The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tuahuay, 2022-10-24 20:11:03

รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน

สำนักกรรมาธิการ ๓

๔. ตัวอย่างการออกแบบการจัดการเรียนรสู้ ืบสานศาสตร์พระราชา

(ศาสตร์ท่ี ๓ ว่าด้วยการจัดการดิน) และพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร-
รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม
บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว กรณีหน่วยการเรียนที่มีอยู่เดิม เน้ือหาไม่ครอบคลุมสาระศาสตร์พระราชา
หรือตอ้ งการจดั หนว่ ยการเรยี นเพิม่ เตมิ ในสาระเดิม

การออกแบบการเรยี นรรู้ ะดับหนว่ ยการเรยี นรู้ บูรณาการศาสตรพ์ ระราชา
(ประยกุ ตใ์ ชร้ ูปแบบ Backward Design) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ รหัส–ช่ือรายวชิ า ว ๒๒๑
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ โลกและการเปลีย่ นแปลง เวลาเรยี น .......... ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี ..........
หน่วยย่อยที่ ๓ ดิน น้าํ และการอนรุ กั ษ์ เรื่อง สมบตั ิของดนิ และการพฒั นาทด่ี ิน เวลาเรยี น ๔ ช่ัวโมง

ผ้สู อน .................................................................. โรงเรยี น ........................................................
ข้ันท่ี ๑ กำ�หนดเป้าหมายหลกั ของการเรยี นรู้
๑.๑ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว ๓.๒ เขา้ ใจองคป์ ระกอบและความสมั พนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลกและบน
ผิวโลก ธรณพี ิบตั ิภยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลก รวมทัง้ ผลต่อส่ิงมีชวี ติ และส่งิ แวดล้อม
ตวั ช้วี ัด
ว ๓.๒ ม.๒/๗ ตรวจวดั สมบตั บิ างประการของดนิ โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื ทเี่ หมาะสมและน�ำ เสนอแนวทางการใชป้ ระโยชนด์ นิ
จากข้อมลู สมบัติของดิน
๑.๒ สาระส�ำ คัญ
คุณสมบัติของดินที่เป็นส่ิงซ่ึงเราสามารถตรวจสอบได้ด้วยการมองเห็น หรือจับต้องได้ เช่น เน้ือดิน ความโปร่ง
หรอื แนน่ ทบึ ของดนิ ความสามารถในการอมุ้ นา้ํ ของดนิ สขี องดนิ และสภาพความเปน็ กรด-ดา่ งของดนิ หรอื คา่ pH ของดนิ
สามารถวดั ไดด้ ว้ ยเครอ่ื งวดั ความเปน็ กรด ในภาคสนามสามารถใชช้ ดุ ตรวจสอบชนดิ ใชน้ า้ํ ยาเปลยี่ นสตี รวจสอบ เรยี กวา่
pH Test Kit หรอื ชดุ ตรวจสอบ pH
๑.๓ ความเขา้ ใจท่คี งทน (Enduring Understanding)
สมบัติบางประการของดิน ดูได้จากเนื้อดิน ความช้ืนในดิน ค่าความเป็นกรด-เบส และธาตุอาหารในดิน สมบัติ
ของดินสามารถนำ�ไปใช้ในการตัดสินใจถึงแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยอาจนำ�ไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร
หรืออืน่ ๆ
ดินที่ไม่เหมาะสมต่อการทำ�การเกษตร เช่น ดินจืด ดินเปรี้ยว ดินเค็ม และดินดาน อาจเกิดจากสภาพดิน
ตามธรรมชาตหิ รอื จากการใชป้ ระโยชน์ การท�ำ เกษตรจะตอ้ งปรบั ปรงุ ดนิ ใหม้ สี ภาพเหมาะสมกบั กจิ กรรมเกษตรทต่ี อ้ งการ
ค่า pH ของดินโดยทั่วไปจะมีค่าอยู่ระหว่างประมาณ ๓.๐-๙.๐ ค่า pH ๗.๐ บอกถึงสภาพความเป็นกลางของดิน
กลา่ วคอื ดินมีตัวที่ทำ�ให้เปน็ กรด และตวั ทท่ี �ำ ใหเ้ ปน็ ดา่ งอยเู่ ปน็ ปรมิ าณเท่ากันพอดี

276

๑.๔ สาระการเรยี นรู้
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๖ โลกและการเปลย่ี นแปลง
หน่วยยอ่ ยที่ ๓ ดิน นาํ้ และการอนุรกั ษ์
เรอ่ื ง สมบตั ขิ องดินและการพัฒนาทีด่ นิ
- สมบตั บิ างประการของดนิ
- ปัจจยั ท่ีท�ำ ใหด้ นิ แต่ละทอ้ งถ่ินมสี มบัติแตกต่างกนั
- การตรวจสอบสมบตั บิ างประการของดิน ค่าความเปน็ กรด-เบส และการใช้ประโยชน์
- ศาสตร์พระราชาในการปรับปรุงดนิ ใหม้ สี ภาพเหมาะสมเพอื่ นำ�ไปใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตร
- ข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงดินในท้องถ่ินให้มีสภาพเหมาะสมเพื่อนำ�ไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร
โดยการประยุกต์ใชศ้ าสตร์พระราชา
๑.๕ สมรรถนะสำ�คัญของผเู้ รยี น
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
- การอธิบาย การเขียน การพดู หนา้ ช้นั เรยี น
๒. ความสามารถในการคิด
๒.๑ ทักษะทั่วไป
- การสังเกต การสำ�รวจ การคิดวิเคราะห์ การคำ�นวณ การเปรียบเทียบ การจำ�แนกประเภท การจัดระบบ
ความคิดเปน็ แผนภาพ การสรา้ งคำ�อธิบาย การอภปิ ราย การส่ือความหมาย
๒.๒ ทกั ษะเฉพาะ
- การสืบคน้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
- การแก้ปัญหาการปฏิบัติกจิ กรรมโครงงานปรับปรุงดิน
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
- การแสวงหาความรเู้ พม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั การน�ำ ความรกู้ ารปรบั ปรงุ ดนิ ในทอ้ งถนิ่ ใหม้ สี ภาพเหมาะสม เพอื่ น�ำ ไปใช้
ประโยชน์ทางการเกษตรโดยการประยกุ ต์ใชศ้ าสตร์พระราชา
- การเลอื กใช้วิธกี าร เคร่อื งมอื ที่เหมาะสมในการศึกษาสมบัตขิ องดนิ ในการตรวจหาค่าความเป็นกรด-เบส
- การแสวงหาความรเู้ พ่มิ เติมเพื่อพัฒนาตนเองและครอบครวั ตามศาสตรพ์ ระราชา
- กระบวนการกลมุ่
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๑.๖ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
ตวั ช้ีวัดที่ ๑.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๑.๔.๒ แสดงความส�ำ นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ
ของพระมหากษตั รยิ ์ (สอดคลอ้ งสมั พนั ธก์ บั พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในพระบาทสมเดจ็ -
พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณมหศิ รภมู พิ ลราชวรางกรู กติ สิ ริ สิ มบรู ณอดลุ ยเดช
สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ดา้ นที่ ๑ มที ศั นคตทิ ถี่ กู ตอ้ ง
ต่อบา้ นเมือง ข้อ ๓ มัน่ คงในสถาบันพระมหากษตั รยิ )์

277

ใฝเ่ รยี นรู้
ตัวชว้ี ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
ตัวชวี้ ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการเลือกใช้สื่อ
อยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ สามารถนำ�ไปใชใ้ นชวี ิตประจ�ำ วนั ได้
มงุ่ มนั่ ในการท�ำ งาน (สอดคลอ้ งสมั พนั ธก์ บั พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในพระบาทสมเดจ็ -
พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณ-
อดลุ ยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจา้ อย่หู วั ด้านที่ ๓ ขอ้ ๒)
มงุ่ มั่นในการทำ�งาน
ตวั ช้ีวัดที่ ๖.๑ ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหน้าท่กี ารงาน
ตัวช้วี ดั ท่ี ๖.๒ ท�ำ งานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ให้งานสำ�เร็จตามเปา้ หมาย
มีจติ สาธารณะ
ตวั ช้ีวัดท่ี ๘.๒ เข้ารว่ มกิจกรรมที่เปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม
๑.๗ คำ�ถามท้าทาย
๑. ดินในทอ้ งถิน่ ของเราแต่ละแหง่ มลี กั ษณะและสมบัตอิ ยา่ งไรบา้ ง เหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร
๒. ดนิ ในแต่ละแหง่ ทม่ี ีความเหมือนหรอื แตกต่างกนั มสี าเหตมุ าจากอะไร
๓. ดนิ แตล่ ะชนั้ มีสมบัตเิ หมอื นหรอื ตา่ งกนั อย่างไร ดินทม่ี สี มบัติแตล่ ะอยา่ งเหมาะกับการใช้ประโยชนอ์ ยา่ งไร
๔. เรามีแนวทางการตรวจสอบสมบัตขิ องดนิ ได้อยา่ งไรบา้ ง
๕. ศาสตรพ์ ระราชาในการปรบั ปรุงดินแตล่ ะแบบมวี ิธีการอยา่ งไรบ้าง
๖. มขี อ้ เสนอแนวทางการปรบั ปรงุ ดนิ ในทอ้ งถน่ิ ใหม้ สี ภาพเหมาะสมเพอื่ น�ำ ไปใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตรไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
๗. เราจะนำ�ความรู้ หลักการในการปรับปรุงดินตามหลักการของศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์คมุ้ คา่ อยา่ งยั่งยืนไดอ้ ย่างไร

ข้ันที่ ๒ ก�ำ หนดหลักฐานหรือรอ่ งรอยของการเรยี นรู้/ความเข้าใจ
๒.๑ ช้ินงานหรอื ภาระงาน การแสดงออกของผเู้ รยี น (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้
๒.๑.๑ ผงั กราฟกิ การรวบรวมและวิเคราะหข์ อ้ มูลและการสรุปความร้คู วามเข้าใจในบทเรียน
๒.๑.๒ บนั ทกึ และวิเคราะหส์ รปุ ผลการศกึ ษาดนิ ในท้องถ่ิน และการตรวจหาสมบัติของดิน
๒.๑.๓ พฤตกิ รรมการปฏิบตั กิ ิจกรรมในบทเรยี น
๒.๑.๔ ชนิ้ งานการหาแนวทางการปรบั ปรงุ ดนิ ในทอ้ งถนิ่ ใหม้ สี ภาพเหมาะสมเพอ่ื น�ำ ไปใชป้ ระโยชนโ์ ดยประยกุ ตใ์ ช้
หลักการจากศาสตร์พระราชา
๒.๑.๕ การตรวจสอบชัน้ หนา้ ตดั ดนิ ในทอ้ งถ่ินและสมบัติดนิ ท่มี อบหมาย
๒.๒ การประเมนิ ผล
๒.๒.๑ ประเมินพฤติกรรมการร่วมปฏิบตั ิกจิ กรรมในชวั่ โมงเรียน
๒.๒.๒ ประเมินแผนภาพความคดิ การสรปุ ความรู้ความเขา้ ใจในบทเรียน
๒.๒.๓ ประเมนิ ผลงานการศกึ ษาและตรวจหาค่าความเปน็ กรด-เบส สมบตั ดิ ินในท้องถิ่น
๒.๒.๔ ประเมินผลงานการเสนอแนวทางการปรับปรุงดินในท้องถิ่นให้มีสภาพเหมาะสมเพ่ือนำ�ไปใช้ประโยชน์
ทางการเกษตรโดยประยกุ ต์ใช้หลกั การจากศาสตรพ์ ระราชา
๒.๒.๕ ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามท่ีระบใุ นหนว่ ยการเรยี นรู้

278

เกณฑก์ ารประเมิน
การจัดกระทำ�และน�ำ เสนอแผนภาพความคดิ

รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ
การจัดกระทำ�และน�ำ เสนอ
แผนภาพความคิด ๔๓๒๑

จัดกระทำ�แผนภาพความคิด จดั กระท�ำ แผนภาพความคดิ จดั กระท�ำ แผนภาพความคดิ ได้ จดั กระท�ำ แผนภาพความคดิ
อยา่ งเปน็ ระบบ และนำ�เสนอ อยา่ งเป็นระบบ มกี ารจำ�แนก มกี ารยกตัวอย่างเพมิ่ เตมิ อยา่ งไม่เปน็ ระบบ
ด้วยแบบทีช่ ัดเจน ถูกต้อง ข้อมูลให้เห็นความสัมพนั ธ์ และน�ำ เสนอดว้ ยแบบต่าง ๆ และน�ำ เสนอไมส่ อ่ื ความหมาย
ครอบคลมุ และมีการเช่ือมโยง และนำ�เสนอด้วยแบบที่ แต่ยงั ไมค่ รอบคลมุ และไมช่ ดั เจน
ใหเ้ ห็นเป็นภาพรวม ครอบคลมุ

การแสวงหาขอ้ มูลในศาสตรพ์ ระราชาทมี่ อบหมาย

รายการการประเมิน ๔ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ๑
๓ ไม่มีการวางแผนท่ีจะค้นคว้า
ข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้
๑. การวางแผนค้นคว้าข้อมูล วางแผนทจี่ ะค้นคว้าข้อมูล วางแผนทีจ่ ะคน้ คว้าขอ้ มูล วางแผนที่จะคน้ ควา้ ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ
จากแหล่งเรยี นรู้ จากแหลง่ เรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย จากแหลง่ เรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย จากแหลง่ เรียนรู้ โดยมคี รู
เชอ่ื ถือได้ และมกี ารเชอื่ มโยง และเหมาะสม หรอื ผู้อ่นื แนะน�ำ บ้าง เก็บรวบรวมข้อมลู เป็นระยะ
ให้เหน็ เป็นภาพรวม แตไ่ ม่มกี ารเช่ือมโยง ขาดการประเมินเพ่ือคัดเลือก
แสดงใหเ้ หน็ ถึงความสัมพันธ์ ใหเ้ หน็ เปน็ ภาพรวม
ของวธิ ีการทั้งหมด

๒. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู เก็บรวบรวมขอ้ มูลตามแผน เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยไมม่ ี
ทกี่ �ำ หนดทกุ ประการ โดยคดั เลือกและ/หรือ การคดั เลอื กและ/หรือ
ประเมนิ ขอ้ มลู ประเมินข้อมลู

๓. การจัดกระทำ�ข้อมูล จดั กระท�ำ ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ จดั กระท�ำ ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ จดั กระท�ำ ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ จัดกระท�ำ ข้อมูล
และการน�ำ เสนอ มกี ารเช่ือมโยงใหเ้ ห็น มีการจำ�แนกข้อมูลให้เหน็ มกี ารยกตัวอย่างเพ่ิมเตมิ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และน�ำ เสนอ
เปน็ ภาพรวม และน�ำ เสนอ ความสมั พันธ์ น�ำ เสนอ ใหเ้ ขา้ ใจง่ายและน�ำ เสนอ ไม่ส่ือความหมาย
ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ อย่างชัดเจน ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ แตย่ งั ไมถ่ กู ตอ้ ง และไมช่ ดั เจน
ถกู ต้อง

๔. การสรุปผล สรปุ ผลไดอ้ ย่างถูกต้อง สรุปผลได้อยา่ งกระชบั แตย่ ัง สรุปผลไดก้ ระชบั กะทดั รัด สรุปผลโดยไม่ใชข้ ้อมูล
กระชบั ชดั เจน และครอบคลมุ ไมช่ ดั เจนและไมค่ รอบคลุม แต่ไม่ชัดเจน และไมถ่ กู ตอ้ ง
มเี หตผุ ลท่อี า้ งอิง ขอ้ มลู จากการวิเคราะห์
จากการสบื ค้นได้ ทง้ั หมด

๕. การเขยี นรายงาน เขยี นรายงาน เขยี นรายงานตรงตาม เขยี นรายงานโดยสอ่ื เขียนรายงานได้ตามตัวอย่าง
ตรงตามจดุ ประสงค์ ถกู ตอ้ ง จุดประสงคอ์ ย่างถูกต้อง ความหมายได้ โดยมีครู แต่ใช้ภาษาไมถ่ ูกตอ้ ง
และชดั เจน และมกี ารเชอื่ มโยง และชดั เจน หรือผอู้ ืน่ แนะนำ� และไม่ชัดเจน
ใหเ้ หน็ เปน็ ภาพรวม แต่ขาดการเรียบเรียง

279

เกณฑก์ ารประเมิน
การจัดกระท�ำ และนำ�เสนอแผนภาพความคิด

รายการการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
การจดั กระทำ�และน�ำ เสนอ
แผนภาพความคิด ๔๓๒๑

จดั กระทำ�แผนภาพความคดิ จดั กระท�ำ แผนภาพความคิด จดั กระท�ำ แผนภาพความคดิ ได้ จดั กระท�ำ แผนภาพความคิด
อยา่ งเปน็ ระบบ และนำ�เสนอ อยา่ งเป็นระบบ มกี ารจำ�แนก มีการยกตัวอยา่ งเพ่ิมเตมิ อย่างไมเ่ ป็นระบบ
ดว้ ยแบบทช่ี ดั เจน ถกู ต้อง ขอ้ มูลให้เหน็ ความสมั พนั ธ์ และนำ�เสนอด้วยแบบตา่ ง ๆ และน�ำ เสนอไมส่ อื่ ความหมาย
ครอบคลุมและมกี ารเช่อื มโยง และน�ำ เสนอด้วยแบบที่ แตย่ งั ไม่ครอบคลุม และไมช่ ดั เจน
ใหเ้ หน็ เปน็ ภาพรวม ครอบคลุม

ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
ตัวชวี้ ัดที่ ๑.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์

พฤติกรรมบง่ ชี้ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผา่ น (๐)

๑.๔.๒ แสดงความสำ�นกึ กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชนื่ ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชนื่ ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชนื่ ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ
ในพระมหากรณุ าธิคณุ พระราชกรณียกิจ พระราชกรณียกิจ พระราชกรณยี กิจ พระราชกรณียกจิ
ของพระมหากษัตริย์ และพระปรีชาสามารถ และพระปรีชาสามารถ และพระปรชี าสามารถ และพระปรีชาสามารถ
๑.๔.๓ แสดงออก ของพระมหากษตั รยิ ์ ของพระมหากษัตรยิ ์ทีม่ ีต่อ ของพระมหากษัตริย์ท่มี ตี อ่ ของพระมหากษตั รยิ ์ท่ีมีตอ่
ซ่ึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน และพระราชวงศท์ ่มี ีตอ่ การพฒั นาประเทศเพอื่ ปวงชน การพฒั นาประเทศเพอื่ ปวงชน การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน
พระมหากษตั ริย์ การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน ได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุม ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ครอบคลุม ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และเขา้ ร่วม
และโลกไดอ้ ย่างถกู ต้อง ตามควรแกว่ ยั และต้งั ใจ ตามวยั และนำ�มาปฏิบตั ิ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเมอื่ มผี ชู้ กั ชวน
ครอบคลมุ ตามควรแก่วยั นอ้ มรับน�ำ มาปฏบิ ตั ิ เมอ่ื มผี ชู้ กั ชวนแนะน�ำ บอ่ ยครง้ั แนะนำ�เป็นบางครง้ั
และต้ังใจน้อมรับนำ�มาปฏิบัติ ดว้ ยตนเองอยบู่ อ่ ยครั้ง
ดว้ ยความจรงิ ใจเปน็ นสิ ัย

ใฝ่เรยี นรู้
ตัวชี้วดั ที่ ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้

พฤติกรรมบง่ ช้ี ดเี ยีย่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐)
๔.๑.๑ ตั้งใจเรยี น
๔.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมี เข้าเรยี นตรงเวลา ตัง้ ใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา ตง้ั ใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา ตงั้ ใจเรยี น ไม่ตั้งใจเรียน
ความเพยี รพยายาม เอาใจใส่ และมีความเพยี ร- เอาใจใส่ และมคี วามเพยี ร- เอาใจใสใ่ นการเรยี น มสี ว่ นรว่ ม
ในการเรียนรู้ พยายามในการเรยี นรู ้ พยายามในการเรียนรู้ ในการเรียนรู้ และเข้าร่วม
๔.๑.๓ สนใจเขา้ รว่ ม มีสว่ นร่วมในการเรียนรู้ มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ
กจิ กรรมการเรยี นรู้ต่าง ๆ และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ และเข้ารว่ มกจิ กรรม เปน็ บางคร้งั
ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอก การเรียนร้ตู า่ ง ๆ บอ่ ยคร้งั
โรงเรียนเป็นประจ�ำ

280

ตวั ช้วี ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นร้ตู า่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ด้วยการเลือกใชส้ อ่ื
อยา่ งเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้ สามารถน�ำ ไปใชใ้ นชีวิตประจำ�วันได้

พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ย่ียม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)

๔.๒.๑ ศกึ ษาคน้ ควา้ หา ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ไม่ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้
ความรู้จากหนงั สือ เอกสาร จากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพมิ พ์ จากหนังสือ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ จากหนังสอื เอกสาร ส่ิงพมิ พ์
สง่ิ พมิ พ์ สอื่ เทคโนโลยีต่าง ๆ สอื่ เทคโนโลยี และสารสนเทศ ส่อื เทคโนโลยีและสารสนเทศ ส่ือเทคโนโลยี แหลง่ เรยี นรู้
แหลง่ เรยี นรู้ทงั้ ภายใน แหลง่ เรยี นร้ทู ้ังภายใน แหลง่ เรยี นร้ทู ั้งภายใน ทงั้ ภายในและภายนอก
และภายนอกโรงเรยี น และภายนอกโรงเรยี น และภายนอกโรงเรียน โรงเรียน เลอื กใช้ส่อื
และเลอื กใชส้ อ่ื เลอื กใชส้ ่อื ไดอ้ ย่างเหมาะสม และเลอื กใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทกึ
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ มีการบันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ความรู้
๔.๒.๒ บนั ทึกความรู้ ข้อมลู สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ ขอ้ มูล สรปุ เปน็ องค์ความรู้
วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสง่ิ ที่ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ดว้ ยวิธกี าร แลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั ผู้อน่ื ได้
เรยี นรู้ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ ท่หี ลากหลาย และน�ำ ไปใช้
๔.๒.๓ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ในชวี ติ ประจ�ำ วนั ได้
ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และน�ำ ไปใช้
ในชีวิตประจ�ำ วัน

มุ่งมน่ั ในการท�ำ งาน
ตัวชี้วดั ท่ี ๖.๑ ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าทก่ี ารงาน

พฤติกรรมบง่ ช้ี ดีเย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผา่ น (๐)
ต้ังใจและรับผดิ ชอบ ไม่ตง้ั ใจปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน
๖.๑.๑ เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบตั ิ ตงั้ ใจและรับผิดชอบ ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏิบัติหนา้ ที่
หนา้ ทท่ี ่ไี ด้รบั มอบหมาย ในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ที่ ทไี่ ดร้ ับมอบหมายใหส้ �ำ เรจ็
๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรับผิดชอบ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายให้ส�ำ เรจ็ ที่ไดร้ ับมอบหมายให้ส�ำ เร็จ
ในการท�ำ งานใหส้ ำ�เร็จ มีการปรับปรุงและพัฒนา มกี ารปรบั ปรงุ และพฒั นา
๖.๑.๓ ปรบั ปรงุ และพัฒนา การท�ำ งานให้ดีข้นึ ดว้ ยตนเอง การทำ�งานให้ดีขึ้น
การทำ�งานด้วยตนเอง

ตัวชีว้ ัดที่ ๖.๒ ทำ�งานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพื่อให้งานส�ำ เรจ็ ตามเป้าหมาย

พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ า่ น (๐)
๖.๒.๑ ทุม่ เททำ�งาน อดทน
ไมย่ ่อท้อต่อปัญหา ท�ำ งานด้วยความขยนั อดทน ทำ�งานดว้ ยความขยนั อดทน ทำ�งานด้วยความขยัน อดทน ไมข่ ยนั อดทนในการท�ำ งาน
และอปุ สรรคในการทำ�งาน ไม่ย่อท้อต่อปญั หา พยายาม ไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ ปญั หา พยายามใหง้ านสำ�เรจ็
๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหา แก้ปัญหาอปุ สรรค ในการท�ำ งาน พยายามใหง้ าน ตามเป้าหมาย
และอปุ สรรคในการท�ำ งาน ในการท�ำ งานให้งานสำ�เร็จ ส�ำ เรจ็ ตามเป้าหมาย ชื่นชม
ให้ส�ำ เร็จ ตามเป้าหมายภายในเวลา ผลงานดว้ ยความภาคภมู ใิ จ
๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงาน ทีก่ ำ�หนด ช่ืนชมผลงาน
ด้วยความภาคภูมใิ จ ด้วยความภาคภมู ใิ จ

281

มจี ิตสาธารณะ
ตัวชี้วัดท่ี ๘.๒ เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่เป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม

พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ดีเยีย่ ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐)
การทำ�ความสะอาดบรเิ วณ ท�ำ ความสะอาด ก�ำ จัดขยะ ท�ำ ความสะอาด กำ�จัดขยะ
ท่ีรับผิดชอบและดูแลต้นไม้ และดแู ลตน้ ไมใ้ นบรเิ วณ และดูแลตน้ ไม้ในบรเิ วณ ท�ำ ความสะอาด กำ�จดั ขยะ ละเลย หลกี เล่ยี ง
สง่ิ แวดลอ้ มทมี่ อบหมาย ที่มอบหมายใหร้ บั ผดิ ชอบ ที่มอบหมายใหร้ บั ผดิ ชอบ และดูแลต้นไมใ้ นบริเวณ ไม่ท�ำ ความสะอาด กำ�จดั ขยะ
ด้วยตนเองเปน็ ประจำ� ดว้ ยตนเองบอ่ ยครัง้ ที่มอบหมายใหร้ บั ผิดชอบ และดูแลตน้ ไมใ้ นบริเวณ
จนเป็นนสิ ัย เม่อื ถกู เตอื นหรอื ต้องควบคุม ท่มี อบหมายใหร้ บั ผิดชอบ

แมจ้ ะตอ้ งเตอื น

ขั้นท่ี ๓ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื จดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
๓.๑ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ทส่ี อดคล้องกับวธิ ที รงงานตามศาสตรพ์ ระราชา (หลักธรรม หลักคดิ หลกั ปฏิบัต)ิ

หนว่ ยยอ่ ย/เร่อื งยอ่ ย หวั เรื่อง กิจกรรม GPAS 5 Steps เวลา (ชม.)

สมบตั ขิ องดนิ ๑. สมบตั บิ างประการของดิน STEP 1 ขน้ั สงั เกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering) ๑. นกั เรยี นรว่ มกนั ศกึ ษา
๒. ปจั จัยท่ที ำ�ให้ดินแต่ละท้องถ่นิ สมบัติบางประการของดินและปัจจัยที่ทำ�ให้ดินแต่ละท้องถ่ินมีสมบัติ
มีสมบัตแิ ตกตา่ งกัน แตกตา่ งกนั จากเอกสาร ต�ำ ราทเ่ี กยี่ วขอ้ ง บนั ทกึ ขอ้ มลู ใหค้ รบถว้ นทกุ รายการ
๓. การตรวจสอบสมบตั บิ างประการ ตามแบบบนั ทกึ ทกี่ �ำ หนดให ้
ของดนิ ค่าความเป็นกรด-เบส STEP 2 ขนั้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) ๒. นกั เรยี นน�ำ ขอ้ มลู
จากขน้ั ท่ี๑มาวเิ คราะห์ อภปิ รายหาขอ้ สรปุ สรา้ งความเขา้ ใจ ความคดิ รวบยอด
แล้วตอบค�ำ ถาม ดงั น้ี
๑) ดนิ ในท้องถ่นิ ของเราแต่ละแห่งมลี ักษณะและสมบตั ิอย่างไรบา้ ง
เหมือนหรอื แตกตา่ งกนั อย่างไร
๒) ดนิ ในแตล่ ะแห่งทีม่ คี วามเหมือนหรอื แตกต่างกนั มีสาเหตุมาจากอะไร
๓) ดนิ แตล่ ะชนั้ มสี มบัติเหมอื นหรอื ต่างกนั อยา่ งไร
๔) จะน�ำ ดนิ ไปใช้ประโยชนอ์ ยา่ งไรให้เหมาะสมกบั สมบัตขิ องดิน
STEP 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and
Constructing the Knowledge) ๓. นักเรียนสังเกตวิธีการตรวจสอบ
ความเป็นกรด-เบส ของสารละลาย มาออกแบบ วางแผนการทดลอง
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบคา่ pH ความเปน็ กรด-เบสของดนิ ทนี่ กั เรยี นสนใจ
ดว้ ยตนเอง ตงั้ แตข่ น้ั การเตรยี มสารละลาย ความเขม้ ขน้ ขนาดตา่ ง ๆ การใช้
เครอื่ งมอื และวธิ กี ารตรวจสอบ ด�ำ เนนิ การตรวจสอบ บนั ทกึ ผล เปรยี บเทยี บผล
ระหว่างกลุม่ และสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ
STEP 4 ขั้นสื่อสารและนำ�เสนอ (Applying the Communication
Skill) ๔. นกั เรยี นน�ำ บนั ทึกผลตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดิน
ท่ีนักเรยี นสนใจมานำ�เสนอผล และเปรยี บเทยี บผลระหว่างกล่มุ
STEP 5 ขัน้ ประเมนิ เพอื่ เพ่ิมคณุ ค่าบรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ
(Self –Regulating) ๕. นกั เรยี นน�ำ ผลงานจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบ
ค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดินที่ดำ�เนินการด้วยตนเองในชั้นเรียน
มาตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เปรยี บเทยี บกบั คา่ มาตรฐาน และประเมนิ ตนเอง
ตามเกณฑ์การประเมนิ ทกี่ �ำ หนด ปรับปรุงช้นิ งานเสนอครูผสู้ อน

282

หนว่ ยย่อย/เร่อื งย่อย หัวเรอ่ื ง กิจกรรม GPAS 5 Steps เวลา (ชม.)

การปรบั ปรงุ ดนิ ๔. ศาสตรพ์ ระราชาในการปรบั ปรงุ ดนิ STEP 1 ขนั้ สงั เกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering) ๑. นกั เรยี นรว่ มกนั สบื คน้
เพือ่ ใช้ประโยชน์ ให้มสี ภาพเหมาะสมเพ่ือนำ�ไปใช้ ข้อมูล ศึกษาโครงการที่เก่ียวกับการจัดการดินตามศาสตร์พระราชา เช่น
ประโยชนท์ างการเกษตร โครงการแกลง้ ดนิ โครงการปลกู หญา้ แฝก การปลกู หญา้ แฝกเพอ่ื อนรุ กั ษด์ นิ
๕. ข้อเสนอแนวทางการปรับปรงุ ดนิ และน้�ำ โครงการห่มดนิ การปลูกพืชตระกลู ถัว่ บ�ำ รงุ ดนิ บันทึกขอ้ มลู ตามที่
ในทอ้ งถิ่นให้มสี ภาพเหมาะสม กำ�หนดในแบบบนั ทึก
เพอ่ื น�ำ ไปใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร STEP 2 ขัน้ คิดวิเคราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing)
โดยการประยกุ ตใ์ ช้ศาสตรพ์ ระราชา ๒. นกั เรยี นน�ำ ขอ้ มลู จากขนั้ ที่ ๑ มาวเิ คราะห์ อภปิ ราย ตอบค�ำ ถามหาขอ้ สรปุ
สร้างความเข้าใจ ความคิดรวบยอด วิธีการบำ�รุงดิน ปรับปรุงดินในศาสตร์
พระราชาว่า ใช้หลักการอะไร ได้ความรู้ความเข้าใจอะไร เปรียบเทียบกับ
การตรวจสอบคา่ pH ความเปน็ กรด-เบสของดนิ ทนี่ กั เรยี นเรยี นรมู้ า เหมอื น
หรอื ตา่ งกนั อยา่ งไร บนั ทกึ ขอ้ สรปุ ลกั ษณะของการปฏบิ ตั ิ พรอ้ มทง้ั หลกั การ
ท�ำ งาน ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรใู้ นการปรบั ปรงุ ดนิ ในทอ้ งถนิ่ ใหม้ สี ภาพเหมาะสม
เพ่ือนำ�ไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรในส่ิงแวดล้อมท่ีแตกต่างกัน กำ�หนด
แนวทางการนำ�ความรู้ ความเข้าใจไปปฏบิ ตั ใิ นรูปแบบทเ่ี หมาะสม
STEP 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and
Constructing the Knowledge) ๓. นกั เรยี นน�ำ ขอ้ สรปุ ความรู้ ความคดิ
รวบยอดวธิ ปี รบั ปรงุ ดนิ ในทอ้ งถนิ่ ใหม้ สี ภาพเหมาะสมเพอื่ น�ำ ไปใชป้ ระโยชน์
ทางการเกษตรในศาสตรพ์ ระราชา การตรวจสอบคา่ pH ความเปน็ กรด-เบส
ของสารละลายไปใช้ประโยชน์ วางแผนปฏิบัติ จัดทำ�ข้อเสนอแนวทาง
การปรบั ปรงุ ดนิ ในทอ้ งถน่ิ ทส่ี นใจ จดั ท�ำ เปน็ โครงงานปรบั ปรงุ ดนิ ใหม้ คี า่ pH
ทเ่ี หมาะสมกบั การปลกู พชื หรือการดำ�เนนิ ชวี ติ ประจ�ำ วนั ทเ่ี กี่ยวข้อง
STEP 4 ขั้นส่ือสารและนำ�เสนอ (Applying the Communication
Skill) ๔. นกั เรยี นน�ำ บนั ทกึ การปฏบิ ตั นิ �ำ เสนอรายงานผลตามแบบทก่ี �ำ หนด
สรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั เิ ชอ่ื มโยงสกู่ ารจดั การสง่ิ แวดลอ้ มตามศาสตรพ์ ระราชา
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งนำ�เสนอให้เห็นพระปรีชา-
สามารถและพระมหากรณุ าธิคุณที่มตี ่อปวงชนในการจดั การส่งิ แวดล้อม
STEP 5 ขน้ั ประเมินเพือ่ เพม่ิ คณุ คา่ บริการสงั คมและจติ สาธารณะ
(Self-Regulating) ๕. นักเรียนนำ�ผลงานจากการปฏิบัติกิจกรรม
โครงงานทอี่ อกแบบในขน้ั ท่ี ๓ และผลการปฏบิ ตั จิ รงิ ในภาคสนาม มาน�ำ เสนอ
รายงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในช้ันเรียนและเปล่ียนกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง และประเมนิ ตนเองตามเกณฑก์ ารประเมนิ ทกี่ �ำ หนด ปรบั ปรงุ
ชิน้ งานเสนอครผู ้สู อน

๓.๒ สอื่ และแหลง่ เรียนรู้
เอกสารความรู้
๑. เอกสารความรู้ เร่อื ง สมบตั ิความเป็นกรด-เบสของดนิ
๒. วิธเี ตรียมสารละลายในความเข้มข้นตา่ ง ๆ
๓. ศาสตรพ์ ระราชา โครงการแกลง้ ดินและโครงการปรับปรุงดินอืน่ ๆ
๔. วิธที ดสอบหาค่า pH ของดินแบบตา่ ง ๆ
๕. แบบเสนอโครงงานการปรับปรงุ ดินในพื้นที่
ใบงาน
๑. ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การศึกษาสมบตั ิของดนิ และตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดิน
๒. ใบงานที่ ๒ เรอ่ื ง โครงงานปรบั ปรุงดนิ ในพนื้ ที่

283

แบบบนั ทึก
๑. แบบบันทกึ ขอ้ มูลการตรวจสอบคา่ pH ความเป็นกรด-เบสของดนิ
๒. แบบบันทึกข้อมลู และรายงานโครงงานปรับปรงุ ดนิ ในพ้นื ท่ี
๓. แบบบนั ทกึ ขอ้ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจการตรวจสอบคา่ pH ความเปน็ กรด-เบสของดนิ และการน�ำ ไปใชป้ ระโยชน์
๔. แบบบันทกึ การเรียนรศู้ าสตร์พระราชา โครงการแกลง้ ดนิ และโครงการอ่นื ๆ
วัสดุอปุ กรณ์
๑. กจิ กรรมการตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดิน
๒. กจิ กรรมโครงงานปรับปรงุ ดินเปน็ รายบคุ คลหรอื กลมุ่ ยอ่ ย

284

แผนการจดั การเรียนรกู้ ลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒
สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๖ โลกและการเปล่ยี นแปลง

หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๓ ดนิ น�้ำ และการอนรุ ักษ์ เรื่อง สมบตั ขิ องดนิ และการพัฒนาดิน เวลาเรียน ๔ ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ สมบัตขิ องดินและการใช้ประโยชน์ เวลา ๑ ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก
และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก
รวมทัง้ ผลต่อสงิ่ มชี วี ติ และสง่ิ แวดล้อม
ตวั ชวี้ ัด
ว ๓.๒ ม.๒/๗ ตรวจวัดสมบัติบางประการของดิน โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและนำ�เสนอแนวทาง
การใช้ประโยชน์ดนิ จากขอ้ มลู สมบัติของดิน
จุดประสงคก์ ารเรียนรูส้ ู่ตัวชี้วัด
๑. อธบิ ายสมบตั ิบางประการและความเปน็ กรด-เบสของดนิ ในแหล่งต่าง ๆ ได้ (K)
๒. สำ�รวจข้อมลู และวิเคราะห์ปัจจยั ทท่ี �ำ ใหด้ นิ แตล่ ะทอ้ งถนิ่ มสี มบัติแตกต่างกัน (P)
๓. ปฏิบัตกิ ิจกรรมกลมุ่ ในการสำ�รวจสมบัติดินในท้องถิน่ ด้วยความมีเหตุผล ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำ�งาน (A)
สาระสำ�คญั
สมบัติของดินท่ีเป็นส่ิงซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ด้วยการมองเห็นหรือจับต้องได้ เช่น เน้ือดิน ความโปร่ง
หรอื แนน่ ทบึ ของดนิ ความสามารถในการอมุ้ น�้ำ ของดนิ สขี องดนิ และสภาพความเปน็ กรด-ดา่ งของดนิ หรอื คา่ pH ของดนิ
ปัจจัยที่ทำ�ให้ดินแต่ละท้องถิ่นมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน ได้แก่ วัตถุต้นกำ�เนิดดิน ภูมิอากาศ สิ่งมีชีวิตในดิน
สภาพภมู ปิ ระเทศ และระยะเวลาในการเกดิ ดนิ
สาระการเรียนรู้
สมบัตขิ องดนิ
- สมบตั บิ างประการของดิน
- ปัจจัยที่ท�ำ ให้ดินแตล่ ะทอ้ งถิน่ มสี มบตั แิ ตกตา่ งกัน
สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
- การอธบิ าย การเขยี น การพูดหน้าช้ันเรียน
๒. ความสามารถในการคดิ
- การสงั เกต การส�ำ รวจ การคิดวเิ คราะห์ การสร้างคำ�อธิบาย การอภปิ ราย
การส่อื ความหมาย การสืบคน้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
- การแสวงหาความรู้เพม่ิ เตมิ เก่ียวกบั สมบตั ขิ องดนิ ในทอ้ งถิน่
- กระบวนการกลมุ่
๔. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

285

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (พระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี-
ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช
สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว)
ใฝเ่ รียนรู้
ตวั ชีว้ ัดท่ี ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้ส่ือ
อยา่ งเหมาะสม บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สามารถน�ำ ไปใช้ในชวี ติ ประจ�ำ วันได้
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู
๑. บนั ทึกข้อมลู ผลการศึกษาค้นควา้ สมบตั บิ างประการของดนิ
๒. บันทกึ ข้อมลู ผลการศึกษาคน้ คว้าปจั จัยที่ทำ�ใหด้ ินแตล่ ะท้องถ่นิ มีสมบัตแิ ตกตา่ งกัน
คำ�ถามทา้ ทาย
๑. ดนิ ในท้องถ่นิ ของเราแตล่ ะแห่งมีลักษณะและสมบัติอย่างไรบา้ ง เหมือนหรอื แตกต่างกันอยา่ งไร
๒. ดินในแตล่ ะแหง่ ท่ีมีความเหมือนหรือแตกตา่ งกันมสี าเหตมุ าจากอะไร
๓. ดินแตล่ ะชนั้ มีสมบัติเหมอื นหรือตา่ งกันอยา่ งไร ดินท่มี ีสมบตั ิแตล่ ะอยา่ งเหมาะกับการใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ GPAS 5 Steps
STEP 1 ขั้นสงั เกต รวบรวมขอ้ มูล (Gathering)
๑. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี น เรอ่ื ง สมบตั ขิ องดนิ โดยสนทนา ซกั ถามจากประสบการณ์ แผนภาพ ชน้ั ดนิ เอกสาร กลมุ่ สาระ
การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ดังน้ี
๑.๑ จากภาพทน่ี �ำ เสนอ ใหข้ อ้ มลู เรอ่ื งดนิ ในเรอ่ื งอะไรบา้ ง เชน่ ความชนื้ เนอื้ ดนิ ความโปรง่ หรอื แนน่ ทบึ ของดนิ
ความสามารถในการอุ้มนำ�้ ของดิน สขี องดิน และสภาพความเปน็ กรด-ด่างของดนิ
๑.๒ ดนิ ในแตล่ ะแหง่ มคี วามเหมือนหรือแตกตา่ งกนั หรือไม่ เพราะเหตุใด
๒. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๖ คน ให้แต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าความรู้เร่ือง สมบัติบางประการของดิน
และปจั จยั ทที่ �ำ ใหด้ นิ แตล่ ะทอ้ งถนิ่ มสี มบตั แิ ตกตา่ งกนั จากเอกสารต�ำ ราทเ่ี กย่ี วขอ้ ง จากแหลง่ คน้ ควา้ ใกลต้ วั และสามารถ
ใช้ได้ เช่น อินเทอร์เน็ต ใฝ่หาความรู้ ความรอบรู้ในเทคโนโลยีสารสนเทศ ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
บันทึกผลการศึกษาลงในผงั กราฟิกที่นักเรียนออกแบบเอง เพอ่ื นำ�เสนอใหน้ ่าสนใจ แล้วน�ำ ผลการศกึ ษามารายงานกลุม่
ให้เรียนรู้รว่ มกัน และปรบั ปรงุ ขอ้ มูลกลมุ่ ของตนใหถ้ ูกต้องสมบรู ณ์ การเรยี นรวู้ ิธกี ารเรยี น การส่ือสาร วิธกี ารท�ำ งาน
STEP 2 ข้นั คดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing)
๓. นกั เรยี นน�ำ ขอ้ มลู จากขนั้ ท่ี ๑ มาวเิ คราะห์ อภปิ รายหาขอ้ สรปุ สรา้ งความเขา้ ใจ ความคดิ รวบยอด แลว้ ตอบค�ำ ถาม
ดังน้ี
๑) ดนิ ในท้องถิ่นของเราแตล่ ะแหง่ มีลักษณะและสมบตั อิ ย่างไรบา้ ง เหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อย่างไร
๒) ดนิ ในแต่ละแหง่ ท่มี ีความเหมอื นหรอื แตกตา่ งกันมีสาเหตุมาจากอะไร
๓) ดนิ แตล่ ะชัน้ มสี มบตั เิ หมือนหรอื ต่างกนั อย่างไร ดินทมี่ ีสมบตั แิ ต่ละอย่างเหมาะกับการใช้ประโยชนอ์ ย่างไร
รว่ มกนั สรปุ ความเขา้ ใจสมบตั ขิ องดนิ รวมทงั้ ความเหมอื นและความแตกตา่ งของสมบตั ดิ นิ ในทอ้ งถน่ิ แตล่ ะแหง่
การจดั บรรยากาศเชิงบวก
ครูแสดงความชื่นชมต่อความคิด ความสามารถของนักเรียน และควรแสดงผลงานของนักเรียน เพ่ือเป็นแรงจูงใจ
ใหน้ ักเรียนผลิตผลงานที่ดี และได้เห็นผลงานทหี่ ลากหลายของเพ่ือน เป็นการเปิดความคิดของนกั เรยี นใหก้ ว้างไกลข้นึ

286

สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
๑. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกช้นั เรยี น ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ นต็
๒. หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒

การประเมนิ ผลการเรียนรู้

จุดประสงค์การเรยี นรู้ แหลง่ ขอ้ มูล วธิ วี ัด/เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารตัดสนิ

๑. อธิบายสมบัตบิ างประการ ๑. ผงั กราฟกิ บันทกึ ขอ้ มูลผลการศึกษา ตรวจผลงานผลการศึกษาค้นคว้าสมบัติ ได้ระดบั ๓ ขึ้นไป
และความเปน็ กรด-เบสของดินในแหลง่ ค้นคว้าสมบตั บิ างประการและความเปน็ บางประการและความเปน็ กรด-เบสของดนิ ตามเกณฑ์การประเมนิ
ต่าง ๆ ได้ (K) กรด-เบสของดนิ ในแหลง่ ต่าง ๆ ได้ ในแหลง่ ตา่ ง ๆ และบันทกึ ขอ้ มูล เชิงคณุ ภาพ ๔ ระดบั
๒. บันทกึ ข้อมลู ผลการวเิ คราะห์ปจั จยั ผลการวิเคราะห์ ปัจจัยทีท่ ำ�ให้ดนิ ถอื ว่าผ่านการประเมิน
๒. ส�ำ รวจข้อมูลและวเิ คราะห์ปจั จยั ทที่ �ำ ให้ดินแต่ละท้องถน่ิ มสี มบตั ิ แต่ละท้องถิ่นมีสมบตั แิ ตกตา่ งกนั
ท่ที ำ�ให้ดนิ แตล่ ะท้องถนิ่ มสี มบตั ิ แตกตา่ งกัน
แตกตา่ งกนั (P)

๓. ปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุ่มในการสำ�รวจ พฤติกรรมการท�ำ งานกลุ่มของผูเ้ รยี น สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำ งานและตรวจสอบ
สมบัตดิ นิ ในท้องถ่ินดว้ ยความมีเหตุผล รายบคุ คล ผลของการปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ ตามทมี่ อบหมาย
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่นในการท�ำ งาน (A)

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ การแสวงหาแหลง่ ข้อมลู

รายการการประเมนิ ๔ ระดบั คุณภาพ ๒ ๑
๓ ไม่มกี ารวางแผนทีจ่ ะค้นคว้า
ขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรู้
๑. การวางแผนคน้ คว้าขอ้ มลู วางแผนท่ีจะคน้ คว้าขอ้ มลู วางแผนท่ีจะค้นควา้ ขอ้ มูล วางแผนที่จะคน้ ควา้ ข้อมลู อย่างเปน็ ระบบ
จากแหลง่ เรียนรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ จากแหลง่ เรียนรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ โดยมีครู
ทหี่ ลากหลายเชอื่ ถือได้ ที่หลากหลายและเหมาะสม หรือผูอ้ ืน่ แนะนำ�บา้ ง
และมกี ารเชอ่ื มโยง แต่ไม่มีการเช่อื มโยงให้เหน็
ใหเ้ หน็ เปน็ ภาพรวม เป็นภาพรวม
แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์
ของวธิ กี ารทง้ั หมด

๒. การเก็บรวบรวมข้อมลู เกบ็ รวบรวมข้อมลู ตามแผน เก็บรวบรวมขอ้ มูล เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยไมม่ กี าร เก็บรวบรวมขอ้ มลู เปน็ ระยะ
ท่ีกำ�หนดทกุ ประการ โดยคดั เลือกและ/หรือ คดั เลือกและ/หรือประเมนิ ขาดการประเมนิ เพือ่ คดั เลอื ก
ประเมนิ ข้อมลู ขอ้ มลู

๓. การจดั กระท�ำ ขอ้ มลู จัดกระท�ำ ขอ้ มลู อยา่ งเป็น จดั กระท�ำ ขอ้ มลู อย่างเป็น จัดกระท�ำ ข้อมลู อยา่ งเปน็ จัดกระท�ำ ขอ้ มลู อยา่ งไม่เป็น
และการน�ำ เสนอ ระบบ มกี ารเชอื่ มโยงใหเ้ หน็ ระบบ มกี ารจำ�แนกข้อมลู ระบบ มกี ารยกตัวอยา่ ง ระบบ และนำ�เสนอไม่สื่อ
เป็นภาพรวม และน�ำ เสนอ ใหเ้ หน็ ความสมั พนั ธ์ น�ำ เสนอ เพ่ิมเติมใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย ความหมายและไม่ชัดเจน
ดว้ ยแบบต่าง ๆ อยา่ งชดั เจน ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และน�ำ เสนอดว้ ยแบบตา่ ง ๆ
ถูกต้อง
แต่ยังไม่ถูกตอ้ ง

๔. การสรุปผล สรุปผลได้อยา่ งถกู ต้อง สรปุ ผลไดอ้ ย่างกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชับ กะทัดรัด สรุปผลโดยไม่ใชข้ ้อมลู
กระชับ ชัดเจน แต่ยังไม่ชดั เจน แตไ่ มช่ ดั เจน และไม่ถูกตอ้ ง
และครอบคลมุ มเี หตผุ ล และไม่ครอบคลุมข้อมลู
ที่อ้างอิงจากการสืบค้นได้ จากการวเิ คราะห์ท้ังหมด

๕. การเขียนรายงาน เขยี นรายงาน เขียนรายงาน เขยี นรายงาน เขยี นรายงานได้ตามตวั อยา่ ง
ตรงตามจุดประสงค์ ถกู ตอ้ ง ตรงตามจดุ ประสงค์ โดยสื่อความหมายได้ แต่ใชภ้ าษาไมถ่ กู ตอ้ ง
และชดั เจน และมกี ารเชอื่ มโยง อย่างถูกตอ้ งและชดั เจน โดยมคี รูหรอื ผู้อน่ื แนะนำ� และไมช่ ัดเจน
ให้เห็นเปน็ ภาพรวม แตข่ าดการเรียบเรียง

287

การจดั กระท�ำ และนำ�เสนอแผนภาพความคิด

รายการการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
การจดั กระท�ำ และน�ำ เสนอ
แผนภาพความคดิ ๔๓๒๑

จดั กระท�ำ แผนภาพความคดิ จัดกระท�ำ แผนภาพความคิด จดั กระท�ำ แผนภาพความคดิ ได้ จัดกระทำ�แผนภาพความคิด
อย่างเปน็ ระบบ และน�ำ เสนอ อยา่ งเป็นระบบ มกี ารจำ�แนก มกี ารยกตัวอยา่ งเพมิ่ เติม อย่างไม่เป็นระบบ
ดว้ ยแบบท่ชี ดั เจน ถูกต้อง ขอ้ มูลให้เห็นความสมั พนั ธ์ และนำ�เสนอด้วยแบบต่าง ๆ และน�ำ เสนอไมส่ อ่ื ความหมาย
ครอบคลมุ และมกี ารเชื่อมโยง และน�ำ เสนอดว้ ยแบบที่ แต่ยงั ไมค่ รอบคลุม และไม่ชัดเจน
ใหเ้ ห็นเป็นภาพรวม ครอบคลุม

แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้
ตัวชวี้ ัดท่ี ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้

พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดเี ยีย่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไมผ่ า่ น (๐)
๔.๑.๑ ตัง้ ใจเรยี น
๔.๑.๒ เอาใจใส่และมี เขา้ เรยี นตรงเวลา ตงั้ ใจเรยี น เข้าเรียนตรงเวลา ตัง้ ใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา ตงั้ ใจเรียน ไมต่ ้งั ใจเรยี น
ความเพยี รพยายาม เอาใจใส่ และมคี วามเพยี ร- เอาใจใส่ และมีความเพยี ร- เอาใจใสใ่ นการเรยี น มสี ว่ นรว่ ม
ในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ ในการเรียนรู้ และเข้าร่วม
๔.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วม มีสว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ มสี ว่ นร่วมในการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
กิจกรรมการเรยี นรู้ต่าง ๆ และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกจิ กรรม เป็นบางครัง้
ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอก การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ บอ่ ยครง้ั
โรงเรียนเป็นประจ�ำ

ตวั ชว้ี ัดที่ ๔.๒ แสวงหาความร้จู ากแหลง่ เรียนรูต้ ่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ด้วยการเลอื กใชส้ ่อื
อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้ สามารถนำ�ไปใช้ในชวี ติ ประจำ�วนั ได้

พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเย่ียม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผา่ น (๐)

๔.๒.๑ ศึกษาค้นคว้าหา ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ ศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้ ศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ ไม่ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้
ความรู้จากหนงั สอื เอกสาร จากหนังสือ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ จากหนังสอื เอกสาร ส่งิ พมิ พ์ จากหนงั สอื เอกสาร สง่ิ พมิ พ์
ส่ิงพมิ พ์ สื่อเทคโนโลยตี า่ ง ๆ สอื่ เทคโนโลยี และสารสนเทศ สื่อเทคโนโลยแี ละสารสนเทศ ส่อื เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้
แหลง่ เรียนรู้ทัง้ ภายใน แหล่งเรียนรู้ทั้งภายใน แหลง่ เรียนรู้ทงั้ ภายใน ท้ังภายในและภายนอก
และภายนอกโรงเรียน และภายนอกโรงเรียน และภายนอกโรงเรียน โรงเรียน เลือกใชส้ ่อื
และเลอื กใชส้ ่ือ เลอื กใชส้ ่ือไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และเลอื กใชส้ อื่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทกึ
ได้อย่างเหมาะสม มีการบันทึกความรู้ วิเคราะห์ มีการบันทึกความรู้ วิเคราะห์ ความรู้
๔.๒.๒ บนั ทึกความรู้ ข้อมูล สรปุ เป็นองค์ความรู้ ขอ้ มลู สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้
วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสงิ่ ท่ี แลกเปล่ียนเรียนรู้ดว้ ยวธิ ีการ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั ผู้อนื่ ได้
เรยี นรู้ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ ทหี่ ลากหลาย และน�ำ ไปใช้
๔.๒.๓ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในชวี ติ ประจำ�วนั ได้
ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และน�ำ ไปใช้
ในชวี ิตประจำ�วนั

288

มงุ่ ม่นั ในการท�ำ งาน
ตัวช้วี ัดท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ีการงาน

พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐)
ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไม่ต้งั ใจปฏิบตั หิ น้าทกี่ ารงาน
๖.๑.๑ เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัติ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหน้าที่
หน้าทีท่ ี่ได้รับมอบหมาย ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ในการปฏิบตั หิ น้าท่ี ท่ไี ด้รับมอบหมายให้ส�ำ เร็จ
๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบ ท่ไี ดร้ บั มอบหมายใหส้ ำ�เร็จ ท่ีได้รบั มอบหมายใหส้ ำ�เรจ็
ในการทำ�งานให้สำ�เรจ็ มกี ารปรบั ปรุงและพัฒนา มกี ารปรับปรุงและพฒั นา
๖.๑.๓ ปรบั ปรุงและพัฒนา การท�ำ งานใหด้ ขี น้ึ ด้วยตนเอง การทำ�งานให้ดีข้ึน
การท�ำ งานด้วยตนเอง

ตวั ชวี้ ดั ที่ ๖.๒ ทำ�งานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านส�ำ เรจ็ ตามเป้าหมาย

พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐)
๖.๒.๑ ทมุ่ เทท�ำ งาน อดทน
ไมย่ อ่ ทอ้ ตอ่ ปญั หา ทำ�งานด้วยความขยนั อดทน ท�ำ งานดว้ ยความขยัน อดทน ท�ำ งานดว้ ยความขยัน อดทน ไมข่ ยัน อดทนในการท�ำ งาน
และอปุ สรรคในการท�ำ งาน ไมย่ อ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหา พยายาม ไมย่ ่อทอ้ ตอ่ ปัญหา พยายามใหง้ านสำ�เร็จ
๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหา แก้ปัญหาอุปสรรค ในการท�ำ งาน พยายามใหง้ าน ตามเป้าหมาย
และอปุ สรรคในการทำ�งาน ในการทำ�งานให้งานสำ�เร็จ สำ�เรจ็ ตามเป้าหมาย ชนื่ ชม
ให้ส�ำ เร็จ ตามเป้าหมายภายในเวลา ผลงานด้วยความภาคภมู ใิ จ
๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงาน ท่กี ำ�หนด ชื่นชมผลงาน
ด้วยความภาคภมู ใิ จ ด้วยความภาคภูมใิ จ

289

ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา

ผลการจดั การเรียนการสอน ลงชื่อ (ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา)
()
//

บนั ทกึ หลังการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแก้ไข

ลงชือ่ (ผบู้ นั ทกึ )
()
//

290

แผนการจดั การเรียนร้กู ล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒
สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๖ โลกและการเปลีย่ นแปลง

หนว่ ยย่อยที่ ๓ ดิน น้ำ� และการอนุรักษ์ เร่อื ง สมบัติของดินและการพฒั นาดิน เวลาเรยี น ๔ ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ การตรวจสอบคณุ สมบัตขิ องดิน เวลา ๑ ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก
รวมทงั้ ผลตอ่ สิง่ มีชวี ติ และสิง่ แวดล้อม
ตัวชี้วดั
ว ๓.๒ ม.๒/๗ ตรวจวัดสมบัติบางประการของดิน โดยใช้เครื่องมือท่ีเหมาะสมและนำ�เสนอแนวทาง
การใชป้ ระโยชนด์ นิ จากข้อมลู สมบตั ขิ องดนิ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ูต่ วั ช้ีวัด
๑. ออกแบบปฏิบัตกิ ารตรวจสอบสมบัตบิ างประการและความเปน็ กรด-เบสของดินในแหล่งตา่ ง ๆ ได้ (P)
๒. วเิ คราะห์ น�ำ เสนอขอ้ มูลสมบัตดิ ินแต่ละทอ้ งถนิ่ จากปฏิบตั กิ ารตรวจสอบดนิ ได้ (K)
๓. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกลมุ่ ในการตรวจสอบสมบตั ดิ นิ ในทอ้ งถน่ิ ดว้ ยความมเี หตผุ ล ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการท�ำ งาน (A)
สาระส�ำ คญั
สภาพความเป็นกรด-ด่างของดินหรอื คา่ pH ของดิน สามารถสงั เกตได้จากการสำ�รวจภาคสนาม คา่ pH ของดนิ
โดยท่ัวไป จะมีค่าอยู่ระหว่างประมาณ ๓.๐-๙.๐ ค่า pH ๗.๐ บอกถึงสภาพความเป็นกลางของดิน กล่าวคือ ดินมีตัว
ทที่ �ำ ให้เป็นกรด และตัวท่ที �ำ ใหเ้ ปน็ ดา่ งอย่เู ปน็ ปริมาณเท่ากนั พอดี
สาระการเรยี นรู้
สมบตั ิของดิน
- การตรวจสอบสมบตั บิ างประการของดนิ คา่ ความเป็นกรด-เบสและการใชป้ ระโยชน์
สมรรถนะสำ�คญั ของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
- การอธบิ าย การเขยี น การพูดหนา้ ชน้ั เรยี น
๒. ความสามารถในการคดิ
- การสงั เกต การส�ำ รวจ การคดิ วิเคราะห์ การสรา้ งค�ำ อธบิ าย การอภิปราย
การสอ่ื ความหมาย การสืบคน้ โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
- การแสวงหาความรเู้ พมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั สมบัตขิ องดินในท้องถนิ่
- กระบวนการกลมุ่
๔. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

291

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (พระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี-
ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช
สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว)
ใฝ่เรียนรู้
ตัวชี้วัดท่ี ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่อ
อยา่ งเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้ สามารถนำ�ไปใชใ้ นชวี ิตประจำ�วนั ได้
ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้
บนั ทึกขอ้ มลู ผลการตรวจสอบค่า pH สมบตั ิบางประการของดนิ
คำ�ถามทา้ ทาย
๑. ดินในท้องถิ่นของเราแตล่ ะแหง่ มีคา่ pH อยา่ งไรบา้ ง เหมือนหรอื แตกต่างกนั อยา่ งไร
๒. เราจะตรวจสอบความเปน็ กรด-เบสของดนิ จากอะไร
๓. มวี ธิ ีตรวจสอบความเปน็ กรด-เบสของดนิ อย่างไร
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ GPAS 5 Steps
STEP 3 ข้นั ปฏิบตั แิ ละสรุปความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
๑. นักเรียนสังเกตวิธีการตรวจสอบความเป็นกรด-เบสของสารละลาย ที่ผู้สอนเตรียมไว้ ตั้งแต่ขั้นการเตรียม
สารละลาย ความเขม้ ขน้ ขนาดต่าง ๆ การใช้เครื่องมอื และวธิ กี ารตรวจสอบ ดำ�เนินการตรวจสอบ และการบนั ทึกผล
๒. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๖ คน แต่ละกลุ่มนำ�ความรู้ ความเข้าใจจากวิธีการตรวจสอบความเป็น
กรด-เบสของสารละลาย มาออกแบบวางแผนการทดลอง ปฏิบตั กิ ิจกรรมตรวจสอบคา่ pH ความเปน็ กรด-เบสของดนิ
ในบรเิ วณท่ีนักเรยี นสนใจ ๑-๒ แหล่งด้วยตนเอง บนั ทึกผลลงในแบบบนั ทึกที่ก�ำ หนดให้
๓. นำ�ผลมาเปรียบเทียบระหว่างแหล่งดินในท่ีต่าง ๆ ท่ีกลุ่มเลือกมากับผลระหว่างกลุ่มอื่น ๆ แล้วสรุปความรู้
หลังการปฏิบัติ
STEP 4 ขนั้ ส่ือสารและน�ำ เสนอ (Applying the Communication Skill)
๔. นักเรียนนำ�บันทึกผลการตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดินที่นักเรียนสนใจมานำ�เสนอผล
และเปรยี บเทยี บผลระหวา่ งกลมุ่ วา่ มคี วามเหมอื นหรอื แตกตา่ งกนั อยา่ งไร ดนิ ทใี่ ดมคี า่ pH ความเปน็ กรด-เบสเทา่ ใด นา่ จะมี
เหตมุ าจากปัจจัยอะไร วเิ คราะหอ์ ภิปรายหาขอ้ สรุป สร้างความเข้าใจ ความคดิ รวบยอด
STEP 5 ข้นั ประเมนิ เพื่อเพม่ิ คุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
๕. นักเรียนนำ�ผลงานจากการปฏบิ ัติกจิ กรรมตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดนิ ที่ดำ�เนนิ การดว้ ยตนเอง
ในช้นั เรยี นมาตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เปรียบเทียบกับคา่ มาตรฐาน และประเมินตนเองตามเกณฑ์การประเมนิ ท่กี �ำ หนด
ปรับปรุงชนิ้ งาน แล้วเสนอครูผ้สู อน
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
ครูแสดงความช่ืนชมต่อความคิด ความสามารถของนักเรียน และควรแสดงผลงานของนักเรียน เพื่อเป็นแรงจูงใจ
ใหน้ ักเรียนผลิตผลงานทีด่ ี และได้เห็นผลงานทหี่ ลากหลายของเพอื่ น เป็นการเปดิ ความคิดของนกั เรยี นใหก้ ว้างไกลข้ึน
สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
๑. แหล่งการเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอกชนั้ เรียน ห้องสมดุ อนิ เทอรเ์ นต็
๒. หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
๓. เครือ่ งมือตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดิน
๔. แบบบนั ทกึ การตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดิน

292

การประเมินผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ แหล่งข้อมลู วธิ ีวัด/เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารตดั สิน

๑. ออกแบบปฏิบัติการตรวจสอบ ๑. บันทึกข้อมูลปฏิบัติการตรวจสอบ ตรวจผลงานผลการศึกษาค้นคว้าสมบัติ ไดร้ ะดบั ๓ ข้นึ ไป
สมบตั บิ างประการและความเป็น สมบัติบางประการและความเป็นกรด-เบส บางประการและความเปน็ กรด-เบสของดนิ ตามเกณฑก์ ารประเมิน
กรด-เบสของดนิ ในแหล่งตา่ ง ๆ ได้ (P) ของดนิ ในแหล่งตา่ ง ๆ ได้ ในแหล่งต่าง ๆ และบันทกึ ข้อมูล เชงิ คุณภาพ ๔ ระดบั
๒. บนั ทกึ ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลดิน ผลการวเิ คราะหป์ ัจจัยท่ที ำ�ให้ดิน ถอื วา่ ผ่านการประเมนิ
๒. วเิ คราะห์ นำ�เสนอขอ้ มลู สมบัติดิน แต่ละท้องถน่ิ มีสมบตั ิแตกตา่ งกัน แตล่ ะท้องถิ่นมสี มบตั แิ ตกตา่ งกนั
แต่ละท้องถ่ินจากปฏิบัติการตรวจสอบ
ดินได้ (K)

๓. ปฏิบัติกจิ กรรมกลุ่มในการส�ำ รวจ พฤตกิ รรมการทำ�งานกลุ่มของผ้เู รียน สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำ งานและตรวจสอบ
สมบัติดินในท้องถิน่ ดว้ ยความมีเหตุผล รายบุคคล ผลของการปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ ตามทมี่ อบหมาย
ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่นั ในการท�ำ งาน (A)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการแสวงหาแหล่งขอ้ มูล

รายการการประเมนิ ๔ ระดับคณุ ภาพ ๒ ๑
๓ ไมม่ กี ารวางแผนทจี่ ะค้นควา้
ข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้
๑. การวางแผนคน้ ควา้ ขอ้ มูล วางแผนทจ่ี ะค้นคว้าขอ้ มูล วางแผนท่ีจะค้นควา้ ข้อมลู วางแผนท่ีจะคน้ ควา้ ข้อมูล อย่างเปน็ ระบบ
จากแหลง่ เรียนรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ โดยมีครู
ที่หลากหลายเช่ือถือได้ ท่ีหลากหลายและเหมาะสม หรือผู้อ่นื แนะนำ�บา้ ง
และมกี ารเชอ่ื มโยง แต่ไมม่ กี ารเชอ่ื มโยงให้เหน็
ให้เหน็ เป็นภาพรวม เปน็ ภาพรวม
แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์
ของวิธีการทั้งหมด

๒. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลตามแผน เก็บรวบรวมข้อมลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยไมม่ กี าร เก็บรวบรวมขอ้ มลู เปน็ ระยะ
ทก่ี ำ�หนดทกุ ประการ โดยคัดเลอื กและ/หรอื คดั เลอื กและ/หรอื ประเมิน ขาดการประเมินเพอื่ คดั เลอื ก
ประเมนิ ข้อมูล ขอ้ มลู

๓. การจัดกระทำ�ขอ้ มูล จดั กระท�ำ ข้อมูลอยา่ งเป็น จัดกระทำ�ขอ้ มลู อย่างเป็น จัดกระทำ�ข้อมลู อย่างเปน็ จัดกระท�ำ ข้อมูลอยา่ งไม่เป็น
และการน�ำ เสนอ ระบบ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ ระบบ มีการจำ�แนกข้อมูล ระบบ มกี ารยกตัวอย่าง ระบบ และนำ�เสนอไม่สื่อ
เป็นภาพรวม และนำ�เสนอ ใหเ้ หน็ ความสมั พนั ธ์ นำ�เสนอ เพ่มิ เตมิ ให้เขา้ ใจงา่ ย ความหมายและไมช่ ัดเจน
ด้วยแบบตา่ ง ๆ อยา่ งชัดเจน ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และนำ�เสนอดว้ ยแบบตา่ ง ๆ
ถกู ตอ้ ง
แต่ยังไม่ถูกต้อง

๔. การสรุปผล สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกต้อง สรปุ ผลได้อยา่ งกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชบั กะทัดรดั สรุปผลโดยไม่ใชข้ ้อมูล
กระชบั ชดั เจน แต่ยังไมช่ ดั เจน แตไ่ ม่ชดั เจน และไมถ่ กู ตอ้ ง
และครอบคลุม มีเหตุผล และไมค่ รอบคลมุ ขอ้ มลู
ทอี่ ้างอิงจากการสืบค้นได้ จากการวิเคราะหท์ ง้ั หมด

๕. การเขยี นรายงาน เขียนรายงาน เขียนรายงาน เขยี นรายงาน เขยี นรายงานได้ตามตวั อย่าง
ตรงตามจดุ ประสงค์ ถูกตอ้ ง ตรงตามจดุ ประสงค์ โดยสือ่ ความหมายได้ แตใ่ ชภ้ าษาไมถ่ ูกตอ้ ง
และชดั เจน และมกี ารเชอื่ มโยง อยา่ งถูกต้องและชัดเจน โดยมคี รหู รอื ผอู้ ื่นแนะนำ� และไม่ชัดเจน
ใหเ้ หน็ เป็นภาพรวม แตข่ าดการเรียบเรยี ง

293

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้
ตัวชวี้ ดั ที่ ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้

พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ดีเย่ียม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผ่าน (๐)
๔.๑.๑ ตง้ั ใจเรียน
๔.๑.๒ เอาใจใส่และมี เข้าเรียนตรงเวลา ตัง้ ใจเรยี น เขา้ เรยี นตรงเวลา ต้งั ใจเรียน เข้าเรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรยี น ไมต่ งั้ ใจเรยี น
ความเพยี รพยายาม เอาใจใส่ และมีความเพียร- เอาใจใส่ และมีความเพยี ร- เอาใจใสใ่ นการเรยี น มสี ว่ นรว่ ม
ในการเรยี นรู้ พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการเรียนรู้ ในการเรียนรู้ และเข้าร่วม
๔.๑.๓ สนใจเข้ารว่ ม มสี ว่ นร่วมในการเรยี นรู้ มสี ่วนร่วมในการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรูต้ ่าง ๆ
กิจกรรมการเรียนรตู้ ่าง ๆ และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ และเข้ารว่ มกิจกรรม เป็นบางครัง้
ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอก การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ บ่อยครั้ง
โรงเรยี นเปน็ ประจ�ำ

ตัวชว้ี ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรตู้ า่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลอื กใชส้ ือ่
อยา่ งเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ สามารถนำ�ไปใชใ้ นชีวติ ประจำ�วันได้

พฤติกรรมบง่ ช้ี ดีเยยี่ ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ า่ น (๐)

๔.๒.๑ ศกึ ษาคน้ ควา้ หา ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ ไม่ศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้
ความรจู้ ากหนังสอื เอกสาร จากหนงั สอื เอกสาร ส่งิ พิมพ์ จากหนังสือ เอกสาร ส่งิ พิมพ์ จากหนังสอื เอกสาร สิ่งพมิ พ์
สงิ่ พมิ พ์ สือ่ เทคโนโลยตี ่าง ๆ สอ่ื เทคโนโลยี และสารสนเทศ สือ่ เทคโนโลยแี ละสารสนเทศ ส่ือเทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้
แหล่งเรยี นรู้ทง้ั ภายใน แหลง่ เรยี นรู้ทง้ั ภายใน แหล่งเรยี นรู้ทั้งภายใน ทัง้ ภายในและภายนอก
และภายนอกโรงเรียน และภายนอกโรงเรยี น และภายนอกโรงเรียน โรงเรยี น เลอื กใช้ส่ือ
และเลอื กใชส้ ่ือ เลอื กใช้สื่อได้อยา่ งเหมาะสม และเลอื กใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทกึ
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ มกี ารบนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ความรู้
๔.๒.๒ บันทกึ ความรู้ ขอ้ มูล สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ ขอ้ มลู สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้
วเิ คราะห์ ตรวจสอบจากสิง่ ท่ี แลกเปล่ียนเรียนรู้ด้วยวธิ กี าร แลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับผู้อืน่ ได้
เรยี นรู้ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ ทหี่ ลากหลาย และน�ำ ไปใช้
๔.๒.๓ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ในชีวิตประจำ�วันได้
ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และน�ำ ไปใช้
ในชวี ิตประจำ�วัน

294

มงุ่ ม่นั ในการท�ำ งาน
ตัวช้วี ัดท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ีการงาน

พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐)
ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไม่ต้งั ใจปฏิบตั หิ น้าทกี่ ารงาน
๖.๑.๑ เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัติ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหน้าที่
หน้าทีท่ ี่ได้รับมอบหมาย ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ในการปฏิบตั หิ น้าท่ี ท่ไี ด้รับมอบหมายให้ส�ำ เร็จ
๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบ ท่ไี ดร้ บั มอบหมายใหส้ ำ�เร็จ ท่ีได้รบั มอบหมายใหส้ ำ�เรจ็
ในการทำ�งานให้สำ�เรจ็ มกี ารปรบั ปรุงและพัฒนา มกี ารปรับปรุงและพฒั นา
๖.๑.๓ ปรบั ปรุงและพัฒนา การท�ำ งานใหด้ ขี น้ึ ด้วยตนเอง การทำ�งานให้ดีข้ึน
การท�ำ งานด้วยตนเอง

ตวั ชวี้ ดั ที่ ๖.๒ ทำ�งานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านส�ำ เรจ็ ตามเป้าหมาย

พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐)
๖.๒.๑ ทมุ่ เทท�ำ งาน อดทน
ไมย่ อ่ ทอ้ ตอ่ ปญั หา ทำ�งานด้วยความขยนั อดทน ท�ำ งานดว้ ยความขยัน อดทน ท�ำ งานดว้ ยความขยัน อดทน ไมข่ ยัน อดทนในการท�ำ งาน
และอปุ สรรคในการท�ำ งาน ไมย่ อ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหา พยายาม ไมย่ ่อทอ้ ตอ่ ปัญหา พยายามใหง้ านสำ�เร็จ
๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหา แก้ปัญหาอุปสรรค ในการท�ำ งาน พยายามใหง้ าน ตามเป้าหมาย
และอปุ สรรคในการทำ�งาน ในการทำ�งานให้งานสำ�เร็จ สำ�เรจ็ ตามเป้าหมาย ชนื่ ชม
ให้ส�ำ เร็จ ตามเป้าหมายภายในเวลา ผลงานด้วยความภาคภมู ใิ จ
๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงาน ท่กี ำ�หนด ชื่นชมผลงาน
ด้วยความภาคภมู ใิ จ ด้วยความภาคภูมใิ จ

295

ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา

ผลการจดั การเรียนการสอน ลงชื่อ (ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา)
()
//

บนั ทกึ หลังการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแก้ไข

ลงชือ่ (ผบู้ นั ทกึ )
()
//

296

แผนการจดั การเรยี นรกู้ ลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๖ โลกและการเปลยี่ นแปลง

หนว่ ยยอ่ ยที่ ๓ ดิน น�้ำ และการอนุรกั ษ์ เร่ือง ศาสตร์พระราชาในการปรบั ปรุงดนิ เวลาเรยี น ๔ ชั่วโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ ศาสตรพ์ ระราชาในการปรับปรงุ ดิน เวลา ๑ ชัว่ โมง
มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชีว้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก
และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก
รวมทง้ั ผลตอ่ สิ่งมชี ีวิตและสิ่งแวดล้อม
ตวั ช้ีวดั
ว ๓.๒ ม.๒/๗ ตรวจวัดสมบัติบางประการของดิน โดยใช้เคร่ืองมือท่ีเหมาะสมและนำ�เสนอแนวทาง
การใชป้ ระโยชน์ดนิ จากขอ้ มลู สมบัติของดิน
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ่ตู ัวชี้วัด
๑. ศกึ ษาคน้ ควา้ ส�ำ รวจข้อมลู เกีย่ วกับการจัดการดนิ ตามศาสตรพ์ ระราชาได้ (P)
๒. อธบิ ายการจัดการดินในแหล่งตา่ ง ๆ ตามศาสตร์พระราชาได้อยา่ งมีเหตผุ ลถูกต้อง (K)
๓. ใส่ใจใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการศกึ ษาค้นคว้า สำ�รวจข้อมลู เกีย่ วกบั การจัดการดนิ ตามศาสตรพ์ ระราชา (A)
สาระส�ำ คญั
ดนิ แตล่ ะทอ้ งถนิ่ มลี กั ษณะและสมบตั แิ ตกตา่ งกนั ไดแ้ ก่ วตั ถตุ น้ ก�ำ เนดิ ดนิ ภมู อิ ากาศ สงิ่ มชี วี ติ ในดนิ สภาพภมู ปิ ระเทศ
และระยะเวลาในการเกิดดิน โครงการที่เก่ียวกับการจัดการดินตามศาสตร์พระราชา เช่น โครงการแกล้งดิน โครงการ
ปลกู หญา้ แฝก การปลกู หญา้ แฝกเพอื่ อนรุ กั ษด์ นิ และน�ำ้ โครงการหม่ ดนิ การปลกู พชื ตระกลู ถวั่ บ�ำ รงุ ดนิ เปน็ การจดั การดนิ
ให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ในการเกษตรกรรมท่ีสอดคล้องตามลักษณะสมบัติค่า pH ความเป็นกรด-เบสของดิน
ในแต่ละพนื้ ที่ โดยค�ำ นงึ ถึงผลดีต่อสง่ิ แวดล้อมและเป็นการอนรุ ักษบ์ �ำ รงุ ดนิ อยา่ งยั่งยืน
สาระการเรยี นรู้
การปรับปรุงดนิ เพือ่ ใช้ประโยชน์
- ศาสตร์พระราชาในการปรับปรุงดนิ ใหม้ ีสภาพเหมาะสมเพ่ือนำ�ไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร
สมรรถนะสำ�คัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
- การอธิบาย การเขียน การพดู หนา้ ชัน้ เรียน
๒. ความสามารถในการคิด
- การสังเกต การสำ�รวจ การคิดวเิ คราะห์ การสรา้ งคำ�อธิบาย การอภปิ ราย
การส่อื ความหมาย การสบื ค้นโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- การแสวงหาความรูเ้ พ่มิ เติมเกย่ี วกับการจดั การดนิ ตามศาสตรพ์ ระราชา
- กระบวนการกล่มุ
๔. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

297

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (พระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี-
ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช
สยามนิ ทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หวั )
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ตัวชว้ี ัดท่ี ๑.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ๑.๔.๒ แสดงความส�ำ นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ
ของพระมหากษตั รยิ ์ (สอดคลอ้ งสมั พนั ธก์ บั พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในพระบาทสมเดจ็ -
พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณ-
อดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านที่ ๑
มีทศั นคตทิ ่ีถกู ตอ้ งต่อบา้ นเมอื ง ข้อ ๓ มัน่ คงในสถาบนั พระมหากษัตรยิ )์
ใฝเ่ รียนรู้
ตวั ช้ีวัดที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้ส่ือ
อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ สามารถนำ�ไปใช้ในชีวิตประจ�ำ วันได้
มุ่งม่นั ในการท�ำ งาน
ตัวช้วี ัดที่ ๖.๑ ตั้งใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่การงาน
ตัวชี้วัดท่ี ๖.๒ ท�ำ งานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพือ่ ให้งานสำ�เร็จตามเปา้ หมาย
ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
- บนั ทึกขอ้ มลู ผลการศึกษาคน้ คว้าการจัดการดนิ ตามศาสตรพ์ ระราชา
ค�ำ ถามท้าทาย
๑. ศาสตร์พระราชาในการปรบั ปรงุ ดนิ แตล่ ะแบบมวี ธิ ีการอย่างไรบา้ ง เหมอื นหรอื ต่างกันอย่างไร
๒. ดินในแต่ละแห่งที่มีการปรับปรุงตามศาสตร์พระราชาเกิดผลต่อเกษตรกรอย่างไร และมีผลต่อส่ิงแวดล้อม
หรือไม่ อยา่ งไร
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ GPAS 5 Steps
STEP 1 ข้ันสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)
๑. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี น เรอื่ ง ศาสตรพ์ ระราชาดา้ นการจดั การดนิ โดยสนทนาซกั ถามจากประสบการณก์ ารรบั รขู้ า่ วสาร
เกีย่ วกบั โครงการแกล้งดนิ การปลกู หญา้ แฝก การทำ�ฝายชะลอน�ำ้ ในภเู ขา
๒. แบง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๔-๖ คน แตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ เรอ่ื ง ศาสตรพ์ ระราชาดา้ นการจดั การดนิ
เช่น โครงการแกล้งดิน โครงการปลูกหญ้าแฝก การปลูกหญ้าแฝกเพื่ออนุรักษ์ดินและนำ้� โครงการห่มดิน การปลูกพืช
ตระกูลถ่ัวบำ�รุงดิน จากเอกสาร ตำ�ราท่ีเก่ียวข้อง จากแหล่งค้นคว้าอินเทอร์เน็ตใกล้ตัวและสามารถใช้ได้ ใฝ่หาความรู้
ความรอบรู้ในเทคโนโลยสี ารสนเทศ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสงั คม
๓. น�ำ บนั ทกึ ผลการศกึ ษามารายงานกลมุ่ ใหเ้ รยี นรรู้ ว่ มกนั และพจิ ารณาขอ้ มลู ใหถ้ กู ตอ้ งสมบรู ณ์ การเรยี นรวู้ ธิ กี ารเรยี น
การส่อื สาร วธิ ีการทำ�งาน
STEP 2 ขั้นคิดวิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing)
๔. นักเรียนนำ�ข้อมูลจากข้ันที่ ๑ มาวิเคราะห์ อภิปรายหาข้อสรุปสร้างความเข้าใจ ความคิดรวบยอด
แลว้ ตอบค�ำ ถาม ดังนี้
- ศาสตร์พระราชาในการปรับปรงุ ดินแต่ละแบบมวี ิธีการอยา่ งไรบา้ ง เหมอื นหรือตา่ งกนั อย่างไร
- เพราะเหตใุ ดการจดั การดินแต่ละแห่ง แตล่ ะโครงการจงึ ใช้วธิ ีการไม่เหมอื นกนั มเี หตปุ ัจจัยอะไร

298

- กระบวนการทรงงานของพระราชาในโครงการต่าง ๆ มีอะไรที่คล้ายคลึงกันและเป็นข้อความรู้สำ�คัญ
ทจี่ ะนำ�ไปใชป้ ฏบิ ัตไิ ดบ้ ้าง
รว่ มกนั สรปุ ความเขา้ ใจแลว้ บนั ทกึ เปน็ ผงั กราฟกิ เชอื่ มโยงสกู่ ารจดั การสงิ่ แวดลอ้ มตามศาสตรพ์ ระราชาตามหลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอ่ื เตรียมน�ำ เสนอในขน้ั ตอ่ ไป
การจัดบรรยากาศเชงิ บวก
ครูแสดงความชื่นชมต่อความคิด ความสามารถของนักเรียน และควรแสดงผลงานของนักเรียน เพ่ือเป็นแรงจูงใจ
ใหน้ ักเรยี นผลิตผลงานท่ดี ี และไดเ้ หน็ ผลงานท่หี ลากหลายของเพ่อื น เป็นการเปดิ ความคดิ ของนกั เรยี นให้กวา้ งไกลขนึ้
สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
๑. แหลง่ การเรียนรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกชนั้ เรียน ห้องสมุด อินเทอรเ์ น็ต
๒. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒
การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ แหลง่ ขอ้ มลู วิธวี ัด/เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารตัดสิน

๑. ศึกษาค้นคว้า สำ�รวจขอ้ มลู เกีย่ วกับ ๑. บันทกึ ขอ้ มูลผลการศกึ ษาค้นควา้ ตรวจผลงานผลการศึกษาค้นคว้า ได้ระดับ ๓ ขน้ึ ไป
การจดั การดินตามศาสตรพ์ ระราชาได้ เกย่ี วกบั การจดั การดนิ ตามศาสตรพ์ ระราชา ตามเกณฑก์ ารประเมนิ
(P) เชงิ คณุ ภาพ ๔ ระดบั
๒. อธิบายการจัดการดนิ ในแหลง่ ถือวา่ ผ่านการประเมิน
ต่าง ๆ ตามศาสตร์พระราชา
ไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล ถูกต้อง (K)

๓. ใสใ่ จใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ในการศกึ ษา พฤตกิ รรมการทำ�งานกลุ่มของผู้เรยี น สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำ งานและตรวจสอบ
คน้ ควา้ ส�ำ รวจขอ้ มลู เกยี่ วกบั การจดั การ รายบุคคล ผลของการปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ ตามทมี่ อบหมาย
ดินตามศาสตรพ์ ระราชา (A)

เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินการแสวงหาแหลง่ ขอ้ มูล

รายการการประเมิน ๔ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ๑
๓ ไมม่ กี ารวางแผนท่ีจะคน้ คว้า
ข้อมลู จากแหลง่ เรียนรู้
๑. การวางแผนคน้ ควา้ ขอ้ มูล วางแผนท่จี ะค้นคว้าข้อมลู วางแผนทีจ่ ะค้นควา้ ขอ้ มูล วางแผนทจี่ ะค้นคว้าขอ้ มูล อยา่ งเปน็ ระบบ
จากแหล่งเรยี นรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ จากแหลง่ เรียนรู้ โดยมคี รู
ที่หลากหลายเชือ่ ถือได้ ที่หลากหลายและเหมาะสม หรอื ผูอ้ น่ื แนะน�ำ บ้าง
และมีการเชือ่ มโยง แต่ไมม่ ีการเช่อื มโยงใหเ้ ห็น
ใหเ้ หน็ เป็นภาพรวม เป็นภาพรวม
แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์
ของวิธีการทัง้ หมด

๒. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ตามแผน เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยไมม่ กี าร เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นระยะ
ที่กำ�หนดทกุ ประการ โดยคดั เลอื กและ/หรอื คัดเลอื กและ/หรอื ประเมนิ ขาดการประเมินเพอ่ื คัดเลอื ก
ประเมนิ ข้อมลู ข้อมูล

๓. การจดั กระทำ�ขอ้ มลู จดั กระทำ�ข้อมลู อยา่ งเปน็ จัดกระท�ำ ขอ้ มูลอยา่ งเปน็ จัดกระท�ำ ข้อมลู อย่างเป็น จัดกระทำ�ข้อมูลอย่างไม่เป็น
และการน�ำ เสนอ ระบบ มีการเชื่อมโยงใหเ้ ห็น ระบบ มกี ารจำ�แนกขอ้ มูล ระบบ มีการยกตัวอยา่ ง ระบบ และนำ�เสนอไมส่ ือ่
เปน็ ภาพรวม และน�ำ เสนอ ใหเ้ ห็นความสัมพันธ์ นำ�เสนอ เพ่ิมเติมให้เขา้ ใจง่าย ความหมายและไมช่ ดั เจน
ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ อยา่ งชดั เจน ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และน�ำ เสนอดว้ ยแบบต่าง ๆ
ถูกต้อง
แต่ยงั ไมถ่ ูกตอ้ ง

299

รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ ๑
๔. การสรปุ ผล ๔๓๒ สรปุ ผลโดยไม่ใช้ข้อมลู
และไมถ่ กู ต้อง
๕. การเขยี นรายงาน สรุปผลได้อย่างถกู ต้อง สรปุ ผลได้อยา่ งกระชบั สรุปผลไดก้ ระชบั กะทัดรดั
กระชับ ชัดเจน แตย่ ังไมช่ ัดเจน แต่ไมช่ ัดเจน เขียนรายงานได้ตามตัวอยา่ ง
และครอบคลุม มเี หตุผล และไมค่ รอบคลุมขอ้ มลู แต่ใช้ภาษาไม่ถูกตอ้ ง
ทอ่ี ้างองิ จากการสืบค้นได้ จากการวเิ คราะห์ทงั้ หมด และไมช่ ัดเจน

เขียนรายงาน เขยี นรายงาน เขียนรายงาน
ตรงตามจดุ ประสงค์ ถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ โดยสื่อความหมายได้
และชดั เจน และมกี ารเชอ่ื มโยง อย่างถกู ต้องและชดั เจน โดยมคี รูหรือผอู้ ื่นแนะนำ�
ใหเ้ ห็นเปน็ ภาพรวม แต่ขาดการเรียบเรยี ง

การจดั กระท�ำ และนำ�เสนอแผนภาพความคดิ ศาสตรพ์ ระราชาในการปรับปรงุ ดนิ

รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ
การจดั กระทำ�และน�ำ เสนอ
แผนภาพความคิด ๔๓๒๑

จัดกระท�ำ แผนภาพความคิด จัดกระทำ�แผนภาพความคดิ จดั กระท�ำ แผนภาพความคดิ ได้ จดั กระท�ำ แผนภาพความคิด
อยา่ งเปน็ ระบบ และน�ำ เสนอ อยา่ งเป็นระบบ มีการจ�ำ แนก มีการยกตวั อยา่ งเพิม่ เติม อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ
ดว้ ยแบบท่ีชดั เจน ถูกตอ้ ง ขอ้ มูลให้เห็นความสมั พนั ธ์ และน�ำ เสนอดว้ ยแบบตา่ ง ๆ และน�ำ เสนอไมส่ อื่ ความหมาย
ครอบคลมุ และมกี ารเชอื่ มโยง และน�ำ เสนอดว้ ยแบบที่ แตย่ งั ไม่ครอบคลุม และไม่ชดั เจน
ให้เห็นเป็นภาพรวม ครอบคลุม

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
ตัวช้ีวดั ท่ี ๑.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์

พฤติกรรมบง่ ชี้ ดีเยยี่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐)

๑.๔.๒ แสดงความส�ำ นึก กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชนื่ ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ
ในพระมหากรุณาธคิ ณุ พระราชกรณยี กิจ พระราชกรณียกิจ พระราชกรณยี กจิ พระราชกรณยี กจิ
ของพระมหากษตั รยิ ์ และพระปรชี าสามารถ และพระปรีชาสามารถ และพระปรีชาสามารถ และพระปรีชาสามารถ
๑.๔.๓ แสดงออก ของพระมหากษัตริย์ ของพระมหากษตั รยิ ท์ ีม่ ตี ่อ ของพระมหากษัตรยิ ท์ ี่มตี ่อ ของพระมหากษัตรยิ ท์ ่มี ตี ่อ
ซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบัน และพระราชวงศท์ ม่ี ีต่อ การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน
พระมหากษตั รยิ ์ การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ครอบคลมุ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ครอบคลุม ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และเขา้ ร่วม
และโลกได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ตามควรแก่วัยและตง้ั ใจ ตามวยั และนำ�มาปฏิบัติ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเมอ่ื มผี ชู้ กั ชวน
ครอบคลุมตามควรแกว่ ัย นอ้ มรบั น�ำ มาปฏิบัติ เมอ่ื มผี ชู้ กั ชวนแนะน�ำ บอ่ ยครง้ั แนะนำ�เป็นบางคร้งั
และตั้งใจน้อมรับนำ�มาปฏิบัติ ด้วยตนเองอย่บู อ่ ยครงั้
ด้วยความจรงิ ใจเป็นนสิ ยั

ใฝเ่ รยี นรู้
ตวั ชี้วดั ท่ี ๔.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดเี ยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)
๔.๑.๑ ตง้ั ใจเรยี น
๔.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมี เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา ต้งั ใจเรยี น เข้าเรียนตรงเวลา ตงั้ ใจเรยี น ไม่ตัง้ ใจเรียน
ความเพียรพยายาม เอาใจใส่ และมีความเพียร- เอาใจใส่ และมคี วามเพยี ร- เอาใจใสใ่ นการเรยี น มสี ว่ นรว่ ม
ในการเรยี นรู้ พยายามในการเรยี นร้ ู พยายามในการเรยี นรู้ ในการเรียนรู้ และเข้าร่วม
๔.๑.๓ สนใจเข้ารว่ ม มีสว่ นร่วมในการเรียนรู้ มีสว่ นรว่ มในการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ต่าง ๆ
กิจกรรมการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ และเข้าร่วมกจิ กรรม เปน็ บางคร้งั
ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอก การเรียนรู้ตา่ ง ๆ บอ่ ยคร้งั
โรงเรียนเปน็ ประจ�ำ

300

ตัวชี้วัดท่ี ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่อ
อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ สามารถน�ำ ไปใชใ้ นชีวติ ประจ�ำ วนั ได้

พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยยี่ ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไมผ่ ่าน (๐)

๔.๒.๑ ศึกษาค้นควา้ หา ศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้ ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้ ศึกษาค้นควา้ หาความรู้ ไมศ่ กึ ษาค้นคว้าหาความรู้
ความรจู้ ากหนงั สอื เอกสาร จากหนังสือ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ จากหนังสือ เอกสาร สิง่ พมิ พ์ จากหนังสอื เอกสาร ส่งิ พิมพ์
สิ่งพิมพ์ ส่อื เทคโนโลยีต่าง ๆ สอื่ เทคโนโลยี และสารสนเทศ ส่ือเทคโนโลยแี ละสารสนเทศ สื่อเทคโนโลยี แหล่งเรยี นรู้
แหลง่ เรียนรทู้ ั้งภายใน แหลง่ เรียนรทู้ ัง้ ภายใน แหลง่ เรียนรู้ท้ังภายใน ทงั้ ภายในและภายนอก
และภายนอกโรงเรยี น และภายนอกโรงเรียน และภายนอกโรงเรยี น โรงเรียน เลือกใชส้ อื่
และเลือกใช้สอื่ เลอื กใชส้ อ่ื ได้อยา่ งเหมาะสม และเลอื กใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทกึ
ได้อยา่ งเหมาะสม มีการบันทึกความรู้ วิเคราะห์ มกี ารบันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ความรู้
๔.๒.๒ บนั ทกึ ความรู้ ข้อมูล สรปุ เป็นองค์ความรู้ ข้อมลู สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้
วเิ คราะห์ ตรวจสอบจากสิ่งท่ี แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ด้วยวธิ ีการ แลกเปลีย่ นเรียนรู้กับผ้อู น่ื ได้
เรยี นรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ ท่หี ลากหลาย และน�ำ ไปใช้
๔.๒.๓ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ในชีวติ ประจำ�วันได้
ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และน�ำ ไปใช้
ในชวี ติ ประจ�ำ วัน

มงุ่ ม่ันในการท�ำ งาน
ตวั ช้ีวัดท่ี ๖.๑ ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ที่การงาน

พฤติกรรมบง่ ชี้ ดีเย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)
ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติหน้าทก่ี ารงาน
๖.๑.๑ เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติ ตั้งใจและรับผิดชอบ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบ ในการปฏิบตั หิ น้าท่ี
หน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ในการปฏิบตั หิ น้าท่ี ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายใหส้ �ำ เร็จ
๖.๑.๒ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบ ที่ได้รับมอบหมายให้สำ�เร็จ ท่ีได้รบั มอบหมายให้สำ�เรจ็
ในการท�ำ งานใหส้ ำ�เรจ็ มีการปรับปรุงและพฒั นา มีการปรบั ปรุงและพฒั นา
๖.๑.๓ ปรับปรงุ และพฒั นา การทำ�งานใหด้ ขี ึน้ ด้วยตนเอง การท�ำ งานใหด้ ีข้ึน
การทำ�งานดว้ ยตนเอง

ตวั ชีว้ ัดที่ ๖.๒ ท�ำ งานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสำ�เร็จตามเป้าหมาย

พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐)
๖.๒.๑ ทมุ่ เททำ�งาน อดทน
ไม่ยอ่ ทอ้ ต่อปญั หา ท�ำ งานดว้ ยความขยัน อดทน ทำ�งานด้วยความขยัน อดทน ท�ำ งานดว้ ยความขยนั อดทน ไมข่ ยนั อดทนในการท�ำ งาน
และอปุ สรรคในการทำ�งาน ไม่ยอ่ ทอ้ ต่อปญั หา พยายาม ไมย่ อ่ ท้อตอ่ ปญั หา พยายามใหง้ านสำ�เรจ็
๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหา แกป้ ัญหาอปุ สรรค ในการท�ำ งาน พยายามใหง้ าน ตามเปา้ หมาย
และอุปสรรคในการท�ำ งาน ในการท�ำ งานใหง้ านส�ำ เรจ็ ส�ำ เร็จตามเปา้ หมาย ชืน่ ชม
ใหส้ ำ�เร็จ ตามเป้าหมายภายในเวลา ผลงานด้วยความภาคภมู ใิ จ
๖.๒.๓ ชนื่ ชมผลงาน ทก่ี �ำ หนด ช่นื ชมผลงาน
ด้วยความภาคภูมิใจ ด้วยความภาคภมู ิใจ

301

ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา

ผลการจดั การเรียนการสอน ลงชื่อ (ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา)
()
//

บนั ทกึ หลังการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแก้ไข

ลงชือ่ (ผบู้ นั ทกึ )
()
//

302

แผนการจัดการเรียนร้กู ลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๒
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๖ โลกและการเปล่ียนแปลง

หนว่ ยย่อยที่ ๓ ดนิ น�ำ้ และการอนรุ ักษ์ เรื่อง ศาสตร์พระราชาในการปรับปรุงดิน เวลาเรยี น ๔ ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ แนวทางการใชป้ ระโยชนด์ ินจากข้อมลู สมบัติของดนิ เวลา ๑ ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชว้ี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก
และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก
รวมทัง้ ผลตอ่ สง่ิ มชี ีวิตและสิง่ แวดล้อม
ตวั ชี้วัด
ว ๓.๒ ม.๒/๗ ตรวจวัดสมบัติบางประการของดิน โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและนำ�เสนอแนวทาง
การใชป้ ระโยชนด์ ินจากขอ้ มลู สมบตั ขิ องดิน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรูส้ ูต่ ัวชว้ี ัด
๑. น�ำ เสนอแนวทางการใชป้ ระโยชนด์ นิ จากขอ้ มูลสมบตั ิของดินในแหลง่ ตา่ ง ๆ ได้ (K)
๒. เขยี นแผนงานโครงการปรบั ปรงุ ดนิ เพอื่ ใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตรไดเ้ หมาะสมกบั สมบตั ขิ องดนิ และบรบิ ท (P)
๓. ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มในการเขียนแผนงานโครงการปรับปรุงดินด้วยความมีเหตุผล ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ัน
ในการท�ำ งาน (A)
สาระส�ำ คัญ
การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในเร่ือง ลักษณะดิน สมบัติดิน สภาพความเป็นกรด-ด่างของดินหรือค่า pH ของดิน
ตลอดจนวิธีทรงงานของพระราชาในโครงการต่าง ๆ สามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงดินในท้องถิ่นของตน
ให้มสี ภาพเหมาะสมเพือ่ น�ำ ไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรไดอ้ ย่างมีคุณภาพ
สาระการเรียนรู้
การปรับปรุงดินเพื่อใชป้ ระโยชน์
- ข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงดินในท้องถิ่นให้มีสภาพเหมาะสมเพ่ือนำ�ไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร
โดยการประยกุ ตใ์ ช้ศาสตรพ์ ระราชา
สมรรถนะส�ำ คัญของผเู้ รยี น
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
- การอธบิ าย การเขียน การพูดหน้าช้ันเรียน
๒. ความสามารถในการคดิ
- การสังเกต การสำ�รวจ การคิดวิเคราะห์ การสร้างคำ�อธิบาย การอภิปราย การสื่อความหมาย การสืบค้น
โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
- การแสวงหาความรเู้ พม่ิ เติมเกีย่ วกับการปรบั ปรุงดินเพอื่ ใชป้ ระโยชนใ์ นท้องถ่นิ
- กระบวนการกลมุ่
๔. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

303

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (พระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี-
ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช
สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ วั )
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ตัวชว้ี ดั ที่ ๑.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๑.๔.๒ แสดงความส�ำ นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ
ของพระมหากษตั รยิ ์ (สอดคลอ้ งสมั พนั ธก์ บั พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาในพระบาทสมเดจ็ -
พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณ-
อดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านที่ ๑
มที ัศนคติท่ถี ูกตอ้ งตอ่ บ้านเมอื ง ขอ้ ๓ มัน่ คงในสถาบันพระมหากษตั ริย)์
ใฝ่เรยี นรู้
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้ส่ือ
อยา่ งเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สามารถน�ำ ไปใชใ้ นชีวิตประจ�ำ วนั ได้
มุ่งมน่ั ในการท�ำ งาน
ตวั ช้วี ดั ท่ี ๖.๑ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหน้าทก่ี ารงาน
ตัวชว้ี ดั ที่ ๖.๒ ท�ำ งานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่ือใหง้ านสำ�เร็จตามเป้าหมาย
ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้
- ขอ้ เสนอแนวทางการใชป้ ระโยชนด์ นิ จากขอ้ มลู สมบตั ขิ องดนิ ในแหลง่ ตา่ ง ๆ โดยใชค้ วามรหู้ ลกั การจากศาสตรพ์ ระราชา
- แผนงานโครงการปรับปรุงดนิ เพอื่ ใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตรได้เหมาะสมกับสมบตั ขิ องดินและบรบิ ท
ค�ำ ถามท้าทาย
๑. ดินในท้องถ่ินของเราแตล่ ะแห่งมคี า่ pH อย่างไรบา้ ง จะทำ�การปรบั ปรุงดนิ ได้อย่างไร
๒. โครงงานปรับปรงุ ดนิ ให้เหมาะกบั การทำ�การเกษตร ควรเร่มิ จากอะไร
๓. มีข้นั ตอนวธิ ีท�ำ โครงงานปรับปรงุ ดิน โดยประยกุ ต์ใชค้ วามรูจ้ ากศาสตรพ์ ระราชาไดอ้ ย่างไรบา้ ง
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ GPAS 5 Steps
STEP 3 ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
๑. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มตามความสนใจในการปรับปรุงดินแต่ละแห่งเพ่ือให้เหมาะกับการทำ�การเกษตร
โดยปฏิบัติตามขั้นตอน ออกแบบจัดทำ�โครงงานการปรับปรุงดินตามกระบวนการจัดทำ�โครงงานแบบเรียนรู้ร่วมกัน
ตามวธิ ที รงงานตามศาสตรพ์ ระราชาใหเ้ หมาะสมกบั ศกั ยภาพของกลมุ่ ดงั นี้ (อาจมอบหมายใหน้ กั เรยี นท�ำ โครงงานเพม่ิ เตมิ
นอกเวลาเรยี นปกติ ในช่ัวโมงลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารทู้ ่สี ถานศกึ ษากำ�หนด)
ข้นั รับร้แู ละทำ�ความเข้าใจปัญหา
- ร่วมเสนอปัญหาหรอื อธบิ ายสถานการณท์ ีต่ อ้ งการแกไ้ ข
- ค้นหาและนำ�เสนอขอ้ มูลผลของปญั หาหรือสถานการณท์ ่มี ีตอ่ ส่งิ ตา่ ง ๆ
- วิเคราะหผ์ ลกระทบ ความรุนแรง ความเร่งดว่ นของปัญหาหรอื สถานการณ์
- วธิ คี น้ หาและน�ำ เสนอข้อมลู วิเคราะห์สาเหตุ ปัจจยั ความเก่ียวข้องของปญั หาหรือสถานการณ์
- สร้างขอ้ สรปุ ความชดั เจนของปญั หาหรอื สถานการณ์
- เสนอความตอ้ งการ กำ�หนดเป้าหมาย อธิบายสภาพสถานการณใ์ หมห่ ลงั การแก้ปญั หาหรอื สถานการณ์
ทต่ี อ้ งการให้เกิดขึน้ หรือเปล่ยี นแปลง
- สรา้ งแผนภาพความคดิ เชงิ ระบบ

304

คิดค้นแสวงหาแนวทางและวิธีการแก้ปัญหา
- เสนอวิธีการแกป้ ญั หาจากประสบการณ์ในเร่ืองท่ีกำ�หนดเป็นสถานการณ์ปญั หา
- น�ำ เสนอขอ้ มลู จากประสบการณ์ของตนให้กลุ่มพิจารณา
- ร่วมกันให้ข้อเสนอแนะวิธกี ารแก้ปัญหาเชงิ สาเหตุ
- เสนอวธิ ีการแก้ปัญหาดว้ ยความรู้ในวิชาท่ีเกยี่ วข้องกนั
- คน้ หาขอ้ มลู ความรูค้ วามเข้าใจเพอ่ื นำ�มาใช้ในการแก้ปัญหาในรายวิชาที่เกยี่ วขอ้ งกัน
- เช่ือมโยงข้อมูลใหเ้ ป็นระบบตามแนวคดิ เชงิ เหตผุ ลสมั พันธ์ เสนอเปน็ ทางเลอื กในการแก้ปญั หา
ตัดสินใจเลือกและออกแบบวางแผนการปฏิบตั ิ
• การตัดสนิ ใจเลอื กจากทางเลอื กทห่ี ลากหลาย
- ร่วมกันวเิ คราะห์เปา้ หมาย อะไรคือเป้าหมายหลักและเปา้ หมายรอง
- หาขอ้ มลู และวเิ คราะห์จุดเดน่ จุดดอ้ ยของทางเลือกและวิธแี กป้ ญั หาแตล่ ะทาง
- ให้ขอ้ มูลการวิเคราะหจ์ ุดเดน่ จุดด้อยของแตล่ ะทางเลือก
- ร่วมประเมนิ ทางเลือกเพอ่ื ตัดสนิ ใจตามเกณฑท์ ่ีตกลง
- ใหข้ อ้ คิดเหน็ อภปิ รายแลกเปลีย่ นในกล่มุ หรอื ระหว่างกลมุ่
• การออกแบบวางแผนปฏิบตั ิ
- ออกแบบกิจกรรมที่ตอ้ งปฏิบตั ิใหบ้ รรลุเป้าหมาย
- แสดงรายละเอียดการปฏิบัติ ใคร ท�ำ อะไร ท่ีไหน อย่างไร ใช้วัสดุอปุ กรณ์อะไร
- รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคข์ ้นั ตอนปฏบิ ัตทิ ่ีส�ำ คญั
- คิดหา สังเคราะหว์ ิธกี ารทีแ่ ตกต่างและได้ผลดกี ว่าเดิม
- วเิ คราะห์ผลท่จี ะเกดิ จากการปฏิบตั แิ ละไมป่ ฏิบัติ และข้อควรระวงั ถ้ามีสงิ่ ท่ไี ม่พงึ ประสงค์เกิดขึ้น
- ใชผ้ งั กราฟิกในการวางแผนการทำ�งาน
ข้ันลงมอื ปฏิบัติตามแนวทางท่กี ำ�หนดและประเมนิ ระหว่างปฏบิ ตั ิ
- ร่วมกบั ทมี งานทบทวนเปา้ หมายของงานและวธิ กี ารท�ำ งาน
- อธบิ ายรายละเอียดการปฏบิ ตั ิ ใคร ทำ�อะไร ทไี่ หน อย่างไร ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์อะไร
- ซักซ้อม ทบทวนกิจกรรมขั้นตอนและวิธีปฏิบัติท่ีต้องปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมาย ประเมินการปฏิบัติของตน
ให้ขอ้ มูลย้อนกลบั ท่ีแตกต่างและได้ผลดกี ว่าเดิม
- รว่ มกบั กลุ่มวเิ คราะห์ผลทเ่ี กิดขึ้นเปรียบเทียบกบั เป้าหมาย
- บันทึกผลการปฏิบัตแิ ละแนวคดิ การปรบั ปรงุ การปฏบิ ัตใิ นระหวา่ งการทำ�งาน
STEP 4 ข้นั สือ่ สารและนำ�เสนอ (Applying the Communication Skill)
- สมาชกิ แต่ละกลมุ่ ยอ่ ยแลกเปล่ียนเรยี นรกู้ บั ผรู้ ว่ มงาน
- สมาชิกกล่มุ ใหญร่ ว่ มแลกเปลยี่ นเรยี นรู้
นำ�เสนอผล และเปรียบเทียบผลระหว่างกลุ่มว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร วิเคราะห์ อภิปราย
หาข้อสรุปสร้างความเข้าใจ ความคิดรวบยอด เชื่อมโยงสู่การปรับปรุงดินในสถานท่ีต่าง ๆ ตามศาสตร์พระราชา
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมท้ังนำ�เสนอให้เห็นพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อ
ปวงชนชาวไทยและเกษตรกรในการปรบั ปรงุ ดนิ เพ่อื ประโยชนอ์ ย่างยง่ั ยนื ในการทำ�อาชีพเกษตรกรรม

305

STEP 5 ขน้ั ประเมนิ เพ่ือเพ่ิมคณุ ค่าบริการสังคมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating)
- สรปุ ผลการปฏิบัตแิ ละแลกเปล่ยี นข้อคดิ ความรู้ ความเข้าใจ
- นำ�เสนอความรู้ ทักษะ ความรู้สกึ ในวธิ ีการแกป้ ญั หาจากการปฏิบัติ
- ให้ขอ้ มลู วิเคราะหค์ วามรู้ และข้ันตอนการแก้ปัญหาที่ผ่านมาวา่ มีผลดแี ละผลเสียอยา่ งไร
- เสนอขอ้ คดิ วธิ ีการปรบั ปรุงงานต่อไปในลักษณะเดยี วกัน
- อธบิ ายแนวคิดในการน�ำ แนวทางแก้ปัญหาไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั ด้วย
- รว่ มกันท�ำ KM หรอื ถอดบทเรียน
- เขียนรายงานการอนรุ กั ษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อมการสบื สานศาสตร์พระราชา
การจัดบรรยากาศเชงิ บวก
ครูเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มกบั นักเรยี นตามโอกาส ใหข้ อ้ มลู ย้อนกลบั แสดงความคิดเหน็ เสริมแรงและเยย่ี มชมผลงาน
นิทรรศการการจัดทำ�โครงงานปรบั ปรุงดินของแต่ละกลุ่ม
สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
๑. เอกสารแบบฟอรม์ การจัดท�ำ โครงงาน
๒. ตวั อยา่ งโครงงานที่ท�ำ สำ�เร็จแล้ว
๓. แบบบันทึกการจัดท�ำ โครงงานปรบั ปรุงดิน

การประเมินผลการเรียนรู้

จุดประสงค์การเรยี นรู้ แหล่งข้อมลู วธิ ีวดั /เครอื่ งมือ เกณฑ์การตดั สนิ
ตรวจผลงานการจดั ท�ำ โครงงาน ไดร้ ะดับ ๓ ขน้ึ ไป
๑. นำ�เสนอแนวทางการใชป้ ระโยชนด์ นิ ๑. บนั ทึกขอ้ มลู ปฏบิ ตั กิ าร ตามเกณฑ์การประเมิน
จากขอ้ มูลสมบัตขิ องดินในแหล่งต่าง ๆ การจดั ทำ�โครงงาน เชิงคุณภาพ ๔ ระดบั
ได้ (K) ถอื วา่ ผ่านการประเมนิ

๒. เขยี นแผนงานโครงการปรบั ปรงุ ดิน
เพอื่ ใช้ประโยชนท์ างการเกษตร
ได้เหมาะสมกบั สมบัตขิ องดิน
และบรบิ ท (P)

๓. ปฏิบตั ิกิจกรรมกลมุ่ ในการเขยี น พฤติกรรมการทำ�งานกลมุ่ ของผ้เู รยี น สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำ งานและตรวจสอบ
แผนงานโครงการปรบั ปรงุ ดนิ รายบคุ คล ผลของการปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ ตามทมี่ อบหมาย
ดว้ ยความมเี หตุผล ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั
ในการทำ�งาน (A)

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการแสวงหาแหลง่ ขอ้ มูล

รายการการประเมิน ๔ ระดับคณุ ภาพ ๒ ๑
๓ ไม่มีการวางแผนที่จะค้นคว้า
ข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้
๑. การวางแผนคน้ คว้าขอ้ มูล วางแผนท่ีจะค้นควา้ ข้อมลู วางแผนทีจ่ ะคน้ ควา้ ข้อมลู วางแผนท่จี ะคน้ ควา้ ขอ้ มูล อยา่ งเป็นระบบ
จากแหลง่ เรยี นรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ โดยมคี รู
ท่ีหลากหลายเชือ่ ถือได้ ท่ีหลากหลายและเหมาะสม หรอื ผู้อ่นื แนะนำ�บ้าง
และมกี ารเชือ่ มโยง แตไ่ มม่ กี ารเช่ือมโยงให้เหน็
ใหเ้ หน็ เป็นภาพรวม เปน็ ภาพรวม
แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์
ของวิธีการทงั้ หมด

306

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
๒. การเก็บรวบรวมข้อมลู
๓. การจัดกระท�ำ ข้อมูล ๔ ๓๒๑
และการนำ�เสนอ เกบ็ รวบรวมข้อมลู ตามแผน
ท่กี �ำ หนดทุกประการ เกบ็ รวบรวมข้อมลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยไมม่ กี าร เกบ็ รวบรวมข้อมูลเปน็ ระยะ
๔. การสรุปผล โดยคัดเลือกและ/หรือ คดั เลอื กและ/หรือประเมนิ ขาดการประเมนิ เพือ่ คัดเลอื ก
ประเมินขอ้ มูล ขอ้ มลู
๕. การเขยี นรายงาน
จัดกระท�ำ ข้อมลู อย่างเป็น จัดกระท�ำ ข้อมลู อยา่ งเปน็ จดั กระทำ�ขอ้ มูลอยา่ งเปน็ จดั กระท�ำ ขอ้ มูลอย่างไมเ่ ปน็
ระบบ มีการเช่ือมโยงให้เห็น ระบบ มกี ารจ�ำ แนกข้อมลู ระบบ มกี ารยกตวั อย่าง ระบบ และนำ�เสนอไมส่ ่อื
เปน็ ภาพรวม และน�ำ เสนอ ใหเ้ ห็นความสมั พนั ธ์ น�ำ เสนอ เพ่ิมเติมให้เขา้ ใจงา่ ย ความหมายและไม่ชัดเจน
ด้วยแบบต่าง ๆ อยา่ งชัดเจน ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และน�ำ เสนอด้วยแบบตา่ ง ๆ
ถูกตอ้ ง
แต่ยังไม่ถกู ต้อง

สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลได้อย่างกระชบั สรปุ ผลได้กระชับ กะทดั รัด สรุปผลโดยไม่ใชข้ ้อมลู
กระชบั ชดั เจน แต่ยงั ไม่ชัดเจน แต่ไม่ชัดเจน และไม่ถกู ตอ้ ง
และครอบคลมุ มีเหตผุ ล และไม่ครอบคลมุ ข้อมลู
ที่อ้างองิ จากการสบื คน้ ได้ จากการวิเคราะห์ทง้ั หมด

เขยี นรายงาน เขียนรายงาน เขยี นรายงาน เขยี นรายงานได้ตามตัวอย่าง
ตรงตามจดุ ประสงค์ ถูกตอ้ ง ตรงตามจดุ ประสงค์ โดยสือ่ ความหมายได้ แต่ใช้ภาษาไม่ถกู ต้อง
และชดั เจน และมกี ารเชอื่ มโยง อย่างถกู ต้องและชัดเจน โดยมีครหู รือผอู้ ่ืนแนะน�ำ และไม่ชัดเจน
ให้เหน็ เป็นภาพรวม แต่ขาดการเรียบเรียง

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ตัวช้ีวดั ท่ี ๑.๔ เคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์

พฤติกรรมบง่ ชี้ ดเี ย่ียม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ า่ น (๐)

๑.๔.๒ แสดงความส�ำ นกึ กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ กลา่ วชน่ื ชมพระมหากรณุ าธคิ ณุ
ในพระมหากรณุ าธิคณุ พระราชกรณยี กิจ พระราชกรณยี กจิ พระราชกรณยี กิจ พระราชกรณยี กิจ
ของพระมหากษัตรยิ ์ และพระปรชี าสามารถ และพระปรชี าสามารถ และพระปรชี าสามารถ และพระปรชี าสามารถ
๑.๔.๓ แสดงออก ของพระมหากษตั รยิ ์ ของพระมหากษตั ริยท์ ม่ี ตี อ่ ของพระมหากษัตรยิ ์ท่ีมีต่อ ของพระมหากษัตริยท์ ่มี ีตอ่
ซ่ึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน และพระราชวงศ์ท่ีมตี อ่ การพฒั นาประเทศเพอื่ ปวงชน การพฒั นาประเทศเพอื่ ปวงชน การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน
พระมหากษัตรยิ ์ การพฒั นาประเทศเพอ่ื ปวงชน ได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุม ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ครอบคลุม ได้อย่างถกู ต้อง และเข้าร่วม
และโลกไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ตามควรแก่วยั และตง้ั ใจ ตามวยั และนำ�มาปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเมอื่ มผี ชู้ กั ชวน
ครอบคลุมตามควรแกว่ ัย นอ้ มรับนำ�มาปฏิบตั ิ เมอ่ื มผี ชู้ กั ชวนแนะน�ำ บอ่ ยครงั้ แนะน�ำ เป็นบางคร้ัง
และต้ังใจน้อมรับนำ�มาปฏิบัติ ด้วยตนเองอยบู่ อ่ ยคร้ัง
ด้วยความจรงิ ใจเปน็ นิสยั

ใฝเ่ รยี นรู้
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้

พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยยี่ ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐)
๔.๑.๑ ตัง้ ใจเรียน
๔.๑.๒ เอาใจใส่และมี เขา้ เรียนตรงเวลา ต้ังใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา ตั้งใจเรยี น เข้าเรยี นตรงเวลา ตงั้ ใจเรียน ไม่ตั้งใจเรียน
ความเพียรพยายาม เอาใจใส่ และมีความเพยี ร- เอาใจใส่ และมคี วามเพียร- เอาใจใสใ่ นการเรยี น มสี ว่ นรว่ ม
ในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ ในการเรียนรู้ และเข้าร่วม
๔.๑.๓ สนใจเข้ารว่ ม มีส่วนร่วมในการเรยี นรู้ มสี ว่ นร่วมในการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ
กจิ กรรมการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกจิ กรรม เป็นบางครั้ง
ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอก การเรียนรูต้ ่าง ๆ บอ่ ยคร้ัง
โรงเรียนเป็นประจำ�

307

ตัวช้ีวัดที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่อ
อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้ สามารถนำ�ไปใชใ้ นชีวิตประจำ�วันได้

พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ า่ น (๐)

๔.๒.๑ ศกึ ษาคน้ คว้าหา ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้ ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้ ไม่ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้
ความรู้จากหนงั สอื เอกสาร จากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพมิ พ์ จากหนังสอื เอกสาร สิ่งพิมพ์ จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์
สิ่งพมิ พ์ ส่ือเทคโนโลยีต่าง ๆ สอื่ เทคโนโลยี และสารสนเทศ สอื่ เทคโนโลยีและสารสนเทศ ส่อื เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้
แหล่งเรยี นรู้ทงั้ ภายใน แหล่งเรยี นรู้ทั้งภายใน แหล่งเรยี นรูท้ งั้ ภายใน ทั้งภายในและภายนอก
และภายนอกโรงเรยี น และภายนอกโรงเรยี น และภายนอกโรงเรียน โรงเรียน เลอื กใช้ส่ือ
และเลือกใช้สอื่ เลอื กใช้ส่อื ไดอ้ ย่างเหมาะสม และเลอื กใชส้ อื่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทกึ
ได้อยา่ งเหมาะสม มีการบนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ มกี ารบันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ ความรู้
๔.๒.๒ บันทึกความรู้ ขอ้ มูล สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ ขอ้ มูล สรปุ เป็นองค์ความรู้
วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสง่ิ ที่ แลกเปล่ยี นเรียนรดู้ ้วยวธิ ีการ แลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ ับผอู้ ่ืนได้
เรยี นรู้ สรปุ เป็นองค์ความรู้ ทห่ี ลากหลาย และน�ำ ไปใช้
๔.๒.๓ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ในชวี ิตประจ�ำ วันได้
ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และน�ำ ไปใช้
ในชวี ิตประจ�ำ วัน

มุง่ มน่ั ในการท�ำ งาน
ตวั ชว้ี ดั ที่ ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่กี ารงาน

พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผา่ น (๐)
ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ทก่ี ารงาน
๖.๑.๑ เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัติ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี
หนา้ ท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ในการปฏบิ ัตหิ น้าที่ ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ท่ไี ดร้ ับมอบหมายให้ส�ำ เรจ็
๖.๑.๒ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายให้ส�ำ เรจ็ ท่ไี ด้รับมอบหมายใหส้ �ำ เร็จ
ในการทำ�งานใหส้ ำ�เร็จ มีการปรบั ปรุงและพฒั นา มีการปรบั ปรงุ และพฒั นา
๖.๑.๓ ปรับปรุงและพฒั นา การทำ�งานให้ดีข้ึนด้วยตนเอง การทำ�งานให้ดขี นึ้
การทำ�งานดว้ ยตนเอง

ตัวชว้ี ดั ที่ ๖.๒ ทำ�งานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านส�ำ เร็จตามเป้าหมาย

พฤติกรรมบง่ ช้ี ดเี ย่ียม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐)
๖.๒.๑ ทมุ่ เทท�ำ งาน อดทน
ไม่ยอ่ ท้อต่อปญั หา ท�ำ งานด้วยความขยนั อดทน ท�ำ งานดว้ ยความขยนั อดทน ทำ�งานด้วยความขยนั อดทน ไม่ขยนั อดทนในการท�ำ งาน
และอปุ สรรคในการทำ�งาน ไมย่ ่อทอ้ ตอ่ ปญั หา พยายาม ไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหา พยายามให้งานสำ�เรจ็
๖.๒.๒ พยายามแก้ปญั หา แกป้ ญั หาอุปสรรค ในการท�ำ งาน พยายามใหง้ าน ตามเป้าหมาย
และอปุ สรรคในการทำ�งาน ในการทำ�งานใหง้ านสำ�เรจ็ สำ�เรจ็ ตามเป้าหมาย ชื่นชม
ให้สำ�เรจ็ ตามเป้าหมายภายในเวลา ผลงานด้วยความภาคภูมิใจ
๖.๒.๓ ชน่ื ชมผลงาน ท่กี �ำ หนด ชน่ื ชมผลงาน
ด้วยความภาคภูมใิ จ ด้วยความภาคภมู ิใจ

308

ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา

ผลการจดั การเรียนการสอน ลงชื่อ (ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา)
()
//

บนั ทกึ หลังการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแก้ไข

ลงชือ่ (ผบู้ นั ทกึ )
()
//

309

จดั พิมพ์โดย
สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)

๑๒๕๖/๙ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๐
โทร. ๐-๒๒๔๓-๘๐๐๐ (อัตโนมตั ิ ๑๕ สาย), ๐-๒๒๔๑-๘๙๙๙

แฟกซ์ : ทุกหมายเลข, แฟกซอ์ ตั โนมัติ : ๐-๒๒๔๑-๔๑๓๑, ๐-๒๒๔๓-๗๖๖๖
website : www.iadth.com


Click to View FlipBook Version