The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1 เทอม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yameen, 2022-05-13 03:37:11

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1 เทอม 1

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1 เทอม 1

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การดำรงชีวิตของพืช
แผนฯ ที่ 4 การสืบพันธุ์แบบอาศยั เพศของพืช

ชุดคำกระดาษ

ละอองเรณู 
ยอดเกสรเพศเมีย
หลอดละอองเรณู
เซลล์สบื พนั ธุ์เพศผู้
โพลารน์ วิ เคลียส

รังไข่
เซลลไ์ ข่

252

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การดำรงชวี ิตของพืช
แผนฯ ที่ 4 การสบื พนั ธุแ์ บบอาศัยเพศของพืช

12. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ไี่ ด้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชือ่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

13. บนั ทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทม่ี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปญั หา/อุปสรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

253

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การดำรงชวี ิตของพืช
แผนฯ ที่ 5 การสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศของพชื

แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 5

กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์
ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1

เร่ือง การสบื พนั ธแุ์ บบไม่อาศยั เพศของพืช เวลา 2 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์
ความสมั พันธ์ของโครงสร้างและหน้าทข่ี องระบบตา่ ง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ย์ทท่ี ำงานสมั พนั ธ์กัน
ความสัมพนั ธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ท่ที ำงานสมั พนั ธก์ นั รวมทั้งนำ
ความร้ไู ปใช้ประโยชน์

2. ตัวช้ีวัด

ว 1.2 ม.1/11 อธิบายการสืบพนั ธ์แุ บบอาศัยเพศและไมอ่ าศยั เพศของพชื ดอก
ว 1.2 ม.1/16 เลือกวิธกี ารขยายพนั ธ์ุพชื ให้เหมาะสมกับความตอ้ งการของมนษุ ย์ โดยใชค้ วามรู้เกย่ี วกับการสืบพันธุ์

ของพืช
ว 1.2 ม.1/18 ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องการขยายพนั ธ์พุ ืช โดยการนำความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายการสบื พนั ธุแ์ บบไมอ่ าศยั เพศของพืชดอกได้ (K)
2. เลอื กวิธีการขยายพนั ธพ์ุ ชื ให้เหมาะสมกับความต้องการของมนษุ ย์ได้ (P)
3. ตระหนักถึงประโยชน์ของการขยายพนั ธพุ์ ชื ได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- การสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศัยเพศ เป็นการสืบพันธ์ุที่

พืชต้นใหม่ไม่ได้เกิดจากการปฏิสนธิระหว่าง
สเปริ ์มกบั เซลล์ไข่ แต่เกดิ จากสว่ นต่าง ๆ ของพชื
เช่น ราก ลำต้น ใบ มีการเจริญเติบโตและ
พัฒนาข้ึนมาเปน็ ต้นใหม่ได้

254

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การดำรงชวี ิตของพืช สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิ่น
แผนฯ ที่ 5 การสบื พันธแุ์ บบไมอ่ าศยั เพศของพืช พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- มนุษย์สามารถนำความรู้เรื่องการสืบพันธุ์ แบบ

อาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ มาใช้ในการ
ขยายพันธ์เุ พอ่ื เพ่ิมจำนวนพชื เช่น การใช้เมล็ดท่ี
ได้จากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศมาเพาะเลี้ยง
วิธีการนี้จะได้พืชในปริมาณมาก แต่อาจมี
ลกั ษณะท่แี ตกตา่ งไปจากพ่อแม่ สว่ นการตอนก่ิง
การปักชำ การตอ่ กง่ิ การตดิ ตา การทาบก่งิ การ
เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นการนำความรู้เรื่อง การ
สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพืชมาใช้ในการ
ขยายพันธุ์ เพื่อให้ได้พืชที่มีลักษณะเหมือนต้น
เดิม ซึ่งการขยายพันธุ์แต่ละวิธี มีขั้นตอน
แตกต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับความ
ต้องการของมนุษย์ โดยต้องคำนึงถึงชนิด ของ
พืชและลกั ษณะการสืบพนั ธุข์ องพชื

5. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การสืบพันธแุ์ บบไม่อาศยั เพศ เปน็ การขยายพันธุข์ องพชื ท่ไี มไ่ ดม้ าจากการปฏิสนธริ ะหว่างสเปิร์มกับเซลล์ไข่
ทำให้พืชต้นใหมม่ ีลักษณะคล้ายกับต้นเดิมทุกประการ โดยมนุษย์อาศัยหลักการนี้มาขยายพันธุ์พืช เพื่อให้พืชมี
ลักษณะตามที่ต้องการโดยการนำส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ราก ลำต้น และใบ เป็นต้น มาทำให้เกิดเป็นต้นใหม่
ได้แก่ การปกั ชำ การติดตา การตอนกงิ่ การทาบก่ิง เป็นต้น เพอ่ื เพิ่มมูลค่าใหก้ ับตน้ พชื หรอื ปรับปรุงพันธุ์ให้ดีขึ้น
นอกจากนี้พชื สามารถใช้โครงสร้างพเิ ศษจากราก ลำตน้ และใบ ขยายพนั ธ์ุได้

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ

1) ทักษะการสงั เกต
2) ทักษะการระบุ
3) ทักษะการเปรยี บเทียบ
4) ทกั ษะการสรุปย่อ

255

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 การดำรงชีวิตของพืช
แผนฯ ท่ี 5 การสบื พันธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศของพชื

5) ทกั ษะการจำแนกประเภท
6) ทกั ษะการสำรวจ
7) ทักษะการสำรวจคน้ หา
8) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
9) ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

7.คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

8. คำถามสำคญั

1. การสืบพันธแ์ุ บบไม่อาศยั เพศคอื อะไร
2. จงบอกความแตกต่างของการสืบพันธแ์ุ บบอาศัยเพศและการสบื พันธ์แุ บบไม่อาศยั เพศ
3. จงยกตวั อย่างวธิ ีการสืบพันธ์แุ บบไมอ่ าศัยเพศท่ีเกดิ จากการกระทำของมนุษย์

9. กจิ กรรมการเรียนรู้

วิธีสอนการสอน: แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงท่ี 1
ขั้นนำ

ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน โดยมีแนวคำถามดังนี้
• สว่ นใดของพืชท่มี นษุ ย์นำมาใชข้ ยายพนั ธ์ุ
(แนวคำตอบ: ลำต้น ราก กงิ่ เปน็ ตน้ )
• จงยกตวั อย่างของพชื ทเี่ กดิ จากการสืบพันธ์ุแบบไมอ่ าศัยเพศ
(แนวคำตอบ: พิจารณาจากคำตอบของนักเรียน เชน่ มันฝรัง่ ที่เกดิ ตน้ ใหม่จากลำตน้ เป็นต้น)
2. ครูกระต้นุ ความสนใจนักเรียนโดยครเู ขยี น key word บนกระดานตอ่ ไปนี้
• ตอ้ งการขยายพันธุพ์ ืชประเภทไม้ดอก

256

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 การดำรงชีวติ ของพืช
แผนฯ ที่ 5 การสบื พันธุแ์ บบไมอ่ าศยั เพศของพชื

• ตอ้ งการขยายพนั ธุพ์ ืชประเภทไม้พมุ่ ไม้ยืนต้น
• ต้องการปรบั ปรุงพันธ์พุ ืชใหด้ ีกวา่ เดมิ โดยนำตน้ พันธดุ์ มี าทำหนา้ ทีเ่ ปน็ ลำต้น
• ต้องการกหุ ลาบหลายสีใน 1 ตน้
3. จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันเสนอวิธีขยายพันธ์พุ ชื จาก key word บนกระดาน

ข้นั สอน

ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุม่ ออกเป็น 4 กลุ่ม แล้วส่งตัวแทนออกมาจับสลากหัวข้อการสืบพันธ์ุแบบไม่อาศัย
เพศ ตอ่ ไปน้ี
• การปักชำ
• การตดิ ตา
• การตอนก่ิง
• การทาบก่ิง
2. ครูให้นกั เรียนสบื คน้ ขอ้ มูลวธิ ีและขน้ั ตอนการขยายพนั ธพุ์ ชื ตามหัวข้อท่ีแต่ละกล่มุ จับฉลากได้ หรอื หนังสือ
เรียนสัมฤทธิม์ าตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การดำรงชวี ิตของพืช หรือจาก
แหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ เชน่ อินเทอร์เนต็ แล้วสรปุ เปน็ รายงานรูปเลม่ พรอ้ มกับเลือกต้นไมม้ า 1 ชนิดและ
ขยายพันธ์ดุ ้วยวธิ ีดงั กล่าว

ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
3. ครูสุ่มตวั แทนกลุ่มออกมานำเสนอผลจากการขยายพนั ธพุ์ ชื ตามหัวขอ้ ที่จบั ฉลาก พรอ้ มกับนำเสนอ ขนั้ ตอน
และวธิ กี ารขยายพันธุ์ และนำตน้ ไมท้ ี่ได้รับการขยายพันธ์ุดว้ ยวิธดี งั กลา่ วมาแสดงหน้าชนั้ เรียน
4. ครูเสรมิ ความรู้และเพมิ่ ข้อมลู ทนี่ กั เรยี นออกมานำเสนอ

ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand)
5. ครูให้นักเรียนทำ Exercise 4.1 จากหนังสือเรียนสัมฤทธิ์มาตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการ
เรียนรทู้ ี่ 3 การดำรงชวี ติ ของพืช

ชัว่ โมงที่ 2

ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)

257

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 การดำรงชวี ติ ของพืช
แผนฯ ท่ี 5 การสืบพันธ์แุ บบไมอ่ าศยั เพศของพชื

6. ครูให้นักเรียนสบื ค้นวิธีการขยายพันธ์ุพืชแบบไม่อาศัยเพศอ่ืน ๆ นอกเหนือจากการปกั ชำการตอนกิ่ง การ
ตดิ ตา การทาบกงิ่ เป็นต้น

ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
7. ครสู ุม่ ตวั แทนนกั เรียนออกมานำเสนอวธิ ีการขยายพันธพุ์ ชื ด้วยวิธีอืน่ หนา้ ชน้ั เรยี น
8. ครูยกตัวอย่างและอธิบายการขยายพันธุ์พืชด้วยโครงสร้างพิเศษ ในหนังสือเรียนสัมฤทธิ์มาตรฐาน
วิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การดำรงชวี ติ ของพืช เพือ่ ใหน้ กั เรยี นเหน็ ลกั ษณะของพืชท่ี
เกดิ การขยายพนั ธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศชัดเจนมากข้นึ

ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
9. ครูให้นกั เรียนสรุปความรู้ เรอื่ ง การสืบพันธ์ุแบบอาศยั เพศและการสบื พนั ธุ์แบบไมอ่ าศัยเพศ ลงในกระดาษ
A4 พร้อมตกแต่งให้สวยงาม

ข้นั สรปุ

ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครตู รวจ Exercise 4.1 จากหนังสือเรียนสัมฤทธ์ิมาตรฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
การดำรงชวี ิตของพืช
2. ครูตรวจชน้ิ งาน เรื่อง การสืบพันธุแ์ บบอาศยั เพศและการสบื พันธแ์ุ บบไม่อาศยั เพศ
3. ครูประเมินการนำเสนอผลงาน การขยายพนั ธ์ุพืชแบบไมอ่ าศัยเพศ
4. ครูประเมินพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่มจากการขยายพนั ธ์พุ ชื แบบไมอ่ าศยั เพศ

10. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ

10.2 ประเมนิ ระหว่างการ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน
จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
เกณฑ์
1) การสืบพันธุแ์ บบไม่ - ตรวจ Exercise 4.1 - Exercise 4.1

อาศยั เพศของพชื - ประเมินชิน้ งาน เรื่อง - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน

การสบื พนั ธ์ุแบบ

อาศยั เพศและการ

สบื พนั ธแ์ุ บบไม่อาศัย

เพศ

258

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การดำรงชีวติ ของพืช
แผนฯ ที่ 5 การสืบพนั ธุ์แบบไมอ่ าศัยเพศของพืช

รายการวดั วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ น
นำเสนอผลงาน
3) พฤติกรรมการทำงาน ผลงาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เกณฑ์
รายกลุ่ม - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายกลมุ่ - ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่าน
การทำงานรายกลมุ่
4) คุณลักษณะอนั พงึ - แบบประเมิน เกณฑ์
ประสงค์ - สงั เกตความมีวินยั คุณลักษณะอันพงึ
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ัน ประสงค์ - ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน
ในการทำงาน เกณฑ์

11. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้

11.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสือเรียนสมั ฤทธม์ิ าตรฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การดำรงชวี ติ ของพืช
2) สลากหัวขอ้ การสืบพนั ธ์ุแบบไม่อาศยั เพศ

11.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องปฏบิ ตั ิการวทิ ยาศาสตร์
2) อนิ เทอร์เน็ต

259

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การดำรงชีวติ ของพืช 
แผนฯ ท่ี 5 การสืบพนั ธแุ์ บบไมอ่ าศัยเพศของพชื

สลากหวั ขอ้ การสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศัยเพศ

การปกั ชำ
การติดตา
การตอนกงิ่
การทาบกิ่ง

260

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การดำรงชวี ิตของพืช
แผนฯ ที่ 5 การสืบพันธ์ุแบบไมอ่ าศัยเพศของพชื

12. ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

13. บันทึกผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปญั หา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

261

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 พลังงานความร้อน
แผนฯ ที่ 3 ผลของความรอ้ นตอ่ การเปล่ยี นแปลงอณุ หภมู ขิ องสสารและสถานะของสสาร

แผนจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์
ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1

เรื่อง เทคโนโลยีชวี ภาพของพชื เวลา 3 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้

ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์
ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษยท์ ีท่ ำงานสมั พันธก์ ัน
ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ที ำงานสมั พนั ธ์กนั รวมท้งั นำ
ความร้ไู ปใช้ประโยชน์

2. ตัวช้ีวัด

ว 1.2 ม.1/16 เลือกวิธีการขยายพันธุ์พชื ให้เหมาะสมกับความต้องการของมนุษย์ โดยใช้ความรู้เก่ียวกบั การ
สืบพันธขุ์ องพืช

ว 1.2 ม.1/17 อธิบายความสำคัญของเทคโนโลยีการเพาะเล้ียงเนอื้ เยื่อพชื ในการใชป้ ระโยชน์ดา้ นตา่ ง ๆ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายความสำคัญของเทคโนโลยกี ารเพาะเลีย้ งเนอ้ื เยอ่ื พืชในการใชป้ ระโยชน์ด้านต่าง ๆ ได้ (K)
2. เลือกวธิ กี ารขยายพนั ธ์หุ รอื ปรบั ปรงุ พนั ธพุ์ ืชให้เพียงพอกบั ความต้องการของมนุษยไ์ ด้ (P)
3. นำความรู้เก่ียวกบั เทคโนโลยชี ีวภาพไปใช้ประโยชนไ์ ด้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ทู อ้ งถน่ิ
พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช เป็นการนำ

ความรู้เกี่ยวกบั ปจั จัยที่จำเป็นตอ่ การเจริญเติบโต
ของพืชมาใช้ในการเพิ่มจำนวนพืชและทำให้พืช
สามารถเจริญเติบโตได้ในหลอดทดลอง ซึ่งจะได้
พืชจำนวนมากในระยะเวลาสั้น และสามารถนำ
เทคโนโลยี การเพาะเลี้ยงเนอ้ื เยื่อมาประยุกต์เพื่อ
การอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ปรับปรุงพันธุ์พืชที่มี

262

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 พลังงานความรอ้ น สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความร้อนตอ่ การเปลีย่ นแปลงอุณหภูมิของสสารและสถานะของสสาร พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ความสำคัญ ทางเศรษฐกิจ การผลิตยาและ
สาระสำคัญในพืชและอนื่ ๆ

5. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

เทคโนโลยีชีวภาพของพืช เป็นการนำเอาความรู้ทางดา้ นวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับพืช เพื่อให้เปน็
ประโยชน์ และเพียงพอต่อความตอ้ งการของมนุษย์ เชน่ การขยายพนั ธุ์พืชดว้ ยการเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อ ซ่ึงเป็น
การนำชน้ิ สว่ นเน้ือเยื่อของพชื มาเล้ยี งในอาหารสังเคราะห์ การปรบั ปรงุ พนั ธพ์ุ ืช และการดดั แปรพันธุกรรมของ
พืช โดยใช้ยีนจากสิง่ มีชีวิตอืน่ มาแทรกลงในสารพันธุกรรมของพืช เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีปรมิ าณและคณุ ภาพ
มากข้ึน

6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต
2) ทกั ษะการระบุ
3) ทกั ษะการเช่อื มโยง
4) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
5) ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

7.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

8. คำถามสำคัญ

1. เทคโนโลยีชีวภาพสำหรบั พชื มปี ระโยชน์อย่างไรบา้ ง
2. จงยกตวั อย่างเทคโนโลยชี ีวภาพเพือ่ ขยายพันธ์พุ ืช
3. แคลลัสมคี วามสำคัญอย่างไรตอ่ การเพาะเลี้ยงเนื้อเย่ือพืช

263

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 พลังงานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความรอ้ นตอ่ การเปลย่ี นแปลงอณุ หภูมขิ องสสารและสถานะของสสาร

9. กจิ กรรมการเรยี นรู้

วธิ ีสอนการสอน: แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ช่วั โมงที่ 1
ขน้ั นำ

ขน้ั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูถามคำถามเพือ่ กระตนุ้ ความคดิ ของนกั เรียน โดยมีแนวคำถาม ดงั นี้
• นักเรียนมวี ิธใี ดบา้ งในการขยายพันธ์ุพืชหากไม่มีเมล็ดพนั ธุ์พืชชนดิ นัน้ เพื่อกระตุ้นความคดิ ของนกั เรียน
ก่อนเริม่ บทเรียน
(แนวคำตอบ: ขยายพันธแุ์ บบไมอ่ าศัยเพศ โดยการนำสว่ นตา่ ง ๆ มาปกั ชำ ตอนกงิ่ ติดตา ทาบก่งิ เป็นตน้
นอกจากนี้สามารถนำเน้ือเยอ่ื พชื มาเพาะเลีย้ งในอาหารเล้ยี งเช้อื ได้)
2. ครถู ามความคิดเห็นนกั เรยี นว่า นกั เรยี นเคยสงสยั หรือไม่ว่ามนุษย์มีวิธีการอยา่ งไร ในการเพ่ิมผลผลิตจาก
พืชใหไ้ ดเ้ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการของมนุษย์
(แนวคำตอบ: มนุษย์นำเอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับพชื เช่น การนำเอาส่วนต่าง ๆ
ของพืชมาขยายพนั ธ์ุ เช่น นำเนอ้ื เย่อื ของพชื มาเพาะเลยี้ ง การดดั แปรพนั ธกุ รรมพืชใหม้ ีความตา้ นทานต่อ
แมลงศตั รพู ืช หรือโรคต่าง ๆ นอกจากนี้มนุษยส์ ามารถปรบั ปรุงคุณภาพผลผลิตใหม้ ีขนาด ปริมาณ และ
คุณภาพมากขน้ึ เป็นตน้ )
3. ครูนำบัตรภาพการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และนำเสนอตัวอย่างเกี่ยวกับการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มา
ประยุกต์ใช้กับพืช เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน และแสดงให้นักเรียนเห็นถึงความก้าวหน้าของ
เทคโนโลยีชีวภาพในปัจจุบนั โดยมีตัวอยา่ งบตั รภาพการเพาะเลี้ยงเนือ้ เยอ่ื ดงั น้ี

ขน้ั สอน

ข้ันท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษา เรอื่ ง การเพาะเลย้ี งเนื้อเย่ือพชื จากหนงั สือเรยี นสัมฤทธ์มิ าตรฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.1
เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การดำรงชีวติ ของพชื

264

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 พลังงานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความรอ้ นตอ่ การเปล่ยี นแปลงอณุ หภมู ขิ องสสารและสถานะของสสาร

2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหาข้อมูลและข่าวที่เกี่ยวข้องกับการ
เพาะเล้ยี งเนือ้ เย่อื พชื โดยแตล่ ะกลุ่มจะต้องมขี อ้ มลู หรอื ข่าวไม่ซ้ำกนั

3. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละคนหาข่าวเกยี่ วกับเทคโนโลยีชวี ภาพในการดัดแปรพันธุกรรมพชื เพอ่ื ใชท้ ำกิจกรรมใน
ชัว่ โมงถดั ไป

ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)
4. ครูตง้ั คำถามกบั นักเรยี น โดยมีแนวคำถาม ดังนี้
• การขยายพนั ธพ์ุ ืชด้วยการเพาะเมลด็ ใหผ้ ลแตกต่างกบั การเพาะเลีย้ งเนอ้ื เยอ่ื พชื อยา่ งไร
(แนวคำตอบ: พชื ทีข่ ยายพนั ธุ์ดว้ ยเมลด็ เปน็ การขยายพนั ธแ์ุ บบอาศยั เพศ ทำให้พชื ทีไ่ ดม้ ีความหลากหลาย
ทางพันธุกรรม แต่การเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อพืชเป็นการขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ทำให้พืชมีลักษณะไม่
แตกต่างจากต้นพ่อต้นแม่ หรือไม่มีความหลากหลายทางพนั ธกุ รรม)
5. ครูสุ่มตัวแทนกลุ่มของแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอข้อมลู และขา่ ว หน้าชั้นเรียน โดยข้อมูลที่จะนำเสนอมี
ดงั นี้
• พชื ทนี่ ำมาเพาะเลี้ยงเนอ้ื เยอื่ คืออะไร
• วัตถุประสงค์ในการเพาะเล้ียงเนอ้ื เยือ่ พืชชนิดนี้ คืออะไร
• ระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชชนิดนนี้ านเทา่ ไหร่
• ขน้ั ตอนการเพาะเล้ยี งเน้ือเยอื่ พืชมีอะไรบ้าง
• ผลที่ไดม้ ปี ระโยชน์ต่อสังคม และเศรษฐกิจอย่างไร
6. ครูช่วยอธิบายข้อมูลในส่วนที่นักเรียนนำมาเสนอไม่ทราบ หรือเป็นข้อมูลที่เกินความรู้พื้นฐานสำหรับ
นักเรียนช้นั ม.1 เช่น อปุ กรณ์ในการเพาะเลยี้ งเนื้อเยื่อบางชนิด ฮอร์โมนพชื เป็นตน้
7. ครูอธบิ ายความหมายของแคลลัสว่า “แคลลสั คือ กลุ่มเซลลท์ ี่เจริญต่อเน่ือง โดยไมเ่ ปลีย่ นแปลง รูปร่าง
หรอื หน้าที่จนกวา่ จะไดร้ บั การกระตุน้ หรอื อยู่ในสภาพแวดลอ้ มทีเ่ หมาะสม”

ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand)
8. ใหน้ ักเรยี นทำ Exercise 5.1 จากหนังสือเรยี นสัมฤทธ์มิ าตรฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรู้
ท่ี 3 การดำรงชีวิตของพืช

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore)
9. ครูให้นักเรียนสืบค้น การดัดแปรพันธุกรรมของพืช จากหนังสือเรียนสัมฤทธิ์มาตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1
เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การดำรงชวี ิตของพืช

265

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 พลังงานความรอ้ น
แผนฯ ที่ 3 ผลของความร้อนตอ่ การเปลี่ยนแปลงอณุ หภูมขิ องสสารและสถานะของสสาร

10. ให้นกั เรียนแตล่ ะคนสบื ค้นขอ้ มูลข่าวสารเกี่ยวกับการใชเ้ ทคโนโลยีดัดแปลงพนั ธุกรรมพชื
11. ครูให้นักเรียนศกึ ษา เลขบนฉลากที่ติดกับพืชผลทางการเกษตรที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า จากแหล่ง

การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เชน่ อินเทอรเ์ นต็

ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
12. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ กลุ่มละ 3-4 คน เพอื่ แลกเปลี่ยนข้อมูลหรอื ข่าวที่สมาชิกนำมา แล้วสรุปข่าว
ของสมาชกิ ภายในกลุ่มลงในกระดาษ A4 1 แผน่ ภายใตห้ วั ข้อ เรือ่ ง เทคโนโลยีการดดั แปรพันธกุ รรมของ
พืช
13. ครูให้ตัวแทนกลุ่ม กลุ่มละ 2 คน ออกมานำเสนอข้อมูลและข่าวหน้าชั้นเรียน โดยข้อมูลที่จะนำเสนอมี
ดงั นี้
• พชื ทีน่ ำมาดดั แปรพนั ธกุ รรมคือพชื ชนิดใดบา้ ง
• วตั ถปุ ระสงค์ในการดดั แปรพันธุกรรมของพืชแตล่ ะชนดิ เหมอื นและแตกตา่ งกนั อย่างไร
• ใช้ยีนจากสง่ิ มีชีวติ ใดมาตัดต่อให้กับพืชแต่ละชนิด
• ขน้ั ตอนครา่ ว ๆ ในการดัดแปรพนั ธกุ รรมพชื แตล่ ะชนดิ เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร
• ผลท่ไี ด้มปี ระโยชนต์ ่อสงั คมและเศรษฐกจิ อยา่ งไร
14. ครูช่วยอธิบายข้อมูลในส่วนที่นักเรียนนำมาเสนอไม่ทราบ หรือเป็นข้อมูลที่เกินความรู้พื้นฐานสำหรับ
นักเรยี น ม.1 เช่น อปุ กรณ์ในการดัดแปรพันธุกรรมของพืชบางชนดิ การตดั ต่อยนี สารพนั ธกุ รรม ฮอร์โมน
พืช เปน็ ตน้

ชั่วโมงท่ี 3

ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
15. ครูให้นักเรียนทำป้ายนิเทศ เรื่อง ฟาร์มในฝันของฉัน โดยนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาหรือสืบค้นข้อมลู
เกีย่ วกบั เทคโนโลยีชีวภาพมาใช้กับฟาร์ม โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพท่มี ากกวา่ 1 วิธี เพื่อออกแบบฟาร์มใน
ฝนั ของตนเองให้ได้ผลผลิตตามวัตถุประสงค์

ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
16. ครูให้นักเรียนออกมานำเสนอ รูปและเทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้กับฟาร์มของตนเอง คนละ 10 นาที โดย
ข้อมูลการนำเสนอมี ดังน้ี
• ฟารม์ ของนกั เรียนมีพืชชนดิ ใดบา้ ง
• วัตถุประสงคใ์ นการใชเ้ ทคโนโลยชี ีวภาพกบั ฟาร์มของตนเอง คอื อะไร

266

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 พลงั งานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความร้อนต่อการเปลี่ยนแปลงอณุ หภมู ิของสสารและสถานะของสสาร

• เทคโนโลยชี วี ภาพท่ีใชก้ ับพชื ในฟารม์ มอี ะไรบ้าง ใหผ้ ลอย่างไร
17. ครชู ่วยอธบิ ายข้อมลู เพิม่ เตมิ ในส่วนทนี่ ักเรียนนำเสนอ

ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
18. ใหน้ กั เรยี นทำ Exercise 5.1 จากหนงั สอื เรยี นสัมฤทธม์ิ าตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรู้
ท่ี 3 การดำรงชวี ิตของพืช
19. ให้นักเรียนทำ Thinking skills จากหนังสือเรียนสัมฤทธิ์มาตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการ
เรียนรทู้ ี่ 3 การดำรงชวี ติ ของพชื
20. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบพัฒนาผู้เรียนจากหนงั สือเรียนสัมฤทธิ์มาตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การดำรงชีวติ ของพืช
21. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 การดำรงชวี ติ ของพืช

ข้ันสรปุ

ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูประเมินป้ายนิเทศ เรื่อง ฟารม์ ในฝันของฉนั
2. ครูประเมินการนำเสนอผลงาน เรือ่ ง ฟารม์ ในฝันของฉนั
3. ครูตรวจ Exercise 5.1 จากหนังสือเรียนสัมฤทธิม์ าตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3
การดำรงชีวติ ของพชื
4. ครูตรวจ Thinking skills จากหนงั สือเรยี นสมั ฤทธ์ิมาตรฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3
การดำรงชีวติ ของพชื
5. ครูตรวจแบบทดสอบพัฒนาผู้เรียนจากหนงั สือเรยี นสัมฤทธิ์มาตรฐานวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน่วยการ
เรียนรทู้ ี่ 3 การดำรงชวี ติ ของพชื
6. ครูตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การดำรงชวี ิตของพืช
7. ครปู ระเมนิ พฤติกรรมการทำงานรายกล่มุ จากการทำกิจกรรม
8. ครูประเมินการนำเสนอขอ้ มลู หรอื ข่าวการเพาะเล้ียงเน้อื เยื่อ โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
9. ครูประเมินการนำเสนอข้อมูล หรือข่าวการดัดแปรพันธุกรรมของพืช โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอ
ผลงาน

267

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 พลังงานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความรอ้ นต่อการเปลย่ี นแปลงอณุ หภูมิของสสารและสถานะของสสาร

10. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ

10.1 ประเมนิ ระหวา่ งการ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ระดับคุณภาพ 2
จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ผ่านเกณฑ์
1) เทคโนโลยชี ีวภาพ - ตรวจ Exercise 5.1 - Exercise 5.1
- ระดับคุณภาพ 2
ของพชื - ประเมนิ ป้ายนเิ ทศ - แบบประเมินช้นิ งาน ผ่านเกณฑ์
- ระดบั คณุ ภาพ 2
เรือ่ ง ฟาร์มในฝนั ของ ผ่านเกณฑ์

ฉนั - ระดับคุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการ
- ประเมินตามสภาพจรงิ
ผลงาน นำเสนอผลงาน

3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

รายกลมุ่ การทำงานรายกล่มุ การทำงานรายกล่มุ

4) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ

อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่ัน คณุ ลกั ษณะ

ในการทำงาน อันพึงประสงค์

10.2 ประเมินหลังเรยี น

- แบบทดสอบทา้ ยหนว่ ย - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น

การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง หลงั เรยี น

การดำรงชวี ิตของพืช

11. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

11.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นสมั ฤทธิม์ าตรฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 การดำรงชีวติ ของพชื
2) บัตรภาพการเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือ
3) กระดาษ A4

11.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งปฏิบตั ิการวทิ ยาศาสตร์
2) อินเทอร์เน็ต

268

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พลังงานความร้อน 
แผนฯ ที่ 3 ผลของความร้อนตอ่ การเปลย่ี นแปลงอณุ หภูมขิ องสสารและสถานะของสสาร 

บัตรภาพการเพาะเลี้ยงเนื้อเย่อื 

269

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 พลงั งานความรอ้ น
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความร้อนต่อการเปล่ยี นแปลงอุณหภมู ิของสสารและสถานะของสสาร

12. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตำแหนง่ .......

13. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

 ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถา้ มี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

270

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 พลังงานความรอ้ น
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความร้อนต่อการเปล่ียนแปลงอุณหภูมขิ องสสารและสถานะของสสาร

เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏิบัติการ

ประเด็นท่ีประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
ทำการทดลองตาม
7. การปฏบิ ัติการ ข้นั ตอน และใช้อุปกรณ์ 32 ต้องใหค้ วามช่วยเหลือ
ทดลอง ได้อย่างถูกตอ้ ง ทำการทดลองตาม ต้องให้ความช่วยเหลอื อย่างมากในการทำการ
ขั้นตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ บา้ งในการทำการ ทดลอง และการใช้
ไดอ้ ย่างถกู ต้อง แตอ่ าจ ทดลอง และการใช้ อุปกรณ์
ตอ้ งไดร้ บั คำแนะนำบ้าง อุปกรณ์

8. ความ มคี วามคล่องแคลว่ มีความคล่องแคลว่ ขาดความคลอ่ งแคล่ว ทำการทดลองเสรจ็ ไม่
คลอ่ งแคลว่ ในขณะทำการทดลอง ในขณะทำการทดลอง ทันเวลา และทำ
ในขณะ ในขณะทำการทดลอง แตต่ ้องได้รบั คำแนะนำ จงึ ทำการทดลองเสรจ็ อุปกรณเ์ สียหาย
ปฏิบัตกิ าร โดยไมต่ อ้ งได้รับคำ บ้าง และทำการทดลอง ไมท่ ันเวลา
ชแี้ นะ และทำการ เสรจ็ ทันเวลา ต้องให้ความช่วยเหลือ
9. การบนั ทึก สรปุ ต้องใหค้ ำแนะนำในการ อยา่ งมากในการบนั ทึก
และนำเสนอผล ทดลองเสร็จทนั เวลา บันทกึ และสรุปผลการ บันทกึ สรุป และ สรปุ และนำเสนอผล
การทดลอง ทดลองไดถ้ กู ต้อง แต่ นำเสนอผลการทดลอง การทดลอง
บันทกึ และสรปุ ผลการ การนำเสนอผลการ
ทดลองไดถ้ กู ต้อง รัดกมุ ทดลองยงั ไมเ่ ป็น
นำเสนอผลการทดลอง ข้นั ตอน
เป็นข้นั ตอนชัดเจน

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

11-12 ดีมาก

9-10 ดี

6-8 พอใช้

ตำ่ กวา่ 6 ปรบั ปรงุ

271

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 พลังงานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความรอ้ นต่อการเปล่ยี นแปลงอณุ หภมู ขิ องสสารและสถานะของสสาร

แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินผงั มโนทศั น์

คำช้แี จง ใหผ้ ้สู อนประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน แลว้ ขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดับคะแนน 1
รวม 32

1 ความสอดคล้องกับจดุ ประสงค์
2 ความถูกต้องของเนอ้ื หา
3 ความคดิ สรา้ งสรรค์
4 ความตรงต่อเวลา

ลงช่อื ................................................... ผู้ประเมิน
................./................../..................

เกณฑก์ ารประเมนิ แผน่ พับ

ประเดน็ ที่ประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
ผลงานสอดคลอ้ งกบั 32 ผลงานไมส่ อดคล้องกบั
9. ความ จุดประสงค์ทุกประเดน็ ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์
สอดคล้องกับ จุดประสงค์เปน็ ส่วน จดุ ประสงคบ์ างประเดน็
จุดประสงค์ เนอื้ หาสาระของผลงาน ใหญ่ เน้ือหาสาระของผลงาน
ถูกตอ้ งครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน เนอ้ื หาสาระของผลงาน ไมถ่ กู ต้องเป็นส่วนใหญ่
10. ควา ถกู ตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ ถูกต้องบางประเดน็
มถูกต้องของ ผลงานแสดงถึงความคิด ผลงานไมม่ ีความ
เน้อื หา สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ ผลงานแสดงถึงความคิด ผลงานมีความน่าสนใจ นา่ สนใจ และไมแ่ สดง
และเปน็ ระบบ ถึงแนวคิดแปลกใหม่
11. ควา สง่ ชนิ้ งานภายในเวลาที่ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ แต่ยงั ไม่มแี นวคิดแปลก สง่ ช้นิ งานชา้ กวา่ เวลาที่
มคิดสรา้ งสรรค์ กำหนด กำหนด 3 วนั ข้นึ ไป
แตย่ ังไม่เป็นระบบ ใหม่
12. ควา
มตรงตอ่ เวลา สง่ ชิ้นงานช้ากวา่ เวลาที่ ส่งชิ้นงานช้ากวา่ เวลาท่ี

กำหนด 1 วนั กำหนด 2 วนั

272

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 พลงั งานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความรอ้ นต่อการเปลยี่ นแปลงอุณหภมู ขิ องสสารและสถานะของสสาร

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14-16 ดีมาก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

273

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 พลงั งานความรอ้ น
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความร้อนต่อการเปลี่ยนแปลงอณุ หภมู ิของสสารและสถานะของสสาร

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมินการนำเสนอผลงาน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 ความถกู ตอ้ งของเน้ือหา  

2 ภาษาท่ใี ช้เขา้ ใจง่าย  

3 ประโยชนท์ ไี่ ดจ้ ากการนำเสนอ 

4 วธิ ีการนำเสนอผลงาน 

5 ความสวยงามของผลงาน 

รวม

ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมนิ
.............../................/................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

14-15 ดมี าก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง

274

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 พลงั งานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความรอ้ นตอ่ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมขิ องสสารและสถานะของสสาร

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ตี รงกับ

ระดับคะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32

1 การแสดงความคิดเหน็  

2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อื่น  

3 การทำงานตามหนา้ ท่ที ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย  

4 ความมีนำ้ ใจ  

5 การตรงตอ่ เวลา  

รวม

ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน
................/.............../................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14-15 ดมี าก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ำกวา่ 8 ปรับปรงุ

275

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 พลงั งานความรอ้ น
แผนฯ ที่ 3 ผลของความร้อนตอ่ การเปล่ียนแปลงอุณหภมู ขิ องสสารและสถานะของสสาร

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายกลมุ่

คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกับ

ระดบั คะแนน

ลำดับ ชอ่ื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม
ท่ี ของ ความ ฟังคนอื่น ตามท่ไี ดร้ ับ น้ำใจ สว่ นรว่ มใน 15
คดิ เห็น มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
นักเรียน 321 31 ผลงานกลุ่ม
321 321
3 21

2

เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมนิ
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ................/.............../...............
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

276

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 พลงั งานความร้อน
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความรอ้ นต่อการเปลยี่ นแปลงอุณหภมู ขิ องสสารและสถานะของสสาร

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14-15 ดีมาก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

277

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 พลงั งานความรอ้ น
แผนฯ ที่ 3 ผลของความรอ้ นตอ่ การเปลย่ี นแปลงอณุ หภมู ขิ องสสารและสถานะของสสาร

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับ

คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321

17. รักชาติ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้

ศาสน์ กษัตรยิ ์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีสร้างความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ตอ่

โรงเรยี น

1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทีต่ นนบั ถือ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ศาสนา

1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมท่ีเกย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ามท่โี รงเรียนจัดขน้ึ

18. 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ถี ูกต้องและเปน็ จริง ซ่ื

อสัตย์ สจุ ริต 2.2 ปฏบิ ัติในสิง่ ทถ่ี กู ตอ้ ง

19. มีวินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครวั

รับผิดชอบ มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั

20. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม

4.3 เช่ือฟังคำสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้

4.4 ตั้งใจเรียน

21. อยูอ่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด

พอเพยี ง 5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่

5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน

22. มงุ่ มัน่ ในการ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพือ่ ให้งานสำเรจ็

23. รักความเปน็ 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย

ไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

24. มีจิตสาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน

8.2 รจู้ ักการดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั ิและสงิ่ แวดล้อมของห้องเรียนและ

โรงเรยี น

ลงช่อื ................................................... ผู้ประเมนิ

278

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พลงั งานความรอ้ น
แผนฯ ท่ี 3 ผลของความร้อนตอ่ การเปล่ียนแปลงอุณหภูมขิ องสสารและสถานะของสสาร

................/.............../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างครงั้

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14-15 ดมี าก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง

279


Click to View FlipBook Version