186 น้าหนกั ยา
1 สว่ น
ลาดับ ตวั ยา 1 สว่ น
5 โกฐสอ 1 ส่วน
6 โกฐเขมา 1 สว่ น
7 โกฐหวั บัว 1 สว่ น
8 โกฐจุฬาลมั พา 1 ส่วน
9 โกฐเชียง 1 สว่ น
1 ส่วน
10 เทียนดา 1 ส่วน
11 เทยี นแดง 1 สว่ น
12 เทยี นขาว 1 สว่ น
13 เทยี นข้าวเปลอื ก 1 ส่วน
14 เทียนตาตั๊กแตน 1 ส่วน
15 ชะเอมเทศ 2 ส่วน
16 กญั ชา 2 ส่วน
17 แกน่ แสมทะเล 2 สว่ น
18 อตุ พดิ 2 ส่วน
19 เปลอื กสมลุ แว้ง 3 สว่ น
20 ดปี ลี 3 สว่ น
21 ใบพิมเสน 3 ส่วน
22 รากจงิ จอ้ 3 ส่วน
23 รากส้มกงุ้ 3 ส่วน
24 รากเปลา้ น้อย 3 ส่วน
25 รากเปลา้ ใหญ่ 4 ส่วน
26 รากสะคา้ น 9 สว่ น
27 รากพาชไหน 16 ส่วน
28 สหศั คุณเทศ 16 ส่วน
29 บุกรอ 16 ส่วน
30 พรกิ ไทย
31 ขิงแห้ง
32 เจตมูลเพลงิ แดง
188 หนังสอื เรียนสาระทกั ษะการดำ�เนนิ ชีวิต เพ่อื ใช้เป็นยา อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศึกษา
187
ข้อบ่งใช้ แกล้ มจกุ เสยี ด ปวดมวนท้อง แก้ดานเสมหะ
รปู แบบยา ยาผง, แคปซูล
ขนาดและวธิ ใี ช้ รบั ประทานครั้งละ 2 กรัม วนั ละ 2 ครงั้ ก่อนอาหาร เช้าและเย็น
น้ากระสายยาทีใ่ ช้ นา้ มะนาว ถ้าหานา้ กระสายยาไมไ่ ด้ ให้ใช้นา้ สุกแทน
ข้อหา้ มใช้ หา้ มใช้ในหญิงต้งั ครรภ์ ผู้ทมี่ ีไข้ และผ้ทู ่มี ีอายุตา่ กว่า 18 ปี
ข้อควรระวัง 1. ควรระวงั การรบั ประทานรว่ มกบั ยาในกลุ่มสารกนั เลอื ดเป็นลิม่
1. (Anticoagulant) และยาต้านการจับตวั ของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวังการใชร้ ่วมกับยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
1. และ Rifampicin เนื่องจากตารบั น้มี ีพรกิ ไทยในปริมาณสงู
3. ควรระวังการใช้ในผ้ปู ่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ผู้ปว่ ยโรคแผล
1. เป่ือยเพปติก ผ้ปู ว่ ยโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลยอ้ น เนอ่ื งจากเป็น
1. ตารับยารสรอ้ น
ข้อมูลเพ่ิมเติม ดานเสมหะ หมายถึง เสมหะท่คี ่งั คา้ งในลาไส้ทาใหท้ ้องแข็งปวดมวน
7. ยาแกน้ อนไมห่ ลบั หรอื ยาแก้ไข้ผอมเหลอื ง
ท่ีมาของตารบั ยา แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ เลม่ 1 พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. 128
“กัญชา แก้ไข้ผอมเหลืองหาก้าลังมิได้ ให้ตัวส่ันเสียงสั่นเปนด้วยวาโยธาตุก้าเริบ แก้
นอนมิหลับ เอาตรีกะฏุก 1 จันทน์ท้ัง 2 ใบสะเดา 1 ใบคนทีเขมา 1 พริกล่อนเสมอภาค ใบกันชาเท่ายา
ทั้งหลายท้าผง เอาน้ามะพร้าว น้าผ้ึง น้าส้มซ่า น้าตาลทราย กระทือสด น้าเบ็ญจทับทิมต้มละลายยา
กินหายแล”
สูตรตารบั ยา ประกอบดว้ ย ตวั ยา 8 ชนิด รวมนา้ หนัก 16 ส่วน ดังนี้
ลาดับ ตัวยา น้าหนักยา
1 ขิงแห้ง 1 ส่วน
2 พรกิ ไทยล่อน 2 สว่ น
3 ดีปลี 1 สว่ น
4 จนั ทนแ์ ดง 1 ส่วน
5 จันทน์ขาว 1 สว่ น
6 ใบสะเดา 1 สว่ น
7 ใบคนทเี ขมา 1 ส่วน
8 ใบกญั ชา 8 สว่ น
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกัญชงศกึ ษา เพ่ือใชเ้ ปน็ ยา หนงั สอื เรียนสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชีวิต 189
อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
188
ข้อบ่งใช้ 1. แก้นอนไมห่ ลับ
2. แกไ้ ขผ้ อมเหลือง มีอาการตวั ส่นั เสยี งสั่น ออ่ นเพลยี ไม่มกี าลงั
รูปแบบยา ยาผง, แคปซูล
ขนาดและวธิ ใี ช้ รบั ประทานครั้งละ 2 กรัม วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้าและเย็น
นา้ กระสายยาท่ีใช้ น้ามะพร้าว นา้ ผึ้งรวง นา้ สม้ ซ่า นา้ ตาลทราย กระทอื สด
นา้ เบญจทบั ทมิ ตม้ อยา่ งใด อย่างหน่งึ ถา้ หาน้ากระสายยาไม่ได้ ใหใ้ ชน้ ้า
สกุ แทน
ข้อหา้ มใช้ 1. ห้ามใชใ้ นหญิงต้ังครรภ์ และผูท้ ่ีมีอายุตา่ กวา่ 18 ปี
2. ห้ามใช้ร่วมกับยาที่มีฤทธ์ิกดระบบประสาทสว่ นกลาง เช่น ยานอนหลับ
และยาต้านการชัก รวมท้งั แอลกอฮอล์ หรือสิง่ ที่มแี อลกอฮอล์ผสมอยู่
ข้อควรระวัง 1. ควรระวังการรับประทานร่วมกับยาในกลมุ่ สารกันเลอื ดเป็นลม่ิ
(Anticoagulant) และยาตา้ นการจบั ตัวของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวงั การใช้รว่ มกบั ยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
และ Rifampicin เนื่องจากตารบั นี้มีพริกไทยเปน็ สว่ นประกอบ
3. ยานี้อาจทาใหง้ ว่ งซึมได้ ควรหลกี เลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรอื ทางาน
เก่ยี วกับเครอ่ื งจักรกล
4. ควรระวงั ในผทู้ ป่ี ระกอบอาชพี ทางน้าหรือผูท้ รี่ า่ งกายต้องสมั ผัสความ
เยน็ เปน็ เวลานาน เพราะจะทาใหเ้ ป็นตะคริวตรงบรเิ วณทอ้ งได้
ขอ้ มูลเพิม่ เติม 1. ไขผ้ อมเหลือง เกิดจากธาตลุ มกาเริบสง่ ผลใหน้ อนไม่คอ่ ยหลับ เบือ่
อาหาร เม่ือเป็นเร้ือรัง ร่างกายผ่ายผอม ซดี เหลอื ง อ่อนเพลยี และไม่มี
กาลงั ซ่ึงอาจเกดิ จากหลายสาเหตุ เช่น โรคริดสีดวง
2. ริดสดี วง เปน็ โรคกลุ่มหนึ่ง เกดิ ได้กับอวยั วะต่าง ๆ ของร่างกาย เชน่ ตา
จมูก ลาไส้ ทวารหนัก ตาราการแพทย์แผนไทยว่า มี 18 ชนิด แตล่ ะชนิด
มีอาการและชื่อเรยี กแตกต่างกันไป บางชนิดอาจมีติ่งหรือก้อนเน้ือ
เกิดขึ้น ทีอ่ วยั วะนน้ั เชน่ รดิ สดี วงตา ริดสีดวงทวารหนัก
8. ยาแก้สนั ฑฆาต กลอ่ นแหง้
ท่ีมาของตารบั ยา แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เล่ม 2 พระยาพิศณปุ ระสาทเวช ร.ศ.126
“จะว่าด้วยโรคส้าหรับบุรษุ หรือสัตรีก็เหมือนกัน แต่จะว่าดว้ ยบุรษุ น้ันก่อน ถ้าผู้ใดเปน
โทษสัณฑฆาฏแลกล่อนแห้ง มักให้ผูกพรรดึกแลลมเสียดแทง ให้เปนลูกเปนก้อนเปนดานในท้องให้
เมื่อยขบทวั่ สารพางค์ มักใหเ้ จบ็ บน้ั เอว ให้มอื เท้าตายเปนเหนบ็ ชา มกั ขัดหวั เหน่าน่าตะโพก ตงึ สอง
190 หนังสอื เรียนสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวติ เพื่อใช้เป็นยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา
189
ราวข้างไปจนตลอดทวารหนัก ปัสสาวะเปนโลหิตให้ปวดสีสะวิงเวียนหน้าตา ปากเบ้ียวตาแหกเสียง
แห้งเจราไม่ไคร่ได้ยิน จักษุมืดหูหนัก แลจุกเสียดท้องขึ้นแน่นน่าอก เสพย์อาหารไม่มีรศ โรคท้ังนี้เปน
เพ่ือวาตะ, เสมหะ, โลหิต, ก้าเริบ เม่ือจะเปนน้ันให้เหม็นเนื้อตัวแลอาหารถอย บางทีให้จับสะบัด
ร้อนสท้านหนาว มักอยากของเปรี้ยวหวานแลเย็น เปนทั้งน้ีเพราะโลหิตแห้งติดกระดูกสันหลัง บุรุษ
แลสัตรีเปนเหมือนกนั จะแกท้ ่านให้แตง่ ยาน้ี
ยาแก้โรคส้าหรับบุรุษขนานนี้ เอาเถาสะค้าน 1 ผักแพวแดง 1 หัวดองดึง 1 ว่านน้า 1
มหาหิงค์ุ 1 เนื้อในฝักราชพฤษ 1 โกฐสอ 1 โกฐพุงปลา 1 โกฐจุลาล้าภา 1 กันชา 1 หัวอุตพิด 1
ชะเอมเทศ 1 ดีปลี 1 แก่นแสมทะเล 1 ยาท้ังน้ีเอาเสมอภาค พริกไทยก่ึงยา แต่ว่าผ่อนตามก้าลัง
ทา้ ผงแลว้ เอาน้าใบกะเม็ง 1 น้าผลประค้าดีควาย 1 เอาเท่ากันเคล้ายาให้ได้ 7 ครั้ง ผึ่งให้แห้งแล้วบด
กบั น้าผ้งึ รับประทาน หนัก 1 สลึง แก้โรคดังกล่าวมาแล้วแต่หลงั ”
สตู รตารบั ยา ประกอบดว้ ย ตัวยา 15 ชนิด รวมนา้ หนัก 21 ส่วน ดังน้ี
ลาดบั ตัวยา น้าหนกั ยา
1 สะคา้ น 1 ส่วน
2 ผกั แพวแดง 1 ส่วน
3 ดองดงึ 1 สว่ น
4 วา่ นน้า 1 สว่ น
5 มหาหงิ ค์ุ 1 สว่ น
6 เนอ้ื ในฝกั ราชพฤกษ์ 1 สว่ น
7 โกฐสอ 1 สว่ น
8 โกฐพงุ ปลา 1 ส่วน
9 โกฐจุฬาลัมพา 1 สว่ น
10 กญั ชา 1 สว่ น
11 อุตพดิ 1 ส่วน
12 ชะเอมเทศ 1 สว่ น
13 ดปี ลี 1 ส่วน
14 แก่นแสมทะเล 1 ส่วน
15 พรกิ ไทย 7 สว่ น
สว่ นประกอบอ่นื ในตารบั
ใบกะเม็ง
ผลประคาดีควาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกัญชงศกึ ษา เพือ่ ใช้เป็นยา หนังสอื เรียนสาระทักษะการดำ�เนินชวี ิต 191
อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
190
ขอ้ บ่งใช้ บรรเทาอาการท้องผกู เป็นพรรดึก อาการปวดเมื่อยทวั่ ร่างกาย มอื ชาเท้าชา
ปวดศรี ษะ หนา้ มืดวิงเวยี น จุกเสียดทอ้ ง แนน่ หนา้ อก ท่ีเกิดจาก
โทสนั ฑฆาตและกลอ่ นแห้ง
รปู แบบยา ยาผง, แคปซลู
ขนาดและวธิ ีใช้ รบั ประทานครัง้ ละ 2 กรัม วันละ 2 ครงั้ ก่อนอาหาร เชา้ และเย็น
นา้ กระสายยาท่ีใช้ น้าผึง้ รวง ถ้าหาน้ากระสายยาไม่ได้ ใหใ้ ชน้ ้าสกุ แทน
ขอ้ ห้ามใช้ ห้ามใชใ้ นหญงิ ตั้งครรภ์ ผู้ทีม่ ีไข้ และผทู้ ีม่ ีอายตุ ่ากวา่ 18 ปี
ขอ้ ควรระวงั 1. ควรระวงั การรบั ประทานร่วมกับยาในกลุ่มสารกนั เลอื ดเป็นลิม่
(Anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวังการใชร้ ว่ มกับยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
และ Rifampicin เนื่องจากตารับนม้ี ีพริกไทยในปริมาณสูง
3. ควรระวงั การใชย้ านใ้ี นผู้ปว่ ยสูงอายุ
ข้อมูลเพมิ่ เติม ต้องฆา่ ฤทธดิ์ องดึงก่อนนาไปปรงุ ยา
9. ยาอัมฤตย์โอสถ
ที่มาของตารับยา แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ เลม่ 2 พระยาพศิ ณุประสาทเวช ร.ศ.126
“ขนานหนึ่งชื่ออัมฤตย์โอสถ แก้ลมไกษยท้ังปวงเอา สหัสคุณ 1 แก่นแสมทเล 1 ราก
ส้มกุ้ง 1 ลูกมะตูม 1 ลูกมะแหน 1 ลูกพิลังกาสา 1 สมอเทศ 1 สมอไทย 1 โกฏเขมา 1 เทียนด้า 1
เทียนขาว 1 ลูกจันทน์ 1 ดอกจันทน์ 1 กระวาน 1 กานพลู 1 ดีปลี 1 ยาท้ังนี้เอาเสมอภาค เอา
เปลือกหอยโข่ง 1 เปลือกหอยขม 1 เปลือกหอยแครง 1 เบี้ยผู้เผา 1 เอาสิ่งละ 3 ส่วน เอากันชา 10
สว่ น เอาพริกไทย 2 เท่ายาทง้ั หลาย ต้าผงกระสายยักยา้ ยใชใ้ ห้ชอบโรคท้งั หลายเถิด”
สตู รตารบั ยา ประกอบดว้ ย ตัวยา 22 ชนิด รวมนา้ หนัก 76 ส่วน ดงั นี้
ลาดบั ตัวยา น้าหนกั ยา
1 สหัสคุณ 1 ส่วน
2 แก่นแสมทะเล 1 ส่วน
3 รากสม้ กุ้ง 1 สว่ น
4 ลูกมะตูม 1 สว่ น
5 ลูกมะแหน (สมอพเิ ภก) 1 สว่ น
6 ลูกพลิ ังกาสา 1 ส่วน
7 สมอเทศ 1 สว่ น
8 สมอไทย 1 ส่วน
192 หนงั สอื เรยี นสาระทักษะการด�ำ เนินชวี ติ เพือ่ ใชเ้ ปน็ ยา อย่างชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกัญชงศกึ ษา
191
ลาดับ ตวั ยา น้าหนกั ยา
9 โกฐเขมา 1 ส่วน
10 เทียนดา 1 ส่วน
11 เทยี นขาว 1 ส่วน
12 ลูกจนั ทน์ 1 ส่วน
13 ดอกจันทน์ 1 ส่วน
14 กระวาน 1 สว่ น
15 กานพลู 1 สว่ น
16 ดปี ลี 1 สว่ น
17 เปลอื กหอยโข่ง 3 สว่ น
18 เปลือกหอยขม 3 สว่ น
19 เปลือกหอยแครง 3 สว่ น
20 เบย้ี ผู้เผา 3 สว่ น
21 กญั ชา 10 ส่วน
22 พริกไทย 38 สว่ น
ข้อบ่งใช้ แก้ลมกษัย
รปู แบบยา ยาผง, แคปซลู
ขนาดและวิธใี ช้ รับประทานคร้ังละ 2 กรัม วันละ 2 ครง้ั ก่อนอาหาร เชา้ และเย็น
ข้อหา้ มใช้ ห้ามใช้ในหญิงต้งั ครรภ์ ผทู้ ม่ี ีไข้ และผทู้ ่ีมอี ายุต่ากว่า 18 ปี
ข้อควรระวงั 1. ควรระวังการรับประทานรว่ มกบั ยาในกลุ่มสารกันเลือดเปน็ ลิม่
ข้อมูลเพ่ิมเติม (Anticoagulant) และยาตา้ นการจับตวั ของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวังการใช้รว่ มกบั ยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
และ Rifampicin เนื่องจากตารบั นี้มีพริกไทยในปริมาณสูง
3. ควรระวังการใชใ้ นผู้ปว่ ยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ผู้ปว่ ยโรคแผล
เปื่อยเพปติก ผู้ปว่ ยโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน เนื่องจากเป็น
ตารับยารสร้อน
4. ควรระวงั การใชย้ านใ้ี นผปู้ ว่ ยสงู อายุ
ลมกษยั เปน็ ลมท่ที าให้ผอมแหง้ แรงน้อย ทาใหม้ นึ ตงึ มือเทา้ ออ่ นแรง เปน็ ตน้
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา เพื่อใชเ้ ปน็ ยา หนงั สอื เรียนสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวิต 193
อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
192
10. ยาอไภยสาลี
ท่ีมาของตารับยา เวชศึกษา แพทยศ์ าสตรส์ ังเขป เลม่ 1, 2, 3 พระยาพศิ ณุประสาทเวช
ร.ศ. 127
“ยาอไภยสาลี เอาลูกจัน 1 สลึง ดอกจัน 2 สลึง ลูกกระวาน 3 สลึง กานพลู 1 บาท
ลูกพิลังกาสา 1 บาท 2 สลึง ว่านน้า 1 บาท 3 สลึง โกฐสอ 2 บาท โกฐเขมา 2 บาท 1 สลึง เทียนเข้า
เปลือก 2 บาท 2 สลึง เทียนแดง 2 บาท 3 สลึง เทียนขาว 2 บาท เทียนตาตั๊กแตน 2 บาท 1 สลึง
เจตมูลเพลิง 3 บาท สมอไทย 3 บาท 1 สลงึ สมอเทศ 3 บาท 1 สลึง หัวบกุ รอ 3 บาท 3 สลงึ สหัศคณุ เทศ
1 ต้าลึง 2 บาท จันทน์เทศ 1 ต้าลึง กัญชา 3 บาท 3 สลึง พริกล่อน 1 ต้าลึง กินเช้าเย็นทุกวัน แก้สารพัด
ลม 80 จ้าพวก แก้โลหิต 20 จ้าพวก แก้ริดสีดวง 20 จ้าพวก ยาน้ีกินได้ 3 เดือน หายโรคาพยาธิมิได้มีเลย
อายุวัฒนะทั้งเกิดปัญญารู้หลักนักปราชญ์มากกว่าคนทั้งปวง ถ้าผู้ใดพบให้ท้ากินวิเศษนัก ใครกินยาน้ีดุจ
ยาทิพยน์ ้นั แล ฯ”
สูตรตารบั ยา ประกอบด้วย ตวั ยา 20 ชนิด รวมนา้ หนกั 757.50 กรมั ดังนี้
ลาดบั ตวั ยา นา้ หนกั ยา (กรมั )
1 ลูกจันทน์ 3.75
2 ดอกจันทน์ 7.50
3 กระวาน 11.25
4 กานพลู 15
5 ลกู พลิ ังกาสา 22.50
6 วา่ นน้า 26.25
7 โกฐสอ 30
8 โกฐเขมา 33.75
9 เทยี นข้าวเปลือก 37.50
10 เทยี นแดง 41.25
11 เทียนขาว 30
12 เทียนตาต๊กั แตน 33.75
13 เจตมูลเพลงิ 45
14 สมอไทย 48.75
15 สมอเทศ 48.75
194 หนงั สอื เรยี นสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชีวิต เพ่อื ใช้เปน็ ยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา
193
ลาดับ ตัวยา น้าหนักยา (กรัม)
16 หัวบุกรอ 56.25
17 สหสั คุณเทศ 90
18 จันทนเ์ ทศ 60
19 กญั ชา 56.25
20 พรกิ ไทยลอ่ น 60
ข้อบ่งใช้ แก้โรคทางลม บรรเทาอาการจุกเสียดแนน่
รูปแบบยา ยาผง, แคปซลู
ขนาดและวธิ ีใช้ รับประทานครั้งละ 2 กรัม วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เชา้ และเย็น
ขอ้ ห้ามใช้ ห้ามใชใ้ นหญิงตั้งครรภ์ ผูท้ มี่ ีไข้ และผู้ทม่ี ีอายตุ ่ากวา่ 18 ปี
ขอ้ ควรระวัง 1. ควรระวังการรับประทานร่วมกบั ยาในกลุ่มสารกนั เลือดเปน็ ลม่ิ
(Anticoagulant) และยาต้านการจบั ตัวของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวังการใช้รว่ มกบั ยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
และ Rifampicin เนื่องจากตารบั นี้มีพริกไทยในปริมาณสูง
ข้อมูลเพ่มิ เติม ยาอไภยสาลเี ปน็ สตู รตารบั เดียวกันกบั ยาอภัยสาลี ในบัญชียาหลกั แห่งชาติ
ปี 2561 เพียงแต่ในบัญชยี าหลกั แหง่ ชาติไม่ไดใ้ ส่กญั ชาในสูตรตารบั
เนอ่ื งจากเสนอตารับยากอ่ นที่ พรบ.ยาเสพตดิ ให้โทษ (ฉบบั ที่ 7) พ.ศ.
2562 ประกาศใช้
11. ยาแก้ลมแกเ้ สน้
ท่ีมาของตารับยา เวชศาสตร์วณั ์ณณา เล่ม 5
“ขนานหน่ึงเอา เทียนขาว 1เทียนด้า 2เทียนข้าวเปลือก 3ขิง 4เจตมูล 5ใบกันชา 20พริกไทย
40 สว่ น ท้าเปนจุณละลายน้าผึ้ง น้าสม้ ซ่ากินแกล้ มแก้เส้นแกเ้ มอื่ ยแก้เหนบ็ ชาแกต้ นี ตายมือตายหายดนี กั ”
สูตรตารบั ยา ประกอบดว้ ย ตวั ยา 7 ชนิด รวมน้าหนกั 75 ส่วน ดงั น้ี
ลาดบั ตัวยา น้าหนกั ยา
1 เทยี นขาว 1 ส่วน
2 เทยี นดา 2 ส่วน
3 เทยี นข้าวเปลือก 3 ส่วน
4 ขิง 4 ส่วน
5 เจตมลู เพลิงแดง 5 ส่วน
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศึกษา เพื่อใช้เป็นยา หนังสือเรยี นสาระทกั ษะการด�ำ เนินชีวติ 195
อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
194
ลาดบั ตวั ยา น้าหนักยา
6 ใบกัญชา 20 สว่ น
7 พรกิ ไทย 40 สว่ น
ขอ้ บ่งใช้ แก้ลมในเส้น บรรเทาอาการมือเท้าชา อ่อนแรง
รูปแบบยา ยาผง, แคปซูล
ขนาดและวิธีใช้ รับประทานครั้งละ 2 กรัม วนั ละ 2 ครัง้ ก่อนอาหาร เช้าและเย็น
นา้ กระสายยาที่ใช้ นา้ ผง้ึ รวง นา้ สม้ ซ่า อย่างใด อย่างหน่ึง ถา้ หาน้ากระสาย
ยาไม่ได้ ให้ใช้น้าสกุ แทน
ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใช้ในหญิงตง้ั ครรภ์ ผูท้ ี่มีไข้ และผูท้ ม่ี ีอายุตา่ กวา่ 18 ปี
ขอ้ ควรระวงั 1. ควรระวังการรับประทานร่วมกบั ยาในกลุ่มสารกนั เลอื ดเปน็ ลม่ิ
(Anticoagulant) และยาตา้ นการจับตวั ของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวังการใชร้ ว่ มกบั ยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
และ Rifampicin เนื่องจากตารบั นมี้ ีพริกไทยในปริมาณสูง
3. ควรระวังการใช้ในผปู้ ่วยโรคความดันโลหติ สงู โรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคแผล
เปอื่ ยเพปตกิ ผู้ปว่ ยโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลยอ้ น เน่อื งจากเปน็
ตารบั ยารสร้อน
4. ควรระวงั การใชย้ าน้ใี นผู้ปว่ ยสงู อายุ
ขอ้ มูลเพมิ่ เติม ลมในเส้น เปน็ ลมท่ีพัดประจาอยู่ตามเสน้ ต่าง ๆ ในร่างกาย เชน่ ลมจันทก
ระลาพัดอยูใ่ นเสน้ อทิ า ลมสูญทกลา พัดอยใู่ นเสน้ ปงิ คลา เมื่อลมเหล่านี้
ผดิ ปกตจิ ะทาใหผ้ ู้ปว่ ยมอี าการปวดหรือชาตามแนวเส้นทีล่ มนน้ั พัดประจา
หรอื บรเิ วณใกลเ้ คยี ง เป็นต้น
12. ยาแกโ้ รคจิต
ที่มาของตารับยา อายุรเวทศึกษา (ขนุ นิทเทสสขุ กจิ ) เล่ม 2
“1483 ยาแก้โรคจิต ขนานท่ี 1 เอาเปลือกกุ่มน้า 2 บาท เปลือกมะรุม 6 บาท แห้ว
หมู เปล้าน้อย เปล้าใหญ่ รางแดง จันทน์เทศ เปลือกมะตูม ก้านกัญชา บอระเพ็ด เปลือกโมกมัน
หญ้าชันกาด สนเทศ สิ่งละ 1 บาท ระย่อมเท่ายาทั้งหลาย รวมต้าผงละลายน้าร้อนแทรกพิมเสน
กินครั้งแรกหนกั 2 ไพ ถ้านอนไม่หลบั ให้ทวยี าขน้ึ ไปถึง 1 สลึง”
สตู รตารบั ยา ประกอบด้วย ตัวยา 14 ชนิด รวมนา้ หนกั 570 กรมั ดงั น้ี
196 หนงั สือเรยี นสาระทักษะการดำ�เนินชวี ิต เพือ่ ใชเ้ ป็นยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา
195
ลาดับ ตวั ยา นา้ หนกั ยา (กรมั )
1 เปลอื กกุ่มน้า 30
2 เปลอื กมะรมุ 90
3 แหว้ หมู 15
4 เปล้านอ้ ย 15
5 เปล้าใหญ่ 15
6 รางแดง 15
7 จนั ทน์เทศ 15
8 เปลือกมะตมู 15
9 กา้ นกญั ชา 15
10 บอระเพ็ด 15
11 เปลือกโมกมัน 15
12 หญ้าชนั กาด 15
13 สนเทศ 15
14 ระย่อม 285
ขอ้ บ่งใช้ แก้โรคลมทที่ าใหก้ ังวล เครียด นอนไมห่ ลบั
รูปแบบยา ยาผง, แคปซูล
ขนาดและวธิ ใี ช้ 1. รับประทานคร้งั แรก ครง้ั ละ 500 มลิ ลิกรัม วันละ 2 คร้ัง กอ่ นอาหาร
ข้อห้ามใช้ เช้าและเยน็
2. ถ้านอนไมห่ ลับ รับประทานครั้งละ 1 กรัม วนั ละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า
ข้อควรระวัง
และเย็น
3. นา้ กระสายยาท่ใี ช้ นา้ ร้อนแทรกพมิ เสน ถ้าหาน้ากระสายยาไม่ได้ ใหใ้ ช้
นา้ สกุ แทน
1. ห้ามใช้ในหญงิ ต้งั ครรภ์ และผทู้ ีม่ ีอายตุ ่ากวา่ 18 ปี
2. หา้ มใชใ้ นผทู้ ่ใี ชย้ าลดความดนั โลหติ
ควรระวงั การใชย้ าตารับที่มีระยอ่ มเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากสาระสาคัญ
ซงึ่ มีฤทธ์ใิ นการลดความดนั คือ สาร Reserpine และอัลคาลอยด์อื่น ๆ หาก
ไดร้ ับในขนาดท่ีสงู เกนิ ไป มีผลกดการทางานของประสาท ทาใหเ้ กดิ อาการ
วิงเวยี นศีรษะ ปากแห้ง คัดจมูก ท้องร่วง มึนงง หน้ามืด ใจสน่ั ซึม มือแขนสนั่
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา เพือ่ ใช้เปน็ ยา หนังสือเรยี นสาระทกั ษะการดำ�เนนิ ชวี ิต 197
อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
196
ขอ้ มูลเพมิ่ เติม 1. ยาแกโ้ รคจิตตารับนี้ เปน็ ตารับยาตามหนังสืออายรุ เวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ)
เล่ม 2 ทง้ั น้ีไม่ได้หมายถึงโรคจิตในความหมายของการแพทยแ์ ผนปจั จบุ ัน
(โรคทางจิตเวชและไบโพล่า)
2. ระย่อมจะตอ้ งฆ่าฤทธ์ติ ามกรรมวิธีก่อนนาไปปรงุ ยา
13. ยาไพสาลี
ท่ีมาของตารบั ยา อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกจิ ) เลม่ 2
“ ยา ไพสาลี ว่า พระพุทธเจ้า ทรงให้พระอานนท์ท้าแจกเป็นทาน เอาลูกจันทน์
ดอกจันทน์ ส่ิงละ 1 สลึง กระวาน 1 สลึง 1 เฟ้ือง กานพลู 2 สลึง ดีปลี 2 สลึง 1 เฟื้อง ลูกพิลังกาสา 3
สลึง ว่านน้า 3 สลึง 1 เฟื้อง เกลือสินเธาว์ 1 บาท เทียนด้า 1 เฟ้ือง เทียนเยาพาณี 6 สลึง 1 เฟ้ือง
การบูร 7 สลึง สมอเทศ 7 สลึง 1 เฟ้ือง เทียนข้าวเปลือก 6 สลึง สมอไทย 2 บาท สมอพิเภก 2 บาท 1
เฟื้อง โกฐสอ 9 สลึง โกฐเขมา 9 สลึง 1 เฟ้ือง บุกรอ 7 สลึง ขิงแห้ง 10 สลึง 1 เฟื้อง เจตมูลเพลิง 7
สลึง หัสคุณเทศ 5 บาท กัญชา 30 บาท พริกไทยร่อน 60 บาท ยาทั้งนี้ท้าเป็นผงละลายน้าผ้ึงน้าอ้อย
แดง น้านมโคก็ได้ กิน หนัก 1 สลึง กิน 3 เวลา แก้สารพัดโรค ไส้เลื่อนกล่อน หืดไอ กุษฐงั เสมหะ ตามืด
ตาฟาง หูหนวก หูตึง ลมสติมักหลงลืม เจ็บตะโพก จุกเสียด ลมสลักอก ขี้เรื้อน คุดทะราด เป็นฝีใน
เพดานและล้าคอ ลมมักให้หาวเรอ ให้รากสะอึก ลมสะแกเวียน นอนไม่หลับ ให้ง่วงเหงาหาวนอน ลม
ปวดมวนในทอ้ ง เปน็ ป้างเปน็ จุกผามมา้ มย้อย หงอย เพ้อ พดู มชิ ดั ”
สตู รตารบั ยา ประกอบดว้ ย ตวั ยา 23 ชนิด รวมนา้ หนัก 1,820.63 กรมั ดังน้ี
ลาดับ ตวั ยา น้าหนกั ยา (กรัม)
1 ลกู จันทน์ 3.75
2 ดอกจนั ทน์ 3.75
3 กระวาน 5.625
4 กานพลู 7.5
5 ดปี ลี 9.375
6 พิลงั กาสา 11.25
7 ว่านนา้ 13.125
8 เกลอื สนิ เธาว์ 15
9 เทียนดา 1.875
10 เทยี นเยาพาณี 24.375
11 การบูร 26.25
198 หนงั สอื เรียนสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวติ เพื่อใชเ้ ปน็ ยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา
197
ลาดบั ตัวยา นา้ หนักยา (กรมั )
12 สมอเทศ 28.125
13 เทยี นข้าวเปลอื ก 22.5
14 สมอไทย 30
15 สมอพิเภก 31.875
16 โกฐสอ 33.75
17 โกฐเขมา 35.625
18 บุกรอ 26.25
19 ขงิ แหง้ 39.375
20 เจตมลู เพลิง 26.25
21 หสั คุณเทศ 75
22 กญั ชา 450
23 พรกิ ไทยล่อน 900
ข้อบ่งใช้ แก้โรคลม แก้หืดไอ มีเสมหะ
รปู แบบยา ยาผง, แคปซลู
ขนาดและวธิ ใี ช้ รับประทานครงั้ ละ 2 กรัม วันละ 3 คร้งั กอ่ นอาหาร เช้า กลางวันและเย็น
น้ากระสายยาท่ีใช้ น้าผงึ้ รวง น้าอ้อยแดง น้านมโค อย่างใด อยา่ งหน่ึง
ขอ้ หา้ มใช้ ถ้าหานา้ กระสายยาไม่ได้ ให้ใชน้ ้าสกุ แทน
ข้อควรระวัง ห้ามใชใ้ นหญิงตง้ั ครรภ์ ผทู้ ม่ี ไี ข้ และผู้ทม่ี ีอายตุ ่ากว่า 18 ปี
1. ควรระวังการรับประทานรว่ มกับยาในกลุ่มสารกนั เลอื ดเปน็ ล่ิม
(Anticoagulant) และยาต้านการจบั ตวั ของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวังการใชร้ ว่ มกับยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
และ Rifampicin เนื่องจากตารับน้ีมีพริกไทยในปริมาณสูง
3. ควรระวังการใช้ในผูป้ ว่ ยโรคความดนั โลหิตสูง โรคหวั ใจ ผู้ปว่ ยโรคแผล
เปื่อยเพปติก ผ้ปู ่วยโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน เนื่องจากเป็น
ตารับยารสร้อน
4. ควรระวังการใชย้ านใี้ นผปู้ ว่ ยสูงอายุ
5. ควรระวังการใชย้ าอยา่ งต่อเนื่อง โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในผ้ปู ว่ ยท่ีมคี วาม
ผิดปกตขิ องตบั ไต เน่ืองจากอาจเกดิ การสะสมของการบูรและเกดิ พิษได้
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศึกษา เพ่ือใชเ้ ปน็ ยา หนังสอื เรยี นสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชวี ิต 199
อย่างชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
198
ขอ้ มูลเพิม่ เติม -
14. ยาทาริดสดี วงทวารหนกั และโรคผวิ หนัง
“เอาขม้ินชัน ใบกัญชา สิ่งละ 15 กรัม น้ามันเม็ดฝ้าย พอเปียก ใส่แก้ริดสีดวง
ทวารหนัก ใสแ่ ก้โรคผวิ หนงั ตา่ ง ๆ”
สูตรตารบั ยา ประกอบดว้ ย ตัวยา 3 ชนิด รวมนา้ หนัก 60 กรมั ดังนี้
ลาดับ ตวั ยา น้าหนักยา (กรมั )
1 ขมน้ิ ชัน 15
2 ใบกัญชา 15
3 น้ามนั เมลด็ ฝ้าย 30
ข้อบ่งใช้ ทาแก้รดิ สดี วงทวารหนัก และทาแกโ้ รคผิวหนัง (เชน่ เรอื้ นกวาง เร้ือนมลู นก)
รูปแบบยา ยาน้ามัน
ขนาดและวิธีใช้ ทาวันละ 2 ครั้ง หลงั อาบน้าเช้าและเย็น
ขอ้ หา้ มใช้ -
ข้อควรระวงั ควรระวงั การใช้กบั ผู้ที่แพส้ ่วนประกอบของตารับ
ขอ้ มูลเพ่ิมเติม -
15. ยาทาลายพระสเุ มรุ
ท่ีมาของตารบั ยา คมั ภีรแ์ พทย์ไทยแผนโบราณ ขุนโสภติ บรรณลกั ษณ์ เลม่ 2
“ยาท้าลายพระสุเมรุ เอาลูกจันทน์ 1 เฟื้อง ดอกจันทน์ 1 สลึง ลูกกระวาน 1 สลึงเฟื้อง
กานพลู 2 สลึง เกลือสินเธาว์ 3 สลึง ดีปลี 2 สลึงเฟื้อง หว้านน้า 3 สลึงเฟื้อง โกฐสอ 1 บาท โกฐเขมา 1
บาทเฟ้ือง เทียนด้า 5 สลึง เทียนแดง 5 สลึงเฟ้ือง เทียนขาว 6 สลึง เทียนตาตั๊กแตน 6 สลึงเฟื้อง เทียน
ข้าวเปลือก 7 สลึง ขิงแห้ง 7 สลึงเฟ้ือง กัญชา 2 บาท รากเจ็ตมูลเพลิง 2 บาทเฟื้อง หัวบุกรอ 9 สลึง
เน้ือลูกสมอไทย 9 สลึงเฟื้อง เน้ือลูกสมอเทศ 10 สลึง การะบูน 10 สลึงเฟื้อง หัศกุนเทศ 10 สลึงเฟ้ือง
พริกไทยล่อน 57 บาท 3 สลึง บดเป็นผงละลายน้าอ้อยแดง หรือน้านมโค กินคร้ังละ 1 สลึง แก้ลมจุก
เสียด ลมปะทะอก ลมตามืดหูหนัก ปวดหัวมึนตึง ลมเม่ือยขบในร่างกาย ลมสะดุ้งแลสั่นไปทั้งตัว
ลมเปรี่ยวด้า แก้จุกผามม้านย้อย มารกะไษย ไส้พองท้องใหญ่ ลมคล่ังเพ้อ ลมอ้ามะพฤกษ์อ้ามะพาธ
ลมปัตฆาต แก้โรคผวิ หนงั ลมชกั ปากเบยี้ วตาแหก แก้ริดสีดวงทวาร แกโ้ รคเสมหะโลหิตเร้ือรัง หายแล”
200 หนงั สือเรยี นสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวติ เพื่อใช้เปน็ ยา อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา
199
สตู รตารบั ยา ประกอบดว้ ย ตัวยา 23 ชนิด รวมนา้ หนกั 1,338.75 กรัม ดงั น้ี
ลาดับ ตัวยา นา้ หนักยา (กรมั )
1 ลกู จนั ทน์ 1.875
2 ดอกจันทน์ 3.75
3 กระวาน 5.625
4 กานพลู 7.5
5 เกลือสินเธาว์ 9.375
6 ดปี ลี 11.25
7 วา่ นนา้ 13.125
8 โกฐสอ 15
9 โกฐเขมา 16.875
10 เทยี นดา 18.75
20.625
11 เทียนแดง 22.5
12 เทียนขาว 24.375
13 เทียนตาตัก๊ แตน 26.25
14 เทียนขา้ วเปลือก 28.125
15 ขิงแห้ง 30
16 กัญชา 31.875
17 เจตมลู เพลิง 33.75
18 บกุ รอ 35.625
19 สมอไทย 37.5
20 สมอเทศ 39.375
21 การบรู 39.375
22 หัสคณุ เทศ
23 พริกไทยล่อน 866.25
ขอ้ บ่งใช้ แกล้ มจุกเสยี ด ลมเม่อื ยขบในรา่ งกาย ลมเปลยี่ วดา ลมอัมพฤกษ์อัมพาต
รปู แบบยา ยาผง, แคปซูล
รบั ประทานครง้ั ละ 2 กรมั วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้าและเยน็
ขนาดและวิธใี ช้ น้ากระสายยาท่ีใช้ น้าอ้อยแดง น้านมโค อย่างใด อย่างหนึ่ง ถา้ หาน้ากระสายยา
ไมไ่ ด้ ใหใ้ ชน้ า้ สุกแทน
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา เพอ่ื ใชเ้ ป็นยา หนังสอื เรียนสาระทกั ษะการด�ำ เนินชวี ติ 201
อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
200
ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใชใ้ นหญงิ ตงั้ ครรภ์ ผ้ทู ม่ี ีไข้ และผ้ทู ม่ี ีอายตุ า่ กว่า 18 ปี
ข้อควรระวงั 1. ควรระวังการรับประทานร่วมกบั ยาในกลุ่มสารกันเลอื ดเปน็ ลิม่
(Anticoagulant) และยาต้านการจบั ตวั ของเกล็ดเลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวงั การใชย้ านี้ รว่ มกบั ยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline
และ Rifampicin เนอ่ื งจากตารบั นม้ี พี รกิ ไทยในปรมิ าณสูง
3. ควรระวงั การใช้ในผูป้ ่วยโรคความดันเลือดสูง โรคหัวใจ โรคแผลเปอ่ื ยเพปติก
ผู้ปว่ ยโรคกระเพาะอาหารและโรคกรดไหลย้อน เนื่องจากเปน็ ตารับยารสรอ้ น
4. ควรระวังการใชย้ านี้ในผปู้ ่วยสงู อายุ
5. ควรระวงั การใช้ยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในผู้ป่วยทมี่ คี วาม
ผดิ ปกตขิ องตบั ไต เนอื่ งจากอาจเกิดการสะสมของการบูรและเกิดพษิ ได้
ขอ้ มูลเพิ่มเติม ลมเปล่ยี วดา เป็นโรคลมชนดิ หนึ่ง เกิดจากการกระทบกบั ความเย็นมากจนเปน็
ตะครวิ ผู้ป่วยมีอาการกล้ามเนอื้ เกรง็ อย่างรนุ แรง กระตุก ทาใหเ้ จบ็ ปวดบรเิ วณ
ที่เป็นมาก มักแก้โดยการนวดจุดบริเวณตาตุ่มด้านในหรืออาจรักษาด้วยยา
สังขวิไชย หรือยาทาลายพระสุเมรุ
16. ยาทพั ยาธคิ ณุ
ท่ีมาของตารับยา คัมภรี แ์ พทยไ์ ทยแผนโบราณ ขุนโสภติ บรรณลกั ษณ์ เล่ม 2
“ยาช่ือทัพยาธิคุณ เอาสะค้าน ผักแพวแดง ดองดึง หว้านน้า ยาด้า มหาหิงค์ุ โกฐสอ
โกฐจลุ าลา้ พา โกฐพุงปลา กัญชา หัวอุตพดิ เน้อื ฝกั ราชพฤกษ์ ชะเอมเทศ ดีปลี แกน่ แสมทะเล เอาส่ิง
ละ 1 ส่วน พริกไทยล่อนเท่ายาท้ังหลาย ต้าเป็นผง เอาน้าใบก้าเม็ง น้าลูกประค้าดีควาย เคล้ายาผง
ตากแดดให้แห้งสิ่งละ 7 คร้ัง แลว้ บดด้วยน้าผง้ึ กินหนัก 1 สลึง แกก้ ลอ่ น 5 ประการ ซ่ึงให้จุกเสียดแล
เปน็ พรรดกึ แก้ลมเป็นก้อนในอุทร ใหเ้ จ็บท่ัวรา่ งกาย เจ็บสะเอว มือเท้าตายกระดา้ งแลเมอื่ ยขบทกุ ข้อ
ทุกล้า ขัดแข้งขา เจ็บทวารหนัก เบาพิการต่าง ๆ เจ็บศีรษะเวียนหน้าตา เจ็บไหล่ท้ังสอง ปากเปร้ียว
เสียงแหบแห้ง ขัดสีข้าง ขัดอก ท้องขึ้น กินอาหารไม่มีรส นอนไม่ใครห่ ลับ โรคทั้งนี้เป็นเพราะเสมหะ
แห้ง บรุ ุษและสตรีเป็นเหมอื นกนั ”
สูตรตารับยา ประกอบดว้ ย ตวั ยา 16 ชนดิ รวมน้าหนัก 30 ส่วน ดังน้ี
ลาดบั ตัวยา นา้ หนกั ยา
1 สะคา้ น 1 สว่ น
2 ผักแพวแดง 1 สว่ น
3 ดองดงึ 1 ส่วน
4 ว่านนา้ 1 ส่วน
5 ยาดา 1 สว่ น
202 หนงั สอื เรยี นสาระทกั ษะการดำ�เนนิ ชีวติ เพือ่ ใช้เปน็ ยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศึกษา
201
ลาดบั ตวั ยา นา้ หนักยา
6 มหาหงิ คุ์ 1 สว่ น
7 โกฐสอ 1 สว่ น
8 โกฐจฬุ าลัมพา 1 ส่วน
9 โกฐพุงปลา 1 ส่วน
10 กญั ชา 1 สว่ น
11 อุตพิด 1 ส่วน
12 เนือ้ ในฝักราชพฤกษ์ 1 สว่ น
13 ชะเอมเทศ 1 ส่วน
14 ดปี ลี 1 สว่ น
15 แก่นแสมทะเล 1 ส่วน
16 พริกไทยล่อน 15 สว่ น
สว่ นประกอบอน่ื ในตารับ
ใบกะเมง็
ลกู ประคาดคี วาย
ข้อบ่งใช้ แกก้ ล่อนทที่ าให้จุกเสียดเปน็ พรรดกึ เจบ็ เม่อื ยขบตามรา่ งกาย กนิ อาหารไม่รรู้ ส
นอนไม่หลับ
รูปแบบยา ยาผง, แคปซูล
ขนาดและวธิ ีใช้ รับประทานครั้งละ 2 กรัม วนั ละ 2 ครัง้ ก่อนอาหาร เชา้ และเยน็
น้ากระสายยาท่ีใช้ น้าผึ้งรวง ถ้าหานา้ กระสายยาไม่ได้ ใหใ้ ช้น้าสกุ แทน
ข้อห้ามใช้ หา้ มใชใ้ นหญงิ ตงั้ ครรภ์ ผูท้ ่ีมีไข้ และผทู้ ม่ี ีอายตุ า่ กว่า 18 ปี
ข้อควรระวัง 1. ควรระวังการรับประทานรว่ มกบั ยาในกลุ่มสารกันเลือดเปน็ ลิ่ม
(Anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกลด็ เลือด (Antiplatelets)
2. ควรระวังการใชร้ ว่ มกบั ยา Phenytoin, Propranolol, Theophylline และ
Rifampicin เน่ืองจากตารบั น้ีมีพริกไทยในปริมาณสูง
3. ควรระวังการใช้ในผ้ปู ่วยโรคความดนั โลหิตสูง โรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคแผลเป่ือย
เพปตกิ ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน เนื่องจากเป็นตารับยารสรอ้ น
4. ควรระวงั การใชย้ านใ้ี นผปู้ ่วยสงู อายุ
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา เพอื่ ใชเ้ ปน็ ยา หนงั สอื เรียนสาระทกั ษะการดำ�เนินชีวติ 203
อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
202
ขอ้ มูลเพ่มิ เติม 1. กล่อน 5 ประการ ไดแ้ ก่ กลอ่ นดิน กลอ่ นนา้ กลอ่ นลม กล่อนไฟ และกษัยกล่อน
2. ดองดึงจะต้องฆ่าฤทธิต์ ามกรรมวิธกี อ่ นนามาปรงุ ยา
ภาพท่ี 68 ตวั อย่างบรรจุภัณฑ์ตารับยาศุขไสยาศน์
กกกกกกกกลา่ วโดยสรุป ตารับยาทม่ี ีกญั ชาเป็นส่วนประกอบท่ีได้มีการคัดเลอื ก และมีการรับรองโดย
กระทรวงสาธารณสุข ในปัจจุบัน พ.ศ. 2562 ประกาศใชท้ ้ังหมด 16 ตารับ ได้แก่ (1) ยาอัคคินีวคณะ
(2) ยาศุขไสยาศน์ (3) ยาแก้ลมเนาวนารีวาโย (4) ยาน้ามันสนั่นไตรภพ (5) ยาแก้ลมข้ึนเบ้ืองสูง
(6) ยาไฟอาวุธ (7) ยาแก้นอนไม่หลับ หรือ ยาแก้ไข้ผอมเหลือง (8) ยาแก้สัณฑฆาต กล่อนแห้ง
(9) ยาอัมฤตย์โอสถ (10) ยาอไภยสาลี (11) ยาแก้ลมแก้เส้น (12) ยาแก้โรคจิต (13) ยาไพสาลี
(14) ยาทารดิ สดี วงทวารหนักและโรคผวิ หนงั (15) ยาทาลายพระสเุ มรุ และ (16) ยาทพั ยาธิคุณ
204 หนังสือเรียนสาระทักษะการดำ�เนินชวี ิต เพ่ือใช้เปน็ ยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกัญชงศึกษา
203
ภาพที่ 69 ตารบั ยาแผนไทยท่ีมีกญั ชาเปน็ สว่ นผสม จานวน 16 ตารบั (ภาพท่ี 1)
ภาพที่ 70 ตารบั ยาแผนไทยที่มีกัญชาเป็นสว่ นผสม จานวน 16 ตารับ (ภาพที่ 2)
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา เพ่อื ใชเ้ ป็นยา หนังสือเรยี นสาระทักษะการดำ�เนนิ ชีวติ 205
อย่างชาญฉลาด | ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
204
204
ถถาามม
ใในนกกาารรเเขขา้้าตตาารรับบั จจรรงิงิ หหรรอือื ไไมม่่ ตตาารรบัับยยาาแแผผนนไไททยยทที่มีม่ ีกีกาารรใใชชก้้กัญญั ชชาา สสว่่วนนใใหหญญใ่่ใชช้ก้กะะหหลลี่กี่กัญญั ชชาา
ตตออบบ
ไมจ่ ริง เพราะ ตารับยาแผนไทยสว่ นใหญใ่ ช้ใบกัญชาในการเขา้ ตารับยา และ
จสสจะะ่วว่ นนไไมมใใหห่่ใใชชญญ้้เเปป่ใใ่ ชช็็นนใ้้ใยยนนาากกไเเมาาดดรร่จ่ีี่ยยสสรววิงบูบู สสเเเพพพ่่ววอ่ื่อืนนรกกาใใะหหาารรญญตผผา่่จจอ่อ่ ระะนนับใใคคชชยลล้้เเาปปาาแยย็็นนผยยนาาไทตตาายรรสัับบ่วนคคืืใออหใใชชญ้้รรใ่ ่่ววชมม้ใบกกกัับบัญสสมมชุุนนาใไไนพพกรราออร่ืื่นนเขๆๆา้ ตกกาะะรหหับลลยี่ี่กกาััญญแลชชะาา
ตตรรเเครระะ้้ััวงงออื่่ืดดแแางงมัับบตตททร่่ชชพพอ่ี่ีาา44บ..ตตศศเริิแแร..ู้ดลล่อืภภ1122้าะะ..ง55ูมมู นนนท33ภิิภปปสาาโโ66่ี รรุขรรเููเนน4บบงงะะโโภาาดดพพววศศชชายยตััตภยยพาารริิคคตตาาูมรรดเเววบบภภิิวว้วภิ แแาาสสาายบบมมูเลลลลััชชบกเเรระะเเปปกกาศจจววไไรรร็น็นดด้้าารมมแหห้้มมเเพพรปปพแแญญาาวรริิดดทลลขขิิะะงงบภภออยะะยยรดดงงูู์มมแเเาาผผภภวรรผิิภภออ..ูมูมยยมนููเเสสภภบบภภิิแแแไุุภภััยยทศศเูเูพพลาาบบภภยรรภภะรรศศููเเบบศศรรเภภ่่ภรรผณณููนนศศามูมู ยยยยรร์์ ปิปิ ปปแใ์์กกตไไัญญัิิตตาาพดด้แรริิพพ้้มมรญญนเเรรรรีีภ่กกวีียยาาาาคมูแแนนไไรริดลลททิปรรพพะะูู้้สสยยัญ“ััฒฒททมมพีีญมมนนุุนน่ึงงงาาตไไาาาพพสสนไนนมมรรทเเเอแแุุนนภภยงลลไไสสะะพพอััชชภภรรนกกููมมออุรรริิปปยยักจจ่่ััญญาาษนนงง์ญญสตตเเปปาาร่่ออ็็สส้านนเเงนนุุขขททมืื่่ภภออ่ีี่ยยูลงงาาออคพพมมเเ่ารรรรเสส่่ิิมมพัับบรรตต่ิมใใ้้าานน้้นน”งง
เคมว่ือามวันรอทบ่ี 1รู้ด0้ากนันสุขยภายาพนด2้ว5ย6ก1ารโแดพยทมยีก์แาผรนอไบทรยมภแากย่ปใรตะ้แชนาวชคนิด “ผพู้ปึ่ง่วตยนแเอลงะอญนาุรตักิเษพ์ื่อสเรพ้า่ิมงมทูลักคษ่าะเพก่ิมา”ร
เกแททกแพพมลลลล้ังัง้ืชืชื่อะะั่ั่นนสส33วศศกกมมันาามมรรุนนุ สสทตติิออไไตตพพิิงง่ี ไไรร1รรดดปปก์ก์0ทท้แแ้รราาีีกก่่กกะะรรกาา่่แแเเันมมลลมมมมมพพยังังิินนิิิิิตตตตตททสสาิิททิิททิทยยแแญญููย่่ีี่ี่ีี่แ์์แลลน2211หห3ผผะะาาออพพนนเเ2สยยลลนน5ไไ่ึ่ึงงรืืออททุตตุรร้6ากกัักกยยนนง1ใใษษมเเชชออโูล์์ภภ้้สสดงงคููมมมมย่สสาิิปปุุนนมเ่่งงััญญไไพีกเเพพสสญญ่ิามรรรรรใาาิิมมอหตตศศใใาาบ้สหหาามมรม้้ปปสสภภมุนตตรรููมมแไะะรริิปปพก์์กกชชััญญ่ปราาาารรชชญญรแแแนนะาาลพพชใใะดดททนนาภููแแกกยยชูลลม์์แแาานออรริผผปดดผาานนัญููกกแแู้ปไไญลลททาา่วรรสสยยายเเุุขขไจจกกทภภแ็็บบาาาาลยปปรรพพะผแแ่่ววญ่าพพยยมมนเเททาีีววบบนตััตตยย้ืื้ออวิเถถ์์พพพงงัตุุปปื้ื้นนตตื่อกรรบบ้้นนเะะร้้พาาสสรดดนนิ่มมงง้้ววคคทผแแยย์์กกัลลกลสสาาิะะตษมมรรพพภุุนนะจจรรัััดดกไไณรรพพตตาณณฑรรร้้ัังง์
สสปปนนมมโโรรยยุนนุาาบบจจไไพพาาีีนนยยรรบบกกุุรราาีีรรซซปปึ่่ึงงฏฏเเปปรริิ มโโูปูป็็นนดดิตรรยยิทะะ11ภภบบี่ 3ใใููมมบบนนิิภภสสสขขุุูู11เเรบบภภ้33างศศาาจจมพพรรัังงูลดดจจหหคาา้้ะะววนน่าเเััดดปปกกเพททาา็็นน่ิรรมี่ี่รรศศสสััฐฐใููนนรรหบบาา้้ ้ยยสาางง์์กกลมลคคุกกาาววนาารราาไมมเเพหหรรรรรนนีียยออดดนนบบแใใรรลรรหหดูดููู้้้้สสะ้้เเา้้าภมมปปนนุุู็็มนนนนสสิปเเไไขขุุ มมพพัญภภืืออรราาญงงแแพพสสาลลมม((ไะะHHทุุนนภภeeยไไููมมaaพพผllิิปปรร่าtthhัันญญ((HHนLLญญiieeวttาาeeัrrตbbสสrrกaaaaุุขขรccllภภรyyCCม))าาiittผพพyyล))จจิตรรัังงภออหหังงณววรรฑัััับบดด์
206 หนงั สือเรยี นสาระทักษะการดำ�เนินชีวิต เพือ่ ใชเ้ ป็นยา อย่างชาญฉลาด | ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกัญชงศึกษา
205
ภาพที่ 71 ภมู ิภูเบศร
2. องคค์ วามรู้ในภูมภิ ูเบศร
2. ภูมิภูเบศร อุทยานการเรียนร้สู มนุ ไพรและภูมปิ ัญญาสุขภาพ บางเดชะ จังหวดั ปราจีนบุรี
เปน็ พิพิธภัณฑห์ มอไทย (หมื่นชานาญแพทยา) หมอหลวงในรัชกาลที่ 5 อายกุ ว่า 100 ปีภายในพพิ ิธภัณฑ์
อทุ ยานการเรียนรสู้ มนุ ไพร ได้จัดส่วนการแสดงออกเปน็ 3 ส่วน ดงั น้ี
2. 2.1 เรือนหมอพลอย พิพิธภัณฑ์หมอไทย เป็นต้นแบบของที่อยู่อาศัยท่ีถูกสุขลักษณะ
มีองค์ความรู้ด้านการแพทย์ซุกซ่อนอยู่ในทุกท่ี แม้แต่การออกแบบพื้นท่ีใช้สอย ด้วยการออกแบบมา
อย่างดี ให้ลมพัดผ่านเย็นสบายตลอดทั้งวัน ช่วยสร้างสมดุลของธาตุท้ัง 4 ในร่างกาย ให้แก่ผู้ที่อยู่อาศัย
ช้ันล่างมีผลิตภัณฑ์ประทินผิวและบารุงร่างกายภายใต้แบรนด์อภัยภูเบศรมากมายวางเรียงรายให้
เลือกซื้อหา ชั้นบนจัดแสดงอุปกรณ์ทายาชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยาน้า หรือยาเม็ด มีกล่องใส่ตัวอย่าง
สมุนไพร ตามรส ตามฤดู
ภาพท่ี 72 เรือนหมอพลอย ภูมภิ ูเบศร
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกัญชงศกึ ษา เพ่อื ใช้เป็นยา หนังสือเรียนสาระทกั ษะการดำ�เนนิ ชวี ติ 207
อย่างชาญฉลาด | ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
206
2. 2.2 สวนสมุนไพรภูมิภูเบศร เป็นแหล่งเรียนรู้และการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของ
ภูมิภูเบศร มีการจัดสวนตามกลุ่มโรค อาการ ตามกลุ่มรสของสมุนไพร ซึ่งเป็นตัวกาหนดสรรพคุณ
ของยา สมุนไพรใหส้ ี ใหก้ ลนิ่ หอมท่ีมกั ใชใ้ นตารบั ยาไทย ช่วยให้จิตใจสงบ ผอ่ นคลาย สมนุ ไพรผักสวน
ครวั และสมุนไพรสดี าทคี่ นไทยเชอ่ื ว่าช่วยขับไล่ส่ิงไม่ดี
ภาพที่ 73 สวนสมนุ ไพรและภูมิปญั ญาสุขภาพ สร้างความรอบรูส้ ุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย
2. 2.3 อภัยภูมิภูเบศรโมเดล ต้นแบบการใช้กัญชาทางการแพทย์ เน้นมาตรฐานความ
ปลอดภัย ตามมาตรฐานทางการแพทย์ ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ และเหมาะสมกับคนไทยมาก
ทส่ี ุด (รายละเอยี ดตามข้อ 4.3 ในลาดับถัดไป)
3. ความสาคัญของภูมิภเู บศร
2. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรยังได้จดั ตง้ั “ภูมิภูเบศร” เพ่ือเป็นทฝ่ี ึกอบรม สมั มนา
ศึกษา เรยี นรู้ เรอื่ งการดแู ลสุขภาพดว้ ยสมุนไพร การพฒั นาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ในส่วนของกัญชาน้ัน
ทางภูมิภูเบศรถือเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง และเป็นสถานท่ีทดลอง วิจัย การใช้กัญชาทางการแพทย์
อยา่ งครบวงจร
208 หนงั สือเรียนสาระทกั ษะการด�ำ เนินชีวติ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ยา อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา
207
ภาพที่ 74 สมุนไพรและภมู ิปัญญาสุขภาพ สรา้ งความรอบร้สู ขุ ภาพด้วยแพทยแ์ ผนไทย
4. องค์ความรู้กญั ชาอภยั ภเู บศรโมเดล
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้พัฒนากัญชาทางการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือกอย่างครบวงจร เรียกว่า อภัยภูเบศรโมเดล ทาการรวบรวมความรู้ในการใช้ไว้
ท้ังจากตาราและจากการลงพื้นสัมภาษณ์ผู้รู้ จาการค้นคว้าในเอกสารพบว่ากัญชามีการบรรยาย
สรรพคณุ ไว้ดังน้ี
ลาดับ รายการ สรรพคุณทางยา ผลขา้ งเคยี ง
1 ดอกกัญชา ปรงุ เป็นยารบั ประทาน ทาให้ง่วงนอน และ -
อยากรับประทานอาหาร
2 กัญชา รู้เจริญอาหาร ชูกาลงั มีรสเมา และทาใหใ้ จ
สะด้งุ กลวั
3 กญั ชา เป็นยาจาพวกท่ีใช้ในทางระงับเส้นประสาท -
ทาใหน้ อนหลับ และเจรญิ อาหารดี
4 เล่าหมา ทาใจใหส้ ขุ มุ ดี นอนหลับ รบั ประทาน แต่ถ้ามากเกินไป ไมผ่ ิด
หรอื กัญชา อาหารได้ อะไรกบั คนบ้า รอ้ งไห้กับ
หวั เราะพรอ้ มกนั
5 กัญชา เป็นยาเจริญอาหาร ชูกาลัง แก้โรคประสาท ถ้ากินมากไปจะเปน็ โทษ
แกโ้ รคนอนไม่หลบั แตต่ ้องเอาไปประสมยา ซง่ึ ทางการจบั กมุ กนั อยู่
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา เพ่ือใช้เปน็ ยา หนงั สือเรียนสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชวี ิต 209
อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
208
ลาดบั รายการ สรรพคณุ ทางยา ผลขา้ งเคียง
6 กัญชา มรี สมนึ เมาสบายดี มีความรนื่ เริงอยใู่ นใจ อาหารและกาลงั ถอย
ทาใหจ้ ติ ใจ ฟุ้งซา่ นใจขลาด เปน็ ยาชกู าลัง หรือทาให้ตวั ส่ันและเสยี
7 กัญชา บ้างเล็กนอ้ ย สติเปน็ คนจรติ พิการไป
หมดถา้ รบั ประทานมาก
รบั ประทานน้อย ๆ เป็นยาชกู าลงั เจริญ เกนิ ขนาดอาจทาให้เบอื่
อาหาร
เมา ทาใหใ้ จขลาด
รอ้ ยกรองเก่ียวกบั การเมากัญชา
กัญชา ทาให้เมา เล่าหนา ชื่อว่ากัญชา ฤทธาคมขา สูบกินส้ินแรง ตาแดงตาดา
กลางคืน กลางค่า ตามคลาเพ้อไปหัวเราะงอหาย หัวเราะใบไม้ นั่งน้าลายไหล อยากแต่ ของ
หวาน ใคร่ได้รับประทาน ของหวานเพ้อไป พูดเองหัวเอง ไม่เกรงคนไหน เดินมาเดินไปยัก
ย้ายท่าทาง ด้วยฤทธิ์กัญชาเหมือนอย่างคนบ้า ทีท้ากีดขวาง ขี้ขลาดตาขาว ต้มเหล้าไม่พราง
แต่เพียงข้าง ๆ สัก 2 กระบุง มเหเดชา นอนทอดกายา เพ่ือนมาไม่ยุ่ง ละเห่ียเมียด่า นอน
ทอดกายา ชักผา้ ปดิ พุง ร้องเพลงหัวพลางสาเหนยี กเรียกนาง ยักเงินเดนิ ตงุ ดจุ เพศปีศาจ เข้า
แผลงอานาจในท้องในพงุ วิปริตผิดไป อาการเล่าไว้จิตใจใฝ่ยุง่ กะทกกะทุง ไปท่วั กายการ หัน
เหเซซุดดุจโถนตกฉาเหยียบแก้วเหยียบกา ฉวยพร้าเป็นขวาน จิตใจมัวยุ่ง คว้ามุ้งถูกม่าน
เจริญอาหาร ประเสริฐเลศิ ดี สาหรับแทรกยาพระยากญั ชา จบลงเพียงนี้ ตาราใครมี ใหข้ นึ้ ใจ
ในส่วนของตารบั ยาพ้ืนบา้ น กัญชาเขา้ ยาหลายชนิด ท่เี ดน่ คือโรคนอนมิหลบั ตวั อยา่ งตารับยาเช่น
ลำดับ ช่ือยำ ส่วยประกอบของยำ
1 ยาเจริญธาตุ เอากญั ชา โสม อบเชยญวณ เอาส่ิงละ 1 สลงึ ใบกระวาน
กานพลู สะคา้ น เอาสง่ิ ละ 2 สลึง ขิงแห้ง 3 สลึง เจต็ มูลเพลิง
ดปี ลี ส่ิงละ 1 บาท นา้ ตาลกรวด 6 สลึง บดละลายน้าผงึ้ กนิ
แก้กนิ ข้าวไม่ได้ นอนไมห่ ลับ
210 หนงั สอื เรยี นสาระทักษะการดำ�เนนิ ชวี ติ เพอื่ ใช้เปน็ ยา อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศึกษา
209
ลำดับ ชื่อยำ ส่วยประกอบของยำ
2 ยำหม้อตม้ กนิ ตามตาราทา่ นให้ใชต้ วั ยา ดังน้ี
แกน้ อนไม่หลับ รากชะพลู กัญชา สมอเทศ สมอไทย หนกั อย่างละเท่า ๆ กัน
ต้มรวมกนั กิน แก้นอนไมห่ ลบั กระสบั กระส่าย ประสาทแข็ง
3 ยาแก้โรคนอน ใจสน่ั กนิ ทั้งเช้า
ไม่หลับ ขนานที่ 1
ท่านใหเ้ อาลูกมะตมู อ่อน 1 บอระเพด็ 1 พริกไทยล่อน 1 ขมน้ิ
4 ยาแก้โรคนอน อ้อย 1 ตวั ยาท้ัง 4 อย่างน้ี เอาหนกั อย่างละ 1 บาท เทา่ กัน
ไม่หลับ ขนานท่ี 2 นามาตาใหล้ ะเอียดผสมกับน้าผึ้งแท้ ใชร้ ับประทานมสี รรพคุณ
ทาใหน้ อนหลับสนทิ เคยใช้รักษาให้หายมามากแล้ว ได้ผลดี
อยา่ งชะงักนกั แล
ท่านให้เอา ลูกสมอไทย 1 ลกู สมอเทศ 1 รากช้าพลู 1 กัญชา 1
ตัวยาทัง้ 4 อยา่ งนี้ เอาหนกั อย่างละเทา่ ๆ กัน นามาใสห่ ม้อดิน
ตม้ ใชน้ า้ ยารบั ประทาน มีสรรพคณุ แก้โรคนอนไม่หลบั ไดผ้ ล
อย่างละงดั นกั แลฯ
กกกกกกกนอกจากน้ี ในสามจังหวัดภาคใต้ก็ยังมีการใช้กัญชาเป็นยา โดยมีชื่อตามภาษามลายทู อ้ งถ่ิน
เรยี กต้นกัญชาวา่ “กนั ยอ (Ganja)” โดยมีสรรพคุณ สว่ นและวิธีการใช้ ดังน้ี
สรรพคณุ กญั ชา ภูมปิ ัญญาในแดนใต้ แหลง่ ข้อมูล
แกท้ ้องเสีย ท้องรว่ ง นายนิอมุ า นิเงาะ
ส่วนและวธิ ีการใช้ ทีอ่ ยู่ อีนอ ลาโละ
นารากมาฝนให้ข้น ผสมนา้ ต้มสุก จงั หวัดนราธิวาส
ประมาณ ½ แก้วชา แล้วนามากรอง
ก่อนดื่มทกุ ครงั้ เมื่อมีอาการ
ชว่ ยรักษาผมร่วง นาใบขนาดพอประมาณ มาตาให้ นางมือลอ มะแซ และ
แก้อาการคนั บนหนงั ศรี ษะ ละเอียดแล้วนามาคน้ั ผสมน้าตม้ สุกดม่ื นางซารเี ปาะ แวกาจิ
และนามาชโลมศีรษะหมักทง้ิ ไว้ ที่อยู่ จะกว๊ะ
รักษาอาการปวดฟัน ประมาณ ½ ช่ัวโมง แลว้ ล้างออกดว้ ย จงั หวดั ยะลา
เน่ืองจากฟันผุ น้าสะอาด แล้วสระผมตามปกติ
นางตเี มาะ รงโซะ
นาใบมาขย้ีให้พอแหลก แลว้ นามาอุด ที่อยู่ เมือง จงั หวัด ยะลา
หรอื ทา ถู บรเิ วณที่มอี าการปวดฟนั
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา เพ่ือใช้เป็นยา หนงั สอื เรยี นสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชวี ติ 211
อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
210
สรรพคุณ ส่วนและวิธกี ารใช้ แหลง่ ข้อมูล
รักษาอาการปวดเมอื่ ย - นาใบสดประมาณ 3 ใบต่อน้า 1 ลิตร นายอัสฮาน คาเรง็
แกก้ ระษยั เส้นเป็นยาชูกาลัง มาต้มให้เดือดประมาณ 20 นาที แล้ว ทอี่ ยู่ เมือง จังหวัด ยะลา
ทาให้ขยนั ทางานรู้สกึ ผอ่ น นามาดื่มอุ่น ๆ วันละ 2-3 เวลา หลัง
คลาย สบายตัวช่วยลด อาหาร หรือด่ืมเมอ่ื มีอาการ นายมัสบูด หาแว
อาการ - นาทง้ั ตน้ ทีไ่ ด้ทาการตากจนแหง้ แลว้ ที่อยู่ บา้ นตาเปาะ รอื เสาะ
ตึงเครียดไดช้ ่วยให้หลับ ประมาณ ½ กามือต่อน้า 1 ลิตร มา จังหวดั นราธวิ าส
สบาย ตม้ ให้เดือด แล้วนามาดม่ื อนุ่ ๆเปน็ ชา
เปน็ อาหาร ตา่ งน้า หรอื เม่ือมีอาการ นายอัสฮาน คาเร็ง
เจริญอาหาร ทอี่ ยู่ เมือง จังหวัด ยะลา
- ใบอ่อนสามารถนามารบั ประทานสด
ไมป้ ระดับ เปน็ ผักกบั ขา้ วจมิ้ น้าพริก นา้ บดู ู เป็น
ผกั ขา้ วยาได้
ใชป้ ระโยชนต์ ่าง ๆ - ส่วนใบเพสลาดสามารถนามาใสใ่ น
กก แกงหรือเมนูอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ ได้ เช่น
ต้มซปุ แกงส้ม แกงกะทิ แกงมัสมั่น
เมนูผัดต่าง ๆ และอนื่ ๆ เป็นต้น โดย
จะใชใ้ บเพยี งเลก็ น้อยหรอื ประมาณ
1-2 ใบเทา่ นน้ั
เพื่อเพม่ิ รสชาติอาหารให้อรอ่ ย ซงึ่ จะ
ช่วยใหเ้ จริญอาหาร และรู้สึกผอ่ น
คลายอีกด้วย (แตก่ ็ไมแ่ นะนา) ใสม่ าก
เกินไป เพราะอาจจะทาให้เกิดอาการ
เมาได้)
- ในสมัยก่อนชาวบ้านนิยมนามาปลูก
เพื่อประดับสวนรอบบริเวณบ้านให้มี
ความสวยงามน่าอยู่ เพราะต้นกัญชา
เปน็ ต้นพืชท่ีมคี วามสวยงามอยู่ในตวั
- นาใบมาจดั ใส่ชุดสารับหมาก
รับประทานยามว่างหรือสาหรับ
ตอ้ นรับแขกท่ีมาเยย่ี มเยียนบ้าน
212 หนังสือเรียนสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชีวติ เพื่อใชเ้ ป็นยา อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา
211
211
กกกกกกกกล่าวโดยสรุป ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรครบวงจร ภายใต้แนวคิดการพึ่งพา
ตตภกนนกมู กภิเเออกูเงงบกศเเกกกรกีี่่ยยแกววลลกกะ่าัับบว(กก3โาาด)รรยอดดสภููแแรัยลลุปภสสเูุุขขภบภภูศมาาริภพพโูเมดดบเ้้ววดศยยลรสสศมมูนุุนนยไไพพ์กรรารปปเรรรียะะนกกออรู้สบบมดดุน้้ววยยไพ((ร11ค)) รเเรรบืืออวนนงหหจรมมออภพพาลลยออใตยย้แ((น22))วคสสิดววนนกาสสรมมพุุนนึ่งไไพพพารร
ภูมิภูเบศร และ (3) อภัยภูเบศรโมเดล
ภาพที่ 75 โครงการปลกู กัญชาเพ่ือใช้ประโยชน์ทางการแพทย์โดยระบบปิด
เร่อื งท่ี 5 ภภมู าิปพัญท่ี ญ75าโหคมรงอกพาร้นื ปบล้ากู นกัญนชาายเพเดือ่ ชใชา้ปศระิรโภิยชัทนร์ทางการแพทยโ์ ดยระบบปดิ
เร่อื งท่ี เ5รอื่ ปภงรทูมะ่ีิปว5ัตัญิ คภญรูมาอปิหบญัมครอญัวพขาน้ือหบงมน้าอานพยเ้นืนดชบาายา้ เนศดิรชนิภาาัทยรศเิรหดภิ มชทัอาพรศื้นริ บิภ้าทันรตารับยาพื้นบ้านไทยจากกระแส
ใคแหนคหใแนพอเดรพอดรกคคาาออมมววววาารรรรษชชรราายยกกงงืื่่ออาา่่ททคคกกตมมตตสสเเจจพพี่ี่ตตดดาาืืออรนนาาออาา้้รรออรรชชกสสกกพพนนิยยิ เเะะงงปปราาววธธมมขขรรกกพพรไไุุ่่าารร็็นนะะททออาาดดะะมกกงงเเรรจจงงปีม่ม่ี้้ยยเเววยิิจจพพใใขขมมรรลลาารออัง่หหคค้้าารริิงงจจออะาายมมรร้้บบเเะะพพาางงวนื รรออ44ธธววกกเเกักตรรีียยบหบหรรชชตตปป1ะะััลลิ นนรร็็คคนนเเคะะีีปปปปรรมมคคแแรรททรววีียย์์ยยลลโโััววลลณณอนันั าากกนนาาออะะบงงตตไไศศะะโโเเมมมมเเณณจจมกมกคาาสสดด่่รรจจาา่ื่ืออรััตตเเิินนััมมบบขขกกาาัวนนเเววสสขขทีีทรรมมาากกขบบาาาาูู่่คคยยจจีน่ีน่รราาอยยาามม์์ววึึงงดดรราางเเลล((ีอีอเเาาททดดเเกกนนนลลงงาามมชชมมใี่นในี่ ับบัื่่ืออาืืออยยดดพพาาหหายามมหหกกุุปปออยยาาเๆๆบบมมศศรรดออววเเดดะะิินื่ื่นรรววดดชททิิิทิทนนีีขขมมิิภภชชชชไไา้ัั้งงททยยออาารรททััททาาสสณณาา่่ปปงงศี่่ีววแแรริ้ิ้นนลลชชศศญญิรััดดลลัยัย33ีีววิิรรบบิภมมฺฺสสโโะะ00ขขิิตตภิิภญญววัทุุ่่งงววเเออััททปปชชปปททนนเเร))นนมมรรเเีี็็าานนโหโหปปนนแแหื่่ือองงมมเเเเรรา็็ากกนนาาจปจปลลมกกืืออยยนน่นน่เเ้้าาาาอน็็นขขววรรเเดดขขสดดส์์พคคูู้้จจลลเเ้้รราาชชิิกกมมออัันนกกื้าานนนุุ่่นนาาขขือ่ือ่งงใใออบกกรรโโ33นนเเาาศศ่่าารรรราา้าาาบบนนิิรรนน--ยีียงงววรรนททภิภิาาสสเเนนมมคค44กกมมออััททีีททตรราาจจษษเเออรรกกาา่ี่ีบบใใาพพดดตตววหหกกรรรืืออไไุุททเเรรเเับมมญญดดขขะะดดนนธธดด้้าททายแแาาีียย่่ททททจจับบัลลาภภาาววจจ่ี่ีาาสสึึงงพปปะะตตกกาาสสึึงงุุดดรรเเยยรร้ืนาาัับบไไภภปปูู้้ววใใดดิญญิมมใใบนนพพ่่าาิิกก็็นนตต้้ปปคคญญวว้าขขจจรรนน้้กกรรััดดววนะะุุัังงาาัักกะะเเาาไไาาตตหหพพไขขหหเเกกรรทมมรรคคววิิาาศศปปนนาาีแีแตตยรรััลลดดาาศศลลเเกกูู้้สส้้จออื่่ืออลลสสปปขข้้ววคคึึกกานนงงธธุุพพ็็นนออกกวกวรรรรไไไไรรออแแดดหห่่าากรรออาารรยยยยตตเ้เ้มมรรรววงงขขณณ่่าากกััววะดดขขววแแา้า้ งงเเบบตตาาแ้้าลาลออรรออไไททัันนวััวบบสุุรรรระะงงงงีีีี
เกษตรกรรมยัง่ ยนื 1
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา เพือ่ ใช้เปน็ ยา หนังสอื เรียนสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวิต 213
อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
212
ภาพที่ 76 ภมู ิปัญญานายเดชา ศิรภิ ทั ร
นายเดชา ศิริภัทร เป็นที่รู้จักดีจากงานด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตร
ที่เหมาะสมกับท้องถ่ิน และพัฒนาพันธุกรรมข้าว ท่ีเขาสนใจอย่างต่อเน่ืองมาร่วม 20 ปี เริ่มต้นมาต้ังแต่
ปี พ.ศ. 2527 และดาเนินการต่อเนื่องมา จนกระทั่งมีอายุ 55 ปี นายเดชา ศิริภัทร ได้ดารงตาแหน่ง
ผู้อานวยการมูลนิธิข้าวขวัญ จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบกับมารดาได้เสียชีวิตลงจากเหตุโรคมะเร็ง
ร้ายทคี่ รา่ ชวี ิตผู้เป็นแม่เมือ่ ประมาณ 40 ปีก่อน เป็นประสบการณ์ท่ที าให้ นายเดชา ศิรภิ ัทร ผู้บุกเบิก
เกษตรกรรมทางเลือกในประเทศไทย ในวัย 71 ปี แรงจูงใจที่ทาให้นายเดชาสนใจในการใช้น้ามัน
กัญชาในการรักษาโรคคือ“แม่ผมเป็นมะเร็งตับเสียชีวิต ทั้งท่ีเรามีเงินมีทุกอย่างพร้อมเมื่อปี
พ.ศ. 2519 หลังจากนั้นน้าชายผมอีก 4 คน เป็นแบบเดียวกันท้ังหมดเลย เป็นมะเร็งตับ และตายกัน
หมดท้ังที่ทุกคนมีฐานะดีมาก” น่ันเป็นจุดเริ่มต้นของศึกษาการผลิตยากัญชาทางการแพทย์
เม่ือปี พ.ศ. 2556 นายเดชา ศิริภัทร ได้เลือกศึกษาข้อมูลจากต่างประเทศถึงวิธีการสกัดกัญชา
ออกมาในรูปแบบท่ีทาเป็นยาน้ามันกัญ ชา โดยใช้วิธีการท่ี ริค ซิมป์สัน (Rick Simpson)
นักเคลื่อนไหวชาวแคนาดาเพ่ือกัญชาทางการแพทย์ ในระยะแรกซึ่งเมื่อพบว่าสารสกัดมีความไม่
ปลอดภยั ก็ไดใ้ ช้นา้ มันมะพรา้ วสกดั เยน็ มาสกดั
นายเดชามีความเชื่อว่า ใช่ว่ากัญชาเป็นยาวิเศษที่ทาให้ผู้ป่วยรอดพ้นการตาย หากการ
หายจากมะเร็งก็ต้องมีปัจจัยในการดูแลรักษาสุขภาพทางกายและจิต ต้องเข้าใจว่าทุกคนมันตาย
ทุกคน เกดิ แล้วตาย แต่จะตายแบบไหน ไม่ทรมานไม่ต้องเจบ็ ปวด ถึงจะหายดว้ ยโรคมะเร็งก็ตายด้วย
โรคอื่นอยู่ดี” นายเดชากล่าว ตามวิสัยท่ีใช้หลักธรรมของพุทธศาสนา เป็นหลักในการดาเนินชีวิต
“ไมใ่ ช่ว่ามกี ัญชาแล้วไมต่ าย แต่ตายแบบไหน” อย่างไรก็ตาม องคก์ ารเภสัชกรรม ให้ข้อมลู ว่า สาหรับ
ผปู้ ่วยมะเรง็ ระยะสุดทา้ ย สารสกัดจากกญั ชามีผลในแงข่ องการใชเ้ พื่อควบคมุ อาการเท่าน้นั ซง่ึ สอดคลอ้ ง
214 หนังสอื เรยี นสาระทกั ษะการดำ�เนินชวี ติ เพ่อื ใช้เป็นยา อย่างชาญฉลาด | ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา
213
กับ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ อดีตนายกสมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่ง
ประเทศไทย และหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคมะเร็งครบวงจร โรงพยาบาล
จุฬาลงกรณ์ ท่ีบอกว่า การวิจัยท่ีบอกว่าสารจากกัญชาฆ่าเซลล์มะเร็งได้ยังเป็นการทดลองใน
หอ้ งปฏิบัติการ ส่วนการใช้น้ามันกัญชาเพ่ือลดผลข้างเคียงจากเคมีบาบัด ก็มีประสิทธิภาพไม่ต่างจาก
ยาแผนปจั จุบนั
ปัจจุบันตารับของนายเดชาได้รับการรับรองให้เป็นตารับยาหมอพ้ืนบ้าน ท่ีได้รับการ
รับรองโดยคณะกรรมการรับรองตารับยาแผนไทยที่ มีกัญชาปรุงผสม กรมการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือก โดยตารับยานน้ี ายเดชา ศริ ิภทั ร จะตอ้ งเป็นผู้อนญุ าตให้ผู้ป่วยใชไ้ ดเ้ ทา่ น้นั ผู้ปว่ ย
จึงจะนามาใชไ้ ด้มสี ว่ นประกอบและข้อบง่ ใช้ คอื
ตารบั ยาแผนไทยท่ี มีกัญชาของนายเดชา ศริ ิภัทร หมอพื้นบา้ น
ลาดับ ส่วนประกอบ สรรพคุณ รูปแบบยา ขนาด/วธิ กี ารใช้
1 1 กญั ชา 100 1. ชว่ ยให้นอนหลบั มลี ักษณะเปน็ ยานา้ มนั
กรัม 2. ช่วยเจริญอาหาร ขนาดและวธิ ใี ช้ เรม่ิ ตน้ รบั ประทาน คร้ัง
2 นา้ มันมะพร้าว 3. บรรเทาอาการปวดศีรษะ ละ 1 - 3 หยด ตามคาส่ังของแพทยแ์ ผน
1000 มลิ ลลิ ิตร ขา้ งเดียว ไทย/แพทย์แผนไทยประยุกต์ หากตดิ ตาม
(ลมปะกัง) อาการแลว้ ไม่ดีขน้ึ ใหป้ รับขนาดยาเพมิ่ ข้ึน
4. บรรเทาอาการปวดเร้ือรัง คร้ังละ1 - 2 หยด
5. บรรเทาอาการสั่นจาก คา้ แนะน้าเพ่ิมเติม วธิ กี ารหยดนา้ มนั
กล่มุ โรคระบบประสาท กัญชา ใหห้ ยดใส่ ช้อนก่อนรับประทาน
หรอื ใช้ กบั อาการ, ภาวะ เพอื่ ป้องกนั การใช้ ยาเกนิ ขนาด
อื่น ๆ ตามดลุ พนิ ิจของ
แพทย์ แผนไทยและแพทย์
แผนไทยประยกุ ต์ท่สี งั่ ใช้ยา
นา้ มนั กญั ชา
กกกกกกกกล่าวโดยสรุป นายเดชา ศิริภัทร หมอพ้ืนบ้าน ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เป็นผู้ท่ีได้นา
กัญชามารักษาโรคตามตารับยาพ้ืนบ้านไทยจากกระแสความนิยมท่ีมาจากตะวันตก ได้เร่ิมทดลองใช้
กัญชารักษาตัวเอง โดยนาความรู้พื้นฐานในการสกัดที่เผยแพร่โดย Rick Simpson (ริค ซิมสัน)
ชาวอเมริกันท่ีป่วยเป็นโรคมะเร็งแล้วสกัดกัญชารักษาโรคมะเร็งที่ตัวเอง มาผสมผสานกับความรู้
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกัญชงศกึ ษา เพ่อื ใช้เป็นยา หนังสือเรียนสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชวี ติ 215
อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
214
214
พื้นบ้าน เป็นน้ามันเดชา (Decha Oil) นามาใช้กับตนเองในการช่วยให้นอนหลับได้ลึกข้ึน หลงลืมง่าย
แพล้ืนะบต้า้อนเนเื้อปใ็นนนต้ามในั ชเด่วชงา4(D- e5cปhaี ทO่ีผi่าl)นนมามจาึงใชข้กยับายตนผเลอเงผในยแกาพรรช่ ่วทยาใยหา้นแอจนกหใหลั้ผบู้ปได่ว้ลยึกโรขค้ึนต่าหงลๆงลโืมดงย่าไมย่
แเกลิดะคต่าอ้ ใเชน้จื้อ่าใยนตเปา็นในจชาน่วงวน4ม-าก5กปวี่าท4ี่ผ,่า0น00มาราจยึงขปยัจาจยุบผันลนเผ้ามยันแเพดรช่ าทไดาย้รับาแกจารกรใับหร้ผอู้ปง่วใหยโ้เรปค็นตเป่าง็นๆตาโรดับยยไมา่
พเก้ืนิดบค้่าในช้จข่าอยงกเประ็นทจราวนงวสนามธาากรกณวส่าุข4,ซ0ึ่ง0ห0มรอายพ้ืนปบัจ้าจนุบผันู้เปน็น้ามเจัน้าเขดอชงาตไดา้รับกสาารมราับรรถอจง่าใหยใ้เปห็น้กเับปผ็นู้ปต่วายรขับอยงา
ตพนื้ เบอ้างนไดข้ แอลงะกกระรทะทรวรงวสงาสธาาธราณรณสุขสุขซอึ่งยหู่รมะอหพว้ืน่าบงท้านากผู้าเปร็วนิจเจัย้าเขพอื่องวติจาัยรพับิสูจามนา์ปรรถะจส่าิทยธใหิภ้กาัพบผแู้ปละ่วคยขวาอมง
ปตนลอเอดงภไดัย้ขแอลงะสกูตระกทารรรวกั งษสาดธังากรลณา่ สวุขอยู่ระหว่างทาการวิจัยเพ่ือวิจัยพิสูจน์ประสิทธิภาพและความ
ปลอดภัยของสตู รการรักษาดงั กลา่ ว
กกิจจิ กกรรรรกมมจิ ทท1กา้า้.รยยรกบบมจิ ททกทร้ารยมบท่ีท1
1. กคจิาชกแี้รรจมงท: ่ีโ1ปรดเลือกคาตอบท่ีผู้เรยี นคิดว่าข้อนน้ั เปน็ คาตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ุดเพียงข้อเดยี ว
แลว้ เขียนคาตอคบาใชน้แี กจรงะ:ดโาปษรขดอเลงผือเู้กรคยี านตอบที่ผู้เรียนคิดว่าข้อนัน้ เป็นคาตอบท่ีถกู ต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดียว
แลว้ เขียนคาตอขบ้อใน1กรขะ้อดหาา้ษมขขอองผงกู้เรายี รนใช้ยาท่ีมีกญั ชาเป็นสว่ นผสมท้ัง 16 ตารบั ตามประกาศของ
กระทรวงสาธาขรณอ้ ส1ุขคขือ้อขห้อา้ ใมดของการใชย้ าทีม่ ีกญั ชาเปน็ ส่วนผสมทง้ั 16 ตารับตามประกาศของ
กระทรวงสาธารณสขุ คกอื .ขหอ้ า้ใดมใช้ในเดก็ สตรี และคนชรา
ขก. ห้ามใชใ้ นผเดู้ชก็ ายสทตี่มรอี แาลยะุตค้ังนแตช่ร2า5 ปขี ึน้ ไป
ขค. ห้ามใช้ในผู้ชหาญยิงทแ่มี ลอี ะาผยู้ชุตาั้งแยมต่ีอ2า5ยุมปาีขกน้ึ กไวป่า 18 ปี
คง. หา้ มใช้ในหผญหู้ ญงิ ติงงั้ คแรลระภผ์ชู้ แาลยะมผีอมู้ าอี ยาุมยาุตกา่ กกววา่ ่า1188ปปี ี
ข้อ 2 หง.ากหเ้าพม่ือในชข้ในอหงทญ่าิงนตน้งั อคนรรไภมห่์ แลลับะทผ่ามู้ นีอคาวยรตุ แา่ นกะวนา่ า1อ8ยา่ปงี ไร
ขอ้ 2 กห.ากทเพาใ่ือจนใหขอ้สงบทาา่ยนแนลอะนไปไมพห่บลแับพท่ายน์ ควรแนะนาอย่างไร
ขก. สทวาดใจมในหตส้ ์บทาายสแมลาะธไิ ปใชพ้วบิธแจี พิตบทายบ์ ดั
คข. สทวาดใจมในหตส้ ์ บทาายสแมลาะธซิ ใื้อชยว้ าธิ นีจอติ นบหาบลบัดมารับประทาน
งค.. รทบั าปใจรใะหทส้ าบยายยาแศลุขะไสซยื้อายศาน์เอพนรหาละแับกม้นารอบันปไมรห่ะทลบัานได้
ข้อ 3 งน.างรสับาปวรกะ่ิงทดาวยมยีอาศากขุ าไสรจยุกาศเสนียเ์ ดพรปาวะดแบกวน้ มอทนอ้ ไมงห่ เปล็นับดไดา้น ไปพบแพทย์แผนไทย
แพทยจ์ ่ายยาไฟขอ้ าว3ุธ นใหางร้ สบั าปวรกะิง่ ทดานวมจีอาากกอาารกจาุกรเดสงัียกดลปา่ วขดนบาวดมแทล้อะงวิธเปใี ชน็ ้ใดนาขน้อใไดปถพูกบตแ้อพงทย์แผนไทย
แพทยจ์ ่ายยาไฟอาวธุ กให. ้รรบั บั ปปรระะททาานนจยากตอามากแาพรทดยังส์กง่ัล่าแวลขะนใชาดน้ แ้าลมะวพธิ รใี ้าชวใ้ เนปข็น้อกใรดะถสูกาตย้อยงา
กข. รับประทานยาตามแพทย์สง่ั และใชน้ า้ มะนพารว้าเวปเปน็ น็กกระระสสายายยาา
ขค. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และใชน้ ้ามผึ้งะรนวางวเเปป็น็นกกรระะสสาายยยยาา
งค. รบั ปปรระะททาานนยยาาตตาามมแแพพททยยส์ ์ส่งั ง่ั แแลละะใใชน้ า้ สผม้ึงรซวา่ งเปเปน็ น็ กกรระะสสาายยยยาา
ง. รับประทานยาตามแพทยส์ ั่ง และใชน้ า้ ส้มซ่าเปน็ กระสายยา
216 หนงั สอื เรยี นสาระทักษะการด�ำ เนินชวี ติ เพอ่ื ใช้เปน็ ยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา
215
ขอ้ 4 “น้ามนั กญั ชา ของนายเดชา ศิริภทั ร หมอพื้นบ้านสามารถรักษาโรคไดท้ ุกโรค”
ท่านเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. เห็นดว้ ย เพราะนายเดชา ศิรภิ ทั ร เปน็ หมอพืน้ บ้าน
ข. ไม่เห็นด้วย เพราะนา้ มันนายเดชา ศิริภทั ร ยังไม่ไดร้ ับการรับรองใหร้ ักษาโรค
ค. ไม่เห็นด้วย เพราะน้ามนั นายเดชา ศริ ภิ ทั ร ใชบ้ รรเทาอาการปวดจาก
โรคมะเรง็ เท่าน้นั
ง. เหน็ ด้วย เพราะนายเดชา ศิรภิ ัทร เป็นผู้ศึกษาทดลองการรักษาโรคดว้ ยน้ามัน
กัญชามาเป็นเวลานาน
ขอ้ 5 ภูมภิ เู บศร สาคญั อย่างไร
ก. เปน็ วิสาหกจิ ชุมชน เน้นการพัฒนาระบบของเศรษฐกิจของชมุ ชนเป็นหลัก
ข. เป็นต้นแบบของการรักษา แต่ทาเปน็ รปู ธรรมไม่ได้จริงและยงั ไม่เป็นที่
ยอมรบั ในปจั จุบัน
ค. เป็นสถานท่ีฝกึ อบรม สัมมนา ศึกษา เรยี นรเู้ รอ่ื งการดแู ลสุขภาพ และ
พัฒนาผลิตภณั ฑด์ ้วยสมนุ ไพร
ง. เปน็ ที่จัดแสดงผลิตภัณฑท์ างการแพทย์ท่ีทนั สมยั หลากหลาย โดยเป็นท่ี
ยอมรบั ในระดับอาเซียนและนานาประเทศ
2. กิจกรรมที่ 2
คาชแ้ี จง : โปรดจบั คขู่ ้อมูลท่ีอยู่หลังตัวอักษรท่ตี รงกับตวั เลขของข้อน้นั ๆ หรือมคี วาม
สัมพนั ธต์ รงกับหวั ข้อเลขนนั้ ๆ ใหถ้ ูกตอ้ ง แล้วนาตัวอกั ษรของหนา้ ขอ้ มลู มาใส่หนา้ ตัวเลข ตรงกบั ขอ้ นั้น ๆ
.......... 1. สถานทฝ่ี กึ อบรม สัมมนา ศึกษา เรียนรเู้ รอื่ ง ก. กรมการแพทย์แผนไทยและ
การดูแลสุขภาพ และพฒั นาผลิตภัณฑ์ด้วย การแพทย์ทางเลือก
สมุนไพร
.......... 2. ผสู้ กดั น้ามนั กัญชาดว้ ยน้ามันมะพร้าวสกัดเยน็ ข. 16 ตารบั ยาที่รับรอง
ใชร้ กั ษาโรคมะเรง็ โดยกระทรวงสาธารณสุข
.......... 3. หากท่านมีความจาเปน็ ต้องใชย้ าท่ีมีกัญชาปรงุ ค. นายเดชา ศริ ิภัทร
ผสมอย่โู ดยไม่ผดิ กฎหมายในความควบคุม ง. อภัยภเู บศรโมเดล
ของแพทย์ จ. ตารับยาโอสถพระนารายณ์
.......... 4. น้าผงึ้ รวง นา้ มะพร้าว นา้ มะนาว น้าสม้ ซ่า ฉ. กระสายยา
นา้ ตาลทราย น้าเบญจทบั ทมิ ช. ริค ซมิ ปส์ ัน
.......... 5. หน่วยงานทฝ่ี ึกอบรมหมอพนื้ บา้ น ซ. กระทรวงสาธารณสุข
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศึกษา เพอ่ื ใช้เปน็ ยา หนงั สอื เรยี นสาระทกั ษะการดำ�เนินชวี ิต 217
อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
216
3. กจิ กรรมที่ 3
คาช้ีแจง : โปรดทาเครื่องหมายถูก () หรือ เครื่องหมายผิด () ลงหน้าข้อตัวเลข
ที่ผู้เรียนอ่านข้อมูลแล้วคิดว่าคาตอบนี้ถูก ให้ทาเครื่องหมายถูก () ถ้าคิดว่าข้อมูลท่ีอ่านเป็นคาตอบ
ทีผ่ ิด ใหท้ าเครือ่ งหมาย ()
.......... 1. ประเทศอินเดียเป็นผู้คดิ ค้นการนากญั ชาเพ่อื ใช้รักษาโรคเปน็ ประเทศแรก
.......... 2. ประเทศไทยมีการค้นพบวา่ มีการใชก้ ัญชาเปน็ ส่วนประกอบของสตู รยามาตัง้ แต่สมยั
พระนารายณ์มหาราช
.......... 3. กระทรวงสาธารณสขุ ประกาศตารบั ยาแผนไทยทมี่ กี ญั ชาเป็นสว่ นผสม มจี านวน 16 ตารบั
.......... 4. หากมีความประสงค์ใชย้ าแผนไทยท่ีมีกัญชาเป็นส่วนผสมตอ้ งไปรับท่ีภูมิภเู บศรเทา่ น้ัน
.......... 5. น้ามนั กัญชาของนายเดชา ศิรภิ ทั ร รักษาทุกโรค
218 หนงั สือเรยี นสาระทักษะการด�ำ เนินชวี ติ เพอ่ื ใช้เปน็ ยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา
217
บทท่ี 6
6บทท่ี กัญชาและกัญชงกบั การแพทย์
แผนกญั ปชัจาจแลบุ ะกันัญชงกบั การแพทย์แผนปจั จบุ นั
สาระสาคสญั าระสำ�คญั
1. ประวตั กิ ารใชก้ ัญชาและกัญชงทางการแพทย์แผนปจั จุบนั
1.1 ตา่ งประเทศ
ในต่างประเทศ มีการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาในทางการแพทย์หลายรูปแบบ ได้แก่
น้ามันหยดใต้ล้ิน แคปซูล สเปรย์ฉีดพ่นใต้ลิ้น ยาเม็ด ยาเหน็บทวาร หรือรูปแบบแผ่นแปะบนผิวหนัง
มีการศึกษาวิจัย และใช้กัญชาเป็นยารักษาโรค เช่น ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา
เป็นต้น นอกจากนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการจดสิทธิบัตร และพบฤทธ์ิของกัญชาท่ีอาจมีผลดีต่อ
โรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคที่เกิดจากเซลล์
ถูกท้าลายโดยอนุมูลอิสระ (Oxidative) เป็นต้น แต่ยังต้องการการศึกษาวิจัยในมนุษย์เพ่ิมเติมอีก
ในอนาคต
1.2 ประเทศไทย
ประวัติการใช้กัญชาในการแพทย์แผนปัจจุบันในประเทศไทย ไม่ปรากฏข้อมูล
หลักฐาน สืบเน่ืองจากกัญชา ได้ถูกบรรจุให้เป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติ
ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 จึงท้าให้ขาดการศึกษาวิจัย มาพัฒนาเพ่ือใช้เป็นยาในทางการแพทย์
แผนปัจจุบัน ส่งผลให้ไม่มีประวัติการใชก้ ัญชาในประเทศไทย ที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในปัจจุบันได้
มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ก้าหนดให้
ใช้เพื่อประโยชน์ทางราชการ ประโยชนท์ างการแพทย์ ประโยชน์การรกั ษาผปู้ ่วย และประโยชนใ์ นการ
ศึกษาวจิ ยั ในปจั จบุ นั จงึ อยู่ระหวา่ งการศกึ ษาวจิ ัย
2. กัญชาและกญั ชงที่ช่วยบรรเทาโรคแผนปจั จบุ ัน
2.1 กัญชาและกัญชงกบั โรคพาร์กินสนั
สาร CBD เป็นสารสกัดที่ได้จากกัญชาและกัญชง ไม่มีฤทธ์ิต่อจิตและประสาท
ชว่ ยใหผ้ ปู้ ว่ ย ลดความวิตกกังวล บรรเทาอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ มีฤทธิร์ ะงบั ปวด และมีกลไกท่ีเชื่อว่า
อาจทา้ ใหล้ ดอาการส่ันจากโรคพาร์กินสนั ทา้ ใหก้ ารเคล่ือนไหวดีขน้ึ ปัจจบุ ันยงั ไม่ทราบกลไกการออก
ฤทธ์ิที่ชัดเจน คาดว่าสาร CBD มีส่วนช่วยชะลออาการของโรคพาร์กินสัน จากฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ลดการอักเสบ และปกป้องเซลล์สมอง ซึ่งต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมในอนาคตถึงสัดส่วนสาระส้าคัญ
ท่ีใช้ในโรคพาร์กนิ สนั
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกญั ชงศึกษา เพ่อื ใช้เป็นยา หนงั สอื เรยี นสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชวี ติ 219
อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
218
2.2 กัญชาและกญั ชงกับโรคมะเรง็
ในต่างประเทศ มีผลการศึกษาวิจัยสารในกัญชา สาร THC และสาร CBD
ที่สามารถเช่ือถือได้ ในการรักษาโรคมะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ในประเทศไทย มีการศึกษา
การใช้กัญชาต่อต้านมะเร็งพบว่า กัญชาสามารถออกฤทธ์ิฆ่าเซลล์มะเร็งในการเพาะเล้ียงเซลล์
ในหอ้ งทดลอง แตย่ ังไมม่ กี ารศึกษาถึงผลของกัญชาต่อโรคมะเร็งในมนุษย์
2.3 กัญชาและกญั ชงกับการลดอาการปวด
มีการศึกษาการน้ากัญชามาใช้ลดอาการปวด ส่วนใหญ่พบว่า สามารถบรรเทา
อาการปวดแบบเร้ือรัง (Chronic Pain) ท่ีเป็นการปวดทางระบบประสาท (Neuropathic Pain)
สามารถบรรเทาอาการปวดลงได้ ส่วนการบรรเทาอาการปวดเฉียบพลัน เช่น หลังผ่าตัด ยังไม่ได้
ให้ผลท่ีดี ส้าหรับอาการปวดเรื้อรังในผู้ป่วยมะเร็ง ยังไม่มีข้อสรุปทางคลินิกที่ชัดเจน สารสกัดกัญชา
อาจมีประโยชน์ในการรักษาอาการปวด แต่ยังขาดข้อมูลจากงานวิจัยสนับสนุนท่ีชัดเจนเพียงพอ
ในด้านความปลอดภยั และประสิทธิผล ซึ่งยงั ต้องศึกษาวจิ ยั ตอ่ ไปเพือ่ ให้ผปู้ ว่ ยไดร้ ับประโยชนส์ ูงสดุ
2.4 กญั ชาและกญั ชงกับโรคลมชกั
ส้าหรับกัญชาท่ีองค์การอาหารและยา (Food and Drug Administration) ของ
ประเทศสหรัฐอเมริกา อนุมัติยาจากสารสกัดกัญชา ตัวแรก (ไม่ใช่สารสังเคราะห์) ชื่อการค้า
Epidiolex® ประกอบด้วยตัวยา CBD 100 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ในรูปแบบสารละลายให้ทางปาก
(Oral Solution) โดยมีข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคลมชักชนิดรุนแรง 2 ชนิด คือ Lennox - Gastaut
Syndrome และ Dravet Syndrome ในผปู้ ่วยอายุ 2 ปีข้ึนไป
ในประเทศไทย กรมการแพทย์ ประกาศถึงประโยชน์ของสารสกัดจากกัญชา
ทางการแพทย์ ในการน้าตัวยา CBD มาใช้กับโรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักท่ีด้ือต่อยารักษา
เท่านัน้
2.5 กญั ชาและกญั ชงกับโรคผิวหนัง
นายแพทย์เวสารัช เวสสโกวิท ศึกษาวิจัยเก่ียวกับการน้าน้ามันกัญชามาใช้ใน
โรคสะเก็ดเงิน และกรรมพันธุ์ผิวหนังชนิดหนังหนาแต่ก้าเนิด ส้าหรับในต่างประเทศ นายริค ซิมป์สัน
(Rick Simpson) มีการค้นพบการรักษาโรคมะเร็งผิวหนังด้วยกัญชา โดยผลิตน้ามันกัญชา เรียกว่า
ริค ซมิ ป์สัน ออยล์ (Rick Simpson Oil, RSO) แลว้ น้ามาเผยแพร่แก่ประชาชนชาวสหรฐั อเมรกิ า และ
ประเทศอังกฤษ ทางอินเทอร์เนต็
2.6 กัญชาและกัญชงกบั โรคต้อหิน
การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโรคต้อหิน ด้วยกัญชา พบว่าการใช้กัญชา ท้าให้
ความดันในลูกตาลดลงได้ มีฤทธิ์อยู่ได้เพียง 3 ช่ัวโมง และข้ึนอยู่กับปริมาณการใช้กัญชาด้วย ซ่ึงอาจ
เพิ่มการเกดิ ผลข้างเคยี ง จากการได้รบั ขนาดยากัญชามากเกนิ ไป ได้แก่ ความดันโลหิตตา่้ ลง และหัวใจ
220 หนงั สอื เรยี นสาระทักษะการด�ำ เนินชีวิต เพอ่ื ใช้เป็นยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา
219
เต้นเร็วข้ึน ด้วยเหตุผลท่ีว่ามีหลายปัจจัยเข้ามาเก่ียวข้องในการควบคุมความดันลูกตา ไม่ว่าจะเป็น
ระยะเวลาการออกฤทธ์ิ ความแรงของยากัญชา ท้าให้ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่ยอมรับ
การน้ากัญชามาใช้รักษาโรคต้อหิน เนื่องจากยาแผนปัจจุบันสามารถคุมความดันในลูกตาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพคงที่ และสม่า้ เสมอมากกวา่
3. การใชน้ ้ามันกัญชาและกญั ชงกับการแพทย์แผนปจั จบุ นั
น้ามันกัญชา คือ สารสกัดกัญชา (Cannabis Extract) ที่เจือจางอยู่ในน้ามันตัวพา
(Carrier Oils หรือ Diluent) ส่วนมากนิยมใช้น้ามันมะกอก และน้ามันมะพร้าวสกัดเย็น
โดยหากผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐานจะมีการควบคุมคุณภาพของปริมาณสารส้าคัญ ปริมาณความ
เข้มข้นของตัวยา THC และ CBD รูปแบบของน้ามันกัญชามีสีเหลืองอ่อนจนถึงสีน้าตาล ลักษณะ
ข้นหนืด น้ามันกัญชาท่ีมีการผลิตอย่างได้มาตรฐาน ในประเทศไทยจากองค์การเภสัชกรรม และ
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภเู บศร ปจั จบุ ันมีอยู่ 3 สตู ร สตู รที่ 1 น้ามนั สูตร THC สูง สตู รที่ 2 น้ามันสตู ร
THC : CBD ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน สูตรที่ 3 น้ามันสูตร CBD สูง วิธีการสกัดน้ามันกัญชา ด้วยตนเอง
เป็นวิธีการท่ีไม่ปลอดภัย และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์น้ามันกัญชาท่ีมีมาตรฐาน ได้รับ
จากคลินิกกัญชา ท่ีมีแพทย์อนุญาตให้ใช้น้ามันกัญชาในการรักษาโรคจึงจะมีความปลอดภัย ขนาด
การใช้น้ามันกัญชาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และเภสัชกร โดยมีหลักการ คือ เริ่มใช้น้ามัน
กัญชาที่ขนาดต้่า ๆ โดยแนะน้าให้เริ่มท่ี 0.05 - 0.1 ซีซี หรือเท่ากับ 1 - 2 หยด และปรับเพิ่มขนาด
มากขึ้นตามคาแนะนาของแพทย์เท่านน้ั น้ามนั กัญชาอาจจะท้าให้มภี าวะงว่ งซึม จึงแนะน้าให้ใช้เวลา
กอ่ นนอน และหลีกเลยี่ งการทา้ งานใกล้เครือ่ งจักร หรือขบั รถ
4. ผลิตภณั ฑ์กัญชาและกญั ชงทางการแพทย์
ผลิตภัณฑ์ส้าเร็จรูปจากกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ส้าหรับคน มีรูปแบบ
น้ามันหยดใต้ล้ิน แคปซูล สเปรย์ฉีดพ่นใต้ล้ิน ยาเม็ด ยาเหน็บทวาร หรือรูปแบบแผ่นแปะบนผิวหนัง
ผลิตภัณฑ์กัญชาจะมีสูตรแตกต่างกันตามสัดส่วน และปริมาณสารส้าคัญ THC และ CBD ผลิตภัณฑ์
กัญชาที่ได้รับการขึ้นทะเบียน (Registered Drug) ขณะน้ีมีอยู่ 3 รูปแบบ คือ ผลิตภัณฑ์ THC
สงั เคราะห์ ผลติ ภัณฑส์ ารสกัดแคนนาบินอยด์จากธรรมชาติ และผลติ ภัณฑ์สารสกัด CBD นอกจากนี้
ในต่างประเทศยังมีผลติ ภณั ฑ์รักษาอาการเจ็บปว่ ยในสัตว์
5. การใชผลิตภัณฑกัญชาและกัญชงให้ได้ประโยชน์ทางการแพทย์ในปัจจุบัน แนะน้าโดย
กรมการแพทย์ เพื่อใชใ้ นการดแู ลรักษา และควบคมุ อาการของผู้ป่วย เนื่องจากมีหลกั ฐานทางวิชาการ
ที่มีคุณภาพสนับสนุนชัดเจน โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบ้าบัด
(Chemotherapy Induced Nausea and Vomiting) โดยแพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเพ่ือ
รักษาภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบ้าบัดที่รักษาดว้ ยวิธีต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล (2) โรคลมชักท่ีรักษายาก
และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา (Intractable Epilepsy) ผู้สั่งใช้ควรเป็นแพทย์ผู้เช่ียวชาญด้านระบบ
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา เพือ่ ใช้เปน็ ยา หนังสอื เรยี นสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวิต 221
อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
222200
ชหชปป(ผ(ใใผผผ((ททหหปปหปป44นนออลลลล่่ีีรรดดรรรรรร))ีี กกักักืือะะอบบิิิิะะตตเเตตคคกกภภรรษษสสลลสสธธภภภภ..ณณรรศศาาิิททดาาดรราาััััณณณณ็็งงวว..ภภรรีีททททคคธธะะ22มมฑฑ((ฑฑาาิิผผ่ีี่ผผววSSปป00ววแแ66แแลลา์์าูู้้กกปป์์กกppะะ11วว..ลลลลมมััญญัั่่ววญญaaปปภภดด33้้ะะววททยยกกssชชวว))ชชาาจจไไttุุกกาาไไแแดดดดยยiiาาาาดดาารรรรccขขพพจจเเ้้หหกกรรแแะะใใ้้รรii์์ททพพttชชาาััททบบัับบรรบบลลลลyyรรืื่่กกออ้ผผ้ ะะยย))ัักกงงกกะะุุววมมรรลลบบบบจจ์์ออใใาาาา่่าากกะะาาิติตนนาารรรรรรบบาามมััญญบบนนภภกกรรรรผผจจออีีคคปปบบขขััชชกกไไเเัณัณูู้้ปปเเบบววททรรดดลลออปปษษงง่่ววฑฑรราาะะ้้ืืปปอองงาารราายยมมมมสสมมผผ์ก์กออกกะะรรดดโโกกเเาาูู้้ปปญญััาาสสึึกกาารรวว้้ววปปททาาใใคคกกิิาาธธ่่ววษษยยชช็็นนชชรรททีีกกยปปยาาววาาาา((้้ใใไไกกททรราาNNแแิิลลธธกกชชปปัับบรรปปีีมมี่ดี่ดลลออััeeบบ้้สสไไใใผผววะะอ้ื้อืาากกuuดดชชผผาาตตกกดดูู้้ตตปปปปrrูู้้้้้้รรผผหหเเooชชญััญรรอ่อ่แแ่่รรสสววลลาาppฐฐ่ีี่ยยกกลละะยยชชกกิิตตกกาาaaววสสาาะะงงััเเดดภภไไนนttรรชชฉฉททาาเเมมhhจจััณณรรแแกกาาททพพาา่่มมiiาาักกั ccลลญญรรงงฑฑเเาาีีกกววษษสส็็้้ววกกงงPPะะ์์กกิิธธกกใใ่่ืืออาาแแาาaaรรีีกกัันนญญไไััดดญญรรมมลลiiมมาาาาnnแแกก้วว้ ชชแแะะชชยย่่สสรรพพ))ยยรรไไขขาาาาาารรดดยยณณททแแแแ็็ปปงงเเมมัักกาา้้รรพพลลพพยยีีททฏฏาาษษมมัั((บบน์น์ะะื่ื่ออMMททรริิ่ี่ีรรญญาาาาคคกกถถ่่าากกััยยกกตตuuออววจจญญััญญคคาา์์สสรรษษืืll่่นนาาะะttววรรฐฐชชาาาามมาาiiไไบบรรppาามมเเๆๆงงดดดดยยััฮฮกกนนllคคมมาา้ปป้ ้้eeิิววนนลลษษหหุุมมรราารรยยยยซซถถSSาาชชออรระะววออิิccผผงงืืใใออ่่ววาาโโิิธธชชมมยยllกกูู้้กกปปยยมมีีeeออ้้ชชผผจจิิ าาชช่่ีีววววrr่ืื่นนขขนนาาลลรรooีีววิิยยธธกกออขขิิ์์ตตssิิตตีีกกๆๆใใผผiiงงออ((ภภssผผนนาา33แแูู้้ปปงง))แแูู้้ััปปรรณณกก))โโพพ่่ววแแลลรร่่าารรววฑฑภภยยพพัักกทท้้รรววคคยยาา์์กกคคษษไไททยยไไหหววฟฟมมดดััญญววยยาาสสรระะบบ่่้้ไไ้ืื้นน์์สสชชืืออมมหหดดกกแแคคฟฟาาาาญญาา้้ผผาาลลตตมมุุ มมููสสใใคคกก้้ลลาาาานนออ่่ไไาาุุขขจจมมตตมมมมรราากกภภแแะะิิโโโโ่่กกเเเเถถรรดดนนกกาาลลนนลลาาใใณณพพยยิิื้้ืดดชชกกออ้้าาะะรรีี้้
ใใกกผผปปปปปแแปนนบัับผผัรรัจจรรลลกกะะะะจจกกนนกกาาโโโโุุบบาาปปยยรราายยรรัันนแแััชชจจรรชชแแพพนนเเจจพพนนกกรรผุุททบบใใ์์ ทท์์ัั33112ญญ2ททยีียนนลยยัันน......ยยาานนกกชชกแ์แ์ แแ์์งงตตเเเเาาาารรผผผผาพพพพกกผผรรแแรรู้ท้ทูนนลลราา่ื่ืื่่ืออออคคนนะะลลิิปปเค่ีีค่ตตรรใใใใววหหปปะะรหหหหแแัจจัภภบบาากกจััจียนนพพ้้้้จจมมมมดดััคคณณััญญจจัักกนุบบุีีีีคคททททุมมุหหุบุบถถฑฑชชรนัันววัักกออยยันันึึงงววงง้ทู์์าากกษษาา์์คคใใททังงัมมัันนญญกก่ีคะะววีี่่ชชรราาปปาาากกชช่่ววูู้้รรมมดาาััคคจจาายยรรสสววจจหแแบบแแ้้าาาาุุบบลลรรวสสคคมมััรรนนะะังววััญญเเเเกกขขงงททแแขขััหห้้ญญาาาาลลออใใาาโโชชจจะะงงรรคคเเงงกกคคกกววกกททาาแแาาาาี่ี่ยยรราามมรรผผววนนงงใใรรนนกกชชกก้้าาูู้้ ัับบปปแแ้้กกผผาาััจจลลรรััญญลลปปจจะะแแิิตตชชรรุุบบททพพภภะะาาัันนัักกททววััแแณณษษััตตลลยยกกฑฑะะิิกกะะ์์ าากก์์กกกกาากกรราาััรรญญาาััญญใใรรใใชชรรชชชชชชคค้้นนใใ้้าากกงงิิดดชช้้าาแแไไััญญ้้ววผผมมปปลลิิเเลลชชัันนคคใใะะิิาาชชตตกกรรกกแแ้้รรภภาาััญญััญญลลัักกะะััณณชชะะหหษษชชาากกฑฑ์์งงเเาาแแกกััญญททโโ์์กกลลรร่ีี่ยยาาััญญชชะะคคววงงงงกกกกชชกกททแแััญญัับบาาาาาาลลแแกกรรชชงงะะแแลลััญญกกงงลลกกพพะะาาชชดดรรัับบกกททาาออแแัักกญญแแยยาาพพาาลล์์กกนนชชททรระะาา่่าางงแแยยกกรรจจใใพพ์์แแััญญปปหหะะผผททวว้้ไไชชไไนนดดดดดดยยงง้้์์้้
ขขออบบขข่า่ายยขบบเเนนอททบอือ้้ื ททหหขี่่ี 66าา่ ยเเกกรรเัญัญน่อ่ือื งงชชอ้ื ททาาห่ี่ีแแ11าลละะปปกกรรญญัั ะะชชววตังตังกกิิกกับับาารรกกใใาาชชรร้กก้แแญญััพพชชททาายยแแ์แ์แลลผผะะนนกกปปญญัั ััจจชชจจงงุบบุ ททัันนาางงกกาารรแแพพททยยแแ์์ ผผนนปปจัจั จจบุุบันัน
เเรรอือ่่ื งงทท่ีี่ 22 กกญญัั ชชาาแแลละะกกััญญชชงงทที่ี่ชช่่ววยยบบรรรรเเททาาโโรรคคแแผผนนปปัจัจจจุบบุ ันัน
เเรร่่ือืองงทท่ี่ี 33 กกาารรใใชชน้้นา้้ามมนัันกกญัญั ชชาาแแลละะกกัญัญชชงงกกับับกกาารรแแพพททยยแแ์์ ผผนนปปัจจั จจุบบุ นััน
เเรร่อื่อื งงทที่่ี 44 ผผลลิตติ ภภัณัณฑฑ์์กกญญัั ชชาาแแลละะกกััญญชชงงททาางงกกาารรแแพพททยย์์
222 หนงั สือเรียนสาระทักษะการดำ�เนินชีวติ เพอื่ ใช้เปน็ ยา อย่างชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศึกษา
22211
เเรร่ืออื งงทท่ีี 5 กกาารรใใชชผ้ผ้ ลลติิ ภภณัณฑฑก์กัญั ชชาาแและะกกญัญชชงงใใหไ้้ ดดป้้ปรระะโโยยชนนท์์ าางกการแแพพททยย์
ในปจจัั จจบุบนนั
เเรร่อ่ือื งงท่่ีี 66 กกาารรใใช้ผลติติ ภณัั ฑก์ ััญชาแแลละกกญั ชชงงททางงกการรแแพททย์นนา่ จจะไไดดป้้ ระะโยยชน์
ใในนกกาารรควบคคุุมมอาากกาาร
สส่ื่อือประะสกกื่อออปบบรกะาากรรอเรบยียี กนนารรรูู้้ เรยี น
1.. ชชื่ออหหนนัังงสสืออ สสุรริิยัญญกกัญญชชา อัมมฤฤตตย์์โโออสถแหห่งงคควาามมหวังง ชช่ื่ืออผูู้้แแตต่่งง ปปานนเทพพ พััวพงงษ์พันนธธ์์
โโรรงงพพิมมิ พพ์ บบ๊คุ ดด็อทท คออม ปปีทท่พ่ีพี มิิมพพ์์ 225562
22.. ชช่ืื่อบบททควาาม กััญญชชาากกัับบกการรรัักกษษาาโโรรคค ชช่ืือผผู้เเขีียยนน ดรร..ภภญญ..ผผกกาาททิพพย์์ รร่ืื่นรระะเเรริิงงศศักดิ์์
สสืบบื คค้้นนจจาากก hhttttppss::////wwwwww..pphhaarrmmaaccyy..mmaahhiiddooll..aacc..tthh//tthh//kknnoowwlleeddggee//aarrttiiccllee//445533//กกัญัญชชาา//
33.. หห้้อองงสสมมุุดดขขอองงมมหหาาววิิททยยาาลลััยยตต่่าางง ๆๆ ทท่ีี่ตตั้ั้งงออยยูู่่ใในนกกรรุุงงเเททพพมมหหาานนคครร หหรรืืออหห้้อองงสสมมุุดดใใกกลล้้บบ้้าานน
ผผูเู้้เรรยียี นน
เร่อ่ืองงที่ี เ11รือ่ งปปทรี่ะะ1ววัตั ปกิิกราาะรวใชชัตก้กิ ััญญารชชใชาาแแก้ ลัญะะชกกาัญญแชลงะททกาาัญงชกงาาทรแแางพพกททายยร์์แแผผพนนทปยจััแ์ จจผุุบบนันันปจั จบุ นั
11. ปปรระะววตัตั ใิใิ นนตต่าางปปรระเทศศ
ใในตต่่าางงปปรระะเททศศใชช้กกัญชชาาเป็็นนยยารรัักกษษาโโรรคค ไได้้แกก่ ปรระะเเททศศออัังงกฤฤษ อนุุญาตตใใหห้ใใชช้้กััญญชาาใในน
ลลกักั ษษณณะะเเปป็นน็ ผผลลติติ ภณัณฑฑ์ที่ี่ใใชชท้้ าางงกการรแพพทยย์ ในนรปูปู ขขอองงยยาาเเมม็็ด ยยาาแแคปปซซลููล นน้าามมันันกััญญชาา แแตตไ่ไ่ ม่อ่อนนุญญาาตตใใหห้้มี
การสููบบ ในนปประะเเทศเยออรรมมนีี ใใหห้ใชช้ใในรูปแบบบ สสเปรรยย์ ((SSprraayy)) สส้้าหหรรัับบรัักษาาออาากกาารปปววดดเกกร็็งงกกลล้้าามเเนน้้ืือ
ใในนปประะเททศสสเเปปนน มีีกการววิิจจััยยททางคคลินิิกกกกาารใช้้กกัญญชชารักกษษามมะะเเรร็็งหหรืืออเนื้ื้อองอกกชนนิิดกกลััยโออบลาาสสโโตมา
(Glliioobbllassttommaa หหรรอือ GGBBMM)) ผผลลกกาารรววิจิ ัยัย ปปราากฏว่าาไไดด้ผผ้ ลลดีี ใในนปรระเททศศสสหหรรัฐฐั ออเมมริกิกาา มมีกีกาารรจดสสททิ ธิิบตัตร
กััญญชชา แแลละะพบฤฤททธธ์ิิขขอองกกัญชชาา ที่ีอาจจมมีีผผลลดดีีต่ออโโรรคททางงรระะบบบปประะสสาาทท เชช่่นน ออััลลไไซซเเมออรร์์ พพาารร์์กกิินสสัันน
โรรคหหลออดดเลลืืออดสสมอองง แและะโโรคคท่ีี่เกกิิดดจจาากกเเซซลลล์์ถถููกท้้าาลลาายยโดดยยออนนุุมมููลลออิิสสระะ (Oxxiidaattivvee) โโรคหหััววใใจ
โโรรคคปลลออกกปปรระะสสาาททเเสสื่่ืออมมแขข็็งง โโรรคเบบาหหววาานน เปป็็นนตต้น โดดยยรรััฐฐโคโโลลรราาโโดด อนนุุญญาาตตใให้้ใใช้กัญญชาออย่่างง
ถูกกกฎฎหมมาายย แแลละะออีีก 3333 รรััฐฐ ออนนุุญาาตตใใหห้ใใชช้้น้้าามมัันกกัญชชาาททางกาารแพพททยย์์ไไดด้้ นนออกกจาากนน้ี ปปรระะเเททศศออิิสสรราาเออลล
โโคลมัมั เเบบียีย แและะแคคนนาาดดาา ออนนญญุ าาตตใใหใ้ ชชผ้ผลลติตภภณัั ฑจ์จากกญัั ชชาเเปน็นยาารรกัั ษษาาโโรรคค
ในนปปีี คค..ศศ.. 11889933 หรรือื พพ.ศศ.. 22338822 นนาายยแแพททยย์วลิลิ เลลยียมม บบรรกกูู โออชอเเนนสสซซี่่ี
((Wiillliaam BBrroookkee OO''SShhaaugghhnesssyy)) ชชาวอัังงกกฤฤษ ปปฏิบัตติิงงานนออยูู่่ใในนประะเทศศออินเดีียย ไไดด้ท้้าากาารททดลออง
แแลละะคค้้นพบบวว่่าา กกััญชาามมีสสรรรรพคุุณณททาางงกาารรแพพททยย์์ สสาามมาารรถถใชช้้รระะงงับบออากาารปวด เเพพ่ิมคคววามมออยยาากออาาหาารร
ลลดดกกาารรออาาเเจจีียน คคลลาายกกล้้าามเเนนื้ื้ออ แแลละลลดออากาารรชักกั ไได้้ โดยไไดดต้้ ีพพิมมิ พพ์์ผผลงาานนวจิจิ ยัั ใในววารสสาารรททาางงยยาาในนสมมััยยนััน้้น
ปีี คค..ศศ.. 193377 หรือ พพ..ศศ. 224880 มมีีรรายยงงาานวว่่าา กกาารรใใชช้้กกัญญชาาในนปปรระะเเทศศสสหรัฐอเเมรริิกกาา
ทท้้าาใหห้ผผูู้้ใชช้ขขาดสสตติิ เกิิดออาากกาารรปรระะสสาทหหลลออนน ปประเเททศออัังงกฤฤษษจจึึงงเเพพิิกถอนนกกััญญชาอออกกจากบบััญญชชียา แแตต่่ใใน
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา เพ่อื ใชเ้ ป็นยา หนังสอื เรยี นสาระทกั ษะการดำ�เนนิ ชีวิต 223
อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
222
ปัจจุบันรัฐบาลอังกฤษ ประกาศให้แพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา เพ่ือการรักษาทางการแพทย์
ได้อย่างถูกกฎหมาย และอนุญาตให้มีการปลูกกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ ในทางตอนใต้ของ
กรงุ ลอนดอน
ปี ค.ศ. 1992 หรือ พ.ศ. 2535 ยาโดรนาบินอล (Dronabinol) ได้รับการรับรองให้ใช้
รักษาโรคเอดส์ ที่เกิดจากอาการน้าหนักลดมากจนผอมแห้ง (AIDS-Wasting Syndrome) ได้ใน
ประเทศสหรัฐอเมรกิ า
ปี ค.ศ. 1996 หรือ พ.ศ. 2539 รัฐแคลิฟอร์เนีย (California) เป็นรัฐแรกในประเทศ
สหรัฐอเมริกา ทีอ่ นุญาตใหใ้ ชก้ ัญชาทางการแพทย์ จากน้นั จงึ ตามดว้ ยประเทศแคนาดา
ปี ค.ศ. 1997 หรือ พ.ศ. 2540 นายริค ซิมป์สัน (Rick Simpson) ชาวแคนาดา ซ่ึงเคย
ท้างานเป็นวิศวกรอยู่ในโรงพยาบาล ต่อมาประสบอุบัติเหตุในขณะปฏิบัติงาน ล้มหัวฟาดพ้ืน
เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ และตาลาย จากการรักษาโดยแพทย์ท่ัวไปไม่ดีข้ึน เขาได้ยินสรรพคุณของ
กัญชาว่ามปี ระโยชน์ จึงแอบน้ามาใช้กับตนเอง และพบว่าอาการต่าง ๆ ดขี ้ึนอย่างมาก
ปี ค.ศ. 1999 หรือ พ.ศ. 2542 รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จดสิทธิบัตรกัญชา
หมายเลข US6630507 B1 อ้างสิทธิการใช้กัญชาในการรักษาโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์
พาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง โรคท่ีเกิดจากเซลล์ถูกท้าลายโดยอนุมูลอิสระ (Oxidative Stress)
เปน็ ตน้ แตใ่ นขณะเดียวกัน กฎหมาย และองคก์ ารอาหารและยา ยังคงปฏิเสธกญั ชาเพือ่ ใช้เป็นยา
ปี ค.ศ. 2003 หรอื พ.ศ. 2546 บรษิ ัท GW Pharmaceuticals ในประเทศองั กฤษ ได้รับ
อนุญาตให้ปลูกกัญชาเพื่อการทดลอง ด้วยความหวังว่าจะได้รับอนุญาตให้ท้าการผลิต และจ้าหน่าย
ผลิตภัณฑ์ทีท่ ้ามาจากกัญชา และมตี วั อย่างการใช้กัญชาในการรักษาโรคมะเร็งผวิ หนัง นายริค ซิมป์สัน
(Rick Simpson) ได้สังเกตเห็น ตุ่ม ผิดปกติท่ีผิวหนังบนแขน จ้านวน 3 ตุ่ม และเม่ือไปพบแพทย์
ผลการตรวจชิ้นเนื้อยืนยันว่าเป็น มะเร็งผิวหนัง เขาจึงตัดสินใจจะใช้กัญชาในการรักษามะเร็งผิวหนัง
ด้วยตนเอง เพราะเคยอ่าน และได้ยินมาว่าสาร THC สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งในหนูทดลองได้ เขาจึง
สกัดกัญชาแล้วน้ามาประคบไว้บริเวณที่เป็นตุ่มเนื้อมะเร็งบนผิวหนัง หลังจากนั้น 4 วัน พบว่า
ตุ่มเน้ือนั้นมีขนาดลดลงอย่างมาก จากนั้นจึงพัฒนาสูตรในการผลิตกัญชาสกัดเป็นของตนเอง เรียกว่า
ริค ซิมป์สัน ออยล์ (Rick Simpson Oil, RSO) แล้วน้ามาเผยแพร่โดยรักษาประชาชนชาว
สหรัฐอเมริกา ประมาณ 5,000 ราย โดยการสกดั กัญชา และใช้สารเอทานอล ทม่ี คี วามเข้มข้นร้อยละ
99 สกัดประมาณ 2 วนั จะได้คลอโรฟลิ ล์ตดิ ออกมาดว้ ย ซ่ึงสารสกดั ทีไ่ ด้จากวิธีการนี้จะมี สารเตตรา
ไฮโดรแคนนาบนิ อล (THC ร้อยละ 90) แคนนาบิไดออลออยล์ (CBD ร้อยละ 2 - 6)
ปี ค.ศ. 2005 หรือ พ.ศ. 2548 บรษิ ัท GP Pharmaceuticals ไดร้ บั อนญุ าตใหจ้ ้าหน่าย
ผลิตภัณฑ์จากกัญชาในประเทศแคนาดา (Canada)
224 หนงั สือเรยี นสาระทักษะการดำ�เนินชวี ิต เพื่อใชเ้ ป็นยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา
223
ปี ค.ศ. 2013 หรือ พ.ศ. 2556 บริษัท โอซูก้า ฟาร์มาซูติคอล จ้ากัด โตเกียว ประเทศ
ญี่ปุ่น บริษัทยาในประเทศญี่ปุ่น และประเทศอังกฤษ ได้จดสิทธิบัตรพบฤทธ์ิต้านมะเร็งของกัญชาใน
หลอดทดลอง และหนูทดลอง
ปี ค.ศ. 2014 หรือ พ.ศ. 2557 รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้กัญชา
ถูกกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบภายใต้การควบคุมท้ังการผลิต ซ้ือขาย และเสพ เป็นสัญญาณแห่งการ
จบส้นิ ยคุ มืดของกญั ชา
ปี ค.ศ. 2018 หรือ พ.ศ. 2561 องค์การอาหารและยาประเทศสหรฐั อเมริกา (U.S.FDA)
อนุมัติยาจากสารสกัดกัญชาตัวแรก (ไม่ใช้สารสังเคราะห์) ชื่อการค้า Epidiolex® ประกอบด้วยตัวยา
แคนนาบินอยด์ ออยล์ (Cannabinoid Oil) 100 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ในรูปแบบสารละลายให้
ทางปาก (Oralsolution) โดยมีข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคลมชักชนิดรุนแรง 2 ชนิด คือ Lennox -
Gastaut Syndrome และ Dravet Syndrome ในผู้ป่วยอายุ 2 ปีขึ้นไป
กล่าวโดยสรุป ประวัติการใช้กัญชาและกัญชงทางการแพทย์แผนปัจจุบันในต่างประเทศ
มกี ารใชผ้ ลติ ภัณฑ์กัญชาในทางการแพทย์หลายรูปแบบ ไดแ้ ก่ นา้ มันหยดใต้ลน้ิ แคปซลู สเปรย์ฉดี พ่น
ใต้ลิ้น ยาเม็ด ยาเหน็บทวาร หรือรูปแบบแผ่นแปะบนผิวหนัง มีการศึกษาวิจัย และใช้กัญชาเป็นยา
รักษาโรค เช่น ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา เป็นต้น นอกจากน้ีในประเทศ
สหรัฐอเมริกา มีการจดสิทธิบัตร และพบฤทธ์ิของกัญชาท่ีอาจมีผลดีต่อโรคทางระบบประสาท เช่น
อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคที่เกิดจากเซลล์ถูกท้าลายโดยอนุมูลอิสระ
(Oxidative) เป็นต้น แต่ยังตอ้ งการการศกึ ษาวจิ ัยในมนษุ ยเ์ พิ่มเตมิ อีกในอนาคต
2. ประวตั ิในประเทศไทย
ประวัติการใช้กัญชาในการแพทย์แผนปัจจุบันในประเทศไทย ไม่ปรากฏข้อมูลหลักฐาน
สืบเน่ืองจากกัญชา ได้ถูกบรรจุให้เป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด
ให้โทษ พ.ศ. 2522 จึงท้าให้ขาดการศึกษาวิจัย มาพัฒนาเพ่ือใช้เป็นยาในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
ส่งผลให้ไม่มีประวัติการใช้กัญชาในประเทศไทย ที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในปัจจุบันได้มีการแก้ไข
กฎหมายเพ่ิมเติม ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับท่ี 7) พ.ศ. 2562 ก้าหนดให้ใช้เพ่ือ
ประโยชน์ทางราชการ ประโยชน์ทางการแพทย์ ประโยชน์การรักษาผู้ป่วย และประโยชน์ในการ
ศึกษาวจิ ัย ในปจั จุบันจึงอยรู่ ะหวา่ งการศกึ ษาวจิ ยั
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศึกษา เพือ่ ใช้เป็นยา หนงั สือเรยี นสาระทักษะการดำ�เนินชีวติ 225
อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
224
เรอื่ งที่ 2เรก่ือัญงทช่ี า2แลกะัญกชญั าชแงลทะี่ชก่วัญยชบงรทรี่ชเทว่ ายโบรครรแเผทนาปโรัจคจแุบผนั นปัจจุบัน
1. กัญชาและกัญชงกับโรคพารก์ ินสนั
โรคพาร์กินสัน คือ โรคทางสมองท่ีเกิดจากเซลล์ประสาทในบางต้าแหน่ง เกิดมีการตาย
โดยไม่ทราบสาเหตุท่ีแน่ชัด ท้าให้สารสื่อประสาทในสมองที่ชื่อว่า โดปามีน (Dopamine) ซ่ึงเป็นสาร
ท่ีมีหน้าท่ีควบคุมการเคล่ือนไหวของร่างกายมีปริมาณลดลง จึงส่งผลกระทบต่อการเคล่ือนไหวของ
ผู้ป่วย และสาเหตุส้าคัญของการเกิดโรคพาร์กินสัน มี 10 สาเหตุ ได้แก่ (1) ความชราของสมอง
โดยมากพบในผู้ที่มีอายุ 65 ปีข้ึนไป ทั้งเพศชายและเพศหญิง (2) ยากล่อมประสาท หรือยานอนหลับ
ทีอ่ อกฤทธิ์กดหรือตา้ นการสร้างสารโดปามีน โดยมากพบในผปู้ ว่ ยโรคทางจติ เวช ท่ตี ้องไดร้ บั ยากลุ่มน้ี
เพื่อป้องกันการควบคุมอาการ (3) ยาลดความดันโลหิตสูง (4) ภาวะหลอดเลือดในสมองอุดตัน
(5) สารพิษทา้ ลายสมอง ไดแ้ ก่ สารแมงกานสี ในโรงงานถ่านไฟฉาย พิษจากสารคาร์บอนมอนนอกไซด์
(6) ภาวะสมองขาดออกซิเจน ในกรณีท่ีจมน้า ถูกบีบคอ เกิดการอุดตันในทางเดินหายใจจากเสมหะ
หรืออาหาร เป็นต้น (7) ศีรษะถูกกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ (8) เกิดการอักเสบของสมอง
(9) โรคทางพันธุกรรม เช่น โรควิลสัน เป็นต้น และ (10) ผู้รับยากลุ่มต้านแคลเซียมที่ใช้ในโรคหัวใจ
โรคสมอง ยาแก้เวียนศีรษะ และยาแก้อาเจียนบางชนดิ
การรักษาโรคพาร์กินสัน มี 3 วิธี คือ รักษาด้วยยา ส้าหรับยาที่ใช้ในปัจจุบัน คือยากลุ่ม
เลโวโดปา (LEVODOPA) และยากลุ่ม โดพามีน อะโกนสิ ต์ (DOPAMINE AGONIST) เปน็ หลกั (การใช้
ยาแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยจากแพทย์ ตามความเหมาะสม) และการท้ากายภาพบ้าบัด
การผ่าตัด ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน จ้าเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้างในการพัฒนาฟ้ืนฟู
ทางดา้ นรา่ งกาย รวมถงึ จติ ใจ
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา กล่าวว่า จากข้อมูลภาวะ และโรคท่ีควร
รวบรวมบรรจุเพ่ิมเติมอยู่ในรายการท่ีกัญชาจะสามารถน้ามาใช้ได้ในคนป่วยในประเทศไทย อาทิ
อาการแข็งเกร็ง ท่ีอาจร่วมกับการบิดของกล้ามเนื้อที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง รวมถึง
โรคทางสมอง เชน่ โรคพารก์ นิ สัน
จากการศึกษางานวิจัยพบว่า สาร THC ช่วยป้องกันเซลล์สมองจากอันตราย โดยอนุมูล
อิสระ ส่วนสาร CBD จะช่วยป้องกันเซลล์สมองจากการเสื่อมสภาพ และพบว่าหลังจากใช้สารสกัด
กัญชา 30 นาที ก็ทา้ ใหอ้ าการของโรคดีขึ้น และหลาย ๆ งานวิจยั แสดงผลการวจิ ัยตรงกนั ว่าสาร CBD
ท้าใหอ้ าการของโรคดีขึน้ ชัดเจน หลงั จากใชย้ าไป 1 อาทติ ย์
กล่าวโดยสรุป สาร CBD เป็นสารสกัดที่ได้จากกัญชงและกัญชา ไม่มีฤทธ์ิต่อจิต และ
ประสาท ช่วยให้ผู้ป่วย ลดความวิตกกังวล บรรเทาอาการเกร็งของกล้ามเน้ือ มีฤทธิ์ระงับปวด และ
มีกลไกท่ีเชื่อว่าอาจท้าให้ลดอาการส่ันจากโรคพาร์กินสัน ท้าให้การเคลื่อนไหวดีข้ึน ปัจจุบันยัง
ไม่ทราบกลไกการออกฤทธ์ิที่ชัดเจน คาดว่าสาร CBD มีส่วนช่วยชะลออาการของ โรคพาร์กินสัน
226 หนังสอื เรียนสาระทักษะการดำ�เนนิ ชวี ติ เพ่ือใช้เป็นยา อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา
225
จากฤทธิต์ ้านอนมุ ลู อิสระ ลดการอักเสบ และปกป้องเซลลส์ มอง ซ่งึ ตอ้ งการงานวิจัยเพิม่ เติมในอนาคต
ถึงสดั สว่ นสารสา้ คัญที่ใช้ในโรคพารก์ นิ สัน
2. กัญชาและกัญชงกบั โรคมะเรง็
มะเร็ง เป็นโรคที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย ต้ังแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึง
ผู้สูงอายุ แต่โดยส่วนใหญ่จะพบในผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก และจะพบได้มากในผู้ป่วยที่อายุ
ตัง้ แต่ 50 ปีข้นึ ไป
“มะเร็ง” หรือทางการแพทย์เรียกว่า “เน้ืองอกท่ีเป็นเนื้อร้าย” เป็นกลุ่มโรคท่ีเก่ียวข้อง
กบั การเจริญของเซลล์ทม่ี ีความผิดปกติ คือ เซลลจ์ ะแบ่งตวั และเจริญเติบโตอย่างควบคุมไม่ได้ก่อเป็น
เนื้อร้าย และรุกรานไปยังอวัยวะส่วนข้างเคียง หรือแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายท่ีอยู่
ห่างไกล ผ่านระบบน้าเหลืองหรือกระแสเลือด แต่ไม่ใช่เน้ืองอกทุกชนิดจะเป็นมะเร็ง เพราะเนื้องอก
ไม่รา้ ยจะไม่ลุกลามไปยังอวยั วะข้างเคยี ง และไมก่ ระจายไปทวั่ รา่ งกาย
สาเหตขุ องการเกิดโรคมะเร็ง
ร้อยละ 90 - 95 ของสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็ง มาจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม ส่วนท่ี
เหลืออีก ร้อยละ 5 – 10 มาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ค้าว่า “ส่ิงแวดล้อม” ที่ใช้โดยนักวิจัย
มะเร็ง หมายถึง ปัจจัยทางเศรษฐกิจ และพฤติกรรม ปัจจัยที่พบบ่อยท่ีน้าไปสู่การตายของโรคมะเร็ง
ได้แก่ ยาสูบ ร้อยละ 25 - 30 อาหาร และโรคอ้วน ร้อยละ 30 – 35 การติดเช้ือ ร้อยละ 15 – 20
การสัมผัสกับรังสี ร้อยละ 10 นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากความเครียด ขาดการออกก้าลังกาย และ
มลพิษจากส่งิ แวดล้อมอีกด้วย
อาการของโรคมะเรง็
ในระยะแรกของการเกิดโรคมะเร็งขึ้นในร่างกาย อาจไม่ทราบได้ว่ามีอาการอย่างไร
แต่เม่ือระยะเวลานาน หรือหลายปี ผู้ป่วยโรคมะเร็งส่วนใหญ่จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
รับประทานอาหารไดน้ ้อยลง อม่ิ เรว็ ผอมซูบ น้าหนักลด ร่างกายเรมิ่ ทรุดโทรมลง ไม่สดช่นื เหมอื นเดิม
ต่อมาเม่ืออยู่ในระยะท่ีมะเร็งเร่ิมลุกลามมากข้ึน จะเริ่มปรากฏอาการอย่างชัดเจน โดยในระยะนี้
จะรู้สึกเจ็บปวด และทรมานเป็นอย่างมากตามจุดต่าง ๆ ท่ีเกิดมะเร็งขึ้น ทั้งน้ีจะมีอาการมากน้อย
อย่างไรขึ้นอยู่กับเป็นมะเร็งชนิดนั้น ๆ และการกระจายของเซลล์มะเร็งภายในร่างกายไปเบียดบัง
อวยั วะส่วนใดในขณะน้ัน ๆ
2.1 กัญชาและกัญชงกบั โรคมะเรง็ ปอด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภญ.สุรางค์ ลีละวัฒน์ ผู้อ้านวยการสถาบันวิจัยกัญชาเพ่ือ
การแพทย์ กล่าวว่าเคยมีการรายงานวิจยั พบว่า สารบริสุทธ์ิท่ีแยกได้จากกัญชา ได้แก่ สาร THC และ
สาร CBD ที่สามารถลดการเพ่ิมจ้านวนเซลล์มะเร็งปอดของมนุษย์ในหลอดทดลอง ดังน้ันจึงได้น้าไป
ศึกษาต่อ ด้วยการฉีดสารท้ัง 2 ตัวลงไปท่ีเซลล์มะเร็งปอดของมนุษย์ ในหนูทดลองทุกวัน เป็นเวลา
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกญั ชงศกึ ษา เพอื่ ใช้เป็นยา หนงั สอื เรยี นสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชวี ติ 227
อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
226
3 สัปดาห์ พบวา่ หนูทดลองท่ีไดร้ ับสารมีขนาดของก้อนมะเร็งเล็กลง จงึ สรปุ ได้ว่า สารทัง้ 2 ตวั มฤี ทธ์ิ
ต้านมะเร็งปอดของมนษุ ย์ในหลอดทดลอง และสัตวท์ ดลอง
2.2 กญั ชาและกัญชงกบั โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบรุนแรงเฉียบพลัน (Acute Leukemia) คือ กลุ่ม
โรคมะเรง็ ทางโลหิตวิทยาทเี่ กิดจากความผดิ ปกติของเซลล์ต้นกา้ เนิดเม็ดโลหติ
กรณีศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร Case Reports in Oncology ในหัวข้อ Cannabis
Extract treatment for terminal Acute Lymphoblastic Leukemia with a Philadelphia Chromosome
Mutation ซึ่งรายงานโดย Yadvinder Singh และ Chamandeep Bali เป็นการรายงานของผู้ป่วย
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Acute Lymphoblastic Leukemia) อายุ 14 ปี ซ่ึงผ่านการรักษาตาม
แพทย์แผนปัจจุบัน ท้ังการคีโมบ้าบัด และการฉายแสงเป็นเวลา 34 เดือน แต่ล้มเหลว แพทย์จึงยอม
ให้ครอบครัวใช้สารสกัดแคนนาบินอยด์ ในรูปของน้ามันกัญชง (Hemp Oil) คร้ังแรกผู้ป่วยได้รับ
น้ามันกัญชงด้วยการหยดใต้ลนิ้ ทยอยเพ่ิมขึ้นจากน้อยไปหามาก ปรากฏว่า มะเร็งเม็ดเลือดขาวลดลง
หลังการใช้น้ามันกัญชงในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่เน่ืองจากมีการเปล่ียนแปลงแหล่งที่มาของ
กัญชงแต่ละช่วง พบว่าเซลล์มะเร็งกลับขยายตัวมากข้ึน และเซลล์มะเร็งกลับลดลงได้อีก เม่ือ
เปล่ียนแปลงแหล่งท่ีมาของกัญชง ซ่ึงรายงานดังกล่าวได้ระบุอาการอย่างละเอียด จนถึงวันท่ี 78
ปรากฏว่า แม้เซลล์มะเร็งจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผู้ป่วยกลับป่วยด้วยอีกโรคหนึ่ง คือเกิดเลือดไหล
ในกระเพาะอาหาร และเสียชีวิตด้วยโรคล้าไส้ทะลุในที่สุด แม้สุดท้ายผู้ป่วยรายดังกล่าวจะเสียชีวิต
แต่ท้าให้รู้ตัวแปรการใช้น้ามันกัญชงในหลายมิติ ทั้งในเรื่องความถ่ีและปริมาณท่ีใช้ รวมถึงศักยภาพ
ของพันธุ์กัญชง ซ่ึงเป็นปัจจัยที่สา้ คัญอย่างยิ่งในการใช้กัญชงรักษาโรค และอย่างน้อยก็ท้าให้เห็นเร่อื ง
ของการลดปริมาณเซลลม์ ะเร็งเม็ดเลอื ดขาวได้จริง
ส้าหรับในประเทศไทย รองศาสตราจารย์ ดร.นพ.วโิ รจน์ ศรีอฬุ ารพงศ์ อดตี นายก
สมาคมมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย และหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคมะเร็ง
ครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงเร่ืองบทบาทของ “กัญชา” กับโรคมะเร็งไว้วา่ ในปัจจุบนั
มีแรงผลักดันให้มีการน้ากัญชามาใช้ในประเทศไทยอย่างมาก จากหลายภาคส่วนเน้นเป้าหมายว่า
กัญชาไม่ควรท่ีจะถูกจัดกลุ่มอยู่ในสารเสพติด และควรเปิดกว้างให้มีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น
เสียงเรยี กร้องที่ออกมาคลา้ ยกับว่า กัญชาเปน็ พืชท่ีมีแตป่ ระโยชน์สูงมาก มผี ลเสียน้อย ไม่ควรที่จะถูก
ปิดกั้นให้อยู่ในกลุ่มสารเสพติด หน่ึงในประเด็นส้าคัญที่มีการอ้างอย่างมาก คือ ประโยชน์ของกัญชา
ในการรักษาโรคมะเร็ง
ด้านฤทธ์ิต่อต้านมะเร็ง มีการศึกษาในประเทศไทย พบว่า กัญชาสามารถออกฤทธ์ิ
ฆ่าเซลล์มะเร็ง ในการเพาะเล้ียงเซลลใ์ นห้องทดลอง แตย่ ังไมม่ ีการศึกษาถงึ ผลของกัญชาต่อโรคมะเร็ง
ในมนุษย์ กล่าวคือ แม้ว่าจะมีการศึกษากัญชาในห้องปฏิบัติการมานานแล้ว กลับไม่มีหลักฐาน
228 หนงั สอื เรียนสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชวี ติ เพ่อื ใช้เปน็ ยา อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา
227
การน้าเอากัญชามาใช้วิจัยเพื่อรักษามะเร็งในมนุษย์ นอกจากนี้ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการน้ากัญชามา
ใชบ้ รรเทาอาการ หรือผลขา้ งเคยี งจากโรคมะเร็งได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพมากพอ จากหลกั ฐานท่ีตีพิมพ์
เผยแพร่ทางวชิ าการ
กล่าวโดยสรุป ในต่างประเทศ มีผลการศึกษาวิจัยสารในกัญชา สาร THC และ
สาร CBD ที่สามารถเช่ือถือได้ ในการรักษาโรคมะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ในประเทศไทย
มีการศึกษาการใช้กัญชาต่อต้านมะเร็งพบว่า กัญชาสามารถออกฤทธ์ิฆ่าเซลล์มะเร็งในการเพาะเล้ียง
เซลล์ในหอ้ งทดลอง แต่ยังไมม่ ีการศกึ ษาถึงผลของกัญชาต่อโรคมะเร็งในมนษุ ย์
3. กัญชาและกญั ชงกบั การลดอาการปวด
มีการศึกษาการน้ากัญชามาใช้ลดอาการปวด ส่วนใหญ่พบว่า สามารถบรรเทาอาการ
ปวดแบบเรื้อรัง (Chronic Pain) ท่ีเป็นการปวดทางระบบประสาท (Neuropathic Pain) เช่น
ปวดเสียวแปลบเหมือนไฟช็อต แสบร้อน รู้สึกยิบ ๆ ชา ๆ ท่ีมีอาการรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อ
การรักษาในยามาตรฐาน เป็นต้น สามารถบรรเทาอาการปวดได้ ส่วนการบรรเทาอาการปวด
เฉียบพลัน เช่น หลังผ่าตัด เป็นต้น ยังไม่ได้ให้ผลท่ีดีนัก เภสัชกรหญิง ดร.ผกาทิพย์ ร่ืนระเริงศักด์ิ
กล่าวว่า มีการทดลองทางคลินิก พบว่า สาร THC ในขนาด 2.5 หรือ 2.7 มิลลิกรัม สามารถช่วย
ลดอาการปวดเรื้อรังท่ีเกิดจากระบบประสาทส่วนกลาง (Central Neuropathic Pain) และช่วยให้
ผู้ป่วยนอนหลับได้เพ่ิมข้ึน มีการตั้งต้ารับยาสเปรย์ (Oromucosal Spray, Nabiximols) โดยใช้
ส่วนผสมของสาร THC และ สาร CBD ซงึ่ สามารถชว่ ยลดอาการปวดข้อ (Rheumatoid Arthritis) แต่
ส้าหรับอาการปวดเร้ือรังในผู้ป่วยมะเร็งน้ัน ยังไม่มีข้อสรุปทางคลินิกท่ีชัดเจน สารสกัดกัญชาอาจมี
ประโยชน์ในการรักษาอาการปวด แต่ยังขาดข้อมูลจากงานวิจัยสนับสนุนที่ชัดเจนเพียงพอในด้าน
ความปลอดภัย และประสทิ ธิผล ซ่งึ ยังตอ้ งศึกษาวจิ ยั ตอ่ ไปเพื่อใหผ้ ้ปู ่วยไดร้ บั ประโยชน์สงู สุด
กล่าวโดยสรุป มีการศึกษาการน้ากัญชามาใช้ลดอาการปวด ส่วนใหญ่พบว่า สามารถ
บรรเทาอาการปวดแบบเรื้อรัง (Chronic Pain) ที่เป็นการปวดทางระบบประสาท (Neuropathic
Pain) สามารถบรรเทาอาการปวดลงได้ ส่วนการบรรเทาอาการปวดเฉียบพลัน เช่น หลังผ่าตัด
ยังไม่ได้ให้ผลท่ีดี ส้าหรับอาการปวดเรื้อรังในผู้ป่วยมะเร็ง ยังไม่มีข้อสรุปทางคลินิกที่ชัดเจน สารสกัด
กัญชาอาจมีประโยชน์ในการรักษาอาการปวด แตย่ ังขาดข้อมูลจากงานวจิ ัยสนับสนุนท่ชี ัดเจนเพียงพอ
ในด้านความปลอดภยั และประสทิ ธิผล ซงึ่ ยังต้องศึกษาวิจัยต่อไปเพือ่ ใหผ้ ู้ปว่ ยไดร้ ับประโยชนส์ งู สดุ
4. กัญชาและกัญชงกับโรคลมชัก
โรคลมชักชนิดรุนแรงมี 2 ชนิด คือ Lennox - Gastaut Syndrome และ Dravet
Syndrome พบได้ในผู้ป่วยอายุ 2 ปีขึ้นไป อาการชักที่มักพบได้บ่อย มี 7 อาการซึ่งข้ึนอยู่กับแต่ละ
บุคคล ได้แก่ (1) อาการชักแบบเหม่อลอย (Absence Seizures) (2) อาการชักแบบชักเกร็ง (Tonic
Seizures) (3) อาการชักแบบกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Atonic Seizures) (4) อาการชักแบบชักกระตุก
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา เพ่ือใช้เป็นยา หนังสือเรยี นสาระทักษะการด�ำ เนินชวี ติ 229
อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
228
(Clonic Seizures) (5) อาการชักแบบชักกระตุกและเกร็ง (Tonic – Clonic Seizures) (6) อาการชัก
แบบชกั สะดุง้ (Myoclonic Seizures) และ (7) อาการชักเฉพาะส่วน (Partial หรอื Focal Seizures)
สาเหตุของโรคลมชักยังไม่เป็นที่แน่ชัด บางกรณีสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็มีหลายรายที่
ไมส่ ามารถรักษาให้หายไดท้ ้าได้เพียงยับยั้งไมใ่ หเ้ กิดอาการชกั ดว้ ยการรบั ประทานยาควบคุมอาการ
การใช้ยาผู้ป่วยโรคลมชักส่วนใหญ่ จะรักษาโดยการใช้ยาต้านอาการชัก (Anti -
Epileptic Drugs, AEDs) เพื่อควบคุมอาการชัก
ส้าหรับสรรพคุณกัญชาทางการแพทย์ท่ีใช้รักษาโรคลมชัก พบว่าในกัญชา มีสาร CBD
มีคุณสมบัติลดอาการชักเกร็ง ซ่ึงมีงานวิจัยท่ีระบุว่า กัญชามีสรรพคุณรักษาโรคลมชัก ในเด็กท่ี
รกั ษายาก หรือในผปู้ ว่ ยเดก็ โรคลมชักที่ด้ือต่อการรักษาด้วยวิธตี ่าง ๆ โดยแพทยห์ ญงิ อาภาศรี ลสุ วสั ด์ิ
กุมารประสาทวิทยา สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า การใช้น้ามันกัญชาท่ีมีสาร CBD สูง หรือ
แคนนาบินอยด์ ออยล์ (Cannabinoid Oil) ร้อยละ 99 ในผู้ป่วยโรคลมชักในเด็ก มีผลการศึกษาว่า
ใช้ได้ผลดีกับกลุ่มอาการชักรักษายาก คือ ชักเกร็งกระตุกท้ังตัวอย่างรุนแรง และชักแบบผงกหัวท่ีเสี่ยงต่อ
การหัวแตก ส่วนหลักเกณฑ์ในการขอใช้แคนนาบินอยด์ ออยล์ (Cannabinoid Oil) นายแพทย์
อรรถสิทธ์ิ ศรีสุบัติ ผู้อ้านวยการสถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ กรมการแพทย์
กล่าวว่า สถานพยาบาล ที่จะใช้แคนนาบินอยด์ ออยล์ (Cannabinoid Oil) จะต้องขออนุญาตกับ
ส้านักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนการน้ามาใช้กับผู้ป่วยต้องเป็นผู้ป่วยท่ีมีความ
จา้ เปน็ จริง ๆ เช่น การใช้ยาหรอื ผา่ ตดั แลว้ ไม่ได้ผล เป็นต้น
ในประเทศไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเม่ือวันที่ 8 พฤศจิกายน
2561 ถึงประโยชน์ของสารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์ ในการน้าสาร CBD มาใช้กับโรคลมชัก
ที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา ซึ่งกัญชาเองก็ไม่ได้ท้าให้โรคลมชักหายขาด แต่ช่วยลด
ความถ่ีของการชกั ได้
กล่าวโดยสรุป ส้าหรับกญั ชาที่องค์การอาหารและยา (Food and Drug Administration)
ของประเทศสหรัฐอเมริกา อนุมัติยาจากสารสกัดกัญชาตัวแรก (ไม่ใช่สารสังเคราะห์) ช่ือการค้า
Epidiolex® ประกอบด้วยตัวยา CBD 100 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ในรูปแบบสารละลายให้ทางปาก
(Oral Solution) โดยมีข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคลมชักชนิดรุนแรง 2 ชนิด คือ Lennox - Gastaut
Syndrome และ Dravet Syndrome ในผปู้ ว่ ยอายุ 2 ปีขนึ้ ไป
ในประเทศไทย กรมการแพทย์ ประกาศถึงประโยชน์ของสารสกัดจากกัญชาทาง
การแพทย์ ในการนา้ ตัวยา CBD มาใช้กบั โรคลมชักทร่ี กั ษายาก และโรคลมชักทดี่ ือ้ ตอ่ ยารักษาเทา่ น้ัน
5. กญั ชาและกญั ชงกับโรคผิวหนงั
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) คือ โรคผิวหนังเร้ือรัง เป็นสภาพผิวท่ีน้าไปสู่การสะสมของ
เซลลบ์ นพื้นผิวหนงั ทา้ ให้เกิดการอักเสบเป็นผ่ืนหนาหยาบขนาดใหญส่ ีแดง และมสี ะเกด็ สเี งนิ ปกคลุม
230 หนงั สือเรียนสาระทักษะการดำ�เนินชีวติ เพือ่ ใช้เป็นยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกัญชงศกึ ษา
229
ท่ีผิวหนัง ซ่ึงเกิดที่ต้าแหน่งใดของร่างกายก็ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไปตามชนิดของ
โรคสะเก็ดเงินท่ีผู้ป่วยเป็น ความผิดปกติท่ีพบได้บ่อยตามร่างกาย เช่น ผิวหนังมีลักษณะแดง
ตกสะเก็ดเป็นขุยสีขาว เป็นผ่ืนแดงนูน เกิดการอักเสบของผิว ผิวแห้งมากจนแตก และมีเลือดออก
หนังศีรษะลอกเป็นขุย เล็บมือและเล็บเท้าหนาขึ้น มีรอยบุ๋ม ผิดรูปทรง ปวดข้อต่อ และมีอาการบวม
ตามข้อต่อ และยังท้าให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บ คัน หรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนัง ซึ่งอาการของโรค
แต่ละชนิดมีความคล้ายคลึงกัน อาการอาจคงอยู่นานหลายวันไปจนถึงหลายสัปดาห์ แล้วค่อย ๆ
บรรเทาลง แต่เมื่อมีส่ิงมากระตุ้นก็อาจท้าให้อาการของโรคก้าเริบข้ึนมาได้ สาเหตุการเกิดโรคสะเก็ดเงิน
ยังไม่ชัดเจน แต่คาดการณ์ว่าปัจจัยส้าคัญ ท่ีท้าให้เกิดการพัฒนาของโรคอาจมาจากเซลล์
เมด็ เลือดขาว ในระบบภูมิคมุ้ กนั เกิดความผิดปกติ จึงไดท้ า้ ลายเซลลผ์ วิ หนังแทนสงิ่ แปลกปลอมที่เข้าสู่
ร่างกาย และมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดโรคได้ เช่น การบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง การติดเช้ือ HIV
ยาหรืออาหารบางชนิด ความเครียด เป็นต้น ซึ่งปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละ
บคุ คล
การรักษา โรคสะเก็ดเงินไม่สามารถรักษาได้หายขาด แต่การรักษาท้าได้เพียงบรรเทา
อาการให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น ลดการอักเสบ และผิวหนังท่ีตกสะเก็ด ชะลอการเติบโตของเซลล์ผิวหนัง
และขจัดผิวหนังที่เป็นแผ่นแข็ง ซึ่งการรักษาสามารถท้าได้หลายวิธี ผู้ป่วยที่มีอาการเพียงเล็กน้อยถึง
ปานกลาง อาจรักษาด้วยการใช้ยาทาภายนอก ส่วนในรายที่มีอาการปานกลางไปจนถึงรนุ แรง แพทย์
อาจรักษาด้วยการให้ยารับประทาน ยาฉีดหรือการฉายแสงด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต การรักษาอาจใช้
หลายวิธีควบคู่กัน เพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น นอกจากน้ีผู้ป่วยควรมีการดูแลเรื่องการรับประทานอาหาร
ระมัดระวังการรบั ประทานวิตามินเสริม หลีกเล่ียงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหร่ี ควบคุมน้าหนักให้
อยูใ่ นเกณฑ์ปกติ
ส้าหรับกัญชาที่ใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน นายแพทย์เวสารัช เวสสโกวิท ที่ปรึกษา
ผู้อ้านวยการด้านวิชาการ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศึกษาวิจัย
เกี่ยวกับการน้าน้ามันกัญชา เมดิคัลเกรด ที่องค์การเภสัชกรรมจะผลิตมาใช้ในการวิจัยรักษาโรค
โดยในส่วนของสถาบันโรคผิวหนัง เบื้องต้นจะด้าเนินการศึกษาวิจัยสารสกัดน้ามันกัญชา ส้าหรับโรค
ผิวหนัง 2 โรค ได้แก่ โรคสะเก็ดเงิน และกรรมพันธุ์ผิวหนัง ชนิดหนังหนาแต่ก้าเนิด ส้าหรับ
ในต่างประเทศ มีการค้นพบการรักษาโรคมะเร็งผิวหนังด้วยกัญชา ในปี ค.ศ. 2003 นายริค ซิมป์สัน
(Rick Simpson) สังเกตเห็น “ตุ่ม” ผิดปกติท่ีผิวหนังบนแขน จ้านวน 3 ตุ่ม และเมื่อไปพบแพทย์
ผลการตรวจช้ินเน้ือยืนยันว่าเป็น “มะเร็งผิวหนัง” เขาจึงตัดสินใจจะใช้กัญชาในการรักษามะเร็ง
ผวิ หนงั ดว้ ยตัวเขาเอง เพราะเคยอา่ นได้ยนิ มาวา่ สาร THC สามารถฆา่ เซลลม์ ะเรง็ ในหนูทดลอง เขาจึง
สกัดกัญชาแล้วน้ามาประคบไว้บริเวณที่เป็นตุ่มเนื้อมะเร็งบนผิวหนัง หลังจากนั้น 4 วัน เขาพบว่า
ตุ่มเนื้อ มีขนาดลดลงอย่างมาก จากนั้นมาเขาก็พัฒนาสูตรในการผลิตกัญชาสกัดเป็นของตนเอง
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกัญชงศึกษา เพื่อใช้เปน็ ยา หนังสือเรียนสาระทักษะการดำ�เนินชวี ิต 231
อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
230
230
เรียกว่า ริค ซิมป์สัน ออยล์ (Rick Simpson Oil, RSO) แล้วน้ามาเผยแพร่แก่ประชาชนชาวสหรฐั อเมริกา
เแรลียะกปว่ราะรเิคทศซอิมังปก์สฤันษอทอายงลอ์ ิน(RเiทckอรS์เimน็ตpsแoตn่ใOนiปl,รRะSเOท)ศแไทล้วยนย้าังมไามเ่มผีกยาแรพวริจ่แัยกท่ป่ีชรัดะเชจานชเนกี่ยชวาวกสับหปรรฐั ะอสเิทมธริผิกลา
ขแอลงะกปารระใเชทส้ ศาอรังสกกฤดั ษนทา้ มางนั อกินญั เทชาอรรกั ์เนษ็ตา ทแตัง้ ่ใ2นปโรรคะนเท้ี ศไทย ยังไม่มีการวิจัยท่ีชัดเจนเก่ียวกับประสิทธิผล
ของการใชส้ ารกสลก่าดั วนโด้ายมสนั รกุปัญนชาายรกัแพษทายท์เวั้งส2ารโชัรคเวนสี้ สโกวิท ศึกษาวิจยั เก่ียวกับการน้าน้ามันกัญชามาใช้ใน
โรคสะเก็ดเงินกแลล่าะวโกดรยรสมรพุปันธน์ุผายิวแหพนทังยช์เนวิดสหารนชั ังหเวนสาสแโกตว่กทิ ้าเศนกึิดษสาว้าจิหัยรเับกใ่ยี นวตก่าับงกปารระนเา้ทนศ้ามนันากยัญริคชาซมิมาปใช์ส้ใันน
โ(RรคicสkะSเกim็ดเpงsินonแ)ลมะกีกรารรมคพ้นันพธบุ์ผกิวาหรนรังักชษนาิดโรหคนมังะหเนรา็งแผติว่กห้านเันงดิด้วสย้ากหัญรชับาในโตด่ายงผปลริตะนเท้าศมันนกาัญยรชิคา ซเริมียปก์สวัน่า
(รRิคicซkิมSปim์สันpsอoอnย)ลม์ (ีกRiาcรkคS้นimพpบsกoาnรOรัiกl,ษRาSโOร)คแมละ้วเรน็ง้าผมิวาหเผนยังแดพ้วยร่แกกัญ่ปชราะโชดายชผนลชิตานวส้ามหันรัฐกอัญเมชาริกเารียแกลวะ่า
รปิคระซเิทมปศ์อสงัันกอฤอษยทล์า(งRอicนิ kเSทiอmรp์เนso็ตn Oil, RSO) แล้วน้ามาเผยแพร่แก่ประชาชนชาวสหรัฐอเมริกา และ
ประเทศองั 6ก.ฤกษัญทชาางแอลนิ ะเกทัญอรช์เงนกต็ ับโรคต้อหนิ
6. กกัญารชศากึ แษลาะวกจิ ัญยั ชเกงยี่กวบั กโับรคกตารอ้ รหกั นิ ษาโรคต้อหินดว้ ยกัญชา พบว่าการใช้กัญชา ท้าให้ความดัน
ในลูกตาลดลงกไาดร้ศมึกีฤษทาธวิ์จิอัยยเู่ไกดย่ี ้เวพกียบั งก3ารชรั่วกั โษมางโรแคลตะ้อขหึ้นินอดย้วู่ยกกับัญปชริามาพณบกวาา่ กราใชรใ้กชัญ้กชัญาชดา้วทยา้ ซให่ึงค้อวาาจมเพดัน่ิม
กในารลเูกกติดาผลลดขล้างงเไคดีย้ งมจีฤาทกธกิ์อารยไู่ไดดร้ ้เับพขียนงา3ดยชาั่วกโัญมงชาแมลาะกขเก้ึนนิ อไยปู่กัไบดปแ้ รกิม่ คาวณากมาดรันใโชล้กหัญติ ตช่้าาลดง้วยแลซะึ่งหอัวาใจจเเพต้น่ิม
กเรา็วรขเก้ึนิดผดล้วขยา้เหงเตคุผียงลจทา่ีวก่ากมาีหรไลดา้รยับปขัจนจาัยดเยขา้ากมัญาชเกาม่ียาวกขเ้อกงนิ ใไนปกไาดร้แคกว่ บคควุามมคดวันาโมลดหันิตลตูก้่าลตงา แไลมะ่วห่าัวจใะจเเปต็น้น
รเระ็วยขะ้ึนเวลดา้วกยาเรหอตอุผกลฤทที่วธ่า์ิ คมวีหาลมาแยรปงขัจอจงัยยเาขก้าัญมาชเากี่ยทว้าขให้อ้ใงนใทนากงากราครวแบพคทุมยค์แผวนามปดัจันจุบลูันกยตังาไมไม่ยอ่ว่มาจรับะเกปา็นร
นระ้ายกะัญเวชลาากมาารใอชอ้รกักฤษทาธโริ์ คควตา้อมหแินรงเขนอื่องยงจากากัญยชาาแทผ้านใปหัจ้ในจทุบาันงสกาามรแาพรถทคยุม์แผคนวาปมัจดจันุบัในนยลังูไกมต่ยาอไมดร้อับยก่าางมรี
นป้ราะกสัญิทชธาภิ ามพาคใชงท้รั่ีกแษลาะโสรมค้า่ ตเส้อมหอินมาเนก่ืกอวง่าจากยาแผนปัจจุบันสามารถคุมความดันในลูกตาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพคงท่ี และสม้า่ เสมอมากกว่า
กญั ชาชถถว่ ยาาลมมดความดันจรงิ หรือไม่
กัญชาช่วยลดความดันจริงหรอื ไม่
จตตรออิง สบบารในกัญชามผี ลท้าใหห้ ลอดเลอื ดขยาย ดงั นั้นจึงมีผลทา้ ให้ความดัน
จลรดิงลสงไาดร้จในริงกัญแตช่ไามมค่ ผี วลรทใช้าใ้แหทห้ นลยอาดลเดลคอื วดาขมยดาันย เดนงั อ่ื นง้ันจจาึงกมยผีังลมทผี ลา้ ใขห้า้คงเวคาียมงดอนั นื่
ผลูป้ดลว่ ยงไคดวจ้ ารมิงดแนั ตคไ่ วมรค่ รวับรปใชระ้แททานนยยาาลตดาคมวทา่ีแมพดนัทยเ์สนง่ัอื่ งจากยงั มีผลข้างเคียงอ่นื
ผู้ป่วยความดันควรรบั ประทานยาตามท่ีแพทย์ส่งั
เเรรือ่อื่ งงทท่ีี่ 33เร1ื่อ.กกงาานทรร้าใใม่ี ชช3ัน้น้นก้้าาัญกมมาชัันนรากกใคญญััชอื ชช้นอาาะ้�ำแแไมรลลันะะกกกญัััญญชชชงงากกแับบั ลกกะาากรรแแญั พพชททงยยกแ์แ์ ับผผกนนาปปรัจจั แจจพุุบบทนันั ยแ์ ผนปัจจบุ นั
1. นน้้าามมนัันกกัญัญชชาาคือคอือะไสรารสกัดกัญชา (Cannabis Extract) ที่เจือจางอยู่ในน้ามันตัวพา
(Carrier Oils นห้ารมอื ันDกilัญueชnาt)คสือ่วนสมาารกสนกยิัดมกใัญช้นชา้ ามนั(CมaะnกnอaกbiแsลEะxนtrา้ aมcันt)มทะพี่เจรือ้าวจสากงัดอเยยู่ใน็ นนโด้ายมหันาตกัวผพ่านา
(Carrier Oils หรือ Diluent) ส่วนมากนยิ มใช้น้ามันมะกอก และนา้ มันมะพร้าวสกัดเยน็ โดยหากผ่าน
232 หนงั สือเรยี นสาระทกั ษะการด�ำ เนนิ ชีวิต เพอื่ ใชเ้ ปน็ ยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศึกษา
231
การผลิตที่ได้มาตรฐานจะมีการควบคุมคุณภาพของปริมาณสารส้าคัญ หรือตัวยาให้มีสัดส่วน และ
ปริมาณตรงตามท่ีระบุในฉลากหรือเอกสารก้ากับยา แต่น้ามันกัญชาท่ีผลิตขึ้นมาใช้เอง และไม่ผ่าน
การควบคุมคุณภาพ ผู้ใช้จะไม่สามารถทราบได้เลยว่าปริมาณความเข้มข้นของตัวยา THC และ CBD
มีอย่ปู รมิ าณเทา่ ใด เน่ืองจากความเข้มขน้ ของตวั ยาไม่ขนึ้ อยู่กับความเขม้ ของสีนา้ มนั กัญชาแต่อย่างใด
2. ลกั ษณะของน้ามันกัญชา
น้ามันกัญชาที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ปัจจุบันมักจะเป็นรูปแบบของ
น้ามันท่ีมีสีเหลอื งอ่อนไปจนถึงสนี ้าตาล ลักษณะข้นหนืด ข้ึนอยู่กับการเตรียมต้ารับ และการสกัดของ
ผผู้ ลิต และนิยมบรรจุในขวดแก้วทึบแสงทีม่ ีหลอดหยด
3. สูตรของน้ามนั กญั ชา
น้ามันกัญชาที่มีการผลิตอย่างได้มาตรฐานในประเทศไทย มีท้ังจากองค์การเภสัชกรรม
(GPO) และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในที่นี้ขอน้าเสนอเฉพาะสูตรน้ามันกัญชาของ
โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภัยภเู บศร โดยมรี ายละเอยี ด ดังนี้
สูตรที่ 1 น้ามันสูตร THC สูง (ร้อยละ 1.7 หรือ 0.5 มิลลิกรัมต่อหยด) ข้อบ่งใช้ ภาวะ
คล่ืนไส้อาเจียนจากเคมีบ้าบัด กระตุ้นความอยากอาหารในผู้ป่วยโรคเอดส์ และอาจใช้ในภาวะปวด
จากระบบประสาท เพิม่ คุณภาพชีวิตในผปู้ ่วยมะเรง็ ระยะสุดทา้ ย หรือใช้ตามแพทย์สงั่
สูตรที่ 2 น้ามันสูตร THC : CBD ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน (ร้อยละ 2.7 : 2.5) ข้อบ่งใช้
ภาวะกล้ามเนือ้ หดเกรง็ ผปู้ ว่ ยโรคปลอกประสาทเสอ่ื มแข็ง และอาจใช้ในภาวะปวดจากระบบประสาท
หรือใชต้ ามแพทยส์ ง่ั
สูตรท่ี 3 น้ามันสูตร CBD สูง (มี CBD ร้อยละ 10) ข้อบ่งใช้ รักษาโรคลมชักท่ีรักษายาก
หรือด้อื ตอ่ การรักษา โรคพาร์กินสนั หรอื ใช้ตามแพทยส์ ง่ั
ภาพที่ 77 ตัวอย่างน้ามันกญั ชา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
รายวิชา ทช33098 กญั ชาและกญั ชงศกึ ษา เพ่อื ใชเ้ ป็นยา หนงั สอื เรยี นสาระทักษะการด�ำ เนินชีวิต 233
อย่างชาญฉลาด | ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
232
นอกจากน้มี ีตวั อย่างนา้ มันกญั ชาจากองค์การเภสชั กรรม (GPO) ให้ไดศ้ ึกษา ดงั ภาพ
ภาพท่ี 78 ตวั อยา่ งน้ามนั กัญชาทง้ั 3 สตู รขององคก์ ารเภสัชกรรม (GPO)
ในต่างประเทศ อาจจะพบน้ามันกัญชาสูตรอื่น ๆ ท่ีแตกต่างกับประเทศไทย เนื่องจาก
ในบางประเทศมีการอนุญาตให้ใช้มานานมากกว่าในประเทศไทย น้ามันกัญชาจึงมีการพัฒนา และ
คิดค้นไว้หลากหลายสูตร แต่โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ที่มีการวางขายอย่างถูกต้อง จะมีการควบคุม
คุณภาพ และระบุปริมาณตัวยาส้าคัญคือ THC และ CBD อย่างชัดเจน เช่น ในประเทศแคนาดา
มีน้ามันกัญชาสูตรท่ีมี THC สูงกว่า ร้อยละ 20 มีสูตร THC : CBD ในอัตราส่วนแตกต่างกัน ต้ังแต่
0 : 1, 1 : 2, 1 : 1, 2 : 1, 1 : 0, 30 : 1 และ 1 : 30 เป็นต้น
4. วิธกี ารสกัดน้ามนั กญั ชา
การสกัดน้ามันกัญชาด้วยตนเองเป็นวิธีการท่ีไม่ปลอดภัย และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ควร
ใช้ผลิตภัณฑ์น้ามันกัญชาที่มีมาตรฐาน ได้รับจากคลินิกกัญชาที่มีแพทย์อนุญาตให้ใช้น้ามันกัญชาใน
การรักษาโรค จงึ จะมคี วามปลอดภัย
5. วิธกี ารใชน้ ้ามนั กัญชา
ขนาดการใช้น้ามันกัญชา จะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และเภสัชกร โดยมีหลักการ
คือเริ่มใช้น้ามันกัญชาท่ีขนาดต้่า ๆ โดยแนะน้าให้เริ่มที่ 0.05 - 0.1 ซีซี หรือเท่ากับ 1 - 2 หยด และ
ปรับเพ่ิมขนาดมากขึ้นตามคาแนะนาของแพทย์เท่านั้น การหยดน้ามันให้หยดก่อนนอน บริเวณใต้ลิ้น
เพ่ือให้ตัวยาสามารถซึมผ่านเส้นเลือดใต้ลิ้น และออกฤทธ์ิอย่างรวดเร็ว เพ่ือหลีกเล่ียงการถูก
เปล่ียนแปลงยาที่ตับ เน่ืองจากอาจท้าให้ประสิทธิภาพของยาลดลง หลังหยดน้ามันกัญชา ห้ามด่ืมน้า
กลืนนา้ ลาย และรบั ประทานอาหาร หลงั หยดนา้ มันกัญชาทนั ที ควรเว้นระยะใหต้ วั ยาดูดซึมประมาณ
234 หนังสอื เรียนสาระทกั ษะการดำ�เนินชวี ติ เพื่อใชเ้ ปน็ ยา อย่างชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา
233
5 นาที หากลมื ใชย้ าไมค่ วรเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เทา่ น้ามันกญั ชาอาจจะท้าให้มภี าวะง่วงซึม จึงแนะน้า
ให้ใช้เวลากอ่ นนอน และหลกี เลี่ยงการทา้ งานใกล้เคร่ืองจกั ร หรือขับรถ
กลา่ วโดยสรปุ น้ามันกญั ชา คือ สารสกดั กัญชา (Cannabis Extract) ท่เี จอื จางอยู่ในน้ามัน
ตัวพา (Carrier Oils หรือ Diluent) ส่วนมากนิยมใช้น้ามันมะกอก และน้ามันมะพร้าวสกัดเย็น
โดยหากผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐานจะมีการควบคุมคุณภาพของปริมาณสารส้าคัญ ปริมาณ
ความเข้มขน้ ของตวั ยา THC และ CBD รูปแบบของนา้ มนั กญั ชามสี ีเหลืองอ่อนจนถึงสีน้าตาล ลักษณะ
ข้นหนืด น้ามันกัญชาท่ีมีการผลิตอย่างได้มาตรฐาน ในประเทศไทยจากองค์การเภสัชกรรม และ
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร ปัจจบุ นั มอี ยู่ 3 สตู ร สูตรที่ 1 นา้ มนั สูตร THC สงู สตู รที่ 2 นา้ มัน
สูตร THC : CBD ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน สูตรท่ี 3 น้ามันสูตร CBD สูง วิธีการสกัดน้ามันกัญชา
ด้วยตนเองเป็นวิธีการท่ีไม่ปลอดภัย และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์น้ามันกัญชาท่ีมี
มาตรฐาน ได้รับจากคลินิกกัญชา ท่ีมีแพทย์อนุญาตให้ใช้น้ามันกัญชาในการรักษาโรคจึงจะมี
ความปลอดภัย ขนาดการใช้น้ามันกัญชาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และเภสัชกร
โดยมีหลักการ คือ เริ่มใช้น้ามันกัญชาท่ีขนาดต้่า ๆ โดยแนะน้าให้เริ่มท่ี 0.05 - 0.1 ซีซี หรือเท่ากับ
1 - 2 หยด และปรับเพ่ิมขนาดมากข้ึนตามคาแนะนาของแพทย์เท่านั้น น้ามันกัญชาอาจจะท้าให้มี
ภาวะง่วงซึม จึงแนะนา้ ให้ใชเ้ วลาก่อนนอน และหลีกเล่ยี งการทา้ งานใกล้เคร่ืองจกั ร หรือขบั รถ
ถาม
การดืม่ หรอื กนิ ผลติ ภัณฑ์ท่มี ีกัญชาเปน็ สว่ นประกอบท้าใหเ้ มาคา้ งนาน
มากกวา่ การสูบกัญชาหรอื ใชน้ ้ามันกัญชาหยดใตล้ ิน้ จริงหรอื ไม่
ตอบ
จรงิ ในปริมาณท่ีเท่ากันการด่ืมหรอื กินผลติ ภัณฑ์ทีม่ ีกัญชาเปน็
ส่วนประกอบจะถกู เปลย่ี นแปลงทต่ี บั ท้าให้เปล่ยี นแปลงไปเป็นสารที่มีฤทธ์ิ
เมาแรงข้ึน และเกดิ การขบั ออกจากร่างกายได้ช้ากว่า
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ยา หนงั สือเรียนสาระทักษะการดำ�เนนิ ชีวติ 235
อยา่ งชาญฉลาด | ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
234
234
ถาม
การดืม่ ถหารอื มรับประทานผลติ ภัณฑท์ มี่ ีกัญชาเปน็ ส่วนประกอบท้าให้ออก
ฤกทาธร์ชิ ด้าม่ืกหวา่รกอื ารรับสปบู รกะญัทาชนาหผลรอืิตใภชณั น้ ฑ้ามท์ ัน่ีมกีกญััญชชาาหเปยน็ดสใต่ว้ลนิน้ปรจะรกงิ อหบรือทไ้ามให่ ้ออก
ตฤทอธบช์ิ ้ากว่าการสูบกัญชาหรอื ใชน้ า้ มนั กัญชาหยดใตล้ นิ้ จรงิ หรือไม่
ตจอรงิ บเน่อื งจากการดม่ื หรอื รบั ประทานผลิตภณั ฑท์ ม่ี กี ญั ชาเป็น
จสร่วงิ นเปนรอื่ ะงกจอาบกจกะาตรดอ้ ื่มงผห่ารนือทรบัางปเดระินทอาานหผาลรกิตอ่ภนณั จฑงึ จท์ ะี่มเีกกญัดิ กชาารเปด็นูดซึม ท้าให้
อสอ่วกนฤปทรธะิ์ชกา้ อแบตจ่กะาตร้อสงบูผก่านัญทชาางหเดรอืินใอชา้นหา้ ามรนักกอ่ ญันจชึงาจหะยเดกใดิ ตกล้ า้นิ รจดะูดซซึมมึ ทา้ ให้
อเขอา้ กสฤูก่ ทรธะชิ์แา้สเแลตือ่กดาโรดสยบูตกรงญั จชึงาอหอรกือฤใทชธน้ ์เิ ้ารมว็ กนั วก่าญั ชาหยดใต้ลิ้นจะซึม
เขา้ สกู่ ระแสเลอื ดโดยตรงจงึ ออกฤทธ์เิ ร็วกวา่
เร่อื งท่ี 44เผรลผผือ่ ิตลลงภทิติตัณ่ีภภ4ฑณัณั ์สฑฑผ้าเลก์ก์ร็จติญญัั รภชชูปณั จาาาแแฑกลล์กกะะัญัญกกชชััญญาาเชชพแงง่ือลททใะชาาก้ปงงญั กกระาาชโรรงยแแทชพพนาท์ททงกายยงา์์กราแรพแพททยย์ ์ส้าหรับคน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์
เร่ืองที่
กัญชา ท่ีไดผ้รลับิตกภาัณรฑขึ้น์สท้าเะรเ็จบรียูปนจใานกปกรัญะชเทาเศพส่ือหใชรั้ปฐอระเมโยริกชนาท์ หารงือกผารลแิตพภทัณยฑ์ส์ก้าัญหรชับาคทน่ีใชป้ในัจทจุบางันกผาลริตแภพัณทฑย์์
กมัญีหลชาายทรี่ไูปดแ้รบับบกาเรชข่นึ้นทรูะปเแบบียบนนใน้าปมันระหเยทดศใสตห้ลร้ินัฐอทเม่ีมรีกิกาารสห่ังรใือชผ้โดลยิตแภพัณทฑย์ก์ใัญนชปารทะี่ใเชท้ใศนอทิสารงากเาอรลแพแทละย์
ปมีหร ะลเาทยศรูปไ ทแบย บรู ปเชแ่นบ รบูปแแคบปบซนู ล้ามสันเ ปหรยยด์ ฉใตี ด้ลพ้ิน่ น ใทตี่ม้ ลีกิ้ นารยสา่ังเใมช็ ด้โดยยาแเพหทนย็ บ์ในทปวราะรเทหศรอื อิสรรู ปาแเอบลบ แแผล่ นะ
ปแประะบเทนผศวิไหทนยัง รซูป่ึงผแลบติ บภแณั คฑป์กซัญูลชาสจเะปมรีสยูต์ฉรีดแตพก่นตใา่ ตง้ลกิ้ันนตยามาเสมดั ็ดสว่ ยนาแเหลนะป็บรทิมวาณารสาหรรสือ้าครัญูปแสบารบแTผH่นC
แแปละะสบานรผวิCหBนDัง แซลึง่ ผะใลชิต้ใภนณั กลฑุ่ม์กโญั รคชทาจ่ีแะตมกีสตูต่ารงแกตันกผตล่าิตงกภนั ัณตฑาม์กัสญดั ชสา่วทนี่ไดแ้รลับะกปารริมขาึ้นณทสะาเบรสีย้านค(ัญReสgาisรteTrHeCd
แDลruะgส)าขรณCะBนDี้มีอแยลู่ ะ3ใชร้ใูปนแกบลบุ่มโนรคอทกจี่แาตกกนตี้ย่าังงมกีันกาผรพลิตัฒภนัณาผฑล์กิตัญภชัณาทฑี่ไ์สด้า้รหับรกับาสรัตขวึ้น์เทพะ่ือเใบชีย้ในนก(าRรeรgักisษteาrโeรคd
Dในrตu่าgง)ปขรณะเะทนศ้ีมดีอ้วยยู่ 3 รูปแบบ นอกจากน้ียังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ส้าหรับสัตว์เพ่ือใช้ในการรักษาโรค
ในตา่ งประเ1ท.ศผดล้วิตยภณั ฑ์ THC สงั เคราะห์ (Synthetic THC)
1. 1ผ.ล1ติ ภยณั าโฑด์รTนHาบCนิ สองั ลเค(รDาrะoหn์a(bSiynnotlh)eชt่อื icกาTรHคC้า)คือ มารินอล (Marinol®) เป็นเม็ดเจลลาติน
แคปซูล บรรจ1ุต.1ัวยยาาโTดHรนCามบีคนิ อวลาม(แDรroงnตa้ังbแiตno่ 2l).5ช่ือ- ก1า0รคมา้ ิลคลือิกมราัมรินมอีขล้อบ(M่งaใชrin้ เoพl®่ือ)ลเดปอ็นาเมก็ดาเรจคลลล่ืานตไินส้
แอาคเปจียซนูลจบากรยรจาเุตคัวมยีบา้าบTัดHใCนผมู้ปีค่ววยามมะแเรร็งงตใั้งนแกตร่ณ2ีท.5ใ่ี ช-ย้ 1า0อ่นื มแิลลลว้ ิกไมรัม่ไดมผ้ ลีข้อแบล่งะใกชร้ ะเพตนุ้่ือคลวดาอมาอกยาารกคอลา่ืนหไาสร้
อในาผเจูป้ ีย่วนยจเอากดยสา์ ทเคี่มมีภีบาา้วบะัดนใ้านหผนู้ปักว่ ลยดมแะเลระ็งเบในอื่ กอราณหาีทรใี่ รชุนย้ แารอง่นื (แAลnว้ oไมre่ไxดiผ้a)ล และกระตนุ้ ความอยากอาหาร
ในผ้ปู ่วยเอดส์ ทม่ี ภี าวะน้าหนกั ลด และเบ่ืออาหารรุนแรง (Anorexia)
236 หนงั สือเรยี นสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวิต เพอื่ ใช้เป็นยา อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวชิ า ทช33098 กัญชาและกัญชงศกึ ษา
235
ภาพที่ 79 โดรนาบนิ อล (Dronabinol)
1.2 นาบิโลน (Nabilone) ช่ือการคา้ คอื ซีซาเมท (Cesamet®) เป็นผลิตภณั ฑ์รูปแบบ
แคปซูลตัวยา คือ อนาล็อก ของสาร THC ขนาดความแรง 1 มิลลิกรัมต่อเม็ด ใช้ป้องกัน การคล่ืนไส้
การอาเจยี น ที่เกิดจากยารกั ษาโรคมะเรง็ ใชใ้ นกรณที ี่ใชย้ าอ่ืนไม่ได้ผล
ภาพที่ 80 นาบิโลน (Nabilone)
รายวชิ า ทช33098 กญั ชาและกัญชงศกึ ษา เพ่ือใชเ้ ปน็ ยา หนงั สอื เรียนสาระทักษะการด�ำ เนนิ ชีวติ 237
อยา่ งชาญฉลาด | ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย