ควำมหมำยของโทรคมนำคม
• โทรคมนาคมเป็ นการใช้สื่ออปุ กรณ์รับไฟฟ้าต่า
พมิ พ์ เพ่ือการสื่อสารในระยะไกล โดยอุปกรณ์เ
ภาพไปเป็ นสัญญาณไฟฟ้า สัญญาณเหล่านีจ้ ะถ
เมื่อสัญญาณไปถึงจุดปลายทาง อุปกรณ์ด้านผู้ร
เป็ นข้อมูลทส่ี ามารถเข้าใจได้ เช่นเป็ นเสียงทางโ
และภาพบนจอคอมพวิ เตอร์ โทรคมนาคมจะช่ว
ใด ๆ ในโลกในรูปแบบของข่าวสาร ความรู้ และ
(ต่อ)
าง ๆ เช่น วทิ ยุ โทรทศั น์ โทรศัพท์ โทรสาร และโทร
เหล่านีจ้ ะแปลงข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ เช่น เสียงและ
ถูกส่งไปโดยส่ือ เช่น สายโทรศัพท์ หรือคล่ืนวทิ ยุ
รับจะรับและแปลงกลบั สัญญาณไฟฟ้าเหลานีใ้ ห้
โทรศัพท์ หรือภาพบนจอโทรทศั น์ หรือข้อความ
วยให้บุคคลสามารถตดิ ต่อสารกนั ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่
ะความบันเทงิ
ควำมหมำยของโทรคมนำคม
• คาว่า ”Tele” เป็ นรากศัพท์ทม่ี าจากภาษากรีก
• Telecommunications สามารถให้คว
• ”การสื่อสารไปยงั ผ้รู ับปลายทางทีอ่ ย่ไู กลออกไป
(ต่อ)
ก หมายความว่า ”ไกล” หรือ ”อยู่ไกลออกไป”
วามหมายอย่างกว้าง ๆ ตามรูปศัพท์ได้ว่าหมายถึง
ป”
อุปกรณ์โท
• อุปกรณ์คมนาคมเป็ นการใช้ส่ืออุปกรณ์รับไฟฟ้า
โทรสาร และโทรพมิ พ์ เพ่ือการสื่อสารในระยะท
ต่าง ๆ เช่น เสียงและภาพไปเป็ นสัญญาณไฟ สัญ
หรือคลื่นวทิ ยุเมือมีสัญญาณไปถึงจุดปลายทาง
สัญญาณไฟฟ้าเหล่านีใ้ ห้เป็ นข้อมูลทส่ี ามารถเข้า
จอโทรทศั น์ หรือข้อความและภาพบนจอคอมพ
ตดิ ต่อส่ือสารกนั ได้ ไม่ว่าจะอยู่ทใ่ี ด ๆ ในโลกในร
ทรคมนำคม
าต่าง ๆ เช่น คอมพวิ เตอร์ วทิ ยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์
ทางไก โดยอปุ กรณ์เหล่านีจ้ ะแปลงข้อมูลรูปแบบ
ญญาณเหล่านีจ้ ะถูกส่งไปโดยสื่อ เช่น สายโทรศัพท์
อปุ กรณ์ด้านผู้รับจะรับและแปลงกลบั
าใจได้ เช่น เป็ นเสียงทางโทรศัพท์ หรือภาพบน
พวิ เตอร์ โทรคมนาคมจะช่วยให้บุคคลสามารถ
รูปแบบของข่าวสาร ความรู้และความบนั เทิง
ส่วนประกอบของโทรคมนำค
• หมายถงึ ตวั กลางในการส่งสัญญา
แตกต่างกนั ไป ในการพฒั นาระบบ
ควรเลือกให้เหมาะสมตามความต้
คม
าณ มลี กั ษณะข้อดแี ละข้อเสีย
บโทรคมนาคม การเลือกใช้ตัวกลาง
ตองการขององค์กร
ประเภทของข้อมูล
องค์ประกอบของกำรส่ือส
สำรในระบบโทรคมนำคม
องค์ประกอบขัน้ พนื้ ฐำนของ
งกำรส่ือสำรข้อมูล
องค์ประกอบขัน้ พนื้ ฐำนของ
• 1. ผู้ส่ง (Sender) เป็ นอปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการส่งข่าว
หน้าทเี่ ตรียมสร้างข้อมูล เช่น ผู้พดู โทรทศั น์ กล้องว
• 2. ผ้รู ับ (Receiver) เป็ นปลายทางการส่ือสา
โทรทศั น์ เครื่องพมิ พ์ เป็ นต้น
• 3. ส่ือกลาง (Medium) หรือตวั กลาง เป็ นเส
ส่ือส่งข้อมูลอาจเป็ นสายคู่บดิ เกลยี ว สายโคแอกเชียล
เลเซอร์ คล่ืนไมโครเวฟ คลื่นวทิ ยุภาคพืน้ ดนิ หรือคล
งกำรส่ือสำรข้อมูล
วสาร (Message) เป็ นต้นทางของการส่ือสารข้อมูลมี
วดิ โี อ เป็ นต้น
าร มหี น้าทร่ี ับข้อมูลทสี่ ่งมาให้ เช่น ผู้ฟัง เคร่ืองรับ
ส้นทางการสื่อสารเพื่อนาข้อมูลจากต้นทางไปยงั ปลายทาง
ล สายใยแก้วนาแสง หรือคล่ืนท่ีส่งผ่านทางอากาศ เช่น
ลื่นวทิ ยผุ ่านดาวเทยี ม
องค์ประกอบขัน้ พนื้ ฐำนของ
• 4. ข้อมูลข่าวสาร (Message) คือสัญญาณอเิ ลก็ ทรอนิกส
(Information) โดยแบ่งเป็ น 5รูปแบบ ดงั นี้
• 4.1 ข้อความ (Text) ใช้แทนตวั อกั ขระต่าง ๆ ซ่ึงจะแ
• 4.2 ตัวเลข (Number) ใช้แทนตัวเลขต่าง ๆ ซ่ึงตัว
โดยตรง
• 4.3 รูปภาพ (Images) ข้อมูลของรูปภาพจะแทนด
• 4.4 เสียง (Audio) ข้อมูลเสียงจะแตกต่างจากข้อคว
ต่อเน่ืองกนั ไป
• 4.5 วดิ โี อ (Video) ใช้แสดงภาพเคล่ือนไหว ซึ่งเกดิ จ
งกำรส่ือสำรข้อมูล (ต่อ)
ส์ทส่ี ่งผ่านไปในระบบสื่อสาร ซ่ึงอาจถูกเรียกว่า สารสนเทศ
แทนด้วยรหัสต่าง ๆ เช่น รหัสแอสกี เป็ นต้น
วเลขไม่ได้ถูกแทนด้วยรหัสแอสกแี ต่จะถูกแปลงเป็ นเลขฐานสอง
ด้วยจุดสีเรียงกนั ไปตามขนาดของรูปภาพ
วาม ตวั เลข และรูปภาพเพราะข้อมูลเสียงจะเป็ นสัญญาณ
จากการรวมกนั ของรูปภาพหลาย ๆ รูป
องค์ประกอบขัน้ พนื้ ฐำนของ
• 5. โปรโตคอล (Protocol) คือ วธิ ีการหรือ
และผู้ส่งสามารถเข้าใจกนั หรือคุยกนั รู้เร่ือง โด
ล่วงหน้าแล้ว ในคอมพวิ เตอร์โปรโตคอลอยู่ใน
ในการสื่อสารข้อมูลเป็ นไปตามโปรแกรมทกี่ า
HDLC, และ TCP/IP เป็ นต้น
• 6.สัญญาณรบกวน ( Noise ) คือสิ่งทท่ี าใ
งกำรส่ือสำรข้อมูล (ต่อ)
อกฎระเบียบทใ่ี ช้ในการส่ือสารข้อมูลเพอ่ื ให้ผู้รับ
ดยท้งั สองฝั่งท้งั ผู้รับและผู้ส่งได้ตกลงกนั ไว้ก่อน
นส่วนของซอฟต์แวร์ทมี่ หี น้าทท่ี าให้การดาเนินงาน
าหนดไว้ ตวั อย่างเช่น X.25, SDLC,
ให้เกดิ การรบกวน ต่อระบบและข่าวสาร
ประเภทของกำรเช่ือมต่อโทร
รคมนำคม
ข้อมลู สารสนเทศและระบบเ
เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์
ความหมายและชนิดของข้อมูล
ความหมายของขอ้ มูล
ขอ้ มลู คือ ขอ้ เท็จจริงของส่ิงท่ีเราสนใจ ขอ้ เท็จจริงท่ีเป็นต
อยูใ่ นรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ ภาพ เสียง วีดิโอไมว่ า่ จะเป็นคน สตั
ส่ิ งต่าง ๆ ขอ้ มูลเป็ นเร่ื องเก่ียวกับเหตุการณ์ท่ีเกิดข
แมน่ ยา ครบถว้ น ข้ึนอยูก่ บั ผูด้ าเนินการท่ีใหค้ วามสาคญั ขอ
การเก็บขอ้ มูลจึงเป็นการเก็บรวบรวมเก่ียวกบั ขอ้ เท็จจริงของ
ตวั แทนของขอ้ เท็จจริง หรือความเป็นไปของส่ิงของท่ีเราสนใจ
ขอ้ มูลสถิติ หมายถึงขอ้ มูลท่ีเป็นตวั เลขหรื อไมเ่ ป็นตวั เลข
จานวนมากกวา่ และสามารถนามาเปรียบเทียบกนั ได้ และจะ
ตวั เลขก็ได้ แบบเดียวกบั ขอ้ มูล แตต่ อ้ งมีจานวนมาก เพ่ือแสด
ตวั เลข ขอ้ ความ หรือรายละเอียดซ่ึงอาจ
ตว์ ส่ิงของ หรือเหตุการณท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั
ข้ึนอย่างต่อเน่ื อง และต้องถูกต้อง
องความรวดเร็วของการเก็บขอ้ มูล ดงั น้ัน
งส่ิงท่ีเราสนใจน่ันเอง ขอ้ มูลจึงหมายถึง
จ
ขเชน่ เดียวกบั ขอ้ มูล แตข่ อ้ มูลสถิติจะมี
ะแสดงขอ้ เท็จจริงท่ีเป็นตวั เลขหรือไมเ่ ป็น
ดงลกั ษณะของกลุม่
เมอื่ จาแนกตามลกั ษณะของข้อมลู สามารถแ
1. ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data) หมายถึง ขอ้
นอ้ ย แตจ่ ะสามารถบอกไดว้ า่ ดีหรื อไมด่ ี หรื อบอกลกั ษณะความเป็น
คุณภาพสินคา้ ความพึงพอใจ ฯลฯ
2. ขอ้ มลู เชิงปริมาณ (Quantitative Data) หมายถึง
นอ้ ย ซ่ึงสามารถวดั คา่ ออกมาเป็นตวั เลขได้ เชน่ คะแนนสอบ อุณหภูม
แบง่ ออกได้เป็น 2 ชนิดคอื
อมูลท่ีไมส่ ามารถบอกไดว้ า่ มีคา่ มากหรือ
นกลุม่ ของขอ้ มูล เชน่ เพศ ศาสนา สีผม
ขอ้ มูลท่ีสามารถวดั คา่ ไดว้ า่ มีคา่ มากหรือ
มิ สว่ นสูง น้าหนัก ปริมาณตา่ งๆ ฯลฯ
ความหมายของระบบสารสนเทศ?
ระบบสารสนเทศ คือ ระบบของการจดั เก็บ ประมวลผลขอ้ มูล โดยอาศ
ดาเนินการ เพ่ือใหไ้ ดส้ ารสนเทศท่ีเหมาะสมกบั งานหรือภารกิจแตล่ ะอย
ศยั บุคคลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการ
ยา่ ง
ลักษณะท่ดี ขี องระบบสารสนเทศมีอะไรบ
1. เช่ือถือได้ ( Reliable) ความน่าเช่ือถือของสารสนเทศนั้นข้ึน
2. เขา้ ใจงา่ ย ( Simple) สารสนเทศท่ีดีจะตอ้ งไมซ่ บั ซอ้ น
3. ทนั ตอ่ เวลา( Timely) ตอ้ งเป็นสารสนเทศท่ีมีความทนั สมยั อย
4. คุม้ ราคา( Economical) สารสนเทศท่ีดีจะตอ้ งผา่ นกระบวน
5. ตรวจสอบได้ ( verifiable) สารสนเทศท่ีดีจะตอ้ งสามารถต
6. ยืดหยุน่ ( Fiexible) จะตอ้ งสามารถนาสารสนเทศไปใชไ้ ดก้
7. สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ( Relevant) สารสนเทศท่ีดีจะตอ
8. สะดวกในการเขา้ ถึง (Accessible) ระบบสารสนเทศตอ้ งอา
9. ปลอดภยั (Secure) ระบบสารสนเทศตอ้ งมีระบบรักษาความป
บ้าง?
นอยูก่ บั การเก็บรวมรวมขอ้ มูลจาก แหลง่ ท่ีมาท่ีเช่ือถือได้
ยูเ่ สมอ
นการท่ีมีตน้ ทุนนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กบั กาไรท่ีไดจ้ ากการผลิต
ตรวจสอบความถูกตอ้ งได้
กบั บุคคลหลายกลุม่
อ้ งมีความสมั พนั ธก์ บั งานท่ีตอ้ งการวิเคราะห์
านวยความสะดวกใหผ้ ูใ้ ชส้ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลไดง้ า่ ย
ปลอดภยั เพ่ือป้องกนั การเขา้ ถึงขอ้ มูลโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาติ
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
1. ฮารด์ แวร์
ฮารด์ แวรเ์ ป็นองคป์ ระกอบสาคญั ของระบบสารสนเทศ หมายถึง เคร่ือง
ส่ือสารสาหรับเช่ือมโยงคอมพิวเตอรเ์ ขา้ เป็นเครือขา่ ย เชน่ เคร่ืองพิมพ์
สามารถแบง่ เป็น 3 หน่วย คือ
หน่วยรับขอ้ มูล (input unit) ไดแ้ ก่ แผงแป้นอกั ขระ เมาส์
หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit :
หน่วยแสดงผล (output unit) ไดแ้ ก่ จอภาพ เคร่ืองพิมพ์
การทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เม่ือเปรียบเทียบกบั มนุษย์ จะพบวา่ ค
ประสาทสมั ผสั ก็จะสง่ ใหส้ มองในการคิด แลว้ ส่งั ใหม้ ีการโตต้ อบ
งคอมพิวเตอรอ์ ุปกรณร์ อบขา้ ง รวมทง้ั อุปกรณ์
เคร่ ื องกราดตรวจเม่ ื อพิจารณาเคร่ ื องคอมพิวเตอร์
CPU)
คลา้ ยกนั กลา่ วคือ เม่ือมนุษยไ์ ดร้ ับขอ้ มูลจาก
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
2 . ซอฟตแ์ วร์
ซอฟตแ์ วรห์ รือโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ประการ
จะส่งั งานใหฮ้ ารด์ แวรท์ างาน เพ่ือประมวลผลขอ้ มูลใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามคว
ซอฟตแ์ วร์ระบบปฏิบตั ิงาน ซอฟตแ์ วร์ควบคุมระบบงาน ซอฟตแ์ วร์สา
ตา่ งๆ ลกั ษณะการใชง้ านของซอฟตแ์ วรก์ อ่ นหนา้ น้ี ผูใ้ ชจ้ ะตอ้ งติด
ปัจจุบนั ซอฟตแ์ วร์มีลกั ษณะการใชง้ านท่ีงา่ ยข้ึน โดยมีรูปแบบการติด
สว่ นประสานกราฟิกกบั ผูใ้ ชท้ ่ีเรียกวา่ กุย (Graphical User
ซอฟตแ์ วรส์ าเร็จท่ีมีใชใ้ นทอ้ งตลาดทาใหก้ ารใชง้ านคอมพิวเตอรใ์ นระดบั
ลกั ษณะสง่ เสริมการทางานของกลุม่ มากข้ึน สว่ นงานในระดบั องคก์ ร
ความตอ้ งการโดยการวา่ จา้ ง หรือโดยนักคอมพิวเตอรท์ ่ีอยูใ่ นฝ่ายคอมพ
รท่ีสอง ซ่ึงก็คือลาดับขน้ั ตอนของคาส่งั ท่ี
วามตอ้ งการของการใชง้ าน ในปัจจุบนั มี
าเร็จ และซอฟตแ์ วร์ประยุกต์สาหรับงาน
ดตอ่ ใชง้ านโดยใชข้ อ้ ความเป็นหลกั แตใ่ น
ดตอ่ ท่ีส่ือความหมายใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย เชน่ มี
r Interface : GUI) สว่ น
บบุคคลเป็นไปอยา่ งกวา้ งขวาง และเร่ิมมี
รสว่ นใหญม่ กั จะมีการพฒั นาระบบตาม
พิวเตอรข์ ององคก์ ร เป็นตน้
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
3. ขอ้ มลู
ขอ้ มูล เป็นองคป์ ระกอบท่ีสาคญั อีกประการหน่ึงของระบบสารสนเทศ อ
ลม้ เหลวของระบบได้ เน่ืองจากจะตอ้ งมีการเก็บขอ้ มูลจากแหลง่ กาเนิด
กลน่ั กรองและตรวจสอบแลว้ เทา่ นัน้ จึงจะมีประโยชน์ ขอ้ มูลจาเป็นจะต
ใชง้ านในระดบั กลุม่ หรือระดบั องคก์ ร ขอ้ มูลตอ้ งมีโครงสรา้ งในการจดั เก
รวดเร็วมีประสิทธิภาพ
อาจจะเป็นตวั ช้ีความสาเร็จหรือความ
ด ขอ้ มูลจะตอ้ งมีความถูกตอ้ ง มีการ
ตอ้ งมีมาตรฐาน โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงเม่ือ
ก็บท่ีเป็นระบบระเบียบเพ่ือการสืบคน้ ท่ี
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
4. บุคลากร
บุคลากรในระดบั ผูใ้ ช้ ผูบ้ ริหาร ผูพ้ ฒั นาระบบ นักวิเคราะหร์ ะบบ แล
สาคญั ในความสาเร็จของระบบสารสนเทศ บุคลากรมีความรูค้ วามสาม
จะใชง้ านระบบสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ไดเ้ ต็มศกั ยภาพและค
สารสนเทศในระดบั บุคคลซ่ึงเคร่ื องคอมพิวเตอร์มีขีดความสามา
ความสามารถของตนเองและพฒั นาระบบงานไดเ้ องตามความตอ้ งกา
และองคก์ รท่ีมีความซบั ซอ้ นจะตอ้ งใชบ้ ุคลากรในสาขาคอมพิวเตอรโ์ ดย
ละนักเขียนโปรแกรม เป็นองคป์ ระกอบ
มารถทางคอมพิวเตอร์มากเทา่ ใดโอกาสท่ี
คุม้ คา่ ย่ิงมากข้ึนเทา่ นั้น โดยเฉพาะระบบ
ารถมากข้ึน ทาใหผ้ ูใ้ ชม้ ีโอกาสพัฒนา
าร สาหรับระบบสารสนเทศในระดบั กลุม่
ยตรงมาพฒั นาและดูแลระบบงาน
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
5. ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงาน
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงานท่ีชดั เจนของผูใ้ ชห้ รื อของบุคลากรท่ีเก่ียวขอ้ งก
พฒั นาระบบงานแลว้ จาเป็นตอ้ งปฏิบตั ิงานตามลาดบั ขนั้ ตอนในขณะท่ีใ
การปฏิบตั ิของคนและความสมั พนั ธก์ บั เคร่ื อง ทงั้ ในกรณีปกติและกรณ
ขน้ั ตอนการประมวลผล ขน้ั ตอนปฏิบตั ิเม่ือเคร่ื องชารุดหรื อขอ้ มูลสูญ
สารองเพ่ือความปลอดภยั เป็นตน้ ส่ิงเหลา่ น้ีจะตอ้ งมีการซกั ซอ้ ม มีการ
ใชง้ านท่ีชดั เจน
ก็เป็นเร่ื องสาคญั อีกประการหน่ึง เม่ือได้
ใชง้ านก็จาเป็นตอ้ งคานึงถึงลาดบั ขนั้ ตอน
ณีฉุกเฉิน เชน่ ขนั้ ตอนการบนั ทึกขอ้ มูล
ญหาย และขนั้ ตอนการทาสาเนาขอ้ มูล
รเตรียมการ และการทาเอกสารคูม่ ือการ
ความหมายของระบบเครือข่าย
ระบบเครือข่าย คือ ระบบท่ีมีการนาคอมพิวเตอรอ์ ย่างนอ้ ยสอง
การสื่อสารขอ้ มูลถึงกนั ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงทาใหผ้ ูใ้ ชค้
ขอ้ มูลซ่ึงกนั และกนั ได้ นอกจากน้ียงั สามารถใชท้ รพั ยากรร่วม
printer,harddisk,CDROM,Scannerเป็ นตน้
- ระบบเครือข่าย ท่ีเป็ นที่นิยมเช่ือมต่อในระยะใกล้ ไดแ้ ก่ ระบบ
- ระบบเครือข่าย ที่เป็ นท่ีนิยมเช่ือมต่อระยะไกล ไดแ้ ก่ ระบบแว
งเคร่ืองมาเช่ือมต่อกนั โดยใชส้ ่ือกลาง เพ่ือใชใ้ น
คอมพิวเตอรแ์ ต่ละเครื่องสามารถใชแ้ ลกเปลี่ยน
มกนั ทาใหป้ ระหยดั ทรพั ยากรในการใชง้ าน เช่น
บแลน (LAN:Local Area Network)
วน (WAN : Wide Area Network)
รูปแบบการเช่ือมต่อเครือข่าย ( Topol
รูปแบบการเช่ือมตอ่ เครือขา่ ยหรือมกั เรียกสนั้ ๆ วา่ โทโ
การเช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรท์ างกายภาพวา่ มีรูปแบบหนา้ ตาอยา่
ไดแ้ ละดว้ ยเทคโนโลยีเครื อขา่ ยทอ้ งถ่ินจะมีรูปแบบของโทโพ
เป็นส่ิงสาคญั ท่ีจะตอ้ งเรียนรูแ้ ละทาความเขา้ ใจแตล่ ะโทโพโล
กนั อยา่ งไร รวมถึงขอ้ ดีและขอ้ เสียของแตล่ ะโทโพโลยี และ
เครือขา่ ยทอ้ งถ่ินจะมีอยู่ 3 ชนิดดว้ ยกนั คือ
1. โทโพโลยีแบบบสั
2. โทโพโลยีแบบดาว
3. โทโพโลยีแบบวงแหวน
logies )
โพโลยี เป็นลกั ษณะทว่ั ไปท่ีกลา่ วถึง
างไร เพ่ือใหส้ ามารถส่ือสารร่วมกนั
พโลยีหลายแบบดว้ ยกนั ดงั นั้น จึง
ลยีวา่ มีความคลา้ ยคลึง หรือแตกตา่ ง
ะโดยปกติโทโพโลยีท่ีนิยมใชก้ นั บน