The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มคู่มือสำหรับครู STEM

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mr.archanai, 2022-06-22 00:03:51

เล่มคู่มือสำหรับครู STEM

เล่มคู่มือสำหรับครู STEM

39

6.1.2.2 หลกั สตู รบรู ณาการขา้ มสาระวิชาตามแนวทางสะเตม็ ศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยดี ิจทิ ลั
สำหรับครู โมดูล 7-9 (Learning Module 7-9)

เพื่อให้ครูผู้รับผิดชอบโครงการ มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการพัฒนาผู้เรียนเชิงบูรณา
การข้ามสาระวิชาตามแนวทางสะเต็มศึกษาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล มีความพร้อมที่จะพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้วย
เทคโนโลยีดิจิทัล และครูผู้สอนมีหลักสูตร และ Application ที่เป็นเครื่องมือ สำหรับการจัดการเรียนรู้ด้วย
เทคโนโลยีดิจิทัล ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยการจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการข้ามสาระวิชา
ตามแนวทางสะเต็มศึกษาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ในระดับชั้นมประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนในสังกัดสํานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน โดยในหลกั สตู รนปี้ ระกอบด้วยกิจกรรม 3 บทเรียน ไดแ้ ก่ ดังนี้

1) บทเรยี นที่ 7 เรื่อง มหัศจรรย์สารสีของใบไม้
2) บทเรยี นท่ี 8 เร่อื ง บ้านของฉัน
3) บทเรยี นที่ 9 เรือ่ ง Electric Dough

กำหนดการการอบ

หลักสูตรการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวทางสะเต็มศึกษาด้วยเทคโ

สำหรับครูปฏิบัตกิ า

วนั เดอื น ปี เวลา กิจกร

15 มิถนุ ายน 2565 8.00-8.30 น. ลงทะเบยี น

8.30-10.30 น. กิจกรรมท่ี 1 กรอบแนวคิดการพฒั นาหลกั

กิจกรรมสำคญั ของหนว่ ยการเรียนรู้

10.30-10.45 น. พักรบั ประทานอาหารวา่ ง

10.45-11.00 น. Self Assessment (ประเมินตนเองด้านก

11.00-12.00 น. กรอบแนวคิดการพัฒนาหลกั สตู รสะเต็มศกึ

ของหน่วยการเรียนรู้ (ตอ่ )

12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน

13.00- 14.30 น. กจิ กรรมที่ 2 แนวทางการนำหลักสูตรไปป

1) การวางแผนการใช้หน่วยการเรยี

รับผดิ ชอบแตล่ ะหนว่ ยการเรียน

2) การประเมนิ ความพร้อมของการ

การใช้ส่ือ การวัดประเมนิ ผล) (

14.30-14.45 น. พกั รบั ประทานอาหารวา่ ง

14.45-16.30 น. แนวทางการนำหลกั สตู รไปปฏิบตั ใิ ชใ้ นชน้ั

1) การวางแผนการใช้หนว่ ยการเรยี

รับผิดชอบแตล่ ะหน่วยการเรียน

2) การประเมินความพร้อมของการ

การใช้สอ่ื การวัดประเมนิ ผล) (ก

40

บรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร
โนโลยีดจิ ทิ ัล (STEM Education and Digital Technology)
าร 3 กลุ่มสาระวิชา

รรม วิทยากร
เจ้าหน้าที่เทคโนโลยี

กสตู รสะเต็มศึกษา สมรรถนะเป้าหมาย รองศาสตราจารย์ ดร. จฬุ ารัตน์ ธรรมประธีป
และคณะทีมวิทยากร

การจดั การเรยี นรู้) นางสาววภิ าวรรณ แสงทอง

กษา สมรรถนะเปา้ หมาย กิจกรรมสำคญั รองศาสตราจารย์ ดร. จุฬารัตน์ ธรรมประธีป

และคณะทีมวทิ ยากร

ปฏบิ ตั ใิ ช้ในชน้ั เรยี น รองศาสตราจารย์ ดร. จฬุ ารตั น์ ธรรมประธปี
ยนรู้ การกำหนดตารางเวลาสอน ครทู ี่ และคณะทมี วิทยากร
นรู้)
รสอนในแตล่ ะหนว่ ย (เนอ้ื หา วิธกี ารสอน
(กลุ่มยอ่ ย)

นเรยี น (ตอ่ ) รองศาสตราจารย์ ดร. จุฬารัตน์ ธรรมประธปี
ยนรู้ การกำหนดตารางเวลาสอน ครทู ี่ และคณะทีมวิทยากร
นร้)ู
รสอนในแต่ละหนว่ ย (เนอื้ หา วิธีการสอน
กลมุ่ ยอ่ ย)

วนั เดอื น ปี เวลา กิจกร
16 มถิ ุนายน 2565 8.00-8.30 น. ลงทะเบยี น
8.30-8.40 น. Pre-test ดา้ นความรู้พ้นื ฐานโมดลู เรยี นรู้
17 มถิ ุนายน 2565 8.40-10.30 น. กิจกรรมท่ี 3 Hands on โมดูลที่ 7 เร่อื ง
10.30-10.40 น. พกั รับประทานอาหารวา่ ง
10.40-12.00 น. การสะทอ้ นกิจกรรม และสรุปกิจกรรมโมด
12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารเทยี่ ง
13.00-15.00 น. กจิ กรรมท่ี 4 Hands on โมดลู ที่ 8 เรอื่ ง
15.00-16.30 น. การสะท้อนกิจกรรม และสรปุ กิจกรรมโมด
8.00-8.30 น. ลงทะเบียน
8.30-8.40 น. Pre-test ด้านความรู้พ้นื ฐานโมดลู เรยี นรู้
8.40-10.30 น. กจิ กรรมท่ี 5 Hands on โมดลู ที่ 9 เร่ือง
10.30-10.40 น. พกั รบั ประทานอาหารว่าง
10.40-12.00 น. การสะท้อนกจิ กรรม และสรปุ กิจกรรมโมด
12.00-13.00 น. พกั รับประทานอาหารเทยี่ ง
13.00-15.00 น. กิจกรรมท่ี 6 แนวทางการนำหลักสูตรไปป

15.00-16.30 น. 1) การวางแผนการใช้หน่วยการเรยี
รับผิดชอบแตล่ ะหน่วยการเรียน

2) การประเมินความพร้อมของการ
การใช้ส่ือ การวัดประเมินผล) (ก

1. นำเสนอแนวทางการใช้แผนการจดั การ
2. ตอบข้อซกั ถาม ประมวลผลการอบรมท
2. Post-test ด้านความรู้พื้นฐานโมดลู เรยี
4. ปดิ การอบรม

41

รรม วิทยากร
เจ้าหน้าทเี่ ทคโนโลยี
7 และ 8 นางสาววิภาวรรณ แสงทอง
ง มหศั จรรยส์ ารสขี องใบไม้ คณะวทิ ยากรกิจกรรม

ดลู ที่ 7 เรือ่ ง มหัศจรรยส์ ารสขี องใบไม้ คณะวิทยากรกจิ กรรม

บ้านของฉัน คณะวิทยากรกิจกรรม
ดลู ที่ 8 เร่ือง บา้ นของฉนั คณะวิทยากรกจิ กรรม

9 นางสาววภิ าวรรณ แสงทอง
ง Electric Dough คณะวทิ ยากรกจิ กรรม

ดลู ที่ 9 เรื่อง Electric Dough คณะวทิ ยากรกิจกรรม

ปฏบิ ตั ใิ ชใ้ นช้ันเรยี น คณะวิทยากรกิจกรรม
ยนรู้ การกำหนดตารางเวลาสอน ครทู ่ี
นร้)ู รองศาสตราจารย์ ดร. จฬุ ารัตน์ ธรรมประธปี
รสอนในแต่ละหนว่ ย (เนอื้ หา วธิ กี ารสอน และคณะทีมวทิ ยากร
กลมุ่ ยอ่ ย)
รเรยี นรู้
ทัง้ หมด
ยนรู้ 7-9

42

6.2 การวัดและประเมนิ ผลนกั เรียน
เน้นการประเมินตามสภาพจริงโดย
1. เน้นการวดั ผลระหว่างการเรยี นตลอดทุกระดับช้ันเพ่ือให้ข้อมลู ย้อนกลบั ในการพัฒนาการเรียนรู้

ของนักเรียน (In-course assessment and feedback) และการวัดและประเมินผลฐานสมรรถนะ
(Competency-based assessment)

2. เน้นการวัดผลที่สอดคล้องกับวิธีการจัดการเรียนการสอน โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์
และกระบวนการเรียนรู้ ควบคูไ่ ปกับผลการเรยี นรู้

3. เนน้ การวดั ผลอยา่ งชัดเจนโดยใช้ท้งั การสอบข้อเขียน การสอบปฏบิ ตั ิ และการวัดผล ตามสภาพ
จริง ตามแนวทางการประเมินของโปรแกรมการประเมินสมรรถนะผู้เรีน โดยจัดให้ครูได้มีโอกาสประเมิน
นักเรียนในหลายรปู แบบท้งั ด้านความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ

6.3 การประเมินหลกั สูตร
1. การประเมนิ ภาพรวมของหลักสตู รการจัดการเรียนรเู้ ชงิ บูรณาการข้ามสาระวิชาตามแนวทางสะ

เตม็ ศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยดี ิจิทลั (STEM) โดยเน้นการประเมินเพื่อใหร้ จู้ ุดอ่อนของหลกั สตู รทีค่ วรปรบั ปรงุ ให้
ดีย่ิงขนึ้ อย่างต่อเน่อื ง

2. ประเมินครอบคลุมทั้งด้านปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลลัพธ์ ประเมินโดยใช้เครื่องมือ ท้ัง
เชงิ ปริมาณและเชงิ คุณภาพที่มมี าตรฐาน และช่วยในการเปรียบเทียบระหว่างปตี ่าง ๆ

3. ผู้บริหาร ครู และศึกษานิเทศก์มีส่วนร่วมในการประเมิน หลักสูตรการจัดการเรียนรู้เชิงบูรณา
การขา้ มสาระวิชาตามแนวทางสะเต็มศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยดี จิ ิทัล (STEM)

4. ใช้กลไกการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School-based
professional development)

43

7. หน่วยการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการข้ามสาระวิชาตามแนวทางสะเต็มศึกษาด้วย
เทคโนโลยดี ิจิทลั (STEM)

7.1 สว่ นที่ 2 บทเรียนการจัดการเรยี นรู้เชิงบูรณาการเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล
โมดูลที่ 7 เร่อื ง มหศั จรรยส์ ารสขี องใบไม้
โมดลู ท่ี 8 เร่ือง บ้านของฉัน
โมดูลที่ 9 เรอ่ื ง Electric Dough

44

แผนการจัดการเรียนร้สู ะเต็มศึกษา ภาคเรียนที่ 1
เวลา 6 ช่ัวโมง
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เร่อื ง มหัศจรรยส์ ารสขี องใบไม้

กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ

ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี

ม.2/3 นำวิธกี ารแยกสารไปใชแ้ ก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวัน โดยบูรณาการวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์
เทคโนโลยแี ละวิศวกรรมศาสตร์

มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง สสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฎการณ์ที่เกี่ยวข้องกบั
เสยี ง แสง และคลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ป.2/1 บรรยาย แนวการเคล่ือนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสง และอธิบายการมองเห็นวัตถุจาก
หลักฐานเชิงประจกั ษ์

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชวี ิตในสงั คมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่าง

รวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
อยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึง
ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สงั คม และส่ิงแวดล้อม

45

ม.1/3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น
นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจ วางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหา

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ รูเ้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม

ป.6/1 ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบ วิธีการแก้ปญั หาทพี่ บในชีวิตประจำวนั
ม.1/3 รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูล และสารสนเทศตาม
วตั ถุประสงค์ โดยใช้ชอฟตแ์ วร์ หรอื บริการบนอินเทอร์เน็ตทหี่ ลากหลาย

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณติ

มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน

ผลทีเ่ กิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนนิ การ และนำไปใช้
ป.6/3 หาอัตราสว่ นท่เี ทา่ กบั อตั ราสว่ น ท่ีกำหนดให้

สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการวัดและ

นำไปใช้
ป.3/3 เลือกใช้เครื่องวัดความยาวที่เหมาะสม วัดและบอกความยาวของสิ่งต่างๆ เป็นเซนติเมตร

และมลิ ลเิ มตร เมตร และเซนตเิ มตร

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. วิเคราะห์ข้อดี - ข้อเสียของสีจากธรรมชาติและสีสังเคราะห์ เพื่อทำประกาศเสียงตามสายรณรงค์เพ่ือ

สร้างความตระหนกั เกี่ยวกับอนั ตรายของการใช้สีสังเคราะหไ์ ด้ (P, A)
2. เปรียบเทยี บ วิเคราะห์ และสรุปสีของใบไมแ้ ตล่ ะระยะ ของพืชต่างชนิดกันได้ จากกราฟข้อมูลที่ได้จาก

การใช้ Application FizziQ โดยสามารถทำงานร่วมกบั เพื่อนในกลมุ่ ได้ (P, A)
3. ออกแบบการทดลองเพื่อแยกองคป์ ระกอบของใบไม้แตล่ ะระยะของพืชต่างชนิดกันด้วยโครมาโทกราฟีได้ (P)
4. สร้างและทดสอบประสทิ ธภิ าพของชดุ อปุ กรณ์ CTK จากสถานการณ์ที่กำหนดได้ (K , P)

46

สาระสำคัญ

นักเรียนร่วมกับเพื่อนวิเคราะห์ข้อดี - ข้อเสียของสีจากธรรมชาติและสีสังเคราะห์ จากการอ่านบทความ
เพื่อนำไปทำประกาศเสียงตามสายให้ชุมชนตระหนักถึงอันตรายของการใช้สีสังเคราะห์ โดยคำนึงถึงประโยชน์
ตอ่ ตนเอง ชุมชน และสงั คม นอกจากน้ี นกั เรยี นจะได้ศึกษาสีในใบไม้แต่ละระยะ ของพชื ต่างชนิดกนั โดยทำการทดลอง
ผา่ น Application FizziQ ซ่งึ เป็นเครอ่ื งมือแปลงสีจากวัตถุท่ีศึกษาออกมาในรูปแบบกราฟแสดงปริมาณของสีแดง
สเี ขยี ว และสีน้ำเงนิ ตามหลกั การของแมส่ ี เพ่ือแสดงว่าสีทต่ี าเรามองเหน็ เปน็ สีเดยี ว อาจจะมีสีอน่ื อยู่ด้วย จากนั้น
นกั เรยี นจะได้ศึกษาใบไมช้ นิดเดยี วกนั ใน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสด ระยะเรม่ิ เหย่ี ว และระยะเห่ยี ว และเปรียบเทียบ
ระยะดังกล่าวกับใบไม้ชนิดอื่นจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อน เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของชุดข้อมูลเกี่ยวกับ
ปริมาณของสีตามระยะของใบไม้ โดยปริมาณของสีจะเปลี่ยนแปลงไปตามระยะของใบไม้ ใบไม้สดจะมีปริมาณ
สีเขียวมากที่สุด ใบเหี่ยวจะมีปริมาณสีแดงมากที่สุด และในขณะที่ใบเริ่มเหี่ยวจะมีปริมาณสีแดงและสีเขียว
ใกล้เคียงกัน รวมถึงนักเรียนจะได้ใช้โครมาโทกราฟี ซึ่งเป็นวิธีการแยกองค์ประกอบของสาร ด้วยหลักการละลาย
และการดูดซับที่ต่างกันของสาร ไปใช้ออกแบบการทดลองเพื่อสกัดสารที่อยู่ในใบไม้ในระยะต่าง ๆ ด้วย
ตัวทำละลายที่แตกต่างกัน เช่น น้ำ และแอลกอฮอล์ไอโซโพพิล ใช้โครมาโทกราฟีเพื่อสังเกต และศึกษา
องค์ประกอบของใบไมด้ ังกลา่ ว นอกจากน้ี นักเรียนจะไดใ้ ชก้ ระบวนการแก้ปัญหา และประยุกตใ์ ช้ความรูท้ ่ีได้เรียน
มาทั้งหมดเกี่ยวกับสี องค์ประกอบของใบไม้ ที่ได้จากการใช้ Application FizziQ และโครมาโทกราฟีไปใช้ในการสร้าง
และทดสอบชุดอุปกรณ์ CTK ตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การระบุชนิดและปริมาณตัวทำลายและตัวถูกละลาย
การระบชุ นดิ ของกระดาษทใ่ี ชส้ ำหรบั โครมาโทกราฟี การระบวุ สั ดุ ขนาด และสว่ นประกอบของ CTK

สาระการเรยี นรู้

1. อนั ตรายของสารสี
2. ขอ้ ดี – ข้อเสียของสีจากธรรมชาติและสีสงั เคราะห์
3. การใช้ Application FizziQ
4. สารสขี องใบไม้
5. การแยกสารสีใบไม้ด้วยวิธีโครมาโทกราฟี
6. ความเข้มข้นของสารสที ีส่ กัดจากใบไม้ด้วยโครมาโทกราฟี
7. การคาดคะเนความน่าจะเปน็
8. การใช้เครอ่ื งวัดความยาวท่เี หมาะสม
9. อตั ราสว่ น

47

จดุ เน้นส้กู ารพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน ทักษะศตวรรษท่ี21 (การเรียนรู้ 3R×8C)
3R

 R1 - Beading (อา่ นออก)
 R2 - Writing (เขียนได้)
 R3 - Arithmetic (คิดเลขเปน็ )
8C
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะ

ในการแก้ปัญหา)
 C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรมต่างกระบวนทศั น)์
 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีม

และภาวะผ้นู ำ)
 C5 - Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศ

และรเู้ ทา่ ทนั ส่อื )
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการ

ส่อื สาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้)
 C8 - Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ยั คุณธรรม จรยิ ธรรม)

สมรรถนะผเู้ รียน
 การจัดการตนเอง
 การสอ่ื สาร
 การรวมพลงั ทำงานเป็นทมี
 การเปน็ พลเมอื งทแ่ี ขง็ แรง
 การคิดขั้นสูง

48

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 ระบุปญั หา (Problem Identification)

1.1 นักเรียนและครรู ว่ มกนั ตอบคำถาม โดยครูใชค้ ำถามกระตนุ้ นกั เรียน ดงั น้ี
คำถาม นักเรยี นคิดว่าพชื ใบไมม้ ีสีอะไรบา้ ง
แนวคำตอบ เขยี ว แดง เหลือง
คำถาม ใบไมท้ ่มี เี หลือง ใบไมส้ แี ดง และใบไม้สมี ว่ งอะไรบา้ งตามลำดบั
แนวคำตอบ ต้นโกสน ตน้ บอนสี ว่านกาบหอย
คำถาม ใบของพืช ทำหนา้ ท่ใี ด
แนวคำตอบ ใบ ทำหน้าที่ สรา้ งอาหารด้วยวธิ กี ารสังเคราะหด์ ้วยแสง การคายน้ำ การหายใจ
คำถาม นักเรยี นคดิ ว่าใบไม้สเี ขียว มีเฉพาะสีเขียวอยูใ่ นใบไมห้ รอื ไม่ อยา่ งไร
แนวคำตอบ ขึน้ อย่กู ับคำตอบของนักเรียน
คำถาม นกั เรียนจะรไู้ ดอ้ ย่างไรว่ามสี ีอนื่ ๆ ซอ่ นอยู่ในไมส้ เี ขยี ว
แนวคำตอบ ขึน้ อยกู่ ับคำตอบของนักเรยี น

กจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง ผจญภัยในดงพญาเยน็
1.2 ตวั แทนนกั เรียนออกมารบั ใบกจิ กรรมท่ี 1 ผจญภัยในดงพญาเยน็
1.3 นักเรียนศึกษาสถานการณ์จากใบกิจกรรมที่ 1 ผจญภัยในดงพญาเย็น พร้อมตอบคำถามลงในตอนที่ 1
ประเด็นปัญหา
“นักเรียน คือ ผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้ช่วยวิจัยของศาสตราจารย์เบเอวรี่ โกลเวอร์ ผู้อำนวยการ
สวนพฤกษศาสตร์แห่งเคมบริดจ์ (Professor Beverley Glover, Director - Cambridge Botanic
Garden) ที่จะเดินทางมาดงพญาเย็น เพื่อเก็บตัวอย่างดอกไม้ และพืชหายากของประเทศไทยกลับไป
วิจัยต่อในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ สำหรับบททดสอบของผู้เข้าชิงคือ จะต้องสร้าง
อปุ กรณท์ ใ่ี ช้แยกองคป์ ระกอบในพืชออกจากกันได้อย่างชัดเจน สามารถระบุได้วา่ พชื ท่ีนำมาทดสอบเป็น
พืชชนิดใด และมาจากส่วนใดของพืชชนิดนั้น อุปกรณ์ต้องมีขนาดเล็กพกพาง่าย สามารถนำไปใช้
ในปา่ ลกึ ได้ และไมใ่ ชพ้ ลงั งานจากแบตเตอร่ี
ในขั้นตอนการคัดเลือกผู้ช่วยวิจัย นักเรียนต้องใช้อุปกรณ์ CTK ที่สร้างขึ้น จำแนกพืชปริศนา 3 ชนิด
หากอุปกรณ์ของนักเรียนสามารถแยกพืชทัง้ 3 ชนิดได้ถูกต้องแมน่ ยำ นักเรียนจะได้ผ่านการคัดเลือกให้
เป็นผูช้ ่วยวิจัย”

49

1.4 นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั ตอบคำถามจากสถานการณ์ ดงั นี้
คำถาม จากสถานการณ์ดังกลา่ ว ประเดน็ ปัญหาคอื อะไร
แนวคำตอบ แนวคำตอบ : การสร้างชุดอุปกรณ์ที่สามารถแยกองค์ประกอบในพืชได้อย่างชัดเจน
เพอ่ื นำไปใชป้ ระโยชนใ์ นป่าลึก
คำถาม จากสถานการณไ์ ด้ระบเุ งื่อนไขอะไรบ้าง
แนวคำตอบ - ชุดอุปกรณ์ ตอ้ งมขี นาดเลก็
- พกพาง่าย
- ไมใ่ ช้พลงั งานจากแบตเตอร่ี
- สามารถแยกองคป์ ระกอบในพชื ได้อย่างชดั เจน ถูกต้อง และแมน่ ยำ
คำถาม จากสถานการณ์ ชุดอปุ กรณท์ ีน่ กั เรียนจะต้องสร้างคืออะไร และมีวัตถุประสงค์อะไรบา้ ง
แนวคำตอบ สร้างชุดอุปกรณ์ CTK มีวัตถุประสงค์เพื่อแยกองค์ประกอบของพืชให้ถูกต้อง และแม่นยำ
เพื่อให้มนั่ ใจวา่ ชดุ อุปกรณ์ CTK น้ี จะทำให้นกั เรียนผ่านการคดั เลือกให้เป็นผูช้ ว่ ยวิจัย

ขนั้ ท่ี 2 รวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหา (Related Information Search)
กจิ กรรมที่ 2 เรือ่ ง มหศั จรรยส์ ารสีของใบไม้

2.1 นักเรียนแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 5 คน
2.2 ตัวแทนกล่มุ ออกมารับใบกิจกรรมที่ 2 มหัศจรรย์สารสีของใบไม้
2.3 นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ทำกจิ กรรมในใบกิจกรรมท่ี 2 มหัศจรรยส์ ารสีของใบไม้ ดงั น้ี
ตอนท่ี 1 หลากสสี ัน...แตโ่ ทษมหนั ตแ์ ละอันตราย
2.4 ตวั แทนนกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมาจบั ฉลาก 2 บทความ
2.5 นักเรียนศกึ ษาใบกิจกรรมที่ 2 มหัศจรรย์สารสขี องใบไม้ ตอนที่ 1 หลากสสี นั ...แตโ่ ทษมหันตแ์ ละอนั ตราย
2.6 นักเรียนวิเคราะห์ตัวอยา่ งบทความ พร้อมตอบคำถามและบอกข้อดี - ข้อเสีย ของการใช้สีจากธรรมชาติ

และสีสังเคราะห์ลงในตารางที่กำหนดให้ ลงในตอนที่ 1 หลากสีสัน...แต่โทษมหันต์และอันตราย
จากใบกิจกรรมที่ 2 มหัศจรรย์สารสีของใบไม้ พร้อมนำเสนอข้อมูลในแอปพลิเคชัน Number เพื่อให้
ทุกคนไดเ้ หน็ ขอ้ มลู ทั้งหมดของทุกกลุ่ม
2.7 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย เรื่อง หลากสีสนั ...แต่โทษมหันต์และอันตราย โดยใช้คำถามเพื่อทบทวน
ความรูค้ วามเข้าใจของนกั เรียน ดังน้ี

50

คำถาม นักเรียนคดิ ว่าเพราะเหตใุ ด ลกู อม หรือขนมตา่ ง ๆ มกั มสี ีสันที่สดใส
แนวคำตอบ ในลูกอม มีสว่ นประกอบของสารเคมสี กดั อื่น ๆ เพอ่ื ควบคมุ ความหวาน แตง่ รสและยืดอายุ
การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ โดยทั้งหมดนี้เป็นการดึงดูดผู้บริโภคให้สนใจในรสชาติ กลิ่น สี ของขนม หรือลูกอม
ชนดิ น้นั ๆ
คำถาม นักเรียนคิดว่าหากร่างกายได้รับสารจากสีย้อมผ้าที่ปนเปื้อนในอาหาร จะเป็นอันตรายต่อ
ร่างกายอยา่ งไร
แนวคำตอบ จะทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดอาการป่วยอย่างเฉียบพลัน ปัญหาผิวหนัง
หรอื แม้กระทง่ั โรคมะเร็งได้
คำถาม นกั เรียนคิดว่าเพราะเหตุใดสีจงึ มีความสำคัญในผลิตภัณฑเ์ คร่ืองสำอางในยุคปจั จุบนั
แนวคำตอบ เพอ่ื ดึงดูดและเพ่ิมการจดจำเอกลกั ษณข์ องแบรนด์เครือ่ งสำอางนัน้ ๆ
คำถาม นักเรยี นคิดวา่ ทำไมเดก็ จึงควรได้รับสีเทียนทป่ี ลอดภยั
แนวคำตอบ เพราะในปจั จบุ นั สเี ทยี นมีหลากหลายยหี่ ้อ มีมาตรฐานและคุณภาพท่ีแตกต่างกัน บางยี่ห้อ
ที่ตรวจพบก็มีค่าเกินมาตรฐานท่ีเป็นอันตราย หากได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากอาจส่งผลต่อ
พฒั นาการของเดก็ ๆ ได้
คำถาม การใช้สีผสมในอาหาร การใช้สีย้อมผ้า และผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่จะให้ความปลอดภัย
มากทสี่ ดุ ควรใช้สชี นิดใด
แนวคำตอบ สที ่ีไดจ้ ากธรรมชาติ
คำถาม นักเรียนคิดว่าหากนักเรียนได้รับสารสีสังเคราะห์และสารเคมีในชีวิตประจำวัน จะส่งผลต่อ
ร่างกายหรือไม่ อยา่ งไร
แนวคำตอบ ส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะ จะทำให้มีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง สมาธิสั้น ในช่วงเวลาที่ได้รับ
อาหารที่ผสมสารเคมีเหล่านี้ในปริมาณมาก ๆ เป็นประจำ จะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและ
อาจกอ่ ใหเ้ กิดโรครา้ ยในอนาคตได้
2.8 ครูชี้แจงให้นักเรียนแต่กลุ่มทำประกาศเสียงตามสาย เพื่อให้ทุกคนในชุมชนตระหนักถึงอันตรายของ
การใชส้ ีสงั เคราะห์ โดยคำนึงถงึ ประโยชนต์ ่อตนเอง ชุมชน และสงั คม
2.9 นกั เรียนและครูรว่ มกันพดู คยุ จากการทำกจิ กรรมเสียงตามสาย โดยใช้คำถาม ดังนี้
คำถาม นักเรียนจะมีวิธีการพูดคุยกับคนในชุมชนอย่างไร เพื่อช่วยให้ตระหนักถึงอันตรายของการใช้
สีสงั เคราะห์
แนวคำตอบ ประชาชนควรหลีกเล่ยี งเร่ืองการบรโิ ภคอาหารท่ีแต่งสตี ่างๆ แตห่ ากมีความจำเป็นต้องการ
จะแต่งสีอาหารแล้ว ควรเลือกใช้สีธรรมชาติ หรือสีสังเคราะห์ประเภทที่ใช้เป็นสีผสมอาหารตามท่ี
กระทรวงสาธารณสุขไดป้ ระกาศอนญุ าตให้ใช้ได้ตามความเหมาะสม)

51

ตอนที่ 2 ใบไมซ้ ่อนสี

2.10 ตัวแทนกลุ่มออกมารับใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความลับของสีสัน และแบบบันทึกการทำงานร่วมกัน
ในกจิ กรรมสที ่ีซอ่ นอยใู่ นใบไม้

2.11 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความลับของสีสัน และกิจกรรมในตอนที่ 2 ใบไม้
ซอ่ นสี

2.12 นัดกเรียนให้ข้อมูลว่าเป็นใบไม้ของพืชชนิดใดตามใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความลับของสีสัน จากใบไม้
2 ชนดิ ทค่ี รูจัดเตรียม

2.13 นักเรียนฟังครูชี้แจงว่าในกิจกรรมนี้ นักเรียนจะได้ใช้ Application FizziQ เพื่อศึกษาว่ามีสีใดบ้างที่อยู่
ในใบไม้แต่ละระยะ คือ สด เริ่มเหี่ยว เหี่ยว โดยแต่ละกลุ่มศึกษาใบไม้ 1 ชนิด คือ (ใบไม้ตามบริบทของ
โรงเรยี น) ท้งั นีค้ รคู วรแบ่งกลุม่ ในการศึกษาใบไม้แตล่ ะชนิดเท่า ๆ กัน

2.14 นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วางแผนการทำงาน 5 นาที พรอ้ มทงั้ บนั ทึกลงในแบบบันทึกการทำงาน
2.15 นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมารับอปุ กรณ์
2.16 นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำกิจกรรม พร้อมทั้งสังเกตผลและบันทึกผลการทำกิจกรรมลงในตอนที่ 2

ใบไมซ้ ่อนสี จากใบกิจกรรมที่ 2 มหศั จรรย์สารสีของใบไม้
2.17 นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มอภปิ รายผลการทดลอง เพือ่ ศกึ ษารปู แบบของข้อมลู ใบไมแ้ ตล่ ะระยะ
2.18 นักเรียนแต่ละกลุ่มรวบรวม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการทดลอง และลงข้อสรุปผล

การทดลอง โดยคำนงึ ถึงเปา้ หมายของทีม และสมั พนั ธภาพของทีมเปน็ หลกั
2.19 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแลกเปลี่ยนผลการทำกิจกรรม เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลของกลุ่มตนเองและ

เพือ่ น ๆ ที่ไดใ้ บไม้ชนดิ เดยี วกัน ด้วยคำถามตอ่ ไป
คำถามข้อที่ 1 ใบไมส้ ีเขียวมสี ีอน่ื อยดู่ ้วยหรอื ไม่ อย่างไร
คำถามข้อที่ 2 ใบไมแ้ ตล่ ะระยะมีปรมิ าณสใี ดมากที่สุด

คำถามข้อที่ 3 ขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากการทดลองในแตล่ ะครั้ง มีความสอดคลอ้ งกนั หรอื ไม่ อย่างไร
2.20 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายสรปุ กิจกรรมในตอนที่ 2 ใบไม้ซอ่ นสี

แนวทางการสรปุ สรปุ ได้ว่า สีท่ีตาเรามองเห็นเป็นสีเดยี ว อาจจะมสี ีอนื่ อยดู่ ว้ ย ซง่ึ Application FizziQ
จะแปลงสีจากวัตถุที่ศึกษาออกมาในรูปแบบกราฟแสดงปริมาณของสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน
ตามหลักการของแม่สี ทำให้ทราบว่าใบไม้สีเขียวที่เราเห็น มีสีชนิดอื่นอยู่ด้วย เช่น สีแดง และสีน้ำเงิน
เมื่อใบไม้เปลี่ยนสี ปริมาณของส่วนประกอบของสี ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น ใบสดจะมีปริมาณสีเขียว
มากที่สุด ใบเหี่ยวจะมีปริมาณสีแดงมากที่สุด ในขณะที่ใบเริ่มเห่ียวจะมีปริมาณสีแดงและสเี ขียวใกล้เคียงกัน
โดยครูอธิบายเพิ่มเติมถึง คลอโรฟิลล์เป็นรงควัตถุหรือสารสี (pigment) ที่มีสีเขียวอยู่ในคลอโรพลาสต์

52

(chloroplast) มีความสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช เพื่อสร้างเป็นน้ำตาลกลูโคส
ซึ่งเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานในเซลล์ของพืช โดย การทำงานของคลอโรฟิลล์นั้น เมื่อใบไม้เริ่มเหี่ยว
จะมีการเริ่มเสื่อมของคลอโรฟิลด์แต่ยังคงตรวจจับได้ด้วยกล้อง และเริ่มมีการผลิตเม็ดสีแดง จึงทำให้
ในกราฟพบความเข้มแสงสีสูงกว่าใบสดและใบเหี่ยว และครูอธิบายเพิ่มเติมว่า สีเขียวของพืช มีชื่อว่า
คลอโรฟิลล์ สีเหลือง แคโรทีนอยด์ สีแดงหรือสีน้ำเงนิ คือแอนโทไซยานิน (สีแดงหรือน้ำเงินจะขึน้ อยูก่ ับ
คา่ pH
ตอนที่ 3 ปรศิ นาของสารสี
2.21 ตวั แทนกลมุ่ ออกมารับใบความรู้ที่ 2 เรื่อง การสกดั ด้วยตัวทำละลายและโครมาโทกราฟอี ยา่ งงา่ ย
2.22 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาใบความรู้ที่ 2 เรื่อง การสกัดด้วยตัวทำละลายและโครมาโทกราฟี
อยา่ งง่าย และกิจกรรมในตอนที่ 3 ปริศนาของสารสี
2.23 นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันวางแผนการทดลองการแยกสีของใบไม้ด้วยโครมาโทกราฟี โดยใช้ข้อมูลทีไ่ ด้
ศกึ ษามา
2.24 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกิจกรรมการแยกสีของใบไม้ดว้ ยโครมาโทกราฟี ลงในตอนที่ 3
ปริศนาของสารสี จากใบกิจกรรมท่ี 2 มหัศจรรย์สารสีของใบไม้ โดยครูจัดเตรียมใบไม้ 2 ชนิด
พร้อมให้ข้อมลู วา่ เปน็ ใบไม้ของพชื ชนดิ ใด
2.25 ตัวแทนแตล่ ะกลุม่ ออกมารับอปุ กรณ์
2.26 นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำการทดลองเรื่อง การแยกสีของใบไม้ด้วยโครมาโทกราฟี พร้อมทั้งสังเกต
ผลการทดลองและบันทึกผลการทดลองลงในตอนที่ 3 ปริศนาของสารสี จากใบกิจกรรมที่ 2
มหัศจรรยส์ ารสีของใบไม้
2.27 นกั เรียนและครรู ว่ มกันลงข้อสรุป
แนวทางการสรุป 1. วธิ กี ารแยกดว้ ยโครมาโทกราฟี

2. ความเข้มขน้ ของสเี ม่อื สกัดจากตัวทำละลายตา่ ง ๆ)
2.28 นกั เรยี นร่วมกันศึกษาวิดีโอคลิปเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการแยกสดี ้วยโครมาโทกราฟีแบบคอลัมน์ เพื่อเป็นแนวทาง

ในการออกแบบชุดอุปกรณ์ CTK (วดิ โี อคลิป : https://youtu.be/9G8NrkPyrVw)

ขั้นท่ี 3 ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หา (Solution Design)
3.1 นกั เรยี นแตก่ ลมุ่ ร่วมกันระดมความคดิ เกย่ี วกับการออกแบบชดุ อปุ กรณ์ CTK จากวสั ดุอุปกรณท์ ีก่ ำหนดให้
ในตอนท่ี 2 Chromatography Test Kit (CTK) จากใบกิจกรรมท่ี 1 ผจญภัยในดงพญาเย็น
3.2 นักเรียนออกแบบชุดอุปกรณ์ CTK พร้อมทั้งวาดภาพและอธิบายแนวคิดในการสร้างชุดอุปกรณ์ CTK
รวมไปถงึ ออกแบบวิธกี ารทดลองชุดอุปกรณ์ CTK โดยใช้ข้อมูลท่ีไดศ้ กึ ษามา

53

3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอชุดอุปกรณ์ CTK และวิธีการทดลองตามที่ออกแบบไว้ให้เพื่อนในห้องฟัง
เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้

ขน้ั ท่ี 4 วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (Planning and Development)

4.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รับวัสดุชดุ อปุ กรณ์ CTK
4.2 นักเรียนแต่ละกลมุ่ ลงมอื สร้างชดุ อุปกรณ์ CTK

ขน้ั ที่ 5 ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรงุ แกไ้ ขวธิ ีการแก้ไขปญั หาหรอื แก้ไขชน้ิ งาน (Testing, Evaluation
and Design Improvement)

5.1 นักเรียนทดสอบประสิทธิภาพชุดอุปกรณ์ CTK จากวัสดุที่นักเรียนเลือกใช้ โดยนักเรียนออกแบบตาราง
บันทึกผลการทดสอบลงในตอนที่ 2 Chromatography Test Kit (CTK) จากใบกิจกรรมที่ 1 ผจญภัย
ในดงพญาเย็น โดยตรวจสอบตามเกณฑ์ท่ีกำหนดให้ ดงั นี้
- สามารถแยกองคป์ ระกอบได้อยา่ งรวดเรว็ และสะดวก
- สามารถแยกองคป์ ระกอบได้ครบถ้วน
- ชดุ อปุ กรณ์ CTK พกพาไดง้ า่ ย
- สามารถเลือกใช้อปุ กรณ์ไดอ้ ย่างเหมาะสม

5.2 นักเรียนนำผลการทดสอบประสิทธิภาพชุดอุปกรณ์ CTK จากวัสดุที่นักเรียนเลือกใช้ มาหาแนวทาง
ในการปรับปรุงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพของชุดอุปกรณ์ CTK มากขึ้นแล้วนำไปทำการทดลองอีกคร้ัง
(การระบปุ ระสิทธิภาพ อปุ สรรคและแนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข)

5.3 นักเรียนบันทึกผลการทดสอบและแนวทางการปรับปรุงแก้ไขลงในตอนที่ 3 การปรับปรุงแก้ไข
จากใบกิจกรรมที่ 1 ผจญภัยในดงพญาเยน็ โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
คำถาม นักเรียนพบปัญหาระหว่างการสร้างชุดอุปกรณ์ CTK หรือไม่ หากพบปัญหานักเรียนมีวิธีแก้ไข
ปรับปรุงอย่างไร
แนวคำตอบ องค์ประกอบบนกระดาษโครมาโทกราฟีมองเห็นไม่ชัดเจน แก้ปัญหาโดยเพิ่มปริมาณสารสกัด
จากใบไม้ ปรับความยาว หรอื เปลี่ยนชนดิ ของกระดาษโครมาโทกราฟี
คำถาม นักเรียนมวี ิธีการทดสอบประสิทธิภาพของ CTK อย่างไรบ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าชุดอุปกรณ์ CTK นี้
จะทำให้นักเรยี นผ่านการคัดเลอื กให้เปน็ ผู้ช่วยวจิ ยั
แนวคำตอบ ชดุ อุปกรณ์ CTK สามารถระบุองคป์ ระกอบไดใ้ กล้เคียง หรือตรงกบั ตัวอยา่ งพืชท่กี ำหนด

5.4 นักเรียนตอบคำถามการสะท้อนความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรมลงในตอนที่ 4 การสะท้อนความรู้
จากใบกิจกรรมที่ 1 ผจญภัยในดงพญาเย็น โดยมีคำถาม ดงั นี้
คำถาม นักเรียนไดค้ วามรู้อะไรบา้ งจากการทำกิจกรรมน้ี

54

แนวทางการสรปุ วทิ ยาศาสตร์: การสกดั สจี ากธรรมชาติด้วยโครมาโทกราฟี
เทคโนโลยี: การใช้ Application FizziQ และ Application Number
วศิ วกรรมศาสตร์: การออกแบบชดุ อุปกรณ์ CTK
คณิตศาสตร์: การคาดคะเนการเลอื กใชว้ สั ดใุ นการทดลองเพ่ือนำความน่าจะเปน็ ไป
ใช้ในชีวิตจรงิ การใช้เคร่ืองวดั ความยาวที่เหมาะสมวัดและบอกความยาว
ของส่งิ ตา่ งๆ เป็นเซนติเมตร และอตั ราส่วนการสกัดสจี ากธรรมชาติ

ข้นั ท่ี 6 นำเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปญั หาหรอื ชน้ิ งาน (Presentation)

6.1 นกั เรียนแต่ละกล่มุ นำเสนอรายละเอียด และการทำงานของชุดอปุ กรณ์ CTK ท่ีสร้างขึ้น โดยใช้ Keynote

6.2 นกั เรียนอภปิ รายประสิทธภิ าพชดุ อุปกรณ์ CTK ตามเง่ือนไขทร่ี ะบุ

แนวทางการสรปุ - การแยกองค์ประกอบไดอ้ ย่างรวดเรว็ และสะดวก

- การแยกองค์ประกอบไดค้ รบถว้ น

- ชุดอปุ กรณ์ CTK พกพาไดง้ ่าย

- การเลอื กใช้อปุ กรณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม

6.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปกระบวนการที่นำมาใชใ้ นการออกแบบและสร้างชิ้นงาน

แนวทางการสรปุ - ระบุปญั หา

- รวบรวมข้อมลู และแนวคิดทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับปัญหา

- ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หา

- วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา

- ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรุงแกไ้ ขวธิ ีการแก้ไขปัญหาหรือแก้ไขช้นิ งาน

- นำเสนอวธิ กี ารแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรอื ชิน้ งาน

6.4 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกิจกรรมที่ได้ลงมือปฏิบัติว่านักเรียนได้ความรู้อะไรบ้างจาก

การทำกจิ กรรมน้ี

แนวทางการสรุป วิทยาศาสตร์: การสกัดสีจากธรรมชาตดิ ้วยโครมาโทกราฟี

เทคโนโลยี: การใช้ Application FizziQ และ Application Number

วศิ วกรรมศาสตร์: การออกแบบชุดอปุ กรณ์ CTK

คณิตศาสตร์: การคาดคะเนการเลือกใช้วัสดุในการทดลองเพื่อนำความน่าจะเป็น

ไปใช้ในชีวิตจริง การใช้เครื่องวัดความยาวที่เหมาะสมวัดและบอกความยาว

ของสิ่งต่างๆ เปน็ เซนติเมตร และอัตราส่วนการสกัดสีจากธรรมชาติ )

55

สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
1. ใบกจิ กรรมที่ 1 ผจญภยั ในดงพญาเย็น
2. ใบกิจกรรมที่ 2 มหัศจรรย์สารสีของใบไม้
3. ใบความรูท้ ่ี 1 เร่ือง ความลบั ของสีสัน
4. ใบความร้ทู ่ี 2 เรอ่ื ง การสกดั ดว้ ยตวั ทำละลายและโครมาโทกราฟอี ย่างง่าย

การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื /แบบประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน

จดุ ประสงค์ - ใบกจิ กรรมท่ี 2 มหัศจรรย์สารสขี อง ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
ใบไม้ ตอนท่ี 1 หลากสสี ัน...แตโ่ ทษมหันต์ ร้อยละ 80 ข้นึ ไป
1. วิเคราะห์ข้อดี - ข้อเสียของสี และอนั ตราย
จากธรรมชาติและสีสงั เคราะห์ เพ่ือ
ทำประกาศเสียงตามสายรณรงค์
เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับ
อันตรายของการใช้สีสังเคราะห์ได้
(P, A)

2. เปรียบเทียบ วิเคราะห์ และสรุป - ใบกจิ กรรมที่ 2 มหัศจรรย์สารสีของ บนั ทกึ ผลการทดลอง
สีของใบไม้แต่ละระยะ ของพืชต่าง ใบไม้ ตอนท่ี 2 ใบไมซ้ ่อนสี สอดคลอ้ งกับระยะของใบไม้
ชนดิ กนั ได้ จากกราฟขอ้ มลู ทไ่ี ด้จาก - แบบบนั ทึกพฤติกรรมการทำงานกลุม่ อย่างเปน็ ระบบ
การใช้ Application FizziQ โดย ของนักเรียน
สามารถทำงานรว่ มกับเพื่อนในกลุ่ม
ได้ (P, A)

3. ออกแบบการทดลองเพื่อแยก - ใบกจิ กรรมที่ 2 มหัศจรรยส์ ารสขี อง ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
องค์ประกอบของใบไม้แต่ละระยะ ใบไม้ ตอนที่ 3 ปรศิ นาของสารสี รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป
ของพืชตา่ งชนดิ กัน
ดว้ ยโครมาโทกราฟไี ด้ (P) ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
4. สร้างและทดสอบประสิทธิภาพ - ใบกิจกรรมท่ี 1 ผจญภยั ในดงพญาเยน็ ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
ข อ ง ช ุ ด อ ุ ป ก ร ณ ์ CTK จ า ก
สถานการณ์ท่ีกำหนดได้ (K , P)

56

ใบความรทู้ ่ี 1
เรื่อง ความลับของสสี นั
(ตวั อย่างขอ้ มูลของใบไม้ 2 ชนดิ )

ภาพใบไม้ ข้อมูล

1. ใบโกสน ลักษณะภายนอกของใบ : เป็นใบเดี่ยว โคนใบรูป
ลิ่ม ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อของใบคล้าย
กับกระดาษ การเรียงตัวของเสน้ ใบมีรปู รา่ งคล้ายแห
แบบขนนก ใบรูปขอบขนาน ส่วนสีของใบนั้นจะมี
หลายสตี ามแตล่ ะสายพนั ธ์ุ เช่น สีเหลอื ง แดง เขียว
เป็นต้น โดยปกติแล้วท้องใบจะมีสีที่อ่อนกว่า ใบมี
ความกว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร และยาว
ประมาณ 3-5 เซนตเิ มตร

2. วา่ นกาบหอย ลักษณะภายนอกของใบ : ใบเด่ยี ว เรียงเวียนรอบ
ตน้ เป็นรัศมี รปู ใบหอก กวา้ ง 4 – 5 เซนติเมตร ยาว
15 – 45 เซนติเมตรปลายใบแหลม หลังใบสเี ขยี ว
ท้องใบสีม่วงแดง แผน่ ใบหนา

57

ใบความรทู้ ี่ 2
เรอ่ื ง การสกดั ดว้ ยตัวทำละลายและโครมาโทกราฟีอย่างงา่ ย

การสกัดด้วยตวั ทำละลาย เป็นวิธีทใี่ ชก้ ันอย่างกวา้ งขวาง ในอุตสาหกรรม โดยการสกัดดว้ ย
ตัวทำละลาย เปน็ วธิ ีการแยกสารที่ใช้มากในชวี ิตประจำวัน เปน็ การแยก
สาร ท่ีต้องการออกจากส่วนต่าง ๆ ของพืชหรอื จากของผสมต้องเลอื กตัว
ทำละลายที่เหมาะสมในการสกัดสารท่ตี ้องการ

การเลือกตัวทำละลายทนี่ ำมาใชใ้ นการสกดั มหี ลกั ประโยชน์ของการสกัดด้วยด้วยตัวทำละลาย
ท่ัวไป ดังนี้ 1. สกัดนำ้ มันพืชจากเมล็ดพชื เช่น นำ้ มนั งา ถั่ว ปาลม์
1. ต้องละลายสารท่ีต้องการสกดั ไดด้ ี นนุ่ บัว เปน็ ต้น นยิ มใชเ้ ฮกเซนเปน็ ตวั ทำละลาย
2. ไม่ทำปฏกิ ิริยากับสารทตี่ ้องการสกัด 2. สกดั สารมีสีออกจากพชื
3. ถ้าตอ้ งการแยกสี ตวั ทำละลายจะต้องไม่มีสี ถ้า 3. สกดั นำ้ มนั หอมระเหยออกจากพชื
ตอ้ งการแยกกลิ่นตวั ทำละลายตอ้ งไมม่ ีกล่ิน 4. สกดั ยาออกจากสมุนไพร
4. ไมม่ ีพิษ มีจดุ เดือดตำ่ และแยกตวั ออกจากสารที่
ตอ้ งการสกดั ไดง้ า่ ย ****เฮกเซน มีสูตรทางเคมีคือ C2H14 เปน็ ของเหลวใส
5. ไมล่ ะลายปนเปน็ เนื้อเดียวกับสารทน่ี ำมาสกดั ไมม่ สี ี มีจดุ เดือด 69 องศาเซลเซยี ส ไอของเฮกเซนเปน็
6. มรี าคาถกู อนั ตรายต่อระบบหายใจ****

โครมาโทกราฟีอยา่ งงา่ ย โครมาโทกราฟี (Chromatography) เปน็ เทคนคิ
(ภาพประกอบจาก https://www.greelane.com/th) ที่ใช้แยกสารโดยอาศัยความสามารถในการละลายของ
สารแต่ละตัวที่ไม่เท่ากัน นอกจากความสามารถใน
การละลายในตัวทำละลายที่ใช้แล้ว การที่สารจะแยกออก
จากกนั ยังขึ้นอยกู่ บั ความสามารถในการดดู ซบั กับตัวกลาง
ที่ใช้ด้วย การแยกสารที่มีสีโดยใช้ตัวทำละลายที่เป็นน้ำ
พาสารเคลอื่ นท่ีไปในตัวกลางท่ีเปน็ กระดาษกรอง

58

ใบกิจกรรมท่ี 1
เรอ่ื ง ผจญภยั ในดงพญาเยน็
สถานการณ์

นกั เรียน คือ ผ้เู ขา้ ชงิ ตำแหน่งผ้ชู ่วยวิจัยของศาสตราจารย์เบเอวรี่ โกลเวอร์ ผอู้ ำนวยการสวนพฤกษศาสตร์
แห่งเคมบริดจ์ (Professor Beverley Glover, Director - Cambridge Botanic Garden) ที่จะเดินทางมา
ดงพญาเย็น เพื่อเก็บตัวอย่างดอกไม้ และพืชหายากของประเทศไทย กลับไปวิจัยต่อในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
ประเทศองั กฤษ สำหรับบททดสอบของผ้เู ข้าชงิ คือ จะตอ้ งสร้างอุปกรณ์ทใ่ี ช้แยกองค์ประกอบในพชื ออกจากกันได้
อย่างชัดเจน สามารถระบุได้ว่าพืชท่ีนำมาทดสอบเป็นพืชชนิดใด อุปกรณ์ต้องมีขนาดเล็กพกพาง่าย สามารถ
นำไปใชใ้ นป่าลกึ ได้ และไม่ใช้พลงั งานจากแบตเตอร่ี

ในขั้นตอนการคัดเลือกผู้ช่วยวิจัย นักเรียนต้องใช้อุปกรณ์ CTK ที่สร้างขึ้น จำแนกพืชปริศนา 3 ชนิด
หากอปุ กรณ์ของนักเรียนสามารถแยกพืชทั้ง 3 ชนดิ ไดถ้ กู ต้องแมน่ ยำ นักเรยี นจะได้ผา่ นการคัดเลือกใหเ้ ป็นผชู้ ว่ ยวจิ ยั
ปริศนาของสารสี

1 อญั ชัน 2 บานบรุ ี 3 ไม่ทราบ 4 ไมท่ ราบ 5 ไม่ทราบ
แถบกระดาษทใ่ี ช้ประกอบการทดสอบอปุ กรณ์ CTK

***รายชอ่ื พืชปริศนาที่เป็นไปได้ ดอกชบา ใบลนิ้ กระบือ และวา่ นกาบหอย

59

ตอนท่ี 1 ประเด็นปญั หา
ปญั หาของสถานการณน์ ี้คือ
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

เง่ือนไขทีจ่ ะตอ้ งพจิ ารณาในการแกป้ ญั หา ได้แก่
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................ ....................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................

จากสถานการณ์ ชดุ อปุ กรณท์ ่นี กั เรียนจะต้องสรา้ งคอื อะไร และมีวตั ถปุ ระสงค์อะไรบ้าง
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

60

ตอนที่ 2 Chromatography Test Kit (CTK)

คำชี้แจง : นักเรียนวาดภาพและอธิบายแนวคิดในการสร้าง CTK จากวัสดุที่กำหนดให้ (ระบุชนิดและปริมาณตัว

ทำลายและตัวถูกละลาย ระบุชนดิ ของกระดาษท่ีใช้สำหรับโครมาโทกราฟี ระบุวสั ดุ ขนาด และสว่ นประกอบของ CTK)

อุปกรณแ์ ละสารเคมี

1. กระดาษกรอง 9. แอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 70% 17. ท่ีเจาะกระดาษ

2. กระดาษกรองกาแฟ 10. ฟิวเจอรบ์ อร์ด 18. แผ่นโฟมยาง

3. กระดาษซบั น้ำมนั 11. กาว 19. ดอกชบา

4. กระดาษลงั 12. กรรไกร 20. ใบลนิ้ กระบือ

5.กระดาษวาดภาพ 13. ไมบ้ รรทดั 21. วา่ นกาบหอย

6. กระดาษทิชชู 14. สก๊อตเทป 22. ตัวอยา่ งใบไมท้ นี่ ักเรียน

7. น้ำเปล่า 15. แรปหอ่ อาหาร สนใจ 2 ชนดิ

8. แอลกอฮอล์ไอโซโพพลิ 95% 16. แก้วพลาสติกใส

ออกแบบชุดอุปกรณ์ CTK

61

วิธีการทดลอง

62

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง

63

ตอนท่ี 3 การปรบั ปรุงแก้ไข
1. นักเรียนพบปญั หาระหวา่ งการสร้างชุดอปุ กรณ์ CTK หรือไม่ หากพบปัญหานักเรียนมีวิธแี กไ้ ขปรบั ปรงุ อยา่ งไร

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. ......................................................

2. นกั เรียนมวี ิธกี ารทดสอบประสิทธภิ าพของ CTK อย่างไรบ้าง เพื่อให้มัน่ ใจว่าชดุ อุปกรณ์ CTK น้ี จะทำให้
นักเรียนผ่านการคัดเลือกใหเ้ ป็นผ้ชู ่วยวิจัย

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................. .......................
............................................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. ......................................................

64

ตอนที่ 4 การสะท้อนความรู้
คำชี้แจง : จากการทำกิจกรรมนกั เรียนได้รับความรู้อะไรบ้างในรายวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์
และคณติ ศาสตร์
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................. .......
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. ...................................
....................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................

65

ใบกจิ กรรมที่ 2
เรือ่ ง มหศั จรรยส์ ารสขี องใบไม้

ตอนท่ี 1 หลากสสี ัน...แต่โทษมหนั ตแ์ ละอนั ตราย
คำช้ีแจง : นกั เรียนวิเคราะห์ขอ้ มลู ที่กำหนดให้ พร้อมท้ังตอบคำถามให้ถกู ต้อง
บทความที่ 1

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจสอบลูกอม 387 ชนิด
พบว่า มีการใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 30 ตัวอย่าง โดยใช้การแต่งสีอาหารให้มีสีสัน
น่ารบั ประทานมากข้ึน ในลกู อมและหมากฝรัง่ หากร่างกายไดร้ บั ในปรมิ าณมากหรือบ่อยคร้ัง ย่อมกอ่ ให้เกิดอันตรายได้
เช่น สีจะไปเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้น้ำย่อยอาหารออกมาไม่สะดวก เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
และขัดขวาการดูดซึมสารอาหาร ทำให้ท้องเดิน อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ก่อให้เกิดภูมิแพ้หรืออาจมีอาการของตับ
ไตอักเสบ บางชนิดอาจกอ่ ให้เกิดมะเร็งท่ตี ่อมนำ้ เหลืองและอวยั วะอน่ื ๆ
(ขอ้ มลู จาก https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/general/465490/)

(https://www.istockphoto.com/search/2/image?phrase=lots+of+candy)

66

บทความท่ี 2

รทู้ ัน! สารพษิ ในเสอ้ื ผ้า 'โนนิลฟีนอล' อันตรายมากกวา่ ปลากลายพนั ธุ์ !
ภาพประกอบจาก : https://www.facebook.com/environman.th/photos/

แฟชั่นทำพิษ แมน่ ้ำในบงั คลาเทศเนา่ เสยี เปน็ สีดำเพราะสี-สารเคมีย้อมผา้ ที่ถูกปล่อยสู่น้ำกลายเป็นมลพิษ
ยีนส์เพียงหนึ่งตัวต้องใช้น้ำปริมาณ 7,500 ลิตร ในการปลูกฝ้ายสำหรับการถักทอยีนส์ และต้องใช้สารเคมี
ใน การย้อมสีผ้าและทำให้เนื้อผ้านิ่มลง เมื่อสารพิษไหลลงสู่แม่น้ำจนเกิดการสะสมไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่แสง
ไม่สามารถส่องผา่ นมายังพื้นผิวทำให้พืชไม่สามารถสังเคราะหแ์ สงได้ ส่งผลให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดลงจนพืช
นำ้ และสัตว์นำ้ ท่ีอาศัยอยูใ่ นแหล่งน้ำน้ัน ๆ ตายลง นอกจากนย้ี ังพบว่าในพ้ืนที่เพาะปลูกบริเวณแม่น้ำมีสีย้อมผ้า
ตกค้างในผักและผลไม้ เมื่อคนกินผักและผลไม้จะได้รับสารเคมีและโลหะหนักสะสมในร่างกาย สามารถเพิ่ม
ความเสี่ยงในการเกิดอาการป่วยอย่างเฉียบพลัน ปัญหาผิวหนัง หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็งได้
(https://edition.cnn.com/.../dyeing-pollution.../index.html) Bottom of Form

67

บทความที่ 3
สีสวยงามในเคร่ืองสำอาง

สี เป็นปัจจัยมีผลต่อการตอบสนองทางพฤติกรรมและอารมณ์ของมนุษย์อย่างหนึ่ง จึงมีอิทธิพลในการสร้าง
ความดึงดดู และเพิ่มการจดจำเอกลักษณข์ องแบรนด์เครอ่ื งสำอาง (ขอ้ มูลจาก http://sumeka.co.th/2824/)
แพส้ ีในเครื่องสำอาง

ปฏิกิริยาที่ผิวแสดงออกถึงสภาวะของการแพ้สารเคมีในเครื่องสำอาง อาทิ สารแต่งกลิ่นหอม สารกันแดด
สารแต่งสีพาราฟนี ลิ ีนไดอะมนี (ยาย้อมสผี ม) วตั ถกุ นั เสีย แอลกอฮอล์ สารปรอท สเตียรอยดแ์ ละสารอ่ืน ๆ อีกมากมาย
ที่มีผลขา้ งเคยี งในเชงิ ลบต่อผวิ เปน็ ตน้ เหตุทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคอื งจนนำไปสู่อาการแพ้ โรคผวิ หนัง ตดิ เช้ือ และ
ลมพิษต่าง ๆ นนั่ เอง (ขอ้ มูลจาก https://www.acseine.in.th)

บทความที่ 4
ข้อดีของสใี นเครือ่ งเขียน

จุดเริ่มต้นของการสร้างความทรงจำในสมอง การมองเห็นจะทำให้เราเกิดภาพจำในระยะสัน้ ๆ ซึ่งหากภาพที่
เราเห็นนั้นมีสิ่งสะดุดตา หรือโดดเด่นขึ้นมา ก็จะทำให้สมองจดจำสิ่งๆ นั้นได้นานขึ้น การใช้ปากกาสีเน้นในจุดที่เป็น
ใจความสำคัญ ให้โดดเด่นออกมาจากตัวหนังสือสีดำหรือสีน้ำเงินจึงช่วยให้เราจำข้อความสีๆ นั้นได้นานขึ้นนั่นเอง
(ขอ้ มูลจาก https://www.officemate.co.th/blog)
อันตรายของสเี ทยี น

สำนักงานการเเข่งขันทางการค้าเเละคุ้มครองผู้บริโภคประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ACCC สุ่มตรวจสีเทียน
บางยี่หอ้ เเละตรวจพบสารเคมีท่ีเป็นอนั ตราย เชน่ เเรใ่ ยหิน, สารหนู, เเบเร่ียม, โครเม่ยี ม, ปรอทเเละตะก่ัวในปริมาณ
เล็กนอ้ ย เเตใ่ นขณะเดยี วกัน บางย่หี อ้ ทตี่ รวจพบก็มีค่าเกินมาตรฐาน ซ่ึงสารเคมที ี่เป็นอนั ตรายเหล่าน้ี หากได้รับเข้าสู่
ร่างกายในปริมาณมากอาจสง่ ผลตอ่ พฒั นาการของเด็ก ๆ ได้ (ขอ้ มูลจาก https://www.kombinery.com/)

68

บทความท่ี 5

การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ
ปจั จุบนั คนหนั มาสนใจใชส้ ธี รรมชาติในการย้อมผ้ามากขึ้น เพราะไม่เปน็ อันตรายต่อสขุ ภาพของผู้ผลิตและ

ผูบ้ ริโภค น้ำทง้ิ จากกระบวนการผลิตไม่เป็นอนั ตรายต่อสงิ่ แวดล้อม วตั ถุดบิ ทีใ่ ชห้ าได้ง่ายในชุมชนไม่ต้องใช้สีเคมีท่ี
นำเขา้ จากต่างประเทศ ทำให้เหน็ คุณคา่ ทรัพยากรเกิดความรักความหวงแหนเรยี นรู้ท่จี ะอนุรักษ์ และปลูกทดแทน
เพื่อการผลิตที่ยั่งยืน การย้อมสีธรรมชาติเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น สีธรรมชาติมีความหลากหลาย ตามชนิด อายุ
ส่วนของพืชที่ใช้ และขั้นตอนการย้อม แม้ข้อดีในการใช้สีธรรมชาติในการย้อมผ้า แต่ก็ยังมีข้อจำกัดของสีธรรมชาติอยู่
เช่น ปริมาณสารสีในวัตถุดิบย้อมสีมีน้อย ทำให้ย้อมได้สีไม่เข้ม หรือต้องใช้วัตถุดิบปริมาณมาก ทำให้ผลิตได้ใน
ประมาณมากและไม่สามารถผลิตสีตามที่ตลาดต้องการ ในการดูแลรักษามีความยุ่งยาก อาจทำให้ผ้ามีสีซีดจาง
ไม่ทนแสง คุณภาพการย้อมสีธรรมชาติขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยซึ่งควบคุมสีให้เหมอื นเดิมยาก ในการย้อมสีธรรมชาติ
หากขาดจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนจะกลายเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมได้ (ข้อมูลจาก
https://kmipc6.blo gspot.com/)

69

คำช้ีแจง : จากการศกึ ษาตัวอยา่ งบทความที่กำหนดให้ ให้นักเรียนระบุข้อดี และข้อเสียของการใชส้ จี ากธรรมชาติ
และสสี งั เคราะห์ลงในตารางใหถ้ ูกต้อง

ขอ้ ดี ข้อเสีย

สีสังเคราะห์
บทความท…่ี …………

ข้อดี ข้อเสยี

สจี ากธรรมชาติ
บทความที่ 5

70
ตอนที่ 2 ใบไมซ้ ่อนสี
คำชี้แจง : นักเรียนศึกษาการใช้ Application FizziQ วางแผนและออกแบบการเก็บข้อมูลเพื่อแยกสารสีจาก
ใบไมพ้ ร้อมท้ังบนั ทกึ ข้อมูลใหถ้ กู ต้อง
ขัน้ ตอนการใช้ App FizziQ ในการเกบ็ ข้อมูล

1. ดาวน์โหลด App FizziQ

- ยงิ่ สำรวจย่ิงเรียนรู้ -

2. กดเลือกฟังกช์ นั่ Instruments
3. กดปุม่ บวกทเ่ี เสดงอยู่เเถบดา้ นบนของหนา้ จอ
4. เลอื กเมนู Colorimenter
5. เลอื กเมนู Color spectrum

เรามาสารวจใบไม้
กนั เถอะค่ะเพอ่ื นๆ

71

6. ใช้ใบไม้ท่ีนักเรียนต้องการศึกษา วางลงแล้วนำกล้องไปสอ่ งพร้อมกดป่มุ สีแดงแถบหนา้ จอดา้ นลา่ ง
7. อา่ นคา่ สีท่ีไดพ้ ร้อมทัง้ บันทึกผล

72

ตารางการบนั ทึกขอ้ มูล

คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนใสภ่ าพทไ่ี ด้จากการศึกษาใบไมแ้ ตล่ ะระยะ
ใบไมช้ นดิ ท่ี 1 ช่ือ......................................................................................................................... .........................
วันท่ีทำการทดลอง................................................................................................................................................

ระยะ.................................................................

ระยะ.................................................................

73

ระยะ.................................................................

คำถามข้อท่ี 1 ใบไม้สีเขยี วมีสอี ืน่ อยู่ด้วยหรอื ไม่ อย่างไร

............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................................

คำถามขอ้ ที่ 2 ใบไม้แตล่ ะระยะมีปรมิ าณสีใดมากท่สี ดุ

ระยะของใบไม้ ปริมาณสที ่พี บมากท่ีสดุ

สด

เริม่ เห่ยี ว

เหย่ี ว

คำถามข้อที่ 3 ขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากการทดลองในแต่ละคร้งั มีความสอดคลอ้ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร

............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................

74
ใบไม้ชนิดที่ 2 ชอื่ ......................................................................................................................... .........................
วันท่ีทำการทดลอง......................................................................................... .......................................................

ระยะ.................................................................

ระยะ.................................................................

75

ระยะ.................................................................

คำถามขอ้ ที่ 1 ใบไม้สเี ขียวมีสอี ่ืนอยูด่ ้วยหรือไม่ อยา่ งไร

............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

คำถามขอ้ ท่ี 2 ใบไม้แต่ละระยะมปี รมิ าณสีใดมากท่ีสุด

ระยะของใบไม้ ปรมิ าณสที พ่ี บมากท่สี ดุ

สด

เริ่มเห่ียว

เหีย่ ว

คำถามขอ้ ที่ 3 ข้อมลู ท่ีได้จากการทดลองในแตล่ ะครงั้ มคี วามสอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไร

............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................

76

อภปิ รายผล

....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................... .............

77

ตอนที่ 3 ปริศนาของสารสี
คำชแ้ี จง : นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาข้นั ตอนการทดลองให้เข้าใจและลงมือปฏบิ ัติ พร้อมทง้ั บันทึกผลการทดลอง
อุปกรณ์และสารเคมี

1. ขวดแก้วขนาด 16 ออนซ์ 6. แอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 95% 10. ชดุ ตะเกียงแอลกอฮอล์
2. หลอดหยด 7. แอลกอฮอล์ไอโซโพพลิ 70% 11. ไมข้ ีดไฟ
3. กรรไกร 8. น้ำ 12. กระดาษโครมาโทกราฟี
4. ตวั อยา่ งใบไม้ 1 ชนดิ 9. บกี เกอร์ 13. กาวสองหน้าแบบบาง
5. ไมบ้ รรทดั

วิธกี ารทดลอง

1. นำตัวอย่างใบไม้ 1 ชนิดท่เี กบ็ ได้มาฉีกจนขาด ใสต่ วั อยา่ งของใบลงไปในแตล่ ะขวดแก้วขนาด 16 ออนซ์
จำนวน 3 ขวด โดยกำหนดดงั น้ี

(ภาพประกอบจาก https://www.123homeschool4me.com/why-do-leaves-change-color-science_52/)

- ขวดที่ 1 เติมน้ำต้มแล้วลงไปโดยใช้อัตราส่วน 2:3 ของขวด และเติมน้ำร้อนเพื่อช่วยให้มีการ
สกัดสจี ากเซลล์ใบ (ทิ้งไว้ 1 คืน)

- ขวดที่ 2 เตมิ แอลกอฮอล์ไอโซโพพลิ 95% ลงไปโดยใช้อัตราส่วน 2:3 ของขวด และเติมน้ำร้อน
เพ่อื ช่วยใหม้ กี ารสกดั สีจากเซลล์ใบ (ท้ิงไว้ 1 คืน)

- ขวดท่ี 3 เตมิ แอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 70% ลงไปโดยใช้อัตราส่วน 2:3 ของขวด และเตมิ น้ำร้อน
เพอ่ื ชว่ ยให้มกี ารสกัดสจี ากเซลล์ใบ (ทิ้งไว้ 1 คืน)

78

2. ตัดกระดาษโครมาโทกราฟี ใหม้ ขี นาดความยาว 8 เซนติเมตรและมีความกว้าง 2 เซนตเิ มตร
3. ใช้หลอดหยดดดู น้ำจากขวดแก้วท่สี กัดสีจากใบไม้ มาหยดลงบนกระดาษโครมาโทกราฟีจำนวน 5 หยด
แล้วท้ิงไว้ 5 นาที
4. วดั ระยะทางการเคลอ่ื นที่ของสารสี
5. สังเกตผลการทดลองพร้อมท้งั บนั ทึกผลการทดลอง

79

คำถามก่อนการทดลอง

1. ระบุปัญหาของการทดลอง
............................................................................................................................. ........................................
.......................................................................................... ...........................................................................
ตวั แปรตน้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตวั แปรตาม…………………………………………………………………………………………………………………………………….
ตัวแปรควบคมุ ..............................................................................................................................................
2. สมมติฐานการทดลอง
............................................................................................................................. ........................................
............................................................................................................................. ........................................

3. การวางแผนการทดลองการแยกสีของใบไมด้ ้วยโครมาโทกราฟี (วาดภาพพร้อมระบุข้ันตอนการทดลอง)

80

4. ตารางบันทึกผลการทดลอง

ชนดิ ของใบไม้ คือ.......................................................................................................................... ........................

ชนิดของตวั ทำละลาย คือ ....................................................................................................................................

ระยะของใบไม้ ผลการทดลอง

1. ระยะใบสด

สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………

2. ระยะใบเรม่ิ เห่ยี ว

สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง ………………………………………………………………………………..
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………

3. ระยะใบเหี่ยว

ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………

หมายเหตุ นำกระดาษโครมาโทกราฟที ่ีแสดงสารสีของใบไมแ้ ต่ละชนดิ ตดิ ลงในช่อง “ผลการทดลอง”

81

ชนดิ ของใบไม้ คือ.......................................................................................................................... ........................

ชนดิ ของตวั ทำละลาย คอื ............................................................................................................................. .......

ระยะของใบไม้ ผลการทดลอง

1. ระยะใบสด

สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………

2. ระยะใบเร่ิมเหย่ี ว

สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………

3. ระยะใบเหีย่ ว

สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………

หมายเหตุ นำกระดาษโครมาโทกราฟีที่แสดงสารสีของใบไม้แตล่ ะชนิดตดิ ลงในช่อง “ผลการทดลอง”

82

คำถามหลังการทดลอง

1. ให้นกั เรียนใช้เครอื่ งหมาย + แสดงความเข้มของสที ส่ี กัดดว้ ยตัวทำละลายตา่ งชนดิ กนั ในแตล่ ะระยะของใบไม้

ชนิดของตัวทำละลาย ใบสด ระยะของใบไม้ ใบเหยี่ ว
ใบเริม่ เหย่ี ว

นำ้

แอลกอฮอล์ไอโซโพพลิ

70% หรอื 95%

ความเข้มของสใี บไม้ทสี่ กัดดว้ ยตัวทำละลายชนิดเดยี วกันเหมอื นหรอื ต่างกันในแตล่ ะระยะของใบไม้

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

2. ใหน้ ักเรียนระบุจำนวนองค์ประกอบของสบี นกระดาษกรอง เม่ือชนิดของตวั ทำละลายและระยะของใบไม้
แตกต่างกนั

ชนดิ ของตัวทำละลาย ระบจุ ำนวนองค์ประกอบของสีบนกระดาษกรอง

นำ้ ใบสด ใบเริ่มเห่ียว ใบเหีย่ ว
แอลกอฮอล์ไอโซโพพลิ
70% หรอื 95%

จำนวนองคป์ ระกอบของสบี นกระดาษกรองแตกตา่ งกนั หรือไม่อย่างไร

............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

83

5. สรุปผลการทดลอง

............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
.......................................................................................................................... ..........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

84

เสียงตามสาย

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนทำประกาศเสียงตามสายความยาวประมาณ 4-5 บรรทัด เพ่ือให้ทุกคนในชุมชนตระหนักถึง
อนั ตรายของการใชส้ สี งั เคราะห์ โดยคำนงึ ถงึ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง ชุมชน และสังคม
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................ ........................................................

85

แบบบนั ทึกการทำงานร่วมกนั ในกิจกรรมสที ่ีซอ่ นอยู่ในใบไม้

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นระบุแนวทางการทำงานร่วมกันในกจิ กรรมสที ซ่ี ่อนอยู่ในใบไม้ของกลุม่ ตนเอง
1. เปา้ หมายของการทำงาน
.......................................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................ ........................................................................................
2. การแบ่งหน้าท่ี

1. ชอ่ื .....................................................................นามสกุล...................................................................
หน้าท.ี่ ..................................................................................................................................................................

2. ชอ่ื .....................................................................นามสกุล...................................................................
หน้าท.่ี ..................................................................................................................................................................

3. ชื่อ.....................................................................นามสกุล...................................................................
หนา้ ท.ี่ ...................................................................................................................... ............................................

4. ชอื่ .....................................................................นามสกุล...................................................................
หน้าท.ี่ ...................................................................................................................... ............................................

5. ชื่อ.....................................................................นามสกุล...................................................................
หนา้ ท.่ี .................................................................................................................................................................

86

3. วธิ ีการรวบรวมข้อมูลและแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ในกลมุ่

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
......................................................................................................................................... ...........................................
...................................................................................................... ..............................................................................

4. สรปุ การทำงานร่วมกัน

4.1 การทำงานรว่ มกนั เป็นทีมชว่ ยทำใหบ้ รรลไุ ดต้ ามเป้าหมายทีว่ างไวห้ รอื ไม่อยา่ งไร

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

4.2 กล่มุ ของนกั เรยี นมกี ารสนับสนนุ การทำงานของสมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มอยา่ งไรบ้าง

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................ ............................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................ ............................................................

5. การทำงานเกดิ ขอ้ ขดั แย้งเกดิ ขน้ึ หรือไม่ และมีวิธกี ารแกป้ ัญหาอย่างไร

............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
......................................................................................................................................... ...........................................
.................................................................................................. ..................................................................................


Click to View FlipBook Version