๑๐๐ กิจกรรม จิตศึกษา มรภ.ร้อยเอ็ด

๒๕๑

กจิ กรรมท่ี ๘๘

ชือ่ กิจกรรม สัตวใ์ นเทพนิยายของหนู

ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม นกั เรียนระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ จานวน ๑๙ คน

ผจู้ ดั กจิ กรรม ๑) นางสาวชนิดา ตนั สุ นักศึกษาช้นั ปีท่ี ๓ สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์
๒) นางสาวนภาพร โคตโพนสงู นักศึกษาชนั้ ปที ่ี ๓ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์

๓) นางสาวนัฐตพิ ร นกั ธรรม นักศกึ ษาชน้ั ปีที่ ๓

วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นมสี มาธิพรอ้ มท่จี ะเรียนรู้

๒) เพื่อส่งเสริมจนิ ตนาการให้กบั ผเู้ รยี น

แผนการจดั กิจกรรม

ข้ัน กจิ กรรม สอ่ื /อุปกรณ์
ข้ันนา ( ๒ นาท)ี ใหน้ กั เรียนนั่งเปน็ วงกลม แลว้ พาทาเบรนยมิ ๔ ท่า เพลงบรรเลงคล่นื
สมองตา่
ท่าท่ี ๑ ทา่ กาแบ : ยกมือขนึ้ สองข้างจากน้นั ให้กามอื ขวาสว่ นมอื
ซ้ายแบ ทาสลับกนั ๑๐ คร้งั

ท่าที่ ๒ ทา่ จบี กบั แอล : ยกมือข้นึ สองข้างใหม้ อื ขวาทาเป็นรูปตัว
แอลและมือซา้ ยทาเป็นรูปจีบ ทาสลับกัน ๑๐ คร้ัง

ท่าท่ี ๓ ท่าโป้งก้อย : ยกมือข้นึ สองข้างให้มอื ขวายกนิ้วหวั แม่มอื ขึน้
และมอื ซา้ ยยกนิ้วกอ้ ย ทาสลับกนั ๑๐ คร้ัง

ทา่ ท่ี ๔ ท่าหกู ับจมกู : ยกมือขวาข้ามศรี ษะไปจบั หูซา้ ยและเอามอื
ซา้ ยมาจับท่ปี ลายจมกู ทาสลบั กนั ๑๐ ครงั้

ขนั้ รว่ มกจิ กรรม ๑. ให้นักเรียนนอนหลบั ตา ครูเล่านิทานใหฟ้ งั อย่างช้า ๆ เนอื้ เร่ือง
( ๑๕ นาท)ี บรรยายถึงสัตว์ในเทพนิยาย วา่ มีลกั ษณะและสีอย่างไร ในขณะทใี่ ห้
เขานอนหลบั ตาโดยให้เดก็ จนิ ตนาการตามการบรรยาย ซ่ึงนทิ านจะช่วย
ให้เดก็ มจี นิ ตนาการ นทิ านเรอื่ ง ดินแดน
๒. หลงั จากท่คี รูเล่านทิ านจบก็ค่อยๆใหเ้ ด็กลืมตา มหศั จรรย์

ขัน้ สรปุ ( ๓ นาท)ี ถามนักเรยี นว่า วันนไ้ี ด้เรยี นร้อู ะไรบ้าง นกั เรียนรว่ มตอบคาถามและ
รว่ มสนทนาเพือ่ ให้ได้คาตอบส่งิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้อยา่ งหลากหลาย

๒๕๒

ภาพประกอบ

ทาท่าเบรนยิม ๔ ท่า
ทา่ ท่ี ๑ ทา่ กาแบ : ยกมือขึ้นสองข้างจากน้ันให้กามือขวาสว่ นมือซา้ ยแบ ทาสลบั กัน ๑๐ ครง้ั

ทา่ ท่ี ๒ ท่าจีบกับแอล : ยกมือขึ้นสองข้างใหม้ ือขวาทาเป็นรูปตัวแอลและมอื ซา้ ยทาเป็นรปู จีบ ทาสลับกนั ๑๐
ครั้ง

ท่าท่ี ๓ ทา่ โปง้ กอ้ ย : ยกมอื ขน้ึ สองขา้ งให้มือขวายกน้ิวหวั แม่มอื ขนึ้ และมอื ซา้ ยยกนว้ิ ก้อย ทาสลับกัน ๑๐ ครั้ง
ท่าที่ ๔ ทา่ หกู บั จมกู : ยกมือขวาข้ามศรี ษะไปจับหซู า้ ยและเอามือซา้ ยมาจบั ที่ปลายจมกู ทาสลบั กนั ๑๐ คร้งั

๒๕๓

ใหน้ กั เรียนนอนหลับตา ครเู ลา่ นทิ านใหน้ กั เรียนฟัง

ให้นักเรยี นตอบคาถามและสนทนาเพ่ือให้ได้คาตอบในสง่ิ ทเี่ รยี นรู้อยา่ งหลากหลาย
บันทกึ หลงั ทากจิ กรรม

การจัดกจิ กรรมจิตศึกษาโดยเรม่ิ จากการครูเปิดเพลงคลนื่ สมองตา่ ซ่งึ เป็นเพลงที่มจี ังหวะดนตรไี ม่มีเน้อื
รอ้ งฟังแล้วให้ความรสู้ กึ สบาย จากนัน้ ให้นักเรียนนั่งเปน็ วงกลม แล้วพานกั เรยี นทาเบรนยิม ๔ ทา่ คอื ทา่ กาแบ
ทา่ จบี แอล ทา่ โป้งกอ้ ย และท่าหกู บั จมูก ท่าละ ๑๐ ครั้ง แล้วใหน้ ักเรียนนอน หลบั ตาเปน็ วงกลม ครูเลา่ นิทาน
ใหน้ กั เรยี นฟัง ซ่งึ เนอื้ หาเกีย่ วกับสัตวใ์ นเทพนยิ ายโดยจะบรรยายลักษณะของสัตว์ในเทพนยิ าย หลังจากเลา่ จบ
ก็ใหน้ กั เรียนคอ่ ยๆลืมตา ครูถามนกั เรียนว่าสตั ว์ในเทพนิยายแต่ละ่ ตัวมลี กั ษณะเดน่ เป็นอย่างไร และร่วม
สนทนาเพอื่ ใหไ้ ด้คาตอบจากการเรียนรู้และท่สี าคญั นักเรียนมีสมาธิพรอ้ มท่จี ะเรียน

๒๕๔

ช่อื กจิ กรรม กจิ กรรมท่ี ๘๙
ผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรม
ผู้จดั กิจกรรม ส่ิงประดษิ ฐข์ องฉนั
นักเรยี นระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ จานวน ๑๙ คน
วตั ถปุ ระสงค์ ๑) นางสาวจิราวลั ย์ เสมอใจ นักศึกษาชน้ั ปีที่ ๓ สาขาวิทยาศาสตร์
๒) นางสาวณัฐวดี ศริ ริ ส นักศึกษาชนั้ ปีที่ ๓ สาขาวทิ ยาศาสตร์
๓) นางสาวทวิ ารตั น์ เพง็ นา้ คา นกั ศกึ ษาชน้ั ปีท่ี ๓ สาขาวิทยาศาสตร์
เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมีสมาธิพรอ้ มทีจ่ ะเรียนรู้

แผนการจัดกิจกรรม

ขนั้ กิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
ขัน้ นา - นักเรียนนั่งเป็นวงกลมแลว้ ทาเบรนยมิ ๓ ทา่ เพื่อเตรยี มความพร้อมก่อนเรม่ิ กิจกรรม เพลงบรรเลงคล่ืน
( ๒ นาที) ทา่ ท่ี ๑ ยกมือระดับอก มอื ซ้ายแตะท่หี ูขวา และออ้ มศรี ษะไปแตะหูด้านซา้ ย ทาสลบั ไป สมองต่า
มา ๕ ครง้ั
ขน้ั ร่วม ท่าที่ ๒ ยกมือระดบั อก มอื ขวากา มือซ้ายแบ สลบั ๕ ครง้ั กระดาษ A๔ และ
กิจกรรม ท่าท่ี ๓ ยกมือระดับอก มือซา้ ยแตะปลายจมกู มอื ขวาแตะที่หูขวา และสลบั แตะหูซ้าย ดินสอ
(๑๕ นาที ) สลบั ๕ คร้งั
๑. แจกกระดาษให้นกั เรียน โดยส่งตอ่ และรับดว้ ยการไหวข้ อบคณุ อย่างนอบนอ้ ม จนได้
กระดาษครบทุกคน
๒. วาดรูปสง่ิ ประดิษฐ์ท่ตี อ้ งการลงกระดาษที่ได้
๓.เม่ือวาดรปู เสรจ็ แลว้ สมุ่ นักเรยี น นาเสนอผลงาน ๓ คน
และอธบิ าย แนวคดิ และการใชป้ ระโยชน์

ขัน้ สรปุ ถามนักเรยี นว่า วนั น้ไี ดเ้ รยี นรเู้ กี่ยวกับอะไรบา้ ง นักเรียนรว่ มตอบคาถาม
( ๓ นาที)

๒๕๕

ภาพกิจกรรม

๑. น่งั เปน็ วงกลม สร้างสมาธิ ๒. กระตนุ้ สมองด้านการคดิ คานวณ

๓. เตรยี มความพรอ้ มการมองเห็น ๔. แจกกระดาษให้แกผ่ ้เู รยี นร่วมทากิจกรรม

๕. ขณะทากิจกรรม ๖.ผลงานนักเรียน

บันทึกหลงั การทากจิ กรรม

หลงั ทากิจกรรมพบว่านักเรียนทกุ คนสนใจกิจกรรมการวาดรปู ส่งิ ประดษิ ฐ์ในอนาคตไดต้ าม
แนวความคดิ ของตัวเอง รูปวาดของนักเรียนแตล่ ะคนจะมี รูปรา่ งลักษณะ และประโยชน์ทแ่ี ตกต่างกนั
นกั เรยี นมีสมาธิ พร้อมท่จี ะเรียนและสามารถบอกประโยชน์ของรปู วาด ท่ตี นเองวาดได้

๒๕๖

กจิ กรรมที่ ๙๐

ชื่อกิจกรรม สตั วน์ า่ รู้

ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม นกั เรียนระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ จานวน ๓๓ คน

ผู้จดั กจิ กรรม ๑) นายธรี พงศ์ กลางจันทา นกั ศกึ ษาช้นั ปีท่ี ๓ สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์

๒) นายวราวุธ พลเยยี่ ม นักศึกษาชั้นปที ี่ ๓ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์

๓) นายวีรภทั ร ชมุ ด้วง นักศกึ ษาชน้ั ปที ี่ ๓ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์

๔) นายพษิ ณุ ชุมจติ ต์ นักศกึ ษาชั้นปที ่ี ๓ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์

วัตถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมสี มาธิพรอ้ มที่จะเรียนรู้

๒) เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมจี ิตนาการอย่างสรา้ งสรรค์

๓) เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นรจู้ ักสัตวช์ นิดตา่ งๆ และสามารถเลียนเสยี งสตั วไ์ ด้

แผนการจดั กิจกรรม

ข้นั กจิ กรรม สอ่ื /อุปกรณ์
ข้นั นา
( ๒ นาท)ี - นกั เรียนน่ังเปน็ วงกลม เพ่อื เตรยี มทาเบรนยิม ๒ - เพลงบรรเลงคลน่ื สมองตา่

ท่า โดยใช้ทา่ กาแบและท่าตวั แอล อา้ งอิงจาก

๑. ท่ากาแบ นกั เรยี นยกมือท้งั สองขา้ งข้ึนมาไว้ที่ https://www.youtube.com
ระดบั หน้าอกของตน มอื ซ้ายกามือและมือขวา /watch?v=8p7WX14AfDE
แบมอื ออก ทาสลบั กนั จานวน ๑๐ คร้งั

๒. ท่าตวั แอล นักเรียนยกมือท้งั สองขา้ งข้นึ มาไว้ท่ี

ระดบั หนา้ อกข องตน มือซา้ ยกางน้วิ ชก้ี ับหัวแม่

มอื ออกใหเ้ ป็นรูปตวั แอล และมอื ขวาชนู ิว้ ชแี้ ล้ว

ชีไ้ ปท่มี อื ซา้ ยพรอ้ มกับบอกว่า นค่ี อื แอล ทา

สลบั กนั จานวน ๑๐ คร้งั

ขั้น กจิ กรรม ๒๕๗
สอ่ื /อปุ กรณ์

ขน้ั รว่ มกจิ กรรม ๑. แบง่ กลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ ๔-๕ คน ๑. เศษกระดาษ
( ๑๕ นาท)ี ๒. นกั เรยี นทอี่ ยกู่ ลุม่ เดยี วกนั จะนัง่ เป็นวงกลม ๒. รูปภาพสัตว์

ขัน้ สรปุ เดยี วกัน
( ๓ นาท)ี ๓. แจกชุดอปุ กรณ์ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ละหนง่ึ ชุด
๔. นักเรียนเปิดรูปภาพสัตวท์ ีก่ ลุ่มของตัวเองได้

แลว้ นาเศษกระดาษมาต่อเรียงกนั เปน็ รปู สตั ว์
ชนดิ นน้ั
๕. ถามนักเรยี นว่าสัตวต์ วั ทีเ่ ราไดค้ อื สตั ว์ชนิดใด มี
เสยี งรอ้ งอยา่ งไร แลว้ ให้นักเรียนเลยี นเสยี งสัตว์
ชนิดนน้ั
ครูและนักเรยี นรว่ มสรุปผลการทากจิ กรรมพรอ้ ม
เสริมประสบการณ์ให้นักเรียนได้เกดิ การเรยี นรทู้ ี่
หลากหลาย เชน่ สตั วท์ ีน่ ักเรียนไดร้ ับอาศัยอยูท่ ีไ่ หน

ภาพประกอบ

ทาเบรนยมิ ทา่ กาแบ ทาเบรนยมิ ท่าตวั แอล

๒๕๘

แบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเปน็ กลมุ่ ละ ๔-๕ คน แจกอปุ กรณใ์ หน้ กั เรียนกลมุ่ ละหน่ึงชุด

นกั เรยี นเปิดดูรูปสตั วท์ ่กี ลมุ่ ของตัวเองได้ นกั เรยี นรว่ มมือกันตอ่ เศษกระดาษให้เป็นรปู สตั ว์

นักเรยี นเลียนเสียงสัตว์ รว่ มกนั สรปุ ผลกิจกรรม

บนั ทกึ หลังการทากจิ กรรม

หลังทากิจกรรมพบว่านักเรียนทุกคนตา่ งก็มคี วามสนใจในการทากจิ กรรมเป็นอยา่ งมาก เนื่องจากเปน็
กิจกรรมทท่ี าให้นกั เรยี นเกิดจินตนาการและมคี วามคดิ สร้างสรรค์ นักเรียนสามารถตอ่ กระดาษใหเ้ ป็นรปู สัตว์
ชนดิ ต่างๆได้ นอกจากนีน้ กั เรยี นยงั สามารถเลยี นเสียงสัตวช์ นิดตา่ งๆได้ และทสี่ าคัญกค็ อื นักเรยี นทุกคนมสี มาธิ
พรอ้ มทจ่ี ะเรียนรู้

๒๕๙

กจิ กรรมที่ ๙๑

ชอ่ื กิจกรรม สีนา้ จิตนาการ

ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม นกั เรียนระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ จานวน ๑๓ คน

ผจู้ ดั กิจกรรม ๑. นางสาวกลั ยา นามเคน นกั ศกึ ษาชัน้ ปที ่ี ๓ สาขา คอมพวิ เตอรศ์ กึ ษา
วตั ถุประสงค์ ๒. นางสาวจริยาภรณ์ ชาตดิ ร นักศกึ ษาชั้นปที ่ี ๓ สาขา คอมพวิ เตอร์ศึกษา
๑. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีสมาธิพร้อมที่จะเรยี นรู้
๒. เพื่อให้นักเรยี นมคี วามคิดสร้างสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ

แผนการจดั กิจกรรม

ขน้ั กิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
ขนั้ นา นักเรียนจัดแถวเป็นวงกลม กลา่ วสวัสดีพรอ้ มกันอยา่ งนอบนอ้ ม เพลงบรรเลงคลนื่ สมองต่า
(๒ นาท)ี ตอ่ ด้วยการทาแตะสลับมอื ๖ รอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อน
เรมิ่ กิจกรรม คอื จากเว็บไซต์
ข้ันรว่ มกิจกรรม http://www.youtube.com/
(๑๕ นาท)ี ๑. ท่าแตะสลบั หวั ไหลเ่ อว
วธิ ีการทา ยกมอื ขึ้นใหฝ้ า่ มอื แตะทห่ี วั ไหล่พ ร้อมกัน watch?v=KKfrGnsBrp4

ท้ังสองขา้ ง แล้วเอามอื แตะที่เอวพร้อมกันท้งั สองข้างสลบั กนั ข้ึน แผ่นกระดาษและสนี ้า
ลง ๑ ครั้งนับเปน็ ๑ รอบ ให้ทาจนครบ ๖ รอบ (ในขน้ั รว่ มกิจกรรมใหเ้ ปดิ เพลง
๑. แจกแผ่นกระดาษใหน้ กั เรียนทุกคน คนละ ๒ แผ่น ดว้ ยวิธีสง่
ตอ่ กนั ซึ่งกอ่ นทจ่ี ะรับกระดาษ ทุกคนจะไหวข้ อบคุณเพ่อื นทส่ี ง่ บรรเลงคล่ืนสมองตา่ จาก
มอบแผ่นกระดาษใหอ้ ยา่ งนอบน้อม จนได้แผน่ กระดาษครบทุก เว็บไซต์
คน นาแผน่ กระดาษมาพบั คร่งึ แลว้ กางออก
๒. นักเรยี นหยดสี น้าลงบน กระดาษทีพ่ ับทางด้านใด ด้านหนึง่ http://www.youtube.com/
จะหยดกี่สีกไ็ ดใ้ หเ้ ปน็ รปู อะไรก็ได้ตา ม จิตนาการของนักเรยี น watch?v=KKfrGnsBrp4ไปด้วย)
ภายในเวลา ๕ นาที
๓. เม่อื ทาเสร็จแลว้ นักเรยี นหยิบขอบกระดาษมาพบั
เหมือนเดมิ ใชม้ อื ลบู กระดาษท่พี ับ เสร็จแลว้ กางออกรอให้สนี ้า
แห้ง
๔. นกั เรยี นสรา้ งรูปภาพเสร็จเรียบรอ้ ย สุ่มนักเรยี นนาเสนอ
เพือ่ นๆ วา่ ตนเองสรา้ งรูปภาพอะไร

๒๖๐

ข้นั กจิ กรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
นกั เรียนรว่ มสนทนาและแสดงความคิดเห็นว่าไดเ้ รียนรูอ้ ะไรบ้าง เพลงบรรเลงคลืน่ สมองต่า
ขั้นสรปุ จากกจิ กรรมที่ทา เพอ่ื เสรมิ ประสบการณ์ในการเรยี นรมู้ ากขน้ึ
(๒ นาท)ี จากเว็บไซต์
http://www.youtube.com/
watch?v=KKfrGnsBrp4

ภาพประกอบ

นักเรยี นจัดแถวเปน็ วงกลมเตรยี มทากจิ กรรม นักเรยี นทาท่าแตะหวั ไหล่

นักเรียนทาทา่ แตะเอว แจกกระดาษใหเ้ พื่อน

นกั เรยี นพบั กระดาษแล้วกางออก นกั เรยี นหยดสีให้เป็นภาพตามจติ นาการ

๒๖๑

ผลงานของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒
บันทึกหลงั การทากจิ กรรม

นักเรียนใหค้ วามสนใจในการทากจิ กรรมเป็นอยา่ งดี มคี วามกระตือรอื รน้ พรอ้ มท่จี ะรับสิง่ ใหม่ ๆ และ
ใหค้ วามร่วมมอื ในการทากิจกรรมเป็นอย่างดี นกั เรยี นมีสมาธพิ รอ้ มทีจ่ ะรับการเรยี นรู้

กจิ กรรมที่ ๙๒ ๒๖๒

ชือ่ กจิ กรรม สอื่ แทนตัว
ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรม นกั เรยี นระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ จานวน ๑๙ คน

ผูจ้ ดั กิจกรรม ๑) นางสาวสกุ ญั ญา เฉนยี ง นกั ศกึ ษาช้นั ปที ่ี ๓ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
วัตถปุ ระสงค์
๒) นางสาวอริยา ทองสม นักศกึ ษาช้นั ปที ่ี ๓ สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ

๓) นางสาวจิรนนั ท์ พิจารย์ นักศกึ ษาช้นั ปีที่ ๓ สาขาวชิ าภาษาอังกฤษ

๑) เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นมสี มาธพิ ร้อมทีจ่ ะเรยี นรู้
๒) เพื่อส่งเสริมจินตนาการให้กบั ผเู้ รียน
๓) เพอ่ื พฒั นาอารมณ์ของผเู้ รียน

แผนการจดั กิจกรรม กจิ กรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
ขัน้
ข้นั นา ๑. นกั เรียนน่งั เป็นวงกลมและทาเบรนยิม ๓ ทา่ เพอ่ื ๑.ดนตรบี รรเลง

( ๒ นาที ) ฝึกสมาธแิ ละเตรยี มความพร้อมก่อนเริ่มกิจกรรม คล่ืนสมองตา่

ขน้ั ร่วมกิจกรรม ขน้ั ตอนการทาเบรนยมิ (ดาวนโ์ หลดจาก
( ๑๕ นาที )
( ท่าท่ี ๑ กา แบ) โดยยกมือข้นึ ทัง้ สองขา้ งข้นึ http://www.you

มอื ข้างขวากาและมือดา้ นซ้ายแบ ทาสลับข้างไปมา 5 ครั้ง tube.com

(ทา่ ที่ ๒ หนึ่ง สอง) โดยยกมอื ข้ึนทั้งสองข้างมอื ขา้ งขวา /watch?v=2i2eV

ช้ีข้นึ ๒ นิ้วและมือด้านซ้ายชีข้ นึ้ สองน้วิ ทาสลับขา้ ง C3v3Tc)

ไปมา ๕ ครั้ง (เปิดตลอดการ

ดาเนินกิจกรรม)

๒. แจกกระดาษใหน้ ักเรียนทุกคน โดยวธิ สี ง่ ตอ่ กัน ๒. กระดาษ A๔
ซ่งึ กอ่ นท่ีจะรับทกุ คนจะไหว้ขอบคณุ เพือ่ นอยา่ ง จานวน ๑๙ แผน่
นอบนอ้ มจนไดก้ ระดาษครบทกุ คน
๓.นกั เรียนพับกระดาษเป็นรปู ตา่ งๆตามจินตนาการ
๔. นกั เรียนแต่ละคนนาเสนอผลงานวา่ ตวั เองพบั
เป็นรูปอะไรและบ่งบอกถึงอะไรในตัวเองโดยเริ่มจาก
คนทห่ี นง่ึ มาถึงคนสุดทา้ ย
๕. นักเรยี นชว่ ยกันร้อยเร่อื งราวจากภาพวาดของตวั เอง
ให้เป็นเร่ืองเดยี วกันโดยเรมิ่ ต้ังแตค่ นสดุ ทา้ ยจนมา
จนถงึ คนที่หนง่ึ
๖. นกั เรยี นทุกคนช่วยกันต้งั ชอื่ นทิ านเรือ่ งดังกล่าว

ขน้ั กจิ กรรม ๒๖๓
สอ่ื /อปุ กรณ์
ขน้ั สรุป ๗. นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคาถามแลว้ พาสนทนาเพ่ิมเตมิ
( ๓ นาที ) เพอ่ื ใหไ้ ดค้ าตอบท่ีหลากหลายเพ่มิ มากขึ้น

ภาพประกอบกิจกรรม
ข้นั นา

นกั เรียนทาเบรนยมิ ท่าที่ ๑ ท่า กาแบ นักเรยี นทาเบรนยมิ ทา่ ที่ ๒ ท่า หนง่ึ สอง
ขนั้ กจิ กรรม

ส่งกระดาษใหท้ กุ คนทกุ คน นกั เรยี นรบั กระดาษครบทกุ คน

นักเรยี นพับกระดาษเป็นรูปตามใจชอบ นักเรียนนาเสนอผลงาน

๒๖๔

ขน้ั สรุป

ตวั แทนนกั เรยี นหญิง ตวั แทนนกั เรยี นชาย

บนั ทึกหลงั การทากจิ กรรม
หลังทากจิ กรรมพบว่านกั เรียนทกุ คนสนใจกจิ กรรม มคี วามกระตอื รือรน้ ในการทากจิ กรรม

สามารถพบั กระดาษเปน็ รูปตามทต่ี นเองชอบไดอ้ ย่างสวยงามและสามารถเลา่ เร่อื งต่อกันไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ท่ีสาคญั นกั เรยี นมีสมาธิพร้อมท่ีจะเรยี น

๒๖๕

กจิ กรรมที่ ๙๓

ช่ือกจิ กรรม เสน้ สนกุ จดุ หรรษา

ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม นักเรยี นระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒ จานวนนักเรียน ๑๔ คน

ผู้จัดกิจกรรม ๑) นางสาวสุคณฑา กลน่ิ ถนอม นักศกึ ษาช้นั ปที ี่ ๓ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
๒) นางสาวสุพัตรา ภูมิภาค นักศึกษาชน้ั ปีท่ี ๓ สาขาวชิ าภาษาอังกฤษ
๓) นางสาวเสาวณยี ์ บุญศรี นกั ศกึ ษาช้ันปีที่ ๓ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ

วัตถปุ ระสงค์ ๑) เพื่อใหผ้ เู้ รียนมสี มาธิพร้อมทจ่ี ะเรยี นรู้
๒) เพือ่ สง่ เสรมิ จินตนาการใหก้ บั ผู้เรียน
๓) เพอ่ื ให้ผเู้ รียนสามารถวาดภาพต่อจุดได้ถูกต้องโดยดจู ากหมายเลขบอกลาดบั
๔) เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนได้แสดงออกถงึ ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นการออกแบบผลงานหรือ
การระบายสผี ลงานของตนใหม้ ีความสวยงาม

แผนการจดั กิจกรรม

ข้นั กจิ กรรม สอ่ื /อุปกรณ์

ข้นั นา ( ๒ นาที ) ใหน้ กั เรียนนงั่ เปน็ วงกลม แลว้ พาทาเบรนยิม ๒ ท่า เพลงบรรเลงคลื่นสมองตา่

เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มก่อนเร่มิ กิจกรรม ดาวนโ์ หลดจากอินเทอรเ์ น็ต

ท่าที่ ๑ ทา่ บีบไหลค่ รง้ั ที่ ๑ นักเรียนน่ังเปน็ วงกลม http://www.youtube.

โดยน่ังชดิ กนั เป็นวงกลมเล็กๆ แล้วนกั เรียนหนั ตัวไป com/watch?v=HqVi-

ทางดา้ นซ้ายมอื ของตวั เอง ยกแขนท้ัง ๒ ข้างขน้ึ แล้วบบี fPRYRQ)

ไหล่เพ่ือนทีอ่ ย่ดู ้านหน้า โดยบีบเบาๆและช้าๆ จานวน ( ตอ้ งเปิดเพลงบรรเลงคลน่ื

๑๐ ครงั้ สมองต่า ก่อนเริ่มการทา

ท่าท่ี ๒ ทา่ บีบไหล่คร้ังท่ี ๒ เมื่อทาเบรนยิมทา่ ท่ี ๑ กจิ กรรมจนจบการทา

เสรจ็ นกั เรยี นจงึ กลบั หลังหัน แลว้ ยกแขนทงั้ ๒ ขา้ งขึ้น กจิ กรรม )

บบี ไหลเ่ พ่อื นทอี่ ยู่ด้านหน้า โดยบบี เบาๆและชา้ ๆ จานวน

๑๐ ครั้ง

ขน้ั ร่วมกิจกรรม ๑. แจกกระดาษท่ีมรี อยจดุ ต่อกนั เป็นรูปสัตวช์ นดิ ๑. กระดาษทม่ี รี อยจดุ

( ๑๕ นาที ) ตา่ งๆให้นกั เรียนคนแรก โดยก่อนที่นักเรียนคนแรกจะรบั ตอ่ กนั เปน็ รูปสัตว์ชนิดต่างๆ

กระดาษจะไหวข้ อบคณุ คณุ ครกู อ่ น แลว้ จงึ ส่งต่อใหเ้ พือ่ น จานวนเทา่ กับจานวน

คนถัดไปและเพอื่ นทอ่ี ยู่ถดั ไปก็จะส่งต่อกนั ไปเรื่อยๆ ซงึ่ นักเรยี น ( ในท่นี ี้นักเรยี นมี

๒๖๖

ข้นั กิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์

ก่อนท่ีจะรับ ทกุ คนจะไหวข้ อบคณุ เพ่อื นอย่างนอบน้อม จานวน ๑๔ คน กระดาษจึง

จนไดก้ ระดาษครบทุกคน มีจานวน ๑๔ แผน่ )

( นักเรยี นแตล่ ะคนจะได้กระดาษท่เี ป็นรูปสตั วไ์ ม่ซา้ กัน ) ๒. ดนิ สอ

๒. นักเรียนเขียนตามรอยจดุ จากจดุ หนึง่ ไปยงั อกี ๓. สีไม/้ สเี ทียน

จุดหน่ึงตามลาดับ ซึ่งดจู ากหมายเลขบอกลาดบั ของแต่

ละรปู เม่อื นักเรยี นเขยี นตามจดุ ไดถ้ กู ตอ้ งจงึ ใหร้ ะบายสี

ตามจินตนาการของตนเอง

๓. นักเรยี นระบายสีเสรจ็ แลว้ จึงให้นกั เรยี นแต่ละ

คนมานาเสนอหน้าชน้ั เรียนว่าตนวาดตอ่ จุดเป็นรปู สัตว์

ชนดิ ใด

ข้ันสรปุ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ การทากจิ กรรม พรอ้ ม
( ๓ นาที ) เสริมประสบการณ์ให้นักเรยี นได้เกิดความรทู้ หี่ ลากหลาย
เช่น การพดู คยุ เก่ียวกับสตั วท์ น่ี กั เรยี นชนื่ ชอบ หรือสัตว์
เลีย้ งของตนเองว่ามลี ักษณะอยา่ งไรบา้ งและเพราะเหตุใด
จงึ ชนื่ ชอบสตั วช์ นดิ นั้น

ภาพประกอบ

กระดาษทมี่ ีรอยจดุ ตอ่ กนั เปน็ รูปสัตว์ชนิดต่างๆ นกั เรียนนัง่ เปน็ วงกลมก่อนทาเบรนยมิ

๒๖๗

เบรนยมิ ท่าที่ ๑ ทา่ บบี ไหล่คร้ังที่ ๑ เบรนยมิ ทา่ ท่ี ๒ ท่าบีบไหลค่ ร้งั ท่ี ๒

สง่ กระดาษทมี่ รี อยจดุ ต่อกันเปน็ รูปสตั วช์ นดิ ตา่ งๆ เขียนตามรอยจดุ และระบายสตี ามจนิ ตนาการ

นักเรยี นแต่ละคนออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น เมอ่ื เสร็จกจิ กรรมนักเรยี นถา่ ยรูปร่วมกนั

บันทกึ หลังการทากจิ กรรม

หลังการทากจิ กรรมพบวา่ นักเรียนทุกคนให้ความสนใจในการทากิจกรรม สนุกสนานกบั การวาดภาพ
ต่อจดุ สามารถวาดภาพตอ่ จุดไดถ้ ูกต้องและมีการระบายสีรปู ภาพของตนเองไดอ้ ยา่ งสวยงาม ชว่ ยกนั แสดง
ความคิดเห็นและท่สี าคญั นักเรียนมีสมาธพิ รอ้ มทจ่ี ะเรยี นรู้

๒๖๘

กิจกรรมท่ี ๙๔

ช่อื กิจกรรม เส้นสรา้ งภาพ

ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม นกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ จานวน ๒๓ คน

ผูจ้ ดั กิจกรรม ๑) นางสาวกลั ยา เสนาบญุ นักศกึ ษาชัน้ ปีท่ี ๓ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรท์ วั่ ไป
๒) นางสาวกติ ยิ า จงใจสทิ ธิ์ นกั ศกึ ษาชัน้ ปีที่ ๓ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป
๓) นางสาวจรรญารัตน์ อยดู่ ี นกั ศกึ ษาช้นั ปที ่ี ๓ สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ทว่ั ไป

วตั ถุประสงค์ ๑) เพ่ือให้ผู้เรยี นมสี มาธิพรอ้ มทจ่ี ะเรยี นรู้
๒) เพ่ือสง่ เสริมความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรคใ์ ห้กับผเู้ รยี น

แผนการจัดกจิ กรรม

ข้นั กจิ กรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
ให้นกั เรยี นนงั่ เป็นวงกลม แลว้ พาทาเบรนยมิ ๒ ทา่ เพือ่ เตรยี ม
ขัน้ นา ความพรอ้ มก่อนเริม่ กจิ กรรม ดงั น้ี - เพลงบรรเลง
(๒ นาท)ี ท่าท่ี ๑ กามือทั้งสองขา้ งและแบมือสลับกนั ๑๐ ครั้ง คล่นื สมองต่า
ท่าท่ี ๒ มือดา้ นซา้ ยกามือ มอื ดา้ นขวาชนู ิ้วชี้ สลับกนั ๑๐ คร้งั

ขั้นรว่ มกิจกรรม ๑) แจกแผ่นกระดาษให้นักเรยี นทกุ คน โดยวธิ ีส่งต่อกนั ซึง่ ก่อนทจี่ ะ - เพลงบรรเลง
(๑๕ นาท)ี รบั ทุกคนจะไหวข้ อบคณุ เพ่อื นอย่างนอบน้อม จนได้แผ่นกระดาษ คล่ืนสมองต่า
ครบทุกคน - กระดาษ
๒) ให้นกั เรยี นเขียนเสน้ ประกอบเปน็ ภาพตา่ งๆ ตามท่ตี ้องการ - ดนิ สอ
เชน่ หนา้ คน ปลา หมี ดอกไม้ ฯลฯ
๓) ใหน้ ักเรยี นจัดแสดงผลงานพร้อมอภปิ รายผลงานของตนเอง
๔) เมอื่ เสร็จสน้ิ กิจกรรมให้นกั เรียนช่วยกนั เก็บวสั ดุอุปกรณแ์ ละดแู ล
รักษาความสะอาด เรียบรอ้ ย ในบริเวณทไี่ ดป้ ฏบิ ัติกิจกรรม

ข้นั สรปุ ถามนักเรียนวา่ วันนีไ้ ด้เรยี นรอู้ ะไรบ้าง นักเรยี นรว่ มตอบคาถาม - เพลงบรรเลง
(๓ นาท)ี
จากนั้นพานักเรียนสนทนาเพอื่ ใหไ้ ด้คาตอบสิ่งท่ไี ด้เรยี นรู้อย่าง คลื่นสมองต่า

หลากหลาย

๒๖๙

ภาพประกอบ

เบรนยิมทา่ ที่ ๑ กามือและแบมือสลับกนั ๑๐ ครัง้ เบรนยิมทา่ ที่ ๒ มอื ดา้ นซา้ ยกามอื มือดา้ นขวาชนู ้วิ ชี้
สลับกนั ๑๐ ครั้ง

แจกแผน่ กระดาษใหน้ กั เรียนเขียนเส้นประกอบเปน็ ภาพต่างๆ ตามความคดิ ของตนเอง

นกั เรียนแสดงผลงานพรอ้ มอภปิ รายผลงานของตนเองและนักเรยี นรว่ มตอบคาถาม
บันทกึ หลงั การทากิจกรรม

หลงั ทากจิ กรรมพบว่านักเรียนทกุ คนสนใจกจิ กรรม มีความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ สามารถวาดภาพ
ต่อจากเสน้ ท่กี าหนดไว้ ตามความคิดของตนเองไดเ้ ป็นรปู ภาพตา่ งๆกัน และทส่ี าคัญนักเรยี นมีสมาธิ
พรอ้ มที่จะเรยี นในวิชาตอ่ ไป

กจิ กรรมที่ ๙๕ ๒๗๐

ชอื่ กจิ กรรม หนนู อ้ ยเลา่ เร่ือง

ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม นกั เรยี นระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓ จานวน ๒๓ คน

ผู้จดั กจิ กรรม ๑) นางสาวจารวุ รรณ สวุ รรณโท นกั ศกึ ษาชนั้ ปีท่ี ๓ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์
๒) นางสาวจิราพร ศรีพงษ์ชู นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์
๓) นางสาวชลิดา บุรตั น์ นักศึกษาช้ันปีท่ี ๓ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์

วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือให้ผ้เู รียนเกิดทกั ษะกระบวนการคิด ๓)
๒) เพ่ือส่งเสรมิ จินตนาการใหก้ ับผู้เรียน
เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีความสามัคคี

แผนการจดั กจิ กรรม

ข้นั กิจกรรม สอ่ื /อุปกรณ์
ข้ันนา (๒ นาที) นักเรยี นนั่งเปน็ วงกลม แลว้ พาทาเบรนยิม ๒ ทา่ เพลงคล่นื สมองตา่
เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มกอ่ นเร่ิมทากจิ กรรม http://www.youtube.com
ข้นั รว่ มกิจกรรม ๑. ทาเบรนยิมทา่ ที่ ๑ ท่ากามือและแบมอื เรม่ิ จากยกมือ /watch?v=yMwtysCYj0o
(๑๕ นาที) ทั้งสองขา้ งขน้ึ มาใหอ้ ยใู่ นระดบั หน้าอก โดยเรม่ิ จากมือซ้ายกา
และมอื ขวาแบมอื ทาแบบนี้สลับกันไปมา ๑๐ คร้งั หมวกกระดาษ
๒. ทาเบรนยิมท่าที่ ๒ ตะปูกับกระดาษ เร่ิมจากแบมือ
ทัง้ สองข้างขึน้ มาใหอ้ ย่ใู นระดบั หน้าอก โดยเรมิ่ จากข้างซา้ ย
ชนู ้ิวชี้ข้นึ ๑ นว้ิ และขา้ งขวาแบมือ ทาแบบน้ีสลับกันไปมา
๑๐ ครง้ั
๑. นักเรยี นน่ังนิ่ง ๆ แลว้ คอ่ ย ๆ หลับตา จากน้ัน
แจกหมวกรูปภาพให้นกั เรยี นคนละ ๑ ใบ
๒. นักเรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม แล้วใหน้ ักเรียน
เลา่ นิทานจากรปู ภาพทน่ี กั เรยี นได้ เปน็ นทิ านสน้ั ๑ เรือ่ ง

ข้ันสรุป (๓ นาท)ี ถามนักเรียนว่า วันนไี้ ด้เรียนรอู้ ะไรบา้ ง นักเรียนร่วม
ตอบคาถาม และรว่ มสรปุ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรอู้ ย่างหลากหลาย

๒๗๑

ภาพประกอบ

นักเรยี นน่งั เป็นวงกลม ทาเบรนยิมท่าท่ี ๑ ทา่ กามือและแบมือ

ทาเบรนยิมท่าที่ ๒ ท่าตะปูกบั กระดาษ แจกหมวกรปู ภาพใหน้ ักเรียนคนละ ๑ ใบ

นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ เป็น ๒ กลมุ่ นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ เลา่ นทิ านจากรปู ภาพ

๒๗๒

ถามนกั เรยี นวา่ วันนี้นักเรียนได้เรียนร้อู ะไรบา้ ง หลงั จากเสร็จกิจกรรมรว่ มถ่ายภาพกับครู

บนั ทึกหลงั การทากิจกรรม

หลังทากิจกรรมพบว่านกั เรยี นทกุ คนสนใจกิจกรรม สนุกสนานกับการเลา่ นทิ าน มีจินตนา การทดี่ ีและ
สามารถเลา่ นิทานได้ตามจินตนาการของตนเองในรปู แบบทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไป และท่สี าคัญนกั เรียน มสี มาธิ
พรอ้ มท่จี ะเรียนรูม้ าก ตง้ั ใจท่ีจะเล่านิทานให้ออกมาดี และเปน็ เรอื่ งราวทส่ี นกุ สนาน มคี วามคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์

๒๗๓

กจิ กรรมที่ ๙๖

ช่อื กิจกรรม หลอดจินตนาการ

ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม นกั เรยี นระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (จานวน ๑๙ คน)

ผจู้ ัดกจิ กรรม ๑ ) นางสาวปยิ นชุ มลรี ัตน์ นักศกึ ษาช้นั ปที ี ๓ สาขาวชิ าภาษาอังกฤษ
๒ ) นางสาวพมิ พ์ชนก มธี รรม นกั ศึกษาช้นั ปที ี่ ๓ สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ
๓ ) นางสาวเพชรรตั น์ คาแดงไสย์ นกั ศึกษาชัน้ ปที ่ี ๓ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ

วัตถปุ ระสงค์ ๑ ) เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมสี มาธพิ ร้อมท่ีจะเรยี นรู้
๒ ) เพื่อส่งเสรมิ ใหก้ บั ผเู้ รยี นมีจินตนาการ

แผนการจดั กิจกรรม

ขนั้ กิจกรรม สอ่ื /อุปกรณ์
ขน้ั นา ให้นักเรียนนัง่ เปน็ วงกลม แลว้ พาทาเบรนยิม ๓ ท่า เพอื่ ๑.เพลงบรรเลงคล่ืนสมองตา่
เตรียมความพร้อมกอ่ นเริม่ กิจกรรม
( ๒ นาท)ี http://www.youtube.com/
เบรนยิม watch?v=zCuHGM-pRAU

ท่าท่ี ๑ กาแบ โดยใหน้ กั เรยี นกามอื ซ้าย มอื ขวา
สลับกนั ไปมา ๕ ครงั้

ท่าท่ี ๒ จบี L โดยให้นักเรียนจบี มอื ซา้ ย มอื ขวาทาเปน็
ตวั L ทาสลบั กันไปมา ๕ ครัง้

ท่าที่ ๓ ทาท่าประกอบเพลงความเกรงใจ ใหน้ กั เรยี น ๒. เพลงความเกรงใจ
เอามอื ทั้งสองข้างแตะที่ศีรษะ, ไหล่ และที่เอว และย่ืน
แขนออกมาข้างหน้าทงั้ ๒ ข้าง สะบัดมือขึ้นลง ๓ ครง้ั
แลว้ ปรบมอื ๑ คร้ัง ทา ๓ รอบ

๒๗๔

ข้ัน กจิ กรรม สอ่ื /อุปกรณ์

ข้นั รว่ มกิจกรรม ๑. แจกหลอด ใหท้ กุ คน โดยวธิ ีส่งต่อกนั ซึ่งกอ่ นท่จี ะรับ ๓.หลอด
( ๑๕ นาท)ี ทุกคนจะไหว้ขอบคณุ เพ่ือนอยา่ งนอบนอ้ ม จนไดห้ ลอด
ครบทกุ คน

๒. ใหน้ กั เรยี นนับจานวน๑-๓ แลว้ นง่ั ตามกลุม่ ที่ตัวเอง
นบั ได้

๓. ให้นกั เรียนนาหลอดออกมาวางเรยี งกนั เปน็ กลุ่มโดย
ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มวางหลอดให้เปน็ รูปรา่ งตาม
จนิ ตนาการของตวั เอง

๔. ให้ตวั แทนนักเรยี นในกลุ่มอธิบายใหเ้ พอื่ นฟงั ว่าทา
เป็นรปู อะไร

ขน้ั สรปุ ถามนกั เรยี นว่า วันนไ้ี ดเ้ รยี นรูอ้ ะไรบ้างนักเรยี นตอบ
( ๓ นาท)ี คาถาม ครพู าสนทนาเพอื่ เพิ่มประสบการณ์ในการเรียนรู้
ใหม้ คี วามถูกต้องชัดเจนยิง่ ขน้ึ

ภาพประกอบ

น่ังสมาธิกอ่ นทากจิ กรรม เบรนยิมท่าท่ี ๑ กาแบ

๒๗๕

เบรนยมิ ท่าที่ ๒ จบี เบรนยิมท่าที ๓ ทา่ ประกอบเพลง ความเกรงใจ

ขนั้ ตอนท๑ี่ .แจกหลอด ให้ทกุ คน โดยวิธีส่งตอ่ กนั ซึง่ กอ่ นท่จี ะรับทุกคนจะไหวข้ อบคณุ เพ่อื นอยา่ งนอบน้อม

ข้ันท่ี ๒. นกั เรยี นนาหลอดออกมาวางเรยี งกนั เป็นกลมุ่ โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ วางหลอดใหเ้ ปน็ รปู ร่างตาม
จนิ ตนาการตัวเองและนกั เรียนนาหลอดออกมาวางเรียงกันเปน็ กลุ่มโดยใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มวางหลอดใหเ้ ปน็
รูปร่างตามจนิ ตนาการของตวั เอง
บันทึกหลงั การทากจิ กรรม

หลังทากจิ กรรมพบว่านักเรียนทุกคนสนใจกจิ กรรม สนกุ สนานกับ การเลา่ นิทาน มีจินตนาการทดี่ แี ละ
สามารถเลา่ นิทานไดต้ ามจนิ ตนาการของตนเองในรปู แบบทแี่ ตกตา่ งกันออกไป และทส่ี าคญั นกั เรยี น มสี มาธิ
พรอ้ มที่จะเรยี นร้มู าก ตง้ั ใจท่ีจะเล่านิทานใหอ้ อกมาดี และเปน็ เรอื่ งราวท่สี นกุ สนาน มคี วามคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์

๒๗๖

กิจกรรมท่ี ๙๗

ช่ือกจิ กรรม หลอดดดู มหัศจรรย์
ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม นักเรยี นระดับช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ จานวน ๑๙ คน
ผู้จดั กจิ กรรม ๑) นางสาวปิยนชุ ศริ ิสนิ นักศึกษาช้นั ปที ี่ ๓ สาขาวิชาภาษาองั กฤษ
๒) นางสาวพรง้ิ ไพลิน วเิ ศษศรี นักศึกษาช้นั ปีท่ี ๓ สาขาวิชาภาษาองั กฤษ
วตั ถปุ ระสงค์ ๓) นางสาวเพ็ญนภา ภ่พู ตั ร นักศึกษาชน้ั ปที ่ี ๓ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
๑) เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมสี มาธิพร้อมที่จะเรียนรู้
๒) เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมีความสามัคคกี ัน
๓) เพ่อื ส่งเสรมิ จนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์ใหก้ บั ผู้เรยี น

แผนการจดั กิจกรรม

ขัน้ กิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
ขน้ั นา
( ๒ นาท)ี นกั เรยี นนั่งเปน็ วงกลม ทาเบรนยิม ๒ ทา่ เพลงบรรเลงคล่นื สมอง
ท่าแรก ท่ากระตนุ้ สมอง ยกมือทงั้ สองขา้ งขน้ึ เหนือศรี ษะ และใช้นิ้ว ตา่ ดาวนโ์ หลดได้จาก
ข้นั ร่วมกิจกรรม มอื ท้ังสองข้างเคาะลงบนศรี ษะเบาๆ โดยนับ ๑-๑๐ http://www.youtube.
( ๑๕ นาท)ี ท่าที่สอง ทา่ กระต้นุ ระบบหายใจ ใชม้ อื ทัง้ สองขา้ งเคาะทห่ี นา้ อก com/watch?v=2i2eV
เบาๆโดยนับ ๑-๑๐ เพอ่ื เตรียมความพร้อมก่อนเร่มิ กจิ กรรม C3v3Tc )
ขั้นสรปุ ๑. นาเขา้ เรอ่ื งโดยเลา่ ประโยชนข์ องหลอดดูดใหน้ ักเรียนฟงั และ ๑. เพลงบรรเลงคลน่ื
( ๓ นาท)ี ยกตวั อยา่ งวา่ หลอดดดู สามารถประดษิ ฐ์เป็นอะไรได้บ้าง เชน่ ช่อ สมองตา่ (สามารถดาวน์
ดอกไม้ ดาว เป็นตน้ โหลดไดจ้ าก
๒. ตงั้ คาถามวา่ หลอดดูดสามารถประดษิ ฐ์เปน็ อะไรได้อีกบ้าง http://www.youtube.
๓. นักเรียนทุกคนตอบคาถามโดยคาตอบจะตงั้ มาซ้ากัน com/watch?v=2i2eV
๔. จดั นกั เรียนออกเป็น ๖ กลมุ่ กล่มุ ละ ๓ คน C3v3Tc )
๕. แจกหลอดดดู ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ กลุ่มละ ๓๐ อนั นกั เรียน ๒. หลอดดูด
ช่วยกนั สรา้ งหอคอยใหส้ งู ท่สี ดุ ๓. เทปใส
๖. เม่อื นักเรยี นสรา้ งหอคอยเสร็จ ใหน้ กั เรียนนาเสนอเพื่อนว่า
หอคอยท่ตี นสรา้ งชอ่ื อะไรและสมมติวา่ หอคอยเป็นของจริงหอคอยนี้
มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร

ครแู ละนกั เรยี นร่วมแสดงความคดิ เห็นในกจิ กรรมทีไ่ ดท้ า ครเู สรมิ
และเพิ่มเติมในส่งิ ที่นกั เรียนได้เรียนรู้จากการทากจิ กรรม

๒๗๗

ภาพประกอบกิจกรรม

ทาเบรนยิมทา่ กระต้นุ สมอง โดยนับ ๑-๑๐ ทาเบรนยิมท่ากระตนุ้ ระบบ
หายใจโดยนับ ๑-๑๐

นาเข้าเรื่องโดยเลา่ ประโยชน์ของหลอดดูด นกั เรียนทกุ คนตอบคาถามโดย
คาตอบจะต้ังมาซา้ กัน

จดั นกั เรยี นออกเปน็ ๖ กลมุ่ กล่มุ ละ ๓ คน นกั เรียนช่วยกันสรา้ งหอคอยใหส้ ูง
ที่สุด

๒๗๘

นกั เรียนนาเสนอเพื่อนวา่ หอคอยท่ตี นสรา้ ง ครูและนกั เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ใน
ชอื่ อะไรและสมมตวิ ่าหอคอยเป็นของจริง กจิ กรรมทไ่ี ดท้ า ครูเสริมและเพ่มิ เติมในสงิ่
หอคอยนม้ี ีประโยชน์อย่างไร ทนี่ ักเรียนไดเ้ รียนรจู้ ากการทากจิ กรรม

บันทึกหลงั การทากจิ กรรม

หลังทากิจกรรมพบว่านกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ทกุ คนสนใจกจิ กรรมและใหค้ วามร่วมมือเป็น
อยา่ งดี มีความกระตือรือรน้ กับกจิ กรรมทีจ่ ดั ขึ้น นกั เรียนสามารถคดิ ได้ว่าหลอดสามารถประดษิ ฐ์เป็ นอะไรได้
บ้างนอกจากใช้ดดู นา้ และนกั เรยี นยังสามารถใช้ทกั ษะกระบวนการคดิ ในการสรา้ งหอคอยและทสี่ าคญั นกั เรียน
มีสมาธิพรอ้ มท่ีจะเรยี นรู้

๒๗๙

กจิ กรรมท่ี ๙๘

ช่อื กิจกรรม หอคอยสูง

ผ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรม นักเรียนระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ จานวนนกั เรียน ๑๗ คน

ผจู้ ดั กิจกรรม ๑) นางสาวปภัสรา มาสขาว นักศึกษาช้นั ปที ี่ ๓ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์
๒) นางสาวปยิ นุช นลิ ดา นักศกึ ษาช้นั ปที ่ี ๓ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์
๓) นางสาวผุสรตั น์ เมอื งพิล นักศึกษาชนั้ ปีท่ี ๓ สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์

วตั ถุประสงค์ ๑) เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนมีสมาธพิ ร้อมทจ่ี ะเรียนรู้
๒) เพอ่ื สง่ เสรมิ จนิ ตนาการให้กับผ้เู รยี น
๓) เพือ่ ให้ผ้เู รียนเกิดความสามคั คี

แผนการจดั กิจกรรม

ขัน้ กิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
ขัน้ นา (๓ นาท)ี ๑. ให้นกั เรยี นน่ังเปน็ วงกลม แล้วพาทากจิ กรรมบรหิ ารสมอง ฝึก - เพลงบรรเลง
สมาธเิ ตรยี มความพร้อมก่อนเรมิ่ กจิ กรรม ซงึ่ มีท่า ดังน้ี คลื่นสมองต่า
ขัน้ ร่วมกจิ กรรม - ช่อื เพลงสวรรค์
(๑๔ นาท)ี - ยกมอื ท้งั ๒ ขา้ งข้นึ มา ชัน้ มายา
- เคาะเบาๆบรเิ วณศรี ษะ แลว้ เลื่อนมือลงไปท่ที า้ ยทอย จากนนั้ - ที่มาจาก
ข้ัน นวดเบาๆบรเิ วณท้ายทอย Youtube
- จากน้ันเคาะเบาๆทไ่ี หปลาร้า เลอ่ื นมือลงไปนวดทีแ่ ขนทีละข้าง
- นอนหงายเปน็ วงกลมแล้วหลับตา - ไม้ไอศครมี
๒. ให้นักเรียนแบง่ กล่มุ แบบคละ โดยใชว้ ิธนี ับ ๑-๔ จะได้กลุม่ ละ - ดนิ น้ามนั
๔-๕ คน - โดมิโน่
๓. ชแ้ี จงกฎกติกาในการตอ่ หอคอย โดยถ้ากลุ่มไหนส่งเสยี งดังจะให้
กลุม่ นัน้ หยุดต่อหอคอยทนั ทีเป็นเวลา ๒ นาที แลว้ ค่อยเริ่มตอ่ ใหม่ สือ่ /อุปกรณ์

กิจกรรม
๔. แจกอปุ กรณ์ใหก้ ล่มุ ละ ๑ ชดุ ซ่งึ ก่อนทีจ่ ะรับทกุ คนจะไหว้
ขอบคุณอยา่ งนอบน้อม เพอ่ื ใหไ้ ด้อุปกรณ์ครบทุกกลุ่ม
๕. ให้นกั เรยี นต่ออุปกรณท์ ไี่ ดใ้ หเ้ ป็นหอคอยท่สี งู ทีส่ ุด
๖. เมือ่ นักเรียนตอ่ เสรจ็ กจ็ ะหากลมุ่ ทีต่ ่อสงู ที่สดุ ครมู อบรางวัล
ใหก้ บั กลุ่มทตี่ อ่ หอคอยได้สงู ที่สุด

ข้นั กิจกรรม ๒๘๐
ข้ันสรุป (๒ นาท)ี ๗. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปเพื่อใหไ้ ดค้ วามรูท้ หี่ ลากหลาย สอ่ื /อปุ กรณ์

ภาพกิจกรรม

ท่าเคาะสมอง ท่านวดท้ายทอย
ท่าเคาะไหปลารา้ ท่านวดแขน

เดก็ ๆนอนเป็นวงกลม เด็กๆนั่งเปน็ วงกลมเพื่อแบง่ กลมุ่

๒๘๑

เด็กๆเร่มิ ต่อหอคอย ผลงานการตอ่ หอคอย

บนั ทึกหลังการทากจิ กรรม
หลังทากิจกรรมพบว่าผเู้ รียนทุกคนสนใจกิจกรรม มีจินตนาการทีด่ ีและทาให้ผ้เู รียนมสี มาธมิ ากยง่ิ ข้ึน

เพราะถา้ ผ้เู รยี นไม่มสี มาธจิ ะไมส่ ามารถต่อหอคอยได้ ถ้าต่อได้หอคอยกจ็ ะพงั และกจิ กรรมนี้ทาใหผ้ ้เู รียนเกิด
ความสามัคคใี นหมคู่ ณะ

๒๘๒

กจิ กรรมท่ี ๙๙

ช่ือกิจกรรม หินนอ้ ยหรรษา

ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม นกั เรยี นระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ จานวนนกั เรยี น ๑๔ คน

ผจู้ ดั กิจกรรม ๑) นางสาวณรศิ รา สมหวงั นักศึกษาช้นั ปที ี่ ๓ สาขาวชิ าภาษอังกฤษ
๒) นางสาวดรุณี หงส์ช้ัน นักศกึ ษาชนั้ ปีที่ ๓ สาขาวิชาภาษองั กฤษ
๓) นางสาวนิตยา ลานุสัตย์ นกั ศกึ ษาชั้นปที ่ี ๓ สาขาวิชาภาษอังกฤษ

วตั ถุประสงค์ ๑) เพือ่ ให้ผ้เู รียนมีสมาธิพรอ้ มที่จะเรียนรู้
๒) เพ่ือส่งเสรมิ จนิ ตนาการให้กบั ผเู้ รยี น

แผนการจดั กจิ กรรม

ข้ัน กิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์
ขน้ั นา นักเรยี นนัง่ เปน็ วงกลม แลว้ เปดิ เพลงบรรเลงพร้อมกับพาทา เพลงบรรเลงคลน่ื
( ๒ นาท)ี เบรนยมิ ๓ ทา่ เพ่ือเตรยี มความพรอ้ มที่จะเรียนรู้ สมองต่า
๑) ท่าแอลไอ:ยกมือทงั้ สองข้างข้นึ มา มอื ข้างซา้ ยชนู ิ้วชี้ มอื ขา้ ง Download จาก
ขนั้ รว่ มกิจกรรม ขวาชนู ิว้ ชแี้ ละนิว้ โปง้ แลว้ ทาสลับกนั ไปมา ๙ ครง้ั Internet
( ๑๕ นาท)ี ๒) ท่าห้าสอง:ยกมือท้งั สองขา้ งขน้ึ มา มอื ข้างซา้ ยชูห้าน้วิ มอื www.youtube.com
ข้างขวาชสู องนิ้วแล้วทาสลบั กนั ไปมา ๙ คร้งั
ขน้ั สรุป ๓) ทา่ โป้งกอ้ ย:ยกมือทัง้ สองขา้ งข้ึนมา มือข้างซา้ ยชนู ้วิ โปง้ มอื ๑) ก้อนหิน
( ๓ นาที) ข้างขวาชนู ิ้วก้อยแล้วทาสลบั กันไปมา ๙ คร้ัง ๒) กระดาษ A๔
๑) นักเรยี นได้รบั กระดาษคนละ ๑แผน่ และจากน้ันแจกหินให้ทกุ
คน โดยวธิ สี ่งต่อกนั ซงึ่ กอ่ นท่จี ะรบั ทุกคนจะไหว้ขอบคณุ เพื่อนอยา่ ง
นอบนอ้ มจนได้หินครบทกุ คน
๒) ใหน้ กั เรยี นเรยี งกอ้ นหนิ เป็นตัวเลขฮนิ ดอู าราบิคตวั ไหนกไ็ ดท้ ่ี
ตนเองชอบ เม่อื ทาเสร็จครบทกุ คนแลว้ ให้นาเสนอให้เพ่อื นฟังทีละคน
๓) จากนนั้ ให้นักเรียนเรียงหินเปน็ รปู อะไรก็ไดต้ ามท่ตี นเองชอบ
๔) ใหน้ ักเรียนนาเสนอชนิ้ งานของตนเอง เพอื่ นวา่ ตนต่อเป็นรปู
อะไร ทาไมจงึ ตอ่ เปน็ รปู นัน้ โดยการสุ่ม
ครรู ่วมสนทนากบั นกั เรยี นเพอ่ื เสริมประสบการณแ์ ละเพิ่มความรู้
ใหก้ บั นกั เรยี น

๒๘๓

ภาพกจิ กรรม

เบรนยมิ ท่าท่ี ๑ (ทา่ แอลไอ) เบรนยมิ ท่าท่ี ๒ (ทา่ หา้ สอง)

เบรนยิมท่าท่ี ๓ (ท่าโป้งก้อย ) รบั สงิ่ ของจากเพ่อื นด้วยการขอบคณุ

เรียงหนิ ใหเ้ ป็นตัวเลขฮินดูอารบคิ นาเสนอใหเ้ พ่ือนฟงั

๒๘๔

เรยี งหินใหเ้ ปน็ รูปที่ตนเองชอบหรอื ประทบั ใจ นาเสนอให้เพื่อนฟัง

บนั ทึกหลงั การทากิจกรรม

หลงั ทากิจกรรมพบว่านักเรียนทกุ คนสนใจละตง้ั ใจทากจิ กรรมดีมาก มีสมาธสิ ามารถเรียงกอ้ นหนิ ของ
ตนเองได้ไมว่ า่ จะเปน็ รูปท่ีกาหนดใหห้ รอื รูปตามทต่ี นเองชอบได้ และท่ีสาคญั นักเรียนมสี มาธิพร้อมทจ่ี ะเรียน

๒๘๕

กิจกรรมท่ี ๑๐๐

ชอ่ื กิจกรรม อวยั วะแสนรกั

ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม นกั เรียนระดับช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑ จานวนนกั เรียน ๓๓ คน

ผู้จดั กจิ กรรม ๑) นางสาวพรภิรมย์ ลบไทยสงค์ นักศกึ ษาชน้ั ปที ี่ ๓ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์

๒) นางสาวแพรวนภา สรรพวธุ นกั ศึกษาชั้นปที ่ี ๓ สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์

๓) นางสาวภัทรศร นาไชย นกั ศึกษาชนั้ ปที ี่ ๓ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์

วัตถปุ ระสงค์ ๑) เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีสมาธพิ ร้อมท่จี ะเรยี น

๒) เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมจี นิ ตนาการ

แผนการจดั กิจกรรม

ขน้ั กิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์

๑. นานกั เรียนทาทา่ เบรนยมิ โดยมที ้ังหมด ๓ ท่า - เพลงบรรเลง

ขน้ั นา ( ๒ นาท)ี ท่าที ๑ ทา่ แตะจมกู แตะหู ดนตรี

- มือขวาออ้ มไปแตะทหี่ ูซา้ ย ส่วนมอื ซ้ายให้ไปแตะท่ีจมกู ดาวน์โหลดจาก

- เปลี่ยนมาเปน็ มอื ซา้ ยออ้ มไปแตะที่หูขวา สว่ นมือขวาไปแตะที่จมูก youtube

- ให้ทาสลบั กนั ไปมา ๑๐ ครั้ง

ทา่ ที่ ๒ ทา่ จบี L

- ยกมือทงั้ สองขา้ งขน้ึ มาใหม้ อื ขวาทาทา่ จีบ โดยใชน้ วิ้ หวั แมม่ อื ประกบ

กบั น้ิวช้สี ่วนนิ้วอน่ื ๆให้เหยียดออกไป

- มือซ้ายใหท้ าเป็นรูปตวั แอล (L) โดยให้กางนิว้ หวั แม่มอื กบั น้วิ ช้ีออกไป

สว่ นน้วิ ที่เหลือใหก้ าเอาไว้

- เปลย่ี นเปน็ จีบด้วยมอื ซา้ ยบ้างทาเชน่ เดยี วกับข้อท่ี ๑ สว่ นมือขวาก็ทา

เป็นรูปตัวเเอล (L)เช่นเดียวกบั ขอ้ ๒

- ให้ทาสลับกันไปมา ๑๐ ครั้ง

ทา่ ท่ี ๓ ปุ่มใบหู

- ให้นิ่วหวั แม่มือกับน้ิวชี้จับท่สี ่วนบนสดุ ดา้ นนอกของใบหูทัง้ ๒ ขา้ ง

- นวดตามรมิ ขอบนอกของใบหทู ั้ง ๒ ข้างพรอ้ มๆกันให้นวดไลล่ งมา

จนถงึ ตงิ่ หูเบา ๆ

- ทาซา้ ขนึ้ ลง ๕ คร้งั

ขน้ั รว่ มกจิ กรรม ๒. แจกกระดาษสาหรบั วาดภาพให้กบั นักเรยี นทุกคนโดยวธิ ียนื่ ส่งต่อกัน กระดาษ

( ๑๕ นาที) ซ่ึงก่อนรับทุกคนต้องไหว้ขอบคุณเพ่ือนอยา่ งนอบน้อมจนไดก้ ระดาษ สาหรบั วาดภาพ

สาหรับวาดภาพครบทกุ คน

๒๘๖

ข้นั กจิ กรรม สอ่ื /อุปกรณ์

๓. ให้นักเรียนวาดภาพอวัยวะในร่างกายทีต่ นเองชอบท่ีสุดมาคนละ ๑

อยา่ ง

๔. เม่ือนกั เรียนวาดภาพเสรจ็ ให้นักเรียนนาเสนอว่าภาพทีน่ กั เรยี นวาด

คืออวัยวะสว่ นใดและมีหนา้ ท่ีอะไร

๕. พานักเรียนสนทนาจนได้คาตอบและสรุป นักเรียนได้อะไรในวนั น้ี
ขนั้ สรปุ ( ๓ นาท)ี ๖. ถามนกั เรยี นว่าได้เรียนร้อู ะไรบ้าง นกั เรียนรว่ มตอบคาถาม

ภาพกิจกรรม

๑. นกั เรยี นทาความเคารพกอ่ นเรมิ่ ทากิจกรรม ๒. เรม่ิ ทาเบรนยิม

๓. ทาเบรนยิมก่อนเรมิ่ กจิ กรรม ๔. ให้คาปรกึ ษาแกน่ ักเรยี น

๕. ใหค้ าแนะนาแก่นกั เรยี น ๖. นักเรยี นกาลังวาดภาพอวัยวะท่ตี นเองชอบ

๒๘๗

๗. พานกั เรียนสนทนาจนไดค้ าตอบและสรปุ ๘. ผลงานนักเรียน

บันทึกหลังการทากิจกรรม

หลงั จากไดท้ ากจิ กรรมแล้วพบว่านักเรยี นมีความสนใจและร่วมมอื ในการทากจิ กรรม ได้ฝกึ สมาธแิ ละมี
ความคิดสรา้ งสรรค์และได้ทราบถงึ ประโยชนแ์ ละความสาคัญของอวยั วะสว่ นตา่ งๆภายในรา่ งกายแล้วนกั เรยี น
กม็ คี วามสนกุ สนานกับการทากิจกรรมในคร้งั นี้ดว้ ย