วิกลวิกาล | 99 “หยุดดิ้นสักทีเดี๋ยวกูก็เปลี่ยนจากตัดผมเปนตัดหัว มึงหรอกอีเทียน” ชื่อ ‘เทียน’ ดึงความสนใจของเกนหลง เธอเพงไปยัง นักเรียนคนที่นั่งอยูบนเก้าอี้ทามกลางกลุมเพื่อนผูหญิงทั้งสี่ คนที่กำลังยืนลอมรอบเธอเปนวงกลม เมื่อพิจารณาอยางถี่ถวน เธอก็แนใจวาเด็กหญิงกลางวงคนนั้นคือ แสงเทียน ผีรายที่ หมายจะเอาชีวิตเธอเมื่อครู แสงเทียนในตอนนี้ยังคงงดงาม และเต็มไปดวยความหมนหมอง แววตาของเธอยังคงเศรา เหมือนเดิมไมมีเปลี่ยน เด็กหญิงที่ถูกรังแกก้มหนารองไหโดย ไมขัดขืน เธอเริ่มเคาะโตะไมทั้งน้ำตา ความเจ็บปวดของเธอ แปรเปลี่ยนเปนเสียงเคาะที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ กลุมเพื่อนเลวระยำเริ่มลงมือใช้กรรไกรตัดเปยของเธอทีละข้าง เกนหลงที่มองอยูรูชัดวาภาพที่เธอกำลังเห็นตรงหนา คงจะ เปนสิ่งที่แสงเทียนตองการใหเธอเห็น แตสิ่งที่เธอไมเข้าใจคือ เหตุใดรุนพี่คนนี้จึงไมพูดโตตอบใดๆ สักนิด เธอทำแค่เพียง เคาะโตะจนที่ข้อนิ้วมีเลือดแดงไหลซึม ยังไมทันไดคลายความสงสัย เกนหลงก็พบวา รางกายของเธอถูกแรงกระชากดวยแรงอันมหาศาล เมื่อลืม ตาขึ้นมาก็พบวาเธอกลับมานอนอยูที่เดิม ในหองโสตฯ ที่มี ไฟสลัว อากาศเย็นเยียบ หญิงสาวรูทันทีวาเธอไมไดไปไหน
100 | นักเรียนเขียนเรื่อง มาทั้งนั้น เธอสำรวจรางกายตัวเองก็พบวาไมมีแมแตรอยขีด ข่วน รอบๆ ตัวมีเศษแก้วแตกละเอียด แตเธอไมไดรับบาดเจ็บ ใดๆ เกนหลงลองกวาดตามองรอบๆ เธอไมพบผีแสงเทียน ในหองอีกตอไป ปง ปง ปง!!! เปนอีกหนที่เสียงเคาะปริศนาดังขึ้น แตครั้งนี้ไมใช่ เสียงเคาะโตะดังเดิม มันเปนเสียงเคาะตูเหล็กที่อยูไมไกล จากตูเอกสารที่เธอค้นหาข้อมูลเมื่อชั่วโมงก่อน เกนหลงเดิน ไปตามเสียงนั้น ตูเหล็กสีเขียวขี้มามีสนิมเกาะ บานประตูตู ถูกคลองโซ่เอาไวแนนหนา ทวาเมื่อมือเรียวสัมผัสลง ประตู บานนั้นกลับเปดออกเอาดื้อๆ ผีแสงเทียนคงตั้งใจใหเธอมา พบของที่ถูกปดตายดวยโซ่ลามขนาดใหญ วัตถุในตูนั้นทำเอา เกนหลงชะงักไปครูหนึ่ง เมื่อเห็นวามันคือกระจุกของผมเปย สีน้ำตาลเข้ม ดานในมีเศษกระดาษสีขาวหมนที่มีรอยฉีกขาด อยูบริเวณขอบบน ระบุข้อความไววา หมายเหตุ : ทักษะการเขียน-อ่านอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แต่ไม่พูด
วิกลวิกาล | 101 มันคือชิ้นสวนของใบประวัติที่ถูกฉีกออก เธอคิดวา มันเปอยหายตามสภาพ แตเธอคงตองคิดใหม เมื่อพบวามัน ถูกซ่อนอยูพรอมกับผมของแสงเทียน ตัวหนังสือบนกระดาษ ช่วยคลายความข้องใจของเด็กสาวที่วาทำไมพี่แสงเทียนจึงไม เคยพูดตอบโตกับกลุมเพื่อนของเธอ หรือแมแตกับเกนหลง หรือใครๆ ก็ตาม ก้อนความรูสึกผิดกระจุกที่ลำคอ เธอฟงทุกคนโดยที่ ไมเคยฟงแสงเทียน เกนหลงพยายามปะติดปะตอเรื่องราว นิมิตที่ไดเห็นและข้อความที่ไดรับรูทำใหเกนหลงตองลอง มองแสงเทียนดูใหมอีกหลายๆ ครั้ง ในหัวของเธอเต็มไปดวย คำถามที่มีตอความนาเชื่อถือของเรื่องเลา ข่าวลือ และคำ บอกกลาวจากแมของแสงเทียน ปอกปอกปอก ปอกปอกปอกปอก .......... ปอกปอกปอกปอกปอก เสียงเคาะโตะที่คุ้นเคยกลับดังขึ้นในโสตประสาทของ เกนหลงอีกครั้ง ทวาคราวนี้ไมไดดังจนสรางความรำคาญ ราวกับ เจ้าของเสียงเคาะเพื่อจงใจสงสารบางอยางใหเด็กสาวในหอง โสตฯ ฟง เกนหลงตั้งสติและลองฟงเสียงที่ไดยินอยางตั้งใจ เมื่อความกลัวอันตรธานหายไป เธอจึงมีสติมากขึ้นพอจะจับ อะไรบางอยางที่แฝงอยูภายใตเสียงเคาะไดสิ่งนั้นคือจังหวะ
102 | นักเรียนเขียนเรื่อง ปอกปอกปอก ปอกปอกปอกปอก .......... ปอกปอกปอกปอกปอก เกนหลงลองเคาะตามไปกับแสงเทียนก็พบวา เมื่อฟง ดีๆ แลว จังหวะของการเคาะแต ละครั้งมีการเวนวรรคที่ แตกตางกันออกไป ปอกปอกปอก คือ สาม ปอกปอกปอกปอก คือ สี่ …เวนวรรคนานกวาช่วงอื่น… คือ ศูนย และจังหวะสุดทาย ปอกปอกปอกปอกปอก คือ หา 3 4 0 5 ทันทีที่จดบันทึกชุดตัวเลขปริศนาลงในกระดาษ เสียง เคาะของแสงเทียนก็หยุดลง เกนหลงคลี่ยิ้ม เธอไมใช ่คนที่ ฉลาดพอจะไขปญหาเชาวนอะไรไดแตครั้งนี้เธอเดาถูก เด็กสาว คิดอยูนานสองนาน นากาลูกตุมบอกเวลาตีสองครึ่ง บางทีตัวเลขก็อาจไมไดมีความหมายในตัวของมันเอง หรือสงสารถึงอะไรบางอยาง หากแตมันอาจนำไปสูคำตอบ บางอยาง
วิกลวิกาล | 103 ดินสอถูกใช้ขีดฆ่าคำตอบที่ดูจะเปนไปไมไดออกไป ตอนนี้ในหนากระดาษเหลือเพียงคำตอบสุดทายที ่พอจะ เชื่อมโยงกับชุดตัวเลขนี้ได 3405 หรือเลขเหลานี้หมายถึงหมายเลขหอง หองเรียนของโรงเรียนดรุณีวิทยาจะประกอบดวย ตัวเลขสี่ตัว ไมเวนแมแตโรงยิมหรือหองเก็บของ โดยจะแบงตัว เลขตามชื่ออาคาร อาคารนารีจะขึ้นตนดวย 1 อาคารเอกอนงค์ ที่เธออยูตอนนี้จะขึ้นตนดวยเลข และหองเรียนในอาคาร กัลยาจะขึ้นตนดวยเลข สวนตัวเลขตำแหนงที่ 2 หมายถึง ชั้น ดังนั้น เบาะแสของเรื่องราวทุกอยางอาจจะอยูที่อาคาร กัลยา (ตึก ) ชั้น หองที่ 5 ก็เปนได เกนหลงหยุดอยูตรงหนาหองสมุด เธอสองไฟฉาย ไปเหนือประตูก ่อนจะพบวาเลขที่ปรากฏเปนเลขเดียวกับที่ เธอตามหา 3405 คือเลขหองของหองสมุดใหญในอาคาร กัลยา ไมค่อยมีใครจำเลขหองนี้ไดเพราะรูวามันคือที่ตั้งของ หองสมุดที่กินพื้นที่ขนาดใหญตั้งแตหอง 3405 ไปสุดปลาย ทางที่หอง 3410 เด็กสาวสาละวนกับประตูที่ถูกล็อกอยูนาน และผีแสงเทียนก็ไมมาช่วยเธอเปดประตูเหมือนอยางตูลามโซ่ แสงเทียนคงจะไมสามารถออกไปไหนไดวิญญาณเธอคงจะ วนเวียนอยูไดแค่ในที่ที่เธอตายเทานั้น มากสุดก็แค่หลอกหลอน
104 | นักเรียนเขียนเรื่อง คนผานเสียงตามสายที่ตอกับลำโพงเทานั้น ตอนนี้เธอเข้ามาในหองสมุดไดแลวโดยใช้ชะแลงที่ ถือติดมือมาดวย ถาเปนอยางที่เธอคิดจริงๆ แสงเทียนคงจะ ทำสัญลักษณหรือซ่อนความลับบางอยางไวในหนังสือสักเลม เพราะจากใบประวัติของเธอแสดงใหเห็นวาเธอมักจะใช้เวลา วางไปกับการอานหนังสือโดยเฉพาะหนังสือวรรณคดีไทยที่ดู เธอจะโปรดปรานเปนพิเศษ เกนหลงตรงไปยังชั้นหนังสือ หมวดหมู 800 วรรณคดีไทย แตหากจะไล หาวรรณคดีไทย ทุกเลมก็คงจะไมทันก่อนรุงเช้าเปนแน เด็กสาวตะโกนขอให แสงเทียนช ่วยบอกใบเธอผานลำโพงแบบที ่เธอทำใหเสียง เคาะดังไปทั่วโรงเรียน ถึงมวยดินสิ้นฟามหาสมุทร ไมสิ้นสุดความรักสมัครสมาน แมนเกิดในใตฟาสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไมคลาดคลา คำขอของเกนหลงไดผล เสียงอานทำนองเสนาะจาก เทปคาสเซตตดังแววมาจากลำโพงเสียงตามสาย แสงเทียน กำลังช่วยเธอ เกนหลงนึกยอนไปถึงทำนองเสนาะที่เคยดังขึ้น มาถึงสามครั้ง กลอนที่เธอเคยคิดวาเปนเพียงจดหมายรัก ระหวางครูภาษาไทยกับลูกศิษยกลับกลายเปนคำใบใหกับ
วิกลวิกาล | 105 เธอ บทกลอนเหลานั้นมาจากวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ร่ำลือกันวา เมื่อสิบปก ่อนมีนักเรียนคนหนึ่งชอบยืมหนังสือ เลมนี้กลับบานเสมอๆ แตแลวหนังสือเรื่องพระอภัยมณีก็ หายไป พรอมกับเด็กคนที่ลงชื่อยืมหนังสือเล มนี้เปนคน สุดทาย ในเรื่องเลาไมมีการระบุชื่อวาเธอคนนั้นคือใคร เด็กสาววุนวายกับหนังสือบนชั้นอยูสักพักใหญ ก่อน จะเจอกับหนังสือเลมที ่เธอตามหา หนังสือวรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณีโดยพระสุนทรโวหาร เลมหนา หนาปกสีเขียว แสงเทียน พิมานพรหม คือคนสุดทายที ่ลงชื่อยืม วรรณคดีเรื่องนี้ในบัตรยืมหนังสือที่ติดไวที่ทายเลม ตามคำ เลาลือ หนังสือเลมนี้อันตรธานไปอยางไรรองรอย แตในวันนี้ ความจริงก็ไดเปดเผยวา หนังสือเลมนี้ยังอยูในที่ของมัน และ มันคงสำคัญมากขนาดที ่วา แสงเทียนพรางตามิใหใครใน หองสมุดเห็น หรือไมก็เปนเพราะในยุคสมัยนี้ไมค่อยมีใคร เข้าหองสมุดเพื่อยืมวรรณคดีไทยมาอาน หนังสือเลมหนาถูกเปดขึ้นอยางช้าๆ แมเกนหลงจะ เปนลูกครึ่งไทยที่เพิ่งเคยไดเรียนวรรณคดีไทยอยางจริงจังก็ ตอนที่ยายโรงเรียนมา แตเธอก็จำไดวาเพิ่งผานตาตอนหนึ่ง ของวรรณคดีเรื่องนี้ไปเมื่อปก่อนจากหนังสือแบบเรียนภาค บังคับ เกนหลงค่อยๆ กรีดหนังสือเพื่อสำรวจ และเธอก็ได
106 | นักเรียนเขียนเรื่อง พบกระดาษสีขาวขนาดราวครึ่งเอสี่ที่ถูกพับครึ่งและสอดไวที่ กลางเลมหนังสือ ... ฉัน แสงเทียน เด็กสาวผูไรเสียง วันนี้คือวันสุดทายของฉัน ฉันทนอยูตอไปไมไดแลว สิ่งที่ฉันเจอนั้นสาหัสเกินรับไหว ฉันไมเคยเปนชู้กับใคร ครู รวินทรเปนครูที่ฉันรักและเคารพที่สุด ฉันไมเคยทำอย างที่ ใครตอใครพูด แตก็ไมมีใครเคยถามความจริงจากฉัน หรือ เพราะฉันไมพูด ก็เลยไมมีใครสนใจหรือพยายามจะสื่อสาร กับฉัน หลังจากพอตาย ฉันก็ไมเคยไวใจใครมากพอที่จะพูด ดวยอีกเลย เพราะ ฉันไรเสียง จึงไมอาจแก้มลทินใหตัวเอง ไดฉันตองจมจ่อมอยูกับคำนินทาว ารายวาฉันเปนผูหญิง สารเลวแยงสามีคนอื่น ครูภาษาไทยไมเคยลวงเกินฉัน ไมเคย เลยสักครั้ง ครูสอนคอมพิวเตอรตางหากที่ทำรายฉันอยาง เจ็บปวด ใช่... ฉันไวใจคนผิด ภาพลักษณครูผูแสนดีเข้าอก เข้าใจ และพยายามสื ่อสารกับคนอยางฉัน ผูซึ ่งถูกทำให โดดเดี่ยวในโรงเรียนแห งนี้ มันกลายเปนคนคนเดียวที่ฉัน ไวใจ และกลาที่จะพูดดวย มันเริ่มจากการถึงเนื้อถึงตัว ก่อนจะมากขึ้นเรื่อยๆ
วิกลวิกาล | 107 ฉันไมกลาบอกใครแมแตกับครูรวินทรแตแลวคืนหนึ่ง ฉันก็ถูก ครูนิรันดรข ่มขืนที่หองโสตฯแมจะออนวอนแค่ไหน สัตวนรก นั่นก็ไมยอมปลอยฉันไป มันทำเรื่องระยำซ้ำแลวซ้ำเลา ฉัน ไมกลาขัดขืนเพราะมันถายคลิปฉันเอาไวแถมยังขู่จะทำราย ฉันหากบอกเรื่องนี้กับใคร แตตอใหฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ก็คงไมมีใครเชื่อ ไมเคยมีใครรับฟงฉันสักครั้ง แมแตแมของ ฉันเอง แมไมเคยถามสักครั้งวาฉันเปนอะไร มีปญหาอะไร แมไมเคยสนใจเรื่องฉัน แลวจะใหฉันคุยกับใคร ฉันจะไมยอมใหมันบังคับขืนใจอีกตอไป วันนี้ฉันจะ ตายที่นี่ หองโสตฯ ที่มันฆ่าฉันทั้งเปน แตคงไมมีใครไดเห็น ศพของฉันหรอก เพราะพวกมันคงจะเอาศพฉันไปทำลายทิ้ง แลวทำเหมือนวาฉันหายตัวไปเสียเอง ฉันรูสันดานมันดีไอ ครูเวรที่เอาแตหลบหลังกระโปรงของเมีย มันใช้อำนาจเมียมา เปนโลกำบังความชั่วช้าสารเลว มันทำระยำมากี่ครั้งแลว มี ใครเคยรูความชั่วของมันบาง ถึงคนที่อานมาถึงตรงนี้ไดโปรดใช้เสียงของคุณแทน ฉันที ... เกนหลงตกตะลึงกับสิ่งที่ตนไดอ าน เพราะเรื่องมัน พลิกจากหนามือเปนหลังมือ จากข ่าวลือที่วาแสงเทียนหาย
108 | นักเรียนเขียนเรื่อง ตัวไปเพราะหนีตามผูชายกลับกลายเปนวา แทจริงแลว เธอ เลือกจะจบชีวิตลงที่หองโสตฯ ดวยตัวเอง และครูที ่เปน ตนเหตุกลับกลายเปน ครูนิรันดรครูที่ปรึกษาของชมรมโสตทัศนา เขาเปนครูที่นารักและเปนที่ปรึกษาของเด็กๆ ไดใน ทุกเรื่อง ครูนิรันดรพรอมจะรับฟงเกนหลงเสมอ ครูที่แสนดี จะทำเรื่องเลวระยำกับลูกศิษยไดอยางไร แตใครๆ ก็รูวาครูนิรันดรเปนสามีของผูอำนวยการ โรงเรียนที่ควบตำแหนงเจ้าของโรงเรียนนี้ดวย มาถึงวินาทีนี้เกนหลงจึงเข้าใจเหตุผลที่หองโสตฯ ถูกปดตายไมใหใครแตะตองอยางถาวร ไมใช่เพราะอาถรรพ ผีหองโสตฯ แตเปนเพราะผูอำนวยการโรงเรียนตองการจะ ช ่วยใครบางคน ไมใหมีใครไปเจอเบาะแสของนักเรียนที่ตอง จบชีวิตลงที่นี่ไดสวนเรื่องที่ไมมีใครพูดถึงเด็กที่ชื่อแสงเทียน ก็คงเปนเพราะกลัวจะถูกขุดคุ้ยถึงสาเหตุการตายของเธอ สวนเรื่องของแสงเทียนกับครูรวินทรที่เปนข่าวลือ ที่ ครูรวินทรถูกไลออกกะทันหันทั้งๆ ที่ไมมีมูลความจริง ก็อาจ เปนเพราะผูอำนวยการอยากจะโบยความผิดใหครูภาษาไทย คนนี้ตองรับบาป รับข้อครหาในสิ่งที่เขาไมไดทำเพื่อเบี่ยงเบน ความจริงที่ถูกปดตายไปพรอมกับหองโสตฯ
วิกลวิกาล | 109 เด็กสาวยืนตัวแข็งราวรางไรวิญญาณ เธอปาดเหงื่อ ที่ไหลอาบแก้มทั้งที่ตัวเย็นเฉียบ เรื่องราวในอดีตที่หอบเธอ จากปนังสูกรุงเทพฯยอนกลับมาในหัวของเธอ การไปพัวพัน กับผูมีอำนาจเพื่อทวงคืนความยุติธรรมใหกับเพื่อน ทำใหเธอ ตองหอบข้าวของหนีจากปนังมาเริ่มตนชีวิตใหมที่บานเกิด ของพอเช่นนี้ เด็กสาวปลอยน้ำตาใหพรั่งพรูออกมา เกนหลงไม อยากหนีไปไหนอีกแลว หากเธอตัดสินใจงัดข้อกับผูมีอิทธิพล อีกครั้ง ไมยายประเทศ ก็คงถูกฆ่าปดปากอยูเปนเพื่อนแสงเทียน ในหองโสตฯ เธอรูดีวาเธอมีเสียงที่สามารถเรียกรองความ ยุติธรรมใหกับคนไรเสียงอยางแสงเทียนไดแตเสียงของเธอ คงดังไมพอที่จะเอาผิดเขา อำนาจของพวกเขาปดปากเกนหลง ลงจนเงียบสนิท เด็กสาวตัดสินใจทำสิ่งที่ไมตองการอย าง มิอาจเลี่ยงไดเธอพับกระดาษแผนนั้นแลวสอดกลับเข้าไปใน หนังสือ ใหความลับกลับไปอยูในชั้นหนังสือตามเดิม เธอได แตหวังวา คนตอไปที่สามารถมองเห็นมันไดจะกลาแกรง มากกวาเธอ เสียงหวีดจากลำโพงดังไปทั่วโรงเรียน ไมใช ่เสียงที่ มุงหวังทำลายโสตประสาทของใคร ทวามันเหมือนเสียงโหยหวน อยางเจ็บปวด เกนหลงยกมือปาดน้ำตาก่อนจะพูดดวยเสียง
110 | นักเรียนเขียนเรื่อง อันดังเพื่อสงสารไปถึงแสงเทียนที่ยังอยูในหองโสตฯ “ขอโทษนะพี่ หนูทำไมได” ... เวลาผานไปเกือบเดือนหลังจากวันนั้น เกนหลงรูสึกผิด ทุกวันที่มาโรงเรียน เธอจึงนำเรื่องนี้ไปเลาใหแมของพี่แสงเทียน ฟง เพื่อหวังใหผูเปนแมช่วยทวงความยุติธรรมใหแก่ลูกสาว แทนเธอ ทวาเกนหลงกลับถูกตอกกลับดวยน้ำเสียงเรียบเฉย “ลูกฉันตายไปแลว จะไปรื้อฟนใหไดอะไร” ประโยคนั่นทำ เกนหลงหนาหงาย เธอเกิดคำถามมากมายขึ้นในใจ แตแลว คำถามเหลานั้นก็หายไป ทันทีที่เธอรูข่าววาแมพี่แสงเทียน เพิ่งเปลี่ยนมอเตอรไซค์คู่ใจเปนรถยุโรปปายแดงราคาหลาย ลาน เงินของใครคนนั้น คงปดปากใหหลอนไมพูดถึงลูกสาว อีกตอไป ‘เกนหลง เราตองกลับปนังเดี๋ยวนี้’ ‘เขาจะจ่ายหนี้แทนใหทั้งหมด แลวจะคุยกับเฮียโจ้ให ลูกจะไดกลับไปเรียนที่เดิมแลวนะ’ ‘แตตองแลกกับการที่ลูกหามพูดถึงเด็กที่ชื่อแสงเทียน อีก’
วิกลวิกาล | 111 ข้อความที่ปรากฏบนหนาจอทำใหเกนหลงรูสึกจุก ในอก เธอยกมือขึ้นปดปาก พยายามรองไหอยางไรเสียง แม ในใจจะอยากกรีดรองออกมาแค่ไหน เธอก็ทำไดแค่เงียบให ไดมากที่สุดเทาที่จะเงียบไดเกนหลงรูสึกผิดจับใจ แตเสียง ของเธอยังไมดังพอที ่จะเอาคนชั ่วมารับโทษ หากพลั้งพูด ออกไปก็มีแตจะเดือดรอน เธอจึงตองปดปากลง....ตลอดไป หลังจากนั้นไมนาน เสียงเคาะในหองโสตฯ ก็ดังขึ้น อีกครั้ง วิญญาณของแสงเทียนยังรอเสียงของใครบางคนที่ ดังมากพอ เธอยังคงรอคอยวาในสักวันหนึ่ง ในสักวันหนึ่ง... อันใกลหรือไกลโพน รอคอยวันที่เสียงของคนเรา จะดัง เทากัน.
112 | นักเรียนเขียนเรื่อง กว่าจะเป็นเร ื่องสั้น “คืนไร้เสียง” เมื่ออาจารยใหโจทยของงานเขียนชิ้นนี้ในธีม “ฉันจึง มาหาความหมาย” สิ ่งแรกที่ฉันนึกถึงก็คือ ปริศนาคำใบ บางอยางที่คนตองออกตามหาความหมายเพื ่อใหไดรู ความนัยที ่ซ่อนอยู ความตั้งใจแรกคือการนำเอาตำนานผี ในโรงเรียนมาแตงเรื่องตอ เพราะโรงเรียนของเราเอง ก็มีตำนานผีหองโสตฯ เช่นกัน คนสวนใหญมักจะสนใจเพียง วา ผีตนนั้นนากลัวอยางไร หลอกคนแบบไหน แตไมค ่อย มีใครค้นหาที่มาก่อนที่เขาจะกลายมาเปนผีเทาไหร เรื่องสั้น “คืนไรเสียง” ตั้งใจสะทอนปญหาภายในรั้ว โรงเรียน ทั้งเรื่องการถูกเพื่อนกลั่นแกลง การถูกครูลวงละเมิด ทางเพศ ข ่าวลือที ่ไมถูกกรองแตถูกเผยแพร ปญหาเหลานี้ ยังคงสรางบาดแผลทางใจใหกับนักเรียนมากมาย และแก่น ของเรื่องที่พูดถึงเรื่อง “เสียง” นั้น ก็ตั้งใจเปรียบเทียบกับ อำนาจของคนในสังคม ซึ่งเปนปญหาในปจจุบันที่เราเห็นมา อยางยาวนาน และไมมีทางเลือนหายไปจากสังคม. พิงค์แชมเปญ
วิกลวิกาล | 113
114 | นักเรียนเขียนเรื่อง “...พระอาทิตยกําลังจะลับขอบฟา ทอดแสงสีสม ปรากฏเปนเงายาว ทั้งสองกําลังจะก้าวออกจากตัวอาคาร แสงอาทิตยที่สาดเข้าตาพรอมกับเทาที่กําลังเหยียบย่ำลงไป ที่พื้นดินแดง คือสิ่งยืนยันวา พวกเขาไดออกมาจากอาคารวิปริตแหงนี้แลวจริงๆ...” “The Painting” ของ ปาณิศา
วิกลวิกาล | 115 ภาพจร ิง (แสง) น. ภาพที่เกิดจากกระจกเวาหรือเลนสนูน ลักษณะเปนภาพหัวกลับ ใช้จอรับได. Trigger Warning: มีเนื้อหากลาวถึงการหนีตาย, การฆ่า, เหตุการณนองเลือด
116 | นักเรียนเขียนเรื่อง
วิกลวิกาล | 117 The Painting ปาณิศา ญาดาและรุจยืนดูภาพวาดอาคารหลังหนึ่งดวยความ สนใจ มันเปนภาพวาดอาคารเดี่ยวที่ไมมีอะไรแวดลอม รอบ ดานเปนสีน้ำมันระบายพื้นหลัง แบงสวนพื้นดินกับส วนที่ ไมใช่พื้นดิน เมื่อมองในภาพรวมก็ดูเหมือนจะเปนภาพที่ขาด ความคมชัด ออกไปในทางเลือนๆ ดวยความที่ระบายดวยสี น้ำมัน มีเพียงตัวอาคารขนาดเล็กเพียงอยางเดียวเทานั้นที่ ยังคงดูโดดเดนและดึงดูดสายตา “ทำไมรูปตึกเดี่ยวๆ ถึงไดเข้ามาอยูในนิทรรศการนี้ ไดนะ เธอวาไหม” ญาดาเอยถามรุจ “ไมรูสิเพราะคนวาดเปนคนดังรึเปลา” รุจตอบโดย ไมไดใสใจคำถามของคู่สนทนามากนัก เขากําลังเพงพินิจภาพวาด สีน้ำมันนี้ดวยความเพลิดเพลินราวกับตองมนตรสะกด ในหองจัดนิทรรศการนี้ภาพวาดที่ทั้งสองคนกําลัง หยุดยืนดูอยูถือเปนภาพที่มีขนาดเล็กที่สุดและดูธรรมดาที่สุด
118 | นักเรียนเขียนเรื่อง ผูคนที่เดินผานไปมาในนิทรรศการนี้เหมือนมองไม เห็นหรือเพียงพิจารณาผานๆ วานี่คือภาพวาดภาพหนึ่ง ซึ่ง เปนไดแค่เพียงภาพประกอบเพื่อใหนิทรรศการนี้สมบูรณขึ้น เทานั้น เปนภาพประกอบท ี่ทำใหผนังฝงดานนี้ไมโลงจนเกินไป ไมไดมีความสวยงาม โดดเดน หรือดึงดูดใจในแง่ใดๆ เปนพิเศษ ดูเหมือนญาดาและรุจจะเปนคนคู่แรกที่ใหความสนใจและกําลัง ดูภาพนี้อยางตั้งใจ โดยใช้เวลามากกวาหาวินาทีในการมอง ภาพขนาดเล็กเทานี้ “สนใจภาพอาคารหลังนี้หรือครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้น จากดานหลังของคนทั้งสอง “คุณคงสงสัยใช่มั้ยครับ วาทำไมภาพวาดที่ดูธรรมดาๆ เช ่นนี้ถึงมาอยูในนิทรรศการภาพวาดสีน้ำมันระดับโลกได” ญาดาและรุจหลุดออกจากภวังค์ หันหลังกลับมามองทางตน เสียง “มันเปนภาพอาคารที่ไหนหรือครับ” รุจเอ ยถามถึง ภาพตรงหนาที่ใหความรูสึกทั้งแปลกและคุ้นเคยในเวลา เดียวกัน “ก็อาคารหลังนี้ยังไงล ะครับ” ชายหนุ มตอบดวย เสียงอันหนักแนน เหมือนมันเปนเรื่องที่ใครๆ ก็รูกันทั่ววา
วิกลวิกาล | 119 อาคารตนแบบในภาพวาดนั้นก็คืออาคารแหงนี้ ชายหนุมผูนี้เปนเจ้าหนาที่ประจำนิทรรศการ เขาสวม เสื้อกั๊กสีขาวครีมลายทางสลับจุดวงกลมแบบแพตเทิรน คลุมทับ ดวยสูทหางกระดิ ่งสีน้ำเงินเข้ม ที ่กระเปาหลอกตรงอกมีผาเช็ดหนาปลอมแนบเอาไวรองเทาหนังขัดมันเงางามสะทอนกับ แสงไฟในหองนิทรรศการ ในมุมมองของญาดาและรุจ เจ้าหนาที่คนนี้ดูเปนคน แปลกๆ สีหนาทาทางของเขาเหมือนกำลังแสยะยิ้มและกลั้น หัวเราะในเวลาเดียวกัน สวนเครื่องแตงกายนั้นก็ดูหรูหราผิด กาลเทศะ แตถึงอยางนั้น ทั้งสองก็ไมไดแสดงทาทีหรือพูดสิ่งที่ อยูในความรูสึกนึกคิดออกมา พวกเขาปลอยใหชายหนุมพูด ตอเนื่องโดยไมเอยปากขัดจังหวะ … ณ อาคารแหงนี้มีสำนักงานกฎหมายแหงหนึ่งซึ่งมี อัตราการทำคดีฟองหยาใหลูกความชนะไดถึงรอยละ 96 ตั้งอยู แมหญิงสาวจะเลือกเดินทางมายังสำนักงานกฎหมาย แถบชานเมืองเพราะอัตราความสำเร็จนั้น แตเธอก็อดสงสัย
120 | นักเรียนเขียนเรื่อง ไมไดวา ทำไมบริษัทกฎหมายที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ถึงมาตั้งอยู ในอาคารสำนักงานที่ไกลปนเที่ยงเช่นนี้ได นองชายของหญิงสาวทำงานดานกฎหมายเช่นเดียวกัน เขาทั้งแนะนำและอาสาที่จะพาเธอมาทำเรื่องฟองหย าที่นี่ หญิงสาวก้าวลงจากรถแท็กซี่พรอมนองชาย รถแท็กซี่เคลื่อน ออกไปอยางรวดเร็วพรอมฝุนจากดินแดงที่ลอยตลบขึ้นเหนือ ศีรษะ เปนการตอกย้ำวาที่แหงนี้นี่มันช่างไกลปนเที่ยงเสีย จริงๆ สองพี ่นองพากันเดินตรงเข้าไปยังทางเข้าของตัว อาคารที่รอบข้างไมมีสิ่งก่อสรางอื่นใดเลย มีเพียงตนหญา ขนาดสูงที่ขึ้นไลระดับกันไป ทั้งที่สูงเทาเอวไปจนถึงสูงเทา ศีรษะของคนทั้งสอง ซึ่งทอดยาวขนาบถนนเสนที่มุงตรงไปยัง อาคาร ตัวอาคารแหงนี้สรางออกมาไดอยางนาเบื่อเปนที่สุด ในสายตาของชายหนุม นี่เปนความคิดภายในใจเช่นเดียวกัน กับที่พี่สาวของเขาเพิ่งคิดจบลงไปเมื่อสองนาทีที่แลว ทั้งสองเดินทางมาถึงประตูทางเข้าอาคาร ประตู บานนี้ไม ไดตกแตงอะไรมากมายนัก มันเปนประตูลูกบิด บานเหล็กสีเขียวทึมๆ สองบานประกบกัน เมื่อทั้งสองหมุน
วิกลวิกาล | 121 ลูกบิดและผลักประตูเข้าไปก็พบวาลานกวางที่บริเวณชั้นหนึ่ง นี้ไมมีอะไรเลย ไมมีหนาตาง ไมมีบันได ไมมีตนไมไมมีการ ตกแตงภายใน มีเพียงเคานเตอรประชาสัมพันธและลิฟต สำหรับโดยสารเพียงตัวเดียวเทานั้น “แปลกดีนะที่นี่ พื้นที่ออกกวางแตมีลิฟตแค่ตัวเดียว ถาเกิดไฟไหมขึ้นมาจะทำยังไงละเนี ่ย” ญาดากลาว พลางมอง ไปรอบๆ การตกแตงเพียงอย างเดียวที่ชั้นหนึ่งของอาคารนี้ เห็นจะมีแค่เพียงลวดลายอันแปลกตาของพื้นพรม พรมผืนนี้ มีลวดลายเปนแพตเทิรนรูปเรขาคณิต เปนรูปแปดเหลี ่ยม ไรเสนขอบปดหัวทายวางตอกันเปนลายในแนวตั้งคลายสาย โซ่ที่คลองกันไปเรื่อยๆ สีแดงเลือดนกระบายอยูเกือบเต็ม พื้นที่แปดเหลี่ยม มีวงกลมสีเหลืองอมสมปรากฏอยูกึ่งกลาง รูปแปดเหลี่ยมนั้นซ้ำแลวซ้ำเล า แพตเทิรนแถวหนึ ่งสราง แพตเทิรนอีกแถวหนึ่ง เปนเช่นนี้ไมรูจบ ไมอาจหาจุดเริ่มตน หรือจุดสิ้นสุดไดเปนลวดลายที่ทั้งสวยแปลกและสะดุดตา ใหความรูสึกงุนงงสับสนและนาอึดอัดไปพรอมๆ กัน เมื่อก้าวเข้ามาในลิฟตแลว ทั้งคู่ก็เพิ่งนึกขึ้นไดวา ใน ข้อมูลที่อยูของสำนักงานกฎหมายดังกลาวไมไดระบุชั้นเอาไว
122 | นักเรียนเขียนเรื่อง “ตอนหาข้อมูลก็ลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย แตก็แปลกนะ ทำไมเขาถึงไมใสข้อมูลใหเรียบรอยตั้งแตในรายละเอียดที่ตั้ง นะ เฮอ!!! ” หญิงสาวบนกับชายหนุม “ลองกดๆ ไปดูก่อน แลวกัน” หญิงสาวเอื้อมกดหมายเลข “ลองไปชั้นบนสุด แลวค่อยไลลงมา คงจะเจอสักชั้นแหละนะ” หญิงสาวบน พึมพำกับนองชายเบาๆ ลิฟตพุงขึ้นไปยังชั้นหมายเลขหา ประตูลิฟตเปด ออกพรอมกับเสียงดนตรีแนวคันทรีที่ดังสุดๆ ภาพที่ปรากฏ ตรงหนาเปนหองรับรองสำหรับจัดงานขนาดใหญที่มีเพดาน สูงโปรง มองทะลุกระจกใสเข้าไปเห็นโตะค็อกเทลบุฟเฟต ที่ตกแตงไวอย างดีหองรับรองนี้มีประตูเข้าออกสองทาง บานประตูทั้งสองข้างมีขนาดใหญมหึมา “มีงานเลี้ยงอะไรกันเนี่ย” หญิงสาวและชายหนุมเดิน ออกจากลิฟตพวกเขาไมอาจหันเหความสนใจไปจากความยิ่งใหญ ตระการตาของงานเลี้ยงที่อยูตรงหนาได ภายในหองจัดเลี้ยงเต็มไปดวยเสียงอันเซ็งแซ่ ทั้ง เสียงสนทนาพูดคุย และเสียงขับรองเคลาทวงทำนองดนตรี บรรเลง สุดทาย ถาหากไมไดเลือกตั้งใจฟงเสียงใดเสียงหนึ่ง ก็จะไมสามารถจับความอะไรไดเลย
วิกลวิกาล | 123 หญิงสาวเดินนํานองชายไปที่โตะค็อกเทลกลางหอง จัดเลี้ยง มีชายวัยกลางคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสอง “พวกคุณเพิ่งมากันเหรอครับ” “แปลกมากเลยนะคะ มองจากภายนอกเข้ามานี่ดูไม ออกเลยวา ชั้นบนสุดของตึกจะเปนหองจัดเลี้ยงติดกระจกใส เห็นวิวภายนอกไดทั่ว 360 องศาขนาดนี้” “อาวคุณไมไดมาที่นี่เพราะไดรับบัตรเชิญเหรอ” ชาย หนุมวัยกลางคนเลิกคิ้ว “วาแตนี่คืองานเลี้ยงอะไรหรือคะ”หญิงสาวถามกลับ แตก่อนที่เขาทั้งคู่จะไดคำตอบ ก็เกิดเสียงดังมาจาก บริเวณทางเข้างาน มันเปนเสียงของการเคลื่อนที่อยางรวดเร็ว ของฝูงชนจำนวนมากที่มาพรอมกับมา เมื่อหันไปยังตนเสียง ก็ปรากฏภาพฝูงคนแหบุกเข้า มาภายในงาน บางควบมา บางเดินเทา หลายคนสวมเสื้อผา แบบอินเดียนแดง ทาสีตามหนาและตัว สวมขนนกที่ศีรษะ และถืออาวุธขนาดใหญอยูในมือพรอมฟาดฟนอาวุธเหลานั้น ใสคนที่อยูใกลสุด ทุกอยางเกิดขึ้นเร็วมาก เลือดนองเต็มพื้น หยดเลือด กระเซ็นมาจากเหนือหัว เหมือนฝนตกจากฟาลงมาเปนสีแดง
124 | นักเรียนเขียนเรื่อง ศีรษะของผูชายที่อยูตรงหนาประตูขาดสะบั้น รอยเลือดสาด กระเซ็นขึ้นไปถึงกรอบบนสุดของบานกระจกใส คนกวาครึ่ง เพิ่งรูสึกตัวดวยซ้ำวาภาพที่เห็นอยูตรงหนาคืออะไร และเริ่ม ขยับตัวเพื่อหนีตายจากคมอาวุธในมือผูมาใหมที่ฟาดฟน อยางคลุมคลั่ง เมื่อพี่นองทั้งสองคนเริ่มรูสึกตัวก็พากันวิ่งไปหลบที่ ใตโตะอาหารตัวหนึ่ง ดูเหมือนรัศมีของมีด ดาบ และอุปกรณ ตางๆ ที่สามารถฟนเนื้อหนังของคนใหแยกขาดและทำให ของเหลวสีแดงสดไหลออกมาจากภายในไดจะมีอยูทั่วทุก แหงหน เสียงดนตรีและเสียงพูดคุยถูกแทนที่ดวยเสียงกรีด รอง รวงหลน กระแทก เหยียบทับ และเสียงอันเกิดจากการ ปะทะกันของโลหะขนาดหนักกับความเหนียวของเนื้อหนัง ตลอดจนเสียงของของมีคมที่กระแทกไปที ่กะโหลกและ กระดูกในสวนตางๆ ทั้งสองคนก้มหัว ใช้มืออุดหูจากเสียงอึกทึกและ เสียงรองโหยหวนดวยความเจ็บปวดเหลานั้น “นี่มันอะไรกัน อยูๆ ทุกคนก็เกิดบากันขึ้นมาเสียเฉยๆ” “เรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ” หญิงสาวโพลงออกมา ดวยความตกใจกับเหตุการณตรงหนา
วิกลวิกาล | 125 “เราตองกลับไปที่ลิฟต” ชายหนุมพูดขึ้นอยางรวดเร็ว ราวกับวาถาพูดสิ่งนั้นช้าไปกวานี้ทุกคนจะวิ่งเข้ามาฟาดฟน เขาทั้งสอง หญิงสาวพยักหนารับคําทันทีทั้งคู่มองไปที่ประตู ทางออกเบื้องหนา มันเปนระยะทางเพียงนิดเดียวเทานั้น แต ระยะทางแค ่ไม กี ่ก้าวในตอนนี้กลับไปถึงไดยากเหลือเกิน ภาพตรงหนาที่ผูคนลมลงกองกับพื้นเกิดขึ้นตลอดเวลา พวกเขา จะตองวิ่งฝ าการถูกรุมลอมดวยคนถือขวานไลฟนกันจริงๆ หรือนี่ ชั่ววินาทีที่ทุกคนกําลังฟนเหยื่ออยูตรงหนา ชายหนุม ก็รีบฉุดแขนหญิงสาวใหลุกขึ้น ทั้งคู่รีบวิ่งไปที่ประตูทางออก ของหองจัดเลี้ยงนี้พวกเขาพากันกลิ้งตัวเข้าไปที่ใตโตะรับรอง หนาทางเข้า ที่ตอนนี้ผาปูไดเปลี่ยนจากสีขาวเปนสีแดงและ เปยกชุ่ม “บาชะมัด มีแค่ลิฟตตัวนั้นตัวเดียวที่ใช้ออกไปจาก ที่นี่ได” ชายหนุมพูดหอบพลางมองหาบันไดหนีไฟแตก็ไมพบ “เราตองเข้าไปในลิฟตตัวนั้นใหได” หญิงสาวกัดฟน พูด น้ำตาไหลออกมาเองอยางไมอาจควบคุม
126 | นักเรียนเขียนเรื่อง โตะที่ทั้งคู่หลบอยูถูกฟนแยกออกเปนสองทอน หญิงสาว รองสุดเสียง เธอความือนองชายวิ่งฝาฝูงชนที่กำลังวิ่งหนีตาย อยางขวักไขวออกไปทางประตูหองจัดเลี้ยง ชายฉกรรจ์ลิ้นหอย ผมกระเซิงยาวประบา มองมาที่ พี่นองทั้งสอง ในมือถือขวานตัดฟนขนาดใหญ มันออกวิ่งตาม ทั้งสองมาอยางกระชั้นชิด ผูชายคนนี้คือคนที่เพิ ่งสับขวาน ลงไปยังโตะที่ซ่อนของเขาและเธอ ถัดไปจากนั้น มีคนวิ่งตาม ชายคนนั้นออกมาอีกสามคน ทั้งสามคนถืออาวุธที่แตกตาง มีด ตระบอง และธนู ทั้งคู่หาที่กำบัง หญิงสาวรีบวิ่งไปกดปุมเพื่อเรียก ลิฟตขึ้นมา จากนั้นพานองชายวิ่งเลี้ยวเข้าไปซ่อนตัวที่มุมอับ ดานข้างลิฟต เสียงคนวิ่งไลหลังดังชัด หญิงสาวมองไปที่ทางเดิน ตามตนเสียงที่ไดยิน ชายหนุมตั้งใจหลับตาฟงเสียงดวย ใจเตนระทึก เหงื่อกาฬไหลหยดลงที่พื้นปานน้ำไหล ติ๊ง! ประตูลิฟตเปดออกพรอมเสียงสัญญาณ เมื่อได ยินเสียงนั้น หญิงสาวและชายหนุมก็รีบออกจากที่ซ่อนแลววิ่ง ตรงไปที่ลิฟตกลุมคนติดอาวุธวิ่งตามมาติดๆ พวกมันเพิ่ง สังเกตวามีลิฟตโดยสารอยูในชั้นนี้ดวย
วิกลวิกาล | 127 ทั้งคู่เข้าไปภายในลิฟตทันทีที่ประตูเปดออก หญิงสาว กดปุ มปด เธอกระแทกนิ้วเกินสิบครั้งดวยหวังว าการกดซ้ำ เช่นนั้นจะทำใหประตูลิฟตปดเร็วขึ้น เธอกดปุมชั้นหมายเลข 1 ในใจหวังจะออกจากตึกบานี้ใหเร็วที่สุดเทาที่จะทำได เธอและเขาสัมผัสไดถึงการเคลื่อนลงอยางรวดเร็ว ของลิฟตเมื่อประตูลิฟตเปดออก ทั้งคู่กลับพบวาลิฟตตัวนี้ ไมไดพาพวกเขาไปยังที่ไหน ภาพที่เห็นตรงหนาคือเธอและ เขายังอยูที่ชั้นเดิม ภาพแรกที่ตอนรับสายตาของคนทั้งคู่เปน ผูชายในกลุมคลั่งเลือดยืนหันหลังถืออาวุธพรอมมืออยู บริเวณโถงลิฟตพวกมันหันหลังกลับมามองตามเสียง สัญญาณลิฟตเปดที่ดังขึ้น หญิงสาวรีบกดปดประตูอยางเร็ว แตเช่นเคย ไมวา เธอจะกดปุมย้ำบอยแค่ไหน ก็ไมไดทำใหความเร็วในการปด ประตูลิฟตมีมากขึ้น เธอมองไปยังกลุมคนคลั่งเลือดที่หันมา สบตาเธอผานช่องประตูลิฟตที่ค่อยๆ ปดลง “กดมันทุกชั้นยกเวนชั้นหนึ่งเถอะ บาเอย!” ชาย หนุมสบถ เขาเอื้อมมือมากดที่หมายเลขลิฟตแทนหญิงสาวที่ เริ่มจะตื่นตระหนกจนประคองตัวไมไหว ทั้งคู่ไมอาจทนกับ ภาพนองเลือดที่ชั้น 5 ไดอีกตอไปแลว
128 | นักเรียนเขียนเรื่อง ลิฟตเคลื่อนตัวไปยังชั้น 3 ประตูลิฟตเปดออก ภาพ ตรงหนาเปลี่ยนไปแลว มันคือชั้นของสำนักงานกฎหมายที่ สองพี่นองตั้งใจมาหาตั้งแตแรก ในตอนนี้ภาพตรงหนาเหมือน เปนคนละโลกกับชั้นบนสุดของอาคารที่ทั้งคู่เพิ่งจากมา ทุกคน สวมชุดสูททำงาน ชายหญิงสุภาพชนเดินไปมา มีโตะและคอก ออฟฟศกั้นแบงพื้นที่ทำงานและพื้นที่ใหคำปรึกษา ที่มุมดาน ซ้ายของหอง มีคนนั่งรอเรียกคิวเพื่อเข้าปรึกษาอยูจำนวนหนึ่ง ทั้งสองก้าวออกมาจากตัวลิฟตเทาเหยียบลงที่พื้น พรมดวยสภาพโชกเลือดตั้งแตหัวจรดเทา แตเหมือนไมมีใคร เห็นความผิดปกติเหลาน้ัน อันที่จริงไมมีใครสนใจรอยเลือด บนเนื้อตัวของพวกเขาทั้งสองคนเลย เหมือนทั้งคู่เปนแค่ลูกค้า ที่เดินเข้ารานมาเพื่อรับบริการทางกฎหมายอีกคู่หนึ่ง อันจะ ทำใหคิววันนี้ยาวยิ่งขึ้นอีกคิวหนึ่งก็เทานั้น เจ้าหนาที่หญิงเข้ามารับรองเขาทั้งคู่ หญิงสาวพยายาม สงบสติอารมณอันพลุงพลานของตนและแจ้งความประสงค์ ไปวา เธอตองการปรึกษาเรื่องฟองหยา เวลาผานไป ทุกอยาง ดำเนินไปอยางเปนปกติเธอใหข้อมูลกับทนายความที่ปรึกษา ทั้งสองทำธุระเสร็จเรียบรอยราบรื่นเหมือนอยางฝน เมื่อสิ่งที่ ค้างคาใจไดรับการการันตีจากสำนักงานกฎหมายที ่ดีที ่สุด
วิกลวิกาล | 129 กวาที่ทั้งสองจะลุกออกมาจากหองรับรอง เวลาก็ลวงเลยมาจน ถึงยามเย็นแลว “ในที่สุดเราก็จะไดออกจากที่นี่แลวกลับบานเราซะที นะ” เธอพูดพลางก้าวเข้าไปในลิฟตดวยสีหนายิ้มแยม พนักงาน รับรองเพิ่งเดินกลับเข้าไปหลังออกมาสงทั้งสอง “ที่นี่บริการไดดีจริงๆ ค่อยคุ้มกับที่มาไกลถึงขนาดนี้ หนอย” ชายหนุมพูดพรอมรอยยิ้ม แลวเดินก้าวเข้ามาในตัว ลิฟต ทันทีที่หญิงสาวกดปุมไปที่ชั้นหนึ่ง เรื่องราวที่ทั้งสอง ลืมไปชั่วขณะอยางนาเหลือเชื่อก็หวนกลับมา เรื่องที่เพิ่งเกิด ขึ้นเมื่อหลายชั่วโมงที่แลว ทั้งคู่เหมือนมองไมเห็นรอยเลือดตาม รางกายของตัวเองตามที่ทุกคนในสำนักงานกฎหมายเมื่อสักครู นี้เปน และปฏิบัติกับพวกเขาอยางเปนปกติ ทันทีที่หญิงสาวนึกขึ้นไดเธอก็ตกใจจนตองกรีดรอง ชายหนุมรีบเงยหนาขึ้นมองตัวเลขลิฟตที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป จากเลขสาม – สอง – หนึ่ง – ติ๊ง! “กดตัวเลขทุกอยางใหตรงกันข้ามกับที่มันควรจะเปน” เสียงในหัวของสองพี่นองดังก้องขึ้น
130 | นักเรียนเขียนเรื่อง ประตูลิฟตเปดขึ้นพรอมคนนับสิบที่ยืนถืออาวุธครบ มืออยูทั้งดานในหองจัดเลี้ยงและบริเวณโถงหนาลิฟตฉับพลัน ทั้งสองรีบกดปดลิฟตทันทีชายคนนองรีบกดลิฟตไปที่ชั้นหา ชั้นบนสุดของอาคารนี้! ลิฟตเคลื่อนตัวขึ้นไปแตกลับโผลมาที่ชั้นลางสุดของ อาคาร ติ๊ง! ทันทีที่ประตูลิฟตเปดออก แสงอาทิตยอัสดงก็ ค่อยๆ ทอดเข้ามาอาบไลผนังลิฟตไปจนถึงรางของทั้งสองคน แสงยามเย็นสองสะทอนคราบน้ำตาบนใบหนาของหญิงสาว ใหเปนประกาย พระอาทิตยกําลังจะลับขอบฟา ทอดแสงสีสม ปรากฏเปนเงายาว ทั้งสองกําลังจะก้าวออกจากตัวอาคาร แสงอาทิตยที่สาดเข้าตา พรอมกับเทาที่กําลังเหยียบย่ำลงไป ที่พื้นดินแดง คือสิ่งยืนยันวาพวกเขาไดออกมาจากอาคาร วิปริตแหงนี้แลวจริงๆ ทั้งสองคนกําลังจะจากที ่แห งนี้ไป นัยนตาของทั้งคู่ฉายแววเหนื่อยลาอันเนื่องมาจากการเผชิญ เรื่องสะเทือนขวัญอย างไมคาดคิด เปนเรื่องอันเหลือเชื่อที่ กระทบกระเทือนจิตใจอยางหนักหนวง และเปนเรื่องยากเกิน กวาจะอธิบายมันดวยตรรกะเหตุผล
วิกลวิกาล | 131 สองพี่นองเดินออกจากตัวอาคาร ไมไดเอื้อนเอย วาจาตอกัน เพียงเดินไปตามทาง แสงของอาทิตยอัสดงทำให เงาของทั้งคู่ทอดยาวออกไปดานหลัง เปนเงาสีดำที่ทาบไป บนถนนสายหลัก เธอและเขาออกเดินทางไปตามถนนที่ไมรู จุดจบและจุดหมาย สองข้างทางขนาบไปดวยตนหญาที่กําลัง พลิ้วไหวไปตามลม … “...แลวทั้งสองคนก็ออกเดินเทาไปตามถนนจนอาทิตย ลับขอบฟา ไรเงาสีดำของคนทั้งคู่” เจ้าหนาที่ประจำนิทรรศการ กลาวประโยคปดทายการเลาเรื่องราวของสองพี ่นองและตัว อาคารวิปลาส “นี่มันเรื่องอะไรกันนะ” ญาดาเอย “ไมเห็นจะเกี่ยวกับ นิทรรศการภาพวาดนี้ตรงไหนเลย” “ก็เรื่องของอาคารนี้ยังไงละ” ชายหนุมย้ำคําเดิม ญาดาและรุจเบิกตาโพลง พวกเขาหันมามองหนา กันและกัน พลันระลึกไดวา เขามาอยูในอาคารแหงนี้ดวย เหตุผลกลใด ในที่สุด ทั้งคู่ก็ไดเข้าใจถึงนัยที่ซ่อนเรนในเรื่อง เลาของเจ้าหนาที่ประจำนิทรรศการ ที่บัดนี้กำลังแสยะยิ้ม และพยักหนาตอบรับเบาๆ
132 | นักเรียนเขียนเรื่อง เพราะที่แหงนี้คืออาคารในภาพวาด และเรากำลัง อยูในพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะระดับโลก หองจัดนิทรรศการชั้น 5.
วิกลวิกาล | 133 กว่าจะเป็นเร ื่องสั้น “The Painting” เรื่องสั้นนี้เกิดขึ้นมาจากความเนิรดหนังของผูแตง ที่ช ่วงหนึ่งของชีวิตมัธยมไลเก็บลิสตดูหนังอยางบาคลั่ง จน คืนหนึ่งหลังจากดูหนังจำพวก slasher film แลวเข้านอน ก็ทำใหเรื่องราวผจญภัยในตึกพรอมลิฟตหลอนเกิดขึ้น มันเปน ฝนที่สมจริงมากจนทำใหผูแตงถึงกับสะดุงตื่นขึ้นมากลางดึก และไมกลาเข้านอนตออีกเลยจนพระอาทิตยขึ้น ความฝนนั้น ตราตรึงใจจวบจนเข้ามหาวิทยาลัย และแลวจาก “ความฝน” ก็กลายรางมาเปน “เรื่อง สั้น” เรื่องนี้จนได. ปาณิศา
134 | นักเรียนเขียนเรื่อง “ เพดานมี เหลี่ยม มีฝา แผน ตะกราผาไมสาน ใบ มีรูกลมๆ เล็กๆ หนึ่งรูสองรูสามรูสี่รูมีประกายสีขาวจาก รูที่สี่เหมือนเพชรในการตูน และหายไปเปนรูสีดำ และประกายขึ้นอีกครั้ง... สองรูเหมือนลูกตาสีดำคู่หนึ่ง แสงวิบวับนั้นเคลื่อนจากรูหนึ่งไปยังอีกรูข้างๆ คงเปนเพราะ ตนไมไหว มันยังเคลื่อนตอไปช้าๆ และลมยังคงพัดตนไมไหวอีกครั้ง เมื่อลูกตาดำกะพริบ” “เก้าอี้ปลายเตียง” ของ ซอแก้ว
วิกลวิกาล | 135 ปลายทาง น. สุดทาง. Trigger Warning: มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรูสึกแปลกแยก และสภาวะทางจิตใจที่ไดรับผลกระทบจากครอบครัว
136 | นักเรียนเขียนเรื่อง
วิกลวิกาล | 137 เก้าอี้ปลายเตียง ซอแก้ว ห้องข้างหลัง 2549 “หนูหนูหนูไมอยากนอนหอง นะ นั้นอะแม” “เดี๋ยวหายหวัดแลวค่อยกลับไปลูก นอนนี่ก่อน เดี๋ยวนองติดหวัด” “นะ นอง นอง นอง นอง” “เอา ติดอางอีกแลว ค่อยๆ พูดซิเอาใหม ฮึบ” แมเอื้อมมือไปจับไหลของเด็กหญิงวัยประถมตน พยักหนาใหเธอลองพูดใหมอีกครั้ง “นอ อ ง นองไมติดหรอกค่ะ หนูหนูกับนองนอน คะ คนละ...เตียง” ทั้งสองถอนหายใจพรอมกันเมื่อจบประโยค ยิ้มใหกันเล็กๆ
138 | นักเรียนเขียนเรื่อง “นองเปนเบบี๋อยูลูก ยังไมแข็งแรง ถาพรุงนี้หาย เดี๋ยวแมใหไปนอนหองเดิม โอเคมั้ยคะ” ซอลพยักหนา กระชับหมอนในออมแขนไวตลอด ระหวางเดินจากหองนอนเดิมไปอีกหอง “ตะ ตะ แตหองนั้น ระ รอน หนูไมชอบ” “เดี๋ยวเราก็เปดแอรไงลูก” หมดคำตอรอง ถาออยอิ่งนานกวานี้แมตองอารมณ ไมดีแน ประตูเปดพรอมเสียงเอี๊ยดของสนิมที่เกาะบานพับ ไอรอนจากหองลอยออกมาพรอมกลิ่นอับๆ “มะ แม นะ นะ นอนดวยไดมั้ยคะ” “ไดสิลูก แมมานอนกับหนูไง” แมกดเปดแอรเปดไฟดวงเล็ก ดึงผาคลุมเตียงออก ลากฟูกใตเตียงออกมาอีกชั้น เตียงสำหรับซอลและฟูก สำหรับตัวเอง เธอเตรียมผาปูที่นอนและปลอกหมอนไวแลว ซอลไมรูจะเรียกหองนี้วาหองอะไร มันเปนหอง เล็กๆ ทรงเหลี่ยมเบี้ยวๆ มีเตียงแตไมมีใครนอน เวนแต แขกมา หรือเวลาใครสักคนไมสบาย ก็จะแยกมานอนหองนี้ มันมีแอรเครื่องเหลืองๆ ที่สงกลิ่นแปลกๆ ฝงตรงข้ามเตียง
วิกลวิกาล | 139 เต็มไปดวยของไมมีที่เก็บกองไวรวมกัน เก้าอี้ตัวเก่า กระเปา เดินทาง ตะกราผากองเปนตั้งๆ แตก็ดูสะอาดและโล งกวา หองเก็บของ เธอเรียกมันวา หองข้างหลัง เพราะมันอยูหลัง บาน แมบอกวาเดี๋ยวซอลโตขึ้น แมจะแตงหองนี้สวยๆ ให ซอลกับนอง ครั้งสุดทายที่ซอลเข้าหองนี้คือหลายเดือนก ่อน แม ไมอยูบาน เธอเข้าไปเอาของเลนเก่า ควันสีขาวลอยออกมา จากแอรเธอตะโกนบอกพอวาแอรเสีย พอถามวา รูไดไง มัน ไมไดเปด เธอบอกวาควันลอยออกมา ก่อนจะสังเกตวาควัน นั้นไมขยับ มันหยุดนิ่งเหมือนเมฆบางๆ แลวเมฆก้อนนั้นก็ เริ่มชัดขึ้น เปนรูปทรงแนวตั้ง เธอกรีดรองสุดเสียงทั้งๆ ที่ไมรู วามันคืออะไร พอบอกวา ไมมีอะไรลูก แอรพังเฉยๆ ซอลขอ พอวา ไมตองเลาใหแมฟง เดี๋ยวแมบอกวาเพอเจ้อ “รอนแลวหนูจะหมผาทำไมละลูก” ซอลยิ้ม ไมตอบอะไร แมปดไฟและนอนลงบนฟูก หลับตาแทบจะในทันทีซอลอยากหลับง ่ายเหมือนแม ถึงจะ ปดไฟแตหองก็ยังไมมืด แสงไฟจากถนนหนาบานสวางถึงหนาตางหลังบาน เพราะเปนบานชั้นเดียว แสงนั้นตกกระทบสิ่งของในหอง เห็น
140 | นักเรียนเขียนเรื่อง รูปทรงของทุกสิ่งชัดขึ้น เงาเอนไปทางเดียวกัน ซอลกวาดตา ไปรอบหอง พยายามหาสิ่งผิดปกติแตทุกอยางดูปลอดภัยดี แมเคยบอกวาถานอนไมหลับใหนับแกะ ... เพดานมี 21 เหลี่ยม มีฝา 25 แผน ตะกราผาไมสาน 4 ใบ มีรูกลมๆ เล็กๆ หนึ่งรูสองรูสามรูสี่รูมีประกายสีขาวจากรูที่สี่เหมือน เพชรในการตูน และหายไปเปนรูสีดำและประกายขึ้นอีกครั้ง ... สองรูเหมือนลูกตาสีดำคู่หนึ่ง แสงวิบวับนั้นเคลื่อนจากรู หนึ่งไปยังอีกรูข้างๆ คงเปนเพราะตนไมไหว มันยังเคลื่อน ตอไปช้าๆ และลมยังคงพัดตนไมไหวอีกครั้ง เมื่อลูกตา ดำกะพริบ “มะ แม” ... “แม หนูปะ ปวดชิ้งฉ่อง” สายตายัง ไมละจากรูนั้น...ดวงตาคู่นั้น...จ้องเธอกลับมา สวิตช์ไฟอยูไมไกล เธอมองสวิตช์ไฟ มองตะกรา มองสวิตช์ไฟ พุงตัวออกจากเตียง เหงื่อทวมหลัง ผลักตะกรา ผาลมลง เปดไฟ มันกลิ้งไปมา...วางเปลา “วาย! เปนอะไรลูก! จะไปไหน” “หนูจะ จะไปหองน้ำ มะ มองไมเห็นเลย เลย เลย สะดุดค่ะ” เธอหยิบตะกราขึ้นมาวางแอบหลังกลองของเลน “ละหนูไมไปหองน้ำละเหรอ”
วิกลวิกาล | 141 “หนูไมปวดละ” “เอา งั้นก็มานอนลูกมา ดึกแลว ปดไฟดวยลูก” ซอลพยักหนา เอื้อมมือจับสวิตช์ไฟ มองเตียงไว สี่ก้าว เธอปดไฟ หนึ่ง สอง สาม สี่ สอดเทาเข้าผาหม ปลอดภัย อีกคืนในห้องข้างหลัง 2549 22:58 น. ซอลนอนบนเตียง แมนอนบนฟูก ไฟปดแลว ไมมีตะกราผา ไมมีดวงตาสีดำ แตมีเสียงเพลงจากข้างหอง “Barney is a dinosaur from our imagination…” “แม” “หื้ม” แมตอบโดยไมลืมตา “ทำไม ทำไมนองไดดูทีวีอะ” “วันนี้หนูก็ดูไปแลวนี่” “มายย หนูหนูหมายถึง ตอนเนี้ย” “โอย นองนอนไปนานแลวลูก” “ก็หนูหนูไดยินสะ สิเสียง ทีทีวี”
142 | นักเรียนเขียนเรื่อง “ไปนอนไดแลวไป นอนดึกไมหายปวยนะ พรุงนี้เช้า ค่อยดู” “เนี ่ยนองออกมาดูทีวีหนูไดยินเพลง บะ บา บา บารนี่” “บารนี่อะไรลูก เขานอนกันหมดแลว นอนๆๆ แม ง่วงละ” “Barney's friends are big and small. They come from lots of places…” “เนี่ยย หนูไดยิน แมออกไปดูก่อน” “หนูอยากดูหนูก็ออกไปสิแมนอนละ” “ไมเอา แมไปดวยกัน นะ นอง นองดูบะ บารนี่ จริงๆ” “ซอล ไมมีเพลงลูก ไมมีใครดูบารนี่ ถาหนูอยากดู พรุงนี้เดี๋ยวเราดูดวยกัน โอเคมั้ย แมหลับแลวนะ” “แมออกไปบอกนองดวย” “เอา ไปก็ไป”
วิกลวิกาล | 143 แมลุกขึ้นมา ไมไดพูดอะไร แตซอลรูวาแมหงุดหงิด แมเปดประตูไมมีใคร ไมมีเพลง “อะ ไหนละบารนี่ หื้ม” “ก็เมื่อ เมื่อกี้หนูไดยิน มันเปน เปนเพลงที่มัน ที่ มัน ตะ เตนๆ ในบารนี่” “โอย ซอลเอย งั้นก็คงผีหลอกแลวแหละลูก” “มะ ไมเอาผีหนูหนู…” “เพอเจ้อจริงๆ จะไปนอนไดรึยัง” ซอลพยักหนา ไมพูดอะไรตอ 02:15 น. “Barney can be your friend too, If you just make-believe him!” ไม่มีอะไรจร ิง 2553 นวนิยายและหนังแฟนซีทำใหเด็กครึ่งโลกอยากมี พลังพิเศษติดตอกับอีกโลกหนึ่ง ไมวาจะโลกเวทมนตรโลก วิญญาณ หรือโลกสัตวประหลาดที่แอบซ่อนอยูตามสวนตางๆ ในบาน ใตเตียง ตูเสื้อผา หลังตนไมทุกครั้งที่นั่งรถผานหอง
144 | นักเรียนเขียนเรื่อง แถวราง สายตาซอลสอดสองทุกบานหนาตาง มองหาสิ่งที่ สายตามนุษยไมควรเห็น ไมไดอยากเห็น แตไมรูเพราะอะไร เธอถึงชอบมองหามันเสมอ เขาวากันวาเด็กมักจะมองเห็นผีเพราะเพิ่งเปลี่ยน ผานจากโลกวิญญาณมายังโลกมนุษยจึงยังสามารถติดตอ กับอีกโลกไดแตยิ่งโตขึ้นเทาไหร เสนบางอยางที่เชื่อมโยง ระหวางสองโลกก็ยิ่งบางลงไปเรื่อยๆ ซอลถามแมวา หนูเคยเห็นผีมั้ย ตอนเด็กๆ ยังพูด ไมไดแมบอกวา ตอนสี่ขวบ เคยเห็นยืนเงยหนาคุยออแอกับ มุมหอง ไมรูผีจริงหรือผีเพอเจ้อ สงสัยจะเพอเจ้อแหละ ฮาๆๆๆ ซอลจำไดว ามันเคยเกิดขึ้นจริง แม บอกว าไมจริง เธอเชื่อแม แตก็แอบหวังวามันจะเปนเรื่องจริง ทุกครั้งที่กลุม ควันเริ่มจับตัวเปนรูปทรง ทุกครั้งที่เห็นเงารมไมคลายรูปคน ทุกครั้งที่มีแสงประกายออกมาจากมุมมืด เธอรับรูถึงมันและ สมองก็บังคับใหภาพนั้นสลายไป เห็นมั้ย คิดไปเองทั้งนั้น ไมมีอะไรจริง วันหนึ่งใตตนไมที่โรงเรียน รอยยับคลายใบหนา บูดเบี้ยวจ้องมองมาที่เธอจากกลีบดอกชมพูพันธุทิพยเธอ
วิกลวิกาล | 145 หยิบดอกไมขึ้นมา มือคลี่กลีบเฉาๆ สีชมพูแผออก ใบหนา นั้นหายไป มันหายไปก่อนจะไดเห็นอะไรมากกวานั้น คืนนั้น เธอวาดรูปดอกไมกลีบเฉาที่มีรอยยับคลายใบหนาบูดเบี้ยว เธอสงสัยวาสมองสรางภาพนี้ขึ้นมาไดยังไง เธอไมเข้าใจ กลไกการจับใบหนาของสมอง แตอยางนอยการวาดออกมาก็ ทำใหรูวาเธอสรางภาพขึ้นมาเองไดสิ่งที่นากลัวเกิดมาจาก สมองเธอเองทั้งนั้น เห็นมั้ย คิดไปเองทั้งนั้น ไมมีอะไรจริง เธอไมเคยหยุดวาดรูปเลยแมแตวันเดียว วันหนึ่งที่แมมารับกลับจากโรงเรียน ซอลขึ้นรถ สมุด วาดรูปเลมเล็กวางอยูบนตักแม เปดไวหนาหนึ่ง ภาพเด็กผูหญิง ผมสั้น ตัวอ อนพับไปข้างหนา มีมือหนึ่งรูปรางเหมือนมือรถ ตักดินจับที่กลางตัวของเธอและยกเธอขึ้นไป ข้างๆ เปนภาพ เดียวกัน เพียงแตตัวพับไปดานหลัง ราวกับไมมีชีวิต หนูวาดรูปพวกนี้ทำไมลูก มีแต อะไรแบบนี้เนี่ย เยอะแยะไปหมดเลย หนูไปดูหนังอะไรมา แมไมไดเลี้ยงมาให เปนเด็กมีปญหานะ แมถามวาวาดทำไม แต แม ไม เคยฟง คำตอบ หนูฝน หนูเห็นมันที่บาน บางอันหนูก็แค่วาดมัน ออกมา แตเธอก็เลือกจะไมเลา คงเพราะอาจฟงดูเพอเจ้อ และนาอาย ถาแมจะบอกวาเธอคิดไปเองอีกครั้ง
146 | นักเรียนเขียนเรื่อง วันนั้นทำใหเธอรูอะไรบางอยาง หนึ่งคือเธอไมไวใจ แม และสองคือตองหาที่เก็บสมุดใหม สึนามิ2556 ศิลปะอาจมีขอบเขตในการแสดงออก แต ไม มี ขอบเขตทางความคิด ผนังบานสีขาวมีภาพวาด abstract แขวนไวเรียงราย ใสกรอบบาง ไมใสบาง ซอลถามพ อวา มันคือรูปอะไร พ อบอกว าเปนอะไรก็ไดวางกลับหัวหรือ เปลาก็ไมรูมีแค่สีปาดไปมา “ปาดไมถึงสิบทีขายตั้งแพง หนูวาดใหก็ไดนะแบบ เนี้ย” “เขาเรียกวาดูเอาฟลลิ่งไง” “หนูไมชอบอันนั้นอะพอ” “อันไหน” “แดงๆ อะ มันดูแบบ เลอะเทอะ” “จริงๆ เขามีชื่อนะรูปนี้” “ตองมีดวยเหรอเนี่ย” เธอขำมากกวาสงสัย “สึนามิ” พอผายมือไปที่รูป
วิกลวิกาล | 147 “เออ ยังไงนะคะ” “คนวาดเขาเลาใหฟงวา มันคือเกลียวคลื่นที่พัดเข้า ฝง เห็นมะ เสนๆ สีเขียว สีเหลือง สวนน้ำทะเลเปนสีแดง เพราะเขาบอกวาคนตายเต็มไปหมด” “แลวพอซื้อทำไมเนี่ย ไมเห็นดีเลย แตถึงจะมี ความหมายดีหนูก็ไมชอบอยูดีดูเนาๆ” “แตพอชอบนะ พอชอบสีแดง” พอยิ้ม ซอลชอบสีดำ ไมใช่เพราะความมืด แตเพราะความเรียบ อยูกับสีไหนก็สวย นากาสีดำ เปสีดำ ยาทาเล็บอันแรกสีดำ กางเกงยีนสตัวแรกก็สีดำ ซอลใหยายซื้อใหเพราะยายไม สนใจ ยายแค่จ่ายตังค์แลวบอกวาใช้นานๆ นะ แตแมไมชอบ แมอยากใหซอลใสชุดสีสดใส เพราะแมบอกวา เด็กม.ตนแตง แบบนี้นารักสมวัย เปนเด็กเปนเล็กทำไมใช้อะไรดำๆ มันแก่ นะลูก หนูจะดูสกปรก อยากเปนพังค์เหรอ จนบางครั้งก็ สงสัยวา แมแค่ไมชอบสีดำหรือแมไมชอบซอล สมุดวาดรูป เฟรมวาดรูป ไดอารี่ ขวดยาทาเล็บ เสื้อผา นิยาย ทุกอยางที่เปนตัวซอล ไมเคยอยากซ่อนแตรูวา แมไมอยากเห็น อยางที่บอก ศิลปะไมเคยมีกรอบความคิดแต มีกรอบในการแสดงออกเสมอ
148 | นักเรียนเขียนเรื่อง เธอมองรูปภาพบนผนัง จินตนาการเรื่อยเปอยวา ศิลปนจะคิดอะไรระหวางวาดภาพ เขาเห็นอะไรมา เขารูสึก อยางไร ภาพหนึ่งมองไดหลายแบบ แตเมื่อภาพหนึ่งถูกตั้งชื่อ มันก็มองไดแบบเดียว ...สึนามิ... เธอไมเคยมองภาพนี้ใกลๆ มาก่อนเพราะมันนาเกลียด เหลือเกิน เหมือนไมลางพูกันแลววาดตอไปเรื่อยๆ สีตรงนี้ เปนก้อน สีตรงนูนแหง และตรงนั้นเอง มุมขวาลาง ตัวหนังสือ โยเยเขียนดวยปากกาดำที่โดนสีแดงทาทับบางๆ จนอาน ยากแตยังอานออก นองซอล 4 ขวบ ซอลดึงรูปออกจากผนัง ตัดเสนเอ็นที่ทำไวหอย มันขาดเองค่ะพอ เก็บเข้าหองเก็บของ ไม อยากเห็นอีก เธอเต็มไปดวยคำถามที่ไมกลาถามใครแมแตพอและแม บ้านใหม่ 2559 หองนอนของซอล ของซอลคนเดียว ไมมีอดีต ไมมีเรื่องราว มานทึบ ไมมีแสงไฟ ไมมีใคร ไมมีเงา