AW 15คดีทุจริตป.ป.ช.ต้องฟ้องเอง

15 คดที ุจรติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง

ต่อมา จ�ำเลยท่ี 1 ได้อุทธรณ์ค�ำพิพากษาต่อศาลอาญาคดีทุจริต
และประพฤติมิชอบภาค 4 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2562

ศาลอุทธรณร์ บั วนั ที่ 29 พฤศจิกายน 2562

ศาลอุทธรณ์

ศาลอทุ ธรณแ์ ผนกคดที จุ รติ และประพฤตมิ ชิ อบ ไดพ้ จิ ารณาอทุ ธรณ์
ของจ�ำเลยท่ี 1 แล้ว รับฟังได้ดงั นี้

จ�ำเลยท่ี 1 อุทธรณ์ในท�ำนองว่าการพิจารณาจ่ายเงินประโยชน์
ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) และการจัดท�ำเอกสารเป็นหน้าที่ของ
คณะกรรมการและพนักงาน จ�ำเลยที่ 1 มีหน้าที่เพียงลงนามในเอกสาร
ทเี่ สนอมาเทา่ นนั้ เปน็ การอทุ ธรณว์ า่ จ�ำเลยท่ี 1 ไมไ่ ดก้ ระท�ำความผดิ เพราะขาด
เจตนานนั้ ขดั กบั ค�ำใหก้ ารรบั สารภาพของจ�ำเลยที่ 1 ในศาลชนั้ ตน้ จงึ เปน็ การ
อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ยกข้ึนว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น
ตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความแพง่ มาตรา 225 วรรคหนง่ึ ประกอบ
พระราชบญั ญตั วิ ธิ พี จิ ารณาคดที จุ รติ และประพฤตมิ ชิ อบ พ.ศ. 2559 มาตรา 43
ศาลอุทธรณ์แผนกคดที จุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ จงึ ไม่อาจรบั วนิ จิ ฉยั ให้ได้

ยังคงมีปัญหาที่จะวินิจฉัยต่อไปว่า มีเหตุอันควรท่ีจะรอการลงโทษ
จ�ำคุกใหแ้ กจ่ �ำเลยท่ี 1 ไดห้ รอื ไม่

เหน็ วา่ ขณะเกดิ เหตจุ �ำเลยท่ี 1 มตี �ำแหนง่ เปน็ ถงึ นายกองคก์ ารบรหิ าร
ส่วนต�ำบลหนองหาน ซ่ึงเป็นส่วนราชการท้องถิ่นที่ส�ำคัญ แต่จ�ำเลยท่ี 1
กลับกระท�ำความผิดต่อต�ำแหน่งหน้าท่ีราชการ เรียกรับทรัพย์สินเสียเอง
เปน็ ความผดิ อาญาร้ายแรงมาก แม้จ�ำเลยท่ี 1 จะไม่เคยรบั โทษจ�ำคกุ มาก่อน
รวมถงึ ไดค้ �ำนงึ เหตผุ ลอนื่ ๆ ตามทอี่ า้ งมาในอทุ ธรณ์ กไ็ มใ่ ชเ่ หตอุ นั ควรทจี่ ะรอ
การลงโทษจ�ำคกุ ใหแ้ กจ่ �ำเลยท่ี 1 ไดต้ ามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
แต่พอมีเหตุปรานีท่ีจะลงโทษจ�ำคุกจ�ำเลยท่ี 1 ในขั้นต่�ำสุดตามที่กฎหมาย
บัญญัติไว้เท่าน้ัน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริต
และประพฤตมิ ชิ อบเหน็ พอ้ งดว้ ยบางสว่ นและไมเ่ หน็ พอ้ งดว้ ยบางสว่ น อทุ ธรณ์
ของจ�ำเลยที่ 1 จงึ ฟงั ขนึ้ บางสว่ น

249

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

ค�ำพพิ ากษา

ศาลชั้นตน้
จ�ำเลยท่ี 1 มคี วามผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 (เดมิ )
และจ�ำเลยท่ี 2 มีความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดมิ )
จ�ำเลยท่ี 1 จ�ำคกุ 6 ปี สว่ นจ�ำเลยที่ 2 จ�ำคกุ 1 ปี และปรบั 4,000 บาท
จ�ำเลยทัง้ สองใหก้ ารรับสารภาพเปน็ ประโยชนแ์ กก่ ารพจิ ารณา มีเหตุ
บรรเทาโทษ ลดโทษใหค้ นละก่ึงหน่งึ คงจ�ำคกุ จ�ำเลยท่ี 1 มกี �ำหนด 3 ปี และ
จ�ำคกุ จ�ำเลยท่ี 2 มกี �ำหนด 6 เดอื น และปรบั 2,000 บาท พเิ คราะหพ์ ฤตกิ ารณ์
แหง่ คดีแล้ว เห็นว่าหลงั เกิดเหตจุ ําเลยท่ี 2 ไดน้ ําเร่ืองจําเลยที่ 1 ท่ีเรยี กรบั เงนิ
ร้องเรยี นตอ่ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดอดุ รธานี อนั เปน็ เหตใุ หจ้ ําเลยที่ 1 ถูกสั่งใหพ้ น้
จากตําแหน่งและถูกดําเนินคดีในคดีนี้ พร้อมกับจําเลยท่ี 2 และจําเลยท่ี 2
ถกู ลงโทษไลอ่ อกจากราชการแลว้ ปจั จบุ นั จาํ เลยท่ี 2 ประกอบอาชพี โดยสจุ รติ
เม่อื ไม่ปรากฏวา่ จ�ำเลยท่ี 2 เคยไดร้ ับโทษจ�ำคุกมากอ่ น จงึ เห็นควรใหโ้ อกาส
กลบั ตวั เปน็ พลเมอื งดี โทษจ�ำคุกใหร้ อการลงโทษไวม้ กี �ำหนด 3 ปี
ศาลอทุ ธรณ์
พพิ ากษาแกเ้ ป็นว่า ลงโทษจ�ำคกุ จ�ำเลยที่ 1 มีก�ำหนด 5 ปี ลดโทษ
ใหต้ ามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กง่ึ หน่ึง คงจ�ำคกุ 2 ปี 6 เดอื น
นอกจากทแี่ กค้ งให้เปน็ ไปตามค�ำพิพากษาศาลช้ันต้น

250

15 คดีทุจริต ป.ป.ช. ต้องฟ้องเอง

เงินโบนัสของพนักงานองค์การ
บรหิ ารสว่ นตำบลหนองหาน

เงิน +0.5 +1.00 +0.5
โบนัส
เงิน เงนิ เงิน
โบนสั โบนัส โบนัส

เงิน เงิน เงิน เงิน
เดอื น เดือน เดอื น เดอื น

พนกั งานสว่ นตำบล พนกั งานจ้างตามภารกจิ พนกั งานจา้ งทว่ั ไป ลูกจา้ งประจำ
1 เทา่ ของเงนิ เดือน
3 เท่าของเงนิ เดือน 2 เท่าของเงนิ เดอื น 1.5 เท่าของเงนิ เดือน

251

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง
252

15 คดที ุจริต ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

13คดีท่ี

กรณกี ลา่ วหา นายทรงชัย รุจิรารงั สรรค์
เม่อื ครงั้ ด�ำรงต�ำแหน่งนายกเทศมนตรี
เมอื งกันทรลกั ษ์ จังหวดั ศรสี ะเกษ

ละเว้นไมร่ ะงับการก่อสร้างหา้ งเทสโก้โลตสั
ให้เป็นไปโดยชอบดว้ ยกฎหมาย

อ่านค�ำพิพากษา (ฉบบั เต็ม)

253

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

คดหี มายเลขด�ำท่ี อท. 6/2561
คดีหมายเลขแดงท่ี อท. 49/2561

ขณะเกิดเหตุคดีนี้ นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ ด�ำรงต�ำแหน่งนายก
เทศมนตรีเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ จังหวัดศรีษะเกษ และมีฐานะเป็น
เจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ละเว้น
การปฏบิ ตั หิ นา้ ทไี่ มส่ ง่ั ใหบ้ รษิ ทั เอก-ชยั ดสี ทรบิ วิ ชนั่ ซสิ เทม จำ� กดั ดำ� เนนิ การ
แกไ้ ขการกอ่ สรา้ งอาคารพาณชิ ยกรรมประเภทคา้ ปลกี คา้ สง่ (หา้ งเทสโกโ้ ลตสั
สาขากันทรลักษ์) ให้เป็นไปตามประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง เรื่อง
ก�ำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ในการวาง
และจดั ทำ� ผงั เมอื งรวมในทอ้ งทจี่ งั หวดั ศรสี ะเกษ เพอื่ เออื้ ประโยชนใ์ หก้ บั บรษิ ทั
เอก-ชยั ดีสทรบิ วิ ชั่น ซสิ เทม จ�ำกัด เปน็ เหตใุ ห้เกิดความเสียหายแกเ่ ทศบาล
เมอื งกนั ทรลกั ษ์ จังหวดั ศรสี ะเกษ

อำ� นาจหน้าท่ขี องนายกเทศมนตรี

นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ ด�ำรงต�ำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาล
เมอื งกนั ทรลกั ษ์ มอี ำ� นาจหนา้ ทต่ี ามพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496 และ
ที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม และมีฐานะเป็น “เจา้ พนักงานท้องถน่ิ ” มอี �ำนาจหนา้ ท่ีตาม
พระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 ในการระงบั หรอื ใหด้ ำ� เนนิ การแกไ้ ข
เปล่ียนแปลง กรณีที่มีการก่อสร้างโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร
พ.ศ. 2522 กฎกระทรวง หรือขอ้ บัญญตั ทิ ้องถน่ิ ทอ่ี อกตามพระราชบัญญัตนิ ้ี
หรอื กฎหมายอ่ืนท่เี กย่ี วขอ้ ง

254

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

ลT�ำIดMบัELเIหNตEกุ ารณ์

22 มกราคม 2550
บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวช่ัน ซิสเทม จ�ำกัด แจ้งความ

ประสงค์เป็นหนังสือลงวันท่ี 17 มกราคม 2550 ถึงจ�ำเลย
เพ่ือให้จ�ำเลยในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นออกใบรับหนังสือแจ้ง
ความประสงค์จะก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง
(ห้างเทสโก้โลตัส สาขากันทรลกั ษ์)
1 พฤษภาคม 2550

จ�ำเลยได้ออกใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์ตามพระราช
บญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 39 ทวิ โดยหนงั สือแจง้
ความประสงค์ดงั กล่าว ข้อ 2 ระบเุ ปน็ อาคารตาม 2.1 ค.ส.ล. 1 ชั้น
จ�ำนวน 1 หลงั เพือ่ ใชเ้ ปน็ ห้างสรรพสินคา้ (คา้ ปลกี ค้าส่งประเภท
อปุ โภค-บรโิ ภค) พาณชิ ย์ ภตั ตาคาร ห้องเย็น เบเกอร่ี สำ� นักงาน
ตลาดสด และท่ีจอดรถ มีพืน้ ที่ 7,925.89 ตารางเมตร อนั เปน็ การ
แจ้งความประสงค์จะท�ำการก่อสร้างอาคารในเขตเทศบาลเมืองและ
ใกล้แหล่งชุมชน และขณะนั้นยังมิได้เริ่มลงมือก่อสร้างอาคารท่ีแจ้ง
ความประสงค์ดังกล่าว ท้ังนี้ การก่อสร้างอาคารห้างเทสโก้โลตัส
สาขากันทรลักษ์ มีพื้นท่ีส�ำหรับวางขายสินค้าอุปโภคและบริโภค
ประมาณ 3,920 ตารางเมตร

255

15 คดที ุจริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง

7 มิถนุ ายน 2550
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษปฏิบัติราชการแทนอธิบดี

กรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง ไดม้ ปี ระกาศกรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง
เร่ือง กำ� หนดหลกั เกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรพั ย์สนิ เพ่ือประโยชน์
ในการวางและจดั ทำ� ผงั เมอื งรวมในทอ้ งทจ่ี งั หวดั ศรสี ะเกษ พ.ศ. 2550
ลงวันท่ี 7 มิถุนายน 2550 ก�ำหนดให้ในท้องท่ีเขตเทศบาลเมือง
กนั ทรลกั ษส์ ามารถใหม้ กี ารใชป้ ระโยชนท์ ด่ี นิ เพอ่ื กอ่ สรา้ ง ดดั แปลง ใช้
หรือเปล่ียนแปลงการใช้เป็นอาคารพาณิชย์ประเภทค้าปลีกค้าส่ง
ที่มีพ้ืนท่ีใช้สอยอาคารรวมกันเพ่ือประกอบกิจการขายปลีกขายส่ง
สนิ คา้ อปุ โภคและบรโิ ภคหลายประเภทในชวี ติ ประจำ� วนั ไดต้ ง้ั แต่ 400
ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 800 ตารางเมตร ทงั้ นี้ ประกาศดังกล่าว
มีผลใช้บังคบั ต้ังแต่วันท่ี 21 มถิ ุนายน 2550 เปน็ ต้นไป
23 – 25 มิถนุ ายน 2550

นายชัยรัตน์ วงษ์ใหญ่ และนายเสริมพงษ์ ทองสัมฤทธ์ิ
กบั พวก ไปทบ่ี รเิ วณกอ่ สรา้ งหา้ งเทสโกโ้ ลตสั สาขากนั ทรลกั ษ์ เหน็ เพยี ง
รถแบคโฮก�ำลังปรับพื้นท่ีที่จะก่อสร้าง ล้อมรั้วสังกะสี แต่ยังไม่มี
การตอกเสาเขม็ และไมเ่ ห็นเครือ่ งจกั รทใ่ี ชใ้ นการตอกเสาเขม็ จงึ ได้
ถ่ายภาพบรเิ วณพ้นื ท่กี ่อสร้างดงั กล่าวไว้

256

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง

15 กรกฎาคม 2550
บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จ�ำกัด เริ่มท�ำการ

ก่อสร้างโดยลงมือตอกเสาเข็ม มีการตั้งเสาไม้ท�ำร้ัวล้อมรอบพ้ืนท่ี
ก่อสร้าง กับมีเสาเข็มคอนกรีตปักอยู่ในพ้ืนที่เพียงไม่ก่ีต้น และมี
รถปน้ั จนั่ สำ� หรบั ตอกเสาเขม็ 2 คนั รถเครนสำ� หรบั ยกเสาเขม็ 1 คนั
19 กรกฎาคม 2550

นายชยั รัตน์ วงษใ์ หญ่ กบั พวกรวม 13 คน มีหนงั สือแจง้
ไปยงั จำ� เลย เพอื่ สง่ั ระงบั ใหบ้ รษิ ทั เอก-ชยั ดสี ทรบิ วิ ชนั่ ซสิ เทม จำ� กดั
แก้ไขการก่อสร้างอาคารให้เป็นไปตามประกาศกรมโยธาธิการและ
ผังเมือง เร่ือง ก�ำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน
เพ่ือประโยชน์ในการวางและจัดท�ำผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัด
ศรีสะเกษ พ.ศ. 2550 ลงวันที่ 7 มิถนุ ายน 2550 แต่จ�ำเลยกลับ
ละเว้น ไม่ด�ำเนินการอย่างใดหรือส่ังการให้เป็นไปตามกฎหมาย
จนการกอ่ สรา้ งแลว้ เสรจ็ เข้าและใช้ประโยชน์จากอาคารนนั้

257

15 คดีทุจรติ ป.ป.ช. ต้องฟ้องเอง

การพจิ ารณาของศาล

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าขณะเกิดเหตุคดีนี้ จ�ำเลยด�ำรงต�ำแหน่งนายก
เทศมนตรีเทศบาลเมืองกันทรลกั ษ์ และเปน็ เจา้ พนักงานทอ้ งถน่ิ ตามพระราช
บัญญตั ิควบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 เมอ่ื วนั ที่ 22 มกราคม 2550 จำ� เลยไดร้ ับ
แจง้ ความประสงค์เป็นหนงั สือจากบรษิ ัท เอก-ชัย ดสี ทริบวิ ช่ัน ซสิ เทม จ�ำกัด
วา่ จะกอ่ สรา้ งอาคารพาณชิ ยกรรมประเภทคา้ ปลกี คา้ สง่ (หา้ งเทสโกโ้ ลตสั สาขา
กันทรลักษ์) เพื่อให้จ�ำเลยในฐานะเจ้าพนักงานท้องถ่ินออกใบรับหนังสือแจ้ง
ความประสงค์จะก่อสรา้ งอาคาร

เมอื่ วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2550 จำ� เลยไดอ้ อกใบรบั หนังสือแจง้ ความ
ประสงคต์ ามมาตรา 39 ทวิ และหนงั สอื แจง้ ความประสงคด์ งั กลา่ ว ระบเุ ปน็
อาคาร ค.ส.ล. 1 ชนั้ จำ� นวน 1 หลงั เพอ่ื ใชเ้ ปน็ หา้ งสรรพสนิ คา้ (คา้ ปลกี คา้ สง่
ประเภทอปุ โภค-บริโภค) พาณิชย์ ภัตตาคาร หอ้ งเย็น เบเกอรี่ สำ� นักงาน
ตลาดสด และท่ีจอดรถ มีพ้ืนที่ 7,925.89 ตารางเมตร อันเป็นการแจ้ง
ความประสงคจ์ ะทำ� การกอ่ สร้างอาคารในเขตเทศบาลเมอื งกนั ทรลักษ์ โดย
การกอ่ สร้างอาคารหา้ งเทสโก้โลตัส สาขากันทรลกั ษ์ มพี น้ื ท่ีส�ำหรับวางขาย
สนิ ค้าอปุ โภคและบริโภคประมาณ 3,920 ตารางเมตร

258

15 คดีทุจรติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

ต่อมา อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าพนักงานการผัง โดย
ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ศรสี ะเกษปฏบิ ตั ริ าชการแทน ไดอ้ อกประกาศกรมโยธาธกิ าร
และผงั เมอื ง เรอื่ ง กำ� หนดหลกั เกณฑก์ ารใชป้ ระโยชนใ์ นทรพั ยส์ นิ เพอ่ื ประโยชน์
ในการวางและจัดท�ำผังเมืองรวมในท้องท่ีจังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2550
ลงวนั ท่ี 7 มิถุนายน 2550 ก�ำหนดใหใ้ นท้องทีเ่ ขตเทศบาลเมอื งกนั ทรลักษ์
สามารถใหม้ กี ารใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ เพอ่ื กอ่ สรา้ ง ดดั แปลง ใชห้ รอื เปลย่ี นแปลง
การใช้เป็นอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งท่ีมีพื้นที่ใช้สอยอาคาร
รวมกันเพ่ือประกอบกิจการขายปลีกขายส่งสินค้าอุปโภคและบริโภคหลาย
ประเภททีใ่ ช้ในชวี ติ ประจ�ำวันไดต้ ้งั แต่ 400 ตารางเมตร แตไ่ ม่เกนิ 800
ตารางเมตร ประกาศดังกล่าวมผี ลใชบ้ ังคับตั้งแต่วนั ท่ี 21 มถิ ุนายน 2550
เปน็ ต้นไป

มีปัญหาต้องวนิ จิ ฉัยวา่ จำ� เลยกระท�ำความผดิ ตามฟ้องหรอื ไม่
ได้ความจากพยานโจทก์และรายงานกับสำ� นวนการไต่สวนข้อเท็จจริง

และภาพถา่ ยบรเิ วณสถานทก่ี อ่ สรา้ งหา้ งเทสโกโ้ ลตสั สาขากนั ทรลกั ษ์ ปรากฏวา่
เม่ือวันที่ 23 ถึงวันที่ 25 มถิ นุ ายน 2550 บริเวณทีก่ ่อสร้างห้างเทสโก้โลตสั
สาขากนั ทรลักษ์ มีเพียงรถแบคโฮก�ำลังปรบั พนื้ ทท่ี ่จี ะก่อสรา้ ง ล้อมรั้วสงั กะสี
แต่ยังไม่มีเครื่องจักรที่ใช้ส�ำหรับการตอกเสาเข็มอยู่ในพื้นที่ และในวันท่ี 15
กรกฎาคม 2550 มีการตั้งเสาไม้ท�ำรั้วล้อมรอบพื้นที่ก่อสร้างกับมีเสาเข็ม
คอนกรตี ปักอยใู่ นพน้ื ทเี่ พียงไม่กตี่ ้นและมรี ถปั้นจ่ันสำ� หรบั ตอกเสาเข็ม 2 คัน
รถเครนสำ� หรับยกเสาเข็ม 1 คัน

259

15 คดีทจุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

พฤติการณ์ท่เี กิดขนึ้ ดังกลา่ ว น่าเช่ือวา่
เพ่งิ จะเร่มิ มีการดำ� เนินการก่อสร้างโดยตอกเสาเข็มอย่างจริงจัง

ในช่ วงเวลาดังกลา่ ว กระท่งั ต่อมาในวนั ท่ี
1 สงิ หาคม 2550 จงึ จะมเี สาคอนกรีตอยูเ่ ตม็ พนื้ ท่ี
รวมทงั้ มกี ารลอ้ มรวั้ สังกะสีรอบพน้ื ท่ีกอ่ สรา้ งและด�ำเนนิ การ
กอ่ สรา้ งโครงสร้างอาคารภายหลังจากนนั้ เป็นต้นมา

ข้อตอ่ สู้ของจ�ำเลย
1. จำ� เลยต่อสู้วา่ นายณัฐธี วาวเงินงาม วศิ วกรของบริษทั คริสเตยี นี

และนลี เส็น (ไทย) จำ� กัด (มหาชน) และนายสุวิทย์ มาลวี รรณ วิศวกรโยธา
ส�ำนักงานเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ท�ำการก่อสร้างห้างเทสโก้โลตัส สาขา
กนั ทรลักษ์ เรม่ิ ตอกเสาเข็มในวนั ที่ 10 มิถนุ ายน 2550 โดยมตี ารางการตอก
เสาเข็มและภาพถ่ายการตอกเสาเข็มในวันที่ 10 มถิ ุนายน 2550

ศาลเห็นว่าขัดแย้งกับภาพถ่ายสถานที่ก่อสร้างที่พยานโจทก์กับพวก
ถา่ ยไว้ ซงึ่ หากมกี ารตอกเสาเขม็ จรงิ แลว้ จะตอ้ งปรากฏรอ่ งรอยแสดงจดุ ทต่ี อก
เสาเขม็ สำ� หรบั วางเสาคอนกรตี ใหเ้ หน็ บา้ ง ทงั้ น้ี สภาพพน้ื ดนิ จะไมเ่ รยี บดงั เชน่
ทปี่ รากฏในภาพถ่าย และไม่สอดคลอ้ งกบั พยานเอกสารในรายงานไตส่ วนของ
คณะกรรมการ ป.ป.ช.

เนอ่ื งจากสญั ญาจา้ งกอ่ สรา้ งหา้ งเทสโกโ้ ลตสั สาขากนั ทรลกั ษ์ ระหวา่ ง
บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จ�ำกัด และบริษัท คริสเตียนี และ
นีลเสน็ (ไทย) จ�ำกดั (มหาชน) ท�ำสญั ญาเม่ือวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 โดย
ในสัญญาจ้างระบวุ า่ มีการเสนอราคาเม่อื วนั ท่ี 8 มถิ นุ ายน 2550 และใหเ้ ริ่ม
ท�ำงานในวนั ท่ี 10 มิถุนายน 2550 การท่จี ะลงมือตอกเสาเขม็ ทง้ั ท่ยี งั ไมม่ ี
การตกลงทำ� สัญญาวา่ จา้ งน้นั ยอ่ มผดิ วสิ ัยของผู้ประกอบธรุ กจิ ซ่ึงทำ� สญั ญา

260

15 คดที ุจรติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

วา่ จา้ ง ในโครงการนเี้ ปน็ จำ� นวนเงนิ สงู ถงึ 80,464,000 บาท ดงั นนั้ ในวนั ท่ี
10 มถิ นุ ายน 2550 จงึ นา่ จะเพง่ิ มกี ารเขา้ ไปในสถานทก่ี อ่ สรา้ งเพอื่ ปรบั พนื้ ที่
เท่าน้นั

2. พยานจำ� เลยปากนายเทวินทร์ บญุ ยศ และนายกมล มสุ กิ ะนันทน์
ศาลเห็นว่านายเทวนิ ทร์ ท�ำงานรบั จา้ งทบ่ี รษิ ทั เอก-ชัย ดสี ทริบวิ ชน่ั
ซสิ เทม จำ� กดั ภายหลงั เกดิ เหตปุ ระมาณ 4 - 5 ปี และนายกมลฯ ทำ� งานรบั จา้ ง
ทบี่ รษิ ทั อนิ ทกิ รลั เอน็ จเิ นยี รงิ่ คอนซลั แตนส์ จำ� กดั ภายหลงั เกดิ เหตปุ ระมาณ
5 - 6 ปี ไม่ไดร้ ้เู หน็ เหตุการณท์ ่ีเกดิ ขน้ึ ในชว่ งเกิดเหตุ
การท่ีพยานเบิกความตามเอกสารเก่ียวกับสัญญาจ้างและทางปฏิบัติ
ของบรษิ ทั ทพ่ี ยานทำ� งานอยวู่ า่ ลงมอื ทำ� การกอ่ สรา้ งกอ่ นแลว้ ทำ� สญั ญาภายหลงั
รบั ฟงั ไดใ้ นเบอ้ื งตน้ เทา่ นน้ั ไมส่ ามารถหกั ลา้ งพยานหลกั ฐานโจทกไ์ ด้ จงึ เชอื่ วา่
มีการเรม่ิ ก่อสรา้ งโดยเร่มิ ลงมือตอกเสาเข็มภายหลังวันที่ 21 มิถุนายน 2550
ดังนน้ั การทีผ่ ้กู ล่าวโทษแจ้งใหจ้ ำ� เลยทราบว่าหา้ งเทสโก้โลตัส สาขา
กันทรลักษ์ ก่อสร้างอาคารโดยฝ่าฝืนต่อประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง
เร่ือง ก�ำหนดหลกั เกณฑ์การใช้ประโยชนใ์ นทรพั ย์สินเพื่อประโยชน์ในการวาง
และจัดทำ� ผงั เมืองรวมในท้องทจ่ี ังหวัดศรสี ะเกษ พ.ศ. 2550

261

15 คดีทุจรติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

จำ� เลยในฐานะเจา้ พนกั งานทอ้ งถ่นิ ซ่ึงมอี �ำนาจหน้าท่ี
จะต้องปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญัตคิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522
มิไดม้ ีค�ำส่งั ให้ระงบั การก่อสร้างหรอื ส่ังใหเ้ ปล่ียนแปลงแก้ไข
และอาจมีผลให้ทางราชการและประชาชนไดร้ บั ความเสียหาย

จำ� เลยจึงมคี วามผิดตามฟ้อง

ค�ำพพิ ากษา

จ�ำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม)
จ�ำคุก 2 ปี และปรับ 6,000 บาท ทางน�ำสืบของจ�ำเลยเป็นประโยชน์แก่
การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำ� คกุ 1 ปี 4 เดอื น และปรับ 4,000 บาท

พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีและเหตุอื่นประกอบกันท้ังหมดแล้ว
ไมป่ รากฏวา่ จำ� เลยเคยไดร้ บั โทษจำ� คกุ มากอ่ น รวมทง้ั มอี ายมุ ากแลว้ ทง้ั ไมป่ รากฏ
ว่าจ�ำเลยได้รับผลประโยชน์ ยังอยใู่ นวสิ ยั ทจี่ ะกลับตนเป็นพลเมอื งดีของสงั คม
เหน็ สมควรใหโ้ อกาสจำ� เลยสกั ครงั้ โทษจำ� คกุ ใหร้ อการลงโทษไวม้ กี ำ� หนด 3 ปี
ให้คุมการประพฤติจ�ำเลยไว้มีก�ำหนด 2 ปี โดยให้จ�ำเลยไปรายงานตัว
ต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนต่อครั้ง ให้จ�ำเลยท�ำกิจกรรมบริการสังคม
หรือสาธารณประโยชน์ตามท่ีพนักงานคุมประพฤติและจ�ำเลยเห็นสมควรเป็น
เวลา 28 ชว่ั โมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

262

15 คดีทุจรติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง

ห้างเทสโก้ทยี่ ื่นขอแจง้ ความประสงคก์ ่อสร้าง
มพี ืน้ ทร่ี วม 3,920 ตารางเมตร

3,920 ตร.ม. 800 ตร.ม.

กฎหมายอนญุ าตให้ท้องทเี่ ขตเทศบาลเมืองกนั ทรลักษ์
สามารถใชป้ ระโยชนใ์ นทด่ี นิ เพอ่ื กอ่ สรา้ งไดต้ ั้งแต่
400 ตร.ม. แต่ไม่เกิน 800 ตร.ม.

263

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง
264

15 คดที จุ รติ ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

14คดีท่ี

กรณกี ลา่ วหา นายชวนนิ ทร์ เพมะ เม่อื ครงั้ ด�ำรง
ตำ� แหนง่ นายกเทศมนตรตี ำ� บลกงไกรลาศ
อำ� เภอกงไกรลาศ จงั หวดั สโุ ขทยั
จดั ท�ำเอกสารหลักฐานและเบิกคา่ ใช้จา่ ย
ในการเดินทางไปราชการอันเป็นเทจ็

อ่านค�ำพิพากษา (ฉบับเตม็ )

265

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

คดีหมายเลขดำ� ท่ี อท. 83/2562
คดหี มายเลขแดงท่ี อท. 53/2563

ขณะเกดิ เหตคุ ดนี ี้ นายชวนนิ ทร์ เพมะ ดำ� รงตำ� แหนง่ นายกเทศมนตรี
ตำ� บลกงไกรลาศ อำ� เภอกงไกรลาศ จงั หวดั สโุ ขทยั จดั ทำ� เอกสารหลกั ฐานและ
เบิกจ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการอันเป็นเท็จ กรณีเข้าร่วม
ประชุมช้ีแจงรายละเอียดการใช้ระบบรายงานตัวช้ีวัดทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดล้อมส�ำหรับท้องถิ่นของกรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม ในวันท่ี 26
มถิ นุ ายน 2555 ณ โรงแรมรีเจนท์ ลอดจ์ อำ� เภอเมือง จงั หวัดล�ำปาง ท�ำให้
เทศบาลตำ� บลกงไกรลาศได้รบั ความเสยี หาย

อ�ำนาจหนา้ ท่ขี องนายกเทศมนตรี
นายชวนินทร์ เพมะ ดำ� รงต�ำแหนง่ นายกเทศมนตรีต�ำบลกงไกรลาศ
อำ� เภอกงไกรลาศ จงั หวดั สโุ ขทยั มอี ำ� นาจหนา้ ทใี่ นการสง่ั อนญุ าต และอนมุ ตั ิ
เกย่ี วกบั ราชการของเทศบาลตลอดจนมหี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบในการบรหิ ารราชการ
ของเทศบาลให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เทศบัญญัติ และ
นโยบาย ตามพระราชบัญญตั ิเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 48 เตรส รวมท้งั
มีอ�ำนาจหน้าที่ในการอนุมัติฎีกาเพ่ือเบิกจ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ไปราชการของเทศบาล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน
การเบกิ จา่ ยเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รักษาเงิน และการตรวจเงินขององคก์ ร
ปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2547 และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เติม

266

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

ลTำ� IดMบัELเIหNตEุการณ์

11 มถิ นุ ายน 2555
สำ� นกั งานสงิ่ แวดลอ้ มภาคท่ี 2 ลำ� ปาง กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพ

สง่ิ แวดลอ้ ม ไดม้ หี นงั สอื เชญิ จำ� เลยในฐานะสมาชกิ ระบบรายงานตวั ชว้ี ดั
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมส�ำหรับท้องถิ่น เข้าร่วมประชุม
ช้ีแจงรายละเอียดการใช้ระบบรายงานตัวช้ีวัดดังกล่าวในวันที่ 26
มิถนุ ายน 2555 ตัง้ แตเ่ วลา 08.30 – 16.30 น. ณ โรงแรม รีเจนท์
ลอดจ์ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั ลำ� ปาง และจำ� เลยไดส้ มคั รเขา้ รว่ มประชมุ

21 มิถนุ ายน 2555
จ�ำเลยได้ดำ� เนนิ การดังตอ่ ไปน้ี
1. มีหนังสือถึงนายอ�ำเภอกงไกรลาศ ในฐานะผู้มีอ�ำนาจ

ก�ำกบั ดูแล เทศบาลต�ำบลกงไกรลาศ ขออนมุ ัตเิ ดินทางไปราชการ
เพ่ือเข้าร่วมประชุมช้ีแจงรายละเอียดการใช้ระบบรายงานตัวชี้วัด
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส�ำหรับท้องถ่ิน ต้ังแต่วันที่
25 - 26 มถิ นุ ายน 2555 ณ โรงแรมรเี จนท์ ลอดจ์ อำ� เภอเมือง
จงั หวดั ลำ� ปาง

2. มีค�ำสั่งเทศบาลต�ำบลกงไกรลาศ ที่ 175/2555 ลงวันท่ี
21 มถิ ุนายน 2555 อนุมตั ิให้นายวสนั ต์ มากเจียม เจา้ พนักงาน
ธรุ การ และนายประหยดั พทุ ธา พนกั งานขบั เครอื่ งจกั รกลขนาดเบา
เป็นผู้ขับรถยนต์ เพื่อเข้าร่วมประชุมช้ีแจงรายละเอียดดังกล่าวด้วย
โดยใชร้ ถยนตข์ องทางราชการ หมายเลขทะเบยี น กค 5391 สโุ ขทยั

267

15 คดีทจุ ริต ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

21 มถิ ุนายน 2555
3. จัดท�ำบันทึกขอยืมเงินไปราชการเสนอต่อจ�ำเลยเอง

ในฐานะนายกเทศมนตรีต�ำบลกงไกรลาศ เป็นค่าพาหนะ ค่าที่พัก
และเบี้ยเลย้ี งเป็นเงนิ 5,790 บาท และไดล้ งนามอนมุ ตั ติ ามบนั ทกึ
ดังกล่าว และได้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับเงินยืมตามสัญญายืมเงิน
เลขที่ 39/2555 ลงวนั ที่ 21 มถิ นุ ายน 2555 และไดร้ บั เงนิ ดงั กลา่ วแลว้

22 มิถุนายน 2555
นายอ�ำเภอกงไกรลาศไดอ้ นมุ ตั ใิ ห้จำ� เลยเดินทางไปราชการ

25 มิถุนายน 2555
นายวสนั ต์ มากเจยี ม และนายประหยดั พทุ ธา ออกเดนิ ทาง

จากส�ำนักงานเทศบาลต�ำบลกงไกรลาศ เวลาประมาณเท่ียงวัน
ดว้ ยรถยนตข์ องเทศบาลตำ� บลกงไกรลาศ หมายเลขทะเบยี น กค 5391
สุโขทัย และเดินทางไปถึงจังหวัดล�ำปางในตอนเย็นของวันเดียวกัน
เขา้ พกั ทโี่ รงแรมใกลก้ บั สถานทจี่ ดั ประชมุ โดยจำ� เลยไมไ่ ดร้ ว่ มเดนิ ทาง
ไปด้วย

268

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

26 มิถุนายน 2555
จ�ำเลย นายนิเวศน์ แป้นจาก รองนายกเทศมนตรีต�ำบล

กงไกรลาศ และนายสุรชัย น้อยอินทร์ พนกั งานดบั เพลงิ ส�ำนกั งาน
นายกเทศมนตรีต�ำบลกงไกรลาศ ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
จากจังหวัดสโุ ขทยั เม่อื เวลา 4 นาฬกิ า ไปยงั โรงแรมรีเจนท์ ลอด์จ
อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั ลำ� ปาง ถงึ เวลาประมาณ 7 นาฬกิ า แตเ่ มอื่ เดนิ ทาง
ไปถึงโรงแรมแล้ว จ�ำเลยแจ้งนายวสันต์ฯ และนายประหยัดฯ ว่า
ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เนื่องจากต้องกลับไปดูแลมารดาซึ่งมี
อาการปว่ ยทรดุ หนกั และจำ� เลยใหน้ ายประหยดั ฯ เขา้ รว่ มประชมุ แทน

27 มิถนุ ายน 2555
จ�ำเลยได้จัดท�ำเอกสารส่งใช้เงินยืม โดยท�ำค�ำรับรองว่า

จำ� เลย นายวสันตฯ์ และนายประหยัดฯ ได้ออกเดินทางไปราชการ
ระหว่างวนั ที่ 25 - 26 มถิ นุ ายน 2555 ณ โรงแรมรเี จนท์ ลอดจ์
อำ� เภอเมือง จังหวดั ลำ� ปาง โดยออกเดนิ ทางจากส�ำนกั งานเทศบาล
ตำ� บลกงไกรลาศ เม่ือวนั ที่ 25 มิถนุ ายน 2555 เวลา 8 นาฬิกา
กลับถึงส�ำนักงานเทศบาลต�ำบลกงไกรลาศ ในวันที่ 26 มิถุนายน
2555 เวลา 21 นาฬิกา รวมเวลาไปราชการ 1 วนั 13 ชวั่ โมง โดย
ขอใช้สิทธิเบิกจ่ายค่าเบ้ียเลี้ยงประเภท ก ในส่วนของตนเป็นเวลา
1 วนั เป็นเงิน 270 บาท และคา่ เช่าทีพ่ ักประเภทเหมาจ่าย เป็นเงิน
1,200 บาท โดยนำ� ใบรบั รองแทนใบเสรจ็ รบั เงนิ คา่ ทพ่ี กั แบบเหมาจา่ ย
มาใช้เป็นเอกสารประกอบใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
และจ�ำเลยลงนามอนุมัติให้จ่ายเงิน และลงนามอนุมัติให้เบิกจ่ายได้
ตามฎกี าเบิกเงินงบประมาณรายจา่ ย

269

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

การพจิ ารณาของศาล

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุจ�ำเลยด�ำรงต�ำแหน่งนายก
เทศมนตรีต�ำบลกงไกรลาศ อ�ำเภอกงไกรลาศ จงั หวดั สโุ ขทัย มีอำ� นาจหน้าท่ี
ในการสั่ง อนญุ าต และอนุมัติเกย่ี วกบั ราชการของเทศบาล ตลอดจนมีหน้าที่
รบั ผดิ ชอบในการบรหิ ารราชการของเทศบาล ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย ระเบยี บ
ข้อบังคับ เทศบญั ญตั ิ และนโยบาย ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496
รวมทั้งมีอ�ำนาจหน้าท่ีในการอนุมัติฎีกาเพ่ือเบิกจ่ายเงิน เป็นค่าใช้จ่ายในการ
เดินทางไปราชการของเทศบาล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการ
รับเงนิ การเบิกจ่ายเงนิ การฝากเงิน การเกบ็ รกั ษาเงิน และการตรวจเงินของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และท่ีแก้ไขเพม่ิ เติม

เมอื่ วนั ที่ 21 มถิ นุ ายน 2555 จำ� เลยมหี นงั สอื ถงึ นายอำ� เภอกงไกรลาศ
ในฐานะผู้มีอ�ำนาจก�ำกับดูแลเทศบาลต�ำบลกงไกรลาศ ขออนุมัติเดินทาง
ไปราชการเพ่ือเข้าร่วมประชุมช้ีแจงรายละเอียดการใช้ระบบรายงานตัวช้ีวัด
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส�ำหรับท้องถิ่นของกรมส่งเสริมคุณภาพ
สงิ่ แวดล้อม ณ โรงแรมรีเจนท์ ลอดจ์ อำ� เภอเมือง จังหวัดล�ำปาง ตัง้ แตว่ ันที่
25 - 26 มิถุนายน 2555 และในวันเดียวกันจ�ำเลยมีค�ำส่ังเทศบาล

270

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง

ต�ำบลกงไกรลาศ ที่ 175/2555 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2555 อนุมัติให้
นายวสันต์ มากเจียม เจ้าพนักงานธุรการ และนายประหยดั พทุ ธา พนักงาน
ขบั เครอ่ื งจกั รกลขนาดเบา เปน็ ผขู้ บั รถยนตเ์ พอ่ื เขา้ รว่ มประชมุ ชแ้ี จงรายละเอยี ด
ดังกล่าวด้วย โดยใช้รถยนต์ของทางราชการ หมายเลขทะเบียน กค 5391
สุโขทัย และจ�ำเลยได้จัดท�ำบันทึกขอยืมเงินไปราชการเสนอต่อจ�ำเลยเอง
ในฐานะนายกเทศมนตรตี ำ� บลกงไกรลาศ เปน็ คา่ พาหนะ คา่ ทพี่ กั และเบย้ี เลย้ี ง
เป็นเงิน 5,790 บาท และจ�ำเลยได้ลงนามอนุมัติตามบันทึกขอยืมเงิน
ดงั กลา่ ว และลงลายมอื ชอ่ื ในฐานะผรู้ บั เงนิ ยมื ตามสญั ญายมื เงนิ เลขท่ี 39/2555
ลงวนั ที่ 21 มิถุนายน 2555 และตอ่ มาวันท่ี 22 มิถนุ ายน 2555 นายอำ� เภอ
กงไกรลาศ อนมุ ตั ใิ หจ้ ำ� เลยเดนิ ทางไปราชการ

ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน 2555 จ�ำเลยท�ำค�ำรับรองว่า จ�ำเลย
นายวสนั ตฯ์ และนายประหยดั ฯ ไดอ้ อกเดนิ ทางไปราชการระหวา่ งวนั ท่ี 25 - 26
มิถุนายน 2555 ณ โรงแรมรีเจนท์ ลอด์จ อ�ำเภอเมือง จังหวัดล�ำปาง
โดยออกเดนิ ทางจากสำ� นกั งานเทศบาลตำ� บลกงไกรลาศ เมอื่ วนั ที่ 25 มถิ นุ ายน
2555 เวลา 8 นาฬิกา กลับถึงส�ำนักงานเทศบาลต�ำบลกงไกรลาศในวันที่
26 มิถนุ ายน 2555 เวลา 21 นาฬกิ า รวมเวลาไปราชการ 1 วนั 13 ชว่ั โมง
โดยขอใชส้ ิทธเิ บิกจ่ายคา่ เบ้ียเล้ยี งประเภท ก ในส่วนของตนเป็นเวลา 1 วัน
เปน็ เงิน 270 บาท และค่าเช่าที่พักประเภทเหมาจ่าย เป็นเงิน 1,200 บาท
โดยน�ำใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงินค่าที่พักแบบเหมาจ่ายมาใช้เป็นเอกสาร
ประกอบใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ

มีปัญหาตอ้ งวนิ จิ ฉยั วา่ จ�ำเลยกระทำ� ความผดิ ตามฟ้องหรอื ไม่
ในชน้ั ไตส่ วนพยานโจทกป์ ระกอบคำ� รบั สารภาพของจำ� เลย ขอ้ เทจ็ จรงิ

ฟังได้ว่า นายวสันต์ มากเจียม และนายประหยัด พุทธา ออกเดินทางไป
ประชมุ ทจี่ งั หวดั ลำ� ปางในวนั ที่ 25 มถิ นุ ายน 2555 สว่ นจำ� เลยออกเดนิ ทางไป
ร่วมประชุมในวันที่ 26 มิถนุ ายน 2555 แต่ไม่ไดเ้ ขา้ รว่ มประชุมและคืนวนั ท่ี
25 มิถนุ ายน 2555 จำ� เลยไมไ่ ดพ้ กั ค้างคืนที่จังหวดั ลำ� ปาง

271

15 คดที ุจรติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

ค่าเบีย้ เลยี้ งเดินทาง

ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป
ราชการของเจา้ หนา้ ทท่ี อ้ งถนิ่ พ.ศ. 2526 และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ขอ้ 15 กำ� หนด
วา่ ผทู้ จ่ี ะมสี ทิ ธเิ บกิ คา่ เบย้ี เลย้ี งเดนิ ทางจะตอ้ งมเี วลาเดนิ ทางไปราชการรวมเวลา
ไปและกลับเกินสิบสองชั่วโมง เม่ือจ�ำเลยเดินทางไปร่วมประชุมในวันที่ 26
มถิ ุนายน 2555 โดยออกเดินทางเวลา 4 นาฬกิ า และไปถึงโรงแรมรเี จนท์
ลอดจ์ สถานทใ่ี ชจ้ ดั ประชมุ เวลาประมาณ 7 นาฬกิ า แตไ่ มไ่ ดเ้ ขา้ รว่ มประชมุ
และเดินทางกลับ การเดินทางไปราชการของจ�ำเลยนับต้ังแต่เวลาออกจาก
สถานทอ่ี ยู่ หรอื สถานทป่ี ฏบิ ตั ิราชการปกติ นบั ไดไ้ ม่เกินสบิ สองชว่ั โมงและ
จ�ำเลยไม่ได้เขา้ รว่ มประชมุ จำ� เลยจงึ ไมม่ ีสิทธิเบิกค่าเบ้ยี เลย้ี งเดนิ ทาง

คา่ เช่ าท่พี กั

ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ไปราชการของเจ้าหน้าที่ท้องถ่ิน พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ข้อ 16
การเดนิ ทางไปราชการทจี่ ำ� ตอ้ งพกั แรม เวน้ แตก่ ารพกั แรมซง่ึ โดยปกตติ อ้ งพกั แรม
ในยานพาหนะหรือพักแรมในที่พักซึ่งทางราชการจัดให้ ให้เบิกค่าเช่าท่ีพักใน
ลักษณะเหมาจ่าย ตามระเบียบดังกล่าวการเดินทางไปราชการผู้ที่จะขอเบิก
ค่าท่ีพักได้ต้องมีการพักค้างคืน และทางราชการไม่ได้จัดที่พักให้ เม่ือจ�ำเลย

272

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

ออกเดนิ ทางไปรว่ มประชมุ วนั ที่ 26 มถิ ุนายน 2555 และไมไ่ ด้พกั ค้างคืน
จำ� เลยจึงไมม่ ีสทิ ธเิ บิกค่าเช่าทีพ่ กั ในลักษณะเหมาจ่าย

ดงั นนั้ ใบเบกิ ค่าใช้จา่ ยในการเดินทางไปราชการท่ีจำ� เลย
รับรองจงึ มรี ายละเอียดเก่ยี วกับวนั เวลาออกเดินทางไปราชการ

และระยะเวลาเดนิ ทางไปราชการไมต่ รงตอ่ ความเป็นจรงิ
และการท่จี ำ� เลยอนุมัตคิ ่าใช้จา่ ยเดนิ ทางไปราชการ

และอนมุ ตั ิฎีกาเบกิ เงนิ งบประมาณรายจา่ ยสง่ ใช้เงนิ ยมื
ทงั้ ท่จี ำ� เลยทราบว่าระยะเวลาเดนิ ทางไปราชการไมถ่ ูกต้อง
และไมม่ สี ทิ ธเิ บกิ ทำ� ใหเ้ ทศบาลตำ� บลกงไกรลาศไดร้ บั ความเสยี หาย

คำ� พพิ ากษา

จ�ำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม)
มาตรา 157 (เดมิ ) มาตรา 162 (1) (4) (เดิม) การกระท�ำของจ�ำเลยเปน็
กรรมเดยี วเป็นความผิดตอ่ กฎหมายหลายบทใหล้ งโทษตามประมวลกฎหมาย
อาญา มาตรา 151

273

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ต้องฟ้องเอง

จำ� คกุ 5 ปี ปรบั 10,000 บาท จำ� เลยใหก้ ารรบั สารภาพเปน็ ประโยชน์
แกก่ ารพิจารณามเี หตุบรรเทาโทษลดโทษให้ก่งึ หนง่ึ คงจ�ำคุก 2 ปี 6 เดือน
ปรบั 5,000 บาท

เม่ือคำ� นงึ ถึงอายุ ประวตั ิ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม
ภาวะแหง่ จติ สง่ิ แวดล้อมและสภาพความผดิ ของจำ� เลย ประกอบกับคา่ ใช้จ่าย
ในการเดินทางไปราชการท่ีจ�ำเลยขอเบิกเป็นเงินจ�ำนวนเล็กน้อย และจ�ำเลย
ได้คืนเงินจ�ำนวนดังกล่าวให้แก่เทศบาลต�ำบลกงไกรลาศแล้ว เมื่อไม่ปรากฏ
ว่าจ�ำเลยเคยได้รับโทษจ�ำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี
โทษจำ� คุกให้รอการลงโทษไว้มกี ำ� หนด 2 ปี

274

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ต้องฟ้องเอง

15คดีท่ี

กรณีกล่าวหา นางอรณี น้�ำใจตรง เม่ือครงั้ ด�ำรง
ตำ� แหนง่ เจ้าพนกั งานธุรการ ระดบั 5
สำ� นกั งานเทศบาลเมอื งกาญจนบุรี

ไมจ่ ัดสง่ เอกสารเก่ยี วกบั ประกาศประกวดราคา
จา้ งเหมาปรับปรุงการระบายน้�ำถนนแสงชูโต
(ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323)
ของเทศบาลเมืองกาญจนบุรี

อ่านคำ� พพิ ากษา (ฉบบั เตม็ )

275

15 คดที ุจริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง

คดีหมายเลขดำ� ท่ี อท. 59/2562
คดหี มายเลขแดงท่ี อท. 64/2563

นางอรณี นำ�้ ใจตรง เมอื่ ครง้ั ดำ� รงตำ� แหนง่ เจา้ พนกั งานธรุ การ ระดบั 5
ส�ำนักงานเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ซ่ึงมีหน้าที่จัดส่งเอกสารเกี่ยวกับประกาศ
ประกวดราคาจา้ งเหมาปรบั ปรงุ การระบายนำ�้ ถนนแสงชโู ต (ทางหลวงแผน่ ดนิ
หมายเลข 323) ของเทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ี ตามระเบยี บกระทรวงมหาดไทย
ว่าดว้ ยการพสั ดขุ องหน่วยการบริหารราชการสว่ นท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และท่ี
แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ขอ้ 38 ไมด่ ำ� เนนิ การดงั กลา่ ว จนเปน็ เหตใุ หเ้ อกชนผเู้ สนอราคา
โครงการนี้รู้ถึงข่าวการประกวดราคาเฉพาะกลุ่มในวงจ�ำกัด เป็นการกระท�ำที่
มงุ่ หมายมิใหม้ กี ารแขง่ ขันราคาอยา่ งเป็นธรรม เพอื่ เอ้อื อ�ำนวยแก่ผู้เข้าท�ำการ
เสนอราคารายใดใหเ้ ป็นผู้มสี ทิ ธิท�ำสญั ญากบั หนว่ ยงานของรฐั

เสนอราคา

276

15 คดีทุจรติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

เร่ืองราวจากการไต่สวนโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.
13 ตุลาคม 2547

จ�ำเลยเมื่อคร้ังรับราชการในต�ำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ
ระดบั 5 ส�ำนกั งานเทศบาลเมอื งกาญจนบุรี ได้รบั แต่งตงั้ ตามค�ำสั่ง
เทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ี ที่ 792/2547 ใหเ้ ปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบสง่ เอกสาร
ประกาศประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุงการระบายน้�ำถนนแสงชูโต
(ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 323)

27 ธันวาคม 2547
เทศบาลเมืองกาญจนบรุ ี ออกประกาศ เรื่อง ประกวดราคา

จ้างเหมาปรับปรุงการระบายน�้ำถนนแสงชูโต (ทางหลวงแผ่นดิน
หมายเลข 323) โดยก�ำหนดราคากลางของโครงการ จ�ำนวน
26,427,500 บาท กำ� หนดวนั ขอซอื้ แบบฟอรม์ ใบเสนอราคาระหวา่ ง
วนั ที่ 7 - 17 มกราคม 2548 และกำ� หนดยน่ื ซองและเปดิ ซองใบเสนอราคา
ในวันท่ี 28 มกราคม 2548 โดยประกวดราคาดังกล่าวจะต้อง
เผยแพรต่ ามระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วย
การบรหิ ารราชการสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพม่ิ เตมิ

277

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการพสั ดขุ องหนว่ ยการบรหิ ารราชการ
สว่ นทอ้ งถน่ิ พ.ศ. 2535 และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ

ข้อ 38 การซื้อหรือจา้ งโดยวธิ ีประกวดราคา ให้หัวหนา้
เจ้าหน้าที่พัสดุมีหน้าท่ีรับผิดชอบควบคุมดูแล และจัดท�ำหลักฐาน
การเผยแพรข่ า่ ว และการปดิ ประกาศประกวดราคา ภายในระยะเวลา
ทีก่ �ำหนดโดยใหเ้ จ้าหน้าท่ีพสั ดดุ ำ� เนนิ การดงั น้ี

(1) ปิดประกาศประกวดราคาโดยเปดิ เผย ณ ทท่ี ำ� การของ
หนว่ ยการบรหิ ารราชการสว่ นท้องถน่ิ น้ัน

(2) ส่งไปประกาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียง และ/หรือ
ประกาศในหนงั สือพิมพ์

(3) ส่งใหก้ รมประชาสัมพันธ์ และองคก์ ารสื่อสารมวลชน
แหง่ ประเทศไทย

(4) ส่งไปเผยแพร่ที่ศูนย์รวมข่าวประกวดราคาของทาง
ราชการ

(5) ส่งใหส้ ำ� นกั งานการตรวจเงินแผ่นดนิ ภมู ภิ าค
(6) สง่ ประกาศใหจ้ งั หวดั อ�ำเภอ กิง่ อ�ำเภอ ปิดประกาศ
ไว้ที่ศาลากลางจังหวัด ที่ท�ำการปกครองอ�ำเภอ ท่ีท�ำการปกครอง
ก่ิงอ�ำเภอ ตามล�ำดับ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ หรือตามท่ี
กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถ่นิ ก�ำหนด
นอกจากด�ำเนินการตามวรรคหนึ่ง หากหน่วยการบริหาร
ราชการส่วนท้องถิ่นเห็นควรจะส่งประกาศไปยังผู้มีอาชีพขาย หรือ
รับจา้ งทำ� งานนนั้ โดยตรง หรอื จะโฆษณาโดยวธิ ีอื่นอกี ดว้ ยก็ได้
การส่งประกาศประกวดราคาตาม (4) และ (5) ให้ส่ง
เอกสารประกวดราคาไปพร้อมกนั ด้วย
การดำ� เนนิ การตามวรรคหนงึ่ วรรคสอง และวรรคสาม ตอ้ ง
กระท�ำกอ่ นวันรับซองประกวดราคาไม่นอ้ ยกว่า 20 วัน

278

15 คดีทจุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

28 ธนั วาคม 2547
จำ� เลยไดล้ งชอ่ื รบั มอบซองประกาศประกวดราคา ใบตอบรบั

และใบน�ำส่งประกาศประกวดราคาทาง EMS ท่ีกรอกช่ือผู้รับ
ไว้แล้ว จากเจ้าหน้าที่พัสดุและเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบในการฝากส่ง
เพื่อให้จ�ำเลยน�ำส่งทาง EMS ไปยังสถานท่ีต่าง ๆ ตามท่ีระเบียบ
กระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการ
ส่วนทอ้ งถนิ่ พ.ศ. 2535 และทแ่ี กไ้ ขเพมิ่ เตมิ ข้อ 38 (2) – (6)
ก�ำหนด รวม 12 ฉบบั

• จ�ำเลยไม่น�ำซองประกาศประกวดราคาโครงการดังกล่าว
ไปฝากสง่ ณ ท่ีท�ำการไปรษณยี ์กาญจนบรุ ี ตามหนา้ ท่ีทต่ี ้องปฏิบัติ
แต่กลบั ลงลายมอื ชื่อของตนเองในช่องผู้นำ� สง่ ประกาศประกวดราคา
และระบุเวลานำ� สง่ 14.30 น. ในใบนำ� สง่ ประกาศประกวดราคาทาง
EMS และมอบใบน�ำสง่ ดังกล่าวให้แก่เทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ี โดย
มีเจตนาเพ่ือให้เทศบาลเมืองกาญจนบุรีหลงเช่ือว่าจ�ำเลยได้น�ำส่ง
ประกาศประกวดราคาตามหน้าที่ที่ได้รับแต่งต้ังแล้ว รวมท้ังจ�ำเลย
ยงั ไมไ่ ดแ้ สดงใหเ้ หน็ ดว้ ยวา่ ไดม้ กี ารปดิ ประกาศราคาดว้ ยแลว้ หรอื ไม่
เป็นเหตุให้เอกชนผู้เสนอราคาโครงการน้ีรู้ถึงข่าวการประกวดราคา
เฉพาะกลมุ่ ในวงจำ� กดั

• ทท่ี ำ� การไปรษณยี ก์ าญจนบรุ ี ยนื ยนั วา่ ไมม่ กี ารสง่ ประกาศ
ประกวดราคาผ่านทางไปรษณีย์ ตราประทับประจ�ำวันไม่ใช่
ตราประทับของไปรษณีย์กาญจนบุรี และลายมือช่ือของพนักงาน
รับฝากไมใ่ ช่ลายมอื ชื่อของพนกั งานรบั ฝากจริง

• ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 12 ยืนยันว่า
ไมไ่ ดร้ ับเอกสารประกาศประกวดราคาโครงการดังกลา่ ว

• จ�ำเลยไม่ได้ขออนุมัติเบิกเงินค่าส่งไปรษณีย์ตามประกาศ
ประกวดราคาทาง EMS ซึ่งหากจ�ำเลยน�ำส่งประกาศประกวดจริง
จะตอ้ งมใี บตอบรบั กลบั มาจากหนว่ ยงานราชการและเอกชนผมู้ อี าชพี
รับจ้างโดยตรง

279

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

คำ� ฟ้ องของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
จำ� เลยดำ� รงตำ� แหนง่ เจา้ พนกั งานธรุ การ ระดบั 5 สำ� นกั งานเทศบาลเมอื ง
กาญจนบรุ ี ถอื เปน็ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ตามมาตรา 4 แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 เป็น
เจา้ พนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา และเปน็ เจา้ หนา้ ทใี่ นหนว่ ยงานของรฐั
ตามพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยความผดิ เกยี่ วกบั การเสนอราคาตอ่ หนว่ ยงานของรฐั
พ.ศ. 2542 มอี �ำนาจหน้าที่หลักในการจัดทำ� ฎีกาค่าใชจ้ ่ายตา่ ง ๆ ของเทศบาล
เมอื งกาญจนบรุ ี ตลอดจนงานทางธรุ การตา่ ง ๆ เชน่ การคมุ สมดุ คำ� สง่ั ประกาศ
การเก็บรกั ษา ควบคมุ การลงทะเบียนส่งหนังสอื ภายนอก เปน็ ต้น และเป็น
ผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบส่งเอกสารการประกาศประกวดราคา ตามค�ำส่ังเทศบาล
เมืองกาญจนบรุ ี ท่ี 792/2547 ลงวนั ท่ี 13 ตลุ าคม 2548 ซง่ึ จำ� เลยไดก้ ระท�ำ
ความผิดตามกฎหมายอาญาในขณะด�ำรงต�ำแหน่ง โดยไม่น�ำส่งซองประกาศ
ประกวดราคาโครงการจา้ งเหมาปรบั ปรงุ การระบายนำ้� ถนนแสงชโู ต (ทางหลวง
แผน่ ดนิ หมายเลข 323) อนั เปน็ การฝา่ ฝนื ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ย
การพสั ดขุ องหน่วยการบรหิ ารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไข
เพ่มิ เตมิ ขอ้ 38 และหลักเกณฑ์และวธิ กี ารตามแนวปฏบิ ตั ิในการกำ� กับดแู ล

280

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟอ้ งเอง

เผยแพร่ข่าวสารการประกาศประกวดราคาเพ่ือเสริมมาตรการป้องกันหรือ
ลดโอกาสในการสมยอมกันในการเสนอราคาตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่
7 ธันวาคม 2542 โดยมีเจตนาปกปิดประกาศประกวดราคา เพื่อให้บุคคล
ท่ัวไปและเอกชนผู้มีอาชีพรับจ้างโดยตรงไม่ทราบว่าเทศบาลเมืองกาญจนบุรี
มีโครงการประกวดราคาดังกล่าว เพ่ือให้ไม่มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
จนเป็นเหตุให้มีเอกชนผู้รับจ้างเข้าซ้ือซองเสนอราคาโครงการนี้เพียง 4 ราย
และมผี ู้ยน่ื ซองเสนอราคาเพยี ง 2 ราย การกระทำ� ของจ�ำเลยจงึ เป็นการเออื้
ประโยชน์แก่ผู้เข้าเสนอราคาเฉพาะที่ทราบข่าวการประกวดราคาในวงจ�ำกัด
เพอ่ื ใหบ้ คุ คลใดในกลมุ่ ดงั กลา่ วเป็นผ้ชู นะการประกวดราคา

ทำ� ใหเ้ ทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ไี ดร้ บั ความเสยี หาย และเปน็ การกระทำ�
โดยมีเจตนาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบเพ่ือให้เทศบาล
เมืองกาญจนบุรีได้รับความเสียหายและโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ
การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรฐั พ.ศ. 2542 มาตรา 12

จ�ำเลยให้การปฏิเสธ แต่ก่อนสืบพยาน จ�ำเลยขอถอนค�ำให้การเดิม
และใหก้ ารใหม่เป็นรบั สารภาพ

ค�ำพพิ ากษาของศาลอาญาคดีทจุ ริต
และประพฤติมิชอบ ภาค 7

1. โครงการต้นเร่อื ง

เมอ่ื วนั ท่ี 27 ธนั วาคม 2547 เทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ี ไดอ้ อกประกาศ
เรื่อง ประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุงการระบายน้�ำถนนแสงชูโต (ทางหลวง
แผ่นดินหมายเลข 323) ก�ำหนดราคากลางไว้ 26,427,500 บาท ต่อมา
มผี ซู้ อื้ เอกสารประกวดราคาโครงการดงั กลา่ ว จำ� นวน 4 ราย และเมอื่ วนั ที่ 28
มกราคม 2548 มผี ยู้ ่นื ซองเสนอราคา จำ� นวน 2 ราย และผเู้ สนอราคาตำ�่ สุด

281

15 คดที ุจรติ ป.ป.ช. ต้องฟ้องเอง

อยู่ทจ่ี ำ� นวน 26,420,500 บาท หลังจากนนั้ คณะกรรมการพิจารณาผลการ
ประกวดราคาจึงได้ต่อรองราคาคงเหลอื 26,250,000 บาท ซ่งึ เทศบาลเมือง
กาญจนบุรีก็ได้เห็นควรจ้างเหมางานโครงการดังกล่าวกับผู้เสนอราคาต่�ำสุด
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2548 เทศบาลเมืองกาญจนบุรีได้ออก
ประกาศยกเลกิ การประกวดราคาจา้ งเหมาปรบั ปรงุ การระบายนำ้� ถนนแสงชโู ต
(ทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 323) นที้ ัง้ หมด



2. ท่ีมาของเบาะแส

ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 12 จังหวัดเพชรบุรี
มหี นงั สอื แจง้ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กาญจนบรุ ี ใหด้ ำ� เนนิ การตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ
กรณีเทศบาลเมืองกาญจนบุรีไม่ส่งประกาศประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุง
การระบายน้ำ� ถนนแสงชโู ต (ทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 323) ตามระเบยี บ
กระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการพสั ดขุ องหนว่ ยการบรหิ ารราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ
พ.ศ. 2535

282

15 คดที ุจรติ ป.ป.ช. ต้องฟ้องเอง

EMS

3. พยานท่ีศาลรับฟั ง

1) นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินรายหนึ่งของส�ำนักงานการตรวจเงิน
แผน่ ดินภูมิภาคท่ี 12 จงั หวดั เพชรบุรี ไดเ้ บิกความเป็นพยานต่อศาลว่า พยาน
ไดร้ บั มอบหมายจากผบู้ งั คบั บญั ชาใหต้ รวจสอบเกยี่ วกบั การสง่ ประกาศประกวด
ราคาจ้างเหมาโครงการดังกล่าว ปรากฏว่า จ�ำเลยมีหน้าท่ีน�ำส่งประกาศ
ประกวดราคาทไ่ี ปรษณยี จ์ งั หวดั กาญจนบรุ ี ตามคำ� สง่ั เทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ี
แต่เม่ือตรวจสอบใบน�ำส่งประกาศประกวดราคาทาง EMS โดยถามหัวหน้า
ส�ำนักงานไปรษณีย์จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า ใบน�ำส่งประกาศประกวดราคา
ดงั กล่าวไม่มกี ารส่งผ่านทางไปรษณีย์ ตราประจำ� วันไมใ่ ช่ของไปรษณยี จ์ ังหวดั
กาญจนบรุ ี และไมใ่ ชล่ ายมอื ชอื่ ของพนกั งานรบั ฝาก โดยมกี ารเปรยี บเทยี บกบั
ตวั อยา่ งตราประจำ� วนั และลายมอื ชอื่ ของพนกั งานรับฝากที่แทจ้ ริงให้ศาลเห็น

นอกจากนี้ พยานยังได้ตรวจสอบทะเบียนรับหนังสือของส�ำนักงาน
การตรวจเงินแผ่นดนิ ภมู ิภาคท่ี 12 จงั หวัดเพชรบรุ ี ปรากฏวา่ ส�ำนักงานการ
ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ภมู ภิ าคท่ี 12 จงั หวดั เพชรบรุ ี กไ็ มไ่ ดร้ บั ประกาศประกวดราคา
และเอกสารการประกาศประกวดราคาจากเทศบาลเมอื งกาญจนบรุ แี ตอ่ ยา่ งใด
ท้ังทีเ่ ปน็ หนว่ ยงานของรัฐแห่งหนึ่งทีจ่ ะตอ้ งไดร้ บั ด้วย

2) พนกั งานไตส่ วนระดับต้นรายหนงึ่ ของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ�
จังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้และเป็นคณะ

283

15 คดีทจุ รติ ป.ป.ช. ต้องฟอ้ งเอง

กรรมการรว่ มฝ่าย ป.ป.ช. ไดเ้ บิกความเปน็ พยานตอ่ ศาลว่า จากการไตส่ วน
ขอ้ เทจ็ จรงิ และรวบรวมพยานหลกั ฐาน ไดค้ วามจากหวั หนา้ สำ� นกั งานไปรษณยี ์
จังหวัดกาญจนบรุ ี และพนักงานไปรษณียจ์ งั หวดั กาญจนบุรี ให้การสอดคลอ้ ง
กนั วา่ ตราประทบั ประจำ� วนั ของไปรษณยี จ์ งั หวดั กาญจนบรุ แี ละลายมอื ชอ่ื ของ
พนักงานรับฝากไปรษณีย์ในใบน�ำส่งประกาศประกวดราคาทาง EMS เป็น
ตราประทับและลายมือชื่อปลอม อีกท้ังยังได้ความจากผู้อ�ำนวยการกองคลัง
เทศบาลเมืองกาญจนบุรี และเจา้ หน้าทพ่ี ัสดุกองคลัง เทศบาลเมอื งกาญจนบรุ ี
ว่าโดยปกติจะท�ำใบตอบรับไปรษณีย์มอบให้แก่จ�ำเลยน�ำไปส่งพร้อมประกาศ
ประกวดราคาด้วย แต่กรณีนี้ไม่มีใบตอบรับทางไปรษณีย์กลับมา และไม่มี
หลักฐานใบฝากส่งตามแบบฟอร์มของท่ีท�ำการไปรษณีย์เก็บไว้เป็นหลักฐาน
เชน่ กัน รวมท้ังไมป่ รากฏว่ามีรายการค่าฝากส่งประกาศประกวดราคาในฎีกา
เบกิ เงินงบประมาณรายจ่ายของเทศบาลเมืองกาญจนบรุ ใี นชว่ งเวลานน้ั ดว้ ย

ศาลเห็นวา่ พยานท้งั สองเปน็ เจา้ พนักงาน ปฏบิ ัติราชการตามหน้าที่
ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจ�ำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าพยาน
ทง้ั สองจะกลน่ั แกลง้ เบกิ ความปรกั ปรำ� จำ� เลย และเชอื่ วา่ พยานทงั้ สองเบกิ ความ
ไปตามความจรงิ และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงท่ไี ดจ้ ากเจา้ หนา้ ทพ่ี สั ดุกองคลัง
เทศบาลเมืองกาญจนบุรี หัวหน้าส�ำนักงานไปรษณีย์จังหวัดกาญจนบุรี และ
พนักงานไปรษณียจ์ งั หวัดกาญจนบรุ ี ตลอดจนค�ำให้การรับสารภาพของจ�ำเลย
ในชัน้ พิจารณา

4. บทสรุปการกระทำ� ของจำ� เลย

จ�ำเลยด�ำรงตำ� แหน่งเจา้ พนกั งานธุรการ ระดับ 5 ส�ำนกั งานเทศบาล
เมอื งกาญจนบรุ ี มหี นา้ ทจี่ ดั สง่ เอกสารเกย่ี วกบั ประกาศประกวดราคาจา้ งเหมา
ปรับปรงุ การระบายน�้ำถนนแสงชูโต (ทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 323) ของ
เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ไม่เผยแพร่ข่าวตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย
วา่ ด้วยการพสั ดุของหนว่ ยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 38
โดยจำ� เลยไดร้ บั ซองประกาศประกวดราคาดงั กลา่ วจากเจา้ หนา้ ทพี่ สั ดกุ องคลงั
เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เพ่ือส่งให้แก่ผมู้ ีชอ่ื รวม 12 ราย แต่จำ� เลยไม่น�ำไป

284

15 คดที จุ รติ ป.ป.ช. ต้องฟ้องเอง

ฝากส่ง ณ ที่ท�ำการไปรษณีย์จังหวัดกาญจนบุรีตามหน้าท่ีที่ต้องปฏิบัติ
แต่ลงลายมือชื่อของตนเองในช่องผู้น�ำส่งประกาศประกวดราคาและระบุเวลา
น�ำสง่ เม่อื เวลา 14.30 น. ในใบนำ� สง่ ประกาศประกวดราคาทาง EMS เพ่ือให้
ผู้อื่นหลงเช่ือว่ามีการน�ำส่งแล้ว เป็นเหตุให้เอกชนผู้เสนอราคาโครงการนี้รู้ถึง
ข่าวการประกวดราคาเฉพาะกลุ่มในวงจ�ำกัด เป็นการกระท�ำท่ีมุ่งหมายมิให้มี
การแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพ่ือเออ้ื อ�ำนวยแก่ผเู้ ขา้ ทำ� การเสนอราคาราย
ใดใหเ้ ป็นผู้มีสิทธิทำ� สัญญากบั หนว่ ยงานของรัฐ

5. คำ� พิพากษา

พิพากษาว่า จ�ำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
157 พระราชบัญญัติวา่ ด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของ
รัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 การกระท�ำของจ�ำเลยเป็นกรรมเดยี วเปน็ ความผดิ
ต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเก่ียวกับ
การเสนอราคาตอ่ หนว่ ยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ซงึ่ เป็นกฎหมาย
บทที่มีโทษหนักที่สุด จ�ำคุก 5 ปี และปรับ 100,000 บาท จ�ำเลยให้การ
รับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ก่ึงหนึ่ง คงจ�ำคุก 2 ปี
6 เดอื น และปรับ 50,000 บาท

พิเคราะห์เห็นว่าจ�ำเลยไม่เคยมีประวัติกระท�ำความผิดมาก่อน ท้ัง

285

15 คดที จุ ริต ป.ป.ช. ตอ้ งฟ้องเอง

เทศบาลเมอื งกาญจนบุรีไมไ่ ดร้ บั ความเสยี หายเนอื่ งจากยังไมไ่ ด้ทำ� สญั ญาและ
ไดอ้ อกประกาศยกเลกิ การประกวดราคาโครงการนไ้ี ปกอ่ น และจากการตรวจสอบ
บัญชีเงินฝากของจ�ำเลยแล้ว ไม่ปรากฏว่าจ�ำเลยได้รับผลประโยชน์จาก
การกระทำ� ผดิ ในคดนี ี้ นอกจากนี้ จำ� เลยไดร้ บั การลงโทษทางวนิ ยั แลว้ โทษจำ� คกุ
จงึ ใหร้ อการลงโทษไว้มีก�ำหนด 2 ปี

286