The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prdmr.pr, 2021-07-29 23:25:05

Abstract book_final5

Abstract book_final5

การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 II
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564
II
PARTNERS

กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม กรมทรพั ยากรธรณี
กรมอุตสาหกรรมพน้ื ฐานและการเหมืองแร่ กรมทรพั ยากรนา้ บาดาล
กรมชลประทาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทย
สมาคมธรณวี ทิ ยาแหง่ ประเทศไทย สภาการเหมอื งแร่ สมาคมอทุ กธรณีวิทยาไทย
The Coordinating Committee for Geoscience Programmes in East and Southeast Asia (CCOP)

สา้ นักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
บรษิ ัท ปตท. จ้ากัด (มหาชน) บริษัท ปตท.สา้ รวจและผลิตปโิ ตรเลียม จ้ากดั (มหาชน)

III ธรณีวิถใี หม่ นวัตกรรมไทย เพื่อการพฒั นาทย่ี ั่งยนื

คำนำ

กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรด้านวิชาการ
ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม สถาบันการศึกษา และภาค
ประชาชน ได้ร่วมจัดการประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี
2564 (GEOTHAI WEBINAR 2021) ภายใตห้ วั ขอ้ “ธรณวี ถิ ี ใ ห ม่
นวัตกรรมไทย เพ่ือการพัฒนาท่ียั่งยืน” ระหว่างวันท่ี 4-6
สิงหาคม 2564 ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Webinar/Meeting
เพ่ือเป็นเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการท่ีเกี่ยวข้องในสาขา
ธรณีวิทยาทั้งในและต่างประเทศ ไดร้ ่วมนาเสนอและแลกเปลี่ยน
องค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านธรณีวิทยา การบริหารจัดการ
ทรัพยากรธรณี การลดผลกระทบด้านธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและ
ธรณีพิบัติภัย การสร้างความตระหนักให้กับสังคมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรณีของประเทศ และการรับฟัง
ปัญหาจากทุกภาคสว่ นเพอื่ พัฒนาวิชาการด้านธรณีวิทยา ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประเทศ ผ่านการ
นาเสนอผลงานทางวิชาการและการเสวนาทางวิชาการภายใต้แนวคิดฐานวถิ ีชวี ติ ใหม่ (New Normal)
การประชุมวิชาการในครั้งน้ี มีผู้สนใจเข้าร่วมเสนอผลงานทางวิชาการภายใต้หัวข้อ “ธรณีวิถีใหม่
นวัตกรรมไทย เพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืน”รวมทั้งสิ้นกว่า 169 เร่ือง โดยมีกิจกรรมสาคัญภายใต้การประชุม
ประกอบด้วยการบรรยายพเิ ศษ (Keynote Papers) โดยผู้บริหารและผู้เช่ียวชาญท่ีมีชื่อเสียงของประเทศรวม
6 เร่ือง การบรรยายวิชาการภายใต้หัวข้อหลักของการประชุม โดยผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาทั้งในและ
ต่างประเทศรวม 84 เรื่อง การนาเสนอผลงานทางวิชาการผ่านโปสเตอร์รวม 72 เร่ือง และการเสวนาทาง
วิชาการ 4 เร่อื ง โดยผ้เู ชี่ยวชาญและมปี ระสบการณ์ในทุกสาขารวมกว่า 27 ท่าน ทั้งน้ี มีผู้สนใจลงทะเบียนรับ
ฟังการประชุมวิชาการในระบบออนไลน์ในครง้ั นี้มากกวา่ 850 คน
ท้ายท่ีสุดน้ี กรมทรัพยากรธรณี หวังเป็นอย่างย่ิงว่า การประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564
(GEOTHAI WEBINAR 2021) ภายใต้หัวข้อ “ธรณีวิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน” จะเป็น
ส่วนหน่ึงของกลไกและพลังแห่งองค์ความรู้ทางด้านธรณีวิทยา เพ่ือนาไปสู่การสารวจค้นหาแหล่งสารอง
ทรัพยากรธรณีเพ่ือการพัฒนาประเทศ การบริหารจัดการทรัพยากรธรณีที่เหมาะสมและคุ้มค่า การวางแผน
การใช้ที่ดินเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างมีคุณภาพ และการบรรเทาธรณีพิบัติภัยที่เกิดจากการเปล่ียนแปลง
สภาพอากาศ และนาไปสู่ผลสัมฤทธิ์ที่สาคัญคือการสร้างความอยู่ดีกินดีของประชาชนอย่างย่ังยืนต่อไป

นายสมหมาย เตชวาล
อธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี

สงิ หาคม 2564

การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 IV
(Geothai Webinar 2021) วนั ท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564

IV

คณะบรรณำธิกำร

ที่ปรึกษา

นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรพั ยากรธรณี
นายนวิ ัติ มณขี ัตยิ ์ รองอธิบดีกรมทรพั ยากรธรณี
นายมนตรี เหลืององิ คะสตุ รองอธิบดกี รมทรัพยากรธรณี
นายนราเมศวร์ ธีระรงั สกิ ุล ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ นทป่ี รกึ ษาทางการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรณี
นางสรุ ยี ์ ธรี ะรังสกิ ลุ ผู้เชย่ี วชาญเฉพาะด้านวจิ ัยและพฒั นาธรณีวิทยา
ศ.ดร. ปญั ญา จารศุ ิริ ผเู้ ช่ยี วชาญเฉพาะด้านความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ

กองบรรณาธิการ

นายสุวภาคย์ อิ่มสมุทร ผ้อู านวยการกองเทคโนโลยธี รณี หวั หน้ากองบรรณาธกิ าร
นางอปั สร สอาดสดุ ผูอ้ านวยการกองวิเคราะห์และตรวจสอบทรัพยากรธรณี
นายธวชั ชยั เช้อื เหล่าวานชิ นกั ธรณีวทิ ยาชานาญการพิเศษ
นางสาวศริ ประภา ชาตปิ ระเสรฐิ นักธรณีวทิ ยาชานาญการพเิ ศษ
นายปรชั ญา บารงุ สงฆ์ นกั ธรณีวิทยาชานาญการพิเศษ
นางสาวศริ ิพร สงู ปานเขา นกั ธรณีวิทยาชานาญการพเิ ศษ
นายเดน่ โชค ม่นั ใจ นักธรณวี ทิ ยาชานาญการพิเศษ
นางสาวองั ศมุ าลนิ พนั โท นักธรณวี ทิ ยาชานาญการพเิ ศษ
นายศักดา ขุนดี นกั ธรณีวทิ ยาชานาญการพเิ ศษ
นายวรี ะชาติ วิเวกวิน นกั ธรณวี ทิ ยาชานาญการพิเศษ
นายเมธา ยงั สนอง นกั ธรณวี ิทยาชานาญการพิเศษ
นายประดษิ ฐ์ นเู ล นักธรณวี ทิ ยาชานาญการพิเศษ
นางสาวพรเพญ็ จันทสิทธ์ิ นกั ธรณีวิทยาชานาญการพเิ ศษ
นางสาวสริ ริ ตั น์ พูลเกษม นกั ธรณวี ทิ ยาปฏบิ ตั ิการ

ฝา่ ยเลขานกุ ารกองบรรณาธกิ าร

นางสาวดวงฤทัย แสแสงสีรงุ้ นกั ธรณีวิทยาชานาญการพิเศษ
นางสาวนา้ ฝน คาพลิ ัง นักธรณวี ิทยาชานาญการพิเศษ
นายกิตติ ขาววเิ ศษ นักธรณีวทิ ยาชานาญการพเิ ศษ

V ธรณวี ิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาทย่ี ่ังยืน

สำรบญั

Partner II

คา้ นา้ III

คณะบรรณาธิการ IV

สารบญั V

กา้ หนดการ XIX

บทคัดย่อ

Keynote papers

กรงุ เทพทรดุ 1

โดย สุทธิศกั ดิ์ ศรลัมพ์

กลไกขับเคล่ือนการอนรุ กั ษแ์ หลง่ ธรณีวิทยาของประเทศ 3

โดย สรุ ชัย ศริ พิ งษ์เสถียร

การกากบั ดูแลการสารวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย: อดตี ปจั จบุ นั อนาคต 4

โดย นเรศ สตั ยารักษ์

การยกระดบั การปฏบิ ตั ิงานด้านธรณีวิทยาในประเทศไทย : วชิ าชีพธรณวี ิทยาควบคุม 5

โดย ธนู หาญพฒั นพานิชย์

โคก หนอง นา กับ ธรณีวิทยา 8

โดย มนตรี เหลอื งอิงคะสุต และคณะ

ผลการดาเนินงานด้านธรณวี ิทยากบั การแก้ปัญหาภยั แล้งของกรมทรัพยากรธรณี 9

โดย นราเมศวร์ ธรี ะรงั สิกลุ และคณะ

สถานการณ์ถ้าประเทศไทย พ.ศ. 2564 11

โดย อนกุ ลู วงศใ์ หญ่

หลักเกณฑก์ ารจาแนกทรพั ยากรแร่ของประเทศไทย และการกาหนดเขตแหลง่ แรเ่ พอ่ื การทาเหมอื ง 12

โดย จกั รพันธ์ สทุ ธิรัตน์, กฤตยา ปัทมาลยั , และ ธวชั ชยั เชอ้ื เหลา่ วานชิ

CCOP towards premier intergovernmental organization cross borders and beyond history 13

By Young Joo LEE

Hydrogeochemical Features of Karst in the Western Thailand 14

By ZHANG Cheng, Mahippong Worakul, WANG Jin-liang, PU Jun-bing, LYU Yong,

ZHANG Qiang and HUANG Qi-bo

Indochina - New Palaeozoic Data, Terranes and New Tectonic Hypotheses 15

By Clive Burrett, Hathaithip Thassanapak, Mongkol Udchachon, Luke Gibson,

Khin Zaw and Sebastian Meffre

Content

การประชุมวชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 VI
(Geothai Webinar 2021) วนั ท่ี 4-6 สิงหาคม 2564

VI
Permian-Triassic structure and palaeogeography of the Khao Khwang Fold and Thrust belt,

Central Thailand: Implications for the development of the Indochina Terrane 17

By Christopher Keith Morley, Sukonmeth Jitmahantakul, Sopon Pongwapee and

Hathaichanok Vattanasak

Microfossils กับธรณีวทิ ยา 18

โดย ฐาสิณยี ์ เจริญฐิตริ ัตน์

Radiolarian study in Thailand: present and future subject 19

By Katsuo Sashida

Oral Presentations

กระดูกกระเบนเหนบ็ ชิ้นใหม่ของไดโนเสาร์เทอโรพอด ยุคครเี ทเชียสตอนต้น จากจงั หวัดขอนแกน่ และ

อนกุ รมวธิ านของไดโนเสาร์เทอโรพอดในประเทศไทย 21

โดย กฤษณุพงศ์ พันทานนท์, อดุลย์ สมาธิ และ สรุ เวช สธุ ธี ร

กว่าจะมาเปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติเขาสามร้อยยอด กับเหตุการณน์ า้ ทะเลถอยรน่ : หลกั ฐานจากภมู ิลักษณ์

และการหาอายุ 22

โดย พรี สทิ ธิ์ สรุ เกยี รตชิ ยั , มนตรี ชวู งษ,์ สเุ มธ พนั ธวุ งคร์ าช, กติ ติ ขาววเิ ศษ และ ปญั ญา จารศุ ริ ิ

การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ในงานธรณีวิทยาวศิ วกรรม 23

โดย ธนู หาญพัฒนพานิชย์

การเชื่อมโยงธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณภี าคใต้ส่กู ารนาเสนอในพิพิธภัณฑซ์ ากดกึ ดาบรรพ์ ธรณีวทิ ยา

และธรรมชาตวิ ิทยา จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี เพื่อสรา้ งจติ สานึกการอนรุ กั ษ์ 26

โดย เดน่ โชค มน่ั ใจ และ สถาพร มิตรมาก

การคน้ พบซากดึกดาบรรพแ์ ละการประเมนิ แหลง่ ซากดึกดาบรรพ์เพื่อบรหิ ารจัดการตามกฎหมายใน

พน้ื ทจ่ี ังหวัดสกลนคร 27

โดย พรเพญ็ จนั ทสทิ ธ,์ิ ณสนนท์ ขาคมเขตร,์ วนั สริ ิ บญุ หลา้ , ไปรยา จนั ตบิ๊ และ เกษฎาภรณ์ เครอื ภกั ดี

การจดั เกบ็ ข้อมูลของซากดกึ ดาบรรพ์เพื่อวิเคราะหก์ ารเปลีย่ นแปลงในอนาคตสาหรบั การพัฒนาแหล่ง

เรยี นรโู้ ดยเทคนคิ โฟโตแกรมมิตรี กรณศี ึกษาไม้กลายเปน็ หินขนาดยาวที่สดุ ในโลก ณ อุทยานแหง่ ชาติ

ดอยสอยมาลัย จงั หวัดตาก 28

โดย คงกระพัน ไชยทองศรี และ สรุ เวช สธุ ธี ร

การจัดทาแผนที่เส่ยี งอุทกภยั จังหวัดสงิ ห์บุรี 29

โดย สรุ ศกั ด์ิ บญุ ลอื , ประภาพรรณ จนั ทมาศ, พฒั นร์ ชั พงศ์ กมลยะบตุ ร, ดารกิ า ฆารสะอาด และ

วสิ ทุ ธิ์ ศริ พิ รนพคณุ

การทาแผนท่ีซากดึกดาบรรพ์ และกาหนดเส้นทางท่องเทยี่ วแหล่งมรดกธรณภี นู า้ หยด จังหวดั เพชรบูรณ์ 30

โดย จันทนี ดวงคาสวสั ดิ์, ชัญชนา คาชา และ ทวชิ ากร ทะสี

การประเมินรปู แบบการวบิ ตั ิบรเิ วณฐานเขาตาปู 31

โดย ศักดา ขนุ ด,ี เสาวภาพ อุทัยรตั น์, ธนวัฒน์ รักเฮงกุล และ นภัตสร ตณั ฑ์สุระ

Content

VII ธรณีวถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพ่อื การพัฒนาทยี่ ง่ั ยนื

การประยกุ ตใ์ ชร้ ะบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ เพอ่ื ศกึ ษาระดบั ความสญู เสยี เชงิ กายภาพ บรเิ วณพน้ื ทที่ ไี่ ดร้ บั 33
ผลกระทบจากสนึ ามิ พ้นื ทภ่ี าคใต้ฝง่ั อนั ดามัน 34
35
โดย แพรวพรรณ คิดอ่าน และ ภาวณิ ี ไมห้ อม 36
การพฒั นารปู แบบกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดโนเสารเ์ พอื่ รองรบั การเปน็ อทุ ยานธรณี : กรณีศกึ ษาแหลง่ ภเู วยี ง 38
หอ้ งเรียนท้องถิ่น บทเรยี นจากมรดกทางธรณีวิทยา 40
41
โดย ศกั ดิช์ ยั จวนงาม, ธีระพล อตุ ะมะชะ และ กมลลกั ษณ์ วงษโ์ ก 42
การพัฒนาแหลง่ ท่องเที่ยวทางธรณวี ิทยานา้ ตกวังสายทอง อทุ ยานธรณโี ลกสตลู จงั หวดั สตูล 43
44
โดย สทิ ธนิ นท์ กุลทักษยศ, สันต์ อัศวพัชระ และ กฤตนนท์ แนวบุญเนยี ร 45
การพฒั นาแหลง่ ท่องเทย่ี วทางธรณวี ทิ ยา ถา้ เจ็ดคต จังหวัดสตูล 46
47
โดย ชาญรัตน์ เมนิ ขนุ ทด
การศกึ ษาแบบจาลองทางคณิตศาสตร์เพ่ือคาดคะเนผลกระทบการเกิดดินเค็ม นา้ เค็มบรเิ วณพื้นที่
โครงการชลประทานน้าก่าตอนล่างอันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริ จงั หวดั นครพนม

โดย กัมปนาท ขวญั ศิริกลุ
การศกึ ษาการกาหนดอายุอฐิ โบราณดว้ ยเทคนิค Optically Stimulated Luminescence (OSL)
เทยี บกับ Thermoluminescence (TL) ดว้ ยเคร่ือง TL/OSL reader

โดย เฉลิมพงษ์ โพธล์ิ ี้,, วรี ะชาติ วเิ วกวิน, นิชธิมา เออ้ื พนู ผล และ ศศิพนั ธ์ุ คะวีรัตน์
การศึกษาการกระจายตวั ของร่องรอยดนิ ถล่มในพนื้ ทจี่ งั หวัดอุตรดติ ถ์ โดยการแปลความหมาย
ภาพถา่ ยดาวเทียมโดยใช้โปรแกรม Google Earth

โดย ทศั นพร เรอื นสอน, นา้ ฝน คาพิลงั , นลนิ ี ธะนนั ต,์ ภคั พงษ์ ศรีบัวทอง และ
ธรี ะชยั หนอ่ คาบุตร

การศึกษารอยเล่ือนท่าแขกในพน้ื ที่ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย
โดย สาคร แสงชมพู และ พจนป์ รชี า พรชัย

การศกึ ษาอทุ กธรณวี ทิ ยา วนอุทยานถา้ หลวง-ขนุ นา้ นางนอน อาเภอแมส่ าย จงั หวัดเชยี งราย
โดย อัคปศร อัคราช, วนัชวรรณ ฮันเยก็ และ จรี ทปี ต์ ยศม้าว

การสร้างและออกแบบสื่อผสมออนไลนส์ าหรับการเรียนการสอนวชิ าธรณวี ทิ ยาภาคสนามและ
การท่องเที่ยวเชิงธรณวี ิทยา

โดย สคุ นธ์เมธ จิตรมหนั ตกลุ , ฐาสิณยี ์ เจริญฐิติรตั น์ และ ปิยพงษ์ เชนรา้ ย
การสารวจ ตรวจสอบ และศึกษาซากดึกดาบรรพ์นอติลอยด์ และไทรโลไบต์ บ้านท่ากระดาน
อาเภอศรสี วัสด์ิ จังหวัดกาญจนบรุ ี

โดย พงษพ์ ัฒน์ ประสงค์
การสารวจและจัดทาแผนผงั ถ้าในเขตอทุ ยานแห่งชาติ ภาคใต้

โดย จริ ศกั ดิ์ เจรญิ มติ ร, อมุ าพร เจรญิ คณุ ธรรม, ประสบสขุ ศรตี งั้ วงศ,์ วภิ าวี เขยี มสนั เทยี ะ
และ พรธวชั เฉลมิ วงศ์

การสารวจขุดค้นซากดึกดาบรรพ์วาฬ จากตาบลอาแพง อาเภอบ้านแพ้ว จงั หวัดสมทุ รสาคร
โดย อดุลย์วทิ ย์ กาวรี ะ และ พรรณิภา แซเ่ ทียน

Content

การประชุมวชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564 VIII
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สิงหาคม 2564

VIII

การสารวจธรณวี ทิ ยาควอเทอรน์ ารีภายใต้โครงการพัฒนาสระบ่อดนิ ขาว พน้ื ที่อาเภอตาคลี

จังหวดั นครสวรรค์ 48

โดย ภคั พงษ์ ศรบี วั ทอง, น้าฝน คาพลิ งั , ทศั นพร เรอื นสอน, ธรี ะชยั หนอ่ คาบตุ ร และ นลนิ ี ธะนนั ต์

การศึกษาแนวทางการจดั การองค์ความรเู้ พื่อพฒั นาการท่องเที่ยวชมุ ชน กรณศี กึ ษาแหล่งเรียนร้รู อยตนี

ไดโนเสาร์ ตาบลพนอม อาเภอทา่ อเุ ทน จังหวดั นครพนม 49

โดย อนชุ ิต สิงห์สวุ รรณ และ ศรสี ดุ า ด้วงโตด้

การศึกษาแนวทางการพฒั นากฎหมายถ้าไทย 50

โดย พัลลภ กฤตยานวชั

เขตรอยเลื่อนกลางแอง่ อนั ดามนั : ผลจากการเกิดร่องแยกหลายครั้ง 51

โดย ธนญั ชัย มหัทธนชยั , C.K. Morley, พิษณุพงศ์ กาญจนพยนต์ และ ปัญญา จารุศิริ

เครือข่ายการเตือนภยั สึนามิจากนานาประเทศและ การสร้างความตระหนกั รแู้ บบบรู ณาการเพ่ือลด

ผลกระทบจากธรณพี ิบตั ภิ ยั สึนามิ 54

โดย วิศรุตา วีระสัย

ความหลากหลายของซากดึกดาบรรพ์แมลงในประเทศไทย 55

โดย ประภาสริ ิ วาระเพยี ง และ อุทุมพร ดีศรี

ความหลากหลายของซากดึกดาบรรพส์ ตั วม์ กี ระดูกสันหลังยคุ ครเี ทเชยี สตอนต้น จากแหล่งโคกผาสว้ ม

จงั หวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย 56

โดย ศติ ะ มานติ กลุ , อทุ มุ พร ดีศรี และ พรเพญ็ จันทสทิ ธ์ิ

ธรณแี ปรสัณฐานยุคใหม่ของรอยเล่อื นพะเยาในพื้นทอ่ี าเภอวงั เหนือ จงั หวัดลาปาง 57

โดย ระวี พมุ่ ซ่อนกลน่ิ , วีระชาติ วิเวกวนิ , จฑุ ามาศ จนั แปงเงนิ และ ปยิ าภรณ์ หนิ แสง

ธรณปี ระวตั ขิ องแหล่งภนู า้ หยดจากหลกั ฐานทางธรณีวทิ ยา 58

โดย ฐาสณิ ีย์ เจริญฐิติรัตน์, สคุ นธ์เมธ จติ รมหันตกลุ , พิมลภัทร์ อาจคา, วารณุ ี มณรี ตั น์ และ

ศิรวัชร์ อดุ มศักดิ์

ธรณีวิทยาและลาดับช้ันหินบริเวณโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ

สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี พน้ื ทโ่ี คกภตู ากา อาเภอเวยี งเกา่ จงั หวดั ขอนแกน่ 59

โดย ประดษิ ฐ์ นเู ล และ สุภาพร ศรรี าชา

ธรณีวิทยากับทเุ รยี นหลง-หลนิ ลบั แล อาเภอลบั แล จังหวัดอตุ รดิตถ์ 60

โดย ฉตั รพร ฉัตรทอง และ ฐาสณิ ยี ์ เจรญิ ฐติ ิรัตน์

ธรณวี ทิ ยาควอเทอรน์ ารี และตะกอนวทิ ยาพน้ื ทพี่ บซากวาฬโบราณ ตาบลอาแพง อาเภอบา้ นแพว้

จงั หวัดสมุทรสาคร 61

โดย วริศ นวมนมิ่ , ภูเบศร์ สาขา และ นิรนั ดร์ ชัยมณี

แนวทางการแกป้ ญั หาหินรว่ งด้วยแบบจาลองโปรแกรมทางวศิ วกรรมความลาดเอยี งมวลหิน 65

โดย ศิวโรฒม์ ศริ ิลักษณ์

แนวทางการจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรียนรูน้ อกห้องเรยี น กรณศี กึ ษาพิพธิ ภณั ฑ์วิทยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ 66

โดย สชุ าดา คาหา, อรทยั สุราฤทธิ์, สิรีพัชร โกยโภไคยสวรรค์ และ ปพชิ ญา เตียวกุล

Content

IX ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพื่อการพฒั นาทย่ี ั่งยนื

แนวทางการบริหารจัดการพน้ื ท่ีปนเปื้อนสารหนตู ามธรรมชาติ อาเภอบา้ นไร่ จงั หวัดอุทัยธานี และ

การพฒั นาระบบธรณวี ทิ ยาอจั ฉรยิ ะ (Smart Geology) เพอ่ื คณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี องประชาชนอยา่ งยงั่ ยนื 67

โดย อปั สร สอาดสุด

บรรพประสาทวิทยาของไดโนเสาร์ซอโรพอด จากหมวดหินเสาขวั ในประเทศไทย 70

โดย สิรภิ ัทร กายแก้ว, สรุ เวช สุธธี ร, วราวธุ สธุ ีธร และ รฐั สอนสภุ าพ

ปรากฏการณห์ ินถลม่ ในพืน้ ท่ีภาคใต้ : ธรณวี ทิ ยา สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการเฝ้าระวงั 71

โดย ปรชั ญา บารงุ สงฆ,์ รฐั จติ ตร์ ตั นะ, ประสบสขุ ศรตี งั้ วงศ,์ สถาพร มติ รมาก, ชตุ าภา โชตริ ตั น,์

วภิ าวี เขยี มสนั เทยี ะ, ภรณท์ พิ ย์ กอ่ สนิ วฒั นา, ภานชุ นารถ มติ รศรสี าย, สรุ เชษฐ์ แสงสวา่ ง

และ ประภาพรรณ จนั ทมาศ

ผา่ พิภพไททัน 73

โดย สุรเวช สธุ ธี ร และ วราวธุ สธุ ธี ร

ระบบฐานข้อมลู ซากดกึ ดาบรรพป์ ระเทศไทยออนไลน์เพื่อการพัฒนาท่ียัง่ ยืน 74

โดย ณัฐกิตติ์ แสงสวุ รรณ

ลักษณะการกระจายตวั ของธาตลุ ิเทียมและธาตหุ ายากในหมวดหินมหาสารคาม บริเวณแหล่งศกั ยภาพ

แร่โพแทชนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม 76

โดย นุชิต ศิรทิ องคา และ วิภาวี วบิ ูลยอ์ ฐั พล

ลักษณะปรากฏของหนิ ตะกอน ซากดึกดาบรรพ์ใบไม้ และสภาพแวดลอ้ มบรรพกาล บริเวณดอยโตน

ตาบลแม่กาษา อาเภอแมส่ อด จังหวดั ตาก 77

โดย อตวิ ฒุ ิ บุญหลา, ยุพา ทาโสด, รัตนาภรณ์ ฟองเงิน และ พิทักษส์ ทิ ธ์ิ ดษิ บรรจง

สภาพแวดลอ้ มการทบั ถมตะกอนบริเวณแหลง่ ขดุ คน้ ซากดกึ ดาบรรพ์วาฬ ตาบลอาแพง อาเภอบ้านแพว้

จงั หวัดสมทุ รสาคร: การแปลความจากกล่มุ ออสตราคอด 78

โดย อานิสงส์ จิตนารนิ ทร,์ ลลติ า วีราชยั และ อภสิ ิฐ จันทร์อ่า

สมมตุ ฐิ านวกิ ฤตการณป์ ลายยุคไทรแอสซิกในประเทศไทย 79

โดย พิทักษ์สิทธ์ิ ดษิ บรรจง และ พรเพ็ญ จนั ทสทิ ธิ์

สัตวส์ ะเทินน้าสะเทนิ บกในมหายคุ มโี ซโซอกิ และความสาคัญทางบรรพชวี ภูมิศาสตร์ 80

โดย ธนิศ นนทศ์ รีราช, ศิตะ มานติ กลุ และ คมศร เลาหป์ ระเสริฐ

สายวิวฒั นาการเชิงภูมศิ าสตร์ และสภาพแวดลอ้ มบรรพกาลของซากดกึ ดาบรรพห์ อยขมนา้ จืด

เหมอื งแมเ่ มาะ จงั หวัดลาปาง 81

โดย ยพุ า ทาโสด, ณฐั วดี นนั ตรตั น,์ เบญ็ จวรรณ รตั นเสถยี ร, มนฤดี ชยั โพธ,ิ์ จริ ฏั ฐ์ แสนทน และ

ตวงทอง บญุ มาชยั

อุตสาหกรรม S-Curve และการใชแ้ ร่เปน็ วัตถดุ บิ 83

โดย อานวย สง่ อไุ รล้า

A Review on the Sedimentology and Litostratigraphy of Setul Group Succession in

Langkawi and Perlis Area 84

By Mohamad Ezanie Abu Samah and Che Aziz Ali

Content

การประชุมวชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 X X
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564 85

Agathoxylon of Dinosaur Era in Thailand

โดย ภณิฑดา ศรคี าภา, สุรเวช สธุ ีธร และ นารรี ตั น์ บญุ ไชย

AP Model and DynaSlide Model สนบั สนนุ ระบบเฝา้ ระวงั พน้ื ทอ่ี อ่ นไหวต่อการเกดิ ดินถลม่ ลว่ งหนา้

ของ กรมทรัพยากรธรณี 86

โดย เอกชัย แก้วมาตย์, พิชญาภคั บญุ ทอง, สุทธศิ ักด์ิ ศรลัมพ์ และ วรวัชร์ ตอวิวัฒน์

Co-seismic landslide at Ban Dan Pana, Nan, northern Thailand, as a record of paleoseismic

event generated by the Dan Pana segment, Pua Fault 87

By Weerachat Wiwegwin, Namphon Khamphilang, Sasiwimol Nawawitphisit,

Jutamas Junpangngern and Rawee Phumsonklin

Dye Tracer Technique in Groundwater Flow Study: Thum Luang-Khun Nam Nangnon

Karst Aquifer 88

By Vanachawan Hunyek, Occapasorn Occarach and Preawpayom Jamprasert

Geodiversity of the oil bearing island: labuan national geopark project 89

By Norbert Simon, Che Aziz Ali, Jenneth Liliana Cyril, Fatimah Tzuharah Kamaludeen,

Mison Ajum and Dana Badang

Georigination: ธรณีกาเนิด ในความสัมพนั ธข์ องถ้าและคาสตก์ ับชวี ติ มนษุ ย์ 90

โดย ชยั พร ศิริพรไพบลู ย์

Granite Geology of Western Thailand and The Related Mineralization 91

By Prinya Putthapiban

Kaeng Raboet Formation: A Re-Investigation of the Continental Red beds at Sai Yok,

Western Thailand 93

By Panus Hong, Prinya Putthapiban, Kantanat Trakunweerayut, Kittithas Jitsawat,

Chanwith Pakchin and Katsuo Sashida

Lithostratigraphic correlation of the Kaki Bukit Formation and Thung Song Group along

the Malaysia-Thailand border 96

By Mat Niza bin Abdul Rahman and Suvapak Imsamut

Livestocks Activities and Nitrate Contamination in the groundwater system of limestone

aquifers in Saraburi – Lopburi Karst area, Central Thailand 98

โดย นิธิพนธ์ น้อยเผ่า

Managing a New Petroleum Bidding Round in Thailand: Challenges VS Energy Supply

Requirement 100

By Kumphon Kumnerdsiri, Chanida Kaewkor, Charongporn Praipiban and

Sirichon Ponsri

Metallogeny of Cu-Au skarn deposits in SE Asia and their exploration potentials 101

By Khin Zaw

Content

XI ธรณวี ิถใี หม่ นวตั กรรมไทย เพอ่ื การพฒั นาทยี่ ง่ั ยืน

Nan suture in Northern Thailand as seen from geophysical and remote sensing investigations 102

By Punya Charusiri, Rawiwan Rittisit and Thanop Thitimakorn

Petrochemical characteristics of mafic rocks from the Mune area, Vientiane, Lao PDR:

Implication to tectonic setting 104

By Dao Sayyavongsa, Weerapan Srichan, Phisit Limtrakun and Punya Charusiri

Phylogenetic position of an ornithomimosaur Kinnareemimus khonkaenensis from

the Early Cretaceous of Thailand 105

By Adun Samathi

PS-InSAR Cross-Heading Analysis for Measuring Land Subsidence 106

By Sawitree Luachapichatikul, Timo Balz, Sukonmeth Jitmahantakul and Pattama Phodee

Public Perception of Landslide Risk: A Case Study from West Bay, England 107

By Mallika Nillorm

Relationship between XRD data and size fractions of soil – implication for mineral hosts

for gold at the Gnaweeda Greenstone Belt, Western Australia 108

By Siriphorn Soongpankhao

Remote Sensing Geology เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแหล่งน้าในภูมิประเทศหินปูน: กรณีศึกษา

โครงการพัฒนาแหล่งน้าสระบ่อดินขาว พื้นที่เขาวง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ 109

โดย ศักดา ขุนดี, แพรวพรรณ คิดอ่าน, อมรรัตน์ โขลนกระโทก, วราลกั ษณ์ มาตย์ภธู ร

และ เนตรพมิ ล วิเศษวงษา

Review of tentaculite beds, and tentaculitid diversity in the Shan-Thai Terrane 111

By Anucha Promduang, Anisong Chitnarin and Jeerasak Charoenmit

Stratigraphy, fossil assemblages and depositional environments of the mid-Palaeozoic of the

Indochina terranes 112

By Mongkol Udchachon, Hathaithip Thassanapak, Clive Burrett, Steve Kershaw

and Peter Konigshof

The boundary between the Inthanon Zone (Palaeotropics) and the Gondwana derived

Sibumasu Terrane, northwest Thailand - evidence from Permo-Triassic limestones and cherts 114

By Mongkol Udchachon, Hathaithip Thassanapak, Clive Burrett and Qinglai Feng

The Characteristic of Alkaline Granitic Suites in Tha Takiap and Mae Yan, Thailand 115

By Thanaz Watcharamai, Abhisit Salam, Tawatchai Chualaowanichand A-lin Suksawat

The Comparison of Suspected Sauropod’s Track at Bukit Panau, Kelantan and Sauropod’s Track

from Ban Nom Tum, Thailand. 116

By Atilia Bashardin, Tida Liard and Mat Niza Abdul Rahman

Content

การประชมุ วิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564 XII
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564

XII
The Permian - Triassic Carbonate Rock Sequence at Sai Yok District, Kanchanaburi Province,

Western Thailand: A Case Study from the Area between Ban Phu Plu – Ban Khao Sam Chan 117

By Kantanat Trakunweerayut, Remizova Svetlana, Katsuo Sashida, Paiphan Paejaroen,

Panus Hong and Prinya Putthapiban

The possibility of using a geological map to search for construction material: A case study

on the Nam Maholan Massive limestone 119

By Kritika Kate Trakoolngam and Papassara Takhom

Two contrasting corundum occurrences in the eastern part of Lützow-Holm Bay, Antarctica 120

By Yada Wongpairin, Prayath Nantasin, Sotaro Baba, Tomokazu Hokada, Atsushi Kamei,

Ippei Kitano, Yoichi Motoyoshi,Nugroho Imam Setiawan and Davaa-ochir Dashbaatar

Poster Presentations

การเปลยี่ นแปลงชายฝงั่ ทะเลอา่ วไทย พนื้ ทอี่ าเภอปราณบรุ ี และบางสว่ นของอาเภอสามรอ้ ยยอด อาเภอหวั หนิ

จงั หวดั ประจวบครี ีขันธ์ 122

โดย วสิ ทุ ธพิ งศ์ ครี รี ตั นเสถยี ร, ศกั ดา ขนุ ด,ี เจรญิ แกว้ ประถม, วราภรณ์ จติ สวุ รรณ, นภิ าพร หงษาบาล,

อมรรตั น์ โขลนกระโทก, อาภาพร มหาวนั , เฉลมิ ชาติ เทวา, ชนิ กฤต จนั ทรค์ ง และ ณฐั กติ ต์ิ แสงสวุ รรณ

การเสรมิ สรา้ งโครงขา่ ยชมุ ชนเขม้ แขง็ ในการลดผลกระทบธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม่ ในพน้ื ทต่ี น้ แบบ จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ 123

โดย ทพิ วรรณ สุทธิสขุ เกศมณี นลิ ดา และจฑุ าทพิ ย์ หงษ์มงั

การกระจายตวั ของธาตสุ ารหนใู นสง่ิ แวดลอ้ ม ตาบลหนองจอก อาเภอบา้ นไร่ จงั หวดั อทุ ยั ธานี 124

โดย พรี พร นิคมชัยประเสรฐิ รงุ่ ระวี กิ่งสวสั ดิ์ และจิตศิ ักด์ิ เปรมมณี

การจดั ทาบัญชแี หล่งซากดึกดาบรรพ์ของประเทศไทยเพ่ือใชใ้ นการบรหิ ารจัดการตามกฎหมาย 125

โดย ปฏิพล ดลรุง้ , ธญั ญธร โทนรัตน์ และ นภาพร ตบิ๊ ผดั

การจาแนกวทิ ยาหนิ และจัดทาแผนท่ีวทิ ยาหิน ในพนื้ ท่ีจังหวดั อุตรดิตถ์ 126

โดย ธีระชัย หนอ่ คาบุตร, นา้ ฝน คาพลิ ัง, ทัศนพร เรือนสอน และ นราเมศวร์ ธรี ะรังสกิ ุล

การประเมนิ และจดั ลาดับถ้าวกิ ฤตจงั หวัดขอนแก่นและนครราชสีมา เพอื่ การพฒั นาเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว

เชงิ อนุรักษ์ประเภทถ้า 128

โดย ญาดารักษ์ วลิ นุ กิจ และ ปวณี า ใจหม่ัน

การประเมนิ ความเรว็ อนภุ าคสงู สดุ ทลี่ ดลงตามระยะทางเพอ่ื ออกแบบการระเบดิ หนิ ในพนื้ ทก่ี ารกอ่ สรา้ งอาคาร

ระบายน้าล้น อา่ งเก็บนา้ ลาน้าชีอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ อาเภอบ้านเขวา้ จงั หวดั ชยั ภูมิ 130

โดย ชฎาทิพย์ สปุ ญั ญา, วมิ ล สขุ พลา, ณิศรากร บารุงเกยี รติ , เก็จบงกช บารุงเกยี รต,ิ

จริ ฏั ศวญิ สีดอนซ้าย และ ณัฐวุฒิ ฉมารตั น์

การประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสาหรบั การเกบ็ ขอ้ มูลเพ่ือการอนุรกั ษ์และการบรหิ ารจดั การแหลง่ ซากดกึ ดาบรรพ:์

กรณศี กึ ษาแหลง่ ซากดกึ ดาบรรพโ์ ครงกระดูกวาฬ อาเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร 131

โดย ภูเบศร์ สาขา

การประยกุ ตอ์ งคค์ วามรทู้ างธรณวี ทิ ยาเพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจกบั ประชาชนเกยี่ วกบั วตั ถแุ ปลกและปรากฏการณ์

เหนอื ธรรมชาติ : กรณีศึกษาหนิ น้ิวมอื 132

โดย ปรชั ญา บารงุ สงฆ,์ ภรณท์ พิ ย์ กอ่ สนิ วฒั นา, ภานชุ นารถ มติ รศรสี าย และ ประภาพรรณ จนั ทมาศ

Content

XIII ธรณวี ิถใี หม่ นวตั กรรมไทย เพ่อื การพฒั นาท่ยี ง่ั ยนื

การประยุกตไ์ อโซโทปฮาฟเนยี มจากหนิ แกรนติ อยดก์ บั การกระจายตวั ของแหลง่ แรโ่ ลหะในประเทศไทย 133
โดย อภวิ ุฒิ วรี วินนั ทนกลุ , Ryohei Takahashi, Andrea Agangi, Marlina Elburg, 136
Henriette Ueckermann และ ปัญญา จารศุ ิริ 137
138
การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศของกรมทรัพยากรธรณี
โดย จนั ทรแ์ รม พทุ ธเสม, พัชรา สงั ข์เงนิ , จรภิ าพร, ชัยเลิศวณชิ กลุ และ สิริรัตน์ พลู เกษม 139

การผลกั ดันแหลง่ ซากไมต้ ากไปสกู่ ารประกาศระดับโลก 140
โดย ฐิติกัญ จุลรัตนมณี, นภาพร ต๊ิบผัด และ ฐาปนีย์ เพ็งถา 141
142
การพฒั นาระบบฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศของกรมทรัพยากรธรณี 143
โดย ปยิ าอร อศั วพชั ระ, นชุ จรี เจรญิ บญุ วานนท,์ ฤทยั ชนก สายนา้ ทพิ ย,์ สาวติ รี ลอื ชาอภชิ าตกิ ลุ 144
พมิ ลวรรณ ทิมแก้ว, ปรตั ถกร มามวลทรัพย์ และ อานาจ สาอางค์ 145

การวิเคราะห์การไหลซึมผา่ นฐานรากโครงการอ่างเกบ็ นา้ เขาวงศพ์ ระจนั ทร์ อาเภอเทพสถติ 146
จังหวัดชัยภูมิ Analysis of seepage in foundation, Khao Wong Phrachan Reservoir Project,
Thep Sathit District, Chaiyaphum province

โดย ฐิติณัฏฐ์ สุทธิวงษ์, วิมล สุขพลา, ณิศรากร บารุงเกียรติ, เก็จบงกช บารุงเกียรติ,
จริ ฏั ศวิญ สดี อนซ้าย และ ณฐั วุฒิ ฉมารตั น์

การวเิ คราะห์ธาตุท่ีมปี ริมาณน้อยในตวั อย่างดินและตะกอนธารนา้ ดว้ ยเทคนคิ Inductively couple
plasma - mass spectrometry (ICP-MS)

โดย พวงทอง พวงแกว้ , สายสวาท สีลอ และ อัปสร สอาดสุด
การวิเคราะห์องค์ประกอบของแร่โพแทชและดิน อาเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม โดยวิธี
เอกซเรย์ดฟิ แฟรกชนั

โดย สรรคช์ ยั เหลอื จนั ทร์ และ สุวมิ ล เจนวงศ์ไพศาล
การสารวจ และประเมนิ แหล่งซากดึกดาบรรพ์ จังหวัดอุทัยธานี

โดย วีรชยั แพงแกว้
การสารวจเสถียรภาพเขาตาปู อุทยานแหง่ ชาติอา่ วพังงา จงั หวดั พงั งา

โดย ศักดา ขนุ ดี และ สาราญ ประพัฒน์
การสารวจจดั ทาแผนผงั ถ้า 2 มติ ิ เพอ่ื การทอ่ งเทย่ี วเชงิ ธรณี กรณศี กึ ษา : ถ้าพหุ วาย จงั หวดั อทุ ยั ธานี

โดย ณรงค์ฤทธ์ิ บญุ ชัยวงค,์ ภคั พงษ์ ศรบี ัวทอง, นลินี ธะนนั ต์ และ นภาภร มณีเก๋ียง
การสารวจธรณฟี สิ ิกส์เพ่ือจัดทาข้อมลู ธรณวี ทิ ยาใต้ผวิ ดิน โครงการพฒั นาแหล่งนา้ พืน้ ท่สี ระบ่อดนิ ขาว
อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

โดย ถนัด สร้อยซา, วันวิษา น้อมสูงเนิน, ภควัต ศรีวังพล, ภัณฑรักษ์ ชาญณรงค์,
ธัญรัตน์ วินยั พานิช, กลุ ธดิ า เศวตกลุ , พทั ธพล บงึ มุม และ พรชนกิ า วีระจิตต์

การสารวจธรณฟี สิ กิ สโ์ ครงการ “โคก หนอง นา สสู่ ากล”ศนู ยศ์ กึ ษาวจิ ยั และพพิ ธิ ภณั ฑ์ไดโนเสารภ์ เู วยี ง
อาเภอเวียงเก่า จังหวดั ขอนแกน่

โดย ภควัต ศรีวังพล, วันวิษา น้อมสงู เนนิ , ภณั ฑรักษ์ ชาญณรงค,์ ธญั รัตน์ วินยั พานิช,
กุลธิดา เศวตกลุ , พทั ธพล บงึ มมุ และ พรชนิกา วีรจติ ต์

Content

การประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564 XIV
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564

XIV 147
การสารวจธรณฟี ิสกิ ส์พื้นท่ีหลมุ ยบุ โรงเรยี นวดั ราชชา้ งขวัญ อ.เมอื ง จ.พจิ ิตร

โดย ภัณฑรักษ์ ชาญณรงค์, วันวิษา น้อมสูงเนิน, ภควัต ศรีวังพล, ธัญรัตน์ วินัยพานิช,

กลุ ธิดา เศวตกุล, พัทธพล บงึ มุม และ พรชนิกา วรี ะจิตต์

การสารวจธรณวี ทิ ยาทางทะเล ปี 2563 “ปราณบรุ ี กับ ธรณที างทะเล” 148

โดย สาราญ ประพัฒน์, อภิชัย กาญจนพนั ธ์ และ วเิ ชยี ร อินต๊ะเสน

การสารวจแหล่งน้าบาดาลพุ ตาบลห้วยกระเจา อาเภอหว้ ยกระเจา จังหวดั กาญจนบุรี 149

โดย จฬุ ารัตน์ ญาณะวงษา*, วนชั วรรณ ฮนั เยก็ และ อัคปศร อคั ราช

การศกึ ษาบรรพชวี นิ วทิ ยาของซากดกึ ดาบรรพเ์ รดโิ อลาเรยี ในหนิ โผลเ่ ชริ ต์ บรเิ วณบา้ นแมจ่ า ตาบลทงุ่ ขา้ วพวง

อาเภอเชยี งดาว จังหวัดเชียงใหม่ 150

โดย สาธิต กันทะตา และ ชณาวุฒิ สุขสบาย

การศึกษาช้ินส่วนฟอสซิลกะโหลกศีรษะของไดโนเสาร์ซอโรพอดจากแหล่งซากดึกดาบรรพ์ภูน้อย

อ.คาม่วง จ.กาฬสินธ์ุ 151

โดย อภริ ตั น์ นิลพนาพรรณ, ศติ ะ มานิตกุล, ธนิศ นนทศ์ รีราช, คมศร เลาห์ประเสรฐิ และ

พรเพญ็ จนั ทสิทธ์ิ

การหาอายุและธรณเี คมขี องหินอคั นแี ทรกซอนบรเิ วณแขวงบอ่ แกว้ และ หลวงนา้ ทา ประเทศสาธารณรัฐ

ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว 152

โดย เศรษฐ์ สนั ตธิ รางกรู , บรู พา แพจ้ยุ และ Christoph Hauzenberger

การอนรุ กั ษแ์ หลง่ รอยตนี อารโ์ คซอร์ อาเภอนา้ หนาว จงั หวดั เพชรบรู ณ์ เพอ่ื การทอ่ งเทยี่ วเชงิ ธรณี 154

โดย วรรษมน มากคณุ , กมลลักษณ์ วงษโ์ ก และ สุจนิ ตนา ชมภศู รี

ขอ้ เสนอแนวทางการบรหิ ารจัดการแหล่งธรณวี ทิ ยาเขานยุ้ อาเภอละงู จงั หวดั สตูล 155

โดย ชัยสทิ ธ์ิ เครือสอน

ข้อมลู ธรณีเคมีพน้ื ฐาน จงั หวัดพะเยา 156

โดย ทวิ าพร พลสทิ ธิ,์ รัศมี สมสัตย์ และ จกั รพันธ์ คาบุญเรอื ง

โครงการพัฒนาสระบอ่ ดนิ ขาว พน้ื ท่ีเขาวง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์ 158

โดย น้าฝน คาพลิ งั , นลนิ ี ธะนนั ต,์ ภคั พงษ์ ศรบี วั ทอง, ทศั นพร เรอื นสอน, ธรี ะชยั หนอ่ คาบตุ ร

และ นราเมศวร์ ธรี ะรงั สกิ ลุ

ความกา้ วหนา้ การปรบั ปรุงแผนทธ่ี รณีวิทยาประเทศไทย ปี 2564 159

โดย ชาญรตั น์ เมนิ ขนุ ทด, ฐานนั ตร์ สนู ยส์ าทร, กฤตภพ อคั รวนิ ทวงศ,์ สรุ ศกั ด์ิ บญุ ลอื , กติ ติ ขาววเิ ศษ,

สันต์ อศั วพชั ระ, ปญั ญา จารุศริ ิ และ นราเมศวร์ ธีระรังสิกุล

ความก้าวหน้าของการสารวจธรณเี คมีเพื่อสุขภาพและสงิ่ แวดลอ้ ม บรเิ วณรอยต่อของจงั หวัดพจิ ิตร-

เพชรบรู ณ์-พษิ ณุโลก 161

โดย อปั สร สอาดสดุ และ จิติศักด์ิ เปรมมณี

ความรว่ มมอื ทางวชิ าการดา้ นธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณี กมั พชู า-ลาว-เมยี นมา-ไทย-เวยี ดนาม 162

โดย สริ ริ ตั น์ พลู เกษม

ความสาคัญทางธรณวี ทิ ยากบั การจัดตัง้ อทุ ยานธรณเี ชยี งราย 163

โดย ชัญชนา คาชา และ นภาภร มณีเกย๋ี ง

Content

XV ธรณีวิถใี หม่ นวตั กรรมไทย เพื่อการพัฒนาท่ยี ่ังยนื

ธรณแี ปรสณั ฐานของขอบทีร่ าบสูงโคราชดา้ นตะวนั ตกและพน้ื ทข่ี า้ งเคยี งเมอ่ื ดูจากขอ้ มลู ธรณฟี สิ ิกส์

ทางอากาศและข้อมูลธรณวี ิทยาหินอัคนี 164

โดย ปัญญา จารศุ ิริ, ศภุ วชิ ญ์ ยอแสงรัตน์, วนิดา ระงบั พิศม์ และ อานวย สง่ อุไรล้า

ธรณีวทิ ยาตามแนวเส้นทางคมนาคมเช่ือมโยง AEC (จงั หวัดกาญจนบุรี-จังหวัดตราด) 166

โดย วรกจิ ขาวจนั ทร,์ วารณุ ี มณรี ตั น์ และ วรนิ ทรา เทพจู

ผลการจาแนกชนิดหินตน้ กาเนดิ ของหนิ ไนส์ลานสางและหินคลองขลุง จังหวดั ตากและกาแพงเพชร

และหินไนสบ์ ้านทับศลิ า จงั หวัดกาญจนบุรี 168

โดย สทิ ธินนท์ กุลทักษยศ, สันต์ อัศวพัชระ และ ชลนิภา ฝากเซียงซา

พนั ธกิจร่วม (Joint Mission : JM) ดา้ นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝง่ั กระทรวง

ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม 169

โดย สุวภาคย์ อ่ิมสมทุ ร และ วนั เพญ็ อ่วมใจบุญ

พ้ืนที่ออ่ นไหวตอ่ การเกิดดนิ ถล่มประเทศไทย 170

โดย ศศวิ มิ ล นววิธไพสฐิ , น้าฝน คาพลิ ัง, สรุ เชษฐ์ รวมธรรม และ บุญนาค โมกศริ ิ

มาตรฐานการจัดทาแผนทธ่ี รณีพิบัติภยั แผ่นดินถล่ม ในพนื้ ที่ตน้ แบบ ณ ตาบลปากแจม่ อาเภอหว้ ยยอด

จงั หวัดตรงั 171

โดย เอกชัย แก้วมาตย,์ นรรฐพร ชัยพูน และ สุรีย์ เกณฑ์มา

รอยเล่ือนแมฮ่ ่องสอนและประวัติการไหวสะเทือนในอดตี : การกลับมาวเิ คราะห์ใหม่ 172

โดย จณสิ ตา จนั สม, สุคนธเ์ มธ จิตรมหนั ตกุล, วีระชาติ วเิ วกวนิ และ ปญั ญา จารศุ ริ ิ

ระบบการตรวจตดิ ตาม 24 ชว่ั โมง ดว้ ย สถานเี ครอ่ื งตรวจตดิ ตามการเคลอื่ นตวั ของมวลดนิ เพอ่ื สนบั สนนุ การ

ตดิ ตามสถานการณแ์ ละการเฝา้ ระวงั แจง้ เตอื นธรณพี บิ ตั ภิ ยั แผน่ ดนิ ถลม่ ของ กรมทรพั ยากรธรณี 176

โดย เอกชัย แกว้ มาตย์, สุรยี ์ เกณฑ์มา, พชิ ญาภคั บุญทอง และ สุวัฒน์ ศรวี งษ์

ระบบฐานข้อมูลแร่อาเซียน (ASEAN Mineral Database System: AMDIS) 176

โดย สาวิตรี ลือชาอภิชาตกิ ลุ และ นชุ จรี เจริญบุญวานนท์

ระบบบญั ชีข้อมลู ของหน่วยงานกรมทรัพยากรธรณี 178

โดย นุชจรี เจริญบุญวานนท์, สาวติ รี ลือชาอภิชาตกิ ุล และ ปรัตถกร มามวลทรัพย์

ลกั ษณะเฉพาะทางศิลาเคมีของหินภเู ขาไฟในพนื้ ทีล่ าสนธิ จังหวดั ลพบุรี 178

โดย เสาวภาพ อุทยั รัตน์ และ อภสิ ทิ ธ์ิ ซาลา

สภาพการแปรสัณฐานของหนิ ตะกอนภูเขาไฟและหนิ ตะกอนทเ่ี ก่ียวข้องในเขตจงั หวัดอุทัยธานแี ละ

กาญจนบุรี: หลักฐานจากการหาอายุ และธรณเี คมขี องหนิ 181

โดย สุวิจัย จตุพรฆ้องชยั , บูรพา แพจ้ยุ และ ปัญญา จารศุ ิริ

แหลง่ ดินเบาน้าโจ้ ตาบลน้าโจ้ ตาบลแม่ทะ และตาบลกล้วยแพะ อาเภอแมท่ ะ จงั หวดั ลาปาง 183

โดย ศรณั ย์ แกว้ เมืองมลู , กนกพร พิมพศกั ด,ิ์ ภราดา เทียมพัฒน์ และ ศภุ ลักษณ์ มงุ่ ดี

An observation note of Thamorat Conglomerate Mountain, Si Thep District,

Phetchabun Province 184

By Natcharee Vivitkul, Pitaksit Ditbanjong, Phornphen Chanthasit and

and Kamonlak Wongko

Content

การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564 XVI
(Geothai Webinar 2021) วนั ท่ี 4-6 สิงหาคม 2564

XVI 185
Cenozoic ray-finned fish faunas of Thailand:overview and new findings

By Uthumporn Deesri, Kamonlak Wongko and Bouziane Khalloufi

Classification of Newly Discovered Dinosaurs Fossils in Phuwiang National Park, Wiang Kao

District, Khon Kaen Province, Thailand 186

By Panward Inthisak, Suravech Suteethorn and Nusara Surakotra

DooHin application: First geologic map of Thailand on mobile devices 187

By Tadsuda Taksavasu , Khomchan Promneewat, Srett Santitharangkun,

Nuchit Siritongkham and Niti Mankhemthong

Field observation note of the Late Triassic Huai Konta Section, Lom Sak District,

Phetchabun Province 188

By Pattapon Pispeng, Pitaksit Ditbanjong, Phornphen Chanthasit and Kamonlak Wongko

Geochemical characteristics of granitoids in Kanchanaburi, Western Thailand 189

By Ekkachak Chandon and Patchawee Nualkhao

Geomorphological Sites: A Case Study of Selected Sandstone Landforms in Phu Wiang,

Khon Kaen Geopark 190

By Natcharee Vivitkul and Vimoltip Singtuen

Geophysical and Geological Engineering Investigations for Conservation Strategies of

Mae Moh Gastropod Fossil Site, Lampang Province 191

By Kannipa Motanated, Pisanu Wongpornchai, Suwimon Udphuay, Mingkhwan Kruachanta,

Sathit Kanthata, Adul Yawichai, Chanawut Sooksabai and Chanin Maetmueang

Geophysical survey for groundwater potential investigation; Chong Sarika Karst Aquifer 192

By Sirilack Duangsong, Jirateep Yotmaw, Natchanok Ounping and Jurarat Yanawongsa

Granitic Rocks in Bang Tha Cham area, Central Granite Belt, Thailand 193

By Sarawut Buranroma, Bussayawan Sukbunjong, Sasikarn Nuchdang,

Watta Wongkham and Ladda Tangwattananukul

Groundwater potential assessment using groundwater flow model: A case study of

Tham Luang-Khun Nam Nang Non Forest Park, Chiang Rai province, Thailand 194

By Jirapat Phetheet, Kittiya Lerdlum, Ocpasorn Occarach, Vanachawan Hunyek

and Jirateep Yotmaw

Late Triassic Foraminifera from Ban Pha Wiang, Thambon San, Wiang Sa District,

Nan Province : preliminary result 195

By Chanika Notana, Pitaksit Ditbanjong and Yupa Thasod

Occurrence of Monazite in Weathering Granite and Tailing, Jarin mine at Kanchanaburi

Province, Western Thailand 196

By Bussayawan Sukbunjong, Ladda Tangwattananukul, Sasikarn Nuchdang,

Sarawut Buranroma and Watta Wongkham

Content

XVII ธรณวี ิถใี หม่ นวัตกรรมไทย เพอ่ื การพฒั นาท่ียง่ั ยนื

Occurrence of native gold in Bang Saphan gold deposit at Prachuap Khiri Khan Province,

Thailand 197

By Watta Wongkham and Ladda Tangwattananukul

Petrochemistry of Alkaline Igneous Rocks in Sisaket Mantle Plume, Southern Khorat

Plateau of Thailand 198

By Sirinthorn Phajan and Vimoltip Singtuen

REE Characteristics from Cenozoic Basalts in Thailand: an Implication for Possible

In-Situ REE Resource 199

By Tawatchai Chualaowanich, Darunee Saisuthichai and Panjai Saraphanchotwittaya

Roadside Geology of Northern Thailand 200

By Weerapan Srichan and Phisit Limtrakun

Sedimentology and petrography of ms4 formation at Phukamyao Area, Phayao Province 201

By Kannicha Chuajedton, Pitaksit Ditbanjong and Rattanaporn Fongngern

Spatial and Temporal Landscape Adjustment along Mae Tha Fault, Chiang Mai and

Lamphun Provinces 202

By Pichawut Manopkawee, Niti Mankhemthong and Chanin Pattarakamolsen

Tectonomagmatic constraints placed by zircon U-Pb age and geochemistry of Permian-

Triassic granitoids in Uttaradit Province, Thailand 204

By Phattharawadee Wacharapornpinthu, Phisit Limtrakun, Weerapan Srichan,

Kwan-Nang Pang, Chistoph Hauzenberger, Daniela Gallhofer and Punya Charusiri

Variability of residual soil properties in landslide prone areas: A case study of five

Southern provinces in Thailand 205

By Sasiwimol Nawawitphisit, Saranya Mongkhonvoravibul, Valapa Srisomsak,

and Prapapan Chantamat

บทคัดยอ่

การจดั ทาคลังตวั อย่างธรณีวทิ ยา กรมทรัพยากรธรณี 206

โดย ทัศนา เจตน์อนนั ต์ และ กิตติ ขาววิเศษ

การดาเนนิ งานค้มุ ครองซากวาฬโบราณ ตาบลอาแพง อาเภอบ้านแพว้ จงั หวดั สมทุ รสาคร 207

โดย พรรณิภา แซ่เทียน

การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ซากดึกดาบรรพ์ ธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยา จังหวัดลาปาง

ภายใต้พระราชบัญญตั คิ ้มุ ครองซากดึกดาบรรพ์ พ.ศ. 2551 208

โดย กมลลักษณ์ วงษ์โก วรรษมน มากคณุ และ สจุ นิ ตนา ชมภูศรี

ธรณวี ิทยาบริเวณเขาวง อาเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์ 209

โดย ธีระพล วงษป์ ระยูร, สนั ต์ อศั วพชั ระ และ ชลนภิ า ฝากเซียงซา

แนวทางการบรหิ ารจัดการซากดึกดาบรรพ์: กรณีศกึ ษาซากวาฬอาแพง 210

โดย เบญ็ จา เสกธีระ

Content

การประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564 XVIII
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564 212
214
แนวทางการเผยแพร่ความรู้ทางธรณีวทิ ยาผ่านระบบการศึกษา XVIII 216
217
โดย อนุกูล วงศใ์ หญ่
219
มมุ มอง 360 องศากบั ถ้าหินทราย

โดย ชยั พร ศริ ิพรไพบูลย์

รอยตะเข็บเชียงใหม:่ หลกั ฐานจากธรณีวิทยาและศิลาเคมีของหินอัคนจี ังหวัดเชียงราย

โดย วรรณพร ปญั ญาไว, Feng Qinglai และ ปญั ญา จารุศิริ

ศลิ าเคมแี ละอายุหนิ แกรนติ รอยตะเข็บธรณนี ่านอตุ รดติ ถ์

โดย จงกลณี ขันมณี, Qinglai Feng, Hu Jia Bo, Gan Zhengjin, ฐากูร มากคณุ ,

ภัคพงษ์ ศรบี วั ทอง, นลนิ ี ธนันต,์ วรรณพร ปัญญาไว และ ปญั ญา จารุศิริ

Iron Khao Thab Kwai Deposit, Lop Buri Province, Thailand

By Thanaphol Chuenchoo and Ladda Tangwattananukul

Content

XIX ธรณีวิถใี หม่ นวัตกรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาทีย่ ัง่ ยืน

ก้าหนดการประชมุ วิชาการธรณีไทย 2564 (GEOTHAI 2021) ผา่ นระบบออนไลน์
“ธรณวี ถิ ีใหม่ นวัตกรรมไทย เพื่อการพฒั นาท่ีย่งั ยืน”

วนั พุธท่ี 4 สิงหาคม 2564

เวลา กา้ หนดการ

08.00-09.00 ลงทะเบียน

09.00-09.20 วดี ีทศั น์แนะนา้ กรมทรัพยากรธรณี
09.20-10.15
พิธเี ปดิ การประชุมวิชาการธรณีไทย 2564

โดย นายวราวธุ ศิลปอาชา รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม

การเสวนาวชิ าการออนไลน์ กรณีศกึ ษา การบนั ทกึ สถติ ิไม้กลายเปน็ หนิ ทยี่ าวทีส่ ุดในโลก

โดย นายจตุพร บุรษุ พัฒน์ ปลดั กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม

นายสมหมาย เตชวาล อธบิ ดีกรมทรัพยากรธรณี

นายปยิ ะ สุขุมภาณุเมศร์ รองกรรมการผจู้ ดั การใหญ่ บริษทั ปตท.สผ. จากดั (มหาชน)

ดาเนนิ รายการโดย ดร.รพรี ฐั ธัญวฒั น์พรกุล

10.15-10.30 Poster Session

• การพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู ภมู สิ ารสนเทศของกรมทรัพยากรธรณี
• การหาอายแุ ละธรณเี คมีของหนิ อัคนแี ทรกซอนบริเวณแขวงบ่อแกว้ และหลวงน้าทา สาธารณรัฐประชาธิปไตย

ประชาชนลาว
• ความก้าวหนา้ ของการสารวจธรณเี คมีเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมบรเิ วณรอยตอ่ ของจงั หวัดพิจติ ร-เพชรบูรณ์-

พิษณุโลก

10.30-11.00 การบรรยายพเิ ศษ (Keynote Paper) เรื่อง โคก หนอง นา กับ ธรณวี ทิ ยา
โดย นายมนตรี เหลืององิ คะสุต รองอธิบดีกรมทรพั ยากรธรณี

11.00-11.30 การบรรยายพิเศษ (Keynote Paper) เร่ือง การยกระดับการปฏบิ ัตงิ านดา้ นธรณวี ิทยาในประเทศไทย :
วิชาชพี ธรณีวิทยาควบคุม

โดย ดร.ธนู หาญพฒั นพานชิ ย์ ผเู้ ชย่ี วชาญสมาคมธรณวี ทิ ยาแหง่ ประเทศไทย

11.30-12.00 การบรรยายพเิ ศษ (Keynote Paper) เรื่อง การป้องกันน้าทะเลหนุนสงู และลดผลกระทบของนา้ เค็มรกุ ตัว
12.00-13.00 ดว้ ยนวตั กรรมปา่ ชายเลนประดษิ ฐ์สลายกา้ ลังคลื่น
โดย ศ.ดร.ธนวฒั น์ จารุพงษ์สกุล จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย

Virtual Exhibition

Schedule

การประชมุ วชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 XX
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564

XX

เวลา ก้าหนดการ

Room A Room B

SESSION : การบรหิ ารจัดการทรัพยากรธรณี SESSION : ธรณีวิทยาและทรพั ยากรธรณี
Chairman : นายนิวตั ิ มณีขัตยิ ์ Chairman : ดร.สุรยี ์ ธีระรงั สกิ ุล
รองอธบิ ดีกรมทรัพยากรธรณี
ผเู้ ชยี่ วชาญเฉพาะดา้ นวิจัยและพัฒนาธรณวี ทิ ยา

13.00-13.20 หลกั เกณฑก์ ารจ้าแนกทรพั ยากรแรข่ องประเทศไทย และการ Radiolarian study in Thailand; present and future
ก้าหนดเขตแหลง่ แรเ่ พื่อการท้าเหมือง Keynote speaker: Katsuo Sashida
Keynote speaker: จักรพันธ์ สทุ ธิรัตน,์ กฤตยา ปทั มาลยั และ

ธวชั ชยั เช้ือเหลา่ วานชิ

13.20-13.35 แนวทางการบรหิ ารจดั การพน้ื ทป่ี นเปอ้ื นสารหนตู ามธรรมชาติ อาเภอ Lithostratigraphic correlation of the Kaki Bukit Formation
บา้ นไร่ จงั หวดั อทุ ยั ธานี และการพฒั นาระบบธรณวี ทิ ยาอจั ฉรยิ ะ (Smart and Thung Song Group along the Malaysia-Thailand
Geology) เพอ่ื คณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี องประชาชนอยา่ งยง่ั ยนื border
โดย อปั สร สอาดสุด By Mat Niza bin Abdul Rahman and Suvapak Imsamut

13.35-13.50 The possibility of using a geological map to search for A Review on the Sedimentology and Litostratigraphy of
13.50-14.05 construction material: A case study on the Nam Maholan Setul Group Succession in Langkawi and Perlis Area
Massive limestone By Mohamad Ezanie Abu Samah and Che Aziz Ali
By Kritika Kate Trakoolngam and Papassara Takhom
The Permian - Triassic Carbonate Rock Sequence at Sai Yok
กว่าจะมาเปน็ อุทยานแหง่ ชาตเิ ขาสามรอ้ ยยอด กบั เหตุการณน์ ้า District, Kanchanaburi Province, Western Thailand: A Case Study
ทะเลถอยร่น: หลกั ฐานจากภมู ลิ ักษณแ์ ละการหาอายุ from the Area between Ban Phu Plu – Ban Khao Sam Chan
โดย พีรสิทธิ์ สุรเกียรติชยั , มนตรี ชวู งษ์, สเุ มธ พันธวุ งคร์ าช, By Kantanat Trakunweerayut, Remizova Svetlana,

กติ ติ ขาววเิ ศษ และ ปญั ญา จารศุ ริ ิ Katsuo Sashida, Paiphan Paejaroen, Panus Hong
and Prinya Putthapiban
14.05-14.20 การคน้ พบซากดกึ ดาบรรพ์และการประเมินแหล่งซากดึกดาบรรพ์
เพ่ือบริหารจดั การตามกฎหมายในพ้ืนท่จี ังหวัดสกลนคร Kaeng Raboet Formation: A Re-Investigation of the Continental
โดย พรเพญ็ จันทสทิ ธ์ิ, ณสนนท์ ขาคมเขตร,์ วนั สริ ิ บญุ หลา้ , Red beds at Sai Yok, Western Thailand
By Panus Hong, Prinya Putthapiban, Kantanat Trakun-
ไปรยา จนั ต๊ิบ และ เกษฎาภรณ์ เครือภักดี
weerayut, Kittithas Jitsawat, Chanwith Pakchin
and Katsuo Sashida

14.20-14.35 อตุ สาหกรรม S-Curve และการใช้แร่เปน็ วตั ถดุ บิ การสารวจธรณีวิทยาควอเทอร์นารีภายใตโ้ ครงการพฒั นาสระบอ่
โดย อานวย ส่งอุไรลา้ ดินขาว พ้ืนที่อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
โดย ภัคพงษ์ ศรีบัวทอง, น้าฝน คาพิลัง, ทศั นพร เรอื นสอน,
14.35-14.50 การศึกษาแนวทางการพัฒนากฎหมายถ้าไทย
โดย พลั ลภ กฤตยานวัช ธีระชัย หน่อคาบตุ ร และ นลนิ ี ธะนันต์

Nan suture in Northern Thailand as seen from geophysi-
cal and remote sensing investigations
By Punya Charusiri, Rawiwan Rittisit and

Thanop Thitimakorn

Schedule

XXI ธรณีวถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาท่ียั่งยืน

เวลา กิจกรรม

Room A Room B

SESSION : การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรธรณี SESSION : ธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณี
Chairman : นายนวิ ัติ มณขี ตั ยิ ์ Chairman : ดร.สรุ ีย์ ธรี ะรงั สิกุล
รองอธิบดกี รมทรพั ยากรธรณี
ผเู้ ชยี่ วชาญเฉพาะดา้ นวิจัยและพฒั นาธรณีวทิ ยา

14.50-15.05 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ในงานธรณวี ิทยาวิศวกรรม The boundary between the Inthanon Zone (Palaeotropics) and
โดย ธนู หาญพฒั นพานิชย์ the Gondwana derived Sibumasu Terrane, northwest Thailand -
evidence from Permo-Triassic limestones and cherts
By Mongkol Udchachon, Hathaithip Thassanapak,

Clive Burrett and Qinglai Feng

15.05-15.20 Poster Session
• มาตรฐานการจดั ทาแผนทธี่ รณพี บิ ตั ภิ ยั แผน่ ดนิ ถลม่ ในพนื้ ทตี่ น้ แบบ ณ ตาบลปากแจม่ อาเภอหว้ ยยอด จงั หวดั ตรงั
• AP Model and DynaSlide Model สนบั สนนุ ระบบเผา้ ระวงั พนื้ ทอ่ี อ่ นไหวตอ่ การเกดิ ดนิ ถลม่ ลว่ งหนา้ ของกรมทรพั ยากรธรณี
• ระบบตรวจตดิ ตาม 24 ชว่ั โมง ดว้ ยสถานเี ครอ่ื งตรวจตดิ ตามการเคลอื่ นตวั ของมวลดนิ เพอื่ สนบั สนนุ การตดิ ตามและการเฝา้ ระวงั แจง้ เตอื นธรณี
พบิ ตั ภิ ยั แผน่ ดนิ ถลม่ ของกรมทรพั ยากรธรณี

15.20-15.40 SESSION : ธรณีวิทยาส่ิงแวดล้อมและธรณีพิบัติภยั SESSION : ธรณวี ทิ ยาและทรัพยากรธรณี
15.40-15.55 Chairman : นายนิมติ ร ศรคลัง Chairman : นางสาวกฤตยา ปทั มาลยั

ผอู้ า้ นวยการกองธรณีวิทยาส่งิ แวดลอ้ ม ผ้อู ้านวยการกองทรพั ยากรแร่

ธรณวี ทิ ยากับการแกป้ ัญหาภยั แลง้ การก้ากบั ดแู ลการส้ารวจและผลติ ปิโตรเลยี มในประเทศไทย :
Keynote speaker: นราเมศวร์ ธรี ะรังสิกุล อดีต ปจั จบุ นั อนาคต
Keynote speaker: นเรศ สตั ยารกั ษ์
Remote Sensing Geology เพือ่ สนับสนุนการพฒั นาแหล่งน้าใน
ภมู ปิ ระเทศหินปนู : กรณีศกึ ษาโครงการพัฒนาแหลง่ นา้ สระบ่อดนิ Managing a New Petroleum Bidding Round in Thailand:
ขาว พนื้ ทเ่ี ขาวง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ Challenges VS Energy Supply Requirement
โดย ศกั ดา ขนุ ดี, แพรวพรรณ คิดอ่าน, อมรรตั น์ โขลนกระโทก, By Kumphon Kumnerdsiri, Chanida Kaewkor,

วราลักษณ์ มาตย์ภธู ร และ เนตรพมิ ล วเิ ศษวงษา Charongporn Praipiban and Sirichon Ponsri

15.55-16.10 การศึกษาการกระจายตัวของร่องรอยดนิ ถลม่ ในพ้ืนทจี่ งั หวัด เขตรอยเลอื่ นกลางแอง่ อนั ดามนั : ผลจากการเกดิ รอ่ งแยกหลายครงั้
อตุ รดติ ถ์ โดยการแปลความหมายภาพถา่ ยดาวเทยี มโดยใช้ โดย ธนัญชยั มหัทธนชัย, C.K. Morley,
โปรแกรม Google Earth
โดย ทัศนพร เรือนสอน, น้าฝน คาพลิ ัง, นลนิ ี ธะนนั ต,์ พษิ ณพุ งศ์ กาญจนพยนต์ และ ปญั ญา จารศุ ิริ

ภคั พงษ์ ศรีบัวทอง และ ธีระชัย หนอ่ คาบตุ ร Metallogeny of Cu-Au skarn deposits in SE Asia and
their exploration potentials
16.10-16.25 Public Perception of Landslide Risk: A Case Study from By Khin Zaw
West Bay, England
By Mallika Nillorm

Schedule

การประชมุ วชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 XXII
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
เวลา XXII
กิจกรรม
16.25-16.40
16.40-16.55 Room A Room B

16.55-17.10 SESSION : ธรณีวทิ ยาสิ่งแวดลอ้ มและธรณีพบิ ัตภิ ัย SESSION : ธรณีวทิ ยาและทรัพยากรธรณี
17.10-17.25 Chairman : นายนมิ ติ ร ศรคลัง Chairman : นางสาวกฤตยา ปัทมาลัย
17.25-17.40
17.40-17.55 ผูอ้ า้ นวยการกองธรณวี ทิ ยาส่งิ แวดลอ้ ม ผอู้ ้านวยการกองทรัพยากรแร่
17.55-18.10
AP_Model and DynaSlide Model สนบั สนนุ ระบบเฝา้ ระวงั พนื้ ที่ Granite Geology of Western Thailand and The Related
ออ่ นไหวตอ่ การเกดิ ดนิ ถลม่ ลว่ งหนา้ ของ กรมทรพั ยากรธรณี Mineralization
โดย เอกชยั แกว้ มาตย,์ พชิ ญาภคั บญุ ทอง, รศ.ดร.สทุ ธศิ กั ด์ิ ศรลมั พ์ By Prinya Putthapiban

และ วรวชั ร์ ตอววิ ฒั น์

Co-seismic landslide at Ban Dan Pana, Nan, northern Two contrasting corundum occurrences in the eastern
Thailand, as a record of paleoseismic event generated part of Lützow-Holm Bay, Antarctica
by the Dan Pana segment, Pua Fault By Yada Wongpairin, Prayath Nantasin, Sotaro Baba,
By Weerachat Wiwegwin, Namphon Khamphilang,
Tomokazu Hokada, Atsushi Kamei, Ippei Kitano,
Sasiwimol Nawawitphisit, Jutamas Junpangngern Yoichi Motoyoshi, Nugroho Imam Setiawan and
and Rawee Phumsonklin Davaa-ochir Dashbaatar

การศกึ ษารอยเล่ือนทา่ แขกในพน้ื ทภ่ี าคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื Petrochemical characteristics of mafic rocks from the Mune

ประเทศไทย area, Vientiane, Lao PDR: Implication to tectonic setting

โดย รุ่งโรจน์ อาจเวทย,์ เจษฎารัตน์ รตั นวรรณี, สรุ ยิ ฉาย ฉายสรยิ า, By Dao Sayyavongsa, Weerapan Srichan,

วนิ ิจ ยังม,ี สาคร แสงชมพู และ พจน์ปรชี า พรชัย Phisit Limtrakun and Punya Charusiri

ธรณแี ปรสณั ฐานยุคใหม่ของรอยเลอื่ นพะเยาในพ้ืนทอ่ี าเภอวังเหนอื ลกั ษณะการกระจายตวั ของธาตลุ เิ ทยี มและธาตหุ ายากในหมวดหนิ
จงั หวดั ลาปาง มหาสารคามบรเิ วณแหลง่ ศกั ยภาพแรโ่ พแทชนาเชอื ก จงั หวดั มหาสารคาม
โดย ระวี พ่มุ ซอ่ นกล่ิน, วีระชาติ วเิ วกวนิ , จฑุ ามาศ จนั แปงเงนิ โดย นุชติ ศิรทิ องคา และ วิภาวี วบิ ูลย์อฐั พล

และ ปิยาภรณ์ หินแสง

การศกึ ษาการกาหนดอายอุ ิฐโบราณดว้ ยเทคนคิ Optically Stimu- The Characteristic of Alkaline Granitic Suites in Tha
lated Luminescence (OSL) เทยี บกบั Thermoluminescence Takiap and Mae Yan, Thailand
(TL) ด้วยเครื่อง TL/OSL reader By Thanaz Watcharamai, Abhisit Salam, Tawatchai
โดย เฉลมิ พงษ์ โพธล์ิ ี,้ วีรชาติ วิเวกวนิ , นิชธิมา เออ้ื พนู ผล
Chualaowanich and A-lin Suksawat
และ ศศพิ ันธ์ุ คะวรี ัตน์

การประยกุ ตใ์ ชร้ ะบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ เพือ่ ศึกษาระดับความ Relationship between XRD data and size fractions of soil
สญู เสยี เชงิ กายภาพ บรเิ วณพนื้ ทีท่ ไี่ ด้รบั ผลกระทบจากสึนามิ พ้ืนที่ – implication for mineral hosts for gold at the
ภาคใต้ฝัง่ อนั ดามัน Gnaweeda Greenstone Belt, Western Australia
โดย แพรวพรรณ คดิ อ่าน และ ภาวณิ ี ไมห้ อม By Siriphorn Soongpankhao

เครือข่ายการเตอื นภยั สนึ ามิจากนานาประเทศและการสร้างความ -
ตระหนักร้แู บบบูรณาการเพอื่ ลดผลกระทบจากธรณีพิบตั ภิ ยั สนึ ามิ
โดย วศิ รตุ า วรี ะสยั

Schedule

XXIII ธรณวี ิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพือ่ การพฒั นาท่ียง่ั ยนื

วนั พฤหัสบดที ่ี 5 สงิ หาคม 2564

เวลา กิจกรรม

08.00-09.00 ลงทะเบียน

09.00-09.30 การบรรยายพิเศษ (Keynote Paper) เรอื่ ง CCOP towards premier intergovernmental organization cross borders
09.30-10.00
10.00-10.30 and beyond history

10.30-10.45 By Dr. Young Joo Lee Director of CCOP Technical Secretariat

การบรรยายพเิ ศษ (Keynote Paper) เรอื่ ง Indochina - New Palaeozoic Data, Terranes and New Tectonic Hypotheses

By Dr. Clive Burrett Expert Specialist

การบรรยายพิเศษ (Keynote Paper) เร่ือง Permian-Triassic structure and palaeogeography of the Khao Khwang

Fold and Thrust belt, Central Thailand: Implications for the development of the Indochina Terrane

By Dr. Chris Morley Expert Specialist

Poster Session
• การศกึ ษาชนิ้ สว่ นฟอสซลิ กะโหลกศรี ษะของไดโนเสาร์ซอโรพอด จากแหลง่ ซากดกึ ดาบรรพ์ภูน้อย อ.คามว่ ง จ.กาฬสนิ ธุ์
• Classification of Newly Discovered Dinosaurs Fossils in Phuwiang National Park, Wiang Kao District, Khon Kaen
Province, Thailand
• ความสาคัญทางธรณีวทิ ยากับการจัดตงั้ อุทยานธรณเี ชยี งราย

Room A Room B

SESSION : ธรณีวทิ ยาสงิ่ แวดลอ้ มและธรณีพิบตั ิภยั SESSION : ทรพั ยากรน้าบาดาล
Chairman : นายสุวภาคย์ อ่มิ สมทุ ร Chairman : นายนราเมศวร์ ธีระรงั สกิ ลุ
ผอู้ ้านวยการกองเทคโนโลยีธรณี ผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะดา้ นทป่ี รึกษาทางการบริหารจดั การ

ทรัพยากรธรณี

10.45-11.05 กรุงเทพทรดุ Hydrogeochemical Features of Karst in the Western
Keynote speaker: รศ.ดร. สุทธศิ ักดิ์ ศรลมั พ์ Thailand
11.05-11.20 Keynote speaker: ZHANG Cheng, Mahippong
11.20-11.35 ปรากฏการณห์ นิ ถล่มในพ้ืนท่ีภาคใต้ : ธรณีวิทยา สาเหตุ ผลกระทบ
และแนวทางการเฝ้าระวงั Worakul, WANG Jin-liang,
โดย ปรชั ญา บารงุ สงฆ์ PU Jun-bing , LYU Yong , ZHANG
Qiang, HUANG Qi-bo
PS-InSAR Cross-Heading Analysis for Measuring Land Subsidence
By Sawitree Luachapichatikul, Timo Balz, Dye Tracer Technique in Groundwater Flow Study:
Thum Luang-Khun Nam Nangnon Karst Aquifer
Sukonmeth, Jitmahantakul and Pattama Phodee By Vanachawan Hunyek, Occapasorn Occarach

and Preawpayom Jamprasert

การศกึ ษาอุทกธรณวี ทิ ยา วนอทุ ยานถ้าหลวง-ขุนน้านางนอน
อาเภอแม่สาย จังหวดั เชยี งราย
โดย อคั ปศร อคั ราช, วนชั วรรณ ฮนั เยก็ และ จรี ทปี ต์ ยศมา้ ว

Schedule

การประชมุ วิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564 XXIV
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สงิ หาคม 2564

XXIV

เวลา กิจกรรม

11.35-11.50 Room A Room B
11.50-12.05
SESSION : ธรณวี ิทยาสง่ิ แวดลอ้ มและธรณีพบิ ตั ภิ ยั SESSION : ทรพั ยากรนา้ บาดาล
Chairman : นายสวุ ภาคย์ อมิ่ สมุทร Chairman : นายนราเมศวร์ ธีระรังสิกลุ
ผูอ้ า้ นวยการกองเทคโนโลยีธรณี ผู้เชย่ี วชาญเฉพาะด้านทปี่ รึกษาทางการบริหารจัดการ

การประเมนิ รปู แบบการวิบัตบิ รเิ วณฐานเขาตาปู ทรพั ยากรธรณี
โดย ศักดา ขุนด,ี เสาวภาพ อุทยั รตั น, ธนวัฒน์ รักเฮงกุล
Livestocks Activities and Nitrate Contamination in the
และ นภตั สร ตณั ฑ์สรุ ะ groundwater system of limestone aquifers in Saraburi
– Lopburi Karst area, Central Thailand
แนวทางการแกป้ ัญหาหนิ ร่วงดว้ ยแบบจาลองโปรแกรมทางวศิ วกรรม โดย นธิ พิ นธ์ น้อยเผา่
ความลาดเอียงมวลหิน
โดย ศวิ โรฒม์ ศริ ลิ กั ษณ์ การจดั ทาแผนที่เสยี่ งอุทกภัยจงั หวดั สิงหบ์ รุ ี
โดย สรุ ศกั ดิ์ บญุ ลอื , ประภาพรรณ จนั ทมาศ, พฒั นร์ ชั พงศ์ กมลยะ

บตุ ร, ดารกิ า ฆารสะอาด และ วสิ ุทธิ์ ศิริพรนพคณุ

12.05-13.00 Virtual Exhibition

SESSION : การอนุรักษ์และจดั การความรู้ดา้ นธรณีวทิ ยา SESSION : ซากดึกดา้ บรรพ์
Chairman : นายอนุกลู วงศ์ใหญ่ Chairman: ดร. อปั สร สอาดสดุ
ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรธรณี ผอู้ ้านวยการกองวเิ คราะหแ์ ละตรวจสอบทรพั ยากรธรณี

13.00-13.20 กลไกการขบั เคลื่อนการอนุรกั ษ์แหลง่ ธรณีวทิ ยาของประเทศ Microfossils และธรณีวทิ ยา
Keynote speaker: สรุ ชัย ศริ ิพงษเ์ สถยี ร Keynote speaker: ฐาสณิ ยี ์ เจรญิ ฐิติรตั น์

13.20-13.35 Geodiversity of the oil bearing island: Labuan national Review of tentaculite beds, and tentaculitid diversity
13.35-13.50 geopark project in the Shan-Thai Terrane
By Norbert Simon, Che Aziz Ali, Jenneth Liliana Cyril, By Anucha Promduang, Anisong Chitnarin

Fatimah Tzuharah Kamaludeen, Mison Ajum and and Jeerasak Charoenmit
Dana Badang
การสารวจ ตรวจสอบ และศกึ ษาซากดึกดาบรรพ์นอตลิ อยด์
การทาแผนทซ่ี ากดกึ ดาบรรพ์ และกาหนดเสน้ ทางทอ่ งเทยี่ วแหล่ง และไทรโลไบต์ บ้านทา่ กระดาน อาเภอศรสี วัสดิ์ จังหวัด
มรดกธรณภี ูนา้ หยด จังหวดั เพชรบรู ณ์ กาญจนบรุ ี
โดย จันทนี ดวงคาสวสั ด์,ิ ชญั ชนา คาชา และ ทวชิ ากร ทะสี โดย พงษพ์ ัฒน์ ประสงค์

13.50-14.05 การศึกษาแนวทางการจดั การองคค์ วามรเู้ พอื่ พฒั นาการท่องเทย่ี ว สายววิ ฒั นาการเชิงภมู ิศาสตร์ และสภาพแวดล้อมบรรพกาลของ
ชมุ ชน กรณศี กึ ษาแหลง่ เรียนรรู้ อยตีนไดโนเสาร์ ตาบลพนอม อาเภอ ซากดึกดาบรรพ์หอยขมนา้ จืดเหมอื งแม่เมาะ จังหวดั ลาปาง
ทา่ อุเทน จงั หวดั นครพนม โดย ยพุ า ทาโสด, ณัฐวดี นันตรตั น, เบญ็ จวรรณ รตั นเสถยี ร,
โดย อนุชิต สิงห์สุวรรณ และ ศรสี ดุ า ดว้ งโตด้
มนฤดี ชยั โพธิ์, จิรฏั ฐ์ แสนทน และ ตวงทอง บญุ มาชยั

14.05-14.20 การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรยี นรูไ้ ดโนเสารเ์ พื่อรองรับการเป็น การสารวจขดุ คน้ ซากดึกดาบรรพ์วาฬ จากตาบลอาแพง อาเภอ
อทุ ยานธรณี : กรณศี กึ ษาแหลง่ ภูเวียง หอ้ งเรยี นทอ้ งถ่นิ บทเรยี นจาก บ้านแพ้ว จังหวัดสมทุ รสาคร
มรดกทางธรณีวิทยา โดย อดุลย์วทิ ย์ กาวรี ะ และ พรรณภิ า แซ่เทยี น
โดย ศักดิ์ชยั จวนงาม, ธรี ะพล อตุ ะมะชะ และ กมลลักษณ์ วงษโ์ ก

Schedule

XXV ธรณีวถิ ีใหม่ นวตั กรรมไทย เพือ่ การพัฒนาที่ย่งั ยืน

เวลา กจิ กรรม

Room A Room B

14.20-14.35 SESSION : การอนุรักษแ์ ละจดั การความร้ดู า้ นธรณีวิทยา SESSION : ซากดึกดา้ บรรพ์
Chairman : นายอนุกูล วงศใ์ หญ่ Chairman: ดร. อปั สร สอาดสดุ
ผูต้ รวจราชการกรมทรพั ยากรธรณี ผอู้ า้ นวยการกองวเิ คราะหแ์ ละตรวจสอบทรพั ยากรธรณี

แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรนู้ อกห้องเรยี น กรณศี ึกษา ธรณีวิทยาควอเทอร์นารี และตะกอนวิทยาพ้ืนทพ่ี บซากวาฬ
พพิ ิธภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ Guideline of outdoor learning โบราณ ตาบลอาแพง อาเภอบ้านแพ้ว จงั หวดั สมทุ รสาคร
activities in National Science Museum โดย วรศิ นวมน่ิม, ภูเบศร์ สาขา และ นิรนั ดร์ ชัยมณี
โดย สุชาดา คาหา, อรทัย สรุ าฤทธิ์, สิรพี ัชร โกยโภไคยสวรรค์

และ ปพชิ ญา เตียวกลุ

14.35-14.50 การสร้างและออกแบบสื่อผสมออนไลนส์ าหรบั การเรียนการสอนวิชา สภาพแวดลอ้ มการทบั ถมตะกอนบริเวณแหล่งขดุ คน้ ซากดกึ ดา
ธรณีวิทยาภาคสนามและการทอ่ งเทยี่ วเชงิ ธรณีวิทยา บรรพ์วาฬ ตาบลอาแพง อาเภอบา้ นแพ้ว จังหวัดสมทุ รสาคร:
โดย สคุ นธ์เมธ จิตรมหันตกลุ , ฐาสณิ ยี ์ เจรญิ ฐติ ริ ตั น์ การแปลความจากกลมุ่ ออสตราคอด
โดย อานสิ งส์ จติ นารินทร,์ ลลติ า วรี าชัย และ อภสิ ฐิ จนั ทร์อ่า
และ ปิยพงษ์ เชนร้าย

14.50-15.05 การเชอ่ื มโยงธรณวี ิทยาและทรพั ยากรธรณภี าคใตส้ ูก่ ารนาเสนอใน สมมตุ ฐิ านวิกฤตการณ์ปลายยุคไทรแอสซิกของประเทศไทย
15.05-15.20 พิพธิ ภัณฑซ์ ากดึกดาบรรพ์ ธรณีวทิ ยาและธรรมชาติวทิ ยา สรุ าษฎร์ โดย พทิ กั ษส์ ทิ ธิ์ ดิษบรรจง และ พรเพ็ญ จนั ทสิทธ์ิ
ธานี เพ่อื สรา้ งจติ สานึกการอนรุ ักษ์
โดย เดน่ โชค ม่ันใจ และ สถาพร มติ รมาก

Poster Session
• แหล่งดนิ เบานา้ โจ้ ตาบลน้าโจ้ ตาบลแมท่ ะ และตาบลกล้วยแพะ อาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง
• Occurrence of Monazite in Weathering Granite and Tailing, Jarin mine at Kanchanaburi Province, Western Thailand
• Occurrence of native gold in Bang Saphan gold deposit at Prachuap Khiri Khan Province, Thailand

SESSION : การอนรุ ักษ์และจัดการความรดู้ า้ นธรณีวิทยา SESSION : ซากดึกด้าบรรพ์
Chairman : นายสรุ ชยั ศริ พิ งษ์เสถยี ร Chairman : นายอานนท์ นนทโส
ผอู้ ้านวยการกองธรณีวิทยา ผ้อู า้ นวยการกองคมุ้ ครองซากดึกดา้ บรรพ์

15.20-15.40 สถานการณถ์ ้าประเทศไทย พ.ศ. 2564 Stratigraphy, fossil assemblages and depositional
Keynote speaker: อนุกูล วงศใ์ หญ่ environments of the mid-Palaeozoic of the Indochi-
na terranes
Keynote speaker: Mongkol Udchachon, Hathaithip

Thassanapak, Clive Burrett, Steve
Kershaw and Peter Konigshof

15.40-15.55 Georigination: ธรณกี าเนดิ ในความสมั พันธข์ องถ้าและคาสตก์ บั The Comparison of Suspected Sauropod’s Track at
ชวี ติ มนุษย์ Bukit Panau, Kelantan and Sauropod’s Track from Ban
โดย ชยั พร ศิริพรไพบูลย์ Nom Tum, Thailand.
By Atilia Bashardin, Tida Liard

and Mat Niza Abdul Rahman

Schedule

การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 XXVI
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สิงหาคม 2564

XXVI

เวลา กิจกรรม

Room A Room B

15.55-16.10 ธรณปี ระวตั ิของแหลง่ ภูนา้ หยดจากหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยา Agathoxylon of Dinosaur Era in Thailand
16.10-16.25 โดย ฐาสณิ ยี ์ เจรญิ ฐติ ริ ัตน์, สคุ นธเ์ มธ จติ รมหนั ตกลุ , พมิ ลภัทร์ อาจ โดย ภณฑิ ดา ศรคี าภา, สรุ เวช สธุ ีธร และ นารรี ตั น์ บญุ ไชย

16.25-16.40 คา, วารุณี มณรี ตั น์ และ ศริ วชั ร์ อดุ มศกั ดิ์ ลักษณะปรากฏของหินตะกอน ซากดึกดาบรรพใ์ บไม้ และ
สภาพแวดล้อมบรรพกาล บรเิ วณดอยโตน ตาบลแมก่ าษา
การสารวจและจดั ทาแผนผงั ถ้าในเขตอทุ ยานแหง่ ชาติ ภาคใต้ อาเภอแม่สอด จังหวดั ตาก
โดย จิรศกั ดิ์ เจรญิ มติ ร, อุมาพร เจรญิ คุณธรรม, โดย อตวิ ฒุ ิ บญุ หลา, ผศ.ดร.ยพุ า ทาโสด, ดร.รตั นาภรณ์ ฟองเงนิ

ประสบสุข ศรตี ั้งวงศ,์ วิภาวี เขียมสนั เทยี ะ และ และ ดร.พทิ ักษส์ ทิ ธิ์ ดษิ บรรจง
พรธวชั เฉลิมวงศ์ ความหลากหลายของซากดึกดาบรรพแ์ มลงในประเทศไทย
โดย ประภาสริ ิ วาระเพยี ง และ อุทมุ พร ดศี รี
การพฒั นาแหล่งทอ่ งเทยี่ วทางธรณวี ทิ ยาน้าตกวังสายทอง อุทยาน
ธรณีโลกสตูล จังหวดั สตลู
โดย สทิ ธนิ นท์ กลุ ทกั ษยศ, สนั ต์ อศั วพชั ระ และ กฤตนนท์ แนวบญุ เนยี ร

16.40-16.55 การพฒั นาแหลง่ ท่องเทย่ี วทางธรณีวทิ ยา ถา้ เจด็ คต จังหวดั สตลู สัตว์สะเทนิ นา้ สะเทินบกในมหายคุ มีโซโซอิกและความสาคัญทาง
16.55-17.10 โดย ชาญรตั น์ เมนิ ขุนทด บรรพชีวภมู ศิ าสตร์
โดย ธนิศ นนทศ์ รีราช, ศิตะ มานติ กลุ , และ คมศร เลาห์
ระบบฐานขอ้ มลู ซากดึกดาบรรพป์ ระเทศไทยออนไลนเ์ พ่ือการพฒั นา ประเสริฐ
ทย่ี ่งั ยืน
โดย ณัฐกิตต์ิ แสงสุวรรณ ความหลากหลายของซากดกึ ดาบรรพส์ ตั วม์ กี ระดกู สนั หลงั ยคุ ครเี ทเชยี ส
ตอนตน้ จากแหลง่ โคกผาสว้ มจงั หวดั อบุ ลราชธานี ประเทศไทย
โดย ศติ ะ มานิตกุล, อทุ มุ พร ดศี รี และ พรเพญ็ จันทสิทธ์ิ

17.10-17.25 การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ซากดึกดาบรรพ์เพอ่ื วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงใน ผ่าพิภพไททนั
17.25-17.40 อนาคตสาหรบั การพฒั นาแหลง่ เรยี นร้โู ดยเทคนิคโฟโตแกรมเมตรี โดย สรุ เวช สธุ ีธร และ วราวุธ สธุ ธี ร
กรณศี กึ ษาไม้กลายเปน็ หนิ ขนาดยาวท่สี ุดในโลก ณ อุทยานแห่งชาติ
ดอยสอยมาลัย จังหวดั ตาก บรรพประสาทวทิ ยาของไดโนเสาร์ซอโรพอด จากหมวดหนิ เสา
โดย คงกระพัน ไชยทองศรี และ สุรเวช สุธธี ร ขัว ในประเทศไทย
โดย สริ ภิ ทั ร กายแกว้ , สรุ เวช สธุ ธี ร, วราวธุ สุธีธร
ธรณวี ทิ ยากับทุเรียนหลง-หลินลับแล อาเภอลบั แล จังหวดั อุตรดติ ถ์
โดย ฉัตรพร ฉตั รทอง และ ฐาสณิ ีย์ เจรญิ ฐิตริ ัตน์ และ รัฐ สอนสภุ าพ

17.40-17.55 ธรณวี ิทยาและลาดับชั้นหินบริเวณโครงการอนุรกั ษ์พันธกุ รรมพชื อัน กระดกู กระเบนเหนบ็ ช้นิ ใหมข่ องไดโนเสารเ์ ทอโรพอด ยุคครเี ต
เน่ืองมาจากพระราชดารสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช เชียสตอนต้น จากจังหวัดขอนแกน่ และอนกุ รมวิธานของ
กุมารี พนื้ ทีโ่ คกภตู ากา อาเภอเวยี งเก่า จังหวดั ขอนแกน่ ไดโนเสารเ์ ทอโรพอดในประเทศไทย
โดย ประดษิ ฐ์ นเู ล และ สภุ าพร ศรีราชา โดย กฤษณุพงศ์ พนั ทานนท,์ อดุลย์ สมาธิ และ สรุ เวช สุธีธร

17.55-18.10 - Phylogenetic position of an ornithomimosaur Kinnar-
eemimus khonkaenensis from the Early Cretaceous of
Thailand
By Adun Samathi

Virtual Exhibition

Schedule

XXVII ธรณีวถิ ีใหม่ นวตั กรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาที่ยั่งยนื

วนั ศกุ รท์ ่ี 6 สงิ หาคม 2564

เวลา กิจกรรม

08.00-09.00 ลงทะเบียน
09.00-10.30
การประชมุ เสวนาวชิ าการ เรื่อง Geological Map compilation

• ขอ้ คดิ เหน็ เก่ียวกับแผนทธ่ี รณวี ทิ ยาของประเทศไทยในปัจจบุ ัน
• ขอ้ คดิ เหน็ แนวทางพฒั นาแผนทธี่ รณวี ทิ ยาของประเทศไทย เพอื่ สอดรบั กบั คาวา่ “ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย

เพอื่ การพฒั นาทย่ี ่ังยืน”
• รบั ฟังขอ้ คดิ เห็นเพ่มิ เติมในที่ประชุม
• สรุปอภิปรายระดมความคดิ เห็น
โดย ดร. พล เชาวด์ ารงค์

นายเลิศสนิ รักษาสกลุ วงศ์
นายนเรศ สัตยารักษ์
ศ.ดร. ปัญญา จารุศริ ิ
ดร. อานสิ งส์ จติ นารนิ ทร์

ดาเนินรายการโดย นายสุวภาคย์ อิ่มสมทุ ร ผอู้ านวยการกองเทคโนโลยีธรณี

10.30-10.45 Poster Session
10.45-12.00 • ผลการจาแนกชนดิ หินตน้ กาเนดิ ของหนิ ไนส์ลานสางและหนิ คลองขลงุ จงั หวัดตากและกาแพงเพชร

และหินไนส์บ้านทบั ศลิ า จังหวัดกาญจนบรุ ี
• Granitic Rocks in Bang Tha Cham area, Central Granite Belt, Thailand
• สภาพการแปรสัณฐานของหินตะกอนภูเขาไฟและหนิ ตะกอนทเ่ี ก่ียวขอ้ งในเขตจงั หวดั อุทยั ธานี

และกาญจนบรุ :ี หลักฐานจากการหาอายแุ ละธรณเี คมีของหนิ

การประชมุ อภิปรายระดมความคดิ เหน็ เรอ่ื ง ธรณไี ทยเพอื่ ประชาชน
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธบิ ดีกรมทรัพยากรธรณี

คุณสมั ฤทธิ์ ทพิ ย์มณี เครอื ข่ายหรอื ผรู้ ับบริการ อทุ ยานธรณี
รศ.ดร.มงคล อดุ ชาชน เครือขา่ ยหรอื ผรู้ บั บริการ ซากดกึ ดาบรรพ์
คุณพงษ์ทพิ ย์ วจิ ติ รชัยนันท์ เครอื ข่ายหรอื ผรู้ ับบริการ พพิ ธิ ภัณฑธ์ รณี
คุณดาเนิน เชยี งพนั ธุ์ เครอื ข่ายหรือผรู้ บั บรกิ าร ธรณพี บิ ตั ิภัย

ดาเนินรายการโดย ดร.มลั ลิกา นลิ ลอ้ ม นักธรณีวิทยาชานาญการ กรมทรัพยากรธรณี

12.00-13.00 Virtual Exhibition

Schedule

การประชมุ วิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564 XXVIII
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564
เวลา XXVIII
กจิ กรรม
13.00-14.00
การประชุมอภิปรายระดมความคดิ เหน็ เรื่อง ธรณีไทยเพื่อประชาชน (ตอ่ )
14.00-15.00
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธิบดกี รมทรพั ยากรธรณี
ผศ.ดร.ยุพา ทาโสด
ผศ.ดร.รงุ่ โรจน์ อาจเวทย์
คณุ อนวุ ัฒน์ กาญจนะโภคนิ
คณุ รฐั พงศ์ วรวรรณสงคราม

ดาเนินรายการโดย คณุ วรนิ ทรา เทพจู นกั ธรณวี ทิ ยาชานาญการ กรมทรพั ยากรธรณี

การเสวนาวิชาการและอภิปรายระดมความคดิ เห็น เร่ือง วิชาชพี ธรณวี ิทยา

• สาขาธรณีวิทยาปโิ ตรเลยี ม อธิบดกี รมทรัพยากรธรณี
• สาขาธรณวี ทิ ยาพิบตั ภิ ัย ประธานคณะทางานมาตรฐานวชิ าชพี สาขาธรณวี ทิ ยาปโิ ตรเลยี ม
• สาขาธรณวี ทิ ยาวิศวกรรม ประธานคณะทางานมาตรฐานวิชาชีพ สาขาธรณวี ิทยาพิบตั ภิ ยั
• สาขาธรณวี ทิ ยาเหมอื งแร่ ประธานคณะทางานมาตรฐานวิชาชีพ สาขาธรณวี ิทยาวิศวกรรม
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล ประธานคณะทางานมาตรฐานวชิ าชีพ สาขาธรณีวทิ ยาเหมืองแร่

คุณวรานนท์ หลา้ พระบาง
ดร.อดิชาติ สุรนิ ทรค์ า
ดร.ธนู หาญพฒั นพานิชย์
ศ.ดร.จักรพนั ธ์ สุทธริ ัตน์

ดาเนินรายการโดย คณุ องั ศุมาลิน พันโท ผชู้ ่วยเลขานกุ ารคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพธรณวี ทิ ยา

15.00-15.15 Poster Session

• Depositional Environment of the Late Triassic Huai Konta Basin, Lom Sak district,
Phetchabun province

• Spatial and Temporal Landscape Adjustment along Mae Tha Fault, Chiang Mai and
Lamphun Provinces

• Tectonomagmatic constraints placed by zircon U-Pb age and geochemistry of Permian
-Triassic granitoids in Uttaradit Province, Thailand

15.15-16.30 การเสวนาวชิ าการและอภิปรายระดมความคดิ เหน็ เร่อื ง วิชาชีพธรณีวิทยา (ต่อ)

• สาขาอทุ กธรณีวทิ ยา
• กฎหมายและข้อบงั คบั
• ตอบขอ้ ซักถาม

โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธบิ ดีกรมทรพั ยากรธรณี
รศ.ดร.เกรยี งศกั ดิ์ ศรสี ุข ประธานคณะทางานมาตรฐานวชิ าชีพ สาขาอทุ กธรณีวิทยา
ผศ.ดร.นนั ทิกา สนุ ทรไชยกลุ เลขาธกิ ารสภาวชิ าชพี วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ดาเนนิ รายการโดย คณุ องั ศมุ าลิน พันโท ผู้ชว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพธรณวี ทิ ยา

16.30-16.45 พธิ ีปดิ การประชมุ วชิ าการธรณีไทย 2564
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธบิ ดีกรมทรัพยากรธรณี

Schedule

บทคดั ยอ่

ABSTRACT

การประชุมวิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 1
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
1
กรุงเทพฯ ทรดุ

สทุ ธิศกั ด์ิ ศรลมั พ์

ศนู ย์วิจยั และพฒั นาวิศวกรรมปฐพแี ละฐานราก
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์

E-mail: [email protected]

บทคดั ยอ่

การทรุดตัวของพื้นดินกรุงเทพฯนั้นเป็นทั้งเร่ืองที่เป็นวิทยาศาสตร์และเรื่องความรู้สึก แต่ท้ังสอง
ประการแยกไม่ออกจากความจริงว่าเราเป็นผู้ท่ีอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากพ้ืนที่กรุงเทพฯนี้ และ เรา
“เลือก” ท่ีจะใช้ประโยชน์พ้ืนท่ีในลักษณะที่ “แห้ง” ตลอดเวลา ไม่ใช่มีน้าท่วมเป็นบางเวลา ความคิดน้ีต่าง
จากความคิดของชาวบางกอกท่ีอยู่อาศัยในพ้ืนที่กรุงเทพฯ เม่ือ 200 หรือ 100 ร้อยปีท่ีแล้ว ท่ีการอยู่อาศัย
การทากิน และการคมนาคมน้ัน มีน้าเป็นปัจจัยท่ีสาคัญ และเป็นเร่ืองปกติท่ีจะปรับวิถีชีวิตไปตามช่วงฤดูน้า
หลาก แต่ภายหลังปี พ.ศ. 2500 เมื่อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเอ้ืออานวยให้สามารถสร้าง “บ้านปูน” ท่ีแห้ง
ตลอดเวลา และ การสัญจรเปลี่ยนมาเป็นทางถนนทดแทนการใช้ลาน้าคูคลอง เราเองก็เลือกท่ีจะใช้พื้นที่
กรุงเทพฯ น้ีแบบแห้งตลอดเวลา หากเข้าใจและยอมรับในความจริงดังกล่าวแล้ว เราก็จะสามารถสรุปได้ว่า
ปัจจบุ ันเราไดอ้ ยอู่ าศยั ในพ้ืนท่ีเดิมทเ่ี ป็นพนื้ ทล่ี ุ่มตา่ นา้ ทว่ มถึง มนี า้ เออ่ ล้นแม่น้าลาคลองตามฤดูกาล มีตะกอน
จากน้าท่วมตกตะกอนทาให้เกิดสันดอนริมตล่ิง มีน้าท่วมทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่ตะกอนและปุ๋ยธรรมชาติได้
เข้าไปเติมพ้ืนท่ีทานา และน้าก็จะลดและแห้งไปในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้เราได้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่แห้ง เราจึงต้อง
ทาการถมดนิ เพอ่ื ทาถนน เพราะรถยนต์ไม่สามารถวิ่งในน้าได้และเราต้องถมดินก่อนท่ีจะก่อสร้างบ้าน การถม
ดินในทุกพ้ืนท่ี ทาให้ประสิทธิภาพการระบายน้าลดลง เจ้าของที่ดินที่มีพื้นที่ต่าน้าก็จะท่วม ก็จะปรับปรุงโดย
การถมท่ีดินเพ่ิมให้สูงขึ้น โดยที่ไม่ทราบว่าน้าก็จะหาที่ต่าที่อ่ืนไปเร่ือยๆ และก็ไม่ทราบด้วยว่ายิ่งถมสูงมาก
การทรุดตัวก็จะย่ิงมาก เน่ืองจากช้ันดินกรุงเทพฯ นั้น ชั้นบนสุดเป็นดินเหนียวอ่อนที่ตกตะกอนในทะเล มี
ความหนาประมาณ 8-12 เมตร โดยเฉล่ยี กาเนิดในยุค Holocene เม่อื ได้รบั แรงกดจากดินถม ดินเหนียวอ่อน
น้ีจะทรุดตัวและ/หรือไหลตัว ทาให้เกิดการทรุดตัว ซึ่งการทรุดตัวแบบแรกน้ีเป็นการทรุดตัวท่ีเกิดข้ึนช้าๆแต่
ทรุดตัวได้มาก (consolidation settlement) นอกจากนั้นในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2540 เราใช้น้าฝนน้อยลงและ
ใช้น้าบาดาลเป็นปริมาณมากทาให้เกิดการทรุดตัวของแผ่นดินเนื่องจากการสูบน้าบาดาลเป็นบริเวณกว้าง
ปัจจัยท้ังสองท่ีทาให้เกิดการทรุดตัวของชั้นดินกรุงเทพฯอย่างต่อเน่ืองและส่งผลทาให้เกิดการถมพื้นที่เพ่ิมไป
เร่ือยๆและทาให้เกิดความถ่ีและความรุนแรงของน้าท่วมมากขึ้นตามลาดับ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการทรุดตัว
เนอื่ งจากการสบู น้าบาดาลไดท้ เุ ลาลงและจนไมม่ กี ารทรดุ ตวั จากสาเหตนุ ใ้ี นหลายพน้ื ทใี่ นกรงุ เทพฯ คงเหลอื แตก่ าร
ทรุดตัวเน่ืองจากการถมดินบนช้ันดินเหนียวอ่อน ซึ่งก็ไม่สามารถนามาใช้ในการกาหนดประเด็นเรื่องของ
“กรงุ เทพฯทรดุ ” ได้ เพราะการทรุดตัวเน่ืองจากการถมดินดังกล่าว ค่าการทรุดตัวจะไม่มากไปกว่าความหนา
ของดินถม หรือจะพูดได้ว่าถมอย่างไรระดับแผ่นดินท่ีผิวการถมก็จะไม่ต่าไปกว่าระดับแผ่นดินเดิม ในทาง
กลับกัน การวัดการทรุดตัวของแผ่นดินท่ีผิวดินในพื้นที่กรุงเทพฯ หากวัดการทรุดตัวเหนือดินถมน้ี ก็จะได้ค่า
การทรุดตัวอันเน่ืองมาจากแรงกระทาของดินถม แทนท่ีจะได้การทรุดตัวตามธรรมชาติของพื้นดิน ดังนั้น
ประเดน็ สาคัญท่ีวงการวิชาการควรสรุปกันคือคาว่า “กรุงเทพฯทรุด” ท่ีเราใช้กันน้ัน หมายถึงอะไร ซ่ึงผู้เขียน
ขอเสนอเป็น 2 นิยาม คอื

Keynote Session

2 ธรณีวิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพื่อการพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื
1. การทรุดตัวที่จะส่งผลให้ระดับพ้ืนดินสุทธิต่ากว่าระดับดินเดิม หรือ มีค่าระดับท่ีผิวเทียบกับ

ระดับนา้ ทะเลปานกลางท่ตี ่าลง กรณนี ี้จะทาใหป้ ญั หานา้ ทว่ มทัง้ จากนา้ เหนอื น้าฝน และนา้ ทะเล รนุ แรง
2. การทรุดตวั ของระดับพื้นดินท่ีระดับพ้ืนท่ีดินสุทธิยังสูงกว่าระดับดินธรรมชาติเดิม ท้ังน้ีถ้าเราจะวัด

อัตราการทรุดตัวของพื้นดินกรุงเทพฯ โดยวัดที่ระดับผิวดินที่รวมการถมดินเข้าไปด้วย (นิยามที่ 2) เพ่ือ
ประเมินอัตราการทรุดตัวท่ีเป็นตัวแทนของพ้ืนที่ใหญ่ของกรุงเทพฯว่าจะจมน้าหรือไม่ (นิยามท่ี 1) เพ่ือเอา
ตัวเลขดังกล่าวไปคาดการณ์ว่าอีกกี่ปีเราจะทรุดไปมากน้อยแค่ไหนและจะมีโอกาสหรือไม่ท่ีน้าทะเลจะเข้ามา
ท่วมกรงุ เทพฯ วธิ นี ้ีจะเป็นวธิ ีทผ่ี ิด เพราะการวดั การทรดุ ตวั ที่ผวิ ดนิ ถมจะรวมอทิ ธิพลของนา้ หนักดินที่กดให้ดิน
เหนียวอ่อนทรุดตัว แต่การทรุดตัวน้ันก็จะไม่มากไปกว่าความหนาของตัวดินถมเอง และการทรุดตัวก็เกิด
เฉพาะพื้นท่ี ไม่ได้เกิดเป็นบริเวณกว้าง เพราะการถมดินแต่ละท่ีก็มีความหนาไม่เท่ากัน แต่ถ้าการทรุดตัวนั้น
เกิดจากการสูบน้าบาดาล การแปรธรณีสัณฐาน หรือการขยายความเครียดด้านข้างของช้ันตะกอนดินเหนียว
ริมอ่าวไทย รวมกับการเพ่ิมของระดับน้าทะเล ทั้งส่ีกรณีดังกล่าวจะสามารถเป็นปัจจัยท่ีทาให้กรุงเทพฯทรุด
และนา้ ทะเลเขา้ มาท่วมได้
ค้าส้าคัญ: การทรดุ ตวั ของแผ่นดิน, การทรดุ ตัวเนอ่ื งจากการสูบน้าบาดาล, นา้ ทว่ ม, กรุงเทพฯทรดุ

Keynote Session

การประชุมวชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 3
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สิงหาคม 2564

3

กลไกขบั เคล่อื นการอนุรักษแ์ หล่งธรณวี ิทยาของประเทศ

สุรชัย ศริ ิพงษเ์ สถยี ร

ผูอ้ านวยการกองธรณวี ิทยา กรมทรัพยากรธรณี
E-mail: [email protected]

บทคดั ยอ่

ประเทศไทยมีแหลง่ ธรณวี ทิ ยาท่ีสาคัญและมีความโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และคุณค่าทางวิชาการอยู่เป็น
จานวนมากและกระจายตัวไปทุกภูมิภาคของประเทศไทย จึงทาให้เกิดการอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาโดยกรม
ทรัพยากรธรณีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ นับถึงปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้ขับเคลื่อนให้เกิดกลไกสาคัญเพื่อ
การอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาท้ังในรูปแบบของกฎหมายและคณะกรรมการแห่งชาติ กฎหมายเก่ียวกับ
ธรณีวิทยาโดยตรงฉบับแรกของประเทศ คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดาบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งมี
วัตถุประสงค์ในการคุ้มครองแหล่งและซากดึกดาบรรพ์ที่สาคัญไว้ และนับเป็นกลไกที่สาคัญอย่างย่ิงที่ทาให้มี
การทาลายแหลง่ และซากดกึ ดาบรรพน์ อ้ ยลง

สาหรบั กลไกสาคญั อีกประเภทท่ีใช้ขับเคลื่อนการอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาท่ีสาคัญ คือ คณะกรรมการ
แห่งชาติจานวน ๒ คณะที่คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อให้ทาหน้าท่ีในส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์แหล่ง
ธรณีวิทยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน ความจาเป็นท่ีต้องมีคณะกรรมการแห่งชาติเน่ืองจากภารกิจใน
การดูแลปกป้อง รักษาแหล่งธรณีวิทยาต้องได้รับการบูรณาการจากหลายภาคส่วนและยังไม่มีกฎหมายพิเศษ
เฉพาะเพื่อคุ้มครองดูแลหรือส่งเสริม คณะกรรมการแห่งชาติ ๒ คณะที่เก่ียวกับการส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่ง
ธรณีวิทยาของประเทศ คือ คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้าแห่งชาติและคณะกรรมการแห่งชาติว่า
ด้วยอุทยานธรณี และทั้งสองคณะนี้ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็น
ประธานกรรมการ กรมทรัพยากรธรณีทาหน้าท่ีเป็นเลขานุการคณะกรรมการ คณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้ง
คณะกรรมการ เม่ือวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๒ และเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ตามลาดับ ภายใต้การ
ขับเคลื่อนงานของคณะกรรมการแห่งชาติจะมีกลไกรองคือคณะอนุกรรมการและคณะทางานที่แต่งตั้งข้ึนมา
เพื่อชว่ ยขับเคลือ่ นการทางานในด้านตา่ ง ๆ ของคณะกรรมการ

การขบั เคล่ือนการอนรุ ักษ์แหล่งธรณีของประเทศโดยคณะกรรมการฯ นี้ ดาเนินการภายใต้การมีส่วน
ร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ และมุ่งเน้นให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรณีที่ทาให้เกิดรายได้ในท้องถิ่นท่ีเป็นเจ้าของ
ทรัพยากรธรณี ทาให้มีการหวงแหนและอนุรักษ์ทรัพยากรธรณี นอกจากนี้ ยังทาให้เกิดความยั่งยืนในการใช้
ทรัพยากรธรณีอกี ด้วย สรา้ งเสริมให้ประเทศมีขดี ความสามารถในการแข่งขันสูงข้นึ

ผลงานสาคัญที่กรมทรัพยากรธรณไี ด้ดาเนินการในการอนรุ ักษ์แหลง่ ธรณวี ทิ ยา คือ การประกาศขน้ึ
ทะเบยี นแหลง่ และซากดึกดาบรรพ์ การสารวจและบริหารจดั การถา้ และการจดั ตั้งแหล่งมรดกธรณี อุทยาน
ธรณซี ึง่ ขณะนม้ี ีอทุ ยานธรณรี ะดบั โลกของยูเนสโกหนึง่ แหง่ คอื อุทยานธรณีโลกสตูล จงั หวดั สตลู และกาลัง
ดาเนนิ การขอรบั การรบั รองจากยเู นสโกอีกหน่งึ แห่งคือ อทุ ยานธรณโี คราช การดาเนนิ การดว้ ยกลไกดงั กลา่ ว
สง่ ผลถงึ ประชาชนในท้องถ่ินตระหนกั รบั ร้ถู งึ การดแู ล รักษาทรพั ยากรธรณีและสามารถสร้างรายไดจ้ ากการใช้
ประโยชนแ์ หล่งทรพั ยากรธรณี

Keynote Session

4 ธรณีวิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพือ่ การพฒั นาท่ียัง่ ยนื

การก้ากับดูแลการสา้ รวจและผลิตปิโตรเลยี มในประเทศไทย: อดีต ปจั จุบัน อนาคต

นเรศ สตั ยารกั ษ์

ทีป่ รึกษาสมาคมธรณวี ทิ ยาแห่งประเทศไทย
E-mail: [email protected]

บทคัดย่อ

การสารวจค้นหาปิโตรเลียมอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอย่าง เริ่มขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2464 โดย
กรมรถไฟหลวงไดว้ า่ จา้ งนกั ธรณวี ทิ ยาชาวอเมรกิ นั มาสารวจศกั ยภาพแรถ่ า่ นหนิ และปโิ ตรเลยี มในประเทศสยาม
ตอ่ จากน้ันกเ็ ปน็ การสารวจน้ามนั ดบิ โดยหน่วยงานของรฐั ในแอ่งฝาง และท่ีราบลมุ่ เจา้ พระยา การดาเนินงาน
ดังกล่าวประสบความสาเร็จพอสมควรที่ฝาง หลังจากนั้น รัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่า การสารวจปิโตรเลียม
เปน็ กจิ การทม่ี ขี นาดใหญ่ ตอ้ งใชค้ า่ ใชจ้ า่ ยสงู และมคี วามเสย่ี งมาก จงึ ไดเ้ ปลยี่ นนโยบาย ใหเ้ อกชนเขา้ มาลงทนุ และ
แบกรับความเสี่ยงแทน โดยรัฐจะเปน็ ผู้ควบคุมในการสารวจดังกล่าว ระหว่างท่ีรอการออกกฎหมายฉบับใหม่
รัฐบาลได้ให้สิทธิ์บริษัทน้ามันต่างชาติได้สิทธิครอบครองอาชญาบัตรผูกขาดในการสารวจแร่ปิโตรเลียม และ
ประทานบตั รทาเหมอื งปโิ ตรเลยี ม ภายใตก้ ฎหมายแร่ ทงั้ ในพนื้ ทบ่ี นบกและในทะเลอา่ วไทย ตอ่ มา กจิ การทงั้ หมด
กถ็ กู โอนใหไ้ ปดาเนนิ การภายใตร้ ะเบยี บขอ้ บงั คบั และการควบคมุ ของพระราชบญั ญตั ปิ โิ ตรเลยี ม พ.ศ. 2514

การควบคุมการสารวจปิโตรเลียมในช่วงแรกๆ นั้น ข้าราชการผู้มีหน้าที่ควบคุมการดาเนินงานของ
บรษิ ทั ผู้รับสมั ปทาน และบริษัทรับชว่ งการสารวจ ยังมีผู้ท่ีมีความรู้ความสามารถโดยตรงไม่มากนัก ต้องรออีก
หลายปี จนกระทั่งเมื่อข้าราชการและนักศึกษาท่ีได้รับทุน ท่ีมาจากผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษของสัญญา
สัมปทานปิโตรเลียม เข้ามาร่วมทางาน หลังจากจบการศึกษาจากต่างประเทศ ทาให้บุคลากรด้านเชื้อเพลิง
ธรรมชาติมีเพ่ิมมากข้ึน แต่ปริมาณงานและพื้นที่ปฏิบัติงานก็เพ่ิมมากยิ่งข้ึนเช่นกัน อีกท้ังได้เริ่มมีการผลิต
ปิโตรเลียม ท้ังในพื้นที่บนบก และในอ่าวไทย จึงได้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย รวมท้ังกฎกระทรวง และ
ประกาศท่ีเกยี่ วขอ้ ง ในหลายดา้ น และรฐั บาลได้เปล่ียนแปลงนโยบายและบทบาท จากการควบคุมมาเป็นการ
กากบั ดแู ลแทน

อยา่ งไรกต็ าม เมอื่ ไมน่ านมานหี้ นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบของเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ไดเ้ ปลย่ี นไป เชน่ กลบั ไปมบี ทบาทใน
การควบคมุ อกี ครง้ั หนงึ่ ในพน้ื ทที่ ดี่ าเนนิ การภายใตร้ ะบบแบง่ ปนั ผลผลติ และ ระบบการจา้ งดาเนนิ งาน สว่ นผทู้ ่ี
กากบั ดแู ลพน้ื ทที่ อ่ี ยใู่ นระบบสมั ปทานเอง กต็ อ้ งเพม่ิ หนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบในอกี หลากหลายดา้ น เชน่ ดา้ นมวลชน
สมั พนั ธ์ บรรษทั บรบิ าล ความปลอดภยั ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม และมลภาวะ เปน็ ตน้ แมว้ า่ แนวโนม้ การคน้ พบแหลง่
ปโิ ตรเลยี มขนาดใหญ่ หรอื แหลง่ ใหมใ่ นประเทศจะมโี อกาสนอ้ ยลง แตก่ ไ็ มไ่ ดห้ มายความวา่ จะไมพ่ บทรพั ยากร
เพมิ่ เตมิ อกี เลย การประชาสมั พนั ธแ์ ละสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหม้ กี ารลงทนุ สารวจคน้ หาปโิ ตรเลยี ม จงึ เปน็ สง่ิ ที่
รฐั บาลจะตอ้ งดาเนนิ การ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การศกึ ษาขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสารวจและผลติ ทเี่ ปดิ เผยไดแ้ ลว้ ตาม
กฎหมาย เพอ่ื จดั ทาชดุ ขอ้ มลู และรายงานเพอื่ จงู ใจใหม้ กี ารสารวจคน้ หาปโิ ตรเลยี มในราชอาณาจกั รไทยมาก
ยงิ่ ขนึ้

Keynote Session

การประชมุ วิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564 5
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564

5

การยกระดับการปฏบิ ัติงานด้านธรณวี ทิ ยาในประเทศไทย : วิชาชีพธรณวี ทิ ยาควบคมุ

ธนู หาญพฒั นพานชิ ย์1*, สมหมาย เตชวาล 1, 2, มนตรี เหลอื งอิงคะสตุ 1, 2 และ ปรีชา สายทอง 1, 2

1 สมาคมธรณวี ิทยาแหง่ ประเทศไทย
2 กรมทรพั ยากรธรณี

*E-mail: [email protected]

บทคดั ยอ่

ตามท่ี คณะกรรมการบริหารสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย (ส.ธ.ท.) วาระปี พ.ศ. 2557-2561
โดย ดร.ทศพร นุชอนงค์ นายกฯ ได้กาหนดนโยบายของ ส.ธ.ท. ในการมุ่งสู่การพัฒนาวิชาชีพธรณีวิทยาเพื่อ
ยกระดบั มาตรฐานวชิ าชพี ซงึ่ เป็นจดุ เริ่มต้นของการยกระดับการปฏิบัติงานด้านธรณีวิทยาสู่วิชาชีพธรณีวิทยา
ควบคุม ส.ธ.ท. ได้นาเสนอข้อมูลต่อสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สชวท.) และผ่านความเห็นชอบ
จากที่ประชุมใหญ่สามัญประจาปี สชวท. พ.ศ. 2558 ต่อมา สชวท. ได้แต่งตั้งคณะทางานศึกษาหลักเกณฑ์
และมาตรฐานวิชาชพี ดา้ นธรณีวิทยา เพื่อตราเป็นพระราชกฤษฎีกาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม
สาขาธรณวี ิทยา ส.ธ.ท. โดยคณะกรรมการขับเคล่ือนการพัฒนาวิชาชีพธรณีวิทยา ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ
จัดทารา่ งขอ้ บงั คับว่าดว้ ยการประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมสาขาธรณีวิทยา (สาขาธรณี
วิศวกรรม ธรณีวิทยาเหมืองแร่ อุทกธรณีวิทยา ธรณีวิทยาปิโตรเลียม ธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม (ในขณะนั้น))
ทางานคู่ขนานกับทาง สชวท. จนเกิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น การศึกษาหลักเกณฑ์ และมาตรฐาน
วิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์ธรณีวิทยา เพื่อตราเป็นพระราชกฤษฎีกาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม
สาขาธรณีวทิ ยา คร้ังที่ 1 เม่ือวนั ท่ี 26 กมุ ภาพันธ์ 2561 และครัง้ ที่ 2 เม่ือวันท่ี 29 มนี าคม 2561

คณะทางานศึกษาหลักเกณฑ์ และมาตรฐานวิชาชีพด้านธรณีวิทยา เพ่ือตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
วิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา สชวท.รว่ มกบั ส.ธ.ท. จดั ทารายงานการศกึ ษาความ
เหมาะสมในการกาหนดวชิ าชพี สาขาธรณวี ทิ ยาเพอ่ื ดาเนนิ การตราเปน็ พระราชกฤษฎกี า วชิ าชพี วทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยีควบคมุ เพิ่มเติม เสนอในการประชุมใหญ่สามัญประจาปี พ.ศ. 2560 สชวท.เทคโนโลยี เมื่อวันท่ี
18 พฤษภาคม 2561 และในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากาหนด
สาขาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม พ.ศ. .... เม่ือวันท่ี 10 ตุลาคม 2561 โดยให้ สชวท.
ประสานงานสานักงานกฤษฎกี าดาเนนิ การจัดทาร่างข้อบงั คับต่อไป

คณะกรรมการบริหารสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย วาระปี พ.ศ. 2561 -2565 โดย
ดร.สมหมาย เตชวาล นายกฯ ได้กาหนดนโยบายของ ส.ธ.ท. ในการมุ่งสู่การพัฒนาวิชาชีพธรณีวิทยาเพื่อ
ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ อย่างต่อเนื่อง สชวท. โดยคณะทางานจัดทาร่างข้อบังคับสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ว่าด้วยการประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา ได้จัดเตรียม
ร่างข้อบังคับฯ จัดเตรียมร่างประกาศและร่างระเบียบท่ีเก่ียวข้อง จนถึงวันท่ี 23 กุมภาพันธ์ 2563
คณะรฐั มนตรี มมี ตเิ หน็ ชอบรา่ งพระราชกฤษฎกี ากาหนดสาขาวชิ าชีพวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีควบคุมสาขา
ธรณีวิทยา พ.ศ. .... เป็นวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมเพ่ิมเติม ท่ีสานักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วตามท่ีกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ต่อมาได้มี
ประกาศพระราชกฤษฎีกา กาหนดสาขาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม พ.ศ. 2563 (กาหนดสาขา
ธรณีวิทยา เป็นวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม) เมื่อวันท่ี 20 มิถุนายน 2563 มีผลบังคับใช้วันที่

Keynote Session

6 ธรณีวถิ ใี หม่ นวัตกรรมไทย เพอื่ การพฒั นาที่ย่ังยนื

20 ธันวาคม 2563 และประกาศข้อบังคับสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่าด้วยการประกอบวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา พ.ศ. 2563 เมื่อวันท่ี 21 กันยายน 2563 มีผลบังคับใช้
วนั ท่ี 20 ธันวาคม 2563

สชวท. แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยาเพื่อ
ดาเนินการจัดทาประกาศและระเบียบที่เก่ียวข้อง แต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือเป็นกรรมการสอบ
สัมภาษณ์ ช่วงเวลาเดียวกัน สชวท. ประกาศรับสมัครสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตและเทคโนโลยี ระหว่างวันท่ี
1-28 กุมภาพันธ์ 2564 มีผู้สมัครสอบรอบแรกประมาณ 100 คน และสอบสัมภาษณ์ระหว่างวันท่ี
8-16 กรกฎาคม 2564 อย่รู ะหวา่ งการพจิ ารณาผล

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การยกระดับการปฏิบัติงานด้านธรณีวิทยาสู่วิชาชีพธรณีวิทยาควบคุม ต้ังแต่
ปี พ.ศ. 2557 มาประสบความสาเร็จในงานธรณวี ทิ ยาปโิ ตรเลยี ม งานธรณวี ทิ ยาพบิ ตั ภิ ยั งานธรณวี ทิ ยาวศิ วกรรม
งานธรณวี ทิ ยาเหมอื งแร่ และงานอทุ กธรณวี ทิ ยา เป็นรูปธรรมท่ีชัดเจนในปี พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 5 ปี ในการ
ดาเนินการ สาหรับการปฏิบัติงานของผู้สมัครสอบขอรับใบอนุญาตต้องศึกษาจากลักษณะของงานวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา มีรายละเอียดดังนี้ (1) งานวิเคราะห์ ได้แก่ การ
ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ การศึกษาค้นคว้า การวิจัยข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพ่ือใช้เป็นหลักเกณฑ์หรือ
ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัย ในสาขาธรณีวิทยา (2) งานควบคุมเก่ียวกับการสร้าง การผลิต การคัดแยก
การขุดเจาะ การรื้อถอน การขนย้าย และการดัดแปลงปรับแต่ง ซึ่งเกี่ยวกับงานด้านธรณีวิทยา (3) งาน
คานวณออกแบบ ทดสอบ และตรวจวัดโดยการใช้หลักวิชาการและความชานาญในสาขาธรณีวิทยา (4) งาน
วางโครงการ ได้แก่ การศึกษา วิจัย และการวิเคราะห์ เพ่ือหาทางเลือกที่เหมาะสม หรือวางแผนโครงการใน
งานดา้ นธรณวี ิทยา (5) งานสารวจ งานจดั ทาแผนท่ี ตดิ ตาม และประเมนิ ผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ในพื้น
พิภพ โดยการใช้หลกั วชิ าการและความชานาญในสาขาธรณีวิทยา และผสู้ มัครสอบฯ ต้องศึกษาในรายละเอียด
ของแต่ละประเภทของงานก่อนสมัครสอบ ท้ังน้ีผู้สมัครสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ต้องเขา้ ใจว่าการทางานทั้ง 5 งานน้นั เป็นการประกอบวิชาชีพธรณีวิทยาท่ีส่งผลต่อความปลอดภัย
ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเศรษฐกิจสังคม
ของประเทศ หากให้ผู้ไม่มีความรู้ความเข้าใจ คุณธรรม และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเข้ามาทางานจะมีความ
เสี่ยงสูงที่จะทาให้เกิดความเสียหายหรืออุบัติภัยร้ายแรงท่ีเป็นอันตรายต่อประชาชนและสังคมโดยรวมได้
วิชาชีพธรณีวิทยาอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2551 โดย
พระราชบัญญัติส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2551 มาตรา 41 กาหนดว่า “ผู้มีความรู้
ความสามารถเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสาขาที่กาหนดไว้ในข้อบังคับและได้ใบอนุญาต
ควบคมุ จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น จึงจะประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ควบคมุ ได้ สาหรับผ้ทู ไี่ มไ่ ดใ้ บอนญุ าตควบคุมจากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะประกอบวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมไม่ได้ เว้นแต่เป็นการกระทาในอานาจหน้าที่ในฐานะข้าราชการหรือ
เจ้าหน้าท่ีของรัฐ” รวมท้ังมาตรา 4 วรรค 1 กาหนดให้ “พระราชบัญญัติน้ีไม่ใช่บังคับแก่ผู้ประกอบวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีเป็นสมาชิกองค์กรตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอื่น
และผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซ่ึงปฏิบัติหน้าที่ตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่าง
ประเทศหรือระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชานัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ” ด้วย ท้ายสุดขอเชิญชวนนัก

Keynote Session

การประชมุ วชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 7
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564

7
ธรณีวิทยาไทย ท่ีประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้องท้ัง 5 งาน สมัครสอบขอรับใบอนุญาตฯ สามารถศึกษา

รายละเอยี ดการสมคั ร ได้ท่ี https://www.cstp.or.th

ท่ีกล่าวทั้งหมด เป็นการยกระดับการทางานด้านกฎหมายด้านวิชาชีพควบคุม ส่ิงที่จะต้องดาเนินการ

ต่อไปคือการยกระดับการทางานที่เป็นมืออาชีพมากย่ิงข้ึน ศึกษาโลกภายนอกว่า ปัจจุบันมีการทางานกัน

อย่างไร ที่เหน็ ได้อยา่ งชดั เจนคอื เทคโนโลยที ีม่ ีการเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว การนาข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล

ทเ่ี รยี กวา่ Big-data มากยงิ่ ขนึ้ ดงั นน้ั นกั ธรณวี ทิ ยาไทยจะตอ้ งมกี ารปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั “ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย

เพอ่ื การพัฒนาที่ยง่ั ยนื ” ใหไ้ ด้ เพอ่ื ยืนหน่งึ ในวันขา้ งหน้า

Keynote Session

8 ธรณีวิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพ่อื การพัฒนาทยี่ งั่ ยนื

โคก หนอง นา กบั ธรณีวทิ ยา
Khok Nong Na ModelandGeology

มนตรี เหลืองอิงคะสตุ *, ดรุณี สายสุทธชิ ัย, ภาสกรณ์ กัณทาทรัพย,์ ประดิษฐ์ นเู ล, พรนภา ปะวะโก,
กฤษณะ สุดชา และ ณฐั นิช พฒุ เหยี ง

ศูนยศ์ ึกษาวิจัยและพพิ ิธภณั ฑไ์ ดโนเสาร์ สานกั งานทรัพยากรธรณี เขต 2 กรมทรัพยากรธรณี
*E-mail: [email protected]

บทคดั ย่อ

โคก หนอง นา โมเดล เป็นรูปแบบของการบริหารจัดการน้าซ่ึงสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิ
กสิกรรมธรรมชาติ ได้น้อมนาพระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
ด้านการทาเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้านให้สอดคล้องกัน
การออกแบบพื้นท่ีโคก หนอง นา โมเดล คานึงถึง ภูมิสังคมเป็นสาคัญ ภูมิ คือ สภาพทางกายภาพ สังคม คือ
วฒั นธรรม ความเช่อื และภมู ิปัญญาด้ังเดมิ ทอี่ ยู่ในพน้ื ทีน่ ้นั

โดยทั่วไปสภาพธรณีวทิ ยา (ธรณสี ณั ฐานและชนั้ หิน/ดินใตด้ ิน) กาหนดวิถีชีวิตและกิจกรรมของมนุษย์
ความแตกต่างของการสร้างบ้านเรือน เกษตรกรรมและวัฒนธรรม สะท้อนและบ่งบอกสภาพธรณีวิทยาท่ี
แตกต่างของแตล่ ะพนื้ ท่ี องค์ความรธู้ รณีวทิ ยาจึงสามารถนามาประยกุ ตเ์ พ่อื ใชว้ างแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้
เหมาะสมและย่ังยืน

กรมทรัพยากรธรณีได้ดาเนินโครงการ โคก หนอง นา สู่สากล ในพื้นท่ี 3 ไร่ ณ ศูนย์ศึกษาวิจัยและ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ นาองค์ความรู้ทางธรณีวิทยาเข้าไปเสริมการบริหารจัดการน้าและการใช้ประโยชน์พื้นที่
อย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลบนพื้นฐานของลักษณะทางธรณีวิทยาในพ้ืนท่ี
มีวัตถุประสงค์เพ่ือใช้เป็นพ้ืนที่ทดลองทางธรณีวิทยาเพื่อการเกษตร พื้นที่แหล่งเรียนรู้ ฝึกทักษะและจัด
กิจกรรมการเกษตรเสริมรายได้ให้กับชุมชน ในการดาเนินงานนั้น ได้ทดลองนาองค์ความรู้ทางธรณีวิทยาเข้า
ไปเสริม (Enhance) การออกแบบภูมิ (กายภาพ ดิน น้า ลม) ให้สอดคล้องกับธรณีสัณฐาน ชั้นดินและชั้นหิน
นาองค์ความรู้ทางธรณีวิทยาประยุกต์แก้ไขปัญหาทางการเกษตรแบบการรู้รับ ปรับตัวและฟื้นคืนกลับ
(Resilience) ไดแ้ ก่ การเพิ่มความสามารถในการกกั เกบ็ นา้ ของหนองโดยใช้วัสดุทางธรณีท่ีหาได้ง่ายในท้องถ่ิน
ผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้าน การแก้ปัญหาน้าขุ่นโดยใช้วัสดุทางธรณีร่วมกับปลูกหญ้าแฝกและพืชน้า การ
ป้องกันการกดั เซาะพังทลายของขอบบอ่ โดยการปรบั เสถยี รภาพลาดดินและการปลูกหญ้าแฝก การเพ่ิมแร่ธาตุ
ในดินด้วยวัสดุทางธรณี การห่มดิน ปลูกพืชตระกูลถั่วและหญ้าแฝก โดยผลท่ีคาดว่าจะได้รับ คือ องค์ความรู้
ทางธรณีวิทยาที่สามารถนามาแก้ไขปัญหาทางการเกษตรอย่างเหมาะสมและย่ังยืนสอดคล้องกับสภาพพ้ืนที่
และแหลง่ เรียนรู้ภายในศูนยศ์ กึ ษาวิจัยและพพิ ธิ ภณั ฑ์ไดโนเสาร์ท่ีสืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดาริ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
คา้ ส้าคญั : โคกหนองนา, ธรณวี ทิ ยา

Keynote Session

การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564 9
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564

9

ผลการด้าเนนิ งานด้านธรณีวทิ ยากับการแกป้ ญั หาภัยแลง้ ของกรมทรัพยากรธรณี

นราเมศวร์ ธรี ะรงั สกิ ลุ *, กฤตภพ อคั รวนิ ทวงศ,์ ปยิ าอร อศั วพชั ระ, เบญ็ จา เสกธรี ะ, อนกุ ลู วงศใ์ หญ,่ นวิ ตั ิ มณขี ตั ยิ ,์
สวุ ภาคย์ อม่ิ สมทุ ร, ธรี ะพล วงษป์ ระยรู , ศกั ดา ขนุ ด,ี ศภุ วชิ ญ์ ยอแสงรตั น์ และ น้าฝน คาพลิ งั

กรมทรพั ยากรธรณี
*E-mail: [email protected]

บทคัดยอ่

ภัยแล้งท่ีเกิดข้ึนในประเทศไทยมีผลกระทบโดยตรงกับการเกษตรและแหล่งน้า ส่งผลเสียหายต่อ
กิจกรรมทางการเกษตร เช่น พื้นดินขาดความชุ่มช้ืน พืชขาดน้า พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตที่ได้มี
คุณภาพต่า รวมถึงปริมาณลดลง ภัยแล้งมักเกิดในฤดูฝนที่มีฝนท้ิงช่วงเป็นเวลานาน โดยแต่ละปีจะเกิดขึ้นได้
2 ช่วง ได้แก่ ช่วงฤดูหนาวต่อเน่ืองถึงฤดูร้อน ซ่ึงจะเริ่มจากครึ่งหลังของเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ช่วงเวลานี้
บรเิ วณประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก) จะมีปริมาณ
ฝนลดลงเป็นลาดบั ยกเว้นภาคใต้ จนกวา่ จะย่างเขา้ สู่ฤดฝู นในชว่ งกลางเดอื นพฤษภาคมของปีถัดไป ซึ่งภัยแล้ง
ลักษณะนี้ จะเกดิ ขนึ้ เปน็ ประจาทกุ ปี และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงข้ึนเป็นลาดับ ส่วนภัยแล้งอีกช่วงหน่ึง
มักเกิดข้ึนในช่วงกลางฤดูฝน คือ ประมาณปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม จะมีฝนทิ้งช่วง ซึ่งอาจเกิดขึ้น
เฉพาะทอ้ งถ่ินหรอื บางบรเิ วณ แตบ่ างครัง้ ก็อาจครอบคลุมพ้ืนท่ีกว้างเกือบทั่วประเทศไทย ปัญหาภัยแล้งส่งผล
กระทบต่อภาวะขาดแคลนน้าสะอาด เพ่ือการบริโภคและอุปโภค ขาดแคลนน้าเพ่ือการเกษตร ซ่ึงยังคงเป็น
อาชีพของประชากรส่วนใหญ่ท่ีอาศัยอยู่ในชนบท ดังน้ันจึงจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องทาการแก้ไข หรือ ป้องกัน
ปัญหาภัยแล้งท่ีเกิดข้ึนหรืออาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งหามาตรการและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมในการนาพ้ืนที่ภัย
แล้งมาใชป้ ระโยชนใ์ ห้มากข้ึน

แนวทางการจัดการพื้นท่ีเกษตรเสี่ยงภัยแล้ง เป็นแนวคิดและวิธีปฏิบัติในการลดโอกาสที่จะได้รับ
ผลกระทบทางลบจากภัยแล้ง โดยการบริหารจัดการปัจจัยท่ีเป็นสาเหตุของภัยแล้ง กรมทรัพยากรธรณีมี
แนวคดิ เพมิ่ ปรมิ าณนา้ ตน้ ทนุ ทจี่ ะใชท้ าการเกษตรในชว่ งฤดแู ลง้ หรือการกักเก็บปริมาณน้าที่มากเกนิ ไปในฤดฝู น
แนวทางนจี้ ึงนาไปสู่โครงการด้านธรณีวิทยากับการแก้ปัญหาภัยแล้งของกรมทรัพยากรธรณี โดยกิจกรรมและ
โครงการทกี่ รมทรัพยากรธรณดี าเนินการแบง่ ออกเป็น 2 ลกั ษณะคอื

1) โครงการใช้องค์ความรู้ด้านธรณีวิทยาและโครงสร้างทางธรณีวิทยา เพื่อหาช้ันน้าในโพรงถ้าใต้ดิน
ของพื้นท่ีท่ีรองรับด้วยหินปูน ซึ่งโครงการลักษณะเช่นนี้ ได้ใช้ข้อมูลด้านธรณีวิทยา อุปกรณ์และเคร่ืองมือ
สารวจธรณีฟิสกิ ส์ และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะของกรมทรัพยากรธรณีในการสารวจศึกษาวิจัย เช่น
1.1) โครงการสารวจนาร่องเพอ่ื เลือกสรรพ้ืนที่ในพื้นท่ีจังหวัดสระบุรีและลพบุรี ซ่ึงพื้นที่ดังกล่าวมีการกระจาย
ตัวและโครงสร้างหนิ ปนู เน้อื แนน่ ในยุคเพอร์เมียนที่เหมาะสมต่อการกักเก็บน้าและอุ้มน้า ซึ่งผลของการสารวจ
พบพ้ืนท่ีศักยภาพในการเป็นชั้นน้าใต้ดินในหินปูนซึ่งมีแนวแตกหรือโพรงในระดับความลึกท่ี 40 - 110 เมตร
จากระดบั ผิวดนิ และหินปนู ในพน้ื ทโี่ ครงการมแี นวแตกและโพรงถ้าเหมาะในการพัฒนาเป็นพ้ืนท่ีขุดเจาะใช้ชั้น
น้าใต้ดินหรอื เปน็ แหล่งกกั เก็บน้าใต้ดินไวใ้ ชป้ ระโยชนไ์ ด้ 1.2) โครงการตรวจสอบธรณีวิทยาเพื่อหาแหล่งน้าใน
ช้ันหินสาหรับบรรเทาภัยแลง้ ในพน้ื ทอี่ ุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
ซ่ึงผลจากการสารวจในพื้นที่เขาชะเมา - เขาวง เสนอให้หาแหล่งน้าด้านตะวันตกของพ้ืนที่อุทยานเขาชะเมา-
เขาวง ตามแนวแตก NNW-SSW และทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-

Keynote Session

10 ธรณวี ิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพือ่ การพฒั นาท่ียัง่ ยืน

เขาวง สาหรับพื้นท่ีเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พบศักยภาพแหล่งน้าตามแนวรอยเล่ือน NW-SE ด้าน
ตะวันตกของเขาสอยดาว ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีที่สัตว์มากินน้าในบริเวณน้ีอีกด้วย 1.3) โครงการพัฒนาสระบ่อดินขาว
อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โครงการมีเป้าหมายเพ่ือให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์สระบ่อดินขาวเพื่อ
อุปโภคบริโภคและทาการเกษตร โดยเก็บน้าจากทั้งน้าฝนและน้าท่ีไหลตามธรรมชาติในช่วงเวลาน้าหลาก ซึ่ง
จะเเบง่ การดาเนินงานพฒั นาออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ได้แก่ ฟ้ืนฟูป่าต้นน้าเขาวง โดยการสร้างฝายชะลอน้า
และส่วนที่ 2 คือ การพัฒนาเป็นพื้นที่แก้มลิง ทาเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดาริ และขุดบ่อบาดาล
ระดับต้ืน เพ่ือเป็นระบบเสริมในการบริหารจัดการน้า ท้ังนี้พื้นท่ีเขาวงเป็นเขาหินปูนท่ีพบโพรงถ้าเป็นจานวน
มาก กรมทรัพยากรธรณีจึงเข้ามาร่วมโครงการตามแนวคิดท่ีจะเพิ่มระบบสารองน้าใต้ดินจากโพรงถ้าที่อยู่ลึก
ลงไปใต้ดนิ เพ่อื นามาบรหิ ารจัดการใหเ้ ป็นแหลง่ นา้ สนบั สนุนเพิม่ เตมิ ในพนื้ ท่โี ครงการช่วงหน้าแล้ง จากผลการ
สารวจ พบลักษณะทางโครงสร้างธรณีวิทยาในพ้ืนท่ีเขาวง มีแนววางตัว 2 ทิศทาง ได้แก่ แนวหลักวางตัวใน
แนวทิศตะวันตกเฉยี งเหนอื – ตะวันออกเฉียงใต้ (NW-SE) และแนวรองวางตวั ในแนวศตะวันออกเฉียงเหนือ –
ตะวันตกเฉียงใต้ (NE-SW) และจากการสารวจธรณีฟิกส์ด้วยวิธีวัดค่าสภาพต้านทานไฟฟ้า (ERI) และวัดคล่ืน
แม่เหล็กไฟฟ้า (Transient ElectroMagnetic: TEM) แบบ Time Domain สามารถตรวจพบเป็นช้ันหินปูนท่ี
มีรอยแตกมากหรือโพรง ความหนา 40-60 เมตร ท่ีความลึกประมาณ 20-80 เมตร โดยท่ีโพรงดังกล่าวอาจมี
ตะกอนขนาดเล็กสะสมตัวและแสดงความไม่ต่อเน่ืองของแนวโพรง เน่ืองจากหินปูนมีอัตราการละลายที่
แตกตา่ งกัน บริเวณที่พบรอยแตกมากจะเกิดการละลายเป็นโพรงได้ง่ายกว่าบริเวณหินแข็ง โดยผลการสารวจ
ธรณฟี สิ กิ ส์สามารถนาไปใช้ประโยชนส์ าหรับการกาหนดจุดเจาะน้าบาดาลท่ีเหมาะสมในบริเวณพื้นท่ีสารวจได้
โดยเปน็ ช้ันน้าบาดาลจากรอยแตกหรอื โพรงหินปนู ทร่ี ะดบั ลึกประมาณ 25 เมตร

2) โครงการบูรณาการข้อมูลระหว่างกรมทรัพยากรธรณีและกรมทรัพยากรน้าบาดาล มีกิจกรรมที่
ดาเนนิ การเชน่ 2.1) การแกป้ ัญหาภัยแล้งและสถานการณไ์ ฟป่าในพ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาติภูกระดึงตามนโยบาย
รมว.ทส. โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมมือทางวิชาการ ในการศึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขในพ้ืนอุทยาน
แห่งชาติภูกระดึง กรมทรัพยากรธรณีได้ดาเนินการศึกษาลักษณะทางธรณีวิทยา ลาดับชั้นหินของภูกระดึง
ธรณีวิทยาโครงสร้าง แนวแตก และรอยเลื่อน เพ่ือหาพื้นที่เหมาะสมในการขุดเจาะน้าบาดาล ผลการศึกษา
จากการสารวจวัดคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าแบบ Time Domain พบว่าพื้นท่ีบนภูกระดึง เบ้ืองต้นไม่มีข้อมูลน้า
บาดาลทีพ่ บในระดับต้นื (นอ้ ยกว่า 50 เมตร) ควรมีการสารวจเพ่ิมเติมในข้ันรายละเอียด และใช้วิธีการสารวจ
อ่ืนๆเพิ่มเติมมาประมวลผลร่วมกัน 2.2) กิจกรรมการบูรณาการข้อมูลระหว่างกรมทรัพยากรธรณีกับกรม
ทรัพยากรน้าบาดาลเพื่อประโยชน์ในการหาแหล่งน้าบาดาลประกอบด้วย ด้านแลกเปลี่ยนข้อมูลธรณีวิทยา
ข้อมูลหลุมเจาะท้ังประเทศ ด้านบุคลากรนักวิชาการ ด้านอุปกรณ์เครื่องมือสารวจธรณีฟิสิกส์ และ
งบประมาณจากกองทนุ น้าบาดาล เปน็ ตน้

ภารกิจของกรมทรัพยากรธรณี ในการใช้องค์ความรู้ธรณีวิทยากับการแก้ปัญหาภัยแล้ง ยังคงต้อง
ดาเนินการไปอย่างต่อเนื่องเพื่อหาพ้ืนท่ีศักยภาพแนวแตกหรือโพรงถ้าในหินปูนให้มากข้ึน และจัดการข้อมูล
หรอื จดั ทาแผนท่ีฐานหนิ ปูนใต้ดนิ แสดงโพรงถ้าท้งั ประเทศ การบูรณาการข้อมูลดา้ นธรณีวิทยาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งกบั
หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วข้องในการหาแหล่งกกั เกบ็ น้า ทงั้ ใตด้ นิ บนดนิ เพื่อบรรเทาภยั แลง้ ทม่ี ีอย่างยาวนานใหห้ มดไป

ค้าส้าคญั : ธรณวี ทิ ยา, ภัยแลง้ , โพรงถา้ , หนิ ปูน, สระบ่อดนิ ขาว, เขาวง

Keynote Session

การประชมุ วชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 11
(Geothai Webinar 2021) วนั ท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564
11
สถานการณถ์ ้าประเทศไทย พ.ศ. 2564

อนุกูล วงศ์ใหญ่

กรมทรพั ยากรธรณี 75/10 ถนนพระรามท่ี 6 เขตราชเทวี กรงุ เทพฯ 10400
E-mail: [email protected]

บทคัดย่อ

ถ้า เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สาคัญมีความเปราะบางของระบบนิเวศท้ังด้านกายภาพและชีวภาพ
ในบริบทของประเทศไทยที่ผ่านมาถ้ากระจายอยู่ในพื้นที่ของภาคส่วนต่างๆ แต่ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบใน
การกากับดแู ล ไมม่ ีกฎหมายเฉพาะ ทศิ ทางการบรหิ ารจดั การขาดความชดั เจน ในปี พ.ศ. 2562 คณะรัฐมนตรีมี
มติเห็นชอบให้แต่งต้ังคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้าแห่งชาติ เพื่อให้มีนโยบายการบริหารจัดการถ้า
ในระดับชาติ มีแนวทางการบริหารจัดการที่มีเอกภาพและเป็นระบบ มีความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคมและ
สิ่งแวดล้อม เนน้ การดาเนนิ งานท่ีมกี ารบรู ณาการภาคสว่ นตา่ ง ๆ และการมสี ว่ นร่วมของชุมชนทอ้ งถ่ิน

มิติใหม่ในการบรหิ ารจัดการ ภายใต้กรอบการดาเนินงานของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้า
แห่งชาตมิ กี ารรเิ ร่ิมหลายประการ ได้แก่ การจดั ทานโยบายและแผนแม่บทการบริหารจัดการระบบถ้าแห่งชาติ
การจัดทาแผนปฏิบัตกิ ารในระยะเรมิ่ ตน้ การประกาศมาตรการปฏิบตั ใิ นการเข้าเย่ยี มชมถ้าเพื่อปกป้องดูแลขั้น
พ้ืนฐาน ตลอดจนมีการสารวจถ้าต้นแบบจานวน 11 ระบบถ้าเพ่ือจัดทาแนวทางบริหารจัดการ โดยเร่ิมจาก
ระบบถา้ หลวง-ขนุ นา้ นางนอน จังหวดั เชียงราย

สถานการณถ์ ้าในประเทศ สามารถสะทอ้ นออกมาในรปู ของ กจิ กรรม เหตกุ ารณ์ หรอื ประเดน็ สาคญั ดา้ น
ต่าง ๆ อาทิ วางแผนการพัฒนา การสารวจศึกษาวิจัย การบริหารจัดการการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์
การทอ่ งเทย่ี วนันทนาการ การศึกษาของเดก็ เยาวชนชุมชนทอ้ งถนิ่ ศาสนา การจัดการสิ่งแวดล้อม การรับมือ
ความเส่ียงที่เกิดขึ้น ความร่วมมือระหว่างประเทศ ฐานขอ้ มลู เทคโนโลยี เครือข่ายชมรมและการมีส่วนรว่ มของ
ชมุ ชน โดยมวี ัตถปุ ระสงคใ์ ห้เกดิ ความรว่ มมอื ในการพฒั นา ยกระดบั การแกป้ ัญหา สรา้ งความตระหนกั และการมี
ส่วนร่วม โดยมุ่งเน้นการดารงคุณค่าให้ถ้าเป็นมรดกทางธรรมชาติของแผ่นดินควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่าง
ยั่งยืน

ค้าส้าคัญ: ถ้า, สถานการณ์, คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้าแห่งชาต,ิ การบริหารจดั การ, การพัฒนา
อยา่ งยงั่ ยนื

Keynote Session

12 ธรณวี ิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพอื่ การพฒั นาท่ียั่งยนื

หลกั เกณฑก์ ารจ้าแนกทรพั ยากรแรข่ องประเทศไทย และการก้าหนดเขตแหลง่ แรเ่ พอื่ การท้าเหมอื ง

จกั รพนั ธ์ สทุ ธิรตั น์1* , กฤตยา ปัทมาลัย2 และ ธวัชชยั เชอื้ เหลา่ วานิช2

1 ภาควิชาธรณี คณะวทิ ยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
2 กองทรพั ยากรแร่ กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม

*E-mail: [email protected]

บทคดั ย่อ

ตาม มาตรา 17 แห่ง พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 กาหนดให้คณะกรรมการนโยบายแร่แห่งชาติ
จดั ทาแผนแม่บทการบริหารจดั การแร่ เพอื่ เปน็ แนวทางในการบรหิ ารจัดการแรใ่ ห้เหมาะสมและเกดิ ประโยชน์
สูงสุดภายใต้ดุลยภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน โดยแผนแม่บทดังกล่าว
จะตอ้ งมกี ารกาหนดใหเ้ ปน็ เขตแหลง่ แรเ่ พอื่ การทาเหมอื งประกอบดว้ ย โดยแผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การแรฉ่ บบั แรก
(พ.ศ. 2560 - 2564) ใช้คานยิ ามพน้ื ท่ที ่ีมีแหล่งแร่อุดมสมบรู ณแ์ ละมีมลู ค่าเศรษฐกิจสูงกาหนดเป็นเขตแหลง่ แร่
เพื่อการทาเหมือง อย่างไรก็ตามการกาหนดเขตแหล่งแร่เพ่ือการทาเหมืองในแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่
ฉบับถัดไปจะต้องมีการประเมินตามหลักเกณฑ์การจาแนกทรัพยากรแร่ของประเทศไทย (Thailand Mineral
Framework Classification) หรอื TMFC และจดั ทาเปน็ แผนทเี่ ขตแหลง่ แรเ่ พ่อื การทาเหมอื ง

ในระยะที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาระบบ TMFC ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมท้ังจากกคณะทางานด้าน
เทคนิค ภาคราชการ ภาคเอกชน และประชาชน หลายครั้ง โดยขั้นตอนเริ่มจากนาข้อมูลผลการสารวจแร่ของ
ภาครฐั และขอ้ มูลผลการสารวจแร่ของภาคเอกชน มาดาเนินการพิจารณาปัจจัยด้านธรณีวิทยา เป็นหลักฐาน
บ่งช้ีว่ามีแหล่งแร่ เพื่อกาหนดเป็น พื้นท่ีศักยภาพแร่ โดยพ้ืนที่ศักยภาพแร่ท่ีอยู่นอกเขตพื้นท่ีหวงห้ามทาง
กฎหมายจะกาหนดเป็น พ้นื ที่ท่มี ศี กั ยภาพในการทาเหมือง จากน้ันจะใช้ปัจจัยหลัก 5 ด้านคือ (1) ปัจจัยด้าน
เทคโนโลยีท่ีใช้ในการทาเหมืองและสถานภาพโครงการ (2) ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (3) ปัจจัยด้านสังคม
(4) ปจั จยั ดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม และ (5) ปจั จยั สขุ ภาพของประชาชน เพอื่ ทาการใหค้ ะแนนในแตล่ ะปจั จยั ของพน้ื ทที่ ่มี ี
ศกั ยภาพในการทาเหมอื ง พน้ื ทที่ ค่ี ะแนนนผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จะกาหนดใหเ้ ปน็ เขตแหลง่ แรเ่ พอ่ื การทาเหมอื ง

การดาเนนิ การกาหนดเขตแหลง่ แร่เพอื่ การทาเหมอื งตามเกณฑ์ TMFC เพอื่ ใหท้ นั ตอ่ แผนแมบ่ ทในระยะ
ตอ่ ไป (พ.ศ. 2565 - 2569) นับวา่ เปน็ เร่อื งท่ที า้ ทายเปน็ อยา่ งย่งิ เนือ่ งจากเปน็ การบริหารจดั การแนวใหม่ที่ยังไม่
คนุ้ เคย และมขี อ้ โตแ้ ยง้ ในหลายๆขนั้ ตอนโดยเฉพาะ การปรบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนในแตล่ ะปจั จยั และชว่ งคะแนน
ทีเ่ หมาะสมในการกาหนดพ้ืนท่เี ปน็ เขตแหลง่ แรเ่ พ่ือการทาเหมือง ซึ่งพบว่าในแตล่ ะพ้นื ท่ียังมีสภาวะแวดล้อมที่
สง่ ผลท้งั ทางตรงและทางออ้ มต่อปัจจยั แตกต่างกนั และท่สี าคัญท่สี ดุ คอื ระบบฐานข้อมูลทมี่ ีเจ้าภาพหลากหลาย
และไมไ่ ดป้ รบั ปรงุ ให้เปน็ ปจั จบุ นั เปน็ ผลให้การประเมินเชงิ พนื้ ทดี่ ว้ ยข้อมูลเหลา่ นย้ี งั มจี ดุ อ่อนอยบู่ างสว่ น ดงั นั้น
การจัดทาฐานข้อมลู เชงิ พื้นท่ีเพ่ือบริหารจัดการทรัพยากรแรข่ องประเทศจาเป็นทีจ่ ะต้องได้รบั ความรว่ มมือจาก
หนว่ ยงานเจา้ ภาพในการปรบั ปรงุ ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ นั และเปน็ ฐานขอ้ มลู กลางของประเทศตอ่ ไป

Keynote Session

การประชุมวิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 13
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564

13

CCOP towards premier intergovernmental organization cross borders and

beyond history

Young Joo LEE

Director of CCOP Technical Secretariat
E-mail: [email protected]

Abstract

Coordinating Committee for Geoscience Programmes in East and Southeast Asia (CCOP)
has been established since 1966 under UN and became an Intergovernmental Organization in
1987. CCOP currently comprised of 16 Member Countries, 14 Cooperating Countries and
17 Cooperating Organizations throughout the world. For more than 55 years, CCOP has
provided a strong foundation of bi-lateral and multi-lateral cooperations for its Member
Countries, the Cooperating Countries and Cooperating Organizations.

At its inception, CCOP conducted work in geological surveys, exploration, and
technological cooperation in the extraction of off-shore petroleum and mineral resources in
the region. In response to the needs of member countries, CCOP projects have become
increasingly diverse over time, especially in the areas of groundwater resources, geohazards,
global climate change, marine geology and urban geology. Also CCOP compiles, manages,
and utilizes large amounts of data collected and accumulated and increasingly focusses on
data sharing and data driven discovery among Member Countries. CCOP also strives to
improve the level of understanding and knowledge in the field of geoscience in all member
countries through capacity building, training and education.

In 2020, CCOP has set up new CCOP’s 5-year Strategic Plan for 2021-2025 with a Vision of
“To be the Leading International Geoscience Organization for Sustainable Development in East
and Southeast Asia” and a Mission “To work together on advancing geoscience for better
lives on future earth and achieving the goals of international conventions”.
CCOP will pursue sustainability in research by establishing a system to continually nurture
new Earth scientists. Furthermore, CCOP will build a cooperative network with geoscience
communities in other regions to promote a sustainable Earth.

And CCOP will keep continue to work closely with Member Countries, Cooperating
Countries and Organizations to become a global intergovernmental organization in the field
of geoscience.

Keynote Session

14 ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพอื่ การพฒั นาที่ย่งั ยนื

Hydrogeochemical Features of Karst in the Western Thailand

ZHANG Cheng1 , Mahippong Worakul2*, WANG Jin-liang1, PU Jun-bing1, LYU Yong1,
ZHANG Qiang1 and HUANG Qi-bo1

1 Institute of Karst Geology, Chinese Academy of Geological Sciences, Ministry of Land and Resources/
Guangxi Key Laboratory of Karst Dynamics, Guilin, China, 541004

2 Department of Groundwater Resources, Ministry of Natural Resources and Environment, Bangkok, Thailand 10900
*Corresponding author: Mahippong Worakul
E-mail: [email protected]

Abstract

The hydrogeochemical features of typical karst region in western Thailand were
discussed based on the high-resolution automatic hydrochemical monitor and karst springs
water quality test data. The standard dissolution tablet method was employed to calculate
dissolution rate of different lands and main characters and dynamic factors of Thailand karst
growth were analyzed. Comparing with the typical karst springs region in the southwest
China, karstic water in the western Thailand has the features of high calcium (100-120 mg/L),
high contents of bicarbonate ion (8.6-9.3 mmol/L) and high specific conductance (700-820
µs/cm); the dissolution quantity of soils in the dry season was between 28.95 mg/m2.d and
214.84 mg/m2.d; the annual dissolution quantity was twice-three times greater than that of
Jinfo Mountain in Chongqing or Guangxi Mashan County peak cluster depression, indicating
that under the condition of tropical monsoon climate, the karst process in river catchment
was significantly stronger than that of subtropical karst region of the southwest China.
Keywords: Karst development; Hydrogeochemistry; Dissolution rate; Western Thailand;

Phu Toei underground river catchment

Keynote Session

การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 15
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564

15

Indochina - New Palaeozoic Data, Terranes and New Tectonic Hypotheses

Clive Burrett1*, Hathaithip Thassanapak1,2, Mongkol Udchachon1, Luke Gibson3, Khin Zaw3
and Sebastian Meffre3

1Palaeontological Research and Education Centre, Mahasarakham Univerity, Kamriang, Maha Sarakham 44150, Thailand
2Applied Palaeontology and Biostratigraphy Research Unit, Department of Biology, Faculty of Science, Ma-

hasarakham University, Maha Sarakham, 44150, Thailand
3CODES Centre of Ore Deposits and Earth Sciences, University of Tasmania, Box 252-79, Hobart, Tasmania

7001, Australia
*Corresponding author: [email protected]

Abstract

The number, extent, provenance and duration of mainland SE Asian terranes is
debatable and their boundaries, fusion times, and extensions into China and Cambodia are
controversial. Although derived from the pioneering work of J. Fromaget the ‘default’ idea
of a unitary, mainly Archean, Kon Tum ‘Massif’ about which Indochina accreted through the
Proterozoic-Phanerozoic is difficult to maintain. Indeed, we recognise at least 3 terranes
within geological ‘Indochina’ (Kon Tum (KT), Truong Son (TS) and Loei-Phetchabun (LP), (e.g.,
Burrett et al., 2014; Khin Zaw et al., 2014) and we have recently assembled the evidence
that they docked in the Tournaisian and late Permian and that most of the composite
Indochina Terrane did not exist until the Visean when a carbonate platform was established
across TS and LP (Burrett et al., 2021). A Llandovery subducting margin and volcanic arc
(Thassanapak et al., 2018) is found to the north of the Tam Ky Suture in Vietnam and Laos
and probably correlates with the Silurian volcanic arc in the eastern Loei Fold Belt. We
further suggest that the Loei Suture in NE Thailand and Laos correlates with the Tam Ky
Suture but its extent under the Mesozoic of the Khorat Plateau is uncertain. As shown by
Loydell et al., (2019), graptolites from this margin in Laos at the Sepon Mine are S. European
-N. African-Middle Eastern endemics and are not related to those from South China suggesting,
based on fish and gross sedimentological evidence, that TS did not dock with South China
along the Song Ma Suture until the late Silurian. The graptolites, along with detrital zircon
data from TS (Burrett et al., 2014) suggest derivation of TS from the Himalayan-Middle East
sector of Gondwana and rifting in the Late Ordovician. The discovery of numerous Ordovician
and Silurian dates on magmatic suites from Yunnan to Malaysia necessitates a re-appraisal of
tectonic models and the construction of new alternative hypotheses of terrane provenance,
rifting and amalgamation. The discovery of mafic magmatism ranging from the Ordovician to
the Permian suggests the Nan Suture in Thailand does not solely represent a late Palaeozoic
back-arc basin but may also be modelled as a long-lived ocean as originally suggested by S.
Bunopas. It is difficult to accommodate all of these new early Palaeozoic dates within

Keynote Session

16 ธรณีวถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพ่ือการพฒั นาทยี่ ั่งยนื
a simple model involving a major collision of a Hun Superterrane, the establishment of a diachronous
peri-Gondwana continental volcanic arc and subsequent rifting.
Keywords: Indochina, terranes, provenance, Ordovician, Silurian, Visean, collisions, ophiolite
References
Burrett, C., Udchachon, M. and Thassanapak, H. (2021). The Truong Son, Loei-Phetchabun

and Kontum Terranes in Indochina: provenance, rifting and collisions. Frontiers in
Earth Sci. 9:603565. doi: 10.3389/feart.2021.603565
Burrett, C., Meffre, S. Zaw, K., Lai, C-K., Khositanont, S., Chaodumrong, P., Udchachon, M.,
Ekins, S. and Halpina J. (2014). The configuration of Greater Gondwana-evidence from
LA ICPMS, U-Pb geochronology of detrital zircons from the Palaeozoic and Mesozoic
of Southeast Asia and China. Gondwana Res. 26, 31–51. doi:10.1016/j.gr.2013.05.020
Loydell, D., Udchachon, M. and Burrett, C. (2019). Llandovery (lower Silurian) graptolites
from the Sepon Mine, Truong Son Terrane, central Laos and their palaeogeograph-
ical significance. J. Asian Earth Sci. 170, 360–374. doi: 10.1016/j.jseaes.2018.11.013
Thassanapak, H., Udchachon, M. and Burrett, C. (2018). Silurian radiolarians from the Sepon Mine,
Truong Son Terrane, central Laos and their palaeogeographic and tectonic significance.
Geol. Magazine 155, 1621–1640. doi: 10.1017/S0016756817000425
Zaw, K., Meffre, S., Lai, C-K., Burrett, C., Santosh, M., Graham, I. Manaka, T. Salam, A.,
Kamvong, T., and Cromie, P. (2014). Tectonics and metallogeny of mainland Southeast
Asia A review and contribution. Gondwana Res. 26, 5–30. doi: 10.1016/j.gr.2013.10.010

Keynote Session

การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564 17
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564

17

Permian-Triassic structure and palaeogeography of the Khao Khwang Fold

and Thrust belt, Central Thailand: Implications for the development of the

Indochina Terrane
Christopher Keith Morley1*, Sukonmeth Jitmahantakul2, Sopon Pongwapee3 and Hathaichanok Vattanasak4

1PTT Exploration and Production, ENCO, Soi 11, Vibhavadi Rangsit Road, Chatuchak, Bangkok, 10900, Thailand.
2Department of Geology, Faculty of Science, Chulalongkorn University, Phayathai Road, Bangkok, 10330, Thailand.

3Faculty of Science, Department of Earth Sciences, Kasetsart University, Bangkok, Thailand.
4Department of Mining and Materials Engineering, Faculty of Engineering, Prince of Songkhla University,

Songkhla University, Songkhla, 90112, Thailand.

*E-mail: [email protected]

Abstract

Indochina tends to be regarded as a single terrane of the Indosinian orogeny. However,
the E-W trending Khao Khwang Fold and Thrust Belt (KKFTB) suggests that for a period during
the Permian, and possibly the Late Carboniferous rifting had separated Indochina into Northern
and Southern Blocks. The extent of this period of rifting is partially known from the subsurface
data, particularly seismic reflection data from the Khorat Plateau area, where rifting resulted in
carbonate platforms on structural highs and deeperwater, more clastic-dominated deposits in
rift depocentres. New structural and sedimentary work on the Nong Pong Formation, and Khao
Khwang Formation platforms indicates the KKFTB is composed of a series of deepwater basins
(probably fault controlled) separated by small carbonate platforms. The bathyal Permian Nong
Pong Formation is crucial for understanding the deformation style, and amount of shortening
in the E-W trending, Triassic (Indosinian Orogeny) Khao Khwang Fold and Thrust Belt. The
platform carbonates are shortened by a series of dominantly north-directed thrusts. The Nong
Pong Formation is extensively affected by tight to isoclinal, predominantly chevron style fold-
ing. Five major variations in stratigraphy (ranging between carbonate-dominated and shale-
dominated) affect the deformation styles within the formation. Shortening locally is estimated
to be up to 60% in sections up to 300 m long and is concentrated into short-wavelength (10s
m) structures. The absence of proximal slope depo-belts, and juxtaposition of carbonate
platform facies with deepwater deposits suggest thrusts (some initiated as inverted normal
faults) located on the basin margins have displacements of c. 10-25 km. Estimates of
shortening from outcrops, and analogy with Zealandia, suggest the northern outcrops of the
Nong Pong Formation between the Khao Khwang and Khao Khad platforms was deposited in a
basin up to 100 km wide. The entire KKFTB is estimated to have been much wider (>300 km),
and indicates a significant E-W trending seaway that bisected the Indochina Terrane. The
trace of this seaway into northern Cambodia and Vietnam is uncertain, but possibly the suture
passed into southern Vietnam where it is covered by the Jurassic Ban Don Group.

Keynote Session

18 ธรณีวถิ ีใหม่ นวัตกรรมไทย เพอ่ื การพฒั นาทย่ี ง่ั ยืน

Microfossils กบั ธรณวี ทิ ยา

ฐาสณิ ยี ์ เจริญฐติ ริ ัตน์

ภาควชิ าธรณวี ิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรงุ เทพ 10330
E-mail: [email protected]

บทคดั ยอ่

ไมโครฟอสซิล (microfossils) คือฟอสซิลท่ีมีขนาดเล็กมากพบท้ังฟอสซิลของพืช สัตว์ โปรตีส
(protist) ฟังใจ (fungi) และแบคทเี รีย เปน็ ตน้ โดยปกตจิ ะมีขนาดนอ้ ยกว่า 1 มิลลิเมตร แต่ไมโครฟอสซิลบาง
ชนิดอาจมีขนาดใหญ่กว่าน้ี การศึกษารายละเอียดและจาแนกไมโครฟอสซิลจาเป็นต้องใช้กล้องจุลทรรศน์
กาลังขยายมากหรือน้อยแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดของฟอสซิล ไมโครฟอสซิลสามารถจาแนกได้ด้วยลักษณะ
รูปร่าง โครงสรา้ งภายใน ขนาด และองคป์ ระกอบของเซลหรือเปลือกท่ีห่อหุ้ม ซ่ึงองค์ประกอบน้ันมีหลายชนิด
ตัวอย่างดังนี้ องค์ประกอบที่เป็นซิลิกาจะพบในกลุ่มของไดอะตอม เรดิโอลาเรีย องค์ประกอบประเภท
แคลเซยี มคารบ์ อเนต พบในกลุ่มฟิวซูลินิดและฟอแรมขนาดเล็ก ออสตราคอด องค์ประกอบประเภทฟอสเฟต
พบในกลมุ่ โคโนดอนต์ และองคป์ ระกอบท่เี ป็นสารอินทรีย์ พบในกลุ่มละอองเรณู เป็นต้น ไมโครฟอสซิลท่ีเป็น
ฟอสซิลดชั นี (index fossil) เช่น ฟิวซูลินิดและฟอแรมขนาดเล็ก เรดิโอลาเรีย โคโนดอนท์ มีประโยชน์ในการ
บอกอายขุ องหนิ และการเทียบสัมพันธข์ องชั้นหินทีอ่ ย่หู า่ งกัน นอกจากนี้ไมโครฟอสซิลบางกลุ่มสามารถใช้เป็น
ดัชนีในการศึกษาสภาพแวดล้อมบรรพกาล และปัจจุบันความรู้เก่ียวกับไมโครฟอสซิล สามารถนามา
ประยกุ ตใ์ ช้ในการอธิบายการเปล่ียนแปลงและความเป็นมาของเปลือกโลกได้ ในประเทศไทยการศึกษาไมโคร
ฟอสซิลได้รับความนิยมและมีข้อมูลมากในไมโครฟอสซิลบางกลุ่ม เช่น ฟิวซูลินิด ฟอแรมขนาดเล็ก เรดิโอลา
เรีย โคโนดอนท์ ออสตราคอด ละอองเรณู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ ความหนาแน่นของการกระจายตัว
ความหลากหลายของชนดิ และชนดิ ของหิน เปน็ ต้น การศึกษาวิจัยไมโครฟอสซิล 3 กลุ่มหลักๆในประเทศไทย
ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาแนวคิดเก่ียวกับธรณีแปรสัณฐานของประเทศไทยต้ังแต่อดีตถึงปัจจุบัน
คือกลุ่มฟิวซูลินิดและฟอแรมขนาดเล็ก กลุ่มโคโนดอนท์ และกลุ่มเรดิโอลาเรีย สาหรับกลุ่มฟิวซูลินิดและฟอ
แรมขนาดเล็กพบว่ามีการศึกษาทางด้านอนุกรมวิธานมากท่ีสุด เพราะเป็นกลุ่มที่ง่ายต่อการสังเกตในหิน พบ
จานวนมากและมีชนิดที่หลากหลาย ปัจจุบันการวิจัยเกี่ยวกับไมโครฟอสซิลกลุ่มน้ีนอกจากจะใช้เป็นฟอสซิล
ดัชนีในการหาอายุหินแล้ว สามารถที่จะนามาประยุกต์และเป็นข้อมูลในการอธิบายเก่ียวกับธรณีแปรสัณฐาน
ของประเทศไทยและพ้นื ทีข่ ้างเคียงได้ สว่ นกลมุ่ โคโนดอนต์และเรดิโอลาเรียเป็นฟอสซิลดัชนีที่มีความสาคัญใน
การหาอายุเช่นกัน นอกจากนี้ข้อมูลชนิดหินที่พบกลุ่มไมโครฟอสซิลเหล่าน้ี จะเป็นข้อมูลสาคัญในการบอก
สภาพแวดลอ้ มการสะสมตัว ส่วนไมโครฟอสซิลกลมุ่ อนื่ ๆนัน้ มีแนวทางการพัฒนาและวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์เพ่ิม
มากขึ้นในปจั จบุ นั

Keynote Session

การประชุมวชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564 19
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564

19

Radiolarian study in Thailand: present and future subject

Katsuo Sashida

Division of Geoscience, Mahidol University Kanchanaburi Campus, 199 Lum Sum, Sai Yok District, Kan-
chanaburi Province, Thailand, 71150
E-mail: [email protected]

Abstract

Radiolarians are planktonic protozoa. Living radiolarians are generally present in the
shallow to deep sea all over the world except for too much shallow and extremely low and
high salinity environment. Radiolarian fossils are often identified in the fine-grained siliceous
and calcareous sedimentary rocks which are thought have been accumulated in the pelagic
or hemipelagic environment. These sedimentary rocks generally lack the mega fossils which
are useful to determine the geologic age. Radiolarian shells are constructed by SiO2, which
have rather strong resistance to physical and chemical erosion and deformation by pressure
compared with calcareous shell-bearing fossils. Therefore, radiolarians are one of the most
important microfossils as the tool for the terrane analysis, to reconstruct tectonic,
paleogeography, paleoenvironment and tectono-stratigraphy near the region of the suture
zone and the past active margin. Since the first report of Permian and Triassic radiolarians
from fine-grained siliceous rocks in northern Thailand by Caridroit et al. (1990), a lot of
radiolarian biostratigraphy and taxonomy have been undertaken in Thailand (Sashida et al.,
1993, 2021 in press; Thassanapak et al., 2020). Based on these local micropaleontological
investigations and recently accumulated knowledge on biostratigraphy of radiolarians,
conodonts, and fusulinids, many tectonostratigraphic investigations in Southeast Asia including
Thailand have been presented (Metcalfe, 2017). The present author summarizes the study
on radiolarian fossils conducted in Thailand based on the point of views of biostratigraphy,
taxonomy, paleogeography, paleoenvironment, and tectonic analysis, and further proposes
the future subject of radiolarian study in Thailand, herein.

Keywords: Biology, Biostratigraphy, Paleotethys, Radiolarian, Taxonomy, Terrane analysis
References
Caridroit, M., Fontaine, H., Jongkanjanasoontorn, Y., Suteehorn, V., Vachard, D., 1990; First

results of a palaeontological study of northwest Thailand. In Fontaine, H. ed., Ten years
of CCOP Research on the Pre-Tertiary of East Asia. CCOP/TP, 20, p. 337-350.
Metcalfe, I., 2017; Tectonic evolution of Sundaland. Bulletin of the Geological Soceity of
Malaysia, col. 63, p. 27-60.
Sashida, K., Igo, H., Hisada, K., Nakornsri, N. and Ampornmaha, A., 1993; Occurene of Paleozoic
and early Mesozoic Radiolarian in Thailand (preliminary report). Journal of Southeast

Keynote Session

20 ธรณวี ถิ ใี หม่ นวัตกรรมไทย เพือ่ การพฒั นาที่ยง่ั ยืน
Asian Earth Sciences, vol. 8, p. 97-108.

Sashida, K., Ito, T., Salyapongse, S., and Putthapiban, P., 2021 in press. Perman and Triassic
radiolarians from chert breccia in the Nong Prue area, western Thailand: its origin and
depositional setting in the Paleotethys. Palaeoworld.

Thassanapak, H., Udchachon, M., Chareonmit, J., and Burreett, C., 2020; Early Permian radio-
larians from Southern Thailand, the deglaciation of Gondwana and the age of the basal
Ratburi Group. Palaeoworld, vol. 29, p. 552-567.

Keynote Session

การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 21
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สงิ หาคม 2564

21

กระดูกกระเบนเหนบ็ ชิ้นใหม่ของไดโนเสาร์เทอโรพอด ยุคครีเทเชยี สตอนตน้

จากจงั หวัดขอนแก่นและอนกุ รมวธิ านของไดโนเสารเ์ ทอโรพอดในประเทศไทย

กฤษณุพงศ์ พันทานนท์ 1*, อดลุ ย์ สมาธิ2 และ สุรเวช สธุ ธี ร1

1ภาควชิ าชวี วทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม มหาสารคาม 44150
2หนว่ ยวจิ ยั ความหลากหลายทางชวี ภาพและการอนรุ กั ษ์ สถาบนั วจิ ยั วลยั รกุ ขเวช มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม มหาสารคาม 44150

*E-mail: [email protected]

บทคดั ย่อ

เทอโรโพดา (Theropoda) เป็นอันดับย่อยของไดโนเสาร์กลุ่มซอริสเชีย (Saurischia) ซึ่งเป็นไดโนเสาร์
สะโพกแบบสัตว์เล้ือยคลาน ไดโนเสาร์กลุ่มนี้ค้นพบซากดึกดาบรรพ์จากท่ัวทุกมุมโลก ในประเทศไทยมีการ
ค้นพบไดโนเสาร์ในกลุ่มนี้ถึง 6 ชนิด ได้แก่ สยามโมซอรัส สุธีธรนิ (Siamosaurus suteethorni) เป็น
ไดโนเสาร์กินปลา วงศ์สไปโนซอริเด (Spinosauridae) ถัดมาคือวงศ์ของซีลูโรซอเรีย (Coelurosauria) ที่
ค้นพบในประเทศไทยส่วนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเเบซอลซีลูโรซอร์ (Basal Coelurosaur) ได้แก่ สยามโมไท
รันนัส อิสานแอนซิส (Siamotyrannus isanensis) ภูเวียงเวนเนเตอร์ แย้มนิยมมิ (Phuwiangvenator
yaemniyomi) และ วายแุ รปเตอร์ หนองบัวลาภูเอนซิส (Vayuraptor nongbualamphuensis) นอกจากน้ี
ยังมีไดโนเสาร์ในกลุ่มของออร์นิโทมิโมซอเรีย (Ornithomimosauria) อย่าง กินนารีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส
(Kinnareemimus khonkaenensis) อีกดว้ ย และเมอ่ื ไมน่ านมานี้ได้มีการค้นพบไดโนเสาร์วงศ์ใหม่เพิ่มข้ึนมา
คือ วงศ์อัลโลซอรอยเดีย (Allosauroidea) โดยจัดให้อยู่ในกลุ่มของไดโนเสาร์คาคาร์โรดอนโทซอเรีย
(Carcharodontosauria) ไดแ้ ก่ สยามแรปเตอร์ สุวัจน์ติ (Siamraptor suwati) ล่าสุดได้มีการค้นพบชิ้นส่วน
กระเบนเหน็บ (sacral vertebrae) ของไดโนเสาร์เทโรพอดจากแหล่งขุดค้นภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เมื่อ
เปรียบเทียบลักษณะทางสัณฐานวิทยากับไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอดกลุ่มต่าง ๆ แล้ว อนุมานว่าสายวงศ์วาน
วิวัฒนาการของไดโนเสาร์ชนิดน้ีมีความเป็นไปได้ที่อาจถูกจัดอยู่ในกลุ่มคาคาร์โรดอนโทซอเรียหรือ
กลุ่มเมกาแร็พเทอรา (Megaraptora) แต่ทว่าข้อมูลน้ียังไม่ชัดเจนเนื่องจากช้ินตัวอย่างท่ีศึกษามีลักษณะร่วม
ของไดโนเสาร์เทอโรพอดหลายกลุ่ม และจะต้องมีการศึกษาเพ่ิมเติมในอนาคต การศึกษาน้ีจะเพ่ิมความ
หลากหลายของไดโนเสาร์กนิ เน้อื ในประเทศไทยและเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้และจะทาให้เราเข้าใจวิวัฒนาการ
ของไดโนเสารก์ ินเนือ้ ในภูมภิ าคน้ีมากยง่ิ ขึน้

ค้าส้าคญั : ซอริสเชีย คาคารโ์ รดอนโทซอเรีย เมกาแร็พเทอรา กระดกู กระเบนเหนบ็

Keynote Session


Click to View FlipBook Version