The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by กฤติยา พลหาญ, 2022-05-15 11:50:54

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม

๙๙

โครงสร้างรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว๒๒๑๐๑
๓ ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น ๑.๕ หนว่ ยกติ

หน่วยการเรียนรู้ หน่วยยอ่ ยการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง
๑. ระบบร่างกายมนุษย์
-ระบบหายใจ ๖
(๓๐ ชั่วโมง) -ระบบขับถา่ ย ๖
-ระบบหมนุ เวยี นเลือด ๖
๒. การแยกสารผสม -ระบบประสาท ๖
(๑๒ ชั่วโมง) -ระบบสืบพันธ์ุ ๖

๓. สารละลาย -การระเหยแห้ง ๒
(๑๘ ช่วั โมง) -การตกผลึก ๒
-การกลัน่ ๓
-โคมมาโทรกราฟีแบบกระดาษ ๒
-การสกดั ด้วยตวั ทาละลาย ๓

-สารละลาย ๓
-สภาพละลายไดข้ องสาร ๓
-ความเขม็ ขน้ ของสารละลาย ๑๐
-การใชส้ ารละลายในชวี ิตแระจาวัน ๒

รวม ๖๐

๑๐๐

ตัวช้วี ัดวิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว๒๒๑๐๑

คะแนนทปี่ ระเมิน

ข้อที่ ตวั ชว้ี ัด
่กอนกลางภาค
กลางภาค

หลังกลางภาค
คุณลักษณะ ัอน
ึพงประสงค์
สอบปลายภาค
คะแนนรวม

๑ อธิบายกลไก ตระหนักถึงความสาคัญ ระบุอวัยวะ ๔ ๔ - - ๑ ๙

ทดลองและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะท่ีเก่ียวข้องกับ

การหายใจ

๒ ตระหนักถึงความสาคัญ ระบุอวัยวะและบรรยาย ๔ ๔ - - ๑ ๙

หน้าท่ีของอวัยวะในระบบขับถ่าย ในการกาจัดของ

เสยี งทางไต

๓ อธิบาย ตระหนักถึงความสาคัญ ทดลองของระบบ ๔ ๔ - - ๑ ๙

หมุนเวียนเลือด หน้าที่ของหัวใจ หลอดเลือด และ

เลือด

๔ อธิบาย ตระหนักถึงความสาคัญ และหน้าที่เกี่ยวกับ ๔ ๔ - - ๑ ๙

อวัยวะในระบบประสาท

๕ อธิบาย ตระหนักถึงความสาคัญ หน้าที่ต่างๆ ของ ๔ ๔ - - ๑ ๙

อวัยวะในระบบสบื พนั ธ์ุของเพศหญิงและเพศชาย

๖ อธิบายการแยก สารผสมโดยการระเหยแห้ง การตก - - ๕ - ๖ ๑๑

ผลกึ การกลน่ั อยา่ งงา่ ย โครมาโทกราฟแี บบกระดาษ

การสกดั ดว้ ยตวั ทาละลาย

๗ แยกสารผสมโดยการระเหยแหง้ การตกผลกึ การกลนั่ - - ๕ - ๖ ๑๑

อยา่ งง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกดั ดว้ ย

ตวั ทาละลาย สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้

๘ ออกแบบการทดลองและทดลองในการอธบิ ายผลของ - - ๕ - ๖ ๑๑

ชนดิ ตวั ละลาย ชนิดตวั ทาละลาย อุณหภูมิที่มีตอ่

สภาพละลายไดข้ องสาร รวมท้ังอธบิ ายผลของความดัน

ทม่ี ตี ่อสภาพละลายได้ของสาร

๙ ระบปุ ริมาณตัวละลายในสารละลาย ในหนว่ ยความ - - ๕ - ๗ ๑๒

เข้มข้นเป็นร้อยละปรมิ าตรต่อปริมาตร มวลตอ่ มวล

และมวลต่อปริมาตร และสามารถนาความรไู้ ปใช้ใน

ชีวติ ประจาวันได้

๑๐ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - - - ๑๐ - ๑๐

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๐๑

โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว๒๒๑๐๒
๓ ช่วั โมง/สปั ดาห์ ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกิต

หนว่ ยการเรยี นรู้ หน่วยยอ่ ยการเรียนรู้ จานวนช่วั โมง

๑. แรงและการเคลือ่ นที่ - แรงดันในของเหลว ๒

(๑๘ ชั่วโมง) - แรงพยงุ ๒

- แรงเสยี ดทาน ๒

- โมเมนตข์ องแรง ๓

- แรงในธรรมชาติ ๓

- ระยะทางและการกระจดั ๒

- อตั ราเรว็ ๒

- ความเร็ว ๓

๒. งานและพลังงาน - งาน ๔

(๑๒ ชวั่ โมง) - กาลงั ๒

- เครือ่ งกล ๒

- ประเภทของพลังงาน ๒

- กฎการอนรุ ักษ์พลังงาน ๑

๓. โลกและการเปลีย่ น แปลง - ถา่ นหิน
๖๐
(๓๐ ชวั่ โมง) - หนิ นา้ มนั

- ปโิ ตรเลียม

- โครงสรา้ งของโลก

- การเปลี่ยนแปลงของโลก

- กระบวนการเกดิ ดิน

- หนา้ ตดั ข้างของดิน

- ปัจจยั ในการเกดิ ดิน

- สมบัตขิ องดิน

- การปรับปรุงคุณภาพของดิน

- น้าบนดนิ

- นาใต้ดิน

- การใชป้ ระโยชน์จากแหล่งน้าบนดนิ และน้าใต้

ดิน

- ภยั พิบัติท่ีเกิดจากน้า

รวม

๑๐๒

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว๒๒๑๐๒

คะแนนทป่ี ระเมิน

ข้อท่ี ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้รายวิชา ่กอนกลางภาค
กลางภาค

หลังกลางภาค
คุณลักษณะ ัอน
ึพงประสงค์
สอบปลายภาค
คะแนนรวม

๑ พยากรณ์ เขียนแผนภาพ การเคลือ่ นทีข่ องวตั ถุท่ี ๒ ๒ - - ๑ ๕

เปน็ ผลของแรงลัพธท์ ีเ่ กิดจากแรงหลายแรงท่ี

กระทาต่อวัตถุ

๒ ออกแบบการทดลอง วิเคราะห์ และอธิบายปจั จัย ๒ ๒ - - ๑ ๕

ทีม่ ผี ลต่อความดันของของเหลว แรงพยุงและการ

จม การลอยของวัตถุในของเหลว

๓ อธิบายแรงเสียดทานสถติ และแรงเสียดทานจลน์ ๒ ๒ - - ๑ ๕

๔ อธบิ าย ทดลอง ปจั จยั ท่ีมีผลต่อขนาดของแรง ๒ ๒ - - ๑ ๕

เสยี ดทาน และ

สามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ได้

๕ อธบิ าย ทดลองโมเมนตข์ องแรงเม่อื วัตถอุ ยใู่ น ๒ ๒ - - ๑ ๕

สภาพสมดุล

ต่อการหมนุ และคานวณได้

๖ วิเคราะห์ เปรยี บเทียบแหลง่ ของสนามแมเ่ หลก็ ๒ ๒ - - ๑ ๕

สนามไฟฟ้าและสนามโน้มถ่วง และทิศทางของ

แรงทีก่ ระทาตอ่ วตั ถุทอ่ี ยู่ในแต่ละสนาม

๗ อธิบายและคานวณอตั ราเร็วและความเรว็ ของการ ๒ ๒ - - ๑ ๕

เคลือ่ นทีข่ องวตั ถุ โดยใช้สมการ V  s และ
t
s
 
V t

๘ อธบิ าย วเิ คราะห์ คานวณเก่ยี วกบั งาน และกาลัง ๒ ๒ - - ๑ ๕

จาก W=Fs

และ p  W

t

๙ วเิ คราะหห์ ลกั การทางานของเครือ่ งกลอยา่ งงา่ ย ๒ ๒ - - ๑ ๕

และสามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

๑๐ อธิบายการเปล่ยี นพลังงานระหวา่ งพลงั งานศกั ย์ ๒ ๒ - - ๑ ๕

โน้มถว่ งและพลงั งานจลนข์ องวัตถโุ ดยพลังงานกล

ของวตั ถุมคี ่าคงท่ี และการถ่ายโอนพลังงาน

๑๐๓

๑๑ อธบิ ายผลจากการใช้เช้อื เพลิงจากซากดกึ ดาบรรพ์ - - ๕ - ๕ ๑๐

และพลงั งานทดแทนทเ่ี หมาะสมในทอ้ งถ่นิ

๑๒ อธบิ ายโครงสร้างภายในโลก การเปลย่ี นของโลก - - ๕ - ๕ ๑๐

จากกระบวนการต่างๆ เชน่ การผุพงั อยู่กับท่ี การ

กรอ่ น

๑๓ อธบิ ายลักษณะของชน้ั หน้าตดั และกระบวนการ - - ๕ - ๕ ๑๐

เกิดดนิ สมบัติของดิน และสามารถนาไปใช้

ประโยชนไ์ ด้

๑๔ อธิบายเกยี่ วกบั แหล่งนา้ ตา่ งๆ และการนาไปใช้ - - ๕ - ๕ ๑๐

ประโยชน์

๑๕ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - - - ๑๐ - -

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๐๔

โครงสร้างรายวิชาวิทยาการคานวณและการออกแบบ๒ รหัสวิชา ว๒๒๑๘๒
๒ ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน ๑.๐ หน่วยกติ

หนว่ ย ชื่อหนว่ ยการเรยี น สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
ท่ี (ชัว่ โมง) คะแนน

๑ แนวคดิ เชงิ คานวณ ๑.๑ การแบง่ ปัญหาใหญเ่ ปน็ ปญั หาย่อย ๘ ๑๐
๑.๒ การพจิ ารณารูปแบบ ๑๖
๑.๓ การคิดเชงิ นามธรรม ๖ ๑๕
๑.๔ การออกแบบอัลกอริทึม ๖ ๒๐
๔ ๑๐
๑.๕ กรณีศกึ ษา
๔๐ ชม. ๑๐
๒ การแกป้ ัญหาด้วย ๓.๑ ฟังกช์ นั
Scratch ๓.๒ ตวั ดาเนนิ การบลู ีน ๕

๓.๓ การรบั คา่ และส่งค่าให้ฟังกช์ นั ๒๐
๑๐๐
** สอบกลางภาค **

๓ หลกั การทางานของ หลักการทางานของระบบคอมพวิ เตอร์
ระบบ ๔.๑ องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์
๔.๒ หลกั การทา งานของระบบคอมพิวเตอร์

๔.๓ ซอฟต์แวร์ประยุกต์

๔ เทคโนโลยกี ารส่ือสาร ๕.๑ องคป์ ระกอบของการส่อื สาร
๕.๒ เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
๕.๓ อนิ เทอร์เน็ต

๕.๔ บริการบนอนิ เทอร์เนต็
๕.๕ คลาวด์คอมพวิ ตงิ

๕ การใช้เทคโนโลยี ๖.๑ แนวทางปฏบิ ัติเมื่อพบเน้อื หาท่ไี ม่
สารสนเทศอยา่ งมีความ เหมาะสม

รบั ผิดชอบ ๖.๒ ผลกระทบการเผยแพรข่ อ้ มูลทไี่ ม่
เหมาะสม
๖.๓ แนวทางการพจิ ารณาเน้อื หาก่อน
เผยแพร่ขอ้ มูล

๖.๔ การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็น

เจา้ ของผลงาน
๖.๕ มารยาทในการตดิ ตอ่ สื่อสาร

** สอบปลายภาคภาค **

รวม

๑๐๕

ผลการเรียนรู้วิชาวทิ ยาการคานวณและการออกแบบ๒ รหสั วชิ า ว๒๒๑๘๒
คะแนนทีป่ ระเมนิ

ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนร้รู ายวิชา
้ขอที่
คะแนน ่กอนกลางภาค
คะแนนสอบกลางภาค
คะแนนหลังกลางภาค
่กคุอณน ัลกกล่ษงภณาะคท่ีพึงประสง ์ค
คะแนนสอบปลายภาค
รวมคะแนนท้ังหมด

๑ แนวคิดเชงิ คานวณ ๑๐ ๑๐ ๒๐

๒ การแก้ปัญหาด้วย Scratch ๑๕ ๑๐ ๒๕
๓ หลกั การทางานของระบบ ๑๐ ๕ ๑๕
๔ เทคโนโลยีการสอ่ื สาร ๑๐ ๑๐ ๒๐
๕ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมคี วาม ๕ ๕ ๑๐

รบั ผิดชอบ ๒๕ ๒๐ ๒๕ ๑๐ ๒๐ ๑๐๐

รวม

๑๐๖

ผลการเรียนรู้ วชิ าคอมพวิ เตอร์๒ รหัสวิชา ว๒๒๒๘๑
คะแนนที่ประเมิน

ตวั ช้ีวัดผลการเรยี นรูร้ ายวชิ า/
ข้อ ่ีท
คะแนนก่อนกลางภาค
คะแนนสอบกลางภาค
คะแนนหลังกลางภาค
ุคณลักษ ่กณอะน ่ีทกพึ ่ลงงปภราะคสง ์ค
คะแนนสอบปลายภาค
รวมคะแนน ั้ทงหมด

๑ มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับความหมาย ๕๕
บทบาทและความสาคญั ของภาษา HTML

๒ สามารถเขยี นโปรแกรมภาษา HTML ได้ ๑๐ ๕

อยา่ งถูกต้อง ตามโครงสรา้ งของภาษา HTML

๓ มีความร้คู วามเข้าใจเก่ียวกบั การสร้างเว็บไซต์ ๕ ๕ ๕
ด้วยโปรแกรม Dreamweaver และโปรแกรม ๕ ๕ ๕
อ่ืนๆ ท่ีมคี วามสามารถดา้ นงานเวบ็ ไซต์
๑๐
๔ สามารถสืบค้นขอ้ มลู และหาความรเู้ ก่ยี วกบั
การสรา้ งเว็บไซตจ์ ากอินเตอรเ์ น็ต
และนาความรู้ มาประยกุ ต์ในการสร้างเว็บไซต์
อยา่ งสร้างสรรค์

๕ ปฏิบตั กิ ารสร้างชิ้นงานเว็บไซต์ ด้วยโปรแกรม
Dreamweaver ไดอ้ ย่างชานาญ

๖ สร้างช้ินงานเวบ็ ไซตด์ ้วยความเสียสละ ขยัน ๑๐ ๕

ประหยดั ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ยั มุ่งมั่นในการทางาน

และมีความพอเพยี ง

๗ นาเสนองานการออกแบบเวบ็ ไซตท์ ส่ี รา้ งขึน้ ใน ๕๕

รปู แบบทเ่ี หมาะสมตรงกับวัตถุประสงค์ของ

งาน

รวม ๒๕ ๒๐ ๒๕ ๑๐ ๒๐ ๑๐


๑๐๗

โครงสรา้ งรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ วิชาคอมพวิ เตอร์๒ รหสั วชิ า ว๒๒๒๘๑
๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน ๑.๐ หน่วยกติ

ลาดบั ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
(ช่ัวโมง) คะแนน
ที่
๒ ๑๐
๑ หลกั การออกแบบ การออกแบบ คอื กิจกรรมการแกป้ ัญหาเพอื่ ให้
๒ ๑๐
ผลิตภัณฑ์ บรรลตุ ามเป้าหมายหรอื จุดประสงคท์ ตี่ ั้งไว้ เปน็
๖ ๑๐
การกระทาของมนุษย์ ดว้ ยจุดประสงคท์ ี่ตอ้ งการ ๑๐ ๒๐
๒๐ ๓๐
แจง้ ผลเป็นสิ่งใหม่ๆ มที ง้ั ที่ออกแบบเพ่อื สรา้ งขน้ึ
๒๐
ใหมใ่ ห้แตกต่างจากของเดิมหรือปรับปรงุ ตกแต่ง ๔๐ ๑๐๐

ของเดมิ

๒ ความรูเ้ บื้องตน้ Google SketchUp เป็นซอฟตแ์ วร์

เก่ียวกบั โปรแกรม ที่ใช้สาหรบั การสร้างโมเดล ๓ มิติ (๓D) ทม่ี ี

Google SketchUp เครื่องมอื พน้ื ฐานตา่ งๆ เพียงพอกับ การใชง้ าน

ของผใู้ ช้ระดบั เบอ้ื งตน้ ทีต่ อ้ งการจะสร้างงาน

แบบ ๓ มิติ

๓ ส่วนประกอบของ เครอ่ื งมือต่างๆ ของโปรแกรมจะแยกเปน็ ชดุ ตาม

โปรแกรมและกลุม่ ลักษณะการใช้งาน โดยสามารถปรบั เปลย่ี นส่วน

เครอื่ งมอื ตา่ งๆ ท่ปี รากฏบนหนา้ จอไดต้ ามความเหมาะสม

กับการทางาน เพ่อื ใหง้ ่ายตอ่ การใชง้ าน

๔ การใชง้ านกลุ่ม Google SketchUp มีชดุ เครอื่ งมือท่แี บง่ เป็น

เครื่องมอื ของ หมวดหมู่ มคี วามยดื หยุน่ ตอ่ การปรับเปลย่ี น

โปรแกรม สว่ นประกอบตา่ งๆ ทาใหส้ ามารถออกแบบและ

สรา้ งงานไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว

๕ การออกแบบและ Google SketchUp เปน็ โปรแกรมทใี่ ช้สร้าง

ตกแตง่ ชิน้ งาน รูปทรง ๓ มติ ิสาหรับการสรา้ งงานเชงิ

สถาปัตยกรรม สามารถสรา้ งแบบร่างตาม

จนิ ตนาการ ออกแบบและสร้างโมเดลเปน็ รูปร่าง

ตา่ ง ๆ เปน็ งานแอนเิ มช่นั และภาพนงิ่

ได้ Export ชิน้ งานเปน็ โมเดล ๓ มติ ไิ ด้

หลากหลายรปู แบบ

สอบปลายภาค

รวมตลอดปี / ภาค

๑๐๘

โครงสร้างรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว๒๓๑๐๑
๓ ช่วั โมง/สัปดาห์ ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน ๑.๕ หนว่ ยกติ

หน่วยการเรียนรู้ หน่วยยอ่ ยการเรียนรู้ จานวนชว่ั โมง
๑. แสง
(๑๕ช่วั โมง) ๑. ธรรมชาตขิ องแสง ๑
๒. ความสว่าง ๒
๒. ปฏิกริ ยิ าเคมี ๓. สมบตั ิของแสงเชิงเรขาคณิต ๕
(๑๖ชวั่ โมง) ๔. เลเซอร์ ๒
๕. ทัศนูปกรณ์ ๒
๓. พลงั งานไฟฟา้ ๗. นยั น์ตาและการมองเห็น ๓
(๑๕ชว่ั โมง)
๔. อิเลก็ ทรอนิกสเ์ บ้อื งต้น ๑. ความหมายของธาตุและสมบัติบางประการของธาตุ ๓
(๙ช่วั โมง) ๒. อะตอมและโมเลกลุ ของสาร ๔
๓. กรด -เบส ๔
๔. ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในชวี ิตประจาวัน ๓
๕. พอลเิ มอร์และวสั ดุผสม ๒

๑. วงจรไฟฟา้ เบ้อื งตน้ ๓
๒. วงจรไฟฟ้าในบ้าน ๖
๓. พลังงานไฟฟ้าและกาลงั ไฟฟ้า ๖

๑. อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกสเ์ บ้อื งตน้ ๓
๒. วงจรอเิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละการต่อวงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ๓
๓. วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจาวนั ๓

รวม ๕๕

หมายเหตุ

๑. ปฐมนิเทศและทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑ ชัว่ โมง

๒. สอบกลางภาคเรียน ๒ ชวั่ โมง

๓. สอบปลายภาคเรยี น ๒ ช่ัวโมง

รวมเวลาทงั้ หมด ๖๐ ชว่ั โมง

๑๐๙

ตัวชวี้ ัดวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว๒๓๑๐๑

คะแนนทีป่ ระเมิน
ข้อท่ี ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้รายวิชา
่กอนกลางภาค
กลางภาค

หลังกลางภาค
ุคณลักษณะอัน
พึงประสง ์ค

ปลายภาค
รวมคะแนน

ท้ังหมด

ระบุสมบัตทิ างกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภท ๑ ๑ ๒

๑ พอลิเมอร์เซรามกิ และวสั ดุผสมโดยใชห้ ลกั ฐานเชิง ๔

ประจกั ษแ์ ละสารสนเทศ ๔

ตระหนักถงึ คณุ ค่าของการใช้วสั ดุประเภทพอลเิ มอร์ เซรา ๒ ๒ ๔

๒ มิกและวัสดผุ สม โดยเสนอแนะแนวทางการใช้วัสดอุ ย่าง ๔

ประหยัดและคุ้มค่า ๖

อธิบายการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมีรวมถงึ การจัด เรยี งตวั ใหม่ ๒ ๒ ๒๔

๓ ของอะตอมเมอื่ เกิดปฏกิ ิริยาเคมโี ดยใชแ้ บบจาลองและ

สมการข้อความ

๔ อธบิ ายกฎทรงมวลโดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ ๑๑

อธบิ ายปฏกิ ริ ิยาการเกิดสนมิ ของเหล็กปฏิกิรยิ าของกรด ๒ ๒

กับโลหะปฏกิ ิริยาของกรดกบั เบส และปฏกิ ิรยิ าของเบส

๕ กบั โลหะโดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์และอธิบายปฏกิ ริ ิยา
การเผาไหมก้ ารเกดิ ฝนกรดการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง โดย

ใชส้ ารสนเทศรวมทั้งเขยี นสมการข้อความแสดงปฏกิ ิริยา

ดงั กล

ระบุประโยชน์และโทษของปฏิกริ ิยาเคมีทีม่ ตี อ่ สิ่งมชี วี ติ ๒ ๒

๖ และสิง่ แวดล้อม และยกตวั อย่างวธิ ีการป้องกันและ
แก้ปญั หาทีเ่ กิดจากปฏกิ ิริยาเคมีทีพ่ บในชวี ิตประจาวัน

จากการสืบค้นขอ้ มูล

ออกแบบวธิ แี กป้ ัญหาในชวี ิตประจาวันโดยใช้ ๒๒

๗ ความรูเ้ กีย่ วกบั ปฏิกริ ิยาเคมีโดยบูรณาการวิทยาศาสตร์

คณิตศาสตรเ์ ทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์

๘ วิเคราะหป์ ฏกิ ริ ยิ าดูดความร้อนและปฏกิ ริ ยิ าคายความ ๒ ๒
รอ้ นจากการเปล่ียนแปลงพลงั งานความรอ้ นของปฏกิ ริ ิยา

วเิ คราะห์ความสัมพันธร์ ะหว่างความตา่ งศกั ย์กระแสไฟฟ้า ๓ ๓

๑๐ และความตา้ นทานและคานวณปรมิ าณทเ่ี ก่ียวขอ้ งโดยใช้

สมการ V=IR จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์

๑๑ เขยี นกราฟความสมั พนั ธ์ระหว่างกระแสไฟฟา้ และความ ๒๒
ตา่ งศักยไ์ ฟฟ้า

๑๒ ใชโ้ วลตม์ ิเตอร์แอมมเิ ตอร์ในการวัดปริมาณทางไฟฟ้า ๒

๑๑๐

วิเคราะหค์ วามต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าและกระแสไฟฟา้ ๒ ๒๔

๑๓ ในวงจรไฟฟ้าเมื่อต่อตวั ต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมและ

แบบขนานจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์

๑๔ เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตัวตา้ นทาน ๒ ๒๔
แบบอนุกรมและขนาน

๑๕ บรรยายการทางานของชน้ิ ส่วนอิเลก็ ทรอนิกส์อย่างงา่ ยใน ๑ ๑๒
วงจรจากข้อมูลทรี่ วบรวมได้

๑๖ เขียนแผนภาพและตอ่ ชน้ิ สว่ นอิเลก็ ทรอนิกส์อย่างง่ายใน ๑ ๑๒
วงจรไฟฟา้

๑๗ อธิบายและคานวณพลงั งานไฟฟา้ โดยใชส้ มการ W=Pt ๒ ๒๔
รวมท้ังคานวณคา่ ไฟฟา้ ของเครอื่ งใช้ไฟฟา้ ในบ้าน

ตระหนกั ในคุณคา่ ของการเลือกใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ๒ ๒๔

๑๘ โดยนาเสนอวธิ กี ารใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และ

ปลอดภัย

๑๙ ออกแบบการทดลองและดาเนนิ การทดลอง ๒ ๒๔
ด้วยวธิ ที ี่เหมาะสมในการอธบิ ายกฎการสะทอ้ นของแสง

๒๐ เขยี นแผนภาพการเคลือ่ นท่ีของแสงแสดงการเกดิ ภาพจาก ๑ ๒๓
กระจกเงา

อธบิ ายการหักเหของแสงเมอ่ื ผา่ นตวั กลางโปร่งใสท่ี ๑ ๒๓

๒๑ แตกตา่ งกันและอธิบายการกระจายแสงของแสงขาวเม่ือ

ผ่านปรซิ ึมจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์

๒๒ เขียนแผนภาพการเคล่ือนท่ีของแสง แสดงการเกิดภาพ ๑ ๒๓
จากเลนส์บาง

๒๓ อธบิ ายปรากฏการณ์ท่เี ก่ยี วกับแสง และการทางานของ ๑ ๒๓
ทัศนอปุ กรณจ์ ากขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้

๒๔ เขยี นแผนภาพการเคล่อื นท่ีของแสงแสดงการเกิดภาพของ ๑ ๒๓
ทัศนอปุ กรณแ์ ละเลนสต์ า

๒๕ อธบิ ายผลของความสวา่ งท่มี ตี ่อดวงตาจาก ๑ ๒๓
ขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการสบื ค้น

๒๖ วัดความสว่างของแสงโดยใช้อปุ กรณว์ ดั ความสว่างของ ๒๓
แสง

ตระหนักในคุณคา่ ของความรเู้ ร่ือง ความสว่างของแสงท่มี ี ๒๓

๒๗ ต่อดวงตาโดยวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและเสนอแนะ

การจดั ความสว่างให้เหมาะสมในการทากจิ กรรมต่าง ๆ

๒๗ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๐ ๑๐

รวมคะแนนท้ังหมด ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๑๑

โครงสรา้ งรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว๒๓๑๐๒
๓ ช่วั โมง/สัปดาห์ ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น ๑.๕ หน่วยกติ

หนว่ ยการเรียนรู้ หนว่ ยยอ่ ยการเรยี นรู้ จานวนชั่วโมง

๑. ปฏสิ มั พันธ์ในระบบ - ปรากฎการณ์ท่ีเกดิ จากโลกหมุนรอบตนเอง ๒
- ปรากฎการณท์ ี่เกิดจากโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ๒
สรุ ิยะ - ปรากฎการณ์ท่ีเกดิ ขึ้นในระบบโลก ดวงจันทร์ และ ๒
(๘ชั่วโมง)

ดวงอาทติ ย์

- ดาวเคราะห์ในระบบสรุ ยิ ะ ๑

- พฒั นาการของแบบจาลองระบบสรุ ิยะ ๑

๒. ดวงดาวบนท้องฟ้า - การบอกตาแหนง่ ของวตั ถทุ ้องฟา้ ๒
(๔ชว่ั โมง) - กลุ่มดาว ๒

๓. เทคโนโลยีอวกาศ - กลอ้ งโทรทรรศน์ ๑
(๕ชั่วโมง) - ดาวเทียมและยานอวกาศ ๒

- การใช้ชีวิตในอวกาศ ๑

๔. ระบบนิเวศ - ความสมั พันธ์ของสิ่งมีชวี ติ กบั สิง่ แวดลอ้ ม ๒
(๑๔ช่ัวโมง) - การถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ ๓

- ความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมชี ีวิตในระบบนิเวศ ๓

- วัฏจกั รของสารในระบบนิเวศ ๒

- ความหลากหลายทางชีวภาพ ๒

- ประชากร ๒

๕. มนษุ ย์กับส่งิ แวดล้อม - ปญั หาส่งิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาตใิ นท้องถิ่น ๓

(๕ชวั่ โมง) - การใชท้ รัพยากรธรรมชาตอิ ย่างย่ังยืน

๖. การถ่ายทอดลักษณะ - ลักษณะทางพันธุกรรม ๒

ทางพนั ธุกรรม - โครโมโซม ดีเอน็ เอ และยีน ๔

(๑๕ชั่วโมง) - กระบวนการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม ๓

- ความผิดปกตทิ างพนั ธุกรรม ๔

- การใชป้ ระโยชนจ์ ากการใช้ความรูด้ า้ นพันธุศาสตร์ ๒

๗. คล่ืน - คลนื่ กล ๓
(๖ชัว่ โมง) - คลื่นแม่เหลก็ ไฟฟา้ ๓
๕๕
รวม

หมายเหตุ

๑. ปฐมนิเทศและทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑ ช่วั โมง ๒. สอบกลางภาคเรียน ๒ ชัว่ โมง

๓. สอบปลายภาคเรียน ๒ ช่ัวโมง รวมเวลาท้งั หมด ๖๐ ช่วั โมง

๑๑๒

ตวั ชีว้ ัดวชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว๒๓๑๐๒

คะแนนที่ประเมิน
ขอ้ ที่ ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนร้รู ายวิชา
่กอนกลางภาค
กลางภาค

หลังกลางภาค
ุคณลักษณะอัน
พึงประสง ์ค

ปลายภาค
รวมคะแนน

ท้ังหมด

๑ เปรยี บเทยี บความหลากหลายทางชวี ภาพ ในระดบั ชนดิ ๒ ๒ ๔

สง่ิ มชี ีวิตในระบบนิเวศต่างๆ ๔

๒ อธิบายความสาคญั ของความหลากหลายทางชวี ภาพทม่ี ี ๒ ๒ ๔

ต่อการรักษาสมดลุ ของระบบนเิ วศ และต่อมนษุ ย์

แสดงความตระหนกั ในคณุ ค่าและความสาคญั ของความ ๒ ๒ ๔
๒๖
หลากหลายทางชีวภาพโดยมีสว่ นร่วมในการดูแลรกั ษา
๑๗
ความหลากหลายทางชวี ภาพ
๓๙
๓ อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างยนี ดเี อน็ เอ และโครโมโซม ๒ ๒
๓๙
โดยใชแ้ บบจาลอง

๔ อธิบายการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมจาก ๒๒

การผสมโดยพิจารณาลักษณะเดยี วทแี่ อลลีลเดน่

ขม่ แอลลีลด้อยอย่างสมบรู ณแ์ ละกระบวนการถา่ ยทอด

ลักษณะทางพนั ธกุ รรม

๕ อธิบายการเกดิ จีโนไทป์และฟโี นไทป์ของลกู และคานวณ ๒ ๒

อัตราสว่ นการเกดิ จโี นไทป์และฟีโนไทปข์ องรุ่นลู

๖ อธบิ ายความแตกต่างของการแบง่ เซลลแ์ บบไมโทซิสและ ๒ ๒

ไมโอซิส

๗ บอกได้วา่ การเปลย่ี นแปลงของยนี หรือโครโมโซม ๒๒

อาจทาใหเ้ กิดโรคทางพนั ธกุ รรมพรอ้ มทง้ั ยกตวั อยา่ งโรค

ทางพันธุกรรม

๘ ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องความรูเ้ รอื่ งโรคทางพนั ธกุ รรม ๒ ๒ ๒

โดยรวู้ ่ากอ่ นแตง่ งานควรปรกึ ษาแพทย์เพ่ือตรวจและ

วินิจฉยั ภาวะเส่ียงของลกู ทอี่ าจเกดิ โรคทางพันธุกรรม

๙ อธิบายการใชป้ ระโยชนจ์ ากส่ิงมชี วี ติ ดัดแปรพันธุกรรม ๒ ๒ ๒

และผลกระทบที่อาจมีต่อมนษุ ย์และสิง่ แวดล้อมโดยใช้

ขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้

๑๐ ตระหนกั ถึงประโยชนแ์ ละผลกระทบของสงิ่ มีชีวิตดัดแปร ๒ ๒ ๒

พนั ธกุ รรมที่อาจมตี อ่ มนุษย์และส่งิ แวดลอ้ มโดยการ

เผยแพร่ความรทู้ ไี่ ด้จากการโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ ซงึ่ มี

ข้อมูลสนบั สนนุ

๑๑๓

๑๑ อธบิ ายการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทิตย์ด้วยแรง ๒ ๓๕
โน้มถ่วงจากสมการ F=(Gm1m2/r2)

๑๒ สรา้ งแบบจาลองที่อธิบายการเกดิ ฤดูและการเคลื่อนท่ี ๒ ๓๕

ปรากฏของดวงอาทิตย์

๑๓ สรา้ งแบบจาลองทอี่ ธิบายการเกิดขา้ งขึ้นขา้ งแรม การ ๒ ๓๕

เปลย่ี นแปลงเวลาการขนึ้ และตกของดวงจันทร์และการ

เกิดนา้ ขนึ้ น้าลง

๑๔ อธิบายการใชป้ ระโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศและ ๒ ๓๕

ยกตวั อยา่ งความก้าวหนา้ ของโครงการสารวจอวกาศ จาก

ข้อมลู ที่รวบรวมได้

๑๕ สร้างแบบจาลองท่ีอธิบายการเกดิ คลน่ื และบรรยาย ๒ ๓๕

สว่ นประกอบของคลืน่

๑๖ อธบิ ายคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และสเปกตรมั คลื่น ๒ ๓๕

แมเ่ หล็กไฟฟ้าจากข้อมูลทรี่ วบรวมได้

๑๗ ตระหนักถงึ ประโยชน์และอนั ตรายจากคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ ๒ ๓๕

โดยนาเสนอการใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นตา่ งๆ

๑๘ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑๐ ๑๐

รวมคะแนนท้ังหมด ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๑๔

ตัวช้ีวัด วชิ าวิทยาการคานวณและการออกแบบ๓ ว๒๓๑๘๓
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๑
คะแนนทปี่ ระเมิน

ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรูร้ ายวิชา
้ขอ ่ีท
ราย ้ขอก่อนก่อนกลาง

สอบกภลาาคงภาค
ราย ้ขอหลังกลางภาค
ุคณลักษณะ ่ีทพึงประสง ์ค

สอบปลายภาค
รวมคะแนน ่ัทงหมด

๑ บอกความหมายและความสาคัญของการออกแบบ ๕ ๔ ๑ ๑๐

ผลิตภัณฑ์ได้

๒ บอกประโยชนแ์ ละเลอื กใช้ซอฟต์แวรใ์ นการออกแบบ ๕ ๔ ๑ ๑๐

ผลติ ภัณฑไ์ ด้

๓ บอกความหมายและประโยชนข์ องโปรแกรมGoogle ๕ ๔ ๑ ๑๐

Sketch upได้

๔ อธบิ ายสว่ นประกอบตา่ งๆของโปรแกรมGoogle ๕ ๔ ๑ ๑๐

Sketch up ได้

๕ อธิบายการทางานเบอ้ื งตอนของโปรแกรม Google ๕ ๔ ๑ ๑๐

Sketch up ได้

๖ อธบิ ายเครอื่ งมือพื้นฐานของโปรแกรม Google ๒ ๑ ๕๘

Sketch up ได้

๗ บอกข้นั ตอนการสร้างโมเดลบนโปรแกรม Google ๓ ๑ ๕๙

Sketch upได้

๘ สรา้ งชน้ิ งานโมเดลด้วยโปรแกรม Google Sketch ๑๐ ๑ ๕ ๑๖

up ได้

๙ นาเสนอชนิ้ งานโมเดลในรปู แบบต่างๆ ได้ ๑๐ ๒ ๕ ๑๗

รวม ๒๕ ๒๐ ๒๕ ๑๐ ๒๐ ๑๐๐

๑๑๕

โครงสร้างรายวิชาคอมพวิ เตอรส์ ร้างสรรค์ รหัสวชิ า ว๒๓๒๘๑

๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น ๑.๐ หนว่ ยกิต

ท่ี ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ สาระสาคัญ/ผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวงั จานวนชว่ั โมง

๑ หนว่ ยที่ ๑ รจู้ ักเทคโนโลยี ๑. อธิบายความหมายของ Flash(CS๓) ๔

ของFlash(CS๓) ๒. อธิบายความสามารถของโปรแกรม Flash

(CS๓)

๓. อธิบายความแตกตา่ งระหวา่ งไฟล์ .fla และ

ไฟล์ .swf

๔. อธิบายรูปแบบกราฟิกท่ีใช้งานบน Flash

(CS๓)

๕. อธบิ ายซีนและมวู ี่

๖. อธิบายซมิ โบลและอนิ สแตนซ์

๗. อธบิ ายและปฏบิ ัตกิ ารแปลงออบเจ็กตใ์ ห้

เปน็ ซมิ โบล

๘. อธบิ ายและปฏิบัตกิ ารเรยี กใช้งานและการ

ปรบั แตง่ อนิ สแตนซ์

๒ หน่วยที่ ๒ สรา้ งช้ินงานจาก ๑. อธิบายสว่ นประกอบของโปรแกรม Flash ๔

เคร่ืองมอื ของ (CS๓)

โปรแกรม Flash (CS๓) ๒. ปฏิบัตกิ ารสร้างช้ินงานดว้ ยโปรแกรม Flash

(CS๓)

๓. สร้างเส้นปากกาดว้ ยเครอื่ งมอื Pen Tool

๔. สรา้ งเส้นดินสอด้วยเคร่อื งมอื Pencil Tool

๕. สรา้ งวงกลมด้วยเครอื่ งมอื Oval Tool

๖. สรา้ งสี่เหล่ียมด้วยเคร่ืองมอื Rectangle

Tool

๓ หนว่ ยที่ ๓การเลอื ก ๑. อธิบายการเคลื่อนย้าย ก๊อปป้ี ๔

ปรบั เปล่ียนขนาดของ ๒. ปฏิบัติการเลอื กพน้ื ท่บี างส่วนด้วย

ชนิ้ งาน เครอ่ื งมือ Subselection Tool

๓. ปฏบิ ัติการเลอื กพนื้ ท่ีอิสระด้วย

เครือ่ งมือ Lasso Tool

๔. ปฏบิ ัติการเลือกพ้นื ที่โดยเปรียบเทียบจาก

ค่าสดี ้วยเครื่องมือMagic Wand

๕. ปฏิบตั กิ ารเลือกพื้นทเี่ ปน็ รูปทรงหลาย

เหลี่ยมดว้ ย Polygon Mode

๖. ปฏบิ ัติการหมุนและปรบั เปลี่ยนขนาดดว้ ย

เครอ่ื งมอื Free Transform Tool

๑๑๖

ที่ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ สาระสาคัญ/ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั จานวนช่วั โมง

๔ หนว่ ยท่ี ๔ การสร้างและ ๑. อธิบายและปฏิบัตกิ ารจดั การฟอนตใ์ นมูฟวี่ ๘

ใสล่ กู เลน่ ให้ตวั อกั ษร ของ Flash

๒. ปฏบิ ัติการสรา้ งขอ้ ความ

๓. ปฏบิ ตั กิ ารปรบั แต่งขอ้ ความดว้ ย

เคร่ือง Flash ๘ (CS๓)

๔. ปฏิบตั กิ ารปรับแต่งรปู ทรง

ขอ้ ความ Transforming Text

๕. อธิบายและปฏบิ ัติการใส่ลิงค์ใหก้ บั ขอ้ ความ

๖. ปฏบิ ัตกิ ารสร้างและใชง้ านฟอนต์

ซมิ โบล (Font Symbols)

๗. ปฏิบัติการแก้วรรณยกุ ต์ลอย

๕ หน่วยท่ี ๕ เติมแต่งแต้มสี ๑. อธบิ ายความรูพ้ ื้นฐานเกย่ี วกบั สี ๘

ภาพด้วยสเี ส้นให้สวยงาม ๒. ปฏบิ ัติการการเลือกสเี ส้นและสพี น้ื

๓. ปฏบิ ตั ิการเลือกใช้สีจากพาเนล Color

Swatches

๔. ปฏบิ ัตกิ ารเลอื กใช้สจี ากพาเนลColor

Mixer

๑. ปฏบิ ตั ิการเลือกใช้สเี กรเดียนท์

๒. อธบิ ายการกาหนดความโปร่งใสของ

สี (Alpha)

๓. อธบิ ายการกาหนดสดี ว้ ยภาพบิทแมพ

๔. ปฏบิ ัตกิ ารเปล่ียนสแี ละคุณสมบตั ขิ อง

เสน้ ดว้ ยเครอื่ งมอื Ink Bottle Tool

๕. ปฏิบัติการเติมสีพ้ืนด้วย

เครอ่ื งมือ Paint Bucket Tool

๖. ปฏบิ ัตกิ ารดูสภี าพอืน่ มาใช้ด้วย

๗. เครอื่ งมอื Eyedropper Tool

๘.ปฏิบัติการเลือกสใี หเ้ หมาะสม

ตามตอ้ งการ

๑๑๗

ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สาระสาคัญ/ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง จานวนชัว่ โมง

๖ หน่วยท่ี ๖ ร้จู ักกบั ๑. อธิบายและปฏิบัตกิ าร Timeline ๔

Timeline และ Frame ๒. อธิบายและปฏิบตั กิ าร Layer ๔

๓. อธบิ ายและปฏบิ ัติการ เฟรม Frame

๔. อธิบายและปฏิบตั กิ าร ซีน (Scene)

๗ หน่วยที่ ๗ การให้ ๑. อธิบายและปฏบิ ตั ิการเลเยอร์ (Layer)

Layer ช่วยจัดการภาพท่ี ๒. ปฏบิ ตั ิการใช้งานเลเยอร์

ซบั ซอ้ น ๓. ปฏบิ ตั ิการใชเ้ ทคนิคการใช้เลเยอร์

มาส์ค (Layer Mask)

๔. อธิบายการกาหนดทศิ ทางการเคลอื่ นท่ี

ดว้ ยไกดเ์ ลเยอร์ (Guide Layer)

๘ หนว่ ยท่ี ๘ App Inventor ๑.อธบิ ายการทางาน

๒.ศึกษาและปฏบิ ต้ ิ

รวม ๔๐

๑๑๘

ตวั ชวี้ ัด วิชาคอมพวิ เตอร์๓ ว๒๓๒๘๑
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒

คะแนนทีป่ ระเมิน

ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้รายวชิ า
ข้อ ่ีท
ราย ้ขอก่อนก่อนกลางภาค
สอบกลางภาค
ราย ้ขอหลังกลางภาค
ุคณลักษณะ ่ีทพึงประสง ์ค
สอบปลายภาค
รวมคะแนน ั่ทงหมด

๑ รู้จักเทคโนโลยขี องFlash(CS๓) ๕๔ ๑ ๑๐

๒ สรา้ งช้ินงานจากเครอ่ื งมอื ของโปรแกรม Flash (CS๓) ๕ ๔ ๑ ๑๐
๑ ๑๐
๓ การเลือกปรับเปลยี่ นขนาดของชน้ิ งาน ๕๔

๔ การสรา้ งและใสล่ กู เลน่ ให้ตวั อกั ษร ๕๔ ๑ ๔ ๑๔
๕ เตมิ แตง่ แตม้ สภี าพด้วยสเี สน้ ให้สวยงาม
๖ ร้จู กั กับTimeline และ Frame ๕๔ ๑ ๔ ๑๔
๗ การให้ Layer ช่วยจัดการภาพที่ซับซอ้ น
๘ App Inventor ๙ ๑ ๔ ๑๔

รวม ๘ ๒ ๔ ๑๔

๘ ๒ ๔ ๑๔

๒๕ ๒๐ ๒๕ ๑๐ ๒๐ ๑๐๐

โครงสรา้ งรายวิชา วิชาฟสิ ิกส์ ว๓๑๑๐๑ ๑๑๙
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๔ (แผนไม่เน้นวิทย์)
เวลา(ชัว่ โมง)
ลาดบั ที่ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ๑๕
๑ ๖
การเคลือ่ นท่ี
๒ ๑.๑ การเคลื่อนทีแ่ นวตรง ๓
๓ - อตั ราเรว็ และความเร็ว ๓
- ความเร่ง ๓
๔ ๑.๒ การเคลอ่ื นที่แบบโพรเจกไทล์ ๑๔
๑.๓การเคลือ่ นท่แี บบวงกลม ๔
๑.๔ การเคลือ่ นทีแ่ บบฮารม์ อนกิ อย่างง่าย

สนามของแรง ๕
๒.๑ สนามโน้มถ่วง ๑๖
- การเคลอื่ นท่ีของวัตถใุ นสนามโน้มถว่ ง ๒
๒.๒ สนามไฟฟ้า ๔
๒.๓ สนามแมเ่ หล็ก ๔
คลนื่ ๓
๓.๑ คล่นื กล ๓
๓.๒ องคป์ ระกอบของคลื่น ๒
๓.๓ สมบัติของคลืน่ ๑๕
๓.๔ เสียงและการได้ยิน
๓.๕ คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ๕

สอบระหวา่ งภาค ๒
๕๔
กมั มันตภาพรังสี และพลงั งานนิวเคลียร์
๔.๑ กัมมันตภาพรงั สี ๖๐
๔.๒ รงั สกี ับมนุษย์
๔.๓ พลงั งานนิวเคลยี ร์

สอบปลายภาค
รวมระหวา่ งเรียน

รวมทงั้ หมด

๑๒๐

ตวั ช้วี ัด วิชาฟสิ ิกส์ ว๓๑๑๐๑ คะแนนที่ประเมนิ
ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
้ขอที่
ข้อท่ี
คะแนน ่กอนกลาง
คภะาแคนนสอบกลาง
คภะาแคนนหลังกลาง
ุคภาณค ัลกษณะท่ีพึงระ
สคงะ ์คแนนสอบปลาย
รภวามคคะแนนทั้งหมด

๑ อธิบายและทดลองความสัมพันธ์ระหวา่ ง การกระจดั ๓ ๔ ๗

เวลา ความเรว็ ความเรง่ ของการเคลอ่ื นที่ในแนวตรง ๗

๒ สงั เกตและอธบิ ายการเคลือ่ นทแี่ บบโพรเจคไทล์ แบบ ๓ ๔ ๕

วงกลมและแบบฮารม์ อนิกอย่างงา่ ย ๕

๓ อภิปรายผลการสบื คน้ และประโยชน์เกี่ยวกบั การเคลอ่ื นที่ ๓ ๔ ๕

แบบโพรเจคไทล์ แบบวงกลมและแบบฮาร์มอนกิ อย่าง ๔
๓๖
งา่ ย
๔๖
๔ ทดลองและอธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งแรงกับการ ๓๒
๓๕
เคลื่อนที่ของวตั ถุในสนามโนม้ ถ่วง และนาความรู้ไปใช้ ๓๕

ประโยชน์

๕ ทดลองและอธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งแรงกบั การ ๓๒

เคลือ่ นท่ขี องอนุภาคในสนามไฟฟา้ และนาความรไู้ ปใช้

ประโยชน์

๖ ทดลองและอธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งแรงกับการ ๓๒

เคลื่อนทีข่ องอนุภาคในสนามแม่เหล็กและนาความรูไ้ ปใช้

ประโยชน์

๗ วเิ คราะห์และอธบิ ายแรงนวิ เคลียร์และแรงไฟฟ้าระหวา่ ง ๒ ๒

อนภุ าคในนิวเคลียส

๘ ทดลองและอธิบายสมบัตขิ องคล่นื กล และอธบิ าย ๓

ความสัมพันธ์ระหวา่ งอตั ราเร็ว ความถ่ี และความยาว

คลนื่

๙ อธบิ ายการเกิดคล่นื เสียง บีตส์ของเสยี ง ความเข้มเสียง ๒

ระดบั ความเข้มเสยี ง การไดย้ ินเสยี ง คณุ ภาพเสยี ง และ

นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

๑๐ อภปิ รายผลการสืบคน้ ข้อมูลเกีย่ วกบั มลพษิ ทางเสียงทมี่ ี ๒

สุขภาพของมนุษยแ์ ละการเสนอวิธีปอ้ งกัน

๑๑ อธบิ ายคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า และนาเสนอผลการสืบคน้ ๒

ข้อมลู เกย่ี วกบั ประโยชน์ และการป้องกนั อนั ตรายจาก

คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า

๑๒๑
คะแนนท่ปี ระเมนิ

ข้อ ่ีท
้ขอ ่ีท
คะแนนก่อนกลางภาค
คะแนนสอบกลางภาค
คะแนนหลังกลางภาค
ุคณลักษณะ ่ีทพึงระสง ์ค
คะแนนสอบปลายภาค
รวมคะแนน ั้ทงหมด
ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้

๑๒ อธิบายปฏิกริ ิยานิวเคลยี ร์ ฟชิ ชัน ฟวิ ชนั และ ๓ ๔๗

ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมวลกบั พลังงาน

๑๓ สบื คน้ ขอ้ มูลเกีย่ วกับพลงั งานทไ่ี ด้จากปฏกิ ิรยิ านวิ เคลยี รท์ ี่ ๒ ๔๖

มีผลตอ่ ส่ิงมีชีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม

๑๔ อภิปรายผลการสบื ค้นขอ้ มูลเกยี่ วกบั โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ๒ ๓๕

และนาไปใช้ประโยชน์

๑๕ อธิบายชนิดและสมบัตขิ องรังสีจากธาตกุ ัมมนั ตรังสี ๒ ๓๕

๑๖ อธบิ ายการเกิดกัมมนั ตรังสี และบอกวธิ กี ารตรวจสอบ ๒ ๓๕

รังสีในส่ิงแวดลอ้ ม การใช้ประโยชน์ ผลกระทบต่อ

สิ่งมชี วี ิตและสงิ่ แวดล้อม

๑๗ คณุ ลกั ษณะ ๑๐

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐



๑๒๒

โครงสร้างรายวชิ าฟสิ กิ ส์ รหสั วชิ า ว ๓๑๑๐๑ (แผนเนน้ วทิ ย์)
๔ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๘๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น ๒.๐ หน่วยกิต

หนว่ ยการเรียนรู้ หน่วยยอ่ ยการเรียนรู้ จานวนชว่ั โมง

1. บทนา ๑.๑ ความหมายของวิชาฟสิ กิ ส์ ๑
(๑๒ ช่วั โมง) ๑.๒ หน่วยระหว่างชาติ (IS Unit) ๑

๑.๓ คาอุปสรรค และการเปล่ียนหนว่ ย ๓

๑.๔ เลขนยั สาคัญ ๔

๑.๕ การวดั และความไม่แนน่ อนในการวดั ๑๐

๒. การเคลือ่ นท่ใี น ๑ มิติ ๒.๑ ปรมิ าณท่ีเก่ียวข้องกบั การเคลื่อนท่ี ๑
(๒๓ ช่ัวโมง) ๒.๒ การคานวณปริมาณที่เกย่ี วกับการเคล่อื นที่จากแถบกระดาษ ๔

๒.๓ การเคลอ่ื นทีก่ รณีท่ีมีความเรง่ คงตวั

๒.๔ กราฟท่ีเกีย่ วกับการเคลือ่ นที่ ๖

๒.๕ ความเร็วสัมพัทธ์

๓. แรง มวล และการ ๓.๑ แรง และการหาแรงลัพธ์ ๔
๓.๒ กฎการเคลื่อนทขี่ องนิวตนั
เคลือ่ นที่ ๘
(๒๘ ชว่ั โมง) ๓.๓ น้าหนกั ๗๕

๓.๔ แรงเสยี ดทาน ชั่วโมง
ชว่ั โมง
๓.๕ การนากฎการเคลอื่ นที่ของนิวตันไปใช้ และ การเขียน ชว่ั โมง
แผนภาพวตั ถอุ ิสระ
๓.๖ กฎแรงดงึ ดูดระหวา่ งมวลของนิวตนั

๔. การเคลื่อนท่แี บบโพรเจค ๔.๑ การเคลื่อนที่แบบโพรเจคไทลแ์ บบมีเฉพาะความเร็วตน้ ในแนว
ไทล์ ระดบั เพยี งอย่างเดียว

(๑๒ ชั่วโมง.)

๔.๒ การเคลื่อนทแ่ี บบโพรเจคไทล์แบบมีความเร็วตน้ ทัง้ สองแนว

รวม

หมายเหตุ

๑. ปฐมนิเทศ และ ทาแบบทดสอบรวมก่อนเรียน ๑
๒. สอบกลางภาคเรยี น ๒

๓. สอบปลายภาคเรยี น ๒
รวมเวลาทง้ั หมด ๘๐ ชัว่ โมง

๑๒๓
ตัวชี้วัด รายวิชาฟสิ กิ ส์ รหสั วชิ า ว๓๑๑๐๑ (แผนเน้นวทิ ย)์

คะแนนท่ีประเมนิ

ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้
้ขอ ี่ท
ราย ้ขอก่อนกลาง
สภาอคบกลางภาค
ราย ้ขอหลังกลาง
สภาอคบปลายภาค
รวมคะแนน ั้ทงหมด

๑ อธบิ ายเกี่ยวกับธรรมชาติของวิชาฟิสิกส์ ปริมาณกายภาพและ ๕ ๔ ๙

หน่วยในระบบเอสไอ

๒ อธบิ ายการวดั ปรมิ าณกายภาพต่าง ๆตอ้ งพิจารณาความ ๕๔ ๙

คลาดเคล่ือนในการวัด และนาความคลาดเคลือ่ นจากการวดั

มาพจิ ารณาในการนาเสนอผลการเขียนกราฟ รวมทง้ั มที กั ษะใน

การรายงานการทดลอง

๓ สารวจตรวจสอบ อธิบายและ คานวณ เก่ียวกับการเคล่ือนที่ ๕ ๕ ๑๐

ของวัตถุ และปริมาณที่เกย่ี วข้อง

๔ สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปรายและคานวณ เก่ียวกับการ ๕ ๗ ๑๒

เคลื่อนท่ีของวตั ถกุ รณีท่มี ีความเรง่ เป็นคา่ คงตวั

๕ สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ าย และหาขนาดและทศิ ทางของแรงลัพธ์โดย ๒๒ ๔

วิธกี ารสรา้ งรูป และโดยวิธกี ารคานวณ

๖ สืบค้นขอ้ มูล ทดลอง อภิปรายและคานวณ เกีย่ วกับแรง และ ๔ ๖ ๑๐

กฎการเคล่ือนทีข่ องนิวตนั

๗ สบื คน้ ข้อมูล อภปิ ราย และคานวณเกย่ี วกับกฎแรงดงึ ดดู ๔ ๖ ๑๐

ระหว่างมวลของนวิ ตนั และน้าหนกั ของวตั ถุ

๘ สืบค้นข้อมูล ทดลอง อธบิ ายและคานวณเกย่ี วกบั แรงเสียดทาน ๒๕ ๗

๙ สบื ค้นข้อมูล อธบิ าย และคานวณเกี่ยวกบั การนากฎการ ๔๕ ๙

เคล่ือนทขี่ องนวิ ตันไปใช้ พร้อมกับการเขยี นแผนภาพวัตถุอิสระ

(Free Body Diagram)

๑๐ สืบค้นขอ้ มลู อธบิ าย และคานวณเก่ยี วกับการเคล่ือนท่ีแบบ ๔ ๖ ๑๐

โพรเจคไทล์

๑๑ คณุ ลักษณะ ๑๐

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๒๔

โครงสร้างรายวชิ าฟสิ กิ ส์ ว ๓๑๒๐๑
๔ ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ๘๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน ๒.๐ หน่วยกิต

หน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นร/ู้ หนว่ ยยอ่ ยการเรียนรู้ จานวนชั่วโมง
๑. การเคล่อื นที่แบบวงกลม
๒. สมดลุ กล ๑. การเคลอ่ื นท่ีแบบวงกลม ( ๑๖ )
๑.๑ ปริมาณทีเ่ กยี่ วข้องกบั การเคล่อนทีแ่ บบวงกลม ๔
๓. งาน และพลังงาน ๑.๒ การเคลอื่ นท่ีแบบวงกลมในแนวดงิ่ ๔
๑.๓ การเคล่ือนท่ีแบบวงกลมในแนวระดับ ๖
๔. โมเมนตมั และการชน ๑.๔ การเคล่อื นทข่ี องดาวเทียม ๒
๒. สมดุลกล
๒.๑ สมดุลกล ( ๒๒ )

๒.๒ สมดุลตอ่ การเลอ่ื นท่ี
๒.๓ สมดุลต่อการหมนุ ๖
๒.๔ เสถยี รภาพของวตั ถุ ๘
๒.๕ จุดศนู ยก์ ลางมวล และจดุ ศูนย์ถ่วง ๒
๓. งาน และพลงั งาน ๔
๓.๑ งาน ( ๒๒ )
๓.๒ กาลัง ๔
๓.๓ พลงั งานกล ๒
๓.๔ กฎอนรุ ักษ์พลังงานกล ๖
๓.๕ เคร่อื งกล ๖
๔. โมเมนตัม และการชน ๔
๔.๑ โมเมนตัม ( ๑๖ )
๔.๒ แรงดล แลการดล ๑
๔.๓ กฎอนรุ กั ษโ์ มเมนตัม ๓
๔.๔ การชนแบบยืดหยนุ่ และไมย่ ดื หยนุ่ ๔
๔.๕ การชนแบบสองมิติ ๔
รวม (รวมสอบ) ๔
๗๖(๘๐)

๑๒๕

ผลการเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ รหัสวิชา ว ๓๑๒๐๑
คะแนนท่ีประเมิน

ผลการเรียนรู้
้ขอ ่ีท
ราย ้ขอก่อนกลางภาค
สอบกลางภาค
ราย ้ขอหลังกลางภาค
ุคณลักษณะ ี่ทพึง
สปรอะบสปงล ์คายภาค
รวมคะแนน ้ัทงหมด

๑ ทดลอง และอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่าง แรงสศู่ ูนย์กลาง ๗ ๖ ๑๓

รัศมีของการเคล่อื นที่ อัตราเร็วเชงิ เส้น อตั ราเรว็ เชงิ มุม ๑๕

และมวล ของวตั ถุในการเคลอ่ื นท่ีแบบวงกลมในระนาบ ๓ ๑๑
๕ ๑๐
ระดับ รวมทั้งคานวณปริมาณต่างๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง และ
๗ ๑๒
ประยกุ ต์ใช้ความรู้การเคลื่อนที่แบบวงกลม ในการอธิบาย

การโคจรของดาวเทียม

๒ อธิบายสมดุลกลของวตั ถุโมเมนตแ์ ละผลรวม ของโมเมนตท์ ่ี ๗ ๘

มีตอ่ การหมุน แรงคู่ควบและผล ของแรงคู่ควบท่มี ีต่อสมดลุ

ของวตั ถุ เขยี น แผนภาพของแรงท่กี ระทาต่อวัตถุอิสระเมอื่

วตั ถุ อย่ใู นสมดุลกล และคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่

เก่ียวขอ้ ง รวมทัง้ ทดลองและอธิบายสมดุล ของแรงสามแรง

๓ สงั เกต และอธบิ ายสภาพการเคลื่อนทีข่ องวตั ถุ เมื่อแรงท่ี ๒ ๒

กระทาตอ่ วัตถผุ า่ นศูนยก์ ลางมวลของ วตั ถุและผลของศนู ย์

ถ่วงทีม่ ีต่อเสถยี รภาพของ วัตถุ

๔ วเิ คราะหแ์ ละคานวณงานของแรงคงตวั จาก สมการและ ๔ ๔

พ้ืนทใ่ี ต้กราฟความสัมพนั ธ์ระหว่าง แรงกบั ตาแหนง่ รวมทงั้

อธิบาย และคานวณ กาลงั เฉลย่ี

๕ อธบิ าย และคานวณพลงั งานจลน์พลงั งานศกั ย์ พลงั งานกล ๕

ทดลองหาความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งงานกบั พลงั งานจลน์

ความสมั พันธ์ ระหวา่ งงานกบั พลังงานศักยโ์ น้มถว่ ง

ความสัมพันธ์ระหวา่ งขนาดของแรงท่ใี ช้ดงึ สปริง กับระยะท่ี

สปริงยดื ออกและความสัมพนั ธ์ ระหว่างงานกบั พลังงาน

ศกั ย์ยดื หยนุ่ รวมทงั้ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างงานของ

แรงลพั ธ์ และพลงั งานจลน์และคานวณงานที่เกดิ ขึ้น จาก

แรงลพั ธ์

๖ อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกล รวมทั้ง วเิ คราะหแ์ ละ ๕

คานวณปรมิ าณต่างๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง กบั การเคลือ่ นที่ของวตั ถุ

ในสถานการณต์ า่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษพ์ ลงั งานกล

๑๒๖

คะแนนทป่ี ระเมนิ

ข้อ ่ีท ผลการเรียนรู้
ราย ้ขอก่อนกลาง
สภาอคบกลางภาค
ราย ้ขอหลังกลาง
ุคภาณคลักษณะ ่ีทพึง
สปรอะบสปงล ์คายภาค
รวมคะแนน ั้ทงหมด

๗ อธิบายการทางาน ประสทิ ธภิ าพและการได้ เปรียบเชงิ กล ๓ ๔๗

ของเครอื่ งกลอยา่ งงา่ ยบางชนิด โดยใช้ความรู้เรื่องงานและ

สมดุลกล รวมทงั้ คานวณประสิทธิภาพและการไดเ้ ปรยี บ

เชิงกล

๘ อธบิ าย และคานวณโมเมนตมั ของวตั ถุ และการดลจาก ๔ ๕๙

สมการและพนื้ ทใ่ี ต้กราฟ ความสมั พันธ์ระหว่างแรงลัพธก์ ับ

เวลา รวมทงั้ อธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงดลกับ

โมเมนตัม

๙ ทดลอง อธิบาย และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วกบั การ ๓ ๖๙

ชนของวัตถุในหนง่ึ มิตทิ งั้ แบบ ยืดหยนุ่ ไมย่ ดื หยนุ่ และการ

ดีดตัวแยกจากกนั ในหนึ่งมติ ิซ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์

โมเมนตัม

คุณลกั ษณะ ๑๐ ๑๐

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๒๗

โครงสรา้ งวชิ าเคมี (แผนไม่เนน้ วิทย)์ รหัสวชิ า ว๓๑๑๐๒
๒ ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น ๑.๐ หน่วยกิต

หน่วยการเรยี นรู้ หน่วยย่อยการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง
๑. อะตอม
( ๕ ช่ัวโมง) ๑.๑ พฒั นาการของแบบจาลองอะตอม ๑

๒. ธาตุและสารประกอบ ๑.๒ อนภุ าคมูลฐานของอะตอม ๑
(๗ ชวั่ โมง)
๑.๓ สญั ลักษณข์ องธาตแุ ละสัญลักษณ์นวิ เคลียส ๒
๓. พันธะเคมี
(๑๐ ช่ัวโมง) ๑.๔ ไอโซโทป ไอโซโทน ไอโซบาร์ ๑

๔. ปฏกิ ิริยาเคมี ๒.๑ ความรพู้ ื้นฐานเร่อื งการจาแนกสารธาตุและ ๑
( ๖ ชั่วโมง)
สารประกอบ
๕. สารประกอบอนิ ทรีย์
( ๕ ช่ัวโมง) ๒.๒ การจาแนกธาตุและสมบัตขิ องธาตุตามตารางธาตุ ๔

๖. พอลเิ มอร์ ๒.๓ ธาตุกมั มันตรังสี ๒
( ๗ ชวั่ โมง)
๓.๑ การเกิดพนั ธะโควาเลนตแ์ ละสมบัติของ ๕

สารประกอบโควาเลนต์

๓.๒ การเกิดพนั ธะไอออนิกและสมบัตขิ องพนั ธะไอออนิก ๕

๔.๑ การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ๒

๔.๒ ปฏิกิริยารีดอกซ์ ๒

๔.๓ อตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี ๒

๕.๑ ประเภทของสารประกอบอินทรีย์ ๑

๕.๒ สมบัตขิ องสารประกอบอนิ ทรีย์ ๒

๕.๓ ประโยชน์และผลกระทบของสารประกอบอินทรยี ์ ๒

๖.๑ ความหมายและการเกิดพอลิเมอร์ ๑

๖.๒ ประเภทของพอลเิ มอร์ ๒

๖.๓ โครงสร้างและสมบัติของพอลเิ มอร์ ๒

๖.๔ ประโยชน์ของพอลิเมอร์ ๒

รวม ๔๐

๑๒๘

ตวั ชี้วัด วชิ าเคมี (แผนไม่เน้นวทิ ย์) รหสั วิชา ว๓๑๑๐๒
คะแนนท่ีประเมนิ

ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้
้ขอ ี่ท
ราย ้ขอก่อนกลางภาค
สอบกลางภาค
ราย ้ขอหลังกลางภาค
สอบปลายภาค
ิจตพิสัย
รวมคะแนน ้ัทงหมด

๑ เปรยี บเทยี บความเหมือนและความแตกตา่ ง ของ ๒ ๒ ๑๕
แบบจาลองอะตอมของโบร์กบั แบบจาลอง อะตอม ๔ ๒ ๑๐
แบบกลมุ่ หมอก ๒ ๑๕
๔ ๒ ๑๐
๒ ระบจุ านวนโปรตอน นวิ ตรอน และอิเลก็ ตรอน ของ ๔
อะตอม และไอออนที่เกิดจากอะตอมเดียว และ เขยี น ๔ ๒ ๑๐
สัญลักษณน์ วิ เคลยี รข์ องธาตแุ ละระบกุ าร เปน็ ๔ ๒ ๑๐
ไอโซโทป

๓ ระบวุ ่าสารเป็นธาตหุ รือสารประกอบ และอยูใ่ น รูป ๒
อะตอม โมเลกลุ หรือไอออนจากสตู รเคมี

๔ ระบหุ มแู่ ละคาบของธาตแุ ละระบวุ า่ ธาตเุ ปน็ โลหะ ๔
อโลหะ กึง่ โลหะ กลุม่ ธาตุเรพรเี ซนเททีฟ หรือกล่มุ
ธาตุแทรนซิชัน จากตารางธาตุ เปรยี บเทยี บสมบตั ิการ
นาไฟฟ้า การให้และรับ อิเลก็ ตรอนระหว่างธาตใุ น
กลมุ่ โลหะกับอโลหะ . สืบคน้ ข้อมูลและนาเสนอ
ตวั อยา่ งประโยชนแ์ ละ อนั ตรายทีเ่ กดิ จากธาตุเรพรี
เซนเททีฟและ ธาตุแทรนซิชัน

๕ อธบิ ายสมบัติของสารกัมมนั ตรังสแี ละคานวณ ครงึ่ ๔
ชีวติ และปรมิ าณของสารกมั มันตรังสี สืบคน้ ข้อมูล
และนาเสนอตัวอย่างประโยชน์ ของสารกมั มนั ตรงั สี
และการปอ้ งกนั อนั ตราย ท่ีเกิดจากกัมมันตภาพรังสี

๖ ระบวุ า่ พนั ธะโคเวเลนตเ์ ปน็ พันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรอื ๔
พนั ธะสาม และระบจุ านวนคอู่ เิ ลก็ ตรอน ระหวา่ ง

อะตอมคู่รว่ มพันธะ จากสูตรโครงสร้าง ระบุสภาพข้วั
ของสารท่ีโมเลกุลประกอบดว้ ย ๒ อะตอมระ บุสารท่ี

เกิดพนั ธะไฮโดรเจนได้จากสูตร โครงสร้าง อธบิ าย
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างจดุ เดือดของสาร โคเวเลนต์กบั
แรงดึงดดู ระหวา่ งโมเลกลุ ตาม สภาพขว้ั หรือการเกดิ

พนั ธะไฮโดรเจน

๑๒๙
คะแนนท่ปี ระเมนิ

้ขอ ี่ท
ราย ้ขอก่อนกลางภาค
สอบกลางภาค
ราย ้ขอหลังกลางภาค
สอบปลายภาค
ิจตพิสัย
รวมคะแนน ้ัทงหมด
ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้

๗ เขียนสตู รเคมีของไอออนและสารประกอบ ไอออนกิ ๔๔ ๘

ระบวุ ่าสารเกดิ การละลายแบบแตกตัวหรือ ไม่แตกตัว

พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลและระบวุ ่า สารละลายที่ได้เป็น

สารละลายอิเลก็ โทรไลต์ หรือนอนอิเล็กโทรไลต์

๘ ระบุสูตรเคมีของสารต้งั ต้น ผลติ ภัณฑ์และ แปล ๒๒ ๔

ความหมายของสัญลักษณใ์ นสมการเคมี ของปฏกิ ิรยิ า

เคมี

๙ ทดลองและอธิบายผลของความเขม้ ข้น พ้ืนท่ผี วิ ๔๔ ๘

อุณหภมู แิ ละตัวเร่งปฏกิ ริ ยิ า ที่มีผลตอ่ อัตราการ

เกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี สบื คน้ ข้อมูลและอธิบายปัจจัยท่ีมีผล

ต่ออัตรา การเกิดปฏกิ ิริยาเคมที ี่ใช้ประโยชน์ในชวี ิต

ประจาวนั หรอื ในอุตสาหกรรม

๑๐ อธิบายความหมายของปฏกิ ิริยารดี อกซ์ ๒๒ ๔

๑๑ ระบสุ ารประกอบอินทรียป์ ระเภทไฮโดรคาร์บอนวา่ ๔๔ ๘

อม่ิ ตัวหรอื ไมอ่ ิม่ ตวั จากสตู รโครงสรา้ ง สมบตั ิความ

เปน็ กรด-เบส จากโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์

อธิบายสมบตั กิ ารละลายในตวั ทาละลายชนิด ต่าง ๆ

ของสาร

๑๒ สืบคน้ ข้อมลู และเปรยี บเทียบสมบตั ิ ทางกายภาพ ๔๔ ๘

ระหวา่ งพอลิเมอรแ์ ละมอนอเมอร์ ของพอลเิ มอร์ชนดิ

นน้ั วิเคราะห์และอธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ ง

โครงสรา้ งกบั สมบตั ิเทอร์มอพลาสติกและ เทอรม์ อ

เซตของพอลเิ มอรแ์ ละการนา พอลเิ มอร์ไปใช้

ประโยชน์ นาเสนอผลกระทบของการใช้ ผลิตภณั ฑ์

พอลิเมอร์ทีม่ ีต่อสงิ่ มีชีวิตและ สิ่งแวดลอ้ ม พรอ้ ม

แนวทางปอ้ งกันหรือแกไ้ ข

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๓๐ ๑๐ ๑๐



๑๓๐

โครงสร้างรายวิชาเคมี รหสั วชิ า ว ๓๑๑๐๒ (แผนเนน้ วทิ ย)์
๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ ๖๐ ชัว่ โมง/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกิต

หนว่ ยการเรียนรู้ หนว่ ยย่อยการเรยี นรู้ จานวนชว่ั โมง

๑. ความปลอดภยั และทักษะ ๑.๑ ความปลอดภยั ในการทางานกบั สารเคมี ๓

ในการปฏิบัตกิ ารเคมี ๑.๒ อบุ ัติเหตุจากสารเคมี ๓

๑.๓ การวัดปรมิ าณสาร ๓

๑.๔ หนว่ ยวัด

๑.๕ วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์

๒. อะตอมและสมบตั ิของ ๒.๑ แบบจาลองอะตอม ๓
ธาตุ ๒.๒ อนุภาคในอะตอมและไอโซโทป ๓

๒.๓ การจัดเรียนอิเลคตรอนในอะตอม ๓
๒.๔ ตารางธาตุและสมบัตขิ องธาตหุ มหู่ ลกั ๓
๒.๕ ธาตแุ ทรนซิซัน ๓

๒.๖ ธาตุกมั มันตรังสี ๓
๒.๗ การใช้ประโยชน์และผลกระทบตอ่ สิง่ มีชีวิต ๒

๓. พันธะเคมี ๓.๑ สัญลกั ษณ์แบบจุดของลิวอิสและกฎออก ๔
เตต ๔
๓.๒ พันธะไอออนกิ ๔
๓.๓ พันธะโคเวเลนต์ ๔
๓.๔ พนั ธะโลหะ ๔
๓.๕ การใชป้ ระโยชน์ของสารประกอบไอออนกิ
๕๕
สารโคเวเลนต์และโลหะ

รวม

หมายเหตุ ๑ ชวั่ โมง
ปฐมนเิ ทศและทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ๒ ช่วั โมง
สอบกลางภาคเรียน
๒ ชว่ั โมง
สอบปลายภาคเรยี น ๖๐ ชวั่ โมง
รวมเวลาทงั้ หมด

๑๓๑

ผลการเรียนรู้รายวิชาเคมี รหสั วชิ า ว ๓๑๑๐๒
คะแนนทปี่ ระเมนิ

ข้อ ่ีท
ก่อนกลางภาค
สอบกลางภาค
หลังกลางภาค

ิจตพิสัย
สอบปลายภาค
ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ รวม

๑ สืบค้นขอั มลู สมมติฐาน การทดลอง หรอื ผลการทดลองที่

เปน็ ประจักษพ์ ยานในการนาเสนอแบบจาลองอะตอม ๕๓ ๘
ของนักวทิ ยาศาสตร์ และอธบิ ายวิวฒั นาการของ

แบบจาลองอะตอม

๒ เขยี นสญั ลกั ษณ์นวิ เคลียร์ของธาตุ และระบุจานวน ๕

โปรตรอน นวิ ตรอนและอเิ ล็กตรอนจากสญั ลกั ษณ์ ๓ ๓ ๒๖
๓๘
นวิ เคลยี ร์ รวมทงั้ บอกความหมายของไอโซโทป ๓๖
๔๗
๓ อธิบายและเขียนการจัดเรยี งอิเล็กตรอนในระดับ ๒๔
๓๕
พลังงานหลักและระดับพลังงานย่อยเมือ่ ทราบเลข ๔๔

อะตอมของธาตุ

๔ วิเคราะห์และบอกแนวโนม้ สมบัติของธาตุเรพรเี ซนเททีฟ ๒ ๓
ตามหมูแ่ ละคาบ

๕ อธิบายสมบัติและคานวณครงี ชวี ิตของไอโซโทป ๒๒
กัมมนั ตรังสี

๖ อธบิ ายการเกิดไอออนิกและการเกดิ พนั ธะไอออนกิ ๒๒
โดยใชแ้ ผนภาพหรอื สญั ลักษณแ์ บบจดุ ของลิวอสิ

๗ เขยี นสูตรและเรยี กช่อื สารประกอบไอออนกิ ๒๓

๘ คานวณหาพลังงานท่เี ก่ยี วข้องกับปฏิกริ ยิ าการเกิด ๓
สารประกอบไอออนิกจากวฏั จักรบอรน์ -ฮาเบอร์

๙ เขียนสมการไอออนิกและสมการไอออนกิ สทุ ธิของ ๓
ปฎกิ ริ ิยาของสมการไอออนิก

๑๐ อธิบายการเกิดพันธะโคเวเลนต์ แบบพันธะเดี่ยว

พันธะคูแ่ ละพันธะสาม ๒

ดว้ ยโครงสรา้ งลิวอิส

๑๑ เขียนสูตรและเรยี กชอ่ื สารโคเวเลนต์ ๒

๑๓๒
คะแนนทป่ี ระเมนิ

รวม
ข้อ ่ีท
ก่อนกลางภาค
สอบกลางภาค
หลังกลางภาค

ิจตพิสัย
สอบปลายภาค
ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้

๑๒ วิเคราะหเ์ ปรียบเทยี บความยาวและพลงั งานพนั ธะใน

สารโคเวเลนต์ รวมท้ังคานวณพลังงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ๓ ๔๗

ปฎิกริ ยิ าของสารโคเวเลนต์จากพลงั งานพันธะ

๑๓ คาดคะเนรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนตโ์ ดยใช้ทฤษฏีการ

ผลักระหว่างคอู่ ิเลคตรอนในวงเวเลนต์ และระบสุ ภาพ ๒ ๓๕

ขัว้ ของโมเลกลุ โคเวเลนต์

๑๔ ระบชุ นิดของแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกลุ โคเวเลนต์

และเปรยี บเทียบจดุ หลอมเหลว จุดเดอื ดและการ ๒ ๓๕

ละลายนา้ ของสารโคเวเลนต์

๑๕ เปรยี บเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบ

ไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ สบื คน้ ขอ้ มลู และ ๓ ๓๖
นาเสนอตัวอยา่ งการใช้ประโยชนข์ องสารประกอบ

ไอออนกิ สารโคเวเลนต์และโลหะได้อยา่ งเหมาะสม

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๓๓

โครงสร้างรายวชิ าเคมี รหัสวิชา ว ๓๑๒๒๑ (แผนเน้นวิทย)์
๔ ชัว่ โมง/สัปดาห์ ๘๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน ๒.๐ หน่วยกิต

หน่วยการเรียนรู้ หน่วยยอ่ ยการเรียนรู้ จานวนช่วั โมง
๑. โมลและสูตรเคมี
๑.๑ มวลอะตอม ๗
๑.๒ โมล ๗
๑.๓ สูตรเคมี ๖

๒. สารละลาย ๒.๑ ความเขม้ ข้นของสารละลาย ๗
๒.๒ การเตรยี มสารละลาย ๗

๒.๓ สมบัตบิ างประการของสารละลาย ๖

๓. ปริมาณสัมพันธ์ ๓.๑ ปฏิกริ ิยาเคมี ๗
๓.๒ สมการเคมี ๘
๓.๓ การคานวณปรมิ าณสารในปฏิกริ ิยาเคมี ๗
๓.๔ สารกาหนดปรมิ าณ ๗
๓.๕ ผลไดร้ ้อยละ ๖

รวม ๗๕

หมายเหตุ ๑ ชว่ั โมง
ปฐมนิเทศและทาแบบทดสอบก่อนเรียน
๒ ช่ัวโมง
สอบกลางภาคเรียน ๒ ชั่วโมง
สอบปลายภาคเรียน ๘๐ ชว่ั โมง

รวมเวลาทง้ั หมด

๑๓๔

ผลการเรยี นรู้รายวิชาเคมี ๑ รหัสวิชา ว ๓๑๒๒๑

คะแนนทปี่ ระเมิน

ข้อ ี่ท

่กอนกลางภาค
๒๐

สอบกลางภาค
๒๐

หลังกลางภาค
๒๐

ิจตพิสัย ๑๐
สอบ

ปลายภาค ๓๐
ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง รวม

๑ บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคานวณ ๒ ๒ ๑ ๕
มวลอะตอมเฉลย่ี ของธาตุ มวลโมเลกุลและมวลสูตร

๒ อธบิ ายและคานวณหาปริมาณใดปรมิ าณหน่งึ จาก

ความสมั พนั ธ์ของโมล จานวนอนภุ าค มวลและปริมาตร ๒ ๒ ๔

แก๊สท่ี STP

๓ คานวณหาอตั ราส่วนโดยมวลของธาตุ องค์ประกอบ ๓๓ ๑ ๗
ของสารประกอบตามกฎสัดสว่ นคงท่ี

๔ คานวณหาสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุลของสาร ๓ ๓ ๖

๕ คานวณหาความเข้มขน้ ของสารละลายในหน่วยต่างๆ ๔ ๔ ๑ ๙

๖ อธบิ ายวิธีเตรียมสารละลายให้มีความเข้มข้น

ในหน่วยโมลาริตีและปริมาตรของสารละลายตามที่ ๔ ๔ ๑ ๙

กาหนด

๗ เปรยี บเทยี บจดุ เดือด จดุ เยือกแข็งหรอื จุดหลอมเหลว

ของสารละลายกบั สารบรสิ ุทธ์ิ รวมทงั้ คานวณ ๒ ๒ ๑ ๕

จดุ เดอื ด จุดเยอื กแข็งของสารละลาย

๘ แปรความหมายสญั ลกั ษณใ์ นสมการเคมี เขยี นและดุล ๒ ๔๖
สมการเคมขี องปฎกิ ริ ิยาเคมบี างชนดิ

๙ คานวณหาปริมาณของสารในปฎกิ ริ ิยาเคมที ่เี กีย่ วข้อง ๒๑๔๗
กับมวลสาร

๑ คานวณหาปริมาณของสารในปฎิกริ ยิ าเคมที ่เี ก่ียวขอ้ ง ๔ ๑ ๖ ๑๑
๐ กับความเข้มข้นของสารละลาย

๑ คานวณหาปรมิ าณของสารในปฎกิ ิรยิ าเคมที เ่ี กี่ยวข้อง ๔๑๔๙
๑ กบั ปริมาตรแกส๊

๑ คานวณหาปรมิ าณของสารในปฎิกิรยิ าเคมหี ลาย ๒๑๔๗
๒ ข้ันตอน

๑ ระบสุ ารกาหนดปริมาณและคานวณปริมาณสารต่างๆ ๒๑๔๗
๓ ในปฏกิ ริ ยิ าเคมี

๑ คานวณผลไดร้ อ้ ยละของผลิตภัณฑ์ในปฎิกริ ิยาเคมี ๔ ๔๘


รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๓๕

โครงสร้างรายวชิ าชีววทิ ยา รหัสวิชา ว ๓๑๑๐๓ (แผนไม่เนน้ วทิ ย์)
๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกติ

ท่ี ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา
(ชัว่ โมง)
๑ ส่งิ มชี ีวติ ในสงิ่ แวดล้อม ๑.๑ ความหลากหลายของระบบนเิ วศ
( ๑๕ ช่ัวโมง ) ๑.๒ การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ ๕
๑.๓ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ๕
๒. องค์ประกอบของสง่ิ มชี ีวิต ๒.๑ เซลล์ของสง่ิ มชี วี ิต ๕
( ๘ ช่วั โมง ) ๒.๒ การลาเลยี งสารผ่านเซลล์ ๔
๓.๑ การรักษาดลุ ยภาพของร่างกายมนษุ ย์ ๔
๓ การดารงชวี ิตของมนษุ ย์ ๓.๒ ระบบภมู ิค้มุ กันของมนษุ ย์ ๘
( ๑๔ ชว่ั โมง ) ๔.๑ การสรา้ งอาหารของพชื ๖
๔.๒ การเจรญิ เติบโตของพชื ๕
๔ การดารงชีวิตของพชื ๔.๓ การตอบสนองตอ่ สิง่ เร้าของพชื ๓
( ๑๐ ชั่วโมง ) ๕.๑ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ๒
๕.๒ การเปลยี่ นแปลงทางพนั ธกุ รรม ๔
๕ พันธกุ รรม ๕.๓ เทคโนโลยีทาง DNA ๓
( ๑๐ ชว่ั โมง ) ๖.๑ ววิ ัฒนาการของสิง่ มีชีวิตจากการ คดั เลือก ๓
โดยธรรมชาติ ๓
๖ วิวฒั นาการของส่งิ มชี ีวิต
( ๓ ชว่ั โมง) รวม ๖๐

๑๓๖

ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้
รายวชิ าชีววทิ ยา รหสั วชิ า ว๓๑๑๐๓

คะแนนท่ีประเมนิ

ขอ้ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ ราย ้ขอ ่กอน
ท่ี กสลอาบงกลางภาค
ราย ้ขอห ัลงกลาง
สภาอคบปลายภาค
รวมคะแนน

๑. สืบค้นข้อมูล และอธิบายความสัมพันธ์ของสภาพปัญหาทาง ๒ ๓ - - ๕
ภูมิศาสตร์บนโลกกับความหลากหลายของไบโอม และ
ยกตัวอย่างไบโอมชนดิ ต่างๆ

๒. สืบค้นข้อมูลและอภิปรายสาเหตุ และยกตัวอย่างการ ๒ ๒ - - ๔
เปลี่ยนแปลงแทนทข่ี องระบบนิเวศ

๓. สืบคน้ ข้อมลู อภิปราย และยกตัวอย่างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ๑ ๑ - - ๒
ขององค์ประกอบทางกายภาพและทางชีวภาพที่มีผลต่อการ
เปลยี่ นแปลงขนาดของประชากรสง่ิ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ

๔. สบื คน้ ข้อมลู และอภปิ รายเกีย่ วกับปัญหาและผลกระทบที่มีผลต่อ ๑ ๒ - - ๓
ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม พร้อมท้ังนาเสนอแนวทาง
ใ น ก า ร อ นุ รั ก ษ์ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า
สิ่งแวดล้อม

๕. อธิบายโครงสร้างและสมบัติของเย่ือหุ้มเซลล์ท่ีสัมพันธ์กับการ ๔ ๒ - - ๖
ลาเลียงสารและเปรียบเทียบการลาเลียงสารผ่านเย่ือหุ้มเซลล์
แบบตา่ งๆ

๖. อธิบายการควบคุมดุลยภาพของน้าและสารในเลือดโดยการ ๒ ๓ - - ๕
ทางานของไต

๗. อธิบายการควบคุมดุลยภาพของกรด – เบสของเลือดโดยการ ๒ ๒ - - ๔
ทางานของไตและปอด

๘. อธิบายการควบคุมดุลยภาพของอุณหภูมิภายในร่างกายโดย ๒ ๒ - - ๔
ระบบหมุนเวยี นเลอื ด ผิวหนัง และกลา้ มเนอื้ โครงร่าง

๙. อธิบายและเขยี นแผนผงั เกยี่ วกับการตอบสนองของร่างกายแบบ ๒ ๒ - - ๔
ไมจ่ าเพาะ และแบบจาเพาะตอ่ สิ่งแปลกปลอมของรา่ งกาย

๑๐. สืบค้นข้อมูล อธิบายและยกตัวอย่างโรคหรืออาการที่เกิดจาก ๑ ๑ - - ๒
ความผดิ ปกตขิ องระบบภมู ิคุ้มกนั

๑๑. อธิบายภาวะภมู ิคุ้มกันบกพรอ่ งที่มสี าเหตุมาจากการติดเช้ือ HIV ๑ - - - ๑

๑๓๗

๑๒. ทดสอบและบอกชนิดสารอาหารทีพ่ ชื สงั เคราะหไ์ ด้ - - ๒๓ ๕

๑๓. สืบคน้ ขอ้ มูล อภปิ รายและยกตวั อย่างเกยี่ วกบั การใชป้ ระโยชน์ - - ๑ ๒ ๓
จากสารต่างๆ ทีพ่ ืชบางชนดิ สร้างขน้ึ

๑๔. ออกแบบการทดลอง ทดลอง และอธบิ ายเกี่ยวกบั ปจั จัยภายนอก - - ๒ ๓ ๕
ที่มีผลต่อการเจรญิ เติบโตของพชื

๑๕. สืบค้นข้อมูลเกีย่ วกบั สารควบคุมการเจรญิ เติบโตของพชื ทม่ี นษุ ย์ - - ๒ ๒ ๔
สงั เคราะห์ขน้ึ และยกตัวอย่างการนามาประยกุ ต์ใช้ทางด้าน
การเกษตรของพืช

๑๖. สังเกตและอธิบายการตอบสนองของพืชต่อสง่ิ เรา้ ในรูปแบบต่างๆ - - ๑ ๒ ๓
ที่มผี ลตอ่ การดารงชีวิต

๑๗. อธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งยนี การสังเคราะหโ์ ปรตีน และ - - ๒๓ ๕
ลกั ษณะทางพันธกุ รรม

๑๘. อธิบายหลกั การถ่ายทอดลกั ษณะท่ถี กู ควบคมุ ยนี ท่อี ยู่บน - - ๒๓ ๕
โครโมโซมเพศและมัลติเปิลแอลลีล

๑๙. อธิบายผลทเี่ กดิ จากการเปลยี่ นแปลงลาดับนิวคลโี อไทดใ์ นดเี อ็น - - ๒ ๓ ๕
เอตอ่ การแสดงลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ

๒๐. สืบคน้ ข้อมูลและยกตัวอย่างการนามิวเทชนั ไปใช้ประโยชน์ - - ๑๒ ๓

๒๑. สบื ค้นขอ้ มูลและอภิปรายผลของเทคโนโลยีทางดเี อน็ เอที่มตี ่อ - - ๑๒ ๓
มนษุ ยแ์ ละส่งิ แวดล้อม
- - ๔๕ ๙
๒๒. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และยกตัวอย่างความหลากหลายของ
สง่ิ มีชวี ติ ซง่ึ เปน็ ผลมาจากววิ ฒั นาการ - - - - ๑๐
๒๐ ๒๐ ๒๐ ๓๐ ๑๐๐
๒๓. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

รวม

๑๓๘

โครงสร้างรายวิชาชีววิทยา รหัสวิชา ว๓๑๑๐๓ (แผนเนน้ วิทย์)
๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน ๑.๕ หน่วยกติ

หนว่ ยการเรียนรู้ หนว่ ยยอ่ ยการเรยี นรู้ ชวั่ โมง
1. ธรรมชาตขิ องสง่ิ มชี วี ติ ๑.๑ ธรรมชาติของสง่ิ มีชีวิต ๑
๑.๒ ชีววิทยาคอื อะไร ๑
(๘ ชั่วโมง) ๑.๓ ชวี วิทยากบั การดารงชวี ิต ๑
๑.๔ ชีวจริยธรรม ๑
2. เคมที ี่เปน็ พน้ื ฐานของสง่ิ มีชวี ติ ๑.๕ การศกึ ษาชวี วทิ ยา ๔
(๑๒ ช่ัวโมง) ๒.๑ สารเคมที ี่เป็นพ้ืนฐานของสงิ่ มชี วี ิต ๑
๒.๒ สารอนินทรยี ์ ๑
3. เซลลข์ องสงิ่ มชี วี ติ ๒.๓ สารอินทรีย์ ๘
(๔๐ ชัว่ โมง) ๒.๔ ปฏกิ ริ ิยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมชี วี ิต ๒
๓.๑ เซลล์และทฤษฎีเซลล์ ๑
๓.๒ โครงสร้างของเซลลท์ ่ีศึกษาดว้ ยกล้อง ๑๒

จุลทรรศน์อิเล็กตรอน ๕
๓.๓ การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ๑
๓.๔ การสอ่ื สารระหวา่ งเซลล์ ๑๐
๓.๕ การแบง่ เซลล์ ๑
๓.๖ การเปลี่ยนสภาพของเซลลแ์ ละการชรา
๑๐
ภาพของเซลล์ ๖๐
๓.๗ การหายในระดบั เซลล์

รวม

๑๓๙

ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้
รายวิชาชวี วิทยา รหสั วิชา ว ๓๑๑๐๓ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ (แผนเนน้ วทิ ย)์

คะแนนท่ปี ระเมิน

ข้อ ผลการเรยี นรู้ ราย ้ขอ ่กอนกลางภาค
ท่ี สอบกลางภาค
รายข้อหลังกลางภาค
สอบปลายภาค
รวมคะแนนท้ังหมด

๑ อธิบายและสรุปสมบตั ทิ สี่ าคญั ของส่ิงมีชีวิตและความสัมพันธ์ ๒ ๒ - - ๔
ของการจัดระบบในสงิ่ มีชีวติ ทีท่ าให้สงิ่ มีชวี ติ ดารงชวี ิตอยู่ได้

๒ อภิปร ายและ บอก คว าม สาคัญ ขอ ง ก าร ร ะ บุปัญ ห า
ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งปัญหาสมมติฐาน และวิธีการตรวจสอบ ๓ ๓ - - ๖
ส ม ม ติ ฐ า น ร ว ม ทั้ ง อ อ ก แ บ บ ก า ร ท ด ล อ ง เ พ่ื อ ต ร ว จ ส อ บ
สมมตฐิ าน

๓ สืบค้นข้อมูลอธิบายเกี่ยว กับสมบัติของน้าและบอ ก
ความสาคญั ของน้าท่ีมีต่อส่งิ มชี ีวติ และยกตัวอยา่ งธาตุต่าง ๆท่ี ๑ ๑ - - ๒
มคี วามสาคญั ต่อร่างกายสงิ่ มีชีวิต

๔ สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของคาร์โบไฮเดรตระบุกลุ่ม
คาร์โบไฮเดรตรวมท้ังความสาคัญของคาร์โบไฮเดรตท่ีมีต่อ ๒ ๒ - - ๔
สง่ิ มีชวี ติ

๕ สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายโครงสร้างของโปรตีนและความสาคัญของ ๓ ๓ - - ๖
โปรตีนทมี่ ีต่อสิ่งมชี วี ิต

๖ สืบค้นข้อมูลอธิบายโครงสร้างของลิพิดและความสาคัญของ ๒ ๒ - - ๔
ลพิ ิดที่มีต่อสงิ่ มีชีวติ

๗ อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลีอิกและระบุชนิดของกรด ๓ ๓ - - ๖
นิวคลอี กิ และความสาคัญของกรดนิวคลีอิกที่มีตอ่ ส่งิ มีชีวติ

๘ สืบค้นข้อมูลและอธบิ ายปฏิกริ ิยาเคมที ี่เกดิ ขึน้ ในส่ิงมชี ีวิต ๒ ๒ - - ๔

๙ อธิบายการทางานของเอนไซม์ในการเร่งปฏิกิริยาเคมีใน ๒ ๒ - - ๔
สงิ่ มชี วี ิต และระบุปัจจยั ที่มผี ลต่อการทางานของเอนไซม์

๑๐ บอกวิธีการและเตรียมตัวอย่างสิ่งมีชีวิตเพ่ือศึกษาภายใต้
กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงวัดขนาดโดยประมาณและวาดภาพท่ี - - ๕ - ๕
ปรากฏภายใต้กล้องบอกวิธีการใช้และการดูแลรักษากล้อง
จลุ ทรรศน์ใชแ้ สงท่ีถูกต้อง

๑๑ อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ - - ๑ ๑ ๒
พืชและเซลลส์ ัตว์

๑๔๐

๑๒ สบื ค้นขอ้ มลู อธบิ ายและระบชุ นิดและหนา้ ท่ขี องออร์แกเนลล์ - - ๓ ๕ ๘

๑๓ อธิบายโครงสร้างและหนา้ ทขี่ องนิวเคลยี ส - - ๑๒๓

๑๔ อธิบายและเปรียบเทียบการแพร่ออสโมซิสการแพร่แบบ - - ๓ ๕ ๘
ฟาซิลเิ ทตและแอกทีฟทรานสปอรต์

๑๕ สืบค้นข้อมูลอธิบายและเขียนแผนภาพการลาเลียงสาร

โมเลกุลใหญ่ออกจากเซลล์ด้วยกระบวนการเอกโซไซโทซิส - - ๒ ๒ ๔
และการลาเลียงสารโมเลกุลใหญ่เข้าสู่เซลล์ด้วยกระบวนการ

เอนโดไซโทซสิ

๑๖ สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิสจาก - - ๒๒๔
ตั ว อ ย่ า ง ภ า ย ใ ต้ ก ล้ อ ง จุ ล ท ร ร ศ น์ พ ร้ อ ม ท้ั ง อ ธิ บ า ย แ ล ะ

เปรยี บเทียบการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิส

๑๗ อธิบายเปรยี บเทียบและสรุปขั้นตอนการหายใจระดับเซลล์ใน - - ๒ ๕ ๗
ภาวะทมี่ ีออกซเิ จนเพยี งพอและภาวะท่ีมีออกซิเจนไมเ่ พียงพอ

๑๘ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - - - - ๑๐

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๔๑

โครงสร้างรายวิชาชีววิทยา รหสั วชิ า ว ๓๑๒๔๑ (แผนเน้นวิทย์)
๓ ช่วั โมง/สัปดาห์ ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น ๑.๕ หนว่ ยกติ

หน่วยการเรยี นรู้ หนว่ ยยอ่ ยการเรยี นรู้ ชวั่ โมง
๑. การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
๑.๑ การศกึ ษาพันธศุ าสตรข์ องเมนเดล ๒
(๑๖ ช่วั โมง)
๑.๒ กฎการแยกและกฎการรวมกล่มุ อยา่ งอสิ ระ ๖
๒. ยีนและโครโมโซม
(๒๐ ช่วั โมง) ๑.๓ ลักษณะทางพนั ธุกรรมทเ่ี ปน็ สว่ นขยายของเมนเดล ๘

๓. พนั ธุศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๑ การค้นพบสารพนั ธุกรรม ๒
ทางดเี อ็นเอ
(๑๐ ช่วั โมง) ๒.๒ โครโมโซม ๒

๔. วิวัฒนาการ ๒.๓ ดีเอน็ เอ ๒
(๑๔ ชัว่ โมง)
๒.๔ สมบัติของสารพันธกุ รรม ๑๐

๒.๕ การกลาย ๔

๓.๑ เทคโนโลยีทางดเี อ็นเอ ๖

๓.๒ การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ ๔

๔.๑ หลกั ฐานท่บี ่งบอกถงึ วิวฒั นาการของสงิ่ มชี วี ติ ๒
๔.๒ แนวคิดเก่ยี วกับวิวฒั นาการของสงิ่ มีชีวติ ๔
๔.๓ พันธุศาสตรป์ ระชากร ๖
๔.๔ กาเนดิ ของสปชี ีส์ ๒
๖๐
รวม

๑๔๒

ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
รายวิชาชวี วทิ ยา ว ๓๑๒๔๑ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ (แผนเนน้ วทิ ย)์

คะแนนทีป่ ระเมิน

ข้อ ผลการเรียนรู้ ราย ้ขอ ่กอนกลางภาค
ท่ี สอบกลางภาค
รายข้อหลังกลางภาค
สอบปลายภาค
รวมคะแนนท้ังหมด

๑ สืบค้นขอ้ มลู อธิบายและสรปุ ผลการทดลองของเมนเดลได้ ๑- - -๑

๒ อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่าง

อิสระ และนากฎของเมนเดลน้ีไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะ ๓ ๔ - - ๗
ทางพันธุกรรมและใช้ในการคานวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์

และจีโนไทปแ์ บบต่าง ๆ ของร่นุ F๑ และ F๒ ได้

๓ สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอด ๒ ๓ - - ๕
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่เี ป็นส่วนขยายของพนั ธุศาสตรเ์ มนเดลได้

๔ สบื คน้ ขอ้ มูล วิเคราะห์ และเปรยี บเทียบลักษณะทางพันธุกรรมท่ี ๒ - - - ๒
มีการแปรผันไม่ต่อเน่ืองและลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปร

ผนั ต่อเนอ่ื งได้

๕ อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะ ๓ ๓ - - ๖
ทา ง พั น ธุ ก ร ร มท่ี ถู ก ค ว บ คุ ม ด้ ว ย ยี น บ น อ อ โ ตโ ซ ม แ ล ะ ยี น บ น

โครโมโซมเพศได้

๖ สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าท่ีของสารพันธุกรรม ๓ ๓ - ๓ ๙
โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของ DNA และสรุปการ

จาลอง DNA ได้

๗ อธิบายและระบุข้ันตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและ ๒ ๔ - ๓ ๙
หนา้ ทีข่ อง DNA และ RNA แตล่ ะชนิดในกระบวนการสังเคราะห์

โปรตนี ได้

๘ สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ๒ - - - ๒
ลักษณะทางพันธุกรรมและเชื่อมโยงกับความรู้เรื่องพันธุศาสตร์

เมนเดลได้

๙ สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับ ๒ ๓ - ๒ ๗
โครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชัน รวมทั้งยกตัวอย่างโรคและ

กลมุ่ อาการทเี่ ป็นผลของการเกดิ มวิ เทชันได้

๑๔๓

๑๐ อธิบายหลักการสร้างส่ิงมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรี - - ๔ ๕ ๙
คอมบแิ นนท์ได้

๑๑ สบื ค้นข้อมลู ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนาเทคโนโลยีทางดีเอ็น

เอไปประยุกต์ ทั้งในด้านส่ิงแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ - - ๓ ๕ ๘
การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคานึงถึงด้าน

ชีวจรยิ ธรรมได้

๑๒ สบื ค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานท่ีสนับสนุนและข้อมูลที่ - - ๓ ๒ ๕
ใช้อธบิ ายการเกดิ วิวัฒนาการของสิง่ มชี วี ิตได้

๑๓ อธิบายและเปรยี บเทียบแนวคิดเก่ยี วกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต - - ๓๓๖
ของฌองลามาร์ก และทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

ของชาลส์ดาร์วนิ ได้

๑๔ ระบุสาระสาคัญและอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-

ไวน์เบิร์ก ปัจจัยท่ีทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล - - ๕ ๕ ๑๐
ในประชากร พรอ้ มทัง้ คานวณหาความถ่ขี องแอลลีลและจีโนไทป์

ของประชากรโดยใช้หลกั ของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิร์กได้

๑๕ สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายกระบวนการเกิดสปีชีส์ใหม่ - - ๒ ๒ ๔
ของส่งิ มชี วี ติ ได้

๑๖ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - - - - ๑๐

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๓๐ ๑๐๐

๑๔๔

โครงสร้างรายวชิ า โลก และอวกาศ รหัสวิชา ว ๓๑๑๐๔

เวลาเรียน ๒ ช่วั โมง/สัปดาห์ ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน ๑.๐ หน่วยการเรยี น

หนว่ ยการเรยี นรู้ หนว่ ยยอ่ ยการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง
เอกภพ ๔
ดาวฤกษ์ -กาเนิดเอกภพ ๖
-กาแล็กซี
ระบบสรุ ยิ ะ ๔
เทคโนโลยีอวกาศ -วิวฒั นาการของดาวฤกษ์ ๒
-กาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ ๒
โครงสร้างโลก -ความส่องสว่างและโชติมาตรของดาวฤกษ์ ๖
โลกและการเปลีย่ นแปลง -สีและอุณหภูมิผิวของดาวฤกษ์
-ระยะหา่ งของดาวฤกษ์ ๔
ปรากฏการทางธรณวี ทิ ยา -เนบิวลา แหล่งกาเนดิ ดาวฤกษ์ ๔
การหมุนเวียนลมของระบบของ -ระบบดาวฤกษ์
โลกและการหมุนเวียนของนา้ ใน -มวลของดาวฤกษ์
มหาสมทุ ร
-การกาเนดิ ระบบสุริยะ
-เขตของบริวารดวงอาทติ ย์
-ดวงอาทติ ย์

-กลอ้ งโทรทรรศน์
-การขนส่งและการโคจรของดาวเทยี ม
-ระบบขนสง่ อวกาศ
-การใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยอี วกาศ

-การศกึ ษาโครงสรา้ งของโลก
-การแบง่ โครงสร้างของโลก

-ทฤษฎที วปี เลื่อนของเวเกเนอร์
-หลกั ฐานและข้อมูลทางธรณวี ิทยาที่สนับสนนุ การ
เคลอ่ื นท่ีของทวีป
-กระบวนการท่ีทาให้เกิดการเคลอื่ นทขี่ องแผน่ ธรณี
-ลกั ษณะการเคล่อื นทข่ี องแผน่ ธรณี
-การเปล่ียนลกั ษณะของเปลือกโลก

-แผ่นดนิ ไหว
-ภูเขาไฟ
-สึนามิ

-การหมุนเวยี นลมของระบบของโลก
-การหมุนเวียนของน้าในมหาสมทุ ร

ความแปรปรวนของอากาศ -ปรากฏการณเ์ อลนโี ญ และลานญี า่ ๑๔๕
การพยากรณ์อากาศ -ปรากฏการณเ์ รอื นกระจก ๔
-คลนื่ ความรอ้ น ๔

-การตรวจอากาศ
-แผนทอ่ี ากาศ

๑๔๖

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
รายวิชาโลก และอวกาศ ว ๓๑๑๐๔ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔

คะแนนท่ีประเมิน

ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้
ข้อ ี่ท
ราย ้ขอก่อนกลางภาคเรียน

สอบกลางภาค
ราย ้ขอหลังกลางภาคเรียน
ุคณลักษณะ ่ีทพึงประสง ์ค

สอบปลายภาค
รวมคะแนน ้ัทงหมด

อธบิ ายการกาเนิดและการเปล่ียนแปลงพลงั งาน สสาร

๑ ขนาด อณุ หภูมขิ องเอกภพหลังเกิดบิกแบงในชว่ งเวลาต่าง ๒ ๒ ๔

ๆ ตามวิวฒั นาการของเอกภพ

๒ อธิบายหลกั ฐานทีส่ นับสนุนทฤษฎบี กิ แบง จาก ๒๑ ๔
ความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเรว็ ๒

กับระยะทางของกาแลก็ ซี รวมทัง้ ข้อมลู การค้นพบ ๔

ไมโครเวฟพืน้ หลงั จากอวกาศ

อธิบายโครงสรา้ งและองค์ประกอบของกาแล็กซีทาง

๓ ชา้ งเผือก และระบตุ าแหนง่ ของระบบสุริยะพร้อมอธบิ าย ๒ ๒

เช่อื มโยงกบั การสังเกตเห็นทางช้างเผอื กของคนบนโลก

อธบิ ายกระบวนการเกดิ ดาวฤกษ์ โดยแสดงการ

๔ เปลย่ี นแปลงความดนั อุณหภมู ิ ขนาดจากดาวฤกษก์ ่อน ๒ ๒

เกดิ จนเป็นดาวฤกษ์

ระบปุ จั จัยทีส่ ่งผลต่อความสอ่ งสว่างของ ดาวฤกษ์ และ

๕ อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างความส่องสวา่ งกบั โชตมิ าตร ๑ ๑

ของดาวฤกษ์

๖ อธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งสี อณุ หภมู ิผวิ และสเปกตรมั ๑๑
ของดาวฤกษ์

๗ อธบิ ายลาดับวิวัฒนาการท่ีสมั พันธ์กบั มวลตั้งต้น และ ๒ ๒
วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงสมบตั ิบางประการของดาวฤกษ์

อธบิ ายกระบวนการเกดิ ระบบสรุ ิยะ และการแบ่งเขต

๘ บรวิ ารของดวงอาทติ ย์ และลกั ษณะของดาวเคราะหท์ เี่ อือ้ ๒ ๒

ต่อการดารงชีวิต

อธบิ ายโครงสรา้ งของดวงอาทิตย์ การเกดิ ลมสรุ ิยะ พายุ

๙ สรุ ิยะ และสบื คน้ ข้อมูล วิเคราะหน์ าเสนอปรากฏการณ์ ๒๒
หรือเหตกุ ารณ์ที่เกยี่ วข้องกบั ผลของลมสุริยะ และพายุ

สุรยิ ะทม่ี ตี ่อโลกรวมทั้งประเทศไทย

สบื ค้นขอ้ มูล อธิบายการสารวจอวกาศ โดยใช้กลอ้ ง ๑๔๗

โทรทรรศน์ในช่วงความยาวคลน่ื ตา่ งๆดาวเทยี ม ยาน ๔

๑๐ อวกาศ สถานีอวกาศ และนาเสนอแนวคดิ การนาความรู้ ๒ ๒ ๕
๓๕
ทางดา้ นเทคโนโลยอี วกาศมาประยุกตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั ๔๗
๒๔
หรอื ในอนาคต
๓๕
๑๑ อธิบายการแบง่ ชน้ั และสมบัติของโครงสรา้ งโลก พรอ้ ม ๒๓
ยกตัวอย่างขอ้ มูลท่ีสนบั สนนุ ๒๓
๑๒
๑๒ อธิบายหลกั ฐานทางธรณีวิทยาที่สนบั สนุนการเคลื่อนทข่ี อง ๒ ๒๓
แผ่นธรณี ๒๓
๒๓
ระบสุ าเหตุ และอธบิ ายรปู แบบแนวรอยต่อของแผ่นธรณีท่ี ๒๓
๒๔
๑๓ สมั พนั ธ์กบั การเคล่ือนทข่ี องแผน่ ธรณี พรอ้ มยกตวั อยา่ ง ๓

หลักฐานทางธรณวี ทิ ยาที่พบ

อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบิด รวมทงั้

๑๔ สบื คน้ ข้อมูลพนื้ ที่เสี่ยงภัย ออกแบบและนาเสนอแนว ๒

ทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภัย

อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ขนาดและความรุนแรง

๑๕ และผลจากแผ่นดินไหว รวมทงั้ สบื ค้นข้อมูลพนื้ ท่ีเส่ียงภยั ๒
ออกแบบและนาเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ัติ

ตนให้ปลอดภยั

อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกดิ และผลจากสนึ ามิรวมทั้ง

๑๖ สืบค้นขอ้ มลู พ้ืนทเ่ี สย่ี งภยั ออกแบบและนาเสนอแนว ๑

ทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั

๑๗ อธิบายปจั จยั สาคญั ทมี่ ีผลตอ่ การไดร้ บั พลังงานจากดวง ๑
อาทติ ย์แตกต่างกันในแตล่ ะบรเิ วณของโลก

๑๘ อธิบายการหมุนเวยี นของอากาศ ท่ีเป็นผลมาจากความ ๑
แตกตา่ งของความกดอากาศ

๑๙ อธบิ ายทศิ ทางการเคล่อื นที่ของอากาศ ท่เี ป็นผลมาจากการ ๑
หมนุ รอบตวั เองของโลก

๒๐ อธบิ ายการหมุนเวียนของอากาศตามเขตละตจิ ดู และผลที่ ๑
มตี อ่ ภมู ิอากาศ

อธบิ ายปจั จัยทีท่ าใหเ้ กิดการหมุนเวยี นของนา้ ผวิ หน้าใน

๒๑ มหาสมุทร และรปู แบบการหมุนเวียนของน้าผิวหนา้ ใน ๑

มหาสมุทร

อธิบายผลของการหมุนเวียนของอากาศและน้าผิวหน้าใน

๒๒ มหาสมทุ รทมี่ ีต่อลกั ษณะภูมิอากาศ ลมฟ้าอากาศ สงิ่ มชี วี ิต ๒

และส่งิ แวดล้อม

๑๔๘

อธิบายปจั จัยที่มีผลต่อการเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศของโลก

๒๓ พร้อมทั้งนาเสนอแนวปฏิบัติเพอ่ื ลดกจิ กรรมของมนษุ ย์ ที่ ๒ ๒๔
๑ ๓๔
ส่งผลต่อการเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศโลก
๑๐ ๑๐
๒๔ แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟา้ อากาศท่ีสาคัญจากแผนท่ี
อากาศ และนาขอ้ มูล

สารสนเทศต่าง ๆ มาวางแผนการดาเนนิ ชวี ติ ให้สอดคล้อง

กบั สภาพลมฟ้าอากาศ

๒๕ จติ พิสยั

รวม ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐ ๓๐ ๑๐๐


Click to View FlipBook Version