87
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 1
เรอ่ื ง ผจญภัยในดงพญาเยน็
สถานการณ์
นกั เรยี น คือ ผู้เขา้ ชิงตำแหนง่ ผชู้ ว่ ยวิจยั ของศาสตราจารย์เบเอวร่ี โกลเวอร์ ผอู้ ำนวยการสวนพฤกษศาสตร์แห่งเคม
บริดจ์ (Professor Beverley Glover, Director - Cambridge Botanic Garden) ที่จะเดินทางมาดงพญาเย็น
เพื่อเก็บตัวอย่างดอกไม้ และพืชหายากของประเทศไทย กลับไปวิจัยต่อในมหาวทิ ยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
สำหรับบททดสอบของผู้เข้าชิงคือ จะต้องสร้างอุปกรณ์ที่ใช้แยกองค์ประกอบในพืชออกจากกันได้อย่างชัดเจน
สามารถระบุได้ว่าพืชท่นี ำมาทดสอบเป็นพืชชนิดใด อปุ กรณต์ ้องมีขนาดเล็กพกพางา่ ย สามารถนำไปใช้ในป่าลึกได้
และไม่ใชพ้ ลังงานจากแบตเตอร่ี
ในข้ันตอนการคดั เลือกผชู้ ว่ ยวจิ ยั นกั เรียนต้องใช้อุปกรณ์ CTK ที่สรา้ งข้ึน จำแนกพชื ปริศนา 3 ชนิด หาก
อปุ กรณ์ของนักเรยี นสามารถแยกพืชท้ัง 3 ชนดิ ไดถ้ กู ตอ้ งแม่นยำ นักเรียนจะไดผ้ ่านการคัดเลือกให้เป็นผชู้ ่วยวิจยั
ปริศนาของสารสี
1 อัญชัน 2 บานบรุ ี 3 ไมท่ ราบ 4 ไมท่ ราบ 5 ไมท่ ราบ
แถบกระดาษที่ใช้ประกอบการทดสอบอปุ กรณ์ CTK
***รายชอื่ พชื ปริศนาท่ีเปน็ ไปได้ ดอกชบา ใบลน้ิ กระบือ และวา่ นกาบหอย
88
ตอนที่ 1 ประเดน็ ปัญหา
ปัญหาของสถานการณน์ ี้คือ
การสร้างชดุ อุปกรณท์ ่ีสามารถแยกองค์ประกอบในพชื ได้อย่างชัดเจน เพ่ือนำไปใช้ประโยชนใ์ นป่าลึก
เงอ่ื นไขท่จี ะต้องพจิ ารณาในการแกป้ ญั หา ไดแ้ ก่
ชดุ อปุ กรณ์ ต้องมขี นาดเล็ก พกพางา่ ย ไม่ใช้พลงั งานจากแบตเตอร่ี สามารถแยกองคป์ ระกอบในพืชได้อย่างชัดเจน
ถกู ตอ้ ง และแม่นยำ
จากสถานการณ์ ชุดอปุ กรณท์ ่ีนักเรียนจะต้องสร้างคอื อะไร และมีวัตถปุ ระสงคอ์ ะไรบ้าง
สร้างชดุ อปุ กรณ์ CTK มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื แยกองค์ประกอบของพืชให้ถกู ต้อง และแม่นยำ เพ่ือให้ม่นั ใจว่าชดุ อปุ กรณ์
CTK นี้ จะทำใหน้ ักเรยี นผ่านการคดั เลอื กใหเ้ ปน็ ผชู้ ว่ ยวจิ ยั
89
ตอนท่ี 2 Chromatography Test Kit (CTK)
คำชี้แจง : นักเรียนวาดภาพและอธิบายแนวคิดในการสร้าง CTK จากวัสดุที่กำหนดให้ (ระบุชนิดและปริมาณตัว
ทำลายและตัวถูกละลาย ระบชุ นดิ ของกระดาษที่ใช้สำหรับโครมาโทกราฟี ระบุวัสดุ ขนาด และส่วนประกอบของ
CTK)
อุปกรณแ์ ละสารเคมี
1. กระดาษกรอง 9. แอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 70% 17. ที่เจาะกระดาษ
2. กระดาษกรองกาแฟ 10. ฟวิ เจอร์บอร์ด 18. แผ่นโฟมยาง
3. กระดาษซบั นำ้ มัน 11. กาว 19. ดอกชบา
4. กระดาษลงั 12. กรรไกร 20. ใบลนิ้ กระบือ
5.กระดาษวาดภาพ 13. ไมบ้ รรทัด 21. ว่านกาบหอย
6. กระดาษทิชชู 14. สกอ๊ ตเทป 22. ตัวอยา่ งใบไมท้ นี่ ักเรยี น
7. น้ำเปลา่ 15. แรปห่ออาหาร สนใจ 2 ชนดิ
8. แอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 95% 16. แก้วพลาสติกใส
ออกแบบชดุ อุปกรณ์ CTK
90
วิธีการทดลอง
91
ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง
92
ตอนท่ี 3 การปรบั ปรงุ แกไ้ ข
1. นกั เรยี นพบปัญหาระหว่างการสรา้ งชุดอุปกรณ์ CTK หรือไม่ หากพบปญั หานกั เรียนมีวธิ แี ก้ไขปรบั ปรุงอยา่ งไร
องคป์ ระกอบบนกระดาษโครมาโทกราฟี มองเห็นไม่ชัดเจน แกป้ ญั หาโดยเพิม่ ปริมาณสารสกดั จากใบไม้ ปรับความ
ยาว หรือเปลยี่ นชนดิ ของกระดาษโครมาโทกราฟี
2. นกั เรียนมีวธิ กี ารทดสอบประสทิ ธิภาพของ CTK อย่างไรบา้ ง เพ่อื ให้มั่นใจวา่ ชดุ อุปกรณ์ CTK นี้ จะทำให้
นกั เรียนผ่านการคัดเลือกใหเ้ ปน็ ผู้ชว่ ยวิจัย
ชดุ อุปกรณ์ CTK สามารถระบุองคป์ ระกอบได้ใกลเ้ คียง หรือตรงกบั ตัวอยา่ งพชื ท่ีกำหนด
ตอนท่ี 4 การสะท้อนความรู้
คำชี้แจง : จากการทำกิจกรรมนกั เรียนได้รับความรู้อะไรบ้างในรายวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์
และคณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ – การสกัดสจี ากธรรมชาติดว้ ยโครมาโทกราฟี
เทคโนโลยี – การใช้ Application FizziQ และ Application Number
วศิ วกรรมศาสตร์ – การออกแบบชดุ อปุ กรณ์ CTK
คณติ ศาสตร์ – การคาดคะเนการเลือกใช้วสั ดุในการทดลองเพื่อนำความน่าจะเป็นไปใช้ในชีวติ จริง การใช้เคร่ืองวัด
ความยาวทเ่ี หมาะสมวัดและบอกความยาวของส่งิ ตา่ งๆ เปน็ เซนติเมตร และอัตราสว่ นการสกัดสจี ากธรรมชาติ
93
เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการแกป้ ญั หา
กระบวนแก้ปญั หา ระดบั คะแนน คะแนนที่ได้
ประเด็นการประเมิน
1. การระบปุ ัญหา 321
2. ก า ร ว ิ เ ค ร า ะ ห์ ระบุปัญหาที่กล่าวถึง ระบุปัญหาที่กล่าวถึง ระบุปัญหาที่กล่าวถึง
ปญั หา
การสร้างชุดอุปกรณ์ การสร้างชุดอุปกรณ์ ก า ร ส ร ้ า ง ส ร ้ า ง ชุ ด
เ ห ต ุ ผ ล ใ น ก า ร แ ย ก และเหตุผลอย่างใด อุปกรณ์ แต่ไม่มีเหตุผล
องค์ประกอบ และการ อ ย ่ า ง ห นึ่ ง ประกอบ
นำไปใชใ้ นป่า (องค์ประกอบ/และ
การนำไปใชใ้ นป่า)
ระบุเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ระบุเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ระบุเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
ก ั บ ก า ร ส ร ้ า ง ชุ ด ก ั บ ก า ร ส ร ้ า ง ชุ ด ก ั บ ก า ร ส ร ้ า ง ชุ ด
อ ุ ป ก ร ณ์ CTK ไ ด้ อุปกรณ์ CTK ได้อย่าง อุปกรณ์ CTK ได้ 1
ครบถ้วน (1. ขนาดของ นอ้ ย 2 เงื่อนไข เงอื่ นไข
อุปกรณ์ 2. ความ
สะดวกในการพกพา 3.
การเลือกใช้พลังงานที่
เหมาะสม 4.
ความสามารถในการ
แยกองค์ประกอบใน
พชื )
94
ประเด็นการประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 คะแนนท่ไี ด้
2
3. การเสนอแนวทาง ออกแบบชุดอุปกรณ์ ออกแบบชุดอุปกรณ์ ออกแบบชุดอุปกรณ์
ในการแก้ปญั หา CTK ตามเงื่อนไขท่ี CTK ตามเงื่อนไขที่ CTK ตามเงื่อนไขที่
เกี่ยวข้องกับการสร้าง เกี่ยวข้องกับการสร้าง เกี่ยวข้องกับการสร้าง
ชุด CTK ได้ครบถ้วน ชุด CTK ไดบ้ างส่วน ชุด CTK ไดบ้ างสว่ น
และ และ/หรือ หรือ
อ อ ก แ บ บ ว ิ ธ ี ก า ร ออกแบบวิธีการทดลอง อ อ ก แ บ บ ว ิ ธ ี ก า ร
ทดลองที่มีขั้นตอน ที่มีขั้นตอนชัดเจน เป็น ทดลองที่มีขั้นตอน
ช ัดเจน เป็นร ะ บ บ ระบบสอดคล้องกับ ส อ ด ค ล ้ อ ง ก ั บ ก า ร
ส อ ด ค ล ้ อ ง ก ั บ ก า ร ก า ร อ อ ก แ บ บ ชุ ด ออกแบบชุดอุปกรณ์ได้
ออกแบบชุดอุปกรณ์ อปุ กรณไ์ ดบ้ างสว่ น บางสว่ น
อยา่ งครบถว้ น
4 . ก า ร ต ร ว จ ส อ บ - บันทึกผลการทดลอง - บันทึกผลการทดลอง - บันทึกผลการทดลอง
ผลลพั ธ์ ครบถ้วน ถกู ต้อง และ ค ร บ ถ ้ ว น ถ ู ก ต ้ อ ง ถูกต้องบางสว่ น หรอื
- ตอบคำถามได้ถูกต้อง บางสว่ น และ/หรอื - ตอบคำถามได้ถูกต้อง
ทุกข้อ และ - ตอบคำถามได้ถูกต้อง บางข้อ หรอื
- อ ภ ิ ป ร า ย บางข้อ และ/หรือ - อธิบายการทำงาน
ประสิทธิภาพของชุด - อ ภ ิ ป ร า ย ของชุดอุปกรณ์ CTK
อ ุ ป ก ร ณ ์ CTK ไ ด้ ประสิทธิภาพของชุด ได้
ครบถ้วนทุกปัจจยั อุปกรณ์ CTK ได้บาง
ปัจจัย
คะแนนรวม
95
เกณฑ์การประเมนิ การนำเสนอ
ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดบั คะแนน 1 คะแนนท่ไี ด้
2
1. เนื้อหาหรือข้อมูลท่ี ร ะ บ ุ ว ั ส ด ุ อ ธ ิ บ า ย ระบุวัสดุ อธิบายชุด ระบุวัสดุ อธิบายชุด
นำเสนอ รายละเอยี ดชุดอุปกรณ์ อ ุ ป ก ร ณ ์ แ ล ะ ก า ร อ ุ ป ก ร ณ ์ แ ล ะ ก า ร
และการทำงานของชุด ทำงานของชุดอุปกรณ์ ทำงานของชุดอุปกรณ์
อ ุ ป ก ร ณ ์ ไ ด ้ อ ย ่ า ง ได้บางสว่ น และ/หรือ ไดบ้ างสว่ น และ/หรือ
ครบถ้วน ชัดเจน และ อภิปรายประสิทธิภาพ อธิบายชุดอุปกรณ์
อภิปรายประสิทธิภาพ ชุดอุปกรณ์ CTK ตาม CTK ตามเงื่อนไขท่ี
ชุดอุปกรณ์ CTK ตาม เงื่อนไขที่กำหนดได้ กำหนดไดบ้ างสว่ น
เงื่อนไขที่กำหนดได้ บางสว่ น
ถูกต้อง ครบถ้วน
ชดั เจน
2. การใช้สื่อในการ มีภาพ/การแสดงข้อมูล มีภาพ/การแสดงข้อมูล มีภาพ/การแสดงข้อมูล
นำเสนอ ที่ชัดเจน มีการใช้สีที่ ที่สอดคล้องกับเนื้อหา ตามเนื้อหา หรือข้อมูล
เหมาะสม สือ่ ดึงดดู ใจ มีการใช้สีที่เหมาะสม ทนี่ ำเสนอ
น่าสนใจ
3. การสอ่ื สาร พูดชัดเจน สบตาผู้ฟัง พูดชัดเจน สบตาผู้ฟัง พูดไม่ชัดเจน ไม่สบตา
กระตุ้นให้ผู้ฟังมีส่วน ขาดการกระตุ้นให้ผู้ฟัง ผู้ฟัง ขาดการกระตุ้น
รว่ ม มีสว่ นร่วม ให้ผู้ฟังมสี ่วนรว่ ม
คะแนนรวม
96
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 2
เรื่อง มหศั จรรย์สารสขี องใบไม้
ตอนที่ 1 หลากสสี นั ...แต่โทษมหันตแ์ ละอนั ตราย
คำชี้แจง : นกั เรียนวิเคราะห์ข้อมูลที่กำหนดให้ พรอ้ มทั้งตอบคำถามให้ถูกต้อง
บทความที่ 1
สำนกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวดั (สสจ.) ตรวจสอบลูกอม 387
ชนิด พบว่า มีการใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 30 ตัวอย่าง โดยใช้การแต่งสีอาหารให้มีสีสัน
น่ารับประทานมากขึ้น ในลูกอมและหมากฝรั่ง หากร่างกายได้รับในปริมาณมากหรือบ่อยครั้ง ย่อมก่อให้เกิด
อันตรายได้ เชน่ สจี ะไปเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำใหน้ ้ำยอ่ ยอาหารออกมาไมส่ ะดวก เกิดอาการ
ท้องอืด ท้องเฟ้อ และขัดขวาการดูดซึมสารอาหาร ทำให้ท้องเดิน อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ก่อให้เกิดภูมิแพ้
หรอื อาจมอี าการของตับ ไตอกั เสบ บางชนดิ อาจก่อให้เกดิ มะเรง็ ทีต่ ่อมน้ำเหลืองและอวยั วะอ่นื ๆ
(ข้อมลู จาก https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/general/465490/)
(https://www.istockphoto.com/search/2/image?phrase=lots+of+candy)
97
บทความที่ 2
รทู้ ัน! สารพิษในเสือ้ ผ้า 'โนนลิ ฟีนอล' อนั ตรายมากกว่าปลากลายพันธ์ุ !
ภาพประกอบจาก : https://www.facebook.com/environman.th/photos/
แฟชัน่ ทำพษิ แม่นำ้ ในบงั คลาเทศเนา่ เสียเป็นสีดำเพราะสี-สารเคมีย้อมผ้าที่ถูกปล่อยสนู่ ้ำกลายเป็นมลพิษ
ยีนส์เพยี งหนงึ่ ตวั ตอ้ งใช้นำ้ ปริมาณ 7,500 ลติ ร ในการปลูกฝา้ ยสำหรบั การถักทอยีนส์ และต้องใช้สารเคมีในการ
ย้อมสีผ้าและทำใหเ้ น้ือผ้านิ่มลง เม่ือสารพษิ ไหลลงสู่แม่น้ำจนเกิดการสะสมไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดท่ีแสงไม่สามารถ
ส่องผา่ นมายงั พ้ืนผวิ ทำให้พชื ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ สง่ ผลใหร้ ะดบั ออกซเิ จนในนำ้ ลดลงจนพืชน้ำและสัตว์
น้ำท่อี าศยั อยู่ในแหลง่ นำ้ นนั้ ๆ ตายลง นอกจากนี้ยังพบวา่ ในพนื้ ท่เี พาะปลูกบริเวณแม่นำ้ มีสยี ้อมผ้าตกค้างในผัก
และผลไม้ เมื่อคนกินผักและผลไมจ้ ะไดร้ บั สารเคมีและโลหะหนักสะสมในรา่ งกาย สามารถเพิ่มความเส่ยี งในการ
เ ก ิ ด อ า ก า ร ป ่ ว ย อ ย ่ า ง เ ฉ ี ย บ พ ล ั น ป ั ญ ห า ผ ิ ว ห น ั ง ห ร ื อ แ ม ้ ก ร ะ ท ั ่ ง โ ร ค ม ะ เ ร ็ ง ไ ด้
(https://edition.cnn.com/.../dyeing-pollution.../index.html) Bottom of Form
98
บทความที่ 3
สสี วยงามในเครอื่ งสำอาง
สี เป็นปัจจัยมีผลต่อการตอบสนองทางพฤติกรรมและอารมณ์ของมนุษย์อย่างหนึ่ง จึงมีอิทธิพลในการสร้าง
ความดึงดดู และเพมิ่ การจดจำเอกลักษณข์ องแบรนดเ์ คร่อื งสำอาง (ข้อมลู จาก http://sumeka.co.th/2824/)
แพส้ ใี นเครื่องสำอาง
ปฏิกิริยาที่ผิวแสดงออกถึงสภาวะของการแพ้สารเคมีในเครื่องสำอาง อาทิ สารแต่งกลิ่นหอม สารกันแดด
สารแต่งสีพาราฟีนิลีนไดอะมีน (ยาย้อมสีผม) วัตถุกันเสีย แอลกอฮอล์ สารปรอท สเตียรอยด์และสารอื่น ๆ อีก
มากมาย ที่มีผลข้างเคียงในเชิงลบต่อผิว เป็นต้นเหตุทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองจนนำไปสู่อาการแพ้ โรคผิวหนัง
ตดิ เชือ้ และลมพษิ ตา่ ง ๆ น่ันเอง (ข้อมูลจาก https://www.acseine.in.th)
บทความท่ี 4
ข้อดีของสใี นเครอื่ งเขียน
จุดเริ่มต้นของการสร้างความทรงจำในสมอง การมองเห็นจะทำให้เราเกิดภาพจำในระยะสัน้ ๆ ซึ่งหากภาพท่ี
เราเห็นนั้นมีสิ่งสะดุดตา หรือโดดเด่นขึ้นมา ก็จะทำให้สมองจดจำสิ่งๆ นั้นได้นานขึ้น การใช้ปากกาสีเน้นในจุดที่เป็น
ใจความสำคัญ ให้โดดเด่นออกมาจากตัวหนังสือสีดำหรือสีน้ำเงินจึงช่วยให้เราจำข้อความสีๆ นั้นได้นานขึ้นนั่นเอง
(ข้อมลู จาก https://www.officemate.co.th/blog)
อนั ตรายของสีเทียน
สำนักงานการเเขง่ ขันทางการค้าเเละคุ้มครองผบู้ ริโภคประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ACCC สมุ่ ตรวจสเี ทียนบาง
ยี่ห้อ เเละตรวจพบสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น เเร่ใยหิน, สารหนู, เเบเรี่ยม, โครเมี่ยม, ปรอทเเละตะกั่วในปริมาณ
เล็กน้อย เเตใ่ นขณะเดียวกัน บางยห่ี ้อทต่ี รวจพบก็มีค่าเกินมาตรฐาน ซ่งึ สารเคมที ี่เป็นอันตรายเหล่าน้ี หากได้รับเข้าสู่
รา่ งกายในปรมิ าณมากอาจส่งผลตอ่ พฒั นาการของเด็ก ๆ ได้ (ข้อมลู จาก https://www.kombinery.com/)
99
บทความที่ 5
การยอ้ มผ้าด้วยสธี รรมชาติ
ปจั จบุ นั คนหนั มาสนใจใชส้ ีธรรมชาตใิ นการย้อมผ้ามากขึ้น เพราะไมเ่ ปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพของผู้ผลิตและ
ผ้บู รโิ ภค นำ้ ท้งิ จากกระบวนการผลิตไม่เป็นอนั ตรายต่อสิง่ แวดล้อม วตั ถุดิบท่ใี ช้หาได้ง่ายในชุมชนไม่ต้องใช้สีเคมีท่ี
นำเขา้ จากต่างประเทศ ทำใหเ้ หน็ คุณคา่ ทรัพยากรเกิดความรักความหวงแหนเรียนรู้ทจ่ี ะอนุรักษ์ และปลูกทดแทน
เพื่อการผลิตที่ยั่งยืน การย้อมสีธรรมชาติเป็นภูมปิ ัญญาของท้องถิ่น สีธรรมชาติมคี วามหลากหลาย ตามชนิด อายุ
สว่ นของพชื ทใ่ี ช้ และข้ันตอนการย้อม แมข้ ้อดใี นการใช้สธี รรมชาตใิ นการยอ้ มผ้า แต่ก็ยังมีขอ้ จำกัดของสีธรรมชาติ
อยู่ เชน่ ปรมิ าณสารสีในวตั ถดุ ิบย้อมสีมีน้อย ทำให้ย้อมได้สีไม่เข้ม หรือตอ้ งใชว้ ตั ถดุ ิบปรมิ าณมาก ทำให้ผลิตได้ใน
ประมาณมากและไม่สามารถผลิตสีตามที่ตลาดต้องการ ในการดูแลรักษามีความยุ่งยาก อาจทำให้ผ้ามีสีซีดจาง
ไม่ทนแสง คุณภาพการย้อมสธี รรมชาติขึ้นอยู่กับหลายปัจจยั ซึ่งควบคุมสีให้เหมือนเดิมยาก ในการย้อมสีธรรมชาติ
หากขาดจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนจะกลายเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมได้ (ข้อมูลจาก
https://kmipc6.blogspot.com/)
100
คำชแี้ จง : จากการศกึ ษาตัวอย่างบทความท่กี ำหนดให้ ให้นักเรียนระบขุ ้อดี และข้อเสยี ของการใช้สจี ากธรรมชาติ
และสสี งั เคราะหล์ งในตารางให้ถกู ต้อง
ขอ้ ดี ขอ้ เสีย
สสี งั เคราะห์ - มีสสี ันหลากหลายทีด่ งึ ดดู ผู้บริโภค หากได้รบั ในปรมิ าณมากหรือบอ่ ยเกินไป
บทความท่ี 1 ข้อดี ย่อมก่อให้เกดิ อันตรายได้ เชน่
- เกดิ อาการท้องอดื ทอ้ งเฟ้อ
- อ่อนเพลีย คลน่ื ไสอ้ าเจียน
- ไตอกั เสบ หรือบางชนิดอาจก่อใหเ้ กิด
มะเรง็ ท่ีตอ่ มนำ้ เหลอื งและอวยั วะอ่ืน ๆ ได้
ขอ้ เสยี
สจี ากธรรมชาติ - หาง่าย - ปริมาณสารสใี นวัตถุดบิ ยอ้ มสมี ีน้อย ทำให้
บทความที่ 5 - ไม่เป็นอันตรายตอ่ สขุ ภาพ ย้อมไดส้ ีไม่เข้ม
- น้ำท้ิงจากกระบวนการผลติ ไมเ่ ป็น - ไม่สามารถผลติ สตี ามท่ีตลาดต้องการได้
อันตรายต่อสง่ิ แวดลอ้ ม - ไม่ทนแสง
- การดแู ลรักษามคี วามย่งุ ยาก
101
ตอนที่ 2 ใบไมซ้ อ่ นสี
คำชี้แจง : นักเรียนศึกษาการใช้ Application FizziQ วางแผนและออกแบบการเก็บข้อมูลเพื่อแยกสารสีจาก
ใบไม้พรอ้ มท้งั บันทกึ ข้อมลู ใหถ้ กู ต้อง
ขนั้ ตอนการใช้ App FizziQ ในการเกบ็ ขอ้ มูล
1. ดาวนโ์ หลด App FizziQ
- ยิ่งสำรวจยิ่งเรียนรู้ -
2. กดเลอื กฟังก์ช่ัน Instruments
3. กดปุ่มบวกที่เเสดงอย่เู เถบดา้ นบนของหน้าจอ
4. เลือกเมนู Colorimenter
5. เลือกเมนู Color spectrum
เรามาสารวจใบไม้
กันเถอะคะ่ เพอื่ นๆ
102
6. ใชใ้ บไมท้ ่ีนักเรยี นต้องการศกึ ษา วางลงแล้วนำกลอ้ งไปส่องพร้อมกดป่มุ สแี ดงแถบหนา้ จอด้านลา่ ง
7. อ่านค่าสีที่ไดพ้ ร้อมทั้งบันทึกผล
103
ตารางการบนั ทกึ ขอ้ มลู
คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นใส่ภาพที่ไดจ้ ากการศึกษาใบไมแ้ ตล่ ะระยะ
ใบไม้ชนดิ ท่ี 1 ช่ือ......................................................................................................................... .........................
วันทีท่ ำการทดลอง................................................................................................................................................
ระยะ.................................................................
ระยะ.................................................................
104
ระยะ.................................................................
คำถามขอ้ ท่ี 1 ใบไม้สเี ขยี วมีสอี น่ื อย่ดู ว้ ยหรอื ไม่ อยา่ งไร
มีสีอื่นอยู่ด้วย เนื่องจากในเซลล์พืชนอกจากสารสีคลอโรฟิลล์ที่ทำให้พืชมีสีเขียวแล้ว ยังมีสารสีแคโรทีนอยด์
(carotenoid) ซึ่งเป็น สารประกอบประเภทไขมัน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ในพืชชั้นสูงสารสีแคโรทีนอยด์ อยู่ใน
คลอโรพลาสต์ ประกอบด้วย สารสี 2 ชนิด แคโรทีน (carotene) เป็นสารสีแดงหรือสีส้ม หากมีสารสีคลอโรฟิลล์
และสารสี แคโรทีน อยู่ในใบเดียวกัน จะสะท้อนแสงสีแดง เขียวแกมน้ำเงินและแสงสีน้ำเงิน ทำให้ใบมีสีเขียว
แซนโทฟลิ ล์ (xantrophyll) เปน็ สารสเี หลืองหรอื สีน้ำตาล
คำถามขอ้ ท่ี 2 ใบไม้แตล่ ะระยะมีปรมิ าณสีใดมากท่สี ุด
ระยะของใบไม้ ปริมาณสีท่พี บมากทสี่ ดุ
สด
เริ่มเหย่ี ว
เหย่ี ว
คำถามขอ้ ที่ 3 ข้อมูลที่ได้จากการทดลองในแตล่ ะครง้ั มคี วามสอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไร
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
105
ใบไม้ชนิดที่ 2 ช่อื ......................................................................................................................... .........................
วันทที่ ำการทดลอง................................................................................................................................................
ระยะ.................................................................
ระยะ.................................................................
106
ระยะ.................................................................
คำถามข้อท่ี 1 ใบไมส้ ีเขียวมีสีอน่ื อยดู่ ว้ ยหรือไม่ อยา่ งไร
มีสีอื่นอยู่ด้วย เนื่องจากในเซลล์พืชนอกจากสารสีคลอโรฟิลล์ที่ทำให้พืชมีสีเขียวแล้ว ยังมีสารสีแคโรทีนอยด์
(carotenoid) ซึ่งเป็น สารประกอบประเภทไขมัน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ในพืชชั้นสูงสารสีแคโรทีนอยด์ อยู่ในคลอ
โรพลาสต์ ประกอบด้วย สารสี 2 ชนิด แคโรทีน (carotene) เป็นสารสีแดงหรือสีส้ม หากมีสารสีคลอโรฟิลล์และ
สารสี แคโรทีน อยู่ในใบเดียวกัน จะสะท้อนแสงสีแดง เขียวแกมน้ำเงินและแสงสีน้ำเงิน ทำให้ใบมีสีเขียว แซนโท
ฟิลล์ (xantrophyll) เป็นสารสเี หลอื งหรือสีน้ำตาล
คำถามข้อที่ 2 ใบไม้แตล่ ะระยะมปี รมิ าณสีใดมากท่ีสุด
ระยะของใบไม้ ปริมาณสีทพ่ี บมากที่สุด
สด
เร่ิมเหีย่ ว
เหีย่ ว
คำถามข้อท่ี 3 ข้อมลู ทไี่ ดจ้ ากการทดลองในแต่ละครั้ง มคี วามสอดคลอ้ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
107
อภิปรายผล
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................. ...................................
...
108
ตอนท่ี 3 ปริศนาของสารสี
คำชี้แจง : นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ศกึ ษาขั้นตอนการทดลองให้เขา้ ใจและลงมือปฏิบตั ิ พรอ้ มท้ังบันทึกผลการทดลอง
อปุ กรณ์และสารเคมี
1. ขวดแกว้ ขนาด 16 ออนซ์ 6. แอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 95% 10. ชุดตะเกยี งแอลกอฮอล์
2. หลอดหยด 7. แอลกอฮอลไ์ อโซโพพิล 70% 11. ไมข้ ีดไฟ
3. กรรไกร 8. นำ้ 12. กระดาษโครมาโทกราฟี
4. ตัวอย่างใบไม้ 1 ชนิด 9. บีกเกอร์ 13. กาวสองหน้าแบบบาง
5. ไม้บรรทดั
วธิ ีการทดลอง
1. นำตัวอยา่ งใบไม้ 1 ชนดิ ทเ่ี ก็บไดม้ าฉีกจนขาด ใสต่ วั อยา่ งของใบลงไปในแตล่ ะขวดแก้วขนาด 16 ออนซ์
จำนวน 3 ขวด โดยกำหนดดงั นี้
(ภาพประกอบจาก https://www.123homeschool4me.com/why-do-leaves-change-color-science_52/)
- ขวดที่ 1 เติมน้ำต้มแล้วลงไปโดยใช้อัตราส่วน 2:3 ของขวด และเติมน้ำร้อนเพื่อช่วยให้มี
การสกดั สีจากเซลล์ใบ (ทง้ิ ไว้ 1 คนื )
- ขวดที่ 2 เติมแอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 95% ลงไปโดยใช้อัตราสว่ น 2:3 ของขวด และเติมน้ำร้อน
เพ่อื ชว่ ยใหม้ กี ารสกดั สจี ากเซลล์ใบ (ทิง้ ไว้ 1 คนื )
- ขวดท่ี 3 เติมแอลกอฮอล์ไอโซโพพิล 70% ลงไปโดยใช้อตั ราส่วน 2:3 ของขวด และเติมน้ำร้อน
เพอ่ื ชว่ ยให้มีการสกัดสีจากเซลลใ์ บ (ท้งิ ไว้ 1 คนื )
2. ตัดกระดาษโครมาโทกราฟี ใหม้ ีขนาดความยาว 8 เซนติเมตรและมีความกวา้ ง 2 เซนตเิ มตร
3. ใชห้ ลอดหยดดูดน้ำจากขวดแกว้ ทสี่ กัดสีจากใบไม้ มาหยดลงบนกระดาษโครมาโทกราฟีจำนวน 5 หยด
แล้วทิ้งไว้ 5 นาที
4. วดั ระยะทางการเคลอ่ื นที่ของสารสี
5. สงั เกตผลการทดลองพรอ้ มท้งั บนั ทกึ ผลการทดลอง
109
คำถามก่อนการทดลอง
1. ระบุปญั หาของการทดลอง
ตวั ทำละลายตา่ งชนิดกนั จะสกัดสที ่ใี หค้ วามเข้มของสีต่างกันอยา่ งไร
ตัวแปรตน้ ชนดิ ตวั ทำละลาย
ตัวแปรตาม สารสี
ตัวแปรควบคมุ ขนาดของภาชนะ อุณหภูมิ ชนดิ ใบไม้
2. สมมตฐิ านการทดลอง
ถ้าชนดิ ของตัวทำละลายมผี ลตอ่ การสกัดสี ดงั น้นั ตวั ทำละลายที่มีความเขม้ ข้นมากจะสกัดสไี ดด้ ีกวา่
3. การวางแผนการทดลองการแยกสขี องใบไมด้ ว้ ยโครมาโทกราฟี (วาดภาพพร้อมระบุขั้นตอนการทดลอง)
110
4. ตารางบันทึกผลการทดลอง
ชนดิ ของใบไม้ คือ.......................................................................................................................... ........................
ชนิดของตวั ทำละลาย คือ นำ้ เปลา่
ระยะของใบไม้ ผลการทดลอง
1. ระยะใบสด
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
2. ระยะใบเรม่ิ เห่ียว
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง ………………………………………………………………………………..
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
3. ระยะใบเหี่ยว
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
หมายเหตุ นำกระดาษโครมาโทกราฟีท่ีแสดงสารสีของใบไม้แตล่ ะชนิดติดลงในชอ่ ง “ผลการทดลอง”
111
ชนิดของใบไม้ คือ..................................................................................................................................................
ชนิดของตัวทำละลาย คอื แอลกอฮอลไ์ อโซโพพลิ 95% /แอลกอฮอลไ์ อโซโพพิล 70%
ระยะของใบไม้ ผลการทดลอง
1. ระยะใบสด
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
2. ระยะใบเรม่ิ เห่ยี ว
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
สี..............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
3. ระยะใบเหย่ี ว
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
ส.ี .............ระยะทาง …………………………………………………………………………………
หมายเหตุ นำกระดาษโครมาโทกราฟที ี่แสดงสารสขี องใบไม้แต่ละชนิดตดิ ลงในช่อง “ผลการทดลอง”
112
คำถามหลังการทดลอง
1. ให้นักเรียนใชเ้ ครอ่ื งหมาย + แสดงความเขม้ ของสีทส่ี กัดด้วยตวั ทำละลายต่างชนดิ กนั ในแต่ละระยะของใบไม้
ชนดิ ของตัวทำละลาย ใบสด ระยะของใบไม้ ใบเหี่ยว
ใบเริม่ เห่ียว
น้ำ
แอลกอฮอล์ไอโซโพพิล
70% หรือ 95%
ความเขม้ ของสีใบไม้ทส่ี กดั ด้วยตวั ทำละลายชนดิ เดยี วกนั เหมือนหรือตา่ งกันในแต่ละระยะของใบไม้
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
2. ใหน้ ักเรยี นระบจุ ำนวนองค์ประกอบของสบี นกระดาษกรอง เม่ือชนิดของตวั ทำละลายและระยะของใบไม้
แตกต่างกัน
ชนดิ ของตัวทำละลาย ระบุจำนวนองค์ประกอบของสีบนกระดาษกรอง
นำ้ ใบสด ใบเรม่ิ เหยี่ ว ใบเหย่ี ว
แอลกอฮอลไ์ อโซโพพิล
70% หรอื 95%
จำนวนองค์ประกอบของสีบนกระดาษกรองแตกตา่ งกันหรือไม่อย่างไร
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
113
5. สรปุ ผลการทดลอง
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
........................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
114
เฉลย
เสยี งตามสาย
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นทำประกาศเสยี งตามสายความยาวประมาณ 4-5 บรรทัด เพอ่ื ใหท้ ุกคนในชุมชนตระหนักถึง
อนั ตรายของการใช้สสี ังเคราะห์ โดยคำนงึ ถงึ ประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน และสังคม
ประชาชนควรหลีกเลี่ยงเรื่องการบริโภคอาหารที่แต่งสีต่างๆ แต่หากมีความจำเป็นต้องการจะแต่งสีอาหารแล้ว
ควรเลือกใช้สีธรรมชาติ หรือสีสังเคราะห์ประเภทที่ใช้เป็นสีผสมอาหารตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศ
อนุญาตใหใ้ ชไ้ ดต้ ามความเหมาะสม
115
เกณฑก์ ารประเมินกระบวนการแก้ปญั หา
กระบวนแกป้ ญั หา
ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน คะแนนที่ได้
1. การระบปุ ัญหา
321
2. การวเิ คราะห์
ปญั หา ระบุปญั หา ตวั แปรต้น ระบุปัญหา ตัวแปรตน้ ระบุปญั หา ตวั แปรต้น
3. การเสนอแนวทาง ตัวแปรตาม ได้ถูกต้อง ตัวแปรตาม ได้ถูกต้อง ตวั แปรตาม ได้ถูกต้อง
ในการแก้ปญั หา
4. การตรวจสอบ และตวั แปรควบคุมได้ และตวั แปรควบคุมได้ และตัวแปรควบคุมได้
ผลลพั ธ์
อย่างเหมาะสมไดเ้ อง อยา่ งเหมาะสมได้เม่ือ อย่างเหมาะสมไดเ้ ม่ือ
ไดร้ บั คำแนะนำจากครู ครูบอก
วางแผนการทดลอง วางแผนการทดลอง วางแผนการทดลองท่ี
อยา่ งเป็นระบบ ชดั เจน โดยแสดงข้ันตอนท่ี สอดคลอ้ งกบั ตวั แปรท่ี
ครบทุกข้นั ตอน สอดคลอ้ งกบั ปญั หา ระบุได้
สอดคลอ้ งกบั ปญั หา และตัวแปรที่ระบุ
และตวั แปรทรี่ ะบุ
ระบุสมมติฐานที่ชัดเจน ระบสุ มมติฐานท่ี ระบุสมมตฐิ านที่
และสอดคลอ้ งกบั สอดคล้องกบั ปญั หา เกยี่ วขอ้ งกบั การ
ปญั หาและตวั แปร และตัวแปรได้ ทดลองได้
- บันทกึ ผลการทดลอง - บันทึกผลการทดลอง - บันทกึ ผลการทดลอง
ครบถว้ น และ ถกู ต้องหรือบางสว่ น ถกู ต้องหรอื บางส่วน
- ตอบคำถามได้ถกู ตอ้ ง และ/หรอื หรือ
ทุกข้อ และ - ตอบคำถามได้ถกู ต้อง - ตอบคำถามได้ถูกต้อง
- สรปุ ผลการทดลองได้ ทกุ ข้อหรือบางส่วน ทกุ ข้อหรอื บางส่วน
ถกู ต้อง และ/หรอื หรอื
- สรปุ ผลการทดลองได้ - สรปุ ผลการทดลองได้
ถกู ต้องหรือบางส่วน ถูกต้องหรอื บางสว่ น
คะแนนรวม
116
เกณฑก์ ารประเมินพลเมอื งเขม้ แข็ง
ระดับคะแนน คะแนนทไ่ี ด้
32 1
- ประกาศเสียงตาม - ประกาศเสียงตาม - ประกาศเสียงตามสาย
พลเมอื งเขม้ แข็ง สายแสดงถึงผลการ สายแสดงถึงผลการ เกี่ยวข้องกับผลกระทบ
1. พลเมืองรู้เคารพ
สทิ ธิ เปลี่ยนแปลงเชิง เปลี่ยนแปลงเชิงบวก ของการใช้สีสังเคราะห์
2. พลเมอื งรับผดิ ชอบ
ตอ่ บทบาทหนา้ ท่ี บวกตอ่ ชมุ ชน ต่อชุมชน และ/หรอื หรือ
3. พลเมอื งมสี ว่ นรว่ ม
อยา่ งมีวิจารณญาณ - ข้อความแสดงถึง - ข้อความแสดงถึง - ข้อความแสดงถึงการ
4. พลเมอื งผู้สรา้ งการ
เปล่ยี นแปลง ความเห็นอกเห็นใจ ความเห็นอกเห็นใจ บังคับให้เชือ่ ความเห็นใด
ไม่แสดงถึงการข่มขู่ ไม่แสดงถึงการข่มขู่ ความเห็นหนึง่ หรอื
หรือคุกคามผู้อื่น หรือคุกคามผู้อืน่ เพื่อ - การมีส่วนร่วมของ
เพือ่ อยู่รว่ มกันอย่าง อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ชุมชนตามสิทธิ และ
สันติ และ/หรือ หน้าทมี่ จี ำกดั
- กระตุ้นการมีส่วน - กระตุ้นการมีส่วน
ร่วมของชุมชนตาม ร่วมของชุมชนตาม
สทิ ธิ และหน้าที่ สิทธิ และหน้าที่
คะแนนรวม
117
การประเมินการทำงานรว่ มกันของกลุ่ม
ขอ้ ลกั ษณะการทำงานร่วมกนั 3 ระดบั คะแนน 1 คะแนนท่ไี ด้
2
1 สมาชิกในกลมุ่ รเิ ริ่มกำหนด
เปา้ หมาย ของทมี
2 สมาชิกในกลุม่ มีความรับผิดชอบ
ตอ่ บทบาทและงานท่ีได้รับ
มอบหมาย
3 สมาชิกในกลุ่มมีส่วนรว่ มในการ
วางแผนและตดั สินใจในการทำงาน
4 สมาชิกในกลุ่มมกี ารจัดระบบ
ความคิดกอ่ นลงมือทำงานอย่าง
เป็นลำดับขั้นและปฏิบัติงานจน
สำเรจ็
5 สมาชิกในกลุ่มมีการวเิ คราะห์
สะท้อนการทำงานเพ่ือใหบ้ รรลุ
เป้าหมายและสัมพันธภาพเชิงบวก
ของทีม
คะแนนรวม
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ระดับ 3 คะแนน (เหนือความคาดหวงั )
ระดบั 2 คะแนน (กำลงั พฒั นา)
ระดบั 1 คะแนน (เร่ิมตน้ )
118
แผนการจัดการเรยี นรสู้ ะเตม็ ศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1
เวลา 6 ช่ัวโมง
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8 เรอื่ ง บา้ นของฉัน
กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ
ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี
ป.2/3 เปรียบเทียบสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุ เพื่อนำมาทำเป็นวัตถุในการใช้งานตาม
วตั ถุประสงค์ และอธิบา่ ยการนำวัสดุที่ใชแ้ ลว้ กลบั มาใชใ้ หม่ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
ป.3/1 อธบิ ายวา่ วตั ถปุ ระกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อย ๆ ซง่ึ สามารถแยกออกจากกนั ได้และประกอบ
กันเป็นวัตถุชนิ้ ใหม่ได้ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
ป.4/2 แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นโดยการอภิปรายเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพของวัสดุอย่างมี
เหตุผลจากการทดลอง
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม
ป.4/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จาก
ปญั หาอยา่ งง่าย
ป.4/3 ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเชือ่ ถือของข้อมูล
119
ป.4/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลสารสนเทศ โดยใช้ซอฟแวร์ที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหา
ในชวี ิตประจำวนั
ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟแวร์หรือบริการบทอินเทอร์เน็ตท่ี
หลากหลาย เพือ่ แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวนั
ป.6/1 ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวิธแี ก้ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวนั
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลท่เี กดิ ขึ้นจากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนนิ การ และนำไปใช้
ป.3/8 หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนบั ไม่เกดิ 100,000 และ 0
ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่าง
สมเหตสุ มผล
ป.4/16 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ 2 ขน้ั ตอน ของทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหนง่
ป.5/2 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใช้บญั ญตั ิไตรยางศ์
ป.5/3 หาผลบวก ผลลบของเศษสว่ นและจำนวนคละ
ป.5/8 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม 2 ขนั้ ตอน
ป.6/1 เปรยี บเทียบ เรียงลำดบั เศษสว่ นและจำนวนคละ จากสถานการณต์ า่ ง ๆ
ป.6/10 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม 3 ขนั้ ตอน
สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัดและ
นำไปใช้
ป.4/1 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกับเวลา
ป.4/3 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรปู และพ้ืนทข่ี องรูปสีเ่ หลยี่ มมุมฉาก
ป.5/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับความยาวที่มกี ารเปลีย่ นหนว่ ยและเขียนในรูปทศนยิ ม
ป.6/1 แสดงวธิ ๊หาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปและพ้ืนทข่ี องรูปหลายเหลี่ยม
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง
รปู เรขาคณิต และทฤษฎบี ททำงเรขาคณติ และนำไปใช้
ป.4/2 สร้างรปู สี่เหล่ียมมุมฉากเมื่อกำหนด ความยาวของดา้ น
120
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สาระท่ี 1 การอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น
ม. 2/4 อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ และข้อโต้แย้งเก่ียวกบั เร่ืองทอ่ี า่ น
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. คำนวณระยะทางบนแผนที่โดยใช้มาตรส่วน เพื่อนำข้อมูลไปใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ตัดสินใจ
วางแผน และแก้ปัญหาเกยี่ วกบั การเดินทาง การเลือกบริเวณท่ีอยู่ โดยคำนงึ ถึงระยะทาง และเวลา (K, P, A)
2. คำนวณพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม เพื่อใช้ในการวิเคราะห์การแบ่งสัดส่วนของบ้าน การออกแบบ และสร้าง
แบบจำลองแปลนบ้าน โดยคำนงึ ถึงพนื้ ที่ใช้สอยภายในบา้ น และกจิ กรรมของสมาชิกในครอบครวั (K, P)
3. วิเคราะห์ลักษณะสำคัญของบันไดรูปแบบต่าง ๆ และปัจจัยที่สำคัญของการออกแบบบันได เพื่อนำ
ข้อมูลไปใช้สำหรับการออกแบบบันได คำนวณขนาด ความกว้าง ระยะห่างระหว่างขั้นของบันได โดยใช้พื้นฐานทาง
คณิตศาสตร์ และกระบวนการทางวิศวกรรมในการสร้างบันไดต้นแบบตามภาพร่างที่ได้ออกแบบ โดยคำนึง
เหมาะสมและความปลอดภยั สำหรบั คนที่พกั อาศัยภายในบา้ น (K, P)
4. ทดสอบ และปรับปรุงแบบจำลองแปลนบ้านและบันได โดยคำนึงถึงตามมาตรส่วนที่ถูกต้อง พื้นที่ใช้
สอยภายในบ้าน กจิ กรรมของสมาชิกในครอบครวั และความปลอดภัย จากการทำงานรว่ มกับผู้อื่น (K, P, A)
5. รวบรวม สรุป และนำเสนอข้อมูลจากการประยุกต์ใช้ความรู้ โดยใช้โปสเตอร์ที่แสดงการสื่อสารด้วย
ภาพ และเนือ้ หาทีส่ อดคลอ้ งกัน (K, P, A)
สาระสำคัญ
นักเรียนร่วมกันศึกษาแผนที่ เพื่อคำนวณระยะทางโดยใช้มาตราส่วนบนแผนที่เปรียบเทียบกับข้อมูล
ระยะทาง ทีไ่ ดจ้ ากการใช้แอปพลเิ คชัน Maps คำนวณเวลาทใี่ ชใ้ นการเดนิ ทางจากสถานท่ีหนึ่งไปยังอกี สถานท่ีหน่ึง
เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน ตัดสินใจ เพื่อเลือกเส้นทางที่เหมาะสม สามารถประยุกต์ใช้การคำนวณดังกล่าว
เพื่อวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย ตัดสินใจ วางแผน และแก้ปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกใช้เส้นทางในการเดนิ ทาง
ได้แก่ การวางการเดนิ ทางในชวี ติ ประจำวนั การยา้ ยบา้ น โดยคำนึงถึงสถานทต่ี า่ งๆ บนแผนทท่ี ่เี ก่ยี วข้อง ระยะทาง
และเวลาเป็นสำคัญ นักเรียนร่วมกันศึกษาการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม เพื่อใช้ในการคำนวณหาพื้นที่ห้องต่างๆ
พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน และทางเดิน สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการคำนวณพื้นที่ เพื่อแบ่งสัดส่วนบ้าน
ออกแบบแปลนบ้าน 2 ชั้น เพื่อสร้างแบบจำลองแปลนบ้านที่ถูกต้องตามมาตราส่วน โดยคำนึงถึงความเหมาะสม
และกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว ศึกษารปู แบบของบนั ได และปัจจยั ท่ตี ้องคำนึงถึงในการออกแบบบันได เพื่อใช้ใน
121
การวิเคราะห์รูปแบบ และลักษณะของบันได โดยสามารถคำนวณหาขนาด ความกว้าง ระยะห่างระหว่างขั้นของบันได
สามารถออกแบบบันไดจากข้อมูลการวิเคราะห์ โดยพิจารณาถึงสัดส่วนของแปลนบ้าน สามารถสร้างแบบจำลองบันได
ท่ีถกู ตอ้ งตามมาตราส่วน โดยใชก้ ระบวนการวิศวกรรม และเทคโนโลยีในการสร้างและออกแบบบันได โดยคำนึงถึง
เหมาะสมและความปลอดภัยสำหรับคนที่พักอาศัยภายในบ้าน นอกจากนี้ นักเรียนจะต้องทดสอบ และปรับปรุง
แบบจำลองแปลนบ้านและบนั ได โดยคำนงึ ถึงตามมาตรสว่ นท่ีถูกต้อง พืน้ ทใี่ ช้สอยภายในบา้ น กจิ กรรมของสมาชิก
ในครอบครัว และความปลอดภัย จากการทำงานร่วมกับผอู้ ื่น รวบรวม สรปุ และนำเสนอขอ้ มูลจากการประยุกต์ใช้
ความรู้ เพื่อเลอื กพิกดั บา้ น ออกแบบแปลนบา้ น และบนั ได โดยใช้โปสเตอร์ทแ่ี สดงการสอื่ สารด้วยภาพ และเนื้อหา
ที่สอดคล้องกัน เพ่ือใหบ้ รรลเุ ป้าหมายของกิจกรรมทง้ั หมด
สาระการเรียนรู้
1. การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม
2. การบอกระยะเวลาเปน็ วนิ าที นาที ช่วั โมง และการแกโ้ จทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลา
3. การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับความยาวโดยใช้ความร้เู ร่ืองการเปล่ียนหนว่ ยและทศนิยม
4. การวดั และคาดคะเนขนาดของสิง่ ทตี่ ้องการวดั ความยาวรอบรูปและพืน้ ท่ีของรูปสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉาก
5. การสร้างรปู ส่เี หล่ียมมมุ ฉากเมอ่ื กำหนด ความยาวของด้าน
6. การวิเคราะห์ลกั ษณะและรูปแบบของบันได
7. ปัจจัยทสี่ ำคญั ของการออกแบบบันได
8. การคำนวณขนาดและรปู แบบของบันได้ที่เหมาะสม
9. การออกแบบบนั ได้ท่เี หมาะสมกบั สถานการณห์ รือปัจจยั ทีก่ ำหนด
10. การสร้างโปสเตอร์
11. การแกป้ ัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์จากปัญหา
12. การใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมินความนา่ เชื่อถอื ของข้อมลู
จุดเน้นสู้การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ทักษะศตวรรษท่ี21 (การเรียนรู้ 3R×8C)
3R
R1 - Beading (อา่ นออก)
R2 - Writing (เขียนได้)
R3 - Arithmetic (คิดเลขเป็น)
122
8C
C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะ
ในการแก้ปญั หา)
C2 - Creativity and Innovation (ทักษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรรม)
C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทศั น)์
C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีม
และภาวะผนู้ ำ)
C5 - Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศ
และรูเ้ ท่าทนั ส่ือ)
C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สือ่ สาร)
C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู)้
C8 - Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)
สมรรถนะผเู้ รยี น
การจดั การตนเอง
การสอ่ื สาร
การรวมพลังทำงานเป็นทีม
การเป็นพลเมืองทแ่ี ข็งแรง
การคิดขั้นสงู
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) (15 นาท)ี
1.1 นักเรยี นศกึ ษาสถานณใ์ บกิจกรรมท่ี 1 เรอื่ ง บา้ นของฉัน
“ณ บ้านหลงั หน่ึง ท่ีอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ครอบครัวของเกม มีสมาชิกอาศัยอยู่ 5 คน
ได้แก่ คุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ และเกม วันหนึ่งพ่อและแม่ของเกมมีเหตุจำเป็นต้องย้ายไปทำงานท่ี
จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งท่านทั้ง 2 ตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อจะย้ายบ้านไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีกันทั้งครอบครวั
โดยจะเร่ิมออกเดินทางและขนของในเดือนหน้า คณุ พ่อเห็นว่าลูกชายของตนมีความสนใจท่ีจะศึกษาต่อใน
คณะสถาปัตยกรรม จึงให้เกมช่วยเลือกตำแหน่งบ้าน ซึ่งมีตัวเลือกตำแหน่งสำหรับสร้างบ้านอยู่ 3
123
ตำแหนง่ โดยจะต้องคำนึงถึงสถานทรี่ อบบา้ น ความเหมาะสมในการเดินทางไปโรงเรยี นของเกม (โรงเรียน
พรหมานุสรณ์ ทุกวนั จันทร์-ศุกร์ เวลา 7.30 - 16.00 น.) และการเดินทางไปทำงานของคุณพ่อ (ศาลากลาง
จังหวัดเพชรบุรี ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.00 น.) และคุณแม่ (โรงพยาบาลเพชรรัตน์
ทกุ วัน จนั ทร์-ศกุ ร์ เวลา 8.00 - 16.30 น.) โดยครอบครวั มรี ถยนต์เพียง 1 คนั และมีคณุ พ่อเพียงคนเดียว
ที่สามารถขับรถได้ นอกจากเกมจะช่วยเลือกตำแหน่งบ้านแล้ว เกมมีส่วนร่วมในการออกแบบแปลนบ้าน
2 ชั้น และบันได โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมของพื้นที่ใช้สอย และบันได เพื่อให้สอดคล้องกับ
ความต้องการ กิจกรรม และความปลอดภัยของสมาชกิ ในครอบครวั ”
แผนท่อี ำเภอเมืองจังหวัดเพชรบุรี
แผนทีต่ ัวเลอื กบ้าน A, B และ C
124
1.2 นักเรียนและครูร่วมสนทนาถึงสถานการณ์ดังกล่าว จากนั้นให้นักเรียนตอบคำถามจากสถานการณ์ลงใน
ใบกิจกรรมท่ี 1 เรื่อง บ้านของฉัน
คำถาม จากสถานการณ์ขา้ งต้น ปัญหาของสถานการณ์นี้ คืออะไร
แนวคำตอบ การวางแผนการย้ายบ้าน เช่น เลือกตำแหน่งบ้าน และออกแบบแปลนบ้าน 2 ชั้น และ
ออกแบบบันได
คำถาม เง่ือนไขหรอื ข้อจำกดั ของสถานการณ์น้ี มีอะไรบ้าง
แนวคำตอบ 1. ตำแหน่งบ้าน จะต้องคำนึงถึงสถานที่รอบบ้าน ความต้องการ และกิจกรรมของสมาชิกใน
ครอบครัว โดยคำนึงถึงข้อจำกัดที่ครอบครัวมีรถยนต์เพียง 1 คัน และคุณพ่อเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถขับ
รถได้
1.3 ออกแบบแปลนบา้ น 2 ชั้น โดยคำนึงถงึ พนื้ ที่ใชส้ อย
1.4 การออกแบบบันได โดยคำนึงถงึ ความเหมาะสมกบั สัดสว่ นของแปลนบ้าน และความปลอดภัย)
1.5 นักเรียนและครูร่วมกนั อภิปรายเกย่ี วกับสถานการณบ์ า้ นของฉนั โดยมีหัวขอ้ การอภปิ ราย ดังนี้
คำถาม แนวคิดทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ่ีนกั เรียนใชใ้ นการเลือกพิกดั ออกแบบแปลนบา้ น 2 ชนั้
และออกแบบบนั ได
แนวทางการอภิปราย การคำนวณหาระยะทาง มาตรส่วน การคำนวณพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน
การออกแบบแปลนบ้าน และการออกแบบบันได
1.6 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน เพื่อศึกษาแนวคิดที่เกี่ยวข้องตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่กำหนด
โดยสรปุ ไดด้ งั นี้
แนวทางการสรุป การวางแผนการย้ายบ้านจะต้องคำนึงถึงตำแหน่งบ้าน การออกแบบแปลนบ้าน
และการออกแบบบันไดที่เหมาะสมกับความต้องการ กิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว พื้นที่ใช้สอย
และความปลอดภยั ของสมาชิกในบ้านและข้อจำกัดท่ีครอบครัวมีรถยนต์เพียง 1 คนั ซ่ึงคุณพ่อเป็นเพียง
คนเดยี วทส่ี ามารถขบั รถได้
ขั้นท่ี 2 รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ทีเ่ กย่ี วข้องกบั ปญั หา (Related Information Search)
2.1 นกั เรยี นและครูรว่ มกนั อภปิ รายในหัวขอ้ ต่อไปน้ี
คำถาม หากต้องการเลือกพิกัด ออกแบบแปลนบ้าน และออกแบบบันได ได้อย่างความเหมาะสม
และปลอดภยั จะต้องทำการศกึ ษาในเรื่องใดบา้ ง
แนวคำตอบ 1.การคำนวณหาระยะทาง (จากบ้านไปโรงเรียนและที่ทำงาน) โดยใช้มาตรส่วนบนแผน
2.การออกแบบแปลนบา้ น และการคำนวณพื้นทใ่ี ชส้ อยภายในบา้ น 3.การออกแบบบันได
125
กจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง ไปเทีย่ วกนั เถอะ (35 นาท)ี
2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาสถานการณ์การย้ายบ้านของครอบครัวของเกม จากใบกิจกรรมที่ 5
เรื่อง ไปเทีย่ วกนั เถอะ
สถานการณ์ มานะและเพื่อนวางแผนจะไปเที่ยว จังหวัดเพชรบุรี ในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งเดินทาง
จากจังหวัดนครปฐม ไปยังจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อไปถึงที่หมายก่อนเวลา 11.00 น.
มานะจะขับรถด้วยอัตราเร็วเฉลี่ย 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและไม่มีการแวะพักเลย และเนื่องด้วย
สถานการณ์ตอนนี้ราคานำ้ มันค่อนขา้ งแพง มานะและเพื่อนควรออกเดินทางจากจงั หวัดนครปฐมไม่เกิน
กีโ่ มง เพ่ือให้การเดนิ ทางครง้ั นี้ประหยัดเวลา และคา่ ใช้จา่ ยในการเดินทางมากทส่ี ดุ
2.3 นักเรียนตอบคำถามจากสถานการณ์ ในใบกจิ กรรมที่ 5 เรื่อง ไปเทย่ี วกนั เถอะ ตอนท่ี 1 ดังนี้
คำถาม จากสถานการณข์ า้ งตน้ ปญั หาของสถานการณ์นี้ คอื อะไร
แนวคำตอบ 1) มานะและเพื่อนควรวางแผนเลือกเส้นทางอย่างไร เพื่อให้ได้ระยะทางสั้นที่สุดและ
ประหยดั คา่ ใช้จา่ ยใหไ้ ด้มากท่ีสดุ 2) เวลาในการออกเดินทางเพอ่ื ให้ถงึ ทีห่ มายตามเวลาท่ีต้องการ
คำถาม เง่อื นไขหรอื ขอ้ จำกดั ของสถานการณน์ ้ี คอื
แนวคำตอบ มานะและเพื่อนจะต้องวางแผนการเดินทางไปเที่ยว จังหวัดเพชรบุรี โดยประหยัดเวลา
และคา่ ใชจ้ ่ายในการเดินทางมากท่ีสดุ รวมถึงเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั เวลาในการออกเดินทาง
2.4 นักเรียนศึกษาแผนที่และความหมายของมาตรส่วนบนแผนที่ คือ อัตราส่วนระยะห่างบนแผนที่กับ
ระยะหา่ งจรงิ บนโลก
แผนที่คเู มือง จังหวดั เชียงใหม่
126
แผนทบ่ี ึงบอระเพด็ จังหวัดนครสวรรค์
2.5 นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถามจากการศึกษาข้อมูล ดังต่อไปนี้
คำถาม จากแผนที่คูเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ถ้านักเรียนต้องการทราบความยาวของคูเมืองแต่ละด้าน
นกั เรียนจะตอ้ งทำอยา่ งไร และใหน้ ักเรียนช่วยกันคำนวณความยาวคเู มอื ง
แนวคำตอบ ใช้มาตราส่วนที่กำหนดให้บนแผนท่ี คือ 1 ส่วน ต่อ 500 เมตร ซึ่งความยาวแต่ละด้านของ
คูเมืองยาวประมาณ 3.3 หนว่ ย เทียบไดก้ บั ระยะทาง 500*3.3 = 1,650 เมตร
คำถาม จากแผนที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ถ้านักเรียนต้องการทราบความยาวช่วงที่ยาวที่สุด
ของบึงบอระเพ็ด นักเรียนจะต้องทำอย่างไร และให้นักเรียนช่วยกันคำนวณความยาวของบึงบอระเพ็ด
แนวคำตอบ ใช้มาตราส่วนที่กำหนดให้บนแผนที่ คือ 1 ส่วน ต่อ 3.75 กิโลเมตร ซึ่งความยาวช่วงที่สุด
ของบึงบอระเพ็ดยาวประมาณ 4.8 หน่วย เทียบได้กบั ระยะทาง 3.75*4.8 = 18 กโิ ลเมตร
127
แผนท่ี กรุงเทพมหานคร - จงั หวดั เพชรบุรี
2.6 นักเรียนร่วมกันศกึ ษาแผนที่ กรุงเทพมหานคร - จงั หวดั เพชรบรุ ี และร่วมกนั ตอบคำถามลงในใบกิจกรรม
ที่ 1.1 เร่อื ง ยา้ ยบา้ นกันเถอะ ตอนท่ี 2
1) นักเรียนร่วมกันค้นหาเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางจากอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
ไปอำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี อย่างน้อย 5 เส้นทาง และเลือก 1 เส้นทางที่นักเรียน
ใชใ้ นการเดนิ ทางพร้อมระบเุ หตุผล
2) นักเรียนคำนวณระยะทาง โดยวัดระยะทางจากเลือกเส้นทางที่นักเรียนเลือกในข้อ 1
ใช้ไมบ้ รรทดั ในการวดั ระยะทางบนแผนที่และแปลงความยาวบนแผนท่เี ป็นระยะทางบนโลกจริง
ด้วยมาตราส่วนบนแผน (ไม่อนุญาตให้ใช้แอปพลิเคชันช่วยในการคำนวณ) พร้อมเขียนอธิบาย
แนวคิดอยา่ งละเอยี ด
3) นักเรยี นคำนวณคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทาง
4) นักเรียนคำนวณระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางและเวลาที่เริ่มออกเดินทางจากกอำเภอ
พทุ ธมณฑลจงั หวัดนครปฐม ไปอำเภอเมอื งเพชรบุรี จงั หวดั เพชรบุรี
5) นักเรียนใช้แอปพลิเคชัน Maps หรือแอปพลิเคชันอื่นที่เกี่ยวข้องกับแผนที่และการเดินทาง
โดยนักเรียนจะต้องใช้แอปพลิเคชันในการคำนวณระยะทางจากอำเภอพุทธมณฑล
จังหวัดนครปฐม ไปอำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี และเปรียบเทียบกับเส้นทางที่ตนเอง
128
คำนวณได้ในข้อ 1 และข้อ 2 โดยเส้นทางที่เลือกจากแอปพลิเคชันจะต้องเป็นเส้นทางเดียวกัน
กับเสน้ ทางทเ่ี ลอื กในข้อ 1
2.7 ตัวแทนนักเรียนนำเสนอเส้นทางใช้ในการเดินทางจาก อำเภอพทุ ธมณฑล จังหวดั นครปฐม ไปอำเภอเมือง
เพชรบรุ ี จังหวัดเพชรบุรี พรอ้ มอธบิ ายเหตุผลประกอบ
2.8 นกั เรยี นและครูร่วมกนั อภิปรายจนสรุปแนวคิดไดด้ งั น้ี
“ในกิจกรรมนี้ นักเรียนจะได้รู้จักการอ่านแผนที่และวางแผนเลือกเสน้ ทางที่เหมาะสมในการเดินทางจาก
จุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง พร้อมเขียนอธิบายแนวคิดอย่างละเอียด ซึ่งการวัดระยะทางบนแผนที่โดยใช้
ไม้บรรทัดเป็นเพียงการประมาณค่าเท่านั้น จากนั้นนำไปแปลงหน่วยโดยใช้การเทียบบัญญัติไตรยางศ์
บูรณาการความรู้ในเรื่อง อัตราเร็วเฉลี่ย ในการคำนวณเวลาและวางแผนการเดินทางโดยใช้แอปพลิเคชัน
Maps หรอื แอปพลเิ คชันอืน่ ทเ่ี กีย่ วข้องกับแผนที่”
กจิ กรรมท่ี 2 เร่ือง แบ่งบา้ นเปน็ สัดสว่ น (25 นาท)ี
2.9 นกั เรียนร่วมกันพิจารณาสถานการณ์ เรื่อง แบง่ บา้ นเป็นสดั สว่ น
สถานการณ์ “มานี ต้องการซื้อบ้านหลังใหม่ เธอใช้เวลาในการค้นหาโครงการบ้านเดี่ยว ที่มีดีไซน์
ทรงบ้านสวยๆ ออกมาให้เลือกสรรมากมายแต่ก็ยังไม่เจอแปลนบ้านหลังที่ถูกใจสักที เนื่องจากเธอให้
ความสำคัญในการคำนวณหาพื้นที่ใช้สอยจากแปลนบ้านที่จะต้องแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเหมาะสม
และคุ้มค่าต่อสมาชิกในครอบครัวของเธอเป็นหลัก โดยสมาชิกในครอบครัวประกอบไปด้วย พ่อและแม่
เปน็ ผ้สู งู อายุ และลูกวัย 8-10 ปี อกี 2 คน”
2.10 นกั เรียนตอบคำถามจากสถานการณ์ ในใบกจิ กรรมท่ี 6 เร่อื ง แบ่งบ้านเป็นสัดสว่ น ตอนที่ 1 ดังนี้
คำถาม ปญั หาของสถานการณน์ ี้คืออะไร
แนวคำตอบ การคำนวณหาพื้นที่ใช้สอยจากแปลนบา้ น
คำถาม เงือ่ นไขและข้อจำกัดของสถานการณ์นี้คืออะไร
แนวคำตอบ แปลนบ้านจะต้องมีพ้ืนท่ีใช้สอยได้อยา่ งเหมาะสม และคุ้มคา่ ต่อสมาชิกในครอบครวั
2.11 นักเรยี นร่วมกันศกึ ษา เรื่อง แบ่งบ้านเปน็ สดั สว่ น โดยพิจารณาภาพพืน้ ท่ีบ้าน ดังน้ี
พื้นท่ี ขนาด ..... ตารางเมตร (กวา้ ง 4 ยาว
5)
129
2.12 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติม “การสร้างตัวบ้านมีรายละเอียดท่ีจะต้องพิจารณามากมาย ทั้งสี รูปแบบ
หลงั คา แตส่ ง่ิ ทีส่ ำคัญท่เี ราจะมาพจิ ารณาในวนั นี้ คือ พนื้ ทใ่ี ช้สอยของตัวบ้าน”
2.13 นักเรยี นร่วมกันตอบคำถาม ดังน้ี
คำถาม นักเรียนคิดวา่ ส่งิ ที่เราตอ้ งการพิจารณาเพือ่ นำไปสกู่ ารหาพ้นื ที่คอื อะไร
แนวคำตอบ ความกว้าง และความยาว
2.14 นักเรียนทำใบกิจกรรมท่ี 6 เร่ือง แบง่ บ้านเป็นสดั สว่ น ตอนท่ี 2 โดยร่วมกนั ศึกษาข้อ 1 เป็นแนวทาง
1) นักเรียนเติมความยาวด้าน A และ B จากนนั้ ขีดเส้นจากกรอบนอกก่อนเพื่อสรา้ งรูปสเี่ หล่ียมใหญ่
คำถาม จากด้านกว้างคูณด้านยาว 4 cm x 5 cm จะไดพ้ น้ื ทเ่ี ทา่ กบั เท่าใด
แนวคำตอบ 20 ซึ่งอาจไมม่ หี นว่ ย
2.15 นักเรียนฟังครูอิบายเพิ่มเติม “หน่วยจำเป็นต้องนำมาคูณกันด้วยเป็น cm2 หรือตารางเซนติเมตร
(centimeter square)
130
2) นักเรียนตเี ส้นตารางและนับสเี่ หล่ยี มรปู เลก็ วา่ มจี ำนวนเท่าใด
2.16 นกั เรยี นและครรู ว่ มกันแสดงความคิดเห็น เพ่ืออภิปรายความรู้ ดงั น้ี
แนวทางการอภิปราย รูปที่เกิดขึ้น 1 รูปเล็ก แทนพื้นที่ 1 cm2 หรือ ตารางเซนติเมตร และผลคูณของ
ด้านกว้างคณู ดา้ นยาวมคี ่าเทา่ กันกบั จำนวนส่ีเหลีย่ มรปู เลก็
2.17 นักเรียนตอบคำถามข้อที่ 2-6 ลงใบกิจกรรมที่ 6 เรื่อง แบ่งบ้านเป็นสัดส่วน ด้วยตนเอง โดยมีครูผู้สอนคอย
ให้ความช่วยเหลอื อยเู่ สมอและพยายามตรวจสอบว่านักเรียนคนใดยังไม่เข้าใจในเน้ือหา หรอื คำถาม
2.18 นกั เรยี นนำเสนอผลจากการคำนวณหาพ้ืนทใี่ ชส้ อยจากแปลนบา้ น พรอ้ มอธิบายเหตผุ ลประกอบ
2.19 นกั เรยี นและครูร่วมกนั อภปิ รายจนสรุปแนวคดิ ได้ดงั นี้
แนวทางการสรุป ในกิจกรรมนี้นักเรียนจะได้คำนวณหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม จากแปลนบ้าน 2 ชั้น
เพือ่ ใช้ประกอบการพิจารณาถึงการแบ่งสัดสว่ น พืน้ ท่ีใช้สอยภายในบา้ นได้อย่างเหมาะสม และคุ้มค่าต่อ
สมาชิกในครอบครวั ได้อย่างสมเหตุสมผล
กิจกรรมที่ 3 เรอื่ ง บันไดหรรษา (25 นาท)ี
2.20 นักเรียนรว่ มกันพจิ ารณาสถานการณ์ เร่อื ง บนั ไดหรรษา
สถานการณ์ “หลังจากที่มานีได้คำนวณหาพื้นที่ใช้สอยจากแปลนบ้านหลังหนึ่งแล้ว เธอค่อนข้าง
พอใจกับการแบ่งสัดส่วน และพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านดังกล่าวเป็นอย่างมาก แต่เธอยังลังเลในการเลือก
รูปแบบของบันไดบ้าน เธอจึงอยากทราบว่า ลักษณะของบันไดแบบใดที่จะให้ความสะดวกและ
ความปลอดภัย ในการใช้งานได้เหมาะสมต่อสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวของเธอ
มที ั้งเด็กและผ้สู ูงอายุ”
2.21 นักเรียนตอบคำถามจากสถานการณ์ ในใบกิจกรรมท่ี 7 เร่อื ง บนั ไดหรรษา ตอนท่ี 1 ดงั น้ี
คำถาม ปัญหาของสถานการณน์ ีค้ อื อะไร
แนวคำตอบ มานอี ยากทราบว่า ลักษณะของบันไดแบบใดที่จะให้ความสะดวกและความปลอดภยั
ในการใช้งาน
131
คำถาม เงื่อนไขและข้อจำกดั ของสถานการณ์น้ีคอื อะไร
แนวคำตอบ ลักษณะของบันไดแบบใดจะให้ความสะดวกและความปลอดภยั ในการใชง้ านได้เหมาะสม
ต่อสมาชิกในครอบครวั เน่ืองจากสมาชิกในครอบครวั ของเธอมที ้ังเด็กและผสู้ งู อายุ
2.22 นกั เรียนร่วมกันตอบคำถามต่อไปนี้
คำถาม ทบี่ า้ นของนักเรียนมบี ันไดหรือไม่ ลักษณะของบันไดท่ีบ้านของนักเรียนเป็นอย่างไร
แนวคำตอบ มี/ไม่มี ขึ้นอยู่กบั ประสบการณข์ องนักเรยี น
คำถาม จากขอ้ มูลทน่ี กั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถามขา้ งต้น นกั เรียนคิดว่ารูปแบบของบนั ไดมกี ี่แบบ
แนวคำตอบ รูปแบบของบันไดขนึ้ อยู่กบั คำตอบขา้ งต้น เชน่ ลกั ษณะเปน็ ทางตรง, รปู ตวั แอล,บนั ไดลอย,
แบบหักกลบั , แบบโค้งกลม
คำถาม นกั เรียนพจิ ารณารูปแบบของบันไดต่อไปน้ี พร้อมตอบคำถามดังนี้ จากภาพเป็นบันไดมีลักษณะ
อยา่ งไร มีจุดเด่นและจุดด้อยอยา่ งไร
ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2 ภาพท่ี 3
ท่มี า : ภาพที่ 1, 2 และ 3 : https://homedeedee.com
แนวคำตอบ ภาพที่ 1 บันไดทีม่ จี ดุ พักสองชัน้ จดุ เดน่ : สวย จดุ ดอ้ ย : ใชพ้ น้ื ทมี่ าก
ภาพที่ 2 มีลกั ษณะเป็นเกลียว จุดเด่น : ใช้พนื้ ทนี่ ้อย จุดด้อย : ใช้งานไมส่ ะดวก
ภาพที่ 3 มีลกั ษณะเป็นบนั ไดลอย จุดเด่น : สวย จุดดอ้ ย : อันตราย
2.23 นกั เรียนเขา้ กล่มุ เดิมของตนเองและทบทวนเกยี่ วกบั รปู แบบของบา้ นและปจั จยั ต่าง ๆ ที่เก่ียวกับการออกแบบ
บันได
2.24 นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบของบันไดจากอินเทอร์เน็ต และใบความรู้ที่ 1 เรื่อง บันได
หรรษา และตอบคำถามลงในใบกจิ กรรมที่ 7 เรื่อง บันไดหรรษา ตอนท่ี 2 ข้อท่ี 1
2.25 นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถึงรูปแบบของบันได
132
2.26 นกั เรียนรว่ มกันศึกษารูปแบบของบันไดแบบต่าง ๆ โดยมีครูเปน็ ผู้นำเสนอ ได้แก่
1) บันไดแบบชว่ งเดียว หรือบันไดทางตรง
2) บันไดแบบฉากหรือรปู ตวั แอล
3) บันไดหักกลบั
4) บนั ไดแบบโคง้ กลม
2.27 แต่ละกลุ่มร่วมกันค้นหาข้อมูล และพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบบันได
จากแปลนบ้านจากกิจกรรมท่ีแล้ว และพ้ืนที่ทจี่ ะใช้ในการสร้างบันไดบ้าน จากน้ันร่วมกันแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั ประเดน็ ต่อไปนี้
- พน้ื ที่ทใ่ี ชใ้ นการสร้างบันไดอยู่บรเิ วณใดของบ้าน
- พน้ื ทที่ ใ่ี ช้ในการสร้างบนั ไดมีขนาดเทา่ ใด (ตารางเมตร)
- ความสูงจากช้ันลา่ งถึงชน้ั บนมีความสูงเทา่ ใด (เมตร)
2.28 นกั เรียนทำใบกจิ กรรมที่ 7 เรอ่ื ง บนั ไดหรรษา ตอนที่ 2 ข้อที่ 2-4
2.29 นักเรยี นนำเสนอผลจากการพจิ ารณารูปแบบของบันได พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ
2.30 นกั เรียนและครรู ว่ มกนั อภิปรายจนสรปุ แนวคดิ ได้ดงั น้ี
แนวทางการสรุป ในกิจกรรมนี้ นักเรียนจะได้คำนวณหาขนาด ความกว้าง ระยะห่างระหว่างขั้นของ
บันได การพิจารณารูปแบบ ลักษณะของบันไดท่ีให้ความสะดวก และความปลอดภัยในการใชง้ านได้”
ข้ันที่ 3 ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา (Solution Design)
3.1 นักเรยี นวางแผนการทำงานรว่ มกนั เพอื่ เลอื กพกิ ัด ออกแบบแปลนบา้ น และบันได
3.2 นักเรียนนำความรู้ทีไ่ ด้จากกิจกรรมการศึกษาแนวคิดที่เกี่ยวขอ้ งเพื่อเลือกพิกัดบ้าน ออกแบบแปลนบ้าน
2 ช้ัน และบันไดตามเงื่อนไขจากสถานการณ์ (นกั เรยี นวาดรูปและระบุองคป์ ระกอบให้ชัดเจน) โดยจะต้อง
คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย การออกแบบบันไดที่เหมาะสม และมีความปลอดภัยสำหรับคนที่พักอาศัยภายใน
บ้านเป็นสำคญั โดยทำใบกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื ง บ้านของฉนั ตอนท่ี 2-4
3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และวิธีการทำงาน ในการหาเลือกพิกัดบ้าน การออกแบบ
แปลนบา้ น 2 ชนั้ และบนั ได ตามเงอ่ื นไขจากสถานการณ์
ขัน้ ท่ี 4 วางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา (Planning and Development)
4.1 นกั เรียนแต่ละกลุ่มสร้างแปลนบ้าน 2 ชัน้ และแบบจำลองบันได โดยสามารถเลือกอปุ กรณ์ต่อไปน้ีเพื่อใช้
ในการสรา้ งบันไดให้มคี วามแขง็ แรงและมาตราส่วนทใ่ี กล้เคยี งกับบันไดที่ได้ออกแบบไว้
133
1) ฟวิ เจอรบ์ อรด์
2) ไม้ไอศกรีม
3) กาวลาเทก็ ซ์
4) กรรไกร
5) กระดาษแขง็
6) แผน่ พลาสติกใส
7) เทปกาวใส
8) ไมต้ ะเกียบ
ขั้นท่ี 5 ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรงุ แก้ไขวธิ ีการแกไ้ ขปญั หาหรอื แกไ้ ขช้ินงาน (Testing, Evaluation
and Design Improvement)
5.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเหตุผลของการเลือกตำแหน่งบ้าน ที่สัมพันธ์กับแปลนบ้าน และการสร้าง
บนั ได ต่อกจิ กรรมของสมาชิกในครอบครัวเปน็ ไปตามท่วี างแผนไว้หรือไม่ จะปรบั แก้สว่ นใด เพื่อให้ช้ินงาน
มีประสทิ ธิภาพเพม่ิ มากขน้ึ
5.2 นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มแสดงความคดิ เห็นรว่ มกบั ครูในการพัฒนาชิ้นงาน จากน้ันแตล่ ะกลุ่มนำข้อเสนอแนะที่
ไดไ้ ปปรับปรุงผลงานใหเ้ รยี บรอ้ ยและมีประสิทธิภาพมากย่งิ ขึน้
ขัน้ ท่ี 6 นำเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา ผลการแกป้ ญั หาหรือชน้ิ งาน (Presentation)
6.1 นักเรียนนำเสนอชิ้นงานบ้านของฉัน ได้แก่ พิกัดบ้าน การออกแบบแปลนบ้าน 2 ชั้น และบันได
โดยอธบิ ายถงึ กระบวนการในการสร้างและพฒั นา ดังน้ี
1) นักเรียนแบง่ กลุม่ เป็น 8-10 กลมุ่ ย่อย (g1-g10) กล่มุ ยอ่ ยละ 3-4 คน และแบ่งกล่มุ ยอ่ ยดังกลา่ วเป็น
3 กลุ่มใหญ่ (G1-G3) สำหรบั ทำกิจกรรม Gallery Walk โดยนกั เรียนจะไดเ้ ดินดูโปสเตอร์ของเพื่อน
ในกลุม่ ใหญ่ของตนเองเท่านนั้
G1 g2 g3 G2 G3 g9
g4 g5 g6 g7
g1 g8 g1
0
2) นักเรียนฟังคำแนะนำในการนำเสนอด้วยโปสเตอร์ โดยครูจะอปั โหลดไฟล์โปสเตอรเ์ พื่อใหน้ กั เรียน
ดาวน์โหลดไปแก้ไข ในโปสเตอรป์ ระกอบด้วย 3 ส่วน ดงั นี้ (20 นาท)ี
134
2.1) ชือ่ กลุ่ม สมาชิกกลุ่ม
2.2) รายละเอยี ดข้อมูล
- ระบพุ กิ ดั พร้อมบอกเหตุผลในการเลือกตำแหนง่ บา้ น
- เหตุผลของการเลือกตำแหน่งบ้านทีส่ มั พนั ธ์กับแปลนบา้ น และการสร้างบนั ได
(พิกัดบ้าน แปลนบา้ น และบันได ทคี่ ำนึงพน้ื ทใ่ี ช้สอย ความเหมาะสม
ปลอดภยั และเหมาะสมต่อกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว)
- จดุ เด่น และรายละเอยี ดของแปลนบ้าน และบนั ได
2.3) รปู ภาพประกอบรายละเอียดข้อมลู
ตวั อย่างรูปแบบโปสเตอร์
6.2 สมาชกิ ในกลมุ่ ย่อยแต่ละกลุม่ จะต้องแบ่งหน้าทด่ี ังน้ี
1) ดูโปสเตอร์ของเพื่อนในกลุ่มใหญ่ของตนเอง และเสนอข้อดีและข้อจำกัด พร้อมทั้งแสดงเหตุผล
ประกอบ ลงในใบกิจกรรมท่ี 3 เรอ่ื ง กล่องรับความคิดเหน็
2) ตอบคำถามเกย่ี วกบั โปสเตอร์ของตนเอง
6.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มย่อย หลังจากดูโปสเตอร์ของเพื่อนในกลุ่มใหญ่ของตนเอง จะต้องเขียนข้อดีและ
ขอ้ จำกัด ลงในใบกิจกรรมท่ี 3 เรือ่ ง กลอ่ งรับความคดิ เหน็
6.5 นักเรียนแต่ละกลุ่มย่อยสรุปความคิดเห็นภาพรวมจากข้อดีและข้อจำกัดที่ได้รับจากใบกิจกรรมที่ 1.5
เร่อื ง กล่องรับความ เพ่อื ตอบคำถามลงในใบกจิ กรรมที่ 4 เร่ือง สรุปข้อคิดเห็น
6.6 นักเรยี นและครูรว่ มกนั อภปิ รายและสรุปแนวคดิ ทไ่ี ดจ้ ากการเรียนรู้กจิ กรรมบา้ นของฉนั ได้ ดังน้ี
135
แนวทางการอภิปรายและสรุปแนวคิด กิจกรรมบ้านของฉัน เน้นการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาโดยใช้
เทคนิคหรือวิธีการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเงื่อนไขและกรอบของปั ญหาได้ชัดเจน
จากนนั้ ดำเนนิ การสบื ค้น รวบรวมข้อมูล ความรู้จากศาสตร์ตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งได้แก่
วิทยาศาสตร์: การอ่านแผนท่แี ละระบบพิกดั การคำนวณอัตราเรว็ เฉล่ีย
เทคโนโลยี: การใช้แอปพลิเคชัน Maps, Keynote, Page
วศิ วกรรมศาสตร์: การออกแบบวางแผนตารางเวลา แปลนบา้ น และบนั ได
คณติ ศาสตร์: การคำนวณมาตราสว่ นและทศนยิ ม การคำนวณหาพ้นื ที่
สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. ใบความรทู้ ่ี 1 เร่ือง บันไดหรรษา
2. ใบกจิ กรรมท่ี 1 เร่อื ง บา้ นของฉนั
3. ใบกิจกรรมที่ 2 แบบบนั ทกึ การทำงานร่วมกนั ในกิจกรรมบา้ นของฉัน
4. ใบกิจกรรมที่ 3 เร่ือง กล่องรับความคดิ เหน็
5. ใบกิจกรรมที่ 4 เรอ่ื ง สรุปข้อคิดเห็น
6. ใบกิจกรรมท่ี 5 เรือ่ ง ไปเท่ียวกนั เถอะ
7. ใบกิจกรรมที่ 6 เรื่อง แบ่งบา้ นเปน็ สดั ส่วน
8. ใบกิจกรรมท่ี 7 เรื่อง บันไดหรรษา
9. โปสเตอร์
136
การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ เครือ่ งมือ/แบบประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
1. คำนวณระยะทางบนแผนที่โดยใช้ - ใบกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง บา้ นของฉัน ผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ
มาตรส่วน เพ่ือนำข้อมูลไปใช้สำหรับ ตอนท่ี 2 80 ขึน้ ไป
การวิเคราะห์ข้อดี ขอ้ เสีย ตัดสินใจ - ใบกจิ กรรมท่ี 5 เรื่อง ไปเทยี่ วกนั
วางแผน และแก้ปัญหาเกี่ยวกับการ เถอะ
เดนิ ทาง การเลือกบริเวณทอ่ี ยู่ โดย
คำนงึ ถึงระยะทาง และเวลา
(K, P, A)
2. คำนวณพืน้ ท่ีของรูปสี่เหลย่ี ม เพื่อ - ใบกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง บา้ นของฉัน ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ
ใช้ในการวเิ คราะห์การแบ่งสดั ส่วน ตอนที่ 3 80 ขน้ึ ไป
ของบ้าน การออกแบบ และสร้าง - ใบกิจกรรมท่ี 6 เร่ือง แบง่ บ้าน
แบบจำลองแปลนบา้ น โดยคำนงึ ถงึ เปน็ สัดสว่ น
พื้นทีใ่ ชส้ อยภายในบ้าน และกิจกรรม
ของสมาชิกในครอบครัว (K, P)