แผนการสอนคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม

คอมพิวเตอร์เพิม่ เติม คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โปรแกรมสำนักงานเบอ้ื งต้น (Microsoft office)
เวลา 40 ชัว่ โมง / ปี

ศึกษาหลักการทำงานของโปรแกรมสำนักงานเบื้องต้น (Microsoft office) การสร้างเอกสาร
รายงาน ตาราง นำเสนอผลงานผ่านทางข้อความและรูปภาพ ศึกษาความรู้พื้นฐานในการใช้โปรแกรม
ประมวลผลคำ (Microsoft Word) รวมทั้งโปรแกรมตารางคำนวณ (Microsoft Excel) ในการสร้างแผ่น
งาน ตาราง นำเสนอแผนภูมิและใช้สูตร หรือฟังก์ชัน ในการคำนวณ เพื่อใช้ในการทำงานต่าง ๆ สามารถ
สร้างงานนำเสนออย่างมีคุณภาพ ออกแบบงานนำเสนอให้มีความน่าสนใจ ด้วยโปรแกรมนำเสนอ
(Microsoft PowerPoint) และสามารถนำความรู้และทักษะมาสร้างชิ้นงานด้วยความรับผิดชอบ และมี
ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เลือกใช้ซอฟต์แวร์เพื่อนำเสนอข้อมูลด้วยวิธีการที่เหมาะสม สามารถใช้งาน
อุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บื้องต้น ใช้งานซอฟต์แวร์เบื้องต้นในการสร้าง จัดเก็บ และเรียกใชไ้ ฟลต์ ามวัตถุประสงค์
ดแู ลรกั ษาอุปกรณ์การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งเหมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายเกี่ยวกับการใชง้ าน และประโยชนข์ องโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office) ได้
2. ใชง้ านโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office) ในการสรา้ ง จดั เกบ็ และเรยี กใช้ไฟลไ์ ด้
3. ใช้ความร้แู ละทกั ษะการใชง้ านโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office) ในการนำเสนอข้อมลู ด้วยวิธีการ
ทีเ่ หมาะสม
4. บอกวธิ ีใช้งานของเคร่ืองมอื ในโปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
5. ใชเ้ ครือ่ งมอื ในโปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word ในการสร้างช้นิ งานได้
6. บอกวิธีใช้งานของเคร่อื งมอื ในโปรแกรมตารางคำนวณ Microsoft Excel ได้อยา่ งถูกตอ้ ง
7. ใชเ้ ครอื่ งมือในโปรแกรมตารางคำนวณ Microsoft Excel ในการสร้างช้ินงานได้
8. บอกวธิ ีใช้งานของเครอื่ งมอื ในโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint ได้อยา่ งถูกต้อง
9. ใชเ้ ครอ่ื งมือในโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint ในการสร้างชิน้ งานได้
รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู้

รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ พ่ิมเตมิ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 หนา้ ท่ี ก

โครงสรา้ งรายวชิ า

คอมพิวเตอรเ์ พ่มิ เติม โปรแกรมสำนักงานเบื้องต้น (Microsoft office)
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 40 ชั่วโมง / ปี

ลำดบั ที่ หนว่ ยการเรียนร/ู้ เรือ่ ง ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน
(ชั่วโมง) 10
1 ร้จู ักกบั โปรแกรม - อธบิ ายเกีย่ วกบั การใช้งาน - การใชง้ านโปรแกรม
สำนกั งาน และประโยชนข์ องโปรแกรม สำนกั งาน (Microsoft 4 10
(Microsoft office) สำนักงาน (Microsoft office)
office) ได้ - ประโยชนข์ องการใชง้ าน 10
- ใชง้ านโปรแกรมสำนักงาน โปรแกรมสำนักงาน
(Microsoft office) ในการ (Microsoft office)
สร้าง จัดเกบ็ และเรยี กใช้ - วิธีการสร้าง จัดเกบ็ และ
ไฟล์ได้ เรยี กใช้ไฟลโ์ ปรแกรม
สำนกั งาน (Microsoft
office)

2 โปรแกรมประมวลคำ - บอกวิธีใชง้ านของเคร่อื งมอื 1.สว่ นประกอบของหน้าตา่ ง

Microsoft word ในโปรแกรมประมวลผลคำ โปรแกรมประมวลผลคำ

Microsoft Word ไดอ้ ยา่ ง 2.หนา้ ท่ีของเครือ่ งมือต่าง ๆ

ถูกตอ้ ง ในโปรแกรมประมวลผลคำ

- ใช้เคร่อื งมอื ในโปรแกรม 3.การแทรกข้อความ

ประมวลผลคำ Microsoft ในโปรแกรมประมวลผลคำ

Word ในการสร้างชิน้ งานได้ 4.การแทรกภาพประกอบ

ในโปรแกรมประมวลผลคำ

5.การแทรกตารางใน

โปรแกรมประมวลผลคำ

รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ พม่ิ เตมิ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5

ลำดับที่ หนว่ ยการเรยี นรู้/เรอ่ื ง ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน
(ชว่ั โมง) 10
3 โปรแกรมตารางคำนวณ - บอกวิธีใช้งานของเคร่ืองมือ 1.ส่วนประกอบของหน้าตา่ ง
10 10
Microsoft Excel ในโปรแกรมตารางคำนวณ โปรแกรมตารางคำนวณ
Microsoft Excel ได้อย่าง 2.หน้าที่ของเครื่องมือตา่ ง ๆ 10
ถกู ต้อง ในโปรแกรมตารางคำนวณ
- ใชเ้ ครอ่ื งมือในโปรแกรม 3.การใช้งานสตู รพ้นื ฐานการ
ตารางคำนวณ Microsoft คำนวณ ในโปรแกรมตาราง
Excel ในการสรา้ งชนิ้ งานได้ คำนวณ

4.การใช้ฟงั ก์ชัน ในโปรแกรม

ตารางคำนวณ

5.การใช้คำสงั่ AutoSum ใน

โปรแกรมตารางคำนวณ

6.การออกแบบตาราง

เพ่อื ประยกุ ต์ใชใ้ น

ชวี ิตประจำวนั

4 โปรแกรมนำเสนอ - บอกวธิ ีใช้งานของเคร่ืองมอื 1.ส่วนประกอบของหนา้ ต่าง

Microsoft PowerPoint ในโปรแกรมนำเสนอ โปรแกรมโปรแกรมนำเสนอ
Microsoft PowerPoint 2.หน้าท่ีของเคร่อื งมือต่าง ๆ
2016 ได้อย่างถกู ต้อง ในโปรแกรมนำเสนอ
- ใชเ้ ครื่องมือในโปรแกรม 3.การแทรกข้อความ
นำเสนอ Microsoft ในโปรแกรมนำเสนอ
PowerPoint ในการสร้าง 4.การแทรกภาพประกอบ
ชน้ิ งานได้ ในโปรแกรมนำเสนอ

5.การแทรกตารางใน

โปรแกรมนำเสนอ

6.การสรา้ งงานนำเสนอแบบ

มลั ตมิ เี ดยี ดว้ ยโปรแกรม

นำเสนอ

รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ พิม่ เตมิ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5

ลำดบั ที่ หน่วยการเรียนร้/ู เรือ่ ง ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน
5 Project (ช่วั โมง) 20
- ใชค้ วามรู้และทักษะการใช้ 1.เลอื กใชโ้ ปรแกรมสำนักงาน
งานโปรแกรมสำนกั งาน เพอื่ นำเสนอข้อมูลใหม้ คี วาม 6 40
(Microsoft office) ในการ นา่ สนใจได้อยา่ งเหมาะสม 100
นำเสนอขอ้ มูลด้วยวิธีการที่ 2.นำผลงานทีไ่ ด้จาก
เหมาะสม โปรแกรมสำนักงาน นำเสนอ
ลงบนอินเทอร์เนต็ เพื่อเปน็
ความร้ใู ห้กบั บคุ คลอนื่

สอบปลายภาค

รวม 40

รายวิชาคอมพวิ เตอร์เพิม่ เติม ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5

โครงสร้างแผนการจัดการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการ วธิ ีการจดั กิจกรรม ทักษะทีไ่ ด้ การประเมิน เวลา
จัดการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง)
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1
ร้จู กั กับโปรแกรม แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ทกั ษะการคิดอยา่ งมี 1.ตรวจใบงาน 2
สำนกั งาน เรียนร้ทู ่ี 1 สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน วจิ ารณญาณ และทกั ษะใน ที่ 1
(Microsoft office รจู้ กั กับ (Creativity-Based การแกป้ ัญหา 2.ตรวจใบงาน
โปรแกรม Learning : CBL) 2.ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ ท่ี 2
สำนกั งาน 2.การจัดการเรยี น และนวัตกรรม 3.แบบประเมิน
(Microsoft การสอนแบบ 3.ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ พฤติกรรมกลุ่ม
office) Active Learning การทำงานเป็นทมี และ
ภาวะผู้นำ
4.ทกั ษะด้านการสือ่ สาร
สนเทศ และรเู้ ทา่ ทันส่ือ

แผนการจดั การ 1.วธิ ีการสอนแบบ 1.ทักษะการคิดอย่างมี 1.กิจกรรม 2
เรยี นรู้ที่ 2 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน วจิ ารณญาณ และทกั ษะใน Microsoft
วธิ ีการสรา้ ง (Creativity-Based การแก้ปญั หา Office
จัดเก็บ และ Learning : CBL) 2.ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ Matching
เรยี กใชไ้ ฟล์ 2.การจดั การเรยี น และนวตั กรรม 2.กจิ กรรมสร้าง
โปรแกรม การสอนแบบ 3.ทักษะดา้ นความรว่ มมือ จัดเก็บ และ
สำนกั งาน Active Learning การทำงานเปน็ ทมี และ เรยี กใช้ไฟล์
(Microsoft ภาวะผูน้ ำ 3.แบบประเมิน
office) 4.ทักษะดา้ นการสอ่ื สาร พฤตกิ รรมกลุ่ม
สนเทศ และรูเ้ ท่าทนั สอื่ 4.แบบประเมิน
พฤติกรรม
รายบคุ คล

รายวิชาคอมพิวเตอร์เพ่ิมเติม ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการ วธิ กี ารจดั กจิ กรรม ทกั ษะที่ได้ การประเมนิ เวลา
จัดการเรียนรู้ การเรียนรู้ (ช่ัวโมง)

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ทักษะการคดิ อยา่ งมี 1.ตรวจใบงาน 2
โปรแกรมประมวลคำ เรียนรู้ที่ 3 สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ฐาน วิจารณญาณ และทกั ษะใน ที่ 3
Microsoft word รจู้ กั กับ (Creativity-Based การแก้ปญั หา 2.ตรวจใบงาน
โปรแกรม Learning : CBL) 2.ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ ท่ี 4
ประมวลคำ 2.การจัดการเรยี น และนวตั กรรม 3.แบบประเมนิ
Microsoft การสอนแบบ 3.ทักษะด้านความรว่ มมอื พฤตกิ รรม
word Active Learning การทำงานเป็นทมี และ รายบุคคล
ภาวะผนู้ ำ
4.ทักษะด้านการสื่อสาร
สนเทศ และร้เู ท่าทันสื่อ

แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ 1.ทักษะการคิดอยา่ งมี 1.กจิ กรรม 2
เรยี นรู้ท่ี 4 สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ฐาน วิจารณญาณ และทักษะใน ตวั อักษร
การแทรก (Creativity-Based การแกป้ ัญหา หรรษา
ข้อความ Learning : CBL) 2.ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ 2.กจิ กรรม
ในโปรแกรม 2.การจัดการเรยี น และนวัตกรรม กล่องข้อความ
Microsoft การสอนแบบ 3.ทักษะด้านความรว่ มมอื 3.ประเมนิ
word Active Learning การทำงานเปน็ ทมี และ พฤตกิ รรม
ภาวะผูน้ ำ รายบุคคล
4.ทกั ษะด้านการสือ่ สาร
สนเทศ และรู้เท่าทันสอ่ื

แผนการจดั การ 1.วิธีการสอนแบบ 1.ทักษะการคิดอยา่ งมี 1.ตรวจใบงาน 2
เรียนรู้ท่ี 5 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน วิจารณญาณ และทกั ษะใน ที่ 6
การแทรก (Creativity-Based การแก้ปัญหา 2.กิจกรรม
ภาพประกอบ Learning : CBL) 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ ครอบครวั ของ
ในโปรแกรม 2.การจดั การเรียน และนวัตกรรม ฉัน
Microsoft การสอนแบบ 3.ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื 3.แบบประเมนิ
word Active Learning การทำงานเปน็ ทีม และ พฤตกิ รรม
ภาวะผู้นำ รายบุคคล
4.ทกั ษะด้านการสอื่ สาร
สนเทศ และรู้เทา่ ทันสือ่

รายวิชาคอมพวิ เตอร์เพมิ่ เติม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5

หน่วยการเรียนรู้ แผนการ วธิ ีการจดั กจิ กรรม ทกั ษะทไี่ ด้ การประเมิน เวลา
จัดการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง)
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 1.ทกั ษะการคดิ อยา่ งมี 1.ตรวจใบงาน
โปรแกรมตาราง แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ วิจารณญาณ และทักษะใน ที่ 7 2
คำนวณ Microsoft เรียนรูท้ ี่ 6 สรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน การแกป้ ัญหา 2.กจิ กรรม
Excel การแทรก (Creativity-Based 2.ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ ออกแบบ 2
ตาราง Learning : CBL) และนวัตกรรม ตารางกิจวัตร
ในโปรแกรม 2.การจัดการเรยี น 3.ทกั ษะด้านความรว่ มมอื ประจำวัน 2
Microsoft การสอนแบบ การทำงานเป็นทีม และ 3.แบบประเมิน
word Active Learning ภาวะผู้นำ พฤติกรรม
4.ทกั ษะด้านการสอื่ สาร รายบุคคล
แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ สนเทศ และร้เู ทา่ ทันส่อื
เรียนรทู้ ่ี 7 สรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน 1.กิจกรรม
การนำเสนอ (Creativity-Based 1.ทกั ษะการคิดอยา่ งมี นำเสนอข้อมลู
ขอ้ มลู ดว้ ย Learning : CBL) วิจารณญาณ และทักษะใน ดว้ ยโปรแกรม
โปรแกรม 2.การจดั การเรยี น การแก้ปัญหา 2.แบบประเมนิ
Microsoft การสอนแบบ 2.ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ พฤตกิ รรมกล่มุ
word Active Learning และนวตั กรรม
3.ทกั ษะด้านความรว่ มมือ 1.ตรวจใบงาน
แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ การทำงานเป็นทีม และ ที่ 8
เรยี นรูท้ ่ี 8 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน ภาวะผนู้ ำ 2.ตรวจใบงาน
ร้จู ักกบั (Creativity-Based 4.ทักษะด้านการสือ่ สาร ท่ี 9
โปรแกรม Learning : CBL) สนเทศ และรู้เท่าทนั สือ่ 2.แบบประเมนิ
ตารางคำนวณ 2.การจัดการเรยี น พฤติกรรม
Microsoft การสอนแบบ 1.ทกั ษะการคดิ อยา่ งมี รายบคุ คล
Excel Active Learning วิจารณญาณ และทกั ษะใน
การแก้ปัญหา
2.ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์
และนวตั กรรม
3.ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ
การทำงานเปน็ ทีม และ
ภาวะผู้นำ
4.ทักษะด้านการสื่อสาร
สนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ

รายวิชาคอมพวิ เตอรเ์ พ่ิมเตมิ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5

หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการ วธิ ีการจัดกิจกรรม ทกั ษะที่ได้ การประเมนิ เวลา
จัดการเรียนรู้ การเรียนรู้ (ช่ัวโมง)

แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ทักษะการคิดอยา่ งมี 1.ตรวจใบงาน 2
เรยี นรู้ท่ี 9 สรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน วจิ ารณญาณ และทกั ษะใน ท่ี 10
การปอ้ นข้อมูล (Creativity-Based การแกป้ ญั หา 2.กิจกรรมปอ้ น
ในโปรแกรม Learning : CBL) 2.ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ ข้อมลู
Microsoft 2.การจดั การเรียน และนวัตกรรม 3.แบบประเมิน
Excel การสอนแบบ 3.ทักษะด้านความร่วมมือ พฤติกรรม
Active Learning การทำงานเป็นทมี และ รายบุคคล
ภาวะผนู้ ำ
4.ทกั ษะด้านการสอื่ สาร
สนเทศ และรู้เท่าทนั ส่ือ

แผนการจดั การ 1.วิธีการสอนแบบ 1.ทกั ษะการคิดอยา่ งมี 1.ตรวจใบงาน 2
เรยี นรทู้ ี่ 10 สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ฐาน วิจารณญาณ และทักษะใน ที่ 11 2
การใช้สูตร (Creativity-Based การแกป้ ญั หา 2.กจิ กรรม หา
พ้นื ฐานการ Learning : CBL) 2.ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ ผลลพั ธ์
คำนวณ 2.การจัดการเรยี น และนวัตกรรม 3.แบบประเมิน
การสอนแบบ 3.ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื พฤติกรรม
Active Learning การทำงานเปน็ ทีม และ รายบคุ คล
ภาวะผู้นำ
4.ทักษะดา้ นการสอ่ื สาร
สนเทศ และรูเ้ ท่าทันส่ือ

แผนการจดั การ 1.วิธีการสอนแบบ 1.ทักษะการคดิ อย่างมี 1.ตรวจใบงาน
เรยี นรู้ที่ 11 สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน วจิ ารณญาณ และทกั ษะใน ที่ 12
การใช้ฟงั กช์ ัน (Creativity-Based การแก้ปัญหา 2.ประเมนิ ผล
(Function) ใน Learning : CBL) 2.ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ งานจากการทำ
การคำนวณ 2.การจัดการเรยี น และนวตั กรรม กิจกรรม
การสอนแบบ 3.ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ 3.แบบประเมิน
Active Learning การทำงานเป็นทีม และ พฤติกรรม
ภาวะผนู้ ำ รายบคุ คล
4.ทกั ษะดา้ นการส่อื สาร
สนเทศ และรเู้ ท่าทันส่ือ

รายวิชาคอมพิวเตอรเ์ พม่ิ เติม ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5

หหนน่ว่วยยกกาารรเเรรียยี นนรรู้ ู้ แแผผนนกกาารร ววิธธิกี ีกาารรจจดั ดั กกจิ จิ กกรรรมม ททักษักษะทะท่ีได่ีไ้ด้ กกาารรปปรระะเมเมนิ ิน เวลา
จจดั ัดกกาารรเรเรยี ยี นนรรู้ ู้ กกาารรเรเรียียนนรรู้ ู้ (ช่วั โมง)

แแผผนนกกาารรจดั การ 11.ว.วิธิธีกีกาารรสสออนนแแบบบบ 11.ท.ทกั กัษษะะกการาครคดิ ดิออยย่าง่ามงมี ี 1.1ต.รปวรจะใเบมินงาผนลท่ี 2

จเัดรียกนารเู้ทรี่ย1น2รูท้ ี่ สสรรา้ า้งงสสรรรคคเ์ ปเ์ ปน็ ็นฐฐาานน ววิจิจาราณรณญญาณาณแแลละะททกั กัษษะะใน 16จากการทำ
1ก5าร (C(Crereaatitvivitiyty--Based ในกการาแรแกก้ปป้ญั ัญหหาา 2.กกิจจิ กกรรรรมม
22.ท.ทักักษษะะดดา้ นา้ นกการารสร้างสรรค์ นำปเรสะนมอวขล้อผมลลู
SปmระarมtวAลrtผล BLaesaerdniLnega:rnCiBnLg): พรด3า.้วฤ2จก3กปยยต..าจิรรปปบกากิกะSรรคุฟกรรเmะะมคารรเเรมมมลินมaทิินนrสtำผAรลา้ rงt
และการ C2B.กL)ารจดั การเรียน สแรลา้ งะสนรวรัตคก์ แรรลมะนวัตกรรม
นำเสนอขอ้ มูล 2ก.กาารรสจอดั นกแาบรบเรียน 33.ท.ทักักษษะะดดา้ น้านคคววามามร่วรมว่ มมือือ พฤตกิ รรมกลมุ่
กAาcรtสivอeนแLบeaบrning กการาทรทำงำางนานเปเปน็ ็นททมี มี แแลละะ
ภภาวาวะะผผู้นู้นำำ
Active Learning 44.ท.ทกั ักษษะะดด้าน้านกการาสรส่ือือ่สสาราร

สสนนเทเทศศแแลละะรเู้รทู้เทา่ ทา่ ทันนัสสอื่ อื่

แผนการ 1.วิธกี ารสอนแบบ 1.ทกั ษะการคิดอย่างมี 1.กจิ กรรม ทำ 2
2
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 จแัดผกนากราเรรยี จนดั รกทู้ า่ีร ส1ร.า้วงิธสกี รารรคสเ์ อปนน็ แฐบานบ ว1จิ .าทรักณษญะากณารแคลดิ ะอทยกั่างษมะี ภา1พ.ตเครวลจ่ือในบไงหาวน
โปรแกรมนำเสนอ 2
Microsoft 1เ6รียนรู้ที่ 13 (Cสrรe้าaงtสivรรitคyเ-์ ปน็ ฐาน ในวกจิ ารณแกญ้ปาัญณหแาละทักษะใน 3.ทปี่ร1ะ3เมนิ
PowerPoint 2016
Aรnู้จiกัmกaบั tions B(aCsredatLiveitayr-nBiansge:d 2ก.ทากัรษแกะป้ด้าัญนหกาาร พฤ2ต.ติกรรวรจมใบงาน

โปรแกรม CLBeLa)rning : CBL) ส2ร.้าทงักสษรระคด์ ้าแนลกะานรวสตั รก้ารงรสมรรค์ ราทย่ีบ1คุ4คล

นำเสนอ 22.ก.กาารรจจดั ดั กกาารรเรเรยี ยี นน 3แ.ทลักะษนะวดตั ้ากนรครมวามร่วมมือ 3.แบบประเมิน

Microsoft กกาารรสสออนนแแบบบบ ก3า.รททกั ำษงาะนดเา้ ปน็นคทวมีามแรลว่ ะมมือ พฤตกิ รรม

PowerPoint AAcctitviveeLLeeaarnrniningg ภกาาวระทผำู้นงำานเป็นทีม และ รายบคุ คล

2016 4ภ.ทากั วษะผะดนู้ า้ำนการส่อื สาร

ส4น.เททกั ศษแะลดะ้ารนู้เกทาา่ รทสนั ่อื สส่อื าร

แผนการ 1.วธิ ีการสอนแบบ 1ส.ทนกั เทษศะกแาลระคริดเู้ อทยา่ ่าทงันมสี อ่ื 1.กจิ กรรมนิทาน

จแัดผกนากราเรรียจนดั รกทู้ าี่ร ส1ร.้าวงธิ สีกรารรคสเ์ อปน็นแฐบานบ ว1ิจ.าทรกัณษญะากณารแคลิดะอทยัก่างษมะี หร1ร.ตษราวจใบงาน

1เ7รียนรทู้ ่ี 14 (Cสrรe้าaงtสivรรitคyเ-์ ปน็ ฐาน ในวกิจารณแกญ้ปาญั ณหแาละทักษะใน 2.ทตร่ี 1ว5จใบงาน

กกาารรสกรำ้าหงงนาดนชดุ B(aCsredatLiveitayr-nBiansge:d 2ก.ทากัรษแกะ้ปด้าัญนหกาาร ท่ี 21.7กิจกรรม

นรำปู เสแบนอบ CLBeLa)rning : CBL) ส2ร.า้ ทงักสษรระคด์ า้ แนลกะานรวสัตรกา้ รงรสมรรค์ 3.สปรา้ะงเมTินheme

ม(Tลั hตeมิ mเี ดeยี s) 22.ก.กาารรจจัดัดกกาารรเรเรยี ยี นน 3แ.ทลักะษนะวดัต้ากนรครมวามร่วมมอื พฤ3ต.แิกบรบรมปกระลเุ่มมิน

กกาารรสสออนนแแบบบบ ก3า.รททักำษงาะนดเ้าปน็นคทวีมามแรลว่ ะมมอื พฤตกิ รรม

AAcctitviveeLLeeaarnrniningg ภกาาวระทผำ้นู งำานเปน็ ทีม และ รายบคุ คล

4ภ.ทาักวษะผะดูน้ ้าำนการสอื่ สาร

สนเทศ และร้เู ทา่ ทนั ส่ือ

รายวิชาคอมพิวเตอร์เพม่ิ เตมิ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการ วธิ กี ารจัดกจิ กรรม ทักษะที่ได้ การประเมนิ เวลา
จดั การเรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง)
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5
Project แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ทักษะการคิดอยา่ งมี 1.ตรวจใบงาน 2
Engineering เรยี นรู้ที่ 18 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน วิจารณญาณ และทกั ษะใน ท่ี 18
Design Process รวบรวมขอ้ มลู (Creativity-Based การแก้ปัญหา 2.กจิ กรรม
Learning : CBL) 2.ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ สรา้ งเครื่องมือ
2.การจดั การเรยี น และนวตั กรรม ที่ใช้ในการเก็บ
การสอนแบบ 3.ทักษะดา้ นความร่วมมอื รวบรวมขอ้ มลู
Active Learning การทำงานเปน็ ทีม และ 3.ประเมิน
ภาวะผู้นำ พฤตกิ รรมกลุ่ม
4.ทักษะดา้ นการสือ่ สาร
สนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั ส่ือ

แผนการจดั การ 1.วธิ ีการสอนแบบ 1.ทักษะการคดิ อย่างมี 1.ตรวจใบงาน 2
เรยี นรู้ที่ 19 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน วจิ ารณญาณ และทกั ษะใน ที่ 19
วเิ คราะหข์ ้อมลู (Creativity-Based การแก้ปัญหา 2.กจิ กรรม
Learning : CBL) 2.ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ข้อมูล
2.การจดั การเรยี น และนวตั กรรม 3.แบบประเมนิ
การสอนแบบ 3.ทกั ษะด้านความรว่ มมอื พฤติกรรมกลุ่ม
Active Learning การทำงานเป็นทีม และ
ภาวะผนู้ ำ
4.ทักษะดา้ นการสอ่ื สาร
สนเทศ และรเู้ ท่าทันสอ่ื

แผนการจดั การ 1.วิธีการสอนแบบ 1.ทกั ษะการคิดอย่างมี 1.กจิ กรรม 2
เรียนรทู้ ี่ 20 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน วจิ ารณญาณ และทักษะใน ออกแบบ
นำเสนอข้อมูล (Creativity-Based การแก้ปัญหา ส่งิ ประดษิ ฐเ์ พอ่ื
Learning : CBL) 2.ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ ชว่ ยแก้ปัญหา
2.การจดั การเรียน และนวัตกรรม ใน
การสอนแบบ 3.ทกั ษะด้านความร่วมมอื ชีวติ ประจำวัน
Active Learning การทำงานเป็นทมี และ 2.แบบประเมิน
ภาวะผูน้ ำ พฤตกิ รรมกล่มุ
4.ทักษะดา้ นการสอ่ื สาร
สนเทศ และร้เู ทา่ ทันสอ่ื

รายวิชาคอมพิวเตอร์เพ่ิมเติม ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1

ร้จู กั กบั โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา คอมพิวเตอร์เพ่ิมเติม

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 รจู้ ักกบั โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office) ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5

เร่อื ง รูจ้ กั กับโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office) เวลาเรียน 2 ชั่วโมง

ครูผู้สอน นางสาวสริ นิ ภา หม่ืนกันยา วันที่..........เดือน...............พ.ศ.............

1. ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายเกี่ยวกับการใชง้ าน และประโยชน์ของโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office) ได้
2. ใช้งานโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office) ในการสรา้ ง จัดเก็บ และเรยี กใช้ไฟลไ์ ด้

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) เป็นชุดโปรแกรมสำนักงาน พัฒนาโดยไมโครซอฟท์

ประกอบด้วยโปรแกรมท่ีมีความสามารถในการทำงานที่แตกตา่ งกัน เช่น
➢ โปรแกรมประมวลคำ (Microsoft Word) มีความสามารถในการจัดรูปแบบตัวอักษร ย่อหน้า
ใสร่ ปู ภาพ จดหมายเวยี น และอืน่ ๆ
➢ โปรแกรมตารางคำนวณ (Microsoft Excel) เป็นโปรแกรมท่ีใช้ในการจัดทำตารางงาน
มีความสามารถในการคำนวณสูตรต่าง ๆ พร้อมท้งั ฟงั กช์ ันที่ช่วยในการคำนวณทางคณิตศาสตร์
➢ โปรแกรมนำเสนอ (Microsoft PowerPoint) เป็นโปรแกรมนำเสนอผลงาน สามารถนำเสนอ
ผลงานในรปู แบบต่าง ๆ ชว่ ยใหง้ านนำเสนอมคี วามน่าสนใจ
➢ โปรแกรมรับ/ส่งอีเมล (Microsoft Outlook) เป็นโปรแกรมท่ีใช้สำหรับการจัดการอีเมล เพื่อการ
ใช้งานท่ีดียิ่งขึ้น สามารถบันทึกรายชื่อผู้ที่เราติดต่อเพ่ือความสะดวกในการส่งเมล์ บริหารจัดการเวลา
การจดบันทึกและนดั หมายตา่ ง ๆ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
➢ โปรแกรมสมุดบันทึกดิจิทัล (Microsoft OneNote) เป็นสมุดบันทึกดิจิทัลที่ใช้จดบันทึกและเก็บ
ข้อมูล

➢ โปรแกรมออกแบบส่งิ พิมพ์ (Microsoft Publisher) เป็นโปรแกรมสำหรับการออกแบบส่ือส่ิงพิมพ์
ต่าง ๆ เชน่ โปสเตอร์ ไวนิล นามบัตร การด์ ตา่ ง ๆ

➢ โปรแกรม เป็นโปรแกรมฐานข้อมูล (Microsoft Access) เป็นโปรแกรมในการจัดการระบบ
ฐานขอ้ มลู (Database Management System) ท่ีสามารถจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ เข้ามาและยัง
สามารถพฒั นาแบบฟอรม์ (Form) และสรา้ งรายงาน (Report)

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พ่มิ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 หน้าที่ 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ร้จู กั กบั โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความหมายของโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) ได้ (K)
2. สามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์ท่เี หมาะสมเพ่ือชว่ ยแกป้ ญั หาในชีวิตประจำวันได้ (P)
3. เห็นความสำคญั ของการใชง้ านโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft Office) (A)

4. สาระการเรยี นรู้
1. โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) เป็นชุดโปรแกรมสำนักงาน พัฒนาโดยไมโครซอฟท์
ประกอบด้วยโปรแกรมทีม่ คี วามสามารถในการทำงานท่แี ตกต่างกัน
2. โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้มีระบบในการจัดการ
เกี่ยวกับงานทางด้านตา่ ง ๆ เป็นตวั ชว่ ยทีท่ ำให้การทำงานสะดวกมากยิ่งข้นึ
3. ตัวอยา่ ง โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office)
4. เปรยี บเทยี บการสมัครใช้งาน Microsoft 365 กับ Microsoft Office

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

7. ภาระงาน
1. ใบงานที่ 1 เปรยี บเทยี บการสมคั รใชง้ าน Microsoft 365 กับ Microsoft Office
2. ใบงานท่ี 2 ประโยชน์ของโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft Office)

8. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. วิธกี ารสอนแบบสร้างสรรคเ์ ป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิม่ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน้าท่ี 3

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 รู้จกั กบั โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office)

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1. ผู้สอนเปิดคลปิ วดิ ีโอเพ่ือเป็นการกระตุน้ ความสนใจของผเู้ รยี น จากลิงค์
https://www.youtube.com/watch?v=QCNrCJrnAuo

2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม และเพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เช่น
“นักเรียนเคยใชโ้ ปรแกรมอะไรบนคอมพวิ เตอร์บ้าง และใชท้ ำอะไร?”

ขั้นสอน

3. ผู้สอนเปิด Slide ส่อื การสอน รูจ้ ักกับโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) พร้อมอธบิ ายว่า
โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft Office) เป็นชุดโปรแกรมสำนักงาน พัฒนาโดยไมโครซอฟท์
ประวตั คิ วามเปน็ มา
Microsoft มาจาก Microcomputer + Software ก่อตั้งโดย Bill Gates และ Paul Allen โดย
ตง้ั วิสัยทัศน์เอาไว้ว่า "จะทำให้โต๊ะทำงานทกุ ตวั และในทุกบ้านตอ้ งมีคอมพวิ เตอรไ์ ว้ใชง้ าน"
Microsoft Office ได้เปิดตัวในปี 1989 และประกอบด้วย 3 โปรแกรมหลักเริ่มต้น Word,
Excel และ PowerPoint
บริษทั ไมโครซอฟทไ์ ด้มีการพัฒนาชุดโปรแกรมสำนักงาน เพ่อื ตอบสนองต่อความตอ้ งการของผใู้ ช้
ซึง่ ประกอบดว้ ยโปรแกรมท่ีมีความสามารถในการทำงานท่ีแตกตา่ งกนั คอื

➢ โปรแกรมประมวลคำ (Microsoft Word) มีความสามารถในการจัดรูปแบบตัวอักษร ย่อหน้า
ใส่รปู ภาพ จดหมายเวยี น และอ่ืน ๆ

➢ โปรแกรมตารางคำนวณ (Microsoft Excel) เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดทำตารางงาน
มีความสามารถในการคำนวณสตู รตา่ ง ๆ พรอ้ มทง้ั ฟังกช์ นั ทช่ี ว่ ยในการคำนวณทางคณติ ศาสตร์

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พ่มิ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หน้าท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 รูจ้ กั กับโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

➢ โปรแกรมนำเสนอ (Microsoft PowerPoint) เป็นโปรแกรมนำเสนอผลงาน สามารถนำเสนอ
ผลงานในรปู แบบต่าง ๆ ชว่ ยใหง้ านนำเสนอมคี วามนา่ สนใจ

➢ โปรแกรมรับ/ส่งอเี มล (Microsoft Outlook) เปน็ โปรแกรมท่ใี ชส้ ำหรบั การจดั การอเี มลเพื่อการใช้
งานท่ีดียิ่งข้นึ สามารถบนั ทึกรายชอ่ื ผูท้ เี่ ราตดิ ต่อเพ่ือความสะดวกในการสง่ เมล์ บริหารจดั การเวลา
การจดบันทึกและนัดหมายต่าง ๆ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

➢ โปรแกรมสมุดบนั ทึกดจิ ทิ ัล (Microsoft OneNote) เปน็ สมดุ บนั ทึกดจิ ิทัลที่ใชจ้ ดบันทึกและเกบ็
ขอ้ มูล

➢ โปรแกรมออกแบบสงิ่ พิมพ์ (Microsoft Publisher) เป็นโปรแกรมสำหรบั การออกแบบส่ือสง่ิ พมิ พ์
ตา่ ง ๆ เช่น โปสเตอร์ ไวนิล นามบตั ร การ์ดต่าง ๆ

➢ โปรแกรม เป็นโปรแกรมฐานข้อมูล (Microsoft Access) เป็นโปรแกรมในการจัดการระบบ
ฐานขอ้ มลู (Database Management System) ทสี่ ามารถจดั เก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ เข้ามาและยัง
สามารถพฒั นาแบบฟอรม์ (Form) และสร้างรายงาน (Report)
และบริษัทไมโครซอฟท์ ก็ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็น Cloud-Based ที่เรียกว่า Office

365 ในปี 2011 และเปล่ียนชื่อเป็น Microsoft 365 ในปี 2020 โดยผู้ใช้บริการ สามารถเข้าถึงบริการ
ต่าง ๆ ผ่าน Browser, Application และ Mobile Application ซึ่งข้อดีของการใช้งานแบบ Online คือ
สามารถทำงานร่วมกับคนอื่น พร้อม ๆ กันได้ เช่น แชรไ์ ฟล์เอกสาร Excel ให้แต่ละคนเข้ามากรอกข้อมูล
ของตนเองได้ และยังกำหนดสิทธ์ิในการเข้าถึงได้ ซ่ึงจะประกอบด้วย Microsoft Office คือ Microsoft
Excel, Microsoft Word, Microsoft PowerPoint, Microsoft Outlook, Microsoft แ ล ะ ยั ง มี
ซอฟต์แวร์อื่น ๆ อกี เชน่

ซอฟตแ์ วร์เพอื่ การสอื่ สาร อยา่ ง Microsoft Teams
ซอฟต์แวร์เพือ่ การวิเคราะห์ข้อมลู อยา่ ง Power BI
ซอฟตแ์ วร์เพอื่ การทำงานอตั โนมัติ อยา่ ง Power Automate

รายวิชา คอมพิวเตอร์เพิม่ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หนา้ ที่ 5

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 รูจ้ ักกับโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

ซอฟตแ์ วรเ์ พอื่ การพฒั นา App แบบ Low Code อย่าง Power Apps
ซอฟต์แวรเ์ พ่ือการวางแผนงาน อย่าง Planner
ซอฟตแ์ วร์ทเ่ี ปน็ พน้ื ที่จดั เก็บไฟล์ อยา่ ง OneDrive
ซอฟตแ์ วรส์ ำหรบั การสรา้ งเวบ็ ไซต์ทัง้ ในระดับ Portal จนถึงระดับสว่ นบคุ คล อยา่ ง SharePoint
ซอฟตแ์ วรก์ ารจัดการวิดีโอ อย่าง Microsoft Streams
ซอฟต์แวร์สำหรบั การทำ ToDo List อยา่ ง Microsoft ToDo
ซอฟตแ์ วร์สำหรับการ Chat ในองค์กร อยา่ ง Yammer
4. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า Microsoft Office เป็นแบบการซื้อคร้ังเดียว ซึ่งหมายความว่า จะต้อง
ชําระเงินเพียงครั้งเดียวเพ่ือรับแอป Microsoft Office สําหรับคอมพิวเตอร์หนึ่งเคร่ือง การซ้ือคร้ัง
เดียวจะพร้อมใช้งานสําหรับทั้งพีซีและ Mac และจะไม่มีตัวเลือกการอัปเกรด ซ่ึงหมายความว่า
ถ้าต้องการเวอร์ช่ันใหม่จะต้องซื้อใหม่ในราคาเต็ม ส่วน Microsoft 365 ซ่ึงเป็นซอฟต์แวร์เพ่ือการ
ทำงานที่เป็นรูปแบบของการสมัครสมาชิก โดยที่ผู้ใช้งาน จ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน หรือรายปี
และสามารถเลือกประเภทตามที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้งานได้ Microsoft 365 จะมี
ซอฟต์แวรต์ ่าง ๆ ใหเ้ ลอื กใชต้ ามความต้องการของผใู้ ชโ้ ดยจะมซี อฟต์แวร์
5. ผู้สอนแจกใบงานที่ 1 เปรียบเทียบการสมัครใช้งาน Microsoft 365 กับ Microsoft Office
พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงาน คือ ให้ผู้เรียนหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเปรียบเทียบการสมัครใช้งาน
Microsoft 365 กบั Microsoft Office
6. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยท่ีผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อย และคอยให้คำแนะนำ
เพิม่ เติม
7. ผู้สอนเฉลยใบงานที่ 1 เปรียบเทียบการสมัครใช้งาน Microsoft 365 กับ Microsoft Office พร้อม
กับอธิบายว่า ซอฟต์แวร์หรอื โปรแกรมคอมพิวเตอร์คือส่ิงที่ได้รบั ความคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติ
ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (“พ.ร.บ.ลิขสิทธ”ิ์ ) โดยจัดเปน็ งานอันมีลขิ สิทธป์ิ ระเภทงานวรรณกรรม (Literary
work) โดยเราสามารถหลีกเล่ียงการทำผิดกฎหมายได้ด้วยวิธีง่ายๆ ก็คือ ซื้อและใช้แต่ซอฟต์แวร์
ของแทเ้ ท่าน้ัน

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิ่มเตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ ท่ี 6

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 รจู้ กั กับโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office)

ชัว่ โมงท่ี 2

ขัน้ สอน (ตอ่ )

1. ผู้สอนอธิยบายให้ผู้เรียนเข้าใจว่า โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) เป็นโปรแกรมที่ถูก
ออกแบบมา เพื่อให้มีระบบในการจัดการเก่ียวกับงานทางด้านต่าง ๆ เป็นตัวช่วยที่ทำให้การทำงาน
สะดวกมากยิ่งขนึ้

2. ผู้สอนสุ่มถามผู้เรียน เกี่ยวกับประโยชน์ของโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) เช่น “นักเรียน
คดิ ว่า ประโยชน์ของโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) มีอะไรบา้ ง ?”
แนวคำตอบ
1. ชว่ ยใหง้ านตามกำหนดเวลา
2. ช่วยให้งานเป็นระเบยี บเรยี บร้อย
3. ชว่ ยทำใหง้ านนา่ สนใจมากยิ่งขน้ึ

3. ผสู้ อนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 3-5 คน พร้อมกับแจกใบงานท่ี 2 ประโยชน์ของโปรแกรมสำนกั งาน
(Microsoft Office) พรอ้ มอธิบายวธิ กี ารทำใบงาน คอื ให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั เขยี นประโยชน์
ของโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft Office) ใหไ้ ด้มากท่ีสุด ภายในเวลา 10 นาที กลุ่มใดเขยี นได้
มากท่สี ดุ จะเป็นผชู้ นะ

4. ผสู้ อนให้เวลาผู้เรยี นในการทำใบงาน โดยทีผ่ ู้สอนคอยดูแลความเรียบรอ้ ยและคอยใหค้ ำแนะนำ
เพิม่ เติม

5. เมอื่ ครบกำหนดเวลา ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอ ประโยชน์ของโปรแกรมสำนักงาน
เพ่ิมเติม โดยท่ีให้ผเู้ รียนกลุ่มอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน รว่ มกนั เสนอแนะ แสดงความคิดเห็น

6. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ นอกจากโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) ยงั มีโปรแกรมอ่ืน ๆ ท่ีชว่ ย
ให้การทำงานสะดวกมากย่ิงขึ้น เชน่
- google sheets
- google Slides
- google Docs

ข้ันสรุป

7. ผสู้ อนสรุปให้ผู้เรียนเข้าใจว่า โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft Office) สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง
ตามกฎหมายโดยไม่ละเมิดลิขสิทธ์ิ โดยสามารถทำได้ 2 วิธีคือ วิธีท่ี 1 ซื้อครั้งเดียว โดย ชําระเงิน
เพยี งครัง้ เดยี วเพอื่ รับแอป Microsoft Office สาํ หรบั คอมพวิ เตอรห์ น่งึ เคร่ือง วิธที ี่ 2 จ่ายค่าบรกิ าร

รายวิชา คอมพวิ เตอรเ์ พ่มิ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 หน้าท่ี 7

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 รจู้ กั กบั โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office)

เป็นรายเดือน หรือ รายปี และสามารถเลือกประเภทตามที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้งานได้
(Microsoft 365) โดยผู้ใชง้ านสามารถเลือกใช้วิธไี ดต้ ามความเหมาะสม

นอกจากน้ี ยังมีผ้ใู หบ้ รกิ าร ท่ีพฒั นาโปรแกรมเพือ่ ชว่ ยให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขน้ึ เชน่
- google sheets มฟี ังกช์ นั การทำงาน คลา้ ยกับโปรแกรมตารางคำนวณ (Microsoft Excel)
- google Slides มีฟังกช์ นั การทำงาน คลา้ ยกับโปรแกรมนำเสนอ (Microsoft PowerPoint)
- google Docs มฟี งั กช์ นั การทำงาน คล้ายกบั โปรแกรมประมวลคำ (Microsoft Word)
และในปัจจุบัน โปรแกรมสำนักงานต่าง ๆ ยังสามารถทำงานร่วมกันร่วมกันได้แม้จะอยู่คนละ
พ้นื ที่ หรอื คนละเวลา โดยท่ผี ใู้ ช้งานสามารถทำงานร่วมกัน โดยทไี่ ม่จำเปน็ ต้องอยสู่ ถานทเี่ ดยี วกนั
8. ผูส้ อนเปิดโอกาสให้ผูเ้ รยี นสอบถามเพิ่มเติม

9. ส่ือการเรยี นรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=QCNrCJrnAuo
2. Slide สอ่ื การสอน ร้จู กั กับโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft Office)
3. ใบงานท่ี 1 เปรยี บเทยี บการสมัครใชง้ าน Microsoft 365 กับ Microsoft Office
4. ใบงานที่ 2 ประโยชนข์ องโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft Office)

0

10. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบประเมินผลงาน
ใบงานท่ี 1 เปรยี บเทยี บการ แบบประเมนิ ผลงาน คุณภาพอยูใ่ นระดบั ดี
สมคั รใชง้ าน Microsoft 365 ผ่านเกณฑ์
กับ Microsoft Office แบบประเมนิ พฤติกรรมกลุม่
คณุ ภาพอยูใ่ นระดบั ดี
ใบงานที่ 2 ประโยชนข์ อง ผา่ นเกณฑ์
โปรแกรมสำนักงาน
(Microsoft Office) คณุ ภาพอยใู่ นระดับ ดี
ผา่ นเกณฑ์
ประเมินพฤติกรรมกล่มุ
จากการทำใบงานท่ี 2
ประโยชนข์ องโปรแกรม
สำนักงาน (Microsoft
Office)

รายวชิ า คอมพิวเตอร์เพิม่ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 หนา้ ท่ี 8

บนั ทึกหลงั การสอน

11. ผลการจดั การเรยี นการสอน
11.1 ผลการจดั การเรียนรู้ นักเรียนทัง้ หมด................คน
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดบั ดี................คน
นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ปานกลาง................คน
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรบั ปรุง................คน
11.2 ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรยี น

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................... .....

11.3 ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

11.4 การปรบั ปรุงและพัฒนา
........................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชื่อ........................................................ผูบ้ ันทึก
(นางสาวสิรินภา หม่ืนกันยา)
ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย

12. ความเห็นของผู้บริหารโรงเรียน
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.......................................................................................................................................................................... ..........

ลงชือ่ ........................................................ผู้ตรวจสอบ
(นางนงสุรางค์ คล้ายบานเย็น)
ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบา้ นวงั แคน

รายวิชา คอมพวิ เตอร์เพม่ิ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หนา้ ท่ี 9

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิ่มเตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าท่ี 10

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิ่มเตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าท่ี 11

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิ่มเตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าท่ี 12

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิ่มเตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าท่ี 13

สอ่ื PowerPoint

สไลด์ที่ 1 สไลด์ท่ี 2

สไลดท์ ี่ 3 สไลดท์ ี่ 4

สไลดท์ ่ี 5 สไลด์ท่ี 6

สไลดท์ ี่ 7

รายวชิ า คอมพวิ เตอร์เพ่ิมเติม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 หนา้ ที่ 14

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา คอมพิวเตอรเ์ พิ่มเติม

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 รู้จักกบั โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5

เรอ่ื ง วิธีการสร้าง จัดเก็บ และเรียกใช้ไฟล์โปรแกรมสำนักงาน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง

ครผู ู้สอน นางสาวสิรินภา หมื่นกนั ยา วันท่ี..........เดอื น...............พ.ศ.............

1. ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายเกย่ี วกบั การใชง้ าน และประโยชน์ของโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office) ได้
2. ใช้งานโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office) ในการสร้าง จัดเกบ็ และเรยี กใชไ้ ฟลไ์ ด้

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
1. วธิ กี ารสร้าง จดั เก็บ และเรียกใช้ไฟลโ์ ปรแกรมสำนกั งาน
วิธีการสรา้ ง
1. ดบั เบล้ิ คลกิ ทไ่ี อคอนของโปรแกรม
2. เลอื กเอกสารเปลา่ (Blank) หรอื เลอื กแม่แบบ (Template) ทต่ี ้องการ
วิธีการจดั เก็บ
1. ไปท่ีคำส่งั ไฟล์ (File)
2. เลือกคำสง่ั บันทึกเป็น (Save As)
3. เลือกคำสั่งเรียกดู (Browse)
4. จะปรากฎหน้าตา่ งใหมข่ ึ้นมา เลือกพื้นท่ี ที่ต้องการบันทึกไฟล์
5. ตัง้ ชอ่ื ไฟล์
6. เลอื กรปู แบบไฟล์ทต่ี อ้ งการ
7. เลือกคำสงั่ บันทึก (Save)
วิธกี ารเรียกใชไ้ ฟล์โปรแกรมสำนกั งาน
1. ไปทคี่ ำสั่งไฟล์ (File)
2. เลอื กคำสั่งเปิด (Open)
3. เลือกคำสง่ั เรียกดู (Browse)
4. จะปรากฎหนา้ ต่างใหม่ขึ้นมา ให้เลือกพืน้ ท่ี ทบ่ี ันทกึ ไฟลไ์ ว้
5. เลอื กไฟลท์ ่ตี ้องการเปดิ
6. และเลอื กคำส่งั เปิด (Open)
2. ประเภทของไฟล์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เอกสาร ไฟล์บีบอัด และไฟล์วิดีโอ

รายวิชา คอมพวิ เตอรเ์ พิม่ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หนา้ ท่ี 15

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 รู้จักกบั โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายวิธีการสร้าง จดั เกบ็ และเรียกใช้ไฟล์ โปรแกรมสำนักงานได้ (K)
2. สามารถสร้าง จดั เก็บ และเรยี กใชไ้ ฟล์ โปรแกรมสำนกั งานได้ (P)
3. เห็นความสำคัญของการบันทึกไฟล์ตามประเภทของไฟลเ์ พ่อื ให้ได้ไฟลง์ านทม่ี ีคุณภาพ (A)

4. สาระการเรียนรู้
1. วธิ กี ารสรา้ งเอกสารเปล่า หรอื เอกสารทมี่ แี มแ่ บบ (Template) ของโปรแกรมสำนักงาน
2. วิธกี ารบันทกึ ไฟลข์ องโปรแกรมสำนกั งาน
3. วิธกี ารเรยี กใช้ไฟล์ของโปรแกรมสำนกั งาน
4. ประเภทของไฟล์

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

7. ภาระงาน
1. กจิ กรรม Microsoft Office Matching
2. กิจกรรมสร้าง จัดเกบ็ และเรียกใชไ้ ฟล์

8. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. วิธกี ารสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning

รายวชิ า คอมพิวเตอร์เพม่ิ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ ท่ี 16

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 รูจ้ กั กบั โปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office)

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ผู้สอนถามผเู้ รียนเพื่อเปน็ การทบทวนความรูเ้ ดิม เชน่
“เราจะสามารถใช้งานโปรแกรมสำนกั งานอยา่ งถูกต้อง ไมเ่ ป็นการละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ได้อย่างไรบา้ ง”
แนวคำตอบ สามารถทำได้ 2 วิธคี ือ
วิธีที่ 1 ซ้ือคร้ังเดียว โดย ชําระเงินเพียงคร้ังเดียวเพ่ือรับแอป Microsoft Office สําหรับ
คอมพวิ เตอรห์ นง่ึ เคร่ือง
วิธีท่ี 2 จ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน หรือ รายปี และสามารถเลือกประเภทตามท่ีเหมาะสมกับ
การใชง้ านของผูใ้ ชง้ านได้ (Microsoft 365)

2. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า ในห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน ทางโรงเรียนได้ทำการซื้อโปรแกรม
สำนักงาน (Microsoft Office) และลงโปรแกรมเอาไว้แล้ว โดยสามารถเข้าไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง
โดยวธิ ีการเปดิ ใชง้ านเบ้อื งต้น คือ ดับเบ้ิลคลกิ ที่ไอคอนของโปรแกรมท่ีต้องการใชง้ าน

3. ผูส้ อนให้ผู้เรียนทำกิจกรรม Microsoft Office Matching โดยใช้ ส่อื กิจกรรม Microsoft Office
Matching เพ่ือเป็นกระต้นุ ความสนใจของผู้เรียน โดยวิธีการทำกิจกรรมคือ ให้ผู้เรียนตัดภาพไอคอน
ของโปรแกรม ช่ือโปรแกรม และความสามารถในการทำงานของโปรแกรม และคละใหเ้ ขา้ กัน จากนั้น
ให้ผู้สอนพูดชื่อโปรแกรมทีละโปรแกรม และให้แต่ละกลุ่ม จับคู่ ภาพไอคอน ช่ือโปรแกรม และ
ความสามารถในการทำงานของโปรแกรม ใหถ้ ูกต้อง โดยแปะลงบนกระดานกิจกรรม กลุ่มใดสามารถ
ทำได้ถูกตอ้ งครบถ้วนและใช้เวลาน้อยทสี่ ุดจะเปน็ ผ้ชู นะ

ขน้ั สอน

4. ผู้สอนเปดิ Slide ส่อื การสอน วธิ ีการสร้าง จัดเก็บ และเรียกใช้ไฟล์โปรแกรมสำนักงาน พรอ้ มอธิบาย
วา่ โปรแกรมสำนักงานสว่ นใหญจ่ ะมีวธิ กี ารสรา้ ง จัดเกบ็ และเรยี กใช้ไฟลท์ ี่คลา้ ยๆ กนั ดงั นี้
วิธีการสร้าง
1. ดบั เบล้ิ คลกิ ทไ่ี อคอนของโปรแกรม
2. เลอื กเอกสารเปลา่ (Blank) หรอื เลือกแมแ่ บบ (Template) ที่ต้องการ

รายวิชา คอมพิวเตอร์เพ่มิ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 หน้าที่ 17

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 รูจ้ ักกับโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

แมแ่ บบ (Template) คอื รปู แบบหรือแบบฟอร์มที่มกี ารออกแบบไว้ แตย่ ังไมม่ ีการใสเ่ นอ้ื หา
ผูใ้ ชเ้ พียงแค่ใสข่ อ้ มลู รายละเอยี ดเข้าไป แก้ไขเพียงเล็กน้อย กส็ ามารถมีไฟลเ์ อกสารทีส่ วยงามได้
วธิ กี ารจัดเก็บ

เมื่อต้องการบนั ทึกไฟลเ์ พื่อนำไปใช้งานต่อ หรือ เพื่อกลบั มาทำงานในครั้งถดั ไป สามารถทำตาม
ขนั้ ตอนได้ ดงั นี้
1. ไปทคี่ ำสง่ั ไฟล์ (File)

2. เลือกคำสัง่ บันทกึ เปน็ (Save As)
3. เลือกคำสง่ั เรยี กดู (Browse)

4. จะปรากฎหน้าต่างใหม่ขึน้ มา เลอื กพนื้ ที่ ที่ต้องการบันทึกไฟล์
5. ต้งั ชอ่ื ไฟล์
6. เลอื กรูปแบบไฟล์ท่ีตอ้ งการ
7. เลือกคำสงั่ บันทึก (Save)

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พม่ิ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หนา้ ที่ 18

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 รู้จกั กบั โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

วธิ กี ารเรยี กใช้ไฟล์โปรแกรมสำนักงาน
1. ไปทีค่ ำสัง่ ไฟล์ (File)

2. เลอื กคำสั่งเปดิ (Open)
3. เลือกคำสงั่ เรียกดู (Browse)

4. จะปรากฎหน้าตา่ งใหมข่ ึ้นมา ให้เลอื กพ้นื ที่ ที่บนั ทกึ ไฟลไ์ ว้ หน้าท่ี 19
5. เลือกไฟลท์ ต่ี ้องการเปดิ
6. และเลอื กคำสัง่ เปดิ (Open)

รายวิชา คอมพวิ เตอร์เพ่มิ เติม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 รจู้ ักกับโปรแกรมสำนักงาน (Microsoft office)

ช่วั โมงท่ี 2

ขั้นสอน (ตอ่ )

1. ผู้สอนให้ผู้เรยี นทำกิจกรรมสร้าง จดั เกบ็ และเรียกใชไ้ ฟล์ โดยมขี ั้นตอนการทำกจิ กรรม ดังน้ี
1. ใหผ้ ู้เรยี นเปดิ โปรแกรมสำนกั งานท่ีตนเองสนใจขึน้ มาคนละ 1 โปรแกรม ตามขนั้ ตอน
ของวิธกี ารสร้างไฟล์
2. ให้ผ้เู รยี นพมิ พช์ อ่ื นามสกุล และระดับชั้นของตวั เอง และตกแตง่ ให้สวยงาม
3. เมื่อเสรจ็ แล้ว ใหผ้ ูเ้ รียนบนั ทกึ ไฟลต์ ามขั้นตอนของการบันทึกไฟล์ และปิดโปรแกรม

2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำกิจกรรม โดยท่ีผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ
เพม่ิ เตมิ

3. ผู้สอนเปิด Slide สอื่ การสอน ประเภทของไฟล์ เพอื่ อธิบายเพิ่มเตมิ เก่ียวกบั ประเภทของไฟล์
นามสกุลของไฟล์ เป็นการแบ่งแยกประเภทของไฟล์ ว่าเป็นไฟล์ประเภทใด ซึ่งประเภทของไฟล์

แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เอกสาร ไฟลบ์ บี อัด และ ไฟล์วดิ โี อ
1.ไฟล์รูปภาพ
.jpg หรือ .Jpeg ย่อมาจาก Joint Photographic Experts Group เป็นไฟล์รูปภาพท่ีนิยมที่สุด

มีขนาดเล็ก รูปภาพค่อนขา้ งคมชัด
.gif ย่อมาจาก Graphic Interchange Format เป็นไฟลร์ ปู ภาพท่ีสามารถเคล่อื นไหวได้ แต่ไม่ได้

จดั ในประเภทไฟล์วิดีโอ มีจำนวนสีเพียงแค่ 256 สี มักทำเป็นภาพเคล่ือนไหวมากกว่า ความละเอียด
ภาพไม่สูงมาก

รายวชิ า คอมพิวเตอรเ์ พม่ิ เติม ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หน้าท่ี 20

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 รูจ้ ักกบั โปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

.png ย่อมาจาก Portable Network Graphics ไฟล์ประเภทน้ีคล้ายกับไฟล์ .jpg มาก แต่ข้อ
แตกตา่ ง คือ สามารถเปน็ รปู ท่ี Backgroud โปรง่ ได้

.bmp ย่อมาจาก Bitmap ถูกสร้างขนึ้ มาเพ่ือแสดงภาพโปรแกรม Windows เป็นไฟล์ขนาดใหญ่
จงึ ไม่คอ่ ยมปี ระโยชนใ์ นการใชง้ านมากนัก

.tiff ย่อมาจาก Tagged Image File Format เป็นไฟล์ท่มี ีความละเอยี ดสูงและมีขนาดท่ีค่อนข้าง
ใหญ่ รองรบั ระบบสีไดห้ ลายแบบ เหมาะกบั การทำสอ่ื สงิ่ พิมพ์

.psd ย่อมาจาก Photoshop Document เปน็ กราฟิกไฟล์ ทีใ่ ชใ้ นโปรแกรม Adobe
Photoshop สามารถแก้ไขงานแตล่ ะ Layer

.swf ย่อมาจาก Shockwave Flash เป็นไฟล์ภาพเคล่ือนไหวของ Adobe Flash แลโปรแกรม
อืน่ ๆ เป็นการ Publish File ใหเ้ ปน็ Flash Movie

.ai ย่อมาจาก Adobe Illustrator ซึ่งเป็นโปรแกรมออกแบบแบบ Vector คือการนำจุดมาต่อๆ
กัน โดยข้อดขี อง Vector คือง่ายต่อการแก้ไข

2.ไฟลเ์ อกสาร
.doc หรือ .docx ย่อมาจาก Document เป็นไฟล์เอกสารท่ีเก็บข้อมูลเป็นหน้า โดยอ่านไฟล์ได้
จากโปรแกรม WordPad หรือ Microsoft Word
.xls หรือ .xlw ย่อมาจาก Excel Spreadsheet เป็นไฟล์ตารางข้อมูล ใช้คำนวณตัวเลข โดยใช้
Microsoft Excel ในการอา่ น
.pdf ย่อมาจาก Portable Document Format เป็นไฟล์ที่คุณภาพสูงแต่ขนาดค่อนข้างเล็ก ใช้
แสดงเอกสารในแบบกราฟิก ใชโ้ ปรแกรม Adobe Acrobat Reader หรอื โปรแกรมอนื่ ๆ ในการอ่าน
.pptx ย่อมาจาก Microsoft Powerpoint Open XML เป็นไฟล์แบบสไลด์ ใช้ในการนำเสนอ
งาน ใช้เปดิ ด้วยโปรแกรม Microsoft Powerpoint
.prg ย่อมาจาก Program เป็นไฟล์ข้อความประเภทหน่ึง ใช้ NotePad WordPad หรือ Text
Editor ในการอา่ น
.dwg ย่อมาจาก Drawing ของโปรแกรม AutoCAT.txt ย่อมาจาก Text เป็นไฟล์ข้อความ
ธรรมดาคลา้ ยกบั ไฟล์ .prg
3.ไฟล์บีบอัด
.zip เปน็ ไฟล์ทบี่ บี อดั หลายๆ ไฟลร์ วมกัน ใช้โปรแกรม Winzip Pkzip Winrar ในนการอ่าน
.rar ย่อมาจาก Roshal Archive เหมือนกับไฟล์ .zip ใช้โปรแกรม Winzio Pkzip Winrar ใน
การอ่านเช่นเดยี วกับไฟล์ .zip
4.ไฟลว์ ิดีโอและเพลง
.avi ย่อมาจาก Audio Video Interleave คือไฟล์ภาพยนตร์ ภาพเคล่ือนไหว ใช้โปรแกรม
Windows Media Player QuickTime ACDsee ในการเปิด
.divx เป็นไฟล์ .avi ทใี่ ส่ Subtitle เพ่ิมได้หลายภาษา โดยจะตอ้ งติดตง้ั โปรแกรม Subtitle เพ่มิ

รายวิชา คอมพิวเตอร์เพิม่ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน้าท่ี 21

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 รจู้ ักกับโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

.fly เปน็ ไฟล์ท่นี ยิ มใชใ้ นหลายๆ เวบ็ ไซต์ท่ีใหบ้ ริการวดิ ีโอผา่ นเวบ็ ไซต์
.mov ย่อมาจาก Movie เปน็ ไฟลว์ ิดโี อ โดยทใี่ ชโ้ ปรแกรม QuickTime ในการเปิด
.mp3 ย่อมาจาก MPEC Audio Layer 3 เป็นไฟล์ขนาดเล็ก ที่คุณภาพดี ใช้โปรแกรม Winamp
Sonique Windows Media Player และอ่ืนๆ ในการเปดิ
.mp4 ย่อมาจาก MPEC Audio Layer 4 เป็นไฟล์ที่มีพ้ืนฐานจากไฟล์ .avi แต่ถูกบีบให้ขนาด
เล็กกวา่ แต่คุณภาพยงั คงใกล้เคียงกับของเดิม
.wav ย่อมาจาก Wave เป็นไฟล์เพลง โดยโปรแกรม Winamp Sonique Windows Media
Player และอืน่ ๆ ในการเปดิ
.wma ย่อมาจาก Windows Media Audio เป็นไฟล์ท่ีคุณสมบัติเหมือนกับไฟล์ .mp3 แต่ขนาด
เล็กกวา่ และใหม่กวา่
การบันทึกไฟล์ควรเลือกประเภทของไฟล์ที่เหมาะสมกับงาน เพื่อให้ไฟล์งานมีคุณภาพและ
สามารถนำไปใช้งานตอ่ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
4. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดไฟล์ตามข้ันตอนการเปิดไฟล์ และให้พิมพ์ชื่อ นามสกุล ของเพ่ือนในห้องเรียน 3
คน พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม จากนนั้ ใหบ้ ันทึกไฟล์เปน็ รูปแบบ PDF
5. ผูส้ อนสุม่ ตรวจผลงานของผเู้ รยี นเพอื่ เปน็ การประเมินความเขา้ ใจ

ข้ันสรุป

1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า โปรแกรมสำนักงานมีวิธีการสร้าง จัดเก็บ และเรียกใช้ไฟล์ที่คล้ายๆ
กัน แต่ละโปรแกรมยังมแี มแ่ บบ (Template) ให้เลือกใช้งาน ทำให้สะดวกรวดเร็วในการสรา้ งชิ้นงาน
และเมื่อต้องการบันทึกไฟล์ ควรเลือกประเภทของไฟล์ให้เหมาะสมกับงานเพื่อให้ได้งานท่ีมี
ประสทิ ธภิ าพ และสามารถนำไปใชง้ านตอ่ ได้อยา่ งมีคณุ ภาพ

2. ผู้สอนเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นสอบถามเพ่มิ เตมิ

9. ส่ือการเรียนรู้
1. กิจกรรม Microsoft Office Matching
2. กจิ กรรมสร้าง จดั เก็บ และเรยี กใชไ้ ฟล์
3. Slide สือ่ การสอน วิธีการสรา้ ง จดั เก็บ และเรยี กใช้ไฟล์โปรแกรมสำนักงาน
4. Slide สอื่ การสอน ประเภทของไฟล์
5. โปรแกรม Microsoft Word

รายวิชา คอมพวิ เตอรเ์ พิม่ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หนา้ ท่ี 22

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 รจู้ กั กับโปรแกรมสำนกั งาน (Microsoft office)

0

10. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์

กจิ กรรม Microsoft Office แบบประเมนิ ผลงาน คณุ ภาพอย่ใู นระดับ ดี
Matching แบบประเมินผลงาน ผา่ นเกณฑ์

กจิ กรรมสร้าง จัดเก็บ และ แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกลมุ่ คุณภาพอยู่ในระดบั ดี
เรียกใช้ไฟล์ ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ พฤตกิ รรม
ประเมนิ พฤติกรรมกล่มุ รายบคุ คล คณุ ภาพอยู่ในระดับ ดี
จากการทำกจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์
Microsoft Office Matching
คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี
ประเมินพฤติกรรมรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
จากการทำกิจกรรมสรา้ ง
จดั เก็บ และเรยี กใช้ไฟล์

รายวชิ า คอมพวิ เตอร์เพมิ่ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ ที่ 23

บนั ทกึ หลงั การสอน

11. ผลการจดั การเรยี นการสอน
11.1 ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนท้งั หมด................คน
นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ดี................คน
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง................คน
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ปรบั ปรงุ ................คน
11.2 ผลการประเมินพฤติกรรมระหวา่ งเรียน

............................................................................................. .......................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

11.3 ปัญหาและอุปสรรคระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

11.4 การปรับปรงุ และพฒั นา
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................. ..................................
................................................................................................. ...................................................................................

ลงชอื่ ........................................................ผบู้ ันทึก
(นางสาวสิรินภา หมน่ื กันยา)
ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย

12. ความเหน็ ของผู้บริหารโรงเรียน
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงช่อื ........................................................ผตู้ รวจสอบ
(นางนงสุรางค์ คล้ายบานเย็น)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านวังแคน

รายวิชา คอมพิวเตอร์เพม่ิ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าที่ 24

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิ่มเตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าท่ี 25

รายวชิ า คอมพวิ เตอรเ์ พิ่มเตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าท่ี 26

สื่อ PowerPoint

วิธีการสร้าง จดั เก็บ และเรียกใชไ้ ฟลโ์ ปรแกรมสำนกั งาน

สไลด์ที่ 1 สไลดท์ ่ี 2

สไลด์ที่ 3 สไลด์ที่ 4

สไลด์ท่ี 5 สไลด์ที่ 6

สไลดท์ ่ี 7

รายวชิ า คอมพิวเตอรเ์ พมิ่ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ ที่ 27

สอ่ื PowerPoint

ประเภทของไฟล์

สไลดท์ ่ี 1 สไลด์ที่ 2

สไลด์ท่ี 3 สไลดท์ ี่ 4

สไลดท์ ี่ 5 สไลด์ที่ 6

สไลดท์ ่ี 7 สไลด์ท่ี 8

รายวชิ า คอมพิวเตอรเ์ พม่ิ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ ท่ี 28

สไลด์ท่ี 9 สไลด์ท่ี 10

สไลดท์ ่ี 10

รายวิชา คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หนา้ ที่ 29

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2

โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา คอมพิวเตอร์เพ่ิมเติม
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
เร่อื ง รู้จักกบั โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word เวลาเรียน 2 ชั่วโมง
ครผู ้สู อน นางสาวสริ นิ ภา หมน่ื กนั ยา
วันท่ี..........เดือน...............พ.ศ.............

1. ผลการเรยี นรู้
1. บอกวธิ ใี ช้งานของเคร่ืองมอื ในโปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word ได้อยา่ งถูกต้อง
2. ใชเ้ คร่ืองมือในโปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word ในการสรา้ งชนิ้ งานได้

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
โปรแกรมประมวลคำ Microsoft Word 2016 มีความสามารถในการจัดรูปแบบตัวอักษร ย่อหน้า ใส่

รูปภาพ จดหมายเวียน และอ่ืน ๆ
หนา้ ต่างของโปรแกรมประมวลคำ ประกอบดว้ ย
1. แถบเคร่ืองมือดว่ น (Quick Access Toolbar)
2. แถบเมนู (Menu Bar)
3. แถบช่ือเรื่อง (Title bar)
4. ริบบอน (Ribbon)
5. ตวั ควบคุมหนา้ ตา่ ง (Program Window Control)
6. ป่มุ แท็บ (Tab)
7. แถบเลอ่ื น (Scroll bar)
8. พืน้ ท่ีเอกสาร สำหรบั ใช้พิมพ์งาน (Working Area)
9. แถบสถานะ (Status Bar)
เมนูในโปรแกรมประมวลคำ Microsoft Word จะบรรจุคำส่ังต่าง ๆ ท่ีใช้ในการจัดการกับเอกสาร ซึ่งเมนู

ตา่ ง ๆ มดี ังน้ี
1. เมนูไฟล์ (File)
2. เมนูหนา้ แรก (Home)
3. เมนูแทรก (Insert)
4. เมนอู อกแบบ (Design)
5. เมนูเค้าโครง (Layout)

รายวชิ า คอมพิวเตอร์เพม่ิ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หน้าท่ี 31

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word

1. เมนูการอา้ งอิง (References)
2. เมนูการสง่ จดหมาย (Mailings)
3. เมนูรวี วิ (Review)
4. เมนมู ุมมอง (View)

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายสว่ นประกอบของหนา้ ต่างโปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word ได้ (K)
2. ใช้เครอ่ื งมือในโปรแกรมสำนักงาน Microsoft Word ในการสร้างช้นิ งานได้ (P)
3. เหน็ ความสำคญั ของการใช้โปรแกรมประมวลผลคำในการสรา้ งชนิ้ งาน (A)

4. สาระการเรียนรู้
1. โปรแกรมประมวลคำ Microsoft Word มีความสามารถในการจัดรูปแบบตัวอักษร ย่อหน้า ใส่รูปภาพ

จดหมายเวยี น และอ่นื ๆ
2. ส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word
3. หน้าท่ขี องเครื่องมือตา่ ง ๆ ในโปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word
4. ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลคำ Microsoft Word

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน

7. ภาระงาน
1. ใบงานท่ี 3 สว่ นประกอบหน้าตา่ งโปรแกรม Microsoft Word
2. ใบงานท่ี 4 หนา้ ที่ของเคร่ืองมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Microsoft Word

8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หนา้ ที่ 32
1. วิธกี ารสอนแบบสร้างสรรคเ์ ป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. การจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning

รายวิชา คอมพิวเตอร์เพ่ิมเติม ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word

ช่ัวโมงท่ี 1

ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ รู้จักกับโปรแกรมประมวลคำ Microsoft Word 2016 เพื่อเป็นการกระตุ้น
ความสนใจของผเู้ รียน

2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม เช่น “มีวิธีเข้าใช้งานโปรแกรมประมวลคำ หรือ
โปรแกรม Microsoft Word อย่างไร?”
แนวคำตอบ : ดบั เบล้ิ คลกิ ทไ่ี อคอนโปรแกรม Microsoft Word บนหนา้ จอ Desktop

3. ผสู้ อนอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ว่า นอกจากวิธีดงั กล่าว ยงั สามารถเขา้ ใช้งานโปรแกรมด้วยวธิ ีอน่ื ๆ ได้อกี คอื
1. การเข้าสโู่ ปรแกรมโดยใช้ปุม่ Start เลอื กโปรแกรม Microsoft Word 2016
2. การเข้าสโู่ ปรแกรมโดยการคน้ หา (Search) ช่อื โปรแกรม โดยไปทีแ่ ถบคน้ หาบนหนา้ จอ Desktop
และพมิ พ์คำว่า “Word” ลงไป

ขัน้ สอน

4. ผู้สอนเปิด Slide สื่อการสอน ส่วนประกอบหน้าต่างโปรแกรม Microsoft Word พร้อมอธิบายว่า
เมือ่ เขา้ สู่โปรแกรม จะปรากฏหน้าต่างโปรแกรมขึน้ มา เลือกรูปแบบเอกสารทต่ี อ้ งสร้าง

รายวชิ า คอมพิวเตอร์เพ่มิ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 หนา้ ท่ี 33

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word
หนา้ ตา่ งของโปรแกรม Microsoft Word ประกอบด้วย

1. แถบเครื่องมือด่วน (Quick Access Toolbar) ปุ่มคำส่ังท่ีเรียกใช้งานบ่อย ซึ่งสามารถกำหนด
เพ่ิมเติมไดภ้ ายหลงั

2. แถบเมนู (Menu Bar) แสดงรายชอื่ เมนตู ่าง ๆ สำหรับใช้งานในโปรแกรม Microsoft Word โดย
ในแตล่ ะเมนจู ะบรรจุคำสั่งต่าง ๆ

3. แถบช่อื เรื่อง (Title bar) แถบแสดงชื่อเรื่อง/ชื่อเอกสารทกี่ ำลงั สรา้ งหรอื เปิดใช้งาน ในปัจจุบัน
4. รบิ บอน (Ribbon) แถบรวมรวมคำส่ังทัง้ หมด เป็นส่วนติดต่อกบั ผู้ใช้โปรแกรม Microsoft Word

โดยมกี ารจดั เรียงคำสัง่ เป็นชดุ แท็บ ในแต่ละแท็บจะมปี ุ่มคำสง่ั ย่อยท่ีเกี่ยวข้องกนั
5. ตัวควบคุมหน้าต่าง (Program Window Control) สำหรับจัดการกับหน้าต่างโปรแกรม

Microsoft Word ท่ีเปิดใช้งานอยู่ เช่น ปุ่ม Minimize สำหรับย่อหน้าต่างไปไว้ที่ทาสก์บาร์
(Taskbar) ปุ่ม Restore down สำหรับย่อขนาดหน้าต่าง ปุ่ม Maximize สำหรับขยายขนาด
หนา้ ตา่ ง และป่มุ Close สำหรับปดิ หน้าต่างโปแกรม เป็นต้น
6. ปุม่ แท็บ (Tab) สำหรบั ต้ัง Tab โดยสามารถเลือกรปู แบบของ Tab ทีต่ อ้ งการตงั้ ได้
7. แถบเลอ่ื น (Scroll bar) สำหรับเลือ่ นดเู อกสาร
8. พ้ืนท่ีเอกสาร สำหรบั ใชพ้ ิมพ์งาน (Working Area)
9. แถบสถานะ (Status Bar) เป็นสว่ นที่แสดงสถานะการทำงานปัจจุบัน เช่น หน้าท่กี ำลังทำงานอยู่
ท่หี น้าใด จำนวนหนา้ เอกสารทั้งหมด จำนวนคำท้ังหมด การพิสูจน์อักษร ภาษาท่ีใช้งาน มุมมอง
เอกสาร และเปอรเ์ ซ็นต์การย่อ-ขยายหนา้ เอกสาร

รายวชิ า คอมพิวเตอร์เพม่ิ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 หนา้ ท่ี 34

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word
5. ผู้สอนแจกใบงานท่ี 3 ส่วนประกอบหน้าต่างโปรแกรม Microsoft Word พร้อมอธิบายวิธีการทำ
ใบงาน คือ ใหผ้ ู้เรยี นบอกสว่ นประกอบของหนา้ ตา่ งโปรแกรม Microsoft Word
6. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อย และคอยให้คำแนะนำ
เพิ่มเตมิ
7. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า นอกจากส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรมที่ได้อธิบายไปแล้ว ยังมี
ส่วนประกอบอ่ืน ๆ เช่น การลงชื่อเข้าใช้ การแชร์ เป็นฟังก์ชันท่ีช่วยให้สามารถทำงานแบบออนไลน์
โดยไฟล์งานจะถูกบันทึกไปยัง Cloud หรือพ้ืนที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ท่ีจะช่วยให้เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
และยงั ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ่นื แบบออนไลน์ได้อกี ดว้ ย
8. ผูส้ อนให้ผ้เู รียนแลกกันตรวจประเมินคำตอบ โดยท่ผี ู้สอนเฉลยคำตอบท่ีถูกต้อง

ชัว่ โมงที่ 2

ขั้นสอน (ต่อ)

1. ผู้สอนเปิด Slide สื่อการสอน หน้าท่ีของเคร่ืองมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Microsoft Word พร้อม
อธิบาย คือ แถบริบบอน (Ribbon) เป็นแถบชุดคำสั่งต่างๆ ที่ใช้ควบคุมการสร้างงานเอกสาร เพื่อให้
เรียกใชง้ านไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเรว็ โดยจดั เรยี งเป็นแท็บ ซง่ึ ในแต่ละแท็บจะมคี ำสั่งย่อย
ท่ีเกี่ยวขอ้ งกันตามหมวดหมู่การใชง้ าน ดงั น้ี
1. เมนูไฟล์ (File) รวบรวมกลุ่มคำส่ังท่ีใช้ในการจัดการกับไฟล์เอกสาร ประกอบด้วย การสร้าง
เอกสารใหม่ การเปิด ปิด การบันทึก การพิมพ์ การแชร์เอกสารกับบุคคลอ่ืน การส่งออก
บัญชี คำตชิ ม และคำส่ังตวั เลอื กสำหรบั การตั้งคา่ พื้นฐานให้กบั โปรแกรม

รายวิชา คอมพวิ เตอร์เพิ่มเติม ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน้าที่ 35

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word
2. เมนหู นา้ แรก (Home) รวบรวมกลมุ่ คำสัง่ ท่ีใช้ในการจัดรูปแบบขอ้ ความประกอบด้วย
คลิปบอร์ด ฟอนต์ ย่อหน้า สไตล์ และแกไ้ ข

3. เมนูแทรก (Insert) รวบรวมคำส่ังท่ีใช้ในการแทรกวัตถุประเภทต่าง ๆ ลงบน เอกสาร
ประกอบด้วย หน้าเอกสาร ตาราง ภาพประกอบ Add-in มีเดีย ลิงก์ ข้อคิดเห็น หัวกระดาษ
และทา้ ยกระดาษ ขอ้ ความและสัญลักษณ์

4. เมนูออกแบบ (Design) รวบรวมคำส่ังที่ใช้ในการจัดรูปแบบเอกสาร ประกอบด้วยธีม
จัดรูปแบบเอกสาร การกำหนดพื้นหลังของหน้ากระดาษ

5. เมนูเค้าโครง (Layout) รวบรวมคำสั่งที่ใช้ในการจัดการหน้ากระดาษ ประกอบด้วยตั้งค่า
กระดาษ ย่อหนา้ และจัดเรียง

6. เมนูการอ้างอิง (References) รวบรวมคำสั่งที่ใช้ในการสร้างการอ้างอิงประกอบด้วย
สารบัญ เชิงอรรถ การคน้ คว้า ข้อมูลอ้างองิ และบรรณานุกรม คำอธบิ ายภาพ และแทรกดชั นี

7. เมนูการส่งจดหมาย (Mailings) รวบรวมคำสง่ั ที่ใช้การสร้างจดหมายเวียนและส่วนประกอบ
ต่าง ๆ ของจดหมาย ประกอบด้วย สร้าง เร่ิมจดหมายเวียน เขียนและแทรกเขตข้อมูล
การแสดงตัวอย่างผลลัพธ์ และเสรจ็ ส้ิน

8. เมนูรีวิว (Review) รวบรวมคำส่ังที่ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร
ประกอบด้วยการพิสูจน์อักษร การช่วยสำหรับการเข้าถึง ภาษา ข้อคิดเห็น การติดตาม
การเปลยี่ นแปลง การเปรียบเทยี บ ป้องกัน และหมกึ

รายวชิ า คอมพวิ เตอร์เพ่มิ เติม ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน้าที่ 36

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word

9. เมนูมุมมอง (View) รวบรวมคำส่ังท่ีใช้ในการแสดงรูปแบบของเอกสารและกำหนด
ส่วนประกอบต่าง ๆ ของหน้าต่างโปรแกรม ประกอบด้วยมุมมอง การเคลื่อนย้ายหน้า
แสดง ย่อ/ขยาย หน้าต่าง แมโคร และ SharePoint

2. ผู้สอนแจกใบงานท่ี 4 หน้าที่ของเคร่ืองมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Microsoft Word พร้อมอธิบาย
วิธกี ารทำใบงานคอื ให้ผู้เรียนเขียนช่ือ หนา้ ทข่ี องเคร่ืองมอื และคยี ์ลัด (Shortcut Keys) ในโปรแกรม
Microsoft Word 2016 โดยมีวิธีการหาคำตอบคือ ให้ผู้เรียนนำเมาส์ไปชี้ที่เครื่องมือ ตามภาพที่
กำหนด จะปรากฎ Popup อธบิ ายเกย่ี วกับเครื่องมอื นน้ั ๆ

3. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน 20 นาที โดยท่ีผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้
คำแนะนำเพม่ิ เตมิ

4. ผู้สอนอธิบายเพ่ิมเติมว่า “ปุ่มลัด หรือคีย์ลัด (Shortcut keys)” ช่วยให้การใช้งาน และการส่ังงาน
คำส่ังต่าง ๆ ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ง่าย และรวดเร็วยิง่ ขึ้น ด้วยการใช้คยี ์ลัด เพอ่ื เข้าถึงคำสง่ั ตา่ ง ๆ
โดยการใชป้ ุ่ม Alt (สำหรบั คอมพวิ เตอรท์ ัว่ ไป), Command key (สำหรับ Mac), ปุม่ Ctrl หรอื Shift
พร้อมกับปุ่มอ่ืน ๆ ซึ่งคำส่ังเหล่าน้ีจะใช้สัญลักษณ์บวก เพื่อให้เข้าใจคีย์ลัดง่ายข้ึน เช่น Ctrl+S นั่น
หมายความวา่ ให้กดปุ่ม Ctrl คา้ งไวแ้ ลว้ กดปุ่ม S

5. เม่ือครบกำหนดเวลา ผ้เู รยี นคนใดสามารถหาคำตอบได้ถูกต้องมากทส่ี ุดจะเปน็ ผชู้ นะ
6. ผู้สอนและผูเ้ รยี นร่วมกันเติมคำตอบให้ครบถว้ น

ข้นั สรปุ

1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า โปรแกรมประมวลคำ Microsoft Word มีเคร่ืองมือท่ีช่วยอำนวย
ความสะดวกในการทำงาน เช่น การเขียนกราฟ อักษรศิลป์ ตาราง ช่วยจัดการงานด้านเอกสาร
รายงาน ประกาศ จดหมายเวียน แผน่ พบั หรือแบบฟอร์มต่าง ๆ โดยมีระบบอัตโนมัติตา่ ง ๆ ที่ช่วยใน
การทำงานสะดวกข้นึ เชน่ การตรวจคำสะกด การตรวจสอบไวยากรณ์ การใส่ขอ้ ความอัตโนมตั ิ

2. ผูส้ อนเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนสอบถามเพ่มิ เตมิ

9. สื่อการเรยี นรู้
1. คลปิ วิดีโอ รจู้ กั กับโปรแกรมประมวลคำ Microsoft Word
2. Slide ส่อื การสอน สว่ นประกอบหน้าต่างโปรแกรม Microsoft Word
3. Slide สื่อการสอน หน้าทขี่ องเคร่ืองมอื ตา่ ง ๆ ในโปรแกรม Microsoft Word

รายวิชา คอมพิวเตอรเ์ พิ่มเตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 หนา้ ที่ 37

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 โปรแกรมประมวลคำ Microsoft word

4. ใบงานท่ี 3 ส่วนประกอบหนา้ ต่างโปรแกรม Microsoft Word
5. ใบงานท่ี 4 หน้าทีข่ องเคร่อื งมือตา่ ง ๆ ในโปรแกรม Microsoft Word
6. โปรแกรม Microsoft Word

0

10. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์
แบบประเมินผลงาน
ใบงานท่ี 3 ส่วนประกอบ คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี
หนา้ ต่างโปรแกรม Microsoft แบบประเมนิ ผลงาน ผ่านเกณฑ์
Word
แบบประเมนิ พฤติกรรม คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดี
ใบงานที่ 4 หน้าท่ีของ รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
เคร่อื งมอื ตา่ ง ๆ ในโปรแกรม
Microsoft Word คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี
ผ่านเกณฑ์
ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล
จากการทำใบงานท่ี 4 หนา้ ท่ี
ของเครื่องมือต่าง ๆ ใน
โปรแกรม Microsoft Word

รายวิชา คอมพิวเตอรเ์ พ่มิ เติม ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าท่ี 38

บนั ทกึ หลงั การสอน

11. ผลการจดั การเรยี นการสอน
11.1 ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนท้งั หมด................คน
นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ดี................คน
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง................คน
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ปรบั ปรงุ ................คน
11.2 ผลการประเมินพฤติกรรมระหวา่ งเรียน

............................................................................................. .......................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

11.3 ปัญหาและอุปสรรคระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

11.4 การปรับปรงุ และพฒั นา
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................. ..................................
................................................................................................. ...................................................................................

ลงชอื่ ........................................................ผบู้ ันทึก
(นางสาวสิรินภา หมน่ื กันยา)
ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย

12. ความเหน็ ของผู้บริหารโรงเรียน
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงช่อื ........................................................ผตู้ รวจสอบ
(นางนงสุรางค์ คล้ายบานเย็น)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านวังแคน

รายวิชา คอมพิวเตอร์เพม่ิ เตมิ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 หน้าที่ 39