การศึกษาสถานการณ์และบรบิ ทที่เกย่ี วขอ้ งของพ้ืนทีช่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 199
เขตภูเขา มีพ้ืนท่ีประมาณ 498,200 เฮกตาร์ คิดเป็น 65% ของพื้นที่แขวง
อยู่ในเมืองดากจึงและเมืองกะลืม เหมาะแก่การปลูกไม้อุตสาหกรรมระยะยาวและ
เล้ียงสตั วใ์ หญ่
เขตท่ีราบสูง มีพน้ื ที่ประมาณ 230,000 เฮกตาร์ คดิ เป็น 30% ของพ้ืนทแ่ี ขวง
อย่ใู นเมอื งท่าแตงและเมอื งละมาม เหมาะแก่การปลูกไมอ้ ตุ สาหกรรม โดยเมืองท่าแตง
เปน็ เมืองท่ีอดุ มสมบูรณก์ วา่ เมืองอื่นและมอี ากาศเยน็ จึงเหมาะแกก่ ารเกษตรทสี่ ูง เช่น
ทุเรยี น ลำ� ไย กาแฟ
เขตที่ราบ มีพื้นท่ีประมาณ 38,325 เฮกตาร์ คิดเป็น 5% ของพ้ืนที่แขวง
เป็นพ้ืนที่ลุ่มแม่น้�ำเซกองที่มีการท�ำนามากที่สุดในแขวง มีท่ีดินส�ำหรับการเพาะปลูก
42,974 เฮกตาร์ ท่งุ หญา้ เลี้ยงสตั ว์ 13,842 เฮกตาร์ ท่ีดนิ ท�ำนา 8,600 เฮกตาร์
ในอดตี การเดนิ ทางคมนาคมไปยงั แขวงเซกองนน้ั คอ่ นขา้ งยากล�ำบากเพราะเปน็
แขวงท่ีตั้งอยู่ไกล อย่างไรก็ตาม นับแต่ สปป.ลาว มีการปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจ
ท่ีเปิดกว้างใช้ระบบเศรษฐกิจแบบการตลาด (market economy) ท�ำให้มีการลงทุนจาก
ต่างชาติเพิ่มข้ึนเร่ือยๆ น�ำมาซ่ึงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมในประเทศเพื่อรองรับกับ
โครงการลงทนุ ต่างๆ ท�ำใหป้ ัจจุบันการเดนิ ทางไปยงั แขวงเซกองทำ� ไดอ้ ยา่ งสะดวกและ
รวดเรว็ ยง่ิ ขนึ้ นอกจากน้ี การทแ่ี ขวงเซกองมพี รมแดนตดิ กบั ประเทศเวยี ดนาม ทางรฐั บาล
สปป.ลาว และเวยี ดนามไดต้ กลงรว่ มกนั ในการยกระดบั ดา่ นดากตะออ๋ ก–นามยาง ทเ่ี ชอ่ื ม
ระหวา่ งแขวงเซกอง สปป.ลาว กบั จงั หวดั กวางนมั เวยี ดนาม เปน็ ดา่ นสากล (international
border crossing) แห่งใหม่ และเป็นที่แรกของแขวงเซกอง เพ่ืออ�ำนวยความสะดวก
ในการขนส่งสินคา้ และการขา้ มแดนของประชาชนชนระหว่าง สปป.ลาว และเวยี ดนาม
ด่านดากตะอ๋อกเดมิ เปน็ ดา่ นท้องถ่ิน (local border crossing) ตัง้ อยบู่ รเิ วณเมอื งดากจงึ
ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเซกองประมาณ 120 กิโลเมตร การยกระดับด่านครั้งน้ีจะช่วย
ลดระยะทางท่ีใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม โดยผ่านทางภาคใต้
ของ สปป.ลาว ไปมากกวา่ 100 กิโลเมตร โดยสนิ ค้าสง่ ออกหลกั ของ สปป.ลาว ไปยัง
เวียดนามคือ สินค้าเกษตร และได้น�ำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้างท่ีใช้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้า
พลังน้�ำและโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จากเวียดนาม ท้ังนี้ การยกระดับด่านข้ามแดน
จะช่วยเพ่ิมการเชื่อมโยงกับเวียดนามและไทย รวมถึงช่วยอ�ำนวยความสะดวกในการ
เดินทางของนักลงทุนจากเวียดนามมายัง สปป.ลาว อีกด้วย (ศูนย์ข้อมูลข่าวอาเซียน
กรมประชาสัมพนั ธ์, 2564)
200 • บริการสุขภาพขา้ มแดนในจังหวัดอุบลราชธานแี ละใกลเ้ คยี งในเขตอีสานใต:้
ภาพที่ 5.4 โรงหมอแขวงเซกอง
ท่มี า: อรทยั ศรีทองธรรม (2561)
แขวงอตั ตะปือ
อตั ตะปอ เปน็ แขวงที่อยู่ตอนใต้สุดด้านทิศตะวนั ออกของ สปป.ลาว ต้งั อยู่ห่าง
จากนครหลวงเวียงจนั ทน์ 970 กโิ ลเมตร มอี าณาเขต ทศิ เหนอื ตดิ แขวงเซกอง ทศิ ใต้
ติดกับจังหวัดสตึงแตรง และจังหวัดรัตนคีรี ประเทศกัมพูชา ทิศตะวันออก ติดกับ
จังหวัดกอนตูม ประเทศเวียดนาม ทิศตะวันตก ติดกับแขวงจ�ำปาสัก มีพื้นท่ี 10,320
ตารางกิโลเมตร
ลกั ษณะทางภมู ศิ าสตรข์ องแขวงอตั ตะปอ มที งั้ เขตภดู อยและทร่ี าบลมุ่ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณ
โดยมลี ำ� นำ้� หลกั 2 สายไหลผา่ น คอื เซกองกบั เซกะหมาน สายนำ�้ ทงั้ สองสายนเ้ี ปรยี บเสมอื น
เสน้ เลอื ดคอยหลอ่ เลย้ี งวถิ ชี วี ติ และระบบเศรษฐกจิ ของชาวอตั ตะปอ กลา่ วคอื เปน็ แหลง่
อาหาร เสน้ ทางคมนาคม การเพาะปลกู
ตวั เลขขอ้ มลู ดา้ นประชากรเมอื่ ปี 2020 ระบวุ า่ แขวงอตั ตะปอื มปี ระชากรจำ� นวน
159,885 คน หรอื เฉล่ยี แล้วเท่ากบั 15.49 คนตอ่ 1 ตารางกโิ ลเมตร ทงั้ น้เี มือ่ พิจารณา
สดั สว่ นกลมุ่ ชาตพิ นั ธแ์ุ ลว อตั ตะปอ มลี าวลมุ่ จ�ำนวนรอ้ ยละ 43.1 สว นทเี่ หลอื คอื ลาวเทงิ
ไดแ้ ก่ โอย ตะโอ้ย เจง็ สะดาง อาลกั ยะเหิน ชุ เบรา (ละแว) ละเวน ตะเรยี ง แยะ
กะยอง
การศึกษาสถานการณ์และบรบิ ททเ่ี กย่ี วขอ้ งของพื้นทชี่ ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 201
ภาพที่ 5.5 โรงหมอแขวงอัตตะปือ
ที่มา: อรทัย ศรที องธรรม (2561)
แขวงอัตตะปือ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 เมือง ได้แก่ เมืองไซเสดถา
เมอื งสามคั คไี ซ เมอื งสะหนามไซ เมืองพูวง เมืองสานไซ
ดา้ นการสาธารณสขุ นน้ั อัตตะปอื มีโรงพยาบาล 5 แหง่ สถานอี นามยั 24 แห่ง
กองทุนยาระดับหมู่บ้าน 147 ตู้ และมีโครงการของต่างประเทศให้การช่วยเหลือและ
พัฒนางานด้านสาธารณสขุ ในแขวง
แม้ว่าแขวงอัตตะปือจะไม่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย แต่ปัจจุบันเส้นทาง
คมนาคมที่ได้รับการพัฒนาตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศนั้นก็ทำ� ให้ผู้คนสามารถ
เดินทางมายังประเทศไทย โดยผ่านด่านชายแดนช่องเม็ก อ�ำเภอสิรินธร จังหวัด
อุบลราชธานี ได้ไม่ยากนัก ด้วยเหตุที่แขวงอัตตะปืออยู่ในเส้นทางท่ีสามารถเช่ือม
ระหว่างไทย–ลาว–เวียดนาม และไทย–ลาว–กัมพูชา เพราะมีจุดผ่านแดน 2 จุด คือ
ด่านสากลพูเกือ (แขวงอัตตะปอื สปป.ลาว)–เบอ่ อี (จังหวัดกอนตมู ประเทศเวยี ดนาม)
เปิดท�ำการทุกวัน ระหว่างเวลา 07.00–19.00 น. (มีพิธีเปิดด่านอย่างเป็นทางการ
เม่ือวันที่ 18 มกราคม 2551) และด่านท้องถิ่นเซเปียน (ด่าน 48) ที่เมืองสนามไซ
แขวงอัตตะปอื –เมอื งเชยี งแตง กัมพชู า เปิดทุกวันระหวา่ งเวลา 08.00–17.00 น.
202 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวดั อุบลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอสี านใต้:
จากทไ่ี ดน้ ำ� เสนอสถานการณแ์ ละบรบิ ทเกยี่ วกบั ปจั จยั ทางกายภาพ (ภมู ศิ าสตร)์
ของ 4 แขวงไปแล้วข้างต้นน้ัน จะพบว่าปัจจัยทางกายภาพ (ภูมิศาสตร์) น้ัน ก็เป็น
อุปสรรคในการคมนาคมขนส่งและการเดินทางสัญจรของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
ซงึ่ สว่ นใหญเ่ ปน็ เขตชนบทหา่ งไกล ทจ่ี ะไปขอรบั บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพในสถานบรกิ ารสขุ ภาพ
ซ่ึงส่วนใหญ่มักจะต้ังอยู่ในเมือง จึงท�ำให้ประชาชนท่ีอยู่ตามแนวชายแดนตัดสินใจ
ข้ามแดนเข้ามาใช้บริการสุขภาพในสถานบริการสุขภาพของประเทศไทยแทน ในแง่นี้
ปจั จยั ทางกายภาพ (ภมู ศิ าสตร)์ ดงั กลา่ วจงึ จดั เปน็ ปจั จยั ผลกั ดนั (push factor) ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ
การข้ามแดนเพ่ือใช้บริการสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานี ขณะเดียวกันการพัฒนา
โครงสร้างพ้ืนฐานประเภทถนนหนทางของรัฐบาลเพื่อรองรับกับการพัฒนาด้านการค้า
การลงทุนน้ัน ก็ยังช่วยเอื้ออ�ำนวยในการเดินทางสัญจรเพ่ือข้ามแดนไปใช้บริการ
สุขภาพนน้ั ทำ� ได้อยา่ งสะดวกและรวดเรว็ ยง่ิ ขึน้
5.3 สถานการณ์และบรบิ ทด้านสาธารณสุขของ สปป.ลาว
สถานการณแ์ ละบริบทด้านสาธารณสขุ ในท่ีนี้ จะครอบคลมุ ถงึ มติ ิที่เกย่ี วข้องกบั
ยุทธศาสตร์ นโยบายด้านสาธารณสุข จ�ำนวนของสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน
และบุคลากรด้านสาธารณสุข ตลอดจนปัจจัยท่ีก่อให้เกิดการข้ามแดนและรูปแบบ
การข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงของ
ชาวลาว ทเ่ี ปน็ ผลจากการเกบ็ ขอ้ มลู ทงั้ เชงิ เอกสารและขอ้ มลู ภาคสนาม ซงึ่ มรี ายละเอยี ด
ดังต่อไปน้ี
5.3.1 ยทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายดา้ นสาธารณสขุ จ�ำนวนของสถานพยาบาล
และบุคลากรด้านสาธารณสขุ
5.3.1.1 ยทุ ธศาสตร์ดา้ นสาธารณสุข
ในแง่ยุทธศาสตร์และนโยบายบริการสุขภาพหรือสาธารณสุข ซึ่งจัดเป็น
ปัจจัยทางการเมืองนั้น พบว่างานด้านสาธารณสุขเป็นภารกิจส�ำคัญที่พรรคและรัฐ
ให้ความส�ำคัญ โดยยุทธศาสตร์และนโยบายด้านการสาธารณสุขของ สปป.ลาว ได้รับ
การช้ีน�ำโดยวิสัยทัศน์ระยะยาว 2030 (Vision 2030) ซ่ึงด�ำเนินการผ่านแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ 5 ปี แผนเหลา่ นี้มรี ายละเอียดเพ่ิมเตมิ ในระดบั แขวง เมือง
และภาค โดยวิสยั ทัศน์ 2030 ตั้งเป้าว่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจะเปน็
ประเทศทมี่ รี ายไดป้ านกลางถึงสูง (a middle-to high-income country) ด้วยการพัฒนา
ทางเศรษฐกิจและสงั คมที่สมดุล เสถยี รภาพทางการเมอื ง และการจดั ระเบียบสังคมและ
สังคมปลอดภัย ปัจจุบันตรงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 9
(พ.ศ. 2564–2568) ยังคงมุ่งเน้นการลดความยากจน การหลุดพ้นจากสถานะประเทศ
การศึกษาสถานการณ์และบริบททเี่ กยี่ วข้องของพื้นท่ีชายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 203
รายไดต้ ำ�่ (least developed country – LDC) การจัดการและการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ
อย่างมีประสิทธิผล และบรู ณาการในระดบั ภมู ภิ าคและระหว่างประเทศทแ่ี ขง็ แกรง่
ปัจจบุ ัน สปป.ลาว ได้จัดทำ� ยุทธศาสตรแ์ ละกรอบการปฏิรปู ภาคสขุ ภาพ
จนถึงปี 2568 (Health Sector Reform Strategy and Framework till 2025 – HSRF)
ซง่ึ มเี ปา้ หมายทจี่ ะบรรลหุ ลกั ประกนั สขุ ภาพถว้ นหนา้ (universal health coverage – UHC)
ภายในปี 2568 การเสริมสร้างระบบสุขภาพที่ถือเป็นหัวใจสำ� คัญของยุทธศาสตร์และ
กรอบการปฏริ ปู น้ี ไดแ้ ก่ การจดั หาเงนิ ทนุ ดา้ นสขุ ภาพ ธรรมาภบิ าลดา้ นสขุ ภาพ ทรพั ยากร
มนษุ ยเ์ พ่อื สุขภาพ การจัดสง่ บรกิ ารสุขภาพและระบบขอ้ มลู สขุ ภาพ โดยดำ� เนนิ การผา่ น
แผนพฒั นาภาคสขุ ภาพหา้ ปี (Health Sector Development Plan – HSDP) (World Health
Organization, Western Pacific Region and Ministry of Health, Lao PDR, 2017)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะมียุทธศาสตร์และนโยบายบริการสุขภาพ
แตด่ ว้ ยขอ้ จ�ำกดั เรอื่ งงบประมาณ จงึ ทำ� ใหร้ ะบบบรกิ ารสขุ ภาพของประเทศยงั มอิ าจทจี่ ะ
ตอบสนองกับประชากรทุกกลุ่มได้ ดังข้อมูลจ�ำนวนโรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศมีเพียง
10 แห่งเท่าน้ัน ฉะนั้น ความท้าทายของระบบบริการสุขภาพของ สปป.ลาว ก็คือ
ความต้องการคุณภาพของระบบบริการสุขภาพที่สูง ข้อจ�ำกัดของทรัพยากรมนุษย์และ
การกระจายของมนุษย์ด้านการแพทย์ งบประมาณท่ีจ�ำกัด การกระจุกตัวมากเกินไป
ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลส่วนกลาง ขณะท่ีโรงพยาบาลระดับอำ� เภอ (เมือง) และระดบั
ชุมชน (สุขศาลา) ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ป่วย ยังผลให้ผู้ป่วยหรือญาติของผู้ป่วย
จ�ำนวนหน่ึงเลือกท่ีจะใช้บริการสุขภาพข้ามแดนที่ประเทศไทย ทั้งในระดับชุมชน
(โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพระดบั ตำ� บล – รพ.สต.) โรงพยาบาลชมุ ชน โรงพยาบาลจงั หวดั
โรงพยาบาลศนู ย์ รวมท้ังโรงพยาบาลและคลนิ กิ เอกชน เป็นต้น
ในอดีตนั้น ด้วยเหตุท่ีเป็นประเทศที่ก�ำลังพัฒนา การพัฒนาด้าน
สาธารณสขุ ของ สปป.ลาว จงึ ไดร้ บั ความช่วยเหลือจากนานาประเทศ โดยเฉพาะความ
ช่วยเหลือจากรัฐบาลญ่ีปุ่น โดยญ่ีปุ่นจะสนับสนุนการด�ำเนินงานด้านการประสานงาน
เพอื่ สรา้ งศกั ยภาพของบคุ ลากรดา้ นสาธารณสขุ ของ สปป.ลาว ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในการ
ให้ความรู้แก่ผู้เป็นแม่เพื่อการพัฒนาสุขภาพของแม่และเด็ก และการส่งเสริมหมู่บ้าน
สาธารณสุขตัวอย่างผ่านโครงการความร่วมมือทางวิชาการกับองค์การความร่วมมือ
ระหว่างประเทศของญีป่ ุน่ (The Japan International Cooperation Agency – JICA) และ
กองทุนญ่ีปุ่นเพ่ือลดปัญหาความยากจน ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาล สปป.ลาว ได้ประกาศ
ยกเวน้ คา่ บรกิ ารสขุ ภาพแกแ่ มแ่ ละเดก็ เปน็ นโยบายทจ่ี ะชว่ ยให้ สปป.ลาว บรรลเุ ปา้ หมาย
การพฒั นาสหสั วรรษของสหประชาชาติ (UN Millennium Development Goals) เพื่อที่จะ
ให้บรรลุผลในปี พ.ศ. 2558 ท่ีผ่านมา
204 • บริการสุขภาพขา้ มแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานแี ละใกล้เคียงในเขตอีสานใต:้
ในแผนพฒั นาฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2559–2563) งานดา้ นสุขภาพประสบความ
สำ� เรจ็ ในหลายดา้ น และปจั จบุ นั เตรยี มการมงุ่ ไปสกู่ ารปฏริ ปู ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2564–2568)
โดยปรบั ปรงุ คณุ ภาพการบรกิ ารใหท้ นั สมยั สรา้ งความมน่ั ใจวา่ ทกุ คนสามารถเขา้ ถงึ บรกิ าร
ไดใ้ นยามเจบ็ ปว่ ยโดยไมม่ ปี ญั หาทางการเงนิ ควบคไู่ ปกบั การสรา้ งเงอื่ นไขใหโ้ รงพยาบาล
พัฒนาตนเองได้เป็นล�ำดับ ด�ำเนินตามแผนไม่ท้ิงใครไว้ข้างหลัง ซ่ึงประกอบด้วย
8 แผนงานหลัก 49 แผนงานย่อย และ 133 โครงการ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวม
ทางเศรษฐกิจจะเติบโตข้ึน แต่ก็ยังไม่มีการกระจายอย่างเท่าเทียมกันระหว่างประชากร
ทงั้ ประเทศ ดงั ตวั เลขของ USAID (2019) ทร่ี ะบวุ า่ ความยากจนในพนื้ ทช่ี นบทอยทู่ ี่ 29%
ขณะทใี่ นเขตเมอื งอยทู่ ี่ 10% ชใ้ี หเ้ หน็ ถงึ ความแตกแยกระหวา่ งเมอื งและชนบททเ่ี ดน่ ชดั
พื้นท่ีชนบทและพื้นที่ห่างไกลมักจะประสบกับอัตราที่สูงข้ึนของการเสียชีวิตของมารดา
และทารก ภาวะแคระแกร็น และการเข้าศกึ ษาตอ่ ในระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ คณุ ภาพ
และความครอบคลมุ ของบรกิ ารสขุ ภาพทวั่ ประเทศยงั อยใู่ นระดบั ตำ�่ ความทา้ ทายทส่ี ำ� คญั
คอื การเข้าถึงสงิ่ อ�ำนวยความสะดวกด้านสุขภาพอย่างจ�ำกดั ในพ้นื ทช่ี นบทและหา่ งไกล
ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ดา้ นสขุ ภาพทมี่ ที กั ษะไมเ่ พยี งพอและขาดทรพั ยากรทางการแพทย์ และ
อยภู่ ายใตเ้ งนิ ทนุ สนบั สนนุ ของภาคสว่ นสขุ ภาพเพอ่ื ใหเ้ กดิ การคมุ้ ครองสขุ ภาพถว้ นหนา้
ปจั จบุ นั งานดา้ นสาธารณสขุ นบั เปน็ ภารกจิ ส�ำคญั ทพ่ี รรคและรฐั บาลลาว
ให้ความส�ำคัญ โดยมกี ารวางแผนยุทธศาสตร์การพฒั นาเศรษฐกิจสงั คมในระยะ 10 ปี
(พ.ศ. 2559–2568) มีจุดเน้นท่ีการพัฒนาท่ีสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรม การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ และการคมุ้ ครองสิ่งแวดลอ้ ม โดยมีการพัฒนา
เศรษฐกิจเป็นศูนย์กลางและการพัฒนาสังคมวัฒนธรรมเป็นเป้าหมายของการพัฒนา
ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยมุ่งเน้น
ดา้ นการศกึ ษา สาธารณสุข และแรงงาน ในงานดา้ นสาธารณสขุ ได้มุง่ เนน้ ให้ประชาชน
มีสุขภาพพลานามยั และมโี ภชนาการทดี่ ี มรี า่ งกายทแ่ี ขง็ แรงและอายุยืนยาว
กระทรวงสาธารณสขุ ไดย้ ดึ วสิ ยั ทศั นแ์ ละยทุ ธศาสตรใ์ นการพฒั นาเศรษฐกจิ
สังคมของประเทศระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2559–2568) เพอ่ื มากำ� หนดยุทธศาสตร์การปฏริ ปู
งานดา้ นสาธารณสขุ ถงึ ปี 2573 โดยมงุ่ เนน้ ท่ี 5 ล�ำดบั ความสำ� คญั ได้แก่ (1) การพฒั นา
ทรพั ยากรมนุษย์ (2) การเงนิ ด้านสาธารณสุข (3) การบริหารจดั การและแผนปฏบิ ัตกิ าร
(วิธกี ารท�ำงาน) (4) การให้บรกิ ารดา้ นสาธารณสขุ และ (5) ขอ้ มูลสารสนเทศ การติดตาม
และประเมนิ ผล
การดำ� เนนิ การปฏริ ปู ดา้ นสาธารณสขุ ของ สปป.ลาว แบง่ ออกเปน็ 3 ระยะ
ไดแ้ ก่ ระยะที่ 1 เร่มิ ตั้งแต่ปี 2554–2558 ระยะที่ 2 ตั้งแตป่ ี 2559–2563 และระยะที่ 3
ตัง้ แตป่ ี 2564–2568
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ทท่เี ก่ยี วข้องของพ้ืนท่ชี ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 205
จากนั้นน�ำไปใช้ขยายเป็นแผนพัฒนา 5 ปี ในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งขณะนี้
อยู่ในช่วงของการดำ� เนินการตามยุทธศาสตร์การปฏิรูประยะท่ี 3 ตั้งแต่ปี 2564–2568
และด�ำเนินการตามแผนพัฒนาสาธารณสขุ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2564–2568)
เมื่อพิจารณาจากผลการด�ำเนินยุทธศาสตร์การปฏิรูปงานสาธารณสุข
ระยะท่ี 2 ซ่งึ สน้ิ สุดเมอ่ื ปี 2563 จะพบว่าไดม้ กี ารนำ� แผนพัฒนาสาธารณสขุ ฉบับท่ี 8
(พ.ศ. 2559–2563) ไปใชเ้ ป็นแผนงานโครงการยอ่ ยและโครงการต่างๆ รวม 8 แผนงาน
42 แผนงานยอ่ ย และโครงการลำ� ดบั ความสำ� คญั 97 โครงการ จากการทง่ี านดา้ นสขุ ภาพ
ของ สปป.ลาว ในแผนพฒั นาฉบบั ที่ 8 (พ.ศ. 2559–2563) ประสบความสำ� เรจ็ ในหลายดา้ น
ปจั จบุ ันจงึ เป็นการมุ่งไปสูก่ ารปฏิรปู ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2564–2568) โดยปรับปรุงคุณภาพ
การบรกิ ารใหท้ นั สมัย สร้างความม่ันใจว่าทกุ คนสามารถเข้าถึงบริการไดใ้ นยามเจ็บป่วย
โดยไมม่ ีปญั หาทางการเงนิ ควบคูไ่ ปกับการสร้างเงื่อนไขใหโ้ รงพยาบาลพัฒนาตนเองได้
เปน็ ล�ำดับ ด�ำเนินตามแผนไมท่ ้ิงใครไว้ข้างหลงั ฉะนน้ั แผนพัฒนาสาธารณสุข ฉบบั ที่ 9
ตง้ั แตป่ ี 2564–2568 กไ็ ดม้ กี ารดำ� เนนิ งานตาม 8 แผนงาน 49 แผนงานยอ่ ย 133 โครงการ
ดังตัวอยา่ งแผนงานท่ี 1 (สขุ ภาพอนามยั และการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ) ก็จะประกอบด้วย
6 แผนงานยอ่ ย 24 โครงการ ดงั นี้
(1) แผนงานยอ่ ยดา้ นสขุ ภาพอนามยั แมแ่ ละเดก็ ไดแ้ ก่ โครงการฉดี วคั ซนี
ปอ้ งกนั โรค โครงการอนามยั การเจริญพันธแ์ุ ละการวางแผนครอบครัว โครงการพัฒนา
คุณภาพการส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็ก โครงการส่งเสริมสุขภาพมารดา (หญิงตั้งครรภ์
และหลังคลอด) และโครงการสง่ เสรมิ สขุ ภาพเดก็ อายตุ �ำ่ กว่า 5 ปี
(2) โครงการย่อยดา้ นการสง่ เสริมสุขภาพ ไดแ้ ก่ โครงการส่อื สารสุขภาพ
และสุขศึกษา โครงการควบคมุ ยาสบู และเคร่ืองดมื่ แอลกอฮอล์ โครงการสง่ เสริมสขุ ภาพ
ผูส้ งู อายุ และโครงการสขุ ภาวะเมอื ง
(3) โครงการย่อยดา้ นสุขาภบิ าลและน้�ำ ไดแ้ ก่ โครงการจัดการน�ำ้ สะอาด
และนำ�้ ปลอดภยั โครงการอนามยั สงิ่ แวดลอ้ มและสขุ าภบิ าล โครงการจดั การสขุ ภาพคนงาน
โครงการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ และโครงการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ
(4) โปรแกรมย่อยดา้ นโภชนาการ ได้แก่ โครงการสง่ เสรมิ จุลธาตุอาหาร
และยาถ่ายพยาธิ โครงการส่งเสริมโภชนาการแม่และเด็กและการดูแลทารก โครงการ
ส่งเสริมการบริโภคอาหารปลอดภัยและถูกหลักโภชนาการในสถานบริการสุขภาพ
โรงเรียน โรงงาน และชุมชน โครงการจัดการและบริหารโภชนาการ และโครงการวิจัย
การเฝา้ ระวังและขอ้ มลู ข่าวสารด้านโภชนาการ
(5) โครงการย่อยด้านการดูแลสุขภาพเบื้องต้น ได้แก่ โครงการหมู่บ้าน
สาธารณสขุ ต้นแบบ และโครงการบริการสุขภาพชุมชน
206 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานีและใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
(6) แผนงานย่อยด้านยุทธศาสตร์และนโยบาย ได้แก่ โครงการด้าน
กฎหมาย นโยบาย กลยุทธ์แผนงาน การติดตามตัวชี้วัด การประเมินและข้อมูล
โครงการบริหารทั่วไปการประชุมและความร่วมมือ และโครงการสร้างความเข้มแข็ง
ดา้ นบุคลากร
ยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงานด้านสาธารณสุขของ สปป.ลาว
ดงั กลา่ วนน้ั ในระดบั แขวงกจ็ ะถกู นำ� มาแปลงสกู่ ารปฏบิ ตั ิ โดยแผนกสาธารณสขุ จะจดั ทำ�
แผนพัฒนางานด้านสาธารณสุขโดยมียุทธศาสตร์การปฏิรูปงานการสาธารณสุขและ
แผนพฒั นา 5 ปี ของกระทรวงสาธารณสขุ เปน็ กรอบ โดยไดน้ ำ� มาปรบั ขยายเปน็ แผนงาน
โครงการ และก�ำหนดกจิ กรรมอย่างละเอยี ด (ดร.บวั พนั (นามสมมติ), รองหวั หนา้ ของ
กานบริหาน แผนกสาทาละนะสุขแขวง, สัมภาษณ์ 2 กันยายน 2564) เพราะหน่วยงาน
ด้านสาธารณสุขในระดับแขวงจะเป็นผู้น�ำเอายุทธศาสตร์และนโยบายด้านสาธารณสุข
ของประเทศมาใช้ (ท้าวค�ำแฝง (นามสมมติ), พนักงานวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ,
สัมภาษณ์ 2 กนั ยายน 2564)
ฉะน้ัน การด�ำเนินงานตามยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนงานด้าน
สาธารณสขุ นี้ ยอ่ มจะชว่ ยเกอ้ื หนนุ ให้ สปป.ลาว หลดุ พน้ จากการเปน็ ประเทศดอ้ ยพฒั นา
โดยประชาชนจะได้รับบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง มีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์
แข็งแรงมากย่ิงข้ึน
5.3.1.2 นโยบายดา้ นสาธารณสขุ
วารสารเทคโนโลยีชาวบ้าน (2560) ได้น�ำเสนอข้อมูลเก่ียวกับนโยบาย
ด้านสาธารณสุขของ สปป.ลาว โดยเฉพาะนโยบายการรักษาทุกโรคด้วยเงินเพียง
30,000 กบี ท่ีคล้ายคลึงกับนโยบาย 30 บาท รกั ษาทุกโรคของไทย ไวอ้ ยา่ งน่าสนใจวา่
(วารสารเทคโนโลยชี าวบ้าน, 2560)
สาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว แมว้ ่าจะเปน็ ประเทศสงั คมนยิ ม
ที่ใช้หลักมาร์กซ์–เลนินในการบริหารประเทศ แต่ระบบการสาธารณสุขและการรักษา
พยาบาลน้ันแตกตา่ งจากประเทศสงั คมนิยมเข้มขน้ อย่างคิวบาทีใ่ หร้ ักษาฟรี โดยเฉพาะ
หลังการปฏิรูปเศรษฐกิจแบบ “จินตนาการใหม่” ท�ำให้การสาธารณสุขของลาวจ�ำเป็น
ตอ้ งมคี า่ ใชจ้ า่ ยสงู โดยโรงพยาบาลของรฐั นนั้ แมจ้ ะไมค่ ดิ คา่ บรกิ ารของแพทยห์ รอื พยาบาล
แต่ก็ยังมีค่ายา ค่าอุปกรณ์การแพทย์ ค่าผ่าตัด รวมถึงค่าล่วงเวลาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในการรักษา รวมถึงการขาดแคลนบุคลากรและอุปกรณ์ต่างๆ ท�ำให้การสาธารณสุข
และการแพทย์ของลาวอยู่ในภาวะย�่ำแย่ ชาวลาวที่มีเงินเพียงพอก็จะข้ามมารักษา
ยงั โรงพยาบาลของฝง่ั ไทย ทง้ั โรงพยาบาลรฐั และโรงพยาบาลเอกชน เพราะเชอ่ื ในคณุ ภาพ
การรกั ษาทส่ี งู กว่า
การศึกษาสถานการณ์และบรบิ ททเี่ กีย่ วขอ้ งของพน้ื ทชี่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 207
รฐั บาลลาวของนายกฯ ทองลนุ สสี ลุ ดิ รบั ทราบถงึ ปญั หาดา้ นการสาธารณสขุ
และการเข้าถงึ แพทยข์ องประชาชนลาว จงึ ได้ออกนโยบายใหม่ในปี 2016 คอื นโยบาย
สามสิบพันกีบ ปิ่นปัวทุกพะยาด (หรือสามหมื่นกีบ รักษาทุกโรค – สามหม่ืนกีบมีค่า
ประมาณ 120 บาท) โดยเริ่มต้นจากการทดลองปฏิบัติใน 4 แขวง ได้แก่ หลวงนำ้� ทา
เซกอง ไซสมบูน และอัตตะปือ ใช้งบประมาณ 66,000 ล้านกีบ (ประมาณ 2,640
ล้านบาท) ไดผ้ ลดีเป็นท่ีนา่ พอใจ ในวนั ที่ 26 กนั ยายน 2017 จงึ ได้อนุมตั งิ บประมาณ
เพมิ่ เตมิ อกี 180,000 ลา้ นกบี (ประมาณ 720 ลา้ นบาท) เพอ่ื ขยายโครงการเปน็ ทว่ั ประเทศ
ให้ครอบคลุมทว่ั ถงึ ทั้งหมดภายในต้นปี 2018
การรกั ษาดงั กลา่ วครอบคลมุ โรคเกอื บทงั้ หมด ยกเวน้ โรคทต่ี อ้ งใชก้ ารรกั ษา
อยา่ งตอ่ เนอ่ื งและใชก้ ารรกั ษาขนาดใหญ่ มคี า่ ใชจ้ า่ ยสงู ไดแ้ ก่ โรคมะเรง็ การผา่ ตดั กระดกู
สันหลงั การฟอกไต โรคมาลาเรยี ซึ่งงบประมาณในระยะแรกยังไมเ่ พยี งพอ จ�ำเปน็ ต้อง
ไดร้ ับการอนมุ ตั ิเพ่มิ เตมิ จากสภาแห่งชาติ
ท�ำให้การเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชนลาวต่อจากนี้ท�ำได ้
โดยการนำ� เอาบตั รประชาชน สำ� เนาสำ� มะโนครวั (ทะเบยี นบา้ น) หรอื ใบรบั รองทนี่ ายบา้ น
ออกใหไ้ ปเขา้ รบั การรกั ษาทสี่ ขุ ศาลา หรอื โรงพยาบาลในเขตทตี่ นอาศยั เพอ่ื รบั สทิ ธกิ ารรกั ษา
จากกองทนุ ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ โดยจา่ ยเงินตามล�ำดบั ได้แก่ สุขศาลา 5,000 กีบ
(20 บาท) โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก 20,000 กีบ (80 บาท) และโรงพยาบาล
ในฐานะผู้ป่วยใน 30,000 กีบ (120 บาท) ต่อครั้ง และหากสุขศาลาหรือโรงพยาบาล
ในทอ้ งถน่ิ ขดี ความสามารถในการรกั ษาไมเ่ พยี งพอ กจ็ ะสง่ ตอ่ ไปยงั โรงพยาบาลทใ่ี หญก่ วา่
โดยไมเ่ สยี คา่ ใช้จ่ายเพิ่มเติม
ในกรณีเกิดเหตุป่วยฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ สามารถเข้ารับการรักษา
ทส่ี ถานพยาบาลแหง่ ใดกไ็ ดท้ ใี่ กลส้ ถานทเี่ กดิ เหตุ แตต่ อ้ งแจง้ เรอื่ งตอ่ สถานพยาบาลในเมอื ง
หรอื แขวงทต่ี นอยอู่ าศยั เพอ่ื รบั รองและโอนยา้ ยขอ้ มลู มาใหโ้ รงพยาบาลทรี่ กั ษาอยภู่ ายใน
48 ชัว่ โมง
5.3.1.3 บริบทดา้ นบคุ ลากรสาธารณสขุ ของ สปป.ลาว
สปป.ลาว เปน็ ประเทศหนง่ึ ในภมู ภิ าคอาเซยี นทย่ี งั มบี คุ ลากรดา้ นสาธารณสขุ
ไมเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการ โดยเฉพาะแพทยแ์ ละพยาบาล แมว้ า่ จะมสี ถาบนั อดุ มศกึ ษา
ที่ท�ำหน้าท่ีผลิตบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขโดยตรง คือ มหาวิทยาลัย
สาธารณสขุ และวทิ ยาศาสตร์ (University of Health and Science) ซง่ึ ตงั้ อยทู่ โ่ี รงพยาบาล
เสดถาทิลาด นครหลวงเวียงจันทน์ ซ่ึงเปิดสอนสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์
และการสาธารณสขุ โดยเฉพาะ (แพทยศาสตร์ ทนั ตแพทยศาสตร์ พยาบาล วทิ ยาศาสตร์
การแพทย์ เภสัชศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ ตลอดจนด้านวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ)
208 • บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานีและใกล้เคยี งในเขตอสี านใต้:
ซ่ึงโอนย้ายคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ไปสังกัดกระทรวง
สาธารณสขุ เม่ือปี พ.ศ. 2550 ก็ตาม
นายบุนแฝง พูมมะไลสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของ
สปป.ลาว กลา่ ววา่ บรกิ ารดา้ นสาธารณสขุ ของลาวยงั ไมส่ ามารถตอบสนองความตอ้ งการ
ของประชาชน เพราะขาดงบประมาณและบุคลากรทางการแพทย์ยังขาดจิตส�ำนึก
ในการให้บริการประชาชน กระทรวงสาธารณสขุ ของ สปป.ลาว จงึ แกไ้ ขปญั หาด้วยการ
สง่ เสริมโครงการแพทย์อาสาสมคั รเพือ่ ไปปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ในชนบท อย่างไรก็ตาม การแพร่
ระบาดของโควดิ -19 สง่ ผลใหล้ าวประสบปญั หาดา้ นงบประมาณและอาจปฏบิ ตั ติ ามแผน
ไดย้ ากขึ้น (ศนู ย์ข้อมลู ข่าวสารอาเซียน กรมประชาสมั พนั ธ,์ 2564)
สถานการณ์และบริบทเกี่ยวกับบุคลากรด้านสาธารณสุขของ สปป.ลาว
ปจั จบุ นั พบวา่ การขาดแคลนก�ำลงั คนดา้ นสขุ ภาพ โดยเฉพาะวชิ าชพี แพทยแ์ ละพยาบาล
นบั เปน็ ปญั หาทส่ี ำ� คญั ของ สปป.ลาว เชน่ เดยี วกบั เพอ่ื นบา้ นในหลายประเทศในแถบอาเซยี น
ถงึ แมร้ ฐั บาลจะพยายามเพมิ่ สดั สว่ นจ�ำนวนการผลติ มสี ถาบนั การศกึ ษาทางสาธารณสขุ
เพมิ่ ขนึ้ แตป่ ระเทศกย็ งั คงขาดแคลนบคุ ลากรดา้ นนอ้ี ยู่ ดงั ทส่ี รุ สกั ย์ ธไนศวรรยางกรู (2561)
ได้น�ำเสนอข้อมูลเก่ียวกับสัดส่วนของบุคลากรด้านสาธารณสุขต่อประชากรหนึ่งพันคน
ของลาวว่าอยูท่ ่ี 3.2 และในส่วน 5 แขวงท่ีศกึ ษาน้นั แยกเป็นดังนี้ แขวงสาละวนั 2.0
แขวงสะหวันนะเขต 2.1 แขวงจ�ำปาสัก 2.3 แขวงอัตตะปือ 3.5 และแขวงเซกอง 4.5
จะเห็นได้ว่าแม้แขวงเซกองและแขวงอัตตะปือจะมีสัดส่วนของบุคลากรด้านสาธารณสุข
ต่อประชากรหน่ึงพันคนมากกว่าแขวงจ�ำปาสัก แต่ตัวเลขท่ีสูงนั้นก็เป็นเพราะจ�ำนวน
ประชากรของแขวงท่ีมีจ�ำนวนน้อย นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวก็ไม่ได้แยกประเภทของ
บคุ ลากรวา่ เป็นแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรสาขาอน่ื ๆ แตอ่ ย่างใด
อย่างไรก็ตาม สปป.ลาว ก็ได้ร่วมมือกับเพ่ือนบ้านอย่างประเทศไทย
ในการพัฒนาและยกระดบั ศกั ยภาพบคุ ลากรด้านสาธารณสขุ ของ สปป.ลาว โดยเฉพาะ
ในเขตพ้ืนที่ชายแดนไทย–ลาว ทั้งน้ี ความร่วมมือด้านสาธารณสุขชายแดนในระดับ
ทอ้ งถ่นิ และประเทศนเ้ี กิดข้ึนเมอ่ื 20 ปีก่อน จากวิสัยทศั นข์ องกรมความรว่ มมือระหว่าง
ประเทศ (TICA) ภายใตก้ ระทรวงการตา่ งประเทศของไทย ทจ่ี บั มอื กบั กระทรวงสาธารณสขุ
เพราะเลง็ เหน็ วา่ ความเจบ็ ปว่ ยเปน็ เรอื่ งไรพ้ รมแดน ขา้ มผา่ นไปหากนั ไดง้ า่ ยๆ โดยเฉพาะ
ถนน R3A ท่ีเชื่อมตอ่ ระหวา่ งจนี สปป.ลาว และไทย และเกดิ การขา้ มแดนไปมาของคน
และสินค้าอยู่เรือ่ ยๆ ในสภาวะปกติ
การศึกษาสถานการณแ์ ละบริบททีเ่ กย่ี วข้องของพ้ืนท่ชี ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 209
หากระบบสาธารณสขุ ของแตล่ ะประเทศแขง็ แรง ตง้ั แตส่ าธารณสขุ มลู ฐาน
จนถึงการแพทย์เฉพาะทาง ก็ไม่จ�ำเป็นต้องพะวงอะไรมาก เจ็บป่วยท่ีใด รักษาท่ีน่ัน
ไม่ต้องเดินทางให้เหน็ดเหนื่อย ลดความเส่ียงของโรคติดต่อและภาระงานของบุคลากร
สาธารณสุขในแต่ละฝ่ัง ซึ่งนับรวมไปถงึ 38 จงั หวัด ตามแนวชายแดนทอี่ ยู่ตดิ ประเทศ
เพอื่ นบา้ นทวั่ ไทยดว้ ย ถอื เปน็ หนงึ่ ภารกจิ ภายใตก้ ารทตู เพอ่ื การพฒั นาทช่ี ว่ ยสรา้ งประโยชน์
แก่ท้ังสองฝ่าย กระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เหนียวแน่นด้วยความไว้เน้ือเชื่อใจ
ดังเชน่ ในกรณีของ ดร.ค�ำสิน พรมมะหาน ผอู้ ำ� นวยการโรงพยาบาลแขวงบ่อแก้ว แพทย์
วัย 50 ปี ทป่ี ักหลักรักษาประชาชนในโรงพยาบาลชายแดนนี้มาเกอื บทั้งชวี ิตการทำ� งาน
พร้อมยกระดับการรักษา จับมือกับนายแพทย์สมปรารถน์ หมั่นจิต อดีตผู้อ�ำนวยการ
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ อ�ำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย แพทย์ท่ีอยู่
ใกล้เคียงกนั ในอีกฟากฝง่ั แมน่ ้�ำโขง และหนว่ ยงานภาครฐั ของไทย พัฒนาการให้บรกิ าร
ทางการแพทยใ์ หป้ ระชาชน สปป.ลาว เขา้ ถงึ อยา่ งเทา่ เทยี มกนั ยง่ิ ขน้ึ (The Cloud, 2564)
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ด�ำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้าน
สาธารณสุขกับประเทศเพ่ือนบ้าน โดยได้ให้ความร่วมมือแก่ประเทศเพื่อนบ้านในการ
พฒั นาและยกระดับขีดความสามารถด้านสาธารณสขุ แกป่ ระเทศเพ่อื นบ้าน ในกรณีของ
สปป.ลาว ในระหว่างปี พ.ศ. 2561–2563 กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA)
ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้สนับสนุนงบประมาณพัฒนาโรงพยาบาล
และบุคลากรด้านสาธารณสุขของ สปป.ลาว ตามแนวชายแดนไทย–ลาว จ�ำนวน
4 โครงการ คือ (กรมความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ, ม.ป.ป.)
210 • บริการสุขภาพข้ามแดนในจังหวัดอุบลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอีสานใต:้
ภาพที่ 5.6 แผนงานความรว่ มมือเพอ่ื การพัฒนาไทย–ประเทศเพื่อนบ้าน
สาขาสาธารณสุข
ที่มา: https://tica-thaigov.mfa.go.th
• โครงการพัฒนาโรงพยาบาลเมืองโพนโฮง แขวงเวียงจันทน์ เพ่ือให้
เปน็ ศนู ยร์ องรบั และฟน้ื ฟผู ปู้ ว่ ยยาเสพตดิ และใหส้ ามารถรองรบั ผปู้ ว่ ยอบุ ตั เิ หตเุ บอื้ งตน้
และสง่ ตอ่ ได้ ประกอบดว้ ย การกอ่ สรา้ งอาคารบำ� บดั ผปู้ ว่ ยยาเสพตดิ และปรบั ปรงุ อาคาร
ผู้ป่วยนอกให้เป็นศูนย์แรกรับอุบัติเหตุและส่งต่อ พัฒนาบุคลากรของโรงพยาบาล
(ฝึกอบรมระยะสั้นและทุนศึกษาระดับปริญญาโท) และสนับสนุนเครื่องมือ/อุปกรณ์
ทางการแพทย์
การศึกษาสถานการณ์และบรบิ ททเ่ี ก่ยี วขอ้ งของพืน้ ท่ีชายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 211
• โครงการพฒั นาโรงพยาบาลแขวงบอ่ แกว้ เพอื่ พฒั นาศกั ยภาพในการ
รองรบั ผมู้ ารบั บรกิ ารในแผนกผปู้ ว่ ยใน และแมแ่ ละเดก็ ประกอบดว้ ย การกอ่ สรา้ งอาคาร
ผู้ป่วยแม่และเด็ก 2 ชั้น การสนับสนุนอุปกรณ์/เคร่ืองมือทางการแพทย์ (ท่ีเก่ียวกับ
การดูแลรักษาผู้ป่วยในและแม่และเด็ก) และการพัฒนาบุคลากร จ�ำนวน 3 หลักสูตร
คือ (1) การดูแลรักษาผู้ป่วยทางอายุรศาสตร์ 2 คน 30 วัน (2) การดูแลรักษาผู้ป่วย
ทางกุมารเวชศาสตร์และทารกแรกคลอด 3 คน 30 วัน และ (3) การดูแลรักษาผู้ป่วย
ภาวะวกิ ฤตฉกุ เฉนิ ในหอ้ งฉกุ เฉิน (ER) และผู้ป่วยหนัก (ICU) 3 คน 30 วนั
ภาพที่ 5.7 ดร.คำ� สนิ พรมมะหาน ผอู้ ำ� นวยการโรงพยาบาลแขวงบอ่ แกว้
ท่ีมา: The Cloud (2564)
• โครงการพัฒนาโรงพยาบาลเมืองปากซอง แขวงจ�ำปาสัก เพ่ือให้เป็น
โรงพยาบาลระดับเมือง (สามารถให้บริการผ่าตัดได้) และเป็นต้นแบบของการพัฒนา
โรงพยาบาลระดับเมืองของลาว ประกอบด้วย การก่อสร้างอาคารผู้ป่วย โรงจ่ายกลาง
บอ่ บำ� บดั นำ้� เสยี และปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั น์ พฒั นาบคุ ลากรทางการแพทยโ์ ดยใหก้ ารฝกึ อบรม
ระยะส้ัน และสนับสนุนอปุ กรณ์/เครอ่ื งมอื ทางการแพทย์
212 • บริการสุขภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อบุ ลราชธานีและใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
ภาพที่ 5.8 ดร.อรทัย ศรีทองธรรม (ยืนขวามือของภาพ)
นักวจิ ัยของโครงการกับเจา้ หนา้ ท่สี าธารณสุขของ สปป.ลาว
ท่ีมา: อรทัย ศรที องธรรม (2561)
ความร่วมมือไตรภาคี ไทย–UNFPA (ปทท. และ สปป.ลาว)–สปป.ลาว
ดา้ นอนามยั แมแ่ ละเดก็ (Safe Motherhood) เนน้ การพฒั นาดา้ นการผดงุ ครรภ์ (Midwifery)
ของ สปป.ลาว ประกอบด้วย (1) จัดศึกษาดูงานให้แก่ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่
หน่วยงานที่เก่ียวข้องของ สปป.ลาว เก่ียวกับนโยบายและการบริหารจัดการมาตรฐาน
หลักสูตรการเรียนการสอน และมาตรฐานการผดุงครรภ์ที่กรุงเทพฯ (2) จัดฝึกอบรม
เชงิ ปฏิบตั กิ าร Workshop on Development Capacity of Training of Trainers (TOT)
จำ� นวน 2 หลักสตู ร (คูข่ นานกัน) ไดแ้ ก่ หลักสูตรระยะสนั้ (4 เดือน) ให้แก่คร/ู อาจารย์
ผดุงครรภ์อาวุโส (Senior Midwifery Teacher) จ�ำนวน 10 ราย และหลักสูตรระยะกลาง
(6 เดือน) ใหแ้ กค่ ร/ู อาจารย์ผดุงครรภ์ (Midwifery Teacher) จำ� นวน 18 ราย จากแขวง
หลวงพระบาง เวยี งจันทน์ อุดมไซ สาละวัน สะหวนั นะเขต จำ� ปาสกั และ (3) จัดทำ� คู่มอื
การเรยี นการสอนจำ� นวน 5 ชุด เปน็ ภาษาไทย/อังกฤษ ได้แก่ Teaching and Learning
in Midwifery, Clinical Supervisions at Antenatal Clinic, Clinical Supervision at Labour
Room, Clinical Supervision at Postpartum Unit and Home Visit และ Guidelines
for Calculating Teaching Workload
ทั้งน้ีในส่วนของบุคลากรด้านสาธารณสุขน้ัน ข้อมูลล่าสุดในปี 2564
ระบุว่าบุคลากรด้านการสาธารณสุขในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว นั้น
มจี ำ� นวนทงั้ สน้ิ 16,375 คน ในจำ� นวนนเี้ ปน็ แพทย์ 1,712 คน (ลำ� ดบั ที่ 1–8) และพยาบาล
3,938 คน (ลำ� ดบั ท่ี 16–17) รายละเอยี ดดงั ตารางที่ 5.1
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ทท่ีเกีย่ วขอ้ งของพน้ื ท่ีชายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 213
ตารางท่ี 5.1 จ�ำนวนบุคลากรด้านการสาธารณสุขในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข
สปป.ลาว
ลำ� ดบั ท่ี ตำ� แหน่ง/สาขา จ�ำนวน (คน)
1 กุมารแพทย์ (ກຸ ມມານເວດສາດ) 61
2 สูตินรแี พทย์ (ປະສູ ດ-ພະຍາດິຍງ) 41
3 ศัลยแพทยจ์ กั ษุแพทย์ (ຜ່ າຕັ ດ-ຕາ) 68
4 ภายใน–หวั ใจ (ພາຍໃນ-ຫົ ວໃຈ-ຫດຄ) 119
5 วิสญั ญแี พทย์ (ວາງຢາສະຫົຼ ບ-ືຟ້ ນຟູ ີຊບ) 44
6 โรคเขตรอ้ น (ພະຍາດເຂດຮ້ ອນ) 14
7 เวชศาสตรค์ รอบครัว (ເວດຊະສາດຄອບຄົ ວ) 119
8 แพทยร์ ะดบั ปริญญาตรี (ການແພດ ປະິລນຍາຕີ -ລົ ງເິລກຂະແໜງ) 1,246
9 ผชู้ ว่ ยแพทย์ (ແພດຊ່ ວຍ/ຮສຂ ຊັ້ ນສູ ງຶຂ້ ນໄປ) 1,677
10 รักษาสขุ ภาพข้ันพนื้ ฐาน (ຮສຂ ຊັ້ ນກາງ/ຕົ ້ ນ) 467
11 วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ชนั้ สงู (ິວທະຍາສາດການແພດ ຊັ້ ນສູ ງືຂ້ ນໄປ) 5
12 เภสชั กร (ເພສັ ຊກອນ ປະິລນຍາຕີ ືຂ້ ນໄປ) 609
13 เภสชั กรผู้ช่วย (ເພສັ ຊກອນຊ່ ວຍ) 660
14 ทนั ตแพทย์ (ທັ ນຕະແພດ ຊັ້ ນສູ ງືຂ້ ນໄປ) 315
15 ผ้ชู ว่ ยทนั ตแพทย์ (ທັ ນຕະແພດຊ່ ວຍ) 53
16 พยาบาลชั้นสงู ขึน้ ไป (ພະຍາບານ ຊັ້ ນສູ ງຶຂ້ ນໄປ) 759
17 พยาบาลเทคนคิ (ພະຍາບານເຕັ ກິນກ) 3,179
18 ผดุงครรภ์ชัน้ กลางขึ้นไป (ຜະດຸ ງຄັ ນ ຊັ້ ນກາງຶຂ້ ນໄປ) 1,644
19 ผู้ชว่ ยพยาบาล/ผดงุ ครรภ์ชนั้ ต้น (ພະຍາບານຊ່ ວຍ/ຜະດຸ ງຄັ ນ ຊັ້ ນຕົ ້ ນ) 1,876
20 สาธารณสุขระดับปริญญาโท (ຄຸ້ ມຄອງສາທາລະນະສຸ ກ 13
ປະິລນຍາໂທຶຂ້ ນໄປ)
21 สาธารณสุขชนั้ สงู (ຄຸ້ ມຄອງສາທາລະນະສຸ ກ ຊັ້ ນສູ ງ) 410
22 พยาธวิ ิทยาช้ันสูง (ິວເຄາະການແພດ ຊັ້ ນສູ ງຶຂ້ ນໄປ) 129
23 พยาธิวิทยาผู้ช่วย (ິວເຄາະການແພດຊ່ ວຍ) 468
24 กายภาพบ�ำบดั (ກາຍະ�ບຳບັ ດ/ອົ ງຄະທຽມ) 204
25 เทคนคิ การแพทย์ (ລັ ງີສິວທະຍາ ແລະ ຮູ ບພາບການແພດ) 54
26 สาธารณสุข (ຄຸ້ ມຄອງອະນາໄມ) 584
27 ข้อมลู ข่าวสาร/ไอที (ໍຂ້ ມູ ນຂ່ າວສານ/IT) 33
28 การเงนิ /บญั ชี (ບັ ນີຊ/ການເິ ງນ) 571
29 แพทยบ์ ้าน (ແພດບ້ ານ) 136
30 อ่นื ๆ (່ືອນໆ) 817
16,375
รวม
ทีม่ า: Manivone Phengsom, Phatsany Phouvanh และ Santi Sopha (ขอ้ มูลภาคสนาม, เมษายน 2564)
214 • บรกิ ารสุขภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต:้
ศาสตราจารย์ นายแพทยว์ งศส์ นิ โพธสิ านศกั ดิ์ คณบดคี ณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เคยกล่าวไวเ้ ม่อื ปี พ.ศ. 2557 วา่ เน่ืองจากประเทศลาวเปน็ ประเทศท่ยี ากจนและเป็น
ประเทศทค่ี อ่ นขา้ งเลก็ บคุ ลากรทางการแพทยจ์ งึ มจี ำ� กดั ซง่ึ ไมเ่ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการ
ของประชาชนภายในประเทศ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชนบทและพ้ืนท ่ี
หา่ งไกลทย่ี งั ไมส่ ามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารดา้ นการแพทย์ นอกจากนี้ ปญั หาสำ� คญั อกี อยา่ งหนงึ่
ของประเทศลาวก็คือการเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการรักษาของเหล่าบุคลากรทาง
การแพทย์ จงึ ถอื เปน็ ขอ้ จำ� กดั ดา้ นการแพทยส์ ำ� หรบั ประชาชนภายในประเทศ “การรวมกนั
เพื่อความเป็นหน่ึงของโรงเรียนแพทย์อาเซียน ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะประเทศต่างๆ
ในภูมิภาคจะได้ร่วมมือกัน เพ่ือแลกเปล่ียนความรู้และประสบการณ์ด้านการแพทย์
ซ่ึงจะช่วยให้ประเทศที่ไม่มีความพร้อมด้านการแพทย์ สามารถยกระดับมาตรฐาน
ทางการแพทยใ์ นประเทศของตนเองใหด้ ีข้นึ อย่างไรก็ตาม การออกใบประกอบวชิ าชีพ
ให้กับแพทย์นั้น เมื่อมีการเปิดประชาคมอาเซียนก็ควรมีการพูดคุยถึงการวางระบบให้ดี
เพื่อป้องกันเรื่องมาตรฐานและปัญหาการไหลเข้าไหลออกของบุคลากรทางการแพทย์
ของแต่ละประเทศในภมู ิภาค” (สำ� นกั ขา่ ว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ, 2555)
ทั้งน้ี แพทย์และผู้ช่วยแพทย์ของลาวจะสามารถลาเรียนต่อในระดับ
ที่สูงขึ้นได้ต่อเมื่อท�ำงานในพ้ืนที่มาแล้ว 3 ปี (ไม่ได้เรียกว่าการใช้ทุน เพราะไม่ได้เป็น
เง่ือนไขของการเรียนแพทย์ ใครไม่อยากกลับไปท�ำงานที่บ้านก็ได้ แต่ก็จะไม่ได้ที่ดิน
และไม้ส�ำหรับปลูกบ้าน และถ้าไม่ท�ำงานในโรงพยาบาลของรัฐก็จะไม่มีที่อื่นให้ท�ำงาน
เนอ่ื งจากไม่มโี รงพยาบาลเอกชนเป็นทางเลอื กให)้
5.3.1.4 สถานการณแ์ ละบริบทด้านสถานบรกิ ารด้านสขุ ภาพ
สถานบรกิ ารสขุ ภาพใน สปป.ลาว นน้ั สามารถจำ� แนกออกเปน็ 2 ประเภท
หลักๆ คือ สถานบริการสุขภาพของรัฐ และสถานบริการสุขภาพของเอกชน ซึ่งจะได้
ขอกล่าวถงึ ดงั ตอ่ ไปน้ี
(1) สถานบริการสขุ ภาพของรฐั
เวหา เกษมสขุ (2559) ไดน้ ำ� เสนอระบบบรกิ ารสาธารณสขุ ของสาธารณรฐั
ประชาธิปไตยประชาชนลาว ไว้อย่างน่าสนใจและครอบคลุม ซึ่งผู้วิจัยจะขอน�ำเสนอ
ขอ้ มลู บางส่วนท่ีเก่ยี วข้องกับงานวจิ ยั ในคร้งั นดี้ งั ตอ่ ไปน้ี
ระบบบริการสาธารณสุขของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
มวี สิ ยั ทศั นแ์ ละเปา้ หมายเพอื่ ลดความทกุ ขย์ ากของประชาชน โดยการสรา้ งความเขม้ แขง็
ทางการบรกิ ารใหแ้ กป่ ระชาชน และระดมใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการรกั ษาสขุ ภาพของ
ตนเอง เพือ่ ให้การบริการมคี วามเหมาะสม สะดวก มีคุณภาพ มกี ารบริการทเี่ ที่ยงธรรม
การศึกษาสถานการณ์และบริบททเี่ กีย่ วข้องของพ้ืนท่ีชายแดนประเทศต้นทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 215
ส่งเสริมให้ชุมชน ครอบครัว และบุคคล มีความเข้าใจในการดูแลตนเอง ครอบคลุม
ประชาชนที่อยู่ห่างไกล ตลอดจนพวกชนเผ่าและคนทุกข์ยาก มีการเร่งรัดพัฒนา
เรอ่ื งคณุ ภาพ ไมเ่ นน้ ปรมิ าณ มงุ่ การบรหิ ารงานทดี่ ี กระตนุ้ ใหป้ ระชาชนสนใจในการดแู ล
สุขภาพของตนเองให้มากท่ีสุด ทั้งนี้ยังมีการประสานงานระหว่างอ�ำเภอ จังหวัด และ
ประเทศ โดยจัดสรรเงินทุนสนับสนุนในการพฒั นาบุคลากรทางด้านสาธารณสุขใหไ้ ด้รับ
การฝึกอบรม โดยเฉพาะวิชาชีพการพยาบาล และปรับปรุงระบบบริการด้านสุขภาพ
ให้มปี ระสทิ ธิภาพ มกี ารควบคุมโรคตดิ ตอ่ และโรคไมต่ ดิ ตอ่ มกี ารพัฒนา primary health
care (PHC) จดั สรรใหท้ กุ บา้ นมยี าสามญั ประจ�ำบา้ น สง่ เสรมิ ใหโ้ รงพยาบาลในเมอื งหลวง
เป็นโรงพยาบาลศูนย์กลางที่ต้องให้ความช่วยเหลือแก่โรงพยาบาลในจังหวัดอ่ืนได ้
มีการปรับปรุงเร่ืองยาและการจัดหายาให้แก่สถานีอนามัย ให้ความเสมอภาคในการ
บริการ เช่น ให้ความรู้แก่สามีที่พาภรรยาไปฝากครรภ์ เพ่ือให้สามีช่วยดูแลภรรยาหรือ
หญิงที่อยู่ห่างไกลความเจริญ หรือในชนเผ่าต่างๆ โดยต้องได้รับการบริการเหมือนกับ
หญิงทอ่ี ยใู่ นเขตเมือง และลดอตั ราการครองเตยี งในโรงพยาบาลให้นอ้ ยลง
ปัจจุบนั สปป.ลาว มีโรงพยาบาล 135 แหง่ สถานีอนามยั 1,020 แห่ง
เฉพาะพื้นท่ีนครหลวงเวียงจนั ทนม์ ีโรงพยาบาลรัฐ 4 แห่ง ไดแ้ ก่ โรงพยาบาลมดิ ตะพาบ
โรงพยาบาลมโหสด โรงพยาบาลเสดถาทิลาด และโรงพยาบาล 103 ทงั้ น้ีเม่ือพิจารณา
ประเภทของสถานบรกิ าสขุ ภาพของ สปป.ลาว กจ็ ะแบง่ ออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
ระดับปฐมภูมิ มีสุขศาลา (สถานีอนามัย/รพ.สต.) เป็นสถานบริการ
ระดบั ปฐมภมู ขิ อง สปป.ลาว เมอ่ื ชาวบา้ นเกดิ การเจบ็ ปว่ ยเลก็ นอ้ ยจะไปใชบ้ รกิ ารทส่ี ขุ ศาลา
โดยเฉพาะเดก็ อายุตำ่� กว่า 5 ปี หญิงท่ีมาท�ำคลอด จะไดร้ ับบรกิ ารโดยไม่เสยี คา่ ใชจ้ ่าย
ส่วนประชาชนทั่วไปขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของครอบครัว ถ้าครอบครัวใดมีฐานะยากจน
ไมต่ อ้ งเสยี คา่ ใชจ้ า่ ย แตต่ อ้ งไดร้ บั การยนื ยนั จากหวั หนา้ หมบู่ า้ น (นายบา้ น) ถา้ ครอบครวั ใด
มฐี านะปานกลางถึงรำ�่ รวยต้องเสียคา่ ใชจ้ า่ ยในการรับบรกิ าร
การใหบ้ ริการของสขุ ศาลาใน สปป.ลาว ในเรอ่ื งการบรหิ ารงานสุขศาลา
ต�ำแหน่งผู้บริหารขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยผู้ท่ีมีประสบการณ์มาก
ทำ� หนา้ ทีเ่ ปน็ ผบู้ รหิ าร โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้
บุคลากรท่ีปฏิบัติงานในสถานีอนามัย ประกอบด้วย ท่านหมอ (แพทย์)
หมอแข่ว (ทันตแพทย)์ พยาบาล ผดุงครรภช์ ุมชน นกั สาธารณสขุ (บางแหง่ มเี พียงคนใด
คนหนงึ่ )
216 • บรกิ ารสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวัดอบุ ลราชธานีและใกลเ้ คียงในเขตอีสานใต้:
ประเภทของสถานีอนามัยของ สปป.ลาว แบง่ เปน็ 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี
1) สถานีอนามัยชนิด A หรือ ก ประกอบด้วยบุคลากร 7 คน ได้แก่
ท่านหมอ (แพทย์)/พยาบาลชั้นสูง พยาบาลช้ันต้น ผดุงครรภ์ นักวิเคราะห์ หมอแข่ว
(ทนั ตแพทย์) การยา (เภสัชกร) พยาบาลหรือพยาบาลผดุงครรภ์ คนใดคนหนึ่ง
2) สถานีอนามัยชนิด B หรือ ข ประกอบด้วยบุคลากร 5 คน ได้แก่
ท่านหมอ (แพทย)์ /พยาบาลชัน้ สูง พยาบาลชน้ั ต้น ผดงุ ครรภ์ การยา (เภสัชกร) พยาบาล
หรือพยาบาลผดงุ ครรภ์ คนใดคนหน่งึ
การใหบ้ รกิ ารของสขุ ศาลาของ สปป.ลาว พบปญั หาปรมิ าณยาไมเ่ พยี งพอ
แตม่ สี กั วคั ซนี (การใหว้ คั ซนี ) กบั เดก็ สามารถใหบ้ รกิ ารครบตามเกณฑอ์ ายุ ในระบบบรกิ าร
ระดบั ปฐมภมู ิ มกี ารพฒั นาศักยภาพอาสาสมคั รบ้าน (อ.ส.บ.) โดยมีการอบรม อ.ส.บ.
เพ่ือให้สามารถวัดสัญญาณชีพ วินิจฉัยโรคเบ้ืองต้น ตรวจสุขภาพอนามัยปากและฟัน
แนะน�ำการใช้ยาท่ีเหมาะสม ท�ำคลอด หากเจ็บป่วยมากประชาชนจะไปใช้บริการ
ที่โฮงหมอในเมือง เป็นการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของ อ.ส.บ. ตามปัญหา
และความตอ้ งการของ อ.ส.บ. เพอ่ื ให้เกิดผลลพั ธท์ ่ดี ี
ระดับทุติยภูมิ โฮงหมอชุมชน เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการทางด้าน
สขุ ภาพแกป่ ระชาชนในแขวงและเมอื งรอบนอก ภายใตก้ ารชน้ี ำ� ของกระทรวงสาธารณสขุ
โรงพยาบาลมบี ทบาทหน้าท่ีสำ� คญั ไดแ้ ก่ ใหบ้ ริการดา้ นสาธารณสขุ แกป่ ระชาชน ดแู ล
สขุ ศาลา ปอ้ งกันโรค และส่งเสริมสุขภาพ โดยการให้สุขศึกษาแก่ประชาชนในเรอื่ งของ
โรค เชน่ โรคไข้เลือดออก โรควัณโรค โรคทอ้ งรว่ ง การฝากครรภ์ การใหว้ คั ซีนเดก็ และ
การประเมินภาวะโภชนาการของเด็ก เป็นต้น ตลอดจนรับผิดชอบดูแลสถานีอนามัย
ของเมอื งในการให้การรักษา (ปิน่ ปวั ) แกผ่ ูป้ ว่ ยฟ้นื ฟสู ภาพ
ระดับตติยภูมิ ได้แก่ โฮงหมอเมือง เป็นโรงพยาบาลท่ีให้บริการ
ทางด้านสุขภาพแก่ประชาชนในเขตเมืองและรอบนอก ภายใต้การช้ีน�ำของกระทรวง
สาธารณสุข โรงพยาบาลมีบทบาทหน้าท่ีส�ำคัญ ได้แก่ ให้บริการด้านสาธารณสุข
แกป่ ระชาชนและดแู ล โฮงหมอชมุ ชน สขุ ศาลา ใหก้ ารรกั ษา (ปน่ิ ปวั ) แกผ่ ปู้ ว่ ยฟน้ื ฟสู ภาพ
นอกจากนี้ สปป.ลาว ยังมีระบบบริการระดับตติยภูมิระดับสูงเป็น
โรงพยาบาลสว่ นกลาง ทเี่ ปน็ แหลง่ ฝกึ ปฏบิ ตั งิ านเพอื่ เพมิ่ พนู ประสบการณแ์ ละความรใู้ หก้ บั
นักศึกษาพยาบาล และนักศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพ โรงพยาบาลท้ังหมด
5 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตนครหลวงเวียงจันทน์ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางท่ีแตกต่างกัน
มีรายละเอียดดังน้ี
1) โฮงหมอเสดถาทริ าด (โรงพยาบาลเชษฐาธริ าช) วิทยาเขตดอนกลอย
เปน็ โรงพยาบาลสงั กดั กระทรวงสาธารณสขุ และเปน็ โรงพยาบาลของมหาวทิ ยาลยั กอ่ ตงั้
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบททเ่ี กีย่ วขอ้ งของพืน้ ทชี่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 217
ในปี ค.ศ. 2000 โดยได้งบประมาณและการสนับสนุนการก่อสร้างจากรัฐบาลญ่ีปุ่น
ลกั ษณะโรงพยาบาลเปน็ รปู แบบญี่ปนุ่ ในบรเิ วณพืน้ ที่ของโรงพยาบาลแบง่ เปน็ ส่วนของ
รัฐบาลและส่วนของโรงพยาบาลเอกชน บุคลากรท่ีท�ำงานในภาคเอกชนเป็นแพทย์
และพยาบาลของโรงพยาบาลเสดถาทริ าดทม่ี เี วลาวา่ งจากการปฏบิ ตั งิ านในโรงพยาบาล
เสดถาทริ าด โดยพยาบาลทป่ี ฏบิ ตั งิ านในโรงพยาบาลอยเู่ วร 24 ชวั่ โมง ยกเวน้ หอ้ งฉกุ เฉนิ
อยู่เวร 12 ชวั่ โมง
นอกจากนี้ โฮงหมอเสดถาทิราดยังเป็นโรงพยาบาลทั่วไป และ
โรงพยาบาลเฉพาะเรื่องต่อมไร้ท่อและโรคมะเร็ง (มะเฮง) ท่ีท�ำการฝึกอบรมบุคลากร
ให้แขวงเมืองต่างๆ โดยรับผิดชอบ 3 แขวง ได้แก่ แขวงอุดมไซ แขวงหลวงน�้ำทา
และแขวงพงสาลี
2) โฮงหมอมะโหสด (โรงพยาบาลมโหสถ) เป็นโรงพยาบาลสังกัด
กระทรวงสาธารณสขุ เร่ิมก่อตั้งในปี ค.ศ. 1910 ลกั ษณะโรงพยาบาลเปน็ รูปแบบฝรัง่ เศส
ที่ให้บริการแบบตติยภูมิ โรงพยาบาลมีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น CT scan และ
mammogram เป็นต้น และเป็นศูนย์รวมในการฝึกปฏิบัติงานของแพทย์และพยาบาล
ทม่ี าจากตา่ งเมอื ง การปฏิบตั ิงานของพยาบาลข้ึนปฏบิ ตั งิ าน (ขึ้นเวร) นาน 24 ชั่วโมง
กรณพี ยาบาลหอ้ งผา่ ตัดและหอ้ งฉกุ เฉนิ อย่เู วร 8 ชั่วโมง หรือ 12 ชั่วโมง โรงพยาบาล
มโหสถนนั้ มคี วามเชยี่ วชาญดา้ นการผา่ ตดั ชอ่ งทอ้ งและลำ� ไส้ สภาพโดยรวมของหอผปู้ ว่ ย
มีการแบ่งสัดส่วนระหว่างหอผู้ป่วยชาย–หญิงอย่างชัดเจน เตียงนอนของผู้ป่วยจะมี
ผ้าปูเตียงให้ ซ่ึงแตกต่างจากโรงพยาบาลอื่นๆ ท่ีญาติผู้ป่วยต้องน�ำผ้าปูเตียงมาเอง
ทางโรงพยาบาลไมม่ กี ารจดั อาหารมอ้ื ตา่ งๆ ใหร้ บั ประทาน เนอ่ื งจากเปน็ กฎของกระทรวง
สาธารณสขุ ทไี่ มใ่ หโ้ รงพยาบาลจดั อาหารสำ� หรบั ผปู้ ว่ ย แตพ่ ยาบาลจะสามารถใหค้ ำ� แนะนำ�
แก่ญาติผู้ป่วยเก่ียวกับการควบคุมรสชาติและปริมาณอาหารของผู้ป่วยได้ โรงพยาบาล
มีการปรับปรุงระบบวิชาการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดอบรมทั้งภายในและภายนอก
ประเทศ มกี ารสง่ ตวั แทนแพทย์ เภสชั กร และพยาบาลไปอบรมพรอ้ มกนั เพอ่ื ใหท้ กุ สาขา
วิชาชีพมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับพ้ืนฐานทางการพยาบาล และสามารถปฏิบัติงาน
ร่วมกันได้
3) โฮงหมอแม่และเด็ก (โรงพยาบาลแม่และเด็กแดง) สร้างเม่ือปี
ค.ศ. 1994 ปจั จบุ นั ประชาชนเรยี ก โรงพยาบาลแมแ่ ละเดก็ แดง เนอ่ื งจาก สปป.ลาว ไดร้ บั
ความช่วยเหลือจากประเทศเกาหลีใต้ในการสร้างโรงพยาบาลเด็ก โดยแยกส่วนออกไป
เม่อื ปี ค.ศ. 2011 โรงพยาบาลแหง่ น้ีให้บริการผู้มารับบรกิ ารสตรตี ั้งครรภ์จนคลอดบตุ ร
และดแู ลเดก็ ตง้ั แตแ่ รกเกดิ จนอายุ 1 เดอื น พนกั งานสว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ แบง่ พนกั งาน
เป็นสองส่วน คือ พนักงานประจ�ำได้รับเงินเดือนจากรัฐ และอาสาสมัครซ่ึงมาจาก
218 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกล้เคียงในเขตอสี านใต้:
การฝกึ งานของนกั ศกึ ษาแพทยแ์ ละพยาบาลทส่ี ำ� เรจ็ การศกึ ษาใหม่ เชน่ ระหวา่ งรอบรรจุ
เขา้ ปฏบิ ตั งิ าน เพอ่ื ใหโ้ อกาสในการแสดงศกั ยภาพใหผ้ รู้ ว่ มงานเหน็ วา่ ถา้ มคี วามตงั้ ใจจรงิ
จึงจะได้รับการบรรจุเข้าท�ำงานการบริการ โดยมีสายงานแขนงหลัก คือ แผนกออกลูก
พยาธิหญิง (คลอด) หรือแผนกประสูติ แผนกเด็กแดง (เด็กแรกเกิด) แผนกผู้ป่วยนอก
แผนกสัก (ฉดี ) วัคซนี แผนกวางยาสลบ แผนกหอ้ งวเิ คราะห์ แผนกห้องส่องแสง (รงั สี)
และแผนกใหบ้ รกิ ารอนื่ ๆ เชน่ การเงิน เป็นต้น พยาบาลอยู่เวรละ 24 ช่ัวโมง จำ� นวน
พยาบาลเวรละ 5 คน
4) โฮงหมอมิดตะพาบ (โรงพยาบาลมติ รภาพ) เป็นโรงพยาบาลลักษณะ
แบบรัสเซีย (สหภาพโซเวียต) เน่ืองจากในการก่อตั้งโรงพยาบาลนั้นได้รับการสนับสนุน
จากรัสเซีย เดิมชื่อ โฮงหมอมิตรภาพลาวโซเวียต ภายหลังจากที่สหภาพโซเวียต
ลม่ สลายในปี ค.ศ. 1990 จึงเปลี่ยนชอ่ื โรงพยาบาลเป็น โฮงหมอมดิ ตะพาบ (มติ รภาพ)
ซงึ่ เปน็ โรงพยาบาลขนาด 150 เตียง เปน็ โรงพยาบาลมหาวทิ ยาลัย และเปน็ โรงพยาบาล
ศูนย์กลางที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลมีความเช่ียวชาญ
เรอ่ื งอบุ ตั เิ หตุ การผา่ ตดั กระดกู และสมอง (ศนู ยก์ ลางการผา่ ตดั สมองและระบบประสาท
แหง่ เดยี วในประเทศ) ไตเทียม เสน้ เลือดหัวใจ และเป็นศนู ยม์ ะเรง็ มพี ยาบาลอยู่เวรละ
1 คน เวรละ 24 ช่ัวโมง
(5) โฮงหมอเดก็ (โรงพยาบาลแมแ่ ละเดก็ ) เปน็ โรงพยาบาลทแ่ี ยกออกมา
จากโรงพยาบาลแม่และเด็กแดง ได้รับการสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลจากประเทศ
เกาหลีใต้ ประกอบด้วย 4 แผนก คือ แผนกฉุกเฉิน แผนกผู้ปว่ ยนอก แผนกผู้ป่วยใน
และแผนก ICU โดยโฮงหมอเด็กเป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลยั แห่งที่ 5 ของ สปป.ลาว
สามารถรองรบั ผู้ปว่ ยเดก็ ทมี่ อี ายุตำ่� กวา่ 15 ปี
นอกจากนี้ สปป.ลาว ก็เป็นประเทศหนึ่งท่ีมีระบบหลักประกันสุขภาพ
ดงั ทสี่ ุรสักย์ ธไนศวรรยางกูร (2561) ไดก้ ล่าวถึงระบบหลักประกนั สขุ ภาพของ สปป.ลาว
ไว้ว่าประกอบไปด้วย (1) การประกันพนักงานรัฐ (อปร.) (Civil Servants – SASS)
(2) การประกันสังคม (อปส.) Private Employees (SSO) Informal Sector (CBHI)
(3) กองทนุ ผทู้ ุกขย์ าก (Health Safety Net for Poor – HEF) (4) กองทนุ คลอด (Free
Maternity Services) กองทนุ เดก็ (Free Services for Children) อายตุ ำ�่ กวา่ 5 ปี นอกจากนี้
ยังมีกองทุนประกันสุขภาพชุมชน ที่เร่ิมทดลองเมื่อปี 2005 ก่อนท่ีจะมีการประกาศใช ้
ในปี 2016 ครอบคลมุ ทกุ แขวง โดยแนวทางการใชบ้ รกิ ารคอื จา่ ยกอ่ นรบั บรกิ าร ผปู้ ว่ ยใน
30,000 กีบ ผ้ปู ว่ ยนอก 10,000 กีบ (รวม EPI) โดยผปู้ ว่ ยต้องไปลงทะเบยี นท่ีหอ้ งบัตร
ของโรงพยาบาลรัฐและสุขศาลา ท้ังนี้เอกสารที่ใช้ ได้แก่ บัตรประชาชน ส�ำมะโนครัว
ใบขับข่ี ใบย่งั ยนื ทอ่ี ยู่ อย่างใดอย่างหนง่ึ (สุรสกั ย์ ธไนศวรรยางกรู , 2561)
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททเี่ กย่ี วขอ้ งของพ้นื ท่ีชายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 219
ส�ำหรับพื้นที่ที่ศึกษาในคร้ังนี้นั้น บุคลากรท่ีปฏิบัติงานด้านงานบริหาร
ระดบั สาธารณสขุ แขวงของ สปป.ลาว ทา่ นหน่งึ ไดใ้ ห้สมั ภาษณถ์ ึงสถานการณแ์ ละบรบิ ท
ดา้ นการบรกิ ารสุขภาพของแขวงแหง่ หนง่ึ ที่อยูต่ ดิ ชายแดนจังหวดั อบุ ลราชธานีไวว้ า่
“ผปู้ ่วยมาใชบ้ รกิ ารมาก โดยเฉพาะในชว่ งที่มกี ารแพร่ระบาดของเชอื้ โรค
โควิด-19 ท่ีมีการปิดด่านในระยะสองปีท่ีผ่านมา การบริการของโรงพยาบาลของเรา
ถ้าดูโดยรวมถือว่าท่ัวถึง มีโรงพยาบาลแขวงจ�ำปาสักเป็นโรงพยาบาลภาค รับผู้ป่วย
ไม่เฉพาะแต่จากแขวงจ�ำปาสักเท่าน้ัน หากแต่รับผู้ป่วยใน 4 แขวงภาคใต้ และยังม ี
โรงพยาบาลชุมชนในตัวเมืองและหน่ึงนคร (ปากเซ) โรงพยาบาลชุมชนท่ีสามารถ
ทำ� การผ่าตดั ได้มี 4 แห่ง นอกจากนย้ี งั มีสขุ ศาลาทใ่ี หบ้ ริการส่งเสริมสุขภาพ
ภาพที่ 5.9 โรงหมอแขวงสะหวนั นะเขต
ทม่ี า: Phatsany Phouvanh (มถิ นุ ายน 2564)
“เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่า สถานท่ีให้บริการของโรงพยาบาลของเรา
ยังไม่เพียงพอ ตึกอาคารยังเป็นอาคารเก่า ไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วย บุคลากร
ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ (มีลักษณะเหลือบ่พอ) เช่น สุขศาลาบางแห่งมีแต่พยาบาล
ไมม่ แี พทยร์ กั ษา บางแหง่ มแี ตแ่ พทยร์ กั ษา แตต่ ามหลกั การสขุ ศาลาตอ้ งมที งั้ แพทยร์ กั ษา
พยาบาล และการยา นบั ต้ังแต่มโี ครงการรักษาสขุ ภาพให้ประชาชน (พบว่า) ประชาชน
มีความต่ืนตัวในการรักษาสุขภาพ ท�ำให้ประชาชนมาใช้บริการอยู่โรงพยาบาลมากข้ึน
ท�ำให้สถานท่ีไมเ่ พียงพอ” (ดร.บวั พนั (นามสมมติ), รองหวั หนา้ ของกานบรหิ าน แผนก
สาทาละนะสุขแขวง, สัมภาษณ์ 2 กนั ยายน 2564)
220 • บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในจงั หวัดอบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต:้
เช่นเดียวกับผู้ให้สัมภาษณ์อีกท่าน ที่เป็นบุคลากรท่ีปฏิบัติงานด้าน
งานบริหารระดบั สาธารณสุขแขวง ทวี่ ่า
“สถานท่ีบรกิ ารทัว่ ถึงใน 9 เมอื ง 21 โฮงหมอเมอื ง และสุขศาลา 57 แห่ง
แต่การบริการบ่ทนั สมยั เครื่องมอื อปุ กรณก์ ารแพทย์ทางโฮงหมอกะบ่มี บคุ ลากรยงั ขาด
เฉพาะทาง” (ดร.แกว้ มะนี (นามสมมต)ิ , รองหวั หนา้ ของกานบรหิ าน แผนกสาทาละนะสขุ แขวง,
สัมภาษณ์ 6 กันยายน 2564)
สอดคล้องกับพนกั งานวทิ ยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพแหง่ หนึง่ ท่วี า่
“สภาพการใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในสถานทโี่ รงพยาบาลยงั มนี อ้ ย สถานท่ี
ยงั ไมเ่ พยี งพอกบั ผปู้ ว่ ย เตยี งนอน หอ้ งนอนผปู้ ว่ ย ยงั ไมเ่ พยี งพอ ยงั มผี ปู้ ว่ ยนอนอยตู่ าม
ระเบียงตกึ ” (ท้าวค�ำแฝง (นามสมมต)ิ , อ้างแลว้ )
ภาพที่ 5.10 โรงหมอชมุ ชนปากซ่อง
(เทียบเทา่ โรงพยาบาลประจ�ำอ�ำเภอของไทย) แขวงจำ� ปาสกั
ทมี่ า: อรทัย ศรีทองธรรม (2561)
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบทที่เกี่ยวข้องของพนื้ ทีช่ ายแดนประเทศต้นทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 221
จากข้อมูลการให้สัมภาษณ์ของบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข
ข้างต้นน้นั เมือ่ พิจารณาถึงตวั เลขของสถานบรกิ ารสุขภาพทกี่ ระจายตวั ในพ้ืนท่ี 5 แขวง
ท่ีศึกษาน้ัน จากการส�ำรวจพบว่ามีจ�ำนวน 413 แห่ง แยกเป็นโรงพยาบาลระดับแขวง
แขวงละ 1 แหง่ โรงพยาบาลชมุ ชนหรอื โรงพยาบาลประจ�ำเมอื ง (อำ� เภอ) จำ� นวน 40 แหง่
และโรงหมอนอ้ ยหรือสุขศาลา (สถานอี นามัย) อกี 368 แห่ง รวมทง้ั โรงพยาบาลเอกชน
2 แห่ง โรงพยาบาลทหาร 5 แหง่ โรงพยาบาลตำ� รวจ 1 แหง่ ศนู ย์บรกิ ารสขุ ภาพ 1 แห่ง
คลินกิ เอกชน 53 แห่ง ดงั ตารางท่ี 5.2
ตารางที่ 5.2 สถานบรกิ ารสุขภาพทก่ี ระจายตวั ในพืน้ ท่ี 5 แขวงที่ศึกษา
แขวง รพ.แขวง รพ.ชุมชน โรงหมอน้อย รวม
(รพ.ประจ�ำอำ� เภอ) (สุขศาลา/สถานอี นามยั )
จำ� ปาสัก 1 87
สาละวัน 1 9 77 80
เซกอง 1 7 72 32
อัตตะปอื 1 3 28 38
สะหวันนะเขต 1 3 33 174
5 15 158 413
รวม 40 368
ทีม่ า: จากการส�ำรวจของทีมวจิ ัยจากมหาวิทยาลัยจำ� ปาสกั (มถิ นุ ายน 2564)
หมายเหต:ุ แขวงจำ� ปาสัก มีโรงพยาบาลเอกชน 2 แหง่ โรงพยาบาลทหาร 4 แห่ง โรงพยาบาลตำ� รวจ 1 แห่ง
ศูนยบ์ ริการสขุ ภาพ 1 แหง่ คลนิ ิกเอกชน 53 แห่ง แขวงเซกอง มโี รงพยาบาลทหาร 1 แหง่
นอกจากนี้ การใหบ้ รกิ ารของสถานบรกิ ารสขุ ภาพในพนื้ ทยี่ งั พบวา่ มปี ญั หา
หรอื อุปสรรคบางประการ เชน่
“โครงสร้างพื้นฐาน สถานท่ีไม่เพียงพอ โดยเฉพาะโรงพยาบาลแขวง
จำ� ปาสกั คอ่ นขา้ งแออดั เพราะไมไ่ ดร้ บั เฉพาะผปู้ ว่ ยในแขวงจำ� ปาสกั เทา่ นนั้ แตร่ บั ผปู้ ว่ ย
ท้ังส่ีแขวงภาคใต้ ด้านบุคลากรยังไม่เพียงพอ ตามมาตรฐานเงื่อนไขของอนามัยโลก
แม่น 2.5–3 ต่อประชากรหน่ึงพันคน แต่เรา (สปป.ลาว) มีเพียง 2.5 บุคลากรที่มีอย ู่
ไม่เพียงพอ เช่น อยู่โรงหมอน้อยบางแห่งมีเฉพาะพยาบาลไม่มีแพทย์ ตามมาตรฐาน
ต้องมีท้ังแพทย์ พยาบาล และการยา (เภสัชกร) ด้านอุปกรณ์การแพทย์ยังไม่ทันสมัย
การใหบ้ ริการยังไมเ่ ป็นระบบเหมือนประเทศท่เี จริญแล้ว ยังมลี ักษณะถือกระดาษดินสอ
ไปในแต่ละแห่ง การให้บริการยังชักช้า สถานท่ียังคับแคบ (อยาก) เสนอให้ปรับปรุง
ด้านการบริการให้เป็นระบบขึ้น เพ่ือท�ำให้การบริการว่องไว” (ดร.บัวพัน (นามสมมติ),
รองหวั หนา้ ของกานบรหิ าน แผนกสาทาละนะสขุ แขวง, สมั ภาษณ์ 2 กนั ยายน 2564)
222 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจังหวดั อุบลราชธานแี ละใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต้:
แมว้ า่ สถานบริการสขุ ภาพในพน้ื ที่จะมีเพยี งพอและครอบคลุม แตก่ ็ยงั มี
ปญั หาบางประการเชน่
“เครอ่ื งมอื อปุ กรณก์ ารแพทยท์ างโฮงหมอกะบม่ ี บคุ ลากรยงั ขาดเฉพาะทาง”
(ดร.แก้วมะนี (นามสมมติ), รองหัวหน้าของกานบริหาน แผนกสาทาละนะสุขแขวง,
สมั ภาษณ์ 6 กันยายน 2564)
“มีปัญหาเรื่องของการบริการยังชักช้า ยังใช้แบบถือเอกสาร ดินสอ
ในแต่ละแห่ง ไม่เป็นระบบ” (ท้าวค�ำแฝง (นามสมมติ), พนักงานวิทยาลัยวิทยาศาสตร์
สขุ ภาพ, สัมภาษณ์ 2 กนั ยายน 2564)
ดังน้ัน จากสถานการณ์และบริบทด้านการบริการสุขภาพของพื้นท่ี
5 แขวงทีศ่ กึ ษา มลี กั ษณะดังกลา่ ว จึงจัดเป็นปจั จยั ผลกั ดัน (push factor) ประการหนง่ึ
ท่ที �ำใหเ้ กิดการขา้ มแดนเพ่ือมาใช้บริการสุขภาพในประเทศไทย
ท้ังน้ี การข้ามแดนเพื่อมาใช้บริการสุขภาพในประเทศไทยนั้น มีท้ังแบบ
ท่ีมาด้วยตนเองและแบบระบบส่งต่อภายใต้ความร่วมมือระหว่างแขวงกับจังหวัด
อบุ ลราชธานี ดังคำ� ให้สมั ภาษณ์ของบุคลากรทางสาธารณสขุ ของแขวงท่านหน่ึงที่วา่
“มีการส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาอยู่ในประเทศไทย โดยส่งไปในกรณีที่ทาง
สปป.ลาว ไม่สามารถรักษาได้ แตก่ ไ็ ม่ไดส้ ่งไปทกุ กรณี ขึ้นอยกู่ ับผ้ปู ว่ ยวา่ มคี วามสามารถ
ไปไดห้ รอื ไม่ เพราะการไปรกั ษาอยไู่ ทย จะมคี า่ ใชจ้ า่ ยสงู ถา้ เทยี บใสท่ างบา้ นเรา (สปป.ลาว)
แต่ปัจจุบันน้ีผ่าตัดสมองทาง สปป.ลาว สามารถท�ำได้แล้ว ก็ไม่ต้องส่งไป ช่วงก่อนน้ี
สปป.ลาว ยังท�ำไม่ได้เพราะเคร่ืองมือมีปัญหา แต่ปัจจุบันนี้ท�ำได้แล้ว” (ดร.บัวพัน
(นามสมมติ), รองหัวหน้าของกานบริหาน แผนกสาทาละนะสุขแขวง, สัมภาษณ ์
2 กนั ยายน 2564)
(2) สถานบริการสุขภาพของเอกชน
ธุรกิจด้านสุขภาพใน สปป.ลาว มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเน่ือง
ตามพฤตกิ รรมของผบู้ รโิ ภคทใ่ี หค้ วามสำ� คญั กบั การดแู ลใสใ่ จสขุ ภาพมากขน้ึ ประกอบกบั
รัฐบาลก็มียุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาระบบสาธารณสุขท่ีท�ำให้ประชาชนมีโอกาสและ
สามารถเขา้ ถงึ การบรกิ ารดา้ นสขุ ภาพทม่ี คี ณุ ภาพทหี่ ลากหลายมากขน้ึ จงึ ทำ� ใหม้ กี ารลงทนุ
เกยี่ วกบั ธรุ กจิ บรกิ ารสขุ ภาพของเอกชนเพมิ่ ขนึ้ โดยสว่ นใหญเ่ ปน็ การลงทนุ ในนครหลวง
เวียงจันทน์
ทั้งนี้การลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจบริการสุขภาพดังกล่าว ส่วนมากเป็นการ
ลงทนุ ของนักลงทนุ ตา่ งชาติโดยเฉพาะจากไทยท่ีร่วมลงทุนกบั นักลงทุนชาวลาว ดงั กรณี
ของบรษิ ทั ราช กรปุ๊ จำ� กดั (มหาชน) ทไ่ี ดร้ ว่ มทนุ กบั กลมุ่ บรษิ ทั บางกอก เชน ฮอสปทิ อล
จำ� กดั (มหาชน) บกุ เบกิ ธรุ กจิ โรงพยาบาลเอกชนในสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ททีเ่ กีย่ วขอ้ งของพ้นื ที่ชายแดนประเทศต้นทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 223
เพ่ือตอบสนองความต้องการบริการสุขภาพที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงข้ึน รวมทั้งธุรกิจ
เกี่ยวกับสุขภาพและบริการทางการแพทย์ก็เป็นหน่ึงในธุรกิจส่งเสริมตามนโยบายของ
รัฐบาล สปป.ลาว ที่ต้องการส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ท่ีมีคุณภาพและ
มาตรฐานตามการเตบิ โตของประเทศ โดยทำ� การลงทนุ กอ่ สรา้ งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์
อินเตอรเ์ นชนั่ แนล นครหลวงเวยี งจันทน์ อนึ่ง บรษิ ัท บางกอก เชน อินเตอรเ์ นชัน่ แนล
(ลาว) จ�ำกัด เป็นบรษิ ัทรว่ มทนุ ระหว่างบรษิ ัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำ� กดั (มหาชน)
จากประเทศไทย และนักธุรกิจทอ้ งถน่ิ ใน สปป.ลาว ภายใตก้ ารกำ� กับดูแลโดยกระทรวง
สาธารณสุขของ สปป.ลาว บริษัทด�ำเนินธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ภายใต้ชื่อ
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ซ่ึงเป็นโรงพยาบาลเอกชน
แบบตติยภูมิครบวงจร ขนาด 254 เตียง 38 ห้องตรวจ โดยระยะแรกจะให้บริการ
110 เตยี ง และเปิดใหบ้ รกิ ารเชิงพาณชิ ย์ในวนั ท่ี 19 สงิ หาคม 2564 ท่ีผา่ นมา
ภาพท่ี 5.11 โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอรเ์ นชั่นแนล เวยี งจันทน์
ท่ีมา: https://www.youtube.com/watch?v=Pq-CwRZnx9
สถานบริการสุขภาพเอกชนในเวียงจันทน์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น โรงหมอ
มิดตะพาบ (Mittaphab Hospital), Alliance International Medical Centre, Australian
Embassy Clinic, Centre Medical de L’ Ambassade de France และโรงหมอเวยี งจนั ทน–์
ฮาโหน่ย (เวยี งจนั –ฮานอย)
ส�ำหรับพ้ืนท่ีท้ัง 5 แขวงท่ีศึกษานั้น แม้ว่าจะยังไม่มีโรงพยาบาลเอกชน
ขนาดใหญ่และทันสมัยเทียบเท่ากับนครหลวงเวียงจันทน์ ก็พบว่าเริ่มมีสถานบริการ
พยาบาลเอกชนเปิดให้บริการบ้างแล้วในรูปของโรงพยาบาลขนาดเล็ก และ “คลินิก”
ทง้ั คลินกิ รักษาโรคท่ัวไปและคลินกิ เสรมิ ความงาม
224 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอสี านใต:้
ภาพที่ 5.12 โรงหมอ Newlife Hospital Pakse เมอื งปากเซ แขวงจ�ำปาสกั
ทมี่ า: Phatsany Phouvanh (มิถนุ ายน 2564)
5.3.2 ปัจจัยท่ีก่อให้เกิดการข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัด
อบุ ลราชธานีและจงั หวดั ใกลเ้ คียงของชาวลาว
เนื้อหาในส่วนนี้เป็นผลมาจากการเก็บข้อมูลภาคสนามโดยใช้แบบสัมภาษณ์
ผปู้ ว่ ยหรอื ญาตขิ องผปู้ ว่ ยชาวลาวทเ่ี คยขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจงั หวัดใกล้เคยี ง จ�ำนวน 31 ราย ส่วนมากเปน็ หญงิ จำ� นวน 21 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
67.74 กวา่ คร่งึ หนึ่งเป็นผมู้ ีอายรุ ะหวา่ ง 20–39 ปี จำ� นวน 17 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 54.84
นอกนนั้ อายุระหว่าง 40–52 ปี ส่วนมากเป็นพนกั งานของรฐั จ�ำนวน 22 คน คดิ เป็น
ร้อยละ 70.97 นอกนน้ั มีอาชพี ค้าขาย เปน็ นกั ศึกษา พนักงานบริษทั เอกชน และแม่บ้าน
แต่ละอาชีพไม่เกินร้อยละ 9.68 (3.21–9.68) ส่วนมากมีที่อยู่ในแขวงจ�ำปาสัก คิดเป็น
ร้อยละ 83.87 โดยมที ่อี ยใู่ นนครปากเซมากท่ีสุด จ�ำนวน 21 คน คิดเปน็ ร้อยละ 67.74
โดยที่มีท่ีอยู่ในเมืองโพนทอง เมืองซะนะสมบูน เมืองบาเจียง และเมืองปากซอง
แต่ละเมืองคิดเป็นร้อยละ 3.23 นอกนั้นมีที่อยู่นอกแขวงจ�ำปาสัก คือ แขวงเซกอง
แขวงสาละวัน แขวงอัตตะปือ และไม่ระบอุ ีก 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 16.14 ผใู้ หข้ ้อมลู
ส่วนมากมีสถานภาพเป็นญาติพ่ีน้องผู้ป่วย จ�ำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 64.52
การศึกษาสถานการณ์และบริบททีเ่ กยี่ วขอ้ งของพนื้ ทชี่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 225
รองลงมาเป็นผู้ป่วย จ�ำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 22.58 และเป็นผู้น�ำพาผู้ป่วย
ไปรบั บรกิ าร จำ� นวน 3 คน ร้อยละ 9.68
ซึ่งผลการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ท�ำให้ผู้ป่วยต้องข้ามแดนมาใช้บริการ
ด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง โดยการศกึ ษาเชงิ เอกสารและ
การสมั ภาษณก์ ลมุ่ ตวั อยา่ งผใู้ หข้ อ้ มลู ประกอบดว้ ยเจา้ หนา้ ทร่ี ฐั ของไทยท้ังระดับนโยบาย
และระดบั ปฏบิ ตั ทิ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั การบรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดน เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ของชาวลาว
ผู้ป่วย ญาติของผู้ป่วย หรือผู้ที่เกี่ยวข้องชาวลาวที่เข้ามาใช้บริการหรือเคยมาใช้บริการ
สุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและใกล้เคียงพบว่า ปัจจัยท่ีก่อให้เกิดการข้ามแดน
มาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงของชาวลาวนั้น
ก็คล้ายคลึงกับกรณีของชาวกัมพูชาที่น�ำเสนอไปในบทท่ี 4 คือมีทั้งที่เปน็ ปจั จยั ผลกั ดนั
(push factors) และปจั จยั ดงึ ดดู (pull factors) ไดแ้ ก่ ปจั จยั ดา้ นภมู ศิ าสตร์ ปัจจัยด้าน
เศรษฐกจิ สงั คม การเมอื งและวฒั นธรรม หรอื อาจจะเรยี กรวมๆวา่ “ปจั จยั ดา้ นภมู ศิ าสตร์
สงั คม” (Social Geography Factors) ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี
5.3.2.1 ปจั จยั ดา้ นภูมศิ าสตร์
จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ป่วยและญาติผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยจาก
สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว สว่ นมากใหค้ วามเหน็ วา่ ปจั จยั หรอื เงอื่ นไขสำ� คญั
ประการหนงึ่ ทมี่ กี ารขา้ มแดนเขา้ มาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพทจี่ งั หวดั อบุ ลราชธานรี วมทง้ั จงั หวดั
ใกล้เคียงก็คือ การเดินทางไปยังสถานบริการสุขภาพที่ทันสมัยได้มาตรฐานต้องใช ้
ระยะเวลานานและเสียค่าใช้จ่ายจ�ำนวนมาก เม่ือเทียบกับการข้ามแดนมายังฝั่งไทย
ไมว่ ่าจะเปน็ ชายแดนทางน้ำ� (แม่น้ำ� โขง) หรือชายแดนทางบก (โดยใชจ้ ดุ ผา่ นแดนถาวร
ช่องเม็ก) ที่ผู้ให้สัมภาษณ์มองว่ามีความสะดวกสบายในการเดินทางไปมาระหว่าง
ชายแดน และระยะทางไม่ไกลจนเกินไป มีผู้ป่วยบางรายมีบ้านพักอาศัยอยู่เขตนคร
ปากเซ แขวงจ�ำปาสัก ใกล้ชายแดนไทย ไปมาสะดวก สามารถเดินทางไป–กลับได้
ในวันเดียว รวมถึงการขนส่งก็มีความสะดวก “พอหมดยาแล้วก็สามารถไปรับยาแบบ
ไป–กลบั ได้อกี ” (ญาติผปู้ ่วย (ชาย) อายุ 42 ปี และญาตผิ ู้ปว่ ย (ภรรยา) อายุ 41 ป,ี
สมั ภาษณ์ 17 พฤษภาคม 2564)
5.3.2.2 ปจั จยั ด้านเศรษฐกิจ
สปป.ลาว นับเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนท่ีมีการขยายตัวทาง
เศรษฐกจิ ทคี่ อ่ นข้างสงู เพราะนบั ตั้งแต่ สปป.ลาว ได้ปฏริ ปู ระบบเศรษฐกิจสกู่ ลไกตลาด
ตามนโยบาย “จินตนาการใหม่” (New Economic Mechanism) ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2529
โดยเนน้ การคา้ เสรี เปดิ รบั การลงทนุ จากตา่ งประเทศ และขบั เคลอื่ นประเทศดว้ ยการเปน็
ผู้ผลิตและส่งออกพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน จนได้ช่ือว่าเป็น “แบตเตอรี่แห่ง
226 • บริการสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานแี ละใกลเ้ คยี งในเขตอีสานใต:้
อาเซยี น” ส่งผลให้อตั ราการขยายตัวของ GDP ของลาวมีอัตราการขยายตัวสงู กวา่ อตั รา
การขยายเฉล่ียของอาเซียนโดยรวม ประกอบกับนโยบายการพัฒนาระบบคมนาคม
เพอ่ื ให้ สปป.ลาว เปน็ ศูนย์กลางด้านโลจิสตกิ ส์เชื่อมโยงประเทศตา่ งๆ ในภูมิภาค ท�ำให้
เปล่ียนจากประเทศ landlocked มาสูป่ ระเทศ landlink ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
จ�ำนวนมาก ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคของชาวลาวท่ีเปล่ียนไปตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น
อนั หมายรวมไปถงึ พฤตกิ รรมดา้ นการใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพดว้ ย ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากการทม่ี ี
ชาวลาวจ�ำนวนไม่น้อยท่ีข้ามแดนมาใช้บริการสุขภาพที่ประเทศไทย โดยเฉพาะ
โรงพยาบาลเอกชนท่ตี ้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
อา้ ยแดง (นามสมมต)ิ เจา้ ของรถรบั จา้ งบรเิ วณหนา้ ดา่ นพรมแดนชอ่ งเมก็
วัย 40 ปีเศษ ได้เล่าให้ผู้วิจัยฟังเกี่ยวกับพฤติกรรมการข้ามแดนมาใช้บริการสุขภาพ
ในจังหวดั อุบลราชธานขี องชาวลาวว่า
“ชาวลาวนยิ มทีข่ า้ มมาใช้บรกิ ารสขุ ภาพจะมี 3 กลุม่ คอื กล่มุ แรกจะเป็น
กลมุ่ ชาวบา้ นทวั่ ไปทม่ี ฐี านะไมด่ นี กั สว่ นใหญเ่ ปน็ ชาวบา้ นทอ่ี ยใู่ กลช้ ายแดน จะขา้ มแดน
มาใช้บริการสุขภาพในสถานบริการสุขภาพท่ีอยู่ตามแนวชายแดน เช่น สถานีอนามัย
(โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตำ� บล – รพ.สต.) หรือโรงพยาบาลชุมชน เช่น โรงพยาบาล
สริ ินธร โรงพยาบาลโขงเจยี ม ฯลฯ กล่มุ ที่สอง เปน็ กลุ่มทีพ่ อมฐี านะ อาจจะเปน็ คนทีท่ �ำ
อาชพี คา้ ขาย หรอื เปน็ ขา้ ราชการ กจ็ ะขา้ มแดนมาแลว้ เชา่ เหมารถรบั จา้ งจากบรเิ วณดา่ น
มายังสถานบริการสุขภาพในเมือง ซ่ึงบางส่วนก็จะไปใช้บริการของโรงพยาบาลและ
คลนิ กิ เอกชน เชน่ โรงพยาบาลอบุ ลรกั ษธ์ นบรุ ี โรงพยาบาลราชเวช บางสว่ นกจ็ ะใชบ้ รกิ าร
ของโรงพยาบาลรัฐ โดยเฉพาะโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ รองลงมาก็จะเป็น
โรงพยาบาลคา่ ยสรรพสทิ ธปิ ระสงค์ กลมุ่ นจ้ี ะเปน็ การมาใชบ้ รกิ ารไป–กลบั ภายในวนั เดยี ว
ขณะท่กี ลมุ่ ท่สี าม จัดเป็นกลมุ่ ทมี่ ฐี านะดี มักจะใช้การข้ามแดนโดยขับรถผ่านเข้ามาเอง
และจะเขา้ ใชบ้ รกิ ารในสถานบรกิ ารสขุ ภาพของเอกชนมากกวา่ โดยมากแลว้ มกั จะมาพกั
ค้างคืน” (อ้ายแดง (นามสมมติ), เจ้าของรถรับจ้างบริเวณหน้าด่านพรมแดนช่องเม็ก,
สัมภาษณ์ 7 สงิ หาคม 2564)
จากท่ีกลา่ วมา จะเห็นได้ว่าแมว้ า่ สปป.ลาว จะเป็นประเทศเลก็ ๆ แต่ก็มี
เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและพร้อมที่จะเป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ในเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังน�้ำ นอกจากนี้โครงการรถไฟลาว–จีน
กจ็ ะเปิดบรกิ ารในปลายปี 2564 ซงึ่ จะช่วยเร่งการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของลาว ในขณะที่
ระบบการดูแลสุขภาพในลาวในปัจจุบันแม้ว่าต้องได้รับการพัฒนา แต่รัฐบาลก�ำลัง
ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพโดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน
ในเอเชียผ่านการลงทุนท่ีส�ำคัญและหน่วยงานให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบททเี่ ก่ียวข้องของพนื้ ทีช่ ายแดนประเทศต้นทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 227
(Pacific Bridge Medical, 2017) ดังน้ันสถานการณ์และบริบทดังกล่าวย่อมสัมพันธ์
กบั ปรากฏการณ์ “บรกิ ารสุขภาพขา้ มแดน” ของชาวลาวในอนาคตดว้ ย
5.3.2.3 ปจั จัยด้านสงั คมวัฒนธรรม
เชน่ เดยี วกบั ชาวกมั พชู าทข่ี า้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพจากการสมั ภาษณ์
ชาวลาวท่ีเคยเข้ามาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวัดใกลเ้ คยี ง พบว่า
การให้บริการดีและค่าใช้จ่ายไม่แพงเกินไป เครื่องมือทางการแพทย์ได้มาตรฐาน และ
ความเช่ียวชาญของแพทย์เป็นที่ยอมรับ ทัศนคติและค่านิยมของชาวลาวเก่ียวกับ
ความเชอื่ มนั่ ในระบบบรกิ ารสขุ ภาพของไทย การมเี ครอื ขา่ ยทางสงั คม และภาษาทใ่ี กลเ้ คยี งกนั
อนั เปน็ ประเด็นที่เก่ยี วขอ้ งกบั ปจั จยั ด้านสังคมและวัฒนธรรมนั้น เปน็ ปัจจยั หน่งึ ทท่ี ำ� ให้
เกิดปรากฏการณ์บรกิ ารสุขภาพข้ามแดน ซ่ึงพอสรุปได้ดังนี้
(1) การให้บรกิ ารดีและคา่ ใช้จา่ ยไมแ่ พงเกินไป
ผู้ให้สัมภาษณ์ให้ค�ำตอบว่า สถานที่ให้บริการด้านสุขภาพมีบุคลากร
เจา้ หนา้ ทใ่ี หบ้ รกิ ารดี มมี นษุ ยสมั พนั ธด์ ี มกี ารเอาใจใสด่ แู ลผปู้ ว่ ยเปน็ อยา่ งดี ใหค้ ำ� แนะนำ�
ตอ่ ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ญาตผิ ้ปู ว่ ยบอกว่า “เพน่ิ บรกิ ารดี...มคี วามเอาใจใสด่ แู ลผ้ปู ่วย
เปน็ อย่างด”ี (ญาติผ้ปู ่วย (หญิง) อายุ 37 ปี และญาติผปู้ ว่ ย (หญิง) อายุ 41 ป,ี สัมภาษณ์
17 พฤษภาคม 2564) นอกจากนย้ี งั มกี ารบรกิ ารรวดเรว็ ทนั ใจ มคี วามพอใจในการบรกิ าร
อีกทั้ง ผู้ให้สัมภาษณ์บางรายก็ให้เหตุผลว่า ค่าใช้จ่ายในการไปเข้ารับ
การรักษาหรือรับบริการด้านสุขภาพทีจ่ ังหวดั อุบลราชธานีไมแ่ พงจนเกินไป ไม่วา่ จะเป็น
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือค่ารักษาพยาบาลก็เป็นราคาท่ีพอจ่ายได้ ผู้ป่วยบางราย
บอกว่า “ราคาพอไปได้” (ผู้ปว่ ย (หญิง) อายุ 36 ป,ี สัมภาษณ์ 17 พฤษภาคม 2564)
(2) เครอ่ื งมอื ทางการแพทยไ์ ดม้ าตรฐาน และความเชยี่ วชาญของแพทย์
เปน็ ท่ยี อมรับ
ความเช่ือม่ันในเครื่องมือทางการแพทย์โดยเห็นว่ามีความทันสมัยและ
ได้มาตรฐาน เคร่ืองมือมีประสิทธิภาพในการใช้ตรวจ ญาติผู้ป่วยหลายรายบอกว่า
“เคร่ืองมือตรวจมีมาตรฐาน อุปกรณ์การแพทย์ทันสมัยสามารถใช้รักษาโรคได้ชัดเจน”
(ญาตผิ ปู้ ว่ ย (หญงิ ) อายุ 37 ปี และญาตผิ ปู้ ว่ ย (หญงิ ) อายุ 39 ป,ี สมั ภาษณ์ 17 พฤษภาคม
2564)
นอกจากน้ี ความเช่ยี วชาญของแพทย์ก็เป็นสว่ นทท่ี �ำให้เกดิ ความเชอ่ื ม่ัน
ในความสามารถของแพทย์ และมีแพทย์เฉพาะทางในการรักษา ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย
บางรายเหน็ วา่ แพทยส์ ามารถรกั ษาไดถ้ กู จดุ ใหย้ าไดต้ รงกบั โรคทผ่ี ปู้ ว่ ยเปน็ โดยทแี่ พทย์
สามารถวินิจฉัยอาการโรคได้ถูกต้องและทันกับเหตุการณ์ ท�ำให้เกิดความมั่นใจในการ
228 • บรกิ ารสุขภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อุบลราชธานีและใกลเ้ คียงในเขตอสี านใต:้
เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยหลายรายบอกว่า “หมอรักษาถืกจุด...วางยาถืก
กับพะยาด..บ่งมะติพะยาดได้ชัดเจน” (ผู้ป่วย (หญิง) อายุ 45 ปี ญาติผู้ป่วย (หญิง)
อายุ 36 ปี และญาตผิ ู้ปว่ ย (หญิง) อายุ 20 ป,ี สัมภาษณ์ 17 พฤษภาคม 2564)
(3) ความเชอื่ มนั่ ในระบบการรักษาและใหบ้ รกิ าร
ผปู้ ว่ ยและญาตผิ ปู้ ว่ ยเชอ่ื มน่ั ในระบบการบรกิ ารดา้ นสาธารณสขุ ของไทย
ว่ามีคุณภาพสูงซ่ึงในระบบการรักษามีความเอาใจใส่ถามเรื่องสุขภาพอย่างละเอียด
นอกจากนย้ี งั มรี ะบบการดแู ลรกั ษาภายใตเ้ งอ่ื นไขในความรบั ผดิ ชอบตอ่ ผปู้ ว่ ยของคกู่ รณี
ในเหตุแห่งการท�ำงานที่มีความผูกพันระหว่างไทย-ลาว เม่ือน�ำเข้าสู่ระบบการรักษา
กจ็ ะไดร้ บั การบรกิ ารเปน็ อยา่ งดี ดงั ทผี่ ปู้ ว่ ยรายหนง่ึ บอกวา่ “ไปใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพทแี่ ขวงอบุ ล
ย้อนว่าเกิดอุบัติเหตุกับรถขนมันของไทยและทางบริษัทรถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
(ผู้ป่วย (หญงิ ) อายุ 41 ปี, สัมภาษณ์ 17 พฤษภาคม 2564)
นอกจากน้ี ยงั เปน็ ผลจากการทผ่ี ปู้ ว่ ยหรอื ญาตผิ ปู้ ว่ ยนำ� ผปู้ ว่ ยเขา้ รบั บรกิ าร
รักษาพยาบาลทั้งในประเทศตนเองและในประเทศเพื่อนบ้าน กล่าวคือการรักษา
ในนครปากเซอาการไม่ดีขึ้น และหากจะไปรักษาที่นครหลวงเวียงจันทน์ก็ไกลเกินไป
ต้องไปพักแรมค้างคืนหลายวันส้ินเปลืองค่าใช้จ่าย หรือไปเวียดนามก็มีความยุ่งยากใน
ระยะทางและคา่ ใชจ้ า่ ยมขี อ้ จำ� กดั ในการรกั ษาตอ่ เนอ่ื ง เมอื่ เทยี บกบั ไปรกั ษาทปี่ ระเทศไทย
ในจังหวัดอุบลราชธานสี ามารถไปกลบั ได้ ประกอบกบั เหน็ วา่ โรงพยาบาลในบ้านตนเอง
ยงั ไม่ทันสมัยและเครอ่ื งมือทางการแพทยไ์ มค่ รบ
“ปิ่นปัวอยู่ปากเซกะดนแล้วแต่บ่เซา ถ้าจะไปเวียงจันทน์กะไกลโพด
ตอ้ งไดไ้ ปพกั คา้ งคนื หลายวนั ซงึ่ เปลอื งคา่ ใชจ้ า่ ย เวยี ดนามกะเคยไปแลว้ แตม่ คี วามยงุ่ ยาก
ไกลสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและบ่สามารถไปปิ่นปัวต่อเนื่องได้ ไปอุบลราชธานียังว่าอยู่ใกล้
สามารถไปกลับได้และค่าใช้จ่ายบ่หลาย หมดยาแล้วสามารถไปต่อยาได้... ย้อนว่า
โฮงหมอบ้านเฮายงั บ่ทันสมัย เครื่องมอื มีบ่ครบ” (ญาติ (ภรรยา) ผปู้ ว่ ย อายุ 41 ปี และ
ญาตผิ ปู้ ว่ ย(หญงิ ) อายุ 24 ปี, สัมภาษณ์ 17 พฤษภาคม 2564)
(4) แฟชั่นและค่านิยมทางสงั คม
จากการสัมภาษณ์พบว่า มีผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย รวมทั้งผู้เก่ียวข้องกับ
ผู้ป่วยบางรายยังเห็นว่าเป็นค่านิยมทางสังคมของคนบางคนที่นิยมไปรับการรักษา
หรอื รบั บรกิ ารในที่ ๆ เหน็ วา่ มคี วามเจรญิ และปลอดภยั เหน็ วา่ ประเทศไทยมคี วามเจรญิ
เปน็ คา่ นยิ มของคนยคุ ใหมท่ ใ่ี หค้ วามส�ำคญั ในสว่ นนี้ ซงึ่ จากการสำ� รวจเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
คณะผู้วิจัยพบว่ามีรายงานว่าการเดินทางข้ามแดนเพ่ือใช้บริการสุขภาพในประเทศไทย
ของชาวลาวน้ัน มีมานานพอสมควรแล้ว โดยส่วนหน่ึงเป็นเรื่องของ “แฟชั่น”หรือ
“ค่านิยม” ดังปรากฏในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเมื่อปี พ.ศ. 2548 ที่พาดหัวข้อข่าวว่า
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบทที่เกี่ยวข้องของพน้ื ทีช่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 229
“แพทย์พ้อคนลาวเห่อแฟชั่นข้ามโขงหาหมอไทย” โดยรายละเอียดของข่าวมีดังน ้ี
(ผู้จัดการออนไลน์, 2548)
นายแพทยล์ าวที่โรงพยาบาลมะโหสด (Mahosot Hospital) โอดคนลาว
นิยมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในไทย เพียงเพราะตามแฟชั่น ท้ังที่โรงพยาบาลลาว
มคี ณุ ภาพเชน่ กนั วอนชาวลาวเหน็ แกส่ ว่ นรวมชว่ ยอดุ หนนุ การบรกิ ารในประเทศ เพอ่ื พฒั นา
เศรษฐกจิ ของชาติ แมว้ า่ จะมกี ารปรบั ปรงุ คณุ ภาพของแพทยแ์ ละอปุ กรณก์ ารแพทยข์ อง
โรงพยาบาลมะโหสดอยู่ทุกปี ชาวลาวจ�ำนวนไม่น้อยก็ยังเลือกไปใช้บริการในประเทศ
เพอ่ื นบา้ น
“เราห้ามพวกเขาไม่ได้ แม้วา่ การบริการทางการแพทย์จะได้รบั การพิสูจน์
แลว้ วา่ ดขี น้ึ เนอ่ื งจากพวกเขากำ� ลงั ตามแฟชนั่ ” ศาสตราจารยจ์ นั เพง็ ทำ� มะวง (Chanpheng
Thammavong) ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลมะโหสด กล่าวในรายงานของหนังสือพิมพ์
เวยี งจันทนไ์ ทมส์
ศาสตราจารย์จันเพ็ง กล่าวด้วยว่า โรงพยาบาลมะโหสดมีการรักษา
พยาบาลท่ีพอเพียงในทุกๆ ด้าน รวมทั้งการท�ำคลอด แพทย์ของโรงพยาบาลมีความ
เชี่ยวชาญท่ีจะช่วยสตรีคลอดบุตร แต่ก็ยังมีผู้หญิงสาวหลายคนประสงค์ที่จะใช้บริการ
นอกประเทศ นอกจากน้ีโรงพยาบาลในไทยกค็ ดิ ค่ารกั ษาแพงกวา่ ของลาว 2–3 เทา่
นายแพทย์ลาวผู้นี้ยังได้วิงวอนชาวลาวให้เห็นแก่ความเป็นชาติลาว
มากกว่าความไม่มั่นใจเกี่ยวกับมาตรฐานการรักษา “ชาวลาวควรช่วยเศรษฐกิจลาว
โดยใชบ้ รกิ ารการรักษาพยาบาลในประเทศ การพฒั นาเศรษฐกจิ ในลาวยงั คงเป็นหนา้ ท่ี
ของชาวลาว”
ด้านนายพมมา สิดทิเดด (Phomma Sithideth) ชาวบ้านหนองแวง
วยั 71 ปี ในเมอื งหาดทรายฟอง ซง่ึ เดนิ ทางไปตรวจสขุ ภาพทโ่ี รงพยาบาลวฒั นา (Wattana
Hospital) ในจงั หวดั หนองคายเม่อื ปีที่แล้ว กล่าววา่ การตรวจสขุ ภาพได้ผลเช่นเดยี วกับ
ที่ทำ� ในโรงพยาบาลลาว แตก่ ารบรกิ ารของไทยดกี วา่ และเรว็ กว่ามาก กระน้ัน คา่ ใช้จ่าย
กส็ ูงกว่าท่ีลาวมากเชน่ กัน
“ผมอยากเห็นโรงพยาบาลลาวให้บริการท่ีมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน
(กับของไทย)” นายพมมากลา่ ว
ชาวลาวกลมุ่ หนงึ่ ใหค้ วามเหน็ วา่ โรงพยาบาลฝง่ั ไทยมกี ารรกั ษาพยาบาล
และมีอุปกรณ์การแพทย์ทันสมัยกว่าของลาว นอกจากนี้ แพทย์ส่วนใหญ่ของไทย
พูดจาสุภาพมาก ผู้ป่วยไม่ได้สนใจเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพียงแต่ม่ันใจได้แน่นอน
วา่ จะไดร้ ับการรกั ษาทคี่ มุ้ คา่ กับเงนิ ที่จ่ายไป
230 • บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวัดอบุ ลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
ขณะทพ่ี นกั งานโรงพยาบาลมะโหสดเชอื่ วา่ การทผ่ี ปู้ ว่ ยลาวนยิ มไปรกั ษา
พยาบาลนอกประเทศ เนอ่ื งจากบอ่ ยครงั้ ทมี่ ารกั ษาทโ่ี รงพยาบาลมะโหสดแตไ่ มส่ ามารถ
พบแพทยไ์ ดท้ นั ที ทำ� ใหร้ สู้ กึ รำ� คาญใจทต่ี อ้ งรอการรกั ษาเปน็ เวลานาน และแมว้ า่ จะมแี พทย์
บางคนพูดไมส่ ภุ าพกับผปู้ ว่ ย แต่ปญั หานี้ก็มีน้อยมาก
ทง้ั นี้ โรงพยาบาลมะโหสดจดั การประชมุ เปน็ ประจำ� ทกุ สปั ดาห์ เพอื่ หารอื
ถึงแนวทางการปรับปรุงการบริการในโรงพยาบาล รวมท้ังวิธีการท่ีแพทย์และพยาบาล
จะให้คำ� ปรึกษาท่สี ุภาพแก่คนไข้ เพอ่ื ใหม้ ะโหสดไดช้ อ่ื วา่ เปน็ โรงพยาบาลของประชาชน
นายแพทยจ์ นั เพง็ กลา่ วเสริมวา่ โรงพยาบาลมะโหสดยงั เป็นสถานฝึกหัด
ของนกั ศกึ ษาแพทย์ นักศึกษาสว่ นใหญใ่ นชน้ั ปที ี่ 4–7 จากคณะแพทยศาสตร์ จะเขา้ มา
ฝกึ หดั การรกั ษาพยาบาลทน่ี กี่ ่อนทจี่ ะจบออกไป
นอกจากนน้ั แพทยใ์ นชนบทอยา่ งนอ้ ย 80 คน กเ็ ขา้ มาฝกึ อบรมทมี่ ะโหสด
อกี ทงั้ แพทยจ์ ากโรงพยาบาล 103, เฟรนดช์ ฟิ และเสดถาทริ าด กเ็ ขา้ มาอบรมหลักสูตร
ของโรงพยาบาลเพ่อื เพิ่มพนู ความชำ� นาญในอาชีพทกุ ๆ ปี
เมื่อวิเคราะห์ถึงความหมายของค�ำว่า “แฟช่ัน” ข้างต้น ก็จะพบว่า
แทท้ จี่ รงิ แลว้ กค็ อื คา่ นยิ มเกยี่ วกบั “ความเชอ่ื มน่ั ” และ “ความไมเ่ ชอ่ื มน่ั ” ในระบบบรกิ าร
สุขภาพน่ันเอง เพราะ “ความเช่ือม่ัน” และ “ความไม่เช่ือม่ัน” ในระบบบริการสุขภาพ
ดงั กลา่ วนี้ จะเปน็ ตวั กำ� หนดการตดั สนิ ใจ “เลอื ก” ระบบบรกิ ารสขุ ภาพของผปู้ ว่ ยและญาติ
ซึ่งข้อมูลข้างต้นน้ันสอดคล้องกับงานวิจัยของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน
มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ (2558) ทพ่ี บวา่ พฤตกิ รรมดา้ นการรกั ษาพยาบาลของกลมุ่ ตวั อยา่ ง
ชาวลาวส่วนใหญ่กว่าคร่ึงหนึ่งเม่ือเจ็บป่วยเล็กน้อยมักจะซื้อยาตามร้านขายยาใกล้บ้าน
มารบั ประทานเอง รองลงมาคอื พบแพทยท์ ค่ี ลนิ กิ และไปพบแพทยท์ โี่ รงพยาบาลของรฐั
คดิ เป็นสัดสว่ นร้อยละ 23 และ 14 ตามลำ� ดบั และหากกล่มุ ตัวอย่างมีอาการเจบ็ ป่วย
ในระดับมาก ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาตัวท่ีโรงพยาบาล กลุ่มตัวอย่างชาวลาวกว่า
ร้อยละ 74 มักจะไปพบแพทย์ท่ีโรงพยาบาลของรัฐ นอกจากน้ียังมีกว่าร้อยละ 10
ที่มักไปเข้ารับการรักษาที่คลินิกและโรงพยาบาลเอกชน และส่วนที่เหลืออีกไม่ต�่ำกว่า
รอ้ ยละ 5 ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นผทู้ ี่มีรายไดค้ อ่ นขา้ งสูงยังมกั จะไปรบั การรักษาท่ีโรงพยาบาล
ที่ทันสมัยในต่างประเทศอีกดว้ ย
(5) ภาษาการส่ือสารคล้ายกันและการมีเครือข่ายญาติพี่น้องในไทย
ภาษาการสื่อสารที่มีพ้ืนฐานวัฒนธรรมทางภาษาที่ใกล้เคียงกันทั้งใน
ความเป็นภาษาถิ่นกลุ่มภาษาลาว (ระหว่างภาษาอีสานของไทยกับภาษาที่ใช้ในลาว
ตอนใต)้ เปน็ ภาษาทสี่ อ่ื สารกนั ไดเ้ ขา้ ใจทนั ที ชว่ ยใหก้ ารสอื่ สารในการตดิ ตอ่ ประสานงาน
เพ่ือเข้ารับบริการด้านสุขภาพสะดวกขึ้น จึงเป็นภาษาการส่ือสารที่เข้าใจง่าย สามารถ
การศึกษาสถานการณแ์ ละบริบทที่เกย่ี วข้องของพ้ืนทีช่ ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 231
พูดกันเข้าใจได้โดยไม่ต้องใช้ล่าม “ย้อนว่ามีภาษาปากเว้าค้ายคือกันโดยบ่ต้องใช้
นายภาษา” (ผ้ปู ่วย (หญงิ ) อายุ 41 ป,ี สมั ภาษณ์ 17 พฤษภาคม 2564)
ขณะเดียวกัน เครือข่ายทางสังคมไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายญาติพ่ีน้อง
เครือข่ายเพื่อน ก็เป็นปัจจัยหนึ่งท่ีท�ำให้เกิดการข้ามแดนมาใช้บริการสุขภาพ ดังค�ำ
ให้สัมภาษณ์ที่ว่า “มีเพ่ือนเป็นคนไทยท่ีอยู่จังหวัดอุบลราชธานีช่วยประสานในการ
ไปใช้บริการ” และ “มีญาติเป็นแพทย์อยู่ในประเทศไทยเป็นผู้ประสานให้” (ญาติผู้ป่วย
(ภรรยา) อายุ 41 ปี และญาติผปู้ ว่ ย (หญงิ ) อายุ 24 ปี, สัมภาษณ์ 17 พฤษภาคม 2564)
5.3.2.4 ปจั จัยดา้ นการเมอื ง
หมายถงึ การทร่ี ฐั บาลมยี ทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายการพฒั นาระบบสขุ ภาพ
เพ่ือเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มงบประมาณ การลงทุน
ในโครงสร้างพ้ืนฐานด้านการบริการสุขภาพทุกระดับ ตลอดจนการฝึกอบรมบุคลากร
ด้านสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพ และการกระจายบุคลากรเหล่านั้นไปยังพื้นท่ีชนบท
และพ้ืนท่ีขาดแคลน เพ่ือขยายความครอบคลุมไปยังประชากรเป้าหมายกลุ่มต่างๆ
ในประเทศนน้ั นบั วา่ มสี ว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั การขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพดว้ ยเชน่ กนั
ในแง่ยุทธศาสตร์และนโยบายบริการสุขภาพหรือสาธารณสุข ซึ่งจัดเป็น
ปัจจัยทางการเมืองน้ัน พบว่างานด้านสาธารณสุขเป็นภารกิจส�ำคัญท่ีพรรคและรัฐลาว
ให้ความส�ำคัญ โดยยุทธศาสตร์และนโยบายด้านการสาธารณสุขของ สปป.ลาว ได้รับ
การช้ีน�ำโดยวิสัยทัศน์ระยะยาว 2030 (Vision 2030) ซ่ึงด�ำเนินการผ่านแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี แผนเหล่านี้มีรายละเอียดเพ่ิมเติมในระดับแขวง
เมือง และภาค โดยวิสัยทัศน์ 2030 ต้ังเป้าว่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
จะเป็นประเทศทมี่ รี ายได้ปานกลางถงึ สงู (a middle-to high-income country) ดว้ ยการ
พฒั นาทางเศรษฐกจิ และสงั คมทส่ี มดลุ เสถยี รภาพทางการเมอื ง และการจดั ระเบยี บสงั คม
และสังคมปลอดภัย ปัจจุบันตรงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 9
(พ.ศ. 2564–2568) ยังคงมุ่งเน้นการลดความยากจน การหลุดพ้นจากสถานะประเทศ
รายไดต้ ่�ำ (least developed country – LDC) การจัดการและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
อย่างมีประสทิ ธผิ ล และบรู ณาการในระดับภูมภิ าคและระหวา่ งประเทศที่แข็งแกร่ง
ปัจจบุ ัน สปป.ลาว ไดจ้ ัดทำ� ยุทธศาสตร์และกรอบการปฏิรูปภาคสุขภาพ
จนถงึ ปี 2568 (Health Sector Reform Strategy and Framework till 2025 – HSRF)
ซง่ึ มเี ปา้ หมายทจ่ี ะบรรลหุ ลกั ประกนั สขุ ภาพถว้ นหนา้ (universal health coverage – UHC)
ภายในปี 2568 การเสริมสร้างระบบสุขภาพท่ีถือเป็นหัวใจสำ� คัญของยุทธศาสตร์และ
กรอบการปฏริ ปู นี้ ไดแ้ ก่ การจดั หาเงนิ ทนุ ดา้ นสขุ ภาพ ธรรมาภบิ าลดา้ นสขุ ภาพ ทรพั ยากร
มนุษย์เพื่อสุขภาพ การจัดส่งบริการสุขภาพและระบบข้อมูลสุขภาพ โดยด�ำเนินการ
232 • บริการสุขภาพขา้ มแดนในจังหวดั อบุ ลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
ผ่านแผนพฒั นาภาคสขุ ภาพห้าปี (Health Sector Development Plan – HSDP) (World
Health Organization, Western Pacific Region and Ministry of Health, Lao PDR, 2017)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะมียุทธศาสตร์และนโยบายบริการสุขภาพ
แต่ด้วยข้อจ�ำกัดเร่ืองงบประมาณ จึงท�ำให้ระบบบริการสุขภาพของประเทศยังมิอาจ
ท่ีจะตอบสนองกับประชากรทุกกลุ่มได้ ดังข้อมูลจ�ำนวนโรงพยาบาลศูนย์ท่ัวประเทศ
มเี พียง 10 แหง่ เท่านนั้ ฉะนนั้ ความทา้ ทายของระบบบรกิ ารสุขภาพของ สปป.ลาว กค็ ือ
ความต้องการคุณภาพของระบบบริการสุขภาพที่สูง ข้อจ�ำกัดของทรัพยากรมนุษย์และ
การกระจายของมนษุ ยด์ า้ นการแพทย์ งบประมาณทจ่ี �ำกดั การกระจกุ ตวั มากเกนิ ไปของ
ผู้ป่วยในโรงพยาบาลส่วนกลาง ขณะที่โรงพยาบาลระดบั อ�ำเภอ (เมอื ง) และระดบั ชมุ ชน
(สุขศาลา) ไม่ไดร้ ับความสนใจจากผปู้ ่วย ยงั ผลให้ผปู้ ว่ ยหรือญาตขิ องผู้ป่วยจำ� นวนหนึ่ง
เลือกท่ีจะใช้บริการสุขภาพข้ามแดนท่ีประเทศไทย ท้ังในระดับชุมชน (โรงพยาบาล
สง่ เสรมิ สขุ ภาพระดบั ตำ� บล – รพ.สต.) โรงพยาบาลชมุ ชน โรงพยาบาลจงั หวดั โรงพยาบาล
ศนู ย์ รวมทั้งโรงพยาบาลและคลินกิ เอกชน เป็นตน้
5.3.3 รปู แบบการขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจังหวดั ใกล้เคียงของชาวลาว
จากการศึกษาพบว่า ชาวลาวที่ข้ามแดนมาใช้บริการสุขภาพในจังหวัด
อุบลราชธานนี ั้น สว่ นใหญม่ าจาก 3 แขวงหลกั ทางตอนใตข้ อง สปป.ลาว คือ จ�ำปาสกั
สาละวัน และเซกอง โดยรูปแบบการข้ามแดนนั้นจะมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ การใช้
บัตรผ่านแดนช่ัวคราว (border pass) และการใช้หนังสือเดินทาง (passport) และ
ส่วนใหญ่ใช้การเดินทางผ่านด่านพรมแดนช่องเม็ก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจังหวัด
อุบลราชธานียังมีช่องทางผ่านแดนไทย–ลาวที่เรียกว่า “จุดผ่อนปรนทางการค้า”
อีก 5 จุด อกี ทัง้ มชี ่องทางธรรมชาตทิ ี่เป็นดา่ นประเพณอี กี 16 แหง่ ทีช่ าวลาวสามารถ
ข้ามแดนมาใช้บริการสุขภาพในสถานบริการสาธารณสุขท้ังของรัฐและคลินิกเอกชน
คือ (1) จดุ ผ่อนปรนการคา้ หนา้ ที่วา่ การอ�ำเภอเขมราฐ (หลงั เกา่ ) อ�ำเภอเขมราฐ ตรงข้าม
กับด่านประเพณีบ้านท่าปะชุม เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต (2) จุดผ่อนปรน
การค้าบ้านสองคอน หมู่ 1 ต�ำบลสองคอน อ�ำเภอโพธ์ิไทร ตรงข้ามกับด่านประเพณ ี
บ้านหนองแสง บ้านตอนหมากเด่ือ เมืองละคอนเพ็ง แขวงสาละวัน (3) จุดผ่อนปรน
การค้าบ้านด่านเก่า หมู่ 1 ต�ำบลโขงเจียม อ�ำเภอโขงเจียม ตรงข้ามบ้านสิงสัมพัน
เมอื งซะนะสมบนู แขวงจ�ำปาสัก (4) จุดผอ่ นปรนการค้าบ้านคันทา่ เกวียน หมู่ 3 ตำ� บล
นาโพธิ์กลาง อำ� เภอโขงเจยี ม ตรงข้ามบา้ นคนั ทงุ ไซ เมอื งคงเซโดน แขวงสาละวัน และ
(5) จุดผอ่ นปรนการคา้ ชอ่ งตาอู บา้ นหนองแสง หมู่ 9 ต�ำบลโพนงาม อำ� เภอบณุ ฑรกิ
ตรงข้ามช่องตาอู บ้านเหยี ง เมอื งสุขมุ า แขวงจำ� ปาสกั
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบรบิ ทท่ีเกี่ยวขอ้ งของพ้ืนท่ชี ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 233
ท้ังนี้ชาวลาวทีข่ า้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในจงั หวัดอบุ ลราชธานนี น้ั สว่ นมาก
เป็นการเดินทางมาเอง โดยมีทั้งญาติและเพื่อนเป็นผู้แนะน�ำเพ่ือเข้ารับการรักษา ซ่ึงมี
ลักษณะการเดนิ ทางสว่ นใหญ่ท่ีจะเดินทางโดยผา่ นดา่ นชายแดนชอ่ งเมก็ อ�ำเภอสริ ินธร
จังหวัดอุบลราชธานี โดยใช้หนังสือเดินทาง (passport) หรือหนังสือข้ามแดน (border
pass) และเมื่อออกจากด่านแล้ว ผู้ที่ไม่ได้น�ำรถส่วนตัวข้ามมาก็จะใช้บริการรถรับจ้าง
หรอื รถแทก็ ซ่ี ซงึ่ จะจอดรอผูโ้ ดยสารทัง้ ทีบ่ รเิ วณหนา้ ดา่ นและบริเวณท่ารถ โดยมากแลว้
มักจะใช้บริการเจ้าประจ�ำ เพราะมีความไว้เนื้อเช่ือใจกันมากกว่า โดยเสียค่าบริการ
ไป–กลบั ในราคา 1,200–1,500 บาท ทง้ั นโ้ี ดยมากแลว้ ชาวลาวทขี่ า้ มมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพ
ทีจ่ ังหวัดอุบลราชธานีนน้ั มักจะมาเช้า–เยน็ กลบั ยกเว้นในกรณีท่ตี ้องนอนโรงพยาบาล
หรือต้องตรวจเปน็ พิเศษ
ภาพท่ี 5.13–5.15 การข้ามแดนของชาวลาวบริเวณดา่ นประเพณี
ทง้ั ทางเรือและทางบกจะใชห้ นงั สือผ่านแดนช่วั คราว
ทีม่ า: สมหมาย ชนิ นาค (2562)
ส�ำหรับค่าใช้จ่ายเฉล่ียในการเดินทางข้ามแดนเพื่อมาใช้บริการสุขภาพท่ีจังหวัด
อุบลราชธานีของชาวลาวท่ีให้สัมภาษณ์น้ัน มีดังนี้ ค่ารถในประเทศลาวประมาณ
100,000 กีบ (400 บาท) ค่าข้ามแดน 200 บาท ค่าที่พัก 1–2 วัน (250–600 บาท)
คา่ อาหารประมาณ 400–500 บาท
6
สรปุ อภปิ รายผลการศึกษา
และขอ้ เสนอแนะ
6.1 สรปุ ผลการศกึ ษา
งานวจิ ยั น้ีมีวตั ถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) เพอื่ ศกึ ษาสถานการณแ์ ละบริบท
ท่ีเกี่ยวข้องกับบริการด้านสุขภาพของพื้นท่ีชายแดนประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว
ในแงข่ องยทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายดา้ นการสาธารณสขุ จำ� นวนของสถานพยาบาลของรฐั
และเอกชน และบุคลากรดา้ นสาธารณสขุ (2) เพ่อื ศึกษาปจั จัยที่กอ่ ใหเ้ กิดการข้ามแดน
มาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงของชาวกัมพูชา
และชาวลาว และ (3) เพื่อศกึ ษารูปแบบการข้ามแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจังหวดั
อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกล้เคยี งของชาวกมั พูชาและชาวลาว
ผลการศกึ ษาสามารถสรปุ ไดด้ งั น้ี
6.1.1 สถานการณ์และบริบทท่ีเก่ียวข้องกับบริการด้านสุขภาพของพื้นที่
ชายแดนประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว
6.1.1.1 สถานการณ์และบรบิ ทด้านภูมศิ าสตร์
จากการศึกษาพบว่า พ้ืนที่ชายแดนของกัมพูชาที่ติดกับภูมิภาคอีสานใต้
ของประเทศไทย ก็คือดินแดนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งครอบคลุม
จังหวัดพระวิหาร (Phreah Vihear) อุดรมีชัย (Oddor Meanchey) บันเตียเมียนเจย
(Banteay Meanchey) เสียมเรียบ (Siem Reap) และพระตะบอง (Battambang) นั้น
เป็นภูมิภาคที่ค่อนข้างห่างไกลจากเมืองหลวงคือพนมเปญ และหลายพ้ืนท่ีก็เป็นป่าเขา
อีกท้ังในอดีตเป็นพื้นท่ีของการสู้รบระหว่างกองก�ำลังเขมรแดงกับกองก�ำลังของรัฐบาล
จงึ ทำ� ใหโ้ ครงสรา้ งพนื้ ฐานโดยเฉพาะถนนหนทางไดร้ บั การพฒั นาลา่ ชา้ กวา่ พนื้ ทส่ี ว่ นอน่ื ๆ
นับเป็นอุปสรรคในการคมนาคม รวมท้ังการเดินทางของประชาชนไปยังสถานบริการ
ด้านสุขภาพซ่ึงมักจะต้ังอยู่ในตัวจังหวัด ท่ีต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก ยังผลให้
236 • บรกิ ารสุขภาพขา้ มแดนในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
ประชาชนตามแนวตะเข็บชายแดนจ�ำนวนไม่น้อยข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพ
ในประเทศไทย เน่ืองจากตัง้ อยู่ใกล้กว่าและเสียค่าใช้จ่ายนอ้ ยกว่า
เช่นเดียวกับพื้นท่ีชายแดนของ สปป.ลาว ท่ีติดกับจังหวัดอุบลราชธานี
คือทางภาคใต้ หรือภูมิภาคที่เรียกว่า “ดินแดนลาวภาคใต้” ซึ่งประกอบด้วย 5 แขวง
คือ สะหวันนะเขต สาละวัน จ�ำปาสัก เซกอง และอัตตะปือ อันเป็นพื้นที่ที่ส่วนใหญ ่
เป็นป่าเขาและท่ีราบสูง และที่ติดกับแม่น้�ำโขง เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
จ�ำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาตระกูลมอญ–เขมร ด้วยสภาพพ้ืนท ่ี
ท่ีเป็นป่าเขา ขณะท่ี สปป.ลาว ก็เป็นประเทศที่ก�ำลังพัฒนา จึงท�ำให้การพัฒนา
ด้านโครงสร้างพื้นฐานซ่ึงต้องอาศัยเม็ดเงินจ�ำนวนมหาศาลยังไม่สามารถด�ำเนินการ
ได้อย่างเต็มท่ี จึงต้องอาศัยการลงทุนและความช่วยจากต่างประเทศเป็นหลัก เหตุน้ี
องคก์ ารสหประชาชาตแิ ละประเทศผบู้ รจิ าคจงึ จดั ให้ สปป.ลาว เปน็ ประเทศทตี่ อ้ งพง่ึ พา
ความชว่ ยเหลอื (aid dependent countries) บรบิ ทดา้ นภมู ศิ าสตรด์ งั กลา่ ว นบั เปน็ ปจั จยั หนงึ่
ทที่ ำ� ใหป้ ระชาชนในบางพน้ื ทเี่ ขา้ ถงึ บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพคอ่ นขา้ งล�ำบาก เมอ่ื เปรยี บเทยี บ
กับการขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในประเทศเพ่ือนบา้ นอย่างประเทศไทย
6.1.1.2 สถานการณ์และบริบทด้านยุทธศาสตร์และนโยบายด้าน
การสาธารณสุข
ในแงย่ ทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายบรกิ ารสขุ ภาพหรอื สาธารณสขุ ของประเทศ
กัมพชู านน้ั พบว่านบั ต้งั แต่ทศวรรษ 1990 เป็นตน้ มา กมั พชู าได้ดำ� เนนิ การตามขน้ั ตอน
และยทุ ธศาสตรท์ สี่ ำ� คญั ในการปรบั ปรงุ ระบบและนโยบายดา้ นการดแู ลสขุ ภาพเพอ่ื ประกนั
ความเป็นอยู่ที่ดีของพลเมือง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปล่ียนแปลงอย่างชัดเจน
ดา้ นภาวะสขุ ภาพโดยรวมของประชากรในชว่ งสองสามทศวรรษทผี่ า่ นมา แตค่ วามเหลอื่ มลำ้�
และความท้าทายท่ีส�ำคัญยังคงอยู่ รัฐบาลกมั พูชาจงึ ไดด้ �ำเนนิ นโยบายดา้ นสาธารณสุข
ใหมเ่ พอื่ ปรบั ปรงุ การใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพ โดยการจดั หาเงนิ ทนุ เพอื่ การดแู ลดา้ นสขุ ภาพ
ผลกค็ อื รฐั บาลกมั พชู าสามารถเพมิ่ เงนิ ทนุ การดแู ลดา้ นสขุ ภาพจาก 1,057 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั
ในปี 2557 (เนอ่ื งจากการขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ) เปน็ 1,207 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั
ในปี 2560 แต่ถึงกระน้ันก็ตาม ในส่วนของโรงพยาบาลหรือสถานบริการด้านสุขภาพ
ก็ยังมีจ�ำนวนไม่มาก และกระจุกตัวอยู่เฉพาะพนมเปญและเมืองใหญ่ๆ ไม่ก่ีแห่ง
เช่นเดียวกับบุคลากรทางการแพทย์ที่กล่าวได้ว่ายังมีภาวะขาดแคลนค่อนข้างมาก ทั้งน้ี
สืบเนื่องมาจากบรบิ ททางการเมอื งของประเทศด้วย กล่าวคือ หากยอ้ นไปเมอ่ื ชว่ งหลัง
สมยั รฐั บาลเขมรแดงปกครองประเทศ (ค.ศ. 1975–1979 หรอื ตรงกบั ปี พ.ศ. 2518–2522)
กัมพูชาก็เหลือแพทย์เพียง 25 คนเท่านั้น แม้ว่าระยะเวลาจะผ่านมาร่วมส่ีสิบปีแล้ว
แต่ด้วยปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศ ท�ำให้การผลิตบุคลากรทางการแพทย์เพ่ิม
การศึกษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททีเ่ กย่ี วขอ้ งของพ้ืนที่ชายแดนประเทศต้นทาง (กมั พูชา และ สปป.ลาว) • 237
เรมิ่ ไดม้ าไมน่ านนเ่ี อง ดงั รายงานของสำ� นกั งานสง่ เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม
(สสว.) ทีว่ ่า “แพทย์ของกัมพชู าสว่ นใหญ่จะเรยี นจบมาจากประเทศฝรงั่ เศส เชน่ เดียวกับ
การนำ� เขา้ อปุ กรณท์ างการแพทยแ์ ละยารกั ษาโรค แตค่ วามทนั สมยั ของการรกั ษาพยาบาล
ยังคงกระจุกตัวอยู่ในเขตเมืองใหญ่ การใช้บริการทางการแพทย์ของกัมพูชาจึงค่อนข้าง
แบ่งแยกในเรื่องชนชั้นทางสังคม” ซ่ึงชี้ให้เห็นถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข
ของกมั พูชาทยี่ ังประสบปญั หาความเหล่อื มล้ำ� และเมือ่ 6 ปีท่แี ล้ว (พ.ศ. 2558) ขณะที่
กมั พูชามีจำ� นวนประชากรประมาณ 14.86 ลา้ นคน มีสัดส่วนแพทยอ์ ยใู่ นระดับ 1 คน
ต่อประชากร 5,000 คนเท่านั้น ขณะทข่ี องไทยอยทู่ ี่ 0.5 คนต่อประชากร 1,000 คน
ขณะท่ี สปป.ลาว นน้ั พบวา่ งานดา้ นสาธารณสขุ เปน็ ภารกจิ ส�ำคญั ทพ่ี รรค
และรัฐให้ความส�ำคัญเช่นกัน โดยยุทธศาสตร์และนโยบายด้านการสาธารณสุขของ
สปป.ลาว ได้รับการช้ีน�ำโดยวิสัยทัศน์ระยะยาว 2030 (Vision 2030) ซึ่งด�ำเนินการ
ผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี แผนเหล่านี้มีรายละเอียดเพ่ิมเติม
ในระดับแขวง เมือง และภาค โดยวสิ ัยทัศน์ 2030 ตง้ั เปา้ ว่าสาธารณรฐั ประชาธิปไตย
ประชาชนลาวจะเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง (a middle-to high-income
country) ด้วยการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมท่ีสมดุล มีเสถียรภาพทางการเมือง
และการจัดระเบียบสังคมและสังคมปลอดภัย ปัจจุบันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ ฉบับท่ี 9 (พ.ศ. 2564–2568) ยังคงมงุ่ เนน้ การลดความยากจน การหลดุ พ้น
จากสถานะประเทศรายไดต้ ำ่� (least developed country – LDC) ในปี 2020 การจดั การ
และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิผล และบูรณาการในระดับภูมิภาคและ
ระหว่างประเทศท่ีแข็งแกรง่
สปป.ลาว ไดจ้ ัดทำ� ยุทธศาสตรแ์ ละกรอบการปฏริ ูปภาคสขุ ภาพ (Health
Sector Reform Strategy and Framework till 2025 – HSRF) ซง่ึ มเี ป้าหมายที่จะบรรลุ
หลกั ประกนั สุขภาพถ้วนหนา้ (universal health coverage – UHC) ภายในปี พ.ศ. 2568
การเสริมสร้างระบบสุขภาพท่ีถือเป็นหัวใจส�ำคัญของยุทธศาสตร์และกรอบการปฏิรูปน้ี
ไดแ้ ก่ การจดั หาเงนิ ทนุ ดา้ นสขุ ภาพ ธรรมาภบิ าลดา้ นสขุ ภาพ ทรพั ยากรมนษุ ยเ์ พอ่ื สขุ ภาพ
การจดั สง่ บรกิ ารสขุ ภาพและระบบขอ้ มลู สขุ ภาพ โดยดำ� เนนิ การผา่ นแผนพฒั นาภาคสขุ ภาพ
ห้าปี (Health Sector Development Plan – HSDP)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะมียุทธศาสตร์และนโยบายบริการสุขภาพ
แต่ด้วยข้อจ�ำกัดเร่ืองงบประมาณ จึงท�ำให้ระบบบริการสุขภาพของประเทศยังมิอาจ
ท่ีจะตอบสนองกับประชากรทุกกลุ่มได้ ดังข้อมูลจ�ำนวนโรงพยาบาลศูนย์ท่ัวประเทศ
มีเพียง 10 แห่งเท่านั้น ฉะน้ัน ความท้าทายของระบบบริการสุขภาพของ สปป.ลาว
ก็คอื ความต้องการคณุ ภาพของระบบบรกิ ารสุขภาพทีส่ งู ข้อจ�ำกดั ของทรพั ยากรมนุษย์
238 • บริการสุขภาพขา้ มแดนในจงั หวัดอุบลราชธานีและใกล้เคียงในเขตอสี านใต้:
และการกระจายของมนษุ ยด์ า้ นการแพทย์ งบประมาณทจ่ี ำ� กดั การกระจกุ ตวั มากเกนิ ไป
ของผปู้ ว่ ยในโรงพยาบาลสว่ นกลาง ขณะทโี่ รงพยาบาลระดบั อำ� เภอ (เมอื ง) และระดบั ชมุ ชน
(สุขศาลา) ไม่ไดร้ บั ความสนใจจากผู้ปว่ ย ยงั ผลใหผ้ ปู้ ว่ ยหรอื ญาติของผู้ป่วยจ�ำนวนหน่งึ
เลอื กทจ่ี ะใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนทปี่ ระเทศไทย ทงั้ ในระดบั ชมุ ชน (โรงพยาบาลสง่ เสรมิ
สุขภาพระดบั ต�ำบล – รพ.สต.) โรงพยาบาลชมุ ชน โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์
รวมทงั้ โรงพยาบาลและคลนิ กิ เอกชน เปน็ ตน้
6.1.2 ปัจจัยท่ีก่อให้เกิดการข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพในจังหวัด
อุบลราชธานแี ละจังหวัดใกล้เคยี งของชาวกัมพชู าและชาวลาว
จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยท่ีก่อให้เกิดการข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพ
ในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงของชาวกัมพูชาและชาวลาวนั้น มีทั้งท่ีเป็น
ปจั จยั ผลักดัน (push factors) และปจั จัยดงึ ดดู (pull factors) ได้แก่ ปัจจัยด้านภมู ศิ าสตร์
ปจั จยั ดา้ นเศรษฐกิจ สังคมวฒั นธรรม และการเมือง หรอื อาจจะเรยี กรวมๆ วา่ “ปจั จัย
ดา้ นภมู ศิ าสตร์สังคม” (Social Geography Factors) ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี
ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ ซึ่งจะเก่ียวข้องกับระยะทาง ระยะเวลาในการเดินทาง
และความสะดวกในการเดินทางทีไ่ มเ่ ป็นอปุ สรรคตอ่ การใชบ้ ริการสุขภาพ ผลการศึกษา
พบว่า นอกเหนือไปจากสภาพภูมิศาสตร์จะเป็นปัจจัยผลักดัน (push factors) ที่ท�ำให ้
ชาวกัมพูชาและชาวลาวในพื้นที่บางแห่งเข้าถึงบริการด้านสุขภาพในประเทศของตน
ได้ยากล�ำบาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะเป็นพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ลักษณะภูมิประเทศ
เป็นป่าเขา เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางแล้ว ในทางกลับกัน การท่ีมีสถานบริการด้าน
สขุ ภาพในประเทศไทยทต่ี ั้งอยู่ใกล้ในพ้ืนท่ชี ายแดน ประกอบกบั เสน้ ทางคมนาคมขนส่ง
ในอาณาบริเวณพื้นที่ชายแดนจึงได้รับงบประมาณจ�ำนวนมากเพื่อท�ำการพัฒนาอย่าง
ตอ่ เนอื่ ง และยิ่งมคี วามเข้มขน้ ขึ้นเมอื่ แนวคดิ การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจระดับภูมภิ าค
(Economic Corridor) ซ่ึงเสนอโดยธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development
Bank – ADB) ไดร้ บั การขานรบั จากรฐั บาลตา่ งๆ ในกลมุ่ ภมู ภิ าคลมุ่ นำ้� โขง ทมี่ ไี ทย กมั พชู า
และ สปป.ลาว รวมอยู่ด้วย ซ่ึงท�ำให้ผู้คนทั้งสามประเทศสามารถเดินทางได้สะดวก
และรวดเรว็ กว่า กจ็ ะกลายเปน็ ปัจจัยดงึ ดดู (pull factors) ท่ีท�ำให้กอ่ ใหเ้ กดิ การข้ามแดน
มาใชบ้ ริการด้านสขุ ภาพในจงั หวัดอบุ ลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงด้วยเชน่ กัน
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันพบว่าท้ังประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว มีการ
เจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ อยา่ งกา้ วกระโดด ซง่ึ เปน็ ผลพวงของความสำ� เรจ็ จากการเปลย่ี นผา่ น
จากระบบเศรษฐกจิ รวมศนู ยไ์ ปสรู่ ะบบเศรษฐกจิ แบบตลาด ประกอบกบั การปฏริ ปู นโยบาย
ด้านการค้าและการลงทุน การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของภาคอุตสาหกรรมและ
การบริการ ตลอดจนเสถียรภาพทางการเมือง ส่งผลให้เศรษฐกิจท้ังของกัมพูชาและ
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบริบทท่เี กย่ี วข้องของพื้นทีช่ ายแดนประเทศตน้ ทาง (กัมพูชา และ สปป.ลาว) • 239
สปป.ลาว มีอัตราการเจริญเติบโตสูง นอกเหนือไปจากมีการลงทุนด้านโครงสร้าง
สาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมท้ังระบบคมนาคมขนส่งรองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจ
ซง่ึ สง่ ผลตอ่ การจบั จา่ ยใชส้ อยในประเทศแล้ว ยงั รวมไปถงึ การจบั จา่ ยใชส้ อยในเรอื่ งของ
การดูแลสุขภาพ (healthcare) อีกด้วย ดังน้ันจึงพบว่าผู้ที่เดินทางข้ามแดนมาใช้บริการ
ดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี งจากประเทศกมั พชู าและ สปป.ลาว
จำ� นวนหนง่ึ เปน็ ผทู้ มี่ กี �ำลงั ทางเศรษฐกจิ ทส่ี ามารถจา่ ยคา่ รกั ษาพยาบาลได้ การเดนิ ทาง
ไปรบั การรกั ษาและตรวจสขุ ภาพในตา่ งประเทศ จงึ เปน็ การสะทอ้ นสถานะทางเศรษฐกจิ
ของประเทศด้วย ในแง่น้ีปัจจัยด้านเศรษฐกิจจึงจัดเป็นปัจจัยผลักดัน (push factors)
ทท่ี ำ� ใหช้ าวกมั พชู าและชาวลาวบางกลมุ่ เดนิ ทางขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั
อบุ ลราชธานแี ละจังหวดั ใกล้เคียง
ปัจจยั ดา้ นสงั คมวัฒนธรรม จากการศึกษาพบว่า ทัศนคติและคา่ นยิ มเก่ยี วกบั
ความเชื่อมั่นในระบบบริการสุขภาพของประเทศปลายทาง การมีเครือข่ายทางสังคม
และภาษาทใี่ กลเ้ คยี งกนั นนั้ เปน็ ปจั จยั หนง่ึ ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ปรากฏการณบ์ รกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดน
ดงั ผลสรปุ จากการสมั ภาษณช์ าวกมั พชู าทเ่ี คยเขา้ มาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจังหวัดใกล้เคียง ที่พบว่าปัจจัยหรือเงื่อนไขส�ำคัญคือทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับ
ความเชอื่ มน่ั ในระบบบรกิ ารสขุ ภาพของไทย ทงั้ ระบบการแพทยท์ มี่ กี ารรกั ษาทดี่ ี ผลการรกั ษา
คณุ ภาพของยาทใ่ี ชร้ กั ษา การใหบ้ รกิ าร และถนนหนทางทที่ ำ� ใหก้ ารเดนิ ทางไปมาสะดวก
รวมท้ังการมีเครือข่ายญาติหรือเพื่อนท่ีฝั่งไทย เช่นเดียวกับกรณีของผู้ใช้บริการสุขภาพ
ข้ามแดนจาก สปป.ลาว ซ่ึงผลจากการให้สัมภาษณ์ของผู้ป่วยและญาติผู้เกี่ยวข้องกับ
ผู้ป่วยน้ัน ส่วนมากให้ความเห็นว่าปัจจัยหรือเงื่อนไขสำ� คัญคือความส�ำคัญในเร่ืองการ
ให้บรกิ าร การเดนิ ทางไปมาสะดวก และใหค้ วามเช่ือมน่ั ในดา้ นการแพทย์และการรักษา
ท่ีมีคุณภาพ รวมท้ังการมีญาติพ่ีน้องหรือคนที่รู้จักที่ฝั่งไทย นอกจากน้ียังมีเร่ืองของ
ภาษาการสื่อสารท่ีเข้าใจและค่านิยมทางสังคม ฉะน้ันการที่มีความคล้ายคลึงทาง
วัฒนธรรมด้านภาษาก็มีส่วนส�ำคัญท่ีท�ำให้ผู้ป่วยจากประเทศท้ังสองเดินทางข้ามแดน
มารบั บรกิ ารสขุ ภาพ ดงั กรณชี าวกมั พชู าทรี่ ะบวุ า่ การไปใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพทจี่ งั หวดั สรุ นิ ทร์
จะไมค่ อ่ ยประสบปญั หาเรอ่ื งการสอ่ื สาร ขณะทชี่ าวลาวทเี่ ขา้ มาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพทจ่ี งั หวดั
อุบลราชธานีต่างก็ระบุว่าไม่มีปัญหาในการส่ือสาร ดังนั้น ปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรม
จึงจัดเป็นปัจจัยดึงดูด (pull factors) ที่ท�ำให้ชาวกัมพูชาและชาวลาวบางกลุ่มเดินทาง
ข้ามแดนมาใช้บริการด้านสุขภาพในจงั หวัดอุบลราชธานแี ละจงั หวัดใกลเ้ คยี ง
ปจั จยั ดา้ นการเมอื ง หมายถงึ การทรี่ ฐั บาลมยี ทุ ธศาสตรแ์ ละนโยบายการพฒั นา
ระบบสุขภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มงบประมาณ
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริการสุขภาพทุกระดับ ตลอดจนการฝึกอบรม
240 • บริการสุขภาพข้ามแดนในจงั หวัดอุบลราชธานีและใกล้เคยี งในเขตอีสานใต้:
บุคลากรด้านสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพ และการกระจายบุคลากรเหล่านั้นไปยังพ้ืนที่
ชนบทและพนื้ ทข่ี าดแคลน เพอ่ื ขยายความครอบคลมุ ไปยงั ประชากรเปา้ หมายกลมุ่ ตา่ งๆ
ในประเทศนนั้ นบั วา่ มสี ว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั การขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพดว้ ยเชน่ กนั
กล่าวคือ แม้ว่าท้ังกัมพูชาและ สปป.ลาว จะมียุทธศาสตร์และนโยบายการพัฒนา
ระบบสุขภาพท่ีชัดเจน แต่นโยบายดังกล่าวจะต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลและใช้ระยะเวลา
ในการด�ำเนินการ ฉะนั้นยุทธศาสตร์และนโยบายการพัฒนาระบบสุขภาพย่อมจะยัง
ไมส่ ามารถตอบสนองตอ่ ประชากรทกุ กลมุ่ ได้ เราจงึ พบวา่ ยงั มปี ระชากรบางกลมุ่ พยายาม
หาชอ่ งทางในการขา้ มแดนไปใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในประเทศไทย ในแงน่ ี้ ปจั จยั ดา้ นการเมอื ง
จึงเป็นปัจจัยผลักดัน (push factors) ในปรากฏการณ์การข้ามแดนเพื่อรับการบริการ
ด้านสขุ ภาพเชน่ เดียวกัน
6.1.3 รปู แบบการขา้ มแดนมาใชบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพในจงั หวดั อบุ ลราชธานี
และจังหวัดใกล้เคยี งของชาวกมั พูชาและชาวลาว
จากการศึกษาพบว่า ชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนมารับบริการด้านสุขภาพในจังหวัด
อุบลราชธานแี ละจังหวดั ในเขตอีสานใต้ของประเทศไทยนัน้ สว่ นใหญ่จะใช้การเดนิ ทาง
ผา่ นจดุ ผา่ นแดน 2 แห่ง โดยใช้หนังสอื เดินทาง (passport) คอื จุดผา่ นแดนช่องสะงำ�
อ�ำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซ่ึงอยู่ตรงข้ามกับอ�ำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย
ของกัมพชู า และจุดผ่านแดนชอ่ งจอม อำ� เภอกาบเชิง จังหวดั สรุ นิ ทร์ ซงึ่ อยตู่ รงข้ามกบั
อ�ำเภอส�ำโรง จังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา นอกจากน้ี บริเวณชายแดนระหว่างจังหวัด
อุบลราชธานีของไทยกับจังหวัดพระวิหารของกัมพูชา ยังมีจุดผ่อนปรนช่องอานม้า
ที่อย่ทู ่อี ำ� เภอน้ำ� ยนื จงั หวดั อบุ ลราชธานี ท่ีติดกับอ�ำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร
ที่ชาวกัมพูชาสามารถข้ามแดนมารับบริการสุขภาพในเขตอ�ำเภอน้�ำยืนได้อีกด้วย
แตโ่ ดยมากมกั เปน็ การเขา้ มารบั การรักษาดว้ ยโรคธรรมดาทัว่ ไปมากกว่า
ส่วนในกรณีของ สปป.ลาว นั้น จุดผ่านแดนถาวรข้ามชายแดนไทย–ลาว
ในส่วนของจังหวดั อุบลราชธานกี บั สปป.ลาว ปัจจุบนั มี 2 แหง่ ไดแ้ ก่ จดุ ผ่านแดนถาวร
ชอ่ งเมก็ อ�ำเภอสิรินธร จงั หวัดอบุ ลราชธานี กับด่านวงั เต่า เมอื งโพนทอง แขวงจ�ำปาสัก
และจดุ ผา่ นแดนถาวรบา้ นปากแซง อำ� เภอนาตาล กบั ดา่ นบา้ นปากตะพาน เมอื งละครเพง็
แขวงสาละวัน อย่างไรก็ตาม เราพบว่าการข้ามพรมแดนมาใช้บริการสุขภาพในจังหวัด
อุบลราชธานีของผู้ป่วยชาวลาวมีทั้งการข้ามจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนทาง
การค้าที่มีอยู่ถึง 5 แห่ง ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวยังคงมีอยู่อย่างต่อเน่ืองต้ังแต่อดีต
จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งการมีหรือไม่มีด่านพรมแดนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมาใช้บริการ
หากแต่เป็นไปตามความจ�ำเป็นของสถานะทางสุขภาพและความต้องการ โดยหาก
เป็นการข้ามพรมแดนในพ้ืนท่ีที่ไม่มีด่านกลับจะยิ่งเป็นการสะดวก เน่ืองจากไม่ต้อง
การศกึ ษาสถานการณ์และบริบททีเ่ กยี่ วข้องของพื้นที่ชายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 241
เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพ่ือเป็นค่าธรรมเนียม เห็นได้จากบริเวณพ้ืนที่ท่ีติดแม่น้�ำโขง
หลายแหง่ ไมม่ ดี า่ นพรมแดน ผปู้ ว่ ยชาวลาวสามารถพายเรอื ขา้ มแมน่ ำ�้ มาใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพ
ได้ง่าย อีกท้ังหมู่บ้านท่ีอยู่ติดชายแดนทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวส่วนใหญ่ก็มีความเกี่ยวพัน
ทางสายเลอื ด ทำ� ใหก้ ารเดนิ ทางขา้ มไปมาเปน็ เรอื่ งงา่ ยดายยง่ิ ขนึ้ สำ� หรบั พนื้ ทที่ เี่ ปน็ ชอ่ ง
เขาจะมคี วามยากลำ� บากในดา้ นการเดนิ ทาง บางพนื้ ทผ่ี มู้ าใชบ้ รกิ ารตอ้ งเดนิ ทางดว้ ยเทา้
เปน็ เวลาหลายวนั เพอ่ื ขา้ มมาใชบ้ รกิ าร ทำ� ใหเ้ ปน็ อปุ สรรคในการตดั สนิ ใจมาใชบ้ รกิ ารโดย
ธรรมชาติ
6.2 อภิปรายผลการศกึ ษา
สถานการณ์และบริบทที่เก่ียวข้องด้านบริการสุขภาพในประเทศเพ่ือนบ้าน
อย่างกมั พูชาและ สปป.ลาว นัน้ สัมพันธโ์ ดยตรงกับปรากฏการณ์การเคลอื่ นยา้ ยผู้คน
ข้ามแดนเพื่อใช้บริการสุขภาพข้ามในจังหวัดอุบลราชธานีและใกล้เคียงในเขตอีสานใต้
สอดคล้องกับงานศึกษาของ Österle (2007) ท่ีท�ำการศึกษาการข้ามแดนไปใช้บริการ
สุขภาพของชาวออสเตรียในกลุ่มประเทศอียู ซ่ึงพบว่า การใช้บริการสุขภาพข้ามแดน
เป็นสถานการณ์ส่งผลกระทบท้ังในด้านดีและก่อให้เกิดปัญหาท้ังประเทศต้นทางและ
ปลายทางของการใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพ ในประเทศสหภาพยโุ รปมกี ารศกึ ษาอยา่ ง กวา้ งขวาง
โดยเฉพาะอย่างย่งิ ภายหลังจากการที่มปี ระเทศสมาชกิ ใหมเ่ พ่ิมข้นึ ในสหภาพยโุ รป เชน่
สาธารณรัฐเชค (Czech Republic) สโลวาเกีย (Slovakia) สโลวีเนีย (Slovenia) โครเอเชยี
(Croatia) เนื่องจากประเทศเหล่าน้ีมีศักยภาพการให้บริการที่น้อยกว่าและมีปัญหา
ดา้ นการเขา้ ถงึ บรกิ ารทำ� ใหม้ กี ารใชบ้ รกิ ารขา้ มพรมแดนเพม่ิ มากขน้ึ โดยเฉพาะผทู้ อี่ ยใู่ นเขต
ชนบทท่ีไม่สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพในประเทศของตน จึงต้องพ่ึงพาบริการสุขภาพ
จากต่างประเทศทอ่ี ย่ใู กลก้ วา่
งานวิจัยนีย้ งั สอดคลอ้ งกบั งานศกึ ษาของ Trivia Yeo Chin Ting (2020) เก่ียวกบั
การข้ามแดนมารับบริการสุขภาพของชาวกัมพูชาท่ีจังหวัดสุรินทร์ ท่ีระบุว่าในช่วง
ไม่ก่ีทศวรรษท่ีผ่านมาการดูแลสุขภาพกลายเป็นปรากฏการณ์โลกาภิวัตน์มากข้ึน
เน่ืองจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ ประเด็นของ
การดูแลสุขภาพไม่ได้ถูกจ�ำกัดอยู่ในขอบเขตของรัฐชาติอีกต่อไป สภาวะการรักษา
พยาบาลในประเทศหน่ึงอาจส่งผลทันทีต่อประเทศอ่ืน ดังกรณีการข้ามพรมแดนของ
ชาวกัมพูชาเข้าสู่จังหวัดสุรินทร์ของประเทศไทยเพื่อแสวงหาการรักษาพยาบาล
ท้ังน้ีเหตุผลส�ำคัญประการหน่ึงก็คือ การขาดความเช่ือม่ันต่อระบบบริการสุขภาพ
ของกัมพูชาเอง ก็เป็นแรงผลักดันที่ส�ำคัญส�ำหรับชาวกัมพูชาในการแสวงหาการดูแล
สุขภาพในต่างประเทศ ประกอบกับไทยกับกัมพูชาเป็นประเทศท่ีมีพรมแดนติดกัน
242 • บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวดั อุบลราชธานแี ละใกล้เคียงในเขตอสี านใต:้
มีความสะดวกสบายในระบบลอจิสติกส์ การมีระบบเครือข่ายทางสังคม และระบบ
การสอื่ สารทที่ นั สมยั จงึ เปน็ ปจั จยั ทท่ี �ำใหอ้ ตุ สาหกรรมการแพทยข์ า้ มพรมแดนเตบิ โตขน้ึ
อีกท้ังผลการศึกษาคร้ังน้ียังสอดคล้องกับงานของนิตยา มหาผล, สมศักด์ิ
ภัทรกุลวณิชย์ และ สมทรง รักษ์เผ่า (2542) ท่ีระบุว่า ความเหลื่อมล�้ำทางเศรษฐกิจ
การเมอื ง และสงั คม ทำ� ใหป้ ญั หาสาธารณสขุ ชายแดนทวคี วามรนุ แรง และงานศกึ ษาของ
มชั ฌมิ า รตั นวงษ์ (2558) ระบวุ า่ ปจั จบุ นั ประเทศกมั พชู ามกี ารเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ
อย่างก้าวกระโดดมาก ซ่ึงส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยในประเทศเช่นกัน รวมไปถึง
การจับจ่ายใช้สอยในเร่ืองของการดูแลสุขภาพ (healthcare) ถึงแม้จะมีความต้องการ
ในเรอ่ื งของการดแู ลสขุ ภาพสงู ขน้ึ แตย่ งั มปี ญั หาในเรอื่ งของพนื้ ทช่ี นบทหรอื พนื้ ทหี่ า่ งไกล
ท่ีไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีข้อก�ำหนดมาแล้วว่าไม่เสีย
คา่ ใชจ้ า่ ย แตม่ นั เปน็ เพยี งแคส่ งิ่ ทที่ ำ� ไดไ้ มจ่ รงิ เนอื่ งจากยงั มคี า่ ใชจ้ า่ ยสงิ่ อนื่ นอกเหนอื จาก
ค่ารกั ษา ยังมีค่าบริการอืน่ ๆ อกี และเมอ่ื ยาหมด ผปู้ ว่ ยต้องออกไปหาซอื้ เองขา้ งนอก
โรงพยาบาล (มชั ฌิมา รตั นวงษ,์ 2558)
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับส�ำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพ
ไทย (สวปก.) และ เครือสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) (2555) ทีไ่ ด้ทำ� การศกึ ษา
เรอ่ื ง “การใช้บริการสุขภาพของผปู้ ่วยชาวลาวในประเทศไทย: กรณศี ึกษาผลกระทบตอ่
โรงพยาบาลรัฐของประเทศไทย” และผลการศึกษาพบว่า การข้ามพรมแดนมาใชบ้ ริการ
สขุ ภาพในประเทศไทยของผปู้ ว่ ยชาวลาวยงั คงมอี ยอู่ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตงั้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ นั
การมีหรือไม่มีด่านพรมแดนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมาใช้บริการ หากแต่เป็นไปตาม
ความจ�ำเป็นของสถานะทางสุขภาพและความต้องการ โดยหากเป็นการข้ามพรมแดน
ในพ้นื ที่ท่ไี ม่มดี า่ นกลับจะย่งิ เปน็ การสะดวก เนอ่ื งจากไมต่ ้องเสยี เวลาและค่าใช้จ่ายเพอื่
เป็นค่าธรรมเนียม เห็นได้จากบริเวณพ้ืนที่ที่ติดแม่น�้ำโขงหลายแห่งไม่มีด่านพรมแดน
ผู้ป่วยชาวลาวสามารถพายเรือข้ามแม่นำ�้ มาใช้บริการสุขภาพได้ง่าย ส�ำหรับพื้นท่ีท่ีเป็น
ชอ่ งเขาจะมคี วามยากล�ำบากในดา้ นการเดนิ ทาง บางพนื้ ทผ่ี มู้ าใชบ้ รกิ ารตอ้ งเดนิ ทางดว้ ย
เทา้ เปน็ เวลาหลายวนั เพอื่ ขา้ มมาใชบ้ รกิ าร ทำ� ใหเ้ ปน็ อปุ สรรคในการตดั สนิ ใจมาใชบ้ รกิ าร
โดยธรรมชาติ ส่วนบางพื้นท่ีที่พรมแดนถูกกั้นด้วยล�ำห้วยแคบๆ หรือป่าละเมาะเล็กๆ
เนื่องจากเป็นหมู่บ้านหรือเป็นพ้ืนที่เดียวกันมาก่อนที่จะมีพรมแดน ท�ำให้การเดินทาง
ขา้ มไปมาเปน็ เรอื่ งงา่ ยดายยงิ่ ขน้ึ เพราะมคี วามเกยี่ วพนั ทางสายเลอื ด และการขา้ มมาใช้
บริการในประเทศไทยเป็นความสะดวกมากกว่าที่จะเดินทางไปใช้บริการที่สถานบริการ
ขนาดใหญ่ในประเทศลาวท่ีอยู่ห่างไกลออกไป แม้ว่าสถานบริการในประเทศไทยเป็น
สถานพยาบาลขนาดเลก็ แตเ่ มอ่ื เทยี บกบั สถานบรกิ ารทมี่ ใี นชมุ ชนของประเทศลาวกลบั
ถือวา่ เป็นสถานบรกิ ารทม่ี คี รบทง้ั บคุ ลากร เวชภัณฑ์ และเคร่ืองมือท่ีจำ� เป็น (สำ� นกั งาน
การศกึ ษาสถานการณแ์ ละบรบิ ททเี่ กี่ยวขอ้ งของพื้นทีช่ ายแดนประเทศต้นทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 243
วิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) และ เครือสถาบันวิจัยระบบ
สาธารณสขุ (สวรส.), 2555)
รวมทั้งผลการศึกษาข้างต้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับงานศึกษาของ สุรีย์
ธรรมมกิ บวร และคณะ (2560) ที่ไดท้ าการศกึ ษาเร่อื งการจัดระบบบรกิ ารสุขภาพส�ำหรบั
คนข้ามแดนในบริบทเขตเศรษฐกิจพิเศษ จงั หวัดมุกดาหาร พบวา่ การเขา้ มารบั บรกิ าร
ของชาวลาวมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยใน ส�ำหรับผู้ป่วยนอก จ�ำนวนเพ่ิมเพียง
เล็กน้อย สถิติการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลสะหวันนะเขตไปโรงพยาบาลมุกดาหาร
มีแนวโน้มลดลง โดยในปี 2558 มีการส่งต่อเฉล่ียเดือนละ 20 คน และในปี 2560
ลดลงเหลือเดือนละ 7-10 คน ขณะท่ีภาพรวมจ�ำนวนผู้ป่วยที่รับการตรวจรักษา
ทโี่ รงพยาบาลของรฐั ในจงั หวดั มกุ ดาหาร การเขา้ มารบั การรกั ษาสว่ นใหญเ่ ปน็ ผปู้ ว่ ยนอก
จ�ำนวนผปู้ ว่ ยนอกและผปู้ ว่ ยในโรงพยาบาลมุกดาหารเพิ่มข้นึ เปน็ เท่าตวั ใน ปี พ.ศ.2559
และจ�ำนวนผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส�ำหรับโรงพยาบาลดอนตาลในปี พ.ศ.2559
ลดลง และโรงพยาบาลหวา้ นใหญ่ในปี พ.ศ.2559 จ�ำนวนเพิม่ ขนึ้ เล็กนอ้ ย และจ�ำนวน
ผู้ป่วยลาวตลอดสามปีท้ังสามแห่งมีผู้ป่วยนอก 53,450 คน และผู้ป่วยใน 8,878 คน
นอกจากน้ี สุรยี ์ ธรรมมกิ บวร และคณะ (2560) ยังพบว่าการรับบรกิ ารสขุ ภาพสว่ นใหญ่
คือ งานด้านผดุงครรภป์ ระกอบด้วยการฝากครรภ์ การคุมกำ� เนิด การคลอด โรคเรอ้ื รัง
ได้แก่เบาหวาน ความดันโลหิตสูง การตรวจรักษา และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ดงั พบวา่ การตรวจกอ่ นคลอด การตรวจชนั สตู ร อยใู่ นอนั ดับตน้ ๆในทกุ ปี โดยในปี 2559
อนั ดบั ตน้ ไดแ้ กโ่ รคเบาหวาน และการตรวจกอ่ นคลอด และทนี่ า่ สนใจคอื แมก้ ารคมุ กำ� เนดิ
กม็ กี ารขา้ มมารบั การรกั ษา นอกจากนข้ี อ้ มลู การมาตรวจรบั บรกิ ารในภาคเอกชนวา่ สว่ นใหญ่
เปน็ การคลอด การฝากครรภ์ และการตรวจสุขภาพ
ดังน้ัน กระแสโลกาภิวัตน์และการบูรณาการเป็นภูมิภาคเดียวกัน ยุทธศาสตร ์
การเป็นศนู ยก์ ลางบรกิ ารสุขภาพของประเทศไทยในฐานะประเทศปลายทาง และปจั จัย
ด้านภูมิศาสตร์สังคมของประเทศต้นทาง จึงมีส่วนส�ำคัญยิ่งต่อการเร่งเร้าและกระตุ้น
ให้เกิดการเคล่ือนย้ายข้ามแดนของชาวกัมพูชาและชาวลาวเพ่ือมาใช้บริการสุขภาพ
ในจงั หวัดอุบลราชธานแี ละจงั หวัดใกลเ้ คยี งในเขตอีสานใต้
244 • บรกิ ารสขุ ภาพขา้ มแดนในจังหวดั อุบลราชธานแี ละใกล้เคียงในเขตอีสานใต้:
6.3 ขอ้ เสนอแนะ
จากผลการศกึ ษาข้างต้น คณะผู้วิจยั จึงมีขอ้ เสนอแนะดงั ตอ่ ไปน้ี
6.3.1. ขอ้ เสนอแนะส�ำหรับการนำ� ไปใช้
(1) จงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต้ ควรมกี ารจดั ประชมุ
หน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริการสุขภาพข้ามแดน เพื่อจัดท�ำยุทธศาสตร ์
และแผนงานเกย่ี วกับการเปน็ ศูนย์กลางด้านบริการสขุ ภาพข้ามแดนในเขตอสี านใต้
(2) จงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต้ ควรมกี ารจดั ประชมุ
กบั 2 จงั หวดั ชายแดนของกมั พชู า คอื จงั หวดั พระวหิ ารและจงั หวดั อดุ รมชี ยั และ 4 แขวง
ในเขตภาคใต้ของ สปป.ลาว คอื สาละวัน จ�ำปาสกั เซกองและอัตตะปอื เพอื่ ประสาน
ความร่วมมือและวางกรอบแนวทางการดำ� เนินงานร่วมกันในการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์
และแผนงานการเป็นเมืองต้นแบบด้านบริการสุขภาพข้ามแดน ในอันท่ีจะยกระดับ
มาตรฐานสุขภาพของประชาชนในพ้ืนทช่ี ายแดนของทัง้ 3 ประเทศ
(3) จงั หวดั อบุ ลราชธานแี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี งในเขตอสี านใต้ ควรจดั ตงั้ คณะทำ� งาน
ขบั เคล่อื นยุทธศาสตร์การเปน็ เมอื งต้นแบบดา้ นบริการสุขภาพข้ามแดน
6.3.2 ขอ้ เสนอแนะส�ำหรบั การวิจัยคร้งั ต่อไป
(1) ควรสนับสนุนให้มีการท�ำวิจัยในแง่ของการเตรียมความพร้อมของจังหวัด
อุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงในเขตอีสานใต้ เพ่ือรองรับการเป็นเมืองต้นแบบ
ด้านบริการสขุ ภาพข้ามแดน
(2) ควรสนับสนุนให้มีการท�ำวิจัยเก่ียวกับกฎหมายข้ามแดนส�ำหรับผู้รับบริการ
สุขภาพข้ามแดน
การศกึ ษาสถานการณ์และบรบิ ททีเ่ ก่ียวขอ้ งของพ้ืนทช่ี ายแดนประเทศต้นทาง (กัมพชู า และ สปป.ลาว) • 245
งเอกสารอา้ งอิ
ภาษาไทย
“โครงการสามเหลย่ี มมรกต”. (2545). สบื คน้ เมอ่ื 17 พฤษภาคม 2564, จาก http://www.
satit.up.ac.th/ BBC07/AroundTheWorld/interorg/55.htm
“เทือกเขาส�ำคัญของประเทศไทย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)”. (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ
13 ธันวาคม 2563, จาก http://archive.wunjun.com/keemao/15/117.html
The Cloud. (2564). “ท่านหมอชายแดน”. สืบค้นเม่ือ 27 สิงหาคม 2564, จาก
https://readthecloud.co/doctor-khamsinh-phommaharn-tica/
กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ. (ม.ป.ป.). “โครงการด้านสาธารณสุขชายแดน”
สืบค้นเม่ือ 27 สิงหาคม 2564, จาก https://tica-thaigov.mfa.go.th
กรมสง่ เสริมการคา้ ระหวา่ งประเทศ กระทรวงพาณิชย์. (2561). ค่มู อื โอกาสและทิศทาง
การค้าการลงทนุ ในกมั พูชา. นนทบรุ :ี กรมส่งเสรมิ การคา้ ระหวา่ งประเทศ.
กรวรรณ บัวดอกตูม. (2563). การขยายตัวของธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัด
เชียงรายและปฏิบัติการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของผู้ใช้บริการจากพม่าและลาว.
วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชยี งใหม.่
กระทรวงสาธารณสขุ . (ม.ป.ป.). “การดำ� เนนิ งานสาธารณสขุ ชายแดนเพอ่ื รองรบั การเขา้ ส ู่
ประชาคมอาเซยี น”. สบื คน้ เมอ่ื 17 พฤษภาคม 2564, จาก https://bps.moph.go.th
กองส่งเสริมเศรษฐสัมพันธ์และความร่วมมือ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวง
การตา่ งประเทศ. (ม.ป.ป.). “โครงการความรว่ มมือสามเหลี่ยมมรกต (Emerald
Triangle Cooperation)”. สบื คน้ เมอ่ื 17 พฤษภาคม 2564, จาก https://business.
mfa.go.th/th/content/16229
ชาครติ ศกึ ษากจิ . (2559). การเป็นศูนย์กลางบรกิ ารสขุ ภาพเพิ่มขดี ความสามารถในการ
แข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ. วารสารรัฏฐาภิรักษ์, 58(2) (พฤษภาคม–
สิงหาคม): 39–51.
ณฐั นนั ท์ ธนะสาร. (2554). ศกั ยภาพการปอ้ งกนั และควบคมุ โรคอจุ จาระรว่ งของอาสาสมคั ร
สาธารณสขุ แรงงานขา้ มชาติ ในพน้ื ทชี่ ายแดนจงั หวดั ตาก. วทิ ยานพิ นธส์ าธารณสขุ
ศาสตรมหาบณั ฑิต บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่.
246 • บรกิ ารสขุ ภาพข้ามแดนในจงั หวดั อุบลราชธานแี ละใกลเ้ คียงในเขตอีสานใต้:
ณัฐพงศ์ ดวงแก้ว. (ม.ป.ป.). “โลกาภิวัตน์ และประวัติศาสตร์การระบาดของเช้ือโรค
ข้ามดินแดน”. สืบค้นเมื่อ 25 ธันวาคม 2563, จาก https://thestandard.co/
globalization-and-history-of-cross-border-pathogens
ณิภัทรา หริตวร และ ชนินตร์นันทร์ สุขเกษม. (ม.ป.ป.). สุขภาพชายแดน: การข้าม
พรมแดนเพอื่ มารบั บรกิ ารสขุ ภาพในประเทศไทยของผปู้ ว่ ยจากประเทศเมยี นมา
ลาว และกมั พชู า. รายงานการวจิ ัยเสนอต่อสถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสุข.
ทพิ รัตน์ บุบผะศิริ. (ม.ป.ป.). หนว่ ยที่ 2 แนวคดิ เรอ่ื งการรวมกลุม่ . ใน เอกสารการสอน
ชุดวิชา 82327 อาเซยี นเบอื้ งตน้ . นนทบรุ :ี มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช.
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำ� กดั . (2564). “ธุรกจิ Healthcare ตอบโจทย์การเติบโตเศรษฐกจิ
กมั พูชา”. สบื คน้ เม่อื 17 พฤษภาคม 2564, จาก https://www.scb.co.th
นติ ยา มหาผล, สมศกั ดิ์ ภทั รกลุ วณชิ ย์ และ สมทรง รกั ษเ์ ผา่ . (2542). กลยทุ ธค์ วามรว่ มมอื
ดา้ นสาธารณสขุ ชายแดน. วารสารวชิ าการสาธารณสขุ , 8(3) (กรกฎาคม–กนั ยายน):
287–298.
บัญญัติ สาลี. (2552). การปรับตัวของกลุ่มชาติพันธุ์เขมรบริเวณพ้ืนที่ชายแดนไทย–
กัมพูชา และนัยเพ่ือการบริหารจัดการพ้ืนท่ีชายแดนของรัฐไทย: กรณีศึกษา
จุดผ่านแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์. มหาสารคาม: คณะมนุษยศาสตร์และ
สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี. (2545). ข้ามพรมแดนกับค�ำถามเร่ืsองอัตลักษณ์ วัฒนธรรม
พืน้ ทีแ่ ละความเปน็ ชาติ. วารสารสงั คมศาสตร,์ 15(1): 1–46.
ผจู้ ดั การออนไลน.์ (2548). “แพทยพ์ อ้ คนลาวเหอ่ แฟชน่ั ขา้ มโขงหาหมอไทย”. สบื คน้ เมอ่ื
17 มกราคม 2564, จาก https://mgronline.com/indochina/detail/9480000007698
พฒั นา กติ อิ าษา. (2545). คนขา้ มแดน: นาฏกรรมชวี ติ และการขา้ มพรมแดนในวฒั นธรรม
อีสาน. วารสารสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม,่ 15(1): 109–166.
พมิ ณทพิ า มาลาหอม และ พชิ ามญช์ุ ปนั ธยิ ะ. (2563). “ขอ้ มลู ทวั่ ไปจงั หวดั อบุ ลราชธาน”ี .
ใน จากประสบการณ์สงู่ านเขยี น รอ้ ยเรียงเร่อื งเลา่ ชายแดนไทย–ลาว–เมยี นมา,
พษิ ณรุ กั ษ์ กันทวี (บรรณาธกิ าร). เชียงใหม:่ วนิดาการพมิ พ.์
พษิ ณรุ กั ษ์ กันทวี (บรรณาธกิ าร). (2563). จากประสบการณ์สงู่ านเขียน ร้อยเรียงเรื่องเลา่
ชายแดนไทย–ลาว–เมยี นมา. เชยี งใหม:่ วนิดาการพิมพ์.
ไพรินทร์ ตันติวิชยานนท์. (2563). “สร้างเครือข่ายสุขภาพชายแดน ยกระดับสุขภาพ
ม่ันคง”. สบื คน้ เมือ่ 25 ธนั วาคม 2563, จาก https://researchcafe.org/border-
health-network-and-basic-health-services/
การศึกษาสถานการณ์และบริบททีเ่ ก่ียวข้องของพืน้ ทช่ี ายแดนประเทศตน้ ทาง (กมั พชู า และ สปป.ลาว) • 247
มัชฌมิ า รตั นวงษ์. (2558). ปจั จยั ในการดึงดูดการลงทุนไปท่ีประเทศกัมพูชา กรณีศึกษา
บรษิ ทั กรงุ เทพดสุ ติ เวชการ จำ� กดั (มหาชน). สารนพิ นธห์ ลกั สตู รเอเชยี ตะวนั ออก
เฉยี งใตศ้ กึ ษา. กรงุ เทพฯ: คณะศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ สบื คน้ เมอื่
17 พฤษภาคม 2564, จาก https://tdc.thailis. or.th/tdc/
แมนเฟรด็ สเตเกอร์. (2553). โลกาภวิ ตั น์: ความรฉู้ บับพกพา, วรพจน์ วงศก์ จิ รงุ่ เรือง
(แปล). กรุงเทพฯ: โอเพ่นเวลิ ดส์ .
โรงพยาบาลรวมแพทย์ (หมออนันต)์ . (ม.ป.ป.). “รพ.รวมแพทย์ หมออนนั ต์”. สืบค้นเมื่อ
25 ธันวาคม 2563, จาก https://www.facebook.com/281198128990352/
videos/2363311497254060/
วรรณรา ชื่นวัฒนา. (2560). การจัดการระบบสาธารณสุขชายแดนประเทศไทยกับ
ราชอาณาจกั รกมั พชู า. วารสารวชิ าการมหาวทิ ยาลยั ปทมุ ธาน,ี 9(2) (กรกฎาคม–
ธันวาคม): 165–174.
วารสารเทคโนโลยชี าวบา้ น. (2560). “สามหมน่ื กบี รกั ษาทกุ โรค ระบบประกนั สขุ ภาพใหม่
ลาว”. สบื คน้ เมอ่ื 14 พฤศจกิ ายน 2563, จาก https://www.technologychaoban.
com/bullet-news-today/article _31840
วิกพิ ีเดยี . (ม.ป.ป.). “ถนนสถติ นมิ านการ”. สืบค้นเม่อื 17 พฤษภาคม 2564, จาก https://
th.wikipedia.org › wiki › ถนนสถิตนมิ านการ
เวหา เกษมสุข. (2559). การจดั การศกึ ษาทางการพยาบาลและระบบบรกิ ารสาธารณสุข
ประเทศประชาคมอาเซยี น: กรณศี กึ ษาสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว.
วารสารพยาบาลต�ำรวจ, 8(1) (มกราคม–มิถนุ ายน): 204–215.
ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์ และคณะ. (2545). โครงการสารคดีลาวตอนล่าง สะหวันนะเขต
สาละวนั เซกอง จำ� ปาสกั และอตั ตะปอื : หา้ แขวงลาวตอนลา่ ง. รายงานการวจิ ยั
ฉบับสมบรู ณเ์ สนอตอ่ สำ� นักงานกองทุนสนบั สนนุ การวิจัย (สกว.).
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์. (2564). “สปป.ลาว ส่งเสริมพัฒนา
สาธารณสขุ ขน้ั พน้ื ฐาน แตย่ งั มปี ญั หาเรอ่ื งงบประมาณ”. สบื คน้ เมอื่ 17 พฤษภาคม
2564, จาก www.aseanthai.net/ewt_news.php?nid=11487&filename=ind
ศูนยข์ อ้ มลู ขา่ วอาเซยี น กรมประชาสมั พนั ธ.์ (2564). “สปป.ลาว เปิดดา่ นสากลแหง่ ใหม่
เชอื่ มเวยี ดนาม”. สบื คน้ เมอ่ื 17 มกราคม 2564, จาก http://www.aseanthai.net/
ศูนย์ข้อมูลข่าวอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์. (2560). “Medical Hub ยกระดับไทย
สู่ศนู ยก์ ลางสขุ ภาพโลก”. สืบค้นเม่ือ 6 ตุลาคม 2563, จาก www.aseanthai.net
ศูนย์บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์. (2562). ข้อมูลผู้ป่วย
ชาวตา่ งชาติระหวา่ งเดอื นตุลาคม ปี พ.ศ. 2561 ถึง กนั ยายน ปี พ.ศ. 2562.
248 • บริการสขุ ภาพข้ามแดนในจังหวดั อุบลราชธานแี ละใกล้เคยี งในเขตอสี านใต:้
ศนู ยว์ จิ ยั ธรุ กจิ และเศรษฐกจิ อสี าน มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . (2558). CLMVV Pulse ชพี จร
อาเซยี น พฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคประเทศลาว. ขอนแกน่ : ศนู ยว์ จิ ยั ธรุ กจิ และเศรษฐกจิ
อสี าน มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น.
สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต. (2564). “ชว่ ง 5 ปี (2559–2563) เศรษฐกจิ
แขวงจำ� ปาสกั มอี ตั ราการขยายตวั เฉลยี่ รอ้ ยละ 7.36”. สบื คน้ เมอื่ 17 พฤษภาคม
2564, จาก https://savannakhet.thaiembassy.org/th
สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5. (ม.ป.ป.). “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”. สืบค้นเมื่อ
13 ธนั วาคม 2563, จาก http://www1.tv5.co.th/service/mod/heritage/nation/
geography/geo6.htm
สมหมาย ชินนาค. (2562). “ปลา” กับ “เกลือ” วิถีวัฒนธรรมสายสัมพันธ์สองฟากฝั่ง
พนมดองแร็ก (อีสานใต้–กมั พูชา) กรณศี กึ ษา “สุรินทร–์ อดุ รมชี ยั –พระตะบอง”
ในมติ ิเชงิ มานุษยวทิ ยาและประวัติศาสตร.์ อบุ ลราชธานี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย
อุบลราชธานี.
สยามรัฐออนไลน์. (2559). “เยือนลาวใต้ชมหอศิลปวัฒนธรรมประจ�ำแขวงจ�ำปาสัก”.
สืบคน้ เมอื่ 13 ธนั วาคม 2563, จาก https://siamrath.co.th/n/2826
สํานักงานวิจัยเพ่ือการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) และเครือสถาบันวิจัย
ระบบสาธารณสุข (สวรส.). (2555). รายงานฉบบั สมบรู ณ์การใชบ้ ริการสขุ ภาพ
ของผ้ปู ่วยชาวลาวในประเทศไทย: กรณีศกึ ษาผลกระทบต่อโรงพยาบาลรฐั ของ
ประเทศไทย.
ส�ำนักขา่ ว Hfocus เจาะลึกระบบสขุ ภาพ. (2555). “ร.ร.แพทย์ 10 ชาติอาเซียน ประเดิม
ถกหลักสตู รร่วม”. สืบคน้ เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2563, จาก https://www.hfocus.
org/content/2012/09/1234
ส�ำนกั ขา่ ว Hfocus เจาะลกึ ระบบสุขภาพ. (2558). “ธรุ กิจสุขภาพ ‘กัมพชู า’”. สืบค้นเมอ่ื
17 พฤษภาคม 2564, จาก https://www.hfocus.org/content/2015/08/1063
สำ� นกั ขา่ ว Hfocus เจาะลกึ ระบบสขุ ภาพ. (2562). “จำ� นวนบคุ ลากรสาธารณสขุ ตอ่ ประชากร
1,000 คน ของไทยและอาเซียน”. สืบค้นเม่ือ 17 พฤษภาคม 2564, จาก
https://www.hfocus.org/content/2019/03/16922
ส�ำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์. (2561). “จ.สุรินทร์ เสนองบพัฒนาโรงพยาบาลกว่า
561 ล้านบาท ผลกั ดนั ให้ จ.สรุ นิ ทร์ เปน็ ศูนย์บริการทางการแพทย์”. สืบคน้ เมือ่
17 พฤษภาคม 2564, จาก https://thainews.prd.go.th