วิกลวิกาล | 149 หมอนข้างใบที่สาม 2564 หองนอนตอนกลางคืนมืดสนิทเพราะมานทึบ ไมมี แสงไฟจากถนน ไมมีเงา อบอุนและปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อ สี่ดานของเตียงลอมรอบไปดวยหมอนนุมๆ หมอนหนุน หมอนข้างซ้าย หมอนข้างขวา และหมอนข้างอีกใบที่ปลาย เตียงไวซุกเทาเวลาแอรเย็น 03.33 น. หมอนข้างปลายเตียงตกลงจากเตียง แอรเย็นพัดถูกฝาเทา ไมชอบเลย ตองลุกไปเก็บ สินะ เปดไฟฉายจากมือถือแลวกัน เตียงไมเปนคอกยกสูง จากพื้นเกือบเมตร เธอไมลงจากเตียง นั ่งปลายเตียงและ เอื้อมแขนลงมาเก็บหมอน แสงไฟฉายจากมือถือแกวงไปมา พรอมมือที่ควานหาหมอนสะทอนกับน็อตตัวหนึ่งของเก้าอี้ ไมมันเปนประกาย แตทวานั่นไมใช่น็อต ไมใช่กระจก ไมใช่ดวงตา แตเปนสรอยข้อมือ แบบเดียวกับที่เธอมีเพียงแตอยูบน ข้อมือของใครบางคนที่นั่งอยูบนเก้าอี้ปลายเตียงที่วางหันหลัง ใหเธอ เห็นเพียงแขนข้างหนึ่งบนที่วางแขน “emtissertnod altiuntetil iomeessuov” ฉันรอมานานเหลือเกิน ค่ำคืนที่มีแสงไฟ คืนที่เธอเห็นฉัน
150 | นักเรียนเขียนเรื่อง “dotucatnoclayitheu saplumin cetselsueyrt” เราพยายามติดตอเธอหลายครั้ง แตเมื่อไมมีแสงไฟ ความพยายามก็สูญเปลา แมจะฟงไมออก แตเข้าใจทุกคำ เธอไรความ สามารถในการควบคุมรางกาย โทรศัพทหล นลงจากมือ รางกายกึ่งนั่งกึ่งนอน พิงผนังข้างเตียง ริมฝปากและปลายนิ้ว ไมรูสึกอะไร “ylopnamaldonmenog ueqiuqneeb auhcnonuo aetnonuo evorpelbanonou” หลายคนถูกโลกมนุษยกลืนกิน เราถูกตั้งคำถามดวย คำวา เชื่อหรือไมเชื่อ จริงหรือไมจริง พิสูจนไดหรือไมได “ylopnamderus onosimora naerytoyo ritros yonomesipquimontera utcred etlinorehabra” หลายคนยอมแพหมดศรัทธา หวาดกลัว ละทิ้งเรา แตเธอไมเคยลืม เธอเชื่อ และเราศรัทธาในตัวเธอ รางนั้นลุกขึ้นช้าๆ สูงโปรง บอกไมไดวาหญิงหรือ ชาย อยูในชุดคลุมยาวสีเทา เดินตรงไปข้างหนา แตละก้าว นั้นเชื่องช้าและนิ่งราวกับวากำลังลอยอยูเหนือพื้น ยกมือขึ้น
วิกลวิกาล | 151 แหวกมานช้าๆ เปดกระจก ยังคงไมหันมา มือข้างที่มีสรอยยื่นออกมาข้างๆ เชื้อเชิญใหเธอเดิน ตามไป ซอลกลับมารูสึกตัวอีกครั้ง ลงจากเตียง เดินตาม ชายเสื้อคลุมสีเทา รูสึกเบาหวิวราวกับเธอกำลังลอย มือหนึ่ง เอื้อมไปจับมือหนึ่ง นุมและอบอุน สายลมยามค่ำคืนพัดผานเข้า มาในหอง แสงไฟจากถนนสะทอนสรอยข้อมือทั้งสองเสน เปนประกายสีเขียวออน รางสูงในชุดคลุมสีเทาและรางเล็กที่ตามหลังยังคง เดินตอไป สองมือประสานแนบแนน ผานผนังคอนกรีต เดิน ทองไปในทองฟา แสงไฟสีเขียวริบหรี่ใตเงาเมฆ รอคอยพวก เขากลับไป.
152 | นักเรียนเขียนเรื่อง กว่าจะเป็นเร ื่องสั้น “เก้าอี้ปลายเตียง” “เก้าอี้ปลายเตียง” เปนเก้าอี้ที่มีอยูจริง อยูปลายเตียง ของเรา และเปนตัวที่เราใช้นั่งตลอดการเขียนเรื่องนี้เช่นเดียว กับเหตุการณบางอยางในเรื่องก็เปนสิ่งที่เกิดขึ้นในบานของ เราเองเมื่อตอนเรายังเปนเด็กประถม การเขียนเรื่องนี้ทำใหเราไดไปรื้อความทรงจำในวัย เด็กหลายๆ อยางที่เราเกือบจะลืมไปแลว สาเหตุที่ยอนกลับ ไปในวัยนั้นคงเพราะเปนวัยที่เราสัมผัสความกลัวไดง่ายที่สุด กลัวความมืด กลัวเงา กลัวการมองกระจกและใตเตียงตัวเอง กลัวการถูกมองจากสายตาที่ไมเปนมิตร เราเขียนเรื่องนี้เพื่อฟูลฟลภาพในหัวของตัวเอง ทุก ครั้งที่มีสายตาจากคนรอบข้างตัดสินเรา มองวาเราแปลกแยก ทุกครั้งที่เรานอนไมหลับเพราะนึกถึงสายตาและความกดดัน พวกนั้น เราหวังวาอะไรบางอยางจะมาจับมือดึงเราออกไป จากดาวโลกใบนี้ไปอีกมิติหนึ่งที่เราเปนตัวเองไดอยางสบายใจ และไมตองกลัวอะไร. ซอแก้ว
วิกลวิกาล | 153
154 | นักเรียนเขียนเรื่อง “สองเทาเล็กๆ ออกวิ่ง วิ่ง วิ่ง และวิ่งอยางสุดกำลัง เด็กนอย วิ่งลงบันไดอยางเร็วรี่แตขาเจ้ากรรมดันไมเปนใจ เสียหลัก จากบันไดที่สูงชันนั้น ก่อนรวงลงมาเหมือนตุกตารุงริ่งตัวหนึ่ง เด็กนอยกลิ้งตกลงไปเบื้องลาง รวง และกระแทกอยางแรง เสียงโครมดังก้องรางของเธอแนนิ่ง ราวกับไดสิ้นลมหายใจไปแลว ฉันไดแตเหยียดยิ้มใหภาพตรงหนา ฆาตกรที่ถือมีดไลตามเด็กนอยดูเหมือนจะตกใจอยูบาง แตแววตากลับฉายแววแหงความพอใจ” “ความฝนจบไปเหลือแตฉันที่ยังอยู” ของ ฝนฝน
วิกลวิกาล | 155 ฝัน ก. เห็นเปนเรื่องราวเมื่อหลับ, นึกเห็น, นึกเห็นสิ่งที่เปนไปไมได. Trigger Warning: มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทารุณกรรมในพื้นที่ครอบครัว, การทำผิดจรรยาบรรณ, การฆ่า
156 | นักเรียนเขียนเรื่อง
วิกลวิกาล | 157 ความฝันจบไป เหลือแต่ฉันที่ยังอยู่ ฝนฝน นี ่คงเปนความฝน ทองฟาโปรงไรเมฆ แสงจันทร สองสวาง บานสองชั้นหลังคาทรงจั่วอันแสนคุ้นตาปรากฏชัด ชั้นแรกสรางจากอิฐ ชั้นที่สองสรางจากไมซึ ่งทาดวยสีขาว ดูตัดกันอยางลงตัว ระเบียงชั้นสองของบานตกแตงดวยไฟ สีอบอุน สายลมพัดจากบริเวณระเบียงผ านหนาตางเข้ามา ยังภายในตัวบาน อากาศเย็นยามวิกาลสัมผัสผิวกายจนฉัน รูสึกเย็นเยือก ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วอาณาบริเวณ ไรสุมเสียงของสิ่งมีชีวิตใดๆ สายตาของฉันไลมองไปยัง สุดปลายบันไดทางลง มีเด็กผูหญิงคนหนึ่งในชุดสีขาวนอนนิ่ง ราวกับไรลมหายใจอยู ขาทั้งสองข้างของเธอบิดเบี้ยว คงเกิด จากการที่พลัดตกจากบันไดที่ชันมากๆ โดยไมทันไดตั้งตัว ใบหนาของเด็กหญิงเปอนน้ำตา มันเปนใบหนาอันแสนคุ้นเคย ความทรงจำค่อยๆ ทำงาน สั่งการใหเกิดความตระหนักรูตัว
158 | นักเรียนเขียนเรื่อง เด็กผูหญิงที่นอนอยูตรงนั้น...คือรางของฉันเอง ฉัน กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดเพื่อไปใหถึงรางนั้นโดยเร็วที ่สุด แมวา มือของฉันจะพยายามไขวควารางนั้นเพียงใด แตกลับสัมผัส ไดเพียงความวางเปลา เสียงทะเลาะโหวกเหวกดังลงมาจากชั้นบน ฉันเดิน ข้ามรางของตัวเองกลับขึ้นบันไดไปตามเสียงที่ไดยิน ในบาน หลังเก่าที่ข้าวของเครื่องใช้ยังคงอยูในตำแหนงแหงเดิมราวกับ ถูกแช่แข็งไวตั้งแตเมื่อยี่สิบปก่อน ความอบอุนของพอแมและ ความหอมหวานของความทรงจำในวัยเด็กยังคลุงไปทั่วบาน ฉันในตอนนี้กลับไมอาจสัมผัสไออุนของความเปนบานหลัง เดิมไดอีกตอไป บานหลังนี้ไดสูญเสียความเปนบานไปตั้งแต ไมมีแมแลว พ อมักจะทำเหมือนฉันกับพี่เปนนักโทษที่มีคดี ติดตัว และคอยดุดาทุกครั้งเวลาฉันทำอะไรไมไดดั่งใจ ใน สายตาของพ อ ฉันก็คงไมตางอะไรกับสิ่งผิดพลาด เสียง โหวกเหวกดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ฉันเข้าใกลตนเสียง ถึงฉัน จะมีความทรงจำเกี่ยวกับบานหลังเดิมนี้นอยนัก แตฉันก็ยัง จำไดดีวา เสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกย างก้าวของฉัน คือเสียง ของพี่และพอ พวกเขากำลังทะเลาะกันอยางรุนแรง หูของฉัน พยายามจับคำพูดของพวกเขา แตสิ่งที่ไดยินกลับเปนแค่คลื่น เสียงที่จับความไมไดแทน
วิกลวิกาล | 159 เทาทั้งสองข้างพาฉันมายังประตูบานสีแดงที่เปด แง้มเอาไวตนตอของเสียงลอดออกมาจากจุดนี้หัวใจของฉัน เตนรัวเหมือนกำลังแอบแง้มกลองของขวัญที่หามเปดก่อนวัน เกิด ภาพที่ปรากฏไมใช่ภาพอันรื่นรมยฉันเห็นแมนั่งอยูที่พื้น หนากรอบรูปครอบครัวขนาดมหึมาที่แขวนไวบนผนังดานที่ หันเข้าหาประตูพอดีหญิงวัยกลางคนผมเผากระเซิง เลือด ไหลทวมตัว รูปปากเอื้อนเอยแตไรเสียง จับไดเปนคำวา ไอ- เด็ก-เวร แมจ้องฉันตาเขม็ง เมื่อพูดจบคำ เสียงทะเลาะของ พ อกับพี่ก็หยุดลง ความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณโดยรอบอีก ครั้ง ในช่องประตูเล็กๆ นั้น สายตาของ ‘คน’ ทั้งสาม หรือที่ อาจเรียกไดวา ‘เคย’ เปนคน หันมาจ้องฉันเปนตาเดียว ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นเปนจังหวะถี่รัว “หลัน หลัน เปดประตูใหพี่หนอย นี่พี่เองนะ” “หลัน หนูเปนอะไรหรือเปลา ไมงั้นพี่จะพังประตู เข้าไปแลวนะ” ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูแสนหนวกหูปลุกใหฉันตื่นจากภวังค์ ฝนอันแปลกประหลาด
160 | นักเรียนเขียนเรื่อง ก่อนที่ฉันจะไดนั่งจมจ่อมอยูกับความฝนประหลาด ฉันตองรีบลุกไปเปดประตูใหพี่เดี๋ยวนี้ “กำลังไปค่ะ กำลังไปค่ะ” ฉันลุกขึ้นจากเตียงอยางเรงรีบเพราะเกรงวาจะตอง เสียค่าซ่อมประตูจริงๆ ประตูสีขาวครีมเปดออกพรอมกับ เสียงพร่ำบนของพี่เหลียน พี่สาวที่ทำตัวประดุจแมคนที่สอง เพียงเพราะวาเธออายุหางจากฉันเกือบสิบหาป “เปนอะไรหรือเปลา พี่เรียกตั้งนานแลว ไมเปดประตู สักทีหลัน พี่พูดตรงๆ นะ พี่วาเราควรกลับไปอยูที่บานกับพอ กับพี่ดีกวา พี่เปนหวงนะรูไหม ถานานกวานี้อีกนิด พี่คงโทร แจ้งตำรวจไปแลว” “ไมใช่วาคิดมากเรื่องพออีกนะ” พี่เหลียนขมวดคิ้ว “ถาเปนเรื่องนั้น ไมตองหวงหรอก พ ออยู ในการ ดูแลของแพทยเฉพาะทางแลว ไมมีอะไรตองหวง” พ อของฉันเปนอัมพาตหลังจากที่ฉันออกจากบาน มาทำงานสอนอยูที่โรงเรียนในกรุงเทพ แตเพราะความสัมพันธ ที่ย ่ำแยกับพอ บวกกับมีพี่เหลียนคอยดูแลทุกอยางใหฉันจึง ไมไดใสใจพอมากนัก
วิกลวิกาล | 161 “เปลา หนูแค่ปวดหัวนิดหนอยนะเลยกินยาแลวนอน เลย” ฉันพูด หวังวาพี่เหลียนคงจะเห็นใจฉันบาง พี่เหลียนมองฉันดวยสายตาเปนกังวล เธอสายหนา ไปมาพรอมกับทอดถอนใจ “หลัน หนูปวดหัวอีกแลวหรือ ยาที่พี่ใหไปกินไมทำให ดีขึ้นเลยหรือ” พี่เหลียนพูดพรอมกับจ้องมาที่ฉันอยางเอาเปนเอาตาย ฉันไมอยากสารภาพเลยวาฉันเบื่อยาพวกนั้นเกินทน ไมวาจะ กินไปเทาไหร พี่ก็ยังหายาสูตรใหมมาใหฉันอยูเรื่อย “หนูกินยาตามที่พี่สั่งทุกวัน” พี่เหลียนหันไปมองซองยาเปลาบนหัวเตียง “ไมเปนไร พี่จะสั่งยาตัวใหม ใหอีก ครั้งหนาหลัน ตองหายดีแน” ยังไมทันขาดคำ เธอก็หยิบซองยาตัวใหม ที่ไรฉลากเช่นเคยมาวางแหมะไวที่หัวเตียงแทนซองเก่า “ถายังไมดีขึ้น ตองรีบบอกพี่นะรูไหม” จะบอกใหพี ่มาพาฉันกลับไปอยู บานหรือ ไมเอา หรอก การกลับไปเปนคนปวยในสายตาของพี่ไมใช ่เรื่อง นาสนุกเลยสักนิด
162 | นักเรียนเขียนเรื่อง พี่ของฉันก็ไมใช่หมอเถื่อนอะไรหรอก เธอเปนศัลยแพทย ดานระบบประสาทที่หาตัวจับยากคนหนึ่งตางหาก ตั้งแตจำความ ไดพี่ก็คอยดูแลฉันทุกอยางแทนแมที่เสียไป ฉันเปนลูกหลง ของพอกับแม แมดวนจากฉันไปตั้งแตฉันอายุไดเจ็ดขวบ ขณะที่พี่กำลังยุงวุนวายกับการสำรวจความเปนอยู ของฉัน ฉันจึงเสไปถามถึงพอแทน “พี่เหลียน พอเราเปนยังไงบาง” “ก็เหมือนเดิม ถึงจะยังขยับตัวไมไดแตการตอบสนอง ยังดีอยู” ฉันตั้งทาจะรองไห “ไมตองรองเลยนะ ยังไมมีใครตายสักหนอย เดี๋ยว รองแลวก็เปนเรื่องอีก” “ไมไดจะรองสักหนอย พี่จะมารูดีกวาตัวฉันไดยังไง” ฉันมีอาการแปลกๆ ที่จะเกิดขึ้นทุกครั้งในตอนที่ตั้ง ทาจะรองไหตั้งแตเล็ก อาการปวดหัวแทบระเบิดเปนจุณจะ กระโดดเข้ามาแทนที่น้ำตาเสมอ ไมมีใครรูวาเปนเพราะอะไร ครอบครัวของเราตระเวนหาหมอตั้งหลายที่ก็หาสาเหตุไมพบ พี่เหลียนเคยเลาใหฟงวาครั้งหนึ่งอาการเคยกำเริบจนถึงขั้น นอนสลบเปนผักไปเปนเดือนๆ ตอนนั้นใครๆ ก็คิดวาฉันคง ตองตายไปแลว แตปาฏิหาริยก็เกิดขึ้น เด็กที่แมแตหมอยังไม
วิกลวิกาล | 163 คิดจะรับรักษากลับฟนตัวขึ้นมาไดดวยความสามารถของพี่ เหลียน เพื่อหยุดยั้งความทรมานนี้ ฉันจึงตองกินยาของพี่ ตั้งแตนั้นมา ถาหากพี่เหลียนเปนเสมือนแมที่คอยเปนหวงแลว พอก็คงทำตัวเปนเหมือนกับเจ้าหนาที่กรมราชทัณฑที่คอย จับตาดูฉันตลอดเวลา ราวกับเปนนักโทษความผิดฉกรรจ์ การกินยาของพี่ทำใหอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ก็จริง แตใช่ วาจะหายขาด สัญญาณแจ้งเตือนข้อความ หนาจอมือถือสวางวาบขึ้น ข้อความแชตจากสีเทียน เพื่อนรวมงานและเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวสงมาหาฉัน “ไหวไหม พรุงนี้จะมาสอนไหวหรือเปลา” “ไปสิ” ฉันพิมพตอบกลับไป ไมนานมานี้อาการปวดหัวกลับมารุนแรงขึ้นตอนที่ ฉันตองเลิกกับเซน แฟนคนลาสุด (อย างนอยก็คงเรียกวา แฟนไดมั้ง) ฉันรองไหเกือบทุกวัน รวมถึงเกือบทำรายตัวเอง คงเปนเพราะสีเทียนไปบอกพี่เหลียนแนๆ เธอถึงไดกุลีกุจอ มาหายามดึกดื่น
164 | นักเรียนเขียนเรื่อง “อยางนอยหนูก็ยังมีพี่ แลวก็...มีสีเทียน” นั ่นสินะ ตอใหคนทั้งโลกจะใจรายกับฉันมากแค่ไหน พี่ก็รักฉันเสมอ ฉันยิ้มใหพี่ แลวเดินไปหยิบซองยาไรฉลากนั่นขึ้นมา มันเปนยาเม็ดกลมสีขาวขนาดเล็กจิ๋ว ปม ‘X66’ ไวบนตัวยา เปนเช่นเดียวกับยาชุดก่อนๆ เพียงแตเปลี่ยนหมายเลข เทานั้น คงเปนรหัสยามั้ง ฉันก็ไม ค ่อยเข้าใจเรื ่องพวกนี้ เทาไหร แตตราบใดที่กินแลวหาย ฉันก็ไมอยากจะตั้งคำถาม อะไรใหมันวุนวาย ฉันเงยหนาขึ้นมองพี่เหลียนอีกครั้งแลว ระบายยิ้มออกมา สงยาเม็ดกลมขนาดจิ๋วเข้าไปในปากแลว ดื่มน้ำตามไป “พักนะหลัน เรื่องทุกข์ใจของหลันใหมันเปนแค่ความฝน ก็พอ” พี่เหลียนกระตุกยิ้ม ความง่วงงุนค่อยๆ ซึมซาบเข้ามา ในทุกสวนของระบบประสาท หนังตาของฉันค่อยๆ ปดลง นอนหลับสักตื่น อะไรๆ ก็คงดีขึ้นอยางที่พี่วา สัญญาณแจ้งเตือนข้อความ “ใหมันจริงเถอะ ไมงั้นฉันจะไปตามถึงบานเลย คอยดู”
วิกลวิกาล | 165 หนาจอสวางวาบขึ้นอีกครั้ง สีเทียนสงข้อความบาง อยางเข้ามา ก่อนที่การรับรูของฉันจะค่อยๆ ดับลง เปนอีกครั้งที่ความหนาวเหน็บอันแสนคุ้นเคยเข้ามา สัมผัสผิวหนังของฉัน เพียงแค่ขยับตัวก็รูวา ฉันไม ได กำลังนอนอยูบนเตียงนุมๆ เตียงเดิม แตเปนพื้นกระเบื้อง อันแสนเย็นเฉียบที่ไหนสักแหง ตาของฉันค่อยๆ ลืมขึ้นก่อน จะพบกับความว างเปลา ในเมื ่อหลับตาก็เจอกับความมืด ลืมตาก็เจอกับความมืด แลวจะตางอะไร รางกายอันออนลา สั่งการใหฉันเลือกหลับตาลงช้าๆ ถึงเวลาจะผานไปเนิ่นนาน แตสติของฉันก็ยังครบถวน สมบูรณดีฉันเฝารอดวยใจจดจ่อ หวังใหสีเทียน พี่เหลียน หรือใครสักคนเข้ามาปลุกฉัน ทุกสิ่งเงียบสงัด ราวกับฉัน กำลังอยู ในหองเก็บเสียงที่ดีที ่สุดในโลก เงียบเสียจนฉัน ใจคอไมดีฉันไมไดกลัวความมืด แตฉันกลัวความเงียบ ความ มืดทำใหฉันมองอะไรไม เห็น แตก็ไมทำใหใครมองเห็นฉัน เช่นเดียวกัน การซ่อนตัวอยูภายใตเงามืดที่ลึกที่สุดทำใหฉัน รูวา ตราบที่ฉันยังคงไดยินเสียง ฉันจะยังคงปลอดภัย แตที่นี่กลับเงียบ...เงียบจนนากลัว แสงสวางสองกระทบเปลือกตา เปนครั้งที่เทาไหร
166 | นักเรียนเขียนเรื่อง แลวก็ไมอาจนับไดแตฉันกลับไมรูสึกเคยชินกับ ความฝนที่ ไมมีวันจบสิ้น นี้สักครั้ง อา...คงถึงเวลาแลวสินะ พอลืมตาขึ้นมา ภาพที่เห็น ตรงหนา ก็คือประตูบานสีแดงที่เปดแง้มเอาไวตางออกไป ตรงที่แมไมไดนั่งอยูหนากรอบรูปครอบครัวขนาดใหญนั่น และ เรียกฉันวา ไอเด็กเวร เหมือนในภาพฝนคราวแรก แต แม ยังมีชีวิต แมยังมีลมหายใจ ถึงแมดูเหมือนวาจะเปนลมหายใจ สุดทายของเธอก็ตาม ฉึก!!! เสียงมีดเสียบลงบนตัวแมครั้งแลวครั้งเลาโดยฝมือ ของคนที่ฉันเรียกวาพอ ฉันไมเคยเห็นฝนในครั้งนี้มาก ่อน ราวกับหนังเรื่องใหมที่กำลังฉายขึ้นในหัว ชวนใหขนลุกยิ่งนัก “แมคะ...” เสียงเล็กแหลมของเด็กผูหญิงดังขึ้น เธอคือฉันและฉันก็คือเธอ เรายืนอยูในตำแหนง เดียวกัน เด็กผูหญิงคนนั้นกำลังแอบดูผานบานประตูที่แง้ม ไวเหมือนกันกับฉันไมมีผิด…ตางกันตรงที่สำหรับฉันมันเปน ความฝน แตสำหรับเธอมันเปนความจริง “แกมันไมใช่ลูกฉัน”
วิกลวิกาล | 167 นัยนตาของพอในตอนนี้คือแววตาที่เขาใช้มองฉันมา ตลอดในช่วงหลายปที่ผานมา พอผละจากรางของแมที่กำลัง หายใจรวยริน แมใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดทายเพื่อรองขอความ ช ่วยเหลือจากฉัน ลูกสาวสุดที่รัก แมคงหวังใหเด็กตัวนอยๆ วิ่งไปเรียกตำรวจ หรือโทรหารถพยาบาลสักคันใหมารับเธอ แตแมคิดผิด เด็กผูหญิงตัวแค่นั้นจะไปทำอะไรไดเธอช่วยแม ไมไดถึงมีโอกาสช่วยก็คงไมทำ เพราะเธอกลัวเหลือเกิน กลัววารางตอไปที่จะตองตกอยูใตคมมีดจะเปนตัวเธอเอง สองเทาเล็กๆ ออกวิ่ง วิ่ง วิ่ง และวิ่งอยางสุดกำลัง เด็กนอยวิ่งลงบันไดอย างเร็วรี่ แตขาเจ้ากรรมดันไมเปนใจ เสียหลักจากบันไดที ่สูงชันนั้นก่อนรวงลงมาเหมือนตุกตา รุงริ่งตัวหนึ่ง เด็กนอยกลิ้งตกลงไปเบื้องลาง รวง และกระแทก อยางแรง เสียงโครมดังก้อง รางของเธอแนนิ่งราวกับไดสิ้น ลมหายใจไปแลว ฉันไดแตเหยียดยิ้มใหภาพตรงหนา ฆาตกร ที่ถือมีดไลตามเด็กนอยดูเหมือนจะตกใจอยูบาง แตตากลับ ฉายแววแหงความพอใจ พอเดินลงบันไดเพื่อตรวจดูความ เรียบรอยของผลงานตัวเอง เขายกมีดขึ้น หมายจะจ้วง แทงลงไปบนรางที่ไรหนทางสู “ไม! หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดรอง ดังขึ้น ทำใหพอชะงักไป เจ้าของเสียงไมใช่คนอื่นคนไกล เธอ
168 | นักเรียนเขียนเรื่อง เปนหญิงสาวที่แบกกระเปาเปหลังตุง พี่เหลียน พี่สาวแสนดี ของฉัน พี่กำลังมาช่วยฉัน ช่วยเด็กนอยที่นอนแนนิ่งตรงนั้น พอใจรายกับพวกเราเสมอมา แมแตในฝน พอก็ยัง ไมเปลี่ยน มีแตพี่เทานั้นที่คอยปกปองฉันมาตลอด ความ ทรงจำที่แสนงดงามปรากฏขึ้น น้ำตาของฉันปริ่มขอบตา ก่อน จะไหลพรากลงมาราวกับน้ำตก เมื่อรูวาพี่เหลียนช่วยชีวิตฉัน ไวอยางไร “การทดลองกำลังไปไดสวย เด็กนี่ตอบสนองไดดีกับ X2 ยาที่กำลังทดลองอยูตอนนี้ถาไมมีอะไรผิดพลาด นี่อาจ เปนผลงานใหมที่สรางมูลค่ามหาศาลจนไมอาจประเมินค่า ไดเลยนะ” พี่เหลียนพูด “แลวเธอจะแนใจไดอยางไร วาจะไมพลาด” พอเลิกคิ้ว ขึ้นเมื่อไดยินคำพูดของพี่ “ถาพลาด ฉันใหคุณจัดการเด็กนี่ไดตามสบายเลย แลวเราค่อยรับเลี้ยงเด็กเพิ่มหรือซื้อมาอีกก็ไดไมมีปญหา จะใหฉันเลนเปนแมแทนก็ไดไหนๆ คุณก็นาจะจัดการกับ ‘แม’ ข้างบนนั้นไปแลวนี่” ผูหญิงคนนั้นหรี่ตามองพ อที่ถือมีดเปอนเลือดแลว ปรายตาไปมองเด็กนอยบนพื้นที่เนื้อตัวมีรอยฟกช้ำ กระดูก
วิกลวิกาล | 169 ทอนขาผิดรูป ฉันหันกลับไปมอง ‘แม’ ที่นั่งเลือดทวมตัวอยูในหอง ผานช่องบานประตูสีแดงที่แง้มไวตามเดิม ปากของเธอขยับ ขึ้นลงเปนจังหวะช้าๆ ดวงตาปูดโปนจ้องเขม็งมาที่บาน ประตู “ไอ-เด็ก-เวร” แมไมไดดาฉัน เธอหมายถึงหญิงสาวข้างลางที่กำลัง แบกรางของเด็กนอยไปเก็บไวที่อื่นตางหาก “เก็บนังเด็กนี ่ไวในหองแกนั่นแหละ จะไดไมตอง เคลื่อนยายใหกระโตกกระตาก” หลังเสียงนั้นที่ฉันไดยิน บรรยากาศก็กลับมาเงียบงัน อีกครั้ง ความเย็นเยือกที่ฉันสัมผัสไดนั้นช่างสมจริงเกินกวา ที ่ความฝนจะเนรมิตไดภาพทุกอย างที่อยูตรงหนาวูบไหว ไปมา คงเปนสัญญาณบงบอกวาฉันกำลังจะตื่น “สวัสดีค่ะ” เสียงของสีเทียนดังเข้ามาในหัวของฉัน สีเทียนคง มาปลุกฉันใหไปสอนแลวแหละ ไดเวลาตื่นมารับมือกับโลก ความจริงแลว ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นอยางช้าๆ แตภาพที่เห็น ตรงหนากลับไม ใช ่หองนอนของฉันที่คอนโด และยิ ่งไมใช่
170 | นักเรียนเขียนเรื่อง เตียงนอนที่คุ้นเคย แตเปนพื้นกระเบื้องที่เดิม และบานประตู สีแดงที่บัดนี้ถูกปดไว “มีอะไรหรือเปลาสีเทียน มาหาพี่ถึงที่บานเลย เรานี่ มาหาพี่บอยยิ่งกวาหลันกลับมาบานอีกนะเนี่ย” ฉันค่อยๆ ยองตามตนเสียงของพี่เหลียน “พี่เห็นหลันบางไหมคะ เมื่อวันก่อนยังบอกวาจะไป สอนอยูเลย นี่หายไปไหนก็ไมรูข้าวของในคอนโดก็ยังอยูครบ ไมไดพกมือถือไปดวยซ้ำ” “อาจจะอยูที่บานแฟนก็ไดนะ หลันไมไดกลับมาที่นี่ นานมากแลว…ตั้งแตไปทำงาน” สายตาของฉันสบเข้ากับสีเทียนอยางจัง เพื่อนรัก ของฉันทำทาทางเลิ่กลั่กอยางบอกไมถูก “เออ พี่กำลังจะไปไหนหรือคะ เห็นทาทางดูรีบๆ” “ออ กำลังจะออกไปข้างนอกนะ เผอิญที่ทำงานมี เรื่องดวนนิดหนอย” “อา พี่เหลียน หนูขอรอหลันอยูที่นี่ไดไหมคะ เผื่อ หลันมาแลวไมเจอใคร ถือวาเฝาบานใหพี่เลย ฮาๆ” “พี่วา…” ยังไมทันพูดจบประโยคก็มีเสียงมือถือดังขึ้น พี่เหลียนรับโทรศัพทอยางเรงรีบ
วิกลวิกาล | 171 “ค่ะ จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” พี่เหลียนกลาวกับคน ในสายดวยทาทีเครงเครียด จากนั้นก็หันมาพูดกับสีเทียน “สีเทียน งั้นฝากหลันดวยละกัน” หลังจากพูดจบพี่เหลียนก็ผลุนผลันออกไปจากบาน ทันทีสายตาของสีเทียนที่มองมายังฉันทำใหฉันไมแนใจวา นี่ เปนความฝนหรือความจริงกันแน สีเทียนเคยบอกวา ตัวเองมัก จะมองเห็น ‘อะไร’ แปลกๆ ไดและหนึ่งในนั้นก็คงจะรวมตัว ฉันเอาไวดวย ฉับพลัน สมองก็สั่งใหฉันวิ่งกลับไปที่ประตู สีแดงบานเดิมเพื่อพิสูจนวาสิ่งที่ฉันเจอมันคืออะไรกันแน “ยัยหลัน จะไปไหนนะ” สีเทียนตะโกนไลหลังฉัน “แกสั่งใหพี่หลอกฉันงั้นเหรอ เปนอะไรก็บอกกันดีๆ สิทำไมตองหลบตองแอบดวย” พวกเราวิ่งไปจนถึงหองนอนของพี่เหลียน สีเทียน มองหนาฉันดวยความสงสัย ฉันรูวาเรื่องนี้มันยากที่จะเข้าใจ แตถึงอยางนั้นฉันก็ตองการจะทำมันอยูดี “สีเทียน ช่วยอะไรฉันหนอยสิ” ฉันพูด “ช่วยเปดประตูหนอย” โชคดีที่ประตูไมไดล็อก เมื่อเปดเข้าไปกลับพบเพียง หองนอนธรรมดาๆ หองหนึ่ง มีเตียงใหญตั้งอยูตรงกลางหอง
172 | นักเรียนเขียนเรื่อง มีรูปของครอบครัวที่อยูกันพรอมหนาแขวนไวที่ผนังฝงตรงข้าม กับประตูมันเปนรูปแนวตั้งขนาดใหญ สัดสวนเทียบเทาคน จริง เปนรูปของผูชายวัยกลางคนนั่งข้างผูหญิงวัยกลางคน ผมยาวสลวย ดานข้างมีพี่เหลียนยืนอยู บนตักของผูหญิงวัย กลางคนมีหนูนอยถักเปยสองข้างนั่งอยูเหมือนตุกตา ใบหนา ของทุกคนเต็มไปดวยรอยยิ้ม สีเทียนก้าวเข้าไปแตะที่รูป รูปนั้น “มาบานแกตั้งหลายรอบ เพิ่งเคยเห็นรูปนี้” แนละ ทั้งชีวิต ฉันก็เคยเห็นรูปครอบครัวแค่รูปนี้ เหมือนกัน ฉันเดินเข้าไปมองใหชัดๆ อีกครั้ง สัญชาตญาณ สั่งการใหปลดรูปนี้ออกเสีย “สีเทียน มาตรงนี้หนอย ช่วยฉันเอารูปลงที” สีเทียนเข้ามาช่วยขยับกรอบรูปไปมาอยูครูหนึ่ง “หลัน มันเอาลงไมไดรูปใหญเกิ–” ไมทันขาดคำ กรอบรูปขนาดมหึมาก็รวงหลน เผยให เห็นบานประตูขนาดพอดีตัวคนที่ซ่อนอยูเบื้องหลัง “เข้าไปกัน” ฉันพูด ใบหนาของสีเทียนเต็มไปดวย เครื่องหมายคำถาม “มีบางอยาง…แปลกๆ ” หลังจากฉันพูดจบ สีเทียนก็
วิกลวิกาล | 173 พยายามเปดประตูบานนั้น สีเทียนใช้เรี่ยวแรงที่มีเขยาประตู ไปมาอยางเอาเปนเอาตาย แตแลวก็ตองยอมแพ “หลัน มันเปดไมออก” “กลับกันก่อนเถอะ ก่อนที่พี่เหลียนจะมาเจอ” “ไมได! ” “ไมตองดุก็ไดตกใจหมด” สีเทียนสะดุง “ลองเปดดูอีกรอบ เหมือนตองใสรหัสตรงนั้น ลองใสวันเกิดฉันดู” เสียงสัญญาณเปดประตู เมื่อฉันและสีเทียนเปดประตูบานนั้นออก ก็พบกับ หองเก็บของขนาดยอมๆ ภายในหองมีอุปกรณการทดลอง ที่เหมือนเพิ่งผานการใช้งาน มีเอกสารมากมายกองพะเนิน ซองยาไรฉลากมากมายที่ฉันจำไดดีรวมถึงสารสีสวยที่ จัดเก็บไวอยางเปนระเบียบ “หลัน มาดูนี่” สีเทียนชูปกกระดาษหนาที่มีชื่อของฉันจ่าไวเดนหรา มีรอยหมึกสีเข้มเขียนกำกับไวที่ผลการทดลองวา ‘ลมเหลว’ มันเปนรอยใหมที่เพิ่งเขียนเมื่อไมนานมานี้
174 | นักเรียนเขียนเรื่อง อะไรคือลมเหลว แลวทำไมพี่ถึงมีของพวกนี้ได “ฮะ ยาลบความทรงจำเหรอ” สีเทียนไมรอช้า หยิบมือถือขึ้นถายรูปเอกสารไว อยางเรงรีบ “มีของคนอื่นดวยหรือนี่” ในเอกสารเหล านั้นมีรอยประทับตราสีแดงเดนวา ‘ลมเหลว’ ฉบับแลวฉบับเลา เรื่องราวนาเศราถูกเก็บรวบรวมไวใน หองแล็บเล็กๆ หองนี้ หองที่อยูหลังรูปครอบครัวของฉันโดยที่ ไมมีใครรูฉันเมมปากแนน “สีเทียน แกตองรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้” สีเทียนพยักหนา เธอรีบวิ่งไปยังประตูหองลับ ใน ขณะที่ฉันยังยืนนิ่งอยูที่เดิม “หลัน แก…” “ฉันรูสีเทียน มีแค่พี่กับพอที ่รูวาฉันอยู ไหน ไม สิ อาจมีแค่พี่คนเดียว ตามหาฉันใหเจอ แลวปลุกฉันใหไดแค่นี้ ก็พอแลว รีบไปเถอะ” สีเทียนพยักหนาใหฉัน แตยังไมวายกังวลใจในความ ปลอดภัยของฉัน เธอรีบก้าวออกไปจากหองลับ สีเทียนจาก
วิกลวิกาล | 175 ไปแลว เหลือเพียงฉันกับความเงียบ ความเงียบที่นากลัว ฉัน มองไปที่ชื่อของตัวเองบนเอกสารอย างเหมอลอย ทุกอยาง ไหลหลั่งเข้ามาเหมือนกับเขื่อนแตก มันเปน…เรื่องจริง สิ่งที่ฉันเห็นมันเปนเรื่องจริง! ฉันยืนนิ่งอยูตรงนี้มานานมากแลว จดจ่อกับความ ทรงจำที่ยังคงหลั่งไหลเข้ามาไมหยุดหย อน มันผิดเพี้ยนไป หมด ตัวฉันเหมือนไมใช่ตัวฉันอีกตอไป หลังจากไดรับรู เรื่องราวทั้งหมดผานภาพปะติดแลว ฉันจะยังเปนคนเดิมได อยูอีกหรือ ฉันจมอยูกับตัวเองและความเงียบอยางเนิ่นนาน จนกระทั่งไดยินเสียงประตูเปดออก พี่เหลียนก้าวเข้ามาข้าง ในหอง สายตาของเธอจ้องมองไปยังที ่มุมหนึ ่งของเพดาน หอง มุมปากของเธอค่อยๆ ยกขึ้นอยางช้าๆ จนกลายเปน เหยียดยิ้ม เมื่อฉันมองตามไปยังจุดเดียวกันนั้น ก็พบกลอง จิ๋วที่ซ่อนอยู พี่เหลียนเห็นทุกอยางมาตั้งแตตน ฉันอดเปนหวง สีเทียนไมได เสียงโทรศัพทดังขึ้นทำลายความเงียบในหอง พี่เหลียนรับโทรศัพทดวยทาทางสบายๆ แตหลังจากที่ปลาย สายพูดกับเธออยูราวอึดใจ สีหนาของเธอก็เปลี่ยนไป
176 | นักเรียนเขียนเรื่อง “อะไรนะ แกปลอยใหสีเทียนรอดไปไดยังไง” พี่พูด และเดินวนไปเวียนมาดวยทาทีกระวนกระวาย ฉันถอนหายใจ โลงอกไปที “อะไรนะ…ไม ฉันตองหนีเดี๋ยวนี้” วาแลวพี่ก็วิ่งพลาน เหมือนคนเสียสติ “แลวหยุดเรียกชื่อนั้นสักทีไดไหม คุณคงลืมไปแลว วาฉันชื่ออะไร ขอรองเถอะ อย าจริงจังนักเลย นั่นก็แค่เรื่อง สมมติขึ้นมา เตรียมเอกสารตัวตนใหมใหฉันดวย แลวเจอ กัน” พี่เหลียนวางสายลงแลวรีบออกไปทันที สิ่งที่เธอเก็บไป มีแค่ตัวยาที่ยังอยูในขั้นทดลอง เธอ ทิ้งกระดาษที่มีชื่อของผูทดลองมากมาย ราวกับการทดลอง นั้นเปนเรื่องไรค่า มันเปนความลมเหลวของคนชื่อเหลียน “แลวฉันละ ฉันเปนนองพี่นะ แค่ตื่นขึ้นมาก็จะลืม เรื่องเลวรายไมใช่หรือไง พี่กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงเรียก ของฉันสงไปไมถึงพี่ พี่คง…ไมมีวันกลับมาหาฉันอีกแลว ...
วิกลวิกาล | 177 สะเทือนทั้งวงการ แฉ...หมอดัง นักทดลองยาลบความทรงจําเถื่อน ประสบอุบัติเหตุขณะหลบหนี รถพลิกควํ่า เสียชีว ิตคาที่ ไทยรักษออนไลน 5 มีนาคม 66 20:05 น. ความคิดเห็น 22K แหล งข่าวเผยเอกสารลับของแพทยหญิงกมลการ วิสุทธิ์ศัลยแพทยระบบประสาทชื่อดัง หรือที่รูจักกันในนาม ‘หมอเหลียน’ มีส วนเกี ่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษยเพื่อ นำไปใช้ในการทดลองยาเถื่อน เบื้องตนตำรวจสืบสวนพบเอกสารบันทึกข้อมูลการ ทำวิจัยในมนุษยหลายฉบับ เชื่อ...มีผูถูกลวงมาทำวิจัยกวา 30 ราย ขบวนการนี้ดำเนินการมาแลวหลายปรวมกับนาย จิตติวิสุทธิ์และ นางลัลชา วิสุทธิ์ทั้งสามรวมมือกันหาเหยื่อ ทดลอง โดยมีหนึ่งในเหยื่อชื่อนางสาวลิลิน วิสุทธิ์ สันนิษฐาน ว าเกิดขัดแยงผลประโยชนจึงลงมือฆาตกรรมกันเอง นาง ลัลชาเสียชีวิตอยางเปนปริศนาเมื่อยี่สิบกวาปก่อน นายจิตติ เสียชีวิตดวยภาวะหัวใจลมเหลวหลังเปนอัมพาตมานาน หลายเดือน นางสาวกมลการประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ
178 | นักเรียนเขียนเรื่อง เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ลักษณะศพมีความผิดปกติอยางมาก คลายตกใจสุดขีด ส วนนางสาวลิลินอยูในภาวะโคมาไม สามารถใหปากคำได จากการตรวจสอบในเบื้องตนพบวา ผูตองหาทั้ง สามคนปลอมแปลงอัตลักษณโดยสวมรอยเปนครอบครัวเดิม ที่เคยอาศัยอยูที่บานหลังนี้และภายหลังถูกฆาตกรรมยกครัว เวนแตลูกสาวคนเล็ก ซึ่งตอมาผูตองหาทั้งสามไดรับเลี้ยงไว เปนบุตร เปนไปไดวา มีผูมีอิทธิพลจำนวนมากหนุนหลัง พฤติการณนี้เพื่อลบรองรอยอาชญากรรมในความทรงจำของ เหยื่อ เจ้าหนาที่ตำรวจกำลังเรงสืบคดีอยางเรงดวน นายกรัฐมนตรีใหสัมภาษณสื่อมวลชน ขอความ รวมมือประชาชนอย าแตกตื่น โดยย้ำวาขอใหเชื่อมั่นในการ ปฏิบัติงานของเจ้าหนาที่รัฐ ขณะนี้ทุกอย างอยู ในความ สงบเรียบรอยดี ... หลายวันมานี้สีเทียนวิ ่งเข้าออกโรงพยาบาลกับ สถานีตำรวจเปนวาเลน ฉันเห็นสีเทียนเดินผานเตียงของฉัน ครั้งแลวครั้งเลา ทุกครั้งที่เราสบตากัน ฉันก็มักจะยิ้มกวาง ใหเพื่อนรักดวยความขอบคุณเสมอ แตไมรูทำไมสีเทียนถึง คอยหลบหนาฉันตลอดมา
วิกลวิกาล | 179 “หลัน” เสียงเรียกของสีเทียนดังขึ้น ฉันดีใจมาก ในที่สุดเธอก็ยอมคุยกับฉันสักทีตั้งแตวันนั้นที ่พี ่เหลียน หนีฉันไป ก็ไมมีใครคุยกับฉันอีกเลย สีเทียนยืนหันหนา เข้าหากระจกใส สายตาเหมอมองไปข้างหนาอย างแนวแน ราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอยาง จากตรงนี้ฉันเห็นเพียง ใบหนาดานข้างของเธอเทานั้น “ฉันไปคุยกับหมอแลวนะ หมอกำลังจะมาที่นี่” สีเทียนพูด “ฉันกำลังจะฟนแลวใช่ไหม” นัยนตาของฉันเบิกกวาง ดวยความยินดีไมมีเสียงใดหลุดจากปากของเพื่อนรัก “ตอนฉันตื่นขึ้นมา ฉันก็จะเปนคนใหม ฉันจะไดลืม เรื่องรายๆ ทั้งหมด เหมือนที่เคยเปนมาใช่ไหม” “ในเอกสารนั้นระบุวาแก ‘ลมเหลว’ ” สีเทียนเอย พรอมกับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้ม ตัวของฉันสั่นเทิ้มไปดวยความกลัว ไมจริง ฉันยัง ไมลมเหลว ที่ผานมาฉันลืมมันไดตลอด ฉันคือ ‘ความสำเร็จ’ ของพี่ ผลการทดลองนั่นมันตองมีอะไรพลาดแนๆ พี่เหลียน เก่งจะตาย ไมมีทางที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นแนๆ มันไมจริง ไมจริง ไมจริง!
180 | นักเรียนเขียนเรื่อง “คุณสีเทียนคะ คุณหมอมาแลวค่ะ” เสียงพยาบาล ดังขึ้น ผูชายใสชุดกาวนคนหนึ ่งเดินเข้ามายังรางของฉัน ในหองกระจกใส มือของเขาค่อยๆ ปลดเครื่องช่วยหายใจ ออกไปจากฉัน ไม อยาเพิ่ง ฉันยังไมอยากตาย “หมอวินิจฉัยวาแกมีภาวะสมองตาย ก้านสมอง ถูกทำลายจนไมสามารถทำงานไดอยางสิ้นเชิง” “ไมจริง หมอตองเปนพวกเดียวกับพวกนั้นแนๆ คิดดีๆ สิสีเทียน ฉันคือพยานปากสำคัญที่สุดของคดีนี้นะ” ฉันมองสีเทียนที่กำลังรองไหเธอจ้องมองมายังฉัน รูปปากเอยเปนคำวา “ขอโทษ” แตกลับไรเสียงใดๆ เปลง ออกมา ก่อนที่ผาสีขาวจะเลื่อนมาคลุมตัวฉันทั่วทั้งราง คงไมมีวันที่ฉันจะตื่นจากฝนอีกแลวใช่ไหม.
วิกลวิกาล | 181 กว่าจะเป็นเร ื่องสั้น “ความฝันจบไปเหลือแต่ฉันที่ยังอยู่” เรื่องนี้ไดแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของเพื่อนสนิท คนหนึ่งที่รูจักกันมาเกือบสิบปเรามีเรื่องราวเลาสูกันฟงมา ตลอด เราเองอินกับเรื่องราวของเพื่อนมาก ผนวกกับช่วงนั้น กำลังคิดพล็อตแนวฆาตกรรมสยองขวัญ (และชอบดูหนังแนว นี้เปนทุนเดิม) ก็เลยถามเพื่อนวา เราขอนำบางสวนของ เรื่องราวในชีวิตเพื่อนมาเปนวัตถุดิบแหงแรงบันดาลใจในการ แตงเรื่องไดไหม เพื่อนบอกวา “ไดแตตองเอาใหอานดวยนะ” ระหวางทางการแตงเรื่องสั้นก็ระหกระเหินพอสมควร เดินทาง สัญจรไปนูนมานี่หลายครั้ง ทำเอาอยากเปลี่ยนใจ ไมใหใคร ในเรื่องตองตายไปหลายรอบ แตพอนึกถึงพล็อตเดิมที่คิดไว บวกกับที่เคยเลาใหเพื่อนฟงไวบางแลว ก็เลยเปนอยางที่เห็น ในเรื่องค่ะ จนกระทั่งแตงเสร็จและไดรับธงผานจากเพื่อน และบรรณาธิการแลว ก็เลยไดออกสูสายตาทุกคน กลายเปน เรื่องสั้น “ความฝนจบไปเหลือแตฉันที่ยังอยู” นี้ค่ะ. ฝนฝน
182 | นักเรียนเขียนเรื่อง “…จริงๆ แลว คนเราเนี่ย ก็ไมตางจากฟลมเทาไหร สมองของเรามีไวเก็บความทรงจำ ฟลมก็มีไวเก็บภาพความทรงจำเช่นกัน ฉะนั้น ใหทำตัวเปนเหมือนแผนฟลมที่ผมจะสามารถดึงภาพ ความทรงจำของคุณออกมาไดแลวเราก็จะไดรูกันวา ทำไมคุณถึงมีอาการอยางที่เปนอยูในทุกวันนี้...” “Film Therapy” ของ เสี้ยวหนึ่งในความทรงจำ
วิกลวิกาล | 183 บําบัด ก. ทำใหคลาย, ทำใหหาย, เช่น บำบัดทุกข์, ทำใหทุเลาลง เช่น บำบัดโรค.
184 | นักเรียนเขียนเรื่อง
วิกลวิกาล | 185 Film Therapy เสี้ยวหนึ่งในความทรงจำ สวัสดีครับนักอานทุกท าน ผมเปนเจ้าของคลินิก Film Therapy คลินิกที่รับบำบัดอาการตางๆ ที่ระบุสาเหตุ ไมไดแนชัดดวยขั้นตอนการลางฟลมครับ คุณอาจจะเคยไดยินมาบางวา คนบางคนมีอาการ บางอย างที่รักษายังไงก็รักษาไมหาย คนไข้คนหนึ่งมีอาการ ปวดหลังข้างขวาเรื้อรังมาตลอด ไมวาจะไปหาหมอกระดูก หมอนวด หรือหมออะไรก็ตามแต แตก็ไมมีทีทาวาจะดีขึ้น เพื่อนของเขาเลยแนะนำใหมาหาผม เมื่อเขาเข้ามา ผมก็ให เขาเลาถึงอาการที่เปนอยูพรอมกับถายภาพของเขาไว แชะ! จากนั้น ผมก็จะบอกกลาวถึงสิ่งที่เขาตองทำ โอเคครับ อันดับแรก ขอใหคุณผอนคลายรางกาย สวนไหนที่กำลังทำงานอยู หัว แขน ขา ลำตัว หลัง ปลายเทา ขอใหคุณผอนคลายมันใหหมด แลวคุณจะรูสึกเหมือนกำลัง ลอยอยูในอากาศ เหมือนปุยนุนที่เบาสบาย เบาสบาย
186 | นักเรียนเขียนเรื่อง ตอมา ผมหยิบสายเชื่อมระหวางสมองและภาพ ฟลม โดยตอแท็งก์ลางฟลมเข้ากับศีรษะ ผมจะเชื่อมสมองและจิตของคุณเข้ากับการบำบัด ดวยฟลม ขออนุญาตปดไฟนะครับ ผมจะเลาขั้นตอนการลางฟลมไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยให คุณค้นพบสาเหตุของอาการที่เปนอยูนะครับ ขั้นตอนการบําบัดด้วยฟิล์ม ขั้นที่ : ควบคุมอุณหภูมิของน้ำยาสรางภาพและ น้ำเปลาใหอยูที่ องศาเซลเซียส ผมจะปรับอุณหภูมิหองนี้ ใหได องศาเซลเซียสนะครับ จริงๆ แลว คนเราเนี่ย ก็ไม ต างจากฟลมเทาไหร สมองของเรามีไวเก็บความทรงจำ ฟลมก็มีไวเก็บภาพความ ทรงจำเช่นกัน ฉะนั้น ใหทำตัวเปนเหมือนแผนฟลมที่ผมจะ สามารถดึงภาพความทรงจำของคุณออกมาไดแลวเราก็จะ ไดรูกันวา ทำไมคุณถึงมีอาการอยางที่เปนอยูในทุกวันนี้ ผมจะฉีดน้ำยาที่จะทำใหภาพสาเหตุนั้นก่อตัวขึ้นมา นะครับ
วิกลวิกาล | 187 ขั้นที่ : เทน้ำเปลาลงในแท็งก์ลางฟลมโดยเทให ทวมฟลม หลังจากนั้น เคลื่อนไหวแท็งก์เรื่อยๆ เปนเวลา 30 วินาทีจากนั้นเทน้ำออกจากแท็งก์ นำน้ำยาสรางภาพที่ควบคุมอุณหภูมิไวแลวเทลงไป ในแท็งก์ลางฟลม โดยเริ่มจับเวลาตั้งแตเริ่มเทน้ำยา และให เคลื่อนไหวแท็งก์ตลอดเวลา 30 วินาที (นับรวมเวลาในการ เทน้ำยา) จากนั้น ใหเคลื่อนไหวแท็งก์ทุกๆ 30 วินาทีสลับ กันไปจนครบ นาทีแลวเทน้ำยาออก โดยสามารถเก็บ น้ำยาไวใช้ตอไปได ขั้นที่ : เทน้ำยาหยุดภาพ (Stop Bath) ลงใน แท็งก์ลางฟลม แลวเคลื่อนไหวแท็งก์ไปมา ใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีแลวจึงเทน้ำยาออก ขั้นที่ : เทน้ำยาคงสภาพ (Fixer) ลงในแท็งก์ลาง ฟลมใหทวมฟลม แลวเคลื่อนไหวแท็งก์ทุกๆ 30 วินาที เหมือนขั้นตอนแรก ในขั้นตอนนี้ใช้เวลาในการลาง ถึง15 นาทีจากนั้นจึงเทน้ำยาออก โดยสามารถเก็บน้ำยาไวใช้ ตอไปได เมื่อผมฉีดน้ำยาเข้าไปในตัวผูบำบัดตามขั้นที่ 2 3 และ เรียบรอย ภาพของสาเหตุบนสมองของเขาก็จะฉายชัด
188 | นักเรียนเขียนเรื่อง ขึ้นเรื่อยๆ ผมดีใจมากที่สามารถช ่วยคนคนหนึ่งไดสำเร็จ ผมรีบทำขั้นตอนถัดมาในทันทีมันคือการลางน้ำยาที่ติด อยูบนเนื้อสมองของผูบำบัด ขั้นที่ : เปดฝาแท็งก์ลางฟลม แลวนำฟลมไปลาง ในน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ตลอดเวลา เพื่อชะลางน้ำยาที่ติดอยูบน ผิวฟลมใหออกไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากชะลางฟลมจนครบ 30 นาทีแลว ใหนำ ฟลมแช่ลงไปในน้ำยาโฟโตโฟล (Photo Flo) ใช้อัตราสวน ผสม ตอ สวน นานประมาณ นาที นำฟลมไปทำใหแหงในที่ปลอดฝุนละออง โดยอาจ ใช้หนังชามัวรหรือฟองน้ำเช็ดฟลมโดยเฉพาะ รูดฟลมเบาๆ ก ่อนนำฟลมไปทำใหแหง ผมก็เลยหยิบเอาฟองน้ำมาเช็ด เช็ด เช็ด ที่ตัวผูบำบัดครับ มันออกมาแลวครับ สาเหตุที่เขาปวดหลังเรื้อรังได ฉายอยูในฟลมภาพนี้แลว ผมตัดฟลมเก็บไวในซองใส ฟลมเพื ่อปองกันฝุน ละอองและรอยขีดข่วนจากดานนอก จากนั้นนำผลลัพธที่ได ไปใหผูที่มาบำบัดดู
วิกลวิกาล | 189 เห็นไหมครับ สาเหตุที่ทำใหคุณปวดหลังเรื้อรัง เปน เพราะในชาติก่อน ที่หลังดานขวา คุณเคยโดนแทงดวยมีด ในสงครามกลางเมืองครับ ผมยิ้มราพอใจ จากนั้นจึงถายภาพผูที่มาบำบัดดวย กลองฟลม แชะ! ผมบำบัดคนไปไดอีกหนึ่งคนแลวครับ!!!.
190 | นักเรียนเขียนเรื่อง กว่าจะเป็นเร ื่องสั้น “Film Therapy” งานชิ้นนี้เกิดขึ้นไดเพราะคาบเรียนวิชา “ศิลปะการ เขียนรอยแก้ว” ลวนๆ เมื่อก่อนเคยคิดวา ยังไงตัวเองก็เขียน เรื่องสั้นไมไดหรอก เพราะไมรูจะเริ่มยังไง เคยเขียนเลนแลว รูสึกยังไมใช่ จนมาไดยินวิทยากรที่อาจารยเชิญมารวมจัด เวิรกช็อปบอกวา เขาเริ่มจากสิ่งใกลๆ ตัว เห็นอะไรก็ลองคิด ลองจินตนาการตอ เราก็เลยลองดูบาง บังเอิญเหลือบไปเห็น กลองฟลมวางอยูไมไกล เลยคิดวากลองฟลมนี่แหละ ดูมี เสนหดีนานำมาเขียน สำหรับเรา กลองฟลมใหความรูสึกถึงการมองบาง อยางดวยใจ ตอนที่เราถายภาพ เราถายเหตุการณจริงๆ มันคือ ความซื่อตรงที่อยูตรงหนา แตภาพถายที่ไดกลับลึกลับ ราวกับ มีอะไรที ่ไมสามารถมองเห็นไดดวยตาซ่อนอยู ภาพที ่ถาย ออกมาก็ขึ้นอยู กับการตีความของคนมองวา มองแลวเห็น อะไร ใช้ความรูสึกแบบไหนมอง เรื่องสั้นเรื่องนี้ก็เช่นกัน อยาก ใหทุกคนลองอานดูแลวอาจจะค้นพบความรูสึกบางอยาง ก็เปนได. เสี้ยวหนึ่งในความทรงจำ
วิกลวิกาล | 191
192 | นักเรียนเขียนเรื่อง “ถึงแมเธอจะเปนวิญญาณที่ไมมีความทรงจำ แตจิตวิญญาณของเธอก็ไมเคยลืมความเปนมนุษย เธอกลับตองเปนฝายที่ประหลาดใจเสียเอง เมื่อพบวามนุษยที่ยังมีชีวิตกลับหลงลืมมันซ้ำแลวซ้ำเลา โชคยังดีที่พอพวกนั้นคืนชีพไป ความทรงจำก็จะหายไปหมด มันคือการสังเวยดวยการยอมสละความทรงจำ เพื่อแลกกับการไดกลับเข้าราง เพราะอันที่จริง ชะตาชีวิตของคนที่ตายไปไดจบสิ้นลงแลว” “คืนชีพ” ของ Alice M.
วิกลวิกาล | 193 คืนชีพ ก. ตายแลวกลับฟนขึ้นมาอีก. Trigger Warning: มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทารุณกรรมทางเพศ, การกระทำชำเรา, ขบวนการค้ามนุษย, ยาเสพติด
194 | นักเรียนเขียนเรื่อง
วิกลวิกาล | 195 คืนชีพ Alice M. หมอกควันสีขาวขุ ่นปกคลุมไปทั่วบริเวณจนแทบ มองไมเห็นสิ่งรอบตัว กลิ่นควันธูปฟุงกระจาย ตลบอบอวล ไปทั่ว หญิงสาวนอนทอดรางอยูบนพื้นเพียงผูเดียวในหอง โดยสารแหงนี้เธอค่อยๆ รูสึกตัวขึ้นก่อนจะลืมตาโพลง “เข้ามาแลว” ปเรยิวามฺสํปฺรวโต มหีรฺนุ ภุภฺยะ ปมฺถามนุปสฺปสานํ ไววสฺวตํ สงฺคมนํชนานามฺยมํราชานํหวิษา ทุวสฺย ยโม โน คาตุํปฺรถโม วิเวท ไวษา ควฺยูติรปภรฺต ควฺยูติรปภรฺตวา ยตฺรา นะ ปูรฺเว ปตระ ปเรยุเรนา ชชฺญานาะ ปถฺยา อนุสฺวาหะ (...ข้าพเจ้าขอบูชาพระยม โอรสแหงวิวัสวัต ผูรวมมรรตัยชนไวดวยกัน…)
196 | นักเรียนเขียนเรื่อง หญิงสาวค่อยๆ ยันตัวและลุกขึ้นนั่งบนเบาะโดยสาร ที่ไรผูคน ก่อนชายตามองดายสีขาวที่ผูกติดไวกับปลายนิ้วก้อย ของเธอ มันเปนสิ่งที่จะนำเธอไปหาจุดหมายของงานในครั้งนี้ เสนดายสีขาวยอมสีแดงประปราย คงเปนหยดเลือดของซาก สัตวที่ใช้เพื่อสังเวยในพิธีกรรมอีกตามเคย เพียงแตครั้งนี้มีจุด หยดเลือดมากกวาครั้งไหนๆ จนเกือบจะยอมทั้งเสนดายใหกลาย เปนสีแดง กลุมหมอกในหองโดยสารนี้กำลังพาเธอแลนไปยัง ปลายทางของเสนดายเพื่อไปหาเปาหมาย ลักษณะภายใน หองแหงนี้คลายหองโดยสารรถไฟในโลกมนุษยเพียงแต ทุกอย างเปนสีขาวขุ่นจนแทบจะเปนสีเทา รวมตัวกันเปน กลุมก้อน เงียบงัน และไรผูคน มีเพียงเสียงบทสวดจาก ภายนอกที่คลอมาตามลม ทามกลางกลุมควันจากธูปเพียง ดอกเดียวที่ฟุงไปทั่ว เธอเดินทางมายังโลกแหงนี้โลกที่ไมใช่ โลกมนุษยหรือโลกวิญญาณหลังความตาย แต เปนโลกกึ่ง ความเปนความตาย หมอลุงมักจะเรียกสถานที ่แห งนี้วา ‘สถานที่พักฟน’ มันเปนสถานที่พักสำหรับวิญญาณก ่อนจะ ถูกชะตาชีวิตตัดสินวา ควรจะมีชีวิตอยูตอไปในฐานะมนุษย หรือจบชีวิตมนุษยลงแตเพียงเทานี้ เธอเข้ามาในโลกแหงนี้นับครั้งไมถวนตามคำสั่งของ
วิกลวิกาล | 197 หมอลุง นี่คืองานของเธอ งานที่แลกกับการไดอาศัยอยูบน โลกในฐานะวิญญาณที่ไมใช่วิญญาณเรรอน เธอไมมีที่มาที่ไป และไมมีความทรงจำ เธอจำไม ไดดวยซ้ำว ามาทำงานกับ หมอลุงไดอยางไร รูตัวอีกทีเธอก็เริ่มทำงานใหกับเขาแลว ถาพูดถึงอาชีพหมอลุงแลวละก็หมอลุงเปนหมอผีสำนักดัง มีแตคนรวยๆ ทั้งนั้นที่มาจ้าง ตองจองคิวกันข้ามปเพื่อให หมอลุงทำพิธีใหสวนตัวเธอ ก็เปนแค ่หนึ ่งในวิญญาณที่ หมอลุงเลี้ยงไวเธอมีหนาที่สำหรับพิธีกรรมอยางเดียวเทานั้น พิธีกรรมที่สรางชื่อเสียงและเงินทองมากมายใหแก ่หมอลุง ‘พิธีกรรมคืนชีพ’ ฉับพลัน ดายขาวยอมจุดแดงที่ปลายนิ้วก้อยของเธอ ก็รอนขึ้นมา นี่เปนสัญญาณเตือนวา เวลาในโลกแหงนี้ผานไป หนึ่งชั่วโมงแลว เธอเหลือเวลาอีกแค่สิบสี่ชั่วโมงในการทำงาน ครั้งนี้ใหเสร็จสิ้น กลุมหมอกรถไฟยังคงแลนไปตามเสนดาย อยางตอเนื่อง การจะเสาะหาวิญญาณที ่อยูปลายเสนดาย ตองใช้เวลาพอสมควร โดยปกติที่เธอเคยเข้ามาจะใช้เวลา ประมาณสองถึงสามชั่วโมงเลยทีเดียว ปเรยิวามฺสํปฺรวโต มหีรฺนุ ภุภฺยะ ปมฺถามนุปสฺปสานํ ไววสฺวตํ สงฺคมนํชนานามฺยมํราชานํหวิษา ทุวสฺย…
198 | นักเรียนเขียนเรื่อง เสียงบทสวดนาขนลุกดังขึ้นเปนช่วงๆ ช่วยเนนย้ำให เธอไมเสียสมาธิและหลุดออกไปจากงานในครั้งนี้ในโลก มนุษยหมอลุงตองทองบทสวดตอเนื่องไปจนกวาจะจบพิธี หรือจนกระทั่งธูปหมดดอก เวลาเพียงแค่หนึ่งนาทีในโลกจริง แตในสถานพักฟนแห งนี้กลับยาวนานถึงหนึ ่งชั่วโมง และ แนนอน หากงานไมสำเร็จ เธอก็จะไมมีโอกาสเปนครั้งที่สอง วิญญาณที่เข้ามาในสถานที่แหงนี้ดวยตนเอง หากไมกลับไป ภายในเวลาที่กำหนด วิญญาณก็จะแตกสลายไปตลอดกาล และไมมีโอกาสเกิดใหมไดอีก นี่คือหนาที่ที่สำคัญของเธอ เพียงแตวาครั้งนี้จะเปนครั้งสุดทายสำหรับหนาที่วิญญาณ นำทาง เพราะเธอกำลังจะไดรับโอกาสใหกลับไปมีชีวิตใน ฐานะมนุษยอีกครั้ง มนุษยแบงออกเปนสามสวน คือ รางกาย วิญญาณ และความทรงจำ วิญญาณและความทรงจำมักจะอยูดวยกัน เสมอหลังจากที่ตาย หรือก็คือเมื่อสูญสิ้นชีพจรแลว สวนที่ เปนรางกายก็จะจบชีวิตลง แตก็มีบางครั้งที่วิญญาณไดทำ ความทรงจำหลนหายไป และตัวเธอเองก็เปนเช่นนั้น ข้อมูล เหลานี้หมอลุงพูดย้ำใหเธอฟงจนมั่นใจวา มันจะซึมลึกเข้า ไปในจิตวิญญาณของเธอก่อนที่จะเริ่มงานนำทางวิญญาณใน ครั้งแรก เธอไมรูวาเปนเวลานานเทาใดแลว ที่เธอเข้ามาอยู