The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-05-29 01:47:18

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ม.2

ครูจันจิรา เขียวคล้าย

ก็ต้องมาทบทวนว่าปัญหาภาษาไทย ภาษาชาติ จะมีผลต่ออนาคตอย่างไร ซึ่งปัญหาหนึ่งที่น่าห่วงคือ เรื่อง ภาษาถิ่นที่ในช่วง ๒๐ - ๓๐ ปี มีการจางหายไปเร็วกว่าที่คิด ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากโรงเรียนห้ามเด็กพูด จึง อยากให้ราชบณัฑิตฯ ช่วยคิดว่าจะทา อยา่งไรไม่ให้ภาษาถิ่นเลือนหาย รวมถึงเรื่องการใช้ค.ศ.แทน พ.ศ. ซ่ึงสื่อยคุน้ีใชจ้น เคยชิน “ผมไม่ห่วงว่าภาษาไทยจะหายไป เพราะภาษาไทยจะเป็นภาษากลางที่เขา้ไปแทนที่ภาษาถิ่น แต่ เป็ นห่วงว่าภาษาอื่นจะเข้ามาท าลายภาษาไทย อย่างเช่น ภาษาต่างประเทศ ที่มักจะพูดภาษาไทยค าอังกฤษ คา ไม่รู้ว่าเป็นปมอะไรกนัหรือเปล่า เดี๋ยวน้ีรายการโทรทัศน์ต่างๆ พูดกันบ่อยมากจนกลายเป็ นเรื่องปกติ” นายชวนกล่าว และว่า เมื่อราชบัณฑิตยสถานเล่นบทรุกแล้วก็ควรเชิญเจ้าของสื่อหรือเจ้าของรายการมา หารือเพื่อขอความร่วมมือในการเปลี่ยนชื่อเป็ นภาษาไทย ที่มา : http://www.thaipost.net/news/300711/42527


ใบงานที่ ๓.๑เรื่อง หลักการเขียนย่อความ ค าชี้แจงให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามที่ก าหนด ๑. ให้นกัเรียนอธิบายขอ้ความที่เกี่ยวกบัการยอ่ความต่อไปน้ี ๑) การจับใจความส าคัญ ๒)การย่อบทร้อยกรอง ๓)การย่อบทร้อยแก้ว ๒. ให้นักเรียนอธิบายการใช้ส านวนภาษาในการย่อความ ๓. ถ้านักเรียนต้องการย่อความที่เป็ นประกาศ จะต้องใช้รูปแบบการย่อความที่มีรายละเอียดอย่างไร


ใบงานที่ ๓.๑เรื่อง หลักการเขียนย่อความ ค าชี้แจงให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามที่ก าหนด ๑. ให้นกัเรียนอธิบายขอ้ความที่เกี่ยวกบัการยอ่ความต่อไปน้ี ๑) การจับใจความส าคัญ ก่อนที่จะย่อความจะต้องอ่านจับใจความส าคัญของเรื่องที่ย่อ แล้วแยก ใจความส าคัญออกจากพลความ น าใจความส าคัญมาเรียบเรียงใหม่ด้วยส านวนของผู้ย่อ ๒) การย่อบทร้อยกรอง การย่อบทร้ อยกรอง คือ การย่อความจากค าประพันธ์ประเภทต่างๆ เมื่อ ย่อแล้วให้มีข้อความเป็ นบทร้ อยแก้วธรรมดา ๓) การย่อบทร้อยแก้ว การย่อบทร้ อยแก้ว คือ การย่อข้อความที่เป็ นความเรียงร้ อยแก้ว เช่น โอวาท แถลงการณ์ ฯลฯ ๒. ให้นักเรียนอธิบายการใช้ส านวนภาษาในการย่อความ การใช้ส านวนภาษาในการย่อความ ให้ เรียบเรียงด้วยภาษาของผู้ย่อเอง โดยใช้ค าที่เข้าใจง่าย ใช้ สรรพนามบุรุษที่ ๓ หรือใช้ชื่อในเรื่องนั้นโดยตรง ไม่ใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ และบุรุษที่ ๒ ข้อความใน อัญประกาศให้เขียนเป็ นเรื่องเล่าไม่ใช้เครื่องหมายอัญประกาศในข้อความที่ย่อแล้ว ถ้ามีค าราชาศัพท์ก็ ให้คงไว้ ๓. ถ้านักเรียนต้องการย่อความที่เป็ นประกาศ จะต้องใช้รูปแบบการย่อความที่มีรายละเอียดอย่างไร การย่อความที่เป็ นประกาศจะต้องใช้รูปแบบการย่อความ ดังนี้ เฉลย ย่อประกาศเรื่อง ของ ลงวันที่ ความว่า


ใบงานที่ ๓.๒ เรื่อง การเขียนย่อความสื่อประเภทต่างๆ ค าชี้แจงให้นกัเรียนยอ่ขอ้ความต่อไปน้ีให้ถูกตอ้งตามหลกัการยอ่ความ และรูปแบบของการยอ่ความ ขอขอบพระทยัและขอขอบใจท่านท้งัหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกนัมาให้พรวนัเกิด รวมท้งั ให้คา ยึดมนั่สัญญาโดยประการต่างๆ ขา้พเจา้ขอสนองต่อพร และไมตรีจิตท้งัน้นัดว้ยใจจริงเช่นกนั ท่านท้งัหลายในปีน้ีผูท้ี่อยใู่นตา แหน่งหนา้ที่สา คญัท้งัฝ่ายพลเรือนและทหาร ยอ่มทราบแก่ใจอยู่ทวั่ กนัว่า ความมนั่คงของประเทศชาติน้นัจะเกิดมีข้ึนไดก้็ดว้ยประชาชนในชาติอยู่ดี มีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญ ดงัน้นัการใดที่เป็นความทุกขเ์ดือดร้อนของประชาชนทุกคน ทุกฝ่าย จึงตอ้งถือเป็นหนา้ที่ที่จะตอ้ง ร่วมมือกนั ปฏิบตัิแกไ้ขให้เต็มกา ลงั โดยเฉพาะขณะน้ีประชาชนกา ลงัเดือดร้อนลา บากจากภยัน้า ท่วม จึง ขอให้ร่วมมือกัน ปัดเป่ า แกไ้ขให้ผ่านพน้ไปโดยเร็ว และจดัทา โครงการบริหารจดัการน้า อยา่งยงั่ยืน ดงัเช่นโครงการต่างๆ ที่ เคยพูดไปน้นัก็เป็นการแนะนา ไม่ใช่สั่งการแต่ถา้ปรึกษากนัแลว้เห็นว่าเป็นประโยชน์คุม้ค่าและทา ไดก้็ทา ข้อส าคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน หากจะต้องให้ก าลังใจซึ่ งกันและกัน เพื่อให้งานที่ท า บรรลุผลที่มีประโยชน์และความมนั่คงปลอดภยัของประเทศชาติ ขออา นาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศกัด์ิสิทธ์ิจงคุม้ครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ปราศจาก ภยัและอา นวยความสุข ความเจริญแก่ท่านทวั่กนั (กระแสพระราชด ารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหา ปราสาท วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๑.๐๐ น.) ย่อ ของ พระราชทานแก่ เรื่อง เนื่องใน ณ วันที่ ความว่า


เตือนส านึก สภาวะอากาศที่คลาดเคลื่อน เป็นเหมือนเหมือนกนัทวั่แทบทุกถิ่น ผลกระทบอาจถึงตายวายชีวิน ข่าวให้ยินยลถี่ทุกวี่วัน ที่เคยร้อนกลับมีหิมะตก แลว้หยกหยกน้า กลบัมาลา้งอาถรรพณ์ ธารน้า แข็งข้วัโลกละลายครัน ลว้นน่าหวนั่ว่ายากจกัเยียวยา เพราะมนุษย์ไม่หยุดฆ่าธรรมชาติ หรือไม่หวาดไม่หวนั่ต่อปัญหา แข่งกนัก่อมลพิษเห็นติดตา ทา ลายป่าหวงัเพียงเล้ียงตวัตน ท้งัที่ภยัคืบมาอยหู่นา้บา้น ยังส าราญกันเพลินเมินเหตุผล ตื่นหิมะน้า คา้งแข็งแยง่กนัยล หนาวทุกข์ท้นกลับเริงร่าหาส านึก เพียงไม่ทนัสิ้นหนาวก็ผ่าวแห้ง แววร้อนแลง้เริ่มเยือนเตือนรู้สึก กลับส าเริงสงกรานต์กันคึกคึก ต่างลืมฝึกประหยดัน้า เก็บทา กิน เตรียมรับมือกนัเถิดก่อนเกิดผล อย่ารอจนเกิดภัยชัดจึงตัดสิน เร่งรักโลกรักป่ ารักวาริน เพื่อแผ่นดินสุขสันต์เช่นวันวารฯ (รจนา เกียรติรักษาเผ่า สโมสรสมานมิตร นิตยสารสกุลไทย รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๒๙๖๒) ย่อเรื่อง ประเภทค าประพันธ์ ของ จากหนังสือ หน้า ความว่า


ใบงานที่ ๓.๒ เรื่อง การเขียนย่อความสื่อประเภทต่างๆ ค าชี้แจงให้นกัเรียนยอ่ขอ้ความต่อไปน้ีให้ถูกตอ้งตามหลกัการยอ่ความ และรูปแบบของการยอ่ความ ขอขอบพระทยัและขอขอบใจท่านท้งัหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกนัมาให้พรวนัเกิด รวมท้งั ให้คา ยึดมนั่สัญญาโดยประการต่างๆ ขา้พเจา้ขอสนองต่อพร และไมตรีจิตท้งัน้นัดว้ยใจจริงเช่นกนั ท่านท้งัหลายในปีน้ีผูท้ี่อยใู่นตา แหน่งหนา้ที่สา คญัท้งัฝ่ายพลเรือนและทหาร ยอ่มทราบแก่ใจอยู่ทวั่ กนัว่า ความมนั่คงของประเทศชาติน้นัจะเกิดมีข้ึนไดก้็ดว้ยประชาชนในชาติอยู่ดี มีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญ ดงัน้นัการใดที่เป็นความทุกขเ์ดือดร้อนของประชาชนทุกคน ทุกฝ่าย จึงตอ้งถือเป็นหนา้ที่ที่จะตอ้ง ร่วมมือกนั ปฏิบตัิแกไ้ขให้เต็มกา ลงั โดยเฉพาะขณะน้ีประชาชนกา ลงัเดือดร้อนลา บากจากภยัน้า ท่วม จึง ขอให้ร่วมมือกัน ปัดเป่ า แก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และจดัทา โครงการบริหารจดัการน้า อยา่งยงั่ยืน ดงัเช่นโครงการต่างๆ ที่ เคยพูดไปน้นัก็เป็นการแนะนา ไม่ใช่สั่งการแต่ถา้ปรึกษากนัแลว้เห็นว่าเป็นประโยชน์คุม้ค่าและทา ไดก้็ทา ข้อส าคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน หากจะต้องให้ก าลังใจซึ่ งกันและกัน เพื่อให้งานที่ท า บรรลุผลที่มีประโยชน์และความมนั่คงปลอดภยัของประเทศชาติ ขออา นาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศกัด์ิสิทธ์ิจงคุม้ครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ปราศจาก ภยัและอา นวยความสุข ความเจริญแก่ท่านทวั่กนั (กระแสพระราชด ารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหา ปราสาท วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๑.๐๐ น.) ย่อ ของ พระราชทานแก่ เรื่อง เนื่องใน ณ วันที่ ความว่า เฉลย


เตือนส านึก สภาวะอากาศที่คลาดเคลื่อน เป็นเหมือนเหมือนกนัทวั่แทบทุกถิ่น ผลกระทบอาจถึงตายวายชีวิน ข่าวให้ยินยลถี่ทุกวี่วัน ที่เคยร้อนกลับมีหิมะตก แลว้หยกหยกน้า กลบัมาลา้งอาถรรพณ์ ธารน้า แข็งข้วัโลกละลายครัน ลว้นน่าหวนั่ว่ายากจกัเยียวยา เพราะมนุษย์ไม่หยุดฆ่าธรรมชาติ หรือไม่หวาดไม่หวนั่ต่อปัญหา แข่งกนัก่อมลพิษเห็นติดตา ทา ลายป่าหวงัเพียงเล้ียงตวัตน ท้งัที่ภยัคืบมาอยหู่นา้บา้น ยังส าราญกันเพลินเมินเหตุผล ตื่นหิมะน้า คา้งแข็งแยง่กนัยล หนาวทุกข์ท้นกลับเริงร่าหาส านึก เพียงไม่ทนัสิ้นหนาวก็ผ่าวแห้ง แววร้อนแลง้เริ่มเยือนเตือนรู้สึก กลับส าเริงสงกรานต์กันคึกคึก ต่างลืมฝึกประหยดัน้า เก็บทา กิน เตรียมรับมือกนัเถิดก่อนเกิดผล อย่ารอจนเกิดภัยชัดจึงตัดสิน เร่งรักโลกรักป่ ารักวาริน เพื่อแผ่นดินสุขสันต์เช่นวันวารฯ (รจนา เกียรติรักษาเผ่า สโมสรสมานมิตร นิตยสารสกุลไทย รายสัปดาห์ ฉบับที่ ๒๙๖๒) ย่อเรื่อง ประเภทค าประพันธ์ ของ จากหนังสือ หน้า ความว่า (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต ่ากว่า ๑๐ ปรับปรุง ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความตั้งใจใน การท างาน ความ รับผิดชอบ การตรงต่อ เวลา ความสะอาด เรียบร้อย ผลส าเร็จของ งาน รวม ๒๐ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน


บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................


ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนา ไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส)


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง มีดีน าเสนอ จ านวน ๑๒ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง การเขียนอธิบาย ช้ีแจงโตแ้ยง้แสดงคิดเห็นอยา่งมีเหตุผล จ านวน ๒ ชวั่โมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/๖ เขียนอธิบาย ช้ีแจงแสดงความคิดเห็นและโตแ้ยง้อยา่งมีเหตุผล ๒. สาระส าคัญ การเขียนอธิบาย ช้ีแจงแสดงความคิดเห็น และโตแ้ยง้ในเรื่องต่างๆ จะตอ้งมีเหตุผลประกอบให้ชัดเจน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - มีความรู้ความเขา้ใจหลกัการเขียนอธิบาย ช้ีแจง โตแ้ยง้แสดงความคิดเห็นอยา่งมีเหตุผล ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - เขียนอธิบาย ช้ีแจงแสดงความคิดเห็น และโตแ้ยง้อยา่งมีเหตุผลได้ ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑.ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒.ความสามารถในการคิด ๔.๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้แกนกลาง -การเขียนอธิบาย ช้ีแจงแสดงความคิดเห็น และโตแ้ยง้ในเรื่องต่างๆ


๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๖.๑. นกัเรียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร ๒ ๖.๒. ครูอ่านบทความเรื่อง อคติ....สาวเหนือ เราไม่ใช่สาวเครือฟ้า ให้นักเรียนฟัง ๖.๓. นกัเรียนร่วมกนัแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบัวิธีการเขียนบทความเรื่องน้ี ๖.๔.ครูนา เสนอเรื่องการเขียนอธิบาย ช้ีแจงแสดงความคิดเห็นและโตแ้ยง้ ให้นกัเรียนร่วมกันแสดง ความคิดเห็นถึงความแตกต่างในการเขียนแต่ละวิธี ๖.๕. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกัน ศึกษาความรู้เรื่องการเขียนอธิบาย ช้ีแจง โตแ้ยง้แสดงความคิดเห็นอยา่งมีเหตุผลจากหนงัสือเรียน ๖.๖. นักเรียนแต่ละคนทา ใบงานที่๔.๑ เรื่องการเขียนช้ีแจงและเขียนแสดงความคิดเห็น เมื่อทา เสร็จ เรียบร้อยแล้วน าส่งครูตรวจ ๖.๗. ครูตรวจใบงานที่ ๔.๑ แล้วน าคะแนนของสมาชิกทุกคนในกลุ่มมารวมกันเป็ นคะแนนกลุ่ม พร้อม ประกาศชมเชยกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด และรองลงมาเรียงตามล าดับ ๖.๘. นกัเรียนร่วมกนัสรุปความรู้เกี่ยวกบัหลกัการเขียนอธิบาย ช้ีแจง โตแ้ยง้และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และน าไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ นักเรียนรู้และเข้าใจหลกัการเขียนอธิบาย ช้ีแจงโตแ้ยง้แสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถเขียนอธิบาย ช้ีแจงโตแ้ยง้ แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถน าความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนอธิบาย ช้ีแจง โตแ้ยง้แสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินยั ใฝ่เรียนรู้มุ่งมนั่ในการทา งาน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ม วัฒนธรรม


๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็ นต้น) ๘.๑. หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๓ ๘.๒. บทความ ๘.๓. ใบงานที่๔.๑ เรื่องการเขียนช้ีแจงและเขียนแสดงความคิดเห็น ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็ นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - มีความรู้ความเข้าใจ หลกัการเขียนอธิบาย ช้ีแจง โต้แย้ง แสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล - ตรวจแบบทดสอบก่อน เรียน การเขียนเพื่อการ สื่อสาร ๒ - ตรวจใบงานที่ ๔.๑ -แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การเขียนเพื่อการ สื่อสาร ๒ - ใบงานที่ ๔.๑ - ประเมินตามสภาพจริง -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ P) - เขียนอธิบาย ช้ีแจง แสดงความคิดเห็น และ โต้แย้งอย่างมีเหตุผลได้ - ตรวจใบงานที่ ๔.๑ - สังเกตพฤติกรรมการ ท างานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรมการ ท างานรายบุคคล - ใบงานที่ ๔.๑ -แบบสังเกตพฤติกรรม การท างานรายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม การท างานรายบุคคล -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ (A) - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน สังเกตความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัยใฝ่ เรียนรู้มุ่งมนั่ใน การท างาน ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย ) .........../.............../..................


แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร ๒ ค าชี้แจง ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. การเขียนในข้อใดมีลักษณะคล้ายกับการเขียนอธิบาย จ. การเขียนช้ีแจง ฉ. การเขียนโต้แย้ง ช. การเขียนรายงาน ซ. การเขียนแสดงความคิดเห็น ๒. เรื่องที่น ามาเขียนอธิบาย ควรมีลักษณะอย่างไร ก. เรื่องที่ทันสมัย ข. เรื่องที่เป็ นประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน ค. เรื่องที่น่าสนใจ น่ารู้ และต้องการค าอธิบาย ง. เรื่องที่ให้ความรู้ ความคิด และน าไปปฏิบัติตามได้ ๓. ข้อใดไม่ใช่วิธีการเขียนอธิบาย ก. ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ข. ใช้ถ้อยค าที่กระชับ รัดกุม ค. เขียนเรียงลา ดบัข้นัตอนในการปฏิบตัิ ง. เขียนโดยยกเหตุผล และมีตัวอย่างประกอบชัดเจน ๔. บุคคลใดเขียนแสดงความคิดเห็นไม่ถูกต้องตามหลักการ น. กุ้ง ไม่มีอคติในเรื่องที่เขียน บ. หอยเขียนเพื่อชกัจูงเกล้ียกล่อมผูอ้ื่น ป. ปู เขียนโดยใช้ข้อมูลในการน าเสนอที่ถูกต้อง ผ. ปลา ต้องการเขียนเพื่อให้เกิดการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนาไปในทางที่ดี ๕. ข้อใดแสดงว่า เลือกเรื่องที่เขียนรายงานศึกษาค้นคว้า ไม่ถูกต้องตามหลักการ ก. นิด เลือกเรื่องที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม ข. น้อง เลือกเรื่องที่ยังไม่มีผู้เขียน หรือไม่ยังแพร่หลาย ค. นงค์ เลือกเรื่องที่ตนมีความสนใจและมีประสบการณ์ ง. น้า เลือกเรื่องที่ผูอ้่านสนใจเหมาะสมกบัผูอ้่าน และเป็น ประโยชน์ต่อผู้อ่าน ๖. การใช้ข้อมูลภาคสนามในการท ารายงานการศึกษาค้นคว้า ท าได้โดยวิธีใด ด. ผู้ท ารายงานต้องรวบรวมจากการขุดค้นในสถานที่จริง ต. ผู้ท ารายงานต้องรวบรวมจากสื่อที่มีความหลากหลาย ถ. ผู้ท ารายงานต้องรวบรวมจากเอกสารที่ยังไม่ได้เผยแพร่ ท. ผูท้า รายงานตอ้งรวบรวมข้ึนจากการทดลองการสัมภาษณ์ การสังเกต และอื่นๆ ๗. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบตอนต้นของรายงานการศึกษา ค้นคว้า ก. ค าน า ข. สารบัญ ค. ภาคผนวก ง. กิตติกรรมประกาศ ๘. ข้อใดเขียนบรรณานุกรมหนังสือเล่มได้ถูกต้อง จ. ธีรภาพ โลหิตกุล. จดหมายถึงสายน ้าบันทึกถึงขวัญข้าว. แพรวส านักพิมพ์. ๒๕๕๑ ฉ. ธีรภาพ โลหิตกุล. (๒๕๕๑). จดหมายถึงสายน ้าบันทึกถึง ขวัญข้าว. กรุงเทพฯ : แพรวส านักพิมพ์. ช. ธีรภาพ โลหิตกุล.แพรวส านักพิมพ์,จดหมายถึงสายน ้า บันทึกถึงขวัญข้าว, ๒๕๕๑. ซ. ธีรภาพ โลหิตกุล.แพรวส านักพิมพ์. ๒๕๕๑.จดหมายถึง สายน ้าบันทึกถึงขวัญข้าว ๙. ถ้านักเรียนต้องการท าโครงงานเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ เพลงพ้ืนบา้นในทอ้งถิ่น ควรจดัทา โครงงานประเภทใด ก. โครงงานที่เป็ นการส ารวจ ข. โครงงานค้นคว้า ทดลอง ค. โครงงานที่เป็ นการประดิษฐ์ คิดค้น ง. โครงงานที่เป็ นการศึกษาทฤษฎี หลักการ


๑๐.ภาษาที่ใช้ในการเขียนชื่อโครงงาน ควรมีลักษณะอย่างไร ก. ใช้ภาษาเข้าใจง่าย ข. ใช้ภาษาทันสมัย เร้าใจผู้อ่าน ค. ใช้ภาษาตรงไปตรงมา สื่อความหมายได้อย่างชัดเจน ง. ใช้ภาษาที่เป็ นแบบแผน และใช้ถ้อยค าที่มีความหมาย ลึกซ้ึง ๑๑. การเขียนชื่อสมาชิกที่รับผิดชอบโครงงาน จะต้องเรียงล าดับ อย่างไร ก. เรียงตามเลขที่ ข. เรียงตามเพศชาย หญิง ค. เรียงตามล าดับตัวอักษร ง. เรียงตามล าดับต าแหน่งหน้าที่ในการท าโครงงาน ๑๒.ข้อใดไม่ปรากฏในการเขียนที่มาของโครงงาน ก. สาเหตุที่ท าโครงงาน ข. เหตุจูงใจในการท าโครงงาน ค. ผู้ที่สนับสนุนในการท าโครงงาน ง. การวางแผนปฏิบัติงานในการท าโครงงาน ๑๓. ข้อใดในส่วนที่บอกให้ทราบถึงสิ่งที่ตอ้งการให้เกิดข้ึน เมื่อสิ้นสุดโครงงาน ก. ผลที่คาดหวัง ข. จุดประสงค์ของโครงงาน ค. วิธีปฏิบัติในการท าโครงงาน ง. หลักวิชาที่น ามาใช้ในการท าโครงงาน ๑๔. บทนา ของรายงานการศึกษาคน้ควา้เขียนเรียงลา ดบัข้นัตอน อย่างไร ก. สาเหตุในการศึกษาวตัถุประสงค์ขอบเขต ข้นัตอน วิธีการ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ข. สาเหตุในการศึกษา วัตถุประสงค์ ประโยชน์ที่คาดว่า จะไดร้ับ ขอบเขต ข้นัตอน วิธีการ ค. วัตถุประสงค์ สาเหตุในการศึกษา ประโยชน์ที่คาดว่า จะไดร้ับ ขอบเขต ข้นัตอน วิธีการ ง. ขอบเขต ข้นัตอน วิธีการ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ สาเหตุในการศึกษา วัตถุประสงค์ ๑๕. “มีการอภิปราย หรือข้อเสนอแนะในประเด็นการศึกษา เรื่องที่สามารถศึกษาต่อยอด”ขอ้ความน้ีกล่าวถึงการเขียน ส่วนใดของรายงาน ก. บทน า ข. เน้ือหา ค. สรุป ง. ภาคผนวก ๑. ก ๒. ค ๓. ง ๔. ข ๕. ก ๖. ง ๗. ค ๘. ข ๙. ก ๑๐. ค ๑๑. ค ๑๒. ง ๑๓. ข ๑๔. ก ๑๕. ค


เอกสารประกอบการสอน อคติ...สาวเหนือ เราไม่ใช่สาวเครือฟ้า ผ่านมากว่าสามสัปดาห์แล้ว สังคมลา้นนายงัคงวิพากษว์ิจารณ์กนัไม่จบไม่สิ้นถึงตะกอนน้า ลายกรณี ที่เอกยทุธอญัชนับุตร พูดจาหมิ่นหยามศกัด์ิศรีของ “สาวเหนือ”โดยตีววักระทบคราดไปถึง นายกรัฐมนตรีหญิงที่เป็นสาวสันกา แพงว่ามีค่าเพียงแค่“สาวขายบริการทางเพศ” (ปัจจุบนัเราเรียกอาชีพน้ีว่า “พนักงานบริการ”ถือว่าเป็นงานเล้ียงชีพที่มีเกียรติเหมือนกนักบัทุกๆ อาชีพ) อนัที่จริงคอลมันน์ ้ีไมอ่ยากเสียเน้ือที่ให้กบัตรรกะวิบตัิของเหล่า “สลิ่ม แมงสาป” (ไม่ใช่ซ่าหริ่ม ไม่ใช่แมลงสาบ) เท่าใดนัก แต่ได้รับปากกับเพื่อนๆ เครือสหายในเฟซบุ๊กไว้แล้ว ที่อยากฟังมุมมองของ “สะใภ้เมืองเหนือ” ที่แม้จะเกิด-โตที่กรุงเทพฯ ซ้ ายงัมีสายเลือดปักษใ์ตร้้อยเปอร์เซ็นตก์ ็ตามที สาวเหนือไม่ใช่สาวเครือฟ้า ภาพลกัษณ์ของสาวเหนือที่ถูกเสกสรรป้ันแต่งมอบมาให้คนไทยท้งัประเทศรู้จกัน้นัคือ ภาพของ “สาวเครือ ฟ้า” หรือภาพสะท้อนสาวสวย โง่ ซื่อ อ่อนแอ ไม่ทันโลก ถูกหลอก ง่ายต่อการล่อลวงทางเพศ แม้นฉากจบ จะดู โรแมนติกในลักษณะของหญิงสาวที่ “บูชาความรักเป็ นสรณะ” ก็ตาม ก่อนจะตดัสินและใส่สมการว่าสาวเหนือคือสาวเครือฟ้าน้นัสังคมไทยควรมีความรู้เป็นภูมิคุม้กนั สักเล็กน้อยว่า แท้จริงแล้วสาวเครือฟ้าไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่เรื่องจริงในเมืองเหนือ มันเป็ นเพียงนิยายประโลม โลก ที่อา มาตยส์ยามไดจ้ินตนาการข้ึนตามแรงปรารถนาทางเพศของพวกเขาแลว้ยดัเยียดมายาภาพน้นั ให้แก่ สาวเหนือ เรื่องราวสาวเครือฟ้าถูกป้ันให้มีตวัมีตนโลดแล่นบนแผ่นฟิลม์ยคุหนงัไทย ๑๖ มม. ต้งัแต่ปีพ.ศ. ๒๔๙๙ โดยน าบทประพันธ์ละครร้องของกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ (พระองค์เจ้าวรวรรณากร) ผู้ใช้ นามแฝงว่า ประดิษฐ์อกัษร มาทา เป็นภาพยนตร์กรมพระนราธิปฯ น้นัเล่าก็ทรงมาดดัแปลงเคา้โครงหรือ Theme เรื่องมาจากอุปรากรชื่อก้องโลก “มาดามบัตเตอร์ฟลาย” ของ จาโกโมปุชชีนี ซึ่งได้ต้นเค้ามาจากนว นิยายของ จอห์น ลูเธอร์ ลอง อีกต่อหนึ่ง เรื่องมาดามบตัเตอร์ฟลายน้นัมีทอ้งเรื่องอยใู่นประเทศญี่ปุ่น ก็ปรับเปลี่ยนให้เป็นเชียงใหม่บท นางเอกสาว โจโจซ้งัสาวเครือฟ้า ช่างฟ้อนผูห้วานหยาดเยิม้และไม่ประสีประสาต่อความรักเสียนี่กระไร ในขณะที่พระเอกเดิมเป็ นนายเรือเอกพิงเคอร์ตัน ชาวอเมริกัน กลายเป็ นร้อยตรีพร้อม หนุ่มปากหวานผู้ถูกจับ คลุมถุงชนให้มีภรรยาชาวกรุงใหม่อีกคนชื่อจา ปา เห็นหรือยงัว่า “สาวเครือฟ้า” น้นั ไดร้ับการอิมพอร์ตกนั มามิรู้กี่ทอดตอ่กี่ทอด กว่าจะถูกจบัมานงั่กางจอ้งนุ่งซิ่นที่เมืองเชียงใหม่ชะตาชีวิตของสาวเครือฟ้าไม่เพียงแต่ ส่งตรงมาจากขุนนางสยามภาคกลางเท่าน้นัทว่าจุดเริ่มตน้แห่งการปฏิสนธิยงันบัเอาแนวคิดของตะวนัตก ผสมญี่ปุ่ นมาเต็มๆ อีกด้วย


หากมองในแง่วิชาการถือว่า “สาวเครือฟ้า” เป็ นวรรณกรรมที่น่าจับตามองในยุคเปลี่ยนผ่าน ที่นัก ประพนัธ์แถวหนา้ของสยามกลา้ดดัแปลงเคา้โครงเรื่องจากตะวนัตกมาสู่บทละครไทย นกัเขียนช้นัครู กลุ่มสุภาพบุรุษในยคุต่อมาหลายคน เช่น ศรีบูรพา เขียนเรื่องขา้งหลงัภาพ หรือเรียมเองแต่งเรื่องชั่วฟ้า ดินสลาย ต่างก็รับอิทธิพลมาจากกรมพระนราธิปฯ ท้งัสิ้น กล่าวคือ นกัเขียนไฟแรงยคุน้นั ไดห้ ันหลงัให้กบัพล็อตเรื่องแนวอีเรียม ไอข้วญัตามอยา่งไมเ้มือง เดิม ดว้ยการเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ในลกัษณะหญิงสองใจที่จา ทนแต่งงานกบัชายแก่สูงศกัด์ิแต่แลว้ก็ลง เอยด้วยการพบรักใหม่กับ Bad Boy ชายพเนจร เถื่อน ทราม แต่เร้าใจ ท้งัขา้งหลงัภาพและชวั่ฟ้าดินสลายต่างก็มีกลนิ่อายละมา้ยพล็อตเรื่อง Out of Africaไม่ยิ่งหยอ่นไป กว่ากัน สาวเครือฟ้าได้กลายเป็ นบรรทัดฐานของหนังไทยยุคต่อมา เหมือนตาบอดข้างเดียวจูงฝูงคนตาบอด หรือต้งันะโมฯ ผิดแต่ตอนเริ่มสวด กลายเป็นยิ่งตอกย้า ค่านิยมให้คนทวั่ ไปมองเห็นภาพลกัษณ์ของสาว เหนือที่บิดเบือน ตามติดดว้ยเรื่องวงับวับาน แม่อายสะอ้ืน ที่เนน้ โศกนาฏกรรมของสาวเหนือในเชิงถูก ทารุณกรรมทางเพศ ถูกเหยียบย่า ศกัด์ิศรีพ่ายแพ้ถูกทอดทิ้งแลว้ลงทา้ยดว้ยการสังเวยชีวิต หากไม่ กระโดดหน้าผา ก็ต้องเอามีดจ้วงที่ท้อง คือพยายามเลียนแบบโจโจ้ซัง ซึ่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่ นเขามีการ ใช้มีดคว้านท้องแบบฮาราคีรี มุมหนึ่งดูคล้ายจะยกย่องว่าสาวเหนือช่างน่าสรรเสริญเสียล้นท้น ช่างรักเดียวใจเดียว มีหัวใจเด็ด เดี่ยวแต่อีกมุมหน่ึงน้นัภาพของสาวเหนือไดถู้กประทบัตราบาปให้กลายเป็น เครื่องเล่นทางเพศ ปรนเปรอบุรุษอย่าง เปรมปรีดิ์ เมื่อพูดถึงค าว่า สาวเหนือ ไม่ว่าปิ ดตาก็จะมีคนเห็นแต่ภาพผู้หญิงโง่ ใจง่าย ไม่รักนวลสงวนตัว ถูก หลอกซ้า แลว้ซ้า เล่า สวยแต่รูปจูบไม่หอม ไร้การศึกษา ดอกไมร้ิมทาง ดบักระหายคลายหื่นให้ชายหนุ่ม คร้ันเบื่อแลว้จะขย้ีทิ้งเมื่อไรก็ได้ (ปริศนาโบราณคดี : เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์ )


ใบงานที่ ๔.๑เรื่อง การเขียนชี้แจง และเขียนแสดงความคิดเห็น ตอนที่ ๑ ค าชี้แจงให้นกัเรียนอ่านเรื่องที่กา หนด แลว้เขียนช้ีแจงให้ถูกตอ้งตามหลกัการเขียน อนาคตอาชีพใดมีแววสดใสหรือดับวูบ สิ่งที่ผูป้กครองสมยัน้ีมกัวิตกกงัวลเกี่ยวกบัอนาคตของลูกๆ ไดแ้ก่เมื่อพวกเขาโตไปแลว้จะสามารถ หางานทา ไดไ้หม เพราะอยา่งที่รู้ๆ เดี๋ยวน้ีปริมาณงานเริ่มหายากข้ึนเรื่อยๆ ขณะที่จา นวนประชากรมีแต่ เพิ่มข้ึน ทุกวัน สังเกตดูเถอะที่ไหนเปิ ดรับสมัครงานเมื่อไหร่ ถ้าเป็ นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็ น ภาครัฐหรือภาคเอกชน อู้หู... จะมีคนแห่ไปสมัครงานกันเป็ นพันเป็ นหมื่น แต่มีต าแหน่งงานที่เปิ ดรับเพียง ๑ - ๒ คนเท่าน้นัหรือต่อให้เป็นหน่วยงานที่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดงับางทียงัมีคนแห่ไปสมคัรเพียบเช่นกนัเหตุน้ี การสมคัรงานจึงตอ้งใชว้ิธีดาวกระจายคือสมคัรไปหลายๆ แห่งเผื่อเอาไว้ถา้หน่วยงานน้ีไม่ได้อาจมี หน่วยงานอื่นที่เล็งเห็นในความอุตสาหะและคุณสมบตัิที่โดดเด่นเกิดรับข้ึนมาก็แจ๋วไปเลย ค าถามก็คือ แล้วบุตรหลานของเรามีความสามารถอะไรเจ๋งเป้งนอกเหนือไปจากคนอื่นไหม ซึ่งถ้ามี อยา่งเช่นมีแววที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไดเ้ร็ว หรือที่เรียกส้ันๆ ว่า หัวไว สามารถเขา้ใจอะไรไดง้่าย(แต่ควรหัวไว ในสิ่งที่ถูกที่ควรดว้ยนะ)ก็มกัจะไดเ้ปรียบผูส้มคัรคนอื่นๆ แต่อยากช้ีให้เห็นลึกลงไปว่า ในบางอาชีพที่ตอ้งการความเชี่ยวชาญพิเศษหรือวิชาชีพบางอยา่งน้ัน ตอ้งการผูท้ี่จบการศึกษาทางดา้นน้นัๆ มาโดยตรงไม่ใช่แค่ตอ้งการคนหัวไวอยา่งเดียวเท่าน้นัเช่น งาน ทางดา้นสถิติทนายความ แพทย์หรือพยาบาล ฯลฯ ใครจะทา งานเหล่าน้ีได้ก็ตอ้งเรียนให้จบจากคณะที่สอน ในสายงานน้นัจริงๆ ดงัน้นัจึงมีผูว้ิเคราะห์ให้ฟังว่า คนเราจะประหยัดอะไรก็ประหยัดมัธยัสถ์ไปเถอะ แต่ สา หรับการวางรากฐานอนาคตของลกูดา้นการศึกษานี่ห้ามประหยดัเด็ดขาด ทว่าก็ข้ึนอยกู่บัมนัสมองของ เด็กด้วยนะ เพราะมีเหมือนกันที่พ่อแม่ทุ่มเทให้ลูกด้านการศึกษามากมาย แต่ลูกดันไปเลือกเรียนอะไรก็ไม่รู้ ที่มีแววว่าจบมาแลว้จะหางานยาก หรือตลาดแรงงานไมไ่ดต้อ้งการผูจ้บทางดา้นน้ีเท่าไรอยา่งน้ีลงทุนไปก็ เท่าน้นัฉะน้นัผูป้กครองควรทา หนา้ที่เป็นโคช้คอยแนะแนวทางอนาคตให้ลูกๆ ดว้ยจะเลิศมาก ถามว่า อาชีพอะไรล่ะ ที่มีอนาคตสดใส แน่ๆ ก็อาชีพในด้านของการรักษาพยาบาลไงล่ะ ต่อให้ สา รวจ กี่คร้ังกี่หน ก็ยงัเป็นอาชีพที่ไม่ตกเทรนด์เพราะคนเรายงัไงก็ตอ้งมีวนัเจ็บป่วย ดงัน้นัหมอหรือ พยาบาลนี่ ถ้าเรียนจบก็รับรองได้ว่ามีงานให้ท าแน่ๆ แต่เป็ นอาชีพที่ต้องการความรับผิดชอบสูงเอาการ อาชีพผู้จัดการด้านโซเชียลมีเดียขององค์กรต่างๆ นี่ก าลังรุ่ง เนื่องจากหลายหน่วยงานใช้โซเชียลมีเดียเป็ น เครื่องมือทา การตลาด ติดตอ่สื่อสารกบัลกูคา้มากข้ึนไม่ว่าจะผ่านทางเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์


งานในสายของเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นวิทยาการทางดา้นวิทยาศาสตร์ที่นา สิ่งมีชีวิต หรือผลผลิตของ สิ่งมีชีวิตไปแปรรูปเป็ นอาหารหรือยา แต่ถ้าอยากเรียนรู้เรื่องนาโนเทคโนโลยีก็แจ๋ว ดา้นนิตยสารฟอร์บส์ที่ชอบรายงานอนัดบัของเศรษฐีน้นั ไดท้า นายว่าอาชีพที่จะยงัคงมีอยไู่ ปเรื่อยๆ นบัจากน้ีไปอกีหลายปีไดแ้ก่นกัการเมือง สัปเหร่องานจดัเก็บภาษีช่างทา ผม ศิลปิน ผูใ้ห้ความบันเทิง ทหาร ส่วนอาชีพที่ว่ากันว่าจะหมดไปในอนาคต เช่น พนักงานเก็บเงิน หรือแคชเชียร์ คนงานเหมือง คนงาน ก่อสร้าง เพราะจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ และหุ่นยนตม์าทา แทนไงละ่ ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔.


ตอนที่ ๒ ค าชี้แจงให้นักเรียนอ่านข่าวที่ก าหนด แล้วเขียนแสดงความคิดเห็น มหาภัยเฟซบุ๊ก รวบบ้ากาม ลวงขยี้ นักเรียนสาวไปขืนใจถ่ายคลิป ชี้ตัวจิ้งจอกสังคม หนุ่มจิ้งจอกสังคมเล่นเฟซบุ๊กลวงเด็กนกัเรียนหญิงไปขย้ีกามแลว้ถ่ายคลิปวีดิโอไวแ้บล็กเมล อีกหลายคร้ังจนเหยื่อสาวซึมเศร้าไม่กลา้ไปโรงเรียน ผูป้กครองและครูทราบแจง้ตา รวจช่วยสืบ ก่อนลากคอ ได้หน้าโรงแรมกลางเมืองโคราช สารภาพไม่มีอาชีพเป็ นหลักแหล่ง อาศัยลักเล็กขโมยน้อยไปเรื่อยๆ พบ ประวตัิเคยติดคุกคดีลกัทรัพย์ก่อนหันมาใชส้ื่อออนไลน์ยอดฮิตลวงเด็กสาว ม.๑ และ ม.๒ ไปเสพสุข ล่าสุด มีผู้เสียหาย ๓ คนร้องทุกข์ดูโฉมหน้าคนร้าย ต ารวจคาดยังมีอีกหลายรายที่ยังไม่กล้าแจ้งความ ภยัร้ายจากการเล่นเฟซบุ๊ก นกัเรียนหญิงถูกหนุ่มภยัสังคมล่อลวงไปข่มขืน ก่อนถ่ายรูปไวแ้บล็กเมล รายน้ีเปิดเผยเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๕ ธ.ค. ๕๔ ที่ห้องประชุมส านักต ารวจภูธรภาค ๓ (บช.ภ.๓) อ.เมือง นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.๓ นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.กรกต สาริยา พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รองผบช.ภ.๓ พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมาพ.ต.ท.ภูมิทองโพธิ์ สว.สส.สภ.เมือง ร่วมกันแถลงจับกุมนายวิมล ศรี ดา อายุ ๓๗ ปี อยู่ บ้านเลขที่ ๒๕๗/๓๒ ถนนระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมาที่ จ.๓๕๘/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๔ ธ.ค.๕๔ ในข้อหา กระท าช าเราเด็กอายุไม่เกิน ๑๕ ปีซ่ึงไม่ใช่ภรรยา โดยเด็กน้ันยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาบุคคลอายุยังไมเกิน ๑๕ ปี เพื่ออนาจารและโดยปราศจากเหตุอันควร พรากเด็กยังไม่เกินอายุ ๑๕ ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าโรงแรมศรีรัตน์ ถนนสุรนารี เขตเทศบาล นครราชสีมา พร้อมยึดของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ๑เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ ๑ เครื่อง สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับการร้องเรี ยนจากครูอาจารย์และ ผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงอายุระหว่าง ๑๒ - ๑๕ ปี หลายรายว่า บุตรสาวได้เล่นเฟซบุ๊กทางอินเตอร์เน็ต และถูกผูช้ายล่อลวงไปข่มขืน ก่อนถ่ายวิดีโอไวแ้บล็กเมลขู่บงัคบั ให้ไปหลบันอนดว้ยอีกหลายคร้ัง ทา ให้ เหยื่อนักเรียนสาวไม่อยากไปโรงเรียนจนมีอาการซึมเศร้า หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ต ารวจได้ตรวจสอบพบว่า คนร้ายไดใ้ช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “แคน สีดา” และ “นักรบแดนใต้” ก่อนทราบชื่อว่า นายวิมล ศรีดา ซ่ึงเคยมี ประวัติจ าคุกในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ที่ศาลจังหวัดพิจิตร และมีหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรีในข้อหาลักทรัพย์ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและรวบตัวได้ดังกล่าว สอบสวนนายวิมลให้การรับสารภาพว่า ไม่มีอาชีพอะไรเป็ นหลักแหล่ง ลักเล็กขโมยน้อยไปเรื่อย ก่อนอาศยัช่องทางเฟซบุ๊กติดต่อสื่อสารกับเด็กสาววัยรุ่น แล้วโทรศัพท์นัดพบตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับ กระท าการล่วงละเมิดทางเพศแล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้แบล็กเมล หากเด็กไม่ยอมมาพบก็จะขู่เอาคลิปดังกล่าวไป เผยแพร่ประจานโดยทา มาแล้วหลายรายอย่างไรก็ตามในช้ันสอบสวนของตา รวจมีเด็กนักเรียนหญิง


ผู้เสียหายมาช้ีตวัผูต้อ้งหาแลว้๓ ราย ท้งัหมดเรียนอยชู่้นัม.๑ และ ม.๒ และหน่ึงในผูเ้สียหายถูกนายวิมลถ่าย คลิปไว้ข่มขู่ด้วย ดา้นนายชวน ศิรินันท์พรผูว้่าราชการจงัหวดันครราชสีมากล่าวว่าคดีน้ีถือว่าเป็นเรื่องส าคญัที่เกิด จากอันตรายการใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะเฟซบุ๊กที่ก าลังเป็ นที่นิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ แต่กลบัมีคนนา มาใช้ล่อลวงเด็กหญิงไปทา มิดีมิร้าย บางรายถูกเรียกเอาทรัพยส์ ินดว้ยเท่าที่ทราบเบ้ืองตน้มี ผู้เสียหายมาแจ้งไว้ ๓ รายแต่ตา รวจเชื่อว่ายงัมีเด็กตกเป็นเหยื่ออีกหลายรายที่ยงัไม่กลา้มาแจง้ความ ขณะน้ี อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลต่อไป ที ่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔.


ใบงานที่ ๔.๑เรื่อง การเขียนชี้แจง และเขียนแสดงความคิดเห็น ตอนที่ ๑ ค าชี้แจงให้นกัเรียนอ่านเรื่องที่กา หนด แลว้เขียนช้ีแจงให้ถูกตอ้งตามหลกัการเขียน อนาคตอาชีพใดมีแววสดใสหรือดับวูบ สิ่งที่ผูป้กครองสมยัน้ีมกัวิตกกงัวลเกี่ยวกบัอนาคตของลูกๆ ไดแ้ก่เมื่อพวกเขาโตไปแลว้จะสามารถ หางานทา ไดไ้หม เพราะอยา่งที่รู้ๆ เดี๋ยวน้ีปริมาณงานเริ่มหายากข้ึนเรื่อยๆ ขณะที่จา นวนประชากรมีแต่ เพิ่มข้ึน ทุกวัน สังเกตดูเถอะที่ไหนเปิ ดรับสมัครงานเมื่อไหร่ ถ้าเป็ นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็ น ภาครัฐหรือภาคเอกชน อู้หู... จะมีคนแห่ไปสมัครงานกันเป็ นพันเป็ นหมื่น แต่มีต าแหน่งงานที่เปิ ดรับเพียง ๑ - ๒ คนเท่าน้นัหรือต่อให้เป็นหน่วยงานที่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดงับางทียงัมีคนแห่ไปสมคัรเพียบเช่นกนัเหตุน้ี การสมคัรงานจึงตอ้งใชว้ิธีดาวกระจายคือสมคัรไปหลายๆ แห่งเผื่อเอาไว้ถา้หน่วยงานน้ีไม่ได้อาจมี หน่วยงานอื่นที่เล็งเห็นในความอุตสาหะและคุณสมบตัิที่โดดเด่นเกิดรับข้ึนมาก็แจ๋วไปเลย ค าถามก็คือ แล้วบุตรหลานของเรามีความสามารถอะไรเจ๋งเป้งนอกเหนือไปจากคนอื่นไหม ซึ่งถ้ามี อยา่งเช่นมีแววที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไดเ้ร็ว หรือที่เรียกส้ันๆ ว่า หัวไว สามารถเขา้ใจอะไรไดง้่าย(แต่ควรหัวไว ในสิ่งที่ถูกที่ควรดว้ยนะ)ก็มกัจะไดเ้ปรียบผูส้มครคนอื่นๆ ั แต่อยากช้ีให้เห็นลึกลงไปว่า ในบางอาชีพที่ตอ้งการความเชี่ยวชาญพิเศษหรือวิชาชีพบางอยา่งน้ัน ตอ้งการผูท้ี่จบการศึกษาทางดา้นน้นัๆ มาโดยตรงไม่ใช่แค่ตอ้งการคนหัวไวอยา่งเดียวเท่าน้นัเช่น งาน ทางดา้นสถิติทนายความ แพทย์หรือพยาบาล ฯลฯ ใครจะทา งานเหล่าน้ีได้ ก็ต้องเรียนให้จบจากคณะที่สอน ในสายงานน้นัจริงๆ ดงัน้นัจึงมีผูว้ิเคราะห์ให้ฟังว่าคนเราจะประหยดัอะไรก็ประหยดัมธัยสัถไ์ปเถอะแต่ สา หรับการวางรากฐานอนาคตของลกูดา้นการศึกษานี่ห้ามประหยดัเด็ดขาด ทว่าก็ข้ึนอยกู่บัมนัสมองของ เด็กด้วยนะ เพราะมีเหมือนกันที่พ่อแม่ทุ่มเทให้ลูกด้านการศึกษามากมาย แต่ลูกดันไปเลือกเรียนอะไรก็ไม่รู้ ที่มีแววว่าจบมาแลว้จะหางานยาก หรือตลาดแรงงานไมไ่ดต้อ้งการผูจ้บทางดา้นน้ีเท่าไรอยา่งน้ีลงทุนไปก็ เท่าน้นัฉะน้นัผูป้กครองควรทา หนา้ที่เป็นโคช้คอยแนะแนวทางอนาคตให้ลูกๆ ดว้ยจะเลิศมาก ถามว่า อาชีพอะไรล่ะ ที่มีอนาคตสดใส แน่ๆ ก็อาชีพในด้านของการรักษาพยาบาลไงล่ะ ต่อให้ สา รวจ กี่คร้ังกี่หน ก็ยงัเป็นอาชีพที่ไม่ตกเทรนด์เพราะคนเรายงัไงก็ตอ้งมีวนัเจ็บป่วย ดงัน้นัหมอหรือ พยาบาลนี่ ถ้าเรียนจบก็รับรองได้ว่ามีงานให้ท าแน่ๆ แต่เป็ นอาชีพที่ต้องการความรับผิดชอบสูงเอาการ อาชีพผู้จัดการด้านโซเชียลมีเดียขององค์กรต่างๆ นี่ก าลังรุ่ง เนื่องจากหลายหน่วยงานใช้โซเชียลมีเดียเป็ น เครื่องมือทา การตลาด ติดตอ่สื่อสารกบัลกูคา้มากข้ึนไม่ว่าจะผ่านทางเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ เฉลย


งานในสายของเทคโนโลยีชีวภาพ เป็ นวิทยาการทางด้านวิทยาศาสตร์ที่นา สิ่งมีชีวิต หรือผลผลิตของ สิ่งมีชีวิตไปแปรรูปเป็นอาหารหรือยาแต่ถา้อยากเรียนรู้เรื่องนาโนเทคโนโลยีก็แจ๋ว ด้านนิตยสารฟอร์บส์ที่ชอบรายงานอนัดบัของเศรษฐีน้นั ไดท้า นายว่าอาชีพที่จะยงัคงมีอยไู่ ปเรื่อยๆ นบัจากน้ีไปอกีหลายปีไดแ้ก่นกัการเมือง สัปเหร่องานจดัเก็บภาษีช่างทา ผม ศิลปิน ผูใ้ห้ความบนัเทิง ทหาร ส่วนอาชีพที่ว่ากันว่าจะหมดไปในอนาคต เช่น พนักงานเก็บเงิน หรือแคชเชียร์ คนงานเหมือง คนงาน ก่อสร้าง เพราะจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ และหุ่นยนตม์าทา แทนไงละ่ ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔.


ตอนที่ ๒ ค าชี้แจงให้นักเรียนอ่านข่าวที่ก าหนด แล้วเขียนแสดงความคิดเห็น มหาภัยเฟซบุ๊กรวบบ้ากาม ลวงขยี้ นักเรียนสาวไปขืนใจถ่ายคลิป ชี้ตัวจิ้งจอกสังคม หนุ่มจิ้งจอกสังคมเล่นเฟซบุ๊กลวงเด็กนกัเรียนหญิงไปขย้ีกามแลว้ถ่ายคลิปวีดิโอไวแ้บล็กเมล อีกหลายคร้ังจนเหยื่อสาวซึมเศร้าไม่กลา้ไปโรงเรียน ผูป้กครองและครูทราบแจง้ตา รวจช่วยสืบ ก่อนลากคอ ได้หน้าโรงแรมกลางเมืองโคราช สารภาพไม่มีอาชีพเป็ นหลักแหล่ง อาศัยลักเล็กขโมยน้อยไปเรื่อยๆ พบ ประวตัิเคยติดคุกคดีลกัทรัพย์ก่อนหันมาใชส้ื่อออนไลน์ยอดฮิตลวงเด็กสาว ม.๑ และ ม.๒ ไปเสพสุข ล่าสุด มีผู้เสียหาย ๓ คนร้องทุกข์ดูโฉมหน้าคนร้าย ต ารวจคาดยังมีอีกหลายรายที่ยังไม่กล้าแจ้งความ ภยัร้ายจากการเล่นเฟซบุ๊ก นกัเรียนหญิงถูกหนุ่มภยัสังคมล่อลวงไปข่มขืน ก่อนถ่ายรูปไวแ้บล็กเมล รายน้ีเปิดเผยเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๕ ธ.ค. ๕๔ ที่ห้องประชุมส านักต ารวจภูธรภาค ๓ (บช.ภ.๓) อ.เมือง นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.๓ นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.กรกต สาริยา พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รองผบช.ภ.๓ พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมาพ.ต.ท.ภูมิทองโพธิ์ สว.สส.สภ.เมือง ร่วมกันแถลงจับกุมนายวิมล ศรี ดา อายุ ๓๗ ปี อยู่ บ้านเลขที่ ๒๕๗/๓๒ ถนนระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมาที่ จ.๓๕๘/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๔ ธ.ค.๕๔ ในข้อหา กระท าช าเราเด็กอายุไม่เกิน ๑๕ ปีซ่ึงไม่ใช่ภรรยา โดยเด็กน้ันยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาบุคคลอายุยงัไมเกิน ๑๕ ปี เพื่ออนาจารและโดยปราศจากเหตุอันควร พรากเด็กยังไม่เกินอายุ ๑๕ ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าโรงแรมศรีรัตน์ ถนนสุรนารี เขตเทศบาล นครราชสีมา พร้อมยึดของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ๑เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ ๑ เครื่อง สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับการร้องเรี ยนจากครูอาจารย์และ ผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิงอายุระหว่าง ๑๒ - ๑๕ ปี หลายรายว่า บุตรสาวได้เล่นเฟซบุ๊กทางอินเตอร์เน็ต และถูกผูช้ายล่อลวงไปข่มขืน ก่อนถ่ายวิดีโอไวแ้บล็กเมลขู่บงัคบั ให้ไปหลบันอนดว้ยอีกหลายคร้ัง ทา ให้ เหยื่อนักเรียนสาวไม่อยากไปโรงเรียนจนมีอาการซึมเศร้า หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ต ารวจได้ตรวจสอบพบว่า คนร้ายไดใ้ช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “แคน สีดา” และ “นักรบแดนใต้” ก่อนทราบชื่อว่า นายวิมล ศรีดา ซ่ึงเคยมี ประวัติจ าคุกในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ที่ศาลจังหวัดพิจิตร และมีหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรีในข้อหาลักทรัพย์ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและรวบตัวได้ดังกล่าว สอบสวนนายวิมลให้การรับสารภาพว่า ไม่มีอาชีพอะไรเป็ นหลักแหล่ง ลักเล็กขโมยน้อยไปเรื่อย ก่อนอาศยัช่องทางเฟซบุ๊กติดต่อสื่อสารกับเด็กสาววัยรุ่น แล้วโทรศัพท์นัดพบตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับ กระท าการล่วงละเมิดทางเพศแล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้แบล็กเมล หากเด็กไม่ยอมมาพบก็จะขู่เอาคลิปดังกล่าวไป เผยแพร่ประจานโดยทา มาแล้วหลายรายอย่างไรก็ตามในช้ันสอบสวนของตา รวจมีเด็กนักเรียนหญิง


ผู้เสียหายมาช้ีตวัผูต้อ้งหาแลว้๓ ราย ท้งัหมดเรียนอยชู่้นัม.๑ และ ม.๒ และหน่ึงในผูเ้สียหายถูกนายวิมลถ่าย คลิปไว้ข่มขู่ด้วย ดา้นนายชวน ศิรินันท์พรผูว้่าราชการจงัหวดันครราชสีมากล่าวว่าคดีน้ีถือว่าเป็นเรื่องส าคญัที่เกิด จากอันตรายการใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะเฟซบุ๊กที่ก าลังเป็ นที่นิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ แต่กลบัมีคนนา มาใช้ล่อลวงเด็กหญิงไปทา มิดีมิร้าย บางรายถูกเรียกเอาทรัพยส์ ินดว้ยเท่าที่ทราบเบ้ืองตน้มี ผู้เสียหายมาแจ้งไว้ ๓ ราย แต่ต ารวจเชื่อว่ายังมีเด็กตกเป็ นเหยื่ออีกหลายรายที่ยังไม่กล้ามาแจ้งความ ขณะน้ี อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลต่อไป ที ่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔. (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ช้นั ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม ๒ ความร่วมมือกันท างาน ๓ การแสดงความคิดเห็น ๔ การรับฟังความคิดเห็น ๕ ความมีน้า ใจช่วยเหลือกนั รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต ่ากว่า ๑๐ ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรม การท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต ่ากว่า ๑๐ ปรับปรุง ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความตั้งใจใน การท างาน ความ รับผิดชอบ การตรงต่อ เวลา ความสะอาด เรียบร้อย ผลส าเร็จของ งาน รวม ๒๐ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน


บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่๔ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................


ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนา ไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส)


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง มีดีน าเสนอ จ านวน ๑๒ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ความคิดเห็น หรือโต้แย้งสื่อ จ านวน ๓ ชวั่โมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๓/๗ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งในเรื่องต่าง ๆ ๒. สาระส าคัญ การศึกษาบทโฆษณา ต้องสามารถเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งบท โฆษณาได้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ - มีความรู้ความเข้าใจหลักการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น และโต้แย้ง ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งในเรื่องต่าง ๆ ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑.ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒.ความสามารถในการคิด ๔.๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้แกนกลาง - เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งจากสื่อต่างๆ เช่น (๑) บทความ (๒) บทความทางวิชาการ ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๖.๑. ครูน าตัวอย่างโฆษณาสินค้าต่าง ๆจากหนังสือพิมพ์มาให้นักเรียนดู ๖.๒. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเขียนตวัอยา่งโฆษณาจากน้นัครูซกัถามนกัเรียนเพื่อทบทวน ความรู้เรื่อง การเขียนโฆษณาที่นักเรียนเคยเรียนไปแล้ว ๖.๓. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๓ คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษา ความรู้เรื่อง การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็นหรือโต้แย้ง จากหนังสือเรียน ๖.๔. ครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมาอธิบายหลักการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น และ โต้แย้ง ๖.๕. นักเรียนร่วมกันอภิปรายความรู้เรื่อง หลักการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น และโต้แย้งที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า ๖.๖. นักเรียนแต่ละคนท าใบงานที่ ๕.๑ เรื่อง การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้งบทโฆษณา เมื่อท า ใบงานเสร็จแล้วให้น าส่งครู ๖.๗.ครูตรวจใบงานที่๕.๑ พร้อมท้งัให้ขอ้เสนอแนะกบันกัเรียนเป็นรายบุคคล ๖.๘. ครูมอบหมายให้นักเรียนหาบทความทางวิชาการมาคนละ ๑ บทความ แล้วน ามาเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้ง ๖.๙. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร ๒ ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ นักเรียนรู้และเข้าใจหลักการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความคิดเห็น และโต้แย้ง หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็นหรือ โต้แย้งในเรื่องต่าง ๆ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถน าความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน


เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความ คิดเห็นหรือโต้แย้งในเรื่องต่าง ๆ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินยั ใฝ่เรียนรู้มุ่งมนั่ในการทา งาน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็ นต้น) ๘.๑. หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๓ ๘.๒. ตัวอย่างโฆษณาสินค้า ๘.๓. ใบงานที่ ๕.๑ เรื่อง การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้งบทโฆษณา ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็ นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) - มีความรู้ความเข้าใจ หลักการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ ความ คิดเห็น และโต้แย้ง - ตรวจแบบทดสอบหลัง เรียน การเขียนเพื่อการ สื่อสาร ๒ - ตรวจใบงานที่ ๕.๑ -แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การเขียนเพื่อการ สื่อสาร ๒ - ใบงานที่ ๕.๑ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ P) - เขียนวิเคราะห์วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความ คิดเห็น หรือโต้แย้งในเรื่อง ต่าง ๆ - ตรวจใบงานที่ ๕.๑ - สังเกตพฤติกรรมการ ท างานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรมการ ท างานรายบุคคล - ตรวจการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้ง บทความทางวิชาการ - ใบงานที่ ๕.๑ -แบบสังเกตพฤติกรรม การท างานรายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม การท างานรายบุคคล -แบบประเมินการเขียน วิเคราะห์ วิจารณ์ และ โต้แย้งบทความทาง วิชาการ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ -ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์


(A) - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน สังเกตความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัยใฝ่ เรียนรู้มุ่งมนั่ใน การท างาน แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย ) .........../.............../..................


เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่างโฆษณาสินค้า


ใบงานที่ ๕.๑เรื่อง การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้งบทโฆษณา ค าชี้แจงให้นกัเรียนอ่านบทโฆษณาต่อไปน้ีแลว้เขียนวิเคราะห์วิจารณ์และโตแ้ยง้ให้ถูกตอ้ง ตามหลักการเขียน


ใบงานที่ ๕.๑เรื่อง การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้งบทโฆษณา ค าชี้แจงให้นกัเรียนอ่านบทโฆษณาต่อไปน้ีแลว้เขียนวิเคราะห์วิจารณ์และโต้แย้งให้ถูกต้อง ตามหลักการเขียน (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) เฉลย


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ช้นั ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม ๒ ความร่วมมือกันท างาน ๓ การแสดงความคิดเห็น ๔ การรับฟังความคิดเห็น ๕ ความมีน้า ใจช่วยเหลือกนั รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต ่ากว่า ๑๐ ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต ่ากว่า ๑๐ ปรับปรุง ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความตั้งใจใน การท างาน ความ รับผิดชอบ การตรงต่อ เวลา ความสะอาด เรียบร้อย ผลส าเร็จของ งาน รวม ๒๐ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน


การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และโต้แย้งบทความทางวิชาการ ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ ถูกต้องตามหลักการเขียน ๒ มีความรู้ที่เป็ นประโยชน์ ๓ มีความคิดเห็นที่เป็ นประโยชน์ ๔ ใช้ภาษาเข้าใจง่าย รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๔ ดี = ๓ พอใช้ = ๒ ปรับปรุง = ๑ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๔ – ๑๖ ดีมาก ๑๑ – ๑๓ ดี ๘ – ๑๐ พอใช้ ต ่ากว่า ๘ ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑.๑ ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของเพลง ชาติ ๑.๒ ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี ๑.๓ ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการท ากิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียนและชุมชน ๑.๔ เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่นชมความเป็ นชาติ ไทย ๑.๕ เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนาอย่าง สม ่าเสมอ เป็ นแบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน ๑.๖ เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พระมหากษตัริยต์ามที่โรงเรียนและชุมชนจดัข้ึน ชื่นชมในพระราชกรณียกิจพระ ปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ ๒. ซื่อสัตย์ สุจริต ๒.๑ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็ นจริง ๒.๒ ปฏิบตัิในสิ่งที่ถูกตอ้งละอายและเกรงกลวัที่จะกระทา ความผิด ทา ตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็ นแบบอย่างที่ดีด้าน ความซื่อสัตย์ ๒.๓ ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและ เป็ นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ ๓. มีวินัย รับผิดชอบ ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน และรับผิดชอบในการท างาน ๔. ใฝ่ เรียนรู้ ๔.๑ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็ นระบบ ๔.๓ สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๕.๑ ใชท้รัพยส์ ินของตนเอง เช่น สิ่งของเครื่องใช้ฯลฯ อย่างประหยดัคุม้ค่าและ เก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี ๕.๓ ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล ๕.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ท าให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่นกระท า ผิดพลาด


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ต่อ) ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๕.๕ วางแผนการเรียน การท างานและการใช้ชีวิตประจ าวันบน พ้ืนฐานของความรู้ขอ้มูลข่าวสาร ๕.๖ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ๖. มุ่งมั่นในการท างาน ๖.๑ มีความต้งัใจและพยายามในการทา งานที่ไดร้ับมอบหมาย ๖.๒ มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานส าเร็จ ๗. รักความเป็ นไทย ๗.๑ มีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ๗.๒ เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘. มีจิตสาธารณะ ๘.๑ รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท างาน ๘.๒ อาสาทา งาน ช่วยคิด ช่วยทา แบ่งปันสิ่งของและช่วยแกป้ ัญหา ให้ผู้อื่น ๘.๓ ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน ๘.๔ เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน และชุมชน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน


บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไว้คิดเป็ นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................


ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนา ไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส)


Click to View FlipBook Version