หลักสตู รศลิ ปศาสตรบณั ฑติ
สาขาวิชาพัฒนาสังคม
หลักสูตรปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปตั ตานี
ก
สารบัญ
เรอ่ื ง หนา้
หมวดที่ 1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป 1
1
1) รหัสและชือ่ หลักสตู ร 1
2) ช่ือปรญิ ญาและสาขาวิชา 1
3) วชิ าเอก (ถ้ามี) 1
4) จานวนหนว่ ยกิตรวมตลอดหลกั สูตร 2
5) รูปแบบของหลักสตู ร 2
6) สถานภาพของหลกั สตู รและการพิจารณาอนมุ ัต/ิ เหน็ ชอบหลักสูตร 2
7) ความพร้อมในการเผยแพรห่ ลกั สูตรคณุ ภาพและมาตรฐาน 3
8) อาชพี ทสี่ ามารถประกอบไดห้ ลงั สาเรจ็ การศึกษา
9) ชือ่ นามสกุล เลขประจาตัวบตั รประชาชน ตาแหนง่ และคุณวฒุ ิ 4
4
การศึกษาของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลักสูตร
10) สถานทีจ่ ดั การเรยี นการสอน 8
11) สถานการณภ์ ายนอกหรือการพัฒนาทจ่ี าเปน็ ทีต่ อ้ งนามาพจิ ารณา
9
ในการวางแผนหลักสูตร
12) ผลกระทบจาก ข้อ 11.1 และข้อ 11.2 ต่อการพฒั นาหลักสูตร 14
15
รวมถงึ กระบวนการพัฒนา/ปรบั ปรงุ หลักสตู รในครง้ั นี้ และความเกย่ี วข้องกับ
พันธกิจของสถาบัน 18
13) ความสัมพันธ์ (ถ้าม)ี กบั หลักสตู รอนื่ ทีเ่ ปิดสอนในคณะ/ภาควิชาอ่ืนของสถาบัน 18
20
หมวดที่ 2 ขอ้ มูลเฉพาะของหลักสตู ร 61
1) ปรัชญา ความสาคัญ/หลักการและเหตผุ ล และวตั ถุประสงคข์ องหลกั สูตร 62
2) แผนพัฒนาปรับปรงุ 64
หมวดที่ 3 ระบบการจดั การศกึ ษาการดาเนินการและโครงสรา้ งของหลกั สตู ร
1) ระบบการจัดการศึกษา
2) การดาเนินการหลักสตู ร
3) หลักสูตรและอาจารย์
4) องคป์ ระกอบเก่ียวกบั ประสบการณภ์ าคสนาม (การฝกึ งาน หรอื สหกจิ ศึกษา) (ถ้ามี)
หมวดที่ 4 ผลการเรยี นรู้ กลยทุ ธ์การสอนและการประเมนิ ผล
1) การพัฒนาคณุ ลกั ษณะพิเศษของนกั ศกึ ษา
2) ผลลพั ธ์การเรียนรรู้ ะดับหลักสูตร (PLOs) กลยทุ ธ/์ วธิ กี ารสอน และกลยทุ ธ์/
วธิ ีการวดั และการประเมินผล
ข
สารบัญ (ต่อ)
เร่ือง หน้า
3) ความสัมพันธร์ ะหวา่ งผลลพั ธ์การเรยี นร้รู ะดบั หลักสตู รกับมาตรฐานคุณวุฒิ 66
ระดับอดุ มศึกษาแหง่ ชาติ 70
75
4) แผนท่ีแสดงการกระจายความรับผดิ ชอบผลลัพธก์ ารเรยี นรรู้ ะดบั หลกั สตู ร (PLOs)
ส่รู ายวชิ า (Curriculum Mapping)
5) ความคาดหวงั ของผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้เมือ่ สิน้ ปกี ารศกึ ษา
หมวดที่ 5 หลกั เกณฑใ์ นการประเมินผลนักศกึ ษา 76
76
1) กฎระเบียบหรือหลักเกณฑ์ ในการให้ระดบั คะแนน (เกรด) 76
2) กระบวนการทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธ์ขิ องนักศึกษา 76
3) เกณฑ์การสาเร็จการศกึ ษาตามหลักสตู ร
4) การอุทธรณ์ของนักศึกษา 77
77
หมวดที่ 6 การพัฒนาคณาจารย์
78
1) การเตรยี มการสาหรบั อาจารย์ใหม่ 78
2) การพัฒนาความรแู้ ละทกั ษะให้แก่คณาจารย์ 79
79
หมวดที่ 7 การประกนั คณุ ภาพหลกั สตู ร 79
80
1) การกากบั มาตรฐาน 80
2) บณั ฑิต
3) นักศกึ ษา 82
4) อาจารย์ 82
5) หลกั สตู ร การเรียนการสอน การประเมนิ ผู้เรยี น 82
6) ส่งิ สนับสนนุ การเรียนรู้ 82
7) ตัวบง่ ช้ีผลการดาเนินงาน (Key Performance Indicators)
หมวดที่ 8 การประเมิน และปรบั ปรุงการดาเนินการของหลกั สูตร
1) การประเมินประสทิ ธิผลของการสอน
2) การประเมินหลกั สูตรในภาพรวม
3) การประเมนิ ผลการดาเนนิ งานตามรายละเอยี ดหลักสูตร
4) การทบทวนผลการประเมนิ และวางแผนปรบั ปรงุ หลกั สตู รและแผนกลยุทธ์การสอน
ค
สารบญั (ตอ่ )
เร่ือง หน้า
ภาคผนวก 84
ก. ตารางวิเคราะห์ความสอดคลอ้ งของ PLOs กับวิสัยทศั น์ พนั ธกจิ คณุ ลกั ษณะ
ของบณั ฑิต และความตอ้ งการของผ้มู สี ว่ นได้สว่ นเสีย
ข. ตารางแสดงผลลัพธ์การเรียนร้รู ะดบั หลักสูตร (PLOs) กับ Knowledge/ Attitude/ Skill 87
ค. ตารางแสดงรายวิชา กบั Knowledge/ Attitude/ Skill 90
ง. แบบฟอร์มแสดงรอ้ ยละของกระบวนการจัดการเรยี นรู้ของแตล่ ะรายวิชาในหลักสตู ร 93
ท่สี ะทอ้ นการจดั การเรียนรู้แบบเชิงรกุ (Active Learning)
จ. ขอ้ มลู รายวิชาทจ่ี ดั การศึกษาเชิงบรู ณาการกับการทางาน (Work Integrated Learning: WIL) 98
ฉ. ขอ้ มูลชดุ วิชา (Module) ในหลักสตู ร 101
ช. ภาระงานสอนและผลงานทางวชิ าการของอาจารยผ์ ู้รับผิดชอบหลกั สูตร
และอาจารย์ประจาหลักสูตรทกุ คน 103
ซ. ขอ้ เสนอแนะของกรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิและการดาเนินการของหลักสตู ร 108
ฌ. เอกสารเปรียบเทยี บโครงสรา้ งหลักสูตรเดิมกับหลกั สูตรปรับปรุงใหม่ 117
ญ. เอกสารเปรียบเทียบปรัชญาและวตั ถุประสงค์ของหลักสตู รเดิมกบั หลักสตู รปรับปรุงใหม่ 119
ฎ. เอกสารเปรยี บเทียบหลักสูตรเดมิ กบั หลักสตู รปรับปรุงใหม่ (กรณีหลกั สูตรปรับปรุง) 121
ฏ. ตารางเทียบโอนรายวิชาระหวา่ งหลักสูตร ป.ตรี (พัฒนาสังคม) กบั อนปุ ริญญา (พฒั นาชุมชน) 125
ฐ. เอกสารข้อตกลงความรว่ มมือ (MOU) 151
ฑ. ข้อบงั คบั มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ว่าดว้ ยการศกึ ษาชนั้ ปริญญาตรี 154
และการศึกษาตลอดชีวติ
ฒ. คาส่งั แต่งตัง้ คณะกรรมการพฒั นาหลักสตู รหรอื คณะกรรมการปรับปรงุ หลกั สูตร 170
ณ. อตั ลกั ษณข์ องนกั ศกึ ษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 171
ด. เกณฑ์มาตรฐานและแนวปฏบิ ตั กิ ารสอบวัดความรู้ภาษาองั กฤษเพื่อรบั ปริญญาของนักศึกษา
หลกั สูตรระดบั ปรญิ ญาตรี 172
ต. เกณฑ์มาตรฐานของผลงานทางวิชาการในระบบพจิ ารณาความสอดคล้องของหลักสูตร 174
ระดับอุดมศึกษา CHE Curriculum (CHECO)
ถ. เอกสารขั้นตอนการจัดทา PLOs 176
1
รายละเอยี ดของหลกั สตู ร
หลักสตู รศิลปศาสตรบณั ฑิต
สาขาวชิ าพัฒนาสังคม
หลกั สูตรปรับปรงุ พ.ศ. 2564
ช่ือสถาบันอุดมศกึ ษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
1. รหัสและช่อื หลกั สตู ร หมวดท่ี 1 ขอ้ มูลทว่ั ไป
รหสั หลักสตู ร :
ภาษาไทย : 25500101106159
ภาษาอังกฤษ : หลกั สูตรศลิ ปศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาพัฒนาสังคม
Bachelor of Arts Program in Social Development
2. ช่ือปริญญาและสาขาวชิ า
ภาษาไทย ชือ่ เต็ม : ศลิ ปศาสตรบณั ฑิต (พฒั นาสังคม)
ภาษาอังกฤษ ชื่อย่อ : ศศ.บ. (พัฒนาสงั คม)
ชื่อเต็ม : Bachelor of Arts (Social Development)
ชอ่ื ยอ่ : B.A. (Social Development)
3. วิชาเอก (ถ้ามี)
ไมม่ ี
4. จานวนหนว่ ยกิตทเ่ี รยี นตลอดหลกั สูตร
แผนปกติ ไม่นอ้ ยกว่า 130 หน่วยกิต
5. รปู แบบของหลกั สูตร
5.1 รูปแบบ
5.1.1 หลกั สูตรปรญิ ญาตรีทางวชิ าการ
หลักสตู รปริญญาตรที างวิชาการ หลกั สูตร 4 ปี
5.2 ภาษาทีใ่ ช้
ใชภ้ าษาไทยและภาษาองั กฤษไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 50 ของรายวชิ าทง้ั หมด
5.3 การรับนกั ศกึ ษา
รบั นักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติท่ีมีคุณสมบตั ิตามท่หี ลกั สตู รกาหนด
รับนักศกึ ษาที่มกี ารเทียบโอนระดบั อนปุ ริญญาที่มีคณุ สมบัติตามทห่ี ลักสูตรกาหนด
รับนักศกึ ษาที่มีคุณสมบตั ิตามท่หี ลกั สตู รกาหนด (เฉพาะการเรยี นการสอนแบบโมดลู (Module System)
2
5.4 ความร่วมมือกับหน่วยงาน/สถาบนั อ่ืน
มคี วามร่วมมือกบั ภาคีเครือขา่ ยและคคู่ วามรว่ มมือ ได้แก่ หลักสตู รศลิ ปศาสตรบณั ฑิตสาขาวิชาพฒั นา
สังคม คณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเทศบาลตาบลรูสะมแิ ล
5.5 การให้ปริญญาแกผ่ ูส้ าเร็จการศกึ ษา
ให้ปรญิ ญาเพียงสาขาวิชาเดยี ว
6. สถานภาพของหลกั สตู รและการพจิ ารณาอนุมตั /ิ เหน็ ชอบหลักสตู ร
หลกั สูตรใหม่ พ.ศ. ............
หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. 2564
เรมิ่ ใชม้ าตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2520
การปรบั ปรุงหลักสูตรครง้ั น้ี ปรบั ปรุงมาจากหลกั สตู รศิลปศาสตรบัณฑติ
สาขาวชิ าพัฒนาสังคม หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. 2560
ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายวิชาการในคราวประชุมครั้งที่ 19(10/2563) เมื่อวนั ที่ 7 ธ.ค. 2563
ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากสภามหาวทิ ยาลัยในการประชุมครั้งท่ี 140(1/2564) เมื่อวนั ท่ี 16 ม.ค. 2564
เปดิ สอนภาคการศึกษาท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
7. ความพรอ้ มในการเผยแพรห่ ลักสตู รคณุ ภาพและมาตรฐาน
หลักสตู รจะได้รับการเผยแพร่วา่ เปน็ หลกั สตู รที่มคี ณุ ภาพและมาตรฐานตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ
ระดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2552 ในปีการศึกษา 2566
8. อาชพี ทีส่ ามารถประกอบได้หลังสาเร็จการศึกษา
(1) เจ้าหน้าท่ีในองค์กรภาครัฐที่เก่ียวข้องกับการพัฒนา เช่น กระทรวงพัฒนาสังคมและความม่ันคงของ
มนุษย์ กระทรวงมหาดไทย สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในตาแหน่ง
เจ้าหน้าท่ี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน พัฒนากร นักพัฒนาชุมชน เจ้าหน้าที่บริหารโครงการ นักวิจัย
เจ้าหน้าท่ีบริหารงานท่ัวไป เจา้ หน้าท่ีในองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และหนว่ ยงานราชการอนื่ ๆ
(2) เจ้าหน้าท่ีในองค์กรเอกชนท่ีเกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์กร เช่น พนักงานบริษัท นักพัฒนาองค์กรเอกชน
เจา้ หนา้ ท่ีฝ่ายบุคคล นกั วจิ ัย เจา้ หน้าที่บริหารงานท่ัวไป
(3) เจา้ หน้าที่ในสถาบนั การศกึ ษา เช่น อาจารยด์ า้ นสงั คมศาสตร์ และการพฒั นาสงั คม นกั วชิ าการอุดมศึกษา
และนักวจิ ยั
(4) อาชีพอสิ ระ เช่น ประกอบธุรกิจสว่ นตวั การค้าขายออนไลน์ ยทู ปู เบอร์ ผปู้ ระกอบการทางสังคม
9. ชอื่ นามสกลุ เลขประจาตัวบตั รประชาชน ตาแหนง่ และคุณวฒุ กิ ารศึกษาข
อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลกั สตู ร
ลาดับท่ี เลขประจาตัว ตาแหน่งทาง ช่ือ- สกุล ระดับการศึกษา
ประชาชน วชิ าการ ที่จบ
1. 3580200020251 ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ นายนิเวศน์ อรณุ เบกิ ฟ้า ปริญญาเอก
ปรญิ ญาโท
2. 1810100097457 อาจารย์ นายจริ ชั ยา เจยี วกก๊ ปรญิ ญาตรี
ปริญญาเอก
3. 3959900305783 อาจารย์ นายสวัสดิ์ ไหลภาภรณ์ ปริญญาโท
ปรญิ ญาตรี
4. 4120100018175 อาจารย์ นางสาวอลิสา หะสาเมาะ ปริญญาเอก
ปริญญาโท
5. 1940200021419 อาจารย์ นายอบั ดลุ คอลกิ อรั รอฮีมีย์ ปริญญาตรี
ปรญิ ญาเอก
ปรญิ ญาโท
ปรญิ ญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาตรี
3
ของอาจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบหลักสูตร
ชอื่ หลักสูตรท่ีจบการศึกษา สาขาวิชาทจ่ี บการศึกษา ช่ือสถาบนั ท่ีจบการศึกษา ปีท่จี บ
การ
Ph.D ศึกษา
พช.ม.
ศศ.บ. Development study University of Mysore, India 2558
ปร.ด. 2547
ศศ.ม. การพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ 2541
พย.บ. 2561
ปร.ด. พฒั นาชมุ ชน มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ 2556
พช.ม. 2552
ศศ.บ. พัฒนามนุษย์และสงั คม มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 2562
Ph.D 2547
ศศ.ม. พฒั นามนษุ ย์และสงั คม มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 2542
ศป.บ. 2561
ศศ.ม. พยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ 2543
ศศ.บ. 2541
การพฒั นาทรัพยากรชนบท มหาวิทยาลยั แม่โจ้ 2557
2552
การพฒั นาชมุ ชน มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์
พัฒนาสงั คม มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์
Society and Culture James Cook University, Australia
สังคมวทิ ยา จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั
ศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั สวนสนุ นั ทา
พัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง
พฒั นาสงั คม มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์
4
10. สถานที่จัดการเรยี นการสอน
หอ้ งบรรยาย คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ และคณะต่าง ๆ ของมหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์
วทิ ยาเขตปัตตานี รวมถึงวิทยาเขตมหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์อนื่ ๆ
11. สถานการณภ์ ายนอกหรอื การพัฒนาทจ่ี าเปน็ ตอ้ งนามาพิจารณาในการวางแผนหลักสตู ร
11.1 สถานการณ์หรอื การพฒั นาทางเศรษฐกิจ
การพัฒนาหลักสูตรฯ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) การพัฒนาประเทศ
ในช่วงระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติจะมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ชาติที่ 1 การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ ให้ความสาคัญกับ
การวางรากฐานการพัฒนาคนให้มีความสมบรู ณ์ ท่ีต้องพัฒนาใหม้ สี ุขภาพกายและใจทดี่ ี มที กั ษะ ทางสมอง ทักษะ
การเรียนรู้ และทักษะชีวิต เพื่อให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ที่ได้สร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ินและเอกชน เพื่อการจัดการศึกษา รวมถึงขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเพ่ือการพัฒนาตนเองและการศึกษา
เพ่ือการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในการรองรับการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ยุทธศาสตร์ชาติที่ 2 ด้านการสร้าง
ความสามารถในการแข่งขัน ซ่ึงมีเป้าหมายการพัฒนา ท่ีมุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลาย
มิติบนพ้ืนฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปท่ีรากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์
วฒั นธรรม ประเพณีวิถีชวี ิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย (2) “ปรับปัจจุบนั ” ผ่านการพัฒนา
โครงสร้างพ้ืนฐานของประเทศ และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการ เพ่ือปู
ทางสู่ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับ
รูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ที่รองรับ อนาคต บนพ้ืนฐาน
ของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน ยุทธศาสตร์ชาติท่ี 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากร
มนุษย์มีเป้าหมายการพัฒนาที่สาคัญเพ่ือพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ
ยุทธศาสตร์ชาติท่ี 4 ดา้ นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีให้ความสาคัญกับ
การดึงเอาพลงั ของภาคส่วนต่าง ๆ ทง้ั ภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่น มารว่ มขับเคลือ่ น โดยการสนับสนุน
การรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิด ร่วมทาเพื่อส่วนรวม และยุทธศาสตรช์ าติท่ี 5 ด้านการสรา้ งการเติบโตบน
คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมมีเป้าหมายการพัฒนาที่สาคัญเพ่ือนาไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาท่ี
ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกัน
ท้ังภายในและภายนอกประเทศอย่างบูรณาการ จะเห็นได้ว่ายุทธศาสตร์การพัฒนา 5 ด้าน ดังกล่าว มุ่งเน้นการ
พัฒนาคน ให้มีความพร้อมสามารถรับมือ กับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ และเพ่ือเอ้ืออานวยประโยชน์
ต่อการดาเนินการของ ยทุ ธศาสตรช์ าติ ด้านอื่นๆ ให้สามารถขับเคลอ่ื นไปได้ ตามทศิ ทางและเปา้ หมายทีก่ าหนด
ท้ังน้ีจากสถานการณ์ดังกล่าวรัฐบาลจึงพยายามพัฒนาภายใต้ยุทธศาสตร์ที่เน้นใน เร่ืองการพัฒนาสู่
“ความมั่นคง มั่งค่ัง และยังยืน” ด้วยการสร้าง “ความเข้มแข็งจากภายใน” ขับเคลื่อนตามแนวคิด “ปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียง” ผ่านกลไก “ประชารัฐ” อันจะต้องขับเคลื่อนการปฏิรูป เพ่ือให้สามารถรับมือกับโอกาสและ
ภยั คุกคามชดุ ใหม่ในศตวรรษที่ 21 โดยท่ีผ่านมาประเทศไทย ได้มกี ารปรับรูปแบบการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจ
มาหลายครั้ง เรม่ิ จาก “โมเดลประเทศไทย 1.0” ที่เน้นการพัฒนาภาคการเกษตร ไปสู่ “โมเดลประเทศไทย 2.0”
5
ท่เี น้นอตุ สาหกรรมเบา และกา้ วสู่ “โมเดลประเทศไทย 3.0” ในปัจจุบันซึ่งเนน้ อุตสาหกรรมหนัก ทกี่ าลังเผชิญกับ
กับดักประเทศรายได้ปานกลาง กับดักความเหล่ือมล้าของความมั่งค่ัง และกับดักความไม่สมดุลในการพัฒนา ซึ่ง
กับดักเหล่านี้เป็นเร่ืองท่ีท้าทายทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ การเมือง และการพัฒนาที่จะต้อง
ก้าวผ่าน “ประเทศไทย 3.0” ไปสู่ “ประเทศไทย 4.0” จะต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Value-Based
Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ท่ีจะต้องมีการเปล่ียนแปลงอย่างน้อย 3 มิติสาคัญคือ
(1) เปลี่ยนจากการผลติ “สินค้าโภคภณั ฑ์” ไปสู่สนิ ค้าเชงิ “นวัตกรรม” (2) เปลยี่ นจากการขับเคลื่อนประเทศดว้ ย
ภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (3) เปล่ียนจากการเน้น
ภาคการผลิตสินค้า ไปสู่การเน้นการบริการมากขึ้น จากจุดน้ีเองจึงทาให้สถาบันทางการศึกษาจะต้องเตรียมและ
สร้างบุคลากรให้พร้อมกับการเปล่ียนแปลง หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (พัฒนาสังคม) ก็เช่นเดียวกันที่ได้พัฒนา
โดยคานึงถงึ องค์ประกอบการเปล่ยี นผา่ น สกู่ ารขับเคลื่อนโดยมีแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคม
ทั้งนี้การพัฒนาหลักสูตรฯ ยังสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 12 (พ.ศ.
2560-2564) ที่กล่าวถึงการเปิดประชาคมอาเซียนทาให้มีการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงข้ึน ในขณะที่การขยายตัว
ทางเศรษฐกิจของไทยมีการชะลอตัวลงท้ังยังมีความผันผวนสูง ส่งผลใหก้ ารผลิตของปัจจยั การผลติ รวมยังคงอยู่ใน
ระดับต่า โครงสร้างการผลิตของไทยได้เปลี่ยนผ่านจากภาคเกษตรไปสู่ภาคอุตสาหกรรม และการบริการมากขึ้น
โดยภาคอุตสาหกรรมได้มีการสั่งสมองค์ความรู้ และเทคโนโลยีอย่างต่อเน่ือง ทาให้มีการพัฒนาจากอุตสาหกรรม
ขั้นปฐมภายใต้การบริหารจัดการของเงินทุนต่างชาติมาเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐาน (Supporting Industry) และ
อตุ สาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น ภายใต้เครอื ข่ายของบริษัทแม่ในต่างชาติ และของนักลงทุนไทยที่มสี ัดส่วนสงู ขึ้น
จนประเทศไทยกลายเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ทาให้ขาดพลังในการขับเคล่ือนการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้
หลดุ พ้นจากการเปน็ ประเทศรายไดป้ านกลาง ซง่ึ ต้องอาศัยการผลิตทมี่ ีเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมการผลติ ทเ่ี ป็นของ
ตนเองมากขึ้น ขณะท่ีความเข้มแข็งของชุมชนมีแนวโน้มที่ดีข้ึน ชุมชนสามารถแก้ปัญหาและสนองตอบความ
ต้องการของชุมชนด้วยตนเองได้ดีข้ึน โดยมีกระบวนการจัดทาแผนชุมชนที่ครอบคลุมทุกพื้นท่ีเพ่ือให้ได้รับการ
สนับสนนุ ทั้งในด้านความรแู้ ละงบประมาณในกิจกรรมทีเ่ กินความสามารถของชุมชน มกี ารรวมกลุ่มทากิจกรรมทั้ง
ดา้ นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเพิ่มขึ้น จึงทาให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ อย่างไรก็
ตาม ยังมีชุมชนที่ไม่ประสบความสาเร็จในด้านการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเกิดจากหลักธรรมาภิบาล การจัดการ
ความรู้จากภูมิปัญญาท้องถ่ิน การสร้างมูลค่า ภาวะผู้นา และความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้นการจัดการชุมชน
อย่างเป็นระบบทั้งตัวบุคคล สิ่งแวดล้อม ระบบและกลไกจึงเป็นส่ิงจาเป็นสาหรับชุมชน ที่จะพัฒนาศักยภาพและ
ความเข้มแข็งให้ชุมชนดารงอยู่ได้ท่ามกลางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยใช้ศาสตร์ของพระราชาเป็นแนวทางในการ
พฒั นา
นอกจากน้ียังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ท่ีว่า “เป็นมหาวิทยาลัยเพ่ือ
นวัตกรรมและสังคม ที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และเป็นกลไกหลักในการพัฒนาภาคใต้และประเทศ
มุ่งสู่มหาวทิ ยาลัยช้ันนา 1 ใน 5 ของอาเซียน ภายในปี พ.ศ. 2570” และพันธกิจทัง้ ในด้านการสร้างความเปน็ ผู้นา
ทางวิชาการและนวัตกรรม การสร้างบัณฑิตที่มีสมรรถนะทางวิชาการและวิชาชีพ สามารถประยุกต์ความรู้บน
พนื้ ฐานประสบการณ์จากการปฏิบัติ และการเป็นสงั คมฐานความรู้บนพื้นฐานพหุวัฒนธรรม และหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง
6
11.2 สถานการณ์หรอื การพฒั นาทางสังคมและวฒั นธรรม
การวางแผนหลักสูตรฯ คานึงถึงสังคมไทย และสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ท้ังด้าน
เทคโนโลยีทมี่ ีการพัฒนาอยา่ งก้าวกระโดด ด้านสังคมทั้งจากปัญหาระบบสากล และจากนโยบายประเทศไทย 4.0
ที่มีการขับเคล่ือนจากผู้มีส่วนร่วมหลายภาคส่วน ท้ังภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาควิชาการ รวมทั้ง
การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรท่ีมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานและวัยเด็กที่ลดลงและประชากรสูงอายุท่ี
เพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่อง ขณะท่ีวัยเด็กก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ (Generation Z) ซ่ึงเป็นผู้ที่เกิดและเติบโตมาพร้อมกับความ
เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อยู่ในครอบครัวที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรม ทาให้
สามารถสื่อสารแบบ Multi-task มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ในขณะท่ีวัฒนธรรมอันดีงามของไทยเร่ิมเสื่อมถอย
โดยเห็นได้จากการละเลยวินัย เห็นแก่ตวั ไม่รู้จักเสียสละ ไม่เออ้ื เฟ้อื เผอ่ื แผ่ และขาดความรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง
และสงั คมส่วนรวม และในชว่ งหลายทศวรรษท่ีผ่านมามเี หตุการณค์ วามไม่สงบในพ้ืนทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ และ
ภาคใต้ของประเทศไทยต้องเผชิญสถานการณ์ภัยพิบัติหลายคร้ัง จากการสารวจผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่
สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และความเสียหายจากอุทกภัยและลมพายุในพื้นท่ีรอบอ่าวปัตตานี ซ่ึงเป็น
พน้ื ท่ีหลักสูตรฯ ได้บริการวิชาการ ประสานพลัง หนนุ เสริม ร่วมให้การชว่ ยเหลอื ชุมชนพบว่า สถานการณ์ภัยพบิ ัติ
ทเี่ กดิ จากมนษุ ย์และ จากธรรมชาติ สง่ ผลต่อวิถีชีวติ ของพหุสงั คม เกิดความหวาดระแวง ทาใหป้ ระชาชนในพนื้ ท่ีมี
ความรู้สึกว่ากาลังตกอยู่ในภาวะอันตรายท่ีอาจทาให้เกิดความสูญเสียทางด้านร่างกาย ชีวิต ทรัพย์สิน และจิตใจ
ตลอดเวลา สิ่งเหล่าน้ีสะทอ้ นให้ได้ยนิ จากผู้ใช้บัณฑิตท้ังภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาควชิ าการ ด้วย
เหตุน้ีจงึ มีความจาเป็นต้องผลิตบัณฑิตท่ีมีความรู้ความสามารถ มีคณุ ธรรมจริยธรรม มีทักษะในศตวรรษท่ี 21 ทั้ง
ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ ส่ือ เทคโนโลยี และทักษะชีวิตและอาชีพ เพ่ือนาไปสู่การ
ประกอบอาชีพและ/หรือเป็นผู้ประกอบการท่ีสามารถจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในชุมชน เอื้อต่อการมี
คุณภาพชีวิตที่ดีของประชากรในชุมชนทุกช่วงวัยบนพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงจาเป็นจะต้องมีหลักสูตร
ศิลปศาสตรบัณฑิต (พัฒนาสังคม) ซ่ึงจะเป็นตัวเชื่อมนโยบายไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่จะต้องคิดเป็น
ปฏิบัติเป็น จึงได้มีการพัฒนาโดยใช้ศาสตร์ การเรียนรู้ และทรัพยากรของมหาวิทยาลัยร่วมกันกับภาคประชารัฐ
เพ่ือให้เกิดการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐ จึงได้มีการปรับปรุงหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (พัฒนาสังคม)
เพ่ือให้เกิดการขับเคล่อื น เพ่อื ผลิตทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีคุณภาพ โดยกระบวนทัศนใ์ นปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตร
เนน้ ประเดน็ สาคญั 3 ประการคอื
1) หลักสูตรมีการปรับปรุง และพัฒนาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการขับเคล่ือนไปสู่
การเป็นประเทศท่ีมง่ั คงั่ มน่ั คง และย่งั ยืนอย่างเปน็ รปู ธรรม
2) เป็น “Reform in Action” ที่จะต้องมีการออกแบบรายวิชาต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน และผลักดัน
การปฏิรูปโครงสรา้ งสงั คม เศรษฐกจิ การปฏิรปู การวจิ ยั การพัฒนา และการปฏริ ูปการศกึ ษาไปพรอ้ ม ๆ กนั
3) เน้นในการสร้างสรรค์ การมีส่วนร่วมที่จะผนึกกาลังกันในทุกภาคส่วนภายใต้แนวคิด “ประชารัฐ”
โดยเนน้ การปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (พัฒนาสงั คม) โดยเน้นการทางานกับภาคส่วนอื่น ๆ
เพื่อการพัฒนาเป็นเครอื ข่ายพันธมิตรทางการศึกษา การวิจยั และพัฒนา และการพัฒนาสู่ระดบั สากล ภายใต้หลัก
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งของการ “รู้จกั เติม รู้จกั พอ และรจู้ กั ปนั ”
7
11.3 ข้อมลู จากผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสีย
การปรับปรงุ หลักสูตรมกี ารสารวจความคิดเห็นของผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี โดยใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์
ประชมุ /สัมมนา การพูดคุย การจัดการข้อรอ้ งเรียน การประชมุ ศษิ ย์เก่าและอาจารย์ และผลการสังเคราะห์ ในการเกบ็
รวบรวมขอ้ มลู ได้มชี ่องทางการส่ือสารกบั ผ้มู ีสว่ นได้ส่วนเสยี ของหลักสตู ร คือ นักเรียน นกั ศกึ ษา ศิษย์เก่า ผใู้ ช้บณั ฑติ
คอื ภาครฐั และรฐั วสิ าหกิจ ในพื้นท่ีจงั หวัดชายแดนใต้ และนอกพ้ืนที่ จงั หวดั ชายแดนใต้ และภาคเอกชน อาจารย์และ
ผ้บู ริหาร รับผดิ ชอบหาข้อมลู จากคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู ร ผลทไี่ ดแ้ บง่ เป็น 6 ประเดน็ ดงั นี้ 1. ความคาดหวงั
2. ความรู้ 3. ความพึงพอใจ 4. การประยกุ ต์ใช้และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ 5. ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ และ6.
คณาจารยใ์ นหลกั สตู ร
ความคาดหวัง พบว่าอยู่ในระดับมากทั้งในเน้ือหารายวิชาท่ีตอบสนองความต้องการของชุมชนและ
ประเทศชาติ การเรียนรู้สู่การลงมือปฏิบัติจริง และมีจุดเด่นท่ีเน้นพหุสังคม พหุวัฒนธรรม และวิถีของชายแดนใต้
ที่เป็นลักษณะเฉพาะ ความรู้ พบว่าหลักสูตรได้ให้ความรู้ท่ีสามารถนาไปการทางานได้จริง สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น
และเข้าใจผู้อื่น สร้างความได้เปรียบในการทางานที่หลากหลาย มีทักษะในการวิเคราะห์และตัดสินใจ มีความคิด
สร้างสรรค์ในการบูรณาการความรู้ของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ส่ิงแวดล้อม สาธารณสุข และ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
งานพัฒนาสังคม ท้ังยังกล้าตัดสินใจบนพ้ืนฐานของทุนทางสังคม จะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งรวมถึงภัยพิบัติทาง
ธรรมชาติและเกิดจากมนุษย์ได้ กลุ่มศิษย์เก่า และนายจ้าง อยากให้เพิ่ม 1) กฎหมายที่เก่ียวข้องงานพัฒนาสังคม
2) ภาษาอังกฤษเพื่อสอบแข่งขันเป็นนักพัฒนาสังคมในระบบราชการ เพ่ิมเทคนิคเฉพาะ รวมถึงกลวิธี จิตวิทยาทาง
สังคมในการพัฒนาสังคมโดยใช้กระบวนการศึกษาชุมชนเป็นระบบสามารถจัดการความรู้ให้เกิดประโยชน์กับชุมชน
ความพึงพอใจ พบว่าอยู่ในระดับมาก เพราะสอนให้ทางานร่วมกันกับผู้อื่น มีความเข้าใจผู้อ่ืน สามารถบริหารจัดการ
คนในชุมชน ได้เป็นอย่างดี มีทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี จุดเด่นของหลักสูตรคือ การลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง
มีทักษะของการทางานเป็นทีม ใช้หลักวิชาการ วิเคราะห์สถานการณ์สังคมโดยใช้หลักวิชาการ อาจารย์ผู้สอนพอใจใน
ระดับมาก มีเน้ือหาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสังคม เช่น นโยบายสาธารณะในการพัฒนาสังคม ทฤษฎีการพัฒนาสังคม
เทคนิคและกลวิธีในการพัฒนาสังคม การจัดการความรู้และองค์กรแห่งการเรียนรู้ การพัฒนาทรัพยากรชนบท วิธี
วิทยาการวิจัยทางสังคมศาสตร์ การศึกษาอิสระ ฯลฯ และมีรายวิชาท่ีสร้างความ โดดเด่นให้กับหลักสูตรฯ เช่น การ
จัดการภัยพิบตั ิในจังหวดั ชายแดนใต้ พหสุ งั คมกบั การพัฒนาสังคม
การประยุกต์ใช้และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทาให้บัณฑิตมีทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
จุดเด่นของหลักสูตรคือ ช่วยให้การทางานพัฒนาสังคมได้ดีขึ้น ได้แก่ มีทักษะในการปฏิบัติงานสามารถประยุกต์ใช้ใน
กิจกรรมอ่ืนๆ มีความสุขกับการอยู่ในสังคม และ ทักษะการมีส่วนร่วม ควรเพิ่มทักษะ การวางแผน การประเมินผลการ
ทางานและโครงการ การจัดระบบการทางานให้มีประสิทธิภาพ เทคนิคการพัฒนาสังคม ด้านสวัสดิการและ
ประกันสังคม ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกับภาคธุรกิจและองค์กรอื่น เพ่ือให้เกิดการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ความ
คิดเห็นและข้อเสนอแนะ ควรมีการเรียนและลงพ้ืนท่ีปฏิบัติจริงเน่ืองจากความรู้ท่ีใช้ในการทางานปัจจุบัน และจาได้ดี
นั้นเป็นความรู้ที่เกิดจากการลงพ้ืนที่ในรายวิชานั้นๆ จะทาให้เข้าใจได้ดียิ่งข้ึน ซ่ึงจะทาให้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์
สังคมโดยใช้หลักวิชาการได้ ซ่ึงหลักสูตรพัฒนาสังคมจะต้องมีจุดเด่นท่ีไม่เหมือนใคร โดยใช้บริบทของสถานการณ์ พหุ
สงั คม พหุวัฒนธรรม และวิถีของชายแดนใต้ ที่เป็นลักษณะเฉพาะ สร้างจุดเด่นโดยเฉพาะขึ้นมา มีวิชาต่าง ๆ ที่ปรากฏ
อยู่ในหลักสูตรต้องไมเ่ หมือนกับหลักสูตรพัฒนาสงั คมจากท่ีอื่น ๆ
8
คณาจารย์ในหลักสูตรฯ เสนอว่าให้มีการบูรณาการเพ่ือลดภาระช้ินงานของนักศึกษาแต่สามารถเพ่ิม
ผลผลิตงานให้มีคุณภาพที่สามารถตอบผลลัพธ์การเรียนรู้ได้หลายรายวิชา ให้นักศึกษาทางานกลุ่ม หรือทางานร่วมกับ
ชุมชน เพื่อเข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีทักษะในการสื่อสาร รวมถึงการบริการวิชาการของหลักสูตรฯ
ให้แต่ละรายวิชา จึงกาหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcomes) เป็นกลุ่ม เช่น การคิด การรู้และเข้าใจ การใช้
เคร่ืองมือ และการประยุกต์ใช้ ซ่ึงให้แต่ละรายวิชามีการบูรณการการทางานร่วมกัน และควรกาหนดผลลัพธ์การเรียนรู้
ระดับรายวิชา Course Learning Outcomes (CLOs) เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้จริง เป็นพ่ึงของสังคมบนฐาน
พหุวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน เชื่อมโยงงานทางวิชาการไปสู่ความเป็นนานาชาติได้ นักศึกษาสาขาอ่ืนต้องการเทคนิคท่ี
เฉพาะ วิธีวิทยาการวิจัย รวมถึงกลวิธี จิตวิทยาทางสังคมในการพัฒนาสังคมโดยใช้กระบวนการศึกษาชุมชนเป็นระบบ
เพ่ือจัดการแก้ปัญหาชุมชน/สังคมได้ตรงจุดอย่างยั่งยืน และ สามารถใช้ระบบสารสนเทศให้เท่าทันในปัจจุบันเพ่ือการ
พัฒนาสังคม ส่วนกลุ่มนายจ้าง เสนอว่า หลักสูตรฯ ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาได้เรียนรู้ร่วมกับภาคธุรกิจ
และองคก์ รอ่ืน เพ่ือให้เกิดการมีส่วนร่วมรับผดิ ชอบต่อสังคม แลกเปล่ียนความคิดกับคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหมก่ ็ต้องการทุน
และแรงเสริมต่อกัน
ข้อมูลจากการประเมินผลการดาเนินงาน (Self Assessment Report: SAR) ของหลักสูตรปีการศึกษา
2560 และ ปีการศึกษา 2561 พบว่า หลักสูตรมีการบูรณาการการเรียนการสอนกับงานวิจัยและใช้เป็นกลยุทธ์ให้
คณาจารย์และนักศึกษาผลิตผลงานวิจัยและเผยแพร่ในเวทีวิชาการท่ีได้รบั การยอมรบั ระดับประเทศอย่างต่อเน่ือง และ
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ที่มีการลงพ้ืนที่ปฏิบัติจริง มีการยอมรับความคิดเห็น พร้อมทั้งให้
เกียรตคิ วามเป็นชุมชน โดยมีกลยทุ ธ์ในการจัดรูปแบบการเรียนการสอนท่ีสอดคล้องกับ PLOs แต่ควรรวบรวมชุดข้อมูล
เพ่ือการตัดสินใจและพัฒนาหลักสูตร ได้แก่ ข้อมูลความต้องการของบัณฑิต ผู้ใช้บัณฑิต และตลาดแรงงาน และควร
สนับสนนุ จากคณะเพื่อจัดให้มหี ้องปฏบิ ตั ิการทางสงั คมสาหรบั นักศึกษา
12. ผลกระทบจาก ข้อ 11.1 และข้อ 11.2 ต่อการพัฒนาหลักสูตร รวมถึงกระบวนการพัฒนา/ปรับปรุง
หลกั สตู รในครงั้ น้ี และความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
12.1 การพัฒนาหลักสตู ร และกระบวนการพฒั นา/ปรบั ปรงุ หลักสูตรทเ่ี น้นผลลัพธก์ ารเรยี นรู้
จากผลกระทบของสถานการณ์ภายนอก การพฒั นาหลกั สูตรฯ จึงจาเปน็ ตอ้ งดาเนินการในเชิงรกุ อยา่ ง
มีศักยภาพสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โครงสร้างประชากร และสังคมพหุวัฒนธรรม อีกทั้งมีการ
ปรับปรุงหลักสูตรให้มีรูปแบบการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ (Outcome-Based Education: OBE) เพื่อผลิต
บณั ฑิตให้สอดคล้องตามคุณลักษณะของบัณฑิตท่ีพึงประสงค์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และความต้องการ
ของตลาดแรงงาน ท้ังน้ี ท่ีประชุมคณะกรรมการประจาวิทยาเขตปัตตานี ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2562 เห็นควร
ดาเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในส่วนท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการพัฒนาหลกั สตู ร โดยให้ออกแบบหลักสูตรให้
เข้าสู่โลกยุคดิจิทัล 4.0 รวมท้ังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจาเป็นต้องผลิตบัณฑิตที่มี
สมรรถนะทางวิชาการและวิชาชีพ มีคุณธรรมจริยธรรม เห็นคุณค่าของชุมชน/สังคม และเข้าใจสังคมความ
หลากหลายของสังคม รวมถึงความเป็นพหุวัฒนธรรม ตลอดจนแสวงหาและประยุกต์ความรู้บนพื้นฐาน
ประสบการณ์จากการปฏิบัติในชุมชนและสถานประกอบการ เพ่ือนาไปสู่การประกอบอาชีพและ/หรือเป็น
ผู้ประกอบการทสี่ ามารถจดั การทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชนได้
9
12.2 ความเกย่ี วขอ้ งกับพันธกิจของสถาบัน
จากผลกระทบของสถานการณ์ภายนอกที่มีต่อพันธกิจของมหาวิทยาลัย จึงได้กาหนดแผนปฏิบัติการ
ภายใต้แผนพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (พ.ศ. 2561-2565) ในส่วนที่เก่ียวข้องกับการผลิตบัณฑิต ได้แก่
การสร้างบัณฑิตพันธ์ใุ หม่ บัณฑิตนักนวัตกร โดยกาหนดให้มหี ลักสูตรใหม่ท่ีสนองการพัฒนาประเทศตามนโยบาย
Thailand 4.0 และทักษะในศตวรรษที่ 21 สร้าง Startup Entrepreneurship สร้างบัณฑิตให้มีความเช่ียวชาญ
ในภาษา (เช่น ภาษาอังกฤษ จีน และมลายู) และมีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะเดียวกัน
คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ท่ีม่งุ ผลิตบัณฑิตที่มีสมรรถนะทางวชิ าการและวิชาชีพ ที่สอดประสานการผลิต
บัณฑิตที่มีอัตลักษณ์ท่ีชัดเจน I-WiSe มาจากคาว่า Integrity (I) ซ่ือสัตย์และมีวินัย Wisdom (Wi) ใฝ่ปัญญา
Social engagement (Se) จิตสาธารณะ และทักษะในศตวรรษที่ 21 สามารถประยุกต์ความรู้บนพ้ืนฐาน
ประสบการณ์จากการปฏิบัติ เนื่องจากการเรียนรู้ร่วมกับสถานประกอบการ ชุมชน/สังคม ในสภาวะการทางาน
จรงิ ซึง่ ได้พบปะกับผู้ใช้บริการท่หี ลากหลายและมีความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม ซ่งึ อาจส่งผลต่อพฤติกรรมการ
เลียนแบบ หรือถูกกลืนกลายทางวัฒนธรรมของต่างชาติ อีกทั้งส่งผลให้พฤติกรรมทางวัฒนธรรมและค่านิยมอันดี
งามของนักศึกษาเปล่ียนแปลงไป การพัฒนาหลักสูตรจึงต้องเน้นการสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถ ดารง
ด้วยคุณธรรมบนพื้นฐานความเป็นสังคมไทย ท้ังยังให้สานึกถึงประโยชน์ส่วนร่วม คานึงถึงคุณธรรม จริยธรรม
วิชาชีพ ใช้ความรู้ในหลากหลายรูปแบบเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลอดจนสามารถ
ปรับเปลี่ยนมุมมองได้อย่างสอดคล้องกับบริบทสังคมพหุวัฒนธรรม พร้อมท้ังบริการวิชาการเพื่อพัฒนาและ
ตอบสนองความตอ้ งการของชมุ ชนและสงั คม โดยคานงึ ถงึ ประโยชนข์ องเพอ่ื นมนุษย์เปน็ กจิ ที่หน่ึง
13. ความสมั พนั ธ์ (ถา้ มี) กบั หลกั สูตรอ่ืนทเี่ ปดิ สอนในคณะ/ภาควิชาอน่ื ของสถาบัน
13.1 รายวชิ าในหลักสูตรนี้ทเี่ ปิดสอนโดยคณะ/ภาควชิ า/หลักสูตรอื่น
จานวน 62 รายวชิ า ได้แก่
1) สานักการศึกษาและนวัตกรรมการเรียนรู้ จานวน 2 รายวชิ า คือ
001-103 ไอเดียสคู่ วามเปน็ ผู้ประกอบการ 1((1)-0-2)
2) กองบริการการศกึ ษา จานวน 8 รายวิชา คือ
117-101 ศาสตรพ์ ระราชาและประโยชน์เพื่อนมนุษย์ 3((3)-0-6)
117-102 ความเป็นพลเมอื งและจติ สาธารณะ 3((3)-0-6)
117-103 จิตวิวัฒนแ์ ละคดิ -ทา-นาสขุ 3((3)-0-6)
117-105 จิตวิวฒั นแ์ ละชวี ิตท่ีดี 3((3)-0-6)
117-106 คณติ คิดสมผล 2((2)-0-4)
117-115 การคิดและการตดั สินใจ 2((2)-0-4)
117-116 การรเู้ ท่าทันดิจิทลั 2((2)-0-4)
117-118 โยคะ 1((1)-0-2)
10
3) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จานวน 20 รายวิชา คอื 1((1)-0-2)
400-100 ประโยชนเ์ พือ่ นมนุษย์ 2((2)-0-4)
411-101 ภาษาไทย ภาษาเธอ 2((2)-0-4)
411-102 สนทนาภาษาไทย 4.0 1((1)-0-2)
411-103 สีสันบนั เทิงคดี 1((1)-0-2)
412-123 ศิลปะแดนมังกร 2((2)-0-4)
412-201 หนีหา่ ว จงกว๋อ 2((2)-0-4)
413-213 มาเลยอ์ อนทวั ร์ 1((1)-0-2)
413-242 เสน่หม์ ลายู 1((1)-0-2)
415-140 เปดิ ประตสู ญู่ ี่ปุ่น 2((2)-0-4)
415-203 เซย์ไฮสไตลค์ าวาอ้ี 2((2)-0-4)
416-125 อันยองฮาเซโย โคเรีย 1((1)-0-2)
416-146 ทอ่ งแดนกิมจิ 2((2)-0-4)
417-101 ไฮ-องิ ลิช 2((2)-0-4)
417-102 เพ็นแอนดโ์ พสต์ 2((2)-0-4)
417-191 พัฒนาการอ่าน 2((2)-0-4)
417-193 บันเทงิ ศึกษาภาษาอังกฤษ 2((2)-0-4)
425-101 วฒั นธรรมนาชม 1((1)-0-2)
437-111 ศิลปะบาบัด 2((2)-0-4)
437-201 จริยศาสตรก์ ับความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 2((2)-0-4)
437-202 คดิ อย่างเฉลยี ว เข้าใจอยา่ งฉลาด
2((2)-0-4)
4) คณะศึกษาศาสตร์ จานวน 19 รายวชิ า คอื 2((2)-0-4)
262-202 การคิดเปล่ียนชีวติ 2((2)-0-4)
263-123 การถา่ ยภาพเพ่ือการท่องเทย่ี วในตา่ งแดน 1((1)-0-2)
276-101 การมองภาพแบบองคร์ วม 1((1)-0-2)
277-103 สวยด้วยเศษวัสดุ 1(0-2-1)
277-104 การต์ ูนหรรษา 1(0-2-1)
281-204 ลลี าศ 1(0-2-1)
281-205 กิจกรรมประกอบจังหวะ 1(0-2-1)
281-207 บาสเกตบอล 1(0-2-1)
281-209 วอลเล่ยบ์ อล 1(0-2-1)
281-210 แฮนด์บอล 1(0-2-1)
281-215 เทเบลิ เทนนสิ 1(0-2-1)
281-216 แบดมินตัน
281-219 วา่ ยนา้
11
281-220 เปตอง 1(0-2-1)
281-223 มวยไทย 1(0-2-1)
281-225 เทควนั โด 1(0-2-1)
281-226 ไอกโิ ด 1(0-2-1)
281-227 ยโู ด 1(0-2-1)
299-104 รู้คิด รเู้ ทา่ ทนั 2((2)-0-4)
5) คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ จานวน 2 รายวชิ า คือ
910-113 แจส๊ ด้านซ์ 1((1)-0-2)
910-114 เพลนิ เพลงมหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ 1((1)-0-2)
6) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จานวน 6 รายวิชา คอื
727-106 เกาะติดกระแสวทิ ยาศาสตรส์ มยั ใหม่ 2((2)-0-4)
724-107 การบริโภคสเี ขยี ว 2((2)-0-4)
724-108 ธรรมชาติบาบัด 2((2)-0-4)
746-102 สมาร์ตแมท สมาร์ตไลฟ์ 2((2)-0-4)
747-102 ขอ้ มลู น้ีมคี าตอบ 2((2)-0-4)
7) คณะพยาบาลศาสตร์ จานวน 1 รายวิชา คือ
993-172 จิตสาธารณะในภาวะวกิ ฤต 1((1)-0-2)
8) คณะรัฐศาสตร์ จานวน 2 รายวิชา คอื
196-101 ความเปน็ พลเมือง 2((2)-0-4)
196-103 ภาวะผ้นู าและการจดั การ 2((2)-0-4)
9) สถาบันวฒั นธรรมศึกษากัลยานิวฒั นา จานวน 2 รายวชิ า คือ
125-101 หตั ถกรรมสร้างสรรค์ 1((1)-0-2)
125-102 มหศั จรรยภ์ ูมิปญั ญา 2((2)-0-4)
13.2 กลุ่มวิชา/รายวชิ าในหลกั สูตรนท้ี เ่ี ปิดสอนให้ภาควชิ า/หลักสูตรอ่ืนๆ 3((3)-0-6)
จานวน 35 รายวิชา ได้แก่ 3((3)-0-6)
นกั ศกึ ษาวิชาโท บังคับ 3((2)-2-5)
428-102 การพัฒนาสังคม 3((3)-0-6)
428-205 ทฤษฎีการพฒั นาสังคม 3((3)-0-6)
428-303 เทคนคิ และกลวิธใี นการพัฒนาสังคม* 3((3)-0-6)
หมายเหตุ: *สาหรบั นกั ศกึ ษาวิชาโทพัฒนาสงั คมเทา่ นน้ั
นักศกึ ษาวิชาโท เลือก และ นักศึกษาเลือกเสรี
428-201 กฎหมายกับความเปน็ พลเมอื ง
428-202 ธรรมาภบิ าลและจรยิ ธรรมในการพฒั นาสังคม
428-203 พหุสงั คมและภมู วิ ัฒนธรรมศึกษา
12
428-204 การพัฒนาทรพั ยากรในชนบทและเมือง 3((2)-2-5)
428-206 การจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม 3((3)-0-6)
428-207 การวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ 3((3)-0-6)
428-208 เศรษฐกิจพอเพยี งและการพฒั นาท่ยี ่งั ยืน 3((2)-2-5)
428-209 เพศสภาพและการพัฒนาสังคม 3((3)-0-6)
428-210 การจดั การความรูแ้ ละสังคมแห่งการเรยี นรู้ 3((2)-2-5)
428-211 การพฒั นาภูมิสงั คมมุสลิมอยา่ งย่ังยืน 3((3)-0-6)
428-301 จติ วทิ ยาเพื่อการพัฒนาสงั คม 3((2)-2-5)
428-308 วิทยากรกระบวนการและนันทนาการในการพฒั นาสังคม 3((2)-2-5)
428-309 การสอื่ สารเพอื่ การพัฒนาและการเปลีย่ นแปลงทางสังคม 3((3)-0-6)
428-402 สันติศกึ ษาและการจดั การความขัดแย้ง 3((3)-0-6)
428-291 นโยบายสาธารณะในการพัฒนาสังคม 3((3)-0-6)
428-292 สทิ ธแิ ละสวสั ดกิ ารสงั คมสาหรบั คนทุกชว่ งวัย 3((3)-0-6)
428-293 วสิ าหกจิ เพ่อื สงั คม 3((2)-2-5)
428-294 การท่องเทยี่ วชมุ ชน 3((2)-2-5)
428-295 การมีสว่ นร่วมในการบริหารการพฒั นาสงั คม 3((2)-2-5)
428-391 ขบวนการเคล่ือนไหวทางสังคม 3((2)-2-5)
428-392 เศรษฐศาสตรส์ าหรับการพฒั นาสงั คม 3((3)-0-6)
428-393 การประเมนิ ผลกระทบทางสังคมส่งิ แวดล้อมและสุขภาพ 3((2)-2-5)
428-394 ประมุขศิลปก์ ับการพัฒนาสงั คม 3((2)-2-5)
428-395 การศึกษาเพือ่ การพัฒนาสงั คม 3((3)-0-6)
428-396 เทคโนโลยแี ละดจิ ิทัลเพ่ือการพฒั นาสงั คม 3((3)-0-6)
428-491 การจดั การสุขภาวะชมุ ชน 3((2)-2-5)
428-492 สาธารณสุขกบั การพัฒนาสงั คม 3((2)-2-5)
428-493 นิเวศวฒั นธรรม 3((2)-2-5)
428-494 วถิ ีชวี ติ ชมุ ชนชายแดนใต้ 3((3)-0-6)
428-495 การพฒั นาในประชาคมอาเซียน 3((3)-0-6)
428-496 การจดั การทรพั ยากรมนษุ ยเ์ พื่อสงั คม 3((3)-0-6)
13.3 การบริหารจดั การ
1) ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม จะมอบหมายให้อาจารย์ประจา
หลักสตู รฯ เป็นผู้ประสานงานรายวิชาในกรณีที่มีผสู้ อนมากกว่า 1 คน ในระดับหลกั สูตร ทาหน้าท่ี
ประสานงานกับ อาจารย์ผู้สอน และนักศึกษาในการพิจารณารายวิชา การจัดการเรียนการสอน
และการประเมินผล
2) ผู้รับผิดชอบหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม ดาเนินการเกี่ยวกับกระบวนการ
จัดการเรียนการสอน การเปิด-ปิดรายวิชาเรียน การเทียบรายวิชาของหลักสูตรฯ การประกัน
13
คุณภาพการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายวิชา และการจัดการ
ขอ้ ร้องเรยี นของนักศึกษา
3) อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม ประสานงานกับอาจารย์
ผสู้ อน ดา้ นเนอื้ หาสาระใหส้ อดคล้องกับมาตรฐานผลการเรียนรู้ และระบบประกนั คณุ ภาพ
14
หมวดที่ 2 ขอ้ มูลเฉพาะของหลักสูตร
1. ปรชั ญา ความสาคญั /หลกั การและเหตผุ ล และวตั ถุประสงค์ของหลกั สูตร
1.1 ปรัชญา
หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมมุ่งเน้นการจัดการศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ทั้งทางทฤษฎี
และปฏิบัติ ผลิตบัณฑิตท่ีมีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม และรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีทักษะใน
ศตวรรษท่ี 21 ท้ังทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทกั ษะสารสนเทศ สอื่ เทคโนโลยี และทักษะชวี ิตและอาชีพ เพ่ือ
นาไปสู่การประกอบอาชีพ จัดการทรัพยากรในชุมชน เป็นที่พ่ึงของสังคมบนฐานพหุวัฒนธรรม และเอ้ือต่อการมี
สขุ ภาวะของคนทกุ ช่วงวยั บนพื้นฐานของการพัฒนาท่ยี ง่ั ยืน
1.2 ความสาคัญ
1) สามารถตอบสนองความต้องการบุคลากรที่มีทักษะในการบูรณาการความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติการ
ด้านการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ทั้งในบริบทสังคมพหุวัฒนธรรมของพ้ืนที่จังหวัดชายแดนใต้ และ
ในภูมภิ าคอาเซียน
2) สามารถผลิตบัณฑิตที่มีคุณลักษณะโดดเด่น ในการแสวงหาและประยุกต์ความรู้บนพ้ืนฐาน
ประสบการณ์จากการปฏิบัติในชุมชน และสถานประกอบการ เพอ่ื นาไปสูก่ ารประกอบอาชีพ จัดการทรัพยากรใน
ชุมชน เป็นที่พ่ึงของสังคมบนฐานพหุวัฒนธรรม และเอื้อต่อการมีสุขภาวะของคนทุกช่วงวัยบนพ้ืนฐานของการ
พฒั นาทีย่ งั่ ยนื
1.3 วตั ถปุ ระสงค์ของหลกั สูตร
1) เพ่ือผลิตบัณฑิตทม่ี ีคุณธรรม จริยธรรม มีจติ อาสา ทาประโยชน์เพ่อื สว่ นรวม และมคี วามรับผิดชอบต่อ
สังคม สามารถปรับตัวยอมรับความคิดเห็นในการปฏิบัติงานด้านการพัฒนาเพ่ือสนองความต้องการของชุมชน
ท้องถนิ่ ทอ้ งที่ ท้ังภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาควชิ าการได้
2) เพื่อผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ทั้งเชิงทฤษฎีและปฏิบัติในการพัฒนาสังคมทั้งระดับท้องถิ่นชายแดนใต้
เชื่อมโยงสรู่ ะดับนานาชาติได้
3) เพื่อผลิตบัณฑิตให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาภายใต้สถานการณ์ที่หลากหลาย สามารถปรับตัวให้ทันต่อ
การเปล่ียนแปลง จัดการภัยพิบัติในจังหวัดชายแดนใต้ และเสนอแนวทางการพัฒนาสังคมร่วมกับ ชุมชน ท้องถิ่น
ทอ้ งที่ ทง้ั ภาครัฐ ภาคประชาสงั คม และภาควิชาการได้
4) เพอื่ ผลิตบัณฑติ ให้มีความสามารถในการสร้างงานวิจยั ชมุ ชน สังคม และเผยแพรค่ วามรดู้ ้านการพัฒนา
สงั คม ตลอดจนบูรณาการและประยกุ ตใ์ ช้ความรสู้ ่กู ารปฏบิ ัติได้จริงบนพ้ืนฐานของสงั คมพหวุ ัฒนธรรมได้
5) เพ่ือผลิตบัณฑิตให้สามารถใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะ และประยุกต์ใช้เพ่ือการปฏิบัติงานในภาครัฐ
ภาคเอกชน และภาคประชาสงั คม ท่สี รา้ งคณุ คา่ และมลู ค่าให้สงั คมได้
15
2. แผนพฒั นาปรับปรุง
คาดวา่ จะดาเนินการแลว้ เสรจ็ ภายในรอบการศึกษา (4 ปี)
แผนการพฒั นา/เปลีย่ นแปลง กลยทุ ธ์ หลกั ฐาน/ตวั บ่งชี้
1. ปรบั ปรุง หลกั สตู รตาเกณฑ์ 1. ตดิ ตามการปรับปรุงหลักสูตรอยา่ ง 1. รายงานการประเมนิ หลกั สูตร
มาตรฐานของ สกอ. และ สม่าเสมอ พร้อมปรบั ปรงุ หลกั สูตรตาม 2. เอกสารการปรับปรุงหลักสตู ร
Outcome Based Education กรอบระยะเวลาท่ีกาหนด 3. ผลสรปุ และผลการประเมนิ
(OBE) 2. ประชมุ /สัมมนาผรู้ บั ผิดชอบหลักสตู ร
อาจารย์ประจาหลักสตู ร การประชุม/สัมมนา
2. สง่ เสริมการจัดการเรียนการ 3. ติดตามความก้าวหน้าขององค์ความรใู้ น 4. รายวิชาในหลกั สูตรท่ี
สอนให้เปน็ Outcome-Based สาขาวิชาพัฒนาสังคม
Education (OBE) และจดั การ 4. ตดิ ตามความคาดหวงั ของสังคมต่อผู้ สอดคลอ้ งกบั การปลี่ยนแปลง
เรยี นการสอนแบบ Active ประกอบวชิ าชีพ ของความรใู้ นสาขาวชิ า
Learning 1. เพิม่ พูนทกั ษะอาจารย์ในการจัดการ 5. รายงานผลการสมั ภาษณผ์ ู้ใช้
บัณฑิต
เรยี นการสอนแบบอิงผลการเรียนรขู้ อง 1. จานวนอาจารยท์ ่รี ่วมกิจกรรม
ผเู้ รยี น (Outcome-Based Learning) เพ่ิมพนู ทักษะการจัดการเรียน
2. แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ระหวา่ งอาจารย์ผู้สอน การสอนแบบองิ ผลการเรยี นรู้
และนักศึกษาท่ีเน้นการเรยี นแบบ ของผู้เรยี น (Outcome-Based
Outcome-Based Education Learning)
3. จดั ทาการประเมินและวเิ คราะห์ 2. ผลการประเมินการเรยี นรู้ใน
ประสทิ ธิภาพการเรยี นการสอนแบบอิง รายวชิ าทีม่ ีการเรยี นการสอน
ผลการเรียนร้ขู องผู้เรยี น (Outcome- แบบ Outcome-Based
Based Learning) Education
4. เพม่ิ พนู ทักษะการจดั การเรียนการสอน 3. ผลการประเมินและการ
แบบ Active Learning ให้แก่ผ้สู อน การ วิเคราะหก์ ารเรียนการสอน
สรา้ งความร่วมมือกบั ชุมชน และคู่ความ แบบองิ ผลการเรยี นรู้ของ
ร่วมมือกับเครอื ข่ายพฒั นาชุมชนท้องถิ่น ผเู้ รยี น (Outcome-Based
และสงั คม (CSD สัมพนั ธ)์ ระดับชาติ Learning)
4. ความพึงพอใจของผ้เู รียนต่อ
การเรยี นการสอนแบบอิงผล
การเรยี นรูข้ องผูเ้ รยี น
(Outcome-Based Learning)
5. จานวนรายวชิ าทีม่ ีการจดั
การเรียนการสอนแบบ Active
Learning
6. จานวนคู่ความรว่ มมือ
16
แผนการพฒั นา/เปลย่ี นแปลง กลยทุ ธ์ หลกั ฐาน/ตวั บ่งชี้
7. การมีส่วนร่วมในเครือข่ายท่ี
เป็นฐานในการเรียนรู้
3. ส่งเสรมิ การจดั การเรยี นรู้ท่ี 1. พฒั นาทกั ษะอาจารย์ในการจัดการ 1. จานวนโครงการเพม่ิ พูนทักษะ
เนน้ ผู้เรยี นเปน็ ศูนย์กลาง และ เรยี นร้แู ละการประเมนิ ผลการเรียนรู้ดา้ น อาจารย์
เพ่ือตอบสนองความต้องการของ คุณธรรมจรยิ ธรรม ดา้ นความรู้ ดา้ น 2. จานวนอาจารยท์ เ่ี ขา้ ร่วม
ชมุ ชน ทกั ษะทางปญั ญา ดา้ นทักษะ กจิ กรรมการเพิ่มพนู ทักษะ
ความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคลและความ การจดั การเรียนรูต้ าม
รับผิดชอบ ทักษะในการวเิ คราะหเ์ ชงิ มาตรฐานผลการเรียนรู้แตล่ ะ
ตัวเลข การส่ือสารและการใช้เทคโนโลยี ดา้ น
สารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการ 3. ผลการประเมินประสิทธิผล
2. จดั เวทรี ะดมความคิดเห็นจากภาคี การจดั การเรยี นรู้ ตาม
เครอื ข่ายและค่คู วามรว่ มมือ มาตรฐานผลการเรียนร้แู ตล่ ะ
3. นาความต้องการของชมุ ชนมาเป็น ดา้ น
แนวทางในการกาหนดทิศทางการจดั การ 4. ความพงึ พอใจของผ้เู รียนต่อ
เรยี นการสอนในแต่ละปีการศึกษา การจัดการเรยี นรู้ของอาจารย์
4. ผลกั ดนั ให้นักศึกษาผลิตงานวิจัยชุมชนที่ 5. ผลการประเมนิ ของนักศึกษา
ตอบสนองความต้องการของชมุ ชนภายใต้ ในแตล่ ะมาตรฐานการเรียนรู้
การดูแลของภาคีเครือข่ายและค่คู วาม 6. การทบทวนแผนการศึกษาใน
ร่วมมือ แตล่ ะปีการศกึ ษา
5. ตดิ ตามประเมนิ ทักษะอาจารย์ในการ 7. จานวนงานวจิ ยั ชุมชนท่ี
จดั การเรยี นรู้ และการประเมินผลการ ตอบสนองความต้องการของ
เรียนร้ขู องนักศึกษาตามมาตรฐานผลการ ชุมชน
เรยี นรู้ในแต่ละด้าน
4. ปรับปรุงวิธีการวัดและการ 1. เพมิ่ พูนทกั ษะอาจารยเ์ กย่ี วกับวธิ ีการวดั 1. จานวนโครงการเพิ่มพนู ทักษะ
ประเมินผล และประเมนิ ผล โดยเน้นการวดั ประเมิน ของอาจารยเ์ กี่ยวกบั การวัด
แบบองิ ผลการเรียนรู้ของผ้เู รยี น และการประเมนิ ผล
(Student Assessment of Outcome- 2. จานวนอาจารยท์ ี่ร่วมกิจกรรม
Based Learning) การเพิ่มพูนทักษะในการวัด
2. กาหนดให้มีคณะกรรมการประกัน และประเมนิ ผล
คุณภาพขอ้ สอบในทุกรายวชิ า 3. รายงานการประกนั คุณภาพ
3. มีการประเมินผลแบบประมวลความรู้ ข้อสอบ
4. มีการประเมนิ ผลในรปู แบบ 4. ผลการประกนั คณุ ภาพ
คณะกรรมการ โดยใช้ผูป้ ระเมนิ ทง้ั จาก ขอ้ สอบ
17
แผนการพัฒนา/เปลยี่ นแปลง กลยุทธ์ หลักฐาน/ตวั บง่ ช้ี
ภายในและภายนอก (ภาคเี ครือขา่ ยและ 5. เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
5. ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ คู่ความร่วมมือ) 6. จานวนรายวิชาทใี่ ชว้ ธิ วี ดั และ
เพื่อให้บรรลุมาตรฐานผลการ 5. มกี ารประเมินผลโดยใชข้ ้อสอบและ/
เรยี นรทู้ ุกดา้ น หรอื แบบทดสอบ ประเมนิ ผลแบบองิ ผลการ
6. กาหนดเกณฑใ์ นการวัดและประเมินผล เรียนรูข้ องผู้เรยี น
แตล่ ะรายวชิ า 7. ขอ้ สอบและ/หรือ
แบบทดสอบ
1. พฒั นาทักษะอาจารย์ในการจัดการ 8. ความพงึ พอใจของผู้เรียนต่อ
เรียนรแู้ ละการประเมินผลการเรียนรดู้ า้ น ระบบการวัดและประเมินผล
คณุ ธรรมจริยธรรม ด้านความรู้ ดา้ น 9. แบบประเมนิ ผลการประมวล
ทกั ษะทางปญั ญา ดา้ นทกั ษะ ความรใู้ นรายวชิ า (มคอ.5)
ความสัมพนั ธร์ ะหว่างบุคคลและความ 1. จานวนโครงการเพิม่ พูนทักษะ
รับผิดชอบ ทักษะในการวิเคราะห์เชิง อาจารย์
ตัวเลข การสอ่ื สารและการใช้เทคโนโลยี 2. จานวนอาจารย์ทเ่ี ขา้ ร่วม
สารสนเทศเพื่อการบริหารจดั การ กิจกรรมการเพิ่มพูนทักษะการ
จดั การเรียนรู้ตามมาตรฐานผล
2. ตดิ ตามประเมินทักษะอาจารย์ในการ การเรียนรู้แตล่ ะด้าน
จัดการเรียนรู้ และการประเมินผลการ 3. ผลการประเมินประสิทธิผล
เรียนรขู้ องนักศึกษาตามมาตรฐานผลการ การจดั การเรยี นรู้ ตาม
เรียนรใู้ นแตล่ ะดา้ น มาตรฐานผลการเรียนรแู้ ต่ละ
ดา้ น
4. ความพึงพอใจของผู้เรียนต่อ
การจัดการเรียนรู้ของอาจารย์
5. ผลการประเมินของนักศึกษา
ในแต่ละมาตรฐานการเรียนรู้
18
หมวดที่ 3 ระบบการจดั การศกึ ษา การดาเนินการ และโครงสรา้ งของหลักสตู ร
1. ระบบการจดั การศกึ ษา
1.1 ระบบ
ระบบทวภิ าค โดย 1 ปกี ารศกึ ษา แบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติ และมีระยะเวลาการศึกษา
ไม่น้อยกว่า 15 สปั ดาห์ และข้อกาหนดตา่ ง ๆ ให้เปน็ ไปตามข้อบงั คับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ว่าดว้ ยการศึกษาชั้นปริญญาตรีและการศึกษาตลอดชีวิต พ.ศ. 2563
1.2 การจัดการศกึ ษาภาคฤดรู ้อน
มีการจัดการเรียนการสอนภาคฤดูร้อน จานวน 8 สัปดาห์ ในปีที่ 3 หรือตามการพิจารณาของ
คณะกรรมการประจาหลักสูตร
1.3 การเทียบเคยี งหน่วยกิตในระบบทวภิ าค
ไม่มี
2. การดาเนนิ การหลกั สูตร
2.1 วนั -เวลาในการดาเนินการเรยี นการสอน
ปีการศึกษา 2564 ปีการศกึ ษา 2565 เป็นต้นไป
ภาคต้น เดอื นมิถนุ ายน-ตลุ าคม ภาคต้น เดอื นมิถุนายน-ตุลาคม
ภาคปลาย เดอื นพฤศจิกายน-มนี าคม ภาคปลาย เดอื นตุลาคม-กมุ ภาพนั ธ์
ภาคฤดูรอ้ น เดือนมีนาคม-พฤษภาคม ภาคฤดรู ้อน เดือนมนี าคม-พฤษภาคม
2.2 คณุ สมบัติของผูเ้ ข้าศึกษา
1) ต้องสาเร็จการศึกษาไม่ต่ากว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า (กศน.) หรือ สาเรจ็ การศึกษาไม่
ต่ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือสาเร็จการศึกษาไม่ต่ากว่าระดับอนุปริญญา และ
เทยี บโอนระดบั อนุปริญญา
2) สุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นผู้ทม่ี ีโรคติดต่อร้ายแรง ที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และแพทย์มีความเห็นว่า
มีสขุ ภาพเหมาะสมท่ีจะเขา้ ศกึ ษาได้
3) ผ่านการคดั เลือกตามเกณฑ์ของสานักงานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา และ/หรือเป็นไปตามระเบียบ
ขอ้ บังคับของการคัดเลอื กของมหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ หรอื
4) ผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์การคัดเลือกภายใต้โครงการที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เป็น
ผู้ดาเนนิ การเพอ่ื เขา้ ศึกษาในมหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์
2.3 ปัญหาของนกั ศกึ ษาแรกเข้า
1) ขาดทกั ษะในการวางแผนและการบรหิ ารตนเอง
2) ขาดทกั ษะและความเข้าใจในการศึกษาค้นควา้ หาความรดู้ ว้ ยตนเอง
3) การปรบั ตัวดา้ นความเป็นอยู่และการเรียนในระบบมหาวทิ ยาลยั
4) ความรู้ ทศั นคติ และทกั ษะเก่ยี วกับชมุ ชนและสงั คม
18
5) การปรบั ตัวในดา้ นการเรียนการสอนแบบฝึกปฏิบัติภาคสนาม
6) การขาดแคลนทนุ ทรัพยใ์ นการเรยี น
2.4 กลยทุ ธใ์ นการดาเนินการเพื่อแก้ไขปญั หา/ข้อจากดั ของนักศึกษาในข้อ 2.3
1) จัดกิจกรรมพฒั นาทักษะเก่ยี วกับการวางแผนและการบริหารตนเองให้แกน่ กั ศกึ ษา
2) จัดทาห้องเรียนออนไลน์ ผ่านส่ือสารสนเทศ เช่น Google classroom, ผ่านกลุ่ม Facebook, Line
ฯลฯ
3) สนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย และคณะฯ เพ่ือช่วยให้นักศึกษาสามารถปรับตัวเข้า
กบั บรรยากาศการเรียนและการทากิจกรรมในมหาวิทยาลัย และ จดั กิจกรรมประเมินภาวะเสี่ยงการ
เปน็ โรคซมึ เศรา้ ทห่ี ลักสตู รฯ ร่วมกับ ศูนย์สุขภาพจิตท่ี 12 กรมสุขภาพจติ
4) จัดโครงการพัฒนานักศึกษา เช่น โครงการส่ือสารปรัชญาหลักสูตรและติดตามความก้าวหน้าของ
ผู้เรียน กิจกรรม เพ่ือให้นักศึกษาทุกชั้นปีได้เรียนรู้ รวมถึงมีทัศนคติและทักษะเก่ียวกับชุมชนและ
สงั คม รวมท้ังให้เกดิ การปรับตวั ทสี่ อดรับกบั การเรยี นการสอนแบบฝึกปฏบิ ัตภิ าคสนาม
5) หลักสูตรฯ มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ ระหว่างเรียน รวมถึงแสวงหาทุนภายนอกทาง
การศกึ ษาใหน้ ักศึกษาในหลกั สูตรฯ
2.5 แผนการรบั นักศกึ ษาและจานวนนกั ศกึ ษาท่คี าดว่าจะจบ ในระยะ 5 ปี
2.5.1 แผนการเรยี นปกติ
จานวนนกั ศึกษา 2564 จานวนนกั ศึกษาแต่ละปกี ารศกึ ษา 2568
50 2565 2566 2567 50
ปที ี่ 1 50 50 50 50
ปที ี่ 2 50 50 50 50 50
ปีที่ 3 - 50
ปที ่ี 4 50 50 200
รวม 50
จานวนนกั ศึกษาท่คี าดวา่ จะจบ 50
100 150 200
- - 50
2.5.2 กรณีนกั ศกึ ษาเทียบโอน
จานวนนกั ศกึ ษา จานวนนักศึกษาแต่ละปีการศกึ ษา
2566 2567 2568
ปีที่ 1 20 20 20
ปีที่ 2
รวม - 20 20
จานวนนกั ศึกษาที่คาดว่าจะจบ
20 40 40
- 20 20
19
2.6 งบประมาณตามแผน
2.6.1 งบประมาณรายรับ (หนว่ ยบาท)
รายละเอียดรายรบั 2564 ปงี บประมาณ 2567 2568
1,600,000 6,400,000 6,400,000
ค่าธรรมเนียมการศึกษา 2565 2566
(เหมาจา่ ย) 3,200,000 4,800,000
รวมรายรบั
1,600,000 3,200,000 4,800,000 6,400,000 6,400,000
หมายเหตุ : ค่าบารุงการศึกษาคิดจากประมาณการค่าธรรมเนียมการศึกษาเหมาจ่าย ในอัตรา 16,000 ต่อคน
ตอ่ ภาคการศึกษา (คานวณจากแผนการเรียนปกต)ิ
2.6.2 งบประมาณรายจา่ ย (หน่วยบาท)
หมวดเงนิ ปีงบประมาณ 2567 2568
2564 2565 2566
ก. งบดาเนนิ การ 2,397,882 2,493,798
1. ค่าใชจ้ า่ ยบคุ ลากร 2,131,709 2,216,977 2,305,656 963,014 972,644
2. ค่าใช้จา่ ยดาเนนิ งาน (ไมร่ วม 3) 240,753 481,507 722,260
3. ทุนการศึกษา 3,360,896 3,466,442
2,372,462 2,698,484 3,027,916
รวม (ก)
ข. งบลงทุน
คา่ ครุภัณฑ์
รวม (ข)
รวม (ก) + (ข) 2,372,462 2,698,484 3,027,916 3,360,896 3,466,442
จานวนนกั ศึกษา 50 100 150 200 200
คา่ ใชจ้ ่ายตอ่ หัวนกั ศกึ ษา/คน/ปี 47,449 26,985 20,186 16,804 17,332
2.7 ระบบจดั การศึกษา
แบบชนั้ เรยี น
แบบทางไกลผา่ นส่อื สง่ิ พิมพเ์ ป็นหลัก
แบบทางไกลผ่านสือ่ แพรภ่ าพและเสียงเป็นสือ่ หลกั
แบบทางไกลทางอิเล็กทรอนกิ สเ์ ป็นสือ่ หลกั (E-learning)
20
แบบทางไกลทางอนิ เทอร์เน็ต
อืน่ ๆ (ระบุ) การเรยี นการสอนออนไลน์ ฝึกปฏบิ ตั ภิ าคสนามรว่ มกบั เครอื ข่ายและคูค่ วามรว่ มมือ
2.8 การเทียบโอนหนว่ ยกติ รายวิชาและการลงทะเบยี นเรียนข้ามสถาบันอุดมศึกษา (ถา้ มี)
เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ว่าด้วยการศึกษาชั้นปริญญาตรีและการศึกษาตลอด
ชีวติ
2.9 การจัดการเรียนการสอน
หลักสตู รนมี้ รี ูปแบบการจดั การเรยี นการสอน ดงั น้ี
1) หลักสูตรมีรายวิชาท่ีจัดการศึกษาเชิงบูรณาการการเรียนรู้กับภาคีเครือข่ายและคู่ความร่วมมือ โดยภาคี
เครือข่ายและคู่ความร่วมมือได้ร่วมออกแบบการจัดการเรียนการสอนท้ังในภาค ทฤษฎีและการฝึก
ปฏบิ ตั ิภาคสนามของนกั ศึกษาตงั้ แตร่ ะดับชั้นปีท่ี 4
2) หลักสูตรผลักดนั ให้นักศึกษาจัดทาวิจัยชุมชนเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนภายใต้การดูแล
กากบั ตดิ ตาม ของอาจารย์ผ้สู อน ภาคีเครือข่ายและคู่ความรว่ มมือ
3) รูปแบบการเรียนการสอนที่หลักสูตรออกแบบดังกล่าว เป็นรูปแบบการเรียนรู้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้
จากประสบการณ์จริงการทางาน (Work Integrated Learning: WIL) ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60
4) กาหนดให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก (Active Learning) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ
รายวิชาในหมวดวชิ าเฉพาะของหลกั สูตร นอกจากน้ที ุกรายวิชายังใช้ภาษาองั กฤษร่วมในการจัดการ
การเรียนการสอนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 50 ของรายวิชาในหลกั สูตร
5) หลกั สตู รออกแบบการเรียนการสอนให้นกั ศึกษาเกิดภาวะการเป็นผู้นาและผู้ตามผา่ นกจิ กรรมต่าง ๆ
ของรายวชิ าและการฝกึ ปฏบิ ัติภาคสนาม
6) หลักสูตรกาหนดให้มีรายวิชาสหกิจศึกษา โดยมีผู้ไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 100
ของจานวนนักศกึ ษาในหลกั สตู ร
3. หลักสูตรและอาจารย์
3.1 หลกั สตู ร
3.1.1 จานวนหน่วยกิต รวมตลอดหลักสตู ร
(1) แผนปกติ ไมน่ ้อยกว่า 130 หน่วยกิต
(2) เทียบโอน ไม่น้อยกวา่ 130 หนว่ ยกติ เรยี นเพมิ่ 56 หน่วยกติ
3.1.2 โครงสรา้ งหลกั สตู ร (แผนปกติ)
ก หมวดวชิ าศกึ ษาท่ัวไป ไม่น้อยกว่า 30 หน่วยกิต
1) สาระบังคับศกึ ษาท่วั ไป 26 หน่วยกติ
สาระที่ 1 ศาสตร์พระราชาและประโยชน์เพื่อนมนษุ ย์ 3 หน่วยกติ
สาระท่ี 2 ความเปน็ พลเมืองและชีวติ ทส่ี นั ติ 3 หน่วยกติ
สาระที่ 1 และ สาระที่ 2 เลอื ก 3 หนว่ ยกติ
สาระท่ี 3 การเปน็ ผู้ประกอบการกบั การคดิ เชิงระบบ 3 หน่วยกติ
สาระที่ 4 การอยอู่ ย่างรู้เทา่ ทันและรูด้ ิจทิ ลั 4 หนว่ ยกติ
21
สาระที่ 5 การคิดเชิงตรรกะและตวั เลข 2 หนว่ ยกติ
สาระท่ี 6 ภาษาและการสื่อสาร 6 หนว่ ยกติ
สาระที่ 7 สุนทรียศาสตร์และกฬี า 2 หน่วยกติ
2) สาระเลอื กศึกษาทว่ั ไป 4 หนว่ ยกติ
ข หมวดวิชาเฉพาะ ไมน่ อ้ ยกวา่ 94 หน่วยกิต
1) กลุ่มบังคับเอก ไมน่ ้อยกว่า 82 หนว่ ยกติ
2) กลุ่มวชิ าเลือกเอก 12 หน่วยกติ
ค หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หนว่ ยกิต
3.1.3 โครงสร้างหลักสูตร (แผนการเทียบโอนระดับอนุปริญญา เรียนเพิ่ม 56 หน่วยกิตตาม
แผนการศึกษา)
ก หมวดวชิ าศึกษาท่วั ไป (7 กลุม่ สาระ) 30 หนว่ ยกติ
- เทียบโอน (ภาคผนวก ฎ) 20 หนว่ ยกติ
- เรียนเพม่ิ 10 หนว่ ยกิต
1) สาระบงั คบั ศึกษาท่ัวไป 8 หน่วยกติ
สาระท่ี 1 ศาสตร์พระราชาและประโยชน์เพื่อนมนุษย์ 3 หนว่ ยกิต
สาระที่ 2 ความเป็นพลเมืองและชวี ิตทีส่ นั ติ - หน่วยกิต
สาระที่ 1 และ สาระที่ 2 เลือก - หน่วยกติ
สาระท่ี 3 การเป็นผู้ประกอบการกบั การคิดเชิงระบบ 3 หน่วยกติ
สาระท่ี 4 การอยู่อย่างร้เู ทา่ ทันและรดู้ จิ ิทลั - หนว่ ยกติ
สาระที่ 5 การคิดเชิงตรรกะและตัวเลข - หนว่ ยกติ
สาระที่ 6 ภาษาและการสื่อสาร - หนว่ ยกติ
สาระท่ี 7 สุนทรยี ศาสตรแ์ ละกีฬา 2 หน่วยกติ
2) สาระเลอื กศกึ ษาท่วั ไป 2 หน่วยกิต
ข หมวดวชิ าเฉพาะ ไมน่ ้อยกวา่ 94 หน่วยกติ
1) กลุ่มบังคับเอก 82 หน่วยกติ
- เทียบโอน (ภาคผนวก ฎ) 36 หนว่ ยกติ
- เรียนเพิ่ม (วชิ าบงั คบั เอก) 46 หนว่ ยกติ
2) กลมุ่ วิชาเลอื กเอก 12 หนว่ ยกติ
- เทียบโอน (ภาคผนวก ฎ) 12 หนว่ ยกติ
ค หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกติ
- เทียบโอน (ภาคผนวก ญ) 6 หน่วยกติ
22
3.1.4 รายวิชา/กลุ่มสาระ/ชุดวิชา (Module)
ก หมวดวชิ าศกึ ษาท่ัวไป (7 กล่มุ สาระ) ไม่น้อยกว่า 30 หน่วยกติ
3((3)-0-6)
สาระบงั คับศึกษาทั่วไป จานวน 26 หนว่ ยกติ 3((3)-0-6)
สาระที่ 1 ศาสตร์พระราชาและประโยชนเ์ พ่ือนมนุษย์
บงั คบั จานวน 3 หน่วยกติ
117-101 ศาสตร์พระราชาและประโยชน์เพ่ือนมนุษย์
สาระท่ี 2 ความเปน็ พลเมืองและชีวิตท่ีสนั ติ
บังคับ จานวน 3 หนว่ ยกิต
117-103 จิตววิ ฒั น์และคิด-ทา-นาสุข
สาระท่ี 1 และ สาระท่ี 2 เลือก 3 หน่วยกติ จากรายวิชาตอ่ ไปน้ี 3((3)-0-6)
117-102 ความเปน็ พลเมืองและจิตสาธารณะ
สาระท่ี 3 การเปน็ ผู้ประกอบการกับการคดิ เชงิ ระบบ 3((3)-0-6)
บังคบั จานวน 3 หน่วยกิต
117-104 การคิดสกู่ ารเป็นผปู้ ระกอบการ
สาระที่ 4 การอยู่อยา่ งรู้เท่าทันและการรู้ดจิ ิทัล 2((2)-0-4)
บังคับ จานวน 4 หนว่ ยกิต 2((2)-0-4)
117-116 การรเู้ ทา่ ทนั ดจิ ิทัล
299-104 รูค้ ิด รูเ้ ท่าทนั 2((2)-0-4)
2((2-0-4)
สาระที่ 5 การคดิ เชงิ ตรรกะและตัวเลข
บังคับ จานวน 2 หนว่ ยกติ
746-102 สมาร์ตแมท สมารต์ ไลฟ์
117-106 คณติ คดิ สมผล
สาระที่ 6 ภาษาและการส่ือสาร 2((2)-0-4)
บงั คบั จานวน 6 หนว่ ยกิต 2((2)-0-4)
417-101 ไฮ-อิงลิช 2((2)-0-4)
417-102 เพ็นแอนด์โพสต์
411-102 สนทนาภาษาไทย 4.0 1((1)-0-2)
สาระท่ี 7 สนุ ทรยี ศาสตร์และกีฬา
เลอื ก จานวน 2 หนว่ ยกติ จากสองสาระหรือสาระใดสาระหนึ่งก็ได้
สุนทรียศาสตร์ จากรายวชิ าต่อไปน้ี
125-101 หตั ถกรรมสรา้ งสรรค์
23
277-103 สวยด้วยเศษวสั ดุ 1((1)-0-2)
277-104 การต์ นู หรรษา 1((1)-0-2)
411-103 สีสนั บนั เทิงคดี 1((1)-0-2)
412-123 ศิลปะแดนมงั กร 1((1)-0-2)
413-242 เสนห่ ม์ ลายู 1((1)-0-2)
415-140 เปดิ ประตสู ญู่ ่ปี ุน่ 1((1)-0-2)
416-146 ท่องแดนกมิ จิ 1((1)-0-2)
437-111 ศลิ ปะบาบดั 1((1)-0-2)
910-114 เพลนิ เพลงมหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 1((1)-0-2)
กีฬา จากรายวชิ าต่อไปนี้ 1((1)-0-2)
117-118 โยคะ 1(0-2-1)
281-204 ลลี าศ 1(0-2-1)
281-205 กจิ กรรมประกอบจังหวะ 1(0-2-1)
281-207 บาสเกตบอล 1(0-2-1)
281-209 วอลเล่ยบ์ อล 1(0-2-1)
281-210 แฮนดบ์ อล 1(0-2-1)
281-215 เทเบิลเทนนิส 1(0-2-1)
281-216 แบดมินตนั 1(0-2-1)
281-219 ว่ายนา้ 1(0-2-1)
281-220 เปตอง 1(0-2-1)
281-223 มวยไทย 1(0-2-1)
281-225 เทควันโด 1(0-2-1)
281-226 ไอกโิ ด 1(0-2-1)
281-227 ยโู ด
สาระเลอื กศึกษาท่ัวไป จานวน 4 หนว่ ยกิต เลอื กจากรายวิชาตอ่ ไปนี้ 2((2)-0-4)
สาระสุนทรยี ศาสตร์ 2((2)-0-4)
125-102 มหัศจรรย์แหง่ ภมู ิปัญญา
425-101 วัฒนธรรมนาชม 2((2)-0-4)
2((2)-0-4)
สาระความเปน็ พลเมอื ง
196-103 ภาวะผู้นาและการจัดการ 2((2)-0-4)
437-201 จริยศาสตรก์ บั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม
สาระอยู่อย่างร้เู ทา่ ทนั
724-108 ธรรมชาตบิ าบัด
24
สาระการคิดเชงิ ระบบ 2((2)-0-4)
276-101 การมองภาพแบบองคร์ วม 2((2)-0-4)
437-202 คดิ อยา่ งเฉลยี ว เข้าใจอยา่ งฉลาด
สาระภาษาและการส่อื สาร การคดิ เชิงระบบ สนุ ทรียศาสตร์ 2((2)-0-4)
263-123 การถ่ายภาพเพื่อการทอ่ งเทีย่ วในตา่ งแดน
สาระภาษาและการสอ่ื สาร 2((2)-0-4)
412-201 หนหี า่ ว จงกว๋อ 2((2)-0-4)
413-213 มาเลย์ออนทวั ร์ 2((2)-0-4)
415-203 เซย์ไฮสไตลค์ าวาอ้ี 2((2)-0-4)
416-125 อนั ยองฮาเซโย โคเรีย 2((2)-0-4)
417-191 พัฒนาการอ่าน 2((2)-0-4)
417-193 บันเทิงศึกษาภาษาองั กฤษ
ข หมวดวชิ าเฉพาะ ไม่น้อยกวา่ 94 หน่วยกิต
82 หน่วยกติ
1) กลมุ่ บงั คบั เอก 3((3)-0-6)
3((3)-0-6)
428-101 สังคมวทิ ยาและมานษุ ยวิทยาในการพฒั นาสงั คม 9((6)-6-15)
3((3)-0-6)
Sociology and Anthropology in Social Development 3((3)-0-6)
3((3)-0-6)
428-102 การพัฒนาสงั คม 3((2)-2-5)
3((3)-0-6)
Social Development 3((3)-0-6)
3((3)-0-6)
428-131 ชุดวิชาการพัฒนาสังคมเพ่อื ความยัง่ ยนื
Module: Social Development for Sustainability
428-201 กฎหมายกบั ความเปน็ พลเมือง
Law and Citizenship
428-202 ธรรมาภบิ าลและจรยิ ธรรมในการพฒั นาสงั คม
Good Governance and Ethics of Social Development
428-203 พหสุ ังคมและภูมิวัฒนธรรมศกึ ษา
Pluralism and Geo-cultural Education
428-204 การพัฒนาทรัพยากรในชนบทและเมือง
Rural and Urban Resource Development
428-205 ทฤษฎีการพัฒนาสังคม
Social Development Theory
428-206 การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
Natural Resources and Environmental Management
428-207 การวางแผนและพัฒนาเศรษฐกจิ ภาคใต้
Southern Economic Development and Planning
25
428-208 เศรษฐกิจพอเพยี งและการพัฒนาทีย่ ่ังยืน 3((2)-2-5)
Sufficiency Economy and Sustainable Development 3((3)-0-6)
3((2)-2-5)
428-209 เพศสภาพและการพัฒนาสังคม 3((3)-0-6)
Gender and Social Development 3((2)-2-5)
3((3)-0-6)
428-210 การจัดการความรู้และสังคมแห่งการเรยี นรู้ 3((2)-2-5)
Knowledge Management and Learning Society 3((1)-4-4)
3((2)-2-5)
428-211 การพฒั นาภมู สิ ังคมมสุ ลิมอย่างยง่ั ยืน 3((3)-0-6)
Muslim Geosocial Based Sustainable Development 3((1)-4-4)
3((3)-0-6)
428-301 จิตวิทยาเพ่ือการพัฒนาสังคม 3((1)-4-4)
Psychology for Social Development 1((1)-2-3)
6(0-36-0)
428-305 ระบบสารสนเทศเพ่ือการพฒั นาสังคม
Information System for Social Development
428-306 วธิ วี ทิ ยาการวจิ ัยในการพฒั นา 2
Research Methodology for Development 2
428-307 ชุมชนศึกษาอย่างสร้างสรรค์
Creative Education Community
428-308 วทิ ยากรกระบวนการและนันทนาการในการพัฒนาสงั คม
Facilitator and Recreation in Social Development
428-309 การสอื่ สารเพอ่ื การพัฒนาและการเปลีย่ นแปลงทางสงั คม
Communication for Social Development and Change
428-401 การสรรคส์ รา้ งนวตั กรรมทางสงั คม
Creating Social Innovations
428-402 สันติศึกษาและการจัดการความขดั แยง้
Peace Education and Conflict Management
428-403 การสัมมนาในการพฒั นาสังคม
Seminar in Social Development
428-404 เตรยี มความพรอ้ มกอ่ นฝึกประสบการณ์วชิ าชพี และการทางาน
Cooperative Education Preparation and for a Job
428-400 สหกิจศกึ ษา*
Cooperative Education
หมายเหตุ * รายวิชา 428-404 เตรียมความพร้อมก่อนฝึกประสบการณ์วิชาชีพและการทางาน จะต้อง
ได้รบั การวดั และประเมนิ ผลไมต่ า่ กวา่ ระดบั ข้นั C+ จึงสามารถลงทะเบียนในรายวิชา 428-400 สหกจิ ศึกษา ได้
26
2) กลุ่มวชิ าเลอื กเอก 12 หนว่ ยกติ
428-291 นโยบายสาธารณะในการพัฒนาสังคม 3((3)-0-6)
3((3)-0-6)
Public Policy in Social Development 3((2)-2-5)
428-292 สิทธิและสวัสดกิ ารสังคมสาหรับคนทุกชว่ งวัย 3((2)-2-5)
3((2)-2-5)
Rights and Social Welfare for Social Development 3((2)-2-5)
428-293 วสิ าหกจิ เพอ่ื สังคม 3((3)-0-6)
3((2)-2-5)
Social Enterprise 3((2)-2-5)
428-294 การท่องเที่ยวชุมชน 3((3)-0-6)
3((3)-0-6)
Community Tourism 3((2)-2-5)
428-295 การมสี ่วนรว่ มในการบริหารการพฒั นาสงั คม 3((2)-2-5)
3((2)-2-5)
Participation in Social Development Administration 3((3)-0-6)
428-391 ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม 3((3)-0-6)
3((3)-0-6)
Social Movement
428-392 เศรษฐศาสตรส์ าหรับการพัฒนาสงั คม
Economics for Social Development
428-393 การประเมินผลกระทบทางสังคมส่ิงแวดล้อมและสขุ ภาพ
Social, Environmental, and Health Impact Assessment
428-394 ประมุขศลิ ปก์ บั การพฒั นาสังคม
Good Leadership in Social Development
428-395 การศึกษาเพ่ือการพัฒนาสงั คม
Rights and Social Welfare for Social Development
428-396 เทคโนโลยแี ละดิจิทัลเพอ่ื การพัฒนาสังคม
Technology and Digital for Social Development
428-491 การจดั การสุขภาวะชมุ ชน
Community Wellness Management
428-492 สาธารณสุขกบั การพัฒนาสังคม
Public Health and Social Development
428-493 นเิ วศวฒั นธรรม
Cultural Ecology
428-494 วิถชี ีวติ ชุมชนชายแดนใต้
Way of Life in the Southern Border Communities
428-495 การพฒั นาในประชาคมอาเซยี น
Development in the ASEAN Community
428-496 การจัดการทรพั ยากรมนุษย์เพ่อื สังคม
Human Resource Management for Society
27
ค หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หนว่ ยกติ
นักศึกษาสามารถเลือกเรียนรายวิชาใด ๆ ท่ีสนใจท่ีเปิดสอนในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือ
มหาวิทยาลยั อนื่ ๆ ทัง้ ในประเทศและตา่ งประเทศ โดยความเห็นชอบของอาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู รฯ
หลกั สูตรวชิ าโทสาขาวชิ าพฒั นาสังคม (สาหรบั สาขาวิชาอืน่ ๆ)
(1) กล่มุ วชิ าโท 18 หนว่ ยกิต
- บังคับ 9 หนว่ ยกติ
428-102 การพัฒนาสังคม 3((3)-0-6)
428-205 ทฤษฎกี ารพฒั นาสังคม 3((3)-0-6)
428-303 เทคนคิ และกลวธิ ใี นการพฒั นาสงั คม 3((2)-2-5)
หมายเหตุ : เรียนเฉพาะนกั ศึกษาวิชาโทพัฒนาสังคม
- เลือก 9 หน่วยกติ
นกั ศึกษารายวิชาโทสามารถเลือกเรียนจากกล่มุ วิชาบังคบั เอก หรอื เลอื กเอก
ความหมายของเลขรหัสประจารายวชิ าทใ่ี ช้ในหลักสตู รและหน่วยกิต
เลขรหสั ประจารายวชิ าทีใ่ ช้ในหลักสูตร ประกอบด้วยเลข 6 หลกั เชน่ 428-201 มีความหมายดังน้ี
เลขรหสั 3 ตัวแรก (428) หมายถึง รหสั สาขาวชิ าพฒั นาสังคม
เลขรหัส ตัวที่ 4 (2) หมายถงึ ช้นั ปี (ช้นั ปที ่ี 2)
เลขรหัส ตวั ที่ 5 (0-1) หมายถึง กลุ่มวิชา ไดแ้ ก่
0-1 หมายถึง วชิ าบังคับเอก
3 หมายถงึ วิชาในชุดวชิ า
9 หมายถงึ วชิ าเลือกเอก
เลขรหสั ตัวที่ 6 หมายถึง ลาดับวชิ า
ความหมายของหน่วยกิตทใี่ ช้ในหลักสตู ร
รายวิชาท่ีจัดการเรียนรู้แบบบรู ณาการทใ่ี ชก้ ิจกรรมการจัดการเรยี นรแู้ บบเชงิ รุก (Active learning)
ให้ระบกุ ารเขยี นหน่วยกิต เป็น n((x)-y-z) โดยมคี วามหมายดงั นี้
n หมายถงึ จานวนหนว่ ยกติ รวม
(x) หมายถึง จานวนหน่วยกิตที่มีจานวนช่วั โมงการจัดการเรียนรแู้ บบเชงิ รกุ (Active learning)
y หมายถึง จานวนหนว่ ยกติ ปฏิบัติการ
z หมายถงึ จานวนชัว่ โมงศกึ ษาด้วยตนเอง
รายวิชาทจ่ี ดั การเรียนรู้ภาคทฤษฎี ให้ระบุการเขยี นหนว่ ยกิต เปน็ n(x-y-z) โดยมีความหมายดงั นี้
n หมายถงึ จานวนหน่วยกติ รวม
x หมายถงึ จานวนหน่วยกิตทจี่ ดั การเรยี นรูแ้ บบเนน้ ทฤษฎี
y หมายถงึ จานวนหน่วยกิตปฏิบตั ิการ
28
z หมายถึง จานวนชว่ั โมงศกึ ษาด้วยตนเอง
ความหมายของจานวนหนว่ ยกิต เช่น 3((3)-0-6) มีความหมายดงั นี้
เลขตวั ท่ี 1 หมายถึง จานวนหนว่ ยกติ รวม
เลขตัวท่ี 2 หมายถึง จานวนชั่วโมงทฤษฎตี อ่ สปั ดาห์
เลขตวั ที่ 3 หมายถึง จานวนช่วั โมงปฏิบัติต่อสัปดาห์
เลขตัวท่ี 4 หมายถึง จานวนชั่วโมงศึกษาดว้ ยตนเองต่อสัปดาห์
ในคาอธิบายรายวิชาอาจมีคาต่าง ๆ ปรากฏอยใู่ ต้ชอื่ ของรายวิชา ซ่ึงมีความหมายเฉพาะท่คี วรทราบ ดังน้ี
1. รายวชิ าบังคบั เรยี นกอ่ น (Prerequisite)
1.1รายวิชาบังคับเรียนก่อน หมายถึง รายวิชาซึ่งผู้ลงทะเบียนเรียนรายวิชาหนึ่ง ๆ จะต้องเคย
ลงทะเบียนและผ่านการประเมินผลการเรียนมาแล้ว ก่อนหน้าที่จะมาลงทะเบียนเรียนรายวิชานั้น และในการ
ประเมนิ ผลน้นั จะไดร้ ะดับขั้นใด ๆ กไ็ ด้ หรอื จะระดบั ข้นั ก็ได้ ตามทร่ี ะบุ
1.2 รายวิชาบังคับเรียนผ่านก่อน หมายถึง รายวิชาซ่ึงผู้ลงทะเบียนเรียนรายวิชาหน่ึง ๆ จะต้อง
เคยลงทะเบียนและผ่านการประเมินผลการเรียนมาแล้ว ก่อนหน้าท่ีจะมาลงทะเบียนเรียนวิชาน้ัน และในการ
ประเมนิ ผลน้นั จะต้องได้รับระดบั ขน้ั ไม่ต่ากว่า D หรือ ได้สัญลกั ษณ์ G หรือ P หรือ S
2. รายวิชาบังคับเรียนร่วม (Corequisite) หมายถึง รายวิชาที่ผู้ลงทะเบียนรายวิชาหนึ่ง ๆ จะต้อง
ลงทะเบียนเรียนพร้อมกันไป หรือเคยลงทะเบียนเรียนและ ผ่านการประเมินผลมาก่อนแล้วก็ได้ และในการ
ประเมินผลน้ันจะได้ระดับข้ันใด ๆ ก็ได้ อนึ่ง การท่ีรายวิชา B เป็นรายวิชาบังคับเรียนร่วมของรายวิชา A มิได้
หมายความว่ารายวชิ า A จะต้องเปน็ รายวชิ าบงั คบั เรียนรว่ มของรายวชิ า B ด้วย
3. รายวิชาบังคับเรียนควบกัน (Concurrent) หมายถึง รายวิชาซ่ึงผู้ลงทะเบียนเรียนรายวิชาหน่ึง ๆ
จะต้องลงทะเบียนเรียนพร้อมกันไปในการลงทะเบียนรายวิชา น้ัน เป็นคร้ังแรก โดยต้องได้รับการประเมินผลด้วย
การที่รายวชิ า B เป็นรายวิชาบังคับเรียนควบกันของรายวิชา A จะมีผลให้รายวิชา A เป็นรายวชิ าบังคับเรียนควบ
กันของรายวิชา B โดยอัตโนมัติ และในคาอธิบายรายวิชาปรากฏชื่อรายวิชาบังคับเรียนควบกันในทั้งสองแห่งโดย
สลบั ช่ือกนั
29
แผนการศึกษา (แผนปกติ) ปีท่ี 1
ภาคการศกึ ษาที่ 1
จานวนหน่วยกิต(ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศกึ ษาดว้ ยตนเอง)
รายวชิ าในสาระบังคับศึกษาทัว่ ไป 13 หนว่ ยกิต
สาระที่ 2 ความเปน็ พลเมอื งและชวี ติ ท่สี ันติ 3 หนว่ ยกติ
117-103 จิตวิวฒั น์และคิด-ทา-นาสุข 3((3)-0-6)
สาระที่ 1 และ สาระท่ี 2 3 หน่วยกิต
117-102 ความเป็นพลเมอื งและจิตสาธารณะ 3((3)-0-6)
สาระที่ 4 การอยู่อยา่ งรเู้ ท่าทนั และรูด้ จิ ิทัล 2 หนว่ ยกติ
117-116 การรู้เท่าทนั ดจิ ิทลั 2((2)-0-4)
สาระท่ี 6 ภาษาและการสื่อสาร 4 หนว่ ยกติ
411-102 สนทนาภาษาไทย 4.0 2((2)-0-4)
417-101 ไฮ-อิงลชิ 2((2)-0-4)
สาระที่ 7 สนุ ทรยี ศาสตรแ์ ละกีฬา 1 หนว่ ยกติ
xxx-xxx เลือกเรยี นจากสาระสนุ ทรยี ศาสตร์และกฬี า (1 หนว่ ยกิต) 1((1)-0-2)
รายวชิ าในเลอื กศึกษาท่ัวไป 4 หนว่ ยกิต
263-123 การถ่ายภาพเพ่อื การทอ่ งเทย่ี วในตา่ งแดน 2((2)-0-4)
437-202 คดิ อย่างเฉลียว เขา้ ใจอยา่ งฉลาด 2((2)-0-4)
รวม 17 หนว่ ยกติ
ภาคการศกึ ษาที่ 2
จานวนหน่วยกิต(ทฤษฎี-ปฏบิ ตั ิ-ศกึ ษาดว้ ยตนเอง)
รายวชิ าในสาระบังคับศกึ ษาทั่วไป 13 หน่วยกติ
สาระท่ี 1 ศาสตร์พระราชาและประโยชนเ์ พ่อื นมนุษย์ 3 หน่วยกิต
117-101 ศาสตร์พระราชาและประโยชนเ์ พอ่ื นมนษุ ย์ 3((3)-0-6)
สาระท่ี 3 การเป็นผู้ประกอบการกบั การคิดเชงิ ระบบ 3 หน่วยกติ
117-104 การคิดสกู่ ารเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 3((3)-0-6)
สาระที่ 4 การอยูอ่ ย่างรเู้ ท่าทันและรูด้ จิ ิทลั 2 หนว่ ยกติ
299-104 รู้คิด รเู้ ท่าทนั 2((2)-0-4)
สาระท่ี 5 การคิดเชงิ ตรรกะและตวั เลข 2 หน่วยกติ
746-102 สมารต์ แมท สมาร์ตไลฟ์ 2((2)-0-4)
สาระท่ี 6 ภาษาและการสอ่ื สาร 2 หนว่ ยกิต
417-102 เพ็นแอนด์โพสต์ 1 หน่วยกติ 30
สาระที่ 7 สุนทรยี ศาสตรแ์ ละกีฬา 2((2)-0-4)
1((1)-0-2)
xxx-xxx เลือกเรยี นจากสาระสนุ ทรยี ศาสตรแ์ ละกฬี า (1 หน่วยกติ )
3((3)-0-6)
กลมุ่ วิชาบงั คบั เอก 6 หน่วยกิต 3((3)-0-6)
428-101 สงั คมวิทยาและมานุษยวิทยาในการพัฒนาสงั คม
428-102 การพัฒนาสงั คม
รวม 19 หนว่ ยกิต
ปีที่ 2
ภาคการศึกษาท่ี 1 จานวนหน่วยกิต(ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศกึ ษาดว้ ยตนเอง)
18 หน่วยกติ
กลุ่มวิชาบังคับเอก 3((3)-0-6)
428-201 กฎหมายกบั ความเปน็ พลเมือง 3((3)-0-6)
428-202 ธรรมาภิบาลและจริยธรรมในการพฒั นาสงั คม 3((3)-0-6)
428-203 พหุสังคมและภูมิวฒั นธรรมศึกษา 3((2)-2-5)
428-204 การพฒั นาทรพั ยากรในชนบทและเมอื ง 3((3)-0-6)
428-205 ทฤษฎีการพัฒนาสงั คม 3((3)-0-6)
428-206 การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม
กลมุ่ วิชาเลอื กเอก 3 หนว่ ยกติ
428-29x รายวิชาเลอื กเอก (3 หน่วยกิต)
3((3)-0-6)
รวม 21 หน่วยกติ
ภาคการศึกษาที่ 2 จานวนหน่วยกิต(ทฤษฎี-ปฏิบตั ิ-ศกึ ษาดว้ ยตนเอง)
15 หน่วยกติ
กล่มุ วชิ าบังคบั เอก 3((3)-0-6)
428-207 การวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ 3((2)-2-5)
428-208 เศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาทยี่ ั่งยืน 3((3)-0-6)
428-209 เพศสภาพและการพฒั นาสังคม 3((2)-2-5)
428-210 การจดั การความรูแ้ ละสงั คมแหง่ การเรียนรู้ 3((3)-0-6)
428-211 การพัฒนาภมู ิสังคมมสุ ลิมอยา่ งย่งั ยืน
กลมุ่ วชิ าเลอื กเอก 3 หนว่ ยกิต 31
428-29x รายวิชาเอกเลือก วชิ าที่ 3 (3 หนว่ ยกติ ) 18 หน่วยกติ 3((3)-0-6)
รวม
ปีที่ 3
ภาคการศึกษาท่ี 1 จานวนหน่วยกติ (ทฤษฎี-ปฏิบัต-ิ ศึกษาดว้ ยตนเอง)
15 หนว่ ยกติ
กล่มุ วชิ าบังคบั เอก 9((6)-6-15)
428-131 ชุดวิชาการพัฒนาสังคมเพอ่ื ความย่งั ยนื 3((2)-2-5)
428-301 จติ วิทยาเพือ่ การพัฒนาสังคม 3((3)-0-6)
428-305 ระบบสารสนเทศเพื่อการพฒั นาสงั คม
กลุ่มวชิ าเลือกเสรี 3 หนว่ ยกิต
เลือกเสรีวชิ าท่ี 1 3 หน่วยกิต
รวม 18 หนว่ ยกติ
ภาคการศึกษาท่ี 2
จานวนหนว่ ยกิต(ทฤษฎี-ปฏบิ ตั ิ-ศึกษาด้วยตนเอง)
กลุ่มวชิ าบังคับเอก 12 หน่วยกิต
428-306 วธิ ีวิทยาการวิจยั ในการพัฒนา 2 3((2)-2-5)
428-307 ชมุ ชนศกึ ษาอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3((1)-4-4)
428-308 วทิ ยากรกระบวนการและนนั ทนาการในการพัฒนาสังคม 3((2)-2-5)
428-309 การส่อื สารเพ่ือการพัฒนาและการเปลยี่ นแปลงทางสังคม 3((3)-0-6)
กลมุ่ วชิ าเลอื กเอก 3 หนว่ ยกิต 3((3)-0-6)
428-39x รายวิชาเลอื กเอก (3 หนว่ ยกติ )
กลุ่มวชิ าเลือกเสรี 3 หน่วยกิต
เลอื กเสรวี ิชาท่ี 2 3 หนว่ ยกิต
รวม 18 หนว่ ยกติ
32
ปีท่ี 4
ภาคการศึกษาที่ 1
จานวนหนว่ ยกิต(ทฤษฎี-ปฏบิ ัติ-ศกึ ษาดว้ ยตนเอง)
กลมุ่ วชิ าบังคบั เอก 10 หนว่ ยกิต
428-401 การสรรค์สรา้ งนวตั กรรมทางสังคม 3((1)-4-4)
428-402 สันตศิ ึกษาและการจดั การความขดั แยง้ 3((3)-0-6)
428-403 การสมั มนาในการพัฒนาสงั คม 3((1)-4-4)
428-404 เตรยี มความพร้อมก่อนฝึกประสบการณ์วิชาชีพและการทางาน 1((1)-2-3)
กลุ่มวิชาเลอื กเอก 3 หนว่ ยกิต
428-49x รายวิชาเลอื กเอก (3 หน่วยกติ )
3((3)-0-6)
รวม 13 หนว่ ยกิต
ภาคการศึกษาท่ี 2 จานวนหน่วยกติ (ทฤษฎี-ปฏบิ ัติ-ศึกษาดว้ ยตนเอง)
6 หนว่ ยกติ
ฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี 6(0-36-0)
428-400 สหกิจศึกษา
รวม 6 หน่วยกิต
33
แผนการศกึ ษา (แผนการเทยี บโอนระดับอนปุ ริญญา)
ปีท่ี 1
ภาคการศึกษาที่ 1
จานวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏบิ ตั ิ-ศกึ ษาด้วยตนเอง)
รายวิชาในสาระบงั คบั ศึกษาท่วั ไป 1 หน่วยกิต
สาระที่ 7 สุนทรยี ศาสตรแ์ ละกีฬา 1 หนว่ ยกิต
xxx-xxx เลอื กเรียนจากสาระสนุ ทรียศาสตร์และกฬี า (1 หน่วยกติ ) 1((1)-0-2)
รายวิชาในเลอื กศกึ ษาท่ัวไป 2 หนว่ ยกิต
263-123 การถ่ายภาพเพื่อการทอ่ งเท่ียวในต่างแดน
2((2)-0-4)
กลุ่มวิชาบงั คับเอก 12 หน่วยกิต
428-201 กฎหมายกบั ความเปน็ พลเมอื ง
428-202 ธรรมาภิบาลและจริยธรรมในการพฒั นาสังคม 3((3)-0-6)
428-204 การพัฒนาทรพั ยากรในชนบทและเมือง 3((3)-0-6)
428-206 การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3((2)-2-5)
3((3)-0-6)
รวม 15 หนว่ ยกิต
ภาคการศึกษาที่ 2
จานวนหน่วยกิต(ทฤษฎี-ปฏบิ ตั ิ-ศกึ ษาดว้ ยตนเอง)
รายวิชาในสาระบังคับศกึ ษาทัว่ ไป 7 หนว่ ยกิต
สาระท่ี 1 ศาสตรพ์ ระราชาและประโยชนเ์ พือ่ นมนุษย์ 3 หน่วยกติ
117-101 ศาสตรพ์ ระราชาและประโยชนเ์ พ่ือนมนุษย์ 3((3)-0-6)
สาระท่ี 3 การเป็นผปู้ ระกอบการกับการคดิ เชิงระบบ 3 หน่วยกติ
117-104 การคิดสกู่ ารเป็นผูป้ ระกอบการ 3((3)-0-6)
สาระที่ 7 สุนทรียศาสตรแ์ ละกฬี า 1 หนว่ ยกิต
xxx-xxx เลือกเรียนจากสาระสุนทรยี ศาสตรแ์ ละกีฬา (1 หน่วยกิต) 1((1)-0-2)
กลมุ่ วิชาบังคบั เอก 9 หน่วยกติ
428-211 การพัฒนาภูมิสงั คมมุสลิมอยา่ งยงั่ ยืน
428-306 วิธีวิทยาการวจิ ยั ในการพฒั นา 2 3((3)-0-6)
428-307 ชมุ ชนศกึ ษาอยา่ งสร้างสรรค์ 3((2)-2-5)
3((1)-4-4)
รวม 16 หนว่ ยกิต
34
ปีท่ี 2
ภาคการศกึ ษาท่ี 1
จานวนหนว่ ยกิต (ทฤษฎี-ปฏบิ ัติ-ศกึ ษาด้วยตนเอง)
กลมุ่ วิชาบงั คับเอก 19 หนว่ ยกิต
428-101 สงั คมวทิ ยาและมานุษยวิทยาในการพัฒนาสงั คม 3((3)-0-6)
428-210 การจัดการความรู้และสังคมแหง่ การเรยี นรู้ 3((2)-2-5)
428-209 เพศสภาพและการพฒั นาสงั คม 3((3)-0-6)
428-401 การสรรคส์ รา้ งนวัตกรรมทางสังคม 3((1)-4-4)
428-402 สนั ตศิ กึ ษาและการจดั การความขัดแย้ง 3((3)-0-6)
428-403 การสมั มนาในการพัฒนาสังคม 3((1)-4-4)
428-404 เตรยี มความพร้อมกอ่ นฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพและการทางาน 1((1)-2-3)
รวม 19 หนว่ ยกติ
ภาคการศกึ ษาท่ี 2 จานวนหน่วยกติ (ทฤษฎี-ปฏบิ ัติ-ศกึ ษาด้วยตนเอง)
6 หน่วยกิต
ฝึกประสบการณ์วชิ าชีพ 6(0-36-0)
428-400 สหกิจศึกษา
6 หนว่ ยกติ
รวม
35
3.1.6 คาอธบิ ายรายวชิ า/ชุดวิชา (Module)
ก. หมวดวิชาศกึ ษาท่ัวไป
สาระศาสตร์พระราชาและประโยชน์เพ่ือนมนุษย์
117-101 ศาสตร์พระราชาและประโยชนเ์ พ่ือนมนุษย์ 3((3)-0-6)
(King’s Philosophy and the Benefit of Mankind)
ความหมาย หลักการ แนวคดิ ความสาคัญ และเป้าหมายของหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
หลักการทรงงาน หลักการเข้าใจ เขา้ ถึง พัฒนา การพัฒนาตามศาสตร์พระราชาและการพัฒนาอย่างย่งั ยนื และ
การวเิ คราะห์การนาศาสตรพ์ ระราชาไปประยกุ ต์ใชใ้ นพ้ืนท่ีระดบั บุคคล องค์กรธุรกิจ หรอื ชุมชนในระดบั ท้องถน่ิ
หรือประเทศ การทากจิ กรรมเชงิ บรู ณาการองค์ความรู้ เนน้ (ตาม) หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่อื
ประโยชนเ์ พ่ือนมนษุ ย์
Definition, principle, concept, importance and target of sufficiency economy
philosophy; His Majesty the king working principles and Royal Initiative of His Majesty:
understand, achieve and develop; development according to King’s philosophy and
sustainability development; analysis on the application of King’s philosophy to personnel level,
business organization, local community, and national levels; conducting activities in the aspect
of knowledge integration focusing on (following) the principle of sufficient economy philosophy
for the benefit of mankind
สาระความเป็นพลเมืองและชวี ติ ทีส่ ันติ
117-103 จิตวิวฒั น์และคดิ -ทา-นาสุข 3((3)-0-6)
(New Consciousness and Living a Peaceful Life)
การมีสติ การทาจติ ให้สงบและเหน็ ความสงบของจิต การประยกุ ตใ์ ชส้ ติในการเรียนและทากจิ กรรมต่าง
ๆ นาสติไปใคร่ครวญดูความคิดและอารมณ์ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ มีความสุข มีการแบ่งปัน คุณค่า
ของชีวิตและความเป็นมนุษย์ การรู้จักและเข้าใจตนเองและผู้อ่ืน เจตคติที่ดี การเข้าใจและยอมรับความแตกต่าง
ทางวัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อและค่านิยม การอยู่ร่วมกันบนพ้ืนฐานทางจริยธรรม ทักษะการส่ือสารอย่าง
สันติและทักษะพหวุ ัฒนธรรม การจัดการความขดั แย้งและสนั ติวธิ ี เพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดแนวทางการดาเนินชีวติ ท่ี
เปน็ สุขและสันติ
Consciousness, mind calmness and apprehension of peace; able to emply
consciousness in studying and conduction activities, including cogitating upon thought and
emotion; able to understand change in emotional state, being happy, learning to share and
acknowledging value of life and humanness; self-perception and understand others; having
positive attitude; understand and accept differences in culture, idea belief and value; state of
coexistence with ethics, peaceful communication skill and multiculturalism skill; conflict
36
management and non-violent method to apply into the state of living life in happiness and
peace
117-102 ความเปน็ พลเมืองและจิตสาธารณะ 3((3)-0-6)
(Citizenship and Public Consciousness)
แนวคิด หลักการ คุณสมบัติและความสาคัญของความเป็นพลเมืองภายใต้หลักการประชาธิปไตยใน
ระดับชุมชน สงั คมโลกและสังคมออนไลน์ (สังคมเสมือน) การเคารพกฎหมาย ความรับผิดชอบตอ่ สังคม ความเท่า
เทียมทางสังคม แนวคิดและหลักการของการช่วยฟ้ืนคืนชีพเบ้ืองต้น การช่วยเหลือดูแลสุขภาพแก่บุคคลอ่ืนและ
การปฏิบัติการช่วยฟ้ืนคืนชีพจากสถานการณ์จาลอง บาเพ็ญประโยชน์กับผู้อ่ืนโดยใช้หลักการช่วยฟื้นคืนชีพ
เบื้องต้นและการชว่ ยเหลือดแู ลสุขภาพ
Concept, principle, qualification and importance of citizenship under the democracy
principle in community, global and online society (virtual society) levels; abide by the law,
social responsibility, equality, concept and principle of cardiopulmonary resuscitation,
healthcare aid for others, and simulation of cardiopulmonary resuscitation demonstration;
outreach to others by employing basic cardiopulmonary resuscitation and healthcare methods
สาระการเปน็ ผปู้ ระกอบการกับการคดิ เชงิ ระบบ
117-104 การคดิ ส่กู ารเปน็ ผู้ประกอบการ 3((3)-0-6)
(Thinking to Entrepreneurship)
ความหมายและความสัมพนั ธ์ของการคิดข้ันสูงกบั การเปน็ ผู้ประกอบการ การพัฒนาทักษะการคิดขัน้ สูง
การใช้ข้อมูลและการประเมินสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพ่ือการตัดสินใจหาทางเลือกอย่างเท่าทันโลกบนพ้ืนฐาน
คุณธรรม การแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและการพัฒนาแนวคิดในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและย่ังยืน การจัดทา
แนวคดิ ธุรกิจดว้ ยเครอ่ื งมอื ทางธุรกจิ สมัยใหม่
Definition and relation of higher order thinking with entrepreneurship: development of
higher order thinking; use of data and evaluation of business environment for making decision
deliberately on alternatives based on ethics, searching for business opportunity and perspective
development of balanced and sustainable living; developing business ideas with modern
business tool
สาระการอยู่อย่างรูเ้ ท่าทนั และการรดู้ จิ ิทัล
117-116 การรู้เท่าทันดจิ ทิ ัล 2((2)-0-4)
(Digital Environment Literacy)
เทคโนโลยีอัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ จริยธรรมและกฎหมายในสังคมไซเบอร์ แนวคิดและความสาคัญ
ของสื่อและข่าวสารในยุคดิจิทัล ภูมิทัศน์การส่ือสารสมัยใหม่ ผลกระทบจากส่ือและพฤติกรรมการส่ือสารในส่ือ
ดิจิทัล สิทธิส่วนบุคคลและการละเมิด ภูมิสารสนเทศและผลกระทบด้านปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเพ่ือการ
37
ดาเนินชีวิต การสืบค้นและการเข้าถึงสารสนเทศที่เก่ียวข้อง การใช้สารสนเทศเพื่อการแสวงหาความรู้ตลอดชีวิต
การอ้างอิง และการนาเสนอสารสนเทศ
Technology; artificial Intelligence; cyber ethics and regulations; concepts and
significance of media and information in digital age; modern communication landscape; media
impacts; communication behaviors in digital media; private right and violation; access to
information; use of information for lifelong learning; citation; information presentation
299-104 รคู้ ดิ รู้เทา่ ทัน 2((2)-0-4)
(Values of the Wise and Deliberation)
กระบวนการคดิ ทางวทิ ยาศาสตร์ ความเจรญิ กา้ วหน้าทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ผลกระทบต่อวถิ ี
ชีวิต เศรษฐกิจ สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม แนวทางการป้องกันแก้ไขปญั หาท่เี กดิ จากผลกระทบของวทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี
Scientific thinking process; progress in science and technology; impacts of science and
technology on way of life; economy, society and environment; preventing and solving problem
arising from science and technology impact
สาระการคิดเชิงตรรกะและตัวเลข
746-102 สมารต์ แมท สมารต์ ไลฟ์ 2((2)-0-4)
(Smart Math for Smart Life)
การประยุกต์ใชค้ วามรู้ทางคณิตศาสตร์ในชีวติ ประจาวนั เช่น การใหเ้ หตุผลปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
การจดั การตารางเวลา การดูแลสขุ ภาพ การจัดการการเงินส่วนบุคคล และการเลือกซื้อสนิ คา้
Application of mathematical knowledge in everyday life: explanation of natural
phenomena, schedule management, health care, personal financial management and shopping
สาระภาษาและการสอื่ สาร
ภาษาองั กฤษ
417-101 ไฮ-อิงลชิ 2((2)-0-4)
(Hi ! English)
การฝึกสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวัน ฝึกทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง เรียนรู้
ทักษะการสนทนาภาษาอังกฤษผ่านสื่อท่ีหลากหลาย เช่น การ์ตูน นิทาน บทเพลง ภาพยนตร์ และบทบรรยาย
ส้นั ๆ
Practice of English conversation in daily life; practice of English pronunciation; learning
English through media such as English cartoons, fairy tales, songs, movies and short descriptions
38
417-102 เพน็ แอนด์โพสต์ 2((2)-0-4)
(Pen and Post)
การพัฒนาทักษะการอ่าน เน้นการหาหัวข้อ ใจความสาคัญ และรายละเอียดของบทอ่าน ขยายวง
คาศพั ท์ พัฒนาทักษะการเขยี นประเภทตา่ ง ๆ ในระดบั ประโยคและขอ้ ความสน้ั ๆ
Developing reading skills focusing on identifying topics, main ideas and details;
vocabulary improvement; developing grammatical and meaningful sentences and short
paragraph writing skills
411-102 สนทนาภาษาไทย 4.0 2((2)-0-4)
(4.0 Thai Conversation)
ภาษากับการนาเสนอความคิดด้วยการพูดอย่างมีขั้นตอนตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ และเหมาะสมกับ
บริบททางสังคมวฒั นธรรม และสถานการณ์การส่ือสาร บุคลิกภาพและอวัจนภาษาเพ่ือสมั ฤทธิผลในการพูด การ
รบั สารด้วยการฟังเพื่อคิดวิเคราะห์อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และสามารถประยกุ ต์ใช้เพื่อการเรียนรู้และการดาเนินชีวิต
ได้
Language and expression of ideas via appropriate use of verbal communication
process in accordance with socio-cultural contexts and situations under different objectives;
personality and nonverbal language for speaking achievement; listening for information critically
for learning and living application
สาระสุนทรยี ศาสตร์และกฬี า
สนุ ทรยี ศาสตร์
125-101 หตั ถกรรมสรา้ งสรรค์ 1((1)-0-2)
(Creative Craft)
การคิด การใช้ทักษะ และการจัดการภูมิปัญญา หัตถกรรมท้องถิ่น การผลิตผลงานสร้างสรรค์ เกิด
นวัตกรรมนาไปสูก่ ารสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ
Thoughts, skills, and knowledge management of local handicraft; creative work and
innovation for value creation and economic value
277-103 สวยดว้ ยเศษวสั ดุ 1((1)-0-2)
(Craft Appreciation)
การนาวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์เพ่ือให้เกิดความสวยงามและนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน
Creative use of waste material
39
277-104 การต์ นู หรรษา 1((1)-0-2)
(Cartoon Appreciation)
การวาดรปู การ์ตนู เบอ้ื งต้นและนาการต์ ูนไปตกแต่งบนของใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
Drawing cartoons for beginners; decorative cartoons
411-103 สีสนั บนั เทิงคดี 1((1)-0-2)
(Colorful Fiction)
ความเข้าใจโลกและชีวติ ความจรรโลงใจ คุณค่าด้านความงาม สังคม และวฒั นธรรมผ่านงานสรา้ งสรรค์
ทีใ่ ช้ภาษาในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ นวนิยาย เรอื่ งสนั้ บทเพลง บทละคร
Life experience, inspiration, aesthetic, social and cultural appreciation through novels,
short stories, songs, and plays
412-123 ศิลปะแดนมงั กร 1((1)-0-2)
(Chinese Art)
ศิลปวัฒนธรรมจีนด้านตา่ ง ๆ เช่น การตัดกระดาษ ศิลปะการเขยี นพู่กนั จนี ลูกคิด ศลิ ปะการชงชา และ
อาหารจีน เป็นต้น
Chinese art and culture such as paper cutting, the art of Chinese Calligraphy, abacus,
the art of tea and food
413-242 เสนห่ ม์ ลายู 1((1)-0-2)
(Malay Enchantment)
ชนชาติ ประเพณี วฒั นธรรมของชาวมลายใู นประเทศไทยและอาเซียน
Race, culture and traditions Malay in Thailand and ASEAN
415-140 เปิดประตูสู่ญ่ปี ุ่น 1((1)-0-2)
(What’s Japan)
สงั คม วฒั นธรรมญ่ปี ุ่นและศิลปะดา้ นต่าง ๆ ฝกึ วิเคราะห์ข้อแตกตา่ งระหว่างสงั คมญ่ปี ่นุ และสงั คมไทย
Japanese Society; culture and art in many aspects; analyzing the difference between
Thai society and Japanese society
416-146 ท่องแดนกมิ จิ 1((1)-0-2)
(Get to Know Korea)
ศิลปวัฒนธรรมเกาหลีด้านต่าง ๆ เช่น การทาอาหารเกาหลี วัฒนธรรมการร่ายราดั้งเดิมของชาวเกาหลี
กระแสเกาหลี และ การพบั กระดาษตา่ ง ๆ เปน็ ตน้
Korean Art and Culture: Korean Cooking, Korean Traditional Dance, Korean Wave, fole
paper
40
437-111 ศิลปะบาบดั 1((1)-0-2)
(Arts Therapy)
กระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะเพ่ือพัฒนาสุขภาวะทางอารมณ์และสติปัญญา การบริหารจัดการ
ความรู้สึก การแสดงออกและส่ือสารด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ เสริมสร้างความม่ันใจในตัวเองและพัฒนาการ
ตระหนกั รู้ในตัวตนในระดบั ลกึ ซง้ึ
Arts and creative activities for improve emotional and mental well-being. Learn to
manage the feelings, expression and communication in more positive way. Increasing self-
confident and develop a greater self-awareness
910-114 เพลนิ เพลงมหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 1((1)-0-2)
(PSU Songs Appreciation)
ประวัติความเป็นมา คุณค่า การวิจารณ์ และสุนทรียะของบทเพลงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ การ
ขบั ร้องบทเพลงมหาวทิ ยาลยั โดยอาศัยวธิ ีการร้องเพลงต่าง ๆ
Background; value; criticism and appreciation of PSU’s song; singing PSU’s song in
difference way
กฬี า
117-118 โยคะ 1((1)-0-2)
(Yoga)
ความรู้และทักษะโยคะ การออกกาลังกายด้วยโยคะ การประยุกต์ใช้โยคะไปสู่การออกกาลังกายเพื่อ
ส่งเสรมิ สขุ ภาพในชีวิตประจาวัน
Knowledge and yoga skill, exercise with yoga, applying yoga to promote health in
daily life
281-204 ลลี าศ 1(0-2-1)
(Social Dance)
ทักษะเบื้องต้นและมารยาทในการลลี าศ เพลงท่ีใชใ้ นการลีลาศ เนน้ การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
Basic social dance skills and etiquette; social dance music; emphasis on practice
281-205 กิจกรรมประกอบจังหวะ 1(0-2-1)
(Rhythmic Activities)
ความรู้เก่ียวกบั กจิ กรรมประกอบจังหวะ ทักษะในการเคลอ่ื นไหวประกอบจงั หวะ เพลงท่ีใช้ใน
กิจกรรมประกอบจังหวะ เนน้ การฝึกปฏิบตั ิ
Knowledge of rhythmic activities; rhythmic movement skills; music for rhythmic
activities; emphasis on practice
41
281-207 บาสเกตบอล 1(0-2-1)
(Basketball)
ความรู้และทักษะกีฬาบาสเกตบอลเบือ้ งตน้ วธิ สี อน การฝกึ ปฏิบัติ กติกาและการแข่งขัน
Basic basketball knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-209 วอลเล่ย์บอล 1(0-2-1)
(Volleyball)
ความรแู้ ละทักษะกีฬาวอลเล่ยบ์ อลเบอ้ื งต้น วธิ ีสอน การฝึกปฏิบัติ กตกิ าและการแข่งขัน
Basic volleyball knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-210 แฮนด์บอล 1(0-2-1)
(Handball)
ความรแู้ ละทักษะกีฬาแฮนด์บอลเบอ้ื งตน้ วธิ สี อน การฝึกปฏบิ ัติ กตกิ า และการแข่งขัน
Basic handball knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-215 เทเบิลเทนนิส 1(0-2-1)
(Table Tennis)
ความรู้และทักษะกีฬาเทเบลิ เทนนสิ เบอ้ื งต้น วิธสี อน การฝึกปฏบิ ตั ิ กติกาและการแข่งขัน
Basic table tennis knowledge and skills; teaching methods; practical drill; rules and
competition
281-216 แบดมินตัน 1(0-2-1)
(Badminton)
ความรู้และทักษะแบดมนิ ตันเบอ้ื งต้น วิธสี อน การฝึกปฏบิ ัติ กตกิ าและการแขง่ ขนั
Basic badminton knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
42
281-219 วา่ ยน้า 1(0-2-1)
(Swimming)
ความรแู้ ละทักษะกีฬาว่ายนา้ เบือ้ งต้น วธิ สี อน การฝกึ ปฏิบัติ กติกาและการแขง่ ขัน
Basic swimming knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-220 เปตอง 1(0-2-1)
(Petongue)
ความรแู้ ละทักษะกีฬาเปตองเบื้องต้น วิธีสอน การฝึกปฏิบัติ กติกาและการแขง่ ขนั
Basic petongue knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-223 มวยไทย 1(0-2-1)
(Thai Boxing)
ความรู้และทักษะกีฬามวยไทยเบื้องตน้ วธิ ีสอน การฝกึ ปฏิบตั ิ กตกิ าและการแข่งขัน
Basic Thai boxing knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-225 เทควนั โด 1(0-2-1)
(Taekwondo)
ความร้แู ละทักษะกีฬาเทควนั โดเบ้อื งต้น วธิ สี อน การฝกึ ปฏิบัติ กตกิ าและการแข่งขนั
Basic taekwondo knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-226 ไอกิโด 1(0-2-1)
(Aikido)
ความรู้และทักษะกีฬาไอกิโดเบื้องต้น วิธสี อน การฝึกปฏิบัติ กติกาและการแขง่ ขัน
Basic aikido knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
281-227 ยูโด 1(0-2-1)
(Judo)
ความรแู้ ละทักษะกีฬายูโดเบ้ืองตน้ วิธสี อน การฝกึ ปฏบิ ตั ิ กตกิ าและการแข่งขนั
Basic judo knowledge and skills; teaching methods; practical drills; rules and
competition
43
สาระเลือกศกึ ษาทัว่ ไป
สาระสุนทรยี ศาสตร์
125-102 มหศั จรรยแ์ ห่งภมู ิปญั ญา 2((2)-0-4)
(Miracle of Wisdom)
การเรียนรู้และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถ่ิน การบูรณาการให้เหมาะสมกับการ
เปลี่ยนแปลงของสงั คม
Learning and appreciation of local culture and wisdom; integration with social changes
425-101 วัฒนธรรมนาชม 2((2)-0-4)
(Culture Guide)
ความตระหนัก และชื่นชมในมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถ่ิน การบรู ณาการความรูท้ าง
ประวัตศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรมกับการนาชมการท่องเทย่ี วทางวฒั นธรรม
Appreciation of cultural heritage and local wisdom; knowledge integration with cultural
tourism
สาระความเปน็ พลเมอื ง
196-103 ภาวะผู้นาและการจดั การ 2((2)-0-4)
(Leadership and Management)
แนวคดิ ทฤษฎี กรณีศึกษาเกี่ยวกับภาวะผนู้ า ลักษณะบทบาทผู้นาและผตู้ าม ผูน้ าการเปลี่ยนแปลง
ผ้นู าการสร้างสรรค์ สมรรถนะการทางาน การสร้างทีมงานและการทางานเปน็ ทีม หลักการและทฤษฎีการจัดการ
การจดั การเชิงกลยุทธ์ แนวทางการพฒั นาทกั ษะการเปน็ ผู้นา และการบรหิ ารจดั การตามหลักการเพอื่ ความสาเร็จ
Concepts and theories of leadership; characteristics and roles of leaders and followers;
change leaders; creative leaders; competency; team building and team work; principles and
theories of strategic management; leadership development; success-oriented management
437-201 จรยิ ศาสตร์กับความรับผดิ ชอบต่อสังคม 2((2)-0-4)
(Ethics and Social Responsibility)
แนวคิด ทฤษฎี ความสาคัญ จริยศาสตร์ในการทางานเพ่ือสังคม การสร้างอัตลักษณ์นักศึกษา ความ
รบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง สงั คมและสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม
Concepts; theories; significance; ethics in social work; identity construction; self, social
and environmental responsibilities through social activities
44
สาระอยู่อยา่ งรู้เทา่ ทนั
724-108 ธรรมชาติบาบัด 2((2)-0-4)
(Natural Therapy)
แนวคิดเกีย่ วกับธรรมชาติบาบัดเพอื่ คุณภาพชีวติ ทดี่ ี ทางเลือกในการปฏิบตั ิเพือ่ สุขภาพ ปา่ บาบัด ดนตรี
บาบัด โยคะ สมนุ ไพรในชวี ติ ประจาวนั ผลติ ภณั ฑ์จากธรรมชาติ
Natural therapy for healthy life; alternative health practice: forest therapy, music
therapy, yoga, herb, natural products
สาระการคิดเชิงระบบ
276-101 การมองภาพแบบองคร์ วม 2((2)-0-4)
(Holistic View)
การแสวงหาความรู้รอบตัวที่เก่ียวข้องในชีวิตประจาวัน ความสามารถมองภาพแบบองค์รวม การรู้เท่า
ทันสถานการณ์การเปล่ียนแปลงทางสังคมพหุวัฒนธรรม และคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น กระบวนการคิด
วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณลักษณะ การเลือกใช้ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจแก้ปัญหา และ
นาเสนอข้อมูลบนพ้ืนฐานคณุ ธรรม
Knowledge acquisition in daily life; holistic view; literacy of changes in multicultural
societies and consequences; qualitative and quantitative analysis; choosing information sources
for problem solving; ethical considerations in data presentation
437-202 คิดอย่างเฉลยี ว เข้าใจอยา่ งฉลาด 2((2)-0-4)
(Smart Thought, Clever Understanding)
การจดั การปญั หาเชิงมโนทศั น์ เข้าใจข้อโต้แย้งของขว้ั ความคิดที่แตกตา่ ง มองเหน็ ข้อเด่นข้อด้อยของข้ัว
ความคิด ใช้ความคดิ ของตนเพื่อสร้างคาอธบิ ายได้ การใชเ้ หตผุ ลประเมนิ สถานการณ์ โลกทศั นท์ ่ีไม่รจู้ ักมาก่อน
เขา้ ใจตนเอง
Conceptual resolution, understanding, understanding of polarized and different point
of view, recognizing the advantages and the disadvantages of different opinions, constructing
student own ideas, logical assessment of real situation, unknown worldview, self-understanding
สาระภาษาและการสอื่ สาร การคิดเชิงระบบ สนุ ทรียศาสตร์
263-123 การถ่ายภาพเพ่อื การทอ่ งเที่ยวในตา่ งแดน 2((2)-0-4)
(Photography for Abroad Travelling)
การใช้เทคโนโลยีในการถ่ายภาพ การจัดการไปต่างประเทศด้วยตนเองอย่างประหยัด โดยการใช้
เทคโนโลยีในการแสวงหาข้อมูลเพ่ือเพ่ิมประสบการณ์เรียนรู้จากการท่องเที่ยว การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขณะ
เดนิ ทาง และการประเมนิ ผลการจดั การเดินทางไปท่องเที่ยวในตา่ งแดน