการที่ส าคัญที่สุด ของครู เพราะในแผนจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย 1. การก าหนดเวลาเรียน ก าหนดการสอน 2. สาระส าคัญของเนื้อหาวิชาที่เรียน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. กิจกรรมการเรียนการสอน 5. สื่อและอุปกรณ์ 6. การวัดผลประเมินผล การจัดท าแผนการจัดการเรียนรู้ ถือว่าเป็นการสร้างผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานที่แสดงถึง ความช านาญในการสอนของครู เพราะครูใช้ศาสตร์ทุกสาขาอาชีพของครู เช่นการออกแบบ การสอน การจัดการ และการประเมินผล ในการจัดท าแผนจัดการเรียนรู้นั้นจะท าให้เกิดความมั่นใจในการสอน ได้ตรงจุดประสงค์การเรียนรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบสูงขึ้น ทั้งยัง เป็นข้อมูลในการนิเทศติดตามตรวจสอบและปรับปรุงการเรียนการสอนได้อย่างมีระบบและครบวงจร ยังผลให้คุณภาพการศึกษาโดยรวมพัฒนาไปอย่างมีทิศทางบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร นางสาวเบญจวรรณ ทองเสน ครูผู้สอน


ค สารบัญ เรื่อง หน้า ก าหนดการใช้แผน ก ค าน า ข สารบัญ ค วิเคราะห์หลักสูตร ค าอธิบายรายวิชา 1 โครงสร้างรายวิชา 2 วิเคราะห์ผู้เรียน ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 7 แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล/ความถนัด/ความสนใจ 8 การวัดผลประเมินผล 18 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบร่างกายมนุษย์ 20 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สารละลาย 138 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเคลื่อนที่และแรง 158


4 วิเคราะห์หลักสูตร


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ค าอธิบายรายวิชา รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว22101 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จ านวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ ระบบหายใจของมนุษย์ ระบบขับถ่ายของ มนุษย์ ระบบประสาทของมนุษย์ ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ การคุมก าเนิด องค์ประกอบของสารละลาย สภาพการละลายได้ของสารและปัจจัยที่มีผลต่อสภาพละลายได้ ความเข้มข้นของสารละลาย ต าแหน่ง ของวัตถุ ระยะทางและการกระจัด ความเร็วและอัตราเร็ว แรงเสียดทาน แรงและความดันของของเหลว แรงพยุง โมเมนต์ของแรง แรงและสนามของแรง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในการสืบเสาะหา ความรู้ การส ารวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ น าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ว 1.2 ม.2/1,ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ,ม.2/5,ม.2/6,ม.2/7,ม.2/8,ม.2/9,ม.2/10, ม.2/11, ม.2/12 ,ม.2/13,ม.2/14,ม.2/15,ม.2/16,ม.2/17 ว 2.1 ม.2/4 ,ม.2/5,ม.2/6 ว 2.2 ม.2/1,ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ,ม.2/5,ม.2/6,ม.2/7,ม.2/8,ม.2/9,ม.2/10, ม.2/11, ม.2/12 ,ม.2/13,ม.2/14,ม.2/15 รวม 35 ตัวชี้วัด


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระกา โครงสร ว22101 วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย 1 ระบบร่างกายมนุษย์ - ระบบหายใจ - ระบบหมุนเวียนเลือด - ระบบก าจัดของเสีย - ระบบประสาท - ระบบสืบพันธุ์ - การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ - การคุมก าเนิด ว 1.2 ม.2/1-2/17 1.ระบุอวัยวะและบรรย 2.อธิบายกลไกการหาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส 3.ตระหนักถึงความส าค รักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ท 4.ระบุอวัยวะและบรรย เสียทางไต 5.ตระหนักถึงความส าค บอกแนวทางในการปฏิบัติตนที่ 6.บรรยายโครงสร้างแล 7.อธิบายการท างานขอ 8.ออกแบบการทดลอง ขณะปกติและหลังท ากิจกรรม 9.ตระหนักถึงความส าค การดูแลรักษาอวัยวะในระบบห


ารเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 60 ชั่วโมง จ านวน 1.5 หน่วยกิต ตัวชี้วัด จ านวน ชั่วโมง คะแนน ยายหน้าที่ของอวัยวะ ที่เกี่ยวข้องในระบบหายใจ ยใจเข้าและออก โดยใช้แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย คัญของระบบหายใจ โดยการบอกแนวทางในการดูแล ท างานเป็นปกติ ยายหน้าที่ของอวัยวะ ในระบบขับถ่ายในการก าจัดของ คัญของระบบขับถ่าย ในการก าจัดของเสียทางไต โดยการ ช่วยให้ระบบขับถ่ายท าหน้าที่ได้อย่างปกติ ละหน้าที่ของหัวใจ หลอดเลือด และเลือด องระบบหมุนเวียนเลือด โดยใช้แบบจ าลอง งและทดลอง ในการเปรียบเทียบอัตราการเต้นของหัวใจ คัญของระบบหมุนเวียนเลือด โดยการบอกแนวทางใน หมุนเวียนเลือดให้ท างาน เป็นปกติ 29 25


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระกา 10.ระบุอวัยวะและบรร ควบคุม การท างานต่าง ๆ ของร 11.ตระหนักถึงความส า รักษารวมถึงการป้องกันการกระ 12.ระบุอวัยวะและบรร เพศหญิง โดยใช้แบบจ าลอง 13.อธิบายผลของฮอร์โ ร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว 14.ตระหนักถึงการเปลี รักษาร่างกายและจิตใจของตนเ 15.อธิบายการตกไข่ ก จนคลอดเป็นทารก 16.เลือกวิธีการคุมก าเนิ 17.ตระหนักถึงผลกระทบของก เหมาะสม สอบกลางภาค 2 สารละลาย - สารละลาย - ความเข้มข้นของสารละลาย - สารละลายในชีวิตประจ าวัน ว 2.1 ม.2/1-2/4 4. ออกแบบการทดลอ ท าละลาย อุณหภูมิ ที่มีต่อสภาพ สภาพละลายได้ของสารโดยใช้ส 5.ระบุปริมาณตัวละลา ปริมาตรต่อปริมาตร มวลต่อมว


ารเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบประสาทส่วนกลาง ในการ ร่างกาย าคัญของระบบประสาท โดยการบอกแนวทางในการดูแล ะทบกระเทือนและอันตรายต่อสมองและไขสันหลัง รยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ของเพศชายและ โมนเพศชายและเพศหญิงที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของ ลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวโดยการดูแล เองในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง ารมีประจ าเดือน การปฏิสนธิ และการพัฒนาของไซโกต นิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ก าหนด ารตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควร โดยการประพฤติตนให้ 1 20 งและทดลองในการอธิบายผลของชนิดตัวละลาย ชนิดตัว พละลายได้ของสาร รวมทั้งอธิบายผลของความดันที่มีต่อ สารสนเทศ ายในสารละลาย ในหน่วยความเข้มข้นเป็นร้อยละ ล และมวลต่อปริมาตร 10 8


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระกา 6.ตระหนักถึงความส าค ยกตัวอย่างการใช้สารละลายใน 3 การเคลื่อนที่และแรง - แรงและแรงลัพธ์ - แรงเสียดทาน - แรงดันในของเหลวและแรงพยุง - โมเมนต์ของแรง - สนามของแรง - การเคลื่อนที่ของวัตถุ - ว 2.2 ม.2/1-2/15 1. พยากรณ์การเคลื่อ แรงที่กระท าต่อวัตถุในแนวเดียว 2. เขียนแผนภาพแส วัตถุในแนวเดียวกัน 3. ออกแบบการทดล ผลต่อความดันของของเหลว 4. วิเคราะห์แรงพยุง เชิงประจักษ์ 5. เขียนแผนภาพแส 6. อธิบายแรงเสียดท 7. ออกแบบก ารทดล ผลต่อขนาดของแรงเสียดทาน 8. เขียนแผนภาพแส 9. ตระหนักถึงประโย สถานการณ์ปัญหาและเสนอ ต่อการท ากิจกรรมในชีวิตปร 10. ออกแบบการทด โมเมนต์ของแรง เมื่อวัตถุอยู M = Fl


ารเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คัญของการน าความรู้เรื่องความเข้มข้นของสารไปใช้ โดย ชีวิตประจ าวันที่อย่างถูกต้องและปลอดภัย อนที่ของวัตถุที่เป็นผลของแรงลัพธ์ที่เกิดจากแรงหลาย วกันจากหลักฐานเชิงประจักษ์ สดงแรงและแรงลัพธ์ที่เกิดจากแรงหลายแรงที่กระท าต่อ ลองและทดลองด้วยวิธี ที่เหมาะสมในการอธิบายปัจจัยที่มี และการจม การลอยของวัตถุในของเหลวจากหลักฐาน สดงแรงที่กระท าต่อวัตถุในของเหลว ทานสถิตและแรงเสียดทานจลน์จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายปัจจัยที่มี สดงแรงเสียดทานและแรงอื่น ๆ ที่กระท าต่อวัตถุ ยชน์ของความรู้เรื่อง แรงเสียดทานโดยวิเคราะห์ อแนะวิธีการลด หรือเพิ่มแรงเสียดทาน ที่เป็นประโยชน์ ระจ าวัน ลองและทดลองด้วยวิธี ที่เหมาะสมในการอธิบาย ยู่ในสภาพสมดุลต่อการหมุน และค านวณโดยใช้สมการ 19 12


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระกา 11. เปรียบเทียบแหล และทิศทางของแรงที่กระท 12. เขียนแผนภาพแส วัตถุ 13. วิเคราะห์ความสัม โน้มถ่วงที่กระท า ต่อวัตถุที่อยู่ในสนามนั้น ข้อมูลที่รวบรวมได้ 14. อธิบายและค านว ใช้สมการ จากหลักฐานเชิงป 15. เขียนแผนภาพแส สอบปลายภาค รวม


ารเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ล่งของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง าต่อวัตถุที่อยู่ในแต่ละสนามจากข้อมูลที่รวบรวมได้ สดงแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้าและแรงโน้มถ่วงที่กระท าต่อ มพันธ์ระหว่างขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้าและแรง น ๆ กับ ระยะห่างจากแหล่งของสนามถึงวัตถุจาก วณอัตราเร็วและความเร็วของการเคลื่อนที่ของวัตถุโดย ระจักษ์ สดงการกระจัดและความเร็ว 1 30 60 100


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิเคราะห์ผู้เรียน


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนพนมศึกษา ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อน าไปออกแบบการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความสามารถของนักเรียน 2. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 22101 ภาคเรียนที่ 1/2565 ชื่อผู้สอน นางสาวเบญจวรรณ ทองเสน สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพื้นฐานที่ใช้ในการเรียนวิชานี้ ระดับคุณภาพของ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน GPA ของกลุ่ม จ านวนคน ร้อยละ ปรับปรุง ต่ ากว่า 2.00 พอใช้ 2.00 – 2.50 ดี สูงกว่า 2.50 แนวทางการจัดกิจกรรม ผลสัมฤทธิ์ ทางการ เรียน ร้อยละ กิจกรรมแก้ไขหรือพัฒนา ในแผนการเรียนรู้ จ านวน เครื่องมือ/ เดิม เป้าหมาย วิธีการประเมิน ดี 1 กิจกรรมการเรียนการสอนด าเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ในชั้น เรียน 2 ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ด าเนินการ เฉลยแบบฝึกหัดตามสมควร 3 ให้นักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ช่วยเหลือ เพื่อนในเรียน การท าแบบฝึกต่าง ๆ เป็นผู้อธิบาย (ผู้ช่วยครู) สอนเพื่อน กลุ่มอ่อนที่ยังไม่เข้าใจ 3 ให้แบบฝึกพิเศษเพิ่มเติม 4. ท าชิ้นงานเพิ่มเติม 1 แบบฝึกหัด ท้ายบท 2 แบบบันทึก การเก็บคะแนน 3 แบบบันทึก หลังการสอน 4 แผนการ จัดการเรียนรู้ 5 ชิ้นงาน ปรับปรุง 1 กิจกรรมการเรียนการสอนด าเนิน เช่นเดียวกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ เพิ่มเติมแบบฝึกคู่ขนาน 2 ให้นักเรียนกลุ่มนี้จับคู่ประกบตัวต่อ ตัวกับนักเรียนกลุ่มเก่งและปานกลาง 3 จัดสอนซ่อมเสริมในเนื้อหาที่ไม่ผ่าน เกณฑ์การประเมิน หรือยังไม่เข้าใจแก่ นักเรียนกลุ่มนี้ 1 แบบฝึก คู่ขนาน 2 แบบบันทึก การเก็บคะแนน 3 แบบบันทึก หลังการสอน 4 แผนการ จัดการเรียนรู้ 5 ชิ้นงาน


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 ห้อง 1 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายจักรพันธ์ ผุดบ่อน้อย 2 เด็กชายทศพร กลิ่นหอม 3 เด็กชายธนพัฒน์ พรหมมาต 4 เด็กชายธนภัทร อินทรบุตร 5 เด็กชายธนวัต ปิดประสาร 6 เด็กชายธิติภาณุ ศรัทธาสุข 7 เด็กชายนนท์ปวิธ สายควนเกย 8 เด็กชายปาณพัฒน์ ศรีกรด 9 เด็กชายพัชรพล แสวงกิจ 10 เด็กชายพุฒิพัฒน์ รัตนบุรี 11 เด็กชายรัฐภูมิ คมกล้า 12 เด็กชายลิน - 13 เด็กชายวงศธร ธุรีราช 14 เด็กชายศรีหนาถ ศรีขวัญเเก้ว 15 เด็กชายสมพัฒน์ ทองรอด 16 เด็กชายอดิศร สารีธงชัย 17 เด็กหญิงกนิษฐา องอาจ 18 เด็กหญิงกมลรัตน์ พินิจนารถ 19 เด็กหญิงชนากานต์ อินสังข์ 20 เด็กหญิงฐิติมา เนาวกูล 21 เด็กหญิงณัฐณิชา นวลขาว 22 เด็กหญิงทัณฑิกา มุกแก้ว 23 เด็กหญิงธารฟ้า ธารายศ 24 เด็กหญิงปัทฐมาภรณ์ ธนะกรณ์ 25 เด็กหญิงพรพันธ์ แก้วคง 26 เด็กหญิงพัฒร์ชริญ รสเกลี้ยง 27 เด็กหญิงพิมชนก สัตถาพร 11


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 28 เด็กหญิงรัชนีกร ชูดวง 29 เด็กหญิงรุ้งลดา รอดเจริญ 30 เด็กหญิงพิมพิศา จันทร์แสงกุล 31 32 33 34 35 หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 ห้อง 2 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายธนกฤต หล้าก่ า 2 เด็กชายธนพล วงแหวน 3 เด็กชายธนภัทร พลายแก้ว 4 เด็กชายธนภูมิ พูลสวัสดิ์ 5 เด็กชายธนวัฒน์ เกื้อผล 6 เด็กชายธนวัฒน์ อินคง 7 เด็กชายนรากรณ์ แสนส าราญ 8 เด็กชายพสธร มาทัพ 9 เด็กชายพิชญะ พรหมจันทร์ 10 เด็กชายพุทธิพงษ์ ทองดอนยอด 11 เด็กชายภูรินัฐ หนูจันทร์ 12 เด็กชายวรเมธ สาคร 13 เด็กชายศิวัช สวนโน 14 เด็กชายสุชานนท์ กลับรินทร์ 15 เด็กชายสุวิรัตน์ วัฒนะบุตร 16 เด็กชายอภิสิทธิ์ บัวแก้ว 17 เด็กหญิงกนกวรรณ แสนโยชน์ 18 เด็กหญิงกรณิกา พราหมนาค 19 เด็กหญิงบรรณสรณ์ สมใจเพ็ชร 20 เด็กหญิงบุษบา แป้นเผือก 21 เด็กหญิงปัณฑิตา อรุณเพชร 22 เด็กหญิงมีนา ทับเพ็ง 23 เด็กหญิงเยาวลักษณ์ แก้วทอง 24 เด็กหญิงลลิตภัทร ชัยธรรม 25 เด็กหญิงวิรัชญา สกุล 26 เด็กชายธนกฤต หล้าก่ า 27 เด็กชายธนพล วงแหวน 11


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 28 เด็กหญิงสิริพร รัตนชัย 29 เด็กหญิงสุพัตรา ฤกษ์อุไร 30 เด็กหญิงสุภาณี ธุระกิจ 31 เด็กหญิงอาทิตยา สังข์แก้ว 32 33 34 35 หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 ห้อง 3 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายก้องภพ สังข์เพชร 2 เด็กชายกันตภณ คุณวิจิตร 3 เด็กชายกิตติพงศ์ เสมเมือง 4 เด็กชายชินวัฒร มั่งมี 5 เด็กชายดุลวิทย์ ไกรทอง 6 เด็กชายธณภัทร นิตยรัตน์ 7 เด็กชายปิยรัฐ เรือนไทย 8 เด็กชายพงศ์พิราม ศรีจันทร์ 9 เด็กชายพัชรพล มาทัพ 10 เด็กชายภาสกร สมคลองศก 11 เด็กชายวชิรวิทย์ นวลขาว 12 เด็กชายวิริทธิ์พล กองประดิษฐ 13 เด็กชายวีรภัทร ปรีชา 14 เด็กชายวุฒิชัย รอดเจริญ 15 เด็กชายสันติชัย บัวจันทร์ 16 เด็กชายสุกฤษฎิ์ จันทร์สว่าง 15 เด็กชายหัสนัย ลาภประเสริฐ 16 เด็กชายอธิรญาณ์ อ ามณี 19 เด็กหญิงกัญญาณัฐ ขันทอง 20 เด็กหญิงกัญญาพัชร สัมพันธ์ 21 เด็กหญิงจันทกานติ์ รพเรือง 22 เด็กหญิงณิชารีย์ ฉายาจิตร์ 23 เด็กหญิงธนัญญา เพ็งสกุล 24 เด็กหญิงธัญวรัตน์ ยอดสุรางค์ 25 เด็กหญิงพรนภัส ช่วยชนะ 26 เด็กหญิงพาทินธิดา แป้นเผือก 11


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 27 เด็กหญิงมลฤดี มากแก้ว 28 เด็กหญิงสิดาภัทร ผลบรรจง 29 เด็กหญิงสุทารัฐ คุ้มเอียด 30 เด็กหญิงอริสรา แซ่ลิ้ม 31 เด็กหญิงณัฎฐิดา ทวี 32 33 34 35 หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 ห้อง 4 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายกรวิชญ์ จันทร์ศร 2 เด็กชายณฐกร อภิโมทย์ 3 เด็กชายณรงค์กร ทิพย์บรรพต 4 เด็กชายณัฐพงษ์ พงษ์ศิลป์ 5 เด็กชายดนัย จรรย์ทัน 6 เด็กชายทิโนทัย หมายมี 7 เด็กชายธนพร เรืองเอียด 8 เด็กชายธนวัฒน์ ตรีศรี 9 เด็กชายนรวิชญ์ ณะจันทร์ 10 เด็กชายภาษกรณ์ ทองสัมฤทธิ์ 11 เด็กชายวรวิช หัสพันธ์ 12 เด็กชายศักดิ์นรินทร์ รัตนชัย 13 เด็กหญิงกนกรัชต์ ศรีพงศ์ 14 เด็กหญิงกานตรัตน์ เรืองอ่อน 15 เด็กหญิงกิ่งกานต์ โกหนด 16 เด็กหญิงขวัญจิรา สุทธิพิทักษ์ 17 เด็กหญิงนันท์นภัส สาคร 18 เด็กหญิงบัณติตา ใจงาม 19 เด็กหญิงปริชมน รักบางแหลม 20 เด็กหญิงพรรณพณัช ร่มเมือง 21 เด็กหญิงพรรวษา คงดี 22 เด็กหญิงพวงชมพู ทองจุ้ย 23 เด็กหญิงพัชรพร ชูนิล 24 เด็กหญิงพัฒนวดี น้อยเกษม 25 เด็กหญิงพิชชาพร แซ่ซัว 26 เด็กหญิงมิยาวดี อินด า 27 เด็กหญิงยวิษฐา ค าสวัสดิ์ 11


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 28 เด็กหญิงรวิพร วันโย 29 เด็กหญิงวริศรา สัมพันธ์ 30 เด็กหญิงศศินา มากแก้ว 31 เด็กหญิงศศิวิมล ประมวล 32 เด็กหญิงศิริรัตน์ รัตนชัย 33 เด็กหญิงสมพร เอี่ยมละออ 34 เด็กหญิงสุชญา สาคร 35 เด็กหญิงสุภาวดี ช านาญเพชร 36 เด็กหญิงเสาวนีย์ มิสมร 37 เด็กหญิงอรวรรณ บุญลึก 38 หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 ห้อง 5 เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 เด็กชายทวีศักดิ์ ศิริป้อ 2 เด็กชายธิติสรณ์ เพชรใฝ 3 เด็กชายธิปกรณ์ กลับรินทร์ 4 เด็กชายนรวัฒน์ ศรีรักษา 5 เด็กชายปฐมพงษ์ เสนาะกรรณ 6 เด็กชายพงศพัศ ทิมรัตน์ 7 เด็กชายยชญ์กุลทร แซ่ลิ่ม 8 เด็กชายรัชตะ พันเดช 9 เด็กชายวิทวัส แพ่งรักษ์ 10 เด็กชายวิรัชยา จอมประชา 11 เด็กชายสิหรัตน์ หับสุภา 12 เด็กหญิงกวินญา แก้วนพคุณ 13 เด็กหญิงกัญญ์วรา แก้วคง 14 เด็กหญิงกัญญาณัฐ แสงบ้านยาง 15 เด็กหญิงจิรัชญา พืชผล 16 เด็กหญิงญาณัจฉรา สมสุข 17 เด็กหญิงญาณิสา พัฒน์มณี 18 เด็กหญิงธันปภัส รอดเจริญ 19 เด็กหญิงบัณฑิตา ดีสุดจิตร 20 เด็กหญิงปัญณ์ตวัน เพชรโชติ 21 เด็กหญิงปาณิสรา ม่วงมณี 22 เด็กหญิงพัชฎาภรณ์ ทองต าลึง 23 เด็กหญิงภิญญดา ฤทธิ์แก้ว 24 เด็กหญิงรัชฎาพร รักกะเปา 25 เด็กหญิงรุ่งนภา สะเทิน 26 เด็กหญิงวาเศรษฐี ฤทธิ์แก้ว 27 เด็กหญิงศศิธร ศรีศาสนา 11


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เลขที่ ชื่อ - สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 28 เด็กหญิงศิริมาศ สัตย์ซื่อ 29 เด็กหญิงสุนิสา ถาพร 30 เด็กหญิงอชิรญาณ์ ทองจันทร์ 31 เด็กหญิงอินทิรา พันสะ 32 เด็กชายกษิดิ์เดช หน าคอก หมายเหตุ*** ประเมินจากระดับผลการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับ 3 มีความถนัด / ความสนใจมากที่สุด ระดับ 2 มีความถนัด / ความสนใจมาก ระดับ 1 มีความถนัด / ความสนใจน้อย ระดับ 0 ไม่มีความถนัด / ความสนใจเลย


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การวัดและประเมินผล รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน จ านวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ จ านวน 1.5 หน่วยกิต ***************************************************************************** การวัดผล คะแนนเต็มตามตัวชี้วัด 100 คะแนน แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คะแนนเก็บระหว่างภาค 50 คะแนน ส่วนที่ 2 คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน ส่วนที่ 3 คะแนนสอบปลายภาค 30 คะแนน การประเมินผล ก าหนดผลการประเมินเป็น 8 ระดับ ดังนี้ ระดับผลการ เรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็น ร้อยละ 4 3.5 3 2.5 2 1.5 1 0 ร มส เรียนซ้ า ผลการเรียนดีเยี่ยม ผลการเรียนดีมาก ผลการเรียนดี ผลการเรียนค่อนข้างดี ผลการเรียนน่าพอใจ ผลการเรียนพอใช้ ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า ผลการเรียนต่ ากว่าเกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตัวชี้วัดใดตัวชี้วัดหนึ่ง ตัดสินผลการเรียนไม่ได้ในกรณีขาดสอบปลายภาค (กรณี จ าเป็น) ไม่มีสิทธิ์สอบ (เวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเรียน ทั้งหมด) เรียนซ้ าวิชาเดิม (มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 60 ของเวลาเรียน ทั้งหมด) 80 – 100 75 – 79 70 – 74 65 – 69 60 – 64 55 – 59 50 – 54 0 – 49


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 1 ระบบร่างกายมนุษย์


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 รายวิชา ว 22101 วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ ระบบร่างกายมนุษย์ เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบหายใจ 2 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การล าเลียงสารเข้าและออกจาก เซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ ท างานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืช ที่ท างานสัมพันธ์กัน รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 1.2 ม.2/1 ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องในระบบหายใจ 2. สาระส าคัญ ระบบหายใจมีอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จมูก ท่อลม ปอด กะบังลม และกระดูกซี่โครง มนุษย์หายใจเข้าเพื่อน าแก๊สออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อน าไปใช้ในเซลล์ และหายใจออกเพื่อก าจัดแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย อากาศเคลื่อนที่ เข้าและออกจากปอดได้ เนื่องจากการ เปลี่ยนแปลงปริมาตรและความดันของอากาศภายในช่องอก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการท างานของกะบังลม และกระดูกซี่โครง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องในระบบหายใจได้ (K) 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเรื่องระบบหายใจได้ (P) 3. นักเรียนนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความรับผิดชอบ (A) 4. สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) ระบบหายใจมีอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จมูก ท่อลม ปอด กะบังลม และกระดูกซี่โครง มนุษย์หายใจเข้าเพื่อน าแก๊สออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อน าไปใช้ในเซลล์ และหายใจออกเพื่อก าจัดแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย อากาศเคลื่อนที่ เข้าและออกจากปอดได้ เนื่องจากการ เปลี่ยนแปลงปริมาตรและความดันของอากาศภายในช่องอก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการท างานของกะบังลม และกระดูกซี่โครง ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต (Observing) 2. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล (Inferring) 3. ทักษะการทดลอง (Experiment)


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. ทักษะการอภิปราย ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้ - ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความพยายามในการเรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กล้าคิด กล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก 2. มุ่งมั่นในการท างาน - มีความอดทน และทุ่มเทในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค มีความพยายามคิด แก้ปัญหา และคิดค้นหาค าตอบ 3. มีความรับผิดชอบ - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ส่งงานตรงตามก าหนด ปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เป็นตัว อย่างที่ดีแก่ผู้อื่น 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1.1 ครูให้นักเรียนนักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ระบบร่างกายมนุษย์ 1.2 ครูถามค าถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักระบบของร่างกายระบบใดบ้าง และระบบที่รู้จักมีความส าคัญอย่างไร (แนวตอบ ค าตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผ้สอน เช่น ระบบย่อยอาหารท าหน้าที่ย่อยอาหารให้เป็นสารอาหารเพื่อน าไปใช้ในการสร้าง พลังงานเพื่อการด ารงชีวิต หรือระบบขับถ่ายท าหน้าที่ก าจัดของเสีย ต่าง ๆ ออกจาก ร่างกาย) 1.3 ครูใช้ค าถามดังต่อไปนี้ - ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์มีการท างานอย่างไร (แนวตอบ ค าตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของครูผู้สอน เช่น ระบบหายใจมีการหายใจน าอากาศจากภายนอกเข้าสู่ร่างกายเพื่อน าอากาศที่มีแก๊ส ออกซิเจนสูงไปแลกเปลี่ยนแก๊สที่ปอดและน าอากาศที่มีแก๊สคาร์บอน- ไดออกไซด์สูงมาก าจัดออกจาก ร่างกายผ่านการหายใจออก หรือระบบหมุนเวียนเลือดมีหัวใจ ท าหน้าที่สูบฉีดเลือดไปตามหลอดเลือด อาร์เตอรีเพื่อน าเลือดที่มีแก๊สออกซิเจนสูงไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และน าเลือดที่มีแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์สูงกลับเข้าสู่หัวใจทางหลอดเลือดเวนหรือน าเลือดที่มีของเสียไปก าจัดออกทาง อวัยวะต่าง ๆ เช่น ไต) - นักเรียนว่า มนุษย์หายใจเข้าและออกผ่านทางอวัยวะใด (แนวตอบ จมูกและปาก) ขั้นที่ 2 ส ารวจและค้นหา (Exploration) 2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 4-5 คน โดยคละกลุ่มเก่ง ปานกลาง อ่อน


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.2 ครูเกริ่นให้นักเรียนฟังว่า ระบบหายใจเป็นระบบแลกเปลี่ยนแก๊สของร่างกายกับสิ่งแวดล้อม โดยแก๊สออกซิเจนจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ร่างกายและถูกน าไปใช้สลายสารอาหารภายในเซลล์เพื่อสร้าง พลังงาน ซึ่งได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะถูกน าไปก าจัดออกทางการหายใจออก ระบบหายใจมีปอดเป็นอวัยวะส าคัญในการแลกเปลี่ยนแก๊ส 2.3 นักเรียนศึกษาโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบหายใจ ประกอบด้วยจมูก ท่อลม ปอด และอวัยวะที่ท าหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจ ได้แก่ กะบังลมและกระดูกซี่โครง โดยใช้แบบจ าลอง อวัยวะในระบบหายใจ หรือภาพจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 หรือใช้วิดีทัศน์จากสื่อ ออนไลน์ เช่น - https://www.youtube.com/watch?v=uyqt7ekkP2E - https://www.youtube.com/watch?v=mOKmjYwfDGU ขั้นที่ 3 ขั้นสร้างค าอธิบาย (Explanation) 3.1 จับสลากหมายเลขของนักเรียน 5 คน อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบ หายใจ ประกอบด้วยจมูก ท่อลม ปอด กะบังลม กระดูกซี่โครง 3.2 จับสลากหมายเลขของนักเรียน 3 คน ร่วมกันเขียนแผนผังแสดงการเคลื่อนที่ของอากาศ เข้าและออกจากร่างกาย พร้อมอธิบายแผนผังแสดงการเคลื่อนที่ของอากาศ 3.3 ครูถามค าถามนักเรียน โดยใช้ค าถามต่อไปนี้ - อากาศจากสิ่งแวดล้อมที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายจะผ่านอวัยวะใดบ้าง (แนวตอบ อากาศเคลื่อนที่เข้าสู่ร่างกายทางจมูกหรือปาก ผ่านเข้าสู่โพรงจมูก ท่อลม ปอด และถุงลม ตามล าดับ) - ในอากาศประกอบด้วยฝุ่นละอองและเชื้อโรคจ านวนมาก ระบบหายใจจะมีการป้องกันการ หายใจน าฝุ่นละอองและเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร (แนวตอบ ภายในโพรงจมูกมีขนท าหน้าที่กรอง ฝุ่นละออง เชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ทางเดินหายใจ และบริเวณเซลล์เยื่อบุของผนังท่อลม สามารถดักจับฝุ่นละออง เชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ปอด) - ถุงลมมีลักษณะส าคัญที่เหมาะสมต่อการแลกเปลี่ยนแก๊สอย่างไร (แนวตอบ ถุงลมมี ลักษณะเป็นถุงขนาดเล็ก มีผนังบาง และมีหลอดเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงจ านวนมาก ซึ่ง ท าให้เกิดการ แลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างถุงลมกับหลอดเลือดฝอย) - กะบังลมและกระดูกซี่โครงเกี่ยวข้องกับการหายใจอย่างไร (แนวตอบ กะบังลมท าหน้าที่รั้ง ปอดลงเพื่อให้อากาศผ่านเข้าสู่ปอดขณะหายใจเข้าและดันปอดขึ้นเพื่อไล่อากาศออกจากปอดขณะ หายใจออก ส่วนกระดูกซี่โครงท างานร่วมกับกล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงในการเปลี่ยนแปลงปริมาตรของ ช่องอกระหว่างการหายใจเข้าและออก) 3.4 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบหายใจ เพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ ระบบหายใจประกอบด้วยจมูกซึ่งภายในมีขนท าหน้าที่กรองฝุ่นละออง เชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ทางเดินหายใจ ท่อลมเป็นท่อกลวง ประกอบด้วยกระดูกอ่อนรูปเกือกม้า ช่วยป้องกันการแฟบหรือยุบตัวขณะหายใจเข้าและออก ท่อลมเป็นทางผ่านของอากาศเข้าสู่ปอดและ ช่วยดักจับฝุ่นละออง เชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ปอด ปอดประกอบด้วยถุงลมจ านวนมาก ซึ่ง จะมีการแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างถุงลมกับหลอดเลือดฝอย และอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ ได้แก่


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กะบังลมท าหน้าที่รั้งหรือดันปอดในขณะหายใจเข้าและออก และกระดูกซี่โครงท าหน้าที่ร่วมกับ กล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงในการเปลี่ยนแปลงปริมาตรของช่องอกระหว่างการหายใจเข้าและออก ขั้นที่ 4 ขยายความรู้(Elaboration) 4.1 ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับอวัยวะและโครงสร้างของระบบหายใจโดยใช้สื่อ Power Point ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมของแต่ละกลุ่ม - ใบงานเรื่อง อวัยวะและโครงสร้างของระบบหายใจ 7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล การอธิบายเกี่ยวกับอวัยวะและโครงสร้างหน้าที่ของระบบหายใจได้ อย่างเหมาะสมและถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การวิเคราะห์ผล สรุปผลเรื่องระบบหายใจ เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์ 1. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 1 2. Power Point เรื่องอวัยวะและโครงสร้างหน้าที่ของระบบหายใจ 3. วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=uyqt7ekkP2E - https://www.youtube.com/watch?v=mOKmjYwfDGU แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต 9. เกณฑ์การประเมิน สิงที่ ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถระบุ อวัยวะและบรรยาย หน้าที่ของอวัยวะที่ สมุดบันทึกวิชา วิทยาศาสตร์ เรื่องโครงสร้างและ อวัยวะของระบบหายใจ สมุดบันทึกวิชา วิทยาศาสตร์ 4 คะแนน ระบุอวัยวะและ บรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจได้ ถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกี่ยวข้องในระบบ หายใจได้ ใบงานเรื่องโครงสร้าง และอวัยวะในระบบ หายใจ 3 คะแนน ระบุอวัยวะและ บรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจได้ ถูกต้องร้อยละ 70-79 2 คะแนน ระบุอวัยวะและ บรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจได้ ถูกต้องร้อยละ 60-69 1 คะแนน ระบุอวัยวะและ บรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจได้ ถูกต้องร้อยละ 50-59 0 คะแนน ระบุอวัยวะและ บรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจได้ ถูกต้องน้อยกว่าร้อยละ 50 ด้ านทักษ ะ กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถปฏิบัติ กิจกรรมเรื่องหน้าที่ ของอวัยวะที่เกี่ยวข้อง ในระบบหายใจได้ สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมการเกี่ยวกับ หน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจ ทางด้านกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ แบบประเมินทักษะ กระบวนการ วิทยาศาสตร์ 3 ค ะ แ น น ป ฏิ บั ติ กิ จ ก ร ร ม เกี่ย วกับหน้ าที่ของอ วั ย วะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ ถูกต้อง 2 คะแนน ปฏิบัติกิจกรรม เกี่ยวกับหน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ ถูกต้องบางส่วน 1 คะแนน ปฏิบัติกิจกรรม เกี่ยวกับหน้าที่ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องในระบบหายใจตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ คลาดเคลื่อน


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้าน คุณลักษณะ อันพึง ประสงค์ (A) นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรมกลุ่มด้วยความ มุ่งมั่นตั้งใจและมีความ ใฝ่รู้ในการเรียน 1.สังเกตการใฝ่รู้ มีความ รับผิดชอบมุ่งมั่นในการ ท างานกลุ่ม 2.สังเกตพฤติกรรมการ แสดงความคิดเห็น การ ตอบค าถาม แบบประเมิน พฤติกรรมรายกลุ่ม ผ่าน หมายถึง ให้ความร่วมมือ สนใจใฝ่รู้รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการ ท างานกลุ่ม ปรับปรุงหมายถึง ไม่ให้ความ ร่วมมือ ไม่สนใจใฝ่รู้ไม่รับผิดชอบ และไม่มุ่งมั่นในการท างานกลุ่ม


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ระบบหายใจ ค าชี้แจง : จงตอบค าถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. จงอธิบายลักษณะและหน้าที่ของอวัยวะในระบบทางเดินหายใจต่อไปนี้ 2. จงเขียนล าดับการเคลื่อนที่ของอากาศจากภายนอกร่างกายเข้าสู่ปอด 3. จงเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่าง ๆ เมื่อหายใจเข้าและออกจาก ร่างกาย อวัยวะ การหายใจเข้า การหายใจออก กะบังลม กระดูกซี่โครง ปริมาตรของช่องอก ความดันภายในช่องอก 1. อวัยวะ................................................................ หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... . 2. อวัยวะ................................................................ หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... . 3. อวัยวะ................................................................ หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... . 4. อวัยวะ............................................................... หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... 5. อวัยวะ................................................................. หน้าที่................................................................... ............................................................................. ............................................................................. 1…… ………………… 2… ………………… 3…… ………………… 4…… ………………… 5…… …………………


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใบงานที่ 1 เฉลย เรื่อง ระบบหายใจ ค าชี้แจง : จงตอบค าถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. จงอธิบายลักษณะและหน้าที่ของอวัยวะในระบบทางเดินหายใจต่อไปนี้ 2. จงเขียนล าดับการเคลื่อนที่ของอากาศจากภายนอกร่างกายเข้าสู่ปอด 3. จงเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่าง ๆ เมื่อหายใจเข้าและออกจาก ร่างกาย อวัยวะ การหายใจเข้า การหายใจออก กะบังลม เลื่อนต่ าลง เลื่อนสูงขึ้น กระดูกซี่โครง เลื่อนสูงขึ้น เลื่อนต่ าลง ปริมาตรของช่องอก เพิ่มขึ้น ลดลง ความดันภายในช่องอก ลดลง เพิ่มขึ้น 1. อวัยวะ................................................................ หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... . 2. อวัยวะ................................................................ หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... . 3. อวัยวะ................................................................ หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... . 4. อวัยวะ............................................................... หน้าที่................................................................. ........................................................................... ........................................................................... 5. อวัยวะ................................................................. หน้าที่................................................................... ............................................................................. ............................................................................. 1…… ………………… 2… ………………… 3…… ………………… 4…… ………………… 5…… ………………… จมูก เป็นท างผ่านของอากาศ ภายในมีขนท าหน้าที่กรองฝุ่นละออง เชื้อ โรค และสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ทางเดิน หายใจ ท่อลม เป็นท่อกลวงประกอบด้วย กระดูกอ่อนช่วยป้องกันการยุบตัวขณะ หายใจ ส่วนปลายแตกเป็นหลอดลมเข้าสู่ ปอดทั้ง 2 ข้าง ปอด อยู่ในช่องอก มี 2 ข้าง ภายใน มีถุงลม ซึ่งมีลักษณะบางและมีหลอดเลือด ฝอยมาหล่อเลี้ยง ท าหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊ส กะบังลม เป็นแผ่นกล้ามเนื้อกั้นช่องอกกับ ช่องท้อง ท าหน้าที่รั้งปอดลงและดันปอดขึ้น เมื่อหายใจเข้าและออก และป้องกันการ ขยายตัวของปอด กระดูกซี่โครง อยู่บริเวณอก ท างานร่วมกับ ก ล้ า ม เ นื้ อ ยึ ด ก ร ะ ดู ก ซี่ โ ค รง ใ น ก า ร เปลี่ยนแปลงปริมาตรของช่องอก รูจมูก โพรงจมูก ท่อลม ปอด ถุงลม


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รายวิชา ว 22101 วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ ระบบร่างกายมนุษย์ เรื่อง การท างานของระบบหายใจ 3 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การล าเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์ และมนุษย์ที่ท างานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะ ต่างๆ ของพืชที่ท างานสัมพันธ์กัน รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 1.2 ม.2/2 อธิบายกลไกการหายใจเข้าและออก โดยใช้แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบายกระบวนการ แลกเปลี่ยนแก๊ส 2. สาระส าคัญ การแลกเปลี่ยนแก๊สออกซิเจนกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกาย เกิดขึ้นบริเวณถุงลม ใน ปอดกับหลอดเลือดฝอยที่ถุงลม และระหว่าง หลอดเลือดฝอยกับเนื้อเยื่อ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายกลไกการหายใจเข้าและออก โดยใช้แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สได้ (K) 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเรื่องกลไกการหายใจได้(P) 3. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความรับผิดชอบ (A) 4. สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) การแลกเปลี่ยนแก๊สออกซิเจนกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกาย เกิดขึ้นบริเวณถุงลม ใน ปอดกับหลอดเลือดฝอยที่ถุงลม และระหว่าง หลอดเลือดฝอยกับเนื้อเยื่อ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต (Observing) 2. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล (Inferring) 3. ทักษะการทดลอง (Experiment) 4. ทักษะการอภิปราย ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความพยายามในการเรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กล้าคิด กล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก 2. มุ่งมั่นในการท างาน - มีความอดทน และทุ่มเทในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค มีความพยายามคิด แก้ปัญหา และคิดค้นหาค าตอบ 3. มีความรับผิดชอบ - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ส่งงานตรงตามก าหนด ปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เป็นตัว อย่างที่ดีแก่ผู้อื่น 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1.1 ทบทวนความรู้จากชั่วโมงที่แล้วให้นักเรียนทราบพอสังเขปว่า ระบบหายใจประกอบด้วย อวัยวะที่เป็นทางผ่านของอากาศ ได้แก่ จมูก ท่อลม ปอด และอวัยวะที่ท าหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจ ได้แก่ กะบังลมและกระดูกซี่โครง พร้อมอธิบายหน้าที่ของแต่ละอวัยวะให้นักเรียนฟังพอสังเขป ขั้นที่ 2 ส ารวจและค้นหา (Exploration) 2.1 นักเรียนลองสูดลมหายใจเข้าและออกและสังเกตว่าการเปลี่ยนแปลงอวัยวะต่าง ๆ แล้วถาม นักเรียนว่า เมื่อหายใจเข้าและออกจะมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะใดบ้าง (แนวตอบ การ เปลี่ยนแปลงของปอด กะบังลม และกระดูกซี่โครง) 2.2 ครูเกริ่นให้นักเรียนฟังว่า เมื่อหายใจเข้าและออกจากร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของ กระดูกซี่โครงและ กะบังลมท าให้ปริมาตรของช่องอกและความดันภายในช่องอกเปลี่ยนแปลง 2.3 นักเรียนศึกษากลไกการหายใจเข้าและการหายใจออกจากร่างกาย เรื่อง กลไกการหายใจ หรือจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 2.4 ครูเกริ่นให้นักเรียนฟังว่า เมื่อหายใจน าอากาศเข้าสู่ปอดจะเกิดการแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่าง แก๊สออกซิเจนกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดขึ้น 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณปอดและบริเวณเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย 2.5 นักเรียนศึกษาการแลกเปลี่ยนแก๊สบริเวณปอดและบริเวณเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย จาก หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 หรือใช้วิดีทัศน์จากสื่อออนไลน์ เช่น - https://www.youtube.com/watch?v=kacMYexDgHg ขั้นที่ 3 ขั้นสร้างค าอธิบาย (Explanation) 3.1 จับสลากหมายเลขของนักเรียน 3 คู่ เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะในช่อง อกระหว่างการหายใจเข้าและหายใจออก


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3.2 จับสลากหมายเลขของนักเรียน 2 คน อธิบายการแลกเปลี่ยนแก๊สที่เกิดขึ้นบริเวณปอด และบริเวณเซลล์ ต่าง ๆ ของร่างกาย 3.3 ครูถามค าถามนักเรียน โดยใช้ค าถามต่อไปนี้ - เมื่อหายใจเข้าและออก กล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงและกล้ามเนื้อกะบังลมมีการ ท างานอย่างไร (แนวตอบ เมื่อหายใจเข้า กล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงหดตัวท าให้กระดูกซี่โครงเลื่อนสูงขึ้น กล้ามเนื้อกะบังลมหดตัวท าให้กะบังลมเลื่อนต่ าลง แต่เมื่อหายใจออก กล้ามเนื้อยึดกระดูกซี่โครงคลาย ตัวท าให้กระดูกซี่โครงเลื่อนต่ าลง กล้ามเนื้อกะบังลมกะบังลมคลายตัวท าให้กะบังลมเลื่อนสูงขึ้น) - เมื่อหายใจเข้าและออก ปริมาตรและความดันในช่องอกเป็นอย่างไร (แนวตอบ ขณะ หายใจเข้า ปริมาตรช่องอกเพิ่มขึ้น ความดันในช่องอกลดลง ท าให้อากาศจากภายนอกไหลเข้าสู่ร่างกาย แต่ขณะหายใจออก ปริมาตรช่องอกลดลง ความดันในช่องอกเพิ่มขึ้น ท าให้อากาศจากภายในไหลออก ภายนอกร่างกาย) - อวัยวะใดที่มีผลท าให้ปริมาตรและความดันในช่องอกเปลี่ยนแปลงระหว่างการหายใจ เข้าและออก (แนวตอบ กะบังลมและกระดูกซี่โครง เนื่องจากเมื่อกระดูกซี่โครงเลื่อนสูงขึ้นและกะบังลง เลื่อนต่ าลง ท าให้ปริมาตรช่องอกเพิ่มขึ้นและความดันในช่องอกลดลง แต่เมื่อกระดูกซี่โครงเลื่อนต่ าลง และกะบังลงเลื่อนสูงขึ้น ท าให้ปริมาตรช่องอกจะลดลงและความดันในช่องอกเพิ่มขึ้น) - การแลกเปลี่ยนแก๊สเกิดขึ้นที่ส่วนใดของร่างกาย และเกิดขึ้นอย่างไร (แนวตอบ การ แลกเปลี่ยนแก๊สเกิดขึ้น 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณปอดเป็นการแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างถุงลมกับหลอด เลือดฝอย โดยแก๊สออกซิเจนแพร่จากถุงลมเข้าสู่หลอดเลือดฝอย ส่วนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แพร่จาก หลอดเลือดฝอยเข้าสู่ถุงลม และบริเวณเซลล์เป็นการแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างหลอดเลือดฝอยกับแซลล์ โดยแก๊สออกซิเจนแพร่จากหลอดเลือดฝอยเข้าสู่เซลล์ ส่วนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แพร่จากเซลล์เข้า หลอดเลือดฝอย) 3.4 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกลไกการหายใจเพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ ในการ หายใจเข้า กระดูกซี่โครงเลื่อนสูงขึ้นและกะบังลมเลื่อนต่ าลง ท าให้ปริมาตรช่องอกเพิ่มขึ้นและความดัน ในช่องอกลดลง ส่วนการหายใจออก กระดูกซี่โครงเลื่อนต่ าลงและกะบังลมเลื่อนสูงขึ้น ท าให้ปริมาตร ช่องอกลดลงและความดันในช่องอกเพิ่มขึ้น 3.5 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนแก๊สเพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ การ แลกเปลี่ยนแก๊สเกิดขึ้น 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณปอด แก๊สออกซิเจนแพร่จากถุงลมเข้าสู่หลอดเลือดฝอย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แพร่จากหลอดเลือดฝอยเข้าสู่ถุงลม และบริเวณเซลล์ แก๊สออกซิเจนแพร่จาก หลอดเลือดฝอยเข้าสู่เซลล์ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แพร่จากเซลล์เข้าสู่หลอดเลือดฝอย ขั้นที่ 4 ขยายความรู้(Elaboration) 4.1 นักเรียนท าใบงานเรื่องระบบหายใจ ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองของแต่ละกลุ่ม ชั่วโมงที่ 2-3


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขั้นที่ 1 ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1.1 ทบทวนความรู้จากชั่วโมงที่แล้วให้นักเรียนทราบพอสังเขปว่า การเปลี่ยนแปลงของกระดูก ซี่โครงและ กะบังลมท าให้ปริมาตรของช่องอกและความดันภายในช่องอกเปลี่ยนแปลง ท าให้เกิดการ หายใจเข้าและออกจากร่างกาย ซึ่งเมื่อหายใจเข้า ร่างกายน าแก๊สออกซิเจนไปแลกเปลี่ยนแก๊สที่ปอด และเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย และน าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากการแลกเปลี่ยนแก๊สมาก าจัดผ่านการ หายใจออก ขั้นที่ 2 ส ารวจและค้นหา (Exploration) 2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน ท ากิจกรรม แบบจ าลองการท างานของปอด เพื่อจ าลอง การท างานของปอด จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 โดยแนะน าอุปกรณ์ปอดเทียมที่ ประกอบด้วยลูกโป่ง วงแหวนยาง หลอดพลาสติกรูปตัว Y และกล่องพลาสติก ขั้นที่ 3 ขั้นสร้างค าอธิบาย (Explanation) 3.1 สุ่มเลือกกลุ่มนักเรียนอย่างน้อย 5 กลุ่ม น าเสนอผลการท ากิจกรรม แบบจ าลองการท างาน ของปอด 3.2 ครูถามค าถามท้ายกิจกรรมนักเรียน โดยใช้ค าถามต่อไปนี้ - ส่วนต่าง ๆ ของแบบจ าลองเปรียบเทียบได้กับอวัยวะใด (แนวตอบ ลูกโป่งเปรียบได้กับปอด ทั้ง 2 ข้าง แผ่นยางเปรียบได้กับกะบังลม หลอดพลาสติกรูปตัว Y เปรียบได้กับหลอดลม และกล่อง พลาสติกเปรียบได้กับผนังทรวงอก) - เมื่อดึงแผ่นยางขึ้นหรือลง จะมีการเปลี่ยนแปลงของลูกโป่งหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ เมื่อ ดึงแผ่นยางลง ลูกโป่งจะพองออก แต่เมื่อดึงแผ่นยางขึ้น ลูกโป่งจะแฟบลง) - การเปลี่ยนแปลงของลูกโป่งเกี่ยวข้องกับปริมาตรและความดันของอากาศอย่างไร (แนว ตอบ เมื่อดึงแผ่นยางลง ลูกโป่งจะพองออก เนื่องจากปริมาตรอากาศภายในกล่องพลาสติกเพิ่มขึ้น ท าให้ ความดันอากาศลดลง อากาศจากภายนอกจึงเคลื่อนที่เข้าสู่ลูกโป่ง แต่เมื่อดันแผ่นยางขึ้น ลูกโป่งจะแฟบ ลง เนื่องจากปริมาตรอากาศภายในกล่องพลาสติกลดลง ท าให้ความดันอากาศเพิ่มขึ้น อากาศจาก ภายในจึงเคลื่อนที่ออกจากลูกโป่ง) - จากการท ากิจกรรมสามารถอธิบายการท างานของปอดและอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างไร (แนวตอบ เมื่อดึงแผ่นยางลงเปรียบเสมือนกะบังลมเลื่อนต่ าลง ท าให้ปริมาตรภายในช่องอก เพิ่มขึ้น ความดันภายในช่องอกลดลง อากาศจึงเคลื่อนเข้าสู่ปอด แต่เมื่อดันแผ่นยางขึ้น เปรียบเสมือน กะบังลมเลื่อนสูงขึ้น ท าให้ปริมาตรภายในช่องอกลดลง ความดันภายในช่องอกเพิ่มขึ้น อากาศจึง เคลื่อนที่ออกจากปอด) 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลกิจกรรม แบบจ าลองการท างานของปอด เพื่อให้ได้ ข้อสรุป ดังนี้การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศภายในกล่องพลาสติกที่บรรจุลูกโป่งส่งผลให้มีการ เคลื่อนที่ของอากาศเข้าและออกจากลูกโป่ง เมื่อดึงแผ่นยางลง ลูกโป่งจะพองออก เนื่องจากปริมาตร อากาศภายในกล่องพลาสติกเพิ่มขึ้นและความดันอากาศลดลง อากาศจากภายนอกจึงเคลื่อนเข้าสู่ ลูกโป่ง ท าให้ลูกโป่งพองออก แต่เมื่อดันแผ่นยางขึ้น ปริมาตรอากาศภายในกล่องพลาสติกลดลง ท าให้ ความดันอากาศเพิ่มขึ้น อากาศภายในลูกโป่งจึงเคลื่อนออกสู่ภายนอก ส่งผลท าให้ลูกโป่งแฟบลง ขั้นที่ 4 ขยายความรู้(Elaboration)


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4.1 ครูถามค าถามกับนักเรียนว่า ในอากาศประกอบด้วยแก๊สชนิดใดบ้าง (แนวตอบ ในอากาศ ประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจนร้อยละ 28 แก๊สออกซิเจนร้อยละ 21 แก๊สอาร์กอนร้อยละ 0.93 แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 0.04 และแก๊สอื่น ๆ ร้อยละ 0.03) 4.2 น าแผนภูมิวงกลมแสดงสัดส่วนของแก๊สต่าง ๆ มาให้นักเรียนศึกษา โดยแบ่งกลุ่มศึกษา กลุ่มละ 4-5 คน และเกริ่นให้นักเรียนฟังว่า ในการหายใจเข้าและออก สัดส่วนของแก๊สต่าง ๆ ที่เคลื่อนที่ เข้าและออกจากปอดจะแตกต่างกัน 4.3 นักเรียนศึกษาสัดส่วนของแก๊สชนิดต่าง ๆ ที่เข้าและออกจากปอด จากตารางที่ 1.1 และ ปริมาตรอากาศที่หายใจเข้าและออกแต่ละครั้ง จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 จับสลากเลือกกลุ่มนักเรียน 3 กลุ่ม น าเสนอการเปลี่ยนแปลงของแก๊สต่าง ๆ ระหว่างการหายใจ เข้าและการหายใจออก 4.4 ครูถามค าถามนักเรียน โดยใช้ค าถามต่อไปนี้ - สัดส่วนของอากาศที่เข้าและออกจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร (แนวตอบ อากาศที่เข้าสู่ ร่างกายมีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูง แต่แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ต่ า ส่วนอากาศที่ออกจากร่างกายมีแก๊ส ออกซิเจนต่ า แต่แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูง) - นักเรียนสามารถแปลผลข้อมูลในแผนภูมิวงกลมที่ครูน ามาให้ศึกษาได้อย่างไร (แนวตอบ จากแผนภูมิวงกลมอธิบายได้ว่า สัดส่วนของแก๊สออกซิเจนในลมหายใจเข้ามีมากกว่า ลมหายใจออก แต่สัดส่วนของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในลมหายใจออกมีมากกว่าในลมหายใจเข้า แสดง ว่าร่างกายน าแก๊สออกซิเจนจากการหายใจเข้าไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็น ผลิตภัณฑ์ซึ่งจะถูกก าจัดออกโดยการหายใจออก ส่วนสัดส่วนของแก๊สไนโตรเจนในลมหายใจเข้าและ ออกจะคงที่ เนื่องจากร่างกายไม่ได้น าแก๊สไนโตรเจนไปใช้) - เพราะเหตุใดแผนภูมิวงกลมที่น ามาจึงแสดงสัดส่วนของแก๊สเพียง 3 ชนิดเท่านั้น (แนวตอบ ในอากาศประกอบด้วยแก๊ส 3 ชนิดนี้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนแก๊สอื่น ๆ เช่น อาร์กอน ฮีเลียม และไฮโดรเจนมีปริมาณน้อยมาก) - ร่างกายของมนุษย์สามารถจุอากาศได้กี่ลิตร (แนวตอบ ร่างกายของมนุษย์สามารถจุอากาศ ได้มากถึง 6 ลิตร ซึ่งในการหายใจเข้าน าอากาศเข้าประมาณ 0.5 ลิตร โดยอากาศอยู่ในปอด 0.35 ลิตร และในทางเดินหายใจ 0.15 ลิตร) 4.5 ครูถามค าถาม จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 กับนักเรียนว่า เพราะเหตุใด สัดส่วนของแก๊สต่าง ๆ ระหว่างการหายใจเข้าและออกจึงแตกต่างกัน (แนวตอบ อากาศที่หายใจเข้ามี สัดส่วนของแก๊สต่าง ๆ คงที่ ประกอบด้วยแก๊สไนโตรเจนร้อยละ 78 แก๊สออกซิเจนร้อยละ 21 แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 0.04 แต่อากาศที่หายใจออกมีสัดส่วนของแก๊สเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจาก ร่างกายน าแก๊สออกซิเจนไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ และน าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นผลิตภัณฑ์มา ก าจัดออกจากร่างกาย ท าให้สัดส่วนของแก๊สทั้ง 2 ชนิด เปลี่ยนแปลง โดยสัดส่วนของแก๊สออกซิเจน ลดลงเหลือประมาณร้อยละ 16 แต่สัดส่วนของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 4 ท าให้สัดส่วนของแก๊สต่าง ๆ ระหว่างการหายใจเข้าและออกแตกต่างกัน) 4.6 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับสัดส่วนของแก๊สต่าง ๆ ที่หายใจเข้าและออกจาก ร่างกายเพื่อให้ได้ข้อสรุป ดังนี้ ในการหายใจเข้ามีสัดส่วนของแก๊สออกซิเจนสูง แต่แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ต่ า แต่ในการหายใจออกมีสัดส่วนของแก๊สออกซิเจนลดลง แต่แก๊ส


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น เนื่องจากร่างกายน าแก๊สออกซิเจนไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ และได้แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะถูกก าจัดออกทางร่างกายทางการหายใจออก ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองของแต่ละกลุ่ม 7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล การอธิบายเกี่ยวกับการท างานของระบบหายใจได้อย่างเหมาะสม และถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การวิเคราะห์ผล สรุปผลเรื่องการท างานของระบบหายใจ เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์ 1. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 1 2. อุปกรณ์การทดลองเรื่อง แบบจ าลองการท างานของปอด 3. Power Point เรื่องการท างานของระบบหายใจ แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 9. เกณฑ์การประเมิน สิงที่ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถ อธิบายกลไกการ หายใจเข้าและออก โดยใช้แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการ แลกเปลี่ยนแก๊สได้ สมุดบันทึกวิชา วิทยาศาสตร์ เรื่องการท างานของ ระบบหายใจ สมุดบันทึกวิชา วิทยาศาสตร์ 4 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับกลไก การหายใจเข้าและออก โดยใช้ แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สได้ ถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป 3 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับกลไก การหายใจเข้าและออก โดยใช้ แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สได้ ถูกต้องร้อยละ 70-79 2 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับกลไก การหายใจเข้าและออก โดยใช้ แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สได้ ถูกต้องร้อยละ 60-69 1 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับกลไก การหายใจเข้าและออก โดยใช้ แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สได้ ถูกต้องร้อยละ 50-59 0 คะแนน อธิบายเกี่ยวกับกลไก การหายใจเข้าและออก โดยใช้ แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สได้ ถูกต้องน้อยกว่าร้อยละ 50 ด้ า น ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร (P) นักเรียนสามารถปฏิบัติ กิจกรรมการทดลอง การทดสอบสารอาหาร ได้ สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมการทดลอง เกี่ยวกับกลไกการหายใจ เข้าและออก โดยใช้ แบบประเมิน ทักษะ กระบวนการ วิทยาศาสตร์ 3 คะแนน ปฏิบัติกิจกรรมการ ทดลองเกี่ยวกับกลไกการหายใจ เข้าและออก โดยใช้แบบจ าลอง ร ว มทั้ง อ ธิบ า ย ก ร ะบ วนก า ร


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบจ าลอง รวมทั้ง อธิบายกระบวนการ แลกเปลี่ยนแก๊สทางด้าน กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ แลกเปลี่ยนแก๊สตามกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง 2 คะแนน ปฏิบัติกิจกรรมการ ทดลองเกี่ยวกับกลไกการหายใจ เข้าและออก โดยใช้แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบายกระบวนการ แลกเปลี่ยนแก๊สตามกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง บางส่วน 1 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติ กิจกรรมการทดลองเกี่ยวกับกลไก การหายใจเข้าและออก โดยใช้ แบบจ าลอง รวมทั้งอธิบาย กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ คลาดเคลื่อน ด้านคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ (A) นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรมกลุ่มด้วยความ มุ่งมั่นตั้งใจและมีความ ใฝ่รู้ในการเรียน 1.สังเกตการใฝ่รู้ มีความ รับผิดชอบมุ่งมั่นในการ ท างานกลุ่ม 2.สังเกตพฤติกรรมการ แสดงความคิดเห็น การ ตอบค าถาม แบบประเมิน พฤติกรรมราย กลุ่ม ผ่าน หมายถึง ให้ความร่วมมือ สนใจใฝ่รู้รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการ ท างานกลุ่ม ปรับปรุงหมายถึง ไม่ให้ความ ร่วมมือ ไม่สนใจใฝ่รู้ไม่รับผิดชอบ และไม่มุ่งมั่นในการท างานกลุ่ม


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รายวิชา ว 22101 วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ ระบบร่างกายมนุษย์ เรื่อง การดูแลรักษาระบบหายใจ 1 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การล าเลียงสารเข้าและออกจาก เซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ ท างานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืช ที่ท างานสัมพันธ์กัน รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 1.2 ม.2/3 ตระหนักถึงความส าคัญของระบบหายใจ โดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษา อวัยวะในระบบหายใจให้ท างานเป็นปกติ 2. สาระส าคัญ การสูบบุหรี่ การสูดอากาศที่มีสารปนเปื้อน และการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบหายใจบางโรค อาจ ท าให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งมีผลให้ความจุอากาศของปอดลดลง ดังนั้นจึงควรดูแลรักษาระบบหายใจ ให้ท าหน้าที่เป็นปกติ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ท างานเป็นปกติได้ (K) 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเรื่องการดูแลรักษาระบบหายใจได้ (P) 3. นักเรียนตระหนักถึงความส าคัญของระบบหายใจ โดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะ ในระบบหายใจให้ท างานเป็นปกติ(A) 4. สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) การสูบบุหรี่ การสูดอากาศที่มีสารปนเปื้อน และการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบหายใจบางโรค อาจ ท าให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งมีผลให้ความจุอากาศของปอดลดลง ดังนั้นจึงควรดูแลรักษาระบบหายใจ ให้ท าหน้าที่เป็นปกติ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการสังเกต (Observing) 2. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล (Inferring) 3. ทักษะการทดลอง (Experiment) 4. ทักษะการอภิปราย ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมีความพยายามในการเรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กล้าคิด กล้าพูดแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก 2. มุ่งมั่นในการท างาน - มีความอดทน และทุ่มเทในการท างาน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค มีความพยายามคิด แก้ปัญหา และคิดค้นหาค าตอบ 3. มีความรับผิดชอบ - รับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ส่งงานตรงตามก าหนด ปฏิบัติงานจนเป็นนิสัย เป็นตัว อย่างที่ดีแก่ผู้อื่น 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1.1 ครูให้นักเรียนดูภาพคนที่สูบบุหรี่ 1.2 ครูให้นักเรียนบอกสิ่งที่เห็นจากภาพ และอภิปรายเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ 1.3 ครูใช้ค าถามดังต่อไปนี้ - เพราะเหตุใดคนสูบบุหรี่เป็นประจ าจึงท าให้เป็นโรคถุงลมโป่งโพง (แนวค าตอบ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่ท าให้เนื้อเยื่อถุงลมฉีกขาด พื้นที่ผิวแลกเปลี่ยนแก๊สจึงลดลง) ขั้นที่ 2 ส ารวจและค้นหา (Exploration) 2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 4-5 คน โดยคละกลุ่มเก่ง ปานกลาง อ่อน 2.2 ครูให้นักเรียนศึกษาโรคระบบทางเดินหายใจและการดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจ จาก หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 ร่วมกันวางแผนเพื่อแสดงบทบาทสมมุติ เรื่อง โทษของการสูบบุหรี่ ขั้นที่ 3 ขั้นสร้างค าอธิบาย (Explanation) 3.1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติเรื่องโทษของการสูบบุหรี่ 3.2 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการทดลองและหาข้อสรุปจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครู ใช้ค าถามต่อไปนี้ - การสูบบุหรี่มีผลต่อระบบหายใจอย่างไร (แนวตอบ สารเคมีในบุหรี่ เช่น แก๊สไฮโดรเจน ไซยาไนด์ แก๊สไนโตรเจนไดออกไซด์ มีฤทธิ์ท าลายเนื้อเยื่อของผนังถุงลมท าให้ผนังถุงลมฉีกขาด พื้นที่ผิว แลกเปลี่ยนแก๊สจึงลดลง จึงต้องหายใจเร็วและถี่เพื่อให้ได้รับแก๊สออกซิเจนที่เพียงพอกับความต้องการ ของร่างกาย) - เพราะเหตุใดจึงมีการออกกฏหมายห้ามขายบุหรี่ให้กับผู้ที่มีอายุต่ ากว่า 18 ปี (แนวตอบ เพื่อป้องกันการทดลองสูบบุหรี่ของเยาวชนอายุต่ ากว่า 18 ปี ซึ่งจะช่วยลดจ านวนคนที่สูบบุหรี่)


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่กับการจัดพื้นที่ไว้ส าหรับผู้สูบบุหรี่โดยเฉพาะ (แนวตอบ นักเรียน ควรตอบว่าเห็นด้วย เนื่องจากสารพิษในควันบุหรี่ เช่น แก๊สไฮโดรเจนไซยาไนด์ แก๊สไนโตรเจนออกไซด์ เป็นแก๊สพิษที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ดังนั้น การจัดพื้นที่สูบบุหรี่จึงเป็นการจ ากัดพื้นที่ในการ แพร่กระจายของแก๊สเหล่านี้) - นักเรียนมีวิธีการดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจอย่างไร (แนวตอบ การออกก าลังกาย อย่างสม่ าเสมอท าให้ปอดมีความจุเพิ่มมากขึ้น หลี่กเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดและมีมลพิษ งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้สูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อระบบหายใจ รวมทั้ง หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่เป็นโรคติดต่อ) 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจเพื่อให้ได้ของสรุป กังนี้ โรคถุงลมโป่งพองมีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่ท าให้เนื้อเยื่อถุงลมฉีกขาด พื้นที่ผิว แลกเปลี่ยนแก๊สจึงลดลง จึงควรดูแลรักษาอวัยวะในระบบหายใจโดยการออกก าลังกายอย่างสม่ าเสมอ จะท าให้ปอดมีความจุอากาศเพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดและมีมลพิษ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยง การอยู่ใกล้กับผู้สูบบุหรี่และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่เป็นโรคติดต่อ ขั้นที่ 4 ขยายความรู้(Elaboration) 4.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน สืบค้นข้อมูล เรื่อง สารพิษในบุหรี่ที่ส่งผลต่อระบบหายใจ หรือเรื่อง สารพิษในอากาศที่ส่งผลต่อระบบ 4.2 นักเรียนท าแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้ - การบันทึกการเรียนรู้ลงในสมุดบันทึกวิชาวิทยาศาสตร์ - สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมการทดลองของแต่ละกลุ่ม 7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้และท างานเหมาะกับเวลา หลักมีเหตุผล การอธิบายเกี่ยวกับการดูแลรักษาระบบหายใจได้อย่างเหมาะสมและ ถูกต้อง หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี การเลือกศึกษาจากแหล่งเรียนรู้โดยมีความถูกต้อง การวางแผนในการท างานเป็นกลุ่ม เงื่อนไขความรู้ การวิเคราะห์ผล สรุปผลเรื่องการดูแลรักษาระบบหายใจ เงื่อนไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์ 1. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 1 2. Power Point เรื่องโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ และการดูแลรักษาระบบหายใจ แหล่งการเรียนรู้


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต 9. เกณฑ์การประเมิน สิงที่ ต้องการวัด รายการ วิธีวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K) นักเรียนบอก แนวทางในการดูแล รักษาอวัยวะใน ระบบหายใจให้ ท างานเป็นปกติได้ สมุดบันทึกวิชา วิทยาศาสตร์ เรื่องการดูแลรักษา ระบบหายใจ สมุดบันทึกวิชา วิทยาศาสตร์ 4 คะแนน บอกแนวทางในการดูแล รักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ท างาน เป็นปกติได้ถูกต้องร้อยละ 80 ขึ้นไป 3 คะแนน บอกแนวทางในการดูแล รักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ท างาน เป็นปกติได้ถูกต้องร้อยละ 70-79 2 คะแนน บอกแนวทางในการดูแล รักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ท างาน เป็นปกติได้ถูกต้องร้อยละ 60-69 1 คะแนน บอกแนวทางในการดูแล รักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ท างาน เป็นปกติได้ถูกต้องร้อยละ 50-59 0 คะแนน บอกแนวทางในการดูแล รักษาอวัยวะในระบบหายใจให้ท างาน เป็นปกติได้ถูกต้องน้อยกว่าร้อยละ 50 ด้ านทักษ ะ กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถ ปฏิบัติกิจกรรม เกี่ยวกับการดูแล รักษาระบบหายใจ ได้ สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมการดูแลรักษา ระบบหายใจทางด้าน กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ แบบประเมิน ทักษะ กระบวนการ วิทยาศาสตร์ 3 คะแนน ปฏิบัติกิจกรรมการเกี่ยวกับ ก า ร ดู แ ล รั กษ า ร ะ บบห า ยใ จต า ม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง 2 คะแนน ปฏิบัติกิจกรรมเกี่ยวกับการ ดูแลรักษาระบบหายใจตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง บางส่วน 1 คะแนน ออกแบบและปฏิบัติ กิจกรรมเกี่ยวกับการดูแลรักษาระบบ หายใจตามกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ได้คลาดเคลื่อน


ครูเบญจวรรณ ทองเสน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้าน คุณลักษณะ อันพึง ประสงค์ (A) นักเรียนตระหนักถึง ความส าคัญของ ระบบหายใจ โดย การบอกแนวทางใน การดูแลรักษา อวัยวะในระบบ หายใจให้ท างาน เป็นปกติ 1.สังเกตการตอบค าถาม 2.สังเกตพฤติกรรมการ แสดงความคิดเห็น การ ตอบค าถาม แบบประเมิน พฤติกรรม ผ่าน หมายถึง มีความตระหนักถึง วิธีการดูแลรักษาระบบหายใจได้ ปรับปรุง หมายถึง ไม่สามารถบอก วิธีการดูแลรักษาระบบหายใจ และไม่ ตระหนักถึงการดูแลรักษาระบบหายใจ


Click to View FlipBook Version