238
หลวงพ่อเปรียบเทียบให้ฟังว่า วิชาอาชีพในโลกนี้
มีมากหลากหลาย ไม่ว่าจะค้าขาย ท�ำนาท�ำสวน หรือ
ท�ำไร่ อยา่ งแค่การทำ� สวน กย็ ังมมี ากหลากหลาย ทั้งเงาะ
ท้ังทุเรียน ท้ังมังคุด จะเห็นได้ว่า วิธีการเหล่าน้ีล้วนแต่
ไดเ้ งนิ ทง้ั นัน้
ทนี เ้ี ราจะตอ้ งไปทำ� ทกุ อยา่ งเหรอ? กระโดดไปทำ� นา
หน่อยหนึ่ง ไปกรีดยางหน่อยหนึ่ง ไปท�ำไร่ข้าวโพด
หน่อยหนึ่ง ไปท�ำส�ำปะหลังหน่อยหน่ึง มาขายน้�ำมัน
หน่อยหนึ่ง ผลทีส่ ุด ก็เป็นบา้ ตาย เพราะเหตุใด?
เพราะไม่ได้ศึกษา ไม่ได้ยึดในแนวใดแนวหนึ่งให้ดี
กเ็ ลยไมเ่ ขา้ ใจวา่ ทำ� อนั ไหนกไ็ ดเ้ งนิ ทง้ั หมด ถกู ตอ้ งทงั้ หมด
ขนึ้ อยกู่ บั จรติ นสิ ยั เราวา่ ชอบแบบไหน ถนดั วธิ ไี หนในการ
หาเงนิ
พระอาจารยอ์ ินทร์ถวาย สนั ตุสสโก 239
๕๐
อานสิ งสบ์ ุญคุ้มครอง
เวลาทเ่ี ราทำ� บญุ ทำ� กศุ ลแลว้ มบี างคนเขา้ ใจผดิ คดิ วา่
เมอื่ เราทำ� บญุ แล้ว จะชว่ ยคมุ้ ครองหา้ มไมใ่ หเ้ กิดภยั พิบัติ
ไมใ่ หเ้ จบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย ไมใ่ หไ้ ดร้ บั โทษภยั ไมใ่ หม้ เี รอ่ื งราวอะไร
ตอ่ มิอะไรเกดิ ขึน้ จะช่วยใหเ้ ราแคล้วคลาด ตกน�้ำไม่ไหล
ตกไฟไม่ไหม้
อันนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงอธิบายว่า ถ้าจะช่วยห้าม
ไมใ่ หส้ งิ่ เหล่าน้ีเกิดขนึ้ เลย อันนีก้ ค็ งจะเปน็ ไปไม่ได้ แตถ่ ้า
จะชว่ ยผอ่ นหนกั ใหเ้ ปน็ เบานน้ั อนั นอ้ี านสิ งสบ์ ญุ กศุ ลกค็ ง
พอช่วยได้สว่ นหนง่ึ
แต่ถ้าจะให้คุ้มครองจริงๆ ก็คงไม่ได้ เพราะคนเรา
ถ้าท�ำบุญแล้วจะให้ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายน้ัน ถ้าเป็น
อยา่ งนน้ั ได้ พระพุทธเจ้าของเราทา่ นก็คงจะไม่ตายเพราะ
บุญบารมีของทา่ นมีมาก
240
ส่วนภัยที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้น ส�ำหรับผู้ปฏิบัติธรรม
บญุ กศุ ลนก้ี พ็ อจะคมุ้ ครองได้ แตถ่ า้ จะใหเ้ ราทำ� บญุ เพอื่ ให้
ล้างบาปกรรมในอดตี ชาตทิ ง้ั หมดนน้ั แบบนีพ้ ระพุทธเจา้
ท่านไม่ทรงรบั รอง
ตัวอย่างเช่น พระโมคคัลลานะที่ท่านเคยฆ่าบิดา
มารดาของท่านในอดตี ชาติ จากนน้ั มา ทา่ นกไ็ ด้รับกรรม
โดยถูกฆ่ามาไม่รู้กี่ภพก่ีชาติ จนมาถึงชาติสุดท้ายน้ี
คือเป็นพระโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นถึงอัครสาวกเบ้ืองซ้าย
ของพระพุทธเจ้า แม้ว่าท่านจะมีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินได้
แต่กรรมเก่าในอดีตชาติก็ยังตามมาให้ผลจนท�ำให้ท่าน
ตอ้ งถกู ฆา่ ตายในชาตสิ ดุ ทา้ ยของท่านนี้
เม่อื เราทำ� บญุ ในชาตนิ ้ีดพี อแล้ว บญุ กศุ ลน้ันก็ส่งไป
ได้ไกล แต่บุญกุศลนี้ก็หมดได้เหมือนกัน เพราะถ้าเรา
ไมไ่ ดท้ ำ� บญุ ตอ่ เพอ่ื เปน็ การสะสมบญุ เอาไว้ บญุ ของเรานนั้
ก็จะร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ ผลที่สุด บุญน้ันก็หมดได้
เหมือนกนั
ส่วนบาปก็ให้ผลลักษณะเดียวกัน เพราะฉะน้ัน
กรรมช่ัวอย่าท�ำเลยดีกว่า เพราะเม่ือท�ำไปกรรมช่ัวน้ัน
พระอาจารย์อินทรถ์ วาย สันตสุ สโก 241
จะให้ผลในภายหลังจนกว่าจะได้เป็นพระอรหันต์ อย่าง
พระโมคคัลลานะ ถ้าพระโมคคัลลานะท่านยังไม่ได้เป็น
พระอรหันต์ เกิดมาภพหนา้ ชาติหน้าทา่ นกค็ งตอ้ งถกู ฆ่า
ไปเร่ือยๆ ไม่รู้อีกกี่ชาติเพ่ือใช้กรรมในอดีตชาติของท่าน
ท่ีเคยฆ่าบิดามารดา จนกว่ากรรมอันนั้นจะเบาบางลง
เร่ือยๆ จนหมดผลไปในที่สุด
แต่เพราะที่ท่านได้ส�ำเร็จเป็นพระอรหนั ต์แล้ว ดังน้ัน
พอมาในชาติสุดท้ายท่ีถูกฆ่านี้ ทีน้ีกรรมตัวนี้เลยตาม
ไมถ่ ึงตวั ท่านอีกต่อไป เพราะทา่ นหมดกเิ ลสเข้าสูน่ ิพพาน
ไปเสยี กอ่ น ผลท่สี ดุ กแ็ ปลวา่ เปน็ อโหสิกรรมคือจบกันไป
คล้ายๆ ว่าพระอรหันต์ท่านข้ามเรือไปแล้ว ส�ำหรับ
พระอรหันต์น้ัน ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วนั้นจึงกลายเป็น
อโหสกิ รรมไป
กรรมชั่วทีเ่ ปรียบเสมือนหมาไลเ่ นื้อนัน้ เมอ่ื วง่ิ ไลล่ า่
ตามมาถงึ ชายฝงั่ แล้วก็ข้ามไปไม่ได้ เพราะกรรมพวกนัน้
มันไม่สามารถท่ีจะข้ามมหาสมุทรไปได้ ความบริสุทธิ์
ของท่านข้ามมหาสมุทรไปแล้ว จึงนับเป็นอโหสิกรรม
แล้วกรรมพวกนั้นมันท�ำอย่างไร? กรรมพวกน้ันมัน
242
ว่ิงพล่านไม่รู้จะวิ่งไปท่ีใด ผลที่สุด กรรมน้ันก็เลยตายไป
หมดกรรมกนั ไป
แต่ส�ำหรับพวกเราที่ยังไม่พ้นทุกข์ในวัฏสงสาร
กรรมที่เราได้ท�ำไว้ในอดีต กรรมนั้นก็จะตามสนองเรา
เราก็จะต้องรับผลของกรรมน้ันไปเรื่อยๆ อย่างที่
พระพทุ ธเจา้ ท่านตรสั วา่
อกตํ ทกุ กฺ ฏํ เสยโฺ ย ปจฉฺ า ตปปฺ ติ ทกุ กฺ ฏํ (อะกะตงั
ดกุ กะฏัง เสยโย ปจั ฉา ตัปปะติ ดุกกะฏงั )
กรรมชัว่ อย่าทำ� เสยี เลยดกี วา่ เพราะกรรมชวั่ นน้ั
ย่อมเผาผลาญใหผ้ ลเดอื ดรอ้ นเมื่อภายหลัง
ถ้าเราท�ำกรรมท่ีไม่ดี ไม่ว่าจะทางกายกรรม,
วจีกรรม หรือมโนกรรม กรรมนั้นก็จะตามสนองเราไป
เร่ือยๆ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราประกอบแต่กรรมดี
ไม่ว่าจะทางกายกรรม,วจีกรรม หรือมโนกรรมแล้ว
อันน้ีก็จะเป็นบุญเป็นกุศลเข้าสู่จติ ใจของเรา
พระอาจารยอ์ นิ ทร์ถวาย สันตุสสโก 243
๕๑
เหมอื นพัตตล์ กู กอลฟ์ ลงหลมุ
เมอ่ื เราใสใ่ จ, จรงิ จงั และจรงิ ใจในการปฏบิ ตั จิ นจติ ใจ
ของเราไม่ส่งไปทางอ่ืนแล้ว ทีน้ีเราก็จะเร่ิมเห็นผลแห่ง
การปฏิบัติ คือจิตใจของเราจะรวมสงบน่ิง คือจะเข้าถึง
ความสงบ แตถ่ ึงอย่างไร เรากไ็ มต่ อ้ งไปสนใจ ไปคาดหวงั
หรือไปคาดหมายว่าจิตมันจะรวมหรือไม่รวม จิตมันจะ
สงบหรือไมส่ งบ เพราะถา้ เราจะให้จิตรวม เราก็ต้องสร้าง
เหตุให้พอเสียก่อน มันก็เท่านั้นเอง ทีน้ีในเมื่อเหตุแห่ง
ความสงบมันเพียงพอแล้ว ทีนี้ผลแห่งความสงบมันก็จะ
เกดิ ของมนั เอง
เหมือนกับเวลาเราเขี่ยลูกกอล์ฟลงหลุมนั่นล่ะ
ถ้าเหตุผลมนั พอเหมาะทจี่ ะตกหลมุ ได้ ลกู กอล์ฟมนั ก็ลง
ของมันเองเลย ในทางตรงกันข้าม ถึงเราจะเขี่ยมันแล้ว
แต่ถ้าเหตุผลของมันยังไม่พอเหมาะที่มันจะตกลงไป
244
ในหลุมได้ ทีนี้ต่อให้เราเขี่ยมันให้ตายอย่างไร ลูกกอล์ฟ
มันก็ไม่มีทางตกลงไปได้ เพราะเหตุใด? เพราะเหตุมัน
ไมพ่ อเหมาะทจ่ี ะลง แต่ถา้ เราเขย่ี ใหพ้ อเหมาะพอดนี ั่นละ่
มันกล็ งหลมุ ของมันไดเ้ องเลย
นแ่ี หละ การทำ� สมาธนิ ก้ี เ็ หมอื นกบั การพตั ตล์ กู กอลฟ์
ลงหลุมนั่นละ่ แตถ่ งึ อย่างไร เรากต็ ้องพยายามไว้อย่เู สมอ
ทีน้ีเม่ือจิตใจเราได้ผ่านความสงบนั้นมาแล้ว ความมั่นใจ
ในตัวเองจะทวคี ณู เลยนะทีน้ี
เพราะเหตใุ ด? เพราะเมอื่ จติ ใจเราผา่ นความสงบแลว้
ความขยันหม่นั เพยี รมนั มาเองเลยทนี ี้ เรยี กวา่ อยากแตจ่ ะ
ปฏบิ ตั ิ ไมว่ า่ จะเดนิ จงกรมหรอื จะนงั่ ภาวนา เพราะวา่ จติ ใจ
เริ่มเห็นผลแห่งความก้าวหน้าจากการท�ำความพากเพียร
ของตนเอง ความม่นั ใจมนั เลยทวีคูณในจิตใจแลว้ ทีนี้
จากนั้นเราก็พยายามท�ำจิตให้มีความสงบเป็น
พื้นฐาน คือเราไม่ต้องวิตกกลัวว่าจะติดในสมาธิหรือติด
ในความสงบอันนั้น เพราะเราก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าอันน้ี
คือสมาธิ เมื่อเราอยู่ในสมาธิ ก็พยายามท�ำจิตใจให้สงบ
ให้รผู้ ลของสมาธิวา่ เขา้ อยา่ งไร ถอนอยา่ งไร เดนิ สมาธิให้
พระอาจารยอ์ ินทร์ถวาย สันตุสสโก 245
จิตสงบท�ำอย่างไร คือให้เราดูการเข้า-ออกของสมาธิ
ดวู ่าจิตเข้าสคู่ วามสงบอย่างไร
โดยมากการที่จะเข้าสมาธิหรือการท่ีจะท�ำให้จิต
มันสงบ เราเข้าไม่ได้ด้วยการคิดมุ่งหวัง คาดหวังท่ีจะให้
จิตมันสงบ เราเพียงแต่ต้องสร้างเหตุให้เพียงพอเหมือน
กับเวลาเราตีกอล์ฟนั่นล่ะ ถ้าเราตีกอล์ฟมีเหตุผลแล้ว
ลูกมันจะลงหลมุ ลงลอ็ กของมนั เอง
น้ีก็เหมอื นกัน เราไม่ต้องไปมงุ่ หวัง, คาดหวงั หรือ
คาดหมายผลของการภาวนา แต่ให้มีความตั้งใจเท่าน้ัน
พอ ให้มีสตอิ ย่กู ับตนเอง อย่าให้มันเผลอ เวลาเราภาวนา
เราก็ไม่ต้องไปคิดไปสนใจว่าจิตมันจะสงบหรือไม่สงบ
เพียงแต่ว่าสติกับจิตของเรานั้นต้องไม่ให้มันแยกห่าง
จากกัน ไม่ใหม้ ันเผลอจากกัน
246
๕๒
ความเปน็ มา ตอน ๑๓:
ความเปน็ มาวนั มหาปวารณา
วันข้ึน ๑๕ ค�่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันมหาปวารณา
คือเป็นการเปิดโอกาสให้หมู่สงฆ์ท่ีได้อยู่ร่วมกันจนครบ
พรรษานี้ สามารถว่ากล่าวตักเตือนแก่กันและกันได้
จัดเป็นสังฆกรรมอย่างหนึ่ง ที่พระสงฆ์จะต้องท�ำร่วมกัน
ในวนั สดุ ทา้ ยของการอยจู่ ำ� พรรษา เพราะบางทกี ารอยดู่ ว้ ย
กันที่ผ่านๆ มา อาจจะเกิดความขัดข้องขุ่นเคืองใจกัน
เกิดความไม่สบายใจ ไม่ลงรอยลงใจกันอยู่ เพราะฉะน้ัน
ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป พระพุทธเจ้าท่านจึงเปิดโอกาส
ให้พระสงฆ์ปวารณาตักเตือนต่อกันได้ เพื่อที่จะได้แก้ไข
ในสงิ่ ท่ีตนเองบกพร่องอยู่
ความเป็นมาของการปวารณานี้คือ ในสมัยหน่ึง
ท่ีพระพุทธเจ้าประทับอยู่ท่ีวัดป่าเชตวัน เมืองสาวัตถี
ไดม้ พี ระหลายรปู อยรู่ ว่ มจำ� พรรษากนั ทเี่ ขตชนบทในแควน้
โกศล พระเหล่านั้นได้ปรึกษากันว่า “ท�ำอย่างไรพวกเรา
พระอาจารยอ์ นิ ทรถ์ วาย สันตุสสโก 247
จึงจะอยู่จ�ำพรรษาร่วมกันด้วยความผาสุก สามัคคี
ปรองดอง ไม่ทะเลาะววิ าทกนั ?”
จงึ ไดต้ กลงกนั วา่ “หากพวกเราปดิ วาจา ไมพ่ ดู คยุ กนั
หากจ�ำเป็นต้องสื่อสารกันจริงๆ ก็ให้ใช้ภาษามือสื่อสาร
กันแทน (สมัยนั้นยังไม่มีภาษาเขียน แม้เเต่การบันทึก
พระไตรปฎิ กในการสังคายนาครงั้ แรก ก็ยงั ตอ้ งอาศัยการ
ท่องบ่นสาธยายเพ่ือจดจ�ำเอา) ด้วยวิธีการอย่างนี้แหละ
พวกเราจงึ จะอยจู่ ำ� พรรษารว่ มกนั ดว้ ยความผาสกุ มคี วาม
สามคั คปี รองดอง ไมท่ ะเลาะววิ าทกนั ” จากนนั้ พระเหลา่ นนั้
จึงไดอ้ ยู่จำ� พรรษารว่ มกนั ดว้ ยวิธีนใ้ี นตลอด ๓ เดอื น
ภายหลังออกพรรษาแล้ว ภิกษุเหล่านี้จึงเดินทาง
เข้าไปกราบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสถามพระ
เหล่าน้ันว่า “พวกท่านทั้งหลาย อยู่จ�ำพรรษาร่วมกัน
ด้วยความผาสุกหรือไม่?” ถึงแม้พระเหล่านี้จะจ�ำพรรษา
ดว้ ยกนั อย่างอดึ อดั ไมม่ ีความสุขเลย แต่กย็ งั กราบทูลว่า
“พวกขา้ พระองค์ จำ� พรรษาอยรู่ ว่ มกนั ดว้ ยความผาสกุ ดอี ยู่
พระเจ้าข้า” พระพทุ ธเจ้าจึงตรัสถามวา่ “แล้วพวกเธออยู่
รว่ มกันและปฏบิ ัตธิ รรมร่วมกันอย่างไรเลา่ ?”
248
ทีนพ้ี ระเหล่าน้ี กอ็ ยากจะใหพ้ ระพุทธเจา้ ตรสั ชมเชย
วา่ พวกตนนนั้ เปน็ ผู้เครง่ ครัดส�ำรวมระวงั จงึ กราบทลู ว่า
“ในการจ�ำพรรษา พวกข้าพระองค์ตั้งจิตอธิษฐานขอ
ปิดวาจา คือจะไม่มีการพูดใดๆ ไม่แนะน�ำสั่งสอนใดๆ
และไม่บอกกล่าวอะไรใดๆ กันเลย ตลอดช่วงในพรรษา
โดยถืออย่างเคร่งครัด ถ้าต้องการส่ิงใด ก็ใช้แต่ภาษามือ
สอ่ื สารกันเทา่ นั้น พระเจา้ ขา้ ”
คร้ันพระพุทธเจ้าทรงทราบแล้ว แทนท่ีพระองค์
จะทรงสรรเสริญว่า พวกเธอเป็นผู้ที่เคร่งครัดส�ำรวม
แต่พระพุทธองค์กลับทรงต�ำหนิ โดยเรียกพระกลุ่มนี้ว่า
โมฆบรุ ษุ คอื บคุ คลทเี่ ปลา่ ประโยชน์ (บางครง้ั พระพทุ ธเจา้
จะทรงเรียกว่า โมฆภิกษุ คือพระที่บวชเข้ามาแล้ว
เปลา่ ประโยชน์ แทนกม็ ี) โดยตรัสกบั เหล่าสงฆ์ว่า
“ดกู อ่ น สงฆท์ ง้ั หลาย โมฆบรุ ษุ พวกนี้ แมอ้ ยจู่ ำ� พรรษา
อย่างไม่มีความผาสุกเลย ก็ยังยืนยันว่าอยู่กันด้วยความ
ผาสกุ การกระท�ำของโมฆบุรษุ พวกน้ี คือการถอื มคู วัตร
(ข้อวัตรปฏิบัติอย่างคนใบ้) ซ่ึงเป็นข้อวัตรปฏิบัติท่ี
พวกเดียรถีย์เขาถือกัน เป็นการอยู่ร่วมกันอย่างกับ
พระอาจารยอ์ ินทรถ์ วาย สนั ตุสสโก 249
สตั วเ์ ลยี้ ง อยา่ งเชน่ แพะ เปน็ การอยรู่ ว่ มกนั แบบผปู้ ระมาท
อย่รู ว่ มกนั แทๆ้ เพราะการอยดู่ ว้ ยกนั นน้ั ต้องมกี ารบอก
กลา่ วตกั เตอื นกนั แนะนำ� สง่ั สอนกนั เพราะถา้ พระตา่ งองค์
กต็ า่ งปดิ วาจา ไมพ่ ดู บอกกลา่ วตกั เตอื นอะไรกนั ไมแ่ นะนำ�
สั่งสอนกัน เหมือนกับเป็นพระใบ้แล้ว แล้วผู้ใดเล่าที่จะ
เป็นผู้แนะน�ำสั่งสอนเหล่าพุทธบริษัท ๔ ต่อไป? แล้ว
พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองไปได้อย่างไร? พวกท่าน
ทง้ั หลายตอ้ งรจู้ กั บอกกลา่ วตกั เตอื นกนั แนะนำ� สงั่ สอนกนั
แบบน้ีมันถงึ จะถูก”
จากนนั้ พระพทุ ธเจา้ จงึ ทรงบญั ญตั วิ า่ หา้ มไมใ่ หภ้ กิ ษุ
อธิษฐานว่า จะไม่พูด ถ้าภิกษุใดก็ตามอธิษฐานไม่พูด
ให้ปรับอาบตั ทิ ุกกฎ
นี่แหละ อันนี้คือสาเหตุท่ีมาของบทบัญญัติใน
ค�ำปวารณาออกพรรษา ก็มาจากจุดนี้ คือจุดที่ภิกษุไป
เสนอหนา้ วา่ พวกเราจำ� พรรษาดว้ ยกนั แลว้ ไมพ่ ดู ไมใ่ ชว้ าจา
แทนทพี่ ระองคจ์ ะทรงสรรเสรญิ พระองคก์ ลบั ทรงตำ� หนนิ ะ
เพราะพระสงฆ์ท้ังหลายที่อยู่ด้วยกัน ต้องเป็นผู้พึ่งพา
อาศัยกันแบบพ่ีได้สองน้องได้หน่ึง ต้องบอกกล่าว
250
ตักเตือนกัน แนะน�ำส่ังสอนกัน ในเร่ืองศีลและวินัย
เรอ่ื งคณุ ธรรม, ศลี ธรรม และจรยิ ธรรม มใิ ชว่ า่ พระตา่ งองค์
ก็ต่างน่งิ เป็นใบ้ แลว้ พุทธศาสนาจะอย่ไู ด้อย่างไร?
ในพระวนิ ยั จงึ ไมใ่ หอ้ ธษิ ฐานงดพดู ปดิ วาจาตามอยา่ ง
พวกเดยี รถีย์ คอื ใหพ้ ดู ได้เมื่อคราวจำ� เปน็ แตใ่ ห้พูดนอ้ ย
เท่าทจี่ �ำเป็น แตถ่ ้าไม่พดู อะไรเลย อันน้นั ไมไ่ ดน้ ะ แลว้ ถ้า
ครูบาอาจารย์อย่างหลวงพ่ออธิษฐานไม่พูดบอกกล่าว
ตกั เตอื น ไมแ่ นะนำ� สง่ั สอนอะไรกบั ลกู ศษิ ยเ์ ลย แลว้ ปญั ญา
ความฉลาดจะเกิดข้ึนได้อย่างไร? ถ้าไม่อาศัยการศึกษา
เรียนรู้จากการไดย้ นิ ไดฟ้ ัง
แตถ่ งึ อยา่ งไร การอยรู่ ว่ มกนั กต็ อ้ งรจู้ กั ระวงั เมอ่ื พดู
แล้วก็ต้องให้รู้จักประมาณในการพูด เมื่อพูดจาเข้าใจ
ถกู ตอ้ งกนั แลว้ กพ็ อ ไมพ่ ดู พรำ่� เพรอื่ เรอื้ รงั อยา่ งหลวงพอ่ เอง
ก็ไม่ได้พูดท้ังวันทั้งคืน พอมีอะไรก็ค่อยแนะน�ำส่ังสอน
บอกกลา่ ว จากนน้ั ก็จบ
การปวารณาในสงฆ์น้ัน เริ่มต้นจากพระผู้มีพรรษา
มากที่สุดเป็นผู้ปวารณาก่อน จากนั้นก็ไล่ไปจนถึงผู้มี
พรรษาน้อยท่ีสุดตามล�ำดับ โดยผู้ท่ีกล่าวปวารณาน้ัน
พระอาจารยอ์ ินทร์ถวาย สันตุสสโก 251
ใหน้ งั่ คกุ เขา่ ประนมมอื พรอ้ มกลา่ วปวารณาเปน็ ภาษาบาลี
๓ ครง้ั โดยความหมายในบาลีในจดุ น้คี อื
“กระผมขอปวารณาในสงฆว์ า่ หากครบู าอาจารยแ์ ละ
หมเู่ พอ่ื นทง้ั หลาย เหน็ การกระทำ� อนั ใดของผม ทป่ี ระมาท
พลาดพลง้ั ไมถ่ กู ตอ้ งตามหลกั พระธรรมวนิ ยั ไมว่ า่ จะดว้ ย
ไดเ้ หน็ ดว้ ยไดฟ้ งั หรอื ดว้ ยนกึ สงสยั วา่ ผมไดท้ ำ� ความผดิ
ทางกาย ทางวาจาประการใดก็ดี ก็ขอให้สงฆ์ท้ังหลาย
ได้ว่ากล่าวตักเตือนผม เพ่ือท่ีผมจะได้ส�ำรวมระวังและ
แก้ไขตอ่ ไป”
ในระหวา่ งการปวารณา พระทกุ รปู นง่ั คกุ เขา่ ประนมมอื
จากนั้นเมอ่ื รปู ไหนปวารณาเสร็จแลว้ จงึ จะเปลยี่ นเป็นนัง่
พบั เพียบพนมมือบนอาสนะได้
แม้พระพุทธเจ้าเองก็ยังทรงให้ความส�ำคัญกับการ
ปวารณาเป็นอย่างมาก ดังเช่นในสมัยท่ีพระองค์ประทับ
ในท่ามกลางหมู่สงฆ์ ๕๐ รูป ซ่ึงทั้งหมดล้วนเป็น
พระอรหันต์ ณ วัดบุพพาราม (วัดบุพพารามต้ังอยู่ที่
กรุงสาวัตถี โดยเป็นวัดที่นางวิสาขาสร้างถวายโดยขาย
เครื่องประดับประจ�ำตัวของนางอันประกอบด้วยรัตนะ
252
๗ ประการ ทม่ี ชี อื่ วา่ มหาลดาปสาธน์ ซงึ่ มมี ลู คา่ ๙๐ ลา้ น
กหาปนะ โดยพระพุทธเจ้าเสด็จมาจ�ำพรรษาที่วัดน้ี
๖ พรรษา) วนั นั้นเปน็ วันอุโบสถขึน้ ๑๕ ค่ำ� พระพทุ ธเจ้า
ไดท้ รงประกาศปวารณาในท่ามกลางสงฆ์วา่
“ดูก่อน สงฆ์ทั้งหลาย บัดนี้เราตถาคตขอปวารณา
ต่อพวกเธอท้ังหลาย หากเราตถาคตกระท�ำสิ่งใดลงไป
ไม่เป็นท่ีพอใจ หรือว่าเป็นที่ไม่สบายใจ ให้พวกเธอ
ท้ังหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้วยได้เห็น ด้วยได้ฟัง หรือด้วย
นึกสงสัยวา่ เราตถาคตไดท้ �ำความผดิ ทางกาย ทางวาจา
ประการใดกด็ ี ขอใหพ้ วกเธอทง้ั หลายไดว้ า่ กลา่ วตกั เตอื น
เราตถาคต เพ่ือท่ีเราตถาคตจะได้ส�ำรวมระวังและแก้ไข
ต่อไป”
เมื่อพระพุทธองค์ตรัสอย่างน้ีแล้ว พระสารีบุตรได้
น่ังคุกเข่าประนมมือ กราบทูลว่า “ข้าแต่พระพุทธเจ้า
พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้บริสุทธ์ิบริบูรณ์ ทรงเป็นสยัมภู
รู้แจ้งโลกทุกอย่าง พวกข้าพระองค์เห็นพ้องต้องกันว่า
พระองค์ไม่สมควรที่จะปวารณาในสงฆ์ เพราะพระองค์
ทรงเป็นผู้บริสุทธ์ิหมดจดแล้ว มีแต่พวกข้าพระองค์ควร
ที่จะเปน็ ผปู้ วารณาต่อกัน พระเจา้ ข้า”
พระอาจารย์อนิ ทร์ถวาย สันตสุ สโก 253
จากนั้นท่านพระสารีบุตรพร้อมทั้งภิกษุท้ังหมด
จึงได้ปวารณาต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเช่นเดียวกัน
ซงึ่ พระองคก์ ไ็ มท่ รงเหน็ การกระทำ� ใดๆ ทง้ั ทางกาย วาจา
ของพระอรหนั ตเ์ หลา่ นน้ั ทจี่ ะทรงตเิ ตยี นไดเ้ ชน่ กนั นแ่ี หละ
ขนาดพระพทุ ธเจา้ ทา่ นทรงเปน็ ผบู้ รสิ ทุ ธพิ์ น้ จากกเิ ลสแลว้
ท่านก็ยังประกาศปวารณาในสงฆ์ โดยหลังจากท่ี
พระสารีบุตรกราบอาราธนาพระพุทธเจ้าในคร้ังน้ัน
พระพทุ ธเจา้ กไ็ มไ่ ดก้ ลา่ วปวารณาอกี ตอ่ ไป คงเหลอื ไวแ้ ต่
เหล่าสงฆท์ จ่ี ะเปน็ ผู้กล่าวปวารณาตอ่ กัน
เมื่อปวารณาเสร็จแล้ว หมู่เพ่ือนก็ว่ากล่าวตักเตือน
กันได้ ส�ำหรับการท่ีพระผู้น้อยจะเตือนพระผู้ใหญ่นั้น
ในพระวินัยก็บอกว่า ให้พระผู้น้อยตักเตือนด้วยความ
เคารพ คือเปน็ เชิงบอกกล่าวปรึกษากัน ถ้าพระผู้นอ้ ยไป
เตอื นพระผใู้ หญแ่ บบตำ� หนวิ า่ กลา่ ว แบบกระทบกระแทก
แดกดนั แบบขาดความเคารพ อยา่ งนไ้ี มไ่ ด้ ใหป้ รบั อาบตั ิ
ทกุ กฎ
การปวารณาวา่ กลา่ วตกั เตอื นนนั้ เปน็ ผลดี เพราะวา่
ความผดิ ของเรา คนอน่ื อาจจะมองเหน็ แตต่ วั เราเองกลบั
254
มองไม่เห็น เหมือนกันกับผงธุลีท่ีอยู่ในตาของตนเอง
เพราะมันอยู่ใกล้เกินไปจนเรามองไม่เห็น แต่คนอื่นมอง
เห็นได้
ดังน้ัน เราก็ต้องอาศัยคนอ่ืนให้ช่วยเข่ียออกให้เรา
นก้ี เ็ หมอื นกนั ความคดิ , คำ� พดู หรอื การกระทำ� ของเราเอง
บางครั้งมันก็ไม่รู้ตัว เพราะว่าเราเคยชินกับอุปนิสัยของ
ตัวเราเองไปแล้ว มันเลยมองไม่เห็น น่ีแหละ อันน้ีเรา
จงึ ตอ้ งอาศยั ครบู าอาจารย์ อาศยั หมเู่ พอื่ นใหช้ ว่ ยตกั เตอื น
เพอ่ื ที่เราจะไดส้ �ำรวมระวังไม่กระท�ำอยา่ งนนั้ อีก
พระอาจารย์อนิ ทรถ์ วาย สนั ตุสสโก 255
บรรณานุกรม
๑. ความในใจของหลวงพ่อ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๕๓
กณั ฑ์ที่ ๔ วันท่ี ๑๙ เม.ย. ๕๖ ค่ำ� )
๒. แหม่มเหน็ พระไมค่ ยุ กัน
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๘
กณั ฑ์ท่ี ๘ วันที่ ๑๗ ก.ค. ๔๖; ลำ� ดบั ท่ี ๓๒ กัณฑ์ที่ ๒๑
วนั ที่ ๑๙ ส.ค. ๕๓)
๓. โยมสำ� เรจ็ อรหนั ตไ์ ดห้ รอื ไม?่ (ชาดกสนั ตตมิ หาอำ� มาตย)์
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๓๘
กณั ฑท์ ่ี ๓ วนั ท่ี ๙ ต.ค. ๕๕ บา่ ย; ลำ� ดับที่ ๕๒ กัณฑ์ท่ี
๑๗ วันท่ี ๒๐ ม.ิ ย. ๕๖)
๔. ความเปน็ มา ตอน ๑: ความเป็นมาของพทุ ธอุปฏั ฐาก
(ซดี ี เอม็ พี ๓ ชดุ รวมพระธรรมเทศนา ลำ� ดบั ท่ี ๑๖ กณั ฑท์ ่ี
๒๑ วันที่ ๒๒ ต.ค. ๕๐; ล�ำดบั ที่ ๒๖ กัณฑท์ ี่ ๑๑ วนั ที่
๑๐ ก.ย. ๕๒; ล�ำดับที่ ๔๓ กณั ฑ์ที่ ๔ วันท่ี ๔ ก.ย. ๕๔)
๕. บวชเปน็ พระกด็ แู ลบดิ ามารดาได้
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๕๑
กณั ฑท์ ี่ ๒๒ วนั ที่ ๓ เม.ย. ๕๖; ล�ำดบั ที่ ๖๒ กณั ฑท์ ี่ ๒๑
วันที่ ๑๙ พ.ค. ๕๗)
๖. หลวงปูม่ ัน่ ดแู ลโยมมารดา
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๒๖
กัณฑ์ที่ ๑๖ วันที่ ๑๘ ก.ย. ๕๒)
256
๗. ศีลคืออะไร?
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๑๖
กณั ฑท์ ่ี ๑๑ วนั ที่ ๒๔ พ.ค. ๕๐; ล�ำดบั ท่ี ๔๑ กัณฑท์ ี่ ๓
วนั ที่ ๓๑ ธ.ค. ๕๕)
๘. ความเป็นมา ตอน ๒: ความเป็นมางานบุญประทาย
ข้าวเปลอื กท่ีวัดปา่ บา้ นตาด
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๕๗
กัณฑ์ท่ี ๑๓ วันท่ี ๒๙ ม.ค. ๕๗)
๙. ทายาทบญุ ทายาทบาป
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๔๒
กณั ฑท์ ่ี ๑๗ วันที่ ๒๑ ม.ค. ๕๖; ล�ำดับที่ ๕๐ กณั ฑท์ ่ี ๘
วนั ท่ี ๑๕ ก.ย. ๕๕; ล�ำดับที่ ๖๒ กัณฑท์ ่ี ๒๒ วันที่ ๒๘
ม.ิ ย. ๕๗)
๑๐. พระสารีบุตรลานิพพาน
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๓๕
กัณฑ์ที่ ๑๕ วนั ที่ ๖ ก.พ. ๕๕; ลำ� ดบั ท่ี ๔๔ กณั ฑท์ ี่ ๒
วนั ที่ ๑ ม.ี ค. ๕๖ คำ�่ )
๑๑. ศีลคุม้ ครองทัง้ ในที่ลบั และในทแี่ จ้ง
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๔๕
กัณฑท์ ่ี ๑๒ วนั ที่ ๑๑ เม.ย. ๕๔)
๑๒. ความเป็นมา ตอน ๓: ความเป็นมาของผา้ จีวร
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๖๐
กัณฑ์ท่ี ๒๒ วันท่ี ๑๕ ต.ค. ๕๔)
พระอาจารยอ์ ินทรถ์ วาย สันตสุ สโก 257
๑๓. กรรมฐานกลายพนั ธุ์
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๔๑
กัณฑท์ ่ี ๕ วันที่ ๑ ก.พ. ๕๖)
๑๔. มะม่วงไม่มผี ล คนไมม่ ยี ศ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๔๖
กัณฑท์ ี่ ๒๓ วนั ท่ี ๘ ก.ย. ๕๔ ค่�ำ)
๑๕. หัวใจในศลี ๕
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๑๘
กัณฑท์ ่ี ๒๐ วันท่ี ๑๓ ก.ย. ๕๑)
๑๖. ความเป็นมา ตอน ๔: ความเป็นมาของการเรียกขาน
ผู้ท่จี ะบวชว่านาค
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๕๐
กัณฑ์ที่ ๒๐ วันที่ ๓๐ ต.ค. ๕๕ ค�่ำ)
๑๗. ยายหงวนหลงป่า
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๖๕
กณั ฑท์ ่ี ๔ วันท่ี ๓๐ ก.ค. ๕๗)
๑๘. ผูส้ ำ� รวมอนิ ทรียย์ ่อมพน้ ทุกขไ์ ด้ (ปญั จภรี กุ ชาดก)
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๔๐
กณั ฑท์ ่ี ๓ วนั ที่ ๕ ต.ค. ๕๕ ค�่ำ)
๑๙. การมสี ตกิ ับตนนั้นแลคอื การภาวนา
(พระธรรมเทศนา วันท่ี ๓ พ.ย. ๕๙)
๒๐. ความเป็นมา ตอน ๕: ความเป็นมาของคาถานกคุ้ม
(วฏั ฏกปรติ ร)
258
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๓๙
กณั ฑ์ท่ี ๑๐ วนั ท่ี ๓๐ ม.ี ค. ๕๕)
๒๑. ไมส่ ่งพระไปตาย
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๔๒
กัณฑ์ท่ี ๘ วันท่ี ๑๑ ก.พ. ๕๖)
๒๒. บวชในพรรษาได้หรือไม?่
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๑๖
กัณฑ์ที่ ๑๔ วันท่ี ๒๘ ก.ค. ๕๐)
๒๓. ภาวนาในอริ ิยาบถ ๔
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๖๒
กณั ฑท์ ่ี ๑๖ วนั ท่ี ๑๔ ส.ค. ๕๗ คำ่� ; ซดี ี เอม็ พี ๓ ชดุ ถกู จติ
ล�ำดบั ท่ี ๒ กัณฑ์ท่ี ๑๒ วันที่ ๑๐ พ.ค. ๕๐)
๒๔. ความเปน็ มา ตอน ๖: ความเป็นมาของผ้าอาบน้�ำฝน
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๖๖
กณั ฑท์ ่ี ๒๐ วันที่ ๑๖ ก.ค. ๕๔ บ่าย)
๒๕. ใหเ้ ป็นผ้งึ งาน ท่ีรจู้ กั เลอื กสรรแต่ส่ิงท่ดี ี
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๑๒
กัณฑ์ที่ ๑๖ วันที่ ๒๐ เม.ย. ๕๐ คำ่� )
๒๖. ตวั หาปลาแต่ใจอยู่วัด หรอื ตัวอย่วู ัดแตใ่ จหาปลา
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๑๓
กัณฑท์ ี่ ๒๐ วันท่ี ๒๑ ส.ค. ๕๐ คำ�่ )
๒๗. เดินจงกรมตอ้ งค่กู บั นงั่ สมาธิ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๑๗
กัณฑท์ ่ี ๑๑ วนั ท่ี ๒๓ ก.ค. ๕๑ ค�ำ่ )
พระอาจารย์อนิ ทร์ถวาย สันตสุ สโก 259
๒๘. ความเปน็ มา ตอน ๗: ความเปน็ มาของคาถานกยงู ทอง
(โมรปรติ ร)
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๓๙
กณั ฑ์ที่ ๕ วนั ที่ ๑๓ ส.ค. ๕๕)
๒๙. ฤกษง์ ามยามดวี นั สึก
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๓๔
กณั ฑท์ ่ี ๑๑ วันท่ี ๓ พ.ย. ๕๓)
๓๐. บญุ กุศลของเรา เราต้องท�ำเอง
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๔๓
กัณฑท์ ่ี ๑๕ วนั ที่ ๒๒ ส.ค. ๕๔ ค่�ำ)
๓๑. อานาปานสติเกือบถูกกับทุกจรติ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๓๑
กณั ฑ์ท่ี ๓ วันท่ี ๒๑ พ.ย. ๕๓)
๓๒. ความเปน็ มา ตอน ๘: ความเปน็ มาของวนั ธรรมสวนะ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๒๗
กณั ฑท์ ี่ ๑๑ วนั ที่ ๑๗ พ.ย. ๕๒; ลำ� ดบั ท่ี ๓๕ กณั ฑท์ ี่ ๑๒
วันท่ี ๓๑ ม.ค. ๕๕)
๓๓. ลกู ศษิ ย์ขข้ี อ ทำ� อาจารย์หนักใจ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๔๗
กณั ฑ์ที่ ๓๑ วันที่ ๒๗ มิ.ย. ๕๕)
๓๔. บญุ เอาให้เขา แล้วบญุ เราหมดไหม?
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๑๕
กณั ฑ์ท่ี ๒ วันท่ี ๑ ม.ค. ๕๑)
260
๓๕. ผปู้ ฏิบตั คิ วรรู้จริตของตนเอง
(หนังสอื สนั ตุสสโกวาท น.๑๓๒ วนั ที่ ๑๐ ธ.ค. ๕๒)
๓๖. ความเป็นมา ตอน ๙: ความเป็นมาของงานท�ำบญุ เปิด
โลกธาตุ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๓๕
กัณฑ์ที่ ๑๑ วันที่ ๕ ก.ย. ๕๕)
๓๗. การมีครูบาอาจารยเ์ ป็นส่งิ สำ� คัญ
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๔๗
กัณฑท์ ี่ ๙ วนั ท่ี ๑๙ พ.ค. ๕๕)
๓๘. ท�ำบญุ ท�ำกุศล ทำ� แทนใหก้ นั ไมไ่ ด้
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๒๒
กัณฑ์ที่ ๓ วนั ที่ ๒๖ เม.ย. ๕๒)
๓๙. การปฏิบัติธรรมเหมือนกบั การปลกู ต้นไม้
(ซดี ี เอม็ พี ๓ ชดุ รวมพระธรรมเทศนา ลำ� ดบั ที่ ๑ กณั ฑท์ ่ี ๘
วนั ที่ ๙ ม.ี ค. ๔๘; กณั ฑท์ ่ี ๒๐ วนั ที่ ๒๑ ม.ี ค. ๔๘; ลำ� ดบั ที่ ๔
กณั ฑท์ ี่ ๓ วันที่ ๑๑ มี.ค. ๔๘)
๔๐. ความเป็นมา ตอน ๑๐: ความเป็นมาของการถวาย
ผ้ากฐนิ ตอน ๑
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๖๐
กัณฑท์ ี่ ๒๒ วันท่ี ๑๕ ต.ค. ๕๔)
๔๑. กาด�ำเกาะภูเขาทอง
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๕๔
กัณฑ์ที่ ๑๔ วันท่ี ๒๔ ต.ค. ๕๕)
พระอาจารย์อินทรถ์ วาย สันตุสสโก 261
๔๒. ทำ� บญุ เองน้นั ชวั รก์ ว่า
(พระธรรมเทศนา วันท่ี ๓ ม.ี ค. ๕๘)
๔๓. วนั น้ี เรากำ� ไรหรือขาดทุน?
(ซดี ี เอม็ พี ๓ ชดุ รวมพระธรรมเทศนา ลำ� ดบั ท่ี ๑ กณั ฑท์ ่ี ๑๖
วันที่ ๑๗ มี.ค. ๔๘; ล�ำดับท่ี ๑๕ กัณฑ์ที่ ๓ วันท่ี ๑
ม.ค. ๕๑)
๔๔. ความเป็นมา ตอน ๑๑: ความเปน็ มาของการถวายผ้า
กฐิน ตอน ๒
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๖๐
กัณฑท์ ่ี ๒๒ วนั ท่ี ๑๕ ต.ค. ๕๔)
๔๕. ศลี และวินัยยงั มอี ยู่ตราบใด ศาสนาของตถาคตกย็ งั อยู่
ตราบนน้ั
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๔๒
กัณฑ์ท่ี ๑๕ วนั ที่ ๑๑ ม.ค. ๕๖)
๔๖. อยา่ อจิ ฉาเขาถา้ บุญเราไมถ่ ึง
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๙๔
กัณฑ์ที่ ๗ วันที่ ๔ ก.ย. ๕๙)
๔๗. สรา้ งเหตุใหด้ กี ่อน แล้วผลทด่ี จี ะตามมาเอง
(ซดี ี เอม็ พี ๓ ชดุ รวมพระธรรมเทศนา ลำ� ดบั ท่ี ๑ กณั ฑท์ ี่ ๑๖
วนั ท่ี ๑๗ มี.ค. ๔๘)
๔๘. ความเป็นมา ตอน ๑๒: ความเป็นมาของการสวด
พระปาฏิโมกข์
262
(ซดี ี เอม็ พี ๓ ชดุ รวมพระธรรมเทศนา ลำ� ดบั ท่ี ๒๔ กณั ฑท์ ี่ ๘
วนั ที่ ๒๐ ส.ค. ๕๒ เยน็ ; ซดี ี เอม็ พี ๓ ชดุ ถกู จติ ลำ� ดบั ที่ ๒
กณั ฑ์ท่ี ๗ วนั ที่ ๓ มี.ค. ๕๐ ค่�ำ; หนังสอื วันสำ� คญั ทาง
พระพทุ ธศาสนา น.๑๐๗)
๔๙. ธรรมะหัวโน ธัมโมหวั แตก
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับที่ ๕๔
กัณฑท์ ่ี ๙ วันท่ี ๒๖ พ.ค. ๕๖)
๕๐. อานสิ งส์บญุ คุ้มครอง
(หนังสือชวี ติ ลขิ ิตดว้ ยกรรม น.๕๖ วันท่ี ๑๘ เม.ย. ๔๙;
หนังสือตายแล้วเกิดหรือตายแล้วสูญ น.๑๔๗ วันที่ ๒๓
ก.พ. ๕๕)
๕๑. เหมือนพตั ตล์ กู กอลฟ์ ลงหลุม
(พระธรรมเทศนา วนั ที่ ๒๖ ก.ค. ๕๙)
๕๒. ความเป็นมา ตอน ๑๓: ความเปน็ มาวันมหาปวารณา
(ซีดี เอ็มพี ๓ ชุดรวมพระธรรมเทศนา ล�ำดับท่ี ๘๒
กณั ฑ์ท่ี ๒๕ วันที่ ๒ ส.ค. ๕๘; ล�ำดับท่ี ๘๔ กัณฑท์ ี่ ๑๖
วันที่ ๒๗ ต.ค. ๕๘; ลำ� ดับท่ี ๘๕ กณั ฑ์ท่ี ๑๒ วนั ท่ี ๒๕
ต.ค. ๕๘)
พระอาจารยอ์ นิ ทร์ถวาย สนั ตุสสโก 263
264
ส�ำหรับผู้ท่ีสนใจรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อ
อนิ ทรถ์ วาย สนั ตสุ สโก ทา่ นสามารถตดิ ตามไดผ้ า่ นทางชอ่ งทาง
ดงั ตอ่ ไปน้ี
๑. Facebook: หลวงพอ่ อนิ ทรถ์ วาย สนั ตสุ สโก, Luangpo
Inthawai Santussako และ วดั ปา่ นาคำ� นอ้ ย (ล.พ.อนิ ทรถ์ วาย
สันตุสสโก)
๒. Youtube: หลวงพ่ออินทรถ์ วาย สันตสุ สโก
๓. สมารท์ โฟน: ทัง้ ระบบปฎบิ ตั ิการ iOS และ Android
สามารถรับฟังผ่านทางแอพพลิเคช่ันช่ือ หลวงพ่ออินทร์ถวาย
สนั ตสุ สโก
สงวนลิขสทิ ธิ์ หา้ มคัดลอก ตัดตอน หรอื น�ำไปพมิ พ์เพ่อื
จดั จำ� หนา่ ย หากทา่ นใดทมี่ คี วามประสงคท์ จี่ ะพมิ พเ์ พอ่ื แจกเปน็
ธรรมทาน โปรดกรุณาติดต่อขออนุญาตจากวัดป่านาค�ำน้อย
หมู่ ๗ บา้ นนาคำ� นอ้ ย ต.บา้ นกอ้ ง อ.นายงู จ.อดุ รธานี ๔๑๓๘๐
(ติดตอ่ คณุ พชิ ิต โตนติ วิ งศ์ โทร: ๐๘๑-๘๒๙-๕๒๑๓)