The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ เล่ม ๓

View in Fullscreen

แผนการจัดการเรียนรู้เล่ม 3

Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!

Related Publications

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.

Published by sasisuri64, 2024-01-17 03:49:45

แผนการจัดการเรียนรู้ เล่ม ๓

Pages:

แผนการจัดการเรียนรู้เล่ม 3

1. หนังสือเรียน ภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 71 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 23 เรื่อง ธรรมชาตินี้มีคุณ เวลา 13 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง บทประพันธ์ประเภทกลอนสี่ เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวศศิประภา สุริยันต์ วันที่สอน 4 มีนาคม ๒๕๖7 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และ พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ 1.2 ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ป. ๔/๕ แต่งบทร้อยกรองและคำขวัญ ๒. สาระสำคัญ กลอนสี่ เป็นคำประพันธ์ประเภทกลอน ใน ๑ บท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคละ ๔ คำ กลอน ๔ ตามหลักฐานทางวรรณคดีไทย กลอน ๔ ที่เก่าที่สุดพบในมหาชาติคำหลวงกัณฑ์มหาพน (สมัยอยุธยา) แต่ต่อมาไม่ปรากฏในวรรณคดีไทยมากนัก มักแทรกอยู่ตามกลอนบทละครต่าง ๆ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนอธิบายฉันทลักษณ์ของกลอนสี่ได้ถูกต้อง (K) 3.๒ นักเรียนเติมคำในช่องว่างเป็นกลอนสี่ได้ถูกต้อง (P) 3.๓ นักเรียนเห็นคุณค่าของบทร้อยกรองไทย (A) ๔. สาระการเรียนรู้ 4.1 คำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย ๕.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน

๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 7.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 7.1.1 ครูสนทนาซักถามนักเรียนเกี่ยวกับความรู้ที่เคยเรียนเรื่องคำคล้องจองว่าสามารถนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง จากนั้นครูนำสนทนาโยงเข้าเรื่อง การแต่งบทร้อยกรอง 7.1.2 ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นร่วมกัน โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้ คำถาม : คนที่แต่งกลอนเก่งควรประกอบอาชีพอะไร 7.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ 7.2.1 นักเรียนอ่านบทร้อยกรองต่อไปนี้สังเกตจำนวนคำและเสียงสัมผัส จากนั้นครูใช้คำถาม ดังนี้ คำถาม : บทร้อยกรองนี้มีคำอะไรสัมผัสคล้องจองกันบ้าง (คำว่า เรียน ในวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำว่า เพียร ในวรรคที่ ๒ คำว่า อ่าน คำสุดท้ายของวรรค ๒ สัมผัสกับคำว่า สาน คำสุดท้ายใน วรรค ๓) 7.2.2 ครูอธิบายบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ที่มีบทละ ๔ วรรค วรรคละ ๔ คำ ถ้ามีบทต่อไป คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ของบทต่อไป ดังมีแผนผังดังนี้ (ครูให้นักเรียนดู แผนผัง และเส้นโยงคำที่สัมผัสกันในบทและต่างบท) แผนผังกลอนสี่ เราเป็นนักเรียน หมั่นเพียรเขียนอ่าน ช่วยกันสืบสาน ด้านภาษาไทย

ดังนั้นถ้าจะแต่งบทต่อไป อาจเป็น ดังนี้ 7.2.3 ให้นักเรียนเรียงคำประพันธ์ ๔ วรรคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ครูเน้นว่าต้องสังเกตและจดจำว่า คำสุดท้ายในวรรคแรก ต้องมีสัมผัสกับคำที่ ๒ ของวรรค ๒ คำสุดท้ายของวรรค ๒ กับคำสุดท้ายของวรรค ๓ สัมผัสกัน วรรคที่ ๓ ก็จะเพิ่มความไพเราะมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้บังคับสัมผัสไว้) 7.2.4 ให้นักเรียนเรียงคำประพันธ์ ๔ วรรคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ครูเน้นว่าต้องสังเกตและจดจำว่า คำสุดท้ายในวรรคแรก ต้องมีสัมผัสกับคำที่ ๒ ของวรรค ๒ คำสุดท้ายของวรรค ๒ กับคำสุดท้ายของวรรค ๓ สัมผัสกัน ทุกคนจะร่วมกันพิจารณาตามกติกาการสัมผัสบังคับระหว่างวรรค จะได้ดังนี้ 7.2.5 ให้นักเรียนฝึกคิดคำสัมผัสคล้องจอง ให้เป็นกลอนสี่ โดยให้เติมคำในช่องว่างของกลอนสี่ ต่อไปนี้ เช่น รักของพ่อ.......... แน่แท้ยิ่ง............ หาความรักใด เทียบเท่าไม่มี ท่านเอาใจใส่ ..........เต็มที่ ลูกลูกที่.......... รู้ตอบแทนคุณ (คำที่เติม ๑. แม่ ๒. ใหญ่ ๓. ห่วงใย, รักใคร่ ๔. ดี) เราเป็นนักเรียน หมั่นเพียรเขียนอ่าน ช่วยกันสืบสาน ด้านภาษาไทย อ่านเขียนถูกต้อง ไม่หมองหม่นใจ ทำสิ่งยิ่งใหญ่ รักษ์ไทยชั่วกาล บทที่ ๑ บทที่ ๒ อ่านเขียนตอนเช้า / เล่นออกกำลัง / เรามาโรงเรียน / ยามว่างแล้วเรา เรามาโรงเรียน อ่านเขียนตอนเช้า ยามว่างแล้วเรา เล่นออกกำลัง ๑ ๒ ๓ ๔

7.2.6 ให้นักเรียนเขียนแผนผังกลอนสี่ ในกระดาษที่ครูแจกให้ แล้วเติมคำในช่องว่างจากคำ เช่น ก. ข. จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ บท ก. ๑. หมา ๒. ทอดทิ้ง บท ข. (ไม่เกี่ยวข้องกับบท ก.) ๑. ปรองดอง ๒. อะไร, สิ่งใด 7.3 ขั้นสรุป 7.3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ เรื่อง กลอนสี่ และทำแบบฝึกหัดที่ครูแจกให้เพื่อรับคะแนน ภายในชั่วโมงเรียน ๘. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 8.1 หนังสือเรียน ภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ ๙. ชิ้นงาน/ภาระงาน 9.1 แบบฝึกหัด เรื่อง ฝึกเติม กลอนสี่ ลูกแมวลูก.......... มันน่ารักจริง เราอย่า..................... ดูแลให้ดี ๒ ฉันรักพี่น้อง .........รักใคร่ ไม่ทำ..................... ให้ขัดเคืองกัน ๑ ๒ ๑

๑๐. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนอธิบายฉันทลักษณ์ของ กลอนสี่ได้ถูกต้อง (K) การตอบคำถาม คำถาม - ฉันทลักษณ์ของ กลอนสี่มีลักษณะ อย่างไร นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 2. นักเรียนเติมคำในช่องว่างเป็น กลอนสี่ได้ถูกต้อง (P) ตรวจ แบบฝึกหัด เรื่อง ฝึกเติม กลอนสี่ แบบฝึกหัด เรื่อง ฝึกเติม กลอนสี่ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นคุณค่าของบทร้อย กรองไทย (A) สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

๑๑. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑๑.๑ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๒ ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๓ ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางสาวศศิประภา สุริยันต์) วัน……….เดือน……………..……พ.ศ…………. -

๑๑.๔ ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางสาวสุภาวดี งอสอน) วัน……….เดือน……………………พ.ศ…………. ๑๑.๕ ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางบุษยพรรณ พันอะนันท์) วัน……….เดือน…………………………พ.ศ…………

ภาคผนวก

3. แบบฝึกหัด เรื่อง ฝึกเติม กลอนสี่

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 72 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 23 เรื่อง ธรรมชาตินี้มีคุณ เวลา 13 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสี่ เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวศศิประภา สุริยันต์ วันที่สอน 5 มีนาคม ๒๕๖7 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และ พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ 1.2 ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ป. ๔/๕ แต่งบทร้อยกรองและคำขวัญ ๒. สาระสำคัญ กลอนสี่ เป็นคำประพันธ์ประเภทกลอน ใน ๑ บท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรคละ ๔ คำ กลอน ๔ ตามหลักฐานทางวรรณคดีไทย กลอน ๔ ที่เก่าที่สุดพบในมหาชาติคำหลวงกัณฑ์มหาพน (สมัยอยุธยา) แต่ต่อมาไม่ปรากฏในวรรณคดีไทยมากนัก มักแทรกอยู่ตามกลอนบทละครต่าง ๆ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนอธิบายฉันทลักษณ์ของกลอนสี่ได้ถูกต้อง (K) 3.๒ นักเรียนสามารถแต่งบทร้อยประเภทกลอนสี่ได้ถูกต้องตรงตามฉันทลักษณ์(P) 3.๓ นักเรียนเห็นคุณค่าของบทร้อยกรองไทย (A) ๔. สาระการเรียนรู้ 4.1 ฉันทลักษณ์กลอนสี่ 4.๒ การแต่งกลอนสี่ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย ๕.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน

๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 7.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 7.1.1 นักเรียนและคุณครูกล่าวทักทายกัน จากนั้นให้นักเรียนอ่านบทประพันธ์กลอนสี่ ที่คุณครู นำมาติดที่หน้ากระดานพร้อมกัน 7.1.2 นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนเรื่องฉันทลักษณ์ของกลอนสี่ ที่ได้เรียนไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว 7.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ 7.2.1 นักเรียนอ่านตัวอย่างบทประพันธ์กลอนสี่ 7.2.2 นักเรียนตอบคำถามคุณครูว่าจากตัวอย่างกลอนสี่ข้างต้นที่คุณครูนำมานี้มีคำใดสัมผัสกับ คำใดบ้าง ๗.2.3 นักเรียนและคุณครูร่วมกันทำกิจกรรม ฝึกเรียงคำประพันธ์กลอนสี่ ให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ 7.2.4 นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๕ กลุ่ม คุณครูมอบหมายให้นักเรียนช่วยกันเรียงคำประพันธ์ ประเภทกลอนสี่ ให้ถูกต้อง 7.3 ขั้นสรุป 7.3.1 นักเรียนออกมานำเสนอผลงานการเรียงคำประพันธ์กลอนสี่ ของกลุ่มตัวเองหน้าชั้นเรียน ๗.3.2 นักเรียนร่วมกันทำใบงาน การแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ 7.3.3 นักเรียนและคุณครูร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่อง กลอนสี่ ๘. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 8.1 หนังสือเรียน ภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ 8.2 บทประพันธ์กลอนสี่ 8.3 กิจกรรม ฝึกเรียงคำประพันธ์กลอนสี่ ๙. ชิ้นงาน/ภาระงาน 9.1 ใบงาน การแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่

๑๐. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนสามารถอธิบาย ฉันทลักษณ์ของกลอนสี่ได้ถูกต้อง (K) -การถาม-ตอบ - ค าถาม ฉันทลักษณ์ของ กลอนสี่มีลักษณะ อย่างไร นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถแต่งบทร้อย ประเภทกลอนสี่ได้ถูกต้องตรงตาม ฉันทลักษณ์(P) ตรวจผลงาน นักเรียน ใบงาน การแต่งคำประพันธ์ ประเภทกลอนสี่ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นคุณค่าของบทร้อย กรองไทย (A) สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

ภาคผนวก

1. หนังสือเรียน ภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ 2. กิจกรรม ฝึกเรียงคำประพันธ์กลอนสี่

อันกลอนสี่นั้น เขียนกันสี่คำ ก็งามคมขำ เลิศล้ำคำคม กระชับหนักหนา ช่างน่านิยม วางคำเหมาะสม น่าชมเพลินคำ ดวงจันทร์วันเพ็ญ ลอยเด่นบนฟ้า แสงนวลเย็นตา พาใจหฤหรรษ์ ชักชวนเพื่อนยา มาเล่นร่วมกัน เด็กน้อยสุขสันต์ บันเทิงเริงใจ

ฝนพรำฉ่ำเย็น มองเห็นสายรุ้ง เจ็ดสีพวยพุ่ง จากคุ้งน้ำไกล หมู่เมฆลอยผ่าน ไม่นานฟ้าใส ความมืดพ้นไป เหลือไว้เพียงเงา ๕ ธันวาคม สุขสมสดชื่น ผู้คนนับหมื่น แสนร่วมอวยพร พ่อหลวงของไทย ท่านได้สั่งสอน ลูกน้อมรับพร สรรค์สร้างความดี

3. ใบงาน การแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ใบงาน เรื่อง การแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสี่ ในหัวข้อ ตัวฉัน จำนวน ๒ บท ตามรูปแบบฉันทลักษณ์ ดังนี้ …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………

4. บทประพันธ์กลอนสี่

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 73 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 23 เรื่อง ธรรมชาตินี้มีคุณ เวลา 13 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง คำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพ เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวศศิประภา สุริยันต์ วันที่สอน 6 มีนาคม ๒๕๖7 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ 1.2 ตัวชี้วัด ท 4.1 ป.4/๕ แต่งบทร้อยกรองและคำขวัญ ท 4.1 ป.4/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ๒. สาระสำคัญ กลอนสุภาพเป็นคำประพันธ์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะฉันทลักษณ์ คือการบังคับคำให้มีจำนวน ๗-๙ คำ ในแต่ละวรรค ซึ่งมีวรรคสดับ วรรครับ วรรครอง วรรคส่งรวมเป็น ๑ บท มีสัมผัสระหว่างวรรค และระหว่างบท การฝึกแต่งกลอนแปด เป็นการเขียนสื่อสารโดยใช้คำให้มีความไพเราะและเพื่อสืบสาน วัฒนธรรมทางภาษา ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนอธิบายลักษณธของกลอนสุภาพได้ถูกต้อง (K) 3.๒ นักเรียนอ่านกลอนสุภาพได้ถูกต้อง (P) 3.๓ นักเรียนมีกระตือรือร้นและตั้งใจเรียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ 4.1 ฉันทลักษณ์ของกลอนสุภาพ 4.2 การอ่านกลอนสุภาพ

๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย ๕.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 7.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 7.1.1 นักเรียนทบทวนเกี่ยวกับเรื่องคำคล้องจอง โดยครูให้นักเรียนเล่นเกมต่อคำคล้องจอง โดยครูเขียนคำ 2 พยางค์ บนกระดาน เพื่อเป็นคำเริ่มต้น จากนั้นให้นักเรียนที่นั่งโต๊ะตัวแรกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หาคำมาต่อที่คล้องจองกับคำเริ่มต้น โดยการการพูดปากเปล่า จากนั้นให้นักเรียนที่นั่งถัดไปหาคำที่คล้อง มาต่อให้ถูกต้อง เล่นจนครบทุกคนในห้อง จากนั้นครูสรุปกิจกรรมและโยงเข้าสู่เรื่องกลอนแปด 7.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ 7.2.1 นักเรียนอ่านบทร้อยกรองเรื่อง “กลอนสุภาพควรจำ” จากป้ายความรู้หน้ากระดาน กลอนสุภาพพึงจำมีกำหนด กลอนหนึ่งบทสี่วรรคกรองอักษร วรรคละแปดพยางค์นับศัพท์สุนทร อาจยิ่งหย่อนเจ็ดหรือเก้าเข้าหลักการ ห้าแห่งคำคล้องจองต้องสัมผัส สลับจัดรับรองส่งประสงค์สมาน เสียงสูงต่ำต้องเรียงเยี่ยงโบราณ เป็นกลอนกานท์ครบครันฉันท์นี้เอย 7.2.2 นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับบทร้อยกรอง และให้นักเรียนร่วมกันสรุปลักษณะของ กลอนสุภาพจากบทร้อยกรองตามความเข้าใจ 7.2.3 นักเรียนดูแผนผังกลอนสุภาพบนกระดานและฟังครูอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของกลอนสุภาพ 7.2.4 นักเรียนทำกิจกรรม “ตามหากลอนสุภาพ” โดยครูจะให้นักเรียนหากลอนสุภาพที่ปรากฏ ในหนังสือเรียน จากหนังสือวรรณคดีลำนำและหนังสือภาษาทีให้ได้มาที่สุด เพื่อทดสอบความรู้ว่านักเรียน เข้าใจลักษณะของกลอนสุภาพหรือไม่ จากนั้นครูเดินตรวจความถูกต้องของนักเรียนแต่ละคน

7.2.5 นักเรียนฝึกอ่านกลอนสุภาพ จากบทอาขยานบทกลักชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากเรื่อง พระอภัยมณี ตอน สุดสาครเข้าเมืองการะเวก จากหนังสือเรียนวรรณคดีลำนำ ดังนี้ บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา แม้ใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี จงสู้ตามไปเอาไม้เท้าเถิด จะประเสริฐสมรักเป็นศักดิ์ศรี พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี รูปโยคีหายวับไปกับตา 7.2.6 นักเรียนช่วยกันบอกลักษณะของบทร้อยกรองข้างต้น เช่น จำนวนคำ คำใดที่สัมผัสกันบ้าง ครูอธิบายวิธีการแบ่งวรรคในการอ่านกลอนสุภาพให้ถูกต้อง จากนั้นให้นักเรียนขีดแบ่งวรรคการอ่านลงใน หนังสือ 7.2.7 นักเรียนอ่านออกเสียงบทเสียงบทอาขยานพร้อมกัน จากนั้นครูเปิดเสียงการอ่านบท อาขยานเป็นทำนองเสนาะให้นักเรียนฟัง 2 รอบ และสอบอ่านทีละคน 7.3 ขั้นสรุป 7.3.1 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเรื่องกลอนสุภาพ และจากนั้นครูมอบหมายให้นักเรียนสรุป ความรู้เรื่องกลอนสุภาพลงในสมุดวิชาภาษาไทยเป็นการบ้าน ๘. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 8.1 หนังสือเรียน ภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ 8.2 หนังสือเรียนวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ 8.3 แผนผังฉันทลักษณ์กลอนสุภาพ 8.4 ป้ายความรู้กลอนสุภาพควรจำ ๙. ชิ้นงาน/ภาระงาน 9.1 สรุปความรู้เรื่องกลอนสุภาพลงในสมุดวิชาภาษาไทยเป็นการบ้าน 9.2 การอ่านกลอนสุภาพ

๑๐. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนอธิบายลักษณะของ กลอนสุภาพได้ถูกต้อง (K) การเขียนสรุป ความรู้ สมุดวิชาภาษาไทย นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป ๒. นักเรียนอ่านกลอนสุภาพได้ ถูกต้อง (P) การอ่าน ทำนองเสนาะ แบบประเมิน การอ่าน ทำนองเสนาะ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นคุณค่าของบทร้อย กรองไทย (A) สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนน แบบประเมินการอ่านทำนองเสนาะ (Rubrics) เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 14-15 คะแนน ดีมาก ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % 11-13 คะแนน ดี ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % 7-10 คะแนน พอใช้ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ต่ำกว่า 7 คะแนน ปรับปรุง ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่า ๕๐ % เกณฑ์ประเมินการผ่าน นักเรียนได้ระดับคุณภาพร้อยละ 70 ขึ้นไปถือว่าผ่าน รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. อักขรวิธี (คำควบกล้ำ , การออกเสียง ร และ ล / ความถูกต้องของการอ่าน อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ตามอักขรวิธีทุกประการ และท่องจำบทอาขยาน ได้ถูกต้องครบถ้วน ตลอดทั้งบท อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ตามอักขรวิธีบางส่วน แล้วท่องจำบทอาขยาน ได้ถูกต้องครบถ้วนและ มีจุดที่ผิด ๑-๓ จุด อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ตามอักขรวิธีเป็นส่วน น้อย แล้วท่องจำบท อาขยานได้ถูกต้อง ครบถ้วนและมีจุดที่ผิด มากกว่า ๓ จุด ๒. จังหวะและน้ำหนักคำ การเอื้อนการทอดเสียง ถูกจังหวะทำนอง ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ ของบทร้อยกรอง การเอื้อน การทอดเสียง ถูกจังหวะทำนองตาม ฉันทลักษณ์ของ บทร้อยกรองผิด ๒ ครั้ง การเอื้อน การทอดเสียง ถูกจังหวะทำนองตาม ฉันทลักษณ์ของบทร้อย กรองผิดมากกว่า ๒ ครั้ง ๓. การเว้นวรรคตอน อ่านเว้นวรรคตอนได้ ถูกต้องชัดเจน อ่านเว้นวรรคตอน ไม่ถูกต้อง ๒ ครั้ง อ่านเว้นวรรคตอน ไม่ถูกต้องเกิน ๒ ครั้ง ๔. การใช้น้ำเสียง ใช้น้ำเสียงได้สอดคล้อง และสัมพันธ์กับบทที่ท่อง ทั้งหมด ใช้น้ำเสียงได้สอดคล้อง และสัมพันธ์กับบทที่ท่อง บางส่วน ใช้น้ำเสียงได้สอดคล้อง และสัมพันธ์กับบทที่ท่อง เล็กน้อย ๕. การบอกคุณค่าของบท อาขยาน บอกคุณค่าบทอาขยาน ที่ท่องจำได้ถูกต้อง ครบถ้วน บอกคุณค่าบทอาขยาน ที่ท่องจำได้ถูกต้อง บางส่วน บอกคุณค่าบทอาขยาน ที่ท่องจำได้ถูกต้อง ส่วนน้อย

ภาคผนวก

1. หนังสือเรียน ภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ 2. หนังสือเรียนวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ

3. แผนผังฉันทลักษณ์กลอนสุภาพ

4. ป้ายความรู้กลอนสุภาพควรจำ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 74 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 23 เรื่อง ธรรมชาตินี้มีคุณ เวลา 13 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพ เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวศศิประภา สุริยันต์ วันที่สอน 8 มีนาคม ๒๕๖7 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ 1.2 ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ม.๒/๓ แต่งบทร้อยกรอง ๒. สาระสำคัญ การแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพ เป็นการแต่งเรียบเรียงถ้อยคำให้เป็นเรื่องราว หรือการผูก ถ้อยคำให้เป็นระเบียบตามบัญญัติแห่งฉันทลักษณ์ โดยกลอนสุภาพเป็นคำประพันธ์ชนิดหนึ่งที่มีสัมผัสบังคับ แบ่งเป็นสัมผัสระหว่างวรรคและสัมผัสระหว่างบท ซึ่ง ๑ บทประกอบด้วย ๒ บาท แต่ละบาทแยกเป็น ๒ วรรค โดยในแต่ละวรรคนั้นมีจำนวน ๗ – ๙ คำ ซึ่งกลอนสุภาพมีด้วยกันหลายชนิด ได้แก่ กลอนแปด กลอนหก กลอนสี่ กลอนสักวา กลอนดอกสร้อย และกลอนบทละคร ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนสามารถบอกฉันทลักษณ์ของกลอนสุภาพได้(K) 3.2 นักเรียนแต่งกลอนสุภาพตามฉันทลักษณ์ได้ถูกต้อง (P) 3.๓ นักเรียนเห็นความสำคัญของการเลือกใช้คำในการแต่งบทร้อยกรอง (A) ๔. สาระการเรียนรู้ 4.1 ฉันทลักษณ์ของกลอนสุภาพ 4.2 การแต่งกลอนสุภาพ 4.3 ประเภทกลอนสุภาพ

๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย ๕.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 7.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 7.1.1 นักเรียนทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับฉันทลักษณ์ สัมผัสบังคับ สัมผัสพยัญชนะและสระ ด้วยการตั้งคำถาม เช่น สัมผัสพยัญชนะและสระคืออะไร 7.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ 7.2.1 นักเรียนฟังบรรยายเกี่ยวกับข้อบังคับในการแต่งกลอนสุภาพ(กลอนแปด) และประเภท ของกลอนสุภาพ (กลอนแปด กลอนหก กลอนสี่ กลอนสักวา กลอนดอกสร้อย และกลอนบทละคร) 7.2.2 นักเรียนรับแบบฝึกหัด เรื่อง โยงสัมผัสกลอนสุภาพ (กลอนแปด) จากนั้นให้นักเรียนแต่ละ คนฝึกการโยงสัมผัสฉันลักษณ์ของกลอนแปดให้ถูกต้อง 7.2.3 นักเรียนช่วยกันทำกิจกรรม “แต่งกันนิด แต่งกันหน่อย” โดยให้นักเรียนตกลงหัวข้อใน การแต่งกลอนสุภาพ จากนั้นนักเรียนแบ่งกลุ่ม ๔ กลุ่ม ภายในกลุ่มจะต้องช่วยกันแต่งกลอนสุภาพ (กลอนแปด) จำนวน ๑ วรรค ตัวแทนกลุ่มออกมาเขียนหน้ากระดาน แล้วจากนั้นให้กลุ่มถัดไปแต่งกลอน สุภาพ(กลอนแปด) ต่อจากกลุ่มแรก 7.3 ขั้นสรุป 7.3.1 นักเรียนแต่งกลอนสุภาพ (กลอนแปด) เรื่องยอดกวีสุนทรภู่ ลงในสมุดบันทึก 7.3.2 ครูให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยเพิ่มเติม และร่วมกันสรุปความรู้จากการเรียนเรื่องการแต่งคำ ๘. สื่อและแหล่งเรียนรู้ - ๙. ชิ้นงาน/ภาระงาน 9.1 แบบฝึกหัด เรื่อง โยงสัมผัสกลอนสุภาพ 9.2 การแต่งกลอนสุภาพ (กลอนแปด) ลงในสมุด

๑๐. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนสามารถบอกฉันทลักษณ์ ของกลอนสุภาพได้ (K) ตรวจ แบบฝึกหัด เรื่อง โยงสัมผัส กลอนสุภาพ แบบฝึกหัด เรื่อง โยงสัมผัส กลอนสุภาพ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป ๒. นักเรียนแต่งกลอนสุภาพตาม ฉันทลักษณ์ได้ถูกต้อง (P) การแต่ง กลอนสุภาพ แบบประเมิน การแต่งกลอนสุภาพ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นความสำคัญของ การเลือกใช้คำในการแต่ง บทร้อยกรอง (A) สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

เกณฑ์การประเมินการแต่งกลอนสุภาพ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ (คะแนน) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) รูปแบบ/ฉันทลักษณ์ แต่งกลอนสุภาพ มีสัมผัสบังคับถูกต้อง ตามฉันทลักษณ์ แต่งกลอนสุภาพ มีสัมผัสบังคับไม่ถูกต้อง ตามฉันทลักษณ์ บางส่วน แต่งกลอนสุภาพ มีสัมผัสบังคับไม่ถูกต้อง ตามฉันทลักษณ์ เนื้อหา เนื้อหาที่นำเสนอ มีความสอดคล้อง สามารถสื่อความได้ดี เนื้อหาขาด ความสอดคล้อง ไม่ชัดเจน แต่ยัง สามารถสื่อความได้ เนื้อหาขาดความ สอดคล้อง ไม่ชัดเจน และไม่สามารถสื่อ ความให้ผู้อ่านเข้าใจได้ การใช้ภาษา ใช้ภาษาและถ้อยคำ ในการแต่งได้อย่าง เหมาะสม สื่อความ ได้มาก มีความไพเราะ ใช้ภาษาและถ้อยคำ ในการแต่งได้เหมาะสม แต่ ขาดความไพเราะ ใช้ภาษาและถ้อยคำ ในการเขียนไม่ถูกต้อง ไม่สามารถสื่อความได้ ขาดความไพเราะ ความเป็นระเบียบ ทำงานสะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบ สะกดคำ ได้ถูกต้องทุกคำ ทำงานสะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบ สะกด คำผิด ๑ – ๓ คำ ทำงานขาดความ สะอาดไม่เป็นระเบียบ และสะกดคำผิดเกิน ๓ คำขึ้นไป เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ๑๒ – ๑๐ คะแนน ดีมาก ๗ – ๙ คะแนน ดี ๔ – ๖ คะแนน พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน ปรับปรุง เกณฑ์ประเมินการผ่าน นักเรียนได้ระดับคุณภาพระดับ ดีขึ้นไปถือว่าผ่าน

ภาคผนวก

1. แบบฝึกหัด เรื่อง โยงสัมผัสกลอนสุภาพ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 75 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ 23 เรื่อง ธรรมชาตินี้มีคุณ เวลา 13 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง คำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวศศิประภา สุริยันต์ วันที่สอน 11 มีนาคม ๒๕๖7 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๔.๑เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ 1.2 ตัวชี้วัด ท 4.1 ป.4/๕ แต่งบทร้อยกรองและคำขวัญ ท 4.1 ป.4/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ๒. สาระสำคัญ กาพย์ยานี ๑๑ เป็นคำประพันธ์ประเภทกาพย์ชนิดหนึ่ง ใน ๑ บท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค วรรค หน้า มี ๕ คำ วรรคหลังมี ๖ คำ รวมเป็น ๑๑ คำ จึงเรียกว่า กาพย์ยานี ๑๑ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกฉันทลักษณ์ของกาพย์ยานี ๑๑ ได้(K) 3.2 นักเรียนเขียนแผนผังของฉันทลักษณ์คำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ได้ (P) 3.๓ นักเรียนเห็นคุณค่าและความงดงามของกาพย์ยานี 11 (A) ๔. สาระการเรียนรู้ 4.1 ฉันทลักษณ์ของกาพย์ยานี 11 ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย ๕.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน

๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 7.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 7.1.1 นักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเรื่อง “เมืองไทยใหญ่อุดม” ครูติดป้ายไว้หน้ากระดาน เมืองไทยใหญ่อุดม ดินดีสมเป็นนาสวน เพื่อนรักเราชักชวน ร่วมช่วยกันมุ่งหมั่นทำ วิชาต้องหาไว้ เป็นหลักได้ใช้ช่วยนำ ให้รู้ลู่ทางจำ ค้นคว้าไปให้มากมี ช่วยกันอย่างขันแข็ง ด้วยลำแข้งและแรงกาย ทำไปไม่เสียดาย แม้อาบเหงื่อเมื่อทำงาน ดั่งนี้มั่งมีแท้ ร่มเย็นแน่หาไหนปาน โลกเขาคงเล่าขาน ถิ่นไทยนี้ดีงามเอย 7.1.2 ครูให้นักเรียนนับจำนวนคำในแต่ละวรรคของบทร้องกรอง แล้วช่วยกันตอบว่ามีวรรคละกี่คำ (วรรคหน้า 5 คำ วรรคหลัง 6) 7.1.3 หลังจากที่นักเรียนตอบคำถาม ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่า บทกลอนดังกล่าวเป็น บทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 7.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ 7.2.1 นักเรียนอ่านบทร้อยกรองเรื่อง “กลอนสุภาพควรจำ” จากป้ายหน้ากระดาน ฝึกเขียนกาพย์ยานี กฎเกณฑ์มีพึงจดจำ หนึ่งบาทสิบเอ็ดคำ วรรคหน้านำห้าคำเรียง วรรคหลังมีหกคำ ท้ายลำนำไม่ถือเสียง สัมผัสไม่หลีกเลี่ยง สำเนียงเพราะเสนาะเอย 7.2.2 นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับบทร้อยกรอง และให้นักเรียนร่วมกันสรุปลักษณะของ กาพย์ยานี 11 ตามความเข้าใจ 7.2.3 นักเรียนฟังครูอธิบายลักษณะของกาพย์ยานี 11 ว่าเป็นบทร้อยกรองชนิดหนึ่ง บทหนึ่ง มี 2 บาท วรรคหน้ามี 5 คำ วรรคหลังมี 6 คำ รวมเป็น 11 คำ จึงเรียก กาพย์ยานี 11

7.2.4 นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน เพื่อทำกิจกรรม “ต่อเติมกาพย์ยานี 11” โดยครูแจกแผ่นบอร์ดบทร้อยกรองและบัตรคำให้นักเรียน กลุ่มละ 1 ชุด ดังนี้ ตาอินกับตานา กระโดด.......แทบล้มคว่ำ ยื้อแย่งหน้าแดง.......... ต่างจะเอาครึ่งท่อนหัว ตานาตะโกน “ข้า เป็นคน..........มาได้..........” ตาอินตะเบ็ง............... “ข้าต่างหากที่ทอดแห” บัตรคำ ได้แก่ ดำ คว้า พา รัว ตัว 7.2.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มนำบัตรคำติดไว้ในบทร้อยกรองให้ถูกต้อง กลุ่มใดทำได้รวดเร็วและ ถูกต้อง เป็นกลุ่มที่ชนะ 7.2.5 นักเรียนฟังครูเฉลยคำตอบ แล้วอ่านออกเสียงพร้อมกัน 7.3 ขั้นสรุป 7.3.1 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเรื่อง “กาพย์ยานี 11” จากนั้นนักเรียนทำใบงาน เรื่อง “ฉันทลักษณ์กาพย์ยานี 11” ๘. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 8.1 กิจกรรม “ต่อเติมกาพย์ยานี 11” 8.2 ป้ายบทร้อยกรองเรื่อง “เมืองไทย ใหญ่อุดม” 8.3 ป้ายบทร้อยกรองเรื่อง “กลอนสุภาพควรจำ” ๙. ชิ้นงาน/ภาระงาน 9.1 ใบงาน เรื่อง “ฉันทลักษณ์กาพย์ยานี 11”

๑๐. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกฉันทลักษณ์ของ กาพย์ยานี ๑๑ ได้ (K) ตรวจใบงาน เรื่อง “ฉันทลักษณ์ กาพย์ยานี 11” ใบงาน เรื่อง “ฉันทลักษณ์กาพย์ ยานี 11” นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป ๒. นักเรียนเขียนแผนผังของ ฉันทลักษณ์คำประพันธ์ประเภท กาพย์ยานี ๑๑ ได้ (P) ตรวจใบงาน เรื่อง “ฉันทลักษณ์ กาพย์ยานี 11” ใบงาน เรื่อง “ฉันทลักษณ์กาพย์ ยานี 11” นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นคุณค่าและความ งดงามของกาพย์ยานี ๑๑ (A) สังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

ภาคผนวก

1. ป้ายบทร้อยกรองเรื่อง “เมืองไทย ใหญ่อุดม”

Pages:

Click to View FlipBook Version