The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tuahuay, 2022-10-24 20:11:03

รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน

สำนักกรรมาธิการ ๓

และสง่ิ แวดลอ้ ม โรงเรยี นจะจดั การเรยี นการสอนไวใ้ นวชิ าวทิ ยาศาสตร์ สว่ นวชิ าชมุ ชนและสอนเสรมิ วชิ าตา่ ง ๆ โรงเรยี น
จะสอดแทรกเป็นรายวิชาให้กับนักเรียนตามศักยภาพของโรงเรียนที่สามารถดำ�เนินการได้ แล้วจึงขยายผลการจัด
การเรยี นการสอนในเรอื่ งของโครงการศาสตร์พระราชาตอ่ ไป
๓.๑๘ โรงเรยี นศรสี วสั ดิ์พิทยาคม
กระบวนการจัดการเรียนการสอนศาสตร์พระราชาทั้ง ๓ รูปแบบ ล้วนมีประโยชน์ต่อนักเรียน แต่การ
ทโ่ี รงเรยี นจะนำ�มาใชใ้ หเ้ หมาะสมกับบรบิ ทของพ้ืนที่ท่ีแตกตา่ งกันไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพนั้น มีข้อดขี ้อเสียที่แตกต่างกัน เชน่
รปู แบบท่ี ๑) การจดั การเรียนการสอนแบบรายวชิ า คอื นกั เรยี นทุกคนได้เรียน แตว่ ิชาดังกล่าวจะเพม่ิ ความยากมากขึน้
รปู แบบที่ ๒) การจดั การเรยี นการสอนแบบบรู ณาการ คอื จะไมท่ ราบความรคู้ วามสามารถของนกั เรยี นทช่ี ดั เจนวา่ ไดร้ บั
ความรมู้ ากหรอื นอ้ ยอยา่ งไร และรปู แบบที่ ๓) การจดั การเรยี นการสอนแบบโครงงานหรอื กจิ กรรม คอื มคี วามเหมาะสม
ที่จะนำ�มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนของประเทศไทยมากที่สุด แต่ก็อาจจะติดขัดเร่ืองระยะเวลาท่ีให้นักเรียนลงมือ
ปฏิบัติจรงิ ดงั นัน้ เมอ่ื พิจารณาทั้ง ๓ รูปแบบแลว้ จงึ เหน็ ว่า รปู แบบที่ ๓) นา่ ทดลองจัดการเรียนการสอนมากท่สี ุด

๔. สรปุ ข้อเสนอแนะทไี่ ด้รับจากผู้แทนสถานศกึ ษาทเี่ ขา้ ร่วมเสวนา
โดย นายบรู พาทศิ พลอยสวุ รรณ์ คณะท�ำ งานจดั หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ิ
ที่ยั่งยืน ได้สรุปข้อเสนอท่ีได้รับจากผู้แทนสถานศึกษาท่ีเข้าร่วมเสวนาทั้ง ๒๘ แห่ง ต่อนายตวง อันทะไชย ประธาน
คณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา สรุปได้ ดังนี้
๑) สถานศกึ ษาทกุ แหง่ สามารถจดั กจิ กรรมการเรยี นรศู้ าสตรพ์ ระราชาตามบรบิ ทของสถานศกึ ษาทแ่ี ตกตา่ ง
กนั ได้อย่างเหมาะสม
๒) สถานศึกษามีวิธีการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาที่หลากหลาย ไม่ว่า
จะเปน็ การจดั กิจกรรม ชมรม และบรู ณาการไวใ้ นหลกั สูตรหรอื สอดแทรกในรายวชิ า
๓) ผู้เรียนมที กั ษะ องคก์ ารเรียนรู้จนสามารถนำ�ไปปรบั ใช้ในชวี ิตประจ�ำ วนั เองไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ
๔) สถานศึกษามีกระบวนการติดตามวัดและประเมินผลการดำ�เนินงานของผู้เรียนจากลงมือปฏิบัติจริง
ทีต่ ่อเนอ่ื ง
๕) ข้อเสนอแนะจากคณะกรรมาธิการเป็นแนวทางที่ดี สามารถนำ�ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับ
สถานศกึ ษาได้
๖) ควรมีวิทยากรมาถ่ายทอดความรู้ เพื่อพัฒนาครูให้เกิดความรู้ความเข้าใจโดยตรงเก่ียวกับเรื่องของ
การจัดหลักสตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตร์พระราชา
๗) ควรมีการทำ�ตวั ชว้ี ัดหลกั สตู รและกระบวนการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาทช่ี ัดเจนให้แก่สถานศึกษา
๘) สถานศึกษาที่จัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาจะประสบความสำ�เร็จได้ จำ�เป็น
ต้องได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนท่ีดีจากทุกคนในสถานศึกษา และหน่วยงานทุกภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้อง
ในพ้นื ทีด่ ว้ ย

226

จากน้นั นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศกึ ษา วฒุ สิ ภา ได้กล่าวสรปุ การเสวนาสรุปได้ว่า
ตามที่คณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ได้พิจารณาศึกษาจากการเดินทางไปศึกษาดูงานทั้ง ๔ ภูมิภาค แล้วพบว่า
สถานศึกษาทุกแห่งสามารถดำ�เนินการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนศาสตร์พระราชาได้จริงตามบริบท
ของพน้ื ทใ่ี นแต่ละภูมิภาคทีแ่ ตกตา่ งกัน ซ่งึ จำ�แนกออกเปน็ ๓ รปู แบบ คือ
๑. การจดั การเรยี นการสอนแบบรายวิชา
๒. การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ
๓. การจัดการเรยี นการสอนแบบโครงงานหรอื กจิ กรรม
ในการน้ี จะเหน็ ได้วา่ หากก�ำ หนดหลกั สตู รและการจดั การเรยี นการสอนดงั กลา่ วจะอาศยั แรงจงู ใจทแ่ี ตกตา่ งกนั
เช่น การวดั และการประเมนิ ซงึ่ ที่ผ่านมาเปน็ การวดั และการประเมินผลแบบการก�ำ หนดเวลาเรียน และการสอบแข่งขัน
แต่วิธีการประเมินผลแบบมีแต้มต่อของศาสตร์พระราชาจะช่วยให้นักเรียนตั้งแต่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓-๖
ท่ีได้ผ่านการเรียนการสอนในโครงการศาสตร์พระราชาสามารถจดบันทึกการเรียนดังกล่าวไว้ในสมุดบันทึกการเรียน
(สมุดพกประจำ�ตัว) ของตนเองได้ และเม่ือนักเรียนไปเข้ารับการศึกษาต่อในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ก็สามารถ
นำ�ประสบการณ์ที่ได้ศึกษาในโครงการศาสตร์พระราชาไปพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ต่อไปได้ แต่หากนักเรียน
ไม่ได้ศึกษาศาสตรพ์ ระราชาน้ันจะไม่มที ักษะ ๓ ประการ ไดแ้ ก่ ๑) ทักษะชวี ิต ๒) ทักษะวิชาการ และ ๓) ทักษะวชิ าชีพ
ดังนัน้ จึงเหน็ วา่ วธิ กี ารประเมินแบบศาสตรพ์ ระราชาเปน็ วิธกี ารประเมนิ ผลการดำ�เนินงานทีไ่ มค่ วรต้องมกี ารแข่งขันกนั
เชน่ ประเทศสงิ คโปร์ และประเทศฟนิ แลนด์ ทไี่ มม่ กี ารสอบแขง่ ขนั เนอื่ งจากการศกึ ษาสามารถน�ำ ไปปรบั ใชใ้ นการด�ำ เนนิ
ชวี ิตประจ�ำ วันใหด้ �ำ รงอยูไ่ ด้อยา่ งมีความสุข จึงไมจ่ �ำ เป็นตอ้ งมีการสอบแข่งขันกนั อีกตอ่ ไป
ประกอบกบั การจดั เสวนา เร่ือง “ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายในการปฏริ ูปการศึกษา และแนวทางการน�ำ หลกั สตู ร
และกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติท่ียั่งยืน” ในวันนี้ กระผมขอให้ความเชื่อม่ันกับทุกท่านว่า
ขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะทงั้ หมดทไี่ ดร้ บั จากการเสวนาครงั้ น้ี คณะกรรมาธกิ ารฯ จะรวบรวมขอ้ คดิ เหน็ เพอื่ น�ำ ไปวเิ คราะห์
สงั เคราะห์ จดั ท�ำ เปน็ สรปุ เสนอตอ่ ทปี่ ระชมุ คณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา และประมวลผลเปน็ รายงานการพจิ ารณา
ศกึ ษาเสนอต่อวุฒิสภา และคณะรฐั มนตรี เพอ่ื ด�ำ เนินการในส่วนทเ่ี ก่ียวข้องกบั การจัดหลักสูตรและกระบวนการเรยี นรู้
ตามศาสตร์พระราชาดังกล่าวต่อไป เน่ืองจาก (ร่าง) รายงานการพิจารณาศึกษา เร่ือง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการ
ปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติท่ียั่งยืน
มีความจำ�เป็นอย่างยิ่งต่อการผลักดันและสนับสนุนการนำ�วิธีการแห่งศาสตร์พระราชาสู่สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
โดยการพัฒนาท่ีเหมาะสมกับเยาวชนทุกช่วงวัย อันเป็นการต่อยอดและยกระดับ จึงจะเกิดประสิทธิภาพและเกิดผล
เป็นรปู ธรรมที่ยง่ั ยนื สบื ไป

สรปุ โดย : ฝ่ายเลขานกุ ารคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา

227

ภาคผนวก จ.

โครงการเสวนา
“การปฏริ ูปการศกึ ษา และการจดั หลกั สตู ร

และกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตร์พระราชาสูก่ ารปฏิบัตทิ ีย่ ั่งยนื ”

228

โครงการเสวนา
เรื่อง “ข้อเสนอเชิงนโยบายในการปฏิรูปการศกึ ษา
และแนวทางการน�ำ หลักสตู รและกระบวนการเรียนร้ตู ามศาสตร์พระราชาสู่การปฏบิ ัตทิ ่ยี งั่ ยืน”

จัดโดย คณะกรรมาธิการการศกึ ษา วุฒสิ ภา
ร่วมกบั การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแหง่ ประเทศไทย (กฟผ.) เข่อื นศรีนครินทร์

ระหวา่ งวันท่ี ๑๖-๑๘ ธนั วาคม ๒๕๖๓
ณ การไฟฟา้ ฝา่ ยผลิตแหง่ ประเทศไทย (กฟผ.) เขอื่ นศรนี ครินทร์ อ�ำ เภอศรสี วัสดิ์ จงั หวัดกาญจนบุรี

---------------------
หลักการและเหตุผล
ด้วยคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ได้ตระหนักและสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ-
พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ท่ีได้พระราชทานองค์ความรู้และศาสตร์ต่าง ๆ
ท่ีเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติไว้เป็นจำ�นวนมาก จะยังคงอยู่ในวิถีชีวิตและจิตใจของคนไทยสืบไป สมดัง
พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร
กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสืบสานศาสตร์
พระราชาและการพัฒนาคนในประเทศให้ “เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตอาสา และมีงานทำ�” โดยสมควร
ท่ีจะน้อมนำ�ศาสตร์ต่าง ๆ ท่ีได้พระราชทานไว้มาศึกษารวบรวม เพื่อจัดทำ�แนวทางการนำ�หลักสูตรและกระบวนการ
เรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่สำ�คัญอันจะนำ�ไปเป็นเครื่องมือในการปฏิรูป
ประเทศดา้ นการศกึ ษาสบื ไป ประกอบกบั ทผี่ า่ นมาคณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา ไดน้ �ำ เสนอรายงานการพจิ ารณา
ศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติท่ียั่งยืน
ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญตั ิแห่งชาติ (ฉบบั เดมิ ) ไปยงั คณะองคมนตรี รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เพ่ือให้เห็นภาพรวมเกี่ยวกับหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานมากย่ิงขึ้น อันนำ�ไปสู่การผลักดันและสนับสนุนให้นำ�วิธีการแห่งศาสตร์
พระราชาสู่การพัฒนาที่ย่ังยืนให้เหมาะสมกับเยาวชนทุกช่วงวัย เพ่ือต่อยอดและยกระดับรายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน
ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ฉบับเดิม) ให้มีประสิทธิภาพและเกิดผล
เปน็ รูปธรรมได้
คณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา จึงมีมติเห็นควรให้คณะทำ�งานในคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา
ประกอบด้วยคณะทำ�งานจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติท่ียั่งยืน และ
คณะทำ�งานการปฏิรูปการศึกษา และการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติท่ียั่งยืน
เดนิ ทางไปศกึ ษาดงู าน “การปฏริ ปู การศกึ ษา และแนวทางการน�ำ หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชา

229

สกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ยี่ ง่ั ยนื ” (๔ ภมู ภิ าค) เพอื่ น�ำ ขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั มาจดั ท�ำ (รา่ ง) รายงานการพจิ ารณาศกึ ษา เรอ่ื ง ขอ้ เสนอเชงิ นโยบาย
ในการปฏริ ปู การศกึ ษา และแนวทางการน�ำ หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ย่ี งั่ ยนื ใหม้ ี
ความสมบรู ณน์ น้ั บดั น้ี ทปี่ ระชมุ คณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา ไดพ้ จิ ารณาและใหค้ วามเหน็ ชอบเกย่ี วกบั แนวทาง
การปฏริ ปู การศกึ ษา และการน�ำ หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ยี่ งั่ ยนื เรยี บรอ้ ยแลว้
ตอ่ ประเดน็ ดงั กลา่ ว คณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา จงึ เหน็ ควรใหม้ กี ารจดั เสวนาเรอ่ื ง “ขอ้ เสนอเชงิ นโยบาย
ในการปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ
ท่ีย่ังยืน” เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องได้มีส่วนร่วมในการนำ�เสนอและแลกเปล่ียนความคิดเห็น พร้อมท้ังให้
ขอ้ สงั เกตและขอ้ เสนอแนะทเี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ การจดั ท�ำ ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายในการปฏริ ปู การศกึ ษา และแนวทางการน�ำ
หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืนให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรม
ที่ยง่ั ยนื สบื ไป

วัตถปุ ระสงค์
๑. เพือ่ สร้างความรู้ ความเข้าใจและตระหนักใหเ้ หน็ ถงึ ความส�ำ คญั เกีย่ วกับการปฏริ ปู การศกึ ษา และแนวทาง
การนำ�หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรูต้ ามศาสตรพ์ ระราชาส่กู ารปฏบิ ัติที่ยั่งยืน
๒. เพ่ือให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันวิพากษ์และเติมเต็มในการระดมความคิดเห็น ให้ข้อสังเกต
และข้อเสนอแนะเพ่ือเป็นแนวทางในการปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบตั ิทย่ี ่งั ยนื
๓. เพ่ือนำ�ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะท่ีได้รับจากการเสวนาเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เก่ียวข้อง
โดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำ�หรับนำ�ไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิรูป
การศึกษา และแนวทางการน�ำ หลกั สูตรและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ่ียั่งยืน

รูปแบบโครงการ
๑. การอภปิ รายโดยวทิ ยากรผทู้ รงคณุ วฒุ แิ ละเปดิ เวทเี พอื่ แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั แนวทางในการปฏริ ปู
การศึกษา และแนวทางการนำ�หลกั สตู รและกระบวนการเรียนร้ตู ามศาสตร์พระราชาสกู่ ารปฏบิ ัตทิ ย่ี ่ังยืน
๒. รวบรวมข้อคิดเห็นท่ีได้รับจากการปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ยี่ ง่ั ยนื เปน็ ขอ้ สรปุ เสนอตอ่ ทปี่ ระชมุ คณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา เพอื่ ประมวลผล
เปน็ รายงานการพจิ ารณาศึกษาเสนอต่อวฒุ ิสภา และคณะรฐั มนตรี เพื่อด�ำ เนนิ การในสว่ นที่เกีย่ วขอ้ งตอ่ ไป

ผู้เขา้ รว่ มเสวนา
วันพฤหัสบดีท่ี ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ ผเู้ ขา้ รว่ มเสวนา จ�ำ นวน ๔๕๐ คน ประกอบด้วย
๑. คณะกรรมาธกิ ารการศึกษา วฒุ สิ ภา
๒. ศึกษาธิการจงั หวดั
๓. คณะท�ำ งานจดั หลักสตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏิบตั ทิ ยี่ ั่งยืน
๔. คณะทำ�งานการปฏิรูปการศึกษา และการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา
สกู่ ารปฏิบัตทิ ี่ยง่ั ยนื
๕. ท่ปี รึกษากติ ติมศักดิ์คณะกรรมาธิการการศึกษา วฒุ สิ ภา
๖. ทปี่ รึกษา ผู้ช�ำ นาญการ นกั วชิ าการ และเลขานุการประจ�ำ คณะกรรมาธิการการศึกษา วฒุ สิ ภา

230

๗. ผอู้ �ำ นวยการเขอื่ นศรีนครนิ ทร์ และผแู้ ทน
๘. ผู้บริหารและคณะทำ�งานด้านชุมชนสัมพันธ์และความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เข่ือนศรีนครินทร์
และผเู้ กีย่ วขอ้ ง
๙. ผู้อำ�นวยการสำ�นักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา หรือผ้แู ทน
๑๐. ผู้อำ�นวยการสำ�นักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา หรือผ้แู ทน
๑๑. ผู้ทรงคณุ วุฒิ
๑๒. ผู้บรหิ ารสถานศึกษา/ครู/นกั เรยี น
๑๓. สอ่ื มวลชน
วันศกุ รท์ ่ี ๑๘ ธนั วาคม ๒๕๖๓ ผ้เู ข้ารว่ มเสวนา จ�ำ นวน ๑๐๐ คน ประกอบด้วย
๑. คณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒสิ ภา
๒. คณะท�ำ งานจดั หลักสูตรและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ่ยี ั่งยืน
๓. คณะทำ�งานการปฏิรูปการศึกษา และการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา
สกู่ ารปฏิบตั ทิ ่ยี ั่งยนื
๔. ทป่ี รกึ ษากิตติมศักดค์ิ ณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ ิสภา
๕. ทป่ี รกึ ษา ผู้ช�ำ นาญการ นักวิชาการ และเลขานกุ ารประจ�ำ คณะกรรมาธิการการศกึ ษา วุฒิสภา
๖. ผอู้ �ำ นวยการเขื่อนศรนี ครินทร์ และผูแ้ ทน
๗. ผู้บริหารและคณะทำ�งานด้านชุมชนสัมพันธ์และความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เขื่อนศรีนครินทร์
และผูเ้ กี่ยวข้อง
๘. ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ

ผลที่คาดว่าจะไดร้ ับ
๑. ผู้เข้าร่วมการเสวนาและผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ให้ความคิดเห็น
และขอ้ เสนอแนะเกยี่ วกบั การปฏริ ปู การศกึ ษา และแนวทางการน�ำ หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชา
สกู่ ารปฏิบตั ิท่ียัง่ ยนื
๒. ทราบแนวทางการปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์
พระราชาส่กู ารปฏบิ ตั ิทย่ี ั่งยนื

วนั เวลา และสถานท่ี
ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๓ ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนศรีนครินทร์
อำ�เภอศรีสวัสดิ์ จงั หวัดกาญจนบุรี

งบประมาณดำ�เนินการ
๑) ส�ำ นกั งานเลขาธกิ ารวุฒสิ ภา
๒) การไฟฟา้ ฝ่ายผลติ แห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข่ือนศรีนครนิ ทร์

ผ้รู ับผดิ ชอบโครงการ
คณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา และคณะท�ำ งานในคณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา ประกอบดว้ ยคณะ
ท�ำ งานจดั หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ยี่ ง่ั ยนื และคณะท�ำ งานการปฏริ ปู การศกึ ษา
และการนำ�หลกั สตู รและกระบวนการเรียนรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสู่การปฏบิ ตั ทิ ี่ยง่ั ยนื

231

ก�ำ หนดการเสวนา
เรอ่ื ง “ข้อเสนอเชงิ นโยบายในการปฏริ ูปการศกึ ษา
และแนวทางการน�ำ หลักสูตรและกระบวนการเรียนรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาส่กู ารปฏิบัตทิ ่ียงั่ ยืน”

จดั โดย คณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วุฒิสภา
ร่วมกับ การไฟฟา้ ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขอ่ื นศรนี ครนิ ทร์

ในวันพฤหัสบดีท่ี ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓
ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขือ่ นศรีนครนิ ทร์ อ�ำ เภอศรีสวสั ดิ์ จังหวดั กาญจนบุรี

------------------------------------------

เวลา ๐๘.๓๐-๐๙.๐๐ นาฬิกา - ลงทะเบยี นเขา้ รว่ มงานเสวนา ณ ห้องเคยี งธารา

การไฟฟา้ ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข่ือนศรีนครนิ ทร์
เวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ นาฬิกา พิธเี ปดิ
- กลา่ วต้อนรับโดย ๑) นายชำ�นาญ ช่ืนตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบรุ ี
๒) นายสุชพี มถี ม ผู้อ�ำ นวยการเข่ือนศรนี ครินทร์
- กล่าวรายงาน
โดย นายออน กาจกระโทก เลขานุการคณะกรรมาธกิ ารการศึกษา วฒุ สิ ภา

- กล่าวเปิดการเสวนา และปาฐกถา “ความเป็นมาเก่ียวกับการจัดทำ�ข้อเสนอ
เชิงนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา และแนวทางการนำ�หลักสูตรและ
กระบวนการเรียนรตู้ ามศาสตร์พระราชาสูก่ ารปฏิบัติทย่ี ัง่ ยืน”

โดย นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศกึ ษา วุฒสิ ภา

เวลา ๑๐.๐๐-๑๕.๐๐ นาฬิกา - นำ�เสนอผลการศึกษาการนำ�ศาสตร์พระราชาไปจัดหลักสูตรการเรียนรู้
ในสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน

- นำ�เสนอการจัดทำ�คู่มือเชิงปฏิบัติท่ีเหมาะสมกับเยาวชนทุกช่วงวัยต้ังแต่
ระดับปฐมวยั ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ระดับอาชวี ศกึ ษา ระดบั
อุดมศึกษา และการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือเร่งสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจ
เก่ียวกับศาสตร์พระราชาและการนำ�ไปขยายผลเพื่อพัฒนาแนวทางการ
น�ำ หลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาไปสวู่ ถิ กี ารด�ำ รงชวี ติ
ของเด็กและเยาวชนในแตล่ ะระดบั อย่างเหมาะสม

- แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเก่ียวกับร่างรายงาน
การพิจารณาศึกษา เรื่อง “ข้อเสนอเชิงนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา
และแนวทางการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา
สกู่ ารปฏบิ ัติทีย่ ่ังยืน” ของคณะกรรมาธิการการศกึ ษา วฒุ ิสภา

232

๑) นายบรู พาทศิ พลอยสุวรรณ์ ท่ีปรึกษาประจำ�คณะกรรมาธกิ าร
และคณะทำ�งานจดั หลักสตู รและกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตรพ์ ระราชาสู่การปฏิบตั ทิ ่ยี ่ังยืน
๒) นายศกั ด์สิ นิ โรจน์สราญรมย์ ท่ปี รึกษาประจำ�คณะกรรมาธกิ าร
และคณะทำ�งานจดั หลกั สตู รและกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตร์พระราชาสกู่ ารปฏิบัติท่ียง่ั ยนื
๓) นายสมควร วรสนั ต์ คณะทำ�งานการปฏริ ปู การศกึ ษา
และการนำ�หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตรพ์ ระราชาสู่การปฏิบตั ิท่ียัง่ ยนื
ด�ำ เนนิ รายการโดย นายกลน่ิ สระทองเนยี ม เลขานกุ ารประจ�ำ คณะกรรมาธกิ าร
และคณะท�ำ งานจัดหลักสตู รและกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ิทีย่ ง่ั ยืน

** เวลา ๑๑.๐๐-๑๒.๐๐ นาฬิกา - รับประทานอาหารกลางวัน **
เวลา ๑๕.๐๐-๑๕.๓๐ นาฬิกา - กลา่ วปดิ การเสวนา
โดย นายตวง อนั ทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา

หมายเหตุ : ก�ำ หนดการอาจมกี ารเปลย่ี นแปลงได้ตามความเหมาะสม
• การแต่งกาย : ชุดสภุ าพ
• ฝ่ายเลขานกุ ารคณะกรรมาธิการการศกึ ษา วุฒิสภา
โทร. ๐-๒๘๓๑-๙๒๑๗-๘

โทรสาร ๐-๒๘๓๑-๙๒๐๙

หรอื อีเมล [email protected]

233

ภาคผนวก ฉ.

ประมวลภาพการเสวนา
“การปฏิรปู การศึกษา และการจดั หลักสูตร

และกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ย่ี ่ังยืน”

234

ประมวลภาพการเสวนา
“ข้อเสนอเชิงนโยบายในการปฏริ ูปการศึกษา
และแนวทางการนาหลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏิบตั ทิ ยี่ ั่งยนื ”
ร่วมกบั การไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขอ่ื นศรีนครนิ ทร์

235

๖๔

236

๖๕

237

ภาคผนวก ช.

คมู่ ือการดำ�เนินการ
การจัดการศกึ ษาเพือ่ สืบสานศาสตรพ์ ระราชา
ดา้ นการจดั หลกั สตู รและการจดั การเรียนรู้

ในสถานศกึ ษา

238

คมู่ ือการดำ�เนนิ การ

การจัดการศึกษาเพือ่ สืบสานศาสตร์พระราชา
ดา้ นการจัดหลักสูตรและการจดั การเรยี นรู้ในสถานศึกษา

ตน้ แบบการเรยี นรแู้ บบ Active Learning ดว้ ยกระบวนการคดิ ขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps

คณะทำ�งานจดั หลกั สูตรและกระบวนการเรียนรู้
ตามศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ่ีย่งั ยนื
ในคณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วุฒสิ ภา

239

ค�ำ น�ำ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างย่ังยืน”
เม่ือวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัยท่ี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี-
ศรสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหศิ รภมู พิ ลราชวรางกรู กติ สิ ริ สิ มบรู ณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร
พระวชิรเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ทรงเจรญิ พระชนมพรรษา ๖๕ พรรษา มีใจความสำ�คญั ตอนหน่ึงว่า “...ครงั้ ทพี่ ระองคท์ รงด�ำ รง
ต�ำ แหนง่ พระรชั ทายาท ทรงไดร้ บั ความไวว้ างพระราชหฤทยั จากพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช-
มหาราช บรมนาถบพติ ร ในการปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ แทนพระองค์ และโดยเสดจ็ ไปทรงงานในพน้ื ทต่ี า่ ง ๆ กวา่ ๔๔ ปี
เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ในฐานะพระประมุขของชาติ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจดำ�เนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท
แหง่ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ดว้ ยน�ำ้ พระราชหฤทยั ทเ่ี ปยี่ มดว้ ย
พระเมตตา ทรงปกแผ่พระบารมี เพ่ือให้ชาวไทยอยู่ดีมีสุขอย่างถ้วนหน้า” และกล่าวต่ออีกว่า “ในหลวงรัชกาลท่ี ๙
ทรงใหค้ วามส�ำ คญั กบั การพฒั นาคน คอื พสกนกิ รของพระองคท์ กุ หมเู่ หลา่ ซงึ่ ไดร้ บั การยกยอ่ งจากองคก์ ารสหประชาชาตวิ า่
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีคุณูปการต่อมวลมนุษยชาติในการพัฒนาท่ียั่งยืน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
โปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ ถวายรางวัลความสำ�เร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ เม่ือ ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา ทั้งน้ี หัวใจ
ของการพฒั นาคน คือ การศึกษา ซึ่งในหลวงรัชกาลท่ี ๑๐ กท็ รงใหค้ วามส�ำ คัญอยา่ งยิง่ มาอยา่ งตอ่ เน่อื งตงั้ แต่ทรงด�ำ รง
พระอิสรยิ ยศสยามมกุฎราชกุมาร โครงการในพระราชดำ�รหิ ลายโครงการ ทรงมุ่งพฒั นาด้านการศึกษา...”
และเมอ่ื วนั ท่ี ๑๔ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ นายแพทยเ์ กษม วฒั นชยั องคมนตรี ไดอ้ ญั เชญิ
พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพล-
ราชวรางกูร กติ ิสิรสิ มบรู ณอดุลยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกล้าเจ้าอยหู่ วั ซ่ึงได้บนั ทึก
ไว้เป็นพระบรมราโชบายด้านการศึกษาท่ีทุกคนควรน้อมนำ�มาปฏิบัติ ดังน้ี การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน
๔ ดา้ น
๑. มที ศั นคตทิ ถ่ี กู ตอ้ งตอ่ บา้ นเมอื ง ตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจตอ่ ชาตบิ า้ นเมอื ง ยดึ มนั่ ในศาสนา มน่ั คงในสถาบนั
พระมหากษตั ริย์ และมีความเอื้ออาทรตอ่ ครอบครวั และชมุ ชนของตน
๒. มีพน้ื ฐานชีวติ ทมี่ ั่นคง มคี ุณธรรม ให้รจู้ กั แยกแยะสิ่งที่ผิด-ท่ีถกู ส่ิงชั่ว-สงิ่ ดี เพ่ือปฏิบตั ิแต่สง่ิ ทช่ี อบทีด่ ีงาม
ปฏเิ สธสงิ่ ทผ่ี ดิ ท่ีชวั่ และชว่ ยกนั สร้างคนดใี ห้แกบ่ ้านเมือง
๓. มงี านท�ำ มอี าชพี การเลยี้ งดลู กู หลานในครอบครวั หรอื ฝกึ ฝนอบรมในสถานศกึ ษาตอ้ งมงุ่ ใหเ้ ดก็ และเยาวชน
รักงาน สู้งาน ทำ�งานจนสำ�เร็จ การฝึกฝนอบรมท้ังในหลักสูตรและนอกหลักสูตรต้องมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนเรียน
ท�ำ งานเปน็ และมงี านท�ำ ในทส่ี ดุ ตอ้ งสนบั สนนุ ใหผ้ สู้ �ำ เรจ็ หลกั สตู รมอี าชพี มงี านท�ำ จนสามารถเลยี้ งตนเองและครอบครวั ได้
๔. เป็นพลเมืองดี การเป็นบุคคลตัวอย่าง “เห็นอะไรท่ีจะทำ�เพื่อบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ�” เช่น งานอาสาสมัคร
งานบำ�เพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศล ใหท้ �ำ ดว้ ยความมนี ้ำ�ใจและความเอือ้ อาทร
ทงั้ นร้ี ฐั บาลไดน้ อ้ มน�ำ ศาสตรพ์ ระราชาดา้ นการศกึ ษาเพอื่ การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ ของทงั้ สองพระองคม์ าเปน็
แนวทางในการกำ�หนดยุทธศาสตร์ชาติและการบริหารราชการแผ่นดิน สมควรท่ีกระทรวงศึกษาธิการและผู้เกี่ยวข้อง
ทุกฝ่ายจะได้นำ�ศาสตร์พระราชา และพระบรมราโชบายด้านการศึกษาไปสู่การจัดการศึกษาของชาติให้ปรากฏผล
เป็นรูปธรรมอยา่ งจริงจัง

เอกสาร “การจดั การศกึ ษาเพอื่ สบื สานศาสตรพ์ ระราชาดา้ นการจดั หลกั สตู รและการจดั การเรยี นรใู้ นสถานศกึ ษา”
ฉบับนี้ คณะทำ�งานจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติท่ียั่งยืน ในคณะกรรมาธิการ
การศึกษา วุฒิสภา จัดทำ�ข้ึนเพ่ือเสนอแนวคิดและแนวทางปฏิบัติให้สถานศึกษาและผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาดำ�เนินการ
สืบสานศาสตร์พระราชาด้วยการจัดหลักสูตรและการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนต้ังแต่ระดับปฐมวัย จนถึงระดับอุดมศึกษา
และการศกึ ษาตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ติ ทงั้ ในและนอกสถานศกึ ษา อนั จะเปน็ แนวทางหนงึ่ ในการเผยแพรอ่ งคค์ วามรพู้ ระเกยี รตคิ ณุ
และพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร ทไ่ี ดท้ รงงานในพระราชกรณยี กจิ ทงั้ ปวงตามพระราชปณธิ านทต่ี งั้ พระทยั ไว้ ดว้ ยกระบวนการลงมอื ปฏบิ ตั ิ
ทนี่ �ำ มาสกู่ ารสรปุ เปน็ “หลกั ธรรม หลกั คดิ หลกั ปฏบิ ตั ”ิ พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา และพระปฐมบรมราชโองการของ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช
สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่สะท้อนถึงพระราชปณิธาน และความตั้งใจ
อันแน่วแน่ในการทรงงานเพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำ�ริ และแนวพระราชดำ�ริ
ต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพ่ือพสกนิกรไทย
ไดเ้ รยี นรแู้ ละน�ำ ความรไู้ ปใชพ้ ฒั นาตนเอง พฒั นางาน สรา้ งชวี ติ สงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม และโลกใหอ้ าศยั อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
เป็นสขุ ทัว่ ถึง ย่ังยนื ตอ่ ไป

(นายตวง อนั ทะไชย)
ประธานคณะกรรมาธกิ ารการศกึ ษา วฒุ สิ ภา
และในฐานะประธานคณะทำ�งานจัดหลักสตู รและกระบวนการเรยี นรู้
ตามศาสตร์พระราชาสูก่ ารปฏิบตั ทิ ่ยี ง่ั ยืน

ในคณะกรรมาธกิ ารการศึกษา วุฒสิ ภา

สารบญั หน้า
๒๔๓
ความนำ�
๑. การจัดหลักสตู รสืบสานศาสตรพ์ ระราชาสู่การปฏบิ ตั ทิ ี่ยัง่ ยนื ๒๔๖
๒๔๘
ดา้ นหลักสตู รและสาระการเรยี นรศู้ าสตร์พระราชา ๒๔๙
๑.๑ ระดับปฐมวัย ๒๕๐
๑.๒ ระดบั ประถมศึกษา ๒๕๑
๑.๓ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ๒๕๒
๑.๔ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
๑.๕ ระดับอาชีวศึกษา ๒๕๓
๑.๖ ด้านการจัดหลักสูตรการเรยี นร้สู บื สานศาสตรพ์ ระราชาระดบั อุดมศกึ ษา ๒๕๕
(นสิ ติ นักศกึ ษา ระดับอุดมศึกษาชนั้ ปีที่ ๑)
๑.๗ การจัดหลักสูตรการเรียนรู้สืบสานศาสตร์พระราชาหลักสูตรการศึกษาตลอดชวี ติ ๒๕๗
๒. การจัดกระบวนการเรยี นรูต้ ามศาสตรพ์ ระราชาส่กู ารปฏบิ ัติท่ียง่ั ยนื ๒๕๘
การจดั การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในแตล่ ะระดบั การศกึ ษา ๒๕๙
๒.๑ ระดับปฐมวยั ๒๖๑
๒.๒ ระดบั ประถมศึกษา ๒๖๒
๒.๓ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ๒๖๓
๒.๔ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
๒.๕ ระดับอาชวี ศึกษา ๒๖๔
๒.๖ การจัดการเรียนรู้สืบสานศาสตร์พระราชาระดับอุดมศกึ ษา ๒๖๕
(นิสติ นกั ศกึ ษา ระดับอดุ มศกึ ษาช้นั ปีท่ี ๑) ๒๖๗
๒.๗ การจัดการเรยี นรู้สืบสานศาสตรพ์ ระราชา การศึกษาตอ่ เนอื่ งและเรียนรูต้ ลอดชีวติ ๒๖๗
๓. ตัวอย่างค่มู อื การนอ้ มนำ�ศาสตร์พระราชาไปจัดหลักสตู รการเรยี นร้ใู นระดบั สถานศกึ ษา ๒๖๘
๓.๑ ระดบั ปฐมวัย ๒๗๐
๓.๒ ระดบั ประถมศึกษา ๒๗๓
๓.๓ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้
๓.๔ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ๒๗๖
๔. ตวั อย่างการออกแบบการจดั การเรียนรูส้ ืบสานศาสตร์พระราชา

(ศาสตร์ที่ ๓ วา่ ด้วยการจัดการดิน)

ความน�ำ

จากค�ำ แถลงของนายกรฐั มนตรี พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา ทแ่ี ถลงตอ่ รฐั สภา เมอ่ื วนั พฤหสั บดที ่ี ๒๕ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๕๖๒ รัฐบาลจะยดึ หลกั การสำ�คัญสปี่ ระการ ในการบรหิ ารประเทศ คอื
๑) น้อมนำ�พระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
มหิศรภมู ิพลราชวรางกูร กติ ิสิรสิ มบูรณอดลุ ยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หัว
เป็นหลักในการบริหารประเทศ ๒) ยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๓) พัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล-
อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร และ ๔) บูรณาการการทำ�งานระหวา่ งภาครฐั ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคี
การพฒั นาตา่ ง ๆ ในลกั ษณะประชารฐั เพอ่ื พฒั นาประเทศใหม้ คี วามเจรญิ กา้ วหนา้ อยา่ งยง่ั ยนื และท�ำ ใหป้ ระชาชนคนไทย
มีความมั่นคง อยู่ดีมีสุข ซึ่งหลักการสำ�คัญท้ังส่ีประการเก่ียวข้องกับศาสตร์พระราชา ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการต้องนำ�
สู่การปฏิบัติในการจัดหลักสูตรและการเรียนรู้ คือ ข้อ ๑) การน้อมนำ�พระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จ-
พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหศิ รภมู พิ ลราชวรางกรู กติ สิ ริ สิ มบรู ณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธเิ บศร-
ราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ วั ได้แก่ การมีทศั นคตทิ ่ถี กู ตอ้ งตอ่ บ้านเมือง การมีพื้นฐานชีวติ ที่มน่ั คง
มีคุณธรรม การมีงานทำ� มีอาชีพ และการเป็นพลเมืองท่ีดี และข้อ ๓) พัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นสาระหลัก
ท่ีจะนำ�เสนอในเอกสารเล่มนี้
การสืบสานศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติท่ียั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ-
พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร เปน็ กระบวนการน�ำ ศาสตรพ์ ระราชาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ
ให้เกดิ ผล หรอื เรียกงา่ ย ๆ ว่าการน�ำ ความรใู้ นศาสตร์ทงั้ ๓ ด้าน หรอื ๓ มิตไิ ปสู่การปฏบิ ัตจิ ริง หรอื เดินตามรอยเท้าพอ่
ในการปฏบิ ตั ติ น ปฏบิ ตั งิ าน เพอื่ การพฒั นาประเทศอยา่ งยง่ั ยนื ประกอบดว้ ยการน�ำ องคค์ วามรดู้ า้ นการก�ำ หนดเปา้ หมาย
ของการเรียนรู้หรือการพัฒนางาน องค์ความรู้ด้านเนื้อหาความรู้จากโครงการพระราชดำ�ริ และอื่น ๆ รวมทั้งการนำ�
องคค์ วามรใู้ นวธิ ีทรงงานมาใชใ้ นการดำ�เนินชีวติ การท�ำ งานของบคุ คล ครอบครัว ชุมชน หรือองคก์ ร มูลนิธิ หน่วยงาน
เอกชน กระทรวง ทบวง กรมตา่ ง ๆ เพื่อการพฒั นาตนเอง พฒั นางาน ดำ�เนนิ ชีวิต ดำ�เนินงานในหน้าทีค่ วามรับผิดชอบ
ด้วยองค์ความรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชา หรอื เรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ “เดินตามรอยเทา้ พ่อ สานต่องานทพี่ อ่ ท�ำ ”
การสบื สานศาสตรพ์ ระราชาทงั้ ๓ มติ ิ ครอบคลมุ ทง้ั ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรมและสงิ่ แวดลอ้ มสกู่ ารพฒั นา
ประเทศให้ม่ันคง มง่ั คั่ง ย่งั ยืน ผา่ นหลักสตู รการเรียนการสอนและวิธจี ดั การเรยี นรู้ระดบั การศกึ ษาตา่ ง ๆ ดงั นี้
ในมิติที่ ๑ องค์ความรู้ในสาขาต่าง ๆ ที่จะต้องนำ�ไปกำ�หนดเป็นสาระการเรียนรู้หรือเน้ือหา ให้ผู้เรียนเรียนรู้
ในแต่ละระดบั ตง้ั แตร่ ะดับปฐมวัยจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ใหส้ อดคลอ้ งกับองค์ความรูข้ องศาสตร์พระราชา
ในมติ ิท่ี ๒ องคค์ วามรู้ด้านเทคนิคกระบวนการพฒั นาตามวิธที รงงาน เป็นมิตทิ ่ตี อ้ งน�ำ วิธีทรงงานของพระราชา
มาเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้หรือกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วย ๒๗ วิธีทรงงานของพระราชา เพ่ือสร้างเป็น
บคุ ลกิ ภาพหรอื ลกั ษณะนสิ ยั การท�ำ งานทดี่ ใี หต้ ดิ ตวั ผเู้ รยี น เปน็ การเรยี นรผู้ า่ นเทคนคิ กระบวนการในมติ ทิ ี่ ๒ จากเนอ้ื หา
ตา่ ง ๆ ในมติ ทิ ่ี ๑ ไปสเู่ ปา้ หมาย และหลกั การพน้ื ฐานในมติ ทิ ่ี ๓ เปน็ การสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจกระบวนการสรา้ งเจตคติ
ค่านยิ ม และกระบวนการปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับการทรงงาน คือ หลกั ธรรม หลกั คิด และหลักปฏิบตั ิ (King’s Model)
หรือถักทอเช่ือมโยงวิธีทรงงานท้ัง ๒๗ วิธี หรือกระบวนการเรียนรู้อ่ืนท่ีสามารถพัฒนากระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ
ให้สอดคลอ้ งกับหลักคดิ ดังกล่าวในการจดั การเรียนร้ใู หก้ บั ผเู้ รียน

243

ในมิติท่ี ๓ ศาสตร์พระราชาด้านเป้าหมายการเรียนรู้และการทำ�งานสอดคล้องกับแนวทางของ UNESCO
ท่ีกำ�หนดหลกั การพ้นื ฐานของการปรบั ปรุงการเรียนรูข้ องคนในศตวรรษที่ ๒๑ วา่ ดว้ ย The four pillars of learning
ซง่ึ ประกอบดว้ ย Learning to know, Learning to do, Learning to live together และ Learning to be ดังนน้ั
องค์ความรู้ด้านเป้าหมายของการสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักสูตรระดับต่าง ๆ เมื่อนำ�ไปกำ�หนดวัตถุประสงค์
เปา้ หมายของหลกั สตู รกจ็ ะเปน็ วตั ถปุ ระสงคด์ า้ นพทุ ธพิ สิ ยั ทกั ษะพสิ ยั และจติ พสิ ยั (Cognitive Domain Psychomotor
Domain & Affective Domain) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืนของสหประชาชาติ ๑๗ ประการ
(Sustainable Development Goals: SDGs) ไดเ้ ปน็ อย่างดี
การน้อมนำ�พระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
มหศิ รภูมิพลราชวรางกูร กิติสริ สิ มบรู ณอดุลยเดช สยามนิ ทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั
มาส่หู ลกั สูตรและการจัดการเรยี นร้ทู ว่ี า่ “เราจะสืบสาน รกั ษาและต่อยอด และครองแผน่ ดินโดยธรรมเพอื่ ประโยชนส์ ขุ
แห่งอาณาราษฎรตลอดไป” นอกจากจะสืบสานศาสตร์พระราชาด้วยการน้อมนำ�หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาด�ำ เนินการ

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ทางสายกลาง)

พอประมาณ มีเหตุผล

ความรู้ ภมู คิ ุ้มกนั คณุ ธรรม
(รอบร,ู้ รอบคอบ, ระมัดระวงั ) (ซ่อื สตั ย์สจุ รติ , ขยันอดทน, สตปิ ัญญา, แบ่งปัน)

น�ำ ไปสู่
• เศรษฐกจิ /สงั คม/ส่ิงแวดลอ้ ม/วฒั นธรรม
• สมดลุ /พร้อมรับต่อการเปล่ยี นแปลง

ยงั มศี าสตรพ์ ระราชาทเ่ี ปน็ พระบรมราโชบายทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การศกึ ษา คอื “การศกึ ษาตอ้ งมงุ่ สรา้ งพน้ื ฐานใหแ้ ก่
ผู้เรียน ๔ ด้าน ๑) มีทัศนคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง ๒) มีพ้ืนฐานชีวิตท่ีม่ันคง มีคุณธรรม ๓) มีงานทำ� มีอาชีพ
๔) เป็นพลเมืองดี” ซึ่งพระบรมราโชบายท่ีกล่าวถึงน้ีส่วนใหญ่ได้น้อมนำ�มากำ�หนดเป็นเป้าหมายหลักสูตรการศึกษา
ทกุ ระดบั ทเี่ ปน็ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และอกี สว่ นหนง่ึ ก�ำ หนดในกลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี แลว้ สถานศกึ ษา
จึงควรนำ�มาเปน็ จุดเนน้ ในการจดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลใหเ้ กิดผลจริงตอ่ ผเู้ รยี นทุกระดับ

244

กรอบแนวคิดการนำ�ศาสตร์พระราชาไปใชใ้ นการจัดการศกึ ษา

หมายเหตุ หลกั การทรงงานเดมิ ไดแ้ จกแจงเปน็ ๒๓ วธิ ี ก�ำ หนดเปน็ ๓ กลมุ่ คอื เขา้ ใจ เขา้ ถงึ และพฒั นา (ส�ำ นกั งานคณะกรรมการพเิ ศษ
เพื่อประสานงานโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชด�ำ ริ) ต่อมา ดร.สเุ มธ ตนั ตเิ วชกลุ เลขาธิการมูลนิธชิ ัยพัฒนาไดส้ รุปคำ�สอน
เปน็ ๒๗ ขอ้ ในโอกาสปาฐกถาพเิ ศษ ตามรอยพอ่ เมื่อวนั ที่ ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๖๒ แบ่งเปน็ ๓ หมวด คือ หลกั ธรรม หลกั คดิ
และหลักปฏบิ ตั ิ ดังทเ่ี สนอในแผนภาพข้างต้น

245
กกรรออบบแแนนววคคิดิดกกาารรนนาาศศาาสสตตรร์พ์พรระะรราาชชาาไไปปใใชชใ้ ใ้ นนกกาารรจจดั ดั กกาารรศศึกกึ ษษาา

ศาสตร์ที่วา่ ดว้ ยการจดั การน้ํา องคค์ วามร้ดู า้ นเนอื้ หา
ศาสตร์ทวี่ า่ ดว้ ยสหกรณ์ ความรู้ จากโครงการ
ศาสตร์ท่วี ่าด้วยการจัดการดนิ
ศาสตร์ทว่ี ่าดว้ ยการจัดการปา่ ไมแ้ ละสิง่ แวดล้อม พระราชด�ำ ริ ฯลฯ
ศาสตร์ทว่ี ่าดว้ ยนวัตกรรมและพลงั งาน
ศาสตร์ทีว่ ่าดว้ ยเกษตรทฤษฎใี หม่ สาระการเรียนร้ตู าม
ศาสตร์ทว่ี า่ ดว้ ยหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มาตรฐานการเรยี นรู้ และ
ศาสตร์พระราชาด้านอนื่ ๆ ตัวช้วี ดั ในแตล่ ะระดบั ชนั้

๑. ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ จรงิ ใจต่อกนั หลกั ธรรม ต้งั แต่ระดบั กระบวนการเรยี นรูแ้ บบองคร์ วม
๒. ออ่ นนอ้ ม ถ่อมตน ปฐมวยั ถึงระดับอดุ มศกึ ษา ทง้ั ด้านความรู้ เจตคติ คา่ นิยม และทักษะถักทอเชอื่ มโยง
หลกั คิด
๓. ความเพียร องคค์ วามรู้ด้าน กับความสามารถดา้ นอ่นื ๆ แบบ Active Learning
๔. รู้ รัก สามคั คี หลักปฏิบัติ เทคนิคกระบวนการ ให้เกดิ เป็นสมรรถนะจนถึงระดบั หลักการให้เป็น
๕. ท�ำ เร่ือย ๆ ทำ�แบบสังฆทาน พฒั นาตามวธิ ีทรงงาน Transformative Compretencles สู่ Well Being
๖. มคี วามสขุ ในการทำ�ประโยชน์ใหแ้ กผ่ อู้ ื่น ศาสตร์แห่งการอยรู่ ว่ มกนั เทคนิคการเรยี นรู้
ศาสตร์แห่งการประพฤติ การครองตน กระบวนการเรยี นรู้ใน การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21
๗. ศกึ ษาข้อมลู อยา่ งเป็นระบบ ท�ำ งานอยา่ งรจู้ ริง ศาสตรแ์ ห่งการพัฒนา หลกั สตู รแต่ละระดับด้วย
๘. ระเบดิ จากข้างใน Active Learning เรียนรูแ้ บบ Active Learning ผ้เู รยี นเปน็ ผ้ผู ลติ
๙. ท�ำ ตามล�ำ ดับขน้ั ความรู้ นวัตกรรม ปัญญาประดษิ ฐ์ ตามยุทธศาสตร์ชาติ
องคค์ วามร้ดู า้ นเปา้ หมาย
๑๐. ภมู ิสังคม ของการเรียนรู้ Thailand 4.0
๑๑. องคร์ วม และการท�ำ งาน
๑๒. ประหยดั เรียบงา่ ย ได้ประโยชนส์ งู สุด The four Pillars of Education
๑๓. ขาดทุนคอื กำ�ไร ตามศาสตร์พระราชา 1. Learning how to know
สมรรถนะดา้ นการสร้าง 2. Learning how to do
๑๔. ปลกู ปา่ ในใจคน ความรูด้ ว้ ยการปฏบิ ตั ิจริง 3. Learning how to live together
๑๕. ใชธ้ รรมชาติช่วยธรรมชาติ สมรรถนะดา้ นการอย่รู ่วมกัน 4. Learning how to be เรยี นร้แู บบ Active Learning
๑๖. อธรรมปราบอธรรม สมรรถนะดา้ นการประพฤติ
เรยี นรแู้ บบ Active Learning เกิดความรู้
๑๗. ประโยชนส์ ่วนรวม การครองตน ระดับหลกั การ นำ�ไปเรียนรไู้ ดเ้ อง
๑๘. การพ่ึงตนเอง พัฒนาไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ งคงทน
๑๙. เศรษฐกิจพอเพียง น�ำ ประโยชนส์ ู่สังคม ประเทศ
๒๐. เขา้ ใจ เข้าถงึ การพัฒนา
๒๑. แก้ปญั หาท่ีจดุ เลก็ คดิ Macro เร่มิ Micro
๒๒. ไมต่ ิดตำ�รา ท�ำ ให้ง่าย
๒๓. การมสี ว่ นรว่ ม
๒๔. พออย่พู อกิน
๒๕. บริการรวมทจ่ี ดุ เดียว
๒๖. ร่าเรงิ รนื่ เริง คกึ คัก คกึ ครื้น กระฉบั กระเฉง มพี ลงั
๒๗. ชยั ชนะของการพฒั นา

การสบื สานศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ยี่ งั่ ยนื น�ำ เสนอโดยน�ำ ศาสตรพ์ ระราชาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร และพระบรมราโชบาย
ด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร
กติ สิ ริ สิ มบูรณอดุลยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หวั มาเสนอแนะการปฏบิ ัติ
ในการจัดการศึกษา ๒ ดา้ น คือ ด้านการจัดหลักสตู รการศกึ ษาในสถานศึกษา และดา้ นการจัดการเรยี นรูใ้ นแต่ละระดบั
การศึกษา ดงั รายละเอียด

๑. การจัดหลกั สูตรสืบสานศาสตร์พระราชาส่กู ารปฏิบัตทิ ่ยี ่งั ยนื

การจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อสืบสานศาสตร์พระราชา เป็นการนำ�เนื้อหาความรู้ในศาสตร์พระราชา
และเปา้ หมายการทรงงานมาวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธก์ บั หลกั สตู รการเรยี นการสอนของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ตงั้ แตร่ ะดบั
ปฐมวัยจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ไปจนถึงการศึกษานอกระบบ รวมเป็นการศึกษาต่อเน่ืองและการศึกษาตลอดชีวิต
ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร จัดลงในหลักสูตรได้อย่างไรบ้าง ทั้งรายวิชาพ้ืนฐาน รายวิชาเพ่ิมเติม หรือรายวิชาเฉพาะ
ในแตล่ ะระดับ หรือสาขา การศึกษาอาจจดั ให้มที ั้งการเรยี นการสอนในรายวชิ าปกติ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น การเรยี นรู้
ด้วยโครงงานหรือการศึกษาอิสระ (Independent Study) หรือโครงงานวิทยานิพนธ์ จบการศึกษาหลักสูตรเหล่าน้ี
กระทรวงศึกษาธกิ ารต้องมคี วามยดื หยุ่นใหส้ ถานศึกษาสามารถด�ำ เนินการไดเ้ องตามบรบิ ท เปา้ หมาย และปรัชญาของ
สถานศึกษา และความเหมาะสมกับผู้เรียน รวมทั้งการประเมินผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน พัฒนาได้เองอย่างต่อเน่ือง
เกดิ การเรียนรู้อยา่ งยงั่ ยืนตลอดชีวิต
การจัดหลกั สูตรสถานศึกษาให้สถานศึกษามีอสิ ระในการน�ำ หลกั สตู รไปใช้ใหส้ อดคล้องกับบริบทของแตล่ ะแห่ง
ตอบสนองวิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ของสถานศึกษาและการพัฒนาประเทศ เมื่อสถานศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์
สอดคล้องระหวา่ งองค์ความรู้ในศาสตร์พระราชาแล้ว สามารถดำ�เนินการตามกระบวนการทน่ี ำ�เสนอต่อไปนี้
กระบวนการดำ�เนนิ การนอ้ มน�ำ ศาสตร์พระราชาไปจดั หลกั สูตรการเรยี นรู้ในสถานศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน
ขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้หรือในรายวิชาในแต่ละระดับชั้นและระดับ
การศึกษา เพ่ือน้อมนำ�ศาสตร์พระราชาสู่หลักสูตรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเหมาะสม สอดคล้องและครอบคลุมศาสตร์
พระราชาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร และพระบรมราโชบายทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การศกึ ษาในพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั มขี อ้ เสนอแนะ
ใหส้ ถานศกึ ษาต้องด�ำ เนนิ การเป็นข้ันตอน ดังนี้
๑. ศกึ ษา วเิ คราะหข์ อบเขตของศาสตรพ์ ระราชาวา่ มเี ปา้ หมาย วตั ถปุ ระสงค์ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ และสาระ
องค์ความรู้อะไรบ้าง ท่ีผู้เรียนแต่ละระดับชั้นควรได้เรียนรู้ในหลักสูตรการศึกษาแต่ละระดับ สร้างเป็นตารางวิเคราะห์
ความสมั พันธ์ของศาสตรพ์ ระราชากับหลักสูตรการศกึ ษาแตล่ ะระดับ (ศึกษาตวั อย่างตารางในภาคผนวก)
๒. สถานศกึ ษาแตล่ ะระดบั วเิ คราะหห์ ลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน หลกั สตู รสถานศกึ ษาในรายกลมุ่ -
สาระการเรยี นรู้ รายหมวดวิชา รายวชิ า วา่ มเี ป้าหมาย วตั ถปุ ระสงค์ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ เนอ้ื หาสาระ องคค์ วามรู้
ความคดิ รวบยอดอะไรบา้ งทส่ี อดคลอ้ งกบั ศาสตรพ์ ระราชา น�ำ สว่ นทสี่ มั พนั ธส์ อดคลอ้ งกนั บรรจไุ วใ้ นหลกั สตู รสถานศกึ ษา
ตามระดับชั้น รายกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชา เพื่อนำ�ไปจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/จุดมุ่งหมาย/
วัตถปุ ระสงคข์ องหลักสูตรสถานศกึ ษา

246

๓. ศาสตร์พระราชาส่วนท่ีไม่สัมพันธ์กับเน้ือหาสาระองค์ความรู้ของหลักสูตรสถานศึกษา แต่เป้าหมาย
วัตถุประสงค์สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด/จุดมุ่งหมาย/วัตถุประสงค์ คุณลักษณะ สมรรถนะของผู้เรียน
ทกี่ �ำ หนดไวใ้ นหลกั สตู รสถานศกึ ษา สถานศกึ ษารว่ มกนั พจิ ารณาจดั เปน็ สาระการเรยี นรู้ รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หรอื จดั รายวชิ าใหม่
เพ่ือเลือกเรียนตามความสนใจ ความต้องการของผเู้ รยี นกำ�หนดไว้ในหลักสตู รสถานศกึ ษา
๔. ศาสตรพ์ ระราชาในสว่ นทไ่ี มส่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั /จดุ มงุ่ หมาย/วตั ถปุ ระสงค์ คณุ ลกั ษณะ
สมรรถนะของหลักสูตรสถานศกึ ษา สถานศกึ ษาร่วมกันพิจารณาจัดเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โครงงานตามความสนใจ
ของกลุ่ม ชมรม หรอื จดั เปน็ กจิ กรรมพิเศษของสถานศึกษาในโอกาสทเ่ี หมาะสม
การปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอนทงั้ ๔ ขอ้ นจ้ี ะช่วยให้สถานศกึ ษาสามารถนอ้ มน�ำ ศาสตร์พระราชา การจดั หลักสตู รและ
การเรียนรู้ในสถานศึกษาได้อย่างครอบคลุม ครบถ้วนตามเป้าหมายการพัฒนาของชาติ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการน้อมนำ�
วธิ ีทรงงานตามศาสตรพ์ ระราชามาใชใ้ นกระบวนการจดั การเรียนรู้ ซ่งึ จะกลา่ วถงึ รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้
หากสว่ นใดมคี วามสมั พนั ธก์ นั ชดั เจน ทงั้ เนอ้ื หา วตั ถปุ ระสงค์ เปา้ หมาย และกระบวนการเรยี นรวู้ ธิ ที รงงาน
ของพระราชาให้จัดลงในหลกั สตู ร กลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือรายวิชาของแตล่ ะสถานศึกษาแตล่ ะระดับกำ�หนด
หากสาระองคค์ วามรใู้ นศาสตรพ์ ระราชาสมั พนั ธก์ บั หลกั สตู รบา้ งเลก็ นอ้ ย อาจจดั เปน็ การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ
ในหน่วยการเรียนรู้ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือวิธีอ่ืน ๆ และหากองค์ความรู้ในศาสตร์พระราชาไม่สอดคล้อง
กับเนือ้ หาในหลกั สูตร สามารถจดั ทำ�เปน็ รายวชิ าเพม่ิ เติมหรือจัดสาขาการเรียนรตู้ ามความเหมาะสม ดังแผนภาพ

การสืบสานขยายผลศาสตร์พระราชา

สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืนในการจัดหลักสูตรสถานศึกษา

องค์ความรู้ด้านเนื้อหาความรู้ วิเคราะห์ หลักสูตรและการจัดการเรียนรู้
จากโครงการพระราชดำ�ริ ฯลฯ
ความสัมพันธ์ ๑. ปฐมวัย บูรณาการในหน่วยการเรียนรู้
ศาสตร์ว่าด้วย : ของศาสตร์- ตามตารางกิจกรรมประจำ�วัน
๑. การจัดการนํ้า พระราชา ๓๒.. มปัธรยะถมมศศึกึกษษาา
๒. สหกรณ์ กับเนื้อหา ๔ . มตตออัธยนนมตปศ้นลึกายษา กลุ่มสาระการเรียนรู้/
๓. การจัดการดิน ในหลักสูตร ๕. อาชีวศึกษา รายวิชาพื้นฐาน
๔. การจัดการป่าไม้ แต่ละระดับ ๖. อุดมศึกษา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
และสิ่งแวดล้อม ปริญญาตรี รายวิชาเพิ่มเติม
๕. นวัตกรรมและพลังงาน ๗. การศึกษา
๖. เกษตรทฤษฎีใหม่ ตลอดชีวิต คราณยะว/แิชผาเนฉกพ/สาาะขจาำ�/วแิชนากตาม
๗. หลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง Project work ตามบริบท
๘. ด้านอื่น ๆ และความต้องการ

กระทรวงศึกษาธิการยืดหยุ่นให้ปรับหลักสูตรตามบริบท เป้าหมาย และปรัชญาของสถานศึกษา

หลักสูตรรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ในศาสตร์พระราชา เป้าหมายคุณภาพของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้
ที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์พระราชา และตัวชี้วัดในหลักสูตร

รายวิชาพื้นฐาน รายวชิ าเพ่ิมเตมิ เรยี นรู้ในหน่วย เรยี นรแู้ บบหน่วย กจิ กรรมพัฒนา K ศาสตร์แหง่ การพฒั นา
ตามหลักสตู ร ตามจดุ เน้นของ การเรียนรเู้ ฉพาะเร่ือง บรู ณาการ ผูเ้ รียน/ A ศาสตร์แหง่ การอย่รู ว่ มกนั
แกนกลาง สถานศึกษา หรอื ในรายวชิ า ในรายวชิ าท่ี โครงงาน P ศาสตร์แห่งการประพฤตกิ ารครองตน
ในแตล่ ะระดบั แตล่ ะระดบั ในกล่มุ สาระการเรยี นรู้ สมั พันธก์ ับศาสตร์ ตามความสนใจ
หรือ Program การเรียน สมรรถนะผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

247

แนวทางการจดั หลกั สตู รสืบสานศาสตรพ์ ระราชาในสถานศกึ ษา ขอน�ำ เสนอเป็น ๗ ระดบั ดังรายละเอียดตอ่ ไปน้ี
ดา้ นหลักสูตรและสาระการเรยี นรู้ศาสตรพ์ ระราชา

หพลหักุปสัญูตญรตาอผบูเ้ รสียนนอง ด้านหลกั สตู รและสาระการเรียนรศู้ าสตร์พระราชา
การศึกษาต่อเนื่องและเรียนรู้ตลอดชีวิต
เนื้อหาหลกั สูตร
อุดมศึกษา ปริญญาตรี
เลอื กสาระการเรยี นรศู้ าสตร์พระราชาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งตามความสนใจ
อาชีวศึกษาระดับ ปวช. ปวส. ตอ่ ยอดในการประกอบอาชีพ และแก้ปญั หาการดำ�เนินชีวิตในบริบทของชมุ ชน/ทอ้ งถ่ิน
มธั ยมศึกษาตอนปลาย
มัธยมศึกษาตอนต้น จดั เนื้อหาศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นวชิ าพื้นฐานบังคับ
ประถมศึกษา และเพ่มิ เปน็ วิชาเลือกในศาสตร์ท่ีนำ�ไปสู่การสร้างองคค์ วามรู้ ตอ่ ยอดตามความถนัดตามสาขาทเ่ี รยี น

จัดเนอื้ หาสาระการเรียนร้ศู าสตรพ์ ระราชาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เจาะลกึ
เปน็ รายวิชาต่อเนอ่ื งทีส่ มั พนั ธก์ ับสาขาท่เี รยี น ต่อยอดองค์ความรเู้ พอ่ื การประกอบอาชพี

จัดเนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เจาะลึก
เปน็ รายวชิ าเพิม่ เตมิ ใหเ้ ลือกตามความถนัด ความสนใจ เรยี นรตู้ ่อยอดสาระตามบริบทของท้องถน่ิ

จัดเนือ้ หาสาระการเรียนรู้ศาสตรพ์ ระราชาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพิม่ เตมิ ในรายวิชา
หรอื กลมุ่ สาระการเรยี นรูท้ ี่สมั พันธ์กบั ทอ้ งถ่นิ ให้ผ้เู รยี นเลอื กเรียนไดต้ ามความถนัด ความสนใจ

จัดเน้อื หาศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ิมเตมิ ในหนว่ ยการเรยี นร้ทู ส่ี ัมพันธ์
กบั กลมุ่ สาระการเรียนรูต้ า่ งๆ หรอื หน่วยการเรยี นร้/ู รายวิชาเพ่ิมเติมตามบรบิ ททอ้ งถ่นิ

จดั สาระศาสตรพ์ ระราชาทีใ่ กล้ตวั ปฏิบัติในชวี ติ ประจำ�วนั ส่ิงแวดล้อม พชื สัตว์ ดนิ นํ้า อาหาร
ปฐมวัย อากาศ ของเล่น ของใช้ เนน้ เศรษฐกิจพอเพยี ง อนรุ ักษธ์ รรมชาติ สง่ิ แวดล้อม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

๑.๑ ระดบั ปฐมวยั

ดา้ นหลักสตู รและสาระการเรียนรศู้ าสตร์พระราชา

จัดสาระใกล้ตัว ปฏบิ ัติ ๐๑ หลกั สตู รปฐมวยั
ในชวี ิตประจำ�วนั สิ่งแวดลอ้ ม
พชื สัตว์ ดนิ น้�ำ อาหาร อากาศ
ของเลน่ ของใช้ เนน้ เศรษฐกจิ
พอเพยี ง อนุรักษ์ธรรมชาติ
สงิ่ แวดลอ้ ม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
และคา่ นิยม

๑.๑.๑ การพฒั นาหลกั สตู รควรเนน้ ใหส้ ถานศกึ ษาหรอื หอ้ งเรยี นเปน็ หนว่ ยพฒั นาหลกั สตู ร เพอ่ื ใหส้ ามารถ
เลือกสาระทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั ศาสตรพ์ ระราชาสมั พันธส์ อดคลอ้ งกับบริบทของสถานศกึ ษาและท้องถิน่

248

๑.๑.๒ การพฒั นาหลกั สตู รระดบั ชนั้ เรยี นและสถานศกึ ษา สถานศกึ ษาตอ้ งปรบั หลกั สตู รและประสบการณ์
สำ�คัญท่ีส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม วัฒนธรรม และความเป็นไทย การดูแลรักษาธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม จัดเป็น
ประสบการณท์ ส่ี ง่ เสรมิ ลกั ษณะนสิ ยั ทดี่ ี และทกั ษะการใชช้ วี ติ ประจ�ำ วนั ตามแนวทางหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ตลอดจนสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และการมวี นิ ยั ใหเ้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง
๑.๑.๓ การจดั หนว่ ยการเรยี นรหู้ รอื ประสบการณก์ ารเรยี นรใู้ นหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐
ใหเ้ นน้ หลักสูตรสถานศกึ ษา
- เนน้ การเรียนรตู้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
- ศาสตร์พระราชาด้านอ่ืน ๆ ควรเลือกจัดเนื้อหาองค์ความรู้ที่ใกล้ตัว สามารถรับรู้และเข้าใจได้
ในเชงิ รปู ธรรม
- บูรณาการศาสตร์พระราชาแต่ละด้านในหน่วยการเรียนรู้ที่สัมพันธ์กับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด
ของหลกั สตู รเดิม
๑.๑.๔ การจดั บรบิ ทในหอ้ งเรยี นหรอื ในสถานศกึ ษา เพอ่ื การรบั รศู้ าสตร์พระราชา
๑.๑.๕ จดั แหลง่ เรยี นรู้ จ�ำ ลองตวั อยา่ งการปฏบิ ตั ติ ามศาสตรพ์ ระราชาในสถานศกึ ษา ใหผ้ เู้ รยี นไดส้ งั เกต
หรอื ทดลองปฏบิ ตั ใิ นโอกาสหรอื วาระตา่ ง ๆ ในรอบปกี ารศกึ ษา เชน่ แหลง่ เรยี นรู้ สหกรณ์ เกษตรทฤษฎใี หม่ การจดั การน�ำ้
และการปลูกหญา้ แฝก เป็นต้น
๑.๑.๖ จดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ใหโ้ ครงงานตา่ ง ๆ สมั พนั ธก์ บั ศาสตรพ์ ระราชาทต่ี อ้ งการเรยี นรแู้ ละฝกึ นสิ ยั
เช่น โครงงานสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ ฝึกการออมด้วยสหกรณ์ ฝึกการรักษาป่าไม้ ดิน ด้วยการปลูกต้นไม้
และพืชผกั เปน็ ตน้
๑.๒ ระดบั ประถมศึกษา

ด้านหลกั สตู รและสาระการเรยี นรูศ้ าสตร์พระราชา

จัดเน้ือหาศาสตรพ์ ระราชา ๐๒ หลกั สตู รประถมศกึ ษา
เพิ่มเตมิ ในหนว่ ยการเรียนรู้
ทสี่ มั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ต่าง ๆ หรือหนว่ ยการเรียนรู้/
รายวชิ าเพ่มิ เติมตามบรบิ ท
ทอ้ งถ่นิ

๑.๒.๑ การพฒั นาหลกั สตู รควรเนน้ ใหส้ ถานศกึ ษาหรอื หอ้ งเรยี นเปน็ หนว่ ยพฒั นาหลกั สตู ร เพอ่ื ใหส้ ามารถ
เลอื กสาระทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั ศาสตร์พระราชาสมั พนั ธส์ อดคลอ้ งกับบริบทของสถานศึกษาและท้องถ่ิน
๑.๒.๒ การพฒั นาหลกั สตู รระดบั ช้นั เรยี นและสถานศกึ ษา
- เพม่ิ เนอ้ื หาลงในหลกั สตู รในหนว่ ยการเรยี นรูป้ กติของชัน้ เรยี นในรายวชิ า
- จดั กจิ กรรมโครงงานศกึ ษาคน้ ควา้ ศาสตรพ์ ระราชาดา้ นตา่ ง ๆ ตามความสนใจ โดยเนน้ การน�ำ องคค์ วามรู้
ดา้ นเทคนคิ กระบวนการพัฒนาตามวิธที รงงานมาเป็นแกนในการสร้างนสิ ัยการทำ�งานให้ตดิ ตัวผเู้ รียน
- เขา้ ร่วมกจิ กรรมจติ อาสา งานสาธารณะ เพอ่ื แกป้ ญั หาในชุมชน ทอ้ งถ่นิ
- จดั กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ชมรม ชมุ นุม ในการพัฒนาส่ิงแวดล้อมตามวิธีทรงงานของพระราชา

249

๑.๒.๓ การจัดเนื้อหาสาระการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาทุกด้านให้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
- เนน้ การเรยี นรตู้ ามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ในหลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ สี่ มั พนั ธก์ บั ศาสตร์
พระราชา เช่น หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวฒั นธรรม ด้านการอนุรกั ษ์และพัฒนาส่ิงแวดลอ้ มในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปน็ ตน้
๑.๓ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

ด้านหลักสตู รและสาระการเรยี นรู้ศาสตร์พระราชา

จดั เนือ้ หาหนว่ ยการเรยี นรู้ ๐๓
ศาสตรพ์ ระราชาเพ่ิมเติม
ในรายวชิ าหรอื กลมุ่ สาระ หลักสตู รมธั ยมศึกษาตอนตน้
การเรียนร้ทู ส่ี ัมพันธก์ ับทอ้ งถน่ิ
ใหผ้ ู้เรียนเลอื กเรียนได้
ตามความถนัด ความสนใจ

๑.๓.๑ การพฒั นาหลกั สตู รควรเนน้ ใหส้ ถานศกึ ษาหรอื หอ้ งเรยี นเปน็ หนว่ ยพฒั นาหลกั สตู ร เพอ่ื ใหส้ ามารถ
เลอื กสาระที่เกยี่ วขอ้ งกบั ศาสตรพ์ ระราชาไดส้ มั พนั ธ์สอดคล้องกบั บริบทของสถานศกึ ษาและทอ้ งถ่นิ
๑.๓.๒ การพฒั นาหลกั สูตรระดบั ชน้ั เรยี นและสถานศึกษา
- หากสว่ นใดมคี วามสมั พนั ธก์ นั ชดั เจน ทงั้ เนอ้ื หา วตั ถปุ ระสงค์ เปา้ หมาย และกระบวนการเรยี นรวู้ ธิ ที รงงาน
ของพระราชาให้เพิ่มเตมิ ลงในหลักสตู ร กล่มุ สาระการเรียนรู้ หรอื รายวชิ าของแต่ละสถานศกึ ษา แต่ละระดบั ก�ำ หนดได้
- หากสาระองค์ความรู้ในศาสตร์พระราชาสัมพันธ์กับหลักสูตรบ้างเล็กน้อย อาจจัดเป็นการเรียนรู้
แบบบูรณาการในหน่วยการเรียนรู้ในกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น หรอื วิธอี น่ื ๆ และ
- หากองคค์ วามรใู้ นศาสตรพ์ ระราชาไมส่ อดคลอ้ งกบั เนอื้ หาในหลกั สตู ร สามารถจดั ท�ำ เปน็ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ
หรือแยกจดั สาขาการเรยี นรตู้ ามความเหมาะสม
๑.๓.๓ การจัดเน้ือหาสาระการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาทุกด้านให้ตรงตามสาระการเรียนรู้
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
- หลักสูตรวชิ าพืน้ ฐานตามหลกั สตู รแกนกลางดำ�เนินการเชน่ เดียวกับระดบั ประถมศึกษา
- เน้นการเรียนรู้รายวิชาเลือกเพ่ิมเติมมากขึ้น เพ่ือตอบสนองความถนัด ความสนใจเฉพาะกลุ่ม
หรอื รายบุคคล
- ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย เนื้อหาองค์ความรู้ในศาสตร์พระราชาด้านใดท่ีมีผู้เรียน
สนใจมาก สถานศึกษาอาจจัดการเรียนรู้เป็นรายวิชาเพ่ิมเติม เพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สอดคล้องกับบริบทและจุดเน้น
ของสถานศกึ ษาตามศาสตรพ์ ระราชาดา้ นนั้น เพอ่ื ให้ผ้เู รียนเรียนรูแ้ ละเลือกสาขาการเรยี นท่ีเหมาะกบั ตนเองในอนาคต
- จัดกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น เนน้ ไปที่ “กจิ กรรมเสริม ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู”้ โดยจัดเปน็ โครงงานตาม
กลุ่มผสู้ นใจหรือรายบคุ คลเพิม่ จากกจิ กรรม ชมรม หรือชุมนมุ ตา่ ง ๆ ให้สมั พนั ธก์ ับการบรู ณาการการเรยี นรตู้ ามศาสตร์
พระราชาทีน่ �ำ มาใช้ในหน่วยการเรียนรู้และกลุม่ สาระการเรยี นรู้
- ฝกึ นสิ ยั การปฏบิ ตั ติ ามศาสตรพ์ ระราชาทต่ี อ้ งการเนน้ เชน่ เศรษฐกจิ พอเพยี ง การดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม
ในกิจกรรมปกตินอกห้องเรียน ในงานอาหารกลางวัน การดูแลรักษาความสะอาดบริเวณตามเขตพ้ืนท่ีท่ีรับผิดชอบ
หรอื กจิ กรรมนอกสถานศกึ ษา กจิ กรรมจติ อาสา ปลกู ป่า และดแู ลสาธารณสมบัติ เปน็ ตน้

250

๑.๓.๔ จดั การเรยี นรเู้ ทคนคิ กระบวนการพฒั นาตามวธิ ที รงงานโดยการจดั การเรยี นรู้ โดยใชโ้ ครงงานตา่ ง ๆ
เปน็ ฐาน (Project Based Learning) เพ่อื สร้างนิสยั การทำ�งานทด่ี ีให้กบั ผู้เรียน
๑.๓.๕ การจดั บริบทในห้องเรียนหรือในสถานศกึ ษา เพือ่ การรบั รู้ศาสตรพ์ ระราชา
- จัดแหล่งเรียนรู้ จำ�ลองตัวอย่างการปฏิบัติตามศาสตร์พระราชาในสถานศึกษา ให้ผู้เรียนได้สังเกตหรือ
ทดลองปฏิบัตใิ นโอกาสหรอื วาระต่าง ๆ ในรอบปีการศึกษา เช่น แหล่งเรยี นรสู้ หกรณ์ เกษตรทฤษฎใี หม่ การจดั การนำ�้
และการปลูกหญ้าแฝก เป็นต้น
- จดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นใหโ้ ครงงานตา่ ง ๆ สมั พนั ธก์ บั ศาสตรพ์ ระราชาทต่ี อ้ งการเรยี นรแู้ ละฝกึ นสิ ยั เชน่
โครงงานส่ิงแวดล้อม การจัดการขยะ ฝึกการออมด้วยสหกรณ์ ฝึกการรักษาป่าไม้ ดิน ด้วยการปลูกต้นไม้และพืชผัก
เป็นตน้
- ศาสตรพ์ ระราชาแตล่ ะดา้ น เลอื กจดั เนอ้ื หาและองคค์ วามรทู้ ใี่ กลต้ วั เหมาะกบั วยั และระดบั ชนั้ ใหส้ ามารถ
รบั รูไ้ ดใ้ นเชิงรปู ธรรมและนามธรรมผสมผสานกนั โดยบูรณาการในหนว่ ยการเรยี นรหู้ รือสาระการเรยี นร้ทู ่มี ีในหลักสูตร
ของแตล่ ะระดับช้นั
- เน้ือหาองค์ความรู้ในศาสตร์พระราชาด้านใดท่ีมีในกลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือสาระหลักสูตรในแต่ละ
ระดับช้ัน ควรจัดการเรียนรู้ให้บูรณาการกับหน่วยการเรียนรู้ท่ีสัมพันธ์กับศาสตร์พระราชาด้านนั้น ๆ หรือสถานศึกษา
ตอ้ งจดั หนว่ ยการเรยี นรเู้ พมิ่ เตมิ เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทและจดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา เชน่ การดแู ลและอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม
ด้านดิน น้ำ� ป่าไม้ ส่วนสถานศึกษาที่อยู่ในชนบทอาจจัดเน้ือหาเป็นหน่วยการเรียนรู้เพิ่มเติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้
หรอื สาระการเรียนรู้ทส่ี มั พนั ธก์ ัน
- เนอื้ หาองคค์ วามรใู้ นศาสตรพ์ ระราชาดา้ นใดทไี่ มร่ ะบคุ วามสมั พนั ธท์ ช่ี ดั เจนในเนอื้ หาหลกั สตู ร กลมุ่ สาระ
การเรียนรู้ใด สถานศึกษาอาจจัดการเรียนรู้เป็นรายวิชาเพิ่มเติม เพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สอดคล้องกับบริบทและจุดเน้น
ของสถานศกึ ษาตามศาสตรพ์ ระราชาดา้ นนน้ั ๆ เชน่ เกษตรทฤษฎใี หม่ สถานศกึ ษาทอ่ี ยใู่ นชนบทอาจจดั เนอื้ หาการเรยี นรู้
เป็นรายวิชาเพ่ิมเตมิ ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ในสาระท่ีสมั พันธ์กับศาสตร์พระราชา
- จดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น เน้นไปที่ “กิจกรรมเสรมิ ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้” โดยจดั เป็นโครงงานตาม
กลุ่มผู้สนใจ ชมรม หรือชุมนุมต่าง ๆ ให้สัมพันธ์กับการบูรณาการการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาตามด้านที่นำ�มาใช้ใน
หน่วยการเรียนรู้และกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
- ฝกึ นสิ ยั การปฏบิ ตั ติ ามศาสตรพ์ ระราชาทต่ี อ้ งการเนน้ เชน่ เศรษฐกจิ พอเพยี ง การดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม
ในกจิ กรรมปกตนิ อกหอ้ งเรยี น ในงานอาหารกลางวนั การดแู ลรกั ษาความสะอาดบรเิ วณตามเขตพน้ื ทที่ ร่ี บั ผดิ ชอบ เปน็ ตน้
๑.๔ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

ด้านหลกั สตู รและสาระการเรียนรู้ศาสตรพ์ ระราชา

จดั เนื้อหาสาระการเรียน ๐๔
ศาสตรพ์ ระราชา เจาะลกึ เป็น
รายวชิ าเพิม่ เติม ใหเ้ ลอื กตาม หลกั สูตรมธั ยมศึกษาตอนปลาย
ความถนัด ความสนใจ
เรียนร้ตู ่อยอดสาระตามบริบท
ของท้องถนิ่

251

การพัฒนาหลกั สูตรระดับชั้นเรียนและสถานศึกษา

- หากส่วนใดมีความสัมพันธ์กันชัดเจน ทั้งเน้ือหา วัตถุประสงค์ เป้าหมายและ กระบวนการ
เรียนกราู้วริธพีทัฒรนงางหานลักขสอตูงรพรระะดรบั าช้นั าเใรหยี ้เนพแิ่มลเะตสิมถลางนใศนกึ หษลาักสูตร กลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือ รายวิชาของแต่ละ
สถาน ศึกษา- แหตา่ลกะสร่วะนดใบั ดกมาีคหวนาดมไสดัม้ พันธ์กันชัดเจน ท้ังเนื้อหา วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และกระบวนการเรียนรู้
วก ธิำ�ีทหเรรนียงดงนไา ดรนูแ้้ ขบอบง-บพูรรหณะารากาก-สชาหาารรใาใหะกนอ้เสหพงานิม่ครว่เะ์คตยอวิมกงาลาคมรง์ครเใรนวู้ใียนาหนมศลรราัก้ใูู้ใสสนนตูตกศรรจิา์พกสกรรตละรรุม่ มร์พสาพราชัฒะราะรนสากาัมชาผพราู้เเสรันรัยีมยีธนพน์กันรับหู้ ธหหร์กือลรับวือักิธหรสีอาลูตย่นื ักรวสบๆิชูต้าาแรงขลบเอละ้าง็กงแเนตล้อ่ล็กยะนส้ออถยาานจอศจาัดจกึ ษจเปัดา็นเแปกต็นา่ลกระเารรรีะยดนับรู้
แบบบูรณาการในหน่ว- ยหกาากรอเรงยีคน์ครวู้ใานมกริจู้ในกศรารสมตพรัฒพ์ นราะผรเู้ารชียานไมห่สรอือดวคธิ ลีออ้่ืนงกๆับแเนละ้อื หาในหลักสตู ร สามารถ จดั ทาเปน็
รายว ิชาเพมิ่ -เตหิมากหอรงือคแ์คยวกาจมัดรสู้ใานขศาากสาตรเรร์พียรนะรรู้ตาาชมาคไวมา่สมอเหดมคาละ้อสงมกับเนื้อหาในหลักสูตร สามารถจัดทำ�เป็นรายวิชา
เพ่ิมเติม ๑ห.ร๕อื ๑ แ.ร๕ยะกดรจะับัดดอสบั าาอชขาาีวกชศาีวกึ รศษเรึกาียษนารู้ตามความเหมาะสม


ด้านหลกั สูตรและสาระการเรยี นรศู้ าสตรพ์ ระราชา

จดั เนอ้ื หาสาระการเรยี น ๐๕
ศาสตรพ์ ระราชา เจาะลึกเป็น หลกั สูตรอาชีวศกึ ษา ปวช. ปวส.
รายวิชาต่อเนือ่ งทสี่ ัมพนั ธก์ บั
สาขาทเี่ รยี น ตอ่ ยอดองคค์ วามรู้
เพ่ือการประกอบอาชีพ

๑.๕.๑ การจัดเนอ้ื หาการเรยี นรู้ตามหลกั สตู ร ปวช. และ ปวส.
-๑เ.๕นน้.๑ก- าเรนกเราน้ ยีรกจนาดัรรเู้ตเนราีย้ือมนหสราาตู้กขาาามรวเสิชราายี ขนตาราว้ตูมิชามามาตหตาลรมกัฐมาสานตู ตหรรลฐปกั าวเนชกห.ณลแฑกัลก์เะกาปณรใวฑชส้หก์ .ลารักใสชูต้หรลแักตส่ลตู ะรระแดตับล่ ะดรงั ะแดผบั นภาพ
ดังแผ นภมู ิ

๑.๕.๒ การจดั บริบทในหอ้ งเรยี นหรอื ในสถานศกึ ษา เพ่อื การรับรศู้ าสตรพ์ ระราชา

๑๖

252

๑.๕.๒ การจัดบริบทในหอ้ งเรยี นหรือในสถานศกึ ษา เพอื่ การรบั รู้ศาสตร์พระราชา
- จดั แหลง่ เรยี นรู้ จ�ำ ลองตวั อยา่ งการปฏบิ ตั ติ ามศาสตรพ์ ระราชาในสถานศกึ ษาใหผ้ เู้ รยี นไดส้ งั เกตหรอื ทดลอง
ฝกึ ปฏบิ ตั อิ ยเู่ สมอในรอบปกี ารศกึ ษาจนเกดิ ทกั ษะ เชน่ ทกั ษะดา้ นนวตั กรรมและเทคโนโลยี แหลง่ เรยี นรสู้ หกรณ์ เกษตร
ทฤษฎีใหม่ การจดั การน�้ำ และการปลูกหญ้าแฝกตามสาขาวชิ าท่ีเรยี นหรอื ท่ีเปิดสอน
- จดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นใหโ้ ครงงานตา่ ง ๆ สมั พนั ธก์ บั ศาสตรพ์ ระราชาทตี่ อ้ งการเรยี นรแู้ ละฝกึ นสิ ยั เชน่
โครงงานส่ิงแวดล้อม การจัดการขยะ ฝึกการออม ฝึกค้าขายร่วมทุน ด้วยสหกรณ์อเนกประสงค์ ล้วนเป็นกิจกรรม
นอกสถานศกึ ษา การรักษาป่าไม้ ดนิ ดว้ ยการปลกู ปา่ รกั ษาสิ่งแวดลอ้ ม
๑.๕.๓ การพฒั นาหลกั สูตรระดับชั้นเรียนและสถานศึกษา
- บูรณาการในการเรยี นการสอนและรายวชิ าทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับศาสตร์พระราชาหมวดวิชาทักษะชีวิต
- บรู ณาการในหมวดทกั ษะวชิ าทเ่ี รยี นสมั พนั ธก์ บั ศาสตรพ์ ระราชา กลมุ่ ทกั ษะวชิ าชพี พน้ื ฐาน กลมุ่ ทกั ษะ
วชิ าชพี เฉพาะ และกลมุ่ ทกั ษะวชิ าเลือก
- บูรณาการหรือจัดรายวิชาเพิ่มเติมในวิชาท่ีเลือกเสรีตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และปรัชญา
ของสถาบนั การศกึ ษา และความตอ้ งการของผเู้ รียนหรอื ท้องถน่ิ
- จดั เปน็ กิจกรรมเสรมิ หลักสูตรในกลุ่มผ้สู นใจในลกั ษณะของชมรม ชมุ นมุ หรือองคก์ รวิชาชีพของผ้เู รียน
และบริบทพนื้ ทข่ี องสถาบนั การศกึ ษา และตามความต้องการของผเู้ รียน
- จัดโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพท่ีสอดคล้องกับเป้าหมายของสถาบันการศึกษาตามความต้องการ
ความสนใจของนกั เรยี น นกั ศกึ ษาทต่ี อ้ งการฝกึ ทกั ษะวชิ าชพี เพอื่ สภาวชิ าชพี ของตน ซงึ่ อาจปฏบิ ตั ใิ นสถานประกอบการ
ส่วนบุคคลได้ ทง้ั นี้ ขึ้นอยู่กบั จดุ หมายและปรัชญาของสถาบนั การศกึ ษา
๑.๖ ดา้ นการจัดหลักสตู รการเรยี นรูส้ ืบสานศาสตรพ์ ระราชาระดับอุดมศึกษา
(นสิ ิต นักศกึ ษา ระดับอดุ มศึกษาชัน้ ปที ี่ ๑)

ด้านหลกั สูตรและสาระการเรียนรู้ศาสตรพ์ ระราชา

จดั เนอ้ื หาศาสตร์พระราชา ๐๖
เปน็ วชิ าพ้นื ฐาน บังคบั และเพิม่ หลกั สูตรอุดมศกึ ษา ปรญิ ญาตรี
เปน็ วิชาเลือกในศาสตรท์ ีน่ ำ�ไปสู่
การสร้างองคค์ วามรู้ตอ่ ยอด
ตามความถนัดของสาขาท่เี รยี น

๑.๖.๑ ด้านการจดั หลักสูตรหมวดวชิ าศกึ ษาท่ัวไป
เน้นให้สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือคณะวิชา/สาขาวิชา เป็นหน่วยพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้สามารถ
เลอื กสาระการเรยี นรู้ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ศาสตรพ์ ระราชาสมั พนั ธ์สอดคลอ้ งกับวิสัยทศั น์ ปรชั ญาและวัตถุประสงค์ เปา้ หมาย
ของสถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งตามบริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่น ท้ังนี้ควรมีจุดเน้นท่ีการพัฒนาศักยภาพคน
ให้เป็นบุคคลท่ีมีจิตสำ�นึกของความเป็นพลเมืองดีที่สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม และมีศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง
บนฐานภูมิปัญญาไทย ภายใต้กรอบศีลธรรมจรรยาอันดีงาม เพ่ือนำ�พาประเทศสู่การพัฒนาที่ย่ังยืน โดยมีสาระเนื้อหา
หมวดวิชาศึกษาท่ัวไปสำ�หรับนิสิต นักศึกษา ระดับอุดมศึกษาชั้นปีท่ี ๑ ควรบังคับเรียน หรือให้มีวิชาเลือกเรียน

253

สาระการเรียนรู้รายวิชาที่ตรงตามศาสตร์พระราชาท่ีสอดคล้องกับสาขาวิชา หรือคณะวิชาที่เลือกเรียน โดยเฉพาะ
ศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เช่น
ศาสตร์เก่ียวกับวิธีทรงงาน ๒๗ วิธี ศาสตร์ท่ีเป็นองค์ความรู้จากการทรงงานทุกด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการน้ำ�
ดา้ นสหกรณ์ ดา้ นการจดั การดิน ด้านการจดั การปา่ และสงิ่ แวดล้อม ดา้ นนวตั กรรมและพลังงาน ดา้ นเกษตรทฤษฎใี หม่
ด้านหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และดา้ นอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ กฎหมาย การปกครอง การแพทย์ สาธารณสุข เปน็ ต้น
รวมทง้ั เสนอใหน้ �ำ ศาสตรพ์ ระราชาทเ่ี ปน็ พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษา ของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทร-
รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราช-
วโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งสร้างพ้ืนฐานให้แก่ผู้เรียน ๔ ด้าน คือ ๑. มีทัศนคติท่ีถูกต้อง
ต่อบ้านเมือง ๒. มีพ้ืนฐานชีวิตท่ีมั่นคง มีคุณธรรม ๓. มีงานทำ� มีอาชีพ และ ๔. เป็นพลเมืองดี ไปกำ�หนดเป็น
วัตถุประสงค์สำ�คัญของการจัดหลักสูตรหมวดวิชาศึกษาท่ัวไป ในสาระการเรียนรู้ท่ีเก่ียวข้องกับศาสตร์พระราชา
เน้นให้มีความรอบรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มีความรู้และทักษะด้านวิชาการ สามารถนำ�ความรู้ไปประยุกต์ใช้
ในชวี ติ ประจ�ำ วนั ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ และใหม้ กี ารประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ นตามศาสตรพ์ ระราชาวา่ ดว้ ยการประพฤติ
การครองตน และศาสตร์วา่ ดว้ ยการอยู่รว่ มกัน
๑.๖.๒ การจัดหลักสูตรหมวดวิชาเฉพาะ
ควรมีการพัฒนาหลักสูตรตามศาสตร์พระราชาที่สอดคล้องกับสาขาวิชา หรือคณะวิชาที่เลือกเรียน
ใหม้ สี าระการเรยี นรเู้ นอ้ื หาบงั คบั เรยี นหรอื วชิ าเลอื กในสาขาวชิ าเฉพาะ โดยเฉพาะศาสตรพ์ ระราชาของพระบาทสมเดจ็ -
พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สำ�หรับนิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษาช้ันปีท่ี ๑
ได้ลงทะเบียนเรียนตั้งแต่เริ่มเรียนปีแรก ท้ังน้ีอาจเป็นรายวิชาเฉพาะสาขาวิชาท่ีมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันในศาสตร์
พระราชาหลายรายวิชา ตลอดหลักสูตรในระดับปริญญาตรี
๑.๖.๓ การจดั หลักสูตรหมวดวิชาเลอื กเสรี
ควรจัดให้มีวิชาเลือกเสรีท่ีสอดคล้องกับศาสตร์พระราชาท่ีนิสิต นักศึกษา ระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ ๑
ทุกสาขาวิชาหรอื คณะวชิ าสามารถเลอื กเรียนไดต้ ามความถนัด ความสนใจ ของแต่ละรายบคุ คล เพ่ือสง่ เสรมิ ความชอบ
และความถนัด
๑.๖.๔ การจดั บริบทในห้องเรยี นหรือในสถานศกึ ษา เพอื่ การรับรู้ศาสตรพ์ ระราชา
จดั บรบิ ทสรา้ งวถิ กี ารด�ำ เนนิ ชวี ติ ในสถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ แบบอยา่ งพฤตกิ รรมของผนู้ �ำ ในการสบื สานศาสตร์
พระราชาตามจุดเน้นคณะวิชา/สาขาท่ีนิสิต นักศึกษาเลือกเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษา คณาจารย์และนักศึกษาดำ�เนิน
กิจกรรมเป็นกิจวัตรประจำ�วันในมหาวิทยาลัยตามแนวทางศาสตร์พระราชา เป็นศูนย์วิจัยการเรียนรู้และปฏิบัติการ
สืบสานศาสตร์พระราชาที่เหมาะสมกับบริบทของคณะวิชา/สาขา ตลอดจนภูมิสังคมของมหาวิทยาลัย เพ่ือกระตุ้น
ใหน้ ิสิต นักศึกษาได้เรยี นรู้ในรูปแบบท่เี น้นหลักธรรม หลกั คดิ และหลกั ปฏิบัตติ ลอดระยะเวลาของการศึกษา เพอื่ เลอื ก
วชิ าเรยี นไดต้ รงตามความถนดั ความสนใจ ฝกึ การรจู้ กั ตนเอง รจู้ กั ผอู้ นื่ การอยรู่ ว่ มกนั เพอ่ื สรา้ งสรรคส์ งั คมใหค้ วามส�ำ คญั
กับการพัฒนาทักษะท่ีจำ�เป็นในโลกอนาคต (Soft Skill) ควบคู่กับทักษะในเชิงวิชาการ และงานอาชีพ (Hard Skill)
ฝกึ สร้างนสิ ัยการปฏิบัติตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
จัดแหล่งเรียนรู้ จำ�ลองตัวอย่างการปฏิบัติตามศาสตร์พระราชาในสถานศึกษา ให้ผู้เรียนได้สังเกตหรือ
ทดลองปฏบิ ตั ใิ นโอกาสหรือวาระต่าง ๆ ในรอบปกี ารศึกษา เช่น แหลง่ เรยี นรู้ สหกรณ์ เกษตรทฤษฎีใหม่ การจดั การน�ำ้
การปลูกหญ้าแฝก เปน็ ต้น

254

จัดกิจกรรมค่ายพัฒนาผู้เรียน พัฒนาสังคม โครงงาน โครงการต่าง ๆ ท่ีสัมพันธ์กับศาสตร์พระราชา
ที่ต้องการเรียนรู้และฝึกนิสัย เช่น โครงการค่ายอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ ฝึกการออมด้วยสหกรณ์
ฝกึ การรักษาป่าไม้ ดนิ ดว้ ยการปลูกต้นไม้ พชื ผกั หรอื ค่ายอาสาพัฒนาทอ้ งถน่ิ ในรูปแบบต่าง ๆ เป็นตน้
๑.๗ การจัดหลักสตู รการเรยี นรสู้ ืบสานศาสตร์พระราชาหลกั สูตรการศกึ ษาตลอดชวี ติ
๑.๗.๑ หลกั สตู รการเรียนรใู้ นมติ ิของการศกึ ษานอกระบบ ทั้งระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานและการศกึ ษา
ต่อเนอ่ื ง

ดา้ นหลกั สูตรและสาระการเรยี นร้ศู าสตรพ์ ระราชา

เลือกสาระการเรียนรู้ ๐๗
ศาสตร์พระราชาตามความสนใจ หลักสูตรการศกึ ษาตอ่ เน่อื ง
ตอ่ ยอดในการประกอบอาชพี และการเรยี นรู้ตลอดชีวติ
และแก้ปญั หาการด�ำ เนินชีวติ
ในบริบทของชมุ ชน ทอ้ งถิน่

ควรใหม้ รี ายวชิ าเรยี นทมี่ สี าระการเรยี นรรู้ ายวชิ าตรงตามศาสตรพ์ ระราชา เพมิ่ เตมิ จากหลกั สตู รการศกึ ษา
นอกระบบแตล่ ะระดับ ส่งเสรมิ การศึกษาทางเลอื ก โดยสรา้ งโอกาสทางการศึกษาและจัดการเรยี นรูอ้ ยา่ งต่อเนอ่ื งให้คน
ทุกกลุ่ม ทุกวัยท่ีมีการออกกลางคันหรือต้องการต่อยอดการเรียนรู้เพื่อเพ่ิมวุฒิการศึกษา โดยเฉพาะศาสตร์พระราชา
ของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร เชน่ ศาสตรเ์ กยี่ วกบั วธิ ที รงงาน
๒๗ วิธี ศาสตร์ที่เป็นองค์ความรู้จากการทรงงานทุกด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการนำ้� ด้านสหกรณ์ ด้านการจัดการดิน
ด้านการจัดการป่าและสิ่งแวดล้อม ด้านนวัตกรรมและพลังงาน ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ ด้านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง และด้านอื่น ๆ ได้แก่ กฎหมาย การปกครอง การแพทย์ สาธารณสุข ฯลฯ รวมทั้งศาสตร์พระราชาท่ีเป็น
พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพล-
ราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งสร้าง
พน้ื ฐานให้แกผ่ ้เู รียน ๔ ด้าน คอื ๑. มที ัศนคตทิ ถี่ ูกต้องต่อบ้านเมือง ๒. มีพ้ืนฐานชีวิตท่มี นั่ คง มีคณุ ธรรม ๓. มีงานทำ�
มีอาชพี และ ๔. เปน็ พลเมืองดี
วัตถุประสงค์สำ�คัญของการจัดหลักสูตรตามศาสตร์พระราชาเพิ่มเติมจากหลักสูตรการศึกษานอกระบบ
แตล่ ะระดบั เนน้ ใหม้ คี วามรอบรภู้ าคปฏบิ ตั แิ ละภาคทฤษฎี มคี วามรแู้ ละทกั ษะดา้ นวชิ าการ สามารถน�ำ ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้
ในชวี ติ ประจ�ำ วนั และพฒั นางานอาชพี ทม่ี รี ายไดเ้ ลย้ี งตนเอง ครอบครวั ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ และใหม้ กี ารประเมนิ พฤตกิ รรม
การปฏบิ ตั ติ นตามศาสตรพ์ ระราชาวา่ ดว้ ยการประพฤตกิ ารครองตน ศาสตรก์ ารพฒั นา และศาสตรว์ า่ ดว้ ยการอยรู่ ว่ มกนั
เปน็ ส่วนหนงึ่ ของการจบหลกั สูตรด้วย
๑.๗.๒ หลักสตู รและการเรยี นรู้ในมติ ิของการพฒั นาคน เพือ่ การเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยัง่ ยนื
เนน้ สาระการเรยี นรู้ทีใ่ ชใ้ นชีวิตจรงิ ในการด�ำ รงชวี ิตแต่ละชว่ งวัย และการพฒั นาอาชีพ ครอบครัว สงั คม
ท้องถ่ิน การสร้างรายได้และการอยู่ร่วมกัน เรียนรู้วิทยาการต่อยอดศาสตร์พระราชาให้สามารถประกอบอาชีพ
ได้อย่างหลากหลาย สอดคล้องกับแนวโน้มการจ้างงาน ทันต่อความก้าวหน้าการเปลี่ยนแปลงของวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี โดยให้ความสำ�คัญกับศาสตร์พระราชาทุกด้านของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล-

255

อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี-
ศรสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหศิ รภมู พิ ลราชวรางกรู กติ สิ ริ สิ มบรู ณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร
พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั น�ำ ศาสตรเ์ กยี่ วกบั วธิ ที รงงาน ๒๗ วธิ ี มาใชเ้ รยี นรเู้ พอ่ื เตรยี มคนใหพ้ รอ้ มกา้ วทนั ตอ่ การเปลย่ี นแปลง
ของสงั คม สง่ เสรมิ เรอื่ งทกั ษะชวี ติ และความเปน็ พลเมอื งดี พฒั นาคณุ ภาพคนไทยใหม้ อี าชพี มคี ณุ ธรรม เรยี นรตู้ ลอดชวี ติ
มที กั ษะและการด�ำ รงชวี ติ อยา่ งเหมาะสมตามศาสตรพ์ ระราชา วา่ ดว้ ยการประพฤตกิ ารครองตน ศาสตรว์ า่ ดว้ ยการพฒั นา
และศาสตรว์ า่ ดว้ ยการอยรู่ ว่ มกนั และสาระการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชาทสี่ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของทอ้ งถนิ่ และภมู สิ งั คม
แต่ละแห่ง ได้แก่ ศาสตร์ด้านการจัดการน้ำ� ด้านสหกรณ์ ด้านการจัดการดิน ด้านการจัดการป่าและสิ่งแวดล้อม
ดา้ นนวัตกรรมและพลงั งาน ดา้ นเกษตรทฤษฎใี หม่ ด้านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นตน้
การน้อมนำ�ศาสตรพ์ ระราชาไปจดั หลกั สตู รการเรียนรู้ในสถานศึกษาข้นั พนื้ ฐาน (Implementation)
ข้ันตอนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้หรือในรายวิชาในแต่ละระดับช้ันและระดับ
การศึกษา เพ่ือน้อมนำ�ศาสตร์พระราชาสู่หลักสูตรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมสอดคล้องและครอบคลุม
ศาสตร์พระราชาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดช-
มหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมราโชบายที่เก่ียวข้องกับการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี-
ศรสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหศิ รภมู พิ ลราชวรางกรู กติ สิ ริ สิ มบรู ณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร
พระวชริ เกล้าเจา้ อย่หู ัว มีข้อเสนอแนะใหส้ ถานศึกษาด�ำ เนนิ การเป็นขั้นตอน ดงั น้ี
๑. ศึกษา วิเคราะห์ขอบเขตของศาสตร์พระราชาว่ามีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ คุณลักษณะ สมรรถนะ สาระ
องค์ความรู้อะไรบ้าง ที่ผู้เรียนแต่ละระดับช้ันควรได้เรียนรู้ในหลักสูตรการศึกษาแต่ละระดับ สร้างเป็นตารางวิเคราะห์
ความสมั พันธข์ องศาสตร์พระราชากบั หลักสตู รการศึกษาแต่ละระดับ (ศึกษาตัวอยา่ งตารางในภาคผนวก)
๒. สถานศึกษาแต่ละระดับวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลาง หลักสูตรสถานศึกษาในรายกลุ่มสาระการเรียนรู้
รายหมวดวชิ า รายวชิ าว่ามเี ป้าหมาย วตั ถปุ ระสงค์ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ เนอื้ หา สาระองคค์ วามรู้ ความคิดรวบยอด
อะไรบ้างที่มีความสอดคล้องกับศาสตร์พระราชา นำ�ส่วนท่ีสัมพันธ์สอดคล้องกันบรรจุไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา
ตามระดับชั้น รายกลุ่มสาระ/วิชา เพ่ือนำ�ไปจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/จุดมุ่งหมาย/วัตถุประสงค์
ของหลกั สูตรสถานศกึ ษา
๓. ศาสตร์พระราชาในส่วนท่ีไม่สัมพันธ์กับเนื้อหาสาระองค์ความรู้ของหลักสูตรสถานศึกษา แต่เป้าหมาย
วตั ถปุ ระสงค์ สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /จดุ มงุ่ หมาย/วตั ถปุ ระสงค์ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะของหลกั สตู ร
สถานศึกษา สถานศึกษาร่วมกันพิจารณาจัดเป็นสาระการเรียนรู้ รายวิชาเพ่ิมเติม หรือจัดรายวิชาใหม่เพื่อเลือกเรียน
ตามความสนใจ ความต้องการของผู้เรียน ในหลักสตู รสถานศึกษา
๔. ศาสตรพ์ ระราชาในสว่ นทไี่ มส่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /จดุ มงุ่ หมาย/วตั ถปุ ระสงค์ คณุ ลกั ษณะ
สมรรถนะ ของหลกั สตู รสถานศกึ ษา สถานศกึ ษารว่ มกนั พจิ ารณาจดั เปน็ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น โครงงานตามความสนใจ
ของกล่มุ ชมรม หรอื จดั เป็นกิจกรรมพิเศษของสถานศึกษาในโอกาสทเี่ หมาะสม
การปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนทง้ั ๔ ข้อน้ีจะชว่ ยให้สถานศกึ ษาสามารถนอ้ มนำ�ศาสตรพ์ ระราชาสู่การจดั หลกั สตู ร
และการเรียนรู้ในสถานศึกษาได้อย่างครอบคลุมครบถ้วนตามเป้าหมายการพัฒนาคนของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การนอ้ มนำ�วธิ ที รงงานตามศาสตร์พระราชามาใชใ้ นกระบวนการจดั การเรียนรู้ ซ่งึ จะกล่าวถงึ ในขอ้ ตอ่ ไป

256

๒. การจดั กระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสกู่ ารปฏิบัติที่ยง่ั ยืนกากรานรานศาาศสาตสรตพ์ รรพ์ ะรระารชาาชไาปไใปชใใ้ ชนใ้ กนากราจรดั จกัดากราศรึกศษกึ าษา

จากการศึกษาศาสตร์พระราชาท่ีมีผู้รวบรวมไว้จากสถาบัน มูลนิธิ และหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีดำ�เนินกิจกรรมดร.ศดกั รด.ศ์ิสกั ินดโสิ์ รนิ จนโรส์ จรนาญส์ รรามญยร์ มย์
ตามศาสตรพ์ ระราชา พบวา่ ศาสตรพ์ ระราชาแบง่ เปน็ ๓ กลมุ่ ใหญ่ หรอื ๓ มติ ิ ดงั กลา่ วถงึ ขา้ งตน้ นน้ั กระบวนการเรยี นรู้
ตามศาสตรพ์ ระราชาทจ่ี ะน�ำ ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ยี่ ง่ั ยนื จ�ำ เปน็ ตอ้ งน�ำ องคค์ วามรดู้ า้ นเทคนคิ กระบวนการพฒั นาตามวธิ ที รงงานหลักสูตรองค์ความรู้สอดคล้องตรงกนั ทัง้ หมด17 SDGs
ของพระราชาที่สอดคล้องกับหลักธรรม หลักคิด หลักปฏิบัติ ๒๗ วิธี มาเป็นกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อสร้างสถานศกึ ษาศาสตร์พระราชา ๘ ด้านส่วนใหญ่จดั เปน็ สาระการ
บุคลิกภาพหรือลักษณะนิสัยการทำ�งานท่ีดีให้ติดตัวผู้เรียน ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ของสถานศึกษาตามOECD 2030
ปฏบิ ตั ิ และกระบวนการสรา้ งเจตคตคิ า่ นยิ มทพ่ี ฒั นาผา่ นกระบวนการคดิ ขน้ั สงู เชงิ ระบบใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั คดิ วธิ ที รงงานปรับปรุงหลกั สตู รและด้านอ่นื ๆความเหมาะสมกับบริบทของตน
โดยด�ำ เนนิ การดงั แผนภาพตามลกั ษณะความความสัมพันธร์ ะหวา่ งศาสตร์พระราชาสอดคล้องบา้ ง จัดเปน็ สาระจัดกระบวนการเรยี นร้แู บบองคร์ วมทงั้ ดา้ นความรู้
กับเนอื้ หาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ การเรยี นรบู้ ูรณาการเน้อื หา เจตคติ คา่ นยิ ม และทกั ษะ ถกั ทอ
257 สอดคลอ้ ง ตัวชว้ี ดั สมรรถนะของหลักสตู ร รายวิชา รายหนว่ ยการเรียนรู้ เชือ่ มโยงกับความสามารถดา้ นอ่นื ๆ แบบ
สถานศึกษาแตล่ ะระดบั ในแตล่ ะระดับ Active Learning ใช้ GPAS 5 Steps
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งศาสตรพ์ ระราชา ไม่สอดคลอ้ ง ปรับปรงุ สาระ ใหเ้ กดิ เปน็ สมรรถนะจนถึงระดบั หลกั การ
กบั เน้อื หาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ การเรียนรูร้ ายวิชา หนว่ ยการ ใหเ้ ป็น Transformative Competencies
ตวั ช้ีวัด สมรรถนะแตล่ ะวิชา รายวิชา เรยี นรใู้ นแต่ละระดับ/ สู่ Well Being
รายหน่วยการเรียนรู้ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ

การเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21

Knowledge Process & การเรยี นรแู้ บบ Active Learning
Skills ผ้เู รียนเปน็ ผูผ้ ลติ ความรู้ นวตั กรรม
ปัญญาประดษิ ฐ์ ตามยุทธศาสตรช์ าติ
หลักการวธิ ที รงงาน ๒๗ วิธี ํ Thailand 4.0

หลักธรรม หลักคิด หลักปฏบิ ัติ Attitudes & Values ศาสตรพ์ ระราชาสอดคล้องกับ
เปา้ หมายของ UNESCO
Active Learning ถกั ทถถอกั ทออ
GPAS 5 Steps The four pillars of learning
กลืนเป็นตวั ตน 1. Learning to khow
การจัดกระบวนการเรียนรูท้ ี่เนน้ 2. Learning to do
ผเู้ รียนสร้างความรดู้ ว้ ยการ Rubricsเรียนรไู้ ดเ้ อง 3. Learning to live together
ปฏิบัติจรงิ ผ่านกระบวนการคิด 4. Learning to be
ตัดสนิ ใจดว้ ยตนเอง ในการเผชญิ ํ มีคณุ ธรรมสูง เรยี นรแู้ บบ Active Learning
ปญั หา และการสร้างนวตั กรรม (Personality)

คุณภาพผูเ้ รียนตามหลักสตู ร Lifelong Learning
วัตถุประสงค์ เป้าหมาย
มาตรฐานการเรียนรู้ เรยี นรู้แบบ Active Learning
ตัวช้ีวดั สมรรถนะ เกดิ ความร้รู ะดับหลักการ นำ�ไป
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เรียนรู้ไดเ้ อง พัฒนาไดเ้ อง ต่อเนอ่ื ง
คงทน น�ำ ประโยชนส์ ู่สงั คม ประเทศ

การจดั การเรยี นร้ศู าสตร์พระราชาในแตล่ ะระดบั การศกึ ษา

กลรยะุทดธับ์กสาถราจนัดศกึกาษรเารียนรู้ เรียนรู้แบบสร้างความรู้จากการปฏิบัติจริงในชีวิตประจำ�วัน และงาน อาชีพในครอบครัวหรือท้องถ่ินร่วมจัดกระบวนการเรียนรู้
การศึกษาตอ่ เนื่องและเรียนรู้ตลอดชีวิต ในการบ่มเพาะและหลอ่ หลอมเด็ก เยาวชน และคนไทยใหเ้ ปน็ คนดี มคี ณุ ธรรม และจริยธรรมอย่างเข้มแข็ง สอดแทรกการพัฒนาตน
ตามศาสตร์พระราชา
อุดมศึกษา ปริญญาตรี ศกึ ษาเรยี นรดู้ ว้ ยการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ สรปุ หลกั การ ทฤษฎี ในศาสตรพ์ ระราชาและประยกุ ตใ์ ชแ้ กป้ ญั หา พฒั นางาน อาชพี
พัฒนาชมุ ชน สังคม สรา้ งสรรค์ ต่อยอดองค์ความรู้ นวัตกรรมด้วยโครงงาน และการศกึ ษาวจิ ยั ทดลอง ปฏบิ ัตติ น เห็นผลสำ�เร็จ
รว่ มกบั ชุมชน องค์กรภายนอกตามสาขาวิชา

อาชีวศึกษาระดับ ปวช. ปวส. เรียนรดู้ ้วยกระบวนการคิดวเิ คราะห์ สรปุ หลักการ ประยุกตใ์ ช้ศาสตร์พระราชา พฒั นางาน อาชีพ พฒั นาชุมชน ท้องถนิ่
มัธยมศึกษาตอนปลาย ดว้ ยโครงงาน สรา้ งสรรค์รว่ มกับชมุ ชน องค์กรภายนอก ตอ่ ยอดองคค์ วามรู้ สรา้ งนวตั กรรมใหม่ตามสาขาวชิ า
มัธยมศึกษาตอนต้น เรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ ประยกุ ต์ศาสตร์พระราชา พฒั นาคน พฒั นางาน พัฒนาท้องถ่ิน
ด้วยโครงงาน สร้างสรรค์ ต่อยอดความรูใ้ หม่ตามความถนดั
เรียนร้ดู ว้ ยกระบวนการคิดวิเคราะห์ ประยุกตใ์ ชศ้ าสตร์พระราชา พฒั นาคน พฒั นางานด้วยโครงงาน
แกป้ ัญหาหรือทตี่ อ้ งการสรา้ งสรรคข์ ึ้นใหม่ตามความถนดั ความสนใจ

ประถมศึกษา เรยี นรดู้ ว้ ยประสบการณ์ตรงจากบรบิ ทในสถานศกึ ษาและชุมชน ผ่านการคดิ วิเคราะห์ สรุปความเขา้ ใจแบบ Active Learning
ฝกึ ปฏบิ ตั โิ ครงงานดว้ ยกระบวนการกลุ่ม

ปฐมวัย เรียนปนเลน่ เรียนรู้จากบรบิ ท และกิจกรรมตามตัวแบบ ทงั้ ในและภายนอกหอ้ งเรียน ผ่านการคดิ วิเคราะห์
ลงมือทำ� แบบ Enactive สมั ผัสเคลือ่ นย้าย

๒.๑ ระดับปฐมวยั

การจดั การเรยี นรู้ศาสตร์พระราชาในแต่ละระดบั การศกึ ษา

ปฐมวัย

เรียนปนเล่น เรียนรูจ้ ากบริบท
และกิจกรรมตามตัวแบบ
ท้ังในและภายนอกห้องเรยี น
ผา่ นการคิดวิเคราะห์ ลงมอื ทำ�
แบบ Enactive สมั ผสั เคลอื่ นยา้ ย

๒.๑.๑ การจัดบรบิ ทและการบรหิ ารจดั การท่ีเอื้อตอ่ การเรยี นรสู้ ืบสานศาสตร์พระราชา
- จัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เห็นแบบอย่างของพฤติกรรมการดำ�เนินชีวิตที่ใช้หลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในสาระการเรียนรทู้ ีเ่ รียนรู้ในกิจวตั รประจำ�วนั การจดั สหกรณ์ การจัดรีไซเคิลขยะ การทำ�บนั ทกึ
รายรบั -รายจ่าย ปา้ ยเชญิ ชวนร่วมกจิ กรรมพอเพียง ผูบ้ รหิ าร ครูทว่ั ไป และครูผสู้ อนปฏิบัตติ นเปน็ แบบอยา่ ง และชักจูง
ผู้เรียนให้เห็นผลดขี องการกระทำ�
- บูรณาการสาระการเรียนรู้ของเศรษฐกิจพอเพียงในหน่วยการเรียนรู้และกิจกรรมต่าง ๆ ในตาราง
กจิ กรรมประจำ�วนั สถานศึกษาจดั บรบิ ทและกจิ กรรมประจ�ำ วนั ใหเ้ หน็ ตัวอยา่ ง และคุน้ เคยกับการนำ�ศาสตร์พระราชา
ในแต่ละด้านมาปฏบิ ัตเิ ป็นวิถชี วี ิต เช่น การจดั สหกรณค์ รบวงจร การอนรุ กั ษ์นำ�้ สิ่งแวดลอ้ ม ป่าไม้

258

๒.๑.๒ การจัดกระบวนการเรียนรู้
- จัดประสบการณ์ผ่านกระบวนการคิดและกิจกรรมตามมุมต่าง ๆ แบบเรียนปนเล่นผ่านกระบวนการ
คิดวิเคราะห์ เรียนรูต้ ามกระบวนการวิธีทรงงานตามศาสตรพ์ ระราชาที่เป็นหลกั ธรรม หลักคดิ และหลักปฏบิ ตั ิ ด้วยการ
ลงมอื ปฏบิ ัตจิ ริง (Enactive) ตามศาสตรพ์ ระราชาดา้ นต่าง ๆ ตามหลกั สูตรที่เลอื กจัดประสบการณ์
- จัดกระบวนการเรียนรู้ ความรู้ความเข้าใจให้สัมพันธ์กับหลักและวิธีทรงงานตามศาสตร์พระราชา
ที่เป็นหลักธรรม หลักคิด และหลักปฏิบัติโดยใช้กระบวนการคิดข้ันสูงเชิงระบบที่ประกอบด้วยการรวบรวมข้อมูล
(Gathering: G) จดั กระท�ำ ขอ้ มลู ใหม้ คี วามหมายผา่ นโครงสรา้ งการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เพมิ่ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม
และการกระท�ำ สรปุ เป็นความรรู้ ะดบั ความคดิ รวบยอด (Processing: P) ลงมือปฏบิ ัตจิ ริงจนน�ำ ส่ผู ล แล้วสรปุ ความรู้
เปน็ หลักการหรอื องคค์ วามรู้ (Applying and Constructing the Knowledge: Applying 1) น�ำ ความร้รู ะดบั หลกั การ
หรอื องคค์ วามรไู้ ปสอื่ สาร น�ำ เสนอใหเ้ หน็ เปน็ ภาพใหญเ่ ชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2)
การควบคมุ ก�ำ กบั ความคดิ เพม่ิ คา่ นยิ มการคดิ ประเมนิ ระบบขยายคณุ คา่ คณุ ธรรม คา่ นยิ มขนั้ สงู (Self-Regulating: S)
เป็นแกนหลกั
- ฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามแบบตวั อยา่ งในศาสตรพ์ ระราชา โดยมตี วั แบบ คอื ครู นกั เรยี นรนุ่ พ่ี และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
ประจ�ำ วันตามบทเรยี นในตารางกิจกรรมประจำ�วัน
- สร้างเจตคติ ความพึงพอใจ ด้วยการกระตุ้นให้รับรู้ ตอบสนอง และเห็นคุณค่าโดยใช้กระบวนการคิด
ขั้นสูงเชิงระบบ ท่ีประกอบด้วย การรวบรวมข้อมูล (Gathering: G) จัดกระทำ�ข้อมูลให้มีความหมายผ่านโครงสร้าง
การคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ เพิ่มคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและการกระทำ� สรุปเป็นความรู้ระดับความคิดรวบยอด
(Processing: P) ลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ จนน�ำ สผู่ ล แลว้ สรปุ ความรเู้ ปน็ หลกั การหรอื องคค์ วามรู้ (Applying and Constructing
the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการหรือองค์ความรู้ไปสื่อสาร นำ�เสนอให้เห็นเป็นภาพใหญ่
เชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคมุ ก�ำ กบั ความคดิ เพม่ิ คา่ นยิ มการคดิ ประเมนิ
ระบบขยายคุณค่าคุณธรรม ค่านิยมขั้นสูง (Self-Regulating: S) ฝึกการคิดตัดสินใจในความดีความงามตามศาสตร์
พระราชาแตล่ ะดา้ นให้ได้ด้วยตนเอง
- จัดกิจกรรมตามตารางกิจกรรมประจำ�วัน เน้นไปที่กิจกรรมเสริมประสบการณ์หรือกิจกรรมในวงกลม
กิจกรรมอื่น ๆ ตามตารางกิจกรรมประจำ�วัน จัดให้สัมพันธ์กับการบูรณาการการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาตามกิจกรรม
ในวงกลมด้านท่ีนำ�มาบูรณาการในหน่วยการเรียนรู้น้ัน
- ฝึกนสิ ัยการปฏิบัติตามศาสตร์พระราชาที่ต้องการเน้น เช่น เศรษฐกิจพอเพยี ง
๒.๒ ระดับประถมศกึ ษา

การจัดการเรยี นรูศ้ าสตร์พระราชาในแต่ละระดบั การศึกษา

ประถมศึกษา

เรยี นรู้ด้วยประสบการณ์ตรง
จากบรบิ ทในสถานศกึ ษาและชุมชน
ผา่ นการคดิ วเิ คราะหส์ รปุ ความเขา้ ใจ
แบบ Active Learning
ฝกึ ปฏิบัติโครงงาน
ดว้ ยกระบวนการกลมุ่

259

๒.๒.๑ การจดั บริบทและการบรหิ ารจัดการทเ่ี อื้อต่อการเรยี นรู้สบื สานศาสตรพ์ ระราชา
- จัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เห็นแบบอย่างของพฤติกรรมการดำ�เนินชีวิตที่ใช้หลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงในสาระการเรียนรู้ที่เรียนรู้ในกิจวัตรประจำ�วัน การจัดสหกรณ์การจัดรีไซเคิลขยะ การทำ�บันทึก
รายรับ-รายจา่ ย ปา้ ยเชญิ ชวนรว่ มกจิ กรรมพอเพยี ง ผู้บรหิ าร ครทู ่วั ไป และครผู สู้ อนปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่าง และชักจูง
ผู้เรียนให้เหน็ ผลดีของการกระทำ�
- บูรณาการสาระการเรียนรู้ของเศรษฐกิจพอเพียงในหน่วยการเรียนรู้และกิจกรรมต่าง ๆ ในกิจกรรม
ประจำ�วันให้เห็นตัวอย่างและคุ้นเคยกับการนำ�ศาสตร์พระราชาในแต่ละด้านมาปฏิบัติเป็นวิถีชีวิต เช่น การจัดสหกรณ์
ครบวงจร การอนรุ ักษน์ �ำ้ ส่ิงแวดล้อม ปา่ ไม้
- นำ�พฤติกรรมเร่ืองการปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บรรจุไว้ในเกณฑ์การประเมิน
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร และใหเ้ ปน็ จดุ เนน้ ทส่ี �ำ คญั ในการประเมนิ พฤตกิ รรมผเู้ รยี น นอกจากการเรยี นรู้
และการประเมนิ ผลตามหนว่ ยการเรยี นรู้ในกลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ เ่ี พมิ่ เตมิ
- จดั กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นในส่วนทีเ่ กย่ี วข้องกับเศรษฐกจิ พอเพยี ง และศาสตรพ์ ระราชาอืน่ ๆ โดยชมรม
ชุมนุมต่าง ๆ ให้ผูเ้ รยี นไดท้ ำ�กจิ กรรมรณรงคห์ รือสบื สานศาสตรพ์ ระราชาอยา่ งต่อเนอ่ื งทกุ ภาคเรยี น
๒.๒.๒ การจัดกระบวนการเรียนรู้
- จัดกระบวนการเรียนรู้ ความรู้ความเข้าใจให้สัมพันธ์กับหลักและวิธีทรงงานตามศาสตร์พระราชา
ที่เป็นหลักธรรม หลักคิด และหลักปฏิบัติ โดยใช้กระบวนการพัฒนาการคิดขั้นสูงท่ีประกอบด้วย การรวบรวมข้อมูล
(Gathering: G) จดั กระท�ำ ขอ้ มลู ใหม้ คี วามหมายผา่ นโครงสรา้ งการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เพม่ิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม
และการกระท�ำ สรุปเปน็ ความรู้ระดบั ความคดิ รวบยอด (Processing: P) ลงมือปฏิบตั ิจริงจนนำ�สผู่ ล แลว้ สรุปความรู้
เป็นหลักการหรือองค์ความรู้ (Applying and Constructing the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการ
หรอื องคค์ วามรไู้ ปสอ่ื สาร น�ำ เสนอใหเ้ หน็ เปน็ ภาพใหญเ่ ชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2)
การควบคมุ ก�ำ กับความคดิ เพ่มิ ค่านิยมการคิด ประเมินระบบขยายคณุ คา่ คุณธรรม ค่านยิ มข้ันสูง (Self-Regulating: S)
เปน็ แกนหลัก
- ฝึกปฏิบัติตามตัวอย่างในศาสตร์พระราชาด้วยกระบวนการกลุ่ม การเรียนรู้ร่วมกับนักเรียนรุ่นพ่ี
และการปฏิบัติกจิ กรรมเรียนรดู้ ้วยโครงงานแบบต่าง ๆ เรียนรู้สรปุ ความรู้จากการลงมอื ท�ำ
- สร้างเจตคติ ความพึงพอใจ ด้วยการกระตุ้นให้รับรู้ ตอบสนอง และเห็นคุณค่า จัดระบบค่านิยม
ตามศาสตรพ์ ระราชาแตล่ ะดา้ น โดยใชก้ ระบวนการคดิ ขนั้ สงู เชงิ ระบบทปี่ ระกอบดว้ ย การรวบรวมขอ้ มลู (Gathering: G)
จดั กระท�ำ ขอ้ มลู ใหม้ คี วามหมายผา่ นโครงสรา้ งการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เพมิ่ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและการกระท�ำ
สรุปเป็นความรู้ระดับความคิดรวบยอด (Processing: P) ลงมือปฏิบัติจริงจนนำ�สู่ผล แล้วสรุปความรู้ให้เป็นหลักการ
หรอื องคค์ วามรู้ (Applying and Constructing the Knowledge: Applying 1) น�ำ ความรรู้ ะดบั หลกั การ หรอื องคค์ วามรู้
ไปสือ่ สารนำ�เสนอใหเ้ หน็ เปน็ ภาพใหญเ่ ชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคุม
ก�ำ กับความคดิ เพม่ิ ค่านิยมการคดิ ประเมนิ ระบบขยายคณุ ค่า คุณธรรม ค่านยิ มขั้นสูง (Self-Regulating: S) ฝึกการคิด
ตดั สินใจในความดคี วามงามให้ได้ดว้ ยตนเอง

260

๒.๓ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

การจัดการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในแตล่ ะระดับการศึกษา

มธั ยมศึกษาตอนตน้

เรยี นรดู้ ว้ ยกระบวนการคดิ วเิ คราะห์
ประยกุ ต์ใช้ศาสตร์พระราชา
พัฒนาคน พฒั นางานด้วยโครงงาน
แกป้ ญั หา หรอื ทตี่ อ้ งการสรา้ งสรรค์
ขน้ึ ใหมต่ ามความถนดั ความสนใจ

๒.๓.๑ การจดั บริบทและการบรหิ ารจัดการทเ่ี อื้อตอ่ การเรยี นรู้สบื สานศาสตรพ์ ระราชา
- จัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เห็นแบบอย่างของพฤติกรรมการดำ�เนินชีวิตที่ใช้ศาสตร์พระราชา
ในสาระการเรียนรู้ท่ีเรียนรู้ในกิจวัตรประจำ�วัน เช่น การจัดสหกรณ์ การจัดรีไซเคิลขยะ การรักษาสิ่งแวดล้อม ดิน นำ้�
ปา่ ไม้ การท�ำ บนั ทึกรายรบั -รายจา่ ย ปา้ ยเชิญชวนรว่ มกจิ กรรมพอเพยี ง ผบู้ ริหาร ครูทั่วไป และครผู ู้สอนปฏบิ ัตติ นเป็น
แบบอย่าง และชกั จงู ผู้เรยี นให้เห็นผลดีของการกระทำ�
- บรู ณาการสาระการเรยี นรศู้ าสตรพ์ ระราชาในหนว่ ยการเรยี นรู้ และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นในสถานศกึ ษา
ทกุ ระดบั ชนั้ ผเู้ รยี นรว่ มกนั เลอื กท�ำ โครงงานทเ่ี กยี่ วกบั ศาสตรพ์ ระราชาตามความถนดั ความสนใจของตนตลอดระยะเวลา
ในการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร ซง่ึ แตล่ ะปอี าจเปลยี่ นเนอ้ื หาวธิ กี ารในหวั ขอ้ เรอ่ื งใหห้ ลากหลายจนครอบคลมุ สาระการเรยี นรู้
ในศาสตร์พระราชา
- เติมเต็มเนื้อหาหลักสูตรที่ยังไม่ได้สอนในระดับชั้นเรียนให้ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ตามศาสตร์
พระราชา น�ำ พฤตกิ รรมเรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ นตามศาสตรพ์ ระราชาบรรจไุ วใ้ นเกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ตามหลักสูตร และให้เป็นจุดเน้นท่ีสำ�คัญในการประเมินพฤติกรรมผู้เรียน นอกจากการเรียนรู้และการประเมินผล
ตามหนว่ ยการเรียนรูใ้ นกล่มุ สาระการเรียนรทู้ ี่เพ่ิมเตมิ
- จัดกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นในสว่ นทเี่ ก่ยี วข้องกับเศรษฐกจิ พอเพยี ง และศาสตร์พระราชาอืน่ ๆ โดยชมรม
หรือชมุ นุมตา่ ง ๆ ให้ผเู้ รียนได้ทำ�กิจกรรมรณรงค์หรือสบื สานศาสตรพ์ ระราชาอย่างต่อเนือ่ งทุกภาคเรยี น
๒.๓.๒ การจดั กระบวนการเรยี นรู้
- ใชก้ ระบวนการคดิ ขัน้ สงู เชิงระบบท่ีประกอบดว้ ย การรวบรวมขอ้ มลู (Gathering: G) จดั กระท�ำ ข้อมลู
ใหม้ คี วามหมายผา่ นโครงสรา้ งการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เพมิ่ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและการกระท�ำ สรปุ เปน็ ความรู้
ระดับความคิดรวบยอด (Processing: P) ลงมือปฏิบัติจริงจนนำ�สู่ผล แล้วสรุปความรู้เป็นหลักการหรือองค์ความรู้
(Applying and Constructing the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการหรือองค์ความรู้ไปสื่อสาร
น�ำ เสนอใหเ้ หน็ เปน็ ภาพใหญเ่ ชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคมุ ก�ำ กบั ความคดิ
เพ่ิมค่านิยมการคิด ประเมินระบบขยายคุณค่าคุณธรรม ค่านิยมขั้นสูง (Self-Regulating: S) เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าถึง
วธิ ที รงงานทเ่ี ปน็ หลกั ธรรม หลกั คดิ และหลกั ปฏบิ ตั ิ ผเู้ รยี นเปน็ ผสู้ รา้ งความรรู้ ะดบั ความคดิ รวบยอดระดบั หลกั การผา่ น
โครงงาน เรียนร้รู ่วมกนั ตามความสนใจ ความถนัดของแต่ละบุคคล โดยใช้ความรสู้ ร้างความรเู้ พ่มิ เตมิ
- การศึกษานอกระบบ เน้นการนำ�กระบวนการเรียนรู้ตามวิธีทรงงานในศาสตร์พระราชาด้านต่าง ๆ
เช่ือมโยงหลอมรวมเป็นกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ นำ�มาใช้ลงมือปฏิบัติให้สัมพันธ์กับประสบการณ์ในการดำ�เนิน
ชวี ติ จรงิ ของแตล่ ะบริบทมากกว่าเรียนรู้จากต�ำ ราเรียน

261

๒.๔ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

การจดั การเรียนร้ศู าสตรพ์ ระราชาในแตล่ ะระดบั การศึกษา

มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

เรยี นรดู้ ว้ ยกระบวนการคดิ วเิ คราะห์
ประยกุ ตศ์ าสตรพ์ ระราชา พฒั นาคน
พฒั นางาน พัฒนาทอ้ งถนิ่
ด้วยโครงงาน สรา้ งสรรค์
ตอ่ ยอดความรู้ใหมต่ ามความถนดั

๒.๔.๑ การจดั บรบิ ทและการบรหิ ารจดั การทเ่ี อือ้ ตอ่ การเรยี นรูส้ บื สานศาสตรพ์ ระราชา
- จัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เห็นแบบอย่างของพฤติกรรมการดำ�เนินชีวิตที่ใช้ศาสตร์พระราชา
ในสาระการเรียนรู้ที่เรียนรู้ในกิจวัตรประจำ�วัน เช่น การจัดสหกรณ์ การจัดรีไซเคิลขยะ การรักษาส่ิงแวดล้อม ดิน นำ้�
ป่าไม้ การทำ�บันทึกรายรับ-รายจ่าย ป้ายเชิญชวนร่วมกิจกรรมพอเพียง ผู้บริหาร ครูท่ัวไป และครูผู้สอนปฏิบัติตน
เปน็ แบบอยา่ ง และชักจงู ผู้เรียนให้เห็นผลดีของการกระท�ำ
- บรู ณาการสาระการเรยี นรศู้ าสตรพ์ ระราชาในหนว่ ยการเรยี นรู้ และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นในสถานศกึ ษา
ทกุ ระดบั ชน้ั ผเู้ รยี นรว่ มกนั เลอื กท�ำ โครงงานทเ่ี กย่ี วกบั ศาสตรพ์ ระราชาตามความถนดั ความสนใจของตนตลอดระยะเวลา
ในการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร ซงึ่ แตล่ ะปอี าจเปลยี่ นเนอ้ื หาวธิ กี ารในหวั ขอ้ เรอ่ื งใหห้ ลากหลายจนครอบคลมุ สาระการเรยี นรู้
ในศาสตรพ์ ระราชา
- เตมิ เตม็ เนอ้ื หาหลกั สตู รทยี่ งั ไมไ่ ดส้ อนในระดบั ชน้ั เรยี นใหค้ รอบคลมุ สาระการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชา
น�ำ พฤตกิ รรมเรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ นตามศาสตรพ์ ระราชาบรรจไุ วใ้ นเกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร
และให้เป็นจุดเน้นสำ�คัญในการประเมินพฤติกรรมผู้เรียน นอกจากการเรียนรู้และการประเมินผลตามหน่วยการเรียนรู้
ในกลุ่มสาระการเรียนร้ทู ีเ่ พ่มิ เตมิ
- จดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนในสว่ นทีเ่ ก่ยี วข้องกบั เศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชาอน่ื ๆ โดยชมรม
หรอื ชมุ นมุ ต่าง ๆ ให้ผู้เรยี นไดท้ ำ�กจิ กรรมรณรงคห์ รอื สืบสานศาสตร์พระราชาอย่างตอ่ เนอื่ งทุกภาคเรียน
๒.๔.๒ การจัดกระบวนการเรยี นรู้
- ใชก้ ระบวนการคิดข้ันสูงเชงิ ระบบท่ปี ระกอบด้วย การรวบรวมขอ้ มูล (Gathering: G) จดั กระท�ำ ข้อมูล
ใหม้ คี วามหมายผา่ นโครงสรา้ งการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เพม่ิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและการกระท�ำ สรปุ เปน็ ความรู้
ระดับความคิดรวบยอด (Processing: P) ลงมือปฏิบัติจริงจนนำ�สู่ผล แล้วสรุปความรู้เป็นหลักการหรือองค์ความรู้
(Applying and Constructing the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการหรือองค์ความรู้ไปส่ือสาร
น�ำ เสนอใหเ้ หน็ เปน็ ภาพใหญเ่ ชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคมุ ก�ำ กบั ความคดิ
เพ่ิมค่านิยมการคิด ประเมินระบบ ขยายคุณค่าคุณธรรม ค่านิยมข้ันสูง (Self-Regulating: S) เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าถึงวิธี
ทรงงานทเ่ี ปน็ หลกั ธรรม หลกั คดิ และหลกั ปฏบิ ตั ิ ผเู้ รยี นเปน็ ผสู้ รา้ งความรรู้ ะดบั ความคดิ รวบยอด ระดบั หลกั การน�ำ ไปสู่
การดดั แปลงสรา้ งนวตั กรรม ประยุกตใ์ ชค้ วามรูใ้ นชวี ิตจริง
- การศกึ ษานอกระบบใชก้ ระบวนการเรยี นรทู้ เ่ี ปน็ หลกั ธรรม หลกั คดิ และหลกั ปฏบิ ตั ิ หรอื กระบวนการคดิ
ข้ันสูงเชิงระบบที่ประกอบด้วย การรวบรวมข้อมูล (Gathering: G) จัดกระทำ�ข้อมูลให้มีความหมายผ่านโครงสร้าง
การคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ เพ่ิมคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และการกระทำ� สรุปเป็นความรู้ระดับความคิดรวบยอด

262

(Processing: P) ลงมือปฏิบัติจริงจนนำ�สู่ผล แล้วสรุปความรู้ให้เป็นหลักการหรือองค์ความรู้ (Applying and
Constructing the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการหรือองค์ความรู้ไปสื่อสาร นำ�เสนอให้เห็น
เปน็ ภาพใหญ่เชิงระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคุม ก�ำ กับความคิด เพ่มิ คา่ นิยม
การคิด ประเมนิ ระบบขยายคณุ ค่าคณุ ธรรม คา่ นิยมขั้นสูง (Self-Regulating: S) ให้ผูเ้ รียนสร้างความรู้ระดบั ความคิด
รวบยอด ระดับหลักการผ่านโครงงาน แก้ปัญหารายบุคคล หรือแบบเรียนรู้ร่วมกันในลักษณะพบกลุ่ม แลกเปลี่ยน
ความรคู้ วามเขา้ ใจทสี่ อดคลอ้ งสมั พนั ธก์ บั ประสบการณก์ ารปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ จรงิ ในงานอาชพี ทเี่ ผชญิ อยู่ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้
ตามแนวทางการเรียนรแู้ ละพฒั นาชวี ิต พัฒนาอาชีพตามศาสตรพ์ ระราชา
๒.๕ ระดบั อาชวี ศึกษา

การจดั การเรยี นรู้ศาสตร์พระราชาในแตล่ ะระดับการศกึ ษา

เรยี นรดู้ ว้ ยกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ อาชีวศกึ ษา ระดบั ปวช. ปวส.
สรปุ หลักการ ประยกุ ตใ์ ช้
ศาสตร์พระราชา พัฒนางาน อาชพี
พัฒนาชมุ ชน ท้องถิ่น ดว้ ยโครงงาน
สรา้ งสรรคร์ ว่ มกับชมุ ชน
องคก์ รภายนอก ต่อยอดองคค์ วามรู้
สร้างนวัตกรรมใหมต่ ามสาขาวชิ า

๒.๕.๑ การจดั บริบทและการบริหารจัดการที่เอือ้ ตอ่ การเรียนรู้สบื สานศาสตร์พระราชา
- จัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้เห็นแบบอย่างของพฤติกรรมการดำ�เนินชีวิตท่ีใช้ศาสตร์พระราชา
ในสาระการเรยี นรทู้ เ่ี รยี นรใู้ นกจิ วตั รประจ�ำ วนั เชน่ การจดั สหกรณ์ การจดั รไี ซเคลิ ขยะ การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม คอื ดนิ น�้ำ
และป่าไม้ การท�ำ บนั ทึกรายรับ-รายจา่ ย ป้ายเชญิ ชวนร่วมกิจกรรมพอเพียง ผ้บู รหิ าร ครูท่ัวไป และครูผู้สอนปฏิบตั ติ น
เปน็ แบบอย่าง และชักจงู ผเู้ รยี นใหเ้ หน็ ผลดขี องการกระทำ�
- บูรณาการสาระการเรียนรู้ของศาสตร์พระราชาในหน่วยการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ในสถานศกึ ษาทกุ ระดบั ชน้ั ผเู้ รยี นรว่ มกนั เลอื กท�ำ โครงงานทเ่ี กยี่ วกบั ศาสตรพ์ ระราชาตามความถนดั ความสนใจของตน
ตลอดระยะเวลาในการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร ซง่ึ แตล่ ะปอี าจเปลย่ี นเนอ้ื หาวธิ กี ารในหวั ขอ้ เรอ่ื งใหห้ ลากหลายจนครอบคลมุ
สาระการเรยี นรใู้ นศาสตร์พระราชา
- เตมิ เตม็ เนอ้ื หาหลกั สตู รทย่ี งั ไมไ่ ดส้ อนในระดบั ชน้ั เรยี นใหค้ รอบคลมุ สาระการเรยี นรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชา
น�ำ พฤตกิ รรมเรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ นตามศาสตรพ์ ระราชาบรรจไุ วใ้ นเกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร
และใหเ้ ปน็ จดุ เนน้ ทส่ี �ำ คญั ในการประเมนิ พฤตกิ รรมผเู้ รยี น นอกจากการเรยี นรแู้ ละการประเมนิ ผลตามหนว่ ยการเรยี นรู้
ในรายวิชาสาระการเรยี นรู้ทีเ่ พิ่มเตมิ
- จดั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นในสว่ นที่เกยี่ วข้องกับเศรษฐกิจพอเพยี ง และศาสตรพ์ ระราชาอืน่ ๆ โดยชมรม
หรือชมุ นมุ ต่าง ๆ ให้ผูเ้ รยี นไดท้ �ำ กจิ กรรมรณรงค์ หรือสืบสานศาสตร์พระราชาอย่างต่อเน่อื งทกุ ภาคเรยี น
๒.๕.๒ การจดั กระบวนการเรียนรู้
- ใชก้ ระบวนการคิดขน้ั สูงเชงิ ระบบทป่ี ระกอบดว้ ย การรวบรวมข้อมูล (Gathering: G) จัดกระทำ�ขอ้ มูล
ใหม้ คี วามหมายผา่ นโครงสรา้ งการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เพม่ิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและการกระท�ำ สรปุ เปน็ ความรู้
ระดับความคิดรวบยอด (Processing: P) ลงมือปฏิบัติจริงจนนำ�สู่ผล แล้วสรุปความรู้เป็นหลักการหรือองค์ความรู้
(Applying and Constructing the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการหรือองค์ความรู้ไปส่ือสาร

263

น�ำ เสนอใหเ้ หน็ เปน็ ภาพใหญเ่ ชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคมุ ก�ำ กบั ความคดิ
เพ่ิมค่านิยมการคิด ประเมินระบบขยายคุณค่าคุณธรรม ค่านิยมขั้นสูง (Self-Regulating: S) เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าถึงวิธี
ทรงงานที่เป็นหลักธรรม หลักคิด และหลักปฏิบัติ ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ระดับความคิดรวบยอดระดับหลักการ
ฝึกปฏิบัติตามตัวอย่างในศาสตร์พระราชาด้วยกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้ร่วมกัน และการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้
ดว้ ยโครงงานแบบตา่ ง ๆ เรยี นรแู้ ละสรปุ ความรจู้ ากการลงมอื ท�ำ และการน�ำ หลกั การสกู่ ารคดิ สรา้ งสรรค์ พฒั นานวตั กรรม
ตอ่ ยอดในการปฏบิ ตั ิในชีวติ จริง ขยายความร้ศู าสตรต์ ่าง ๆ ในงานอาชพี สังคมผา่ นโครงงานเรยี นรู้รายบคุ คล
๒.๖ การจดั การเรยี นรสู้ บื สานศาสตรพ์ ระราชาระดบั อดุ มศกึ ษา (นสิ ติ นกั ศกึ ษา ระดบั อดุ มศกึ ษาชนั้ ปที ี่ ๑)

การจัดการเรยี นรูศ้ าสตรพ์ ระราชาในแตล่ ะระดบั การศกึ ษา

อดุ มศึกษา ปรญิ ญาตรี

ศกึ ษาเรยี นรดู้ ว้ ยการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์
สรุปหลักการ ทฤษฎีในศาสตรพ์ ระราชา
และประยกุ ตใ์ ชแ้ กป้ ญั หา พฒั นางาน อาชพี
พฒั นาชมุ ชน สังคม สร้างสรรค์ ต่อยอด
องค์ความรู้ นวัตกรรมด้วยโครงงาน
และการศึกษาวิจยั ทดลอง ปฏบิ ตั ติ น
เหน็ ผลส�ำ เรจ็ ร่วมกบั ชมุ ชน
องค์กรภายนอกตามสาขาวชิ า

๒.๖.๑ การจดั บรบิ ทและการบริหารจดั การท่ีเอ้ือต่อการเรียนรสู้ ืบสานศาสตรพ์ ระราชา
จดั บรบิ ทวถิ กี ารด�ำ เนนิ ชวี ติ ในสถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ แบบอยา่ งพฤตกิ รรมของผนู้ �ำ ในการสบื สานศาสตรพ์ ระราชา
ตามจุดเน้นคณะ/สาขาวิชาที่นิสิต นักศึกษาเลือกเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษา คณาจารย์และนักศึกษาดำ�เนินกิจกรรม
เป็นกิจวัตรประจำ�วันในมหาวิทยาลัยตามแนวทางศาสตร์พระราชา เป็นศูนย์วิจัยเรียนรู้และปฏิบัติการสืบสาน
ศาสตร์พระราชาที่เหมาะสมกับบริบทของคณะ/สาขาวิชา ตลอดจนภูมิสังคมของมหาวิทยาลัย เพ่ือกระตุ้นให้นิสิต
นกั ศกึ ษาไดเ้ รยี นรใู้ นรปู แบบทเี่ นน้ หลกั ธรรม หลกั คดิ และหลกั ปฏบิ ตั ิ ตลอดระยะเวลาของการศกึ ษา เพอ่ื เลอื กรายวชิ าเรยี น
ได้ตรงตามความถนัด ความสนใจ ฝึกการรู้จักตนเอง รู้จักผู้อื่น การอยู่ร่วมกันเพ่ือสร้างสรรค์สังคม ให้ความสำ�คัญกับ
การพัฒนาทักษะที่จำ�เป็นในโลกอนาคต (Soft Skill) ควบคู่กับทักษะในเชิงวิชาการและงานอาชีพ (Hard Skill)
ฝกึ สรา้ งนสิ ยั การปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กจิ กรรมดา้ นการออม การสหกรณ์ การเกษตรทฤษฎใี หม่
การจัดการน้ำ� การจัดการขยะในรูปแบบต่าง ๆ การสร้างและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ดนิ น�้ำ และปา่ ไม้ ตามบรบิ ทในแตล่ ะภมู ภิ าค ปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งและชกั จงู ผเู้ รยี นใหเ้ หน็ ผลดขี องการกระท�ำ มจี ติ ส�ำ นกึ
ของการเปน็ พลเมืองดี ท่สี ร้างสรรค์ประโยชน์ตอ่ สังคมจนเป็นวัฒนธรรม (วิถชี วี ิต) ทส่ี ะท้อนการปฏิบตั ิ เปน็ ด่งั ห้องสมดุ
มชี วี ติ ทบ่ี รู ณาการสาระการเรยี นรขู้ องศาสตรพ์ ระราชาในบรบิ ทสถานศกึ ษา นสิ ติ นกั ศกึ ษาแตล่ ะคน ทกุ คณะ/สาขาวชิ า
รวมกลุ่มเลือกทำ�โครงการพัฒนาตามสาขาท่ีเรียนท่ีเก่ียวโยงกับศาสตร์พระราชา ตามความถนัด ความสนใจของตน
ตลอดระยะเวลาในการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร ซงึ่ แตล่ ะปอี าจเปลย่ี นเนอ้ื หา วธิ กี ารในหวั ขอ้ เรอื่ งใหห้ ลากหลายจนครอบคลมุ
สาระการเรียนรู้ในศาสตร์พระราชา เติมเต็มเน้ือหาหลักสูตรที่สนใจในต่างคณะหรือสาขาวิชา นำ�พฤติกรรมเรื่อง
การปฏิบัติตนตามศาสตร์พระราชาบรรจุไว้ในเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรอุดมศึกษา
และใหเ้ ป็นจดุ เน้นที่สำ�คัญในการประเมินพฤติกรรมผู้เรยี น นอกจากการเรียนรู้และการประเมนิ ผลตามรายวชิ า องคก์ ร
นสิ ติ นกั ศึกษา ชมรม หรือชมุ นุมต่าง ๆ เปดิ โอกาสให้นสิ ติ นักศึกษาได้ท�ำ กิจกรรมรณรงค์ จัดค่ายพัฒนาหรอื สบื สาน
ศาสตร์พระราชาอยา่ งตอ่ เนื่องทุกภาคเรยี น

264

๒.๖.๒ การจดั กระบวนการเรียนรู้
จัดให้มีการบูรณาการการเรียนรู้ในหลักสูตรทุกรายวิชา โดยเน้นศาสตร์พระราชาว่าด้วยการประพฤติ
การครองตน ศาสตรว์ า่ ดว้ ยการอยรู่ ว่ มกนั และศาสตรแ์ หง่ การพฒั นา โดยน�ำ กระบวนการทรงงานตามศาสตรพ์ ระราชา
ใช้กระบวนการคดิ ข้ันสูงเชิงระบบ ทีป่ ระกอบด้วย การรวบรวมขอ้ มูล (Gathering: G) จดั กระท�ำ ข้อมลู ใหม้ คี วามหมาย
ผ่านโครงสรา้ งการคดิ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ เพ่มิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและการกระทำ� สรปุ เป็นความรรู้ ะดับความคดิ
รวบยอด (Processing: P) ลงมือปฏิบัติจริงจนนำ�สู่ผล แล้วสรุปความรู้เป็นหลักการหรือองค์ความรู้ (Applying and
Constructing the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการหรือองค์ความรู้ไปสื่อสาร นำ�เสนอให้เห็น
เปน็ ภาพใหญ่เชิงระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคุม กำ�กบั ความคดิ เพิม่ ค่านยิ ม
การคิด ประเมนิ ระบบ ขยายคณุ ค่าคุณธรรม คา่ นิยมขน้ั สงู (Self-Regulating: S) เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนเข้าถึงวธิ ที รงงานท่ีเปน็
หลกั ธรรม หลกั คดิ และหลกั ปฏบิ ตั ิ ไปใชเ้ พอื่ เรยี นรเู้ ชงิ วเิ คราะห์ วจิ ยั จากการลงมอื ท�ำ สรา้ งความรรู้ ะดบั หลกั การ ทฤษฎี
และการน�ำ หลักการ ทฤษฎใี นสาขาวชิ าทีเ่ รียนมาประยกุ ตส์ ่กู ารปฏิบัติ เพ่อื แก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ในการด�ำ เนินชีวิต
ให้สอดคล้องกับศาสตร์พระราชาตามบริบทและภูมิสังคม สร้างอุปนิสัยในการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์
สังเคราะห์ ปรับปรุง พัฒนาตอ่ เนอื่ งอยูเ่ สมอ ผสมผสานกนั ระหวา่ งทกั ษะการใช้ชวี ิต การทำ�งานร่วมกันในสังคม (Soft
Skill) และทักษะทางวิชาการวิชาชีพ (Hard Skill) เพื่อนำ�ไปสู่ความเป็นพลเมืองดี มีความสามารถสูง สร้างสรรค์
และขยายความรู้และนำ�ไปต่อยอดในศาสตร์พระราชาด้านต่าง ๆ ตามสาขาวิชาที่เรียนและมีความสนใจ เพ่ือนำ�ไปสู่
การตดั สนิ ใจสรา้ งงาน สรา้ งอาชพี พฒั นาตนเอง ทอ้ งถน่ิ และสงั คม ผา่ นโครงงานเรยี นรรู้ ายบคุ คลหรอื กลมุ่ ตามความสนใจ
และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสังคม ใช้ปัญญาที่เกิดจากการเรียนรู้ด้วยกระบวนการทรงงานตามศาสตร์พระราชา
จนเป็นนิสัย และนำ�ไปสร้างปัญญาให้กับผู้อ่ืน ช้ีนำ�สังคมสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก (Sustainable
Development Goals: SDGs) ได้อย่างภาคภมู ิ
๒.๗ การจดั การเรยี นรู้สบื สานศาสตร์พระราชา การศกึ ษาต่อเน่ืองและเรียนร้ตู ลอดชวี ติ

การจัดการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในแตล่ ะระดับการศึกษา

เรียนรู้แบบสรา้ งความรู้จากการปฏบิ ตั จิ รงิ การศกึ ษาตอ่ เนื่อง
ในชวี ติ ประจ�ำ วนั และงานอาชพี ในครอบครวั และเรยี นรู้ตลอดชีวิต
หรือทอ้ งถน่ิ ร่วมจัดกระบวนการเรยี นรู้
ในการบม่ เพาะ และหลอ่ หลอมเดก็
และเยาวชน และคนไทยใหเ้ ปน็ คนดี
มีคุณธรรม และจรยิ ธรรมอยา่ งเข้มแข็ง
สอดแทรกการพฒั นาตน
ตามศาสตร์พระราชา

๒.๗.๑ การจดั การเรยี นรใู้ นมติ ขิ องการศกึ ษานอกระบบ ทงั้ ระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานและการศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง
- มีการจัดการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาเพิ่มเติมจากหลักสูตรการศึกษานอกระบบ แต่ละระดับส่งเสริม
การศกึ ษาทางเลอื ก โดยสรา้ งโอกาสทางการศกึ ษาตอ่ เนอื่ งและเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ใหค้ นทกุ กลมุ่ และทกุ วยั ทม่ี กี ารออกกลางคนั
หรือต้องการต่อยอดการเรียนรู้เพ่ือเพิ่มวุฒิการศึกษา ให้เข้าถึงการเรียนรู้ได้ครบทุกคนด้วยแหล่งเรียนรู้และองค์ความรู้
ทห่ี ลากหลาย เชอ่ื มโยงขอ้ มลู ความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ ใหค้ นสามารถเรยี นรตู้ ามความสนใจ ไปเรยี นรใู้ นสถานทจ่ี รงิ ได้
หากมคี วามสนใจและความตอ้ งการ ท�ำ ใหค้ นไทยมแี นวโนม้ ไดร้ บั การศกึ ษามากขนึ้ โดยการเทยี บระดบั และเทยี บโอนความรู้
และประสบการณ์จากการปฏิบัติงานอาชีพของบุคคลที่เก่ียวโยงกับศาสตร์พระราชาทุกด้านตามบริบทและภูมิสังคม

265

ของแตล่ ะแหง่ เพอื่ ยกระดบั การศกึ ษาของประชาชนใหส้ งู ขน้ึ และพฒั นาศกั ยภาพคนไทยใหม้ ภี มู คิ มุ้ กนั ตอ่ การเปลยี่ นแปลง
ของสังคมโลก พัฒนากำ�ลังแรงงานให้มีความรู้และสมรรถนะที่สอดคล้องกับโครงสร้างการผลิตและการบริการ
บนฐานความรู้และเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการเรียนรู้ตามวิธีทรงงานของพระราชา ใช้กระบวนการคิดขั้นสูง
เชิงระบบ ที่ประกอบด้วย การรวบรวมข้อมูล (Gathering: G) จัดกระทำ�ข้อมูลให้มีความหมายผ่านโครงสร้าง
การคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ เพ่ิมคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและการกระทำ� สรุปเป็นความรู้ระดับความคิดรวบยอด
(Processing: P) ลงมือปฏิบัติจริงจนนำ�สู่ผล แล้วสรุปความรู้ให้เป็นหลักการหรือองค์ความรู้ (Applying and
Constructing the Knowledge: Applying 1) นำ�ความรู้ระดับหลักการหรือองค์ความรู้ไปสื่อสาร นำ�เสนอให้เห็น
เป็นภาพใหญ่เชงิ ระบบ (Applying the Communication Skill: Applying 2) การควบคุมก�ำ กบั ความคดิ เพ่ิมคา่ นยิ ม
การคิด ประเมนิ ระบบ ขยายคณุ คา่ คุณธรรม ค่านิยมขั้นสูง (Self-Regulating: S) เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนเข้าถงึ วิธีทรงงานทีเ่ ปน็
หลักธรรม หลักคิด และหลักปฏิบัติไปใช้เพ่ือเรียนรู้ สร้างความรู้จากการปฏิบัติจริงในชีวิตประจำ�วันและงานอาชีพ
ในครอบครัวหรอื ท้องถิ่นของตน
๒.๗.๒ การจัดการเรยี นรู้ในมติ ขิ องการพฒั นาคน เพือ่ การเรียนรู้ตลอดชีวิตอยา่ งย่งั ยืน
- ใช้ชุมชนเป็นฐานในการจัดกิจกรรม จัดกระบวนการเรียนรู้ตามความต้องการของชุมชนตามบริบท
และวถิ กี ารด�ำ เนนิ ชวี ติ ของคนในชมุ ชนรว่ มกบั หนว่ ยงานภาคเี ครอื ขา่ ยแบบบรู ณาการการท�ำ งานรว่ มกนั ตามวธิ ที รงงาน
ของพระราชา มงุ่ ใหค้ วามส�ำ คญั กบั ศาสตรพ์ ระราชาทกุ ดา้ นของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช-
มหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร-
มหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร
พระวชิรเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว เพอ่ื เตรยี มคนใหพ้ รอ้ มรบั มอื และกา้ วทันตอ่ การเปลี่ยนแปลงของสงั คม ส่งเสรมิ เรอื่ งทักษะชีวติ
และความเปน็ พลเมอื งดี ทนั ตอ่ ความกา้ วหนา้ ของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี พฒั นาคณุ ภาพคนไทยใหม้ อี าชพี มคี ณุ ธรรม
เรียนรู้ตลอดชีวิต มีทักษะและการดำ�รงชีวิตอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ด้วยกระบวนการขัดเกลา และสร้างเสริม
การเรยี นรู้ของสถาบนั ทางสังคม ใช้ศูนยเ์ รียนรู้ แหลง่ เรียนรู้ หรือภมู ิปัญญาของชมุ ชน บูรณาการการทำ�งานร่วมกบั ภาคี
เครือข่ายโดยเฉพาะสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนาและชุมชนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชนด�ำ เนิน
กจิ การดว้ ยความรบั ผิดชอบต่อสงั คม ทำ�งานเชอื่ มโยงกบั ภาครฐั รว่ มจัดกระบวนการเรยี นรู้ให้มีบทบาทในการบ่มเพาะ
และหล่อหลอมเด็ก เยาวชน และคนไทยให้เป็นคนดีมีคุณธรรมและจริยธรรมเข้มแข็งมากขึ้น สอดแทรกการพัฒนาคน
ตามศาสตรพ์ ระราชาใหค้ นมกี ารเรยี นรตู้ อ่ เนอื่ งตลอดชวี ติ ตอ่ ยอดสกู่ ารสรา้ งนวตั กรรม ทเ่ี กดิ จากการฝกึ ฝนเปน็ ความคดิ
สรา้ งสรรค์ ปลกู ฝงั การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ จากผอู้ น่ื เรยี นรใู้ นศาสตรว์ ทิ ยาการใหส้ ามารถประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย
สอดคลอ้ งกบั แนวโนม้ การจา้ งงานและสรา้ งจติ ส�ำ นกึ ใหค้ นไทยสรา้ งความรู้ เรยี นรไู้ ดด้ ว้ ยตนเองตลอดชวี ติ มคี วามรบั ผดิ ชอบ
ตอ่ สงั คม เคารพกฎหมาย หลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน สรา้ งคา่ นยิ มการผลติ และการบรโิ ภคทร่ี บั ผดิ ชอบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม มแี นวโนม้
ไปสู่การจัดการตนเองและพึ่งตนเองได้อย่างชัดเจน เป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนท่ีสามารถรองรับกระแสการเปล่ียนแปลง
ของโลกได้

266

๓. ตวั อยา่ งคมู่ อื การนอ้ มน�ำ ศาสตรพ์ ระราชาไปจดั หลกั สตู รการเรยี นรใู้ นระดบั สถานศกึ ษา

•ก ารจศดั กึหษลักาวสเิูตครรกาาะรหศ์ขึกอษบาเเขพต่อื อสงบืคสค์ าวนามศารูศ้สตาสรพ์ตรรพ์ะรราะชราาชวา่าดว่าว้ ดยว้กยารกจาัดรจกดัารกดานิรดิน

๑. การพัฒนาทรพั ยากรดนิ ตามศาสตร์พระราชา
- พระราชด�ำ ริเก่ยี วกับเกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกจิ พอเพียง การแกล้งดนิ การห่มดิน
- การปลกู หญา้ แฝกเพอื่ อนรุ กั ษด์ นิ และน�้ำ การปลกู พชื ตระกลู ถว่ั บ�ำ รงุ ดนิ และการจดั การพฒั นาทด่ี นิ
ตามพระราชประสงค์
๒. การพฒั นาทรพั ยากรดนิ ในภาคตา่ ง ๆ
- การพัฒนาทรัพยากรดินในภาคเหนือ ดินบนพื้นท่ีสูง พ้ืนท่ีลาดชัน เกิดการชะล้างพังทลายง่าย
สูญเสยี หน้าดิน สูญเสยี ธาตุอาหารพชื
- การพัฒนาทรัพยากรดินภาคกลาง เช่น การพัฒนาดินทราย ดินดาน และการฟ้นื ฟูทด่ี นิ เสอื่ มโทรม
- การพัฒนาทรัพยากรดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ดินเค็ม ดินทรายอุ้มน้ำ�ได้น้อย ดินลูกรัง
ดินขาดธาตุอาหารพชื
- การพฒั นาทรพั ยากรดนิ ในภาคตะวนั ออก เชน่ ดนิ ทราย ดนิ ตน้ื อมุ้ น�้ำ ไดน้ อ้ ย ขาดความอดุ มสมบรู ณ์
และดนิ เส่อื มโทรม
- การพัฒนาทรัพยากรดินในภาคใต้ เชน่ ดนิ เปร้ียว และดนิ อนิ ทรีย์

• การวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งหลักสตู รการศึกษากับศาสตรพ์ ระราชาว่าดว้ ยการจดั การดิน

๓.๑ ระดบั ปฐมวยั

ความสัมพันธ์ของหลกั สูตรการเรยี นการสอนในแตล่ ะระดบั กบั ศาสตร์พระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตร์พระราชา
กลุม่ สาระ/สาระ ระดบั ชนั้ /มาตรฐาน/ เนือ้ หาหลักสูตร/ สาระของศาสตรพ์ ระราชา ในการจัดการเรยี นรู้
๑.๓ ประสบการณ์ ระดบั ขัน้ /มตาวั ตชรี้วฐดั าน/ สาระการเรยี นรู้ ที่ควรเพมิ่ เติม ในสถานศึกษา/ในชั้นเรียน
อนบุ าลต๑วั ช๒ี้ว๓ดั
ในการจดั การเรียนรู้

(๑) การมีส่วนร่วมรับผิดชอบ การปลูกหญ้าแฝกเพื่ออนุรักษ์ • สถานศึกษาจดั บริบทสาธติ
ส�ำ คัญที่ส่งเสรมิ มาตรฐานท่ี ๗ รกั ธรรมชาติ ดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มทง้ั ภายใน ดนิ และน�ำ้ การปลกู พชื ตระกลู ถว่ั การปลกู หญ้าแฝก การปลูกพชื
พัฒนาการ ส่ิงแวดลอ้ ม วัฒนธรรม และภายนอกหอ้ งเรยี น บำ�รงุ ดิน บ�ำ รุงดินให้นกั เรียนได้สงั เกต
ดา้ นสงั คม และความเป็นไทย (๒) การเพาะปลูกและดูแล และเกดิ ประสบการณ์ตรง
๑.๓.๒ การดแู ล ตวั บ่งชท้ี ่ี ๗.๑ ดูแลรกั ษา ตน้ ไม้ • จดั ให้นักเรยี นได้ทดลอง
รกั ษาธรรมชาติ ธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม (๓) การสนทนาขา่ ว ปลูกพชื เพาะเมล็ดในดิน
และส่งิ แวดลอ้ ม และเหตกุ ารณ์ท่ีเกย่ี วกับ ทีม่ ีลกั ษณะแตกตา่ งกัน
ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม สังเกตการเจริญเติบโตของพชื
ในชีวติ ประจ�ำ วนั วเิ คราะห์ อภปิ รายผล
• ศึกษานอกสถานท่ี
แปลงปลกู พืชของเกษตรกร
ทม่ี กี ารบำ�รุงดินในลกั ษณะ
ของการใชศ้ าสตรพ์ ระราชา

267

๓.๒ ระดบั ประถมศกึ ษา

ความสมั พนั ธข์ องหลกั สูตรการเรยี นการสอนในแตล่ ะระดับกับศาสตรพ์ ระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตร์พระราชา
กลุ่มสาระ/สาระ ระดบั ชั้น/มาตรฐาน/ เนื้อหาหลกั สตู ร/ สาระของศาสตร์พระราชา ในการจัดการเรยี นรู้
ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้ ท่คี วรเพ่ิมเติม ในสถานศกึ ษา/ในชั้นเรียน

ในการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ว ๑.๑ ป.๑/๑ ระบุช่อื พชื • บริเวณต่าง ๆ ในท้องถ่นิ เช่น ๑.๑ การพฒั นาทรัพยากรดิน • จัดการเรยี นรูใ้ นหน่วย
วิทยาศาสตร์ และสตั วท์ อ่ี าศัยอยูบ่ ริเวณ สนามหญา้ ใตต้ ้นไม้ สวนหยอ่ ม ตามศาสตร์พระราชา การเรยี นปกตทิ สี่ อดแทรก
และเทคโนโลยี ตา่ ง ๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ แหล่งนำ้� อาจพบพชื และสตั ว์ การพัฒนาทรัพยากรดนิ เร่ืองการจดั การดินตามศาสตร์
สาระที่ ๑ ว ๑.๑ ป.๑/๒ บอก หลายชนดิ อาศัยอยู่ ตามศาสตรพ์ ระราชา พระราชาในเนอ้ื หาการเรียนรู้
วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ สภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสมกับ • บรเิ วณที่แตกตา่ งกันอาจพบ การแกล้งดนิ การห่มดิน โดยใชก้ ระบวนการ เขา้ ถงึ เขา้ ใจ
มาตรฐาน ว ๑.๑ การด�ำ รงชวี ิตของสตั ว์ พชื และสตั วแ์ ตกตา่ งกัน การปลูกหญา้ แฝกเพอื่ อนรุ ักษ์ และพัฒนา
เขา้ ใจความหลากหลาย ในบริเวณท่ีอาศยั อยู่ เพราะสภาพแวดลอ้ มของแตล่ ะ ดนิ และน�ำ้ การปลกู พชื ตระกลู ถวั่ • ท�ำ โครงงานการศกึ ษาเรอ่ื งดนิ
ของระบบนิเวศ ว ๑.๑ ป.๕/๔ ตระหนัก บริเวณจะมีความเหมาะสม บำ�รุงดิน และการปรับปรงุ ดนิ ในท้องถ่ิน
ความสัมพันธ์ระหว่าง ในคณุ ค่าของส่งิ แวดล้อมทีม่ ตี ่อ ตอ่ การด�ำ รงชวี ติ ของพชื และสตั ว์ ๑.๒ การพฒั นาทรัพยากรดิน ตามศาสตร์พระราชา
สง่ิ ไมม่ ชี วี ติ กบั สง่ิ มชี วี ติ การดำ�รงชวี ิตของส่งิ มชี ีวิต ที่อาศัยอยู่ในแต่ละบริเวณ เช่น ในภาคตา่ ง ๆ (เลือกสาระ ตามความสนใจ
และความสมั พันธ์ โดยมีสว่ นรว่ มในการดแู ลรักษา สระนํ้า มนี า้ํ เป็นที่อย่อู าศัย ในภาคตา่ ง ๆ ให้สอดคลอ้ ง • จดั ทำ�แปลงเกษตรปลูกพชื
ระหวา่ งสงิ่ มชี วี ติ สิง่ แวดล้อม ของหอย ปลา สาหร่าย เป็นที่ กบั ลกั ษณะของดนิ ในบรบิ ท แบบทดลองการปรับปรุงดนิ
กบั สิง่ มชี วี ิตตา่ ง ๆ ว ๓.๒ ป.๒/๑ หลบภยั และมแี หลง่ อาหาร ของตน) ในรูปแบบตา่ ง ๆ ท่ีใช้ศาสตร์
ในระบบนิเวศ ระบุสว่ นประกอบของดิน ของหอยและปลา บรเิ วณ พระราชาศกึ ษาเปรียบเทยี บผล
การถา่ ยทอดพลังงาน และจ�ำ แนกชนดิ ของดนิ โดยใช้ ต้นมะมว่ ง มีต้นมะมว่ ง สร้างองคค์ วามรดู้ ้วย
การเปลีย่ นแปลง ลักษณะเน้ือดินและการจบั ตวั เปน็ แหลง่ ท่อี ยู่ และมีอาหาร กระบวนการคิด GPAS
แทนทใี่ นระบบนเิ วศ เปน็ เกณฑ์ สำ�หรบั กระรอกและมด • รวมกลมุ่ ผลติ ผลงานปรบั ปรงุ ดนิ
ความหมาย ว ๓.๒ ป.๒/๒ อธบิ ายการใช้ • ถ้าสภาพแวดล้อมในบริเวณ จัดท�ำ ดินเพอ่ื การเกษตร
ของประชากร ปญั หา ประโยชนจ์ ากดนิ จากขอ้ มลู ท่พี ืชและสตั ว์อาศยั อยู่ จ�ำ หน่ายเป็นดินถงุ แบบตา่ ง ๆ
และผลกระทบทม่ี ีตอ่ ท่รี วบรวมได้ มีการเปล่ียนแปลง จะมีผลต่อ เพอ่ื ใชใ้ นการปลกู พชื ในรปู แบบ
ทรพั ยากรธรรมชาติ ว ๓.๒ ป.๖/๖ บรรยายลกั ษณะ การดำ�รงชีวิตของพืชและสตั ว์ ของการผลิตแบบสหกรณ์
และสง่ิ แวดล้อม และผลกระทบของน้าํ ทว่ ม • ในแหล่งทอ่ี ยู่หนึ่ง ๆ ส่งิ มชี ีวติ ในโรงเรยี น ๑ โรงเรยี น
แนวทางในการอนรุ กั ษ์ การกดั เซาะชายฝง่ั ดนิ ถล่ม จะมคี วามสมั พนั ธซ์ ง่ึ กนั และกนั ๑ ผลิตภณั ฑ์ (๑ School
ทรัพยากรธรรมชาติ แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ และสมั พนั ธ์กบั สง่ิ ไม่มชี ีวติ ๑ Product)
และการแกไ้ ขปญั หา ว ๓.๒ ป.๖/๗ ตระหนักถงึ เพอื่ ประโยชนต์ ่อการดำ�รงชวี ติ
สง่ิ แวดล้อม รวมทั้ง ผลกระทบของภยั ธรรมชาติ เช่น ความสมั พนั ธ์กัน
น�ำ ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ และธรณีพบิ ัตภิ ยั โดยนำ�เสนอ ดา้ นการกนิ กันเปน็ อาหาร
สาระที่ ๓ แนวทางในการเฝ้าระวัง เปน็ แหลง่ ท่ีอยู่อาศัย หลบภยั
วิทยาศาสตร์โลก และปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภัย และเลย้ี งดลู กู ออ่ น ใชอ้ ากาศ
และอวกาศ จากภัยธรรมชาติและธรณี ในการหายใจ
มาตรฐาน ว ๓.๒ พิบตั ภิ ยั ทอี่ าจเกดิ ในทอ้ งถิ่น • ส่ิงมีชวี ติ มกี ารกนิ กันเปน็
เข้าใจองค์ประกอบ อาหารโดยกนิ ตอ่ กนั เปน็ ทอด ๆ
และความสมั พนั ธ์ ในรปู แบบของโซ่อาหาร ท�ำ ให้
ของระบบโลก สามารถระบบุ ทบาทหน้าทีข่ อง
กระบวนการเปลย่ี นแปลง สง่ิ มชี วี ติ เปน็ ผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภค
ภายในโลกและบน • ดินประกอบดว้ ยเศษหนิ
ผิวโลก ธรณพี ิบัติภยั ซากพชื ซากสตั ว์ผสมอยใู่ น
กระบวนการเปลย่ี นแปลง เนื้อดิน มอี ากาศและน้ำ�แทรก
ลมฟ้าอากาศ อย่ตู ามชอ่ งวา่ งในเน้อื ดนิ
และภมู ิอากาศโลก ดนิ จ�ำ แนกเปน็ ดนิ รว่ น ดนิ เหนยี ว
รวมท้งั ผลต่อสิ่งมชี วี ิต และดินทราย ตามลกั ษณะ
และส่ิงแวดล้อม เน้อื ดินและการจับตัวของดนิ
ซ่งึ มีผลต่อการอุ้มน�ำ้

268

ความสมั พนั ธ์ของหลกั สตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดบั กับศาสตร์พระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตรพ์ ระราชา
กล่มุ สาระ/สาระ ระดับระขด้ันับ/ชมต้นั าวั /ตชมรี้วาฐัดตารนฐ/าน/ เนอื้ หาหลักสูตร/ สาระของศาสตร์พระราชา ในการจดั การเรยี นรู้
ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ ท่ีควรเพิม่ เติม ในสถานศกึ ษา/ในช้ันเรียน
ที่แตกตา่ งกัน
• ดนิ แตล่ ะชนดิ น�ำ ไปใชป้ ระโยชน์ ในการจัดการเรยี นรู้
ได้แตกต่างกันตามลกั ษณะ
และสมบัตขิ องดนิ
• น้าํ ทว่ ม การกดั เซาะชายฝงั่
ดนิ ถล่ม แผ่นดินไหว และสึนามิ
มผี ลกระทบตอ่ ชีวติ
และสิ่งแวดล้อมแตกตา่ งกัน
• มนุษย์ควรเรียนรู้วธิ ี
ปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภยั เชน่
ตดิ ตามข่าวสารอย่างสมาํ่ เสมอ
เตรียมถุงยงั ชีพให้พร้อมใช้
ตลอดเวลา และปฏบิ ตั ติ ามค�ำ สง่ั
ของผปู้ กครองและเจ้าหน้าท่ี
อย่างเคร่งครัดเม่อื เกิดภัย
ทางธรรมชาตแิ ละธรณพี ิบัตภิ ยั

269

๓.๓ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

ความสัมพนั ธข์ องหลกั สตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดบั กบั ศาสตรพ์ ระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตร์พระราชา
กลุ่มสาระ/สาระ ระดับชัน้ /มาตรฐาน/ เน้อื หาหลักสตู ร/ สาระของศาสตร์พระราชา ในการจัดการเรยี นรู้
ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้ ที่ควรเพ่ิมเตมิ ในสถานศึกษา/ในชัน้ เรยี น

ในการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ว ๑.๑ ม.๓/๔ • การถ่ายทอดพลังงาน ๑.๑ การพฒั นาทรพั ยากรดิน • จัดการเรยี นรใู้ นหนว่ ย
วิทยาศาสตร์ อธิบายความสัมพันธ์ของผผู้ ลติ ในระบบนิเวศ อาจทำ�ให้ ตามศาสตร์พระราชา การเรยี นปกติทส่ี อดแทรก
และเทคโนโลยี ผ้บู รโิ ภค และผ้ยู ่อยสลาย มสี ารพษิ สะสมอยใู่ นสง่ิ มชี วี ติ ได้ การพฒั นาทรัพยากรดนิ เรอ่ื งการจดั การดนิ ตามศาสตร์
สาระท่ี ๑ สารอนิ ทรยี ์ในระบบนิเวศ จนอาจก่อใหเ้ กดิ อนั ตราย ตามศาสตร์พระราชา พระราชาในเนอื้ หาการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ว ๑.๑ ม.๓/๕ อธบิ ายการสะสม ตอ่ สิ่งมีชวี ิต และทำ�ลายสมดุล • การแกลง้ ดิน การห่มดิน โดยใช้กระบวนการเข้าถงึ เข้าใจ
มาตรฐาน ว ๑.๑ สารพิษในสงิ่ มีชีวติ ในโซอ่ าหาร ในระบบนเิ วศ ดงั นัน้ การดูแล • การปลกู หญา้ แฝกเพอื่ อนรุ กั ษ์ และพัฒนา บรู ณาการร่วมกัน
เขา้ ใจความหลากหลาย ว ๑.๑ ม.๓/๖ ตระหนกั ถงึ รกั ษาระบบนเิ วศให้เกดิ ดนิ และน�ำ้ ระหว่างวชิ าวทิ ยาศาสตร์
ของระบบนเิ วศ ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ มีชวี ติ ความสมดลุ และคงอยู่ตลอดไป • การปลูกพืชตระกูลถว่ั และเทคโนโลยี
ความสัมพันธ์ระหว่าง และสง่ิ แวดล้อมในระบบนเิ วศ จึงเปน็ สงิ่ สำ�คญั บำ�รงุ ดิน และการงานอาชพี
สง่ิ ไมม่ ชี วี ติ กบั สง่ิ มชี วี ติ โดยไม่ทำ�ลายสมดลุ • ดนิ เกดิ จากหนิ ทีผ่ พุ ัง ๑.๒ การพฒั นาทรพั ยากรดิน • ท�ำ โครงงานการศกึ ษาเรอ่ื งดนิ
และความสมั พันธ์ ของระบบนิเวศ ตามธรรมชาตผิ สมคลกุ เคลา้ กบั ในภาคตา่ ง ๆ (เลือกสาระ และการปรบั ปรงุ ดนิ ในท้องถนิ่
ระหว่างสิ่งมีชีวติ ว ๓.๒ ม.๒/๖ อธิบายลกั ษณะ อนิ ทรยี วตั ถทุ ่ีไดจ้ ากการ ในภาคตา่ ง ๆ ใหส้ อดคล้อง ตามศาสตรพ์ ระราชา
กบั สงิ่ มีชีวิตตา่ ง ๆ ของชัน้ หนา้ ตัดดนิ เนา่ เปอื่ ยของซากพชื ซากสัตว์ กับลักษณะของดนิ ในบรบิ ท ตามความสนใจ
ในระบบนิเวศ และกระบวนการเกิดดิน ทบั ถมเป็นชน้ั ๆ บนผิวโลก ของตน) • จัดทำ�แปลงเกษตรปลูกพืช
การถ่ายทอดพลังงาน จากแบบจำ�ลอง รวมทั้งระบุ ช้นั ดินแบง่ ออกเป็นหลายชนั้ • การปลกู หญา้ แฝกเพอื่ อนรุ กั ษ์ แบบทดลองการปรับปรงุ ดิน
การเปลยี่ นแปลง ปัจจัยทที่ �ำ ให้ดนิ มีลกั ษณะ ขนานหรอื เกอื บขนานไปกับ ดินและน�ำ้ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ใชศ้ าสตร์
แทนทใ่ี นระบบนิเวศ และสมบตั ิแตกต่างกนั ผวิ หนา้ ดนิ แต่ละช้นั มีลกั ษณะ • การปลูกพืชตระกูลถั่ว พระราชาศึกษาเปรยี บเทียบผล
ความหมาย ว ๓.๒ ม.๒/๗ ตรวจวดั สมบัติ แตกตา่ งกัน เนอื่ งจากสมบตั ิ บ�ำ รงุ ดนิ สรา้ งองค์ความรูด้ ว้ ย
ของประชากร ปัญหา บางประการของดิน โดยใช้ ทางกายภาพ เคมี ชีวภาพ และ กระบวนการคิด GPAS
และผลกระทบที่มีตอ่ เคร่อื งมอื ที่เหมาะสม ลกั ษณะอื่น ๆ เชน่ สี โครงสรา้ ง • รวมกลมุ่ ผลติ ผลงานปรบั ปรงุ ดนิ
ทรพั ยากรธรรมชาติ และน�ำ เสนอแนวทางการใช้ เนื้อดิน การยึดตวั ความเป็น จัดทำ�ดนิ เพอ่ื การเกษตร
และสิง่ แวดล้อม ประโยชนด์ ินจากขอ้ มลู สมบัติ กรด-เบส สามารถสงั เกตไดจ้ าก จำ�หนา่ ยเป็นดินถุงแบบต่าง ๆ
แนวทางในการอนรุ กั ษ์ ของดนิ การสำ�รวจภาคสนาม เพ่ือใชใ้ นการปลกู พืชในรูปแบบ
ทรัพยากรธรรมชาติ ว ๓.๒ ม.๒/๘ อธบิ ายปัจจัย การเรยี กชือ่ ชั้นดินหลักจะใช้ ของการผลติ แบบสหกรณ์
และการแก้ไขปญั หา และกระบวนการเกดิ แหลง่ น้ำ� อักษรภาษาองั กฤษตวั ใหญ่ ในโรงเรียน ๑ โรงเรยี น
สิ่งแวดลอ้ ม รวมทั้ง ผวิ ดินและแหลง่ นำ้�ใต้ดนิ ไดแ้ ก่ O, A, E, B, C, R ๑ ผลติ ภัณฑ์ (๑ School
น�ำ ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ จากแบบจ�ำ ลอง • ช้นั หน้าตัดดนิ เปน็ ชัน้ ดิน ๑ Product)
สาระท่ี ๓ ว ๓.๒ ม.๒/๙ สร้างแบบจำ�ลอง ทม่ี ลี กั ษณะปรากฏใหเ้ หน็
วิทยาศาสตร์โลก ทอ่ี ธบิ ายการใชน้ �ำ้ และน�ำ เสนอ เรยี งล�ำ ดบั เปน็ ชนั้ จากชนั้ บนสดุ
และอวกาศ แนวทางการใชน้ ำ�้ อยา่ งยั่งยืน ถงึ ชนั้ ล่างสดุ
มาตรฐาน ว ๓.๒ ในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง • ปจั จยั ทที่ �ำ ใหด้ นิ แตล่ ะทอ้ งถน่ิ
เข้าใจองค์ประกอบ ง ๑.๑ ม.๒/๑ ใช้ทักษะ มลี กั ษณะและสมบตั แิ ตกตา่ งกนั
และความสัมพันธ์ การแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนา ไดแ้ ก่ วตั ถตุ ้นกำ�เนิดดิน
ของระบบโลก การทำ�งาน ภูมิอากาศ สิ่งมีชวี ติ ในดนิ
กระบวนการเปลยี่ นแปลง ง ๑.๑ ม.๒/๒ ใช้ทักษะ สภาพภูมิประเทศ และ
ภายในโลก และบน กระบวนการแกป้ ัญหา ระยะเวลาในการเกิดดิน
ผวิ โลก ธรณพี บิ ตั ภิ ยั ในการท�ำ งาน • สมบตั บิ างประการของดนิ เชน่
กระบวนการเปลยี่ นแปลง ง ๑.๑ ม.๒/๓ มจี ติ สำ�นกึ เน้ือดิน ความช้นื ดนิ ค่าความ
ลมฟา้ อากาศ ในการทำ�งานและใช้ทรัพยากร เป็นกรด-เบส ธาตุอาหารในดนิ
และภมู อิ ากาศโลก ในการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งประหยดั สามารถน�ำ ไปใชใ้ นการตดั สนิ ใจ
รวมทัง้ ผลต่อสิ่งมชี วี ติ และคมุ้ ค่า ถงึ แนวทางการใชป้ ระโยชน์
และส่งิ แวดล้อม ทดี่ นิ โดยอาจน�ำ ไปใชป้ ระโยชน์
ทางการเกษตร หรืออ่ืน ๆ

270

ความสมั พันธ์ของหลักสตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดับกับศาสตรพ์ ระราชา แนวทางการสืบสาน
ศาสตร์พระราชา
กลุ่มสาระ/สาระ ระดับระขด้ันับ/ชมตั้นาวั /ตชมร้วีาฐดัตารนฐ/าน/ เนอื้ หาหลักสูตร/ สาระของศาสตรพ์ ระราชา ในการจัดการเรียนรู้
ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้ ทค่ี วรเพ่ิมเตมิ ในสถานศกึ ษา/ในชน้ั เรยี น
ซึ่งดินทีไ่ มเ่ หมาะสมตอ่ การท�ำ
การเกษตร เชน่ ดนิ จดื ดนิ เปรยี้ ว ในการจดั การเรยี นรู้
ดนิ เคม็ และดนิ ดาน อาจเกดิ จาก
กล่มุ สาระการเรียนรู้ สภาพดินตามธรรมชาติ
การงานอาชีพ หรอื การใช้ประโยชน์จะตอ้ ง
สาระที่ ๑ ปรบั ปรุงใหม้ สี ภาพเหมาะสม
การดำ�รงชวี ิต เพือ่ น�ำ ไปใชป้ ระโยชน์
และครอบครวั • แหลง่ น้�ำ ผวิ ดนิ เกดิ จากน�ำ้ ฝน
มาตรฐาน ง ๑.๑ ทตี่ กลงบนพนื้ โลก ไหลจากทสี่ งู
เขา้ ใจการท�ำ งาน ลงสทู่ ตี่ า่ํ ดว้ ยแรงโน้มถ่วง
มีความคดิ สรา้ งสรรค์ การไหลของนาํ้ ทำ�ใหพ้ นื้ โลก
มีทกั ษะกระบวนการ เกดิ การกดั เซาะเปน็ ร่องนา้ํ เชน่
ทำ�งาน สำ�ธาร คลอง และแม่นาํ้
ทักษะการจดั การ ซง่ึ รอ่ งน้าํ จะมีขนาดและรูปรา่ ง
ทักษะกระบวนการ แตกต่างกนั ขนึ้ อยกู่ ับปรมิ าณ
แก้ปญั หา ทักษะ นํ้าฝน ระยะเวลาในการ
การทำ�งานร่วมกัน กดั เซาะ ชนดิ ดนิ และหนิ
และทกั ษะการแสวงหา และลักษณะภมู ปิ ระเทศ เช่น
ความรู้ มคี ุณธรรม ความลาดชนั ความสงู ตํ่าของ
และลกั ษณะนสิ ัย พ้ืนท่ี เม่อื น้ําไหลไปยังบริเวณ
ในการทำ�งาน ทีเ่ ป็นแอง่ จะเกดิ การสะสมตัว
มีจติ สำ�นึกในการใช้ เปน็ แหลง่ นาํ้ เชน่ บงึ ทะเลสาบ
พลังงาน ทรพั ยากร ทะเล และมหาสมทุ ร
และส่ิงแวดล้อม • แหลง่ นาํ้ ใตด้ นิ เกดิ จากการซมึ
เพื่อการด�ำ รงชวี ติ ของนา้ํ ผวิ ดินลงไปสะสมตวั
และครอบครัว ใตพ้ ื้นโลก ซ่ึงแบง่ เปน็ นํ้าในดนิ
และนํ้าบาดาล น้ําในดนิ เป็นน้ํา
ทอ่ี ยรู่ ว่ มกบั อากาศตามชอ่ งวา่ ง
ระหวา่ งเมด็ ดิน ส่วนน้าํ บาดาล
เปน็ น้าํ ทไ่ี หลซึมลึกลงไป
และถกู กักเก็บไวใ้ นชัน้ หิน
หรอื ช้นั ดิน จนอ่ิมตวั ไปด้วยน้าํ
• แหลง่ นาํ้ ผิวดนิ และแหล่งนา้ํ
ใตด้ ินถูกนำ�มาใชใ้ นกจิ กรรม
ตา่ ง ๆ ของมนุษย์ ส่งผลต่อ
การจดั การการใช้ประโยชนน์ ้าํ
และคณุ ภาพของแหล่งน้าํ
เนื่องจากการเพิ่มขึ้น
ของจำ�นวนประชากร
การใช้ประโยชนพ์ นื้ ท่ีในดา้ น
ตา่ ง ๆ เช่น ภาคเกษตรกรรม
ภาคอตุ สาหกรรม
และการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศ
ท�ำ ใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลง

271

ความสัมพนั ธข์ องหลกั สตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดบั กบั ศาสตร์พระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตร์พระราชา
กล่มุ สาระ/สาระ ระดบัระขดน้ั บั /ชมตนั้ าวั /ตชมรวี้าฐดัตารนฐ/าน/ เนอ้ื หาหลักสูตร/ สาระของศาสตรพ์ ระราชา ในการจัดการเรียนรู้
ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้ ที่ควรเพมิ่ เตมิ ในสถานศกึ ษา/ในชั้นเรยี น
ปริมาณน้ําฝนในพนื้ ที่ลุม่ น้ํา
และแหลง่ นํา้ ผิวดนิ ไม่เพยี งพอ ในการจดั การเรยี นรู้
สำ�หรบั กิจกรรมของมนษุ ย์ นํ้า
จากแหลง่ นา้ํ ใตด้ นิ จงึ ถกู น�ำ มาใช้
มากขึน้ สง่ ผลให้ปริมาณนา้ํ
ใตด้ นิ ลดลงมาก จงึ ต้องมกี าร
จดั การใชน้ ํ้าอย่างเหมาะสม
และย่ังยืน ซึ่งอาจท�ำ ไดโ้ ดย
การจดั หาแหล่งนํา้ เพื่อใหม้ ี
แหลง่ น้าํ เพยี งพอส�ำ หรับ
การด�ำ รงชวี ติ การจัดสรรและ
การใช้นาํ้ อย่างมีประสิทธิภาพ
การอนรุ ักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ํา
การปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา
คณุ ภาพน้ํา
• การศึกษาการทำ�งาน
เพอื่ การดำ�รงชวี ิต ต้องใชท้ กั ษะ
การแสวงหาความรซู้ งึ่ ประกอบดว้ ย
การศกึ ษาคน้ ควา้ รวบรวม
สงั เกต ส�ำ รวจ และบนั ทกึ เพอ่ื ใช้
• เม่ือมีปญั หาเกดิ ขน้ึ
ในการทำ�งาน จะต้องใช้ทกั ษะ
กระบวนการแกป้ ัญหา
ตามขนั้ ตอน คอื การสงั เกต
วิเคราะห์ สรา้ งทางเลือก
และประเมนิ ทางเลอื ก โดยใช้
พลังงานและทรพั ยากร
อยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่

272

๓.๔ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

ความสมั พันธ์ของหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดบั กบั ศาสตรพ์ ระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตรพ์ ระราชา
กลมุ่ สาระ/สาระ ระดบั ชน้ั /มาตรฐาน/ เนือ้ หาหลกั สูตร/ สาระของศาสตร์พระราชา ในการจดั การเรยี นรู้
ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้ ทค่ี วรเพ่มิ เติม ในสถานศกึ ษา/ในชนั้ เรยี น

ในการจัดการเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ว ๑.๑ ม.๔/๑ สบื ค้นข้อมลู • การเปลย่ี นแปลงแทนที่ ๑.๑ การพฒั นาทรพั ยากรดิน • ทำ�กจิ กรรมภาคสนามรว่ มกับ
วทิ ยาศาสตร์ และอธบิ ายความสมั พนั ธ์ เปน็ การเปลย่ี นแปลง ตามศาสตร์พระราชา ชมุ ชนพฒั นาดนิ ตามศาสตร์
และเทคโนโลยี ของสภาพทางภมู ศิ าสตรบ์ นโลก ของกล่มุ ส่งิ มีชวี ิตทีเ่ กดิ ขึน้ การพฒั นาทรัพยากรดิน พระราชาในการปลกู หญ้าแฝก
สาระที่ ๑ กบั ความหลากหลายของไบโอม อยา่ งชา้ ๆ เป็นเวลานาน ตามศาสตร์พระราชา ในพนื้ ทที่ เี่ หมาะสม ผา่ นโครงงาน
วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ และยกตวั อยา่ งไบโอม ซึง่ เปน็ ผลจากปฏิสมั พนั ธ์ • การแกลง้ ดิน การห่มดนิ การศกึ ษาตามวิธกี ารเรยี นรู้
มาตรฐาน ว ๑.๑ ชนดิ ตา่ ง ๆ ระหว่างองค์ประกอบ • การปลกู หญา้ แฝกเพอ่ื อนรุ กั ษ์ ในศาสตรพ์ ระราชา
เขา้ ใจความหลากหลาย ว ๑.๑ ม.๔/๒ สบื คน้ ขอ้ มูล ทางกายภาพและทางชวี ภาพ ดินและนา้ํ • จัดการเรยี นรู้ใน
ของระบบนเิ วศ อภปิ รายสาเหตุ และยกตวั อยา่ ง สง่ ผลให้ระบบนเิ วศ • การปลกู พชื ตระกลู ถัว่ หนว่ ยการเรยี นปกตทิ ส่ี อดแทรก
ความสัมพันธ์ระหว่าง การเปลีย่ นแปลงแทนที่ เปลี่ยนแปลงไปสสู่ มดลุ จนเกดิ บำ�รุงดิน เรอื่ งการจัดการดนิ ตามศาสตร์
สงิ่ ไมม่ ชี วี ติ กบั สงิ่ มชี วี ติ ของระบบนิเวศ สงั คมสมบูรณไ์ ด้ ๑.๒ การพัฒนาทรพั ยากรดิน พระราชาในเนือ้ หาการเรยี นรู้
และความสัมพันธ์ ว ๑.๑ ม.๔/๓ สบื คน้ ข้อมลู • การเปลยี่ นแปลง ในภาคตา่ ง ๆ (เลือกสาระ โดยใชก้ ระบวนการ เขา้ ถงึ เขา้ ใจ
ระหว่างส่งิ มีชวี ิต อธิบายและยกตวั อยา่ งเกี่ยวกับ ขององคป์ ระกอบในระบบนเิ วศ ในภาคตา่ ง ๆ ให้สอดคลอ้ ง และพฒั นา
กับสงิ่ มีชวี ิตต่าง ๆ การเปลย่ี นแปลงขององคป์ ระกอบ ทง้ั ทางกายภาพและทางชวี ภาพ กับลักษณะของดนิ ในบรบิ ท • ท�ำ โครงงานการศกึ ษาเรอื่ งดนิ
ในระบบนิเวศ ทางกายภาพและทางชวี ภาพ มีผลต่อการเปลย่ี นแปลงขนาด ของตน) และการปรับปรุงดนิ ในทอ้ งถ่ิน
การถ่ายทอดพลงั งาน ท่มี ีผลต่อการเปลีย่ นแปลง ของประชากร ตามศาสตรพ์ ระราชา
การเปลีย่ นแปลง ขนาดของประชากรสิง่ มีชวี ติ • มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ตามความสนใจ
แทนทใี่ นระบบนเิ วศ ในระบบนิเวศ โดยปราศจากความระมดั ระวงั • จดั ทำ�แปลงเกษตรปลูกพชื
ความหมาย ว ๑.๑ ม.๔/๔ สบื ค้นขอ้ มูล และมกี ารพัฒนาเทคโนโลยี แบบทดลอง การปรับปรุงดิน
ของประชากร ปญั หา และอภปิ รายเกย่ี วกับปัญหา ใหม่ ๆ เพอื่ ชว่ ยอ�ำ นวย ในรูปแบบต่าง ๆ ทใ่ี ช้ศาสตร์
และผลกระทบทีม่ ตี อ่ และผลกระทบทม่ี ตี อ่ ทรพั ยากร ความสะดวกตา่ ง ๆ แก่มนษุ ย์ พระราชา ศกึ ษาเปรยี บเทยี บผล
ทรัพยากรธรรมชาติ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม สง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลง สร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ย
และสิ่งแวดลอ้ ม พรอ้ มทั้งน�ำ เสนอแนวทาง ทรัพยากรธรรมชาติ กระบวนการคดิ GPAS
แนวทางในการอนรุ กั ษ์ ในการอนุรกั ษท์ รพั ยากร และสิ่งแวดล้อม • รวมกลมุ่ ผลติ ผลงานปรบั ปรงุ ดนิ
ทรัพยากรธรรมชาติ ธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปญั หา • ปัญหาทเ่ี กดิ กบั ทรัพยากร จัดทำ�ดินเพ่อื การเกษตร
และการแก้ไขปัญหา ส่ิงแวดลอ้ ม ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม จ�ำ หน่ายเป็นดนิ ถงุ แบบต่าง ๆ
สิ่งแวดลอ้ ม รวมทัง้ ง ๑.๑ ม.๔-๖/๓ มีทกั ษะ บางปญั หาส่งผลกระทบ เพ่ือใชใ้ นการปลูกพืชในรูปแบบ
น�ำ ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ การจัดการในการท�ำ งาน ในระดบั ทอ้ งถน่ิ บางปญั หา ของการผลติ แบบสหกรณ์
การงานอาชพี ง ๑.๑ ม.๔-๖/๔ มีทักษะ กส็ ง่ ผลกระทบในระดบั ประเทศ ในโรงเรียน ๑ โรงเรียน
สาระที่ ๑ การด�ำ รงชวี ติ กระบวนการแกป้ ญั หา และบางปญั หาส่งผลกระทบ ๑ ผลติ ภัณฑ์ (๑ School
และครอบครัว ในการทำ�งาน ในระดบั โลก ๑ Product)
มาตรฐาน ง ๑.๑ ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕ มีทักษะ • การลดปรมิ าณการใชท้ รพั ยากร
เข้าใจการทำ�งาน ในการแสวงหาความรู้ ธรรมชาติ การกำ�จัดของเสยี
มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ เพ่อื การดำ�รงชวี ติ ทเ่ี ป็นสาเหตุของปัญหา
มที ักษะกระบวน ง ๑.๑ ม.๔-๖/๖ มีคุณธรรม สง่ิ แวดลอ้ ม และการวางแผน
การทำ�งาน ทักษะ และลักษณะนิสยั ในการท�ำ งาน จัดการทรพั ยากรธรรมชาติท่ดี ี
การจดั การ ทักษะ ง ๑.๑ ม.๔-๖/๗ ใช้พลังงาน เปน็ ตวั อย่างของแนวทาง
กระบวนการแกป้ ัญหา ทรัพยากรในการทำ�งาน ในการอนรุ ักษท์ รัพยากร
ทกั ษะการท�ำ งานรว่ มกนั อย่างคุม้ ค่าและยั่งยืน ธรรมชาติ และการลดปัญหา
และทกั ษะการแสวงหา เพือ่ การอนรุ ักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม สิง่ แวดล้อมที่เกิดข้ึน เพือ่ ให้
ความรู้ มคี ณุ ธรรม ง ๒.๑ ม.๔-๖/๑ อภิปราย เกิดการใช้ประโยชนท์ ี่ยั่งยนื
และลักษณะนิสยั แนวทางสู่อาชีพท่ีสนใจ • การมที กั ษะตา่ ง ๆ ในการท�ำ งาน
ในการท�ำ งาน จติ ส�ำ นกึ ง ๒.๑ ม.๔-๖/๒ เลือกและใช้ เช่น ทกั ษะการท�ำ งานรว่ มกนั
ในการใช้พลังงาน เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม ทักษะการแสวงหาความรู้

273

ความสัมพันธข์ องหลักสูตรการเรยี นการสอนในแต่ละระดับกับศาสตร์พระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตรพ์ ระราชา
กลมุ่ สาระ/สาระ ระดับช้ัน/มาตรฐาน/ เนอ้ื หาหลกั สูตร/ สาระของศาสตรพ์ ระราชา ในการจัดการเรียนรู้
ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้ ทค่ี วรเพิ่มเตมิ ในสถานศกึ ษา/ในชนั้ เรยี น

ในการจดั การเรียนรู้

ทรัพยากร กบั อาชพี ทักษะการจดั การและทักษะ
และสง่ิ แวดลอ้ ม ง ๒.๑ ม.๔-๖/๓ มปี ระสบการณ์ ในการแก้ปญั หา มีคณุ ธรรม
เพือ่ การด�ำ รงชีวติ ในอาชพี ท่ถี นัด และสนใจ และมลี กั ษณะนสิ ยั ในการท�ำ งาน
และครอบครวั ง ๒.๑ ม.๔-๖/๔ มีคณุ ลกั ษณะ จะทำ�ให้สามารถปฏิบัติงาน
สาระท่ี ๒ ท่ีดีต่ออาชพี ตามบทบาททตี่ อ้ งรบั ผดิ ชอบ
การงานอาชีพ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ง ๒.๑ • ใชท้ กั ษะการจดั การ ทกั ษะ
เขา้ ใจ มที กั ษะทจ่ี �ำ เปน็ กระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะ
มปี ระสบการณ์ ในการแสวงหาความรู้
เหน็ แนวทางในงานอาชพี มีคณุ ธรรมและมีลกั ษณะนิสยั
ใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นา ในการท�ำ งานเพอื่ การด�ำ รงชวี ติ
อาชีพ มีคุณธรรม • การท�ำ งานเพ่อื ใหส้ ามารถ
และมเี จตคติทีด่ ี ด�ำ รงชีวิตอยไู่ ด้ ต้องรจู้ กั ใช้
ตอ่ อาชพี พลงั งาน ทรพั ยากรอยา่ งประหยดั
คุม้ ค่า และอนรุ กั ษ์ส่งิ แวดล้อม
• การรจู้ กั ตนเองทงั้ ดา้ นความรู้
ความสามารถ ทศั นคติ ความสนใจ
ความถนดั และเลอื กใช้
เทคโนโลยี มีความรูแ้ นวโนม้
ดา้ นอาชีพทต่ี ้องการของตลาด
แรงงาน จะเปน็ ข้อมูล
เพือ่ การตดั สนิ ใจเลอื กอาชีพ
• สามารถอภิปรายแนวทาง
สู่อาชีพทีส่ นใจโดยเลอื กใช้
เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม
กับอาชีพ
สาระเพมิ่ เติม ว ๔.๕ ม.๖/๓ สบื คน้ ขอ้ มูล • สารตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ
สาระท่ี ๔ ชวี วิทยา และเขียนแผนภาพเพือ่ อธิบาย มกี ารหมุนเวียนเกิดข้ึน
มาตรฐาน ว ๔.๕ วฏั จกั รไนโตรเจน วฏั จักร ผ่านท้งั ในสง่ิ มชี วี ิต
เข้าใจแนวคดิ เกีย่ วกบั ก�ำ มะถนั และวฏั จกั รฟอสฟอรสั และสงิ่ ไมม่ ชี วี ติ กลบั คนื สรู่ ะบบ
ระบบนเิ วศ กระบวนการ ว ๔.๕ ม.๖/๑๑ วิเคราะห์ อยา่ งเปน็ วัฏจักร เช่น วฏั จักร
ถ่ายทอดพลังงาน อภิปรายและสรุปปัญหาที่เกิด ไนโตรเจน วัฏจกั รกำ�มะถัน
และการหมุนเวียนสาร กบั ทรพั ยากรดนิ และผลกระทบ และวฏั จกั รฟอสฟอรัส
ในระบบนิเวศ ท่ีมีต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม • มลพษิ ทางดนิ และปญั หา
ความหลากหลาย รวมท้ังเสนอแนวทางการแก้ไข ความเส่อื มโทรมของดนิ
ของไบโอม ปญั หา ส่วนใหญม่ ีสาเหตุจาก
การเปลย่ี นแปลง ว ๕.๒ ม.๔/๑๓ ยกตวั อย่าง การกระทำ�ของมนุษย์
แทนทข่ี องส่ิงมชี ีวิต และอธบิ ายสมดุลเคมี • การจดั การทรัพยากรดิน
ในระบบนเิ วศ ประชากร ของกระบวนการท่เี กิดข้นึ เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ควรมี
และรูปแบบการเพม่ิ ในสิ่งมีชวี ิต ปรากฏการณ์ การปอ้ งกนั และการแก้ปัญหา
ของประชากร ในธรรมชาตแิ ละกระบวนการ การเกดิ มลพษิ และความเสอ่ื มโทรม
ทรัพยากรธรรมชาติ ในอตุ สาหกรรม ของดนิ รวมทงั้ การปลกู จติ ส�ำ นกึ
และสง่ิ แวดลอ้ ม ปญั หา ในการใชด้ นิ อยา่ งถูกต้อง
และผลกระทบท่ีเกิด ความร้เู กีย่ วกบั สมดุลเคมี

274

ความสมั พนั ธข์ องหลกั สูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับกับศาสตร์พระราชา แนวทางการสบื สาน
ศาสตร์พระราชา
กลมุ่ สาระ/สาระ ระดับชัน้ /มาตรฐาน/ เน้อื หาหลกั สตู ร/ สาระของศาสตรพ์ ระราชา ในการจัดการเรยี นรู้
ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้ ทค่ี วรเพม่ิ เติม ในสถานศกึ ษา/ในช้ันเรยี น

ในการจัดการเรยี นรู้

จากการใช้ประโยชน์ ว ๕.๒ ม.๔/๑๗ ค�ำ นวณคา่ pH สามารถนำ�มาใชอ้ ธิบาย
สาระที่ ๕ เคมี ความเขม้ ข้นของไฮโดรเนียม- กระบวนการที่เกดิ ขึน้
มาตรฐาน ว ๕.๒ ไอออนหรือไฮดรอกไซดไ์ อออน ในสงิ่ มชี ีวิต ปรากฏการณ์
เขา้ ใจการเขยี น ของสารละลายกรดและเบส ในธรรมชาติและกระบวนการ
และการดลุ สมการเคมี ในอตุ สาหกรรมน้าํ บรสิ ุทธ์ิ
ปรมิ าณสมั พนั ธ์ ท่อี ณุ หภูมิ ๒๕ องศาเซลเซียส
ในปฏิกิริยาเคมี อัตรา แตกตัวใหไ้ ฮโดรเนยี มไอออน
การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี และไฮดรอกไซด์ไอออนที่มี
สมดุลในปฏกิ ริ ิยาเคมี ความเขม้ ขน้ เท่ากนั คือ
สมบตั แิ ละปฏกิ ิริยา ๑.๐ x ๑-๗ โมลต่อลูกบาศก-์
ของกรด-เบส ปฏกิ ริ ยิ า เดซเิ มตร โดยมคี า่ คงที่ การแตกตวั
รดี อกซ์และเซลล์ ของน้าํ เท่ากบั ๑.๐ x ๑๐-๑๔
เคมีไฟฟา้ รวมทั้ง เมอื่ กรดหรือเบสแตกตวั ในนํา้
การนำ�ความรู้ คา่ ความเป็นกรด-เบส
ไปใช้ประโยชน์ ของสารละลายแสดงไดด้ ้วย
คา่ pH ซง่ึ สมั พนั ธก์ บั ความเขม้ ขน้
ของไฮโดรเนยี มไอออน
โดยสารละลายกรดมคี วามเขม้ ขน้
ของไฮโดรเนยี มไอออนมากกวา่
๑.๐ x ๑๐-๗ โมลตอ่ ลกู บาศก์-
เดซเิ มตรหรอื มคี า่ pHนอ้ ยกวา่ ๗
สว่ นสารละลายเบสมคี วามเขม้ ขน้
ของไฮโดรเนยี มไอออนนอ้ ยกวา่
๑.๐ x ๑๐-๗ โมลต่อลูกบาศก์-
เดซเิ มตรหรอื มคี า่ pHมากกวา่ ๗
นํ้าบรสิ ทุ ธท์ิ ่อี ณุ หภูมิ ๒๕
องศาเซลเซียสแตกตัว
ใหไ้ ฮโดรเนียมไอออน
และไฮดรอกไซดไ์ อออน
ทีม่ คี วามเขม้ ข้นเท่ากัน คอื
๑.๐ x ๑-๗ โมลต่อลกู บาศก-์
เดซเิ มตร โดยมคี า่ คงทก่ี ารแตกตวั
ของน้าํ เท่ากับ ๑.๐ x ๑๐-๑๔

275


Click to View FlipBook Version