แผนการจดั การเรียนรู้
รายวิชา ภาษาองั กฤษ ๕ อ ๒๓๑๐๑
ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓
ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๓
โดย
นางสาวภาวดี ภาระหตั ถ์
โรงเรียนอ่มุ เหม้าประชาสรรค์
สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษานครพนม
คานา
การจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ ๕ รหสั วชิ า อ ๒๓๑๐๑ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี
๓ เพ่อื อานวยความสะดวกแก่ครูผู้สอน ทาให้มกี ารเตรยี มการสอนอย่างเป็นระบบและเป็นเคร่อื งมอื ท่จี ะช่วยจดั
กจิ กรรมการเรยี นการสอนใหบ้ รรลุจุดประสงคก์ ารเรยี นรูแ้ ละจุดมุ่งหมายของหลกั สูตร แผนการจดั การเรยี นรูแ้ ต่ละ
แผนเน้นกระบวนการให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และประเมินผลด้วยตนเอง ทุกแผนระบุสาระสาคญั
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้ือหาสาระ กจิ กรรมการเรยี นการสอน ส่อื การเรยี นการสอน การวดั ผลประเมนิ ผล สาหรบั
กิจกรรมการเรียนการสอนได้เสนอขนั้ ตอนไว้อย่างชดั เจน มีการทดสอบหลังเรียนเพ่อื ให้นักเรียนได้ตรวจสอบ
ความกา้ วหน้า
ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอย่างยงิ่ ว่าแผนการจดั การเรยี นรเู้ ลม่ น้จี ะเป็นประโยชน์แก่ครแู ละนกั เรยี นในการพฒั นาการ
เรยี นการสอนภาษาองั กฤษใหบ้ รรลุผลตามจดุ ประสงคข์ องหลกั สตู รตอ่ ไป
นางสาวภาวดี ภาระหตั ถ์
สารบญั
เร่อื ง หน้า
คานา (๑)
สารบญั (๑)
การวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร (๑)
(๒)
วสิ ยั ทศั น์ (๓)
หลกั การ (๔)
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น (๑๐)
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (๑๑)
สาระการเรยี นรแู้ ละมาตรฐานการเรยี นรู้ (๑๒)
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
คาอธบิ ายรายวชิ า ๑
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ วั ชว้ี ดั ๕๘
กาหนดการสอน ๑๑๒
๑๖๕
แผนการจดั การเรียนรู้ 1
2
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี
การวิเคราะหห์ ลักสูตร
วสิ ยั ทัศน์
หลักสูตรโรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์ มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้ง
ด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน รวมท้งั เจตคติ ทจี่ ำเป็นต่อการศึกษาต่อ การ
ประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และ
พัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศกั ยภาพ
หลักการ
หลกั สตู รโรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์ มหี ลกั การท่ีสำคัญ ดังน้ี
๑. เป็นหลกั สูตรการศกึ ษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจดุ หมายและมาตรฐานการเรียนรเู้ ปน็ เปา้ หมาย
สำหรบั พัฒนาเด็กและเยาวชนใหม้ ีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพน้ื ฐานของความเปน็ ไทยควบคู่กับความเปน็
สากล
๒. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาเพ่ือปวงชนท่ีประชาชนทุกคนมีโอกาสไดร้ ับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมีคณุ ภาพ
๓. เป็นหลกั สตู รการศกึ ษาที่สนองการกระจายอำนาจใหส้ ังคมมสี ว่ นร่วมในการจดั การศึกษาใหส้ อดคล้องกบั
สภาพและความต้องการของท้องถนิ่
๔. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาท่ีมีโครงสร้างยดื หยุ่นทัง้ ด้านสาระการเรยี นรู้ เวลา และการจัดการเรียนรู้
๕. เป็นหลักสูตรการศึกษาทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
๖. เป็นหลกั สูตรการศึกษาสำหรับการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศัย ครอบคลมุ ทุกกลุ่มเป้าหมาย
สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานท่ี
กำหนด ซง่ึ จะช่วยใหผ้ ู้เรียนเกดิ สมรรถนะสำคัญและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดงั นี้
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
หลกั สตู รโรงเรยี นอุ่มเหม้าประชาสรรค์ ม่งุ ให้ผเู้ รยี นเกดิ สมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดังน้ี
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มวี ฒั นธรรมในการใชภ้ าษาถา่ ยทอด
ความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็น
ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับ
หรอื ไมร่ บั ขอ้ มูลข่าวสารดว้ ยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลอื กใช้วธิ ีการส่ือสาร ท่มี ีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึง
ผลกระทบทีม่ ตี อ่ ตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์
การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับ
ตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชญิ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
เหมาะสมบนพนื้ ฐานของหลกั เหตุผล คณุ ธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงของ
เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตดั สินใจท่ีมี
ประสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทเ่ี กดิ ข้นึ ต่อตนเอง สังคม และสงิ่ แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในการดำเนนิ
ชวี ติ ประจำวนั การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอย่รู ่วมกนั ในสังคมด้วยการสร้างเสริม
ความสมั พนั ธอ์ ันดรี ะหวา่ งบคุ คล การจดั การปัญหาและความขดั แย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวใหท้ นั กบั การ
เปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการร้จู ักหลกี เลี่ยงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ที่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ น่ื
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือก และใชเ้ ทคโนโลยีดา้ นต่าง ๆ และมที ักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรยี นรสู้ ื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่าง
สรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
หลักสูตรโรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับ
ผู้อน่ื ในสังคมได้อย่างมีความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซือ่ สัตยส์ จุ รติ
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มจี ิตสาธารณะ
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ ๑ ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก และความคิดเหน็ อย่างมี
ประสิทธภิ าพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตา่ งๆ โดยการพดู และการเขยี น
สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกับ
กาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพืน้ ฐานในการพฒั นา
แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เคร่อื งมอื พืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปล่ยี น
เรียนรู้กบั สังคมโลก
ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง
สาระที่ ๑ ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟงั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตุผล
ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ม.๓ ๑. ปฏบิ ัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำช้แี จง และคำอธิบายในการ
ช้แี จงและ คำอธิบายท่ีฟงั และอา่ น ประดษิ ฐ์ การบอกทศิ ทาง ปา้ ยประกาศต่างๆ การใช้
อปุ กรณ์
- Passive Voice ทใ่ี ชใ้ นโครงสรา้ งประโยคงา่ ยๆ เชน่
is/are + Past Participle
- คำสันธาน (conjunction) เช่น and/ but/ or/
before/ after/because etc.
- ตวั เชอ่ื ม (connective words) เช่น First,…
Second,… Third,… Fourth,…
๒. อา่ นออกเสยี ง ข้อความ ข่าว Next…,Than…,Finally,… etc.
ขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอง
โฆษณา และบทรอ้ ย-กรองสั้นๆ การใช้พจนานุกรม
ถกู ต้องตาม หลกั การอ่าน หลกั การอ่านออกเสียง เช่น
- การออกเสียงพยัญชนะตน้ คำและพยัญชนะท้ายคำ สระ
เสียงสน้ั สระเสียงยาว สระประสม
- การออกเสียงเนน้ หนัก-เบา ในคำและกลุ่มคำ
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ตำ่ ในประโยค
- การออกเสียงเชอ่ื มโยงในข้อความ
- การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน
- การอ่านบทร้อยกรองตามจังหวะ
ชนั้ ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ม.๓ ๓. ระบแุ ละเขียนสือ่ ทีไ่ ม่ใชค่ วามเรยี ง -ประโยค หรอื ข้อความ และความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง
รปู แบบต่างๆ ให้สมั พนั ธก์ บั ประโยค ครอบครวั โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลาว่าง
และข้อความท่ีฟังหรืออ่าน และนันทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้า
อากาศ การศึกษาและอาชพี การเดินทางท่องเท่ียว การ
บรกิ าร สถานท่ี ภาษา และวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปน็
วงคำศัพทส์ ะสมประมาณ ๑,๔๐๐-๑,๕๕๐ คำ (คำศัพทท์ ี่
เป็นรูปธรรมและนามธรรม)
-การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมูลให้สมั พนั ธ์กับสือ่ ท่ไี ม่ใช่ความ
เรียง เชน่ สญั ลกั ษณ์ เครือ่ งหมาย กราฟ แผนภูมิ แผนผัง
ตาราง ภาพสตั ว์ ส่งิ ของ บุคคล สถานทต่ี ่างๆ โดยใช้
Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast: but,
although/ Quantity words เชน่ many/ much/ a lot
of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little
etc.
๔. เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความ -การจบั ใจความสำคัญ เช่น หัวขอ้ เรอื่ ง ใจความสำคัญ
สำคญั รายละเอียดสนบั สนนุ และ รายละเอียดสนบั สนนุ จากสือ่ สิ่งพมิ พแ์ ละอิเลก็ ทรอนิกส์เช่น
แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เรื่องท่ีฟัง หนังสอื พิมพ์ วารสาร วิทยุ โทรทศั น์ เวบ็ ไซด์บนอินเตอรเ์ น็ต
และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ พร้อม -คำถามเก่ียวกบั ใจความสำคัญของเร่ือง เชน่ ใคร
ท้ังใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอย่าง ประกอบ ทำอะไร ที่ไหน เมอื่ ไร อย่างไร ทำไม ใชห่ รอื ไม่
- Yes/No Question
- Wh-Question
- Or-Question etc.
ประโยคทใี่ ช้ในการแสดงความคิดเหน็ การใหเ้ หตผุ ล และ
การยกตัวอย่าง เช่น I think…/ I feel…/ I believe…/I
agree/disagree…/I don’t believe …/I have no idea
…
- If clauses
- so..that /such …that
- Infinive pronoun :
some/any/someone/anyone/evertone/one/ones
etc.
- Tenses: present simple/ present continuous/
present perfect/ past simple/ future tense
etc.
- Simple sentence/Compound
sentence/Complex sentence
สาระที่ ๑ ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ชัน้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ม.๓ ๑. สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูล ภาษาทใี่ ช้ในการส่ือสารระหว่างบคุ คล เชน่ การทักทาย กลา่ วลา
เกีย่ วกบั ตนเอง เรื่องตา่ งๆ ใกล้ตัว ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอย่างสภุ าพ การชักชวน
สถานการณ์ ขา่ ว เรื่องที่อยู่ในความ การแลกเปลยี่ นข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เรื่องใกลต้ วั สถานการณ์
สนใจของสงั คม และส่ือสารอยา่ ง ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั การสนทนา/เขยี น ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง
ตอ่ เน่ืองและเหมาะสม และบคุ คลใกล้ตัว สถานการณ์ขา่ ว เร่อื งทอ่ี ยใู่ นความสนใจใน
ชวี ติ ประจำวัน
๒. ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชีแ้ จง คำขอร้อง คำแนะนำ คำชีแ้ จง และคำอธบิ ายท่มี ีขน้ั ตอนซับซอ้ น
และคำอธบิ ายอย่างเหมาะสม
๓. พูดและเขยี นแสดงความต้องการ ภาษาท่ใี ชใ้ นการแสดงความต้องการ เสนอและให้ความชว่ ยเหลอื
เสนอและให้ความชว่ ยเหลือตอบรบั และ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น
ปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลือใน Please…/…, please./ I’d like…/ I need… /
สถานการณ์ต่างๆอย่างเหมาะสม May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./ Certainly./ Yes, of
course./ Sure./ Go right ahead./ Need some help?/ What
๔. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมลู can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m
อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความ afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc.
คดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่ืองท่ีฟงั หรืออา่ น คำศัพท์ สำนวนภาษา ประโยค และข้อความทใ่ี ชใ้ นการขอและให้
อยา่ งเหมาะสม ขอ้ มลู อธบิ าย เปรยี บเทยี บและแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเร่ืองท่ี
ฟังหรืออ่าน
๕. พูดและเขยี นบรรยายความรูส้ ึก และ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรู้สกึ ความคิดเห็น และ
ความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเร่ือง ให้เหตผุ ลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสยี ใจ มคี วามสขุ
ตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ เศรา้ หวิ รสชาติ สวย นา่ เกลียด เสยี งดัง ดี ไมด่ ี จากข่าว
ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มท้ังให้เหตผุ ล เหตกุ ารณ์ สถานการณ์ ในชวี ิตประจำวนั เช่น
ประกอบ Nice./ Very nice./ Well done!/ Congratulations on… / I
อย่างเหมาะสม like…because…/ I love…because…/ I feel… because…/ I
think…/ I believe…/ I agree/ disagree…/ I’m afraid/ I
don’t like…/ I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no!
etc.
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด
และการเขียน
ชน้ั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ม.๓ ๑. พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกับตนเอง การบรรยายข้อมลู เก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/
ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอ่ื ง/ประเด็น เหตกุ ารณ/์ ประเดน็ ท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม เชน่ การ
ตา่ งๆ ท่อี ยู่ในความสนใจ ของสังคม เดินทาง การรบั ประทานอาหาร การเลน่ กีฬา/ดนตรี การ
ฟงั เพลง การอ่านหนงั สอื การทอ่ งเทยี่ ว การศกึ ษา สภาพ
สังคม เศรษฐกจิ
๒. พดู และเขยี นสรุปใจความสำคญั /แก่นสาระ การจบั ใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หัวข้อเร่ือง
หวั ขอ้ เร่ืองทไี่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่ือง/ข่าว/ การวิเคราะห์เร่ือง/ข่าว/เหตุการณ/์ สถานการณท์ ่ีอยใู่ น
เหตุการณ/์ สถานการณ์ท่อี ยู่ในความสนใจของ ความสนใจ เช่น ประสบการณ์ เหตกุ ารณ์ สถานการณ์ตา่ งๆ
สังคม ภาพยนตร์ กีฬา ดนตรี เพลง
๓. พดู และเขยี นแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับ การแสดงความคิดเห็นและการใหเ้ หตผุ ลประกอบเกยี่ วกบั
กิจกรรมประสบการณ์ และเหตุการณ์พร้อมทง้ั กิจกรรมประสบการณ์และเหตุการณ์
ให้เหตุผลประกอบ
สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อยา่ งเหมาะสมกับ
กาลเทศะ
ช้นั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ม.๓ ๑. เลอื กใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ยิ า การเลือกใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ยิ าท่าทางในการสนทนา ตาม
ทา่ ทาง เหมาะกับบคุ คลและโอกาส มารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคณุ ขอ
ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรม โทษ การชมเชย การใช้สหี นา้ ทา่ ทางประกอบ การพดู ขณะแนะนำ
ของเจ้าของภาษา ตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมอื การแสดงความรู้สึกชอบ/ไมช่ อบ
การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรือปฏิเสธ
๒. อธิบาย เกีย่ วกบั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ชีวติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา้ ของภาษา
ขนบธรรมเนียม และประเพณี ของ
เจ้าของภาษา
๓. เขา้ ร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การร้องเพลง การ
วฒั นธรรมตามความสนใจ เลา่ นทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณพระเจ้า วนั คริสต์มาส วันข้ึนปี
ใหม่ วนั วาเลนไทน์
สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับภาษาและ
วฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ม.๓ ๑. เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือน การเปรียบเทยี บและการอธิบายความเหมือน/ความแตกต่าง
และความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง ระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ ของเจา้ ของภาษา
ประโยค กบั ของไทย
ชนดิ ต่างๆ และการลำดบั คำ ตามโครงสรา้ ง การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอนและการลำดบั คำตามโครงสรา้ ง
ประโยค ของ ภาษาต่างประเทศและ ประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ภาษาไทย
๒. เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมือนและ การเปรยี บเทยี บและการอธิบายความเหมือนและความ
ความแตกต่างระหว่างชวี ิตความเป็นอยแู่ ละ แตกต่างระหว่างชวี ติ ความเป็นอยแู่ ละวฒั นธรรมของเจ้าของ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กบั ของไทย ภาษากับของไทย การนำวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาไปใช้
และ นำไปใช้อย่างเหมาะสม
สาระที่ ๓ ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรูก้ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น และเปน็ พ้ืนฐานในการพัฒนา
แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
ชน้ั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ม.๓ ๑. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู / การค้นควา้ การรวบรวม การสรุป และการนำเสนอขอ้ มลู /
ข้อเทจ็ จรงิ ท่เี กยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่
ขอ้ เทจ็ จริง
ที่เกี่ยวข้องกับกลมุ่ สาระ
การเรยี นรอู้ น่ื จากแหล่งเรยี นรแู้ ละ
นำเสนอด้วยการพูดและการเขียน
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ม.๓ ๑. ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/ การใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองท่ี
สถานการณ์จำลองทเี่ กิดข้ึนในห้องเรยี น เกดิ ข้ึนในห้องเรียน สถานศึกษา ชมุ ชนและสงั คม
สถานศึกษาชุมชน และสงั คม
สาระท่ี ๔ ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเปน็ เครือ่ งมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปล่ยี น
เรยี นรกู้ ับสงั คมโลก
ชั้น ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ม.๓ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบค้น/ การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ /การคน้ ควา้ ความรู้/
ค้นควา้ รวบรวม และสรุปความร/ู้ ขอ้ มูล ข้อมูลต่างๆ จากส่ือและแหล่งการเรียนรตู้ า่ งๆ ในการศกึ ษา
ตา่ งๆ จากสื่อและแหลง่ การเรียนร้ตู ่างๆใน ต่อและประกอบอาชพี
การศึกษาต่อและประกอบอาชพี
๒. เผยแพร/่ ประชาสมั พันธ์ข้อมูล การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์
ขา่ วสารของโรงเรียนชมุ ชน และ ขอ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรียน ชุมชนและท้องถน่ิ เช่น การทำ
ท้องถิน่ เป็น หนงั สือเล่มเล็กแนะนำโรงเรียน ชุมชนและท้องถ่ิน การทำ
ภาษาต่างประเทศ แผน่ ปลิว ปา้ ยคำขวัญ คำเชิญชวน แนะนำโรงเรียนและ
สถานที่สำคัญในชุมชนและท้องถน่ิ การนำเสนอข้อมูล
ขา่ วสารในโรงเรยี น ชุมชน และท้องถิ่นเปน็ ภาษาองั กฤษ
คำอธิบายรายวชิ า
รหัสวิชา อ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕
รายวชิ าพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลาเรยี น ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน(นก.) ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษาวิเคราะห์ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
ความเหมือน ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ ของเจ้าของภาษากับภาษาอังกฤษ คำขอร้อง
คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบาย ที่มีขั้นตอนซับซ้อนในการประดิษฐ์ การบอกทิศทาง ป้ายประกาศต่างๆ การใช้
อุปกรณ์ ข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรอง การใช้พจนานุกรม หลักการอ่านออกเสียง ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ระหว่างบุคคล การสนทนา เขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและบุคคลใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจใน
ชีวติ ประจำวัน ภาษาทใ่ี ช้ในการแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลือ
ในสถานการณ์ต่างๆ การบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม
การเลอื กใช้ภาษา นำ้ เสียง และกริ ยิ าท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การคน้ คว้า
การรวบรวม การสรุป และการนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น การใช้ภาษาสื่อสารใน
สถานการณ์จริง สถานการณ์จำลองทีเ่ กดิ ขึน้ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม การใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สืบค้น การค้นควา้ ความรู้ ขอ้ มูลต่างๆ จากสื่อและแหลง่ การเรียนร้ตู า่ งๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ
โดยใชก้ ระบวนการ ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร กระบวนการกล่มุ กระบวนการปฏบิ ัติ
กระบวนการคิด การสบื คน้ ข้อมลู การอภิปราย การแสดงบทบาทสมมุติ กิจกรรมเดีย่ ว กจิ กรรมคแู่ ละกจิ กรรมกลุ่ม
เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ มีทัศนคตทิ ี่ดีตอ่ รายวิชาภาษาอังกฤษ สามารถนำภาษาไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
เพ่อื เปน็ พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสัตย์ สจุ รติ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้
อยู่อยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มั่นในการทำงาน รกั ความเป็นองั กฤษ มจี ติ สาธารณะ
ตวั ชว้ี ัด
ต ๑.๑ ม๓/๑, ๓/๒, ๓/๓, ๓/๔ ต ๑.๒ ม.๓/๑, ๓/๒, ๓/๓, ๓/๔,๓/๕ ต ๑.๓ ม.๓/๑, ๓/๒, ๓/๓
ต ๒.๑ ม.๓/๑, ๓/๒, ๓/๓ ต ๒.๒ ม.๓/๑ ต ๓.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๒ ม.๓/๑
รวม ๑๗ ตัวช้วี ดั
จดุ ประสงค์การเรียนร้สู ู่ตัวชี้วัด
อ ๒๓๑๐๑ วชิ าภาษาองั กฤษ ๕
รายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
๑. ปฏิบตั ติ ามคำขอร้อง คำแนะนำ คำช้แี จง
๒. อา่ นออกเสยี งข้อความ ขา่ ว และโฆษณา
๓. ระบแุ ละเขยี นสือ่ ทีไ่ ม่ใช่ความเรียงในรูปแบบตา่ งๆ ให้สมั พันธก์ ับประโยคและข้อความที่ฟงั หรอื อ่าน
๔. เลือก/ระบุหัวขอ้ เรื่อง ใจความสำคญั รายละเอียด สนับสนนุ เกีย่ วกบั เรือ่ งท่ีฟงั และอ่านจากสื่อประเภท
ตา่ งๆ
๕. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเองในเร่ืองต่างๆ ท่ีใกลต้ วั
๖. ใหค้ ำชแ้ี จงและคำอธบิ ายอยา่ งเหมาะสม
๗. พดู และเขียนแสดงความต้องการ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ตา่ งๆ อย่าง
เหมาะสม
๘. พูดและเขยี นเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล อธบิ ายเปรียบเทยี บเกีย่ วกบั เรอื่ งที่ฟงั หรืออ่านอย่างเหมาะสม
๙. พดู และเขยี นบรรยายความร้สู ึก และความคดิ เห็นของตนเอง เกยี่ วกับเรื่องต่างๆ
๑๐.พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว เหตกุ ารณ์ เรือ่ ง ประเดน็ ต่างๆ ทอี่ ย่ใู นความ
สนใจของสังคม
๑๑.พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ ข่าว เหตุการณ์ สถานการณท์ ี่อยู่ในความสนใจของสังคม
๑๒.พดู และเขียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กจิ กรรมประสบการณ์ และเหตุการณพ์ ร้อมท้ังให้เหตุผลประกอบ
๑๓. อธบิ าย เก่ียวกับชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณขี องเจา้ ของภาษา
๑๔.เปรยี บเทยี บและอธบิ ายความเหมือน ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และลำดบั ตาม
โครงสรา้ งประโยคภาษาต่างประเทศ และภาษาอังกฤษ
๑๕.ค้นคว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จริง ทเี่ กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื จากแหล่งเรียนรู้ และ
นำเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น
๑๖.ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี นสถานศึกษา
๑๗.ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบค้นขอ้ มลู คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ความรู้ ขอ้ มูลต่างๆ จากส่อื และแหลง่
เรียนรู้ตา่ งๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ
กำหนดการสอน
รายวิชาภาษาอังกฤษ ๕ รหสั วิชา อ ๒๓๑๐๑ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓
ภาคเรียนที่ ๑ จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลา ๖๐ ชั่วโมง / ภาคเรยี น รวม ๖๐ ชั่วโม
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ เวลา (ช่ัวโมง)
๑ ๑๔
๒ Home Sweet Home ๑๔
๒
๓ The Place to Be ๑๔
Review 1
Time Out!
๔ Personal Best ๑๔
๒
Review 2 ๖๐
รวมจำนวนช่วั โมง / ภาคเรยี น
Home Sweet Home
หน่วยการเรียนรู้ รหสั วชิ า อ 23101 รายวิชาภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศกึ ษาปี ที่ 3
เวลา 14 ชั่วโมง
1 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ปี การศึกษา 2563 ภาคเรียนที่ 1
ผ้สู อน นางสาวภาวดี ภาระหัตถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ม.3/1 ปฏิบตั ิตามคาขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายท่ีฟังและอ่าน
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟังและอ่าน
จากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ
ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มลู เก่ียวกับตนเอง เรือ่ งต่างๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว เรอื่ งทีอ่ ยใู่ นความสนใจของ
สังคมและส่อื สารอยา่ งตอ่ เน่อื งและเหมาะสม
ต 1.2 ม.3/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังหรืออ่านอยา่ ง
เหมาะสม
ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขยี นบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ
ข่าว/เหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่องท่ีไดจ้ ากการวิเคราะหเ์ รื่อง/ขา่ ว/เหตุการณ์/สถานการณ์
ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ม.3/1 เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกบั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ และการ
ลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต 3.1 ม.3/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งการเรียนรู้และ
นาเสนอดว้ ยการพดู และการเขียน
ต 4.1 ม.3/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.2 ม.3/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปความรู้/ขอ้ มูลต่างๆ จากส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
ตา่ งๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ สำนวนภาษา โครงสร้างภาษา Present Perfect Simple, for, since, possessives, multiple-choice, cloze
กิจกรรมฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การให้เหตุผล เรื่อง Home Sweet Home สื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพ
ทักษะการเรียนภาษาทัง้ 4 ด้าน ได้แก่ ทักษะการฟงั ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน ทักษะการเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอื่
การสื่อสาร ทำให้การสอื่ สารบรรลเุ ป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผเู้ รียนมีความสามารถ มเี จตคติทดี่ ตี อ่ ภาษาองั กฤษ
3. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
คำศัพท์ สำนวนภาษาเกีย่ วกับ Home&houses ในบทอ่านประเภทตา่ งๆ ได้แก่ บทความ (Articles) บทสนทนา (Conversations)
งานเขียนที่เป็น e-mails, Notes, Scheldules สำนวนภาษาที่ใช้พูด Describing different rooms, สำนวนภาษาที่ใช้เขียนเกี่ยวกับ Explaining
why? Making excuses, โครงสร้างประโยค Present Perfect Simple, for, since, possessives, muiltiple-choice, cloze, Exam Close-up และ
Exam Tasks
3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
ทกั ษะการเรียนภาษาท้งั 4 ไดแ้ ก่ การฟัง การพดู การอา่ น การเขียน ทกั ษะกระบวนการคดิ และทกั ษะกระบวนการสอน
ภาษาองั กฤษเพอื่ การส่ือสาร
3.3 ด้านเจตคติ (Attitude/Desired Character)
ใชภ้ าษาองั กฤษอยา่ งมีมารยาท ถกู ตอ้ งตามกาลเทศะและบคุ คล มีประสิทธิภาพในการส่ือความ มีเหตผุ ล มีวิจารณญาณ
4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551
รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้
อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะ
6. ภาระงาน/ชิน้ งาน
ใหน้ กั เรียนพูดบรรยายภาพหนา้ ชนั้ เรียน เลือกภาพตามความสนใจ มีความเหมาะสม มเี นือ้ หาเกี่ยวกบั My Home Sweet Home
โดยประยุกต์ใช้ความรู้และทกั ษะการใช้ภาษาทเ่ี รยี นมาใน Unit 1 จัดทำเป็นแผน่ รายงานกระดาษ A4
7. การวัดและประเมินผล (ภาระงาน/ชิ้นงาน)
วิธกี าร เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ์
1. ประเมนิ แบบประเมินคุณภาพชิ้นงาน / ภาระงาน 18-20
คุณภาพ 15-17 ผลการประเมนิ
12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
วิธีการ เครื่องมือ คะแนน เกณฑ์
18-20
2. ประเมิน แบบประเมนิ ทกั ษะ-การพดู 15-17 ผลการประเมนิ
ทกั ษะทางการ แบบประเมนิ ทกั ษะ-การเขียน 12-14 ดีมาก
ใชภ้ าษา 10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ความรู้และกิจกรรมฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การให้เหตุผล ทักษะการเรียนภาษาทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด
การอ่าน และการเขียนเรื่อง Home Sweet Home ประกอบด้วยบทสนทนา (conversations) บทความ (articles), e-mails, notes,
Exam Close-up, Exam Tasks, ส่ือรูปภาพ (pictures) สื่อเสียง (audio CD) สื่อวิดีโอ (DVD) ที่มีคำศัพท์ สำนวนภาษาเกี่ยวกับ
Home&Houses โครงสร้าง Present Perfect Simple, for, since, possessives, muiltiple choice, cloze และกระบวนการสอน
ภาษาอังกฤษเพอื่ การส่ือสาร เจตคติทดี่ ตี ่อภาษาองั กฤษ
9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้
• หนังสอื เรียน Close-up 3 Unit 1 เร่ือง Home Sweet Home หน้า 5-16
• หนังสือ Workbook Close-up 3 Unit 1 เร่อื ง Home Sweet Home หนา้ 4-9
• Audio CD Track 1.1, 1.2
• Video เรือ่ ง The Horse Nomads of Mongolia หนา้ 16
10. กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนควรเตรียมพร้อมในการเรียนรู้เพื่อเขา้ ใจเน้ือหาและกิจกรรมการเรียนการสอนง่ายข้ึน โดยศกึ ษาเน้ือหาลว่ งหนา้ และ
ทบทวนหลงั จากเรียนเสร็จแลว้ ทกุ คร้ัง เพือ่ ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้ดีมีประสิทธิภาพและสูงข้ึน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง Home Sweet Home
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง Reading 1: Scanning
รหสั วิชา อ 23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผ้สู อน นางสาวภาวดี ภาระหัตถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ีฟังและ
อา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ
ต 1.3 ม.3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่องท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่ือง/ขา่ ว/เหตุการณ์/สถาน-
การณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกบั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
อ่านบทความเก่ียวกบั Houses and things in houses แลว้ พูดและเขียนวิเคราะห์เปรียบเทียบ อธิบาย และแสดงความคิดเห็น โดย
ใชค้ าศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษาที่กาหนดใหไ้ ดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม
3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept)
ความรู้และกิจกรรมฝึกทักษะการคิด บทความ (articles) ที่มีคำศัพท์เกี่ยวกับ Houses and things in houses, Compound nouns
สำนวนภาษาโครงสร้างภาษาเกี่ยวกับ Explaining why/because และ Reading skills: Scanning reading ประโยค Present simple tense in
affirmatives, questions and interrogatives/negatives โดยผ่านการฝึกทักษะการอ่าน การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการ
ส่อื สาร ทำให้ผู้เรียนสามารถส่อื ความได้อย่างมีประสิทธภิ าพ มีนิสัยรักการอา่ น มสี ุนทรียภาพในการอา่ น
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Vocabulary: Houses and things in houses, Compound nouns
- Grammar: Present simple tense in affirmatives, questions and interrogatives/negatives
- Speaking: Explaining why /because
- Reading skills: Scanning reading
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มีประสทิ ธภิ าพในการส่อื ความ
5. กิจกรรมการเรียนรู้
• Lead-in
1. ครูนาความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียนในชว่ั โมงเรียนน้ีโดยใชภ้ าพ an igloo และ a ger ในหนงั สือเรียน และคาถามดงั น้ี
Q: Do you think what the word, ‘needing’ means?
Q: Do you think which is important between an air conditioner and a toilet? Why?
2. นกั เรียนให้คาตอบอยา่ งหลากหลาย ครูยอมรับทกุ คาตอบที่สมเหตุผล
3. ครูเช่ือมโยงเขา้ สู่กิจกรรม Reading: Houses and things in houses
• Presentation
1. ครูสอนคาศพั ทใ์ นบทอา่ นกิจกรรม C ในหนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 6 ดงั น้ี
- ให้นกั เรียนท้งั ช้นั ช่วยกนั คน้ คาศพั ท์ที่ไม่รู้ความหมาย ขีดเส้นใตก้ ากบั ไว้ และให้นกั เรียนระบุ Parts of speech ของคาศพั ท์
จากตาแหน่งภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝึกใหร้ ะบุ Parts of speech ทกุ คร้ังท่ีสอนความหมายของคาศพั ท)์
- นกั เรียนบอกหมวดหมขู่ องคาศพั ทเ์ หลา่ น้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน
- ให้นกั เรียน Read aloud คาศพั ทบ์ นกระดาน
- ใหน้ กั เรียนแบ่งกนั /ช่วยกนั คน้ หาความหมายของคาศพั ทเ์ หลา่ น้ี แลว้ พดู บอกความหมาย
- ครูเขยี นความหมายของคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนบอกและเพ่ิมเติมความหมายของคาศพั ทบ์ างคาให้สมบรู ณ์
2. ครูสอนคำศพั ทใ์ น Word Focus ดังน้ี
- ให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงดงั พรอ้ มกัน ถา้ คำใดนกั เรียนอ่านไม่ไดใ้ หค้ รูช่วยอ่านนำและนกั เรยี นอ่านตาม
- ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกความหมายโดยครใู ห้นกั เรยี นบอกความหมายของคำที่นักเรยี นรูจ้ ัก ถ้านักเรียนบอกความหมาย
ไมไ่ ด้ ครใู ห้นกั เรียนดทู ่ี Word Focus และให้อา่ นออกเสยี งคำศัพท์และคำจำกัดความ วิธนี ้จี ะช่วยให้นักเรียนรคู้ วามหมายของคำศัพท์มากข้ึน
ครูอาจใหค้ ำอธบิ ายเพิม่ เตมิ บ้าง
- ครูเลือกคำศัพท์บางคำมาอธิบาย ได้แก่ Compound nouns (noun+noun/Gerund or V+ing+noun): animal skin, wood
stove, running wate
- ให้นักเรียนคัดลอก Word Box และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องลงในสมุดคำศัพท์ของตนเอง (ครูกำหนดให้นักเรียนทุกคนมีสมุด
คำศัพท์และสมดุ แบบฝกึ หัด)
3. ครูสอนโครงสร้างท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั บทเรียนในชวั่ โมงน้ี ไดแ้ ก่
- โครงสร้างประโยค Explaining Why/because ไดแ้ ก่
Sentence 1 (Subject + verb in Present Simple+...) + because+ Sentence 2 (Subject + verb in Present Simple+…
ตวั อยา่ งเช่น
▪ I’m happy because I can watch football match.
- โครงสร้างท่ีใชใ้ นการเขียน Describing different houses (igloo and gers) ไดแ้ ก่
▪ We live in a ger. A ger is a big, round tent. A houseboat sits on water but it doesn’t move like a boat
- ประโยค Present simple tense in affirmatives, questions and interrogatives/negatives ไดแ้ ก่
▪ We spend a lot of time outdoors with our animals.
▪ We don’t have a bathroom or a kitchen.
▪ How does Sesi get water? / Do you a ger?
4. ครูสอน Reading Strategy: Scanning reading โดยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วม ดงั น้ี
- ครูอธิบาย What is scanning read? How to do scanning reading effectively.
Scanning is reading a text quickly in order to find specific information, e.g. figures or names. When
scanning, you look only for a specific fact or piece of information without reading everything. For
scanning to be successful, you need to understand how your material is structured as well as
comprehend what you read so you can locate the specific information you need. Scanning also allows
you to find details and other information in a hurry. If you are scanning for facts to answer a specific
question, one step is already done for you: the question itself supplies the keywords.
How to scan:
1. Read each question completely before starting to scan. Choose your keywords from the question.
2. Look for answers to only one question at a time. Scan separately for each question.
3. When you locate a keyword, read the surrounding text carefully to see if it is relevant.
4. Re-read the question to determine if the answer you found answers this question.
- ครูอธิบายและยกตวั อยา่ งจาก Article ที่ 1 เร่ือง An igloo โดยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการอา่ นแบบ scanning โดยครู
กาหนดคาถามตอ่ ไปน้ีให้นกั เรียนอา่ นเพ่ือคน้ หาคาตอบ ไดแ้ ก่
Q1: Is there a toilet in the igloo?
Q2: Are there any sofas and beds in the igloo?
- นกั เรียน Scan Article ท่ี 1 เร่ือง An igloo
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยทวนคาถามให้นกั เรียนตอบคาถามพร้อมกนั
- ครูสรุปคาตอบท่ีไดจ้ ากการอา่ นแบบ scanning
• Practice
นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 6 ครูกาหนดใหน้ กั เรียน Work in pairs ดาเนินกิจกรรมตามข้นั ตอนดงั น้ี
1. กิจกรรม A ครูให้นกั เรียน Read aloud คาส่ัง และพูดบอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูทบทวนคาสง่ั อธิบาย ช้ีแนะวธิ ีคิดและหาคาตอบ โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั คน้ หาความหมายของคาดงั กล่าวน้ีจาก
Dictionary/Online dictionary
- นกั เรียนบอกความหมายของ ‘needing’ และ ‘wanting’ และเขยี นบนกระดาน
- ครูใหน้ กั เรียนสรุปคาตอบ
เฉลยคำตอบ
Students’ own answers
2. กจิ กรรม B ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสั่ง และพดู บอกสิ่งท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกจิ กรรมน้ี
- ครูทบทวนคาสง่ั อธิบาย ช้ีแนะวิธีคิดและหาคาตอบ โดยให้เหตผุ ลประกอบ
- ครูให้เวลานกั เรียนทากิจกรรม ครูสังเกต แนะนา ช่วยเหลือและแกป้ ัญหา ครูสุ่มเลือกนกั เรียน 4-5 คู่ข้ึนมาพูดให้คาตอบ
ครูยอมรับทกุ คาตอบ
เฉลยคำตอบ
Students’ own answers
3. กิจกรรม C ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่ัง และพดู บอกส่ิงท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูทบทวนคาส่ัง อธิบาย และช้ีแนะวิธีการอ่านแบบ Scanning
- ครูใหน้ กั เรียน Read aloud items in B: laptop, 3D TV, bed, sofa, air conditioner, toilet
- ใหน้ กั เรียนนา Key words เหล่าน้ีไป Scan This is where I live: an igloo, a ger, a houseboat
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยใหน้ กั เรียนบอกคาตอบพร้อมกนั ครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
None of the items would be in the igloo; there would be beds in the ger and a TV but
not necessarily a 3D TV; all of the items would probably be in the houseboat.
• Production
1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรม Expand Your Ideas ซ่ึงครู applied จากกิจกรรม A ดงั น้ี Discuss things to be needed for healthy
life and things to be expected for life. And give reasons.
2. ครูใหเ้ วลานกั เรียนทากิจกรรม ครูสงั เกต แนะนา ช่วยเหลือ และแกป้ ัญหา
3. ครูสุ่มเลือกนกั เรียน 4-5 ค่ขู ้นึ มาพดู ให้คาตอบ ครูยอมรับทุกคาตอบ ครูสรุปบทเรียน
6. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ์
แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
วิธีการ 15-17 ผลการประเมิน
1. สงั เกต 12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟัง-การพูด คะแนน ผลการประเมนิ
18-20 ดีมาก
การใชภ้ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอ่าน-การเขียน 15-17 ดี
12-14 พอใช้
10-11 ผา่ น
7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สอื เรยี น Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรือ่ ง Reading กิจกรรม A-C หน้า 6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Home Sweet Home
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง Reading 2: This is Where I Live
รหัสวชิ า อ 23101 รายวิชาภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผ้สู อน นางสาวภาวดี ภาระหตั ถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและ
อา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ
ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่องที่ไดจ้ ากการวิเคราะหเ์ รื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถาน-
การณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกี่ยวกบั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
อ่านบทความเก่ียวกบั This is Where I Live แลว้ พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ อธิบายและแสดงความ
คิดเห็น โดยใชค้ าศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษาที่กาหนดใหไ้ ดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม
3. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept)
ความรู้และกิจกรรมฝึกทักษะการคิด บทความ (articles) ที่มีคำศัพท์เกี่ยวกับ Houses and home สำนวนภาษา และโครงสร้าง
ภ า ษ า Explaining why/ because, Writing strategy: Describing different houses (an igloo, a ger and a houseboat) แ ล ะ Reading skills:
Skimming reading โดยผ่านการฝึกทักษะการอ่าน การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทำให้ผู้เรียนสามารถส่ือ
ความได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ มีนิสยั รักการอ่าน มสี นุ ทรยี ภาพในการอ่าน
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Vocabulary: Houses and home, Compound nouns
- Speaking: Explaining why /because
- Writing strategy: Describing different houses (an igloo, a ger and a houseboat)
- Reading strategy: Skimming reading
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพือ่ การสื่อสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มปี ระสิทธิภาพในการสื่อความ
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
• Lead-in
1. ครูนาความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียนในชวั่ โมงเรียนน้ีโดยใชภ้ าพ An igloo, A ger และ A houseboat ในหนงั สือ
เรียน และคาถามดงั น้ี
Q: Do you think what an igloo, a ger and a houseboat are like?
2. นกั เรียนให้คาตอบอยา่ งหลากหลาย ครูยอมรับทุกคาตอบ
3. ครูเช่ือมโยงเขา้ สู่กิจกรรม Reading: This is Where I Live
• Presentation
1. ครูสอนคาศพั ทใ์ นบทอ่านกิจกรรม D, E, F หนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 7 โดยให้นกั เรียนมีส่วนร่วมดงั น้ี
- ให้นกั เรียนท้งั ช้นั ช่วยกนั คน้ คาศพั ทท์ ่ีไม่รู้ความหมาย ขีดเส้นใตก้ ากบั ไว้ และให้นกั เรียนระบุ Parts of speech ของคาศพั ท์
จากตาแหน่งภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝึกให้ระบุ Parts of speech ทกุ คร้ังที่สอนความหมายของคาศพั ท)์
- นกั เรียนบอกหมวดหมขู่ องคาศพั ทเ์ หลา่ น้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน
- ให้นกั เรียน Read aloud คาศพั ทบ์ นกระดาน
- ให้นกั เรียนแบง่ กนั /ช่วยกนั คน้ หาความหมายของคาศพั ทเ์ หล่าน้ี แลว้ พดู บอกความหมาย
- ครูเขียนความหมายของคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนบอกและเพ่ิมเติมความหมายของคาศพั ทบ์ างคาใหส้ มบูรณ์
2. ครูเลอื กคำ/วล/ี ประโยคที่มีความหมายพเิ ศษทต่ี อ้ งตีความหมายมาอธบิ าย ได้แก่
▪ For us, the ger is a warm dry room in a large ‘house’, with most of the ‘rooms’ outside.
- โดยครูให้นักเรียนสังเกตการใช้เครื่องหมาย ‘ -- ’ คร่อมระหว่างคำ ‘house’ และ ‘rooms’ ครูอธิบายหลักการเขียนเมื่อ
ผู้เขียนต้องการเน้นหรือให้ความหมายพิเศษแกค่ ำบางคำ ผู้เขียนจะใช้เครื่องหมายคำพูดคร่อม ดังนั้นการแปลความหมายของคำนั้น ผู้อ่าน
จะตอ้ งใชก้ ระบวนการตีความ
- ครใู หน้ กั เรยี น Read aloud ประโยค For us, the ger is a warm dry room in a large ‘house’, with most of the ‘rooms’
outside.
- ครูกระตุน้ ใหน้ ักเรียนคดิ คาดเดาและบอกวา่ คำ ‘house’ และ ‘rooms’ น่าจะมีความหมายอะไรบ้าง
- นักเรยี นวพิ ากษค์ ำตอบอยา่ งหลากหลาย ก่อนท่คี รสู รุปคำตอบ
- ครอู ธิบายว่าในประโยคนี้คำ ‘house’= the world และ ‘rooms’ = gers or the Mongolians’ houses
- ใหน้ กั เรียนคดั ลอก Word Box และคำศพั ท์ทเี่ ก่ยี วข้องลงในสมุดคำศัพท์ของตนเอง (ครกู ำหนดใหน้ ักเรยี นทกุ คนมสี มดุ
คำศัพท์และสมุดแบบฝึกหดั )
3. ครูสอน Reading skills: Skimming reading โดยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วม ดงั น้ี
Skimming is reading a text quickly to get a general idea of meaning. Use skimming in previewing
(reading before you read), reviewing (reading after you read), determining the main idea from a long
selection.
How to skim:
1. Read the title, subtitles and subheading to find out what the text is about.
2. Look at the illustrations to give you further information about the topic.
3. Read the first and last sentence of each paragraph.
4. Don't read every word or every sentence. Let you eyes skim over the text, taking in key words.
5. Continue to think about the meaning of the text.
- ครูอธิบายและยกตวั อยา่ งจาก Article ท่ี 1 เรื่อง An igloo โดยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการอ่านแบบ Skimming โดยครู
กาหนดใหน้ กั เรียนอ่านเพื่อตอบคาถาม 2 ขอ้ ไดแ้ ก่
Q1: What is each paragraph about?
Q2: What is the passage/the text about?
- นกั เรียน Skim Article ที่ 1 เร่ือง An igloo
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยทวนคาถามใหน้ กั เรียนตอบคาถามพร้อมกนั
- ครูสรุปคาตอบท่ีไดจ้ ากการอ่านแบบ Skimming
4. ครูสอน Reading-Writing strategies: Organization of ideas within articles of This is Where I Live โดยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วม
Elements of articles:
1. Introduce the author
2. Describe the house where heand his family lives
3. Talk about his home and lifestyles
4. Express feeling /opinion
- ครูอธิบายและยกตวั อยา่ งจาก Article ที่ 1 เร่ือง An igloo โดยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์
- ครูตรวจสอบความเขา้ ใจในการอ่านโดยใหน้ กั เรียนพดู บอก Elements of articles พร้อมกนั
- ให้นักเรียนนาความรู้จาก Skimming reading และ ไปอ่าน article This is where I live แลว้ วิเคราะห์ Organization of
ideas ลงในตาราง Concept Chart
- ครูให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปคาตอบลงใน Concept Chart ตอ่ ไปน้ี
Elements 1 23
1. Introduce the Sesi, a 14 year- old Inuit Yisu, Mongolian nomad, wanders Femke, from Amsterdam
author (Eskimo), lives in Greenland. from places to places
2. Describe the an igloo: one big round room a ger: a big round tent a houseboat: a normal
house where he and for eating,sleeping and cooking -a movable house house on water but not
his family lives - without a bathroom or move like a boat
a kitchen -with a lot of rooms
- without furniture inside
3. Talk about his -use animal skins as blankets -spend a lot of time outdoors -spend normal life as
home and life -have no running water with our animals typical as other people
styles -have to melt ice to fetch - cook, wash and work outside such as going shopping,
water for drinking, cooking or - eat and sleep in the ger doing the chore, relaxing
washing. - have a satellite dish and a solar
-spend most of of the time panel that creates electricity
inside from the sun
- use electricity for our TV and
radio
4. Express feeling self-sufficient happy, positive thinking chill out/relaxed
5. ครูช้ีแนะเทคนิคการทาขอ้ สอบ (Exam Strategies) ไดแ้ ก่ การตดั สินใจเลือกคาตอบท่ีแม่นยาโดยวิธีการประเมินคาตอบที่
เลือก (Justify your answers) โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามตนเอง ไดแ้ ก่ ‘What?’ ‘Why? and Why?’
How to Justify your answers:
Ask yourself ‘What?’; ‘Why? and Why?’
1. Ask yourself ‘What?’
What? = What should be the correct answer?
2. To confirm the answer you choose by asking yourself ‘Why? and Why?’
Why? 1 = Why do I think this one is correct?/Why is it correct?
Why? 2 = Why do I think the others are not correct?/Why are the others not correct?
- ใหน้ กั เรียน Read aloud ประโยคใน Exam Close-up
- ครูอธิบายและยกตวั อยา่ งโดยให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิดว้ ยตนเองดว้ ยคาถามขอ้ 1
- นกั เรียน Read aloud คาถามขอ้ 1 และตวั เลือกทุกตวั โดยครูอธิบาย Key Words ในคาถามเพ่ือให้นกั เรียนมี Clues ใน
การคน้ หาคาตอบใน Article และครูเน้นย้าการอ่านแบบ Scanning และช้ีแนะการกาหนดตาแหน่งที่ควร Scan โดยดูจาก Organization of
ideas
- นกั เรียนนา Key Words/Clues จากคาถามไปคน้ หาคาตอบใน Article โดยใชว้ ิธีอ่านแบบ Scanning
- นกั เรียนบอกคาตอบและให้เหตุผลเพือ่ ยนื ยนั คาตอบ (คาตอบคอื A houseboat because it’s on the water, and the others
are on land.)
6. ครูทบทวนโครงสร้างประโยคและ Reading skill ท่ีสอนในชว่ั โมงท่ีแลว้ และเกี่ยวขอ้ งกบั บทเรียนในชว่ั โมงน้ี โดยใหน้ กั เรียน
มีส่วนร่วม ไดแ้ ก่ โครงสร้างประโยค Explaining Why/because โครงสร้างท่ีใชใ้ นการเขียน Describing different houses (An igloo, a ger
and a houseboat) โดยให้นักเรียนสังเกตขณะท่ีอ่าน article of This is Where I Live ครูตรวจสอบความเขา้ ใจโครงสร้างประโยคเหล่าน้ี
โดยให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งบางส่วน
• Practice
นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 7 ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมตอ่ ไปน้ี
1. กจิ กรรม D ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสง่ั และ Exam Close-up: Justifying your answers
- ครูอธิบาย Justifying your answers และใหน้ กั เรียนฝึกทาตามโดยใหน้ กั เรียนอ่านคาถามขอ้ 2 และคน้ หาคาตอบโดยใช้
วิธีอ่านแบบ Scanning
- ครูอธิบายช้ีแนะเนน้ ย้า Organization of ideas ก่อนให้นกั เรียน Skim articles of This is Where I Live และสรุปประเดน็
สาคญั ตาม Elements of articles โดยเม่ืออา่ นพบประเดน็ ดงั กล่าวให้นกั เรียนขดี เส้นใต้
- ครูให้เวลานกั เรียนทากิจกรรม ครูสงั เกต แนะนา ช่วยเหลือ และแกป้ ัญหา
2. กจิ กรรม E ครูให้นักเรียน Read aloud the Exam Task
- ให้นักเรียนหาคาตอบของคาถามที่กาหนดให้โดยปฏิบัติตามวิธีการอ่านแบบ Scanning และ How to Justify your
answers
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนทากิจกรรม ครูสงั เกต แนะนา ช่วยเหลือและแกป้ ัญหา
- ครูตรวจสอบความเขา้ ใจในการอา่ นโดยใหน้ กั เรียนพูดบอกคาตอบ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. C 2. A 3. C 4. B 5. A 6. C 7. A 8. C
3. กิจกรรม F ครูให้นกั เรียน Read aloud คาส่ัง และพูดบอกสิ่งที่นักเรียนต้องปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี ช้ีแนะคาตอบโดยให้
นกั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ่ีเป็นตวั เลือกพร้อมท้งั บอกความหมาย
- ให้นกั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบ (Contextual Clues) ที่อยหู่ นา้ และหลงั ช่องว่าง
- ครูตรวจสอบความแมน่ ยาในการคน้ หาโดยใหน้ กั เรียนพดู บอกตวั ช้ีแนะคาตอบ ครูแกไ้ ขขอ้ ท่ีไมถ่ กู ตอ้ ง
- ให้นักเรียนเลือกคาตอบและประเมินคาตอบท่ีเลือก (Justify your answers) โดยให้นกั เรียนตอบคาถามตนเอง ไดแ้ ก่
‘What?’ ‘Why? and Why?’
- ครูให้เวลานกั เรียนทากิจกรรม ครูสังเกต แนะนา ช่วยเหลือ และแกป้ ัญหา
- ครูตรวจสอบความเขา้ ใจในการอ่านโดยใหน้ กั เรียนพูดบอกคาตอบ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. satellite dish 2. carpet 3. wardrobe 4. floor 5. blanket
• Production
ครูให้นักเรียนทากิจกรรม Ideas Focus และกิจกรรม Expand your Ideas ซ่ึงครู applied จากกิจกรรม D ให้นักเรียนประยุกต์ใช้
ความรู้ที่เรียนมาในชว่ั โมงน้ีทากิจกรรม ครูอธิบายคาส่งั ช้ีแนะวิธีคดิ และการตอบคาถาม โดยใหน้ กั เรียน Discuss and share ดงั น้ี
1. กิจกรรม Ideas Focus ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสงั่ และพูดบอกส่ิงที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกจิ กรรมน้ี
- ครู ทบทวนคาส่ังช้ีแนะวิธีการตอบคาถาม Why? Or Why not? โดยทบทวนโครงสร้างประโยค Explaining
Why/because ได้แก่ Sentence 1 (Subject+verb in Present Simple+….)+ because+Sentence 2 (Subject+verb in Present Simple+….
ตวั อยา่ งเช่น I’m happy because I can watch football match. และทบทวนการใชก้ ริยาเป็น Present ไดแ้ ก่ Present Simple
- นกั เรียนตอบคาถามโดยใชค้ าศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยค Explaining Why or Why not /because
- ครูให้เวลานกั เรียนทากิจกรรม ครูสังเกต แนะนา ช่วยเหลือ และแกป้ ัญหา
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยเลือกใหน้ กั เรียนพดู บอกคาตอบ โดยครูช่วยเติมเตม็ ความสมบูรณ์
2. กิจกรรม Expand your Ideas Work in pairs. Do you think what typical houses in your neighborhood or your province are
like?
- ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสัง่ และพูดบอกสิ่งท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูทบทวนคาส่ังและอธิบาย ช้ีแนะให้นักเรียน Discuss and describe typical houses in your neighborhood or your
province. ทบทวนการใชก้ ริยาเป็น Present ไดแ้ ก่ Present Simple และครูแนะนาให้นกั เรียน Sketch ภาพประกอบการเขียนบรรยายดว้ ย
เพ่อื ช่วยใหข้ อ้ มลู มีความชดั เจนย่งิ ข้นึ
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนคดิ และเขียนคาตอบ ถา้ เวลาไม่พอให้นกั เรียนทาต่อเป็นการบา้ นและนามาส่งในวนั ตอ่ ไป
- ครูยอมรับทกุ คาตอบท่ีมเี หตผุ ล
- ครูตอบขอ้ ซกั ถามของนกั เรียน สรุปส่ิงที่เรียนในชว่ั โมงน้ี
เฉลยคำตอบ
Students’ own answers
6. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ์
แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน
1. สงั เกต 12-14 ดีมาก
10-11 ดี
2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟัง- การพูด พอใช้
คะแนน ผา่ น
การใชภ้ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอา่ น-การเขยี น 18-20
15-17 ผลการประเมิน
12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เร่ือง Reading กิจกรรม D-F, Ideas Focus หนา้ 7
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง Home Sweet Home
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง Vocabulary 1: Things in Houses
รหัสวิชา อ 23101 รายวิชาภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาวภาวดี ภาระหัตถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟังและ
อ่านจากส่ือประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ
ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่องท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่ือง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถาน-
การณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกี่ยวกบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
อา่ นบทบรรยายเกย่ี วกับ Vocabulary1: Things in Houses แล้วพูดและเขียนสรปุ ใจความสำคัญ วเิ คราะห์เปรยี บเทยี บ อธิบาย และ
แสดงความคดิ เหน็ โดยใชค้ ำศพั ท์และโครงสรา้ งภาษาทก่ี ำหนดใหไ้ ด้ถูกตอ้ งเหมาะสม
3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept)
ความรู้และกิจกรรมฝึกทักษะการคิด บทความ (articles) ที่มีคำศัพท์ Vocabulary 1: Things in Houses สำนวนภาษาโครงสร้าง
ภาษาเกี่ยวกับ Explaining why โดยใช้ทักษะเรียนภาษาท้ัง 4 ด้าน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร ทำให้ผู้เรียนสามารถ
สอ่ื ความไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ มนี ิสัยรกั การอ่าน มีสุนทรียภาพในการอ่าน
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Vocabulary: Things in Houses
- Speaking: Explaining why
- Writing strategy: Describing rooms in a house, สานวนภาษาและโครงสร้างทใี่ ชใ้ นการเขยี น
- Reading strategy: Skimming reading
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพดู การอา่ น และการเขยี น
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มปี ระสิทธิภาพในการส่อื ความ
5. กิจกรรมการเรียนรู้
• Lead-in
1. ครูนำความสนใจของนักเรียนเข้าสู่บทเรียนในชั่วโมงเรียนนี้โดยใช้ภาพ An igloo, A ger และ A houseboat ในหนังสือเรียน
และคำถามดังนี้
Q: Do you think what is the difference between the cottage and the viila?
2. นักเรียนให้คำตอบอยา่ งหลากหลาย ครูยอมรับทุกคำตอบ
-A cottage = a small house, usually of only one story, a small, modest house at a lake, mountain
resort, etc., owned or rented as a vacation home
-A villa = (especially in continental Europe) a large and luxurious country residence
a large country house of Roman times, having an estate and consisting of farm
and residential buildings arranged around a courtyard
3. ครูเช่ือมโยงเขา้ สู่กิจกรรม Vocabulary
• Presentation
1. ครูสอนคาศพั ทใ์ นบทอา่ นกิจกรรม A, B, C, D และ E ในหนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 8 โดยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมดงั น้ี
- ใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั ช่วยกนั คน้ คาศพั ทท์ ่ีไม่รูค้ วามหมาย ขดี เสน้ ใตก้ ากบั ไว้ และใหน้ กั เรียนระบุ Parts of speech ของ
คาศพั ทจ์ ากตาแหน่งภายในประโยค (ครูสอน Parts of speech และฝึกให้ระบุ Parts of speech ทกุ คร้ังที่สอนความหมายของคาศพั ท)์
- นกั เรียนบอกหมวดหมขู่ องคาศพั ทเ์ หล่าน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน
- ใหน้ กั เรียน Read aloud คาศพั ทบ์ นกระดาน
- ใหน้ กั เรียนแบง่ กนั /ช่วยกนั คน้ หาความหมายของคาศพั ทเ์ หลา่ น้ี แลว้ พูดบอกความหมาย
- ครูเขียนความหมายของคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนบอกและเพ่มิ เติมความหมายของคาศพั ทบ์ างคาใหส้ มบูรณ์
- ครูเลือกคา/วลี/ประโยคที่มีความหมายพเิ ศษที่ตอ้ งตีความหมายมาอธิบาย ไดแ้ ก่ a cottage, a villa, a patio, a utility room
2. ครทู บทวนโครงสร้างประโยคเกยี่ วกบั Explaining why, Present simple using for describing pictures or rooms
• Practice
นักเรียนเปิดหนงั สอื เรียน Close-up 3 หน้า 8
1. กิจกรรม A ครูใหน้ กั เรยี น Read aloud คำสัง่ และพดู บอกสิง่ ทน่ี ักเรียนตอ้ งปฏบิ ตั ใิ นกิจกรรมนี้
- ใหน้ กั เรียนอา่ นคำศัพท์ที่เป็นตัวเลือกและเลอื กคำตอบ
- ครูตรวจสอบความถกู ต้องโดยใหน้ ักเรียนอา่ นคำตอบพรอ้ มกนั และครูเฉลยคำตอบ
เฉลยคาตอบ
1. house 2. flat 3. cottage 4. villa
2. กิจกรรม B ครูให้นกั เรียนจบั คู่พดู แสดงความคิดเห็นและใหเ้ หตผุ ลโดยใชโ้ ครงสร้างประโยคเก่ียวกบั Explaining why โดย
ผลดั กนั พูด
- ครูให้เวลานกั เรียนทากิจกรรม ครูสังเกต แนะนา ช่วยเหลือ และแกป้ ัญหา
- ครูตรวจสอบโดยให้เลือกนกั เรียน 3-4 คู่มาพดู บอกคาตอบ
- ครูยอมรับทกุ คาตอบท่ใี หเ้ หตผุ ล Explaining why และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
Students’ own answers
3. กิจกรรม C ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสงั่ และพดู บอกสิ่งทน่ี กั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ใหน้ กั เรียนอา่ นคาศพั ทท์ ่ีเป็นตวั เลือกและเลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอเา่ ฉนลคยาคตำอตบอพบร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
1. dining room 2. bedroom 3. living room 4. kitchen 5. bathroom 6. hallway
4. กจิ กรรม D ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่งั และคาศพั ทท์ ่ีเป็นตวั เลือก
- ใหน้ กั เรียน Read aloud ยอ่ หนา้ และขีดเส้นใต้ Things in the room และ What to do แลว้ ตดั สินใจเลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอ่านคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคาตอบ
1. shed 2. patio 3. utility room
5. กิจกรรม E ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสัง่ และคาศพั ทท์ ่ีเป็นตวั เลือกพร้อมท้งั บอกความหมายและเลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอ่านคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ 6. shed
1. utility room 2. kitchen 3. bathroom 4. living room 5. bedroom 12. hallway
7. living room 8. utility room 9. patio 10. dining room 11. kitchen
• Production
ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรม Expand Your Ideas ซ่ึงครู applied จากกิจกรรม B ใหน้ กั เรียนประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ท่ีเรียนมาในชว่ั โมงน้ี
ทากิจกรรม ครูอธิบายคาสั่ง ช้ีแนะวิธีคดิ และการตอบคาถาม โดยใหน้ กั เรียน Discuss and share Which room in your house would
you like most? Why? ดงั น้ี
- ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสง่ั และพูดบอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- นกั เรียนตอบคาถามโดยใชค้ าศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยค Explaining Why or Why not /because
- ครูทบทวนการใชก้ ริยาเป็น Present ไดแ้ ก่ Present Simple
- ครูให้เวลานกั เรียนทากิจกรรม ครู สังเกต แนะนา ช่วยเหลือและแกป้ ัญหา ถา้ เวลาไม่พอให้นักเรียนทาต่อเป็นการบา้ นและ
นามาส่งในวนั ตอ่ ไป
- ครูยอมรับทกุ คาตอบที่มีเหตผุ ล
- ครูตอบขอ้ ซกั ถามของนกั เรียน สรุปส่ิงที่เรียนในชวั่ โมงน้ี
เฉลยคำตอบ
Students’ own answers
6. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ์
แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
วธิ กี าร 15-17 ผลการประเมนิ
1. สังเกต 12-14 ดีมาก
10-11 ดี
วธิ ีการ เครื่องมือ พอใช้
คะแนน ผา่ น
2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมินทกั ษะการฟัง- การพดู 18-20
การใชภ้ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอ่าน-การเขียน 15-17 เกณฑ์
12-14
10-11 ผลการประเมิน
ดีมาก
ดี
พอใช้
ผา่ น
7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรื่อง Vocabulary กิจกรรม A-E หนา้ 8
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง Home Sweet Home
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง Vocabulary 2: Things in Rooms
รหัสวิชา อ 23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผ้สู อน นางสาวภาวดี ภาระหตั ถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองที่ฟังและ
อ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ
ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่องท่ีไดจ้ ากการวิเคราะหเ์ รื่อง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถาน-
การณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเก่ียวกบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
อ่านบทบรรยายเกี่ยวกับ Things in Rooms แล้วสรุปใจความสำคัญ อธิบายและแสดงความคิดเห็น โดยใช้คำศัพท์และโครงสร้าง
ภาษาทก่ี ำหนดให้ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
ความรู้และกจิ กรรมฝกึ ทักษะการคิดที่มีคำศัพท์เกี่ยวกับ Things in Rooms สำนวนภาษาโครงสร้างภาษาเก่ียวกับExplaining why
โดยผ่านการฝึกทักษะการอ่าน การเขียน และกระบวนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทำให้ผู้เรียนสามารถสื่อความได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ มนี ิสัยรักการอ่าน มีสนุ ทรยี ภาพในการอา่ น
4. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Vocabulary: Things in Rooms
- Speaking: Explaining why
- Writing strategy: Describing rooms in a house, สานวนภาษาและโครงสร้างท่ีใชใ้ นการเขียน
- Reading strategy: Skimming reading
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพูด การอา่ น และการเขียน
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มเี หตผุ ลมีวิจารณญาณ
5. กิจกรรมการเรียนรู้
• Lead-in
1. ครนู ำความสนใจของนกั เรยี นเขา้ สูบ่ ทเรยี นในชั่วโมงเรยี นนโี้ ดยใชภ้ าพ An igloo, A ger และ A houseboat ในหนงั สอื เรยี น
และคำถามดงั นี้
Q: Do you think what is the difference between the curtains and the blinds?
2. นักเรยี นให้คำตอบอยา่ งหลากหลาย ครยู อมรับทกุ คำตอบ
3. ครูเช่ือมโยงเขา้ สูก่ ิจกรรม Vocabulary
• Presentation
1. ครสู อนคำศพั ทใ์ นบทอ่านกจิ กรรม F.-J. ในหนังสอื เรยี น Close-up 3 หนา้ 9 โดยใหน้ กั เรยี นมีสว่ นร่วมดังนี้
- ใหน้ ักเรยี นทั้งชั้นช่วยกันค้นคำศัพทท์ ไ่ี ม่รู้ความหมาย ขดี เส้นใตก้ ำกบั ไว้ และให้นกั เรียนระบุ Parts of speech ของคำศัพท์จาก
ตำแหนง่ ภายในประโยค (ครูสอนParts of speech และฝึกใหร้ ะบุ Parts of speech ทกุ คร้ังที่สอนความหมายของคำศพั ท)์
- นกั เรียนบอกหมวดหม่ขู องคำศัพทเ์ หลา่ นี้ โดยครเู ขยี นลงใน Word Box บนกระดาน
- ให้นกั เรยี น Read aloud คำศัพทบ์ นกระดาน
- ให้นกั เรยี นแบ่งกนั /ชว่ ยกนั คน้ หาความหมายของคำศัพท์เหลา่ นี้ แล้วพูดบอกความหมาย
- ครูเขียนความหมายของคำศพั ทท์ น่ี ักเรียนบอกและเพ่มิ เตมิ ความหมายของคำศพั ท์บางคำใหส้ มบรู ณ์
2. ครูอธิบาย Phrasal verbs or Two-word verbs ได้แก่ put away, put up, pull up, hang up, switch on โดยใหน้ กั เรยี นมสี ว่ นร่วม
สบื ค้นหาความหมายจาก Dictionary/Online dictionary
- ครกู ำหนดใหน้ กั เรยี นไปสืบค้น Phrasal verbs or Two-word verbsเพิ่มเติมคนละ 10 คำพร้อมทัง้ ใหค้ วามหมายเพื่อนำมา
Share กับเพ่ือนในชน้ั
3. ครทู บทวนโครงสรา้ งประโยคเกย่ี วกับ Explaining why และ Present simple using for describing rooms
• Practice
1. กิจกรรม F ครูให้นักเรียนจับคู่พูดแสดงความคิดเห็นและใหเ้ หตุผลโดยใช้โครงสร้างประโยคเก่ียวกับ Explaining why โดยผลดั
กนั พูด
- ครูให้เวลานักเรยี นทำกิจกรรม ครูสงั เกต แนะนำ ช่วยเหลอื และแก้ปัญหา
- ครตู รวจสอบโดยใหเ้ ลือกนกั เรียน 3-4 คูม่ าพูดบอกคำตอบ
- ครยู อมรับทกุ คำตอบที่ให้เหตุผล Explaining why และครูเฉลยคำตอบ
เฉลยคำตอบ
Students’ own answers
2. กจิ กรรม G ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่งั และพดู บอกสิ่งท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกจิ กรรมน้ี
- ใหน้ กั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ี่เป็นตวั เลือกและเลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งโดยให้นกั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
a. rug = 1, 3 b. mirror = 2 c. mat = 2 d. poster = 1 e. painting = 3, 4 f. curtains = 4
g. blinds =3,4 h. lamp = 2, 4 i. pillow = 1, 4 j. duvet = 4 k. shelves = 4 l. coffee table = 3
3. กจิ กรรม H ครูให้นกั เรียน Read aloud คาส่ัง และพดู บอกส่ิงที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ให้นกั เรียนอา่ นคาศพั ทท์ ่ีเป็นตวั เลือกและบอกความหมาย
- ครูช้ีแนะวธิ ีคิดคาตอบโดยให้นกั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบที่อยหู่ นา้ และหลงั ช่องวา่ ง
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอ่านตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยคไดค้ าตอบดงั น้ี
ตวั ชีแ้ นะคำตอบ
1. It’sgetting a bit dark 2. is such a mess! 3. in my wardrobe 4. the kitchen binds to
look out at the garden 5. I’d like it on the wall
- ใหน้ กั เรียนใชต้ วั ช้ีแนะคาตอบดงั กลา่ วน้ีไปใชใ้ นการตดั สินใจเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ ง
- ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. switch on 2. put away 3. hang up 4. pull up 5. put up
4. กิจกรรม I ครูใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิ 3 ขอ้ ตามข้นั ตอนต่อไปน้ี
▪ ข้นั ท่ี 1 Read aloud the Exam Close-up: Focusing on words before&after a gap.
▪ ข้นั ท่ี 2 Read aloud the Exam Task and underline the words before and after each gap.
▪ ข้นั ท่ี 3 Identify the parts of speech of the missing words or tell what kind of words they are.
- ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งโดยให้นกั เรียนอา่ นพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
(1) the verb to have (2) the adjective (3) the noun/pronoun (4) the preposition (5) the verb
(6) the adjective (7) the pronoun (8) the preposition (9) the pronoun/noun (10) the verb
5. กิจกรรม J. ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่ัง และคาศพั ทท์ ่ีเป็นตวั เลือก
- ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบโดยนาคาตอบจากกิจกรรม I. มาใชเ้ ป็นกรอบในการคดิ หาคามาเติมในช่องว่าง
- ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งโดยให้นกั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
(1) have (2) like (3) there (4) at (5) go (6) own (7) your (8) in (9) lots (10) take
• Production
ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรม Ideas Focus ในหนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 9 ให้นกั เรียนประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ท่ีเรียนมาในชวั่ โมงน้ี
ทากิจกรรม ครูอธิบายคาสงั่ ช้ีแนะวธิ ีคิด และการตอบคาถาม โดยใหน้ กั เรียน Discuss and share ดงั น้ี
- ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสั่ง และพดู บอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- นกั เรียนตอบคาถามโดยใชค้ าศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยค Explaining Why or Why not /because
- ครูทบทวนการใชก้ ริยาเป็น Present simple และ Future simple
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนทากิจกรรม ครู สังเกต แนะนา ช่วยเหลือและแกป้ ัญหา ถา้ เวลาไมพ่ อใหน้ กั เรียนทาต่อเป็นการบา้ นและ
นามาส่งในวนั ตอ่ ไป
- ครูยอมรับทุกคาตอบที่มีเหตผุ ล
- ครูตอบขอ้ ซกั ถามของนกั เรียน สรุปส่ิงท่ีเรียนในชว่ั โมงน้ี
เฉลยคำตอบ
Students’ own answers
6. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ์
วธิ กี าร แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
15-17 ผลการประเมิน
1. สงั เกต 12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟัง- การพดู คะแนน ผลการประเมิน
18-20 ดีมาก
การใชภ้ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอา่ น-การเขียน 15-17 ดี
12-14 พอใช้
10-11 ผา่ น
7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เร่ือง Vocabulary กิจกรรม F-J, Ideas Focus หนา้ 9
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง Home Sweet Home
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง Reading & Vocabulary about houses and furniture
รหัสวิชา อ 23101 รายวิชาภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผ้สู อน นางสาวภาวดี ภาระหตั ถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองที่ฟังและ
อา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ
ต 1.3 ม.3/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เร่ืองท่ีไดจ้ ากการวิเคราะหเ์ ร่ือง/ข่าว/เหตุการณ์/สถาน-
การณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 2.1 ม.3/2 อธิบายเกี่ยวกบั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจา้ ของภาษา
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
อ่านบทความเก่ียวกบั houses and furniture แลว้ พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ อธิบาย และแสดงความ
คิดเห็น โดยใชค้ าศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษาท่ีกาหนดให้ไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม
3. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด (Learning Concept)
ความรู้และกิจกรรมฝึกทักษะการคิด บทความ (articles) ที่มีคำศัพท์เกี่ยวกับ houses and furniture สำนวนภาษาและโครงสร้าง
ภาษา Explaining why/because และ Reading skills: Scanning reading and Skimming reading โดยผ่านการฝึกทักษะการอ่าน การเขียน
และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสือ่ สาร ทำให้ผู้เรยี นสามารถสื่อความได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ มีนิสัยรักการอ่าน มีสุนทรียภาพใน
การอ่าน
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Vocabulary: houses and furniture
- Speaking: Explaining why/because
- Writing strategy: Describing different houses
- Reading strategy: Scanning reading and Skimming reading
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพดู การอ่าน และการเขยี น
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มีประสิทธภิ าพในการส่ือความ
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
• Lead-in
1. ครูนาความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียนในชวั่ โมงเรียนน้ีโดยใชภ้ าพ An igloo, A ger และ A houseboat ในหนงั สือ
เรียน และคาถามดงั น้ี
Q: Do you think what your sweet home should be like?
2. นกั เรียนใหค้ าตอบอยา่ งหลากหลาย ครูยอมรับทกุ คาตอบ
3. ครูเชื่อมโยงเขา้ สู่กิจกรรม Reading&Vocabulary about houses and furniture
• Presentation
1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา้ 4-6 ครูสอนคาศพั ทใ์ นเรื่อง Reading กิจกรรม A-B และเร่ือง
Vocabulary กิจกรรม A-E โดยให้นกั เรียนมีส่วนร่วมดงั น้ี
- ให้นกั เรียนท้งั ช้นั ช่วยกนั คน้ คาศพั ทท์ ่ีไม่รู้ความหมาย ขีดเสน้ ใตก้ ากบั ไว้ และให้นกั เรียนระบุ Parts of speech ของ
คาศพั ท์ จากตาแหน่งภายในประโยค (ครูสอนParts of speech และฝึกใหร้ ะบุ Parts of speech ทุกคร้ังที่สอนความหมายของคาศพั ท)์
- นกั เรียนบอกหมวดหมขู่ องคาศพั ทเ์ หล่าน้ี โดยครูเขียนลงใน Word Box บนกระดาน
- ให้นกั เรียน Read aloud คาศพั ทบ์ นกระดาน
- ให้นกั เรียนแบง่ กนั /ช่วยกนั คน้ หาความหมายของคาศพั ทเ์ หล่าน้ี แลว้ พดู บอกความหมาย
- ครูเขยี นความหมายของคาศพั ทท์ ี่นกั เรียนบอกและเพ่มิ เติมความหมายของคาศพั ทบ์ างคาให้สมบรู ณ์
- ใหน้ กั เรยี นคดั ลอก Word Box และคำศัพท์ทีเ่ กี่ยวขอ้ งลงในสมดุ คำศพั ทข์ องตนเอง (ครูกำหนดใหน้ กั เรียนทกุ คนมสี มุด
คำศพั ทแ์ ละสมุดแบบฝึกหดั )
2. ครทู บทวน Reading skills: Scanning and Skimming reading โดยใหน้ กั เรียนมสี ว่ นร่วม
• Practice
นกั เรียนเปิ ดหนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา้ 4-6 ทากิจกรรมต่อไปน้ี
1. เรื่อง Reading กจิ กรรม A ครูให้นกั เรียน Read aloud the Exam Reminder แลว้ จบั คู่ Discuss ประเด็นคาถาม
- ครูช้ีแนะคาตอบโดยใหน้ กั เรียนยอ้ นกลบั ไปอา่ นประโยคที่ 2
- นกั เรียนทุกคาตอบใกลเ้ คยี ง ไดแ้ ก่ Because it will help us decide if the answer is wrong
- ครูเนน้ ย้าความสาคญั ของการ justifying the answer แนะใหน้ กั เรียนใชว้ ิธีการน้ีทุกคร้ังในการเลือกคาตอบ
2. เรื่อง Reading กิจกรรม B ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมเป็นคู่ โดยใชว้ ธิ ีการอา่ นแบบ Scanning
- นกั เรียนกาหนด Clue ในการอ่านก่อน โดยอ่านคาถามก่อนและนาคาสาคญั จากคาถามไปเป็น Clues ในการอา่ นเพ่ือ
คน้ หาคาตอบของคาถามน้นั ๆ (Scanning Reading)
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนอ่าน และตดั สินใจเลือกคาตอบ โดยครูสังเกตแนะนา ช่วยเหลือ แกป้ ัญหา
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. c 2. a 3. c 4. b 5. a 6. b 7. c 8. a
3. เร่ือง Vocabulary กิจกรรม A ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมเป็นคู่ ครูอธิบายกิจกรรม Cloze sentences
- ครูทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test โดยใหน้ กั เรียน Focus on words before and after a gap
- ใหน้ กั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบที่อยหู่ นา้ และหลงั ช่องวา่ ง โดยขดี เส้นใตก้ ากบั ไว้
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนคน้ หา คิด และใหค้ าตอบโดยขีดเส้นใต้
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยให้นกั เรียนอา่ นตวั ช้ีแนะคาตอบของทุกประโยคไดค้ าตอบดงั น้ี
ตัวชี้แนะคำตอบ
1. staying in my dad’s holiday 2. on the top floor of the building 3. along this
4. lives in a cute 5. before it gets too warm
6-. ใsหoน้ wกั eเรhียaนvใeชต้toวั ชw้ีแaนitะคifาsตoอmบeดoงั nกeล’่าsวนta้ีไkปinใgชใ้aนsกhาoรwตดeั rสินใจเลอื กคาตอบที่ถูกตอ้ ง
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนคน้ หา คิด และใหค้ าตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยให้นกั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. villa 2. flat 3. hallway 4. cottage 5. fridge 6. bathroom
4. เรื่อง Vocabulary กจิ กรรม B ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมเป็นคู่ ครูอธิบายกิจกรรม Cloze dialogue
- ครูทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบCloze testโดยให้นกั เรียนFocus on words before and after a gap
- ให้นกั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบที่อยหู่ นา้ และหลงั ช่องว่าง โดยขีดเส้นใตก้ ากบั ไว้
- ครูให้เวลานกั เรียนคน้ หา คิด และใหค้ าตอบโดยขดี เส้นใต้
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยให้นกั เรียนอ่านตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยคไดค้ าตอบดงั น้ี
ตัวช้แี นะคำตอบ
(1) that goes in the utility room (2) put it in the living room (3) put that on the patio
(4) it goes in the kitchen (5) goes in my bedroom, to put my clothes (6) goes in the shed
- ให้นกั เรียนใชต้ วั ช้ีแนะคาตอบดงั กลา่ วน้ีไปใชใ้ นการตดั สินใจเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนคน้ หา คิด และใหค้ าตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยให้นกั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
(1) tumble dryer (2) armchair (3) barbecue (4) cooker (5) wardrobe (6) lawnmover
5. เร่ือง Vocabulary กิจกรรม C ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมเป็นคู่ ครูอธิบายวิธีการทากิจกรรม ทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ
Cloze test โดยให้นกั เรียน Focus on words before and after a gap และให้นกั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบที่อยหู่ นา้ และหลงั ช่องว่าง โดย
ขดี เส้นใตก้ ากบั ไว้
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอ่านตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยคไดค้ าตอบดงั น้ี
ตัวชแี้ นะคำตอบ
1. see myself 2. on your wall 3. close, It’s too sunny 4. sleeping on
5. wal-kใoหnน้ , กัyเoรuียrนsใhชoต้ eวั sช้ีแ6น.ะoคnาตhอeบr ดbงัeกdล,า่ tวoนo้ีไcปoใlชdใ้ น7ก.ารmตyดั สdินrinใkจเลือกคาตอบท่ีถูกต8อ้ .งgot on your window
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนคน้ หา คิด และใหค้ าตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยให้นกั เรียนอ่านคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. mirror 2. poster 3. blinds 4. pillow 5. rug 6. blanket 7. coffee table 8. curtains
6. เรื่อง Vocabulary กิจกรรม D ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเป็นคู่ ครูอธิบายกิจกรรม Cloze sentences ทบทวนเทคนิคการทา
ขอ้ สอบ Cloze test โดยใหน้ กั เรียน Focus on words before and after a gap ให้นกั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบที่อยหู่ นา้ และหลงั ช่องว่าง
โดยขีดเสน้ ใตก้ ากบั ไว้
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอา่ นตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยคไดค้ าตอบดงั น้ี
ตัวชี้แนะคำตอบ
1. water 2. but now live in home 3. is summer 4. wood
5. put your book back on 6. very warm, switch on the air 7. satellite 8. prefer to have a blanket or
- ใหน้ กั เรียนใชต้ วั ช้ีแนะคาตอบดงั กลา่ วน้ีไปใชใ้ นการตดั สินใจเลอื กคาตอบท่ีถูกตอ้ ง
- ครูใหเ้ วลานกั เรียน คดิ และใหค้ าตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
1. running เฉลยคำตอบ
5. shelves 2. normad 3. season 4. stove
6. conditioner 7. dish 8. duvet
• Production
- ครูให้นกั เรียนทาเร่ือง Vocabulary กิจกรรม E ในหนงั สือ Workbook Close-up 3 หนา้ 6
- ครูให้นกั เรียน Read aloud the Exam Reminder ซ่ึงเป็น Cloze passage
- ครูทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test โดยให้นกั เรียน Focus on words before and after a gap ให้นกั เรียนคน้ หาตวั
ช้ีแนะคาตอบท่ีอยหู่ นา้ และหลงั ช่องวา่ ง โดยขีดเส้นใตก้ ากบั ไว้
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอา่ นตวั ช้ีแนะคาตอบของทุกประโยคไดค้ าตอบดงั น้ี
ตวั ชีแ้ นะคำตอบ
(1) a tree house (2) a small lamp, swjtch it and read a book (3) hang ,my jacket
(4) put, some postrs of (5) away all my things (6) love chilling
- ใหน้ กั เรียนใชต้ วั ช้ีแนะคาตอบดงั กล่าวน้ีไปใชใ้ นการตดั สินใจเลอื กคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอา่ นคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
(1) got (2) on (3) up (4) up (5) put (6) out
6. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ์
แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
วิธีการ 15-17 ผลการประเมนิ
12-14 ดีมาก
1. สงั เกต 10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
วิธกี าร เครื่องมือ คะแนน เกณฑ์
18-20
2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟัง- การพูด 15-17 ผลการประเมิน
การใชภ้ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอา่ น-การเขียน 12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรื่อง Reading และ Vocabulary หนา้ 6-9
หนงั สือ Workbook Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เร่ือง Reading กิจกรรม A-B และเรื่อง Vocabulary กิจกรรม A-E
หนา้ 4-6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง Home Sweet Home
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง Grammar 1: Present Perfect Simple
รหสั วชิ า อ 23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผ้สู อน นางสาวภาวดี ภาระหัตถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ
ข่าว/เหตกุ ารณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการ
ลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
พดู และเขยี นโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกบั Explore More, Little Helpers และส่ือสารอยา่ งตอ่ เน่ืองเหมาะสม
3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
ความรู้เกี่ยวกบั การใชภ้ าษาและโครงสร้าง Present Perfect Simple ทาให้การเชื่อมโยงระหว่างขอ้ มูล การเลื่อนไหลของขอ้ มลู มี
ความสอดคลอ้ งและต่อเนื่อง การส่ือสารมีประสิทธิภาพ นกั เรียนไดร้ ับความรู้โดยผา่ นการฝึกทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ดา้ น การฟัง การพูด
การอ่าน และการเขียน กระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร ทาให้การสื่อสารบรรลุผลตามวตั ถุประสงค์ ผเู้ รียนมีเจตคติท่ีดีต่อ
ภาษาองั กฤษ มีนิสยั รักการอ่าน มีสุนทรียภาพในการอา่ น
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Grammar: Present Perfect Simple
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพดู การอ่าน และการเขียน
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพือ่ การสื่อสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มีประสทิ ธิภาพในการส่ือความ
- มเี หตุผล มวี จิ ารณญาณ
5. กิจกรรมการเรียนรู้
• Lead-in
1. ครนู ำความสนใจของนักเรียนเข้าสู่บทเรียนในชว่ั โมงเรยี นนี้ โดยครเู ขยี นประโยคต่อไปนบ้ี นกระดาน ดังน้ี
Q: Do you think these sentences have the same meaning? Why?/Why not?
a. Joe lived in this house when he was born.
b. Joe has lived in this house since he was born.
2. ใหน้ กั เรียนทั้งช้นั Read aloud
3. ครูใหน้ ักเรยี นคดิ คำตอบและบอกคำตอบพร้อมกบั ให้เหตุผล โดยครเู ขียนทุกคำตอบของนักเรยี นบนกระดาน
• Presentation
ครูสอนโครงสร้าง Present Perfect Simple (Forms and Usages) โดยใช้กจิ กรรม Grammar Reference จากท้ายเล่มของหนงั สอื
เรยี น ดังน้ี
1. Present Perfect Simple
- ครสู อน Grammar เรื่อง Present Perfect Simple โดยอธิบายพร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ
- ครูอธบิ าย Forms and Usages of Present Perfect Simple ดังนี้
Forms of Present Perfect Simple:
1. Affirmative Form: Subject +has/have+verb in Past participle+…
2. Negative Form: Subject+has/have+not/never+verb in Past participle+…
3. Question Form: Has/Have +verb in Past participle+…?
Usages of Present Perfect Simple:
1. Something that started in the past and is still true now.
2. Something that happened in the past but we don’tsay when.
3. Something that happened in the recent past.
-4ค. Eรูยxpกeตrัวieอnยcา่eง. ของประโยคท่ีใชก้ รยิ าเป็น Present Perfect Simple โดยใหน้ ักเรยี นมสี ว่ นรว่ มดงั นี้
▪ I have slept in this room since I was three.
▪ We have used this computer since 2017.
▪ We have taken a lot of photos.
▪ That young lady has just graduated.
▪ Have you finished the report yet?
2. have been & have gone ครูอธิบายความหมายที่แตกต่างของกริยา have been & have gone และยกตวั อยา่ งประโยค ดงั น้ี
- ความหมาย have been to = ไปและกลบั มาแลว้
- ความหมาย have gone to = ไป และยงั อยทู่ ่ีนนั่ ยงั ไมก่ ลบั มา
3. for & since ครูอธิบาย Adverb of time of Present Perfect Simple ไดแ้ ก่ for, since ใชแ้ ตกตา่ งกนั ดงั น้ี
- for + periods/amount of time เช่น for three years
- since + point of time เช่น since 8 o’clock, since I was a child
- ตาแหน่งของ adverbs of time using in Present Perfect Simple ไดแ้ ก่
Subject + has/have + verb in Past participle + … + since/for + ….
4. Other adverbs of time using in Present Perfect Simple: already, still, just, ever, never, yet โดยครูอธิบายความหมาย
และตาแหน่ง ดงั น้ี
- ตาแหน่งของ already, still, just, ever, never ไดแ้ ก่
Subject +has/have+ just+ verb in Past participle+… - ตาแหน่งของ yet ไดแ้ ก่
Has/Have + verb in Past participle + … yet?
ตวั อยา่ งเช่น
▪ Have you ever been to the PP Island?
▪ Have you booked the plane ticket yet?
▪ They have just prepared everything for the small party.
• Practice
ครใู หน้ กั เรียนเปดิ หนังสอื เรยี น Close-up 3 หน้า 10 ทำกจิ กรรมต่อไปน้ี
1. กจิ กรรม A
- ครูทบทวนรปู กรยิ า Past participle
- ครูใหน้ กั เรยี นร้จู ักโครงสร้างประโยค Present Perfect Simple (Forms)
- ครอู ธบิ ายและใหน้ กั เรียนคดิ วเิ คราะห์ตัวเลือกและ Justifying the answers
- ครตู รวจสอบความถกู ต้องโดยใหน้ ักเรียนอ่านคำตอบพรอ้ มกนั และครูเฉลยคำตอบ
เฉลยคำตอบ
1. has slept 2. I’ve been, I’ve never been 3. I’ve just seen
2. กิจกรรม B
- ครูให้นกั เรียนรู้จกั กฏการใช้ Present Perfect Simple (Usages)
- ครูอธิบายและให้นกั เรียนคดิ วเิ คราะหต์ วั เลือกและ Justifying the answers.
- ครูใหเ้ วลานกั เรียนคน้ หา คิด และใหค้ าตอบโดยการจบั คู่ประโยคกบั Usages
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอ่านคาตอบพร้อมกนั และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
a. = 2 b. = 3 c. = 1
3. กิจกรรม C ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่ัง และพดู บอกส่ิงท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ใิ นกิจกรรมน้ี
- ครูถามความหมายของ time expressionsและใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ ง
- ใหน้ กั เรียน Read aloud ประโยคสนทนาระหวา่ ง A และ B พร้อมท้งั คน้ หา time expressions ไปดว้ ย
- ครูให้เวลานกั เรียนคน้ หา คดิ และใหค้ าตอบโดยขีดเส้นใต้
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนอา่ น time expressions ในแตล่ ะขอ้ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. just 2. ever, never 3. yet, already 4. yet, still
4. กิจกรรม D ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสั่ง และพดู บอกส่ิงที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ใิ นกิจกรรมน้ี
- ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ทบทวนการใช้ for and since with the Present Perfect Simple
- ให้นกั เรียน Read aloud ประโยค พร้อมท้งั เลือกคาตอบ for or since โดยขีดเสน้ ใต้
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนอา่ นประโยค time expressionsในแต่ละขอ้ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. since 2. for
5. กจิ กรรม E ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสั่ง และพูดบอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี
- ให้นกั เรียน Read aloud ตวั เลือกทุกตวั ซ่ึงเป็น time expressions used with the Present Perfect Simple และทบทวนการใช้
ตาแหน่งภายในประโยคและความหมาย
- ครูอธิบาย Cloze dialogue และทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test โดยใหน้ กั เรียน Focus on words before and
after a gap
- ใหน้ กั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบท่ีอยหู่ นา้ และหลงั ช่องว่าง โดยขีดเสน้ ใตก้ ากบั ไว้
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยให้นกั เรียนอา่ นตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยคไดค้ าตอบ
- ใหน้ กั เรียนจบั คู่เลือก time expressions มาเติมในประโยคสนทนาระหว่าง A และ B
- ใหน้ กั เรียนนาคาตอบท่ีไดไ้ ป Discuss and share กบั เพ่ือนในห้อง
- ใหน้ กั เรียนจบั คู่ พดู ประโยคสนทนาระหว่าง A และ B
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอา่ นประโยค time expressionsในแต่ละขอ้ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. ever, never 2. already 3. yet, still 4. just, yet
• Production
1. กจิ กรรม F ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสัง่ และพูดบอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูใหน้ กั เรียนทบทวนโครงสร้างประโยคบอกเลา่ ประโยคคาถามและประโยคปฏิเสธที่ใชก้ ริยาเป็น Present Perfect
Simple
- ครูใหน้ กั เรียนทบทวนกริยารูป Past participle ของกริยาในวงเลบ็
- ให้นกั เรียนเขียนคาตอบในกิจกรรม F โดยครูใหเ้ วลานกั เรียนคดิ และเขียนคาตอบ
- ให้นกั เรียนนาคาตอบที่ไดไ้ ป Discuss and share กบั เพื่อนในหอ้ ง
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียน Read aloud passage และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
(1) have visited (2) have returned (3) Have…..been (4) have never tried (5) have never had
(6) have just found (7) haschanged (8) have stayed (9) have learnt (10) have chosen
2. กจิ กรรม G ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสั่ง และพูดบอกส่ิงท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ใิ นกิจกรรมน้ี
- ครูใหน้ กั เรียนทบทวนการใช้ for and since with the Present Perfect Simple
- ให้นกั เรียนเขียนคาตอบกจิ กรรม G โดยครูให้เวลานกั เรียนคิดและเขยี นคาตอบ
- ให้นกั เรียนนาคาตอบที่ไดไ้ ป Discuss and share กบั เพ่อื นในหอ้ ง
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียน Read aloud คาตอบและครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
- for: for a few days, for a long time, for years, for 24 hours, for three minutes
- since: since 1991, since November 5th, since 8 o’clock, since yesterday, since last week
6. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ์
แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
วธิ ีการ 15-17 ผลการประเมิน
1. สงั เกต 12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
2. ประเมินทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟัง- การพดู คะแนน ผลการประเมนิ
18-20 ดีมาก
การใชภ้ าษา แบบประเมินทกั ษะการอา่ น-การเขียน 15-17 ดี
12-14 พอใช้
10-11 ผา่ น
7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เร่ือง Grammar กิจกรรม A-G หนา้ 10
Grammar Reference for Unit 1 หนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 109
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง Home Sweet Home
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 เรอื่ ง Grammar 2: Possessives
รหัสวชิ า อ 23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผ้สู อน นางสาวภาวดี ภาระหัตถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ
ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ และการ
ลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
พูดและเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกบั Little Helpers เร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ วั เร่ืองท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม และส่ือสารอยา่ ง
ตอ่ เน่ืองและเหมาะสม
3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด (Learning Concept)
ความรู้เก่ียวกบั การใชภ้ าษาและโครงสร้าง Possessives ทาให้การส่ือสารเกิดความเช่ือมโยงระหว่างขอ้ มูล การเลื่อนไหลของ
ขอ้ มูลมีความสอดคลอ้ งและต่อเนื่อง การสื่อสารมีประสิทธิภาพ นกั เรียนไดร้ ับความรู้โดยผา่ นการฝึกทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ดา้ น การฟัง
การพูด การอ่าน และการเขียน และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสาร ทาให้การสื่อสารบรรลุผลตามวตั ถุประสงค์ ผเู้ รียนมี
เจตคติที่ดีตอ่ ภาษาองั กฤษ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ มีนิสัยรักการอ่าน มีสุนทรียภาพในการอ่าน
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Grammar: Possessives
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพูด การอา่ น และการเขียน
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพือ่ การส่ือสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มปี ระสทิ ธภิ าพในการส่ือความ
- มเี หตุผล มีวจิ ารณญาณ
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
• Lead-in
1. ครูนำความสนใจของนักเรียนเข้าสู่บทเรียนในชั่วโมงเรียนนี้ โดยครูเขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน และให้นักเรียนทั้งชั้น
Read aloud ดังนี้
Q: Do you think these sentences have the same meaning? Why?/Why not?
a. This is Joe ’s house.
b. This house is Joe’s.
2. ครูใหน้ ักเรยี นคดิ คำตอบและบอกคำตอบพรอ้ มกับใหเ้ หตุผล โดยครูเขียนทกุ คำตอบของนกั เรยี นบนกระดาน
3. ครเู ช่ือมโยงเขา้ สบู่ ทเรียนเร่อื ง Possessives
• Presentation
1. ครูสอนโครงสรา้ ง Possessives (Forms and Usages) โดยใช้กจิ กรรม Grammar Reference Unit 1 จากทา้ ยเลม่ ของหนังสือ
เรยี น Close-up 3 ดงั น้ี
1.1 Possessive ’s or Possessive forms of nouns ดังน้ี
- Use ’s with a singular noun + ’s and an irregular plural noun+’s
- Use ’ with regular plural noun +’ and a noun ending –s or Proper noun ending –s
ตวั อย่างเช่น All the students’ textbooks are labelled with the new barcode.
1.2 Possessives Adjectives & Possessive Pronouns ครสู อน Grammar เรื่อง Possessives forms of noun โดยอธบิ าย Forms
and Usages พร้อมทงั้ ยกตัวอยา่ งประกอบดงั น้ี
Subject Pronoun Possessives Adjectives Possessive Pronouns
I my mine
We our ours
your yours
You his his
He her hers
She its -
It their theirs
They
ตวั อยา่ งเช่น This is Somsak’s place. Mine is over there, near the window.
2. ครูสอน Exam Strategy ไดแ้ ก่ Exam Close-up
- ครูใหน้ กั เรียน Read aloud Exam Close-up
- ครูอธิบายพร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบและให้นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิ
• Practice
ครูใหน้ กั เรยี นเปดิ หนังสือเรยี น Close-up 3 หนา้ 11 ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่อไปนี้
1. กิจกรรม H
- ครูให้นักเรียนทบทวน the use of apostrophes (’) จากนั้นให้จับคู่อ่านประโยคที่กำหนดให้และขีดเส้นใต้ Possessives แล้ว
เลือกคำตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใหน้ ักเรยี นอา่ นคำตอบพรอ้ มกนั และครูเฉลยคำตอบ
เฉลยคำตอบ
1. John’s 2. The man’s 3. The children’s 4. The boys’ 5. Jess’
2. กจิ กรรม I
- ครูใหน้ กั เรียนรู้จกั กฎการใช้ Possessives
- ครูอธิบายและให้นกั เรียนคดิ วิเคราะหต์ วั เลือก และ Justifying the answers
- ครูให้เวลานกั เรียนคน้ หา คดิ และใหค้ าตอบ
- ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งโดยใหน้ กั เรียนอา่ นคำตอบพร้อมกัน และครูเฉลยคำตอบ
3. กจิ กaร. รsiมngJuคlaรrูใหbน้ .กั -เsรียนcR. epalduraalol,uidrrคeาgสu่ังlaแrลเะฉพลดูยบคอำตกอสบิ่งท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูให้นกั เรียนบอกความแตกตา่ งของ Possessive adjectives กบั Possessive pronoun
- ให้นกั เรียน Read aloud ประโยคสนทนาระหวา่ งA และ B พร้อมท้งั ขดี เส้นใต้ Possessive ไปดว้ ยและระบุวา่ เป็น
Possessive adjectives หรือ Possessive pronoun
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนบอกคาตอบและครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
A: your เป็น Possessive adjectives เพราะมคี ำนามตามหลัง
B: mine เปน็ Possessive Pronoun เพราะตามหลงั verb to be และไมม่ คี ำนามตามหลัง
4. กิจกรรม K ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่ัง และพดู บอกส่ิงที่นกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทบทวนการใช้ Possessives
- ใหน้ กั เรียน Read aloud ประโยคในกิจกรรม K พร้อมท้งั เลือกคาตอบ โดยจบั คู่กบั ประโยคในกิจกรรม J
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยใหน้ กั เรียนบอกคาตอบ และครูเฉลยคาตอบ
a. Sentence B เฉลยคำตอบ
b. Sentence A
5. กจิ กรรม L ครูให้นกั เรียน Read aloud คาส่ัง และพูดบอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ให้นกั เรียน Read aloud ทบทวนการใช้ possessives forms of noun (’s, s’ or ’)
- ครูอธิบาย Cloze sentences และทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test
- ใหน้ กั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบท่ีอยหู่ นา้ และหลงั ช่องว่าง โดยขีดเสน้ ใตก้ ากบั ไวแ้ ลว้ เลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยให้นกั เรียนอา่ นตวั ช้ีแนะคาตอบของทุกประโยคไดค้ าตอบ
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอา่ น possessives forms of noun (’s, s’ or ’) ในแต่ละขอ้ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. ’s 2. ’s 3. ’s 4. ’ 5. s’ 6. s’
6. กิจกรรม M ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสงั่ และพดู บอกส่ิงทนี่ กั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูให้นกั เรียนบอกความแตกต่างของ Possessive adjectives กบั Possessive Pronoun
- ครูอธิบาย Cloze sentences และทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test โดยให้นกั เรียน Focus on words before and
after a gap
- ใหน้ กั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบที่อยหู่ นา้ ตวั เลือก โดยขดี เสน้ ใตก้ ากบั ไวแ้ ลว้ เลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอ่านตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยคไดค้ าตอบ
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนอ่าน possessives ในแตล่ ะขอ้ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. their, theirs 2. her, hers 3. his, his 4. our, ours 5. my, mine 6. your, yours
• Production
1. กิจกรรม N ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่ัง และพดู บอกส่ิงท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกจิ กรรมน้ี
- ครูให้นกั เรียน Read aloud Exam Close-up
- ครูทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test โดยให้นกั เรียน Focus on words before and after a gap
- ครูอธิบายเทคนิคการทาข้อสอบโดย Identifying the kind of word you need อธิบายวิธีการ พร้อมท้ังยก ตัวอย่าง
ประกอบและให้นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิในกิจกรรมต่อไป
2. กจิ กรรม O ครูให้นกั เรียน Read aloud คาส่งั และพูดบอกส่ิงท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตาม Exam Close-up
- ให้นกั เรียนเขียนคาตอบในกิจกรรม O โดยครูใหเ้ วลานกั เรียนคดิ และเขยี นคาตอบ
- ใหน้ กั เรียนนาคาตอบที่ไดไ้ ป Discuss and share กบั เพ่อื นในห้อง
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยใหน้ กั เรียน Read aloud passage และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. A 2. C 3. A 4. A 5. B 6. A 7. B 8. C
6. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ คะแนน เกณฑ์
แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
วิธกี าร 15-17 ผลการประเมนิ
1. สงั เกต 12-14 ดีมาก
10-11 ดี
2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟัง-การพูด พอใช้
คะแนน ผา่ น
การใชภ้ าษา แบบประเมินทกั ษะการอา่ น-การเขียน 18-20
15-17 ผลการประเมนิ
12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สือเรียน Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เรื่อง Grammar กิจกรรม H-O หนา้ 11
Grammar Reference for Unit 1 หนงั สือเรียน Close-up 3 หนา้ 109
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Home Sweet Home
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เร่ือง Grammar 3: Present Perfect Simple & Possessives
รหัสวิชา อ 23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาวภาวดี ภาระหัตถ์
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
ต 1.2 ม.3/5 พูดและเขยี นบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และ
ข่าว/เหตกุ ารณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
ต 2.2 ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ และการ
ลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
พูดและเขียนโตต้ อบขอ้ มลู เก่ียวกบั Little Helpers เร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ วั เรื่องท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม และสื่อสารอยา่ ง
ตอ่ เนื่องและเหมาะสม
3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด (Learning Concept)
ความรู้เกี่ยวกบั การใช้ภาษาและโครงสร้าง Present perfect Simple & Possessives ทาให้การสื่อสารเกิดความเชื่อมโยงระหว่าง
ขอ้ มูล การเล่ือนไหลของขอ้ มลู มีความสอดคลอ้ งและตอ่ เนื่อง การสื่อสารมีประสิทธิภาพ นกั เรียนไดร้ ับความรู้โดยผา่ นการฝึกทกั ษะเรียน
ภาษาท้งั 4 ดา้ น การฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น และกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร ทาให้การสื่อสารบรรลผุ ลตาม
วตั ถุประสงค์ ผเู้ รียนมีเจตคติที่ดีตอ่ ภาษาองั กฤษ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงมีนิสยั รักการอา่ น มีสุนทรียภาพในการอ่าน
4. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
- Grammar: Present perfect Simple & Possessives
4.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process/Skill)
- ทกั ษะเรียนภาษาท้งั 4 ทกั ษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น
- ทกั ษะกระบวนการสอนภาษาองั กฤษเพือ่ การส่ือสาร
4.3 ด้านเจตคติ (Attitude)
- มปี ระสิทธภิ าพในการส่ือความ
- มีเหตุผล มีวิจารณญาณ
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
• Lead-in
1. ครนู ำความสนใจของนกั เรียนเข้าส่บู ทเรียนในช่ัวโมงเรียนนี้ โดยครเู ขยี นประโยคตอ่ ไปนบี้ นกระดาน ดังนี้
Q: Do you think which sentence is not correct?
1. Their homes look like tents.
2. Ours homes look like theirs.
2. ใหน้ กั เรยี นท้งั ช้ัน Read aloud ประโยค
3. ครใู ห้นักเรียนคดิ คำตอบและบอกคำตอบพรอ้ มกับให้เหตผุ ล โดยครูเขยี นทุกคำตอบของนักเรยี นบนกระดาน
ครูเชื่อมโยงเข้าสูบ่ ทเรยี นเรอ่ื ง Possessive
• Presentation
- ครทู บทวนโครงสร้าง Present Perfect Simple และ Possessives (Forms and Usages) โดยใชก้ ิจกรรม Grammarจากหนงั สอื
Workbook Close-up 3 หนา้ 7-8
1. Possessive forms of nouns ตัวอย่างเช่น
▪ All the students’ textbooks are labelled with the new barcode.
2. Possessives Adjectives & Possessive Pronouns ตัวอยา่ งเชน่
▪ This is Somsak’s place. Mine is over there, near the window.
3. ครูทบทวน Exam Strategy ไดแ้ ก่
3.1 Identifying the kind of word you need.
3.2 Focus on words before and after a gap.
- ครูอธบิ ายพรอ้ มทงั้ ยกตัวอย่างประกอบและใหน้ กั เรยี นฝกึ ปฏิบตั ิในกิจกรรมต่อไป
• Practice
1. กจิ กรรม A
- ครใู ห้นักเรยี นทบทวน Present Perfect Simple form of the verbs
- ครูอธบิ ายและให้นักเรียนคดิ วิเคราะห์ตัวเลอื ก Identifying the kind of word you need. และ Justifying the answers
- ครใู หเ้ วลานกั เรยี นคน้ หา คดิ และเขยี นคำตอบ
- ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใหน้ กั เรยี นอ่านคำตอบพร้อมกัน และครเู ฉลยคำตอบ
เฉลยคำตอบ
1. have gone 2. has cleaned 3. have walked 4. has chosen
5. Have you bought 6. have never seen 7. has not eat 8. Haven’t you been
2. กิจกรรม B ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสั่ง และพดู บอกส่ิงทีน่ กั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูใหน้ กั เรียนบอกความแตกตา่ งของ since & for
- ครูให้นักเรยี นคดิ วเิ คราะห์ตัวเลอื ก Focus on words before and after a gap. และ Justifying the answers
- ครใู หเ้ วลานักเรยี นค้นหา คดิ และให้คำตอบ
- ครูตรวจสอบความถกู ต้องโดยใหน้ กั เรยี นอา่ นคำตอบพร้อมกัน และครูเฉลยคำตอบ
เฉลยคำตอบ
1. since 2. for 3. since 4. for
3. กจิ กรรม C ครูให้นกั เรียน Read aloud คาสัง่ และพดู บอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูให้นกั เรียนทบทวน Time expression for the Present perfect Simple
- ให้นกั เรียน Read aloud email และเลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนบอกคาตอบและเหตผุ ลที่เลือกคาตอบน้นั ๆ ครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
(1) ever (2) already (3) yet (4) never (5) still (6) just
4. กจิ กรรม D ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสงั่ และพูดบอกส่ิงทน่ี กั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี
- ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทบทวนการใช้ Possessive forms of nouns
- ใหน้ กั เรียนใหค้ าตอบ ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนบอกคาตอบ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. neighbor’s 2. James’ 3. children’s 4. ladies’ 5. bird’s 6. Linda’s
5. กิจกรรม E ครูใหน้ กั เรียน Read aloud คาสง่ั และพดู บอกสิ่งที่นกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิในกิจกรรมน้ี
- ใหน้ กั เรียนทบทวนการใช้ possessive pronouns
- ครูอธิบาย Cloze dialogue และทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test โดยให้นกั เรียน Focus on words before and
after a gap
- ใหน้ กั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบท่ีอยหู่ นา้ และหลงั ช่องวา่ ง โดยขีดเส้นใตก้ ากบั ไวแ้ ลว้ เลือกคาตอบ
- ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยให้นกั เรียนอ่านตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยคไดค้ าตอบ
- ครูตรวจสอบคาตอบโดยให้นกั เรียนอา่ น possessive pronounในแตล่ ะขอ้ และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. Their 2. Mine 3. ours 4. her
• Production
1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรม F ใหน้ กั เรียน Read aloud คาส่ัง และพดู บอกสิ่งทีน่ กั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิในกิจกรรมน้ี
2. ครูใหน้ กั เรียน Read aloud the Exam Reminder
3. ครูทบทวนเทคนิคการทาขอ้ สอบ Cloze test โดยให้นกั เรียน Focus on words before and after a gap
4. ครูอธิบายเทคนิคการทาขอ้ สอบโดย Identifying the kind of word you need
5. ครูใหน้ กั เรียนบอกเก่ียวกบั Possessive forms of Pronoun and Possessive forms of noun
6. ใหน้ กั เรียนคน้ หาตวั ช้ีแนะคาตอบที่อยหู่ นา้ ตวั เลือก โดยขดี เส้นใตก้ ากบั ไวแ้ ลว้ เลือกคาตอบ
7. ครูตรวจสอบตวั ช้ีแนะคาตอบโดยใหน้ กั เรียนอ่านตวั ช้ีแนะคาตอบของทกุ ประโยค
8. ให้นกั เรียนคดิ และวิเคราะหค์ าตอบ โดยครูใหเ้ วลา
9. ให้นกั เรียนนาคาตอบที่ไดไ้ ป Discuss and share กบั เพอ่ื นในหอ้ ง
10. ครูตรวจสอบคาตอบโดยใหน้ กั เรียน Read aloud passage และครูเฉลยคาตอบ
เฉลยคำตอบ
1. c 2. c 3. a 4. c 5. b 6. c 7. b 8. a
6. การวัดและประเมนิ ผล
วิธีการ เคร่ืองมือ คะแนน เกณฑ์
1. สงั เกต แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน 18-20
15-17 ผลการประเมิน
12-14 ดีมาก
10-11 ดี
พอใช้
ผา่ น
2. ประเมนิ ทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะการฟัง- การพดู คะแนน ผลการประเมิน
18-20 ดีมาก
การใชภ้ าษา แบบประเมนิ ทกั ษะการอ่าน-การเขยี น 15-17 ดี
12-14 พอใช้
10-11 ผา่ น
7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
หนงั สือ Workbook Close-up 3 Unit 1 Home Sweet Home เร่ือง Grammar กิจกรรม A-F หนา้ 7-8