The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by alisa.h, 2021-06-26 11:13:07

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

Keywords: หลักสูตร,พัฒนาสังคม

164

165

166

167

168

169

ภาคผนวก ฒ
คาส่งั แตง่ ตัง้ คณะกรรมการพฒั นาหลกั สตู รหรอื คณะกรรมการปรับปรุงหลกั สตู ร

170

171

ภาคผนวก ณ

อัตลกั ษณข์ องนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์

172

ภาคผนวก ด
เกณฑ์มาตรฐานและแนวปฏิบัตกิ ารสอบวดั ความร้ภู าษาองั กฤษเพือ่ รบั ปรญิ ญาของนักศกึ ษาหลักสตู ร

ระดับปรญิ ญาตรี

173

174

ภาคผนวก ต
เกณฑ์มาตรฐานของผลงานทางวชิ าการในระบบพจิ ารณาความสอดคลอ้ งของหลกั สูตรระดบั อุดมศกึ ษา

CHE Curriculum (CHECO)

เกณฑ์ข้อ 1 งานสร้างสรรค์ท่ีไดร้ บั การเผยแพร่ในระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ
เกณฑ์ข้อ 2 งานสรา้ งสรรคท์ ี่ไดร้ บั การเผยแพร่ในระดบั ชาติ
เกณฑ์ขอ้ 3 งานสร้างสรรค์ที่ได้รบั การเผยแพร่ในระดับนานาชาติ
เกณฑ์ข้อ 4 งานสรา้ งสรรค์ที่ไดร้ ับการเผยแพร่ในระดบั ภมู ิภาคอาเซยี น
เกณฑ์ข้อ 5 งานสรา้ งสรรคท์ ่ีได้รับการเผยแพร่ในระดับสถาบัน
เกณฑ์ขอ้ 6 งานสร้างสรรคท์ ่ีมีการเผยแพรส่ ่สู าธารณะในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรอื ผ่านสือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์

online
เกณฑ์ข้อ 7 ตาราหรือหนังสือทไ่ี ดร้ บั การประเมินผ่านเกณฑก์ ารขอรบั ตาแหนง่ ทางวชิ าการแลว้
เกณฑ์ขอ้ 8 ตาราหรือหนงั สือทีผ่ า่ นการพิจารณาตามหลักเกณฑ์การประเมินตาแหน่งทางวิชาการแต่ไม่ได้

นามาขอรับการประเมินตาแหนง่ ทางวิชาการ
เกณฑ์ข้อ 9 บทความวิจยั หรือบทความทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสารท่ปี รากฏในฐานข้อมูลกลมุ่ ท่ี 2
เกณฑ์ขอ้ 10 บทความวิจัยหรือบทความทางวิชาการฉบับสมบรู ณท์ ่ตี ีพมิ พ์ในรายงานสบื เน่ืองจากการประชุม

วชิ าการระดบั ชาติ
เกณฑ์ขอ้ 11 บทความวิจยั หรอื บทความทางวิชาการฉบับสมบรู ณท์ ี่ตีพมิ พ์ในรายงานสบื เนอ่ื งจากการประชุม

วิชาการระดับนานาชาติ หรอื ในวารสารวชิ าการระดบั ชาติทีม่ อี ยู่ในฐานข้อมูล ตามประกาศ
ก.พ.อ. หรอื ระเบียบคณะกรรมการการอุดมศกึ ษาว่าด้วย หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาวารสารทาง
วิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวชิ าการ พ.ศ.2556
เกณฑ์ขอ้ 12 บทความวจิ ยั หรอื บทความทางวิชาการฉบบั ที่ตพี มิ พ์ในวารสารวชิ าการระดับนานาชาตทิ ีม่ ีอยู่ใน
ฐานขอ้ มลู ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบยี บคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษาวา่ ด้วย หลกั เกณฑ์
การพจิ ารณาวารสารทางวชิ าการสาหรับการเผยแพรผ่ ลงานทางวิชาการ พ.ศ.2556
เกณฑ์ข้อ 13 บทความวจิ ยั หรอื บทความทางวิชาการฉบบั ที่ตพี มิ พใ์ นวารสารวชิ าการระดับนานาชาตทิ ม่ี ีอยู่ใน
ฐานขอ้ มลู ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศกึ ษาวา่ ด้วย หลกั เกณฑ์
การพิจารณาวารสารทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ.2556 แต่สถาบัน
นาเสนอสภาสถาบันอนุมัติและจัดทาเปน็ ประกาศใหท้ ราบเป็นการทัว่ ไป และแจ้งให้ กพอ./กกอ.
ทราบภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ทอี่ อกประกาศ (ซึ่งไม่อย่ใู น Beall’s list) หรือ ตีพมิ พ์ใน
วารสารวิชาการทป่ี รากฏในฐานข้อมูล TCI กล่มุ ที่ 1
เกณฑ์ขอ้ 14 ประสบการณจ์ ากสถานประกอบการ
เกณฑ์ขอ้ 15 ผลงานคน้ พบพันธ์ุพชื พนั ธุส์ ตั ว์ ทค่ี น้ พบใหม่และได้รบั การจดทะเบยี น
เกณฑ์ข้อ 16 ผลงานท่ไี ดร้ ับการจดสทิ ธิบัตร
เกณฑ์ขอ้ 17 ผลงานวิจัยทไ่ี ด้รบั การจดอนสุ ทิ ธบิ ัตร

175

เกณฑ์ขอ้ 18 ผลงานวิจยั ทห่ี นว่ ยงานหรอื องค์กรระดบั ชาตวิ ่าจา้ งใหด้ าเนนิ การ
เกณฑ์ข้อ 19 ผลงานวิชาการรบั ใชส้ ังคมท่ีไดร้ ับการประเมินผา่ นเกณฑ์การขอตาแหน่งทางวชิ าการแล้ว

ขอ้ มูลในระบบ CHECO ณ วันท่ี 20 ธันวาคม 2561

176

ภาคผนวก ถ

เอกสารขน้ั ตอนการจดั ทา PLOs

วเิ คราะห์ความตอ้ งการของ stakeholders
1. เกณฑก์ ารเลอื ก stakeholders เลอื กอย่างไร

เป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหลักสูตรพัฒนาสังคม เช่น นักเรียนท่ีจะเลือกเรียนสาขาวิชาพัฒนาสังคม ผู้ใช้บัณฑิต
ท้ังภาครัฐ และเอกชน ที่บัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมสาเร็จการศึกษาแล้วไปปฏิบัติงาน อาจารย์ และผู้บริหาร(นโยบาย
มหาวิทยาลัย-นโยบายชาติ) ที่รับผิดชอบหลักสูตรโดยตรง รวมถึงตัวหลกั สูตรเองทเ่ี ปิดการเรยี นการสอนมากว่า 45 ปี การ
แบ่ง Stakeholders ออกเปน็ 4 สว่ น ไดแ้ ก่ High Power Low Impact (HPLI), High Power High Impact (HPHI), Low
Power Low Impact (LPLI) และ Low Power High Impact (LPHI) โดยพิจารณาจากความสาคัญและผลกระทบต่อ
หลักสตู รดงั ต่อไปน้ี

1. High Power Low Impact (HPLI) Stakeholders ที่มีความสาคัญ มีอิทธิพลต่อแนวนโยบาย การออกแบบ
การวางแผน การบรหิ าร และการจดั ทาหลักสูตร แต่ไมไ่ ด้ เป็นผ้ทู ่ีไดร้ ับผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงหรือการตดั สนิ ใจของ
หลกั สูตร ไดแ้ ก่ 1) วสิ ยั ทัศน์และพันธกจิ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ,2) วสิ ัยทัศน์และพันธกิจ ของคณะมนุษยศาสตร์
และสังคมศาสตร์ ,3) อัตลักษณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (i-Wise), 4) ปรัชญาการจัดการศึกษา
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , 5) มาตรฐานคณุ วฒุ ิระดับปริญญาตรี (สกอ.), 6) มาตรฐานคณุ วุฒริ ะดบั ปริญญาตรี (มคอ.1)
,7) มาตรฐานผลการเรียนรู้ 5 ดา้ นของสานกั วชิ าศึกษาทัว่ ไป มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์

2. High Power High Impact (HPHI) Stakeholders กลุ่มหลักท่ีมีความสาคัญ เป็นผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร
จัดการและตัดสนิ ใจในการจัดทาหลักสูตร และเป็นผู้ทไี่ ดร้ ับ ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงหรือการตัดสินใจของหลักสูตร
โดยตรง ได้แก่ คณาจารยผ์ ้สู อน และคณาจารย์ประจาหลักสตู ร

3. Low Power Low Impact (LPLI) Stakeholders กลุ่มที่ไม่มีอิทธิพลต่อการบริหารจัดการและการตัดสินใจใน
การทาหลักสูตร และไม่ได้รับผลกระทบจากการ เปล่ียนแปลงหรือการตัดสินใจของหลักสูตร ได้แก่ บุคคลท่ัวไป,
ผู้ประกอบการที่ไมต่ รงสายงาน ,ผปู้ กครอง

4. Low Power High Impact (LPHI) Stakeholders กลมุ่ ที่ไม่มอี ิทธพิ ลต่อการบรหิ ารจัดการและการตัดสินใจใน
การทาหลักสูตร แต่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง และการตัดสินใจของหลักสูตร ได้แก่ นักศึกษาในปีปัจจุบัน และ
นักศึกษาที่จะใช้หลักสูตร 2564 ในอนาคต ซ่ึงหมายถึงกลุ่มนักเรียนในปัจจุบัน โดย กลุ่มนักศึกษาปัจจุบัน ใช้เกณฑ์การ
เลือกโดยการให้นักศึกษาปัจจุบันท้ัง 4 ชั้นปี ตอบคาถามเพ่ือการพัฒนาหลักสูตรต่อไป ซ่ึงคัดเลือกแบบเจาะจง คือ
นกั ศึกษาทกุ คนได้สทิ ธใิ นการตอบคาถามอยา่ งเทา่ เทยี มกนั เพื่อให้เกดิ ความกระจายของข้อมูล

2. Stakeholders ในอนาคตไดแ้ ก่ใครบ้าง เพ่ือรองรับอาชีพทจ่ี ะเกิดใหม่ในอนาคต 5-10 ปขี า้ งหน้า

องค์กรพัฒนาเอกชน (Non-governmental organizations - NGOs) และองค์การนอกภาครัฐระหว่างประเทศ
(international nongovernmental organization - INGO) ซ่ึงเป็นองค์กรท่ีไม่ใช่ภาคราชการ และไม่ใช่ภาคธรุ กิจที่แสวง
หากาไร ก่อตั้งและดาเนินการโดยกลุ่มบุคคล ท่ีมีความมุ่งมั่นในอันที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข ปัญหาสังคม เช่น
มูลนิธิชัยพัฒนา, สภาประชาสังคมชายแดนใต้, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย, มูลนิธิกสิกรรม
ธรรมชาติ, World Bank, Save The children, UNICEF, The Asia foundation, The Cairns institute และ เทศบาล
ตาบลรสู ะมิแล, องคก์ ารบริหารส่วนตาบลบางตาวา

177

3. วเิ คราะห์ความสาคัญ และ impact ของ stakeholders และให้แบ่งกลมุ่ stakeholder

HPLI HPHI

- วิสัยทศั น์ พนั ธกจิ มหาวทิ ยาลยั สงขลา - คณาจารย์ผสู้ อนและคณาจารย์ประจา

นครินทร์, วิสัยทัศน์ พันธกจิ คณะ หลักสูตร, หนว่ ยงานฝึกภาคปฏบิ ัติ, ผ้ใู ช้

มนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์, I-Wise , - นกั เรยี นในระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ปรชั ญาการจัด การศกึ ษา ทีค่ าดวา่ สนใจเรียนในหลักสตู ร

มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ , สกอ., มคอ.1,

มาตรฐานผลการเรียนรู้ 5 ดา้ นของสานักวิชา

ศึกษาท่วั ไป,

LPLI LPHI

- หลกั สูตร ปี 2554 และ 2560 - ผูใ้ ช้บณั ฑติ

- บคุ คลท่วั ไป, ศิษยเ์ ก่า, ผู้ปกครอง, - ภาครฐั และรฐั วิสาหกจิ ในพ้ืนท่ี

จังหวดั ชายแดนใต้ และนอกพื้นที่

จังหวัดชายแดนใต้

- ภาคเอกชน

4. ระบวุ ธิ กี ารเก็บขอ้ มลู (การสัมภาษณ์ โทรศัพท์ ฯลฯ) และเครื่องมือ (เช่น แบบสอบถาม แบบสมั ภาษณ์ ฯลฯ) ของ
แตล่ ะกลุม่ stakeholders

ผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี วิธีการสอ่ื สาร ขอ้ มูลท่ตี ้องการ วิธกี ารประเมิน ผรู้ บั ผดิ ชอบ
นักเรยี น ค่ายเพาะตน้ กลา้
พัฒนาสังคม ม.อ. - สาขาวชิ าทต่ี ้องการ แบบสอบถาม คณะกรรมการ
นกั ศกึ ษา
ศษิ ย์เก่า ผ่านอาจารย์ที่ เรียน การสัมภาษณ์ บริหารหลักสูตร
ผู้ใชบ้ ัณฑิต ปรึกษาและ
อาจารย์ผสู้ อน - วธิ กี ารแลกเปลย่ี น

ผ่านการประชุม ความรู้ และความต้องการ
ศษิ ย์เกา่
ผา่ นอาจารย์ ความรู้

สอบถามความพงึ - ความคาดหวังในการ

เรยี นในหลกั สตู ร

- ความตอ้ งการ ในการ สัมภาษณ์ พดู คยุ อาจารยท์ ป่ี รึกษา

เรียน การจดั การข้อ และอาจารย์

- ความรู้ท่คี าดหวังในการ ร้องเรยี น ผู้สอน

เรียนหลักสูตร

- ความต้องการในการ แบบสอบถาม คณะกรรมการ

พัฒนาหลกั สตู ร การสมั ภาษณ์ บริหารหลักสตู ร

- ความต้องการในการต่อ

ยอดความรู้

-ความคาดหวังตอ่ แบบสอบถาม คณะกรรมการ

178

ผ้มู สี ว่ นได้ส่วนเสีย วิธีการส่อื สาร ข้อมูลทีต่ อ้ งการ วิธกี ารประเมิน ผู้รบั ผดิ ชอบ
- ภาครัฐ และ พอใจของผู้ใช้ หลกั สตู รและนักศึกษา
รฐั วิสาหกิจ ในพื้นท่ี บัณฑติ สัมภาษณ์ บรหิ ารหลกั สตู ร
จงั หวดั ชายแดนใต้ และ ความตอ้ งการ ความ
นอกพนื้ ที่ จงั หวัด ผ่านการประชมุ คาดหวงั ของหลกั สูตร ประชุม/สมั มนา คณะกรรมการ
ชายแดนใต้ คณะกรรมการชดุ บริหารหลกั สูตร
- ภาคเอกชน ตา่ ง ๆ เชน่ ขอ้ มูล
อาจารย์และผู้บรหิ าร คณะกรรมการ - นักศึกษา สังเคราะห์ คณะกรรมการ
บรหิ ารหลกั สตู ร/ - อาจารย์ บริหารหลักสตู ร
หลกั สตู ร ปี 2554 และ คณะกรรมการ - ขอ้ รอ้ งเรยี น
2560 วิชาการ
ประเมนิ จาก
ผลสมั ฤทธ์ิการ
จัดการการเรยี น
การสอน

5. ระบุการแบง่ กลมุ่ ประเดน็ ของการ comment จาก Stakeholders เพือ่ ทาเป็น needs

1. ความคาดหวงั
กลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา จานวน 12 ราย (41.38%) สนใจเรียนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนา
สังคมในระดบั มาก (x = 4.27) และกล่าวว่าการเข้ามาเรยี นในหลกั สูตรฯ จะทาให้เข้าใจหลักการพัฒนาสังคม และมีทักษะ
ในการพฒั นาศักยภาพของตนเอง ชมุ ชน/สังคมได้ คิดเป็น (X=4.48) และ (X=4.37) ตามลาดบั
2. ความรู้
นักศึกษาท่ีสาเร็จออกไปแล้วจากหลกั สูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวชิ าพัฒนาสังคม กล่าวว่า การทางานได้ทา
ความร้ไู ปประยกุ ต์ใช้ไดจ้ ริง (x = 4.32)
ส่วนนักศึกษาที่สาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมท่ีทางานใกล้เคียงสาย
งานพัฒนาสังคม กล่าวว่า ความรู้ที่ได้สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการทางาน (x = 4.32) เพราะหลักสูตรได้เน้นการเรียน
การสอนทม่ี ีการทางานรว่ มกนั กับผู้อ่ืน (x = 4.48) ทาใหม้ ีความเขา้ ใจผู้อืน่ (x = 4.36) ทาให้สามารถบรหิ ารจัดการคนใน
ชมุ ชน (x = 4.28) เรยี นรู้งานได้เปน็ อย่างดี (x = 4.26) มีทักษะในการแกป้ ัญหาเฉพาะหน้าได้ดี (x = 4.21)
3. ความพึงพอใจ
นักศึกษาที่สาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม แบบท่ี 1 พบว่า มีความ
พอใจในระดับมาก (x = 4.28) เพราะหลักสูตรได้เน้นการเรียนการสอนที่มีการทางานร่วมกันกับผู้อ่ืน (x = 4.48) ทาให้มี
ความเข้าใจผู้อนื่ (x = 4.36) ทาให้สามารถบริหารจัดการคนในชุมชน (x = 4.28) เรียนร้งู านไดเ้ ป็นอย่างดี (x = 4.26) มี
ทกั ษะในการแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ ได้ดี (x = 4.21)

179

นักศึกษาที่สาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมท่ีทางานตรงสายพัฒนา
สังคม แบบท่ี 2 พอใจกับหลักสูตรฯ ในระดับมาก (x = 4.31) ส่วนนักศึกษาที่สาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตร
บณั ฑติ สาขาวิชาพัฒนาสังคมทท่ี างานใกลเ้ คียงสายงานพัฒนาสังคม มีความพงึ พอใจในระดบั มาก (x = 4.28)

นักศึกษาท่ีสาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมของปีการศึกษา 2561
(ปรับปรุง พ.ศ. 2554 เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรปี พ.ศ. 2562) พอใจกับหลักสูตรในระดับมาก (x = 4.27) แสดง
ทัศนะว่าความรทู้ ่ไี ดส้ ามารถปรบั ประยุกต์ใช้เพ่ือการทางาน (x = 4.36) ทัง้ ภาครฐั ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาควิชา
การ เพราะได้รบั ความรู้ทเ่ี พยี งพอสาหรบั การประกอบวิชาชีพในระดบั คอ่ นขา้ งมาก (x = 4.18)

ผู้สอนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสงั คมทุกท่าน กลา่ วถึงหลกั สตู รฯ ว่า พอใจ ในระดับมาก (x
= 4.72) เพราะมีเน้ือหาท่ีเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสังคม เช่น นโยบายสาธารณะในการพัฒนาสังคม ทฤษฎีการพัฒนาสังคม
เทคนิคและกลวิธีในการพัฒนาสงั คม การจัดการความร้แู ละองค์กรแห่งการเรียนรู้ การพัฒนาทรัพยากรชนบท วธิ ีวิทยาการ
วิจัยทางสังคมศาสตร์ การศกึ ษาอิสระ ฯลฯ และมีรายวชิ าทีส่ ร้างความโดดเด่นให้กับหลักสูตรฯ เช่น การจดั การภัยพิบัติใน
จงั หวดั ชายแดนใต้ พหสุ ังคมกบั การพฒั นาสงั คม

4. การประยกุ ตใ์ ช้
ประเด็นการการทางานในสายอาชีพโดยการนาความรู้จากการเรียนการสอนท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ นักศึกษาของ
หลักสูตรศิลปศาสตรบณั ฑิตสาขาวิชาพฒั นาที่กาลังเรยี นอยู่ในขณะนี้ท้ังวิชาเอก และวชิ าโท คาดหวังว่า ความรู้ท่ีไดจ้ ะช่วย
สนบั สนุนการปฏิบัติงานในสายวิชาชีพในระดับมาก (x = 4.28) โดยจะนาไปประยุกตใ์ ช้ ประเด็นที่เปน็ จดุ เดน่ ของหลักสูตร
คอื ช่วยให้การทางานพัฒนาสงั คมไดด้ ขี ้ึนอยู่ในระดบั มาก (x = 4.64) ได้แก่ มีทกั ษะในการปฏิบตั ิงานสามารถประยุกตใ์ ชใ้ น
กิจกรรมอ่ืนๆ อยู่ในระดับมาก (x = 4.73) มีความสุขกับการอยู่ในสังคมอยู่ในระดับมาก (x = 4.64) และ ทักษะการมีส่วน
ร่วมอยู่ในระดบั มาก (x = 4.55)
ส่วนนักศึกษาที่สาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม กลุ่มทางานตรงสาย
งานพัฒนาสังคม พบว่า หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมได้รับความพึงพอใจในระดับมาก (x = 4.31)
ได้แก่ ด้านการประเมนิ ผลการทางานงานอยู่ในระดับมาก (x = 4.72) ดา้ นการจัดระบบการทางานใหม้ ีประสทิ ธิภาพ อยใู่ น
ระดับมาก (x = 4.60) ด้านเทคนิคการพัฒนาสังคมอยู่ในระดับมาก (x = 4.48) และด้านสวัสดิการอยู่ในระดับมาก (x =
4.37) และนอ้ ยสุดดา้ นประกันสงั คม อยูใ่ นระดับมาก (x = 4.23)
5. การแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้า
นักศึกษาที่สาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมที่ทางานใกล้เคียงสายงาน
พัฒนาสังคม กล่าวว่า ความร้ทู ไ่ี ด้รบั จากหลกั สูตรทาใหบ้ ณั ฑิตมีทกั ษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหนา้ ไดด้ ี (x = 4.21)
6. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ
การลงพ้ืนท่ี
การลงพื้นท่ีควรเป็นโอกาสของนักศึกษาที่เรียนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมที่จะต้องมี
เพ่ือให้เกิดการทางานแลกเปล่ียนเรียนรู้กับชุมชน และนาเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาสังคม การปฏิบัติการลงพ้ืนท่ี
ควรมเี พิ่มข้นึ มากกว่าเรียนในหอ้ งเนือ่ งจากความร้ทู ี่ใชใ้ นการทางานปัจจุบันตอ้ งการทกั ษะเหล่านี้ และเพ่ือให้เกดิ การจาได้
ดีน้ัน ส่วนมามาจากความรู้ที่เกิดจากการลงพื้นท่ีในรายวิชานั้นๆ จะทาให้เข้าใจได้ดีย่ิงขึ้น ซึ่งจะทาให้สามารถวิเคราะห์
สถานการณ์สังคมโดยใช้หลักวิชาการได้ พบในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา และนักศึกษาท่ีสาเร็จออกไปแล้วจาก หลักสูตร
ศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคมของปีการศึกษา 2561 (ปรับปรุง พ.ศ. 2554 เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรปี
พ.ศ. 2562) เสนอว่า การปรับปรุงของหลักสตู รในครั้งต่อไปควรเพิ่มเติมการลงพ้ืนท่ีเพิ่มข้ึน มากกว่าเรียนในห้องเน่ืองจาก

180

ความรู้ท่ีใช้ในการทางานปัจจุบัน และจาได้ดีนั้นเป็นความรทู้ ่ีเกิดจากการลงพื้นท่ีในรายวิชาน้ันๆ จะทาให้เข้าใจได้ดีย่ิงข้ึน
ซ่งึ จะทาใหส้ ามารถวเิ คราะหส์ ถานการณ์สงั คมโดยใชห้ ลักวชิ าการได้

เนอ้ื หารายวชิ า
นักศึกษาของหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาพัฒนาที่กาลงั เรยี นอยใู่ นขณะนที้ ้งั วิชาเอก และวชิ าโท กล่าว
ว่า เน้ือหารายวิชาของหลักสูตรมีความยากเกินความสามารถอยู่ในระดับมาก (x = 4.23) จึงมีข้อเสนอแนะว่างานที่
มอบหมายควรใหม้ กี ารบรู ณาการชิน้ งานของแต่ละรายวชิ า เนน้ การใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมตา่ งๆทยี่ าก และทางานจริง
นายจ้างของหน่วยงานภาครัฐที่ไม่ได้อยู่ในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า นักพัฒนาสังคมต้องรู้และ
เข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องงานพัฒนาสังคม ภาษาอังกฤษเพื่อสอบแข่งขันเป็นนักพัฒนาสังคมในระบบราชการ พัฒนากร
จังหวัดไดแ้ นะนาหลักสตู รเพิ่มเติมวา่ ในปัจจุบันผู้ท่ีทางานดา้ นพัฒนาสังคมและชุมชนยงั มีความต้องการใช้ เทคนิคท่ีเฉพาะ
รวมถึงกลวิธี จิตวิทยาทางสังคมในการพัฒนาสังคมโดยใช้กระบวนการศึกษาชุมชนเป็นระบบสามารถจัดการความรู้ให้เกิด
ประโยชน์กับชุมชน/สังคมได้อย่างไม่ลังเล รวมถึงมีความกล้าหาญที่จะนาเสนอความคิดของตัวเองอย่างสร้างสรรค์ และมี
ความเฉียบคมในการตัดสินใจบนพื้นฐานของทุนทางสังคม โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม ก็เป็นคุณสมบัติทหี่ ลักสูตรฯ ควร
จะสร้างให้นักศึกษา ขณะท่ีภาครัฐ ในพ้ืนที่ ต้องการให้เน้นคุณธรรมจริยธรรมในการในการดาเนินประโยชน์กับผู้อื่น ท่ี
สาคัญเน้นหลักความมเี มตตา ความเป็นเครอื ข่ายที่ดีที่จะสร้างและรักษาเศรษฐกิจ สงั คมแบบพหวุ ัฒธรรม ในสามจังหวัดได้
อย่างมั่นคง และย่ังยืน อีกประการคือผู้ท่ีทางานด้านพัฒนาสังคมท่ีต้องการเพิ่มเติมความรู้เทคนิคต่างๆ มีความสุจริต
ตรวจสอบการทางานได้ทใี่ ช้ในการแก้ปัญหาใหส้ งั คม
ผู้สอนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม เสนอแนะว่า เนื้อหารายวิชาที่มีความเหล่ือมกัน
จะต้องบูรณาการเช่ือมโยงงานกันได้ เพ่ือลดภาระชิ้นงานของนักศึกษาแต่สามารถเพ่ิมผลผลิตงานให้มีคุณภาพที่สามารถ
ตอบผลลัพธ์การเรียนร้ไู ดห้ ลายรายวิชา อกี ทั้งนักศกึ มกี ารทางานกลุม่ หรือทางานร่วมกับชมุ ชน เพอ่ื เข้าใจความหลากหลาย
ทางวัฒนธรรม และมีทักษะในการส่ือสาร รวมถึงการบริการวิชาการของหลักสูตรฯ ข้อเสนอแนะคือ ให้แต่ละรายวิชา
กาหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcomes) เป็นกลุ่ม เช่น การคิด การรู้และเข้าใจ การใช้เครื่องมือ และการ
ประยุกตใ์ ช้ ซ่ึงให้แต่ละรายวิชามีการบูรณการการทางานร่วมกนั และควรกาหนดผลลพั ธ์การเรยี นร้รู ะดับรายวิชา Course
Learning Outcomes (CLOs) เพราะการทางานในชุมชน/สังคมได้ จะต้องพัฒนาทักษะเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้จริง
จะเหน็ ไดว้ ่าหลกั สูตรฯ สามารถเปน็ พง่ึ ของสงั คมบนฐานพหวุ ฒั นธรรมอย่างยั่งยืน และสามารถเชือ่ มโยงงานทางวิชาการไปสู่
ความเป็นนานาชาติได้ ขณะที่ข้อมูลจากการสารวจผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาอ่ืนๆ และทางานเกี่ยวกับการ
พัฒนาสังคมยังมีความต้องการใช้ เทคนิคท่ีเฉพาะ รวมถึงกลวิธี จิตวิทยาทางสังคมในการพัฒนาสังคมโดยใช้กระบวนการ
ศึกษาชุมชนเป็นระบบเช่นการดาเนินอย่างวิธีวิทยาการวิจัย ท่ีสามารถจัดการแก้ปัญหาชุมชน/สังคมได้ตรงจุดอย่างย่ังยืน
และ สามารถใชร้ ะบบสารสนเทศให้เท่าทนั ในปัจจุบันเพอ่ื การพัฒนาสังคม
จุดเดน่ ทีไ่ มเ่ หมือนใคร
รายวิชาของหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนา จากความเหน็ ของนักศึกษาท่ีกาลังเรียนอยู่ในขณะน้ี
ท้ังวิชาเอก และวิชาโท กล่าวว่า หลักสูตรพัฒนาสังคมจะต้องมีจุดเด่นท่ีไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะวิชาต่างๆ ท่ีปรากฏอยู่ใน
หลักสูตรต้องไมเ่ หมอื นกับหลักสูตรพัฒนาสังคมจากท่ีอน่ื ๆ
บูรณาการความรสู้ กู่ ารปฏบิ ัติ
นักศึกษาที่สาเร็จออกไปแล้วจากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนาสังคม ให้ข้อคิดเห็นว่าทักษะท่ี
จาเปน็ ต่อการปฏิบัติงานได้อยู่ในระดับมาก (x = 4.41) ไดแ้ ก่ การวางแผนอยใู่ นระดบั มาก (x = 4.48) การดาเนินงานตาม
แผนท่ีวางไว้อย่ใู นระดับมาก (x = 4.46) และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ในระดับมาก (x = 4.28) และยงั ให้ข้อมูลโดยส่วน

181

ใหญ่ วา่ การเรียนหลกั สูตรศิลปศาสตรบณั ฑิตสาขาวชิ าพฒั นาสงั คมสร้างความไดเ้ ปรียบในการทางานท่ีหลากหลาย เพราะมี
ทักษะในการวิเคราะห์และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล โดยระบุว่าความรู้และทักษะท่ีจาเป็นสาหรับการเป็นนักพัฒนาสังคมน่ัน
คือ ความคิดสร้างสรรค์ในการบูรณาการความรู้ของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และ กฎหมายท่ี
เก่ียวข้องงานพัฒนาสังคม ทั้งยังกล้าตัดสินใจบนพ้ืนฐานของทุนทางสังคม ซ่ึงจะแก้ปัญหาความขัดแย้งรวมถึงภัยพิบัติทาง
ธรรมชาตแิ ละเกดิ จากมนุษย์ได้

นักธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้และอยู่ในพ้ืนที่จังหวัดชา ยแดนภาคใต้ให้ข้อเสนอแนะว่า
หลักสูตรฯ ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาได้เรียนรู้ร่วมกับภาคธุรกิจและองค์กรอ่ืน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม
รับผิดชอบต่อสังคม เกิดกระบวนการพัฒนาและยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมธุรกิจ ภาคธุรกิจก็ต้องการความคิด
สร้างสรรค์จากคนรุน่ ใหม่ คนร่นุ ใหม่ก็ต้องการทุน และแรงเสรมิ จากหนว่ ยงาน ท่สี าคัญหลักสูตรก็ไม่ต้องเดนิ เพียงลาพัง แต่
จะต้องสร้างให้นักศึกษามีวิสัยทัศน์ในการพฒั นา โดยไม่ท้ิงคนท่ีช่วยเหลือตัวเองไม่รวมถึงได้ติดตามและประเมินผลกระทบ
ต่อสงั คมจากนโยบายและมาตรการส่งเสรมิ ความรับผิดของต่อสังคมรว่ มกับท้ังภาคธุรกิจ และภาควชิ าการ

ข้อมูลจากการประเมินผลการดาเนินงาน (Self Assessment Report, SAR) ของหลักสูตรปีการศึกษา 2560
และ ปีการศึกษา 2561 พบว่า หลักสูตรมีการบูรณาการการเรียนการสอนกับงานวิจัยและใช้เป็นกลยุทธ์ให้คณาจารย์และ
นักศกึ ษาผลติ ผลงานวจิ ัยและเผยแพรใ่ นเวทวี ชิ าการทไ่ี ด้รับการยอมรบั ระดบั ประเทศอย่างต่อเนือ่ ง และการจัดการเรยี นการ
สอนแบบ Active Learning ท่มี ีการลงพืน้ ท่ีปฏิบตั ิจริง มีการยอมรบั ความคิดเห็น พร้อมท้ังให้เกยี รติความเป็นชมุ ชน โดยมี
กลยุทธ์ในการจัดรูปแบบการเรียนการสอนท่ีสอดคล้องกับ ELOs แต่ควรรวบรวมชุดข้อมูลเพื่อการตัดสินใจและพัฒนา
หลักสูตร ได้แก่ ข้อมูลความต้องการของบัณฑิต ผู้ใช้บัณฑิต และตลาดแรงงาน และควรสนับสนุนจากคณะเพ่ือจัดให้มี
ห้องปฏิบตั ิการทางสังคมสาหรับนักศึกษา

เช่ือมโยงความต้องการของ Stakeholders กบั GA: Graduate Attributes (อตั ลักษณ์ของบณั ฑติ )
ตารางท่ี 1 mapping ระหวา่ ง Needs กบั GA โดยกรอก  ในตาราง เพอื่ เชอื่ มโยง GA ของหลกั สูตร
กับ Need ของหลักสูตร และ PSU’s GA

GA ของหลักสูตรที่ได้จาก PSU’s GA
stakeholders
GA/Needs

Need1 Need2 Need3 LO Gen Ed LO 5Hs IWISE

GA1 : จิตอาสา เมตตา    
ปราณี มีไมตรีจิต  
สจุ รติ โปรง่ ใส  

GA2 : กว้างไกล

วสิ ัยทศั น์ ไม่ทง้ิ ใครไว้   
ข้างหลัง

GA3 : แจ้งชดั วชิ าการ   
และเทคโนโลยี

182

GA4 : สื่อสารชุมชนสู่

การพฒั นาสงั คม   
เคารพความหลอก

หลายทางวัฒนธรรม

ตารางท่ี 2 mapping วิสัยทัศน์ พันธกิจ คณุ ลักษณะของบณั ฑติ และความตอ้ งการของผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี กบั GA

ผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสยี ของหลกั สตู ร GA 1 GA 2 GA 3 GA 4

1. วิสยั ทัศนข์ องมหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์

มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทรเ์ ปน็ มหาวิทยาลัยเพอื่ นวตั กรรมและสงั คมที่

มคี วามเปน็ เลิศทางวชิ าการและเป็นกลไกหลกั ในการพฒั นาภาคใต้และ

ประเทศมงุ่ สูม่ หาวิทยาลยั ชน้ั นา 1 ใน 5 ของอาเซยี นภายในปี พ.ศ. 

2570

2. วสิ ยั ทศั นค์ ณะ

คณะชนั้ นาในด้านมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ เพอื่ เป็นที่พ่งึ ของสังคม 

บนฐานพหวุ ัฒนธรรมอยา่ งยง่ั ยนื และเชือ่ มโยงสคู่ วามเปน็ นานาชาติ

3. พนั ธกิจของมหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์

3.1 สรา้ งความเป็นผูน้ าทางวิชาการและนวตั กรรมโดยมกี ารวจิ ยั เปน็ ฐาน 
เพอ่ื การพัฒนาภาคใตแ้ ละประเทศเชอ่ื มโยงสูส่ งั คมและเครอื ข่ายสากล

3.2 สรา้ งบณั ฑติ ทม่ี สี มรรถนะทางวชิ าการและวิชาชพี ซื่อสัตย์มวี ินยั ใฝ่

ปัญญาจิตสาธารณะและทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 สามารถประยกุ ต์ความรู้  

บนพนื้ ฐานประสบการณจ์ ากการปฏิบัติ

3.3 พัฒนามหาวิทยาลัยใหเ้ ป็นสงั คมฐานความรบู้ นพน้ื ฐานพหุวฒั นธรรม

และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งโดยใหผ้ ้ใู ฝ่รไู้ ดม้ ีโอกาสเข้าถึง 

ความรู้ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ

4. พันธกจิ ของคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์

4.1 สร้างความเปน็ ผู้นาวชิ าการด้านมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์

พฒั นาศักยภาพของบคุ ลากร งานวิจัย และนวตั กรรมท่เี ชื่อมโยงสู่การ 

สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหแ้ ก่ชมุ ชนภาคใต้

4.2 ผลิตบณั ฑติ ท่มี คี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม มสี มรรถนะทางวชิ าการและ

วิชาชีพ และสามารถผสานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นกับสมรรถนะสากลเพ่ือให้  

แข่งขนั ไดท้ ง้ั ในระดบั ประเทศและภูมิภาคอาเซียน

4.3 สร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในภมู ภิ าคอาเซยี น

ดว้ ยการวจิ ัยเชิงบูรณาการและการสร้างความรว่ มมอื กับเครือข่าย 

นานาชาติ

4.4 สร้างความเข้มแขง็ ด้านบรกิ ารวชิ าการเพือ่ ตอบสนองความต้องการ 

183

ผ้มู สี ว่ นได้ส่วนเสียของหลกั สตู ร GA 1 GA 2 GA 3 GA 4

ของชุมชนและสงั คม รวมทงั้ การหารายได้ใหแ้ ก่องค์กร

5. อัตลักษณ์ของมหาวิทยาลยั /ผลการเรียนร้ขู องหมวดวิชาศกึ ษา

ทั่วไปของมหาวิทยาลยั (GE)

Integrity

ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต 

มีวนิ ัย

Wisdom 
ใฝป่ ญั ญา

SocialEngagement 
จติ สาธารณะ

Stakeholder Need 1: (ผ้ใู ชบ้ ัณฑิต)

1. บณั ฑิตประยกุ ต์ใช้ความรู้ในการปฏบิ ตั งิ านจรงิ ทางานรว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ 

2. บัณฑิตมคี วามสามารถใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 

3. บณั ฑติ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม และเข้าใจกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับ 
งานพฒั นาสังคม

Stakeholder Need 2: (ผเู้ รยี น)

1. เม่ือสาเรจ็ การศึกษาสามารถปฏิบตั งิ านในวิชาชพี ได้ 

2. มีทักษะด้านเทคโนโลยีเพอ่ื ชว่ ยในการทางาน 

Stakeholder Need 2: (อาจารย์)

1. บณั ฑิตสามารถนาความรไู้ ปประกอบอาชีพได้ เรยี นรูใ้ นการ 
ปฏบิ ัตงิ านจรงิ

2. บัณฑติ สามารถปรับตัวให้ทนั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงและสามารถเรยี นรู้  
ได้ตลอดชีวติ

3. บณั ฑติ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ งานสงั คม มจี ิตสาธารณะ มคี วามสุขใน 
การเรยี น

4. บณั ฑติ มคี วามซอื่ สัตย์ มคี ุณธรรมจรยิ ธรรมในการประกอบอาชีพ 

1. ให้เขยี นอธบิ ายข้อมลู ของความตอ้ งการ

Need1: บัณฑิตประยกุ ต์ใช้ความรู้ในการปฏิบัตงิ านจริงทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้
Need2: บัณฑติ มคี วามสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
Need3: บณั ฑติ มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม และเข้าใจกฎหมายที่เก่ยี วข้องกับงานพัฒนาสงั คม
Need4: เม่ือสาเรจ็ การศึกษาสามารถปฏบิ ัตงิ านในวิชาชพี ได้
Need5: มีทกั ษะดา้ นเทคโนโลยเี พื่อช่วยในการทางาน
Need6: บัณฑติ สามารถนาความร้ไู ปประกอบอาชีพได้ เรียนรูใ้ นการปฏิบตั งิ านจริง

184

Need7: บัณฑติ สามารถปรบั ตัวให้ทันตอ่ การเปลย่ี นแปลงและสามารถเรยี นรู้ไดต้ ลอดชีวติ
Need8: บณั ฑติ มคี วามรบั ผิดชอบต่องานสงั คม มีจิตสาธารณะ มีความสุขในการเรยี น
Need9: บณั ฑิตมคี วามซื่อสตั ย์ มีคุณธรรมจรยิ ธรรมในการประกอบอาชีพ

2. ให้ระบุ GA ในหลกั สูตรอย่างน้อย 1 ขอ้ ท่ีเปน็ จุดเด่น เมือ่ เทียบกบั หลกั สตู รในสาขาเดยี วกนั ทัง้ ในหรือนอก
มหาวิทยาลยั

GA1 : จติ อาสา เมตตาปราณี มไี มตรจี ิต สุจริตโปร่งใส
GA2 : กวา้ งไกลวิสยั ทัศน์ ไมท่ งิ้ ใครไวข้ ้างหลงั
GA3 : แจง้ ชดั วิชาการและเทคโนโลยี
GA4 : ส่ือสารชมุ ชนสู่การพฒั นาสังคม เคารพความหลากหลายทางวฒั นธรรม

ให้ระบุข้อความ PLOs ทุกข้อ
PLO1: นกั ศกึ ษาแสดงออกถงึ พฤตกิ รรมทม่ี ีคุณธรรม สุจริตโปรง่ ใส และจรยิ ธรรมในการพฒั นาสังคม
PLO2: นกั ศึกษาสามารถประยกุ ตก์ ระบวนการการพฒั นาสงั คมทตี่ อบสนองความตอ้ งการทีจ่ าเปน็ ของชุมชน เพอ่ื

นาไปสู่การปฏิบัติภาคสนาม
PLO3: นกั ศึกษาแสวงหาความรคู้ วามเขา้ ใจพืน้ ฐาน และวเิ คราะห์ทางสงั คมศาสตร์ ที่เก่ียวขอ้ งกบั สถานการณ์

สังคม
PLO4: นกั ศกึ ษาสามารถเลือกใช้เทคโนโลยที เี่ หมาะสมกับบรบิ ทของชมุ ชน และประยกุ ต์ใช้เพอ่ื การพฒั นาสังคม
PLO5: นกั ศกึ ษามที กั ษะวจิ ยั ชมุ ชน รวมถึงการแก้ปญั หาความขัดแย้ง และภยั พบิ ตั ใิ นจงั หวดั ชายแดนใต้
PLO6: นกั ศกึ ษาสามารถปรบั ตวั ยอมรับความคิดเห็น พรอ้ มท้งั ใหเ้ กยี รติความเป็นชุมชน
PLO7: นักศึกษาสามารถทางานรว่ มกับผูอ้ นื่ เคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีทักษะในการสือ่ สาร

ใหร้ ะบุ GA, PLOs ในตารางท่ี 2 และ mapping PLOs กบั GA

ตารางที่ 3 mapping PLOs กบั GA

PLO1 PLO2 PLO3 PLO4 PLO5 PLO6 PLO7

GA1 : จิตอาสา เมตตาปราณี มไี มตรีจติ สจุ รติ 
โปรง่ ใส

GA2 : กวา้ งไกลวสิ ัยทศั น์ ไมท่ งิ้ ใครไว้ขา้ งหลงั 

GA3 : แจง้ ชัดวชิ าการและเทคโนโลยี 

GA4 : สอ่ื สารชมุ ชนสู่การพฒั นาสังคม เคารพ 
ความหลากหลายทางวฒั นธรรม

185

ตารางที่ 4 PLOs กบั Bloom’s taxonomy เพ่ือกาหนดรายวชิ า/โมดลู

ผลลพั ธ์การเรยี นรูร้ ะดบั Knowledge Attitude Skill

หลกั สตู ร (Cognitive) (Affective) (Psychomotor)

(PLOs)

PLO1: นักศึกษาแสดงออก K5 มีความรู้และเข้าใจด้าน A1 มี จ ริ ย ธ ร ร ม แ ล ะ S5 มวี นิ ัยและความซื่อสัตย์

ถงึ พฤตกิ รรมที่มคี ุณธรรม พฤตกิ รรมศาสตร์ จรรยาบรรณทางวชิ าชพี S6 มีความรบั ผิดชอบทั้งต่อ

สุจรติ โปรง่ ใส และ หน้าทีต่ นเองและผู้อื่น

จรยิ ธรรมในการพัฒนา

สงั คม

PLO2: นักศึกษาสามารถ K2 มีความรู้และเข้าใจด้าน A2 มีจิตสาธารณะและความ S2 มคี วามคิดสรา้ งสรรค์

ประยกุ ต์กระบวนการการ พลวัตทางสงั คม รับผดิ ชอบต่อสงั คม S6 มคี วามรับผิดชอบทงั้ ต่อ

พฒั นาสังคมทต่ี อบสนอง K3 มีความรู้และเข้าใจด้าน A3 เปิ ด ใจย อม รับ ค วาม หน้าท่ตี นเองและผูอ้ น่ื

ความต้องการท่ีจาเปน็ ของ ระเบยี บวิธวี ิจยั คดิ เห็นท่แี ตกต่าง

ชุมชน เพ่ือนาไปสกู่ าร K4 มีความรู้และเข้าใจด้าน

ปฏบิ ัตภิ าคสนาม เท ค โ น โล ยี ก า ร สื่ อ ส า ร ใ น

ปัจจุบนั

PLO3: นักศึกษาแสวงหา K1 มีความรู้และเข้าใจด้าน A3 เปิ ด ใจย อม รับ ค วาม S7 มที ักษะการเปน็ ผนู้ าและ

ความรู้ความเข้าใจพ้ืนฐาน ม นุ ษ ย ศ า ส ต ร์ แ ล ะ คิดเห็นทแี่ ตกต่าง ผ้ตู ามทดี่ ี

และวเิ คราะห์ทาง สังคมศาสตร์ S6 มคี วามรบั ผดิ ชอบทงั้ ต่อ

สงั คมศาสตร์ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั K2 มีความรู้และเข้าใจด้าน หนา้ ท่ีตนเองและผอู้ ืน่

สถานการณส์ งั คม พลวตั ทางสังคม

K6 มกี ารนาความร้ไู ป

วิเคราะห/์ สงั เคราะห์สาหรับ

การพฒั นาสงั คม

PLO4: นกั ศึกษาสามารถ K4 มีความรู้และเข้าใจด้าน A4 มีความคิดเชิงบวกต่อ S4 มีทักษะการใช้เทคโนโลยี

เลือกใชเ้ ทคโนโลยที ี่ เทคโนโลยีการส่ือสารใน เทคโนโลยีการส่ือสารใน การสอ่ื สารยุคดิจทิ ัล

เหมาะสมกบั บรบิ ทของ ปจั จบุ ัน ปัจจบุ ัน

ชมุ ชน และประยุกตใ์ ชเ้ พือ่ K6 มีการนาความรูไ้ ป

การพฒั นาสงั คม วิเคราะห/์ สังเคราะหส์ าหรบั

การพัฒนาสงั คม

PLO5: นักศึกษามที ักษะ K3 มีความรู้และเข้าใจด้าน A1 มี จ ริ ย ธ ร ร ม แ ล ะ S1 มที ักษะในการทางาน

วิจยั ชุมชน สงั คม รวมถึง ระเบยี บวิธวี จิ ยั จรรยาบรรณทางวิชาชีพA2 รว่ มกบั ผู้อน่ื

การแก้ปญั หาความขดั แย้ง มีจิตสาธารณะและความ S2 มีความคดิ สรา้ งสรรค์

และภัยพบิ ตั ิในจังหวัด รับผิดชอบต่อสังคม S3 มีทกั ษะการแก้ไขปัญหา

ชายแดนใต้ A5 มีค่านิยมท่ีพึงประสงค์ และมีความอดทน

ของสังคม S4 มีทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี

186

ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ระดับ Knowledge Attitude Skill
หลักสตู ร (Cognitive) (Affective) (Psychomotor)
(PLOs)

การสือ่ สารยคุ ดิจทิ ลั

S5 มีวินัยและความซ่อื สัตย์

S6 มคี วามรบั ผดิ ชอบทงั้ ต่อ

หน้าที่ตนเองและผอู้ นื่

PLO6: นักศึกษาสามารถ K5 มีความรแู้ ละเขา้ ใจดา้ น A3 เปิ ด ใจย อม รับ ค วาม S1 มีทกั ษะในการทางาน
ปรับตัวยอมรับความคิดเห็น พฤติกรรมศาสตร์
พร้อมทงั้ ให้เกียรตคิ วามเป็น คิดเห็นทีแ่ ตกตา่ ง ร่วมกับผู้อ่นื
ชมุ ชน
A5 มีค่านิยมที่พึงประสงค์ S3 มีทักษะการแกไ้ ขปญั หา

ของสังคม และมคี วามอดทน

S6 มคี วามรบั ผดิ ชอบทง้ั ตอ่

หนา้ ทีต่ นเองและผูอ้ ื่น

S7 มที กั ษะการเปน็ ผนู้ าและ

ผ้ตู ามที่ดี

PLO7: นกั ศึกษาสามารถ K5 มีความรแู้ ละเข้าใจดา้ น A2 มจี ิตสาธารณะและความ S1 มที กั ษะในการทางาน
ทางานร่วมกบั ผ้อู นื่ เคารพ พฤติกรรมศาสตร์
ความหลากหลายทาง รับผดิ ชอบต่อสังคม รว่ มกับผูอ้ ื่น
วัฒนธรรม และมที กั ษะใน
การส่ือสาร A3 เปิ ด ใจย อม รับ ค วาม S6 มีความรบั ผิดชอบท้งั ตอ่

คิดเหน็ ทแ่ี ตกต่าง หน้าท่ีตนเองและผูอ้ ื่น

A4 มีความคิดเชิงบวกต่อ

เท ค โ น โล ยี ก า ร สื่ อ ส า ร ใ น

ปัจจบุ ัน

A5 มีค่านิยมที่พึงประสงค์

ของสงั คม

ตารางท่ี 5 กาหนดรายวิชา/โมดูล

Graduate Program Course Generic Specific
บงั คบั เอก Skill Skill
Attitude Learning ศกึ ษาทั่วไป เลอื กเอก

Outcome :

(PLOs)

GA1 : จิตอาสา PLO1: สาระท่ี 2 1. จรยิ ธรรมและ 1. นโยบาย 
ธรรมาภบิ าลในการ สาธารณะในการ
เมตตาปราณี มี นกั ศึกษา ความเป็น พัฒนาสงั คม พัฒนาสังคม
2. กฎหมายกับ 2. สิทธแิ ละ
ไมตรีจิต สุจรติ แสดงออกถงึ พลเมืองและ ความเป็นพลเมอื ง สวัสดิการสงั คม

โปร่งใส พฤติกรรมทีม่ ี ชีวิตที่สนั ติ

คณุ ธรรม 1. สามารถ

187

Graduate Program Course Generic Specific
บงั คบั เอก Skill Skill
Attitude Learning ศกึ ษาทั่วไป เลือกเอก
3. เทคนคิ และ
Outcome : กลวธิ ใี นการพัฒนา
สังคม
(PLOs) 4. เตรยี มความ
พรอ้ มก่อนฝกึ
สจุ ริตโปรง่ ใส แยกแยะสง่ิ ผดิ สง่ิ ประสบการณ์ สาหรับคนทกุ ชว่ ง
วชิ าชพี และการ วัย
และ ถกู ได้ ซื่อสัตย์ ทางาน (1หน่วย)
5. เศรษฐกจิ
จริยธรรมใน สจุ ริต เชือ่ ม่ันและ พอเพียงและการ
พัฒนาท่ีย่ังยนื
การพฒั นา รูค้ ุณคา่ ในตนเอง
6. ทฤษฎกี าร
สงั คม และผอู้ ่ืน พฒั นาสงั คม
7. การพัฒนา
2. มีวินยั และ สังคม
8. สังคมวทิ ยาและ
ความรบั ผดิ ชอบ มานุษยวทิ ยาใน

ในการดารงชวี ติ

ตามหลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจ

พอเพียง

GA2 : PLO2: สาระท่ี 3 การ 3. วสิ าหกจิ เพ่ือ 
สังคม
กว้างไกล นกั ศกึ ษา เปน็ 4. การท่องเทีย่ ว
ชมุ ชน
วสิ ยั ทัศน์ ไมท่ งิ้ สามารถ ผู้ประกอบการ 5. การมีส่วนรว่ ม
ในการบรหิ ารการ
ใครไวข้ ้างหลงั ประยกุ ต์ 4. มีทักษะเชิง พัฒนาสังคม

กระบวนการ สังเคราะห์ คดิ

การพัฒนา ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์

สงั คมที่ ใหท้ ันตอ่ การ

ตอบสนอง เปลีย่ นแปลงของ

ความ สงั คมและ

ต้องการที่ สงิ่ แวดล้อม

จาเปน็ ของ 5. มคี วามรู้และ

ชุมชน เพ่อื ตระหนกั ถึง

นาไปสู่การ ความสามารถใน

ปฏบิ ตั ิ การเปน็

ภาคสนาม ผ้ปู ระกอบการ

GA3 : แจ้งชดั PLO3: สาระท่ี 4 การ 6. ขบวนการ 
เคลอื่ นไหวทาง
วิชาการและ นกั ศึกษา อยู่อยา่ งรูเ้ ทา่ สงั คม
7. เศรษฐศาสตร์
เทคโนโลยี แสวงหา ทนั และ การรู้ สาหรับการพฒั นา
สงั คม
ความร้คู วาม ดจิ ิทลั

เข้าใจพ้ืนฐาน 3. มีทักษะคิด

และวเิ คราะห์ วิเคราะห์ คดิ เชงิ วิ

188

Graduate Program Course Generic Specific
Attitude บงั คับเอก Skill Skill
Learning ศึกษาทว่ั ไป เลือกเอก 
การพัฒนาสังคม
Outcome : 9. เศรษฐศาสตร์ 8. การ 
การพัฒนาชายแดน ประเมินผล
(PLOs) ใต้ กระทบทางสังคม
สิ่งแวดล้อมและ
ทาง พากย์บนพื้นฐาน 10. การจัดการ สขุ ภาพ
ความรูแ้ ละสังคม 9. ประมขุ ศิลป์
สังคมศาสตร์ ของความรเู้ ท่าทนั แห่งการเรยี นรู้ กับการพัฒนา
11. วิทยากร สงั คม
ทเี่ กี่ยวขอ้ ง เหตแุ ละผล กระบวนการและ 10. การศึกษาเพอ่ื
นนั ทนาการในการ การพฒั นาสังคม
กับ พฒั นาสงั คม (2 11. เทคโนโลยี
หน่วย) และดจิ ทิ ัลเพ่ือ
สถานการณ์ 12. การสอ่ื สารเพ่ือ การพัฒนาสงั คม
การพัฒนาและการ
สงั คม เปลี่ยนแปลงทาง 12. การจัดการสุข
สงั คม ภาวะชุมชน
PLO4: สาระที่ 5 การ 13. ระบบ 13. สาธารณสขุ
สารสนเทศเพื่อการ กบั การพฒั นา
นักศกึ ษา คดิ เชงิ ระบบ พฒั นาสังคม สงั คม

สามารถ การคดิ เชงิ 14. การจดั การ
ทรัพยากรธรรมชาติ
เลือกใช้ ตรรกะและ และสิ่งแวดล้อม
15. การพัฒนา
เทคโนโลยที ี่ ตวั เลข ทรัพยากรในชนบท
และเมอื ง
เหมาะสมกับ 8. สามารถ 16. สังคมวทิ ยาภัย
พิบัติเพอ่ื การพัฒนา
บรบิ ทของ วิเคราะห์ และ อยา่ งยั่งยืน

ชมุ ชน และ เลอื กใช้

ประยุกต์ใช้ กระบวนการทาง

เพือ่ การ คณติ ศาสตร์ท่ี

พฒั นาสงั คม เหมาะสมในการ

แกป้ ญั หา

9. สามารถใช้

เทคโนโลยแี ละ

นวัตกรรมในการ

ค้นควา้ อยา่ งรเู้ ทา่

ทนั

PLO5: สาระท่ี 1

นักศกึ ษามี ศาสตร์

ทักษะวิจัย พระราชาและ

ชมุ ชน ประโยชนเ์ พอื่ น

รวมถึงการ มนษุ ย์

แกป้ ัญหา 6. มีจติ สาธารณะ

ความขดั แยง้ คานงึ ถงึ ประโยชน์

และภยั พบิ ตั ิ ของเพื่อนมนุษย์

ในจังหวัด เป็นกจิ ท่หี นึง่

189

Graduate Program ศึกษาทั่วไป Course เลอื กเอก Generic Specific
Attitude Learning บังคบั เอก Skill Skill
Outcome :
GA4 : สอื่ สาร (PLOs) 17. สันติศึกษาและ
ชมุ ชนสกู่ าร ชายแดนใต้ การจัดการความ
พฒั นาสังคม ขัดแย้ง
เคารพความ PLO6: สาระที่ 7 14. นเิ วศ 
หลากหลาย สหกิจศึกษา วัฒนธรรม
ทางวฒั นธรรม นกั ศกึ ษา สนุ ทรียศาสตร์ 18. วิธวี ทิ ยาการ 15. วถิ ชี วี ติ ชุมชน
วจิ ยั ในการพัฒนา 1 ชายแดนใต้
สามารถ และกฬี า 19. วิธีวทิ ยาการ
วิจัยในการพฒั นา 2
ปรบั ตวั 20. ชมุ ชนศึกษา
อย่างสรา้ งสรรค์
ยอมรบั ความ 12.มีทกั ษะการ (การศกึ ษาอสิ ระ 1)
21. การสรรคส์ รา้ ง
คดิ เห็น แสวงหาความรู้ นวตั กรรมทาง
สังคม (การศึกษา
พร้อมทงั้ ให้ ตลอดชีวิต อิสระ 2)
22. จติ วิทยาเพ่ือ
เกยี รติความ การพัฒนาสังคม
23. การพัฒนาภมู ิ
เปน็ ชมุ ชน สงั คมมสุ ลมิ อย่าง
ยัง่ ยนื
PLO7: สาระที่ 6 ภาษา 24. พหสุ งั คมและ 16. การพฒั นาใน 
นักศกึ ษา และการสื่อสาร ภมู วิ ัฒนธรรมศกึ ษา ประชาคมอาเซียน
สามารถ 7. เขา้ ใจและ 25. การสมั มนาใน 17. การจัดการ
ทางาน ยอมรับในพหุ การพัฒนาสงั คม ทรัพยากรมนษุ ย์
ร่วมกบั ผู้อืน่ วัฒนธรรม ร่วม 26. เพศสภาพและ เพอ่ื สังคม
เคารพความ แกป้ ญั หาอย่าง การพัฒนาสังคม 18. ภาษาจนี
หลากหลาย สร้างสรรค์ พ้ืนฐานสาหรับ
ทาง รับผิดชอบต่อ การพฒั นาสงั คม
วฒั นธรรม หน้าทใ่ี นฐานะ
และมีทักษะ พลเมอื งท่ีดี
ในการสื่อสาร 10.สามารถใช้

ภาษาในการ
สอื่ สารอยา่ งมี
ประสทิ ธิภาพ
11.ตระหนกั และ

Graduate Program Course เลือกเอก 190
Attitude Learning ศึกษาท่ัวไป บังคับเอก
Outcome : Generic Specific
(PLOs) Skill Skill

สานกึ ในคณุ คา่
ของวัฒนธรรม
และความเปน็ ไทย
เข้าใจและเหน็
คุณคา่ ของ
ธรรมชาติ

191

แผนภาพแสดงการจัดการเรยี นรู้

192

193


Click to View FlipBook Version