ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 25 ประการที่ÿĂง การÿŠงเÿริมใĀšภาครัฐดำเนินนโยบายระĀüŠางประเทýเพื่Ăÿนับÿนุน คüามรŠüมมืĂระĀüŠางประเทýใĀšมากยิ่งขึ้น ĂันจะชŠüยÿŠงเÿริมใĀšมีการจัดตั้งÿĀภาพแรงงาน ขšามชาติ คุšมครĂงแรงงานตŠางชาติที่เขšามาทำงานในประเทýไทย และคุšมครĂงแรงงานไทย ที่ประกĂบĂาชีพĂยูŠในตŠางประเทýใĀšไดšรับคüามคุšมครĂงเทียบเทŠากับคนในประเทýนั้น ๆ 6. บทÿรุป เนื่Ăงดšüยÿภาพÿังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามแตŠละยุคÿมัย ทำใĀšกฎĀมายตŠาง ๆ ยŠĂมตšĂง มีการเปลี่ยนแปลงเพื่ĂตĂบรับตŠĂคüามเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะĂยŠางยิ่งดšานแรงงาน ÿัมพันธŤดังนั้นการนำกลไกการเจรจาทางÿังคมที่ÿĂดคลšĂงกับการเปลี่ยนแปลงĂยŠางรüดเร็ü และไมŠĀยุดนิ่งขĂงÿภาพÿังคมในปŦจจุบันมากที่ÿุดĂยŠางกลไกการเจรจาทางÿังคมระบบพĀุภาคี มาใชš จะÿามารถแกšไขปŦญĀาแรงงานÿัมพันธŤไดšĂยŠางครĂบคลุม ÿĂดรับทุกคüามตšĂงการ และÿมผลประโยชนŤขĂงผูšแทนเจรจาจากทุกฝśาย กŠĂใĀšเกิดทางĂĂกขĂงปŦญĀาที่นำมาÿูŠ คüามยั่งยืนขĂงนโยบายทางÿังคม ระบบเýรþฐกิจ และÿิทธิแรงงานÿัมพันธŤ ดšüยเĀตุนี้ทีมผูšเขียน จึงตšĂงการนำเÿนĂการเจรจาทางÿังคมระบบพĀุภาคีนี้ขึ้น เพื่ĂĀüังüŠา ĂนาคตขĂงแรงงาน ÿัมพันธŤประเทýไทยจะไดšรับการยกระดับ กšาüทัน และกšาüไปไดšไกลทัดเทียมกับÿิทธิแรงงาน ÿัมพันธŤนานาประเทý
02 บทความที่
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 27 ผูšไรšที่พึ่งในที่ÿาธารณะ และคüามทšาทายในการบังคับใชšพระราชบัญญัติการ คุšมครองคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 แพรüา มุŠงĀมายกิจการ1 1. คüามนำ ÿังคมมนุþยŤคืĂÿังคมแĀŠงคüามไมŠเทŠาเทียม แตŠละปŦจเจกบุคคลมีคüามแตกตŠางกันใน ÿถานะทางÿังคม คüามแตกตŠางนั้นĂาจมาจาก เผŠาพันธุŤ เชื้Ăชาติ เพý ÿีผิü ĀรืĂแมšกระทั่ง ทรัพยŤÿินที่ถืĂครĂง แตŠทั้งĀมดทั้งมüลนี้ยŠĂมเปŨนภาพÿะทšĂนขĂงคüามไมŠเทŠาเทียมที่มีรากมาจาก ขšĂเท็จจริง และคüามไมŠเทŠาเทียมนี้เĂงที่ĂาจผลักคนĂĂกไปจากÿังคมเนื่ĂงจากไมŠไดšรับ การชŠüยเĀลืĂเยียüยาจากรัฐ โดยเฉพาะĂยŠางยิ่งเมื่ĂกลุŠมคนเชŠนüŠานั้นเปŨนบุคคลที่ประÿบปŦญĀา การใชšชีüิตในÿังคม ไมŠมีคüามมั่นคงในชีüิต และไมŠĂาจชŠüยเĀลืĂตนเĂงไดš เปŨนกลุŠมคนไรšที่พึ่ง ที่ตšĂงการจะไดšรับÿิทธิขั้นพื้นฐานและพื้นที่ภายในÿังคม รัฐธรรมนูญแĀŠงราชĂาณาจักรไทยไดšรับรĂงÿิทธิขĂงปüงชนĂันเปŨนรากฐานขĂงýักดิ์ýรี คüามเปŨนมนุþยŤในมาตรา 4 ที่จะไมŠถูกเลืĂกปฏิบัติและÿิทธิ เÿรีภาพ และคüามเÿมĂภาคขĂง บุคคลยŠĂมไดšรับคüามคุšมครĂงตามรัฐธรรมนูญเÿมĂกัน ทั้งĀลักนี้ยังเปŨนĀลักการขĂงกฎĀมาย ธรรมชาติ (Natural Law) ที่ถืĂüŠาýักดิ์ýรีคüามเปŨนมนุþยŤเปŨนÿิทธิตามธรรมชาติ รัฐĀรืĂบุคคล Ăื่นใดไมŠÿามารถละเมิดĀรืĂกระทำการใด ๆ ĂันเปŨนปฏิปŦกþŤตŠĂÿิทธิดังกลŠาüไดš เชŠนเดียüกัน กรณี การคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง เนื่ĂงจากไมŠüŠาคนเĀลŠานี้จะĂยูŠในÿถานะใดในĀลังคาที่มีชื่ĂüŠาÿังคม พüกเขายŠĂมตšĂงไดšรับการปฏิบัติĂยŠางเทŠาเทียมเชŠนเดียüกันกับผูšĂื่น เพราะคนไรšที่พึ่ง คืĂ บุคคล ที่มีýักดิ์ýรีในฐานะมนุþยŤ มีÿิทธิในทางธรรมชาติและมีÿิทธิในทางกฎĀมายทุกประการ เพื่ĂใĀš จะใĀšคüามคุšมครĂงครĂงเปŨนการเฉพาะ เĀตุนี้เĂงจึงทำใĀšพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ถูกยกรŠางขึ้น เพื่Ăที่คนไรšที่พึ่งจะไดšมีปŦจจัยในการดำรงชีüิตĂยŠางปกติÿุขดังเชŠนคน ทั่üไปซึ่งÿĂดคลšĂงกับĀลักÿิทธิมนุþยชนในÿากลโลก ถึงกระนั้น พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ĂันเปŨนĀลักประกันÿิทธิ ขั้นพื้นฐานใĀšแกŠคนไรšที่พึ่งนี้เĂง มีประเด็นที่ชüนใĀšขบคิดเกี่ยüกับรัฐÿüัÿดิการที่ĂĂกม าเพื่Ă 1 นิÿิตชั้นปŘที่ 2 คณะนิติýาÿตรŤ จุāาลงกรณŤมĀาüิทยาลัย * ขĂขĂบคุณในคüามĂนุเคราะĀŤขĂงĂาจารยŤ ดร. พัชรŤ นิยมýิลป ผูšซึ่งใĀšคำแนะนำในการเขียนบทคüามฉบับนี้โดยเÿมĂมา
28 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ÿนับÿนุนกลุŠมคนผูšดšĂยโĂกาÿ และมีประเด็นใĀšชüนคิดในดšานขĂงคüามทšาทายในการบังคับใชš พระราชบัญญัตินี้ĂยูŠมาก โดยเฉพาะĂยŠางยิ่งในประเด็นขĂงคนไรšที่พึ่งที่ไมŠมีที่ĂยูŠĂาýัย ซึ่งปŦญĀา ทั้งĀมดภายในพระราชบัญญัติยŠĂมเปŨนประเด็นเชิงเนื้ĂĀาÿาระขĂงกฎĀมายที่จะมีผลกระทบตŠĂ กลุŠมคนไรšที่พึ่งĂยŠางĀลีกเลี่ยงมิไดš การทำคüามเขšาใจพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 จึงเปŨนเรื่Ăงที่มิคüรมĂงขšาม และÿมคüรไดšรับการพิจารณาĂยŠางถี่ถšüนĂีกครั้งĀนึ่ง ดšüยเĀตุที่คนไรšที่พึ่งคืĂÿŠüนĀนึ่งขĂงÿังคมที่มีÿิทธิและýักดิ์ýรีเทียมกันกับบุคคลทั่üไป ทุกประการนี้เĂง ĀัüใจĀลักจึงเปŨนการทำคüามเขšาใจüŠาการเปŨนคนไรšที่พึ่งมีที่มาจากĀลายเĀตุ ปŦจจัย และแÿüงĀามาตรการในการชŠüยเĀลืĂใĀšคนไรšที่พึ่งไดšรับÿüัÿดิการĂยŠางถšüนทั่ü มิใชŠการ เขšาไปละเมิดÿิทธิ ĀรืĂผลักดันคนกลุŠมนี้ĂĂกจากพื้นที่ÿาธารณะโดยไมŠไดšรับคüามยินยĂมที่ ถูกตšĂงดังที่เĀ็นไดšในบางบทบัญญัติขĂงพระราชบัญญัติดังกลŠาü บทคüามนี้จึงตšĂงขยายกรĂบ คüามเขšาใจในนิยามขĂงคนไรšที่พึ่งในเบื้Ăงแรก ตามดšüยมูลเĀตุขĂงการเกิดคนไรšที่พึ่งĂันเปŨนที่มา ขĂงการใชšชีüิตในที่ÿาธารณะ พรšĂมทั้งเพื่ĂใĀšทราบถึงเจตนารมณŤและÿาระÿำคัญขĂง พระราชบัญญัติดังกลŠาü และÿื่Ăถึงประเด็นปŦญĀาที่เกิดในทางปฏิบัติจากการบังคับ พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ในÿังคมĂันเปŨนพลüัต และเพื่ĂทำใĀšไดšเĀ็น ภาพจากการĂŠานบทคüามนี้มากยิ่งขึ้น จึงจะยกýึกþากรณีตัüĂยŠางทางÿังคมจากÿถานการณŤ ตŠาง ๆ ขึ้นมา เพราะคุณคŠาขĂงคนมิไดšüัดจากทรัพยŤÿินĀรืĂรูปลักþณŤภายนĂก มนุþยŤทุกผูšทุกเĀลŠาจึง มีคุณคŠาแลýักดิ์ýรีเทียบเทียมกัน การตระĀนักรูšถึงคุณคŠาขĂงผูšคนที่มีลักþณะทางกายภาพ จิตใจ และÿถานะที่ĂยูŠในภาüะไรšที่พึ่ง จึงเปŨนการกระทำเล็ก ๆ ที่จะตกกระทบเปŨนคลื่นüงกüšาง เพื่ĂใĀš คนไรšที่พึ่งไดšรับการคุšมครĂงและเĀมาะÿมในฐานะพลเมืĂงขĂงประเทýตŠĂไป จึงĀüังเปŨนĂยŠางยิ่งüŠาบทคüามนี้จะจุดประกายใĀšคนไรšที่พึ่งไดšรับคüามÿำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่Ăงจากคนไรšที่พึ่งยŠĂมเปŨนบุคคลที่ÿมคüรไดšรับÿüัÿดิการทางÿังคมเทียมกันกับบุคคลทุกคน และมีýักดิ์ýรี มีคุณคŠา มีÿิทธิที่ทุกคนตšĂงเคารพในฐานะเพื่ĂนมนุþยŤดšüยกัน อันýักดิ์ýรีคือคุณคŠาของมนุþยŤ เกียรติÿูงÿุดพึงเคารพมิĀüั่นไĀü แมšนในÿรüงĀรือใตšĀลšาจะที่ใด จงÿลักไüšüŠามนุþยŤนั้นเทียมกัน
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 29 2. คำนิยามของคนไรšที่พึ่งในประเทýไทย : คนไรšที่พึ่งคือใคร เพื่ĂüางกรĂบคüามเขšาใจในเบื้Ăงตšน คำüŠาคนไรšที่พึ่งนั้นมีการใĀšคüามĀมายที่แตกตŠาง กันไปกันตามบริบทขĂงÿังคม Ăนึ่ง ÿังเกตไดšüŠาแมšพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 จะไดšมีการใĀšคำนิยามคนไรšที่พึ่งไüšแลšü แตŠในทางปฏิบัติĀนŠüยงานขĂงภาครัฐเĂกชน และĂงคŤกรตŠาง ๆ ĂาจจะมีการใĀšคำนิยามคนไรšที่พึ่งที่แตกตŠางกันตามÿภาพÿังคม มิพักตšĂงพูด ถึงตŠางประเทýที่มีบริบทแตกตŠางจากประเทýไทย การใĀšคüามĀมายขĂงคำดังกลŠาüยŠĂมมีคüาม แตกตŠางกันĂยŠางมีนัยÿำคัญซึ่งจะÿŠงผลนโยบายตŠาง ๆ ที่ĂĂกมาชŠüยเĀลืĂดังที่จะไดšกลŠาüตŠĂไป ดังนี้ 2.1 การใĀšคำนิยามคนไรšที่พึ่งในประเทýไทย ÿำĀรับประเทýไทย ในเบื้Ăงแรกนั้น ไมŠพบüŠาไดšมีการใĀšคüามĀมายคำüŠาคนไรšที่พึ่งไüš Ăีกทั้งในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยÿถาน พ.ý. 2554 เĂง ก็มิไดšบัญญัติคüามĀมายขĂงคำüŠา คนไรšที่พึ่งเชŠนกัน จึงมีเพียงพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งพ.ý. 2557 เทŠานั้นที่ไดšใĀš คüามĀมายขĂงคำüŠาคนไรšที่พึ่ง โดยคüามĀมายดังกลŠาüเปŨนคüามĀมายกüšางที่ครĂบคลุมกลุŠมคน ĀลายกลุŠมไüšดšüยกัน ดังนี้ พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 3 ไดšกำĀนดคำนิยามขĂงคน ที่พึ่งไüšüŠา บุคคลซึ่งไรšที่ĂยูŠĂาýัยและไมŠมีรายไดšเพียงพĂแกŠการยังชีพ และใĀšรüมถึงบุคคลที่ĂยูŠใน ÿภาüะยากลำบากและไมŠĂาจพึ่งพาบุคคลĂื่นไดš ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการประกาýกำĀนด2 ตŠĂประเด็นดังกลŠาü คำüŠาคนไรšที่พึ่งยังĂาจĀมายคüามรüมไปถึงคนที่ขาดĀลักประกัน ĂยŠางใดĂยŠางĀนึ่งในการใชšชีüิต คนที่ĂยูŠในระยะที่ไมŠĂาจชŠüยเĀลืĂตนเĂงไดš ĀรืĂคนที่เขšาไมŠถึง ÿüัÿดิการจากภาครัฐ3 Ăีกดšüย โดยตามประกาýขĂงคณะกรรมการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งไดšกำĀนด เพิ่มเติมถึงบุคคลที่ĂยูŠในÿภาüะยากลำบากและไมŠĂยากพึ่งพาบุคคลĂื่นไüš 5 ประเภทดšüยกัน ดังนี้ (1) บุคคลที่ประÿบคüามเดืĂดรšĂน Āมายถึง บุคคลÿัญชาติไทยที่มีคüามยากลำบากใน การดำรงชีพ เนื่ĂงจากเĀตุĀัüĀนšาครĂบครัüĀรืĂบุคคลที่เปŨนĀลักในครĂบครัü 2 พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 3 3 พีระ ตั้งธรรมรักþŤ และคณะ. การพัฒนาตัüชี้üัดคüามเปราะบางในการเขšาÿูŠภาüะไรšบšาน และตัüชี้üัดคüามพรšĂมในการตั้งĀลัก ชีüิตเพื่ĂกลับคืนÿูŠÿังคมขĂงคนไรšบšาน. ÿำนักงานกĂงทุนÿนับÿนุนการÿรšางเÿริมÿุขภาพ. 2561. Āนšา 2-10.
30 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ (ก) ตาย (ข) ทĂดทิ้งÿาบÿูญĀรืĂตšĂงโทþจําคุก (ค) ประÿบĂุบัติเĀตุĀรืĂเจ็บปśüยรšายแรงจนไมŠÿามารถประกĂบĂาชีพไดš (ง) ไมŠÿามารถดูแลครĂบครัüไดšดšüยเĀตุĂื่นใด (2) คนเรŠรŠĂน Āมายถึง บุคคลÿัญชาติไทยที่ĂĂกมาจากที่พักĂาýัยเดิม ไมŠüŠาดšüยเĀตุ ใด ๆ ก็ตาม มาĂยูŠในที่ÿาธารณะ ĀรืĂบุคคลที่ĂĂกมาจากที่พักĂาýัยเดิมมาตั้งครĂบครัüĀรืĂมา ใชšชีüิต แบบครĂบครัüใĀมŠในที่ÿาธารณะ และทั้งÿĂงกลุŠมĂาจจะยšายที่พักไปเรื่Ăย ๆ ĀรืĂĂาýัย ĂยูŠที่ใดที่Āนึ่ง ในชŠüงระยะเüลาĀนึ่งเพื่Ăดำรงชีüิตประจำüันในที่ÿาธารณะนั้น ๆ (3) บุคคลซึ่งĂาýัยที่ÿาธารณะเปŨนที่พักนĂนชั่üคราü Āมายถึง บุคคลÿัญชาติไทยที่มาทำ ภารกิจบางĂยŠางและไมŠมีที่พักĂาýัย ไมŠมีเงินเชŠาที่พัก (4) บุคคลที่มีÿถานะทางทะเบียนราþฎรแตŠยังไรšÿัญชาติ Āมายถึง บุคคลที่ถูกบันทึก ทางทะเบียนราþฎรขĂงรัฐใดรัฐĀนึ่ง แตŠมิไดšรับการรับรĂงในÿถานะคนÿัญชาติโดยรัฐนั้นĀรืĂ รัฐĂื่นใด ที่ประÿบปŦญĀาการดำรงชีพ (5) บุคคลไมŠมีÿถานะทางทะเบียนราþฎร Āมายถึง คนไรšรัฐซึ่งĂาจจะเปŨนคนที่เกิด ในประเทýไทยĀรืĂนĂกประเทýไทยก็ไดš แตŠมีเĀตุทำใĀšไมŠมีÿถานะทางทะเบียนราþฎร ทั้งขĂง ประเทýตšนทาง และขĂงประเทýไทยที่ประÿบปŦญĀาการดำรงชีพ4 จึงจะเĀ็นไดšüŠา การใĀšคำนิยามคนไรšที่พึ่งในประเทýไทยแบŠงĂĂกเปŨนทั้งĀมด 5 กลุŠม ดšüยกันตามพระราชบัญญัติดังกลŠาü โดยทั้งĀมดเปŨนบุคคลที่ไรšที่พึ่งพิง และมีคüามยากลำบากใน การดำเนินชีüิต ĂาทิคนเรŠรŠĂน และคนไรšที่ĂยูŠĂาýัย คำกำจัดคüามดังกลŠาüจึงเปŨนเปŨนภาพใĀญŠที่ ครĂบคลุมประเภทขĂงคนไรšที่พึ่งทั้งĀมดไüšดšüยกัน ÿŠüนในทางปฏิบัติแลšü พบüŠา โดยมากผูšไรšที่พึ่งจะมีนิยามคüามĀมายรüมกับคำüŠาผูšใชš ชีüิตในที่ÿาธารณะ ĀรืĂคนเรŠรŠĂน กลŠาüคืĂ ĀากĀนŠüยงานรัฐและเĂกชนจัดÿรรนโยบายใดใĀš มักจะกลŠาüรüมกันไปในทางเดียüüŠา นโยบายเพื่Ăคนไรšที่ĂยูŠĂาýัย และมิติในทางประüัติýาÿตรŤ คำüŠา ‘คนไรšที่พึ่ง’ เปŨนคำที่ไดšใชšมาไมŠนานนักเทŠากับคำüŠา ‘คนไรšบšาน’ ĀรืĂ ‘คนเรŠรŠĂน’ ในทาง 4 ประกาýคณะกรรมการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง เรื่Ăง กำĀนดประเภทĀรืĂลักþณะขĂงบุคคลที่ĂยูŠÿภาüะยากลำบากและไมŠĂาจพึ่งพา บุคคลĂื่นไดš พ.ý. 2559.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 31 ขšĂเท็จจริง ดังนี้ จึงนำการใĀšคüามĀมายขĂงคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยและคนเรŠรŠĂนในทางปฏิบัติเขšามา พิจารณาเพิ่มเติมเพื่ĂขยายคüามกüšางขüางในการรูšจักตัüตนขĂงคนไรšที่พึ่ง พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยÿถาน พ.ý. 25545 ใĀšคüามĀมายคนเรŠรŠĂน ไüš คืĂ ‘ไปไมŠ เปŨนตำแĀนŠงแĀŠงที่’ และ ‘ที่ĂยูŠไมŠเปŨนตำแĀนŠงแĀŠงที่’ ซึ่งคำจำกัดคüามนี้ÿื่ĂถึงüิถีชีüิตขĂง คนไรšที่พึ่งโดยตรงในคüามเปŨนจริงüŠาไมŠมีĀลักแĀลŠงในการใชšชีüิต เรŠรŠĂนไปเรื่Ăย ๆ โดยไรšซึ่ง ที่พักพิงที่เĀมาะÿม ÿŠüนคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยนั้น ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยÿถาน พ.ý. 2554 มิไดšระบุคำ นิยามใด ๆ ไüšเชŠนเดียüกันกับกรณีขĂงคำüŠาคนไรšที่พึ่ง ĀากแตŠเมื่ĂไดšĂšางĂิงตามคüามคิดทฤþฎี ทางทางมานุþüิทยา จะพบüŠา การไรšบšาน Āมายถึง ÿภาพขĂงคนที่ไรšที่ĂยูŠ ĀรืĂผูšที่ไมŠÿามารถĀา ที่ĂยูŠเปŨนขĂงตัüเĂงไดš ซึ่งÿาเĀตุĂาจจะมาจากĀลายปŦจจัย เชŠน การถูกทĂดทิ้ง การĀนีĂĂกจาก บšาน การไรšที่พึ่ง คüามยากจน ผูšที่ไรšที่ĂยูŠĂาýัยจึงรŠĂนเรŠพเนจรไปตามที่ตŠางๆ ไมŠมีĂาชีพ ไมŠมีรายไดšที่แนŠนĂน โดยรูปแบบขĂงการไมŠมีที่ĂยูŠĂาýัย Ăาจมี 2 ลักþณะ คืĂ การĂยูŠĂาýัยตาม ทšĂงถนน และการĂาýัยĂยูŠในแĀลŠงเÿื่ĂมโทรมในยŠานĂุตÿาĀกรรม6 ÿังเกตไดšüŠา จากทั้งÿĂงคำนิยามขĂงคนเรŠรŠĂน และ คนไรšบšานมีการใĀšคำจำกัดคüามไüš ĂยŠางใกลšเคียงกันมาก คืĂ เปŨนคนที่ไรšที่พึ่งพิงในชีüิต ไมŠมีที่พัก ขาดรายไดš และüิถีชีüิตที่พเนจรไป เรื่Ăย ๆ ไมŠมีĀลักแĀลŠง โดยÿรุป ปŦจจุบันในประเทýไทยมิไดšมีการใĀšคüามĀมายขĂงคำüŠา ‘คนไรšที่พึ่ง’ ไüšเปŨน การเฉพาะ เüšนแตŠพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ที่ไดšใĀšคำจำกัดคüามไüšทั้ง 5 ประเภทดšüยกัน ทำใĀšเĀ็นไดšüŠา คนไรšที่พึ่งมีทั้งĀมด 5 ประเภทในคüามĀมายĂยŠางกüšาง ไดšแกŠ คนที่ประÿบคüามเดืĂดรšĂน คนเรŠรŠĂน บุคคลที่Ăาýัยในที่ÿาธารณะ บุคคลที่มีÿถานะทาง ทะเบียนราþฎรแตŠยังไรšÿัญชาติและบุคคลไมŠมีÿถานะทางทะเบียนราþฎร 2.3 การใĀšคำนิยามคนไรšที่พึ่งในตŠางประเทý จากการýึกþาเบื้Ăงตšน คำüŠา ‘คนไรšที่พึ่ง’ ĀรืĂ Helpless person มิใชŠคำที่นิยมใชšใน ตŠางประเทýมากนัก จึงทำใĀšคำüŠาคนไรšที่พึ่งในตŠางประเทýไมŠมีคำนิยามĂยŠางชัดแจšงเĀมืĂนกับที่ 5 พจนานุกรมฉบับลŠาÿุดขĂงราชบัณฑิตยÿถานที่มีการเผยแพรŠและใชšงานĂยูŠในปŦจจุบัน (พ.ý. 2554) 6 ýูนยŤมานุþยüิทยาÿิรินธร. ฐานขšĂมูลคำýัพทŤทางมานุþยüิทยา [ĂĂนไลนŤ]. แĀลŠงที่มา https://www.sac.or.th/databases/anthropology-concepts/glossary/66
32 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ประเทýไทยไดšใĀšไüšในพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ในทางกลับกัน คำüŠา ‘Homeless’ กลับเปŨนที่รูšจักมากกüŠา โดยนัยนี้ คำüŠา Homeless ที่แปลüŠาคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยนี้เĂง เปŨนประเภทขĂงคนไรšที่พึ่งที่ถูกครĂบคลุมภายใตšคำนิยามขĂงพระราชบัญญัติการคุšมครĂง คนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ดšüย ดังนั้น จึงนำการใĀšคüามĀมายขĂงคำüŠา Homeless ขĂงแตŠละ ประเทýมาไดšดังนี้ ประเทý คำนิยาม Homeless ฟŗนแลนดŤ คนไรšบšาน คืĂ บุคคลที่ĂาýัยĂยูŠในÿถานที่กลางแจšง ที่พักพิงชั่üคราü และÿถานที่พักพิงตŠางๆ ที่มีไüšเพื่ĂชŠüยเĀลืĂบุคคลผูšขาดแคลนที่ĂยูŠ Ăาýัย ทั้งในที่ĂยูŠ Ăาýัยชั่üคราü ÿถานพยาบาล โรงพยาบาลจิตเüช รüมไปถึงบุคคลผูšไดšรับการปลŠĂยตัüจากเรืĂนจากที่ไรšที่พักพิง และ บุคคลที่มาพักĂาýัยชั่üคราüกับบุคคลที่รูšจักและเĀลŠาญาติมิตร7 นิüซีแลนดŤ ภาüะไรšบšาน คืĂ ภาüะการดำเนินชีüิตขĂงบุคคลที่ไรšซึ่งทางเลืĂกใน การพักĂาýัย ซึ่งไดšแกŠ บุคคลที่ไรšบšาน ไรšÿถานที่พักพิง พักĂาýัยในที่พัก ชั่üคราü ที่พักที่ใชš รŠüมกับผูšĂื่น ĀรืĂพักĂาýัยĂยูŠในÿถานที่ที่ซึ่งไมŠ ÿามารถĂาýัยĂยูŠไดš8 เยĂรมนี บุคคลผูšที่ไมŠไดšมีÿิทธิตามกฎĀมายในการครĂบครĂงที่พักĂาýัย ไมŠüŠาจะเปŨนผูšเชŠาĀรืĂมีกรรมÿิทธิ์ĀรืĂไดšรับĂนุญาตใĀšครĂบครĂงที่ĂยูŠ Ăาýัยจากบุคคลผูšซึ่งเปŨนเจšาขĂง9 ÿĀราชĂาณาจักร Department of Communities and Local Government ขĂงÿĀราชĂาณาจักร ไดšใĀšนิยามขĂงคนไรšบšานüŠา มิใชŠเพียงแตŠเปŨนผูšที่ ĂาýัยĀลับนĂนในพื้นที่ÿาธารณะĀรืĂÿถานพักพิงเปŨนเüลาตŠĂเนื่Ăง 7 OCED. (2017). OECD - Social Policy Division - Directorate of Employment, Labour and Social Affairs. OCES Policy Briefs on Affordable Housing. Ăšางใน พีระ ตั้งธรรมรักþŤ และคณะ. การพัฒนาตัüชี้üัดคüามเปราะบางในการเขšาÿูŠ ภาüะไรšบšาน และตัüชี้üัดคüามพรšĂมในการตั้งĀลักชีüิตเพื่ĂกลับคืนÿูŠÿังคมขĂงคนไรšบšาน. ÿำนักงานกĂงทุนÿนับÿนุนการÿรšาง เÿริมÿุขภาพ. 2561. Āนšา 2-4. 8 เรื่Ăงเดียüกัน 9 เรื่Ăงเดียüกัน, Āนšา 11
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 33 28 üันเทŠานั้น แตŠรüมถึงกลุŠมที่มีคüามเÿี่ยงÿูงในการกลายเปŨนคนไรšบšาน ดšüย ĂันไดšแกŠ กลุŠมผูšเชŠาที่ถูกไลŠที่ เปŨนเจšาขĂงบšานที่กำลังจะถูกยึดโดย เจšาĀนี้ ĀรืĂ กรณีมีบšานแตŠĂยูŠไมŠไดšเĂงยŠĂมจัดเปŨนคนไรšบšานดšüย รüมทั้ง ÿถานที่พักชั่üคราü เชŠน hostel และĂาýัยĂยูŠกับเพื่Ăน ÿĀราชĂาณาจักรนับเปŨนคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยเชŠนเดียüกัน10 ÿเปน คนไรšบšานĀมายถึง บุคคลที่พักĂาýัยในพื้นที่ÿาธารณะ ĀรืĂÿถานที่พัก พิงฉุกเฉินทั้งภายใตšการดูแลขĂงĂงคŤกรÿŠüนทšĂงถิ่นĀรืĂĂงคŤกร ไมŠแÿüงĀาผลกำไร (NGO) ทั้งในระยะÿั้นและระยะยาü บุคคลผูšĂาýัย ในที่พักพิงÿำĀรับผูšเปŨนเĀยื่Ăดšานคüามรุนแรง ýูนยŤÿำĀรับผูšลี้ภัย ĀรืĂผูšĂพยพ บุคคลผูšใชšชีüิตĂยูŠĂาýัยในĂาคารที่ไมŠเĀมาะÿมÿำĀรับ การดำเนินชีüิตตามปกติขĂงมนุþยŤ บุคคลที่ĂยูŠĂาýัยในĀšĂงพักชั่üคราü ĀรืĂÿถานที่ที่ตนไมŠมีกรรมÿิทธิ์11 จากคำนิยามคนไรšบšานตามตารางขšางตšน จะเĀ็นไดšüŠา คำจำกัดคüามขĂงคนไรšพึ่งขĂง แตŠละประเทýจะกüšางĀรืĂแคบนั้น ขึ้นĂยูŠกับÿภาพÿังคมขĂงแตŠละประเทý การที่ยกคำนิยาม ขĂงคนไรšที่พึ่งเขšามาýึกþานี้เĂง จึงจะชŠüยยกระดับคüามเขšาใจในคüามĀมายขĂงคนไรšบšานใน มุมมĂงที่ĀลากĀลายมากขึ้น 3. ÿาเĀตุของการเกิดภาüะไรšที่พึ่งในประเทýไทย : คüามไมŠเทŠาเทียมของÿังคม ประเทýไทยมีปŦญĀาคนไรšที่พึ่งมาĂยŠางยาüนาน แตŠมูลเĀตุขĂงคüามไรšที่พึ่งนั้นคืĂĂะไร ยังคงเปŨนคำถามที่ÿำคัญ จากÿถิติกระทรüงพัฒนาÿังคมและคüามมั่นคงขĂงมนุþยŤในปŘ พ.ý. 2558 พบคนเรŠรŠĂนทั้งÿิ้น 3360 คนในกรุงเทพมĀานคร และถัดมาในปŘพ.ý. 2559 ÿำนักงานกĂงทุนÿนับÿนุนการÿรšางเÿริมÿุขภาพไดšทำการÿำรüจจำนüนคนไรšบšาน 10 Ăนรรฆ พิทักþŤธานิน. คนไรšบšาน ภาพÿะทšĂนคüามเĀลื่Ăมล้ำขĂงไทย [ĂĂนไลนŤ]. 17 ธันüาคม 2561. แĀลŠงที่มา https://www.chula.ac.th/covid-19/. 11 OCED. (2017). OECD - Social Policy Division - Directorate of Employment, Labour and Social Affairs. OCES Policy Briefs on Affordable Housing. p.14
34 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ในเขตกรุงเทพมĀานคร พบüŠามีคนไรšบšานจำนüน 1307 คน ดšüยÿถิติดังกลŠาü แมšจะเปŨนการ ÿำรüจเพียงแคŠในพื้นที่กรุงเทพมĀานครและเปŨนแนüโนšมที่มาจากการประมาณการณŤแตŠจำนüน ที่ปรากฎยŠĂมทำใĀšทราบไดšüŠาÿังคมไทยกำลังประÿบปŦญĀาเชิงโครงÿรšาง และปŦญĀา คüามเĀลื่Ăมล้ำในĀลาย ๆ ดšานที่ยังคงไมŠไดšรับการแกšไข เงื่ĂนไขÿำคัญในการทำใĀšเกิดปŦญĀาภาüะคนไรšที่พึ่งแทšจริงแลšüประกĂบไปดšüยĀลาย ปŦจจัยดšüยกันในเชิงโครงÿรšาง ซึ่งปŦจจัยดังกลŠาüเปŨนปŦญĀาÿำคัญที่ประเทýไทยยังจำเปŨนตšĂงใĀš คüามÿำคัญในการฟŚŪนฟูแกšไขและเยียüยาในฐานะรัฐผูšปกครĂงโดยÿามารถแยกĂĂกเปŨน 3 ปŦจจัย ใĀญŠ ๆ ไดšแกŠ ปŦจจัยÿถานภาพทางเýรþฐกิจ (Economic status) ปŦจจัยดšานÿุขภาพ (Health) และ ปŦจจัยดšานคŠานิยมและÿถาบันÿังคม (Societal values and Social institution) 3.1 ปŦจจัยÿถานภาพทางเýรþฐกิจ (Economic status) ÿถานภาพทางเýรþฐกิจที่ดีคืĂเĀตุผลĀลักขĂงการมีคüามเปŨนĂยูŠที่ดี (Well-being) ในโลกแĀŠงทุนนิยม ĂยŠางไรก็ดี ĀากÿถานภพทางเýรþฐกิจไมŠดีผลยŠĂมจะไปในทิýทางตรงกันขšาม จากÿถานการณŤüิกฤติทางเýรþฐกิจ งานüิจัยขĂงแผนงานพัฒนาĂงคŤคüามรูšและประธาน ยุทธýาÿตรŤเพื่Ăการÿรšางเÿริมÿุขภาพคนไรšบšาน ÿถาบันüิจัยÿังคม จุāาลงกรณŤมĀาüิทยาลัย พบüŠา คนไรšบšานในกรุงเทพมĀานครรšĂยละ 50 ยšายถิ่นมาจากภูมิลำเนาขĂงตนเĂง เพราะโดย ÿภาพ กรุงเทพมĀานครเปŨนพื้นที่แĀŠงการเจริญเติบโตขĂงเýรþฐกิจ มีโĂกาÿและ มีตำแĀนŠงงานจำนüนมากเมื่ĂเทียบกับตŠางจังĀüัด ผูšคนจึงยšายถิ่นฐานเพื่ĂเขšามาĀางานทำ ÿิ่งนี้ÿะทšĂนถึงคüามเĀลื่Ăมล้ำขĂงประเทýไทยที่มีĀลายระดับประกĂบกับปŦญĀาÿüัÿดิการที่ไมŠ ตĂบÿนĂงทำใĀšคนมีคุณภาพชีüิตที่ตกต่ำ12 ไมŠÿามารถขยับเขยื้ĂนÿถานะในทางเýรþฐกิจขĂงตน ไดšจึงตšĂงเขšามาประกĂบการงานที่เมืĂงĀลüง ทüŠา แมšจะไดšยšายถิ่นฐานเขšามาแลšü แตŠĀลายคนยัง ประÿบปŦญĀาĂันเปŨนขšĂจำกัดจึงทำใĀšคุณภาพชีüิตไมŠตŠางจากเดิมนัก ÿำĀรับประเทýไทย นักüิชาการบางÿŠüนตั้งขšĂÿังเกตüŠา จำนüนคนไรšบšานในไทยไมŠไดšถืĂ üŠาÿูงมากนักเมื่Ăเทียบกับจำนüนประชากร เปŨนเพราะประเทýไทยมีภาคเýรþฐกิจนĂกระบบ เยĂะ Ăาทิ ĀาบเรŠแผงลĂย ĀรืĂการขายขĂงในพื้นที่ÿาธารณะทำใĀšกลุŠมคนที่Āลุดจากงานประจำ ĀรืĂคนที่ตšĂงการĀารายไดšมีทางเลืĂก แตŠนโยบายการจัดระเบียบĀาบเรŠแผงลĂยไมŠมีมาตรการ 12 Ăนรรฆ พิทักþŤธานิน. คนไรšบšาน ภาพÿะทšĂนคüามเĀลื่Ăมล้ำขĂงไทย. Āนšาเดียüกัน
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 35 ÿนับÿนุนมารĂงรับทำใĀšคนเĀลŠานี้ยังคงĀลุดจากการทำงาน13 และตšĂงĂĂกมาใชšชีüิตĂยูŠบนพื้นที่ ÿาธารณะ Ăีกทั้งคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยมักประกĂบĂาชีพที่ตšĂงใชšแรงงานทำมาĀากินและไมŠมีคüามมั่นคง โดยมาก เชŠน เก็บกüาดขยะ รับจšางลšางจาน ĀรืĂพนักงานรักþาคüามปลĂดภัย ขšĂÿังเกต คืĂ Ăาชีพทั้งĀมดที่กลŠาüมาลšüนเปŨนĂาชีพที่มีรายไดšไมŠมากนัก และรายไดšที่ไมŠแนŠนĂนเĀลŠานี้เĂง Ăาจถูกกดขี่และเĂารัดเĂาเปรียบจากระบบทุนนิยมไดšจากการýึกþาขĂงคณะเýรþฐýาÿตรŤ จุāาลงกรณŤมĀาüิทยาลัยโดย ผý.ดร พีระ ตั้งธรรมรักþŤ และผý ดร. ธานี ชัยüัฒนŤ พบüŠาโĂกาÿ ในการกลายมาเปŨนคนไรšบšานขĂงคนเปราะบาง และโĂกาÿในการกลายมาเปŨนคนไรšบšานยŠĂม นšĂยลงĀากมีรายไดšเพิ่มขึ้น ÿิ่งนี้ยŠĂมÿะทšĂนไปĂีกüŠา การที่คŠาตĂบแทนในการทำงานนšĂยยŠĂม เปŨนĂีกปŦจจัยÿาเĀตุในทางเýรþฐกิจที่ทำใĀšเĀ็นüŠา คนไรšบšานตัดÿินใจเรามาเปŨนบุคคลที่ĂาýัยĂยูŠ ในÿาธารณะ เนื่Ăงจากเมื่ĂรายไดšไมŠเพียงพĂและไมŠÿĂดคลšĂงกับราคาที่พักที่แพงขึ้นตาม ÿถานการณŤในทางเýรþฐกิจ คนไรšที่ĂยูŠĂาýัยบางÿŠüนจึงถูกยึดที่ĂยูŠ มีภาระĀนี้ÿินจากการ กูšยืมเงิน เมื่ĂเปŨนเชŠนนี้ คนกลุŠมนี้จึงตšĂงกลายมาเปŨนคนไรšที่พึ่งเพราะÿถานการณŤทางเýรþฐกิจที่ ไมŠแนŠนĂน 3.2 ปŦจจัยดšานÿุขภาพ (Health) คนไรšที่ĂยูŠĂาýัยบางคนเปŨนคนเปราะบาง ซึ่งคüามเปราะบางดังกลŠาüเปŨนÿภาพที่บุคคล ขาดคüามÿามารถ (diminished autonomy) ในการตัดÿินใจĂันเกิดจากการเจ็บปśüยทางกาย จิตใจ ĀรืĂĂยูŠในÿภาพแüดลšĂมที่ขาดĂิÿระในการตัดÿินใจ14 ทำใĀšเขšาใจไดšüŠา ÿาเĀตุĂีกĀนึ่ง ประการที่ทำใĀšเกิดภาüะไรšบšาน คืĂปŦญĀาÿุขภาพซึ่งĂาจเปŨนคüามบกพรŠĂงทางรŠางกาย เชŠน เจ็บปśüยพิการ ปśüยทางจิต คüามÿูงĂายุ ĀรืĂปŦญĀาทางจิตใจ เชŠน Ăาการüิกลจริต บุคคลที่มีคüามเปราะบางในทางÿุขภาพผูšนั้น ยŠĂมมีผลกระทบตŠĂการเลี้ยงชีพ โดยบางคนไมŠÿามารถĂĂกไปทำงานไดš ทำใĀšขาดรายไดšÿüนทางกับการใชšชีüิตที่ปŦจจัยทาง ดšานกายภาพจำเปŨนตšĂงใชšทุนÿูง ทั้งÿüัÿดิการจากรัฐก็ไมŠĂาจเขšาถึงไดšโดยงŠายทำใĀšไมŠมี 13 เรื่Ăงเดียüกัน 14 ÿำนักงานจริยธรรมการüิจัย คณะแพทยýาÿตรŤ มĀาüิทยาลัยเชียงใĀมŠ [ĂĂนไลนŤ]. แĀลŠงที่มา https://w1.med.cmu.ac.th/research/oldweb/ethics/form/เรียนรูšýัพทŤจริยธรรม_แกšไข/ Vulnerable%20person_Dec2015.pdf
36 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ Āลักประกันใด ๆ เขšามาชŠüยเĀลืĂ คนไรšที่พึ่งจึงไมŠมีทางเลืĂกนĂกเÿียจากĂĂกมาใชšชีüิตĂยูŠใน พื้นที่ÿาธารณะ กลายเปŨนคนที่มีภาüะไรšที่ĂยูŠĂาýัยและไรšที่พึ่งในที่ÿุด นĂกจากนี้ĂีกĀนึ่งเĀตุÿำคัญที่ทำใĀšเกิดภาüะไรšบšานมาจากปŦญĀาดšานÿุขภาพจิตที่ รุนแรงและเปŨนĂันตรายตŠĂÿังคม คนที่มีĂาการทางจิตมักจะไมŠถูกÿังคมยĂมรับ คนเĀลŠานี้จึงเดิน ĂĂกมาจากÿังคม และใชšชีüิตĂยูŠเชŠนคนไรšที่ĂยูŠĂาýัย แตŠเมื่Ăมาใชšชีüิตในที่ÿาธารณะแลšü กึ่งĀนึ่ง ขĂงคนประเภทนี้เขšาไมŠถึงบริการÿาธารณÿุข เนื่ĂงจากไมŠมีบัตรประชาชน ขาดคüามÿามารถใน การดูแลตนเĂง และขาดคüามรูšในเรื่ĂงÿิทธิการพยาบาลทำใĀšกลุŠมคนไรšบšานขาดโĂกาÿในการรับ ÿüัÿดิการในการชŠüยเĀลืĂรักþาพยาบาลจากภาครัฐที่เĀมาะÿม ซึ่งยิ่งเปŨนการตĂกย้ำถึงปŦญĀา เขšาไปĂีก 3.3 ปŦจจัยดšานคŠานิยมและÿถาบันÿังคม (Societal values and Social institution) มนุþยŤเปŨนÿัตüŤÿังคมซึ่งใชšชีüิตĂยูŠรüมกันเปŨนกลุŠม จากแนüคิดขĂงนักÿังคมüิทยามี คüามเĀ็นüŠาÿังคมกับมนุþยŤเปŨนÿิ่งที่ĂยูŠคูŠกัน มนุþยŤเกิดมายŠĂมตšĂงĂาýัยÿังคม มีคüามÿัมพันธŤกัน และกระทำตŠĂกันทางÿังคมเพื่ĂประโยชนŤแĀŠงตนและÿังคม แตŠในทางกลับกัน ĀากÿังคมเปŨนฝśาย ผลักไÿมนุþยŤกลุŠมใดกลุŠมĀนึ่งดšüยภาพมายาคติ คüามคิดที่ÿังคมและมนุþยŤจะดำรงĂยูŠดšüยกันจึง ไมŠĂาจบรรลุผลไดšและผันตัüมาเปŨนคนไรšบšานในทšายที่ÿุด จากการýึกþา มายาคติที่ดำรงĂยูŠในÿังคมไทยเกี่ยüกับคนไรšที่พึ่งนั้นมีมากมายĀลายชุด คüามคิดดšüยกัน เชŠน คนไรšบšานคืĂคนปśüยทั้งดšานรŠางกายและจิตใจ คนไรšบšานไมŠใชŠคนไทย คนไรšบšานเปŨนคนที่ไมŠมีรากเĀงšา คนไรšบšานขี้เกียจ คนไรšบšานเปŨนคนĂันตราย เÿี่ยงตŠĂการ ประกĂบĂาชญากรรม15 ĀรืĂเÿี่ยงตŠĂการเปŨนเĀยื่ĂĂาชญากรรม โดยทั้งĀมดลšüนแลšüแตŠเปŨน เพียงĂคติในใจที่มีตŠĂคนไรšที่พึ่ง ซึ่งไดšÿŠงผลกระทบเปŨนการซ้ำเติมปŦญĀาใĀšคุณภาพชีüิตขĂงคนไรš ที่ĂยูŠแยŠลง โดยเฉพาะĂยŠางยิ่งเมื่Ăการที่ภาพมโนคตินั้นไดšเขšาไปกระทบตŠĂการใชšÿิทธิขั้นพื้นฐาน ขĂงคนไรšที่พึ่ง ทำใĀšเปŨนÿาเĀตุขĂงภาüะคนไรšที่พึ่งที่เปŨนÿภาพปŦญĀาเรื้Ăรัง นĂกจากนี้ ĀากพูดถึงมูลเĀตุÿำคัญที่ทำใĀšเกิดภาüะคนไรšที่พึ่งแลšü Āนึ่งในÿถาบันทาง ÿังคมĀลักĂยŠางÿถาบันครĂบครัüยŠĂมเปŨนÿถาบันĀลักที่มีบทบาทÿำคัญในÿาเĀตุขĂงการเกิด 15 รณภูมิ ÿามัคคีคารมยŤ. (2558). นิยาม และมายาคติกับคüามเปŨนจริงขĂงคนไรšบšาน ผŠานการÿำรüจในพื้นที่กรุงเทพมĀานคร. üารÿารüิจัยÿังคม มĀาüิทยาลัยธรรมýาÿตรŤ, 40(2), 155-188.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 37 ภาüะไรšที่พึ่ง ÿĂดคลšĂงกับงานüิจัยเกี่ยüกับคนไรšบšานในกรุงเทพมĀานครที่พบüŠา คนไรšบšานที่ĂยูŠ Ăาýัยในพื้นที่ÿาธารณะกüŠารšĂยละ 52 มีปŦญĀาดšานครĂบครัüมากŠĂน เชŠน ประÿบกับคüาม รุนแรงในครĂบครัü ประเด็นนี้ยิ่งมุŠงเนšนถึงบทบาทขĂงÿถาบันครĂบครัüมากขึ้นไปĂีก Ăีกทั้ง ในชŠüงที่เýรþฐกิจมีการชะลĂตัüĀลังจากผŠานüิกฤติการณŤมา โĂกาÿที่จะเกิดคüามแตกแยก ระĀüŠางครĂบครัüนั้นมีÿูงมาก และทำใĀšคนบางคนตšĂงผันตนเĂงĂĂกมาจากÿังคม ĂĂกมาใชš ชีüิตในที่ÿาธารณะ กลายเปŨนกลุŠมคนไรšที่พึ่งในทšายที่ÿุด ทั้งนี้ เนื่ĂงจากÿถาบันครĂบครัüเปŨนดังĀลักĂันÿูงใĀญŠ ที่ÿามารถพึ่งพิงไดš และเปŨนทุน ทางÿังคมรูปแบบĀนึ่งซึ่งจะคĂยนำพาใĀšชีüิตขĂงมนุþยŤกšาüไปขšางĀนšา ดังนั้น Āากÿถาบัน ครĂบครัüมีปŦญĀายŠĂมจะกระทบตŠĂปŦญĀาÿังคมซึ่งÿามารถลุกลามไดšไปในüงกüšาง เชŠนเดียüกัน กับการถูกผลักĂĂกมาจากÿังคมดšüยภาพจำที่เปŨนมายาคติจากÿังคม โดยÿรุป คนไรšที่พึ่งในที่ÿาธารณะในประเทýไทยมีที่มาจากĀลากĀลายÿาเĀตุดšüยกัน ทั้งมูลเĀตุดšานÿถานพทางเýรþฐกิจ มูลเĀตุดšานÿุขภาพ และมูลเĀตุดšาน คŠานิยมและ ÿถาบันÿังคม ซึ่งมูลเĀตุเĀลŠานี้เĂงที่เปŨนตšนธารแĀŠงปŦญĀาทางÿังคมตŠาง ๆ เชŠน การเกิด Ăาชญากรรม จึงถึงเüลาที่ประเทýไทยจะถĂยĀลังĂĂกมากšาüĀนึ่งเพื่ĂมĂงภาพรüมและเขšาใจถึง ปŦญĀานี้เพื่Ăที่จะไดšเขšาแกšไขในเชิงรุกตŠĂไปĂยŠางยั่งยืน 4. เจตนารมณŤของพระราชบัญญัติการคุšมครองคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ปŦญĀาขĂงคนคนไรšที่พึ่งในที่ÿาธารณะเปŨนปŦญĀาที่มีมาตั้งแตŠชšานานและที่มีที่มามาจาก ĀลากĀลายÿาเĀตุซึ่งเปŨนปŦญĀาเรื้Ăรังที่ทำใĀšเกิดปŦญĀาทางÿังคมตŠาง ๆ ตามมา ทั้งปŦญĀาใน ลักþณะนี้ยังĂาจเปŨนคüามเÿี่ยงที่คนไรšที่พึ่งจะถูกทำใĀšเปŨนเĀยื่Ăในการกระทำที่มิชĂบดšüย กฎĀมาย ĀรืĂแมšกระทั่งกลายเปŨนผูšประกĂบĂาชญากรรมเÿียเĂง ซึ่งกรณีนี้ĂาจกŠĂใĀšเกิด ĂันตรายแกŠประชาชนทั่üไป รัฐจึงตšĂงเขšามาเพื่ĂแÿüงĀามาตรการเชิงปŜĂงกันÿังคมที่จะชŠüย ลดทĂนคüามเÿี่ยงดังกลŠาüมิใĀšÿŠงผลกระทบตŠĂภาพรüมขĂงÿังคม และĂีกในทางĀนึ่ง เพื่ĂคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งใĀšมีüิถีชีüิตĂยŠางปกติÿุขดังเชŠนบุคคลทั่üไป เดิมพัฒนาการขĂงการชŠüยเĀลืĂคนไรšที่พึ่งขĂงประเทýไทยนั้น ปฏิบัติตŠĂคนไรšที่พึ่ง คŠĂนไปในทางปราบปราม เพื่ĂคüามเปŨนระเบียบเรียบรšĂยขĂงบšานเมืĂง แตŠปŦจจุบัน แนüคิดดšาน การคุšมครĂงÿิทธิซึ่งÿĂดคลšĂงกับแนüคิดดšานÿิทธิมนุþยชน ýักดิ์ýรีคüามเปŨนมนุþยŤ และüิถีแĀŠง
38 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ เÿรีภาพไดšเขšามาÿรšางคüามเปลี่ยนแปลงเชิงคüามคิด ĂงคŤกรขĂงรัฐจึงไดšĀันกลับมาคำนึงถึงการ คุšมครĂงÿิทธิมากยิ่งขึ้น16 เกิดเปŨนมาตรการÿังคมÿงเคราะĀŤเพื่ĂชŠüยเĀลืĂเพื่ĂนมนุþยŤดšüยกัน ĂาýัยเĀตุดังกลŠาü กระทรüงพัฒนาÿังคมและคüามมั่นคงขĂงมนุþยŤไดšเÿนĂรŠาง พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งขึ้น และในüันที่ 29 ÿิงĀาคม 2557 คณะรักþาคüามÿงบ แĀŠงชาติไดšเĀ็นชĂบรŠางดังกลŠาü เมื่ĂผŠานกระบüนการทางนิติบัญญัติแลšü เมื่Ăüันที่ 23 ธันüาคม 2557 จึงไดšประกาýในราชกิจจานุเบกþา พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งจึงมีผลบังคับใชšเปŨน กฎĀมายในüันที่ 24 ธันüาคม 2557 โดยมีเจตนารมณŤเพื่ĂคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งเปŨนบุคคลที่ประÿบ ปŦญĀาในÿังคม ขาดคüามมั่นคงในการดำรงชีüิตไดšĂยŠางปกติ ไมŠมีที่ĂยูŠĂาýัยที่เĀมาะÿม ไมŠÿามารถĀารายไดšเพียงพĂแกŠการยังชีพ ซึ่งบุคคลเĀลŠานี้ĂยูŠในฐานะที่ไมŠĂาจชŠüยเĀลืĂตนเĂงไดš และไมŠĂาจพึ่งพาบุคคลĂื่นไดš ทำใĀšมีชีüิตĂยูŠĂยŠางยากลำบาก มีมาตรฐานการดำรงชีพที่ต่ำกüŠา มาตรฐานคüามเปŨนĂยูŠขĂงบุคคลทั่üไป จึงตšĂงคุšมครĂงใĀš คนไรšที่พึ่งจึงจะÿามารถดำรงชีüิตĂยูŠใน ÿังคมไดšĂยŠางปกติÿุข มีปŦจจัยพื้นฐานในการดำรงชีüิต และมีÿภาพรŠางกาย และจิตใจ เชŠนเดียüกับบุคคลทั่üไป17 พระราชบัญญัติฉบับนี้จึงไดšเขšามามีบทบาทกับคนไรšที่พึ่งเปŨนĂยŠางมาก 5. ÿาระÿำคัญของพระราชบัญญัติการคุšมครองคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 5.1 กำĀนดคำนิยามของคนไรšที่พึ่ง (มาตรา 3) 5.2 กำĀนดใĀšมีคณะกรรมการคุšมครองคนไรšที่พึ่ง พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 กำĀนดใĀšมีĀนŠüยงานในการคุšมครĂง คนไรšที่พึ่งเปŨนการเฉพาะ โดยกำĀนดใĀšมีคณะกรรมการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ประกĂบดšüย รัฐมนตรีüŠาการกระทรüง การพัฒนาÿังคมและคüามมั่นคงขĂงมนุþยŤเปŨนประธานกรรมการ ปลัดกระทรüงการพัฒนาÿังคม และคüามมั่นคงขĂงมนุþยŤเปŨนรĂงประธานกรรมการ ปลัดกระทรüงการคลัง ปลัดกระทรüงมĀาดไทย ปลัดกระทรüงยุติธรรม ปลัดกระทรüงแรงงาน ปลัดกระทรüงýึกþาธิการ ปลัดกระทรüงÿาธารณÿุข ผูšĂำนüยการÿำนักงบประมาณ 16 ýักดิ์ชัย เลิýพานิชพันธุŤ. (2559). การýึกþาแนüทางพัฒนากฎĀมายÿำĀรับคนไรšที่พึ่งและพรบ.คุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557. üารÿารÿังคมÿงเคราะĀŤ(2559): 7. 17 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ĀมายเĀตุทšายพระราชบัญญัติ.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 39 ผูšบัญชาการตำรüจแĀŠงชาติ และกรรมการผูšทรงคุณüุฒิซึ่งรัฐมนตรีแตŠงตั้งไมŠเกินÿิบเĂ็ดคนเปŨน กรรมการ นĂกจากนี้ ยังกำĀนดใĀšกรมพัฒนาÿังคมและÿüัÿดิการ ทำĀนšาที่เปŨนÿำนักงาน เลขานุการขĂงคณะกรรมการโดยมีĂำนาจĀนšาที่ในการรับผิดชĂบงานธุรการ ประÿานงาน ĀนŠüยงานรัฐ เผยแพรŠขšĂมูลขŠาüÿาร และติดตาม ตรüจÿĂบ ประเมินผลนโยบายและมาตรการ ตŠาง ๆ เกี่ยüกับคนไรšที่พึ่งĂีกดšüย18 ซึ่งการกำĀนดใĀšมีคณะกรรมการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งเปŨนการ เฉพาะนี้ พระราชบัญญัติไดšกำĀนดĂำนาจĀนšาที่ขĂงคณะกรรมการไüšในมาตรา 9 โดยĂำนาจ Āนšาที่นั้น ไดšแกŠ 1) เÿนĂนโยบายและมาตรการเกี่ยüกับการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งตŠĂคณะรัฐมนตรีเพื่Ă พิจารณา และมĂบĀมายใĀšĀนŠüยงานขĂงรัฐที่เกี่ยüขšĂงรับไปดำเนินการ 2) เÿนĂคüามเĀ็นตŠĂคณะรัฐมนตรีใĀšมีĀรืĂปรับปรุงกฎĀมาย ระเบียบ ขšĂบังคับ ĀรืĂ มติ คณะรัฐมนตรีที่ÿนับÿนุนนโยบายและมาตรการเกี่ยüกับการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง 3) ประกาýกําĀนดประเภทĀรืĂลักþณะขĂงบุคคลที่ĂยูŠในÿภาüะยากลำบากและไมŠĂาจ พึ่งพา บุคคลĂื่นไดš เพื่ĂใĀšการคุšมครĂงตามพระราชบัญญัตินี้ 4) ประกาýกําĀนดĀลักเกณฑŤการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง 5) ประกาýกําĀนดมาตรฐานการปฏิบัติงานขĂงÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง 6) ประกาýกําĀนดĀลักเกณฑŤ üิธีการ และเงื่ĂนไขการÿนับÿนุนการดำเนินการแกŠ ĀนŠüยงานขĂงรัฐ ĂงคŤกรÿาธารณประโยชนŤ ĂงคŤกรÿüัÿดิการชุมชน ĂงคŤกรภาคเĂกชน Ăื่น ÿถาบันýาÿนา กลุŠมคนไรšที่พึ่ง ĀรืĂกลุŠมบุคคล เพื่ĂการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง 7) ประกาýกําĀนดĀลักเกณฑŤและüิธีการรšĂงเรียนตามมาตรา 2719 8) ÿŠงเÿริมการมีÿŠüนรŠüมขĂงĀนŠüยงานขĂงรัฐĂงคŤกรÿาธารณประโยชนŤĂงคŤกรÿüัÿดิการ ชุมชน และĂงคŤกรภาคเĂกชนĂื่น เพื่ĂใĀšเกิดคüามรŠüมมืĂในการปฏิบัติงานเกี่ยüกับการ คุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง 18 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 12. 19 พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 27 บทบัญญัติในĀมüดนี้ไมŠกระทบกระเทืĂนการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งที่ ดําเนินการตามกฎĀมายĂื่น ĀรืĂตามที่ĀนŠüยงานขĂงรัฐ ĂงคŤกรÿาธารณประโยชนŤ ĂงคŤกรÿüัÿดิการชุมชน ĀรืĂĂงคŤกร ภาคเĂกชนĂื่น ดําเนินการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งโดยüิธีการĂื่น
40 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ 9) ติดตาม ตรüจÿĂบ และประเมินผลในการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง 10) ปฏิบัติการĂื่นใดตามที่กฎĀมายกําĀนดใĀšเปŨนĂำนาจĀนšาที่ขĂงคณะกรรมการĀรืĂ ตามที่คณะรัฐมนตรีมĂบĀมาย ซึ่งนโยบายและมาตรการเกี่ยüกับการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งตาม (1) ซึ่งคณะรัฐมนตรีĂนุมัติ แลšü รüมทั้งประกาýตาม (3) (4) (5) (6) และ (7) จะÿามารถใชšบังคับไดšเมื่Ăไดšประกาýในราช กิจจานุเบกþา20 5.3 กำĀนดใĀšมีÿถานคุšมครองคนไรšที่พึ่งและýูนยŤคุšมครองคนไรšที่พึ่ง พระราชบัญญัติฉบับนี้กำĀนดใĀšมีการจัดตั้งÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งและýูนยŤคุšมครĂง คนไรšที่พึ่งในกรณีที่กระทรüงพัฒนาÿังคมและคüามมั่นคงขĂงมนุþยŤเĀ็นÿมคüร โดยกำĀนดใĀš ÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งมีĂำนาจĀนšาที่คุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ดังนี้ 1) ÿํารüจและติดตามÿภาพและปŦญĀาเกี่ยüกับคนไรšที่พึ่งในเขตพื้นที่ที่รับผิดชĂบ 2) ÿืบเÿาะขšĂมูลที่เกี่ยüกับคนไรšที่พึ่งที่ขĂรับการคุšมครĂงĀรืĂที่ถูกÿŠงตัüมายังÿถาน คุšมครĂงคนไรšที่พึ่งตามมาตรา 2021 ĀรืĂมาตรา 2222 และใĀšการคุšมครĂง รüมทั้งรับตัü คนไรšที่พึ่งไüš 20 พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 9. 21 พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 21 ใĀšÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งĀรืĂýูนยŤคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งใĀšการ คุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง โดยพิจารณาตามคüามเĀมาะÿมขĂงÿภาพและปŦญĀาขĂงคนไรšที่พึ่ง ทั้งนี้ ตามĀลักเกณฑŤที่คณะกรรมการ กําĀนด 22 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 22 ในกรณีที่บุคคลใดถูกกลŠาüĀาüŠากระทําคüามผิดเกี่ยüกับการพัก Ăาýัยในที่ÿาธารณะ ตามกฎĀมายĀรืĂขšĂบัญญัติทšĂงถิ่น ĀากเจšาĀนšาที่ตามกฎĀมายĀรืĂขšĂบัญญัติทšĂงถิ่นนั้นเĀ็นüŠาบุคคล ดังกลŠาü มีลักþณะเปŨนคนไรšที่พึ่งและÿมคüรไดšรับการคุšมครĂงในÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ใĀšเจšาĀนšาที่ÿŠงตัü คนไรšที่พึ่งนั้นไปยัง ÿถานคุšมครĂงคนไรšทพี่ งึ่ ĀรืĂýูนยŤคุšมครĂงคนไรšทพี่ งึ่ ทั้งนี้ โดยคüามยินยĂมขĂงคนไรšที่พึ่ง เüšนแตŠคนไรšที่พึ่งĂยูŠในภาüะที่ไมŠĂาจ ใĀšคüามยินยĂมไดš และใĀšเจšาĀนšาที่ระงับการดําเนินคดีไüšชั่üคราü จนกüŠาจะไดšรับแจšงตามüรรคÿĂง ในกรณีที่คนไรšที่พึ่งไมŠปฏิบัติตามเงื่ĂนไขขĂงÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ใĀšÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง แจšงใĀšเจšาĀนšาที่ ตามกฎĀมายĀรืĂขšĂบัญญัติทšĂงถิ่นพิจารณาดําเนินคดีตŠĂไป ในกรณีที่คนไรšที่พึ่งไดšปฏิบัติตามเงื่ĂนไขขĂงÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ใĀšÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง แจšงใĀšเจšาĀนšาที่ ตามกฎĀมายĀรืĂขšĂบัญญัติทšĂงถิ่นนั้นยุติการดําเนินคดี และใĀšถืĂüŠาÿิทธินําคดีĂาญา มาฟŜĂงระงับตามประมüลกฎĀมายüิธี พิจารณาคüามĂาญา
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 41 3) จัดใĀšมีที่พักĂาýัย ĂาĀาร และเครื่ĂงนุŠงĀŠมที่เĀมาะÿมและถูกÿุขลักþณะ จัดใĀšมี การตรüจÿุขภาพกายและÿุขภาพจิต ฝřกĂบรมและฝřกĂาชีพ รüมทั้งĀาĂาชีพใĀšแกŠคนไรš ที่พึ่ง 4) ประÿานงานเพื่ĂจัดÿŠงคนไรšที่พึ่งไปยังĀนŠüยงานที่รับผิดชĂบในกรณีที่มีกฎĀมายเฉพาะ เพื่ĂคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งประเภทนั้น 5) ใĀšคําปรึกþา แนะนํา และชŠüยเĀลืĂคนไรšที่พึ่งในดšานการดำรงชีüิต ดšานกฎĀมาย ĀรืĂ ดšานĂื่น เพื่ĂใĀšÿามารถดำรงชีüิตĂยูŠในÿังคมไดšĂยŠางปกติÿุขเชŠนเดียüกับบุคคลทั่üไป 6) ติดตาม ตรüจÿĂบ และประเมินผลในการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง 7) ดำเนินการĂื่นใดตามที่คณะกรรมการกําĀนด การปฏิบัติงานขĂงÿถานคุšมครĂงคนไรšที่ พึ่งใĀšเปŨนไปตามมาตรฐานที่คณะกรรมการกําĀนด โดยĂำนาจĀนšาที่ขĂงÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งในการคุšมครĂงตามมาตรานี้ ใĀšคํานึง ถึงการÿŠงเÿริมใĀšคนไรšที่พึ่งÿามารถดำรงชีüิตĂยŠางĂิÿระในชุมชนและการมีÿŠüนรŠüมในการแÿดง คüามคิดเĀ็นขĂงคนไรšที่พึ่งเปŨนÿำคัญ23 5.4 มาตรการในการคุšมครองคนไรšที่พึ่งตามพระราชบัญญัติคุšมครองคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 1) กำĀนดใĀšคนไรšที่พึ่งมีÿิทธิขĂรับการคุšมครĂงจากÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งĀรืĂýูนยŤ คุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง24 โดยใĀšÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งĀรืĂýูนยŤคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งใĀšการ คุšมครĂงคนไรšที่พึ่งโดยพิจารณาถึงคüามเĀมาะÿมขĂงÿภาพและปŦญĀาขĂงคนไรšที่พึ่ง25 2) กำĀนดใĀšพนักงานเจšาĀนšาที่มีĀนšาที่ในการใĀšคำปรึกþา แนะนำ และชŠüยเĀลืĂ ตลĂดจนจัดÿŠงคนไรšที่พึ่งไปยังÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งĀรืĂýูนยŤคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง26 3) กำĀนดใĀšจัดทำขšĂตกลงเขšารŠüมการĂบรมฟŚŪนฟูÿภาพรŠางกายและจิตใจ การประกĂบ Ăาชีพ และการทำงาน ĀรืĂขšĂตกลงในการคุšมครĂงĂื่นที่ÿมคüร ในกรณีที่คนไรšที่พึ่งผูšใด 23 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 14. 24 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 19. 25 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 21. 26 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 20.
42 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ปฏิเÿธการจัดทำขšĂตกลงĀรืĂฝśาฝŚนขšĂตกลง ÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งĂาจงดใĀšการ คุšมครĂงบางประการแกŠคนไรšที่พึ่งผูšนั้นไดš 6. คüามทšาทายของการบังคับใชšพระราชบัญญัติคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 แมšพระราชบัญญัติคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 นี้จะไดšบังคับใชšมาแลšüเกืĂบทýüรรþ แตŠÿภาพ ปŦญĀาที่เกิดขึ้นในÿังคมĂันเกี่ยüขšĂงกับคนไรšที่พึ่งยังไมŠถูกเยียüยามากเทŠาใดนัก ประเด็นนี้ÿื่ĂใĀš เĀ็นถึงกฎĀมายที่ไมŠพัฒนาไปตามÿภาพÿังคมและไมŠบรรลุüัตถุประÿงคŤที่ไดšตั้งไüšดšüยบทบัญญัติ ที่ยังมีปŦญĀาทางกฎĀมายĂยูŠĀลายประการดšüยกัน ĂันเปŨนที่กลŠาüถึงในเชิงüิชาการüŠา พระราชบัญญัติขšางตšนไมŠไดšชŠüยปรับปรุงโครงÿรšางเชิงระบบที่จะชŠüยใĀšคนไรšบšานไดšรับการ พัฒนาคุณภาพชีüิตใĀšดีเทŠาที่คüร ซึ่งจะÿŠงผลกระทบตŠĂคนไรšที่พึ่งในทางÿิทธิมนุþยชนดšüย ในทางĀนึ่ง เมื่ĂĀลักประกันทางกฎĀมายที่มĂบคüามคุšมครĂงใĀšกับคนไรšที่พึ่งมีจุดที่เปŨนปŦญĀา การĂุดชŠĂงüŠางคüามดšĂยโĂกาÿทางÿังคมĂันเปŨนเจตนารมณŤตามพระราชบัญญัติจึงไมŠเกิดขึ้น กลับกันĂาจเกิดเปŨนการละเมิดÿิทธิโดยการผลักคนĂĂกจากพื้นที่ÿาธารณะ ดังที่จะไดšเĀ็นจาก บุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยในที่ÿาธารณะถูกจับกุมมีจำนüนเพิ่มขึ้นทุกปŘ27 ประเด็นปŦญĀาÿำคัญตŠĂ พระราชบัญญัติคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 ฉบับนี้ ÿามารถÿรุปไดšดังนี้ 6.1 ปŦญĀาการนิยามคüามĀมายของ “คนไรšที่พึ่ง” การใĀšนิยามýัพทŤขĂงขĂงคำüŠา “คนไรšที่พึ่ง” มีประเด็นüŠาเปŨนการใĀšคำนิยามที่กüšาง เกินไป ไมŠมีคüามชัดเจนüŠาบุคคลกลุŠมใดบšางที่จะไดšรับประโยชนŤตามกฎĀมายนี้28 ในการใĀš คüามĀมายขĂงคำüŠาคนไรšที่พึ่งจะมีผลตŠĂการกำĀนดกลุŠมเปŜาĀมายและการใĀšบริการขĂงตŠาง ๆ ĂยŠางถูกตšĂงและตรงตามคüามจำเปŨน (Needs) ขĂงกลุŠมเปŜาĀมายนั้น เนื่ĂงจากแตŠละกลุŠมมี 27 ธนÿุนทร ÿüŠางÿาลี. ปŦญĀาทางกฎĀมายเกี่ยüกับการคุšมครĂงบุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยตามพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 [ĂĂนไลนŤ]. แĀลŠงที่มา http://www.lawgrad.ru.ac.th/AbstractsFile/6124011212/1613708183d1210f4ae5029856ed4f089a7cb98171_abs tract.pdf. 28 iLaw. กฎĀมายใĀมŠจัด "ÿถานคุšมครĂง" ĀรืĂ "คุก"? ใĀšคนเรŠรĂนตšĂงเลืĂก [ĂĂนไลนŤ]. 19 ธันüาคม 2557. จาก https://ilaw.or.th/node/3374.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 43 ปŦญĀาตŠางกันและĂาจตšĂงการการปฏิบัติที่ตŠางกัน29 ĂันÿĂดคลšĂงกับĀลักแĀŠงคüามเÿมĂภาคที่มี ฐานคüามคิดüŠา กรณีเดียüกันจะตšĂงปฏิบัติเชŠนเดียüกัน แตŠในกรณีที่ตŠางกันจะตšĂงปฏิบัติตŠางกัน คำนิยามในกฎĀมายนี้ในแงŠĀนึ่งĂาจเปŨนขšĂดีที่จะเปŗดโĂกาÿใĀšไดšใชšดุลยพินิจตีคüาม คüามคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งไปไดšĂีกĀลากĀลายทาง แตŠคำนิยามที่กüšางไปนี้ ในทำนĂงเดียüกัน คณะกรรมการĂาจจะตัดกลุŠมที่คüรคุšมครĂงÿงเคราะĀŤĂĂกไปไดš30 ทั้งการใĀšคำนิยามในลักþณะ นี้ĂาจไมŠตรงกับüัตถุประÿงคŤในการนิยามýัพทŤกฎĀมายในแงŠที่จำกัดคüามĀมายใĀšแคบลง เพราะ ÿิ่งที่กฎĀมายคุšมครĂงและÿิ่งที่คนเขšาใจĂาจจะจะมีคüามคลาดเคลื่Ăนกัน การใĀšนิยามชัดเจนใĀš เปŨนเบื้ĂงตšนจึงเปŨนเรื่Ăงÿำคัญ 6.2 ปŦญĀาเกี่ยüกับการÿŠงตัüคนไรšที่พึ่งเขšาÿถานÿงเคราะĀŤ การÿŠงตัüคนไรšที่พึ่งเขšาÿถานÿงเคราะĀŤเปŨนมาตรการÿำคัญขĂงพระราชบัญญัติ คนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มีüัตถุประÿงคŤเพื่ĂใĀšคนไรšที่พึ่งไดšมีที่ĂยูŠĂาýัยและมาตรฐานชีüิตที่ดีไดšรับ การĂุปการะจากรัฐÿüัÿดิการ แตŠในคüามเปŨนจริง คนไรšที่พึ่งที่ขĂรับการคุšมครĂงจาก ÿถานÿงเคราะĀŤกลับมีจำนüนนšĂย เĀตุเพราะปŦจจัยภายในÿถานÿงเคราะĀŤไมŠเĂื้ĂĂำนüยตŠĂ คนไรšที่พึ่ง เนื่Ăงดšüยผูšที่เขšารับการดูในÿถานÿงเคราะĀŤคืĂผูšปśüยจิตเüชโดยมาก กลŠาüĂีกนัยĀนึ่ง คืĂ คนไรšที่พึ่งที่เปŨนคนปกติจำตšĂงĂาýัยปะปนไปกับผูšปśüยที่มีปŦญĀาĀลากĀลาย ทั้งÿถาน ÿงเคราะĀŤโดยÿภาพจะมีกฎเกณฑŤที่เขšมงüด ĂยูŠไกลจากยŠานชุมชน ตšĂงปฏิบัติกิจüัตรประจำüัน ตามตาราง เüลาการเดินทางเขšาĂĂกตšĂงไดšรับĂนุญาตทำใĀšไมŠมีĂิÿระ การฝřกĂาชีพก็เปŨนเพียง ฝřกทักþะเบื้Ăงตšนที่ไมŠÿามารถนำไปเปŨนĂาชีพที่มีคüามมั่นคงในการดำรงชีüิตไดšจริง เปŨนขšĂจำกัด ในการใชšชีüิตขĂงคนไรšที่พึ่ง ทำใĀšไมŠÿĂดคลšĂงกับüิถีปกติขĂงคนไรšที่พึ่งที่ยังÿามารถĂĂกไป ยังชีพไดš31 และตšĂงการพื้นที่ขĂงตนเĂง ไมŠตšĂงการไปĂยูŠรŠüมกันเปŨนจำนüนมากในขณะที่บริการ ขĂงรัฐมีĂยูŠĂยŠางจำกัด 29 ýักดิ์ชัย เลิýพานิชพันธุŤ. การýึกþาแนüทางพัฒนากฎĀมายÿำĀรับคนไรšที่พึ่งและพรบ.คุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557. Āนšา 13. 30 เรื่Ăงเดียüกัน. 31 ธนÿุนทร ÿüŠางÿาลี. ปŦญĀาทางกฎĀมายเกี่ยüกับการคุšมครĂงบุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยตามพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 [ĂĂนไลนŤ]. Āนšา 4.
44 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ นĂกจากนี้ยังพบüŠาลักþณะÿถานÿงเคราะĀŤในมุมมĂงขĂงคนไรšที่พึ่งยังเปŨนÿถานที่มี ÿภาพแüดลšĂมที่ไมŠนŠาĂยูŠ ไมŠเปŨนĂิÿระ และมีกฎเกณฑŤมากมาย ทำใĀšมีคนไรšที่พึ่งĀลายคนที่ ĀลุดĂĂกจากระบบÿถานคุšมครĂงไป ÿังคมมักจะมĂงüŠาเปŨนปŦญĀาÿังคม จึงมุŠงจัดการใĀšĀายไปจากÿังคม โดยการÿŠงตัüเขšาÿูŠ ÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งเพื่ĂจำกัดใĀšมีที่ĂยูŠเปŨนĀลักแĀลŠง และไดšรับการพัฒนาฟŚŪนฟูในÿถาน คุšมครĂงคนไรšทีพึ่งจนกüŠาจะมีคüามพรšĂม แตŠบุคคลไรšที่พึ่งÿŠüนใĀญŠมักมีปŦญĀาซ้ำซšĂน ยากที่จะ ฟŚŪนฟูใĀšกลับมามีýักยภาพไดšĂีก32 เĀตุนี้การÿŠงตัüคนไรšที่พี่งเขšาÿูŠÿถานÿงเคราะĀŤจึงเปŨนมาตรการ ที่ÿามารถใชšเพื่ĂแกšไขปŦญĀาไดšแตŠเพียงระยะÿั้น เปŨนการลิดรĂนÿิทธิมากกüŠาการพิทักþŤÿิทธิ ยิ่งไปกüŠานั้น ถšาĀากคนไรšที่พึ่งปฏิเÿธการเขšารับการคุšมครĂงที่ราชการจัดĀาใĀš จะไมŠไดš รับÿüัÿดิการขĂงรัฐตามที่กฎĀมายกำĀนดไüš33 แนüคิดดังกลŠาüทำใĀšเขšาใจüŠาการÿŠงตัüคนไรšที่พึ่ง เขšาไปยังÿถานÿงเคราะĀŤเปŨนมาตรการที่บีบบังคับและกระทบตŠĂÿิทธิเÿรีภาพ การÿŠงตัüคนไรšที่ พึ่งเขšาÿถานÿงเคราะĀŤตามพระราชบัญญัติคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 จึงมีประเด็นปŦญĀาทาง กฎĀมายที่ÿมคüรจะไดšรับการพิจารณาĂีกครั้ง 6.3 ปŦญĀาเกี่ยüกับคณะกรรมการคุšมครองคนไรšที่พึ่ง จากการพิจารณาพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 จะเĀ็นไดšüŠา คณะกรรมการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งที่ถูกกำĀนดไüšตามมาตรา 5 แĀŠงพระราชบัญญัติคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 นั้น ขาดĂงคŤประกĂบขĂงการมีÿŠüนรŠüมขĂงภาคประชาชน34 ซึ่งเปŨนĂงคŤประกĂบ ที่ÿำคัญในการĂĂกนโยบายĀรืĂมาตรการใด ๆ ใĀšแกŠคนไรšพึ่ง ทั้งนี้ เพราะการมีÿŠüนรŠüมขĂงประชาชนคืĂรากฐานแĀŠงประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ เปŨนการกระจายโĂกาÿใĀšประชาชนมีÿŠüนรŠüมซึ่งจะÿŠงผลกระทบตŠĂüิถีชีüิตและคüามเปŨนĂยูŠขĂง ประชาชนเĂง35 ซึ่งĀากจะÿรšางมาตรการเพื่ĂคุšมครĂงใคร ยŠĂมตšĂงใĀšคนเĀลŠานั้นเปŨนผูšรŠüม ĂĂกแบบเชŠนเดียüกับคณะกรรมการดšüยจึงจะเปŨนการแกšไขปŦญĀาĂยŠางตรงจุด 32 ธนÿุนทร ÿüŠางÿาลี. ปŦญĀาทางกฎĀมายเกี่ยüกับการคุšมครĂงบุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยตามพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 [ĂĂนไลนŤ]. Āนšา 3. 33 เรื่Ăงเดียüกัน. 34 iLaw. กฎĀมายใĀมŠจัด "ÿถานคุšมครĂง" ĀรืĂ "คุก"? ใĀšคนเรŠรĂนตšĂงเลืĂก [ĂĂนไลนŤ]. Āนšาเดียüกัน. 35 คนึงนิจ ýรีบัüเĂี่ยม และคณะ. แนüทางการเÿริมÿรšางประชาธิปไตยแบบมีÿŠüนรŠüมตามรัฐธรรมนูญแĀŠงราชĂาณาจักรไทย พ.ý.2540 : ปŦญĀา Ăุปÿรรค และทางĂĂก. กรุงเทพฯ : ธรรมดาเพลÿ, 2545.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 45 แมšมาตรา 5 แĀŠงพระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งจะกำĀนดใĀšมีÿัดÿŠüนกรรมการ ผูšทรงคุณüุฒิจากภายนĂก กลŠาüคืĂ กรรมการผูšทรงคุณüุฒิซึ่งรัฐมนตรีแตŠงตั้งตามüรรคĀนึ่ง ใĀšแตŠงตั้งจากผูšมีคüามรูšและคüามเชี่ยüชาญดšานการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง การÿังคมÿงเคราะĀŤ การพัฒนาÿังคม ĀรืĂการจัดÿüัÿดิการÿังคม ซึ่งไมŠเปŨน ขšาราชการที่มีตำแĀนŠงĀรืĂเงินเดืĂน ประจำ พนักงานĀรืĂลูกจšางขĂงĀนŠüยงานขĂงรัฐ เüšนแตŠเปŨนผูšÿĂนในÿถาบันĂุดมýึกþาขĂงรัฐ โดยในจำนüนนี้ตšĂงแตŠงตั้งจากผูšแทนĂงคŤกรÿาธารณประโยชนŤจำนüนÿĂงคน และผูšแทนĂงคŤกร ÿüัÿดิการชุมชนจำนüนÿĂงคน36 ดังนี้ ĂาจมĂงüŠาการกำĀนดตามมาตรา 5 üรรคÿามจะพĂเปŨน ÿัดÿŠüนขĂงภาคประชาชนไดš แตŠการบัญญัติเชŠนนี้Ăาจกüšางเกินไปที่ภาคประชาชนที่ทำงานภาคนี้ จะเขšามามีÿŠüนรŠüม และกรรมการในÿŠüนนี้เปŨนไปไดšüŠาทšายที่ÿุดแลšü Ăดีตÿมาชิกขšาราชการ และ ผูšใกลšชิดกับคนในการเมืĂงĂาจจะไดšรับเขšามา37 ซึ่งผลÿุดทšายจะเปŨนการที่มาตรการĀรืĂนโยบาย ที่ĂĂกมาไมŠเขšาใจถึงคüามเปŨนĂยูŠขั้นพื้นฐานขĂงคนไรšที่พึ่งĂยŠางแทšจริง การที่พระราชบัญญัติฉบับนี้มิไดšมีĂงคŤประกĂบดังกลŠาü จึงเปŨนขšĂขšĂงใจประการĀนึ่ง üŠาคณะกรรมการตามกฎĀมายนี้จะÿามารถĂĂกมาตรการĀรืĂนโยบายใด ๆ ที่จะÿามารถ แกšปŦญĀาไดšĂยŠางตรงจุดĀรืĂไมŠ 6.4 ปŦญĀาเกี่ยüกับÿถานคุšมครองคนไรšที่พึ่ง พระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งกำĀนดüŠา ในกรณีที่กระทรüงการพัฒนาÿังคมและ คüามมั่นคงขĂงมนุþยŤเĀ็นÿมคüรจัดตั้งÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งในเขตพื้นที่ใด ĀรืĂเĀ็นÿมคüรใĀš ÿถานÿงเคราะĀŤใดที่ดำเนินการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งเปŨนÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ใĀšเÿนĂตŠĂ คณะกรรมการเพื่Ăพิจารณาประกาýการจัดตั้งÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง38 ตŠĂประเด็นดังกลŠาü นายบุญเลิý üิเýþปรีชา นักüิชาการดšานมานุþยüิทยาจากมĀาüิทยาลัยธรรมýาÿตรŤ กลŠาüüŠา “เปŨนเÿมืĂนการยกระดับÿถานÿงเคราะĀŤคนไรšที่พึ่งที่มีĂยูŠเดิม เพียงแตŠเปลี่ยนชื่ĂเปŨน ÿถาน คุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง และเพิ่มคณะกรรมการเขšาไป” 36 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง มาตรา 5. 37 iLaw. กฎĀมายใĀมŠจัด "ÿถานคุšมครĂง" ĀรืĂ "คุก"? ใĀšคนเรŠรĂนตšĂงเลืĂก [ĂĂนไลนŤ]. Āนšาเดียüกัน. 38 พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง มาตรา 13.
46 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ นĂกจากนี้ยังÿามารถพบปŦญĀาในการดำเนินงานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งจากÿถานคุšมครĂง คนไรšที่พึ่งไดšโดยÿามารถแบŠงĂĂกเปŨน 2 ดšานไดšแกŠ ปŦญĀาดšานทรัพยากร และปŦญĀาดšานการ บริการภายในÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ดังนี้ 6.4.1 ปŦญĀาดšานทรัพยากร ÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งนั้นมีคüามขาดแคลนเปŨนĂยŠางมากในเชิงปริมาณ โดยคüามขาด แคลนเชิงปริมาณนี้ถูกÿะทšĂนผŠานĂัตรากำลังขĂงเจšาĀนšาที่ซึ่งมีÿัดÿŠüนนšĂยกüŠาจำนüน ผูšรับบริการ โดยเฉพาะการตĂบÿนĂงคüามตšĂงการขĂงผูšรับบริการที่มีคüามĀลากĀลายและ ลักþณะขĂงÿภาพปŦญĀาĂันเปŨนÿาเĀตุขĂงการเปŨนคนไรšที่พึ่งมีคüามแตกตŠางกัน Āนึ่งในปŦญĀา ĀลักขĂงÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง คืĂ ปŦญĀาขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทาง ในÿถานที่ที่มีผูšปśüย ทางกาย และทางใจÿูง แนüโนšมดังกลŠาüขĂงคนไรšที่พึ่งเปŨนเรื่Ăงที่นŠากังüลเปŨนĂยŠางมาก39 นĂกจากนี้การแบŠงÿันปŦนÿŠüนงบประมาณจากภาครัฐมีคüามคงที่และมีคüามแนüโนšม ลดลงĂยŠางตŠĂเนื่Ăง ขšĂมูลจากมูลนิธิกระจกเงาพบüŠา งบประมาณที่รัฐจŠายใĀšเพื่Ăดูแลคนไรšที่พึ่ง ตามพระราชบัญญัติคนไรšที่พึ่ง คืĂคนละ 57 บาทตŠĂคนตŠĂüันเทŠานั้น ทั้งผูšรับคüามคุšมครĂงĀลาย คนเปŨนผูšพิการและÿูงĂายุ แตŠในÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งมีเพียงแตŠเบาะที่ไมŠเพียงพĂตŠĂการนĂน ÿรšางปŦญĀาใĀšคนไรšที่พึ่งตšĂงจัดการนำเบาะมาชิดกันเพื่ĂใĀšมีคนมานĂนรŠĂงกลางขĂงเบาะที่ นำมาชิดกัน ทั้งบางที่ยังตšĂงจัดการเบาะนĂนเปŨน 3 แถü ผูšไรšที่พึ่งที่มีปŦญĀาÿุขภาพĀรืĂÿูงĂายุจึง ยิ่งไดšรับคüามลำบากมากขึ้นไปĂีก40 ดังนี้เĂง จึงเปŨนÿาเĀตุที่คนไรšที่พึ่งบางคนĂĂกมาจากระบบÿถานคุšมครĂง และแมšüŠาจะมี คนไรšที่พึ่งĀลุดĂĂกจากระบบÿถานคุšมครĂงĂีกมากเทŠาใด แตŠยŠĂมไมŠĂาจมาเฉลี่ยกับทรัพยากรที่ ขาดแคลนขĂงÿถานคุšมครĂงไดšĂยูŠดี นี่จึงเปŨนคüามทšาทายที่รัฐไทยÿมคüรแกšปŦญĀาใĀšไดš 6.4.2 ปŦญĀาดšานการบริการภายในÿถานคุšมครองคนไรšที่พึ่ง 39 มูลนิธิกระจกเงา (20 กุมภาพันธŤ2566). ปŦญĀาคนไรšที่พึ่ง ในระบบคุšมครĂงขĂงรัฐ [ĂĂนไลนŤ]. แĀลŠงที่มา http://mirror.or.th/wordpress/2023/02/20/ปŦญĀา-คนไรšที่พึ่ง-ในระบบคุšมครĂงขĂงรัฐ/. 40 เรื่Ăงเดียüกัน.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 47 ขšĂเท็จจริงประการĀนึ่งขĂงÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งจากการÿำรüจขĂงมูลนิธิกระจกเงา พบüŠา ÿถานคุšมครĂงไมŠÿามารถÿŠงคนไรšที่พึ่งเพื่ĂไปรับบริการจากÿถานÿงเคราะĀŤเฉพาะไดš ĂาýัยเĀตุดังกลŠาü แมšÿถานÿงเคราะĀŤจะมีคนÿูงĂายุเปŨนÿŠüนมาก แตŠยŠĂมไมŠĂาจÿŠงผูšÿูงĂายุนั้น ไปรับบริการจากÿถานÿงเคราะĀŤที่ดูแลผูšÿูงĂายุโดยตรงไดš ฉันใดฉันนั้น ĀากเปŨนกรณีขĂง ผูšพิการ ÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งยŠĂมไมŠĂาจÿŠงเขšาÿถานคุšมครĂงเฉพาะไดšทันเüลากŠĂนที่ผูšพิการ จะไดšใชšÿิทธิขĂงตนเĂงĂยŠางแทšจริงในฐานะพลเมืĂง41 เมื่ĂไมŠÿามารถÿŠงผูšที่จำเปŨนเขšารับบริการÿถานÿงเคราะĀŤเฉพาะไดš ปŦญĀาคüาม แนŠนขนัด42และไมŠทั่üถึงจึงเกิดขึ้น เปŨนปŦญĀาซ้ำซšĂนที่ยังไมŠไดšรับการแกšไขเÿียที 6.5 ปŦญĀาการใชšมาตรา 22 ในเชิงปฏิบัติ พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 มาตรา 22 เปŨนĂีกĀนึ่งมาตราภายใตš พระราชบัญญัตินี้ที่มีปŦญĀาทางกฎĀมายมากมายและเปŨนที่üิจารณŤขĂงนักüิชาการüŠาไมŠÿามารถ ตĂบÿนĂงคüามจำเปŨนขĂงคนไรšที่พึ่งไดšทั้งยังเปŨนขšĂจำกัดใĀšกับชีüิตขĂงคนไรšที่พึ่งในĂีกทางĀนึ่ง ดšüย ในüรรคแรกขĂงมาตรา 22 แĀŠงพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 บัญญัติüŠา ในกรณีที่บุคคลใดถูกกลŠาüĀาüŠากระทำคüามผิดเกี่ยüกับการพักĂาýัยในที่ÿาธารณะ ตามกฎĀมายĀรืĂขšĂบัญญัติทšĂงถิ่น ĀากเจšาĀนšาที่ตามกฎĀมายĀรืĂขšĂบัญญัติทšĂงถิ่นนั้นเĀ็นüŠา บุคคลดังกลŠาü มีลักþณะเปŨนคนไรšที่พึ่งและÿมคüรไดšรับการคุšมครĂงในÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ใĀšเจšาĀนšาที่ÿŠงตัüคนไรšที่พึ่งนั้นไปยังÿถานคุšมครĂงคนไรšพี่ง ĀรืĂýูนยŤคุšมครĂงคนไรšที่พี่งทั้งนี้ โดยคüามยินยĂมขĂงคนไรšที่พึ่ง ปŦญĀาจากการปรับใชšขĂงมาตรา 22 üรรคแรกคืĂการที่ใชšมาตรการทางกฎĀมายในเชิง บีบบังคับใĀšคนไรšที่พึ่งซึ่งเปŨนผูšกระทำผิดเกี่ยüกับที่พักĂาýัยในที่ÿาธารณะเขšาไปในÿถานคุšมครĂง คนไรšที่พึ่ง แมšจะกำĀนดüŠาเปŨนÿิทธิเÿรีภาพในการใĀšคüามยินยĂม แตŠในทางปฏิบัติ คüามยินยĂมมาตรานี้ยังคงมีปŦญĀาที่ขัดตŠĂĀลักที่คุšมครĂงÿิทธิและเÿรีภาพและปŦญĀาในการ ตีคüาม43 ที่ไมŠĂาจละเลยไดšโดยĂาจกลŠาüถึงĀลักคüามยินยĂมไดšüŠา 41 เรื่Ăงเดียüกัน. 42 เรื่Ăงเดียüกัน. 43 ธนÿุนทร ÿüŠางÿาลีปŦญĀาทางกฎĀมายเกี่ยüกับการคุšมครĂงบุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยตามพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 [ĂĂนไลนŤ]. Āนšา 4.
48 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ 1) ผูšใĀšคüามยินยĂมตšĂงรูšÿำนึกและเขšาใจถึงการกระทำนั้น รüมถึงรูšผลขĂงการกระทำนั้น ดšüย 2) คüามยินยĂมนั้นตšĂงเกิดขึ้นดšüยคüามÿมัครใจปราýจากการĂันจะทำใĀšคüามเขšาใจขĂง ผูšยินยĂมถูกบิดเบืĂนไป เชŠน การกระทำกลฉšĂฉล เชŠนเดียüกัน คนไรšที่พึ่งที่ตšĂงการเขšา ÿถานÿงเคราะĀŤจะตšĂงเขšาใจถึงÿาระÿำคัญขĂงÿถานÿงเคราะĀŤนั้น ๆ โดยไมŠถูก เจšาĀนšาที่ผูšดูแลขŠมขูŠ ĀรืĂกระทำการใด ๆ ในเชิงบังคับ 3) คüามยินยĂมที่ไดšใĀšĂยŠางÿมบูรณŤนั้น ตšĂงมีĂยูŠตลĂดระยะเüลาที่เขšารับคüามคุšมครĂง ĀากตŠĂมามีคüามประÿงคŤจะขĂจากÿถานคุšมครĂง แตŠไมŠไดšรับĂนุญาตใĀšĂĂกจากคüาม คุšมครĂงขĂงĀนŠüยงาน กรณียŠĂมขัดกับĀลักในเรื่ĂงขĂงคüามยินยĂม44 นĂกจากนี้ มาตรานี้ยังถืĂüŠาเปŨนการบังคับใĀšบุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยเขšารับคüามคุšมครĂง เพื่ĂแลกกับการไมŠถูกดำเนินคดีซึ่งแÿดงถึงคüามไมŠเขšาใจในÿภาพคüามเปŨนจริงในüิถีชีüิตขĂง บุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยที่ยังÿามารถĀาเลี้ยงชีพตนเĂงไดšและไมŠประÿงคŤจะเขšาÿถานคุšมครĂง คนไรšที่พึ่ง ทั้งในüรรคÿĂงและüรรคÿามขĂงมาตรา 22 แĀŠงพระราชบัญญัติการคุšมครĂง คนไรšที่พึ่งยังเปŨนเงื่Ăนไขบังคับ และเปŨนการนำมาตรการทางĂาญามาใชšบังคับในการคุšมครĂง บุคคลไรšĂยูŠĂาýัยใĀšจำตšĂงมĂบคüามยินยĂมเพื่ĂมิใĀšตนตšĂงถูกรับโทþในทางกฎĀมาย ซึ่งĀากไมŠ ยินยĂมจะตšĂงถูกดำเนินคดีตŠĂไป45 ตŠĂประเด็นดังกลŠาü ÿามารถÿังเกตไดšüŠา ในการดำเนินชีüิตโดยปกติทั่üไปขĂงคนไรšที่ĂยูŠ Ăาýัยแลšü พüกเขาจำเปŨนตšĂงใชšชีüิตในที่ÿาธารณะที่ในบางครั้งĂาจจะมีการกระทำที่ละเมิดตŠĂ กฎĀมายไปบšางโดยมิไดšเจตนา เชŠน การรุกล้ำผิüถนน เมื่ĂถูกเจšาĀนšาที่ขĂงรัฐปราบปรามและ จับกุม นำไปÿูŠการนำมาตรการลงโทþทางĂาญามาใชšกับบุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยซึ่งเปŨนผูšĂยูŠในÿภาüะ ยากลำบาก โดยใชšมาตรการบังคับใĀšมĂบคüามยินยĂมเพื่ĂมิใĀšถูกรับโทþ จึงยŠĂมไมŠตŠางĂะไรกับ การรังแกบุคคลเชŠนüŠานั้นมากขึ้น 6.6 ปŦญĀาในทางทะเบียน ทะเบียนไดšแกŠÿิ่งที่นำมาใชšเพื่ĂยืนยันตัüตนüŠาเปŨนคนÿัญชาติไทยĀรืĂคนไทยโดยกำเนิด ภายใตšพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 พบüŠา กรณีถšาĀากไมŠมีÿถานะทาง 44 เรื่Ăงเดียüกัน. 45 เรื่Ăงเดียüกัน.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 49 ทะเบียน ไมŠมีบัตรประจำตัüประชาชนที่แÿดงถึงÿถานะคüามเปŨนคนไทย จะทำใĀšบุคคลไรšที่ĂยูŠ ĂาýัยยังถูกเลืĂกปฏิบัติโดยไมŠÿามารถจะไปใชšบริการ ĀรืĂขĂรับบริการÿิทธิขั้นพื้นฐานไดš46 ตŠĂประเด็นนี้ Ăธิบดีกรมพัฒนาÿังคมและÿüัÿดิการ กลŠาüüŠา กรมฯ เปŨนĀนŠüยงานรัฐในการจัด ÿüัÿดิการใĀšคüามชŠüยเĀลืĂแกŠประชาชนที่ประÿบปŦญĀาคüามเดืĂดรšĂน โดยกลุŠมผูšที่มีปŦญĀา ÿถานะทางทะเบียนเปŨนĀนึ่งในกลุŠมเปŜาĀมาย ตามพระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý.2557 ซึ่งมีกระบüนการพัฒนาÿถานะทางทะเบียนในแตŠละดšาน ประกĂบดšüย กลุŠมผูšที่มีปŦญĀาÿถานะ ทางทะเบียนเปŨนĀนึ่งในกลุŠมเปŜาĀมาย ตามพระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý.2557 ซึ่งมีกระบüนการพัฒนาÿถานะทางทะเบียนในแตŠละดšาน ĂยŠางไรก็ดี ในทางปฏิบัติ ปŦญĀาดังกลŠาüยังคงเปŨนปŦญĀาÿำคัญที่แกšไขมิไดšโดยงŠาย ดšüยบทบัญญัติแĀŠงพระราชบัญญัติคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý.2557 มาตรา 19 บัญญัติüŠา คนไรšที่พึ่งมีÿิทธิขĂรับการคุšมครĂงจากÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งĀรืĂýูนยŤคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง แตŠมิไดšบัญญัติครĂบคลุมถึงบุคคลไรšที่ĂยูŠĂาýัยที่ไมŠมีบัตรประจำตัüประชาชนĀรืĂไรšÿถานะทาง ทะเบียนไüšเปŨนการเฉพาะ ทั้งประเด็นดังกลŠาüเปŨนปŦญĀาที่เกี่ยüเนื่ĂงกับĀลักการการไมŠเลืĂกปฏิบัติ ซึ่งเปŨน ĀลักการÿำคัญĂันเปŨนพื้นฐานขĂงคüามเÿมĂภาคตามปฏิญญาÿากลüŠาดšüยÿิทธิมนุþยชน ซึ่งเปŨน ĀลักการÿŠüนĀนึ่งขĂงĀลักนิติธรรมĀรืĂĀลักนิติรัฐที่กำĀนดใĀšรัฐตšĂงมุŠงมั่นในการÿŠงเÿริมและ คุšมครĂงปŦจเจกชนทุกคนโดยปราýจากการแบŠงแยกทางเชื้Ăชาติ ผิüเพý ภาþา ýาÿนา คüามคิดเĀ็นการเมืĂง ĀรืĂĂยŠางĂื่น ปŦญĀาที่ปรากฏในพระราชบัญญัติดังกลŠาü จึงปŦญĀาที่ขัดตŠĂ เจตนารมณŤดšานÿิทธิมนุþยชนและÿมคüรไดšรับการแกšไขเพื่Ăคüามชัดเจนมากขึ้น 7. การคุšมครองคนไรšที่พึ่งในตŠางประเทý ปŦญĀาคนไรšที่พึ่งมิใชŠปŦญĀาภายในประเทýไทยเทŠานั้น แตŠในตŠางประเทýเĂง ปŦญĀาขšางตšนถืĂเปŨนปŦญĀาที่ไดšรับคüามÿำคัญจากภาครัฐที่ในการเขšาชŠüยเĀลืĂและแกšปŦญĀา การที่ýึกþาจากüิธีการในการแกšไขปŦญĀานี้จากตŠางประเทýที่ÿามารถแกšไขปŦญĀาคนไรšที่ĂยูŠĂาýัย 46 เรื่Ăงเดียüกัน.
50 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ไดšÿำเร็จ จึงถืĂเปŨนĂีกüิธีĀนึ่งในการจุดประกายใĀšนโยบายและกฎĀมายตŠางๆขĂงประเทýไทย ในĂนาคต 7.1 ประเทýฟŗนแลนดŤ ฟŗนแลนดŤเปŨนประเทýที่มีจำนüนคนไรšบšานนšĂยและถูกขนาดนามüŠาเปŨนประเทýที่ ÿามารถแกšไขปŦญĀาคนไรšบšานไดšดีที่ÿุด ÿำĀรับมาตรการที่ÿำคัญที่ฟŗนแลนดŤไดšใชšในการยุติปŦญĀา คนไรšที่พึ่งประเทýขšางตšนใดมุŠงเนšนไปที่การแกšปŦญĀาที่ĂยูŠĂาýัยในระยะยาüเปŨนĂยŠางแรก ĀรืĂ “Housing First” นโยบายขšางตšน ถูกบังคับใชšเพื่ĂใĀšคนไรšบšานถูกคุšมครĂงเพื่ĂใĀšมีÿุขภาพที่ดี นโยบาย ดังกลŠาüเปŨนการรŠüมมืĂกันระĀüŠางรัฐบาลขĂงฟŗนแลนดŤ รัฐบาลทšĂงถิ่นและภาคเĂกชน นโยบาย นี้มĂบที่พักเพื่ĂใĀšตรงกับคüามตšĂงการขĂงผูšĂยูŠĂาýัยแตŠละคน (individual’s needs) โครงการ ดังกลŠาüยังÿĂดคลšĂงกับรัฐธรรมนูญขĂงฟŗนแลนดŤที่ยืนยันในÿิทธิขĂงคนในการมีýักดิ์ýรีและ ÿมคüรที่จะไดšรับÿüัÿดิการ ทั้งภาครัฐคüรจะÿนับÿนุนในÿิทธิขĂงทุกคนใĀšมีที่พักĂาýัยและ โĂกาÿในการจัดแจงที่พักขĂงตน บุคคลที่เขšารŠüมในนโยบาย “Housing first” จะถืĂเปŨนผูšเชŠา พüกเขาไดšรับÿัญญาเชŠาและจŠายเปŨนเปĂรŤเซ็นตŤขĂงคŠาเชŠาและตšนทุนการดำเนินงานโดยรüม ทั้งÿัญญาเชŠายังไดšรับการĂĂกแบบเพื่ĂใĀšผูšเชŠามีที่ĂยูŠĂาýัยถาüรดšüย47 นโยบายขšางตšนยืนĂยูŠดšüย 4 Āลักการ ดังนี้ 1) การพึ่งตนเĂงคืĂผูšไรšบšานที่เขšารŠüมจะไดšรับที่พักĂาýัยที่ตรงกับคüามจำเปŨนขĂงตนเĂง 2) คüามเปŨนĂิÿระคืĂผูšไรšบšานที่เขšารŠüมจะไดšรับการดูแลและบริการที่ÿามารถเลืĂกไดš 3) คüามมีคุณภาพคืĂคนไรšบšานที่เขšารŠüมจะไดšรับการดูแลจากĀนŠüยงานĂยŠางเทŠาเทียมกัน และจะไดšรับการตĂบกลับในทางบüกĂยูŠÿม่ำเÿมĂ 4) การบูรณาการ คืĂ คนไรšบšานที่เขšารŠüมจะไดšรับการชŠüยเĀลืĂใĀšมีÿŠüนรŠüมในÿังคม และ ติดตŠĂกับครĂบครัüĀรืĂเครืĂขŠายĂื่น ๆ48 นโยบาย Housing First ในเบื้Ăงแรกจะดำเนินการในระดับเทýบาลและโดยมูลนิธิ Y เปŨนĀลัก รัฐบาลฟŗนแลนดŤจะใĀšเงินทุนกับเทýบาลใĀšใชšในการดำเนินนโยบาย โดยเทýบาลĂาจ 47 Evan Foley. (2023, June 7). Finland’s Housing First Policy. Accessed September 9, 2023, Available from: https://www.cga.ct.gov/2023/rpt/pdf/2023-R-0109.pdf. 48 Ibid.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 51 ใชšจŠายเงินเĂงĀรืĂซื้ĂการÿนับÿนุนจากผูšใĀšบริการรายĂื่น เชŠน NGO แตŠในขณะเดียüกัน มูลนิธิ Y ยังไดšรับÿŠüนลดเงินกูšใĀšกับการซื้ĂĂÿังĀาริมทรัพยŤในตลาดÿŠüนตัüเพื่ĂĂยูŠĂาýัยแกŠคนไรšบšาน และนักÿังคมÿงเคราะĀŤที่ดูแลทรัพยŤÿิน ทำงานเพื่ĂคนไรšบšานจะไดšรับเงินจากรัฐบาลเปŨนการ ตĂบแทน49 7.1.1 ประโยชนŤของนโยบาย Housing First ตามที่กระทรüงÿิ่งแüดลšĂมขĂงฟŗนแลนดŤระบุ ฟŗนแลนดŤเปŨนประเทýเดียüในÿĀภาพ ยุโรปที่จำนüนคนไรšบšานลดลงนับตั้งแตŠ Housing First เริ่มตšนในปŘ 2008 กระทรüงระบุüŠา เนื่Ăงจากโครงการ Housing First จำนüนคนไรšบšานในระยะยาüระĀüŠางปŘ 2008 – ปŘ 2558 จึง ลดลงไป 35% ยิ่งไปกüŠานั้น ในปŘ 2559 จำนüนคนไรšบšานโดยรüมขĂงประเทýฟŗนแลนดŤยังลดลง เปŨนครั้งแรก โดยเĀลืĂนšĂยกüŠา 7,000 คน (ประชากรฟŗนแลนดŤĂยูŠที่ประมาณ 5.6 ลšานคน)50 นĂกจากนี้ ตามกรณีýึกþานโยบายจาก The Atlas ซึ่งเปŨนĂงคŤกรแÿüงĀาผลกำไรที่ จัดĀาทรัพยากรใĀšกับรัฐบาลขĂงรัฐและทšĂงถิ่น พบüŠา ฟŗนแลนดŤไดšใชšเงินĂยŠางนšĂย 270 ลšานยูโร เพื่Ăÿรšาง ซื้Ă และปรับปรุงที่ĂยูŠĂาýัยÿำĀรับโครงการ Housing First แตŠปŦจจุบันฟŗนแลนดŤใชš จŠายนšĂยลง 15,000 ยูโรตŠĂปŘตŠĂคนไรšบšาน 1 คน มากกüŠาที่เคยใชšกŠĂนที่จะเริ่มใชš Housing First ดšüยการýึกþานี้ระบุüŠาคŠาใชšจŠายภาครัฐที่ลดลงเนื่ĂงมาจากÿถานการณŤฉุกเฉินในกลุŠมคนไรšบšาน ลดลง (เชŠน จากการถูกทำรšายรŠางกายและการบาดเจ็บ) 51 กลŠาüโดยÿรุป จากการที่ฟŗนแลนดŤนำนโยบาย Housing First เขšามาใชš เปŨนĂีกĀนึ่ง ĀนทางในการเขšาชŠüยเĀลืĂคนไรšที่พึ่งที่ตšĂงใชšชีüิตในที่ÿาธารณะ ซึ่งนĂกจากจะมีจำนüน คนไรšที่พึ่งลดลง ยังÿามารถลดงบประมาณในการจัดการคนไรšที่พึ่งไดšĂยŠางมีประÿิทธิผลĂีกดšüย 7.2 ประเทýÿกอตแลนดŤ ประเทýÿกĂตแลนดŤเปŨนĂีกĀนึ่งประเทýที่มีĂัตราคนไรšบšานลดลงĂยŠางตŠĂเนื่Ăง โดยüิธีการแกšไขปŦญĀานี้ ÿก็ĂตแลนดŤไดšใชšüิธี ‘แกšปŦญĀาที่ตšนÿายแĀŠงเĀตุ’ เนื่ĂงจากüŠา ปŦญĀาคนไรšบšานÿามารถไดšรับการยับยั้งไดš Ăีกทั้งกฎĀมายÿกĂตแลนดŤ บัญญัติไüšüŠา บุคคลÿามารถกลายเปŨนผูšไรšบšานไดš Āากที่ĂยูŠĂาýัยนั้นไมŠÿามารถใชšประโยชนŤไดšĂีก 49 Ibid. 50 Ibid. 51 Ibid.
52 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ตŠĂไป ดังนั้น การĀลุดพšนจากการไรšบšานĂยŠางถาüร คืĂการจัดĀาที่ĂยูŠĂาýัยที่เĀมาะÿม ปลĂดภัย และมั่นคงถาüรจึงเปŨนมาตรĀลักในการเขšาคุšมครĂงคนไรšที่ĂยูŠĂาýัย52 แนüคิดที่ตšĂงการมาตรการที่ทำใĀšผูšคนไมŠตšĂงตกĂยูŠในคüามเÿี่ยงตŠĂการเผชิญปŦญĀา ดังกลŠาüในตั้งแตŠเบื้ĂงแรกจึงเขšามาเปŨนประเด็นĀลัก ÿก็ĂตแลนดŤจึงไดšดำเนินการการยับยั้งการ เขšาใกลšภาüะไรšบšานตั้งแตŠตšนทาง โดยมีทีมผูšเชี่ยüชาญรŠüมมืĂกับภาคประชาÿังคมที่ขับเคลื่Ăน ประเด็นคนไรšบšานในÿก็ĂตแลนดŤรŠüมดšüย นĂกจากนั้นยังไดšจัดทำรายงานตŠĂรัฐบาลกลางใĀš ĀนŠüยบริการภาครัฐมีÿŠüนรŠüมในแผนบูรณาการเพื่Ăยับยั้งคüามเÿี่ยงตŠĂภาüะไรšบšาน53 7.2.1 üิธีในการดำเนินงาน การแกšปŦญĀาจากตšนÿายแĀŠงเĀตุนี้ เริ่มจากการÿĂบถามประชาชนที่Ăาýัยในพื้นที่ใน เรื่ĂงขĂงÿถานการณŤที่ĂยูŠĂาýัย โดยเจšาĀนšาที่ÿาธารณÿุขและÿังคมÿงเคราะĀŤมีบทบาทÿำคัญ ĂยŠางยิ่งในการทำĀนšาที่ÿĂบถามÿถานการณŤที่ĂยูŠĂาýัย และจะติดตŠĂประÿานกับĀนŠüยงานที่ เกี่ยüขšĂงทันทีเมื่ĂคาดüŠาผูšรับบริการขĂงรัฐนั้นเÿี่ยงตŠĂการเจĂปŦญĀาไรšบšาน เพื่ĂระงับเĀตุใน ระดับเบื้Ăงตšน ประกĂบกับการไดšมีและĂาýัยĂยูŠในบšานคืĂเปŜาĀมายÿำคัญขĂงรัฐบาล ÿก็ĂตแลนดŤ โดยถืĂเปŨนĀมุดÿำคัญขĂงÿังคมที่ทำใĀšประชาชนไดšเขšาถึงบริการÿาธารณะขĂงรัฐ ไดšงŠาย ÿิ่งที่รัฐบาลÿกĂตแลนดŤทำจึงเปŨนการÿĂบถาม ติดตามÿถานการณŤคüามเÿี่ยงตŠĂ การไรšบšานขĂงประชาชนที่เขšารับบริการภาครัฐĂยูŠเÿมĂ และเริ่มลงมืĂติดตามเปŨนรายบุคคล เมื่ĂคาดüŠาคนคนนั้นจะมีคüามเÿี่ยง และÿŠงเรื่ĂงไปยังĀนŠüยงานที่เกี่ยüขšĂงเพื่ĂขĂรŠüมมืĂชŠüย ยับยั้งคüามเÿี่ยงนี้54 ในรายงานขĂงผูšเชี่ยüชาญยังเÿนĂĂีกüŠา ĂงคŤกรผูšใĀšเชŠาเพื่Ăÿังคม (social landlords) คüรเปŨนÿŠüนĀนึ่งที่จะชŠüยการยับยั้งภาüะไรšบšาน และรัฐบาลทšĂงถิ่น (council) คüรใĀšÿถาน พักพิงชั่üคราüแกŠผูšที่กำลังตšĂงĀาที่ĂยูŠĂาýัยĂยŠางถาüร นĂกจากนี้ มาตรการชั่üคราüในชŠüงการ แพรŠระบาดขĂงโคüิดเพื่ĂปกปŜĂงผูšเชŠาทั่üไปจากการถูกไลŠที่ĀรืĂÿั่งใĀšยšายĂĂกยังคüรพัฒนาตŠĂ 52 Penguin Homeless. การแกšปŦญĀาคนไรšบšานตšĂงแกšที่ตšนเĀตุ: บทเรียนจากÿก็ĂตแลนดŤ [ĂĂนไลนŤ]. 22 มีนาคม 2564. แĀลŠงที่มา https://penguinhomeless.com/lesson-from-scotland/. 53 เรื่Ăงเดียüกัน. 54 เรื่Ăงเดียüกัน.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 53 ยĂดใĀšเปŨนมาตรการที่ถูกบังคับใชšĂยŠางถาüร และคüรใĀšĂำนาจรัฐบาลทšĂงถิ่น (council) ในการ ระงับคำÿั่งไลŠที่ไดšĂีกดšüย55 จึงÿังเกตไดšüŠา ดšüยนโยบายระงับตšนเĀตุแĀŠงปŦญĀาขĂงÿกĂตแลนดŤ ตัüเลขคนไรšบšาน ในประเทýจึงมีจำนüนลดลงĂยŠางมีนัยÿำคัญ เปŨนผลลัพธŤแĀŠงคüามÿำเร็จที่ประเทýไทย จำเปŨนตšĂงดูไüšเปŨนตัüĂยŠางตŠĂไป 7.3 ประเทýญี่ปุśน ประเทýญี่ปุśนเปŨนประเทýที่มีÿถิติคนไรšบšานนšĂย ĀรืĂแทบจะไมŠมี เบื้ĂงĀลังขĂง คüามÿำเร็จนี้เปŨนนโยบายที่เรียบงŠายแตŠมีประÿิทธิภาพ ซึ่งนโยบายที่นำมาใชšที่ทำใĀšจำนüนคนไรš บšานในญี่ปุśนมีปริมาณลดลงเรื่Ăย ๆ นี้เĂง คืĂการที่ĀนŠüยงานราชการตามเมืĂงเขšาชŠüยเĀลืĂĂยŠาง จริงจัง เปŨนการแกšปŦญĀาจากตšนธาร ทั้งตามเขตตŠาง ๆ ในญี่ปุśนยังใĀšคüามÿำคัญในการใĀš คนไรšบšานÿามารถพึ่งพาตนเĂงไดš และกระตุšนÿภาพแüดลšĂมในการเกิดการจšางงาน ในเมืĂงโตเกียüขĂงญี่ปุśน มีการจัดตั้งýูนยŤชŠüยเĀลืĂเพื่Ăการพึ่งพาตนเĂง เพื่Ăรับดูแล ผูšไรšบšาน รüมถึงผูšกำลังจะเปŨนผูšไรšบšานชั่üคราü ทั้งยังมีการจัดการบริการดšานที่พักĂาýัย ĂาĀาร การบริการĂบรมüิชาชีพ และการชŠüยเĀลืĂโดยการĀาและแนะนำงาน56 นĂกจากนี้ จากการýึกþา พบüŠา ในญี่ปุśนมีĂงคŤกรมากมายที่คĂยชŠüยเĀลืĂผูšไรšที่ĂยูŠ Ăาýัย Ăาทิ Tsukuroi Tokyo Fund ที่มีเปŜาประÿงคŤเพื่ĂการจัดĀาที่พักĂาýัยและจัดĀางาน ใĀšกับคนไรšที่พึ่ง ซึ่งที่พำนักที่ถูกดำเนินการโดย Tokyo Tsukuroi Fund นี้ ไดšพัฒนามาจาก บšานรšาง ไมŠมีผูšคนĂาýัยĂยูŠÿูŠÿถานที่พักใĀšกับคนไรšที่พึ่ง จากการดำเนินงานดังกลŠาü Tsuyoshi Inaba ผูšĂำนüยการขĂงĂงคŤกร เผยüŠา ผูšที่ไดšĂาýัยในบšานĀลังนี้ÿามารถใชšชีüิตภายในÿังคมไดš ĀลังจากĂĂกไป57 แÿดงใĀšเĀ็นถึงýักยภาพขĂงนโยบายที่พักĂาýัยขĂงญี่ปุśนเปŨนĂยŠางดี ทั้งĂงคŤกรขšางตšนยังไดšÿรšางรšานกาแฟแĀŠงĀนึ่งขึ้นมา โดยรšานกาแฟนี้ไดšจšางคนไรšที่ĂยูŠ Ăาýัยทั้งที่มีÿุขภาพจิต ĀรืĂไมŠมีÿุขภาพจิตมาทำงาน58 ผลลัพธŤจากการชŠüยเĀลืĂกันขĂงทั้ง 55 เรื่Ăงเดียüกัน. 56 The Borgen project. (2020, April 17). The Current State of Homelessness in Japan. Accessed September 9, 2023, Available from: https://borgenproject.org/homelessness-in-japan/. 57 Ibid. 58 Ibid.
54 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ภาครัฐและĂงคŤกร คืĂในปŦจจุบันประเทýญี่ปุśนเปŨนประเทýที่ประÿบคüามÿำเร็จในการแกšปŦญĀา คนไรšที่ĂยูŠĂาýัยที่ÿมคüรนำมาเปŨนแบบĂยŠางĂีกประเทýĀนึ่งทีเดียü ประเทýไทยมีแนüโนšมไปในทางใด เมื่ĂมĂงยšĂนกลับมาที่ประเทýไทยแลšü ยŠĂมจะทำใĀšเĀ็นไดšüŠา แนüโนšมขĂงประเทýไทย นั้นจะĂิงไปตามการนำที่ĂยูŠĂาýัยเขšามาเปŨนนโยบายĀลักÿำคัญ แตŠขšĂจำกัดที่ทำใĀšประเทýไทย ไมŠประÿบคüามÿำเร็จในการแกšไขปŦญĀาคนไรšบšานเĀมืĂนกับประเทýที่กลŠาüมา ยŠĂมเปŨนเพราะ ขาดทรัพยากรและงบประมาณ ไมŠÿามารถĀาÿüัÿดิการมาÿนับÿนุนคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยไดšมากพĂ รüมถึงการแกšปŦญĀายังไมŠเĀมาะÿมกับประเทý ทำใĀšมีผูšĀลุดจากระบบÿถานÿงเคราะĀŤเปŨน จำนüนมาก ไมŠÿามารถแกšปŦญĀาไดšĂยŠางยั่งยืนไดšจึงถึงเüลาแลšüที่ประเทýไทยจะไดšปรับระบบ ใĀมŠ เขšาชŠüยเĀลืĂแบบเชิงรุกเนšนใĀšคนไรšที่พึ่งทุกคนÿามารถĂยูŠไดšไมŠüŠาจะไดšเขšาไปใน ÿถานคุšมครĂง ĀรืĂเลืĂกที่จะĂĂกมาĂยูŠในที่ÿาธารณะ 8. คüามเปลี่ยนแปลงของÿังคม : กรณีýึกþา ดšüยÿังคมĂันเปŨนพลüัตที่มีคüามเปลี่ยนแปลงตลĂดเüลา กฎĀมายในฐานะเครื่ĂงมืĂ ขĂงÿังคมจึงมีคüามจำเปŨนที่จะตšĂงมีคüามครĂบคลุมและพัฒนาใĀšกับÿถานการณŤใĀมŠ ๆ ĂยูŠเÿมĂ แตŠในชŠüงĀลายปŘที่ผŠานมา ÿถานการณŤในเมืĂงไทยไดšแปรผันไปตามÿังคมĂยŠางรüดเร็ü และคüามเปลี่ยนแปลงเชŠนüŠานั้นไดšกŠĂใĀšเกิดผลกระทบตŠĂภาคÿŠüนตŠาง ๆ เปŨนüงกüšาง โดยเฉพาะĂยŠางยิ่งกลุŠมคนไรšที่พึ่ง แตŠÿถานการณŤเĀลŠานั้นจะเปŨนÿถานการณŤแบบใด และÿŠงผล กระทบตŠĂคนไรšที่พึ่งĂยŠางไร ดังจะไดšกลŠาüตŠĂไป ดังนี้ 8.1 ÿถานการณŤCovid-19 การเกิดโรคระบาดเปŨนÿถานการณŤที่ไมŠมีใครคาดการณŤมากŠĂน โดยกŠĂนที่ÿถานการณŤ Covid-19 จะแพรŠระบาดนั้น คนไรšที่พึ่งยังคงมีแĀลŠงรายไดšประจำจากการประกĂบĂาชีพที่ไมŠมี รายไดšประจำĂยูŠบšาง แตŠĀลังจากที่โรคดังกลŠาüแพรŠระบาดมากขึ้น ทำใĀšคนบางกลุŠมซึ่งไมŠมีรายไดš ประจำขาดรายไดšĂยŠางมีนัยÿำคัญ โดยเฉพาะĂยŠางยิ่งเมื่ĂมาตรการปŗดเมืĂง (Lockdown) ถูก นำมาใชš พบüŠา มีคนไรšที่พึ่งซึ่งไมŠมีที่พักĂาýัยจำนüนมากที่ไดšรับผลกระทบโดยคนไรšบšานบางคน
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 55 ถูกเลิกจšาง คนไรšบšานบางคนจากที่มีรายไดšนšĂยĂยูŠแลšü ยิ่งนšĂยลงเขšาไปĂีกจากการที่ตšĂงซื้Ă ĀนšากากĂนามัยที่มีราคาÿูงมากกüŠาปกติในÿถานการณŤโรคระบาด ในกรณีดังกลŠาüนี้เĂง ปŦญĀาที่คนไรšที่พึ่งไมŠÿามารถเขšาถึงÿüัÿดิการตŠาง ๆ จากภาครัฐ จึงถืĂเปŨนปŦญĀาที่ÿำคัญ ซึ่งแมšจะมีนโยบายตŠาง ๆ เพื่ĂเขšามาชŠüยเยียüยา แตŠĀนึ่งในนโยบายดšาน การเงินĂยŠาง ‘เราชนะ’ กลับมีปŦญĀาตั้งแตŠเริ่มนโยบาย กลŠาüคืĂ เนื่ĂงจากนโยบายดังกลŠาüมีการ เปŗดระบบลงทะเบียนĂĂนไลนŤ คนที่จะÿามารถลงทะเบียนนั้นไดš จึงจำเปŨนĂยŠางยิ่งที่จะตšĂงมี เครื่ĂงมืĂĂิเล็กทรĂนิกÿŤ แตŠในทางคüามเปŨนจริง คนไรšที่พึ่งขาดเครื่ĂงมืĂในการĂำนüยคüาม ÿะดüกในการลงทะเบียนĂĂนไลนŤแมšจะÿามารถไปลงทะเบียนที่ธนาคารขĂงรัฐไดš แตŠถึงกระนั้น ÿำĀรับคนไรšที่พึ่งที่ĂยูŠĀŠางไกลคüามเจริญ ÿิ่งนี้ยังเปŨนปŦญĀาĂยูŠดี กรณีดังกลŠาü ตามพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 กำĀนดใĀšมี ÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งĂันเปŨนมาตรการที่ÿำคัญ แตŠปรากฏüŠา ในคüามเปŨนจริงÿถานคุšมครĂง นั้นกลับเปŨนที่ที่จำกัดĂิÿระขĂงคนไรšที่พึ่ง และยังมีคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยĂีกĀลายคนที่ไมŠเขšาÿูŠระบบนี้ เพราะตšĂงการไดšรับการปกปŜĂงคุšมครĂงจากรัฐจากโรค Covid-19 เชŠน การเขšาถึงĂุปกรณŤ ปŜĂงกันตัüเĂง เขšาถึงการตรüจโคüิด และการเขšาถึงüัคซีน และมีที่ĂยูŠĂาýัยที่เĀมาะÿม ไมŠใชŠที่ĂยูŠ ĂาýัยในลักþณะใĀšไปนĂนรüม ๆ กันในÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง ยิ่งไปกüŠานั้น ตŠĂมาเพื่ĂปŜĂงกันการแพรŠระบาดขĂงเชื้Ăไüรัÿ รัฐจึงไดšประกาý ÿถานการณŤฉุกเฉินตามพระราชกำĀนดการบริĀารราชการในÿถานการณŤฉุกเฉินในเขตทšĂงที่ใน ประเทýไทย ซึ่งมุŠงเนšนใĀšประชาชนĂยูŠในที่ĂาýัยขĂงตนเพื่ĂĀลีกเลี่ยงโรคโคüิดและĀลีกเลี่ยง ผูšคนจำนüนมาก แตŠการกำĀนดมาตรการเชŠนนี้ไดšÿŠงผลกระทบตŠĂคนไรšที่ĂยูŠĂาýัยเปŨนจำนüนมาก เพราะมาตรการดังกลŠาüเนšนย้ำในการใÿŠĀนšากากĂนามัย กินรšĂนใชšชšĂนÿŠüนตัüเพื่Ăลดคüามเÿี่ยง ในการติดเชื้Ăไüรัÿ แตŠการกำĀนดมาตรการเชŠนนั้นไมŠÿามารถนำมาปรับใชšไดšกับคนไรšที่พึ่งในทาง ขšĂเท็จจริงเนื่Ăงจากคนไรšที่พึ่งมิมีที่ĂยูŠĂาýัยเปŨนขĂงตน ทั้งยังประÿบปŦญĀาในการเขšาถึงโĂกาÿ ในดšานÿิทธิÿüัÿดิการตŠางๆ ĀรืĂÿิทธิขั้นฐาน ทางĂนามัย ทั้งยังไมŠมีผูšใดใĀšพึ่งพิง ผลคืĂ คนไรšที่พึ่ง เปŨนกลุŠมเÿี่ยงที่จะติดเชื้ĂĀรืĂเปŨนผูšกระจายเชื้Ăและÿุดทšายมีคüามเÿี่ยงในการเÿียชีüิตมากกüŠา คนĂื่น ทั้งเมื่ĂคำนึงถึงÿüัÿดิการในระบบÿาธารณÿุขในÿถานการณŤโรคระบาด Covid-19 ปŦญĀาในการเขšาถึงÿüัÿดิการในดšานĂนามัยนี้ถืĂเปŨนปŦญĀาที่จำเปŨนตšĂงใĀšคüามÿำคัญ เนื่Ăงจาก
56 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ คนไรšที่พึ่งบางÿŠüนไมŠไดšรับการดูแลจากรัฐในดšานที่ตĂบÿนĂงตŠĂการใชšชีüิตĂยŠางมีคุณภาพไมŠüŠา จะเปŨนเรื่ĂงĂาĀาร เรื่Ăงที่ĂยูŠĂาýัย ĀรืĂในเชิงปŜĂงกัน ĂาทิการตรüจโคüิดĀรืĂการไดšรับüัคซีน การทำคüามเขšาใจถึงปŦญĀาในขšĂนี้จึงเปŨนเรื่Ăงที่ÿำคัญเพราะยŠĂมจะÿŠงผลโดยตรงกับคนไรšที่พึ่ง Ăีกทั้งปŦญĀาในลักþณะนี้ยังขัดตŠĂĀลักÿิทธิมนุþยชนโดยเฉพาะĂยŠางยิ่งÿิทธิในĂนามัยที่เปŨนÿิทธิ ในทางบังคับที่รัฐจำตšĂงมĂบใĀšแกŠทุกคน ÿĂดคลšĂงกับรัฐธรรมนูญüŠาบุคคลยากไรšยŠĂมมีÿิทธิ ไดšรับบริการÿาธารณÿุขขĂงรัฐโดยไมŠเÿียคŠาใชšจŠายตามที่กฎĀมายบัญญัติ59 ไมŠüŠาจะมาจากที่ใด ÿถานภาพเปŨนเชŠนไรยŠĂมตšĂงไดšรับการคุšมครĂงโดยเÿมĂกัน 8.2 มาตรการใĀšÿิทธิตŠางชาติถือครองที่ดินในเมืองไทย ĀลังจากüิกฤติการณŤ Covid-19 ที่ทำใĀšประเทýประÿบปŦญĀาเýรþฐกิจ นายกรัฐมนตรี ฝśายการเมืĂงปฏิบัติĀนšาที่โฆþกประจำÿำนักนายกรัฐมนตรีแถลงมติคณะรัฐมนตรีĂนุมัติĀลักการ รŠางกฎกระทรüงการไดšมาซึ่งที่ดินเพื่ĂใชšเปŨนที่ĂยูŠĂาýัยขĂงคนตŠางดšาüตามมาตรการกระตุšน เýรþฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนตŠางดšาüที่มีýักยภาพÿูงÿูŠประเทýไทย แตŠเนื่Ăงจากเÿียง üิจารณŤทางดšานเýรþฐกิจและÿังคมจากประชาชน รŠางกฎกระทรüงดังกลŠาüจึงถูกเพิกถĂนใน ที่ÿุด ĂยŠางก็ดี มาตรการกระตุšนเýรþฐกิจและการลงทุนดšüยการดึงชาüตŠางชาติเขšามาถืĂครĂง ที่ดินในประเทýไทยนั้นมีมานานแลšü เมื่ĂถĂนรŠางกฎกระทรüงแลšü จะกลับไปใชšรŠางกฎกระทรüง ฉบับเดิมในปŘ 2545 ซึ่งมาตรการดังกลŠาüทำใĀšเกิดขšĂถกเถียงกันมากมาย เนื่Ăงจากการเปŗด โĂกาÿใĀšชาüตŠางชาติถืĂครĂงที่ดินในไทยไดšนี้ เปŨนผลÿืบเนื่Ăงมาจากมาตรการกระตุšนเýรþฐกิจ และการลงทุน ดังนั้น จึงไมŠใชŠชาüตŠางชาติทุกคนที่ÿามารถถืĂครĂงที่ดินในประเทýไทยไดš แตŠตšĂง เปŨนกลุŠมชาüตŠางชาติที่มีคุณÿมบัติผŠานเกณฑŤ 4 กลุŠม ไดšแกŠ 1) กลุŠมประชากรชาüตŠางชาติที่มีคüามมั่งคั่งÿูง 2) กลุŠมชาüตŠางชาติที่เกþียณĂายุแลšüจากตŠางประเทý 3) กลุŠมชาüตŠางชาติที่ตšĂงการทำงานในประเทýไทย 4) กลุŠมชาüตŠางชาติผูšมีคüามเชี่ยüชาญพิเýþ ซึ่งชาüตŠางชาติเĀลŠานี้จะถืĂครĂงที่ดินไทยไดšไมŠเกิน 1 ไรŠ และตšĂงĂยูŠภายใตšเงื่Ăนไขที่ กำĀนดเทŠานั้น 59 รัฐธรรมนูญแĀŠงราชĂาณาจักรไทย พุทธýักราช 2560 มาตรา 47.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 57 Āากพิจารณาถึงเงื่ĂนไขขĂงการที่ชาüตŠางชาติคนĀนึ่งจะÿามารถถืĂครĂงที่ดินในไทยไดš แลšüนั้น จะเĀ็นไดšĂยŠางชัดเจนถึงผลดีมากกüŠาผลเÿีย เพราะตŠางชาติ 1 คนÿามารถถืĂครĂงที่ดิน ในประเทýไทยไดšเพียงแคŠ 1 ไรŠ และเปŨนไปไดšเพื่ĂการĂยูŠĂาýัยเทŠานั้น ในขณะที่ประเทýไทยจะ ไดšเม็ดเงินลงทุนเขšามาในประเทýมากถึง 40 ลšานบาทตŠĂคน ซึ่งถืĂüŠาก็เปŨนไปตามแนüคิดที่ตั้งใจ ใĀšÿิทธินี้เปŨนมาตรการกระตุšนเýรþฐกิจขĂงประเทýในระยะยาü60 แตŠทั้งนี้ เนื่Ăงจากที่ดินเปŨนทรัพยŤÿินÿำคัญที่เปŨนตšนธารขĂงทรัพยŤÿินในทางเýรþฐกิจ ตŠาง ๆ จึงเปŨนเĀตุผลที่ที่ดินคüรÿงüนไüšซึ่งเฉพาะแตŠคนไทยที่ÿามารถถืĂครĂงไดš แตŠการที่ กฎĀมายขšางตšนไดšĂนุญาตใĀšตŠางชาติเขšามาเชŠา และถืĂÿิทธิครĂบครĂงแมšจะมีขšĂจำกัดĀรืĂ เงื่ĂนไขตŠาง ๆ โดยมีจุดประÿงคŤเพื่ĂÿŠงเÿริมการลงทุนดšานเýรþฐกิจจากตŠางประเทý แตŠแทšจริง แลšü การจดทะเบียนเปŨนนิติบุคคลซึ่งตŠางชาติถืĂĀุšนรšĂยละ 49 และคนไทยที่เปŨนตัüแทนตŠางชาติ ถืĂĀุšนĂีกรšĂยละ 51 ทำไปเพื่Ăดำเนินการซื้Ăที่ดินและÿรšางที่พักÿŠüนตัüĀรืĂเขšามาลงทุนทำ โครงการĂÿังĀาริมทรัพยŤ ซึ่งยŠĂมจะไมŠเปŨนประโยชนŤใด ๆ ในทางเýรþฐกิจใĀšกับประเทýไทยซึ่ง ขัดตŠĂเจตนารมณŤขĂงกฎĀมายขšางตšน ปŦญĀาüŠาประเด็นดังกลŠาüÿŠงผลกระทบĂยŠางไรกับคนไรšที่พึ่งนั้น พึงจะĂธิบายถึง ผลกระทบจากการที่ชาüตŠางชาติเขšามาถืĂครĂงที่ดินไดšüŠาโดยปกติüิÿัยแลšü คนไรšที่พึ่งเปŨนบุคคล ที่ไมŠมีที่ĂยูŠĂาýัยมีมาตรฐานในการใชšชีüิตต่ำกüŠาบุคคลทั่üไป แมšจะถืĂครĂงÿัญชาติไทยĀรืĂไมŠ แตŠขšĂเท็จจริงที่üŠาคนกลุŠมนี้ไรšที่ĂยูŠĂาýัยเปŨนเรื่Ăงที่ไมŠคüรมĂงขšาม มีคüามกังüลตŠĂมาตรการ ดังกลŠาüüŠาÿุดทšายแลšüคนไทยจะไมŠมีที่ดินทำกินที่ดินĂยูŠĂาýัย มิพักตšĂงพูดถึงคนไรšที่พึ่งเลย เนื่ĂงจากชาüตŠางชาติที่เขšาถืĂครĂงประเทýไทยนĂกจากจะทำใĀšพื้นที่ขĂงคนไรšที่พึ่งĀดตัüไปแลšü ยังเปŨนการเพิ่มราคาใĀšกับที่ดินĂื่น ๆ ĂันเปŨนการลำบากในการทำมาĀากินขĂงคนไรšที่พึ่งที่ยังคงมี คüามÿามารถในการเลี้ยงชีพไดšคนไทยจะไมŠมีกำลังซื้Ăที่ดิน และจะตกĂยูŠในÿถานการณŤที่ ĂุปÿงคŤมากกüŠาĂุปทานในทางเýรþฐýาÿตรŤการที่รัฐมีนโยบายดังกลŠาüจึงÿŠงผลกระทบตŠĂ คนไรšที่พึ่งĂยŠางมีนัยÿำคัญและÿมคüรไดšรับการใĀšคüามÿำคัญในการĂĂกกฎĀมายเพื่ĂคุšมครĂง ตŠĂไป 60 ýูนยŤขšĂมูลĂÿังĀาริมทรัพยŤ. ตŠางชาติถืĂครĂงที่ดินในประเทýไทยไดšĂยŠางไร [ĂĂนไลนŤ]. 25 ธันüาคม 2565. แĀลŠงที่มา https://www.reic.or.th/Knowledge/SuggestionHomeDetail/140.
58 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ 9. บทÿรุป ปŦจจุบันประเทýไทยไดšดำเนินการแกšปŦญĀาคนไรšที่พึ่งในกลุŠมไรšที่ĂยูŠĂาýัยโดยเÿมĂมา เĀตุเพราะคนไรšพึ่งคืĂมนุþยŤผูšมีýักดิ์ýรี และคุณคŠา ผูšซึ่งตšĂงการÿüัÿดิการทางÿังคมจากรัฐ แตŠ ในทางขšĂเท็จจริงแลšü บุคคลเĀลŠานี้กลับไมŠไดšรับÿิทธิเฉกเชŠนที่คüรจะไดšในฐานะพลเมืĂง เนื่ĂงจากมีปŦญĀาที่มาจากĀลากĀลายÿาเĀตุดšüยกัน ĂันไดšแกŠ ทั้งปŦญĀาดšานÿถานภาพทาง เýรþฐกิจ ปŦญĀาดšานÿุขภาพ และปŦญĀาคŠานิยมÿังคม พระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 จึงไดšถูกยกรŠางมาเพื่ĂมĂบคüามคุšมครĂงเปŨนการเฉพาะใĀšแกŠบุคคลเĀลŠานี้ โดยเริ่ม จากการใĀšคำจำกัดคüามขĂงคำüŠาคนไรšที่พึ่งในพระราชบัญญัติการคุšมครĂงคนไรšที่พึ่ง พ.ý. 2557 กำĀนดใĀšมีคณะกรรมการและÿถานคุšมครĂงคนไรšที่พึ่งและกำĀนดĂำนาจĀนšาที่ใĀšกับ คณะกรรมการเĀลŠานั้น ถึงกระนั้น ประเทýไทยยังคงประÿบกับคüามทšาทายในการปรับใชšพระราชบัญญัติ ดังกลŠาü เนื่ĂงจากปŦญĀาการขาดทรัพยากรและปŦญĀาที่ยังไมŠÿามารถตĂบโจทยŤคüามตšĂงการใน ชีüิตใĀšกับคนไรšที่พึ่งไดšเพื่ĂเปŨนแนüทางในการปรับกฎĀมายใĀšทันÿมัย เทŠาทันกับÿังคมĂันเปŨน พลüัต การดำเนินงานเพื่ĂแกšไขปŦญĀาขĂงตŠางประเทýที่ประÿบคüามÿำเร็จจึงเปŨนเรื่Ăงที่คüรจะ นำมาýึกþา โดยÿุดทšายนี้ กรณีýึกþาจากÿถานการณŤทางÿังคมจะเปŨนĀนึ่งในตัüĂยŠางที่ทำใĀšเĀ็น üŠาเĀตุใดกฎĀมายจะตšĂงเดินใĀšเร็üเทียมกับÿภาพÿังคม เปŨนจุดเริ่มตšนใĀšกับแนüทางในการ พัฒนากฎĀมายขĂงประเทýไทยใĀšÿามารถแกšปŦญĀาคนไรšที่พึ่งไดšĂยŠางตรงจุดและจัดบริการ ÿüัÿดิการÿังคมจนประÿบคüามÿำเร็จดังเดียüกับนานาประเทý โดยĂาจเขšาไปขับเคลื่ĂนปŦญĀา จากตšนเĀตุ รŠüมมืĂกับภาคทšĂงถิ่น และเขšาชŠüยเĀลืĂแบบเชิงรุกตŠĂไปĂยŠางยั่งยืน ผูšเขียนจึงĀüังเปŨนĂยŠางยิ่งüŠา คนไรšที่พึ่งจะไดšรับคüามÿำคัญจากทุกภาคÿŠüนในประเทý ไทย และประÿบคüามÿำเร็จดังนานาĂารยประเทýที่แมšจะไมŠĂาจขจัดคüามเĀลื่Ăมล้ำภายใน ÿังคมไปไดš แตŠคนไรšที่พึ่งยังÿามารถมีคุณภาพชีüิตที่ดีไดšดังเดียüกับปŦจเจกชนทั่üไปในÿังคม
03 บทความที่
60 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ มาตรการการจัดการคาร์บอนของไทยในการปรับตัüเข้าÿู่ Net zero emissions ปารณียŤ จันลองจับจิต วิภาวี เชิดชูวงศŤสันติ1 1. คüามนำ üิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงÿภาพภูมิĂากาýเป็นคüามท้าทายครั้งใĀญ่ที่ทั่üโลกกำลัง เผชิญ เนื่ĂงจากการดำรงĂยู่ขĂงปัญĀาÿ่งผลกระทบต่Ăทุกประเทýทั่üโลกและจะยิ่งทüีคüาม รุนแรงมากยิ่งขึ้นĀากไม่มีการĀารืĂกันĂย่างจริงจัง ดังนั้นจึงมีการกำเนิดขึ้นขĂงคüามตกลง ระĀü่างประเทýที่ÿำคัญ Ăย่างĂนุÿัญญาÿĀประชาชาติü่าด้üยการเปลี่ยนแปลงÿภาพภูมิĂากาý (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) ที่นำไปÿู่คüาม ตกลงเพิ่มเติมใต้กรĂบดังกล่าüคืĂพิธีÿารเกียüโต (Kyoto Protocol: KP) ซึ่งปัจจุบันถูกแทนที่ ด้üยคüามตกลงปารีÿ (Paris Agreement) กฎĀมายระĀü่างประเทýที่มีบทบาทÿำคัญต่ĂการรับมืĂต่Ăüิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลง ÿภาพภูมิĂากาýขĂงนานาประเทý คืĂ คüามตกลงปารีÿ Ăันเกิดจากที่ประชุมรัฐภาคีแĀ่ง ĂนุÿัญญาÿĀประชาชาติü่าด้üยการเปลี่ยนแปลงÿภาพภูมิĂากาý ครั้งที่ 21 (COP21) ซึ่งเป็น คüามร่üมมืĂจากĀลายประเทýทั่üโลก ทั้งประเทýพัฒนาที่พัฒนาแล้üและกำลังพัฒนารüมถึง ประเทýไทยเĂง โดยĀนึ่งในüัตถุประÿงค์ÿำคัญแĀ่งคüามตกลงดังกล่าüเกี่ยüข้Ăงกับการพยายาม คงระดับĂุณĀภูมิขĂงโลกไม่ใĀ้ÿูงขึ้น และมีเป้าĀมายร่üมกันในการคüบคุมการเพิ่มขึ้นขĂง ĂุณĀภูมิเฉลี่ยขĂงโลกไม่ใĀ้ÿูงขึ้นเกิน 2 Ăงýาเซลเซียÿ ซึ่งüัตถุประÿงค์ดังกล่าüจะบรรลุผลไม่ได้ Āากไม่มีการพยายามคüบคุมปริมาณก๊าซเรืĂนกระจกโดยเฉพาะก๊าซคาร์บĂนไดĂĂกไซด์ ซึ่งเป็น ตัüแปรÿำคัญในการเร่งระดับĂุณĀภูมิโลกใĀ้ÿูงขึ้น และต่Ăมาในช่üงเดืĂนพฤýจิกายน พ.ý. 2564 เกิดการประชุมรัฐภาคีแĀ่งĂนุÿัญญาÿĀประชาชาติü่าด้üยการเปลี่ยนแปลงÿภาพ ภูมิĂากาý ครั้งที่ 26 (COP26) ซึ่งประเทýภาคีÿมาชิกต่างประกาýเป้าĀมายมุ่งÿู่คüามเป็นกลาง ทางคาร์บĂน (Carbon Neutrality) และการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿุทธิเป็นýูนย์ (Net Zero Emissions) ทั้งนี้ประเทýไทยได้เข้าร่üมประชุมและแÿดงเจตนารมณ์ลดการปล่Ăยก๊าซเรืĂน 1 นิÿิตชั้นปีที่ 4 คณะนิติýาÿตร์ จุāาลงกรณ์มĀาüิทยาลัย *คณะผู้เขียนขĂขĂบพระคุณ ผู้ช่üยýาÿตราจารย์ ดร.ปิติ เĂี่ยมจำรูญลาภ ที่ได้กรุณารับเป็นที่ปรึกþาบทคüามฉบับนี้
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 61 กระจก โดยได้ประกาýเป้าĀมายการเข้าÿู่คüามเป็นกลางทางคาร์บĂน ภายในปี ค.ý. 2050 และ เป้าĀมายการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿุทธิเป็นýูนย์ ภายในปี ค.ý. 20652 ÿำĀรับบทคüามฉบับนี้ผู้เขียนจึงนำเÿนĂแนüคิดจากต่างประเทýที่ใช้ในการÿร้าง แรงจูงใจใĀ้เกิดการลดคาร์บĂนĂย่างเป็นรูปธรรมผ่านการเพิ่มราคาใĀ้แก่คาร์บĂน ซึ่งมีเนื้ĂĀา ÿาระครĂบคลุมถึงระบบตลาดและมาตรการทางภาþี รüมทั้งĂธิบายถึงกฎĀมายÿิ่งแüดล้Ăมและ มาตรการที่ประเทýไทยใช้ในการบังคับ ĀรืĂจูงใจใĀ้ผู้ประกĂบการĀันมาÿนใจประเด็น ÿิ่งแüดล้Ăมมากขึ้น เพื่ĂüิเคราะĀ์ถึงประÿิทธิภาพขĂงกฎĀมายไทยในการรับมืĂเกี่ยüกับการลด การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกคüบคู่ไปกับแนüโน้มการพัฒนากฎĀมายขĂงไทยที่ได้จากแนüคิดที่ ýึกþา 2. เป้าĀมายในคüามเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกÿุทธิเป็นýูนย์ ÿืบเนื่ĂงจากการประชุมรัฐภาคีแĀ่งĂนุÿัญญาÿĀประชาชาติü่าด้üยการเปลี่ยนแปลง ÿภาพภูมิĂากาýครั้งที่ 21 (COP21) ที่ทำใĀ้เกิดคüามตกลงปารีÿ (Paris Agreement) Ăันเป็น การตั้งเป้าĀมายในการคüบคุมการเพิ่มขึ้นขĂงĂุณĀภูมิเฉลี่ยขĂงโลกไม่ใĀ้ÿูงขึ้นเกิน 2 Ăงýา เซลเซียÿ และดำเนินมาถึงการประชุมรัฐภาคีแĀ่งĂนุÿัญญาÿĀประชาชาติü่าด้üยการ เปลี่ยนแปลงÿภาพภูมิĂากาý ครั้งที่ 26 (COP26) ซึ่งประเทýภาคีÿมาชิกต่างประกาýเป้าĀมาย มุ่งÿู่คüามเป็นกลางทางคาร์บĂน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ý. 2050 และการปล่Ăยก๊าซ เรืĂนกระจกÿุทธิเป็นýูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี ค.ý. 20653 โดยทั้งÿĂงเป้าĀมาย ต่างมีข้Ăแตกต่างกันในลักþณะขĂงกลไก ดังนี้ คüามเป็นกลางทางคาร์บĂน (Carbon Neutrality) คืĂ การที่ปริมาณการปล่Ăยก๊าซ เรืĂนกระจกÿู่ชั้นบรรยากาýเท่ากับปริมาณก๊าซเรืĂนกระจกที่ถูกดูดกลับคืนมาโดยผ่าน 3 กลไก ได้แก่ (1) “ลด” การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก เช่น การใช้พลังงานĀมุนเüียนแทนการใช้เชื้Ăเพลิง ฟĂÿซิล (Fossil Fuel) (2) “ดูดกลับ” ก๊าซเรืĂนกระจกจากชั้นบรรยากาý เช่น การปลูกป่าเพื่Ă เพิ่มแĀล่งÿะÿมก๊าซคาร์บĂนไดĂĂกไซด์ตามธรรมชาติ (Carbon Sink) การใช้เทคโนโลยีในการ 2 ลดโลกร้Ăนด้üย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions แĀล่งที่มา : https://www.onep.go.th/ลดโลกร้Ăนด้üยcarbon-neutrality-และ-net-zer [21 กันยายน 2566]. 3 เรื่Ăงเดียüกัน.
62 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ ดักจับก๊าซคาร์บĂนไดĂĂกไซด์และนำกลับมากักเก็บใต้พื้นดินĀรืĂใช้ในĂุตÿาĀกรรมĂื่น ๆ และ (3) “ชดเชย” การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกด้üยการซื้Ăคาร์บĂนเครดิต (Carbon Credit Offset) เช่น ปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกเท่ากับ 200 ล้านตันคาร์บĂนไดĂĂกไซด์เทียบเท่า และมี คüามÿามารถในการดูดกลับก๊าซเรืĂนกระจกได้เพียง 100 ล้านตันคาร์บĂนไดĂĂกไซด์เทียบเท่า ก็ÿามารถชดเชยการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกที่เĀลืĂĂีก 100 ล้านตันคาร์บĂนไดĂĂกไซด์เทียบเท่า ด้üยการซื้Ăคาร์บĂนเครดิต4 ÿ่üนการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿุทธิเป็นýูนย์ (Net Zero Emissions) คืĂ การที่ปริมาณการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกเท่ากับก๊าซเรืĂนกระจกที่ถูกดูดซับĂĂกจากชั้น บรรยากาýโดยผ่านเพียง 2 กลไก ได้แก่ “ลด” การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก และ “ดูดกลับ” ก๊าซ เรืĂนกระจกจากชั้นบรรยากาý โดยไม่ÿามารถชดเชยการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกด้üยการซื้Ă คาร์บĂนเครดิตได้ ทำใĀ้การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกต้Ăงถูกชดเชยด้üยกิจกรรมที่ดูดกลับก๊าซเรืĂน กระจกครบถ้üนĀนึ่งร้ĂยเปĂร์เซ็นต์ เช่น ปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกเท่ากับ 100 ล้านตัน คาร์บĂนไดĂĂกไซด์เทียบเท่า ก็จะต้Ăงมีกิจกรรมที่ลดĀรืĂดูดกลับก๊าซเรืĂนกระจกเท่ากับ 100 ล้านตันคาร์บĂนไดĂĂกไซด์เทียบเท่ากัน5 เมื่ĂพิจารณาจะเĀ็นได้ü่าในการที่จะไปÿู่เป้าĀมายการทำใĀ้กระบüนการปล่Ăยก๊าซเรืĂน กระจกÿุทธิเป็นýูนย์ĂันเÿมืĂนü่าไม่เคยมีการปล่Ăยก๊าซเกิดขึ้นĂย่าง Net Zero Emission นั้น เป็นเป้าĀมายที่มีคüามท้าทายĂย่างมาก ต้ĂงĂาýัยýักยภาพการบริĀารจัดการขĂงภาครัฐใน ระดับประเทýĂย่างเข้มงüดและจริงจัง ดังนั้นการทำใĀ้คüามเป็นกลางทางคาร์บĂนÿำเร็จ เÿียก่Ăนจึงเป็นก้าüแรกและเป็นจุดเริ่มต้นที่ÿำคัญในการนำไปÿู่การเข้าใกล้เป้าĀมายÿูงÿุดคืĂการ ปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿุทธิเป็นýูนย์ใĀ้ÿำเร็จได้ 3. คาร์บอนกับมูลค่าทางเýรþฐกิจ ภาüะโลกร้Ăนเป็นüิกฤตการณ์Āนึ่งที่เกิดจากการที่มนุþย์ปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกไปยังชั้น บรรยากาý ซึ่งก๊าซเรืĂนกระจกในที่นี้ Āมายถึง ก๊าซที่มีคุณÿมบัติในการดูดซับคลื่นรังÿีคüามร้Ăน ĀรืĂรังÿีĂินฟาเรดได้ดีมีคุณÿมบัติในการรักþาĂุณĀภูมิในบรรยากาýขĂงโลกใĀ้คงที่ผ่าน 4 เรื่Ăงเดียüกัน. 5 เรื่Ăงเดียüกัน.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 63 กระบüนการกักเก็บคüามร้Ăนในเüลากลางüันและแผ่รังÿีคüามร้ĂนĂĂกมาในเüลากลางคืน ทั้งนี้ มีก๊าซĀลายชนิดที่ถูกจัดĂยู่ในกลุ่มก๊าซเรืĂนกระจก ซึ่งมีทั้งก๊าซที่เกิดขึ้นเĂงตามธรรมชาติและ เกิดจากกิจกรรมขĂงมนุþย์ โดยก๊าซเรืĂนกระจกที่ÿำคัญได้แก่ ไĂน้ำ ก๊าซคาร์บĂนไดĂĂกไซด์ โĂโซน มีเทนและไนตรัÿĂĂกไซด์ ÿารซีเĂฟซี เป็นต้น Ăย่างไรก็ตามก๊าซเรืĂนกระจกที่ถูกคüบคุม โดยพิธีÿารเกียüโต มีเพียง 7 ชนิด โดยจะต้Ăงเป็นก๊าซที่เกิดจากกิจกรรมขĂงมนุþย์ (Anthropogenic greenhouse gas emission) เท่านั้น ได้แก่ ก๊าซคาร์บĂนไดĂĂกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซไนตรัÿĂĂกไซด์ (N2O) ก๊าซไăโดรฟลูĂĂโรคาร์บĂน (HFC) ก๊าซเพĂร์ฟลูĂĂ โรคาร์บĂน (PFC) ก๊าซซัลเฟĂร์เăกซะฟลูĂĂไรด์ (SF6) และก๊าซไนโตรเจนไตรฟลูĂĂไรด์ (NF3) ซึ่งกิจกรรมการใช้ชีüิตขĂงมนุþย์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเผาไĀม้เชื้Ăเพลิงจากถ่านĀิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ การทำเกþตรและปýุÿัตü์ ล้üนเป็นปัจจัยที่เพิ่มปริมาณก๊าซเรืĂน กระจกÿู่ชั้นบรรยากาý ÿ่งผลใĀ้ĂุณĀภูมิขĂงโลกร้Ăนมากขึ้นĂย่างĀลีกเลี่ยงไม่ได้6 เมื่Ăการปล่Ăย ก๊าซเรืĂนกระจกÿ่งผลกระทบต่Ăโลก จึงทำใĀ้มนุþย์เริ่มคิดĀาüิถีทางในการจัดการกับปัญĀานี้ ซึ่ง üิธีĀนึ่งที่จะเป็นเครื่ĂงมืĂในการบรรลุüัตถุประÿงค์ได้Ăย่างมีนัยÿำคัญ คืĂ การนำกลไกทางตลาด เข้ามาเป็นเครื่ĂงมืĂกระตุ้นใĀ้มนุþย์เกิดการตื่นตัüและตระĀนักรู้ถึงผลกระทบขĂงภาüะโลกร้Ăน โดยüิธีการที่ถูกĂĂกแบบขึ้นมานี้ เรียกü่า Carbon Pricing คืĂ การทำใĀ้กิจกรรมการ ปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿู่ชั้นบรรยากาýมีมูลค่าในทางเýรþฐกิจ ทำใĀ้เกิดผลกระทบต่Ăภาคธุรกิจ คืĂต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่Ăงจากการปล่Ăยก๊าซÿ่üนใĀญ่มักเกิดจากกิจกรรมกระบüนการ ผลิตและภาคĂุตÿาĀกรรมต่าง ๆ เพื่Ăใช้ในการประกĂบธุรกิจ และเมื่Ăระบบนี้เกิดขึ้นก็จะเข้ามา เป็นตัüเร่งใĀ้ผู้ประกĂบการต้Ăงคำนึงถึงผลกระทบจากการปล่Ăยก๊าซและร่üมมีÿ่üนได้ÿ่üนเÿีย Ăันเป็นการกำĀนดคüามรับผิดชĂบใĀ้ธุรกิจภาคĂุตÿาĀกรรมมีÿ่üนร่üมในผลลัพธ์ขĂงการปล่Ăย ก๊าซ ทำใĀ้การปล่Ăยคาร์บĂนนั้นมีราคาที่ต้Ăงจ่าย โดยมีรูปแบบดังนี้ 3.1 ระบบ Cap and Trade เป็นระบบที่ถูกĂĂกแบบขึ้นมาโดยมีเป้าĀมายÿำคัญ เพื่Ăลดการปล่Ăยก๊าซ คาร์บĂนไดĂĂกไซด์ÿู่ชั้นบรรยากาý ซึ่ง “Cap” คืĂการที่ภาครัฐกำĀนดเพดานÿูงÿุดÿำĀรับการ ปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกต่ĂĀนึ่งธุรกิจ ÿ่üน “Trade” คืĂการซื้Ăขายÿิทธิการปล่Ăยก๊าซเรืĂน 6 คüามรู้ด้านก๊าซเรืĂนกระจก แĀล่งที่มา : https://www.tgo.or.th/2020/index.php/th/page/ปรากฎการณ์ก๊าซเรืĂน กระจก-319 [10 กันยายน 2566].
64 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ กระจก โดยทั้งÿĂงĂย่างนี้เป็นการทำงานร่üมกัน ทำใĀ้คüามÿามารถในการปล่Ăยก๊าซเรืĂน กระจกนั้นจะถูกนำมาตีมูลค่าเป็นต้นทุนในทางธุรกิจ ซึ่งÿิทธิในการได้รับĂนุญาตใĀ้ปล่Ăยก๊าซ คาร์บĂนไดĂĂกไซด์จะถูกจัดÿรรใĀ้กับĂุตÿาĀกรรมต่าง ๆ ที่มีĂัตราการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿูง เข้ามาĂยู่ในระบบขĂงภาครัฐ ทำใĀ้ĂุตÿาĀกรรมนั้น ๆ ถูกจำกัดปริมาณการปล่Ăยก๊าซเรืĂน กระจกตามที่ภาครัฐกำĀนดใĀ้ และต้Ăงรายงานผลการตรüจüัดปริมาณการปล่Ăยก๊าซเรืĂน กระจกใĀ้แก่รัฐทุกปี โดยเป็นการตรüจüัดที่ต้Ăงผ่านการตรüจÿĂบĂย่างถูกต้Ăง7 ซึ่งÿิ่งที่กล่าüมานี้มีชื่Ăü่า ระบบซื้Ăขายÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก (Emission Trading Scheme: ETS) จัดเป็นกลไกประเภท “Site Based” ĀรืĂ “Facility Based” ที่มี ภาครัฐเป็นผู้กำกับดูแลเป็นÿ่üนใĀญ่ ซึ่งĀากมีการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกมากกü่าÿิทธิที่ตนได้รับ การจัดÿรร ก็จะÿ่งผลใĀ้เกิดคüามรับผิดชĂบในการที่จะต้ĂงĀาซื้Ăÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂน กระจกจากโรงงานĀรืĂĂงค์กรĂื่น ๆ ภายใต้ระบบเดียüกันเพื่Ăมาชดเชยในÿ่üนที่ตนปล่Ăยเกิน ทำ ใĀ้ทุกครั้งที่มีการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกเกินปริมาณที่กำĀนดมีราคาที่ต้Ăงจ่ายเÿมĂ8 นĂกจากกลไกประเภท Site Based ซึ่งเป็นการบังคับจากภาครัฐใĀ้ต้Ăงลดการปล่Ăย ก๊าซแล้ü ยังมีกลไกĂีกประเภทĀนึ่งที่เรียกü่า “Project Base” Ăันเป็นกลไก “ภาคÿมัครใจ” ที่ ทำใĀ้พฤติกรรมการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกมีมูลค่าในทางเýรþฐกิจĂีกทางĀนึ่งเช่นกัน โดยจะเป็น การดำเนินงานในรูปแบบการจัดทำโครงการลดก๊าซเรืĂนกระจกที่ได้มาตรฐานตามระบบ ETS โดยมีคาร์บĂนเครดิต (Carbon Credit) ซึ่งเป็นเครื่ĂงมืĂที่ถูกนำมาใช้และได้รับการยĂมรับใĀ้ ÿามารถใช้แทนÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกแบบระบบ ETS ได้ โดยเป็นการซื้Ăคาร์บĂน เครดิตเพื่Ăนำมาใช้ชดเชยปริมาณก๊าซเรืĂนกระจกที่ตนได้ปล่Ăยไปเกินกü่าÿิทธิที่ได้รับการจัดÿรร กล่าüในĂีกนัยĀนึ่งคืĂ คาร์บĂนเครดิตเป็นÿิ่งที่แÿดงถึงปริมาณก๊าซเรืĂนกระจกที่เรา ÿามารถลดĀรืĂกักเก็บไü้ได้จากโครงการ โดยในประเทýไทย กลไกการดำเนินรูปแบบนี้ถืĂกำเนิด ขึ้นภายใต้ชื่Ăโครงการลดก๊าซเรืĂนกระจกภาคÿมัครใจตามมาตรฐานขĂงประเทýไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยĂงค์การบริĀารจัดการ 7 How cap and trade works source : https://www.edf.org/climate/how-cap-and-trade-works [10 Sep 2566]. 8 "คาร์บĂนเครดิต" คืĂĂะไร ต่างจาก "ÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก" Ăย่างไร แĀล่งที่มา : https://www.tgo.or.th/2020/index.php/th/post/คาร์บĂนเครดิต-คืĂĂะไร-ต่างจาก-ÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกĂย่างไร-23 [10 กันยายน 2566].
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 65 ก๊าซเรืĂนกระจก (Ăงค์การมĀาชน) (Thailand Greenhouse Gas Management Organization: TGO) โดยจะเป็นĀน่üยงานที่รับรĂงคาร์บĂนเครดิตจากโครงการ T-VER ที่ผ่าน กระบüนการตรüจÿĂบและทüนÿĂบจากผู้ประเมินภายนĂก รüมถึงจากคณะกรรมการĂงค์การ บริĀารจัดการก๊าซเรืĂนกระจก และเมื่Ăได้ผลรับรĂงการลดการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก ผู้พัฒนา โครงการจึงจะÿามารถนำคาร์บĂนเครดิตนี้ไปขายในตลาดคาร์บĂนได้9 เมื่Ăพิจารณาจากทั้งÿĂงรูปแบบกลไกแล้üนั้น ทำใĀ้ทราบü่าการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก จะก่ĂใĀ้เกิดĀน้าที่ที่จักต้Ăงปฏิบัติตาม และการนำระบบการซื้Ăขายเข้ามาจึงเป็นเครื่ĂงมืĂÿำคัญ ที่ทำใĀ้เกิดมูลค่าทางเýรþฐกิจจากการขาดคüามตระĀนักรู้ในการดำเนินกิจการĂุตÿาĀกรรม จน เกิดเป็นกลไกทางตลาดที่มีการแลกเปลี่ยนÿิทธิการปล่Ăยก๊าซและเกิดเป็นตลาดคาร์บĂนที่มีการ ซื้Ăขายÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกเพื่Ăไม่ใĀ้การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกนั้นเป็นÿิ่งที่ใครทำก็ ได้Ăย่างĂิÿระโดยไม่คำนึงถึงüิกฤตการณ์ที่กำลังคืบคลานเข้ามาและÿ่งผลกระทบต่Ăชีüิตคüาม เป็นĂยู่ขĂงคนทั่üโลก 3.2 ระบบการเก็บภาþี มาตรการการเก็บภาþีเป็นĂีกüิธีการĀนึ่งที่ทำใĀ้การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกมีผลกระทบ ต่Ăต้นทุนในการดำเนินงานทางธุรกิจĂุตÿาĀกรรม Ăันเป็นเครื่ĂงมืĂÿำคัญขĂงภาครัฐในการ ÿนับÿนุนใĀ้ลดการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก ซึ่งในปัจจุบันประเทýไทยมีการยกเü้นภาþีเงินได้ใĀ้แก่ บริþัทĀรืĂĀ้างĀุ้นÿ่üนนิติบุคคลÿำĀรับกำไรÿุทธิที่เกิดจากการขายคาร์บĂนเครดิตในประเทý ตามโครงการลดการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกภาคÿมัครใจเพื่Ăเป็นการกระตุ้นและผลักดันใĀ้ ภาคเĂกชนเข้าร่üมและดำเนินโครงการลดการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกภาคÿมัครใจมากขึ้น ทำใĀ้ การยกเü้นภาþีเงินได้นี้เป็นüิธีการĀนึ่งที่เข้ามาÿนับÿนุนและÿ่งเÿริมการซื้Ăขายคาร์บĂนเครดิต ในตลาดคาร์บĂนใĀ้มีมากขึ้นĂีกทางĀนึ่ง โดยกำĀนดใĀ้ยกเü้นภาþีเงินได้ใĀ้แก่บริþัทĀรืĂĀ้าง Āุ้นÿ่üนนิติบุคคลที่ได้ขึ้นทะเบียนกับĂงค์การบริĀารจัดการก๊าซเรืĂนกระจก (Ăงค์การมĀาชน) เป็นเüลาÿามรĂบระยะเüลาบัญชีต่Ăเนื่ĂงกันตามĀลักเกณฑ์ üิธีการ และเงื่Ăนไขที่Ăธิบดีประกาý กำĀนด โดยการเริ่มนับรĂบระยะเüลาบัญชีตามüรรคĀนึ่ง ใĀ้เริ่มนับรĂบระยะเüลาบัญชีที่ 9 เรื่Ăงเดียüกัน.
66 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ Ăงค์การบริĀารจัดการก๊าซเรืĂนกระจก (Ăงค์การมĀาชน) ได้ĂĂกใบรับรĂงการขายคาร์บĂน เครดิตใĀ้แก่ผู้เข้าร่üมโครงการเป็นรĂบระยะเüลาบัญชีแรก10 เมื่Ăได้ทราบถึงมาตรการยกเü้นภาþีเงินได้ÿำĀรับบริþัทĀรืĂĀ้างĀุ้นÿ่üนนิติบุคคลที่มี กำไรÿุทธิที่ได้จากการขายคาร์บĂนเครดิตĂันเป็นมาตรการภายในประเทýไทยไปแล้ü ต่Ăมา พิจารณามาตราการจัดเก็บภาþีขĂงต่างประเทýพบü่า มาตรการĀนึ่งที่ÿำคัญและมีผลกระทบต่Ă Āลายประเทýทั่üโลก ได้แก่ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ซึ่งเป็น มาตรการปรับราคาคาร์บĂนก่Ăนข้ามพรมแดนขĂงÿĀภาพยุโรป ซึ่งมีที่มาจากใน พ.ý. 2562 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ĂĂกแผนการปฏิรูปÿีเขียü (European Green Deal) โดยมีเป้าĀมายใน การลดก๊าซเรืĂนกระจกÿุทธิใĀ้ได้Ăย่างน้Ăย 55% ภายใน พ.ý. 2573 (ค.ý. 2030) เมื่Ăเทียบกับ ปริมาณก๊าซเรืĂนกระจกใน พ.ý. 2533 (Fit for 55 Package)11 และใน พ.ý. 2593 ต้Ăงปล่Ăย ก๊าซเรืĂนกระจกÿุทธิเป็นýูนย์ (Net Zero Emission) เพื่ĂทำใĀ้ĂุณĀภูมิขĂงโลกไม่เพิ่มขึ้นเกิน 1.5-2.0 Ăงýาเซลเซียÿ ตามที่ตกลงกันไü้ในคüามตกลงปารีÿ (Paris Agreement) ซึ่งมาตรการ CBAM เป็นĀนึ่งในมาตรการÿำคัญขĂง European Green Deal ที่ÿĀภาพ ยุโรปจะนำมาปรับใช้ ĂันมีÿาระÿำคัญคืĂการกำĀนดราคาÿินค้านำเข้าบางประเภทเพื่Ăป้Ăงกัน การนำเข้าÿินค้าที่ปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿูงเข้ามาใน EU โดยÿินค้า 5 กลุ่มที่มีคüามเÿี่ยงÿูงต่Ă การรั่üไĀลขĂงคาร์บĂนÿูง (Carbon Leakage) ได้แก่ เĀล็กและเĀล็กกล้า ซีเมนต์ กระแÿไฟฟ้า ปุ๋ย และĂะลูมิเนียม12 ปัญĀาการรั่üไĀลขĂงคาร์บĂนเป็นการที่ผู้ผลิตในÿĀภาพยุโรปย้ายฐานการผลิตไปยัง ประเทýที่มีกฎระเบียบด้านคาร์บĂนที่เข้มงüดน้Ăยกü่า ĀรืĂการที่ผู้ประกĂบการในÿĀภาพยุโรป นำเข้าÿินค้าที่มีการปล่Ăยคาร์บĂนÿูงเพื่Ăทดแทนÿินค้าที่ผลิตในÿĀภาพยุโรป ทำใĀ้ÿĀภาพยุโรป ต้ĂงĂĂกมาตรการนี้ขึ้นมาĂันมีรูปแบบเÿมืĂนการเก็บภาþีÿินค้านำเข้าตามปริมาณการปล่Ăยก๊าซ เรืĂนกระจกในรูปแบบการคำนüณต้นทุนในการปล่Ăยคาร์บĂนในÿินค้าที่นำเข้ามาในยุโรปผ่าน การซื้ĂใบรับรĂง CBAM (CBAM Certifcate) ในราคาที่เทียบเท่ากับต้นทุนขĂงการปล่Ăย 10 พระราชกฤþฎีกาĂĂกตามคüามในประมüลรัþฎากรü่าด้üยการยกเü้นรัþฎากร (ฉบับที่ 760) พ.ý. 2566 มาตรา 3. 11 นับถĂยĀลังÿู่ CBAM : ไทยพร้Ăมแค่ไĀนเมื่ĂĂียูจะเก็บภาþีคาร์บĂนก่Ăนข้ามพรมแดน แĀล่งที่มา : https://www.krungsri.com/th/research/research-intelligence/cbam-2023 [20 กันยายน 2566]. 12 ทำคüามรู้จัก CBAM แĀล่งที่มา : https://www.set.or.th/th/about/setsource/insights/article/55-cbam [20 กันยายน 2566]
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 67 คาร์บĂนขĂงÿินค้าประเภทเดียüกันที่ผลิตในÿĀภาพยุโรป ทำใĀ้ÿ่งผลต่Ăการค้าระĀü่างประเทý ในเรื่Ăงการนำเข้าÿินค้าไปยังÿĀภาพยุโรป Āากประเทýไทยต้Ăงการนำเข้าÿินค้ากลุ่มนี้ไปยัง ÿĀภาพยุโรปก็จำต้ĂงปฏิบัติตามĀลักเกณฑ์เช่น การüัด การรายงาน และการทüนÿĂบการ ปล่Ăยคาร์บĂนที่ถูกต้Ăงและได้ตามมาตรฐานขĂงÿĀภาพยุโรป13 ดังนั้นมาตรการ CBAM จึงเป็น ปัจจัยÿำคัญที่มีผลทำใĀ้ประเทýไทยต้Ăงพัฒนาระบบและนโยบายที่เกี่ยüข้Ăงในการกำกับดูแล การปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกเพื่Ăผลประโยชน์ทางเýรþฐกิจและการค้าระĀü่างประเทý 13 เรื่Ăงเดียüกัน เชิงĂรรถที่ 7.
68 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ 4. บทบาทในการลดการปล่อยคาร์บอนตามกฎĀมายไทย โครงÿร้างกฎĀมายÿิ่งแüดล้Ăมไทยในปัจจุบัน14 จากโครงÿร้างข้างต้น เĀ็นได้ü่า ประการแรก การดำรงĂยู่ในÿภาพÿิ่งแüดล้Ăมที่ดีเป็นÿิทธิขั้นพื้นฐานĂย่างĀนึ่งที่มนุþย์ พึงมี15 ด้üยเĀตุนี้เพื่Ăที่จะปกป้Ăงÿิทธิดังกล่าü การมีĂยู่ขĂงกฎĀมายเพื่Ăÿ่งเÿริมและรักþา ÿิ่งแüดล้Ăมจึงมีคüามจำเป็น ÿำĀรับประเทýไทยได้มีการรĂงรับÿิทธิทางÿิ่งแüดล้Ăมใน รัฐธรรมนูญ16 เป็นผลใĀ้มีการĂĂกพระราชบัญญัติÿ่งเÿริมและรักþาÿิ่งแüดล้ĂมแĀ่งชาติ พ.ý. 2535 เพื่ĂรĂงรับÿิทธิตามรัฐธรรมนูญใĀ้เกิดขึ้นจริง 14 รูปภาพโครงÿร้าง แĀล่งที่มา : รĂงýาÿตราจารย์Ăุดมýักดิ์ ÿินธิพงþ์, ĀนังÿืĂกฎĀมายกับÿิ่งแüดล้Ăม, พิมพ์ครั้งที่ 5, 5 มิถุนายน 2561, Āน้า 55. 15 รĂงýาÿตรจารย์Ăุดมýักดิ์ ÿินธิพงþ์, ĀนังÿืĂกฎĀมายกับÿิ่งแüดล้Ăม, พิมพ์ครั้งที่ 5, 5 มิถุนายน 2561, Āน้า 28. 16 รัฐธรรมนูญแĀ่งราชĂาณาจักรไทย พุทธýักราช 2560 มาตรา 66 ประกĂบ 67.
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 69 ประการที่ÿĂง ปัจจุบันประเทýไทยมีกฎĀมายที่เกี่ยüข้Ăงกับประเด็นÿิ่งแüดล้Ăมไทยเป็น จำนüนมาก Ăย่างไรก็ดีบทคüามฉบับนี้จะมุ่งเน้นไปที่บทบัญญัติบางมาตราที่มีÿาระÿำคัญ เกี่ยüข้ĂงกับมลพิþทางĂากาýโดยตรง จึงĀยิบยกมาแต่เพียงบทกฎĀมายระดับพระราชบัญญัติที่ ÿำคัญĂย่างพระราชบัญญัติÿ่งเÿริมและรักþาคุณภาพÿิ่งแüดล้ĂมแĀ่งชาติ พ.ý. 2535 จาก พ.ร.บ. ÿ่งเÿริมและรักþาคุณภาพÿิ่งแüดล้Ăม พ.ý. 2535 เป็นพระราชบัญญัติที่มี คüามÿำคัญเนื่Ăงจากเป็นกฎĀมายแม่บทที่üางแนüนโยบายด้านÿิ่งแüดล้ĂมขĂงประเทýĂันมี เนื้ĂĀาที่ครĂบคลุมในĀมüดต่าง ๆ ดังต่Ăไปนี้ 1) คณะกรรมการÿิ่งแüดล้ĂมแĀ่งชาติ 2) กĂงทุนÿิ่งแüดล้Ăม 3) การคุ้มครĂงÿิ่งแüดล้Ăม ได้แก่ มาตรฐานคุณภาพÿิ่งแüดล้Ăม การüางแผน ÿิ่งแüดล้Ăม เขตĂนุรักþ์พื้นที่คุ้มครĂงÿิ่งแüดล้Ăม การจัดทำรายงานประเมิน ÿิ่งแüดล้Ăม 4) การคüบคุมมลพิþ ได้แก่ คณะกรรมการคüบคุมมลพิþ มาตรฐานการคüบคุมมลพิþ จากแĀล่งกำเนิด เขตคüบคุมมลพิþ มลพิþĂากาýและเÿียง มลพิþทางน้ำ มลพิþ Ăื่นและขĂงเÿียĂันตราย การตรüจÿĂบและคüบคุม ค่าบริการและค่าปรับ 5) มาตรการÿ่งเÿริม 6) คüามรับผิดทางแพ่ง 7) บทกำĀนดโทþ ต่ĂมาคืĂ กลไกในการลดการปล่Ăยคาร์บĂนภายใต้ พ.ร.บ. ÿ่งเÿริมและรักþาคุณภาพ ÿิ่งแüดล้Ăม พ.ý. 2535 จากโครงÿร้างขĂงพระราชบัญญัติÿ่งเÿริมและรักþาคุณภาพÿิ่งแüดล้Ăม พบü่า มีÿ่üนที่ÿĂดคล้Ăงกับการพยายามคüบคุมปริมาณการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก ผ่านการ กำĀนดĀลักเกณฑ์การคüบคุมมลพิþ คüามรับผิดทางแพ่งและบทกำĀนดโทþ ĂันจะยกตัüĂย่าง ได้ดังต่Ăไปนี้ 1. Āมüดü่าด้üยการคüบคุมมลพิþ มาตรา 55 เเĀ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้ มĂบĂำนาจแก่รัฐมนตรีในการที่จะกำĀนดค่ามาตรฐาน คüบคุมมลพิþจากเเĀล่งกำเนิดผ่านราชกิจจานุเบกþา ทั้งนี้ มาตรฐานคüบคุมมลพิþจากเเĀล่ง
70 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ กำเนิดที่ĂĂกมาโดยĂาýัยĂำนาจเเĀ่งมาตรา 55 นั้นเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่กฎĀมายĂื่นจะต้Ăง กำĀนดมาใĀ้มีคüามÿĂดคล้Ăง โดยแบ่งĀมüดĀมู่ดังนี้ 1.1 การคüบคุมยานพาĀนะ มาตรา 64 ยานพาĀนะที่จะนำมาใช้จะต้Ăงไม่ก่ĂใĀ้เกิดมลพิþเกินกü่ามาตรฐาน คüบคุม มลพิþจากแĀล่งกำเนิดที่กำĀนดตามมาตรา 55 มาตรา 65 ในกรณีที่พนักงานเจ้าĀน้าที่ตรüจพบü่าได้มีการใช้ยานพาĀนะโดยฝ่าฝืน ตาม มาตรา 64 ใĀ้ พนักงานเจ้าĀน้าที่มีĂำนาจĂĂกคำÿั่งĀ้ามใช้ยานพาĀนะนั้นโดยเด็ดขาด ĀรืĂ จนกü่าจะได้มีการแก้ไขปรับปรุงใĀ้เป็นไปตามมาตรฐานคüบคุมมลพิþจากแĀล่งกำเนิดที่กำĀนด ตามมาตรา 55 1.2 Āน้าที่ของเจ้าของĀรือผู้ครอบครองแĀล่งกำเนิดมลพิþ มาตรา 68 üรรคÿĂง เจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþที่กำĀนดตามüรรค Āนึ่งมีĀน้าที่ต้Ăงติดตั้ง ĀรืĂจัดใĀ้มีระบบบำบัดĂากาýเÿีย Ăุปกรณ์ ĀรืĂเครื่ĂงมืĂĂื่นใด ÿำĀรับ การคüบคุม กำจัด ลด ĀรืĂขจัดมลพิþซึ่งĂาจมีผลกระทบต่ĂคุณภาพĂากาýตามที่เจ้าพนักงาน คüบคุมมลพิþกำĀนด เü้นแต่ จะได้มีระบบ Ăุปกรณ์ ĀรืĂเครื่ĂงมืĂดังกล่าü ซึ่งเจ้าพนักงาน คüบคุมมลพิþได้ทำการตรüจÿภาพและทดลĂงแล้üเĀ็นü่ายังใช้การได้Ăยู่ เพื่Ăการนี้ เจ้าพนักงาน คüบคุมมลพิþจะกำĀนดใĀ้มีผู้คüบคุม การดำเนินงานระบบบำบัดĂากาýเÿีย Ăุปกรณ์ ĀรืĂ เครื่ĂงมืĂดังกล่าüด้üยก็ได้ มาตรา 80 เจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþซึ่งมีระบบบำบัดĂากาýเÿีย Ăุปกรณ์ ĀรืĂเครื่ĂงมืĂÿำĀรับคüบคุมการปล่Ăยทิ้งĂากาýเÿีย ĀรืĂมลพิþĂื่น ระบบบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂระบบกำจัดขĂงเÿียตามมาตรา 68 ĀรืĂมาตรา 70 เป็นขĂงตนเĂง มีĀน้าที่ต้Ăงเก็บÿถิติและ ข้Ăมูลซึ่งแÿดงผลการทำงานขĂงระบบ ĀรืĂĂุปกรณ์และเครื่ĂงมืĂดังกล่าüในแต่ละüัน และจัดทำ บันทึกรายละเĂียดเป็นĀลักฐานไü้ ณ ÿถานที่ตั้งแĀล่งกำเนิดมลพิþนั้น และจะต้Ăงจัดทำรายงาน ÿรุปผลการทำงานขĂงระบบ ĀรืĂĂุปกรณ์และเครื่ĂงมืĂดังกล่าüเÿนĂต่Ăเจ้าพนักงานท้Ăงถิ่นแĀ่ง ท้Ăงที่ที่แĀล่งกำเนิดมลพิþนั้นตั้งĂยู่Ăย่างน้ĂยเดืĂนละĀนึ่งครั้ง การเก็บÿถิติ ข้Ăมูล การจัดทำ บันทึกรายละเĂียดและรายงาน ใĀ้ทำตามĀลักเกณฑ์ üิธีการ และแบบที่กำĀนดในกฎกระทรüง ในกรณีที่ระบบบำบัดĂากาýเÿีย ระบบบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂระบบกำจัดขĂงเÿีย ĀรืĂĂุปกรณ์และ
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 71 เครื่ĂงมืĂดังกล่าüในüรรคĀนึ่ง จะต้Ăงมีผู้คüบคุมตามที่เจ้าพนักงานคüบคุมมลพิþกำĀนด ใĀ้ผู้ คüบคุมมีĀน้าที่ดำเนินการตามที่กำĀนดไü้ในüรรคĀนึ่งแทนเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂง 1.3 อำนาจของเจ้าพนักงานคüบคุมมลพิþในการเข้าไปตรüจÿอบและออกคำÿั่งทาง ปกครอง มาตรา 82 เพื่ĂปฏิบัติการใĀ้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ใĀ้เจ้าพนักงานคüบคุมมลพิþ มีĂำนาจดังต่Ăไปนี้ (1) เข้าไปในĂาคาร ÿถานที่ และเขตที่ตั้งขĂงโรงงานĂุตÿาĀกรรม ĀรืĂแĀล่งกำเนิด มลพิþ ĀรืĂเขตที่ตั้งขĂงระบบบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂระบบกำจัดขĂงเÿียขĂงบุคคลใด ๆ ในระĀü่าง เüลาพระĂาทิตย์ขึ้นและพระĂาทิตย์ตก ĀรืĂในระĀü่างเüลาทำการเพื่Ăตรüจÿภาพการทำงาน ขĂงระบบบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂระบบกำจัดขĂงเÿีย ระบบบำบัดĂากาýเÿีย ĀรืĂĂุปกรณ์และ เครื่ĂงมืĂต่าง ๆ เพื่Ăคüบคุมการปล่Ăยทิ้งĂากาýเÿียĀรืĂมลพิþĂื่น รüมทั้งตรüจบันทึก รายละเĂียด ÿถิติ ĀรืĂข้Ăมูล เกี่ยüกับการทำงานขĂงระบบ ĀรืĂĂุปกรณ์และเครื่ĂงมืĂดังกล่าü ĀรืĂเมื่ĂมีเĀตุĂันคüรÿงÿัยü่ามีการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ (2) ĂĂกคำÿั่งเป็นĀนังÿืĂใĀ้เจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂง ผู้คüบคุม ĀรืĂผู้ได้รับใบĂนุญาต รับจ้างใĀ้บริการระบบบำบัดน้ำเÿียĀรืĂกำจัดขĂงเÿีย จัดการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ĀรืĂ ซ่ĂมแซมระบบบำบัดĂากาýเÿีย ระบบบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂระบบกำจัดขĂงเÿีย ĀรืĂĂุปกรณ์และ เครื่ĂงมืĂต่าง ๆ เพื่Ăคüบคุมการปล่Ăยทิ้งĂากาýเÿียĀรืĂมลพิþĂื่น แต่ถ้าแĀล่งกำเนิดมลพิþนั้น เป็นโรงงานĂุตÿาĀกรรม ใĀ้แจ้งใĀ้เจ้าพนักงานตามกฎĀมายü่าด้üยโรงงานดำเนินการตามĂำนาจ Āน้าที่ต่Ăไป Āากเจ้าพนักงานตามกฎĀมายü่าด้üยโรงงานไม่ดำเนินการตามĂำนาจĀน้าที่ขĂงตน ใĀ้เจ้าพนักงานคüบคุมมลพิþมีĂำนาจดำเนินการตามที่กำĀนดไü้ในพระราชบัญญัตินี้ได้ (3) ĂĂกคำÿั่งเป็นĀนังÿืĂÿั่งปรับเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþซึ่งมิใช่ โรงงานĂุตÿาĀกรรมตามมาตรา 90 มาตรา 91 ĀรืĂมาตรา 92 ในกรณีแĀล่งกำเนิดมลพิþนั้น เป็นโรงงานĂุตÿาĀกรรม ใĀ้มีĀนังÿืĂแจ้งไปยังเจ้าพนักงานตามกฎĀมายü่าด้üยโรงงานใĀ้ĂĂก คำÿั่งปรับเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงโรงงานĂุตÿาĀกรรมนั้น โดยใĀ้ถืĂü่าเจ้าพนักงานตาม กฎĀมายü่าด้üยโรงงานเป็นเจ้าพนักงานคüบคุมมลพิþตามพระราชบัญญัตินี้ Āากเจ้าพนักงาน ตามกฎĀมายü่าด้üยโรงงานไม่ดำเนินการĂĂกคำÿั่งปรับภายในระยะเüลาĂันÿมคüร ใĀ้เจ้า
72 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ พนักงานคüบคุมมลพิþมี ĂำนาจĂĂกคำÿั่งปรับเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþที่เป็น โรงงานĂุตÿาĀกรรมนั้นได้ 2. Āมüดü่าด้üยคüามรับผิดทางแพ่ง มาตรา 96 แĀล่งกำเนิดมลพิþใดก่ĂใĀ้เกิดĀรืĂเป็นแĀล่งกำเนิดขĂงการรั่üไĀลĀรืĂ แพร่กระจายขĂงมลพิþĂันเป็นเĀตุใĀ้ผู้Ăื่นได้รับĂันตรายแก่ชีüิต ร่างกายĀรืĂÿุขภาพĂนามัย ĀรืĂ เป็นเĀตุใĀ้ทรัพย์ÿินขĂงผู้Ăื่นĀรืĂขĂงรัฐเÿียĀายด้üยประการใด ๆ เจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂง แĀล่งกำเนิดมลพิþนั้นมีĀน้าที่ต้ĂงรับผิดชĂบชดใช้ค่าÿินไĀมทดแทนĀรืĂค่าเÿียĀายเพื่Ăการนั้น ไม่ü่าการรั่üไĀลĀรืĂแพร่กระจายขĂงมลพิþนั้นจะเกิดจากการกระทำโดยจงใจĀรืĂประมาท เลินเล่ĂขĂงเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþĀรืĂไม่ก็ตาม เü้นแต่ในกรณีที่พิÿูจน์ได้ü่า มลพิþเช่นü่านั้นเกิดจาก (1) เĀตุÿุดüิÿัยĀรืĂการÿงคราม (2) การกระทำตามคำÿั่งขĂงรัฐบาลĀรืĂเจ้าพนักงานขĂงรัฐ (3) การกระทำĀรืĂละเü้นการกระทำขĂงผู้ที่ได้รับĂันตรายĀรืĂคüามเÿียĀายเĂงĀรืĂ ขĂงบุคคลĂื่น ซึ่งมีĀน้าที่รับผิดชĂบโดยตรงĀรืĂโดยĂ้Ăมในการรั่üไĀลĀรืĂการแพร่กระจายขĂง มลพิþนั้นค่าÿินไĀมทดแทนĀรืĂค่าเÿียĀายซึ่งเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþมี Āน้าที่ต้ĂงรับผิดตามüรรคĀนึ่ง Āมายคüามรüมถึงค่าใช้จ่ายทั้งĀมดที่ทางราชการต้Ăงรับภาระ จ่ายจริงในการขจัดมลพิþที่เกิดขึ้นนั้นด้üย 3. Āมüดü่าด้üยบทกำĀนดโทþทางอาญา มาตรา 92 เจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþตามมาตรา 68 ĀรืĂมาตรา 90 ผู้ใดละเü้นไม่ใช้Ăุปกรณ์และเครื่ĂงมืĂขĂงตนที่มีĂยู่ÿำĀรับการคüบคุมมลพิþĂากาý เÿียง และ คüามÿั่นÿะเทืĂน ĀรืĂละเü้นไม่ทำการบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂกำจัดขĂงเÿียโดยใช้ระบบบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂระบบกำจัดขĂงเÿียขĂงตนที่มีĂยู่และลักลĂบปล่Ăยทิ้งมลพิþน้ำเÿียĀรืĂขĂงเÿียดังกล่าü ĂĂกÿู่ÿิ่งแüดล้ĂมภายนĂกเขตแĀล่งกำเนิดมลพิþขĂงตน จะต้Ăงเÿียค่าปรับรายüันในĂัตราÿี่เท่า ขĂงจำนüนเงินค่าใช้จ่ายประจำüันÿำĀรับการเปิดเดินเครื่ĂงทำงานขĂงĂุปกรณ์ เครื่ĂงมืĂ ĀรืĂ ระบบบำบัดน้ำเÿีย ĀรืĂระบบกำจัดขĂงเÿียขĂงตนตลĂดเüลาที่ดำเนินการเช่นü่านั้น มาตรา 102 ผู้ใดฝ่าฝืนคำÿั่งĀ้ามใช้ยานพาĀนะขĂงพนักงานเจ้าĀน้าที่ตามาตรา 65 ต้Ăง ระüางโทþปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์| 73 มาตรา 106 เจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþ ผู้คüบคุม ĀรืĂผู้รับจ้าง ใĀ้บริการบำบัดน้ำเÿียĀรืĂกำจัดขĂงเÿียผู้ใดไม่จัดเก็บÿถิติ ข้Ăมูล ĀรืĂไม่ทำบันทึกĀรืĂรายงาน ตามมาตรา 80 ต้Ăงระüางโทþจำคุกไม่เกินĀนึ่งเดืĂน ĀรืĂปรับไม่เกินĀนึ่งĀมื่นบาท ĀรืĂทั้งจำทั้ง ปรับ มาตรา 107 ผู้คüบคุมĀรืĂผู้รับจ้างใĀ้บริการผู้ใดทำบันทึกĀรืĂรายงานใดที่ตนมีĀน้าที่ ต้Ăงทำตามพระราชบัญญัตินี้โดยแÿดงข้ĂคüามĂันเป็นเท็จ ต้Ăงระüางโทþจำคุกไม่เกินĀนึ่งปี ĀรืĂปรับไม่เกินĀนึ่งแÿนบาท ĀรืĂทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 108 ผู้ใดขัดขüางĀรืĂไม่ปฏิบัติตามคำÿั่งขĂงเจ้าพนักงานคüบคุมมลพิþในการ ปฏิบัติĀน้าที่ตามมาตรา 82 (1) ต้Ăงระüางโทþจำคุกไม่เกินĀนึ่งเดืĂน ĀรืĂปรับไม่เกินĀนึ่งĀมื่น บาท ĀรืĂทั้งจำทั้งปรับ จากบทบัญญัติกฎĀมายที่กล่าüมาÿะท้ĂนใĀ้เĀ็นถึงบทบาทขĂงขĂงกฎĀมายต่Ăคüาม ต้Ăงการในการซื้Ăÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก โดยขึ้นĂยู่กับการที่รัฐมีกฎĀมายที่ใช้บังคับ ในการจำกัดÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก (cap)17 ซึ่งตีคüามต่Ăไปได้ü่า ยิ่งรัฐใดมีการจำกัด ÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกผ่านกฎĀมายที่เข้มงüดย่Ăมจะนำไปÿู่ปริมาณคüามต้Ăงการใน การซื้Ăÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกที่เพิ่มขึ้นตามไปด้üย เนื่Ăงจากผู้ก่ĂใĀ้เกิดมลพิþทาง Ăากาýจะต้ĂงĀันมาÿนใจบทลงโทþทางกฎĀมายกรณีที่มีการปล่Ăยมลพิþเกินกü่าค่ามาตรฐานที่ กฎĀมายระบุ และเพื่ĂคüามĂยู่รĂดนี้เĂง ผู้ประกĂบการทางภาคธุรกิจจำนüนไม่น้ĂยจึงĂาýัยการ พึ่งพากลุ่มผู้ประกĂบการที่มีคüามÿามารถในการลดปริมาณการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกและมีการ ปล่Ăยปริมาณก๊าซเรืĂนกระจกน้Ăยในการเข้าไปซื้Ăÿิทธิในก๊าซเรืĂนกระจกÿ่üนต่างที่เĀลืĂĂยู่ Ăัน ÿ่งผลใĀ้บางบริþัทĀันมาเร่งปรับตัüใĀ้มีคüามรู้คüามเชี่ยüชาญในประเด็นเรื่Ăงการลดการปล่Ăย ก๊าซเรืĂนกระจกมากขึ้นเพื่Ăที่จะได้ไม่ต้Ăงมีราคาที่ต้Ăงจ่ายในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก ตลĂดจนĂาจนำไปÿู่รายได้ขĂงบริþัทในการขายÿิทธิการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกÿ่üนต่างต่Ă ผู้ประกĂบการที่ไม่ÿามารถลดการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกใĀ้Ăยู่ในเกณฑ์ขĂงกฎĀมายด้üยตนเĂง 17 Power of The Act: บทบาทขĂงกฎĀมายกับกลไกราคาคาร์บĂน (Carbon Pricing) แĀล่งที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/334401 [21 กันยายน 2566].
74 | ĀนังÿืĂรพีพัฒนýักดิ์ แต่ĀากรัฐใดมีกฎĀมายที่ü่าด้üยการจำกัดÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกที่เบาบาง ย่ĂมทำใĀ้แทบไม่เกิดĂุปÿงค์ĀรืĂคüามต้Ăงการในการซื้Ăÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก โดย Āากพิจารณากลไกการจำกัดÿิทธิในการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจก (cap) ขĂงกฎĀมายไทยผ่าน พระราชบัญญัติÿ่งเÿริมและรักþาคุณภาพÿิ่งแüดล้Ăม พ.ý. 2535 พบü่ามีคüามพยายาม พĂÿมคüรในการจำกัดการปล่Ăยก๊าซเรืĂนกระจกดังต่Ăไปนี้ ประการแรก พระราชบัญญัตินี้มีการบัญญัติĀลักการü่าด้üยผู้ก่Ăมลพิþเป็นผู้จ่าย (Polluter Pay Principle) ซึ่งเป็นĀลักการที่ü่าด้üยผู้ก่Ăมลพิþที่ก่ĂใĀ้เกิดคüามเÿียĀายต่Ă ÿิ่งแüดล้Ăมจะต้ĂงรับผิดชĂบในคüามเÿียĀายที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งปรากฏในมาตรา 9618 ที่ได้üางĀลัก เกี่ยüกับคüามรับผิดทางแพ่งในกรณีที่มีการรั่üไĀลĀรืĂแพร่กระจายขĂงมลพิþĂันเป็นเĀตุใĀ้ ผู้เÿียĀายซึ่งĂาจจะเป็นประชาชนทั่üไป ĀรืĂĀน่üยงานขĂงรัฐ ได้รับคüามĂันตรายแก่ชีüิต ร่างกาย ÿุขĂนามัย ĀรืĂ ทรัพย์ÿิน ÿามารถเรียกร้ĂงใĀ้เจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิด มลพิþ19 จ่ายค่าเÿียĀายĀรืĂค่าÿินไĀมทดแทน ซึ่งคüามรับผิดตามบทบัญญัติมาตรา 96 เป็น เรื่ĂงขĂงการรับผิดแบบเคร่งครัด ดังนั้นผู้เÿียĀายเพียงพิÿูจน์ใĀ้ได้ü่ามีการรั่üไĀลขĂงมลพิþจาก แĀล่งกำเนิดĂันก่ĂใĀ้เกิดคüามเÿียĀายĂย่างไรก็เพียงพĂ ไม่มีคüามจำเป็นที่จะต้Ăงพิÿูจน์เรื่Ăง คüามจงใจĀรืĂคüามประมาทเลินเล่ĂขĂงเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงแĀล่งกำเนิดมลพิþ ประการที่ÿĂง กฎĀมายไทยภายใต้พระราชบัญญัติÿ่งเÿริมและรักþาคุณภาพ ÿิ่งแüดล้ĂมแĀ่งชาติ พ.ý. 2535 มีการคüบคุมในการปล่ĂยมลพิþโดยüางĀลักเกณฑ์เรื่Ăง ยานพาĀนะที่นำมาใช้ü่าไม่ใĀ้เกินกü่าที่มาตรฐานที่กฎĀมายกำĀนด ตลĂดจนมีการใĀ้Ăำนาจแก่ เจ้าĀน้าที่ในกรณีที่ตรüจพบการฝ่าฝืนĂันทำใĀ้พนักงานเจ้าĀน้าที่มีĂำนาจในการĂĂกคำÿั่งได้ ไม่ ü่าจะเป็นการÿั่งĀ้ามใช้ĀรืĂÿั่งแก้ไขปรับปรุงใĀ้ถูกต้Ăง และบทลงโทþทางĂาญากรณีไม่ปฏิบัติ ตามคำÿั่งเจ้าĀนักงานตามมาตรา 102 ประการที่ÿาม มีการüางĀลักเรื่ĂงĂำนาจขĂงรัฐมนตรีในการที่จะกำĀนดประเภทเเĀล่ง กำเนิดมลพิþที่จะต้Ăงถูกคüบคุมในเรื่ĂงขĂงการปล่ĂยมลพิþทางĂากาýไม่ü่าในรูปเเบบใด Ăัน นำไปÿู่Āน้าที่ขĂงเจ้าขĂงĀรืĂผู้ครĂบครĂงเเĀล่งกำเนิดมลพิþที่ถูกคüบคุมตามราชกิจจานุเบกþา 18 รĂงýาÿตราจารย์Ăุดมýักดิ์ ÿินธิพงþ์, ĀนังÿืĂกฎĀมายกับÿิ่งแüดล้Ăม, พิมพ์ครั้งที่ 5, 5 มิถุนายน 2561, Āน้า 35. 19 พระราชบัญญัติÿ่งเÿริมและรักþาคุณภาพÿิ่งแüดล้Ăม พ.ý. 2535 มาตรา 4 ได้üางĀลักü่า "แĀล่งกำเนิดมลพิþ" Āมายคüามü่า ชุมชน โรงงานĂุตÿาĀกรรม Ăาคาร ÿิ่งก่Ăÿร้าง ยานพาĀนะ ÿถานที่ประกĂบกิจการใด ๆ ซึ่งเป็นแĀล่งที่มาขĂงมลพิþ.