251
ประกอบธุรกิจแฟก็ เตอริง โดยผู๎ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอรงิ ตกลงจะให๎สินเชอ่ื ซึ่งรวมถงึ การใหก๎ ย๎ู มื และการ ทด
รองจํายแกํผ๎ูขายสนิ คา๎ หรือผู๎ใหบ๎ รกิ ารและรบั ที่จะดาํ เนินการอยํางหนง่ึ อยาํ งใดดังตํอไปน้ี
(ก) จัดใหม๎ บี ัญชีทรพั ย์สินทจี่ ะได๎รับการชําระหนี้
(ข) เรียกเกบ็ ทรพั ยส์ นิ ที่จะได๎รบั จากการชาํ ระหนี้
(ค) รบั ผิดชอบในหนีท้ ลี่ ูกหนี้ของผข๎ู ายสินคา๎ หรือผใ๎ู หบ๎ รกิ ารผิดนดั
3. กิจการท่ีไมตํ ๎องเสยี ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ
การประกอบกิจการต่อไปน้ไี ดร้ บั ยกเว้นไมต่ ้องเสียภาษีธรุ กจิ เฉพาะ
1. กจิ การของธนาคารแหํงประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2. กิจการของบรรษัทเงนิ ทุนอตุ สาหกรรมแหํงประเทศไทย
3. กจิ การของสหกรณ์ออมทรัพย์ เฉพาะการให๎ก๎ูยืมแกสํ มาชิกหรอื แกสํ หกรณอ์ อมทรพั ย์อน่ื
4. กิจการของกองทุนสาํ รองเลีย้ งชพี ตามกฎหมายวําด๎วยกองทนุ สํารองเลี้ยงชีพ
5. กจิ การของการเคหะแหํงชาติ เฉพาะการขายหรือใหเ๎ ชําซ้ืออสงั หารมิ ทรพั ย์
6. กจิ การรบั จํานําของกระทรวง ทบวง กรม และราชการสวํ นทอ๎ งถ่นิ
7. กจิ การขายหลักทรัพย์ ตามกฎหมายวําด๎วยตลาดหลกั ทรพั ย์แหํงประเทศไทยในตลาดหลักทรพั ย์
8. กจิ การของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดยํอม
9. กจิ การของบรรษัทประกนั สินเช่อื อุตสาหกรรมขนาดยํอม
10. กิจการของธนาคารเพื่อการสงํ ออกและนําเข๎าแหํงประเทศไทย
11. กิจการของกองทุนสงิ่ แวดล๎อม ตามกฎหมายวาํ ดว๎ ยการสงํ เสริมและรกั ษาคุณภาพสงิ่ แวดล๎อม
แหงํ ชาติ
12. กจิ การขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบนั การเงนิ
13. กจิ การของบรรษัทบรหิ ารสนิ ทรัพย์สถาบนั การเงนิ
14. กจิ การของนติ ิบุคคลเฉพาะกิจในสวํ นที่เกยี่ วกับการแปลงสินทรพั ยเ์ ปน็ หลกั ทรัพย์เฉพาะกรณี
ดงั ตอํ ไปน้ี
(1) กิจการทเี่ กดิ ข้นึ เนื่องจากการรบั โอนทรัพย์สนิ จากบรษิ ัทหรือหา๎ งห๎นุ สวํ นนติ ิบุคคลหรอื นิติบคุ คล
อื่น หรือการโอนทรัพย์สนิ ดงั กลําวคนื ใหแ๎ กบํ รษิ ัทหรือห๎างหุ๎นสวํ นนติ ิบุคคลหรือนติ ิบคุ คลอ่นื
(2) กิจการท่ีไดร๎ บั โอนมาจากผูโ๎ อนซง่ึ ได๎รับยกเว๎นภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/3 แหํงประมวล
รัษฎากร
15. กจิ การของบริษทั หรอื หา๎ งหุ๎นสํวนนติ บิ คุ คลหรือนิตบิ คุ คลอ่ืนในสํวนทเี่ กย่ี วกับการแปลงสินทรพั ย์
เปน็ หลกั ทรัพย์ เฉพาะทเ่ี กดิ ขึ้นเน่อื งจากการโอนทรพั ยส์ ินใหแ๎ กนํ ิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือการรบั โอน
ทรัพย์สนิ ดงั กลําวกลับคืนจากนิติบุคคลเฉพาะกจิ
16. กิจการของกองทนุ รวมอสงั หารมิ ทรัพย์ กองทุนอสงั หาริมทรัพยเ์ พื่อแก๎ไขปัญหาในระบบสถาบนั
การเงนิ และกองทุนรวมเพือ่ แก๎ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงนิ ท่ีจดั ตงั้ ข้ึน ตามกฎหมายวําดว๎ ย
252
17. หลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลักทรพั ย์ เฉพาะการประกอบกจิ การโดยปกตเิ ย่ียงธนาคารพาณชิ ย์ และการ
ขายอสังหาริมทรัพยเ์ ปน็ ทางค๎าหรอื หากาํ ไร
18. กิจการของบรรษัทตลาดรองสินเช่ือทีอ่ ยํูอาศยั
19. กิจการของการเคหะแหํงชาติ เฉพาะการให๎กู๎ยืมเงินตามโครงการพฒั นาคนจนในเมือง
20. กิจการของสหกรณป์ ระเภทสหกรณ์บริการ ซงึ่ ดําเนินการเกีย่ วกบั การจัดหาท่อี ยํูอาศยั ใหแ๎ กํสมาชกิ
เฉพาะกรณีดงั ตํอไปนี้
(1) ต๎องเป็นสหกรณ์ท่ีเป็นสมาชกิ ของโครงการพฒั นาคนจนในเมอื งของการเคหะแหงํ ชาติ และไดร๎ ับ
เงนิ กต๎ู ามโครงการดงั กลาํ ว
(2) ตอ๎ งนําเงินที่ได๎รับไปจดั ซ้ืออสังหาริมทรพั ย์เพื่อขายตํอให๎แกสํ มาชิกของสหกรณน์ ้ัน
21. กจิ การของสถาบนั การเงนิ ตามกฎหมายวําด๎วยบริษัทบริหารสินทรพั ย์ เฉพาะกรณีท่ี
(1) สถาบนั การเงนิ นัน้ ถือหุ๎นในบริษทั บริหารสินทรัพย์เกนิ กวาํ รอ๎ ยละ 50 ของหนุ๎ ท้ังหมด ที่มีสทิ ธิ
ออกเสยี งหรือในกรณีที่สถาบันการเงินน้ันถือหุน๎ ในบรษิ ัทบรหิ ารสินทรัพยแ์ ละสถาบนั การเงนิ น้ันไมํ
เกินกวํารอ๎ ยละ 50 ของหุน๎ ท้ังหมดทม่ี ีสิทธอิ อกเสยี ง จะต๎องมนี ิตบิ คุ คลรายหนงึ่ ถอื หุ๎นในบริษัท
บริหารสินทรพั ยแ์ ละสถาบันการเงนิ นนั้ เกินกวําร๎อยละ 50 ของหุน๎ ทั้งหมดท่ีมสี ทิ ธอิ อกเสียง
(2) เปน็ รายรบั ท่ไี ด๎จากบริษัทบริหารสินทรพั ย์ เนือ่ งจากการให๎สินเชื่อแกบํ ริษัทบรหิ ารสินทรัพย์ เพ่ือ
รับซอื้ หรอื รบั โอนสินทรพั ยด์ ๎อยคณุ ภาพ ของสถาบนั การเงินนน้ั หรอื สถาบันการเงินอื่นท่ีมี สถาบัน
การเงินน้นั ถือห๎ุนเกินกวาํ ร๎อยละ 50 ของห๎ุนท้ังหมด ที่มสี ทิ ธอิ อกเสยี ง หรือการใหส๎ ินเช่อื แกบํ รษิ ัท
บริหารสนิ ทรพั ย์เพ่ือใช๎ใน การบรหิ ารสนิ ทรัพย์ดอ๎ ยคุณภาพ ท่รี ับซื้อหรือรับโอนจากสถาบันการเงนิ
นั้น หรอื สถาบนั การเงินอ่นื ท่ีมีสถาบนั การเงนิ น้นั ถอื หุ๎นเกินกวาํ ร๎อยละ 50 ของห๎ุนทง้ั หมดท่ีมีสิทธิ
ออกเสียง
22. กจิ การขายอสังหาริมทรัพยเ์ ป็นทางการคา๎ หรอื หากาํ ไรเนื่องจาก
(1) การรบั ไถํอสังหาริมทรัพย์จากการขายฝาก หรือการไถอํ สังหาริมทรพั ย์จากการขายฝาก โดยการ
วางทรัพย์ตํอสํานักงานวางทรัพยภ์ ายในเวลาทกี่ าํ หนด ได๎ในสญั ญาหรือภายในเวลาทก่ี ฎหมาย
กําหนด
(2) การขายอสังหาริมทรัพย์ภายหลงั ที่ได๎ไถจํ ากการขายฝาก ซ่งึ เม่ือรวมระยะเวลาการได๎มาซง่ึ
อสังหาริมทรัพยก์ ํอนการขายฝาก ระยะเวลาระหวํางการขายฝาก และระยะเวลาภายหลังจากการ
ขายฝากแลว๎ เกนิ ห๎าปี
23. กิจการของรฐั วสิ าหกจิ ในสวํ นของรายรับท่ไี ด๎รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ อันเน่ืองมาจากการนํา
ทนุ บางสํวน หรือทั้งหมดมาเปล่ียนสภาพเป็นหุน๎ ในรูปแบบ ของบริษัทจาํ กัดหรอื บริษัทมหาชนจาํ กดั
ตามกฎหมายวาํ ดว๎ ยทุนรัฐวสิ าหกจิ
24. กจิ การของสถาบนั พฒั นาองค์กรชมุ ชน (องค์การมหาชน) เฉพาะการประกอบกิจการโดยปกติเยยี่ ง
ธนาคารพาณชิ ย์
25. กจิ การของกองทนุ เงินให๎ก๎ูยมื เพื่อการศึกษา ตามกฎหมายวําดว๎ ยกองทุนเงนิ ให๎กย๎ู ืมเพื่อการศึกษา
26. กิจการเงนิ ทุนหมนุ เวยี นเพ่ือพัฒนาการศกึ ษาโรงเรียนเอกชน ของสํานกั งานคณะกรรมการการศึกษา
253
เอกชน
27. กิจการของกองทุนบําเหน็จบาํ นาญข๎าราชการ ตามกฎหมายวาํ ด๎วยกองทนุ บาํ เหนจ็ บาํ นาญ
ขา๎ ราชการ ทั้งน้ี ต้ังแตํวนั ทีก่ ฎหมายวาํ ด๎วยกองทุนบําเหน็จบาํ นาญข๎าราชการมผี ลใช๎บังคับ
28. กจิ การของกองทุนรวมอสงั หาริมทรัพยแ์ ละสิทธิเรยี กร๎องทจี่ ัดตัง้ ขน้ึ ตามกฎหมายวาํ ด๎วยหลกั ทรพั ย์
และตลาดหลกั ทรัพย์ เฉพาะการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์และการขาย
29. อสังหารมิ ทรัพยเ์ ปน็ ทางค๎าหรือหากําไร
30. กจิ การของสํานักงานการปฏริ ปู ท่ดี ินเพ่ือเกษตรกรรม เฉพาะการประกอบกิจการโดยปกติเยย่ี ง
ธนาคารพาณชิ ย์ และการขายอสงั หาริมทรัพยเ์ ป็นทางค๎าหรือหากาํ ไร ทัง้ น้ี ต้งั แตํวนั ท่ี 1 มกราคม
พ.ศ. 2535 เป็นต๎นไป
31. กิจการของธนาคารอิสลามแหํงประเทศไทย เฉพาะการโอนกรรมสิทธิใ์ นอสงั หาริมทรัพย์ใหแ๎ กผํ รู๎ ับ
โอน เนอ่ื งจากการใหเ๎ ชําซื้ออสังหารมิ ทรัพย์ ของธนาคารอิสลามแหงํ ประเทศไทย
32. กิจการของธนาคารพัฒนาวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยํอมแหงํ ประเทศไทย ตามกฎหมายวําดว๎ ย
ธนาคารพัฒนาวสิ าหกิจขนาดกลาง และขนาดยอํ มแหงํ ประเทศไทย ทงั้ น้ี ต้ังแตํวันท่ี 20 ธนั วาคม
พ.ศ. 2545 เปน็ ต๎นไป
33. กจิ การขายข๎อตกลงซ้ือขายลํวงหนา๎ ตามกฎหมายวาํ ดว๎ ยการซื้อขายสนิ ค๎าเกษตรลํวงหน๎า ในตลาด
สินค๎าเกษตรลวํ งหน๎าแหํงประเทศไทย ทงั้ น้ี ตง้ั แตํวนั ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 เปน็ ตน๎ ไป
34. กจิ การขายสัญญาซื้อขายลํวงหน๎า ตามกฎหมายวําดว๎ ยสัญญาซ้อื ขายลวํ งหน๎าในศูนย์ซ้ือขายสญั ญา
ซ้ือขายลวํ งหน๎า ทัง้ น้ี ต้ังแตวํ ันท่เี ปิดทาํ การ ซอื้ ขายสญั ญาซ้ือขายลํวงหนา๎ ในศูนยซ์ อ้ื ขายสัญญาซอื้
ขายลวํ งหน๎านนั้ เปน็ ต๎นไป
35. กิจการของสาํ นักงานความรํวมมือพัฒนาเศรษฐกิจกบั ประเทศเพื่อนบ๎าน (องค์การมหาชน) เฉพาะ
การให๎กู๎ยืมเงนิ แกรํ ัฐบาลประเทศเพ่ือนบ๎าน รฐั วสิ าหกจิ หรอื สถาบนั การเงนิ ของรัฐบาลประเทศ
เพอื่ นบา๎ น ตามพระราชกฤษฎีกาจดั ตั้งสาํ นักงานความรวํ มมอื พัฒนาเศรษฐกจิ กบั ประเทศเพื่อนบา๎ น
(องค์การมหาชน) พ.ศ. 2548
36. กิจการของสถาบนั ค๎ุมครองเงินฝากตามกฎหมายวําด๎วยสถาบันค๎ุมครองเงนิ ฝาก
37. การโอนอสังหาริมทรัพย์ ซ่ึงเกิดจากการแยกกิจการประกนั ชีวติ และกจิ การประกนั วนิ าศภยั ออกจาก
กัน ตามมาตรา 127 วรรคสอง แหํงพระราชบัญญัติประกันชวี ิต พ.ศ.2535 หรอื ตามมาตรา 121
วรรคสอง แหํงพระราชบญั ญัติประกนั วินาศภัย พ.ศ.2535
38. การขายอสงั หารมิ ทรัพย์ขององค์การบริหารสนิ เช่ืออสังหาริมทรพั ย์ หรือบริษทั จาํ กดั ทีส่ ถาบนั การเงนิ
ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตัง้ องคก์ ารบรหิ ารสนิ เชื่ออสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2540 ไดจ๎ ัดต้ังข้ึนเพื่อ
ดาํ เนนิ การบรหิ าร สนิ เชอื่ อสังหารมิ ทรพั ย์โดยความเห็นชอบ ของธนาคารแหํงประเทศไทย
39. การขายอสงั หาริมทรัพยข์ องผู๎ประกอบกิจการให๎แกอํ งคก์ ารฯ หรือบรษิ ัทจาํ กดั ตาม 36.
254
4. ฐานภาษี และอัตราภาษี
ฐานภาษีสาํ หรับการประกอบกจิ การที่ต๎องเสยี ภาษธี รุ กิจเฉพาะ ได๎แกํ รายรบั กํอนหกั รายจาํ ยใด ๆ ที่ผ๎ู
ประกอบกจิ การไดร๎ ับ หรือพงึ ไดร๎ ับเนอ่ื งจากการประกอบกิจการ
"รายรบั " หมายความวํา เงิน ทรัพย์สนิ คาํ ตอบแทน หรอื ประโยชนใ์ ด ๆ อันมมี ลู คําท่ผี ปู๎ ระกอบกิจการ
ไดร๎ บั หรือพงึ ไดร๎ บั ไมํวาํ ในหรือนอกราชอาณาจักรอนั เนอื่ งมาจากการประกอบกิจการ
กิจการทต่ี ๎องเสยี ภาษีธุรกิจเฉพาะ จะต๎องเสียภาษีโดยคํานวณจากฐานภาษี ซ่งึ ได๎แกํ รายรบั ตามฐานภาษี
ของแตํละประเภทกิจการ คูณด๎วยอตั ราภาษีที่กําหนดไว๎ และจะต๎องเสยี ภาษีทอ๎ งถน่ิ อีก ร๎อยละ 10 ของ
จํานวนภาษี ธรุ กิจเฉพาะดงั กลาํ ว
กจิ การ ฐานภาษี อตั ราภาษรี อ้ ยละ
1. กจิ การธนาคาร,ธุรกจิ เงินทนุ - ดอกเบ้ีย สวํ นลด คําธรรมเนยี ม 3.0
ธรุ กจิ หลกั ทรัพย์, ธุรกจิ คาํ บริการ หรอื กําไรกํอนหกั รายจาํ ย
เครดิตฟองซเิ อร์ และการประกอบ ใดๆ จากการซอ้ื หรือขายตว๋ั เงินหรอื 3.0
กิจการเย่ียง ธนาคารพาณิชย์ ตราสารแสดงสิทธใิ นหนี้ใด ๆ
2.5
2. กจิ การรบั ประกันชีวิต - กาํ ไรกํอนหักรายจาํ ยใดๆ จากการ 2.5
แลกเปลี่ยนหรอื ซื้อขายเงินตรา การ
3. กิจการโรงรบั จํานํา ออกตัว๋ เงนิ หรอื การสํงเงนิ ไป 2.5
ตาํ งประเทศ
4. การค๎าอสงั หารมิ ทรพั ย์ 0.1
5. การขายหลักทรพั ย์ในตลาด - ดอกเบี้ย คําธรรมเนยี ม คําบรกิ าร 0.1
หลกั ทรพั ย์ (ยกเวน๎ )
6. การซ้ือและการขายคืนหลัก - ดอกเบีย้ คาํ ธรรมเนียม 3.0
ทรัพยท์ ่ีได๎รบั อนญุ าตจาก
- เงนิ ทรพั ยส์ ิน คําตอบแทน หรือ
ประโยชนใ์ ดๆ อันมีมลู คาํ ที่ได๎รับ หรือ
พึงได๎รบั จากการขายของที่ จาํ นาํ หลุด
เป็นสิทธิ
- รายรับกํอนหักรายจาํ ยใดๆ
- รายรบั กํอนหักรายจาํ ยใดๆ
- กําไรกํอนหักรายจาํ ยใดๆ จากการ
ขายคนื หลักทรัพย์ แตํไมรํ วมถงึ
255
คณะกรรมการกํากบั หลกั ทรัพย์และ ดอกเบีย้ เงนิ ปันผล หรือประโยชน์ใดๆ
ตลาดหลักทรัพย์ ท่ีไดจ๎ ากหลกั ทรัพย์
7. ธุรกิจแฟ็กเตอริง - ดอกเบย้ี สํวนลด คําธรรมเนียม 3.0
หรอื คําบรกิ าร
8. การประกอบกจิ การตามพระราช - ดอกเบี้ย สํวนลด คาํ ธรรมเนยี ม 0.01
กฤษฎกี าฉบบั ท่ี 469 หรือคาํ บริการ
- กําไรกํอนหักรายจํายใดๆ จากการ 0.01
แลกเปล่ยี นหรอื ซ้ือขายเงนิ ตรา
- กําไรกอํ นหักรายจํายใดๆ จากการ 0.01
ขายคืนหลกั ทรัพย์
หมายเหตุ อัตราภาษีของการค๎าอสงั หารมิ ทรพั ย์ให๎ลดและคงจัดเก็บในอัตราร๎อยละ 0.1 สําหรบั การจด
ทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรมทไ่ี ดก๎ ระทําภายในหน่งึ ปี นบั แตํวันทพ่ี ระราชกฤษฎกี ามผี ลบงั คับใช๎ ( ตั้งแตวํ ันท่ี 29
มนี าคม 2551 ถึงวันท่ี 28 มีนาคม 2552 พระราชกฤษฎีกา ( ฉบบั ท่ี 472 ) พ.ศ.2551)
5. หน๎าท่ีของผปู๎ ระกอบกิจการทต่ี ๎องเสียภาษธี ุรกจิ เฉพาะ
ผูป๎ ระกอบกจิ การท่ีต๎องเสียภาษธี ุรกิจเฉพาะ มหี นา๎ ที่ตอ๎ งปฏบิ ตั ดิ ังน้ี
1. หน้าทใี่ นการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
ผป๎ู ระกอบกจิ การที่มหี น๎าท่ีเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ จะต๎องยื่นคําขอจดทะเบียนภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามแบบ
คําขอจดทะเบยี นภาษธี ุรกิจเฉพาะ ภายใน 30 วนั นับแตํวนั เริม่ ประกอบกิจการ
วิธีการจดทะเบยี นภาษีธุรกจิ เฉพาะ
1.1 แบบคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01)
แบบคําขอท่ีใชใ๎ นการจดทะเบยี นภาษีธรุ กิจเฉพาะได๎แกแํ บบ ภ.ธ.01 ท้งั นใ้ี ห๎ผป๎ู ระกอบ
กจิ การ ขอรับแบบคําขอจดทะเบยี นได๎ที่สาํ นักงานสรรพากรอาํ เภอ หรอื สาํ นักงานภาษีสรรรพากรพนื้ ท่ที ุก
แหํง
1.2 การกรอกแบบคําขอจดทะเบยี นภาษธี ุรกิจเฉพาะ การยนื่ คําขอจดทะเบียนภาษธี ุรกจิ เฉพาะ ผ๎ู
ประกอบกจิ การตอ๎ งกรอกแบบคาํ ขอจดทะเบยี นภาษีธรุ กิจเฉพาะ คือ แบบ ภ.ธ.01 จาํ นวน 3 ฉบบั โดยมี
ขอ๎ ความครบถว๎ นถูกต๎องตรงกันท้งั 3 ฉบับ ในการกรอกรายการ ตามแบบ ภ.ธ.01 ผู๎ประกอบกิจการตอ๎ ง
แสดงสถานภาพตาํ งๆ ของการประกอบกิจการ ดงั นี้
(1) ชอื่ ผูป๎ ระกอบกจิ การ
สําหรบั ผูป๎ ระกอบกิจการทเ่ี ปน็ บคุ คลธรรมดาใหก๎ รอกชอื่ -นามสกุล ทอ่ี ยูํ วัน เดือน ปี
เกดิ เลขประจําตวั ประชาชน และเลขประจาํ ตัวผู๎เสียภาษีอากร
สาํ หรบั ผูป๎ ระกอบกจิ การทีเ่ ป็นนติ ิบุคคล ใหก๎ รอกชือ่ ของนติ บิ คุ คลทใ่ี ชใ๎ น การจัดตั้ง
256
หา๎ งหน๎ุ สวํ นบรษิ ทั ตามท่ีปรากฏในหนงั สอื รบั รองของนายทะเบียนห๎นุ สํวนบรษิ ัท กระทรวงพาณิชย์ และชอ่ื
ภาษาอังกฤษ (ถา๎ มี) พร๎อมรายละเอียดเลขทที่ ะเบยี นนติ ิบุคคล วนั เดือน ปที ีจ่ ดทะเบยี น สถานทจ่ี ดทะเบียน
รอบระยะเวลาบัญชี และเลขประจาํ ตัวผ๎เู สียภาษีอากรของนติ บิ คุ คลน้นั
(2) ช่อื และสถานทตี่ ้ังสถานประกอบการ
ชือ่ และท่ตี ั้งสาํ นกั งานใหญํใหก๎ รอกชื่อของสถานประกอบการของ บุคคลธรรมดาหรือ
นติ ิบุคคล (ถา๎ มี) ซึง่ ได๎แกชํ ือ่ ทางการคา๎ และกรอกเลขท่ตี ้ังของสถานประกอบการหรือที่ต้ัง ของสถาน
ประกอบการทเ่ี ป็นสํานกั งานใหญชํ อ่ื และท่ีตง้ั สาขา กรณมี ีสถานประกอบการหลายแหํงใหร๎ ะบจุ ํานวน สถาน
ประกอบการท่ีเป็นสาขา พรอ๎ มทงั้ กรอกรายละเอียด ชอื่ และที่ตง้ั สาขาท้ังหมดลง ในด๎านหลงั ของแบบ ภ.ธ.
01
(3) วันเร่มิ ประกอบกิจการ
ใหก๎ รอกวนั ท่ีผ๎ูประกอบกิจการเริม่ ประกอบกิจการจริง พร๎อมท้ังกรอก รายละเอียด
เก่ยี วกบั เงินทนุ รายรบั ลกู จ๎าง และคาํ เชาํ สถานประกอบการ
(4) ประเภทของการประกอบกิจการ
ให๎ผู๎ประกอบกจิ การเลอื กใสํเครื่องหมายหน๎าขอ๎ ความประเภทของการ ประกอบ
กจิ การแล๎วแตํกรณี
(5) เอกสารแนบ
ใหร๎ ะบุจาํ นวนเอกสารตําง ๆ ที่แนบมาพร๎อมกับแบบ ภ.ธ.01 ซึง่ จะต๎องตรงกบั
จาํ นวนเอกสาร ตามทรี่ ะบุไวใ๎ นดา๎ นหลงั ของแบบภ.ธ.01
(6) การลงช่อื ของผู๎ประกอบกจิ การ และการประทับตรานติ บิ ุคคล
กรณีบคุ คลธรรมดา คณะบุคคล หา๎ งหนุ๎ สํวนสามญั กองมรดก ผ๎ูมีอาํ นาจ ลงชือ่ ไดแ๎ กํ
เจา๎ ของ ผ๎ูอาํ นวยการ ผ๎จู ัดการ ท่รี ะบุไวต๎ าม (1) หรือผร๎ู บั มอบอํานาจจากบุคคลดงั กลําว
กรณีนิติบุคคล ผ๎ูมีอํานาจลงชื่อ ได๎แกํ ผ๎ูมีอํานาจกระทําการแทนนติ ิบคุ คลน้นั ๆ เชนํ
กรรมการ ผู๎เป็นหุ๎นสํวน ผ๎ูจัดการ หรอื ผ๎รู บั มอบอํานาจจากบุคคลดงั กลําว พร๎อมท้งั ประทบั ตรานิติบุคคล (ถ๎า
ม)ี ด๎วย
1.3 เอกสารทต่ี อ๎ งแนบพรอ๎ มแบบคาํ ขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
(1) สําเนาหรอื ภาพถํายทะเบยี นบ๎าน และหรอื หลักฐานแสดงการอยํูอาศยั จรงิ ภาพถาํ ย
บัตร ประจาํ ตวั ประชาชน และบตั รประจาํ ตวั ผ๎ูเสียภาษอี ากรของผู๎ยนื่ คําขอ และหรอื ภาพถาํ ยบตั รประจําตวั
ประชาชน ของผ๎รู บั มอบอํานาจ
(2) สําเนาหรอื ภาพถาํ ยสญั ญาเชําอาคารอันเป็นที่ต้งั สถานประกอบการ(ในกรณีเชํา) หรอื
หนงั สอื ยนิ ยอมใหป๎ ระกอบการ (ในกรณีอาคารเปน็ ของผอู๎ นื่ โดยมไิ ด๎เชํา) พร๎อมด๎วยสาํ เนาหรือภาพถําย
ทะเบยี น บ๎านอันเปน็ ทีต่ ้ังสถานประกอบการ
(3) สําเนาหรือภาพถํายหนังสือสญั ญาจัดต้ังหา๎ งหน๎ุ สํวน (ในกรณีทีเ่ ป็นห๎างหนุ๎ สวํ น สามญั
หรือคณะบุคคล)
(4) สาํ เนาหรอื ภาพถาํ ยหนังสือรบั รองของนายทะเบียนหุ๎นสํวนบริษัทกระทรวงพาณชิ ย์
257
(ในกรณีที่เป็นบรษิ ัทหรือหา๎ งหุ๎นสวํ นนติ บิ คุ คล ท่ตี ง้ั ขึ้นตามกฎหมายไทย) พร๎อมท้ังสาํ เนาหนงั สอื บริคณห์สนธิ
และข๎อบังคบั (ในกรณีที่เปน็ บริษทั จาํ กดั ทต่ี ๎องข้ึนตามกฎหมายไทย) และสาํ เนาหรือภาพถํายใบทะเบยี น
พาณิชย์
(5) ภาพถํายบัตรประจําตวั กรรมการผจู๎ ัดการ หรอื ห๎นุ สวํ นผ๎ูจัดการ ในกรณเี ป็น บรษิ ัท
หรอื หา๎ งหุ๎นสวํ นนิตบิ ุคคล
(6) แผนที่สังเขปหรอื ภายถาํ ยสถานประกอบการ
(7) เอกสารอ่ืน ๆ (ถา๎ ม)ี เชํนหนงั สอื มอบอํานาจ กรณผี ๎ูประกอบกจิ การมอบอํานาจให๎
บุคคลอ่ืน ดําเนินการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะแทนผูป๎ ระกอบกิจการ
1.4 กาํ หนดเวลาในการจดทะเบียนภาษีธุรกจิ เฉพาะผ๎ูประกอบกจิ การท่ีมหี น๎าที่เสียภาษีธรุ กจิ
เฉพาะจะ ต๎องยนื่ คําขอจดทะเบยี นภาษีธุรกจิ เฉพาะภายใน 30 วนั นบั แตวํ นั เร่ิมประกอบกิจการ
1.5 สถานทจ่ี ดทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะใหผ๎ ๎ปู ระกอบกจิ การย่ืนคาํ ขอจดทะเบียนภาษธี รุ กิจเฉพาะ
ตาม แบบ ภ.ธ.01 ณ สถานทด่ี ังตํอไปนี้
(1) ในกรงุ เทพมหานคร ไดแ๎ กํ
- สาํ นักงานภาษีสรรพากรพ้นื ที่ ทสี่ ถานประกอบการตง้ั อยูํ หรือ
- สํานกั งานเขตทอ๎ งทีท่ ่ีสถานประกอบการต้ังอยูํ
(2) ในจังหวัดอนื่ ได๎แกํ
- สาํ นักงานสรรพากรอําเภอ หรอื กง่ิ อําเภอท๎องท่ที ส่ี ถานประกอบการตั้งอยูํ
ในกรณผี ป๎ู ระกอบกิจการมสี ถานประกอบการหลายแหํง หรือไมํมีสถาน
ประกอบการ ผปู๎ ระกอบกิจการ จะตอ๎ งยน่ื ภ.ธ.01 ณ หนวํ ยงานตาม (1) หรือ (2) ในทอ๎ งท่ตี อํ ไปนี้
(ก) ทอ๎ งที่สถานประกอบการทเี่ ปน็ สาํ นักงานใหญตํ ง้ั อยถํู ๎าผ๎ูประกอบกิจการมี
สถาน ประกอบการเปน็ สาํ นกั งานใหญํ
(ข) ทอ๎ งท่ที ่ีสถานประกอบการแหงํ หนง่ึ ท่ผี ๎ูประกอบกิจการเลือกต้งั อยูํถ๎า
ผู๎ประกอบการ ไมมํ สี ถานประกอบการแหงํ ใดเปน็ สาํ นักงานใหญํ
(ค) ทอ๎ งทซี่ ึ่งท่ีอยูํอาศยั ของผปู๎ ระกอบกจิ การตั้งอยํู ถ๎าผป๎ู ระกอบกจิ การมีที่
อยอํู าศยั แหงํ เดียวเป็นสถานประกอบการ
(ง) ท๎องทซ่ี ง่ึ ท่ีอยํูอาศัยแหงํ หนึ่ง (ที่ผปู๎ ระกอบกิจการเลือก) ตงั้ อยํู
ถ๎าผปู๎ ระกอบกิจการมีทีอ่ ยูํอาศยั หลายแหงํ เป็นสถานประกอบการสถาน
ประกอบการ หมายความวํา สถานท่ซี งึ่ ผป๎ู ระกอบการใช๎ประกอบกจิ การเป็นประจํา และให๎หมายความรวมถงึ
สถานท่ีซง่ึ ใช๎เปน็ ท่ีผลติ หรอื เก็บสินคา๎ เป็นประจําด๎วย
ในกรณที ี่ผ๎ปู ระกอบกจิ การไมํมสี ถานประกอบการตามวรรคกํอนให๎ถือวํา ทีอ่ ยูํ
อาศัย ของผป๎ู ระกอบกจิ การน้ัน เปน็ สถานประกอบการ ถา๎ ผปู๎ ระกอบกิจการมีท่ีอยอูํ าศยั หลายแหงํ ให๎ผู๎
ประกอบกจิ การ เลือกทอ่ี ยํูอาศยั แหํงหนงึ่ เป็นสถานประกอบการ
1.6 ใบทะเบียนภาษธี ุรกิจเฉพาะ
258
(1) การแสดงใบทะเบียนภาษธี รุ กจิ เฉพาะ
เมือ่ เจ๎าพนักงานไดร๎ บั คาํ ขอจดทะเบยี นภาษีธรุ กิจเฉพาะตามแบบ ภ.ธ.01 พรอ๎ ม
เอกสารท่ีเก่ยี วข๎องครบถว๎ นแลว๎ จะออกใบทะเบยี นภาษธี รุ กจิ เฉพาะคือ ภ.ธ.20 ให๎ ซ่ึงจะมผี ลใหผ๎ ู๎ประกอบ
กิจการ เป็นผป๎ู ระกอบกจิ การตามกฎหมาย ตง้ั แตวํ นั เริม่ ประกอบกจิ การ (วันทีผ่ ๎ปู ระกอบการเร่มิ ประกอบ
กิจการจรงิ )
ในการออกใบทะเบียนภาษธี รุ กิจเฉพาะ เจ๎าพนกั งานจะออกให๎ตามจาํ นวน สถาน
ประกอบการ ท่ีมีอยูจํ รงิ ตามท่ีไดแ๎ จง๎ ไวใ๎ นแบบ ภ.ธ.01 เชํนผ๎ปู ระกอบกจิ การมสี ถานประกอบการหลายแหํง
หรอื มีสํานกั งานสาขา จะได๎ใบทะเบยี นภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นรายสถานประกอบการหรอื สาขาตามที่แจ๎งไว๎ ผู๎
ประกอบ กิจการจะต๎องนาํ ใบทะเบยี นดงั กลาํ วไปแสดงไว๎ ณ ทีเ่ ปิดเผยซึ่งเหน็ ไดง๎ าํ ยในสถานประกอบการเปน็
รายสถานประกอบการ
(2) ใบทะเบยี นภาษธี ุรกจิ เฉพาะสูญหาย ถกู ทําลาย หรอื ชาํ รุด
กรณีใบทะเบยี นภาษธี รุ กิจเฉพาะสูญหาย ถกู ทาํ ลายหรือชาํ รุดในสาระสําคัญ ผู๎
ประกอบกจิ การจะต๎องยืน่ คําขอรับใบแทนใบทะเบยี นภาษีธรุ กิจเฉพาะ ตามแบบ ภ.ธ.04 ณ หนํวยจด
ทะเบียน ท่ีไดจ๎ ดทะเบียนฯ ไวภ๎ ายใน 15 วนั นบั แตํวนั ทท่ี ราบถงึ การสูญหาย ถูกทําลายหรือชาํ รุด
ในกรณีใบทะเบยี นภาษธี รุ กิจเฉพาะชํารดุ จะต๎องแนบใบทะเบียนภาษธี รุ กิจเฉพาะ ที่
ชํารุดมาพรอ๎ มกับแบบ ภ.ธ.04
ในกรณีใบทะเบียนภาษธี ุรกิจเฉพาะสูญหาย ถูกทาํ ลาย ผูป๎ ระกอบกิจการจะต๎องแจง๎
ความตอํ สถานีตํารวจท๎องท่ีเพื่อคดั สาํ เนาบนั ทกึ ประจาํ วนั จากพนักงานสอบสวนมาพร๎อมกับแบบ ภ.ธ.04 ดว๎ ย
2. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับกิจการตอ๎ งแจง๎ เปล่ยี นแปลงทะเบียนภาษีธุรกจิ เฉพาะ ได๎แกํ แก๎ไข
เปลี่ยนแปลง รายการที่ได๎ จดทะเบยี นภาษีธุรกจิ เฉพาะในสาระสําคญั เชํน
- เปลี่ยนแปลงช่อื สถานประกอบการ ประเภทกิจการ ประเภทสินค๎า หรือบริการ
- เปิดสถานประกอบการเพมิ่
- หยุดประกอบกจิ การช่ัวคราว
- โอนกิจการบางสวํ นหรือทั้งหมด
- ควบเข๎ากนั ของนติ บิ ุคคล
- เลกิ ประกอบกิจการ
- ผู๎ประกอบกิจการจดทะเบียนถึงแกํความตาย
3. วิธแี จ้งเปลย่ี นแปลงทะเบยี นภาษธี ุรกิจเฉพาะ
ในการแจ๎งการเปล่ียนแปลงทะเบยี นภาษธี รุ กิจเฉพาะ ให๎ผป๎ู ระกอบกจิ การยนื่ แบบแจง๎ การเปลี่ยนแปลง
ทะเบยี นภาษธี รุ กิจเฉพาะตามแบบ ภ.ธ.09 จํานวน 1 ชุด 3 ฉบบั พร๎อมท้ังเอกสารท่ีเกี่ยวขอ๎ ง ไดแ๎ กํ
- สําเนาทะเบยี นบา๎ น
- หนังสือแสดงการเปล่ียนช่ือ นามสกลุ
- สําเนาหนังสือรบั รองของนายทะเบียนหน๎ุ สํวนบริษัท
- บัญชีเอกสารประกอบการบนั ทกึ บัญชี
- ใบทะเบียนภาษธี รุ กิจเฉพาะ
259
- หนงั สือมอบอํานาจ (กรณมี ิได๎มาดาํ เนนิ การเอง) พรอ๎ มบัตรประจําตวั ประชาชนของ ผู๎มอบและผ๎รู ับ
มอบ
- อ่นื ๆ
4. สถานทีแ่ จ๎งเปลยี่ นแปลงทะเบียนภาษธี ุรกจิ เฉพาะ
ให๎ผูป๎ ระกอบกจิ การจดทะเบียนแจ๎งการเปลยี่ นแปลงภาษธี รุ กิจเฉพาะ ณ หนํวยจดทะเบยี นที่ได๎ จด
ทะเบยี นฯ ไวภ๎ ายในกาํ หนดเวลาแล๎วแตํกรณี
5. กาํ หนดเวลาแจง๎ การเปล่ียนแปลงทะเบยี นภาษีธรุ กจิ เฉพาะ
5.1 แจ๎งเปลยี่ นแปลงรายการที่ได๎จดทะเบียนภาษธี ุรกิจเฉพาะ ในสาระสาํ คญั เชํน เปลีย่ นแปลง ชอ่ื
สถานประกอบการ ประเภทกิจการ ประเภทสนิ คา๎ หรือบรกิ าร ตอ๎ งแจง๎ ภายใน 15 วันนับจากวันที่มีการ
เปล่ียน แปลงเกดิ ข้ึน
5.2 แจ๎งเปิดสถานประกอบการเพิม่ เติม ต๎องแจ๎งกํอนวันเปิดสถานประกอบการเพ่ิมเติมไมนํ ๎อยกวาํ 15
วัน
5.3 แจ๎งปดิ สถานประกอบการบางแหงํ ตอ๎ งแจ๎งภายใน 15 วันนับจากวันปดิ สถานประกอบการ พรอ๎ ม
คืน ภ.ธ.20 ของสถานประกอบการนน้ั
5.4 แจ๎งย๎ายสถานประกอบการ
5.4.1 กรณสี ถานประกอบการใหมํอยูํภายในท๎องที่ท่ีได๎จดทะเบียนฯ ไวเ๎ ดิม จะต๎องแจง๎ กอํ น
วนั ยา๎ ยสถานประกอบการไมํน๎อยกวํา 15 วนั พร๎อมคืนภ.ธ.20 ของสถานประกอบการ เดิม ณ หนวํ ยจด
ทะเบียน ที่ได๎จดทะเบียนฯ ไว๎
5.4.2 กรณสี ถานประกอบการใหมํอยตูํ าํ งท๎องท่ี จะตอ๎ งแจง๎ กํอนวนั ยา๎ ยสถานประกอบการ ไมํ
นอ๎ ยกวํา 15 วัน และย่นื ภ.ธ.09 พร๎อมคนื ภ.ธ.20 ของสถานประกอบการเดิม ณ หนํวยจดทะเบยี นท๎องท่ีท่ี
สถาน ประกอบการแหงํ ใหมํตั้งอยูกํ ํอนวันเปิดสถานประกอบการแหํงใหมไํ มนํ ๎อยกวาํ 15 วนั
5.5 แจง๎ หยดุ ประกอบกจิ การชั่วคราวเปน็ เวลาตดิ ตํอกนั เกิน 30 วนั จะต๎องแจ๎งภายใน15 วันนบั จาก
วันทีห่ ยดุ ประกอบกิจการช่ัวคราว
5.6 แจง๎ โอนกจิ การ (บางสวํ นหรือทั้งหมด)
5.6.1 ผ๎โู อนกิจการ จะต๎องแจ๎งกอํ นวันโอนกจิ การไมํน๎อยกวาํ 15 วนั และถา๎ เป็นการโอน
กจิ การ ทัง้ หมดจะต๎องคนื ภ.ธ.20 พรอ๎ มยืน่ ภ.ธ.09 ด๎วย
5.6.2 ผ๎รู บั โอนกิจการ
5.6.2.1 ถ๎าเป็นผปู๎ ระกอบการจดทะเบียนจะต๎องแจง๎ กํอนวนั รับโอนกิจการไมํน๎อย
กวํา 15 วัน โดยยนื่ ภ.ธ099 ณ หนํวยจดทะเบียนทผี่ ๎ูรบั โอนได๎จดทะเบียนฯ ไว๎
5.6.2.2 ถ๎ามใิ ชํผปู๎ ระกอบกิจการ จะต๎องแจ๎งกํอนวนั รับโอนกิจการไมํน๎อยกวาํ 15
วนั โดยยนื่ ภ.ธ.01 ณ หนํวยจดทะเบียนท๎องที่ ที่สถานประกอบการต้ังอยํดู ๎วย
5.7 แจ๎งควบกจิ การ
5.7.1 นิตบิ ุคคลเดิม จะตอ๎ งแจง๎ ภายใน 15 วนั นับจากวนั ควบเขา๎ กัน พรอ๎ มกับคนื ภ.ธ.20 ของ
260
สถานประกอบการเดมิ ณ หนํวยจดทะเบียนทีผ่ รู๎ ับโอนไดจ๎ ดทะเบียนฯ ไว๎
5.7.2 นิตบิ คุ คลใหมํ จะต๎องแจ๎งภายใน 15 วนั นับแตํวันทีไ่ ด๎จดทะเบยี นนิตบิ ุคคลใหมํ โดยย่ืน
ภ.ธ.01 ณ หนวํ ยจดทะเบียนท๎องที่ทีส่ ถานประกอบการตงั้ อยํูดว๎ ย
5.8 แจ๎งเลิกประกอบกจิ การ ตอ๎ งแจง๎ ภายใน 15 วนั นับจากวนั เลิกประกอบกจิ การ พรอ๎ มคนื ภ.ธ.20
5.9 แจง๎ ผูป๎ ระกอบกิจการจดทะเบยี นซง่ึ เป็นบุคคลธรรมดาถงึ แกคํ วามตาย
5.9.1 กรณีเป็นผูค๎ รอบครองมรดก ใชส๎ ทิ ธิดําเนินกจิ การของผต๎ู าย จะต๎องแจง๎ โดยเร็วที่สดุ
5.9.2 กรณเี ป็นผู๎ครอบครองมรดก ไมํใชส๎ ิทธิดําเนนิ กิจการของผ๎ตู าย หรือใชส๎ ิทธิดาํ เนนิ
กจิ การแล๎วแตํพ๎นกาํ หนดเวลา 60 วัน หรือพ๎นกําหนดเวลาท่อี ธบิ ดีกรมสรรพากรขยายให๎แล๎วไมมํ ีผูจ๎ ดั การ
มรดก หรือทายาทขอโอนกจิ การของผู๎ตาย จะต๎องแตํภายใน 15 วนั นับจากวันท่ผี ๎ูประกอบกิจการจดทะเบยี น
ถงึ แกํความตาย หรือนับแตวํ ันพ๎นกําหนดเวลาดําเนินกิจการดงั กลาํ ว พร๎อมคนื ภ.ธ.20 ด๎วย
5.9.3 กรณเี ป็นผูจ๎ ัดการมรดกหรือทายาทท่ีประสงคจ์ ะประกอบกิจการของผู๎ตายตํอไปและ
เป็นผูป๎ ระกอบการจดทะเบียนจะต๎องแจ๎งกํอนวนั รับโอนกิจการไมนํ ๎อยกวํา 15 วัน พรอ๎ มกับคืน ภ.ธ.20 ของ
ผูต๎ าย
5.9.4 กรณีเป็นผู๎จดั การมรดกหรือทายาทท่ีประสงคจ์ ะประกอบกิจการของผต๎ู ายตํอไป แตํมิใชํ
ผ๎ูประกอบการจดทะเบียน จะตอ๎ งแจง๎ กํอนวันรบั โอนกจิ การไมํนอ๎ ยกวํา 15 วัน โดยย่ืน ภ.ธ.01 พร๎อมกับคืน
ภ.ธ.20 ของผ๎ูตาย
6. การย่ืนแบบแสดงรายการภาษธี รุ กจิ เฉพาะ
1. ผมู้ ีหนา้ ที่ยืน่ แบบแสดงรายการภาษธี ุรกิจเฉพาะ ได้แก่
1.1 บคุ คลซึ่งประกอบกิจการทีต่ ๎องเสียภาษีธรุ กจิ เฉพาะ โดยกิจการนั้นไมไํ ด๎รับยกเว๎น ภาษธี ุรกิจ
เฉพาะ
1.2 ผูม๎ หี น๎าทีร่ บั ผดิ ชอบในการประกอบกิจการในราชอาณาจักรของผปู๎ ระกอบกิจการอยูนํ อก
ราชอาณาจกั ร
1.3 ลูกจ๎าง ตวั แทน หรอื ผู๎ทําการแทนซงึ่ มอี ํานาจในการจดั การแทนโดยตรงหรอื โดยปริยายที่อยํูใน
ราช อาณาจักรของผ๎ปู ระกอบกจิ การท่ีอยนูํ อกราชอาณาจักร
2. แบบแสดงรายการทใี่ ช้
แบบแสดงรายการภาษีธรุ กจิ เฉพาะ ทอ่ี ธิบดีกรมสรรพากรกําหนดใหใ๎ ช๎ในการยนื่ แบบแสดงรายการภาษี
ธรุ กจิ เฉพาะได๎แกํ แบบ ภ.ธ.40
3. หน้าที่ในการจดั ทาํ รายงาน
ผปู๎ ระกอบกิจการที่มหี น๎าท่เี สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ มีหน๎าทจ่ี ัดทาํ รายงานแสดงรายรับกํอนหกั รายจํายท่ี
ตอ๎ ง เสยี ภาษแี ละรายรบั ทไี่ มํต๎องรวมคาํ นวณเพื่อเสียภาษรี ายงานดังกลาํ วใหจ๎ ดั ทําตามแบบทีอ่ ธิบดี
กรมสรรพากร กาํ หนดโดยให๎ จดั ทาํ เปน็ รายสถานประกอบการทงั้ น้ีการลงรายการในรายงานให๎ลง ภายใน 3
วนั ทาํ การนบั แตํวันท่ีมีรายรับเว๎นแตํอธบิ ดี กรมสรรพากรเหน็ สมควร สําหรบั การประกอบกิจการบางประเภท
หรอื ในกรณจี ําเปน็ เฉพาะรายอธิบดจี ะกําหนดเปน็ อยําง อ่นื ตามท่ีเหน็ สมควรก็ได๎
261
4. หน้าทีใ่ นการเกบ็ รักษารายงานและเอกสารหลักฐาน
ผ๎ูประกอบกจิ การท่ีมีหน๎าท่ีตอ๎ งเสยี ภาษีธรุ กิจเฉพาะต๎องเก็บและรักษารายงานพร๎อมทั้งเอกสารประกอบ
การลงรายงานหรือเอกสารท่ีอธบิ ดกี ําหนดไว๎ ณ สถานประกอบการจัดทาํ รายงานน้ันหรือสถานท่ีอน่ื ที่อธิบดี
กรมสรรพากร กําหนดเป็นเวลาไมํนอ๎ ยกวาํ 5 ปี นบั แตํวันทไี่ ด๎ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรอื วนั ทํารายงาน
แลว๎ แตํกรณี
5. หน้าทใ่ี นการออกใบรบั
ผปู๎ ระกอบกิจการท่ีอยใูํ นบงั คบั ตอ๎ งเสยี ภาษธี ุรกจิ เฉพาะซึ่งไดร๎ ับเงนิ หรอื รบั ชําระราคาจากการขาย
สินค๎า หรือการใหบ๎ ริการหรือจากการกระทํากิจการรวมเงนิ หรอื ราคาท่ีได๎รับชําระแตลํ ะครง้ั เกนิ 100 บาท
ต๎องออกใบรบั ให๎แกํ ผู๎จํายเงินหรอื ผ๎ชู าํ ระราคาในทนั ทีทุกคราวที่รับเงินหรือรบั ชําระราคาไมํวาํ จะมกี าร
เรียกรอ๎ งให๎ออกใบรับหรือไมํก็ตาม
7. การขอคืนภาษีธรุ กจิ เฉพาะ
1. ผู๎มีสิทธขิ อคืนภาษธี รุ กิจเฉพาะ ได๎แกํ
1.1 ผป๎ู ระกอบกิจการทีม่ หี นา๎ ทีเ่ สยี ภาษี ซ่ึงได๎ชําระภาษีไว๎เกนิ หรอื ผิด หรือซาํ้
1.2 ผูไ๎ มมํ ีหนา๎ ทเ่ี สียภาษแี ตํไดช๎ ําระภาษีไว๎
2. ผูม๎ ีหน๎าทเี่ สียภาษธี รุ กิจเฉพาะ มสี ิทธขิ อคนื เงินภาษไี ด๎โดยใช๎คําร๎องขอคืนเงินภาษอี ากร คือแบบ ค.
10
3. การยืน่ คําร๎องขอคนื เงินภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ตามแบบ ค.10 จะต๎องแนบเอกสารทเ่ี ก่ยี วข๎องไปพรอ๎ มกับ
คาํ รอ๎ ง ด๎วยไดแ๎ กํ
3.1 หนงั สอื รบั รองการจดทะเบยี นเปน็ นิติบุคคล กรณีผ๎ขู อคืนเป็นนติ ิบคุ คล
3.2 ใบเสรจ็ รบั เงินภาษธี รุ กิจเฉพาะ
3.3 หลกั ฐานอื่นทีเ่ กี่ยวข๎องกับประเดน็ ท่ีขอคืน
4. ผม๎ู ีหน๎าทีเ่ สยี ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ มสี ทิ ธิยน่ื คาํ ร๎องขอคืนเงนิ ภาษีภายใน 3 ปีนับแตํวันพน๎ กาํ หนดเวลายน่ื
แบบแสดงรายการภาษี
8. กําหนดเวลาในการยืน่ แบบแสดงรายการภาษี
- ผป๎ู ระกอบการจดทะเบียนภาษีธรุ กิจเฉพาะ มหี น๎าทตี่ ๎องยื่นแบบแสดงรายการ และชําระภาษีโดยใช๎
แบบ ภ.ธ.40 (แสดงประเภทของกิจการ จาํ นวนรายรบั จํานวนภาษีธรุ กิจเฉพาะ และภาษีท๎องถ่นิ อีกรอ๎ ยละ
10 ของภาษธี ุรกิจเฉพาะ)
- ยืน่ แบบแสดงรายการเปน็ รายเดอื นภาษี ภายในวันท่ี 15 ของเดือนถัดไป ไมํวําจะมรี ายรบั ในเดือนน้ัน
หรือไมํกต็ าม
- ภาษีในเดอื นภาษีใด เมือ่ รวมคาํ นวณแล๎วมจี าํ นวนไมถํ งึ 100บาท ผ๎ูประกอบกจิ การไมตํ ๎องเสียภาษี
สาํ หรับ เดอื นภาษนี ัน้ แตํยังคงมหี นา๎ ที่ต๎องย่นื แบบแสดงรายการตามปกติ
262
9. สถานท่ีย่ืนแบบแสดงรายการภาษี
ผู๎ประกอบกจิ การจะต๎องยนื่ แบบ ภ.ธ.40 พร๎อมกบั ชาํ ระภาษี (ถ๎ามี) ณ สถานท่ีดงั ตํอไปน้ี
(1) ในเขตกรุงเทพมหานคร ใหย๎ น่ื ณ
- สํานักงานสรรพากรพืน้ ทีส่ าขา (เขต/อาํ เภอ) ในท๎องที่ทีส่ ถานประกอบการต้งั อยํู
- สถานท่ีอ่นื ซ่ึงอธิบดีกรมสรรพากรกําหนดให๎เป็นสถานทย่ี นื่ แบบและชาํ ระภาษี
(2) ในเขตจงั หวัดอน่ื ให๎ย่ืน ณ สํานกั งานสรรพากรพ้ืนทีส่ าขา (อําเภอ/ก่งิ อาํ เภอ) ในทอ๎ งท่ีทส่ี ถาน
ประกอบการตั้งอยูํ
- สถานทีอ่ ืน่ ซ่ึงอธบิ ดกี รมสรรพากรกําหนดใหเ๎ ปน็ สถานท่ียื่นแบบและชาํ ระภาษี
หมายเหตุ การย่ืนแบบแสดงรายการและชําระภาษี สามารถยนื่ ผาํ นเวบ็ ไซต์ของกรมสรรพากรได๎
(ดรู ายละเอยี ดเพิ่มเติมได๎ในหัวขอ๎ บริการยน่ื แบบผาํ นอินเทอรเ์ น็ต)
ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ
ลําดับ ช่ือย่อ ช่ือเตม็ ดาวน์โหลด
1. ภ.ธ.40 แบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ ตาม PDF | ZIP
ประมวลรัษฎากร
ใบแนบแบบแสดงรายการ ภ.ธ. 40 สาํ หรบั ผ๎ู
2. ใบแนบ ภ.ธ.40 ประกอบกิจการทมี่ ีสถานประกอบการหลาย PDF | ZIP
แหํง และได๎รบั อนุมัติให๎ยน่ื แบบ ภ.ธ.40 และ
ชาํ ระภาษธี รุ กิจเฉพาะรวมกนั
263
264
265
แบบฝึกหดั /คําถาม/ปัญหา
1. บริษัท สยามโฮม จาํ กดั ดําเนนิ กิจการจดั สรรทด่ี นิ เพื่อขาย ในปี 2551 มรี ายไดจ๎ ากการขายที่ดนิ
50,000,000 บาท (เป็นราคากํอนหักรายจําย) และราคาประเมินของพนักงาน 50,000,000 บาท
บรษิ ัทได๎มมี ตจิ ากการประชุมคณะกรรมการเหน็ วาํ สมควรจะยกที่ดินใหป๎ ระธานกรรมการบรษิ ทั เพื่อใช๎
เป็นทีป่ ลกู สร๎างที่อยํูอาศยั ซง่ึ มีมลู คําตามราคาประเมินท่ีได๎จดทะเบียนสทิ ธิและนติ กิ รรมไว๎ 5,000,000
บาท
ใหท๎ าํ คาํ นวณภาษีธรุ กจิ เฉพาะในเดือนมกราคม 2551 และบนั ทกึ รายการบัญชีในสมดุ รายวันทว่ั ไป
266
เฉลยคาํ ตอบ
1. การคาํ นวณ
รายได๎จากการขายทด่ี ิน 50,000,000.-
บวก ยกที่ดนิ ใหค๎ ณะกรรมการบรษิ ัท (ถอื เปน็ การขาย) 5,000,000.-
รวม 55,000,000.-
ภาษีธุรกิจเฉพาะ (55,000,000 x 3%) = 1,650,000.-
ภาษที อ๎ งถิน่ (1,650,000 x 10%) = 165,000.-
รวมภาษีธุรกจิ เฉพาะเดือนมกราคม = 1,815,000.-
เอกสารอา้ งอิง/เอกสารค้นควา้ เพิ่มเติม
มนสั ชยั กรี ติผจญ. การบัญชีภาษีอากร. กรงุ เทพฯ : บริษัท สาํ นกั พิมพ์เอมพันธ์ จาํ กัด. 2563
267 พส.12
แบบประเมนิ ผลการเรยี นรหู้ นว่ ยท่ี 7
รหัส 30201-2007 ชอ่ื วชิ า การบัญชีภาษอี ากร
ชอื่ หน่วย การบญั ชภี าษีธุรกจิ เฉพาะ
เร่อื ง การบญั ชภี าษธี ุรกิจเฉพาะ จํานวนช่ัวโมงสอน 1 ชวั่ โมง
จงเลอื กคําตอบที่ถูกต๎องทีส่ ดุ เพยี งข๎อเดียว
1. กิจการใดตอํ ไปน้ตี ๎องเสยี ภาษีธรุ กิจเฉพาะ
ก. ห๎างสรรพสนิ ค๎าเดอะมอลล์
ข. บรษิ ัทไทยประกันชีวติ
ค. บรษิ ัท การบนิ ไทย จํากดั (มหาชน)
ง. ถกู ทุกข๎อ
2. ขอ๎ ใดคอื ธุรกิจที่ผู๎ขายสินค๎าหรือผ๎ูให๎บริการตกลงจะโอนทรัพย์สินท่ีจะได๎รับจากการชําระหนี้ระหวํางตน
กบั ลูกหน้ขี องตนให๎กับผปู๎ ระกอบการ
ก. สถาบนั การเงิน
ข. ธรุ กจิ แฟ็กเตอรงิ
ค. บริษัทจํากัด
ง. ธรุ กจิ หลกั ทรพั ย์
3. กจิ การตามขอ๎ ใดได๎รับยกเวน๎ ไมตํ อ๎ งเสยี ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ
ก. โรงรับจํานาํ ของเอกชน
ข. กิจการจดั สรรทด่ี ิน
ค. บรษิ ทั ไทยประกันชวี ติ
ง. ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
4. ข๎อใดคือลักษณะของบริษัทหรือห๎างหุ๎นสํวนนิติบุคคลต้ังแตํ 2 นิติบุคคลขึ้นไปและถือห๎ุนระหวํางกันไมํ
นอ๎ ยกวํารอ๎ ย 25
ก. สถาบนั การเงนิ
ข. บริษัทในเครือ
ค. ธุรกิจแฟ็กเตอริง
ง. บริษัทหลักทรพั ย์
5. ธนาคาร ธุรกจิ เงินทุน ธุรกิจหลกั ทรพั ย์ ธรุ กจิ เครดติ ฟองซิเอร์ และกิจการเยีย่ งธนาคารพาณิชย์ต๎องชําระ
อตั ราภาษีธรุ กิจเฉพาะตามข๎อใด
ก. 1%
ข. 2.5%
ค. 3%
ง. 5%
268
6. กจิ การโรงรับจํานํา ตอ๎ งจาํ ยภาษธี ุรกิจเฉพาะตามอตั ราใด
ก. 2%
ข. 2.5%
ค. 3%
ง. 3.3%
7. ผ๎ูประกอบการตอ๎ งยน่ื คาํ ขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายในก่วี ันนับแตวํ นั เร่มิ ประกอบการ
ก. 7 วนั
ข. 15 วนั
ค. 30 วัน
ง. 60 วัน
8. ผู๎ประกอบการจดทะเบยี นภาษธี ุรกจิ เฉพาะต๎องชาํ ระภาษีท๎องถน่ิ อีกร๎อยละเทําใดของภาษธี ุรกิจเฉพาะ
ก. รอ๎ ยละ 2.5%
ข. รอ๎ ยละ 3%
ค. รอ๎ ยละ 5%
ง. รอ๎ ยละ 10%
9. การยน่ื แบบแสดงรายการภาษีธรุ กิจเฉพาะเปน็ รายเดือนภาษี ภายในก่ีวันของเดอื นถัดไป
ก. 7 วนั
ข. 15 วัน
ค. 30 วัน
ง. 60 วัน
10. ภาษธี รุ กิจเฉพาะสามารถคํานวณได๎จากขอ๎ ใด
ก. ฐานภาษี x อตั ราภาษธี รุ กิจเฉพาะ
ข. เงนิ ได๎พงึ ประเมนิ x อัตราภาษธี รุ กจิ เฉพาะ
ค. รายรับจากกิจการ x อตั ราภาษธี รุ กจิ เฉพาะ
ง. ถูกทุกขอ๎
269
พส.12
เฉลยแบบประเมินผลการเรียนรู้หนว่ ยท่ี 7
รหสั 30201-2007 ชือ่ วชิ า การบัญชภี าษีอากร
ช่อื หน่วย การบัญชีภาษธี รุ กิจเฉพาะ
เรื่อง การบัญชภี าษธี รุ กิจเฉพาะ จาํ นวนชวั่ โมงสอน 1 ช่ัวโมง
จงเลือกคําตอบท่ถี ูกต๎องท่ีสดุ เพียงข๎อเดยี ว
1. กิจการใดตอํ ไปนี้ตอ๎ งเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ข. บริษทั ไทยประกนั ชีวติ
2. ข๎อใดคอื ธุรกิจท่ีผ๎ูขายสินค๎าหรือผ๎ูให๎บริการตกลงจะโอนทรัพย์สินที่จะได๎รับจากการชําระหนี้ระหวํางตน
กบั ลูกหน้ีของตนให๎กับผปู๎ ระกอบการ
ข. ธรุ กิจแฟก็ เตอริง
3. กิจการตามข๎อใดได๎รับยกเว๎นไมํตอ๎ งเสยี ภาษธี ุรกิจเฉพาะ
ง. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร
4. ข๎อใดคือลักษณะของบริษัทหรือห๎างห๎ุนสํวนนิติบุคคลต้ังแตํ 2 นิติบุคคลข้ึนไปและถือห๎ุนระหวํางกันไมํ
น๎อยกวาํ รอ๎ ย 25
ข. บริษทั ในเครอื
5. ธนาคาร ธรุ กิจเงนิ ทนุ ธรุ กิจหลักทรพั ย์ ธรุ กจิ เครดิต ฟองซิเอร์ และกจิ การเย่ียงธนาคารพาณิชย์ต๎องชําระ
อตั ราภาษีธุรกิจเฉพาะตามขอ๎ ใด
ค. 3%
6. กจิ การโรงรับจํานาํ ตอ๎ งจํายภาษีธุรกจิ เฉพาะตามอตั ราใด
ข. 2.5%
7. ผป๎ู ระกอบการต๎องยนื่ คาํ ขอจดทะเบยี นภาษธี ุรกจิ เฉพาะภายในกีว่ นั นับแตํวนั เร่ิมประกอบการ
ค. 30 วนั
8. ผู๎ประกอบการจดทะเบยี นภาษีธุรกจิ เฉพาะต๎องชาํ ระภาษีท๎องถนิ่ อกี ร๎อยละเทําใดของภาษธี รุ กิจเฉพาะ
ง. 10%
9. การย่ืนแบบแสดงรายการภาษีธรุ กจิ เฉพาะเปน็ รายเดือนภาษี ภายในก่วี นั ของเดอื นถดั ไป
ข. 15 วนั
10. ภาษธี รุ กิจเฉพาะสามารถคํานวณได๎จากขอ๎ ใด
ก. ฐานภาษี x อตั ราภาษธี รุ กจิ เฉพาะ
270
พส.12
แบบทดสอบทักษะหนว่ ยท่ี 7
รหัส 30201-2007 ชือ่ วชิ า การบัญชภี าษีอากร
ชือ่ หน่วย การบัญชีภาษธี รุ กิจเฉพาะ
เรอื่ ง การบัญชีภาษีธรุ กจิ เฉพาะ จาํ นวนช่ัวโมงสอน 1 ชวั่ โมง
ขอ๎ 1 บรษิ ัท กรุงเทพประกันภัย จํากัด ดาํ เนินงานมากวํา 10 ปี มีรายการค๎าในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561
ดังน้ี
ม.ค. 1 ซ้อื สนิ คา๎ เป็นเงินสด 10,000 บาท
10 ซ้อื เคร่ืองใช๎สาํ นกั งานราคา 52,000 บาท
25 จาํ ยคํานํา้ คําไฟ 6,420 บาท รวมภาษีมลู คําเพิ่มแล๎ว
28 จํายคําใช๎จาํ ยเบด็ เตลด็ 1,000 บาท
29 ขายกรมธรรมใ์ หล๎ กู ค๎า 40,000 บาท
31 จาํ ยคําแรงงาน 12,000 บาท
ใหท๎ าํ คาํ นวณและบันทึกรายการในสมดุ รายวันท่วั ไป
271 พส.12
เฉลยแบบทดสอบทกั ษะหน่วยท่ี 7
รหัส 30201-2007 ช่ือวชิ า การบัญชภี าษอี ากร
ชอื่ หน่วย การบัญชภี าษธี ุรกจิ เฉพาะ
เร่ือง การบัญชีภาษธี รุ กจิ เฉพาะ จํานวนช่วั โมงสอน 1 ช่ัวโมง
ขอ้ 1 การคํานวณและบนั ทกึ บัญชีเป็นดังนี้
พ.ศ. 2550 รายการ เลขท่ี เดบิต เครดิต
เดือน วนั ที่
บญั ชี บาท สต. บาท สต.
ม.ค. 1 เงนิ สด 25,000 -
ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ (25,000 x 2.5%) 625 -
รายไดค๎ ําธรรมเนียม 25,000 -
ภาษีธุรกิจเฉพาะคา๎ งจําย 625 -
ไดร๎ บั คาํ ธรรมเนยี มเบ้ียประกัน
10 เครือ่ งใชส๎ าํ นักงาน 52,000 -
เงินสด 52,000 -
ซ้ือเคร่ืองใชส๎ ํานักงาน
25 คาํ น้ําคาํ ไฟ 6,420 -
เงินสด 6,420 -
จํายคํานาํ้ คาํ ไฟ
28 คาํ ใชจ๎ ํายเบด็ เตล็ด 1,000 -
เงนิ สด 1,000 -
จาํ ยคําใชจ๎ าํ ยเบด็ เตล็ด
29 เงินสด 40,000 -
1,000 -
ภาษีธุรกจิ เฉพาะ(40,000 x 2.5%)
รายไดจ๎ ากการขายกรมธรรม์ 40,000 -
1,000 -
ภาษีธรุ กจิ เฉพาะคา๎ งจาํ ย
ขายกรมธรรม์ใหล๎ ูกคา๎
31 คําแรงงาน 12,000 -
เงินสด 12,000 -
จํายคําแรงงาน
ก.พ. 15 ภาษีธรุ กิจเฉพาะคา๎ งจาํ ย 1,625 -
เงินสด (625 + 1,000) 1,625 -
นาํ สํงภาษีธุรกจิ เฉพาะ
272 พส.13
ใบงาน (Job Sheets)
รหสั 30201-2007 ช่อื วชิ า การบญั ชภี าษอี ากร
ชอ่ื หน่วย การบัญชภี าษธี รุ กิจเฉพาะ
เรื่อง การบัญชภี าษธี รุ กิจเฉพาะ จาํ นวนชั่วโมงสอน 1 ชว่ั โมง
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ รายการเรียนรู้
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เครอ่ื งมือ/วัสดุ-อปุ กรณ์
1. แสดงความรูเ๎ กี่ยวกับการเสียภาษธี รุ กิจเฉพาะใน 1. อุปกรณเ์ ครอ่ื งเขียน
เรื่องของกิจการทตี่ ๎องเสยี ภาษีธรุ กจิ เฉพาะได๎ 2. กระดาษ
2. แสดงความรเ๎ู กีย่ วกบั ฐานภาษีและอัตราภาษใี น
การย่นื แบบแสดงรายการเสยี ภาษธี รุ กิจเฉพาะได๎
3. คาํ นวณภาษีธรุ กิจเฉพาะได๎
4. ปฏิบัติงานไดอ๎ ยํางถกู ตอ๎ ง และสําเรจ็ ภายในเวลา
ทกี่ าํ หนดอยาํ งมเี หตผุ ล และประหยดั ตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
5. กล๎าแสดงความคิดเหน็ อยํางมีเหตผุ ลและรับฟัง
ความคิดเหน็ ของผ๎ูอืน่
6. มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คํานิยม และ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคไ์ ดใ๎ นเรือ่ งความมมี นษุ ย
สัมพันธ์ ความมวี ินยั ความรบั ผิดชอบ ความซ่อื สัตย์
สจุ รติ ความเชื่อมัน่ ในตนเอง การประหยดั ความสนใจ
ใฝุรู๎ ความรักสามัคคี ความกตัญญกู ตเวที และตระหนัก
ถงึ การละเวน๎ จากสิง่ เสพติดและอบายมขุ ท้งั ปวง
273
ลาํ ดับข้นั การทํางาน ข้อควรระวงั
ข้ันที่ 1 ใหผ๎ ูเ๎ รยี นจดั กลมุํ เป็น 7 กลํมุ ๆ ละ 4-5 1. ควรเปดิ โอกาสใหส๎ มาชิกทุกคนได๎แสดงความ
คน โดยความสมัครใจ ผ๎เู รยี นแตํละกลํุมเลือกหัวหนา๎ คดิ เหน็
กลมํุ และเลขานกุ ารกลํมุ 2. รํวมกันพิจารณาและสรปุ ประเด็นใหถ๎ ูกต๎อง
กจิ กรรมท่ีครูมอบหมาย คอื คน๎ ควา๎ ตามหัวข๎อท่ี มอบงาน
กําหนด ดังนี้ 1. ให๎นกั เรียนค๎นคว๎าเพ่ิมเติมจาก Internet เร่อื ง
1. ผูม๎ ีหนา๎ ทเ่ี สียภาษีธรุ กิจเฉพาะ
2. การประกอบกิจการทตี่ ๎องเสยี ภาษีธุรกิจเฉพาะ การบัญชีภาษีมูลคาํ เพ่มิ
3. กิจการทไ่ี มํตอ๎ งเสยี ภาษธี ุรกิจเฉพาะ 2. นําข๎อมูลที่คน๎ คว๎าไดน๎ ําเสนอหน๎าช้นั เรียน ครู
4. ฐานภาษแี ละอตั ราภาษี
5. หนา๎ ท่ีของผปู๎ ระกอบกิจการท่ีตอ๎ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และนกั เรียนรวํ มกันเสนอแนะ
6. การยื่นแบบแสดงรายการภาษีธรุ กิจเฉพาะ
7. การขอคนื ภาษธี ุรกิจเฉพาะ วดั ผล/ประเมนิ ผล
8. กําหนดเวลาในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา๎ รํวมกจิ กรรมกลมํุ
9. การคาํ นวณและการบันทึกบญั ชภี าษธี ุรกิจเฉพาะ
10. สถานทย่ี ่นื แบบแสดงรายการภาษี
ขั้นท่ี 2 ผู๎เรยี นแตํละกลุํมรวํ มกนั คน๎ คว๎าจากสอื่
ตํางๆ พร๎อมเตรียมมาอภปิ รายหน๎าหน๎าชัน้ เรียน โดย
เลอื กวธิ กี ารนําเสนอตามความถนดั โดยใช๎เวลากลํุมละ
ไมํเกิน 10 นาที
ขนั้ ที่ 3 ผเู๎ รยี นแตํละกลํุมประเมนิ ตนเองและ
ประเมินผลกลํมุ อน่ื ๆ โดยใช๎แบบประเมนิ รายบุคคล
ขน้ั ท่ี 4 สํงครผู ส๎ู อนเพ่ือประเมนิ ผล
274
พส.9
แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
เวลารวม 4 ชวั่ โมง
รหสั 30201-2007 ช่ือวิชา การบญั ชีภาษีอากร สัปดาห์ 17/18
ชอื่ หน่วย อากรแสตมป์
เรือ่ ง อากรแสตมป์ จาํ นวน 4 ชั่วโมง
1. สาระสาํ คญั
ตราสารทตี่ อ๎ งเสียอากรแสตมป์ ตามประมวลรัษฎากร หมายถงึ เอกสารที่ต๎องเสียอากรแสตมป์ ตามที่
กาํ หนดไวใ๎ นบัญชีอตั ราอากรแสตมป์ ซ่ึงปัจจุบันมีท้ังหมด 28 ลักษณะตราสาร เชํน ตราสารเชําท่ี กับโรงเรือน
เชาํ ซื้อทรพั ย์สนิ จ๎างทําของ ก๎ูยืมเงิน ฯลฯ อากรแสตมปเ์ ป็นภาษีอากรที่จัดเก็บจากการกระทําตราสาร โดยคํา
วาํ กระทาํ หมายความวํา การลงลายมอื ชื่อตามบทบัญญัตแิ หงํ ประมวลกฎหมายแพงํ และพาณชิ ย์
2. สมรรถนะประจาํ หนว่ ย
2.1 คํานวณอากรแสตมป์ได๎
2.2 น๎อมนาํ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงใช๎ในการปฏบิ ัตงิ านได๎
2.3 แสดงเจตคตแิ ละกิจนสิ ยั ทด่ี ีในการปฏบิ ัติงานด๎วยความซ่อื สตั ยแ์ ละรอบคอบได๎
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 คํานวณอากรแสตมป์ได๎
3.2 ปฏิบตั ิงานไดอ๎ ยํางถูกต๎อง และสําเรจ็ ภายในเวลาที่กําหนดอยํางมีเหตผุ ล และประหยัดตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
3.3 กล๎าแสดงความคิดเหน็ อยาํ งมเี หตุผลและรบั ฟังความคดิ เห็นของผู๎อืน่
3.4 มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คํานิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ได๎ในเรื่องความมีมนุษย
สัมพันธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ความเช่ือม่ันในตนเอง การประหยัด ความสนใจใฝุร๎ู
ความรกั สามคั คี ความกตัญญูกตเวที และตระหนกั ถึงการละเว๎นจากสงิ่ เสพตดิ และอบายมุขท้งั ปวง
4. สาระการเรียนรู้
4.1 หนา๎ ท่ีของผเู๎ สียอากรแสตมป์
4.2 วธิ ีการเสยี ภาษอี ากรแสตมป์
4.3 การขอเสียอากรเป็นตัวเงนิ
4.4 ขอ๎ ยกเวน๎ อากร
4.5 ความรบั ผดิ กรณีไมํปิดแสตมป์บริบรู ณ์และการไมํออกใบรบั
5. การออกแบบการจดั การเรียนรู้ ( เชนํ เพือ่ นชวํ ยเพ่ือน Active learning ฯลฯ )
การออกแบบการจัดการเรียนรู๎ โดยใชว๎ ิธกี าร Active learning
275
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนําเข้าสบู่ ทเรียน
6.1 ผูส๎ อนทบทวนความรเ๎ู ดิมท่ีได๎ศึกษามาแล๎ว เพ่ือใหส๎ ัมพันธ์กับเน้ือหาสาระการเรียนรู๎ใหมํ และ
ประเมนิ ผลโดยการถาม-ตอบ
6.2 แจง๎ ผลการเรียนรท๎ู ่ีคาดหวงั
ขัน้ สอน
6.3 ผู๎สอนอภปิ รายหัวขอ๎ ตามสาระการเรยี นร๎ู
6.4 มอบหมายให๎ผูเ๎ รยี นศึกษาค๎นควา๎ ตามหวั ข๎อสาระการเรียนรท๎ู ุกคน
6.5 ให๎ผเู๎ รียนฝึกปฏบิ ตั ิ และนาํ เสนอผลงานหนา๎ ชนั้ เรยี น และให๎เพ่ือนๆ คนอ่นื แสดงความคิดเห็น
6.6 ผเ๎ู รียนทาํ แบบประเมินผลการเรยี นรูท๎ ๎ายหนํวยเรยี น
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
6.7 ผูส๎ อนและผูเ๎ รียนสรุปสาระสําคัญ โดยการซักถาม และแสดงความคดิ เห็นรวํ มกัน
6.8 ผเ๎ู รียนทําแบบประเมนิ ผลการเรยี นร๎ูทา๎ ยหนวํ ยเรียน
การบรู ณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. ความพอเพียง
1.1 เตรยี มความพร๎อมด๎านวสั ดุ อปุ กรณ์สอดคล๎องกบั งาน ไดอ๎ ยํางถูกต๎องและใชว๎ สั ดุ
อุปกรณ์อยาํ งค๎มุ คาํ ประหยัด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
1.2 ผ๎ูเรียนจัดสรรเวลาในการปฏิบตั งิ านได๎อยาํ งเหมาะสม
2. ความมเี หตผุ ล
2.1 กล๎าแสดงความคิดเห็นอยํางมเี หตุผล
2.2 ใชว๎ สั ดถุ กู ตอ๎ งและเหมาะสมกบั งาน
3. การมีภูมิคุม๎ กันในตัวท่ดี ี
3.1 มกี ารเตรียมความพร๎อมในการเรียนและการปฏบิ ตั ิงาน
3.2 มที ักษะในการปฏบิ ัตงิ าน เขา๎ ใจอยาํ งถูกตอ๎ ง เพื่อการปฏบิ ัตงิ านท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ
3.3 ควบคมุ กริ ยิ าอาการในสถานการณ์ตาํ งๆ ไดเ๎ ป็นอยํางดี
4. เงอ่ื นไขความร๎ู
4.1 มคี วามร๎คู วามเข๎าใจเกีย่ วกับอากรแสตมป์
4.2 มีความร๎ู ความเขา๎ ใจเกย่ี วกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
5. เง่อื นไขคุณธรรม
5.1 ปฏิบตั ิงานทมี่ อบหมายเสร็จภายในกําหนดเวลา
5.2 มีความเพียรพยายาม กระตือรือร๎นในการเรยี นและในขณะปฏบิ ัติงาน
7. บรรยากาศทสี่ ่งเสรมิ และพัฒนาผู้เรยี น
ผูเ๎ รยี นมีความสนใจในการเรียน เนื่องจากการสอนแบบ Active learning ทาํ ใหผ๎ ๎เู รยี นมีความ
กระตือรอื ลน๎ และได๎แสดงความคดิ เหน็ แลกเปลยี่ นความร๎ู สํงผลใหเ๎ กิดผลการเรียนรูท๎ ีด่ ี
276
8. คณุ ธรรม จรยิ ธรรมประจําหน่วย ( เชํน ความรบั ผิดชอบ ตรงตอํ เวลา ความซื่อสตั ย์ ฯลฯ )
ความมีมนุษยสมั พันธ์ท่ีดี ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ความเชื่อมน่ั ในตนเอง การ
ประหยัด ความสนใจใฝรุ ๎ู ความสามคั คี ความกตัญญู ละเว๎นส่งิ เสพติด/การพนัน ความคดิ ริเรมิ่ สรา๎ งสรรค์ การ
พง่ึ ตนเอง ความปลอดภยั ความอดทนอดกลนั้ ความมีคุณธรรม/จรยิ ธรรม และการตรงตํอเวลา
9. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้
9.1 หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชภี าษอี ากร ของสํานักพิมพ์เอมพนั ธ์
9.2 ใบความร๎ู เรือ่ ง อากรแสตมป์
9.3 ใบงาน เร่ือง อากรแสตมป์
9.4 สื่อการสอน Power point เรื่อง อากรแสตมป์
9.5 Internet
10. การวัดผลและประเมนิ ผล ( เชํน แบบทดสอบท๎ายบทเรยี น , แบบทดสอบกํอนเรียน-หลงั เรยี น )
10.1 แบบทดสอบท๎ายบทเรียน เรื่อง อากรแสตมป์
10.2 แบบทดสอบกํอนเรยี น เร่ือง อากรแสตมป์
10.3 แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง อากรแสตมป์
11. หลักฐานการเรยี นรู้
11.1 แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง อากรแสตมป์
11.2 ใบงาน เรื่อง อากรแสตมป์
12. เอกสารอา้ งอิง
มนัสชัย กีรติผจญ. การบัญชีภาษอี ากร. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั สาํ นักพิมพเ์ อมพนั ธ์ จาํ กดั . 2563
277 พส.10
เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการประเมิน
รหัส 30201-2007 ช่ือวชิ า การบัญชีภาษีอากร ท-ป-น 2-2-3
แบบประเมินแบบประมาณค่า (Ratting scale) เกณฑ์การให้คะแนน
5 4 3 21
ประเดน็ การประเมนิ
1. มีการวางแผนงานทดี่ ี
2. สามารถปฏิบตั ิตามแผนงานท่ีได๎วางไว๎
3. สามารถวเิ คราะห์เลอื กได้วา่ ควรจัดทาอยา่ งไรให้ผลงานมีคณุ ภาพ
4. ใชง้ บประมาณในการจดั ทาอย่างประหยัด คุม้ คา่
5. รักษาสิ่งแวดลอ้ มในการปฏบิ ตั งิ าน
6. การปฏิบตั ิตนเปน็ ไปตามจุดประสงค์การเรยี นร๎ู
รวม
รวมท้งั หมด (5 คะแนน+4 คะแนน+3 คะแนน+2 คะแนน+1 คะแนน)
คะแนนรวม (90%)
278
พส.11
บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้
รหัสวิชา.....30201-2007.......ชื่อวิชา.........การบญั ชภี าษอี ากร..................................ระดบั ช้ัน ปวช. ปวส.
สาขางาน..............สบ.1 ปกต,ิ ทวิภาค.ึ ......................สัปดาห์ท.่ี ...17.....วันที่สอน..........................................................
หนํวยที.่ .....8......ชื่อหนวํ ย...........อากรแสตมป์.......................................................................จาํ นวน........4........ช่วั โมง
จาํ นวนผ๎ูเรียน........…....คน มาเรียน...............คน ขาดเรยี น.............คน ลาปวุ ย............คน ลากจิ ..............คน
1. ผลการจัดการเรียนรู้
……………….……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหาและอุปสรรค
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………
……………….………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………
ลงชอื่ .......................................................ครผู ๎ูสอน
(นางสาวนภาพร คงวิจติ ร)
........../................/............
ความเห็น................................................................................. ความเห็น.................................................................................
................................................................................................ ................................................................................................
ลงชอื่ ...............................................หวั หนา๎ แผนกวิชา ลงชอื่ ............................................รองผ๎อู าํ นวยการฝุายวชิ าการ
(นางทพิ วรรณ เหราบตั ย์) (นางสาวนิศากร เจรญิ ดี)
............/................../............ ............/................../............
ความเห็นผูอ๎ าํ นวยการ.................................................................................
....................................................................................................................
ลงชอ่ื ...........................................
(นางสาวสมุ ีนา แดงใจ)
ผ๎อู ํานวยการวทิ ยาลัยการอาชพี นครปฐม
............/................../............
279
พส.12
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัส 30201-2007 ช่ือวิชา การบัญชีภาษีอากร
ชอื่ หน่วย อากรแสตมป์
เรอ่ื ง อากรแสตมป์ จํานวนชั่วโมงสอน 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้ รายการเรียนรู้
- จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. คํานวณอากรแสตมปไ์ ด๎ 1. หน๎าทข่ี องผ๎ูเสยี อากรแสตมป์
2. ปฏิบตั ิงานได๎อยํางถกู ตอ๎ ง และสาํ เร็จภายในเวลา 2. วธิ กี ารเสยี ภาษอี ากรแสตมป์
ทก่ี าํ หนดอยาํ งมเี หตุผล และประหยัดตามหลักปรชั ญา 3. การขอเสียอากรเป็นตัวเงิน
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. ข๎อยกเว๎นอากร
5. ความรับผิดกรณไี มํปิดแสตมป์บริบูรณ์
3. กล๎าแสดงความคดิ เห็นอยํางมเี หตผุ ลและรบั ฟัง และการไมํออกใบรบั
ความคดิ เห็นของผู๎อื่น
4. มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม คาํ นิยม และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ไดใ๎ นเรอื่ งความมมี นษุ ย
สมั พนั ธ์ ความมีวนิ ัย ความรับผิดชอบ ความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ
ความเช่ือมน่ั ในตนเอง การประหยัด ความสนใจใฝรุ ๎ู
ความรักสามัคคี ความกตัญญูกตเวที และตระหนักถึงการ
ละเว๎นจากส่งิ เสพติดและอบายมุขทงั้ ปวง
เนือ้ หาสาระ
อากรแสตมป์
อากรแสตมป์เป็นภาษีตามประมวลรัษฎากรประเภทหน่ึง จัดเก็บจากการกระทํา ตราสาร 28 ลักษณะ
ตามที่กาํ หนดไวใ๎ นบัญชีอตั ราอากรแสตมป์
ตราสารทต่ี อ้ งเสยี อากรแสตมป์
คาํ วาํ “ตราสาร” ตามประมวลรษั ฎากรหมายถึง เอกสารทีต่ ๎องเสียอากรแสตมป์ ตามท่ีกําหนดไว๎ในบัญชี
อัตรา อากรแสตมป์ ซ่ึงปัจจุบันมีท้ังหมด 28 ลักษณะตราสาร เชํน ตราสารเชําที่กับโรงเรือน เชําซ้ือทรัพย์สิน
จ๎างทําของ ก๎ูยืมเงิน ฯลฯ อากรแสตมป์เป็นภาษีอากรท่ีจัดเก็บจากการกระทําตราสาร โดยคําวํา กระทํา
หมายความวาํ การลงลาย มือช่ือตามบทบัญญัติแหํงประมวลกฎหมายแพงํ และพาณชิ ย์
ผมู้ หี นา้ ทเี่ สยี อากรแสตมป์
1. บุคคลตามท่ีระบุไว๎ในชํองที่ 3 ของบัญชีอัตราอากรแสตมป์ เชํน ผู๎ให๎เชําผ๎ูโอน ผู๎ให๎กู๎ ผู๎รับประกันภัย
ฯลฯ
280
2. ถ๎าตราสารทําข้ึนนอกประเทศ ให๎เป็นหน๎าท่ีของผู๎ทรงตราสารคนแรกในประเทศเป็น ผ๎ูเสียอากร
ภายใน 30 วนั นับแตํวนั ทีไ่ ดร๎ บั ตราสารนั้น
ถ๎าหากไมํได๎ปฏิบัติตามความข๎างต๎น ผ๎ูทรงคนใดคนหนึ่งต๎องเสียอากรแล๎วจึงย่ืนตราสารเพื่อให๎จํายเงิน
รับรอง สลักหลงั โอนหรือถือเอาประโยชนไ์ ด๎
ผทู๎ รงตราสารคนใด ได๎ตราสารตามความขา๎ งตน๎ ไว๎ในครอบครองกอํ นพน๎ กาํ หนด 30 วัน นับแตํวันท่ีได๎รับ
ตราสารนั้น จะเป็นผู๎เสียอากรกไ็ ดโ๎ ดยมีสิทธิไลเํ บ้ยี จากผูท๎ รงคนกํอนๆ
3. ตั๋วเงินท่ียื่นให๎ชําระเงิน มิได๎ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ผ๎ูรับตั๋วจะเสียอากรและใช๎สิทธิไลํเบ้ียจาก ผู๎มีหน๎าท่ี
เสียอากร หรือหักคําอากรจากเงนิ ที่จะชําระกไ็ ด๎
4. ผม๎ู หี น๎าท่ีเสยี อากร ตามที่ระบุไว๎ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ อาจตกลงให๎คํูกรณีอีกฝุายหนึ่ง เป็นผู๎เสีย
อากรแทนตนก็ได๎ เวน๎ แตกํ รณตี าม 2
วธิ ีการเสียอากร
วธิ ีการเสยี อากรแสตมปส์ ําหรับการทาํ ตราสาร เรียกวาํ “ปิดแสตมป์บรบิ รู ณ์” ซ่งึ หมายความวํา
1. ในกรณีแสตมป์ปิดทับ คือการได๎เสียอากรโดยปิดแสตมป์ทับกระดาษกํอนกระทําหรือใน ทันทีท่ี
ทําตราสารเป็นราคาไมนํ อ๎ ยกวาํ อากรทตี่ ๎องเสียและได๎ขีดฆําแสตมปน์ ัน้ แลว๎ หรือ
2. ในกรณีแสตมป์ดุน คือการได๎เสียอากรโดยใช๎กระดาษมีแสตมป์ดุนเป็นราคาไมํน๎อยกวํา อากรที่
ต๎องเสยี และขดี ฆําแล๎ว หรอื โดยยื่นตราสารใหพ๎ นักงานเจ๎าหนา๎ ท่ปี ระทบั แสตมป์ดุน และชําระเงินเป็นจํานวน
ไมํนอ๎ ยกวาํ อากรท่ีต๎องเสียและขดี ฆําแลว๎ หรอื
3. ในกรณีชําระเป็นตัวเงิน คือการได๎เสียอากรเป็นตัวเงิน เป็นราคาไมํน๎อยกวําอากรท่ีต๎องเสียตาม
บทบัญญัตใิ นหมวดอากรแสตมป์ หรือตามระเบียบทีอ่ ธิบดจี ะได๎กําหนดโดยอนุมัติรฐั มนตรี
การปิดแสตมป์บริบูรณ์ตามข๎อ 1. และ 2. ดังกลําวข๎างต๎น อธิบดีมีอํานาจสั่งให๎ปฏิบัติตาม ที่กําหนดใน
ข๎อ 3. แทนได๎ คือ กําหนดให๎เสียอากรเป็นตัวเงิน เชํน กรณีตั๋วแลกเงิน เช็ค ใบรับรางวัลฉลากกินแบํง ใบรับ
เกย่ี วกับ อสงั หารมิ ทรัพย์ ใบรับเกยี่ วกับยานพาหนะ ตราสารต๋ัวสัญญาใช๎เงินเฉพาะที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัท
เครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู๎ออกต๋ัว จ๎างทําของ เฉพาะที่รัฐบาล องค์การของรัฐบาลเป็นผ๎ูวําจ๎างและมีสินจ๎าง
ตั้งแตํ 200,000 บาทข้ึนไป ก๎ูยืมเงินหรือการตกลงให๎เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร กรมธรรม์ประกันภัย ตั๋ว
สญั ญาใชเ๎ งนิ เลตเตอร์ออฟเครดติ ฯลฯ
การขอเสียอากรเปน็ ตัวเงนิ
การขอเสียอากรเป็นตัวเงิน ก็เพื่อความสะดวกในการเสียอากร ที่มีคําอากรแสตมป์เป็นจํานวนมาก ไมํ
สะดวกในการใชด๎ วงแสตมป์อากรปิดบนตราสารหรือในกรณีไมํสะดวกในการชําระคําอากร โดยใช๎แสตมป์ดุน
การขอเสยี อากรเป็นตัวเงิน ปฏิบตั ดิ งั น้ี
(1) การขอเสียอากรเป็นตัวเงิน ใช๎แบบ อ.ส.4 (แบบขอและอนุมัติให๎เสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน)ยื่นตํอ
พนกั งาน เจ๎าหน๎าท่ีอากรแสตมป์ โดยแนบตราสารท่ีขอเสียอากรไปด๎วย ใหย๎ ่นื ตอํ สํานกั งานสรรพากรอําเภอ
(2) สาํ หรับตราสารท่เี ป็น
(2.1) ต๋วั แลกเงินหรือตราสารทํานองเดยี วกนั ท่ใี ช๎อยํางตว๋ั แลกเงินเฉพาะที่ธนาคารประกอบกิจการ ใน
ราชอาณาจกั รเป็นผู๎ส่ังจาํ ย ตามลักษณะแหงํ ตราสาร 9(1) และใบรับฝากเงินประเภท ประจาํ ของธนาคารโดย
281
มี ดอกเบยี้ ตามลกั ษณะแหํงตราสาร 13
(2.2) เชค็ ทอ่ี อกในราชอาณาจักร ตามลกั ษณะแหํงตราสาร 12
(2.3) เช็คสาํ หรบั ผ๎เู ดินทางทอ่ี อกหรือจําหนาํ ยในราชอาณาจกั ร ตามลักษณะแหํงตราสาร 15 มี
วธิ กี ารเสยี อากรเป็นตวั เงนิ ดังนี้
- ตราสารตามข๎อ (2.1) ให๎ธนาคารผ๎ูสั่งจํายหรือผ๎ูรับฝาก แล๎วแตํกรณีชําระอากรเป็นตัวเงิน แทน
การปิดแสตมป์
- ตราสารตามขอ๎ (2.2) และ (2.3) ให๎ผู๎สั่งจาํ ยหรอื ผทู๎ รงคนแรกชาํ ระอากรเป็นตัวเงินแทน การปิด
แสตมป์ โดยชําระไวต๎ อํ ธนาคาร
- ตราสารตามขอ๎ (2.3) ที่ธนาคารเป็นผอ๎ู อก ให๎ธนาคารชาํ ระอากรเป็นตัวเงนิ แทน การปดิ แสตมป์
- ธนาคารผู๎ชําระเงินหรือรับชําระเงินคําอากร ที่มีสํานักงานต้ังอยูํในเขตกรุงเทพมหานคร นําเงิน
คําอากรทมี่ ีหน๎าท่ตี อ๎ งชาํ ระ หรอื ได๎รับชําระไว๎ไปยน่ื ขอชาํ ระตํอพนกั งานเจ๎าหน๎าที่ อากรแสตมป์ ณ สํานักงาน
สรรพากรอําเภอ โดยใช๎แบบ อ.ส.4ก (แบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสําหรับตราสารเช็คหรือต๋ัวแลกเงิน)
พร๎อมชําระเงิน สํวนธนาคารท่ีมีสํานักงานต้ังอยูํในท๎องที่นอกเขตกรุงเทพมหานคร ให๎ยื่นชําระเงิน ณ
สาํ นกั งานสรรพากรอาํ เภอ หรือก่งิ อาํ เภอทอ๎ งที่
(3) ใบรบั สาํ หรบั การโอนหรือกอํ ตั้งสทิ ธใิ ดๆ เกีย่ วกับอสงั หารมิ ทรพั ยใ์ นเมื่อนิติกรรมท่ีเป็นเหตุให๎ ออกใบ
รบั นั้นมีการจดทะเบยี นตามกฎหมาย ตามลักษณะแหํงตราสาร 28(ข) ให๎ชําระคําอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน ตํอ
พนักงานเจา๎ หน๎าท่ีผู๎รับจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม (กรมท่ดี ิน)
(4) ใบรับเงินรางวัลสลากกินแบํงรัฐบาล กําหนดให๎ชําระอากรเป็นตัวเงินตํอสํานักงานสลากกินแบํง
รัฐบาล
การขดี ฆ่าอากร
คําวํา “ขีดฆํา” หมายความวํา การกระทําเพ่ือมิให๎ใช๎แสตมป์ได๎อีก โดยในกรณีแสตมป์ปิดทับ ได๎ลง
ลายมือชื่อหรือลงชื่อห๎างร๎านบนแสตมป์ หรือขีดเส๎นครํอมฆําแสตมป์ที่ปิดทับกระดาษ และลงวัน เดือน ปี ท่ี
กระทําส่ิงเหลําน้ีด๎วย ในกรณีแสตมป์ดุนได๎เขียนบนตราสารหรือย่ืนตราสารให๎พนักงานเจ๎าหน๎าที่ประทับ
แสตมป์ดนุ ใหแ๎ สตมปป์ รากฏอยํใู นด๎านหน๎าของตราสารน้นั
การยกเวน้ อากร
1. ยกเวน้ อากรตามประมวลรษั ฎากร
(1) ตราสารที่ระบุยกเว๎นในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ เชํน ตราสารกู๎ยืมเงิน ให๎ยกเว๎นไมํต๎องเสียอากร
สําหรับการกู๎ยืมซึ่งสมาชิกกู๎ยืมจากสหกรณ์ ตราสารใบรับ ให๎ยกเว๎นสําหรับจํานวนเงินที่ผู๎รั บต๎องเสีย
ภาษีมูลคําเพิ่ม หรอื ภาษีธุรกจิ เฉพาะ ฯลฯ
(2) ยกเว๎นตามมาตรา 121 ถ๎าฝาุ ยทต่ี ๎องเสยี อากรเป็น
- รัฐบาล
- เจ๎าพนักงานผ๎กู ระทํางานของรฐั บาลโดยหนา๎ ที่
- บคุ คลผก๎ู ระทําการในนามของรัฐบาล
- องค์บรหิ ารราชการสวํ นทอ๎ งถิ่น
282
- สภากาชาดไทย
- วดั วาอาราม
- องคก์ ารศาสนาใดๆ ในราชอาณาจกั ร ซ่ึงเปน็ นิตบิ ุคคล
แตขํ ๎อยกเว๎นไมํตอ๎ งเสยี อากรนี้ มิใหใ๎ ชแ๎ กอํ งคก์ ารของรัฐบาลท่ีใชท๎ ุนหรือทนุ หมุนเวียน เพื่อ
ประกอบการพาณชิ ย์ หรอื การพาณชิ ย์ซง่ึ องคก์ ารบริหารราชการสวํ นทอ๎ งถ่นิ เปน็ ผ๎ูจดั ทาํ
2. ยกเว้นตามพระราชกฤษฎกี า
ยกเว๎นอากรให๎แกํ
- ธนาคารแหํงประเทศไทย
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร
- ผู๎ประกอบการขนสงํ เฉพาะการรบั เงนิ ที่เปน็ คํารบั ขนสงํ คนโดยสาร
- บรรษัทเงนิ ทุนอุตสาหกรรมแหงํ ประเทศไทย
- ผค๎ู าํ้ ประกัน เฉพาะการคํ้าประกันหน้ีเน่ืองแตํการที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร
ให๎กูย๎ ืมหรอื ใหย๎ มื
- ผอ๎ู อกใบรบั เฉพาะการรับเงนิ ทธ่ี นาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรให๎กูย๎ ืมหรอื ให๎ยืม
- การเคหะแหงํ ชาติ
- ผู๎โอน เฉพาะโอนหลักทรัพยจ์ ดทะเบียน หรือหลักทรัพย์รับอนุญาตท่ีตลาดหลักทรัพย์ แหํงประเทศ
ไทย เปน็ นายทะเบียนสําหรับการโอนหลกั ทรพั ยน์ น้ั
- ผูท๎ ีต่ ๎องเสยี อากรสาํ หรบั ตราสารทีต่ ๎องเสียคําอากรแสตมป์ไมํถึงหน่ึงบาท หรือตราสารท่ีคํานวณ คํา
อากรแสตมปแ์ ล๎ว ต๎องเสยี อากรแสตมป์ต้งั แตหํ น่งึ บาทขน้ึ ไป เฉพาะสวํ นทเ่ี ป็นเศษของบาท
- ผ๎ูโอน เฉพาะการโอนพันธบัตรธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่ธนาคารแหํงประเทศไทยเป็น นาย
ทะเบยี นสําหรบั การโอนพนั ธบัตรนั้น
- ยกเวน๎ อากรแสตมปส์ ําหรับตราสารใบรบั ซงึ่ สภาสังคมสงเคราะห์แหํงประเทศไทยและองค์การกุศล
สาธารณะอื่นที่เป็นนิติบคุ คล ซง่ึ มวี ัตถปุ ระสงค์ทาํ นองเดียวกันเปน็ ผ๎ูออก
- ยกเว๎นภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร แกํบุคคลตามข๎อผูกพันท่ีประเทศไทยมีอยํูตามสัญญา วํา
ดว๎ ยความรวํ มมือทางเศรษฐกจิ หรอื ทางเทคนิคระหวํางรัฐบาลไทยหรือรัฐบาลตาํ งประเทศ
- ยกเว๎นบรรดารัษฎากรประเภทตาํ ง ๆ ทเี่ รยี กเกบ็ ตามประมวลรษั ฎากร ให๎แกํ
(ก) องค์การสหประชาชาติ ทบวงการชํานัญพิเศษของสหประชาชาติและเจ๎าหน๎าท่ี หรือ
ผู๎เช่ียวชาญ ขององค์การ หรือทบวงการดังกลําว ซ่ึงปฏิบัติหน๎าที่อยูํในประเทศไทย ในเม่ือประเทศไทย มีข๎อ
ผกู พนั ให๎ยกเวน๎ ตามอนสุ ญั ญา หรอื ความตกลง
(ข) สถานเอกอัคราชทูต สถานทูต สถานกงสุลใหญํ สถานกงสุล บุคคลในคณะทูต บุคคลในคณะ
กงสลุ และบคุ คลทถ่ี ือวําอยํใู นคณะทูตตามความตกลง ทงั้ นใ้ี ห๎เป็นไปตามหลักถอ๎ ยที ถอ๎ ยปฏบิ ตั ติ อํ กัน
- ผโ๎ู อนห๎ุนในศูนยซ์ อื้ ขายหลกั ทรัพย์ตามกฎหมายวําด๎วยหลักทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์
- รฐั วสิ าหกิจ เฉพาะการกระทําตราสารอนั เนอื่ งมาจากการนาํ ทนุ บางสวํ นหรือทง้ั หมดมาเปล่ียน
283
สภาพ เป็นของบริษทั จํากดั หรือบรษิ ัท มหาชน จํากัด ตามกฎหมายวําด๎วยทุนรัฐวิสาหกจิ
- อนุญาโตตุลาการ เฉพาะตราสารคาํ ชีข้ าดของอนญุ าโตตุลาการ
3. ยกเวน้ ตามคาํ สัง่ ของหวั หนา้ คณะปฏวิ ตั ิที่ 79/2515
กําหนดให๎ยกเว๎นภาษอี ากรตามประมวลรัษฎากร ให๎แกํบริษัท หรือห๎างหุ๎นสํวนนิติบุคคลที่ต้ังข้ึนตาม
กฎหมาย ของสหรัฐอเมรกิ า ซ่งึ เป็นคูํสัญญากับรฐั บาลสหรฐั อเมริกา ในการเขา๎ มาประกอบกจิ การเกี่ยวกับงาน
บํารุง รักษายุทธปัจจัย และงานท่ีเกี่ยวข๎องในราชอาณาจักร อันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาท่ีบริษัทหรือห๎าง
หน๎ุ สวํ นนติ ิบคุ คลนั้น ไดท๎ าํ ไว๎กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ตามโครงการทรี่ ฐั บาลไทยเห็นชอบดว๎ ย และบริษัท หรือ
ห๎างหุ๎นสวํ นนิติบคุ คลนนั้ ไมํได๎ประกอบกจิ การอืน่
4. ยกเวน้ ตามกฎหมายอ่ืน ๆ
มีการยกเว๎นอากรแสตมปโ์ ดยกฎหมายทจี่ ัดต้งั นิติบุคคลนนั้ เชนํ
- พ.ร.บ. จัดทรพั ย์สินฝุายพระมหากษัตรยิ ์
- พ.ร.บ. ธนาคารออมสนิ
- พ.ร.บ. การทําเรอื แหงํ ประเทศไทย
- พ.ร.บ. การรถไฟแหงํ ประเทศไทย
- พ.ร.บ. องคก์ ารโทรศพั ทแ์ หงํ ประเทศไทย
- พ.ร.บ. กองทนุ สงเคราะหก์ ารทําสวนยาง
- พ.ร.บ. ลกู เสอื
การลดอากร
ตามประกาศของคณะปฏิวัติ (ฉบับที่ 155) ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2515 ลดคํา อากรแสตมป์สําหรับตรา
สารกรมธรรมป์ ระกนั ชวี ติ โดยถ๎าคาํ อากรมจี าํ นวนสงู กวํา 20 บาท ให๎ลดเหลือ 20 บาท
ความรบั ผดิ กรณีไม่ปิดแสตมปบ์ รบิ ูรณแ์ ละการไม่ออกใบรบั
1. ความรับผดิ ทางแพง่
1.1 กรณีย่ืนตราสารขอเสียอากรเอง ตราสารใดมิได๎ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ผู๎มีหน๎าที่เสียอากร หรือผู๎ทรง
ตราสาร หรือผู๎ถือเอาประโยชน์ชอบท่ีจะย่ืนตราสารนั้น ตํอพนักงานเจ๎าหน๎าท่ี เพ่ือขอเสียอากรได๎ เมื่อ
พนักงานเจ๎าหนา๎ ที่ได๎รับตราสารแลว๎ ให๎อนมุ ัตใิ ห๎เสยี อากรภายในบังคับแหํงบทบญั ญัตติ ํอไปน้ี
ถ๎าตราสารที่มิได๎ปิดแสตมป์บริบูรณ์น้ัน เป็นตราสารท่ีกระทําขึ้นในประเทศไทย เมื่อผ๎ูขอเสีย
อากร ได๎ยื่นตราสารนั้นตอํ พนกั งานเจ๎าหน๎าที่เพื่อเสียอากรภายใน 15 วัน นับแตํวันท่ีต๎อง ปิดแสตมป์บริบูรณ์
กใ็ ห๎อนมุ ตั ใิ หเ๎ สียเพียงอากรตามอัตราในบัญชีท๎ายหมวดอากรแสตมป์
1.2 กรณีปรากฏตํอพนักงานเจ๎าหน๎าที่เป็นอยํางอ่ืน ก็ให๎อนุมัติให๎เสียอากรและให๎เรียกเก็บ เงินเพ่ิม
อากร ดงั ตํอไปนอี้ กี ดว๎ ย
(ก) ถ๎าปรากฏตํอพนักงานเจ๎าหน๎าที่วําตราสารมิได๎ปิดแสตมป์บริบูรณ์เป็นเวลา ไมํพ๎น
กําหนด 90 วัน นับแตํวันต๎องปิดแสตมป์บริบูรณ์ให๎เรียกเก็บเงินเพิ่มอากรเป็น 2 เทําจํานวน อากรหรือเป็น
เงิน 4 บาท แล๎วแตํอยํางใดจะมากกวาํ
(ข) ถา๎ ปรากฏตอํ พนกั งานเจ๎าหนา๎ ทว่ี าํ ตราสารมไิ ด๎ปิดแสตมปบ์ รบิ ูรณเ์ ปน็ เวลาพน๎
284
กําหนด 90 วัน นับแตํวันต๎องปิดแสตมป์บริบูรณ์แล๎วให๎เรียกเก็บเงินเพิ่มอากรเป็น 5 เทําจํานวน อากรหรือ
เป็นเงิน 10 บาทแลว๎ แตํอยาํ งใดจะมากกวาํ
1.3 กรณีพนักงานเจ๎าหน๎าที่หรือนายตรวจทําการตรวจพบ กลําวคือเมื่อมีเหตุสมควรพนักงาน
เจ๎าหน๎าท่ีหรือนายตรวจมีอํานาจเข๎าไปในสถานการค๎าหรือสถานที่ที่เกี่ยวข๎องระหวําง พระอาทิตย์ข้ึน พระ
อาทติ ยต์ ก หรือในเวลาทาํ การของสถานการค๎าหรือสถานท่ีน้ัน เพื่อทําการตรวจสอบตราสารวําได๎ปิดแสตมป์
บรบิ ูรณ์ตาม ท่ีกาํ หนดในบัญชีอตั ราอากรแสตมป์หรือไมํ หรือทาํ การตรวจสอบเพอ่ื ทราบวําได๎ออกใบรบั หรอื
ทําหรือ เก็บต๎นขั้วสําเนาใบรับ หรือทําหรือเก็บบันทึกตามท่ีกําหนดไว๎ในหมวดอากรแสตมป์ หรือไมํกับมี
อํานาจ เรียกและยึดตราสาร หรอื เอกสารและออกหมายเรยี กตวั ผมู๎ หี น๎าทเ่ี สียอากร ผู๎ทรงตราสารหรือผ๎ูถือเอา
ประโยชน์แหํง ตราสารและพยานหลักฐานอ่ืนอันควรแกํเร่ืองมาไตํสวน โดยการกลําวหาแจ๎งความของบุคคล
ใด ไมํวําจะเปน็ เจา๎ พนกั งานรฐั บาลหรือมิใชํก็ดี ถา๎ ปรากฏวาํ
(1) มิได๎มีการออกใบรับในกรณีที่ต๎องออกใบรับตามข๎อ 2 ให๎พนักงานเจ๎าหน๎าที่มีอํานาจเรียกเก็บ
เงินอากรจนครบ และเงินเพิ่มอากรอีกเป็นจํานวน 6 เทําของเงินอากรหรือเป็นเงิน 25 บาท แล๎วแตํอยํางใด
จะมากกวาํ
(2) ตราสารมิได๎ปิดแสตมปบ์ ริบรู ณ์ โดย
(ก) มิได๎ปิดแสตมป์เลย ให๎พนักงานเจ๎าหน๎าท่ีมีอํานาจเรียกเก็บเงินอากรจนครบ และเงินเพิ่ม
อากรอีกเปน็ จํานวน 6 เทํา ของเงนิ อากรทต่ี อ๎ งเสียหรือเป็นเงนิ 25 บาท แลว๎ แตํอยํางใดจะมากกวํา
(ข) ปิดแสตมป์น๎อยกวําอากรท่ีต๎องเสีย ให๎พนักงานเจ๎าหน๎าที่มีอํานาจเรียกเก็บเงิน อากรจน
ครบ และเงนิ เพิ่มอกี เป็นจาํ นวน 6 เทาํ ของเงนิ อากรท่ีขาดหรอื เป็นเงนิ 25 บาท แลว๎ แตอํ ยาํ งใดจะมากกวํา
ในกรณีอ่ืน ให๎พนักงานเจ๎าหน๎าที่มีอํานาจเรียกเก็บเงินเพ่ิมอากรเป็นจํานวน 1 เทําของเงิน
อากร ทีต่ ๎องเสยี หรือเปน็ เงนิ 25 บาท แลว๎ แตํอยาํ งใดจะมากกวาํ
2. ความรบั ผิดทางอาญา
2.1 ผ๎ูใดมีหน๎าที่เสียอากร หรือขีดฆําแสตมป์ เพิกเฉยหรือปฏิเสธไมํเสียอากรหรือไมํขีดฆําแสตมป์
ตอ๎ งระวางโทษปรับไมเํ กินห๎าร๎อยบาท
2.2 ผ๎ูใดออกใบรับไมํถึง 10 บาท สําหรับมูลคําต้ังแตํ 10 บาทข้ึนไป หรือแบํงแยกมูลคําท่ีได๎รับชําระ
น้ัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียอากรก็ดี จงใจกระทําหรือทําตราสารให๎ผิดความจริงเพ่ือหลีกเล่ียงไมํปฏิบัติตาม
บทบญั ญัติแหงํ หมวดนก้ี ด็ ี มีความผดิ ต๎องระวางโทษปรับไมเํ กนิ สองรอ๎ ยบาท
2.3 ผู๎ใดไมํทําหรือไมํเก็บบันทึกตามมาตรา 105 ตรี หรือไมํออกใบรับให๎ทันทีที่ถูกเรียกร๎องตาม
มาตรา 106 (ข๎อ 2.2) หรอื ออกใบรบั ซ่งึ ไมํปดิ แสตมป์ตามจาํ นวนอากรทีต่ ๎องเสีย ต๎องระวางโทษปรับไมํเกินห๎า
ร๎อยบาท
2.4 ผู๎ใดโดยตนเองหรือสมคบกับผู๎อื่นทําให๎ไมํมีการออกใบรับหรือไมํออกใบรับให๎ทันทีที่รับเงิน หรือ
รบั ชาํ ระราคาตามมาตรา 105 (ข๎อ 2.1) หรอื ออกใบรับเป็นจํานวนเงนิ น๎อยกวํา ท่รี ับเงินหรือรับชําระราคาจริง
ตอ๎ งระวางโทษปรับไมํเกนิ หา๎ ร๎อยบาท หรือจาํ คุกไมํเกินหนงึ่ เดอื นหรอื ทัง้ ปรับทัง้ จํา
2.5 ผ๎ใู ดโดยร๎อู ยแํู ลว๎ ไมอํ าํ นวยความสะดวกแกํพนกั งานเจ๎าหน๎าทหี่ รือนายตรวจในการปฏิบตั ิตาม
285
หน๎าท่ี หรือโดยร๎ูอยูํแล๎วหรือจงใจไมํปฏิบัติตามคําเรียกหรือไมํยอมให๎ยึดตราสารหรือ เอกสาร หรือไมํปฏิบัติ
ตามหมายของพนักงานเจ๎าหน๎าท่ีหรือนายตรวจ ตามความในมาตรา 123 หรือไมํยอมตอบคําถามเมื่อซักถาม
หรือฝุาฝืนบทบัญญัติมาตรา 105 ทวิ (ข๎อ 3) มาตรา 105 จัตวา (ข๎อ 5) หรือมาตรา 123 ทวิ มีความผิดต๎อง
ระวางโทษปรับไมเํ กนิ ห๎าร๎อยบาท
2.6 ผู๎ใดโดยเจตนาทุจริตมีแสตมป์ซ่ึงร๎ูอยํูวําเป็นแสตมป์ปลอมก็ดี หรือค๎าแสตมป์ที่ใช๎แล๎วหรือที่มี
กฎกระทรวง ประกาศให๎เลิกใช๎เสียแล๎วก็ดี ผ๎ูนั้นมีความผิดต๎องระวางโทษปรับไมํเกินห๎าพันบาทหรือจําคุกไมํ
เกนิ สามปหี รือทัง้ ปรับทง้ั จาํ
. ข้อเสยี ของตราสารทีม่ ิไดป้ ดิ แสตมป์บริบูรณ์
ตราสารใดไมํปดิ แสตมปบ์ รบิ ูรณ์ จะใช๎ต๎นฉบบั คํฉู บบั คูฉํ ีก หรือสําเนาตราสารน้นั เป็นพยานหลักฐาน ใน
คดีแพํงไมํได๎ จนกวําจะได๎เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจํานวนอัตราในบัญชีท๎าย หมวดอากรแสตมป์ และขีด
ฆาํ แลว๎ แตทํ ้ังน้ีไมํเป็นการเส่ือมสทิ ธทิ ีจ่ ะเรยี กเงนิ เพมิ่ อากร
นอกจากนั้นกฎหมายยังห๎ามเจ๎าพนักงานรัฐบาลลงนามรับรู๎ ยอมให๎ทําหรือบันทึกส่ิงใด ๆ ในตราสาร
ดังกลาํ วดว๎ ย จนกวําจะไดม๎ ีการเสียอากรให๎ครบถ๎วนเสยี กอํ น
การขอคืนเงินอากร
ผ๎ูใดเสียคําอากรหรือคําเพ่ิมอากรเกินไปไมํน๎อยกวํา 2 บาท สําหรับตราสารลักษณะเดียวหรือเรื่องเดียว
ผูน๎ น้ั ชอบที่จะทําคาํ รอ๎ งเปน็ หนงั สือยืน่ ตอํ พนักงานเจ๎าหน๎าที่ เม่ืออธิบดีเห็นวําเกินไปจริงก็ให๎คืน คําอากรหรือ
คําเพิ่มอากรที่เกินไปนั้นให๎แกํผ๎ูเสียอากรได๎ แตํคําร๎องที่กลําวน้ันต๎องยื่นภายใน 6 เดือน นับแตํวันเสียอากร
หรือคําเพ่ิมอากรและต๎องประกอบด๎วยคําชี้แจงหรือเอกสาร ซ่ึงพนักงานเจ๎าหน๎าท่ีหรือ อธิบดีเห็นสมควรให๎
ยืน่ สนับสนนุ คํารอ๎ ง
แบบฝึกหัด/คําถาม/ปัญหา
1. จงบอกหน๎าทขี่ องผ๎มู ีหนา๎ ที่เสยี อากรแสตมป์ มาประกอบ 2 ขอ๎
2. “แสตมป์ปิดทับ” หมายถึงอะไร
3. “แสตมป์ดุน” หมายถงึ อะไร
4. จงอธบิ าย “การขดี ฆําอากร” มาใหเ๎ ข๎าใจ
5. จงยกตัวอยาํ งการยกเว๎นอากรตามประมวลรษั ฎากรมาประกอบ 2 ขอ๎
6. จงยกตัวอยาํ งการลดอากรแสตมป์สาํ หรบั ตราสารกรมธรรม์ประกันชีวติ
7. ความรบั ผดิ ทางแพํงในกรณที ี่มิได๎ปดิ แสตมป์เลย ต๎องปฏบิ ตั ิอยาํ งไรบ๎าง
8. ความรับผดิ ทางอาญา ผ๎ใู ดเจตนาทุจรติ มแี สตมป์ปลอมไว๎ เพื่อการค๎าตอ๎ งระวางโทษอยาํ งไรบ๎าง
9. การขอคืนเงนิ อากร ต๎องปฏบิ ตั ิอยํางไรบา๎ ง
10. ลักษณะแหํงตราสารการเชําซื้อทรัพย์สิน: ทุกจํานวนเงิน 1,000 บาทหรือเศษของเงิน 1,000 บาท
แหํงราคาทั้งหมด ยกเว๎นเชําซื้อทรัพย์สินใช๎ในการทํานา ไรํ สวนไมํต๎องเสียอากร ต๎องชําระอากรอยํางไร
บา๎ ง
286
เฉลยคาํ ตอบ
1. ผ๎มู หี น๎าท่เี สยี อากรแสตมป์ มดี ังน้ี
1. บุคคลทรี่ ะบุไวใ๎ นชอํ งที่ 3 ของบญั ชอี ตั ราอากรแสตมป์
2. ถา๎ ตราสารทําขน้ึ นอกประเทศ ให๎ผ๎ูทรงตราสารคนแรกในประเทศเป็นผเ๎ู สียอากร
2. แสตมป์ปดิ ทับ หมายถึงการเสียอากรโดยปดิ แสตมป์ทบั กระดาษกํอนกระทําหรือในทันทีที่ทําตราสาร
เปน็ ราคาไมนํ ๎อยกวําอากรทต่ี อ๎ งเสียและได๎ขีดฆาํ แสตมป์นน้ั แลว๎
3. แสตมป์ดุน หมายถึงการเสียอากรโดยใช๎กระดาษมีแสตมป์ดุนเป็นราคาไมํน๎อยกวํา อากรท่ีต๎องเสีย
และขีดฆําแล๎ว หรือโดยย่ืนตราสารให๎พนักงานเจ๎าหน๎าที่ประทับแสตมป์ดุน และชําระเงินไมํน๎อยกวําอากรที่
ตอ๎ งเสยี และขดี ฆําแลว๎
4. การขีดฆําอากร หมายถึง การกระทําเพ่ือมิให๎ใช๎แสตมป์ได๎อีก โดยในกรณีแสตมป์ปิดทับได๎ลงลายมือ
ช่ือหรือลงช่ือห๎างร๎านบนแสตมป์ หรือขีดเส๎นครํอมฆําแสตมป์ท่ีปิดทับกระดาษ และลงวัน เดือน ปี ท่ีกระทําส่ิง
เหลาํ นี้ด๎วย ในกรณแี สตมป์ดุนได๎เขียนบนตราสารหรือยื่นตราสารให๎พนักงานเจ๎าหน๎าที่ประทับแสตมป์ดุน ให๎
แสตมปป์ รากฏอยใํู นด๎านหน๎าของตราสารนนั้
5. การยกเวน๎ อากรตามประมวลรัษฎากร ประกอบด๎วย
(1) ตราสารที่ระบุในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ เชํน ตราสารกู๎ยืมเงิน ให๎ยกเว๎นสมาชิกกู๎ยืมจาก
สหกรณ์ ตราสารใบรับ ให๎ยกเวน๎ สําหรบั จํานวนเงินท่ีผูร๎ ับต๎องเสียภาษมี ูลคาํ เพิ่ม หรอื ภาษธี ุรกิจเฉพาะ ฯลฯ
(2) ยกเว๎นตามมาตรา 121 ถ๎าฝุายที่ต๎องเสียอากรเป็นรัฐบาล เจ๎าพนักงานผ๎ูกระทํางานของรัฐบาล
แตํข๎อยกเว๎นน้ี มิให๎ใช๎แกํองค์การของรัฐบาลที่ใช๎ทุนหรือทุนหมุนเวียนเพื่อประกอบการพาณิชย์ หรือการ
พาณชิ ยซ์ ่งึ องคก์ ารบรหิ ารราชการสํวนทอ๎ งถิ่นเป็นผูจ๎ ดั ทํา
6. การลดคําอากรแสตมป์สําหรับตราสารกรมธรรม์ประกันชีวิต เชํนคําอากรมีจํานวนสูงกวํา 20 บาท
ใหล๎ ดเหลอื 20 บาท
7. ให๎พนักงานเจ๎าหน๎าที่มีอํานาจเรียกเก็บเงินอากรจนครบ และเงินเพิ่มอากรอีกเป็นจํานวน 6 เทํา
ของเงนิ อากรทีต่ ๎องเสยี หรอื เปน็ เงิน 25 บาท แลว๎ แตํอยาํ งใดจะมากกวาํ
8. ผู๎ใดเจตนาทุจริตมีแสตมป์ปลอมไว๎ เพื่อการค๎าต๎องระวางโทษปรับไมํเกิน 5,000 บาท หรือจําคุกไมํ
เกนิ 3 ปีหรอื ทัง้ ปรบั ทั้งจาํ
9. การขอคืนเงนิ อากร ผ๎ูเสียคาํ อากรหรอื คาํ เพม่ิ อากรเกินไปไมํน๎อยกวํา 2 บาท ในตราสารลักษณะเดียว
หรอื เร่อื งเดียว จะต๎องทําคําร๎องเป็นหนังสือย่ืนตํอเจ๎าหนา๎ ที่ และใหย๎ น่ื ภายใน 6 เดือน นบั แตํวันเสียอากรหรือ
คําเพ่ิมอากรและต๎องประกอบด๎วยคําชแ้ี จงหรือเอกสาร
10. ชําระคําอากรแสตมป์ 1 บาท ผู๎ต๎องเสียอากรคอื ผ๎ูใหเ๎ ชํา ผูท๎ ่ตี ๎องขีดฆาํ แสตมป์คอื ผเู๎ ชาํ
เอกสารอา้ งองิ /เอกสารคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ
มนสั ชยั กรี ตผิ จญ. การบญั ชีภาษอี ากร. กรุงเทพฯ : บริษัท สํานักพิมพ์เอมพนั ธ์ จาํ กัด. 2563
287
พส.12
แบบประเมนิ ผลการเรยี นร้หู นว่ ยท่ี 8
รหัส 30201-2007 ชือ่ วชิ า การบญั ชีภาษอี ากร
ชือ่ หน่วย อากรแสตมป์
เร่อื ง อากรแสตมป์ จํานวนชว่ั โมงสอน 1 ช่วั โมง
จงเลอื กคําตอบทถ่ี ูกต๎องที่สุดเพยี งข๎อเดียว
1. ขอ๎ ใดคือบุคคลตามทร่ี ะบุไว๎ในชํองท่ี 3 ของบัญชอี ัตราอากรแสตมป์
ก. ผสู๎ ํง
ข. ผ๎รู ับ
ค. ผูบ๎ นั ทึกบญั ชี
ง. ผบู๎ นั ทกึ อากร
2. ตราสารทท่ี ําขนึ้ นอกประเทศ ผูท๎ รงตราสารคนแรกในประเทศเป็นผ๎ูเสียอากรภายในกี่วัน นับแตํวันท่ีได๎รับ
ตราสาร
ก. 7 วนั
ข. 15 วัน
ค. 30 วัน
ง. 60 วนั
3. ขอ๎ ใดคอื ลกั ษณะของการเสียอากรโดยปิดแสตมป์ทับกระดาษกํอนกระทาํ หรอื ในทนั ทีท่ีทาํ ตราสาร
ก. การปดิ แสตมป์
ข. แสตมปป์ ิดทบั
ค. แสตมปด์ นุ
ง. แสตมป์เป็นตวั เงนิ
4. การขอเสยี ภาษีอากรเปน็ ตัวเงนิ โดยแบบขอและอนุมัติให๎เสียอากรแสตมป์ จะใชแ๎ บบฟอรม์ ข๎อใด
ก. อ.ส.4
ข. อ.ส.1
ค. อ.ส.5
ง. อ.ส.6
5. การกระทาํ เพอ่ื มใิ ห๎ใชแ๎ สตมปไ์ ด๎อีก ควรปฏิบตั ิตามข๎อใด
ก. ใชแ๎ สตมป์ปิดทบั
ข. ใช๎แสตมปด์ นุ
ค. ขดี ฆําอากร
ง. ถูกทุกข๎อ
288
6. หนํวยงานตามขอ๎ ใดตํอไปน้ีมกี ารยกเว๎นอากร
ก. ผ๎ูประกอบการที่เสียภาษมี ลู คําเพิม่
ข. หนวํ ยงานราชการ
ค. ผ๎ปู ระกอบการธุรกิจเฉพาะ
ง. บริษทั หรอื ห๎างห๎ุนสวํ น
7. อากรแสตมปส์ าํ หรับตราสารกรรมธรรม์ประกนั ชีวติ ทมี่ ีจํานวนสงู กวาํ 20 บาทให๎ลดลงเหลอื ตามขอ๎ ใด
ก. 5 บาท
ข. 10 บาท
ค. 15 บาท
ง. 20 บาท
8. ผขู๎ อเสยี อากรตอ๎ งยนื่ ตราสารตอํ พนักงานภายในก่ีวันนบั แตํวนั ท่ตี ๎องปดิ แสตมป์บรบิ ูรณ์
ก. 7 วัน
ข. 15 วัน
ค. 30 วนั
ง. 60 วนั
9. ผใ๎ู ดมีหนา๎ ท่เี สียอากร ขีดฆําแสตมป์ แตํเพกิ เฉย ตอ๎ งระวางโทษตามขอ๎ ใด
ก. ปรับ 500 บาท
ข. ปรับ 1,000 บาท
ค. ปรับ 2,000 บาท
ง. ปรับ 3,000 บาท
10. การขอคืนเงนิ อากรต๎องย่นื แบบขอคืนภายในก่เี ดือนนบั แตวํ นั เสียอากร
ก. 1 เดอื น
ข. 2 เดอื น
ค. 3 เดอื น
ง. 6 เดอื น
289
พส.12
เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้หน่วยท่ี 8
รหสั 30201-2007 ช่อื วิชา การบัญชภี าษีอากร
ช่ือหน่วย อากรแสตมปช์ ี
เร่อื ง อากรแสตมป์ จาํ นวนช่ัวโมงสอน 1 ชั่วโมง
จงเลอื กคําตอบท่ถี ูกตอ๎ งทีส่ ุดเพยี งข๎อเดียว
1. ขอ๎ ใดคือบุคคลตามท่ีระบุไว๎ในชํองท่ี 3 ของบญั ชีอัตราอากรแสตมป์
ข. ผู๎รับ
2. ตราสารท่ีทําขึน้ นอกประเทศ ผ๎ูทรงตราสารคนแรกในประเทศเป็นผ๎ูเสียอากรภายในกี่วนั นับแตํวันที่ได๎รับ
ตราสาร
ค. 30 วนั
3. ข๎อใดคอื ลักษณะของการเสียอากรโดยปิดแสตมป์ทับกระดาษกอํ นกระทาํ หรอื ในทันทีท่ีทาํ ตราสาร
ข. แสตมปป์ ดิ ทับ
4. การขอเสยี ภาษอี ากรเป็นตวั เงินโดยแบบขอและอนุมัติให๎เสยี อากรแสตมป์ จะใชแ๎ บบฟอร์มขอ๎ ใด
ก. อ.ส.4
5. การกระทาํ เพ่ือมิใหใ๎ ช๎แสตมปไ์ ด๎อีก ควรปฏบิ ตั ติ ามขอ๎ ใด
ค. ขีดฆําอากร
6. หนวํ ยงานตามข๎อใดตอํ ไปนมี้ กี ารยกเว๎นอากร
ข. หนํวยงานราชการ
7. อากรแสตมปส์ าํ หรบั ตราสารกรรมธรรม์ประกันชวี ติ ที่มีจาํ นวนสงู กวาํ 20 บาทให๎ลดลงเหลือตามข๎อใด
ง. 20 บาท
8. ผข๎ู อเสยี อากรตอ๎ งย่นื ตราสารตอํ พนกั งานภายในกวี่ ันนบั แตวํ นั ที่ต๎องปิดแสตมป์บริบูรณ์
ข. 5 วัน
9. ผใ๎ู ดมหี นา๎ ท่ีเสยี อากร ขดี ฆําแสตมป์ แตเํ พกิ เฉย ต๎องระวางโทษตามข๎อใด
ก. ปรับ 500 บาท
10. การขอคืนเงนิ อากรตอ๎ งยนื่ แบบขอคนื ภายในกเ่ี ดือนนับแตํวันเสียอากร
ง. 6 เดอื น
290 พส.13
ใบงาน (Job Sheets)
รหสั 30201-2007 ชื่อวชิ า การบญั ชภี าษอี ากร
ชื่อหน่วย อากรแสตมป์
เร่ือง อากรแสตมป์ จํานวนชว่ั โมงสอน 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ รายการเรยี นรู้
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เครื่องมอื /วัสดุ-อุปกรณ์
1. คาํ นวณอากรแสตมป์ได๎ 1. อปุ กรณเ์ ครื่องเขียน
2. ปฏิบัติงานได๎อยํางถูกตอ๎ ง และสาํ เรจ็ ภายใน 2. กระดาษ
เวลาที่กาํ หนดอยาํ งมีเหตผุ ล และประหยัดตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
3. กลา๎ แสดงความคิดเห็นอยาํ งมเี หตุผลและรบั ฟัง
ความคิดเห็นของผู๎อน่ื
4. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คาํ นิยม และ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงคไ์ ด๎ในเรือ่ งความมีมนษุ ย
สัมพนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรับผิดชอบ ความซ่ือสัตย์
สจุ รติ ความเชื่อม่นั ในตนเอง การประหยัด ความสนใจ
ใฝุรู๎ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญูกตเวที และตระหนัก
ถึงการละเว๎นจากส่ิงเสพติดและอบายมุขทั้งปวง
291
ลําดบั ขน้ั การทาํ งาน ข้อควรระวัง
ขัน้ ท่ี 1 ใหผ๎ ๎เู รยี นจัดกลํุมเป็น 7 กลุํมๆ ละ 4-5 คน 1. ควรเปิดโอกาสให๎สมาชกิ ทุกคนไดแ๎ สดงความ
โดยความสมัครใจ ผู๎เรยี นแตลํ ะกลํุมเลือกหวั หน๎ากลมํุ คดิ เหน็
และเลขานุการกลํุม 2. รวํ มกนั พิจารณาและสรุปประเดน็ ให๎ถูกต๎อง
กิจกรรมทคี่ รูมอบหมาย คอื ค๎นคว๎าตามหัวข๎อที่
กําหนด ดังน้ี มอบงาน
1. หน๎าทข่ี องผ๎ูเสยี อากรแสตมป์ 1. ให๎นักเรยี นค๎นคว๎าเพ่ิมเตมิ จาก Internet เร่ือง
2. วธิ กี ารเสยี ภาษีอากรแสตมป์ อากรแสตมป์
3. การขอเสยี อากรเปน็ ตัวเงนิ 2. นาํ ข๎อมลู ที่ค๎นคว๎าไดน๎ ําเสนอหน๎าชั้นเรยี น ครู
4. ขอ๎ ยกเว๎นอากร และนักเรียนรํวมกันเสนอแนะ
5. ความรบั ผิดกรณไี มปํ ิดแสตมปบ์ รบิ รู ณ์และการ
ไมอํ อกใบรบั วดั ผล/ประเมินผล
ขั้นที่ 2 ผ๎ูเรยี นแตลํ ะกลุํมรํวมกันค๎นควา๎ จากส่ือ แบบประเมนิ พฤติกรรมการเขา๎ รํวมกจิ กรรมกลมํุ
ตาํ งๆ พร๎อมเตรยี มมาอภปิ รายหน๎าหน๎าชัน้ เรยี น โดย
เลือกวธิ ีการนาํ เสนอตามความถนัด โดยใชเ๎ วลากลํมุ ละ
ไมเํ กนิ 10 นาที
ขัน้ ที่ 3 ผเ๎ู รียนแตํละกลํุมประเมนิ ตนเองและ
ประเมนิ ผลกลมุํ อน่ื ๆ โดยใช๎แบบประเมินรายบุคคล
(แบบประเมนิ ผลงาน)
ผูส๎ อนประเมินผลผ๎เู รยี นทกุ กลํุม โดยใช๎แบบ
ประเมนิ
ขนั้ ที่ 4 สํงครูผส๎ู อนเพื่อประเมนิ ผล
292
บรรณานกุ รม
พระราชบญั ญตั วิ ชิ าชพี บัญชี พ.ศ. 2547. กรงุ เทพฯ : สภาวิชาชีพบญั ชี, 2549
เพ็ญศรี เลิศเกยี รติวิทยา และคณะ, การบัญชภี าษีอากร. กรุงเทพฯ : เอมพนั ธ์, 2549
มนัสชัย กีรติผจญ และคณะ, การบญั ชภี าษอี ากร. กรุงเทพฯ : เอมพันธ์, 2548
ประมวลรษั ฏากร, กรงุ เทพฯ : ธรรมนิตเิ พรส, 2547.
www.rd.go.th