1
บทน�ำ
1.1 ความเป็นมาและความสำ� คญั ของปญั หา
ประเทศไทยมชี ายแดนตดิ ตอ่ กบั ประเทศเพอ่ื นบา้ นอาเซยี นทง้ั ทางบกและทางน้�ำ
ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของไทยนั้น มีอาณาเขตติดต่อกับ
2 ประเทศ คอื สปป.ลาว และราชอาณาจักรกมั พชู า โดยอาณาเขตท่ีตดิ ต่อกบั สปป.ลาว
น้ันนับต้ังแต่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อ�ำนาจเจริญ และ
อุบลราชธานี โดยมีแม่น�้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดนหลัก ขณะท่ีอาณาเขตท่ีติดต่อกับ
ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) นั้น ชายแดนส่วนใหญ่อยู่ในเขต
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ท่ีมีเทือกเขาพนมดงรัก (ดองแร็ก) เป็นพรมแดน
ตามธรรมชาติ ซง่ึ มีความยาวรว่ ม 500 กิโลเมตร นบั ตั้งแต่จังหวดั นครราชสมี า บรุ ีรัมย์
สุรินทร์ ศรสี ะเกษ และอุบลราชธานี
ประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่สองฟากฝั่งชายแดนโดยเฉพาะ “อาณาบริเวณ
พ้ืนที่ชายแดน” (borderland) ส่วนใหญ่พูดภาษาและมีความละม้ายคล้ายคลึงกัน
ท้ังทางด้านสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรม และมีปฏิสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน
นบั แตอ่ ดตี ทง้ั ความสมั พนั ธท์ ด่ี ผี า่ นรปู แบบของเครอื ญาติ การแตง่ งาน ญาตพิ นี่ อ้ ง เพอื่ น
ผรู้ บั อปุ ถมั ภ–์ ผใู้ หอ้ ปุ ถมั ภ์ การจบั จา่ ยซอ้ื ของเพอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภค การเขา้ มาเปน็ แรงงาน
การค้าขาย การเข้าร่วมเทศกาลงานบุญต่างๆ รวมทั้งความสัมพันธ์ในเชิงความขัดแย้ง
ในบางกรณี อันจัดว่าเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ในยุคจารีต แม้อาจจะขาดหายไปบ้าง
ในช่วงบางเวลาทางประวัติศาสตร์อันเน่ืองมาจากปัจจัยด้านการเมืองการปกครอง
เปน็ ส�ำคญั ภายหลังจากที่ไดม้ ีการก�ำหนดกรอบความคิดเกยี่ วกบั ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง
ประเทศขึ้น คือ กรอบความคิดของความเป็นรัฐชาติสมัยใหม่ (modern nation state)
โดยเน้นขอบเขตและดินแดนท่ีชัดเจน รวมท้ังการปกครองที่เป็นเอกภาพในดินแดน
มกี ารกำ� หนดเขตแดนและกอ่ ตง้ั รฐั ชาตขิ นึ้ ในนามไทยและกมั พชู าขนึ้ มา โดยมเี สน้ เขตแดน
50 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานีและใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต:้
เปน็ เครอ่ื งบง่ ช้ี เปน็ การลากเสน้ พรมแดนทางการเมอื ง (รฐั ชาต)ิ ทาบลงไปบนเสน้ พรมแดน
ทางสงั คม เศรษฐกิจและวฒั นธรรม ส่งผลให้การเดนิ ทางตดิ ต่อสมั พนั ธ์กนั ของผ้คู นท่ีอยู่
ตา่ งรฐั ชาตติ อ้ งอยูภ่ ายใตก้ ารควบคุมอย่างเขม้ งวดของรัฐ
ทวา่ ในปจั จบุ นั ทเี่ รยี กกนั วา่ ยคุ โลกาภวิ ตั น์ (Globalization) การเดนิ ทางเคลอ่ื นไหว
ของผคู้ นทง้ั สองฝง่ั กลบั มรี ปู แบบทห่ี ลากหลายและซบั ซอ้ นมากยงิ่ ขนึ้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ
นับต้ังแต่ประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมการค้ากับประเทศเพ่ือนบ้าน โดยได้ประกาศใช้
นโยบายเปลี่ยนสนามรบเปน็ สนามการค้าในยคุ รฐั บาลของ พลเอก ชาตชิ าย ชณุ หะวัณ
ในช่วงปี พ.ศ. 2531 ขณะท่ีกัมพูชาก็มีนโยบายส่งเสริมการค้าและเปิดประเทศมากขึ้น
ส่วน สปป.ลาว ก็ปรับเปล่ียนระบบเศรษฐกิจมาเป็นเศรษฐกิจแบบการตลาด (market
economy) ตามแนวทางการปฏิรูปประเทศท่ีเรียกว่า จินตนาการใหม่ รวมทั้งปัจจัย
เกอ้ื หนนุ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั ภายใตพ้ ลงั ขบั เคลอ่ื นของอภมิ หาโครงการพฒั นาและ
ความรว่ มมอื ดา้ นเศรษฐกจิ การคา้ ระดบั ภมู ภิ าคในเขตลมุ่ น้�ำโขง หรอื ทร่ี จู้ กั กนั ในชอ่ื ยอ่ วา่
GMS (Greater Mekong Subregion) ท่กี ่อตง้ั มาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2535 ตลอดจนยุทธศาสตร์
ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ อริ วด–ี เจา้ พระยา–แมโ่ ขง (Ayeyawady–Chao Phraya–Mekong
Economic Cooperation Strategy – ACMECS) การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในภมู ิภาค
และการบูรณาการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) เมื่อปี 2558 ท�ำให้
เกดิ การเคลอื่ นยา้ ยของผคู้ นบรเิ วณอาณาบรเิ วณชายแดนเพม่ิ มากขนึ้ ตามไปดว้ ย เนอ่ื งจาก
การเดินทางเข้าออกที่สะดวกตามแนวชายแดนที่ติดแนวชายแดนไทยนับพันกิโลเมตร
สถานการณด์ งั กลา่ วยอ่ มสง่ ผลกระทบทง้ั ทางตรงและทางออ้ มตอ่ การจดั การและพฒั นา
พ้ืนทีช่ ายแดนของไทยในหลากหลายดา้ น ซ่ึงหน่ึงในน้นั ก็คือด้านสาธารณสุข
เฉพาะในสว่ นของประเดน็ ดา้ นสาธารณสขุ นนั้ พบวา่ จากการลงพน้ื ทภ่ี าคสนาม
เบ้ืองต้นของคณะหัวหน้าโครงการวิจัยในพ้ืนท่ีชายแดนภาคเหนือของประเทศกัมพูชา
ทต่ี ิดกับภาคอีสานตอนลา่ งของไทย ระหวา่ งวันท่ี 9–11 พฤศจกิ ายน 2559 พบวา่ นบั แต่
การบรู ณาการเขา้ สู่ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) เมอ่ื ปี 2558 ทำ� ให้มผี ปู้ ่วย
ชาวกมั พชู าเขา้ มาใชบ้ รกิ ารสาธารณสขุ ในประเทศไทยเพมิ่ มากขนึ้ ทง้ั ในโรงพยาบาลของ
รัฐและของเอกชน อันเน่ืองมาจากการติดต่อระหว่างไทย–กัมพูชาท�ำได้ง่ายเนื่องจาก
มหี ลายชอ่ งทาง ทำ� ใหป้ ระชาชนเดนิ ทางไปมาหาสกู่ นั ไดส้ ะดวกโดยเฉพาะในแถบจงั หวดั
ชายแดน คอื สรุ นิ ทร์ ศรสี ะเกษ และอบุ ลราชธานี ทงั้ นี้ ผปู้ ว่ ยเหลา่ นไี้ มใ่ ชแ่ รงงานตา่ งดา้ ว
ที่เข้ามาท�ำงานในประเทศไทยที่มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้องและมีระบบการจ่ายเงิน
สนบั สนนุ เมอ่ื เกดิ ปญั หาสขุ ภาพ แตเ่ ปน็ กลมุ่ ทเ่ี ขา้ มาเพอื่ ใชบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพ โดยเฉพาะ
ผทู้ อ่ี าศยั อยู่บริเวณจังหวัดทชี่ ายแดนไทย–กัมพชู า อาทิ พระวิหาร อดุ รมีชัย เสียมเรียบ
พระตะบอง และบนั เตียเมยี นเจย (Mr. Mui Preal, ครรู ะดับมัธยมศึกษาอำ� เภอกระบาล
การศึกษาสถานการณแ์ ละบริบทท่เี กย่ี วข้องของพนื้ ทีช่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 51
สะเปยี น จงั หวดั อุดรมีชัย, สมั ภาษณ์ 10 พฤศจิกายน 2559) เชน่ เดยี วกบั สถานบรกิ าร
สุขภาพของไทยท่ีอยู่ตามแนวชายแดนไทย–ลาว ก็มีการข้ามแดนของชาวลาวเข้ามา
ใชบ้ รกิ ารมากขึน้ ทุกปี
สถานการณด์ งั กลา่ วขา้ งตน้ นนั้ แมใ้ นแงห่ นงึ่ กอ็ าจจะถกู มองวา่ จะสง่ ผลตอ่ ระบบ
สาธารณสุขในประเทศไทยโดยเฉพาะโรงพยาบาลตามจังหวัดชายแดน ในแง่ที่ต้อง
รับภาระการดูแลผู้ป่วยข้ามแดนเพ่ิมข้ึน หากไม่ได้มีการวางแผนการเตรียมความพร้อม
ไมม่ นี โยบายหรอื วธิ กี ารจดั การทเ่ี หมาะสม จนอาจสง่ ผลกระทบตอ่ การบรหิ ารทรพั ยากร
บุคคลด้านวิชาชีพของโรงพยาบาลและประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนไทย
ใหค้ รอบคลมุ และทว่ั ถงึ รวมทง้ั อาจตอ้ งรบั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยในการใหบ้ รกิ ารผปู้ ว่ ยเหลา่ นน้ั
ดว้ ย (อทุ มุ พร ลาธลุ ี, เจ้าหนา้ ที่สาธารณสุขอ�ำเภอนำ้� ยนื , สมั ภาษณ์ 22 ตลุ าคม 2559)
ทวา่ ในอกี แงห่ นงึ่ นนั้ กจ็ ะเปน็ โอกาสทภี่ าคสว่ นดา้ นการบรกิ ารดา้ นสขุ ภาพของไทยจกั ได้
ปรับตวั พัฒนาและผลติ บุคลากรในการให้บรกิ ารสุขภาพเพอื่ รองรับการเปดิ เสรีอาเซียน
ภาคการคา้ บริการ
อุบลราชธานี ในฐานะที่เป็นจังหวัดชายแดนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนลา่ งหรืออสี านใต้ ทีม่ พี รมแดนตดิ กบั ประเทศเพ่อื นบา้ น 2 ประเทศ คือ สาธารณรัฐ
ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และราชอาณาจักรกัมพูชา อีกทัง้ ตง้ั อย่ไู ม่ไกล
จากชายแดนประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเท่าใดนัก เป็นที่ต้ังของสถาบัน
อดุ มศกึ ษาทผี่ ลติ บคุ ลากรทางการแพทย์ พยาบาล และการสาธารณสขุ มสี ถานพยาบาล
ของรฐั และเอกชนหลายแหง่ ทงั้ โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ ทมี่ ผี ปู้ ว่ ย
ขา้ มแดนจากประเทศเพอื่ นบา้ นเขา้ มาใชบ้ รกิ ารเพม่ิ มากขนึ้ ทกุ ปี ดงั ตวั เลขของคนไขจ้ าก
ประเทศเพ่ือนบ้านคือลาวและกัมพูชาที่มาใช้บริการของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
จงั หวดั อบุ ลราชธานี ในชว่ งระหวา่ งเดอื นตลุ าคม ปี พ.ศ. 2561 ถงึ กนั ยายน ปี พ.ศ. 2562
มจี �ำนวนถงึ 5,994 คน ส�ำหรบั คนไขจ้ าก สปป.ลาว และ 16,098 คน สำ� หรับคนไขจ้ าก
กมั พูชา (ศูนย์บริการผ้ปู ว่ ยชาวตา่ งชาติ โรงพยาบาลสรรพสทิ ธิประสงค,์ 2562)
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ท�ำให้การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสถานการณ์และบริบท
ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพของพน้ื ทชี่ ายแดนประเทศเพอ่ื นบา้ นทมี่ อี าณาเขตตดิ กบั
จังหวัดอุบลราชธานีคือ สปป.ลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประเด็นการศึกษา
เร่งด่วนท่ีน่าสนใจยิ่ง เพราะจะท�ำให้มีข้อมูลเก่ียวกับสถานการณ์และบริบทที่เก่ียวข้อง
กบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพทจี่ ะนำ� มาใชใ้ นการวางแผนหรอื กำ� หนดยทุ ธศาสตรด์ า้ นการรองรบั
การใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนของโรงพยาบาลในเขตอสี านใตข้ องประเทศไทย เพราะการ
ท่ีประเทศไทยเปน็ สว่ นหนึง่ ของอาเซียน (ASEAN) จึงจ�ำเป็นตอ้ งเตรียมความพรอ้ มเพอื่
รองรบั การเปน็ ประชาคมอาเซยี น (ASEAN Community) ทถี่ กู กำ� หนดใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์
52 • บรกิ ารสขุ ภาพข้ามแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานีและใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต้:
ภายในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) โดยเฉพาะดา้ นการบริการดา้ นสุขภาพ ซง่ึ เป็นสาขา
น�ำร่องในการด�ำเนินงาน ท้ังยังเป็นประโยชน์ทั้งต่อประเทศไทยในการน�ำข้อมูลมา
วางแผนการจัดการด้านสาธารณสุขชายแดน รวมท้ังการเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพ
เพอื่ เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ และตอ่ ประเทศเพอ่ื นบา้ น
อาเซียนอย่าง สปป.ลาว และกัมพูชาในด้านการน�ำข้อมูลไปพัฒนาระบบการบริการ
สขุ ภาพของประเทศ รวมทงั้ เปน็ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาความรว่ มมอื ในดา้ นสาธารณสขุ
ของทงั้ สามประเทศไปพร้อมๆ กันอกี ดว้ ย
1.2 ค�ำถามการวจิ ยั
1.2.1 สถานการณแ์ ละบรบิ ททเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพของพน้ื ทชี่ ายแดน
ประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว ในแง่ของยุทธศาสตร์และนโยบายด้านการสาธารณสุข
จำ� นวนของสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน และบคุ ลากรดา้ นสาธารณสขุ เปน็ อย่างไร
1.2.2 ปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจังหวดั ใกลเ้ คียงของชาวกมั พูชาและชาวลาว มอี ะไรบ้าง
1.2.3 รูปแบบการข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและ
จงั หวดั ใกลเ้ คยี งของชาวกัมพชู าและชาวลาว เปน็ อย่างไร
1.3 วัตถปุ ระสงค์ของการศกึ ษา
1.3.1 เพ่ือศึกษาสถานการณ์และบริบทที่เก่ียวข้องกับบริการด้านสุขภาพ
ของพื้นท่ีชายแดนประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว ในแง่ของยุทธศาสตร์และนโยบาย
ด้านการสาธารณสุข จ�ำนวนของสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน และบุคลากร
ด้านสาธารณสขุ
1.3.2 เพอ่ื ศกึ ษาปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั
อุบลราชธานแี ละจังหวัดใกลเ้ คียงของชาวกัมพูชาและชาวลาว
1.3.3 เพอ่ื ศกึ ษารปู แบบการขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจังหวัดใกลเ้ คยี งของชาวกัมพูชาและชาวลาว
1.4 สมมตฐิ านงานวจิ ัย
1.4.1 สถานการณแ์ ละบรบิ ททเี่ กย่ี วขอ้ งกบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพของพน้ื ทช่ี ายแดน
ประเทศกมั พชู าและ สปป.ลาว มคี วามเกย่ี วขอ้ งทง้ั โดยตรงและโดยออ้ มกบั การขา้ มแดน
มาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี งของชาวกมั พชู าและ
ชาวลาว
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททเ่ี กีย่ วข้องของพนื้ ทชี่ ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 53
1.4.2 ปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจังหวดั ใกล้เคียงของชาวกัมพูชาและชาวลาว มีท้ังปัจจยั ดงึ ดดู และปจั จยั ผลักดนั
1.4.3 รูปแบบการข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและ
จงั หวดั ใกล้เคียงของชาวกมั พูชาและชาวลาว มีความหลากหลาย
1.5 ระเบียบวธิ ีด�ำเนินการวจิ ยั
การศกึ ษาครง้ั นี้ เปน็ การศกึ ษาวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพ (Qualitative Research) โดยศกึ ษา
ขอ้ มลู จากเอกสารตา่ งๆ (Documentary Study) และวธิ เี กบ็ ขอ้ มลู ภาคสนาม (Field Work)
โดยอาศยั กรอบและแนวคิดทางมานษุ ยวิทยาในการอธิบาย ซ่ึงมีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปน้ี
1.5.1 ขอบเขตด้านพื้นท่ที ่ศี ึกษา
พนื้ ทสี่ ำ� หรบั การเกบ็ ข้อมูลสนามคือ แขวงจ�ำปาสัก เซกอง อตั ตะปือ สาละวัน
สะหวนั นะเขต ในประเทศ สปป.ลาว สว่ นกัมพชู า ได้แก่ จงั หวัดพระวิหาร, อุดรมีชยั ,
เสยี มเรยี บ, พระตะบอง และบนั เตยี เมยี นเจย ในประเทศไทย ไดแ้ ก่ จงั หวดั อบุ ลราชธานี
ศรสี ะเกษ และสรุ ินทร์
1.5.2 ขอบเขตด้านเนอ้ื หา
เนื้อหาของการศึกษาครั้งนีป้ ระกอบดว้ ย
(1) ยุทธศาสตร์และนโยบายด้านการสาธารณสุข จ�ำนวนของสถานพยาบาล
ของรัฐและเอกชน และบุคลากรด้านสาธารณสุขของประเทศ สปป.ลาว และประเทศ
กัมพูชา
(2) ปจั จยั หรอื เงอื่ นไขทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั
อบุ ลราชธานแี ละจังหวดั ใกล้เคียงของชาวกัมพูชาและชาวลาว
(3) รูปแบบการข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและ
จงั หวดั ใกลเ้ คยี งของชาวกมั พชู าและชาวลาว
(4) สภาพปัญหาและอุปสรรคในการใช้บริการสุขภาพข้ามพรมแดนของผู้ป่วย
ชาวกัมพูชาและชาวลาวในจงั หวดั อุบลราชธานแี ละจังหวดั ใกลเ้ คียง
1.5.3 วธิ ีดำ� เนนิ การวิจัย
งานวิจัยน้ี เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยอาศัยข้อมูล
ทงั้ ในระดับปฐมภูมิ (Primary Data) และขอ้ มูลทุตยิ ภมู ิ (Secondary Data) ซึง่ วิธกี ารวจิ ัย
ประกอบด้วย การวิจัยเอกสาร (Documentary Study) และการวิจัยภาคสนาม (Field
Work) ในลกั ษณะการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ (In-depth Interview) และการสงั เกต (Observation)
ดังรายละเอียดตอ่ ไปนี้
54 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อบุ ลราชธานีและใกลเ้ คียงในเขตอสี านใต้:
(1) การทบทวนวรรณกรรมและขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ทิ มี่ อี ยทู่ เี่ กยี่ วกบั แนวคดิ โลกาภวิ ตั น์
แนวคิดการเปน็ ศูนย์กลางบริการสุขภาพ และแนวคิดสาธารณสุขข้ามแดน และเอกสาร
และงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับสาธารณสุขข้ามแดน โดยท�ำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจาก
เอกสาร เช่น หนังสอื วชิ าการ บทความ รายงานการวิจัย และวิทยานพิ นธ์ทเี่ กยี่ วข้อง
ท้ังจากห้องสมุดภายในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
สถาบันการศึกษาอื่นๆ ตลอดจนห้องสมุดของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งจากฐานข้อมูล
ในอินเทอรเ์ นต็ เพ่อื เก็บรวบรวมข้อมลู ท่เี ก่ียวขอ้ งใหม้ ากที่สดุ
(2) การเกบ็ ขอ้ มลู ภาคสนาม จะเปน็ การวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพ (Qualitative Research)
ในเชิงปรากฏการณ์วิทยา (Phenomenology Studies) ท่เี นน้ ประสบการณ์ ความรขู้ อง
ผู้ให้สัมภาษณ์ โดยใช้วิธีการศึกษาทางชาติพันธุ์วิทยา (Ethnography) ทั้งด้วยวิธีการ
สมั ภาษณเ์ ชิงลกึ (In-depth Interview) แบบเป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ เก็บรวบรวม
ขอ้ มลู จากผใู้ หข้ อ้ มลู หลกั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง วเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยวธิ กี ารสรา้ งขอ้ สรปุ ตามประเดน็
ท่ีศกึ ษา โดยมวี ธิ ดี �ำเนินการวจิ ยั ดงั นี้
(2.1) การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) โดยใช้การสัมภาษณ์แบบ
ไม่มโี ครงสรา้ ง (non-structured interview) ท่เี นน้ ประเดน็ สนใจเฉพาะ (focus interview)
กับผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญ (key informants) เกี่ยวกับนโยบาย มุมมอง และประสบการณ ์
เก่ียวกับการบริการสุขภาพข้ามแดนของเจ้าหน้าที่รัฐของไทยท้ังระดับนโยบายและ
ระดับปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการบริการสุขภาพข้ามแดน ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุข
จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ หรือผู้แทน นายอ�ำเภอนาตาล จังหวัด
อุบลราชธานี หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศด่านชายแดนช่องสะง�ำ
และหวั หนา้ ด่านควบคมุ โรคตดิ ต่อระหว่างประเทศดา่ นชายแดนช่องจอม
(2.2) การสัมภาษณเ์ ชงิ ลกึ (In-depth Interview) โดยใช้การสัมภาษณแ์ บบมี
โครงสร้าง (structured interview) กบั ผใู้ ห้ขอ้ มลู ส�ำคญั (key informants) 2 กล่มุ ได้แก่
1) เจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือบุคลากรท่ีปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขของ
สปป.ลาว และกัมพชู า โดยมีประเดน็ คำ� ถามหลัก 2 ประเด็นดว้ ยกัน คือ
1.1) ข้อมลู ผู้ใหส้ มั ภาษณ์
1.2) ค�ำถามเกี่ยวกับสถานการณ์และบริบทที่เก่ียวข้องกับบริการ
ดา้ นสขุ ภาพของพ้ืนท่ชี ายแดนของประเทศ
2) ผปู้ ว่ ย ญาตขิ องผปู้ ว่ ย หรอื ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยมปี ระเดน็ คำ� ถามหลกั
3 ประเด็นดว้ ยกนั คอื
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบททเี่ กยี่ วขอ้ งของพื้นทีช่ ายแดนประเทศต้นทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 55
2.1) ข้อมลู ผใู้ หส้ มั ภาษณ์
2.2) ค�ำถามเก่ียวกับปัจจัยหรือเงื่อนไขท่ีก่อให้เกิดการข้ามแดน
มาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและ/หรือจังหวัดใกล้เคียง (สุรินทร์และ
ศรสี ะเกษ)
2.3) คำ� ถามเกย่ี วกบั รปู แบบการขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพ
ในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี งของชาวกมั พชู าและชาวลาว ตลอดจนปญั หา
และอปุ สรรค
โดยคณะผูว้ ิจยั จะท�ำการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ใน 2 ระยะ คือ ระยะแรก
จะท�ำการวิเคราะห์และตรวจข้อมูลสนามเบื้องต้น และระยะท่ีสอง จะท�ำการวิเคราะห์
ข้อมลู และหาขอ้ สรปุ โดยใชท้ ฤษฎี/แนวคดิ ทางมานุษยวทิ ยา
1.5.4 กลมุ่ เป้าหมายผู้ใหข้ ้อมูล
กลุ่มผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญท่ีศึกษาในคร้ังน้ีมีอยู่ 3 กลุ่ม ใช้การเลือกแบบเจาะจง
(Purposive Sampling) ประกอบดว้ ย
(1) กลุม่ ผ้ใู ชบ้ ริการ ไดแ้ ก่ ผปู้ ่วย ญาตขิ องผปู้ ว่ ย หรือผู้ท่เี กย่ี วขอ้ งชาวกมั พชู า
หรอื ลาว ทเ่ี ขา้ มาหรอื เคยมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี ง จำ� นวน
ประเทศละ 20 ราย รวม 40 ราย อยา่ งไรก็ตาม ผูว้ จิ ัยได้เก็บข้อมลู โดยการสมั ภาษณ์จรงิ
จ�ำนวน 56 คน แยกเปน็ กมั พูชา 25 คน และลาว 31 คน
(2) กลุ่มผู้ให้บริการ ได้แก่ เจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้าน
สาธารณสุขในพื้นท่ีท่ีศึกษาของแต่ละประเทศ จ�ำนวนประเทศละ 4 ราย รวม 8 ราย
ได้แก่ ผู้บริหารระดับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหรือแขวง จ�ำนวน 1 ราย ผู้บริหาร
ระดับนายแพทย์สาธารณสุขอ�ำเภอ/เมือง จ�ำนวน 1 ราย ผู้อ�ำนวยการหรือผู้บริหาร
โรงพยาบาล แพทยห์ รอื พยาบาลหรอื บคุ ลากรทปี่ ฏบิ ตั งิ านในโรงพยาบาล จำ� นวน 1 ราย
บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ที่ศึกษา จ�ำนวน 1 ราย อย่างไรก็ตาม
เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนาหรอื โควดิ -19 และผใู้ หส้ มั ภาษณ์
บางรายไม่สะดวกท่ีจะให้สัมภาษณ์ อีกทั้งในกรณีของกัมพูชานั้น ได้ให้ความเห็นว่า
ประเดน็ เรอื่ งสาธารณสขุ เกยี่ วขอ้ งกบั ความมนั่ คงของชาติ ฉะนนั้ หากไมไ่ ดร้ บั การอนญุ าต
จากผู้บริหารระดับกระทรวงแล้วจะท�ำไม่ได้ จึงท�ำให้การสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายผู้ให้
ข้อมูลกลุ่มนที้ ำ� ได้เพียง 4 รายเทา่ นน้ั แยกเป็น สปป.ลาว 3 ราย และกมั พูชา 1 ราย
ฉะนั้น ทางคณะผู้วิจัยจึงอาศัยข้อมูลเชิงเอกสารและข้อมูลจากผู้ประสานงานสนาม
ซง่ึ เป็นคนในพ้ืนทเี่ พิม่ เติม
56 • บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานีและใกล้เคียงในเขตอีสานใต้:
(3) เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชอื้ ไวรสั โคโรนาหรอื โควดิ -19 ทำ� ให้
คณะนักวิจัยจากประเทศไทยไม่สามารถเดินทางข้ามแดนเพื่อไปเก็บข้อมูลภาคสนาม
เกี่ยวกับสถานการณ์และบริบทท่ีเกี่ยวข้องกับบริการด้านสุขภาพของพ้ืนที่ชายแดนของ
ประเทศในพื้นที่ประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว ได้ ฉะน้ัน คณะผู้วิจัยจึงเพิ่มกลุ่มผู้ให้
ขอ้ มลู สำ� คญั อีก 1 กลุ่ม เพ่ือเกบ็ ขอ้ มลู ในประเด็นทีเ่ กี่ยวข้อง คอื กลมุ่ เจา้ หน้าที่รัฐของ
ไทยทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติท่ีเกี่ยวข้องกับการบริการสุขภาพข้ามแดน ได้แก่
ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์
นายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวดั อบุ ลราชธานี ศรสี ะเกษ และสรุ นิ ทร์ หรอื ผแู้ ทน นายอำ� เภอ
นาตาล จงั หวดั อบุ ลราชธานี หวั หนา้ ดา่ นควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งประเทศดา่ นชายแดน
ช่องสะง�ำ และหัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศด่านชายแดนช่องจอม
รวมทั้งสิ้น 9 ราย รวมทั้งผู้ท่ีมีประสบการณ์เก่ียวข้องกับการใช้บริการสุขภาพข้ามแดน
คอื ไกดห์ รอื Broker ทพ่ี าชาวกมั พชู ามาใช้บริการสุขภาพทป่ี ระเทศไทย คนขับรถรบั จา้ ง
ที่พาผูป้ ว่ ยไปใช้บรกิ ารสุขภาพ และญาตขิ องผู้ป่วยทคี่ ณะผวู้ จิ ยั รูจ้ กั เปน็ การส่วนตวั
1.5.5 เคร่อื งมอื ทใี่ ช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ภาคสนาม
เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยครัง้ น้ี ไดแ้ ก่
(1) แบบสมั ภาษณแ์ บบมโี ครงสรา้ ง (Structured Interview) ซง่ึ ไดร้ บั การตรวจสอบ
คณุ ภาพดา้ นความตรงตามเนอ้ื หา (Content Validity) ของเครอ่ื งมอื ทสี่ รา้ งขน้ึ ในเบอ้ื งตน้
ว่าครอบคลุมและสอดคล้องกับตัวแปรที่ศึกษาหรือไม่ โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากส�ำนักงาน
สาธารณสุขจังหวดั อุบลราชธานี ส�ำนกั งานป้องกันและควบคุมโรคท่ี 10 และส�ำนกั งาน
ศึกษาธกิ ารภาค 14
(2) สมุดบันทึกสนาม (Field Note) ส�ำหรับบันทึกข้อมูลจากการสังเกตตาม
บริบทท่ีเก่ียวขอ้ ง
(3) กล้องถา่ ยรปู
(4) เครือ่ งบันทึกเสยี งจากโทรศัพทม์ ือถือ
1.5.6 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลตามกระบวนการวจิ ยั เชงิ คุณภาพ โดยการสมั ภาษณ์
เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลหลักหรือผู้เกี่ยวข้อง โดยนักวิจัยในพ้ืนท่ีและ/หรือผู้ประสานงาน
สนาม ร่วมกับการวิเคราะห์บริบทที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์และบริบทท่ีเก่ียวข้องกับ
บริการด้านสุขภาพของพน้ื ท่ีชายแดนประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว
ส�ำหรับวิธีการเก็บข้อมูลน้ัน จะใช้วิธีเก็บข้อมูลท้ังเอกสาร แบบสอบถาม และ
เก็บข้อมูลภาคสนามประกอบกนั โดยมีรายละเอียดดังนี้
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ทท่เี ก่ยี วข้องของพ้นื ทช่ี ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 57
(1) ข้อมูลเอกสารเก่ียวกับแนวคิดทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับ
สาธารณสุขข้ามแดน โดยท�ำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากเอกสาร เช่น หนังสือวิชาการ
บทความ รายงานการวจิ ยั และวทิ ยานพิ นธท์ เ่ี กยี่ วขอ้ ง ทงั้ จากหอ้ งสมดุ ภายในมหาวทิ ยาลยั
อุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และสถาบันการศึกษาอ่ืนๆ รวมทั้ง
จากฐานข้อมลู ในอินเทอร์เนต็ เพ่ือเก็บรวบรวมขอ้ มลู ท่ีเกย่ี วข้องใหม้ ากท่สี ุด
(2) ขอ้ มลู ภาคสนาม ซง่ึ เปน็ การเกบ็ ขอ้ มลู ดว้ ยวธิ กี ารสมั ภาษณแ์ บบเปน็ ทางการ
ไมเ่ ปน็ ทางการ จากกลมุ่ ตวั อยา่ งผู้ให้ข้อมลู ท้ัง 3 กลุม่ คือ กล่มุ ผใู้ ชบ้ ริการ ได้แก่ ผู้ป่วย
ญาติของผู้ป่วย หรือผู้ที่เก่ียวข้องชาวกัมพูชาหรือลาว ที่เข้ามาหรือเคยมาใช้บริการ
สขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี ง กลมุ่ ผใู้ หบ้ รกิ าร ไดแ้ ก่ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั หรอื
บุคลากรท่ีปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในพ้ืนท่ีท่ีศึกษาของแต่ละประเทศกลุ่มผู้ให้บริการ
ได้แก่ เจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในพ้ืนที่ที่ศึกษาของ
แต่ละประเทศ (กัมพูชาและลาว) และกลุ่มเจ้าหน้าท่ีรัฐของไทยท้ังระดับนโยบายและ
ระดบั ปฏิบัตทิ ่ีเกยี่ วขอ้ งกับการบริการสุขภาพขา้ มแดน โดยมีวธิ กี ารดังน้ี
ก. ข้ันเตรยี มการ ประกอบดว้ ย
1) ติดต่อประสานงานกบั กลมุ่ ตวั อยา่ งผใู้ ห้ขอ้ มูล ดังนี้
1.1) กลมุ่ เจา้ หนา้ ทร่ี ฐั ของไทย โดยการประสานทางโทรศพั ทพ์ รอ้ ม
ท�ำหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการเก็บข้อมูลที่ลงนามโดยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย
นวตั กรรมและบริการวิชาการ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี ถงึ ต้นสังกัดของกล่มุ ตวั อย่าง
ผู้ใหข้ ้อมลู เหลา่ นั้น
1.2) บคุ ลากรทางการแพทย์ เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั หรอื บคุ ลากรทปี่ ฏบิ ตั ิ
งานดา้ นสาธารณสขุ ในพนื้ ทท่ี ศ่ี กึ ษาของแตป่ ระเทศกมั พชู าและ สปป.ลาว ประกอบดว้ ย
ผู้บริหารระดับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหรือแขวง จ�ำนวน 1 ราย ผู้บริหารระดับ
นายแพทยส์ าธารณสขุ อำ� เภอ/เมอื ง จำ� นวน 1 ราย ผอู้ ำ� นวยการหรอื ผบู้ รหิ ารโรงพยาบาล
แพทย์หรอื พยาบาลหรือบคุ ลากรที่ปฏิบตั งิ านในโรงพยาบาล จ�ำนวน 1 ราย บคุ ลากร
ทป่ี ฏิบัตงิ านด้านสาธารณสุขในพ้นื ที่ทศี่ ึกษา จ�ำนวน 1 รายนั้น ในสว่ นของ สปป.ลาว
ทางมหาวิทยาลัยจ�ำปาสัก ในฐานะเครือข่ายร่วมวิจัยจะเป็นผู้ดำ� เนินการประสานงาน
ในการเก็บข้อมูล ส่วนกรณขี องกมั พชู านั้น ใชก้ ารประสานงานโดยผปู้ ระสานงานสนาม
และนักวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
อุบลราชธานี
1.3) ผู้ป่วย ญาติของผู้ป่วย หรือผู้ท่ีเก่ียวข้องชาวกัมพูชาหรือลาว
ท่ีเข้ามาใช้บริการหรือเคยมาใช้บริการสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและใกล้เคียง
คอื กมั พูชา จ�ำนวน 25 ราย และ สปป.ลาว จ�ำนวน 31 รายนน้ั นักวิจัยในพน้ื ทีแ่ ละ/
58 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานีและใกล้เคยี งในเขตอสี านใต้:
หรอื ผปู้ ระสานงานสนามตดิ ตอ่ ประสานงานและรวบรวมรายชอื่ เพอ่ื ขอความอนเุ คราะห์
เก็บรวบรวมขอ้ มลู ด้วยวธิ กี ารสัมภาษณ์
2) วางแผน เตรียมการและก�ำหนดรูปแบบการเก็บข้อมูลด้วยวิธีการ
สัมภาษณ์
ข. ขน้ั ดำ� เนินการเกบ็ รวบรวมข้อมลู กับกลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมลู มีดังนี้
1) นกั วจิ ยั ไทย ดำ� เนนิ การสมั ภาษณก์ ลมุ่ เจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ของไทย เกย่ี วกบั
สถานการณแ์ ละบรบิ ททเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การบรกิ ารดา้ นสขุ ภาพขา้ มแดนของพน้ื ทที่ หี่ นว่ ยงาน
นั้นๆ รับผิดชอบ ณ สถานทปี่ ฏบิ ตั งิ านของบคุ คลเหล่านนั้ ตามวัน เวลา ท่ีไดน้ ัดหมาย
ทงั้ นด้ี ว้ ยขอ้ จำ� กดั ของเวลาในการใหส้ มั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ ของผใู้ หข้ อ้ มลู หลกั บางทา่ น จงึ ทำ� ให้
ใชร้ ะยะเวลาในการสัมภาษณ์ไมเ่ ท่ากนั ตง้ั แต่ 1–3 ชั่วโมง อยา่ งไรกต็ าม หากมีขอ้ มลู
ส่วนใดที่ยังได้ค�ำตอบไม่ชัดเจน ผู้วิจัยก็จะใช้วิธีการค้นคว้าข้อมูลเชิงเอกสารและ
การโทรศัพท์สอบถามเพ่ิมเติมจากเจา้ ตวั หรอื ผไู้ ด้รบั มอบหมายแทน
2) การสมั ภาษณบ์ คุ ลากรทางการแพทย์ เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั หรอื บคุ ลากร
ทป่ี ฏบิ ตั งิ านดา้ นสาธารณสขุ ในพน้ื ทที่ ศี่ กึ ษาของแตล่ ะประเทศนน้ั ในกรณขี อง สปป.ลาว
จะดำ� เนนิ การโดยนักวิจยั ร่วมจากมหาวิทยาลยั จำ� ปาสกั อย่างไรก็ตาม เนอ่ื งจากในช่วง
ท่ีด�ำเนินการวิจัยน้ันอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ
โควิด-19 ท่ีในพื้นที่วิจัยมีการประกาศใช้มาตรการจ�ำกัดการเดินทางหรือล็อกดาวน์
(lockdown) ทำ� ให้เป็นอปุ สรรคต่อการเดนิ ทางขา้ มพื้นที่ อีกท้งั บางหนว่ ยงานไมส่ ามารถ
จัดเวลาให้สัมภาษณ์เชิงลึก หรือแม้แต่จะได้มีการส่งแบบสัมภาษณ์ไปยังหน่วยงานหรือ
เจา้ ตวั แลว้ แตก่ ไ็ มไ่ ดร้ บั การยนื ยนั เรอ่ื งการใหส้ มั ภาษณไ์ ด้ จงึ ทำ� ใหต้ อ้ งยกเวน้ การจดั เกบ็
ขอ้ มูลภาคสนามกับกลุ่มตวั อย่างผใู้ หข้ อ้ มลู น้ันๆ ไป จงึ ทำ� ใหเ้ ก็บข้อมลู ได้เพยี ง 3 ราย
โดยใช้วธิ ีการสัมภาษณ์ผา่ นทางโทรศัพท์แทน
ส่วนในกรณีของกัมพูชานั้น เน่ืองจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ระดับ
ปฏบิ ตั กิ ารวา่ มคี วามกงั วลใจในการใหข้ อ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ งดา้ นสขุ ภาพในชว่ งเวลาสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โควดิ -19 นน้ั เพราะเกรงว่าหน่วยงาน
ส่วนกลางจะมองว่าค่อนข้างเป็นประเด็นที่อ่อนไหว เน่ืองจากอยู่ในช่วงระยะเวลา
ท่ีรัฐบาลมีมาตรการเข้มงวดด้านข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ฉะน้ัน บุคลากรสาธารณสุข
ในพ้ืนท่ีทุกระดับจึงหลีกเลี่ยงท่ีจะให้ข้อมูล หากไม่เป็นค�ำส่ังจากส่วนกลาง ดังนั้น
การเก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูลกลุ่มน้ีจึงสามารถเก็บข้อมูลได้เพียง 1 ราย
โดยอาศัยการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการผ่านเครือข่ายวิจัย รวมท้ังคณะผู้วิจัยอาศัย
การเก็บข้อมูลเชิงเอกสารและการเก็บข้อมูลแบบไม่เป็นทางการผ่านเครือข่ายของ
การศึกษาสถานการณ์และบริบทที่เก่ียวขอ้ งของพนื้ ทช่ี ายแดนประเทศต้นทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 59
สำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั อบุ ลราชธานี ทเ่ี คยรว่ มปฏบิ ตั งิ านกบั บคุ ลากรดา้ นสาธารณสขุ
ในจงั หวัดชายแดนของกัมพชู าเพิ่มเตมิ แทน
3) การสัมภาษณ์ผู้ป่วย ญาติของผู้ป่วย หรือผู้ท่ีเกี่ยวข้องชาวกัมพูชา
หรือลาวท่ีเข้ามาใช้บริการหรือเคยมาใช้บริการสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและ
ใกลเ้ คยี งนนั้ ในกรณขี อง สปป.ลาว ดำ� เนนิ การโดยนกั วจิ ยั รว่ มจากมหาวทิ ยาลยั จำ� ปาสกั
และผปู้ ระสานงานสนาม สว่ นในกรณขี องกมั พชู านน้ั ดำ� เนนิ การโดยผปู้ ระสานงานสนาม
โดยใชแ้ บบสมั ภาษณ์ บนั ทกึ ขอ้ มลู โดยใชส้ มดุ บนั ทกึ สนาม ทง้ั นกี้ อ่ นการดำ� เนนิ สมั ภาษณ์
นกั วจิ ยั ในพนื้ ทแี่ ละ/หรอื ผปู้ ระสานงานสนามไดอ้ ธบิ ายวตั ถปุ ระสงค์ ขนั้ ตอนการดำ� เนนิ
กิจกรรม และเชิญชวนให้เข้าร่วมการวิจัยโดยสมัครใจ และการสัมภาษณ์จะดำ� เนินการ
ในสถานท่ที ่เี หมาะสม
1.5.7 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล
ผวู้ จิ ยั จะนำ� ขอ้ มลู ทรี่ วบรวมมาตรวจสอบความถกู ตอ้ งดว้ ยวธิ สี ามเสา้ (Research
Triangulation) แล้วนำ� มาวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) โดยจดั หมวดหมู่ (Theme)
ตคี วามหมาย (Interpretation) จากปรากฏการณแ์ ลว้ นำ� ไปสรปุ เปน็ ชดุ มโนทศั น์ (Concept)
และเชื่อมโยงมโนทัศน์แล้วน�ำเสนอเป็นเร่ืองเล่าเชิงบรรยาย สังเคราะห์องค์ความรู้จาก
การเชื่อมโยงมโนทัศน์ (Concept) โลกาภิวัตน์และการบูรณาการเป็นภูมิภาคเดียวกัน
กับการเคล่ือนย้ายข้ามแดน การเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพ และการบริการสุขภาพ
ขา้ มแดน ด้วยการวเิ คราะหเ์ น้อื หา (Content Analysis)
ทัง้ ผู้วิจัยจะท�ำการวเิ คราะห์ข้อมูลใน 2 ระยะ คอื ระยะแรกจะท�ำการวิเคราะห์
และตรวจขอ้ มลู สนามเบื้องต้น และระยะทส่ี อง จะทำ� การวเิ คราะห์ขอ้ มลู และหาข้อสรุป
โดยใช้ทฤษฎี/แนวคดิ ทางมานษุ ยวิทยา
อนงึ่ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู นน้ั ผวู้ จิ ยั อาศยั แนวทางการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ
ที่น�ำเสนอโดยชาย โพธิสิตา (2549) ที่อธิบายว่า หมายถึงกระบวนการจัดการข้อมูล
เพอ่ื ทำ� ใหข้ อ้ มลู มคี วามหมายขนึ้ มา เปน็ การตคี วามและใหค้ ำ� อธบิ ายเชงิ ทฤษฎขี น้ึ มาจาก
ขอ้ มลู ซึ่งมีองคป์ ระกอบหลักอยู่ 3 ประการ คอื
(1) การจัดระเบียบข้อมูล (Data Organizing) เป็นกระบวนการจัดการข้อมูล
ให้เป็นระเบียบ ท้ังในทางกายภาพและทางเน้ือหา พร้อมท่ีจะแสดงหรือน�ำเสนออย่าง
เป็นระบบ
(2) การแสดงข้อมลู (Data Display) เป็นกระบวนการนำ� เสนอขอ้ มูล สว่ นใหญ่
ใชก้ ารพรรณนา โดยการเชอื่ มโยงขอ้ มูลท่ีจดั ระเบียบแล้วเข้าดว้ ยกนั ตามกรอบแนวคดิ
ทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะห์ เพอ่ื บอกเรอ่ื งราวของสงิ่ ทศ่ี กึ ษา ตามความหมายทข่ี อ้ มลู พดู ออกมา
60 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอสี านใต้:
(3) การหาขอ้ สรุป การตีความและการตรวจสอบความถกู ตอ้ งตรงประเดน็ ของ
ผลการวจิ ัย (Conclusion, Interpretation and verification) เปน็ กระบวนการหาขอ้ สรปุ
และตีความหมายของผลหรือข้อค้นพบท่ีได้จากการแสดงข้อมูล รวมถึงตรวจสอบว่า
ข้อสรุปหรือความหมายท่ีได้น้ันมีความถูกต้องตรงประเด็นน่าเชื่อถือเพียงใด ข้อสรุป
หรือสิ่งที่ตีความมานั้นอาจเป็นค�ำอธิบาย กรอบแนวความคิด หรือทฤษฎีที่เก่ียวกับ
เรอื่ งทีท่ ำ� การวิเคราะห์นนั้
โดยท้ัง 3 ขั้นตอนน้ัน องค์ประกอบอย่างแรกคือ การจัดระเบียบข้อมูลนั้น
อาจเกดิ ขน้ึ ไดใ้ นทกุ ขน้ั ตอนการวจิ ยั คอื อาจเกดิ ขนึ้ ขณะเกบ็ ขอ้ มลู หรอื หลงั เกบ็ ขอ้ มลู แลว้
ส่วนการแสดงขอ้ มูลและหาขอ้ สรุป การตีความและตรวจสอบความถูกตอ้ งตรงประเด็น
ด�ำเนินการทั้งในขณะเก็บข้อมูลในสนามและต่อเน่ืองจนเก็บข้อมูลเสร็จ โดยมีแผนภูมิ
(Flow Chart) แสดงกระบวนการวิจยั ดังน้ี
1 2 3 เชิญชวนใหอ้ าสาสมัคร
(กล่มุ ตวั อย่างฯ)
ทบทวนวรรณกรรม/ ติดต่อประสานงานกับ
สร้างเครื่องมอื กลมุ่ ตวั อยา่ งผู้ให้ขอ้ มลู เข้าร่วมการวิจัยโดยสมคั รใจ
โดยนักวิจยั ในพ้นื ท่ีและ/
หรอื ผู้ประสานงานสนาม
5 การวิเคราะห์ผล 4
ด้วยการวิเคราะห์เน้อื หา
(Content Analysis) ดำ� เนินการสมั ภาษณ์
ภาพท่ี 1 แผนภูมิ (Flow Chart) แสดงกระบวนการวจิ ยั
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ทที่เกยี่ วข้องของพนื้ ทช่ี ายแดนประเทศต้นทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 61
1.5.8 ขนั้ ตอนการดำ� เนนิ งานวจิ ัย
ข้ันตอนการด�ำเนินงานวจิ ัย มีดงั นี้
ล�ำดบั ท่ี ขนั้ ตอนการดำ� เนินงานวิจัย วิธีการดำ� เนนิ งานวิจยั ช่วงเวลา/ระยะเวลา
1 ช้แี จงและประชุมทีมวิจยั เพอ่ื วางแผน จัดประชมุ ตุลาคม 2563
และกำ� หนดรายละเอยี ดการดำ� เนนิ งาน (1 วัน)
2 • ประสานงานกบั หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง • ประสานงาน ตลุ าคม–ธันวาคม
ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ • ส�ำรวจและทบทวน 2563
• สำ� รวจเอกสารและงานวจิ ยั วรรณกรรม (3 เดอื น)
ทีเ่ กี่ยวข้อง
3 ประชุมทีมวิจยั เพอ่ื สรุปขอ้ มลู ประมวลผลข้อมูล ธนั วาคม 2563
การดำ� เนินงานและเขียนรายงาน เพ่ือเขยี นรายงาน (1 วัน)
ความก้าวหนา้ ในไตรมาสที่ 1 ความก้าวหน้า
ในไตรมาสที่ 1
4 ส่งรายงานความกา้ วหนา้ กรอกข้อมูลในระบบ 26–31 ธันวาคม
ในไตรมาสที่ 1 NRIIS 2563
5 แนะน�ำโครงการส�ำรวจพน้ื ที่ภาคสนาม วางแผนสำ� รวจพนื้ ท ่ี มกราคม–มีนาคม
วางแผนการเกบ็ ขอ้ มลู ภาคสนาม ภาคสนาม/ลงส�ำรวจ 2564
พืน้ ท่ีภาคสนาม (3 เดือน)
เพ่อื วางแผนการเกบ็
ขอ้ มลู จากกลมุ่ ตวั อยา่ ง
6 ประชุมทมี วิจยั เพือ่ สรปุ ขอ้ มลู ประมวลผลข้อมลู มีนาคม 2564
การด�ำเนินงานและเขียนรายงาน เพื่อเขียนรายงาน (1 วนั )
ความกา้ วหนา้ ในไตรมาสท่ี 2 ความก้าวหนา้
ในไตรมาสท่ี 2
7 ส่งรายงานความก้าวหน้า กรอกข้อมลู ในระบบ 26–31 มนี าคม
ในไตรมาสที่ 2 NRIIS 2564
8 เก็บข้อมลู ภาคสนาม วางแผน/ลงพื้นท ่ี เมษายน–มถิ ุนายน
ภาคสนาม/สัมภาษณ/์ 2564
จัดประชุมระดม (3 เดือน)
ความคิดรับฟัง
ความคิดเห็นจาก
ผ้ทู ่เี ก่ยี วข้อง
9 ประชมุ ทีมวิจยั เพื่อสรุปขอ้ มลู ประมวลผลขอ้ มูล มิถนุ ายน 2564
การดำ� เนินงานและเขยี นรายงาน เพอ่ื เขียนรายงาน (1 วนั )
ความก้าวหนา้ ในไตรมาสท่ี 3 ความกา้ วหน้า
ในไตรมาสท่ี 3
62 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกล้เคียงในเขตอสี านใต:้
ล�ำดบั ที่ ข้นั ตอนการดำ� เนนิ งานวจิ ยั วธิ กี ารด�ำเนินงานวิจัย ชว่ งเวลา/ระยะเวลา
10 ส่งรายงานความก้าวหน้า
ในไตรมาสท่ี 3 กรอกข้อมลู ในระบบ 28–30 มถิ นุ ายน
11 ประมวลผล วเิ คราะหข์ อ้ มูล NRIIS 2564
เขียนรายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์
และเขียนบทความวิจยั ประมวลผล วเิ คราะห์ กรกฎาคม–กันยายน
12 จดั เวทนี ำ� เสนอร่างรายงาน ขอ้ มูล เขยี นรายงาน 2564
ฉบับสมบรู ณ์ การวิจยั ฉบับสมบูรณ์ (3 เดือน)
13 แกไ้ ขและสง่ รา่ งรายงานการวิจัย จดั เวทีนำ� เสนอ ตุลาคม 2564
ฉบับสมบูรณ์ รา่ งรายงานฉบบั (1 วนั )
สมบูรณ์
สง่ รายงานการวจิ ัย พฤศจิกายน
ฉบบั สมบรู ณ์ 2564
1.6 ข้อตกลงเบ้ืองต้น
เนอ่ื งจากการวิจัยคร้งั น้ี ครอบคลุมพืน้ ที่ถึง 3 ประเทศ คือ จงั หวัดอบุ ลราชธานี
จงั หวดั ศรสี ะเกษ และจงั หวดั สรุ นิ ทร์ ในเขตอสี านใตข้ องไทย แขวงสาละวนั แขวงจำ� ปาสกั
แขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือ หรือเขตลาวตอนใต้ของ สปป.ลาว จังหวัดพระวิหาร
จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดบันเตียเมียนเจย จังหวัดเสียมเรียบ และจังหวัดพระตะบอง
ของประเทศกัมพูชา และมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญ (Key Informants) หลากหลายตั้งแต่
เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การบรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนของไทย ผใู้ หบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพ
คอื เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั หรอื บคุ ลากรทป่ี ฏบิ ตั งิ านดา้ นสาธารณสขุ ของ สปป.ลาว และกมั พชู า
ตลอดจนผรู้ บั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพ คอื ผปู้ ว่ ย ญาตขิ องผปู้ ว่ ย หรอื ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งชาวกมั พชู า
หรอื ลาว ทเี่ ขา้ มาหรอื เคยมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี ง ฉะนนั้
การวิจัยคร้งั น้ีจงึ มีเงอ่ื นไขเปน็ ขอ้ ตกลงเบอื้ งต้น ดังน้ี
1.6.1 ผู้ให้ข้อมูลหลัก จากการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่ากลุ่มผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญ
(Key Informants) จำ� นวนหนงึ่ ไมป่ ระสงคใ์ หร้ ะบชุ อ่ื ในการอา้ งองิ ประกอบการเขยี นรายงาน
การวจิ ยั คณะผวู้ จิ ยั จงึ เขยี นความคดิ เหน็ ในภาพรวม เวน้ แตร่ ายทจ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งอา้ งองิ ในเชงิ
วชิ าการก็จะใชช้ อ่ื สมมติ
1.6.2 เนื่องจากในช่วงการด�ำเนินโครงการวิจัยน้ี สถานการณ์การแพร่ระบาด
ของเชอื้ ไวรสั โคโรนาหรอื โควดิ -19 ทำ� ใหน้ กั วจิ ยั หลกั จากประเทศไทยไมส่ ามารถเดนิ ทาง
ข้ามแดนเพ่ือไปเก็บข้อมูลภาคสนามในประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว ได้ จึงอาศัย
การเก็บข้อมูลโดยนักวิจัยหลักในพ้ืนที่ (กรณีของ สปป.ลาว) และผู้ประสานงานสนาม
(ในกรณีของกัมพูชา) คณะผู้วิจัยจึงยังคงน�ำเสนอความเห็นของกลุ่มผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญ
การศึกษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททเี่ กยี่ วข้องของพืน้ ทชี่ ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 63
(Key Informants) จากข้อมูลท่ีได้รับจากสัมภาษณ์เชิงลึกของนักวิจัยหลักในพ้ืนที่และ
ผู้ประสานงานสนามดังกล่าว เพอ่ื ปอ้ งกันการเกดิ อคติ
1.6.3 การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์นั้น อาจจะมีข้อแตกต่างกันในแง่
ของจำ� นวนกลมุ่ ผใู้ หข้ อ้ มลู สำ� คญั (Key Informants) ของกมั พชู าและ สปป.ลาว แตไ่ มม่ ผี ล
อยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทางสถติ ิ ทงั้ นเ้ี นอ่ื งจากกลมุ่ แรกคอื กลมุ่ ผใู้ หบ้ รกิ าร ไดแ้ ก่ เจา้ หนา้ ทข่ี อง
รฐั หรือบุคลากรทป่ี ฏิบตั ิงานดา้ นสาธารณสุขของ สปป.ลาว และกมั พชู านน้ั จ�ำนวนหนึ่ง
ไมย่ นิ ดที จี่ ะใหส้ มั ภาษณ์ คณะผวู้ จิ ยั จงึ ตอ้ งยกเวน้ การเกบ็ ขอ้ มลู กบั กลมุ่ ผใู้ หข้ อ้ มลู สำ� คญั
เหลา่ นนั้ แตเ่ นอ่ื งจากคำ� ถามทใ่ี ชใ้ นการสมั ภาษณน์ น้ั จะเปน็ ประเดน็ เกย่ี วกบั สถานการณ์
และบรบิ ททเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพของพนื้ ทชี่ ายแดนของประเทศ ซง่ึ คณะผวู้ จิ ยั
กจ็ ดั หาขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ จากเอกสารและเวบ็ ไซตข์ องกระทรวงสาธารณสขุ ของทงั้ สองประเทศ
ส่วนกลุ่มที่สองคือ กลุ่มรับให้บริการ ได้แก่ ผู้ป่วย ญาติของผู้ป่วย หรือผู้ท่ีเก่ียวข้อง
ชาวกัมพูชาหรือลาว ท่ีเข้ามาหรือเคยมาใช้บริการสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและ
ใกล้เคียงนั้น สามารถเก็บข้อมูลตามจำ� นวนท่ีตั้งไว้ แต่เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีหลากหลายข้ึน
คณะผู้วิจัยจึงเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญมากกว่าที่ก�ำหนดไว ้
ในตอนแรกคอื 20 ราย/ประเทศ โดยแยกเปน็ กัมพูชา 25 ราย และ สปป.ลาว 31 ราย
ซึ่งจะทำ� ให้ผลการศกึ ษาทีไ่ ดม้ ีความนา่ เชอ่ื ถอื มากขึน้
1.7 ข้อจ�ำกดั ของการวิจยั
ขอ้ จ�ำกัดของการวิจยั คร้งั น้ี มดี งั นี้
1.7.1 ข้อจ�ำกัดในแง่ของการยินยอมให้ท�ำการสัมภาษณ์ของผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญ
(Key Informants) ที่เป็นกลุ่มผู้ให้บริการในประเทศกัมพูชา เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานด้าน
สาธารณสขุ ในพนื้ ทว่ี จิ ยั ใหเ้ หตผุ ลวา่ มคี วามกงั วลใจในการใหข้ อ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งดา้ นสขุ ภาพ
ในช่วงเวลาสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โควิด-19 เพราะ
เกรงวา่ หนว่ ยงานสว่ นกลางจะมองวา่ คอ่ นขา้ งเปน็ ประเดน็ ทอ่ี อ่ นไหว เนอื่ งจากอยใู่ นชว่ ง
ระยะเวลาที่รัฐบาลมีมาตรการเข้มงวดด้านข้อมูลเก่ียวกับสุขภาพ ท�ำให้บุคลากรด้าน
สาธารณสุขกัมพูชาในพื้นท่ีทุกระดับจึงหลีกเล่ียงท่ีจะให้ข้อมูล หากไม่เป็นค�ำสั่งจาก
ส่วนกลาง ดงั นนั้ การเกบ็ ขอ้ มูลกับกลุ่มตวั อยา่ งผใู้ ห้ข้อมลู กล่มุ นีจ้ งึ ตอ้ งยกเว้นไป
อย่างไรก็ตาม คณะผู้วิจัยได้ท�ำการศึกษาเอกสารและสัมภาษณ์บุคลากร
ทางการสาธารณสุขของไทยและผู้ท่ีเคยมีประสบการณ์เก่ียวข้องกับผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญ
(Key Informants) ทเี่ ปน็ กลมุ่ ผใู้ หบ้ รกิ ารเหลา่ นน้ั ไดแ้ ก่ ไกดห์ รอื Broker ทพี่ าชาวกมั พชู า
มาใช้บริการสุขภาพที่ประเทศไทย คนขับรถรับจ้างท่ีพาผู้ป่วยไปใช้บริการสุขภาพ และ
64 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจงั หวัดอุบลราชธานีและใกลเ้ คียงในเขตอีสานใต้:
ญาตขิ องผปู้ ว่ ยทคี่ ณะผวู้ จิ ยั รจู้ กั เปน็ การสว่ นตวั และใชก้ ารสมั ภาษณแ์ บบไมเ่ ปน็ ทางการ
ในบางประเด็นทีเ่ ปน็ การแสดงความคิดเหน็ แทน ซง่ึ พอได้ข้อมลู ทดแทนพอสมควร
1.7.2 ข้อจ�ำกัดในแง่ท่ีคณะนักวิจัยหลักของไทยที่ไม่สามารถข้ามแดนเพื่อไป
ท�ำการเก็บข้อมูลภาคสนามในพ้ืนท่ีศึกษาในเขตประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว ได้
อนั เน่ืองจากอยใู่ นช่วงเวลาสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 หรอื
โควดิ -19 ทร่ี ฐั บาลของทงั้ สามประเทศมมี าตรการปดิ พรมแดน ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถเกบ็ ขอ้ มลู
เชิงลึกโดยใช้วิธีการสังเกตได้ ข้อมูลท่ีได้จึงเป็นผลจากการเก็บข้อมูลโดยนักวิจัยหลัก
ในพน้ื ทีแ่ ละผ้ปู ระสานงานสนามเปน็ หลกั
การพยายามแก้ไขข้อจ�ำกัดน้ีในประเด็นน้ี คณะผู้วิจัยได้ท�ำการศึกษาเอกสาร
และสัมภาษณ์นักวิจัยหลักในพื้นท่ีและผู้ประสานงานสนามเพ่ิมเติมในประเด็นที่เห็นว่า
ยงั ไมค่ รบถว้ น ซ่ึงเช่ือว่าน่าจะทำ� ใหข้ ้อมูลทไ่ี ดม้ ีความนา่ เชื่อถือพอสมควร
1.7.3 เน่ืองจากอยู่ในช่วงเวลาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา
2019 หรอื โควิด-19 ทำ� ให้โครงการวิจัยไมส่ ามารถจดั เวทปี ระชมุ ระดมความคดิ เกี่ยวกบั
สถานการณ์และบริบทท่ีเก่ียวข้องกับการบริการด้านสุขภาพของพื้นที่ชายแดนประเทศ
กมั พชู าและ สปป.ลาว โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานท่เี กีย่ วข้องเข้ารว่ มใหค้ วามเหน็ ได้ จงึ ใช้
การจัดเวทีน�ำเสนอร่างรายงานการวิจยั ฉบับสมบรู ณ์แทน
1.8 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ
1.8.1 สถานการณ์และบริบท หมายถึง เหตุการณ์และเร่ืองราวท่ีก�ำลังเป็นอยู่
ในทนี่ หี้ มายถงึ เหตกุ ารณแ์ ละเรอ่ื งราวทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การบรกิ ารดา้ นสขุ ภาพของประเทศ
เพอื่ นบา้ นของไทยคอื กมั พชู า และ สปป.ลาว โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในพนื้ ทช่ี ายแดนทต่ี ดิ กบั
จงั หวดั อุบลราชธานี ศรสี ะเกษ และสุรินทร์
1.8.2 การบริการด้านสุขภาพ หมายถึง การบ�ำรุงรักษาหรือพัฒนาสุขภาพ
โดยการปอ้ งกนั วนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรค ความเจบ็ ปว่ ย การบาดเจบ็ และภาวะบกพรอ่ งทางกาย
หรอื จิตใจอยา่ งอ่ืนในมนุษย์ ทงั้ นี้ ลกั ษณะของการบริการดา้ นสุขภาพท่ีดี ท่พี ึงประสงค์
นนั้ ควรมลี กั ษณะ 6 ประการ คอื บรกิ ารกระจายครอบคลมุ (availability) การเขา้ ถงึ บรกิ าร
เชิงภูมิศาสตร์ (geographical accessibility) การเข้าถึงบริการเชิงวัฒนธรรม (cultural
accessibility) การเขา้ ถงึ บรกิ ารเชงิ เศรษฐกจิ (economical accessibility) ความตอ่ เนอื่ งของ
บริการ (continuity) และคุณภาพบริการตอบสนองตอ่ การแกป้ ญั หาดา้ นสุขภาพ (quality)
1.8.3 การบริการสุขภาพข้ามแดน/การบริการสาธารณสุขข้ามแดน หมายถึง
การเดินทางข้ามแดนรัฐชาติและการเข้าถึงบริการสุขภาพหรือบริการสาธารณสุขของ
พลเมอื งของรฐั ชาตอิ น่ื ในทนี่ ห้ี มายถงึ การเดนิ ทางขา้ มแดนรฐั ชาตแิ ละการเขา้ ถงึ บรกิ าร
การศึกษาสถานการณแ์ ละบริบททเี่ กยี่ วขอ้ งของพื้นทชี่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 65
สุขภาพ หรอื บรกิ ารสาธารณสขุ ของพลเมอื งของกัมพชู าและ สปป.ลาว ในสถานบริการ
สุขภาพของจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ อน่ึง ในการวิจัยคร้ังนี้ ค�ำว่า
“การบริการสุขภาพขา้ มแดน” จะใช้ในความหมายเดียวกบั คำ� วา่ “การบริการสาธารณสขุ
ขา้ มแดน”
1.8.4 อาณาบริเวณพื้นท่ชี ายแดน หมายถงึ เป็นพ้นื ทที่ ีผ่ ูค้ นในอดตี ที่อาศยั อยู่
ในบริเวณดังกล่าวมีการเดินทางติดต่อสัมพันธ์กันอย่างเสรี เพราะผู้คนเหล่าน้ันต่างมี
วัฒนธรรมหรือวิถีการด�ำเนินชีวิตท่ีคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นภาษา ศาสนา ความเช่ือ
ขนบธรรมเนียมประเพณี และแนวทางปฏิบัติต่างๆ น�ำมาซ่ึงปฏิสัมพันธ์ที่หลากหลาย
ท้ังความสัมพันธ์ที่ดีผ่านรูปแบบของเครือญาติ การแต่งงาน ญาติพี่น้อง เพ่ือน
ผู้รับอุปถัมภ์–ผู้ให้อุปถัมภ์ และความสัมพันธ์ในเชิงความขัดแย้งในบางกรณี อันเป็น
รูปแบบความสัมพันธ์ท่ีสืบเน่ืองมาแต่ยุคจารีต แม้ว่าในปัจจุบันอาจจะคลี่คลายไปบ้าง
ตามบรบิ ทของแตล่ ะพืน้ ที่ ในท่นี ้ีหมายถงึ อาณาบริเวณชายแดนไทย ลาว กมั พชู า
1.9 ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รบั
1.9.1 ไดท้ ราบสถานการณแ์ ละบรบิ ททเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพของพนื้ ที่
ชายแดนประเทศกมั พชู าและ สปป.ลาว ในแงข่ องยทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายดา้ นการสาธารณสขุ
จำ� นวนของสถานพยาบาลของรฐั และเอกชน และบคุ ลากรด้านสาธารณสุข
1.9.2 ไดท้ ราบปจั จยั ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั
อบุ ลราชธานีและจังหวดั ใกลเ้ คยี งของชาวกัมพชู าและชาวลาว
1.9.3 ไดท้ ราบรปู แบบการขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจังหวดั ใกล้เคียงของชาวกัมพชู าและชาวลาว
2
ทบทวนวรรณกรรม
“...[นับวัน] การศึกษาภาคสนามของนักมานุษยวิทยาจะเป็นเรื่อง
ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การศกึ ษาคนทอ่ี าศยั อยตู่ ดิ ถนิ่ ทอี่ ยนู่ อ้ ยลง แตก่ ลายมาเปน็
เร่ืองเก่ียวกับการเดินทางติดต่อกันมากข้ึน ทุกคนเดินทางเคลื่อนย้าย
อยู่ตลอดเวลา [ชีวิตผู้คน] ได้เป็นเช่นนี้มาเน่ินนานหลายศตวรรษแล้ว
น่นั คอื มีชีวติ อยใู่ นการเดนิ ทาง (dwelling-in-travel)”
(James Clifford, 1997 อ้างใน พฒั นา กติ ิอาษา, 2545: 110)
มุมมองของเจมส์ คลฟิ ฟอร์ด ในหนงั สอื เร่ือง Routes: Travel and Transition
in the Late Twentieth Century (1997) ท่ีนกั มานุษยวทิ ยาอยา่ งพฒั นา กติ ิอาษา (2545)
นักมานุษยวิทยาจากดินแดนอีสานของไทยท่ีข้ามแดนไปสอนหนังสือท่ีมหาวิทยาลัย
แห่งชาติสิงคโปร์ ยกข้ึนมาอ้างข้างต้นนั้น ไม่เพียงแต่จะชี้ให้เราเห็นถึงความส�ำคัญของ
มิติการเดินทางข้ามพรมแดนของผู้คนในการท�ำความเข้าใจปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม
ในโลกสมยั ใหมเ่ ทา่ นน้ั หากแตย่ งั ชแี้ นวโนม้ ของการศกึ ษาภาคสนามของนกั มานษุ ยวทิ ยา
ว่าจะปรับเปล่ียนจากการศึกษาคนที่อยู่อาศัยติดถิ่นท่ีอยู่น้อยลงไปเป็นเร่ืองของคน
ท่ีเดนิ ทางติดต่อกนั มากข้ึน ฉะน้ัน นกั มานษุ ยวิทยาต้องมองโลก ผคู้ น และปรากฏการณ์
ทเี่ กดิ ขนึ้ ในระดบั สากล ในลกั ษณะทไี่ มย่ ดึ โยงกบั ประวตั ศิ าสตร์ พนื้ ท่ี และทอ้ งถนิ่ ดงั เชน่
การศึกษาสนามแบบเดิมอีกต่อไป พื้นท่ีสนามในทางการศึกษามานุษยวิทยาจึงต้อง
เปลย่ี นแปลงไปตามบรบิ ทการเดนิ ทางของผคู้ น ทเ่ี คลอื่ นไหว โยกยา้ ย และขา้ มพรมแดน
อยู่ตลอดเวลา
งานวิจัยชิ้นนี้จึงเป็นการศึกษาชีวิตผู้คนท่ีเดินทางข้ามแดนเพ่ือรับบริการด้าน
สขุ ภาพในประเทศไทยโดยเชอ่ื มโยงไปกบั เงอ่ื นไขการเปลยี่ นแปลงของกระแสทนุ นยิ มโลก
และภูมิภาค ที่ปรากฏชัดออกมาในรูปของการผลักดันยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลาง
68 • บรกิ ารสุขภาพขา้ มแดนในจงั หวัดอบุ ลราชธานแี ละใกล้เคียงในเขตอสี านใต:้
สขุ ภาพนานาชาติ (Medical Hub) ของประเทศไทย ในฐานะประเทศปลายทางของผู้มา
รบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพขา้ มแดน โดยในบทนจ้ี งึ เปน็ การทบทวนวรรณกรรม ซงึ่ ประกอบดว้ ย
แนวคดิ และทฤษฎที ใี่ ชใ้ นการศกึ ษา และเอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ซงึ่ มรี ายละเอยี ด
ดังตอ่ ไปนี้
2.1 แนวคิดและทฤษฎที ่ีใช้ในการศกึ ษา
งานศึกษาเรื่องน้ีจ�ำเป็นที่จะต้องอาศัยแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องท่ีส�ำคัญ
3 กลุ่มใหญ่ๆ ดว้ ยกัน คอื แนวคิดโลกาภวิ ัตนแ์ ละการบูรณาการเป็นภูมภิ าคเดียวกนั กบั
การเคลอื่ นยา้ ยขา้ มแดน แนวคดิ การเปน็ ศนู ยก์ ลางบรกิ ารสขุ ภาพ และแนวคดิ การบรกิ าร
สขุ ภาพข้ามแดน ซ่ึงมรี ายละเอียดดังน้ี
2.1.1 แนวคิดโลกาภิวัตน์และการบูรณาการเป็นภูมิภาคเดียวกันกับ
การเคล่อื นย้ายข้ามแดน
งานศกึ ษาชน้ิ นม้ี องวา่ ปรากฏการณก์ ารเคลอ่ื นยา้ ยขา้ มแดนเพอื่ รบั บรกิ ารสขุ ภาพ
ที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงในเขตอีสานใต้น้ัน เป็นผลมาจาก
กระแสโลกาภวิ ัตนแ์ ละการบูรณาการเปน็ ภูมภิ าคเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงปฏบิ ตั กิ าร
ของวาทกรรมประชาคมอาเซยี น (ASEAN Community) ฉะนนั้ การทำ� ความเขา้ ใจแนวคดิ
นยี้ อ่ มจะมปี ระโยชนต์ อ่ การนำ� มาอธบิ ายปรากฏการณก์ ารบรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนทศ่ี กึ ษา
เม่ือพูดถึงโลกยุคโลกาภิวัตน์ในความรู้สึกและการรับรู้ของคนส่วนใหญ่ เรามัก
มคี วามเขา้ ใจตอ่ ปรากฏการณด์ งั กลา่ วนไี้ ปในทศิ ทางทด่ี ี ไมว่ า่ จะมองวา่ โลกาภวิ ตั นท์ ำ� ให้
โลกทกี่ วา้ งใหญน่ แ้ี คบลง ทำ� ใหโ้ ลกเชอื่ มเขา้ หากนั ทำ� ใหม้ นษุ ยเ์ ขา้ ใกลก้ นั มปี ฏสิ มั พนั ธก์ นั
ไปมาหาสกู่ นั มากขนึ้ ผา่ นการคมนาคมและการสอื่ สารทส่ี ะดวก รวดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ
หรอื ยง่ิ กวา่ นน้ั กม็ องวา่ โลกาภวิ ตั นย์ งั ชว่ ยทลาย หรอื ทำ� ใหเ้ สน้ เขตแดน–พรมแดนรฐั ชาตนิ น้ั
พรา่ เลือนลงไป
ครงั้ หนึ่งเส้นแบ่งในจินตนาการเหลา่ น้เี คยแบ่งเขาและเราออกจากกัน ทำ� ใหเ้ รา
และเขาทะเลาะตบตีพุ่งชนกันมาแล้วไม่รู้กี่คร้ังในประวัติศาสตร์ท่ีผ่านมา ทั้งที่บางครั้ง
เรามวี ถิ ชี วี ติ มวี ฒั นธรรม มคี วามเชอ่ื ทเี่ หมอื นกนั และอยใู่ กลก้ นั เพยี งแคล่ ำ� ธารเลก็ ๆ กนั้
หรือเปน็ เพียงหมดุ เล็กๆ เพยี งอนั เดียว1
1 ณัฐพงศ์ ดวงแก้ว, โลกาภิวัตน์ และประวัติศาสตร์การระบาดของเชื้อโรคข้ามดินแดน [Online],
25 ธนั วาคม 2563. แหลง่ ทม่ี า https://thestandard.co/globalization-and-history-of-cross-border-
pathogens
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททเ่ี กี่ยวข้องของพื้นทชี่ ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 69
อย่างไรก็ตาม ค�ำว่า โลกาภิวัตน์ (globalization) แม้ว่าจะเป็นค�ำท่ีสังคม
คุ้นเคยและคุ้นชิน หากแต่เมื่อต้องการท่ีจะหาข้อสรุปเกี่ยวกับนิยามความหมายของ
ค�ำๆ นแี้ ลว้ กลับพบวา่ ยงั มีภาวะท่ี “ไม่เสถยี ร” อยคู่ ่อนข้างมาก เพราะยงั มีความตา่ ง
ในรายละเอียดของการนิยาม เช่น ระบบการวัด ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
ลำ� ดบั เวลา ผลกระทบ แนวโน้มของปรากฏการณ์ และผลลพั ธท์ างนโยบาย ฯลฯ อันเป็น
การสร้างภาพตามจนิ ตนาการของผู้ศึกษา ดงั ท่ี แมนเฟรด็ สเตเกอร์ (Manfred Steger)
ศาสตราจารย์ด้านโลกศึกษา (Global Studies) และผู้อ�ำนวยการศูนย์วิจัยโลกนิยม
(Globalism Research Center) แห่งมหาวิทยาลัย Royal Melbourne Institute of
Technology (RMIT) เจ้าของผลงานเร่ือง Globalization: A Very Short Introduction
(2009) ได้ยกค�ำเปรียบเปรยของพุทธศาสนามาอธิบายถึงการยังไม่ลงตัวของนิยาม
โลกาภวิ ตั นข์ องนักวิชาการว่าเป็นเสมอื น “ตาบอดคล�ำชา้ ง”1 (ณัฐพงศ์ ดวงแกว้ , ม.ป.ป.)
ดังภาพท่ี 2.1
ภาพท่ี 2.1 แสดงภาพเปรียบเปรยนักวชิ าการทศ่ี ึกษาโลกาภวิ ตั น์และชา้ ง
ท่มี า: แมนเฟร็ด สเตเกอร,์ วรพจน์ วงศก์ จิ รงุ่ เรือง (แปล), โลกาภิวตั น์: ความรู้ฉบับพกพา
(กรงุ เทพฯ: โอเพน่ เวลิ ดส์ , 2553), 37.
ด้วยเหตุที่ค�ำนิยามโลกาภิวัตน์ยัง “ไม่เสถียร” ดังกล่าว แมนเฟร็ด สเตเกอร ์
จึงเสนอวา่ แม้จะมคี วามแตกตา่ งทางความคดิ เห็นแต่มันกเ็ ปน็ ไปไดท้ จี่ ะหาแนวคิดร่วม
ท่ามกลางความพยายามทางวชิ าการอันหลากหลาย เพ่ือระบถุ ึงลักษณะทีเ่ ปน็ แก่นของ
กระบวนการโลกาภวิ ตั น์ โดยหยบิ ยกตวั อยา่ งของคำ� นยิ ามโลกาภวิ ตั นท์ ไี่ ดร้ บั การยอมรบั
ในวงกว้างของนักวิชาการด้านสังคมวิทยา วรรณกรรม รัฐศาสตร์ และความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศ 5 ตวั อยา่ ง มาพิจารณาดงั นี้ (แมนเฟร็ด สเตเกอร,์ 2553: 39–41)
70 • บริการสุขภาพขา้ มแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานีและใกล้เคียงในเขตอีสานใต้:
แอนโธนี กดิ เตน็ ส์ (Anthony Giddens) นกั วชิ าการดา้ นสงั คมวทิ ยา อดตี ผอู้ ำ� นวยการ
มหาวิทยาลยั London School of Economics ให้นยิ ามว่า
“ดังน้ันเราสามารถนิยามโลกาภิวัตน์ว่าเป็นกระบวนการท่ีท�ำให้ความสัมพันธ์
ทางสังคมในระดับโลกมีความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเชื่อมโยงพื้นที่ที่มีระยะห่างไกลกัน
ในลักษณะท่ีเร่ืองราวที่เกิดข้ึนในท้องถ่ินหนึ่งถูกก�ำหนดโดยเหตุการณ์ซ่ึงเกิดข้ึนห่างไกล
ออกไป รวมถงึ ในทางกลับกนั ”
เฟดรคิ เจมสัน (Fredric Jameson) ศาสตราจารยด์ า้ นวรรณกรรม มหาวทิ ยาลัย
Duke ให้นิยามว่า
“แนวคิดโลกาภิวัตน์สะท้อนถึงสภาวะที่การสื่อสารในระดับโลกได้ขยายออกไป
กวา้ งไกล รวมถงึ ขอบเขตของตลาดโลกกเ็ ชน่ กนั ทง้ั สองมติ ไิ ดก้ ลายเปน็ ปรากฏการณท์ ี่ดู
เป็นรปู ธรรมและเกิดขึน้ อยา่ งรวดเรว็ กวา่ ในช่วงระยะแรกของภาวะสมยั ใหม่”
เดวดิ เฮลด์ (David Held) ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั London
School of Economics ให้นิยามวา่
“โลกาภิวัตน์เป็นเร่ืองของกระบวนการ (หรือชุดกระบวนการ) ที่เกี่ยวข้องกับ
การเปลี่ยนแปลงการจัดการพ้ืนที่ความสัมพันธ์และการด�ำเนินกิจกรรมทางสังคม
โดยอาจประเมนิ ในแงร่ ะดบั ความครอบคลมุ (extensity) ความเขม้ ขน้ (intensity) ความรวดเรว็
(velocity) และผลกระทบ (impact) ซึ่งกอ่ ใหเ้ กดิ การไหลเวยี นและการสร้างเครือข่ายของ
กจิ กรรมต่างๆ การปฏสิ มั พนั ธ์ และการใช้อ�ำนาจ ทม่ี ลี กั ษณะขา้ มทวปี หรือข้ามภูมภิ าค”
โรแลนด์ โรเบิร์ทสัน (Roland Robertson) ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา
มหาวทิ ยาลัย Aberdeen ประเทศสกอตแลนด์ ให้นิยามวา่
“โลกาภิวัตน์เป็นแนวคิดที่พูดถึงการบีบอัดของโลกและการท�ำให้ส�ำนึกที่ว่า
โลกเปน็ หนงึ่ เดยี วทวคี วามเข้มข้นขนึ้ ”
เจมส์ มิทเทลิ แมน (James Mittleman) ศาสตราจารยด์ ้านความสัมพันธร์ ะหว่าง
ประเทศ American University, Washington ใหน้ ิยามวา่
“โลกาภิวัตน์เป็นกระบวนการที่บีบอัดความสัมพันธ์ทางสังคมท้ังในมิติของเวลา
และพื้นท”ี่
จากคำ� นยิ ามดงั กลา่ วชใ้ี หเ้ หน็ คณุ สมบตั หิ รอื ลกั ษณะซง่ึ เปน็ แกน่ ของปรากฏการณ์
โลกาภวิ ัตน์ 4 ประการ ดงั น้คี ือ
ประการที่หน่ึง โลกาภิวัตน์เก่ียวข้องกับ การเกิดข้ึน (creation) ของเครือข่าย
และกิจกรรมทางสังคมชนิดใหม่ และ การทวีคูณ (multiplication) ของเครือข่ายและ
กจิ กรรมทม่ี อี ยแู่ ลว้ ซงึ่ ตดั ขา้ มพรมแดนทางการเมอื ง เศรษฐกจิ วฒั นธรรม และภมู ศิ าสตร์
แบบดง้ั เดมิ ดงั ที่เหน็ จากกรณีของอัลจาซรี า การเกดิ ขึ้นของส�ำนกั ขา่ วดาวเทียม นำ� ไปสู่
การศึกษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททเ่ี กีย่ วข้องของพนื้ ทีช่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 71
การผสมผสานของเครือข่ายมืออาชีพ นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และการตัดสินใจทาง
การเมอื ง ซงึ่ เออื้ ใหเ้ กดิ ระเบยี บทางสงั คมแบบใหมท่ ข่ี า้ มพน้ รปู แบบทต่ี ดิ กรอบความเปน็ ชาติ
ประการที่สองของโลกาภิวัตน์ถูกสะท้อนผ่าน การแผ่ขยาย (expansion)
และ การยดื ขยาย (stretching) ของความสมั พนั ธท์ างสงั คม กจิ กรรม และการพง่ึ พาอาศยั กนั
ตลาดการเงนิ ในปจั จบุ นั แผข่ ยายไปทวั่ ทกุ มมุ โลก และการคา้ อเิ ลก็ ทรอนกิ สก์ เ็ กดิ ขนึ้ ตลอด
24 ชั่วโมง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่แทบจะเป็นพิมพ์เดียวกันทั่วโลกผุดขึ้น
ในทกุ ทวปี และวางขายสนิ คา้ แทบทกุ ชนดิ จากทกุ ภมู ภิ าคของโลกใหก้ บั ผบู้ รโิ ภคทม่ี กี ำ� ลงั ซอื้
รวมถึงสินค้าทช่ี น้ิ ส่วนตา่ งๆ ถกู ผลิตในประเทศต่างๆ ทว่ั โลก กระบวนการยดึ ขยายทาง
สงั คมเชน่ นเ้ี กดิ ขน้ึ กบั เครอื ขา่ ยผกู้ อ่ การรา้ ยอลั กออดิ ะห์ เชน่ เดยี วกบั ทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั องคก์ ร
ลกั ษณะอื่นๆ อาทิ องคก์ รพัฒนาเอกชน บริษัท ห้างรา้ น สโมสร และสถาบันและองคก์ ร
ทงั้ ในระดบั ภมู ภิ าคและระดบั โลกอกี นบั ไมถ่ ว้ น เชน่ องคก์ ารสหประชาชาติ (UN) สหภาพ
ยุโรป (EU) สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) องค์การเอกภาพ
แอฟรกิ า (Organization of African Unity) องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without
Borders) สมัชชาสงั คมโลก (World Social Forum) กูเกลิ และอีกมากมาย
ประการที่สาม โลกาภิวัตน์เกี่ยวข้องกับ การท�ำให้เข้มข้นข้ึน (intensification)
และ การเพมิ่ อตั ราเร่ง (acceleration) ในการแลกเปลี่ยนและกิจกรรมทางสังคม ดังเช่น
ทนี่ กั สงั คมวิทยาชาวสเปน มานูเอล คาสเทลส์ (Manuel Castells) บอกไว้ว่า การเกิดขึ้น
ของ “สังคมเครือข่าย” (network society) ในระดับโลก จ�ำเป็นต้องมีการปฏิวัติทาง
เทคโนโลยี ซ่ึงถูกพัฒนาข้ึนอย่างรวดเร็วโดยเทคโนโลยีด้านการขนส่งและสารสนเทศ
นวัตกรรมซงึ่ เติบโตดว้ ยความเรว็ ที่นา่ ทง่ึ นี้ กำ� ลังเปลย่ี นแปลงภมู ทิ ัศนท์ างสงั คมท่ีมนุษย์
อาศัยอยู่ อินเทอร์เน็ตส่งผ่านข้อมูลจากแดนไกลตามเวลาจริง และดาวเทียมถ่ายทอด
ภาพทเ่ี กดิ ขน้ึ ในตา่ งแดนใหก้ บั ผชู้ มไดท้ นั ที การทำ� ใหค้ วามสมั พนั ธท์ างสงั คมในระดบั โลก
มีความเข้มข้นขึ้นหมายความว่า ส่ิงที่เกิดขึ้นในท้องที่หน่ึงจะถูกก�ำหนดโดยสถานการณ์
ท่ีเกิดขึ้นจากแดนไกล รวมถึงในทางกลับกันด้วย หรือพูดอีกอย่างคือ กระบวนการ
โลกาภิวัตน์และท้องถ่ินภิวัตน์ (localization) ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน ทว่าอันที่จริงเป็น
กระบวนการท่ีเก่ียวเน่ืองกัน ดังนั้น แทนท่ีจะมองว่าโลกและท้องถิ่นต้ังอยู่ตรงฐาน
และยอดของการแบ่งชั้นทางภูมิศาสตร์แบบเก่า บัดนี้ มันได้ผสมปนเปกันไปกับชาติ
และภมู ิภาคในระบบการวัดแบบใหมท่ ี่เปน็ แนวราบ
ประการที่ส่ี ตามท่ไี ดเ้ น้นถงึ โลกจินตกรรม กระบวนการโลกาภิวัตนไ์ ม่ได้เกดิ ขนึ้
ในระดับของวัตถุท่ีเป็นภววิสัยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในระดับจิตส�ำนึกของมนุษย์ที่เป็น
อัตวิสัยด้วย โลกท่ีถูกบีบอัดจนกลายเป็นพรมแดนเดี่ยว ส่งผลให้กรอบในการคิด
และการกระทำ� ของมนษุ ยเ์ ชอื่ มโยงในระดบั โลกมากขน้ึ โลกาภวิ ตั นจ์ งึ เกย่ี วพนั กบั โครงสรา้ ง
72 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวัดอบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต:้
ท้ังระดับมหภาคของชุมชนและระดับจุลภาคของความเป็นมนุษย์ มันลงลึกไปถึงแก่น
ของตวั ตนและนสิ ยั ใจคอ และนำ� ไปสกู่ ารเกดิ ขนึ้ ของอตั ลกั ษณท์ ง้ั ระดบั รวมหมแู่ ละปจั เจก
ชนดิ ใหม่ ซึง่ ถกู หล่อเล้ียงดว้ ยความสัมพันธ์ระหว่างปัจเจกและโลกท่ีเข้มข้นมากข้นึ
หลงั จากทไี่ ดร้ ะบถุ งึ คณุ ลกั ษณะทงั้ 4 ประการ ทเ่ี ปน็ แกน่ ของโลกาภวิ ตั นอ์ อกมา
อย่างชัดเจน จากค�ำนิยามของนักวิชาการท้ัง 5 คนข้างต้นแล้ว แมนเฟร็ด สเตเกอร ์
จงึ เสนอคำ� นยิ ามของโลกาภวิ ตั นไ์ วว้ า่ “โลกาภวิ ตั นเ์ ปน็ กระบวนการทพี่ ดู ถงึ การแผข่ ยาย
และการทำ� ใหเ้ ขม้ ขน้ ขน้ึ ของความสมั พนั ธแ์ ละจติ ส�ำนกึ ซงึ่ ขา้ มพน้ เวลาและพน้ื ทข่ี องโลก”
(เรื่องเดยี วกนั , 43)
พลังของกระแสโลกาภิวัตน์ท่ีกล่าวถึงข้างต้นได้ก่อให้เกิดการบูรณาการเป็น
ภูมิภาคเดียวกัน (Regional Integration) หรือที่บางครั้งถูกเรียกว่า “ภูมิภาคนิยม”
(regionalism) นับต้ังแต่การส้ินสุดของสงครามเย็นในภูมิภาคนี้ ซึ่งส่วนหน่ึงนั้นเป็นผล
มาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ กระแสข้ามชาติ การแพร่กระจายของ
เทคโนโลยกี ารสื่อสาร และการเปลยี่ นแปลงทางการเมืองระดบั ภูมิภาค ท่เี ป็นผลมาจาก
กระแสโลกาภวิ ตั นน์ น่ั เอง คำ� วา่ “ภมู ภิ าค” ในทน่ี ผี้ วู้ จิ ยั หมายถงึ ทงั้ “อนภุ มู ภิ าคลมุ่ นำ้� โขง”
(Greater Mekong Subregion – GMS) และสมาคมประชาชาติเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
หรืออาเซียน (Association of South East Asian Nations – ASEAN) ซ่ึงท้ังไทย ลาว
และกัมพชู า ตา่ งก็เปน็ สมาชกิ ขององค์กรท้งั สองกล่มุ นี้
ทั้งน้ี “การบูรณาการเปน็ ภมู ิภาคเดยี วกัน” หรอื “ภูมภิ าคนยิ ม” น้นั เปน็ แนวคิด
ทเ่ี รม่ิ โดดเดน่ ในชว่ งทศวรรษ 1950 โดยเรมิ่ จากการพยายามอธบิ ายการเปลยี่ นแปลงของ
สถาปัตยกรรมทางเศรษฐกิจและการเมืองของยุโรป ที่มีการเคล่ือนตัวไปสคู วามร่วมมือ
ทเี่ พมิ่ มากขนึ้ ระหวา่ งรฐั การคอ่ ยๆ เปลยี่ นถา่ ยอำ� นาจไปสสู่ ถาบนั เหนอื ชาติ กระบวนการ
สร้างลักษณะที่เหมือนกันของค่านิยม การน�ำไปสูความเป็นประชาสังคมโลก และ
การสรา้ งประชาคมทางการเมืองรปู แบบใหม่
ต่อมาในช่วงปลายทศวรรษ 1980 การบูรณาการในภูมิภาคเปลี่ยนแปลงไป
อย่างมาก มีการตอบสนองตอ่ กระแสโลกาภิวัตนแ ละระบบหลายข้ัวอำ� นาจ (ซ่งึ เป็นผล
มาจากการส้ินสุดของสงครามเย็น) การบูรณาการในภูมิภาคในหลายพ้ืนท่ีของโลก
มีลักษณะร่วมกันหลายประการ โดยเฉพาะความตกลงมีแนวโน้มจะเปิดกว้างมากขึ้น
และครอบคลมุ มากข้นึ
การบูรณาการเป็นภูมิภาคเดียวกันหรือภูมิภาคนิยมน้ี เป็นแนวคิดท่ีเพ่ิงเริ่ม
มีพัฒนาการในระยะเวลาไมน านนัก จากแนวคิดดง้ั เดิมทีเ่ ชอ่ื ในเรอื่ งเขตอำ� นาจอธปิ ไตย
เหนือดินแดนของแต่ละรัฐ แต่เมื่อโลกมีวิวัฒนาการ และสภาพแวดล้อมต่างๆ ท่ี
เปลี่ยนแปลงไป รฐั แต่ละรัฐจึงพบว่าการรวมกลมุ่ หรอื การร่วมมือกนั ของรฐั ท่มี พี นื้ ฐาน
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ทท่ีเก่ยี วขอ้ งของพืน้ ที่ชายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 73
เกย่ี วเนอื่ งเชอื่ มโยงกนั ไมว า่ จะเปน็ ดว้ ยเรอื่ งประวตั ศิ าสตร์ ทต่ี ง้ั ทางภมู ศิ าสตร์ ประชากร
ความเชอื่ ศาสนา จะสามารถกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ ละตอบสนองความตอ้ งการของรฐั ตน
ไดดีกว่า ไมว่าจะเป็นความร่วมมือทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม หรือด้านอื่นๆ
จงึ ท�ำให้แต่ละรฐั ยอมสละเขตอ�ำนาจหรือผลประโยชนบางดา้ นของตน เพอื่ เข้าร่วมเปน็
ส่วนหน่ึงของกลุ่มความร่วมมือท่ีก่อต้ังขึ้น โดยอาจจะเป็นการรวมกลุ่มเพ่ือร่วมมือกัน
ในลักษณะหลวมๆ ไมเป็นทางการ มีความยืดหยุ่นในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน
การด�ำเนินงานต่างๆ ใช้หลักความสมัครใจ ไปจนถึงการรวมกลุ่มที่มีการก่อตั้งข้ึน
อย่างเป็นทางการ มีหลักปฏิบัติระหว่างรัฐสมาชิกท่ีก�ำหนดไวอย่างแน่นอน ชัดเจน
โดยถอื วา่ กลมุ่ ทตี่ งั้ ขนึ้ ใหมน่ น้ั มสี ถานะเสมอื นเปน็ รฐั ใหมห่ รอื องคก์ ารใหมโ่ ดยมรี ฐั สมาชกิ
เป็นองค์ประกอบ ไทย กัมพูชา และลาวเอง ก็ตระหนักถึงประโยชนท่ีจะไดรับจาก
การรวมกลุ่มหรือความร่วมมือระหว่างรัฐต่างๆ ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการรวมกลุ่ม
หรือความร่วมมือภายในภูมิภาคและอนุภูมิภาค ดังจะเห็นไดว่าท้ังสามประเทศไดเป็น
ผู้ร่วมก่อต้ังและ/หรือเข้าร่วมในกรอบความร่วมมือต่างๆ ในภูมิภาคและอนุภูมิภาค
หลายกรอบ เชน่ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ ในอนภุ มู ภิ าคลมุ่ แมน่ ้�ำโขง 6 ประเทศ (GMS)
ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ อริ วด–ี เจา้ พระยา–แมโ่ ขง (ACMECS) และโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ
สมาคมประชาชาตเิ อเชยี ตะวันออกเฉยี งใตห้ รืออาเซยี น ที่กลา่ วไปแล้วขา้ งต้น (ทพิ รัตน์
บุบผะศริ ิ, ม.ป.ป.)
การท�ำงานบูรณาการระดับภูมิภาคของกลุ่มภูมิภาคส่วนใหญ่มักมีลักษณะ
ภมู ภิ าคนิยม หรือเปน็ แผนโครงการ หรอื เป็นนโยบายความร่วมมือของรัฐเชงิ ระหวา่ งรัฐ
และโดยรฐั ดงั เชน่ กรณขี องความรว่ มมอื ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ กเ็ ปน็ ผลมาจาก
ปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือของอาเซียนที่เรียกว่า ข้อตกลงบาหลี 2 (Declaration of
ASEAN Concord II หรือ Bali Concord II) ท่ีก�ำหนดใหอ้ าเซยี นรวมตัวกนั เป็นชุมชน
หรือประชาคมเดียวกันให้เสร็จภายในปี 2563 (ค.ศ. 2020) โดยด้านการเมืองให้จัดต้ัง
“ประชาคมการเมืองความม่ันคง” หรือ ASEAN Political Security Community (APSC)
ดา้ นเศรษฐกจิ ใหจ้ ดั ตง้ั “ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น” หรอื ASEAN Economic Community
(AEC) และด้านสังคมและวัฒนธรรม ให้จัดตั้ง “ประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน”
หรือ ASEAN Socio-Cultural Community (ASCO) ซ่ึงถือเป็น 3 เสาหลักท่ีเก่ียวข้อง
สัมพันธ์กัน ต่อมาผู้น�ำอาเซียนเห็นชอบให้เร่งรัดการเป็นประชาคมอาเซียนให้เร็วข้ึน
กว่าเดมิ โดยเรง่ ให้แลว้ เสรจ็ ในปี 2558 ซ่ึงความร่วมมือดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ
ก็จัดอยู่ในเสาหลักด้าน “ประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน” ที่น�ำมาซึ่งปรากฏการณ์
การบรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในภมู ิภาคนี้น่ันเอง
74 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อุบลราชธานีและใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
จากแนวคดิ กลา่ วมาขา้ งตน้ สรปุ ไดว้ า่ “โลกาภวิ ตั น”์ อนั หมายถงึ การเชอ่ื มโยงกนั
ทวั่ ทงั้ โลกหรอื ขา้ มเขตแดนตา่ งๆ รฐั ชาติ ทง้ั ทางเศรษฐกจิ วฒั นธรรม อดุ มการณ์ ความรู้
และเทคโนโลยีน้ัน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ของการเดินทางและเคลื่อนย้าย (mobilities)
ของผู้คน สงิ่ ของ ภาพลักษณ์ ขา่ วสาร วฒั นธรรมและค่านยิ มบนความสัมพนั ธ์ชุดใหม่
ซง่ึ น�ำมาสู่กระบวนการกลายเป็นภมู ิภาคเดยี วกนั (regionalization) อนั เปน็ ปรากฏการณ์
ที่เกิดข้ึนจากการเชื่อมโยงทางภูมิศาสตร์ท่ีเกิดจากเส้นทางคมนาคมท้ังทางบก ทางน�้ำ
ทางอากาศ สง่ ผลใหม้ ผี กู้ ลา่ วกนั วา่ ทำ� ใหโ้ ลกใบนเ้ี ลก็ และแคบลง ซง่ึ ผลพวงของโลกาภวิ ตั น์
และกระบวนการกลายเป็นภูมิภาคนี้กล่าวได้ว่ามีผลกระทบกับทุกๆ วงการ ซ่ึงรวมถึง
พฤติกรรมด้านสาธารณสุขด้วย ในฐานะที่เป็นกระบวนการของวิถีชีวิตข้ามพรมแดน
ในยคุ สมัยปจั จบุ ันดว้ ย ทำ� ให้ประเด็นเร่อื งการจดั การบรเิ วณจุดผา่ นแดนกลายเป็นเร่อื ง
เร่งด่วนท่ีส�ำคัญและจะส่งผลกระทบในวงกว้างหากไม่ได้รับการดูแล อันหมายรวมถึง
การข้ามแดนเพอื่ รับบรกิ ารสุขภาพดว้ ย
2.1.2 แนวคดิ การเปน็ ศูนยก์ ลางบรกิ ารสขุ ภาพ (Medical Service Hub)
ศูนย์กลางบริการสขุ ภาพ หรือเรียกสน้ั ๆ วา่ Medical Hub นน้ั เปน็ ผลมาจาก
การขยายตวั ของการทอ่ งเทยี่ วเชงิ การแพทยห์ รอื เชงิ สขุ ภาพ (Medical Tourism) ซงึ่ เกดิ ขน้ึ
ในหลายประเทศ โดยมีการจัดให้ผู้ป่วยไปรับบริการด้านการแพทย์หรือด้านสุขภาพ
ในประเทศอื่นที่มีบริการท่ีมีคุณภาพสูงกว่า หรือมีค่าใช้จ่ายต่�ำกว่าหรือเสียเวลารอคิว
นอ้ ยกวา่ และในบางกรณกี ม็ กี ารผสมผสานบรกิ ารดา้ นการรกั ษาพยาบาลและการพกั ฟน้ื
กับการทอ่ งเทยี่ วดว้ ย (ศูนย์ข่าวอาเซยี น กรมประชาสมั พันธ์, 2560)
ในกรณีของประเทศไทยนั้น เป็นแหล่งท่องเท่ียวที่เป็นท่ีนิยมของชาวต่างชาติ
และเป็นประเทศท่ีเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและท�ำงานอย่างกว้างขวาง
ท�ำให้สถานพยาบาลในประเทศไทยหลายแห่งมีประสบการณ์กับการรักษาชาวต่างชาติ
อยู่แล้ว ประกอบกับประเทศไทยมีแพทย์ท่ีไปศึกษาต่อในต่างประเทศจ�ำนวนมาก
แพทย์ไทยจ�ำนวนไม่น้อยจึงมีศักยภาพในการรักษาพยาบาลชาวต่างประเทศและ
นกั ทอ่ งเทยี่ ว จดุ เปลย่ี นทส่ี ำ� คญั ของการขยายการทอ่ งเทย่ี วเชงิ การแพทยใ์ นประเทศไทย
เกดิ ขน้ึ หลงั ปี 2550 จากความพยายามของภาคเอกชนเพอื่ แกป้ ญั หาผลกระทบจากภาวะ
เศรษฐกิจฟองสบู่ กล่าวคือ ในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะฟองสบู่นั้น โรงพยาบาล
เอกชนของไทยก็คล้ายกับธุรกิจเอกชนอื่นๆ ที่ได้มีการลงทุนด้านการก่อสร้างและ
ขยายกิจการอย่างขนานใหญ่ เนื่องจากกลุ่มท่ีเคยเป็นลูกค้าหลักมีรายได้ลดลงจึงหันไป
รับบริการรักษาพยาบาลที่อื่น โรงพยาบาลเหล่าน้ีจึงพยายามปรับตัวโดยการหาลูกค้า
จากประเทศทมี่ กี ำ� ลงั ซอ้ื สงู (เชน่ ญปี่ นุ่ ยโุ รป และตะวนั ออกกลาง) เขา้ มาเสรมิ ในสว่ นของ
ภาครัฐน้ัน เน่ืองจากในช่วงวิกฤตดังกล่าวประเทศไทยมีปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบรบิ ทท่เี กี่ยวขอ้ งของพน้ื ทช่ี ายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 75
ในอัตราท่ีสูงติดต่อกันมานานหลายปีหลังจากภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก รัฐบาลจึงได้
พยายามผลักดันให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ซ่ึงนอกจากการส่งออกสินค้าและแรงงานไป
ต่างประเทศแลว้ กรมส่งเสริมการคา้ ระหวา่ งประเทศ กระทรวงพาณชิ ย์ ยงั หันมาสนใจ
การหารายได้เข้าประเทศจากบริการด้านสาธารณสุข ซึ่งท่ีผ่านมาสาธารณสุขของไทย
มีชื่อเสียงเป็นท่ีรู้จักกันดีในระดับภูมิภาคอยู่แล้ว โดยให้มีการขยายบริการในรูปของ
การท่องเท่ียวเชิงการแพทย์ที่มีการน�ำคนไข้จากประเทศท่ีมีก�ำลังซื้อสูงมารับบริการ
ทางการแพทย์และสุขภาพในประเทศไทย และดึงดูดผู้ที่เกษียณอายุมาต้ังถิ่นฐาน
ในประเทศไทย นโยบายนไ้ี ดก้ ำ� หนดเปน็ แผนยทุ ธศาสตร์ 5 ปี (พ.ศ. 2547–2551) ภายใต้
หลักการและเหตุผลว่า โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ส่งผลให้บริการสาธารณสุข
กระจายทั่วถึงท้ังประเทศ ท�ำให้โรงพยาบาลเอกชนที่มีขีดความสามารถถือเป็นโอกาส
ท่ีจะพัฒนาบริการและส่ิงอ�ำนวยความสะดวกทางด้านบริการการแพทย์และสุขภาพ
โดยยกระดบั มาตรฐานคณุ ภาพสสู่ ากลสามารถไปนำ� เสนอในตา่ งประเทศไดเ้ พอ่ื เปน็ แหลง่
รายได้ใหม่ที่มีประสิทธิภาพและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องให้กับประเทศ (เรื่องเดียวกัน)
ศนู ย์ขา่ วอาเซยี น กรมประชาสัมพันธ์ (2560) ระบวุ ่า Medical Hub หรือการเป็น
ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ เป็นหน่ึงในเป้าหมายของรัฐบาลปัจจุบันที่เตรียมผลักดัน
ให้เกิดข้ึนในประเทศไทย เนื่องจากการแพทย์และบริการของไทยต่างได้รับค�ำชื่นชม
จากนานาประเทศทั่วโลก โดยหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมขยายระยะเวลาพำ� นัก
ให้กับหลายประเทศ พร้อมกับเตรียมประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ
ตามนโยบาย Medical Hub เพื่อน�ำรายได้เข้าสู่ประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาต ิ
ฉบับปัจจุบัน รัฐบาลไทยภายใต้การน�ำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่ีต้องการ
เห็นขีดความสามารถของประเทศในด้านสุขภาพ และยกระดับมาตรฐานกับการดูแล
สุขภาพในเชิงของการท่องเที่ยวต่อยอดสู่การสร้างอาชีพ สอดคล้องกับแนวทางของ
รัฐบาลท่ีได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ
หรือ Medical Hub ภายในระยะ 10 ปี นบั ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2559–2568
ทั้งนี้ เพ่ือให้สอดรับและได้มาตรฐานระดับโลก กระทรวงสาธารณสุขและ
กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า จงึ ไดก้ ำ� หนดแนวทางการพฒั นาประเทศเปน็ ศนู ยก์ ลาง
ดา้ นสขุ ภาพออกเปน็ 4 ดา้ น ประกอบดว้ ย การเปน็ ศนู ยก์ ลางบรกิ ารเพอ่ื สง่ เสรมิ สขุ ภาพ
หรอื Wellness Hub ทเ่ี ป็นการบริการอยา่ งครบวงจร การเป็นศูนย์กลางบริการสขุ ภาพ
หรือ Medical Service Hub ทตี่ อ่ ยอดกบั ระบบสปา ระบบการท�ำงานเพ่ือสรา้ งสขุ ภาพ
รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซ่ึงถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทยและเป็นจุดหน่ึง
ที่หลายประเทศเข้ามาใช้บริการ การเป็นศูนย์กลางการศึกษา วิชาการและงานวิจัย
หรือ Academic Hub ท่ีเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
76 • บรกิ ารสขุ ภาพข้ามแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คียงในเขตอีสานใต้:
หรือ Product Hub นอกจากน้นั คณะกรรมการอ�ำนวยการเพ่ือพฒั นาประเทศใหเ้ ปน็
ศนู ยก์ ลางสขุ ภาพนานาชาติ ยงั ไดเ้ ตรยี มพรอ้ มอำ� นวยความสะดวกขยายระยะเวลาพำ� นกั
ในประเทศไทย ทัง้ ในกลมุ่ พักได้ไมเ่ กนิ 90 วัน และกลุ่มพ�ำนักระยะยาว Long Stay Visa
อีกด้วย
ขณะทก่ี ระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี าซงึ่ รบั ผดิ ชอบดแู ลดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว ไดเ้ ตรยี ม
ประชาสมั พนั ธก์ จิ กรรมการทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพ โดยสง่ เสรมิ ใหป้ ี 2561 เปน็ ปกี ารทอ่ งเทย่ี ว
วิถีไทย เกไ๋ กย๋ ่งั ยืน ในหัวข้อกจิ กรรมท่องเท่ียวเชงิ การแพทยแ์ ละสขุ ภาพ Medical and
Wellness Tourism รวมถึงงาน Medical Hub Expo 2018 เพ่ือขับเคล่ือนให้ไทยเป็น
ศูนยก์ ลางสขุ ภาพนานาชาติและนำ� รายไดม้ าสปู่ ระเทศได้ในอนาคต
ประเทศไทยนับเป็นหน่ึงในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากที่สุด
ในโลก และดว้ ยการแพทยแ์ ละการบรกิ ารทเี่ ปน็ ทยี่ อมรบั และประทบั ใจของนกั ทอ่ งเทยี่ ว
การยกระดับและผลักดนั ใหไ้ ทยเป็นศนู ยก์ ลางสขุ ภาพนานาชาติ Medical Hub ได้อยา่ ง
สมบรู ณแ์ บบ ถอื เปน็ อกี หนงึ่ หนทางทส่ี ามารถสรา้ งเมด็ เงนิ สรา้ งรายไดใ้ หก้ บั อตุ สาหกรรม
การทอ่ งเทย่ี ว รวมถงึ การแพทยข์ องประเทศ สรา้ งความไดเ้ ปรยี บของประเทศกบั การเปน็
ศูนยก์ ลางดา้ น Medical Hub ในภมู ิภาค (เพ่ิงอ้าง)
แนวคดิ นี้ คณะผวู้ จิ ยั จะนำ� มาใชใ้ นการวเิ คราะหถ์ งึ ปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การเดนิ ทาง
ขา้ มแดนเพือ่ มารบั บริการดา้ นสุขภาพในประเทศไทยว่า ยุทธศาสตร์พฒั นาประเทศไทย
เปน็ ศนู ย์กลางสุขภาพนานาชาตนิ ั้น เป็นปจั จัยดึงดดู (pull factor) ประการหน่ึงทีท่ ำ� ให้
ผู้ป่วยชาวตา่ งชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบา้ นอยา่ งกมั พชู าและ สปป.ลาว
เดนิ ทางขา้ มแดนเพ่อื มารบั บรกิ ารสุขภาพทีป่ ระเทศไทย
2.1.3 แนวคิดบริการสุขภาพข้ามแดน
ในศตวรรษท่ี 21 พรมแดนภายใตแ้ นวคดิ ท่ียดึ เอารฐั ชาติ อาณาเขต และพนื้ ท่ี
เปน็ บรรทดั ฐานในการกำ� หนดความเหมอื นและความตา่ งของสงั คมและวฒั นธรรม ไดถ้ กู
ท้าทายอย่างหนักจากภาวการณ์แห่งการเคลื่อนที่ การเลื่อนไหล และความไร้ขอบเขต
ของโลกในยคุ เศรษฐกจิ เสรนี ยิ มใหมท่ ป่ี ระกาศความใหมข่ องตนจากแนวคดิ พน้ พรมแดน
และพน้ ความเปน็ ชาตทิ ส่ี รา้ งความเชอื่ มตอ่ ทไี่ มต่ อ่ เนอ่ื งของสงั คมขา้ มพน้ื ทท่ี างภมู ศิ าสตร์
และวฒั นธรรม ในยคุ ทโ่ี ลกทเี่ ชอ่ื มตอ่ กนั เพยี งดว้ ยพรมแดนทางภมู ศิ าสตรไ์ ดถ้ กู ท�ำใหเ้ ปน็
สิ่งล้าหลัง และเช่ืองช้าด้วยอ�ำนาจของเทคโนโลยีและการส่ือสารสมัยใหม่ ความหมาย
ของพรมแดนได้ถูกตีความใหม่ผ่านวิธีคิดของแผนที่แบบใหม่ที่ไม่จ�ำเป็นต้องเป็นพ้ืนที่
ทางภูมิศาสตร์ที่ต่อเนื่อง หากแต่เหลื่อมซ้อนและเต็มไปด้วยรอยปริแตก (rupture)
ในขณะเดียวกัน รัฐชาติก็ได้ถูกแปรสภาพให้กลายเป็นเพียงกลจักรหน่ึงทางการค้าของ
โลกยุคโลกาภิวัตน์ท่ีซ่ึงรัฐไม่ได้ผูกติดกับพ้ืนท่ีหรืออาณาเขตอีกต่อไป (deterritorialized
การศึกษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททเี่ กย่ี วข้องของพน้ื ท่ีชายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 77
state) และพรมแดนได้กลายเป็นพ้นื ท่ที ท่ี ะลผุ า่ นได้ (porous) จะมีก็ได้ ไม่มีกไ็ ม่เสยี หาย
อะไร ตลาดการคา้ เสรใี นยคุ ทท่ี นุ นยิ มมรี ะบบการผลติ การสรา้ งความเชยี่ วชาญเฉพาะทาง
และการค้า มีความยืดหยุ่นและเคล่ือนย้ายได้เสมอ (post-fordism) เช่ือมั่นในตนเอง
ถึงข้ันที่ว่าอ�ำนาจของความร่วมมือของทุนทางการค้าท่ีไม่ผูกติดกับความเป็นประเทศ
จะทำ� ใหพ้ รมแดนกลายเปน็ เพยี งอนสุ รณส์ ถานของอ�ำนาจแบบเกา่ โดยทร่ี ฐั จะลดบทบาท
ลงมาเพยี งเอื้ออำ� นวยความสะดวกและชว่ ยกำ� กบั ดแู ลเทา่ นั้น (regulatory role) (ปิ่นแก้ว
เหลืองอร่ามศรี, 2545)
ดงั นน้ั โลกาภวิ ตั น์ (globalization) จงึ สง่ ผลสะเทอื นตอ่ พรมแดน/ชายแดนทกุ แหง่
ทั่วโลก เพราะโลกาภิวัตน์ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้ึนในโลกยุคใหม่ท่ีต้ังอยู่บนฐาน
ของเทคโนโลยีอันน�ำไปสู่ความเปล่ียนแปลงที่เร่งเร็วขึ้นในทุกระดับของสังคมมนุษย์
ซง่ึ นำ� มาสกู่ ารเคลอื่ นยา้ ยก�ำลงั คนดา้ นการบรกิ ารสขุ ภาพอยา่ งเสรี ทเ่ี รยี กวา่ สาธารณสขุ
ขา้ มแดน (cross-border public health) หรอื บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดน (cross-border health)
มีการยกระดับความรว่ มมือในมติ ิดา้ นสงั คม สาธารณสุขมากขนึ้ รวมท้งั เพิ่มอตั รากำ� ลงั
เจา้ หน้าท่ี และเทคโนโลยที างการแพทย์ที่ทันสมัย
การข้ามพรมแดนเพ่ือมารับบริการสุขภาพที่ประเทศเพ่ือนบ้าน (cross-border
health) เป็นปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้ึนในหลายประเทศท่ัวโลก พรมแดนประเทศไม่ใช่แค่
สิ่งที่แบ่งแยกพ้ืนท่ีระหว่างสองประเทศให้แยกขาดกันชัดเจน แต่พรมแดนระหว่าง
สองประเทศที่แม้จะแบ่งแยกกันชัดเจนยังมีความสัมพันธ์ระหว่างกันและส่งผลกระทบ
ต่อกันอีกด้วย ตัวอย่างเช่นโรคติดเช้ือท่ีเกิดในประเทศหนึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่ออีก
ประเทศเพื่อนบ้าน ดังน้ัน “สุขภาพข้ามพรมแดน” หรือ the cross-border health
ภายใต้มุมมองปรากฏการณ์ทางประชากรศาสตร์ (demographic phenomenon) คือ
การเคลอ่ื นยา้ ยของประชากรขา้ มพรมแดนระหวา่ งประเทศเพอ่ื เปา้ หมายในการแสวงหา
บรกิ ารสขุ ภาพ แนวคดิ เรอ่ื งสขุ ภาพชายแดนแบง่ เปน็ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การควบคมุ โรคตดิ ตอ่
วสิ ยั ทศั นช์ ายแดนสขุ ภาพดี การสง่ เสรมิ สขุ ภาพ การเจรจาระดบั ผนู้ ำ� การวจิ ยั และพฒั นา
สขุ ภาพชายแดน กจิ กรรมรว่ มสาธารณสขุ ชายแดน และการควบคมุ (ณภิ ทั รา หรติ วร และ
ชนินตรน์ ันทร์ สขุ เกษม, ม.ป.ป.)
อย่างไรก็ตาม ระบบบริการสุขภาพชายแดนและงานการสาธารณสุขชายแดน
มีมุมมองท่ีกว้างต่อนิยามสุขภาพ โดยมีมุมมองว่าสุขภาพเป็นสิทธิข้ันพื้นฐาน และ
ไม่ได้นิยามสุขภาพแค่การไม่มีโรคหรือปราศจากความเจ็บป่วยด้านร่างกายและจิตใจ
เทา่ นนั้ หากให้ความสำ� คญั ตอ่ ความรู้ท้องถน่ิ ที่ให้ความหมายต่อสขุ ภาพและปฏิบตั กิ าร
ท่ีมีต่อปัญหาโรคภัยไข้เจ็บของผู้ป่วยตามแนวชายแดนในชีวิตประจ�ำวัน ประเด็นสิทธิ
มนุษยชนด้านการรักษาพยาบาล การนิยามอัตลักษณ์ทางสังคมของกลุ่มชาติพันธุ์
78 • บริการสุขภาพขา้ มแดนในจังหวัดอุบลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอีสานใต:้
ตามแนวชายแดนผา่ นการใชบ้ รกิ ารทางการแพทย์ และการเดนิ ทางในลกั ษณะทอ่ งเทยี่ ว
เพื่อใช้บริการสุขภาพและเทคโนโลยีทางการแพทย์ของอีกประเทศเพื่อการเปลี่ยนผ่าน
ตวั ตนใหม่ ตวั อยา่ งเชน่ การเดนิ ทางในลกั ษณะทอ่ งเทย่ี วเพอ่ื ศลั ยกรรมตกแตง่ ในประเทศ
ที่ค่าบริการทางการแพทย์มีราคาถูก นอกจากนั้น งานศึกษาเกี่ยวกับประเด็นสุขภาพ
ชายแดนมมี มุ มองตอ่ ชายแดนหรอื พรมแดน (border) ระหวา่ งประเทศ เปน็ ทงั้ โครงสรา้ ง
ในเชิงภูมิศาสตร์และโครงสร้างทางจิตส�ำนึกการรับรู้ของผู้คนท้องถ่ินตามแนวชายแดน
(metal constructs) ดังน้ัน ค�ำว่าชายแดนหรือพรมแดนระหว่างประเทศในการรับรู้
ของผู้คนท้องถ่ิน มีนิยามที่ลื่นไหลมากกว่าการเป็นแค่พ้ืนที่ทางกายภาพภูมิศาสตร ์
หากพรมแดนระหว่างประเทศเป็นผลผลิตของความขัดแย้งทางการเมืองและอิทธิพล
จากทนุ นิยมโลกาภวิ ตั น์ (Alvarez, 1995) ซง่ึ ในอกี ด้านหนึง่ สง่ ผลให้นยิ ามและปฏิบตั ิการ
ทางการแพทยแ์ ละการสาธารณสุขของงานสุขภาพชายแดนมมี ิติที่กวา้ งขวางกวา่ แคก่ าร
ควบคุมปอ้ งกันโรคตดิ ตอ่ หรอื โรคระบาดตามแนวชายแดน นอกจากนี้ ไมเคิล เพียรส์ ัน
(Michael Pearson) อธิบายว่าการเช่อื มโยงและการแลกเปล่ยี นทางการแพทย์ (medical
connection and exchange) ระหว่างผู้คนในประเทศต่างๆ มีมาตลอดประวัติศาสตร์
มนษุ ยชาติ (Pearson, 2011) อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายทศวรรษทีผ่ ่านมา กระบวนการ
โลกาภิวัตน์ส่งอิทธิพลต่อการเพิ่มจ�ำนวนของประชากรที่อพยพข้ามพรมแดนระหว่าง
ประเทศเพอื่ แสวงหาบรกิ ารสขุ ภาพ ดงั นน้ั จงึ ไมเ่ พยี งแคก่ ารเดนิ ทางหรอื อพยพขา้ มประเทศ
เพ่ือใช้บริการทางการแพทย์ที่ประเทศเพ่ือนบ้านจะทวีจ�ำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่รวมท้ังน�ำมาสู่ความท้าทายใหม่ๆ ในการที่เราจะเข้าใจปรากฏการณ์นี้ ทั้งในแง ่
การออกแบบแผนงานพัฒนาด้านการสาธารณสุขชายแดน และประเด็นสิทธิสุขภาพ
ของผ้ปู ว่ ยที่เดนิ ทางขา้ มพรมแดนประเทศ (เรอื่ งเดียวกัน)
María Luisa Zúñiga (2012) กลา่ ววา่ สาธารณสขุ /สขุ ภาพชายแดนเปน็ ค�ำกวา้ งๆ
ทก่ี ำ� หนดโดยตลาดการดแู ลสขุ ภาพ สภาพแวดลอ้ มดา้ นกฎระเบยี บ กฎหมายดา้ นสขุ ภาพ
ปัจจัยด้านส่ิงแวดล้อม และผู้บริโภคด้านการดูแลสุขภาพและพฤติกรรมส่วนบุคคล
(ความเส่ียงและการป้องกัน) ท่ีก�ำหนดสุขภาพของผู้อพยพและประชากรอ่ืนๆ ที่อาศัย
อยู่ในภูมิภาคที่ตัดกันโดยพรมแดนทางภูมิรัฐศาสตร์ของสองประเทศข้ึนไป ในหนังสือ
ปี 2009 Condiciones de salud en la frontera norte de México (ภาวะสุขภาพ
ในชายแดนทางเหนือของเม็กซิโก) Salgado de Snyder ให้ค�ำอธิบายท่ีครอบคลุม
เก่ยี วกบั สขุ ภาพชายแดนในบรบิ ทของพรมแดนเม็กซโิ ก–สหรัฐอเมรกิ า โดยเนน้ ท่ีพลวตั
และสหวิทยาการ ธรรมชาติของสุขภาพชายแดนเป็นสนามส�ำหรับการท�ำความเข้าใจ
ล�ำดับความส�ำคัญด้านสุขภาพและความท้าทายท่ีประเทศต่างๆ ให้ความสนใจร่วมกัน
ในการปรับปรงุ ผลลัพธ์ดา้ นสขุ ภาพของผู้อพยพและประชากรขา้ มชาติ
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบททเี่ กีย่ วขอ้ งของพ้ืนท่ชี ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 79
ส�ำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย และเครือสถาบันวิจัย
ระบบสาธารณสุข (2555) กล่าวว่า สาธารณสุขข้ามแดน เป็นสถานการณ์การท่ีส่งผล
ทง้ั ในด้านดแี ละดา้ นเสยี กอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาท้ังประเทศต้นทางและประเทศปลายทางของ
การใช้บริการสุขภาพ เช่น โครเอเชีย (Croatia) เน่ืองจากประเทศเหล่านี้มีศักยภาพ
การใช้บริการที่น้อยกว่า และมีปัญหาด้านการเข้าถึงบริการท�ำให้มีการใช้บริการ
ขา้ มพรมแดนเพมิ่ มากขนึ้ โดยเฉพาะผทู้ อี่ ยใู่ นเขตชนบททไี่ มส่ ามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพ
ในประเทศของตน จึงต้องพ่ึงพาบริการสุขภาพจากต่างประเทศที่อยู่ใกล้กว่า อีกทั้ง
ประเทศสหภาพยุโรปสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้ด้วยความสะดวก ท้ังภาษา
และวัฒนธรรมมีความใกล้เคียงกัน รวมท้ังมีระบบการจ่ายเงินด้านสวัสดิการสุขภาพ
ท่ีเชื่อมโยงกัน ท�ำให้มีการแสวงหาการบริการสุภาพที่ดีส�ำหรับตนได้ง่ายและสะดวกขึ้น
โดยพบว่าปัจจัยต่อการมุ่งแสวงหาการบริการสุขภาพนั้นโรงพยาบาลท่ีเลือกใช้บริการ
ตอ้ งประกอบดว้ ย ประสทิ ธภิ าพการรกั ษา ความคมุ้ คา่ ศกั ยภาพของผใู้ ชบ้ รกิ าร โดยคำ� นงึ
ถึงความปลอดภัยและยดึ ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
ณัฐนันท์ ธนะสาร (2554) กล่าววา่ ประเทศไทยเป็นศนู ยก์ ลางโยกย้ายถิ่นฐาน
ท่ีใหญ่ที่สุดของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน�้ำโขง ท้ังสภาพภูมิศาสตร์ท่ีมีพรมแดนติดต่อ
กับประเทศเพ่ือนบ้าน ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การส่ือสาร การคมนาคม
เรง่ ใหป้ ระชากรสามารถเดนิ ทางไปมาระหวา่ งกนั ไดง้ า่ ยขนึ้ นำ� เขา้ กระแสแหง่ โลกไรพ้ รมแดน
และโรคไรพ้ รมแดนไดใ้ นขณะเดียวกัน
ประภัสสร์ เทพชาตรี (2558) กล่าวว่า การที่ประเทศไทยเป็นส่วนหน่ึงของ
อาเซียน (ASEAN) จึงจ�ำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน
(ASEAN Community) ทถี่ ูกกำ� หนดให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ ภายในปี 2563 (ค.ศ. 2020)
โดยเฉพาะด้านการบรกิ ารดา้ นสุขภาพ เปน็ สาขาน�ำรอ่ งในการดำ� เนินงาน ซงึ่ การเตรียม
ความพร้อมดังกล่าวจ�ำเป็นต้องมีข้อมูลสถานการณ์ การให้และการใช้บริการสุขภาพ
ระหว่างประเทศท่ีเป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการเข้าใจถึงพฤติกรรมการใช้บริการ
ขา้ มพรมแดนอย่างถูกต้องและเชอ่ื ถอื ได้ เพือ่ มาวางแผนและด�ำเนนิ งานอย่างเหมาะสม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการด้านก�ำลังคนและการจัดการทางการเงิน ซึ่งจะท�ำให้
ได้ประโยชน์ต่อประเทศไทยในการน�ำข้อมูลมาวางแผนการจัดการประเทศลาวในด้าน
การน�ำข้อมูลไปพัฒนาระบบการบริการสุขภาพของประเทศ และเป็นประโยชน์ต่อการ
พฒั นาความรว่ มมอื ในด้านสาธารณสขุ ทัง้ สองประเทศไปพร้อมกนั
จากแนวคดิ กลา่ วมาขา้ งตน้ สรปุ ไดว้ า่ “บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดน” คอื การเคลอื่ นยา้ ย
ของผู้คนข้ามแดนรัฐชาติจากประเทศของตนเอง (ประเทศต้นทาง) เพื่อไปรับบริการ
สุขภาพ ณ สถานบริการสุขภาพใดๆ ก็ตามในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศที่ตนเอง
80 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวดั อุบลราชธานีและใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต้:
อาศัยอยู่ (ประเทศปลายทาง) ซ่ึงเป็นผลมาจากทั้งปัจจัยของกระแสโลกาภิวัตน์และ
การบูรณาการเป็นภูมิภาคเดียวกัน และปัจจัยด้านภูมิศาสตร์สังคม ท้ังน้ีปรากฏการณ์
บริการสุขภาพข้ามแดนนั้นเกิดจากท้ังปัจจัยดึงดูดและปัจจัยผลักดัน (pull and push
factors)
2.2 เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วข้อง
งานศึกษาเก่ียวกับการเคลื่อนย้ายของประชากรเพื่อไปรับการบริการสุขภาพ
ขา้ มแดนนน้ั ตา่ งระบถุ งึ ปจั จยั วา่ เกดิ จากทงั้ ปจั จยั ดงึ ดดู และปจั จยั ผลกั ดนั (pull and push
factors) ทั้งนี้ การข้ามพรมแดนเพ่ือมารับบริการสุขภาพที่ประเทศเพ่ือนบ้าน (cross-
border health) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศท่ัวโลก พรมแดนประเทศ
ไมใ่ ชแ่ คส่ งิ่ ทแี่ บง่ แยกพนื้ ทร่ี ะหวา่ งสองประเทศใหแ้ ยกขาดกนั ชดั เจน แตพ่ รมแดนระหวา่ ง
สองประเทศที่แม้จะแบ่งแยกกันชัดเจนยังมีระหว่างกันและส่งผลกระทบต่อกันอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น โรคตดิ เชือ้ ท่ีเกิดในประเทศหน่งึ อาจจะสง่ ผลกระทบตอ่ ประเทศเพ่ือนบา้ น
ดงั นน้ั “สขุ ภาพขา้ มพรมแดน” หรอื the cross-border health ภายใตม้ มุ มองปรากฏการณ์
ทางประชากรศาสตร์ (demographic phenomenon) คือการเคลื่อนย้ายของประชากร
ขา้ มพรมแดนระหว่างประเทศเพ่อื เปา้ หมายในการแสวงหาบริการสุขภาพ
ปรากฏการณ์ “สุขภาพข้ามพรมแดน” ได้ท�ำให้มุมมองท่ีมีต่อชายแดนหรือ
พรมแดนที่มักจะจ�ำกัดอยู่เฉพาะการมองในมิติเชิงการเมืองการปกครองตามแนวทาง
ของนกั รฐั ศาสตรแ์ บบจารตี นนั้ ถกู ทา้ ทายดว้ ย เพราะคำ� วา่ ชายแดนหรอื พรมแดนระหวา่ ง
ประเทศในการรบั รขู้ องผคู้ นทอ้ งถน่ิ มนี ยิ ามทล่ี น่ื ไหลมากกวา่ การเปน็ แคพ่ น้ื ทท่ี างกายภาพ
ภูมิศาสตร์ หากพรมแดนระหวา่ งประเทศเป็นผลผลิตของความขดั แย้งทางการเมืองและ
อทิ ธพิ ลจากทนุ นยิ มโลกาภวิ ตั น์ (Alvarez, 1995 อา้ งใน ณภิ ทั รา หรติ วร และ ชนนิ ตรน์ นั ทร์
สขุ เกษม, ม.ป.ป.: 11) ซง่ึ ในอกี ดา้ นหนงึ่ สง่ ผลใหน้ ยิ ามและปฏบิ ตั กิ ารทางการแพทยแ์ ละ
การสาธารณสขุ ของงานสุขภาพชายแดนมีมติ ิทก่ี ว้างขวางกว่าแค่การควบคมุ ปอ้ งกันโรค
ตดิ ตอ่ หรือโรคระบาดตามแนวชายแดน
นอกจากน้ี ไมเคิล เพียร์สัน (Michael Pearson) อธิบายว่าการเชื่อมโยงและ
การแลกเปล่ียนทางการแพทย์ (medical connection and exchange) ระหว่างผู้คน
ในประเทศตา่ งๆ มมี าตลอดประวตั ศิ าสตรม์ นษุ ยชาติ (Pearson, 2011, เรอ่ื งเดยี วกนั , 11)
อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมากระบวนการโลกาภิวัตน์ส่งอิทธิพลต่อ
การเพมิ่ จำ� นวนของประชากรทอี่ พยพขา้ มพรมแดนระหวา่ งประเทศเพอื่ แสวงหาบริการ
สขุ ภาพ ดงั นน้ั จงึ ไมเ่ พยี งแคก่ ารเดนิ ทางหรอื อพยพขา้ มประเทศเพอ่ื ใชบ้ รกิ ารทางการแพทย์
ทปี่ ระเทศเพอ่ื นบา้ นจะทวจี ำ� นวนมากขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ แตร่ วมทง้ั นำ� มาสคู่ วามทา้ ทายใหมๆ่
การศึกษาสถานการณ์และบรบิ ททีเ่ กี่ยวข้องของพ้ืนท่ีชายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 81
ในการที่เราจะเข้าใจปรากฏการณ์นี้ การออกแบบแผนงานพัฒนาด้านการสาธารณสุข
ชายแดน และประเด็นสิทธิสุขภาพของผู้ป่วยที่เดินทางข้ามพรมแดนประเทศ (Carrillo
Garcia, 2011, เพง่ิ อ้าง)
ชารสี ทอมปส์ นั (Charis Thompson, 2011, เพง่ิ อา้ ง, 14) อธบิ ายวา่ ปรากฏการณ์
การเดนิ ทางเพอ่ื ใชบ้ รกิ ารทางการแพทยข์ า้ มประเทศ (medical migrations) เปน็ ปรากฏการณ์
ส่วนหนึ่งของลักษณะระเบียบโลกใหม่ของการข้ามชาติ (transnational world order)
ปรากฏการณน์ ไ้ี มเ่ พยี งเปน็ ปรากฏการณใ์ หมท่ างการเมอื ง แตม่ คี วามสำ� คญั ในทางทฤษฎี
การศกึ ษาการเดนิ ทางขา้ มประเทศในลกั ษณะการเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วเพอ่ื ใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพ
ทปี่ ระเทศอน่ื ทมี่ ตี น้ ทนุ และราคาคา่ บรกิ ารทางการแพทยท์ ถ่ี กู กวา่ ประเทศตน้ ทาง (medical
travel) กลา่ วอกี นยั หนงึ่ ภายใตบ้ รบิ ทโลกาภวิ ตั น์ “สขุ ภาพ” ไมเ่ พยี งกำ� ลงั กลายเปน็ สนิ คา้
ท่ีสามารถซ้ือขายในตลาดเสรีนิยมโลกาภิวัตน์ แต่ขณะเดียวกัน สิทธิด้านสุขภาพของ
ผู้คนไม่ยกเว้นแม้กระท่ังสิทธิของผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางข้ามพรมแดน
มาใช้บริการสุขภาพท่ีประเทศปลายทางก�ำลังได้รับความตระหนักเพ่ิมมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนน้ั งานการสาธารณสขุ ชายแดนยงั นำ� มาสกู่ ารพฒั นารปู แบบใหมข่ องการพฒั นา
การแพทย์และการสาธารณสุขท่ีไม่ได้จ�ำกัดบทบาทอยู่เฉพาะบทบาทของหน่วยงาน
สาธารณสขุ ภาครฐั หากเนน้ การประสานความรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื กนั เปน็ เครอื ขา่ ยระหวา่ ง
องคก์ รภาครฐั และองคก์ รภาคเอกชนดา้ นสขุ ภาพทงั้ ในระดบั ประเทศและระหวา่ งประเทศ
เชน่ แนวคดิ ความรว่ มมอื ระหวา่ งรฐั กบั เอกชนในดา้ นสขุ ภาพ (Public Private Partnerships
in Health) (Mitchell, 2008, เพ่งิ อา้ ง)
Österle (2007) ทท่ี ำ� การศกึ ษาการขา้ มแดนไปใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพของชาวออสเตรยี
ในกลมุ่ ประเทศ EU ซง่ึ พบวา่ การใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนเปน็ สถานการณส์ ง่ ผลกระทบ
ทงั้ ในดา้ นดแี ละกอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาทงั้ ประเทศตน้ ทางและปลายทางของการใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพ
ในประเทศสหภาพยโุ รปมกี ารศกึ ษาอยา่ งกวา้ งขวางโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ภายหลงั จากการ
ท่ีมปี ระเทศสมาชิกใหม่เพิ่มขนึ้ ในสหภาพยโุ รป เชน่ สาธารณรฐั เชก็ (Czech Republic)
สโลวาเกยี (Slovakia) สโลวีเนีย (Slovenia) โครเอเชีย (Croatia) เน่ืองจากประเทศเหลา่ นี้
มศี กั ยภาพการใหบ้ รกิ ารทน่ี อ้ ยกวา่ และมปี ญั หาดา้ นการเขา้ ถงึ บรกิ าร ทำ� ใหม้ กี ารใชบ้ รกิ าร
ขา้ มพรมแดนเพม่ิ มากขนึ้ โดยเฉพาะผทู้ อ่ี ยใู่ นเขตชนบททไ่ี มส่ ามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพ
ในประเทศของตน จึงต้องพ่ึงพาบริการสุขภาพจากต่างประเทศที่อยใู่ กลก้ ว่า
ในกรณีของประเทศไทยนั้น งานศึกษาของชาคริต ศึกษากิจ (2559) เก่ียวกับ
การเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพของประเทศไทย ก็พบว่าปัจจัยท่ีชาวต่างชาติเลือกมา
รกั ษาพยาบาลในประเทศไทย คอื คณุ ภาพการรักษา ความเช่ียวชาญเฉพาะของแพทย์
นัดพบแพทยเ์ ฉพาะทางไดเ้ ร็ว เจ้าหนา้ ที่ใหบ้ ริการด้วยความเป็นมิตร ยดื หยนุ่ ค่าใช้จ่าย
82 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวัดอบุ ลราชธานีและใกลเ้ คยี งในเขตอีสานใต้:
ในการรักษาถกู กว่าประเทศในทวปี ยโุ รป สงิ คโปร์ เกาหลี ญ่ปี นุ่ สว่ นความคาดหวงั ของ
ชาวต่างชาติต่อบริการรักษาพยาบาลของไทยพบว่า ต้องการรักษาให้หายจากโรคหรือ
อาการดขี นึ้ ฟน้ื ตวั เรว็ ไดร้ กั ษากบั แพทยเ์ ฉพาะทางทเ่ี กง่ เปดิ โอกาสใหซ้ กั ถาม วนิ จิ ฉยั โรค
ได้เร็ว ถูกต้อง ผู้ให้บริการให้เกียรติ ดูแลดี ไม่มีปัญหาการส่ือสาร การบริการมีความ
น่าเชื่อถือ (Reliability) เคร่ืองมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย คิดค่าใช้จ่ายตามจริง
รกั ษาโรคตามใบสง่ ตวั มสี ง่ิ อำ� นวยความสะดวกครบครนั สำ� หรบั ผปู้ ระกอบการไทยคาดหวงั
ให้ภาครัฐประชาสัมพันธ์แบรนด์ประเทศไทยในเร่ือง Medical Hub อย่างต่อเนื่อง
มกี ารให้แรงจูงใจแกส่ ถานพยาบาลทส่ี นับสนนุ การฝกึ อบรมความรู้ทางวชิ าชีพ
นอกจากน้ี จากการสำ� รวจงานศกึ ษาเกยี่ วกบั ระบบสขุ ภาพขา้ มแดน พบวา่ ทผี่ า่ นมา
มกั จะถกู นำ� ไปเชอ่ื มโยงกบั การศกึ ษาการเคลอื่ นยา้ ยแรงงานขา้ มชาติ โดยเฉพาะในแงท่ เ่ี ปน็
ปญั หาซบั ซอ้ น อาทิ การลกั ลอบเขา้ เมอื ง การคา้ มนษุ ย์ สทิ ธแิ รงงาน รวมทงั้ การเขา้ ถงึ บรกิ าร
สุขภาพ เปน็ ตน้ งานศึกษาสว่ นใหญ่มกั ช้ีใหเ้ หน็ ว่าระบบบริการสุขภาพขา้ มพรมแดนน้นั
สง่ ผลทง้ั ทางบวกและทางลบ ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หากบั ทงั้ ประเทศตน้ ทางและปลายทาง
อย่างไรก็ตาม รายงานการศึกษาโดยส�ำนักงานวิจัยเพ่ือการพัฒนาหลักประกัน
สุขภาพไทย (สวปก.) ได้แสดงให้เหน็ ว่า มกี ลมุ่ ผ้ใู ช้บริการสขุ ภาพชาวลาวทไ่ี มใ่ ชแ่ รงงาน
ข้ามชาติเดินทางข้ามพรมแดนเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพในโรงพยาบาลของรัฐในเขต
ประเทศไทยเป็นจ�ำนวนมากขึ้น (ส�ำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพ
เครือสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2555) และเป็นการเพ่ิมจ�ำนวนอย่างต่อเนื่อง
ทัง้ ในประเภทผปู้ ่วยนอกและผู้ป่วยใน (สุวารี เจรญิ มุขยนนั ท, 2555) โดยมีปจั จัยพนื้ ฐาน
หลักๆ ได้แก่ ความสะดวกในการเดินทางไปมาหาสู่และติดต่อกันระหว่างประชากร
ในประเทศไทยกับ สปป.ลาว ซ่ึงสามารถท�ำได้ผ่านหลากหลายช่องทาง ประกอบกับ
อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายแดน
ด้านจังหวัดหนองคายซึ่งติดอยู่กับนครหลวงเวียงจันทน์ท่ีเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ
และสงั คมวัฒนธรรมของประเทศ
วรรณรา ชื่นวัฒนา (2560) ท�ำการศึกษาเร่ือง การจัดการระบบสาธารณสุข
แหง่ ประเทศไทยกบั ราชอาณาจกั รกมั พชู า พบวา่ สถานการณด์ า้ นการสาธารณสขุ ชายแดน
กัมพชู าเขตตดิ ต่อชายแดนไทยของประเทศกมั พูชา จากความเป็นมาทางประวัตศิ าสตร์
พื้นท่ีนั้นเคยเป็นอาณาเขตที่ข้ึนกับราชอาณาจักรไทยมาก่อน ก่อนท่ีจะเสียดินแดน
เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ให้แก่ฝรั่งเศส ดังน้ันคนกัมพูชาและคนไทยจึงคุ้นเคย
และมีความเป็นเครือญาติ โดยเฉพาะการใช้ภาษาที่สามารถสื่อสารกันได้หากบุคลากร
ทางสาธารณสขุ ของไทยเปน็ คนพน้ื ถน่ิ ทใ่ี ชภ้ าษาเขมร งานวจิ ยั ชน้ิ นไี้ ดค้ น้ พบวา่ สถานการณ์
ทางการสาธารณสขุ ข้ามแดนสามารถอธิบายได้ ดังนี้
การศึกษาสถานการณ์และบริบททเ่ี กีย่ วขอ้ งของพ้ืนท่ีชายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 83
ประเดน็ ทหี่ นงึ่ ประชากรกมั พชู ามคี วามแตกตา่ งในสถานภาพทางเศรษฐกจิ มาก
คนทมี่ ฐี านะดสี ามารถเดนิ ทางเขา้ มารบั การรกั ษาไดถ้ งึ กรงุ เทพมหานครไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย
ในขณะทชี่ นชน้ั ปานกลางและยากจนซง่ึ เปน็ คนสว่ นใหญ่ ตอ้ งการการบรกิ ารทางสาธารณสขุ
ของไทยในพน้ื ท่ชี ายแดน
ประเด็นท่ีสอง สถานบริการทางการสาธารณสุขของประเทศกัมพูชาที่พอจะมี
คณุ ภาพ ตงั้ อยหู่ า่ งออกไปจากชายแดน การเดนิ ทางไปรบั บรกิ ารของประชาชนชาวกมั พชู า
จงึ คอ่ นขา้ งลำ� บาก แตห่ ากเขา้ รบั บรกิ ารทางฝง่ั ประเทศไทยจะสะดวกกวา่ ทงั้ การรบั บรกิ าร
จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพและโรงพยาบาลประจ�ำอำ� เภอ
ประเด็นท่ีสาม การเคลื่อนย้ายของประชากรในเขตชายแดน คนไทยและ
ชาวต่างชาติจะเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชา ดังนั้น ส่วนใหญ่จึงเป็นผู้ท่ีมีสุขภาพ
แข็งแรง ในขณะที่ประชากรกัมพูชาจะเคล่ือนย้ายเข้ามาเพื่อการเศรษฐกิจ ซ่ึงสามารถ
แบ่งประชากรกัมพูชาที่เป็นผู้รับบริการทางการสาธารณสุขออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่ม
ท่หี นง่ึ ประชากรกัมพชู าทีป่ ระกอบอาชีพอยู่ในเขตประเทศกัมพูชา จะเข้ามารับบรกิ าร
ทางการสาธารณสุขในประเทศไทยโดยเหตุผลท่ีคุณภาพการบริการดีกว่าและใกล้กว่า
และเน่ืองจากสถานบริการทางการสาธารณสุขภายในประเทศกัมพูชาเปิดบริการเพียง
คร่ึงวัน กลุ่มท่ีสอง ประชากรกัมพูชาท่ีเข้ามาประกอบอาชีพอิสระในเขตประเทศไทย
และปักหลักอย่างถาวร โดยเฉพาะกลุ่มท่ีมีอาชีพค้าขาย กลุ่มที่สาม ประชากรกัมพูชา
ท่ีเข้ามาประกอบอาชีพรับจ้าง/ขายแรงงานอย่างถูกกฎหมาย ซ่ึงมีนายจ้างรับผิดชอบ
กลมุ่ ทสี่ ่ี ประชากรกมั พชู าทเ่ี ขา้ มาประกอบอาชพี รบั จา้ ง/ขายแรงงานซง่ึ ลกั ลอบเขา้ เมอื ง
กลมุ่ ทห่ี า้ ประชากรกมั พชู าทเี่ ขา้ มารบั จา้ ง/ขายแรงงานแบบเชา้ ไป–เยน็ กลบั การเคลอ่ื นตวั
ของประชากรในแต่ละลักษณะส่งผลกระทบต่อการบริการทางการสาธารณสุขชายแดน
แตกตา่ งกนั
ประเด็นท่ีสี่ สถานบริการทางการสาธารณสุขของไทยไม่สามารถเรียกเก็บ
ค่าบริการจากชาวกัมพูชาได้ครบถ้วน โดยต้องน�ำรายได้ที่ได้รับค่าบริการจากคนไทย
ไปช่วยในส่วนที่ขาด งานวิจัยช้ินนี้ยังได้ค้นพบถึงปัญหาสาธารณสุขข้ามแดนสามารถ
อธบิ ายได้ ดงั นี้
การเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา ประชากรบริเวณ
พน้ื ทชี่ ายแดนสว่ นใหญย่ งั ไมเ่ ขา้ ถงึ ระบบบรกิ ารสาธารณสขุ โดยเฉพาะประชากรสญั ชาติ
กมั พชู า การบรกิ ารสาธารณสขุ ทไี่ ดร้ บั เปน็ เพยี งการรกั ษาทเ่ี ปน็ การแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้
โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบทเ่ี ขา้ เมอื งโดยผดิ กฎหมาย หรอื เชา้ ไป–เยน็ กลบั แทบไมไ่ ด้
รับการดูแล
84 • บรกิ ารสขุ ภาพข้ามแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอสี านใต้:
ศกั ยภาพของสถานบรกิ ารสาธารณสขุ ความตอ้ งการการบรกิ ารสาธารณสขุ จาก
ประเทศไทยของประชากรกมั พชู าบรเิ วณชายแดนมสี งู ขนึ้ เรอ่ื ยๆ เนอื่ งจากสภาพเศรษฐกจิ
และการเมอื งดขี นึ้ หากจะพงึ่ พงิ สถานบรกิ ารจากรฐั บาลตนเองซงึ่ เปน็ การบรกิ ารทศ่ี กั ยภาพ
ไมเ่ ทา่ ของประเทศไทย ดงั นน้ั การเขา้ รบั บรกิ ารการสาธารณสขุ ในฝง่ั ประเทศไทยจงึ มสี งู ขนึ้
และสถานการณ์การเก็บค่ารักษาพยาบาลจากคนไข้กัมพูชาก็เร่ิมดีขึ้น การสนับสนุน
สง่ เสริม หรือให้ความช่วยเหลือดา้ นบริการการสาธารณสขุ แกป่ ระเทศกมั พชู านนั้ เปน็ ไป
ได้ยากและไม่ยั่งยืน เน่ืองจากค่านิยมในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เสมอกัน ดังน้ัน
การแสดงออกอย่างชัดเจนในการยอมรับว่าตนเองต้องพึ่งพิงการพัฒนาศักยภาพ
การบริการสาธารณสขุ จากประเทศไทยจงึ เปน็ ไปไม่ได้
สวุ ารี เจรญิ มกุ ยนนั ท และคณะ (2556) ทำ� การศกึ ษาเรอื่ ง การศกึ ษาสถานการณ์
การใชบ้ ริการสขุ ภาพกบั ชาวกมั พูชาทีช่ ายแดนไทย–กัมพูชา: กรณีศกึ ษาจงั หวดั สระแกว้
จนั ทบุรี และตราด พบว่าประชากรชาวกมั พชู าท่มี าใชบ้ ริการทีส่ ถานบรกิ ารสาธารณสขุ
ของรฐั ในประเทศไทย ในพน้ื ท่ี 3 จงั หวดั ไดแ้ ก่ ชาวกมั พชู าทขี่ า้ มแดนมาใชบ้ รกิ าร แรงงาน
กมั พชู าทอ่ี ยภู่ ายใตร้ ะบบประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ แรงงานกมั พชู าทไ่ี มไ่ ดข้ น้ึ ทะเบยี นและ
ชาวกมั พชู าทอี่ ยภู่ ายใตร้ ะบบประกนั สขุ ภาพตา่ งชาติ แรงงานกมั พชู าทไี่ มไ่ ดข้ นึ้ ทะเบยี น
และชาวกมั พชู าทม่ี ถี นิ่ พำ� นกั ถาวรในประเทศไทยแตย่ งั ไมไ่ ดร้ บั สทิ ธเ์ิ ปน็ คนไทย โดยรวบรวม
ความเห็นในด้านมุมของผู้ใช้บริการต่อบริการสาธารณสุขของประเทศกัมพูชา ลักษณะ
ของพรมแดนจะส่งผลต่อรูปแบบการใช้บริการ และการจัดบริการสุขภาพให้ผู้ป่วยชาว
กัมพูชา ได้แก่ หากเป็นช่องทางท่ีสามารถข้ามพรมแดนไป–มาได้ง่าย จะมีผู้ป่วยข้าม
พรมแดนมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพเพม่ิ ขน้ึ โดยเฉพาะชอ่ งทางนนั้ สถานบรกิ ารสขุ ภาพในประเทศ
กัมพูชามีศักยภาพตำ่� กว่าสถานบริการสุขภาพในประเทศไทย หรือสถานบริการสุขภาพ
ในประเทศกัมพูชาอยู่ห่างไกลจากพรมแดน จะย่ิงเพ่ิมปริมาณผู้ป่วยท่ีข้ามพรมแดน
มาใช้บริการ เชน่ พน้ื ทบี่ ริเวณจงั หวดั ตราด ท่มี ีช่องทางการข้ามแดนไดง้ า่ ยหลากหลาย
ช่องทาง Heath Center ในประเทศกัมพูชาที่ใกล้กับพรมแดนมีศักยภาพท่ีน้อยกว่า
โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำ� บลหาดเลก็ และโรงพยาบาลคลองใหญ่ อกี ทง้ั โรงพยาบาล
จังหวัดเกาะกงอยู่ห่างไกลจากพรมแดนมากกว่าที่จะข้ามมาประเทศไทย พื้นที่บริเวณ
จงั หวดั สระแกว้ มกี ารขา้ มพรมแดนมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพคอ่ นขา้ งมาก เนอ่ื งจากสถานบรกิ าร
ท่ีจังหวัดบันเตียเมียนเจยในประเทศกัมพูชาอยู่ห่างไกลจากพรมแดน ส่วนพื้นท่ีบริเวณ
จังหวัดจันทบรุ ี เนือ่ งจากเปน็ พ้นื ที่สวนผลไม้เปน็ ส่วนใหญ่ และบางสวนผลไม้เปน็ พื้นที่
ติดต่อกบั กัมพชู า การข้ามพรมแดนไป–มา จึงท�ำไดเ้ ปน็ ปกตดิ ว้ ยบรบิ ทของพน้ื ที่ เชน่ น้ี
การขา้ มแดนมาใช้บริการจงึ เกดิ ขน้ึ ไดง้ ่ายและเพ่มิ ขึน้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง
การศึกษาสถานการณ์และบรบิ ททเ่ี กีย่ วขอ้ งของพ้นื ทชี่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 85
อรทยั ศรีทองธรรม และคณะ (2556) ทำ� การศึกษาเร่ือง ผลกระทบจากแรงงาน
ข้ามชาติลาว กัมพูชา และพม่า ต่อภาระงานบริการสุขภาพของโรงพยาบาลตาม
แนวชายแดนแห่งประเทศไทย พบว่าภาระทางการเงินและการให้บริการโรงพยาบาล
เขมราฐแบกรบั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นบรกิ ารสขุ ภาพแกแ่ รงงานขา้ มชาตลิ าวและชาวตา่ งชาติ
ท�ำให้ภาพรวมสถานะทางการเงินโรงพยาบาลมีรายจ่ายมากกว่ารายรับเพ่ิมมากข้ึน
ในปี 2553 จ�ำนวน 2.8 ล้านบาท เป็น 7.7 ล้านบาท ในปี 2553 และ 8.2 ลา้ นบาท
ในปี 2554 โรงพยาบาลคลองใหญ่ แบกรบั ภาระคา่ รกั ษาพยาบาลอยใู่ นชว่ ง 7.2 แสนบาท
ถึง 1.3 ล้านบาท ผู้รับบริการเป็นชาวกัมพูชาร้อยละ 40–50 ทั้งในแผนกผู้ป่วยนอก
และผปู้ ่วยใน โดยเฉพาะผูป้ ่วยในแผนกสตู ิกรรมมถี ึงร้อยละ 60–70 ของผมู้ ารับบริการ
ทง้ั หมด และในโรงพยาบาลแมส่ าย แบกรบั ภาระคา่ รกั ษาพยาบาล ประมาณ 4–7 แสนบาท
ต่อปี ภาพรวมโรงพยาบาลมีรายรับมากกว่ารายจ่ายทุกปี ผู้รับบริการเป็นชาวพม่า
ร้อยละ 40–50 ท้ังในแผนกผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน โดยเฉพาะแผนกผู้ป่วยนอก
ในงานส่งเสริมอนามัยแม่และเด็ก กว่าร้อยละ 70–90 เป็นผู้มารับบริการเป็นแรงงาน
ขา้ มชาตชิ าวพมา่ และชนกลมุ่ นอ้ ย การแบกรบั คา่ รกั ษาพยาบาลในแผนกผปู้ ว่ ยในสงู กวา่
แผนกผูป้ ว่ ยนอกทงั้ สามแหง่
ผลกระทบและแนวทางการจดั การผลกระทบดา้ นภาระทางการเงนิ และภาระงาน
บริการของโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีภาระมากน้อยแตกต่าง 4 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้าน
ที่ตั้งของพ้ืนท่ีชายแดนว่าเป็นด่านชายแดนที่มีสภาพเศรษฐกิจดีทั้งฝั่งประเทศไทย
และประเทศเพอ่ื นบา้ น ปจั จยั ดา้ นความสะดวกในการเดนิ ทางขา้ มดา่ น งานทง้ั แบบถาวร
กงึ่ ถาวรตามฤดกู าล และแบบเชา้ มา–เยน็ กลบั ตลอดจนเสน้ ทางการเขา้ มาทห่ี ลากหลาย
ท่ีสามารถลักลอบเข้ามาประเทศไทยได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนใดๆ อย่างถูกกฎหมาย
ปจั จยั ดา้ นศกั ยภาพและคณุ ภาพบรกิ ารของสถานบรกิ ารสขุ ภาพในฝง่ั ประเทศเพอ่ื นบา้ น
และปจั จยั ดา้ นความสมั พนั ธเ์ ชงิ เครอื ญาตริ ะหวา่ งประชาชนทงั้ สองประเทศทมี่ ปี ฏสิ มั พนั ธ์
กนั มายาวนาน ประเด็นรว่ มจากภาระการให้บรกิ ารสุขภาพแก่กลุม่ แรงงานข้ามชาตแิ ละ
ชาวต่างด้าว ระหว่างโรงพยาบาลชุมชนทั้งสามแห่งคือผลกระทบท่ีเกิดจากภาระงาน
บรกิ ารตอ่ โรงพยาบาล บคุ ลากรผ้ปู ฏบิ ตั ิงาน และคณุ ภาพของระบบบริการ
ชาครติ ศกึ ษากจิ (2559) ไดท้ ำ� การศกึ ษาเกยี่ วกบั การเปน็ ศนู ยก์ ลางบรกิ ารสขุ ภาพ
เพม่ิ ขีดความสามารถในการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลการศึกษาพบว่า
การขยายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ของไทยเกิดข้ึน
หลงั ภาวะฟองสบ่ปู ี 2540 ซึ่งในระหวา่ งปี 2534–2542 โรงพยาบาลเอกชนมีการลงทนุ
ด้านการก่อสร้างและขยายกิจการอย่างมาก โดยมีการขยายเตียงจาก 14,927 เพิ่มเปน็
40,825 เตยี ง หรอื เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละ 173.5 ทำ� ใหโ้ รงพยาบาลเอกชนหลายแหง่ ประสบปญั หา
86 • บริการสุขภาพข้ามแดนในจังหวดั อุบลราชธานีและใกลเ้ คียงในเขตอีสานใต้:
อตั ราการครองเตียง (Bed Occupation Rate) ทีต่ �่ำลงมาก จึงพยายามปรับตวั ดว้ ยการ
หาลูกคา้ จากประเทศทม่ี ีก�ำลังซ้อื สูง เช่น ญี่ปุ่น ยโุ รป และตะวนั ออกกลาง เข้ามาเสรมิ
ประกอบกับภาครัฐก็มีปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในอัตราที่สูงติดต่อกันหลายป ี
จงึ ไดพ้ ยายามมกี ารสง่ ออกเพมิ่ ขนึ้ ซง่ึ กรมสง่ เสรมิ การสง่ ออก กระทรวงพาณชิ ย์ ไดห้ นั มา
สนใจหารายไดจ้ ากบริการดา้ นสาธารณสุขในรูปของ Medical Tourism โดยน�ำคนไขจ้ าก
ประเทศทม่ี กี ำ� ลงั ซอ้ื สงู มารบั บรกิ ารทางการแพทยแ์ ละสขุ ภาพ รวมทง้ั ดงึ ดดู ผเู้ กษยี ณอายุ
มาต้ังถิ่นฐานในประเทศไทย จากการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็น
ศูนย์กลางบริการสขุ ภาพทผี่ ่านมา ไดแ้ ก่ สหรฐั อเมริกา แคนาดา บราซิล คิวบา เม็กซิโก
ฟิลปิ ปนิ ส์ สิงคโปร์ อนิ โดนีเซยี และไทย ระหวา่ งปี พ.ศ. 2553–2558 พบวา่ มีผลกระทบ
ท้ังด้านบวกและด้านลบ สรุปได้ดังนี้ ผลกระทบด้านบวก พบว่าทุกประเทศมีรายได้
ในอตุ สาหกรรมสขุ ภาพและการทอ่ งเทย่ี วเพม่ิ ขนึ้ การจา้ งงานเพม่ิ ขนึ้ มอี าชพี ใหมเ่ กดิ ขน้ึ
เช่น นายหน้า (Brokers) มีการลงทุนซ้ือเคร่ืองมือหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มีรายได้จาก
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจ�ำนวนมาก มีการลงทุนของชาวต่างชาติในธุรกิจ
สุขภาพเพ่มิ ขน้ึ ในประเทศมาเลเซยี สงิ คโปร์ และไทย
ผลกระทบด้านลบ สรุปได้ 4 ประเดน็ คอื (1) มกี ารลงทุนเพิม่ ขึน้ ท้งั เครื่องมือ
เทคโนโลยีที่ทันสมัยจากต่างประเทศ การพัฒนาบุคลากรด้านภาษาและวัฒนธรรม
ต่างชาติ หากจ�ำนวนผู้ป่วยต่างชาติไม่ได้ตามเป้าจะเกิดความไม่คุ้มค่าในการลงทุน
(2) การขอรบั รองมาตรฐานระดบั สากลท�ำใหม้ กี ารลงทนุ เพมิ่ (3) ตน้ ทนุ คา่ รกั ษาพยาบาล
สูงขึ้น เพราะจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนท้ังสองข้อข้างต้น (4) เกิดปัญหาสมองไหลของ
บคุ ลากรทางการแพทย์จากภาครัฐไปเอกชน
ในแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2547–2551) ท่ีผ่านมา
ก�ำหนดให้พัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชีย (Center of Excellent
Health Care of Asia) โดยใหภ้ าครฐั และภาคเอกชนพฒั นาธรุ กจิ บรกิ ารรกั ษาพยาบาลใน
3 ผลผลติ หลัก ได้แก่ บรกิ ารรักษาพยาบาลเฉพาะทางทันตกรรม และการตรวจสขุ ภาพ
ประจ�ำปี ซ่ึงยุทธศาสตร์นี้ประสบผลส�ำเร็จอย่างดีย่ิง สร้างรายได้แก่ธุรกิจสุขภาพและ
ธุรกิจที่เก่ียวเน่ือง กระทรวงสาธารณสุขจึงมีแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศไทยเป็น
ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2553–2557) ท่ีมุ่งเน้นเฝ้าระวังไม่ให้เกิด
ผลกระทบต่อระบบบริการสุขภาพหลักของประเทศทั้งทางบวกและทางลบ โดยอยู่บน
พน้ื ฐานของการเพมิ่ มลู คา่ ผลผลติ บรกิ ารดว้ ยฐานความรู้ (Value Creation from Knowledge
Application) สร้างอัตลักษณ์ของการบริการให้โดดเด่นบนแนวคิดของการสร้างสรรค์
คณุ คา่ ของบริการทางแพทย์ ใช้ Knowledge Based ผสม Local Content สร้าง Value
Creation ลงทุนในบริการเพื่อให้ได้ Product Differentiation ตลอดจนก้าวไปในสาขา
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบริบททเี่ ก่ยี วข้องของพ้นื ทชี่ ายแดนประเทศต้นทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 87
ท่ีประเทศไทยมีความช�ำนาญ (Niche) อย่างแท้จริง โดยยังคง 3 ผลผลิตหลักเดิม
และเพมิ่ การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก โดยรปู แบบสขุ ภาพระดบั นานาชาติ
ที่ม่งุ เน้น มีดงั นี้
(1) บรกิ ารรักษาพยาบาล มศี นู ย์กลางบริการรักษาพยาบาลในด้านตา่ งๆ ไดแ้ ก่
การรกั ษาพยาบาลเฉพาะทาง (Excellent Centre) การสง่ เสรมิ สขุ ภาพ (Health Promotion)
การรกั ษาพยาบาลผสู้ งู อายุแบบพ�ำนกั ระยะยาว (Long Term Care)
(2) บรกิ ารเพอ่ื สง่ เสรมิ สขุ ภาพ มศี นู ยบ์ รกิ ารตา่ งๆ ไดแ้ ก่ บรกิ ารสปาหรอื บรกิ ารนวด
เพ่ือสุขภาพ บรกิ ารสง่ เสริมสุขภาพแบบพ�ำนกั ระยะยาว (Long Stay for Heath)
(3) บริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นบริการเพื่อการใช้ชีวิต
และสุขภาพอยา่ งสมดลุ
(4) สมนุ ไพรไทยและผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพ มศี นู ยก์ ลางการปลกู สมนุ ไพรไทย ศนู ยก์ ลาง
โรงงานการผลติ สมุนไพรไทยทผ่ี ่านมาตรฐาน GMP ศนู ยจ์ ดั จ�ำหนา่ ยผลิตภณั ฑ์สขุ ภาพ
ท่ีไดม้ าตรฐาน ศนู ย์กลาง Clinical Trial รองรับสมนุ ไพรไทย
Trivia Yeo Chin Ting (2020) ได้ท�ำการศึกษาเก่ียวกับการขา้ มแดนมารับบริการ
สุขภาพของชาวกมั พูชาทจี่ ังหวัดสรุ นิ ทร์ (Lifeline on the Other Side: Medical Travel
of Cambodians to Surin, Thailand) โดยใช้วิธีการศึกษาเชิงคุณภาพ ลงพ้ืนท่ีสนาม
เกบ็ ข้อมลู ด้วยการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ ผลการศึกษาพบวา่ ประสบการณ์และการรบั รู้ทีไ่ ม่ดี
เกยี่ วกบั ระบบสาธารณสขุ ของกมั พชู านนั้ เปน็ ปจั จยั ผลกั ดนั สำ� คญั ใหช้ าวกมั พชู าแสวงหา
การรกั ษาพยาบาลทนี่ า่ เชอ่ื ถอื มากขนึ้ ในจงั หวดั สรุ นิ ทร์ นอกจากนี้ การขา้ มแดนมารบั บรกิ าร
สุขภาพของชาวกัมพูชาท่ีจังหวัดสุรินทร์น้ัน ปัจจัยด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างสุรินทร์และกัมพูชานับแต่อดีต ก็กลายเป็นส่วนส�ำคัญ
ในการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนนี้ เพราะสายสัมพันธ์ที่ยึดโยงประชาชน
จากสองฝั่งพรมแดน ไม่ว่าจะผ่านระบบเครือญาติ วัฒนธรรม หรือความเช่ือมโยงทาง
เศรษฐกจิ ทำ� ใหเ้ กดิ ความคนุ้ เคยและสะดวกตอ่ การตดิ ตอ่ สมั พนั ธข์ องประชาชนทงั้ สองฝง่ั
ส่งเสริมสุรินทร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางท่ีน่าดึงดูดของชาวกัมพูชาเพื่อขอรับการรักษา
พยาบาล อีกทั้งกระบวนการผ่านแดนนั้นก็มีเครือข่ายทางสังคมเข้ามามีบทบาทเพื่อ
อำ� นวยความสะดวกในการเคลือ่ นย้ายข้ามพรมแดน
ดังนั้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาการดูแลสุขภาพกลายเป็นปรากฏการณ์
โลกาภวิ ตั นม์ ากขน้ึ เนอ่ื งจากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยแี ละการเปดิ เสรที างเศรษฐกจิ
ประเด็นของการดูแลสุขภาพไม่ได้ถูกจ�ำกัดอยู่ในขอบเขตของรัฐชาติอีกต่อไป สภาวะ
การรกั ษาพยาบาลในประเทศหนง่ึ อาจสง่ ผลทนั ทตี อ่ ประเทศอนื่ ดงั กรณกี ารขา้ มพรมแดน
ของชาวกัมพูชาเข้าสู่จังหวัดสุรินทร์ของประเทศไทยเพ่ือแสวงหาการรักษาพยาบาล
88 • บริการสุขภาพข้ามแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานีและใกล้เคียงในเขตอีสานใต้:
ท้ังน้ีเหตุผลส�ำคัญประการหนึ่งก็คือ การขาดความเชื่อม่ันต่อระบบบริการสุขภาพของ
กัมพูชาเอง กเ็ ป็นแรงผลักดนั ท่ีสำ� คัญสำ� หรับชาวกมั พชู าในการแสวงหาการดูแลสขุ ภาพ
ในต่างประเทศ ประกอบกับไทยกับกัมพูชาเป็นประเทศท่ีมีพรมแดนติดกัน มีความ
สะดวกสบายในระบบโลจิสติกส์ การมีระบบเครือข่ายทางสังคม และระบบการส่ือสาร
ท่ีทันสมัย จงึ เป็นปจั จยั ท่ที ำ� ใหอ้ ุตสาหกรรมการแพทยข์ า้ มพรมแดนเติบโตขนึ้ 2
กรวรรณ บัวดอกตมู (2563) ทำ� การศึกษาการขยายตวั ของธุรกิจสถานพยาบาล
เอกชนในจังหวัดเชียงรายและปฏิบัติการเคล่ือนย้ายข้ามแดนของผู้ใช้บริการจากพม่า
และลาว ผลการศกึ ษาพบว่า3
นับตั้งแต่ทศวรรษ 2530 เม่ือเร่ิมมีโครงการพัฒนาส่ีเหลี่ยมเศรษฐกิจ รัฐไทย
ได้หันมามุ่งให้ความส�ำคัญต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่เมืองชายแดนเชียงรายและ
การเชื่อมโยงระหว่างเมืองชายแดนกับประเทศเพ่ือนบ้าน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
พื้นฐานระหว่างเมืองตอนในและเมืองชายแดน ผ่านเส้นทางขนส่งทางบกท่ีขยายตัว
หลงั ทศวรรษท่ี 1990 การตัดเส้นทางเลยี บแม่น้ำ� โขงจากแม่สายกบั เชยี งแสน (ทล. 1290)
และจากเชียงแสนเมืองชายแดนเชียงของ (ทล. 1129) ได้เปลี่ยนการเดินทางทางน�้ำ
ของผู้คนให้มาใชเ้ ส้นทางถนนเพ่อื เข้าสตู่ อนในเชียงราย
ส�ำหรับการขยายตัวของสถานพยาบาลที่ให้บริการสุขภาพข้ามแดนในแง่ของ
การเขา้ ถงึ บรกิ ารในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ชายแดนเชยี งราย เกดิ ขนึ้ ภายใตเ้ งอ่ื นไขสำ� คญั 3 ประการ คอื
(1) เมอื งชายแดนเชยี งราย เปน็ เมอื งยทุ ธศาสตรส์ ำ� คญั ในอาณาบรเิ วณลมุ่ นำ้� โขง
ตอนบน ที่กลายเป็นส่วนหน่ึงของการเดินทางค้าขายกับเมืองชายแดนข้างเคียงและ
เมืองอ่ืนๆ ที่อยู่ไกลออกไป ความส�ำคัญของเมืองชายแดนแม่สาย เมืองชายแดน
เชียงแสน และเมืองชายแดนเชียงของ นอกจากจะมีเครือข่ายการค้าจากจีน พม่า
และลาว ทล่ี ว้ นแลว้ แตต่ อ้ งใช้เส้นทางการคมนาคม โครงการก่อสรา้ งสะพานที่ทำ� หนา้ ท่ี
เชอื่ มตอ่ ถนนของประเทศไทยและเพอื่ นบา้ นเขา้ ดว้ ยกนั นนั้ กลายเปน็ จดุ เปลยี่ นทสี่ ำ� คญั
ในการข้ามแดนท่ีเกิดขึ้นในรูปแบบเดมิ
(2) ท�ำความเข้าใจลักษณะของการข้ามแดนที่เกิดข้ึนเฉพาะที่ พ้ืนที่ชายแดน
เชยี งรายจำ� ตอ้ งพจิ ารณาผา่ นแนวคดิ “อาณาบรเิ วณชายแดน” ซงึ่ มงุ่ ฉายใหเ้ หน็ ภาพใหม่
2 Trivia Yeo Chin Ting, Lifeline on the Other Side: Medical Travel of Cambodians to Surin, Thailand.
(Thesis in partial fulfillment of the Bachelor of Arts (Honours) degree, Global Studies Programme,
National University of Singapore, Academic Year 2019–2020, 2020).
3 กรวรรณ บวั ดอกตมู , การขยายตวั ของธรุ กจิ สถานพยาบาลเอกชนในจงั หวดั เชยี งรายและปฏบิ ตั กิ าร
เคลอ่ื นยา้ ยขา้ มแดนของผใู้ ชบ้ รกิ ารจากพมา่ และลาว. (วทิ ยานพิ นธศ์ ลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ า
สงั คมวทิ ยาและมานษุ ยวทิ ยา บัณฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม,่ 2563).
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบทท่ีเกี่ยวข้องของพ้นื ท่ชี ายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 89
ของการเดินทางข้ามแดนของผู้คนไปยังพ้ืนท่ีตอนในที่ผู้ใช้บริการสุขภาพชาวไทยและ
ชาวพม่าเดินทางข้ามแดนเข้าไปรักษาถึงในตัวเมืองเชียงราย เมืองเชียงใหม่ หรือ
ภาคกลางที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนั้นแล้ว ผู้ใช้บริการสุขภาพข้ามแดนที่เข้าถึง
สถานพยาบาลเหล่านั้นไม่เพียงมีภูมิล�ำเนาอยู่เฉพาะบริเวณชายแดนเพียงเท่าน้ัน
ในงานศกึ ษานชี้ ใ้ี หเ้ หน็ วา่ มรี ะบบทท่ี ำ� ใหผ้ คู้ นเดนิ ทางจากพนื้ ทตี่ อนลา่ งของลาวจากแขวง
หลวงนำ้� ทา แขวงอดุ มไซ และจากพมา่ ทมี่ าจากตองจี และเมอื งยองซงึ่ อยไู่ กลออกไปจาก
เมืองชายแดนสามารถเดินทางเข้าถึงสถานพยาบาลในเมอื งเชียงราย
(3) การขยายตัวของการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดน
ทเ่ี รม่ิ ตน้ จากโครงการความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ (นบั ตงั้ แตโ่ ครงการสเี่ หลย่ี มเศรษฐกจิ )
กว่า 30 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นตัวสะท้อนผ่านการพัฒนาการของชายแดนทางด้าน
โครงสรา้ งพนื้ ฐานทเี่ ชอ่ื มโยงเขา้ หากนั นอกจากนนั้ แลว้ ผคู้ นตา่ งมปี ฏสิ มั พนั ธผ์ า่ นพฒั นา
เครอื ขา่ ยทเี่ ชอ่ื มโยงกนั ในระดบั ระหวา่ งประเทศ ทำ� ใหเ้ หน็ ภาพของความเปน็ อาณาบรเิ วณ
ชายแดน อาจกล่าวได้ว่าความส�ำคัญของถนนหนทางของเมืองชายแดนเชียงราย
ท่ีถูกพัฒนาโครงข่ายผ่านการพัฒนาของเส้นทางหลวง ไม่ว่าจะเป็นทางหลวงแผ่นดิน
สายแรกที่เดิมทีเป็นเส้นทางที่ถูกพัฒนาข้ึนไปทางตอนเหนือเพ่ือเช่ือมกับชายแดนน้ัน
เปน็ เส้นทางจากเชียงรายไปยังแมส่ าย ถนนสายประธานเส้นสำ� คญั น้ีเชอื่ มตอ่ ภาคกลาง
ขึ้นมาทางเหนือโดยเชื่อมโยงกับชายแดนพม่า และส่วนเส้นทางจากเชียงรายไปยัง
เชยี งของเปน็ เสน้ ทางทใี่ ชส้ ญั จรดว้ ยรถยนตจ์ ากตวั เมอื งมงุ่ ไปยงั เมอื งทา่ ชายแดนส�ำคญั
อกี แห่งหนง่ึ ของเชียงราย โดยเส้นทางหลวงในประเทศกลายเป็นเส้นทางทเ่ี ป็นส่วนหนง่ึ
ภายใต้ถนนสาย R3 ที่สามารถดินทางจากไทยไปยังจีนตอนใต้ผ่านประเทศพม่า
บนเส้นถนนสาย R3B และลาวในเสน้ ทางสาย R3A
จากการทบทวนงานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วข้องขา้ งต้น ผู้วจิ ัยสามารถสรปุ ไดว้ า่ โลกาภวิ ัตน์
สงั คมโลกในปจั จบุ นั ทม่ี กี ารรวมตวั เปน็ หนงึ่ เดยี วกนั เพมิ่ มากขน้ึ เพราะผลสบื เนอื่ งมาจาก
ความกา้ วหนา้ หรอื การเปลยี่ นแปลงในเทคโนโลยดี า้ นการตดิ ตอ่ สอื่ สาร หรอื รบั ผลกระทบ
จากสงิ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ กวา้ งขวาง การเคลอื่ นยา้ ยของประชากรสามารถเดนิ ทาง
ไปมาระหวา่ งกนั ไดง้ า่ ยขนึ้ ดงั นน้ั จงึ นำ� เขา้ กระแสแหง่ โลกไรพ้ รมแดนและโรคไรพ้ รมแดน
การเข้าสู่สาธารณสุขข้ามแดนมีผลต่อระบบบริการสุขภาพ ท้ังการบริการ อัตราก�ำลัง
เจ้าหน้าที่ ท้ังภาระทางการคลังและการบริการ และสิทธิการเข้าใช้บริการ โดยเฉพาะ
ด้านการคลัง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้น ภาครัฐจ�ำเป็นต้องเพ่ิมค่าใช้จ่ายทางด้าน
สาธารณสุข การแพทย์ บรกิ ารมากขน้ึ นัน่ เป็นสว่ นสำ� คญั อย่างมากในการเขา้ ใช้บรกิ าร
สุขภาพ ซ่ึงไม่ว่าจะเป็นแรงงานข้ามชาติหรือชาวต่างชาติท่ีต้องการใช้บริการโดยตรง
เน่ืองจากปัญหาด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพในประเทศของตน ท�ำให้มีการใช้บริการ
90 • บรกิ ารสุขภาพข้ามแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานีและใกล้เคียงในเขตอสี านใต้:
ขา้ มพรมแดนเพมิ่ มากขนึ้ โดยเฉพาะผทู้ อ่ี ยใู่ นเขตชนบททไ่ี มส่ ามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพ
ในประเทศของตน จึงต้องพึ่งพาบริการสุขภาพจากต่างประเทศท่ีอยู่ใกล้กว่า สะดวก
รวดเรว็ และทันตอ่ โรคทเ่ี กดิ ขนึ้ ในปจั จุบนั
2.3 กรอบแนวคดิ ที่ใช้ในการศึกษา
พวกเราในฐานะนักวิจัยมีความเช่ือว่าปรากฏการณ์ “บริการสุขภาพข้ามแดน”
ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในพนื้ ทจี่ งั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใตน้ ี้ เปน็ ผลมาจาก
หลายปจั จัยประกอบกัน ท้งั น้อี าจจะจำ� แนกปจั จยั ดังกลา่ วออกเป็น 2 ประการดว้ ยกัน
คือ ปัจจัยดึงดูด (pull factors) หรือปัจจัยภายนอก (คือปัจจัยของประเทศปลายทาง)
และปัจจัยผลักดัน (push factors) หรือปัจจัยภายใน (คือปัจจัยของประเทศต้นทาง)
โดยปัจจยั ดึงดดู (pull factors) หรอื ปัจจยั ภายนอกอันเปน็ ปจั จัยของประเทศปลายทาง
ในทนี่ กี้ ค็ อื โลกาภวิ ตั นแ์ ละการบรู ณาการเปน็ ภมู ภิ าคเดยี วกนั กบั การเคลอ่ื นยา้ ยขา้ มแดน
และการเป็นศูนย์กลางบรกิ ารสขุ ภาพ (Medical Service Hub) ที่ก่อให้เกิดความเชือ่ มั่น
ในคณุ ภาพของระบบบริการสขุ ภาพ (confidence in the quality of the health service
systems) สว่ นปจั จัยผลักดนั (push factors) หรอื ปจั จัยภายใน อันหมายรวมถงึ ปจั จัย
ทางกายภาพ (ภมู ิศาสตร์) เศรษฐกิจ สงั คมวัฒนธรรม และการเมอื งของประเทศต้นทาง
รวมทั้งความรู้สึกไม่เชื่อม่ันในคุณภาพของระบบบริการสุขภาพของประเทศต้นทาง
(confidence in the quality of the health service systems) ดว้ ย ในทน่ี ี้ผู้วิจยั จะขอเรยี ก
รวมๆ ว่า “ปัจจยั ดา้ นภูมศิ าสตรส์ งั คม” (Social Geography Factors) ซง่ึ สามารถแสดง
ไดด้ ังกรอบแนวคดิ ขา้ งล่างน้ี
ปรากฏการณ์ การเปน็ ศูนย์กลางบรกิ ารสุขภาพ
“บรกิ ารสขุ ภาพข้ามแดน”
ในพ้ืนที่จังหวดั อบุ ลราชธานี โลกาภวิ ัตน์และการบรู ณาการเป็นภมู ิภาค
เดยี วกันกับการเคลอ่ื นย้ายข้ามแดน
และจังหวัดใกลเ้ คียง
ในเขตอีสานใต้ ปัจจัยด้านภมู ิศาสตรส์ ังคม
ภาพที่ 2.2 กรอบแนวคิดในการศึกษา (conceptual framework)
3
สถานการณ์และบริบทของ
พื้นทชี่ ายแดนไทย–ลาว–กัมพูชา
ในเขตจังหวัดอุบลราชธานี
ศรีสะเกษ และสรุ นิ ทร์
3.1 เกร่ินน�ำ
“อาณาบริเวณพ้ืนที่ชายแดน” (Borderland) เป็นพ้ืนทท่ี ี่ผู้คนในอดีตที่อาศัยอยู่
ในบริเวณดังกล่าวมีการเดินทางติดต่อสัมพันธ์กันอย่างเสรี เพราะผู้คนเหล่าน้ันต่างมี
วัฒนธรรมหรือวิถีการด�ำเนินชีวิตที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นภาษา ศาสนา ความเช่ือ
ขนบธรรมเนียมประเพณีและแนวทางปฏิบัติต่างๆ น�ำมาซึ่งปฏิสัมพันธ์ท่ีหลากหลาย
ทั้งความสัมพันธ์ท่ีดีผ่านรูปแบบของเครือญาติ การแต่งงาน ญาติพี่น้อง เพื่อน
ผู้รับอุปถัมภ์–ผู้ให้อุปถัมภ์ และความสัมพันธ์ในเชิงความขัดแย้งในบางกรณี อันเป็น
รูปแบบความสัมพันธ์ท่ีสืบเนื่องมาแต่ยุคจารีต แม้ว่าในปัจจุบันอาจจะคล่ีคลายไปบ้าง
ตามบรบิ ทของแต่ละพ้ืนที่
ในกรณีของประเทศไทยน้ัน พื้นที่ชายแดนของไทยมีการข้ามแดนของผู้คน
จากประเทศเพอ่ื นบา้ นเพอ่ื เปา้ หมายการคา้ มาแตอ่ ดตี การสง่ เสรมิ การพฒั นาเศรษฐกจิ
และสังคมด้วยนโยบายการค้าเสรี การค้าชายแดน และการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจ
ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเท่ียว ล้วนเป็นปัจจัยส�ำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนา
ทางดา้ นการคมนาคมขนสง่ และการเคลอ่ื นยา้ ยของประชากรเพม่ิ ขนึ้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ
หากการส่งเสริมและพัฒนาดังกล่าวเกิดข้ึนในประเทศที่มีอาณาเขตติดกัน การพัฒนา
ของประเทศหนึ่งย่อมส่งผลถึงอีกประเทศหน่ึงท่ีมีดินแดนติดกัน ไม่ว่าจะผลกระทบ
ทางดา้ นเศรษฐกจิ หรอื สงั คม ซง่ึ สง่ ผลตอ่ สขุ ภาพของประชากรทอ่ี าศยั อยบู่ รเิ วณชายแดน
อยา่ งหลกี เล่ียงไม่ได้ (ไพรินทร์ ตนั ตวิ ิชยานนท์, 2563)
92 • บรกิ ารสุขภาพข้ามแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานีและใกล้เคียงในเขตอสี านใต:้
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของประเทศไทย หรอื ทร่ี จู้ กั กนั ในนามของ “ภาคอสี าน”
โดยเฉพาะกลมุ่ จงั หวัดท่เี รียกว่า “อีสานใต้” (Southern Isan) หรือ “อีสานลา่ ง” (Lower
Isan) อนั ประกอบดว้ ย จงั หวดั นครราชสมี า บรุ รี มั ย์ สรุ นิ ทร์ ศรสี ะเกษ และอบุ ลราชธานนี น้ั
มชี ายแดนติดต่อกับประเทศเพ่ือนบ้านถงึ 2 ประเทศ คอื ประเทศกัมพชู า (นครราชสีมา
บรุ รี มั ย์ สุรนิ ทร์ ศรีสะเกษ) และ สปป.ลาว (อุบลราชธานี) โดยมพี รมแดนทางธรรมชาติ
คือแม่น�้ำโขงและเทือกเขาพนมดงรัก (ดองแร็ก) เป็นพรมแดนตามธรรมชาติแบ่งแยก
ระหว่างกัน ท�ำให้ประชาชนท้ังสองฟากฝั่งมีความใกล้ชิดและคล้ายคลึงกันทางวิถีชีวิต
และวฒั นธรรม เพราะมคี วามผกู โยงสมั พนั ธก์ นั มายาวนาน ทง้ั ภาษา วฒั นธรรมประเพณี
พธิ ีกรรมความเชือ่ การแตง่ กาย อาหารการกนิ ฯลฯ กลา่ วไดว้ ่าแทบจะถอดออกมาจาก
เบา้ หลอมอนั เดยี วกนั มกี ารเดนิ ทางไปมาหาสกู่ นั ผา่ นชอ่ งทางตา่ งๆ ทง้ั การตดิ ตอ่ คา้ ขาย
และการแลกเปลย่ี นทางสงั คมวัฒนธรรม การแตง่ งานผูกสัมพนั ธ์ทางเครอื ญาติ
ดว้ ยเหตนุ ี้ ในภาวการณป์ จั จบุ นั ทป่ี ระเทศไทยและประเทศเพอื่ นบา้ นในภมู ภิ าค
อาเซียนต่างมีนโยบายที่กระชับความสัมพันธ์กันให้แน่นแฟ้นผ่านนโยบายก้าวไปสู่
ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) นับแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ปรากฏการณ ์
การเคล่ือนย้ายของผู้คน (mobility) ข้ามแดนรัฐชาติก็ปรากฏชัดเจนมากขึ้นเร่ือยๆ
โดยเฉพาะในพื้นทที่ ี่มีบริบทดา้ นภูมศิ าสตรต์ ิดตอ่ กนั
ดังจะพบว่าผู้ป่วยท่ีข้ามแดนมารับการรักษาพยาบาลในสถานบริการสุขภาพ
ท่ีจังหวัดอุบลราชธานีน้ัน ส่วนใหญ่เป็นประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านท่ีอาศัยอยู่ใน
“อาณาบริเวณพื้นท่ีชายแดน” ท่ีมีอาณาเขตติดต่อหรืออยู่ใกล้กับจังหวัดอุบลราชธานี
คือ ประเทศกัมพูชา ได้แก่ จังหวัดพระวิหาร จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระตะบอง
จังหวัดเสียมเรียบ และจังหวัดบันเตียเมียนเจย ส่วนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว ได้แก่ แขวงสะหวนั นะเขต แขวงสาละวนั แขวงจำ� ปาสัก
แขวงเซกอง และแขวงอตั ตะปือ
จากการศึกษาพบว่า ชาวลาวที่ข้ามมารับบริการสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานี
และจงั หวดั ใกลเ้ คยี งน้ัน นอกจากขา้ มแดนบริเวณจุดผ่อนปรนแลว้ ยังอาศัยจดุ ผา่ นแดน
ถาวรอีก 2 แห่ง ในการข้ามแดน คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านปากแซง อ�ำเภอนาตาล
และจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อ�ำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ขณะที่ชาวกัมพูชา
ทข่ี า้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพทจี่ งั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง ทง้ั ในสว่ น
ท่เี ป็นโรงพยาบาลของรฐั และเอกชนในตัวจงั หวัดน้นั มักจะใชจ้ ุดผ่านแดนถาวร 2 แหง่
โดยใชห้ นงั สอื เดนิ ทาง (passport) คอื จดุ ผา่ นแดนชอ่ งจอม อำ� เภอกาบเชงิ จงั หวดั สรุ นิ ทร์
และจดุ ผา่ นแดนชอ่ งสะงำ� อำ� เภอภสู งิ ห์ จงั หวดั ศรสี ะเกษ ทงั้ นก้ี ารขา้ มแดนผา่ นเนอื่ งจาก
จุดผ่อนปรนช่องอานม้า ผู้ป่วยจะไม่สามารถเข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพถึงบริเวณ
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ททเี่ กีย่ วขอ้ งของพน้ื ที่ชายแดนประเทศต้นทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 93
ช้ันในของจังหวัดอุบลราชธานีได้ จึงจ�ำเป็นท่ีจะต้องใช้จุดผ่านแดนถาวรทั้ง 2 แห่ง
ข้างตน้ แทน
แผนท่ี 3.1 แสดงจุดผ่อนปรน จุดผา่ นแดนในจงั หวัดอบุ ลราชธานีกับประเทศเพ่ือนบา้ น
ท่ีมา: เวบ็ ไซตศ์ ูนย์ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศดา้ นสาธารณสขุ
กล่มุ งานพฒั นายทุ ธศาสตร์สาธารณสขุ สำ� นักงานสาธารณสขุ จงั หวัดอุบลราชธานี
ดังน้ัน เนื้อหาในบทนี้จะเป็นการน�ำเสนอข้อมูลเก่ียวกับสถานการณ์บริบทของ
อาณาบริเวณพื้นท่ีชายแดนไทย–ลาว–กัมพูชา คือจังหวัดอุบลราชธานีและใกล้เคียง
ในฐานะจดุ หมายทางของผรู้ บั บรกิ ารสุขภาพขา้ มแดนชาวกมั พูชาและชาวลาวท่ีสมั พันธ์
กับปรากฏการณ์การบริการสุขภาพข้ามแดน โดยแยกเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วน คือ
(1) บริบททางภูมิศาสตร์และบริการสุขภาพของจังหวัดอุบลราชธานีและใกล้เคียง
(2) บริบทความสมั พันธร์ ะหวา่ งจงั หวัดอบุ ลราชธานีและจังหวดั ใกลเ้ คียงในเขตอสี านใต้
กับประเทศเพ่ือนบ้าน และ (3) บริบทด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของ
อาณาบริเวณพื้นที่ชายแดน ซึ่งท้ังสามบริบทน้ีงานวิจัยน้ีจะเรียกว่าเป็น “บริบทด้าน
ภูมิศาสตรส์ งั คม” (Social Geography Contexts) ดังมรี ายละเอียดตอ่ ไปน้ี
3.2 สถานการณแ์ ละบริบททางภมู ศิ าสตรแ์ ละบรกิ ารสขุ ภาพของจงั หวดั อุบลราชธานี
และจังหวัดใกลเ้ คยี ง
อาณาบริเวณพ้ืนท่ีชายแดนจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงในเขต
อีสานใต้นั้น มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพ่ือนบ้านอาเซียนถึง 2 ประเทศด้วยกัน
คอื ราชอาณาจกั รกมั พชู า และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
94 • บรกิ ารสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวัดอุบลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
อาณาบริเวณพื้นท่ีดังกล่าว โดยเฉพาะบรเิ วณทีเ่ ป็นเขตพน้ื ท่ีรอยตอ่ 3 ประเทศ
คือ ประเทศไทย สปป.ลาว และประเทศกัมพูชาน้ัน เป็นพ้ืนท่ีท่ีได้รับความสนใจ
ค่อนข้างมาก จนได้มกี ารขนานนามว่า “สามเหลีย่ มมรกต” (Emerald Triangle) ตามชอื่
ของโครงการความร่วมมอื สามเหลย่ี มมรกต (Emerald Triangle Cooperation) อันเปน็
ความร่วมมือระหว่างกัมพูชา ลาว และไทย เพ่ือส่งเสริมการท่องเท่ียวในพ้ืนท่ีจังหวัด
ชายแดนที่ติดกันของสามประเทศ ซึ่งก่อต้ังข้ึนเม่ือเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 โดยข้อ
เสนอของกมั พชู าเปน็ ความรว่ มมอื ในลกั ษณะสามเหลย่ี มเศรษฐกจิ ในพน้ื ทที่ สี่ ามประเทศ
มพี รมแดนรว่ มกนั เพอ่ื เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพทางเศรษฐกจิ การเมอื งและสงั คม โดยไมท่ ำ� ลาย
สงิ่ แวดล้อม (ดูแผนท่ี 3.2 ประกอบ)
แผนท่ี 3.2 แสดงทตี่ ัง้ และอาณาเขตของสามเหล่ยี มมรกต
ทม่ี า: หอการคา้ อบุ ลราชธานี เข้าถึงใน https://www.dataubcc.com
พื้นท่ีความร่วมมือในปัจจุบัน ครอบคลุม 7 จังหวัด/แขวง ได้แก่ จังหวัด
อุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษของไทย จังหวัดพระวิหาร จังหวัดอุดรมีชัย และ
จังหวัดสตึงแตรงของกัมพชู า และแขวงสาละวันและแขวงจ�ำปาสักของ สปป.ลาว
พื้นที่สามเหล่ียมมรกตมีแหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และ
วัฒนธรรม โดยเฉพาะอารยธรรมขอม ซึ่งเป็นปัจจัยส�ำคัญในการพัฒนาด้านการค้า
การลงทนุ และการท่องเทีย่ ว รวมท้ังการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมของภูมิภาค
อยา่ งไรกต็ าม การดำ� เนนิ งานในการพฒั นาความรว่ มมอื ระหวา่ งสามประเทศนน้ั
ก็หยุดชะงกั ลงเปน็ เวลาร่วมสบิ ปมี าแล้ว โดยคร้ังสดุ ท้าย ประเทศกมั พูชาไดเ้ ปน็ เจ้าภาพ
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบรบิ ทท่เี ก่ยี วข้องของพน้ื ท่ีชายแดนประเทศต้นทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 95
จัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 2–3 ตลุ าคม 2552 ท่ีจังหวัดเสียมราฐ ภายใตห้ ัวข้อ “The Emerald Triangle:
Cooperation for Green Development” โดยทีป่ ระชมุ ได้หารอื ถึงความคืบหนา้ เกย่ี วกบั
ความร่วมมือสามเหลี่ยมมรกตและการด�ำเนินการตามปฏิญญาปากเซ พร้อมท้ังยืนยัน
เจตนารมณ์ของประเทศสมาชิกต่อกรอบความร่วมมือน้ี โดย สปป.ลาว และกัมพูชา
ได้แสดงความขอบคุณทไ่ี ทยให้ความช่วยเหลอื ในการพัฒนาด้านการทอ่ งเทีย่ ว
ทปี่ ระชมุ ครง้ั นน้ั มคี วามเหน็ วา่ การพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานในพน้ื ทสี่ ามเหลยี่ ม
มรกตเป็นปัจจัยพน้ื ฐานสนับสนนุ การพัฒนาดา้ นการทอ่ งเที่ยว การคา้ และการพฒั นา
เศรษฐกิจ และท่ีประชุมเห็นชอบให้ขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมด้านการพัฒนา
โครงสรา้ งพนื้ ฐาน การสง่ เสรมิ การคา้ และการเกษตร เพมิ่ เตมิ จากสาขาการทอ่ งเทย่ี วดว้ ย
เนื่องจากความร่วมมือในสาขาดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในการกระตุ้น
การพฒั นาทางเศรษฐกจิ ยกระดบั ความเปน็ อยขู่ องประชาชน และขจดั ปญั หาความยากจน
ในภูมิภาค พร้อมกันน้ี ได้มอบหมายให้คณะเจ้าหน้าท่ีอาวุโสยกร่างแผนปฏิบัติการ
ครอบคลุมสาขาความร่วมมือดงั กล่าวที่เพิม่ ข้ึนในความร่วมมือสามเหลยี่ มมรกต ศกึ ษา
เส้นทางต่างๆ ที่มีอยู่ และเสนอเส้นทางที่ประเทศสมาชิกต้องการพัฒนาเพิ่มเติม
เพอ่ื เชอ่ื มโยงสถานทที่ อ่ งเทย่ี วในภมู ภิ าค และเหน็ ความจำ� เปน็ ของหนุ้ สว่ นเพอื่ การพฒั นา
และองค์การให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศในการช่วยสนับสนุนให้การด�ำเนินงาน
มีความคืบหน้าต่อไป (กองส่งเสริมเศรษฐสัมพันธ์และความร่วมมือ กรมเศรษฐกิจ
ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ, ม.ป.ป.)
ทง้ั นี้ ฝา่ ยไทยคาดวา่ โครงการนจ้ี ะชว่ ยเพม่ิ ศกั ยภาพดา้ นการทอ่ งเทยี่ วของพน้ื ท่ี
ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เชอื่ มโยงกบั ประเทศเพอื่ นบา้ นอนิ โดจนี และกอ่ ใหเ้ กดิ รายได้
จำ� นวนมากแกธ่ รุ กจิ การทอ่ งเทย่ี วในพนื้ ทภ่ี าคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของไทย ซง่ึ ยงั ลา้ หลงั
ภาคอน่ื ๆ อย่มู าก
ขอ้ จำ� กดั ของโครงการนม้ี หี ลายประการดว้ ยกนั โดยเฉพาะงบประมาณจำ� นวนมาก
ที่รฐั บาลทง้ั ไทย ลาว และกมั พูชา ต้องทุม่ เทลงไปเคลยี ร์พนื้ ที่ให้ปลอดภยั จากกบั ระเบิด
และการพัฒนาโครงสร้างขั้นพ้ืนฐานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนักในปัจจุบัน
รวมทั้งผลกระทบด้านส่ิงแวดล้อมจากโครงการสร้างสนามกอล์ฟ ซ่ึงต้องสูญเสียพ้ืนท่ี
ปา่ ต้นน�ำ้ อุทยานแห่งชาติของไทย และปา่ อุดมสมบรู ณ์ของลาวและกมั พชู า ซึง่ มกี ระแส
คดั คา้ นทีร่ ุนแรงจากมวลชนโดยรวม
แมโ้ ครงการสามเหลย่ี มมรกตเปน็ เพยี งแนวคดิ เบอื้ งตน้ ทต่ี อ้ งศกึ ษาความเปน็ ไปได้
รวมทง้ั ผลกระทบดา้ นตา่ งๆ ของโครงการตอ่ ไปกต็ าม แตโ่ ครงการนกี้ ำ� ลงั เปน็ ทจี่ บั ตามอง
จากหลายฝ่าย หลังจากท่ีประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการโครงการพัฒนาพ้ืนที่
96 • บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานีและใกล้เคยี งในเขตอีสานใต:้
สามเหล่ียมมรกตให้เป็นแหล่งท่องเท่ียวตามท่ีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเสนอ
และแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาสามเหลี่ยมมรกตเป็นแหล่งท่องเท่ียว เพื่อศึกษา
แนวทางการพัฒนาด้านต่างๆ ของโครงการ เนื่องจากพนื้ ที่ทีจ่ ะพฒั นาโครงการดงั กลา่ ว
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จังหวัดอุบลราชธานี และจะมีการใช้พ้ืนท่ี
ในอุทยานแห่งชาติพัฒนาโครงการสนามกอล์ฟนานาชาติ 3 ประเทศด้วย (โครงการ
สามเหลย่ี มมรกต, 2545) อยา่ งไรกต็ าม หลงั จากการประชมุ ครง้ั นน้ั รฐั บาลทงั้ 3 ประเทศ
กย็ งั ไมไ่ ดม้ กี ารประชุมเพ่ือขับเคลื่อนโครงการดังกลา่ วอีกแต่ประการใด
ในหวั ขอ้ ถดั ไป ผวู้ จิ ยั จะไดน้ ำ� เสนอรายละเอยี ดเกยี่ วกบั สถานการณแ์ ละบรบิ ทของ
พน้ื ทอ่ี าณาบรเิ วณชายแดนของจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี ง โดยจะกลา่ วถงึ 2 สว่ น
คอื บรบิ ทด้านภูมศิ าสตรแ์ ละบรบิ ทด้านการบรกิ ารสุขภาพ ดงั รายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้
3.2.1 อบุ ลราชธาน:ี ศูนย์กลางบริการสุขภาพของอีสานใต้
3.2.1.1 บรบิ ทดา้ นภูมศิ าสตร์
หากจะกลา่ วเฉพาะจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ลว้ จะพบวา่ เปน็ จงั หวดั ทต่ี ง้ั อยู่
ทางทิศตะวนั ออกสดุ ของประเทศ จนได้สมญาวา่ เปน็ เมอื ง “รบั ตะวันกอ่ นใครในสยาม”
เปน็ จงั หวดั ทม่ี พี นื้ ทข่ี นาดใหญเ่ ปน็ ลำ� ดบั ท่ี 2 ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และอนั ดบั ท่ี 5
ของประเทศ แบ่งการปกครองออกเป็น 25 อ�ำเภอ 219 ต�ำบล 2,699 หมู่บ้าน และ
มีประชากรมากเป็นอันดบั 3 ของประเทศ คอื 1,866,682 คน มีสถานบริการสาธารณสุข
ประกอบด้วย โรงพยาบาลศนู ย์ 1 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป 2 แหง่ โรงพยาบาลชุมชน
22 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล (รพ.สต.) 317 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน
4 แห่ง (พิมณทพิ า มาลาหอม และ พชิ ามญชุ์ ปนั ธยิ ะ, 2563)
ส�ำหรับบริบทของพื้นที่ชายแดนของจังหวัดอุบลราชธานีซ่ึงมีพรมแดน
ตดิ กบั สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และราชอาณาจกั รกมั พชู านนั้
พบว่ามีอ�ำเภอที่ติดชายแดนท้ังสองประเทศจ�ำนวน 10 อ�ำเภอ มีความยาวถึง
428 กิโลเมตร โดยเป็นพรมแดนกับประเทศ สปป.ลาว เป็นระยะทาง 361 กิโลเมตร
โดยแบ่งเป็นเขตแดนตามล�ำน้�ำโขง 188 กิโลเมตร และเขตแดนติดต่อกันทางบกอีก
173 กิโลเมตร คือตั้งแต่อ�ำเภอเขมราฐ นาตาล โพธิ์ไทร ศรีเมืองใหม่ โขงเจียม
สิรินธร บุณฑริก นาจะหลวย และน้�ำยืน ซึ่งมีอาณาเขตติดกับแขวงสะหวันนะเขต
แขวงสาละวัน และแขวงจ�ำปาสัก และในส่วนของพรมแดนกับประเทศกัมพูชา
เป็นระยะทาง 67 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตแดนทางบกท้ังหมด โดยมีอาณาเขตติดต่อกับ
จังหวดั พระวิหารของราชอาณาจักรกัมพชู า ในเขตพื้นทอ่ี ำ� เภอนำ�้ ยืน และอำ� เภอนำ�้ ขนุ่
ดังแผนที่ 3.3
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบทท่เี ก่ียวขอ้ งของพน้ื ที่ชายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 97
แผนที่ 3.3 แสดงอาณาเขตตดิ ต่อระหว่างจังหวดั อบุ ลราชธานกี บั สปป.ลาว และกมั พชู า
ท่ีมา: เว็บไซต์ตรวจคนเข้าเมืองอุบลราชธานี
เข้าทถึง้ังในน้ี hใtนtpส:่ว/น/wขwองwพ.iรmมmแiดgนraไtทioยn–.gลoา.วthนั้น(17มีพพฤรมษภแาดคนมต2ิด5ก6ับ4แ)ขวงจ�ำปาสัก
แขวงสาละวัน และแขวงสะหวนั นะเขต ท้ังท่เี ปน็ พ้นื ดินกับพื้นดนิ และแม่น้ำ� ก้ัน ในสว่ น
พรมแดนทตี่ ดิ กบั ราชอาณาจกั รกมั พชู า บรบิ ทจะเปน็ เทอื กเขาทท่ี อดยาวตอ่ เนอ่ื งมาจาก
จังหวัดศรีสะเกษ และมีช่องทางผ่านเข้าออกท่ีจุดผ่อนปรน “ช่องอานม้า” ท่ีอ�ำเภอ
น�้ำยืน ซึ่งมีก�ำหนดการเปิด–ปิดท่ีชัดเจน อยู่ภายใต้การดูแลของกองก�ำลังสุรนารี
ในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี มีจุดผ่านแดนสากล 1 แห่ง คือ จุดผ่านแดนสากล
ช่องเม็ก และจุดผ่านแดนถาวร 1 แห่ง คือ บ้านปากแซง หรือด่านถาวรบ้านปากแซง
ดงั แสดงในแผนที่ 3.4
แผนที่ 3.4 แสดงจดุ ผ่านแดนถาวรช่องเมก็ และจดุ ผ่านแดนถาวรบา้ นปากแซง
ที่มา: เว็บไซตต์ รวจคนเขา้ เมอื งอุบลราชธานี
เขา้ ถึงใน http://www.immigration.go.th (17 พฤษภาคม 2564)
98 • บริการสุขภาพข้ามแดนในจังหวัดอุบลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอสี านใต้:
จุดผ่านแดนสากลช่องเม็กนั้น ส่วนใหญ่คนท�ำงานด่านจะเรียกขานว่า
“ด่านพรมแดนช่องเม็ก” เป็นพรมแดนท่ีเป็นพ้ืนดินกับพื้นดิน ระหว่างอ�ำเภอสิรินธร
กับด่านสากลวังเต่า เมืองโพนทอง แขวงจ�ำปาสัก โดยด่านพรมแดนสากลช่องเม็ก
ประกาศเป็นด่านพรมแดนและดา่ นศุลกากร เมือ่ วันท่ี 17 ตุลาคม 2555 สินค้าส่งออก
ส�ำคัญ ได้แก่ น�้ำมันเช้ือเพลิง วัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภคและของใช้ประจ�ำวัน
เครื่องจักรการเกษตรและอุปกรณ์เคร่ืองจักร เหล็กเส้น เครื่องใช้ไฟฟ้า และปุ๋ยเคม ี
เป็นต้น สินค้าน�ำเข้า ได้แก่ ไม้แปรรูป สินค้ากสิกรรม (กะหล�
เมล็ดกาแฟ) เป็นต้น
ภาพท่ี 3.1 ดา่ นพรมแดนช่องเม็ก อ�ำเภอสริ นิ ธร จงั หวัดอุบลราชธานี
ทมี่ า: ปิยะนันท์ สุขจนั ทร์ (26 มนี าคม 2564)
ดา่ นพรมแดนชอ่ งเมก็ เปดิ ทำ� การทกุ วนั เดมิ ดา่ นเปดิ เวลา 06.00–20.00 น.
ต่อมาเม่ือมีวิกฤตโควิด-19 ได้มีค�ำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี (นายสฤษฏ ์
วทิ ูรย)์ เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ระยะเวลาเปิดเปลี่ยนเปน็ เวลา 08.00–18.00 น.
ภาพที่ 3.2 รถบรรทุกจากฝงั่ ไทยขณะรอขา้ มแดนทบ่ี ริเวณด่านพรมแดนช่องเม็ก
ท่มี า: สมหมาย ชนิ นาค (26 มีนาคม 2564)