บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่๕ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนา ไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส)
หน ่ วยการเร ี ยนร ้ ู ท ี ่ ๓ พิชิตหลักภาษา (จ านวน ๘ ชั่วโมง)
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง พิชิตหลักภาษา จ านวน ๘ ชวั่โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การแต่งโคลงสี่สุภาพ จ านวน ๓ ชวั่โมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๓/๖ แต่งบทร้อยกรอง ๒. สาระส าคัญ โคลงเป็ นรูปแบบของบทร้อยกรองประเภทหนึ่งที่บังคับคณะ สัมผัส ค าเอก ค าโท เป็ นบทร้อยกรอง เก่าแก่ของไทย ปรากฏคร้ังแรกในสมยัสมเด็จพระรามาธิบดีที่๑ (พระเจา้อู่ท่อง) ในลิลิตโองการแช่งน้า วรรณคดีเล่มแรกของไทยในสมยักรุงศรีอยุธยา ดงัน้นัการแต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพต้องรู้หลักใน การแต่ง จึงจะสามารถแต่งได้ไพเราะ และสละสลวย ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ -อธิบายหลักการแต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพได้ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - แต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพได้ ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑.ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒.ความสามารถในการคิด ๔.๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้แกนกลาง -โคลงสี่สุภาพ ๕.๒. สาระการเรียนรู้ทอ้งถิ่น -แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๖.๑. นกัเรียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง หลักการแต่งโคลงสี่สุภาพ ๖.๒.ครูนา ตวัอยา่งโคลงสี่สุภาพ มาติดบนกระดาษหนา้ช้นัเรียน นกัเรียนอ่านพร้อมกนัตามหลกัการ อ่านโคลงสี่สุภาพ จากน้นั ให้นกัเรียนร่วมกนัพิจารณาว่า ตวัอยา่งโคลงสี่สุภาพบทใดมีความไพเราะ พร้อม ร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้เหตุผลที่เป็ นข้อสรุป ๖.๓. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การแต่งบทร้อยกรอง ประเภทโคลงสี่สุภาพจากหนังสือเรียน ๖.๔. นักเรียนท าใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง หลักการแต่งโคลงสี่สุภาพ เสร็จแล้วน าใบงานส่งครู ๖.๕. นักเรียนร่วมกนัอภิปรายแนวทางในการแต่งโคลงสี่สุภาพ พร้อมท้งัสรุปหลกัการแต่งโคลงสี่ สุภาพ ครูสุ่มนกัเรียนตอบ พร้อมท้งัอธิบายเพิ่มเติม ๖.๖.ครูนา ตวัอยา่งโคลงสี่สุภาพ มาติดบนกระดานหนา้ช้นัเรียน จากน้นั ให้นกัเรียนร่วมกนัพิจารณาว่า ตัวอย่างโคลงสี่สุภาพดังกล่าวมีความถูกต้องตามหลักการแต่งโคลงสี่สุภาพหรือไม่ อย่างไร ๖.๗. นักเรียนร่วมกันสรุปลักษณะของโคลงสี่สุภาพที่ดี ๖.๘. ครูให้นักเรียนฝึ กแต่งโคลงสี่สุภาพตามตัวอย่าง และสังเกตการแต่งโคลงสี่สุภาพของนักเรียน ๖.๙. ครูให้นักเรียนฝึ กแต่งโคลงสี่สุภาพเอง โดยที่ไม่ต้องดูตัวอย่าง เป็นการฝึ กท าเอง ๖.๑๐. นักเรียนแต่ละคนน าผลงานการแต่งโคลงสี่สุภาพมาส่งครู เพื่อให้ครูเสนอแนะข้อบกพร่องใน การแต่ง และน าไปแก้ไขให้ถูกต้อง ๖.๑๑. ครูและนักเรียนร่วมกันคัดเลือกผลงานการแต่งโคลงสี่สุภาพที่ดีที่สุด ๕ ผลงาน เพื่อจัดป้ายนิเทศ หนา้ช้นัเรียน ๖.๑๒. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนแต่งโคลงสี่สุภาพที่เกี่ยวกับแหลงท่องเที่ยวของจังหวัด สุราษฎร์ธานีจา นวน ๒ บท โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กา หนด ดงัน้ี -ลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพ -การใช้ถ้อยค าภาษา -ความสัมพนัธ์ระหว่างหัวขอ้เรื่องกบัเน้ือหา -ความถูกต้องของการเขียนสะกดค า ๖.๑๓. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง หลักการแต่งโคลงสี่สุภาพ
๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถอธิบายหลักการแต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพ หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถแต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถน าความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการแต่งโคลงสี่สุภาพ เงื่อนไขคุณธรรม นกัเรียนใฝ่เรียนรู้มุ่งมนั่ในการทา งาน และรักความเป็นไทย เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็ นต้น) ๘.๑. หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๓ ๘.๒. ตัวอย่างโคลงสี่สุภาพ ๘.๓. ใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง หลักการแต่งโคลงสี่สุภาพ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็ นต้น) -
๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) -อธิบายหลักการแต่งบท ร้อยกรองประเภทโคลงสี่ สุภาพได้ - ตรวจแบบทดสอบก่อน เรียน เรื่อง หลักการแต่ง โคลงสี่สุภาพ - ตรวจแบบทดสอบหลัง เรียน เรื่อง หลักการแต่ง โคลงสี่สุภาพ - ตรวจใบงานที่ ๑.๑ -แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง หลักการแต่งโคลง สี่สุภาพ -แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง หลักการแต่งโคลง สี่สุภาพ - ใบงานที่ ๑.๑ - ประเมินตามสภาพจริง -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ P) -แต่งบทร้อยกรอง ประเภทโคลงสี่สุภาพได้ ตรวจการแต่งโคลงสี่สุภาพ เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี แบบประเมินการแต่ง โคลงสี่สุภาพเกี่ยวกับ แหล่งท่องเที่ยวของ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ (A) - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย สังเกตความ ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ในการทา งาน และรักความเป็ นไทย ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย ) .........../.............../..................
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่อง หลักการแต่งโคลงสี่สุภาพ ค าชี้แจง ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. บทร้อยกรองประเภทโคลง ปรากฏเป็นหลกัฐานคร้ังแรก ในวรรณคดีเรื่องใด ก. ไตรภูมิพระร่วง ข. กา สรวลโคลงด้นั ค. ลิลิตโองการแช่งน้า ง. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ๒. ข้อใดเป็ นลักษณะเฉพาะของโคลง ก. บังคับครุ ลหุ ข. บังคับเอก โท ค. บังคับจ านวนค า ง. บังคับวิธีเรียงค าเข้าคณะ ๓. ข้อใดไม่จัดเป็ นชนิดของโคลง จ. อินทรวิเชียร ฉ. บาทกุญชร ช. จัตวาทัณฑี ซ. ตรีพิธพรรณ ๔. โคลงสี่สุภาพ บทหนึ่งมีกี่บาท ก. ๒ บาท ข. ๔ บาท ค. ๖ บาท ง. ๘ บาท ๕. ในการแต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงอาจมีสรอ้ยคา เพมิ่ ได้ ในบาทใด ก. บาทที่ ๑ และบาทที่ ๓ ข. บาทที่ ๒ และบาทที่ ๓ ค. บาทที่ ๒ และบาทที่ ๔ ง. บาทที่ ๓ และบาทที่ ๔ ๖. “ค าคล้องจองกัน ช่วยให้ร้อยกรองมีท่วงท านองเสียงที่ร้ อย เรียงเกี่ยวเนื่องกัน”ขอ้ความน้ีกล่าวถึงลกัษณะบงัคบัใน ข้อใด ก. คณะ ข. สัมผัส ค. จังหวะ ง. ค าเอก ค าโท ๗. ข้อใดไม่ใช่ค าตาย ก. ปลา ข. เลข ค. ราก ง. เกาะ ๘. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะบังคับในโคลง ก. จังหวะ ข. สัมผัส ค. เสียงในบท ง. จ านวนค าในบท ๙. ข้อใดไม่จัดอยู่ในประเภทโคลง ก. โคลงด้นั ข. โคลงสุภาพ ค. โคลงโบราณ ง. โคลงสุภาษิต ๑๐. โคลงในข้อใดที่ไทยเราแปลงมาจากกาพย์ในภาษาบาลี ก. โคลงด้นั ข. โคลงสุภาพ ค. โคลงโบราณ ง. โคลงสุภาษิต
๑๑. รัชสมัยใด จัดเป็ นยุคทองของบทร้อยกรองประเภทโคลง ก. สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ข. สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ค. สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ง. สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ๑๒.“แหนหนั่นหนองมองจ้อง จึ่งแจ้งใจจริงบารมี”ขอ้ความน้ี เน้นสัมผัสชนิดใด ก. สัมผัสคู่ ข. สัมผัสชิด ค. สัมผสัคนั่ ง. สัมผัสจังหวะ ๑๓.ลีลาของโคลงสี่สุภาพ มีลักษณะอย่างไร ก. ลีลาออ่นโยนพลิ้วไหว ข. ลีลาคึกคักคะนองว่องไว ค. ลีลากระฉับกระเฉงรวดเร็ว ง. ลีลาเนิบนาบ แต่มีท่วงท่าสง่างาม ๑๔.ข้อใดเป็ นการก าหนดบังคับโทในการแต่งโคลงสี่สุภาพ ก. เอก ๔โท ๔ ข. เอก ๔ โท ๗ ค. เอก ๗ โท ๔ ง. เอก ๗ โท ๗ ๑๕.โคลงในวรรณคดีเรื่องใดที่ได้รับการยกย่องให้เป็ นโคลงครู ส าหรับการแต่งโคลง ก. จินดามณี ข. ลิลิตพระลอ ค. นิราศสุพรรณ ง. โคลงทวาทศมาส ๑. ค ๒. ข ๓. ก ๔. ข ๕. ง ๖. ข ๗. ก ๘. ง ๙. ง ๑๐. ค ๑๑. ก ๑๒. ข ๑๓. ง ๑๔. ค ๑๕. ข
เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่างโคลงสี่สุภาพ จากมามาลิ่วล้า ล าบาง บางยี่เรือราพลาง พี่พร้อง เรือแขวงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา บางบ่รับค าคล้อง คล่าวน้า ตาคลอ (นิราศนรินทร์ ) ฉัตรแก้วร่มเกศเกล้า นรากร พระเมตตาอาทร พสกถ้วน ภัยอุทกทุกข์ราษฎร ทรงห่วง – ใยแฮ พระราชทานอนุเคราะห์ล้วน เลิศล้า พระการุณย์ (คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ) สาวสนมสนองนาถไท้ ทูลสาร พระจักจรจากสถาน ถิ่นทา้ว เสด็จแดนทุรกันดาร ใดราช เสนอนา ฤๅพระรานเสน่ห์ร้าว ด่วนร้างแรมไฉน (ลิลิตตะเลงพ่าย)
เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่างโคลงสี่สุภาพ เสียงฦๅเสียงเล่าอ้าง อันใด (พี่เอย) เสียงย่อมยอยศใคร ทวั่หลา้ สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น (ฤๅพี่) สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ (ลิลิตพระลอ)
ใบงานที่ ๑.๑เรื่อง หลักการแต่งโคลงสี่สุภาพ ค าชี้แจงให้นักเรียนตอบค าถามให้ถูกต้อง ๑. บทร้อยกรองประเภทโคลง มีลักษณะอย่างไร ๒. คณะของโคลงสี่สุภาพ มีลักษณะอย่างไร ๓. โคลงสี่สุภาพ มีสัมผัสบังคับอย่างไร ๔. โคลงสี่สุภาพ บังคับค าเอก ค าโท ไว้อย่างไร พร้อมเขียนแผนผังประกอบ
ใบงานที่ ๑.๑เรื่อง หลักการแต่งโคลงสี่สุภาพ ค าชี้แจงให้นักเรียนตอบค าถามให้ถูกต้อง ๑. บทร้อยกรองประเภทโคลง มีลักษณะอย่างไร โคลง เป็ นบทร้ อยกรองประเภทหนึ่งที่บังคับคณะ สัมผัส และค าเอก ค าโท ๒. คณะของโคลงสี่สุภาพ มีลักษณะอย่างไร โคลงสี่สุภาพหนึ่งบทมี ๔ บาท บาทหนึ่งมี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ ค า วรรคหลังมี ๒ ค า ยกเว้น บาทที่ ๔ วรรคหลังมี ๔ ค า ซึ่งวรรคหลังของบาทที่ ๑ และ บาทที่ ๓ อาจเพิ่มค าสร้ อยได้อีกบาทละ ๒ ค า ๓. โคลงสี่สุภาพ มีสัมผัสบังคับอย่างไร สัมผัสบังคับในโคลงสี่สุภาพ เป็ นสัมผัสสระ ก าหนดไว้ ดังนี้ ๑) ค าที่ ๗ ของวรรคที่ ๑ ส่งสัมผัสไปยังค าที่ ๕ ของบาทที่ ๒ และบาทที่ ๓ ๒) ค าที่ ๗ ของบาทที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังค าที่ ๕ ของบาทที่ ๔ ๔. โคลงสี่สุภาพ บังคับค าเอก ค าโท ไว้อย่างไร พร้อมเขียนแผนผังประกอบ บังคับค าที่ต้องเป็ นค าเอกไว้ ๗ แห่ง ค าที่ต้องเป็ นค าโท ไว้ ๔ แห่ง ดังนี้ เฉลย
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการแต่งโคลงสี่สุภาพเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ ลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพ ๒ การใช้ถ้อยค าภาษา ๓ ความสัมพนัธ์ระหว่างหัวขอ้เรื่องกบัเน้ือหา ๔ ความถูกต้องของการเขียนสะกดค า รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๔ ดี = ๓ พอใช้ = ๒ ปรับปรุง = ๑ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๔ – ๑๖ ดีมาก ๑๑ – ๑๓ ดี ๘ – ๑๐ พอใช้ ต ่ากว่า ๘ ปรับปรุง
บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่๑ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนา ไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส)
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง พิชิตหลักภาษา จ านวน ๘ ชวั่โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง ค าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย จ านวน ๓ ชวั่โมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๓/๑ จ าแนก และใช้ค าภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ๒. สาระส าคัญ การศึกษาเรื่องการใช้ค าในภาษาไทย จะต้องจ าแนกและใช้ค าภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยให้ ถูกต้อง ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ -จ าแนก และใช้ค าภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยได้ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - กระบวนการท างานกลุ่ม ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑.ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒.ความสามารถในการคิด ๔.๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้แกนกลาง -ค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ
๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๖.๑. นกัเรียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ ๖.๒.ครูให้นกัเรียนช่วยกนัยกตวัอยา่งป้ายชื่อร้านคา้ในทอ้งถิ่นของนกัเรียน แลว้ให้ร่วมกนัวิเคราะห์ ที่มาของภาษาที่ต้งัชื่อร้านคา้ ๖.๓. ครูแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้แต่ละคนภายในกลุ่ม ก าหนดหมายเลขประจ าตัว เป็ นหมายเลข ๑ – ๕ ซึ่งเรียกว่า กลุ่มบ้าน ๖.๔. ครูให้สมาชิกที่มีหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็ นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ แล้วให้แต่ละ กลุ่มศึกษาความรู้เรื่องคา ภาษาต่างประเทศในภาษาไทยจากหนงัสือเรียน ดงัน้ี -กลุ่มหมายเลข ๑ ศึกษาเรื่อง ค าที่ยืมมาจากภาษาบาลีสันสกฤต -กลุ่มหมายเลข ๒ ศึกษาเรื่อง ค าที่ยืมมาจากภาษาเขมร -กลุ่มหมายเลข ๓ ศึกษาเรื่อง ค าที่ยืมมาจากภาษาจีน -กลุ่มหมายเลข ๔ ศึกษาเรื่อง ค าที่ยืมมาจากภาษาชวา มลายู -กลุ่มหมายเลข ๕ ศึกษาเรื่อง ค าที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ ๖.๕. เมื่อนักเรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญศึกษาความรู้จนมีความเข้าใจแล้ว ให้แยกย้ายกันกลับไปยังกลุ่มบ้าน จากน้นัผลดักนัอธิบายความรู้ตามที่ตนไดศ้ึกษามาให้สมาชิกในกลุ่มบา้นฟังจนสมาชิกทุกคนในกลุ่มบา้นมี ความเข้าใจในเรื่องค าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ๖.๖. นักเรียนแต่ละคนท าใบงานที่ ๒.๑ เรื่อง ค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ เสร็จแล้วน าส่งครูตรวจ ๖.๗. นกัเรียนร่วมกนัสรุปความรู้เรื่องคา ภาษาต่างประเทศในภาษาไทยครูอธิบายเพิ่มเติม ๖.๘. ครูมอบหมายให้นักเรียนท าสมุดเล่มเล็ก เรื่อง ค าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย เป็ นรายบุคคล ๖.๙. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ
๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถจ าแนก และใช้ค าภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถท างานร่วมกับผู้อื่น หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถน าความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ เงื่อนไขคุณธรรม นักเรียนมีวินัย ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ในการทา งาน และรักความเป็นไทย เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็ นต้น) ๘.๑. หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๓ ๘.๒. ใบงานที่ ๒.๑ เรื่อง ค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็ นต้น) ๙.๑. ห้องสมุด ๙.๒. อินเตอร์เน็ต
๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) -จ าแนก และใช้ค า ภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน ภาษาไทยได้ - ตรวจแบบทดสอบก่อน เรียน เรื่อง ค าที่มาจาก ภาษาต่างประเทศ - ตรวจแบบทดสอบหลัง เรียน เรื่อง ค าที่มาจาก ภาษาต่างประเทศ - ตรวจใบงานที่ ๒.๑ -แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ค าที่มาจาก ภาษาต่างประเทศ -แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ค าที่มาจาก ภาษาต่างประเทศ - ใบงานที่ ๒.๑ - ประเมินตามสภาพจริง -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ P) –กระบวนการท างานกลุ่ม สังเกตพฤติกรรมการ ท างานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรม การท างานกลุ่ม ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ (A) – มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย สังเกตความมีวินัย ใฝ่ เรียนรู้มุ่งมนั่ในการทา งาน และรักความเป็ นไทย ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย ) .........../.............../..................
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่อง ค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ ค าชี้แจง ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. ค าที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกิน มักจะยืมมาจากภาษาใด ก. ภาษาจีน ข. ภาษาเขมร ค. ภาษาอังกฤษ ง. ภาษาชวา-มลายู ๒.ค าว่า “เมตตา วิญญาณ” ยืมมาจากภาษาใด ก. เขมร ข. บาลี ค. ชวา ง. สันสกฤต ๓.ค าในข้อใดยืมมาจากภาษาสันสกฤตทุกค า ฌ. กีฬา บรรทัด พรรณนา ญ. กรีฑา อัชฌาสัย สมุทร ฎ. ศิษย์ พฤกษา เคราะห์ ฏ. พาณิชย์ มัธยมศึกษา ปราชญ์ ๔. ค าในข้อใดเป็ นค าภาษาเขมร ก. เพลิง ข. เพชร ค. มรกต ง. บูรณะ ๕.ข้อใดเป็ นลักษณะของค าภาษาจีนที่ใช้ในภาษาไทย ก. ส่วนใหญ่เป็ นเสียงสามัญ ข. ไม่มีตัวสะกดแต่นิยมผสมด้วยสระเสียงยาว ค. พยัญชนะต้นเป็ นอักษรกลางมากกว่าอักษรอื่น ง. ส่วนใหญ่เป็ นค าพยางค์เดียวไทยน ามาสร้างค าใหม่ เป็ นค าประสม ๖. ค าภาษาชวาเข้ามาในภาษาไทยพร้อมกับวรรณคดีเรื่อง ใด ก. รามเกียรติ์ ข. ระเด่นลันได ค. ลิลิตเพชรมงกุฎ ง. ดาหลังและอิเหนา ๗.ข้อใดเป็ นลักษณะเด่นของภาษาชวา-มลายู ก. เป็ นค าโดด ข. ใช้รูปวรรณยุกต์เอกโท ค. ไม่มีเสียงพยญัชนะควบกล้า ง. เป็ นค าที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณี ๘. คา ยืมที่มาจากภาษาองักฤษเริ่มเขา้มาในสมยัใด ก. รัชกาลที่๑ ข. รัชกาลที่๒ ค. รัชกาลที่๓-๔ ง. รัชกาลที่๔-๖ ๑. ก ๒. ข ๓. ค ๔. ก ๕. ค ๖. ง ๗. ค ๘. ง
ใบงานที่ ๒.๑เรื่องค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ ตอนที่ ๑ ค าชี้แจงให้นักเรียนเขียนตัวอย่างค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ ภาษาละ ๑๐ ค า ลงในตาราง ค าที่มาจาก ตัวอย่างค าศัพท์ ภาษาบาลี-สันสกฤต ภาษาเขมร ภาษาจีน ภาษาชวา-มลายู ภาษาอังกฤษ ตอนที่ ๒ ค าชี้แจงให้นักเรียนตอบค าถาม ๑. ค าที่มาจากภาษาเขมร มีหลักการสังเกตอย่างไร ๒. ภาษาบาลี-สันสกฤตเข้ามาในภาษาไทยได้อย่างไร
๓. ภาษาจีนที่น ามาใช้ในภาษาไทย มีลักษณะอย่างไร ๔. ภาษาชวา-มลายู เข้ามาในภาษาไทยในสมัยใด พร้อมกับวรรณคดีเรื่องใด ๕.ค าที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ในภาษาไทย มีข้อสังเกตอย่างไร
ใบงานที่ ๒.๑เรื่องค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ ตอนที่ ๑ ค าชี้แจงให้นักเรียนเขียนตัวอย่างค าที่มาจากภาษาต่างประเทศ ภาษาละ ๑๐ ค า ลงในตาราง ค าที่มาจาก ตัวอย่างค าศัพท์ ภาษาบาลี-สันสกฤต ภาษาเขมร ภาษาจีน ภาษาชวา-มลายู ภาษาอังกฤษ (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ตอนที่ ๒ ค าชี้แจงให้นักเรียนตอบค าถาม ๑. ค าที่มาจากภาษาเขมร มีหลักการสังเกตอย่างไร ค าที่มาจากภาษาเขมรมีหลักการสังเกต ดังนี้ ๑) มักเป็ นภาษาค าโดด ๒) มีลักษณะการสะกดไม่ตรงกับภาษาไทย ๓) เป็ นค าที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์ ๔) เป็ นค าแผลง ๕) มักน ามาใช้เป็ นค าราชาศัพท์ ๒. ภาษาบาลีสัน-สกฤตเข้ามาในภาษาไทยได้อย่างไร ภาษาบาลี-สันสกฤตเข้ามาพร้ อมกับการเข้ามาค้าขายของชาวอินเดีย นอกจากจะน าสินค้ามาขายแล้ว พ่อค้าชาวอินเดียยังได้น าศาสนาและวัฒนธรรมเข้ามาด้วย ภาษาบาลีเป็ นภาษาที่ใช้ในพระพุทธศาสนา ภาษา สันสกฤตเป็ นภาษาที่ใช้ในศาสนาพราหมณ์จึงเข้ามาในภาษาไทยด้วย เฉลย
๓. ภาษาจีนที่น ามาใช้ในภาษาไทย มีลักษณะอย่างไร ภาษาจีนในภาษาไทยมีลักษณะ ดังนี้ ๑) เป็ นค าที่มีเสียงวรรณยุกต์ตรีหรือจัตวา ๒) เป็ นค าที่ผสมด้วยสระเสียงสั้น เอียะ และ อัวะ ๓) เป็ นค าที่มีพยัญชนะต้นเป็ นอักษรกลางมากกว่าพยัญชนะต้นอื่นๆ ๔. ภาษาชวา-มลายู เข้ามาในภาษาไทยในสมัยใด พร้อมกับวรรณคดีเรื่องใด ภาษาชวา-มลายู เข้ามาในภาษาไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พร้ อมกับวรรณคดีเรื่องดาหลัง และอิเหนา ๕.ค าที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ในภาษาไทย มีข้อสังเกตอย่างไร ค าที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ในภาษาไทยมีข้อสังเกต ดังนี้ ๑) เป็ นค าที่มีหลายพยางค์ ๒) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปไวยากรณ์ ๓) มีเสียงพยัญชนะที่ไม่มีระบบเสียงในภาษาไทย
แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ช้นั ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม ๒ ความร่วมมือกันท างาน ๓ การแสดงความคิดเห็น ๔ การรับฟังความคิดเห็น ๕ ความมีน้า ใจช่วยเหลือกนั รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต ่ากว่า ๑๐ ปรับปรุง
บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่๒ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนา ไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส)
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง พิชิตหลักภาษา จ านวน ๘ ชวั่โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง ระดับภาษา จ านวน ๒ ชวั่โมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๔.๑ ม.๓/๓ วิเคราะห์ระดับภาษา ๒. สาระส าคัญ การศึกษาหลักภาษาต้องสามารถวิเคราะห์ระดับภาษา เพื่อให้สามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ถูกต้อง และเหมาะสม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ -จ าแนกระดับของภาษาที่ใช้ในการสื่อสารได้ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - วิเคราะห์ระดับภาษาไทยได้ ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑.ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒.ความสามารถในการคิด ๔.๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้แกนกลาง -ระดับภาษา
๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๖.๑. นกัเรียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การวิเคราะห์ภาษา ๖.๒. ครูให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างค าที่มีความหมายว่า “กิน” แล้วให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่า ค า เหล่าน้นั ใชก้บั ใครอยา่งไร ๖.๓. ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่า ภาษาไทยเป็ นภาษาที่มีระดับค าที่มีความหมายเดียวกัน แต่ใช้ ต่างกนัตามระดบัช้นัของบุคคล ๖.๔. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ระดับภาษา จากหนังสือเรียน ๖.๕.ครูต้งัประเด็นคา ถามให้นกัเรียนร่วมกนัวิเคราะห์เพื่อสรุปเน้ือหาเรื่องระดบัภาษา ๖.๖. นักเรียนท าใบงานที่ ๓.๑ เรื่องการวิเคราะห์ระดบัภาษาครูสุ่มนกัเรียนออกมานา เสนอหนา้ช้นั ๖.๗. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ระดับภาษา พร้อมท้งับอกแนวทางในการเลือกใชภ้าษา ในการสื่อสารให้ถูกต้องเหมาะสมกับระดับภาษา ๖.๘. ครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนเรียงความ เรื่อง ประเพณีไทย โดยใช้ภาษาให้ถูกต้องตามระดับ ภาษา โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่ก าหนด ๖.๙. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การวิเคราะห์ภาษา ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถจ าแนกระดับของภาษาที่ใช้ในการสื่อสารได้ หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถวิเคราะห์ระดับภาษาได้ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถน าความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับระดับภาษา เงื่อนไขคุณธรรม นกัเรียนมีวินยั ใฝ่เรียนรู้มุ่งมนั่ในการทา งาน และรักความเป็นไทย เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ม วัฒนธรรม
๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็ นต้น) ๘.๑. หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๓ ๘.๒. ใบงานที่ ๓.๑ เรื่อง การวิเคราะห์ระดับภาษา ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็ นต้น) - ๑๐. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) -จ าแนกระดับของภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารได้ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การวิเคราะห์ภาษา - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การวิเคราะห์ภาษา - ตรวจใบงานที่ ๓.๑ -แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การวิเคราะห์ภาษา -แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การวิเคราะห์ภาษา - ตรวจใบงานที่ ๓.๑ - ประเมินตามสภาพจริง -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ P) –วิเคราะห์ระดับ ภาษาไทยได้ ตรวจการเขียนเรียงความ เรื่อง ประเพณีไทย แบบประเมินการเขียน เรียงความ เรื่อง ประเพณี ไทย ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ (A) – มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย สังเกตความมีวินัย ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ในการทา งาน และรักความเป็ นไทย แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย ) .........../.............../..................
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่อง การวิเคราะห์ภาษา ค าชี้แจง ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของภาษาไม่เป็ นแบบแผน ก. ผู้ใช้ไม่เคร่งครัดในไวยากรณ์ ข. ใช้พูดในชีวิตประจ าวันกับผู้คุ้นเคย ค. มีค าภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปน ง. ใช้เฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีอาชีพเดียวกัน ๒. การเขียนในข้อใดไม่ใช้ภาษากึ่งแบบแผน ก. การเขียนข่าว ข. การเขียนบันทึก ค. การเขียนจดหมาย ง. การเขียนหนังสือราชการ ๓. ค าราชาศัพท์ในข้อใดใช้ไม่ถูกต้อง ก. พระราชอ านาจ ข. พระราชประสงค์ ค. พระราชบุตรเขย ง. พระราชปรารภ ๔. สรรพนามบุรุษที่ ๒ ที่ใช้ในการพูดกับสมเด็จพระราชาคณะ คือข้อใด ก. พระคุณเจ้า ข. ท่านเจ้าประคุณ ค. ท่านพระเดชพระคุณเจ้า ง. พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ ๕. ของถวายพระ เรียกว่าอย่างไร ก. เครื่องไทยธรรม ข. เครื่องไทยทาน ค. เครื่องอัฐบริขาร ง. เครื่องปัจจัยไทยทาน ๖. ค าสุภาพใช้กับใคร ก. บุคคลทวั่ ไป ข. บุคคลช้นันา ในสังคม ค. บุคคลซึ่งเป็ นที่เคารพนับถือ ง. บุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็ นคนดี ๗. ข้อใดใช้ภาษาในระดับเดียวกันกับการเขียนบทสุนทรพจน์ ในงานพิธีของทางราชการ ก. ประกาศขององค์กรเอกชน ข. แถลงการณ์ส านักพระราชวัง ค. งานเขียนที่มีเน้ือหาให้ความรู้ทวั่ ไป ง. การแสดงความคิดเห็นทางวิชาการเกี่ยวกับการด าเนิน ชีวิต ๑. ง ๒. ง ๓. ค ๔. ข ๕. ก ๖. ก ๗. ข
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการเขียนเรียงความ เรื่อง ประเพณีไทย ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ การวิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อน ๒ การวิเคราะห์ระดับภาษา ๓ หลักการเขียนเรียงความ ๔ การใช้ภาษาในการเขียนเรียงความ รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๔ ดี = ๓ พอใช้ = ๒ ปรับปรุง = ๑ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๔ – ๑๖ ดีมาก ๑๑ – ๑๓ ดี ๘ – ๑๐ พอใช้ ต ่ากว่า ๘ ปรับปรุง
ใบงานที่ ๓.๑เรื่อง การวิเคราะห์ระดับภาษา ค าชี้แจงให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามที่ก าหนด ๑. ให้นักเรียนแต่งประโยคเพื่อสื่อสารในแต่ละระดับให้ถูกต้อง โดยให้มีใจความเดียวกัน ภาษาแบบแผน ภาษากึ่งแบบแผน ภาษาไม่เป็ นแบบแผน ๒. ให้นักเรียนเปลี่ยนค าศัพท์ที่ก าหนดให้เป็ นค าศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแต่ใช้ในระดับอื่น ราชาศัพท์ ศัพท์ส าหรับพระสงฆ์ ค าสุภาพ อาหาร บรรทม จ าวัด พระราชสาส์น ลิขิต ทรงเครื่องใหญ่ พระราชวัง บ้าน ๓. ถ้านักเรียนต้องการกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ต้องใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ และบุรุษที่ ๒ ว่าอย่างไร ๔. ให้นักเรียนเปลี่ยนค าจากภาษาพูด ให้เป็ นค าสุภาพที่ใช้ในภาษาเขียน ภาษาพูด ภาษาเขียน หัว โจร ลูกชาย พ่อ ท ามาหากิน
ใบงานที่ ๓.๑เรื่อง การวิเคราะห์ระดับภาษา ค าชี้แจงให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามที่ก าหนด ๑. ให้นักเรียนแต่งประโยคเพื่อสื่อสารในแต่ละระดับให้ถูกต้อง โดยให้มีใจความเดียวกัน (ตัวอย่าง) ภาษาแบบแผน กรุณาเปิ ดไฟ เพราะมืดมากแล้ว ภาษากึ่งแบบแผน เปิ ดไฟหน่อย มืดแล้วนะ ภาษาไม่เป็ นแบบแผน เปิ ดไฟหน่อย มืดจะตายไป (พิจารณาตามค าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ๒. ให้นักเรียนเปลี่ยนค าศัพท์ที่ก าหนดให้เป็ นค าศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแต่ใช้ในระดับอื่น ราชาศัพท์ ศัพท์ส าหรับพระสงฆ์ ค าสุภาพ เครื่องต้น จังหัน อาหาร บรรทม จ าวัด นอนหลับ พระราชสาส์น ลิขิต จดหมาย ทรงเครื่องใหญ่ ปลงผม ตัดผม พระราชวัง กุฏิ บ้าน ๓. ถ้านักเรียนต้องการกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ต้องใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ และบุรุษที่ ๒ ว่าอย่างไร จะต้องใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ ว่า ข้าพระพุทธเจ้า และใช้สรรพนามบุรุษที่ ๒ ว่า ใต้ฝ่ าละอองพระบาท ๔. ให้นักเรียนเปลี่ยนค าจากภาษาพูด ให้เป็ นค าสุภาพที่ใช้ในภาษาเขียน ภาษาพูด ภาษาเขียน หัว ศีรษะ โจร ขโมย ลูกชาย บุตรชาย พ่อ บิดา ท ามาหากิน ประกอบอาชีพ เฉลย
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑.๑ ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของเพลง ชาติ ๑.๒ ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี ๑.๓ ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการท ากิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียนและชุมชน ๑.๔ เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่นชมความเป็ นชาติ ไทย ๑.๕ เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนาอย่าง สม ่าเสมอ เป็ นแบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน ๑.๖ เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พระมหากษตัริยต์ามที่โรงเรียนและชุมชนจดัข้ึน ชื่นชมในพระราชกรณียกิจพระ ปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ ๒. ซื่อสัตย์ สุจริต ๒.๑ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็ นจริง ๒.๒ ปฏิบตัิในสิ่งที่ถูกตอ้งละอายและเกรงกลวัที่จะกระทา ความผิด ทา ตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็ นแบบอย่างที่ดีด้าน ความซื่อสัตย์ ๒.๓ ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและ เป็ นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ ๓. มีวินัย รับผิดชอบ ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน และรับผิดชอบในการท างาน ๔. ใฝ่ เรียนรู้ ๔.๑ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็ นระบบ ๔.๓ สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๕.๑ ใชท้รัพยส์ ินของตนเอง เช่น สิ่งของเครื่องใช้ฯลฯ อย่างประหยดัคุม้ค่าและ เก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม ๕.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี ๕.๓ ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล ๕.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ท าให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่นกระท า ผิดพลาด
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ต่อ) ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๕.๕ วางแผนการเรียน การท างานและการใช้ชีวิตประจ าวันบน พ้ืนฐานของความรู้ขอ้มูลข่าวสาร ๕.๖ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ๖. มุ่งมั่นในการท างาน ๖.๑ มีความต้งัใจและพยายามในการทา งานที่ไดร้ับมอบหมาย ๖.๒ มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานส าเร็จ ๗. รักความเป็ นไทย ๗.๑ มีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ๗.๒ เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย ๘. มีจิตสาธารณะ ๘.๑ รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูท างาน ๘.๒ อาสาทา งาน ช่วยคิด ช่วยทา แบ่งปันสิ่งของและช่วยแกป้ ัญหา ให้ผู้อื่น ๘.๓ ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน ๘.๔ เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน และชุมชน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน
บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไว้คิดเป็ นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ๑. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็ นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๓. เป็ นแผนการจัดการเรียนรู้ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนา ไปใช้ ๔. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอาภาพร เทพบรรจง) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส)
หน ่ วยการเร ี ยนร ้ ู ท ี ่ ๔ เจรจาพาที (จ านวน ๘ ชั่วโมง)
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง เจรจาพาที จ านวน ๘ ชวั่โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การพูดแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ฟังและดู จ านวน ๓ ชวั่โมง ************************************************************************************* ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๓/๑ แสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจากการฟังและการดู ม.๓/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๒. สาระส าคัญ การพูดแสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู ซึ่งจะต้องรู้หลักในการพูด และมี มารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ด้านความรู้ -แสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจากการฟังและการดูได้ ๓.๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ - พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อได้ ๓.๓. ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก - มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ๔.๑.ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒.ความสามารถในการคิด ๔.๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑. สาระการเรียนรู้แกนกลาง -การพูดแสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจากการฟังและการดู
- มารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๖.๑. นกัเรียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การพูดเรื่องจากสื่อที่ฟังและดู ๖.๒. นักเรียนดูวีดีทัศน์เกี่ยวกับการพูดวิเคราะห์ข่าวจากน้นัครูและนกัเรียนร่วมกนัแสดงความคดิเห็น เกี่ยวกับการพูดวิเคราะห์ข่าว ๖.๓. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การพูดแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ฟังและดู จากหนังสือเรียน ในประเด็น ที่ก าหนด -การพูดแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ฟังและดู - ตัวอย่างบทสนทนาธรรมระหว่าง พระไพศาล วิสาโล กับขวัญชาย ด ารงขวัญ -การพูดแสดงความคิดเห็น และประเมินค่าบทสนทนาธรรม - นักเรียนตอบค าถามกระตุ้นความคิด “หากนักเรียนต้องการพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อ นักเรียนจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ๖.๔. นักเรียนท าใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง หลักการพูดแสดงความคิดเห็น เสร็จแล้วน าส่งครูตรวจ ๖.๕. นักเรียนเลือกฟังสื่อตามความสนใจ แล้วเขียนบทพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อที่ฟังและดู แล้วประเมินคุณค่าที่ได้รับจากเรื่องที่ฟังและดู ๖.๖. นักเรียนพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อ ๖.๗. ครูประเมินผลการพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อของนักเรียน แล้วให้ ค าแนะน าในการแก้ไขปรับปรุงในกรณีที่นักเรียนมีข้อบกพร่อง ๗. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ) หลักความพอประมาณ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจากการฟังและการดู หลักมีเหตุผล นักเรียนสามารถพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดูจากสื่อ หลักสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถน าความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการพูดแสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจากการ ฟังและการดู และอธิบายมารยาทในการฟัง การดู และการพูด
เงื่อนไขคุณธรรม นกัเรียนมีวินยั ใฝ่เรียนรู้มุ่งมนั่ในการทา งาน และรักความเป็นไทย เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ม วัฒนธรรม ๘. สื่อการเรียนรู้ (หนังสือ / เอกสารประกอบการสอน / ใบงาน / ใบความรู้ เป็ นต้น) ๘.๑. หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๓ ๘.๒.วีดีทัศน์เกี่ยวกับการพูดวิเคราะห์ข่าว ๘.๓. สื่อตามความสนใจ ๘.๔. ใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง หลักการพูดแสดงความคิดเห็น ๙. แหล่งเรียนรู้ (สถานที่จริง / ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สถานประกอบการ / อินเตอร์เน็ต เป็ นต้น) - ๙. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัดและการ ประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ (K) -แสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจากการฟัง และการดูได้ - ตรวจแบบทดสอบก่อน เรียน เรื่อง การพูดเรื่องจาก สื่อที่ฟังและดู - ตรวจใบงานที่ ๑.๑ -แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การพูดเรื่องจากสื่อ ที่ฟังและดู - ใบงานที่ ๑.๑ - ประเมินตามสภาพจริง -ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ P) - พูดแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดูจาก สื่อได้ ประเมินการพูดแสดง ความคิดเห็น แบบประเมินการพูด แสดงความคิดเห็น ระดับคุณภาพ ๒ ผ่าน เกณฑ์ (A) - มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด - มีวินัย - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมนั่ในการทา งาน -รักความเป็ นไทย - สังเกตความมีมารยาทใน การฟัง การดู และการพูด มีวินัยใฝ่ เรียนรู้มุ่งมนั่ใน การท างาน และรักความเป็ นไทย ลงชื่อ ..................................................ครูผู้สอน ( นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย ) .........../.............../..................
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่อง การพูดเรื่องจากสื่อที่ฟังและดู ค าชี้แจง ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. บุคคลในข้อใดมีวิจารณญาณในการฟังและการดู ก. เอ ฟังและดูสื่อแล้วน าไปปฏิบัติตาม ข. บี ฟังและดูสื่อแล้วศึกษาจุดมุ่งหมายของเรื่อง ค. ซี ฟังและดูสื่อแล้วพูดวิพากษ์วิจารณ์ตามความพอใจ ง. ดี ฟังและดูสื่อแล้ววิเคราะห์จุดมุ่งหมาย ความน่าเชื่อถือ แล้วประเมินค่า ๒. ข้อใดไม่ใช่ภาษาในการพูดแสดงความคิดเห็น ก. ดิฉันรู้ว่า ข. ดิฉันคิดว่า ค. ดิฉันเห็นว่า ง. ดิฉันอยากทราบว่า ๓. นายเดชฟังเรื่องราวแล้วน ามาแยกแยะออกเป็ นส่วนๆ แสดงว่าเขาใช้วิธีใดในการฟัง ฐ. วิจารณ์ ข. สรุปความ ค. วิเคราะห์ ง. ประเมินค่า ๔. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการพูดวิเคราะห์วิจารณ์ ก. พูดโต้ตอบ ข. พูดอธิบาย ค. พูดช้ีแจงเหตุผล ง. พูดแสดงความคิดเห็น ๕. การพูดวิเคราะห์วิจารณ์สื่อได้ถูกต้องตรงกับข้อใด ก. วิจารณ์ขอ้บกพร่องของสิ่งที่ฟังและดู ข. วิจารณ์แนวคิดในการน าเสนอสารของผู้ส่งสาร ค. วิจารณ์ในเชิงโครงสร้างเน้ือหาที่ผูส้่งสารนา เสนอ ง. วิจารณ์บุคลิกลักษณะลีลาท่าทางของผู้ส่งสาร ๖. การมีมารยาทในการพูดเป็นผลดีต่อผู้พูดอย่างไร ก. ท าให้มีบุคลิกดี ข. สร้างความศรัทธาให้แก่ผู้ฟัง ค. ท าให้ไม่มีข้อขัดแย้งกับผู้อื่น ง. เป็ นที่เคารพนับถือของผู้ฟัง ๗. บุคคลในข้อใดมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ ของตนในขณะที่พูด จ. โดม ไม่เสียดสีผู้อื่น ฉ. ดอน ยิ้มแยม้แจ่มใสทกัทายผูฟ้ ัง ช. โด่ง ไม่น าเรื่องของผู้อื่นมาเปิ ดเผย ซ. ดอม ไม่โตต้อบกบัผูอ้ื่นเมื่อมีปัญหาเกิดข้ึนในขณะที่พูด ๘. ข้อใดไม่ใช่มารยาทในการพูด ก. หาข้อมูลมาประกอบการพูด ข. ไม่พูดเกินเวลาที่ก าหนด ค. มีอารมณ์ขันสร้างความบันเทิงแก่ผู้ฟัง ง. เส้ือผา้เครื่องนุ่งห่มเหมาะสมแก่กาลเทศะ ๙. ข้อใดเป็ นจุดเด่นของการพูดรายงานการศึกษาค้นคว้า ก. เสนอแนวคิด ข. เสนอเหตุผลมีข้ออ้างอิง ค. เสนอโครงสร้างในการปฏิบัติงาน ง. เสนอความคิดเห็นเพื่อการพัฒนา ๑๐.แนวทางฝึ กฝนการเป็ นนักพูดที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร ก. หาความรู้มาประกอบการพูด ข. หามุกตลกเรื่องขบขันมาประกอบการพูด ค. หาตัวอย่างที่น่าสนใจมาประกอบการพูด ง. หาสื่อที่สวยงามมีคุณภาพสูงมาประกอบการพูด ๑๑. บุคคลในข้อใดอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านภาษาและวัฒนธรรม ทอ้งถิ่น ก. ดาวไปร่วมงานพิธีกรรมในทอ้งถิ่น ข. จ านวนค าในแต่ละวรรค ข. เดือน พูดภาษาถิ่นของตนอย่างถูกตอ้งชดัเจน ค. เด่น มีฝีมือในการทา อาหารพ้ืนบา้นท้งัคาวหวาน ง. ดวง มีความสามารถในกรแสดงนาฏศิลป์ทอ้งถิ่น
๑๒.ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาไทย ก. การท าเกษตรแบบผสมผสาน ข. การจดัการธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ม ค. การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสาขาต่างๆ ง. การอนุรักษ์และสร้างสรรค์ผลงานทางด้านโภชนาการ ๑๓.ข้อใดคือหัวใจส าคัญของการพูดรายงานการศึกษาค้นคว้า ก. การใช้ภาษาในการพูด ข. การสืบค้นข้อมูลที่ใช้ในการพูด ค. การเรียบเรียงข้อความที่น ามาพูด ง. การใช้สื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน ามาประกอบการพูด ๑๔. ภาษาที่ใช้ในการพูดรายงานการศึกษาค้นคว้าควรเป็ นภาษา ที่มีลักษณะอย่างไร ก. ใช้ศัพท์เฉพาะเรื่อง ข. ภาษาที่ฟังเข้าใจง่าย ค. ภาษาเหมาะสมกับระดับของผู้ฟัง ง. ภาษาที่เป็ นแบบแผนเหมาะกับเรื่องที่พูด ๑๕. ภูมิปัญญาเกิดข้ึนไดอ้ย่างไร ก. การใช้ชีวิตประจ าวัน ข. การถ่ายทอดประสบการณ์ ค. การค้นคว้าและการสร้างสรรค์ ง. การสั่งสมประสบการณ์ที่ผ่านการเรียนรู้ ๑. ง ๒. ง ๓. ค ๔. ก ๕. ค ๖. ข ๗. ง ๘. ค ๙. ข ๑๐. ก ๑๑. ข ๑๒. ง ๑๓. ข ๑๔. ค ๑๕. ง
ใบงานที่ ๑.๑เรื่อง หลักการพูดแสดงความคิดเห็น ค าชี้แจงให้นักเรียนตอบค าถามให้ถูกต้อง ๑. การพูดที่ประสบความส าเร็จ มีลักษณะอย่างไร ๒. การฟังและดูสื่อ ควรปฏิบัติอย่างไร ๓. การวางใจเป็ นกลางในการฟังและดูสื่อ จะต้องปฏิบัติอย่างไร ๔. การฟังและดูมีความจ าเป็ นส าหรับใคร เพราะเหตุใด ๕. การพูดแสดงความคิดเห็นมีวิธีการพูดอย่างไร
ใบงานที่ ๑.๑เรื่อง หลักการพูดแสดงความคิดเห็น ค าชี้แจงให้นักเรียนตอบค าถามให้ถูกต้อง ๑. การพูดที่ประสบความส าเร็จ มีลักษณะอย่างไร ผู้พูดต้องใช้ความรู้ เพื่อพูดให้ ผู้ฟังเข้าใจ ในการพูดทุกครั้งผู้พูดต้องหาข้อมูลที่มีประโยชน์และมี คุณค่าต่อผู้ฟัง ๒. การฟังและดูสื่อ ควรปฏิบัติอย่างไร ตั้งใจฟังและดู มีจุดมุ่งหมายในการฟังและดู ฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ วางใจเป็ นกลาง บันทึก สิ่งที่ฟังหรือดู ๓. การวางใจเป็ นกลางในการฟังและดูสื่อ จะต้องปฏิบัติอย่างไร จะต้องไม่มีอคติต่อเรื่องที่ฟัง ที่ดู หรือผู้จัดรายการ เพราะจะท าให้เข้าใจสารไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องดีๆ อาจกลายเป็ นเรื่องน่าเบื่อไม่น่าสนใจ ๔. การฟังและดูมีความจ าเป็ นส าหรับใคร เพราะเหตุใด มีความจ าเป็ นส าหรับผู้ที่บริโภคสื่อ เพราะท าให้เกิดการรับรู้ มีความเข้าใจ ความคิด มีสติปัญญา หรือเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ช่วยให้ผู้ฟังและดูสื่อเป็ นคนทันสมัย รอบรู้ เหตุการณ์ และช่วยผ่อน คลายความตึงเครียด ๕. การพูดแสดงความคิดเห็นมีวิธีการพูดอย่างไร ต้องใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 ประกอบค ากริยาที่ระบุชัดว่า เป็ นการพูดแสดงความคิดเห็น เช่น ดิฉัน คิดว่า ผมเห็นว่าข้าพเจ้าขอสรุปว่า นอกจากนี้ต้องรู้ จักใช้ค าบ่งชี้ให้ เห็นว่าเป็ นการแสดงความคิดเห็น เช่น ค าว่า อาจจะ คงจะ น่าจะ คาดว่า เฉลย
แบบประเมินการพูดแสดงความคิดเห็น ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตการพูดแสดงความคิดเห็นของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องว่างที่ตรงกับระดับ คะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ถูกต้องตาม หลักการพูด การใช้ภาษา ถูกต้อง เหมาะสม ออกเสียง ถูกต้องชัดเจน มารยาทในการ พูด รวม ๑๖ คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติได้ถูกต้อง ให้ ๔ คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องปานกลาง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องมาก ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๔ – ๑๖ ดีมาก ๑๑ – ๑๓ ดี ๘ – ๑๐ พอใช้ ต ่ากว่า ๘ ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม ่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบตัิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต ่ากว่า ๑๐ ปรับปรุง ล าดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความตั้งใจใน การท างาน ความ รับผิดชอบ การตรงต่อ เวลา ความสะอาด เรียบร้อย ผลส าเร็จของ งาน รวม ๒๐ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน
บันทึกหลังสอนแผนการจัดการเรียนรู้ที่๑ ๑.ผลการสอนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่๓ สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก........................................................................... ๒. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ๒.๑) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่า นักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........……ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๒) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…........................................................พบว่า นกัเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ...........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ทกี่า หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ......................... ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๒.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เรียน โดยใช้………………………........................ พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.........ไม่ผ่านเกณฑข์ ้นัต่า ที่กา หนดไวค้ิดเป็นร้อยละ.................. ไดแ้ก่................................................................................................................................................................ ๓. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนท าใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามก าหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .......................................................................................................................................... ๔. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรน าแผนไปปรับปรุง เรื่อง...................................................................................................... ............................................................................................................................................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน................................................................................ ............................................................................................................................................................. ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวจันจิรา เขียวคล้าย) วันที่.........../.................../.................